D
H
A
M
M
A
D
A
.
N
E
T
ค ื อ ค วา ม เรี ยบ ง่ า ย ค ื อ ธรรม ะ ค ื อ ธรรม ด า
โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
UPDATE ณ วันที่ 15 กันยายน 2553
บทความและข้อความจากหัวใจบริสุทธิ์ *** บทความและข้อความจากหัวใจบริสุทธิ์ ที่นํามาเสนอนี้ ล้วนมีรายชื่อและนามสกุล จริง ของผู้เขียนเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งในฉบับนี้จะลงเพียงชื่อแต่จะไม่มีการเปิดเผยนามสกุล จริง ทั้งนี้ในฉบับที่นําถวายหลวงพ่อและแจกจ่ายต่อสื่อมวลชนจะมีการเปิดเผยตาม ความจริงทุกประการ *** 1. " พระอาจารย์ปราโมทย์ ปราโมชโช " ท่านโน้มนําคําสอนของพระพุทธ ท่านยื้อยุด ฉุดกระเเส โลภ โกรธ หลง ท่านเฝ้าสอน เฝ้าห่วง ปลอบประโลม ...ท่านนําโน้ม ให้ศิษย์ถึง ทางนฤพาน เเม้เหนื่อยยาก ลําบาก ท่านอดสู้ เพียงเพื่อให้ศิษย์ "รู้" สิ้นสงสัย เพียงเพื่อให้ศิษย์พ้นทางอบาย เพียงเพื่อได้ตอบเเทนคุณพระศาสดา .........ศิษย์คนนี้ได้ดี เพราะท่านสอน ทุกบทตอนย้อนให้ "รู้" ให้ "ดูจิต" ทุกเช้าค่ําท่านย้ําเตือน อยู่เนืองนิตย์ สังเกต "รู้" "ดูจิต" "รู้สึกตัว" ศิษย์สัญญาจะหมั่นเรียน เพียรขยัน ตั้งใจมั่นตามคําที่ท่านสอน รักษาศีล ภาวนา รู้จิตจร กตัญญูรู้คุณท่าน ดั่งบิดร กราบเเทบเท้าพ่อผู้สอน ให้ลูก "รู้" สู่ทางธรรม โดย คุณ มุทิตา 2. เหตุการณ์ที่เป็นข่าวทางหนังสือพิมพ์ ผมเห็นแล้วรู้สึกตกใจและแปลกใจเป็นอย่างยิ่งเพราะถ้าใครก็ตามได้ฟังธรรมะของ หลวงพ่ออย่างต่อเนื่องแล้วจะไม่เชื่อในเหตุการณ์ที่ข่าวหรอกครับ ขอหลวงพ่อโปรดเมตตาอยู่แสดงธรรมให้ญาติโยมต่อไป เถอะครับ ขอเป็นกําลังใจให้ครับ โดย คุณ เมษา 3. หลักการปฏิบัติที่หลวงพ่อสอนมานั้น สามารถใช้ได้กับชีวิตประจําวันซึ่งทําให้ชีวิตดีขึ้นมากและแม้แต่มีเหตุการณ์เกิดขึ้น ก็ได้นําหลักที่หลวงพ่อสอนมาใช้ ขอโอกาสให้พวกเรามีโอกาสได้เรียนกับหลวงพ่อต่อนะคะ โดย คุณ Suphasiri 4. กราบเท้า พระอาจารย์ หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช จากที่เคยเป็นคนคิดมาก ฟุ้งซ่าน กังวล และเจ้าคิดเจ้าแค้น หลังจากได้ฟังคําเทศน์ของหลวงพ่อ ผ่านทาง CD หรือไป กราบหลวงพ่อที่สวนสันติธรรม ปัจจุบัน ความคิดต่าง ๆ เปลื่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง เป็นคนมีสติ มากขึ้น มองคน อื่นแบบเข้าใจมากขึ้น และเห็นทุกข์มากขึ้นแต่จิตใจ ไม่ทุกข์ไปด้วย บอกได้อย่างเดียวว่า ตัวเองยังพอมีบุญอยู่บ้าง ที่ได้มาพบพระผู้รู้ และพระปฎิบัติดี ปฎิบัติชอบ และมีความเมตตา อย่างสูงต่อ มวลชนที่ยังหลับอยู่ ให้ตื่นขึ้นมาจากความหลงอยู่ โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
1
ขอกราบแทบเท้า หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช และขอปฎิบัติบูชาถวายแด่ พระพุทธเจ้า และ หลวงพ่อ ผู้เป็นผู้เปิด โลก ของผู้เคยหลงอยู่คนนี้ตลอดชีวิตรนี้จะหาไม่ โดย ลูกศิษย์ผู้เคยหลงทาง (คุณพรนภา)
5. ปกติไม่เคยสนใจธรรมะเลยค่ะ สวดมนต์ ไม่เคยสวดเลยค่ะ ท่อง นโม ยังท่องถูกเลย สิ่งที่คิดว่าเป็นบุญที่ทําคือใส่ซอง กฐินผ้าป่าแค่นั้น(บางครั้งใส่เพราะจําใจด้วยซ้ํา) การรักษาศิลห้า และการภาวนาที่ว่าเป็นบุญใหญ่ เป็นเรื่องที่คิดว่าชาตินี้ คงทําไม่ได้แน่ๆ ..มองไม่เห็นทางเลยว่าจะทําได้ .. ทัศนคติกับคนที่เข้าวัดคือพวกคนแก่ พวกอกหัก พวกชีวิตมีปัญหา และ ที่สําึคัญคิดว่าพระก็คือคนที่ไม่รู้จะทําอาชีพอะไรเลยมาบวช มองไม่น่าเคารพเท่าไหร่ หรือไม่ก็บวชตามประเพณีวันๆไม่เห็น ทําอะไรเลย ... เลยทําให้ไม่เคยไปทําบุญที่วัดเลย ไม่เคยใส่บาตรเลย .... แต่พอได้ฟังธรรมะจากหลวงพ่อตอนนี้ตื่นมาใส่บาตรตลอดค่ะ ศีลห้าคิดว่ารักษาได้บริสุทธิ์นะคะ การภาวนาที่คิดว่าชาตินี้ ทําไม่ได้หรอก ตอนนี้คิดว่ามันไม่ยากไม่ใช่เรื่องไกลตัวแล้วค่ะ ภาวนาอยู่ทุกวันค่ะ รู้สึกว่าภาวนานี่มันสนุกจัง มีแต่เรื่องที่ไม่ เคยเห็นไม่เคยรู้มาก่อน ... ทาน ศีล ภาวนา คิดว่าทําครบ ... ความทุกข์มันเหมือนไกลๆออกไป ที่สําคัญรักพ่อ กับ แม่มากขึ้นค่ะ จากเมื่อก่อนสุดแสนจะเบื่อ และทะเลาะกันตลอดวันๆ แทบไม่เคยคุยกันไม่เคยมองหน้ากัน ... ตอนนี้ครอบครัวรักกันมากขึ้น เวลาที่ใครแรงมาเราก้อรู้จักเบาจากเมื่อก่อนเอาแต่ ใจมากแทบไม่เคยพูดดีๆกับพ่อ แม่ และน้องเลย ที่สําคัญแม่พอเห็นว่าดิฉันจากที่ไม่เคยใส่บาตรแล้วอยู่ๆลุกมาทําแม่ก็ สงสัย แต่แล้วแม่ก็เริ่มหัดใส่บาตรด้วยและสนใจทําบุญมากขึ้น ... สิ่งที่หลวงพ่อสอนแล้วลองเอามาทําตามนี้รู้สึกว่าเราทําเราได้ประโยชน์เอง ยังไม่เคยตอบแทนหลวงพ่อสักอย่างเวลาไป สวนสันติธรรมยังหากล่องรับบริจาคไม่เจอเลยค่ะ .. มานึกถึงกล่องรับบริจาคตอนที่ทางวัดมีปัญหานี่แหละค่ะว่าเราไม่เคย บริจาคเลยมีแต่ไปเอาไม่เคยให้เลย .... ไม่ว่าใครจะว่ายังไง ตัวเราเองพิสูจน์ได้ค่ะว่าธรรมะที่หลวงพ่อสอนเป็นของจริง ทําได้จริง และได้ผลจริงค่ะ ... ( ถึงจะไม่เก่งแต่มั่นใจแน่นอนว่าตัวเองไม่มีทางตายไปตกลงอบายแน่นอนค่ะ ... ) ขอบคุณค่ะ... โดย คุณ กนกวรรณ โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
2
6. คําสอนและเนื้อหาในซีดีของหลวงพ่อ ทําให้ผมรู้ได้ว่าธรรมะเป็นของง่ายและธรรมดามากครับ ทําให้ผมได้เห็นและสัมผัสถึงทางสายเอก เป็นครั้งแรกของชีวิตในภพนี้ครับ โดย คุณ ณัฐพล 7. มีชีวิตใหม่ ที่เหมือนถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาหลังจากตกอยู่ในกระแสกิเลสตลอดเวลาที่ผ่านมา มีชีวิตใหม่ ที่มีความละอายและเกรงกลัวต่อการทําชั่วมากขึ้น มีชีวิตใหม่ ที่รู้จักความหมายของชีวิตมากขึ้น มีชีวิตใหม่ ที่มีจุดหมายตามมรรคาของพระพุทธองค์ มีชีวิตใหม่ ที่จะคอยดูกายใจ และเรียนรู้สิ่งที่เกิดขึ้นกับกายและใจมากขึ้นทุกนาที ที่ผ่านมา..... แม้ว่าการปฏิบัติ ยังคงต้วมเตี้ยม ไปมาบนเส้นทาง แม้ว่าการปฏิบัติ ยังปนเปื้อนด้วยความทะยานอยากด้วยอวิชชาในบางเวลา แม้ว่าการปฏิบัติ ยังไม่คู่ควรกับคําชื่นชม และไม่ดีพอที่จะเรียกตัวเองว่าเป็นศิษย์ของหลวงพ่ออย่างเต็มปาก แต่จะขอเพียรตามรู้กายใจ ไปจนกว่าจะถึงฝั่งพระนิพพาน ทั้งในชาตินี้และชาติถัดๆไป "บุญมากแล้ว ที่ได้เกิดมาเจอคําสอนในพระพุทธศาสนา" ขอกราบขอบพระคุณหลวงพ่อที่คอยเมตตาให้คําแนะนําพร่ําสอน และให้ผมได้มีโอกาสรู้จักและเข้าถึงพระธรรมคําสอนของ พระพุทธองค์ได้มากขึ้นครับ โดย คุณ พรชัย 8. เริ่มต้น....ไม่ได้รู้จักหลวงพ่อมาก่อน ไม่รู้จักและไม่เคยปฏิบัติธรรมในลักษณะ นั่งสมาธิ สมถะ หรือกรรมฐาน เคยเดินผ่าน ธนาคารกรุงไทย เค้าแจกซีดีปกสีม่วง ก็รับมา ฟัง 1 ครั้งไม่รู้เรื่อง เก็บใส่ลิ้นชักไว้ เวลาผ่านไปใช้ชีวิตระเริง หลง เรื่อยเปื่อย หนึ่งปีให้หลัง ชีวิตเปลี่ยนแปลง เกิดควาททุกข์ใจ เกิดทุกขเวทนาจากโรคภัย ไม่อยากมีชีวิตอยู่... ตั้งใจหันหน้าหาความสงบอย่างจริงจัง...แต่ไม่รู้จะไปหาใคร ไม่รู้จักครูบาอาจารย์ที่ไหน วันนั้นเปิดลิ้นชักเดิม พบซีดีปกสี ม่วง...หยิบมาฟังอีกครั้งอย่างตั้งใจ ฟังไปตั้งใจไป ค่อยๆ ทําความเข้าใจ ฝึกปฏิบัติภวนาตาม... เริ่มค่อยๆ ค้นหาว่าเสียง เทศน์ที่ไพเราะในเบื้องต้น, ไพเราะในท่ามกลาง และไพเราะในที่สุด (กราบขออภัย ลูกมิได้ตั้งใจจะเปรียบเทียบกับสมเด็จ พระบรมครู แต่ลูกรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ) ลูกค่อยๆ ค้นหาว่า พระองค์นี้ท่านเป็นใคร อยู่ที่ไหน เมื่อหาเจอ ก็พยายามไปหา อยากไปฟังเสียงเทศน์นี้ใกล้ๆ เมื่อไปถึงสถานที่ ได้ฟังเทศน์ ได้อากาศบริสุทธิ์..พยายามไปฟังเทศน์แบบนี้ทุกครั้งที่มี โอกาส...ทําอาหารไปถวายพระที่นั่น...บางทีเหนื่อยมาก แต่พอไปนั่งฟัง (ฟังไกลด้วย ไม่มีโอกาสได้เข้าไปใกล้ๆ) ความ เหนื่อยยากในการเดินทางก็หายไปมีแต่ความอิ่มเอิบใจ ปลอดโปร่ง จากวันนั้นถึงวันนี้ 3 เดือน กับอีก 8 วัน ชีวิตเปลี่ยนไปมากมาย รู้จักการปฏิบัติภวนา นั่งสมถะเป็น เจริญปัญญาเป็น (บ้าง) ไม่เป็น (บ้าง) พอจะเหลวไหลก็จะมีเสียงหนึ่งพูดว่า "อดทนนะ พยายามนะ สู้นะ เราต้องทําเอง อดทนนะ อดทน" ใจก็ นึกแต่ว่า ครูเราองค์นี้พูดแล้วพูดอีก ย้ําแล้วย้ําอีก ไม่มีใครจะย้ําพูด ย้ําทํา แบบนี้อีกแล้ว เมื่อนึกถึงเวลาที่ท่านย้ําพูด ย้ําทํา ซักพักท่านก็เหนื่อย ถอนหายใจ ดมยาดม เราก็รู้สึกผิดว่า ให้ครูบาอาจารย์พร่ําบ่นให้เราทํา ทั้งๆที่ท่านก็เหนื่อย ให้กําลังใจ เราทั้งๆ ที่ท่านก็ไม่ได้ ได้อะไรกับเรา 3 เดือน 8 วันนี้ ชีวิตเปลี่ยน ความทุกข์ ความเศร้า ความโลภ โกรธ หลง อาฆาต แค้น ชิงชัง ยึดติดในสัญญาเก่าๆ หาย ไปสิ้น บางทีอาสวะเหล่านี้จะเข้ามาบ้าง (เหมือนเค้าจะพยายามเข้ามา) แต่เข้ามาได้แป๊บเดียว สติมันเกิด เกิดได้อย่างไร เกิดเพราะมีครูบาอาจารย์ท่านนี้คอยพร่ําสอนตลอดเวลา สอนวิธี สอนแนวทาง สอนจนทําได้ สอนจนทําเป็น สอนจนกิเลส อยู่กับเราสั้นลง ชีวิตมีความสุขกับความไม่ยึดมั่นถือมั่น ความสุขจากการวาง แถมเรายังได้เผื่อแผ่คําสอนไปยังครอบครัว เพื่อนร่วมงาน เพื่อนฝูง โรคภัยทุกขเวทนาที่เคยมีก็หายไป (ป่วยแรงค่ะ เลือดไม่ขึ้นไปเลี้ยงแกนสมอง เวลาเลือดไม่ขึ้นไปก็ จําใครไม่ได้แม้แต่ตัวเอง ภาพหายไปบ้าง ปากเบี้ยวบ้าง มือเท้าชาดิก หมอก็ทําได้แค่รักษาตามอาการ หมอบอกว่าอายุ น้อยมากทําไมเป็นได้หนักขนาดนี้) เคยต้องหาหมอทุกเดือน แต่นี่จะปลายปีแล้วยังไม่ได้ป่วยเลย ^_^" เหมือนเคยได้ยิน โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
3
หลวงพ่อพูดว่า เมื่อจิตตั้งมั่น จิตจะรักษาโรคภัยได้ในบางคน...หนึ่งในบางคนที่ว่า คือเราเอง ยืนยันว่าไม่มีอากาป่วยนี้เลย ตั้งแต่ฝึกปฏิบัติภวนา กับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ใจมีว้าวุ่น ก็ทําสมาธิให้รู้ว่าใจว้าว่น ใจก็นิ่ง อยากร้องไห้ ก็รู้ว่าอยากร้องไห้ น้ําตาก็ไม่ไหล กลาย เป็นอยู่เฉยๆ ด้วยสติ ต่อมาก็จําคําสอนได้ว่า เวลาเกิดเรื่องหนักๆ ให้นึกเสียว่า เดี๋ยวมันจะผ่านไป และไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ก็ตาม ครูของเราก็ยังเป็นคนที่หนึ่งเสมอ...จิตดวงนี้ พ้นทุกข์ได้เพราะท่าน สงบได้เพราะท่าน ตั้งมั่นได้ก็เพราะท่าน จิตดวง นิดหน่อยดวงนี้จะเข้มแข็งและจะภวนาตามคําสอนต่อไป ขออานิสงค์และบุญแห่งการปฏิบัติภาวนา การถือศีล 5 นี้ ขอให้ เหตุการณ์ทั้งหมดทั้งสิ้นผ่านไปได้ด้วยดี ขอบารมีแห่งองค์สมเด็จพระบรมศาสดาพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้โปรด คุ้มครองครูของลูกด้วยเทอญ โดยคุณ อาภรณ์
9. ขอร่วมแสดงพลังสนับสนุนหลวงพ่อปราโมทย์ ดิฉันเป็นบุคคลหนึ่งที่ได้ศึกษาหาแนวทางในการปฏิบัติจิตให้ผ่องใส ลองมาทุกแบบทั้งทรมาณร่างกายและไปสํานักโน่นนี่ มามากมาย หลงไปกับโลกพุทธพาณิชย์มานาน จนกระทั่งเพื่อนนําซีดีกับหนังสือมาฝากจากสวนสันติธรรม จนเปิดใจลอง ศึกษาแนวนี้ดูก็พบว่านี่คือสิ่งที่เราค้นหามานาน การปฏิบัติก้าวหน้าไปด้วยดีจนกระทั่งได้มาพบท่านและได้ส่งการบ้าน ต้องยอมรับว่าท่านแนะนําการสอนได้เหมาะกับจริต ดิฉันมากๆทุกวันนี้นอกจากจะปฏิบัติเองเห็นทุกข์น้อยลง สามีที่ไม่เคยสนใจทางนี้ก็มาสวดมนต์ ไหว้พระและปฏิบัติธรรม ตามแนวหลวงพ่อปราโมทย์โดยที่ไม่ต้องบังคับกัน แต่เขาเห็นการเปลี่ยนแปลงในตัวเราและมองเห็นสิ่งที่ๆที่เกิดขึ้น ทกให้ เชื่อได้อย่างไม่ต้องสงสัยเลยว่าท่านสอนถูกแล้ว โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
4
ทางสวนฯไม่เคยเรี่ยรายเงิน บางครั้งไปมือเปล่ามีข้าวกินฟรี ลืมหยอดเงินลงตู้ก้ไม่รู้สึกผิด เพราะท่านไม่เคยพูดให้รู้สึกว่า เราติดหนี้สงฆ์ ท่านจะพูดเสมอว่าสื่อต่างๆแจกฟรี อยากให้พวกเราปฏิบัติมากๆมากกว่า ดังนั้นข้อสงสัยเรื่องโกงเงินตัด ไปได้เลยสําหรับดิฉัน สวนฯเปิดปิดเป็นเวลาก็ดีแล้ว พระจะได้ปฏิบัติกันเต็มที่ ไม่ต้องมายุ่งกับทางโลกมากนัก ดีอยู่แล้ว ชอบมากเวลาที่หลวงพ่อเทศน์จบและเชิญโยมกลับบ้าน ทุกคนก็ทยอยกันกลับแบบเงียบๆ จองที่ก็จองเงียบๆไม่มีแย่งกัน ให้วุ่นวายเหมือนที่อื่นๆๆ ดังนั้นขอสนับสนุนและเป็นกําลังใจให้ท่านผ่านข้อกล่าวหาทั้งหมดค่ะ โดย คุณ ปรีชาภา 10. ผมได้เริ่มฟังซีดีหลวงพ่อเมื่อประมาณ 3 ปีมาแล้ว ครั้งแรกที่ฟังก็ไม่รู้จักว่าเป็นใคร แต่มีความรู้สึกแปลกอย่างหนึ่งคือ พอฟังแล้วทําไมใจมันสบายขึ้น หลังจากนั้นก็เริ่มหามาฟังมากขึ้น แรก ๆ ก็ไม่เข้าใจสิ่งทีท่านสอน จนกระทั่งลองสังเกตุดูเช่น หลงคิด ก็ได้เห็นการหลงคิดบ่อย ๆ รู้สึกถึงความเคลื่อนไหวของกาย เห็นความสุขและความทุกข์ที่ผ่านเข้ามาในใจ เห็น สภาวะที่เราถอยออกมาเป็นผู้ดูไม่คลุกในปัญหา ชีวิตมีความสุขมากขึ้นจริง มีสติมากขึ้นกลัวบาปกรรม มีศีลมากขึ้น ผมเชื่อ ด้วยความบริสุทธิ์ใจว่าสิ่งที่หลวงพ่อสอนนั้นเห็นผลได้จริง เพราะสามารถนํามาพัฒนาชีวิตจิตใจได้จริง บ่อยครั้งที่มีความทุกข์เข้ามาในชีวิตผมก็อาศัยการฟังซีดี หลวงพ่อได้เทศน์สอนเตือนใจหลายสิ่งหลายอย่าง ปัจจุบัน ผมก็ยังยืนยันที่จะทําตามสิ่งทีหลวงพ่อสอนและจะขอปฏิบัติภาวนาเจริญสติต่อไปเรื่อย ๆ ขอกราบเท้าหลวงพ่อที่วันนี้ได้ ทําให้ชีวิตผมเปลี่ยนไปในทางดีขึ้น โดยคุณ เอก 11. ดิฉันกับเพื่อนกลุ่มหนึ่ง เราปฏิบัติธรรมด้วยกันมา ตามแนวทางของพระอาจารย์ต่างๆ และ หนึ่งในครูบาอาจารย์ ที่ พวกเรานับถือและน้อมนําคําสอนของท่านมาปฏิบัติ คือ หลวงพ่อปราโมทย์ แม้ดิฉันและเพื่อนยังไม่มีโอกาสไปกราบท่าน เลยสักครั้ง แต่เราเรียนรู้และปฏิบัติตามซีดีคําสอนของท่าน ที่เราได้รับแจกมา เราฟังกันแทบจะทุกแผ่น และฟังแผ่นละ หลายๆรอบ ดิฉันและเพื่อนๆตั้งใจกันปฏิบัติภาวนา ตามแนวคําสอนของท่าน และทุกๆคน มีผลก้าวหน้าโดยลําดับ ตั้งแต่ เบื้องต้น คือเรามีความสุขมากขึ้น ความโลภ โกรธ หลง เราลดลงอย่างเห็นได้ชัด ไปจนถึงเราเห็นว่ากายใจนี้เป็นของไม่ เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา พวกเราซาบซึ้งในพระคุณของท่านที่มีให้ ดิฉันและเพื่อนๆจึงมั่นใจในคําสอนท่าน เพราะเรา ปฏิบัติจริง และเห็นผลเช่นนั้นจริง อย่างไม่มีข้อสงสัยเลย หลวงพ่อเป็นผู้มีแต่คําว่าให้ มีแต่การสอนภาวนา สอนให้พวกเรามีสติคอยรู้กายใจของเราเสมอ มีแต่ธรรมเท่านั้น ไม่ เคยมีการการอวดอ้างคุณวิเศษใดๆเลย ท่านไม่เคยเรียกร้องสิ่งใดนอกจากเน้นว่า ขอให้พวกเราขยันภาวนาเท่านั้น ดิฉันและเพื่อน เคารพรักท่าน และตั้งใจจะเดินตามคําสอนของท่านตลอดไปค่ะ โดย คุณ กานต์สิรี 12. ผมเข้าใจเรื่องการปฏิบัติธรรม สติ สมาิธิ มากขึ้นจากคําสอนของหลวงพ่อปราโมทย์ เห็นผลการปฏิบัติ เห็นกิเลสที่ดับ (ชั่วคราว)ลงต่อหน้าต่อตาทันทีที่สติเกิด ผมยังปฏิบัติตามคําสอนของหลวงพ่อปราโทย์อยู่ทุกวัน ไม่เคยขาด มากบ้างน้อย บ้างตามกําลัง ยังกราบระลึกว่าหลวงพ่อปราโมทย์เป็นครูบาอาจารย์ของผมอยู่เสมอ (นอกเหนือจากพระพุทธเจ้าซึ่งเป็น ครูบาอาจารย์ใหญ่และครูบาอาจารย์ต่างๆ) ขออาราธนาคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ คุ้มครองให้เหตุการณ์ที่ระคายเคืององค์ท่านครั้งนี้ ผ่านไปโดยสงบเรียบร้อย เถิด ขอให้หลวงพ่อปราโทย์มีสุขภาพแข็งแรง อยู่เป็นร่มโพธิ์และแสงประทีปนําทางเหล่าลูกศิษย์ผู้แสวงหาธรรมะเทอญ กราบ กราบ กราบ __/|\__ __/|\__ __/|\__ โดย คุณ สโรช
โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
5
13. กราบนมัสการหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ระยะ 1-2 ปีที่ผ่านมา ที่ได้เข้าหา เข้าใกล้ เข้าฟัง ธรรมะจากหลวงพ่อ ทําให้ผมรู้ชัดถึงเส้นทางเดินที่พระพุทธเจ้าได้บอกไว้ มาก เดี่ยวนี้สามารถ รู้ชัด ดับไว ในกิเลสตนเองไปได้มาก มีสติบ่อย หากไม่มีหลวงพ่อ คงยังหลงอยู่อีกนาน ขอบพระคุณหลวงพ่อเป็นอย่างสูงครับ "ผมเชื่อมั่นว่า ธรรมะย่อมชนะอธรรม ผู้ใดยึดผู้นั้นย่อมตกอยู่ในบ่วงกรรม และผู้ใดมีอวิชชาผู้นั้นย่อมตกอยู่ในบ่วงปฏิจจสมฺ ปบาท" ด้วยความเคารพหลวงพ่อ โดย คุณประยุทธ์ 14. เรียนทุกท่าน ก่อนที่ข้าพเจ้าจะได้มาฟังธรรมของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช ข้าพเจ้าได้ไปปฏิบัติธรรมมาก่อนเล็กน้อย ในแนวสติปัฏ ฐาน ให้ดูฐานทั้ง ๔ คือ กาย เวทนา จิต และธรรม ซึ่งข้าพเจ้าก็ดูเท่าที่ดูได้ ตามสติกําลังของตน แต่ก็เริ่มสังเกตว่า จิตกลับมารู้กายตนเองบ่อยๆ เช่น กระพริบตาก็รู้ คิดก็รู้ เป็นต้น เมื่อมาได้ฟังธรรมของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโชครั้งแรก จากวิทยุสังฆทานธรรม รู้สึกประทับใจมาก และเมื่อได้ฟังหลายๆ ครั้ง ก็ยิ่งรู้สึกได้เองว่า ใช่เลย เราเข้าใจ นี่แหละ คือสภาวะที่เรากําลังดําเนินอยู่ เราเริ่มรู้สึกกาย ตนเอง เริ่มรู้สึกใจตนเอง สิ่งที่หลวงพ่อสอน เหมือนตอกย้ําสิ่งที่เรากําลังคิดว่าใช่ ว่าใช่ ข้าพเจ้าเริ่มแสวงหาข้อมูลของหลวงพ่อทางอินเตอร์เน็ท และในที่สุด ก็ได้เดินทางไปกราบท่านที่สวนโพธิ์ ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี และต่อมาได้มากราบท่านอีกที่สวนสันติธรรม ข้าพเจ้าได้กราบเรียนขอให้ท่านช่วยพาดูสภาวะ เพื่อตอกย้ําความมั่นใจของ ตัวเราเอง ว่าสิ่งที่เราทํานั้น ถูกทาง หลวงพ่อ ท่านเมตตาพาดูสภาวะ "หลงไปแล้วนะ" "ค่ะ" "หลงไปอีกแล้วนะ" "ค่ะ" นั่นล่ะ ข้าพเจ้าจึงมั่นใจ ว่าการดูของเรา ความเข้าใจของเรา อยู่ในแนวทางที่ถูกที่ควร โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
6
หากแม้นไม่มีครูบาอาจารย์ชี้แนะ ก็คงไม่เป็นไร แต่คงต้องใช้เวลามากขึ้นอีกหน่อย แต่เมื่อครูบาอาจารย์ชี้แนะเราโดยตรงเช่นนี้ ทําให้เรามั่นใจ และการปฏิบัติอย่างมั่นใจ ก็ทําให้การเจริญสติก้าวหน้าอย่าง รวดเร็ว เมื่อได้ปฏิบัติตามแนวทางของหลวงพ่อ ถึงแม้นข้าพเจ้าจะไม่สามารถเข้าฌาณได้ แต่ข้าพเจ้าก็สามารถมีสติตั้งมั่น รู้สึกกาย รู้สึกใจ เห็นกิเลส เห็นการเกิดดับของกิเลส และสภาวะต่างๆ ไม่ถูกกิเลสลากจูง และครอบงําเหมือนแต่ก่อน เมื่อข้าพเจ้าไปอ่านธรรมะของครูบาอาจารย์ท่านอื่นๆ ก็สามารถเข้าใจได้ และเห็นได้ว่า ครูบาอาจารย์ ท่านสอนไปสู่สิ่ง เดียวกัน เพียงแต่ท่านอาจจะใช้เทคนิคต่างกันในการปูพื้นฐานให้ศิษย์ แต่เป้าหมายก็คือ การมีสติ รู้สึกกาย รู้สึกใจ อยู่กับ ปัจจุบัน เรียนรู้กาย เรียนรู้ใจ เห็นกิเลส รู้เท่าทันกิเลส ไม่ถูกกิเลสครอบงํา เมื่อข้าพเจ้าไปกราบครูบาอาจารย์ที่ใด แม้อาจจะดูเหมือนว่าคนละแนวทาง แต่ไม่มีครูบาอาจารย์ท่านใดเลยที่บอกว่า สิ่งที่ ดิฉันทํานั้นผิด มีแต่ส่งเสริมและสนับสนุน ทุกวันนี้ สติเกิดถี่ยิบ รู้สึกเลยว่า แม้มีความทุกข์ ก็ไม่ทุกข์ไปกับมันมากเหมือนเมื่อก่อน แล้วสติยังช่วยข้าพเจ้าจากอุบัติเหตุ ทางท้องถนนถึงสองครั้ง คือ ข้าพเจ้ามีสติรู้ตลอดเวลา ไม่แตกตื่นตกใจ และรู้ว่าควรจะทําอะไร จึงจะปลอดภัย และก็ ปลอดภัยทั้งสองครั้ง ทั้งๆที่ รถคันอื่นๆ ทั้งด้านหน้า ด้านหลังของข้าพเจ้าชนกันอย่างรุนแรงและเสียหายมาก รถข้าพเจ้า กลับไม่เป็นไรเลย และแม้ในกระทั่งขณะหลับ ฝันร้าย ข้าพเจ้ายังสามารถมีสติตื่นออกจากฝันร้ายได้ ความก้าวหน้าในการปฏิบัติทั้งปวงของข้าพเจ้า ข้าพเจ้ากล้ากล่าวได้ว่า เพราะคําสอนของหลวงพ่อปราโมย์ ปาโมชโช เป็น เหตุหลัก ข้าพเจ้ากราบสํานึกในพระคุณ บุญคุณ และความกรุณาของหลวงพ่อตลอดมาและตลอดไป โดย คุณอรภัทรา 15. เรียน ท่านผู้มีหัวใจใฝ่ในธรรมทั้งหลาย ดิ ฉ ั น ชื ่ อ นางวาสนา ปั จ จุ บ ั น ทํ า งานเป็ น อาจารย์ ป ระจํ า ภาควิ ช าภาษาอั ง กฤษเพื ่ อ การสื ่ อ สาร คณะมนุ ษ ยศาสตร์ มหาวิทยาลัยXXXXX และขณะนี้อยู่ระหว่างลาศึกษาต่อระดับปริญญาเอก สาขาวิชาภาษาศาสตร์ มหาวิทยาลัย XXXXX นครเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลียค่ะ ดิฉันเป็นปุถุชนธรรมดาๆคนหนึ่ง ซึ่งใช้ชีวิตทางโลกด้วยความประมาท รูปแบบชีวิตเป็นเหมือนคนทั่วๆไปในสังคม คือ ศึกษาเล่าเรียนจบระดับหนึ่งแล้ว ก็ทํางานสร้างฐานะ และสร้างครอบครัว ดิฉันมีความสุขดี หากพิจารณาตามปัจจัยในทาง โลก จนวันหนึ่งเมื่อความทุกข์มาเยือนโดยมิทันได้ตั้งตัว ดิฉันก็เหมือนล้มทั้งยืน ณ วันที่สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก คือพ่อของ ลูก ดิฉันได้สัมผัสความทุกข์ที่แม้บุคคลในครอบครัว และผู้คนที่รักนับถือรอบข้างทั้งหมดทั้งมวล จะปลอบโยนและให้กําลัง ใจอย่างใด ก็ไม่อาจคลาย แม้เวลาจะผ่านไปนานร่วม 3 เดือน และแล้วเพื่อนกัลยาณมิตรรายหนึ่ง ก็ได้แนะนําดิฉันเข้าสู่เส้น ทางธรรม ดิฉันเริ่มต้นไปปฏิบัติธรรมในครั้งแรก (สิงหาคม 2549) กับพระอาจารย์ (ขออนุญาตไม่เอ่ยนาม ขณะนี้ท่านประจําอยู่ที่วัด ทางภาคเหนือของประเทศค่ะ) ท่านสอนดิฉันและเพื่อนๆผู้ร่วมปฏิบัติธรรมทุกท่านปฏิบัติตามรูปแบบ เดินจงกรม นั่งสมาธิ เรียกว่า นับหนึ่งใหม่เลยทีเดียว เพราะดิฉันไม่เคยปฏิบัติมาก่อน ตลอดเวลาร่วม 40 ปีที่ผ่านมาในชีวิต เรียกได้ว่า เป็นชาว พุทธแต่เพียงในนามจริงๆ สิ่งที่ดิฉันค้นพบจากการปฏิบัติธรรมคือ ความสุข สบายใจขึ้น อีกทั้งยังได้ความสงบ ความทุกข์ที่ มีคลายลง และปล่อยวางความทุกข์ได้มากขึ้น ดิฉันเข้าคอร์สปฏิบัติต่อเนื่องอยู๋ประมาณ 4 เดือนกว่า จากนั้นจึงเดินทางมา ศึกษาต่อยังต่างประเทศตามสัญญารับทุนในเดือนมกราคม 2550 โดยได้รับทุนการศึกษาเต็มจํานวนจากมหาวิทยาลัยต้น สังกัด ในห้ วงเวลาที ่ ป ฏิ บ ั ต ิ ต ามแนวของพระอาจารย์ ข องดิ ฉ ั น อย่ า งต่ อ เนื ่ อ งนั ้ น ดิ ฉ ั น ได้ รั บ ซี ด ี เทศนาธรรมของพระอาจารย์ ปราโมทย์ ปาโมชโช จากเพื่อนร่วมงานคนหนึ่ง และรู้สึกมีความสนใจใคร่รู้ในแนวทาง "การดูจิต" ดิฉันเปิดซีดีฟังซ้ําไปซ้ํา มาอยู่หลายรอบ รู้สึกเข้าใจบ้างตามคําเทศนา หากแต่ยังไม่สามารถเข้าใจสภาวธรรมหลายๆอย่างได้อย่างลึกซึ้ง จนกระทั้ง มีเหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นกับดิฉันโดยมิได้ตั้งใจ จึงทําให้ดิฉันเข้าใจการปฏิบัติธรรมในแนวดูจิตของหลวงพ่อปราโมทย์ได้ดี และลึกซึ้งมากขึ้น โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
7
กล่าวคือ ดิฉันได้เห็นลักษณาการของ "ไตรลักษณ์" อาการเกิดขึ้น-ตั้งอยู่-ดับไป ของความโกรธ ซึ่งเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมาก ในขณะที่ดิฉันกําลังโต้เถียงอยู่กับเพื่อนร่วมงานท่านหนึ่ง ในขณะนั้น ดิฉันได้เห็น การเริ่มต้นเกิดขึ้นของความโกรธ/โทสะ ธาตุรู้ที่เกิดขึ้นแยกต่างหากเป็นเพียงผู้เฝ้าดูอยู่ห่างๆ โดยมิได้ยึดถือเอาโทสะดังกล่าว มาเป็น "ของดิฉัน" แต่อย่างใด ดิฉัน เห็นแต่ว่า "ตัวความโกรธ" นี้ คืออะไรอีกอย่างหนึ่ง ที่ "ไม่ใช่ตัวดิฉัน" และ "ไม่ใช่ของดิฉัน" ด้วย และในขณะจิตต่อจากนั้น นั่นเอง โทสะดังกล่าว ก็ดับไปให้เห็นต่อหน้าต่อตา ขณะต่อมา สิ่งที่ดิฉันเห็นคือ ความเมตตาต่อผู้ร่วมงานท่านนั้น ผุดขึ้นมา แทนที่โทสะดังกล่าว ปรากฎการณ์นี้ มีเพียงดิฉันคนเดียวที่ได้ประจักษ์ และไม่สามารถทําให้ผู้อื่นเห็นตามได้ เนื่องจากเป็นความรู้สึกอันเป็น นามธรรมอันจับต้องไม่ได้ เว้นเสียแต่บุคคลผู้นั้น จะได้ลงมือปฏิบัติเองเฉกเช่นเดียวกัน ดิฉันระลึกถึงคําสอนของหลวงพ่อ ปราโมทย์ในเรื่องของการระลึกรู้ กิเลสอะไรที่เกิดขึ้น ก็ให้ระลึกรู้ อย่าบังคับกดข่ม สัมมาสติจะเกิดเมื่อจิตจําสภาวธรรมได้ แล้วละวางความยึดมั่นถือมั่น กิเลสดังกล่าวก็จะดับไปเอง สัมมาสติดังกล่าวนี้ ไม่สามารถบังคับให้เกิดได้ หากแต่จะเกิดขึ้น เองตามเหตุตามปัจจัย เมื่อมีเหตุ ก็เกิด หมดเหตุ ก็ดับ บังคับไม่ได้ ดิฉันต้องเดินทางมาเรียนไกลบ้านอย่างโดดเดี่ยว ต้องอยู่ห่างครอบครัวอันเป็นที่รัก ทั้งแม่ ลูก และญาติพี่น้อง นับเป็นเวลา นานหลายปี ต้องต่อสู้ฟันฝ่ากับอุปสรรคในการใช้ชีวิต ทั้งปัญหาสุขภาพร่างกาย และการศึกษาในต่างแดน และปัญหารุม เร้าอื่นๆ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลย การปฏิบัติธรรมในชีวิตประจําวัน จึงเป็นสิ่งจําเป็นและมีความสําคัญมากในการรักษาใจให้ เป็นสุข และดํารงอยู่ให้ได้ท่ามกลางความทุกข์มากมาย ดิฉันยังไม่เคยได้ไปกราบนมัสการหลวงพ่อปราโมทย์ฯแม้แต่ครั้งเดียว ไม่เคยได้ไปฟังธรรมของท่านหรือพบเจอตัวจริงของ ท่านที่ไหน หากแต่มีเพียงซีดีเสียง และคลิปเทศนาของท่านที่ดิฉันดาวน์โหลดจากอินเตอร์เน็ตเท่านั้นที่เป็นครู เป็นเสมือน คู่มือชีวิตภาคปฏิบัติที่แท้จริงยังต่างแดน ที่ได้ผลสัมฤทธิ์ดียิ่ง เรียกได้ว่า ปวารณาตัวเป็นศิษย์โดยที่ยังไม่เคยได้พบตัวจริง ของอาจารย์เลย ทุกวันนี้ ดิฉันยังคงปฏิบัติแนวดูจิตของท่านอยู่เป็นปกติ สามารถทําได้ตลอดเวลาในเวลาที่ไม่ต้องใช้ความคิดในการอ่าน ตํารา และเขียนงาน และยังได้ปฏิบัติตามรูปแบบ (สวดมนต์ เดินจงกรม นั่งสมาธิบ้าง ตามโอกาส) พร้อมๆกันไปด้วย ดิฉันใคร่ขอแสดงความคิดเห็นตามที่ดิฉันได้ปฏิบัติจริง หาได้มีใครจ้างวานให้เขียนข้อความดังกล่าวนี้ไม่ หากผู้ใดมีข้อ สงสัย สามารถติดต่อสอบถามดิฉันได้โดยตรงตามที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ข้างล่างนี้ค่ะ ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่มีจิตเป็นกุศล ใฝ่ในธรรมเพื่อความหลุดพ้นอย่างแท้จริง ด้วยความปรารถนาดียิ่ง โดย คุณ วาสนา
โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
8
16. ผม นายศรีพงษ์ อายุ31ปี ได้ฟังธรรมะจากลพ. มา 3ปี แล้วครับ การเรียนรู้ธรรมะ เพื่อเดินทางเข้าสู่อริยะนั้น มีให้เรียนรู้กันมากมาย หลายแขนง ลพ.ปราโมทย์ สามารถอธิบายหลักธรรม เพื่อให้เรียนรู้ได้อย่างลัดสั้น, กระชับ และ ชัดเจน ทําให้ผมได้เข้าใจ อย่างมาก และ ปฏิบัติตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ณ วันนี้ ผมได้ ติดตามและศึกษาทางสื่ออื่นๆ ของลพ. เช่น ฟังซีดีเวลาขับรถ วันหยุด ก็จะหยิบหนังสือของท่านเพื่อทําความเข้าใจ ถึงแม้ผมจะศึกษาธรรมะไม่นานนัก แต่ทําให้ชีวิตผมได้เปลี่ยนแปลงในทางที่ดี เพราะหลวงพ่อ ครับ บุญกุศลที่ผมได้เคยทํานุบํารุงพระพุทธศาสนา ในทุกๆ ชาติ ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน ขอให้ผลบุญนี้สําเร็จถึง ลพ.ปราโมทย์ ของให้หลวงพ่อแข็งแรง และ ดํารงขันธ์ ไปอีกนานๆ เพื่อเป็นประโยชน์ ต่อ ลูกศิษย์ และ ประชาชนทั่วไป ครับ ขอกราบหลวงพ่อ ปราโมทย์ครับ โดย คุณ ศรีพงษ์ 17. ดิฉัน กิจช์สิริ ขอร่วมแสดงความเห็นบนพื้นฐานมุมมองส่วนตัวนะคะ ว่า พระอาจารย์ปราโมช ท่านได้เปิดทางสอนธรรม ซึ่งบังเอิญคลื่นของเรารับได้ และ เข้าใจว่ามันง่ายกับการใช้ชีวิตในปัจจุบันเป็นอย่างมาก อึ้ง ทึ่ง และ รู้สึกว่าท่านช่วยเสริม ให้ชาวพุทธเข้าถึงพุทธแท้ สติปัญญาเข้มแข็ง แม้เหตุการณ์ข่าวจะเป็นอะไร อย่างไร ก็ไม่หวั่นไหวนะคะ นับถือในพระ อาจารย์ และธรรมมะเหมือนเดิม และขอมีสติพิจารณาและรับรู้ไปตามจริงคะ และขอ ยืนยันด้วยประสบการณ์ตัวเองนะคะว่า ท่านไม่ให้หลงปาฏิหารย์ ธาตุ วัตถุ (ซึ่งอธิบายได้ตรงและชัดมาก) ไม่ให้หลงในบุญ แต่ให้ยึดศีล5เป็นพื้นฐาน ให้มีชีวิต เรียบง่าย เป็นในแบบที่มันควรจะเป็ฯ ตามภาระหน้าที่การงานที่รับผิดชอบ ให้รู้ทันว่ามันตื่นเต้น ว่ามันปรุงแต่ง มันแค้น มันชัง มันสงสาร มัน หวั่นไหว เดี๋ยวมันดี เดี๋ยวมันก็ร้าย ก็เป็นอย่างนั้นแหละ เกิด ดับ ๆ เราไม่เคยเก็ท ไม่เคยเข้าใจอะไรที่ โดนอย่างนี้มาก่อนเลย แม้จะเคยอาจผ่านตามาจากแหล่งใดๆ ก็อนุมานได้ว่า จิต จริต และคลื่นสมอง มันตรง มันรับกลับวิธี การอธิบายธรรมมะแบบ ทีหลวงพ่อปราโมชท่านได้ เมตตา เทศน์ให้บุคคลผู้สนใจได้ฟัง เราช่างโชคดี ธรรมของท่านไม่ได้หนีโลก คะ แต่เหนือโลก ชอบมาก ที่กิเลส ละเอียดที่ว่ามองยากนะ โดน คะ พอรู้ตรงนี้ ช่างดีมากคะ ทําให้เรามีจุดพอดีในตัวเวลาไปเจอคอร์สอบรมสัมนาทางโลก เช่น คิดบวก พัฒนาศักภาพ หรือ ด้านจิตวิญญาณอะไร นี่ เรา นิ่ง หนักแน่น และหยิบประโยนช์มาใช้ได้โดยที่ไม่หลง ไม่ถลํา ไม่extreame สุดโต่งไปกับมันมาก ซึ่งดีต่อชีวิตมากๆๆ เลย คะไม่คิดว่าตนเองจะเข้มแข็งได้เพียงนี้ 2 ปี มาแล้ว นับจากที่ได้ไปฟังพร้อมเพื่อน ที่อัมรินทร์ ฝั่งธนฯ ก็ โดนสุดๆ ว่า อะไร จะเรียบง่าย และไร้เปลือก ไม่ติด พิธีกรรม ได้ขนาดนี้ การสอนธรรมแบบนี้ มันทําให้ของยากเป็นของง่ายนะ ของธรรมดา ธรรมชาติ เรียบง่าย แทบจะเปลือยเลยทีเดียว เรา นับถือตรงนี้เลย ก็เห็นมาเยอะ บางก็ปฏิบัติธรรมแล้ว บ้างมั่ง หลงมั่ง ยังแอบนึ่งนะคะ ว่าถ้าบางเขาเหล่านั้น ได้เข้าถึงธรรมแบบไม่เลื่อนลอย แบบนี้ อาจจะไม่มีอาการที่ว่าบ้า หลง หรือ ที่จิตหน่อยๆ ก็อาจดีขึ้นก็ได้นะ ทั้งนี้ ก็ใช่ว่าทุกคนจะตื่น(คนเกิดมาไม่เท่ากัน) เราเองก็เหมือนกัน เหมือนท่านว่าไว้ไม่มีผิด แต่ชอบที่มันสร้างสรรค์ ผิดได้ผิด ไปแล้ว ก็ตามรู้ให้ทันซะ ให้มีศีล ให้ฝึกสติ สมาธิ ให้ใช้ปัญญา ตรงนี้สิ ที่มันทําให้มนุษย์อย่างเราๆ แข็งแกร่ง ไม่หลงโลก หลงโทษตัวเอง กลัวบาปเก่า กลัวไม่ได้บุญใหม่ กลัว ผิดนั่นนี่โน่น ฟังธรรมของท่าน ฟังคนส่งการบ้าน แล้วสะท้อนมามองตัวเอง ก็ตาสว่าง สบาย โล่ง และ ชีวิต ศีล สมาธิ สติปัญญาในทาง โลกของตัวเองดีขึ้นมากมาย ที่สุดคะ ที่สุด อีกนิดนะคะ พอเรามีสิ่งนี้ เหมือนเรามีแก่นพุทธแท้ในใจ เราเข้มแข็ง และมีพลังแยกแยะ เหตุการณ์ สถาณการณ์ หรือ อะไร ก็ตามที่เข้ามาในชีวิตได้อย่างดีเยี่ยม น่าอัศจรรย์ ขอกราบขอบพระคุณ หลวงพ่อปราโมช ปราโมชโช จริงๆ คะ ขอน้อมปฏิบัติบูชา ตามวิถี ของมนุษย์ที่มุ่งมั่นในการงาน การเรียน การดูแลพ่อแม่ ต่อไปอย่างสุดกําลังคะ โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
9
ได้ฟังธรรม แล้วชีวิตแข็งแกร่ง มีพลังอย่างนี้ มีความสุขอย่างนี้ ไม่ได้และและทุ่มเทให้ต้องเกินฐานะ และเวลาอะไรมากมาย อย่างนี้ ถ้าไม่เรียกว่าชาตินี้ เกิดมามีบุญ(ถ้าทฤษฏีนี้อ้างอิงและอธิบายได้) ก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรแล้วคะ กิจช์สิริ หมุนรอบตัวเอง ดู และรู้จักตัวเอง แล้วเป้าหมายระยะไกล จะแม่นยํา ใช้หลักกาลามสูตร ไม่ยึดมั่น ถือมั่น แล้ว และให้ทําหน้าที่ในปัจจุบัน(เป็นแพทย์ นักการตลาด ครู หรือ ทหาร ฯลฯ)ให้เลิศไปเลย อยู่กับโลกให้ได้ ปกติ ชิลๆๆๆ แต่มี สาระในความเป็นพุทธแท้ นี่ถ้าไม่รู้จักธรรมมะทาง ลพ.ปราโมทย์นะ คงเป็น Free thinker ที่ล่องลองไป เรื่อยไปแล้วมังคะ ต้องขอบอกไว้อีกนิดนะคะว่า จริงธรรของครูบาอาจารย์หลายๆท่านที่ได้อ่านได้ฟัง ก็ล้วนดีและส่งเสริมชีวิต แต่ที่ต้องเน้น หลวงพ่อเพราะว่า มันเขาใจ ง่ายเข้าถึง และเข้ากับชีวิตปัจจุบันที่สุด มันโล่ง โปรง เบา สบาย ขําๆ ด้วย ฟัง ซีดี ยังมีความ สุข ขําได้ ฮาได้ มันไม่มีอะไรพิศดาร แค่นั้น เองคะ โดย คุณ กิจช์สิริ 18. ผมขอแสดงเจตนารมณ์ ผมเป็นคนหนึ่งที่มีโอกาสรับธรรมะจากหลวงพ่อ ทั้งฟังซีดี อ่านหนังสือ สิ่งที่สําคัญและตื่นเต้น ที่สุดสําหรับผมคือการได้ส่งการบ้านกับหลวงพ่อ ณ สวนสันติธรรม ครั้งนั้นเหมือนเป็นการเติมไฟให้กับผม ตั้งแต่ได้ภาวนา ตามแนวทางของหลวงพ่อ เป้าหมายชีวิตผมก็เปลี่ยนจากที่เคยคิดว่าจะหาความสุขทางโลก ผมมีเป้าหมายที่ชัดเจนมากขึ้น ผมอยากจะขอยืนยันว่าแนวคําสอนของหลวงพ่อทําให้ชีวิตผมเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ขอแสดงความเคารพอย่างสูง โดย คุณไตรรัตน์ 18. สวัสดีครับ ผมชื่อนายไพฑูรย์อายุ 52 ปี บ้านอยู่ถนนอโศกดินแดง กรุงเทพฯ ครับ ทํางานบริษัทด้านการตลาดต้องติดต่อลูกค้างานยุ่งทั้งวัน ผมศึกษาแนวการปฏิบัติธรรมของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโชมาประมาณ 2 ปี จากการฟังซีดี วีดิโอ อ่านหนังสือธรรมมะ และได้มีโอกาสฟังธรรมจากหลวงพ่อ ที่สวนสันติธรรม 2 ครั้ง และที่บ้านอารีย์ 1 ครั้ง จากที่ศึกษาและปฏิบัติตามแนวของหลวงพ่อปราโมทย์ผมมีจิตใจที่สงบขึ้น เข้าใจคําสอนของพระพุทธองค์มากยิ่งขึ้น หลวงพ่อท่านสอนให้เราเข้าใจและปฏิบัติอย่างง่าย ๆ สามารถปรับใช้กับชีวิตประจําวัน เหมาะกับคนทํางานในเมืองซึ่งไม่มีเวลามากนักในการปฏิบัติธรรม ตัวอย่างเช่นหลวงพ่อท่านสอนว่าในขณะทํางานเราจะต้องมีสมาธิในการทํางานให้สมกับที่นายจ้างจ้างเรา แต่เราสามารถภาวนาควบคู่ไปด้วยได้ เช่นในขณะที่เราเดินไปห้องน้ํา เราเดินด้วยจิตที่รู้เนื้อรู้ตัว ไม่ใจลอย หลวงพ่อสอนว่าในขณะที่เราเดินเราสามารถดูได้ 2 แบบ แบบที่ 1 คือดูด้วยสติ ว่าขณะนี้เรากําลังเดินอยู่ แบบที่ 2 ดูด้วยปัญญา ว่าตัวที่เดินอยู่นี้ไม่ใช่เรา เป็นเพียงธาตุขันธุ์ หลวงพ่อสอนให้เรารู้ว่าจริง ๆ แล้วพุทธศาสนาสอนอะไร เพราะส่วนใหญ่ชาวพุทธจะรู้แต่เข้าวัดฟังเทศน์ ทําบุญตักบาตร ถวายสังฆทาน รดน้ํามนต์ แต่หลวงพ่อสอนวิปัสสนาอย่างง่าย ๆ และท่านก็สอนให้มีศีล อย่างน้อยรักษาศีล 5 และท่านบอกว่าสมถะกรรมฐานเป็นสิ่งจําเป็น ท่านสอนว่า ศีล สมาธิ ปัญญา เป็นสิ่งจําเป็นจะขาดสิ่งหนึ่งสิ่งใดไม่ได้ ปัจจุบันนี้ผมปฏิบัติตามแนวทางหลวงพ่อปราโมทย์เป็นประจํา โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
10
และยังฟังซีดีของท่านทุกวัน ผมมั่นใจว่าแนวทางที่หลวงพ่อสอนเป็นแนวทางที่ถูกต้องตามคําสอนของพระพุทธองค์ ปฏิบัติตามแล้วเห็นผลในระยะเวลาอันสั้น ผมพิสูจน์แล้วด้วยตนเอง และยังชักชวนภรรยา ลูกและญาติพี่น้องให้ปฏิบัติตามแนวหลวงพ่อ พระคุณของหลวงพ่อยังมีอีกมากมายไม่อาจจะบรรยายในที่นี้ได้หมด ด้วยความรักและเคารพต่อหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช หลวงพ่อผู้มีแต่ให้ โดย คุณ ไพฑูรย์
19. ถึงเวปธรรมดาดอดเนต ขอร่วมโครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้ ดิฉันเป็นคนหนึ่งที่เคยไปฟังธรรมจากท่าน และมีความเลื่อมใสในวิธีการสอนของท่านมาก สอนให้คนติดเพ่งอย่างดิฉัน ได้รู้ว่าตัวเองติดเพ่ง และแก้ด้วยการรู้ว่าติดเพ่งก็หายแล้ว ซึ่งไม่เคยมีที่ไหนสอนเลย และทุกครั้งที่ท่านเอ่ยถึงหลวงปู่ดุลย์ ก็กล่าวด้วยความเคารพรัก ไม่เคยพูดว่าหลวงปู่เลย พูดเสมอว่าหลวงปู่คื่อครูอาจารย์ ที่เหมือนพ่อแม่ สอนท่านทั้งที่หลวงปู่ก็ไม่แข็งแรง สอนจบหลวงปู่ก็หอบเหนื่อย เป็นคําพูดที่หลวงพ่อพูดถึงหลวงปู่เสมอ การทําบุญบริจาค ท่านไม่รับเงินจากมือคนไปทําบุญโดยตรง ท่านให้หยอดตู้แล้วบอกท่านเพื่อเขียนใบเสร็จให้เท่านั้นเอง เคยมีคนขอเลขที่บัญชีท่านเพื่อสะดวกในการทําบุญกับท่าน ท่านกลับบอกว่า ท่านไม่สะดวกที่จะให้โอน การทําบูญให้ทํา ด้วยใจอยากทําไไม่ใช่เรี่ยรายให้ทํา แล้วต้องทําเพราะเลี่ยงไม่ได้ เพราะตอนท่านเป็นฆราวาสท่านเคยโดนเรี่ยรายอยาก ทําบุญด้วย แต่รายได้ไม่ได้มากนัก ก็ลําบากใจ ทุกครั้งที่ท่านสอน ท่านจะบอกเสมอว่า ไม่ต้องมาฟังถึงที่ก็ได้ ไม่ต้องยึดติดในตัวท่าน ให้ยึดถือคําสอนของท่านเป็นหลัก ท่านบอกเสมอให้รู้ให้ได้ ไม่ต้องรอชาติหน้าชาติไหน ให้รู้ให้ได้ในชาตินี้ นี่เป็นของความประทับใจ และนับถือท่านมากๆค่ะ พระอาจารย์เป็นทองแท้ที่โดนไฟเผากี่ครั้งก็เป็นทองบริสุทธิ์เสมอ โดย คุณ อนุตตรีย์
โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
11
20. เรียนทุกท่านที่ได้อ่าน Email ฉบับนี้ เดิมทีดิฉันไม่เคยคิดหรือสนใจที่จะศึกษาปฏิบัติธรรม คงเพียงแค่ไหว้พระทําบุญไปตามโอกาส และเริ่มจะเสื่อมศรัทธาใน พุทธศาสนาด้วยซ้ําจากความประพฤติของพระสงฆ์ที่เห็นกันอยู่ทั่วไป ไม่เคยเข้าใจพุทธศาสนาอย่างแท้จริง จนมีโอกาสได้ ฟังธรรมะของหลวงพ่อ ปราโมทย์ ปาโมชโช ทําให้ดิฉันเข้าใจพุทธศาสนา เข้าใจธรรมะของพระพุทธองค์มากขึ้น และลอง ปฏิบัติตามคําสอนของหลวงพ่อ ชีวิตก็เปลี่ยนไป และเปลี่ยนไปมาก มีความสุขมากขึ้น ทุกข์น้อยลง อันเกิดจากการเจริญสติ รู้สึกตัว หลวงพ่อสอนให้รู้สึกตัว จากคนที่ใจร้อนวู่วาม โลภ หลง ก็ลดน้อยลงโดยที่ดิฉันรู้สึกได้เอง รวมทั้งคนรอบข้างก็รู้สึก ได้เช่นกัน มีเมตตามากขึ้น เข้าใจคนอื่นมากขึ้น ดิฉันปฏิบัติธรรมตามแนวหลวงพ่อมาได้ 5 ปีแล้ว (จากซีดีและหนังสือที่ท่านแจก ไม่เคยต้องเสียเงิน ท่านไม่เคยเรี่ยไร) คํา สอนของท่านมีแต่การกระตุ้นเตือนให้เจริญสติ อย่าประมาทในชีวิต รู้สึกตัวบ่อยๆ เห็นคุณค่าของการได้เกิดเป็นมนุษย์ ทําให้ดิฉันรู้สึกโชคดีจริงๆ ที่ได้เกิดในแผ่นดินที่พุทธศาสนายังคงอยู่ หลวงพ่อทําให้ดิฉันเริ่มสนใจอ่านและศึกษาธรรมะ ไม่ แต่เฉพาะคําสอนของหลวงพ่อปราโมทย์ ดิฉันได้ไป Download คําสอนของหลวงพ่อท่านอื่นที่ได้ชื่อว่าเป็นพระสุปฏิปันโน ก็ เห็นว่าไม่แตกต่างจากที่หลวงพ่อปราโมทย์ท่านสอนเลย เพียงแต่ท่านสามารถสอนให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น ดิฉันเชื่อมั่นในหลวงพ่อและคําสอนของท่านค่ะและจะปฏิบัติต่อไปตลอดชีวิต เพราะดิฉันเคารพและเลื่อมใสหลวงพ่อไม่ใช่ เพราะการรับฟังจากคนอื่น แต่จากการเห็นได้จริงจากการปฏิบัติตามที่หลวงพ่อท่านเมตตาบอกทางให้และเชื่อว่าเป็นทางที่ ถูก และจะไม่มีวันหลงทาง เหตุการณ์ครั้งนี้ดิฉันรู้สึกเสียใจไม่ทราบว่าจะกล่าวอย่างไรดี ทราบแต่เพียงว่าดิฉันจะต้องขยันปฏิบัติให้มากขึ้นกว่านี้เพื่อ เป็นการบูชา และตอบแทนพระคุณหลวงพ่อที่ได้ทุ่มเทแรงกายและใจ อย่างไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อยแม้ยามเจ็บไข้ ไม่สบาย เพื่อสั่งสอนพวกเราแต่ผลที่ได้รับกลับเป็นเช่นนี้ สุดท้ายนี้ดิฉันขอยืนยันว่า ดิฉันเชื่อในความบริสุทธิ์ของหลวงพ่อค่ะ และขอเป็นกําลังใจให้หลวงพ่อผ่านเหตุการณ์ครั้งนี้ไป ได้ด้วยดีนะคะ โดยคุณ ลัดดา 21. ความประทับใจที่มีต่อหลวงพ่อและคําสอน ชื่อจันทิมา ฟังซีดีตั้งแต่ปี 2007 และเคยไปกราบหลวงพ่อและส่งการบ้านหลายครั้งแล้วค่ะ ความประทับใจที่มีต่อหลวงพ่อปราโมทย์ ปราโมชโช... 1. หลวงพ่อไม่่เคยเรี่ยไร จริงอยู่ว่ามีตู้รับบริจาคในสวนสันติธรรม แต่ถึงเราจะไปฟังธรรมเฉยๆ โดยไม่บริจาค ก็ไม่มีใครว่า อะไร 2. คําสอนของหลวงพ่อเป็นความประทับใจที่มีต่อหลวงพ่อมากที่สุดค่ะ คําสอนของหลวงพ่อ ฟังดูเหมือนง่ายแต่เมื่อนําไปปฏิบัติแล้ว ตัวเองกลับรู้สึกว่ายากมากๆ ในช่วงแรกๆ แต่เมื่อฝึกมาเรื่อยๆ จิตใจเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น มีความสุขมากขึ้น เวลาโมโหหายเร็วขึ้น ยอมรับกับความเปลี่ยนแปลงได้ดีขึ้น ความ ทุกข์สั้นลง แต่ไม่ได้หมายความว่า จะไม่โมโหนะคะ ก็ยังขี้โมโหและขี้หงุดหงิดอยู่ค่ะ แต่เวลาโมโหหรือหงุดหงิดจะหายเร็ว กว่าเมื่อก่อนมาก นอกจากตัวเองจะรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงภายในจิตใจตัวเองแล้ว คนรอบๆ ตัวก็รู้สึกได้ค่ะ เช่น น้องสาวก็จะบอกว่า เดี๋ยว นี้ขี้บ่น แต่ไม่เกรี้ยวกราด ซึ่งเมื่อก่อนเนี่ยจะทั้งขี้บ่นและเกรี้ยวกราดค่ะ ส่วนแม่ จากที่เคยอยากได้อะไรแล้วต้องบอกผ่านลูก หรือน้องสาว ก็กล้าที่จะบอกกับเราโดยตรงค่ะ เมื่อก่อนเราน่ากลัวมากๆๆ เลยค่ะ ขอแสดงความนับถือ โดย คุณ จันทิมา โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
12
22. หลวงพ่อทําให้เราเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่า "ทําไมถึงต้องเกิด?" และ "เกิดมาทําไม?" โดย คุณ สุริยงค์
23. คําสอนของหลวงพ่อปราโมช ทําให้ข้าพเจ้าได้พบทางปฏิบัติที่สามารถนําไปใช้ในชีวิตประจําวันได้ และคําสอนทุกคํา สอนได้ชี้ทางให้คนที่เดินหลงทางที่คลําถูก ๆ ผิด ๆ มาหลายปี พบทางสว่างในการเจริญสติ โดย คุณ ปณิธิ 24. ตั้งแต่ได้ฟังธรรมของหลวงพ่อปราโมทย์ ชีวิตมีความสุขมากขึ้น ความทุกข์ลดลง นิพพาน ด้วย สัจจะวาจานี้ ขอให้หลวงพ่อปราโมทย์พ้นจากอันตรายทั้งปวง โดย คุณ สมพร
และไม่หวังสิ่งใดไปมากกว่าพระ
25. ดิฉันเคยฟังธรรมจากท่านโดยตรงเมื่อหลายปีก่อนเพียงครั้งเดียว แต่หลังจากได้สมัครสมาชิกกับ website dhammada เมื่อกุมภาพันธ์ 53 ก็ได้มีโอกาสฟังธรรมะจากท่านเป็นประจําทุกวัน จนถึงปัจจุบัน โดยจะพยายามฟังทุกหัวข้อที่ทาง website ส่งมาให้ แต่บางครั้งก็เลือกฟังบางหัวข้อ เพราะบางวัน website ก็ส่งมาให้มากเหลือเกิน จนฟังไม่ทัน
ดิฉันมีความก้าวหน้าเป็นลําดับในการปฏิบัติธรรมตามแนวทางที่ท่านชี้แนะ โดยเฉพาะเรื่องการตามรู้กาย รู้ใจ ตามความเป็นจริง จนเห็นถึงไตรลักษณะของรูปธรรม นามธรรมต่าง ๆ อยู่อย่างต่อเนื่อง ทําให้จิตถอดถอนความยึดมั่นในเรื่องต่าง ๆ ลงทีละเล็กทีละน้อย เพราะเริ่มเข้าใจในธรรมชาติของรูป และนาม
โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
13
หากไม่ใช่เป็นเพราะคําสอนของท่าน ซึ่งมีความชัดเจนในการถ่ายทอดหลักธรรมเป็นอย่างยิ่ง ประกอบกับการผลิตสื่อต่าง ๆ ออกมาให้คนทั่วไปได้มีโอกาสเข้าถึงอย่างง่ายดายแล้ว ก็คงยากที่คนธรรมดา ๆ อย่างดิฉัน จะมีโอกาสเข้าใจธรรมะจนสามารถนํามาปฏิบัติ และตรวจสอบตนเองได้
คําสอนของท่านมีความสอดคล้องกันในตัวเอง ทุกครั้งท่านจะเน้นย้ําในหลักการสําคัญเหมือนเดิม คือการตามรู้กาย ใจ ตามจริง ไม่เพ่ง ไม่บังคับ ไม่เผลอ มีจิตที่ตั้งมั่น เมื่อจิตตั้งมั่นแล้ว ก็จะสามารถเดินปัญญา คือการเห็นไตรลักษณ์ในรูป และนาม เมื่อเห็นไตรลักษณ์ในรูป และนาม เป็นประจําแล้ว จิตก็จะถอดถอนความยึดมั่น ถือมั่นในขันธ์ 5 ลงในที่สุด และเป็นอิสระจากเครื่องร้อยรัดทั้งหลาย รวมถึงตัวมันเอง สิ่งเหล่านี้ คือสิ่งที่ดิฉันจดจําได้จากคําสอนของท่าน ไม่มีอะไรนอกเหนือไปจากนี้
ท่านสอนเสมอว่า ธรรมะไม่ได้ปฏิบัติให้สุข สงบ แต่ปฏิบัติเพื่อให้เห็นความจริงของรูป และนาม คําสอนของท่านทําให้ดิฉันมีแนวทางในการปฏิบัติที่ขัดเจน และพิสูจน์ได้ว่า เห็นผลจริง ดิฉันเชื่อมั่นว่า ท่านเป็นสาวกผู้เดินตามรอยบาทขององค์พระศาสดา อย่างไม่ต้องสงสัย ขอถือโอกาสนี้ กราบขอบพระคุณท่านเป็นอย่างสูง กราบนมัสการด้วยความเคารพ โดยคุณ พิชญนันท์ 26. ผมได้รู้จักท่านมาตั้งแต่เมื่อยังเรียนอยู่ที่ไทย จนถึงขณะนี้ได้มาทํางานที่ต่างประเทศก็ยังนึกถึงบุญคุณของท่านไม่เสื่อม คลาย ผมยังฟังคําสอนของท่านทางซีดีอยู่เสมอ โดยเฉพาะขณะขับรถหรือในช่วงนี้ท้อแท้จากการทํางานหรือเหนื่อยล้าจาก เรื่องทางโลกต่างๆ ตั้งแต่ผมรู้จักคําสอนของท่านนั้นชีวิตผมทุกข์น้อยลง และทําให้ผมได้เข้าใจถึงแก่นคําสอนที่แท้จริงของ ศาสนาพุทธ และวิธีที่จะไปถึงจุดหมายปลายทางที่แท้จริง แม้ว่าผมจะยังปฏิบัติได้ไม่เก่งนัก แต่ก็จะไม่ท้อถอยและจะ พยายามปฏิบัติตามที่หลวงพ่อท่านสอนตลอดไปครับ โดยคุณ จิรเดช 27. ดิฉันได้รู้จักแนวการสอนของหลวงพ่อปราโมทย์ตั้งแต่ 4 ปีที่แล้ว ช่วงนั้นดิฉันมีความทุกข์มากจึงหาเสาะแสวงหา แนวทางในการปฎิบัติเพื่อให้พ้นจากทุกข์ที่ตัวเองผจญอยู่ จนมาได้ยินคําสอนของหลวงพ่อผ่านทางซีดี และหนังสือที่แจก ตามที่ต่างๆ ดิฉันจําได้หนังสือเล่มแรกที่อ่านคือ แด่เธอผุ้มาใหม่ อ่านไปก็รู้สึกว่ามันช่างโดนใจจริงๆ หลังจากนั้นก็พยายาม หาหนังสือของหลวงพ่อมาอ่าน และฟังซีดีไปด้วย ความทุกข์ที่ครั้งแรกมันมากมายเหมือนจะผ่านไปไม่ได้ก็เริ่มผ่านได้ ด้วยการฝึกตามแนวทางดุจิตของหลวงพ่อ ดิฉันได้เรียนรู้หลักคําสอนของพระพุทธเจ้า อย่างลึกซืั้งและเข้าใจ ก็ด้วยหนังสือ ของหลวงพ่อ พราะเคยคิดว่าธรรมะมันยากไป ไม่รู้เรื่อง จากที่ไม่เคยรุ้ว่าศึกษาธรรมะแล้วมันจะรู้อะไร ก็รุ้วันนี้นี่เอง หลวง พ่อสอนเรื่องอริยสัจ ไตรสิกขา ปฎิจสมุทบาท ฟังชื่อก็ยากแล้ว ดิฉันเคยเรียนตั้งแต่เด็กๆ แต่ไม่เคยสนใจว่ามันจะลึกซึ้งถึง ขนาดทําให้เราพ้นทุกข์ได้ ที่ดิฉันปฎิบัติแล้วได้ผลจริงคือ ไม่จมกับทุข์ รู้ตัวดีขึ้น ความทุกข์น้อยลงมาก ปล่อยวางได้ง่าย มี ความสุขกับปัจจุบัน ดีมากๆ เลยค่ะ รู้ทางเลยค่ะว่าจะทําให้เราพ้นทุกข์จริงๆได้อย่างไร (แต่ความเพียรของดิฉันยังน้อยอยุ่ ค่ะช่วงนี้ หุหุ) หลวงพ่อบอกเสมอว่า ให้เราเร่งภาวนา ปฎิบัติตามแนวไหนก็ได้ที่ถูกจริตกับเรา แต่อย่าลืมต้องมีสติ อย่าเพ่ง อย่าเผลอ โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
14
ดิฉันเคยไปสวนสันติธรรมสองสามครั้ง ไปทุกครั้งได้รับหนังสือและซีดีที่เค้ามาแจกมากมาย เอามาเผื่อคนที่บ้านด้วย พี่ๆน้องๆของดิฉันทุกคนก็สนใจธรรมะเพราะฟังหลวงพ่อปราโมทย์เทศน์นี่แหละคะ สุดท้ายนี้แม้มีความคิด อยากเขียนมากมาย เพื่อสื่อให้ทุกคนรู้ว่าเรามีความสุขอย่างทุกวันนี้ได้ ก็เพราะได้ศึกษา ได้ฟัง ธรรมของพระพุทธเจ้า จากหลวงพ่อที่เสียสละเวลามาเทศน์มาสอนเรา ขอกราบนมัสการหลวงพ่อปราโมทย์ค่ะ โดย คุณ ปาจรีย์ 28. หลวงพ่อผู้พลิกชีวิตในการภาวนา เมื่ออายุ 11-12ขวบ กระผมก็เริ่มนั่งสมาธิแล้ว แต่ไม่มีผู้ชี้ทางที่ถูก และแนะนําการภาวนาต่อ ก็นั่งมาเรื่อยๆ ไม่เคยรู้เลยว่า พระพุทธเจ้าสอนอะไร จนกระทั่งปี 2549 ใด้ฟังธรรมะของหลวงพ่อปราโมทย์ ความสว่างเกิดขึ้นในใจทันที รู้แล้วว่าทางเดินต่อไปเป็นอย่างไร (หลังจากมืดมา 30ปี) มีสติรู้ทันทุกข์ที่เกิดขึ้น ทุกข์ทางใจลดลง อย่างที่ไม่เคยรู้เคยเห็นมาก่อน ธรรมที่ท่านสอนเรียบง่าย ให้ผลทันที ที่ลงมือทํา ท่านคือพ่อแม่ทางธรรมของผมเลยครับ โดยคุณ พิชยา จาก เชียงใหม่ 29. “ถ้าไม่ได้ฟังธรรมเทศนาของหลวงพ่อ ปราโมทย์ ปราโมชโช ก็คงยังไม่เข้าใจว่าพระพุทธเจ้าสอนอะไร และการภาวนา คืออะไร” โดย คุณ ขนิษฐา 30. สวัสดีค่ะ ได้รับอีเมลมาจากน้องซัน ทําให้ได้ทราบเกี่ยวกับการรวมพลังเพื่อให้กําลังใจหลวงพ่อค่ะ ชื่อ อิ๊ค จามจุรี ค่ะ ได้รู้จักหลวงพ่อครั้งแรก ปลายปี 2551 น้องสาวเอาซีดีมาให้ฟังค่ะ ก่อนหน้านี้ก็มีความสนใจธรรมะอยู่บ้าง แต่ไม่มาก ไม่ได้ปฏิบัติอะไร โชคดีที่ครอบครัว คุณพ่อคุณแม่และน้องสาวสองคน เค้าใฝ่ทางธรรมะ ทําให้เราก็ได้ติดสอยห้อยตามเค้าไปวัด หรือนั่งสมาธิร่วมกันบ้าง ช่วงกลางเดือนพ.ย.2551 คุณพ่อเสียอย่างกะทันหัน ซึ่งครอบครัวเราก็เศร้ามากพยายามเป็นกําลังใจให้กัน ประกอบกับที่ น้องสาวก็เริ่มเคารพนับถือหลวงพ่อมากขึ้น เค้าก็เลยเอาซีดีมาให้เราฟังก่อน แล้วน้องก็ชวนแม่กับอิ๊คและน้องคนสุดท้องไป กราบหลวงพ่อที่ศรีราชา ทําให้รู้สึกศรัทธามากขึ้นไปอีก ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ทุกข์ที่สุดในชีวิตก็ว่าได้ เพราะไม่เคยทําใจไว้เลย ว่าปะป๊าจะต้องมาจากไปเร็วขนาดนี้ ร้องไห้ทุกคืน พอได้ฟังซีดีหลวงพ่อ ก็ไม่ใช่ว่าจะหยุดร้องนะคะ แต่ทําให้เรารู้สึกว่าจิตเรามันมีอะไรบางอย่าง ที่พอเราสังเกตุช่วงก่อนจะ ร้องไห้ มันเห็นว่า นี่ไง มันกําลังคิดเรื่องนี้ กําลังจะดิ่งลงไปทุกข์กับมันแล้ว มันเลยชะงักนิดนึง แล้วแทนที่จะร้องแบบเอาเป็น เอาตาย เศร้าเสียใจ มันก็ร้องได้นิดเดียว แบบว่าง ๆ แล้วมันก็หยุด ความคิดมันสะดุดน่ะค่ะ หลังจากนั้นก็ฟังมาตลอดค่ะ ยิ่งฟังก็ยิ่งนับถือหลวงพ่อ เพราะทฤษฎีที่หลวงพ่อพูดให้ฟัง มันมีเหตุผลค่ะ ที่ผ่านมาที่ไปวัด หรือปฏิบัติ จะเป็นแนวอาศัยศรัทธา เชื่อโดยที่ไม่ได้พยายามเข้าใจมากนัก เวลาใครถาม ก็ตอบไม่ค่อยได้ เพราะไม่ได้ เข้าใจจริง ๆ แต่ฟังหลวงพ่อแล้ว เชื่อแบบเข้าใจและมีหลักการค่ะ ถามตัวเองกลับไปกลับมา มุมโน้นมุมนี ้ ก็ยังตอบได้อยู่ ทําให้ยิ่งมั่นใจว่า นี่แหละ ใช่แล้ว นอกจากทฤษฎีแล้ว ก็ยังเป็นที่ตัวหลวงพ่อเองที่ไม่ยึดติดกับอะไร ไม่เคยแสดงอัตตาตัวตน หรือพยายามโน้มน้าวว่า ทําแบบนี้สิ แล้วจะได้แบบนี้ ไม่ใช่ต้องนับถือหลวงพ่อเท่านั้นถึงจะถูก ก็ยิ่งนับถือค่ะ ถึงแม้ว่าหนูอาจจะไม่ได้ปฏิบัติมากเท่าลูกศิษย์คนอื่น ๆ ของหลวงพ่อที่เอาจริงเอาจังกันมาก (ตามที่ฟังจากซีดี) แต่หนูมี ความเคารพและนับถือหลวงพ่อไม่แพ้คนอื่น ๆ แน่ ๆ ค่ะ :) โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
15
แค่ได้ฟังซีดีหลวงพ่อ ทําให้หนูมองเห็นอะไร ๆ ข้างในใจและกายของหนูอีกเยอะแยะมากมายอย่างที่ไม่เคยมาก่อนในชีวิต (30 ปี) หนูขอเป็นกําลังใจให้หลวงพ่อ ให้ช่วยให้คนอีกมากมายที่มีความทุกข์ ได้เห็นและเข้าใจในแนวทางที่พระพุทธเจ้า พยายามสอนพวกเรา เพราะอย่างที่หลวงพ่อเคยบอกว่า พวกเรายังโชคดีที่เกิดมาในยุคสมัยและประเทศนี้ ที่ยังมีร่องรอย คําสอนของพระพุทธเจ้าเป็นแนวทางให้ดําเนินชีวิต ก่อนที่คําสอนเหล่านั้นจะสลายหายไปกับกาลเวลา ขอบคุณหลวงพ่อและทุกคนที่ช่วยกันดํารงไว้ซึ่งพระพุทธศาสนาค่ะ ด้วยความเคารพ โดยคุณ อิ๊ค จามจุรี
31. แรงบันดาลใจ ในช่วงชีวิตหนึ่งแว็บคิดขึ้นมาทําไมเราถึงมีความทุกข์เร่าร้อนใจแบบนี้ วันๆต้องรีบทํางานแข่งกับเวลา ทําไมลูกน้องถึง ทํางานไม่ได้ดังใจเรา ทําไมลูกค้าถึงเป็นแบบนี้ สารพัดเรื่องที่จะคิด ก่อนนอนก็เปิดฟังธรรมะไป อยากจะไปปฏิบัติธรรมแบบเค้าบ้าง ก็ไม่มีเวลา ไปทีละหลายๆวัน ช่วงบ่ายพอมีเวลาว่างบ้างลูกค้าไม่ค่อยมากก็จะไปตามวัด ตามสถานที่ที่เค้าสอนปฏิบัติกัน วัดสนามในบ้าง พุทธมณฑล ช่วงที่เค้าสอนอบรมกันบ้าง ไปยืนดูแล้วก็มาทดลองทําที่บ้าน ได้แนวหลวงพ่อเทียนมา แต่ตอนนั้นยังไม่ทราบว่าที่ทําเป็นการไปเพ่งเอาไว้ แล้วก็ได้ซีดี ท่านอาจารย์กําพล ทองบุญนุ่ม มาฟัง ท่านสอนให้ดูความคิด แต่อย่าไปเป็นผู้คิด พอมารู้ตัวนี้จิตใจก็พอเบาไปได้หน่อย ตอนนี้เลยได้ใจหาซีดีแนวเจริญสติมาฟัง ทุกพระอาจารย์ หลวงพ่อปราโมทย์ หลวงพ่อเทียน หลวงพ่อคําเขียน พระอาจารย์มิตซูโอะ พระอาจารย์มานพ หลวงพ่อสุรศักดิ์ เขมรังสี และ อีกหลายรูป แต่ครูบาอาจารย์ทางวัดป่า และพระอภิธรรมก็ฟังคะ เพราะคิดว่าการฟังธรรมแล้วทําให้ได้ปัญญามีสัมมาทิฐิ ของหลวงพ่อปราโมทย์ได้อ่านได้ฟังมากหน่อย เข้าไปที่ลานธรรมอยากได้หนังสือท่านเล่มหนึ่งแต่งตอนที่ท่านเป็นฆราวาส ตอนนั้นท่านบวชและปลีกวิเวกอยู่ หนังสือเล่มนั้นไม่ได้มาแต่มาได้อ่านวิถีแห่งความรู้แจ้งเล่ม 1 เล่ม 2 แทนอ่านเสร็จทางนี้ แน่เลย ก็เลยติดตามคําสอนของท่านมาเรื่อยยอมรับนับถือท่านเป็นพระอาจารย์ ถ้าให้ใครมาพูดยังไงก็คงเปลี่ยนความคิด ไม่ได้ เพราะคําสอนของท่านถ้าได้ฟังและนํามาปฏิบัติตาม เราจะรู้ได้ด้วยตัวของเราเอง ว่าที่ท่านสอนเป็นจริงทําแล้วได้ผล จริง ไม่เนิ่นช้า ความทุกข์ลดลงได้ ความมีอัตตา ลดลงจริง คําสอนของท่านมีประโยชน์แก่สังคม เพราะหลวงพ่อสอนเสมอ ให้ดูตัวเรามันจะคอยโผล่ออกมา จากที่ไม่เคยรู้สึกตัวเลย เปลี่ยนมารู้วันละไม่กี่ครั้งมาจนเดี๋ยวนี้รู้สึกตัวได้บ่อยมาก โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
16
คิดว่าปฏิบัติได้แค่นี้ก็พอใจแล้วสําหรับชีวิตคนเมืองที่ไม่ค่อยมีเวลาอย่างเรา ภาวนาไปเรื่อยๆไม่คาดหวังอะไรขอให้แค่ เพื่อยังอกุศลบาปธรรมที่ยังไม่เกิดมิให้เกิดขึ้น เพื่อละอกุศลบาปธรรมที่เกิดแล้ว เพื่อยังกุศลธรรมที่ยังไม่เกิดให้เกิดขึ้น เพื่อให้กุศลธรรมที่เกิดแล้วคงอยู่ไม่เลือนหายไปให้ภิญโญภาพไพบูลย์เจริญเต็มที่ ตามคําสอนของพระพุทธองค์ เพราะหลวงพ่อท่านเป็นแรงบันดาลใจ......ถึงทําให้ ให้เชื่อมั่นศรัทธาในองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ให้เชื่อมั่นในพระสัทธรรม ว่ามีอยู่จริงปฏิบัติตามแล้วเห็นผลได้จริง ขอนอบน้อมบูชาพระมหากรุณาธิคุณของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ขอนอบน้อมบูชาครูอาจารย์ที่แสดงธรรมอันพระตถาคตบัญญัติไว้ดีแล้ว บทความนี้เขียนไว้ก่อนแล้วถึงตอนนี้และต่อจากนี้ไปศรัทธาก็ยังไม่คลอนแคลน ธรรมะของหลวงพ่อเข้าไปถึงใจแล้วคงจะ เปลี่ยนไม่ได้ พระผู้มีแต่ให้ ขอเสริมต่อ ทุกครั้งที่ตามหลวงพ่อไปเทศน์ที่ต่างๆ ไม่ว่าตามโรงพยาบาล ศาลาลุงชิน หลวงพ่อจะไม่เคยนําเงินที่พวกเรา ทําบุญกลับไปวัด จะมอบให้กับสถานที่นั้นไว้เลย หนังสือ ซีดี ของหลวงพ่อแต่ละครั้งที่นํามาแจกให้พวกเราที่ไปฟังธรรม ครั้งหนึ่งประมาณได้ว่าหลักแสนขึ้นไปแน่นอน ประมาณจากจจํานวนคนคูณกับมูลค่าของจํานวนหนังสือที่แจกแต่ละคน หลวงพ่อไม่เคยเลือกผู้ที่ไปฟังธรรมว่าจะมีจะจนท่านให้สิทธิเท่ากันหมด และไม่เคยสอนให้ยึดมั่นในตัวของครูบาอาจารย์ ให้ ยึดถือพระธรรมเป็นสรณะ ไม่ได้ฟังแต่ซีดีไปฟังท่านเทศน์ด้วยตัวท่านเองก็บ่อย ก็ไม่เคยได้ยินท่านพูดอย่างกล่าวหากัน ท่านสอนเราทุกอย่างเท่าที่พระรูปหนึ่งจะสอนเราได้ ไม่ใช่แต่เฉพาะในทางธรรมในทางโลก ท่านก็สอนให้อยู่กับโลกได้อย่าง ไม่ทุกข์มาก ท่านเปลืองตัวสอนเรามาขนาดนี้แล้ว มาวันหนึ่งท่านเจอเหตุการณ์แบบนี้แล้วเราจะนิ่งเฉยได้หรือ ถ้าทุกท่านได้สัมผัสกับหลวงพ่อ แล้วจะรู้ว่าทําไมคนถึงรักและศรัทธาท่านได้มากขนาดนี้ พระผู้เปี่ยมไปด้วยเมตตา ปรารถนานําพาพวกเราพ้นทุกข์ พระรูปนั้น.....หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ขอแสดงตัวว่ามีตัวตนจริงพร้อมที่จะไปร่วมเป็นพยานกับหลวงพ่อด้วยตนเองคะ โดย คุณ พรรณทอง 32. ขอกราบนอบน้อมระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย และกราบระลึกถึงคุณครูบาอาจารย์ที่ท่านถ่ายทอดพระธรรมคําสั่งสอนของ องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ข้าพเจ้าจะไม่หวั่นไหวต่อสิ่งได เพราะเชื่อมั่นในพระธรรม ที่ได้รับการถ่ายทอด จากหลวงพ่อ ปราโมทย์ ปาโมชฺโช จากพลังหัวใจบริสุทธิ์อีก 1ดวง ที่เชื่อมั่นในคุณงามความดีของหลวงพ่อปราโมทย์ โดย คุณ ธนวรรณ โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
17
33. เรียน ชาวพุทธทุกท่าน ดิฉันและลูก ๆ ได้เข้าร่วมอบรมค่ายธรรมมะที่ฝึกการภาวนาโดยใช้ หลักคําสอนของหลวงพ่อปราโมทย์ ทําให้ดิฉันมีกําลังใจในการดําเนินชีวิต มีหลักการในการทํางาน อบรมสั่งสอนลูก ๆ อย่างมีสติ(ซึ่งก่อนหน้านี้ดิฉันรู้สึก ว่าชีวิตผ่านไปวัน ๆ จิตใจยุ่งเหยิงและจบลงด้วยความอ่อนเพลีย) นอกจากนี้ลูก ๆ ก็เข้าใจในหน้าที่ของตนเอง รับผิดชอบตนเอง และทุกคนก็มีความสุข กับการภาวนา ดูจิตตามแนวคําสอนของหลวงพ่อ ดิฉันและลูก ๆ เคารพศัทธาต่อแนวทางคําสั่งสอนของหลวงพ่อและขอปวารณา เป็นศิษย์ของหลวงพ่อตลอดไปค่ะ โดย คุณ ศิราณี, คุณอิษฎ์นันทน์ และ คุณชนกนันทน์ 34. กราบหลวงพ่อปราโมทย์ที่เคารพ ย่อหน้าต่อไปผมเคยคิดจะตั้งกระทู้ใน PANTIP แต่คิดว่ามันไร้สาระจึงไม่ได้ตั้ง แต่วันนี้ผมขอเขียน เผื่อว่าจะ มีโอกาสผ่านตาหลวงพ่อบ้าง "สติรักษาจิตหรือสติอัตโนมัติ ในการปฎิบัติของผมมีอาการดังนี้ 1. มีความตั้งมั่นเป็นผู้รู้ผู้ดู โดยธรรมชาติโดยรู้ตัวทั่วพร้อม เผลอน้อยมาก ไม่ต้องเพ่งจ้อง แยกกายและใจเอง 2. มีความตั้งมั่นไม่หวั่นไหว แม้มีเสียงระเบิด จานชามตกแตก รถชนกันต่อหน้า แต่หัวใจผมไม่เต้นโครมคราม เพราะมีอะไรสักอย่างจับหัวใจไว้โดยอัตโนมัติ ไม่แตกตื่นตกใจ เต้นตามปกติ 3. โลภะ โมหะ โทสะ ลดน้อยลง ไม่ว่ามีอะไรมากระทบก็ไม่หวั่นไหว เป็นเพราะผมปฎิบัติธรรมตามที่หลวงพ่อปราโมทย์สอน โดยไม่ย่อท้อตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมาครับ" ต่อไปขอเล่ามูลเหตุที่ได้มาศึกษาธรรมะ ตอนปี 2549 ผมค่อนข้างเป็นคนอารมณ์ร้อน กิเลศเยอะเหมือนคนทั่ว ไป แต่ปลายปี 2549 ผมป่วยเป็นหวัดโดยไม่หายสักที จึงตะเวณหาหมอเก่งๆเพื่อรักษา จนในที่สุดจึงทราบ สาเหตุว่าเป็นมะเร็งหลังโพรงจมูก ระยะที่ 3 ลามจากโพรงจมูกไปต่อมน้ําเหลืองแล้ว โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
18
ช่วงนั้นผมสับสนมากเพราะอายุแค่ 40 ปี ก็เป็นโรคร้ายแรงแล้ว สิ่งที่ผมไม่เคยทํามาก่อนเลย(โดยไม่ถูกบังคับ)คือเข้าวัด ทําบุญ และผมไปได้ของดีจากในวัดคือหนังสือธรรมะเล่มเล็กๆชื่อว่า"หลวงปู่ฝากไว้" อ่านแล้วถูกใจมากๆอย่างไม่เคยเป็น มาก่อน จึงหาประวัติท่านจากอินเตอร์เน็ต จึงมาเจอเว็บวิมุตติ.คอม ได้ DOWNLOAD ธรรมะดีๆจากหลวงพ่อ ปราโมทย์ มาฟังพร้อมกับรักษาตัวไปด้วยทั้งฉายแสงและให้คีโม ช่วงนั้นทรมาณมากอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ใช้มรณานุสติและระลึก พุทโธ เป็นแบ็กกราวส์พร้อมดูจิตดูใจไปด้วย ผมผ่านช่วงนั้นมาได้เพราะธรรมะของหลวงพ่อ ฝึกมา 6 เดือนจึงได้ไปส่ง การบ้านหลวงพ่อครั้งแรกเพราะภาวนาแบบรู้ไปหมดทุกย่างก้าวจนเครียด โดยไม่ได้เจตนาเลย ท่านได้เมตตาให้คําตอบว่า ติดเพ่ง และบอกวิธีแก้ให้ หลังจากนั้นก็ปฎิบัติมาเรื่อยๆมีความก้าวหน้าเป็นลําดับไป จิตตั้งมั่นและเป็นกลางจนในที่สุดตั้ง เป็นจิตผู้รู้เองโดยอัตโนมัติ แยกกาย เวทนา จิต เป็น ส่วนๆ แต่ช่วงนั้นประมาณ ก.ค 52 รู้สึกว่าต้องมีอะไรผิดจึงไปส่ง การบ้านท่านอีกครั้ง จึงทราบว่าตั้งใจประคอง จิตผู้รู้มากไป จึงไม่เห็นไตรลักษน์ ท่านก็ให้อุบายแก้ให้ จนเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2553 ที่วัดแห่งหนึ่ง ได้เกิดอะไรบางอย่างขึ้นหลังจากนั้นก็มีสติรักษาจิต,สติอัตโนมัติ โดยไม่ต้อง สร้าง ต้องรักษาอีกต่อไปหลังจากนั้นมีโอกาสไปกราบหลวงพ่ออีก 6 - 7 ครั้งแต่ไม่ได้ถามท่านอีกเลย เคยมีโอกาสไปกราบ ครูบาอาจารย์สายวัดป่าหลวงปู่มั่นหลายท่าน มีโอกาสกราบเรียนขอความรู้จากท่านไม่มีท่านไหนค้าน มีแต่ให้ทําต่อไป โดยเฉพาะองค์หลวงพ่อวันชัย วัดป่าภูสังโฆ สุดท้ายนี้ขอกราบแทบเท้าองค์หลวงพ่อที่เคารพเป็นอย่างสูง ที่ให้ความรู้ทางธรรมเปรียบเสมือนพ่อแม่ท่านที่ 2 โดย คุณ สมบุญ 35. ดิฉันไม่เคยได้ยินหลวงพ่อปราโมทย์ บอกให้บริจาคเงินกับหลวงพ่อเลยค่ะ ไปทีไรก็ได้ยินแต่ธรรมะค่ะ ธรรมะจากหลวงพ่อ บ่อยครั้งที่หลวงพ่อเทศน์ไปกระแอมคอ ไป (เดาเอาว่าหลวงพ่อคงเจ็บคอ) ดิฉันและเพื่อนรักษาศีล 5 อย่างเข้มแข็งเพราะหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช โดย คุณ นงลักษณ์ 36. “ ก่อนได้มีโอกาสฟังธรรมที่หลวงพ่อเมตตาเทศน์ให้ฟังนั้น มีความรู้สึกว่าศาสนากับเราช่างห่างกันนัก ไม่กล้าคุยกับ พระรูปไหนทั้งนั้น การฝึกปฎิบัติก็ช่างยากเย็นมาก ฟังพระเทศน์ก็น่าเบื่อ ทําสมาธิก็ไม่ได้ เพราะพยายามแล้ว แ ต่ไม่เคย สงบเลย ก็เลยคิดว่าตนเองคงทําไม่ได้ อย่างมากก็บริจาคเงินทําบุญแล้วแต่โอกาสอย่างเดียว หลังจากได้ฟังธรรมที่ หลวงพ่อเทศน์ ก็ทําให้รู้สึกว่าเราทําได้ ไม่ได้ยากเกินไปนัก แต่ต้องทําให้สม่ําเสมอ เวลานั่งสมาธิก็ไม่ต้องสงบ แค่ดูใจที่ มันคิดไปมา ไม่ต้องนั่งขัดสมาทก็ได้ นั้งเก้าอี้ก็ได้ สวดมนต์ก็ได้ เดินก็ได้ ดูมีทางเลือกมากมาย และเมื่อยามที่จิตใจมัน ทุกข์ เคยทุกข์ทุรนทุราย แต่เดี๋ยวนี้รู้ทางที่จะรับมือแล้ว ไม่ใช่ไม่ทุกข์ แต่ดูทุกข์สั้นลง มีความสุขมากค่ะ” ก็ขอเป็นกําลังใจให้หลวงพ่อและทีมงาน อย่าท้อถอยนะค่ะ ถ้ามีอะไรที่ดิฉันพอช่วยเหลือได้ ก็ยินดีนะค่ะ อย่างเช่นที่ให้ เขียนข้อความนี ้ ก็เขียนทันทีที่ได้รับข่างสารจากพี่ป้อมค่ะ นับถือ โดย คุณ วินิตา 37. ดิฉันไปเรียนกับหลวงพ่อปราโมทย์ที่สวนสันติธรรม ได้ประมาณสองปีกว่าๆ เห็นความเปลี่ยนแปลงมากมาย สิ่งที่หลวง พ่อพร่ําสอนมีแต่ให้เราเรียนรู้จักกายใจของตัวเอง ดิฉันฝึกดูกายดูใจ ได้เห็นความยึดมั่นถือมั่นในความคิดความเห็นตัวเอง ได้รู้เท่าทันความคิดปรุงแต่ง เกิดสติ จากที่เคยโมโหฉุนเฉียว มีเรื่องกระทบกระทั่งกับคนรอบตัวบ่อยๆ ก็ดีขึ้น รู้ทันอารมณ์ที่ เข้าครอบงําเรามากขึ้น ความทุกข์ต่างๆอยู่ห่างออกไป เมื่อเร็วๆนี้ต้องเข้ารับการผ่าตัดสําคัญ เป็นเหมือนบททดสอบจิดใจ ก็เป็นเหตุการ์ณที่ผ่านมาและผ่านไป ใจเราไม่ได้ถูกความกลัวและความกังวลครอบงํามากมาย ถ้าไม่ได้เคยฝึกคงจะกลัว และเคว้งคว้างมาก ลูกศิษย์คนนี้ถึงจะเรียนรู้อย่างช้าๆ แต่มั่นใจในเส้นทางเดินที่หลวงพ่อสอน เพราะสิ่งที่เห็นและประจักษ์ด้วยตัวเองนั้นชัดเจน ยิ่ง ความเปลี่ยนแปลงในตัวเองรู้ได้ด้วยตัวเอง และคนรอบข้างที่รู้สึก จะขอปฏิบัติเพื่อบูชาคุณพระรัตนตรัย และบูชาคุณหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโชจนถึงทีสุดแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้เทอญ โดยคุณนวพร โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
19
38. สําหรับความเห็นของอ๊อฟต่อเรื่องนี้ ถ้าจะให้ตอบแบบ idealistic คงต้องตอบว่า เราไม่ได้เข้าไปคลุกวงใน ก็คงไม่รู้ หรอกว่าความจริงเป็นเช่นไร คู่กรณีเท่านั้นที่รู้อยู่แก่ใจว่าอะไรเป็นอะไร แต่หากจะตอบแบบคนธรรมดาสามัญในฐานะเป็นผู้ ที่ได้เคยฟังธรรมจากหลวงพ่อปราโมทย์ เป็นผู้ที่ได้ประโยชน์อย่างมากจากคําสอนของท่าน และระลึกถึงพระคุณของท่าน เสมอ ก็คงต้องตอบว่า หลวงพ่อสู้ๆ นะคะ มารไม่มีบารมีไม่เกิดคะ ส่วนอ๊อฟจะตั้งใจภาวนาต่อไป จะไม่ทําให้หลวงพ่อฯ เหนื่อยและเสียเวลาเปล่าคะ ด้วยความระลึกถึงบุญคุณของหลวงพ่อฯ เสมอ โดยคุณอรวรรณ 39. ผมเป็นคนหนึ่งที่ได้รับประโยชน์จากคําสอนของหลวงพ่อปราโมทย์ ทําให้ได้พบการเจริญสติที่ถูกต้อง ถ้า หากไม่ได้พบหลวงพ่อปราโมทย์ ผมคงต้องค้นหาหนทางไปอีกนานแสนนาน กราบนมัสการหลวงพ่อ ปราโมทย์ ด้วยความเคารพอย่างสูงครับ โดยคุณ ประพนธ์
40. ขอร่วมโครงการด้วยครับ ผมชื่อ นายวิสาส์น มีความเคารพศรัทธาหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช เป็นอย่างยิ่ง หลวงพ่อไม่เคยเรียกร้อง ไม่เคยกล่าวร้ายใคร ไม่เคยยก ตน เป็นผู้ที่แสดงความกตัญญูกตเวทีต่อครูบาอาจารย์และพระพุทธเจ้าอย่างที่สุดมาโดยตลอด หลวงพ่อเป็นผู้สอนให้ผม รู้จักการปฏิบัติภาวนา และกลายเป็นคนที่มีศีลและต้องการรักษาศีลอย่างมั่นคงและแน่วแน่ขึ้นกว่าแต่ก่อน ท่านทําให้ผม อยากศึกษาพระไตรปิฎก จนผมได้ไปลงทะเบียนเรียนหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิตพระไตรปิฎกศึกษากับมหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัยมาจนจบหลักสูตร ท่านทําให้ผมสามารถเจริญสติในชีวิตประจําวันได้ เห็นกิเลสที่เกิดกับกายกับใจได้มากขึ้น บ่อยขึ้น และดํารงชีวิตได้อย่าง คนตื่น ไม่ใช่คนที่เคยแต่หลับมาตลอดสี่สิบกว่าปีครับ ผมขอร่วมเทิดทูนท่านเหนือเศียรเกล้าอีกคนหนึ่งครับ โดยคุณ วิสาส์น 41. หลวงพ่อท่านสบายในความรู้สึกผมนะครับ,,,,แต่ที่น่าเป็นห่วงท่าน คือ เมื่อเรื่องสาระน้อยจบ,,,,,หลวงพ่อจะงานเข้ามีลูก ศิษย์เพิ่มขึ้นอีกมากมายมหาศาลมาเรียนกับท่าน,,,คงต้องบอกหลวงพ่อ ให้รักษาสุขภาพมากๆๆๆครับ,,,,,ส่วนเรื่องราว ปัจจุบัน,,,,เดี๋ยวมันก็ผ่านไป ยิ่งเรื่องไม่มีสาระ ยิ่งไม่จําเป็นต้องใส่ใจครับ,,,, โดย คุณพัช 42. ตั้งแต่ได้ฟังธรรมะของหลวงพ่อ ที่หลวงพ่อเทศน์ ก็ทําให้เข้าใจในธรรมะของพระพุทธเจ้ามากยิ่งขึ้น (ถึงแม้ว่าครั้งแรกที่ ไปฟังจะงงมากว่าหลวงพ่อสอนอะไร) หลวงพ่อเป็นดั่งบุคคลผู้นําเอาคําสอนของพระพุทธเจ้ามาอธิบายให้คนที่มีมิจฉาทิฐฐิ อย่างดิฉันได้เข้าใจ เมื่อได้ปฏิบัติตามคําสอนดิฉันมีความรู้สึกตัวมากขึ้น ดิฉันยังไม่ใช่นักปฏิบัติธรรมชั้นสูง หรือเก่งมาจาก โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
20
ไหน แต่ดิฉันก็รู้สึกได้ถึงความกรุณาของหลวงพ่อที่เพียรสอนลูกศิษย์ ถึงแม้ว่าท่านจะไม่สบาย แต่ท่านก็ยังสอนลูกศิษย์ด้วย ความเมตตา ทุกครั้งที่ไปสวนสันติธรรม หรือไปฟังธรรม ณ ที่อื่น ที่หลวงพ่อไปเทศน์ หลวงพ่อไม่เคยเรียกร้องให้บริจาคเงินทอง หรือ สิ่งของต่างๆ เลย มีแต่เพียรบอกลูกศิษย์ว่าให้ไปรีบปฏิบัตินะ อย่าประมาท อย่าขี้เกียจ ไปวัดทุกครั้งดิฉันก็จะได้รับหนังสือ และซีดีที่ทางวัดแจกตลอดไม่มีการคิดค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น สุดท้ายนี้ขอกราบขอบพระคุณหลวงพ่อที่ได้ชี้เส้นทางธรรมให้ ถ้าไม่ได้ฟังที่หลวงพ่อสอนก็คงเสียดายที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ในชาตินี้แต่ภาวนาไม่เป็น กราบขอบพระคุณค่ะ โดย คุณ วรรณา 43. ดิฉันเป็นอีกคนนึงซึ่งสามารถยืนยันได้ว่า เมื่อได้ทําตามที่หลวงพ่อปราโมทย์สอนแล้วนั้น เกิดการเปลี่ยนแปลงกับชีวิต ตัวเองเยอะแยะมากมาย แต่ก่อนคิดว่าการปฎิบัติธรรมนั้นเป็นเรื่องยาก แต่เมื่อได้มาฟังเทศน์กับหลวงพ่อปราโมทย์แล้ว สามารถฝึกฝนตัวเองได้ตลอดทั้งวัน เห็นความไม่ดีในตัวเองและนํามาปรับปรุงแก้ไข ดิฉันพึ่งมาในทางธรรมได้ประมาณ 1 ปีเท่านั้น เปรียบแล้วเหมือนเด็กที่หัดเดิน แต่เพราะหลวงพ่อปราโมทย์ ที่ทําให้ดิฉันไม่ ท้อไม่เบื่อในการปฏิบัติธรรม ดูจิตดูใจตัวเองได้ตลองทั้งวัน เพชรก็คือเพชรค่ะ ไม่ว่าหลวงพ่อจะมีใครว่าอะไรอย่างไรหลวงพ่อก็ยังเป็นเพชรในใจดิฉันเสมอ โดย คุณ พัชร์สิริภรณ์ 44. หลวงพ่อกล่าวเสมอว่า "พวกเราเป็นลูกพระพุทธเจ้า.." ท่านสอนให้ "รักษาศีล" โดย คุณ Pinswan 45. ตั้งแต่ได้รู้จักหลวงพ่อ ด้วยการอ่านและ ฟังซีดีแล้วนํามาปฏิบัติ ก็รู้สึกว่าชีวิตดีขึ้น การปฏิบัติธรรมก็ง่ายขึ้น ไม่เคยไป พบหลวงพ่อ แค่ฟังและอ่านที่บ้านก็รู้จักพระพุทธศาสนาเพิ่มขึ้น ที่สําคัญนํามาใช้ในการดําเนินชีวิต ขอให้หลวงพ่อ ปลอดภัยและพ้นจากอันตรายทั้งปวง โดย คุณ สุนีย์ 46. กราบเรียนหลวงพ่อ ผมรู้สึกธรรมดากับสิ่งที่เกิดขึ้นในห้วงเวลานี้ และก็รู้ว่ามันต้องผ่านไปด้วยดีกับเหตุของมันที่ต้องเป็น ผมมั่นใจ ในหลวงพ่อผมจึงไม่ได้รู้สึกร้อนรนกับข่าวที่ออกมา ผมไม่ได้ดูทีวี แต่ได้อ่านหนังสือพิมพ์เพียงแค่ฉบับเดียวครั้งเดียวนอกนั้น ก็เป็นการได้ข่าวจากหมู่เพื่อนร่วมงานที่ภ าวนาด้วยกัน ทุกคนต่างมั่นใจในพระพุทธเจ้า ในพระธรรมคําสั่งสอนของ พระพุทธเจ้า และทุกคนต่างมั่นใจในหลวงพ่อ ผมเป็นคนหนึ่งที่จะเข้าวัดวันหยุดนี้ เพื่อให้กําลังใจกันและกัน หลวงพ่อไม่ได้ทุกข์กับพวกเราแล้วแต่หลวงพ่อยังเมตตา พวกเราอยู่ พวกเราได้รู้ได้เห็นแล้วในชีวิตที่มันต้องประสบไม่พ้นไตรลักษณ์ แม้แต่พระพุทธเจ้าก็ไม่พ้นธรรมชาติข้อนี้ ผมไม่ได้ขวนขวายหาครูบาอาจารย์มากนัก เพียงแค่ได้ทําบุญก็พอใจแล้ว.... แต่ครั้งแรกที่ทําให้ผมต้องมนต์เหมือน ถูกสะกด ทราบซึ้ง เข้าใจอะไรหลายๆอย่าง และอยากไปให้ถึงแก่นคําสอนของพระพุทธเจ้าก็จากคําเทศน์ คําสอน คํา อธิบาย คําบอกทางของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมโช ในครั้งแรกที่ได้ฟังจากท่านนั่นเอง ผมจะตั้งใจพากเพียรภาวนาตามคําสอนของหลวงพ่อยิ่งๆขึ้นไป เพื่อให้หมดสิ้นซึ่งทุกข์ที่มีอยู่ทุกที่ ถ้าเหตุสมควรขอ ให้ชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายของผม อย่างน้อยก็ขอให้ได้ดวงตาเห็นธรรม ศรัทธาหลวงพ่อ โดยคุณ นพ.พรศักดิ์
โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
21
47. ตั้งแต่ได้รู้จักและฟังธรรมของหลวงพ่อปราโมทย์ ก็คิดว่าเป็นการสอนธรรมที่นํามาใช้ปฎิบัติได้อย่างเป็นจริงในชีวิต ประจําวัน และตลอดเวลาที่ผ่านมาก็พยายามรักษาศีล 5 ไว้ตลอด ชีวิตประจําวันก็มีสติมากขึ้น มีความตั้งใจว่าจะยึดมั่นในคําสอนของหลวงพ่อตลอดไป จะปฎิบัติธรรมเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาตามคําสอนที่หลวงพ่อ ปราโมทย์ย้ําให้ลูกศิษย์ทุกคนฟังอยู่ตลอดเวลา โดย คุณ วันเพ็ญ
48. ถ้าไม่พบหลวงพ่อ ชาตินี้ก็คงทําทั้งกรรมเล็กกรรมน้อยที่ไม่เคยใส่ใจ คงจะสะสมบาปอกุศลกรรมมากขึ้นเรื่อยๆ หิริโอตัปปะก็รู้เฉพาะอกูศลที่หยาบ พอมาเรียนกับหลวงพ่อ ก็เริ่มรู้กิเลสที่มันละเอียดขึ้น มันช่างน่ากลัวจริงๆ เห็นมันก่อเป็นตัวใหญ่ขึ้น จนบางครั้งรู้สึกว่า มันสามารถเปลี่ยนความตั้งใจที่ดีของเราได้เลยจริงๆ ถ้ารู้ไม่ทันมันนะ มีเหตูผลในการเชื่อ ที่ไม่ใช่เชื่องมงายในหลายๆสิ่งขึ้น เห็นโลกตามความเป็นจริงขึ้นบ้าง ทุกข์ทางโลกน้อยลง ใช้ชีวิตอย่างมีเหตุผลขึ้น มีสติไวขึ้น รู้ได้จากอุบัติเหตุที่ประสบมา ว่าสามารถช่วยเหลือตัวเองในยามคับขันได้จริงๆ รู้สึกว่ามีเป้าหมายของชีวิต มีชีวิตอยู่เพื่ออะไร ที่ไม่ได้ไร้ค่า เลื่อนลอยไปวันๆ ถ้าไม่พบหลวงพ่อนะ ไม่อยากคิดเลยว่าทั้งชาตินี้ชาติหน้าจะเป็นยังไง ไม่ว่าชาตินี้ชาติไหนขอปฏิบัติภาวนาเป็น พุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา อาจาริยบูชาตลอดไปด้วยเทอด ขอกราบแทบบาทหลวงพ่อค่ะ โดยคุณ น้ําผึ้ง ปรีชา ลูกศิษย์เมษา๕๐
โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
22
49. กราบนมัสการพระอาจารย์ปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่เคารพรักอย่างสูงครับ ,,, "ผมไม่เคยได้พบเจอหลวงพ่อเลยครับ แต่ในจดหมายฉบับนี้ ผมอยากจะกราบขอบพระคุณหลวงพ่อผู้มีเมตตากับทุกๆ คน ด้วยใจจริงครับ ผมได้ตื่นจากความหลับ ความโง่เขลา ก็เพราะเสียงธรรมจากซีดีที่หลวงพ่อได้ถ่ายทอดให้พวกเราได้นําไป ปฏิบัติใช้ในชีวิตประจําวันครับ และสิ่งที่หลวงพ่อสอนสั่งนั้น สามารถพิสูจน์ได้แล้วด้วยใจตัวเอง และเข้าถึงแล้วว่าธรรมะ ของพระพุทธเจ้าปฏิบัติได้จริงๆ !! สิ่งที่หลวงพ่อคอยเน้นย้ําให้พวกเราคอยเจริญสติตามรู้กายรู้ใจในชีวิตประจําวันแลเห็นมันแสดง "ไตรลักษณ์" นั้น ทําให้ผม ได้เข้าถึงธรรมะที่แท้จริงที่อยู่ในกายในใจนี้เอง ผมเข้าใจและเข้าถึงแล้วว่า ธรรมะของพระพุทธเจ้าแลพึงเห็นได้ด้วยตนเอง ในกายในใจนี้เอง ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเพียงใด จากก่อนหน้านี้เคยมีแต่ความเห็นผิด พอได้สัมผัสธรรมะที่พิสูจน์ได้ด้วย ใจจริงแล้ว ทุกอย่างมันเป็นเหตุเป็นผล เป็นไปตามเหตุปัจจัยอย่างแท้จริง ผมเริ่มเห็นความทุกข์ เห็นเหตุแห่งทุกข์ เห็นความ ดับทุกข์ และหนทางสู่การพ้นทุกข์ จนเข้าถึง "ความจริงในกายในใจ" และจะตั้งใจดําเนินสู่ความพ้นทุกข์ต่อไปด้วยใจจริง ครับ ผมขอสัญญากับหลวงพ่อผู้มีพระคุณอย่างสูงว่า ผมจะเจริญสติปัฏฐาน เจริญภาวนา ตามรู้กายรู้ใจแลเห็นมันแสดง "ไตรลักษณ์" จนตราบเท่าเข้าถึงพระนิพพานครับ ผมขอปฏิบัติถวายแด่พระพุทธเจ้า หลวงพ่อปราโมทย์ และครูบาอาจาร ย์กัลญาณมิตรทั้งหลายผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ และผมจะตั้งใจทํางานเพื่อช่วยเผยแผ่พระพุทธศาสนา ด้วยปัญญาอันน้อยนิด เท่าที่ผมจะพอมีให้ดีที่สุด เพื่อประโยชน์สุข และความพ้นทุกข์ของชาวโลก ผมขอสัญญาครับ" กราบแทบเท้าหลวงพ่อด้วยใจจริงครับ โดย คุณนัท 50. ดิฉัน นางสาวมาลัย ขอส่งพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อด้วยคนค่ะ ครั้งแรกที่ดิฉันได้ซีดีจากเพื่อนคนหนึ่ง ดิฉันยังไม่ได้ฟัง ไม่รู้จักหลวงพ่อ เพื่อนเล่าแค่ว่า หลวงพ่อดูจิตคนได้ จนกระทั่งคุณ สุพัฒน์ รัตนศิริวิไล เจ้านายที่ทํางานได้มอบซีดีวิธีการปฏิบัติธรรมให้ฟัง และอธิบายเพิ่มเติม จึงได้ตั้งใจฟัง และฟังเรื่อยมา ได้เคยไปส่งการบ้านหลวงพ่อ 1 ครั้ง หลวงพ่อบอกว่า “เป็นคนขี้โมโห โทสะทั้งวัน ดูไป ดูง่าย” จริงๆ ด้วยค่ะ พื้นฐานตัว เองเป็นคนขี้โมโห ขี้หงุดหงิด ขี้วีน ซึ่งเมื่อก่อนจะขึ้นเร็วและแรง (ขั้นจี๊ด) แต่หลังจากไปวัด เฉลี่ยเดือนละครั้ง และติดเครื่อง เล่นซีดีในรถ ทําให้ฟังซีดีหลวงพ่อทุกวัน เช้า เย็น ที่ขับรถ รู้สึกได้เลยค่ะ ว่าตัวเองเปลี่ยนแปลงเยอะ ทุกข์น้อยลง สั้นลง ไม่ หลงกับอดีตมากมาย หรืออินในอารมณ์นานๆ เหมือนเมื่อก่อน มีความเป็นปกติสุขมากขึ้น ความขี้โมโห ก็ยังมีอยู่ตาม ปัจจัยที่เกิด แต่จางลงและดับได้เร็ว ขอยืนยันอีกคนหนึ่งค่ะ ว่าหลวงพ่อมีปฏิปทาที่บริสุทธิ์มาก ไม่เคยได้ยินหลวงพ่อสอนอะไรที่ทําให้หลงผิด หรือจมจ่อมกับ อารมณ์ หรือศรัทธางมงายในสิ่งใด หรือบุคคลใดแม้แต่สักครั้ง แต่เคยเข้าเวปบางเวป ที่ถอดคําพูดหรือตัดเอาบางส่วนที่ หลวงพ่อเทศน์มาลงไว้ บอกได้เลยว่า การถอดเอาบางส่วนมาลงไว้ ทําให้เกิดความสับสนและเข้าใจผิดได้ ต้องฟังตลอดจึง จะรู้เนื้อความที่แท้จริง ดิฉันไม่ใช่คนร่ํารวย ไปหาหลวงพ่อเพื่อฟังธรรมและรับคําสอนกลับมาปฏิบัติ เงินทําบุญให้กับสวนสันติธรรมและหลวงพ่อ หรือเพื่อสื่อธรรมะ ก็ทําด้วยตามกําลังที่มีเท่านั้น ไม่ได้ทําด้วยความละโมบในบุญหรือมีใครมาเรี่ยรายหรือขออย่างนั้น อย่างนี้เลย หลวงพ่อบอกพวกเราเสมอว่า ทําบุญอย่างฉลาดไม่ต้องใช้เงินเลยสักบาทเดียวก็ยังได้ ดิฉันก็เห็นจริงเช่นนั้นค่ะ ดังนั้น ข่าวต่างๆ ที่ออกมาไม่ได้ทําให้พวกเราหวั่นไหวแต่อย่างใด ขอให้พวกเราเชื่อในพลังบริสุทธิ์ และส่งต่อให้หลวงพ่อด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ โดย คุณ มาลัย โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
23
51. เราเป็นคนหนึ่งที่ได้ฟังคําสั่งสอนจากหลวงพ่อ ด้วยถ้อยคํา ภาษาที่เข้าใจง่าย ทําให้เราสามารถนําหลักคําสอนของ พระพุทธศาสนาไปปฏิบัติในชีวิตประจําวัน เราเองไม่เคยรู้จักหลวงพ่อเป็นการส่วนตัว ได้แต่ไปวัดเพื่อฟังธรรมจากท่าน และ ฟังจาก CD ซึ่งได้รับมาโดยไม่เคยต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ หลวงพ่อไม่เคยเรียกร้องให้บริจาค ไม่เคยแม้แต่จะให้มานับถือ ท่าน ท่านเรียกร้องอย่างเดียว คือให้พวกเราตั้งใจปฏิบัติภาวนา ให้สมกับที่ได้มีโอกาสได้พบเจอพระพุทธศาสนา ด้วยคําสั่งสอนของหลวงพ่อ ทําให้ชีวิตและจิตใจของเราเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น จากที่เคยเป็นคนอารมณ์ร้อน โมโหง่าย วิตกกังวล และยึดติด ปัจจุบันได้เห็นเท่าทันจิตใจและอารมณ์มากขึ้น ทุกข์ที่มีอยู่ก็สั้นลง นอกจากนี้ ยังทําให้รู้ว่าจุดหมาย ของชีวิตคืออะไร ทําให้เรารู้สึกศรัทธาในคําสอนของพระพุทธศาสนา และหันมาตั้งใจรักษาศีล หมั่นทําบุญทํากุศล และ สนใจศึกษาพระพุทธศาสนาให้มากขึ้น มิใช่แค่เข้าวัดไปเพื่อไหว้พระ ทําบุญเท่านั้น นับตั้งแต่ได้มีโอกาสฟังคําสั่งสอนของหลวงพ่อเมื่อ 3 ปีที่แล้ว จนถึงทุกวันนี้ ก็ยังรู้สึกว่าตัวเองโชคดีและมีบุญมากที่ได้มี โอกาสได้ฟังธรรมจากหลวงพ่อ ซึ่งจุดประกายทําให้เราหันมาสนใจพุทธศาสนาอย่างจริงจังมากขึ้น และจะขอตั้งใจปฏิบัติ ภาวนา เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา และอาจาริยบูชาแก่หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช โดยคุณ ดารินทร์
52. ไม่มีความสําคัญหมั่นหมายอะไร ในสิ่งที่ท่านกระทํา สิ่งที่สําคัญกว่า นั่นคือ การมีสติรู้กาย รู้ใจ ที่ได้พบ ได้ปฎิบัติ จากคําสอนของท่าน โดย คุณวันชัย 53. ผมเป็นศิษย์ผู้หนึ่งที่ได้มีโอกาสเรียนรู้หลักธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผ่านการถ่ายทอดจากหลวงพ่อ ปราโมทย์ ปาโมชโช พระสงฆ์ผู้มีปฏิปทาและจริยาวัตรงดงามที่ผมให้ความเคารพบูชาองค์หนึ่ง คําบอกคําสอนที่ท่านได้ พร่ําสอนแก่ศิษย์ทําให้ผมพอจะเข้าใจในหลักของพระพุทธศาสนามากขึ้นกว่าเมื่อก่อน ทําให้ผมได้ตื่นจากกิเลส โลภะ โทสะ โมหะ ได้รู้และเข้าใจหลักของอริยสัจ ๔ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ได้เข้าใจในหลักไตรลักษณ์ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา และข้อ ธรรมะที่วิเศษอีกนานัปการ ตามภูมิปัญญาที่ผมพอจะรับรู้ได้ด้วยจิตที่ตั้งมั่นและเป็นกลางได้ระดับหนึ่ง ทําให้เห็นความทุกข์ ที่อยู่ห่างออกไป ทุกข์น้อยลง หากหลวงพ่อท่านไม่เมตตาพร่ําสอน ผมคงยังหลับและหลงไปตามกระแสแห่งกิเลสมารแบบ ไม่เห็นฝั่งไปอีกนานเท่าใดไม่ทราบได้ ด้วยผมก็ยังเป็นปุถุชนที่ยังวนอยู่กับโลกย์ ต่างกรรมต่างวาระ ผมจึงมีความเชื่อจาก สิ่งที่ผมได้ประสบกับตนเองว่าสิ่งที่หลวงพ่อฯได้สั่งสอนนั้นทําให้ผมรู้จักกับความจริงตามนัยแห่งธรรมะอันประเสริฐขององค์ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้เป็นสรณะอันสูงสุดของผม ท้ายนี้ จึงขอร่วมแสดงพลังความเคารพศรัทธาต่อครูบาอาจารย์ที่ได้ให้สิ่งที่ดีและมีคุณค่าต่อ”จิตใจ”ของผม ก็ ขอตั้งจิตอธิษฐานว่า เพื่อเป็นการตอบแทนพระคุณต่อหลวงพ่อฯ ผมจะตั้งใจปฏิบัติดีปฏิบัติชอบตามแนวทางแห่งพุทธที่ หลวงพ่อได้พร่ําสอนตลอดไป โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
24
กราบเท้าหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโชด้วยความเคารพบูชา โดยคุณ สุทธิวัฒน์ 54. เพราะธรรมะที่ท่านเทศน์ ทําให้ผมเริ่มเข้าใจสาเหตุของการเกิดทุกข์ และเป็นจุดเริ่มต้นของการเจริญภาวนา ผมสนใจ ธรรมะมากขึ้นเพราะธรรมะที่ลึกซึ้งของท่าน ผมเชื่อว่า สิ่งที่ท่านเทศน์เป็นแก่นแท้ของพระศาสนา ขอนอบน้อมบูชาพระ รัตนตรัยและหลวงพ่อปราโมทย์ครับ โดยคุณ วรวุธ 55. ข้าพเจ้าได้ฟังธรรมจากหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช ครั้งแรก เดือน มิ.ย. 2550 หลังจากนั้นไปสวนสันติธรรมอย่างต่อ เนื่อง ตลอดเวลาที่ได้มีโอกาสไปสวนสันติธรรม และฟัง CD เทศนาของหลวงพ่อ (ซึ่งฟังมาตั้งแต่แผ่น 16-34 ไม่มีพลาดซัก แผ่น) พบข้อเท็จจริงซึ่งสรุปจากใจตัวเองได้ดังนี้ 1. ขอบพระคุณหลวงพ่อที่งดรับนิมนต์กิจส่วนตัว และสร้างกฎเกณฑ์การเปิด-ปิดวัด และเวลาการฟังธรรมที่ชัดเจน ตรวจ เช็คได้ง่ายๆอย่างเปิดเผยผ่านอินเตอร์เน็ต ทําให้คนธรรมดาอย่างเรามีสิทธิเท่าเทียมกัน ในการฟังธรรมและเรียนรู้วิธีการ ภาวนา (เทียบกับครูบาอาจารย์บางท่าน ที่อาจเข้าถึงได้ยากสําหรับคนธรรมดาอย่างเรา เนื่องจากมีเวลาที่ไม่แน่นอน และ จะรู้ตารางของท่านกันเฉพาะคนในกลุ่มเท่านั้น) 2. ธรรมะของพระพุทธเจ้าซึ่งถ่ายทอดโดยหลวงพ่อ ทําให้ใช้ชีวิตอย่างมีเป้าหมายที่ชัดเจนในฐานะที่เป็นชาวพุทธ มีศรัทธา ในพุทธศาสนา มีความเคารพในพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน (ซึ่งสิ่งเหล่านี้เกิดจากการเรียนรู้ จิตใจของตัวเองตามแนวทางที่หลวงพ่อสอน และเห็นได้จริงตามคําสอนเป็นลําดับๆ) 3. ไม่เคยได้ยินหลวงพ่อเรี่ยไร เรียกร้องขอสิ่งใด นอกจากขอให้พวกเราภาวนา 4. ไม่เคยได้ยินหลวงพ่อพูดกล่าวร้ายคุณฐิตินาถ ณ พัทลุง ตามที่คุณฐิตินาถให้สัมภาษณ์ในหนังสือพิมพ์คมชัดลึกฉบับวันที่ 15 ก.ย. 2553 (เนื่องจากไม่ทราบข้อเท็จจริงเรื่องการบริจาคของคุณฐิตินาถ จึงไม่ขอพูดประเด็นเงินบริจาค เพียงแต่นี่เป็น ครั้งแรกที่ได้ยินว่า มีการขอเงินที่ให้ทานบริจาคไปแล้วคืน) 5. กรณีการครองครองเงินหรือที่ดินอยู่ในชื่อ คุณอรนุช สันตยากร ตามข้อกล่าวหาหรือไม่นั้น ไม่สําคัญเท่ากับการใช้ไป ของเงิน หรือที่ดินดังกล่าว หากการใช้ไปของเงิน หรือที่ดิน เป็นไปเพื่อการส่งเสริมเผยแพร่พระพุทธศาสนา ไม่ได้ใช้เพื่อ ประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้อง ก็ไม่น่าจะมีประเด็นความผิด (แต่หากในอนาคตจะจัดวิธีการครองครองเงินและสินทรัพย์ให้ เป็นไปตามหลักเกณฑ์ทางโลก ก็น่าจะตัดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นต่อไปได้) โดย คุณลักษณา 56. ดิฉันชื่อนางสาวพรทิพา อยู่จังหวัดชลบุรีค่ะ ได้เริ่มเข้าไปฟังธรรมและเรียนรู้แนวทางการภาวนาจากหลวงพ่อปราโมทย์ ปราโมชโช เมื่อประมาณปี 2551 และยังคงไปฟังพระธรรมเทศนาของหลวงพ่ออยู่เรื่อยๆ จนกระทั่งทุกวันนี้ ดิฉันอาจจะไม่ใช่ลูกศิษย์ทีมีคุณภาพนัก อาจจะมีความขี้เกียจ ความไม่ต่อเนื่องในการภาวนา ขาดความเพียรไปบ้าง แต่สิ่ง หนึ่งที่ดิฉันระลึกอยู่เสมอ คือ ทุกคําสอน ทุกสิ่งที่หลวงพ่อได้เพียรพยายามสอนลูกศิษย์ทุกคนนั้น มันเกิดประโยชน์ ที่ดิฉัน ได้รับในชีวิตจริงของดิฉัน จากจิตใตที่เคยซึมเศร้า มีความทุกข์ มีปัญหาครั้งใด ก็ไม่เป็นอันกินอันนอน จิตใจหดหู่อมความทุกข์นั้นไว้อย่างเหนียวแน่น ความรู้สึกแบบนั้นมันบรรเทาไปได้มากมาย ตั้งแต่ดิฉันเริ่มภาวนา ดูกายดูใจของตัวเองตามที่หลวงพ่อสอน แล้วยิ่งปฏิบัติ ตามที่หลวงพ่อสอนไปเรื่อยๆ ก็ยิ่งเห็นความเปลี่ยนแปลงของทุกสิ่งมากขึ้น ใจดิฉันสบายขึ้น แม้มีความทุกข์ ก็ยังมีพลัง มี ความเข้มแข็ง อยู่กับความทุกข์ได้โดยไม่ได้ทุรนทุรายแทบขาดใจเหมือนเมื่อก่อน ทุกครั้งที่ได้ฟังหลวงพ่อสอน ก็รู้สึกว่าชีวิตที่เกิดมามันมีจุดหมายว่าจะเดินไปทางไหน ถึงจะเรียกว่าคุ้มค่าที่ได้เกิดมาเป้นม นุษย์ ถ้าหากหลวงพ่อไม่ได้มีเมตตาอย่างใหญ่หลวง ในการแบ่งปันธรรมะที่ท่านได้รู้แล้วให้แก่พวกเราลูกศิษย์ทั้งหลาย ทั้งที่ หลวงพ่อต้องเหนื่อยมากอย่างทุกวันนี้ ดิฉันมั่นใจว่าทั้งดิฉันและเพื่อนสายธรรมอีกมากมาย ก็ยังคงหลงวนเวียนอยู่ในโลกที่ โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
25
มีแต่ความทุกข์ไปอีกนานเท่านาน แม้ในตอนนี้จะยังไม่ได้พ้นจากทุกข์ แต่เราได้เห็นความจริง เราได้ทราบทิศทางที่ควรจะ ไปแล้วมันมีค่าต่อชีวิตดิฉันจริงๆ ดิฉันขอแสดงความนอบน้อมด้วยจิตที่ซาบซึ้งต่อความเมตตาของ หลวงพ่อปราโมทย์ ปราโมชโช ครูบาอาจารย์ที่ดิฉัน เคารพอย่างยิ่ง ดิฉันจะปฏิบัติตามคําสอนของหลวงพ่อ และจะตั้งใจภาวนาตลอดไป เพื่อเป็นอาจาริยบูชา และตอบแทน พระคุณของหลวงพ่อด้วยการเป็นคนดีค่ะ โดยคุณ พรทิพา 57. สิ่งที่หลวงพ่อสอนผม มีค่าสําหรับตัวผมมากจนไม่อาจมีสิ่งใดมาสั่นคลอนศรัทธาของผมได้ ผู้ที่จะถ่ายทอดคําสอนของ พระพุทธเจ้าได้ดีขนาดนี้ ย่อมอยู่เหนือเรื่องทางโลกไปนานแล้วได้แต่ปฏิบัติให้มากขึ้นเพื่อเป็น พุทธบูชา และ อาจาริยบูชา มีแต่ทางนี้เท่านั้นที่จะทําให้ พุทธศาสนาดํารงอยู่ได้ถึงคนรุ่นหลัง จาก ลูกศิษย์คนหนึ่ง โดยคุณ สุทธิโชค
58. เรียนทุกท่าน ดิฉันเป็นลูกศิษย์คนหนึ่งของหลวงพ่อ ปราโมทย์ มาเกือบ 4 ปี แล้ว เห็นการเปลี่ยนแปลงว่าจิตใจของตัวเอง มีความอ่อน น้อมถอมตนมากขึ้น มีสมาธิมากขึ้น ทํางานเข้ากับคนอื่นได้ดีขึ้น งานก็ราบรื่นขึ้น มีความสามารถแก้ปัญหา อุปสรรค ได้ดี ขึ้น ทํางานได้อย่างมีประสิทธิภาพ งานเสร็จเร็ว มีสติปัญญาไวขึ้น และไม่ค่อยคิดเรื่องไร้สาระ ให้รกสมอง ไม่ค่อยคิดเรื่องที่ ทําให้ตัวเองเป็นทุกข์ หรือจมอยู่กับความทุกข์ มีความเข้าใจคนอื่นมากขึ้น โกรธน้อยลง นี่เป็นเพียงแค่ผลทางโลกส่วนหนึ่งจากการฟังธรรม คําสอนของหลวงพ่อ และนํากลับมาปฏิบัติในชีวิตประจําวัน ค่ะ ยังมีอีก มากที่ได้ประโยชน์จากคําสอนของหลวงพ่อ ที่สําคัญ ทําให้เราเป็นคนที่ตั้งใจถือศีล 5 ตลอดไปค่ะ ฉะนั้น ขอเป็นส่วนหนึ่ง ร่วมแสดงความเห็น และ ยืนยันในความบริสุทธิ์ใจ ของครูบาอาจารย์องค์นี้ - พระ ปราโมทย์ ปราโมชโช ด้วยความเคารพ โดย คุณ อังสนา โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
26
59. ดิฉัน ได้รับทราบข่าวพระอาจารย์จากทีวี และ ไม่เชื่อว่าจะมีมูลความจริง ที่ผ่านมาพระอาจารย์สอนการปฎิบัติธรรมที่เหมาะสม ระหว่างการทํางาน โดยดูจิตตัวเองไม่ให้วอกแวก ทําให้ดิฉันมีความ เข้าใจ การปฎิบัติมากขึ้นและมีความก้าวหน้า ควบคู่ไปกับการปฎิบัติแบบเดินจงกรม นั่งสมาธิที่ทําอยู่ที่บ้าน ไม่ว่าข่าวจะออกมาอย่างไร และสุดท้ายจบลงอย่างไรก็ตาม ดิฉันก็ยังเชื่อและเคารพ และศรัทธา พระอาจารย์เหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง ดิฉันเชื่อว่า พระอาจารย์จะผ่านพ้น วิกฤตนี้ไปได้ด้วยดี เหตุการณ์นี้ ทําให้เห็นว่า เส้นทางแห่งพระนิพพานนั้น มิใช่ของง่าย ขอเพียงเรายึดมั่นและ ไม่คลอนแคลนในความดีที่ทํา กรรมเก่า จะมาเล่นงานอย่างไร มาขวางกั้นอย่างไร เราต้องไม่ย่อท้อ ต้องอดทน ดิฉันขอเป็นกําลังใจพระอาจารย์ปราโมทย์ ตลอดไปค่ะ จึงเรียนมาด้วยความเคารพ แน่นแฟ้นแห่งศรัทธาและเชื่อมั่นในพระอาจารย์ค่ะ โดย คุณสุภาวดี 60. ขอแสดงความรู้สึกในฐานะผู้ปฏิบัติและศึกษาธรรมะจากหลวงพ่อปราโมทย์ หลังจากที่ได้ฟังธรรมะและปฏิบัติตามคําสอนของหลวงพ่อปราโมทย์ 1. ทําให้สามารถพูดได้เต็มปากจากหัวใจว่า เราคือพุทธศาสนิกชน ไม่ใช่เพียงแค่นับถือศาสนาพุทธตามที่กรอกใน ฟอร์มต่างๆ 2. ตั้งใจรักษาศีล 3. เห็นแจ้งถึงหนทางหลุดพ้นจากสังสารวัฏ 4. เข้าใจธรรมะซึ่งหลวงพ่อสามารถถ่ายทอดธรรมะได้อย่างกระจ่างแจ้ง โดยไม่ได้เรียกร้องใดๆ ยกเว้นเสียแต่ขอให้ พวกเราตั้งใจปฏิบัติภาวนา หลวงพ่อเป็นผู้ให้ สําหรับพวกเรา ชี้ทางเดินเพื่อการหลุดพ้น เป็นทางที่ยิ่งใหญ่สําหรับผู้ปฏิบัติภาวนา และช่วยให้หลายต่อ หลายคนให้สนใจธรรมะซึ่งเป็นของกลางและเกิดประโยชน์โดยตรงต่อผู้ปฏิบัติ มิใช่เกิดประโยชน์ใดๆแก่ตัวท่านเองเลย นอกเสียจากความเหน็ดเหนื่อยและเมื่อยล้าและหวังว่าพวกเราจะได้เข้าใจธรรมะมากขึ้น โดยคุณ พัสตร์ณภัทร 61. ข้าพเจ้าเป็นลูกศิษย์ทางซีด๊ที่เพื่อนให้มา ถึงแม้นได้ไปกราบท่านเพียงไม่กี่ครั้ง ก็เริ่มมีสติตามดูจิตดูใจ เห็นความคิด ผ่านไป เห็นความรู้สึกหนักๆ แน่ๆ ที่หน้าอกไม่เคยตามรู้มาก่อน ก็ทุกข์ไป แต่พอหลวงพ่อท่านเมตตาชี้แนะ ความเบา โล่ง อกเป็นอย่างนี้นี่เอง หลวงพ่อท่านสอนว่าให้ตามรู้ไป เห็นตามไป โดยไม่ต้องไปแทรกแทรง ไม่ต้องไปหวังผล รู้อย่างไร ก็ตามรู้ไปเรื่อยๆ ถึงข้าพเจ้าทําได้บ้าง ไม่ได้บ้างก็ยังได้รู้ความเป็นจริง ไม่ได้หลอกตัวเอง เหมือนแต่ก่อนซึ้งข้าพคิดว่า ตนเองเป็นคนดี แต่ความจริงก็ไม่ใช่เช่นนั้น เห็นความดี ความชั่วของตนจึงทําให้ข้าพเจ้าได้พัฒนาตังเองขึ้น ด้วยความจริงที่เห็นด้วยใจ โดย คุณ สุเนตร 62. ชื่อ น.ส. ทินประภา ได้ฟังการแสดงธรรมของหลวงพ่อมาระยะหนึ่ง พบว่าหลักคําสอนของพลวงพ่อปราโมทช์ เป็นหลักคําสอนที่ถูกจริตกับตนเองคือ เข้าใจง่าย และไม่งมงาย หลังจากที่ปฎิบัติตามคําสอนที่หลวงพ่อถ่ายทอดมา พบว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงกับตัวเองอย่างมาก สิ่งที่รู้สึกได้คือ หงุดหงิดและโมโหน้อยลงซึ่งแต่ก่อนจะเป็นคนที่ค่อนข้างโมโหร้ายมาก แต่พอเกิดอารมณืเหล่านั้นมากขึ้นก็ตามรู้ไปเรื่อยๆ จนปัจจุบันไม่ยึดกับความรู้สึกเหล่านั้น นี่คือความประทับใจบางส่วนค่ะ อย่างไรก็ตามดิฉันขออนุโมทนากับทางเวปด้วยนะคะ อยากให้รวบรวมเรื่องราวและ แนวทางคําสอของหลวงพ่อมากๆค่ะ เรื่องที่พวกเราเองได้รับหรือได้ยินข่าวมาทางสื่อต่างๆนั้น ดิฉันยอมรับว่าก็รู้สึกบ้าง แต่ก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรค่ะ โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
27
เพราะดิฉันสนใจแค่ว่า คําสอนและแนวทางของหลวงพ่อปราโมชช์ คือแนวทางที่ถูกจริตและดิฉันเข้าใจง่าย ก็แค่นั้น ส่วนเรื่องอื่นๆนั้นก็ไม่ค่อยสนใจค่ะ ดิฉันสนใจเข้าร่วมโครงการนะคะ ถ้าทางเวปไซต์ต้องการแรงกายแรงใจ ที่จะให้ร่วมกันช่วยทําอะไรดีๆก็ติดต่อมาได้ค่ะ โดยคุณ ทินประภา
63. เวลาผ่านไป ปีกว่าๆ นับจากที่ได้มีกัลยาณมิตรมอบ CD ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปราโมชฺโช แห่งสวนสันติธรรม จ.ชลบุรี มาให้ผมมาฟัง จําได้ว่า ผมเก็บ CD นั้นไว้นานเป็นเดือนทีเดียว ด้วยทิษฐิมานะว่า เราหรือก็อ่านหนังสือธรรมะมาเยอะ บวชเรียนก็เคยมาแล้ว บวกกับระยะหลังที่ได้ไปหลงไหล กับศาสตร์จากทางตะวันตก จนมองข้ามของดีที่อยู่ใกล้ตัวไป หลายๆ ปีที่ผ่านมา ก่อนที่ผมจะได้ฟัง CD หลวงพ่อ ผมเกิดอาการเบื่อ “ธรรมะ” ไม่อยากฟัง ไม่อยากอ่าน ไม่อยากรับรู้ และถึงขั้นปฏิเสธด้วยซ้ําไป ด้วยมิจฉาทิษฐิบังตาที่ทําให้เกิดความคิดว่า ธรรมะเป็นเรื่องของพระของเจ้า ของคนในวัดในวา ของคนเฒ่าคนแก่ ซึ่งคนในโลกอย่างเราคงยังไม่ถึงเวลาของเราที่จะศึกษาและปฏิบัติธรรม แต่พอวูบแรกที่ผมได้ลองหยิบ CD หลวงพ่อปราโมทย์ แผ่นนั้นขึ้นมาฟัง ความประทับใจแรกของผมก็คือ อารมณ์ขันที่เป็นธรรมชาติของท่าน พอผมฟัง CD ไป ก็ต้องประหลาดใจที่ ในระหว่างการเทศนาของท่านนั้น โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
28
มีเสียงหัวเราะจากญาติโยมดังเป็นระยะๆ แต่ก็ไม่ใช่อารมณ์ขําแบบ Talk Show ตลกๆ นะครับ มุขตลกของท่านนั้นมาแบบเนียนๆ เป็นธรรมชาติ ที่เปลี่ยนไปตามสถานการณ์ และเปลี่ยนไปตามอารมณ์ของคนฟัง ผมพึ่งมาทราบภายหลังว่า เหตุที่หลวงพ่อท่านต้องเทศน์ ให้มีมุขตลกแทรกนั้น เพื่อเปลี่ยนอารมณ์คนฟัง ท่านบอกว่าบางครั้งฟังธรรมอย่างเดียวแล้วจิตจะนิ่งเกินไป ซึ่งการที่ท่านเทศน์หยอดมุขให้ขําขันนั้น หลายๆ ครั้งท่านจะชี้ให้ญาติโยม ได้สังเกต “สภาวะ” ที่เกิดขึ้น เพื่อให้เห็นว่า “จิต” นั้นเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว และบังคับบัญชาไม่ได้ เปลี่ยนไปตามเหตุปัจจัย หลังจากนั้น ผมก็เริ่มติดเบ็ดของท่าน ผมชอบฟังธรรมะ ที่แทรกปนไปกับมุขที่ท่านจะหยอดมาแบบนิ่มๆ เนียนๆ และพอเริ่มติด เริ่มฟังไปนานๆ ฟังทุกวัน ผมก็พอจะเห็นว่า เนื้อหาการสอนหลักๆ ของท่านนั้น ท่านพูดอยู่เรื่องเดียวคือเรื่องของการปฏิบัติ ด้วยการมีสติ สัมปชัญญะ ด้วยความรู้สึกตัว ซึ่งจะมีคีย์เวิร์ดคําหนึ่ง ซึ่งท่านพูดบ่อยมากคือคําว่า “ตื่น” ตอนฟังใหม่ๆ นั้นผมงงมากว่า คําว่า “ตื่น” ที่ท่านพูดถึงนั้น หมายความว่าอะไรกันแน่ มันต่างกับที่เราลืมตาตื่นตอนเช้าอย่างไรกัน ผมรู้สึกว่า สิ่งที่ท่านพยายามทุ่มเทกําลังกาย กําลังใจ พร่ําสอน พูดซ้ํา ไว้ใน CD ตั้งมากมาย และหนังสืออีกหลายเล่ม ก็เพื่อที่จะให้ผู้ปฏิบัติ หน้าใหม่ๆ นั้น รู้จักกับสภาวะแห่งการ “ตื่น” เท่าที่ติดตามฟัง CD ท่านมา ปีกว่าๆ ผมพอจะประมวลความคิดจากคําสอนของท่านได้ว่า ในการจะ “ตื่น” หรือ มีสติ ความรู้สึกตัวขึ้นมา ได้นั้น เราจําเป็นจะต้องรู้จักและจํา “สภาวะ” ของกายของใจ ที่มีมากมายหลายประการให้ได้ เช่น ดีใจ เสียใจ โกรธ หงุดหงิด เศร้า หดหู่ ฯลฯ ซึ่งท่านก็บอกเองว่า สิ่งที่ท่านพยายามสอนนั้น ก็เพื่อให้ญาติโยม ผู้ฟังต่างๆ รู้จักกับ “สภาวะ” ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันของตนเอง ซึ่งลักษณะการสอนแบบนี้ จะปรากฏให้เห็นอย่างเด่นชัดใน CD แผ่นต้นๆ ของหลวงพ่อ (ท่านแนะนําให้เริ่มฟังตั้งแต่แผ่นที่ 7 เป็นต้นไป) เนื่องจากในช่วงแรกๆ ที่ท่านสอนญาติโยมนั้น ท่านพึ่งบวชใหม่ๆ และจําพรรษาอยู่ที่ สวนโพธิญาณ จ.กาญจนบุรี ขณะนั้น ญาติโยมที่ไปหาในแต่ละวันนั้นดูเหมือนจะยังไม่มากนัก ทําให้ท่านมีเวลาที่จะสอนจี้แบบรายบุคคล เพื่อให้เห็นสภาวะของแต่ละคนที่เกิดขึ้นแบบสดๆ ในขณะปัจจุบัน แต่สไตล์การเทศน์ของท่านจะเปลี่ยนไปในแผ่นหลังๆ (ประมาณแผ่นที่ 20 กว่าๆ เป็นต้นไป ล่าสุดถึงแผ่นที่ 34) โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
29
คือในช่วงที่ท่านย้ายมาจําพรรษาที่สวนสันติธรรมแล้ว ซึ่งญาติโยมที่มาหาในแต่ละวันนั้นจะมีปริมาณมาก ทําให้ท่านไม่สามารถเทศน์สอนจี้รายบุคคล เพื่อสอนให้ดูสภาวะได้อย่างทั่วถึง ช่วงนี้ท่านจะเทศน์เป็นเรื่องยาวๆ ที่ต่อเนื่องกัน แต่ท่านก็จะแบ่งเวลาช่วงหนึ่งไว้ให้ญาติโยม ได้มีโอกาสซักถามข้อสงสัยในการปฏิบัติ หรือที่รู้จักกันดีในหมู่ลูกศิษย์ว่า “ช่วงส่งการบ้าน” เอกลักษณ์เฉพาะตัวของหลวงพ่อปราโมทย์อย่างหนึ่ง ที่ปรากฏใน CD ทุกแผ่นของท่าน ที่เสมือนหนึ่งเป็นจุดขายของท่าน และ ส่วนหนึ่งก็มองว่าท่านแสดงปาฏิหาริย์ ก็คือเรื่อง “การทักวาระจิต” กล่าวคือ ในบางขณะที่กําลังเทศน์ ท่านจะมีการทักให้ญาติโยมได้ย้อนกลับมาดูสภาวะของตนเอง โดยท่านจะใช้คําพูดทํานองว่า “หลงไปแล้วรู้มั๊ย...เผลอไปคิดแล้วรู้มั๊ย...แอบหนีไปคิดสนุกมั๊ย” เป็นต้น ซึ่งเรื่องนี้ ผู้ที่ไม่เข้าใจเจตนาและวัตถุประสงค์ของหลวงพ่อ ก็อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดได้ และก็เคยมีคนเปิดประเด็นกล่าวโจมตีท่านมาแล้วว่า การสอนแบบทักวาระจิตของท่านนั้น ทําให้ชาวพุทธอ่อนแอ พึ่งพอตัวเองไม่ได้ หลงงมงายว่าท่านมีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ จนไม่พึ่งพาตนเอง ซึ่งฟังดูแล้วน่าจะเป็นคํากล่าวโจมตีที่อยู่บนพื้นฐาน ของความไม่เข้าใจในเจตนา และวิธีการของท่าน ในกรณีการทักวาระจิตนี้ ท่านเคยเฉลยไว้ใน CD แผ่นหนึ่งทํานองว่า การทักวาระจิตแบบนี้ ไม่ใช่ปาฏิหาริย์อะไรหรอก เพราะธรรมชาติของจิตคนนั้นจะหลงคิดตลอดเวลาอยู่แล้ว ทักไปแบบสุ่มๆ ก็มักจะถูกเสมอแหละ ใครๆ ก็ทําได้ ไม่ต้องอาศัยอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์แต่อย่างใดหรอก เหมือนโยนหินลงไปในฝูงชน ก็ต้องโดนหัวใครเข้าซักคนนึงแหละ (ผมเองก็โดนก้อนหินที่โยนมาจากท่านอยู่บ่อย แม้จะฟังจาก CD ก็ตาม) โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
30
และเท่าที่ผมลองสังเกตตัวเองดูในขณะที่ฟัง CD ท่านอยู่ ก็พบว่า แทบทุกครั้งที่ท่านทักวาระจิตญาติโยมใน CD นั้น ตัวผมเองก็มักมีสภาพไม่ต่างกันจากคนใน CD กล่าวคือ กําลังคิดเรื่องใดเรื่องหนึ่งอยู่พอดี (หลงคิดเป็นอาจิณ) และอานิสงส์จากการฟังหลวงพ่อท่านทักวาระจิต ของญาติโยมใน CD ก็เป็นโอกาสที่ทําให้ ผมได้หันกลับมามองในจิตในใจตนเอง ผลที่ได้ก็คือ ผมค่อยๆ ตื่นขึ้นมาได้เอง เพราะเริ่มจําสภาวะ “หลงคิด” ที่ท่านทักบ่อยๆ ได้ ซึ่งจากประสบการณ์ที่ได้ฟัง CD ท่านมาปีกว่าๆ และก็ได้ลองสังเกตจิตใจตนเองตาม เท่าที่โอกาสจะเอื้ออํานวย ปัจจุบันนี้ ผมก็มีความรู้สึกว่าตัวเองเริ่มจะ “ตื่น” ขึ้นมาได้จริงๆ มันเหมือนมีความรู้สึกชั่วขณะขึ้นมาว่า เราได้รู้สึกตัวขึ้นมา เราได้รู้ว่ากําลังเผลอคิดถึงเรื่องใดเรื่องหนึ่งอยู่นั่นเอง จากการทบทวนประสบการณ์ที่ผ่านมาปีกว่าๆ ผมเริ่มเห็นว่า ปัจจัยสําคัญประการหนึ่ง ที่ทําให้ผมตื่นขึ้นมาได้ ก็คือ เนื้อหาการเทศน์แบบสอนให้ดู “สภาวะ” ของท่านที่ปรากฏ ใน CD แผ่นต่างๆ ประกอบเข้ากับ การที่ตัวเองได้หัดสังเกตสภาวะที่เกิดขึ้นจริง ตามที่หลวงพ่อท่านได้ทักให้ดู มันเหมือนกับว่า หลังจากได้ฟังและเข้าใจถึง “เนื้อหา” ที่หลวงพ่อท่านพูดถึง “วิธีการดูสภาวะ” และได้ลองปฏิบัติ ดูสภาวะให้เป็นแล้ว จิตก็จะเริ่ม “ตื่น” ขึ้นมาได้เอง ท่านบอกย้ําเสมอว่า ธรรมนั้นไม่ได้เข้าใจได้ด้วยการฟัง หรือการอ่าน หากแต่ต้องเป็นการเข้าไปเห็นของจริง เห็นสภาวะของจริง ที่เกิดอยู่ต่อหน้าต่อตา เกิดอยู่ในกายในใจนี้เท่านั้น และสิ่งที่ท่านเทศน์สอนไว้มากมายนั้น ก็ไม่ใช่ธรรมสําเร็จรูปที่ท่องจําแล้วจะแก้ทุกข์ได้ แต่ท่านได้สอนวิธีการ หรือชี้ทางเพื่อให้เราเข้าไปเห็น ธรรมของจริงได้ด้วยตนเอง ท่านได้ทําหน้าที่เฉกเช่นที่พระพุทธองค์ได้ทรงบอกไว้เสมอว่า ครูบาอาจารย์นั้นเป็นเพียงผู้บอกทาง ส่วนการเดินทางต่อไปนั้นไม่มีใครช่วยใครได้เป็นเรื่องเฉพาะตนที่ต้องทําเอาเอง หากจะสรุปรวมว่า หลวงพ่อปราโมทย์ ปราโมชโช ท่านสอนอะไรไว้ใน CD ของท่าน ผมก็อยากจะสรุปเป็นข้อสรุปส่วนตัวว่า ท่านสอนให้ผมรู้จักคําว่า “ตื่น” ท่านสอนให้ผมรู้จักถึงความหมายที่แท้จริงแห่ง “พุทธะ” เพียงแค่เราหัด “รู้สึกตัว” เราจะ “ตื่นขึ้น” แล้วเราก็จะ “เบิกบาน” ท่านได้เป็นผู้ชี้ทางเดินใหม่ให้กับชีวิต จากเดิมที่ผมได้เดินบนเส้นทางแห่งความหลับไหล แต่ตอนนี้ผมได้ทางเดินใหม่ที่จะเดินไปพร้อมๆ กับความรู้สึกตัว กับความตื่น ผมคิดว่าท่านได้ทําหน้าที่อย่างซื่อสัตย์ และซื่อตรงยิ่ง โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
31
ในฐานะพระสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้า ในการเผยแพร่ธรรมะ อันเป็นหนทางออกจากสังสารวัฏอันวนเวียนไม่รู้จบให้แก่สรรพสัตว์ และบัดนี้ผมก็เชื่อว่า ผมเห็นแสงสว่างรําไร อยู่ ณ ปลายอุโมงค์อันมืดมิดในม่านหมอกแห่งอวิชชา ผมรู้ดีว่า ถ้าผมยังมั่นคงต่อหนทางสายนี้ วันนึงผมคงได้เห็นแสงสว่างแห่งวิชชา แม้ไม่รู้ว่าชาตินี้ ชาติหน้า หรือชาติไหนๆ จะเดินไปถึง แต่มันก็หามีความหมายอันใดไม่ เพราะเหตุปัจจัย ของแต่ละคนนั้นทํามาไม่เหมือนกัน เมื่อเหตุพร้อม เชื่อว่าผลก็จะเกิดอย่างแน่นอน ผมรู้แต่เพียงว่า ขณะใด ที่ผมมีสติรู้สึกตัว ผมก็จะตื่น และผมก็จะเบิกบาน แม้ว่ามันจะเป็นเพียงชั่วขณะแว๊บเดียว แล้วก็เลือนหายไปก็ตาม แต่สิ่งนี้ก็เหมือนเป็นหยดน้ําทิพย์ชโลมใจให้ฉ่ําเย็น ในยามที่กําลังอาศัยในโลกที่กําลังร้อนรุ่ม และก็เหมือนเป็นแสงสว่างน้อยๆ จากไม้ขีดไฟ ที่แม้จะวูบขึ้นมาแล้วดับไปอย่างรวดเร็ว แต่มันก็พอทําลายความมืดมิดในถ้ําลงได้บ้าง แม้จะไม่นานนัก และนั่นก็เพียงพอแล้ว ที่จะทําให้ผมสามารถเดินคลําทางต่อไปได้ เชื่อว่าในที่สุด จากวิธีการจุดไม้ขีดไฟก้านเล็กๆ ที่ผมได้เรียนรู้ผ่านคําสอนของหลวงพ่อปราโมทย์ ผมจะสามารถต่อเทียน จุดคบไฟให้สว่างไสว เพื่อเป็นเครื่องนําทางออกจากถ้ํามืด อันหนาวเหน็บ เดินทางไปหาความอบอุ่นแห่งดวงตะวันได้ในที่สุดครับ ขอนบน้อมแด่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในพระปัญญา และมหากรุณาแห่งพระองค์ท่าน ขอนบน้อมแด่พระธรรมอันเป็นแสงสว่าง เป็นมรดกแห่งภูมิปัญญา และเป็นตัวแทนแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ขอนบน้อมแด่พระสงฆ์สาวกแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลาย ผู้เดินตามรอยพระบาทแห่งองค์ศาสดา ผู้อุทิศตนเพื่อสืบทอด และปกปักษ์รักษาพระพุทธศาสนาให้อยู่คู่ประเทศไทย คู่โลกใบนี้ นพรัตน์ (ซวง) 15 ก.ย. 53 ป.ล. 1. ขอใช้เหตุการณ์ในครั้งนี้ เป็นการเรียกร้องเชิญชวนให้พี่น้องชาวพุทธทุกท่าน ได้เข้ามาพิสูจน์คําสอนของพระพุทธเจ้าผ่านถ้อยคําของหลวงพ่อปราโมทย์กันดูนะครับว่า หากเรา “ตื่น” ขึ้นมาได้แล้ว ความทุกข์ใจของเราที่เคยมีจะหล่นหายไปต่อหน้าต่อตาได้หรือไม่ อะไรที่เคยทุกข์นานๆ จะหดสั้นลงได้หรือไม่ ซึ่งน่าจะเป็นอะไรที่มีประโยชน์ต่อตัวเรา มากกว่าจะไปหลงกับกระแสข่าวที่กําลังมีกลุ่มคน และสื่อมวลชนพยายามกระพือสร้างกัน ถึงข้อเท็จจริงจะเป็นแต่ประการใด ก็คงไม่ได้ช่วยให้เราคลายทุกข์ได้เลย โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
32
และอาจจะทุกข์หนักเข้าไปอีก หากความจริงปรากฏออกมาว่าทุกสิ่งไม่ได้เป็นจริงอย่างที่คาดคิดไว้ 2. หากจะมีข้อความตอนหนึ่งตอนใด ที่เกิดจากความเข้าใจของตัวผมเองที่ยังจํากัด ที่อาจจะคลาดเคลื่อนไปจากหลักการคําสอนของพระพุทธเจ้า หรือของหลวงพ่อปราโมทย์ก็ตาม ผมขอน้อมรับไว้แต่เพียงผู้เดียว และข้อคิดเห็นทั้งหมดนี้ ก็เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัว ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มก้อนองค์กรใดๆ ทั้งๆ สิ้น โดย คุณ นพรัตน์
64. ดิฉันก็เป็นอีกเสียงหนึ่งที่จะยืนยันว่าเพียงคําเทศนาผ่านแผ่นซีดีของพระอาจารย์ปราโมทย์ โดยที่ไม่ต้องไปพบท่านที่ วัด ก็สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของดิฉันและคนรอบข้างที่ได้ฟังอย่างเป็นประจําจริงๆ เมื่อก่อนดิฉันก็เป็นคนทั่วๆไปที่ไม่เคย รู้จักการปฏิบัติธรรม ออกจะรู้สึกต่อต้านนิดๆด้วยซ้ํา คิดว่าธรรมะสอนให้คนทําบุญตักบาตร นั่งสมาธิ ทําตัวสันโดษ นุ่งขาว ห่มขาว โกนหัวบวชชี ทั้งหมดนี้เพราะไม่เข้าใจในเหตุและผล ของสิ่งที่ต้องทําเหล่านี้ ไม่รู้ว่านั่งสมาธิแล้วจะได้อะไร ตักบาตร แล้วได้อะไร แต่วิธีการสอนของหลวงพ่อจะมีการบอกเหตุและผลอย่างเป็นระบบ ทําให้ดิฉันเองรู้สึกอยากปฏิบัติตาม ชอบที่ จะให้ทานมากขึ้น เพื่อลดกิเลสในใจ นั่งสมาธิก็ทําให้จิตมีกําลังมากขึ้นในการปฏิบัติ นอกจากนั้นแล้วการทําความดี ละเว้น ความชั่ว ที่เป็นคําสอนที่รู้มาตั้งแต่เด็กๆ และก็แอบคิดในใจว่าจะมีซักกี่คนที่จะละชั่วได้จริง เพราะการละชั่วนั้นดิฉันคิด ว่ายากกว่าการทําความดีมาก เพียงแค่การมีสติมากขึ้น รู้ทันโลภะ โทสะ โมหะ ละชั่วได้มากขึ้น ทั้งหมดนี้ไม่ได้แปลว่าจะ เปรียบเทียบว่าท่านเก่งกว่าพระอื่นๆเป็นอย่างใด แต่อาจเป็นเพราะวิธีการสอนของหลวงพ่อที่ตรงจริตกับตัวดิฉันเอง โดย สรุป ดิฉันคิดว่าเป็นวิธีการสอนแบบบูรณาการ ครบทั้งที่มาที่ไป เหตุผล และวิธีการที่จะลงมือทํา ท่านทําให้เห็นจริงๆ ว่า ธรรมะคือธรรมชาติ คือ ธรรมดา ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่เคยเข้าใจ และที่ว่าความทุกข์มันเบาบางลง ไม่ได้แปลว่าปฏิบัติแล้วความ ทุกข์มันหายไปจากชีวิตแต่อย่างใด ชีวิตดิฉันก็ยังต้องเจอความทุกข์อยู่เหมือนเดิม แต่ใจมันเห็นแล้วว่าความทุกข์เป็นของ ธรรมดา ใจมันเลยยอมรับได้มากขึ้น ว่ามันก็หนีไม่พ้นกฏของไตรลักษณ์ ดิฉันยังยืนยันที่จะปฏิบัติตามคําสอนของหลวงพ่อไปเรื่อยๆ เพื่อเป็นการสะสมบุญ ที่จะพาตัวเองให้พ้นจากสังสารวัฏนี้ โดยคุณ อภิยานุช
โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
33
65. แม้ว่าผมจะยังไม่เคยไปส่งการบ้านหลวงพ่อสักครั้ง แต่การฟังซีดีในรถทุกเช้า ก็เพียงพอที่จะทําให้เห็นถึงความ เปลี่ยนแปลงของตัวเองได้ จําได้ว่าครั้งแรกเลยที่ฟังหลวงพ่อๆ เทศน์เรื่องศีลว่า การถือศีลนั้นไม่ได้ทําให้เราลําบากขึ้น แต่ ตรงกันข้ามกลับเป็นไปเพื่อความสบายใจของเราเอง ซึ่งผมเองก็ได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นจริง ตั้งแต่นั้นมาก็ฟังซีดีหลวงพ่อมาโดยตลอด ทําให้รู้ว่าสิ่งที่หลวงพ่อสอนเรานั้นมีประโยชน์จริงๆ สามารถวัดได้ด้วยตัวเองครับ ทําให้ไม่สนใจเรื่องข่าวต่างๆที่พยายาม discredit หลวงพ่อ เพราะเราเห็นผลจากตัวเองได้อย่างชัดเจน แม้ว่าโลกธรรม 8 เป็นเรื่องที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ความจริงยังไงก็เป็นความจริงครับ ผมอยากให้กําลังใจหลวงพ่อที่ช่วย เมตตาเผยแพร่ธรรมะต่อไปครับยังไงจะหาโอกาสไปกราบท่านสักครั้งครับ โดย คุณ ศรัณยกร 66. สําหรับตัวเองแล้ว หลวงพ่อเป็นเหมือนผู้ให้แสงสว่าง ท่านเมตตาให้คําแนะนําสั่งสอน ให้กําลังใจ ไม่เคยได้ยินท่านเรียกร้องขออะไร มีอย่างเดียวที่ท่านขอจากพวกเรา คือขอให้ภาวนา บอกตัวเองเสมอว่าจะไม่ ทําให้ท่าน ไม่ทําให้ครูบาอาจารย์ต้องเหนื่อยเปล่า นี่คือสัจจะที่ให้ไว้กับตัวเอง ทุกวันนี้ตื่นแต่เช้ามืด(ตี 3) ไม่เคยคิดว่าจะทําได้ ตื่นขึ้นมาสวดมนต์ ไหว้พระ ตั้งเจตนา รักษาศีล 5 แล้วก็ภาวนา ในการใช้ชีวิตประจําวันก็มีสติในชีวิตประจําวัน สิ่งที่รู้สึกได้ ก็คือชีวิต จิตใจเปลี่ยนไป ทุกข์น้อยลง และในแต่ละครั้งก็เพียงชั่วเวลาสั้นๆเท่านั้น เคยคิดว่ารู้จักตัวเองดีพอแล้ว แต่เมื่อลงมือภาวนาจริง กับรู้สึกว่าที่ผ่านมาเราเข้าใจผิด จากที่เคยเป็นคนยึดมั่นถือมั่นในตัวเองอย่างมาก ค่อยคลายออก เห็นว่าสิ่งต่างๆเป็นเพียงสภาวะแต่เมื่อไหร่ที่เราเข้าไป หมาย ก็จะมีความรู้สึกเป็นเราขึ้นมา และหากมีสติรู้ถึงความรู้สึกนั้น ความเป็นเราก็จะหายไปเหมือนสภาวะอื่นๆ ที่มีความ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่ใช่ตัวตน ตอนนี้เริ่มจะเห็นตรงนี้ได้บ้างแล้ว แต่ก่อนที่ไม่เคยเข้าใจว่าพระพุทธเจ้าสอนอะไร แต่เมื่อได้ฟังคําสั่งสอนของหลวงพ่อ และน้อมนําไปปฏิบัติทําให้เข้าใจมากขึ้น เข้าใจว่ามรรคผลนิพพานไม่ใช่เรื่องไกลตัว ทางที่จะออกจากสังสารวัฏนี้ยังมีอยู่จริง ด้วยการเจริญสติปัฏฐาน 4 รู้สึกว่าตัวเองโชคดีมาก (ถึงแม้หลวงพ่อจะบอกเสมอว่าชาวพุทธอย่าเชื่อถือโชคลาง) ที่มีหลวงพ่อเป็นเหมือนพ่อ แม่ ครูบาอาจารย์ ถึงตัวเองจะเป็นแค่ผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่ง แต่ก็ขอเป็นพยานบุคคลยืนยันในผลจากการปฏิบัติตามแนวทางที่หลวงพ่อสอน ขอกราบหลวงพ่อด้วยหัวใจค่ะ. โดย คุณสมฤทัย 67. หากชีวิตคือการเดินทาง ที่มีจุดสิ้นสุดแล้ว ณ เวลานี้ เราผู้ปฎิบัติภาวนา ตามแนวทางของพระอาจารย์ ปราโมทย์ ปราโมชฺโช คือผู้หนึ่งที่รู้แล้วถึงจุดสิ้นสุดนั้น เนื่องจากตั้งแต่ลืมตาดูโลกนี้ขึ้นมา ความจําและสัญญาเก่าๆ ได้สูญสิ้นไปโดย สิ้นเชิง ได้แต่พยายามหาคําตอบให้กับตัวเองมาตลอดเวลาว่า เราเกิดมาทําไม ? ทําไม? ต้องเกิดมา เพราะมีความรู้สึก เสมอว่า ทําไม ? ชีวิตนี้มันถึงได้มีแต่ทุกข์มากกว่าสุขนัก ตั้งต้นพยายามค้นหาคําตอบมามากมาย แต่ก็ไม่สามารถที่จะหา ทางปฏิบัติเพื่อให้เห็นผลได้เลย มีแต่คิดเอา ๆ แล้วก็ปล่อยวางไม่ได้จริงๆ สักครั้ง แต่ทุกสิ่งทุกอย่าง ก็ไม่ได้ถูกเมินเฉย จาก การเพียรพยายามค้นหาคําตอบของตัวเองไป เมื่อวันหนึ่ง บังเอิญได้พบกับคําเทศน์สอน ของพระอาจารย์ท่านหนึ่งจากทาง เว็บ ฟังธรรมดอทคอม แล้วในทันใดนั้น ก็เกิดความรู้สึกได้ว่า นี่แหละคือ วิธีปฏิบัติที่ค้นหามานานแล้ว นี่แหล่ะคือคําสอนที่ สามารถปฏิบัติได้จริง ณ ขณะนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไป จากการปฏิบัติภาวนาตามแนวทางที่พระอาจารย์เทศน์สอน เห็นผลจากการรู้ว่า การปฏิบัติภาวนานั้นจะต้องปฏิบัติอย่างไร อะไรคือเหตุแห่งทุกข์ อะไรคือทางที่จะพ้นทุกข์ได้จริง ชีวิต และความรู้สึกของคําว่าทุกข์ เปลี่ยนแปลงไป รู้จักคําว่าทุกข์มากขึ้น รู้จักชีวิตในอีกแง่มุมที่ไม่เคยมองเห็น “ทาง” ได้เปิด ออกให้เห็นแล้ว จุดที่สว่างทางปลายทางพอเห็นอยู่รําไรแล้ว จะไม่หวั่นไหวเลย จะไม่ละเลยที่จะเดินไปตามทางนั้นเลย แม้ว่าชีวิตนี้จะเหลือเวลาแค่เพียงวินาทีเดียว " ณ ที่นี้ ข้าพเจ้า ขอกราบสักการบูชาและขอปฏิบัติบูชา แด่ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และ พระอาจารย์ที่ ข้าพเจ้าขอปวารณาเป็นศิษย์ท่าน ทั้งๆ ที่ไม่เคยได้กราบท่านเลย แม้สักครั้ง พระอาจารย์ปราโมทย์ ปราโมชฺโช สาธุการค่ะ ด้วยความนอบน้อมอย่างสูงสุด โดย คุณ อนัญญา โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
34
68. หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช ในยามที่มีคลื่นลมพัดรุนแรงนี้ ผมขอเป็นผู้หนึ่งที่ขอก้าวออกมา และประกาศตัวว่าผมเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช พระผู้ให้แสงสว่างในทางธรรมแก่ผม และชี้ให้ผมเห็นร่องรอยที่พระพุทธเจ้าทิ้งเอาไว้ให้ ด้วยภาษาที่ฟังและเข้าใจง่าย นําไปสู่การปฏิบัติได้จริง อันนําให้ชีวิตของผมและครอบครัวดีขึ้นตามลําดับ ผมไม่เคยมีศีล ผมก็มีศีล และมีความสุขอยู่ในปกตินั้น(แม้จะแค่ศิล 5) ผมไม่เคยมีสมาธิ มีก็มีสมาธิ มีใจที่ตื่น และตั้งมั่น (แม้จะแค่ขณิกสมาธิ) ผมไม่เคยมีปัญญา ผมก็เริ่มเห็นทิศทางแห่งปัญญา (แม้จะได้แค่กําลังหัดแยกขันธ์ 5 และยังเห็นแค่หางของไตรลักษณ์) แต่เหล่านี้ทําให้ผมมั่นใจและมีศรัทธาในศาสนาพุทธมากเหลือเกิน เพราะมันทําให้ผมรู้สึกได้ว่า พระพุทธเจ้ามีจริง พระธรรมอันเป็นคําสอนของพระพุทธเจ้ามีจริง เหล่าพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบตามธรรมก็ย่อมมีจริงเช่นกัน สิ่งที่ปรากฏในใจเหล่านี้ยากที่จะบอกว่าเป็นเรื่องเลื่อนลอย ไร้สาระ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ผมได้จากการปฏิบัติตามคําสอนที่ฟังจากหลวงพ่อปราโมทย์แทบ ทั้งนั้น สุดท้ายนี้ ผมขอมอบบุญกุศลทั้งหมดที่ได้จากการบําเพ็ญ ศีล สมาธิ ปัญญา ตลอดทั้งสังสารวัฎ รวมถึงในชาตินี้ แม้จะน้อยนิดเพียงใดก็ตาม ขอถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมะบูชา สังฆะบูชา และอาจารยบูชา แด่หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช โดยคุณ นิติวิทย์ 69. กราบเรียนทีมงาน ดิฉันมั่นใจในคุณความดีของหลวงพ่อค่ะ แม้ว่าตัวดิฉันเองยังไม่เอาไหน แต่หลังจากข่าวออกมา ดิฉันตั้งใจจะรักษาศีลห้า และปฎิบัติบูชาถวายหลวงพ่อค่ะ จะไม่ให้ชาตินี้เสียเปล่า ที่ผ่านมารู้ว่ากิเลสเกิด แต่มักปรุงไปเรื่อย นับแต่นี้จะเป็นคนใหม่ ค่ะ อนุโมทนาบุญในกุศลจิตของทุกท่านด้วยค่ะ โดยคุณบรรพธี โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
35
70. ประสบการณ์จากการปฏิบัติภาวนา ที่เริ่มจากการแค่มีสติตามรู้ แต่เดิม ข้าพเจ้าเป็นบุคคลไม่ห่างไกลวัด แต่ห่างไกลธรรมะ ทั้งที่ที่บ้านก็เปิดซีดีหลวงพ่อปราโมทย์ตลอดเวลา แต่กลับได้ฟังจากเพื่อนกัลยาณมิตรที่ทํางาน เพราะเพื่อบรรเทาความทุกข์ เพื่อความสบายใจ เพื่อแผ่เมตตาให้คนที่มีผลกระทบจิตใจกับเรา ไม่น่าเชื่อ...สิ่งที่ได้มันมากกว่านั้น เริ่มจากการฟังซีดี ศาลาลุงชิน แผ่นที่1 ในขณะขับรถครั้งที่ 3 มีประโยคที่ท่านแสดงธรรมเกี่ยวกับอารมณ์คนขับรถปาดหน้า ให้รู้อารมณ์โกรธ ความโกรธจะหายไปมันเป็นเช่นนั้นจริงๆ ทําให้ข้าพเจ้าฟังแผ่นเดิมนี้ซ้ําไปมาเกือบ 30 รอบ แต่ละรอบ ได้สอนและฝึกให้ข้าพเจ้าทําตามในอารมณ์ ความหลง ไม่เหมือนกันเลย เริ่มติดใจเหมือนยาเสพติด แต่แปลกตรงที่เราโล่ง โปร่งสบายขึ้นเรื่อยๆ ตามรู้ความหลงไปเรื่อยๆ ทุกๆ วัน แรกๆ บังคับให้รู้ ฝึกตอนทํางานบ้าน ทุกเช้า สวดมนต์ไหว้พระ และนั่งสมาธิสั้นๆ ก่อนไปทํางาน กว่าจะรู้ให้สบาย ก็เพ่งไปซะแล้ว อาศัยซีดีท่านอาจารย์ปราโมทย์แหล่ะค่ะ ที่ให้คําตอบจากเพื่อนกัลยาณมิตรส่งการบ้าน รวมถึงธรรมะที่ท่านแสดงไว้ด้วย ข้าพเจ้าเลือกฟังซีดีจากศาลาลุงชินมากกว่าสวนสันติธรรม เพราะเข้าใจและง่ายกว่า ฟังมาครึ่งปีข้าพเจ้าเริ่มฟังซีดีทุกรูปแบบของท่านได้หมดแล้วค่ะ (ข้าพเจ้าเริ่มฟังซีดี ก.พ. ปี 52 ปัจจุบันยังฟังและปฏิบัติตามธรรม ที่ท่านแสดงติดตรึงใจไม่เสื่อมคลาย และไม่เคยเจอตัวจริงของท่าน มีเพียงภาพสีที่ติดอยู่ในห้องพระ ) เห็นความคิดไม่ดีที่เกิดจากใจตน ความอิจฉา ริษยา ขี้เม้าท์ ตัวตนใหญ่โตเก่งกาจ จากรู้ว่าหลงวันนึง 3-4 ครั้ง เป็นวันละหลายๆ ครั้งเกือบทุกชั่วโมง รู้ว่าหลงไม่พอ รู้ถึงกายที่อยู่ในท่านั้นด้วยนี่ก็แปลก แอบได้สมาธิ ความอดทนในการทําอย่างใดอย่างหนึ่งรวมถึงตัดอารมณ์/ความหลงได้เป็นท่อนๆ ข้าพเจ้าได้มีบททดสอบตัวเองด้วยนะคะ ข้าพเจ้าถามลูกชายวัยรุ่น “แม่เปลี่ยนไปมั้ย” ลูกบอกว่า “แม่เปลี่ยน หงุดหงิดน้อยลง โกรธ-บ่นน้อยและสั้นลง” เลยใช้ลูกเป็นกระจกส่องตัวเอง คอยถามพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป ซึ่งจะให้ได้ผลดีทั้งหมดก็มหัศจรรย์เกินไปมั้งเน้อะ ยังคงต้องเพียรปฏิบัติอีกมาก ผลแค่นี้ก็ทําให้ข้าพเจ้าเห็นความจริง ทุกข์สั้นลง เป้าหมายจากเดิมแค่ให้สบายใจ ให้อะไรๆ ดีขึ้น แต่ปัจจุบัน ข้าพเจ้ามีเป้าหมายหลุดพ้นไม่อยากเกิดใหม่! ข้าพเจ้า ก็รู้ว่ามันเป็นกิเลสแล้วแหล่ะ (บังเอิญสติเกิดขึ้นอัตโนมัติขณะที่พิมพ์ประโยคนี้) จึงได้เพียรพยายามศึกษาปริยัติ และปฏิบัติจากสายกรรมฐานมากขึ้น ท้ายสุด ข้าพเจ้าภาวนาให้ธรรมะหลวงพ่อปราโมทย์คงอยู่ให้กับเพื่อน กัลยาณมิตรที่ยังไม่ได้มีโอกาสได้มีโอกาสเข้ามาในพุทธธรรมนี้ด้วยเถิด และขอมอบผลการปฏิบัติเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบุชา แด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หลวงพ่อปราโมทย์ และครูบาอาจารย์ที่เคารพทุกท่าน โดยคุณ จันทนา
โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
36
71. กราบนมัสการ พระเถระ มหาเถระสมาคม กราบนมัสการหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช กราบเรียน , เรียน เพื่อนๆ นักปฏิบัติทั้งหลาย ดิฉันชื่อ หม่อมหลวง อณิชาล ได้ทราบข่าวว่าทางโครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้ โดย เว็บไซด์ http://www.dhammada.net ได้แจ้งให้นักปฏิบัติที่ได้ศรัทธา หรือปวารณาตัวเป็นลูกศิษย์ ได้เขียนบทความความประทับ ใจที่มีต่อธรรมะของหลวงพ่อปราโมทย์ จึงใคร่ขอแสดงเจตนาอันบริสุทธิ์ กล่าวถึงหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ดังนี้ ดิฉันได้รู้จักหลวงพ่อ และได้อ่านและได้ฟังธรรมะของท่านมาตั้งแต่ปี 2548 จากหนังสือเรื่องประทีปส่องธรรม อันเป็น หนังสือฉบับแรกที่หลวงพ่อปราโมทย์เขียนตั้งแต่ท่านยังเป็นฆราวาส โดยส่วนตัวแล้วดิฉันไม่ได้สนิทสนมกับหลวงพ่อเลย แต่ด้วยความเสนใจในหลวงปู่ดูลย์ อตุโล ซึ่งเป็นบูรพาจารย์ เป็นครูบา อาจารย์ในสายหลวงปู่มั่น จึงได้พยายามอ่านหนังสือเล่มนั้น ที่หลวงพ่อได้เขียนถึงธรรมะของหลวงปู่ดูลย์ โดยที่ตัวเองยัง เพิ่งเริ่มต้นสนใจศึกษาธรรมะ และยังไม่ได้เริ่มการปฏิบัติธรรมแต่อย่างใด ในเวลาต่อมา มีเพื่อนรุ่นพี่ในสํานักงานชักชวนให้ไปกราบหลวงพ่อปราโมทย์ ที่สวนโพธิ์ จ.กาญจนบุรี ในสมัยนั้น ดิฉันก็ ไม่ได้ไป เพราะยังไม่มีความศรัทธาในองค์หลวงพ่อ แต่ได้ยินกิตติศัพท์ถึงการทักวาระจิต (หรือจะเรียกว่า แนะนําการ ภาวนาเป็นรายตัว) ดิฉันก็ไม่ได้สนใจนัก แม้แต่วันที่ท่านได้ย้ายไปอยู่สวนสันติธรรม ที่ศรีราชา ดิฉันก็ได้ตามหมู่เพื่อนๆ นักปฏิบัติธรรมไปด้วย ทั้งๆ ที่ก็ไม่ได้สนใจธรรมะของท่านนัก ออกจะปรามาสด้วยซ้ําว่า ท่านไม่สมควรทักวาระจิต และอีก ประการหนึ่งดิฉันก็เป็นลูกศิษย์ครูบาอาจารย์อีกองค์หนึ่งที่ท่านเป็นลูกศิษย์หลวงปู่ดูลย์ด้วย จึงไม่ได้สนใจหลวงพ่อ ปราโมทย์นัก เมื่อปี 2551 ดิฉันและสามีประสบความทุกข์เรื่องการเงินแสนสาหัสจนกระทั่งแทบหมดตัว จึงพากันสละทางโลกออกบวช ด้วยกันทั้งคู่ ดิฉันไปบวชชี ศึกษาธรรมะอยู่ที่วัดป่าสายหลวงปู่ดูลย์ แห่งหนึ่งที่สุรินทร์ ปฏิบัติภาวนา และลงมากราบท่าน เจ้าคณะจังหวัดสุรินทร์ เป็นประจํา (ขออนุญาตเอ่ยนามถึงท่าน) คือ ท่านเจ้าคุณ พระราชวรคุณ หรือ หลวงพ่อสมศักดิ์ ปณฺฑิตฺโต หรือที่นักปฏิบัติรู้จักกันในนามของหลวงปู่โพธิ์ หลานของหลวงปู่ดูลย์ จึงมีโอกาสได้พูดคุยธรรมะของหลวงปู่อยู่ เสมอๆ ท่านก็มิได้ว่ากล่าว ตําหนิ หลวงพ่อปราโมทย์ แต่อย่างใด รวมทั้งมีฆราวาสที่เป็นลูกศิษย์ก้นกุฏิของหลวงปู่ดูลย์อีก ท่านหนึ่ง (คุณลุงจันทครบ) ก็ยังกล่าวชื่นชมหลวงพ่อปราโมทย์ อยู่เสมอๆ เช่นเดียวกล่าวชื่นชม หลวงพ่อมนตรี (แห่งป่า ละอู) ว่าเป็นพระอริยสงฆ์ ขณะที่ดิฉันปฏิบัติธรรมอยู่ที่สุรินทร์ มีปัญหาในการปฏิบัติธรรมไม่ก้าวหน้าเท่าที่ควร แต่มีโอกาสที่จะได้ค้นคว้าธรรมะ ครูบาอาจารย์ทางอินเตอร์เนท จึงหวนกลับมาฟังซีดีของหลวงพ่อปราโมทย์อีกรอบหนึ่ง และอ่านหนังสือที่ได้รับจากญาติ ธรรมถือติดตัวกลับมาจากคราวที่ได้ติดตามครูบาอาจารย์ไปกรุงเทพ เมื่อได้อ่านจึงรู้ตัวว่าตนนั้นหลงทาง ไม่มีสติ ไม่รู้จัก การเจริญสติ จึงได้ตั้งใจใหม่ และตั้งใจว่าถ้ามีโอกาสสักครั้งในชีวิตได้ไปกราบหลวงพ่อปราโมทย์ ก็คงจะดีไม่น้อย จน กระทั่งเมื่อเดือนตุลาคมปี 51 ได้มีโอกาสไปกราบหลวงพ่อที่สวนสันติธรรม ขณะนั้นยังเป็นแม่ชีอยู ่ และมีโอกาสได้ถาม โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
37
คําถามการภาวนาจากท่าน หลวงพ่อท่านก็ได้เมตตาชี้แนวทางให้ ความทุกข์จากที่ตนเองประสบอยู่ก็น้อยลง มีการรู้สึก ตัวมากขึ้น ยิ่งตัวเองมีหนังสือธรรมะครูบาอาจารย์หลากหลาย เช่น หลวงตามหาบัว หลวงปู่ฝั้น หลวงปู่สิม หลวงปู่ชา เมื่อได้เข้าใจสิ่งที่หลวงพ่อปราโมทย์สอนแล้ว กลับสามารถอ่านหนังสือของครูบาอาจารย์ท่านอื่นๆ ได้เข้าใจลึกซึ้งยิ่งขึ้นว่า ท่านมิได้สอนผิดไปจากครูบาอาจารย์องค์ไหนๆ เลย เพียงแต่การที่ท่านสามารถถ่ายทอดธรรมะด้วยคําพูดที่ธรรมดาๆ สามารถสื่อให้คนในยุคปัจจุบันฟังแล้วเข้าใจง่าย ฟังแล้วปฏิบัติง่ายๆ ไม่ต้องแปล หรือตีความ ท่านเพียงชี้จุดให้เดิน ไม่ ได้ให้เราต้องคาดเดาว่า ควรจะปฏิบัติอย่างไร แต่สอนถึงการปฏิบัติจริงๆ เหมือนสอนให้ลงมือเขียนหนังสือว่า ควรลากตัว อักษรอย่างไร จึงจะสวยงาม ดิฉันเข้าใจอยู่เช่นกันว่า บางคนอาจจะไม่ชอบวิธีการสอนแบบนี้ เพราะท่านสอนเหมือนแทบจะบอกให้ทุกอย่าง เพราะคน ยุคสมัยนี้ชอบให้คนป้อนให้ถึงปากจริงๆ ดิฉันเองไม่ได้ยึดถือแนวหลวงพ่อปราโมทย์โดยตลอดทั้งหมด แต่สนใจแนวการปฏิบัติของหลวงพ่อเทียนด้วย เพราะรู้สึก ว่าตัวเองถูกจริตกับการเคลื่อนไหว (ซึ่งหลวงพ่อปราโมทย์ ได้เคยทักดิฉันไว้ก่อนแล้ว ตั้งแต่ไปกราบท่าน ตอนดิฉันเป็นแม่ ชีว่า ให้ขยับเนื้อขยับตัว เคลื่อนไหวเยอะๆ) เมื่อต้นปีได้ข่าวเรื่องหลวงพ่อถูกกล่าวหา ตําหนิเรื่องการสอนธรรมะ ก็รู้สึก แปลกใจว่า ทําไมคนจึงเข้าใจอะไรแบบนั้นได้ ก็เลยมาเข้าใจกับตัวเองว่า เพราะคนเหล่านั้น ไม่ได้ตั้งใจปฏิบัติภาวนา จริงๆ ต่างหาก บางคนชอบไปวัด หรือไปพูดคุยโอ้อวดกันเรื่องภาวนา เพื่อความโก้เก๋ หรือ เพื่อเข้าสังคมอย่างหนึ่ง แต่ เมื่อตนเองตั้งใจพากเพียรกับการปฏิบัติภาวนา จึงไม่ได้รู้สึกว่า คําสอนของหลวงพ่อปราโมทย์ผิดอะไร ท่านได้บอกตรงไป ตรงมา เพียงแต่ขอให้ปฏิบัติเถอะ แล้วจะรู้ผลเอง ดิฉันขออนุญาตยกตัวอย่างผลการปฏิบัติภาวนาของตนเอง เมื่อสมัยตอนที่ยังเป็นแม่ช ี แล้วย้ายไปจําวัดที่วัดดอนธาตุ จ.อุบลราชธานี มีครูบาอาจารย์ หลวงปู่หลายองค์สายวัดป่า เดินทางมาที่นี่มากมาย รวมทั้งหลวงปู่สรวง สิริปุญโญ จ.ยโสธร ท่านก็มาที่นี่บ่อย ขณะนั้นดิฉันก็ปฏิบัติแบบเจริญสติตามแนวทางของหลวงพ่อปราโมทย์ไปด้วย ครั้งหนึ่งเมื่อได้ พบหลวงปู่สรวง ที่ท่านเดินอยู่รอบๆ เจดีย์หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล มีญาติโยมนั่งกราบไหว้ตามรายทางที่ท่านเดินผ่าน ท่านก็ทักทายญาติโยมไปตามปกติ เมื่อดิฉันลงกราบท่าน สิ่งแรกที่ท่านเอ่ยต่อดิฉันคือ “เออ..ให้มีสติไว้ ..ดี ” ทําให้ ดิฉันรู้สึกภูมิใจว่า ครูบาอาจารย์ท่านรู้ท่านสัมผัสได้กับสิ่งที่เราปฏิบัติ โดยที่เราไม่จําเป็นต้องไปบอกกับท่าน จากนั้นเมื่อ ได้พบหลวงปู่อีก ท่านไม่เคยตําหนิเรื่องการภาวนากับดิฉันเลย ผิดกับนักปฏิบัติท่านอื่นที่ไปกราบพร้อมๆ กัน ท่านจะชี้ราย ตัวว่า คนไหนหลงทางไปทางไหนบ้าง ซึ่งก็เป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์สําหรับนักปฏิบัติภาวนาจริงๆ เพราะปกติครูบาอาจารย์ท่าน จะไม่ค่อยทักใครมาก ทุกวันนี้ดิฉันกลับมาเป็นฆราวาสแล้ว และยังฟังธรรมะของหลวงพ่อปราโมทย์เสมอ ควบคู่กับการปฏิบัติแนวการ เคลื่อนไหวแบบหลวงพ่อเทียน จิตใจก็รู้สึกว่าปลอดโปร่ง ไม่ได้คาดหวังเรื่องการบรรลุมรรคผล แต่ใช้ชีวิตประจําวันแบบมี ความสุขก็พึงพอใจแล้ว กราบแทบเท้าหลวงพ่อผู้ถ่ายทอดธรรมะของพระพุทธเจ้า ดิฉันไม่มีสิ่งใดที่จะถวายให้กับหลวงพ่อ แต่ขอถวายการปฏิบัติ ธรรมนี้ เป็นการปฏิบัติบูชา นมัสการค่ะ โดยคุณ มล.อนิชาล 72. ชาวพุทธตามบัตรประชาชน อาจจะเรียกได้ว่าผมเป็นคนห่างวัดก็ได้ ใช้ชีวิตหมดเปลืองไปกับวันเวลาที่ผ่านเลยมานาน ที่ผ่านมาใกล้วัดที่สุดก็เพียงการ ศึกษาในโรงเรียนที่อยู่ติดกับวัด แต่ก็ไม่ได้มีโอกาสศึกษาธรรมะแต่อย่างใด เคยถึงขนาดคิดว่าพระพุทธเจ้าท่านก็เป็นเพียง นักปราชญ์ที่สอนให้คนทําดีเท่านั้น เป็นหนึ่งในชาวพุทธตามทะเบียนบ้านและบัตรประชาชนอย่างสมบูรณ์แบบคนหนึ่งก็ว่า ได้ จนเมื่อคิดได้ว่าศาสนาพุทธน่าจะมีอะไรมากกว่านั้น ก็พยายามหาหนังสือมาอ่าน แต่ด้วยความที่เป็นคนโง่เขลา จึงไม่อาจจะ เข้าใจธรรมะที่ลึกซึ้งของครูบาอาจารย์ได้ การศึกษาช่วงนั้นจึงเป็นเพียงแค่การอ่านทําความเข้าใจ และคิดว่าตัวเองเข้าใจ แต่ไม่สามารถที่จะนําความรู้ความเข้าใจนั้นมาแปลงเป็นการปฏิบัติได้มากไปกว่าการนั่งหลับตา ภาวนาไป ซึ่งก็ยังมีความ สงสัยอยู่ว่าต้องทําอย่างนี้อีกกี่แสนชาติจึงจะสามารถมีดวงตาเห็นธรรม โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
38
ต่อมาก็เริ่มศึกษามาที่พระอภิธรรม เพราะคิดว่าอย่างน้อยน่าจะเข้าใจอะไรได้บ้าง แต่ก็กลับงงยิ่งกว่าเดิม ตําราสอนให้อยู่ กับปัจจุบัน แต่ก็ไม่สามารถนํามาปฏฺบัติได้ว่าอยู่กับปัจจุบันคืออะไร เปรียบเหมือนคนที่กําลังหลับฝันอย่างเป็นจริงเป็นจัง ย่อมไม่รู้ว่าการตื่นเป็นอย่างไร จนเมื่อมาได้รับแจกซีดีของพระอาจารย์ปราโมทย์ ปราโมชฺโช แห่งสวนสันติธรรม จากเพื่อนที่รู้จักกัน ก็ยังไม่สนใจเท่าไหร่ นักเพราะดูชื่อแล้วไม่ขลังเท่าไหร่ เก็บไว้นานกว่าจะหยิบมาฟัง ครั้งแรกที่ฟังก็รู้สึกว่าพระองค์นี้ท่านสอนอะไร ทําไมมาพูด เรื่องความสุข ทั้งๆที่พระพุทธเจ้าท่านสอนเรื่องทุกข์ แต่พอฟังต่อไปก็พบว่า พระอาจารย์ท่านนี้ ท่านสอนหลักเหมือนพระ อภิธรรมที่เราเคยได้เรียนมา แต่ว่าท่านสอนด้วยภาษาที่เราสามารถนําไปปฏิบัติได้ ท่านสอนให้เห็นภาพรวมของการปฏิบัติ ว่าต้องเริ่มต้นอย่างไร เดินไปทางใดได้บ้าง และสุดท้ายจะเกิดผลอย่างไร ทําให้เกิดความรู้สึกว่าศาสนาพุทธมีอะไรน่าสนใจ กว่าที่ผ่านมา ที่ผ่านมาผมเพียงศึกษาพุทธศาสนาจากตําราและการคิด แต่พระอาจารย์ปราโมทย์ท่านเป็นพูดสอนให้เห็นทางว่าการนํามา ปฏิบัติเป็นอย่างไร คําว่าอยู่กับปัจจุบันทุกขณะจิต ถูกถ่ายทอดง่ายๆด้วยคําว่า “รู้สึกตัว” คําว่า”สติ” ที่ผมเคยอ่านเคยรู้จัก แต่ไม่เข้าใจว่าสําคัญอย่างไร ผมก็มาเห็นมุมมองใหม่จากท่าน นี่เป็นจุดเริ่มต้นจากการฟังซีดีแผ่นแรกและเป็นแรงผลักดัน ในการฟังแผ่นต่อไป เมื่อฟังต่อไปจึงพบว่า ท่านเองนี่แหละสอนให้เราเรียนรู้ทุกข์อย่างที่พระพุทธองค์ท่านสอน แต่ท่านเอา เรื่อง”สุข”มาเปิดให้คนเมืองผู้ขาดแคลนความสุขได้หันมาสนใจว่าศาสนาพุทธมีความสุขให้นะ กล้ามาลองไหม ท่านสอนให้ผมมีมุมมองใหม่ว่า ผมมีโอกาสดีแค่ไหนที่เกิดเป็นมนุษย์ในยุคที่มีคําสอนของพระพุทธองค์ดํารงอยู่ พอเริ่ม ปฏิบัติตามแนวที่ท่านสอนไปสักพัก ผมก็พบว่าผมมีความสุขกว่าเมื่อก่อน จิตใจของผมอ่อนโยนขึ้น ผมมีเมตตาและความ เข้าใจเพื่อนในสังคมมากขึ้น ผลจากการปฏิบัติหลายๆอย่างรวมกันจนเกิดเป็นศรัทธาแรงกล้าในพุทธศาสนา ผมเชื่อแล้วว่า พระพุทธเจ้าท่านมีจริง พระพุทธองค์ท่านเมตตาสั่งสอนปรกาศธรรมเพื่อประโยชน์แก่เหล่าสัตว์ผู้จมอยู่กับความไม่รู้ พระ ธรรมของพระองค์เป็นสิ่งอัศจรรย์ พระธรรมเป็นสิ่งที่ทุกคนเข้าถึงได้หากเจริญสติปัฎฐานสี่ตามแนวที่พระพุทธองค์ทรงชี้แนะ ไว้ และเหนืออื่นใด เราต้องเป็นผู้ลงมือเอง ไม่มีผู้ใดจะมาช่วยหรือทําให้เราเข้าใจธรรมได้ ผู้อื่นเพียงแค่ชี้แนะ แต่เราต้องเดิน ไปในทางของเราเอง จากผลการปฏิบัติเล็กน้อยที่ได้สัมผัส แปรเปลี่ยนมาเป็นศรัทธา จากศรัทธาแน่นแฟ้นที่มีต่อพระรัตนตรัยแปรเปลี่ยนเป็น วิริยะในการปฏิบัติ เมื่อลงปฏิบัติด้วยการเจริญสติ สิ่งที่ตามมาก็คือศีล หลังจากนั้นพระอาจารย์ท่านก็สอนให้มีวิหารธรรม พออยู่กับวิหารธรรมบ่อยเข้าก็เริ่มมีสมาธิมากขึ้น พอเริ่มสัมผัสกับสมาธิได้บ้างก็ทําให้มีแรงใจในการปฏิบัติตามรูปแบบทั้ง ทําสมถะเพื่อความสงบหรือเจริญวิปัสนาโดยการแบ่งเวลาในชีวิตประจําวันทุกวัน และการเจริญปัญญานั้นก็ไม่ใช่เรื่องลึกลับ อีกต่อไป เพราะท่านได้อธิบายคําสอนของพระพุทธเจ้าและครูบาอาจารย์ไว้อย่างแจ่มแจ้ง “เกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป ทนอยู่ใน สภาวะเดิมไม่ได้ ไม่สามารถบัง คับควบคุมได้” ไม่ใช่คําที่เอาไว้ท่องเท่ๆ แต่เป็นคําที่สามารถเห็นได้จากการปฏิบัติ แม้จะยังไม่เกิดปัญญาล้างกิเลส แต่ผมก็ เชื่อว่าแนวทางนี้ปฏิบัติได้จริง เห็นผลได้จริง แต่ต้องอาศัยความเพียรและความต่อเนื่อง พอเริ่มมีผลการปฏิบัติ เวลาที่ผมกลับไปอ่านหนังสือของครูบาอาจารย์ท่านอื่นที่เคยอ่านมาในอดีต ก็ทําให้ผมรับทราบถึง ความหมายและข้อแนะนําในการปฏฺบัติที่ครูบาอาจารย์ท่านได้อธิบายได้ตามความรู้ความเข้าใจที่ผมได้จากการปฏิบัติ
โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
39
เรียกได้ว่าพระอาจารย์ปราโมทย์ ปราโมชฺโช แห่งสวนสันติธรรม ทําให้ผมได้รู้จักพุทธศาสนาที่แท้ ทําให้ผมสนใจปฏิบัติ ธรรม เปลี่ยนวิถีทางการดํารงชีวิตที่อยู่กับอกุศลให้เป็นไปในทางแห่งกุศล จิตใจที่เห็นแก่ตัวแข็งกระด้างให้อ่อนโยนขึ้น แม้ จะยังไม่มากแต่ก็ถือว่าเปลี่ยนแปลงได้พอสมควร แต่หากมองในแง่ของสังคม คําสอนของท่านเมื่อนํามาปฏฺบัติแล้วทําให้ มุมมองในการใช้ชีวิตในสังคมเปลี่ยนไป จากเดิมที่เคยไม่ยอมใคร เอาความคิดของตัวเองเป็นหลัก ก็เปลี่ยนเป็นการรู้จักละวางความคิดเห็นหรืออคติของตัวเอง เพื่อมองข้อมูลทุกอย่างที่ผ่านเข้ามา เมื่อเราสามารถมองโดยปราศจากอคติ ทําให้เราสามารถตัดสินใจในเรื่องต่างๆได้ดีขึ้น ทําให้เราลดความขัดแย้งกับคนอื่นได้มากขึ้น เมื่อลดการใช้อารมณ์ในการทํางานหรือการอยู่ร่วมกันในสังคมลง บรรยากาศ ในที่ทํางานและสังคมก็ดีขึ้น ทั้งหมดนี้ได้มาจากการเจริญสติตามแนวทางของพระอาจารย์ปราโมทย์ ปราโมชฺโช แห่งสวน สันติธรรม ทุกวันนี้ผมก็ไม่แน่ใจว่าจะเรียกตัวเองว่้าเป็นศิษย์ของพระอาจารย์ปราโมทย์ได้หรือไม่ เพราะผมก็เรียนรู้จากท่านได้เพียง เล็กน้อย ก็ได้แต่เรียกตัวเองว่าเป็นผู้ที่ศึกษาและปฏิบัติตามแนวทางของท่าน แต่ผมก็สามารถเรียกตังเองได้ว่า เป็น”ชาว พุทธ”ได้เต็มปาก ไม่ใช่ชาวพุทธแค่ปรากฏบนทะเบียนบ้านหรือบัตรประชาชนอีกต่อไป โดย คุณ วริทธิ 73. ดิฉัน นางสาวนัชชา ขอขอบคุณคณะผู้จัดทํา website Dhamada.net ที่เปิดโอกาสให้พวกเราได้แสดง ออกถึงพลังความรักความศรัทธาในหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช 4 ปี ที่ได้ฟังธรรมหลวงพ่อ ทั้งจาก mp3 และไปกราบหลวงพ่อเดือนละครั้ง นาน ๆ ถึงจะส่งการบ้าน 4 ปี ส่งการบ้านหลวงพ่อแค่ 4-5 ครั้ง ตลอดเวลาที่ผ่านมา ได้เห็น ถึงความเมตตาของหลวงพ่อ ดิฉันเป็นคนที่ไม่ค่อยยอมรับใตรเป็นครูบาอาจารย์ง่าย ๆ แต่ด้วยคําสอนของหลวงพ่อที่พิสูจน์ได้จากผลการปฏิบัติของตนเอง จนเกิดศรัทธามั่นคง ในพระรัตนตรัย ได้สัมผัสความสุขจากการเจริญสติ ความเป็นผู้รู้ ตื่น เบิกบาน และ เชื่อว่าหนทานแห่งมรรคผล นิพพาน มีอยู่จริง อยู่ที่ความเพียรของเราที่จะเดินไป หลวงพ่อไม่เคยเรียกร้อง ไม่เคยบอกบุญ ดิฉันประทับใจคําพูดหลวงพ่อที่ว่า "ไม่ต้องเอา อะไรมาให้หลวงพ่อ ขอให้ภาวนาเท่านั้น หลวงพ่อไม่ต้องการอะไร" หลวงพ่อให้โอกาส กับทุกคนที่เข้ามาเสมอกัน รู้สึกสัมผัสได้ถึงกระแสความเมตตาที่หลวงพ่อมีให้กับทุกคน โดยเฉพาะกับคนที่กําลังมีทุกข์มาก หลวงพ่อเป็นเหมือนแสงสว่าง ที่ช่วยชี้นําทางให้ พวกเราได้รู้จักพุทธศาสนาที่ไม่ใช่แค่เปลือก แต่ได้เข้าถึงแก่นธรรมคําสอนขององค์พระ สัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างแท้จริง ทําให้คําสอนในพุทธศาสนาไม่ใช่เรื่องไกลตัวเราอีกต่อไป ดิฉันในฐานะลูกศิษย์ตัวเล็ก ๆ ไม่ได้มีบทบาทใด ๆ ในแวดวงสังคม ขอบูชาหลวงพ่อด้วย การปฏิบัติ ขอให้หลวงพ่อได้รู้ว่า ดิฉันและเพื่อน ๆ ยังเชื่อมั่นในหลวงพ่อ ยังคงจดจํา คําสอนของหลวงพ่อ และจะภาวนาต่อไป ขอให้หลวงพ่อผ่านพ้นวิกฤติในครั้งนี้ ขอให้ หลวงพ่อได้อยู่ชี้นําทางสว่าง หนทางพ้นทุกข์ ให้กับมนุษย์ผู้อยู่ในวัฏฏสงสารต่อไปค่ะ โดยคุณ นัชชา 74. ชื่อ นส ธัญพร ชื่อเล่น เถา ธรรมะของพระพุทธเจ้าที่พระอาจารย์ฯเมตตานํามาสอนนั้นทําให้เกิดดังนี้ 1. เรียนรู้และเข้าตนเองขึ้นเป็นลําดับ (รู้ว่าตนเองเลวร้ายอะไรบ้าง มีสติที่จะไม่ทําเรื่องเลวร้าย เช่น ขี้โกรธ ฯ) 2. ได้เปลี่ยนครอบครัวที่เคยร้อนทะเลาะกันแทบทุกวัน ลูกไม่เข้าใจแม่ โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
40
ทุกวันนี้ครอบครัวนี้มีความสุขอย่างไม่เคยมี 3. มีความละอายต่อการผิดศีล 5 มากขึ้น เช่น เคยอยากได้ของคนอื่นแบบหน้าตาเฉย แต่ปัจจุบันไม่ได้จะรู้สึกผิดทันที เคยเถียงแม่หรือคนอื่นๆทันที ตอนนี้เงียบ หรือ หุบปากได้ไว โดย คุณ ธัญพร
75. ผมได้มีโอกาศได้ศึกษาธรรมจากหลวงพ่อเป็นเวลา 3 ปีกว่า ไปสวนสันติธรรมค่อนข้างบ่อย ชีวิตเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเมื่อได้ปฏิบัติตามคําสั่งสอนของหลวงพ่อ ความทุกข์อยู่ห่างออกไปจากตัวเรา คนรอบข้างยังงงว่าทําได้ไง เลิกเที่ยว เลิกเหล้า เป็นลูกที่ดีของพ่อแม่ ถือศีล 5 ภาวนาเนื่องๆ ไม่เคยเห็นหลวงพ่อเรี่ยรายเงินเลย แถมยังเมตตาแจกหนังสือและซีดีกลับมาให้อีก ถึงแม้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไรก็ตาม ก็จะยังขอเป็นลูกศิษย์ที่รักและเทอดทูนบูชาหลวงพ่อตลอดไป โดย คุณ เดชา 76. พระปราโมทย์ ปาโมชโชได้เอื้อเฟื้อแนะนําหลักธรรมที่ใช้ได้จริงและไม่จํากัดกาล ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ มีเนื้อหาและหลักธรรมคําสอนที่เข้าใจง่าย และสามารถปฏิบัติได้จริงในชีวิตประจําวัน ทําให้ธรรมะเป็นเรื่องธรรมดา เข้าใจ ง่าย เป็นเรื่องใกล้ตัว โดยให้เฝ้าดูจิตใจของตนเองตามความเป็นจริงด้วยใจเป็นกลาง จึงทําให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภายใน เกิดความรู้สึกนึกคิดใหม่ มุมมองใหม่เกี่ยวกับตนเองและผู้อื่น และทําให้ดําเนินชีวิตอยู่ในสังคมปัจจุบันได้อย่างมีความสุข ขึ้นเป็นอย่างมาก ด้วยความเมตตาของท่าน ดิฉันได้พบขุมทรัพย์ทางปัญญาที่มีคุณค่าโดยนํามาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจํา วันได้เป็นอย่างดี และทําให้ตนเองมีความสุขมากขึ้น แม้สภาวะที่เกิดขึ้นยังเป็นเช่นเดิมหรือบางครั้งอาจจะแย่ลง แต่จิตใจก็ กระเพื่อมกับการเปลี่ยนแปลงน้อยลง และยอมรับว่าสิ่งต่างๆเกิดขึ้นตามเหตุและปัจจัยของมันเอง จึงทําเกิดความเมตตาต่อ ตนเอง และผู้อื่น ชีวิตของดิฉันโดยรวมก็เปลี่ยนไปเป็นมีความสุขมากขึ้น
โดย คุณอารียา 77. ถึง ทีมงาน เดิมที ผมไม่เคยรู้ว่า การภาวนาเป็นอย่างไร ถ้าพูดถึงคํานี้ เข้าใจว่าเป็นการอ้อนวอนขออะไรซักอย่าง เดิมที ผมเคยเข้าวัด แล้วรู้สึกว่า พระก็เหมือนชาวบ้านธรรมดาๆ ที่ไม่มีงานไม่มีการทํา ทําให้ไม่รู้ว่าการเข้าวัดฟังธรรมเป็นอย่างไร ผมว่า ในชีวิตนี้ ผมโชคดีที่สุด ก็เมื่อได้มาเจอหลวงพ่อปราโมทย์ ได้ฟังคําสอนจากท่าน โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
41
ถึงแม้ผมจะไม่ได้ เอาจริงเอาจังกับการปฏิบัติภาวนาตามคําสอนของท่าน เหมือนลูกศิษย์ท่านอื่น และไม่ได้กลายเป็นคนดีเด่อะไรในสังคม แต่ก็รู้สึกได้ว่าเป็นคนที่เริ่มกลัวบาปมากขึ้น เริ่มเสียใจนิดๆ ที่ตัวเองไม่ได้จริงจังกับการภาวนา จนพิสูจน์อะไรให้ใครเห็นผลของคําสอนหรือแนวทางของท่านไม่ได้ แต่บอกได้ว่าแค่ได้รู้จักคําว่า มีสติรู้สึกตัว ตามแนวทางของท่าน อย่างน้อยที่สุด ทุกข์ที่เคยมีก็หล่นหาย (ไปเยอะ) ทุกข์ที่ เคยอยู่กับเรานานๆ กลับอยู่ไม่นาน นี่คือผลเบื้องต้นที่มีคุณค่ามหาศาล แม้ปฏิบัติไม่เอาไหน เพียงแค่ได้จากการที่ท่านสอนให้มีสติและให้รู้จักทุกข์ สิ่งนี้นับเป็น บุญคุณใหญ่หลวง ที่ไม่รู้จะตอบแทนหรือขอบคุณท่านได้อย่างไร แต่เมื่อเขียนมาถึงประโยคนี้ ก็รู้ทันทีเลยว่า คําตอบคือ อะไร ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหรือผลจะเป็นอย่างไร คําสอนที่ได้รับจากท่าน ยังคงใช้ได้เสมอ และขอสัญญาว่า จะจริงจังปฏิบัติตามแนวทางคําสอนของท่านให้ถึงที่สุด ขอสัมมาสติจงมีแก่ข้าและทุกท่านที่ได้อ่านบทความนี้ ขอบคุณสําหรับคนที่ส่งเมล์มาให้ และทีมงานที่จัดการเรื่องนี้ ให้มีโอกาสได้เขียนขอบคุณ โดยคุณ ชวลิต 78. ผมมั่นใจว่าคําสั่งสอนของพระพุทธเจ้าที่หลวงพ่อนํามาถ่ายถอดให้พวกเรา
ตรง และถูกต้อง โดยคุณ ปรีชา 79. หลังจากที่ได้เรียนกับหลวงพ่อปราโมทย์ได้ 2 ปี "ชีวิตเปลี่ยนไปค่ะ" ที่ประทับใจท่านมากที่สุด ท่านเหมือนพ่อผู้ให้ความรู้ทางวิปัสสนาท่านแรก จากที่เรียนกับท่าน คิดว่าเ้ข้าใจคําสอนของพระพุทธเ้จ้า มากขึ้นเป็นลําดับ และเข้าใจ สติปัฎฐาน ๔ ได้มากกว่าแต่ก่อนที่อ่านอย่างไร ก็ไม่เข้าหัว รู้สึกรักพระพุทธเจ้า และมีศรัทธาต่อพระพุทธศาสนาอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน จากที่เคยใช้ชีวิตโลกๆ แบบคนทั่วไป ตอนนี้ รู้สึกว่า รู้จักตนเองมากขึ้น เหมือนตอนนี้ เรารู้เป้าหมาย เหมือนเรือที่กําลังพายกลางน้ํา ค่อยๆ พายไป อย่างรู้เป้าหมาย ไม่ใช่พายวนไป วนมา นั่นคือ เรารู้เป้าหมายในชีวิตที่ชัดเจน คือ "ทํากองทุกข์ให้สิ้น" ทําทั้ง ศีล ทาน และภาวนา รักษาศีล 5 ให้มั่นคง ที่สุด อย่ามัวดูคนอื่น ดูตัวเอง ดูกิเลสของตน ฯลฯ คําสอนที่ท่านสอน มีแต่เน้นให้ เจริญสติ รักษาศีลให้มั่นคง ทําจิตให้ตั้งมั่น เพื่อมาเจริญปัญญา และเท่าที่สังเกต ท่านสอนแบบไม่มีขะยัก ทั้งแนะนํา ทั้งให้กําลังใจ ลูกศิษย์เพื่อจะได้ภาวนา ฟังท่านสอนที่ไร ท่านก็มีแต่ ให้ภาวนานะ ภาวนาฯฯฯฯฯ เท่าที่เขียนได้คงมีเท่านี ้ สุดท้ายนี้ คงรู้แต่ว่า ชีวิตนี้สั้นนัก โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
42
จะภาวนาเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา และ ถวายเป็นอาจาริยบูชากับพ่อแม่ครูอาจารย์ทุกท่าน รวมถึงหลวงพ่อปราโมทย์ ตลอดจนกว่าตัวจะตาย หรือไม่ก็กิเลสตายไปข้างนึง! กราบหลวงพ่อด้วยเศียรเกล้า โดยคุณจุฑามาศ
80. บุญคุณล้นพ้นจากคําสอนของหลวงพ่อมีต่อชีวิตมากแค่ไหน? คําถามนี้ตอบไม่ยากค่ะ แต่ที่แน่ๆคือไม่สามารถตอบออก มาได้หมด หนังสือของพี่ดังตฤณเป็นก้าวแรกที่เหมือนเปิดประตูบานใหม่ให้ชีวิต จากที่เคยคิดว่านิพพานเป็นเรื่องไกลตัว มี แต่คนในยุคพุทธกาลเท่านั้น หรือมีบุญบารมีเก่าก่อนมามากมายเท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ถึงได้ ก็พบว่าเราเองก็มีสิทธิเช่นกัน และ ไม่ควรเสียสิทธินั้นไปจากชีวิตในชาตินี้ ที่เกิดมาได้พบพระพุทธศาสนา จากวันนั้นก็ได้ตามเข้าไปในลานธรรมเมื่อปี 2548 จึงได้รู้จักหลวงพ่อปราโมชที่นี่ ไม่เคยได้มีโอกาสไปกราบท่านที่สวนโพธิ์ แต่ก็ได้อ่านและได้ฟังคําสอนของท่านจากซีดีตลอดมา จนท่านมาอยู่ที่สวนสันติธรรมก็ได้มีโอกาสไปกราบท่านหลายครั้ง แต่ได้ส่งการบ้านกับท่านเพียง 2 ครั้งเท่านั้น เคารพรักท่านและพี่ดังตฤณประดุจพ่อคนที่สอง พ่อที่หวังดีต่อลูกอย่างที่สุด ความพยายามในการสอนลูกศิษย์ของท่านที่ผ่านมา มีแต่ต้องการให้ลูกศิษย์พ้นอบาย ไปจนถึงพ้นทุกข์โดยสิ้นเชิง หนังสือ หรือซีดีท่านก็แจกให้ฟรี ไม่เคยเรียกร้องอะไรนอกจากให้พวกเราตั้งใจนะ ขยันนะ ต้องทํานะ ชาตินี้อย่างน้อยต้องปิดอบาย ให้ได้นะ มาถึงผลต่อชีวิตของตัวเองหลังจากได้พบท่านได้ฟังคําสอนของท่าน เกิดอะไรขึ้นบ้าง ๑. เกิดความมั่นใจในมรรคผลนิพพานว่ามีจริงๆ หนทางตามรอยพระบาทพระศาสดายังมีอยู่ ลงมือเสียแต่วันนี้ อย่าใช้ชีวิต ล่องลอยเรื่อยเปื่อยจนตายไปพร้อมกับความไม่รู้อีกชาติหนึ่งอย่างเสียเปล่า ๒. เมื่อต้องการเดินทางสู่มรรคผล จึงได้ถือศีล5อย่างเคร่งครัด ไม่เบียดเบียนใครแม้เมื่อมีโอกาส เช่นพนักงานร้านอาหาร ลืมคิดบางรายการไป แต่ด้วยใจที่ตั้งมั่นว่าจะไม่ผิดศีล เราก็บอกเขาทุกครั้งว่าคิดเงินผิดไปอย่างไร ให้คิดมาเพิ่ม ๓. ไม่ใช่แค่มีศีล หลวงพ่อยังสอนให้เผื่อแผ่ แบ่งปัน ท่านทําให้ดูเป็นตัวอย่างด้วยการให้หนังสือหรือซีดีมาฟรีๆ ต้นทุนยังไง ก็ไม่มีทางฟรี แต่สิ่งเหล่านี้เกิดจากน้ําใจของกลุ่มคนที่เราไม่รู้จัก สละทรัพย์สินทํามาให้ เราก็ยินดีที่จะสละทรัพย์สินและแรง กายเพื่อช่วยคนอื่นต่อไป ได้ทําบุญทําทานในหลายลักษณะและหลายครั้ง ในเวลาหลายปีที่ผ่านมานี้คงนับได้ไม่น้อยเลย ๔. การหัดสังเกตกายและใจของตัวเองตามที่หลวงพ่อสอน ทําให้ทุกข์น้อยลงได้จริงๆ ไม่ใช่เพราะเราเผชิญความทุกข์น้อย ลง แต่การที่เราเข้าใจความจริงตามธรรมดาของโลก เข้าใจความจริงตามธรรมชาติของกายและจิตต่างหาก ที่ทําให้เรา ลดละความยึดมั่นถือมั่นในตัวตนอย่างผิดๆ ลดความคาดหวังว่าโลกจะเป็นไปอย่างใจเรา เมื่อเข้าใจความจริงอย่างนี้ ผลที่ ตามมาแน่นอนคือรู้สึกทุกข์น้อยลง ถึงจิตเกิดทุกข์วิตกกังวลขึ้นมา ก็จะตั้งอยู่ไม่ได้นาน เพราะสติที่อบรมมาอย่างที่หลวงพ่อ สอน ทําให้เราจับได้ไล่ทันความปรุงแต่งของจิตที่เกิดขึ้น ๕. ความเปลี่ยนแปลงในจิตตนเองที่รู้เห็นได้เฉพาะตนทําให้เกิดความมั่นใจว่า เวรกรรมมีจริง นรกสวรรค์มีจริง มรรคผล นิพพานมีจริงๆ และเส้นทางนั้นยังมีอยู่จริง ขอเพียงเราเดินต่อไปเรื่อยๆอย่างมั่นคง
โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
43
ขอกราบบูชาพระคุณครูบาอาจารย์ทุกองค์และทุกท่าน และแน่นอนรวมทั้งหลวงพ่อปราโมช ปาโมชโชด้วยความเคารพรัก และบูชาสูงสุดด้วยเศียรเกล้า บุญคุณทั้งหมดนี้ขอตอบแทนด้วยการเป็นคนดีที่สุดให้มากกว่าที่คิดว่าตัวเองจะทําได้ และขอ ปฏิบัติบูชาเรื่อยไปจนกว่าจะถึงที่สุดแห่งทุกข์ ถึงปลายทางสุดท้ายคือพระนิพพาน โดยคุณปานรวี 81. ดิฉัน จนถึงเดี๋ยวนี้ไม่เคยมีโอกาสได้เจอหลวงพ่อและไม่เคยไปที่สวนสันติธรรม แต่ถือตัวเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อ เนื่องจากปลายปี พ.ศ. 2552 ได้ลองฟังพระองค์หนึ่งเทศน์ในทีวีรู้สึกสนใจใน เนื้อหาที่พระท่านนี้พูดมากจึง ตั้งใจฟังจนจบ พอมีตัวหนังสือขึ้นว่าพระท่านนี้คือ หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช จึงลองหาข้อมูลใน internet และ download ไฟล์คําสอนของหลวงพ่อมาฟัง ได้ลองฝึกฝนดูตามที่ท่านสอน ถึงจะเป็นคนเกียจคร้าน ไม่ค่อยฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังฟัง และศรัทธาในคําสอนของหลวงพ่อ มาตลอด แม้จะยังปฏิบัติน้อย แต่ก็เริ่มมีสติเกิดขึ้นบ้างในบางครั้ง เริ่มเคยเห็นความโกรธของตนแบบมีสติบ้าง การเทศน์ของหลวงพ่อ สามารถตอบความสงสัยในการอยากเริ่มปฏิบัติของดิฉัน ได้เป็นอย่างดี เนื้อหาสาระในคําสอนของท่าน โดยส่วนใหญ่ หากนําไปทดลองปฏิบัติ น่าจะเป็นผลดี ต่อชาวพุทธโดยส่วนใหญ่ ทั้งยังไม่เห็นว่าคําสอนของท่านขัดแย้ง จากหลักของศาสนาพุทธแต่อย่างใด ดิฉันรู้สึกขอบคุณและอยากขออนุโมทนาที่หลวงพ่อเมตตาสั่งสอนด้วยถ้อยคําที่เข้าใจได้ง่าย ให้ผู้ที่ยังไม่รู้ทั้งหลาย รวมทั้งบุคคล ผู้เกี่ยวข้องในการเผยแผ่ธรรมะอันเป็นประโยชน์ต่อมหาชน โดยการให้ download ไปฟังได้ฟรี ตัวดิฉันเองทําได้เพียงส่งข้อความมาเพื่อแสดง ความขอบคุณในความเมตตาที่ได้รับ และจะพยายามขยันปฏิบัติให้มากยิ่งขึ้นค่ะ โดย คุณนริศรา 82. หลวงพ่อปราโมทย์ ธรรมะของพระพุทธเจ้าที่หลวงพ่อนํามาสอน ทําให้หลายคนทุกข์น้อยลง ทําให้หลายคนสุขมากขึ้น ทําให้บางคนพ้นจากทั้ง ทุกข์และสุข ขอปฏิบัติเป็นถวายเป็นบูชาคุณพระพุทธเจ้า และหลวงพ่อปราโมทย์ค่ะ โดย คุณ เกศณีย์
83. ดิฉันเป็นผู้หนึ่งที่สนใจธรรมะ และการปฏิบัติธรรม ได้ติดตามฟัง CD ของหลวงพ่อมาโดยตลอด สิ่งที่ท่านเมตตาสอน สั่งนั้น เป็นประโยชน์มากมายมหาศาลต่อการดําเนินชีวิต สามารถนําไปใช้ในหน้าที่การงาน ชีวิตประจําวัน ช่วยให้เกิดสติ โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
44
ไตร่ตรองแก้ปัญหาต่างๆได้ในทางที่ถูกที่ควร ที่สําคัญยิ่งคือช่วยขจัดความทุกข์ออกจากจิตใจได้อย่างยอดเยี่ยม พระคุณ และความเมตตาของท่านสุดที่จะพรรณาได้จบสิ้น โดยคุณรุ่งนภา 84. ได้ฟังซีดีครั้งแรกของหลวงพ่อปราโมชแล้วรู้สึกว่านี่คือทางที่ค้นหามานาน ท่านสอนการเจริญสติหลายวิธี แต่วิธีที่โดน ใจคือให้รู้บ่อยๆ ว่าใจลอย จําได้ว่าตอนรู้สึกตัวเป็นครั้งแรกนั้นมีความสุขมาก จากนั้นเลยคอยตามรู้ใจที่หนีไปคิด หนีไปฝัน กลางวันเท่าที่จะสามารถทําได้ ปรากฏว่าชีวิตเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด กลายเป็นคนใจเย็นขึ้น ความทุกข์สั้นลง ความรู้สึก รุ่มร้อนในการประกอบอาชีพเพื่อผลักดันฐานะของตนเองหายไป ทํางานอย่างมีความสุขบ้างความทุกข์บ้างไปตามธรรมดา โลก แต่รู้จุดหมายในชีวิตและทราบว่าเราเกิดมาทําไม และจะเดินหน้าเพื่อปฏิบัติธรรมให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ค่ะ ขอบคุณน้องสาวและเพื่อนของน้องสาวที่เอาซีดีหลวงพ่อปราโมชแผ่นนั้นมาให้ตั้งแต่ปี 49 ขอบคุณคุณโย คนทําซีดีนะคะ อนุโมทนาด้วยคะ กราบขอบพระคุณหลวงพ่อปราโมชค่ะ สักวันจะไปกราบท่านที่สวนสันติธรรมให้ได้ค่ะ โดยคุณนริศรา 85. โยมเป็นคนหนึ่ง ที่สนใจธรรมะและปฏิบัติธรรมมาหลายปี วันนึงก็ได้รับธรรมะของหลวงพ่อปราโมทย์ผ่านทางวิทยุ สังฆทานโดยบังเอิญ จากวันนั้นถึงวันนี้ หลวงพ่อปราโมทย์เป็นผู้ชี้ทาง ที่ชัด ตรง สั้นง่าย แก่โยม โยมเริ่มรู้จักคําว่า เห็นจิต ในจิต เห็นความไม่ใช่ตัวตนของจิต ของความคิด ด้วยปัญญาจากข้างใน ไม่ใช่เห็นกันแบบคิดเอาเองที่สมอง ไม่ว่าเหตุการณ์จะเป็นยังไง โยมก็จะระลึกและสํานึก และกตัญญูในบุญคุณอันใหญ่หลวงนี้ และจะเป็นกําลังใจให้ท่านตลอด ไป ด้วยการปฏิบัติธรรมอย่างต่อเนื่อง ที่ท่านเตือนแล้วเตือนอีกว่าอย่าประมาทกับกิเลสที่มาทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ท่านเป็นพระที่หาได้ยากในสังคมปัจจุบัน เข้าใจคนเมือง และ หาวิธีสอนที่เป็นภาษาเข้าใจง่าย ตอนนี้ ทั้งคุณพ่อ คุณแม่ และ คนรู้จักของโยม ที่โยมให้ฟังซีดีของท่าน ก็ชอบและสนใจศาสนาพุทธขึ้นมากอย่างไม่น่าเชื่อ กราบนมัสการด้วยความ เคารพค่ะ โดย คุณ กนกวลัย 86. เรียน ท่านหลวงพ่อปราโมทย์ ปราโมชโช กระผมได้ฟัง CDของท่านหลวงพ่อปราโมทย์ โดย Download ทาง Internet มาประมาณ 1 ปี ไม่เคยไปพบท่าน ณ ที่ใด ผมรู้สึกว่าท่านมีความเมตตาสูงมากพยามยามสั่งสอนพวกเราโดยไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อย บางครั้งผมรู้สึกเหนื่อยแทนเลยครับ ธรรมมะของท่าน ลึกซึ้ง มีเหตุผล ทําให้เข้าใจกิเลสว่าไม่ต้องไปดูที่ไหนดูที่ตัวเองนั่นแหละ กราบคารวะในความเมตตาของท่านหลวงพ่ออย่างสูง โดยคุณวิโรจน์ 87. ผมคนนึงที่ไม่เคยพบและรู้จัก หลวงพ่อปราโมทย์มาก่อน ใช้ชีวิตแบบโลกๆ โลภะ โทสะ โมหะ มากมายแต่ไม่เคยรู้ ได้รู้จัก หลวงพ่อ จากการแนะนําของเพื่อน ด้วย CD แผ่นเดียว หลังจากนั้นก็ค้นหาเวป จนได้พบ แล้วก็ โหลดไปฟังเกือบทุกแผ่น ชีวิต เปลี่ยนไปอย่างมากมาย ขอปฏิบัติถวายเป็นพุทธบูชา และขอกราบหลวงพ่อปราโมทย์ ในฐานะ ลูกศิษย์ คนนึงที่ไม่ เคยพบหลวงพ่อเลย และวันนึงจะหาโอกาสไปกราบนมัสการด้วยตนเองครับ โดย คุณ สหพล 88. กระผมขอโอกาสแสดงความคิดเห็นส่วนตัว ในฐานะผู้ที่ได้ศึกษาแนวทางคําสอนขององค์หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช ที่เคารพอย่างสูงยิ่ง โดยส่วนตัวกระผมแล้วมิได้ไปพบเจอคําสอนของหลวงพ่อโดยตรง แต่เนื่องจากได้มีโอกาสไปอ่าน โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
45
นิตยสารธรรมใกล้ตัวที่พี่ดังตฤณเป็นบรรณาธิการ และได้ไปอ่านธรรมะในคอลัมน์ “ธรรมะจากพระผู้รู้” ซึ่งรู้สึกว่าเป็นการ อธิบายธรรมะที่กระผมเคยรู้สึกว่าเป็นเรื่องยาก เข้าใจได้ยาก ให้เป็นเรื่องที่พอจะใช้สติปัญญาอันเล็กน้อยของกระผมไป ศึกษาและปฏิบัติได้ ถึงแม้ว่า ณ ปัจจุบันนี้ กระผมจะยังไม่สามารถพัฒนา หรือปฏิบัติธรรมให้สมควรแก่ธรรม หรือสามารถเข้าใจธรรมะโดย ถ่องแท้ด้วยจิตด้วยใจได้ ถึงแม้ว่าศีลห้าข้อนั้นจะขาดตกบกพร่องไปบ้าง แต่การที่คนจากไม่เคยสังวรเรื่องศีล ไม่คิดคํานึง ถึงความจําเป็นของสติ หรือไม่เคยสนใจเรื่องสมาธิเลย การที่ได้เห็นประโยชน์ของการทําให้สิ่งทั้งสามสิ่งที่กล่าวมานั้นมี ความเจริญขึ้นแม้แต่เพียงเล็กน้อย ก็ต้องถือว่าเป็นบุญลาภแล้วที่มีโอกาสเกิดเป็นมนุษย์ในชาตินี้ การปฏิบัติของกระผมนั้นมิได้มีผลอะไรที่น่าชื่นชมนัก แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทําให้กระผมมีความเชื่อมั่นในคําสอนขององค์พระ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่หลวงพ่อฯได้ถ่ายทอดให้ได้ฟังได้คิด คือเรื่องการแยกธาตุแยกขันธ์ออกเป็นส่วนๆ กระผม เคยมีโอกาสได้เห็นสภาวะของขันธ์ที่ว่านี้ก็ตอนที่มีทุกข์เวทนาทางร่างกาย ถ้าเป็นสมัยก่อนเวลามีทุกข์เวทนาทางกาย ก็จะมี อาการทุรุนทุราย พยายามหาทางทําให้ทุกข์เวทนาดังกล่าวหายไป แต่เมื่อกระผมได้ยินคําสอนของหลวงพ่อฯเรื่องการแยก ธาตุแยกขันธ์แล้ว และได้นํามาลองกับตัวกระผมเอง ปรากฏผลว่าทุกข์เวทนาที่เกิดขึ้นนั้น มันไม่ได้หนักหนาเหมือนสมัย ก่อน มีความรู้สึกว่าทุกข์เวทนานี้ทนอยู่ได้ไม่นาน ถ้าสังเกตไปซักพักก็จะรู้สึกว่าระดับของทุกข์เวทนานี้ลดลงได้เอง ซึ่ง แน่นอนว่าการจะแยกขันธ์ออกไปเป็นส่วนๆนั้น จําเป็นต้องมีสมาธิเป็นพื้นฐานอยู่ด้วย
แม้ว่าในช่วงนี้จะมีเรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้น กระผมเองซึ่งเป็นปุถุชนคนหนา ย่อมจะมีความลังเลสงสัยเป็นธรรมดา แต่ใน ฐานะผู้เริ่มต้น เปรียบเสมือนคนที่เพิ่งลงเรือและออกไปกลางทะเลแล้ว ถึงแม้ว่าจะได้ยินเสียงจากเรือที่อยู่รอบด้านที่แล่น ขนาบมาด้วยกันว่าเรือที่ผมโดยสารมานั้นเป็นเรือที่กําลังจะจม เพราะมีรูรั่ว, เครื่องยนต์มีปัญหา หรือ ฯลฯ ในฐานะผู้ โดยสารที่ดี ก่อนที่กระผมจะกระโดดหนีจากเรือที่โดยสารมาก็ควรจะต้องสํารวจดูว่าจริงๆแล้วเรือที่เราโดยสารนั้นเป็นอย่าง ที่เขากล่าวว่าจริงหรือไหม แต่ที่สําคัญกว่าสิ่งอื่นใดก็คือว่า การที่ผู้โดยสารท่านอื่นที่เคยได้รับประโยชน์จากเรือลําดังกล่าว แต่เมื่อเวลาผ่านไปนั้น เขาหรือเธอเหล่านั้นเห็นว่าเรือที่เคยทําประโยชน์มาให้นั้น มีปัญหาหรือมีข้อเสียฯลฯ การที่เขาหรือ เธอเหล่านั้นจะผละหนีไปจากเรือดังกล่าวย่อมเป็นสิ่งที่สามารถกระทําได้ แต่กระผมมิใคร่เห็นด้วยถ้าเขาหรือเธอเหล่านั้น เมื่อผละหนีออกมาแล้ว จะมากล่าวร้ายหรือพูดจาส่อเสียดเรือลําเดิมที่พวกเขาเคยโดยสารมา ซึ่งกระผมเห็นว่าเป็นเรื่องที่ใช้ โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
46
ไม่ได้ เพราะเท่าที่กระผมเคยได้ยินได้ฟังประวัติครูบาอาจารย์หลายท่านนั้น ทุกท่านนั้นย่อมมีปฐมาจารย์หรืออาจารย์คน แรกที่เป็นผู้สั่งสอนท่านมา แม้ว่าปฐมาจารย์ของครูบาอาจารย์บางท่านจะสอนไม่ตรง ไม่ครบ หรือไม่ถูกต้องตามหลักการ ก็ตาม ครูบาอาจารย์เหล่านั้นท่านก็มิได้เคยกล่าวจาบจ้วงปฐมาจารย์ของท่านแม้แต่เพียงนิดเดียว หรือแม้กระทั่งองค์ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ก็มิเคยได้ทรงกล่าวตําหนิอุทกดาบส หรือ อาฬารดาบส แม้แต่น้อย ในฐานะคนที่ยังไม่เข้าใจธรรมะ ยังไม่สามารถผละความทุกข์ออกไปจากจิตจากใจได้ ยังไม่สามารถละกิเลสอย่างหยาบได้ เลย กระผมก็จะขอปฏิบัติบูชาพระคุณของหลวงพ่อต่อไป ถึงแม้ว่าสุดท้ายในชีวิตปัจจุบันนี้จะไม่สามารถเข้าใจธรรมะอย่าง ถ่องแท้ได้ก็ตาม โดยคุณสุรโชค 89. นมัสการหลวงพ่อครับ ตอนนี้ลูกตั้งใจรักษาศีล 5 ได้ เพราะหลวงพ่อครับ โดยคุณสามารถ 90. กราบนมัสการหลวงพ่อ นับแต่วันที่ได้เปิดฟังคําสอนของหลวงพ่อจากCD และตามอ่านหนังสือของหลวงพ่อทุกเล่ม ทําให้มีความหวังในชีวิตที่ เหลืออยู่ของโยม ที่เกิดมาเป็นชาวพุทธ ทําให้เข้าใจการภาวนาที่ได้พยายามมาตลอดก่อนหน้านี้แต่ไม่ก้าวหน้า และได้ใช้ คําสอนของหลวงพ่อจัดการกับความทุกข์ที่เกิดขึ้น ได้อย่างถูกวิธี มีผลทําให้ชีวิตกําลังเดินไปอย่างที่หลวงพ่อสอน ซึ่งยัง ต้องพยายามอีกมาก ขอหลวงพ่อได้โปรดเมตตาสั่งสอนปุถุชนที่ยังรอฟังธรรมจากหลวงพ่อซึ่งยังมีอยู่อีกมากมาย ขอกราบแสดงพลังด้วยหัวใจบริสุทธิ์ถวายหลวงพ่อผู้มีแต่ให้ โดยคุณ พันเอกหญิง สุธีรา 91. เคยถามตัวเองเสมอว่าชีวิตเกิดมาทําไม ต้องการอะไร ไม่มีเหตุผลอะไรที่น่าเกิด แต่หาคําตอบให้ตัวเองไม่ได้ โลกทําอย่างไร ก็ลองทําตามหมดทุกอย่าง แต่ลึก ๆ ในใจมันยังไม่รู้ว่ามีอะไรบ้างอย่างที่เรายังไม่รู้ สุดท้ายได้เจอหนังสือพระอาจารย์ รูปหนึ่งเกิดศรัทธาเข้าปฎิบัติธรรม แนวพองยุบ แต่ขึ้นวิปัสสนาไม่เป็น จนได้ ซีดี หลวงพ่อปราโมทย์ มาต่อยอดให้เดินต่อได้ สิ่งที่พบเจอระหว่างทางภาวนา คือเห็นการเกิดดับของจิต โดยไม่มีเราเข้าไปเกี่ยวข้อง จนถึงกับอุทานว่าอย่างนี้ก็มีด้วยหรือ หลวงพ่อสอนเรื่องจริง ๆ ให้เรานะ เมื่อก่อนกลัวตอนตายจะไปอบายมาก แต่ตอนนี้มั่นใจแล้วว่า จิตเป็นธรรมชาติที่ฝึกได้ ปฎิบัติเองอยู่ที่บ้าน ไม่เคยส่งการบ้านกับหลวงพ่อ ถ้าติดขัดอะไรจะสอบถามไปทางอาจารย์ สุรวัฒน์ บ้าง ตั้งปณิธานไว้ว่าต้องฟังสิ่งที่หลวงพ่อพูดให้รู้เรื่องทุกขั้นทุกตอน เพราะสังเกตุว่า ถ้าเรายัง ภาวนาไม่ถึงที่หลวงพ่อพูด จิตเขาจะข้ามการฟังไป เหมือนเขาไม่เข้าใจ แต่พอเขาเข้าใจ มัน ง่ายจริง ๆ นะ หลวงพ่อคะ สิ่งที่หลวงพ่อทําไว้ให้กับพวกเราไม่สูญเปล่า คนที่น้อมนําไปปฎิบัติเท่านั้น ถึงจะ เข้าใจสิ่งที่หลวงพ่อพูด ขอถวายการปฎิบัติเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
47
สังสารวัฎ โดยคุณ วรรณา 92. กราบมนัสการหลวงพ่อฯ ขอสรุปสิ่งที่ดิฉันรู้สึกและการได้ฟังธรรมหลวงพ่อนะค่ะ 1. หลวงพ่อสอนการปฏิบัติได้ชัดเจนมาก ทําให้รู้ว่าจะทําอะไร เพื่ออะไร ทําให้มีเป้าหมายชีวิตขึ้นมา 2. ธรรมที่หลวงพ่อสอนจากการไตร่ตรองด้วยปัญญาของตนเองแล้ว รู้สึกว่าเป็นที่สุดแล้ว มีครูบาอาจารย์ที่ดิฉันศรัทรา หลายองค์ ที่เคยฟังเทศน์ แต่พอฟังหลวงพ่อแล้ว ทําให้รู้ความจริงของชีวิตมากขึ้น เช่น เรื่องธรรมชาติของกิเลส เป็นต้น ยก ตัวอย่าง แต่ก่อนเคยไปปฏิบัติธรรมพอเกิดกิเลส คิดไม่ดีขึ้นในใจเราก็จะกลัวบาป เป็นกังวล เพราะว่าไม่มีความรู้เรื่องการดู จิต ว่าธรรมชาติของจิตเขาคิดได้เอง แต่พอฟัง CD หลวงพ่อแล้ว ก็อ๋อเป็นอย่างนี้เอง ยอมรับว่าธรรมมะหลวงพ่อทําให้พ้น โลก คือ มีความเข้าใจว่าทุกอย่างเป็นของชั่วคราวมากยิ่งขึ้น เห็นความไม่เที่ยงของใจตนเอง ไม่หลงสุข (ไม่อยาก) เวลามี ทุกข์ก็เข้าใจและยอมรับได้ง่าย 3. หลวงพ่อมีเมตตามาก เป็นพระผู้ให้อย่างที่เขียนในเวปเลย ไม่ว่าจากการสอนก็สอน (เหมือนที่หลวงพ่อเคยบอกว่าเท ย่าม) สื่อธรรมก็ล้นเหลือ ดิฉันฟังได้เป็นวันโดยไม่เบื่อเลยเจ้าค่ะ ถึงแม้จะเป็นเรื่องเดิมก็ตาม แต่ฟังทุกครั้งก็ได้ธรรมมะและ ข้อคิดใหม่ ๆ ขึ้นมาเรื่อย ๆ หรือย้ําเรื่องเดิมที่เราอาจลืมหรือยังไม่เข้าใจมากพอ 4. ดิฉันไม่เคยส่งการบ้านหรือสอบถามเรื่องการปฏิบัติกับหลวงพ่อเลย ฟังแต่ CD และได้ไปกราบที่ศาลาลุงชิน คิดว่าคงมี โอกาสได้ส่งการบ้านในไม่ช้านี้ แต่ Cd หลวงพ่อก็สอนไว้ชัดแล้ว ทั้งวิธีการและปัญหาต่าง ๆ ถือว่าครั้งนี้เป็นการส่งการบ้าน ครั้งแรกนะคะ 5. ตอนแรกที่ได้รับข่าวเกี่ยวกับมีคนว่าหลวงพ่อในทางไม่ดี ก็ไม่ให้ความสนใจมาก ยังไม่รู้ทุกประเด็นที่เขาว่าไม่ได้อ่าน เพราะเชื่อมั่นหลวงพ่อจากสิ่งต่าง ๆ จากการปฏิบัติของหลวงพ่อ การสอนของหวงพ่อ จากการไต่ตรองในสิ่งที่หลวงพ่อสอน สิ่งที่หลวงพ่อปฏิบัติ / แต่ตอนนี้ก็มีเรื่องเกิดขึ้นมาอีกแล้ว รู้สึกเป็นห่วงพ่อเหมือนกัน แต่ลูกศิษย์ยังรักและศรัทราในหลวง พ่อเหมือนเดิมและจะปฏิบัติตามที่หลวงพ่อสอน (หลวงพ่อเอาธรรมของพระพุทธเจ้ามาสอน) ธรรมะที่ทําให้ทุกข์น้อยลง ธรรมะที่ทําให้เข้าใจความจริงของชีวิต ตลอดไปจนกว่าจะพ้นทุกข์ถึงนิพพานค่ะ ดิฉันมีความยินดีมากที่จะเขียนข้อความข้างต้น และขอให้หลวงพ่อผ่านพ้นเรื่องราวต่าง ๆ ไปได้ด้วยดี ไม่น่ามีเรื่องแบบนี้ ขึ้นมาเลยมันมีผลกระทบต่อชนหมู่มาก ที่เป็นลูกศิษย์ และคนอื่น ๆ ที่จะได้รับฟังธรรมเพื่อการปฏิบัติให้พ้นทุกข์ อย่างไร ก็ตามขอยกเอาข้อความในเวปว่า ด้วยการแสดงหัวใจบริสุทธิ์ ที่เชื่อมั่นและศรัทธาในคุณงามความดีและความบริสุทธิ์ของ หลวงพ่อปราโมทย์ ขอให้หลวงพ่อบริสุทธิ์จากข้อกล่าวหาต่าง ๆ ในเร็ว ๆ นี้ด้วยเทอญ โดย คุณ พรศิริ
โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
48
93. ขอบคุณหลวงพ่อที่ทําให้ รู้สึกตัว ได้บ่อยขึ้นครับ เพราะแค่รู้สึกตัว บ่อยขึ้น โอกาสทําผิดก็น้อยลง -ไม่เคยได้ยินจากท่านว่า ต้องบริจาคเท่านั้น เท่านี้ แล้วจะเป็นสุข ไม่เคยได้ยินจากท่านว่า ต้องมาหาจึงจะพบธรรม ได้ยินว่า ฟังซีดีก็ได้ ไม่ต้องมาหา -ฝากบอกคุณดังตฤน ว่าเป็นกําลังใจให้คุณดังตฤนด้วยครับ -โดยคุณ เอกชัย 94. ขอมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นค่ะ รู้สึกขอบพระคุณกับความเมตตากรุณาของหลวงพ่อที่กรุณาเทศสั่งสอนโดยตรง คําสอนของท่านช่วยในการเจริญสติ และเข้าใจกิเลศในใจตัวเองมากขึ้น และทําให้มั่นใจว่าสักวันคงพ้นจากกิเลศตัณหาได้ ส่วนตัวไม่เคยมีความสงสัยในตัว หลวงพ่อเลยค่ะ ไม่ว่าจะเกิดคําติฉินนินทาใดๆจากกลุ่มคนไหนๆ ก็ไม่สามารถทําลายความศรัทธาลงไปได้ ทั้งปัจจุบันและ นาคต ถึงแม้จะมีโอกาสไปกราบท่านเพียงไม่กี่ครั้ง แต่ก็มั่นใจว่า ท่านคืออริยสงฆ์เจ้าสาวกของพระพุทธเจ้าอย่างแท้จริง โดย คุณสุพรทิพย์ 95. สุขก็รู้ ทุกข์ก็รู้ วนเวียนอยู่อย่างนี้ก็ทุกข์ล้วน ๆ โดยคุณ คณพร 96. Last year,on Dec 12.first time that i met him(luangpor)who makes me change my life by his advice that from Buddha taught!! Now!i can living in this world with a happy mind although i have problem or suffers but no have myself to be suffer now and forever. (with love/Pra Pathompong Piyavanno(Tongpatchote)~j~) โดยพระปฐมพงษ์ 97. เชื่อมั่นในคุณงาม ความดีของหลวงพ่อปราโมทย์ค่ะ เหมือนได้พบแสงสว่างและพบทางที่ปลอดภัย ขณะที่กําลังมืดมิดหลงอยู่ในทางที่อันตราย รู้สึกไม่เสียชาติ ที่ได้เกิดมาในคราวนี้ ขอบพระคุณเหลือเกินค่ะ โดย คุณ สายหม่อน 98. เคยมีคนบอกว่าคนที่ไปวัด คือคนแก่ คนที่มีความทุกข์ไปเผื่อหาที่พึ่งทางใจ! ผมตั้งแต่เด็กๆได้มีโอกาสไปวัดต่างๆ ที่ดังๆทั้งพระสงฆ์ที่มีชื่อเสียงแล้วก็วัดที่มีชื่อเสียง ไปมาหลายๆวัด ทุกๆวัดจะเหมือนกันคือ คนที่ไปวัด แต่ละคนที่ไปวัดมักจะมีจุดมุ่งหมายที่ต่างกัน ต่างกันยังไง คือต่างกันที่แต่ละคนที่เข้ามาจะต้องการผลประโยคของตัวเองเป็นใหญ่ จิตใจที่ไปวัด ตามที่รู้สึกตอนเด็กนั้นแต่ละคนโลภมากทั้งนั้น มาทําบุญเพราะอยากได้บุญทําบุญเอาหน้า ทอดกฐินที่ก็ต้องให้ได้หน้าที่สุด ทําบุญเท่านี้อยากได้เป็นที่รู้จัก สร้างอํานาจให้ ว่าฉันนี้ลูกศิษย์ใกล้ชิดพระ จะเข้าหาพระที่ต้องผ่านเค้า ผ่านฉัน สิ่งพวกนี้ ทําให้ผมรู้สึกว่าไม่ชอบวัดที่มีชื่อเสียง ไม่ชอบพระ แต่ที่สวนสันติธรรมนี้ การจัดการต่างจากที่อื่น พอไปรู้สึกว่าแต่ละคน มาเพื่อไร งง มาทําไม (ครั้งแรกที่ไป) คนมาทําบุญ ก็อิ่มบุญกันกลับไปโดยที่ว่า ไม่ต้องค่อยแก้งแย้งว่า ฉันจะได้หน้าแบบนั้นแบบนี้ และคําสอนที่หลวงพ่อเคยสอนไว้ว่า คนที่จะใกล้ชิดหลวงพ่อนั้นคือคนที่เข้าใจวิธีปฏิบัติ โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
49
ไม่ใช่แค่ฟังมา เล่ามาแล้วจะใกล้ชิด คนที่ปฏิบัติจริงเท่านั้น (ก็ต้องแยกอีกว่าที่เข้าใจจริงๆ ไม่ใช่คิดเอาเองว่าเข้าใจ) คําสอนนี้ให้ผมมองวัด มองพระสงฆ์ ต่างจากที่เป็นมาแต่เด็กๆๆ จริงๆแล้วพระสงฆ์ วัด ก็อยู่แบบนั้นอ่ะแต่ว่าคนที่ไปต่างห่างที่ต่าง คนที่ไปวัดทําให้วัดนี้ดู ต่างจากวัดอื่นๆ สิ่งที่สนใจต่างจากคนทั่วๆไป ผมงงกลับสิ่งที่เค้ามาวัดกัน มาเพื่อส่งการบ้าน การบ้านคือไร ทําไมวัดนี้มีการบ้าน นั้งฟังไปจบจน วันนั้น กลับมาด้วยความงงครับ ว่าเค้ามาวัดกันทําไม(ได้ซีดีกับหนังสือกลับมา) หลังจากฟัง CD บ่อยๆเรื่อยๆ สิ่งที่ได้คือเรื่องคิดไม่ถึงว่าเราจะรู้สึก การบ้านที่คนอื่นๆส่ง ทําไมเราถึงไปรู้สึกตรงกับเค้า สิ่งต่างๆที่เกิด ทําให้รู้ว่าการที่เราปฏิบัติ ตาม CD ผิดบ้างถูกบ้าง (ต้องไปส่งการบ้านถึงรู้) สิ่งพวกนั้นสอนเราอยู่ สอนให้เรารู้จัก สิ่งที่เราไม่รู้ พิมพ์ไปก็เริ่มฟุ้ง ที่ ผมประทับใจหลวงพ่อมากครับ ท่านเมตตาสอนคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยแบบผม ให้เป็นคนที่ดีได้ รู้เรื่องปฏิบัติครับ มองวัด พระสงฆ์ ในอีกมุมมองที่ไม่เคยคิด ตอนนี้ผมมีความสุขกับการปฎิบัติธรรม ไม่ว่าอยู่ที่ไหน ก็ตาม กราบขอบพระคุณหลวงพ่อมากครับ โดยคุณเฉลิมชัย
99. ผมขอนับตัวเอง เป็น ลูกศิษย์ ของหลวงพ่อด้วยอีกคนหนึ่ง ถึงแม้จะไม่เคยได้พบเจอกับหลวงพ่อเลยก็ตาม แต่ก็ติดตาม และฟังซีดีธรรม ที่หลวงพ่อเมตตา สั่งสอนมาโดยตลอด ทุกวันนี้ ก็ฝึกปฏิบัติตามที่หลวงพ่อสั่งสอนเป็นประจํา ขอส่งกําลังใจแด่หลวงพ่อ ขอให้สิ่งไม่ดีทั้งหลายผ่านพ้นไปด้วยดี เฉกเช่นที่เป็นมาเสมอ ธรรมสวัสดี โดยคุณ กวิน โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
50
100. เคยได้ยินคําสอนที่ให้ทําทาน ถือศีลแล้วก็ภาวนา รู้สึกว่า ทานกับศีลเนี่ย เราพอทําไหว แต่จะให้ภาวนาสงสัยจะไม่ ไหว ดูเป็นเรื่องที่ยากเกินไปสําหรับเรา ก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้จักการภาวนา แล้วก็เข้าใจมาโดยตลอดว่าเป็นเรื่องของการนุ่งขาวห่มขาว หลับตานั่งสมาธิ เดินจงกรมทั้งวันทั้งคืน เลยไม่คิดจะสนใจ จนวันนึงเพื่อนให้ซีดีของหลวงพ่อปราโมทย์มา ได้มาพบกับแนวทางการเจริญ สติในชีวิตประจําวันของหลวงพ่อ ทําให้เริ่มสนใจการภาวนามากขึ้น เพราะไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีวิธีการภาวนาที่ฟังเข้าใจง่าย แบบนี้ด้วย รู้สึกเริ่มมีความหวัง ชีวิตมีเป้าหมายที่ชัดเจน รู้สึกว่าการภาวนาไม่ได้ยากอย่างที่เราคิด ผ่านมา 3 ปี การภาวนาของตัวเองอาจจะไม่ได้ก้าวหนาอะไรมากมายนัก (เพราะยังปฏิบัติธรรมไม่สมควรแก่ ธรรม ไม่ใช่ท่านสอนไม่ดีนะคะ) แต่มองอีกทีพบว่าชีวิตประจําวันเปลี่ยนไปมาก จากที่ก่อนหน้านี้นอนดึกตื่นสาย ไม่ได้สวด มนต์ไหว้พระ ไม่ค่อยทําบุญ นานๆไปวัดที ชอบช้อปปิ้ง นอนดูทีวีเล่นอะไรเรื่อยเปื่อยไปตามเรื่อง ปัจจุบัน ตื่นเช้ามาเดิน จงกรมทุกเช้า (กําลังจะเพิ่มช่วงเย็น) สวดมนต์ทุกคืน ใส่บาตรทุกสัปดาห์ อยู่บ้านก็เจริญสติไป ดูทีวีน้อยลง อยู่กับตัวเอง มากขึ้น ไปวัดทุกเดือน (บางเดือนไปหลายครั้ง) และอื่นๆอีกมากมาย มีคนทักเยอะมากว่าหน้าตาผ่องใส สดใสขึ้น ส่วนคุณ แม่ที่แม้ว่าอาจจะไม่ได้ภาวนา (ปกติจะพาแม่ไปสวนสันติธรรมด้วยอยู่บ่อยๆ) ท่านก็เปลี่ยนไปเช่นกันค่ะ ทั้งหมดนี้ เป็นไป เพราะคําสอนของหลวงพ่อปราโมทย์ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับท่าน ตัวเราเองก็ไม่สามารถล่วงรู้ข้อเท็จจริงได้ ว่าอะไรเป็นอะไร แต่ 3 ปีที่ผ่านมาสําหรับ ตัวเอง เท่าที่ได้สัมผัส ไม่เคยพบเลยว่าท่านจะเรียกร้องอะไรจากพวกเรา นอกจากให้ขยันภาวนา ท่านเคยมาเทศน์ที่โรง พยาบาลที่เราทํางานอยู ่ พี่คนจัดบอกว่าเงินบริจาคทั้งหมดที่ถวายให้ท่านๆก็ไม่รับ บอกว่ายกให้ผู้ป่วยทั้งหมด หนังสือท่าน ก็เอามาแจกให้ฟรีๆ ถ้าถามว่าตอนนี้ยังศรัทธา เคารพเลื่อมใสท่านอยู่หรือไม่ ตอบโดยแทบไม่ต้องคิดเลยค่ะ ว่ายังเคารพเทิดทูน บูชาท่านอยู่ แล้วก็ยังภาวนาตามที่ท่านสอนอยู่ทุกวัน ไม่รู้จะตอบแทนบุญคุณท่านอย่างไรเหมือนกันนอกจากขยันภาวนา บอกได้เลยว่าถ้าไม่มีหลวงพ่อปราโมทย์ ชีวิตนี้ก็คงจะไม่ได้ภาวนาค่ะ โดย คุณพรศริน 101. ผมได้มีโอกาสฟังธรรมจากหลวงพ่อปราโมทย์ เมื่อประมาณ 4 ปีที่แล้ว สมัยนั้นผมยังเป็นนิสิตอยู่ ตั้งแต่วันนั้นถึงวันนี้ ผมก็ฟังและศึกษาคําสอนของหลวงพ่อเรื่อยมา ทั้งจากฟัง CD อ่านหนังสือ อ่านจากที่หลวงพ่อเคยตอบกระทู้ต่างๆ(สมัย หลวงพ่อเป็นฆราวาส) หลังจากฝึกตามแนวทางที่หลวงพ่อสอน คือการฝึกเจริญสติด้วยความรู้สึกตัว ในชีวิตประจําวัน รวมถึงทําตามรูปแบบ (นั่ง สมาธิ เดินจงกรม สวดมนต์) ชีวิตผมก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก เมื่อก่อนผมเป็นคนชอบคิดซ้ํา ทั้งอดีตที่ผ่านไปแล้ว กังวล กับอนาคตที่ยังมาไม่ถึง เมื่อฝึกตามวิธีที่หลวงพ่อสอน ให้มีสติรู้สึกตัว กลับมาอยู่กับปัจจุบัน ความทุกข์ทางใจก็สั้นลงๆ จาก ทุกข์แรงๆ ก็เบาลง ชีวิตสบายขึ้น ผมรู้สึกว่าตัวเองมีสมาธิมากขึ้น รวมถึงทํางานได้งานที่มีคุณภาพที่ดีกว่าแต่ก่อน เริ่มเห็น ได้เองว่า ที่เราทุกข์มากๆ เพราะเราชอบไปยึดกับความคิด ชอบสมมติเหตุการณ์เองในหัว อยากได้นั่นได้นี่ แล้วไม่รู้ทัน เหมือนโดนความคิดตัวเองหลอก มันเป็นแค่ความคิดไม่ใช่ความจริงซักหน่อย เราไปบังคับความคิดอะไรไม่ได้ ความคิดมัน ก็คิดของมันขึ้นมาเอง แล้วเดี๋ยวก็หายไปเอง ถ้าเรารู้ทันมีสติในขณะนั้น ความคิดนั้นก็จะมาทําร้ายเราไม่ได้ หรือให้ความ ทุกข์ทางใจแก่เราไม่ได้ ความคิดไม่ใช่เรา หลวงพ่อเคยสอนว่า ความทุกข์ทางใจมันจะเกิดได้ตอนที่เราขาดสตินี่แหละ ถ้า เรามีสติรู้สึกตัวอยู่ ทุกข์ทางใจเกิดขึ้นไม่ได้เลย ผมได้นํา CD ของหลวงพ่อให้คุณแม่ฟังด้วยครับ คุณแม่ก็นําไปฝึก และอารมณ์โกรธก็เบาบางลง จัดการกับสิ่งต่างๆได้ดี มากขึ้น นอกจากนั้นผมก็ให้ CD แก่ญาติหลายๆคนครับ ทั้งอากู๋ อาอี๊ ต่างๆ ทั้งหมดก็มีความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ครับ ช่วงนี้แม้จะมีข่าวออกมามากมาย แต่ผมก็ยังศรัทธาหลวงพ่อเหมือนเดิมครับ เพราะว่าปฏิบัติแล้ว เห็นผลได้ด้วยตัวเอง คํา สอนของหลวงพ่อก็มาจากคําสอนของพระพุทธเจ้า รวมถึงเหมือนกับครูบาอาจารย์ทั้งหลาย ก็เป็นเนื้อหาเดียวกันหมด มุ่ง ไปสู่ที่เดียวกันหมด เพียงแต่สํานวน และคําพูดอาจแตกต่างกันไปบ้าง วิธีการสอนที่แตกต่างไม่เหมือนครูบาอาจารย์รุ่น ก่อนๆ นี่เองที่อาจทําให้หลายคนที่อ่านเพียงอย่างเดียว ไม่นําไปปฏิบัติ อาจเข้าใจผิดได้ครับ ขอปฏิบัติธรรมต่อไปไม่หยุดครับ เพื่อที่สุดแห่งทุกข์ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา ถวายแด่หลวงพ่อ ปราโมทย์ครับ โดยคุณศรัณ โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
51
102. เนื่องจากทราบข่าวของหลวงพ่อที่ถูกกล่าวหาทางหน้าหนังสือพิมพ์และสื่อต่างๆ ดิฉัน นางสาวกันยารัตน์ ลัดดาพงศ์ ขอยืนยันว่าหลวงพ่อปราโมทย์เป็นพระที่ปฎิบัติดี ปฎิบัติชอบรูปหนึ่ง สิ่งที่เป็นหลักฐานหรือข้อพิสูจน์คือ หลังจากที่ ดิฉันได้ฟังธรรมที่หลวงพ่อแสดงแล้วน้าไปปฎิบัติ ทําให้ชีวิตมีความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นมาก ชีวิตมีความสุข และความสงบมากขึ้น ศีลที่เคยบกพร่องหรือคุณความดีใดๆที่ไม่เคยทําหรือไม่สมบูรณ์ ก็มีสติที่จะพัฒนาตนเองให้คิด พูด ทําในสิ่งดี ในทางที่ดีทั้งต่อตนเองและผู้อื่นมากขึ้น มีความสงบสุขในครอบครัวมากขึ้น สิ่งเหล่านี้สามารถประจักษ์ ได้กับตนเองและคนรอบข้าง ที่สุดแล้วธรรมะที่ท่านถ่ายทอดให้พวกเราเป็นสิ่งที่ท่านประจักษ์ได้จากการปฎิบัติ ไม่ใช่ การท่องจําหรืออวดอ้างแต่อย่างใด อนึ่ง หากผู้ที่ยังไม่เคยได้ฟังหรือศึกษา ควรลองศึกษาธรรมะที่ท่านสอนเพื่อ เป็นการพิสูจน์ด้วยตนเองตามหลักกาลามสูตรที่พระพุทธเจ้าทรงสอนไว้ โดย คุณ กัญญรัตน์
103. ถ้าไม่มีคําสอนของหลวงพ่อ ผมจะรู้จักคําสอน ของพระอาจารย์วัดป่าได้อย่างไร ถ้าไม่มีคําสอนของหลวงพ่อ ผมจะรู้จัก การดูจิตม้ย ถ้าไม่มีคําสอนของหลวงพ่อ ผมจะรู้จักใจตนเองมั้ย ขอเป็นกําลังใจให้หลวงพ่อครับ โดยคุณ พลวัฒน์ 104. ขอร่วมแบ่งปันสิ่งที่ได้จากการได้พบหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโชค่ะ เนื่องจากการปฎิบัติ มันไม่สามารถกล่าวเป็นบัญญัติได้ง่ายๆ ขอเลือกเล่าเรื่องที่เข้าใจง่ายๆ แล้วกันค่ะ ก่อนหน้าที่จะเจอหลวงพ่อ เรารู้สึกว่า ต้องการค้นหาอะไรสักอย่าง แต่ไม่รู้ว่าคืออะไร ไล่ค้นหาพบหมอดูไปจํานวนมาก รู้สึก กระวนกระวาย ว่าต้องค้นหาอะไร สิ่งที่คิดอยู่อย่างเดียวคือ “อิทธิฤทธิ์ปาฎิหารย์ไม่ใช่สําหรับเรา” และพบกับหมอดูท่านหนึ่งคือ หมอพีร์ ซึ่งเราไม่ได้คุยเรื่อง ดวงอะไรเลย แต่คุยกันเรื่องแนวทางธรรมะ หมอพีร์ แนะนําให้ไปหาหลวงพ่อปราโมทย์ หรือจะไปพร้อมกับเธอก็ได้หากต้องการไปกราบหลวงพ่อมนตรี (ซึ่งเธอไปหา เดือนละครั้ง) เราลองไปกราบหลวงพ่อปราโมทย์ก่อน พร้อมเพื่อน โดยนั่งแถวหลัง ครั้งแรกที่ไปก็งงกับทุกอย่างทุกคําเทศน์ (ในชีวิตก่อน หน้านี้ ไม่เคยพบเจอหรือคุยกับพระท่านใดเลย หลวงพ่อคือพระองค์แรกที่ฟังเทศน์และคุยด้วย) คําหนึ่งที่ท่านเทศน์ว่า “ให้ โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
52
รู้สึก” เรากับเพื่อนๆ ก็มาถามท่านหนึ่ง (ทราบภายหลังคือคุณตง) ว่า รู้สึกคืออะไร คุณตงก็มองหน้าพวกเราและแตะแขน เพื่อนและไม่พูดอะไร พวกเราถึงกับอึ้งและงง แต่ความรุ้สึกบอกว่า ท่านคือทางที่เราค้นหา (เลยไม่ได้ไปหาหลวงพ่อมนตรี ตามที่ได้ตั้งใจไว้ตอนแรก) หลังจากนั้น ก็ฟังซีดีหลวงพ่อไปเรื่อยๆ เปิดฟังแบบคลอ แก้ความเงียบ แค่ดูว่า โกรธให้รู้ว่าโกรธ เพราะเพื่อนเรา (ลูกน้อง) มีปัญหาการฟัง ทําให้การสั่งงาน หรือแม้แต่การพูดคุย จะมีปัญหา ยิ่งเวลางานเร่ง บวกกับเราเป็นคนขี้โมโห ใจร้อน เจอคน ช้า แถมหูไม่ดี ต้องพูดซ้ําบ่อยๆ ทําให้ปริ๊ดแตก โวยวายเสียงดังบ่อยๆ จนคนรอบข้างกลัว (คงเกลียดเรา) จําได้ว่า ช่วงนั้น มีแต่คําว่า โกรธให้รู้ว่าโกรธตลอด เป็นแบบนี้ อยู่นาน เปลี่ยนแปลงไหมเราไม่รู้ตัว รู้แต่ว่า คนรอบข้าง บอกว่า ทําไมเดี่ยวนี้ ไม่ตําหนิลูกน้องรุนแรง ดูใจเย็นขึ้น และยิ้มบ่อยขึ้น แม้แต่ลูกน้องเอง หรือ คนที่บ้านก็ทักเช่นกัน เวลา มีคนแรงมา เราจะเย็นกลับ ทําให้ไม่เถียงกันยาว จบเร็ว แปลกมาก และพบว่า การมีสติทําให้เราไม่คิดมาก หรือจมกับ ปัญหาต่างๆ ตัดปัญหาที่คิดฟุ้งออกจากใจได้มากขึ้น ไม่คิดฟุ้งไปว่าคนโน้นคนนี้จะชอบเราไหม หรือเกลียดเราเวลาทําแบบ นี้เหมือนแต่ก่อน ที่สําคัญคือ เรามองว่าการสอนของหลวงพ่อท่านตีอัตตา (อีโก้) แตกกระจาย ซึ่งสิ่งนี้ ท่านค่อนข้างเสี่ยงเช่นกัน ที่เจอกับตัว คือ จากการที่เราประสพผลสําเร็จในชีวิตมาตลอด เรียนดี ทํางานดี จึงอีโก้สูงมาก และเมื่อมาปฎิบัติ พบว่า เห็นโกรธ ความ โกรธก็ดับ ทําให้รุ้สึกว่า ปฎิบัติเก่งๆๆ ตลอด แต่มาฟังธรรมหลวงพ่อท่านทักท่านอื่นเรื่องใดจําไม่ได้ที่เหมือนกับเรา แต่ ทําให้ เรารู้สึกไปเหมือนว่า ท่านว่าเรา (แต่ท่านพุดกับท่านอื่นที่ส่งการบ้านอยุ่) เรารู้สึกชามาก และพาลโกรธท่าน ที่ไม่เห็น ว่า เราปฎิบัติเก่ง อาการนี้ เป็นอยู่สองสามวัน และพบว่า ต่อมาจิตสลดลง จากที่เคยพองฟูกูเก่ง และพบว่า หลังจากนั้น พบ ว่าเราไม่ได้ทําตัวเป็นชาล้นถ้วยกูเก่งเหมือนแต่ก่อน และพบว่า พอไม่มีอีโก้แล้ว ธรรมะที่ท่านเทศน์เรากลับเข้าใจซาบซึ้ง ถึงใจมากขึ้น เปิดใจรับมากขึ้น กรณีนี้ เราว่าหลวงพ่อท่านเมตตามากที่ตีอีโก้เราทําให้เรารู้ตัว ท่านจะไม่ตีอัตตาก็ได้ ปล่อยทิ้งลูกศิษย์โง่ๆ ทําตัวเก่ง ชาล้น ถ้วยไปตามทางก็ได้ มาเสี่ยงโดนมันลุกขึ้นเตะทําไม (เคยได้ยินท่านเทศน์เหมือนกัน ว่า จะบอกอะไร ต้องสังเกตุลูกศิษย์ ก่อนว่า จะลุกขึ้นเตะเราหรือไม่ เราเข้าใจเลย ตอนโดนนั้น มันโกรธหน้าชามาก) ซึ่งหากเทียบกับกรณีที่ท่านสอนลูกศิษย์ท่านอื่นๆ ที่มีต้นทุนทางสังคมสูงกว่าเรา เป็นนักปฎิบัติที่ได้รับการนับหน้าถือตาจาก สังคม ว่า ปฎิบัติเก่ง แต่มาเจอการบอกกล่าวตรงๆ จากหลวงพ่อแล้ว คงจะโกรธมากกว่าเราเยอะ เราจึงไม่แปลกใจและ เข้าใจบุคคลที่คิดร้ายต่อหลวงพ่อบางท่านดี ว่าบางท่านก็คงผิดหวังจากการคาดหวังว่า จะได้รับคําชมจากการปฎิบัติจาก หลวงพ่อเหมือนเรา แต่เมื่อไม่ได้รับคงผิดหวังมาก ซึ่งน่าเสียดายแทนพวกเค้ามาก ที่มองไม่ทันโทสะที่เกิดขึ้น ณ ตอนนั้น ปล่อยให้พอกเป็นความเคียดแค้น ทําให้พลาดโอกาสที่จะได้รับสิ่งดีๆ ในชีวิต สําหรับเราแล้ว พบว่าพอคนเราลดอีโก้แล้ว เราจะรับฟังและเข้าใจคนรอบข้างมากขึ้น แม้แต่คนที่คิดไม่ดีกับเรา และเมตตา คนรอบข้างมากขึ้น กล้ายอมรับผิดกล่าวคําว่าขอโทษจากใจได้ง่ายขึ้น การเกลียดหรือนินทาผู้อื่นจะน้อยลง เพราะเข้าใจ มากขึ้น สําหรับเรา การได้พบหลวงพ่อทําให้เราเข้าใจธรรมะ (อภิธรรม) มากขึ้น จากเดิม ขันธ์ 5 นิวรณ์ อุปาทาน ฯลฯ คืออะไรไม่รู้ แต่พอมาปฎิบัติ แล้วเข้าใจซาบซึ้งถึงใจมากขึ้น เวลาอ่านธรรมะที่เขียนโดยครูบาอาจารย์ท่านอื่น ก็เข้าใจมากขึ้น และไม่รู้ สึกแตกต่างจากสิ่งที่หลวงพ่อท่านได้สอนเลยแม้แต่น้อย ต่อยอดกันได้ดีทีเดียว อิทธิฤทธิ์ปาฎิหารย์ต่างๆ ที่ผู้อื่นโจมตีนั้น เราว่า เป็นธรรมดา ผลจากสมาธินั้น ก็มีพลังงานที่ทําให้อิทธิฤทธิ์ปาฎิหารย์เกิด ขึ้น เป็นปกติอยู่แล้ว แต่ทุกสิ่งที่หลวงพ่อท่านนํามาอ้างนั้น ในพระไตรปิฎกมีตลอด เราอ่านประวัติพระพุทธเจ้าหรือพระ สาวกก็พบตามที่หลวงพ่อท่านเทศน์ตลอด (หากมองกันแฟร์ๆ ในพระไตรปิฏกก็กล่าวอ้างถึงเรื่องเหลือเชื่อค่อนข้างเยอะ เช่นกรณี เหาะได้ เพียงแต่พระพุทธเจ้าท่านไม่สนับสนุนให้แสดงออกไม่จําเป็นมากกว่า ) เราไม่รู้ว่าจะบรรยายความเมตตาของหลวงพ่อได้อย่างไรหมด เขียนก็ไม่เก่ง แต่สิ่งที่เรามั่นใจว่าท่านสอนได้ถูกต้องตามพ ระธรรมของพระพุทธเจ้าคือ เรามั่นใจว่า เมื่อเทียบวันนี้ กับ ณ วันที่ 28 ตุลาคม 2550 ที่เราได้พบท่านครั้งแรก เราละความ ยึดมั่นถือมั่นได้มากขึ้น ปล่อยวางความทุกข์ได้มากขึ้น เห็นความเป็นสมมติของโลกได้มากขึ้น ในกรณีร้ายๆ ดังกล่าวที่เกิดขึ้นนั้น จิตรู้สึกสงสารท่านเหล่านั้นที่คิดร้ายหลวงพ่อ ทุกวันนี้คงทุกข์เพราะความเคียดแค้น แต่ก็ ขอขอบคุณพวกเค้า ที่เป็นบททดสอบสําคัญที่ทําให้เราและผู้ปฎิบัติทั้งหลายเข้าใจเรื่องศรัทธาและกาลามสูตรมากขึ้นค่ะ ขอ โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
53
ให้บุญกุศลช่วยดลใจให้ผู้คิดร้ายเปลี่ยนใจด้วยเทอญ สุดท้ายนี้ ลูกกราบขอขอบพระคุณในเมตตาของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช และขอตั้งใจปฎิบัติถวายเป็นพุทธบูชา ธรรม บูชา สังฆบูชา และอาจาริยบูชา และขอให้ธาตุขันธ์ครูบาอาจารย์แข็งแรงด้วยเทอญ โดย คุณ ภรณี
105. ความประทับใจเฉพาะตัว พบหลวงพ่อตั้งแต่สมัยยังเป็นฆราวาส ขอเรียนธรรมะด้วยครั้งแรกหลวงพ่อสอนอยู่นาน แต่เด็กโง่ก็ไม่เข้าใจ สอนตั้งแต่สายๆจนเที่ยง แล้วยังเลี้ยงข้าวเที่ยง เสร็จแล้วก่อนกลับก็หอบเอาหนังสือกองโตมาให้ หลวงพ่อให้อะไรมากมายโดยไม่เคยหวังสิ่งตอบแทน ความประทับใจในธรรมะที่หลวงพ่อสอน แต่ก่อนเคยสงสัยในหลักการปฏิบัติว่าปฏิบัติแล้วได้อะไร ปฏิบัติแล้วบรรลุมรรคผลได้อย่างไร อ่านหรือฟังธรรมะที่ไหนก็ไม่เคยหายข้องใจ หลังจากได้ฟังธรรมะที่หลวงพ่อสอน แม้ยังปฏิบัติได้ไม่ถึงไหน ก็เริ่มเข้าใจขึ้นเป็นลําดับ เพราะธรรมะที่หลวงพ่อสอนเป็นเหตุเป็นผล อธิบายทุกอย่างว่าทําแบบไหนได้ผลแบบไหนเพราะอะไร เพราะธรรมะของหลวงพ่อให้ทําให้รู้สึกมั่นใจในพุทธศาสนา ว่าเป็นศาสนาที่สอนเรื่องการพ้นทุกข์อย่างแท้จริง _/|\_ โดย คุณจักสิทธิ์ 106. ผมมีบุญมากที่ได้มีโอกาสเจอพระแท้ อย่างหลวงพ่อปราโมทย์ แม้ผมไม่เคยได้มีโอกาสไปกราบท่าน แต่ได้ติดตาม และดาวน์โหลด คําสอนของท่านจากอินเตอร์เน็ต และเพียรปฏิบัติตามแนวทางคําสอนของท่านเรื่อยมา ความเมตตาของ หลวงพ่อนี้หาใดเปรียบมิได้ จึงขอกราบให้กําลังใจหลวงพ่อมา ณ ที่นี้ด้วยครับ โดยคุณ ณัฐดนัย โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
54
107. คําสอนของหลวงพ่อ มีผลเปลี่ยนแปลงชีวิตอย่างมาก เมื่อก่อนเคยเป็นคนที่คิดว่าตัวเอง ก็เป็นคนดี พอโตขึ้น พบโลกมากขึ้น ก็เปลี่ยนตัวเองเป็นคนเลว พูดจาไม่ดี ห้วน หงุดหงิด ง่ายมาก ไปทุกเรื่อง โกรธอะไรต่อมิอะไรก็ง่ายมาก พอเป็นคนโทสะเเรงหลายๆปี ก็ชักรู้ตัวว่าเวลาโกรธมันแน่น ไม่สบาย แต่ก็ไม่รู้จะแก้ยังไง เรื่องทางธรรม ก็ไปมาหลายแห่ง แต่ละที่รู้สึกว่าไม่ถูกจริต เพราะเป็นคนฟุ้งซ่านมาก ตั้งแต่เด็กๆ เวลานั่งสมาธิเพียงห้านาที ก็รู้ว่าฟุ้งไปเป็นร้อยเรื่อง แต่ก็ไม่รู้ว่าจะทํายังไง ก็ได้แต่ นั่งสมาธิแล้วหงุดหงิดมากขึ้น รู้สึกเลยว่า แม้ไปมาหลายแห่ง แต่ยัง ไม่พบทางที่เดินไปสู่นิพพานที่ปรารถนามาตั้งแต่เด็ก สิ้นหวังจริงๆ แต่พอพบหลวงพ่อปราโมทย์ เริ่มมีสติเกิดขึ้นจริงๆ ก็เห็นเลยว่า จิตมันเกิดดับได้จริงๆ จนเห็นมากขึ้นเรื่อยๆว่า จิตมันคิด ของมันเอง และก็รู้ว่า ทําไมเราอ่านหนังสือธรรมะ เราก็รู้ว่า อะไร ๆ มันก็ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา แต่เราถึงไม่บรรลุธรรมซักที เพิ่งรู้ว่า จิตมันไม่ยอมรับ เราได้แต่คิดเท่านั้น เเต่ไม่เห็นตามจริง เปลี่ยนแปลงไปมากค่ะ ตอนแรกก็รู้แค่ว่า เกิดดับ แต่พอรู้ทันมากขึ้น โดยเฉพาะโทสะ พอรู้ทันมันบ่อย อยู่ดีๆ มันก็ไม่มีโท สะเเรงๆ ไปเอง เหมือนจิตมันเรียนรู้แล้ว ก็มีแต่โทสะแบบไม่แรง จากที่เคยเป็นคนโกรธง่าย หงุดหงิดง่าย นิสัยไม่ดี เลว ก็ เปลี่ยนแปลงไป จนเพื่อนๆก็ทัก พูดจากับคนอื่นๆดีขึ้น จนใครๆก็ชมว่า เป็นคนใจดี พูดจาดี และไม่รู้สึกแน่นเวลาโกรธ ความทุกข์ที่เคยมี ก็สั้นลง เมื่อไหร่มีสติ เห็นมันดับ ความทุกข์มันก็หายไป กลายเป็นคนมีความสุขขึ้น ยิ้มง่าย อารมณ์ดี คิดว่ามันคงเปลี่ยนแปลงหน้าตาด้วย เพราะแม้ว่าจะอายุเกินสามสิบแล้ว ก็ ชอบมีคนชมว่าหน้าใส ( ไม่ได้แต่งหน้า ) ( แต่พอมีความสุข รู้ไม่ค่อยทัน ดีใจไปซะนาน กว่าจะรู้ตัวว่าดีใจ ) และที่สําคัญ รู้เลยว่า ทางเดินทางนี้แหละ ที่จะทําให้กิเลสเบาบาง และไปสู่นิพพานได้ พระคุณของหลวงพ่อท่วมท้นมากๆ นับถือหลวงพ่อที่สุด แม้เคยหวั่นไหวไปบ้าง แต่การปฏิบัติตามทางหลวงพ่อได้ผลจริง ความทุกข์สั้นลงจริงๆ ความสุึขมากขึ้น จึงไม่หวั่นไหวแล้ว ยังขอปฏิบัติตามแนวทางหลวงพ่อต่อไปจนถึงที่สุดแห่งชีวิตค่ะ โดยคุณ จิราพร
108. ดิฉัน จงรักษ์ ได้มีโอกาสฟังธรรมะบรรยาย ของ หลวงพ่อปราโมทย์ มานานหลายปีแล้ว ได้ เปิดฟังเป็นประจํา ธรรมะ ของท่านเข้าใจง่าย นํามาใช้ได้จริง ปัจจุบันก็ยังปฎิบัติตามแนวทางที่หลวงพ่อปราโมทย์แนะนําค่ะ โดยคุณ จงรักษ์ 109. "หลวงพ่อแจกแจงธรรมะที่สําคัญที่สุด แต่หาฟังยากที่สุดในยุคปัจจุบัน นั่นคือ อริยสัจจ์ 4" โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
55
โดยคุณ นล 110. ผมยังจําได้วันที่เจอหลวงพ่อครั้งแรกในวัน 7 มกราคม 2552 ที่ Sup-k Center ได้มีโอกาศถามหลวงพ่อด้วยครับ ตอนนั้นผมอยู่ ม.6 รร.โยธินตอนนั้นอาจารย์ที่สอนพระพุทธให้เขียนสมุดบันทึก ผมจึงเขียนว่าไปพบหลวงพ่อปราโมทย์ แล้วอาจารย์ก็เรียกผมมาถามว่าใช่หลวงพ่อปราโมทย์ ปราโมชโช หรือป่าว ผมบอกว่าใช่ครับ อ.จึงบอกว่าหลวงพ่อจบจาก โรงเรียนโยธิน ผมก็ตกใจครับ แล้วอ.ก็บอกว่าไม่มีโอกาศไปพบ เวลาผ่านไป... ถึงเดือนมีนาคม เป็นช่วงปิดเทอม ระหว่าง รอประกาศผลสอบเข้ามหาลัย... ผมมีเรื่องทุกข์มากเรื่องผู้หญิงเขาบอกว่าจะไม่คุยกับผม ผมเศร้ามากครับ ตอนนั้นคิดอะไรไม่ออก ไปเข้าเว็ปบ้านอารีย์ เห็นมีรถตู้ฟรีไปสวนสันติธรรม ผมจึงรีบจองทันทีแล้วอีกไม่กี่วัน ก็ได้มีโอกาศไปพบหลวงพ่ออีกครั้ง แล้ววันที่รอคอยก็มาถึง คนเยอะมากครับเวลาใกล้จะหมดผมนึกว่าจะไม่ได้ถามแล้วครับ แต่ก็ยังโชคดีครับที่ได้ถาม ผมจํา ได้แม่นยําครับ ผมบอกหลวงพ่อว่าผมโดนผู้หญิงทิ้ง แล้วคนในวัดก็ขํากันครับ ผมมีความสุขมาก แล้วหลวงพ่อก็พูด ผมยัง จําประโยคนั้นได้ หลวงพ่อบอกว่า "น้องมีบุณแล้วที่เขาทิ้งเราไป แล้ววันหนึ่งเราจะทิ้งเขาไป" ตอนนั้นก็ไม่เข้าใจ รู้แต่ว่าได้ คุยกับหลวงพ่อแล้วมีความสุข แล้วหลวงพ่อก็ให้มารู้ทุกข์ครับ แล้วหลังจากนั้นอีกประมาณ 9 เดือนก็พอมาย้อนนึกดูก็พอ เข้าใจที่หลวงพ่อได้พูดไว้ครับ แล้ววันหนึ่งเราจะทิ้งเขาไป ระหว่างนั้นผมก็ได้มีโอกาศไปศึกษากับ อ.ดังตฤณครับ อ.ดังตฤณก็ได้เมตตาชี้แนะผมครับ ชีวิตผมก็ดีขึ้นเรื่อยๆครับ ไม่ต้อง ไปทุกข์ในแบบเก่าๆ ผมขอขอบพระคุณหลวงพ่อปราโมทย์มากครับที่เมตตาผม ผมจะขอปฏิบัติบูชาหลวงพ่อครับ โดยคุณภานุพงศ์ 111. ความในใจ...ถึงหลวงพ่อ ผมไม่ขอกล่าวแบบยืดยาว เพราะหลวงพ่อเตือนเรื่อง “ความสําคัญของเวลา” มาก ผมอยากจะบอกว่า... ถ้าไม่ได้ยินธรรมะจากหลวงพ่อและไม่ปฏิบัติตามแล้ว วันนี้จิตคงไม่ตื่น วันนี้คงปฏิบัติแบบลูบๆ คลําๆ เหมือนเดิม วันนี้คงเอาแต่เพ่ง เครียด หนัก แน่น แข็ง ซึม ทื่อ เหมือนเดิม วันนี้คงหลงระเริงกับกามคุณ 5 แบบโงหัวไม่ขึ้นเหมือนเดิม วันนี้คงมีความทุกข์แสนสาหัสอย่างไม่รู้จะพรรณนาอย่างไร...
ยังจําครั้งแรกที่ได้ฟังธรรมะหลวงพ่อทางซีดีได้ ครั้งนั้นใจผมเหมือน “ชาล้นถ้วย” ไม่ยอมเปิดใจรับฟังท่านสักเท่าไร แต่มาวันนี้ ผมกลับดื่มด่ําไปกับการสอนของท่านทุกตอน เพราะยิ่งภาวนา ก็ยิ่งเห็นความเปลี่ยนแปลงของตนเองไปในทางที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน และเมื่อกลับมาฟังซีดีใหม่ ก็เข้าใจอะไรหลายๆ อย่างมากขึ้น ทุกวันนี้ผมไม่รู้สึกเคว้งคว้างแล้วครับ โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
56
แม้จะยังไม่ถึงที่สุดแห่งทุกข์ก็ตาม แต่ผมมั่นใจว่าสิ่งที่หลวงพ่อสอนนั้นเข้ากันได้กับพระไตรปิฎกทุกประการ เป็นหนทางสู่ความหลุดพ้นจากสังสารวัฏอย่างแท้จริง ต่อให้คนทั้งโลกต่อว่าคําสอนของท่านหรือลังเลสงสัยในตัวท่านสักเพียงใด ผมก็จะยืนหยัดเป็นลูกศิษย์ของท่านตลอดไป ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม เพราะท่านคือ “พ่อ” ผู้ปลุกจิตของผมให้ตื่นขึ้นจากความหลับใหลมืดมนอนธการ ท่านคือ “ประทีป” ที่ส่องเส้นทางสู่วิมุตติธรรมให้คนทั้งหลายเดินตาม ผมเคารพรักหลวงพ่อที่สุดเลยครับ _/|\_
ขอกราบแนบ แทบบาท ทาสพระพุทธ ผู้ประดุจ แสงเทียน เพียรส่องหล้า ส่องประกาย วาววับ จับวิญญาณ์ ที่พึ่งพา ของคนยาก คนตรากตรํา ทุกขณะ คือจิต คิดเมตตา สว่างจ้า ดวงแด แม้ยามค่ํา ท่านผ่องแผ้ว บรรเจิด ประเสริฐล้ํา บริสุทธิ์ ชุ่มฉ่ํา ไม่ช้ําใจ เพียงบุรุษ คนใด ได้แลเห็น ก็ชื่นเย็น เบิกบาน สําราญใหญ่ ด้วยปลาบปลื้ม ปีติธรรม นําหทัย น้ําตาใน ร่วงหล่น ดังฝนพราย มือคลํา ถลําเดิน มาเนิ่นนาน เวลากาล ผ่านพลิ้ว ปลิวสลาย รูปและนาม เกิดดับ สลับตาย แต่สุดท้าย พบประทีป ต้องรีบคว้า ประสบแล้ว ในสิ่ง ที่วิงวอน มหาพร ส่งผล ดลวาสนา ได้ฟังธรรม เด่นชัด วิปัสสนา "รู้กายา แลใจ ไปนิพพาน" ลูกขอทํา ชาตินี้ ถึงที่สุด ลูกจะหยุด วัฏฏะวน พ้นสงสาร ตามรอยธรรม ผู้รู้ ครูอาจารย์ เป็นพยาน ทั้งเทวา และฟ้าดิน ! โดย คุณศุภกร โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
57
112. จดหมายถึงหลวงพ่อ 4 ปีก่อน . . . ข้าพเจ้าเพิ่งได้หัดทํากรรมฐานแบบ ยุบหนอ พองหนอ โดยมีครูบาอาจารย์สอนเพียงวิธีเดิน และวิธีนั่ง และอ่านเรื่องสติปัฏฐานสี่ในหนังสือมาบ้าง ทําไปหลายครั้ง ถึงจุดหนึ่ง ใจมันรวมลง จิตตั้งมั่นขึ้นมา แล้วก็ไม่รู้ว่าต้องทําอะไรต่อ เพราะไม่มีใครสอน ว่าต้องทํายังไงต่อไป ใจก็ถามขึ้นมาว่า เอ...แล้วไปไหนต่อล่ะนี่ แล้วก็นึกอธิษฐานว่า ขอให้ได้พบผู้สอนต่อ . . . หลังจากนั้นไม่นาน ข้าพเจ้าหลงทางอยู่ในโลกอินเตอร์เน็ต และได้บังเอิญพบ "บันทึก(ไม่)ลับ อุบาสกนิรนาม" โดยบังเอิญ จึงพิมพ์กลับไปนั่งอ่านที่บ้าน อ่านยังไม่ทันจบ อยู่ๆก็เหมือนเกิดความสว่างไสวในใจขึ้น เหมือนคนเพิ่งตื่นขึ้นมา เป็นครั้งที่สอง (ครั้งแรกอยู่ๆก็มองกระจกแล้วเห็นว่าตัวเองไม่ใช่ตัวเองตอน 8 ขวบ) เกิดความรู้สึกที่ไม่สามารถอธิบายให้เป็นคําพูดได้ แต่ยังระลึกแจ่มชัดได้จนบัดนี้ หลังจากนั้นก็พยายามหาบทความคล้ายๆแบบนี้อ่านอีก ก็หลงไปเจอข้อเขียนหลายๆเรื่อง ที่อ่านแล้วรู้สึกว่า อืมม์ . . . คําถามที่มีอยู่ในใจ ทําไมคนผู้นี้ตอบให้กระจ่างได้แบบนี้นะ พออ่านชื่อ ก็จําเอาไว้ว่าคนเขียนชื่อ "สันตินันท์" โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
58
หลังจากนั้นก็หาข้อเขียนของคนชื่อนี้มาอ่านเพิ่มเติม โดยที่ไม่ได้สนใจว่าเขาเป็นใคร มาจากไหน แล้วจะไปไหน ขอเพียงเนื้อหาที่ทําให้ใจกระจ่างได้ก็พอ หลังจากนั้น ก็หลงเข้าไปหลายเว็บ ที่พูดถึง หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช ก็เลยไปหาอ่านดู อ่านๆไป . . . ก็ยังนึกสงสัยในใจว่า เอ . . . ทําไมหลวงพ่อปราโมทย์ เขียนอะไรคล้ายๆกับคุณสันตินันท์เลย -_-" รู้จักกันไหมนี่???? ....................... ต่อจากนั้นอีกไม่นานนัก จึงได้กระจ่างว่า ทั้งสามชื่อด้านบนนั้น เป็นท่านเดียวกัน -_-" ....................... หลังจากนั้น ก็ได้ฟังซีดีของหลวงพ่อเรื่อยมา พร้อมกับการปฏิบัติไปด้วย เท่าที่สติจะอํานวย สิ่งที่เปลี่ยนไป คือ ได้กลับมารู้ มาเห็นตัวเองชัดขึ้น พยายามไม่ส่งใจออกไปแส่ส่ายข้างนอก ทําให้ชีวิตมีความทุกข์น้อยลงมากๆ และได้เห็นว่า เวลาสติเกิดนั้น มันเกิดเพียงแว่บเดียวจริงๆ แล้วก็ไหลไปต่อ หลงไปอีก เพียงชั่วเวลาลมหายใจเข้าออก ก็หลงไปอีกหลายรอบแล้ว . . . มันแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีสติต่อเนื่อง และเมื่อชีวิตได้พบกับความทุกข์มาก ก็จมอยู่ในทุกข์อยู่นาน แต่วันหนึ่ง . .. ขณะเดินไปร้องไห้ไป อยู่ๆก็เห็นความทุกข์แยกออกไปจากตัว แล้วก็เห็นทุกข์ดับวูบไปตรงหน้าทันที! ยังไม่ทันได้ตกใจว่าทุกข์มันดับไปต่อหน้า มันก็ไหลไปทุกข์ต่ออีก แต่ความรู้สึกกลับเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เอ. .. . ทุกข์มันดับไปต่อหน้าได้ด้วยหรือนี่!!! จนถึงเวลาทุกข์หนักหนาสาหัส ถึงจะยังเป็นทุกข์ แต่ก็รู้ว่า ความคิดเปลี่ยนไปในทางมีสัมมาทิฏฐิมากขึ้น ปฏิบัติต่อวิบากต่างๆที่มาส่งผล อย่างมีสติมากขึ้น ทําในสิ่งที่ไม่คิดว่าชาตินี้จะได้ทํา คือให้อภัยศัตรู และคนที่เราเกลียดมากได้ . . . เมตตาเขาได้ จึงมั่นใจว่า ทางเดินสายนี้ ที่ไม่ก่อให้เกิดอกุศลในจิต ไม่เบียดเบียนใคร เป็นทางที่ถูกต้องแน่นอน ทั้งหมดนี้ เกิดเพราะการเพียรทําปัจจัยต่างๆ เอื้อให้สติเกิดขึ้น โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
59
และการทําปัจจัยต่างๆให้ถูกทางได้ ก็เนื่องมาจากข้อเขียน และคําสอนของครูบาอาจารย์ของข้าพเจ้า ซึ่งหลักๆในนั้นคือ หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช ............................ ตลอดสองสามปีที่ผ่านมา ข้าพเจ้าเคยไปที่ศาลาลุงชินไม่กี่ครั้ง และยังไม่เคยมีโอกาสไปสวนสันติธรรมเลยแม้แต่ครั้งเดียว ซึ่งข้าพเจ้าคิดว่า ถ้าเรายังไม่มีโอกาสไป ก็ไม่เดือดร้อน เพราะคําสอนของหลวงพ่อในซีดีก็ยังมีอยู่มากมาย การปฏิบัติอยู่ที่ตัวเรา ไม่ได้อยู่ที่ครูบาอาจารย์อย่างเดียว ............................. ถึงแม้ข้าพเจ้าจะไม่ได้ยึดติดที่ตัวครูบาอาจารย์ และไม่เคยได้มีโอกาสสนทนาโดยตรงกับครูบาอาจารย์ ที่ข้าพเจ้าได้นําคําสอนมาปฏิบัติ แต่คําสอนของท่าน ได้ทําให้จิตตื่นขึ้นมา แม้เพียงแว่บเดียว ข้าพเจ้าย่อมกราบท่านเหล่านั้นเป็นครูบาอาจารย์ และพระคุณนี้ . . จะไม่มีอะไรมาลบเลือนได้ ............................. แม้ครูอนุบาลของข้าพเจ้า ผู้ซึ่งได้หัดให้ข้าพเจ้าอ่าน ก.ไก่ ได้เป็นครั้งแรก หากภายหลัง ครูอนุบาลท่านนั้น จะไปฆ่าคนตาย . . . แต่ท่านก็ยังเป็นผู้มีพระคุณของข้าพเจ้าเสมอ ไม่ทีท่านวันนั้น . . . ข้าพเจ้าก็ไม่มีวันอ่านหนังสือได้ในวันนี้ ............................. ข้าพเจ้าได้อ่านประวัติของพระพุทธเจ้ามาบ้าง ก็ยังไม่เคยอ่านพบว่า ยามเมื่อองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงตรัสรู้แล้ว มีหรือไม่ ที่พระองค์ได้กลับไปหาท่านอาฬารดาบส อุทกดาบส เพื่อจะไปตําหนิทั้งสองท่านว่าสอนผิด สอนไม่ถูกทาง ไม่สามารถสอนให้พระพุทธองค์บรรลุธรรมได้??? เฉกเดียวกัน บัณฑิตพึงคัดกรองเอาคําสอนที่เป็นประโยชน์แก่ตนมาใช้ หากคิดว่าไม่ใช่ ก็มุ่งหน้าหาคําสอนอื่นที่เป็นประโยชน์แก่ตนต่อไป จึงจะเรียกว่าเป็นผู้ฝึกตนอย่างแท้จริง ............................. ด้วยสัจจะความจริงที่ข้าพเจ้าได้กล่าวมาข้างต้นทั้งหมดนั้น ข้าพเจ้าขอกุศลที่พึงเกิดขึ้น จงสําเร็จแด่หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
60
และผู้มีพระคุณต่อข้าพเจ้าทุกท่านเทอญ โดยคุณปลิว
113. คนยุคก่อนไปวัดทําบุญด้วยการทําทานอย่างเดียว คนยุคนี้ทําบุญได้หลายอย่าง การภาวนา ให้กุศลมาก หลวงพ่อปราโมทย์ เป็นท่านหนึ่ง ที่มีส่วนอย่างมาก ในการสร้างทางเป็นกุศลมาก ให้กับสังคมไทยครับ โดยคุณ ฤทธิ์รงค์ 114. ก่อนที่จะได้เริ่มมาฟังคําสอนของหลวงพ่อก็ได้ปฏิบัติธรรมในรูปแบบอื่นมาพอสมควร แต่ก็รู้สึกปวดเมื่อยทุกครั้งหลัง จากปฏิบัติและบางทีรู้สึกโกรธแรงขึ้นด้วยซ้ํา พอได้ฟังหลวงพ่อจึงเข้าใจว่าบางครั้งเราไปปฏิบัติธรรมโดยการเพ่งเกินไป เหมือนไปกดไว้ เลยทําให้พอเลิกปฏิบัติแล้วบางทีร้ายกว่าเดิม ส่วนตัวเองฟัง CD ท่านมาหลาย 2-3 ปี ฟังทีไรก็ช่วยให้จิตใจ สงบสบายขึ้น แต่การปฏิบัติไม่คืบหน้าสักเท่าไร แม้กระนั้นก็ดีใจที่ได้แนะนําเพื่อนให้ฟังแล้วเค้ามีความก้าวหน้าในการ ปฏิบัติในชีวิตประจําวันได้ดีมากทําให้เขาทุกข์น้อยลงสั้นลง จึงขออนุโมทนาบุญที่หลวงพ่อได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจช่วยสั่ง สอนพวกเราในภาษาที่เข้าใจได้ง่าย และเทให้อย่างหมดย่ามตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมาคะ โดยคุณ ภณิดา 115. ได้รู้จัก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมช.โช จากการไป ฟังเทสน์ และ อ่านคําสอนในหนังสือ ที่หลวงพ่อได้เขียน ตั้งแต่ครั้ง ท่านยังเป็นฆาราวาส ทุกครั้งที่ไปฟังเทสน์จะรู้สึกดีเพราะเหมือนได้ฟังความจริงของชีวิต และแนวทางในการ ปฎิบัติตัวให้เป็นผู้มีปัญญา ไม่งมงาย และ จะสร้างความเจริญให้กับชีวิตของตนเองได้อย่างไร ตามแนวทางของชาวพุทธที่ ดี ทุกครั้งที่ท่านสอนจะยกคําสอนที่มีในพระไตรปิฎกมาเล่า มาสอนให้ถูกต้อง ตรงแนวทาง ไม่บิดเบือนไปกับสิ่งที่ไร้สาระ เช่น ของขลัง ไสยศาสตร์ อะไรทํานองนี้ และจากการฝึกฝนที่ ตัวผมได้ประสบมา ถึงแม้จะไม่ก้าวหน้า ในทางธรรมสัก เท่าใดแต่เมื่อได้ฟังแนวทางในการแก้ปัญหาที่หลวงพ่อได้เทศน์ให้ผู้มาฟังทั้งหลายนั้น ผมขอเป็นพยานยืนยันได้เลยว่าเป็น เช่นนั้นจริง แก้ปัญหาได้จริง อีกทั้งทุกครั้งที่ไปฟังธรรม ในสิ่งที่ผมเห็น ก็คือพระภิกษุที่จริยาวัตรเรียบร้อย อ่อนโยน มีเมตตา และ มีอารมณ์ขัน การ สนทนา สั่งสอนธรรมเป็นไปด้วยความงดงาม น่าเลื่อมใส ตามแบพระดีที่ดูจะหายากในปัจจุบัน ไม่เคยได้ยินท่านด่าทอ หรือโจมตีใคร แม้แต่ครั้งเดียว มีแต่ธรรมมะล้วนๆ สอนให้เป็นผู้มีศีล มีสติ และ มีความขยัน ในการฝึกฝน มีเป้าหมายใน ทางธรรมอันจะยกตนให้พ้นจากทุกข์ ดังนั้นผมขอเป็นอีกหนึ่งเสียงที่ยืนยันในวัตรปฎิบัติที่งดงามตามแบบพระดีที่ควรเคารพ ควรสนทนาธรรม ควรได้ฟังคํา สอน ของหลวงพ่อ และ อนุญาติในการเผยแพร่ข้อความ โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
61
ทั้งหมดที่เป็นความจริงนี ้ โดยคุณชนะ 116. คําสอนของหลวงพ่อปราโมทย์ มีประโยชน์กับการปฏิบัติของผมมากมายมหาศาลครับ ท่านเป็นหนึ่งในขุมพลังอันยิ่งใหญ่สําหรับผู้ปฏิบัติธรรมในยุคนี้ ขอกราบขอบพระคุณหลวงพ่อมา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ โดยคุณทวีศักดิ์ 117. กราบหลวงพ่อครับ ตั้งแรกที่ผมฟังซีดีหลวงพ่อปราโมทย์ ชีวิตผมก็เปลี่ยน เห็นความจริงขึ้นทุกวัน มีความสุขทุกครั้งที่ ฟังซีดี ปัจจุบันก็ฟังด้วยความสุขเหมือนเดิมคับ ขอบคุณหลวงพ่อมากคับ จากลูกศิษย์หลวงพ่อ โดยคุณร.ต.ท.กรพิทักษ์
118. ขอกราบนมัสการหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช สิ่งที่หลวงพ่อทําเพื่อพวกเรามาตลอดหนูเชื่อว่าหลายๆคนสามารถรับรู้ได้ค่ะ และไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคตข้างหน้า หนูเชื่อว่าหลวงพ่อจะไม่หวั่นไหวไปกับโลกธรรมที่เกิดขึ้น และหนูเองก็จะตั้งใจปฏิบัติธรรมให้มากกว่าเดิมเพื่อเป็นอาจาริย บูชาค่ะ ด้วยความนับถือ โดยคุณสุทัตตา 119. เดิมดิฉันเป็นคนขี้โมโห,ขี้หงุดหงิด ใครทําอะไรก็ไม่พอใจ เอาแต่ใจตนเอง ตั้งแต่ได้ศึกษาธรรมะโดยการฟัง CD ของ หลวงพ่อปราโมทย์ ทําให้ชิวีตเปลี่ยนแปลงไป มีความสุข ใจเย็นขึ้น ไม่ขี้โมโห ไม่ขี้หงุดหงิดเหมือนแต่ก่อน ชีวิตเปลี่ยนไป แยะมาก ทําให้รู้จักว่าความสุขที่แท้จริงคืออะไร เข้าใจคําว่า "เมตตา" ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ อยากจะบอกทุกคนให้ลอง มาศึกษาธรรมะของหลวงพ่อปราโมทย์ ดูแล้วจะรุ้ว่า "ความสุขคืออะไร" ขอเป็นกําลังใจให้หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโชค่ะ โดยคุณธันยพร
โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
62
120. คําสอนของหลวงพ่อปราโมทย์ทําให้ข้าพเจ้าตระหนักว่าไม่มีสิ่งใดที่เป็นประโยชน์ ทนทานต่อกาลเวลาและการพิสูจน์ เท่าธรรมะที่พระพุทธเจ้าทรงสอน ด้วยสํานวนและวิธีการสอนของท่าน หลวงพ่อเป็นครูบาอาจารย์ท่านแรกที่ทําให้ข้าพเจ้า เข้าใจว่าแก่นของศาสนาพุทธคืออะไร เป็นที่พึ่งอันประเสริฐอย่างไร และเรามีกิจอันใดในฐานะที่ได้เกิดเป็นมนุษย์พบพระ พุทธศาสนา โดยคุณอจิรภาส์ 121. กราบนมัสการหลวงพ่อปราโมทย์ " ธรรมะที่หลวงพ่อได้กรุณาสั้งสอนนั้น เป็นแสงสว่างนําทางการภาวนาของผมหากปราศจากคําสอนของหลวงพ่อ ผมคงต้องหลงทางอีกยาวนาน " ผมจะพยายามภาวนาอย่างสุดความสามารถ เพื่อเป็นพยานต่อคําสอนของหลวงพ่อ ขออาราธนาคุณพระรัตนตรัย จงช่วยคุ้มครองหลวงพ่อให้มีสุขภาพแข็งแรงและขอให้เหตุการณ์ต่างสงบลงในเร็ววัน กราบนมัสการครับ โดยคุณนพ.พลลภัตม์ 122. ผมเป็นคนหนึ่งที่ได้ฟังซีดีธรรมะดูกาย ดูจิต ของหลวงพ่อปราโมชย์อยู่บ้าง ทั้งที่ได้เคยได้พบตัวหลวงพ่อเลย ได้ ทดลองฝึกตัวเองตามที่ซีดีแนะนํา ถูก ผิดไม่รู้ ผมมีความรู้สึกว่า ผมได้รู้จักตัวเองมากขึ้น สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ ขึ้น ขอขอบคุณครับ โดยคุณนา เสรี 123. เกิดเป็นมนุษย์ได้เจอพระพุทธศาสนาถือเป็นเรื่องยากยิ่ง แต่เราคนไทยตั้งแต่เด็กเรียนวิชานี้กันมา ไม่รู้ถึงแก่นที่แท้ จริงในการที่จะพ้นทุกข์ เพียงแต่ท่องสาระในชั้นเรียนเท่านั้นค่ะ เมื่อมีบุญวาสนาได้มาพบกับหลวงพ่อปราโมทย์ และแนวทางการสอนของท่าน ทําให้ชีวิตเปลี่ยนไปมาก ทุกข์น้อยลง มีสติ ตื่นขึ้น หลังจากหลงมาเกือบ 30 ปี เรามีจุดมุ่งหมายปลายทางเพื่อที่จะหลุดจากสังสารวัฏที่ยาวไกล ทั้งหมดนี้เกิดจากการได้พบพระผู้ประเสริฐสูงสุดในชาตินี้ ของเรา เช่นหลวงพ่อปราโมทย์ค่ะ ถึงแม้ว่าเราจะวาสนาน้อย แต่ก็จะพยายามปฏิบัติตามแนวของท่านต่อไป เพื่อให้วันหนึ่ง ลุถึงซึ่งนิพพานค่ะ ขอถวายการปฏิบัติที่ตั้งใจอย่างแท้จริงทั้งหมด กราบแด่หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมทโช ด้วยความเคารพอย่างสูงสุด ณ ที่นี้ ค่ะ โดยคุณหิรัณญา
124. กราบนมัสการหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่เคารพอย่างสูง ดิฉันได้มีโอกาศฟังธรรมจากท่าน ทั้งในรูปแบบ CD และที่สวนโพธิ์,สวนสันติธรรม โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
63
ธรรมะที่หลวงพ่อให้...ช่วยให้ชีวิตของดิฉันเป็นสุข...ร่มเย็นจากการเท่าทันการปรุงแต่งในใจ สิ่งที่ดิฉันได้รับจากการฟังธรรมของหลวงพ่อ...มานานกว่า 5 ปีคือ "การมีสติรู้ทันตามความเป็นจริง" เป็นธรรมะที่ดูแล้วไม่แตกต่างจากครูบาอาจารย์ท่านอื่นๆก็จริงอยู่.... แต่สิ่งที่หลวงพ่อสอนที่สําคัญที่สุดคือ "สภาวะธรรม..สิ่งที่ปรากฏเฉพาะหน้า" โดยที่เราไม่ต้องแทรกแซง ก่อนหน้าที่จะได้มีโอกาศเรียนกับหลวงพ่อ...ดิฉันปฏิบัติธรรมและศึกษาธรรมมาก่อนหน้านี้นานแล้ว จนเชื่อมั่นว่าตัวเองเห็นการเกิดดับของรูปนามได้....แต่ที่น่าแปลกใจคือ...ทําไม?ใจไม่ยอมรับความจริงที่เห็น กลับมี อาการ "ยินร้ายผลักไสโลก-และทยานที่จะแยกตัวออกจากสังคม" อยากลาออกจากงานทิ้งบ้านเข้าวัด ทั้งนี้เป็นเพราะไม่เคยรู้ทัน....ที่จงใจ..กดข่ม..บังคับตน....ไม่เท่าทันใจ....แบบที่หลวงพ่อบอกว่ารู้ไม่ถึงฐาน ดิฉันอนุโมทนาในบุญกุศลของตัวเอง ที่ยังมีโอกาสพบคําสอน ที่ง่ายและลัดสั้นจากหลวงพ่อ ..ช่วยให้ชีวิตดิฉันสันติสุขขึ้น....สามารถแก้ไขข้อขัดข้องจากการปฏิบัติธรรมของตัวเอง และยังคงการปฏิบัติธรรมได้อย่างต่อเนื่อง ไม่แบ่งแยกการปฏิบัติออกจากชีวิตประจําวัน... ช่วยให้เท่าทันการปรุงแต่ง...และอารมย์ได้มากขึ้น... ขอกราบเรียนหลวงพ่อว่า..จะยังคงตั้งมั่นกับการดูกายดูใจ..ตามความเป็นจริงต่อไป ถวายเป็นพุทธบูชา อาจริยบูชา...ตลอดไปจนกว่าจะถึงเป้าหมายอันสูงสุดคือ "นิพาน" กราบเท้าขอบพระคุณหลวงพ่อปราโมท ด้วยความรพที่หลวงพ่อมีเมตตา อบรมสั่งสอน แม้ว่าหลวงพ่อไม่เคยรู้จักผู้มาเรียนอย่างดิฉัน...แต่ดิฉันก็ได้รับความเมตตาจากหลวงพ่อเสมอผู้อื่น กราบนมัสการด้วยความเคารพอย่างสูง รุ่งรัก ศิริเวช หมายเหตุถึงผู้จัดทําโครงการ ดิฉันเขียนจดหมายฉบับนี้มิได้เขียนมาเพื่อให้กําลังใจหลวงพ่อ (ในใจดิฉันเชื่อว่าหลวงพ่อไม่ต้องการ..สิ่งที่หลวงพ่อต้องการคือผู้ตั่งมั่นกับการปฏิบัติธรรม) และไม่ได้เขียนมาเพื่อเป็นการเชียร์แบบเข้าข้างใดข้างหนึ่งในบรรยายกาศแห่งความขัดแย้งในช่วงนี้ แต่ถือว่าท่านเปิดโอกาศให้ดิฉันได้เขียนจดหมายขอบพระคุณหลวงพ่อที่เมตตาสอนการปฏบัติและแก้ไขปัญหาการปฏิบัติ แก่ดิฉัน และถือเป็นโอกาสรายงานผลการเรียน-การปฏิบัตธรรมทางจดหมายถึงหลวงพ่อ...ซึ่งเป็นสิ่งที่อยากทํามานาน...แต่ไม่รู้จะ ทําได้อย่างไร? จึงขอขอบพระคุณทีมงาน...และอนุโมทนาในกุศลจิตของท่านมาพร้อมกันนี้ด้วยคะ อนุโมทนา....สาธุ...สาธุ...สาธุ โดยคุณรุ่งรัก 125. ทุกครั้งที่ฟังการสอนของหลวงพ่อ รู้สึกว่าหัวใจชุ่มชื้น มีความปิติยินดี เวลาท่านชี้แนะ คําแนะนําของท่าน ก็สามารถนําไปใช้ได้จริง รู้สึกได้ถึงความเมตตาของท่าน และเมื่อทบทวนตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน การนําคําสอนหลวงพ่อมาประยุกต์ ก็ทําให้จิตใจกระเพื่อมน้อยลง เข้าใจสิ่งที่เรียกว่า "เพ่ง" กับ "เผลอ" ได้มากขึ้น โดยคุณ รพงษ์ 126. เราได้ประโยชน์จากสิ่งที่ท่านสอนอย่างยิ่ง ทําให้เราเลื่อมใสในพระพุทธเจ้า ทําให้รู้ว่าทําไมต้องมีศาสนา ทําให้รู้ ประโยชน์จากการเกิดมาเป็นคน ทําให้รู้ที่มา และมีทางเดินไป ทําให้มีเป้าหมายในสังสารวัฏ นับเป็นบุญคุณอันยิ่งใหญ่ใน ชีวิตที่ไม่มีใครให้ได้ โดยคุณปาริชาติ โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
64
127. หากจะเรียบเรียงถ้อยคําแสดงคารวะจิตต่อหลวงพ่อผู้เป็นบัณฑิตเป็นกัลยาณมิตร คงไม่ใช่เพื่อเป็นกําลังใจให้ท่าน หา รู้ไม่พวกเราทั้งนั้นที่ยังต้องอาศัยกําลังใจต่อสู้กับกิเลสกันต่อไป แต่คงถือเป็นการแถลงเพื่อย้ําเตือนแก่ตนว่าที่ผ่านมานั้น อกุศลที่เกิดขึ้นแล้วพอจะละได้บ้าง กุศลที่ยังไม่เกิดก็เกิดขึ้น กุศลที่เกิดขึ้นแล้วก็เจริญงอกงาม ทั้งหมดนี้อันเป็นมงคลยิ่งแก่ ชีวิต เราได้มาเพราะท่านผู้นี้เป็นผู้ชี้ทางสว่างให้โดยแท้ _/|\_ _/|\_ _/|\_ โดยคุณภูมิ 128. Sawadee kha , My name is Tussaneekorn would like to express my feeling to L'Por Pramot teaching.The whole last year 2009 ,it was the worst year in my life that I have ever faced.I am 38th years old woman who is living aboard alone.Without L'Por Pramot's Guide of Life , I would not be as I am on these days again. Thank you so much for L'Por Pramot teaching that I can get back to my track again.And after ,I am changed in the way that I can see myself better in 'Looking inside of my mind' and live happier. Kob Khun L'Por mak mak kha. With highest respectively submitted , Tussaneekorn 129. 1.เข้าใจธรรมะเรื่องอริยสัจจ์ 4 มากขึ้น 2.มีแนวทางที่นําไปปฎิบัตภาวนาในชีวิตประจําวันได้ดีขึ้น (จริงๆไม่เคยนั่งสมาธิได้เลยจนได้ฟังหลวงพ่อสอน) ถ้ามีอีกจะส่งมาอีกครับ โดยคุณ วิรุฬ
130. สิ่งใดเกิด สิ่งนั้นย่อมดับเป็นธรรมดา สิ่งทั้งหลายเป็นของไม่เที่ยง สุขก็ไม่เที่ยง ทุกข์ก็ไม่เที่ยง ข่าวคราวแรก เมื่อหลายเดือนก่อน รู้สึกไม่สบายใจ แต่ข่าวครั้งนี้ใหญ่โตกว่าครั้งนั้นเยอะ แต่ไม่รู้สึกอะไร มองดูเหตุการณ์ผ่านมา แล้วเดี๋ยวมันก็ต้องผ่านไป โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
65
ความทุกข์ ความสุขมีอยู่ ไม่ได้หายไปไหน แต่หลังจากได้ศึกษาธรรมจากหลวงพ่อทําให้ผมรู้ว่าเราจะจัดการกับมันอย่างไร วิธีนั้นง่ายจนเรามองไม่เห็น สิ่งที่หลวงพ่อสอนอยู่ตลอดก็คือ ให้รู้ รู้ด้วยใจเป็นกลาง แค่นี้ก็ทําให้ความทุกข์กระเด็นหายไป อย่างน่าอัศจรรย์ เคารพหลวงพ่อ แบบไม่มีเคลือบแคลงสงสัย สุดท้ายถึงผลจะเป็นอย่างไร ก็ต้องเป็นอย่างนั้น เป็นธรรมดา โดยคุณ ดิสทัต 131. เมื่อไรที่ทุกข์เกิดกับกายและใจ ได้ฟังซีดีของหลวงพ่อปราโมทย์ ทุกข์นั้นก็บรรเทาไปได้ เมื่อไรที่อกุศลเกิด นึกถึงคํา สอนของหลวงพ่อ อกุศลก็เบาบางไปค่ะ หลวงพ่อเป็นพ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่เป็นที่พึ่ง (แม้ได้เคยแค่ฟังซีดี) และมีแต่ให้ จริงๆค่ะ ธรรมะของพระพุทธเจ้าที่หลวงพ่อนํามาถ่ายทอดเข้าใจง่าย ทําให้เข้าใจโลก เข้าใจชีวิตได้มากขึ้น และทําให้อยู่กับ ความทุกข์ (ของขันธ์ห้า) ได้อย่างมีความสุขค่ะ ขอเป็นกําลังใจให้หลวงพ่อด้วยพลังหัวใจบริสุทธิ์ค่ะ โดยคุณวนิดา 132. เราฟังเทปท่านไปตั้งนาน จนพิสูจน์กับตัวเองว่าที่ท่านสอนเป็นทางที่ถูก ถึงจะมีคนมาบอกว่าท่านเป็นพระอรหันต์ ทําไมเราถึงศรัทธาหลวงพ่อ -- เพราะเราพิสูจน์ได้ด้วยตัวเองว่า - ความทุกข์สั้นลง - ความสุขก็ชั่วคราว - เราถือศีลได้ดีขึ้น พอจะว่าคน (เช่น call center ที่บริการช้า) สติมันตัดเอง คําพูดมันไม่ออกมา ไม่ก็สงสารขึ้นมาเอง - ท่านเมตตามากและเมตตาแบบเท่าเทียม ท่านเคยตอบคําถามแล้วเราไม่เข้าใจ แต่เกรงใจเลยขอบคุณ ท่านก็บอก (ประมาณ) ว่า "ยังไม่เข้าใจเลย ขอบคุณแล้วหรือ เห็นมั้ยว่า..(แล้วก็สอนต่อจนเข้าใจ).." เมตตาจริงๆ ค่ะ ท่านสอนอะไร - สอนให้เห็นไตรลักษณ์ - ไม่ให้สนใจอิทธิฤทธิ์ปาฏิหารย์ เพราะไม่ใช่ทางพ้นทุกข์ - ไม่ให้ยึดติดตัวท่าน และท่านให้ความนับถือท่านพระพุทธเจ้ามาเป็นที่หนึ่งเสมอ - ให้เร่งความเพียร โดยให้กําลังใจให้ปฏิบัติทั้งสมถะและวิปัสสนาโดยไม่หวังผล - ให้มองอกุศลของตนเอง อย่าเผลอหรือหลงไปตําหนิอกุศลของผู้อื่น ที่ผ่านมา อยากเข้าใจเรื่องการพ้นทุกข์ ทําให้ไปลองฝึกหลายรูปแบบ ธรรมะข้อนู้นข้อนี้ก็ท่องจําได้ กราบก็สวยจนได้รับคํา ชม เข้าคอร์สงดพูดก็ทํามาหลายครั้ง -- แต่ก็ไม่รู้ตัวว่ายังทุกข์มาก จนมีกัลยาณมิตรมาแนะนําการดูจิต และให้ปฏิบัติตามคําสอนของหลวงพ่อ ตลอดสองปีกว่าที่ผ่านมา เราได้ค่อยๆ ประจักษ์ ว่าคําเทศน์ของท่านใน CD เป็นจริงขึ้นมา จึงเชื่อทุกอย่างที่หลวงพ่อท่านสอน -- จนวันนี้ที่ทุกข์น้อยลง สุขก็ชั่วคราว ปล่อย วางมากขึ้น สิ่งที่มุ่งหวังกับชีวิตที่เหลืออยู่ คือการทําสมถกรรมฐาน วิปัสสนากรรมฐาน พร้อมสํารวจว่ากุศลใดที่ยังไม่ได้ทํา ก็จะทํา และ อกุศลใดที่เกิดขึ้น ก็จะตามรู้ให้ทัน ขอปฏิบัติบูชาท่านพระพุทธเจ้า และพระอาจารย์ปราโมทย์ ตลอดไป และกราบขออนุโมทนาท่านกัลยาณมิตรที่ช่วยแนะนํา การปฏิบัติของหลวงพ่อให้กับเราค่ะ โดยคุณ เจนสิรี 133. นับมาถึงวันนี้ก็เป็นเวลาสามปีแล้วที่ผมเห็นความทุกข์ของจิตใจที่เกิดวนเวียนตลอดจนหันมาศึกษาศาสนาพุทธอย่าง จริงจัง คลําทางไปผิดๆถูกๆ ไม่รู้ว่าหนทางที่แท้จริงที่พระพุทธเจ้าวางไว้นั้นคืออะไรกันแน่ โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
66
ก็ได้แต่นั่งสมาธิ ทําอานาปานสติไปเรื่อยๆ หวังว่าวันนึงคงมีอะไรดีขึ้นบ้าง ในเรื่องสมาธินั้นดีขึ้นมาก สามารถเข้าอุปจาร สมาธิได้ตลอด บางครั้งดิ่งเข้าไปปฐมฌานบ้าง จิตใจก็มีความสุขมาตลอด แต่พอออกมาจากสมาธิมากระทบกับโลก ก็ทุกข์ อีก จนรู้สึกว่าสุขนี้ก็ไม่ใช่สุขที่แท้จริง แต่ก็ไม่ทราบว่าต้องทําอย่างไรต่อ คิดอยู่แต่ว่าิ่งที่ผมขาดไปคือ ปัญญา จนมาได้ฟังธรรมะจากหลวงพ่อปราโมทย์ ตอนแรกก็ฟังไปเรื่อยๆ ไม่ค่อยเชื่อท่านเท่าไร เพราะไม่คิดว่าธรรมะจะง่ายอย่างที่ ท่านบอก เพราะผมพยายามทํามาตั้งนาน ยังไม่เห็นผล แต่ก็ลองเจริญสติอย่างที่ท่า นบอก หัดเดินจงกรม ฝึกดูการ เคลื่อนไหวของกาย และจิตใจไป จนวันนึง (8 เดือนหลังจากฟังหลวงพ่อ) ขณะลองขยับมือดูการเคลื่อนไหว จิตก็เห็นจิตที่ ออกไปคิดพอดี สติตัวจริงเกิดเอง จิตใจขณะนั้นเกิดปีติเป็นล้นพ้น นี่เองที่หลวงพ่อท่านพล่ําสอนมานาน เพิ่งเห็นก็วันนี้ จาก นั้นก็ฝึกปฏิบัติตามหลักที่ท่านสอนตลอดมา สิ่งที่รู้สึกได้ก็คือจิตใจเราเปลี่ยนไปทีละน้อย ความยึดมั่นในกายและใจเราเบาลงไปเรื่อยๆ กิเลสมาให้เห็นบ่อยขึ้นเรื่อยๆ แต่ ว่ากิเลสนั้นมิสามารถย้อมใจเราได้เหมือนเมื่อก่อน ความทุกข์ทางใจนั้นเบาบางลงมาก หายเร็วกว่าเก่า นับแต่ผมปฏิบัติธรรมตามหลักของหลวงพ่อปราโมทย์มานั้น ชีวิตผมมีแต่การเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีเรื่อยๆ หลักธรรมที่ ท่านสอนนั้น ไม่เคยขัดกับพระไตรปิฎกซึ่งผมอ่านเป็นประจําเลย หลักการเดียวกับครูบาอาจารย์วัดป่าที่ท่านสอนไว้ทั้งหมด ชีวิตผมมีวันนี้ได้ ก็เพราะหลวงพ่อ ตลอดชีวิตนี้และชีวิตถัดไปจนกว่าจะสิ้นทุกข์ ผมขออธิษฐานจะปฏิบัติธรรมเพื่อเป็นพุทธ บูชา ธรรมบูชา และอาจาริยบูชาครับ นโมวิมุติ นโมวิมุติยา โดยคุณ นายแพทย์ ชูศักดิ์
134. จากการฟังธรรมะจากหลวงพ่อทําให้หนูตาสว่างเห็นความสําคัญของการพ้นทุกข์มากซะจนยอมสละความสุขใน ปัจจุบันหลายๆอย่าง โดยเฉพาะความสุขที่เราได้รับจากการเบียดเบียนคนอื่น(โดยเฉพาะศีลข้อ 4) ไม่เคยรู้สึกว่าการรักษา ศีล 5 จะมีความหมายกับชีวิตขนาดนี้ เมื่อก่อนนี้หนูชอบรําคาญและตวาดแม่แต่ตอนนี้หนูไม่ได้ทําอย่างนั้นนานแล้ว เมื่อไม่ พอใจแม่ปุ๊บมีสติและไม่แสดงอาการอะไรออกไปเลย แม่มีความสุขขึ้นมาก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหนูจะตามรู้กายใจต่อไปถึง ท้อก็จะไม่ถอยค่ะ โดยคุณ สายวรุณ 135. "พ่อกับแม่เป็นผู้มีบุญคุณให้ร่างกายกับจิตใจนี้มา .. แต่ถ้าไม่ได้หลวงพ่อ เป็นพ่อทางธรรม ที่ชี้แนวทางให้เดิน คงเสีย ชาติเกิดในชีวิตนี้จริงๆ _/\_" ถ้าไม่ได้เจอท่าน ชีวิตนี้คงหลงทั้งชีวิต คงไม่รู้จักสภาวะที่ตื่นเป็นอย่างไร และคงตายไปพร้อมกับความหลง ถ้าไม่ได้ฟังคําสอนท่าน ชีวิตนี้คงยึดมั่นถือมั่นในทุกๆเรื่อง คงไม่รู้จักปล่อยวาง และตายไปพร้อมกับการแบกทุกข์ทั้งชีวิต โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
67
และถ้าไม่ได้ปฏิบัติตามคําสอนของท่าน คงไม่มีทางรู้ได้ว่า การที่มีทุกข์อยู่ แต่ทุกข์นั้น มันกระแทกไม่ถึงใจ เป็นอย่างไร คงไม่มีทางรู้ได้ว่า ทุกๆอย่าง มันผ่านมาแล้วก็ผ่านไป หาสาระแก่นสารไม่ได้ คงไม่มีทางรู้ได้ว่า กายและใจ นี้ไม่ใช่ของเรา แม้จะรู้เพียงชั่วขณะที่ไม่หลง แต่ก็ดีใจที่เห็นทางออกจากวัฏสงสารนี้เสียที ชีวิตที่เหลือนั้น มีคุณค่าในทุกๆวันและในทุกๆขณะ ท่านทําให้เห็นว่า การภาวนาสามารถทําได้ทุกขณะของชีวิต.. จิตใจมีความสุข มีความสงบ ปลอดโปร่งมากขึ้น รู้สึกไม่เสียดายชีวิตนี้แล้ว ท่านทําให้ชีวิตนี้เหมือนเกิดใหม่จริงๆ ที่มาเจอคําสอนของพระพุทธองค์ จากการสอนของหลวงพ่อปราโมทย์ .. ผู้มีแต่ให้ จริงๆ กราบแทบเท้าหลวงพ่อที่เป็นผู้ชี้แนวทางนี้ ตลอดจนคอยให้กําลังใจยามท้อแท้ระหว่างเดินไปตามทางสายนี้ แม้ท่านจะเหน็ดเหนื่อยแต่ก็ไม่เคยเรียกร้องอะไรจากเราเลย ... แม้จะเห็นท่านขออยู่บ้าง ก็มีอยู่อย่างเดียวคือ ให้อดทน อย่าขี้เกียจภาวนา .. ชีวิตที่เหลืออยู่ขอปฏิบัติถวายแด่พระพุทธเจ้า และถวายเป็นอาจาริยบูชาแด่หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโชค่ะ กราบแทบเท้าหลวงพ่อ _/\_ โดยคุณเมธาวี 136. หลวงพ่อปราโมทย์ทําให้ผมค้นพบความสุขง่ายๆในปัจจุบันขณะ หลวงพ่อทําให้ผมรู้ว่าสติและสมาธิตามแบบที่พระพุทธเจ้าสอนเป็นอย่างไร หลวงพ่อนําคําสอนของพระพุทธเจ้ามาอธิบายด้วยคําพูดร่วมสมัยทําให้เข้าใจง่าย ผมเห็นกิเลสของตนเองเยอะมาก พอเห็นกิเลสมันก็แสดงไตรลักษณ์ให้เห็นคือคงอยู่ไม่ได้ต้องเปลี่ยนไปเป็นอื่น ทําให้ความทุกข์สั้นลงมากจนแทบจะมารบกวนจิตใจไม่ได้ หลวงพ่อสอนพวกเราด้วยความเมตตาโดยไม่หวังอะไรตอบแทนเลย เป็นสิ่งที่พวกเราสัมผัสได้จริงๆว่า หลวงพ่อปราโมทย์คือพระแท้ๆ โดยคุณทันตแพทย์วิวัฒน์
โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
68