หลังจากบวชได้ห้าพรรษา พระโผนก็ออกเดินธุดงค์ตามล�ำพัง จนกระทั่งไปพักที่ป่าช้าท้ายหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซึ่งมีบรรยากาศวิเวกวังเวงเหมาะแก่การบ�ำเพ็ญสมณธรรม อีกทั้งหมู่บ้านก็อยู่ไม่ไกลเกินไป สามารถเดินไปบิณฑบาตได้ไม่ล�ำบากนัก
ชาวบ้านเลื่อมใสในปฏิปทาของพระโผน จึงร่วมแรงร่วมใจกันสร้างกุฏิถวายหลังหนึ่ง แล้วนิมนต์ให้อยู่จําพรรษา พระโผนรับปากกับชาวบ้านว่าจะอยู่จําพรรษา จากนั้นก็เดินทางไปกราบหลวงพ่อยังวัดที่ตนสังกัดอยู่
ที่วัดต้นสังกัด... มาจําพรรษาด้วยกันที่นี่ดีกว่า
อ้าว! ทําไมล่ะครับ? ผมอยู่ที่นั่นภาวนาดีมากๆเลยนะครับ พรรษานี้มีพระบวชใหม่เยอะ ทางวัดกําลังต้องการพระพี่เลี้ยง
ผมรับนิมนต์ชาวบ้านไว้แล้วนะครับ
ถ้าท่านยังเคารพผมอยู่ ก็มาจ�ำพรรษาที่นี่
เมื่อถูกหลวงพ่อที่เคารพนับถือทักท้วงถึงสามครั้ง พระโผนจึงยอมปฏิบัติตาม แม้จะขัดกับความรู้สึกของตัวเองอยู่บ้าง เพราะตั้งใจว่าพรรษานี้จะระดมความเพียรในการปฏิบัติธรรมให้เต็มที่ พระโผนกราบลาหลวงพ่อเพื่อไปเก็บบริขารและแจ้งข่าวแก่ญาติโยมที่หมู่บ้านแห่งนั้น ตกกลางคืนขณะที่พระโผนกําลังนั่งทําสมาธิก็เกิดบรรยากาศอัปมงคล....
หัวข้ามั๊ย!!
ผีหลอก!!!
พระโผนบริกรรมบทแผ่เมตตา หัวนั้นจึงลอยห่างออกไป แต่เมื่อพระโผนหยุดบริกรรม หัวนั้นก็ลอยกลับมาอยู่ตรงหน้าอีก พระโผนสวดมนตร์ทุกบทที่เคยร�่ำเรียนมา แต่เมื่อหยุดสวดมนตร์ หัวนั้นก็ลอยกลับมาอยู่ตรงหน้าอีก เหตุการณ์ดําเนินไปอย่างนี้จนพระโผนหมดแรง ท้ายที่สุดพระโผนจึงตัดสินใจนําย่ามซึ่งมีพระเครื่องมาคล้องคอ แล้วล้มตัวลงนอนด้วยความอ่อนเพลีย
รุ่งเช้าพระโผนออกไปบิณฑบาตและแจ้งข่าวแก่ญาติโยม ด้วยความสงสัยเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน
พระโผนจึงสอบถามญาติโยม โดยบอกรูปพรรณสัณฐาน ของผู้หญิงผมฟูที่มีรอยแผลซึ่งเกิดจากของมีคมบนใบหน้า ชาวบ้านท�ำหน้าเลิ่กลั่กแล้วเล่าเรื่องราวสยดสยองให้พระโผนฟัง
บัวเผื่อนเป็นผู้หญิงวัยกลางคนอาศัยอยู่ในบ้านหลังใหญ่กับคนรับใช้สองคน หล่อนมีฐานะร�่ำรวยแต่เป็นคนตระหนี่ อาชีพของบัวเผื่อนคือปล่อยเงินกู้โดยคิดดอกเบี้ยแพง
เมื่อชาวบ้านไม่มีเงินมาคืนตามวันเวลาที่กําหนด บัวเผื่อนก็จะยึดที่ดินมาเป็นของตน
กลางดึกคืนหนึ่งที่บ้านของบัวเผื่อน..
บัวเผื่อนดิ้นรนต่อสู้ โจรจึงใช้ดาบฟันที่ใบหน้าแล้วตัดคอ เมื่อตํารวจสะสางคดีแล้วเสร็จ ชาวบ้านก็เอาศพของบัวเผื่อนไปฝังไว้ที่ป่าช้า
หลังจากทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น พระโผนก็กลับไป กุฎิที่ป่าช้า ฉันภัตตาหาร ล้างบาตร เก็บบริขาร แล้วล�่ำลาญาติโยมออกเดินทางกลับวัด
เมื่อไปถึงวัดพระโผนก็เข้าไปกราบหลวงพ่อที่กุฏิ ขณะนั้นมีพระรูปหนึ่งกําลังนั่งสนทนาอยู่กับหลวงพ่อ พระโผนได้ยินหลวงพ่อพูดกับพระรูปนั้นว่า “มาจําพรรษาด้วยกันที่นี่ดีกว่า”
เปสโลภิกขุ ภูมิล�ำเนา อุบลราชธานี การศึกษา ระดับประถมศึกษา โรงเรียนเทศบาลบ้านสุขส�ำราญ ระดับมัธยมศึกษา โรงเรียนเบ็ญจะมะมหาราช ระดับอุดมศึกษา คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (แต่ไม่จบ) อุปสมบท วัดหนองป่าพง จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อปี ๒๕๓๙ ประสบการณ์ ปฏิบัติศาสนกิจในสหรัฐอเมริกาและยุโรป ผลงาน หนังสือธรรมะจัดพิมพ์เป็นธรรมทานยี่สิบกว่าเล่ม หนังสือธรรมะจัดพิมพ์กับส�ำนักพิมพ์ห้าเล่ม ปัจจุบัน ปฏิบัติศาสนกิจอยู่ตามซอกมุมต่างๆของโลก ติดตาม www.issuu.com/dhammavalley www.issuu.com/pesalocation www.facebook.com/pesalocation
อิทธิวัฐก์ สุริยมาตย์ ภูมิล�ำเนา ขอนแก่น การศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนภูเวียงวิทยา ระดับ ปวช. และ ปวส. วิทยาลัยอาชีวศึกษามหาสารคาม ระดับอุดมศึกษา มหาวิทยาลัยสวนดุสิต (แต่ไม่จบ) ผลงาน ได้รับรางวัลจากการประกวดหนังสือการ์ตูน และภาพยนตร์แอนนิเมชั่นราวยี่สิบรางวัลในหลายเทศกาล เช่น Silver Award จาก International Manga Award ครั้งที่ ๖ ประจ�ำปี ๒๕๕๖ ที่ประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้หนังสือการ์ตูนเรื่อง “ลิ้นชักแห่งความทรงจ�ำ” ยังได้รับการคัดเลือกให้เป็น ๑๐๐ หนังสือดีเพื่อพัฒนาเด็ก และเยาวชนไทยในปี ๒๕๕๕ ปัจจุบัน นักเขียนการ์ตูนและแอนนิเมเตอร์อิสระ ที่อยู่ ๙๑ หมู่ที่ ๑๗ ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น ๔๐๐๐๐ อีเมล์ auwddee@gmail.com