เสียงฝนบนภูเขา บทสนทนา ระหว่างภิกษุหนุ่มกับ นักเขียนหมวยๆเบลอๆ + เรื่องสั้นแนวทดลอง + ตอบค�ำถามจาก นิตยสาร a day ฉบับ 108
เปสโลภิกขุ
+
แขกรับเชิญ
2
เสียงฝน
เปสโลภิกขุ เสียงฝนบนภูเขา เจหวาน
บนภูเขา
1
สารบัญ Conversation in the Rain: 10 What is the End of a Wonderful World?: 86 Questions are from Mars, Answers are from Venus: 106 An Interview a Day Keeps the Doctor Away: 108
2
เสียงฝน
เสียงฝนบนภูเขา : Conversation in the Rain เรื่อง : เปสโลภิกขุ ปะทะ เจหวาน วาดภาพปกและภาพประกอบ : ตืดหวือ (อรรถวิท บุญวรรณ) ออกแบบปกและรูปเลม : Dhamma Design Club พิสูจนอักษร : มานี มีตา จัดพิมพเปนของขวัญธรรมะครั้งแรก : ตุลาคม ๒๕๕๒ จำนวน : หนึ่งพันเลมเต็มที่ Copyright ๒๐๐๙ © Dhamma Design Club สงวนลิขสิทธิ์ หามคัดลอก ดัดแปลง ทำซ้ำ หรือนำไปพิมพจำหนาย หากทานใดประสงคจะพิมพแจกเปนธรรมทานหรือเพื่อการอื่น กรุณาติดตอ เปสโลภิกขุ วัดปาอัมพวัน (สาขาที่ ๔๒ ของวัดหนองปาพง) บานหวยดินดำ หมู ๑๒ ตำบลหนองรี อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี ๒๐๐๐๐ ไปรษณียอิเลคทรอนิคส : Peslo123@yahoo.co.th พิมพที่หางหุนสวนจำกัดภาพพิมพ ๒๙๖ ซอยอรุณอมรินทร ๓๐ ถนนอรุณอมรินทร แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร ๑๐๗๐๐ โทรศัพท : ๐-๒๔๓๓-๐๐๒๖-๗ / โทรสาร : ๐-๒๔๓๓-๘๕๘๗
บนภูเขา
3
คำนำ : เปสโลภิกขุ กอนที่พ็อกเกตบุกบางๆ ลำดับที่หาของขาพเจาจะแลวเสร็จ ความจริงประการหนึ่งก็ปรากฏแกขาพเจาวา ทรัพยากรในคลังคำของ ตัวเองรอยหรอจนบางตา ในการจะเพิ่มจำนวนสินทรัพยนั้นก็ไมสูจะ ยากกระไร ทำไดงายดายดวยการอานงานวรรณกรรมที่มีอยูดาษดื่น ในพุงตลาด แตสิ่งที่ขาพเจาแจงแกใจตัวเองตลอดระยะเวลาสิบกวาป ที่ผานมาก็คือ การกระทำเยี่ยงนั้นจะไปกอกวนการบำเพ็ญสมณธรรม อยางยิ่งยวด! “เราไมไดบวชมาทำหนังสือ” ขาพเจาบอกตัวเองอยางนีอยู ้ เสมอ เมือ่ เผลอไผลไปใหน้ำหนักกับการทำงานเผยแพร จนหลงลืมวัตถุประสงค ดั้งเดิมของการเขามาสูพระธรรมวินัย อยางไรก็ตาม ขาพเจายังมีเรื่อง คัง่ คางอยูคั บคัง่ ทัง้ ไดคำนวณผานความวิเวกแลววานาจะเกิดประโยชน หากไดถายทอดถายเทไปสูการ รับรูของ มนุษยอืน่ ทางออกเดียวทีปรากฏ ่ ในตอนนั้นก็คือการสนทนา แตใครเลาจะไดรับเกียรติอันแสนธรรมดา มาเปนคูสนทนาของขาพเจา ยืน เดิน นั่ง นอน นึกอยูเปนสองสามนาน ใครคนนั้นก็ตีลังกาผานมาพอดี! ชลบุรี / กรกฎาคม ๒๕๕๒
4
เสียงฝน
คำนำ : เจหวาน นับเปนความโชคดีอันแปลกประหลาด ที่อยูดีๆ เราก็ไดมีโอกาส สนทนากับพระปา ผูที่มีวิถีชีวิตประจำวันอันสันโดษ เรียบงาย ใกล ชิดโอบลอมไปดวยธรรมชาติเขียวครึ้ม ซึ่งเปนวิถีชีวิตที่แตกตางจาก คนปา(คอนกรีต) อันแสนวุนวาย สับสน ใกลชิดโอบลอมไปดวยตึกราม บานชองอยางเราโดยสิ้นเชิง แถมการสนทนาในครั้งนี้ยังเปนเรื่อง เปนราว จนจัดทำออกมาเปนหนังสือที่ทุกทานกำลังถืออยูขณะนี้อีก ตางหาก เราไมเคยพบกับทานเปสโลภิกขุมากอน เพียงแตเคยไดรับ หนังสือของทานที่เพื่อนสนิทแจก(ฟรี)มาให หลายตอหลายเลมที่ไดมา ทั้งดีไซนรูปเลมและวิธีการนำเสนอที่เกล้ำเกินกวาจะเปนหนังสือธรรมะ เรารูสึกวาศิลปะสามารถผสมผสานอยูไดในทุกสิ่งอยูแลว ดวยความที่ เราเปนคนที่สนใจศิลปะและธรรมะ(อันหลังเพิ่งเริ่ม) จึงรูสึกดีใจที่ใคร สักคนนำศิลปะรวมสมัยมาผสมผสานกับสื่อธรรมะ จูๆ วันหนึ่ง เราก็ ไดรบั เมลจากทานเปสโลภิกขุ ซึง่ ไมรูว า ทานนึกครึม้ อะไร คุยไปคุยมาจึง อยากชวนเรามาทำหนังสือดวย โดยวางรูปแบบเพียงคราวๆ วา อยากให เปนการสนทนากัน มากกวาการสัมภาษณ บายวันหนึง่ ณ วัดปาอัมพวัน จังหวัดชลบุรี ทามกลางบรรยากาศ ที่แวดลอมปกคลุมไปดวยตนไมและสัตวเลื้อยคลานเชนงูเปนตน เรา กับทานจึงไดพบกัน เปนการพบกันระหวางพระปาศิลปนและคนเมือง ที่ชอบศิลปะ จากบทสนทนาที่ดูเหมือนพูดคุยกันไปเรื่อยๆ โดยที่ไมได มีการวางเคาโครงกันไวลวงหนา หรือเจาะจงพูดเรื่องอะไรกันเปน พิเศษ โดยทีเรา ่ ออกความคิดเห็น(ไปตามความเขาใจ) ของเราบาง สลับกับ ทานเปสโลภิกขุที่ใหความเขาใจผานมุมมองทางพุทธศาสนาของทาน
บนภูเขา
5
กอนหนานี้เราสนใจธรรมะจากการเดินเขาไปในรานหนังสือ ความเขาใจธรรมะของเรา ซึง่ ไดรบั ทัง้ ความสนุกและความรูส กึ สบายใจ จึงเกิดจากการอานเปนสวนใหญ หลังจากที่ไดสนทนากันในครั้งนี้ ทำใหเรารูวาหากอยากเขาใจพุทธศาสนาใหลึกซึ้งขึ้น คงตองฝกฝน ปฏิบตั ิ เพราะนัน่ นาจะเปนวิธทีี ดี่ ทส่ี ดุ สำหรับความเขาใจทีไม ่ ใชแคผาน กระบวนการทางความคิด แตเปนการผานกระบวนการทางความรูสึก ดวย สิ่งหนึ่งที่คลายกันของธรรมะและศิลปะสำหรับเรา นั่นคือสองสิ่ง นี้สัมผัสไดดวยใจ หากอยากเขาใจอยางถองแท ก็คงตองใชใจเราเอง นั่นแหละในการสัมผัส กรุงเทพฯ / กันยายน ๒๕๕๒
6
เสียงฝน
แดใครดีละ
บนภูเขา
7
CONVERSATION IN THE RAIN
8
เสียงฝน
…เปนการจำลองบรรยากาศของการนัง่ คุยกันในระหวางดืม่ น้ำชายามบาย อันทีจ่ ริง มันก็ไมใชวัฒนธรรมของเรา แตมันก็ใหความรูสึกสบายๆ ผอนคลายเปนกันเอง บวชมาสิบกวาพรรษาไมเคยไดสนทนากับโยมผูหญิงนานขนาดนี้มากอน วันแรก สามชั่วโมง วันที่สองอีกสองชั่วโมง แตการสนทนากันระหวางพระกับโยมผูหญิง ตองมีโยมผูชายอยูเปนเพื่อนจึงจะดูงาม และยังเปนการรักษาพระวินัยอีกดวย
บนภูเขา
9
สัจธรรมของพุทธเปน Ultimate Truth คือโคตรจริง!
10 เสียงฝน
บนภูเขา
11
ภิกษุ : ทำไมจึงอยากจะมีหนังสือธรรมะเปนของตัวเอง? หวาน : (หัวเราะเขิน ๆ) โดยสวนตัวแลว คิดวาพุทธศาสนาเปนสิง่ จำเปน สำหรับชาวโลก เปนศาสนาแหงเหตุผล คือแคสัจธรรมของ พุทธมันก็เปน Ultimate Truth คือโคตรจริง จริงสุดๆ อะไร แบบนี้ หลักธรรมะก็เรียบงาย มีใหสำหรับความสนใจทุกระดับ ตั้งแตระดับพื้นฐานชีวิตประจำวันทั่วๆ ไป จนถึงระดับลึกซึ้ง สูงสุด อยากเอามานำเสนอใหนาสนใจ ก็เคยคิดไวแตวา มันยัง ไมสามารถทำใหเกิดขึ้นได ภิกษุ : แลวที่วางเนื้อหาไวมันเปนยังไง? หวาน : คือเลมกอนหนานี้ที่เคยทำ ความรูสึกในตัวเองมันยังเหมือน ไมคอยคลี่คลายเทาไหร จะเปนการตั้งคำถามกับชีวิตและ การคนหาคำตอบ ออกแนวดารค ประชดประชัน แตตอนนี้ ความคิดมันเปลี่ยนไปเยอะแลว มันคอนขางเคลียรขึ้น อยาก เขียนเพือ่ เปนแรงบันดาลใจใหคนกลุม หนึง่ มากกวา เปนจุดเริม่ เล็กๆนอยๆ ใหหันมาทางหัวขอนี้ เพิม่ เติมจากความสนใจอยาง อืน่ ของเขา แตยังคิดไมออกอะคะวาจะนำเสนออยางไร เพราะ ก็เพิ่งสนใจเรื่องนี้ไดไมนาน 12 เสียงฝน
ภิกษุ : เทาที่ไดอานหนังสือของเจหวานก็สอดแทรกเยอะเหมือนกัน นะ เทศนเปนหนาๆ เลยก็มี(หัวเราะรวน) เคยไปปฏิบัติธรรม หรือเปลา? หวาน : เคยแตไมจริงจัง ตองไปปฏิบัติธรรมกอนแลวคอยมาเขียน หรือเปลาคะ? ภิกษุ : ตามประสบการณของอาตมานะ คือหนังสือของเจหวานมัน ก็ไดอยู หมายถึงวาเราเปนนักแสวงหา เขายังใชกันหรือเปลา คำนี้? มีหรือเปลาคนที่เปนนักแสวงหาตอนนี้? คือมันจะพูด อะไรก็ไดเพราะวาเรากำลังแสวงหาอยู จะตั้งคำถามอะไร ก็ได แตถาเปนหนังสือธรรมะมันตองชัดเจนหนอยวาเรารูอะไร สัมผัสอะไรมา อยางในหนังสือของเจหวานก็ยอมรับจริงๆ วา มันคลุมเครือ มีคำถามกับชีวิตกับโลกอะไรอยางนี้ แตถาเปน ธรรมะมันตองชัดเจนนะ มันตองบอกไปเลยวาเรารูอะไรมา เกี่ยวกับธรรมะ แตก็อีกนั่นแหละ ถาจะไปอานหนังสือธรรมะ แลวเอามาเรียบเรียงเอามาเขียน คนอานจะรูสึกเหมือนอาน ตำรา มันไมถึงใจ สวนจะไปเขาคอรสฝกกรรมฐานแลวเอา ตรงนั้นมาเขียนก็ได แตมันไมเหมือนกันนะ เวลาเราทำงาน เผยแพรจิตมันจะถูกสงออกไปขางนอก จะไปสอนเคายังไง ไมตองเขียนหรอกแมแตเทศนก็เหมือนกัน สวนการปฏิบัติ มันจะสอนตัวเอง จิตมันจะถูกสงเขามาขางใน ไมตองพูดก็ได ไมตองบอกใครก็ได อยางนี้จิตใจของคนนั้นจึงจะพัฒนา แต ถาปฏิบัติไปสักระยะหนึ่งแลวถาจะทำตรงนั้นอาตมาก็คิด วาได หวาน : มันไมมีเวลาฝกตัวเองเพียงพอใชหรือเปลาคะ?
บนภูเขา
13
ภิกษุ : มีเหมือนกันแตนอย มีพุทธภาษิตอันหนึ่งนาพิจารณา “การ ทำประโยชนเพื่อผูอื่นถึงจะมาก ก็ไมควรเปนเหตุใหทำลาย ประโยชนอันเปนจุดหมายของตน” (พระไตรปฎกเลมที่ ๒๕ ขอ ๒๒) ทานใหเอาตัวเองกอน คนอื่นไมเปนไรเอาไวกอน ตัวเองตองมากอน หวาน : งงคะ สงสัยวาแลวจะทำยังไงตอไป ภิกษุ : ตามที่อานจากหนังสือของเจหวาน มันเปนลักษณะของนัก เขียนหรือคนทำงานศิลปะอยูแล ว ทีเขา ่ จะขบคิดเรือ่ งชีวติ หรือ อะไรอยางนี้ ตอนนี้ยังเปนอยูหรือเปลา? หวาน : ก็ยังเปนอยู แตนอยลงเยอะแลว คือที่ผานมาเปนคนชอบอยู ในหลายๆ บรรยากาศ โดยเฉพาะความสงสัยเรื่องของคน ในแบบตางๆ สงสัยวาคนสไตลนี้เขาเปนอยางไร คิดอยางไร คนสไตล MBA ทีเขา ่ คิดแบบธุรกิจมากๆ ระบบการคิดเขาเปน แบบไหน คนติสทๆ เปนยังไง หรือวาคนทีคิ่ ดแบบ Logic มากๆ อะไรอยางนีเป ้ นตน ก็จะไปคลุกคลี อยากรูว า ทำไมพวกเขาถึง คิดอยางนี้ มีวิธีการปฏิสัมพันธกับโลกแบบนี้ ภิกษุ : แลวไดอะไรบางจากการไปคลุกคลีตรงนั้น? (หัวเราะ) หวาน : เมื่อกอนเหมือนความคิดมันกระจายมาก ความเขาใจโลกมัน เหมือนเปนแผนๆ เปนชีทสรุปหลายๆ หนา อะไรอยางนี้ เหมือน ความจริงมันจริงในแบบใคร? ความจริงมันมีหลายชุดมากเลย คนแตละแบบก็มีความจริงกันคนละแบบ คือสุดทายมันก็ยัง สับสน เปนการพยายามคนหาเหมือนกับวาคุณคามันคืออะไร? สิ่งที่มันสำคัญในชีวิตมันคืออะไร? มันใชเรื่องนี้ไหม? มันใช องคความรูไหม? มันใชครีเอทีฟไหม? ตองเปนคนดีหรือเปลา? แบบวาโนนนี่ ก็คือเหมือนกับวาถามไปเรื่อยๆ 14 เสียงฝน
ภิกษุ หวาน ภิกษุ หวาน ภิกษุ หวาน
: : : : : :
แลวไดคำตอบไหม? ไดเลย ไดวายังไง? จิตผองใส อะไรอยางนี้ (หัวเราะ) มันมีประโยคนึงที่อยูในใจประมาณปที่แลว คือคนเราใน โลกนี้ มีหลายแบบหลาย Stereotype คนนี้แนว คนนี้แวน คนนั้นสกอย คนนูนอารต ฯลฯ จริงๆ แลวเราไปจัดหมวดหมู มันใชไหมคะ แตหากมองเหลือเปนเพียงการมีปฏิสัมพันธ กับโลกของคนๆ หนึง่ แบบตัดทอนลงมาแลว สวนมากจะมีอยู แคสองอยางคือ ไมเปนการ “หลงใหลดูดดึง” ก็ “ผลักไส” ไมดูดเขามาก็ผลักออกไป เหมือนประตู Push/ Pull ซึ่ง เราเคยเปนทั้งสองอยาง เมื่อกอนเคยเปนคนที่ชอบความ กิบ๊ เก เทรนดด้ี ก็มีการปฏิสมั พันธกับโลกแบบหนึง่ จะเปนแนว หลงใหล ตื่นเตนกับโลกนี้ พอมาอีกชวงไปอินกับหนังสือที่ เปนแนวคิดปฏิเสธทุนนิยม อยูดีๆ ก็เบื่อหนายสังคม มองเห็น อะไรก็รูส กึ หงุดหงิด ไมถูกทีถู่ กทางไปหมด มันเปนแนวผลักไส คือไมวา คนทีเรา ่ เคยสงสัยจะเปนแบบไหนก็แลวแต จริงๆ สอง สิง่ นีมั้ นคือไมกระดานแผนเดียวกันเพียงแตอยูคนละ ดาน อันนี้ คือฟงมาจากเพือ่ นอีกทีนะคะ เขาบอกวา “ใหอยูใน โลกนีอย ้ าง มีเมตตา” เปนประโยคจบที่ประทับใจ สุดทายก็รูสึกวามันเปน เรื่องพุทธศาสนาทั้งนั้นเลย
บนภูเขา
15
เราไดอะไรหรือเสียอะไรจากการเดินทาง?
16 เสียงฝน
บนภูเขา
17
ภิกษุ : ทำไมจึงชอบเดินทางทองเที่ยว? ไดอะไรหรือเสียอะไรจาก การเดินทาง? หวาน : เสียตังคเยอะ ภิกษุ : (หัวเราะ) หวาน : คิดวาคนสวนใหญก็นาจะชอบการไดเปดหูเปดตา การได แหวกตัวเองออกไปสูอีกมวลบรรยากาศหนึ่ง สถานที่หนึ่งที่ ไมคุนเคย ไปรับรูเรื่องราวประสบการณแบบใหมที่ไมไดเจอ ในชีวติ ปกติ มันเปนสีสนั ใหชีวติ ดี บางครัง้ อาจเกิดความเขาใจ หรือมุมมองอะไรบางอยางขึน้ มา อาจจะเหมือนทีเค ่ าเรียก การ เขาใจโลก(หัวเราะ) แบบที่นักเขียนมักนิยมพกประโยคคมๆ กลับมาดวย อะไรแบบนี้อะคะ ภิกษุ : ความเขาใจโลกที่วาเชนอะไรบาง? หวาน : อยางที่เพิ่งไปฝรั่งเศสที่ผานมา ก็รูสึกวาเดี๋ยวนี้วัยรุนทั่วไป สวนใหญ Lifestyle มันไมคอยตางกันมาก ถาเปนคนทั่วไปที่ ไมไดชอบศิลปะ ขนาดอยูในเมืองอารตขนาดนั้น ก็มีคนเปน จำนวนมากที่ไมไดสนใจจะเขามิวเซียม คนทั่วๆ ไปที่แบบวา 18 เสียงฝน
ภิกษุ : หวาน :
ภิกษุ : หวาน : ภิกษุ :
ทำงาน ช็อปปง แลวก็เที่ยวกลางคืน เปน Party Animal วางๆ ก็ Update Facebook ตลอดเวลาอะไรอยางนี้ แลวก็มีเรื่อง เทคโนโลยีทีเข ่ ามาเปนอวัยวะสวนที่ ๓๓ คือไปทีไ่ หนก็คลายๆ กันไปหมด ก็เลยคิดเลนๆ วาประเทศไทยมีขอเดนกวาประเทศ อื่นตรงไหน คือถาจะเอา Art & Design นาจะอีกนานกวาจะ ตามทัน (หัวเราะ) ก็เห็นวามันคือพุทธศาสนา ซึ่งเปนอะไรที่ ตางชาติตองมาศึกษาดวยซ้ำ ทีเมื ่ องไทยมีพระทีปฏิ ่ บตั ดิ ๆี อยู เยอะ ซึ่งพอคิดปุบหลวงพี่ก็เมลมาหาพอดี อะไรจะขนาดนั้น (หัวเราะ) ตอนที่ไปทริปนี้ มีคนเอารูปถายติดวิญญาณหลอนมาใหดู ดวย คือลุงของเพื่อนพึ่งเสียชีวิตเมื่อสองเดือนที่แลวอะคะ อยู ดีๆโทรศัพทของพอเพื่อนก็ถายติดรูปคนยืนที่ระเบียง เปนคน โปรงแสงขึน้ มาเอง คือมันไมไดมาจากกลอง ไมใช Photoshop มันเปนโทรศัพทมือถือ เพื่อนบอกวาเห็นรางๆแตเดาไดวาเปน ลุงของเขาเอง สงมาใหดูบางดิ ไมมีคะ มันอยูในโทรศัพทมือถือของเพื่อน มีเรื่องทำนองนี้มาเลาใหฟง พระฝรั่งทานไปเดินธุดงครูปเดียว แลวก็ไปเจอพระธุดงคกลุมนึงเปนพระไทย เขาก็ไปพักกลาง กลดดวยกัน กลางคืนตอนจำวัดพระฝรั่งเขารูสึกเหมือนมีเข็ม มาจิม้ ๆ ไปทัว่ ทัง้ ตัว พระฝรัง่ เขาคิดวาคงจะเปนผี ก็เลยพูดกับผี อยูในใจ วา ผีอยามาหาพระฝรัง่ เลยคุยกันไมรูเ รือ่ งหรอก ไปหา พระไทยโนน แลวความรูส กึ นัน้ มันก็หายไป ตอนเชาพระทานก็ ออกมารวมกันเพื่อจะไปบิณฑบาตดวยกัน พระทานก็ถามกัน
บนภูเขา
19
หวาน : ภิกษุ :
หวาน : ภิกษุ :
วา เปนยังไงเมื่อคืนภาวนาดีไหม? พระไทยรูปหนึ่งก็บอกวา ผมฝนราย ถูกผีกวนทั้งคืนเลย(หัวเราะ) สรุปมีจริงหรือเปลาคะ? ไมบอก ก็ไมรูสิ อาตมาไมเคยเห็น พระบางรูปก็เห็นบอย แลวมาเลาใหเพื่อนฟงจนเพื่อนเขารำคาญ ถาพวกเรายัง ไมรำคาญจะเลาแถมอีกสักเรื่องหนึ่ง มีอยูครั้งนึงที่วัดปา นานาชาติ เขานิมนตครูบาอาจารยชาวไทย ไปสนทนาธรรม กับพระเณรชาวตางชาติชวงฉันน้ำปานะ ก็ชวงเย็นๆ ประมาณ นี้แหละ แลวก็จะมีพระที่ทานมีความชำนาญทางภาษาชวย แปลจากภาษาไทยเปนภาษาอังกฤษ บังเอิญพระอาจารยรูปนี้ ทานมี sense พิเศษ ทางไปกุฏิตองเดินผานที่เผาศพ พอเขาสู ที่ประชุมเมื่อพระเณรกราบทานเรียบรอยแลว พระอาจารย รูปนี้ทานก็ถามขึ้นมากอนเลยวา ที่นี่เคยมีโยมฝรั่งลักษณะ อยางนี้ ผมเผาแบบนี้ ใสชุดแบบนี้ไหม? พระที่อยูมานานก็ บอกวาเคยมีครับ เขาเปนไขมาเลเรียตายอยูที่นี่ สิบกวาป มาแลว พระอาจารยรูปนั้นก็บอกวา ตอนที่เดินมา ผมเห็นเขา นั่งอยูบนเมรุเผาศพ... เรื่องผี...ตื่นเตนนาติดตาม (หัวเราะ)ก็เลาไปงั้นแหละ เพราะวัยรุนเขาชอบเรื่องตื่นเตน มันเปนจุดของเขาอยูแลว อาตมาเคยสังเกตเหมือนกันวา พระอาจารยบางทานจะชอบเลาเรื่องความหลัง สมัยกอน อะไรอยางนี้ หรือวาชอบยกตัวอยางจากพระไตรปฎก แลว น้ำเสียงของทานก็เรียบๆ ออนโยน ถาเปนแบบนี้ผูเฒาผูแก จะชอบ แตวัยรุนฟงแลวจะงวงนอน พระอาจารยบางทานก็ ชอบคุยกับเด็กๆ ปดเทอมก็มีบวชภาคฤดูรอ น ตกเย็นสวดมนต
20 เสียงฝน
ทำวัตรเสร็จแลว เด็กๆ ก็จะมาลอมหนาลอมหลังนวดแขง นวดขาให ทานก็จะเลานิทานใหเด็กๆ ฟง ก็ดูมีความสุขดี ของอาตมานี่สวนใหญจะเปนเรื่องโลดโผน บางทีก็ถึงกับโหด เลือดสาด แลวน้ำเสียงของอาตมาก็สูงๆ ต่ำๆ ขึ้นๆ ลงๆ เดี๋ยว ดังเดีย๋ วคอย คนแกฟงแลวหัวใจจะวาย อีกอยางอาตมาเห็นวา วัยรุน เขาพอจะดูแลตัวเองได ไมตองประคบประหงมหรือรักษา พยาบาลอะไรมาก เรียกวามีพลังพรอมทีจ่ ะทำอะไรไดทุกอยาง แตมันก็ขึ้นอยูกับวา เขาจะเอาพลังที่วานั้นไปทำอะไร
บนภูเขา
21
ความเหงาเปน Software ขั้นพื้นฐาน
22 เสียงฝน
บนภูเขา
23
ภิกษุ : คุยเรื่องการเดินทางตอดีกวา แลวไดอะไรอีก? หวาน : การเดินทางคือเครื่องชารจพลังงานที่ดีเยี่ยม การไดเห็นอะไร เยอะๆ มันอาจไดไอเดีย หรือเปนแรงบันดาลใจใหเราได เวลา ไปอยูในที่ตางๆ ที่ไมคุนเคย ประสาทสัมผัสทั้งหาจะดีขึ้น คือ ทุกอยางที่เขามามันแปลกใหมไปหมด ไมรูวานี่เกี่ยวกับ การทำใหมีสติกับปจจุบันมากขึ้นหรือเปลา รางกายดูมัน จะตื่นตัวกวาปกติ สวนใหญที่ไปจะเนนดูงานศิลปะตาม พิพิธภัณฑ นอกนั้นก็เปนพวก วัฒนธรรม สถาปตยกรรม วิถีชีวิตผูคน อาหาร รานคารานรวง ก็นาจะไดความรูสไตล สรางเสริมประสบการณชีวิต ประมาณนี้คะ ภิกษุ : เคยไปเรียนที่เมลเบิรนเหรอ? หวาน : เคยไปเรียนทีเมลเบิ ่ รนกับซิดนีย ภิกษุ : กี่ป? หวาน : รวมกันปเดียว ภิกษุ : เห็นเคยเลาวาเหงาจนแทบจะเสียชีวิต หวาน : ก็เยอะอยูค ะ (หัวเราะ) เคยรูส กึ วาทุกอยางในโลกนีมั้ นสบายๆ 24 เสียงฝน
ภิกษุ : หวาน :
ภิกษุ :
หวาน :
แตพอตองอยูคนเดียวจริงๆ โดยปราศจากการสนับสนุนจาก คนรอบขาง เหมือนโชคชะตาในชีวิตตองเผชิญเอาเอง ญาติ พี่นองไมไดมาประกอบฉากดวย ทำใหรูสึกเหงา จิตตก หดหู อยางแรง แลวแกปญหายังไง? แกไมไดเลย คือทำอะไรไมถูก ตอนนั้นไมรูจะทำอะไรไดแต ฝกพิมพดีดอยูในหอง เหมือนพอรูตัววากำลังทนอะไรอยู แลว ทนไมคอยจะได บางคนอาจจะไมใสใจ เบื่อ เหงา ไปกินเหลา ดีกวา หาอะไรทำ แตเราจะย้ำคิดย้ำทำอยูสวนตัว จัดการมัน ไมคอยได อาตมาเคยเปนคลายๆ อยางนี้เหมือนกัน ตอนเรียนอยูที่ เชียงใหม ไมรูเปนอะไร ไปเชียรกีฬานองใหม อัฒจันทรฝง โนนก็คณะนึง ฝงนี้ก็คณะเรา เขาก็แขงบาสเกตบอลกัน เสียง กลองเสียงเพลงเชียรมันก็ดังอยูนะ แตเหมือนไมไดยินอะไร เหมือนอยูตัวคนเดียว ก็เลยเดินกลับหอพัก กลับไปแลวก็ไมรู จะทำอะไร ถามีเพือ่ นสักคนก็ชวนกันไปนัง่ ตาม Jazz Pub มัน ก็ผอนคลายไปไดหนอยนึงแลวก็เปนอีก กลับไปกลับมาอยู อยางนี้ เคยไดยินมาคะวา จริงๆ แลวความเหงามันเปน Software พื้นฐาน เปนโปรแกรมที่ใสไวใหสำหรับทุกคน คงคลายกับ โปรแกรม Window เปดปุป ฉากทองฟากับสนามหญามาเลย เพราะวาจริงๆ แลวตัวเรามันไมมี จิตเราสราง Ego ตัวตนของ เราขึ้นมาเพื่อใหมันมี แตวาจริงๆ มันไมมีตั้งแตแรกแลว มัน เลยมีความไมเชื่อมั่น มีความกลัวอยูลึกๆ เพราะวาจริงๆ แลว ตัวตนมันไมไดมีอยูจริงอะไรอยางนี้ มันก็เลยรูสึกวามีความ บนภูเขา
25
ภิกษุ : หวาน : ภิกษุ : หวาน : ภิกษุ : หวาน : ภิกษุ :
เหงาอยู คนเราเลยตองหาอะไรทำไมใหวาง เพลินๆ อีกอยาง เราเปนสัตวสังคม ตอใหอินดี้แคไหนก็ยังตองการสิ่งแวดลอม ที่เปนมนุษยอยูรอบขาง แลวเคยรูส กึ ไหมเวลาอยูกั บเพือ่ นเยอะๆ แตยังรูส กึ เหงา? อยาง ในงานปารตี้อะไรอยางนี้(หัวเราะ) หวานจะเกิดขึ้นตอเมื่ออยูในสถานการณที่รูสึกวาไมเปนสวน หนึ่งนะคะ แปลกแยก แปลกแยก เชนถาไปอยูกั บคนคนละแบบมากๆ เทเกจัด อาจจะ รูสึกไมสบายตัว คือถาไปอยูแลวก็จะรูสึกวางวง ตัดโหมดไป เปนความงวง คือกลับบานกอนนะ แตไมใชเหงาใชไหม? งวงเหงาอันเดียวกันคะ (หัวเราะ) คือมันไมเปนสวนหนึง่ อยูดี ๆ จิตใตสำนึกจะตัดเขาสูโหมดเซฟแบตเตอรี่อัตโนมัติ กอนหนานี้อาตมาคุยกับโยมเพื่อนคนนึงที่อุบลฯ เขาบอกวาที่ อุบลฯ ฝนตกรูส กึ เหงา อาตมาก็นึกถึงตอนทีจำพรรษา ่ รูปเดียว ทีจั่ นทบุรี ชวงกลางคืนนัง่ สมาธิเสร็จก็มองออกไปนอกหนาตาง เห็นแสงไฟระยิบระยับอยูใน ตัวอำเภอโปงน้ำรอน ก็นึกถึงสมัย เปนนักศึกษา ไปเทีย่ วกลางคืนกับพวกเพือ่ นๆ มันก็สนุกอยูนะ แตในขณะเดียวกันขางในมันกลับรูสึกอางวาง ก็เลยเปรียบ เทียบกับทีเรา ่ นัง่ อยูรู ปเดียวในกุฏมุิ งหญาบนภูเขา ฝนก็ตกดวย แตมันก็ไมรูส กึ เหงานะ อันนึงเพราะเรารูส กึ วาตัวเองมีทีพ่ ง่ึ คือ เรามีตัวเองเปนเพือ่ นอยูตลอด เวลา มันก็เลยรูส กึ วาไมตองการ ใคร ไมตองคุยกับใคร ไมตองการเสียงเพลง อยูคนเดียวก็ได แตวาการจะมีตัวเองอยูเปนเพื่อนมันก็ตองฝกซะหนอย
26 เสียงฝน
หวาน : แลวมีความสุขไหมคะ? ภิกษุ : มีความสุขกวาอยูกับคนเยอะๆ (หัวเราะ) แตก็อยูได ในกรณีที่ เราจะตองอยูกับคนเยอะๆ ก็อยูได แตถาเราวางจากตรงนั้นก็ เขาที่สงบดีกวา หวาน : แสดงวาคนทีฝ่ กจิตอยางดีแลว จะสามารถมีความสุขกับตัวเอง ไดจริงๆ จนเลิกเหงาไปเลย มันเปนไปไดหรือเปลาคะ? ภิกษุ : มันเปนไปแลว
บนภูเขา
27
มันจะเปดโลกทัศนอีกแบบหนึ่ง มันจะมองโลก Chill ขึ้น
28 เสียงฝน
บนภูเขา
29
หวาน : กอนหนานี้คิดวาทำยังไงจะทำใหตัวเองมีความสุขมากๆ แต ตอนนี้เหมือนกับวาทำยังไงใหทุกขนอยลง เพิ่งมาคนพบเร็วๆ นี้วามีวิธีการมองโลกแบบนึงคะ คือ การฝกตัดสินใหนอยๆ วิพากษวิจารณใหนอยๆ มีเพื่อนสนิทคนนึงเขาทำไดแลว เขาบอกวาใหเราฝกมองวา ทุกอยางมันดีอยางที่มันเปน มัน เปนอยางที่มันเปน มันไมมีอะไรดีกวาอะไร มันไมมีอะไรที่ เปรียบเทียบกันได ไมมีถูกผิด คือเหมือนกับวา”มันก็เปนสิ่งที่ เปน”นั่นแหละ เคาบอกวามันจะเปดโลกทัศนอีกแบบนึงเลย มันจะมองโลก Chill ขึ้น สบายขึ้น เพราะเราจะบนมันนอยลง เชน ถาเราตัดสินเยอะๆ วาสิง่ นีเห ้ ย สิง่ นีเท ้ มันอาจกลับมาเปน กรอบใหชีวิตมีขอจำกัดมากขึ้น เราไมกลาทำอะไรเหยๆ แตก็ จะแหไปทำอะไรเทๆ แบบเดียวกัน ภาพจำของดีไซนเนอรตอง แตงตัวเรียบๆ ชุดดำ คุมโทนสี เหมือนเราไปสราง Grammar บางอยางขึ้นมา ถาอยากมองเห็นอะไรนารัก เบาสบายขึ้น ก็ นาจะตองตัดสินใหนอยๆ คือสิ่งที่คิดไดในตอนนี้อะคะ ภิกษุ : เรื่องตัดสินนี่อาตมาก็เปน 30 เสียงฝน
หวาน : คงเปนโปรแกรมพื้นฐานที่เขาแถมมาใหเราอีกหนึ่ง ภิกษุ : ก็นิสัยเดิมของเรามันเปนอยางนั้นอยูแลว หวาน : เทาที่เคยรูมามันเปนวิธีการอยูรอดของมนุษยนะคะ อยาง คนสมัยดึกดำบรรพ อยูในปาในถ้ำออกไปหาอาหาร เห็น สิ่งนาเกลียดมันก็ตองกลัวไวกอน มันกินไดไหมของในปา เปนพิษหรือเปลา มันเกิดการตัดสินทันทีเพราะวามันเปน วิธีการเอาชีวิตรอดอะไรอยางนี้ เหมือนกับวา เออ! อันนี้นาจะ กินได แตมันก็ทำใหคนติดกับดักทางความคิดของตัวเอง คิด ปรุงแตงเรื่อยเปอยจนเปนทุกข เคยไดยินบอยๆ วาไอเดียดีๆ มักมาตอนจิตใจสบายๆ ไมไดตั้งใจคิด อยูดีๆ ก็ปงขึ้นมา อันนี้ ไมรูวาเกี่ยวกับปญญาหรือเปลา ภิกษุ : อาตมาไมไดยอนไปไกลขนาดนั้น ก็เคยไดยินอยูเหมือนกันที่ พระอาจารยฝรัง่ ทานบอกวา “หยุดประเมินคุณคา หยุดวิพากษ วิจารณ” แตมันจะหยุดยังไงละ มันจะหาอุบายอะไรมาหยุด อยางอาตมานี่ยิ่งมีนิสัยชอบวิพากษวิจารณ เชนถาเราเขาไป ในโบสถมันก็มาแลว พระประธานองคนี้งดงามถูกตองตาม พุทธลักษณะ พระพักตรอิ่ม ใชวัสดุมีคุณภาพ จีวรพลิ้วดี อะไร อยางนี้มันก็มาแลว แตวาความเห็นในลักษณะนี้มันทำใหเรา มีความสุขนะ ยิ่งไดกราบไดไหวก็ยิ่งมีความสุข แตถาเราไป เจอพระประธานที่มีลักษณะตรงกันขามก็ยอมรับอยูวาเราจะ รูส กึ ขุน มัว แตมันก็เปนในลักษณะทีว่ า ความรูส กึ ทีชอบใจ ่ หรือ ไมชอบใจมันก็เปนของไมแนนอน เดี๋ยวเกิดขึ้น เดี๋ยวหายไป การไดมาเห็นความไมแนนอนอยางชัดเจนนี่แหละที่เรียกวา ปญญา อาตมาคิดวากัลยาณมิตรสำคัญมากนะ ถาจะเริ่มฝก กันจริงๆ ก็ตองมีคนชวยแนะนำ บนภูเขา
31
หวาน : เหมือนกับวา”ความชอบกับไมชอบ” มันก็เปนเพียงความรูสึก หนึง่ ทีจิ่ ตเราสรางมันขึน้ มา แตไมควรไปยึดติดอะไรกับมันมาก แบบนี้หรือเปลาคะ ภิกษุ : ประมาณนั้น เจหวานชักจะพูดเหมือนพระเขาไปทุกที
32 เสียงฝน
บนภูเขา
33
ความโกรธเปนความดีหรือความชั่ว?
34 เสียงฝน
บนภูเขา
35
ภิกษุ : เจหวานมีความเห็นเกี่ยวกับเรื่องความดีความชั่วยังไงบาง? หวาน : จริงๆ ทีสนใจ ่ พระพุทธศาสนาไมใชเพราะอยากเปนคนดีขนาด นั้นอะคะ โดยสวนตัวคิดวามันมีความดีความชั่วเพราะวามัน มีสังคมเกิดขึน้ อะไรอยางนี้ คิดวาถาเราทำจิตใหผองใส สุดทาย มันดีเองอยูแลวโดยธรรมชาติ เหมือนถาคิดดี ก็จะทำใหพูดดี ทำดีอัตโนมัติ ทำความดี ละเวนความชั่ว ทำจิตใจใหบริสุทธิ์ คิดวาหัวใจหลักคือ การทำจิตใจใหบริสุทธิ์มากกวา ภิกษุ : ก็ใชอยูแตวา เมื่อพูดถึงความดีความชั่ว เจหวานบอกวามัน เปนการสมมติขึ้นมาใชไหม? หวาน : ใช มันเปนสิ่งสมมติ เปนการตีความ ภิกษุ : ความโกรธเปนความดีหรือความชั่ว?(หัวเราะ) หวาน : ความโกรธเปน Energy อันนึงที่เหมือนกับวา ถาเราจับมัน ไมทัน พลังงานแบบนี้มันเกิดขึ้นมาแลว ความรูสึกขุนๆ อันนี้ มันจะคงมีอิทธิพลอยูกับเราระยะนึง ซึ่งมันก็เปนพลังงานที่ ถาเราตอบสนองมันไดไมดี ทำอะไรออกไปมันอาจไปกระทบ คนอื่นได แลวก็มีความทุกขที่เกิดขึ้นกับตัวเองจากความรูสึก อันนี้ 36 เสียงฝน
ภิกษุ : แลวมันดีหรือชั่ว?(หัวเราะ) หวาน : บอกไมไดวาดีหรือชัว่ แตถาไปทำใหคนอืน่ มีความทุกขมันก็คือ สิ่งชั่วอะไรอยางนี้ คือมองวามันเปนแค Energy อันนึงทีทำให ่ เรามีความทุกข ไมไดบอกวาดีหรือชั่ว ภิกษุ : ก็ได คือเราก็ยอมรับแลวใชไหมวาความโกรธมันทำใหเกิด ความทุกข? หวาน : ใช มันเปนความทุกข ภิกษุ : แลวมันตองละเวนไหมละ? มันเปนสิ่งที่ตองละเวนหรือหาวิธี ออกจากมันหรือเปลา? หวาน : มันละเวนไมได ภิกษุ : รูไดไงวามันละเวนไมได?(หัวเราะ) หวาน : คือถามันเปนพลังที่สรางขึ้นมาแลว มันจะอยูกับเราสักระยะ จนกวาจะมีพลังดานอื่นหรือความสนใจอยางอื่นเขามาแทน เชน เพื่อนโทรมาบอกวาถูกรางวัลที่ ๑ อาจจะลืมโกรธ กลาย เปนดีใจเขามาแทน ภิกษุ : อาตมาเสนออยางนี้ ความโกรธไมวาในสังคมไหนก็พอจะ สรุปไดใชไหมวามันทำใหเกิดความทุกข ไมวาจะเปนฝรั่ง จีน ไทย ศิลปน นักธุรกิจ หรือชาวบาน มันทำใหเกิดความทุกข ใชไหม? หวาน : ใช ภิกษุ : หัวใจมันเตนเร็ว หนาตาเครียด มือไมสั่น อันนี้คือผลกระทบ ที่เกิดกับตัวเอง แลวถาเราแสดงออกไปมันก็สงผลกระทบกับ คนอืน่ แลวสงผลกระทบกลับมายังตัวเราอีกครัง้ คนทีมั่ กโกรธ จะไมคอ ยมีใครอยากคบ อยากเขาไปใกล คืออันนีเรา ้ สรุปแลว วามันเปนความทุกขใชไหม? บนภูเขา
37
หวาน : ใช ภิกษุ : มันจะเปนพลังงานอะไรก็ชางมันเถอะ มันเปนเหตุใหเกิดความ ทุกข คราวนี้ถาเราปรารถนาความสุข เราก็ตองละความทุกข ตรงนี้ใชไหม? เหตุที่เราโกรธก็เพราะวามันเปนนิสัยเกาของ เรา อยางเราตั้งความหวังอะไรบางอยางไว แลวเราผิดหวังมัน ก็เกิดความโกรธขึน้ มา เปนความทุกขขึน้ มา ในทางธรรมะเราก็ ตองมาปฏิบตั ให ิ มันเกิดนิสยั ใหมขึน้ มา ใหมันโกรธยากขึน้ เรา ก็ตองมาดูโทษของความโกรธใหมันชัดเจน ในระหวางนีผล ้ ของ ความโกรธทีเ่ กิดขึน้ กับตัวเอง เราอาจจะยังควบคุมมันไมได แต ถาเราเห็นโทษทีมั่ นเกิดตอสังคมวามันจะทำใหคนอืน่ เดือดรอน เราก็อาจจะตัง้ ขอวัตรหรือกฎสำหรับตัวเองไวเชนวา เวลาโกรธ หามพูด กฎอันนี้ก็เพื่อที่วาเราจะละความทุกขไปใหถึงความ สุขตรงนั้น อยางนอยมันก็ชวยใหสังคมอยูกันไปอยางราบรื่น อันนี้อยูในวัดก็มี พระที่มีนิสัยขี้โกรธมากๆ ถาเขาโกรธขึ้นมา เขาก็พูดออกไปเลย เพือ่ นก็ไมคอ ยอยากเขาใกล บรรยากาศใน วัดก็ไมเปนมิตร คราวนี้ใครละจะชวยพระรูปนี้ เบื้องตนก็ตอง มีครูบาอาจารยเปนกัลยาณมิตร ชวยชี้ใหเห็นโทษของความ โกรธ อาตมาจึงบอกวากัลยาณมิตรสำคัญมาก หวาน : คะ ภิกษุ : อีกอันหนึ่งก็คือ มันตองอาศัยสถานที่อันเงียบสงบ ถาเราไป คลุกคลีอยูกับคนมากๆ โอกาสที่จะไดเห็นจิตของตัวเองอยาง ชัดเจนมันก็มีนอย แตถึงกระนัน้ ความโกรธก็ยังจะแสดงออกมา เรือ่ ยๆ เพราะนิสยั เกาของเรามันแกยาก แตถาเรามีขันติอดทน ไวกอ น อยาพึง่ ออกทาออกทาง อยางนอยมันก็ไดกลับเขามาดู ตัวเอง มันก็จะเห็นทุกขโทษทีเ่ กิดจากความโกรธ แลวก็สลับกับ 38 เสียงฝน
การเขาไปอยูในที สงบ ่ ดวย แตมันก็ไมหายนะ จนกวานิสยั ใหม มันจะเพิ่มมากขึ้น แลวนิสัยเกาลดลงๆ บางทีก็ตองหาอุบาย ของตัวเองดวย อีกอยางคนที่จะเขาไปเกี่ยวของกับคนที่มัก โกรธก็ตองมีปญญาดวย ถาบารมีไมพอแลวไปบอกเขานี่ก็ โดนเหมือนกัน หรือถาบอกแลวเขาไมเชื่อก็ตองเอาตัวเองให รอด ไมใหเปนทุกขกับตรงนั้น ก็ตองอาศัยครูบาอาจารยที่เขา เคารพชวยชี้แนะ ครูบาอาจารยตองมีเมตตามาก ทานจะชวย ใหอุบายหลายๆ อยางเชนใหฝกแผเมตตาเยอะๆ คอยๆ ฝกไป มันก็ออนโยนขึน้ แลวครูบาอาจารยทานก็ทำเปนตัวอยางดวย การอยูใกล กัลยาณมิตรมันก็จะชวยอยางนีแ้ หละ พอนิสยั ฝาย ดีมันเกิดขึ้น ในสถานการณทีมั่ นเคยโกรธมันก็จะไมโกรธแลว หรือวาโกรธแตเรามีอุบายที่จะปลอยวางไดเร็วขึ้น อยางเชน มันเกิดปุบเราก็แผเมตตาปบ หวาน : มีตัวอยางไหมคะ? ภิกษุ : เมื่อตอนไปอินเดีย คณะเดินทางกำลังจะกลับกันแลว ก็มีโยม แจงมาวามีกลุม ม็อบยกโขยงเขายึดสนามบินสุวรรณภูมิ ทำให เครื่องบินขึ้นลงไมได พอไดยินแคนั้นอาตมาก็หงุดหงิดขึ้นมา เลยนะ แลวก็ไดยนิ โยมผูห ญิงเขาบนวา คนพวกนีทำให ้ คนอืน่ เดือดรอน อาตมาก็คิดวาเรากำลังจะเปนเหมือนผูหญิงคนนั้น อาตมาจึงแผเมตตาใหตัวเอง ความโกรธไมสมควรแกเรา เรา มาอยูในแดนพุทธภูมิแลว ควรจะเจริญรอยตามพระพุทธเจา ก็เลยแผเมตตาใหตัวเองกอน เพราะตอนนัน้ มันยังเปนทุกขอยู ยังชวยใครไมได อยางนีมั้ นก็ตองมาจากการฝก จนกวานิสยั ดีๆ จะเกิดขึ้น มันก็อยูสบายขึ้น เขาใกลความสุขมากขึ้น
บนภูเขา
39
หวาน : มองวาสิ่งแรกคือมันตองมีสติอะคะ แลวก็ตองมีทัศนคติแบบ นึงที่คิดวาจิตใจมันเปนของเราเอง คือเรารักษาใจของเราเอง สิ่งแวดลอมที่มากระทบมันไมไดทำใหเราทุกขไดเลยหมาย ถึงวา มันคนละสวนกัน คือถาจิตใจของเรารักษาไวอยางดีแลว สิ่งภายนอกมันไมไดมีผลนะคะ คือถามันเกิดขึ้นแลวจะทำใจ อยางไรไมใหทุกขมากกวา ภิกษุ : ก็จริงอยู แตอาตมาเดาวาเจหวานพูดจากการคาดเดานะ คือ มันจะเปนในลักษณะทีว่ า ในสภาวะปรกติเราก็ฝกใหจิตคุน เคย กับการแผเมตตาไวกอน ทางธรรมะเราใชศัพทวา “การตั้งจิต ไวดี” แตในสถานการณจริงมันเหมือนกับวา นิสัยใหมที่เรา ตั้งใจจะฝกฝนคือความเมตตาเขายังไมแข็งแรง พอกระทบ กับอารมณ นิสยั เกาซึง่ มีกำลังมากกวามันก็แสดงออกมากอน เพราะจิตของเรามันเร็วมาก ยิ่งถาเปนคนที่มีพื้นจิตใจแบบ โทสจริต ยิ่งจะแสดงออกมาเร็ว คราวนี้เมื่อมันปรากฏขึ้นที่จิต แลวจะทำยังไง เราก็ตองรีบสะสางกอนทีมั่ นจะลุกลามใหญโต ถาสกัดไมทันมันก็แสดงออกมาทางกายวาจาอยางนี้เปนตน
40 เสียงฝน
บนภูเขา
41
โลกของเรากำลังดำเนินไปสูความพินาศ
42 เสียงฝน
บนภูเขา
43
ภิกษุ : คราวนี้มันจะมีอีกอันนึงนะ คือเรื่องการทำจิตใจใหบริสุทธิ์ ตัวนี้มันจะยากขึ้น เมตตาอยางเดียวไมพอแลวตอนนี้ เมตตา เปนเพียงคุณธรรมอันหนึ่งในหมวดธรรมทีชื่ ่อพรหมวิหารสีคื่ อ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา อันนี้จะเลาเรื่องการทำความดี ละเวนความชั่ว ทำจิตใจใหบริสุทธิ์ ยกตัวอยางเชนที่วัดของ เรา เวลาบายสามโมงถึงสี่โมงครึ่งของทุกวัน จะเปนชวงเวลา ที่พระเณรชวยกันปดกวาดเช็ดถูดูแลสถานที่ อันนี้เรียกวา การทำความดี แลวมันก็เปนการละความชั่วดวย คือแทนที่จะ นอนอยูท กุ่ี ฏิ เราก็ละความเกียจคราน ความเห็นแกตวั ซะ แลว ก็มาทำความดีมาเสียสละคือการปดกวาดหรือลางหองน้ำ บำเพ็ญประโยชน คราวนี้ถามีเพื่อนที่ไมมาชวยมันก็จะเกิด ความขุนมัว เราอุตสาหละความชั่วมาบำเพ็ญความดี แต ความดีของเรามันเกิดเศราหมองแลวตอนนี้ แลวอะไรคือการ ทำจิตใจใหบริสุทธิ์ มันก็คือการหาวิธีที่จะรักษาความดีของ เรา ทำยังไงจึงจะรักษาความดีของเราเอาไวได เราก็อาจจะ พิจารณาวา เรามากวาดลานวัด อานิสงสอันนึงของการกวาด 44 เสียงฝน
หวาน : ภิกษุ :
หวาน : ภิกษุ :
คือทำใหจิตใจของผูกวาด ผองใส ถาเพือ่ นเขาไมอยากบำเพ็ญ คุณงามความดีหรือมีจิตใจที่ผองใสมันก็เปนเรื่องของเขา เรา ไดมากวาดมาทำขอวัตรแลวความสุขมันเกิดขึ้นกับจิตใจของ เราแคนก็้ี พอแลว เวลาไปนัง่ สมาธิเราก็นึกถึงสภาพจิตทีผ่ องใส หรือความดีทีเรา ่ ไดบำเพ็ญมา มันก็เปนฐานใหทำสมาธิไดงาย ขึ้น อันนี้คือละชั่ว ประพฤติดี ทำจิตใจใหบริสุทธิ์ เขาใจไหม? เขาใจคะ แลวเมื่อกี้ที่บอกวาเมตตาอยางเดียวไมพอ มันตองมีเรื่อง อุเบกขาดวย คือในขณะนั้นเราอาจจะไปบอกเขาไมไดเพราะ บารมีของเราอาจจะยังไมพอ คือบอกแลวเขาอาจจะไมเชือ่ หรือ จะทะเลาะกัน เราก็ตองวางอุเบกขาไวกอน ก็ตองยกใหเปน หนาที่ของครูบาอาจารย ที่เราลืมกันสวนมากก็เรื่องอุเบกขา ที่จริงมันเปนหัวใจของการปฏิบัติเลยนะ มีครั้งนึง BBC ของ อังกฤษไปถายทำสารคดีที่วัดหนอง ปาพง เขาสัมภาษณ หลวงพอชาวา เปาหมายของการปฏิบัติคืออะไร? ทานตอบ วา “เปาหมายของการปฏิบัติคือการปลอยวาง” ก็ฟงงายดี แตมันทำยาก ปลอยวางทุกอยาง ปลอยวางแมกระทั่งความ ดี(หัวเราะ) คะ ถาเราไปยึดความดีไวมันก็ยังไมปลอดภัย มันตองไปใหถึง ตรงนัน้ นะถึงจะมีความสุขทีส่ ดุ ถาลำพังจะไปชวยสังคมแบบที่ เขาทำกัน มันก็ชวยไดอยู แตวา มันไมถึงทีส่ ดุ มันก็ยังเปนทุกข ไปเรื่อยๆแหละ อยางคนเห็นแกตัวมันก็มีอยูตลอด หนีไมพน หรอก มันก็จะเปนทุกขไปเรื่อยๆ ก็ตองอาศัยเรื่องนี้ พอพูดถึง
บนภูเขา
45
หวาน :
ภิกษุ หวาน ภิกษุ หวาน
: : : :
สังคมก็นึกขึ้นมาไดเรื่องหนึ่ง เห็นดวยไหมวาโลกของเรากำลัง ดำเนินไปสูความเสื่อม? (หัวเราะ) เคยไปฟงคนนึงเขาพรีเซนต ในงานที่ชื่อ Pecha Kucha เมื่อ ประมาณ ๒ ปที่แลว ใครมีไอเดียสรางสรรคหรือมีความคิด ดีๆ เขาใหเวลาประมาณเจ็ดนาทีขึ้นมานำเสนออะไรอยาง นี้ ซึ่งทุกคนก็จะโชวไอเดียตางๆ มีผูชายคนหนึ่งเขามาพูด เกี่ยวกับเรื่องการเปลี่ยนผานยุค เคาพูดเร็วมากจำไมคอยได แลว เคาใหเราสังเกตวาชวงเวลาของการเปลีย่ นผานยุคมันจะ มีความถี่ที่กระชั้นขึ้น การเปลี่ยนแปลงมันจะเร็วขึ้นเรื่อยๆ คลายเลขยกกำลัง เชน การเปลี่ยนผานจากยุคเกษตรกรรม มาสูยุคอุตสาหกรรม มาจนถึงยุคนี้(ไอที) ชวงระยะเวลาของ การเปลีย่ นผานจะสัน้ ลงๆ แตจะรวดเร็วและทวีความรุนแรงขึน้ เรื่อยๆ แลวคนก็ยังมีความทุกข อยางมหันตภัยอะไรตางๆ โรคติดตอ ภัยธรรมชาตินะคะ มันก็รายแรงขึ้นเรื่อยๆ แลว สุดทายเขาก็พูดถึงยุคในอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้น มันไมรูเปน คำทำนายของใคร ในอีกไมกีป่ ขางหนา เหมือนกับวาธรรมชาติ จะมาลาง จนคนในโลกตายไปสามสวนสีอะไร ่ อยางนี้ แลวมัน ก็จะเกิดยุคใหมทีเขา ่ เรียกวายุคอะไรไมรู แตวา คนจะมาสนใจ เรื่องหลักธรรม ความจริงสูงสุด ยุคที่เนนไปทางดานจิตใจ มากกวาความเจริญทางวัตถุ แลวเขาก็ไปพูดถึงพุทธศาสนา คือฟงแลวเปนการบิวดอารมณไดดีมาก นาสนใจมาก เขาบอกวาเปนธรรมชาติใชไหมที่จะมาทำลาย? ใชคะ เปนธรรมชาติ ไมใชหุนยนตนะ(หัวเราะ) ไมใช Transformers (หัวเราะ)
46 เสียงฝน
ภิกษุ : ไมใช Terminator (หัวเราะ) หวาน : หลวงพี่วายังไงละคะ? ภิกษุ : คื อ เขา เห็ น ด ว ย ใช ไ หม ว า โลก มั น กำลั ง ดำเนิ น ไปสู ความ เสื่อม? หวาน : คือการเปลีย่ นผานยุคมันจะเร็วเปนความเรงขึน้ ไปเรือ่ ยๆ แลวก็ มันจะเสื่อมลงเรื่อยๆ นะคะ ภิกษุ : แลวเขาเสนอวิธีแกปญหายังไง? หวาน : เขาไมไดเสนอวิธีแก แตวาเปนแคคำทำนาย การคาดการณ วายุคหนามันจะเปนยุคที่เนนจิตใจมากๆ เพราะวาวัตถุมัน ไปขีดสุดแลวมันเสื่อมมาก คนก็จะมาสนใจเรื่องจิตใจอะไร อยางนี้ ภิกษุ : อันนี้คนไทยเหรอ? หวาน : ใช เขาพูดเร็วมากเพราะวาเวลามันนอยมาก ภิกษุ : พระอาจารยทานเคยเลาใหฟงวา ตอนเปนเด็กทานไปเลี้ยง ควาย คือทานเปนคนอีสาน ทานจะติดหนังสือพุทธทำนายไป อานดวย ก็คลายๆ กับทีเขา ่ พูดนีแ่ หละวาในอนาคตโลกมันจะ เสื่อม ทานก็วามันเหมือนนิทาน เราตายไปแลวก็ไมรูวามันจะ เกิดขึน้ หรือเปลา แตทานก็ดูมาเรือ่ ยๆ ตอนนีท้ านบวชมาเกือบ สี่สิบพรรษา อายุหาสิบปลายๆ แลว ทานบอกวาสิ่งที่เกิดขึ้น ในโลกทุกวันนี้มันเหมือนในพุทธทำนาย เรื่องทีไม ่ คิดวาจะได เห็นก็ไดเห็น จนทานอัศจรรยใจวามันเปนไปขนาดนั้นไดยังไง หวาน : คือเขาบอกวาเดี๋ยวนี้คนเวลาตาย จะเนนตายดวยกันเยอะๆ แบบมหาศาล ฮิตมาก ภิกษุ : อาตมาก็ไมคอยไดศึกษาพุทธทำนายนะ แตอาตมาเห็นวา ไมวาเราจะหาวิธีการมาชวยโลกยังไง โลกมันก็ยังดำเนินไปสู บนภูเขา
47
หวาน : ภิกษุ :
หวาน : ภิกษุ :
หวาน : ภิกษุ :
ความเสื่อมอยูดี แลวเราจะทำยังไง? ในเมื่อโลกมันกำลัง ดำเนินไปสูความพินาศ เจหวานวายังไง? โอโห! ซีเรียส วิธกี ารมันก็ไมยากนะ คือไหนๆ โลกมันก็จะเสือ่ มอยูแล ว ทำไม เราไมมาดูแลตัวเองละ ทำไมเราไมมาทำที่พึ่งใหกับตัวเองให เราอยูเปนสุขไดแมวาโลกมันจะพินาศ ถึงแมวาเราจะมีชีวิต อยูถึงตรงนั้นหรือไมถึงก็ตาม ถาเรามีที่พึ่งใหกับตัวเองมันก็ อยูสบายแลว ที่จริงเหตุที่มันพินาศมันก็ไมไดมาจากไหนไกล นะ มันก็มาจากจิตใจนี่แหละ ปญหาสิ่งแวดลอมมันก็มาจาก จิตใจของคนนี่แหละ มีด็อกเตอรคนหนึ่งที่กรุงเทพฯ เขาทำ วิจัยเรื่องการแกปญหาสิ่งแวดลอมมา ๒๐ ป คือทดลองหา วิธีการทุกอยางเพื่อที่จะแกปญหาสิ่งแวดลอม สุดทายก็มา สรุปลงที่วาตองปลูกฝงสติและสัมมาทิฐิใหเกิดในเยาวชน จึง จะแกปญหาสิ่งแวดลอมได ในแงของการเขาไปมีสวนรวมทางสังคมก็อาจจะทำใหมัน เสื่อมชาลงได แตวาในแงของตัวเองก็ตองฝกความคิดใหมัน ทุกขนอยลงกับสถานการณที่มันเกิดขึ้น แตกระแสสังคมทุกวันนี้ เขาก็ไมคอ ยไดมามองกันในลักษณะ ที่วา เราตองมาทำที่พึ่งใหกับตัวเอง กอนหนานี้อาตมาอาน หนังสือ Consumer Dialogue เปนเรื่องเกี่ยวกับสิทธิของ ผูบริโภค ก็เลือกอานบางหัวขอ พอไดอานแลวก็คิดวา นี่เปน หนังสือที่รวบรวมตัวอยางความโลภของคนทั่วโลกเลยนะนี่ (หัวเราะ) อยางเชนบริษัทยาในอเมริกา เขาจะหาวิธให ี นักการเมืองออก เสียงสนับสนุนกฎหมายทีเขี ่ ยนขึน้ เพือ่ เอือ้ ประโยชนใหกับการ
48 เสียงฝน
ทำธุรกิจของบริษัท มันหมายถึงวาเขาสามารถกำหนดราคา ยาใหมีราคาแพงเทาไหรก็ได และคนก็ตองกัดฟนซื้อเพราะ มันเปนปจจัยพื้นฐาน เมื่อกฎหมายผานการพิจารณาแลว นัก การเมืองพวกนีก็้ ลาออกจากตำแหนง แลวเขาไปเปนผูบริหาร ระดับสูงในบริษัทยา มีนักการเมืองคนหนึ่งเขาใหเหตุผลวา กอนหนานี้เขาปวยเรื้อรัง จนกระทั่งบริษัทยาแหงนี้ผลิตยา เพื่อรักษาเขาจนหาย ภรรยาของเขาบอกวาบริษัทยาแหงนี้ มีบุญคุณกับคุณมาก คุณควรทำอะไรเพื่อตอบแทนเขาบาง นี่เปนเหตุผลที่เขาลาออกจากตำแหนงทางการเมือง มันจะ มีตัวอยางแบบนี้เยอะมากในหนังสือเลมนั้น อาตมาเลาเรื่อง นี้ใหฟงเพราะมันแสดงใหเห็นวา ที่โลกกำลังดำเนินไปสูความ เสื่อมก็เพราะอยางนี้ คำพูดของหลวงพอชานาจะเปนขอสรุป ตรงนี้ไดดี “คนมีความรูแตไมมีคุณธรรม ทำใหโลกวุนวาย / คนมีคุณธรรมแตไมมีความรู ทำใหโลกสงบ / คนมีทั้งความรู และคุณธรรม ทำใหโลกสวางไสว” หวาน : คะ ภิกษุ : คือโลกมันจะเสือ่ มก็เพราะอยางนีนะ ้ ไมใชอยางอืน่ ปญหาเรือ่ ง สิง่ แวดลอมมันก็มาจากความโลภของคนนีแ่ หละ แลวคนพวก นีเขา ้ ทำไดแนบเนียน คือก็เห็นอยูว าเขาทำผิดแตมันไปเอาผิด กับเขาไมได แลวสังคมของเราก็สรรเสริญคนที่ทำความผิด แตสามารถรอดพนเงื้อมมือกฎหมายไปได(แตไมอาจรอดพน กฎแหงกรรม--มาคิดไดทีหลัง) อันนี้หลวงพอปยุต(พระพรหม คุณาภรณ)ทานก็พูดอยูวา บานเรานี่ไมตองอะไรมากหรอก มงคล ๓๘ ประการปฏิบัติไดแคสามขอก็เจริญแลว คือการ ไมคบคนพาล การคบบัณฑิต การบูชาบุคคลที่ควรบูชา แต บนภูเขา
49
สังคมของเรามันเปนตรงกันขาม เราสรรเสริญคนพาล สวน คนทีเป ่ นคนดีเราก็ไมไดสนับสนุนเขา เขาก็ไมมกำลั ี งทีออกมา ่ ทำประโยชนใหสวนรวม เมือ่ วานนีท้ านพระอาจารยไปประชุม พระสังฆาธิการในเมือง ในที่ประชุมเขาก็พูดถึงประเด็นนี้ เหมือนกันวา คนที่เปนผูใหญในบานเมืองไมไดใหความ สำคัญกับพุทธศาสนา ซึ่งเจหวานก็เห็นอยูแลววา เมืองไทย มีพุทธศาสนาเปนสวนที่เดนกวาที่อื่นทั่วโลก พุทธศาสนา มีหลักการที่สามารถนำมาใชแกปญหาได แตวามันไมมี คนสนใจ คนทีมี่ หนาทีบริ ่ หารเขาไมไดสนใจ เขาไมไดเอาใจใส วิธีการแกปญหามันก็มีอยู หลวงพอปยุตทานก็พูดไวหมด แหละ วิธแก ี ปญ หาในสังคมไทย สังคมโลก วิธแก ี ปญ หาปญหา สิ่งแวดลอม หรือแมแตปญหาการเมือง ทานก็ยังใหความเห็น ไว แตไมมีคนสนใจจะเอาไปทำ เพราะฉะนั้นโลกมันก็ดำเนิน ไปสูความพินาศ(หัวเราะ)...อยูแลว
50 เสียงฝน
บนภูเขา
51
นั่งอยูหนาจอคอมพิวเตอรก็ปฏิบัติธรรมได
52 เสียงฝน
บนภูเขา
53
หวาน : ที ่ สนใจ อั น หนึ ่ ง แล ว รู ส ึ ก ว า แตกต า ง ทุ ก ศาสนา สอนให ทำความดี ละเวนความชั่ว แตพุทธศาสนามีแถมเรื่องหนึ่งที่ เนนใหเดนขึ้นมา คือการใหทำใจใหบริสุทธิ์ เปนสิ่งที่เราสนใจ มากที่สุด อยากใหชวยขยายวาทำไมถึงมีขอนี้ ทำไมถึงตอง ทำใจใหบริสุทธิ์? ภิกษุ : ครูบาอาจารยทานเปรียบเทียบวา ความดีเหมือนกับทอง คือ ทองเราเห็นวาเปนของดีเปนของมีคามีราคา แตถาเราแบกทอง สักเขงหนึง่ เดินไปเรือ่ ยๆ เราจะรูส กึ ยังไง? มันก็หนักเหมือนกัน ก็ตองวาง แตการจะวางของทีเรา ่ สำคัญวามันมีราคามันก็ยาก เหมือนกัน หวาน : อีกอยางทีสนใจ ่ เพราะความเปดกวาง หลักธรรมก็เรียบงายเปน เหตุเปนผล อยาเพิ่งเชื่อนะ จนกวาจะไดลองพิจารณาดวยตน เองดูกอน ซึ่งดูใจกวางดีอะคะ ภิกษุ : แลวจะไปหาไดทีไ่ หน พอเทศนจบแลวบอกคนทีกำลั ่ งนัง่ ฟงอยู วา ทีพู่ ดไปเมือ่ กีอย ้ าพึง่ เชือ่ นะ ใหเอาไปพิจารณาดูกอ น ใหมัน เห็นชัดเจนกับตัวเองกอนแลวจึงเชื่อ 54 เสียงฝน
หวาน : คนโดยทัว่ ไปไมวา จะประกาศอะไรก็ตาม ก็อยากใหคนอืน่ เชือ่ อยูแลว ภิกษุ : ใช บางทีคนอื่นเชื่อไมเหมือนตัวเองก็ไปฆาเขาไปทำรายเขา ตองทำใหทุกคนเชื่ออยางเดียวกัน หวาน : อีกคำถามนึง ถาเราไมมีโอกาสอยูในที่ๆ มีความวิเวก เปน ธรรมชาติ หรือสถานทีๆ่ ทำใหจิตสงบ พูดในแงของคนธรรมดา ทีอาศั ่ ยอยูใน เมืองทีค่ อนขางวุน วาย ถาอยากจะมีจิตผองใสได ตลอดเวลาตองทำตัวยังไงคะ? ภิกษุ : เวลาไป Retreat หรือเขาคอรสอบรมกรรมฐาน วันสุดทายทาน พระอาจารยจะย้ำเรื่องนี้อยูเสมอวา ที่เรามาเขา Retreat นีก็่ เหมือนมาฝกซอม พอจบคอรสแลวเมื่อเรากลับไปบานหรือ ทีท่ ำงาน ก็ใหเอาสิง่ ทีเรา ่ ฝกซอมในชวงเขา Retreat ไปใช อยูท ่ี บานหรือที่ทำงานก็ปฏิบัติธรรมได อยูหนาจอคอมพิวเตอรก็ ปฏิบัติธรรมได หวาน : สงสัยเรื่องนีเหมื ้ อนกันคะ ยังไมคอยเขาใจเทาไหร ภิกษุ : ตอนนัน้ อาตมาฟงแลวก็เขาใจอยูนะ แตวา มันยังไมเห็นชัดเจน กับตัวเอง มาเขาใจจริงๆ ก็ตอนที่มาทำหนังสือนี่แหละ ขณะ กำลังใชคอมพิวเตอร อยูดีๆ มันก็คิดขึ้นมาวา นี่เราจะทำไป ทำไม? คือมันนึกเปรียบเทียบกับชวงกอนที่จะทำหนังสือเรา เคยอยูสงบๆ มีความสุขตามประสาพระ ทำไมจะตองมาวุน วาย กับเรื่องพวกนี้ดวย ตองติดตอประสานงานกับคนมากหนา หลายตา บางทีก็ไมลงรอยกัน พอคิดอยางนั้นมันก็เศราหมอง ขึน้ มาทันที จะเลิกก็ไมไดเพราะบอกญาติโยมเขาไปแลว แตถา ฝนทำตอไปในสภาพจิตแบบนี้มันก็เปนทุกข ก็เลยคิดใหมวา ขอใหคนทีอ่ านหนังสือของเรามีความสุข พอคิดไดยังงีจิ้ ตมันก็ บนภูเขา
55
หวาน : ภิกษุ :
หวาน : ภิกษุ :
หวาน : ภิกษุ :
พลิกทันทีเลย พอความเมตตาเขามาแทนที่ ความทุกขตรงนั้น มันก็หายไป จึงเขาใจตามที่พระอาจารยทานบอก การปฏิบัติ ธรรมก็คือการแกไขจิตของเราในขณะที่ประสบกับอารมณ ไมใชการเดินจงกรมนั่งสมาธิอยางเดียว? ใช แตวาถาคนใหมมันก็ตองปลีกออกมากอน ก็ตองมาฝกให มีกำลังกอน คือถาไมไดฝกมากอนแลวไปประสบกับอารมณ ตรงนั้นมันจะเอาอุบายอะไรมาแกไข เหมือนนักมวยที่ขึ้นเวที ทั้งที่ไมเคยซอม มันก็โดนน็อคเอางายๆ การอยูในที่สงบมันก็ เห็นจิตของตัวเองไดชัดเจนกวาอยูในที วุ่ นวาย คือสิ่งแวดลอม มันเอื้ออำนวย อันนี้หมายถึงสิ่งแวดลอมที่เปนบุคคลดวยนะ สังเกตหรือเปลาวานิสัยของเรากับเพื่อนจะถายทอดกันไปมา (หัวเราะ) ซึมซับกันและกัน อยางเพื่อนอยูกลุมเดียวกัน ก็จะ มีจังหวะการพูดจาคลายๆ กัน การอยูใกลครูบาอาจารยมันก็มีสวนชวยไดมาก อยูใกลคน ที่สงบเราก็พลอยสงบไปดวย คือเราก็รับนิสัยของทานมา โดยไมรตู วั เพือ่ นเรามันจะมีอะไรละ มันก็พอๆ กับเรา(หัวเราะ) การคบคนที่มีคุณธรรมสูงกวาจิตใจของเรามันก็กระเตื้องขึ้น การมาอยูวัดนี่มันดีที่สุดแลว มันไดมาเจอคนที่มีเปาหมาย เดียวกันกับเรา มีความสนใจแบบเดียวกันกับเรา ใช แลวความสนใจอันนี้มันก็เปนไปเพื่อความไมเบียดเบียน เปนไปเพื่อความสุขสงบ อาตมาก็ยังเคยเขียนไวในหนังสืออยู วา การไดอยูในสถานที่สงบ การไดใชชีวิตในชุมชนที่มีความ ปรารถนาดีตอกัน การมีกัลยาณมิตร เปนชีวิตที่นาอิจฉา (หัวเราะ) หรือวาไง?
56 เสียงฝน
หวาน : ก็เห็นดวยคะ ภิกษุ : แตวา มันก็ยังไมจบแคนน้ั นะ มันเปนแคเบือ้ งตน คราวนีถ้ าเรา เกิดความทุกขขึน้ มาก็แสดงวา ความเห็นของเรามันไมถูกแลว มันไมใชมาจากคนอืน่ แลว เพราะมันพรอมทุกอยางแลว ถายัง เกิดความทุกขขึน้ มาแสดงวาความเห็นของเรามันผิด ก็ตองใช ธรรมะมาแกไข แตมันยากนะ บอกไวกอน อยางพระที่มาบวช นี่อาตมาแทบจะพูดไดเลยวา ไมมีใครไมเคยรองไห หวาน : พระก็มีความทุกขของพระอยางนี้หรือเปลาคะ? มีความ ลำบาก ภิกษุ : สำหรับอาตมาก็คือ เรารูอยูวาความเห็นผิดหรือกิเลสอันนี้มัน ทำใหเราเปนทุกขเจียนตาย แตเราเอาชนะมันไมได เพราะ กำลังเรายังไมพอ มันก็ทำใหเราเปนทุกขอยูเรื อ่ ยๆ มันก็จะรูส กึ แบบ...(หัวเราะ) คับแคน เอะ! ทำไมเราทำไมไดสักที ทั้งที่เห็น อยูตอหนาวามันทำใหเราเปนทุกข ทำไมเรายังละมันไมได ก็ ตองอาศัยความอดทน อาตมาประทับใจที่หลวงพอชาทาน บอกวา “นานดีนะมันดี ดีแลวมันดีนาน” หวาน : การตัดกิเลสนี่... ภิกษุ : มันตองคอยๆ ทำ เพราะนิสัยของเรามันสั่งสมมานาน มีเรื่อง นึงนึกขึ้นมาได อาตมากลับไปเยี่ยมบาน หลานสาวอายุขวบ นึงกำลังนั่งดูทีวีอยูกับพอของเขา อาตมาก็นั่งใชคอมพิวเตอร อยูใกลๆ ก็นั่งหันหลังใหเขา เขากำลังดูการตูนเรื่อง Thomas & Friends กันอยู เคยดูไหม? หวาน : ออ! รถไฟ ภิกษุ : (หัวเราะ)ใช รถไฟ แสดงวาเคยดู(หัวเราะ) พอดูไปสักพัก หลานสาวเคาก็รองไห ก็รองอยูตั้งนาน อาตมาก็สงสัยวาเคา บนภูเขา
57
หวาน : ภิกษุ :
หวาน : ภิกษุ : หวาน : ภิกษุ : หวาน : ภิกษุ :
เปนอะไร ก็เลยถามพอของเขา โยมนองชายของอาตมาก็ บอกวา มันมีตอนที่เคาไมถูกใจ (หัวเราะตัวโยน) (หัวเราะ)มันมีบางตอนที่ Thomas โดนแกลง หรือวาบางตัวที่ ทำหนาบึ้งชื่อ Gordon หรืออะไรสักอยางโผลมา เคาไมชอบ นี่พึ่งขวบเดียวนะ ยังพูดไมได(หัวเราะ) เคาก็รองไหแลวชี้ไป ที่ทีวี อาตมาก็มาพิจารณาทีหลังวา ความยินดียินรายความ ชอบใจไมชอบใจ มันสั่งสมมาตั้งแตเรายังไมประสีประสา ก็ ลองคิดดูวากี่ป เจหวานนี่อายุเทาไหร พึ่งจะรูสึกตัววาตอง ปฏิบัติธรรม อาตมาบวชตอน ๒๐ กวาๆ บวชมาสิบกวาป นียั่ งไมไดครึง่ นึงของทีเรา ่ สัง่ สมมาเลย ก็คิดดูวามันมากขนาด ไหน แถมพอมาปฏิบัติแลวมันก็ยังเพลอพอกพูนของเกาเพิ่ม เขาไปอีก ถาพูดใหคนที่อยูวัดฟงจะเขาใจ วาจริงๆแลวมัน สัง่ สมมากอนหนานัน้ กอนทีเรา ่ จะเกิดดวยซ้ำ แตเราไมรแค ู นน้ั เอง มันนานมาก แลวถาเราปรับเปลี่ยนตอนนี้ ชาติหนามันจะนอยลงไหมคะ? ก็แนอยูแล ว ถาทำถูกวิธนะ ี เหมือนทีครู ่ บาอาจารยทานอุปมา วา เราตักน้ำในตุมออกไปเรื่อยๆไมหยุด ถาไมเอาน้ำใสเพิ่ม เขาไปอีก วันใดวันหนึ่งมันก็ตองหมด ก็ยังมีเวลาเปลี่ยนอีกหลายชาติ(หัวเราะ) ถือวามีเวลาเยอะ ก็เยอะอยู แตวา...คืออาตมาเคยคิดอยางนี้ เจหวานมีพี่นองกี่ คน? มีพี่ชายสองคน นอง?
58 เสียงฝน
หวาน ภิกษุ หวาน ภิกษุ
: : : :
ไมมี พอแมยังอยู ? ยังอยู อาตมามีนองสามคน พอแมก็ยังอยู รวมเปนหา คือตอนนี้ อาตมาไมแนใจวา ถามีคนใดคนหนึ่งจากโลกนีไป ้ อาตมาจะ ทำใจไดไหม นี่อาตมาบวชมาสิบกวาปนะ(หัวเราะ) ยังรับรอง ตัวเองไมไดเลยวาจะทำใจไดแคไหน แตมันก็มีอุบายพอจะ ชวยบรรเทาอยู แตวาถาจะไมใหเสียใจเลยคงเปนไปไมได เผลอๆ จะรองไหดวยถาสิ่งนี้มันเกิดขึ้น ซึ่งมันตองเกิดอยูแลว หวาน : ใช (น้ำเสียงแผวลง) ภิกษุ : มันตองเกิดอยูแลวไมวันใดก็วันหนึ่ง แตก็ไมแนเราอาจจะ ไปกอนก็ได คือหาคนอยางนี้ ในชาตินี้อาตมาตองเศราโศก เสียใจอยางนอยหาครั้ง เฉพาะชาตินี้นะ อาตมาตองรองไห อยางนอยหาครั้ง แลวถาชาติหนาเราตองมาเกิดอีก มีพอแม พี่นองอีก เราก็ตองทุกขแบบนี้อีก ก็ตองรองไหอีก คือถาใคร บอกวาทนไหวจะรอทำชาติตอๆ ไปก็แลวแตเขา แตอาตมา ทนไมไหว อาตมาจะรีบทำกอนดีกวา อาตมาคิดอยางนี้นะ มีอยูครั้งนึง อันนี้ฟงจากเทศนของหลวงพอชา คือโยมแมของ ทานมาบวชเปนแมชีที่วัดหนองปาพง ทานก็ดูแลโยมแมชี ไป เทศนใหฟงบางเปนครัง้ คราว อยูมา วันนึงก็มีคนมากราบเรียน ทานวา แมชีเสียแลว ทานก็ดูจิตของตัวเอง แลวก็เห็นวามัน ไมมีหนาไมมีหลัง นึกออกไหม? แสดงวาจิตของทานยอมรับ แลววาอันนี้มันเปนเรื่องธรรมดา สิ่งทั้งหลายเกิดขึ้น ตั้งอยู ดับ ไปเปนธรรมดา ธาตุสี่ ดินน้ำลมไฟ แตกสลายไปเปนธรรมดา
บนภูเขา
59
หวาน : ภิกษุ :
หวาน : ภิกษุ :
หวาน : ภิกษุ :
คือจิตของทานยอมรับแลว แลวเราจะตองใชเวลาอีกนาน แคไหน กวาจะทำใหจิตของเรายอมรับไดขนาดนั้น มันไมใชเหมือนเย็นชาหรือไรความรูสึกอะไรอยางนั้น มันไมใชเย็นชา ก็แมนะ ใครจะไปเย็นชาไดขนาดนั้น แลว มันแปลกอยูอยางนึงสำหรับคนที่มาปฏิบัติธรรม อยางพระนี่ เทาที่ถามๆ กันดู ความรูสึกแรกๆ ที่เกิดขึ้นคือคิดถึงแม เกิด ความกตัญูตอแม เหมือนผูห ญิงทีคลอด ่ ลูกคนแรกแลวคิดถึง แม อาตมาวาคนที่จะซาบซึ้งในบุญคุณของแมไดดีที่สุดมีอยู สองคน คือคนที่มาบวชกับคนที่มีลูก ก็คงเปนสิ่งที่ตองเริ่มฝกแลว...สะสม คืออยางนอยมันก็ตองใหทุกขนอยลง ใหจำนวนครั้งที่ตอง รองไหมันลดลง อันนี้พูดในแงของพุทธศาสนานะ มันก็ไมแน วาเราจะไดมาเกิดเปนคน ถึงเกิดเปนคนแลวก็ไมแนวาจะได พบพระพุทธศาสนาหรือเปลา ก็ยังไมรูวาจะหลงไปทางไหน เมื่อมาเจอพระพุทธศาสนาแลวก็ยังมีอีกหลายแบบ มีแบบ ธิเบต แบบมหายาน แบบเถรวาท แมแตเถรวาทในเมืองไทย ก็ยังมีอีกหลายแบบ ก็ยังไมรูวาจะไปตกอยูตรงไหน การที่เรา ไดมาเจอแนวทางที่ถูกตองมันก็เปนเรื่องนา... นายินดี นาควาเอาไว ตองรีบควาเอาไว
60 เสียงฝน
บนภูเขา
61
ความสุขที่เรามีอยูทุกวันนี้มันมีเพดาน
62 เสียงฝน
บนภูเขา
63
ภิกษุ : ประมาณพรรษาที่ ๖ อาตมาลงไปหาประสบการณทางภาคใต ไปพักที่สำนักสาขาของวัดหนองปาพงที่สงขลา ทีแรกกะวา จะนั่งเรือขามไปเกาะที่ไหนสักแหง แตมีเหตุใหไมไดไป ก็เลย แวะไปเยี่ยมโยมเพื่อนสมัยเรียนเชียงใหม เขาอยูกันที่ภูเก็ต มีอยู ๓-๔ คน ทำรานอาหารแลวก็ราน Reproduction อยูใกล ๆ กัน ก็นั่งคุยกันตามประสาเพื่อนเกา เขาก็เห็นเหมือนกันนะวา ความสุขที่เรามีอยูทุกวันนี้มันมีเพดาน คือไมวาเราจะดูหนัง ฟงเพลงมีคุณภาพไดรางวัลหรือดีเลิศขนาดไหน ความสุขมัน ก็แคนี้ มันจะไมเกินเพดานนี้ไปอีกแลว หวาน : คือมันไมไดขึ้นอยูกับวา สิ่งที่เราไดมาหรือสิ่งที่เรามีนะคะ หมายถึงวาคนที่มีมากกวาก็ไมไดแปลวามีความสุขมากกวา คนที่มีนอยอะไรอยางนี้ มันไมไดอยูที่สิ่งที่เราไดมา แตอยูที่ ความรูส กึ ของเรามากกวา ใช...ความสุขสุดๆมันก็มีเพดานของ มัน คือตอใหไปเจอประสบการณความสุขขนาดไหน พอเต็มที่ สักพักมันก็จะลดลงๆ แลวก็หมดไป ก็ตองรอจนกวาจะมีความ สุขใหมๆ เขามาอีก 64 เสียงฝน
ภิกษุ : อันนี้หมายถึงความสุขที่เปนทางโลก หวาน : คิดวาเปนความสุขที่ไดรับสิ่งที่ตัวเองปรารถนา ความพอใจ ความเพลิดเพลินอะไรอยางนี้ พอมันไปถึงที่สุดตรงนั้นแลว มันก็คอยๆลดลง แลวก็อยากมีความสุขใหมๆ เรื่องราวใหมๆ เขามาอีก ภิกษุ : แลวก็ลดลงอีก(หัวเราะ) หวาน : แลวก็ลดลงอีก แลวก็ถาเจอความสุขแบบเดิมซ้ำๆ อยางเชน กินอันนีครั ้ ง้ แรกอรอยสุดๆ พอไปกินครัง้ ทีส่ องมันอรอยนอยลง หรือวากินทุกวันก็จะเบื่อไปเลยอะไรอยางนี้ คือมันก็จะงงวา ทำไมความรูสึกตอสิ่งเดิมมันไมเหมือนเดิมอีกแลว ทั้งที่ทำไม เรากินครัง้ แรกมันอรอยเด็ดขนาดนี้ จนเราตองกระเสือกกระสน ไปกินอีก ภิกษุ : แตไอศกรีม iberry อาตมายังไมเบื่อนะ (หัวเราะ--เจหวาน มีงานประจำคือทำการตลาดใหกับ iberry และเคยเอาไอศกรีม ของ iberry มาถวายพระที่วัด) หวาน : หรือเพลงที่ชอบมากๆ ลองเปดฟงทุกวัน เปนเดือนเปนป ก็เริ่ม เปนความหลอนอะไรอยางนี้ ทำไมสิ่งเดียวกัน ความรับรูของ เราไมเหมือนเดิม พอไดรับมันเทาเดิมมันก็นอยลงไปเรื่อยๆ มันก็เปนเรื่องที่แปลกเกี่ยวกับความรูสึกที่เปนความสุขนะคะ ภิกษุ : แตมันก็เปนประโยชนสำหรับคนทำเพลงนะ จะไดมีอัลบั้ม ใหมๆออกมา(หัวเราะรวน) เพราะคนฟงเบื่ออัลบั้มเดิมแลว อาตมาเคยอานเจอตอนสอบนักธรรมวา ความสุขของคฤหัสถ มี ๔ อยางคือ สุขเกิดจากการมีทรัพย สุขเกิดจากการใชจาย ทรัพย สุขเกิดจากการไมเปนหนี้ สุขเกิดจากความประพฤติ
บนภูเขา
65
หวาน : ภิกษุ : หวาน :
ภิกษุ :
หวาน :
ที่ไมมีโทษ พอไดอานแลวก็คิดวาไมพอหรอก ความสุขแคนี้ สำหรับตัวเองแลวไมพอ(หัวเราะ) ทำไมเปนเรื่องทรัพยหมดเลย ทรัพยมันก็เปนสิ่งที่นำไปแลกเปลี่ยนสิ่งที่ตองการได ความสุขที่กลาวมาในตอนแรกนะคะ มันก็นาสงสัยวาทำไม ระดับของความสุขมันถึงลดลงไปเรื่อยๆ ถาเราเจอประสบการณที่ซ้ำ เหมือนกับวาคนเรามันมีความเบื่อหรืออะไรสัก อยาง ตองหาอะไรใหมๆ อยูตลอด อยูๆ ไปดวยกันสักพักพอ คุนๆก็เริ่มชิน เลิกตื่นเตนกลายเปนเรื่องธรรมดาๆ ไป อาตมาคิดวาเปนเพราะชีวิตดานในของเรามันพรองอยูตลอด เวลา เราก็เลยพยายามหาสิ่งมาเติมเต็ม บางคนก็คิดวาความ รักจะเติมเต็มสวนนี้ได บางคนก็เปนเรื่องของความสวยงาม พอไดดังใจเราก็เลยสรุปวามันเปนความสุข ยิ่งไปกวานั้น บางคนก็คิดทฤษฎี แบบแผนความประพฤติ หรือลัทธิอะไร ตางๆ ขึ้นมาอีก ที่บาไปกวานั้นก็คือดันมีคนบาไปกับเขาอีก แตจะเติมยังไงมันก็ไมเต็มหรอก เพราะเราเอาของที่มันตกอยู ในกฎของความเปลี่ยนแปลงไปเติม อีกอยางพอเราเห็นวาสิ่ง นี้เปนความสุข เราก็อยากใหมันตั้งอยูตลอด เพื่อที่เราจะได มีความสุขตลอดไป แตวามันตั้งอยูไม ได เพราะธรรมชาติ ของมันตองเกิดขึ้น ตั้งอยู ดับไป มันก็เลยทำใหเราเปนทุกข แลวการที่มันมีเพดานมันก็ทำใหเราคับแคนใจ ทำไมมันไป มากกวานี้ไมได พอไปไมไดมันก็ตองไปหาความสุขใหมๆนะคะ เหมือนกับวา อันนั้นมันจืดจางลงไป บางทีรูสึกวาความสุขก็แคการไดมา แคนั้นเอง อยางของที่อยากไดมากๆเชนกลองถายรูปตัวใหม
66 เสียงฝน
ภิกษุ : หวาน : ภิกษุ : หวาน : ภิกษุ :
หวาน :
หรือมือถืออันใหม พอไดมาแลว คิดวาตองทะนุถนอมรักษา อยางดีแนนอน สนใจมันมากๆ แตแคพอซือ้ มาไดแคนัน้ แหละ ความสนใจมันลดลงไปเยอะเลยนะคะ คือสรุปวาความสุข ความพอใจมันอยูท ได ่ี มาแคนน้ั เอง เหมือนของสิง่ นัน้ มันไมได มีความหมาย มันเปนแคความรูส กึ ทีได ่ มา จากนัน้ เราก็ไมคอ ย สนใจมันเทาไหร สวนใหญจะเปนยังงั้นนะคะ แตวาถาหายละ(หัวเราะ) ถาหายก็เจ็บใจ ทำไมเวลาตองการแลวทำไมไมอยูวะ ก็จะรูส กึ เห็นคุณคามากๆขึ้นมากะทันหัน หายไปไหน นี่ของๆ เรานะ ก็นั่นแหละ มันเปนธรรมชาติของสิ่งที่อยูในโลก มันเปนกับคนกับความรักอะไรยังงี้ดวย ก็วาจะพูดถึงเรือ่ งนีอยู ้ มีคนๆ หนึง่ เขาเขียนจดหมายไปปรึกษา คอลัมนตอบปญหาของนิตยสารธรรมะฉบับหนึ่ง อาตมาจำ คำตอบไมได แตรูสึกวาคอลัมนนิสตเขาจะตอบไมคอยเคลียร คนนั้นเขาถามวา เขาหมดรักในตัวภรรยาไปเฉยๆ โดยไมมี มือที่สาม เขาควรจะทำยังไง? (หัวเราะ) เออ! มันก็หมดได เหมือนกันแฮะ แลวจะทำยังไงละ มันก็นาคิดเหมือนกัน ของ มันจืดจางกันได ถาเปนเจหวานจะทำยังไง? (หัวเราะ) (หัวเราะ) ไมแนใจเหมือนกันคะ ถาเปนแคแฟนกันเฉยๆ ก็คง เลิก สงสัยสารเคมีแหงการตกหลุมรักของเคาหยุดทำงานแลว มั้ง (หัวเราะ) เคยมีแฟนคนแรก กอนเปนแฟนกันชื่นชมเรา ทุกประการ แคเรายกมือขึน้ มาเฉยๆยังบอกวานารัก คือทำอะไร ก็นารักไปหมด ตอนนั้นรูสึกวาทุกการขยับตัวของเรามีคุณคา มาก ทำอะไรก็ดูดีไปหมด พอเปนแฟนกัน ๓ เดือนผานไปก็
บนภูเขา
67
มาบอกเลิก ตำหนิกันตั้งแตหัวจรดเทา งงมาก! เหมือนใสรูป ประโยคปฏิเสธลงไปในประโยคบอกเลาทั้งหมดที่เคยบอกไว กอนหนานี้ ตอนนั้นงงวา อยูดีๆ เราก็ทุเรศขนาดนั้นเลยเหรอ ที่จำไดอันนึงมีการบอกวาเราฟนหาง ความจริงกูฟนหางมา ตัง้ นานแลวอะ (หัวเราะ) เคยไดยนิ มาวาคนเราจะอยูใน อาการ ตกหลุมรัก ลุมหลงหัวปกหัวปำกันประมาณ ๓ เดือน - ๑ ป อยางมากสุดก็ไมเกิน ๒-๓ ป หลังจากนั้นความรูสึกลุมหลง จะกลายเปนความรูสึกผูกพัน ซึ่งรางกายก็จะหลั่งสารเคมี อีกตัวออกมาแทน มันอาจจะเปนกลไกของธรรมชาติอยูแลว มั้งคะ ภิกษุ : ฟนหางก็จัดฟนไดนี่(หัวเราะ) พูดถึงความรักแลวนึกถึงเรื่อง นึง อาตมาไปพักอยูที่วัดปาแหงนึงที่โคราช พักอยูสองเดือน มีสามีภรรยาคูหนึ ง่ มาถวายอาหารเกือบทุกวัน เขาเลาใหฟงวา ลูกชายกำลังเรียนอยูชั้น ม.๓ หนีตามผูหญิงไป ไมยอมเรียน หนังสือ ผูหญิงก็เปนเพื่อนในหองเขานั่นแหละ หลายสัปดาห ตอมาเขาก็เลาใหฟงวา ตอนนี้ลูกชายกลับมาอยูบานแลว พาแฟนมาอยูดวย แตตองออกจากโรงเรียนมาชวยทำงานที่ ราน บางวันเด็กสองคนนี้เขาก็มาทำบุญ ก็เห็นผูกขอมืออะไร มา คงจะทำพิธีบายศรีสูขวัญอะไรอยางนีละ ้ มั้ง บานนี้เขาทำ รานอาหาร แตเปนรานเล็กๆ ที่ชวยกันภายในครอบครัว มี วันนึงแมไปเห็นลูกสะใภรองไหอยูในหองครัว เขาก็มาเลาให พระฟง อาตมาก็พูดกับเพื่อนๆ พระวา สงสัยเด็กพวกนี้จะดู มิวสิกวิดีโอมากเกินไป(หัวเราะ) หวาน : (หัวเราะ)
68 เสียงฝน
ภิกษุ : คือชีวติ จริงมันไมเหมือนในมิวสิกวิดีโอ เราจะฝาฟนไปดวยกัน จะเปยกปอนดวยกันอะไรอยางนี้(หัวเราะ) คือในมิวสิกวิดี โอมันเปนฝนที่เขาทำขึ้นมา แลวก็จัดแสงจัดฉาก ถายทำ เสร็จแลวก็ยังเอาไปตัดตอลำดับภาพใหมอีก แตชีวิตจริงมัน ไมสวยงามขนาดนั้น ของจริงมันเหมือนพายุเฮอริเคน ดูจาก รูปการณแลวก็คงจะเปนในลักษณะทีว่ า ผูห ญิงเขาคงจะคิดถึง สมัยที่เปนเด็กนักเรียน ซึ่งมันเปนชวงชีวิตที่สนุกสุดๆ เพราะ มันไมไดรับผิดชอบอะไรมาก ตกเย็นชวนเพือ่ นไปรานไอศกรีม มั่ง ไปหาขนมอรอยๆ กินมั่ง นั่งเมาสกับเพื่อน วันเสารอาทิตย ก็นัดกันไปเที่ยวไปดูหนัง ทำการบานบางจัดบอรดบาง เรียน บางเลนบาง สนุกไปวันๆ เพราะมันไมมีภาระอะไร พอมาเจอ อยางนี้มันเหมือนเปนอีกโลกหนึ่ง ความจริงมันไมโรแมนติก เหมือนในฝน หรืออยางระดับมหา’ลัย ก็มีนักศึกษาหลายคูที่ ออกไปเชาหออยูดวยกัน แตก็ไมคอยรอด หวาน : ยาก ภิกษุ : นอยคูที่จะรอด จนแทบจะยกเอามาเปนตัวอยางไมได หวาน : คิดวาเพศหญิงและเพศชาย โดยธรรมชาติของสองเพศนาจะ มีทั้งแรงดึงดูดใหเขาหากัน ในขณะเดียวกันก็มีแรงผลักออก จากกันดวย เชนแรงดึงดูดทางเพศทำใหดึงดูดหากัน แตนิสัย บางอยางตามธรรมชาติที่ตางพกมาจากดาวคนละดวง ซึ่ง อาจจะแตกตางกันมากๆ การปรับใหอยูดวยกันไดตลอดรอด ฝง ไมนาจะงายอะคะ
บนภูเขา
69
เคยเปนทุกขเพราะความคิดไหม?
70 เสียงฝน
บนภูเขา
71
หวาน : เมื่อกี้เราพูดถึงเรื่องความสุข มันมี Curve ขึ้นเพดานแลวก็ลง ไมถาวร แสดงวาความทุกขมันก็ไมถาวร ภิกษุ : ใช มันไมถาวร หวาน : อยางนี้เราก็ไมตองกลัววาเราจะทุกขไปตลอด บางทีเรา เปนทุกขเราก็ไมรูวาจะออกจากความทุกขยังไง ภิกษุ : ใช แตตอนทีประสบ ่ กับความทุกขมันไมเห็นแบบนีไง ้ งัน้ คนจะ ฆาตัวตายเหรอ เมื่อกอนอาตมายังนึกอยากจะไปสักไวที่แขน เลยวา “อนิจจัง” ดีไซนเกๆ หนอย สักใหมันเห็นเวลาประสบกับ ความทุกข ทำไมมันนึกไมไดวาความทุกขที่ประสบอยูตอนนี้ มันเปนของไมแนนอน มันจะผานไป อยางพระเณรที่มาอยู จำพรรษาดวยกันแลวไมถูกชะตากัน ก็ลืมนึกไปวาเดี๋ยวมันก็ ตองออกพรรษา รับกฐินเสร็จแลวก็ไปธุดงคหรือแยกยายกันไป มาอยูดวยกันเพียงชั่วครั้งชั่วคราว คือในระหวางที่ความทุกข มันเกิดขึน้ ถาเรารูไม ทนั มันก็อาจจะไปทำอะไรทีเป ่ นอันตราย หรือเกิดความเสียหาย ถารูทันตรงนี้มันก็สบายดิ หรือบางที รูทันแตไมทุกครั้งไมสม่ำเสมอ หรือรูทันอยูวามันเปนอนิจจัง 72 เสียงฝน
หวาน : ภิกษุ : หวาน : ภิกษุ :
หวาน : ภิกษุ : หวาน : ภิกษุ :
แตความทุกขมันไมหาย บางทีมันก็สลายตัวชา บางทีมันก็ สลายตัวเร็ว เพราะวามันไมไดอยูในอำนาจการควบคุมของ เรา ไอตอนที่มันสลายตัวชานี่แหละเราจะทนมันไดหรือเปลา หรือเราจะพิจารณายังไงไมใหมันเกิดอันตราย ก็ลองดูดิ พระ ที่ไมถูกชะตากันมาอยูจำพรรษาดวยกันสามเดือน อกมันจะ แตกตาย(หัวเราะ) เห็นหนากันทุกวัน ทำกิจกรรมรวมกันทุกวัน ถามันไมมีอุบายเรื่องความเมตตาหรือความไมแนนอนอะไร ยังงี้ ถาไมไดพิจารณาตรงนี้ มันก็มีเรื่องทะเลาะกัน หรือบางที ก็แหกพรรษาไปเลย แมแตพระก็เหมือนคนทั่วไป อาว! พระก็คนนี่ ก็แคเอาชุดของโยมออก แลวเอาผาสีเหลืองๆ หมเขาไป มันก็แคนั้นเอง มันก็คนเกา บางทีคิดวาพระตองเปนคนดีมากๆ ดีกวาคนธรรมดา คือเรามีเปาหมายวาจะเปนอยางนั้น แลวเราก็อยูในสังคม ที่มีเปาหมายรวมกัน คือสภาพแวดลอมมันเอื้ออำนวยตอ การบำเพ็ญคุณงามความดี สวนใครจะไปถึงเปาหมายตรงนัน้ เร็วหรือชา ก็ยกใหเปนกำลังของแตละคนไป ความสุขที่เกิดจากความสงบมันเปนลักษณะยังไงนะคะ มัน ไปไดเรื่อยๆ หรือคะ ไมขึ้นไมลง ก็...จะอธิบายยังไงดีละ คือถาคนไมไปทางโลกแตวามาอยูสงบ ดีกวา มันก็จะเปนความ สุขแตเปนคนละแบบ ก็อยากรูวาความสุขอีกแบบนึงนี่มัน ประมาณไหน? คือเอายังงีดี้ กวา เคยเปนทุกขเพราะความคิดไหม? ประเภทคิด ไมหยุดอะไรอยางนี้ บนภูเขา
73
หวาน ภิกษุ หวาน ภิกษุ
: : : :
หวาน : ภิกษุ : หวาน : ภิกษุ :
หวาน :
ภิกษุ :
เปนตลอด แลวอยากใหมันหยุดไหม? ไมรูวาตองหยุด ก็คิดไปเรื่อย ถาเราหยุดความคิดตรงนี้ได เขาไปอยูในความสงบได จะ มีความสุขไหม? อยางนอยมันไมทุกขแนนอน แลวถาเราสามารถเขาถึงความสงบตรงนั้นได ในทุกครั้งที่เรา ตองการจะดีไหม?(หัวเราะรวน) ก็ดี มันก็ไมทุรนทุราย ใชๆ ผูที่ทานชำนาญทานจะทำไดแบบนั้น อันนี้พระอาจารย ที่ทำสมาธิเกงทานเคยเปรียบเทียบไววา เหมือนเขาไปใน หองมืดๆ แลวรูว า สวิทซไฟมันอยูตรงไหน ก็คลำไปตรงนัน้ แลว กดสวิทซปุบ ไฟมันก็สวางทันที แตถาคนไมเคยฝกมันก็ตอง คลำหา(หัวเราะ) แลวก็นาน บางทีไมเจอดวย แตถาคนเคย ฝกมาบางมันก็จะพอรูว า ตำแหนงมันอยูแถวๆ นีนะ ้ ก็คลำๆ ดู อาจจะเจอก็ได ถาเราสามารถเปดปุบ ติดปบ ได มันก็เกิดความ สุข มันก็นาฝก เคยไดรับ FWD. เมลลฉบับหนึ่ง นานแลวเหมือนกัน เคาบอก วาที่อเมริกาไดมีการวิจัยถึง “บุคคลที่มีความสุขที่สุดในโลก” พบวาคือพระสงฆในพระพุทธศาสนาขณะที่กำลังนั่งสมาธิ โดยวัดจาการแสกนสมอง ในเมลลบอกวาเอามาจากบทความ ในแมกกาซีน Time นะคะ นาจะเปนคำยืนยันที่ดีใหกับ คนรุนใหม ใหมีแรงบันดาลใจหันมาดูแลจิตใจตนเองกัน มากขึ้น ตองให Time มาบอกกอนถึงจะทำกัน(หัวเราะ)
74 เสียงฝน
บนภูเขา
75
ถาเครื่องบินจะตกในอีกสิบนาทีจะนึกถึงอะไร?
76 เสียงฝน
บนภูเขา
77
ภิกษุ : มีโยมผูหญิงคนหนึ่งเขาตื่นขึ้นมากลางดึกแลวหายใจไมออก พลิกไปทางซายก็ยังหายใจไมออก พลิกไปทางขวาก็ยัง หายใจไมออก หวาน : ทำไมเขายังมีชีวิตอยู? ภิกษุ : ก็ไมรู ตอนนั้นเขาไมรูวาจะทำยังไง แตสักพักมันก็หาย เปนปรกติ เขาบอกวากลัวตายมาก เขาถามวาถามันเกิดขึ้น อีกเขาควรจะทำยังไง? ตอนที่เขาถามอาตมานึกไมออกวา จะตอบยังไง วันหลังจึงมานึกถึงตอนที่ไปจำพรรษารูปเดียว ที่จันทบุรี ในชวงนั้นมีเหตุการณโคลนถลมที่อุตรดิตถ และ บริเวณทีเป ่ นภูเขาอีกหลายจังหวัด อาตมานัง่ รถจากเชียงใหม มาชลบุรี ก็ผานบริเวณที่มีโคลนถลม เขากำลังเก็บกวาดกัน อยู ถนนหนทางเต็มไปดวยโคลน มองจากหนาตางรถทัวรเห็น รถตักดินถูกเสาไฟฟาหักทับ ปนั้นมีคนตายกันเยอะ แลวที่ จันทเรื่องพายุเรื่องฝนนี่หายหวง เขาตกกันแบบไมลืมหูลืมตา โดยเฉพาะชวงเขาพรรษา กลางคืนอาตมาจำวัดอยูในกุฏิมุง หญาหลังเล็กๆ บนภูเขา ฝนตกหนักลมแรงจนกุฏิเขยา ก็นึก 78 เสียงฝน
หวาน : ภิกษุ : หวาน : ภิกษุ :
หวาน : ภิกษุ : หวาน :
อยูวา ถาดินถลมลงมาตอนนี้จะทำยังไง? ถาตายตอนนี้จะ ทำยังไง? เราก็มานึกถึงวา เอ...เมื่อเชาเราก็ไดออกบิณฑบาต แลว ฉันภัตตาหารเสร็จเราก็ลางบาตรปดกวาดศาลาแลว เสร็จแลวเราก็ไดเดินจงกรม ไดอานหนังสือธรรมะ เย็นนี้เรา ก็ไดสวดมนตไดนั่งสมาธิแลว ก็พอแลว(หัวเราะ) ตายก็ตาย ไมเห็นเปนไร เราไดทำงานของเราแลว ไดทำความเพียรแลว พอนึกไดอยางนี้มันก็สบายขึ้นมาเลยนะ ก็มาคิดวานาจะ เลาเรื่องนี้ใหโยมคนนั้นเขาฟง ใหนึกถึงความดีที่ตัวเองเคย ทำมา แตวาถาคนไมเคยฝก ไมเคยสั่งสมมา มันจะมีความดี ใหนึกถึงหรือเปลาละ มันก็คงมีหลายอยาง เพราะมันมีสิ่งเขามากระทบในชีวิต หลากหลาย ถาสมมติเครื่องบินจะตกในอีกสิบนาที จะนึกถึงอะไร? ก็นึกถึงพอแม นึกถึง...ไมรูจะนึกถึงอะไร ก็กลัวตาย ไมอยาก ตาย ก็นัน่ นะดิ ก็คนไมไดฝกไง ถาคนเคยสัง่ สมมามันก็จะนึกถึงสิง่ ที่ เปนทีพ่ ง่ึ ใหกับตัวเอง เปนทีพ่ ง่ึ ใหแกจิตใจได แลวมันสงบดวย นึกถึงเรือ่ งนีแล ้ วมันสงบ มันไมกลัว ก็ยังไมไดเจอโยมคนนัน้ อีก ถาเจอจะเลาใหเขาฟง นากลัว แตมันเปนไปไดนะ ไมใชเปนไปไมได พุทธศาสนาชอบพูดถึงเรื่องการเตรียมตัวตาย มันเปนสิ่งที่ คนไมคอยอยากจะพูดถึง อยากมองใหเปนเรื่องไกลๆ ตัว ไมอยากจะพูดถึงมันเลย เพราะพูดแลวก็กลัว พูดแลวก็ทุกข
บนภูเขา
79
ภิกษุ :
หวาน :
ภิกษุ : หวาน ภิกษุ หวาน ภิกษุ
: : : :
ภิกษุ :
อยากจะหลีกหนีไปใหไกลๆ แตพุทธศาสนามักจะพูดถึงหรือ ใหนึกถึงสิ่งนี้เสมอๆ ก็ไมใหประมาทนั่นแหละ แลวมันเปนความจริงดวย อันนี้ก็ เพื่อใหเราเตรียมพรอม ใหจิตของเรามีแตสิ่งดีๆ สั่งสมไว พอ เกิดอะไรฉุกเฉินขึ้นมามันก็นึกถึงได มันก็มากอนแหละ อะไร ที่มันมีกำลังมากกวามันก็มากอน ไมวาจะทำอะไรก็ตามขอมูลมันอาจจะถูกบันทึกอยูในจิต ใตสำนึกอยูแลว มันไมไดหายไปไหน แลวอะไรที่เราคิด เปนประจำเชนฝกคิดดี ความคิดนั้นมันก็อาจจะมากอน ตอน ที่เกิดเหตุฉุกเฉินเราก็จะโตตอบสถานการณไดดีกวา ก็อยางทีถาม ่ เมือ่ กีว้ า ถาเครือ่ งบินจะตกในอีกสิบนาทีจะนึกถึง อะไร? มันยากนะคะ ก็ยากนะดิ มันยากที่จะสงบได แตหลวงพอชาทานทำไดนะ มีเหตุการณอันนึงตอนที่ทานนั่ง เครื่องบินไปตางประเทศ แลวสวนลอของเครื่องบินเกิดระเบิด ผูโดยสารเกือบทั้งลำรองขอใหทานชวย หลวงพอชวยดวยๆ ทานเขียนไวในบันทึกวา ตัวทานเองกำหนดจิตใหอยูในที่อัน สมควร แตพอเครื่องบินรอนลงสนามบินไดอยางปลอดภัย มีผูโ ดยสารไหวหลวงพออยูคน เดียว นอกนัน้ ไหวแอรโฮเตสกัน หมด (หัวเราะประสานเสียง) ของแบบนีมั้ นก็เปนไปได มีครัง้ นึงอาตมานัง่ ดูภาพศพเลนๆ เขา รวบรวมภาพถายคนตายหลายๆ แบบ มีภาพนึงเปนผูห ญิงตัว
80 เสียงฝน
หวาน : ภิกษุ :
หวาน : ภิกษุ :
หวาน : ภิกษุ :
อวนๆถูกรถชนแลวตัวบิดเปนเลขแปด กระเด็นขึ้นไปพาดอยู บนราวสะพาน (เบือนหนา) ดูเยอะนะ นัง่ ดูจน...คือขนาดวาพระมาอยูอย างนีบางที ้ มันก็ยัง ลืมเลยนะ ไดดูแลวก็ยังนึกอยูวา ทำไมเราไมคอยไดเห็นของ แบบนี้ คือพอดูแลวมันไมอยากทำหนังสือ ไมอยากทำอะไรเลย นะ เห็นรูปพวกนีแล ้ วมันอยากเลิกกิจกรรมทุกอยางเลย อยาก หาที่พึ่ง อยากเดินจงกรม อะไรที่มันเปนที่พึ่งใหตัวเองได นั่ง สมาธิสวดมนตฝกใจใหมันสงบนิ่งหรือยอมรับความจริงตาม ธรรมชาติ อยากทำตรงนั้นอยางเดียวเลย เตรียมตัวตายอยางนีเหรอ ้ คะ ใช เตรียมรับมือ ก็ยังนึกอยูวาทำไมพวกเราไมคอยไดดูภาพ อะไรแบบนี้ เราไมคอยไดพิจารณาอะไรแบบนี้ แมแตพระก็ ประมาทนะ แตก็อาศัยวาเรายังมีครูบาอาจารยคอยเตือนสติ บางทีทานก็พูดเล็กๆ นอยๆ อยางที่วัดหนองปาพง สายไฟที่ พาดไปมาตามที่ตางๆ ภายในวัดมันเกาแลว เราเดินไปเดิน มาก็ใหระวัง บางทีกิ่งไมมันหักลงมาโดนสายไฟขาด ถาเราไป โดนเขาไมถึงนาทีก็เสียชีวิต อยางนี้มันก็คอยนึกถึงเรื่องความ ตาย เรือ่ งมรณสติขึน้ มา ก็อาศัยวาเราอยูใน ชุมชนทีปรารภ ่ หรือ พูดถึงเรื่องนี้บอยๆ มันก็ชวยได คือมันก็ตองมีเพื่อน แตวาถา มาทางนีแล ้ วเพือ่ นแบบนัน้ จะคอยๆ หายไปเลยนะ เพือ่ นกลุม ที่ชวนไปเที่ยว คงไมขนาดนั้นมั้งคะ แตมันเปนธรรมชาติของมันเองนะ ครัง้ นึงเคยคุย msn กับโยม เพือ่ นเกาสมัยเปนนักเรียน ๒-๓ คน ออนไลนตรงกันโดยบังเอิญ บนภูเขา
81
หวาน : ภิกษุ : หวาน :
ภิกษุ :
มีเพื่อนคนนึงชวนใหเพื่อนอีกคนนึงเลี้ยงเหลา เพื่อนคนที่ถูก ชวนเขาก็ถามอาตมาวา เลีย้ งเหลาเพือ่ นมันไดบุญไหม? คือดูๆ แลวเขาคงจะไมอยากเลี้ยงนะ คือเขาพยายามหาเหตุผลที่จะ ปฏิเสธ อาตมาก็บอกเขาวาของมันไมเปนประโยชน เลี้ยงขาว ดีกวา เพือ่ นคนทีม่ าชวนใหเลีย้ งเหลาเขาก็พิมพกลับมาวา ขาว กินบอยแลว เลี้ยงเหลาดีกวา ถาเปนแบบนี้คงคุยกันไมรูเรื่อง อาตมาก็เลย Sign out คือถาเปนเพื่อนกันอยางนี้ มันก็จะชวน กันไป มันเปนธรรมชาติของมันเอง เหมือนตอนเรียนมหา’ลัย คนที่มีนิสัยแบบเดียวกันมันก็จะไปดวยกัน เกาะกลุมกัน มันเหมือนดึงดูดเขาหากันโดยธรรมชาติ ใช พอมาทางนี้แลว กลุมนั้นเราก็ไมไปยุง กลุมที่นิสัยใจคอ ไมเหมือนเรา เราก็ไมเคยไปหาเขา แตบางคนเขาก็คิดวาไหนๆ เกิดมาก็ตองตาย อยากใชชีวิตให เต็มที่ อยากทำอะไรอยางทีชอบ ่ จะดีจะเลวอะไรก็ใหมันเต็มที่ กับชีวิต ไหนๆ ก็ตองตายแลวก็ใชใหมันคุมๆ อยากทำอะไร ก็ทำ ก็ปลอยเขาไวกอน(หัวเราะ) กลุมนั้นก็ปลอยเขาไวกอน แตถา เขาไปสำนึกไดตอนบั้นปลายชีวิต มันจะกลับไปเอาคืนหรือ เรียกรองอะไรไมไดอีกแลวนะ เพราะของแบบนี้มันผานแลว ผานเลย เหมือนน้ำฝนที่ไหลลงมาจากยอดเขา
82 เสียงฝน
บนภูเขา
83
WHAT IS THE END OF A WONDERFUL WORLD?
84 เสียงฝน
ขาฯบอกกับเจหวานวา สนทนากันแลวถอดเทปออกมาตีพมิ พมันงายไปหนอย ไหนๆ ก็รักจะขีดเขียนกันแลว นาจะประลองฝมือกันดูสักตั้ง วาแลวขาฯ ก็เสนอกฎกติกา มารยาททันควัน ๑. เขียนคนละหาบรรทัด ๒. เลือกภาพประกอบที่วาดไวกอนหนานี้แลวหนึ่งภาพ (จากจำนวนกวา ๒๐ ภาพ) ๓. สงไปใหอีกฝายหนึ่งเพื่อสานตอเรื่องราวจนจบบริบูรณ
บนภูเขา
85
ฉันอยูที่นี่มานาน จนสัมผัสที่มีตอความเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ แทบจะกลายเปนสัญชาตญาณ ถาฝนมาเร็วคือในชวงตนฤดูหนาว ปนั้นจะแหงแลงเมื่อเขาสูฤดูฝน ถาฝูงนกกระรางหัวหงอกรองเซ็งแซ หรือฝูงกระรอกสงเสียงเจี๊ยวจาววิ่งพลานไปมาบนตนไม ใหเตรียมปด หนาตางหรือเก็บผาที่ตากเอาไวไดเลย เพราะไมนานนาทีนับจากนั้น ฝนหาใหญจะกรูกระหน่ำลงมา ฉันรูจักงูหลายชนิด แปลกที่ความรู พื้นๆแบบนี้ทำใหฉันรูสึกปลอดภัย บางครั้งงูก็เลื้อยขึ้นมาบนที่พักอาศัย เพียงแครูวาเปนงูไมมีพิษ เราก็เปนมิตรกันทันที แตในคืนที่ผานมา มีสิ่งหนึ่งที่ทำใหฉันประหลาดใจ เพราะมันไมไดเกิดขึ้นมานานมาก แลว...ฉันฝนเห็นคนตาย
86 เสียงฝน
เชาตรู มานหมอกปกคลุมขยายเกินกวาเขตรัว้ บาน ฉันตืน่ ขึน้ เพียงลำพัง (๒๗ นาที) กอนเวลานัดหมายกับเสียงนาิกา ซากของความรูสึกแหง ฝนกระเด็นหายไปแบบฉับพลัน เพียงแคหยิบแปรงสีฟน แปรงขึ้นแปรง ลงเบาๆ ฉันสูดหายใจรับสัมผัสสดชื่นของลมปากที่ปะปนอยูกับอากาศ ในยามเชา ฉันเพิ่งมี Blog ใหมไดไมนานนัก รูสึกสนุกที่ไดบอกเลา เรือ่ งราวของทีน่ ให ่ี กับนักเดินทางออนไลน ตอนรับทัง้ ขาจรและขาประจำ เมือ่ คืนนีฉั้ นบันทึกเรือ่ งของตนไมตน เดิม ซึง่ ผูค นรูจ กั มันตัง้ แตยังไมแทง ยอด ขนาดของมันตอนนี้สูงเทาสะดือ ฉันยองลงจากบันไดบานเพื่อไป รดน้ำใหกับมัน คืนนี้ฉันควรจะ Upload เทคนิคการตัดแตงกิ่งตนไมดี ไหม? ไมมีใครในโลกนี้รูหรอกวา ตนไมของฉันหนาตาแปลกๆ
บนภูเขา
87
หุ หุ หุ ทั้งที่คิดวาสลัดมันทิ้งไดแลว แตเสียงหัวเราะของชายลึกลับผูนั ้น ก็ยังกังวานอยูในหัวของฉัน แมขณะกำลังนั่งขยับเมาสอยูในออฟฟศ ยานทองหลอ ฉันพอจะอธิบายไดวามันเกิดขึ้นไดอยางไร ฉันพบผูชาย ลึกลับผูนี ใน ้ สวนสาธารณะแหงหนึง่ บนถนนสุขมุ วิท เปนวันทีดอก ่ ซากุระ บานสะพรั่ง ดอกลิลลี่อวดกลีบแตรงอนสีขาว ดอกกระดังงาโรยกลิ่น บางเบา แสงแดดออนโยนจนลืมไปเลยวานี่เปนแดดของกรุงเทพฯ เมื่อ เราเดินมาถึงสระน้ำใตตนไทร เขาไดมอบของสิ่งหนึ่งใหแกฉัน มันคือ เมล็ดพันธุรู ปทรงประหลาดเปลงประกายแวววาวดั่งอัญมณี เขาบอก ฉันวา แมคุณจะดูราเริงสดใสในสายตาของคนทั่วไป แตไมมีใครลวงรู ถึงความวาเหวที่กำลังกัดกินหัวใจของคุณอยางหิวกระหาย และมีเพียง ตัวคุณเองเทานั้นที่จะหยุดมันได เขาหลนคำพูดออกมาเพียงเทานี้แลว กึ่งเดินกึ่งวิ่งจากไป อนิจจา...มันยังเชาเกินไป เจาหนาที่ประจำหองสุขา ยังไมมาเปดประตู อิอิอิ 88 เสียงฝน
สงสัยวันนัน้ จะเปนวันชีวจิตแหงชาติ ถาจำไมผดิ นะ ฉันเดินเบลอๆเขาไป ในรานอาหารตามสั่ง สั่งน้ำเปลา ๑ แกว แลวขอกระดาษทิชชูเพิ่ม บิด ฝาเกลียว คอยๆพรมน้ำลงบนกระดาษทิชชูสีหมนมวงที่หอหุมเมล็ด อัญมณีบวมเปงขนาดเทาสะตอ จากนั้นฉีกหนังสือพิมพใกลมือหุมทับ อีกชั้น คลายกับการเพาะถั่วงอกเบื้องตน ขณะที่บางสวนก็หลั่งไหลไป ชุมนุมที่โรงละครอพอลโล เธียเตอร ในนครนิวยอรค ซึ่งเปนสถานที่ที่ ไมเคิลแสดงคอนเสิรตเปนครั้งแรกตอนอายุ ๙ ขวบ โดยไดรองเพลง และเตนรำไวอาลัยใหกับไมเคิล แจก…ฉันกมอานตัวอักษรในหนังสือ พิมพเกาอันเปยกชื้น ขณะทีจิ่ ตสำนึกสัมผัสถึงพลังงานบางอยางทีลอด ่ ซึมออกมาจากเมล็ดประหลาด มันมีคาเปนกลางๆไมถึงกับดี ไมถึงกับ ราย มีความสบายใจดวยตัวมันเองอยูดวย ฉันเก็บโรงเพาะชำทำเองลง กระเปากอนเดินออกจากรานไปเงียบๆ มีพนักงานวิ่งกระหืดกระหอบ ตามมาบอกวา “พี่ๆ ยังไมไดจายตังค” บนภูเขา
89
ขณะยืนอยูบนรถไฟฟา เหตุการณอันไมคาดฝนก็เกิดขึ้น เอี๊ยดดดดด ดดดดดด!! อากกกกกกกกกกกก!! รถไฟฟาเบรกกะทันหัน! พอรูตัวอีกที ฉันกำลังอยูในทา Moonwalk! ผูโดยสารทั้งหมดจับจองมาที่ฉัน ไมมีใคร สนใจถามไถถึงสาเหตุทีทำให ่ พวกเขาเซถลาไถลไปกองรวมกันอยูด านหนา ของตู มันเกิดอะไรขึ้น? มีฉันเพียงคนเดียวที่ยืนอยูฝงตรงขามกับพวกเขา บาไปกันใหญแลว นี่ตัวฉันกำลังกลับหลังหันวาดลวดลาย Moonwalk ตรงไปหาพวกเขา! ทันใดนั้นประตูรถไฟฟาก็เปดออก ฉันวิ่งพรวดพราด ออกมาจากขบวนรถในทันที เมื่อสาวเทาลงบันไดมาถึงถนน รถแท็กซี่คัน หนึ่งก็พุงเขามาจอดเทียบริมฟุตบาทพอดี ฉันเปดประตูกาวขึ้นไปนั่งหอบ ละล่ำละลักบอกจุดหมายปลายทางกับคนขับ นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ฉันถาม ตัวเองหลังจากแอรเย็นฉ่ำชวยบรรเทาอาการตื่นตระหนก พอนึกถึงเมล็ด พันธุประหลาด ขึน้ มาได ฉันจึงเปดกระเปาออกดู เมือ่ คลีห่ อกระดาษหนังสือ พิมพ สิ่งแรกที่ผิดสังเกตคือเมล็ดอัญมณีโตขึ้นถนัดตา ฉันตกใจแทบช็อค เมื่อเหลือบไปเห็นตัวหนังสือลางเลือนที่พิมพอยูบนกระดาษยับยนแผน นั้น—How to do the moonwalk?!!
90 เสียงฝน
ฉันรูส กึ ตกใจระคนดีใจ ทักษะการเตนทีเคย ่ ฝกครัง้ เยาววยั สามารถออกมา วาดลวดลายไดเองอยางสวยงาม เพิ่งรูตัววา เมื่อมีเหตุการณฉุกเฉิน เรา จะนำทวงทาเหลานี้ออกมาอวดสูสายตาประชาชีแถมใชเปนประโยชน ในการทรงตัวแบบทันทวงทีอีกตางหาก แตฉันรูสึกประหลาดใจอยูไมนอย เหมือนมีบางสิ่งสงพลังมหาศาลมาให ลีลาขึ้นเทพขนาดนีไม ้ นาจะมาจาก ฝมอื ของฉันคนเดียวเปนแน! แท็กซีก็่ พุง เขาจอดเทียบริมฟุตบาทอีกครัง้ ฉัน กระโดดลงจากรถโดยไมลืมจายตังคใหคนขับ ในมือกำเมล็ดพันธุบวมน้ำ ตรงดิ่งไปยังสวนหลังบานดวยความเรงรีบ คุณลุงที่มาขอแบงเชาพื้นที่ เปดรานกาแฟสดเล็กๆหนาบานรองเรียก แกมักจะแอบมานั่ง Chill ใน สวนหลังบานของฉันพรอมเลาเรื่องราวเรื่อยเปอยอยูเสมอ บางวันคุณลุง ก็จะชง Ice Cappuccino Low Fat Milk No Syrup มาใหฉันดวย แตวันนี้ ฉันมีเรื่องดวนในใจเกินกวาจะแชรใหใครฟง แลวจูๆประโยคคุนหูจากใคร คนหนึ่งก็แววมาจากดานหลัง……
บนภูเขา
91
“เรานัง่ อยูดี ๆความคิดเรือ่ งชีวติ ผุดขึน้ มาเอง” รางสันทัดผิวเนื้อเผือกโพลน กาวออกมาจากมุมมืด “ทองซะขึน้ ใจเลยนะเอ็ดเวิรด ” ฉันหันไปยิม้ ทักทาย เจาของเสียง เอ็ดเวิรด เดินขยับมือกรรไกรเขามาหาฉัน ถูกแลวละ เขาไมได ถือกรรไกรอยูใน มือ แตมือของเขาทำมาจากกรรไกร คุณพอยอดนักประดิษฐ ของฉันนี่ชางคิดจริงๆ แถมยังตกแตงหนาตาของเอ็ดเวิรดใหเหมือนจอหน นี่ เดปป ดาราคนโปรดของฉันอีกตางหาก ทีแรกฉันก็สงสัยเหมือนกัน วาเอ็ดเวิรดไปจำประโยคนี้มาจากไหน จนกระทั่งวันหนึ่งฉันเปดตำรา คนควาขอมูลเพื่อทำวิทยานิพนธ จึงไปพบประโยคนี้เขาโดยบังเอิญ นี่แสดงวาเอ็ดเวิรดเคยอานหนังสือ Mindfulness in Pain English หรือ ในชื่อภาษาไทยวา สติ ดวยภาษางายๆ ของ ภันเต เฮเนโพลา คุณรัตนะ พระมหาเถระชาวศรีลังกา เขาไปเอาหนังสือเลมนี้มาจากไหนนะ? ขณะที่ ฉันกำลังขบคิดหาคำตอบ กลิน่ น้ำหอมคูกาย ของเอ็ดเวิรด (Chanel No.๕) ก็กระเพือ่ มมาขัดจังหวะ ตามดวยเสียงผิวปากอันแปรงปราของเขา(เพลง I Want To Hold Your Hand ของ The Beatles)
92 เสียงฝน
เอ็ดเวิรดเปนหุนยนตประดิษฐเวอรชั่นเกากึ๊กของคุณพอ เทียบรุนไดกับ คอมพิวเตอรโปรแกรม DOS (โคตรเกาคร่ำครึ) คุณพอพยายาม Upgrade เอ็ดเวิรดใหกลายเปน Window XP อยูหลายครั้ง แตไมเคยทำไดสำเร็จ ตัวตนของเอ็ดเวิรด ไมใชแบบนัน้ เราจึงเลิกลมความพยายามในการบังคับ หรือฝนธรรมชาติของใคร แตก็นั่นแหละ! ดวยความเปนหุนยนตโบราณ เชยบรม มันคือเสนหสุดๆ เขาเปรียบเหมือนคุณลุงนักวิชาการผูรอบรูของ ฉันทีเดียว นอกจากทำสวน(อันนี้อาชีพหลัก) เอ็ดเวิรดสนใจทั้งปรัชญา ศาสนา วิทยาศาสตร ประวัติศาสตร เศรษฐศาสตรฯ รูแม กระทั่งวิธีเลี้ยงห มาหลังอาน กลไกบานผีสิงในแดนเนรมิต วิธีเลนหมากฮอรส ปทานุกรม ไทย–อังกฤษฉบับประถมสี่ ลอดชองสูตรโบราณ วิธีประดิษฐนาฬิกากุกกู กระบีกระบอง ่ เบือ้ งตนฯ เอ็ดเวิรด มักมีประโยคลอยๆปลอยออกมากระทบ ใจเราเสมอ เมื่อฉันผายมือที่กำไวออกมาใหเอ็ดเวิรดดู สิ่งไมคาดฝนก็ เกิดขึ้น! ตนไมในสวนสมุนไพรของเรา สั่นสะเทือนเปนจังหวะ Techno Dance ขึ้นพรอมๆ กัน! บนภูเขา
93
ฉันรูส กึ ไดถึงความสัน่ สะเทือนอยางรุนแรงของพืน้ ดิน ตัวบาน และเอ็ดเวิรด กอนทีฉั่ นจะเอือ้ มตีนไปเตะกานคอของเอ็ดเวิรด (มันจำเปนตองทำ เพราะ นี่เปนวิธเดี ี ยวที่จะ Shut down หุนยนตเกากึ๊กรุนนี้ได) เขาก็กระโดดขึ้นไป เกาะตนมะขามที่มีอยูเพียงตนเดียวในสวน แลวใชกรงเล็บกรรไกรตะกาย ขึ้นไปจนถึงกิ่งบนสุด ซึ่งสูงประมาณตึกสี่ชั้น ยังไมทันที่ฉันจะรองเรียก ใหพอมาชวย เอ็ดเวิรดก็พุงหลาวลงมาสูพื้นดินพรอมเสียงระเบิดดังสนั่น หวัน่ ไหว ตนกลาทีอ่ ยูใน ถุงเพาะชำลมกลิง้ ระเนระนาด คุณพอ คุณลุงและ ฉัน วิ่งไปหยุดอยูที่ปากหลุมเสนผาศูนยกลางประมาณหนึ่งเมตรในเวลา ไลเลีย่ กัน เหมือนนัดกันไว ทุกคนหยิบพลัว่ ขึน้ มาแลวลงมือโกยดินปดปาก หลุมทันที เมื่อมั่นใจวาจะไมมีสิ่งใดเล็ดลอดขึ้นมาจากหลุมได คุณพอกับ คุณลุงก็ขอตัวไปอาบน้ำ ฉันลวงกระเปากางเกงหยิบเมล็ดพันธุประหลาด ซึ่งขณะนี้มีขนาดเทาไขไกออกมา แลวฝงไวในหลุมเดียวกับเอ็ดเวิรด เมื่อ ทองฟาเกลี่ยแสงสุดทายของวัน ฉันยืนขึ้นยกมือขวาทาบไวกับหนาอก ดานซายแลวฮัมเพลง Bohemian Rhapsody ของ Queen อีกหนึ่งเพลง โปรดของเอ็ดเวิรด เพื่อไวอาลัยใหแกเขา
94 เสียงฝน
แลวฝนหาใหญก็ตกลงมาแบบไมมีปไมมีขลุย เสียงฟารองครวญคราง สั่นเครือปมจะรองไห ไลพวกเราสามคนใหวิ่งแตกกระเจิงไปคนละทิศละ ทาง คุณพอวิ่งไปเก็บผาที่ตากไว คุณลุงวิ่งไปปดประตูราน สวนฉันวิ่ง กลับขึน้ หอง ปดประตูปง! ทิง้ ตัวลงบนฟูกอยางเงียบๆ ปลอยใหเครือ่ งฟอก อากาศระบบ ๒ หัวทำงานของมันไปตามปกติ ลมหายใจเขา-ออกของฉัน ถูกสูดเขาเครื่องฟอกอากาศจากฝงหนึ่ง(ดูคลายหนาวัว) กอนจะถูกพน ออกมาเปนอากาศบริสุทธิ์จากอีกฝงหนึ่ง(ดูคลายหนาคน) กอนจะวนก ลับมาใหเราไดสูดมันเขาไปใหม วนเวียนไมจบสิ้นเหมือนความคิดของฉัน ตอนนี้ “เรานัง่ อยูดี ๆ ความคิดเรือ่ งชีวติ ผุดขึน้ มาเอง” ประโยคของเอ็ดเวิรด ยังคงลองลอยอยูใน สมองของฉัน สภาพของเอ็ดเวิรด ขณะนีเหมาะ ้ แกการ นำไปชั่งกิโลขายเพียงอยางเดียวเทานั้น เอ็ดเวิรดเปนอุปกรณไฟฟาที่ฉัน รักที่สุดในบาน ฉันตัดสินใจเดินลงไปอบคุกกี้ที่หองครัวเพื่อคลายเครียด กอนจะกลับมานัง่ เปดทีวลุี น ปนใหญปะทะปศาจแดงจนตัวโกง เครือ่ งฟอก อากาศระบบสองหัวยังคงทำงานของมันตอไปตามปกติ บนภูเขา
95
Is this the real life? Is this just fantasy? ไมรูว า ผล็อยหลับไปตัง้ แตเมือ่ ไหร พอลืมตาตื่นเนื้อรองเพลง Bohemian Rhapsody ก็ผุดขึ้นมากอนอะไรอื่น ฉันบอกหุนยนตสาวใชใหเอาชาผสมเครื่องเทศกับคุกกี้ที่อบไวเมื่อวานมา ให หุนยนตรุนนี้ทำงานไดเสถียรกวารุนของเอ็ดเวิรดหลายเทาตัวจนเทียบ กันไมได Mac OS X Fat Snow Leopard คือชื่อระบบปฏิบัติการของ หุนยนตรุนนี้ หลังจากทำธุระในหองน้ำเสร็จแลว ฉันประคองถวยชาไวใน มือแลวออกไปยืนสูดอากาศหลังฝนตกที่เฉลียงหลังบาน ฉันไมไดตื่นเชา แบบนี้มานานมากแลว นาจะตั้งแตระบบนาฬิกาปลุกในตัวของเอ็ดเวิรด ้ ยากจึงไมใสใจทีจ่ ะซอม เมือ่ ชำรุดโนนแหละ คุณพอบอกวาอะไหลรุน นีหา นึกถึงเหตุการณของเย็นวาน ฉันก็หันไปมองหลุมฝงรางของเอ็ดเวิรด พรอม ยกถวยชาขึ้นดื่ม พรวดดดดดดดดดด! เปนไปไมได!! มีตนไมเล็กๆงอกขึ้น มาจากหลุมนั้น!!!
96 เสียงฝน
ตอนอยูชั้นประถมตนคุณครูสอนวา สัตวเลี้ยงมีสองประเภทคือ เลี้ยงไว ใชงานกับเลี้ยงไวดูเลน สวนผีเปนสิ่งที่ไมมีจริง เพราะสิ่งมีชีวิตแบงออก เปน ๓ ประเภทไดแก คน สัตว พืช ซึ่งเราไมรูวาจะจัดผีเขาไปอยูในหมวด ไหน ดังนั้นเด็กประถมตนจึงเดินไปเขาหองน้ำคนเดียวได โดยไมตองกลัว วาจะโดนผีหลอก สวนคนแบงออกเปน ๓ ประเภทคราวๆไดแก เพศชาย เพศหญิง และเพศไมชายไมหญิง คนทัง้ สามเพศนีมี้ นิสยั ชอบจัดหมวดหมู ดวยกันเกือบทุกคน และฉันก็รวมอยูในจำนวนนั้นดวย หลังจากคนควา ไดระดับหนึ่งจึงพบวา หากแบงตนไมตามลักษณะการเจริญเติบโตของ ลำตนจะแบงออกเปน ๔ ประเภทไดแก ๑.ไมตน(Tree) ๒.ไมพุม(Shrub) ๓.ไมเลื้อย(Climber) ๔.ไมหัว(Ornamental Bulb) ๕.ปาลม(Palmae) ฉัน นัง่ จองจองดูตนกลาทีเพิ ่ ง่ ผลิใบออนสีเขียวสดใส เราจองหนากันแบบ faceto-face ระยะหางแค ๓ เซนติเมตร เปนไปไดไหมวา ตนไมประหลาดตนนี้ จะไมถูกจัดอยูในประเภทใดเลย…..
บนภูเขา
97
แลวเรื่องราวของตนไมเล็กๆ ตนนี้ก็เดินทางไปสูการรับรูของผูคนบนโลก ไซเบอร ฉันเคยถายรูปตนไม Upload ลงใน Blog เพียงครั้งเดียวคือวันที่ เราพบกันเปนครั้งแรก เพราะหลังจากวันนั้นเปนตนมา ตนไมก็มีหนาตา ประหลาดขึ้นเรื่อยๆ จนฉันไมกลาถายรูปอีก ภาพรวมของตนไมในตอนนี้ เหมือนสิ่งมีชีวิตผสมเครื่องจักร(Biomechanical) คลายๆ กับที่ฉันเคย เห็นใน H.R. Giger Museuum ที่สวิตเซอรแลนด (Please consider that some of the work might not be suitable for children.) H.R.Giger เปน ศิลปนชาวสวิตเซอรแลนด เขาเปนคนออกแบบเอเลี่ยน สัตวประหลาด ตางดาวสุดอำมหิตตัวนั้น แรกๆ ฉันก็หวาดๆ เมื่อตองลงไปขลุกอยูในสวน แตเมื่อนึกถึงเอ็ดเวิรด หุนยนตที่ฉันคุนเคยมาตั้งแตเด็ก บรรยากาศรอบๆ จึงเปนมิตรขึ้นมาบาง
98 เสียงฝน
บันทึกของวันที่ ๑๖ รูปทรงของตนไมเปลี่ยนแปลงไปทุกวันในลักษณะที่ ไมอาจคาดเดาได บางวันดูเหมือนสัตวประหลาดพันมือเกาะเกี่ยวกิ่งกาน แตกสาขา สองวันกอนมีใบงอกออกมาใหมคลายรูปทรงของโทรศัพทมือถือ โบราณ ใบออนเล็กๆ ที่อยูใกลๆ กันลักษณะคลาย SIM แจกฟรี ในสวน ของลำตนกลับดูคลายรูปทรงของคนอวนกำลังถือสบูยี่หอนกแกว (อันนี้ แลวแตจินตนาการของผูร บั ชม) การไดชืน่ ชมประติมากรรมมีชีวติ อันงดงาม เปนความตื่นเตนประจำวันที่จะเกิดขึ้นในทุกๆเชาแกพวกเราทั้งครอบครัว บายวันนี้มีชายหนามาโผลมาหาฉันกับพอที่บาน ไมมีใครรูวาเขาเปนใคร หนาของเขาคลายมาแตนากลัวกวา สงสัยจะไมใชคนแถวนี้ ชายหนามา ยื่นถุงเล็กๆมาให บนถุงมีตัวอักษรพิมพไววา”ปุยตรามาบิน” พรอมกับยื่น ซองเอกสารใหพอของฉัน ขางในมีอะไรเรายังไมทนั เปดดู ชายหนามาก็ควบ ตัวเองหายลับไปอยางรวดเร็ว
บนภูเขา
99
หลังจากชายหนามาคลอยหลังไปไดไมนาน ก็มีชายหนาหมาเอา“ปุย ตราห มาแดง” มาใหทดลองใช พอคุณพอยื่นมือออกไปรับถุงปุย ชายหนาหมาก็ วิง่ หางจุกตูดหายไปตอหนาตอตา เฮอ! ทัง้ หนามาหนาหมา ไมวา ยุคสมัยจะ เปลีย่ นไปอยางไร คนก็ยังใสหนากากเขาหากัน ยังไมทนั ทีเรา ่ จะไดเปดซอง เอกสาร ซึ่งดูๆไปแลวฉันวามันเปนซองกฐินมากกวา ก็มีชายหนา...เออ... ดูภาพประกอบเอาเองก็แลวกัน มากดออดเรียกอยูที่หนาประตู แรกเห็น รูปพรรณสัณฐานฉันกับพอเดาไมถูกเลยวา เขาจะเอาปุย ยีห่ อ อะไรมาเสนอ แตชายคนนีมา ้ แปลก(มาก) เขาไมไดเอาปุย มาใหทดลองใช แตเขามาเสนอ บริการทำความสะอาดบานดวยลิ้น! เราตกลงใชบริการของเขาทันทีโดย ไมจำเปนตองถามไถถึงราคา เพราะแคเห็นหนวยกานของเขาก็เดาได ไมยากเลยวา ตองทำความพึงใจใหกับตนไมประติมากรรมประหลาดของ เราอยางแนนอน ใชแลว เราจะใหเขาทำความสะอาดตนไมดวยลิ้น
100 เสียงฝน
แผล็บสุดทาย! ใชเวลาทั้งหมดประมาณ ๑๒ นาที ฉันเตรียมน้ำดื่มเย็นๆ ใหเขาเพือ่ ดับกระหาย เขาคิดตังคแค ๕๐ บาท กอนใหฉันชวยออกคาแท็กซี่ อีกรอยสามสิบเพื่อใหเขานั่งกลับบาน เมื่อหันกลับไปดูอีกครั้ง ตนไมของ ฉันมีลักษณะเปลี่ยนไป มันแตกตาเปนจำนวนมาก นี่ขนาดยังไมไดใสปุย เลยสักนิดเดียว หรือวาชวงเวลาเปลี่ยนผานแหงวันวัยของมันมาถึงแลว (Coming of Age) ฉันเขยิบกนไปนั่งประสานตากับมันอีกครั้ง ดวงตาของ มัน ๘๐ % ดูเศราสรอย แมวาที่เหลือจะปะปนไปดวยความรูสึกเรียบๆ ธรรมดาๆก็ตาม ฉันรองเพลงขึ้นชาๆ ดวยหวังวาจะปลอบประโลมตนไม ไดบาง “แมชีวิตไดผานเลยวัยแหงความฝน วันที่ผานมาไรจุดหมาย ฉัน เรียนรูเพื่ออยูเพียงตัวและจิตใจ เปนมิตรแทที่ดีตอกัน….” เพลงทะเลใจ ของคาราบาวดูจะเหมาะกับบรรยากาศแบบนี้ ฉันอานบทกวีอีกหลายบท พรอมสรางแรงบันดาลใจดวยการเลาถึงประวัตบุิ คคลสำคัญของโลกใหฟง ดวงตาของมันดูจะแจมใสขึ้นเล็กนอย สวนของลำตนที่อยูใน ระดับสายตา ขณะนีป้ ริเปนแนวยาว จากนัน้ ก็ขยับขึน้ ลงเหมือนจะสือ่ สารอะไรบางอยาง แลวฉันก็ไดยินเสียงแปรงปราอันคุนเคยแววออกมา บนภูเขา 101
“การปกครองและคานิยมของผูคนในสังคม มีผลกระทบโดยตรงตอ สภาพแวดลอมทางกายภาพ” นั่นไงละ ฉันเดาแลวไมมีผิด ตนไมตองการ สือ่ สารอะไรบางอยางจริงๆ แตทีเหนื ่ อความคาดเดาก็คือ ฉันไมคิดวาตนไม จะมาไมนี้ นีเป ่ นประโยคเด็ดจาก *Collapse: How Societies Choose to Fall or Succeed หนังสือขายดีทัว่ โลกและไดรบั รางวัลพูลติ เซอรของ Jared Diamond หนังสือเลมนี้มุงเสนอใหเห็นถึงเหตุและผลของวิวัฒนาการของ ชุมชนหนึ่งๆ จากความรุงเรืองสูหายนะ และสุดทายคือความลมสลาย ของอารยธรรมในแตละแหง โดยมีคำถามหลักคือสังคมเหลานั้นลมสลาย ไดอยางไร? แลวตึกระฟาที่รายลอมเราอยูในมหานครทุกวันนี้ จะถึงวันที่ ตองถูกทิ้งรางเฉกเชนศาสนสถานเกาแก อยางนครวัดนครธมหรือไม? กลิ่นน้ำหอม Chanel No.๕ วูบไหวผานจมูก มันเปนกลิ่นของใบไมที่ปลิด ตัวเองออกจากขั้วใบแลวใบเลา ฉันพอจะรูแล วละวา หลายคืนกอนหนานี้ ทำไมฉันจึงฝนเห็นคนตาย *www.localtalk๒๐๐๔.com
102 เสียงฝน
บนภูเขา 103
QUESTIONS ARE FROM MARS ANSWERS ARE FROM VENUS
104 เสียงฝน
ญาติโยมถวาย a day ฉบับที่ ๑๐๘ มารวมสองสัปดาห ขาฯพึ่งไดฤกษนำมา ทัศนา พลิกดูรูปพระยังไมทันครบทุกหนาก็มีอันใหหลับปุย นับวา a day ฉบับนี้ ประสบความสำเร็จ ในแงของการรักษาคุณสมบัติของหนังสือธรรมะไวไดอยาง ครบถวน(ฮา) พอตื่นขึ้นมาเพียงเหลือบไปเห็นหนาปกก็อาปากหาว ขาฯเห็นทาจะ ไมดีจึงลุกขึ้นลางหนาลางตาควาไมกวาด ปดกวาดลานวัดสลัดความงวงงุน เมื่อเหงื่อชุมแผนหลังขาฯจึงกลับมานั่งพักที่กุฏิ แลวหยิบ a day ฉบับ พุทธศาสนามาพลิกดูอีกครั้ง บรรณาธิการออกตัววา “พวกเราไมมีความรูเรื่อง พุทธศาสนาเลย มีแตคำถาม เราจึงอยากเลาเรื่องนี้ดวยการตั้งคำถาม แลวหาคำ ตอบในสิ่งที่สงสัย” ขาฯเห็นสมในสิ่งที่บรรณาธิการบอก มีหลายคำถามที่ผานตา แลวเกิดความคิดขึ้นมาวา ถาถูกถามแบบนี้เราจะตอบยังไง? วาแลวจึงลองตอบคำ ถามเหลานั้นดู โดยที่ยังไมไดอานคำตอบที่มีอยูภายในเลม และคงไมมบุี ญไดอาน เพราะเขาใชตัวพิมพกระจิ๋วหลิ๋วเหลือเกิน สายตาของคนอายุปูนนี้รับไมไหว(ฮา... โอย...ขำ) ป.ล.กราบขอโอกาสครูบาอาจารยนำคำถามเหลานีกลั ้ บมาตอบอีกครัง้ ตาม มุมมองและสติกำลังของพระผูนอย
บนภูเขา 105
คำถามจากหนา ๗๓-๗๕ โดยทรงกลด บางยี่ขัน ๑. ธรรมะคืออะไรครับ ตอบ ธรรมะคือความถูกตอง คือความพอดี (ถามาถามกันตัวเปนๆ ขาฯจะขวางดวยกระโถนแลวถามกลับไปวา รูส กึ ยังไง? นัน่ แหละ ธรรมะ โห...เซนสุดๆ) ๒. ความจริงในรูปแบบทางวิทยาศาสตรเปนแนวทางดำเนินชีวิตไมได หรือครับ ตอบ ได แตถาตองการดำเนินชีวิตในอยางความสุขมากขึ้น มีความ ทุกขนอยลงทั้งในปจจุบันและอนาคต ตองไปตามแนวทางของ พุทธศาสนา ๓. เราเคยไดยินกันแตพุทธศาสนาสอนเรื่องความดี ทำไมเราถึงไมคุน เลยละครับวาพุทธศาสนาสอนเรื่องความจริงดวย ตอบ นี่เปนโทษของการไมไดเขาใกลนักปราชญบัณฑิต เมื่อไมได เขาใกลก็ไมไดฟงสิ่งที่เปนความจริง เปนประโยชน ๔. ทุกวันนี้คนที่สนใจธรรมะมีแตคนสูงวัย แลวกับเด็กมัธยมที่ชีวิตนี้ ไมเคยคิดเรื่องนิพพาน ทำไมพวกเขาตองสนใจธรรมะดวยละครับ ตอบ เคยไดยินขาวเด็กมัธยมสอบตกหรืออกหักแลวฆาตัวตายไหม? เคยเห็นภาพขาวเด็กผูห ญิงชัน้ มัธยมตนรุมกระทืบเพือ่ นรวมหอง จนตองหามสงโรงพยาบาลไหม? โยมคิดยังไงกับเรื่องนี้?
106 เสียงฝน
๕. การสอนธรรมะแบบใดที่เหมาะกับวัยรุนครับ ตอบ อาตมาจะพูดถึงสิ่งที่เปนประสบการณตรงของตัวเองเชนเรื่อง ความเหงา อาตมาจะเลาใหเขาฟงวา กอนมาบวชเราแกปญหา ยังไงแลวมันไดผลยังไง พอบวชแลวเราแกปญหายังไงแลวผล มันเปนยังไง เพื่อใหเขาเทียบเคียงกับประสบการณตรงของ เขาเอง ๖. แรงบันดาลใจทางธรรมะที่ดีควรเปนยังไงครับ ตอบ ถาหมายถึงบุคคล การกระทำ คำพูด ความคิดของบุคคลผูนั้น ตองเปนไปเพื่อการปลอยวาง ๗. เราจะยึดวิทยาศาสตรเปนศาสนาไดไหมครับ เพราะความรูหลายๆ เรื่องก็ชวยใหเราพนทุกขได ตอบ เชนอะไรบาง? พนทุกขแบบที่วานี้ยังกลับมาทุกขอีกไหม? ๘. เราตองรูมากแคไหนครับ ถึงจะสิ้นสงสัย ตอบ เราตองกินขาวมากแคไหนถึงจะอิ่ม?
บนภูเขา 107
คำถามจากหนา ๗๗-๗๘ โดยจิวาภรณ วิหวา ๑. ทำไมศาสนาถึงตองมีพิธีกรรม มีขอวัตรมากมายคะ ตอบ กวานิตยสารจะเสร็จสักเลมก็มีขั้นตอนมากมายเหมือนกัน ๒. ในเมื่อพิธีกรรมไมใชแกน เรายังควรยึดถือในพิธีกรรมอยูไหมคะ ตอบ ในเมื่อปกนิตยสารไมใชแกน เรายังควรพิถีพิถันในการออกแบบ ปกกันอยูไหม? ๓. งานบุญ งานบวช งานศพ การรับกิจนิมนต เจิมปาย ฯลฯ จำเปนกับ ศาสนาไหมคะ ตอบ อันนี้โยมตองไปคุยกันเอาเอง เพราะอาตมาก็ขี้เกียจไปรวม เหมือนกัน(ฮา) สวนการเจิมปายสายวัดหนองปาพงไมไดทำนะ มีอยูครั้งนึงโยมคนไทยเอารถยนตคันใหมมาใหพระ ฝรั่งเจิม ทานปฏิเสธหลายครั้ง แตเขาก็ยังคะยั้นคะยอจะใหทำ พระฝรั่ง ทานก็เลยเขียนมั่วๆ ไปเพราะไมรูจะเขียนอะไร สงสัยจะเขียน เปนภาษาอังกฤษดวย โยมเขาอานภาษาอังกฤษไมออกก็นึกวา เปนยันต ทำใหแคนั้นเขาก็ดีใจ ๔. ทำไมเวลาเขาวัดเราจึงมองเห็นแตพิธีกรรมคะ ตอบ คงจะมองไมทะลุ
108 เสียงฝน
๕. เมืองไทยมีวัดทุกตำบล แตทำไมพระสงฆถึงไมสามารถสอนใหทุกคน เขาใจในแกนธรรมไดอยางถองแทคะ ตอบ กรุงเทพฯมีตำรวจจราจรอยูแทบทุกสี่แยก ทำไมจึงไมสามารถ ทำใหรถทุกคันปฏิบตั ตาม ิ กฎจราจรได มันก็มีอีกหลายเหตุปจจัย เชน ตัวของพระสงฆเองลึกซึ้งในธรรมะแคไหน ญาติโยมสนใจ ธรรมะในระดับไหน ขอหลังนี้โยมตองถามตัวเองดวย ๖. เราควรเคารพพระสงฆที่ไมนาเลื่อมใสไหมคะ ตอบ โยมเอาอะไรมาเปนบรรทัดฐานในการเลือกเคารพพระสงฆ? ครูบาอาจารยบางทานมีนิสยั โผงผาง กิรยิ าทาทางไมเรียบรอยแต ทานเปนผูที่มีคุณธรรมสูง ตองอยูปฏิบัติรวมกับทานนานๆ จึงจะรูจัก พระบางรูปบุคลิกดีพูดจาดีแตเบื้องหลังหวังลาภ สักการะกับญาติโยมอยางนี้ก็มี
บนภูเขา 109
คำถามจากหนา ๘๑-๘๓ โดยทรงกลด บางยี่ขัน ๑. พระเครื่องศักดิ์สิทธิ์จริงไหมครับ ตอบ ถามีสวนทำใหผูที่มีไวในครอบครองเขาถึงพระรัตนตรัย อาตมา ถือวาศักดิ์สิทธิ์จริง ๒. การรดน้ำมนต สะเดาะเคราะหชวยไดจริงไหมครับ ตอบ เรายื่นตุกตาใหเด็ก เพื่อใหเขาหยุดรองไห ๓. การปลุกเสกเครื่องรางของขลังเหลานี้เปนพุทธศาสตรหรือเปน ไสยศาสตรครับ ตอบ พุทธศาสตรคืออะไร? เรามาทำความเขาใจในคำถามนีให ้ ชัดเจน กันกอนดีกวา ๔. ความแตกตางระหวางพุทธศาสตรกับไสยศาสตรคืออะไรครับ ตอบ คือความแตกตางระหวางการลืมตาตื่นกับการนอนหลับ ๕. ในศาสนาพุทธมีเรื่องปาฏิหาริยไหมครับ ตอบ มี การนำธรรมะไปปฏิบัติจนเกิดผลจริงคือสามารถพนทุกขได อยางนาอัศจรรย จัดเปนปาฏิหาริยอยางหนึ่ง ๗. ถาพระพุทธเจายังอยูทานคงจะตำหนิเรื่องการปลุกเสกเครื่องราง ของขลังใชไหมครับ ตอบ พระพุทธองคทรงตำหนิทุกการกระทำทีเป ่ นเหตุใหการดำเนินไปสู ความพนทุกขเนิ่นชา 110 เสียงฝน
๘. การคิดวาวัตถุมงคลสามารถดึงดูดคนใหเขามาวัด มาชวยทำนุบำรุง พระพุทธศาสนาได เปนความคิดที่ถูกไหมครับ ตอบ การปฏิบตั ตาม ิ ธรรมะคำสอนของพระพุทธเจา สามารถดึงดูดคน ใหเขามาวัดไดดีที่สุด ๙. เราไดอะไรจากเครื่องรางของขลังครับ ตอบ อยางนอยก็ไดคำถามนี้(ฮา) ๑๐. เราไดอะไรจากการพรมน้ำมนตเจิมปายหนารานครับ ตอบ อาตมาฝากถามคนที่มานิมนตพระไปทำอยางนั้นดวยนะ ๑๑. พระพุทธเจาสอนเรื่องพิธีกรรม สิ่งศักดิ์สิทธิ์ไวอยางไรครับ ตอบ พระพุทธองคสอนวา “ผูใดตามดูจิตของตน ผูนั้นจะพนจากบวง ของมาร” เรื่องนี้เปนเรื่องใหญ ควรนำมาพิจารณาเปนอันดับ ตนๆ สวนเรือ่ งพระพุทธเจาทรงสอนเรือ่ งพิธกี รรมหรือสิง่ ศักดิส์ ทิ ธิ์ ไวอยางไร พระอาจารยของอาตมาทานอาจจะเคยบอก หรือ อาตมาอาจจะเคยอานพบในตำรา แตคงจะลืมไปแลวเพราะ ไมไดใหน้ำหนักกับเรื่องนี้ แตถาโยมตองการจะรูจริงๆ ก็สามารถ ไปสืบคนขอมูลใน Google เอาเองได ซึ่งก็ไมนาจะเปนเรื่อง เหลือบากวาแรง ที่อาตมาตอบแบบนี้เพราะรูสึกวา โยมใหความ สนใจกับเรื่องนี้มากเกินไป ถึงเวลาตองเปลี่ยนเรื่องเสียที ๑๒. พระเครื่องมีขอดีไหมครับ ตอบ ถามีสวนทำใหผูที่มีไวในครอบครองเขาถึงพระรัตนตรัย ก็ถือวา มีขอดี บนภูเขา 111
๑๓. เราจะเลื่อนชั้นชาวพุทธใหพนจากชั้นอนุบาลไดยังไงครับ ตอบ เขาอยากเลื่อนกันหรือเปลา? ๑๔. ตอนนี้มองเขาไปในวัดสวนใหญก็เห็นแตพิธีกรรมสำหรับชาวพุทธ ในระดับอนุบาล เราจะทำใหคนมองทะลุเขาไปถึงแกนแทของ ศาสนาพุทธไดอยางไรครับ ตอบ คอยๆ เลี้ยงดูเขาดวยการใหอยูในสิ่งแวดลอมที่ดี เชนการ มีกัลยาณมิตร การอยูในสถานที่เงียบสงบ พอโตเปนผูใหญเขาก็ จะเขาใจเอง
112 เสียงฝน
คำถามจากหนา ๘๕-๘๗ โดยทรงกลด บางยี่ขัน ๑. กรรมคืออะไรครับ ตอบ เปนคำกลางๆ แปลวาการกระทำ ๒. เรามักจะคุน กันวากฎแหงกรรมหมายถึง ชาตินีเป ้ นอยางนีเพราะ ้ ชาติ ที่แลวทำแบบนี้ เปนความเชื่อที่ถูกตองไหมครับ ตอบ วันกอนๆ โยมวางแผนวาจะเดินทางมาสัมภาษณพระ เปนเหตุ ใหวันนี้โยมไดเดินทางมาสัมภาษณพระ โยมคิดอยางไรกับ เรื่องนี้? ๓. ประโยคที่วาสัตวโลกยอมเปนไปตามกรรมยังเปนจริงอยูไหมครับ ตอบ ถาตอบคำถามขางบนแลว ก็จะตอบคำถามนี้ไดเอง ๔. ทำไมเวลาสอนกันเรื่องทำบุญละบาป เราถึงเนนวา ตายแลวจะได ไปสวรรคหรือชาติหนาเกิดมาจะไดสบายครับ ตอบ คงเปนคำพูดพื้นๆ เอาไวปลอบประโลมใจ แตถาของจริงเรา ก็เนนสิ่งที่เปนอยูในปจจุบัน ๕. บุญตางจากบาปอยางไรครับ ตอบ (ขวางดวยกระโถนใบเดิมแลวถามวา โกรธไหม? นั่นแหละบาป เมื่อละความโกรธไดก็เปนบุญ—เซนไดอีก)
บนภูเขา 113
๖. สังคมยุคนี้ซับซอนขึ้น ความหมายของบุญและบาปเปลี่ยนไป ไหมครับ ตอบ ความรูสึกในขอ ๕ เปลี่ยนไปไหม? ๗. บุญที่เราไดมาอยูที่ไหนครับ ตอบ ละความโกรธในขอ ๕ ไดที่ไหน บุญก็อยูที่นั่น ๘. การทำบุญเพราะอยากไดบุญเยอะๆ ตายไปชาติหนาจะไดสบาย เปน ความคิดที่ถูกไหมครับ ตอบ สบายชาตินี้ดีกวา ๙. ทำไมคนยุคนี้ถึงหวังวาการทำบุญจะชวยใหร่ำรวยครับ ตอบ เปนความหวังของคนที่ไมรูจักความสันโดษในทุกยุคสมัย ๑๐. การทำบุญเพราะหวังรวย ถือเปนความคิดที่ผิดไหมครับ ตอบ การทำบุญเพื่อชำระกิเลสเปนความคิดที่ถูกตองที่สุด ๑๑. การทำบุญชวยลบลางบาปที่เคยทำไดไหมครับ ตอบ ถาเราเทน้ำสะอาดเปนจำนวนมาก ลงไปในแกวที่มีน้ำสกปรก จะเกิดอะไรขึ้น? ๑๒. เราสามารถมีความสุขโดยไมทำบาป แตก็ไมทำบุญไดไหมครับ ตอบ ถาโยมเปนมหาเศรษฐีแลวจะไมทำงานอะไรเลยก็ได
114 เสียงฝน
๑๓. บุญบาปมันจะตามเราไปชาติหนาไหมครับ ตอบ การที่โยมมาสัมภาษณพระในวันนี้ จะตามโยมไปพรุงนี้ไหม? ๑๔. เราจะแนใจไดอยางไรครับวาชาติหนามีจริง ตอบ เราจะแนใจไดอยางไรวาพรุงนี้มีจริง?
บนภูเขา 115
คำถามจากหนา ๘๙-๙๑ โดยจิวาภรณ วิหวา ๑. ความสุขคืออะไร ความทุกขคืออะไรคะ ตอบ ความอิ่มคืออะไร? ความหิวคืออะไร? ๒. ในความเปนจริงแลว ความสุขกับความทุกขดูเปนเรื่องที่ซอนทับกัน อยู บางครั้งเราคิดวามีความสุข แตมันก็นำทุกขมาให แลวเราจะ รูไดอยางไรคะวาอะไรคือความสุขที่แทจริง ตอบ ความสุขที่แทจริงคือความสุขทีไม ่ นำทุกขมาให ๓. ทุกวันนี้เรามีปญหาที่ตองแกมากมาย การหมกมุนอยูกับจิตใจ ของตัวเองจะเปนสิ่งที่ถูกตองหรือคะ ตอบ ทุกวันนี้เราหมกมุนอยูกับปญหาที่ตองแกมากมาย จนไมมีเวลา คนหาตนตอที่แทจริงของปญหา แลวลงมือแกไขกันอยางจริงจัง ทำอยางนี้จะเปนสิ่งที่ถูกตองหรือเปลา? ๔. เปนมนุษยธรรมดา เราไมโกรธ ไมเสียใจ ไมนอยใจไดหรือคะ ตอบ ถาเราปฏิบัติธรรมตามแนวทางที่ถูกตอง จนสามารถละความ โกรธ ความเสียใจ ความนอยใจได เราจะเปนมนุษยที่ไมธรรมดา ซึ่งพระพุทธเจาทานก็ทำใหดูเปนตัวอยางอยูแลว ๕. ศาสนาบอกวาไมใหยินดีเวลามีคนรัก มีคนชม หรือไดของชอบใจ เพราะอะไรคะ ตอบ เพราะมันเปนของไมแนนอน
116 เสียงฝน
๖. ความทุกขมีขอดีไหมคะ ตอบ มันทำใหเราหาวิธออกจาก ี มัน ๗. การสอนใหมองความทุกข เทากับวาศาสนาพุทธมองโลกในแงราย หรือเปลาคะ ตอบ กลับไปอานขอ ๖ ๘. ศาสนาสอนวาที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข แลวอยางนี้เราควรมีความรัก ไหมคะ ตอบ เราควรมีความเมตตา
บนภูเขา 117
คำถามจากหนา ๙๓-๙๕ โดยจิราภรณ วิหวา ๑. สมัยเด็กๆ เราถูกสอนใหนั่งขัดสมาธิ หลับตา โตมาเราไดยินวา มีการเขาฌาน ไดตาทิพย หูทิพย แทจริงแลว สมาธิคืออะไรกัน แนคะ ตอบ ขอ ยก คำ อธิ บ าย ของ พระ เดช พระคุ ณ พระพรหม คุ ณ าภรณ (ป.อ.ปยุตโต) มาตอบก็แลวกัน “จิตอยูกับสิ่งที่ตองการ ไดตาม ตองการคือสมาธิ” ๒. ถาไมอยากนิพพาน ยังจำเปนตองฝกจิตไหมคะ ตอบ ถาไมหิวขาวจะไมกินขาวก็ได คงไมมีใครบังคับ ๓. สติและสมาธิที่เรามีอยูในชีวิตประจำวันไมเพียงพอหรือคะ ทำไม เราตองฝกเพิ่ม ตอบ ถาอยากนั่งเกาอี้บรรณาธิการก็ตองฝกวิทยายุทธใหเหนือชั้น ๔. แคนั่งสมาธิธรรมดาเรายังเผลอหลับ แลวจะฝกจิตใหพนทุกขได เหรอคะ ตอบ ได ถาตื่น(ฮา) ๕. อะไรจะการันตีใหเราไดคะวา ถาปฏิบัติแลวจะไดผลจริง ตอบ อะไร จะ การั น ตี ให เรา ได ว า ถ า ตั ้ งใจ ทำงาน แล ว จะ ไดเลื ่ อ น ตำแหนง?
118 เสียงฝน
๖. ทำไมฝรั่งถึงหันมาสนใจเรื่องจิตกันมาก ทั้งที่ไมไดมีพื้นฐานและ ความเชื่ออยางเรา ตอบ ความทุกขมันมีอยูประจำกับคนทุกชาติทุกภาษา ไมวาจะ มีพื้นฐานหรือความเชื่ออยางไร ฝรั่งเขาหาทางพนทุกข เพราะ วัตถุที่เขามีอยูอยางลนเกินมันชวยใหเขาพนทุกขไมได เขา จึงหันมาคนควาเรื่องจิตใจ อีกอยางฝรั่งเขามีนิสัยชอบทดลอง
บนภูเขา 119
คำถามจากหนา ๙๗-๙๙ โดยจิวาภรณ วิหวา ๑. พุทธศาสนากับวิทยาศาสตรมีความเหมือนหรือตางกันอยางไรคะ ตอบ อาตมาคงอธิบายไดไมละเอียดเพราะเรื่องวิทยาศาสตรลืมไป เกือบหมดแลว รูแตวาถาถูกยิงดวยลูกศรคือความทุกข ตองรีบหา วิธีเอาลูกศรออก อยามัวไปคำนวณความเร็วขณะลูกศรกำลังพุงมา ใหเสียเวลา ๒. เราไมใชนักชีววิทยา ทำไมพุทธศาสนาถึงตองใหเราศึกษาธรรมชาติ ละคะ ตอบ อาตมาคงอธิบายไดไมละเอียดเพราะเรื่องวิทยาศาสตรลืมไป เกือบหมดแลว รูแตวาถาถูกยิงดวยลูกศรคือความทุกข ตองรีบ หาวิธีเอาออกลูกศรออก อยามัวไปคำนวณแรงโนมถวงของโลก ที่กระทำตอลูกศรใหเสียเวลา เฮย! นี่มันชั่วโมงชีววิทยานะไมใช ฟสิกส—ขออภัย พุทธศาสนาใหเราศึกษาธรรมชาติ เพื่อใหเรา ปรับตัวปรับใจใหเขากับความจริงของธรรมชาติ ทั้งธรรมชาติ ภายนอกและธรรมชาติภายใน ที่เราเปนทุกขกันอยูทุกวันนี้ เพราะความคิดเห็นของเราไมสอดคลองกับความเปนจริงตาม ธรรมชาติ ๓. ธรรมชาติมีขอบเขตกวางมากเราควรเลือกสวนไหนมาศึกษาคะ ตอบ สวนไหนก็ไดที่เกื้อกูลแกความพนทุกข และศึกษาเทาที่จำเปน หลวงพอชาทานอุปมาไววา ถาเราจะขามภูเขาลูกนี้ไป เราก็ตัด ตนไมใหเปนทางแคพอเดินได ไมตองไปโคนตนไมทั้งภูเขา
120 เสียงฝน
๔. พุทธเปนศาสนาทางวิทยาศาสตรอยางที่ชอบพูดกันจริงไหมคะ? ตอบ ขี้เกียจอธิบายอะ เคยมีคนแสดงความเห็นกับคำถามนี้มาเยอะ แลว ไปคนดูเอาเองใน Google (บะ! คำก็ Google สองคำก็ Google) มีโยมคนหนึ่งพูดวา พุทธศาสนาเปนวิทยาศาสตร พระอาจารยทานหนึ่งบอกวา อยายกยองวิทยาศาสตรมาก เกินไป ๕. ทุกคำสอนในทางศาสนาพุทธเปนจริงทางวิทยาศาสตรไหมคะ ตอบ จงคัดลายมือตามประโยคตอไปนี้หนึ่งรอยครั้ง--อยายกยอง วิทยาศาสตรมากเกินไป ๖. เราจำเปนตองใชวิทยาศาสตรพิสูจนคำสอนในทางศาสนาไหมคะ ตอบ จงคัดลายมือตามประโยคตอไปนี้อีกหนึ่งรอยครั้ง--อยายกยอง วิทยาศาสตรมากเกินไป ๗. แทจริงแลวมนุษยเกิดมาทำไมคะ ตอบ จงคัดลายมือ.....ขออภัย ตอบเพลินไปหนอย มนุษยเกิดมาเพื่อ ตั้งคำถามและตอบคำถาม
บนภูเขา 121
คำถามจากหนา ๑๐๑-๑๐๓ โดยณัฐชนน มหาอิทธิดล ๑. ถานับถือพุทธแตไมมีเวลารวมพิธีทางศาสนา ควรปฏิบัติตัวอยางไร ครับ ตอบ ควรมีกัลยาณมิตร ๒. การที่คนยุคนี้เขารวมพิธีกรรมทางศาสนานอยลง แปลวาคนเริ่ม เบื่อศาสนาหรือครับ ตอบ แปลวาคนเริ่มเบื่อพิธีกรรม (ขอนี้ตอบงายมาก แคเลือก Copy ขอความจากบรรทัดขางบน แลวนำมา Paste ไวในบรรทัดนี้) ๓. ถาปฏิบัติธรรมดวยตัวเองสม่ำเสมอแลว ตองเขาวัดไหมครับ ตอบ ควรมีกัลยาณมิตร ๔. การใชชีวิตในสังคมยุคนี้ เราควรมีหลักธรรมขอไหนครับ ตอบ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ใชไดกับทุกยุคสมัย แตตอง ปฏิบัติใหครบจึงจะเกิดอานิสงสใหญ แถมอีกขอหนึ่งคือ ควร มีกัลยาณมิตร ๕. เราจะมีวิธีคิดกับอนาคตที่ยังมาไมถึงยังไงครับ ตอบ อนาคตเปนของไมแนนอน ๖. ยุคนี้เรายังสามารถนิพพานไดไหมครับ ตอบ ถาละกิเลสไดก็นิพพานได
122 เสียงฝน
คำถามจากหนา๑๐๕-๑๐๗ โดยทรงกลด บางยี่ขัน ๑. พระพุทธเจามีจริงไหมครับ ตอบ ถาเราเขาถึงธรรมะเราจะไดพบพระพุทธเจา ๒. ถาพระพุทธเจามีจริง ระยะเวลาผานมาสองพันกวาป เราจะแนใจ ไดอยางไรครับวาคำสอนของทานจะไมถูกบิดเบือนไปจากเดิม ตอบ เมื่อสองพันกวาปที่แลวพระพุทธองคทรงตรัสสอนเรื่องทุกข เหตุ ใหเกิดทุกข ความดับทุกข และขอปฏิบัติใหถึงความดับทุกข ถา คำสอนในยุคปจจุบันอางถึงหัวขอทั้งสี่ยอมแสดงวา เปนคำสอน ของพระพุทธเจาจริง ไมบิดเบือนไปจากเดิม ๓. เราสามารถยึดวิธีการดับทุกขแบบที่ไมมีในคำสอนไดไหมครับ ตอบ ได แตไมรับประกันวาทุกขจะดับ ๔. แสดงวาคนที่ไมนับถือศาสนาใดศาสนาหนึ่ง ก็สามารถหาทาง ดับทุกขไดเองใชไหมครับ ตอบ กลับไปอานขอ ๓ ๕. เหมือนวาหลักธรรมของพุทธศาสนาจะตอบไดทุกคำถาม ดับทุกข ไดทุกอยาง แตทำไมคนไทยซึ่งสวนใหญที่นับถือศาสนาพุทธ ถึง ไมเห็นมีความสุขอยางที่ควรจะเปนเลยละครับ ตอบ เพราะไมไดนับถือศาสนาพุทธ อยางที่คนไทยสวนนอยที่มีความ สุขเขาปฏิบัติกัน
บนภูเขา 123
๖. หลักการที่วามาก็ไมไดยากอะไรนี่ครับ ทำไมคนถึงไมสนใจปฏิบัติ ตาม ตอบ ถามตัวเองหรือยัง? ๗. ทั้งๆ ที่หลักคิดของศาสนาพุทธก็รวมสมัยมาก แตทำไมพอพูดถึง ธรรมะขึ้นมาทีไร คนถึงรูสึกวามันลาสมัยละครับ ตอบ คงเปนกับคนในบานเรา การไดหลนภาษาบาลีออกมาสักคำ หรือ การไดอางถึงพุทธวัจนะขณะสนทนากัน ถือเปนเรื่อง Totally Awesome! สำหรับฝรั่งชาวพุทธ มองอีกแงหนึ่ง ในเมื่อขนมจีน น้ำยาจานนี้ดีตอสุขภาพของเรา(เสนขนมจีนทำจากแปงไมผาน การขัดสี ลูกชิ้นและผักเปนผลิตภัณฑออแกนิค) ทำไมเราจะตอง ไปแครดวยวามันจัดเปน Fusion Food หรือเปลา? ๘. เราจะรูไดยังไงครับวาหลักที่วามาทั้งหมดเปนสิ่งที่ถูกตอง ตอบ เราจะรูไดยังไงวาขนมชนิดนี้อรอยหรือไมอรอย? ป.ล.เมื่อตอบคำถามเหลานี้แลว ขาฯรำลึกถึงที่พระพุทธองคทรงแบง บุคคลในโลกนี้ออกเปน ๔ ประเภทคือ ๑. มืดมา มืดไป ๒. มืดมา สวางไป ๓. สวางมา มืดไป ๔. สวางมา สวางไป
124 เสียงฝน
บนภูเขา 125
AN INTERVIEW A DAY KEEP THE DOCTOR AWAY
126 เสียงฝน
ศิวะภาค เจียรวนาลี และ พีรพิชญ ฉั่วสมบูรณ สองหนุมจากกองบรรณาธิการ นิตยสาร a day เดินทางมาสัมภาษณขาฯ ณ วัดปาอัมพวัน จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ ๑๙ เมษายน ๒๕๕๒ ขาฯบันทึกการสัมภาษณในครั้งนั้นแลวนำมาเรียบเรียงใหม โดยหยิบยกมาเฉพาะประเด็นที่ขาฯยังไมเคยพูดถึงมากอน สวนประเด็นที่เกี่ยวกับ ประวัติและผลงาน ขาฯเคยเลาไวบางแลวในหนังสือ “แดนสนทนา” และ “เรื่อง เปนเรื่อง” จึงมิไดนำมากลาวถึงอีกในที่นี้ Sivaphak Jierawalani and Phiraphit Chuasombul traveled on behalf of ‘a day’ to interview me at the Buddhist Forest Monastery Wat Amphawan, Cholburi on ๑๙ April ๒๐๐๙. We taped and transcribed our talk for this article, which includes only excerpts on topics I had never discussed before. Some ideas discussed in my books, “A Summer Dialogue” and “Messages from Silence” are not included. Translation (Thai / English) by Dhirapanno Bhikkhu & James Haft
บนภูเขา 127
๓๑ มีนาคม ๒๕๕๒ เรื่อง ขออนุญาตสัมภาษณ นมัสการ พระเปสโลภิกขุ นิตยสาร ‘a day’ เปนนิตยสารเพื่อสรางแรงบันดาลใจสำหรับคนรุนใหม โดยมีเนือ้ หาหลักทีเกี ่ ย่ วกับเรือ่ งราวของสรรพสิง่ หรือบุคคลทีน่ าสนใจ ที่ สามารถสรางแรงบันดาลใจและเต็มไปดวยความคิดสรางสรรค ซึ่งใน ฉบับจะมีคอลัมน ‘the outsiders’ เปนคอลัมนบทสัมภาษณที่กลาวถึง บุคคลที่มีผลงานนาสนใจ แตยังไมเปนที่รูจักกับคนหมูมาก ซึ่งนิตยสาร มีจุดประสงคทีจ่ ะเผยแพรผลงานของบุคคลผูนั น้ ใหเปนทีรู่ จ กั ในวงกวาง ยิ่งขึ้น ดังนั้น นิตยสาร a day จึงขอความกรุณาในการใหสัมภาษณถึง ประวัติ ทัศนคติ ผลงานและเรื่องราวตางๆ ที่เกีย่ วของเพื่อนำไปลงในนิตยสาร และเพื่อใหผูอานไดเห็นแนวคิดที่นาสนใจ และไดนำแนวความคิดนั้น ไปใชประโยชนตอไป จึงเรียนมาเพือ่ โปรดพิจารณา และขอขอบพระคุณอยางสูงมา ณ โอกาสนี้
128 เสียงฝน
๓๑ March ๒๐๐๙ Re: Permission to conduct interview To: Venerable Phra Pesalo Bhikku ‘a day’ is a magazine with the objective of inspiring Thai youth, and thus covers a wide variety of topics and people that would interest our readers. One of our columns, ‘the outsiders’ presents interviews with people who have achieved some success but are not yet well known by our readers so they will become better recognized. Therefore, ‘a day’ would like to ask permission to interview you about your life, attitudes, achievements and other interesting topics so they we can publish an article and introduce our readers to your thoughts and ideas, which they can examine and incorporate some of these, if they wish, into their lives. Thank you for any assistance you can provide.
บนภูเขา 129
อะไรทำใหพระอาจารยอยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง? เพราะเราไดรับความทุกขที่เกิดจากนิสัยแยๆ ของตัวเอง แลว รูสึกวามันทนไมได จะอยูอยางนี้ตอไปไมได ถาเราอยูอยางนี้ไปเรื่อยๆ เราก็ตองไดรับความทุกขอยางนี้ไปเรื่อยๆ แลวบางอยางมันรุนแรง มัน แสดงออกมาทางกายวาจาแลวทำใหคนอื่นเดือดรอนดวย บางครั้งที่ ระงับอารมณไมอยูแลวระเบิดออกไป พอเรากลับกุฏหรื ิ อเขาไปอยูในที่ สงบแลวมันเกิดสิง่ ทีเรี่ ยกวาความสำนึกผิด เราจึงอยากจะเปลีย่ นแปลง ตั ว เอง แล ว เรา ก็ รู ว า มี ทาง เป น ไปได เพราะ เรา เห็ น ตั ว อย า ง จาก ครูบาอาจารยทีท่ านมีกายวาจาใจทีงดงาม ่ เราจึงอยากจะเปนอยางทาน ในสถานการณทีควร ่ จะโกรธแตทานกลับสงบนิง่ อยูได ก็ยังนึกอยูว านิสยั อยางเรานีดี่ แลวทีม่ าบวช ถาไปใชชีวติ คูอาจจะ ทำใหคนอืน่ เจ็บช้ำน้ำใจ เพราะอารมณเราเหมือนทะเลบา แตเมือ่ ปฏิบตั ธรรม ิ ไปนานๆ มันก็คอยๆ เรียนรูวิธีที่จะอดทนอดกลั้น หรือทำใหอารมณที่รุนแรงมันสงบระงับ ก็ พอไดสัมผัสความรมเย็นบาง เรียกวาอยูสบายขึ้น มีความสุขมากขึ้น สถานที่ทำใหความคิดหรือจิตใจเปลี่ยนไปไหมครับ? ใช ที่เราอยูไดทุกวันนี้สวนหนึ่งเปนเพราะสถานที่ ความสงบ ของสถานที่ก็เปนสิ่งสำคัญ เหมือนกัน อีกอยางหนึ่งก็คือกัลยาณมิตร สองอยางนี้ชวยไดเยอะ อยางเขามาสูวัดปามันก็ใหความรูสึกสบาย ผอนคลาย อยูทั้งวันก็ได บางทีก็ไมไดเดินจงกรมไมไดนั่งสมาธิ ก็ ปดกวาดเช็ดถูทำนั่นทำนี่ไปตามธรรมดา แตมันก็เหมือนไดพักผอน มี กำลังมีความสงบอยูตลอดเวลา แตครูบาอาจารยทานก็เตือนอยูวาอยา พึ่งประมาท ความสงบมันก็ยังเปนของไมแนนอน มีเหมือนกันที่พระอยู ในปาแลวเขาไปทำธุระในเมืองในกรุงเทพฯ เห็นความเปนอยูของผูคน
130 เสียงฝน
What made you want to change your life? Since misery came from my own bad actions, I had to change when I could not stand this any longer. If I continued on the same path, I knew I would continue to suffer. In certain circumstances, this pain could only get worse, and I felt as if I would explode. After this, I felt remorse. It’s at this point that I felt I needed to change, and through the example of an abbot, I knew there must be a way. He radiated a sense of peace and charm that I also wanted to have. In a situation that could bring anger he remained calm, and this is why I decided to ordain as a monk. My temperament is like a mad sea. If I married, when I felt overwhelmed I could cause my family a lot of pain. But being in robe, I learned how to accept things and control my emotions to gain a sense of peace and with this came greater happiness. Does the place that you stay have any effect on your thinking and feelings? Yes, I‘ve been in robe this far partly because of the place. Peace and calm place is very important; just as important is a true friendship. Both help immensely. When one enters a forest monastery, one feels calm and relaxed. I might not be doing a so-called “formal meditation” that much on certain days but just by doing tidying and cleaning I felt relaxing. It’s the same sense of peace. But the abbot also warned me not to forget that peace
บนภูเขา 131
แลวเกิดความเรารอนกระวนกระวาย อันนี้ก็เปนโทษของความสงบ เหมือนกัน ก็ตองฝกเรือ่ งของปญญาดวยเพือ่ รับมือกับสถานการณตางๆ เพราะเราไมไดอยูอย างนีตลอด ้ เวลา บางครัง้ ก็จำเปนตองไปเกีย่ วของกับ โลกภายนอก อยางการทำหนังสือนีเห็ ่ นชัดเลย ถาไมมกำลั ี งนี่เสร็จเลย เพราะมันตองติดตอประสานงานกับผูคนมากหนาหลายตา ยิ่งถาเปน โครงการใหญๆอยางทำ Bookazine นี่ยิ่งวุนวายมาก พวกเรามีอาชีพ ทำนิตยสารก็คงจะรูดี มันก็ตองมีกำลัง ตองอาศัยความสงบแลวก็ตอง อาศัยปญญาดวย นึกตัวอยางขึ้นมาไดอันหนึ่ง เวลาพระเณรมาประชุม กันอยางเชนตอนฉันน้ำปานะ ถามีใครบอกวาวัดของเราวุนวาย เราควร จะหนีเขาไปอยูใน ปาในทีสงบ ่ จะดีกวา พระอาจารยทานก็จะยกตัวอยาง อันนี้ขึ้นมาเลาสูฟง มีพระอาจารยฝรั่งรูปหนึ่งเขาไปปฏิบัติธรรมในปาที่ เปนถิน่ ทุรกันดารในประเทศเมียนมา ทานอยูที น่ น่ั นานหลายปจนกระทัง่ พรรษาที่ ๒๐ กวาๆ จึงเดินทางกลับไปเยี่ยมบาน แลวก็สึก อาว! ทำไมละครับ? ก็นัน่ นะสิ มันเกิดอะไรขึน้ ถาบอกวาทีว่ ดั วุน วายหนีเขาไปอยูใน ปา ในทีสงบ ่ ดีกวา แลวมันเกิดอะไรขึน้ กับพระอาจารยรูปนี้ พระอาจารยทาน ยกตัวอยางอันนีขึ้ ้นมาเพื่อชี้ใหเห็นวา ความสงบก็ยังไมปลอดภัย มันจะ ตองฝกอีก มันจะตองมีอะไรทีนอกเหนื ่ อไปจากความสงบ ก็เปนเรือ่ งของ อุบายทางปญญา ซึง่ มันก็คือคำพูด ประโยค หรือวลีอะไรสักอยางหนึง่ ที่ เมือ่ นำมาพิจารณาแลวมันทำใหเราสามารถปลอยวางความทุกขทีกำลั ่ ง แบกอยูได ยกตัวอยางเชน อาตมาเคยมีเรือ่ งระหองระแหงกับพระรูปหนึง่ ซึ่งทานมีพรรษามากกวา ตางคนก็ตางไมยอมกัน เขาก็วาเขาบวชกอน
132 เสียงฝน
and calm is not a given, something you can always count on. For example, there is one monk living in a forest monastery. One day he had business to get done in Bangkok. When he arrived in the city he was so annoyed and agitated by the people and their activities so much. This is a drawback of someone who lives in seclusion for so long without practicing wisdom to balance his serenity. We need to practice wisdom in order to deal with all different kinds of conditions and situations. Because we cannot always live in seclusion, at times, I must still deal with the outside world, just like doing this magazine. If you do not have inner strength, it won’t get done. I have to be engaged with many people. A big project like a “Bookazine” was even more complicated and time consuming. You are working in this business. You know what I mean. Calm and Conscientious is much in need. One day over an evening tea time, one monk has commented that our monastery was so tense and suggested that we escape back into the forest where it is more peaceful. When the abbot overheard our conversation, he told us the story of one western monk who went to stay at a forest-monastery in Myanmar. This monk spent more than ๒๐ years there, went home for a visit and disrobed. Wow! How come? Right…what happened? If someone says that the monastery become too restive and wants to escape into the forest
บนภูเขา 133
เราก็วาเราเจงกวา ก็กระทบกระทัง่ กันไปมา ระหวางนีครู ้ บาอาจารยทาน ก็ใหอุบายหลายอยางเชน คนเราอยูด วยกันมันก็มีการกระทบกระทัง่ กัน บางเปนธรรมดา เหมือนลิน้ กับฟน เราก็คิดวาใหเขาเปนลิน้ ก็แลวกัน เรา ขอเปนฟนจะไดไมเจ็บตัว บางครั้งเราก็หยุดแลวนะแตเขาก็ยังไมยอม หยุด เปนอยางนี้อยูนานจนเวลาผานไปสองเดือน เชาวันหนึ่งอาตมา เดินมาที่ศาลาโรงฉันเพื่อจะทำภัตกิจ ก็นึกถึงสุภาษิตอันหนึ่งขึ้นมาวา “น้ำเชีย่ วอยาเอาเรือขวาง” เทานัน้ แหละมันโลงเลย เหมือนยกภูเขาออก จากอก นีเรี่ ยกวามันไดอุบายทีถู่ กจริต ก็ยังมาคิดอยูว า เรามันโงแบกอยู ตั้งนานนาจะวางไดเร็วกวานี้ คงเปนเพราะมันยังไมช่ำชอง ก็ตองฝกฝน กันอีก มีคำพูดอันหนึ่งที่วา “ผูที่ศึกษาพุทธศาสนาจะเปนคนเฒาคนแก หรือคนทีกำลั ่ งเจ็บปวยมีความทุกข” พระอาจารยไมเห็นดวยหรือ ครับกับคำพูดนี้? จะเห็นดวยหรือไมเห็นดวยก็ไมสำคัญเทาไหร คือมันเปนอยางนัน้ อยูแล ว ก็สังคมมันเปนอยางนั้นอยูแล ว มันก็ลำบากเหมือนกันจะไปพูด เรือ่ งความพนทุกขใหคนทีกำลั ่ งมีความสุขฟง อยางพวกเรามันไมมความ ี ทุกขอะไร กินไดนอนหลับขับถายสะดวก อาจจะอกหักหรือสอบเขา มหา’ลัยไมไดอะไรอยางนีนิ้ ดๆหนอยๆ ก็อยางทีบอก ่ ถาไปพูดเรือ่ งความ พนทุกขใหคนกำลังมีความสุขฟงเขาไมคอยเปดใจรับ ถาเปนอยางนั้น ทางพระเราก็จะบอกวา มันเรื่องของเขา อยางโยมที่มาวัดก็ไมใชวา เขา จะตัง้ หนาตัง้ ตามาสนทนาธรรมกับพระหาทางพนทุกขกันทุกคนนะ เมือ่ ไมกีวั่ นมานีมี้ ผูช ายวัยทองคนหนึง่ เขามาในวัด อาตมาก็ซักผาตากผาของ
134 เสียงฝน
to nd peace, what do you think happened to him? The abbot just pointed out that our peace isn’t always a real refuge. We needed to practice more. One needs something like a skillful means to nd wisdom, maybe a word, a phrase or a mantra, and with this we can let go of our suffering. I once had a disagreement with another monk who had been ordained longer than me. I still thought I was smarter than him. We would constantly be at odds, much like a tongue and teeth. I thought he could be the tongue, I’d be the teeth as then I wouldn’t be the one hurt. This went on for a few months until one day, when I was walking to the sala to do something, I thought of a proverb, “It is ill striving against the stream.****” And this was like lifting a heavy burden from my heart. It was a trick that works for me. I saw I have been acting so dumb. But all of this takes a lot of practice. It’s been said, “Those who study Buddhism are either old, sick or suffered.” What do you think about this? Whether I agree or disagree really doesn’t matter. It’s a pervading understanding that has already existed in Thai society. It is a bit difcult to try to explain the way to free oneself from suffering to the one who are feeling happy. Someone like us who lives each day, eats, drinks, and be merry. We might fall in and out of love here and there; unk the tests now and then but who to say we’re suffered. We might not yet be ready to look
บนภูเขา 135
ตัวเองไป ก็นึกถึงคำพูดของหลวงพอเลีย่ ม พระอุปช ฌายของอาตมาทาน บอกวา “ถาเขาไมสนใจเรา เราก็ไมตองไปสนใจเขา” ทานวาอยางนี้เลย นะ เออ! มันก็ดีเหมือนกัน ตางคนตางอยู เขาอาจจะแคมาเที่ยวดูนก ดู ตนไม ดูกระรอกอะไรก็ได มันก็เปนเรื่องของเขา เราก็อยูของเราไป เสร็จ ธุระแลวเราก็กลับกุฏิ ก็ยังเห็นเขานัง่ อยูเงี ยบๆ สักพักหนึง่ เขาก็เดินไปหา อาตมาทีกุ่ ฏแล ิ วถามวา ทำยังไงจิตใจจึงจะสงบครับ? เออ! ถาเปนอยาง นีแสดงว ้ าเขาวุน วาย เขามีความทุกขมา ถาพูดธรรมะใหคนแบบนีฟ้ งมัน ไดผล อาตมาก็เลยบอกใหเขาไปรอทีศาลา ่ เดี๋ยวจะไปสนทนาธรรมดวย เพราะเรามีขอวัตรที่จะไมรับแขกที่กุฏิ พอไปพูดคุยดวยเขาก็ตั้งใจฟงดี นะ คือเขาเปดใจรับ อีกอยางคนแกคนอายุมาก ความตืน่ เตนความสนุก ในชีวติ มันก็เหลือนอยแลว มันจะไปเอาอะไรอีกละ มันก็ผานมาหมดแลว แลวมันก็มีโรคภัยไขเจ็บดวย มีความพลัดพรากจากผูเปนที่รักดวย มัน ก็เริ่มเห็นความทุกข เริ่มที่จะหาที่พึ่งใหกับตัวเอง จะไปดูหนังฟงเพลง มันก็ไมสนุก จะเดินทางทองเที่ยวมันก็ลำบาก จะอานหนังสือตาก็มอง ไมคอยจะเห็นแลว มันก็เริ่มเขามาแลว ก็ตองเปนเรื่องของจิตใจ แตวา ถาปลอยไวนานขนาดนั้นมันจะลำบาก ถาเรามาทำไวกอนมันจะมีที่พึ่ง มีกำลัง การปฏิบัติธรรมมันก็เหมือนการงานอื่นๆนั่นแหละ มันตองทำ ตั้งแตยังหนุม เหมือนเราทำหนังสือ ถาเราเริ่มทำตอนหนุมๆ พออายุ มากขึ้นมันก็ชำนาญ มันจะมองออกวาอะไรเปนอะไร อีกอยางคนหนุม ก็เรียนรูไดเร็วดวย พระอาจารยบวชตอนอายุ ๒๒ ป รูสึกวาไดหรือเสียอะไรไปกับ ชีวิตวัยรุนหรือเปลาครับ? อาตมาวามันไดมากกวานะ มันไดทดลอง จริงๆ มันไมมอะไร ี เสีย คือชวงวัยรุนมันเปนชวงที่ตองผานอยูแลว ไมรูสึกวาเสียอะไร มันไดทำ 136 เสียงฝน
into the problem. In our monastic term, we said “it is his/her way” One elderly man’s recently come to my monastery. I was washing my robes and hanging them to dry. I did not say anything to him because I thought of my teacher’s voice saying, “If someone does not ask us, how could we answer him?” It’s sort of like, ‘different people have different paths.’ He might come just to watch birds, enjoy trees, watch squirrels, whatever; it’s all up to him. He sat for a while then walked up to my kuti and asked me how he can make a mind peaceful. Now if he asked such a question, then he must have seen suffering. If I talked to him about the dharma at that moment, there can be some good results. I told him to go to the sala because I have a policy not to receive guest in my kuti. He listened to the dharma receptively. He had been thru life for a while but the sense pleasures in the past have not given him long lasting happiness. He started to look for a new refuge. Because of his age his eyes and ears faculties are falling. Travel is no longer easy. Films and music are not so fun any more. His mind turned inward naturally. He was ready to accept something new and learned more about the mind. Nevertheless it is best to start when we are young, much like any jobs. If we start young, we develop our expertise. Remember, the young learn faster. You ordained when you were 22. Do you think you missed anything in your life? No, I never felt like that. I was able to do everything I wanted บนภูเขา 137
ทุกอยางที่อยากทำมาแลว ก็ยังนึกอยูวา กอนที่จะมาบวชนี่เราเหลือ ความใฝฝน อยูเพี ยงสองอยางแคนน้ั เอง คือการทำหนังสือกับการทำทีส่ ดุ แหงกองทุกข ตอนนี้ก็เหลือเพียงอยางเดียว อธิบายไดไหมครับวากองทุกขที่วานั้นคืออะไร? ความแกชรา ความเจ็บไข ความตาย ความพลัดพรากจากของรัก ของชอบใจ อยากไดสิ่งใดไมไดสิ่งนั้น ไมอยากไดสิ่งใดแลวไดสิ่งนั้น ก็ เหมือนทีเรา ่ เคยร่ำเรียนกันมาในวิชาพุทธศาสนานัน่ แหละ แตถาประสบ กับของจริงมันเปนอีกอยางหนึ่ง ระดับความเขมขนมันตางกัน และถา ไมลงมือปฏิบัติมันก็ไมถึงที่สุดของมัน ซึ่งก็มีวิธีเดียวเทานั้น แลวเราก็ มั่นใจดวยวา ถาทำอยางนี้ไปเรื่อยๆมันจะนำไปถึงจุดนั้น
138 เสียงฝน
to. Before I ordained, I had two dreams. One was to write a book and the other was to put an end to my suffering. Now, I just have one left to accomplish. Can you tell me what the suffering that you talk about? Old age, sickness, death, facing the dislikes, separation from the likes, not attaining what one wishes: all these in Buddhist texts. However once you realize these experiences directly, they are something else entirely. It’s the strength of these pains that differ. If we do not practice we will not be able to put an end to our suffering. But if we follow the right path, over time, I have a condent that all can be solved and realized.
บนภูเขา 139
เปสโลภิกขุ ในเงาและสีสันของความไรเดียงสา • ยิ้มละไมครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๖ • อนุญาตใหตัวเองไมจบจากคณะวิจิตรศิลป มหาวิทยาลัยเชียงใหม • ชักชวนกันมาบวชที่วัดหนองปาพง จังหวัดอุบลราชธานี บานเกิด • ชอบอาศัยอยูตามลำพัง • ไมชอบวันที่ไมมีตัวเองอยูเปนเพื่อน • ชาผสมเครื่องเทศ กลายเปนเครื่องดื่มประจำตัวหลังกลับจาก อินเดีย • เขียนความเรียงและบทกวีใหกับจุลสารฟรีก็อปปรายสามเดือน ฉบับหนึ่ง • อานหนังสือนอยลงทุกวัน • เปสโล แปลวา ผูมีศีลเปนที่รัก ผลงานบรรณาธิการ • Dhamma Design Issue 1 : Experimental (Bookazine) • Dhamma Design Issue 2 : Evolution (Bookazine) ผลงานรวมเลม • บทกวีในที่วาง (รวมบทกวีหลากชนิด) • แดนสนทนา (บทสนทนากับตัวเองในวัยหนุม) • เรื่องเปนเรื่อง (ความเรียงขนาดสั้น) • หนึ่งรอย (ขอเขียนคัดสรรสองภาษา) • เรื่องของเรา (ความเรียงขนาดสั้นกวา) ผลงานในรูปแบบอื่น • http://fearlessdiary.exteen.com 140 เสียงฝน
เจหวาน ในเงาและสีสันของความเบลอ • เกิด พ .ศ. ๒๕๒๒ • จบการศึกษาจากคณะนิเทศศาสตร ABAC • เคยทำงานเปนครีเอทีฟ และกองบรรณาธิการนิตยสาร • ปจจุบันทำงานสื่อสารการตลาด • ชอบการเดินทาง ไอเดียบาๆ บอๆ ศิลปะ ประสบการณ หลากหลาย • รวมถึงความสนใจในพุทธศาสนา ผลงานรวมเลม ๒๕๔๙: “ผลิ” ๒๕๕๐: “ซอกสมุด” ๒๕๕๒: “M&M”
(สำนักพิมพเวิรคพอยท พับลิชชิ่ง) (สำนักพิมพ A BOOK) (หนังสือทำมือ โดยเจหวานและนิ้วกลม)
ติดตอเจหวาน : lingliquid@yahoo.com
บนภูเขา 141
ตืดหวือ ในเงาเวลาของอรรถวิท บุญวรรณ • อาชีพจิตรกร และ รับจางทั่วไป • ที่อยู ๔/๙๑ หมูบานสหกรณ เสรีไทย ๕๗ บึงกุม กรุงเทพฯ ๑๐๒๔๐ • โทรศัพท ๐๘๖-๖๑๒-๑๔๖๐ • อีเมล uttawitolarn@yahoo.com • เว็บไซต http://uttawit.๙f.com และ http://uttawit.exteen.com • การศึกษา - วิทยาลัยชางศิลป กรุงเทพฯ - ศิ ล ปบัณฑิ ต (จิตรกรรม) คณะ วิจ ิตรศิ ล ป มหาวิ ทยาลั ย เชียงใหม - กำลังศึกษาระดับปริญญาโท ภาควิชาประยุกตศิลปศึกษา มหาวิทยาลัยศิลปากร • ดาราที่ชอบ พิภพ ภูภิญโญ คติพจน ลูกผูชายตองอวน
142 เสียงฝน
บนภูเขา 143
อนุโมทนาเหลือเกิน พระกีรติ ธีรปญโญ พระพิศุทธิ์ สีลฺสํวโร พระนฤพล เขมฺจิตโต ฐานิโยภิกขุ ครอบครัวสุวรรณกูล คุณอโณทัย คลังแกว คุณวรรณี สิชฌนุกฤษฏ คุณจักรกฤษ วงษนิพนธ คุณปาริชาต ลิ้มคุณพงษ คุณนิวัติ-คุณบุญถนอม ภูริภาคยวงศ คุณกิตติพงค ทุมนัส คุณธานินทร เฮงจิตตระกูล คุณมาลิน ใจใหญ คุณเกสิณี คุณเจมส ฮาฟท คุณโกสินทร สิงหทอง คุณกอลฟ ศรีราชา คุณพิสิทธิ์-คุณมาลา-คุณพนา เพงพันธุพัฒน คุณปรมัตถ พูลภัทรชีวิน
144 เสียงฝน
สนับสนุนการจัดพิมพถี่เหลือเกิน คุณสนธิ-คุณสุกัญญา สุวรรณกูล คุณรัฐพล-คุณอรอุษา-ด.ช.พุทธมนตร-ด.ญ.พุทธิฌา สุวรรณกูล คุณเวียง-คุณปยพร-ด.ญ.ชาณา วงศพระจันทร คุณพุทธพร สุวรรณกูล คุณพูนเกียรติ-คุณณัฐหทัย-คุณกิตติพงษ วะระทรัพย คุณนิวัติ-คุณบุญถนอม ภูรภิ าคยวงศ คุณมาลีวรรณ พรสมบัติเสถียร บจก.ระยอง วอเตอรฟรอนทรีสอรท บจก.แเอสเพ็น เซอรวิส คุณดนัย สุขประสาธน คุณพชรมาน ปานเนาว คุณสุรชัย ธนะสินวิริยะกุล คุณเบญจรงค-คุณณัฐนันท สุวรรณเบญจางค
บนภูเขา 145
146 เสียงฝน
บนภูเขา 147
ความดี ความงาม
ความจริง
ความรัก
ย
ความตา
ความเหงา
และความล่มสลายของอารยธรรม โห…