D
H
A
M
M
A
D
A
.
N
E
T
ค ื อ ค วา ม เรี ยบ ง่ า ย ค ื อ ธรรม ะ ค ื อ ธรรม ด า
โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
เล่ม 5 UPDATE เพิ่มเติม ณ วันที่ 10 ตุลาคม 2553
บทความและข้อความจากหัวใจบริสุทธิ์ เล่ม 5 *** บทความและข้อความจากหัวใจบริสุทธิ์ ที่นํามาเสนอนี้ ล้วนมีรายชื่อและนามสกุล จริง ของผู้เขียนเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งในฉบับนี้จะลงเพียงชื่อแต่จะไม่มีการเปิดเผยนามสกุล จริง ทั้งนี้ในฉบับที่นําถวายหลวงพ่อและแจกจ่ายต่อสื่อมวลชนจะมีการเปิดเผยตาม ความจริงทุกประการ *** 551. ผมอาจจะเขียนบันทึกนี้ยาวไปหน่อย แต่ก็ออกมาจากความรู้สึกจริงๆ ผมคิดอยู่นานว่าจะส่งมาทั้งหมด หรือตัดออก บ้างดี แต่สรุปแล้วผมก็ขอส่งมาทั้งหมดเลย ขอกราบพระอาจารย์ปราโมทย์ และขออนุโมทนากับทีมงานทุกท่านครับ _/|\_ _/|\_ _/|\_
เริ่มรู้จักหลวงพ่อปราโมทย์ โดยปกติผมเป็นคนที่สนใจศึกษาธรรมะบ้าง แต่ไม่ถึงกับเป็นนักปฏิบัติภาวนา ไม่ใช่คนชอบเข้าวัดเข้าวา ชอบทําทาน เพียง แต่สนใจพระพุทธศาสนาในแง่ปรัชญา ชอบอ่านหนังสือของท่านพุทธทาส ท่านเว่ยหล่าง แนวเต๋า แนวเซน ธรรมะคงจัดสรร ให้ผมอยู่ดีๆก็เดินไปเจอเพื่อนเก่าสมัย ม.ปลาย คนหนึ่งซึ่งไม่เคยเจอกันเลยหลังจากจบ ม.ปลาย เพื่อนคนนั้นเป็นคนสนใจ ศึกษาธรรมะ และปฎิบัติภาวนาอยู่ในกลุ่มของลูกศิษย์หลวงพ่อ ประมาณปี 2547 ผมจึงติดสอยห้อยตามเพื่อนคนนั้นไป กราบหลวงพ่อ สมัยที่หลวงพ่อยังอยู่ที่สวนโพธิฯ ที่เมืองกาญจน์ นั่นเป็นครั้งแรก และครั้งเดียวที่ผมได้พบหลวงพ่อ ครั้งนั้น จะเพราะว่าผมยังโง่บรม ชาล้นถ้วย อัตตาสูง ยังประมาทในความสุขของชีวิตขณะนั้น หรืออะไรก็แล้วแต่ ผมไม่เข้าใจที่ท่าน สอนเลย ที่ท่านว่า “เผลอไปแล้วนะ” ผมไม่เข้าใจ วันนั้นผมเลยกลับบ้านไปพร้อมกับหนังสือเล่มหนึ่งชื่อว่า “วิมุตติ ปฏิปทา” และผมก็ไม่ค่อยได้เปิดอ่านเลยหลังจากนั้นผมก็ใช้ชีวิตเหมือนเดิมที่ไม่ได้ปฎิบัติธรรมอะไร ยังเพลินไปกับการกิน เที่ยว ดื่ม เวลาล่วงเลยจนผมแต่งงาน ออกจากงานประจํา ทําธุรกิจส่วนตัว มีครอบครัว มีลูก…
จุดเปลี่ยนของชีวิต ตั้งแต่มีลูก ครอบครัวผมก็ถึงจุดเปลี่ยน ตอนมีลูกเราก็มีความสุขมาก และมันก็มาพร้อมกับความทุกข์ด้วยเช่นกัน โดย เฉพาะคนเป็นแม่ ใครเลี้ยงเด็กเกิดใหม่จะรู้ ทํางานยังเลี่ยงได้ หลบได้ เหนื่อยก็พักได้ แต่เลี้ยงลูกเองมันเหนื่อยสาหัสจริงๆ ถ้าลูกร้องกลางคืนคุณต้องตื่น ต้องดูแลว่าเค้าเป็นอะไรยังไงทุกเวลา จะเหนื่อย จะง่วงแค่ไหนก็ต้องทน แต่ทุกข์แค่ไหนเราก็ ไม่ท้อเพราะเรารักลูก อาจจะด้วยความที่รักลูกรักสามี ภรรยาผมเธอก็เกิดกลัวการสูญเสียขึ้นมา นึกว่าถ้าวันนึงเกิดสูญเสียครอบครัวไปเค้าจะ รับมือได้อย่างไร เลยมาสนใจศึกษาธรรมะ บ้านเราก็มีหนังสือธรรมะเยอะอยู่แล้ว เธอก็อ่านๆ ก็สบายใจ แต่พอคิดอีกก็กลัว อีก แล้วเธอก็บอกผมว่า “ที่อ่านมันก็เข้าใจนะ แต่พอรู้สึกอีกก็ทุกข์ได้อีก เหมือนยังขาดอะไร”
เริ่มปฎิบัติ ที่ภรรยาผมถามมา ผมก็ได้คําตอบว่าเราขาด “การปฎิบัติ” ผมเลยหยิบหนังสือของหลวงพ่อมาอ่านอีกครั้ง เริ่มดาวน์โหลด ซีดีของหลวงพ่อมาฟัง เราฟังกันทุกวัน ฟังไล่ไปเรื่อยๆทุกไฟล์ แม้หลวงพ่อจะเทศน์คล้ายๆกัน แต่ความเข้าใจไม่เหมือนกัน โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
1
ภรรยาผมชอบฟังเทศน์ของหลวงพ่อมาก เธอรู้สึกเข้าใจธรรมะมากขึ้น เข้าใจตัวเองมากขึ้น เข้าใจชีวิตมากขึ้น จึงทําให้เธอ ศรัทธาหลวงพ่อ เธอหันมาสนใจศึกษา และปฎิบัติธรรมจริงจัง เราเริ่มปฎิบัติ เริ่มหัดตามรู้จิตใจตามที่หลวงพ่อสอน เราพบ ว่า ปฎิบัติธรรม ทําได้เกือบทุกเวลา ซึ่งความที่ภรรยาผมสนใจปฎิบัติธรรมอย่างจริงจังนี้เป็นกําลังสําคัญมากที่ทําให้ผม กลายมาเป็นคนที่แนวแน่ในการปฎิบัติธรรม รักษาศีล จากที่เมื่อก่อนเข้าๆออกๆ ผลุบๆโผล่ๆ มีทุกข์ทีก็สนใจธรรมะที พอ หายทุกข์ก็หลงโลกไปเลย ปฏิบัติไม่เป็น ศีลไม่เคยตั้งใจรักษาจริงๆ ชอบสังสรร ปาร์ตี้ กินเหล้ากับเพื่อน ทั้งจิตใจหวั่นไหวไป กับเรื่องผู้หญิงบ้างในบางครั้ง ชีวิตคู่เราก็อาจจะเหมือนกับอีกหลายๆคู่ น้อยคู่นักที่จะราบรื่น ไม่ทะเลาะกัน เข้าใจกันดี เป็น ทีมเดียวกัน
รู้สึกตัว ครอบครัวเป็นสุข “พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่าธรรมะของพระองค์เป็นธรรมะที่ไม่เนิ่นช้า” ผมเชื่อแล้วว่าจริง ภรรยาผมเค้าก็พบความเปลี่ยนแปลงของตัวเองอย่างรวดเร็ว ขนาดตัวผมเองก็ยังประหลาดใจว่าเราก็ เปลี่ยนไป อย่างเรื่องคําพูด ไม่ใช่แค่ไม่โกหก คําพูดเล็กน้อยที่เตรียมจะหักหาญน้ําใจกัน ประชดประชัน แทบไม่มี มันรู้ทัน ตั้งแต่ความรู้สึกลบนั้นมันยังตัวเล็กๆ พอหัดตามรู้เราพบเลยว่าเราทั้งคู่เริ่มเปลี่ยน พฤติกรรมที่เคยทําให้อีกฝ่ายไม่สบ อารมณ์ลดลง กระทบกระทั้งกันน้อยลง พอเรารู้จักตัวเองมากขึ้น กลายเป็นว่าเราก็เข้าใจกันมากขึ้น พอเรารู้ตัวเป็น มันก็มี ศีลเอง แค่ตามรู้อย่างเดียว พฤติกรรมงี่เง่าๆของเราก็จะลดลงอย่างมหัศจรรย์ และรวดเร็วด้วย กลับกลายเป็นว่า ผมรัก ภรรยาของผมขึ้นมาก และรู้สึกดีใจมากที่เราได้เจอกัน ได้ใช้ชีวิตร่วมกัน ได้ปฎิบัติธรรมร่วมกัน และการมีสติช่วยผมได้มากเรื่องการเลี้ยงลูก เพราะพฤติกรรมของเด็ก ส่วนใหญ่นั้นก็มาจากการเลียนแบบจากพ่อแม่ การที่ เราได้ฝึกมีสติ เราจึงรู้ตัวเอง ว่าเรามีอะไรที่ดี อะไรที่ไม่ดี ความมีสติทําให้เราปฎิบัติตัวต่อกันและกัน ปฎิบัติตัวต่อลูกได้ดี ได้ถูกต้อง ซึ่งน่าจะเป็นแบบอย่างให้ลูกสร้างตัวตนที่ดีได้ ทุกวันนี้ผมสอนลูกผมให้รู้จักเจ้าตัวโกรธ และมันก็ได้ผลบางครั้ง เวลาลูกผมงอแง เราจะเล่นกันว่า เจ้าตัวโกรธมาแล้ว บางครั้งลูกผมก็หายทันที แล้วเค้าก็กลายเป็นหัวเราะร่าขึ้นมาเลย นอกจากประโยชน์ที่ชัดเจนมากกับเรื่องครอบครัว ปลายปี 2551 จากวิกฤติซับไพรม์อเมริกา บวกกับสินค้าจีนถล่มโลก ธุรกิจเล็กๆของผม (ที่มีลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนอเมริกัน) ยอดขายหายไปกว่า 80% กําลังจะเจ๊ง เราต้องปรับตัวขนานใหญ่ แต่วันนี้เราก็ประคองตัวผ่านมาได้ ผมกลายเป็นคนมองโลกในแง่ดีขึ้นมาก เป็นนักแก้ปัญหามากขึ้น แม้เรายังปล่อยวางไม่ ได้จริงๆ ยังมีทุกข์เป็นธรรมดา แต่ทุกข์เหล่านั้นสั้นลงกว่าแต่ก่อนมาก เข้าใจเรื่องปัญหามีไว้ให้แก้ ไม่ได้มีไว้ให้มัวทุกข์ นานๆ สิ่งเหล่านี้มาจากการปฎิบัติธรรม มาจากการมีสติ จากเมื่อ 6 ปีก่อน ผมเคยงงว่า…หลวงพ่อสอนอะไร? วันนี้ผม เข้าใจแล้วว่า…หลวงพ่อสอนอะไร ผมเข้าใจแล้วว่า “เผลอไปแล้วนะ” คืออะไร
เปิดประตูสู่ธรรมะของพระวัดป่า ผมเริ่มรู้จักหลวงปู่ดูลย์ ผมเริ่มศึกษาประวัติ และฟังธรรมเทศนาของหลวงปู่วัดป่าหลายๆองค์ เช่น หลวงปู่ดูลย์ หลวงปู่มั่น หลวงปู่ขาว หลวงปู่เหรียญ หลวงพ่อพุธ หลวงพ่อชา หลวงตามหาบัว ฯลฯ จากเมื่อก่อนในวัยเด็กผมไม่เคยสนใจศึกษา ธรรมะของหลวงปู่เหล่านี้เลย เพราะฟังแล้วไม่เข้าใจ ฟังแล้วเลิกฟังกลางคัน แต่มาตอนหลัง พอผมได้ฟังเทศน์ของหลวงปู่ ทุกองค์ ผมซาบซึ้งใจมาก ได้ฟังประวัติ และปฎิปทาของหลวงปู่หลายองค์ แล้วรู้สึกฮึกเหิมมีกําลังใจในการปฎิบัติธรรม มี ความศรัทธาในพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์เหล่านี้เป็นอันมาก หลวงพ่อทําให้ผมเข้าใจคําสอนของหลวงปู่ทุกองค์ ที่ เน้นย้ําเรามากในเรื่อง “จิตตภาวนา” หรือ “จิตตสิกขา” คือ การฝึกอบรม จิตดวงนี้ จากที่มันล้มลุกคลุกคลาน หลงไปหลงมา พอใจกับการคุ้ยหาเศษขยะอารมณ์มาเสพอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ท่านทั้งหลายสอนให้เราฝึกมัน “ให้รู้ตัว ให้ตั้งมั่น ให้ว่องไว ให้ โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
2
เบิกบาน” เมื่อเจริญสติจนชํานาญ จิตนี้จะเกิดปัญญาเห็นเองว่า ทุกๆสิ่งย่อมเปลี่ยนแปลง คงทนอยู่ไม่ได้ ควบคุมไม่ได้ไม่ใช่ ตัวตน ผมจึงได้เข้าใจว่าที่ผ่านมาถึงแม้ว่าผมจะรู้จักหลักไตรลักษณ์นี้เพียงใด ก็ไม่สามารถปล่อยวางความทุกข์ได้เลย เพราะผมไม่รู้จักการเจริญสติ ไม่รู้จักสัมมาสมาธิ จิตนี้จึงไม่ได้ถูกฝึกฝน ไม่ได้อบรม จึงไม่เกิดปัญญา เพราะจะปล่อยวางได้ จริง จิตต้องเกิดปัญญาปล่อยวางได้เอง และเรามีหน้าที่ทําเหตุ คือ ปฎิบัติภาวนา ซึ่งทุกวันนี้ผมก็พยายามทําทั้งเจริญสติใน ชีวิตประจําวัน และทําในรูปแบบทุกวันตามที่หลวงพ่อสอน
ทั้งหมดที่ผมเล่ามาคือ ผลที่ได้รับจากการมีโอกาส มีบุญวาสนาได้ฟังซีดีเทศน์ของหลวงพ่อปราโมทย์ อยากหาโอกาสไป กราบหลวงพ่ออีกสักครั้งแต่ที่ผ่านมาติดที่ลูกยังเล็ก ไม่อยากเดินทางไกล และเกรงว่าจะเสียงเด็กๆเล็กๆจะรบกวนท่านที่ไป ปฎิบัติภาวนา ฟังเทศน์ของหลวงพ่อที่สวนสันติธรรม ตอนนี้ลูกเริ่มโต เริ่มรู้ความแล้ว ตั้งใจว่าปีหน้าจะหาโอกาสไปกราบ ท่านให้ได้
ท้ายนี้ผม และภรรยาขอตั้งใจปฎิบัติ เพื่อบูชาพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ ทั้งหลวงพ่อปราโมทย์ และครูบาอาจารย์ทุก องค์ ขอพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งของครอบครัวเราตลอดชีวิตครับ _/|\_ _/|\_ _/|\_ โดยคุณธานินทร์ และครอบครัว
552. หลวงพ่อเป็นหนึ่งในผู้มีพระคุณอย่างสูงสุดในชีวิต ที่กล้าพูดเช่นนี้ เพราะธรรมะที่หลวงพ่อถ่ายทอดให้ สามารถ เปลี่ยนแปลงคน ๆ นี้ ชนิดที่ไม่เพียงแต่ตัวเองที่สามารถรู้สึกได้ แม้แต่คนใกล้ชิดที่เคยเห็นเราเป็นคนอ่อนแอ ต้องพึ่งพาคน อื่น และทําให้คนรอบข้างเป็นห่วงอยู่เสมอ ก็รู้สึกว่าเราเปลี่ยนเป็นคนใหม่ ที่เข้มแข็ง พึ่งตนเองได้ และสามารถกลับไปช่วย เหลือผู้ที่เคยต้องช่วยเรามาก่อน จากที่เคยเป็นคนอ่อนไหว ทุกข์กับอะไรง่าย ๆ และทุกข์ยืดเยื้อ ยาวนาน ก็รู้สึกว่าทุกข์น้อย ลง สั้นลง และมีความสุขมากขึ้น จนสามารถเผื่อแผ่ความสุขนั้นต่อไปยังผู้คนรอบข้างได้
ธรรมะที่หลวงพ่อถ่ายทอด ฟังง่าย ปฏิบัติตามง่าย และสะดุดใจ ทําให้รู้สึกว่า ธรรมะนั้นไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่เคยเข้าใจมา ตลอดชีวิต ทําให้มีกําลังใจที่จะศึกษา ค้นคว้าเพิ่มเติมให้ลึกลงไปในสิ่งที่พระพุทธองค์สอน และทําให้รู้สึกว่า “นิพพาน” ไม่ใช่ สิ่งที่เลื่อนลอย หรือ เป็นที่ ที่ไม่มีวันไปถึง ขอเพียงให้เริ่มต้นเสียตั้งแต่วันนี้ โดยคุณ พรพรรณ 553. เป็นคนที่เกิดในพุทธศาสนา แต่ไม่เคยเข้าใจความเป็นพุทธศาสนาที่แท้จริง เดิมทีเข้าใจว่าศาสนาพุทธเป็นเพียงปรัชญาคําสอน มีไว้อ่าน และประดับความรู้โก้เก๋ไปวันๆ เพราะความโง่เขลาอย่างที่สุดของตัวเอง เลยทําให้ไม่เคยได้เข้าถึงแก่นทึ่แท้จริงของพุทธศาสนาเลย จนกระทั่งได้มีโอกาสฟังธรรมคําสอนของหลวงพ่อ จึงได้รู้และเข้าใจถึงหลักทางปฏิบัติที่พุทธศาสนิกชนพึงมี เดิมที ไม่เคยระลึกรู้ว่า ความเป็นคนดี มีคุณธรรมท่ี่แท้ควรเป็นอย่างไร คิดถึงเพียงผลประโยชน์ของตัวเองเป็นที่ตั้งก่อนเสมอ และเป็นคนที่มีชีวิตอยู่ด้วยความคิดฟุ้งซ่านตลอดเวลา มีชีิวิตที่ไร้แก่นสาร โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
3
หลังจากที่ได้ฟังซีดีของหลวงพ่อ และได้ฟังต่อเนื่องทุกวัน ทําให้ได้ระลึกรู้ถึงการประพฤติปฏิบัติเป็นคนดีแบบชาวพุทธ และการพึงระวังรักษาศึล 5 ได้เข้าใจ และเกิดกําลังใจที่จะสร้างความเพียรรู้ตัวตื่น ระลึกรู้ ระลึกเตือน ได้รู้ว่าจุดหมายปลายทางของชีิวิตคืออะไร อะไรที่เป็นเป้าหมายที่แท้จริงของชาวพุทธ และตระหนักชัดแล้วว่า การได้เกิดมาในพุทธศาสนานั้น โชคดีเพียงใด ขอกราบขอบพระคุณหลวงพ่อที่ได้เปลี่ยนคนๆนี้ให้เป็นคนที่พยายามจะเป็นคนดีของสังคม เป็นชาวพุทธที่แท้จริง คุณประโยขน์อันใด ผลบุญกุศลอันใด ที่เกิดจากการปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ และการฝึกเจริญภาวนานี้ ขอถวายเป็นปฏิบัติบูชา แด่หลวงพ่อค่ะ โดยคุณ ศศิธร Sydney, Australia. 552. My name is Chaowalit. Iʼm writing this letter to support on Loung Por Pramotʼs compassion and his teaching. I live in Los Angeles. I have never met him in person before until I started listening to his Dhama teaching seminar CD. After Iʼve been listening to his CD I find his teaching makes me understand more about Dhama. Iʼve been to many Thai temples and Iʼve never found this type of teaching before. It totally changed my life in a better way by listening and following to his instructions for a while until I feel that I am a happier person with less suffering. It takes my wisdom to another level of how I understand about Dhama. Iʼm very proud of him. It made me curious what he looks like and then I find his image on Internet. I am very delighted seeing him for the first time. Thanks to the great teacher, โดยคุณ Chaowalit. 553. กราบเรียนหลวงพ่อปราโมทย์ รู้จักธรรมะที่หลวงพ่อปราโมทย์เทศน์จาก CD ฟังแล้วนําไปปฏิบัติได้ เคยมีความทุกข์มาเรื่อย ๆ เมื่อฟังธรรมของหลวงพ่อแล้วความทุกข์ลดลง จริง ๆ จากการรู้ใจ รู้ว่าความทุกข์ ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป รู้ว่าที่เราทุกข์เพราะไม่อยากให้ปัญหาเกิดขึ้น เมื่อรู้ เราก็ยอมรับความจริงมากขึ้น มีสติในการแก้ไขปัญหาได้ดี ทุกข์สั้นลงจริง ๆครับ โดยคุณ ธนวัฒน์ 554. กราบนมัสการหลวงพ่อค่ะ การเข้าร่วมโครงการนี้เหมือนได้เขียนการบ้านส่งหลวงพ่อค่ะ ก่อนหน้านี้สนใจธรรมะและก็อ่านหนังสือ ธรรมะมาตลอด ตอนที่อ่านหนังสือธรรมะที่ไม่เกี่ยวกับการปฏิบัติ ก็รู้สึกทําให้จิตใจมีความสุขดีค่ะ แต่ก็ยังรู้สึกเป็นทุกข์ เรื่องต่างๆ อยู่ตลอด โดยเฉพาะกับความคิดของตัวเอง จนวันหนึ่งรู้สึกว่าการปฏิบัติน่าจะช่วยให้เราหาคําตอบได้จริงๆ และได้มาอ่านหนังสือและฟัง CD ของหลวงพ่อเมื่อ 2 ปีที่แล้ว จากวันที่เริ่มฟัง CD หลวงพ่อจนถึงวันนี้ มีการเปลี่ยนแปลง เกิดขึ้นมากมายที่เห็นได้ด้วยตนเอง รู้สึกเป็นบุญของตัวเองที่ได้หยิบหนังสือของหลวงพ่อมาดูในวันนั้น เพราะไม่เช่นนั้น คง เข้าใจว่าตัวเองไม่สามารถปฏิบัติวิปัสสนาได้แน่นอน หลวงพ่อได้สอนการทําวิปัสสนาที่คนแบบดิฉันสามารถปฏิบัติตาม โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
4
ได้ แม้หลวงพ่อจะบอกว่าสมถะเป็นสิ่งจําเป็นก็ตาม แต่ก็ยังนั่งสมาธิไม่ได้อยู่ดี สามารถปฏิบัติในรูปแบบได้อย่างเดียวคือ การสวดมนต์ทุกวันค่ะ และฟัง CD ของหลวงพ่อเป็นเครื่องอยู่ ทําให้ใจสงบขึ้นค่ะ การปฏิบัติตามที่หลวงพ่อสอนทําให้ได้เห็นกิเลสในตัวเองมากมาย และมีสติมากขึ้นค่ะ พอเห็นว่า ตัวเองโกรธหรืออิจฉา แล้วจิตใจดิ้นรน ก็ทําให้ตัวเองเป็นทุกข์ แล้วถ้ายิ่งไม่เป็นกลางกับสภาวะ ก็ยิ่งทําให้จิตใจดิ้นรนไปกับ ความไม่พอใจนั้น บางครั้งเห็นว่าจิตเราไปยึดกับสภาวะทําให้รู้สึกว่ามีตัวตนและเป็นเราทุกข์ขึ้นมาทันทีเลยค่ะ เลยทําให้ ไม่อินไปกับทุกๆเรื่องที่ผ่านเข้ามามากเหมือนแต่ก่อน แต่การปฏิบัติก็ยังมีกดและเพ่งอยู่บางครั้งค่ะ ก็พยายามรู้อย่างที่มัน เป็นตามที่หลวงพ่อสอนค่ะ ถ้าสิ่งที่หลวงพ่อสอนไม่ใช่สิ่งที่เป็นไปตามคําสอนของพระพุทธเจ้า ดิฉันคงไม่รู้สึกมีควมทุกข์ ลดลง เครียดน้อยลง และเข้าใจทุกข์และคนอื่นๆรอบข้างมากขึ้นแบบนี้ การปฏิบัติทําให้เราเรียนรู้ความจริง และอยู่กับ ทุกข์ได้โดยไม่ดิ้นรนอยากจะพ้นทุกข์มากเหมือนแต่ก่อนด้วยค่ะ ปัจจุบันการปฏิบัติตามแนวทางที่หลวงพ่อสอน ทําให้ได้รู้ ว่าการเป็นชาวพุทธที่แท้จริงเป็นอย่างไร มีความตั้งใจพยายาม และมีจุดหมายในการปฏิบัติต่อไปค่ะ สุดท้ายนี้ จะขอปฏิบัติบูชาต่อไปเพื่อแทนคุณของพระพุทธเจ้า, หลวงพ่อ และครูบาอาจารย์ท่านอื่น ที่สั่งสอนธรรมะให้ต่อไปค่ะ โดยคุณณิศรา
555. ได้รู้จักหลวงพ่อครั้งแรกจากการฟัง CD ธรรมะของหลวงที่มีผู้หวังดีนํามาให้ลองฟังดู ก่อนหน้านี้ได้ลองเริ่มปฏิบัติธรรมเองจากแบบอื่นๆ ก็รู้สึกแน่นๆ แล้วก็เลิกไป หลังจากก็ปฏิบัติสวดมนต์ไหว้พระตามปกติ จนได้มาฟัง ธรรมะของหลวงพ่อที่ได้ถ่ายทอด สอนเหล่าลูกศิษย์ เหมือนเป็นแรงผลักดันให้เดินกลับเข้ามาปฏิบัติ ชี้แนวทางที่ถูกต้องให้
โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
5
ปัจจุบันนี้ยังคงเดินตามแนวทางที่หลวงพ่อได้สอนไว้ ถึงแม้จะยังไม่เคยได้ไปกราบหลวงพ่อเลย ก็ตาม โดยคุณ bluemoon 556. ฉันไม่ทราบหรอกค่ะว่าในทางโลกขณะนี้เกิดอะไรขึ้น หลักฐาน พยาน ต่างๆ ดิฉันก็ไม่สามารถจะไปร่วมพิสูจน์ได้ แต่ สําหรับในทางธรรมฉันได้พิสูจน์แล้วด้วยตนเอง คําสอนของหลวงพ่อ ที่ฉันได้ศึกษาจาก CD และหนังสือ ทําให้จิตใจและ การมองโลกของฉันเปลี่ยนไปในทางที่ดี และที่สําคัญทําให้ฉันมีเป้าหมายในการดําเนินชีวิตที่ชัดเจน ฉันขอปวรณาตนเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ตลอดไปจนว่า....จะจบชาติ โดยคุณอรนุช 557. ภาวนาตามคําสอนของหลวงพ่อ ช่วยให้มีความสุขในชีวิตปัจจุบันมากขึ้น และลดการเบียดเบียนผู้อื่นลงค่ะ โดยคุณ วราภรณ์ 558. ปฏิบัติธรรมมานาน เพราะอยากเป็นคนดี อยากมีความสุข พยายาม และตั้งใจมาก ทั้งนั่งสมาธิ เดินจงกลม บังคับตัว เอง แต่รู้สึกเหมือนว่าจะดีแค่ตอนที่เราปฏิบัติ กิเลส และตัญหาในตัวเราไม่ได้ลดลงเลยกลับเป็นการเพิ่มอัตตาโดยไม่รู้ตัว แต่ได้มาฟังธรรมที่หลวงพ่อมาขยายความให้ก็พึ่งเข้าใจถึงหลัก หรือแก่นของคําสอนของพระพุทธเจ้าว่า ธรรมคือธรรมชาติ ถ้าไม่ยึดกายหรือใจ ก็เบา ขอบคุณหลวงพ่อค่ะสําหรับความพยายามในการท่ายทอดหลักธรรม ถึงแม้ว่าต้องเจอกับอุปสรรคมากมาย ขอบคุณมากค่ะสําหรับไฟส่องทางในการดําเนินชีวิตที่เหลือ จะตั้งใจขัดเกลาตัวเอง ถิงแม้หนทางจะอีกไกลแต่ก็จะพยายาม เดินมาคําสอนค่ะ ขอบคุณค่ะ โดยคุณ ธีรตี 559. ขออํานาจคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งปวงในสากลโลก ตลอดจนคุณความดีงามแผ่ไปให้ทุกคนที่เกี่ยวข้อง เปลี่ยนใจ มาเจริญสัมมาสติ พัฒนาจิต ไม่คิดอัตตา มาพัฒนาพุทธศาสนา กันดีกว่า อย่ามัวเสียเวลากับเรื่องไร้สาระเลย เวลาของเราแต่ละคนเหลือน้อยลง...น้อยลง จะตายเมื่อไร เกิดเป็นตัวอะไร ก็ไม่อาจรู้ ศาสนาจะเสื่อมก็เพราะจิตใจคนนี่แหละ พวกเราต้องรวมตัวกัน แม้จะเหลือเพียงไม่กี่คน ก็ต้องพยายามฝ่าฟันอุปสรรคนี้ไปให้ได้ เพื่อเป็นบทพิสูจน์สัจธรรม "สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม" "กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นย่อมตามสนอง" ขออโหสิกรรม หากเข้าใจผิด ขอให้ทําความเห็นให้ถูก จะได้คิดถูก ทําถูก และไม่มีคําว่าสายเกินแก้หากจะเริ่มต้นใหม่ ขออนุโมทนา สาธุ โดยคุณ พรปริญญา โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
6
560. ดิฉันเรียนพระพุทธศาสนาได้เกรด 4 มาตั้งแต่ตอนเด็กๆ แต่ไม่เคยได้รู้จักธรรมะหรือธรรมชาติที่พระพุทธเจ้าสั่งสอนไว้เลย จนกระทั่งได้ฟังหลวงพ่อปราโมทย์ ปราโมชโชถ่ายทอดสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอน ความเข้าใจในทฤษฎีและความตั้งใจในการปฏิบัติจึงค่อยๆเริ่มเกิดขึ้น ดิฉันฟังหลวงพ่อมาประมาณสองสามปี และฝึกเจริญสติในชีวิตประจําวัน รู้สึกเหมือนชีวิตเปลี่ยน รู้สึกเหมือนตัวเองตื่นขึ้นมาถึงแม้จะสลึมสลือบ้างก็ตาม จากที่ไม่เคยพิจารณาตัวเอง ไม่เคยเห็นกลไกของความสุขความทุกข์ สติทําให้เห็นความทุกข์ชัดขึ้น สติทําให้ระลึกถึงคําสอนของพระศาสดา และสติทําให้ลดความยึดมั่นถือมั่น และดิฉันก็รู้สึกว่าทุกข์มันสั้นลง ผลที่ได้รับมันเกิดขึ้นที่จิตใจของดิฉันเองโดยไม่ต้องพิสูจน์ให้ใครเห็น ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น ความเคารพ ศรัทธาของดิฉันไม่เสื่อมคลายเลย สิ่งที่ดิฉันทําได้คือ ภาวนาต่อไป และเชื่อมั่นว่าเมื่อถึงเวลาความจริงจะเปิดตัวมันเอง ด้วยความเคารพศรัทธาในพระรัตนตรัยค่ะ โดยคุณสุชาดา 561. ผมเป็นคนที่ช่างคิด เจ้าความเห็น สนใจความจริงในโลก โดยเฉพาะวิชาฟิสิกส์และความจริงในศาสนาพุทธเกี่ยวกับ การพ้นทุกข์ ข้าพเจ้าเคยปฏิบัติธรรมมาบ้าง โดยการเดินจงกรม นั่งสมาธิ แต่แทบจะไม่เคยทําสมาธิได้เลย เพราะฟุ้งซ้านมาก แต่หลังจากได้ศึกษาธรรมมะในแนวทางของท่านโดยเฉพาะการสังเกตจิตตัวเอง มาตลอด 2 ปีนี้ ทําให้เห็นตัวความคิดตัว เองมากขึ้น ( รู้ว่ากําลังคิด ไม่ใช่รู้เรื่องที่คิดอยู่ ) และเริ่มสังเกตได้ว่ามันเป็นไตรลักษณ์จริง ๆ ทําให้อย่างน้อยตอนนี้ข้าพเจ้า ก็สามารถทําสมถะกรรมฐานจนจิตนิ่งได้มากขึ้นอย่างชัดเจน ( คงเพราะรู้ทันนิวรณ์เรื่องความคิดมากขึ้น ) , รู้สึกว่าความ ทุกข์น้อยลงมาก (คงเพราะเป็นกลางกับมันมากขี้น ) และแม้จะยังมีสักกายะทิฐิ อยู่มาก แต่จากโยนิโสมนสิการของข้าพเจ้า เชื่อว่าแนวทางของหลวงพ่อจะสามารถทําให้พ้นทุกข์ได้จริงครับ กราบขอปฏิบัติบูชากับหลวงพ่อต่อไปจนถึงที่สุดครับ โดยคุณ นพดล จ.บุรีรัมย์ 562. ไม่ว่าจะเกิดคําถามใด หรืออะไรจะเกิดขึ้น "ขณะ"ใด ที่รู้สึกตัว ตื่นขึ้นมา "ขณะ" นั้นเอง คือคําตอบที่กระจ่างแจ้งว่า ธรรมะของพระพุทธเจ้า ผ่านคําสอนของพ่อคือ"ของจริง" ที่จะเป็นเหตุปัจจัยพาให้พ้นทุกข์ได้จริงในวันข้างหน้า ลูกขอปฏิบัติบูชาพระพุทธเจ้า และหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมทโช....จากใจ -กลอนถึงพ่อ "พ่อคือครู ผู้ชี้ทาง สว่างให้ คือแสงไฟ ส่องทาง ไปข้างหน้า ก้าวเดินต่อ เพราะพ่อช่วย ด้วยเมตตา "ธรรมะ"พ่อ มีคุณค่า กว่าสิ่งใด โลกธรรม ต่างคนคิด ผิดหรือถูก จิตใจลูก ยังคงมั่น ไม่หวั่นไหว จะเลือกเดิน ตามรอยพ่อ ก้าวต่อไป กราบ"ธรรม"พ่อ ด้วยหัวใจ ด้วยชีวิต" โดยคุณ -จันทนาโครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
7
563. เรียน webmaster (ไม่รู้ว่ารู้จักเป็นการส่วนตัวหรือเปล่าอะนะ) ขอส่งความเห็นมาร่วมด้วยค่ะ จากการได้รู้จักและได้เรียนเป็นลูกศิษย์กับหลวงพ่อมาตั้งแต่ปี 2544 ทําให้การภาวนาซึ่งติดเพ่งมาเป็นเวลานานนับเกือบ 20 ปี สามารถคลายออก และเจริญสติรู้เนื้อ รู้ตัวมากขึ้น ซึ่งหากไม่มีโอกาสได้เรียนรู้จากท่านแล้ว คงจะติดสภาวะเพ่งนี้ไป จนกระทั่งจากโลกนี้ไป ไม่มีโอกาสเจริญสติปัฎฐานในชีวิตประจําวันและเข้าใจรู้ซึ้งเห็นยอมรับตามความเป็นจริงในสภาวะ ไตรลักษณ์ที่เกิดขึ้นทีละขณะ ซึ่งแต่ก่อนเป็นคนช่างสงสัย ชอบซักถาม เอาแต่องค์ความรู้ไม่ค่อยยอมฝึกสติรู้ตัว หลวงพ่อจึง ต้องใช้เวลาและความเพียรพยายามหาเทคนิควิธีการสอนที่ไม่เหมือนใคร จึงทําให้จิตของดิฉันยอมรับ และพยายามฝึกฝน เรียนรู้สภาวะกายใจ ตามที่ท่านได้เพียรพยายามให้ลูกศิษย์เรียนรู้จักตัวเอง หลวงพ่อไม่เคยเรียกร้องผลตอบแทนใดๆทั้งใน รูปวัตถุสิ่งของปัจจัยต่างๆ สิ่งที่ท่านบอกกล่าว คือ หลวงพ่อไม่ต้องการอะไรตอบแทน ขอให้ลูกศิษย์ฝึกปฏิบัติเจริญสติรู้ตัว ถวายเป็นพุทธบูชาก็เพียง พอแล้ว ผลจากการฝึกปฏิบัติ ทําให้ดิฉันทุกข์น้อยลง ยอมรับตามความเป็นจริงตามหลักไตรลักษณ์ได้มากขึ้น เห็นพิสูจน์ได้เมื่อครั้น มารดาซึ่งเป็นที่รักเสียชีวิตลง ดิฉันกลับยอมรับตามความเป็นจริงของสัตว์โลกที่ย่อมเกิด แก่ เจ็บ ตาย ได้เห็นสัจธรรมเมื่อ ครั้นขณะเห็นศพมารดานอนนิ่งอยู่ พิจารณาเห็นตามที่ครูบาอาจารย์สายวัดป่าได้กล่าวว่า ร่างกายที่ตายแล้วเหมือนท่อนไม้ ท่อนฟืน จิตเกิดความปิติ เบิกบานใจ เป็นอย่างยิ่ง เหมือนศพของมารดาได้แสดงสัจธรรมให้เห็นชัดประจักษ์แจ้ง ซึ่งหาก ดิฉันไม่ได้มีโอกาสฝึกเจริญสติภาวนามา คงจะต้องร้องไห้เศร้าโศกตามวิสัยของปุถุชนทั่วไปเป็นอย่างแน่แท้ ด้วยเหตุนี้ การ เรียนรู้จิตตามหลักการที่หลวงพ่อได้สอนให้ จึงทําให้ดิฉันมั่นคงแน่วแน่ต่อพระรัตนตรัย เห็นว่าการฝึกฝนเจริญสติส่งผล ทําให้ไม่หลงไปกับทุกข์ที่เกิดขึ้น ทําให้ดิฉันรู้สึกทราบซึ้งพระคุณของท่านเป็นอย่างยิ่ง ขอกราบแทบเท้าต่อครูบาอาจารย์ หลวงพ่อปราโมทย์ ที่ท่านได้เมตตาสละแรงกาย-ใจสั่งสอนให้พวกเราได้เจริญรอยตามแนวทางองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ ได้ทรงสั่งสอนไว้ ให้สามารถดํารงชีวิตเจริญสติรู้ตัวกาย-ใจท่ามกลางโลกภายนอกที่รุ่มร้อนเต็มไปด้วยกิเลสได้เป็นอย่างดี และปฏิญาณตนเองจะเจริญสติภาวนาให้ถึงฝั่งในขณะเดียวกันก็จะมุ่งมั่นบําเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม ประเทศชาติ และทํานุบํารุงพระพุทธศาสนาในแนวทางสัมมาทิฏฐิให้เจริญสืบต่อไป โดยคุณ นุชรัตน์ 564. ชีวิตที่เปลี่ยนไปหลังจากปฏิบัติธรรมตามแนวทางของหลวงพ่อปราโมทย์ ปราโมชโช เมื่อก่อนดิฉันเป็นคนที่หลงนาน ฟุ้งซ่านนาน เมื่อมีความทุกข์ก็จะทุกข์นาน เมื่อมีความสุขก็จะติดกับดักความสุขหรืออยู่กับ ความสุขนั้นนาน จนเมื่อได้อ่านหนังสือธรรมะเล่มหนึ่ง เขียนโดยพระปราโมทย์ ปราโมชโช รู้สึกน่าสนใจมาก มีความเข้าใจ ในระดับหนึ่ง จากนั้นเริ่มสังเกตจิตใจของตัวเองว่ามีการเปลี่ยนแปลงเคลื่อนไหวตลอดเวลา แต่การเพิ่มความเข้มข้นของ การติดตามจิตใจตัวเอง ทําให้เป็นการถลําไปจ้องดูอารมณ์ของตัวเองไม่รู้ตัว สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาคือความแน่นและความ อึดอัดอยู่ภายในตนเองอยู่เป็นเดือน จนกระทั่งวันหนึ่งในเดือนมิถุนายน 2549 ครอบครัวดิฉันปิดบ้านไปเที่ยวงานแสดงดนตรีแจ๊ซที่หัวหินเหมือนเช่นทุกปีที่เคย ไป แต่ปีนี้ดิฉันเป็นคนเดียวที่เลือกมุ่งหน้าไปที่สวนสันติธรรมพร้อมกับเพื่อนอีก 2 คนแทน แม้มีความไม่สบายใจที่ขัดแย้ง กับครอบครัวในวันนั้นอยู่บ้าง แต่นับว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุดครั้งหนี่งในชีวิต เพราะนับแต่วันนั้นเป็นต้นมา ชีวิต ของดิฉันเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว วันนั้นดิฉันกับเพื่อนไปถึงสวนสันติธรรมเป็นกลุ่มสุดท้ายเพราะมัวแต่หลงทาง พวกเรานั่งแถวหลังสุด ถ้าจําไม่ผิด สมัยนั้น หลวงพ่อยังไม่มีไมโครโฟนด้วยซ้ํา แต่หลวงพ่อก็ยังเมตตาสอนการปฏิบัติแม้ต้องตะเบ็งเสียงเล็กน้อยเพื่อให้ “เด็กท้ายห้อง”
โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
8
อย่างดิฉันลองทําตาม หลังจากหลวงพ่อพาดูสภาวะได้ซักพักด้วยธรรมะเพียงคู่เดียวคือการตามดูความหลง ดิฉันก็ได้รู้จัก การ “ดูจิต” ในวินาทีนั้นเอง เพียงไม่กี่เดือนหลังจากที่ดิฉันกลับมาฝึกดูจิตต่อในชีวิตประจําวันด้วยตัวเอง ดิฉันพบว่าชีวิตเบาขึ้น มีความสุขมากขึ้นเมื่อ เปรียบเทียบกับช่วงก่อนการปฏิบัติ ความหนัก ความเครียด ความทุกข์ แม้ยังมีอยู่บ้างตามปกติของปุถุชน แต่ระยะเวลาที่ เราสูญเสียไปกับสิ่งเหล่านั้น กลับสั้นลงอย่างไม่น่าเชื่อ 2 ปีหลังจากการปฏิบัติตามแนวทางของหลวงพ่อปราโมทย์ด้วยตนเอง ดิฉันไปส่งการบ้านที่สวนสันติธรรมเพียง 1 ครั้ง เท่านั้น ท่านเมตตาสอนว่าที่ปฏิบัติมานั้นถูกต้อง ให้เพิ่มสมถะ และขอให้ปฏิบัติต่อไป จนเหตุการณ์สําคัญอย่างหนึ่งเกิดขึ้น ในชีวิตดิฉัน ซึ่งน่าจะเป็นเครื่องมือทดสอบผลการปฏิบัติด้วยตนเองว่าน่าจะพอมีความก้าวหน้าอยู่บ้าง กล่าวคือ วันหนึ่งใน ขณะที่ดิฉันกําลังขับรถยนต์เข้าไปยังห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง พบว่ารถยนต์เกิดดับวูบลงไปเฉยๆ ดิฉันพยายามเปลี่ยนเกียร์ ที่ค้างอยู่ที่ตัว D (Drive) มาที่ N (Neutral) หรือ P (Park) เพื่อจะสตาร์ทเครื่องใหม่ แต่ก็ไม่สามารถทําได้ จากนั้นพบว่ามี ควันไฟและประกายไฟพุ่งขึ้นบริเวณหน้ารถ จึงรู้สึกตกใจมาก ทันใดนั้นเอง ดิฉันเห็นความตกใจ เห็นความกลัว มองเห็น ร่างกายตัวเองสั่นและรนราน และในฉับพลันนั้นเองเช่นกัน ความตกใจและความกลัวกลับหายวับไปต่อหน้าต่อตา สติเข้ามา ทํางานแทนที่โดยอัตโนมัติ ดิฉันสั่งตัวเองให้ปลดเข็มขัดนิรภัย (Seat Belt) และปลดล็อกประตู มือคว้าข้าวของที่จําเป็นโดย เฉพาะโทรศัพท์ได้แล้วรีบวิ่งออกมาจากรถตรงไปที่เจ้าหน้าที่รปภ.ซึ่งอยู่ห่างไปไม่เกิน 5 เมตรซึ่งเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดโดย ตลอดเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ดูเหมือนเจ้าหน้าที่ท่านนั้นกําลังช๊อกกับเหตุการณ์และไม่ตอบสนองต่อการร้องขอใดๆ ดิฉัน จึงวิ่งไปที่รถคันที่จอดต่อท้ายรถดิฉันเพื่อสอบถามว่ามีถังดับเพลิงสําหรับรถยนต์ติดรถไว้หรือไม่ เมื่อได้รับคําตอบว่าไม่มี ดิฉันแจ้งให้เจ้าของรถรีบเตรียมถอยรถออกไปให้เร็วที่สุด รถของดิฉันไฟกําลังเริ่มไหม้ กลัวว่าซักพักอาจไฟลุกท่วมหรือ ระเบิด จากนั้นดิฉันวิ่งกลับมาที่รปภ.ท่านเดิม แกยังยืนนิ่งไม่ไหวติงอยู่ที่เดิม ดิฉันขอให้แกช่วยแจ้งรปภ.ท่านอื่นทางวิทยุ สื่อสารเพื่อให้เอาถังดับเพลิงมาช่วยดับไฟให้ด้วย และขอให้ช่วยเครียล์รถทุกคันที่ต่อท้ายรถดิฉันออกไปจากช่องทางให้ หมด จากนั้นให้เอากรวยตั้งที่ถนนห้ามรถคันอื่นเข้ามาเด็ดขาด หลังสั่งการกับรปภ.เสร็จแล้ว ดิฉันโทรไปแจ้ง 191 ด้วยตัว เอง เมื่อวางสายแล้วยังไม่พบว่ามีรปภ.ท่านใดตามมาช่วยเหลือ แม้ขณะนั้นสังเกตพบว่ามีประชากรไทยมุงเริ่มสะสม ประมาณ 8-10 คน โดย 90% เป็นเพศชาย อายุ 30-50 ปี มองจากภายนอกเป็นผู้มีร่างกายแข็งแรง แต่ก็ไม่มีใครให้ความ ช่วยเหลือใดๆ ดิฉันจึงตัดสินใจเลือกวิ่งไปในทิศที่เชื่อว่าน่าจะมีฝ่ายธุรการของห้างตั้งอยู่ซึ่งก็ไม่ผิดหวัง เมื่อไปถึงที่หมาย ดิฉันแจ้งให้เจ้าหน้าที่ธุรการช่วยแจ้งทางวิทยุสื่อสารให้ใครก็ได้ช่วยนําถังดับเพลิงมารีบดับไฟด่วน ซักพักไม่นานหลังจาก นั้น รปภ.ประมาณ 3-4 คนพร้อมถังดับเพลิงได้เข้ามาช่วยดับไฟในที่สุด เหตุการณ์โกลาหลจบลงได้ภายในไม่เกิน 15 นาที เมื่อใดที่นึกย้อนกลับไปทบทวนเหตุการณ์ในวันนั้น ดิฉันจะนึกถึงคําสอน ของหลวงพ่อปราโมทย์ที่ว่า เวลาเรามีอุบัติเหตุรถคว่ํารถหงายแล้วเราไม่เป็นอะไร ถ้าใครถามว่ามีพระอะไรดี ให้ตอบว่ามี “พระสติ” … แต่พระสติที่ว่านี้จะมีได้อย่างไร หากขาดพระสุปัฏิปัณโณอย่างหลวงพ่อปราโมทย์เป็นผู้บอกทาง… ไม่ว่าเหตุการณ์ตามที่มีกลุ่มผู้ไม่หวังดีได้ร้องเรียนไปยังสื่อสารมวลชนในวันนี้ จะจบลงด้วยประการใดก็ตาม ดิฉันจะยังคง ยึดมั่นในคําสอนขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าที่มีหลวงพ่อปราโมทย์เป็นผู้บอกทางอย่างไม่มีวันเสื่อมคลาย และขอ ปวารณาตัวต่อแนวทางการปฏิบัติธรรมของหลวงพ่อปราโมทย์ไปเรื่อยๆ โดยไม่มีวันเปลี่ยนแปลง โดยคุณวิภาวี 565. ดิฉันเป็นคนหนึ่งที่ปฏิบัติตามแนวทางขอหลวงพ่อปราโมทย์ ทําให้ชีวิตในปัจจุบันของดิฉันตอนนี้มีปลายทางแล้ว ทราบถึงเป้าหมายของตัวเอง และเคารพนับถือต่อพระรัตนตรัยอย่างสูงสุด ถึงแม้ว่าตอนนี้ดิฉันยังเป็นเพียงบุคคลหนึ่งที่ยัง ต้องปฏิบัติเพื่อหาเส้นทางแห่งการหลุดพ้น แต่คําสั่งสอนของหลวงพ่อที่เข้าใจได้ง่าย และเห็นจริงเมื่อลงมือทําจริง ทําให้ ดิฉันไม่หยุดที่จะปฏิบัติ ดิฉันเคยมีคําถามมากมายเกิดขึ้น และหาคําตอบไม่ได้ว่ามันคืออะไร แต่เมื่อมาได้ฟังธรรมะที่หลวง พ่ อ ท่ า นเมตตาสั ่ ง สอน ความสงสั ย ค่ อ ยๆมี ค ํ า ตอบเรื ่ อ ยๆมา ระยะเวลาที ่ ด ิ ฉ ั น ได้ ศ ึ ก ษาธรรมะจากท่ า น รวมถึ ง การ เปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในทางที่ดี เป็นบทพิสูจน์ได้ว่าหลวงพ่อท่านมีเมตตามากอย่างไร ดิฉันจะปฏิบัติดูกายดูใจตามที่หลวง โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
9
พ่อสอนต่อไปคะ ด้วยความเคารพอย่างสูงสุดที่มีต่อองค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ และพระปราโมทย์ ปา โมชโช โดยคุณ สุภาพร
566. กราบนมัสการหลวงพ่อฯ ค่ะ ด้วยคําสอนของหลวงพ่อ ที่ได้ฟังเป็นครั้งแรก แม้จะไม่เคยรู้จักแนวทางปฏิบัติแบบนี้ หรือ แม้แต่จะรู้จักหลวงพ่อมาก่อน แต่ พอได้ฟังก็ทําให้ชีวิตหนูที่กําลังทุกข์หนักมาสองเดือน พลิกกลับมาดีเหมือนเดิม หรือ จะเรียกว่าดีกว่าเดิมก็ยังได้ เมื่อต้นปี 2008 แฟนขอเลิก ซึ่งจริงๆไม่ใช่ครั้งแรกที่พบกับเรื่องแบบนี้ แต่อาจด้วยวิบากกรรมที่เคยทําไว้กับคนคนนี้หนัก เมื่อชาติก่อนๆ อกหักครั้งนั้นเลยทําให้ตั้งสติไม่อยู่ ไม่กิน ไม่นอน ร้องไห้ทุกวัน งานการผิดพลาดตลอดสองเดือน น้ําหนักลด ไป 7 kgs จนกระทั่ง กัลยาณมิตรที่ทํางานด้วยกันคนหนึ่ง ซึ่งปฏิบัติตามแนวคําสอนหลวงพ่อมาตลอดและเป็นที่รักของทุก คนในฝ่ายงาน คงเห็นแล้วว่าไม่มีทางไหนจะปลอบให้ดีขึ้นได้ เลยเอาซีดีหลวงพ่อมาให้ลองฟังเป็นทางออกสุดท้าย พอกลับมาบ้าน ก็ลองฟังในเย็นนั้น ด้วยน้ําเสียงที่เมตตาและวิธีการสอนให้ รู้สึกตัว ทําให้ความทุกข์ที่ทับถมมานานสอง เดือน ลดลงไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ แม้ว่าใจจะเศร้าหมองอยู่มาก เพราะยังอาวรณ์กับความรักในอดีตที่จบไปแล้วแต่ก็ไม่ได้ ทุกข์เท่าวันก่อนๆ หลังจากนั้นก็ได้พยายามฟังคําสอนของหลวงพ่อทุกวัน download จากเว็บโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไร ทั้งนั้น เพียงแค่ไม่เกินสองอาทิตย์ ก็กลับมามีใจที่เบิกบาน แทบจะเป็นคนละคน จนกระทั่งเพื่อนๆทัก ซึ่งสามารถตอบได้ อย่างชัดเจนว่า จิตใจกลับมาเบิกบานได้ด้วยคําสอนของหลวงพ่อ และ กัลยาณมิตรคนนั้น และจากวันนั้นเป็นต้นมา ทําให้หนูค้นพบว่า แนวทางที่เหมาะกับจริตของตัวเองก็คือการ "ดูจิต" นี่เอง เพราะแม้ว่าจะสนใจ ธรรมะและพยายามนั่งสมาธิมาตั้งแต่เด็ก แต่ก็จะหลับ หรือ ไม่ก็ฟุ้งซ่านจนต้องเลิกไปทุกครั้ง แต่การ ดูจิต ทําให้สามารถ ปฎิบัติได้บ่อย และมีสติมากขึ้น แม้ว่าตอนนี้ หนูจะเป็นศิษย์ที่ไม่ค่อยดีนัก ยังรู้ตัวน้อย เผลอตามกิเลสไปก็แทบจะตลอด เวลา แต่ยังยืนยันที่จะปฏิบัติตามแนวทางคําสอนของหลวงพ่อต่อไปจนกว่า จิต จะคลายความยึดมั่น และจะพยายามให้ มากยิ่งขึ้นก่อนจะได้มีโอกาสได้เข้าพักเพื่อส่งการบ้านให้หลวงพ่อเป็นครั้งแรกในเดือน ธันวาคม ที่โชคดีจับฉลากได้ค่ะ อยากให้เรื่องที่เกิดยุติลงโดยเร็วเพราะยิ่งนาน โอกาสที่คนจะได้ฟังธรรมะจากหลวงพ่อ ก็จะยิ่งน้อยลงไป ซึ่งหากเป็นคนที่มี ทุกข์อย่างมากแต่ไม่มีกัลยาณมิตร หรือไม่ได้ฟังธรรมะจากหลวงพ่อ ชีวิตของเค้าอาจพลิกไปในทางที่ไม่มีโอกาสได้กลับมา เบิกบาน อีกครั้งก็ได้ กราบขอบพระคุณสําหรับความเมตตาของหลวงพ่อฯ และขอนิมนต์ให้หลวงพ่อฯ มีสุขภาพแข็งแรง เพื่ออยู่ชี้แนวทางให้ บรรดาศิษย์ต่อไปอีกตราบนานเท่านาน ค่ะ โดยคุณ พรินทร์ โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
10
567. เคยไปกราบและฟังธรรมของหลวงพ่อ ที่บ้านอารีย์ ไม่เคยไปสวนสันติธรรม ฟังซีดีของหลวงพ่อทุกครั้งที่ขับรถ นําธรรมที่ท่านสอนไปลองปฏิบัติ และทําตามคําสอนต่างๆ ไม่สงสัย ไม่หวั่นไหวในเรื่องราวต่างๆ ยึดมั่นในธรรมคําสอน ทําให้มีกําลังใจในการปฏิบัติธรรม ที่ก่อนหน้านี้ลุ่มๆดอนๆ แค่ดูกาย ดูใจ ก็แย่แล้ว จึงไม่ใส่ใจในข่าวที่ว่านี้ น่าสงสารคนรุ่นหลัง หากหลวงพ่อจะไม่อยู่ในภาวะที่เทศน์สอนได้อีก จะขอปฏิบัติเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา และสังฆบูชา(โดยเฉพาะบูชาหลวงพ่อ) ต่อไป โดยคุณ มนต์ภัสสร 568. กราบหลวงพ่อ ได้ปฏิบัติตามแนวที่ท่านสอนมาได้สองปีกว่า ชีวิตจิตใจเปลี่ยนไปมากมาย ความทุกข์สั้นลง ชีวิตจิตใจและการปฏิบัติตัวกับ ครอบครัวและคนรอบข้างดีขึ้นมามาก ไม่งั้นชีวิตก้อคงจมกองทุกข์ที่แสนสาหัสอยู่เรื่อยๆ ขอบคุณหลวงพ่อมากๆ เจ้าค่ะ ที่ถ่ายทอดคําสอนของพระพุทธเจ้า ทําให้ได้เข้าใจว่าได้ง่ายว่า ชีวิตนี้ เราเกิดมาเพื่ออะไร ใช้ ชีวิตนี้ให้เป็นประโยชน์สูงสุดได้อย่างไร เห็นคุณค่าและความสําคัญของพระศาสนา ทั้งที่แต่ก่อนไม่เคยสนใจเลย และไม่ เข้าใจด้วย ... เพราะเห็นแล้วว่าเรามีชีวิตที่ดีขึ้น เลยอยากให้ผู้อื่นได้สัมผัสบ้าง ตั้งใจค่ะว่า จะมีชีวิตถวายพระศาสนาตราบเท่าที่แรงกายและใจจะทําได้ หากผลการปฏิบัติใดอันเป็นบุญกุศล ขอถวายเป็น พุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา อาจาริยบูชา ให้หลวงพ่อดํารงขันธ์ได้นานๆ เพื่อเมตตาให้พวกเราได้เข้าใจธรรมะได้ยิ่งๆขึ้น ไปเจ้าค่ะ โดยคุณ ศิริรัตน์ 569. ผมเป็นคนๆนึงที่เต็มไปด้วยกิเลศ ศีล5ข้อผมผิดหมดทุกข้อ จิตใจผมแทบไม่เคยสงบเลย ใจผมร้อนไปด้วย โทสะ โลภะ โมหะ วันๆนึงอยู่แต่กับอบายมุข ทั้งที่อายุเริ่มเลขสามแล้ว ชีวิตที่เหลืออยู่คงหาความเจริญได้ยาก # อาจเป็นเพราะบุญเก่าของผม ที่น้องชายเป็นคนธรรมมะธรรมโม เค้าได้แนะนําผมให้อ่านหนังสือของหลวงพ่อ ปราโมทย์ ผมอ่านจบรอบแรกก็เฉยๆไม่รู้สึกซาบซึ้งอะไร แต่แล้ววันนึงความทุกข์ก็ถาโถมเข้ามาพร้อมๆกันจากการเล่น พนันและการนอกใจภรรยา ความทุกข์ใจทําให้ผมไปหาซีดีธรรมมะมาฟังซึ่งเป็นซีดีของหลวงพ่อปราโมทย์นั่นเอง # พูดตามตรงเลยว่า ผมฟังซีดีของหลวงพ่อไปผมเพ่งโทษหลวงพ่อไป เพราะหลวงพ่อเทศน์ว่า “ฟังซีดีของหลวงพ่อ จิตจะค่อยๆรู้สึกตัว จะค่อยๆตื่นมากยิ่งขึ้น” ผมฟังก็คิดว่าเป็นเรื่องตลกและไม่มีเหตุผล # จากนั้นสิ่งอัศจรรย์ก็เกิดขึ้นกับผม หลังจากที่ฟังซีดีมาได้ระยะนึง ทุกครั้งที่ผมเพ่งโทษหลวงพ่อ ผมกลับรู้สึกตัว ขึ้นมาเอง แล้วจิตอกุศลของผมก็ตัดไป เป็นอย่างนี้เรื่อยๆจนในชีวิตประจําวัน ผมรู้สึกตัวบ่อยขึ้นๆ รู้ตัวว่าเผลอบ่อยขึ้น และที่สําคัญคือ เริ่มรู้จักกลัวบาปกลัวกรรม ซึ่งถ้าไม่มีหลวงพ่อที่บางคนกล่าวหาว่า “สอนผิดบ้าง อวดอุตริบ้าง” เมตตาสั่ง สอนทั้งๆที่ผมไม่เคยได้ยินเลยสักครั้งเดียวว่าท่านเรียกร้องสิ่งใดจากใครนอกจากขอให้ลูกศิษย์ของท่านปฎิบัติ ผมและ ผู้คนอีกมากมายคงใช้ชีวิตที่เหลือด้วยการเบียดเบียนตนเองและผู้อื่นไปชั่วชีวิตแล้วไปชดใช้กรรมต่อในภพหน้า # ผมเขียนเรียงความไม่เก่งแต่ได้พยายามเต็มความสามารถที่จะถ่ายทอดและยืนยันธรรมแท้ของพระพุทธเจ้าที่ ถ่ายทอดผ่านหลวงพ่อ แม้ผมจะเป็นคนที่เต็มไปด้วยกิเลศและไม่มีภูมิความรู้เรื่องพุทธศาสนาอย่างลึกซึ้ง แต่ผมเชื่ออย่าง เต็มหัวจิตหัวใจว่า “ ธรรมใดก็ตามที่แสดงให้เห็นถึง สติปัฏฐาน4 หรือการรู้กายรู้ใจตนเอง” อันเป็นทางเอกทางเดียวที่ พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ ธรรมนั้นย่อมเป็นธรรมแท้ และบุคคลผู้นั้นย่อมเป็นผู้ประเสริฐอย่างแท้จริง โดยคุณ เสกสรรค์ # # #
#
#
#
#
570. ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้นด้วยเศียรเกล้า และขอกราบบูชาพระคุณพ่อแม่ครูบาอาจารย์หลวงพ่อปราโมทย์ด้วยความเคารพ โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
11
ลูกปฏิบัติธรรมมานาน และเมื่อมาพบหลวงพ่อ จากผู้เพ่ง ลูกได้กลายเป็นผู้รู้..ผู้ตื่น..ผู้เบิกบาน ความหนักแน่นในอกหาย ไป อาการปวดหัว ตึงบ่าหายไป จิตใจแช่มชื่นมีความสุข ยิ่งภาวนาก็ยิ่งเห็นกิเลส เห็นความแย่ของตัวเองอย่างหลวงพ่อ บอก ซึ่งสิ่งนี้มีคุณค่ามาก เพราะเมื่อเราเห็นกิเลส เห็นความชั่วของคนอื่น ก็เหมือนเราเห็นตัวเอง มันทําให้เราเข้าใจผู้อื่น มากขึ้น ให้อภัยได้บ่อยขึ้น ชีวิตโดยรวมมีความสงบขึ้นความทุกข์สั้นลงและลดน้อยลงไปมาก สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ อย่างราบรื่นขึ้น นอกจากนี้ลูกยังได้เห็นการทํางานของขันธ์ห้าว่ามันทํางานได้เอง เห็นว่าตัวเราไม่ม ี เห็นผู้คนที่ เคลื่อนไหวรอบ ๆ ตัวเราเป็นเพียงอะไรบางอย่างที่ไหววูบไปมา เห็นชีวิตว่าเป็นของไม่เที่ยง ไม่จิรังยั่งยืน โลกนี้หาสาระ แก่นสารอันใดมิได้ ตัวเรานี้ก็เป็นเพียงเศษธุลีในจักรวาลอันกว้างใหญ่ ทั้งหมดทั้งปวงนี้ทําให้ลูกมั่นใจในทางที่เดินอยู่ เชื่อ มั่นในธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่หลวงพ่อได้นํามาถ่ายทอดสู่พวกเราว่าพาให้พ้นทุกข์ได้จริง เป็นธรรมแท้ที่จะไม่ เสื่อมไปตามกาลเวลา ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแก่ชีวิต ไม่ว่าโลกจะแปรเปลี่ยนไปอย่างไร ลูกจะเพียรภาวนา ไปเรื่อย ๆ ทุกลมหายใจ ด้วยเลือดเนื้อและชีวิต เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา และบูชาพระคุณหลวงพ่อ ลูกเชื่อว่าธรรมะจะ รักษาผู้ประพฤติธรรมตลอดไป ขอกราบแทบพระบาทพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยเศียรเกล้า กราบบูชาพระคุณหลวงพ่อด้วยความเคารพ โดยคุณ ณัจยา 571. ฟังซีดีหลวงพ่อมาประมาณ 3-4 ปี มีโอกาสก็ได้ไปที่สวนสันติธรรมบ้าง ธรรมที่หลวงพ่อแสดงทําให้เราเข้าใจว่า พระพุทธเจ้าค้นพบและเผยแผ่อะไร ทําให้รู้ว่าธรรมเป็นของจริงที่เราสามารถพิสูจน์ว่านิพพานมีจริงๆ โดยวิธีการไปถึงก็มีอยู่ เป็นขั้นเป็นตอน และหลวงพ่อก็นํามาสอนให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น ทําให้ชีวิตเราเปลี่ยนแปลงไปมากมาย รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่เพื่อ อะไร ความทุกข์น้อยลง หรือมีก็สั้นลงมาก หากไม่ได้พบกับธรรมที่หลวงพ่อแสดงก็ไม่รู้ว่าอีกนานเท่าไร จึงจะได้มีความ เข้าใจว่าธรรมมีความสําคัญกับชีวิตขนาดนี้ ฟังหลวงพ่อมามาก ไม่เคยมีจิตคิดปรุ่งแต่งไปในแบบที่มีคนโจมตีหลวงพ่อ นี่แหละมั้งที่เค้าว่าจิตคนเราปรุงแต่งตลอดเวลา และยึดว่ามันเป็นเรื่องจริง เป็นของจริง โดยส่วนตัวไม่ยึดติดในตัวหลวงพ่อ รู้แต่ว่าธรรมที่หลวงพ่อสอนเป็นของจริง เพราะ เห็นความเปลี่ยนแปลงในตัวเองมากมาย จากที่เคยเป็นคนคิดมากฟุ้งซ่าน พอมามีสติรู้กายใจตามความเป็นจริง ก็พบว่า ชีวิตมีความสุขขึ้นมาก และไม่หลงไปกับการปรุงแต่ง มากจนเกินไป ถึงจะไม่มีโอกาสได้พบหลวงพ่ออีกก็ไม่หวั่นไหว เพราะ คิดว่าได้หลักและแนวทางที่ถูกมาจากหลวงพ่อแล้ว และจะระลึกถึงบุญคุณของหลวงพ่อตลอดไป ขอให้ผู้ที่โจมตีหลวงพ่อ ที่ทํากันเป็นกระบวนการระลึกได้ มีสติทันความปรุงแต่งของตัวเอง สิ่งที่พวกท่านทําคงไม่ได้ทําให้ ท่านไปถึงนิพพาน หรือไม่น่าจะเป็นการดําเนินชีวิตตามคําสอนของพระพุทธองค์ที่พวกเราชาวพุทธควรกระทํา ขอให้พวก เราชาวพุทธร่วมกันแผ่เมตตาให้พวกท่านเหล่านั้นด้วยค่ะ โดยคุณ ขนิษฐา 572. ดิฉัน นางสาวพัณณนีย์ ศุภมงคล มีภูมิลําเนาอยู่ที่ 923/1 ถ.พหลโยธิน ต.เวียง อ.เมือง จ.เชียงราย ปัจจุบันทํางาน เป็นนายหน้าประกันภัยอิสระ(โบรกเกอร์) ...... ขอเล่าถึงความประทับใจ และผลของคําสอนที่ได้รับจากท่านพระอาจารย์หลวงพ่อปราโมทย์ฯ ดังนี้ ดิฉัน สนใจในธรรมะมานานแล้ว โดยเริ่มจากการอ่านหนังสือท่านอาจารย์พุทธทาสฯ เมื่อ 20 กว่าปีก่อน และหลังจากนั้น ได้หันเห..ไปคลุกคลีทางโลกอย่างมาก ไม่ได้สนใจเท่าที่ควร เนื่องจากท่านอาจารย์พุทธทาสฯได้ละสังขารไป และตัวดิฉัน ยังมีทิฎฐิ(ความคิดเห็น) ที่ว่า ..ไม่มีอาจารย์ท่านไหนดีเท่าท่านพุทธทาสฯ โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
12
ต่อมา ด้วยบุญกุศลที่คงยังมีอยู่บ้าง ดิฉันได้หันเหเข้ามาทางธรรมอีกเมื่อ 4-5 ปีที่ผ่านมา โดยเริ่มจากมีกัลยาณมิตร ที่ไป เข้าวัดปฏิบัติธรรมในสํานักแห่งหนึ่ง ซึ่งครูบาอาจารย์ท่านนั้น ท่านมีวัตรปฏิบัติที่งดงาม เข้มงวด และที่สําคัญท่านได้นํา คําสอนของพระพุทธองค์ มาอธิบายในเชิงปริยัต ิ ได้อย่างยอดเยี่ยม ทําให้ดิฉัน หันมาสนใจจริงจังอีกครั้ง หลังจาก ศึกษาอย่างจริงจัง 1-2 ปี ดิฉัน เริ่มพบว่า คําว่า "ความรู้ท่วมหัว แต่เอาตัวไม่รอด" เป็นอย่างไร เพราะรู้ทั้งรู้ว่า พระพุทธองค์ท่านสอนอะไร แต่พอเจอเหตุการณ์ต่างๆเข้ากับตัว กลับไม่สามารถนําคําสอนเหล่านั้นมาใช้ได้ และยังเกิดข้อ สงสัย อยู่ตลอดว่า "จะทําอย่างไร จึงจะนําคําสอนมาปฏิบัติได้" ..."จะทําอย่างไร จึงจะพ้นทุกข์ได้" "จะทําอย่างไร จึงจะเห็นการ ทํางานของกายใจ อย่างที่ท่านกล่าวไว้ในพระอภิธรรมได้..." วันหนึ่งดิฉันได้เปิด CD ของหลวงพ่อปราโมทย์ฯ ซึ่งได้รับจากกัลยาณมิตร มาระยะหนึ่ง แต่ไม่ยอมเปิดฟัง ต่อมาเปิดฟัง เพียงเล็กน้อย รู้สึกว่าไม่รู้เรื่อง ขณะนั้น นึกในใจว่า ถาม-ตอบอะไรไม่รู้ หลวงพ่อฯจะรู้ได้ไง สงสัยจะใช้จิตวิทยามั้ง.. คิดล่วงเกินปรามาสตั้งแต่แรก (ซึ่งต่อมาดิฉัน ได้ขออโหสิกรรมในใจ และตั้งใจปฏิบัติบูชาต่อไปตราบชีวิตหาไม่) ต่อมา...จากการฟัง CD หลายๆครั้ง และน้อมนําเข้าไปปฏิบัติในชีวิตจริง ดิฉัน ได้มีโอกาสเห็น "สภาวะธรรม" ที่จิตเกิด-ดับ เป็นครั้งแรก(และมีครั้งต่อๆมา ตามแต่โอกาสอํานวย) ขณะนั้น ตื่นเต้นมาก และรําพึงขึ้นในใจว่า "มันเป็นแบบที่ท่านสอน จริงๆด้วย อัศจรรย์แท้เชียว.." เริ่มเห็นว่า "ความโกรธไม่ใช่เรา" เริ่มเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เห็นความที่ทุกสิ่งเป็นของ "ชั่วคราว" เวียนไป เวียนมา เข้ามาในใจเรา เริ่มเห็นว่า "หลับทัังวัน" (หลง) เป็นอย่างไร เริ่มเห็นว่าเราหลงคิดทั้งวัน และเราตกเป็นทาสความคิด.. ตกเป็นทาสกิเลศในใจเรา กิเลศในใจเรานั้น "หนา" ยิ่งกว่าสิ่งใดๆ ภายในของเรานั้น น่ากลัวเพียงใด... จากการปฏิบัติตามแนวทางของหลวงพ่อฯ และได้ฟังธรรมจากการโหลดMP3 จากเวปวิมุตติ มาฟังเนื่องๆ เพื่อนํามาเตือน ตน นํามาเป็นกําลังใจในการปฏิบัติ (เพราะอยู่ไกลจากสวนสันติธรรมมาก การจะเดินทางไปพบหลวงพ่อฯ คงทําได้เพียงปี ละไม่เกิน 2 ครั้ง) ชีวิตของดิฉัน เริ่มเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ... คือ แพ่งโทษผู้อื่นน้อยลง ทุกข์ใจน้อยลง เห็นชีวิตเป็นท่อนๆตอนๆ ไม่มัวมาคิดถึงอดีต กังวลอนาคต ..มีความรู้สึกมั่นใจ ในการเดินทาง "เข้าสู่ความตาย" มากขึ้น(อายุมากขึ้น กําลังกายถดถอย เดินไปใกล้ความตายขึ้นทุกวัน) เพราะรู้ว่ามีที่พึ่ง อันแท้จริงแล้ว คือ คําสอนขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า.. ไม่น่าเชื่อจริงๆ ว่า การภาวนา ซึ่งดูจะยากเย็นเสียเหลือเกิน.. กลับกลายเป็นของธรรมดา ที่คนทํางานธรรมดา อยู่ในโลก อย่างเราๆ จะพึงทําได้.. และให้ผลได้แบบไม่จํากัดกาล (อกาลิโก) จริงๆ เชื่อว่าทุกคนที่นําไปปฏิบัติจริงๆ ย่อมรู้ว่า ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นในใจของตน..ทําให้รู้ซึ้งถึงคําว่า พุทธะ (ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน) จริงๆ(เป็นสิ่งที่ผู้ปฏิบัติพึงรู้ได้เฉพาะตน-สันทิฎฐิโก) ในส่วนตัวดิฉัน แม้จะได้ผลลัพธ์มาเพียงน้อยนิด..ก็ขอยืนยันว่าการ ปฏิบัติตามคําสอนของหลวงพ่อฯทําให้เข้าใจว่าพุทธศาสนาสอนอะไรอย่างแท้จริง และสามารถสัมผัสสิ่งที่ท่านอาจารย์ พุทธทาสฯ เรียกว่า "นิพพานชิมลาง" ได้เป็นบางครั้งบางครา.. ทําให้ไม่กลัวสิ่งที่เรียกว่า "ความทุกข์" อีกต่อไป คําสอนของหลวงพ่อฯ ทําให้ดิฉันรู้ว่า อริยสัจ4 ข้อแรก คือ "ทุกข์" ต้องรู้ โดยการเจริญสติให้มาก จึงจะรู้ได้ตามจริง.... ที่ผ่านๆมา การหนีทุกข์,เลี่ยงทุกข์ ไม่ยอมรู้ ยอมเห็น ยอมดู หรือไม่น้อมเข้ามาใส่ตัว(โอปนยิโก) ทําจิตของเราไม่ฉลาด ทํา อะไรซ้ําๆเดิม ถูกกิเลศครอบงําให้เกิดทุกข์ซ้ําซากไปเรื่อยๆ พอดิฉัน หันมาเจริญสติรู้ทุกข์ กลับพบว่า ใจเป็นสุขสงบอย่างบอกไม่ถูก ..หลุดพ้นจากวงจร(บางส่วน ซึ่งเล็กน้อย ยังไม่ หลุดอีกมาก) อุบาท ทีเคยครอบงําจิต.. ปัญหาใดๆเกิดขึ้นในชีวิต..ดิฉัน ก็เชื่อมั่นว่า สามารถนําธรรมะมาใช้เพื่อแก้ไขปัญหา โดยไม่ทุกข์ใจได้.. สุดท้าย ขอเป็นหนึ่งในหลายๆๆๆๆคน ที่ยืนยันว่า คําสอนที่มาจากหลวงพ่อฯ ผู้มีแต่ให้ ของพวกเรา.. ทําให้ชีวิตของดิฉัน เปลี่ยนไปตลอดกาล เชื่อมั่นในพระพุทธศาสนา และมีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่ง ที่ระลึก ที่เตือนให้เจริญรอย ตาม ตลอดไป ไม่ว่าจะสามารถบรรลุธรรมในภพชาตินี้ได้หรือไม่ก็ตาม ดิฉัน รู้สึกตื้นตัน,ปิติ อย่างมาก ที่มียังมีบุญได้ฟังธรรม แท้.. ของพระพุทธองค์ ที่ถ่ายทอดผ่านท่านพระอาจารย์หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
13
ขอเพิ่มเติมอีกหน่อยนะคะ .... ว่าหลังจากที่ได้ปฏิบัติตามแนวหลวงพ่อฯ ดิฉัน สามารถอ่านหนังสือ หรือฟังธรรม จากอาจารย์ท่านอื่นๆรู้เรื่องขึ้นอย่าง มากมาย..อาทิ ท่านอาจารย์พุทธทาสฯ ,หลวงพ่อชา,ท่านก.เขาสวนหลวง,ท่านอุบาสิการัญจวน,หลวงพ่อเทียน,หลวงพ่อคํา เขียน,พระอาจารย์มิตสุโอะ,สมเด็จพระสังฆราช,หลวงปู่สิม ฯลฯ .... และพบว่า ครูบาอาจารย์ทุกท่าน ล้วนพูดเรื่องเดียวกัน เพียงแต่สํานวนการพูดต่างๆกันไปเท่านั้น เสมือนเพลงที่มีทํานองไม่ เหมือนกัน แต่เนื้อร้องเดียวกัน ............ โดยคุณ พัณณนีย ์ ศุภมงคล
573. เรียน ผู้จัดทํา, ได้ฟังธรรมมะการดูจิตครั้งแรก ก็รู้สึกว่าน่าสนใจ รู้สึกโดนใจ จึงปฏิบัติมาเป็นระยะๆ รู้สึกดี รู้สึกว่าเรายังเป็นชาว พุทธที่ไม่รู้หลัก ไม่รู้ภาพรวมของหลักธรรมคําสอนในศาสนาพุทธเลย เป็นเพียงชาวพุทธในทะเบียนบ้าน บัตรประชาชน เท่านั้น ก็ฟังไป ปฏิบัติไป ได้รับธรรมมะที่กล่อมเกลาจิตใจได้และเป็นแรงบันดาลใจให้สนใจศึกษาแก่นธรรมมะมากขึ้น ทั้ง จากอาจารย์หลายๆท่านและจากพระไตรปิฎก แต่ก็ไม่ได้มุ่งมั่นอะไรเป็นเวลาประมาณ ปีกว่าๆถึง 2 ปี จนมีเหตุการณ์ที่ อยากจะบําเพ็ญบุญกุศลเพื่อเป็นบุญรักษาพี่ที่เป็นกัลยาณมิตร จึงได้เริ่มฟังธรรม และปฏิบัติอย่างตั้งใจมากขึ้น ชวนเพื่อน หรือคนที่รู้จักฟังธรรมมะ ถึงแม้จะยังไม่เกิดปัญญาอย่างแจ่มแจ้ง ก็เคยได้ประสบกับการที่รู้สึกถึงความทุกข์ ความรู้สึก ออก ห่างบ้าง และจากการฟังธรรมเทศนาของหลวงพ่อก็ทําให้อ่านธรรมมะของท่านครูอาจารย์ท่านอื่นๆ ได้เข้าใจมากขึ้น ได้รู้จัก ธรรมมะของครูอาจารย์ท่านอื่นๆมากขึ้น ในการฟังธรรมที่ผ่านมาไม่ว่าจาก CD ที่เทศนาที่สวนสันติธรรม, ศาลาลุงชิน หรือ ในโอกาสต่างๆ หลวงพ่อท่านให้ความเคารพกับคําสอนของพ่อแม่ครูอาจารย์ทุกท่านมาตลอด หากฟังจนจบครบข้อความ ความเข้าใจผิดอาจเกิดขึ้นได้ในกรณีที่หากฟังหรืออ่านเพียงบางท่อน บางส่วน และท่านให้ความสําคัญกับคําสอนของ พระพุทธเจ้า ตามพระไตรปิฎก มาโดยตลอด ไม่เห็นถึงการที่จะเรี่ยไร หารายได้ใดๆจากการฟังธรรมมีแต่ได้รับหนังสือธรรม
โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
14
มะ CD ดีๆ กลับบ้านเกือบทุกครั้ง ไม่เคยเห็นหรือการดําเนินการใดที่จะหาผลประโยชน์จากผู้ฟังธรรมมะแต่อย่างใด... เห็น แต่การให้จากการไปฟังธรรมมะ และไปสวนสันติธรรม ทุกครั้ง โดยคุณ จารุณ ี กังวาลวงศ์สกุล 574. กราบหลวงพ่อปราโมทย์ที่เคารพ ดิฉันได้ศึกษาและปฏิบัติตามแนวคําสอนของหลวงพ่อปราโมทย์มาประมาณ 2 ปี และได้พบกับตัวเองว่า ใจเย็นขึ้น มาก ทุกข์สั้นลงมาก มีสติในชีวิตประจําวันมากขึ้น แต่ที่สําคัญที่สุดคือได้พบว่าตัวเองเป็นคนที่มีกิเลสเยอะ มาก ๆ ทั้ง ๆ ที่ เมื่อก่อนดิฉันเคยรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนดีมาก แต่ยิ่งปฏิบัติก็ยื่งได้รู้จักตัวเองมากขึ้นเรื่อย ๆ คําสอนหลวงพ่อมีค่ามากสําหรับ ดิฉัน ทําให้ดิฉันรู้สึกว่าไม่เสียชาติเกิดที่ได้เกิดมาชาตินี้ และได้พบกับพระพุทธศาสนา และคําสอนของหลวงพ่อปราโมทย์ ชีวิตของดิฉันในชาตินี้ขอมอบเป็นพุทธบูชา และจะไม่หวั่นไหวกับอะไรทั้งสิ้น และจะปฏิบัติเพื่อบูชาคุณพระพุทธ พระ ธรรม และพระสงฆ์ และเพื่อบูชาบิดา มารดา ครูบาอาจารย์ จนสิ้นลมหายใจ โดยคุณ สลิลลา สุตานนท์ไพบูลย์ 575. กราบพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ กราบนมัสการหลวงพ่อที่เคารพ เขียนยาวหน่อยค่ะหลวงพ่อได้โปรดรับนิมนต์ทนอ่านหน่อยนะค่ะ วันนี้มีข่าวเกี่ยวกับหลวงพ่อมากมาย แต่ดิฉันไม่สนใจและไม่ให้ความสําญ กับข่าวนี้ นอกจากสวดมนต์แผ่เมตตาให้กับกลุ่มบุคคลที่กระทําการเหล่านี้ ด้วยเวทนาและอุเบกขา เมื่อประมาณ ๕-๖ ปีเศษไม่แน่ใจน่าจะราวๆปี ๒๐๐๔ ตอนนั้นยังเป็น คริสเตียนค่ะ แต่จริตจะถนัดในวิถีทางพุทธมากกว่า กําลังอยู่ในการตัด สินใจว่าจะเอาไงดี จะหันกลับมานับถือศาสนาพุทธ ก็ให้เกรงใจทาง คริสต์ ตั้งจิตอธิษฐานว่าถ้ายังไงขอให้ได้พบพระที่ดีและพอที่จะชี้แนะ แนวทางการปฎิบัติตนให้ได้ หลังจากนั้นเพื่อนๆก็มาชวนไปพบหลวงพ่อ ที่สถานปฏิบัติธรรมกาญจนบุรี ยังจําได้มิรู้ลืมว่าการได้มีโอกาสพบหลวง พ่อในวันนั้นได้เปลี่ยนชีวิตทางการปฏิบัติธรรมของเราอย่างสิ้นเชิง วันที่นั่งอยู่ต่อหน้าหลวงพ่อ ขอสารภาพตามจริงว่า จริงๆแล้วไม่รู้เรื่องหรอก ตอนหลวงพ่อทักว่า "รู้แล้วใช่ไหม ว่าหลงเป็นยังไง" เราก็เอ่อ...อ้า เกาหัว ยิกๆ ครั้นจะบอกไม่ทราบเจ้าค่ะ เดี๋ยวก็เสียฟอร์มแย่เพราะดันไปนั่งเสียหน้า แถวสุด ก้ได้แต่งงและเง็งเจ้าค่ะว่าอะไรกันนักกันหนา เดี๋ยว "หลง" เดี๋ยว "สติ" เดี๋ยว "ให้ตามดูจิต ตามรู้" ว้าไม่รู้เรื่องเลย นั่นวันนั้นเมื่อ ๕-๖ ปีมา แล้ว แถมได้ ซีดี มา ๑ แผ่น กับหนังสือบ๊างบางมาหนึ่งเล่ม "นับหนึ่ง" จากนั้นไม่เคยไปพบและยังไม่มีโอกาศกลับไปกราบหลวงพ่ออีกเลย ด้วย ระยะทางที่ไกลและกับเวลาที่เต็มไปด้วยงาน แต่ กราบหลวงพ่อทุกวันที่ บ้าน ด้วย ซีดี แผ่นเดียวนั่นแหละ ฟังเป็นพันๆหมื่นครั้งก็ได้เรื่องพันๆหมื่น เรื่อง ทั้งๆที่ก็ฟังอยู่แค่ ๑ ใน ๔ ของแผ่นเองเพราะไม่เคยมีเวลาฟังได้จน หมดแผ่นซักที แค่นั้นหละค่ะฟังจนถึงวันนี้ณ.เวลาเดี๋ยวนี้ก็ยังฟังอยู่ทุก เช้าและก่อนนอนบ้าง เปิดฟังเป็นเพื่อนบ้างเวลาถูบ้านซักผ้า แต่ด้วย ซีดี แผ่นนั้นแหละ - เข้าใจหลังจากนั้นอีกประมาณเดือนกว่าๆ อ้อ เจ้าความหลงเป็นเช่นนี้ เอง โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
15
- พึ่งพบว่าตัวเองสุดแสนงี่เง่า ศึกษาจนได้นักธรรมตรีเสียเปล่า แต่ไม่รู้ อะไรเลย สอบได้นักธรรมตรตอนอายุ ๑๖ ปีค่ะ แต่โง่สิ้นดี - พบว่าไอ้ที่นั่งสมาธิและไปเห็นอะไรๆนั้น และหลงคิดว่าเรามีดี โธ่ถังว่าหลงจริงๆและไม่ได้มีความหมายอะไรเลย ต้องรื้อ ระบบการฝึก สมาธิใหม่ ให้เป็นไปแบบธรรมดาไม่ยึดไม่ติดกับสิ่งที่เห็นหรือรู้สึก มีแต่ สักว่า "--" ใจนิ่งจิตสงบระงับเพื่อให้เรามีศักยภาพในการทํางานและ เผชิญสิ่งต่างๆในแต่ละวันได้ด้วยจิตที่เป็นกุศล - โกรธก็ระงับได้เร็ว ไม่ใช่แค่ระงับนะคะ แต่เข้าใจมันด้วยอ้อโกรธเป็นเช่น นี้เอง และพอรู้ว่าโกรธนะคะ ความโกรธมันดันหนีหายไปไหนก้ไม่รู้ สติ เข้ามาแทน ทีนี้อะไรๆมันก็ไม่เสียหาย จิตใจเราก็ดี คนรอบข้างก็เย็นใจและ อบอุ่น และเรายังเป็นตัวอย่างเหมือนนําประทีปธรรมมาให้เขาทุกๆคนด้วย - ยังคะ ยังมีอีกเยอะๆมากเป็นหมื่นๆล้านๆเรื่อง จาก ซีดี แผ่นเดียวนี่แหละ จนต้องมาไร้ท์เก็บไว้เพราะเกรงว่าแผ่นจะเสื่อม และไร้ทต่อแจกจ่ายเพื่อน ฝูง นําไปปฏิบัติต่อๆกันจนทุกวันนี้ ดิฉันยังไม่เห็นความเสื่อมใดๆจากการดูจิต ทุก วันนี้ก็หัดข้ามกลับมาดูกาย ด้วยเพราะมันเกี่ยวข้องกันไม่ได้แยกจากกัน ดูจิตก็ถูกกับจริตของคนทํา งานเพราะช่างคิดที่สําคัญทําที่ไหนได้ทุกที่ ไม่ต้องแบกอะไรเลย ส่วนเรื่องเงินๆทองๆสร้างที่พักหรือสถานปฏิบัติธรรม ดิฉันยังไม่เห็นเลยว่า มันจะกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตทําไมในเมื่อตอนเริ่มแรกก็ต้องจัดการตาม สภาพการ ถ้าที่ดินจะอยู่ในชื่อแม่ชี ดิฉันส่วนตัวยังไม่เห็นว่ามันจะเป็นเรื่อง ไม่งามอย่างไร การสร้างสถานปฏิบัติธรรมหลายๆแห่งก็มีอาการคล้ายๆกัน คือคนถือเงินกับจัดการการเงิน เพราะพระถือเงินไม่ได้ ของหลวงพ่อน่าจะเป็นการหาจุดอ่อน ที่บังเอิญว่ามันก็ใช่ถ้าจะหาเรื่องกัน จริงจังมาโจมตี โดยไม่ดูที่เจตนาและตั้งใจหลีกเลี่ยงที่จะพูดถึง พูดแต่ว่าผิดๆๆๆและก็ผิด ดิฉันก็เห็นประสพการณ์การสร้าง สถานปฏิบัติธรรมที่สระบุรี ก็คล้ายๆกัน หาคนทํางานก็ยากก็ต้องเอาคนใกล้ชิดนี่แหละจัดการทุกอย่าง แทนพระ โชคดีตรงที่ท่านปฏิบัติเงียบๆและรับนิมนต์น้อยมากคนก็เลยไม่รู้ จะไปหาเรื่องหาราวอะไรกับท่าน ลูกศิษย์ลูกหาก็มีพอสมควรก็จะไปและ สนทนาแบบเงียบๆธรรมดา ไม่มีพิธีรีตองมากนัก ของหลวงพ่อถ้าพูดภาษาทางโลกก็ต้องเรียกว่า"ดังเกิน"ค่ะ ที่นี้ก็มาแล้วผลประโยชน์เอยสารพัดสารพันใครๆก็อยากได้ชื่อ ว่าศิษย์ใกล้ชิดศิษย์ใน หลวงพ่อคงจะลําบากใจไม่น้อย ไม่เป็นไรค่ะตั้งแต่สมัยพุทธกาลก็มีเรื่องราวเยอะแยะเกิดขึ้น ดิฉัน เชื่อมั่นว่าหลวงพ่อจะผ่านเหตุการณ์นี้ไปได้ ต่อให้ที่วัดไม่มี ใครไปดิฉันกับเพื่อนๆก็จะไป ดีเสียอีกไม่ต้องมีคิวค่ะ ที่ผ่านมาไม่ได้ไปเพราะ เห็นคิวยาวเหลือเกิน และต้องนัดวุ่นวาย และคิดว่ามีคนที่เขาเดือดร้อนกว่าเรา ต้องการพบท่าน เราก็อย่าไปรบกวนเลย ในเมื่อ ซีดี แผ่นนั้นก็ให้คําตอบ เหมือนคุยกับหลวงพ่อทุกวันอยู่แล้วดิฉันและเพื่อนๆที่ปฏิบัติธรรมและต่างก็ฟังซีดีแผ่นเดียวกัน ต่างเติบโตทาง ธรรมจากเรื่องเทศก์ซีดีแผ่นเดียวกันนี้แหละ จนไปวัดไปบวชไปสถานธรรม ที่พวกเขาสะดวกไป บางคนที่ไม่เคยสวดมนต์ เดี๋ยวนี้เก่งกว่าดิฉันอีก เราทุก คนไม่ให้สาระกับข่าวเหล่านั้นเลย เขาอยากให้ทางการสอบสวนก็ทําไปสิ อยากให้คณะสงฆ์มาตรวจสอบก็ทําไปสิ ห่วงมากที่สุดก็แต่หลวงพ่อกับแม่ชี ทั้งหลายที่ต้องมาแปดเปื้อนวุ่นวาย และก็คงไม่ยอมจบง่ายๆ อะไรกันนักหนา นี่แหละคนที่เรียกว่าคน หลวงพ่อสอนอยู่เรื่องหนึ่งคือไม่ให้ติดพระ ไม่ให้ติดท่าน ตอนแรกก็น้อยใจ แต่พอฟัง ซีดี ไปเรื่อยๆ ก็เข้าใจแล้วว่า ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน อย่าติดท่านแต่ ให้ติดธรรม และมีความเพียรเป็นที่ตั้ง เดี๋ยวนี้เข้าใจแล้วค่ะไม่ติดพระองค์ไหน เลย แต่ยอมรับตามตรงว่าก็จะรู้สึกใกล้ชิด พระที่เป็นผู้ชี้ทางเราแต่ต้น ดิฉันก็ เลยบอกตัวเอง เราก็ลูกศิษย์หลวงพ่อคนนึง แต่อยู่ไกลๆหน่อยเท่านั้นค่ะ ขอกราบนมัสการลาค่ะ โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
16
กราบนมัสการด้วยความเคารพอย่างสูง โดยคุณ ชัญญา ถาวรทนต์ 576. ขอร่วมส่ง บทความโครงการพลังบริสุทธิ์ให้หลวงพ่อปราโมทย์ครับ -----------------------------------------ขออนุญาตเล่าประสบการณ์ของตัวเองให้เพื่อนๆฟัง บางส่วนอาจจะไม่ได้เกี่ยวกับหลวงพ่อปราโมทย์ แต่ขอเล่าเพื่อให้ เพื่อนๆได้รับรู้สิ่งต่างๆอย่างครบถ้วนครับ ผมเองสนใจในธรรมมะมานานแล้ว ตั้งแต่เรียนอยู่ ม.3 แต่ก็เป็นการฝึกสมาธิแบบงูๆ ปลาๆ แล้วก็อ่านธรรมมะจากตัว หนังสือ ศึกษาเป็นหย่อมๆ ต่อภาพของการปฏิบัติในภาพใหญ่ไม่ได้ เหมือนคนมีแผนที่เป็นชิ้นๆ ต่อแผนที่เหล่านั้นไม่ได้ ซึ่งไม่ได้ช่วยในการปฏิบัติของตัวเองเลย ขณะที่ผมเรียนปี 2 คณะวิศวกรรมศาสตร์ ผมได้บวชภาคฤดูร้อน และไปจําพรรษาที่วัดป่าที่จังหวัดอุดรเป็นเวลา 1 เดือน แล้วสึกออกมา ในช่วงนั้น ผมทําสมาธิเยอะ เกิดอาการของปีติ ขนลุกซู่ซ่า ตัวโยกโคลง น้ําตาไหล ภายหลังสึกออกมา เรียน ปริญญาตรีต่อตามปกติ ผมก็ยังคงทําสมาธิอยู่ แต่อาการปีติยังคงมีอยู่ค่อนข้างมาก ทั้งๆในเวลา ที่ไม่ได้ทําสมาธิ แต่อยู่ในชีวิตประจําวัน ก็มีปีติแรงมาก เหมือนมีอะไรขังอยู่ในใจ เป็นความรู้สึกเหมือนตื้นตัน อิ่มใจ (เกิน ปกติ) อยู่ตลอดเวลา เวลามีเรื่องอะไรสะเทือนใจ ไม่ว่าแง่ดีหรือไม่ดีเพียงเล็กน้อย น้ําตาจะไหลออกมา ผมเรียนในห้อง มีน้ําตาไหลบ่อยๆ ด้วยอาการของปีติมากเกินเหตุนี่เอง การภาวนาด้านสมาธิของผม ก้าวต่อไปไม่ได้ ติดอยู่ตรงปีตินี่เอง เพราะตอนทําสมาธิตัวก็โยกโคลงมากๆ ตอนออกจาก สมาธิใช้ชีวิตประจําวัน ก็มีปีติน้ําตาไหลตลอด จนผมรู้สึกว่าควบคุมไม่ได้ และถ้าทําต่อไป ผมเกรงว่าผมจะเสียสติ ผมเลย หยุดการภาวนาไปเป็นเวลาเกือบ 20 ปีครับ และก็ทุ่มเทเวลาไปกับการทํามาหากิน สร้างฐานะของตัวเองเหมือนฆราวาส ทั่วๆไป ต่อมาในปลายปี 2549 ผมได้รับไฟล์ mp3 ของหลวงพ่อปราโมทย์ ซึ่งในตอนแรกๆ ผมไม่ได้สนใจ เพราะชื่อของท่านเป็น ชื่อของคนเมือง ในมุมมองของผม พระป่าที่เก่งๆ ต้องมีชื่อแบบไทยๆ พยางค์เดียว ชื่อแบบชาวบ้านๆ แต่หลังจากนั้น ผมได้เห็นชื่อของท่านบ่อยมากขึ้นเรื่อยๆ ผมชักเอะใจว่าทําไมชักได้ยินบ่อยมากเข้า ก็เลยหันมาลองฟังดู แต่เนื่องจากอดีตก่อนหน้านั้น ผมเคยนับถือพระยันตระมาก่อน จากกรณีอื้อฉาวของพระยันตระ ทําให้ผมรู้ว่าพระที่คน ศรัทธามากๆ ไม่แน่ว่าเป็นพระดี ผมจึงไม่ยอมศรัทธาหลวงพ่อปราโมทย์ในครั้งแรก แบบตามแห่ แต่ผมไม่ปิดใจ ตั้งใจว่า จะลองฟังท่านดูว่าเป็นอย่างไร และตั้งใจว่า จะไม่เผยแพร่คําสอนของท่านให้คนรู้จักเลย จนกว่าผม จะได้รับผลของการปฏิบัติตามคําสอนของท่าน แล้วสิ่งที่ผมได้รับจากการฟังท่านสอนครั้งแรก คือความงงครับ ท่านสอนแปลกไปกว่าที่ผมเคยได้ยินมามาก ที่ผมสงสัยและไม่เข้าใจคือ ท่านบอกว่า สติที่เกิดจากการกําหนดนั้น ไม่ใช่สติตัวจริง เป็นสติที่เจือด้วยโลภะเจตนา หรือ ความอยากนั่นเอง ผมก็งงว่า สติมันมีสติตัวจริง สติตัวปลอมด้วยเหรอเนี่ย หลวงพ่อทําไมเทศน์แปลกๆแบบนี้ แต่ผมก็ฟังต่อเนื่องไป และลองทําตามที่ท่านสอน ในด้านสมาธิ ผมก็กลับมาทําสมาธิแบบเดิมที่ผมเคยทํา จิตผมก็เข้าสู่สภาวะปีติเหมือนเคยในเวลาไม่นานนัก แต่คราวนี้ ผมทําความรู้สึกตัวอย่างชัดเจน ไม่หลงไปตามอาการปีติเหล่านั้น โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
17
ปรากฏว่า จิตของผม สามารถผ่านจุดเดิมที่เคยทําได้ และเข้าสู่ความสงบในอีกระดับนึง ที่รู้สึกถึงลมหายใจอย่างเบา สบาย โดยไม่ต้องเจตนาให้จิตอยู่กับลม มันก็รู้สึกอยู่กับลมหายใจได้โดยไม่ต้องบังคับ ทําให้ผมรู้ว่า เมื่อเราไม่บังคับ แต่ จิตแนบกับลมไปแล้ว ความหนักของการบังคับมันหายไป มันเป็นอย่างนี้นี่เอง แต่ผมก็ไม่ได้เน้นที่การทําสมาธิอีกแล้ว แต่เน้นที่การเจริญสติแทน จนเวลาผ่านไป 1 ปี ขณะที่ผมอาบน้ําอยู่ ขณะกําลังตั้งใจเจริญสติกับการอาบน้ํานั้น ผมเห็นตัวความอยากที่จะปฏิบัติใน ขณะนั้นเอง ผมถึงเข้าใจในสิ่งที่ท่านสอนว่า สติที่เกิดจากการกําหนด เจือด้วยโลภะเจตนา นั้นเป็นอย่างนี้นี่เอง ประโยคเดียวของท่าน ผมใช้เวลา 1 ปีในการทําความเข้าใจครับ ที่ท่านว่า เข้าใจได้ด้วยจิต ไม่ใช่เข้าใจด้วยการคิด มันเป็น อย่างนี้นี่เองครับ หลังจากนั้น ในเดือน พย 2551 ผมมีอาการปวดคอ ปกติผมจะทํางานจนถึงดึกต่อเนื่องทุกวัน แต่อาการปวดคอ ทําให้ผม ต้องนอนพักในช่วงเวลาทุ่มนึงถึงประมาณสองทุ่ม ผมจึงใช้การนอนพักนี้ เป็นแค่การนอนพักคอ แต่ไม่ให้หลับ จะใช้การนอนและขยับนิ้วมือ หรือดูความคิดฟุ้งซ่านเพื่อ ทําความรู้สึกตัวเป็นระยะๆ ทําให้ในช่วงนี้ ผมมีเวลาเจริญสติต่อเนื่องได้ ผมทําเช่นนี้ได้ประมาณ 1 อาทิตย์ จนถึงวันที่ 21 พย 2551 ในเวลาประมาณ 7 โมงเช้า ข้างบ้านผม ก็เปิดเพลงขึ้นมา ด้วยเครื่องเสียง เสียงดังตึมขึ้นมา ด้วยนิสัยของผมที่เป็นคนขี้โมโหอยู่แล้ว และผมจะโกรธมากที่สุด เมื่อกําลังนอนอยู่ และถูกรบกวนให้ตื่นนอนขึ้นมา วันนี้ก็เช่นกัน ผมโกรธมากเหมือนเคย แต่คราวนี้ ไม่เหมือนเคยครับ ผมรู้สึกได้ว่า ความโกรธ แยกออกไปเป็นอีกตัวนึง แล้วมีอะไรสักอย่างไปรู้ความโกรธนั้นอีกทีนึงครับ มันแยกกันชัดเจนอย่างที่ผมไม่เคยรู้สึกเช่นนี้มาก่อนในชีวิต และขณะนั้น ผมไม่ได้หลับ ไม่ได้ฝัน แต่ตื่น และรู้สึกตัวตลอด เวลา ปรากฏการณ์เช่นนี้ เกิดขึ้นนานประมาณ 7-8 วินาที แล้วก็หายไป กลับมาเป็นสภาวะทั่วไปตามเคย โดยทั่วไป เวลาคนเราโกรธเนี่ย ถึงระงับความโกรธไว้ได้ แต่ใจจะมีกรุ่นๆ ของความโกรธคงเหลืออยู่ แต่คราวนี้ ทั้งๆที่เป็นความโกรธมาก แต่มันมาแบบแยกให้เห็น ใจผมกลับโปร่งโล่ง เบา สบาย ไม่มีไอกรุ่นๆของความ โกรธเหลืออยู่เลย เหมือนมันขาดสะบั้น แบบเราปิดสวิตช์ไฟแบบนั้นเลยครับ ผมก็เลยเข้าใจที่หลวงพ่อบอกว่า ถ้าสติตัวจริงเกิด จิตตั้งมั่น ความโกรธจะดับนั้น เป็นอย่างนี้นี่เองครับ หลังจากนั้น ผมก็มีประสบการณ์ย่อยๆ เป็นครั้งคราว เกิดขึ้นเป็นช่วงๆ เช่น เดินอยู่ชั้นล่างของบ้าน แต่เห็นความคิด แยกออกไปเป็นอีกตัวนึง แล้วมีอะไรบางอย่างไปรู้ความคิดนั้นอีกที ต่างจาก ภาวะปกติที่ความคิดกับตัวเรามันจะรวมเป็นตัวเดียวกันและเราจะเข้าใจไปว่า เราเป็นคนคิด หรือไม่ก็ทานข้าวอยู่ เห็นความคิดวูบขึ้นมา แล้วดับไป ไม่มีตัวเราในนั้น มีแต่สภาวะธรรมของความคิดที่เกิดขึ้น และดับ ไป หรือไม่ก็ล้างมืออยู่ กลับรู้สึกว่า ตัวเองกําลังล้างท่อนอะไรสักอย่างนึงอยู่ ที่ไม่ใช่ตัวเรา โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
18
สิ่งต่างๆเหล่านี้ เกิดและรับรู้ได้ด้วยตัวผมเอง ผมขอเป็นพยานตรงนี้ให้กับคําสอนของหลวงพ่อปราโมทย์ครับ ว่าคําสอน ของท่านนั้น ให้ผลในการภาวนาก้าวหน้าได้จริงๆ ณ วันนี้ ผมศรัทธาหลวงพ่อจากการทําตามสิ่งที่หลวงพ่อสอน หลวงพ่อแนะนํา ไม่ได้ศรัทธาเพราะคนแห่กันมาศรัทธา มากมาย ไม่ได้ศรัทธาเพราะเขาลือกันว่าท่านดีอย่างนั้น อย่างนี้ ไม่ได้ศรัทธาเพราะปาฏิหาริย์ อภิญญา อะไร แต่อย่างใด ผมเองเคยไปกราบหลวงพ่อครั้งเดียว ที่วัดใหม่เสนา ตรงวังหินลาดพร้าว ตอนท่านไปเทศน์ในงานหลวงปู่หลอดครับ ไม่เคยมีโอกาสส่งการบ้านกับท่านเลยด้วยซ้ําไป ดังนั้น ที่เขากล่าวหาว่าคําสอนของท่าน ทําให้ต้องพึ่งพิงหลวงพ่อตลอด เวลา กลายเป็นคนอ่อนแอนั้น ไม่ใช่กรณีของผมอย่างแน่นอน ทุกวันนี้ ศรัทธาในใจผมที่มีกับหลวงพ่อ แน่นแฟ้น เพราะธรรมที่ปรากฏในใจผมจากการทําตามคําสอนของหลวงพ่อ คือของ จริง ที่รับรู้ได้ ขอบุญกุศลที่ได้กระทํามา ช่วยคุ้มครองหลวงพ่อให้พ้นจากภัยทั้งหลายด้วยเทอญครับ โดยคุณ ปิยะมิตร 577. ขอกราบแทบเท้าหลวงพ่อปราโมทย์ ผู้ทําให้ชีวิตของลูกเปลี่ยนไป ความทุกข์หายไปอย่างเห็นได้ชัด จิตพัฒนาไปใน ฝ่ายกุศลมากขึ้น รู้สึกศรัทธาในพระพุทธศาสนามากขึ้น แม้กระทั่ง ลูกสาววัย 19 ปี ก็พูดเหมือนกันว่าศรัทธาใน พระพุทธเจ้าหลังจากที่ฟังธรรมะของพระพุทธเจ้า จากหลวงพ่อปราโมทย์ มาเป็นเวลา 3 ปีแล้ว หลวงพ่อสอนให้เรารู้สึกตัว เป็น เห็นความไม่เที่ยงของกายและใจ เห็นจิตที่หลงไปในอารมณ์ ถ้าไม่ได้หลวงพ่อเป็นผู้อบรมสั่งสอน ชีวิตก็คงไม่ดีขึ้น เคยคิดว่าการภาวนาสําหรับคนแก่ ตอนแก่ๆ จะ ภาวนา ไม่รู้ด้วยซ้ําไปว่าการภาวนาคืออะไร หลวงพ่อคือผู้ชี้แสงสว่างให้ ทั้งลูก และ ครอบครัวทุกคน ลูกขอปฎิบัติบูชาพระพุทธเจ้า และหลวงพ่อปราโมทย์ ตลอดชั่วชีวิต โดยคุณ ณัฐิมา 578. กราบนมัสการพระอาจารย์ปราโมทย์ ดิฉันเป็นผู้หนึ่งซึ่งเริ่มสนใจธรรมะจริงจัง หลังจากฟังการบรรยายของท่านด้วยคําพูดที่ธรรมดา ฟังง่ายแต่กินใจลึกซึ้ง จาก คนที่เคยมีความสุขบ้างและความทุกข์บ้างจากการดําเนินชีวิตตามปกติ แต่ปัจจุบันมีความเข้าใจว่าความสุขที่แท้จริงคือการ ได้เรียนรู้ตนเอง รู้จักกายและใจของตนเอง โดยไม่คาดหวังอะไรจากอะไรทั้งนั้น รู้จักในทุกสิ่งที่เป็นไปตามธรรมชาติด้วย ความเข้าใจ ทําให้ใจยอมรับในทุกสิ่งและเลือกปฏิบัติตนในทางที่เหมาะสมที่สุด คําสอนของท่านจะเน้นถึงแก่น โครงสร้าง พร้อมคําอธิบายอย่างชัดเจนว่าจะต้องปฏิบัติอย่างไร เพื่ออะไร ทําให้หมดข้อ สงสัยในทุกเรื่องราว และมีความสุขแบบถาวร และพร้อมที่จะใช้ชีวิตในทุกลมหายใจอย่างมีสติ และมีคุณค่า การฟังคําสอนของท่านสนุกกว่าการฟังเพลงที่ดิฉันเคยชอบและหลงไหลมากๆ แต่ปัจจุบันดิฉ้นไม่เคยสนใจฟังเพลง ดิฉัน สนใจที่จะใช้เวลาให้เป็นประโยชน์มากที่สุดโดยการเลือกที่จะฟังคําสอนจากท่านแม้จะเป็นร้อยๆ ครั้งก็ได้ข้อคิดที่ละเอียดขึ้น เรื่อยๆ ทําให้เข้าใจได้ว่าธรรมะเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนจริง และเข้าใจความเป็นจริงว่าจิตของเราฝึกได้ หากประชาชนคน ไทยมีโอกาสได้หันมาศึกษาคําสอนของท่านอย่างจริงจัง พร้อมถือปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง รับรองได้ว่าเมืองไทยจะเจริญกว่านี้ ไม่มีการแบ่งพรรค แบ่งพวก หรือทําอะไรเพื่อเน้นผลประโยชน์ส่วนตนแน่ๆ เพราะท่านเน้นให้เริ่มจากการถือศึล 5 ทําให้คน ไม่ทําบาปและศึกษาตนเอง จนรู้จักตนเองอย่างถ่องแท้ และจะสามารถเห็นตัวตนที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนได้จริงๆ เนื่องจาก ปกติคนเรามักจะมองแต่จุดที่ดีของตนเองตลอดเวลา จุดที่เราทําไม่ดีไม่เคยเห็น จากการหันมาเรียนรู้ตนเองทําให้เรารู้ว่ามี เรื่องราวอีกมากมายที่เรายังทําไม่ดีอยู่ และเมื่อรู้เข้าไปมากๆ จิตจะยอมรับเองว่าควรหรือไม่ควรทําอะไร การกระทําของเรา จะผ่านการกลั่นกรองจากสติ ซึ่งถือว่ามีค่าอย่างที่สุด ดิฉันขอเป็นเสียงหนึ่งในการสนับสนุนพระอาจารย์ปราโมทย์ และยังคงนับถือท่านให้เป็นพระอัจฉริยะผู้เปลี่ยนแปลงสังคม ไทยได้ในระดับหนึ่ง ปัจจุบันมีคนไทยจํานวนมากที่สนใจการปฏิบัติธรรมโดยไม่ได้ทําเพราะเป็นแฟชั่น แต่ถือปฏิบัติอย่าง จริงจังเพราะเข้าใจถึงแก่นแท้ของพระพุทธศาสนา ซึ่งส่วนสําคัญของความเข้าใจนี้เกิดจากการทุ่มเทแรงกาย แรงใจ ของ โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
19
พระอาจารย์ปราโมทย์ ซึ่งวางแผนการสอนเป็นอย่างดี เป็นผู้แจกแจงเนื้อหาที่ยากๆ ให้ฟังง่าย ปฏิบัติง่ายและเป็นไปตาม ขั้นตอน โดยหากใครติดตามและถือปฏิบัติอย่างจริงจัง ได้ผลแน่นอน ขอกราบขอบพระคุณพระอาจารย์ปราโมทย์ ปาโมชโช เป็นอย่างสูง มา ณ โอกาสนี้ ทั้งนี้ ขอขอบคุณผู้ริเริ่มโครงการแสดงพลังด้วยค่ะ มีค่ามากๆ ค่ะ โดยคุณ รุ้งนภา
579. ข้าพเจ้าชอบฟังธรรมะสายพระป่าสายหลวงปุ่มั่นเป็นนิสัย รู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง เข้าใจบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง ใฝ่หาให้รู้ธรรมะของพระพุทธเจ้า เพื่อหาทางพ้นทุกข์ รักดี รังเกียจความไม่ดีต่างๆ ถือตัวว่าดีกว่าผู้อื่น พอได้มาฟังธรรม พอจ. ปราโมทย์ ถึงทราบกระจ่างชัดว่า ข้าพเจ้ามีมานะสูง ถือดี ไม่รู้จักความเป็นกลาง ความมีมานะ ก็เป็นกิเลสอย่างหนึ่ง ละเอียดมาก เมื่อก่อน ไม่เข้าใจนึกว่าตัวเองปฏิบัติดีมาตลอด ที่แท้มันก็เป็นของไม่เที่ยง มีแต่ความรุ้สึกชอบอันนี้ ไม่ชอบอันนั้น ถึงแม้ปัจจุบันก็ยังไปไม่ถึงไหน ยังทําใจให้รู้อย่างเป็นกลางตามที่ พอจ.สอนยังไม่ได้ รู้สึกว่าเป็นลูกศิษย์ที่ล้าหลัง แต่รู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงตัวเองจากเดิมที่เต็มเปี่ยมไปด้วยโทสะ ความเกลียดชัง มาเป็นรู้ตัวมากขึ้นว่ากําลังโกรธ แล้วก็ดับ แล้วก็โกรธใหม่ เดี๋ยวก็ดับอีก นึกถึงคําสอน พอจ.ไม่ให้ทําผิดศีล บางครั้งก็ทําได้ บางครั้งก็ไม่ได้เพราะไม่รู้ทันจิต พอรู้ตัว มันก็ดับ แค่รู้สึกเจ็บๆ คันๆ ที่ใจ สัญญาเก่าติดมาหลายภพชาติมากๆ บางวันก็หลง โดนกิเลสมันหลอกเอา กว่าจะรู้ได้ก็หลายนาที เดี๋ยวนี้เข้าใจธรรมะของพระพุทธเจ้าแล้วว่า การเดินสายกลางหมายถึงอะไร เหนือดี เหนือชั่ว คืออะไร เรียนธรรมคู่ เพื่อรู้ธรรมหนึ่ง คืออะไร (จากหนังสือของพอจ.คะ) ให้อยู่กับปัจจุบันขณะ คืออะไร หยุดคิดถึงรู้เป็นยังไง แค่รู้สึกตัว ก็สามารถเข้าถึงพระธรรมได้ จะว่าง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็ยาก พอเข้าใจ จึงเกิดกลัวบาปกรรม เกิดความสงสารเพื่อนมนุษย์ขึ้นมาเอง โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
20
บอกไม่ถูกเหมือนกัน ไม่อยากให้ผู้คนหลงผิดไป จะทําบาปโดยไม่รู้ตัว ขอกราบขอบพระคุณ พอจ. พระผู้มีเมตตา กับผู้โง่เขลาอย่างข้าพเจ้าให้เข้าถึงธรรมคําสอนของพระพุทธเจ้า โง่มาตั้งหลายสิบปี กว่าจะได้พบคําสอนที่เข้าใจง่ายของพระผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ เป็นเนื้อนาบุญของแผ่นดิน โดยคุณ นิรมล 580. เคยปฎิบัติธรรมเองส่วนใหญ่จะไม่เพ่งก็หลง มีโอกาศได้ฟังธรรมของหลวงพ่อ แค่เริ่มรู้สึกตัวเป็น เห็นจิตที่หลงไปคิด ได้บ่อยๆ ความทุกข์ก็น้อยลงมากๆ รู้สึกว่าตัวเองมีวาสนาได้มาเรียนธรรมะที่หลวงพ่อสอนครับ โดยคุณ ภัทรธร 581. เรียน เพื่อนร่วมทุกข์หัวใจบริสุทธิ์ หลักคําสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผ่านการถ่ายทอดโดยความเมตตาจากหลวงพ่อปราโมทย์ ปราโมชโช ด้วยภาษาและถ้อยคําที่เข้าใจง่าย ดึงดูดให้กลุ่มคนรุ่นใหม่กลับมาสนใจศึกษาศาสนาพุทธอย่างจริงจังมากขึ้น เรียนรู้ความ จริงอย่างมีเหตุมีผล เรียนรู้อยู่ที่กาย และใจ ตนเอง ทําทานรักษาศีลให้มั่น มีสมาธิ หมั่นเจริญปัญญา ให้ปฏิบัติบูชา มีความ เพียร ให้เอาร่างกายเป็นดอกไม้ปฎิบัติบูชาถวายแด่พระพุทธองค์ เมื่อเราดําเนินตาม..เห็นความพ้นทุกข์ได้จริง .. มีธรรมะเกิดปัญญา จะไม่ทําให้ตนเองและผู้อื่นเดือดร้อน..รักและเมตตา ต่อเพื่อนร่วมทุกข์ (อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลยนะ) หลวงพ่อทําให้เราเชื่อมั่นและศรัทธาในองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน พระธรรมคําสอน และ พระ สงฆ์สุปะฏิปันโน โดยคุณ ลภัสรดา ( ข้าพเจ้ามีเจตนาดีที่จะสืบทอดพุทธศาสนา ให้คงอยู่สืบไปอย่ามั่นคง ) 582. เคยรู้สึกว่าธรรมะเป็นเรื่องไกลตัว และใช้ชีวิตแบบหลงๆและทุกข์มาตลอด พยายามอยากจะเข้าใจ แสวงหามาเรื่อย แม้ไปปฏิบัติธรรมครั้งแรก ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่า นั่งสมาธิไปทําไม เดินจงกรมไปเพื่ออะไร จนกระทั่งได้พบหลวงพ่อปราโมทย์ จากที่เคยมืดแปดด้าน ก็ สว่างขึ้นเรื่อยๆ และเห็นทาง จากที่เคยทุกข์ยาวๆก็สั้นลงเรื่อยๆ จากที่เคยไม่เคยรู้เนื่อรู้ตัว ก็มีสติมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่หลงยาวเหมือน ตลอดชีวิตที่ผ่าน รู้สึกโชคดีเหลือเกินที่ได้เกิดเป็นมนุษย์พบพระพุทธศาสนา ได้พบทางที่ถูกต้องและลัดสั้นไปสู่ความหลุดพ้น ได้พบพ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่ประเสริฐ และมีเมตตาอย่างหลวงพ่อปราโมทย์ ท่านเป็นผู้มีพระคุณอย่างยิ่ง สําหรับดิฉันค่ะ อยากให้เพื่อนร่วมทุกข์ทั้งหลาย ที่ยังเข้าใจผิดหลวงพ่อ หรือผู้ที่ยังไม่รู้จักหลวงพ่อดีพอ ได้รับรู้ไว้ว่า พวกเราโชคดีมากแล้วที่ได้เกิดมาพบกับพ่อแม่ครูอาจารย์ อย่างหลวงพ่อปราโมทย์ ฉะนั้นอย่าได้เสียเวลาไปกับเรื่องไร้สาระ ข่าวไร้สาระ อีกเลย มารักษาศีลและตั้งใจปฏิบัติอยู่ในชีวิตประจําวันของเราให้ได้ สม่ําเสมอจะดีกว่าค่ะ โดยคุณ พิมพ์ระวี
โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
21
583. ข่าวคราวที่ติดต่อหลายวัน ความศรัทธาต่อหลวงพ่อไม่เสื่อมถอย แต่อยากฝากถามกลุ่มขี้สงสัยโดยอ้างความยุติธรรมหรือรู้มากว่า เพียงแค่ปฏิบัติตามสิ่งที่หลวงพ่อท่านถ่ายทอดจากองค์พระพุทธเจ้า มาให้เราพบการดํารงชีวิตที่ไม่เบียดเบียนใคร ทําให้เราตื่นจากการถูกกิเลสครอบงํา แล้วหลวงพ่อท่านจะหลงในกิเลสเองประมาณนั้นหรือ กลุ่มที่กําลังสร้างความปั่นป่วนรู้ตัวถึงวิบากกรรมที่กําลังทําอยู่หรือเปล่า อย่างน้อยถ้าตัวเองไม่ศรัทธา ก็ควรจะละวิบากกรรมต่อเพื่อนมนุษย์ที่เขาบริสุทธิ์ที่จะเห็นทางต่อสู้กับกิเลส อย่าได้ตัดสินใจแทนผู้ที่เขาศรัทธาต่อหลวงพ่อเลย อย่าได้มากําหนดชิวิตของคนอื่น เพราะคิดว่าตัวเก่ง หรือ ยุติธรรมเลย ขอให้สํานึกได้ เราพร้อมจะอโหสิกรรมให้ได้ เพราะไม่มีใครทําถูกและผิดตลอดเวลา สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ก็รู้กันอยู่ไม่ใช่รึ สาธุ โดยคุณ มุกดา 584. ผมเป็นคนหนึ่งที่เป็นพุทธแค่ในบัตรประชาชน จนกระทั้งวันหนึ่ง (ปลายปี 2548) ได้สแกนหาคลื่นวิทยุไปเรื่อยๆ ขณะ ขับรถ ได้สะดุดเสียงธรรมจากพระรูปหนึ่งซึ่งรู้สึกได้ถึงความเมตตาในน้ําเสียง และเนื้อหาที่คนคนหนึ่งซึ่งจบทางสายวิทย์ฟัง แล้วรู้สึกว่าพุทธศาสนามีมากกว่าการเรารับรู้ จึงยกเลิกธุระที่จะทําแล้วตามไปขอ CD จากสถานีวิทยุสังฆทานฯ โดยเนื้อหา ที่ฟังครั้งนั้นเป็นธรรมะภาคปริยัติ โดยไม่ได้สนใจในเรื่องหลวงพ่อจะมีเจโตฯหรือไม่ (เพราะผมจบสายวิทย์ ซึ่งไม่ค่อยเชื่อ ในเรื่องพวกนี้เป็นทุนอยู่แล้วในตอนนั้น) หลวงพ่อจะเป็นพระอริยะชั้นใดผมไม่รู้ จึงได้ตามหาครูบาอาจารย์ทางธรรมของผม จากทางอินเตอร์เน็ท เพราะพระเจ้าหน้าที่ทางวัดสังฆทานไม่ทราบว่าหลวงพ่อจําวัดอยู่ที่ไหน เมื่อทราบที่อยู่ของท่านที่สวน โพธิ์ฯ จึงได้ไปกราบฟังธรรมที่นั้น เห็นท่านครั้งแรกรู้สึกถึงความเมตตาที่มีในองค์จริงทั้งรูปลักษณ์ และการแสดงธรรมที่ งดงาม จึงคิดว่าเราควรศึกษาธรรมะอย่างจริงจังได้แล้ว เลยได้ไปกราบท่าน 3-4 ครั้ง ก่อนจะย้ายมาที่สวนสันติธรรม หลัง จากได้ศึกษาไประยะหนึ่งจึงคิดว่าควรจะนําครอบครัวมาเรียนรู้ธรรม จะได้เป็นเกราะป้องกันสังคมอ้นเสื่อมทรามลงใน ปัจจุบันและอนาคตต่อไปที่ลูกๆจะต้องเผชิญ ทําให้ครอบครัวผมดํารงชีวิตอย่างมีสติ มีความเป็นอยู่อย่างพอเพียง (ใช้จ่ายที่ เหมาะสมกับรายได้ และมีส่วนเหลือเก็บ) นอกจากนั้นธรรมะที่หลวงพ่อแสดงยังทําให้เห็นด้วยว่าเด็กเล็กอายุ 9-10 ขวบ (เมื่อ 3 ปีก่อน) อย่างน้องมายด์ก็สามารถฝึกได้ และฝึกได้ดีกว่าพ่อเสียอีก(555) และยิ่งไปกว่านั้นหลวงพ่อยังเมตตาเป็น ห่วงน้องมายด์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ครอบครัวของผมปลาบปลื้มเป็นที่สุด :) สุดท้ายนี้ผมขอสรุบจากใจว่าผมศรัทธาเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อจากคําสั่งสอน(ที่ผมมีโยนิโสมนสิการ ทําให้ผมได้เริ่มอ่าน พระไตรปิฎก และสามารถฟังธรรมจากพระรูปอื่นรู้เรื่องมากขึ้น ไม่อ่อนแอ) ท่านจะทักวาระจิตใครได้หรือไม่ก็เป็นคุณวิเศษ ของท่านไม่เกี่ยวกับผม ผมปฏิบัติตามแล้วทําให้ผมเข้าใจโลกมากขึ้น รู้จักตัวเองมากขึ้น และจะพาครอบครัวปฏิบัติ เพื่อ เป็นการบูชา พระพุทธเจ้าและหลวงพ่อ ตลอดไป โดยคุณ โสภณ,อัญรัตน์,สุภัชชา(น้องมายด์),ณฐดนย์(หม่อน) สมัยรัฐ 585. ดิฉันเริ่มฟังซีดีหลวงพ่อปีกว่าแล้วและปฏิบัติในชีวิตประจําวัน เมื่อก่อนจะหลงคิดฟุ้งซ่านทั้งวัน ในหัวมีแต่ความคิดลอยเต็มไปหมด แต่ตอนนี้มีสติรู้ตัวมากขึ้น แม้จะมีทุกข์แต่ก็เป็นสุข แล้วก็เป็นความสุข ที่ไม่ต้องพึ่งพิงคนอื่นด้วย ใครทําคนนั้นก็ได้ จะปฏิบัติต่อไปเพื่อบูชาคุณหลวงพ่อปราโมทย์ โดยคุณ คัทลียา 586. ข้าพเจ้าไม่ได้ศรัทธาหลวงพ่อเพราะ ท่านเป็นพระ ข้าพเจ้าไม่ได้ศรัทธาหลวงพ่อเพราะ ท่านเป็นลูกศิษย์หลวงปู่ดุลย์ ข้าพเจ้าไม่ได้ศรัทธาหลวงพ่อเพราะ ท่านมีชื่อเสียง ข้าพเจ้าไม่ได้ศรัทธาหลวงพ่อเพราะ เป็นอาจารย์ ข้าพเจ้าไม่ได้ศรัทธาหลวงพ่อเพราะ ท่านดีอย่างนั้น ดีอย่างนี้ ข้าพเจ้าไม่ได้ศรัทธาหลวงพ่อเพราะ ท่านสามารถทําอย่างนั้นได้ ทําอย่างนี้ได้ ข้าพเจ้าไม่ได้ศรัทธาหลวงพ่อเพราะ มีคนเชื่อว่าเป็นพระอรหันต์ แต่ 1. ข้าพเจ้าศรัทธาหลวงพ่อเพราะ ท่านสอนให้ข้าพเจ้าเห็นโทษ และหวาดกลัวต่อการผิดศีล โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
22
2. ข้าพเจ้าศรัทธาหลวงพ่อเพราะ ท่านสอนให้ข้าพเจ้ามีความตั้งใจรักษาศีล 5 ตลอดชีวิตอย่างเคร่งครัด 3. ข้าพเจ้าศรัทธาหลวงพ่อเพราะ ท่านสอนให้ข้าพเจ้ารู้จักทําทาน รู้จักให้ผู้อื่นทั่วไปมากขึ้น ทําทานอย่างไม่เบียดเบียน ตนเอง ไม่มานั่งหวังผลประโยชน์จากการทําทาน จนถึงการทําทานใหญ่คืออภัยทาน
4. ข้าพเจ้าศรัทธาหลวงพ่อเพราะ ท่านสอนให้ข้าพเจ้าเห็นว่ามนุษย์ทุกคนทําสิ่งต่างๆ เพราะคิดว่าทําแล้วเขาจะมีความสุข 5. 6. 7. 8. 9. 10. 11. 12. 13. 14. 15.
ซึ่งเช่นเดียวกันกับเรา เพียงแต่เขามีวิธีการหาความสุขที่ต่างจากเราเท่านั้น ทําให้ยอมรับการกระทําต่างๆของคนอื่น ง่ายขึ้น ทิฏฐิมานะน้อยลง ข้าพเจ้าศรัทธาหลวงพ่อเพราะ ท่านแนะนําให้ข้าพเจ้าได้รู้จักครูบาอาจารย์ที่ดีๆ ที่ไม่เคยรู้จัก เช่นหลวงปู่ดุลย์ หลวงปู่ สิม หลวงปู่เทสก์ หลวงปู่เหรียญ หลวงปู่สุวัจจ์ ฯลฯ ทําให้ไปหาคําสอนดีๆ ของพระผู้ปกิบัติชอบมาศึกษา และเข้าใจ ธรรมะเหล่านั้นได้ เพราะอาศัยคําสอนของหลวงพ่อที่นํามาช่วยให้เข้าใจ ข้าพเจ้าศรัทธาหลวงพ่อเพราะ ท่านสอนให้ข้าพเจ้าเห็นว่าตัวเองเป็นคนที่เต็มไปด้วยกิเลส ที่ยังต้องฝึกฝนตัวเองต่อไป ข้าพเจ้าศรัทธาหลวงพ่อเพราะ ท่านสอนให้ข้าพเจ้ารู้สึกตัวได้บ่อยๆ จนสามารถรู้ทันกิเลสที่เกิดขึ้น และสามารถห้าม กาย ห้ามวาจา ไม่ให้ไปก่อให้เกิดโทษได้ (แม้จะยังไม่ 100 %) ข้าพเจ้าศรัทธาหลวงพ่อเพราะ ท่านสอนให้ข้าพเจ้ามีความสุขทุกครั้งที่หลงไปแล้วรู้สึกตัวขึ้นมา ข้าพเจ้าสามารถมี ความสุขโดยไม่เสียเงินซักบาท ชั่วขณะที่รู้สึกตัวขึ้นมา ข้าพเจ้าศรัทธาหลวงพ่อเพราะ ท่านสอนให้ข้าพเจ้ามีความทุกข์น้อยลง ไม่ดิ้นรนอยากได้วัตถุที่เกินกว่าความจําเป็นที่ ต้องใช้ ในการดําเนินชีวิตของตน ข้าพเจ้าศรัทธาหลวงพ่อเพราะ ท่านสอนให้ข้าพเจ้าเริ่มมีความเข้าใจในไตรลักษณ์ ข้าพเจ้าศรัทธาหลวงพ่อเพราะ ท่านสอนให้ข้าพเจ้าเห็นความเก่งเป็นเลิศของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าศรัทธาหลวงพ่อเพราะ ท่านสอนจนทําให้ข้าพเจ้า ก้มกราบพระพุทธรูปด้วยเศียรเกล้า เนื่องจาก ความซาบซึ้ง ในพระมหากรุณาธิคุณ ของพระพุทธเจ้าที่ทรงยอมลําบากออกสั่งสอนธรรมะถึง 45 ปี จนแม้กว่า 2,500 ปีแล้วก็ยัง สืบทอดธรรมะที่สุดยอดเช่นนี้มาถึงเรา ข้าพเจ้าศรัทธาหลวงพ่อเพราะ ท่านสอนให้ข้าพเจ้าจากคนไม่สนใจการสวดมนต์ มาใช้การสวดทุกวันก่อนนอน เพื่อ เป็นการทําสมถะ เพราะหลวงพ่อตอบคําถามข้าพเจ้า(ว่าใช้การดูจิตในแต่ละวันไม่ต้องทําสมถะได้หรือไม่) ว่าจําเป็น ต้องทําสมถะ ไม่เช่นนั้นจะไม่มีแรงดูจิต ข้าพเจ้าศรัทธาหลวงพ่อเพราะ ท่านสอนข้าพเจ้าซึ่งเป็นคนที่ท่านไม่เคยรู้จัก ไม่มีใครพาไปแนะนํา โดยไม่เคยส่ง ซิกแนลว่าจะเรียกร้องสิ่งใดๆ นอกจากขอให้ขยันภาวนา ซึ่งก็เพื่อความสุขของข้าพเจ้าในอนาคตนั่นเอง ข้าพเจ้าศรัทธาหลวงพ่อเพราะ ท่านสอนข้าพเจ้าเห็นว่ามรรคผลนิพพาน ไม่ใช่ของสุดเกินเอื้อมของคนอย่างข้าพเจ้าอีก ต่อไป จากเดิมที่คิดว่ามรรคผลนิพพานเป็นเพียงเอกสิทธิ์ของคนที่ต้องทําสมาธิได้จนถึงระดับเท่านั้น คนที่ไม่สามารถ ทําสมาธิได้อย่างข้าพเจ้านั้น ต้องเวียนว่ายตายเกิดไปอีกนานแสนนาน จนหมดศรัทธาและเลิกภาวนาไปแล้ว เมื่อฟัง ธรรมของหลวงพ่อ ก็กลับมาทําภาวนา จนเดี๋ยวนี้สามารถทําสมาธิได้มากขึ้นเอง จนเข้าใจที่ท่านบอกว่าภาวนาไป สุดท้ายก็เข้าสู่จุดเดียวกันเหมือนการขึ้นเขาที่มีหลายทาง
ดังนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ข้าพเจ้าจะยังเคารพนับถือท่าน เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้ทําให้สิ่งดีๆ ที่ท่านสอนหายไปจาก ตัวข้าพเจ้า ข้าพเจ้าพิสูจน์ตามหลักกาลามสูตรแล้ว ว่าจิตใจตนเองดีขึ้นกว่าเดิม จึงเคารพท่านเป็นอาจารย์ ข้อมูลเพิ่มเติม เมื่อ 30 ธันวาคม 2548 ได้ไปทําธุระบางอย่างที่เมืองกาญฯ กลุ่มคนที่ไปด้วยเขาแวะกราบท่านที่สวนโพธิ์ จึงได้แวะ เข้าไปด้วย โดยไม่มีความรู้อะไรเกี่ยวกับท่านเลย ไม่เคยรู้จักว่ามีท่านอยู่บนโลกนี้ ไม่เคยรู้ว่าท่านมีชื่อเสียง มีความสามารถ อะไร แต่พอนั่งฟังท่านเทศน์ก็รู้ทันทีเลยว่านี่แหละธรรมะที่เหมาะเจาะกับเรา แม้ว่าจะไม่ค่อยเข้าใจสิ่งที่ท่านสอน แต่คําสอน ที่ท่านบอกให้รู้กายรู้ใจในทุกขณะในชีวิตนั้น คือแนวทางที่เราน่าจะทําได้ หลังจากนั้นใช้เวลานานหลายปี ก็เริ่มรู้เริ่มเข้าใจ ในสิ่งต่างๆมากขึ้น และมีอาการเหมือนหลายคนในที่นี้คือ ความทุกข์ห่างออกไป ความสุขมากขึ้น คนใกล้ชิดเราเขาก็มี ความสุขมากขึ้นเพราะเรามีวิธีการจัดการความไม่พอใจทั้งของเขาและของเรามากขึ้น ความพยาบาทลดน้อยลงอย่างมาก (ยังเก็บไว้นิดหน่อย เสียดายอุตส่าห์สร้างสมมาตั้งหลายชาติ) ตัวอย่างที่ยังแปลกใจและงงๆ อยู่ว่าบังเอิญ หรือ จริง นั่นคือ หลังจากปฏิบัติมาได้ระยะหนึ่ง เราเหมือนมี นะ เมตตา ทั้งๆที่ไม่ได้มีมนต์บทนั้นเลย เวลาไปติดต่อ สอบถาม ซักถาม ผู้คน ทั่วไป ส่วนใหญ่จะมีแต่คนที่ยิ้มแย้มแจ่มใสให้ และกระตือรือล้นเต็มใจให้ความช่วยเหลือเรามากกว่าตอนที่เรายังไม่ได้ ปฏิบัติ อย่างเห็นได้ชัด โดยคุณ สุกัญญา
โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
23
587. หลวงพ่อสอนให้รู้ว่า การที่เราอยู่กับชีวิตทางโลกนี้ เราก็สามารถปฏิบัติธรรมได้ และได้ชี้ให้เห็นว่าสิ่งนี้เป็นการปฏิบัติ วิปัสสนาแท้จริง มิจําเป็นต้องหลบหลีกเข้าป่า เข้าในที่สงัดเท่านั้นจึงจะปฏิบัติได้ สิ่งที่ท่านสอนนี้ทําให้ชีวิตที่เคยทุกข์มาก กังวลมาก เครียดทุกอย่าง ตอนนี้ก็สามารถอยู่กับปัญหารอบด้านได้โดยที่ทุกข์น้อยลง สุขภาพจิตดีขึ้น พร้อมรับกับทุก ปัญหาที่จะเข้ามา เพราะทุกอย่างหลวงพ่อสอนไว้แล้วว่า มันเกิดขึ้น ตั้งอยู่ เดี๋ยวก็ดับไป ไม่มีอะไรพ้นจากกฎไตรลักษณ์ ปัจจุบันด้วยงานที่มากจึงไม่สามารถไปหาหลวงพ่อได้ทุกอาทิตย์ นานๆไปที ก็มี CD ไว้ฟังตลอด ยิ่งตอนที่หมดกําลังใจ หรือ ตอนที่สับสนว่าจะไปยังไงต่อ และเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นแ่ค่เรื่องเข้าใจผิดกันเท่านั้น ธรรมะแท้ๆ ก็มาพิสูจน์กันสิ ไม่เก็บเงินสัก บาท นอกจากจะอยากทําบุญเอง โดยคุณ จอมพจน์ ยินดีให้ข้อมูลทุกอย่าง เพื่อรักษาพุทธศาสนาให้บริษัท4คงอยู่ต่อไป คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อุบาสก อุบาสิกา
588. ผมเคยได้กราบหลวงพ่อและฟังธรรมะจากหลวงพ่อครั้งแรกที่สวนสันติธรรมเมื่อหลายปีก่อน แต่ก็ยังไม่เข้าใจ เมื่อหลวงพ่อทักว่าเผลอไปแล้ว ก็ยังไม่รู้ตัวว่าเผลอเป็นอย่างไร ไม่เข้าใจ จนภายหลังผมได้ฟัง CD คําสอนของหลวงพ่อหลายรอบ จึงเริ่มเข้าใจและนําธรรมะที่หลวงพ่อสอนมาดูจิตในชีวิตประจําวัน ทําให้พบความจริงว่า เรามีกิเลสมากกว่าที่คิดไว้ก่อนหน้านี้มาก เมื่อก่อนคิดแต่ว่าตัวเองดี แต่พอได้ดูจิตตัวเองเท่านั้น จึงรู้ว่ากิเลสของเรานั้นมากมายจริงๆ ตัวเราเองนั้นร้ายกว่าที่คิดไว้มาก ทําให้เลิกเพ่งโทษคนอื่น และมีเมตตาต่อผู้อื่นมากขึ้น (สิ่งนี้เกิดขึ้นได้เอง ไม่ได้ใช้สมองในการคิดพิจารณา) ถึงผมจะเป็นศิษย์ที่ไม่ได้เรื่อง มีความก้าวหน้าในทางธรรมไม่มาก แต่ก็ได้ตระหนักและซาบซึ้งในคําสอนของหลวงพ่อ ว่าทําให้กิเลสลดลงได้จริง ความทุกข์ลดลงได้จริง ขอกราบขอบพระคุณหลวงพ่อ ที่ทําให้ผมได้พบกับแนวทางปฏิบัติที่สามารถเปลี่ยนแปลงตัวของผมเองได้อย่างแท้จริง และขออาราธนาหลวงพ่อให้อยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรแก่บรรดาศิษย์ และเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้ยั่งยืนสืบไปด้วยเทอญ ไม่ว่าการณ์ข้างหน้าผลจะออกมาเป็นเช่นไร แต่ผมเชื่อว่าหลักธรรมคําสอนของหลวงพ่อเป็นแก่นธรรมของจริง และจะยึดเป็นหลักปฏิบัติสืบไป โดยคุณ สุรศักดิ์ โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
24
589. " ระลึกในพระคุณของหลวงพ่อที่เมตตาสอนธรรมะ ทําให้เข้าใจธรรมะและมีกําลังใจในการปฏิบัติมากขึ้น เคยฟัง ธรรมะทีท่านมาบรรยายที่สถาบันวิมุติยาลัย ท่านก้มลงกราบ ท่าน ว.วชิรเมธีก่อนซึ่งท่าน ว.รีบกราบตามแทบไม่ทัน ใครที่ เคยกล่าวหาท่านนั้น สิ่งที่เราเห็นด้วยตาตนเองไม่เห็นเป็นอย่างนั้น ท่านอ่อนน้อม มีเมตตา สอนให้เราขยันภาวนา เน้นการ ปฏิบัติเรื่องเงินนั้นไม่เคยได้ยินว่าให้บริจาค และท่านยังเคยกล่าวว่าไม่ต้องมาตั้งว่าท่านเป็นอริยะบุคคลระดับไหนๆ ให้เราดู กิเลสของตนเองไป เมื่อเราเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อ ก็เสียใจที่ มีเรื่องไม่จริงมาทําลายชื่อเสียงของท่าน หากแต่ด้วยความเคารพหลวงพ่อ สิ่งที่เรา ทําให้ท่านได้ก็คือ จะขยันภาวนา ปฏิบัติบูชาเพื่อแทนพระคุณ" โดยคุณ วิสาขา 590. สิบสี่เมษาปีห้าศูนย์ บุญเกื้อกูลให้ได้พบได้กราบท่าน จากวันนั้นท่านมีคุณอนันต์ พลิกชีวิตนี้นั้นให้เปลี่ยนไป สอนให้รู้ ให้เห็น ให้เข้าใจ ความเป็นไปของวัฏฏสงสาร ให้เข้าใจสาระสําคัญทางนิพพาน ว่าจะผ่านสังสารนี้ไปอย่างไรกัน สอนให้มีสติคอยรักษา ใจตั้งมั่น สิ่งผ่านมาอย่าสงสัย อย่างแทรกแซง อย่าหมายแย่งแกล้งทําไป ให้เพียงรู้สิ่งผ่านใจอย่างมั่นคง ถ้าฝึกฝนทําจนเป็นนิสัย มองเห็นสุขผ่านไปไม่ห่วงหา มองเห็นทุกข์ผ่านไปไม่โศกา อนิจจาอารมณ์นั่งชมดู แล้วจะเป็นผู้รู้ ผู้ดู ผู้เห็น ไม่ได้เป็นผู้เล่น ผู้ลอง ผู้สงสัย ดูทุกสิ่งผ่านมาแล้วผ่านไป ผ่านหัวใจที่เป็นกลางอย่างผู้ดู จากวันนั้นถึงวันนี้ ศิษย์ได้มีชีวิตที่พลิกผัน จากคนที่จิตใจไม่ตั้งมั่น ก็พอยันพอยืนสู้รู้ตามจริง ทุกข์ใดๆที่เคยมีในชีวิต พรากจากจิตจางคลายหายหมดสิ้น พิสูจน์ทางสายกลางว่ามีจริง หากทําจริงก็จะเห็นพระพุทธองค์ ศิษย์ขอกราบขอบพระคุณท่านผู้ให้ ถ่ายทอดคําพระธรรมใหญ่เหนือทุกสิ่ง สอนให้ศิษย์ตามรู้ดูตามจริง ผลที่ได้จะใหญ่ยิ่งเหนือสิ่งใด โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
25
แม้วันนี้จะมีคําครหา แต่ศรัทธาของศิษย์หาสิ้นไม่ จะจดจําคําท่านสอนตลอดไป ตราบที่กายใจนี้มีให้ดู ๑๕ กันยายน ๒๕๕๓ โดยคุณ พิณรัฐ 591. ดิฉันชื่อ ธชิญา เกิดมาในครอบครัวคนจีนที่ต้องใช้ชีวิตอยู่กับการทํางาน หาเงิน ตามคําสอนของคนรอบตัวว่า ถ้ามี เงินทุกอย่างจะดีไปหมด ค่อนชีวิตจึงใช้ชีวิตไปกับการทํางาน ทําบุญก็ทําตามประเพณีนิยมกันไป ไม่เคยปฎิบัติธรรมไม่เคย แม้แต่จะคิด เพราะเป้นคนที่เชื่อมั่นในตัวเองมาตลอด จนกระทั่งได้อ่านหนังสือประทีปส่องธรรมของหลวงพ่อถึงได้รู้ว่าที่ผ่าน มาทั้งชีวิตหลงทางมาตลอด ยิ่งได้ศึกษาและปฎิบัติ ตามแนวทางของท่านเหมือนดิฉันได้เกิดใหม่ ชีวิตมีความสุขทางใจมาก ขึ้น มองทุกอย่างเป็นกลางมากขึ้น เพราะธรรมะคือธรรมชาติ ชึวิตเปลี่ยนแปลงไปมาก ดิฉันเชื่อว่าที่ได้เดินตามแนวทางของ ท่านเป็นสิ่งที่ดีที่สุด เพราะว่าเห็นผลที่ได้กับตัวเองไม่ต้องเปรียบเทียบกับใคร และตั้งใจจะปฎิบัติต่อไป ศรัทธาที่แท้จริงไม่ สามารถสร้างได้ภายในวันเดียว เพราะฉะนั้นจึงไม่สามารถกระทบและลบได้เพียงชั่วข้ามคืน จะเคารพท่านเป็นครูบา อาจารย์ตลอดไป โดยคุณ ธชิญา 592. กราบนมัสการ หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช พ่อทางธรรมผู้ยิ่งใหญ่ จาก ผู้ปาวรณาตัวขอเป็นศิษย์ นส. อนัญชนา ์ และครอบครัว นายสว่าง นางอรุณ นายอัครพล นางดรุณี ด.ญ ณ กมล ด.ญ ณญาดา ธรรมของหลวงพ่อเป็นธรรมที่ยิ่งใหญ่ ไร้ขอบ ไร้เขต เป็นความจริงของธรรมชาติและความจริงตามคําสอนของ พระพุทธเจ้า ทําให้ปุถุชน มีดวงตาเห็นธรรมหลายต่อหลายคน รวมทั้งดิฉัน ซึ่งเกิดมาพร้อมกับความมืดทางธรรม แต่เริ่ม สว่างและพบหนทางเดินในสังสารวัฎนี้ เมื่อได้ฟังธรรมจากหลวงพ่อจากการได้ไปกราบที่สวนสันติธรรมครั้งแรก เมื่อ ประมาณเดือนกรกฎาคม 2553 ต่อจากนั้น ก็ฟังเทศน์ของหลวงพ่อจากซีดีเรื่อยมา นับเวลาก็ประมาณเพียงแค่ปีเศษๆ แต่ ชีวิตที่ผ่านมาในช่วงนี้มีความสุขมากกว่า 30 กว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากเห็นทั้งสุขและทุกข์เป็นสิ่งธรรมด ใจมันพอจะยอมรับ ได้บ้าง โดยสติเป็นเหตุใกล้ให้เกิดปัญญา ประมาณ 1 ปี ก่อนหน้าที่จะมีบุญได้ฟังธรรมจากหลวงพ่อ ได้ไปบริจาคดวงตาที่ สภากาชาด พร้อมทั้งอธิฐานว่า ขอให้มีดวงตาเห็นธรรม คําอธิฐานนี้ได้สัมฤทธิ์แล้ว 30 กว่าปีที่ผ่านมา หลงตามไปกับกิเลสตลอดเวลา ทั้งที่จิตรู้ตั้งแต่ 6-7 ขวบแล้วว่า เพิ่งผ่านการตายมาไม่นาน และกลัวมากต่อการตายที่ผ่านมา แต่ก็ไม่รู้ว่าตายด้วยเหตุใด ซึ่งด้วยปัญญาขณะนั้นไม่รู้ว่าจะต้องปฏิบัติอย่างไร ทําได้ เพียงแค่ทําบุญ ตักบาตรตามคุณแม่ที่เข้าวัดมาตั้งแต่ดิฉันเด็กๆ และมีอยู่วัดนึงที่คุณแม่พาไปตอนอายุ 8 ขวบ มีต้นโพธิ์ต้น ใหญ่เป็นที่ตั้งของพระพุทธรูปของวัดนั้นเพื่อกราบไหว้ก่อนที่จะเข้าไปทีศาลาเพื่อถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์ เมื่อทุกคนเข้า ศาลากันหมด ดิฉันก็นั่งสมาธิกําหนดพุทโธ เหมือนเป็นความเคยชินที่เคยทํามาก่อน ซึ่งก็ได้สติปัญญาทางโลกๆมาจากการ ฝึกนี้ แล้วกิเลสก็จรมาใหม่ ให้ลุ่มหลงไปกับโลก แต่เมื่อได้ฟังธรรมจากหลวงพ่อแล้ว จิตจึงรู้เลยว่า ที่ผ่านมาขาดอะไรอยู่ และได้ภาวนาตามที่หลวงพ่อสั่งสอนตลอดมา หลวงพ่อเทศน์เป็นประจําว่า อย่ายึดติดกับตัวหลวงพ่อ แต่ให้ฟังธรรมของ พระพุทธเจ้า หลวงพ่อท่านสอนเสมอว่า วัฎสงสารนี้น่ากลัว ที่มันปิดบังตัวมันเองได้ ซึ่งหากผู้ที่เข้าใจความเป็นจริงแล้ว จะไม่กล้า ทําบาปทํากรรมเลย แค่หลวงพ่อสอนเพียงเท่านี้ หากทุกคนเกรงกลัวต่อบาปกรรมที่ได้กระทํา คนในโลกก็จะอยู่อย่างไม่ เบียดเบียนกันและมีความสุขแล้ว นี้เป็นแค่ความสุขทางโลกเท่านั้น ความสุขทางธรรมก็จะเกิดได้ตามมา หากมีปัญญาเข้า ถึงต่อไปอีก ธรรมของหลวงพ่อ ก็คือการคัดเอาธรรมของพระพุทธเจ้ามาสอนแก่ศิษย์ ผู้ที่รู้กาย รู้ใจตามความเป็นจริง ลงปัจจุบัน ก็สามารถเข้าถึงวิมุตติได้ หลวงพ่อสอนว่า หนทางสู่ความสําเร็จมีทางหลายทาง เหมือนขึ้นภูเขา แล้วแต่จริตของผู้ปฏิบัติ แล้วแต่ทางของตน ซึ่งดิฉันเป็นคนหนึ่งที่จริตตรงกับคําสอนของหลวงพ่อ ไม่ว่าท่านจะบรรลุพระอรหันต์หรือไม่ มีเพียง พระพุทธเจ้าเท่านั้นที่พยากรณ์ได้ ดิฉันก็ยังคงเคารพ นับถือหลวงพ่อไม่เสื่อมคลายด้วยธรรมและเจตนาดีของท่านที่มีต่อลูก ศิษย์ทุกคน และท่านก็จะเป็นพระอริยสงฆ์ของดิฉันโดยตลอดสังสารวัฎนี้ ขอนําบทความของหลวงพ่อที่เทศน์แล้วจับใจดิฉันมาลง ณ ท้ายสุดนี้ เพื่อให้สติต่อสัตว์โลกทุกคน ว่าง สว่าง บริสุทธิ์ หยุดความปรุงแต่ง หยุดการแสวงหา หยุดกิริยาของจิต ไม่มีอะไรเลย ไม่เหลืออะไรสักอย่าง แต่มีความไม่มี เมื่อทุกคนเห็นได้เช่นนี้แล้ว ก็จะไม่เกิดกรณีข้อพิพาทดังที่ผ่านมา โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
26
สาธุ __/|\__ __/|\__ __/|\__ โดยคุณ อนัญชนา 593. ขอร่วมเป็นหนึ่งเสียง แสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อปราโมช และเป็นกําลังใจให้ทุกๆท่านที่ร่วมมือร่วมใจช่วยเหลือในทุกๆเรื่อง ดิฉันเป็นคนหนึ่งที่ได้ฟังซีดีของหลวงพ่อก่อนที่จะได้ พบตัวจริงของท่าน ซีดีเทศนาธรรมของหลวงพ่อที่ศาลาลุงชินครั้งที่ 17 แผ่นเป็นแรกที่ได้รับฟัง ดิฉันเกิดความสงสัยใคร่รู้มาก ว่าทําไมหลวงพ่อถึงรู้ว่าใครคิดอะไรเป็นอย่างไร ในตอนแรกดิฉันบอกได้ตามตรงเลยว่ายัง ติดใจในบ้างเรื่องที่ท่านพูด *แต่พอได้ฟังและได้สอบถามเพื่อนที่ศึกษาปฏิบัติธรรมโดยการรู้สึกตัวทําความเข้าใจเพิ่มขึ้นและมากขึ้นตามลําดับ โดยการ ได้ฝึกปฏิบัติด้วยตนเอง จึงเข้าใจว่าเหตุใดหลวงพ่อจึงทักวาระจิตของบุคคลในการฝึกการรู้สึกตัว ท่านโปรดเมตตาแนะนํา ชี้แนวทางให้แต่ละบุคคล เหมือนกัยบ้างไม่เหมือนกันบ้าง เพราะเนื่องจากนิสัย จริตของแต่ละท่านนั้นต่างกัน จงเปรียบเหมือนท่านได้เมตตาสอนแนวทางให้แก่บุคคลนั้นๆได้โดยตรง และผลจากการปฏิบัติตามคําแนะนําของหลวงพ่อ ทําให้ดิฉันรู้สึกศรัทธาหลวงปู่ดุลย์มากขึ้น ทั้งๆที่ไม่เคยได้รู้จักหลวงปู่ ท่านไม่เคยกล่าวสิ่งไม่ดีใดๆที่เป็นการว่าร้าย หรือล่วงเกินหลวงปู่หรือท่านอื่นๆ และสุดท้ายสิ่งที่ได้ผลกับตนเองคือ เข้าใจและรู้จักตนเองมากขึ้น ช่างใจกิเสลที่เกิดขึ้นได้ทันการโดยที่รู้สึกตัวได้ก่อนจะ ปล่อยใจตามกิเลส ถึงแม้ดิฉันจะฝึกตามแนวทางของหลวงพ่อ ได้ไม่นานและยังไม่รู้ชัดมาก แต่ผลที่ได้มันก็มีค่ากับการใช้ชีวิตของดิฉันมากค่ะ ขอแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อปราโมช เป็นกําลังใจค่ะ โดยคุณ เกษราภรณ์ 594. จากคนที่เคยอยู่แต่กับชีวิตที่มีแต่ความหลงและโง่เขลา มีกิเลสทั้งหลายเป็นตัวผลักดันให้ชีวิตเดินและหมุนไป คิดอยู่แต่เพียงว่า ข้าเก่ง ข้าเจ๋ง ข้าแน่ หลงติดอยู่แต่กับเพียงค่านิยมและวัตถุที่สังคมชี้นํา มีชีวิตอยู่เพื่อเอาชนะ แข่งขัน ในสิ่งที่สังคมให้ค่า โดยที่ไม่รู้ว่าทําไปทําไม สะสมความเครียด โมโห และหงุดหงิด เพื่อทําร้ายตัวเองและคนรอบข้าง พุทธศาสนาในความเข้าใจมีเพียงแค่หางอึ่ง ทําบุญ ตักบาตร นั่งสมาธิ ฟังเทศน์ จะได้ไปสวรรค์ กรรม วิบากกรรม ก็พูดกันไป แต่ไม่เคยเข้าใจลึกซึ้งจริงจัง จนวันที่ได้เริ่มฟังธรรมะของพระพุทธเจ้าจากหลวงพ่อ ทุกอย่างเป็นเหตุเป็นผล งดงาม เรียบง่าย ชัดเจน และ เป็นไปเพื่อให้เกิดปัญญาเห็นจริง ไม่มีการเรียกร้อง ไม่มีการโอ้อวด ไม่มีอิทธิฤทธิ์หรือปาฏิหารย์ กระแสแห่งความเมตตา สัมผัสกันได้ด้วยใจ ผลแห่งการปฏิบัติ ทําเองรู้เอง ขอกราบแทบเท้าด้วยความเคารพบูชาในพระคุณของหลวงพ่อและครูบาอาจารย์ โดยคุณ อัญชลี
โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
27
595. ผมชื่อ นพสิทธิ์ ์ ได้ฟังธรรมบรรยายจากหลวงพ่อปราโมทย์ ตั้งแต่ปี 2548 ครั้งที่ยังเป็นสวนโพธิญาณที่กาญจนบุรี ปัจจุบันก็ยังฟังซีดีอยู่ ซีดีฟังทั้งหมดแล้วตั้งแต่แผ่นที่ 1 ถึงแผ่นที่ 31 ซีดีทั้งหมดที่ฟังมีแต่สอนให้เจริญสติ ทุกวันนี้มีความสุข จากการเจริญสติในชีวิตประจําวัน ต้องขอบพระคุณหลวงพ่อปราโมทย์มาก ชาตินี้ไม่เสียชาติเกิดแล้ว โดยคุณ นพสิทธิ์ 596. เรียน ผู้บริหารเว็บไซต์ ผมเคยอ่านประวัติการปฏิบัติธรรมของพระอาจารย์ปราโมทย์ตั้งแต่สมัยที่ท่านเป็นฆราวาส จวบจนได้บวชและเผยแผ่ แนวทางการปฏิบัติสู่การพ้นทุกข์ และฟังซีดีการอบรมสั่งสอนของท่านมาตลอดนั้น นับเป็นแนวทางที่ เรียกว่าถูกจริต หรือ ถูกกับอุปนิสสัยส่วนตัวของผมอย่างยิ่ง ทําให้เข้าใจง่าย ตรงๆ ไม่อ้อมค้อม ไม่มีโวหารอันทําให้ต้องตีความ ผมเคยเข้า ปฏิบัติตามสํานักปฏิบัติต่างๆ มามากพอสมควรเริ่มจริงจัง ก็ตั้งแต่ปี 2535 ตลอดระยะเวลาคือนั่งหลับตา พุทโธโดยตลอด โดยไม่เข้าใจเลยว่าทําเพื่ออะไร และได้อะไร ถามคนที่ไปปฏิบัติก่อนหน้านั้นเขาก็ไม่มีคําตอบให้ เพียงบอกแต่ว่าได้บุญ มากกว่าการทําบุญด้วยสิ่งของหลายร้อยเท่า ผมสังเกตเห็นว่าการนั่งนานๆเข้าก็ได้ความสงบจริง และหลายครั้งมันได้เปลี่ยนพฤติกรรมของเราจริงๆ ทําให้เห็นคนอื่นที่ ดิ้นรน และดํารงชีวิตที่ยังเบียดเบียน จึงนึกสงสารและเห็นใจพวกเขามาก แต่พอกลับบ้าน ความรู้สึกต่างๆค่อยๆจางหาย ไปแม้จะนั่งสมาธิที่บ้านอยู่ประจําก็ตาม ผมจึงศึกษาพระอภิธรรมโดยซื้อหนังสือมาอ่าน จึงพอเข้าใจได้บ้างแต่ก็มีหลายเรื่องที่ลึกซึ้งมากเพราะพระอภิธรรมจะศึกษา อยู่ 4 เรื่องใหญ่ๆคือ จิต-เจตสิก-รูปและนิพพาน เฉพาะจิตเรื่องเดียวก็แสนจะพิศดารคือพระพุทธเจ้าสาธยายได้ละเอียด มากๆโดยแยกจิตออกเป็นหมวดหมู่ชนิดที่คาดไม่ถึงและไม่สามารถหาทฤษฎีใดๆมาหักล้างได้เลยแม้แต่ตัวอักษรเดียว พอมาฟังธรรมะแนวทางท่านอาจารย์ปราโมทย์ ทําให้เข้าใจได้ดีมาก ตรงๆและสามารถยกวาระจิตให้สูงขึ้นได้รู้เท่าทันกับ สภาพธรรมที่เกิดขึ้น ดํารงอยู่และดับไป ตามกฏไตรลักษณ์จริงๆ ซึ่งเป็นแนวที่คล้ายๆกับท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวัณเขต ถึงวันนี้ก็ยังเคารพรัก นับถือและจะเดินตามแนวทางพระอาจารย์ต่อไป ขอให้อานิสงห์แห่งธรรมปฏิบัติจงส่งผลให้เหตุการณ์ ต่างๆที่เลวร้ายผ่านพ้นไปด้วยดี และขอให้พระอาจารย์จงมีสุขภาพพลานามัยที่แข็งแรงเพื่อเป็นผู้ชี้แนวทางแห่งธรรมแก่ผู้ใฝ่ รู้ทั้งมวลตลอดไป ด้วยความเคารพรักและศรัทธา โดยคุณ ชิน (อายุ ๕๗ ปี) 597. ได้ฟังซีดีของหลวงพ่อโดยบังเอิญ ราวปีที่แล้ว จากที่เหมือนไม่รู้ทาง(ในศาสนาพุทธ)อยู่ ก็เริ่มเห็นทาง เมื่อเริ่มเห็นทาง ก็ขวนขวายกลับไปอ่านหนังสือของครูบาอาจารย์ท่านอื่นๆ เช่น หลวงปู่มั่น หลวงปู่ดุลย์ หลวงพ่อเทียน ท่านพุทธทาส จากที่ไม่เคยเข้าใจ ก็เข้าใจ โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
28
จากที่อ่านหนังสือธรรมะแล้วหลับ กลายเป็นอ่านแล้ววางไม่ลง อ่านช้าๆ อ่านกลับไปกลับมา ทุกคําพูดล้วนมีความหมาย เช่นเดียวกับหนังสือและซีดีหลวงพ่อ ฟังหรืออ่านกี่เที่ยวกี่เที่ยว ก็ไม่เหมือนกัน เพราะจิตแต่ละขณะจับใจความไปตามลําดับขั้น เหมือนท่านพูดไปเรื่อยๆ แต่จริงๆแล้วสามารถพลิกแพลงแล้วแต่ระดับของจิตที่จะเข้าใจได้ จากเปลือกๆ ก็ลึกขึ้นเรื่อยๆ เป็นที่น่าอัศจรรย์ ต้องภาวนาเองจึงจะรู้ ไม่อยากให้ท่านต้องมาเผชิญกับสภาพเช่นนี้เลย โดยคุณ ภัณธิรา 598. ล่วงมาเกินครึ่งชีวิตแล้ว ยังจัดว่าฟังแต่ปฏิบัติไม่ต่อเนื่อง มีข้ออ้างมากมาย จึงไม่กล้ารายงานความก้าวหน้าค่ะ เนื่องจากเป็นคนดื้อและขี้เกียจสูง ตามใจตัวเองเป็นที่หนึ่ง เคยเข้าเรียนปฏิบัติธรรมในที่ต่างๆอย่างไม่มีความเข้าใจถึง 3 หน ก็ยังไม่เกิดศรัทธาในพุทธศาสนา จนกระทั้งได้ศึกษาธรรมจากหลวงพ่อ จึงเกิดศรัทธาขึ้นในพุทธศาสนา เข้าใจง่าย ปฏิบัติง่าย รู้จักตัวตนของตัวเองมากขึ้น แต่ยากที่ตัวเราจะทําตามหรือไม่เท่านั้น ในปีนี้ทั้งปี นึกขึ้นได้เมื่อไหร่ก็ทําตามคําสอนได้ทันทีทุกทีทุกเวลา รู้สึกว่าได้ปฏิบัติธรรมอย่างแท้จริง หวังให้คนที่เรารักทุกคนที่ห่างไกลพุทธศาสนาได้มาฟังคําสอนของท่านสักนิด คําสอนท่านน่าสนใจและท้าทายพวกที่แอนตี้พวกเข้าวัดเป็นอย่างมาก ประมาณว่าถ้าง่ายอย่างนั้นกูก็ทําได้ เมื่อพวกเขายอมรับพวกนี้จะก้าวหน้าเร็วอย่างมาก แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้ ขวางทางธรรมของพวกเขาเหล่านี้มาก ทําให้คนที่ยังไม่มาสัมผัสธรรมมะที่หลวงพ่อสอน ปฏิเสธไปอย่างหน้าเสียดาย หวังว่าเหตุการณ์จะคลี่คลายไปด้วยดี และยังห่วงลูกตัวเองที่เพิ่ง 4 ขวบ ว่าจะเจอพระอาจารย์สุดยอดอย่างนี้ในช่วงชีวิตของเขาหรือไม่ สิ่งที่ทําได้คือ Download เก็บไว้ -Thanks and Best Regards, โดยคุณ กรุณา 599. พฤษภาคม 2549 ฉันคือเด็กอายุสิบแปดปี ที่ไม่เคยรู้ว่าจุดมุ่งหมายปลายทางของชีวิตคืออะไร ชีวิตฉันเคว้างคว้าง หาคําตอบไม่ได้มาตั้งแต่เด็ก ฉันไม่เคยรู้ว่าตัวเองควรเป็นอะไร ทําอะไร เพื่ออะไร เพราะสุดท้ายฉันก็เป็นเพียงแค่ธุลีในจักรวาล ที่เกิดมาไม่นาน ก็ต้องตาย จะไขว่คว้าหาสิ่งต่างๆไปเพื่ออะไรกัน ฉันสอบเข้ามหาวิทยาลัยชื่อดังได้ แต่ในคณะซึ่งไม่ได้มีใจให้เลยแม้แต่น้อย ชีวิตฉันผ่านความรู้สึกทุกข์แสนสาหัสมาหลายครั้ง ในช่วงเวลานั้นก็อยู่กับความทุกข์ตามประสาวัยรุ่น เกี่ยวกับความกดดันและความคาดหวังต่อชีวิต ความเครียดและความผิดหวังเรื่องส่วนตัวอื่นๆ และมีบุคลิกเกินวัย ใครเห็นก็กลัว คล้ายเป็นคนโรคจิตกลายๆ จากความเอาจริงเอาจังไปกับทุกเรื่อง มิถุนายน 2549 ฉันนอนเกลือกกลิ้งอยู่ในห้องนั่งเล่น ฟังซีดีที่พี่สาวได้รับมาจากอาจารย์ในมหาวิทยาลัย ครั้งแรกในชีวิตที่จิตใจของฉันสว่างไสว อบอุ่น และรู้สึกคุ้นเคย เกิดความเคารพเลื่อมใส ถึงความสมบูรณ์ในสิ่งที่ผู้สอนกล่าว "คนเราไขว่คว้าหาแต่ความสุข แต่ความสุขเหมือนอยู่ข้างหน้าตลอดเวลา ไขว่คว้าเท่าไรก็ไม่ได้มา วิ่งไปๆอย่างกับหมาถูก น้ําร้อนลวก......"
โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
29
กรกฎาคม 2549 ฉันนั่งอยู่ในศาลาลุงชิน ตั้งใจไปเพื่อฟังธรรมจากปากของผู้ทรงธรรมนั้นต่อหน้า เพื่อจะได้กราบกรานท่านด้วยความเคารพ ฉับพลัน จิตใจของฉันสว่างโชติช่วง จากความปิติ ทุกกิริยาที่ปรากฏต่อหน้า ราวกับนั่งดูการต่อภาพเป็นหนังการ์ตูนในทีวี ประจักษ์ชัด ถึงความมีอยู่ของกาย แต่กายนั่นเป็นสิ่งห่างไกล ทําหน้าที่ของมันอยู่ ตัวเราไม่เกี่ยวกับกาย ธันวาคม 2549 ฉันไปทัวร์ทําบุญกับกลุ่มของพี่สาว ซึ่งเดินทางไปวัดต่างจังหวัดที่ห่างไกลทางภาคอีสาน ในวัดหนึ่งซึ่งอยุ่ในหุบเขา มีงานทอดกฐินเพื่อสร้างอุโบสถใหม่ ฉันนั่งอยู่หน้าพระพุทธรูป ใจระลึกถึงบุญซึ่งได้กระทําในครั้ง นั้น ประกอบด้วยบุญจากการเจริญสติที่ผ่านมา จู่ๆความสุขก็เอ่อล้น ราวกับมีแสงสว่างผุดขึ้นกลางอกและกระจายตัวออก ไปทุกทิศทาง เกิดความปิติอย่างมหาศาล ผลักดันให้ฉันอธิษฐานเป็นครั้งแรกว่า "เกิดชาติหน้าฉันใด จะขออยู่ในแผ่นดินซึ่ง มีพุทธศาสนาและให้มีปัญญาสามารถศึกษาพระธรรมคําสอนของพระพุทธเจ้าจนเข้าใจ ตราบจนพ้นทุกข์อย่างถาวร" คล้ายตัวฉันไปอยู่ในอีกโลกหนึ่ง นานแสนนานมาแล้ว อดีตกาลอันไกลโพ้น ที่ฉันเคยนั่งอยู่ต่อหน้าพระพุทธรูปเช่นนี้ และ อธิษฐานเช่นนี้ ในสิ่งเดียวกัน นั่นคือครั้งแรกที่ฉัน มีใจซึ่งตั้งใจยึดถือเอาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เป็นที่พึ่ง อย่างแท้จริง และทุกครั้งที่นึกถึงเหตุการณ์นั้น จะบังเกิดเป็นความปิติเอ่อล้นเสมอมา 2550 อีกปีที่ฉันต้องประสบกับทุกข์และอุปสรรคครั้งใหญ่ในชีวิต ฉันเกลียดคณะที่เรียน พบกับคนพาล และต้องทําอะไรหลายอย่างที่ฉันนึกรังเกียจสุดหัวใจ ในขณะเดียวกัน ฉันเริ่มเห็นความเคลื่อนไหวในใจของฉันเอง ฉันเริ่มเข้าใจ ว่าความทุกข์กับปัญหาเป็นของแยกกัน ฉันมีอุปสรรคในชีวิตให้ต้องฝ่าฟัน แต่ความทุกข์นั้น เป็นสิ่งที่ใจฉันสร้างขึ้นเอง แล้วฉันเริ่มตั้งใจถือศีลห้า เพราะครูของฉันบอกไว้ ว่าศีลคือฐาน คือแผ่นดิน ถ้าไม่มีศีล ก็ไม่ต้องหวังความก้าวหน้าในการปฏิบัติที่ไหน 2551 ฉันผ่านอุปสรรคในชีวิตมาแล้ว ชีวิตฉันพ้นจากกรรมบางอย่างจากการตัดสินใจของฉันเอง ทําให้ฉันเชื่ออย่างสุดหัวใจแต่นั้นว่า กรรม คือการกระทํา คือสิ่งที่เราเป็นผู้สร้าง เราเป็นผู้รับผล ทางเดินของชีวิต ทุกการตัดสินใจ ล้วนมีเราเป็นผู้เลือก เมื่อถึงเวลาต้องรับผล จะไปโทษชะตาฟ้าลิขิตที่ไหนได้ นอกจากตัวเราเอง ดวงชะตาอาจกําหนดมาให้เราต้องพบเจอเหตุการณ์หนึ่ง ซึ่งก็คือกรรมเก่าของเรา ส่วนเราจะเลือกปฏิบัติอย่างไร ให้ชีวิตเป็นไปในทางสว่างขึ้น หรือมืดมนลงกว่าเดิม ล้วนแล้วแต่เราเป็นผู้เลือก ไม่ใช่ดวงชะตาหรือเทวดามาเลือกให้!!! ชีวิตฉันมีความสุขขึ้น เข้าใจโลกมากขึ้น และผ่อนคลายกว่าเดิมมาก ครั้งหนึ่ง ฉันผิดศีลข้อห้าด้วยความจงใจ เพราะอยากลองรสชาติใหม่ที่ไม่เคยได้ลอง ความรู้สึกผิดที่เกิดแก่ใจนั้น มันรุนแรงเหลือเชื่อ จนถึงขึ้นดูถูกเหยียดหยามตัวเองว่า "ถ้าเรื่องแค่นี้ห้ามใจตัวเองไม่ได้ จะไปมีพลังอะไรมาห้ามตัวเองในเรื่องอื่น" ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา นอกจากยาก็ไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ไหนเข้าปากฉันได้อีก ทําให้ฉันเชื่อจริงๆว่า หากรักษาศีลจนบริสุทธิ์สักพัก คุณจะมีความละอายด้วยตัวเอง สําหรับเรื่องใดๆที่ไม่ควรทํา คุณจะมีพื้นฐานของความเป็นมนุษย์ โดยไม่ไปหลงผิดปลอบใจตัวเองด้วยอคติเข้าข้างตัวเองเลยว่า "เรื่องแค่นี้มันไม่เป็นไร" 2552 ฉันเริ่มหวาดกลัวสังสารวัฏอย่างจริงจัง ทุกครั้งที่นึกถึงสายใยแห่งการเวียนเกิดเวียนตายนับครั้งไม่ถ้วน กี่ล้านๆภพชาติที่เราวนเวียนอยู่อย่างนี้ ไม่เคยรู้ต้นสายปลายเหตุ ไม่มีวันจบสิ้น ใจของฉันหวาดกลัวและเศร้าหมอง ไม่ต้องการเกิดอีก หรือเกิดให้น้อยครั้งที่สุด เพราะเกิดมาก็ลืม ลืมแล้วก็ทุกข์ ไม่รู้จะพลาดพลั้งเมื่อไหร่ จะได้มีโอกาสพัฒนาตัวเองสักแค่ไหน เหตุการณ์นี้สอนฉันอยู่เนืองๆถึงใจที่ไม่ยอมรับความจริง อยากได้สุขหนีทุกข์ วันหนึ่งฉันนั่งอยู่ในวัด เห็นสิ่งที่ปรากฏในใจมีลักษณะเคลื่อนไหวไม่คงที่ โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
30
มันมีการขึ้นลง มันค่อยๆสลายหายไปได้ วันหนึ่งฉันนั่งอยู่ในรถ เห็นสภาวะซึ่งแปลกประหลาด ตามองเห็นสิ่งหนึ่ง ซึ่งไม่รุ้ว่าคืออะไร มันรับรู้และส่งสัญญาณไปที่สมอง สมองก็แปลความภาพนั้นออกมาเป็นคํา ใจก็ไปหยิบฉวยสิ่งที่เห็นนั้นขึ้นมาให้ค่าบางอย่าง ความจริงต่างๆที่ปรากฏแก่ใจฉัน เปลี่ยนสายตาในการมองโลกของฉันไปวันละน้อย สภาวะที่ฉันเห็นใจไปหยิบฉวยธรรมชาติขึ้นมาตีความให้ค่านั้น สอนฉันให้เข้าใจว่า โลกเขาเป็นของเขาอย่างนั้น แต่เพราะมีตัวเราขึ้นมาต่างหาก มันจึงไม่จบแค่การรับรู้ เพราะเราไปหยิบฉวยมันขึ้นมาเองต่างหาก จึงเกิดความทุกข์ที่ไม่มีวันจบสิ้น 2553 ชีวิตฉันมีแต่ความสุข ไม่ใช่ว่าฉันไม่เจอปัญหา แต่ใจของฉันแทบไม่หวั่นไหวไปกับสิ่งต่างๆที่ต้องเผชิญ ไม่ใช่สุขอย่างโลกๆที่ประเดี๋ยวก็หายไป แต่เป็นความสุขเย็น อิ่มเอิบใจ จากการมีสติ จากความเข้าใจโลก และจากสิ่งดีๆที่ตั้งใจทําไว้ รู้ใจด้วยใจ ว่าเป็นกลางมากขึ้นทุกที จากที่ดิ้นรนแสวงหาความสุข ความดี จนกระทั่งมรรคผลนิพพาน มันก็แทบไม่ดิ้นรนอีกแล้ว มันยอมรับสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นอย่างยอมจํานนต่อความจริง ฉันมีแต่ความศรัทธาในพระรัตนตรัย ยึดเอาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นสรณะ ไม่ลังเลสงสัยแม้เสี้ยววินาที ว่านับถือเทวดาหรือเชื่อดวงชะตาจะดีกว่าหรือไม่ แต่เชื่ออย่างสุดใจว่าทุกอย่างเกิดแต่การกระทํา ทุกอย่างเกิดแต่เหตุ ไม่ตัดพ้อต่อว่าหรือสงสัยในโชคชะตา ในเรื่องราวร้ายๆที่ต้องเจอ เพราะรู้ว่านั่นคือผล ซึ่งเป็นไปตามกฏแห่งกรรม ที่ไม่มีใครหลีกเลี่ยงได้ ต้องยอมรับโดยดุษฎีถึงเหตุและผลที่เราเป็นผู้ก่อขึ้นเอง คนที่ไม่เคยยอมรับอะไรที่นอกเหนือจากที่คิดหรือวางแผนไว้ได้เลย ฉันยอมรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาทุกเหตุการณ์ว่า "ก็ของมันต้องเป็นของมันอย่างนั้น" ฉันหัวเราะอย่างหน้าชื่นตาบานให้กับปัญหาที่บางคนเครียดเหลือเกิน เพราะฉันรู้ว่าความทุกข์ไม่ได้มีส่วนช่วยให้การแก้ปัญหาดีขึ้นแม้แต่น้อย ฉันเริ่มศึกษาคําสอนในพระไตรปิฎกด้วยตัวเอง ตลอดจนคําสอนของครูบาอาจารย์ท่านอื่น เพื่อเสริมความเข้าใจในการปฏิบัติ และเป็นความรู้เพิ่มเติมเพื่อการอธิบายเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นต่อไป ฉันไม่เคยประสบปัญหาความขัดแย้งในใจใดๆ สิ่งใดที่อาจารย์สอน เป็นประโยชน์ฉันก็นํามาปฏิบัติ ไม่เป็นประโยชน์ต่อฉันในขณะนั้น ฉันก็วางไว้ ไม่ไปต่อว่าอะไรท่าน และไม่นํามาใส่ไว้ในใจ ตลอดระยะเวลาสี่ปีที่ผ่านมา ฉันปรึกษาครูบาอาจารย์ท่านนี้เพียงสองครั้ง ครั้งแรก เพราะจับฉลากได้ แต่ไม่มีเรื่องอะไรจําเป็นที่ต้องถาม จึงคล้ายการถามไปอย่างนั้น และครั้งที่สอง ฉันตั้งใจสอบถามเรื่องสภาวะธรรม และท่านก็เป็นผู้ชี้แจงแจกแจงอย่างละเอียดให้ พร้อมสําทับว่า ห้ามขี้เกียจปฏิบัติ อย่าใจร้อน ต้องอดทนและทําอย่างต่อเนื่อง และอีกสองคร้งที่ฉันสอบถามเรื่องการปฏิบัติจากครูบาอาจารย์ท่านอื่นๆ ตรงข้ามกับที่เป็นข่าว ฉันไม่ติดครูบาอาจารย์ และครูบาอาจารย์ก็ไม่ประสงค์จะให้ลูกศิษย์ยึดท่านเป็นสรณะ ท่านพูดเสมอว่า เราต้องยึดธรรมะเป็นสรณะ เพราะท่านก็เป็นเพียงแค่เลือดเนื้อกลุ่มหนึ่งซึ่งสอนธรรมะ แต่ของจริงคือธรรมะต่างหาก ที่จะดํารงอยู่ และเป็นที่พึ่งให้เราได้ไม่ว่าเมื่อใด บุคคลที่ทําให้ฉันเข้าใจและเห็นความจริงของชีวิตเหล่านี้ ย่อมทําให้ฉันศรัทธาและยกย่องท่านเป็นครูบาอาจารย์ด้วยใจ ทําให้เด็กอายุ 22 ปีอย่างฉัน รู้และเข้าใจว่าชีวิตนี้เกิดมาเพื่ออะไร ทําให้เด็กอย่างฉัน รู้ว่าต้องทําที่สุดแห่งทุกข์ และระหว่างทาง ถ้าลากใครไปด้วยได้ ก็จงเกื้อกูลกันไปเป็นเพื่อนร่วมทาง ตอบคําถามความเคว้งคว้างไม่รู้จุดหมายปลายทางมาตลอดชีวิต กับความสงสัยว่าจะทําสิ่งต่างๆไปเพื่ออะไร ในเมื่อสุดท้ายทุกคนก็ต้องตายเหมือนๆกัน หลวงพ่อปราโมทย์ ปราโมชโช ทําให้ฉันได้พบต้นทางของการปฏิบัติ อันเป็นเหตุให้ฉันศรัทธาและยึดเอาพระรัตนตรัยอันไม่มีสิ่งใดประเสริฐยิ่งกว่าเป็นสรณะ ทําให้ฉันตั้งใจครองตนให้มีศีลอย่างบริบูรณ์ โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
31
และเชื่อในกฏแห่งกรรมอย่างไม่คลอนแคลน ตลอดจนเห็นโทษภัยของสังสารวัฏ และตั้งใจทําที่สุดแห่งทุกข์ให้ปรากฎแก่ตนในวันใดวันหนึ่ง มีสายตาซึ่งมองโลกอย่างอ่อนโยนและเข้าใจมากขึ้น มีการกระทําทุกอย่างเป็นไปเพื่อสละออกและละอัตตาตัวตน สิ่งเหล่านี้ เกิดขึ้นเพราะเข้าใจในความจริงที่ปรากฎแก่ใจของฉันทั้งสิ้น ฉันไม่รู้และไม่มีความสามารถที่จะรู้ได้ว่าท่านเป็นพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบหรือไม่ ไม่รู้ว่าท่านสอนถูกหรือสอนผิด หรือตรงหรือขัดกับคําสอนของพระพุทธเจ้าอย่างไร ฉันรู้เพียงว่า แสงสว่างและความเข้าใจที่ปรากฎแก่ใจฉัน เป็นของจริง ดังคําสอนของพระพุทธเจ้า ที่กล่าวไว้ว่า "วิญญูชนพึงรู้ได้ด้วยตนเอง" และบุคคลซึ่งนําทางฉันให้ได้ศรัทธาในกฏแห่งกรรมนี้ คือบุคคลที่ฉันย่อมจะก้มลงกราบแทบเท้าตลอดชีวิต และเรียกอย่างเต็มปากเต็มคําว่า เป็นครูบาอาจารย์ผู้มีพระคุณล้นเศียรเกล้า ไม่ว่าข้อเท็จจริงจะปรากฎออกมาในวันหน้าว่าเป็นเช่นไร ท่านจะเป็นครูบาอาจารย์ผู้หนึ่งที่ฉันเคารพไปจนชั่วชีวิต โดยคุณ เพียงเพียร (มยุรา) 600. สวัสดีค่ะ ดิฉันเป็นอีกคนหนึ่งที่ได้นําคําสอนของท่านอาจารย์พระปราโมทย์มาปฏิบัติ และเห็นการเปลี่ยนแปลงของตัวเอง สามีของ ดิฉันซึ่งเป็นชาวต่างชาติ(แต่ฟังภาษาไทยรู้เรื่องพอสมควร)ก็สังเกตุเห็นความเปลี่ยนแปลงด้วยเช่นกันดิฉันเริ่มฟังซีดีของ ท่านอย่างจริงจังเมื่อเดือนธค. 2552 และลงมือปฏิบัติตามแนวทางของท่านนับแต่นั้น ดิฉันอยู่ที่ประเทศสหรัฐและเมื่อ 3 ปีที่ แล้ว(ปี 2550)ช่วงที่ดิฉันกลับไปเยี่ยมบ้านที่เมืองไทยก็ได้ไปเข้าคอร์สอบรมปฏิบัติธรรมกับสถานที่แห่งหนึ่งเป็นเวลา 7 วัน (ที่สถานที่แห่งนี้ดิฉันได้พบกัลยาณมิตรท่านหนึ่งแนะนําหนังสือ 2 เล่มคือวิถีแห่งการรู้แจ้ง1และ2 และทางเอก ซึ่งเขียนโดย ท่านอาจารย์พระปราโมทย์ ซึ่งดิฉันก็อ่านวิถีแห่งการรู้แจ้งจนจบเล่ม แต่ทางเอกอ่านไม่จบ แต่ไม่ได้ปฏิบัติตามแนวทางของ ท่าน) พอกลับสหรัฐก็ได้พยายามปฏิบัติตามที่ได้รับการอบรมมา แต่มันรู้สึกเหมือนว่าเราคงทําไม่เป็นหรือไม่ก็ทําไม่ถูก เพราะยิ่งทํายิ่งเครียดและกลัวการนั่งสมาธิมาก ก็เลิกปฏิบัติ พอปีต่อมา(ปี 2551)ดิฉันก็ไปเข้าคอร์สที่เดิมอีกเพราะคิดว่า สงสัยเราคงจะเก็บวิชามาไม่หมดและศรัทธาในความเสียสละของวิทยากรที่ให้การอบรมทุกท่าน (ที่สถานที่แห่งนี้ดิฉันได้พบ กัลยาณมิตรอีกท่านหนึ่งซึ่งกล่าวถึงท่านอาจารย์พระปราโมทย์และแนะนําให้ดิฉันลองเข้าไปแวะชมเวปไซต์ wimutti.net ซึ่ง ก็เหมือนมันยังไม่ถึงเวลามั๊ง ดิฉันก็ไม่ได้เข้าไปที่เวปไซต์ของท่าน) พอกลับสหรัฐดิฉันก็ได้พยายามปฏิบัติตามที่ได้รับการ อบรมมาอีก แต่มันก็เหมือนเดิมเพียงแต่คราวนี้ความกลัวการนั่งสมาธิลดลงนิดหนึ่ง ก็เลิกปฏิบัติ ก็รู้สึกท้อนะคะ(สงสัยการ ฝึกแบบนี้ไม่ตรงกับอุปนิสัยของตัวเอง เพราะเป็นคนเครียดง่ายอยู่แล้วประกอบกับกังวลว่าจะเดินผิดแบบ นั่งจับพองยุบไม่ทันเป็นต้น) จนเดือนธค. 2552 จะส่งจดหมายคริสต์มาส-ปีใหม่ถึงกัลยาณมิตรที่แนะนําเวปไซต์ wimutti.net ให้รู้จัก ตั้งแต่ปี 2551ก็เลยคิดว่าลองแวะเข้าไปดูหน่อยจะได้เขียนลงไปในจดหมายว่าได้เข้าไปแล้วนะ พอเข้าไปก็ลอง download CD ที่ท่านอาจารย์เทศน์ ณ สถานที่ต่างๆมาฟัง คราวนี้ติดเลย และก็นํามาปฏิบัติ ก็สามารถนั่งสมาธิได้โดยไม่เครียดและไม่ กลัวอีกต่อไป ตอนแรกๆจับความรู้สึกโกรธที่แรงๆได้เท่านั้น แต่ต่อๆมาแค่ขุ่นๆนิดหน่อยก็จับได้ CD ของท่านอาจารย์ต้อง ฟังซ้ําหลายๆครั้งนะคะแล้วจะพบว่าคําตอบของหลายๆคําถามอยู่ในนั้นแหละค่ะ แต่บางคําถามต้องปฏิบัติเอาเองนะคะแล้ว จะได้คําตอบ(เช่นจิตถึงฐานเป็นอย่างไร) จากเวปไซต์นี้ทําให้ดิฉันได้พบกัลยาณมิตรเพิ่มขึ้นอีก 2 ท่านค่ะ(คุณจิ๋วและคุณสุ กิจ) ดิฉันและครอบครัว(สามีและลูกชาย)ได้ไปฟังท่านเทศน์ที่สวนสันติธรรมเมื่อเดือนมิย.ที่ผ่านมา(ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เราได้ ไปค่ะ) สามีของดิฉันประทับใจที่ท่านอาจารย์อธิบายธรรมะโดยใช้ภาษาง่ายๆขนาดที่เขาซึ่งไม่ได้เป็นชาวพุทธยังสามารถ เข้าใจและเห็นภาพได้ และประทับใจตรงที่สวนสันติธรรมมีความเรียบง่ายซึ่งแตกต่างจากวัดอื่นๆตรงที่ไม่เน้นการสร้าง ศาสนวัตถุ ผู้คนที่เราพบที่สวนสันติธรรมมาเพื่อฟังธรรม ไม่มีการเรี่ยไร ไม่มีการแจกวัตถุมงคล มีแต่แจกหนังสือธรรมะและ ซีดีธรรมะที่มีคุณค่ายิ่ง ท่านอาจารย์พระปราโมทย์เป็นพระที่คู่ควรต่อการสักกาะบูชาเป็นอย่างยิ่ง ท่านเป็นครูที่ถ่ายทอดคํา สอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้สามารถเข้าใจและนําไปปฏิบัติได้ นอกจากนี้ท่านยังเน้นเสมอให้เราทุกคน รักษาศีล 5 และสวดมนต์ให้เป็นกิจวัตรประจําวัน ท่านกล่าวเสมอว่าพระพุทธเจ้าไม่ได้ฝากศาสนาพุทธไว้แต่กับพระเท่านั้น โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
32
แต่ฝากไว้กับพุทธบริษัททุกท่าน ขอกราบบูชาพระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า และพระสังฆเจ้าทุกรูปที่ประพฤติดี ประพฤติชอบ และสืบทอดพระพุทธศาสนามาจนถึงปัจจุบัน โดยคุณ สุวิมล 601. เรียนทุกท่าน ดิฉันไปสวนสันติธรรมมาเป็นเวลา 3 ปีแล้วค่ะ ขอเป็นอีกคนหนึ่งที่ยืนยัีนความบริสุทธิ์ของหลวงพ่อ โดยเฉพาะกรณีเรี่ยไร เงินนั้น ดิฉันขอเป็นพยานปากเอกว่า "ไม่เคยได้ยินหลวงพ่อเรียกร้อง เรี่ยไร เงินซักบาท" สิ่งเดียวที่เคยได้ยินหลวงพ่อขอ จากพวกเราคือ "ขอให้พวกเราขยันภาวนา" หนังสือ ซีดี ก็มีแต่แจกฟรี ดิฉันรับแล้วรู้สึกอยากช่วยเหลือกองทุนหนังสือ และ บํารุงสวนสันติธรรม จึงใส่กล่องเอง พอถึงเวลาหลวงพ่อเลิกเทศน์ มีญาติโยมจํานวนนึง (ประมาณ 3-5 คน) จะมาเปิด กล่อง และช่วยกันนับเงินเพื่อสรุปยอดลงบัญชี สําหรับดิฉันแล้ว การทําแบบนี้ถือว่าโปรงใสมากค่ะ นอกจากนี้ครอบครัว ดิฉัน มักจะเสนอตัวช่วยหลวงพ่อมาตลอด แต่หลวงพ่อไม่เคยสนใจรับสิ่งใด และยังย้ําว่าหน้าที่พวกเราคือภาวนา นอกจากในแง่เงินทองแล้ว ดิฉันภาวนาตามแนวทางที่หลวงพ่อสอน และฟังซีดีมาตลอดตั้งแต่แผ่น 16 ผลคือดิฉันเห็นจริง ตามที่หลวงพ่อสอนได้เป็นลําดับๆ เริ่มจากการประจักษ์เห็นไตรลักษณ์โดยไม่ต้องน้อมคิด (ประสบการณ์เห็นครั้งแรก คือ ดิฉันเห็นความโกรธดับลงทันที หลังจากจิตมันสนใจภาพในทีวีแล้วมันพุ่งไปที่ภาพ) ระยะหลัง เริ่มเห็นการทํางานของธาตุ ขันธ์มันแยกกัน (ประสบการณ์แยกครั้งแรก คือ ดิฉันคุยกับสามีอยู่ แล้วจู่ๆ ก็เห็นการทํางานของวิญญาณทางหูเพียงอย่าง เดียว เห็นจิตกระเพื่อมตามเสียง พอสามีพูดจบ จิตที่กระเพื่อมตามเสียงมันดับ ยังไม่แปลความหมายของเสียงนั้น แล้วเห็น จิตดวงใหม่มันขึ้นมาแปลความหมายของประโยคนั้น เห็นต่อหน้าต่อตาจริงๆ) ดิฉันเป็นคนสนใจพุทธศาสนามาตั้งแต่เด็ก เฝ้าเพียงพยายามหาทาง แต่ไม่เคยเจอซักที จนกระทั่งมาพบหลวงพ่อ ที่ทําให้ เริ่มเห็นทางที่จะเดิน สิ่งที่หลวงพ่อสอนนั้นเมื่อปฏิบัติแล้วเห็นได้จริงเป็นลําดับๆ เกิดความศรัทธาและเคารพ พระพุทธ พระ ธรรม พระสงฆ์ อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เวลากราบพระหรือท่อง พุทธัง สรณัง คัธฉามิ, ธรรมมัง สรณัง คัธฉามิ, สังฆัง สรณัง คัธฉามิ รู้สึกว่าเรามีที่พึ่งที่ยึดเหนี่ยวเป็นพระรัตนตรัยจริงๆ รู้สึกเคารพรักพระพุทธเจ้าจริงๆ ทั้งที่ไม่เคยมีวาสนาได้ พบท่าน มีความศรัทธาและเชื่อมั่นในพระธรรมเพราะเริ่มเห็นได้จริงจากการปฏิบัติ และมีความเคารพสํานึกในบุญคุณของ พระสงฆ์ที่เป็นผู้สืบทอดเผยแพร่คําสอนของพระพุทธเจ้ามาให้เรามีโอกาสได้ฟังได้ปฏิบัติตาม (ไม่ได้สํานึกในบุญคุณหลวง พ่อเพียงอย่างเดียว แต่เคารพพระสงฆ์ทุกๆรูปที่มุ่งมั่นปฏิบัติและสืบทอดพระพุทธศาสนา) ดิฉันถามว่า ผู้ที่กล่อมเกลาจิตใจ ลูกศิษย์ให้เป็นกุศล ศรัทธาในพระพุทธศาสนาได้ขนาดนี้ โดยไม่เคยเรี่ยไรอะไรเลย ควรที่จะได้รับการทะนุบํารุงรักษาและ ยกย่องเคารพ หรือไม่ โดยคุณ ลักษณา 602. โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์ เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้ # บอกตามตรงดิฉันคิดว่า ลาภ ยศ สรรเสริญ คํานินทา ความสงสัย ความเสื่อมศรัทธาของคนในสังคม, เหล่านี้ ไม่ สามารถทําให้จิตของพระชั้นครูบาอาจารย์ เช่น หลวงพ่อ หวั่นไหวจนท้อถอยต่อเป้าหมายที่มีอยู่เดิมได้, และด้วยปัญญา หลวงพ่อจะสามารถผ่านบทเรียนนี้ เพื่อสร้างรากฐานที่มั่นคงสําหรับการเผยแผ่ธรรมะได้ต่อไป #
ผู้ที่ดิฉันเป็นห่วงมากกว่าคือชาวสวนสันติธรรมในปัจจุบัน และอดีตกรรมการของสวนสันติธรรม ผู้ที่ยังเป็นคน
ธรรมดาที่ใช้ชีวิตอยู่ในสังคม , ว่าความรู้สึก – สภาวะจิตใจกําลังเป็นอย่างไร ? , หวั่นไหว จนท้อถอยต่อเจตนารมณ์เดิมที่ บริสุทธิ์เปี่ยมไปด้วยธรรมะหรือเปล่า? ดิฉันเป็นเพียงผู้มาใหม่ ผู้ปฏิยัติตามคําสอนของหลวงพ่อ และได้ประโยชน์อย่างมาก, เริ่มต้นจากการฝึกมีสติ และ ดูจิตในชีวิตประจําวันเวลาเผลอ , ดิฉันได้รู้จักความคิดที่มาจากจิต – สภาวะธรรม , ต่อมาได้รับรู้การมีอยู่ของจิตผู้รู้ หรือจิต วิญญาณ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นสําหรับการก้าวต่อไป, ความรู้ได้เปลี่ยนดิฉันจากเดิมที่เห็นว่า “ชีวิตเป็นทุกข์” กลายเป็น “การที่ยัง มีชีวิตอยู่ เป็นโอกาสที่จะได้สนุกกับการเรียนรู้” โดยอาศัยการดูจิตในชีวิตประจําวันเป็นแนวทางปฏิบัติ ดิฉันเชื่อว่าผู้เป็นชาวสวนสันติธรรมในอดีต และปัจจุบัน ย่อมเป็นผู้ตระหนักดีถึงผลจากการปฏิบัติธรรมตามที่ หลวงพ่อปราโมทย์ได้สอน พวกท่านจึงได้ทุ่มเทเสียสละเวลา ทุนทรัพย์ แรงกาย แรงใจ , ด้วยความศรัทธาในธรรมะ และ ปรารถนาอยากให้ผู้อื่นได้มีโอกาสเรียนรู้ด้วย, เจตนารมณ์เดิมที่บริสุทธิ์ของพวกท่านได้ปรากฏกลายเป็นความจริง ทําให้ โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
33
คนจํานวนมากมายไม่เฉพาะแต่คนที่อยู่ในประเทศไทยเท่านั้นยังมีคนที่อยู่ต่างประเทศ ได้มีโอกาสเรียนรู้ธรรมะที่ถ่ายทอด แบบเข้าใจง่าย, ปฏิบัติตามได้สะดวก และได้ผลเร็ว ณ โอกาสนี้ ดิฉันขอกราบขอบพระคุณหลวงพ่อ, และขอขอบคุณคณะกรรมการสวนสันติธรรมทั้งในอดีต – ปัจจุบัน ที่ได้ช่วยให้ดิฉันและคนจํานวนมากที่ยังคงมีภาระหน้าที่อยู่ในสังคม ได้มีโอกาสเข้าถึงธรรมะที่เรียบง่าย, ได้รู้จักการฝึกให้มี สติในชีวิตประจําวัน ซึ่งมีประโยชน์กับชีวิตมาก
ด้วยคาวมชื่นชมในเจตนารมณ์เดิมอันบริสุทธิ์ของทุกท่าน โดยคุณ นางรัตนา ผู้มาใหม่, ผู้ได้ประโยชน์จากความรู้ 603. โดยคุณ วิวัฒน์ และครอบครัว
604. แต่ก่อนที่ผมจะได้รู้จักและได้ฟังธรรมของหลวงพ่อปราโมชย์ ผมก็เคยปฏิบัติตามแนวทางของหลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม วัดอัมพวัน สิงห์บุรี เมื่อได้ฟังและพิจารณาแล้วธรรนะของหลวงพ่อปราโมชย์ ผมก็นํามาประยุกต์ ใช้ให้เหมาะกับจริตของ
โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
34
ตนเอง คือในชีวิตการทํางานประจําวัน ก็พยายามรู้ตัวให้บ่อยๆ ในเวลาส่วนตัวที่บ้าน ก็ปฏิบัติตามแนวทางยุบพอง ที่เคย เรียนมา ธรรมะทําให้ผม รู้ว่าชีวิตมีคุณค่า และรู้ว่าเราต้องเตรียมเสบียงให้ตัวเองมากที่สุดจนถึงที่สุดแห่งธรรม หรือ ตายจากในชีวิต นี้ไป ขอบคุณมากครับ รักและเคารพในธรรม โดยคุณ สาวิช
605. เริ่มไปเรียนกับหลวงพ่อมาตั้งแต่ปี 2548 จนถึง ปัจจุบันนี้ สิ่งที่เห็นก็คือหลวงพ่อเหน็ดเหนื่อยกับการสอนให้แต่ละคน เข้าใจวิธีการที่จะเข้าไปเห็นความจริงของโลก ความจริงนี้ก็คือ ทุกสิ่งในโลกเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เอาแน่เอานอนไม่ได้ ถ้าใจอยากฝืนให้เป็นอย่างที่ใจต้องการ ก็จะได้รับทุกข์เป็นรางวัล เมื่อลูกเริ่มเห็นความจริงมากๆเข้า จิตใจกลับเบาขึ้น ทุกข์ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ที่สําคัญคือ ศรัทธาในพระพุทธศาสนาจะไม่ คลอนแคลนอีกต่อไป ลูกจึงขอโอกาสกราบแทบเท้าหลวงพ่อในที่นี้ด้วย โดยคุณ รุ้งทิพย์ 606. ผมได้รับ CD หลวงพ่อปราโมทย์ มา 3 ปีแล้ว ไม่เคยหยิบมาฟัง ก่อนนั้นเป็นคนคิดมาก ฟุ้งซ่าน หมกหมุ่นในกามราคะ ไม่สามารถหลุดจากมันไปได้เลย แต่หลังจากได้ไปวัดสายปฏืบัติหลวงพ่อเทียน และกลับมาทําความรู้สึกตัว และหยิบซีดีหลวงพ่อปราโมทย์มาฟังควบคู่กับการทําความรู้สึกตัว เห็นความรู้สึกตัว เห็นความคิดของตัวเอง รู้จักกับตัวเองมากขึ้น โดนบททดสอบ ต่างๆ นา ๆ ตั้งใจจริงจะไม่หนีมันอีกต่อไป หนีมาพอแล้ว เห็นความโกรธ เห็นตัวเองในมุมมองที่ไม่เคยเห็น ชีวิตก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง จากที่ชอบฟังเพลง หันมาฟังซีดีหลวงพ่อทุกครั้งที่ขับรถ จนปัจจุบันฟังซีดีหลวงพ่อ และก็ได้รับคําตอบที่ค้างคาใจ มานานแสนนาน ตลอดมา จิตมันตื่นตัว ครอบครัวมีความสุขมากขึ้น เสียงทะเลาะกันในบ้านน้อยลง มีปัญหากับเพื่อนร่วมงานน้อยลง จนถึงไม่มีปัญหากะใครเลย เมื่อได้รับฟังข่าวหลวงพ่อ ก็รู้ทันทีเลยว่า สิ่งที่ท่านเผชิญมัน ไม่ใช่เรื่องจริง โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
35
ความจริง สัจจะที่ท่านสอนมันกระจ่างในใจ ตลอดมาในระยะเวลาที่ 1 ปี ที่สัมผัส และเรียนรู้ ขออยู่เคียงข้างท่าน เป็นลูกศิษย์ที่เข้าใจครูบาอาจารย์ แล้วทุกอย่างจะผ่านไป เหมือนฝนกระหน่ํา และพายุ นําพาความชุมชื้นให้ชีวิตหลากหลายได้เติบโต ขอบคุณครับ โดยคุณ สิริวัฒน์ 607. มีสติเรียนรู้ดูกาย ดูใจ ถึงได้เข้าใจคําสอนของหลวงพ่อปราโมทย์ ปราโมชโช ว่า "ใจเรานี่ล่ะหมาขี้เรื้อนอยู่ที่ไหนก็ไม่สุข อยู่ที่ไหนก็ไม่พอ" โดยคุณ จีราภา 608. ความรู้สึกที่ข้าพเจ้ามีต่อหลวงพ่อ ข้าพเจ้าไม่เคยได้พบได้กราบหลวงพ่อ แต่มีกัลยาณมิตรที่รู้จักกันมานานพอสมควร ที่เคยได้กราบได้พบท่าน และได้ฟังธรรมจากท่าน ส่งcd ,เทป และหนังสือของท่านมาให้ข้าพเจ้าอ่าน ข้าพเจ้าได้ดูใจเจ้าของพอเป็น และวิธีการปฏิบัติแนวของหลวงพ่อ ทําให้ข้าพเจ้าได้เห็นจิตเห็นใจเจ้าของว่าเป็นเช่นไร ผลที่ ข้าพเจ้าได้รับจากการภาวนา ก็คือข้าพเจ้ามีความใจเย็นมากขึ้น และได้เห็นทุกข์ โทษ ภัย จากการไม่มีสติ ข้าพเจ้าตั้งใจ เร็วๆนี้ว่า จะไปกราบท่านที่สวนสันติธรรม และจะขอโอกาสส่งการบ้านท่านค่ะ โดยคุณ Supaporn K. 609. ดิฉันได้มีโอกาสรู้จักคําสอนของหลวงพ่อปราโมทย์เมื่อต้นปี พ.ศ. 2552 โดยเริ่มจากการที่มีเพื่อนชักชวนว่าคนเราทุก คนสามารถเจริญสติได้ในชีวิตประจําวัน เพราะในขณะนั้นดิฉันก็เป็นพุทธศาสนิกชนคนหนึ่งที่ตั้งใจอยากจะไปปฏิบัติธรรม เจริญภาวนา แต่ก็คงเหมือนกับอีกหลายๆคนว่าด้วยภาระหน้าที่การงานทําให้มีข้อจํากัดในการจะลางานไปปฏิบัติธรรม เจริญวิปัสสนากรรมฐานได้อย่างสม่ําเสมอ จําได้ว่าความรู้สึกครั้งแรกที่ได้รับฟังการบอกผ่านคําสอนของหลวงพ่อ ดิฉันเข้าใจบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง ยิ่งพอฟังลูกศิษย์ท่า นอื่นๆส่งการบ้านกับอาจารย์สุรวัฒน์ ดิฉันก็ยิ่งงงไปกันใหญ่ จิตใจเต็มไปด้วยความสงสัย ได้หนังสือ ได้ CD ของหลวงพ่อ มาก็เก็บไว้ ยังไม่ได้อ่านหรือเปิดฟัง หลังจากนั้นผ่านไปได้สัก 6 เดือน ดิฉันได้พบเพื่อนอีกคนที่ขอให้ดิฉันลองมีความเพียร ตั้งใจฟัง CD ของหลวงพ่ออย่างสม่ําเสมอ สําหรับดิฉัน เพื่อนคนนี้เป็นเสมือนกัลยาณมิตรเพราะมีแต่ความปรารถนาดีให้มา โดยตลอด เมื่อเขาเอ่ยปาก ดิฉันมั่นใจว่าเขาตั้งใจจะหยิบยื่นสิ่งที่ดีให้แก่เรา ดิฉันจึงเริ่มเปิด CD หลวงพ่อฟังตอนเช้า ระหว่างขับรถไปทํางานซึ่งเป็นเวลาประมาณ 20-30 นาทีทุกวัน ขอสารภาพนะคะว่าแรกๆ ที่ดิฉันเปิดฟัง ก็แอบขัดอกขัดใจ บ้างเพราะเป็นคนชอบฟังเพลงเวลาขับรถมากๆ แต่เพราะเห็นว่าสิ่งที่เขาขอมันไม่ได้เหนือบ่ากว่าแรงที่จะทํา เมื่อเรารับปาก มาแล้วว่าจะลองทําดู ดิฉันก็ไม่อยากเสียสัจจะ ก็ตั้งใจว่าจะลองทําดูสักเดือนสองเดือน (แต่ทุกวันนี้ พอเวลาขึ้นรถแล้วนึกถึง CD หลวงพ่อเป็นสิ่งแรกเลยค่ะ) ทุกอย่างก็เริ่มต้นมาจากการฟัง CD หลวงพ่อทุกเช้าในรถ ฟังครั้งแรกดิฉันรู้สึกว่าธรรมะของหลวงพ่อฟังง่าย ฟังแล้วเกิด ความสบายใจ พอฟังไปเรื่อยๆ ก็มักจะได้ยินหลวงพ่อท่านสอนเสมอๆว่าธรรมเทศนาของหลวงพ่อมิได้เป็นเพียงแต่การ “ฟัง” เพื่อให้เกิดความเข้าใจ แต่ ต้องอาศัยการ “ปฏิบัติ” จึงจะเกิดความเข้าใจ จากวันนั้นจนถึงวันนี้เป็นเวลาเกือบหนึ่งปี แล้วค่ะที่ดิฉันได้ประสบและเห็นจริงกับ “ธรรมะ” ตามแนวทางที่หลวงพ่อสอนสั่ง ความงุนงงสงสัยเมื่อครั้งได้รับการบอก ผ่านคําสอนและคําบอกเล่าจากลูกศิษย์ลูกหาที่มาส่งการบ้านเมื่อครั้งแรกก็ได้รับความกระจ่างจากการมาปฏิบัติตาม แนวทางของหลวงพ่อด้วยตนเอง ธรรมเทศนาของหลวงพ่อทําให้ดิฉันในวันนี้กลายเป็นพุทธศาสนิกชนที่มิได้ขึ้นชื่อแต่ว่า เป็นชาวพุทธที่เข้าวัด สวดมนต์ทําบุญ (เพราะหวังในผลบุญ) ไปปฏิบัติธรรมตามแต่ที่โอกาสอํานวย แล้วมาหลงผิดคิดว่าตัว เองเป็นคนดี หากแต่เป็นพุทธศาสนิกชนที่มีความเพียรเพื่อมีธรรมะรักษาใจ เป็นหลัก เป็นแนวทางในการดําเนินชีวิตที่ดํารง ไว้ซึ่งสติและศีลในทุกๆวัน (ซึ่งเป็นสิ่งที่ดิฉันจะตั้งใจเพียรพยายามต่อไปในทุกๆวันของชีวิตที่เหลือ) สําหรับหลายๆกระแสที่กล่าวว่าธรรมะของหลวงพ่อเป็นเสมือนธรรมะจานด่วน เป็นทางลัดที่สร้างสรรค์ขึ้นมาโดยเฉพาะ สําหรับคนเมืองที่มีชีวิตประจําที่เร่งรีบไม่มีเวลาไปปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานได้โดยสม่ําเสมอ หากจะเปรียบอย่างนั้น ดิฉัน คงจะเห็นจริงด้วยแค่ว่า ธรรมะของหลวงพ่อเป็นเสมือน “หน้าต่างแห่งโอกาส” ที่เปิดให้คนทุกคนได้สามารถสัมผัสถึงธรรมะ ได้ในทุกๆวันของชีวิต ไม่เพียงแต่เฉพาะคนเมือง หากแต่เป็นฆราวาสทุกคนที่ยังมีภาระทางโลกอันเป็นข้อจํากัดทําให้ไม่ สามารถเจริญธรรมะได้เต็มที่ดั่งสงฆ์ซึ่งละแล้วซึ่งทางโลก ดิฉันเป็นหนึ่งในฆราวาสทั่วๆไปที่โดยธรรมดา ในทั้งหมด 365 วัน อาจจะหาโอกาสไปอบรมวิปัสสนากรรมฐานอย่างเข้มข้นได้สัก 7 วันตามหลักสูตรทั่วไป แต่เมื่อกลับออกมาสู่ชีวิตประจําวัน โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
36
สุดท้ายจิตและศีลก็ย่อหย่อนไปตามแรงกระทบของกิเลสในชีวิตประจําวัน เพราะการปฏิบัติธรรมในระยะเวลา 7 วันคงไม่ เพียงพอที่จะรักษาใจให้เข้มแข็ง สําหรับดิฉัน “ธรรมะ” ของหลวงพ่อปราโมทย์ ก็คือ “ธรรมะ” อันเป็นธรรมดาที่มิได้แตกต่าง จากธรรมะที่ครูบาอาจารย์ทั้งหลายท่านเผยแผ่สอนสั่ง หากแต่เป็นธรรมะที่นํามาซึ่งหนทางในการช่วยประคับประคองจิตใจ ในทุกวันของการดํารงชีวิตที่คงไว้ด้วยสติ ศีล และปัญญา ซึ่งหากพุทธศาสนิกชนได้ปฏิบัติตามควบคู่ไปกับการหาโอกาสไป เจริญวิปัสสนากรรมฐานตามแนวทางครูบาอาจารย์สายวัดป่าแล้วนั้นก็น่าจะเป็นแรงเสริมซึ่งกันและกัน ซึ่งท้ายที่สุดแล้วก็จะ เป็นคุณประโยชน์อันใหญ่หลวงแก่พุทธศาสนาที่จะได้มีกองกําลังอุบาสกอุบาสิกาที่เข้มแข็ง สุดท้ายนี้ ดิฉันขอกราบแทบเท้าหลวงพ่อที่ได้เมตตาสอนสั่ง ทุกวันนี้ดิฉันเหมือนเด็กเพิ่งเริ่มหัดเดินในทางสายนี้ แต่ก็จะขอ พากเพียรปฏิบัติตามแนวทางคําสอนของหลวงพ่อสืบต่อไป สาธุ โดยคุณ ศิรินทร์รัตน์ อายุ 33 ปี อาชีพพนักงาน / ลูกจ้าง 610. ผมเป็นคนหนึ่งที่โชคดีมาก ที่ในชาตินี้ได้มีโอกาสฟังเทศนาธรรมและคําสั่งสอนจากหลวงพ่อ อีกทั้งยังได้ปฎิบัติ ตามพระธรรมคําสั่งสอนนั้น แมัว่าในการปฎิบัติช่วงแรก จะหลงเพ่งหลงยึด แต่เดชะบุญผมยังมีโอกาส ได้เข้าถามคําถาม และรับฟังคําชื้แนะจากหลวงพ่อ ทําให้คลายความหลงปฎิบัติที่ผิดไปได้มาก ทุกวันนี้ผมปฎิบัติเพียงพยายาม ให้รู้เท่าทัน กิเลสที่เกิดขึ้นมา แม้ว่าจะรู้ทันบ้าง ไม่ทันบ้างก็ตามทีเถิด แต่ผมก็จะขอปฎิบัติตามแนวทางการปฎิบัติของหลวงพ่อ ไป ตลอดชั่วชีวิตนื ้ และจะยังขอปฎิบัติในภพภูมิต่อไปจนกว่าจะเข้าถึงซึ่งพระนิพพาน ขอนอบน้อมกราบคารวะต่อพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระปราโมทย์ ปาโมชโมชด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ โดยคุณ ญาณธร
โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
37
611. หลวงพ่อ.. พ่อผู้ชี้ทางสว่าง! # ความรู้สึกของตัวเองหลังจากได้ฟังธรรมะจากหลวงพ่อ “เหมือนเจอแสงสว่างในความมืด เหมือนเจอผู้มาเปิดของที่ คว่ําให้หงาย เป็นธรรมะที่อยากฟังมานานและถึงจิตถึงใจ” “คําสอนของหลวงพ่อ” ครอบคลุมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นทั้งคําตอบ คําอธิบาย และวิธีการจัดการกับสภาวะต่างๆที่ เคยสงสัยเพราะได้เกิดกับตัวเองตั้งแต่ก่อนหน้าที่จะเจอหลวงพ่อจนเกิดความเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งและปฏิบัติตามเห็นผล… “คําสอนของหลวงพ่อ” ทําให้ตัวเองมีความทุกข์น้อยลง... ที่ว่าทุกข์น้อยลงไม่ใช่เพราะว่าสถานการณ์ที่ทําให้เกิด ความทุกข์ลดน้อยลง แต่ทุกข์ในใจน้อยลงเพราะเข้าใจและยอมรับความเป็นจริงของชีวิตนั่นคือ “โลกธรรม 8” และมองเห็น มันเป็น “ไตรลักษณ์” “คําสอนของหลวงพ่อ” ทําให้เห็นกิเลสมากขึ้น แต่ตัวเองกลับเป็นคนดีมากขึ้น “คําสอนของหลวงพ่อ” ทําให้ตัวเองได้ “หลัก” ที่จะนําไปปฏิบัติ อีกทั้งจากที่เมื่อก่อนเคยอ่านธรรมะที่ลึกซึ้งของพ่อ แม่ครูบาอาจารย์ในอดีตบางเรื่องไม่ค่อยเข้าใจนัก.. แต่พอได้หลักและย้อนกลับไปอ่านคําสอนที่ลึกซึ้งต่างๆเหล่านั้น พบว่า ตัวเองมีความเข้าใจที่มากขึ้นตามภพภูมิของตนเองโดยลําดับ... “คําสอนของหลวงพ่อ” ตามความรู้สึกคือ เข้ากันได้ ลงกันได้ พอดิบพอดีกับคําสอนของพ่อแม่ครูบาอาจารย์ต่างๆ และกับพระไตรปิฏกฉบับประชาชนที่ได้อ่านอยู่เป็นประจํา... สําหรับตัวเองนั้นมองการปฏิบัติธรรมเหมือนกับการทําอาหาร หลักการทําอาหารมีอยู่ แต่ใครจะทําออกให้มามีรสชาดยังไงหรือมีหน้าตาวิจิตรพิสดารขนาดไหนก็แล้วแต่ศิลปะของแต่ละ บุคลซึ่งก็คือจริตและวาสนา ถ้าไม่หลุดจากหลักการแล้ว ไม่ว่าทําอาหารด้วยวิธีการไหนก็ได้ออกามาอาหารเหมือนกัน… คําสอนหลวงพ่อทําให้ตัวเองมี “เป้าหมาย” ของชีวิตที่แน่นอน และถือว่าเป็น “งานหลัก” ของการเกิดมาและมีชีวิต อยู่ ปฏิบัติเองเห็นผลเอง กรรมใครเราไม่ยุ่ง ขอมุ่งสู่พระนิพพาน.... ด้วยความศรัทธาหลวงพ่ออย่างถึงจิตถึงใจ... # โดยคุณ วิชชุลดา 612. ชื่อ พิชชา พันธุ์วิชาติกุล ได้ฟังธรรมจากหลวงพ่อปราโมช มา 3ปีค่ะ ชีวิตเปลี่ยนไปมากหัดนั่งสมาธิมาตั้งแต่เด็ก ทํา ไปแต่ก็มีข้อสงสัยมากมายตลอดการภาวนาจนได้มาฟังธรรมจากหลวงพ่อ หลวงพ่อสอนให้เห็นจิตใจของตัวเองให้เห็นทุกข์ ที่เกิดใจตัวเอง เห็นประโยชน์และการสานต่อของสมาธิที่ไม่เคยรู้ว่าจะเอาไปใช้ในทางศาสนาได้อย่างไร หลวงพ่อทําให้เห็น ความสําคัญ ของการรักษาศีล 5 ที่มากกว่าคําว่าเป็นสิ่งที่ควรทําหรือท่องจําแต่เด็กได้เข้าใจคุรค่าของการภาวนา การฟัง ธรรมจากหลวงพ่อทําให้เกิดศรัทธามากในพระพุทธศาสนาและพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างใหญ่หลวงทั้งๆที่เมื่อก่อนก็เป็น พุทธศาสนิกชนแต่ไม่เคารพลึกซึ้งและเป็นที่สุดอย่างในทุกวันนี้ คําสอนหลวงพ่อเปลี่ยนชีวิตที่มีต่อศาสนาพุทธอยากมากค่ะ ทําให้มั่นใจและศรัทธาถึงที่สุด ศรัทธาในพระพุทธเจ้าไม่ใช่ในตัวหลวงพ่อปราโมช แต่อย่าใดเลย ขอเป็นหนึ่งเสียงที่ยืนยันว่าคําสอนของหลวงพ่อเปลี่ยนชีวิตที่ทุกข์ทรมานใจเป็นมีความสุขกับตัวเองได้อย่างประหลาด ไม่ใช่ด้วยน้ํามนต์หรือสิ่งศักดิ์สิทธิแต่ด้วยการภาวนาจากคําสอนหรือคําอธิบายให้ได้เข้าใจ หลวงพ่อไม่เคยบอกให้ใคร ทําบุญเลย มีแต่คําว่าให้ตั้งใจภาวนาเพื่อตัวเอง หลวงพ่อไม่เคยบอกให้ใครทําอะไรเพื่อหลวงพ่อไม่เคยบอกบุญใดๆเลยสัก ครั้งเดียว หลวงพ่อปราโมชเป็นพระที่นําคําสอนของพระพุทธเจ้ามาเปลี่ยนชีวิตของข้าพเจ้าอย่างแท้จริง กราบหลวงพ่อปราโมช ด้วยความเคารพอย่างสูง โดยคุณ พิชชา 613. พื้นเพ ครอบครัวเป็นอิสลาม ..แต่สนใจ ในศาสนาพุทธ สาเหตุมาจาก สงสัย ทําไม คนเราเกิดมาไม่เท่ากัน? ก็ทําแต่ บุญ ทําทาน เท่านั้นเอง รักษาศีลได้บ้าง ไม่ได้บ้าง (ยังไม่มีปัญญา มีแต่ศรัทธรา) โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
38
ชีวิตมีความสุข ความสําเร็จ สมหวังมาตลอด .....ตกหลุมพรางแห่งความสุข คิดว่าความสุขนั้นมันจีรัง ยั่งยืนตลอดไป จนวันหนึ่งผิดหวัง ..ชีวิตอยู่ในห้วงแห่งทุกข์ มี กัลยณมิตร แน่ะนํา ให้อ่าน หนังสือหลวงพ่อปราโมทย์ .. อ่านหนังสือ ฟังซีดีมาเรื่อยๆ จนได้ไปส่งการบ้านหลวงพ่อ ..เห็นหลวงแต่ ในหนังสือ ได้เห็นตัวจริงของท่าน สง่างาม มีบารมีมากๆได้กราบแทบเท้าท่าน ถวายพวงมาลัยดอกมะลิสด .. ทุกวันนี้ก็ยังคงไปอยู่ที่สวนสันติธรรม อยู่เสมอๆ ใบหน้าท่านจะเปื้อนยิ้มตลอดเวลา... ไม่มีตังค์ก็ไปได้ มีแต่ค่าน้ํามันรถก็พอ ..ที่นี่ไม่ได้เน้น วัตถุ จะรวย จะจน ไม่สําคัญ ตอนนี้ฝึกมา 1ปีเต็ม ถามว่าได้อะไรกลับมาบ้าง มีสติมากขึ้น รู้กาย รู้ใจตัวเองมากยิ่งขึ้น..มีทั้งปัญญาและศรัทธรา โดยคุณ แสงระวี กรนิติ (รังสมิน อาคุณเคล) 614. ข้อความนี้เขียนมาจากใจ เพื่อแสดงความขอบพระคุณต่อหลวงพ่อปราโมทย์ ปราโมชโช ข้อธรรมที่ได้จากหลวงพ่อเปลี่ยนชีวิตดิฉันหลายอย่าง จากที่เคยเป็นคนนั่งสมาธิแบบเคลิ้มๆ แล้วคิดว่าวันนี้ดิฉันได้ปฏิบัติดีแล้ว เป็น คนที่นั่งสมาธิแบบมีสติรู้กายรู้ใจ จากคนที่วันๆมีแต่คําถามเกี่ยวกับการปฏิบัติ กลายเป็นมีคําถามที่น้อยลง และ มีคําว่าสงสัยให้รู้ว่าสงสัยเกิดขึ้นในใจ จากคนที่แต่ก่อนหายใจทิ้งไปวันๆ กลายเป็นหายใจเข้าก็รู้ว่าหายใจเข้า หายใจออกก็รู้ว่าหายใจออกในบางครั้ง(ในตอนที่มี สติ) จากคนที่เคยเดินฟุ้งซ่านไปเรื่อยเปื่อยกลายเป็นเดินรู้เนื้อรู้ตัวในบางครั้ง(ในตอนที่มีสติ) จากคนที่ศีลกระพร่องกระแพร่ง กลายเป็นคนที่มีเจตนาในแต่ละวันทั้งก่อนออกจากบ้าน และก่อนจะนอนว่าวันนี้ฉันจะรักษา ศีล 5 ให้ได้ จากคนที่เคยเบื่อขี้หน้าคนหลายคนกลายเป็นคนที่เข้าใจผู้อื่นมากขึ้นเพราะรู้ว่าเราเองใช่จะดีเนื่องจากได้เห็นกิ เลศของตัวเองผุดขึ้นออกจะบ่อย หลวงพ่อทําให้ดิฉันมีความมั่นใจว่าฆราวาสธรรมดาๆนี้แหละสามารถพัฒนาตนเองให้เป็นโสดาบันได้ ทุกๆวันนี้ดิฉันก็เป็นแค่ฆราวาสธรรมดาๆที่ตั้งใจจะดําเนินตามทางที่หลวงพ่อได้สอนไว้ กราบขอบพระคุณหลวงพ่อคะ โดยคุณ สิริธร 615. ข้าพเจ้านางสังเวียน หงอกพิไล อายุ48ปี 350/142 ถนนพระราม3 เขตยานนาวา กรุงเทพฯ10120 เมื่อปี 2551 ข้าพเจ้าได้รับซีดีของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช จากญาตธรรมคนหนึ่งมาฟัง ข้าเจ้าฟังแล้วเกิดความสว่าง ขึ้นในจิตใจ ทําให้มีสติยั้งคิด เลิกดื่มเหล้า เลิกเที่ยว เลิกไปในสถานที่ไม่เหมาะสม แยกแยะเพื่อนๆได้ว่าใครเป็นกัลยามิตรที่ ดี หลังจากที่ปฏิบัติตามแนวของหลวงพ่อปราโมทย์ แล้วชีวิตของข้าพเจ้าเปลี่ยนไป จากที่โมโหง่าย โกรษง่าย กินยาก อยู่ ยาก อยู่อย่างฟุ้งเฟ้อ สามีบอกว่าข้าพเจ้าเปลี่ยนเป็นคนละคน กินง่าย อยู่ง่ายใจเย็นลงมากๆ จนสามีและลูกแปกใจ บัดนี้ สามีและลูกหันมาฟังธรรมะหลวงพ่อปราโมทย์ ตอนนี้ครอบครัวของข้าเจ้า มีความสุขใจ ไม่เก็บเอาเรื่องนอกตัวเข้าบ้าน เห็นใจซึ่งกันและกันถ้อยทีถ้อยอาศัย มีความอดทน อดกลั้นเอื้ออาทรต่อกัน ธรรมะของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ซึ่งนําเอาคําสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาแผยแผ่ ให้ผู้ ทุกข์กายทุกข์ใจอย่างข้าพเจ้าได้มีโอกาสปรับปรุงและเปลี่ยนพฤติกรรมตัวเอง ให้อยู่บนโลกนี้ได้อย่างมีความสุขใจ ข้าพเจ้าขอรับรองว่าทุกคําที่เขียน ออกมาจากใจอันบริสุทธิ์ โดยคุณ สังเวียน 616. จากคนไม่มีศีล เปลี่ยนเป็นมีศีล อันเป็นผลมาจากการปฏิบัติตามคําสอนของหลวงพ่อปราโมทย์ ความโกรธลดลง เพราะรู้ทันโทสะ อันเป็นผลมาจากการปฏิบัติตามคําสอนของหลวงพ่อปราโมทย์ ความอยากลดลง เพราะรู้ทันราคะ อันเป็นผลมาจากการปฏิบัติตามคําสอนของหลวงพ่อปราโมทย์ โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
39
ความหลงลดลง มีสมาธิดีขึ้น ความจําดีขึ้น เพราะรู้ทันโมหะ อันเป็นผลมาจากการปฏิบัติตามคําสอนของหลวงพ่อปราโมทย์ โรคจอประสาทตาเสื่อมที่เกิดขึ้นเป็นประจํา เพราะจิตชอบเครียดก็หายไป เพราะรู้ทันความเครียด อันเป็นผลมาจากการ ปฏิบัติตามคําสอนของหลวงพ่อปราโมทย์ ไม่พบสิ่งที่ไม่ดีเลยจากการปฏิบัติตามคําสอนของหลวงพ่อปราโมทย์ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม จะปฏิบัติตามคําสอนของหลวงพ่อต่อไป เพื่อให้บรรลุโสดาบันได้ในชีวิตนี้ตามที่หลวงพ่อสั่งสอน ไว้ ขอร่วมเป็นกําลังใจ จากลูกศิษย์ของหลวงพ่อ โดยคุณนพดล กับภรรยาชื่อปิยนาถ ลูกชายณภัทร และลูกสาวศรสวรรค์ 617. เมื่อประมาณกลางปี พ.ศ.2548 เป็นครั้งแรกที่ผมได้ไปกราบหลวงพ่อที่สวนโพธิญาณอรัญวาสี จังหวัดกาญจนบุรี ระหว่างทางที่นั่งรถไปกับเพื่อน ผมก็ถามเพื่อนว่า ที่หลวงพ่อสอนเรื่องส่งจิตออกนอกหมายความว่ายังไง? คําถามถูกทิ้งไว้ ในรถ เมื่อไปถึงที่สวนฯ หลวงพ่อสอนเรื่องส่งจิตออกนอกพอดี ^O^ โดยให้พวกเรามองไปที่พระพุทธรูปที่อยู่ในศาลา สักพักหนึ่งหลวงพ่อบอกว่า ขณะที่เรามองไปที่พระพุทธรูป พิจารณารายละเอียดของพระพุทธรูปอยู ่ เราจะลืมกายลืมใจ ตนเองเป็นการส่งจิตออกนอกโดยหลงไปดู ณ เวลานั้นไม่เข้าใจที่หลวงพ่อสอนหรอกครับ กว่าจะเข้าใจเรื่องส่งจิตออก นอกใช้เวลาถึงสามปีตั้งแต่วันนั้นก็ฟังซีดีของหลวงพ่อและภาวนามาโดยตลอด เข้าใจชีวิตมากขึ้น มากขึ้น ความทุกข์น้อย ลง น้อยลง “เมื่อคําสอนส่งผล ผลที่เกิดกับตนจะทําให้ศรัทธาตั้งมั่น” “เชื่อว่าการเดินทางบนเส้นทางที่หลวงพ่อพาเดินจะเป็นการเดินทางไปสู่จุดหมายที่ไม่ต้องกลับมาเดินแล้วเดิน อีก” กราบหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ด้วยความเคารพอย่างสูง ^/\^ โดยคุณ อดิศักดิ์ 618. ดิฉันรู้สึกมีความสุขขึ้นและเหมือนตื่นจากการหลับหลังจากที่ได้ปฏิบัติตามคําสอนของหลวงพ่อ ได้เห็นและเข้าใจตัว เอง และคนอื่น มากยิ่งขึ้น ต้องขอกราบขอบพระคุณหลวงพ่อมากเลยค่ะ และขอให้หลวงพ่อพ้นจากภัยทั้งหลายทั้งปวงค่ะ โดยคุณ Tammi Tan 619. ตัวผมเองก็เป็นอีกคนหนึ่งที่เกิดมาแล้วนับถือศาสนาพุทธตามพ่อแม่ที่นับถือกันมา พ่อแม่พาเข้าวัดทําบุญตั้งแต่เล็กๆเสมอมา แต่ไม่เคยรู้เลยว่าพระพุทธเจ้าสอนอะไร รู้แต่ว่าอริสัจ 4 คือหนทางแห่งการดับทุกข์ แต่ก็ไม่เคยเข้าใจว่าหนทางใดที่จะเดินไป สู่การหลุดพ้นที่แท้่จริง จนกระทั่งได้ฟังซีดีหลวงพ่อปราโมชถึงได้เข้าใจว่าเราควรที่จะ ดําเนินชีวิตยังไง แล้วอะไรคือจุดมุ่งหมายที่สําคัญที่สุดในชีวิต หลวงพ่อทําให้ผมตื่นและ ฝังใจเชื่อใจว่าหนทางนี้แหละคือหนทางที่ถูกต้องกับตัวเราแล้ว ช่วงหนึ่งที่มีข่าวเกี่ยวกับ คําสอนของหลวงพ่อว่าผิดทาง ตัวผมเองได้มีโอกาสเข้าไปกราบถามกับหลวงปู่รูปนึงซึ่งเป็น พ่อแม่ครูบาอาจารย์ของผมว่าทุกวันนี้ผมปฏิบัติอย่างที่หลวงพ่อปราโมชสอนได้หรือเปล่า เป็นทางที่ถูกต้องแล้วใช่หรือไม่ หลวงปู่บอกว่าได้ถูกต้องแล้วเพียงแต่ติผมว่าผมมีกําลัง สมาธิที่อ่อนเกินไปจึงทําให้เห็นสภาวะไม่ชัดเจน ถ้าผู้ใดคิดว่าตนไม่เห็นด้วยกับการปฏิบัติ แนวทางนี้ก็ไม่ต้องปฏิบัติก็ได้ ไม่เห็นต้องมาโจมตีหรือพูดจาให้เสียหายเลย มันบาปกรรมน่ะ โดยคุณ จิระเดช 620. ธรรมะที่หลวงพ่อสอน เป็นของจริงพิสูจน์ได้ โดยคุณ อติกานต์ 621. สวัสดีครับ ผมเป็นคนหนึ่งที่ได้มีโอกาสไปอยู่ที่สวนสันติธรรมเมื่อราวๆ ปี 50- 51 ได้มีโอกาสพบหลวงพ่อพร้อมๆ กับเพื่อนผู้ที่ ไปอยู่วัดในคราวนั้นอีก 2 ท่าน (ในตอนนั้นมีผู้มาอยู่ใหม่ 2 ท่าน) หลวงพ่อมาพร้อมๆ กับพระลูกศิษย์ครับ อยากเรียนให้ใคร โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
40
ก็ตามที่ได้อ่านจดหมายฉบับนี้ว่า หลวงพ่อสอนผมประโยคเดียวเท่านั้น คือ “เมื่อกี้ทําอะไรอยู่” สอนเพียงเท่านี้จริงๆ ครับ ท่านย้ํากับผม 2 หน (เพราะผมเผลอคิดเรื่องอื่นอยู)่ ด้วยประโยคนั้นเพียงประโยคเดียว ตอนนั้นผมยังสงสัยและอดเคืองอยู่ ไม่ได้ว่าสอนน้อยจัง แต่นานวันไปผมเริ่มเข้าใจครับว่า แค่นั้นก็เพียงพอแล้วสําหรับนักปฏิบัติคนหนึ่ง (แต่เป็นสิ่งที่จําเป็น ที่สุด) ที่จะใช้ต่อยอดแนวปฏิบัติที่แต่ละคนทําอยู่ ผมลืมบอกไปครับว่า ผมรู้จักหลวงพ่อผ่านหนังสือ “ประทีปส่องธรรม” ซึ่งผมรู้สึกประทับใจเป็นพิเศษจนต้องหา โอกาสไปกราบท่านที่สวนโพธิ์ (เมืองกาญฯ) ตั้งแต่ปลายปี 2548 แล้ว และจนมากระทั่งมาที่สวนสันติธรรมผมก็ยังไม่เคย พบว่าหลวงพ่อจะเอาใจใคร หรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเป็นพิเศษเพื่อหวังผลประโยชน์อะไร มีแต่สอนธรรมะ แจกหนังสือ + ซีดี แล้วก็ไล่พวกเรากลับบ้านไปทําเอาท่าเดียว ผมประทับใจหลวงพ่อที่สุดก็ตรงนี้แหละครับ J ด้วยความเคารพ โดยคุณ วิทวัส 622. "ผมไม่รู้่ว่าเรื่องนี้ใครผิดใครถูกกันแน่ แต่ผมมั่นใจที่สุดว่าผมมีการเปลี่ยนแปลงไปแล้วอย่างมากมาย เนื่องด้วยอาศัยคําสอนของท่าน อนคต ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาอย่างไร(ถึงแม้นหากว่าท่านจะเป็นฝ่ายผิดก็ตาม) ผมยังขอยึดพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งจนถึงที่สุด" โดยคุณ นพ.ณภัทรสพล 623. สวัสดีคะ ได้ปฏิบัติตามที่หลวงพ่อสอน แล้วทุกข์ก็สั้นลงจริงๆคะ เห็นจิตเริ่มคิด แล้วก็จิตก็หยุดเอง ก่อนที่จิตจะคิดต่อๆไป ทําให้หยุดเรื่องที่จะฟุ่งซ่านนะขณะนั้น เห็นว่าจิตก็ทํางานเองได้ตัวมันเอง บังคับให้อยู่อารมณ์สุขอย่างที่ต้องการก็ไม่ได้ อารมณ์มันก็ดับแล้วก็เปลี่ยนไปเองเห็นจิตที่เศร้าเพราะคนรักทิ้งเราไป พอรู้ ๆไป ก็เห็นว่าจิตหยุดเศร้าไปเอง เมื่อกลับมาอยู่กับปัจจุบันที่กําลังจะเดิน พอก้าวเดิน ก็เห็นจิตเริ่มคร่ําครวญก็หยุดไปเอง ชีวิตจากที่ชอบจมอยู่กับความเศร้านาน ๆ ก็เปลี่ยนไป อยู่กับปัจจุบัน มีความสุขง่ายขึ้น และมากขึ้น ชีวิตก็ง่ายขึ้น มองชีวิตเปลี่ยนไป รู้สึกธรรมชาติของอะไร ๆ ก็เหมือนกันคือไม่เที่ยง คิดว่าตัวเองได้พบเป้าหมายในชีวิตในทางธรรม รู้สึกว่าการปฏิบัตธรรมไม่ยากเหมือนที่เคยคิด ได้เจอแนวทางที่ใช่ ค้นหาอาจารย์ผู้สอนแ่ก่นแท้มานาน ไม่เคยคิดเลยว่าจะสามารถฝึกจิต ได้ในชีวิตประจําวัน และต้องทํางานที่ต้องคิดทั้งวัน เดินก็ฝึกได้ รถติดก็ฝึกได้ รู้สึกซาบซึ้งและกราบขอบพระคุณหลวงพ่อปราโมทย์ ปราโมชโชเป็นอย่างสูง ที่ได้สอนถึงแก่นของวิธีปฏิบัติธรรมให้กับดิฉันคะ ดิฉันเชื่อว่าคนที่ได้ลองปฏิบัติอย่างถูกต้องตามที่หลวงพ่อสอน ย่อมเห็นผลได้ด้วยตัวเอง และเชื่อว่าหลวงพ่อ ไม่เหนื่อยเปล่าในการพร่ําสอนแน่นอนคะ เป็นกําลังใจหลวงพ่อ และผู้ปฏิบัติดีปฏิบัตชอบทุกท่านคะ ขอบคุณคะ โดยคุณ ชนนิกานต์ 624. ในวันที่เศร้าที่สุด ด้วยคําสอนของหลวงพ่อทําให้ฉันเขียนคํากลอนสั้นๆบทนี้เพื่อปลอบใจตัวเอง และอีกหลายๆวันต่อ จากนั้น ฉันค่อยๆหันกลับมามองต้นตอของปัญหา และ ความทุกข์ทั้งมวลจากภายใน เริ่มแกะรอยหนทางแห่งการพ้นทุกข์ ได้แม้เพียงน้อยนิดแต่ก็ทําให้มั่นใจว่า หนทางนี้จะพาไปถึงจุดหมายได้สักวัน “อีกวันที่จะผ่าน เหมือนเมื่อวานที่ผ่านหาย เหมือนความคิดคํานึงถึงเราของใครๆ ที่วับหายไปในพริบตา ใครจะด่า จะว่าเราก็ช่าง รู้ละวาง บ้างก็ได้
โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
41
พูดให้น้อยลง กลับมาที่ใจกาย ปรุงแต่งไปทําไมมี ยิ่งปรุงก็ยิ่งเศร้า ไม่เห็นมี”เรา”ที่ตรงไหน ทุกอย่างผ่านมาก็ผ่านไป จับต้องไม่ได้สักอย่างเดียว วันนี้เศร้า พรุ่งนี้เหงา มะรืนสุข เดี๋ยวก็ทุกข์ เฮฮา สนุกสนาน ทุกอย่างเป็นไปตามกาล ไม่เอาเมื่อวานมาคิดให้กลุ้มใจ อยู่กับปัจจุบัน ชีวิตจะพลันสว่างไสว รู้แล้วทุกข์หายไปในทันใด จะเอาอะไรมาเป็น“เรา” ขออวยพร ให้ รู้ รู้ และ รู้ เพื่อละ”กู”ลงไปจนเลือนหาย รู้เข้ามาที่ใจและกาย ละสําคัญมั่นหมายว่า”เรา”มี เพื่อวันหนึ่งถึงทางสว่าง ละวางทุกอย่างลงได้ มีสุขเหนือสุขในทันใด ในความหมายก็คือ “นิพพาน” ฉันพาลูกสาวไปกราบหลวงพ่อตั้งแต่เขายังเล็ก ตอนนี้เขาอายุ 7 ขวบแล้ว เขารู้จักหลวงพ่อในชื่อที่เขาตั้งเองว่า “หลวงพ่อ ใจดี” เขาพอรู้เรื่องหลวงพ่อผ่านทางฉัน เขาฝากให้ฉันเรียนหลวงพ่อว่า “ ขอให้หลวงพ่อใจดี มีความสุข ไม่โดนคนแกล้งเยอะๆ” หลี / ซ้งธ์ และ ต้นข้าว โดยคุณ กุลฤดี /ธรธร และ เด็กหญิง นันท์นภัส ( ต้นข้าว) 625. สําหรับผม หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช คือครูผู้มีความกรุณาสั่งสอนลูกศิษย์อย่างสูงยิ่ง เวลาท่านสอนท่านจะไม่โอ๋ ลูกศิษย์ แต่จะสอนในสิ่งที่เกิดประโยชน์กับตัวลูกศิษย์อย่างแท้จริง โดยบางครั้งอาจไม่เป็นที่ถูกใจของใครหลายคน ผมเป็น ผู้หนึ่งที่หลวงพ่อสอนเข้าตรงๆด้วยความเมตตากรุณาอย่างสูงยิ่ง ท่านชี้ให้ผมเห็นความถือตัว(มานะ)ชอบวางมาด หากท่าน ไม่รักไม่เมตตา ท่านไม่จําเป็นต้องสอนตรงๆแบบนี้เลยเพราะเปลืองตัวท่านเปล่าๆ แต่ท่านกลับสอนให้ตรงๆ เพราะท่านเห็น ว่าผมติดตรงนี้มานานแล้ว และไม่สามารถสังเกตุได้ด้วยตัวเอง เป็นเหตุให้เนิ่นช้าไปเรื่อยๆ ท่านจึงสอนให้ตรงๆ หากคนที่ ไม่เข้าใจก็อาจโกรธท่านไปเลย ผมไม่รู้ว่าศิษย์เก่าที่กําลังหาเรื่องท่านอยู่ รู้สึกอย่างนี้รึเปล่า แต่สําหรับผม ผมเห็นว่าท่านมี ความกรุณาอย่างสูงที่ช่วยชี้แนะให้ และจากที่เรียนกับท่านมา ท่านก็ไม่เคยเรี่ยไร หรือบอกบุญอ้อมๆอะไรเลย ผมสัมผัสได้ จากจิตใจส่วนลึกจริงๆว่าท่านออกมาประกาศธรรมะของพระพุทธเจ้าด้วยจิตใจมุ่งมั่นและบริสุทธิ์โดยไม่หวังลาภสักการะ ใดๆทั้งสิ้น ผมเชื่ออย่างยิ่งว่าท่านหวังเพียงเพื่อช่วยสืบอายุพระศาสนาด้วยการประกาศพระสัทธรรมอย่างไม่ย่อท้อ โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
42
ในส่วนของการปฏิบัติส่วนตัวก็พบว่า เมื่อคอยเจริญสติในชีวิตประจําวันไปเรื่อยๆ ประกอบกับการไหว้พระสวดมนต์เดิน จงกรมนั่งสมาธิในรูปแบบทุกวัน ตามที่ท่านคอยแนะนําลูกศิษย์เนืองๆ ผมพบความเปลี่ยนแปลงในตัวเองอย่างมหาศาล จิต ที่เคยหลงไปในความคิดทําให้เกิดราคะโทสะมากมาย พอรู้สึกตัวรู้ทันขึ้นมาอกุศลเหล่านั้นก็ดับไป จิตที่เคยถูกราคะโทสะ โมหะครอบงําทั้งวันทั้งคืน ก็มีเวลาที่รู้ทันมันขึ้นมาได้ ความสุขที่ไม่ต้องอิงอาศัยเหตุภายนอกก็เกิดขึ้นภายใน ที่ไม่เคยรู้จัก ก็ได้รู้จัก จิตใจก็มีสติรู้สึกตัวบ่อยขึ้นๆ ผมนึกถึงเลยว่า การคอยระวังอย่าให้อกุศลใหม่เกิด การระงับอกุศลที่เกิดแล้วไม่ให้ ลุกลาม การเจริญกุศลที่ยังไม่เกิดให้เกิดขึ้น รวมถึงการหมั่นสร้างกุศลที่เกิดขึ้นแล้วให้เกิดขึ้นบ่อยๆ ก็คือการเจริญสตินี่เอง เป็นความรู้ที่ได้จากการปฏิบัติ เห็นได้จริงตามที่พระพุทธองค์กล่าวไว้ นอกจากนี้ที่เคยรักษาศีลแบบขาดๆเกินๆ ก็กลายเป็น รักษาศีลอย่างจริงจังมากขึ้น โลกที่เคยดูเป็นจริงเป็นจัง ก็ดูเหมือนเป็นภาพลวงตา เหมือนความฝัน ที่ไม่รู้จะไปจริงจังเอา เป็นเอาตายเหมือนแต่ก่อนทําไม ในอดีตผมก็พยายามนั่งสมาธิ หลายครั้งบอกตัวเองว่านั่งคราวนี้จะไม่ให้จิตหนีไปไหนเลย แต่พอนั่งไปปุ๊ปจิตก็ไหลไปคิด ทันที ก็พยายามนั่งบังคับอย่าให้มันไหล จึงทรมานมากจนเบื่อไม่อยากปฏิบัติ แต่พอมาเจริญสติในชีวิตประจําวันตามที่ท่าน สอน การนั่งสมาธิในตอนกลางคืนก็ง่ายขึ้น ศรัทธาก็มีมากขี้น ความเพียรก็เกิตตามมา ก็เกิดรักศรัทธาพระพุทธเจ้ามากขึ้น มากขึ้น จากที่เคยศรัทธาพระพุทธเจ้าจากการอ่านเรื่องราว และคําสอนของพระพุทธเจ้า ก็เกิดศรัทธาจากการปฏิบัติว่า พระพุทธเจ้าต้องสอนของจริงแน่นอน เพราะหากยังไม่ได้มรรคผลนิพพานอะไรกับใคร เราและคนรอบข้างก็ยังสัมผัสได้ถึง ความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นในตัวเรา และความสุขที่เกิดจากการภาวนาที่เป็นเรื่องเฉพาะตนที่ไม่เคยสัมผัสก็ได้สัมผัส ทั้งนี้ไม่ใช่ครูบาอาจารย์องค์อื่นไม่ดี แต่เรียนแล้วไม่ถูกจริตผมมากกว่า(โง่เอง) ผมรู้สึกขอบคุณและซาบซึ้งในบุญคุณของหลวงพ่อเป็นอย่างยิ่ง ท่านเป็นสัตบุรุษที่ผมดึใจอย่างยิ่งที่เกิดมาพบ และรู้สึกว่า ตัวเองโชคดีมากๆๆๆๆ ที่มีโอกาสได้ฟังธรรมจากท่าน ท่านทําให้ผมมีความรักในพระรัตนตรัยอย่างลึกซึ้ง ผมขอนอบน้อม แด่พระพุทธเจ้าผู้บริสุทธิ์มีพระกรุณาดุจห้วงมหรรณพ แด่พระธรรมที่ท่านตรัสไว้ดีแล้ว แด่พระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดึปฏิบัติชอบทุก ท่านทุกองค์ และขอกราบแทบเท้าหลวงพ่อปราโมทย์ผู้ประกาศธรรมของพระผู้มีพระภาคเจ้าอย่างมุ่งมั่นด้วยใจบริสุทธิ์ด้วย เศียรเกล้าครับ และขอปฏิบัติบูชาพระรัตนตรัยและหลวงพ่อไปตลอดชีวิต โดยคุณ สุพัฒน์ (อ๋า)
626. หลังจากฟังธรรมจากหลวงพ่อมาระยะหนึ่งทําให้หนูตื่นขึ้นมา เข้าใจโลกมากขึ้น เป็นทุกข์เป็นร้อนกับเรื่องต่างๆที่ผ่าน เข้ามาน้อยลง มีความประพฤติที่ดีขึ้นสังเกตได้จากคนรอบข้างและที่ทํางานให้ความเป็นมิตรกับเรากว่าแต่ก่อน และการภาวนากับหลวงพ่อที่เห็นผลขึ้นมาก็ทําให้เรากลับมาภาวนาทุกๆวันต่อเนื่อง เป็นสิ่งที่รู้ได้เฉพาะตน เท่าที่ฟังธรรมหลวงพ่อมาเกือบ2ปีก็พบว่ามีแต่สิ่งดีๆมาตลอดค่ะ โดยคุณ ดุษฎี
โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
43
627. ลูกศิษย์อยู่เยอรมัน ดิฉันอยู่เยอรมันนี มีความทุกข์มาก เคยคิดจะเปลี่ยนศาสนา ได้คําสอนหลวงพ่อโดยการตั้งจิตอธิฐาน ขอให้เจอธรรมะดีๆ กราบคอมพิวเตอร์หนี่งครั้งเปิดไปเจอคําสอนหลวงพ่อ “แด่เธอผู้มาใหม่” เมื่ออ่านแล้ว พูดกับตัวเองว่า”จริงหรือ มีด้วยหรือ” คําสอนของหลวงพ่อ สอนวิธีปัฎบัติได้ชัดเจน เข้าใจง่าย และนําไปปัฎิบัตได้เลย อยู่ในชีวิตประจําวันก็ปัฎิบัตได้ ท่านสอน เรื่องทุกข์,อริยสัจ,นิพพานได้ดีมาก (จะมีใคร่สักกี่ท่านที่สามารถสอนเรื่องนี้ได้) ตั้งแต่วันนั้นจนถีงวันนี้เป็นเวลาเกือบ ห้าปี ที่ ปัฎิบัติตามแนวหลวงพ่อ ไม่เคยเลยวันไหนที่จะไม่ปัฎิบัติ ไม่เคยขี่เกียจ ถีงต้องทํางานมากมายแต่ใช้ธรรมะที่หลวงพ่อ สอน”ดูจิตในชีวิตประจําวัน” และเข้าใจคําสอนของท่านพุทธทาส “การทํางานคือการปัฎิบัติธรรม”ดิฉันกลับเมืองไทยทุกปี สองปีแรกไม่เคยไปกราบหลวงพ่อเลย ลูกยังเล็ก,สงสัยก็ให้รู้ว่าสงสัย,ช่วยตัวเองให้มากๆน้อย(เป็นคําสอนที่ไม่เคยลืม) พอ เรี่มอย่างเข้าปีที่สาม บอกกับตัวเองว่าถีงเวลาแล้ว ประจวบกับตัวเองติดนิ่ง แต่ไม่ทราบ หลวงพ่อให้ความเมตตาบอกให้ ทราบ และให้คําแนะนําจีงเดินต่อได้ ปีที่แล้วก็ไปกราบหลวงพ่อไปขอคําแนะนํา ซีงมีประโยชน์ต่อการปัฎิบัติมาก ดิฉันได้ ตั้งใจไว้ว่ากลับเมืองไทยเมื่อไรจะไปเยี่ยมหลวงพ่อทุกครั้ง ถ้าตายไปในขณะนี้ก็จะไปเรียนกับหลวงพ่อต่อ ดิฉันโชคดีที่เกิดมาเจอหลวงพ่อ ท่านเป็นลูกที่ดีของพระพุทธเจ้า เป็นครูที่ดีของดิฉันและหลายๆท่าน, ความทุกข์ลดน้อยลง, คําถามที่เคยถามตัวเองว่า “เกิดมาทําไม?” ได้รับคําตอบแล้วจากการปัฎิบัติตามแนวทางหลวงพ่อ หลวงพ่อมีบุญคุณต่อ ดิฉันมาก จะไม่ขอทิ้งเส้นทางสายนี้ ถีงตายไปก็จะไปปัฎิบัติต่อ อยากจะขอร้องผู้ที่ต้องการทําลายหลวงพ่อว่า “กว่าเราจะเจอครูที่สอนเรื่องนิพพานได้และนําคําสอนที่แท้ของพระพุทธเจ้า มาบอกเรานั้นไม่ใช้เรื่องง่าย” ถ้าท่านทําร้ายลูกที่ดีของพระพุทธเจ้าเท่ากับท่านได้ทําร้ายศาสนาของพระองค์ ท่านอ้างว่าคํา สอนของหลวงพ่อไม่ถูกต้อง ไม่ดี ท่านได้ทดลองปัฎิบัติแล้วหรือยัง ถ้ายัง ท่านอย่าแอบอ้างว่าไม่ดีแทนพวกเรา! หมายเหตุ ดิฉันยินดีให้ใช้ชื่อจริงนามสกุลจริง ที่อยู่สามารถติดต่อได้ตลอดเวลาถ้าเกี่ยวกับหลวงพ่อ และพระศาสนา, ดิฉัน ยินดีที่จะมีกัลยาณมิตรที่เป็นลูกศิษณ์หลวงพ่อ ติดต่อดิฉันได้ โดยคุณ รุ่งกานต์ (Rungkan) 628. ขอร่วมให้กําลังใจหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ค่ะ จากลูกศิษย์ที่ฟังธรรมจากท่านและน้อมนํามาปฏิบัติค่ะ 1. หลวงพ่อสอนให้เจริญวิปัสสนาโดยการตามรู้กาย ตามรู้ใจด้วยจิตที่ ตั้งมั่นและเป็นกลาง โดยคุณ คุณเสาวนิตย์ 2. หลวงพ่อสอนให้รู้ว่ากายนี้ใจนี้ไม่ใช่ของเรา โดยคุณ พ.ท. นาถ 3. หลวงพ่อสอนให้รู้สภาวะธรรม โดยคุณ คุณอรนาฏ 4. หลวงพ่อสอนให้มีสติรู้กายรู้ใจอยู่กับปัจจุบัน โดยคุณ คุณวิธัญญา 629. ตอน ปี'51ถือว่า -เป็นปีที่โชคดีมากที่สุด ที่ได้CD ธรรมะของหลวงพ่อปราโมทย์ เป็นของขวัญที่ล้ําค่าที่สุด -จากที่เคยไม่แน่ใจ คิดว่า"ทางของพระพุทธองค์จะมีอยู่จริงมั้ย? หรืออาจมี แต่คงยาก คงมีสําหรับผู้ที่ต้องบวช และต้องอีกหลายภพ หลายชาติ คงไม่มีทางนี้สําหรับฆราวาส แต่นับว่าเป็นบุญวาสนาของตนเองที่สุด ที่หลวงพ่อเมตตา ชี้ให้เห็นและพิสูจน์ได้ ทางของพระพุทธองค์นี้ มีจริง ยังมีอยู่ และเดินยังไง หากเดินถูก ทางนี้ก็ไม่เนินช้า ซึ่งหลวงพ่อมาได้เมตตาหาวิธีสอน วิธิแนะ ให้เข้าใจง่าย ทําง่าย เข้ากับจริตของคนยุคปัจจุบัน จนมีผลกระทบต่อหลวงพ่อ ต่อผู้ที่ไม่เห็นด้วย หรือเสียผลประโยชน์ โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
44
ขอหลวงพ่อยังคงเมตตาสอนธรรมะ ให้กับลูกๆ ให้ได้ภาวนาจนมีโอกาสพ้นทุกข์ได้ ไม่ว่าจะชาตินี้ หรือชาติต่อๆไป อย่ายอมให้กลุ่มหนึ่งที่ตกเป็นทาสกิเลส มาปิดกั้นธรรมะของพระพุทธองค์ได้ โดยคุณ ทญ.พรรณพนัส 630. บทความ จากใจคุณแสวง เลิศล้ําศิริโชค ถึงพระอาจารย์ปราโมช เริ่มศึกษาธรรมะของพระอาจารย์ปราโมช จากแผ่นซีดี เมื่อเมษายน 2552 โดยก่อนหน้านี้ ได้ปฏิบัติธรรมโดยวิธี อา นาปานสติกรรมฐาน ดูลมหายใจ ตามปฏิปทาหลวงปู่มั่น โดยนั่งสมาธินานครั้งละประมาณ 2-3 ชม. มาเป็นเวลานานกว่า 20 ปี ผลการปฏิบัติได้สามธิระดับหนึ่ง แต่ไม่ทราบว่า จิตที่ปฏิบัติอยู่ในสภวะใด หลังจากฟังซีดีของท่านพระอาจารย์ ปราโมช ซ้ําไป ซ้ํามา 3-4 ครั้ง เกิดความเปลี่ยนแปลงกับตังเอง คือมีสติเกิดขึ้น อย่างต่อเนื่อง ดห็นรู้กายในบางอิริยาบถ โดยเฉพาะเวลานอนพลิกตัว ซ้าย-ขวา รู้ตัวตลอด ที่เด่นชัดมาก คือ เมื่อเวลา 5.00 น.ของวันนี ้ เสียงนาฬิกาดังปลุกขึ้น เมื่อรู้สึกตัว เห็นด้วยดวงจิตออกจากที่กึ่งกลางทรวงอก เคลื่อนออกไปช้าๆที่นาฬิกา ส่วนมื้อเอื้อมไปกดปิดโดยอัตโนมัติ เสียงนาฬิกาหยุด จิตก็หยุดเคลื่อน ครึ่งทางของนาฬิกาพอดี หลังจากนั้น ดวงจิตเคลื่อนช้าๆ กลับมาที่กึ่งกลางทรวงอก ตําแหน่งเดิมพอดี กึ่งกลางทรวงอก ความรู้สึกตัวขณะนั้น คือตัวรู้บอกถึงสภาวะจิตว่าไม่ยินดียินร้าย ในคืนถัดมา มีอีก เหตุการณ์เกิดขึ้น ระหว่างการนอนตะแคงขวา หลับไปนั้น เพิ่งล้มตัว ลงนอน เห็นมีตัวออกไปจากร่างทีละตัว รวม 2 ตัว โดยตัวที่ 2 เห็นร้องคราง ตัวแรกไม่ร้องคราง ความรู้สึกตัวขณะนั้น คือตัวรู้ บอกถึงสภาวะจิตเหมื่อนเดิม และยังมีอีก หลายเหตุการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงของจิตที่เกิดขึ้น ทําให้เกิดความมั่นใจว่า แนวทางที่พระอาจารย์ท่านสอน คือแนวทางที่ พาตนเองให้พ้นทุกข์ จนถึงพรันิพพาน กราบอนุโมทนาบูยกับพระอจารย์เป็นอย่างยิ่ง ที่ช่วยถ่ายทอด ธรรมะขององค์สมเด็จ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า มาให้ข้าพเจ้าได้ศึกษาและปฏิบัติ ท ท้ายของบทความนี้ ของบอกกับผู้ร่วมเดินมทางทุกท่านว่า ธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นสิ่ง มหัศจรรย์ เป็นปัจัตตัง ผู้ปฏิบัติเท่านั้น ที่จะรู้ได้เฉพาะตนเท่านั้น โดย คุณแสวง 631. หลังจากได้ฝึกหัดดูจิตตามแนวทางที่หลวงพ่อได้สั่งสอน ทําให้รู้ทันจิตมากขึ้น เมื่อรู้ทันก็ทําให้รู้ว่าทุกข์อยู่ส่วนทุกข์ สุขเป็นเรื่องธรรมดา เหตุการณ์รอบตัวที่เกิดขึ้นทั้งสุขและทุกข์ แค่เกิดขึ้น คงอยู่ แล้วดับไป ตอนนี้ปล่อยวางทุกข์ได้มาก แต่ยังรู้ไม่ทันสุขและยังไม่ยอมปล่อยวางง่าย ๆ แต่จะพยายามต่อไปค่ะ โดยคุณ จารุวรรณ 632. เมื่อก่อนดิฉันเคยค้นหามามากมายแต่ก็ไม่เข้าใจหลักที่แท้จริง และมักกดข่มกิเลส และบีบบังคับตัวเอง ความทุกข์ก็ยัง ไม่ลดลงเท่าไหร่นัก เมื่อพบคําสอนของหลวงพ่อแรก ๆ ก็ไม่ค่อยเข้าใจ แต่ต่อมาได้ประจักษ์กับความจริงด้วยตัวเอง ถึงแม้ มันจะเป็นเพียงสิ่งที่น้อยนิดเมื่อเทียบกับคําสอนที่มีอีกมากมายแต่ก็ทําให้ชีวิตดิฉันเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ทุกข์น้อยลง เพราะเข้าใจธรรมชาติของมันและไม่ไปยินดียินร้ายกับมัน และจะยึดหลักคําสอนของท่านเพื่อพัฒนาตัวเองต่อไป ขอบพระคุณค่ะหลวงพ่อ โดยคุณ บุษราภรณ์ 633. โดยส่วนตัวแล้วเป็นคนชอบศึกษาธรรมะมาก ชอบอ่านหนังสือธรรมมะ ประวัติและปฏิปทาของพ่อแม่ครูบาอาจารย์ก็ ชอบอ่าน เคยไปนั่งวิปัสสนากรรมฐานกับสํานักหนึ่ง เป็นสํานักที่เก่าแก่และดังมาก แต่หลังๆไม่ได้ไปอีกเพราะคนเยอะ นั่ง สมาธิไม่ได้เลยเพราะเสียงดัง แล้วไม่มีทางที่จะให้จิตเพ่งอยู่ในอารมณ์เดียวได้เลย ก็คิดในใจว่าเราคงได้แค่นี้ ไปถามพระที่ เป็นพี่เลี้ยง ท่านก็พูดแค่ว่า จิตของโยมฟุ้งเหลือเกิน เลยขอวิธีแก้ไขท่านก็ไม่ได้ให้คําตอบอะไร เหมือนๆว่าจะหมดหนทางแก้ หลังจากนั้นก็ไม่ได้ไปอีกเลย เกือบ 3-4 ปี จนกระทั่งวันหนึ่งพี่ที่ชอบพอกันเอา ซีดีหลวงพ่อมาให้ ก็เปิดฟังทันที พร้อมกับ ทํางานไปด้วย พอฟังไปสัก2-3นาทีมือที่กําลังทํางานอยู่หยุดทันทีแล้วก็มานั่งตั้งใจฟังเสียงที่ออกจากซีดี อยากจะบอกว่า ตั้งแต่ศึกษาธรรมะมาไม่เคยได้ยินได้ฟังธรรมะอะไรอย่างนี้เลย นี่มันกลับตาลปัตรไปหมดเลย แล้วถ้าธรรมมะที่ท่านพูดเป็น ของจริง ทําไมเราไม่เคยได้ยินธรรมมะอย่างนี้เลย ทั้งที่เราเองก็ชอบศึกษาธรรมมะ ขวนขวายและมุ่งหวังในธรรมมะตลอด ทําไมไม่เห็นมีใครมาบอกอะไรเราอย่างนี้เลย สิ่งที่เราเรียนรู้มาตลอดมันกลับด้านแต่สิ่งที่หลวงพ่อบอกมันตรงใจเหลือเกิน โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
45
"จิตมีหน้าที่คิด เรื่องอะไรจะไปบังคับให้จิตไม่คิด" "จิตเหมือนเด็กซนๆคนหนึ่งถ้าอยากจะให้เด็กไม่ออกนอกบ้านต้องหาสิ่ง (วิหารธรรม)ที่เด็กชอบมาล่อ" มันใช่เลย นึกถึงวันที่ไปนั่งที่สํานัก ยังจําได้ว่าทุกครั้งที่นั่งสมาธิจะเหนื่อยมากหมดเรี่ยวหมด แรงเลยทีเดียว เพราะอะไร เพราะเรานั่งบังคับจิต มันเครียดแล้วก็นั่งนับวันที่จะได้ออกจากสํานัก พอถึงกําหนดกลับ จิตใจ แช่มชื่นเบิกบาน (ในที่สุดก็บังคับตัวเองให้อยู่ครบกําหนดได้สําเร็จ ไม่หนีออกจากคอร์สเสียก่อน) ประโยคที่กินใจมากคือ "ในโลกนี้ไม่มีคนตื่นในโลกนี้มีแต่คนฝัน ฝันทั้งที่ยังลืมตา ถ้าเรารู้ว่าจิตเราคิดชั่วขณะนั้นเราจะตื่น" จริงหรือ? เมื่อฟังจบก็ ลองทําดูจําได้ว่าตอนนั้นมีคนมาบอกว่าหัวหน้านินทาว่าเป็นคนไม่มีน้ําใจความโกรธมันพุ่งขึ้นมาทันที เมื่อจิตมันระลึกได้ว่า โกรธ ไม่น่าเชื่อ ความโกรธหายไป ในใจก็นึกอัศจรรย์เหลือเกิน มันหายไปได้อย่างไร จําได้ว่าจิตใจมันลิงโลดมาก จนกระทั่ง เลิกงานกลับบ้านมันก็ไม่ยอม จะฟังซีดีหลวงพ่ออย่างเดียว คืนนั้นไม่ได้ดูละครทีวีเลยค่ะทั้งที่ละครเรื่องนี้ตัวเองติดมากแต่ ไม่รู้ว่าทําไมใจมันถึงอยากจะฟังแต่ ซีดีหลวงพ่อ เพลงที่เคยฟังละครที่เคยชอบมันไม่ไพเราะเหมือนเดิม แล้วก็ลงมือปฏิบัติ ภาวนาเรื่อยมาในใจนั้นก็คิดว่าธรรมมะที่ได้ยินนี่เป็นของดีเหลือเกิน จะต้องเอาไปให้คนอื่นฟังต่อ คนแรกที่เอาไปให้ฟังคือ เพื่อนที่เข้าคอร์สวิปัสสนาด้วยกันในใจนั้นคิดว่าเขาต้องดีใจเหมือนเรา ที่ได้ฟังธรรมมะดีๆ แต่ผิดคาดเขาบอกว่าไม่เห็นจะมี อะไรแตกต่างจากสํานักอื่นเลย จากนั้นก็ทดสอบกับคนอื่น ๆอีก 2-3 รายก็พบว่า รับได้บ้างมากน้อยแตกต่างกันไป ซึ่งก็ หวนนึกถึงคําของหลวงพ่อที่ว่า ใจของเรารับธรรมมะได้ไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับวาสนาบารมีของแต่ละคน หลังจากนั้นก็ปฏิบัติ ภาวนามาเรื่อยๆ เห็นสิ่งที่เกิดในจิตในใจตัวเองอย่างเด่นชัด นี่ก็ปฏิบัติมาเกือบ11 เดือนแล้ว ชีวิตและจิตใจเปลี่ยนไปหมด เป็นคนใหม่ที่พร้อมเผชิญการเปลี่ยนแปลงขึ้นลงของโลก ศีลบริบูรณ์ขึ้น กลัวบาปและผลของบาปไม่กล้าทําเลวเคยทุกข์มาก และนานก็ทุกข์น้อยและสั้นลง เข้าใจคนอื่นมากขึ้น มีความสุขมากขึ้น จนคนรอบข้างบอกว่า ไปทําอะไรมาดูมีความสุขจังดู ไม่ทุกข์ไม่ร้อน คนนั้นเขาว่าเธอ เธอไม่โกรธหรือ และเกิดความอัศจรรย์บางอย่างที่ไม่คิดว่าธรรมมะจะสามารถทําให้เป็น อย่างนั้นได้ คือเมื่อเราเกิดทุกขเวนากับร่างกายเมื่อเรามีสติ เชื่อมั๊ยค่ะว่า ความทรมานความเจ็บปวดน้อยลงจนกระทั่งหาย ไปเลย ฟังธรรมของท่านและปฏิบัติตามอยู่อาจจะขี้เกียจในบางคราวแต่ก็ได้กัลยาณมิตรอย่าง อ.สุรวัฒน์ที่คอยตบให้เข้าที่ เข้าทางเวลาเป๋ จนถึงวันนี้วันที่ธรรมมะได้หยั่งรากลึกลงไปในจิตใจรู้ได้เองเลยว่ามันไม่มีทางถอดถอนออกไปได้ มีแต่จะ เจริญงอกงามต่อไป เหตุการณ์ที่เกิดกับหลวงพ่อในขณะนี้ตอนแรกที่ได้ยินยอมรับว่าวิตกที่ท่านมีข่าวเสียหายออกมา แต่ เมื่อตั้งสติได้ก็คิดว่า ป่านนี้หลวงพ่อคงอมยิ้มและมีเวลาพักผ่อนมากขึ้นเพราะคนเข้าหามีเยอะเหลือเกิน ท่านปฏิบัติภาวนา มาขนาดนั้นกิเลสเครื่องเศร้าหมองไม่มีทางเคลือบจิตท่านได้ แล้วมันเรื่องอะไรของเราที่ต้องทุกข์ร้อน ตัวท่านเองท่านยังไม่ เดือดร้อนแล้วเราจะเดือดร้อนทําไม ต่อให้ท่านทําจริง มันก็เป็นเรื่องของท่านไม่เกี่ยวกับเราอีก หากเป็นเรื่องจริง ก็เป็นกรรม ที่ท่านจะต้องรับไป จริงไม่จริงก็เรื่องของท่านไม่เกี่ยวกับเราเลย ธรรมมะที่ท่านเผยแผ่ออกไปเป็นธรรมมะที่คุ้มครองรักษา จิตได้ ทําให้เราไม่สงสัยในพระรัตนตรัย ไม่สงสัยในสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอน รู้ว่าแท้จริงแล้วศาสนาพุทธสอนอะไร และเราโชค ดีแค่ไหนที่ได้เกิดภายใต้ร่มโพธิสมภารขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้นับถือศาสนาพุทธได้ยินได้ฟังธรรมมะเรื่อง การเจริญสติปัฏฐาน สมกับคําที่ท่านเทศนาและจําได้ไม่ลืมเลือนเป็นประโยคที่กินใจเหลือเกิน "หนทางยังมีอยู่ ผู้เดินทางยัง ไม่ขาดสายลงมือเสียแต่วันนี้ ก่อนที่สายลมแห่งกาลเวลาจะพัดพารอยพระบาทของท่านหายไป เพราะถ้าถึงวันนั้นเราจะระ หกระเหินไร้ทิศทางอีกนานแสนนาน" หลวงพ่อได้มาบอกทางเราแล้ว ในอดีตเราเคยเดินผิดๆ แต่เราก็ต้องผิดเพื่อถูก ในใจ ยังระลึกนึกถึงบุญคุณของสํานักนั้นที่สอนเราให้รู้ว่าผิดเป็นอย่างไร ทําให้เทียบและเห็นสิ่งที่ถูกต้องอย่างเด่นชัด ก็นับถือว่า เป็นครูบาอาจารย์ท่านหนึ่ง ที่สอนเราให้รู้ว่าเพ่งเป็นอย่างไร เพื่อเทียบกับไม่เพ่งว่าต่างกันอย่างไร น้อมรําลึกถึงคุณพ่อแม่ ครูบาอาจารย์ทุกองค์ ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ซึ่งเป็นผู้ไกลจากกิเลสตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง ขอระลึกนึกถึงพระคุณของหลวงพ่อ พระผู้เป็นสงฆ์สาวก ผู้ดําเนินตามรอยพระบาทแห่งพุทธองค์ -โดยคุณ วิภารัตน์ 634. คําสอนแรกที่ประทับใจจากที่ได้อ่านธรรมะของหลวงพ่อ คือ "เราไม่ต้องรู้อะไรเลยก็ได้ รู้ว่าทําอย่างไรเราจะไม่ทุกข์ก็ พอแล้ว" (ปี๒๕๔๔) ติดสมถะมานาน นานจนทรมาน ยิ่งทํายิ่งทุกข์ ได้มากราบ ได้มาฟังแล้วปฏิบัติตาม ส่งการบ้าน จนแจ่ม แจ้งแก่ใจมันไม่จมแช่อดีต ไม่กังวลอนาคต มันจบที่รู้จริง ๆ แม้มันจะหลงบ้าง โลภบ้าง โง่บ้าง แต่ถอนตัวได้เร็ว ไม่ทุกข์ ใจเบาสบายเป็นคนไม่มีอดีต ไม่มีอนาคต เพราะมันไม่กังวลกับอะไร ๆ แล้ว จนปัจจุบันลูกชายอายุ 30 กว่า ๆ ได้ยินธรรมะ ของหลวงพ่อที่แม่ฟังประจํา จนปฏิบัติดูจิต รู้ใจเป็น ลดละการฟังเพลงเปลี่ยนเป็นฟังธรรมะแทน เป็นคนชวนแม่ไปกราบ หลวงพ่อมาหลายครั้งแล้ว เหตุเพราะ "น้ําเสียง" ที่เมตตาของ หลวงพ่อ ลูกบอกวว่า เสียงหลวงพ่อเขาฟังแล้วใจสบาย ยอมรับ ใจมีความสุข เป็นเหตุเป็นผล ความจริงคนหนุ่ม ๆ มักจะเชื่อความรู้สึกของตัวเองมากกว่าที่จะเชื่อพระ ที่ผ่านมาแม่ ชวนไปวัดมักมีข้ออ้างเสมอ ต้องกราบขอบพระคุณที่หลวงพ่อมีความเมตตาอย่างเท่าเทียมกับลูกศิษย์ทุกคน คนที่ได้ฟังธรรมโดยไม่เคยพบหลวง พ่อก็จะรู้สึกอย่างนั้น โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
46
ทุกวันนี้ มีธรรมะที่หลวงพ่อสอนคอยกํากับใจ รู้แต่ว่าใจมันไม่หาเรื่อง หาทุกข์มาใส่ตัวอย่างแต่ก่อน ทุกข์น้อยลงเพราะ มัน ไม่มีอะไรที่เราจะต้องทุกข์อีกแล้ว ถึงจะมีทุกข์บ้าง เพราะหลง เพราะเผลอ ก็ชั่วระยะสั้น ๆ ทุกอย่างมันจบลงง่าย ๆ ที่ "รู้" จริง ๆ เรื่องที่เป็นข่าว มันก็จบที่ใจของโยมเหมือนกัน กาลเวลาจะบอกความจริงกับสังคมเอง โดยที่เราไม่ต้องไประแวงหรือ ตัดสินใคร หลวงพ่อเป็นผู้ที่ชี้ทางให้ผู้คนที่กําลังระหกระเหินเดินถูกทาง ทุกทิศทางย่อมมีกระแสพายุพัดผ่าน ไม่ว่าพายุที่โหม กระหน่ําหลวงพ่อมันจะรุนแรงแค่ไหน แต่ในเส้นทางนี้ หลวงพ่อไม่ได้เดินเพียงลําพังแน่นอน เพราะถ้าหากหลวงพ่อกําลังพา นําบรรดาลูกศิษย์ เดินตามรอยพระบาทแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างแท้จริง ต่อให้พายุโหมรุนแรงแค่ไหน มัน ก็แค่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ก็คงจะเหลือไว้เพียงซากปรักหักพัง ที่เป็นแผลตกค้าง"ในใจ" ผู้คนบ้าง ก็เท่านั้น ด้วยจิตคารวะธรรมะที่มีในหลวงพ่อ โดยคุณสายมณี (จันทบุร)ี
635. ชีวิตทุกวันนี้มีความสุขขึ้นมาได้ก็เพราะหลวงพ่อ และครูของหลวงพ่อ (หลวงปู่ดูลย์,หลวงปู่ดู่ และอีกหลาย ๆ ท่าน) มีสติมากขึ้น โกรธน้อยลง และด้วยบุญกุศลทั้งหลายนี้ ขอจงเป็นบารมีให้หลวงพ่อผ่านวิบากกรรม ในครั้งนี้ไปได้ด้วยดี และจะขอปฏิบัติบูชาเพื่อเป็นพุทธบูชาตลอดไป ขออนุโมทนา โดยคุณ นวพรรษ 636. หลวงพ่อทําให้สังสารวัฎของข้าพเจ้าสั้นลง ( ขอตั้งจิตอธิษฐานขอชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย ) โดยคุณ สมใจ 637. ดิฉันชื่อ นติมา ดิฉันเป็นผู้สนใจศึกษาปฏิบัติธรรมมานาน แต่ไม่เคยรู้สึกว่าตนเองเข้าถึงคําสอนของอาจารย์ผู้ใด จนกระทั่งพบ หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโชเมื่อเกือบ 3 ปีที่ผ่านมา คําสอนของหลวงพ่อเปรียบเหมือนแสงสว่างที่สาดส่องลงมากลางใจ ที่มัวหม่น ทําให้ชีวิตมีความหมาย คําสอนของหลวงพ่อชี้ตรงไปที่หลักปฏิบัติที่เรียบง่าย พร้อมชี้แนะถึงความผิดพลาดที่ อาจเกิดขึ้น คําพูดของท่านเปี่ยมไปด้วยกําลังใจที่ให้ศิษย์ทุกคนกล้าเผชิญหน้าความเป็นจริง สัมผัสด้วยใจถึงพลังความ เมตตาอันไม่มีประมาณของหลวงพ่อที่กลั่นออกจากใจอันบริสุทธิ์ของท่าน บอกได้อย่างเดียวว่าไม่เคยรู้สึกอบอุ่นใจ มั่นคง เท่านี้มาก่อน รู้ว่าตัวเองต้องเดินตามทางที่เรียบง่าย ชัดเจนนี้แน่นอน
โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
47
ดิฉันขอยืนยันในผลการปฏิบัติที่ดิฉันและสามีได้รับ เรามีสติกันมากขึ้น จิตใจเราอ่อนโยน มองโลกตามความเป็น จริงมากขึ้น ทุกข์น้อยลง ผลที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติประจักษ์ในใจอย่างชัดเจน ย่อมไม่สามารถสั่นคลอนศรัทธาที่มีต่อหลวง พ่อลงได้เลยค่ะ โดยคุณ นติมา 638. สวนสันติธรรม เป็นจุดเริ่มต้นของการเข้ามาสนใจเรื่องการปฏิบัติภาวนาและสนใจเรื่องของพระพุทธศาสนา ...ขอบคุณพระอาจารย์มากค่ะ โดยคุณ ขนิษฐา 639. ช่วงขณะนี้เป็นเวลาที่ดีสําหรับ พวกเราที่จะตามรู้ ตามดูจิตใจตนเองกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คนที่ฟังเทศน์พระอาจารย์ อ่านหนังสือ ที่พระอาจารย์เขียน และนําไปปฏิบัติจะทราบด้วยตัวเองว่า ตัวเองเปลี่ยนแปลงไปใน ทางที่ดีอย่างไร เพราะฉนั้น เราคงไม่ต้องมาประกาศให้ใคร ๆ ได้รับรู้เลย เรารู้ด้วยตัวเอง และ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ทางสายนี้เรามาคนเดียว เอกาณยมรรค (ไม่ทราบว่าสะกดถูกหรือเปล่า ถ้าผิดก็ขออภัยนะคะ) ขอปฏิบัติธรรม ถวาย พระพุทธเจ้า และ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ บุญรักษาทุก ๆ ท่าน โดยคุณ สุธาสินี 640. ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ได้มาเรียนธรรมะกับหลวงพ่อปราโมทย์ ท่านสั่งสอนด้วยความเมตตามาตลอด ทุกครั้งที่มีโอ กาศได้พูดคุยถึงการปฏิติบัติ(ส่งการบ้าน)ท่านมีความเมตตาแนะนําในสิ่งที่ติดขัดและให้กําลังใจในการภาวนาทุกครั้ง ทําให้การภาวนามีการเห็นกิเลสในตัวเองมากและบ่อยขึ้น ท่านไม่เคยเรียกร้องสิ่งใดจากลูกศิษย์นอกจากให้ลูกศิษย์ขยัน ภาวนา ท้ายสุดนี้ขอเชิญชวนให้ทุกคนปฏิบัติบูชาพระพุทธเจ้าและปฏิบัติบูชาหลวงพ่อ (หลวงพ่อพูดเสมอว่า มีสิ่งเดียวที่ทําให้ หลวงพ่ออายุยืนคือมีลูกศิษย์ขยันปฏิบัติ) กราบเท้าหลวงพ่อ โดยคุณ นพ.สมชาย 641. กราบเรียนหลวงพ่อฯ ถ้าเป็นสมัยก่อนก็จะบอกว่าโชคดีที่ได้ฟังธรรมะจากหลวงพ่อ แต่พอมาฟังธรรมของหลวงพ่อก็จะรู้ว่าทุกอย่างอย่าง มีเหตุมีปัจจัยแต่งอย่างไรก็ตาม ก็รู้สึกว่า คงจะสั่งสมบุญมาจนได้มีกัลยณมิตรนําพาให้มาพบและฟังธรรมจากหลวงพ่อ ใน ชาตินี้ ทําให้ชีวิตนี้เปลี่ยนไปสิ้นเชิง ความทุกข์หดหายไป เหลือแต่ความสุข ในบ้านก็มีความสุขมากขึ้น ทั้งๆที่เมื่อก่อนจะมี ปากเสียงกันเป็นประจํา พฤติกรรมตนเองก็เปลี่ยน และตั้งใจ ถือศีล 5 ตลอดชีวิต เวลาฟังซีดีก็มีแต่ความสุข ถึงจะฟังซ้ํา แต่ละครั้งก็ได้สาระที่ต่างกันการยกมือถามปัญหา สําหรับตนเองทําครั้งเดียวเมื่อตอนเข้าอบรมเมื่อปี 51 หลังจากนั้นสงสัย อะไร ก็จะได้คําตอบจาก ซีดีบ้างจากที่มีญาติโยมอื่นๆถามกันบ้าง เมื่อมีข่าวโจมตีหลวงพ่อ ฟังแล้วจิตใจห่อเหี่ยว ก็ใช้วิธีดูไป แต่ไม่ว่าจะมีข่าวอะไร ก็ไม่ทําให้ความเคารพ เชื่อมั่นในหลวงพ่อ ลดน้อยลงไปเลยสําหรับตนเอง ได้พบทางเดินแล้ว ถึงเมื่อไรก็เมื่อนั้น กราบมนัสการหลวงพ่อ โดยคุณ วรดา โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
48
642. ผมสนใจศึกษาธรรมะมาตั้งแต่เด็ก ก็คิดว่าการปฏิบัติธรรมคือการทําใจให้สงบ บังคับจิตใจไม่ให้มีกิเลส ถ้ามีขึ้นมาก็ ข่มมันไว้ รักษาศีล แต่ไม่บริสุทธิ์ ปฏิบัติมาเป็นสิบๆปี แต่ก็ทําไม่ได้จริง และคิดว่าเราคงทําได้แค่นี้เอง คือได้ความสงบเป็น ครั้งคราว แต่พอได้ฟังธรรมของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช ก็รู้สึกว่าแปลก เพราะไม่เคยได้ฟังธรรมอย่างนี้จากที่ไหนเลย ฟังดูแล้วคิดว่าปฏิบัติได้ไม่ยาก ทดลองทําตามที่ท่านบอกไปเรื่อยๆ คือคอยมีสติรู้กายรู้ใจไปเรื่อยๆ ทําไปทํามาปรากฎว่า รักษาศีลได้บริสุทธิ์ขึ้นเรื่อยๆ เห็นกิเลสของตัวเองมากขึ้น เพ่งโทษผู้อื่นน้อยลง ทําให้ความทุกข์ลดน้อยลงไปมาก ระลึกถึง บุญคุณของผู้ที่ให้ซีดีของหลวงพ่อมาฟังอยู่เสมอ และขอกราบขอบพระคุณแทบเท้าหลวงพ่อที่ช่วยเปิดเผยธรรมะของ พระพุทธเจ้า โดยบอกวิธีปฏิบัติตามขั้นตอนให้ทําได้จริงแบบนี้ ขอปฏิบัติบูชาพระรัตนตรัยไปจนกว่าจะหมดลมหายใจ กราบเท้า หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมทโช ด้วยความเคารพอย่างสูงสุด โดยคุณ นายศุภกิจ
643. ตัวผมเองอยู่จังหวัดนครสวรรค์ เดิมแค่ไปวัด ทําบุญ และพยายามรักษาศิล 5 เท่าที่ทําได้ และคิดว่าถ้าเราทําแต่ ความดี ไม่ไปเบียดเบียนผู้อื่นให้เดือดร้อน เท่านี้ก็ได้ชื่อว่าเป็นชาวพุทธแล้ว แต่ต่อมาประมาณปี 47 มีเหตุการณ์ ที่เกิดจาก การไม่รู้เท่าทันกิเลสตัวเองคือไปผิดศิลข้อ 3 ทําให้เกิดเรื่องที่ทําให้เป็นทุกข์กันทั้งครอบครัว จึงตัดสินใจเข้าวัดปฏิบัติธรรม จริงๆ จังๆ โดยเริ่มจากวัดใกล้บ้านเป็นวัดมหานิกายทั่วไป แต่หลวงพ่อท่านก็ให้นั่งสมาธิ ทําจิตให้สงบ ซึ่งก็สงบบ้าง ไม่ สงบบ้าง และไม่มีความเข้าใจอะไรเลย แต่ก็ชอบที่จะศึกษา อ่านหนังสือของพ่อแม่ครูอาจารย์สายวัดป่า เพราะเดิมนั้น มี ใจเชื่อมั่้นต่อองค์หลวงปู่มั่น มาตั้งแต่เด็กแล้ว แต่คนภาคกลางไม่ค่อยมีโอกาสได้ศึกษาธรรมสายวัดป่า แต่ก็พยายามเสาะ แสวงหาวัดสายวัดป่า อยู่ห่างจากนครสวรรค์ ร้อยกว่ากิโล ซึ่งไม่ขอเอ่ยชื่อเกรงว่าจะกระทบ กระทั่งกันอีก และได้มีโอกาส เข้าไปศึกษา ปฏิบัติธรรม แม้กระทั่งได้ติดตาม อาจารย์ไปธุดงค์ตามป่าเขา มาก็หลายครั้ง แต่ก็่มีข้อสงสัยอยู่ในใจตลอด ว่า ทําไมยังยึดติดอยู่กับสมมติบัญญัติกันอยู่อีกมาก ยึิดติดอยู่กับความเชื่อที่ขาดเหตุผล อธิบายไม่ได้ เท่ากับยังยึดอยู่กับ เปลือก ยังไม่เข้าถึงแก่นธรรมของศาสนาจริงๆ ยิ่งตัวฆารวาสผู้เข้าไปถือศิล 8 ยิ่งแล้วใหญ่ ต่อหน้าผู้คนจะทําเคร่งครัด มาก แต่พอรวมกลุ่มกันเอง กลับคลุกคลีคุยกันไม่ต่างกับโลกข้่างนอกเลย ต่อมามีญาติธรรมให้ cd หลวงพ่อปราโมทย์ มาเื่มื่อปี 47 ได้ลองฟังดู ก็รู้สึกสนใจ ครั้งแรกที่ฟัง ยังไม่เข้าใจสิ่งที่ท่านสอนสักเท่าไรแต่ก็รู้สึกว่ามีเหตุ มีผลดี แต่ก็ยังยึด ติดรูปแบบเก่า ๆ อยู่ว่า ต้องทําสมาธิให้จิตมีกําลังเสียก่อนจึงจะเจริญสติได้ จึงได้หยุดฟัง cd หลวงพ่อไปพักหนึ่ง พอมาระ ยะหลังเพราะความสงสัยมากเข้า ในการที่ไปปฏิบัติในวัดป่าดังกล่าวนานเข้า จึงหันกลับมาฟัง cd หลวงพ่ออย่างจริงจัง จึง เริ่มพอเข้าใจสิ่งที่ท่านสอน และได้ทดลองเปลี่ยนแนวทางการปฏิบัติมาจนทุกวันนี้่ และเป็นบุญได้ส่งการบ้านหลวงพ่อ ท่าน โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
49
ได้เมตตาชี้สภาวะหลง ให้รู้จัก ทําให้ยิ่งเข้าใจว่า ที่เราว่าเรารู้นั้น เรายังหลงอยู่เลย เดี๋ยวนี้เข้าใจแล้วว่า สภาวะหลง แล้ว สติตัวจริงเป็นอย่างไร จึงได้ เฝ้าสังเกตุเห็นกิเลสในตัวเองอยู่เนืองๆ เห็นได้บ่อยขึ้น เป็นอัตโมมัติมากขึ้น และสังเกตุตัวเอง อยู่เป็นระยะ พบว่าได้เกิดความเปลี่ยนแปลงในตัวเองไปอย่างมาก จากที่เป็นคนอารมณ์ร้อนโกรธง่าย และโกรธนาน หลายๆวัน เดี๋ยวนี้ความโกรธก็ยังเห็นอยู่ แต่ไม่แรง และหายเร็ว ชั่วพักเดียวก็หายไปแล้ว เห็นแม้กระทั่งปฏิฆะเล็กๆ ที่เกิด ขึ้นแล้วก็ดับไป ในแต่ละวันก็จะเห็น สัญญา สังขาร ที่เกิดขึ้นพอเรามีสติรู้ทัน ก็ดับไป จึงเกิดความมั่นใจว่าเราได้พบธรรมะ ของพระพุทธเจ้า ที่เราแสวงหาแล้ว เมื่อ เดือนกรกฎาคม 52 บุญส่งผลให้ได้มีโอกาสไปปฏิบัติธรรมอยู่ที่สวนสันติธรรม และได้ปวารณาตัวต่อองค์ หลวงพ่อว่า จะปฏิบัติเป็นพุทธบูชาต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และหลวงพ่อตลอดไป และขอยืนยันว่าหลวงพ่อเป็นผู้มีแต่ให้ ท่านขออยู่อย่างเดียว ว่าให้เราประพฤติปฏิบัติธรรมกัน ถ้าเราไม่ทิ้งธรรมะ ธรรมะ จะไม่ทิ้งเรา สาูธุ สาธุ สาธุ โดยคุณ สุชาติ 644. Hi, I am not sure how could I summarize my feeling about Lung Poh Pramote because I always fully trust him in every ways because I always learn from him and I can proof it through the real practice in real life. And also, I can double-check everything with the Tri-Pitaka. I do read all of his books, and I do listen to almost all of MP3. And I *NEVER* hear anything like what they accused. And I, one person who are struggling to cross over the Samsara, and as one little pupil, will always fully wishing to have every one in the real peace and quickly know what they are doing... โดยคุณ ไม่ประสงค์ออกนาม 645. ดิฉันศึกษาและปฏิบัตฺิธรรมมาเกือบ20ปี จากอาจารย์หลายท่านหลายรูปแบบ ผลที่ได้คือกิเลสและความทุกข์ไม่ลดลง ตรงกันข้ามกลับรู้สึกว่าเราดีและเก่งเหนือคนอื่น จนเมื่อได้ฟังธรรมที่หลวงพ่อปราโมชย์สอนและนําไปปฎิบัติอย่างต่อเนื่อง ผลที่ได้คือ กิเลสดับลงต่อหน้าเมื่อมีสติระลึกรู้ โดยไม่ต้องพยายามกดข่มบังคับตนเองหรือพยายามเปลี่ยนอารมณ์ตนเพื่อ ให้กิเลสดับเหมือนเมื่อก่อน นอกจากนี้ ยังรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าความทุกข์สั้นลง ตรงตามที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสว่า ธรรมะที่ พระองค์แสดงไว้นี้เป็นไปเพื่อความพ้นทุกข์ ผู้ใดปฏิบัติตามแล้วย่อมเห็นผลและพิสูจน์ได้ด้วยตนเอง ดังนั้นศรัทธาที่เกิดขึ้น จึงเกิดจากการเห็นผลของการปฏิับัติ ที่ดิฉันได้พิสูจน์ด้วยตนเองอย่างแท้จริง สุดท้ายนี้ดิฉันขอกราบแทบเท้าหลวง และขอปฎิบัตฺิบูชาเพื่อแทนพระคุณของท่านค่ะ โดยคุณ สุรางค์ (คิ) 646. ผมรู้สึกว่าตัวเองสนใจธรรมะเมื่ออายุย่างสามสิบและก็ตั้งใจว่าจะรักษาศีลห้าข้อตั้งแต่นั้นมาจนวันนี้ ก็ไม่ได้ดื่มเหล้าอีกเลย แต่ก็มีความไม่ชัดเจนว่าต้องปฎิบัติตัวอย่างไรเกี่ยวกับศาสนาพุทธคือยังเคว้งคว้าง อยู่เนื่องจากคําสอนต่างๆเกี่ยวกับศาสนาพุทธนั้นมีมากมายหลายอย่าง ถือศีลให้ดีแล้วเพื่ออะไร นั่งสมาธิ แล้วจะเป็นชาวพุทธ โดยคุณ เกรียงศักดิ์ 647. ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัยทั้งสาม พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ขอกราบนมัสการพระอาจารย์ปราโมทย์ที่เคารพอย่างสูง กระผมนายอัมพร เพ็งสวย บ้านเลขที่ 20 ท่าพระจันทร์ ถ.มหาราช อ.พระนคร กทม. 10200 ขออํานาจบารมีของพระรัตนตรัยจงคุ้มครองรักษาท่านอาจารย์ให้มีสุขภาพแข็งแรง ผ่านพ้นโลกธรรมที่กําลังเกิดขึ้นนี้ไปได้ เป็นที่พึ่งของเหล่าสัตว์ผู้มีนัยน์ตามืดบอด ให้พ้นจากความหลง มาสู่ความตื่น โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
50
กระผมเองได้ติดตามอ่านข้อเขียนของพระอาจารย์สมัยที่ท่านพระอาจารย์ยังไม่ได้บวช และก็ติดตามคําสอนของท่านพระ อาจารย์เรื่อยมา ซึ่งทําให้รู้จักและเข้าใจธรรมะของท่านพระอาจารย์และครูบาอาจารย์สายวัดป่าดีขึ้น 1. เดิมทีผมศึกษาธรรมะของหลวงปู่มั่น, หลวงปู่เทสก์, หลวงปู่ชา, หลวงปู่อาจารย์มหาบัว แต่ก็ไม่สามารถน้อมนําธรรมะ เข้ามาสู่ใจได้ จับประเด็นของธรรมะไม่ถูก แต่เมื่อได้ศึกษางานของพระอาจารย์และกลับมาศึกษาธรรมะของครูบาอาจารย์ เหล่านั้นอีกครั้งหนึ่ง ทําให้เข้าใจธรรมะดีขึ้น ทําให้เข้าใจว่าการฟังและศึกษาธรรมะนั้น ต้องใช้ใจฟัง น้อมนําธรรมเข้ามาสู่ ใจ ใจก็จะมีปีติความปลาบปลื้มเกิดขึ้น 2. และทําให้เห็นโทษ ความน่าเกลียดของจิตใจที่หลงไปในอารมณ์มากขึ้น (ท่านอาจารย์อุทัย วัดเขาใหญ่ฯ ท่านก็เคยเทศน์ ว่า คนที่ไม่ปฏิบัติ จิตใจจะหลงแบบน่าเกลียด) คําสอนของพระอาจารย์ทําให้ผมมีความชัดเจนในเรื่องนี้มากขึ้น 3. เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ เป็นการทดสอบวิถีแห่งธรรมะของพวกเราที่เป็นศิษย์ทุกคนด้วย ว่าเราจะแสดงออกด้วยท่าทีของผู้ที มีธรรมะอย่างไร ความคิดเห็นที่ตั้งอยู่บนฐานของอารมณ์ความรู้สึก กับความคิดเห็นที่ตั้งอยู่บนฐานของความรู้ ปัญญา และเมตตาธรรมนั้น ต่างกันอย่างไร ขอเป็นหนึ่งกําลังใจให้กับพระอาจารย์ในการเผยแพร่พระศาสนาต่อไป กราบนมัสการพระอาจารย์ด้วยความเคารพอย่างสูง โดยคุณอัมพร 648. เรียนตามตรงว่าปิยะพรรณยังอยู่แถวจุดออกเดิน แต่ก็จดๆ จ้องๆอยู่ว่าจะออกเดินทางใหนถึงจะเหมาะกับตัวเอง การ ได้อ่านธรรมะออนใลน์บ้าง การใด้ฟังหลวงพ่อตามแต่โอกาสจะอํานวยบ้าง ปิยะพรรณก็สบายใจ และให้ความสําคัญให้เวลา กับการเดินทางครั้งสําคัญนี้ การเกิดครั้งนี้ ดูไปเรื่อย ๆว่าชีวิตจะจบที่ตรงใหน เวลาฟุ้งมาก ๆเวลาหลงเหม่อมากๆ ก็จะ นึกถึงเสียงหลวงพ่อที่ถามว่า "น่ะ นี่คิดแล้ว นึกออกไหม" "นึกออกไหม" (ฟังเอาในซีดีแล้วจํามาเพื่อใช้เตือนตัวเองค่ะ) โดยคุณ ปิยะพรรณ 649. ผมได้ไปวัดกับแม่ตั้งแต่อายุ 7 ขวบ ผมได้ฟังคําสอนของหลวงพ่อ หลวงพ่อสอนให้เราเป็นคนดี มีศีลมีธรรม และสอน ให้ไม่ทําร้ายคนอื่น และไม่พูดคําหยาบ ผมตั้งใจจะเป็นคนดี เพื่อบูชาองค์หลวงพ่อ โดยคุณ ด.ช.ธนธรณ์ ตอนนี้ผมเรียนชั้น ป.4 โรงเรียนดาราสมุทร ศรีราชา จ.ชลบุรี
650. ความในใจ ของSup'k ถึงหลวงพ่อปราโมทย์ สมบูรณ์ นับตั้งแต่วันที่ผมได้คลิ๊กฟังเสียงอ่าน “หนังสือวิถีแห่งความรู้แจ้ง” ที่มีคนใจดีโพสขึ้นเว็บ ก็ทําให้ ผมรู้สึกมีความหวัง และ มีความรู้สึกลึกๆว่า ปลายทางแห่งการพ้นทุกข์อยู่ไม่ไกลแล้ว โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
51
นั่นคือความรู้สึกจริงๆ หลังจากการได้ฟังธรรม ที่หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ได้ยกคําสอน ของพระพุทธเจ้า มากล่าวในบทที่ว่า สิ่งทั้งปวงล้วนเป็นอนัตตา และ หลวงพ่อ ได้แปล อนัตตา ว่า “บังคับไม่ได้ เพราะเป็นไปตามเหตุ” (สิ่งทั้งปวงล้วนเป็นไปตามเหตุ ไม่ได้เป็นไปตามใจอยากของเรา จึงบังคับไม่ได้ตามใจอยากของเรา) ผมสนใจคําแปลดังกล่าวมาก และได้ลงมือตรวจสอบ จนรู้ว่า หลวงพ่อได้แปลตรงตามพุทธพจน์ ที่ปรากฏในพระไตรปิฎก เล่ม 4 และเมื่อผมได้น้อมนําคําแปลดังกล่าวมาสู่ใจตน ทําให้ผมรู้เลยว่า ที่ ผ่านมาเวลาผมลงมือปฏิบัติธรรม ผมก็มัวแต่หลงไปบังคับให้จิตใจสุขถาวร มัวแต่หลงไปบังคับให้จิต สงบเร็วๆ หรือบังคับให้จิตบรรลุมรรคผลเร็วๆ ดั่งใจอยาก พอผมไม่สมหวังเพราะบังคับจิตไม่ได้ดั่งใจอยาก ผมก็ทุกข์และท้อแท้ในการปฏิบัติ รู้สึกน้อย เนื้อตํ่าใจ ในวาสนาที่ไม่สามารถปฏิบัติธรรมได้ก้าวหน้า เหมือนอย่างคนอื่นเขา ก่อนเจอหลวงพ่อ ผมไม่เคยรู้เลยว่า เพราะ ความอยากดังกล่าวนี่แหละ ที่นําความทุกข์ ความ เดือดเนื้อร้อนใจมาให้ แต่หลังจากที่ผมได้ฟังCD-MP3ที่หลวงพ่อเทศน์ซํ้าๆ ประกอบกับได้อดทน พากเพียรฝึกเจริญสติสัมปชัญญะอย่างต่อเนื่อง จนถึงวันนี้พอผมมองย้อนกลับไปแล้ว ผมก็ขําตัวเอง ว่า “ที่ผ่านมา เราก็โง่เหมือนกันเนอะ” เราอยากเจอสภาวะนิพพาน ซึ่งเป็นสภาวะที่ไม่ดิ้นรน ไม่ปรุงแต่ง, สภาวะที่สิ้นตัณหา สิ้นความอยาก แต่เราดันดิ้นรน ปรุงแต่ง อยากดีเร็วๆ อยากดีถาวร อยากสุข อยาก สงบ แล้วเราจะไปเจอสภาวะนี้ได้ยังไง เพราะสิ่งที่เมื่อก่อนเราหลงไปทํา มันตรงกันข้ามกับ สภาวะที่เรา ต้องการเจอ อย่างสิ้นเชิง พอเข้าใจดังนี้แล้ว ผมจึงค่อยๆปรับมุมมองใหม่ ตามพระธรรมเทศนาที่หลวงพ่อได้สั่งสอน ผมจึงรู้เลยว่า แท้ที่จริงแล้ว ธรรมะที่ผมแสวงหาทั้งหลาย โดยเฉพาะธรรมะในหัวข้อไตรลักษณ์ อันได้แก่ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา มันแสดงตัว สอนผมอยู่แล้วตลอดเวลา ธรรมะไม่เคยทอดทิ้งผมเลยสัก วินาที ที่ผ่านมาผมเองต่างหากที่ทอดทิ้งธรรม ทั้งๆที่ธรรมะเขาได้แต่เฝ้ารอเพียงวันที่ผมจะหันไปสนใจ เรียนรู้เขาเท่านั้น ทุกวันนี้สิ่งที่หลวงพ่อได้พรํ่าสอน ทําให้ผมได้เปิดประตูน้อมรับธรรมะเข้ามาสู่ใจ ผมจึงเห็นอย่าง ชัดเจนว่า ทุกๆสิ่ง ทุกๆอย่าง ทุกๆปรากฏการณ์ ล้วนสอนธรรมะให้ผมได้เรียนรู้ ล้วนสอนให้ผมได้ เข้าใจความจริงว่า เห็นไหม สิ่งทั้งปวงในโลก ล้วนไม่เที่ยงนะ (อนิจจัง) ทนอยู่ได้ไม่นานนะ (ทุกขัง) เกิดขึ้นได้ก็ดับได้ ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป เห็นไหมว่า ความสุขก็เป็นแค่ของชั่วคราวนะ (อนิจจัง,ทุกขัง) ความสุขที่เน่าได้อย่างนี้ ไม่เห็นน่า ยึดถือตรงไหน เห็นไหมว่า ความทุกข์ก็เป็นแค่ของชั่วคราวนะ (อนิจจัง,ทุกขัง) ไม่เห็นน่าไปรังเกียจ หรือ วิ่งหนีให้ เหนื่อยเปล่าเลย อีกทั้งสิ่งทั้งปวง ทั้งสุข ทุกข์ ดี ชั่ว ล้วนเกิดจากเหตุและสมควรกับเหตุแล้ว (อนัตตา) มีก็แต่เพียงใจ ที่ยอมรับความจริงไม่ได้ของผมเองต่างหาก ที่หลงไปยึดถือหวงแหนในสิ่งที่เป็นของชั่วคราวเน่าได้ เหล่านั้น จนนําความทุกข์มาให้ตน ทุกวันนี้ ผมได้ลงมือปฏิบัติเจริญสติ เรียนรู้ทุกข์จนกระทั่งเข้าใจ ถึง สาเหตุแห่งความทุกข์บาง ส่วน และปล่อยวาง ได้มากขึ้นๆ ตามลําดับ และนี่คือ สิ่งที่ผมได้เรียนรู้ธรรมะของพระพุทธเจ้า ผ่านการ ฟังเทศน์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
52
ผมเชื่อมั่นว่า หากผมได้เรียนรู้โลก เรียนรู้ทุกข์ เรียนรู้ตนเอง ในแง่ไตรลักษณ์นี้บ่อยๆ เรียนรู้ ด้วยใจที่มีคุณภาพ และปฏิบัติตามอริยมรรคมีองค์8 ไปอย่างไม่ย่อท้อ ผมก็จะค่อยๆเกิดปัญญา ยอมรับความจริงของสรรพสิ่งได้มากขึ้น ทําให้มีจิตใจที่เลิกดิ้นรนได้มากขึ้น ปล่อยวางได้มากขึ้น และ พ้นทุกข์ได้ในที่สุด ผมมั่นใจอย่างมาก ว่า การเรียนรู้ทุกข์ เรียนรู้กายใจ (เจริญสติปัฎฐาน4 = มีสติตามรู้ กาย เวทนา จิต ธรรม) ด้วย ความเข้าใจอย่างนี้นี่แหละ ที่จะทําให้ผมเข้าถึงสภาวะนิพพานที่พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนเอาไว้ นอกจากนี้หลังจากที่ผมได้เจริญสติ สัมปชัญญะ เพิ่มเติมไปเรื่อยๆ ผมก็เริ่มได้เห็น อนัตตา ใน แง่มุมของความไม่มีตัวตนที่แท้จริงผมค่อยๆเรียนรู้ว่า ที่ผ่านมา ผมหลงไปทําอะไรทุกอย่างเพื่อสนอง อัตตาตัวกู ของกูทั้งนั้น ทั้งการหลงคิดเข้าข้างตัวเอง คิดเพื่อตัวเอง ทําเพื่อตัวเอง ซึ่งการกระทําดัง กล่าวในอดีตล้วนนําความทุกข์มาให้ แต่ตอนนี้ผมค่อยๆเข้าใจ แล้วว่า สิ่งต่างๆที่ผ่านเข้ามาให้ผมได้ เรียนรู้ สภาวะทั้งหลายที่เกิด มันก็เป็นแค่ปรากฏการณ์ ของเหตุปัจจัยต่างๆมาประชุมกัน เป็นแค่ธาตุ แค่ขันธ์ต่างๆมาประกอบกัน แล้วก็มีความจําได้หมายรู้(สัญญา) เข้าไปแปลความ ผมค่อยๆเห็นแล้วว่า สิ่ง ต่างๆที่พบมันก็เป็นเหมือนภาพลวงตาในละครทีวี ที่มันผ่านมาแล้วก็ต้องผ่านไป ไม่มีตัวตนที่แท้ ให้จับ ให้ยึดได้เลย การเห็นอนัตตาในแง่มุมนี้ ทําให้ผมลดละความเห็นแก่ตัว และ ปล่อยวางความยึดมั่นถือ มั่นไปได้เยอะ แต่การเห็นอนัตตาในแง่มุมของการไม่มีตัวตนที่แท้จริงนี้ ผมก็ยังเข้าใจไม่มากนัก จึงต้อง อาศัยความอดทน พากเพียรเรียนรู้เพิ่มเติมต่อไป สิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากหลวงพ่อยังมีอีกมากมาย แต่ทุกๆคําสอนล้วนสอนให้ผมกล้าที่จะเรียนรู้ ความความจริงเกี่ยวกับทุกข์ ไม่กลัวที่จะเจอทุกข์ และ เห็นว่า ไม่จําเป็นที่จะต้องวิ่งหนีทุกข์เลย นอกจากนี้ หลวงพ่อยังพูดเสมอๆ ว่า ถึงแม้จิตเป็นอนัตตา คือ เราไม่สามารถบังคับสั่งจิตได้ดั่ง ใจอยาก (เพราะในวันที่เราทุกข์ๆอยู่อยากสั่งให้จิตมีความสุขทันทีก็ทําไม่ได้ หรือ อยากสั่งให้จิตบรรลุ เป็นพระอรหันต์ทันทีก็ทําไม่ได้) แต่ จิตก็มีธรรมชาติที่ฝึกได้ หลวงพ่อบอกว่า หากเราไม่ทอดทิ้งธรรมะ ธรรมะก็จะไม่ทอดทิ้งเรา หลวงพ่อ จะยํ้ากับ ลูกศิษย์อยู่เสมอ ว่า อย่าขี้เกียจนะ ต้องอดทนนะ อดทนพากเพียรเจริญสติ สัมปชัญญะ พาจิตไปเรียนรู้ความจริงของกายของใจบ่อยๆนะ ทุกๆคําสอนที่หลวงพ่อสอน ทําให้ผม มีกําลังใจมากขึ้น มีความสนุก มีฉันทะที่จะได้เรียนรู้ทุกข์ มากขึ้น มีความเพียรในการที่จะ เจริญสติ ตามรู้ตามดูกายใจตนเอง มากขึ้นทุกๆวัน และ มีความเพียรที่จะปฏิบัติธรรมในรูปแบบ เช่น เดินจงกรม นั่งสมาธิ มากขึ้นด้วย ผมสังเกตตัวเองว่า หลังจากที่ผมได้ฝึกเจริญสติ สัมปชัญญะ ของพระพุทธเจ้า ตามแนวทางที่ หลวงพ่อสอน มันทําให้ผม มีศีลที่บริบูรณ์ขึ้น มีความเห็นแก่ตัวที่ลดน้อยลง รู้จักคุณค่าและเข้าใจชีวิต มากขึ้น กุศลทั้งหลายก็ทํามากขึ้น บาปอกุศลทั้งหลายก็ทําลดลง จิตใจก็พบความสงบ ร่มเย็นมากขึ้น ด้วย ในช่วงแรกๆ ที่ได้หันมาศึกษาการเจริญสตินี้ ผมก็เหมือนต้นกล้าอ่อนๆ ที่ยังไม่แข็งแรง จึงต้อง มาฟังธรรมและส่งการบ้านหลวงพ่อบ่อยๆ ประมาณเดือนละหนึ่งครั้ง แต่ด้วยความที่คําสอนของหลวง พ่อมีความเป็นระบบ เข้าใจง่าย ทําให้ระยะหลังๆ ผมจับหลักการปฏิบัติได้แม่น และ พึ่งตัวเองได้มาก ขึ้น ผมไม่รู้จักหลวงพ่อในมุมอื่นๆตามที่สังคมกําลังวิพากษ์วิจารณ์อยู่ในขณะนี้ ผมจึงเขียนถึงหลวง พ่อด้วยข้อมูลและมุมมองของผมเท่านั้น และผมขอเล่าข้อเท็จจริงที่ตัวผมเองได้พบเจอมาว่า ทุกครั้งที่ ผมไปเรียน กับ หลวงพ่อ ที่สวนสันติธรรม หรือ ในคราวที่นิมนต์ท่านมาเทศน์ที่โรงเรียนของผมก็ตาม โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
53
หลวงพ่อก็ไม่เคยเรียกร้องเงินทองให้ผมบริจาคใดๆ หลวงพ่อไม่เคยทําให้ผมลําบากใจเรื่องเงินทั้งทาง ตรงและทางอ้อม และถึงแม้ว่าผมจะบริจาคเงินเป็นจํานวนมากแค่ไหนก็ตาม หลวงพ่อก็ให้ความเมตตา กับผม เสมอเท่ากับลูกศิษย์คนอื่น ทั้งนี้ผมก็ไม่เคยขออภิสิทธิ์เหนือผู้อื่นจากหลวงพ่อเช่นกัน เพราะ ผม คิดว่า สิ่งที่หลวงพ่อสั่งสอนผมนั้น ถือว่า เป็นพระคุณอย่างที่สุดแล้ว ไม่ควรขอร้องใดๆให้หลวงพ่อ ลําบากใจอีก และด้วยคําสอนของหลวงพ่อ ที่สอนให้รู้ทันตัวเอง รู้ทันความพร่อง-ความหิวในใจ มันทําให้ จิตใจที่รู้ทันความโลภของผมค่อยๆเกิดความเต็มอิ่มมากขึ้นๆ จึงทําให้ผมพร้อมที่จะแบ่งปันสิ่งต่างๆทั้ง โอกาส ข้าวของ เงินทอง รวมถึง แบ่งปันธรรมะให้กับเด็กๆหรือคนอื่นๆ ในโอกาสที่เหมาะสม ส่วนแนวทางของผม ในการเผยแพร่ธรรมะ ทั้งการแจก หนังสือธรรมะที่ผมได้เขียนขึ้น ในชื่อว่า “ข้างในนั้นเล่ม1+2” ซึ่งได้แจกฟรีไปแล้วกว่า หกหมื่นเล่ม(เงินส่วนตัวของผม + เงินของผู้ร่วมจัดพิมพ์ในราคาต้นทุนเพื่อนําไป แจกฟรีเป็นธรรมทาน) หรือ โครงการค่ายธรรมะเยาวชนเรียนรู้กายใจซึ่งมีเด็กๆเข้าร่วมอบรมหลายพันคนนั้น (งบของทางเจ้าภาพส่วนหนึ่ง + เงินบริจาคส่วนตัวของผมเองในส่วนที่เหลือทั้งหมด) ผมก็ได้ใช้แนวทางตามแบบที่หลวงพ่อได้ ดําเนินการ นั่นคือเผยแพร่ฟรีเป็นธรรมทาน โดยทําอย่างพอเพียง เท่าที่กําลังของเราจะทําไหว ไม่มีการ เรี่ยไรใดๆให้ใครต้องลําบากใจ เพราะ ในเมื่อผมได้ธรรมะมาฟรีๆจากพระพุทธเจ้า , ผมได้ธรรมะมา ฟรีๆจากหลวงพ่อ ผมจึงขอแบ่งปันธรรมะให้ผู้อื่นฟรีๆ เพื่อดําเนินรอยตาม ครูบาอาจารย์ที่ผมเคารพ รัก สําหรับเด็กๆนักเรียนที่ได้มาเข้าค่ายธรรมะที่ผมได้ร่วมจัดขึ้นนั้น(การปฎิบัติในค่าย เน้นความสุขในการเรียนรู้ โดยยึดถือตามพุทธพจน์ และ อ้างอิงแนวทางของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช) เกือบทั้งหมด บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า มีความ สุข สนุกสนาน กับการได้มาเข้าค่ายเรียนรู้กายใจนี้ และ มีเด็กจํานวนมากที่ได้นําเอาการเจริญสติ สัมปชัญญะรู้ทันกายใจ ไปฝึกอย่างต่อเนื่อง แล้วสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตตนเองได้อย่างอัศจรรย์ ทําให้พวกเขารู้สึกว่าชีวิตมีทุกข์น้อยลง มีความสุขร่มเย็นมากขึ้น บางคนก็หายจากโรคมายเกรน บาง คนก็หายจากโรคลมชัก หลายคนก็เลิกการใช้เงินฟุ่มเฟือย เลิกติดเกม เลิกติดยาเสพติด เลิกเที่ยว กลางคืน เห็นแก่ตัวน้อยลง รู้จักหน้าที่ของตนมากขึ้น ตั้งใจเรียนมากขึ้น รักพ่อแม่มากขึ้น ช่วยงานพ่อ แม่มากขึ้น มีความสุขที่ได้ปฏิบัติธรรมเจริญสติสัมปชัญญะมากขึ้น มีสัมมาสมาธิมากขึ้น และ รัก พระพุทธศาสนามากขึ้น ดังมีหลักฐานปรากฏในกระดาษที่เด็กๆเขียนความรู้สึกมาให้ และได้นําบาง ส่วนมาลงตีพิมพ์ในหนังสือธรรมะข้างในนั้น2ไปแล้ว ทุกวันนี้ ผมรู้สึก อบอุ่นใจ ที่เกิดมาชาตินี้ มีพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง รู้สึกอบอุ่นใจที่ได้เจอพระธรรมอันประเสริฐ พระธรรมที่สอนให้ผมเข้มแข็งขึ้น กล้าที่จะยอมรับความจริงมากขึ้น ปล่อยวางได้มากขึ้น เห็น แก่ตัวน้อยลง พระธรรมที่สอนให้ผมรู้แล้วว่า ทุกสิ่งล้วนเป็นไปตามเหตุ แค่เพียรทําเหตุให้ถึงพร้อม แล้ว ผลทุกอย่างมันก็จะเกิดพอดี และสมควรกับเหตุของมันเอง พระธรรมที่สอนให้ผมรู้ว่า สิ่งทั้งปวงในโลก ล้วนเป็นของชั่วคราว ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป เกิดขึ้น มาแล้วก็ต้องดับไปทั้งสิ้น ไม่เห็นน่ายึดถือหวงแหนใดๆให้ทุกข์ใจเลย ผมรู้สึก อบอุ่นใจที่ ได้เกิดในประเทศที่มีพระสงฆ์ ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบอยู่เป็นจํานวนมากมาย ผมจึงขอใช้โอกาสอันมีค่า ที่พระพุทธเจ้ามอบให้นี้ ปฏิบัติธรรมเจริญภาวนา เพื่อบูชาพระ รัตนตรัย และ บูชาพระคุณของครูบาอาจารย์ ให้สมกับที่ครูบาอาจารย์ท่านได้เสียสละทุกอย่างเพื่อพวก เรา โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
54
โดยคุณ ครูSupʼk (อ.ศุภฤกษ์) โรงเรียนกวดวิชาคณิตศาสตร์Supʼk Center www.supkcenter.com #
โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้
D h a m m a d a . n e t!
55