ม ่ ุ น ห า ปสบต
ยุโร
าม ชีวิตงายง ง อ ข ย า ม มห มและควาละสวิตเซอรแลนด ร ร ธ ม ด ุ อ ึมซับสังคม นอังกฤษแ เดินทางซ กชุมชนชาวพุทธใ จา
เปสโลภิกขุ
ยุโรปสบตาหนุ่ม เรื่องและภาพถ่าย เปสโลภิกขุ ออกแบบปกและรูปเล่ม Dhamma Design Club พิสูจน์อักษร มานี มีตา คอมพิวเตอร์กราฟิก ibeepdesign@gmail.com เผยแพร่ครั้งแรก ตุลาคม 2557 สงวนลิขสิทธิ์ © 2014 Dhamma Design Club อีบุ๊คส์ www.issuu.com/dhammavalley อีกเล่ม www.issuu.com/pesalocation เฟซบุ๊ค www.facebook.com/pesalocation สนทนากับผู้เขียน dhammadesign@hotmail.com
สารบัญ อังกฤษสนิทกัน #1 Cloudy London, Sunny Hampshire / 8 Head to Stonehenge / 12 Meal at Midhurst / 18 Sweet Seven Sisters / 24 Living in Hammer Wood / 28 Solitary Retreat / 34 Hiking to Chichester / 38 Shit Happens / 44 Almsround in Petersfield / 48 Ghosts in the Castle / 54 Body in the Forest / 62 Hello Liss / 68 London Can't Stop the Rain / 74 B for Bistol, Bradford on Avon & Bath / 78 Coast Path Ringstead, Weymouth & Portland / 84 Katina at Northumberland / 90 สวิตเซอร์แลนด์แสนดี From Geneva With Loving-Kindness / 96 Walking Around Kandersteg / 102 Chalet Solitude / 108 Old School Doctor / 114 The Good, The Bad & The Truth / 120
Recollecting Church of the Flying Spaghetti Monster / 126 Political on the Path / 132 Wandertag / 140 My First Fondue / 146 Journey to Geneva / 150 The Last day in Geneva / 156 อังกฤษสนิทกัน #2 A Good Day for Hike / 162 Out & About / 166 Blue Bells / 170 London Indeed! / 174 Haunted House Blessing / 180 Hang Out Around Isle of Wight / 184 Open Dhamma at Open Air Museum / 188 Homemade Coffee at Hammerfield Farm / 194 Meeting to the Deathless / 198 Short Walk to Milland / 202 My First Dhamma Talk in UK / 206 Welcome to Wales / 210 Question from Fanclub / 214 A Little Chat with Fanclub / 218 Another Day in London / 222
บุญกุศลที่เกิดจากหนังสือเล่มนี้ อุทิศแด่ ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต จากเหตุชุลมุนทางการเมือง ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย
อังกฤษส ระหว่างเตรียมเอกสารยืน่ ค�ำร้องขอวีซา่ เดินทางเข้าสหราชอาณาจักร ฉันตัง้ ใจ ไว้หลวมๆว่าจะไม่ถ่ายทอดเรื่องราวและภาพถ่ายเหตุการณ์ต่างๆลงในบล็อก เช่น ที่เคยท�ำเมื่อครั้งเดินทางไปใช้ชีวิตพระป่าในประเทศสหรัฐอเมริการะหว่างปี พ.ศ. 2553-2554 ฉันวางแผนเพียงล�ำพังว่าจะให้เวลาส่วนใหญ่หมดไปกับการปฏิบัติ ฝึกหัดพึ่งตัวเอง อีกทั้งก่อนหน้านี้ไม่กี่นาน พระรุ่นพี่ที่ฉันรู้จักอย่างน้อย 3 รูป ซึ่งล่วงหน้ามาปฏิบัติศาสนกิจ ณ วัดป่าละแวกใกล้เคียง ต่างก็ทยอยถ่ายทอดความ เป็นไปของกิจการพระศาสนาในภาคพืน้ ยุโรปอย่างละเอียดละออ เคลียคลอภาพถ่าย อลังการผ่านบล็อก จนท�ำเอาไกด์บุ๊คส์หลายฉบับถึงกับค้อนขวับ หลังจากเหาะรวดเดียว 12 ชั่วโมงจนถึงจุดหมายปลายทาง และอาการงัวเงีย งวยงงจาก Jet lag บรรเทาเบาบาง ฉันก็ร�ำลึกถึงญาติโยมที่หยิบยื่นความเอื้ออารี จนท�ำให้ฉนั ได้มาเดินอาบปรอยฝนปนเม็ดแดดอยูบ่ นเกาะแห่งนี้ ผูค้ นน่ารักเหล่านัน้ ช่วยกันติดต่องานเอกสาร ให้ค�ำปรึกษา สนับสนุนค่าใช้จ่าย พาไปถ่ายรูป พาไปใช้
สนิทกัน#1 อินเทอร์เน็ต พาไปโรงพยาบาล พาไปส�ำนักงานท�ำวีซา่ พาไปสนามบิน ตลอดจนมา นัง่ เป็นเพือ่ นระหว่างทีฉ่ นั รอขึน้ เครือ่ งโบว์องิ้ 747 ตอนตีหนึง่ ! ใจดีขนาดนีก้ น็ า่ จะมี อะไรติดไม้ติดมือกลับไปฝากกันบ้าง ครั้นจะให้ฉันหอบตุ๊กตาจิงโจ้หรือหมีโคอาล่า ไปแจกก็คงไม่มนั ส์ เตะเล่นไม่กวี่ นั ก็เบือ่ แล้ว พิจารณาอยูส่ องนานฉันก็สรุปเอาดือ้ ๆ โดยไม่ปรึกษาใครว่า เนื้อหาและภาพถ่ายในหนังสือเล่มนี้นี่แหละ ที่คู่ควรแก่การ แปลงกายเป็นของฝากมากที่สุด
Cloudy London, Sunny Hampshire
ขณะที่เครื่องบินก�ำลังร่อนลง LHR - London Heatrow Airport ฉันก็เหลือบ ไปเห็นแลนด์มาร์คลือลั่นที่เคยพานพบในหนังสือน�ำเที่ยวจนเกือบครบ River Thames แม่น�้ำกว้างใหญ่ไหลแหวกกรุงลอนดอน, Tower Bridge สะพานทะลุ หอคอย, London Eye ชิงช้าสวรรค์ขนาดมหึมา และ 30 St. Mary Axe ตึกโมเดิรน์ ทรงกระสุน ขาดก็เพียง Big Ben ซึ่งคงตระหง่านอยู่ละแวกนั้น แต่น่าจะเป็นเพราะ ภาพที่ก�ำลังฉายชัดในจินตนาการ จึงท�ำให้ฉันมองข้ามหอนาฬิกาแหลมโบราณ ความขมุกขมัวปนเก่าปนใหม่ของมหานครแห่งนี้ บันดาลให้ฉันเห็นลอนดอนผ่าน ม่านอากาศประหนึ่งซากดาวเคราะห์หลังมหาสงครามนิวเคลียร์!! เพียงหนึ่งชั่วโมงครึ่งจากสนามบินฮีทโธรว์ลงไปทางตอนใต้ ฉันก็เดินทางมา ถึงวัดป่าจิตตวิเวกหรือ Chithurst Buddhist Monaster ต�ำบลชิตเฮิร์ต อ�ำเภอ ปีเตอร์ฟลิ ด์ จังหวัดแฮมพ์เชียร์ ขณะนัน้ เป็นเวลาเกือบๆสิบโมงเช้า พระฝรัง่ ทีอ่ าสา ไปรับฉันเดินน�ำเข้าไปในบ้านหินโบราณหลังใหญ่ บนหน้าจั่วทางเข้าประตูบ้าน ปรากฏตัวเลข 1862 เมื่อขนย้ายสัมภาระเข้าไปเก็บในห้องซึ่งมีอยู่เป็นจ�ำนวนมาก ในบ้านหลังนี้ ฉันก็ขอตัวไปช�ำระร่างกายสลายความมึน ก่อนสิบเอ็ดนาฬิกาสามสิบนาที ฉันเดินลงมาจากชัน้ ทีส่ องของบ้านพบญาติโยม ชาวไทยที่มาท�ำบุญโดยบังเอิญ อุบาสิกาซึ่งมากับลูกชายวัยซนสองคนบอกว่า ไม่มี พระไทยมาจ�ำพรรษาทีน่ นี่ านแล้ว จากข้อมูลทีฉ่ นั ได้รบั ไม่นา่ จะต�ำ่ กว่า 5 ปี หลังจาก ทักทายกับญาติโยมพออุ่นๆ พระเจ้าถิ่นก็น�ำฉันไปที่ศาลาเพื่อกราบนมัสการท่าน พระอาจารย์เจ้าอาวาส จากนั้นพระภิกษุ สามเณร และอนาคาริก (นาคหรือผู้ชาย เตรียมบวช) สิบกว่ารูปก็เดินไปรับอาหารที่โรงครัวซึ่งเป็นอาหารมังสวิรัติล้วนๆ
10 / อังกฤษสนิทกัน
หลังภัตกิจพระฝรัง่ สองรูปชักชวนฉันไปเดินชมป่า ซึง่ ฉันเองก็กะว่าจะไปอยูแ่ ล้ว ตามค�ำแนะน�ำที่อ่านพบบนเครื่องบิน วิธีหนึ่งที่จะช่วยบรรเทาอาการ Jet Lag ได้ก็คือ การประกอบกิจกรรมให้สอดคล้องกับเวลาในท้องถิ่นนั้นๆ ซึ่งฉันเห็นว่า เวลานี้ไม่น่าจะมีกิจกรรมใดเหมาะไปกว่าการเดิน ภายในอาณาบริเวณกว่า 300 ไร่ ของ Hammer wood ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งของวัดป่าจิตตวิเวก ประกอบด้วยป่า ขนาดใหญ่ บึงขนาดกลาง และเนินเขาขนาดย่อม ฤดูกาลนี้ปรากฏ Foxgloves สีม่วงควงดอกทรงกรวยแกว่งไกวให้เราได้ทัศนาตลอดเส้นทาง เราทั้งสามเดินทางกลับมาถึงวัดในเวลาสิบหกนาฬิกาเศษๆ ฉันช�ำระร่างกาย แล้วฉันน�้ำผลไม้ จากนั้นก็พยายามยืนๆเดินๆนั่งๆ จนกระทั่งเวลาประมาณสิบเก้า นาฬิกาจึงรู้สึกว่าเต็มที่แล้ว ฉันก้มลงกราบพระที่หมอนใบขนาดพอเหมาะ แล้ว เอนตัวลงจ�ำวัดบนที่นอนอุ่นหนา ช่วงนี้เป็นฤดูร้อนอากาศก�ำลังสบายจึงไม่จ�ำเป็น ต้องใช้ฮีตเตอร์ แค่เสือ้ กันหนาวตัวเดียวก็เอาอยู่ ก่อนจ�ำวัดฉันร�ำลึกขึ้นมาว่า เหตุที่ เราได้เดินทางมาพ�ำนักในสถานที่อันสวยงามสะดวกสบายเช่นนี้เป็นเพราะบารมี ของหลวงพ่อชา และท่านเองก็เคยมานัง่ สมาธิภาวนาอยูม่ มุ ใดมุมหนึง่ ภายในห้องนี้ ฉันหลับสนิทตั้งแต่เวลานั้นจนถึงสี่นาฬิกาของวันใหม่
อังกฤษสนิทกัน / 11
Head to
Stonehenge
สองสัปดาห์กับการปรับตัวให้เข้ากับสภาพดินฟ้าอากาศ ผู้คน ภาษา และ ข้อวัตรปฏิบัติ ญาติโยมชาวไทยสองท่านก็มารับฉันที่วัดป่าจิตตวิเวกในช่วงสาย เพื่อมุ่งหน้าไปฉันภัตตาหารที่เมือง Salisbury นับว่าเป็นการเดินทางไกลครั้งแรก ตั้งแต่ย่างเหยียบมาบนเกาะอังกฤษ หลังจากญาติโยมท�ำการนัดหมาย ฉันก็ตรวจ ดูสภาพอากาศแทบทุกวัน What's the weather like? คือประโยคฮิตติดเมฆของ ผู้คนที่น่ี ทางเว็บไซต์พยากรณ์อากาศแจ้งว่าตลอดสัปดาห์นี้ท้องฟ้าจะมีทัศนวิสัย ปลอดโปร่งฟ่องฟูบ่ ลูสกาย เมือ่ รถยนต์เคลือ่ นสูถ่ นนสายหลักเราจึงเห็นขบวนมอเตอร์ไซต์ และรถเปิดประทุนทัง้ แบบแคลสสิกและโมเดิรน์ วิง่ เกลือ่ นกล่นอยูบ่ นท้องถนน โยม ทั้งสองเล่าว่าช่วงนี้ก็ดีอยู่หรอก แต่ปลายปีนี่สิ ทั้งหนาวทั้งฝน แค่บ่ายสามโมงก็มืด ตึดตื๋อ เป็นช่วงที่คิดถึงบ้านและอยากกลับเมืองไทยใจจะขาด สองข้างทางของชนบทอังกฤษในช่วงฤดูร้อนเชียวชอุ่มชุ่มตา น่าแปลกใจ เหมือนกันว่าเหตุใดถนนแต่ละสายจึงมีขนาดเล็กๆแคบๆจนรถแทบจะแซงกันไม่ได้ กิง่ ไม้ทโี่ ค้งค้อมปกคลุมถนนประหนึง่ ซุม้ ประตูมเี ห็นอยูท่ วั่ ไป หลังพุม่ ไม้ใหญ่เป็นท้องทุง่ สูงๆต�่ำๆส�ำหรับท�ำเกษตรกรรม ดอกพริมโรสสีเหลืองละออชูช่อรับแสงแดดสุด ลูกหูลกู ตา หลังจากหนึง่ ชัว่ โมงผ่านไปเราก็เดินทางมาถึงบ้านญาติโยมชาวนครพนม ที่แต่งงานกับชาวอังกฤษ อาหารวันนี้จึงมีทั้งข้าวเหนียว ลาบหมู ปลานึ่ง แจ่ว และ ผักสดกรอบ ปิดท้ายด้วยผลไม้และขนมแฮนด์เมดหวานจัดตามแบบฉบับของ อังกฤษ เมื่อเสร็จภัตกิจและพูดคุยถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกันแล้ว เราก็มุ่งหน้าไปยัง Stonehenge แท่งหินมหึมาที่มีอายุราวๆ 5,000 ปี อย่างที่ฉันเล่าไปแล้วว่าวันนี้อากาศดีแดดจัด บรรดาทัวร์ริสต์จึงแห่แหนกัน มายังแหล่งท่องเทีย่ วแลนด์มาร์คแห่งนีอ้ ย่างจอแจคับคัง่ กระทัง่ ทีจ่ อดรถแน่นขนัด 14 / อังกฤษสนิทกัน
จนต้องต่อแถวซื้อบัตรเข้าไปชม ซึ่งท�ำให้ฉันเกิดความสงสัยแบบห่ามๆว่าท�ำไมเรา ต้องมายืนตากแดดเข้าแถวจ่ายตังค์เพื่อเข้าไปดูแท่งหินตั้งโด่เด่อยู่กลางทุ่งด้วยวะ? สิ้นเสียง “วะ” เราก็เดินไปถึงท้ายแถว ฉันถามโยมที่เคยมาเหยียบละแวกนี้นับ ไม่ถ้วนครั้งว่า ถ้ามองจากรั้วด้านนอกจะเห็นไหม? โยมบอกว่าเห็นไกลๆ ฉันจึงชวน โยมแตกแถวไปเห็น Stonehenge ไกลๆใต้รม่ ไม้เป็นเวลา 3 นาที จากนัน้ ก็เร่งฝีเท้า กลับไปที่รถโดยไม่ได้ถ่ายรูปไว้เป็นที่ระทึกระทวยแม้แต่รูปเดียว ใครจะประทดประเทียดว่าฉันพลาดโอกาสสุงสิงกับ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของ โลกก็เป็นเรือ่ งของเขา เพราะฉันเห็นว่าการได้คลุกคลีกบั หนทางสูค่ วามดับทุกข์นนั้ มหัศจรรย์และส�ำคัญกว่าเรื่องอื่นใดในโลก อีกหนึ่งสถานถัดมาที่เราวางแผนกันว่า จะไปเยือนคือ New Forest แต่ได้ถกู สมาชิกทัง้ ขบวนยกเลิกกลางถนน ด้วยเหตุผล ของคนทีเ่ กิดอยูใ่ กล้เส้นศูนย์สตู รว่า “มันร้อน” ถ้าอย่างนัน้ จะไปไหนกันดี? ญาติโยม เสนอว่างั้นไป Winchester เมืองหลวงเก่าของประเทศนี้ ฉันนั่งนิ่งเป็นการตอบรับ ระหว่างนั้นญาติโยมเล่าให้ฟังว่าเพื่อนรุ่นพี่คนหนึ่งเคยยืนต่อแถวเป็นเวลานานถึง 4 ชั่วโมง เพื่อซื้อบัตรเข้าชมการแข่งขันเทนนิสวิมเบิลดันจนเป็นเหตุให้ขาอักเสบ ฉันสมน�ำ้ หน้า เอ้ย! สมทบว่าเมือ่ ครูน่ ถี้ า้ เรายืนกรานทีจ่ ะเข้าไปสัมผัส Stonehenge ก็อาจจะตกอยู่ในสภาพน่าสมเพชไม่ต่างกัน เมื่อรถแล่นมาถึงตัวเมือง Winchester เราก็ลงเดินสู่ The Great Hall ห้องโถงขนาดยักษ์ของปราสาทวินเชสเตอร์ สถานที่ซึ่งบันดาอัศวินโต๊ะกลม แห่งกษัตริย์อาเธอร์จ�ำนวน 24 คนมาร่วมกันประชุม โต๊ะกลมขนาดใหญ่ที่ใช้ใน การประชุมครั้งนั้นถูกจับแขวนไว้บนผนังของปราสาท ใช่แล้ว! หากต้องการความ สมัครสมานสามัคคี “การหมัน่ ประชุมกันเนืองนิตย์” ยังเป็นเรือ่ งทีค่ วรกระท�ำทัง้ ใน อังกฤษสนิทกัน / 15
ซีกโลกตะวันตกและตะวันออก ห้องด้านหลังของปราสาทจัดเป็นส่วนนิทรรศการ ภาพวาดภูมทิ ศั น์ สถาปัตยกรรมและภาพเหมือนบุคคล ฉันแวะเข้าห้องน�ำ้ ทีอ่ าคาร หลังนี้ รู้สึกผิดหวังเล็กน้อยที่เป็นห้องน�้ำธรรมดาซึ่งหาหย่อนก้นได้ตามคาเฟ่ทั่วไป นึกว่าโถส้วมจะสวมทองฉลักเฉลาให้เข้ายุควิคทอเรียน ฉันไม่ได้คาดหวังอะไรมากนักกับการเดินทางมาอังกฤษครั้งนี้ หลังจากใช้ชีวิต พระป่าเป็นเวลาสองปีที่แคลิฟอร์เนีย มันท�ำให้การเดินทางไปเยือนต่างแดนครั้ง ถัดๆมากลายเป็นเรื่องธรรมดา เมืองใดๆก็ไม่แตกต่าง ชนบทใดๆก็ไม่แตกต่าง ฝรั่ง ก็เป็นทุกข์แบบฝรัง่ คนไทยก็เป็นทุกข์แบบคนไทย บ่ายนีเ้ ราทิง้ ทวนวินเชสเตอร์ดว้ ย River Itchen and Weirs Walk ทางเดินเท้ารื่นรมย์ประดับร่มเงาและหวาน ตระการด้วยดอกไม้หลากพันธุข์ นาบล�ำธารเย็นฉ�ำ่ ไหลแรง บางจังหวะสายน�ำ้ ลอดผ่าน ฐานโค้งของบ้านอิฐโบราณ ผูค้ นต่างพากันออกมาเอกเขนกตักตวงแสงแดดบนเก้าอี้ และสนามหญ้าอย่างสบายอารมณ์ ฉันปิดท้ายการทัศนศึกษาในวันนี้ด้วยน�้ำผลไม้ ส่วนญาติโยมทัง้ สองอิม่ หน�ำกับไอศกรีมและเค้กแครอทชิน้ โต ไม่แน่ใจว่าอร่อยหรือเปล่า เพราะได้ยินร�ำพันกังวาลชนิดไม่เกรงใจเจ้าของร้านว่า “หวานจัดแบบอังกฤษ”
16 / อังกฤษสนิทกัน
Meal at Midhurst
วันนี้อากาศค่อนข้างหนาว ท้องฟ้าถูกปกคลุมด้วยเมฆขาว หลังอาหารเช้าฉัน กับพระฝรั่งรูปหนึ่งเดินทางออกจากวัดในเวลาประมาณเก้านาฬิกาเศษๆ เพื่อไป บิณฑบาตยังเมืองมิดเฮิร์ต เราสะพายบาตรและย่ามบรรจุนำ�้ ดื่มกับของใช้จ�ำเป็น ไปด้วย เพราะวันนี้เราจะแวะฉันมื้อกลางวันกันที่นั่น เราเดินชิดขอบถนนไปเรื่อยๆและต้องคอยหลบรถเป็นระยะๆเพราะถนน แคบมาก ถ้าบังเอิญมีรถวิง่ มาเจอกัน คันใดคันหนึง่ ต้องถอยกรูดหาช่องหลบเพือ่ ให้ รถอีกคันหนึง่ โบกมือทักทายเซย์ฮายแล้วผ่านไป พระฝรัง่ อธิบายว่าถ้าท�ำถนนกว้างๆ เพื่อให้รถวิ่งสะดวกจะส่งผลให้การจราจรคับคั่ง แต่รัฐบาลไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น เพราะต้องการอนุรกั ษ์ความเงียบสงบของชนบทในประเทศอังกฤษ หลังจากพ�ำนัก อยู่ที่นี่เป็นเวลา 2 สัปดาห์ ฉันขอยืนยันพันเปอร์เซนต์ว่ารัฐบาลบรรลุวัตถุประสงค์ นั้นแล้ว บ้านในละแวกนี้ผุดขึ้นบนพื้นที่ฟาร์มขนาดมหึมา เลี้ยงสัตว์ ท�ำการเกษตร หรือบางแห่งก็เพียงแต่ปลูกหญ้าบนสนามโล่งๆไว้แข่งโปโล ซึ่งพระฝรั่งให้ข้อมูลว่า ต้องเป็นผูท้ ี่มฐี านะดีจริงๆจึงจะมาใช้ชีวติ อยู่ทนี่ ี่ได้ ญาติโยมฝรัง่ หลายท่านต้องการ ย้ายถิน่ ฐานมาอยูใ่ กล้วดั เพือ่ จะได้เดินจงกรม นัง่ สมาธิ ฟังเทศน์ สนทนาธรรมอย่าง สม�่ำเสมอ แต่ก็ต้องยกเลิกไปเพราะละแวกนี้หาสัมมาอาชีวะให้ประกอบล�ำบาก เมื่อเวลาหนึ่งชั่วโมงสิบห้านาทีผ่านไป พระสองรูปก็เดินมาถึงตัวเมืองมิดเฮิร์ต ทีน่ ไี่ ม่ตา่ งจากพืน้ ทีส่ ว่ นอืน่ ๆของอังกฤษ อาคารภายนอกก่อร่างสร้างด้วยอิฐดินเผา ขนาดใหญ่แต่ภายในตกแต่งทันสมัย เราข้ามถนนมายืนอยู่เยื้องซุปเปอร์มาร์เก็ตซึ่ง ชั้นบนเป็นอิฐโบราณแต่ชั้นล่างเป็นห้องกระจก สามารถมองเห็นเคาน์เตอร์และ สรรพสินค้าทีแ่ น่นขนัดอยูภ่ ายในได้ ระหว่างทีย่ นื อยูจ่ ดุ นัน้ ฉันก็รำ� ลึกถึงบทสนทนา ระหว่างหลวงพ่อชากับพระอาจารย์โรเบิรต์ สุเมโธ (ปัจจุบนั คือพระราชสุเมธาจารย์) 20 / อังกฤษสนิทกัน
เมือ่ มูลนิธสิ งฆ์แห่งอังกฤษนิมนต์พระอาจารย์สเุ มโธ มาก่อตัง้ วัดป่าในประเทศอังกฤษ พระอาจารย์สเุ มโธเกิดความสงสัยว่า พระป่าจะด�ำรงชีวติ อยูใ่ นประเทศทีค่ นไม่รจู้ กั พุทธศาสนาได้อย่างไร? เราจะรักษาพระวินัยให้เคร่งครัดเหมือนอยู่เมืองไทยได้ อย่างไร? ใครจะใส่บาตรให้ขบฉัน? เมื่อพระอาจารย์สุเมโธน�ำข้อสงสัยทั้งหลาย เข้าไปกราบเรียนหลวงพ่อชา ท่านก็ยอ้ นถามว่า...ทีอ่ งั กฤษมีคนดีไหม? ฉันเล่าเรือ่ งนี้ ให้พระฝรั่งฟัง ท่านถึงกับอุทานว่า Loung Por Chah is very tough! ด้วยประโยคค�ำถามของหลวงพ่อชาจึงท�ำให้พระอาจารย์สเุ มโธเดินทางมาเผยแผ่ ศาสนาที่กรุงลอนดอน และด้วยเหตุปัจจัยข้างต้นจึงท�ำให้ฉันได้มายืนแผ่เมตตารอ รับอาหารบิณฑบาตอยู่ตรงนี้ ญาติโยมท่านแรกที่น�ำขนมปังมาใส่บาตรคือคุณยาย ท่าทางใจดี ต่อมาพ่อหนุม่ คนหนึง่ ก็ขา้ มถนนมาพร้อมกับแซนวิชหนึง่ ห่อ เขาใส่บาตร พลางแย้มยิ้มบอกว่า “คุณต้องแบ่งกันนะ” จากนั้นญาติโยมก็ทยอยกันมาอีก 4-5 รายซึ่งเป็นฝรั่งล้วนๆ ฉันถามพระฝรั่งว่าครั้งก่อนๆที่ท่านมาบิณฑบาตพบญาติโยม ที่มาใส่บาตรวันนี้ไหม? พระฝรั่งตอว่า “ไม่เคยพบกัน ญาติโยมที่มาท�ำบุญวันนี้เป็น หน้าใหม่ทงั้ หมด” ญาติโยมรายสุดท้ายทีม่ าใส่บาตรเล่าว่าเขากับภรรยาเป็นชาวพุทธ บังเอิญขับรถผ่านมาเห็นพระยืนอยู่จึงอยากท�ำบุญท�ำทาน พูดจบเขาก็ควักปัจจัย ออกมาหมายจะหย่อนลงในบาตร ซึ่งเราก็ปฏิบัติเหมือนครั้งที่อยู่เมืองไทยโดย บอกเขาว่า “เราไม่รับปัจจัย เรารับเฉพาะอาหาร” เมื่อได้ยินดังนั้นเขาก็ถามว่า ท่านฉันอาหารได้ทุกอย่างใช่ไหม? ฉันเนื้อได้ไหม? หรือว่าท่านฉันอาหารมังสวิรัติ? เราตอบว่า “เราพิจารณาอาหารทุกอย่างทีญ ่ าติโยมถวายด้วยศรัทธา” เขาพยักหน้า แล้วข้ามถนนไปยังซุปเปอร์มาร์เก็ต จากนั้นก็กลับมาใส่บาตรด้วยขนมปังก้อน เบ้อเริ่ม เรายืนอยู่ตรงจุดนั้นเป็นเวลา 45 นาที เมื่อเห็นว่าอาหารเพียงพอส�ำหรับ วันนี้จึงออกเดินไปที่สวนสาธารณะ อังกฤษสนิทกัน / 21
ก่อนท�ำภัตกิจพระเจ้าถิ่นบอกว่าเราควรร�ำลึกถึงญาติโยมทุกคนที่มาใส่บาตร วันนีแ้ ล้วสวดมนต์อนุโมทนา ภัตตาหารมือ้ นีป้ ระกอบขนมปังแบบอังกฤษทีเ่ รียกว่า สโคน โดนัทไส้สตรอเบอร์รี่ คุ้กกี้ขิง มันฝรั่งทอด และน�้ำเปล่าหนึ่งขวด ซึ่งช่วยให้ ลืน่ ไหลไม่ตดิ คอ ฉันสละแซนวิซสอดไส้เนือ้ วัวชิน้ หนาให้พระฝรัง่ เมือ่ มีกำ� ลังวังชาแล้ว เราก็แปรงฟัน เก็บขยะไปทิ้ง จากนั้นก็เดินกลับวัดในอีกเส้นทางหนึ่ง ตอนเดินกลับ แดดจัดอากาศอุน่ และฉันรูส้ กึ ว่าไกลกว่าตอนเดินมา แต่พระฝรัง่ กลับบอกว่าระยะทาง พอๆกัน เหตุที่เรารู้สึกอย่างนั้นคงจะเป็นเพราะเหนื่อย ร้อน และความตื่นเต้นของ การมาครั้งแรกมันหายไป ช่วงเย็นย�่ำฉันเดินขากระเผกจากห้องพักที่อยู่บนชั้นสองของบ้านหลังใหญ่ ไป ทีห่ อ้ งครัวซึง่ อยูช่ นั้ ล่างเพือ่ เติมน�ำ้ ดืม่ ใส่ขวด บังเอิญเห็นอนาคาริกชาวฝรัง่ เศสก�ำลัง เตรียมน�้ำปานะถวายพระ ฉันจึงขอน�้ำส้มจากเขาหนึ่งกล่องใหญ่ เพราะอนุมานว่า พรุง่ นีค้ งจะท้องผูก สามเณรชาวอังกฤษเห็นท่าเดินแปลกๆขอฉันจึงช่วยนวดเท้าให้ แล้วเขาทั้งสองก็ได้เรียนภาษาไทยจากฉันหนึ่งค�ำว่า “เจ็บ”
22 / อังกฤษสนิทกัน
Sweet Seven Sisters
หลังอาหารเช้าพระภิกษุสามเณรต่างเตรียมอาหารกลางวันของใครของมัน ส�ำหรับห่อของฉันประกอบด้วยขนมปังทาเนยถั่วและแยมอย่างละ 1 คู่ เค้กก้อน เล็ก 1 ชิ้น ผักชนิดต่างๆ 1 ถุง ถั่ว 1/2 ถุง แอ๊ปเปิ้ล 1 ผล และกล้วยหอม 2 ผล ฉันตั้งใจว่าจะพิจารณาให้หมดจะได้ไม่ต้องเหลือกลับมาเป็นภาระของทางวัด เมื่อ เวลานัดหมายคือประมาณแปดโมงครึ่งมาถึงเราก็เดินทางออกจากวัด สองข้างทาง ยังคงเป็นบ้านอิฐโบราณ อาคารบางหลังท�ำขึน้ ใหม่แต่กอ็ อกแบบให้โบราณ นัง่ ชมวิว และโอภาปราศรัยกันเพียง 1 ชัว่ โมง 30 นาทีกม็ าถึงจุดหมายแรก จอดรถแล้วเราก็พา กันเดินตัดทุง่ หญ้า ข้ามสะพาน ผ่านโบสถ์เก่า เห็นหงส์สขี าวฝูงหนึง่ ลอยนิง่ อยูใ่ นบึง เมือ่ เวลาผ่านไปหนึง่ ชัว่ โมงครึง่ เราก็มาถึงจุดหมายทีส่ อง เราพักพิจารณาอาหาร กลางวันใต้ร่มไม้ริมน�้ำ ก่อนออกเดินทางวันนี้ฉันตรวจดูสภาพอากาศจากเว็บไซต์ ปรากฏไอคอนพระอาทิตย์สดสว่างกระจ่างตา อุณหภูมติ งั้ แต่เทีย่ งวันจนถึงห้าโมงเย็น ของวันนี้อยู่ที่ 26 องศาเซลเซียส ระหว่างที่นั่งพิจารณาอาหารฉันเห็นฝรั่งจ�ำนวน สิบกว่าคนเดินแถวเรียงหนึง่ อยูร่ มิ ล�ำธารฝัง่ ตรงข้าม คะเนอายุนา่ จะใกล้ๆวัยเกษียณ อากาศดีอย่างนีใ้ ครๆก็ออกมาเดินเล่นกัน ชาวอังกฤษได้ชอื่ ว่าเป็นชนชาติทชี่ นื่ ชอบ การเดิน ชัน้ หนังสือในห้องสมุดของวัดป่าจิตตวิเวกอัดแน่นไปด้วยแผนที่ และหนังสือ แนะน�ำเส้นทางเดินเท้าบนเกาะอังกฤษตั้งแต่เหนือจรดใต้ ตะวันตกจรดตะวันออก เมือ่ พิจารณาอาหารกลางวันกันแล้วเราก็กางแผนที่ พระอาจารย์แนะน�ำว่าใคร อยากเดินระยะใกล้ ระยะกลางหรือระยะไกลก็สามารถเลือกได้ แต่สุดท้ายพระทั้ง 9 รูปก็เห็นไปในทิศเดียวกันว่าจุดหมายที่สามคือ Beachy Head ซึ่งต้องเดินเท้า เป็นระยะทางกว่า 10 กิโลเมตรคือตัวเลือกที่มันส์ที่สุด พระอาจารย์ให้ข้อมูลว่าที่นี่ เป็นจุดที่คนนิยมมาปลิดชีวิตตัวเองด้วยการกระโดดหน้าผา เพราะฉะนั้นวันนี้ถ้า 26 / อังกฤษสนิทกัน
ใครไม่มีความสุขอย่าไปเป็นอันขาด! พวกเราฮาครืนแล้วไปกันทั้งหมด เราแนะน�ำ ให้อบุ าสกทีอ่ าสาขับรถมาส่งเดินไปด้วยกัน แล้วจึงโดยสารรถประจ�ำทางกลับมายัง มินิบัส 17 ที่นั่ง จากนั้นก็ขับไปรับพระที่ Beachy Head แต่อุบาสกบอกว่าขอเดิน ย้อนกลับไปเอารถตอนนี้ แล้วขับไปนัง่ ดืม่ น�ำ้ ชารออยุท่ นี่ นั่ จะเหมาะกับเขามากกว่า Seven Sisters เป็นเนินเขาสูงๆต�่ำๆลุ่มๆดอนๆจ�ำนวน 7 ยอด ปรากฏหน้าผา หินสีขาวท�ำมุม 90 องศาดิง่ ตรงสูผ่ นื กรวดและแผ่นน�ำ้ สีครามเบือ้ งล่างตลอดระยะทาง วันนีแ้ ดดแรงและลมแรงไม่แพ้กนั ส่งผลให้อากาศไม่รอ้ นจนเกินไป ท่านพระอาจารย์ อายุ 63 ปีแล้วแต่ยงั แข็งแรงและเดินเก่ง บางช่วงท่านเดินน�ำ บางระยะท่านเดินตาม แต่ก็เกาะกลุ่มพระหนุ่มๆเช่นพวกเรามาได้อย่างสบาย พระอาจารย์บอกว่าวันนี้ เป็นโชคดีของพวกเรา เพราะครัง้ ก่อนๆทีม่ ากันท้องฟ้าท้องน�ำ้ ไม่ปลอดโปร่งอย่างนี้ เราเดินลัดเลาะไปตามเนินเขาขนาบทะเลตามอัธยาศัย บางท่านเดินเร็ว บางท่าน เดินช้า บางท่านหามุมสงบนั่งสมาธิ เมื่อมาถึงบริเวณที่เป็นพื้นดินราบเรียบฉันมัก จะถอดรองเท้าเดินนวดแผ่นหญ้า บางขณะฉันสนทนากับพระฝรั่ง แต่บางช่วงก็ เดินตามล�ำพัง ห้วงหนึ่งที่หันกลับไปมองทุ่งหญ้าพริ้วไหวบนเส้นทางที่ผ่านมา ฉัน กระหวัดถึงความหมายของสิ่งธรรมดาที่เรียกว่า “ความสุข”
อังกฤษสนิทกัน / 27
Living in Hammer Wood
เนือ่ งจากกุฏสิ ำ� หรับนักบวชฝ่ายชายทีว่ ดั ป่าจิตตวิเวกมีอยูเ่ พียงเก้าหลัง พระภิกษุ สามเณร อนาคาริก อุบาสก และแขกผู้มาเยือนส่วนหนึ่งจึงต้องอยู่รวมกันในบ้าน หลังใหญ่ซึ่งมีห้องส่วนตัวส�ำหรับทุกคน แต่เพื่อให้ได้สัมผัสความสงัดวิเวกตาม แบบฉบับของพระธุดงค์กรรมฐาน ทุก 6 สัปดาห์จึงมีการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกัน ผูท้ เี่ คยพักอยูใ่ นบ้านก็เข้าไปอยูใ่ นป่า ส่วนผูท้ พี่ ำ� นักอยูใ่ นป่าก็ยา้ ยกลับเข้ามาอยูใ่ นบ้าน สิทธิพิเศษที่ผู้อยู่ในป่าจะได้รับก็คือไม่ต้องมารวมสวดมนต์ท�ำวัตรทั้งตอน เช้าและตอนเย็น ซึ่งก็เป็นสิ่งที่น่าทดลองดูเหมือนกันว่า หลังจากผ่านการฝึกฝน ร่วมกับคณะสงฆ์แล้ว ในยามเช้าที่ฝนตกปรอยๆอากาศหนาวจัด เราจะสามารถ ปลุกปลอบเร้าใจตัวเองให้ผละจากที่นอนนุ่มๆผ้านวมหนาๆมาแปรงฟันล้างหน้า ยืดเส้นยืดสายนัง่ ตัวตรงด�ำรงสติมนั่ ท�ำสมาธิภาวนาได้หรือไม่ แต่จากประสบการณ์ ล้มลุกคลุกคลานหัวทิ่มหัวต�ำของฉันก็พอจะบอกได้ว่า มีนักปฏิบัติธรรมจ�ำนวน ไม่มากนักที่ท�ำได้อย่างสม�่ำเสมอ การย้ายเข้าไปอยู่ในป่าช่วงนี้ช่างถูกโฉลกกับนักปฏิบัติธรรมดีแท้ เพราะฤดู ร้อนของอังกฤษสว่างเร็วแต่มืดช้า เวลาสามทุ่มครึ่งของที่นี่มีบรรยากาศราวกับ หกโมงเย็นของเมืองไทย ซึง่ สะดวกแก่การเดินจงกรมเพราะไม่ตอ้ งจุดเทียนไขขนาด ใหญ่ยกั ษ์ เป็นเรือ่ งน่าตืน่ เต้นเสมอส�ำหรับพระป่าทีจ่ ะได้กลับเข้าไปอยูใ่ นป่าอีกครัง้ แม้วา่ การพ�ำนักอยูใ่ นบ้านหลังใหญ่จะสะดวกสบายและอบอุน่ ซึง่ ความอบอุน่ ในทีน่ ี้ หมายรวมถึงอุณหภูมิภายในห้องปูพรม และบรรยากาศของครอบครัวขนาดใหญ่ ซึ่งมีสมาชิกหลายชีวิตอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน แต่การอยู่ในป่าให้อารมณ์ที่แตกต่าง ออกไป เพราะเราจะได้อยู่ร่วมกับครอบครัวที่มีขนาดใหญ่กว่า อันประกอบด้วย นกนานาชนิดเช่นนกเป็ดน�ำ้ ทีพ่ บเจอกันบ่อยๆรอบบึงแฮมเมอร์ นอกจากนีย้ งั มีสตั ว์ 30 / อังกฤษสนิทกัน
ทีอ่ อกหากินอยูต่ ามพืน้ ดินซึง่ ปรากฏตัวให้เห็นอยูเ่ ป็นประจ�ำเช่นกระต่าย สุนขั จิง้ จอก และแบดเจอร์ สัตว์รูปร่างคล้ายพังพอนแต่ขนยาวและมีขนาดใหญ่พอๆกับสุนัข กุฏิท่ีพระผู้เป็นเจ้าหน้าที่แจกเสนาสนะมอบให้ฉันเข้าไปใช้สอยถูกจัดวางอยู่ บนเนินเขา แต่อันที่จริงก็ไม่มีกุฏิหลังใดตั้งอยู่บนที่ราบ บนผนังใกล้ประตูทางเข้า ปรากฏแผ่นทองเหลืองสลักชื่อนักร้องเพลงลูกกรุงนามกระฉ่อนในอดีต ซึ่งเป็น ผู้บริจาคทุนทรัพย์ในการก่อสร้างกุฏิชื่อ Hampstead หลังนี้เพื่ออุทิศให้กับคนรัก นับว่าได้ทงั้ บุญและความโรแมนซ์ไปพร้อมๆกัน เมือ่ ออกมานัง่ ทีบ่ ริเวณระเบียงของ กุฏิ Hampstead จะสามารถมองเห็นเนินเขาเขียวขจีได้ในระยะไกล แม้ว่าขณะนี้ จะตรงกับฤดูรอ้ นแต่อากาศช่วงกลางคืนกลับค่อนไปทางหนาว ภายในกุฏแิ ต่ละหลัง จึงมี Stove หรือเตาผิงพร้อมฟืนและอุปกรณ์อื่นๆประจ�ำไว้ แต่ฉันทดลองใส่เสื้อ กันหนาวมีฮูด สวมถุงมือถุงเท้า แล้วคลุมด้วยผ้าห่มเนื้อดีสองผืนก็เอาอยู่จึงไม่ได้ จุดเตาผิง ปีพุทธศักราช 2556 วัดป่าจิตตวิเวกมีพระจ�ำพรรษาจ�ำนวน 12 รูป สามเณร 1 รูป ผ้าขาว 3 ท่าน ศีลธรา (นักบวชสตรี) 1 ท่าน อุบาสกและอุบาสิกาอีก 4-5 ท่าน นอกจากนีย้ งั มีนกั ปฏิบตั ธิ รรมทัง้ หน้าเก่าและหน้าใหม่แวะเวียนกันมาปฏิบตั วิ ปิ สั สนา กรรมฐาน ในวันสมาทานเข้าพรรษาท่านพระอาจารย์แนะน�ำให้พวกเราตัง้ จิตอธิษฐาน ปฏิบัติข้อวัตรพิเศษเป็นการส่วนตัวเช่นแผ่เมตตาทุกวัน เจริญมรณสติทุกวัน หรือ ไม่อ่านหนังสือตลอดทั้งพรรษา ซึ่งข้อหลังนี้พระที่เคยปฏิบัติผ่านมาแล้วพบว่า ใน แต่ละวันจะท�ำให้เกิดช่องว่างมากขึ้นจนจิตกระสับกระส่ายวิ่งไปหาเรื่องโน้นนั้นนี้ มาท�ำอยูต่ ลอดเวลา หลังจากคณะสงฆ์ประกอบสังฆกรรมคือการอธิษฐานจ�ำพรรษา แล้วเสร็จ ฉันก็เดินกลับที่พักตามล�ำพังซึ่งใช้เวลาประมาณ 25-30 นาที ก่อนก้าว อังกฤษสนิทกัน / 31
ขึ้นบันไดกุฏิฉันตั้งจิตอธิษฐานว่า “ในพรรษานี้จะตื่นมานั่งสมาธิแต่เช้าตรู่ แล้วเดิน ออกก�ำลังกายเบาๆไปฉันอาหารเช้าที่บ้านหลังใหญ่ทุกวันมิให้ขาด”
32 / อังกฤษสนิทกัน
Solitary Retreat
หลังจากทีพ่ ระภิกษุสามเณรและอนาคาริกส่วนหนึง่ ย้ายเข้าไปอยูใ่ นป่า แต่ละท่าน จะมีเวลาราวสามสัปดาห์ที่เรียกกันว่า Solitary Retreat ในระยะเวลาระหว่างนี้ ท่านเหล่านัน้ ไม่ตอ้ งเข้าร่วมประชุมใดๆ ไม่ตอ้ งท�ำกิจวัตรปัดกวาดหรือการงานต่างๆ เมื่อตักอาหารจากห้องครัวแล้วก็สามารถน�ำไปฉันใต้ร่มไม้หรือสถานที่อื่นๆได้ตาม สบาย เสร็จจากนัน้ ก็กลับกุฏไิ ปภาวนาได้เลย พระภิกษุสามเณรและอนาคาริกทีอ่ ยู่ ป่าจะมาตักอาหารที่ห้องครัวในเวลาประมาณ 11:30 น. ส่วนกิจวัตรของฉันจะต่าง ออกไปเล็กน้อย หลังจากนั่งสมาธิตอนเช้าตรู่ที่กุฏิแล้ว ฉันจะเดินออกก�ำลังกาย เบาๆประมาณครึง่ ชัว่ โมงมาทีบ่ า้ นหลังใหญ่ จากนัน้ ก็ทำ� งานเล็กๆน้อยๆทีไ่ ด้รบั มอบ หมายก่อนเข้ากรรมฐานตาม นัน่ ก็คอื การรดน�ำ้ ไม้ดอกไม้ประดับทีอ่ ยูร่ อบศาลาและ ภายในบ้าน รวมทั้งดูแลแจกันในห้องพระ เหตุที่ฉันยังคงมาท�ำหน้าที่นี้ แม้จะได้รับ อนุญาตให้พักกิจการงานต่างๆไว้ เพราะฉันได้ตั้งจิตอธิฐานก่อนการเข้ากรรมฐาน ว่าจะมาฉันอาหารเช้าทุกวันมิให้ขาด (ฮา) นอกจากนี้ฉันยังเห็นว่างานท้วมๆเช่น การรดน�้ำต้นไม้ ฉันสามารถท�ำควบคู่ไปกับการปฏิบัติธรรมได้อย่างสบาย ในระหว่างที่พรมความเย็นลงสู่ดอกและใบหลากสีสัน ซึ่งมองจากภายนอกน่า จะเป็นกิจกรรมทีน่ ำ� ความสุขสดชืน่ มาสูผ่ ทู้ ถี่ อื บัวรดน�ำ้ แต่เหตุการณ์กลับตรงกันข้าม ฉันรู้สึกหงุดหงิดจนถึงกับบ่นอยู่ในใจว่า ท�ำไมชาวอังกฤษต้องเอากระถางต้นไม้ มาวางไว้มุมนั้นมุมนี้ให้เป็นภาระด้วยนะ ถ้าไม่มีกระถางต้นไม้ภาระมันก็ลดลงไป ตั้งเยอะ แค่ไม้ประดับที่ปลูกอยู่รอบบ้านรอบศาลาซึ่งมีทั้งงอกอยู่บนดิน เลื้อยไป ตามผนัง และแขวนอยู่กลางอากาศ เท่านี้ก็น่าจะเพียงพอแล้ว ก่อนจะเลยเถิดไป มากกว่านี้ฉันก็รีบกลับล�ำ “ขอให้ผู้คนที่ได้มาเห็นดอกไม้มีความสุข” เท่านั้นแหละ ความสุขก็กระโดดเกาะหัวใจของฉันในทันที สิ่งที่ครูบาอาจารย์พร�่ำสอนได้ ปรากฏกายขึ้นอีกครั้ง...การปฏิบัติธรรมใช่ว่าจะต้องเข้าห้องกรรมฐานปิดวาจา 36 / อังกฤษสนิทกัน
นั่งสมาธิเดินจงกรมอย่างเอาเป็นเอาตาย เราสามารถปฏิบัติได้ในการด�ำเนินชีวิต ปรกติประจ�ำวัน เพราะมันเป็นการชิงไหวชิงพริบกันระหว่างธรรมะกับกิเลส ซึ่ง ไม่จ�ำกัดกาล สถานที่ อิริยาบถ ถ้าสิ่งรบกวนภายในจิตใจเกิดขึ้นระหว่างที่เราก�ำลัง นั่งสมาธิหรือเดินจงกรม แต่เรากลับส่งเสริมซ�้ำเติมหรือไม่สามารถขจัดออกไปได้ ทันท่วงที ในขณะนั้นก็ถือว่าเราพลาดพลั้ง ถ้าเราก�ำลังนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ แต่สามารถขจัดอกุศลธรรม แล้วเพิ่มกุศลธรรมภายในจิตใจได้ ขณะนั้นถือว่าเรา ประสบความส�ำเร็จ พูดกันง่ายๆอย่างนี้แต่ท�ำยากชะมัดเพราะนิสัยเก่าของเรามัน หนึบหนับแน่นหนา หลังอาหารกลางวันทีห่ อ้ งพักส่วนรวมฉันมักจะออกไปเดินย่อยอาหาร เส้นทาง เดินเท้าเล็กๆที่กระจายอยู่รอบวัดจะน�ำไปสู่แห่งหนต�ำบลใดบางครั้งฉันเองก็ ไม่อยากรู้ สิง่ ทีฉ่ นั ท�ำก็เพียงแต่ดมุ่ เดินไปเรือ่ ยๆจนเวลาผ่านไปประมาณหนึง่ ชัว่ โมง จึงย้อนกลับมาที่บ้านหลังใหญ่ สรงน�้ำ จ�ำวัด ตื่นขึ้นมาทบทวนบทเรียนภาษา อังกฤษ ฉันน�้ำชาหรือน�้ำผลไม้แล้วก็กลับกุฏิ วนเวียนอยู่อย่างนี้จนสิ้นสุดช่วงเวลา Solitary Retreat เช้าตรูว่ นั หนึง่ ฉันตืน่ ขึน้ จุดเทียนไขแล้วล้างหน้าล้างตายืดเส้นยืด สาย จากนั้นก็เอาผ้าห่มคลุมไหล่หันหน้าไปทางทิศตะวันออกแล้วนั่งสมาธิ เมื่อถึง เวลาประมาณห้านาฬิกา ฉันลืมตาขึ้นมองแสงอรุณทาบทาท้องฟ้า พลันได้ยินเสียง อุทานออกมาจากข้างในว่า “ในเมื่อใช้ชีวิตเรียบง่ายอย่างนี้ก็มีความสุขดีอยู่แล้ว ท�ำไมมนุษย์จะต้องตรากตร�ำท�ำงานชิงดีชิงเด่นกันให้เหนื่อยยากล�ำบากด้วยล่ะ” ฉันพับผ้าห่ม ดับเทียนไข กราบพระสามครั้ง แล้วก้าวลงจากกุฏิเดินเบียดความ สงัดของผืนป่าสู่บ้านหลังใหญ่
อังกฤษสนิทกัน / 37
Hiking to Chichester
วันนี้ฉันกับพระฝรั่งรูปหนึ่งฉันอาหารเช้าตั้งแต่เวลา 06:30 น. เพราะต้อง เดินทางแต่เช้าตรู่สู่เมือง Chichester เราน�ำบาตร จีวร น�้ำหนึ่งขวดใส่เป้แล้วออก เดินกันทันที ฉันตรวจการพยากรณ์อากาศจากเว็บไซต์แล้วพบว่า วันนี้มีเมฆก้อน น้อยลอยฟ่องเพียงบางส่วน เราเดินผ่านบ้านก่ออิฐดินเผาที่ตั้งอยู่ห่างๆกัน แต่ละ บ้านมีอาณาเขตมโหฬารและเงียบสงบ ส่วนใหญ่เป็นพืน้ ทีเ่ กษตรกรรมและปศุสตั ว์ หลังจากเดินอยู่บนทางราบประมาณหนึ่งชั่วโมง เราก็เปลี่ยนมาไต่ระดับขึ้นภูเขา สูงจากระดับน�้ำทะเลเท่าไหร่ฉันไม่รู้แต่ท�ำให้เราหอบแฮ่กๆจนต้องนั่งพัก จากจุดที่ เรานัง่ อยูน่ สี้ ามารถเห็นวิวในมุมกว้างได้สดุ ลูกหูลกู ตา พระอาจารย์ฝรัง่ ทีอ่ ยูอ่ งั กฤษ บางท่านมักจะหาโอกาสไปเดินธุดงค์ตามภูเขาสูงชันแถบธิเบตหรือเนปาลปีละครัง้ ท่านเล่าด้วยดวงตาสะท้อนประกายหิมะว่า ภูเขาสูงที่สุดในอังกฤษมีความสูงจาก ระดับน�้ำทะเลเพียงพันกว่าเมตร...มันไม่ท้าทาย ภูเขาที่พระอาจารย์ฝรั่งอ้างถึงนั้น มีชื่อว่า Ben Navis สูงจากระดับน�้ำทะเล 1,344 เมตร แต่ส�ำหรับพระ 40 กะรัต จากที่ราบสูงอย่างฉัน...แค่เช้านี้ก็มันส์แล้ว เมือ่ หายเหนือ่ ยเราก็เดินกันต่อไป พระฝรัง่ เดินเร็วจนฉันต้องขอให้ชา้ ลงหน่อย ท่านดูแผนที่ประกอบเป็นระยะๆเพราะเส้นทางที่เราจะไปกันวันนี้ยังไม่เคยมี พระภิกษุสามเณรจากวัดป่าจิตตวิเวกรูปใดเคยไปมาก่อน หลังจากผ่านทางราบ เรียบและขึ้นภูเขาก็มาถึงคราวไถลลง นับว่าความลาดเอียงกว่า 45 องศาประดับ ร่องที่เกิดจากการกัดเซาะของน�้ำสร้างความหวาดเสียวได้พอประมาณ เมื่อไต่ลง มาถึงสวนสาธารณะที่อยู่ด้านล่าง เราก็เห็นเด็กฝรั่งกลุ่มหนึ่งก�ำลังป่ายปีนต้นไม้ส่ง เสียงดังเจี๊ยวจ๊าวกันอย่างสนุกสนาน ครั้นเดินมาถึงที่จอดรถเราก็พบว่ามีญาติโยม มารอรับอยู่แล้ว ศิริรวมเวลาก้าวขาจากวัดป่าจิตตวิเวกจนถึงจุดนี้เพียงสี่ชั่วโมง กว่าๆเท่านั้น ถ้าเดินต่อไปอีกหนึ่งชั่วโมงก็จะถึง Downtown Chichester แต่วันนี้ 40 / อังกฤษสนิทกัน
เรามาสายกว่าปรกติจงึ จ�ำเป็นต้องโทรให้โยมทีม่ บี า้ นอยูไ่ ม่ไกลจากละแวกนัน้ มารับ เพื่อจะได้ทันบิณฑบาตและฉันเพล เราห่มจีวรจัดเตรียมบาตรแล้วขึ้นรถทันที โยม ขับรถมาส่งใกล้ตวั เมือง เราลงเดินต่ออีกห้านาทีจนถึงจุดทีถ่ อื ว่าเป็นสะดือเมืองเลย ทีเดียว ผู้คนพลุกพล่านเอาเรื่องเพราะเป็นช่วงเวลาอาหารกลางวัน ฝรั่งผู้ใหญ่วัยเกษียณเดินเข้ามาทักทายแล้วใส่บาตรด้วยกล้วยหอมหนึ่งลูกกับ ผักกาดสดอีกหนึง่ ถุง ผูห้ ญิงชาวจีนสูงอายุพยายามจะน�ำปัจจัยใส่ลงในบาตรแต่เรา บอกว่ารับเฉพาะอาหาร ผูห้ ญิงฝรัง่ วัยกลางคนเอาข้าวสารกับบะหมีแ่ ห้งมาใส่บาตร ด้วยใบหน้ายิม้ แย้มแต่ไม่พดู อะไรสักค�ำ คุณแม่ฝรัง่ จูงลูกชายน่ารักสองคนมาคุยด้วย เพราะลูกของเธอสงสัยว่าเราก�ำลังท�ำอะไรกันอยู่ ผูห้ ญิงไทยกับสามีฝรัง่ และลูกวัยรุน่ สองคนเดินมาหยุดอยูต่ รงหน้า ฟังจากส�ำเนียงและเห็นท่านัง่ ยองไหว้พระฉันก็รทู้ นั ที ว่าเป็นคนอีสาน เธอพยายามจะเอาปัจจัยมาใส่บาตร ฉันจึงบอกด้วยประโยคที่เรา ใช้กันเป็นประจ�ำคือ “เราไม่รับปัจจัย เรารับเฉพาะอาหาร” ขณะที่เราก�ำลังจะเดิน ออกจากจุดนั้นไปหาท�ำเลนั่งฉันภัตตาหารก็มีสุภาพสตรีฝรั่งอายุราวๆ 50-60 ปี เข้ามาทักทาย หลังจากทราบว่าเรามาท�ำอะไร เธอก็บอกว่ารอหน่อยได้ไหมจะไปซือ้ น�้ำชาร้อนๆมาถวาย พระฝรั่งบอกว่ารอได้ 5 นาทีเพราะเราต้องฉันอาหารให้เสร็จ ก่อนเที่ยง เมื่อเธอน�ำน�้ำชามาถวายเราก็รีบจ�้ำอ้าวไปยังสนามหญ้าข้างโบสถ์คริสต์ ซึ่งอยู่ไม่ไกล แล้วลงมือฉันภัตตาหารที่ญาติโยมเตรียมไว้ด้วยเวลาไม่ถึง 20 นาที ขณะนั่งรถกลับวัดฉันเกิดความรู้สึกนับถือพระฝรั่งที่มาบวชในสายวัดป่า โดย เฉพาะผู้ที่ตั้งใจปฏิบัติตามค�ำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า และประพฤติตามข้อวัตรที่ ครูบาอาจารย์พาด�ำเนินมาอย่างเคร่งครัด เพือ่ น�ำตนไปสูท่ สี่ ดุ แห่งกองทุกข์ ประเทศนี้ อุดมไปด้วยสรรพสิ่งที่หนุ่มเหน้าสาวสวยแสวงหาแม้แต่ฉันในวัยนั้นก็เช่นกัน ไม่ว่า อังกฤษสนิทกัน / 41
จะเป็นพิพิธภัณฑ์ระดับโลก แกลลอรี่แสดงงานศิลปะชั้นเยี่ยม ร้านหนังสือดีๆ เทศกาลดนตรีเท่ๆ อาหารอร่อยๆ ร้านน�้ำชากาแฟน่านั่ง สวนสาธารณะน่าเดินเล่น อากาศเย็นสดชื่น ผู้คนแต่งตัวเก๋ไก๋เดินอยู่บนฟุตบาทที่ประดับด้วยกระเช้าดอกไม้ และดารดาษด้วยร้านรวงมีดีไซน์ นี่มันสวรรค์ส�ำหรับคนรุ่นใหม่รสนิยมวิไลชัดๆ แต่พระฝรัง่ ก็สามารถตัดใจจากสรวงสวรรค์ไปฉันข้าวเหนียวจิม้ แจ่วปลาร้าในวัดป่า ทางภาคอีสานได้อย่างหน้าชื่นใจบาน นับถือ นับถือ
42 / อังกฤษสนิทกัน
Shit Happens!
หากทุกประเทศในโลกนีม้ ขี อ้ ตกลงพิลกึ พิลนั่ ร่วมกันว่า นักเดินทางสามารถยืน่ เอกสารกับทางหน่วยงานของรัฐบาลเพื่อระบุชื่อสัตว์ที่ตัวเองเกลียดหนึ่งชนิดลงใน พาสปอร์ตได้ เมื่อนักเดินทางผู้นั้นสัญจรไปยังประเทศใดแล้วพบว่า ผู้เป็นเจ้าของ สัตว์ชนิดนัน้ ไม่ควบคุมดูแลสัตว์เลีย้ งของตัวเองให้ดี แต่กลับปล่อยให้มนั สร้างความ ร�ำคาญเลอะเทอะแก่บุคคลอื่น ผู้ที่ได้รับอนุญาตจากทางรัฐบาลสามารถก�ำจัดสัตว์ ชนิดนั้นได้โดยไม่มีโทษทางกฏหมาย -โหดไปไหม? และสัตว์ที่จะได้รับเกียรติให้ไป ปรากฏชื่ออยู่ในพาสปอร์ตของฉันก็คือแมว วัดป่าจิตตวิเวกมีแมวอยู่ตัวหนึ่ง ชื่อของมันเรียกยากเพราะเป็นภาษาธิเบตที่ แปลเป็นไทยได้วา่ “ศาลา” ชาวอังกฤษดูแลแมวเป็นอย่างดี บริเวณหน้าห้องน�ำ้ รวม บนชัน้ สองของบ้านหลังใหญ่ จึงมีกระบะใส่วสั ดุคล้ายเม็ดกรวดจัดไว้เป็นทีป่ ลดทุกข์ ส�ำหรับเจ้าศาลา เมือ่ ถึงคราวต้องพักอยูใ่ นบ้าน ฉันมักจะออกมาเข้าห้องน�ำ้ ก่อนจ�ำวัด ในเวลาประมาณ 22.00 น. เป็นประจ�ำ บ่อยครั้งที่เปิดประตูห้องแล้วต้องปะทะกับ กลิ่นขี้แมวสดฉุนคละคลุ้ง เนื่องจากในฤดูหนาวประตูหน้าต่างทุกบานภายในบ้าน จะถูกปิดตอนกลางคืนเพือ่ รักษาระดับอุณหภูมิ กลิน่ อันน่าสะอิดสะเอียนจึงอบอวล อ้อยอิง่ อยูจ่ นถึงเช้าวันใหม่ รอผูป้ ฏิบตั ธิ รรมตืน่ ขึน้ มาสูดดมต้อนรับรุง่ อรุณ ด้วยเหตุ นี้จึงมีข้อวัตรอันน่าประทับใจว่า ผู้ใดก็ตามที่บังเอิญเดินมาพบก้อนสีด�ำยาวย้วย นอนเกียจคร้านอยู่ในรกะบะ ต้องใช้พลั่วเล็กๆตักก้อนกรวดกลบความคลื่นเหียน แล้วตามด้วยการพ่นสเปรย์กลิ่นลาเวนเดอร์ ในวันที่สมาชิกของวัดร่วมประชุมแบ่งงานหลังอาหารเช้าภายในห้องรับแขก พืน้ ปูพรมสีเขียวอ่อน บางโอกาสเราจะเห็นกองขีแ้ มวขดตัวยัว่ ยวนอยูม่ มุ ห้องอย่าง น่าเอ็นดู บางครัง้ ก็เลยเถิดไปถึงพรมสีครีมทีป่ อู ยูเ่ บือ้ งหน้าประติมากรรมพระมหาเถระ 46 / อังกฤษสนิทกัน
เจ้าศาลาคงจะขีเ้ กียจหรือเกิดเหตุฉกุ เฉินจึงเดินขึน้ บันไดไปหากระบะปลดทุกข์บน ชั้นสองไม่ทัน ในห้องบูชาพระซึ่งคณะสงฆ์ใช้เป็นที่เรียนพระวินัยช่วงเข้าพรรษาก็ เช่นกัน เรามักจะพบขนแมวปนเม็ดหินดินทรายกระจายกระจุกขยุกขยุยอยูบ่ นทีน่ งั่ ของพระอาจารย์ ถ้าพระอุปฏั ฐากไม่ชา่ งสังเกตก็จะวางผ้าปูนงั่ ทับลงไปเลย ในห้อง กระจกทีค่ ณะสงฆ์ใช้เป็นสถานทีฉ่ นั อาหารเช้าร่วมกันสัปดาห์ละสองครัง้ ก็ไม่ตา่ งกัน เป็นปรกติทเี่ ราจะเห็นกลุม่ ขนสีดำ� ปนเทาฟ่องฟูอยูบ่ นเก้าอีน้ มุ่ (ไม่) น่านัง่ เท่านัน้ ยัง ไม่พอหลังจากสวดมนต์ทำ� วัตรเช้าแล้วเดินก�ำหนดพุทโธเปิดประตูเข้าไปบริเวณชัน้ ล่าง ของบ้าน บ่อยเหลือเกินที่กองอาเจียนเล็กๆเละๆน่ารักจะจ้องมองเราอย่างคุ้นเคย ถ้าข้อตกลงเกี่ยวกับการอนุญาตให้ก�ำจัดสัตว์เลี้ยงแสนเกลียดถูกประกาศใช้ อย่างแพร่หลาย ฉันมั่นใจเหยียบพันเปอร์เซนต์ว่าไม่ได้มีเพียงตัวเองเท่านั้นที่จะท�ำ อะไรสักอย่างกับแมวตัวนี้ แต่คงไม่งา่ ยนักเพราะทุกครัง้ ทีค่ ณะสงฆ์ยกเรือ่ งเจ้าศาลา ขึน้ มาเป็นประเด็น จะมีพระรูปหนึง่ ซึง่ ท�ำหน้าทีอ่ ปุ ฏั ฐากมันเป็นประจ�ำออกมาแก้ตา่ ง ให้ด้วยหน้าตาขึงขัง ราวกับเจ้าศาลาเป็นสุดยอดผู้น�ำการเมืองที่น่ายกย่องเทิดทูน บูชาน�้ำตาไหลถึงขนาดต้องปกป้องเอาไว้ด้วยชีวิต ถ้าฉันมีทาสรับใช้ที่ซื่อสัตว์ เอ้ย! ซือ่ สัตย์เยีย่ งนีค้ งปลืม้ ใจ จนต้องตบรางวัลให้พวกมันอย่างงามด้วยอาหารแมวคละรส วันละหนึ่งชามพูน อุปสรรคขวากหนามเป็นเรื่องสามัญประจ�ำชีวิต หากใครหวั่น ไหวหวาดหวัน่ ก็ไปไม่ถงึ ฝัง่ ฝัน พระผูท้ ำ� หน้าทีอ่ ปุ ฏั ฐากเจ้าศาลาคงลืมไปแล้วว่า ฉัน เพิ่งเดินทางมาจากประเทศที่การลอบสังหาร การอุ้มฆ่า การใช้ความรุนแรง เป็น องค์ประกอบธรรมดาในชีวิตประจ�ำวันไม่ต่างจากการกดชักโครก วันดีคืนร้ายถ้า บังเอิญมีใครไปพบศพเจ้าศาลาเปลือยอนาถอยู่ในพงหญ้าก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าใคร เป็นผู้บงการ
อังกฤษสนิทกัน / 47
Almsround in Petersfield
หลังจากแข้งขาฝ่าเท้าหายเมือ่ ยขบจากการเดินห้าชัว่ โมงสูเ่ มืองชิเชสเตอร์เมือ่ ต้นสัปดาห์ฉันก็กลับมาซ่าอีกครั้ง คราวนี้ฉันเดินสามชั่วโมงรวดสู่เมืองปีเตอร์ฟิลด์ โดยก้าวขาถนัดออกจากวัดในเวลาประมาณแปดนาฬิกาเศษๆพร้อมกับพระฝรั่ง รูปหนึง่ ผ่านทุง่ นา แนวป่า หมูบ่ า้ น ช่างน่าตืน่ ตาตืน่ ใจในความมัง่ คัง่ ของบรรยากาศ อันเงียบสงบ เมื่อใกล้จะเข้าสู่เขตเมืองฉันก็หวนร�ำลึกถึงวันก่อนเก่าที่บ้านเกิดใน อ�ำเภอวารินช�ำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ความทรงจ�ำเกี่ยวกับบ้านส�ำหรับบางใคร อาจหมายถึงวัตถุสงิ่ ของเช่นเครือ่ งเล่นแผ่นเสียง ของเล่นโบราณ หรือวิทยุทรานซิสเตอร์ แต่สำ� หรับฉันคือบรรยากาศ โดยเฉพาะยามบ่ายอันวังเวงทีท่ กุ คนออกไปร�ำ่ เรียนหรือ ท�ำงาน มีเพียงฉันนั่งอ่านหนังสืออยู่มุมหนึ่งของบ้านตามล�ำพัง หนุ่มสาวชาวสยาม ประเทศหลายใครเคยเล่าว่าได้สมั ผัสบรรยากาศย้อนยุคแบบนีท้ หี่ ลวงพระบางหรือ จ�ำปาศักดิ์ แต่สำ� หรับฉันกลับพานพบบรรยากาศแบบเดียวกันทีช่ านเมืองปีเตอร์ฟลี ด์ เช่นเดียวกับครัง้ ก่อนๆทีอ่ อกบิณฑบาต เราตรงดิง่ ไปทีท่ ำ� เลทองคือบริเวณหน้า ซุปเปอร์มาร์เก็ตใจกลางเมือง แม้ผคู้ นจะพลุกพล่านแต่สบิ นาทีแรกฉันก็แอบลุน้ อยู่ ว่าจะมีใครมาใส่บาตรหรือเปล่า เสียงแอคคอร์เดียนจากนักดนตรีพเนจรล่องลอย มานวดฝ่าเท้าที่ก�ำลังร้าวระบม จ�ำได้ว่าเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์สมัยโยมพ่อ ยังหนุ่มโยมแม่ยังสาวเรื่อง Love Story (1970) ที่ฉันเคยฟังจากเครื่องเล่นแผ่น เสียงเมื่อครั้งยังเด็ก แปลกดีท�ำไมวันนี้มีแต่อารมณ์เรโทรหรือจะเป็นปรากฏการณ์ ปรกติส�ำหรับผู้ที่เดินทางมาเยือนอังกฤษ ระหว่างทีย่ นื รอรับอาหารบิณฑบาตอยูน่ นั้ บรรยากาศช่างแตกต่างจากเมืองไทย อย่างเห็นได้ชดั ในท้องถิน่ โน้นพระมีจดุ ยืนทางสังคมชัดเจนและเป็นทีเ่ คารพศรัทธา ของคนทัว่ ไป ญาติโยมน�ำอาหารมาใส่บาตรพร้อมแสดงท่าทีนอบน้อมแถมยังยกมือ 50 / อังกฤษสนิทกัน
ไหว้อีกด้วย แต่ส�ำหรับที่นี่ฉันกลับรู้สึกว่าตัวเองเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งที่ก�ำลัง ถูกความหิว (มาก) เบียดเบียน และต้องการอาหารมาบ�ำบัดทุกขเวทนาบ�ำรุงรักษา ร่างกาย เพื่อจะได้มีเรี่ยวแรงก�ำลังท�ำในสิ่งที่พิจารณาแล้วว่าจะเกื้อกูลกับชีวิตของ ตัวเองและผู้อื่น ณ พิกัดที่ยืนอยู่ฉันเป็นเพียงเท่านี้จริงๆ คนแรกทีม่ าใส่บาตรเป็นคุณยายวัยเกษียณ คุณยายถามด้วยใบหน้ายิม้ แย้มว่า Collecting food? เมื่อเราตอบว่า Yes! คุณยายก็ค้นดูในรถที่เพิ่งเข็นออกมาจาก ซุปเปอร์มาร์เก็ต แล้วหยิบถุงแอ๊ปเปิลบรรจุหกลูกออกมาใส่บาตร หลังจากนั้นก็มี คนทยอยมาใส่บาตรกันเรื่อยๆ ผู้ชายคนหนึ่งเคยไปฟังเทศน์ที่วัดป่าจิตตวิเวกใน วันเสาร์ เมื่อเห็นเราเขาก็รีบวิ่งมาบอกว่า “รออยู่ที่นี่นะ อย่าเพิ่งไปไหน” จากนั้น ก็กุลีกุจอเข้าไปในซุปเปอร์มาร์เก็ตแล้วกลับออกมาด้วยอาหารถุงใหญ่ซึ่งเพียงพอ ส�ำหรับมื้อนี้ ขณะทีเ่ ราก�ำลังเตรียมตัวเดินไปทีส่ วนสาธารณะ สุภาพสตรีผมบรอนซ์ผหู้ นึง่ ก็ปรี่ เข้ามาถวายปัจจัยจ�ำนวน 10 ปอนด์ เมือ่ เราบอกว่า “คุณใจดีมากแต่เราไม่รบั ปัจจัย เรารับเฉพาะอาหารและวันนี้เรามีอาหารเพียงพอแล้ว” แม้จะทราบดังนั้นแต่เธอก็ ยังกระตือรือล้นทีจ่ ะถวายอาหาร เธอถามเราว่าต้องการอาหารอะไรเป็นพิเศษไหม? เราตอบว่าอะไรก็ได้ทปี่ รุงสุกแล้ว เหตุทเี่ ราระบุวา่ ต้องเป็นอาหารทีป่ รุงสุกแล้วเท่านัน้ เพราะเคยมีโยมเอาไก่ใส่ถงุ มาถวายทัง้ ตัวแต่เมือ่ ไปถึงสวนสาธารณะแล้วเปิดดูกพ็ บ ว่าเป็นไก่ดบิ ล่อนจ้อน พระจึงจ�ำเป็นต้องบ�ำเพ็ญทานบารมีดว้ ยการมอบให้หน่วยงาน การกุศลทีต่ งั้ อยูไ่ ม่ไกลจากสวนสาธารณะแห่งนัน้ ระหว่างทีร่ อสุภาพสตรีผมบรอนซ์ ไปซื้ออาหาร พระฝรั่งก็บอกว่า ฟังจากส�ำเนียงแล้วเธอเป็นชาวโปแลนด์
อังกฤษสนิทกัน / 51
หลังจากรับอาหารบิณฑบาตถุงเขื่องจากสุภาพสตรีผมบรอนซ์เราก็ปลีกตัว ออกจากจุดนัน้ แต่กย็ งั มีคณ ุ ยายคนหนึง่ น�ำปัจจัยมาถวายอีก 10 ปอนด์ เราจึงบอก คุณยายด้วยประโยคเดิมว่า “คุณยายใจดีมากแต่เราไม่รบั ปัจจัย เรารับเฉพาะอาหาร และวันนีเ้ รามีอาหารเพียงพอแล้ว เรามาทีน่ ที่ กุ วันศุกร์ โอกาสหน้าคงได้พบกันอีก” จากนั้นเราก็ใช้เวลาประมาณ 5 นาทีเดินไปที่สวนสาธารณะใจกลางเมืองชื่อ Petersfield Physic Garden แต่ก่อนจะสืบสาวดูว่าสวนแห่งนี้ฟิสิกส์อย่างไร เราก็ท�ำการส�ำรวจอาหารในถุง 2-3 ใบว่ามีอะไรบ้าง จากนั้นก็นั่งพิจารณาบน สนามหญ้าใต้ต้นแอ๊ปเปิล เมื่ออิ่มหมีมีก�ำลังเราก็รวบรวมขยะไปหย่อนลงถังแล้ว เดินเท้ากลับวัด เมือ่ มาถึงครึง่ ทางฉันก็บอกพระฝรัง่ ว่า “ผมดีใจทีต่ ดั สินใจมาแสวงหา ประสบการณ์ทางพุทธศาสนาในต่างแดนตั้งแต่ยังเป็นพระหนุ่ม ถ้ารอมาตอนเป็น พระผูเ้ ฒ่า ญาติโยมก็คงแค่พาไปร้านอาหารแล้วถวายฟิชแอนด์ชพิ ส์ ผมอาจจะไม่ได้ ผจญภัยแบบนี้” สิ้นประโยคยาวย้วยรถคันหนึ่งก็โฉบเข้าข้างทาง จากนั้นคนขับก็ นิมนต์เราโดยสารไปด้วยกัน
52 / อังกฤษสนิทกัน
Ghosts in the Castle
จุดหมายปลายฝันของวันนีค้ อื ปราสาททีช่ อื่ ว่า Arundel ฉันเคยได้ยนิ ญาติโยม กล่าวขานถึงบ่อยๆและมักลงท้ายด้วยประโยคทีว่ า่ ถ้ามีพระจากเมืองไทยมาอังกฤษ ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่หรือผู้น้อย ญาติโยมก็จะนิมนต์ท่านมาทัศนศึกษา ณ ปราสาท อายุเฉียดพันปีแห่งนี้ ความมหึมาของปราสาทช่างน่าพรั่นพรึงต่อการท�ำความ สะอาด แต่ผู้ที่มีพลังอ�ำนาจจนสามารถประกาศความยิ่งใหญ่ได้ถึงขนาดนี้คง ไม่หวั่นใจ ฉันกับพระฝรั่งรูปหนึ่งและโยมที่อาสาขับรถมาที่ปราสาท ใช้เวลาเดิน เข้าห้องนั้นออกห้องนี้ร่วมสองชั่วโมง อุณหภูมิ 27 องศาเซลเซียสซึ่งถือว่าร้อน ส�ำหรับอังกฤษ ประกอบกับโรคภูมแิ พ้ทำ� ให้ฉนั รูส้ กึ อึดอัดเมือ่ ต้องมานวยนาดอยูใ่ น อาคารทีป่ ดิ หน้าต่างแทบทุกบาน นอกจากนีย้ งั มีหลายส่วนของปราสาททีป่ พู รมและ เต็มไปด้วยซอกเล็กซอยน้อยคอยเก็บกักฝุน่ บางจุดเป็นบันไดเวียนมืดๆแคบๆส�ำหรับ ไต่ขึ้นไปบนดาดฟ้า พื้นที่โล่งบนยอดสูงสุดคงจะเป็นเพียงต�ำแหน่งเดียวที่ท�ำให้ฉัน เกิดเครื่องหมายบวกกับสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อแห่งนี้ เนื่องจากสามารถมองเห็น วิวชนบทของอังกฤษได้ถึงสามร้อยหกสิบองศา แม้แต่ละห้องจะประดับประดาด้วยข้าวของเครือ่ งใช้วจิ ติ รอลังการ แต่กลับไม่มี ห้องใดให้ความรูส้ กึ ผ่อนคลายเลยแม้แต่นอ้ ย สัญลักษณ์รปู สิงโต มังกร ม้ายูนคิ อร์น ทีผ่ งาดอยูบ่ นมงกุฏ โล่ห์ เครือ่ งประดับ หัวบันได ภาพเขียนฯ แสดงกล้ามเนือ้ ก�ำย�ำ ในท่วงท่าหยิง่ ผยองดุรา้ ยราวกับก�ำลังพุง่ กระโจนโผนทะยานเข้าตะปบขบขย�ำ้ ผูค้ น ที่เฉียดกรายเข้าไปใกล้ ท�ำให้หลายใครรู้สึกประหนึ่งว่าก�ำลังถูกคุกคาม หรืออาจ จะเป็นเพราะฉันได้ศึกษาประวัติศาสตร์ของยุโรปมาบ้างจึงท�ำให้เกิดมุมมองสลด หดหู่จนสกัดไม่อยู่แล้วแปรเป็นสังเวชใจในนาทีถัดมา เช่นเดียวกับหลายครั้งที่ฉัน ได้เดินทางไปเยือนโบสถ์หลายแห่งในดินแดนที่ยกยอปอปั้นกันว่าสูงส่งด้วยจรรยา อารยธรรม เป็นอีกแง่มุมหนึ่งที่ท�ำให้เราได้เรียนรู้ว่ามนุษย์ช่างสรรหาข้ออ้างเนียน 56 / อังกฤษสนิทกัน
บ้างไม่เนียนบ้างมาเบียดเบียนบีฑากันได้สารพัด ไม่ว่าจะเป็นข้ออ้างทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ทรัพยากร เชือ้ ชาติหรือแม้กระทัง่ ศาสนา ซึง่ ถือก�ำเนิดมาเพือ่ พัฒนา ความลุ่มลึกด้านคุณงามความดีทั้งในส่วนบุคคลและโลกของเรา ค.ศ. 1233 โป๊ป/สันตะปาปาเกรกอรีท่ ี่ 9 ( Gregory IX) ร่วมกับจักรวรรดิโรมัน ได้ตงั้ ศาลไต่สวนศรัทธาขึน้ (Inquisition) เพือ่ ก�ำจัดกวาดล้าง (Persecution) ลัทธิ นอกรีตและความเชื่อถือที่ผิดแผกแตกต่างจากข้อก�ำหนดของนิกายโรมันคาทอลิก การสอบสวนลงโทษมีตั้งแต่การทรมาน จ�ำคุก ไปจนถึงเผาทั้งเป็น ค.ศ. 1483 โดยการร้องขอของราชาและราชินีแห่งสเปน โป๊ป/สันตะปาปา ซิกซตัสที่ 4 (Sixtus IV) ทรงมอบอ�ำนาจให้ตั้งศาลไต่สวนศรัทธาของสเปนขึ้น (Spanish Inquisition) เพื่อก�ำจัดกวาดล้างคนนอกศาสนาซึ่งรวมถึงชาวมุสลิม ศาลไต่สวนศรัทธาของสเปนได้ชื่อว่าโหดเหี้ยมบ้าคลั่งอย่างที่สุด ค.ศ. 1517-1559 เป็นช่วงทีเ่ รียกว่ายุคแห่งการปฏิรปู ในยุโรป (Reformation) เนื่องจากในปี ค.ศ. 1517ได้เกิดศาสนาคริสต์นิกายโปรแตสแตนท์ขึ้น ท�ำให้มีการ ปรับเปลีย่ นความคิดความเชือ่ ถือและการปฏิบตั ติ า่ งๆในทางศาสนาและวัฒนธรรม พวกเจ้านายเยอรมันจ�ำนวนหนึ่งอึดอัดไม่อยากขึ้นต่อโป๊ป เมื่อได้มาร์ติน ลูเธอร์ เป็นจุดรวมก�ำลังจึงแข็งข้อต่อโป๊ปและจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ (Holy Roman Emperor) ท�ำให้มีการรบราฆ่าฟันกันอย่างรุนแรง ค.ศ. 1534 พระเจ้าเฮนรีท่ ี่ 8 (Henry VIII) ซึง่ ไม่มพี ระราชโอรสสืบราชวงศ์ทวิ เดอร์ (Tudor) ตามพระประสงค์ จึงทรงหาเหตุถือการอภิเษกสมรสกับพระมเหสีว่าเป็น อังกฤษสนิทกัน / 57
โมฆะเพือ่ จะทรงมีมเหสีใหม่ และได้ขอให้โป๊ปทรงออกกฤษฎีกาตามนัน้ แต่ไม่สำ� เร็จ พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 จึงประกาศแยกตัวไม่ขึ้นต่อโป๊ป/สันตะปาปาที่วาติกัน และได้ ตั้งศาสนจักรอังกฤษขึ้นเอง (Church of England) โดยมีกษัตริย์ของอังกฤษเป็น ประมุขศาสนจักร จากนั้นทรงเลือกมเหสีใหม่แล้วท�ำการก�ำราบส�ำนักบาทหลวง ทั้งหลายด้วยวิธีการต่างๆนานา ค.ศ. 1543 โคเปอร์นิคัส (Copernicus) พิมพ์หนังสือ On the Revolutions of Celestial Spheres (ว่าด้วยปริวรรตแห่งเวหามณฑล) แสดงหลักความจริงว่า โลกหมุนรอบดวงอาทิตย์ โดยมีดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางของจักรวาล ถือว่าเป็นการ เริ่มต้นยุคปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์ (Science Revolution) แต่เพราะขัดกับหลัก ค�ำสอนของศาสนาคริสต์ซึ่งขณะนั้นมีอำ� นาจมาก จึงเป็นเหตุให้นักวิทยาศาสตร์ที่ เผยแพร่ความรู้เช่นนี้ถูกจับขึ้นศาลไต่สวนศรัทธา เช่นบรูโน (Giordano Bruno) ถูกเผาทั้งเป็นในปี ค.ศ. 1600 กาลิเลโอ (Galileo Gali Lei) แม้จะยอมรับผิดและ ได้รับการลดโทษ แต่ก็ถูกกักขังอยู่ในบ้านจนกระทั่งสิ้นชีวิตในปี ค.ศ. 1642 ค.ศ. 1555 หลังจากสิน้ รัชกาลของพระราชบิดาคือพระเจ้าเฮนรีที่ 8 พระนางแมรี ที่ 1 (Mary I หรือ Mary Tudor) ซึ่งเป็นราชธิดาของมเหสีองค์เก่าได้ขึ้นครองราชย์ พระนางหันไปฟื้นฟูนิกายโรมันคาทอลิกและท�ำการกวาดล้างพวกโปรแตสแตนต์ อย่างรุนแรงเช่นให้จำ� คุกบิชอพแห่งวูรซ์ เตอร์ และบิชอพแห่งลอนดอน 2 ปี จากนัน้ ก็สงั่ ให้เอาไปเผาทัง้ เป็นทีอ่ อกซฟอร์ด ด้วยการกระท�ำอันโหดเหีย้ มเช่นนีพ้ ระนางจึง ได้รับสมญาว่า “Bloody Mary” (แมรี่กระหายเลือด หรือแมรี่ละเลงเลือด) ค.ศ. 1560 ฝรัง่ เศสซึง่ เป็นประเทศคาทอลิกได้พยายามกวาดล้างโปรแตสแตนต์ 58 / อังกฤษสนิทกัน
อย่างรุนแรงตั้งแต่ระยะแรก จนเกิดสงครามศาสนาหลายครั้ง (War of Riligion หมายถึงสงครามระหว่างศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิกกับโปรเตสแตนต์) ในรัชกาล พระเจ้าฟรานซิสที่ 2 มีการกวาดล้างพวกโปรแตสแตนต์ที่เรียกว่าฮูเกนอตส์ (Huguenot) อย่างรุนแรง พวกฮูเกนอตส์จึงวางแผนโค่นล้มพวกคาทอลิกแต่โดน จับได้เสียก่อนจึงถูกแขวนคอประมาณ 1,200 คน จากนั้นก็เกิดสงครามศาสนา กลางเมืองเป็นระยะๆรวม 36 ปี (ค.ศ.1562-1598) โดยพวกฮูเกนอตส์มีกองทัพ โปรแตสแตนต์จากต่างชาติมาหนุนหลัง ระหว่างนีม้ เี หตุการณ์รา้ ยแรงครัง้ ใหญ่เกิดขึน้ คือในปี ค.ศ.1572 ชาวคาทอลิกสังหารชาวโปรแตสแตนต์ในวันเซนต์บาร์โธโลมิว (Sanit Bartholomew's Day Massacre) เป็นเวลา 2 เดือนเศษมีคนตายประมาณ 13,000 คน ค.ศ.1563เมื่อสิ้นรัชกาลพระนางแมรี่ที่ 1 ราชินีเอลิซาเบธที่ 1 (Elizabeth I) ซึ่งเป็นราชธิดาของมเหสีองค์ใหม่ได้ขึ้นครองราชย์ พระนางทรงหันกลับมาบ�ำรุง นิกายอังกฤษแล้วก�ำจัดพวกคาทอลิก ค.ศ.1568 สเปนซึง่ เป็นประเทศคาทอลิกส�ำคัญประเทศหนึง่ ได้ทำ� การกวาดล้าง โปรแตสแตนต์อย่างต่อเนื่อง พระเจ้าฟิลิปที่ 2 ผู้ปกครองทั้งสเปน เนเธอร์แลนด์ เมืองขึ้นในอเมริกา และดินแดนของโปรตุเกสทั้งหมด ได้ตั้งพระทัยเด็ดเดี่ยวที่จะ บดขยี้พวกโปรแตสแตนต์ให้สูญสิ้นไปจากดินแดนเหล่านั้น ทรงเริ่มก�ำจัดโดยเข้า โจมตีโปรแตสแตนต์ในเนเธอร์แลนด์ แล้วกลายเป็นสงครามยืดเยื้อรบกันนานถึง 80 ปี (ค.ศ. 1568-1648) ระหว่างนัน้ ได้ยกกองทัพเรือไปปราบอังกฤษซึง่ เป็นประเทศ โปรแตสแตนต์ในปี ค.ศ.1588 แต่พา่ ยแพ้ยบั เยิน ท้ายทีส่ ดุ ก็ไม่สามารถเปลีย่ นพวก ดัทช์และพวกอังกฤษให้เป็นคาทอลิกได้ด้วยการบังคับ ในสเปนการก�ำจัดผู้คนที่ อังกฤษสนิทกัน / 59
ไม่เป็นคาทอลิกมีความรุนแรงและยืดเยื้อยาวนานเกือบ 350 ปี (ค.ศ.1478-1834) ค.ศ.1618-1648 ความขัดแย้งและการท�ำลายล้างกันระหว่างชาวคริสต์นกิ ายใหม่ คือโปรแตสแตนต์กับนิกายเดิมคือโรมันคาทอลิกรุนแรงและขยายวงกว้างออก ไปเรื่อยๆ จนเวลาผ่านไป101 ปี เมื่อถึงปี ค.ศ.1618 ก็เกิดเป็นสงครามศาสนา (Religious War) ระหว่างประเทศคาทอลิกกับประเทศโปรแตสแตนต์ ประเทศต่างๆ คือเดนมาร์ก นอร์เวย์ สวีเดน ออสเตรีย ฝรั่งเศส และสเปน ได้เข้าช่วยแต่ละฝ่าย รบพุ่งกันอย่างหนักจนถึงปี ค.ศ.1648 จึงยุติ การรบพุ่งกันครั้งนี้ได้ชื่อว่า “สงคราม 30 ปี” (Thirty Years' War) เยอรมนีซงึ่ เป็นสนามรบหลักสิน้ ประชากรราว 7 ล้านคน หรือประมาณ 1 ใน 3 ของประเทศในเวลานัน้ (ชาวเยอรมันตายในสงครามนีม้ ากกว่า สงครามโลกครัง้ ที่ 1) เมือ่ ถึงตอนนีจ้ กั รวรรดิโรมันอันศักดิส์ ทิ ธิซ์ งึ่ อ่อนเปลีย้ มาตัง้ แต่ มีโปรแตสแตนต์เกิดขึ้นก็ถึงกาลล่มสลาย ค.ศ.1620 ชาวคริสต์กลุ่มหนึ่งที่ช่ือว่าพิวริตัน (Puritants) ซึ่งหนีการก�ำจัด กวาดล้างของโปรแตสแตนต์นิกายอังกฤษไปยังอัมสเตอร์ดัมในฮอลแลนด์ตั้งแต่ปี ค.ศ.1680 ลงเรือเมย์ฟลาวเวอร์ (Mayflower) มาแสวงอิสรภาพในแผ่นดินอเมริกา ขึน้ ฝัง่ ทีพ่ ลีมธั (Plymouth) ในนิวอิงแลนด์ (เขตรัฐแมสซาชูแซตส์) เมือ่ เดือนธันวาคม คณะนี้มีจ�ำนวน 102 คน ได้ชื่อว่า “พิลกริมส์” (Pilgrims) เมื่อเดินออกจากตัวปราสาทเราก็แวะไปเฉี่ยวสวนกุหลาบซึ่งอยู่ใกล้ทางออก อันทีจ่ ริงทางผูด้ แู ลสถานทีก่ จ็ ดั ได้สวยดี แต่พวกเราทัง้ สามมีใจตรงกันคือชอบต้นไม้ ใหญ่ในป่าทีเ่ ติบโตแผ่กง่ิ ก้านตามธรรมชาติมากกว่าสวนประดอยประดิษฐ์ ยืนเกร่อยู่ 2-3 นาทีจนกระทั่งบางใครอุทานว่า That's it! เราจึงพร้อมใจกันเดินไปยังลาน 60 / อังกฤษสนิทกัน
จอดรถ ก่อนกลับวัดป่าจิตตวิเวกเราแวะฉันน�้ำผลไม้ที่บ้านญาติโยมตามค�ำนิมนต์ ซึ่งอยู่ห่างจากที่นี่ออกไปราวครึ่งชั่วโมง หลังจากความกระหายถูกดับเจ้าบ้านก็น�ำ แขกเหรือ่ ออกเดินสูดโอโซนอันอุดมในชนบท เพียงไม่กกี่ า้ วจากรัว้ บ้านก็ปรากฏบึง ขนาดใหญ่โอบล้อมไปด้วยสนามหญ้าสดเขียวขจีขจาย น่าเสียดายที่เจ้าของยกให้ คนอื่นเช่าท�ำกิจการตกปลาเทราด์ ไกลออกไปเบื้องหน้ามีบอลลูนสีสดสองลูกลอย เด่นตัดท้องฟ้าสีครามยามเย็น ฉันยกกล้องขึ้นมาบันทึกภาพนี้ไว้ก่อนแสงตะวันจะ อ�ำลา วันนี้ฉันกดชัตเตอร์ไปเพียงยี่สิบกว่าครั้ง ถ้าต้องเป็นกรรมการตัดสินรางวัล Shot of the Day ภาพสุดท้ายนี่เองที่จะได้รับรางวัลชมเชยด้วยคะแนนขาดลอย แหล่งข้อมูล - หนังสือกาลานุกรม โดยพระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) - http://manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9560000105059&fb_ source=message
อังกฤษสนิทกัน / 61
Body in the Forest
คุณยายนักปฏิบัติธรรมชาวอังกฤษผู้หนึ่งต้องการชื่อเป็นภาษาบาลีเพื่อความ เป็นมงคลแก่ตัวเอง พระอาจารย์จึงตั้งให้ว่า “กัลยาณสิริ” คุณยายท�ำสมาธิภาวนา มานานกว่า 30 ปี ในบั้นปลายชีวิตคุณยายได้ยื่นเอกสารกับหน่วยงานของรัฐบาล อังกฤษเพือ่ ขออนุญาตฝังร่างของตัวเองไว้ในป่าแฮมเมอร์ ซึง่ เป็นพืน้ ทีใ่ นความดูแล ของวัดป่าจิตตวิเวก แล้ววันนั้นก็มาถึง...วันที่ลูกหลานต้องท�ำตามความประสงค์ ของคุณยาย ร่างของคุณยายอายุ 76 ปีถกู บรรจุลงในโลงทีส่ านขึน้ จากหวายอย่างดี แล้วเคลื่อนย้ายมาที่ศาลาของวัดป่าจิตตวิเวกในเวลาประมาณบ่ายสองโมงของวัน เสาร์ ท่านพระอาจารย์แสดงธรรมพอสังเขป ลูกหลานอ่านค�ำไว้อาลัย พระสงฆ์ สวดมาติกาตามมาด้วยบทแคลสสิก “อนิจฺจา วต สงฺขารา อุปฺปาทวยธมฺมิโน อุปปฺ ชฺชติ วฺ านิรชุ ฌฺ นฺติ เตสํ วูปสโม สุโข” แล้วลูกหลานก็ชว่ ยกันย้ายโลงศพใส่รถกะบะ จากนั้นทั้งพระและญาติโยมต่างยกโขยงขึ้นรถอีก 2-3 คันขับเข้าไปใจกลางป่าซึ่งมี หลุมลึก 3 เมตรรอคุณยายอยู่แล้ว หลังจากโลงศพเคลื่อนเข้าไปตั้งใกล้ปากหลุม ลูกหลานหกคนก็บรรจงใช้เชือก หย่อนลงสู่พื้นเบื้องล่าง พระสวดมนตร์บทกรณียเมตตสูตร ท่านพระอาจารย์กล่าว ธรรมะอีกเล็กน้อย... “มาจากธาตุดิน กลับไปสู่ธาตุดิน” จากนั้นทั้งเจ้าถิ่นและแขก ผู้มีเกียรติก็ทยอยใช้พลั่วตักดินโปรยลงไปในหลุม เมื่อครบถ้วนกระบวนคนก็ขึ้น รถกลับวัดเพื่อดื่มน�้ำชาอ�ำลาตามประสาชาวอังกฤษ เป็นงานฌาปนกิจที่เรียบง่าย ทีส่ ดุ เท่าทีฉ่ ันเคยเห็นมา แต่ยงั ไม่จบแค่นั้น พระ6-7 รูปกับอุบาสกอีก2 ท่านยังต้อง ท�ำหน้าที่สัปเหร่อจิตอาสา ด้วยการผลัดกันใช้พลั่วตักดินกลบร่างของคุณยาย เมื่อ หลุมถูกเติมเต็มด้วยดินจนพูน เราจึงเดินหอบแฮ่กๆแยกย้ายกันกลับวัด ฉันพยายาม จดจ�ำเส้นทางเพราะเพิง่ เคยเข้ามาในป่าจุดนีเ้ ป็นครัง้ แรก ระหว่างทีเ่ ดินอยูน่ นั้ ฉันก็ พิจารณาว่า เมือ่ ธรรมชาติแสดงตัว สังคมทีใ่ ช้โอกาสเช่นนี้นำ� ความจริงทีป่ รากฏอยู่ 64 / อังกฤษสนิทกัน
ตรงหน้ามาเตือนสติกนั เพือ่ เหนีย่ วน�ำให้เกิดความไม่ประมาท เป็นสังคมทีไ่ ม่ธรรมดา เลยจริงๆ “สังขารทั้งหลายไม่เที่ยง เกิดขึ้นแล้วย่อมเสื่อมไปเป็นเรื่องธรรมดา การ สงบระงับสังขารทั้งหลายเป็นสุขอย่างยิ่ง” ทุกคืนวันอาทิตย์ คณะสงฆ์และอุบาสกอุบาสิกาผู้มีก�ำลังกายก�ำลังใจพรั่งพรู จะอยู่ปฏิบัติธรรมกันจนถึงเที่ยงคืน หลังจากสวดมนต์นั่งสมาธิถึงเวลาประมาณ 21:30 น. ฉันก็ปลีกตัวออกมาสวมเสื้อกันฝนกับรองเท้าบู้ทแล้วคาดไฟฉายไว้ที่หัว จากนั้นก็ออกเดินทางไปเยี่ยมคุณยาย หลายคืนที่ผ่านมาขณะที่ฉันก�ำลังเดินผ่าน บึงใหญ่ในป่าแฮมเมอร์ ได้พบฝรัง่ หนวดเครารุงรังคนหนึง่ นัง่ เงียบๆมืดๆอยูค่ นเดียว ใต้ต้นไม้ใหญ่ พระ : คืนนี้โยมจะนอนที่นี่เหรอ? โยม : ผมแค่มาฟังเสียงกลางคืน พระ : โยมมีไฟฉายมาด้วยไหม? โยม : ผมคงไม่จ�ำเป็นต้องใช้ไฟฉาย พระ : ถ้าอย่างนั้น...ราตรีสวัสดิ์ โยม : ราตรีสวัสดิ์ ระหว่างทางฉันนึกถึงเรือ่ งหนึง่ ทีเ่ กิดขึน้ ในวัดป่าทางภาคอีสาน มีญาติโยมน�ำศพ ชายวัยฉกรรจ์มาฝังที่วัด แต่พระอาจารย์บอกว่าอย่าเพิ่งฝัง ขอเอามาท�ำประโยชน์ ก่อน พระอาจารย์ให้ญาติโยมย้ายศพไปไว้กลางป่า แล้วยกแคร่ไม้ไผ่ไปตั้งไว้ใกล้ๆ พร้อมแขวนระฆังไว้หนึง่ ใบ จากนัน้ ก็สงั่ ให้พระภิกษุสามเณรทุกรูปทีอ่ ยูใ่ นวัดผลัดกัน เข้าไปนั่งเจริญกรรมฐาน โดยมีกฏกติกามารยาทว่าแต่ละรูปต้องนั่งอยู่ที่แคร่นั้น อังกฤษสนิทกัน / 65
เป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง เมื่อครบตามระยะเวลาที่ก�ำหนดก็ให้ลั่นสัญญาณระฆัง เพื่อที่ พระภิกษุสามเณรรูปถัดไปจะได้เข้าไปพิสูจน์ความกล้า อนิจจา! สามเณรรูปหนึ่ง กลัวจนปัสสาวะแทบราด ไม่กล้าแม้แต่จะเฉียดเข้าไปใกล้ เมื่อถึงเวลาเปลี่ยนผลัด สามเณรจึงย่องไปยืนอยู่ห่างๆแล้วใช้หนังสติ๊กยิงระฆังดังเป๊ง! ผืนป่ายามราตรีช่างเงียบสงัด ดอกเห็ดขนาดใหญ่เรืองแสงอยู่ในความมืด นกกระพือปีก กวางกระโดดหยองแหยงเมื่อฉันเดินผ่าน หนทางชุ่มไปด้วยน�้ำ เนื่องจากฝนตกตลอดบ่าย ฉันหยุดยืนหอบหายใจเป็นระยะแล้วเดินต่อไปจนถึง จุดฝังศพของคุณยาย มองเห็นพุ่มกุหลาบสีขาววางอยู่บนกองดินรูปทรงรี ฉันดับ ไฟฉายแล้วยืนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ หายใจออกยาวๆ เหงื่อชุ่มหลังเพราะบางช่วง ต้องเดินไต่ระดับ การได้มาพิจารณาความจริงที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าตามล�ำพังให้ ความชัดเจนกว่าขณะที่แวดล้อมด้วยคนหมู่มาก ฉันปล่อยให้ความเงียบอ้อยอิ่งอยู่ ครู่หนึ่งจึงได้ยินเสียงกระซิบจากเนินดินเบื้องหน้าว่า “ชีวิตของเราก็เท่านี้”
66 / อังกฤษสนิทกัน
Hello Liss
นอกจากสามเมืองที่พระไปบิณฑบาตเป็นประจ�ำคือ Midhurst, Chichester และ Petersfield แล้ว ยังมีเมืองเล็กๆอีกแห่งหนึง่ ชือ่ Liss แม้จะเล็กแต่เราก็ไม่อาจ ผ่านเลย เช้านี้อากาศเย็นสดและแดดสวยเหมาะแก่การเดินระยะไกล สองข้างทาง ปรากฏต้นไม้เขียวขรึมครึม้ และเปียกเนือ่ งจากฝนตกเกือบตลอดทัง้ สัปดาห์ ระหว่าง ทางฉันถือโอกาสฝึกปรือภาษาอังกฤษกับพระฝรัง่ จนกระทัง่ มาถึงค�ำถามหนึง่ ซึง่ ฉัน เคยได้ยนิ มานานแล้ว แต่เมือ่ ไม่กวี่ นั ทีผ่ า่ นมาฉันเพิง่ อ่านพบข้อมูลของกลุม่ อศาสนิก หรือ Atheism พวกเขามีแนวความคิดว่า “เราไม่เชื่อพระเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เหนือธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นผี วิญญาณ พญานาคฯ เพราะไม่มี หลักฐานใดๆที่จะยืนยันได้อย่างแน่ชัดว่าสิ่งเหล่านี้มีอยู่จริงอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง เรา สนับสนุนให้ทุกคนใช้เหตุผลและวิทยาศาสตร์” พระไทย : มีคนไทยสงสัยว่าพระพุทธเจ้าเมือ่ แรกประสูตสิ ามารถเดินได้เจ็ดก้าว เป็นเรือ่ งจริงหรือเปล่า? ท่านเคยได้ยนิ พระอาจารย์ฝรัง่ อธิบายเกีย่ วกับเรือ่ งนีไ้ หม? พระฝรั่ง : ผมอยู่ที่วัดมา 6-7 ปี ไม่เคยได้ยินฝรั่งถามเรื่องปาฏิหาริย์แบบนี้เลย ญาติโยมทีม่ าวัดสนใจการท�ำสมาธิ หรือการท�ำจิตให้สงบ เขาสนใจว่าจะลดปริมาณ ความทุกข์ในชีวิตของเขาได้อย่างไร พระไทย : ผมเคยได้ยนิ พระอาจารย์ฝรัง่ ท่านหนึง่ อธิบายให้คนไทยฟังว่า นีเ่ ป็น เรื่องเฉพาะบุคคล เป็นบารมีของผู้ที่จะมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า พระฝรั่ง : ใช่ โมสาร์ทเล่นดนตรีได้อย่างสุดยอดตั้งแต่อายุ 4 ขวบ ในสายตา ของคนธรรมดาอย่างพวกเราก็เป็นปาฏิหาริย์อย่างหนึ่งเหมือนกัน ก่อนทีฉ่ นั จะเดินทางมาอังกฤษไม่กเี่ ดือน นักปฏิบตั ธิ รรมซึง่ เป็นเจ้าของกิจการ บริษทั ได้กราบเรียนถามพระอาจารย์ทา่ นหนึง่ ถึงเรือ่ งนีโ้ ดยเล่าว่า ลูกน้องในบริษทั 70 / อังกฤษสนิทกัน
ซึ่งเขาเคยพาไปปฏิบัติธรรมสงสัยเรื่องนี้กันมาก เขาจะอธิบายให้ลูกน้องเข้าใจได้ อย่างไร พระอาจารย์ซึ่งมีพรรษาไล่เลี่ยกันหันมาถามความเห็นของฉันขณะที่เรา ก�ำลังนั่งรถไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง ฉันจึงเสนอว่ามีหลายเรื่องในพระไตรปิฎกที่เรา ไม่ได้รู้ ไม่ได้เห็นด้วยตัวเองว่าเกิดขึน้ จริงหรือเปล่า ในขณะเดียวกันเราก็ไม่อาจสรุป ชัดเจนลงไปได้วา่ เหตุการณ์เหล่านัน้ ไม่ได้เกิดขึน้ จริง เช่นเหตุการณ์ทพี่ ระพุทธองค์ ทรงแสดงยมกปาฏิหาริย์่ก่อนเสด็จไปโปรดพุทธมารดาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ถึงแม้จะยังไม่แน่ชัดในเรื่องนี้ แต่เราก็ยังสามารถปฏิบัติธรรมต่อไปได้ เพราะ ความทุกข์ทั้งที่เป็นขาจรและขาประจ�ำปรากฏเฉพาะหน้าอยู่แล้ว เราจะเข้าไป เกี่ยวข้องกับสิ่งเหล่านี้อย่างไร เรื่องนี้ต่างหากที่ส�ำคัญกับชีวิตอันน้อยนิดของเรา หลวงพ่อชาเคยอุปมาในประเด็นนี้ว่า “แขนของเราสั้นก็ไปให้โทษว่ารูมันลึก” และ “เมื่อเครื่องบินมันบินไปจนลับสายตา แม้ในขณะนั้นเครื่องบินจะมีอยู่แต่เรา ก็มองไม่เห็น เพราะตาเนื้อของเรามีขอบเขตจ�ำกัด” อุปมาทั้งสองนี้หมายความถึง “วิทยาศาสตร์ลว้ งไปไม่ถงึ พุทธศาสน์” ข้อเสนอของฉันอีกประการหนึง่ ก็คอื การแก้ ความสงสัยของคนอืน่ เป็นเรือ่ งยากล�ำบากและใช้พลังงานมาก ส่วนการแก้ไขความ คิดเห็นของตัวเองแม้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ยังน่าลุ้นกว่าหลายชั่วล�ำตาล เมือ่ เวลาผ่านไปจวน 2 ชัว่ โมง เราก็เดินมาถึงท�ำเลทองเช่นเดียวกับเมืองอืน่ ๆนัน่ ก็คอื ด้านหน้าซุปเปอร์มาร์เก็ต ผูค้ นแวะเวียนกันเข้ามาถามไถ่และทยอยใส่บาตรเป็น ระยะๆ ส่วนมากเป็นผู้ใหญ่วัยทองกับวัยเกษียณ แต่วันนี้มีแปลก เด็กหนุ่มคนหนึ่ง (Young chap – ได้ศพั ท์ภาษาอังกฤษมาหนึง่ ค�ำ) เดินเข้ามาถามว่าท่านมารับอาหาร ใช่ไหม? เราตอบว่าใช่แล้ว เขาถามต่อไปว่าท่านฉันอะไรได้บา้ ง? เราตอบว่าอะไรก็ได้ ที่ปรุงสุกและพร้อมจะฉันได้ทันที เพราะหลังจากนี้เราจะแวะพิจารณาอาหารกันที่ อังกฤษสนิทกัน / 71
สวนสาธารณะ เด็กหนุม่ ขอให้เรารอสักครูแ่ ล้วเขากับเพือ่ นก็เข้าไปในซุปเปอร์มาร์เก็ต ไม่นานนาทีทงั้ สองก็เดินมือเปล่ากลับมาหาเราแล้วบอกว่า ผมมีตงั ค์อยูแ่ ค่ 15 เพนท์ (100 เพนท์ = 1 ปอนด์ = 55 บาท) ไม่พอที่จะซื้ออะไรได้ ท่านรอหน่อยได้ไหม ผมจะกลับไปเอาตังค์ทบี่ า้ น แม้อาหารจะมีเพียงพอแล้วส�ำหรับมือ้ นี้ อีกทัง้ ไม่ตอ้ งการ ให้เป็นภาระรุงรังหิ้วกลับวัด แต่เพราะไม่อยากให้เขาเสียใจเราจึงตอบว่า “รอได้” เด็กหนุ่มทั้งสองปั่นจักรยานด่วนจี๋ไปที่บ้าน เมื่อย้อนกลับมาพวกเขาก็พากัน จ�ำ้ อ้าวเข้าไปในซุปเปอร์มาร์เก็ตอีกครัง้ หนนีพ้ วกเขามีขนมปังห่อใหญ่กบั เนยหนึง่ ก้อน กลับมาใส่บาตรและบอกว่าไม่รู้จะซื้ออะไร เรายิ้มแล้วพูดว่า “นี่แหละเจ๋งสุดๆ” เราขอบใจในความเอือ้ อารีของพวกเขาแล้วออกเดินไปทีส่ วนสาธารณะ ระหว่างนัน้ ฉันเกิดความสงสัยขึ้นมาว่า ถ้า Young chaps ทั้งสองรู้ว่าบุคคลที่เพิ่งรับอาหาร จากพวกเขาเมือ่ ครูน่ ี้ ก�ำลังเจริญรอยตามเด็กชายคนหนึง่ ซึง่ เดินได้ทนั ทีเจ็ดก้าวเมือ่ คราวเกิด แล้วตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอีก 35 ปีต่อมา พวกเขาจะยังน�ำ อาหารมาใส่บาตรในโอกาสถัดไปหรือเปล่า
72 / อังกฤษสนิทกัน
London Can't Stop the Rain
หนึง่ ชัว่ โมงเศษจากสถานีรถไฟเมือง Peterfields ซึง่ อยูห่ า่ งจากวัดป่าจิตตวิเวก เพียงชัว่ อึดใจ ฉันกับนักศึกษาไทยใจดีกบ็ รรลุถงึ มหานครลอนดอน เราเดินออกจาก สถานีรถไฟขนาดมโหฬารมาเนิบนาบอยู่ริมแม่น�้ำเธมส์ซึ่งคับคั่งไปด้วยแลนด์มาร์ค ติดอันดับทัง้ Big Ben หอนาฬิกาแหลมทองอร่ามโบราณ London Eye ชิงช้าสวรรค์ ขนาดยักษ์ Sketch Board Park แหล่งรวมกราฟิติและวัยรุ่นผู้รักความผาดโผน นี่คงเป็นแลนด์มาร์คที่น่าทุบทิ้งที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมา Tate Modern หอศิลปะ ร่วมสมัย จากนั้นเราก็เดินข้าม Milennium Bridge สะพานดีไซน์บางเบาเพื่อหลีก เลี่ยงการบดบังทัศนียภาพ ซึ่งตัดตรงสู่ St.Pual มหาวิหารมหึมา เมื่อเดินมาถึง กลางสะพานฉันก็ได้สัมผัสสายฝนแรกของลอนดอน อันที่จริงปริมาณของเม็ดฝน ไม่ได้เป็นอุปสรรคแก่การเดินเท้าแต่ประการใด เพราะค�ำว่า “ฝนตก” ในอารมณ์ ปรกติของมหานครแห่งนี้หาได้กระหน�่ำชนิดไม่ลืมหูลืมตา แต่เป็นประเภทปรอยๆ พร�ำๆคล้ายหลวงพ่อพรมน�ำ้ มนต์ให้ศลี ให้พร เราเดินผ่าน St.Pual แล้วมุดลงอุโมงค์ เพื่อใช้บริการ Tube หรือรถไฟใต้ดิน ไม่กี่นานเราก็มาโผล่ที่ย่าน Paddington ถึงจุดนี้ขอประกาศให้ลือลั่นกันเลยว่าการจราจรในลอนดอน สะดวก ปลอดภัย รวดเร็ว แม่นย�ำ และครอบคลุมไปทุกพืน้ ที่ จึงเป็นเหตุให้เราสามารถด�ำเนินกิจกรรม ตามแผนได้อย่างราบรื่น หลังจากเสร็จธุระหลักๆเกี่ยวกับวีซ่าในส�ำนักงานย่าน Paddington เราก็ไป ท�ำธุระรองๆโดยเดินลัด Hyde Park สวนสาธารณะขนาดใหญ่สู่ Exhibition Road ถนนที่ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งกระตุ้นความกระหายใคร่รู้ของผู้รักการศึกษา เนื่องจาก พิพิธภัณฑ์ชั้นดีจะมากระจุกกันอยู่ที่นี่อาทิเช่น Natural History Museum พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา แรกเริ่มเดิมทีฉันคาดหมายว่าเวลาที่เหลืออีกครึ่งวัน คงจะหมดไปกับพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ แต่เอาเข้าจริงฉันก็เพียงแต่เดินผ่านส่วนต่างๆ 76 / อังกฤษสนิทกัน
ของนิทรรศการไปโดยไม่สะดุุดตาสะเทือนใจกับสิ่งใดเลย ทั้งๆที่พิพิธภัณฑ์ก็ถูก ออกแบบมาอย่างเลิศเลอ ไม่วา่ จะเป็นส่วนทีเ่ กีย่ วกับไดโนเสาร์ ฟอสซิล สิงสาราสัตว์ ก�ำเนิดของโลก ธรณีวทิ ยาฯ ซึง่ ถูกประดิษฐ์ตดิ ตัง้ อยูใ่ นตัวอาคารเคร่งขรึมแคลสสิก ฉันเห็นว่าทีน่ นี่ า่ จะเหมาะกับการให้ผใู้ หญ่พาเด็กๆมามากกว่า แต่ถา้ เป็นเด็กประเภท ที่วิ่งหนีทุกครั้งที่พ่อแม่ร้องเรียกให้ดูรายการ Animal Planet หรือสัตว์โลกน่ารัก (อย่างฉัน) ก็อย่าไปรบกวนเขาเลย เรามีเวลาอีกเล็กน้อยก่อนที่ Science Museum พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์และ สิ่งประดิษฐ์ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ Natural History Museum จะปิดท�ำการ ที่นี่ก็คล้ายๆ กับแห่งแรก ฉันไม่รู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งประดิษฐ์ใหญ่โตหรือวิทยาการใดๆของมนุษย์ เลยแม้แต่นอ้ ย แต่จดุ มุง่ หมายของเราส�ำหรับทีน่ กี่ ค็ อื Only in England นิทรรศการ ภาพถ่ายขาวด�ำจากยุค 1960-1970s ฝีมือช่างภาพรุ่นเก๋า Tony Ray-Jones & Martin Parrซึ่งแสดงวิถีชีวิตของชาวอังกฤษในยุคนั้นและโดดเด่นด้วยอารมณ์ขัน ล้นเหลือของช่างภาพ เมื่อเดินออกมาจากพิพิธภัณฑ์ในเวลาประมาณ 17:30 น. เราก็ปะทะกับถนนที่คลาคล�่ำไปด้วยลอนดอนเนอร์ นักศึกษาไทยให้ข้อมูลเชิง หารือว่า ในลอนดอนมีพิพิธภัณฑ์ที่สะสมงานศิลปะระดับมาสเตอร์พีซอยู่เยอะ หลวงพีอ่ ยากไปดูไหมครับ? ฉันให้ขอ้ เท็จจริงแก่เขากลับไปว่า ถ้าเป็นเมือ่ ก่อนคงจะ ไม่ปฏิเสธ แต่ตอนนีร้ สู้ กึ ว่าตัวเองโตแล้ว “ยิง่ อายุมากขึน้ ยิง่ ท�ำสมาธิภาวนามากขึน้ ความสุขจากรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส ยิ่งส�ำคัญน้อยลงไปทุกที” นี่คือความรู้ทาง ธรรมที่ลอนดอนมอบให้ฉันในวันนี้
อังกฤษสนิทกัน / 77
B for Bistol, Bradford on Avon & Bath
พระฝรัง่ ชวนฉันไปเยีย่ มเยียนกลุม่ ชาวพุทธในสามเมืองบีคอื Bristol, Bradford on Avon และ Bathโดยเริ่มจาก บีแรกคือBristol ซึ่งใช้เวลาขับรถจากวัดป่า จิตตวิเวกเป็นเวลาประมาณ 3 ชัว่ โมง โดยมีคณ ุ ตาชาวไทยอารมณ์ดอี าสาเป็นสารถี น�ำเราไปถึงที่นั่นด้วยความเต็มใจ ชาวพุทธกลุ่มแรกรอพบเราอยู่ที่ Bristol University ประกอบด้วยสมาชิก หลากหลายเชื้อชาติไม่ว่าจะเป็นไทย จีน ฝรั่ง มีทั้งที่เป็นนักศึกษาและคณาจารย์ มาร่วมกิจกรรมประมาณ 20 คน กลุ่มนี้มีแม่ชีชาวไต้หวันเป็นผู้น�ำในการปฏิบัติ ญาติโยมสมาทานศีลห้า ถวายอาหาร ฟังธรรม และนั่งสมาธิร่วมกัน จากนั้นก็ออก ไปเข้าแถวเรียงหนึง่ เพือ่ เดินจงกรมกลางแจ้ง โดยเริม่ จากอาคารทีเ่ ราใช้ทำ� กิจกรรม ตัดผ่านใจกลางเมืองไปยังสวนสาธารณะกว้างใหญ่ที่ตั้งอยู่บนเนินเขา อากาศ ปลอดโปร่งแสงแดดจัดจ้านอย่างวันนีจ้ งึ มีชาวบ้านออกมานัง่ ปิกนิกกันเป็นหย่อมๆ จากสวนสาธารณะแห่งนี้สามารถมองเห็นวิวเมืองบริสทอลได้อย่างรอบด้าน เรา แยกย้ายกันหาท�ำเลเดินจงกรมอยูท่ นี่ ปี่ ระมาณหนึง่ ชัว่ โมงแล้วจึงเดินกลับไปทีห่ อ้ ง กิจกรรมโดยพร้อมเพรียงกัน จากนั้นพระภิกษุสองรูปก็เจริญพระพุทธมนต์โดยย่อ เพือ่ ความเป็นศิรมิ งคล ก่อนทีพ่ วกเราแยกย้ายกันไปด�ำเนินวิถพี ทุ ธตามก�ำลังของตน ขณะนั่งรถไปบีที่สองคือเมืองแบรดฟอร์ดออนเอวอน ฉันสารภาพกับคุณตา ตรงๆว่าไปเมืองไหนๆก็ดูเหมือนกันหมด ชักจะเบื่อก้อนอิฐก้อนหินแล้ว คืนนี้เรา เดินทางมาพักกันที่ Ton Boon Trust มูลนิธิการกุศลซึ่งตั้งอยู่ในอาคารหินอายุ 500 ปี นั่นไง! สิ่งที่ไม่ชอบเราจะได้ (ฮา) เดิมทีที่นี่เป็นร้านอาหารไทย แต่เจ้าของ ได้ย้ายไปเปิดกิจการยังท�ำเลใหม่จึงด�ำริที่จะยกท�ำเลเดิมให้เป็นศูนย์ปฏิบัติธรรม ตามแนวทางของหลวงพ่อชา ทุกเย็นวันอาทิตย์จะมีพระฝรั่งจากส�ำนักสาขาของ 80 / อังกฤษสนิทกัน
วัดหนองป่าพงในประเทศอังกฤษ มาอบรมการท�ำสมาธิให้กับญาติโยมที่สนใจซึ่ง ในระยะแรกเริ่มมีประมาณ 20-25 คน น่ายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ทราบว่ามีจ�ำนวน ผูส้ นใจเพิม่ ขึน้ เรือ่ ยๆ เนือ่ งจากก�ำลังอยูใ่ นระหว่างการปรับปรุงสถานที่ อาคารท�ำการ ของมูลนิธิต้นบุญจึงยังไม่มีห้องอาบน�้ำ ฉันจึงจ�ำเป็นและจ�ำใจต้องผ่านกิจกรรมนี้ ไปด้วยความเหนอะหนะผสานคันคะเยอ หลังอาหารเช้าเราออกไปเดินส�ำรวจเมืองซึ่งมีแม่น�้ำเอวอนไหลผ่านกลางและ ก็เช่นเคย โบสถ์ บ้าน สะพาน ร้านค้า ยุ้งฉาง ล้วนประกอบขึ้นจากก้อนอิฐก้อนหิน หลากรุน่ หลายขนาด ให้ความรูส้ กึ เข้มขลังอลังการอย่างประหลาด ราวกับก�ำลังเดิน เข้าไปในยุคทีอ่ าณาจักรกรีกโรมันประทุประเทืองเรืองอ�ำนาจ เราเดินชมทัศนียภาพ ของเมืองจนได้เวลาอาหารกลางวันจึงย้อนกลับมายังที่พัก วันนี้มีญาติโยมชาวไทย มาท�ำบุญราวสิบคน ก่อนให้พรฉันปรารภธรรมะเล็กน้อยโดยหยิบยก “บุญนี้เพื่อ ช�ำระกิเลส” ถ้อยธรรมของหลวงพ่อชามาขยายความ เมื่อเสร็จธุระเกี่ยวกับท้องไส้ เราก็ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกแล้วเดินทางต่อไปยังบีที่สามคือเมืองบาธ เหตุที่ได้ชื่อว่าบาธเพราะเมืองแห่งนี้มีมรดกโลกที่ชื่อ Roman Bath ซึ่งเป็น “สปา” ส�ำหรับประชาชนชาวโรมัน ภายในตัวอาคารชั้นล่างมีน�้ำพุร้อนธรรมชาติ ไหลทะลักออกมาตลอดเวลา สถาปนิกในยุคนัน้ ดีไซน์สระน�ำ้ ขนาดใหญ่ทงั้ กลางแจ้ง และในร่มไว้สำ� หรับทุกคน ต่างจากอินเดียซึง่ วรรณะกษัตริย์ พราหมณ์จะได้อาบน�ำ้ สะอาดจากสระล�ำดับต้นๆ แล้วปล่อยให้ไหลขลั่กข้นลงมายังสระที่อยู่ตอนกลาง และปลายเป็นก�ำนัลแด่วรรณะแพศย์ ศูทร จัณฑาล ความรู้สึกรุนแรงที่เกิดขึ้น ระหว่างที่ฉันเดินอยู่ภายในโรมันบาธก็คืออยากช�ำระร่างกายสลายเหงื่อไคลเต็มที
อังกฤษสนิทกัน / 81
ฉัน พระฝรัง่ และคุณตาอารมณ์ดี พร้อมใจกันเดินออกจากโรมันบาธไปยังสถานี รถไฟเพื่อรับสาวน้อยชาวจีนชื่อ “น้องดอกบัว” เธอเป็นหนึ่งในกลุ่มชาวพุทธที่เรา เพิ่งพบที่เมืองบริสตอล น้องดอกบัวเพิ่งส�ำเร็จการศึกษาจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบริสตอลสดๆร้อนๆ เธอต้องการใช้สอยวันเวลาหนึ่งเดือนที่เหลือให้ หมดไปกับการปฏิบัติสมาธิภาวนา ก่อนจะเดินทางกลับไปยังเมืองจีนเพื่อเริ่มธุรกิจ ส่วนตัว หลังจากปาร์ตี้ร�่ำลาเพื่อนฝูงที่มหาวิทยาลัยเธอจึงขออาศัยรถเดินทางกลับ ไปยังวัดป่าจิตตวิเวกด้วย ฉันถามน้องดอกบัวว่า คนรุน่ ใหม่รสู้ กึ อย่างไรทีต่ อ้ งมาอยู่ ในบ้านเมืองที่เต็มไปด้วยอาคารและข้าวของโบราณ? น้องดอกบัวตอบว่าปีนี้เธอ อายุครบ 23 ปี คงจะเป็นเพราะอายุเยอะแล้วจึงไม่รู้สึกอะไรมากนัก ค�ำตอบของ น้องดอกบัวท�ำให้ฉนั ถึงกับเหวอ เพราะปีนฉี้ นั อายุครบ 40 เต็มแต่กลับรูส้ กึ ตรงข้าม กับเธออย่างสุดขัว้ หัวใจ ระหว่างการเดินทางน้องดอกบัวทยอยน�ำเรือ่ งราวต่างๆมา แบ่งปันพวกเรา เช่นชีวิตวัยรุ่นในมหาวิทยาลัย เกร็ดประวัติศาสตร์ ประสบการณ์ ปฏิบัติธรรมฯ ฉันเพลิดเพลินจนหลับโดยไม่รู้ตัว ตื่นมาอีกทีรถก็จอดอยู่หน้าบ้าน หลังใหญ่ในเมืองอะไรก็จ�ำชื่อไม่ได้ เราแวะฉันน�้ำผลไม้กันที่นี่แล้วเดินทางต่อไปยัง เมืองชายทะเลชื่อ Weymouth
82 / อังกฤษสนิทกัน
Coast Path Ringstead, Weymouth & Portland
ใครๆก็มักจะบอกว่าฉันโชคดีที่ตัดสินใจเดินทางมาเยือนอังกฤษในปีนี้ เพราะ ท้องฟ้าปลอดโปร่งโล่งใสต่อเนื่องยาวนานชนิดที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในรอบเจ็ดปี หลังจากหลับสนิทใน Caravan หรือบ้านเคลือ่ นทีซ่ งึ่ ตัง้ อยูภ่ ายในอาณาเขตเคหสถาน ของญาติโยมทีเ่ ป็นเจ้าของฟาร์มและกิจการโคนมขนาดใหญ่ พอรุง่ สางเราก็พบอาหาร เช้าชุดใหญ่ไม่แพ้กัน จากนั้นพ่อบ้านชาวอังกฤษผู้เป็นเจ้าของฟาร์มก็ขับรถน�ำฉัน พระฝรั่ง น้องดอกบัว และอุบาสกหนุ่มใหญ่ชาวไทยที่เพิ่งรู้จักกัน ไปส่งยังเส้นทาง เดินเท้าเลียบหน้าผาชายฝัง่ ตะวันออกทีช่ อื่ Ringstead จากจุดนีเ้ ราสามารถมองเห็น มหาสมุทรได้สดุ ลูกหูลกู ตา การเดินออกก�ำลังกายวันนีต้ นื่ เต้นพอใช้เพราะมีทงั้ ไต่ขนึ้ ไต่ลง ลุยดงหนาม ข้ามโขดหินฯ แถมตลอดระยะทางยังมีต้นบลูเบอร์รี่ลูกดกขึ้นอยู่ ทัว่ บริเวณ น้องดอกบัวและอุบาสกเก็บความเป็นออร์แกนิกส์มาถวายพระเกือบตลอด ระยะทาง การเดินเท้าของชาวคณะมาสิ้นสุดลงที่ Ringstead Beach ทว่าบีชของ ทีน่ ไี่ ม่ใช่ทรายแต่เป็นก้อนกรวดกลมกลึงหลากขนาด นัง่ รออยูท่ ลี่ านจอดรถครูใ่ หญ่ แม่บา้ นชาวไทยเจ้าของฟาร์มก็ขบั รถมารับพวกเรากลับไปพิจารณาอาหารกลางวัน ช่วงบ่ายเป็นการทัวร์ฟาร์มและโรงงานผลิตนม เนย โยเกิรต์ ไอศกรีม ตามด้วย การเดินเท้าบนเส้นทางเรียบชายฝั่งตะวันตกที่ชื่อ Weymouth ยังไม่ถึงห้าสิบ เปอร์เซนต์ของเส้นทางภูมิอากาศแบบอังกฤษก็แผงฤทธิ์ จากแดดสดใสกลายเป็น ฝนพร�ำฉ�่ำชื่นใจ เมื่อเดินไปถึงจุดนัดหมายโยมแม่บ้านก็ขับรถมารับเช่นเคย ตาม แผนเดิมเราจะกลับวัดป่าจิตตวิเวกในเย็นนี้ แต่เป็นเพราะอายุเลยวันเกษียณไป นานแล้วคุณตาใจดีจงึ รูส้ กึ มึนงงอ่อนเพลีย ประกอบกับละแวกนีย้ งั มีเส้นทางน่าเดิน ทัศนาและไม่รู้ว่าจะได้มาอีกเมื่อไหร่ ฉันกับพระฝรั่งจึงโทรศัพท์ไปขออนุญาตจาก พระอาจารย์ที่วัดอยู่ต่ออีกหนึ่งวัน
86 / อังกฤษสนิทกัน
ช่วงหัวค�่ำมีญาติโยมชาวไทยที่อยู่ละแวกนั้นมาสนทนาธรรมด้วย คนหนึ่งเป็น มะเร็งและเข้ารับการบ�ำบัดด้วยคีโมมาหลายครั้ง ส่วนอีกคนหนึ่งเพิ่งประสบ อุบัติเหตุ คนหลังนี้แม้จะปลอดภัยแต่ก็ขวัญหนีดีฝ่อถึงขนาดไม่กล้ากลับไปขับรถ อีก บังเอิญเจ้าของบ้านมีดา้ ยสายสิญจ์เก็บไว้จำ� นวนหนึง่ ฉันกับพระเจ้าถิน่ จึงเจริญ พระพุทธมนต์โดยย่อแล้วมอบเชือกมงคลให้ญาติโยมทั้งสองท่านน�ำไปผูกข้อมือ แต่ก็ต้องอธิบายเหมือนกันว่าเราท�ำไปเพื่ออะไร ช่วงนั้นฉันร�ำลึกถึง ‘อภยสูตร’ (พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย จตุกนิบาต) ซึ่งมีเนื้อหาว่าด้วยสาเหตุที่ท�ำให้ผู้คน หวาดสะดุง้ ต่อความตาย 4 ประการจึงขยายความไปตามนัน้ (1) เพราะก�ำหนัดยินดี ติดใจในกามสุขที่เกิดจากรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส บุคคลนั้นวิตกว่าเมื่อตายไปแล้ว ตนจะต้องพลัดพรากจากสิง่ เหล่านีจ้ งึ กลัวตาย (2) เพราะก�ำหนัดยินดีตดิ ใจในร่างกาย บุคคลนั้นวิตกว่าเมื่อตายไปแล้วตนจะต้องพลัดพรากจากร่างกายนี้จึงกลัวตาย (3) เพราะขณะมีชวี ติ อยูส่ งั่ สมอกุศลกรรมและเพิกเฉยต่อการสัง่ สมกุศลกรรม บุคคลนัน้ วิตกว่าเมื่อตายไปแล้วตนจะต้องไปสู่ทุคติจึงกลัวตาย (4) เพราะความเคลือบแคลง สงสัยในพระสัทธรรม (ชีวิตคืออะไร? ชีวิตเป็นอย่างไร? ชีวิตเป็นไปอย่างไร? ชีวิต ควรให้เป็นอย่างไร? และชีวิตควรเป็นอยู่อย่างไร?) บุคคลนั้นจึงกลัวตาย หลังอาหารเช้าวันแถมท้ายแม่บ้านชาวไทยก็ขับรถน�ำทีมเดินเท้าชุดเดิมมา ปล่อยไว้ที่หัวสะพานข้ามไปยังเกาะ Portland เราเดินสนทนากันไปเรื่อยๆโดยมี น้องดอกบัวร้องร�ำฮัมเพลงของ The Beatles บอยแบนด์จากเมืองลิเวอร์พูลเป็น ฉากหลัง...Speaking words of wisdom, let it be. เมื่อเดินมาถึงตัวเกาะถนนก็ เปลีย่ นจากราบเรียบเป็นวงเวียนเล่นระดับ ทัง้ มุมมองและท้องฟ้าเปิดกว้างขึน้ เรือ่ ยๆ บ้านอิฐๆหินๆทีก่ อ่ สร้างอย่างปราณีตตระหง่านอยูเ่ ต็มสองฟากถนน แต่ละหลังล้วน บ่ายหน้าสู่ทะเลกว้าง ระหว่างหยุดพักฉันถามน้องดอกบัวว่ามีแผนจะกลับไปท�ำ อังกฤษสนิทกัน / 87
อะไรทีเ่ มืองจีน? เธอตอบว่าอยากท�ำธุรกิจทีเ่ ป็นมิตรกับสิง่ แวดล้อม อยากช่วยเหลือ ชาวบ้านที่ยากจน จากนั้นเธอก็ร่ายยาวถึงความแร้นแค้นของชาวจีนในชนบท ฉัน แสดงความเห็นไปตามตรงว่าเธอก�ำลังแบกเมืองจีนไว้เต็มสองบ่า น้องดอกบัวบอก ว่าเธอได้รับสิ่งต่างๆจากเมืองจีนมามากมาย ถึงเวลาแล้วที่ต้องตอบแทน ครั้นเดิน มาถึงยอดสูงสุดฉันรูส้ กึ ประหลาดใจเล็กน้อย ปรกติสถานทีท่ อ่ งเทีย่ วจะมีระบบการ จัดเก็บขยะทีด่ ี แต่ทนี่ กี่ ลับเป็นตรงกันข้าม นอกจากยิง่ สูงยิง่ หนาวแล้ว ยิง่ สูงยิง่ ขยะ เยอะ จิตใจของเราถ้ามีการจัดการทีไ่ ม่ดกี จ็ ะเป็นอย่างนีเ้ ช่นกัน ยิง่ ประสบการณ์สงู ยิ่งเบียดเบียนตนเบียดเบียนคนอื่นมากขึ้น
88 / อังกฤษสนิทกัน
Kathina at Northumberland
ฤดูกฐินคือระยะหนึง่ เดือนหลังจากออกพรรษา ส�ำนักสาขาของวัดหนองป่าพง ในประเทศอังกฤษซึ่งมีทั้งหมด 4 แห่ง ต่างก็ทยอยกันจัดงานทอดกฐิน เมื่อโอกาส ของวัดป่าอรุณรัตนคีรมี าถึง พระภิกษุสามเณรจึงพร้อมใจกันเดินทางไปร่วมอนุโมทนา เราใช้เวลาเดินทาง 6 ชั่วโมงด้วยรถมินิบัส 17 ที่นั่งจากวัดป่าจิตตวิเวกซึ่งอยู่ทาง ปักษ์ใต้ของประเทศอังกฤษ ไปยังวัดป่าอรุณรัตนคีรีซึ่งอยู่ทางตอนเหนือ แม้ไม่ใช่ คนช่างสังเกตก็ยงั ต้องตืน่ ตากับต้นไม้นานาชนิดทีก่ ำ� ลังผลัดใบเป็นสีเหลือง ส้ม แดง น�้ำตาล เนื่องจากขณะนี้เป็นฤดูใบไม้ร่วง เมื่อผ่านไปจวนครึ่งทางเราก็แวะพักพิจารณาอาหารกลางวันแบบเรียบง่ายที่ จุดพักรถขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง แล้วเดินทางต่อจนถึงจุดหมายในเวลาประมาณบ่าย สี่โมง วันนี้เป็นวันศุกร์ยังไม่มีกิจกรรมใดที่ต้องท�ำเป็นพิเศษ เพราะวันอาทิตย์จึงจะ เริม่ งาน แต่เท่าทีส่ งั เกตก็พบว่าทางเจ้าภาพได้ตระเตรียมทุกอย่างไว้พร้อมแล้ว ไม่วา่ จะเป็นทีพ่ กั ห้องน�ำ้ ถังขยะ ทีจ่ อดรถ โรงอาหาร ของช�ำร่วยฯ เมือ่ วันงานทอดกฐิน มาถึงจึงเป็นไปตามคาด ทุกอย่างด�ำเนินไปอย่างราบรื่นลงตัว เจ้าภาพของงานนี้ เป็นครอบครัวชาวพม่า นอกจากนั้นก็มีแขกเหรื่อกลุ่มใหญ่เป็นนักศึกษาไทยจาก มหาวิทยาลัยละแวกนี้ ฉันไม่ได้สนทนากับใครเป็นพิเศษนอกจากกล่าวค�ำว่าเจริญพร และกูด๊ มอนิง่ ระหว่างเดินรับบิณฑบาต หลังอาหารกลางวันฉันแวะเข้าไปพินจิ ข่าวสาร บ้านเมืองไทยผ่านโลกไซเบอร์ในประเด็น “นิรโทษกรรม” ซึ่งก�ำลังเข้มข้นจนท�ำให้ ได้สนทนากับญาติโยมท่านหนึ่งทางอีเมล์ ญาติโยม : เรื่องการเมืองบ้านเรา มันเป็นบททดสอบสภาพจิตใจของเราได้ เป็นอย่างดีนะคะ ยิ่งคนไทยยิ่งบ้ากระเพื่อมไปตามสื่อตามกระแส ในเฟซบุ๊คมีพวก ฮาร์ดคอร์เยอะแยะ บางก็ฮาร์ดตามตัว บางก็ฮาร์ดตามพวก แชร์รูป แชร์โพสต์กัน 92 / อังกฤษสนิทกัน
เป็นเรือ่ งสนุกสนาน มันไม่ทุกคนหรอกที่เข้าใจอะไรจริง มันก็ตรรกกะง่ายๆ เกลียด แม้วก็กดไลค์ กดแชร์ ก็ไปเดินประท้วง โอโช่บอกว่า “ความคิดตามกระแสจัดอยูใ่ น ระดับต�ำ่ สุด แม้คนทีถ่ กู ตราหน้าว่าโง่เง่าสุดๆก็ยงั ดูสงู ส่งกว่าคนทีห่ ลงคิดตามใครๆ” มันไม่ง่ายเลยนะคะ ถ้ารักจะอยู่ในสังคมแต่ไม่อิงกระแส เปสโลภิกขุ : คนโง่นั้น ตามกระแสก็โง่ ไม่ตามกระแสก็โง่ อยู่เฉยๆก็โง่ เพราะ ไม่รู้จักใช้สติปัญญาพิจารณาว่ากระแสใดควรตามหรือไม่ควรตาม กระแสใดตาม แล้วจะน�ำความเจจริญหรือความเสื่อมมาสู่ตนเองและสังคม ตาม (กระแส) ก�ำหนดเราจะเดินทางกลับวัดในวันอังคาร ท�ำให้มีเวลาว่างใน วันจันทร์ พระฝรั่งเจ้าถิ่นเสนอว่าอากาศดีเหลือเกินน่าจะไปเดินชม Durham Cathedral โบสถ์โรมันมรดกโลก (อีกแล้ว) โบสถ์แห่งนี้เริ่มก่อสร้างในปี ค.ศ.1093 เสร็จสมบูรณ์พร้อมใช้งานในอีก 40 ปีถดั มา อลังการ! อลังการ! อลังการ! ศาสนสถาน ของชาวคริสต์ช่างอลังการ! แต่หลังจากได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลโบสถ์ก็ท�ำให้ ทราบว่า ทีน่ กี่ ำ� ลังประสบปัญหาเพราะเงินทีไ่ ด้รบั การบริจาคไม่สมดุลกับค่าใช้จา่ ยใน การดูแลรักษา สาเหตุกเ็ นือ่ งมาจากคนรุน่ ใหม่เหินห่างจากศาสนา เมือ่ ชมโบสถ์กนั พอ หอมปากหอมคอ เราก็ออกมาเดินสูดอากาศยะเยือกริมแม่นำ�้ ปรกติสหราชอาณาจักร จะมีฝนตกปรอยๆและเมฆหมอกอึมครึมเป็นส่วนใหญ่ แต่วนั นีท้ อ้ งฟ้ากลับเบิกบาน สดใสจนน่าประหลาดใจ ฉันหวนร�ำลึกถึงประเทศทางภูมภิ าคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีโอกาสได้เห็นแสงแดดแทบทุกวัน เขาจะรู้ไหมว่ามันน่าอิจฉาเสียนี่กระไร
อังกฤษสนิทกัน / 93
สวิตเซอร์แ นับเป็นเรื่องปรกติของทุกปีส�ำหรับวัดป่าในซีกโลกตะวันตกที่จะจัดให้มีการ เข้ากรรมฐานฤดูหนาว ระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนมีนาคม สาเหตุก็เนื่องมา จากสภาพอากาศไม่เหมาะแก่การท�ำกิจกรรมภายนอกอาคาร และที่ส�ำคัญก็คือ เป็นการกลับไปหารากเดิมของความเป็นสมณะเช่นเดียวกับครัง้ พุทธกาล แม้จะเป็น ความจริงที่ว่าเราสามารถปฏิบัติธรรมได้ในทุกกิจกรรมของสังคม แต่สังคมทุกวันนี้ มีกจิ กรรมมากมายทีฉ่ ดุ กระชากลากนักปฏิบตั ธิ รรม ให้ถล�ำไถลออกนอกลูน่ อกทาง จนไม่อาจรักษาปณิธานของตัวเองเอาไว้ได้ ราวสามเดือนก่อนสิ้นปี 2556 พระอาจารย์ที่วัดป่าจิตตวิเวก ประเทศอังฤษ ปรารภว่าจะส่งฉันไปเข้ากรรมฐานฤดูหนาวทีว่ ดั ธรรมปาละ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ อันที่จริงฉันก็หมายมั่นปั้นใจว่า ถ้ามีโอกาสก็จะเดินทางไปเยือนส�ำนักสาขาของ วัดหนองป่าพงแห่งอื่นๆในภาคพื้นยุโรป แต่ไม่คิดว่าจะได้ไปในช่วงฤดูหนาวเพราะ มันหนาวสิ้นดี! ฉันสอบปากค�ำพระภิกษุ สามเณร ญาติโยมที่เคยเดินทางไปเยือน
แลนด์แสนดี วัดธรรมปาละและสืบค้นจากอินเทอร์เน็ต ท�ำให้ได้ขอ้ มูลมากมายทัง้ ในแง่ทนี่ า่ สนใจ และในมุมที่ต้องระมัดระวัง ทว่าส�ำหรับพระทีเ่ คยผ่านการฝึกฉันอาหารหนึง่ มือ้ ต่อวัน บิณฑบาตเป็นกิจวัตร อยู่โคนไม้ อยู่ป่าช้า อยู่กุฏิมุงหญ้า ตื่นมาสวดมนต์นั่งสมาธิภาวนาตอนตีสาม มี บริขารเครื่องใช้เท่าที่จ�ำเป็นฯ ฉันไม่เห็นว่ามีที่ไหนในโลกที่มนุษย์อยู่ได้ แล้วท่าน จะปรับตัวอยู่ร่วมกับเขาไม่ได้
From Geneva With LovingKindness
เพียงหนึ่งชั่วโมงครึ่งจาก London Gatwick Airport ประเทศอังกฤษ ฉันก็ โบยบินมาถึง Geneva Airport ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เนื่องจากรถเข็นที่ทาง สนามบินจัดไว้จะใช้งานได้ตอ้ งก็กระตุน้ ด้วยเหรียญ ทว่าฉันไม่มตี ดิ ตัวเลยสักเหรียญ แม้แต่เหรียญสมเด็จฯ จึงจ�ำเป็นต้องสอดเป้เข้าสองไหล่แล้วลากกระเป๋าติดล้อสองใบ ออกเดินออกมายังประตูด้านหน้า ค�ำว่า “รอ” ยังไม่ทันก่อตัวเป็นรูปเป็นร่าง หนุม่ ลูกครึง่ ไทย-สวิสก็เดินเข้ามายกมือไหว้แล้วลากกระเป๋าใบเขือ่ งเดินน�ำฉันไปยัง สถานีรถไฟซึง่ อยูช่ นั้ ใต้ดนิ ของสนามบิน ฉันทักทายหนุม่ ลูกครึง่ เพียงเล็กน้อยเพราะ เห็นเขาก�ำลังง่วนอยู่กับสมาร์ทโฟนจึงไม่อยากรบกวน เรานั่งรถไฟจากสถานีเจนีวามาเปลี่ยนขบวนที่สถานี Brig ถึงจุดนี้อุทานได้ สองพยางค์วา่ มันส์มาก! รถไฟในประเทศสวิตเซอร์แลนด์รำ�่ ลือกันหนาหูจนหนาวหู ว่าตรงเวลาสุดๆ ด้วยเหตุนี้เราจึงมีเวลาย้ายสังขารและบริขารเพียง 4 นาทีจาก ชานชาลาหมายเลข 6 ไปยังชานชาลาหมายเลข 8 ฉันกับหนุ่มลูกครึ่งลากกระเป๋า กึ่งเดินกึ่งวิ่งลงทางลาด เลี้ยวหักมุม 360 องศาไปยังฝั่งตรงข้ามของก�ำแพงแล้ว กึง่ วิง่ กึง่ เดินขึน้ ทางชัน เมือ่ ก้นแตะเบาะรถไฟก็เคลือ่ นขบวนออกจากชานชาลาทันที! เราต่างยิ้มโล่งใจ เมื่อปรับลมหายใจเข้าสู่โหมดปรกติ ฉันจึงสังเกตเห็นเครื่องเครา ของหนุ่มลูกครึ่งว่าใช้สีด�ำเป็นส่วนใหญ่ นอกจากนี้ยังปรากฏภาพหัวกระโหลก ค้างคาว ยมฑูต และข้อความประเภท Death,ฺ Blood, Nightmare จึงเดาว่าเขา น่าจะเป็นนักดนตรีแนวหูเหล็ก เมือ่ ถามไถ่กไ็ ด้ความว่าเขาเป็นมือเบสวงดนตรีเมทัล ที่เพิ่งก่อตั้งร่วมกับเพื่อนๆได้ไม่นาน ฉันบอกเขาว่าตอนเป็นวัยรุ่นเคยชอบวงดนตรี ที่ชื่อ Metalica เขายิ้มแล้วบอกว่าผมก็ชอบเหมือนกัน จากสถานีต้นทางคือ Geneva มาถึงสถานีปลายทางคือ Kandersteg ใช้เวลา 98 / สวิตเซอร์แลนด์แสนดี
สามชั่วโมงครึ่ง ทันทีที่เรายกกระเป๋ามายืนอยู่บนชานชาลา อุบาสิกาฝรั่งก็เดิน เข้ามาเซย์ฮายแล้วเดินน�ำเราไปขึ้นรถ ทักทายถามไถ่กันได้เพียงไม่กี่ประโยครถก็ แล่นมาจอดข้างอาคารขนาดใหญ่ ที่นี่คือวัดธรรมปาละ เมื่อเปิดประตูก้าวลงจาก ยานพาหนะสิ่งแรกที่ฉันสัมผัสได้คือความเย็นยะเยือกทั่วทั้งบริเวณ วัดธรรมปาละก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2531 โดยกลุ่มนักปฏิบัติธรรมชาวสวิสเยอรมัน ช่วงนั้นพระราชสุเมธาจารย์ (หลวงพ่อโรเบิร์ต สุเมโธ) เจ้าอาวาสวัด อมราวดี ส�ำนักสาขาของวัดหนองป่าพง ในประเทศอังกฤษ เดินทางมาสอน วิปสั นา กรรมฐานในแถบเทือกเขาแอลป์หลายครั้ง จนกระทั่งญาติโยมมีจิตศรัทธากราบ อาราธนานิมนต์ท่านมาตั้งวัดที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ท่านจึงส่งพระเถระมาเป็น ผูน้ ำ� ในการบุกเบิก แรกเริม่ ก่อตัง้ วัดอยูใ่ นย่าน Konolfingen ชานกรุงเบิรน์ จากนัน้ ราวสามปีจึงย้ายมาที่หมู่บ้าน Kandersteg คณะสงฆ์ได้ปรับปรุงโรงแรมร้างสี่ชั้นที่ สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1906 ซึ่งตั้งอยู่ท้ายหมู่บ้านอันเงียบสงบแวดล้อมด้วยยอดเขาสูง และธารน�ำ้ แข็งให้เป็นวัดป่า ชัน้ แรกของอาคารเป็นทีฉ่ นั ภัตตาหาร ห้องรับแขกและ ห้องครัว ชั้นที่สองเป็นที่พักอุบาสิกาและห้องท�ำงานเอกสาร ชั้นที่สามเป็นที่พัก ส�ำหรับพระ ชั้นที่สี่เป็นห้องสวดมนต์ภาวนา ห้องสมุดและที่พักอุบาสก วัดธรรมปาละในระยะแรกมีการอบรมธรรมะเป็นภาษาอังกฤษ ต่อมามี พระภิกษุสามเณรชาวเยอรมันมาอยู่ปฏิบัติธรรมร่วมกันหลายรูป ประกอบกับชาว สวิตเซอร์แลนด์ที่อาศัยอยู่ในท้องถิ่นนี้สื่อสารกันด้วยภาษาเยอรมัน คณะสงฆ์จึง เปลี่ยนมาอบรมธรรมะด้วยภาษาเยอรมันเป็นหลัก สิ่งที่ท�ำให้ฉันปลื้มปีติอย่างล้น เหลือคือแผ่นป้ายทองเหลืองทีป่ ระดับอยูใ่ นห้องโถงชัน้ ล่างซึง่ มีขอ้ ความว่า “ศาลานี้ ให้ชอื่ ว่าศาลาสมเด็จย่า เพือ่ เทิดพระเกียรติแด่พระศรีนครินทรา บรมราชชนนี ทีไ่ ด้ สวิตเซอร์แลนด์แสนดี / 99
ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณบริจาคพระราชทรัพย์ ในวโรกาสพระชนมายุครบ 90 พรรษา เป็นทุนก่อตั้งวัดธรรมปาละนี้ ลงวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ.2535” หลังจากเดินทางไปเยือนส�ำนักสาขาของวัดหนองป่าพงในหลายท้องถิ่นนับ ตั้งแต่อเมริกา ออสเตรเลีย และอังกฤษ ฉันก็เริ่มรู้สึกว่าวัดป่าในต่างประเทศมี บรรยากาศไม่แตกต่างกันมากนัก จนกระทั่งจรลีมาที่วัดธรรมปาละท่ามกลางหิมะ เดือนมกราคม จึงได้สัมผัสความแปลกใหม่ทางสภาพภูมิศาสตร์ เพราะมีเทือกเขา สูงเสียดฟ้าโอบล้อมวัดทั้งแปดทิศ ไม่ว่าจะเยี่ยมหน้าไปหนใดก็ขาวโพลนด้วยหิมะ ภาพจากหน้าต่างห้องพักในเวลาจวนสิบเจ็ดนาฬิกา คือแผ่นแดดสีส้มอมชมพูฉาบ ไล้ยอดเขาตระหง่าน ป่าสนสีนำ�้ ตาลปนเทาเบือ้ งล่างยืนสงบนิง่ ถ้าเป็นสมัยวัยรุน่ คง เหงาแทบบ้า แต่มาวันนีฉ้ นั ค้นพบแล้วว่า การด�ำรงตนเพียงล�ำพังในความวิเวก เป็น ความสุขทีม่ นุษย์จำ� นวนน้อยหยัง่ ถึง สามเดือนถัดจากนีจ้ ะเป็นช่วงเวลาของการเข้า กรรมฐานฤดูหนาว กินน้อย นอนน้อย พูดน้อย และสื่อสารกับโลกภายนอกน้อยลง เพื่อจะได้มีเวลาสื่อสารกับโลกภายในอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย
100 / สวิตเซอร์แลนด์แสนดี
Walking Around Kandersteg
กว่าดวงตะวันเหมันต์จะสาดส่องหมู่บ้าน Kandersteg ด้วยล�ำแสงสดสว่างก็ ปาเข้าไปสิบเอ็ดนาฬิกาเศษๆ เนื่องจากหลายชั่วโมงก่อนหน้านี้ เทือกเขาประดับ หิมะสูง 3,638 เมตรจากระดับน�้ำทะเลบดบังแสงสวรรค์เอาไว้ หลังจากตักอาหาร ที่โรงครัว พระบางรูปจึงประคองบาตรเดินขึ้นบันไดมานั่งบนระเบียงชั้นสาม เพื่อ ท�ำภัตกิจท่ามกลางแดดอุ่น เมื่อร่างกายคลายความหิวกระหาย ฉันก็ติดอุปกรณ์ กันลืน่ ทีพ่ นื้ รองเท้าแล้วออกไปเดินส�ำรวจทัว่ อาณาบริเวณติดต่อกันเป็นเวลาสีว่ นั รวด วันอาทิตย์สีฟ้า ฉันเดินทางจากอังกฤษมาถึงวัดธรรมปาละในช่วงมืดค�่ำของ วันศุกร์ ครัน้ ถึงวันเสาร์มองผ่านหน้าต่างคราใดก็เห็นเป็นสีขาวบนเทา เนือ่ งจากหิมะ โปรยปรายอยู่เกือบตลอดเวลา แต่เมื่อวันอาทิตย์เคลื่อนมาท้องฟ้ากลับสดใสเกิน คาด ฉันคว้ากล้องออกไปถ่ายรูปโดยไม่รอช้าเพราะไม่แน่ใจว่าหิมะจะพรมลงมาอีก เมื่อใด การเล็งผ่านหน้าจอดิจิทัลแต่ละครั้งใช้เวลาสั้นๆเพราะแสงสะท้อนมาจาก ทุกทิศทาง แต่การถ่ายภาพแบบฉับพลันก็เป็นจริตของฉัน เนือ่ งจากเมือ่ ครัง้ ยังเป็น นักศึกษาศิลปะเคยฝักใฝ่ผลงานแนว Expressionism ฉันดุ่มเดินไปตามถนนตรง เข้าสูใ่ จกลางของหมูบ่ า้ นโดยมิได้สอบถามเส้นทางจากผูใ้ ด วันหยุดสุดสัปดาห์เช่นนี้ คราคร�ำ่ ไปด้วยนักท่องเทีย่ ว บ้างก็เดินชมบ้านเมือง บ้างก็เล่นสกี บ้างก็นงั่ อาบแดด อยูท่ ลี่ านหน้าร้านอาหาร บ้างก็เลือกสินค้าอยูใ่ นร้านจ�ำหน่ายของทีร่ ะลึก กิจการใน ท้องถิน่ รุง่ เรืองพอประมาณ แรกออกเดินฉันกะว่าจะไปทีส่ ถานีรถไฟ แต่จำ� เส้นทาง ไม่ได้เพราะมาถึงในช่วงกลางคืน เมือ่ ผ่านลานสกีฉนั หยุดยืนดูเด็กๆอยูค่ รูห่ นึง่ ได้เวลา พอสมควรจึงเดินย้อนกลับไปตามเส้นทางเดิม ชาวเมืองและนักท่องเที่ยวหลายคน ทักทายฉันด้วยภาษาแปลกๆทั้งขาไปและขากลับ วันจันทร์สีขาว พระฝรั่งแนะน�ำว่าด้านทิศใต้ของวัดมีน�้ำตกสูงชัน ถัดจากนั้น 104 / สวิตเซอร์แลนด์แสนดี
ก็เป็นทางเดินเท้ารอบหมู่บ้านขนานไปกับเส้นทางเล่นสกี ฉันเพิ่งทราบเมื่อไม่นาน มานี้เองว่า Cross Country Skiing จะเล่นบนพื้นราบเรียบและเนินเขาเล็กๆ ส่วน Down Hill Skiing ที่เคยเห็นในทีวี ต้องนั่งกระเช้าไฟฟ้าขึ้นไปไถลลงมาจากยอด เขาสูง การเล่นสกีนอกจากจะมีอปุ กรณ์พร้อมพรัง่ แล้ว สิง่ หนึง่ ทีจ่ ะขาดเสียมิได้กค็ อื Winter Sport Insurance หรือการท�ำประกันอุบตั เิ หตุสำ� หรับการเล่นกีฬาในฤดูหนาว ซึ่งต้องจ่ายอีกหลายฟรังซ์ เมื่อเริ่มออกเดินฉันระมัดระวังเป็นพิเศษในแต่ละก้าว เพราะยังไม่คุ้นกับการย่างเหยาะบนหิมะ แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่เพราะเส้นทางที่ ผ่านการเหยียบย�่ำโดยนักท่องเที่ยวคนก่อนๆพื้นค่อนข้างจะแน่นหนา การก้าวไป บนถนนที่โรยด้วยเกล็ดหิมะ แม้จะเสี่ยงต่อการล้มลุกคลุกคลานและไม่หอมหวาน เช่นกลีบดอกไม้ แต่กม็ ใิ ช่เรือ่ งสาหัสสากรรจ์สำ� หรับพระธุดงค์ บ่ายนีม้ นี กั ท่องเทีย่ ว ไม่มากนัก ส่วนใหญ่เป็นผูส้ ูงอายุ ร้านอาหารว่างแทบทุกโต๊ะ ร้านขายของทีร่ ะลึกดู เงียบเหงา อาจจะเป็นเพราะฉันเลือกเดินบนถนนสายเล็กๆรอบหมูบ่ า้ นซึง่ มีระยะทาง ไกลกว่าเมื่อวาน กว่าจะทะลุถึงใจกลางเมืองก็ล่วงเลยไปหลายบ่าย เมื่อสาวเท้ามา ถึงถนนตัดตรงเข้าสู่วัดในเวลาเกือบบ่ายสี่โมง แดดก็ลับเหลี่ยมเขาพอดี วันนี้ฉันยัง คงได้รับค�ำทักทายที่ฟังไม่เข้าใจเช่นเดียวกับเมื่อวาน วันอังคารสีเขียว แม้ไม่อาจอ้างอิงว่าอ่านมาจากแห่งหนต�ำบลใด แต่ฉันก็จ�ำ เนื้อความได้แม่นย�ำ “การเดินออกก�ำลังกายวันละ 20 นาที ช่วยลดความเสี่ยงต่อ การเป็นโรคหัวใจและโรคเบาหวาน” พระหนุม่ สีส่ บิ กะรัตจึงเปิดประตูสภู่ เู ขาหลังวัด อย่างมีนัยส�ำคัญ ทางเดินเท้าดารดาษด้วยหิมะเกาะเกี่ยวแน่นหนาระหว่างโคน ต้นสนใบเขียวเข้ม มีร่องรอยของมนุษย์และสุนัขเกลื่อนกล่น ไม่กี่วันก่อนหน้านี้ พระอาจารย์เล่าว่า มีญาติโยมลื่นล้มแขนหักเพราะไม่ได้ติดอุปกรณ์ส�ำหรับเดินบน น�้ำแข็งที่พื้นรองเท้า วันนี้แดดฉายชัดและอากาศเย็นโล่งจมูกเช่นเดียวกับเมื่อวาน สวิตเซอร์แลนด์แสนดี / 105
อุบาสกอุบาสิกทีพ่ กั อยูใ่ นวัดก็มาเดินออกก�ำลังกายเช่นกัน เมือ่ ย�ำ่ หิมะไปได้ครูใ่ หญ่ ฉันก็ต้องปลดฮู้ดและผ้าพันคอออกเพราะชักจะอบอ้าว การเดินยืดเส้นยืดสาย วันนีใ้ ห้อารมณ์เหมือนเดินป่าเพราะสองข้างทางเต็มไปด้วยต้นสนแน่นขนัด จะแตกต่าง จากป่าทั่วไปก็เพียงสีของพื้นที่ย�่ำเดิน แทนที่จะเป็นน�้ำตาลมอมแมมของดินก็ เปลีย่ นเป็นขาวสะอ้านของหิมะ ฉันเลาะเลีย้ วแหวกป่าสนไปจนถึงบริเวณทีส่ ามารถ มองเห็นวิวหมู่บ้านและสถานีรถไฟสุดสายตาพานอรามา จากนั้นก็ไต่ลงมาอย่าง เชื่องช้าจนถึงตีนเขา วันนี้ไม่มีค�ำทักทายด้วยภาษาแปลกหูให้กับพระแปลกถิ่น วันพุธสีเจ็บ ฉันยังคงเดินส�ำรวจป่าสนบริเวณด้านหลังวัดแต่วันนี้ตั้งใจว่าจะ เปลีย่ นทิศทาง เมือ่ สาวเท้าไปได้ครูใ่ หญ่พระฝรัง่ พร้อมอุปกรณ์ครบครันเดินตามมา ข้างหลัง ท่านมีทั้งเป้ รองเท้า และ Walking poles หรือไม้เท้าอย่างดีที่มีจ�ำหน่าย ตามร้านอุปกรณ์เดินป่าซึง่ นิยมใช้เป็นคู่ ฉันสังเกตเห็นมาหลายวันแล้วว่านักท่องเทีย่ ว หลากวัย ทีม่ าเดินลุยหิมะจะใช้ไม้เท้าแบบนีก้ นั ทัง้ นัน้ แต่ฉนั คิดว่าตัวเองยังหนุม่ และ แข็งแรงจึงไม่จำ� เป็นต้องพึง่ พาอุปกรณ์ให้เกะกะ เช้าวันถัดมาจึงรูว้ า่ ตัวเองพลาดไป ถนัด เพราะรูส้ กึ ปวดทีห่ วั เข่าด้านใน ยิง่ ได้อา่ นแผ่นพับจากศูนย์ขอ้ มูลนักท่องเทีย่ ว ก็ยิ่งสังเวชใจในความหนุ่มของตัวเอง The use of walking poles also helps to relieve the joints การเดินบนหิมะแทบไม่ตา่ งจากการเดินหาดทรายขาวละเอียด ซึ่งต้องออกแรงมากกว่าการเดินบนพื้นปรกติ การใช้ไม้เท้าจะช่วยให้ “ข้อต่อ” ไม่ต้องท�ำงานหนักเกินไป-โง่ก่อนฉลาด คนก็มักจะเป็นกันอย่างนี้
106 / สวิตเซอร์แลนด์แสนดี
Chalet Solitude
สิ่งที่ท�ำให้การปฏิบัติธรรมเหนือชั้นกว่าการเล่นสกีก็คือ“อุปกรณ์” ในการเล่น สกีต้องใช้อุปกรณ์หลายอย่างไม่ว่าจะเป็นกระดานสกี ไม้เท้า รองเท้า เสื้อ กางเกง หมวก ถุงมือ แว่นตา และที่ส�ำคัญก็คือหิมะ สวิตเซอร์แลนด์จะมีหิมะให้เล่นทั่ว ประเทศราวปลายเดือนพฤศจิกายนถึงกลางเดือนมีนาคม ส�ำหรับการปฏิบัติธรรม นั้นอาศัยอุปกรณ์เพียงสองอย่างคือกายกับใจซึ่งจะติดตามเราไปทุกหนทุกแห่ง เราจึงสามารถปฏิบัติธรรมได้ในทุกสภาพภูมิประเทศและภูมิอากาศ นี่เป็นความ เหนือชั้นที่ใครๆก็ไม่อาจปฏิเสธ ประมาณหกสัปดาห์ที่ฉันงดการติดต่อสื่อสารกับโลกภายนอกวัด แม้จะไม่อยู่ ในอารมณ์อยากงด เพราะยังมีงานเอกสารที่คั่งค้าง รวมทั้งต้องการติดตามความ เคลื่อนไหวของสถานการณ์ในบ้านเมืองไทยที่ก�ำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม ทว่าเพื่อปฏิบัติ ตามข้อกติกาของคณะสงฆ์ ฉันจึงจ�ำเป็นต้อง Unplug เราไม่ได้รักษากติกาเพื่อ รักษากติกา แต่เรารักษากติกาเพื่อรักษาธรรม การงดใช้อินเทอร์เน็ตช่วยลดการ ปะทะกับข้อมูลที่ไม่จ�ำเป็น ซึ่งประเดประดังเข้ามาในชีวิตของเราตั้งแต่เช้าจรดค�่ำ การ Unplug ท�ำให้เรามีเวลาอยู่กับตัวเองและเห็นความเคลื่อนไหวภายในจิต ณ ปัจจุบันขณะชัดเจนขึ้น ฉันมีเวลาและสมาธิในการทบทวนพระปาฏิโมกข์ ซึ่งก่อน หน้านีเ้ ข้าข่ายภาษิตทีว่ า่ “มนต์ไม่ทอ่ งบ่นเป็นมลทิน” ส�ำหรับวัดทีม่ พี ระตัง้ แต่ 4 รูป ขึ้นไปต้องจัดให้มีการประชุมเพื่อทบทวนศีล 227 ข้อ เป็นภาษาบาลีทุกกึ่งเดือน โดยพระรูปหนึ่งจะเป็นผู้ทรงจ�ำเนื้อความทั้งหมดแล้วสวดท่ามกลางคณะสงฆ์ ส่วน พระอีกรูปหนึ่งจะเปิดต�ำราตรวจทานตามไปติดๆ หากพบว่าพระผู้สวดผิดพลาด ก็จะท�ำการทักท้วง กว่าจะท่องจ�ำและสวดพระปาฏิโมกข์ได้ ฉันใช้เวลาฝึกเฉียด หนึ่งปี ส่วนครูบาอาจารย์ที่มีความทรงจ�ำดีท่านใช้เวลาเพียงหนึ่งเดือน!
110 / สวิตเซอร์แลนด์แสนดี
ตามปรกติในช่วงเข้ากรรมฐานฤดูหนาวพระจะงดรับแขก แต่เมื่อมีญาติโยม ชาวไทยอุตสาหะเดินทางท�ำบุญที่วัด พระอาจารย์จึงเปิดโอกาสให้พุทธบริษัทได้ “ธรรมสากัจฉา” กันเป็นกรณีพเิ ศษ ครัน้ ชาวสยามประเทศผูร้ กั ถิน่ ฐานโคจรมาพบกัน จะไม่ปรารภถึงสถานการณ์บ้านเมืองก็กระไรอยู่ คุณป้าจากเจนีวาเปิดประเด็นว่า ฝรัง่ คนหนึง่ ถามว่า “คนไทยทีช่ มุ นุมกันอยูบ่ นท้องถนนนานหลายเดือน เขาไม่ทำ� มา หากินกันเหรอ?” ค�ำเฉลยของฉันเป็นไปในทิศทางเดียวกับค�ำตอบของค�ำถามที่ว่า “เหตุใดฝรัง่ ทีพ่ รัง่ พร้อมไปด้วยสิง่ อ�ำนวยความสะดวกจากสังคมบริโภคนิยม จึงยอม ละทิ้งขนมปังทาเนยถั่วมาปั้นข้าวเหนียวจิ้มแจ่วปลาร้า ฝากตัวเป็นลูกศิษย์ หลวงพ่อชาทีว่ ดั หนองป่าพง” ถึงบรรทัดนีบ้ างใครอาจฉงนฉงายเพราะฉันไม่ได้ตอบ ค�ำถามเพือ่ ตอบค�ำถามข้างต้น แต่ฉนั ตอบค�ำถามเพือ่ กระตุน้ ให้ผถู้ ามน�ำไปขยายผล ค้นหาค�ำเฉลยด้วยตนเอง แต่ถึงแม้เขาจะไม่ท�ำตามที่ฉันกระตุ้น มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ ฉันต้องขุ่นเคือง ทัง้ ๆทีก่ ำ� เนิดและเติบโตในท้องถิน่ ทีม่ บี รรยากาศทางพุทธศาสนา แต่คณ ุ ธรรม เช่น “หิริโอตตัปปะ” จะซึมซ่านเข้าสู่กมลสันดานดิบด้านปานคอ-นก-รีตของ นักการเมืองบ้านเราก็หาไม่ พวกเขาเหล่านั้นรู้จักแต่เพียงการเป็นประธานในพิธี ทอดกฐินทอดผ้าป่า ปล่อยนกปล่อยปลา ต่ออายุสืบชะตาเพ่งพระอาทิตย์ ไม่เคย รับรูแ้ ม้สกั เศษเสีย้ วว่า “การละบาปส�ำคัญกว่าการท�ำบุญ” โจรท�ำบุญได้แต่ละบาป ไม่ได้ โจรจึงยังคงเป็นโจรยืนเด่นโดยท้าทาย พุทธบริษทั ไทยสนทนากันต่อไปว่า เรา ประณามนักการเมืองโป้ปด นักวิชาการมดเท็จ สื่อมวลชนปลิ้นปล้อน ข้าราชการ ตลบตะแลง เราขยะแขยงนักการเมืองยุคเก่าเต่าล้านปีที่น�ำอ�ำนาจซึ่งประชาชน มอบให้ ไปกอบโกยผลประโยชน์ใส่ตวั และพวกพ้อง โดยไม่ใยดีตอ่ ชีวติ ความเป็นอยู่ ของพี่น้องร่วมชาติ การเมืองเป็นงานสร้างสรรค์บ้านเมือง เราอยากเห็นคนรุ่นใหม่ สวิตเซอร์แลนด์แสนดี / 111
เข้ามาท�ำงานการเมือง คนที่ต้องการทางจักรยานและเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กรุงเทพฯ คนที่ต้องการอนุรักษ์ป่าต้นน�้ำล�ำธาร คนที่ต้องการสร้างความมั่นคงด้านอาหาร คนทีเ่ ห็นคุณค่าในความเสียสละและภูมปิ ญ ั ญาของบรรพบุรษุ เราอยากมอบอ�ำนาจ ให้คนเหล่านี้บ้าง...ก็เท่านั้นเอง
112 / สวิตเซอร์แลนด์แสนดี
Old School Doctor
เมือ่ เวลานัดหมายใกล้เข้ามา ฉันกับพระฝรัง่ จึงเดินกางร่มฝ่าละอองหิมะเข้าไปใน หมูบ่ า้ นเพือ่ พบหมอ มิใช่อนื่ ไกล เหตุเพราะพระจากไทยแลนด์มโี รคภัยมาเยีย่ มเยียน แต่ก็หาได้เป็นเรื่องใหญ่โตเพราะฉันเคยผจญกับเพื่อนเก่าที่ชื่อ “ภูมิแพ้” มาแล้วที่ บ้านเกิด หลังจากเหยียบเกาะอังกฤษได้ประมาณสามเดือน ฉันก็เกิดอาการคันคะเยอ ไปทัง้ ตัวซึง่ ก็พอทนได้ แต่กอ่ นจะเดินทางมาสวิตเซอร์แลนด์อาการคันลามลงไปหลัง เท้ายิง่ เกายิง่ มันส์ แต่เมือ่ มันส์ไปนานๆก็กลายร่างเป็นแผลอักเสบซึง่ ก็ยงั พอทนไหว ฉันมีทางเลือกอยู่สามทางคือไปหาหมอในหมู่บ้าน กลับไปหาหมอที่อังกฤษในอีก สองเดือนครึ่ง หรือรอกลับไปหาหมอเจ้าเดิมที่เมืองไทยตอนกลางปีคืออีก 4 เดือน นับจากนี้ เมือ่ พิจารณา 2-3 ตลบก็พบค�ำตอบว่าโรคนีไ้ ม่หายเองเหมือนไข้หวัดแน่ๆ และถ้าทิ้งไว้นานอาจจะลุกลามเป็นอย่างอื่น เราใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีเดินสบายๆจากวัดธรรมปาละเข้าไปในหมู่บ้าน หยุด ถามทางกับสุภาพสตรีสูงวัยที่มากับหมาขนฟู เนื่องจากเรารู้เพียงต�ำแหน่งเพียง คร่าวๆของคลินกิ ระหว่างทางปรากฏร้านจ�ำหน่ายเครือ่ งกันหนาวและให้เช่าอุปกรณ์ เล่นสกีก�ำลังลดราคาท้านักท่องเที่ยว นอกจากนี้ก็มีโรงแรมขนาดใหญ่ ร้านกาแฟ ร้านอาหาร ลานเล่นสกี จนกระทัง่ มาถึงโรงเรียนซึง่ ตัง้ อยูต่ รงข้ามกับคลินกิ ฉันรูส้ กึ ชื่นใจที่ได้เห็นสถาปัตยกรรมร่วมสมัยบ้าง หลังจากสบตากับอาคารอิฐหินโบราณ ท่ามกลางเม็ดฝนมาครึ่งปีทั่วสหราชอาณาจักร แต่เมื่อเก็บร่มแล้วเดินเข้าไปใน คลินิก ฉันก็ต้องพบกับความโบราณอีกครั้ง ทั้งหมอและพยาบาลที่คลินิกแห่งนี้ แต่งตัวราวกับหลุดออกมาจากภาพยนตร์เรื่อง Gone With the Wind! เมื่อได้กราบเรียนถามถึงเหตุการณ์แปลกประหลาดนี้กับพระอาจารย์ในวัน ถัดมาจึงท�ำให้ทราบว่า ตลอดทั้งสัปดาห์ชาวบ้านในหมู่บ้าน Kandersteg พร้อมใจ 116 / สวิตเซอร์แลนด์แสนดี
กันจัดเทศกาลที่มีชื่อเป็นภาษาฝรั่งเศสว่า Bellepoque หรือ Good Old Time ในภาษาอังกฤษ โดยชาวบ้านจะแต่งตัวย้อนยุคเหมือนชาวฝรั่งเศสเมื่อ 100 ปี ที่แล้ว นอกจากนี้ก็มีการจ�ำหน่ายอาหาร การแสดง การละเล่นพื้นบ้านฯ คล้ายๆ งานของดีสี่ภาคที่บ้านเรา บรรยากาศเช่นนี้ท�ำให้ฉันกับพระฝรั่งรู้สึกกลมกลืนเป็น อย่างยิ่ง เพราะเครื่องนุ่มห่มและวิถีชีวิตของเราย้อนยุคไปกว่า 2,500 ปี หลังจากกรอกเอกสารที่เคาน์เตอร์เรียบร้อยแล้วเราก็มานั่งรอในห้องรับรอง ระหว่างนั้นฉันเล่าให้พระฝรั่งฟังว่า ที่มาหาหมอวันนี้เป็นการบรรเทาโรคชั่วคราว ฉันเคยเข้าคอร์สธรรมชาติบำ� บัดมาก่อนจึงพอจะสันนิษฐานได้วา่ อาการคันทีเ่ กิดขึน้ มีสาเหตุมาจากร่างกายไม่ได้สมั ผัสกับแสงแดดมาเป็นเวลานาน และอาหารทีบ่ ริโภค อยู่ทุกวันนี้เช่นเนย ช็อกโกแลต พิซซ่า สปาเกตตีฯ ส่วนใหญ่ก็ขัดกับหลักธรรมชาติ บ�ำบัดแทบทั้งนั้น แต่จะท�ำอย่างไรได้ เป็นพระก็ต้องรู้จักปรับตัว กินง่าย อยู่ง่าย ไปง่าย มาง่าย ท�ำอะไรง่ายๆเหมือนตาสีตาสาอย่างที่หลวงพ่อชาสอนไว้ เวลานัดหมายผ่านไปห้านาที คุณหมอผมฟูฟ่องทองอร่ามท่าทางใจดีก็เดิน มาเรียกเราเข้าไปคุยในห้องตรวจ ค�ำถามแรกจากคุณหมอก็คือ Where are you come from? ฉันนิ่งอยู่ครู่หนึ่งเพราะไม่แน่ใจว่าจะตอบ Thailand หรือ England แต่เมื่อตอบประเทศข้างท้าย คุณหมอก็บอกว่าชื่อของคุณเป็นภาษาแปลกๆ นัน่ แหละฉันจึงแจ้งแก่ใจว่าควรจะตอบประเทศข้างต้น คุณหมอให้ฉนั เล่ารายละเอียด ของอาการแล้วขอดูแผลบริเวณหลังเท้า เพียงคุณหมอเอามือลูบทีแ่ ผลอย่างอ่อนโยน ฉันก็รู้สึกค่อยยังชั่วขึ้นมาทันที! เออ! แปลกดี คุณหมอจัดครีมทาแผลที่หลังเท้าให้ หนึ่งหลอด และโลชั่นทาตัวอีกหนึ่งกระปุกพร้อมอธิบายวิธีใช้ คุณหมอถามฉันว่า จะกลับอังกฤษเมื่อไหร่? ฉันตอบว่าอีกประมาณสองเดือนครึ่ง คุณหมอบอกว่าถ้า สวิตเซอร์แลนด์แสนดี / 117
ยาหมดแล้วแต่อาการยังไม่ดีขึ้นก็มาอีกนะ ยามสายของวันถัดมา ฉันถามรายละเอียดเพิมิ่ เติมจากพระฝร่งั เกีย่ วกับเทศกาล Bellepoque แรกได้ยินฉันนึกว่าเป็นเทศกาลกินหมูซึ่งสะกดว่า Bellepork พระฝรั่งขยายความค�ำว่า Good Old Time ให้ฉันฟัง แต่ท่านไม่แน่ใจว่า Old Time ในฝรั่งเศสเมื่อหนึ่งร้อยปีที่แล้วจะ Good หรือไม่ ฉันเองก็ไม่มั่นใจเช่นกัน เพราะกระหวัดไปถึงการปฏิวัติในฝรั่งเศส การรบราฆ่าฟันกันระหว่างชาวคริสต์ นิกายโรมันคาทอริกกับโปรแตสแตนท์ แล้วจินตนาการไปตามประสาพระว่า ถ้า ชาวบ้านชักชวนกันมาท�ำบุญอุทศิ ให้ชาวฝรัง่ เศสทีเ่ สียเลือดเนือ้ ในระหว่างสงคราม ก็จะเป็น Good New Time
118 / สวิตเซอร์แลนด์แสนดี
The Good, The Bad & The Truth
“ดี-ชัว่ เป็นสิง่ ทีแ่ ต่ละสังคมก�ำหนดขึน้ มา" ฉันรับรูป้ ระโยคท�ำนองนีค้ รัง้ แรกๆจาก บทสัมภาษณ์นกั เขียนหญิงผูอ้ อื้ ฉาวชาวล้านนาซึง่ มีญาติโยมส่งมาให้อา่ น ถัดจากนัน้ ก็ถูกถามโดยตรงจากนักศึกษาแพทย์ที่มาเข้าคอร์สปฏิบัติธรรม เนื่องจากฉันได้รับ มอบหมายจากท่านเจ้าอาวาสให้ท�ำหน้าที่ในช่วงไขปัญหา ต่อมาก็ได้ยินจากปาก ของพิธีกรชายในรายการทีวีทางอินเทอร์เน็ต ฉันรู้สึกแปลกใจอยู่บ้างเหมือนกันว่า เหตุใดตนเองจึงไม่เคยตั้งข้อสังเกตในเรื่องนี้ ฉันไม่เคยสงสัยเลยว่า “ดี-ชั่ว” ที่พ่อ แม่ปู่ย่าตายาย ครูบาอาจารย์ที่โรงเรียน หลวงปู่หลวงพ่อหรือพระอาจารย์ ให้การ อบรมสัง่ สอนมาตัง้ แต่เล็กจนโต เป็นสิง่ ทีถ่ กู ก�ำหนดขึน้ โดยสังคมไทย จนกระทัง่ ล่าสุด ได้พบประโยคในต้นย่อหน้าอีกครั้ง จากกลุ่มคนไทยที่ใช้ชื่อว่าลิเบอรัล ฉันจึงขึ้น ไทม์แมชชีนย้อนเวลากลับไปสู่อดีต เมื่อครั้งยังเล็งหนังสะติ๊กยิงกิ้งก่าล่ามะม่วงใน สวนร้าง “อย่าฆ่าสัตว์รงั แกสัตว์นะลูก...มันบาปกรรม อย่าเป็นคนเกียจคร้านนอนตืน่ สาย กินข้าวกินปลาให้พร้อมหน้ากัน อย่าเถียงพ่อแม่ ผูใ้ หญ่บอกอะไรให้รบี ท�ำตาม กลาง คืนอย่าออกไปนอกบ้าน รู้จักเลือกคบเพื่อน ดื่มเหล้าสูบบุหรี่เล่นการพนันมันไม่ดี อย่าริเป็นขโมย อย่าเป็นคนโกหก ตัง้ ใจเรียนหนังสือ รูจ้ ักช่วยท�ำงานบ้าน สวดมนต์ ไหว้พระไหว้พ่อแม่ปู่ย่าตายายก่อนนอน ตื่นเช้าใส่บาตรบ้าง พูดกับผู้ใหญ่ให้มี หางเสียงหน่อยลูกฯ” สังคมไทยผูกพันกับพุทธศาสนามาช้านาน พระอาจารย์ฝรัง่ ซึง่ เคยด�ำรงต�ำแหน่ง เจ้าอาวาสวัดป่าในเมืองไทยนานนับสิบปียนื ยันถึงเรือ่ งนีว้ า่ “พุทธศาสนากับวัฒนธรรม ไทยแทบจะแยกกันไม่ออก” เด็กที่เกิดและเติบโตในบรรยากาศแบบนี้ แม้จะยัง ไม่เข้าใจค�ำสัง่ สอนของผูใ้ หญ่เพราะวุฒภิ าวะยังไม่สมบูรณ์ อีกทัง้ ท่านเหล่านัน้ ก็ไม่ได้ 122 / สวิตเซอร์แลนด์แสนดี
อธิบายเพิ่มเติม แต่เมื่อได้ยินได้ฟังสม�่ำเสมอ ตลอดจนสั่งสมตัวอย่างในระหว่าง การด�ำเนินชีวิต เด็กคนนั้นก็จะซึมซับและเข้าใจไปทีละเล็กทีละน้อยจนลงใจว่า สิ่งนี้คือความดี สิ่งนี้คือความชั่ว สิ่งนี้น�ำความเจริญหรือความเสื่อมมาสู่ชีวิตของ ตนเองและผู้อื่น ฉันเริม่ เทีย่ วกลางคืนตัง้ แต่เรียนอยูช่ นั้ มัธยมศึกษาปีทสี่ จี่ นเข้าสูร่ วั้ มหาวิทยาลัย โชกโชนต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 6-7 ปี กลางคืนเป็นโลกที่อบอวลไปด้วยอิสระเสรี ส�ำหรับวัยรุ่นเพราะไม่มีผู้ใหญ่มาจุ้นจ้าน พวกเราดูแลตัวเองและดูแลกันเอง อยาก ท�ำอะไรก็ทำ� ไม่อยากท�ำอะไรก็ไม่ตอ้ งท�ำ ฉันเสพติดอิสรภาพในการใช้ชวี ติ กลางคืน และหมดเงินทองไปกับการนีม้ ใิ ช่นอ้ ย ประสบอุบตั เิ หตุหลายหน รวมทัง้ ต้องไปเยีย่ ม เพื่อนที่โรงพยาบาลหลายครั้ง ตกอยู่ในวงล้อมของการทะเลาะวิวาทโดยที่ตัวเอง ไม่ได้เป็นผูก้ อ่ เหตุ พบเห็นกิจกรรมผิดกฏหมายซึง่ คนเทีย่ วกลางวันไม่มโี อกาสได้พบ เมือ่ ยังเป็นพระใหม่ฉนั ได้อา่ นข่าวจากหนังสือพิมพ์ฉบับหนึง่ โดยบังเอิญ นักแสดงสาว ออกท่องราตรีแล้วกระดกเครือ่ งดืม่ จากแก้วของเพือ่ นซึง่ มียาเสพติดผสมอยู่ เคราะห์ หามยามร้ายทีต่ ำ� รวจเข้าไปตรวจตราสถานบันเทิงแห่งนัน้ นักแสดงสาวจึงตกเป็นข่าว หน้าหนึง่ ดับอนาคตในวงการเพียงชัว่ ข้ามคืน ก่อนจะพบข่าวนีฉ้ นั ก�ำลังทบทวนต�ำรา เพือ่ สอบนักธรรมชัน้ ตรีจงึ เป็นเหตุให้ปะทะ “โทษของการเทีย่ วกลางคืน 6 ประการ” ได้แก่ (1) ชื่อว่าไม่รักษาตัว (2) ชื่อว่าไม่รักษาครอบครัว (3) ชื่อว่าไม่รักษาทรัพย์ (4) เป็นที่ระแวงของคนทั้งหลาย (5) มักถูกใส่ความ (6) ได้รับความล�ำบากมาก พุทธศาสนาเป็นศาสนาทีแ่ สดงความจริงตามธรรมชาติเช่นหลักเหตุปจั จัยฯ และ พระสัมมาสัมพุทธเจ้ามิได้ทรงเปลีย่ นธรรมชาติให้เป็นไปตามทีพ่ ระองค์ตอ้ งการ แต่ ทรงฝึกจิตให้ยอมรับความจริงทีป่ รากฏอยูต่ ามธรรมชาตินนั้ แม้นกั เขียนหญิงผูอ้ อื้ ฉาว สวิตเซอร์แลนด์แสนดี / 123
นักศึกษาแพทย์ พิธีกรชายรายการทีวีทางอินเทอร์เน็ต หรือกลุ่มลิเบอรัล จะติดปีก เหินฟ้าบินออกจากสังคมไทยไปซบอกสังคมอเมริกัน อังกฤษ ออสเตรเลีย ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เขมร ดูไบ ปาปัวนิวกินีฯ แต่ “ดี-ชั่ว” ที่กระท�ำด้วยความเจตนา ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ก็จะตามไปส่งผลให้พวกเขาได้ซาบซึ้งจนถึง ลมหายใจสุดท้าย แม้พวกเขาจะยืนยันหัวกระแทกฝาด้วยภาษาวิชาการหรือค�ำศัพท์ ฝรั่งว่า “ดี-ชั่ว เป็นเพียงพรอพพาแกนด้า”
124 / สวิตเซอร์แลนด์แสนดี
Recollecting
Church of the Flying Spaghetti Monster
ฉันเคยอ่านบทความเกี่ยวกับ “ลัทธิปีศาจสปาเกตตีเหินฟ้า” หลายเดือนก่อน เดินทางมาสวิตเซอร์แลนด์ สาเหตุที่เรื่องนี้ระเบิดขึ้นมาในความสนใจอีกครั้ง ก็ เนือ่ งจากในวันหยุดสุดสัปดาห์มญ ี าติโยมถาโถมกันมาท�ำบุญเนือ่ งในวันคล้ายวันเกิด ซึ่งบังเอิญตรงกันถึง 4 ท่าน หลังจากเสร็จธุระเรื่องปากท้องเราก็ธรรมสากัจฉากัน ตามประสาชาวไทยพุทธ นับตั้งแต่พ�ำนักอยู่ในยุโรปร่วม 7 เดือน ฉันเพิ่งได้ปรารภ ธรรมะกับญาติโยมอย่างออกรสออกชาติวันนี้เอง บางค�ำถามที่ฉันไม่เคยได้ยินมา ก่อนก็ต้องใช้เวลาพิจารณากันพอสมควร นับว่าเป็นการลับสมองประลองปัญญา ไปในตัว ถ้าพร้อมแล้วก็คว้าช้อนส้อมพร้อมเครื่องปรุงไปเผชิญหน้ากับเจ้าปีศาจ สปาเกตตีเหินฟ้ากันเลย เนื่องจากศาสนาคริสต์แต่ละนิกายมีหลักค�ำสอนที่ขัดแย้งกัน รัฐบาลของ ประเทศสหรัฐอเมริกาจึงไม่อนุญาตให้น�ำศาสนาไปสอนในโรงเรียน จนเป็นที่รู้กัน อย่างแพร่หลายมานมนานว่า “America kick god out of school door” ตกมา ถึงปี ค.ศ. 2005 สมาคมผู้ปกครองและครูในรัฐแคนซัสซึ่งประกอบด้วยชาวคริสต์ เคร่งศาสนา ได้เสนอให้โรงเรียนในสังกัดสอน “ทฤษฎีผสู้ ร้างอันชาญฉลาด” ควบคู่ ไปกับ “ทฤษฎีววิ ฒ ั นาการของชาร์ล ดาร์วนิ ” ในวิชาชีววิทยา กลุม่ นักวิทยาศาสตร์ ได้รวมตัวกันคัดค้านข้อเสนอนี้ เป็นเหตุให้สภาประจ�ำรัฐต้องตัง้ คณะกรรมการขึน้ เพือ่ พิจารณาเป็นการเฉพาะกิจ แต่ข้อเสนอของสมาคมผู้ปกครองและครูมีแนวโน้มว่า จะผ่านฉลุยเพราะคณะกรรมการผูท้ ำ� หน้าทีพ่ จิ ารณาเรือ่ งนีล้ ว้ นเป็นชาวคริสต์เคร่ง ศาสนา เมือ่ กลุม่ นักวิทยาศาสตร์เห็นว่าจะไม่ได้รบั ความเป็นธรรมจึงมีมติไม่เข้าร่วม รับฟังการพิจารณาในครั้งนี้ ต่อมาครูสอนวิทยาศาสตร์ชื่อบ็อบบี้ แฮนเดอร์สัน ซึ่ง แจ้งอยูแ่ ก่ใจว่าทฤษฎีผสู้ ร้างอันชาญฉลาดเป็นเรือ่ งเหลวไหล เขาจึงเขียนจดหมายไป ถึงสมาคมผูป้ กครองและครูในรัฐแคนซัส ซึง่ มีเนือ้ ความอย่างย่นว่า ถ้าทางโรงเรียน 128 / สวิตเซอร์แลนด์แสนดี
สามารถสอนทฤษฎีผู้สร้างอันชาญฉลาดได้ เพื่อความเท่าเทียมก็ต้องสอน “ทฤษฎี ปีศาจสปาเกตตีเหินฟ้า” ของเขาควบคู่ไปด้วย ก่อนจะสนุกสนั่นชั้นถัดไป เราควร ท�ำความเข้าใจกับสามทฤษฎีลือลั่นกันก่อน ทฤษฎีผู้สร้างอันชาญฉลาด (เดิมชื่อทฤษฎีพระเจ้าผู้สร้าง) มีเนื้อหาว่าสิ่งมี ชีวิตซับซ้อนมากจนไม่น่าเป็นไปได้ว่าจะเกิดจาก “ความบังเอิญ” ดังนั้นจึงต้องมี “ผู้ออกแบบ” ที่ทรงภูมิปัญญา ทฤษฎีวิวัฒนาการของชาร์ล ดาร์วิน มีเนื้อหาว่าสิ่งมีชีวิตแต่ละชนิดแตกต่าง กันโดยการคัดสรรตามธรรมชาติ สิ่งมีชีวิตชนิดใดปรับตัวเข้ากับธรรมชาติได้ ก็มี โอกาสด�ำรงอยู่และขยายเผ่าพันธุ์ ส่วนสิ่งมีชีวิตที่ไม่สามารถปรับตัวได้ก็จะทยอย สูญพันธุ์ (เมื่อชาร์ล ดาร์วินน�ำทฤษฎีนี้ตีพิมพ์เผยแพร่ครั้งแรกในปี ค.ศ. 1859 เขาถูกโจมตีอย่างหนักจากกลุม่ บุคคลทีเ่ ชือ่ ในทฤษฎีพระเจ้าผูส้ ร้าง อีก 149 ปีตอ่ มา คือในปี ค.ศ. 2008 Church of England จึงออกแถลงการณ์เพื่อขอโทษชาร์ล ดาร์วินอย่างเป็นทางการ) ทฤษฎีปศี าจสปาเกตตีเี หินฟ้า มีเนือ้ หาว่าปีศาจซึง่ มีรปู ร่างคล้ายสปาเกตตีและ ลูกชิ้นสองก้อน เป็นผู้สร้างโลกให้มีสันฐานกลมดังลูกชิ้น รวมทั้งสร้างสิ่งต่างๆโดย ใช้สัมผัสแห่งเส้นสปาเกตตี ปีศาจสปาเกตตีมีปรกติล่องหนจึงไม่สามารถตรวจจับ หรือค้นเจอได้ นักบวชของลัทธิปศี าจสปาเกตตีเหินฟ้าคือโจรสลัดผูร้ กั ชีวติ สงบและ การค้นหา ภาวะโลกร้อนในปัจจุบันเกิดจากจ�ำนวนโจรสลัดที่ลดลง
สวิตเซอร์แลนด์แสนดี / 129
เมื่อมีการอ้างค�ำว่า “Religion” ฝรั่งมักจะโยงใยไปถึงศาสนาที่มีพระเจ้าเป็น ผู้ดลบันดาล “สุข-ทุกข์” ให้แก่มนุษย์ หากมนุษย์ต้องการความสุขก็ต้องอ้อนวอน ขอเอากับพระเจ้า และถ้ามนุษย์ท�ำสิ่งใดไม่ถูกใจ พระเจ้าก็จะประทานความทุกข์ มาให้เป็นรางวัล ศาสนาที่มีค�ำสอนเช่นนี้ถูกท้าทายและปฏิเสธโดยวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่ระบาดไปทั่วโลกมานานหลายศตวรรษ ส่วน “Buddhism” แสดงหลักไว้ว่า “สุข-ทุกข์” เป็นสิ่งมนุษย์ก่อขึ้นและได้รับผลตามเหตุปัจจัย จะมี ผู้ยิ่งใหญ่เหนือสุริยะจักรวาลมาดลบันดาลก็หาไม่ ใครจะยอมรับนับถือหรือเบือน หน้าหนีค�ำประกาศใดก็เชิญพิจารณากันตามอัธยาศัย แต่ถ้าวันหนึ่งหลับไหลฝัน ว่าได้ขี่หลังปีศาจขนมจีนน�้ำยามีอัณฑะเป็นลูกมะพร้าว ขึ้นไปถวายไข่เยี่ยวม้า กระเพรากรอบถึงมือพระอินทร์บนวิมานชัน้ ฟ้า ก็อย่าพิเรนทร์เอามาก่อตัง้ เป็นลัทธิ ก็แล้วกัน โลกของเรามีเรื่องพิลึกพิลั่นโกลาหลล้นเกินแล้ว
130 / สวิตเซอร์แลนด์แสนดี
Political on the Path
หิมะโปรยละอองระดับปานกลางระหว่างอาหารมื้อเช้า แต่แดดกลับแผดแสง เปรี้ยงปร้างหลังอาหารมื้อกลางวัน ฉันคว้ากล้องดิจิทัลและอนาล็อกกระโจนออก มายืนอยูบ่ นถนน พร้อมตัง้ ใจว่าจะไปซอกแซกส�ำรวจหมูบ่ า้ นในเส้นทางทีย่ งั ไม่เคย ย่างกราย วันสบายๆแบบนี้บันทึกข้อคิดเบาๆไว้สักหน่อยคงจะเพิ่มความสว่างไสว อีกหลายเท่าตัว (1) ฉันกราบเรียนถามพระอาจารย์ฝรัง่ ท่านหนึง่ ว่า “พระควรจะสนใจการเมือง มากน้อยเพียงใด?” พระอาจารย์ตอบว่า “ท่านเป็นพระเถระแล้ว ถ้าไม่สนใจเลยก็ จะไม่สามารถแนะน�ำธรรมะแก่ญาติโยมได้ โดยเฉพาะระยะนี้เรื่องการเมืองก�ำลัง เป็นที่สนใจของผู้คน แต่ถ้าคลุกคลีมากเกินไป ท่านก็จะถูกดึงไปเป็นส่วนหนึ่งของ เหตุการณ์ พระต้องรู้จักรักษาระยะห่าง” พระผู้ใหญ่บางท่านเกรงว่าชาวบ้าน จะไม่รู้เท่าทันเหตุการณ์บ้านเมือง จึงไปหยิบหนังสือพิมพ์ที่วางแผงอยู่ตามท้อง ตลาดแล้วแปลงร่างเป็นพระเล่าข่าว ท�ำแบบนี้ก็จบเห่กันพอดี ในฐานะนักบวชใต้ พระบรมโพธิสมภารเดียวกัน ฉันขอโอกาสถวายค�ำแนะน�ำแก่พระเถรานุเถระ ทั้งหลายว่า ถ้าสนใจประเด็นการเมืองก็ควรจะค้นหาธรรมะบรรยายชุด “ธรรมะ สูก่ ารเมือง” ของพระเดชพระคุณพระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตโฺ ต) มาฟังกันก่อน จากนั้นก็เข้าไปพิจารณาตามเว็บไซต์หรือเฟซบุ๊คที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการเมืองของ หลายๆส�ำนักแล้วกลั่นกรองอีกมากๆชั้น จะท�ำให้ได้รับข้อมูลที่ครบถ้วนกว่าการ ติดตามสื่อกระแสหลักเพียงอย่างเดียว แต่ถ้าพิจารณาแล้วเห็นว่าตนไม่มีนิสัยที่จะ ขวนขวาย ก็ควรแสดงธรรมให้อยู่ในกรอบของ “ทาน ศีล ภาวนา” เท่านี้ก็นับว่า ประเสริฐทะลุจอทัชสกรีนแล้ว สังคมยุคปัจจุบันช่างขยันซับซ้อนซ่อนกล จนแทบ ไม่เหลือพื้นที่ให้มนุษย์ซื่อใสไกลเทคโนโลยีได้เหยียบยืน
134 / สวิตเซอร์แลนด์แสนดี
(2) ญาติโยมเล่าให้ฉนั ฟังด้วยความรู้สกึ โล่งใจว่า “เมื่อเช้านี้มเี พื่อนโทรมาตาม ให้ไปประท้วงรัฐบาลที่หน้าสถานฑูตฯ แต่พอบอกเพื่อนว่าก�ำลังจะไปท�ำบุญที่วัด เพือ่ นก็เลยวางสาย” ฉันได้ขอ้ คิดจากสิง่ ทีญ ่ าติโยมเล่าให้ฟงั ว่า ถ้าต้องการความสุข ความเจริญในชีวิต พุทธศาสนิกชนจะละเลยมงคล 38 ประการสามข้อแรกไม่ได้ เลย นั่นก็คือ “การไม่คบคนพาล การคบบัณฑิต การบูชาบุคคลที่ควรบูชา” จาก สถานการณ์บา้ นเมืองในปัจจุบนั เราจะรูไ้ ด้อย่างไรว่าใครเป็นพาลหรือบัณฑิต ข้อนี้ ง่ายมาก “การใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา การคอรัปชั่น การโกหกหลอกลวง” ผูใ้ ดประกอบด้วยสามข้อนีจ้ ดั ว่าเป็นพาล ส่วนบัณฑิตจะมีพฤติกรรมตรงกันข้ามและ บัณฑิตเป็นบุคคลที่ควรบูชา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นบัณฑิต เพราะ พระองค์ “ทรงใช้พระปัญญาในการแก้ปญ ั หา ทรงด�ำรงตนอยูใ่ นความซือ่ สัตย์ และ ทรงตรัสแต่คำ� จริง” การบูชาบัณฑิตสามารถท�ำได้สองวิธคี อื “อามิสบูชา-การบูชาด้วย วัตถุสงิ่ ของ” เช่นมีผถู้ วายทีด่ นิ ผืนหนึง่ แก่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั พระองค์ทรง น�ำทีด่ นิ ผืนนัน้ จัดท�ำเป็นโครงการในพระราชด�ำริเพือ่ ช่วยเหลือราษฎรผูต้ กทุกข์ได้ยาก “ปฏิบตั บิ ชู า-การบูชาด้วยการปฏิบตั ติ ามค�ำสัง่ สอน” พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ทรงมีพระบรมราโชวาทในพิธเี ปิดงานชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ ณ ค่ายวชิราวุธ จังหวัด ชลบุรี เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2512 ความว่า “ในบ้านเมืองนั้นมีทั้งคนดีและ คนไม่ดี ไม่มีใครที่จะท�ำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ทงั้ หมด การท�ำให้บ้านเมืองมีปรกติสุข เรียบร้อย จึงมิใช่การท�ำให้ทุกคนเป็นคนดี หากแต่อยู่ที่การส่งเสริมคนดี ให้คนดี ปกครองบ้านเมือง และคุมคนไม่ดไี ม่ให้มอี ำ� นาจ ไม่ให้กอ่ ความเดือดร้อนวุน่ วายได้” หากญาติโยมมีสติปัญญาพอที่จะจ�ำแนกได้ว่าใครเป็นพาล ใครเป็นบัณฑิต ใครเป็น บุคคลที่ควรบูชา รวมทั้งรู้ทางมาอันหลากหลายของ “บุญ” ก็จะสามารถตัดสินใจ ได้อย่างสอดคล้องกับสถานการณ์
สวิตเซอร์แลนด์แสนดี / 135
(3) นักแต่งเพลงผูห้ นึง่ โพสต์ขอ้ ความผ่านเฟซบุค๊ ว่า “เคยเลือกพรรคนัน้ เพราะ หมั่นไส้พรรคนี้ เคยเลือกพรรคนี้เพราะหมั่นไส้พรรคนั้น แต่วันอาทิตย์นี้จะไม่ไป เลือกตัง้ เพราะไม่รจู้ ะไปเลือกอะไร” แม้จะมีแฟนคลับคอมเม้นท์วา่ เท่โคตรๆ แต่ตาม หลักพุทธศาสนากลับจัดว่าการตัดสินใจเช่นนี้เป็น “อัตตาธิปไตย” เพราะใช้ความ ชอบหรือชังของตัวเองเป็นฐานในการตัดสิน การเลือกเพราะตัวเองได้ผลประโยชน์ จากเงินซื้อเสียงหรือสิ่งตอบแทนก็จัดอยู่ในข้อนี้เช่นกัน ส่วนการเลือกเพราะเห็น ว่าพรรคนี้ก�ำลังอยู่ในกระแสนิยมของคนหมู่มาก หรือไม่เลือกเพราะพรรคนี้ผู้คน ก�ำลังเกลียดชัง อย่างนี้จัดเป็น “โลกาธิปไตย” สุดท้ายคือการเลือกโดยพิจารณาถึง นโยบาย ผลงานที่ผ่านมา ความเอาจริงเอาจังในการท�ำงาน ตลอดจนความรู้ความ สามารถและคุณธรรมของผู้ที่สมัครมาให้เราเลือก อย่างนี้จัดเป็น “ธรรมาธิปไตย” เป็นการตัดสินใจโดยใช้ธรรมะเป็นเกณฑ์ นี่คือประชาธิปไตยขั้นพื้นฐาน แต่ถ้าไม่มี “อะไร” ให้เลือกอย่างที่นักแต่งเพลงผู้นั้นโพสต์ไว้ ตัวใครตัวมันก็แล้วกัน (4) บ่ายวันหนึ่ง ณ วัดป่าจิตตวิเวก ประเทศอังกฤษ ระหว่างที่ฉันกับเด็กหนุ่ม ร่างยักษ์ชาวบัลแกเลียนก�ำลังช่วยกันเก็บกวาดใบไม้ ฉันได้เปิดประเด็นเกี่ยวกับ สถานการณ์ทเี่ มืองไทย แล้วเด็กหนุม่ ก็เล่าให้ฉนั ฟังว่า ประเทศของเขาก็เป็นอย่างนี้ เหมือนกัน แต่แย่กว่าตรงที่มีเพียงคนรวยกับคนจน ไม่มีคนชั้นกลาง ตอนที่กลุ่ม Anonymous ประเทศบัลเกเลียนัดหมายกันใส่หน้ากากออกมาขับไล่รัฐบาล คอรัปชั่น มีคนออกมาแสดงตัวเพียงคนเดียว! ฉันถามเขาว่าคนหนุ่มสาวคิดยังไง กับเรื่องนี้? เขาตอบว่ามันเป็นอย่างนี้มานานกว่า 20 ปีแล้ว คนส่วนใหญ่คิดว่ามัน แก้ไขไม่ได้ รัฐบาลควบคุมทุกอย่างทัง้ ต�ำรวจ กองทัพ สือ่ สารมวลชน ธุรกิจฯ ถึงเวลา เลือกตั้งรัฐบาลก็ไปเกณฑ์คนจากประเทศที่อยู่รอบข้างมาลงคะแนน มันไม่ส�ำคัญ ว่าคุณจะจบการศึกษาระดับไหนหรือมาจากสถาบันใด ถ้าไม่มีความสัมพันธ์กับคน 136 / สวิตเซอร์แลนด์แสนดี
ของรัฐบาลก็ไม่มีวันได้ท�ำงานดีๆเงินเดือนสูงๆ เพื่อนๆที่จบมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ จึงออกไปท�ำงานที่ประเทศอื่นในยุโรป (5) บทสนทนาท่ามกลางความร้อนระอุของไฟสงคราม พระ : อาตมาเคยอ่านประวัติของ ‘กัดดาฟี’ อันที่จริงเขาก็มีเจตนาดีนะ หลัง จากท�ำการปฏิวัติแล้ว ช่วงแรกๆก็ช่วยบ้านเมือง ช่วยคนยากจน แต่นานๆไปเขา รักษาความดีของตัวเองเอาไว้ไม่ได้ โยม : น่าจะเป็นอาการเมาอ�ำนาจครับหลวงพี่ เคยได้ยินมาว่าอ�ำนาจเป็น สิ่งเสพติดสุดๆ ผมยังเคยคิดเล่นๆว่า หากตัวเรามีอ�ำนาจล้นฟ้าแบบนั้น มันจะ ท�ำให้เราเปลี่ยนไปแค่ไหนหนอ? เราจะเข้มแข็งและรักษาความดีงามเอาไว้ได้ไหม? พระ : มีโอกาสสูงทีต่ วั เราจะเปลีย่ นไปตามสภาพแวดล้อม เพราะ “ภูมติ า้ นทาน” ของเราไม่เข้มข้นพอ อาตมาเคยพิจารณาเหตุการณ์ทเี่ กิดขึน้ ในปัจจุบนั ว่าเป็นกรรม สาหัสร่วมกันของพวกเรา ที่ไปช่วงชิงอ�ำนาจมาจากบุคคลที่ท�ำคุณประโยชน์อย่าง สูงสุดให้แก่ประเทศชาตินั่นก็คือพระมหากษัตริย์ สถาบันกษัตริย์เป็นแหล่งฝึกฝน อบรม “นักปกครอง” โดยตรง บุคคลทีอ่ ยูใ่ นสถาบันท่านรูด้ วี า่ อ�ำนาจอาจถูกน�ำไปใช้ ในทางทีเ่ ป็นโทษ เพราะฉะนัน้ จึงต้องควบคุมอ�ำนาจ พุทธศาสนาเข้ามาตอบโจทย์นี้ ได้อย่างพอดิบพอดี “ภูมติ า้ นทาน” ทีอ่ าตมาอ้างถึงนีต้ อ้ งฝึกฝนกันตัง้ แต่เด็ก ฝึกจน เป็นนิสยั เมือ่ เติบใหญ่กลายเป็นนักปกครองก็สามารถน�ำมาใช้ได้เลย ถ้าใครได้ศกึ ษา “ทศพิธราชธรรมหรือคุณธรรมสิบประการของผูป้ กครองบ้านเมือง” แล้วจะขนลุก เพราะแต่ละข้อท�ำยากมากๆเช่นข้อทีว่ า่ “อักโกธะ ความไม่กริว้ โกรธ” เพราะความ โกรธจะบัน่ ทอนปัญญา ท�ำให้การวินจิ ฉัยเรือ่ งราวต่างๆผิดพลาด ถ้าผูป้ กครองบ้าน เมืองสามารถปฏิบตั ทิ ศพิธราชธรรมได้ครบทุกข้อ แทบจะไม่ตา่ งจากพระอริยะเลย คนที่ผ่านการบวชมาแล้วจะเข้าใจเรื่องนี้ได้ดี สวิตเซอร์แลนด์แสนดี / 137
(6) “ส้วมไม่ลา้ ง ถามหาแต่พระนิพพาน” พระธรรมเทศนาภาษาอีสานแสบสันต์ ของหลวงพ่อชาบทนี้ ท�ำเอาพระภิกษุสามเณรแทบกระอักเลือด กุฏิภายใน วัดหนองป่าพงยุคนัน้ ไม่มหี อ้ งน�ำ้ ส่วนตัว คณะสงฆ์ตอ้ งใช้หอ้ งน�ำ้ ร่วมกัน ความสะอาด เป็นสิ่งที่ครูบาอาจารย์สายวัดป่าเน้นย�้ำมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นห้องน�้ำพระหรือ ห้องน�้ำโยม แม้เครื่องสุขภัณฑ์จะไม่ทันสมัยแต่ต้องดูแลให้สะอาดอยู่เสมอ เพราะ ความสะอาดภายนอก บ่งบอกถึงความสะอาดภายใน ถ้าเรื่องหยาบๆเพียงเท่านี้ยัง ท�ำไม่ได้ เรือ่ งปราณีตกว่านัน้ คือการตรัสรูธ้ รรมยิง่ เป็นไปไม่ได้เลย กิจการบ้านเมือง ก็เช่นเดียวกัน ถ้าจัดการชุมนุมผู้คนเรือนแสนเรือนล้านพร้อม Big cleaning day เป็นระยะๆ แล้วประกาศว่าจะปฏิรูปประเทศ เออ! อย่างนี้ก็น่าลุ้น (7) กลางเดือนกุมภาพันธ์ที่หมู่บ้าน Kandersteg ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีการจัดการแข่งขันสุนขั ลากเลือ่ นระดับนานาชาติ ก่อนหน้านีฉ้ นั เห็นฝรัง่ ร่างท้วมคน หนึง่ พาสุนขั 6-7 ตัวมาฝึกทีล่ านหิมะเกือบทุกวัน ส�ำหรับคนทีไ่ ม่คนุ้ เคยก็มกั จะคิดว่า เป็นการทรมานสัตว์ แต่พระฝรัง่ ชีแ้ จงว่าสุนขั พันธุ์ Husky ถูกออกแบบมาเพือ่ การนี้ โดยเฉพาะ เท่าที่ฉันได้สังเกตก็น่าจะเป็นอย่างนั้น ฝูงสุนัขต่างพากันแสดงอาการ ตืน่ เต้นเมือ่ รูว้ า่ จะได้ลากเลือ่ นให้เจ้านายของมัน และกระโดดโลดเต้นเมือ่ ได้รบั เศษ เนื้อเป็นรางวัลหลังจากสิ้นสุดการฝึกในแต่ละวัน หลายใครก็ไม่ต่างกัน เราอาจจะ สงสัยว่าเหตุใดเขาจึงยอมตนเป็นทาสรับใช้ใครคนหนึ่งชนิดถวายหัว ทั้งๆที่การตก อยู่ในสถานะเช่นนั้นมันไม่น่าจะสบาย เมื่อได้สัมผัสบรรยากาศของเทศกาล Dog Sledge Race – World Championship ฉันจึงได้รับค�ำตอบว่า “เพราะเขาเกิด มาเพื่อเป็นสุนัขลากเลื่อน”
138 / สวิตเซอร์แลนด์แสนดี
(8) “คนดีทะเลาะกับคนดี” ไม่นา่ เป็นห่วง เพราะถึงอย่างไรผลสรุปก็ยงั เป็นไป เพื่อความดี “คนชั่วทะเลาะกับคนชั่ว” ก็ไม่น่าเป็นห่วง เพราะเราไม่เข้าไปยุ่ง แต่ ต้องแยกตัวออกมาเพือ่ รักษาคุณงามความดีและสัง่ สมสติปญ ั ญา “คนดีทะเลาะกับ คนชั่ว” อันนี้น่าเป็นห่วง เพราะถ้าคนชั่วชนะผลสรุปจะไม่เป็นไปเพื่อความดี และ ความชัว่ ซึง่ มีกำ� ลังมากจะท�ำให้คนดีอยูอ่ ย่างยากล�ำบาก จงอย่าลังเลทีจ่ ะสนับสนุน คนดีอย่างเต็มก�ำลัง ระหว่างเดินกลับวัดฉันสวนทางกับกลุม่ เด็กหนุม่ ปริศนาเกือบสามสิบคน พวกเขา แต่งตัวเนี๊ยบด้วยเครื่องแบบเดียวกัน แต่แปลกตรงที่ไว้ผมเปียห้อยลงมาข้างกกหู กันทุกคน ฉันกระหายใคร่รใู้ นขนบธรรมเนียมประเพณีของพวกเขา ส่วนสีหน้าของ เด็กหนุ่มเหล่านั้นก็แสดงถึงความสงสัยในเครื่องนุ่งห่มและวิถีชีวิตของฉันเช่นกัน เมื่อกลับมาถึงวัดแล้วเอาภาพถ่ายให้พระเจ้าถิ่นดู ท่านจึงเฉลยว่า “Rabbi-นักบวช ในศาสนายิว” การออกไปเดินให้รา่ งกายได้สงั เคราะห์วติ ามินดีในวันนีท้ ำ� ให้ฉนั เกิด ความรู้อย่างหนึ่งว่า ผู้คนในบ้านเมืองที่มิได้นับถือพุทธศาสนารู้สึกกับพระอย่างไร ปิดท้ายด้วยพุทธศาสนสุภาษิตจากขุทฺทกนิกาย ชาดก เอกนิปาต ยสํ ลทฺธาน ทุมฺโม อนตฺถํ จนติ อตฺตโน อตฺตโน จ ปเรสญฺจ หึสาย ปฏิปชฺชติ คนทรามปัญญา ได้ยศแล้ว ย่อมประพฤติแต่การอันไม่เกิดคุณค่าแก่ตน ปฏิบัติแต่ในทางที่เบียดเบียนทั้งตนและคนอื่น
สวิตเซอร์แลนด์แสนดี / 139
Wandertag
Wandertag เป็นภาษาเยอรมันแปลเป็นไทยได้วา่ “วันเดินเล่น” หลังจากสิน้ สุด การเข้ากรรมฐานฤดูหนาวเป็นระยะเวลา 3 เดือนทีว่ ดั ธรรมปาละ พระอาจารย์กน็ ำ� พระสองรูปกับอนาคาริกะหนึ่งท่านออกเดินธุดงค์น้อยๆ โดยก้าวขาออกจากวัดใน เวลาประมาณ 9:00 นาฬิกา ตรงดิ่งไปยังสถานีกระเช้าไฟฟ้า อากาศยามเช้าหนาว สบาย หิมะเริ่มละลายตั้งแต่สองสัปดาห์ท่ีแล้ว ทุ่งหญ้าจึงเขียวขจี ฝูงนกขยับปีก ขับขานส�ำเริงส�ำราญใจ เมือ่ มาถึงสถานีเราตีตวั๋ แล้วรออยูค่ รูห่ นึง่ จึงเดินไปขึน้ กระเช้า วันนีม้ คี ณ ุ ตาคุณยายเพียงสองคูท่ รี่ ว่ มทะยานไปกับเรา กระเช้าเคลือ่ นตัวรวดเร็วราบ รืน่ ยกเว้นช่วงปรับระดับเข้าสูแ่ นวราบทีส่ ง่ ผลให้เสียววูบวาบ เมือ่ ลงจากกระเช้าเรา พบนักท่องเที่ยวสองกลุ่มซึ่งอุดมไปด้วยผู้สูงวัย กลุ่มแรกมากับกล้องถ่ายภาพ ส่วน กลุ่มหลังมาพร้อมสกีประเภท Down Hill เราๆท่านๆมักจะมโนกันว่ากีฬาลื่นไถล ลงจากภูเขาเยี่ยงนี้คงมีเพียงหนุ่มๆสาวๆที่ต้องการความเร้าใจสมัครมาเล่นกัน แต่ ความจริงหาได้เป็นเช่นนั้น ฉันคะเนอายุคร่าวๆของสมาชิกเป็นรายบุคคลน่าจะอยู่ ระหว่าง 60-70 ปี แต่ก็อย่างว่าคุณตาคุณยายขลุกอยู่กับหิมะตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอย อายุปูนนี้คงเทิร์นโปรกันแล้ว เพือ่ ให้เข้ากับวัตถุประสงค์ของการมาในวันนีเ้ ราจึงจับคูเ่ ดินสนทนากันไปเรือ่ ยๆ หนึ่งวันก่อนการเดินทางท่านพระอาจารย์บอกว่า “เป็นการกระชับสัมพันธไมตรี ระหว่างสมาชิกภายในวัด เพราะช่วงเข้ากรรมฐานเราไม่ค่อยได้พูดคุยกัน” อย่างที่ ฉันเคยเล่าไปแล้วว่าเนื่องจากความร่วนซุยยุ่ยหยุ่นของพื้นผิว การเดินบนหิมะจึง ไม่ต่างจากการเดินบนหาดทรายซึ่งต้องออกแรงมากกว่าการเยื้องย่างบนพื้นปรกติ อุณหภูมิที่ความสูงระดับ 1,936 เมตรอยู่ที่ 4 องศาเซลเซียส แม้จะรู้สึกหนาวแต่ ดวงอาทิตย์ก็แผดแสงจัดจ้าไปทั่วบริเวณจนต้องควักแว่นกันแดดมาสวใส่ เมื่อเดิน ไปได้ครูใ่ หญ่เราก็ตอ้ งถอดเสือ้ กันหนาวเก็บเข้าเป้เพราะเหงือ่ ชุม่ ไปทัง้ หลัง เรามาถึง 142 / สวิตเซอร์แลนด์แสนดี
เป้าหมายแรกคือร้านอาหารของโรงแรมริมหน้าผาในเวลา 11:00 นาฬิกาพอดี โต๊ะด้านนอกอาคารท่ามกลางแสงแดดยังว่างเราจึงไม่ลังเลที่จะเลือกเป็นท�ำเล พิจารณาอาหารอันประกอบด้วยซุปแครอท แซนวิซราดชีส สลัดผัก ชีสเค้ก น�ำ้ ลูกพรุน และกาแฟ แม้ฉนั จะพ�ำนักอยูใ่ นยุโรปเป็นเวลาเก้าเดือนเศษจนคุน้ เคยกับอาหารฝรัง่ ที่ปรุงด้วยชีส แต่ขอสารภาพว่าชีสของที่นี่กลิ่นแรงสุดๆ ฉันจึงตัดแบ่งมาเพียงครึ่ง แล้วยกส่วนทีเ่ หลือให้พระหนุม่ พิจารณา เสร็จธุระเรือ่ งปากท้องฉันก็เข้าไปแปรงฟัน ในห้องน�ำ้ ของร้านอาหาร อยูส่ งู ขนาดนีแ้ ต่สงิ่ อ�ำนวยความสะดวกครบครันได้มาตรฐาน ตั้งแต่ประตูอัตโนมัติ การตกแต่งภายใน ความสะอาดเป็นระเบียบ ตู้โชว์ขนมเค้ก บริกรยิ้มแย้มแจ่มใสฯ ช่วงถัดมาเป็นการเดินไต่ระดับขึ้นที่สูง เราสวนทางกับนักท่องเที่ยวที่เล่นสกี ซิกแซกไปตามไหล่เขาซึง่ บางคนก็หยุดทักทาย เส้นทางทีเ่ ราก�ำลังเดินอยูน่ ชี้ าวบ้าน ใช้สญ ั จรระหว่างหมูบ่ า้ น Kandersteg กับหมูบ่ า้ น Leukerbad มานานหลายร้อยปี เรามาถึงกระเช้าไฟฟ้าอีกแห่งหนึ่งซึ่งมีขนาดเล็กและระยะทางสั้นกว่าอันแรก เมื่อ ขึน้ มาถึงด้านบนสามารถมองเห็นวิวเบือ้ งล่างได้อย่างรอบด้าน บนนีม้ กี ระเช้าขนาด ใหญ่อีกอันหนึ่งไว้บริการนักท่องเที่ยวที่ต้องการลงไปยังหมู่บ้าน Leukerbad ฉัน สงสัยว่าเหตุใดผูค้ นจึงมาตัง้ เมืองอยูใ่ นหุบเขาห่างไกลความเจริญ พระอาจารย์เฉลย ว่าหัวหน้าหมูบ่ า้ นต้องการท�ำทีน่ ใี่ ห้เป็นสถานทีท่ อ่ งเทีย่ วจึงระดมทุนมาสร้างโรงแรม รีสอร์ท สปาฯ แต่ท้ายที่สุดก็ไปไม่รอดเพราะมีปัญหาด้านการเงิน เมื่อยืนชมวิวจน หูชาเราก็แวะพิจารณาเครือ่ งดืม่ ในร้านอาหารแบบบริการตัวเอง พระอาจารย์แนะน�ำ เครือ่ งดืม่ ซาบซ่าจากประเทศออสเตรียให้พระหนุม่ จุดเรียกแขกของร้านอาหารแห่งนี้ คือระเบียงด้านหลังซึง่ สามารถเห็นวิวได้กว้างไกล ส่วนทีน่ า่ ระทึกใจทีส่ ดุ คือระเบียง ทรงสามเหลี่ยมที่ยื่นออกไปในอากาศ เมื่อพระออกไปยืนอยู่บริเวณนั้นลมจากทิศ สวิตเซอร์แลนด์แสนดี / 143
เบื้องล่างจะพัดรอดตะแกรงเหล็กขึ้นมาเปิดสบงปลิวไสว ท่านพระอาจารย์บอกว่า “Marilyn Monroe Effect” เมือ่ Hang outกันพอสมควรก็ถงึ เวลาเดินทางกลับ เราเดินสวนกับนักท่องเทีย่ ว 2-3 คน แต่ไม่มใี ครเดินตามหลังเรามาเลย พระฝรัง่ บอกว่าคนปรกติจะเดินเทีย่ วเดียว แล้วพักค้างคืนกันบนนี้ เรามาถึงกระเช้าไฟฟ้าเทีย่ วสุดท้ายในเวลา 17นาฬิกา 30 นาที ก่อนขึ้นกระเช้าไฟฟ้าพระอาจารย์สนทนากับนักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่งที่มาจาก ตะวันออกกลาง แล้วย้ายไปพูดคุยกันต่อในนั้น ขณะที่กระเช้าก�ำลังเคลื่อนตัวสู่ จุดหมายเบื้องล่างผู้ชายท่าทางใจดีในกลุ่มก็ปรารภขึ้นมาว่า “พวกเรามีภรรยาได้ สีค่ น พระในพุทธศาสนามีภรรยาได้กคี่ น?” พระอาจารย์ตอบว่า “พระไม่มภี รรยา” เขาแสดงสีหน้าประหลาดใจสุดขีดแล้วถามขึ้นว่า “พวกท่านตัดไอ้นั่นทิ้งใช่ไหม?” สิน้ ค�ำอุทานเชิงถามพวกเราก็หวั เราะสนัน่ หวัน่ ไหวจนกระเช้าแกว่งไกวซ้ายทีขวาที
144 / สวิตเซอร์แลนด์แสนดี
My First Fondue
ก่อนเที่ยงวันที่หนึ่งเมษายนคณะสงฆ์รับกิจนิมนต์ไปฉัน Fondue ยังบ้านใกล้ เรือนเคียง ซึง่ เป็นบ้านพักส�ำหรับนักแรมทางแบบทีเ่ รียกกันว่า “โฮมสเตย์” เราเดิน อาบแดดเพียงไม่กกี่ า้ วก็ถงึ จุดหมาย คูส่ ามีภรรยาเจ้าของบ้านออกมาต้อนรับพร้อม สุนัขน่ารัก หลังจากทักทายด้วยการเขย่ามือหนักแน่นเราก็ถูกเชิญเข้าไปในบ้าน สิ่งแรกที่เห็นคือโต๊ะขนาดใหญ่ซึ่งจัดเตรียมไว้อย่างน่าเอ็นดู บนโต๊ะมีแผ่นหินสีด�ำ รูปหัวใจเขียนชื่อของแขกผู้มาเยือนก�ำกับไว้เพื่อให้รู้ว่าใครควรนั่งต�ำแหน่งใด แต่ เจ้าของบ้านไม่รู้ว่าพระไทยชื่ออะไรจึงใช้ชอล์คเขียนบนแผ่นหินว่า “Cute Thai Guy” ฉันอมยิ้มแล้วหย่อนก้นไทยๆลงบนเก้าอี้ด้วยความขวยเขินพองาม องค์ประกอบของการฉัน “ฟองดูว์” คือชีสในหม้อต้มเดือดปุดๆ ขนมปังหั่น เป็นชิ้น แตงกวาดอง กระเทียมดอง เห็ด กระหล�่ำดอก และบล็อกเคอรี่ วิธีบริโภค ก็แสนง่ายเพียงใช้สอ้ มจิม้ วัตถุดบิ ข้างต้นจุม่ ลงไปในหม้อจากนัน้ ก็ Yummy! รสชาติ เค็มกลอมกล่อมของชีสท�ำให้ขนมปังและผักจืดๆเปรีย้ วๆมีชวี ติ ชีวา หลังจากฟองดูว์ ลงไปนอนเล่นอยู่ในกระเพาะได้ไม่นาน ไอศกรีมประดับราสเบอร์รี่ก็ตามมาติดๆ ระหว่างนี้บทสนทนาด�ำเนินไปอย่างรื่นเริง เนื้อหาส่วนใหญ่เป็นเรื่องเกี่ยวกับสัตว์ ที่วนเวียนอยู่รอบวัดและหมู่บ้านเช่นนก กระรอก แมว สุนัขจิ้งจอกฯ เราใช้เวลา ผูกมิตรกับเพือ่ นบ้านประมาณสองชัว่ โมงเศษๆก็เอ่ยค�ำอ�ำลา เกือบตลอดเวลาทีอ่ ยู่ ในบ้านหลังนีฉ้ นั ช�ำเลืองดูปา้ ยเล็กๆทีแ่ ขวนอยูบ่ นผนังฝัง่ ตรงข้ามหลายครัง้ หรือว่า นี่จะเป็น “สาร” ที่เจ้าของบ้านต้องการให้ฉันสื่อไปถึงผู้คนที่บ้านเกิดเมืองนอน -Bless this house with love, friends & laughing.
148 / สวิตเซอร์แลนด์แสนดี
Journey to Geneva
หลังอาหารเช้าฉันเก็บกวาดห้องอีกเล็กน้อย จัดของที่เหลือลงกระเป๋าแล้วห่ม จีวรกราบลาพระอาจารย์เพื่อเดินทางไปรอขึ้นเครื่องบินที่กรุงเจนีวาในวันพรุ่งนี้ ใช่แล้ว...ฉันก�ำลังจะกลับไปยังวัดป่าจิตตวิเวก ประเทศอังกฤษ ท้องฟ้ายามเช้า เก้านาฬิกาสดใสสมการคาดหมายของแอพพลิเคชั่นพยากรณ์อากาศ ญาติโยม เจ้าถิ่นสองท่านนิมนต์ฉันขึ้นรถแล้วพาเลาะเลี้ยวไปตามถนนเลียบไหล่เขา คงจะ เป็นเพราะอากาศเย็นสดชื่นอาการเมารถจึงไม่โผล่หน้ามาเยือน จุดหมายแรกของ เราคือสถานที่ชื่อเรียกยาก Chateau St.Germain ฉันขอให้พ่อบ้านชาวสวิสช่วย ออกเสียงให้ฟังหลายครั้งจึงพอจะสะกดออกมาเป็นภาษาไทยได้ว่า “ชาโตว์ ซา เจอมาน์” ปราสาทขนาดเขื่องแห่งนี้ตั้งอยู่ในเมืองขนาดย่อมบนภูเขา เราจอดรถ ไว้ด้านล่างแล้วก็เดินขึ้นมาหาตัวเมือง เมื่อผ่านประตูเข้าไปสิ่งแรกที่ได้สัมผัสคือ ถนนหินโบราณ สองฟากฝัง่ ของถนนเป็นร้านค้าและโรงแรมทีผ่ สมผสานความเก่าแก่ กับร่วมสมัยได้อย่างลงตัว นักท่องเที่ยวจ�ำนวนหนึ่งนั่งอาบแดดกันอย่างส�ำราญ ใจอยู่บนระเบียงด้านหน้าอาคารเหล่านั้น ฉันเดินสวนทางกับกลุ่มเด็กๆที่คุณครู พามาทัศนศึกษาซึ่งเกือบทุกคนจ้องดูฉันไม่คลาดสายตา แม้เดินผ่านไปแล้วก็ยัง อุตส่าห์เอี้ยวตัวหลังมาดู เป้าหมายแฝงของเราที่ซุกซ่อนอยู่ในเมืองแห่งนี้คือ H.R.Giger Museum พิพธิ ภัณฑ์ของศิลปินเซอร์เรียลลิสต์ชาวสวิสผูโ้ ด่งดังจากการออกแบบสัตว์ประหลาด ต่างดาวในภาพยนตร์เรือ่ ง Alien อันทีจ่ ริงฉันเพียงอยากผ่านมาทักทาย มิได้ตอ้ งการ เข้าไปข้างในเนื่องจากแจ้งอยู่แก่ใจว่าจะต้องเจอกับอะไร แต่ญาติโยมที่มาด้วยกัน บอกว่าไหนๆก็มาแล้วน่าจะเข้าไปดูสกั หน่อย เมือ่ ฉันท�ำตามค�ำเชิญชวนก็ได้พบเห็น สิง่ ทีไ่ ม่เกินความคาดหมาย ผลงานจิตรกรรม ประติมากรรม ภาพพิมพ์ เฟอร์นเิ จอร์ งานออกแบบตกแต่งฯ ล้วนอุดมไปด้วยสัตว์ประหลาด ปีศาจ โครงกระดูก เลือด 152 / สวิตเซอร์แลนด์แสนดี
เครือ่ งจักกล อวัยวะเพศ ความรุนแรงวิปริตฯ เช่นเดียวกับทีฉ่ นั เคยเห็นในภาพยนตร์ และหนังสือของไกเกอร์ เนือ่ งจากทางพิพธิ ภัณฑ์หา้ มถ่ายภาพจึงเป็นบุญของผูอ้ า่ น โดยปริยายที่ไม่ต้องเผชิญหน้ากับจินตนาการเหล่านั้น ครั้งหนึ่งศิลปินผู้นี้เคยพูด ผ่านสือ่ ว่า “ถ้าผลงานของผมท�ำให้ผคู้ นหวาดกลัว...ผมก็ขอโทษด้วย” ระหว่างเดิน ผ่านห้องท�ำงานของเจ้าหน้าทีด่ แู ลพิพธิ ภัณฑ์ ฉันแอบเห็นตุก๊ ตากระรอกขนฟูดนู า่ ชัง แขวนอยู่ที่ริมหน้าต่างจึงอนุมานว่า เขาหรือหล่อนคงเอาไว้ผ่อนคลายด้วยจ�ำเป็น ต้องท�ำงานอยู่ในนรก เอ้ย! พิพิธภัณฑ์แห่งนี้หลายชั่วโมงต่อวัน ใกล้ๆเที่ยงเราพลัดหลงเข้าไปใน H.R.Giger Bar เนื่องจากเข้าใจว่าเป็นร้าน อาหาร แต่เมื่อพบว่าที่นี่มีเฉพาะของว่างกับเครื่องดื่มไว้บริการเราจึงรีบกระโจน ออกมา ฉันดีใจวูบวาบเพราะถ้าใช้เวลาอยู่ในบาร์แห่งนี้นานๆความเป็นมนุษย์อาจ ถูกกัดกร่อนจนแทบไม่เหลือไว้เอ็นดู เราเดินย้อนกลับมาที่ร้านอาหารของโรงแรม แห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองแล้วสั่งพิซซ่าประดับปลาแซลมอล รสชาติของแป้ง อบไม่ต่างจากพิซซ่าทั่วไป แต่เนื้อปลาแซลมอลช่วยลดความเค็มของเนยและ เครื่องปรุงได้อย่างละมุนลิ้น จากนั้นเราก็เดินไปยังพิพิธภัณฑ์ธิเบตซึ่งตั้งอยู่เคียง ข้างพิพิธภัณฑ์เอเลียน ฉันถามโยมทั้งสองว่าเคยเข้าไปดูหรือยัง? เมื่อได้รับค�ำตอบ ว่าเคยแล้ว ฉันจึงเสนอว่างั้นเราไปเดินย่อยอาหารชมวิวรอบปราสาทแล้วออก เดินทางกันต่อดีกว่า I've seen Buddha statue enough! ฉันนั่งหลับๆตื่นๆอยู่บนรถเพราะฤทธิ์พิซซ่าจนมาถึงสถานที่ชื่อเรียกง่ายกว่า แห่งแรก Chateau de Chillon (ชาโตว์ เดอ ซียอง) ปราสาทโบราณริมทะเลสาบ อากาศดีอย่างนี้จึงมีนักท่องเที่ยวพลุกพล่าน เราเดินผ่านตัวปราสาทลงเนินเขาไป ถ่ายรูปหงส์ทะเลาะกับนกเป็ดน�ำ้ จากนั้นก็นั่งรถไปยังเมืองชื่อน่ารักและเรียกง่าย สวิตเซอร์แลนด์แสนดี / 153
ที่สุดของวันนี้ Vevey (เวเว่ย์) เพื่อถ่ายรูปคู่กับรูปปั้นชาร์ลี แชปลิน ไหนๆวันนี้ก็ พาดพิงถึงศิลปินผู้ล่วงลับมาแล้วสองท่าน ครั้นจะไม่โยงใยถึงหนุ่มใหญ่หนวดงามก็ เกรงว่าวิญญาณของเขาจะมาเข้าฝัน อีกทั้งประติมากรรมในท่วงท่าเปี่ยมพลังของ เขาก็ยืนโดดเด่นอยู่ริมทะเลสาบแห่งนี้ด้วย...Anyway the wind blows, doesn't really matter to me, to me... ลาก่อนเฟรดดี้ เมอร์คิวรี
154 / สวิตเซอร์แลนด์แสนดี
The Last day in Geneva
หลังจากข้าวต้มและกับข้าวไทยๆลงไปนอนอุ่นอยู่ในกระเพาะ ฉันกับพ่อบ้าน ชาวสวิสก็เดินออกจากอพาร์ตเม้นท์ไปขึ้นรถรางไฟฟ้าดีไซน์เก๋ล�้ำราวกับหลุดออก มาจากโลกอนาคต แปลกดีที่ทางบริษัทอนุญาตให้วณิพกขึ้นมาเล่นดนตรีบน ยวดยานชนิดนี้ได้ด้วย เจนีวาวันนี้ไม่มีแสงแดด ลงจากรถรางไฟฟ้าแล้วเราก็เดิน ไปดูประติมากรรมเก้าอี้ขาหักสูง 12 เมตรซึ่งติดตั้งอยู่บริเวณลานด้านหน้าของ องค์การสหประชาชาติ พ่อบ้านชาวสวิสอธิบายว่าศิลปินสร้างเก้าอี้ยักษ์ตัวนี้ขึ้นมา เพือ่ ต่อต้านการใช้กบั ระเบิด ประติมากรรมชิน้ นีถ้ กู สร้างขึน้ ตัง้ แต่ปี ค.ศ.1997 ผ่าน มาจวนจะ 20 ปีอยูแ่ ล้วแต่ชาวโลกก็ยงั นิยมน�ำระเบิดสารพัดชนิดมาถล่มท�ำลายกัน เป็นว่าเล่น ในกรุงเทพฯเองก็มีการเล่นกันจนไส้ทะลักแขนขาล�ำตัวกระจุยกระจาย เราผละจากประติมากรรมชวนช�้ำใจมาเดินเลียบทะเลสาบอย่างสบายอารมณ์ เพราะคนไม่พลุกพล่าน เจนีวามีการผสมผสานระหว่างตึกโบราณกับโมเดิร์นอยู่ทั่ว ทุกหนแห่ง ฉันเดินกดชัดเตอร์ไปเรื่อยๆ หวังผลบ้างไม่หวังผลบ้าง อากาศขมุกขมัว อย่างนี้ไม่เหมาะกับการถ่ายรูปเอาซะเลย เมือ่ มาถึงย่านธุรกิจ เราเดินเข้าร้านนัน้ ออกร้านนีเ้ พือ่ พิจารณาของฝากส�ำหรับ พระผูใ้ หญ่และคณะสงฆ์วดั ป่าจิตตวิเวก สถานทีส่ ดุ ท้ายทีเ่ ราไปเยือนคือร้านช็อกโกแลต โฮมเมด พ่อบ้านชาวสวิสเล่าว่าสามีภรรยาเจ้าของร้านมีประสบการณ์ในการท�ำช็อกโกแลต มานานกว่า 30 ปี โชกโชนขนาดนีฝ้ ไี ม้ลายมือและลูกเล่นย่อมไม่ธรรมดา บรรยากาศ ของร้านท�ำให้ฉนั ร�ำลึกถึงบทอาขยานสมัยโบราณ “อันความรูร้ กู้ ระจ่างแต่อย่างเดียว แต่ให้เชีย่ วชาญเถิดจะเกิดผล” ในวัยแสวงหาฉันเคยถามตัวเองว่า “ถ้าเราต้องเลือกรู้ อะไรให้กระจ่างเพียงอย่างเดียว เราควรจะรูอ้ ะไร?” ค�ำตอบทีฉ่ นั ได้ในวันนัน้ ซึง่ ส่งผล มาถึงวันนี้ก็คือ “รู้จักชีวิตของตัวเอง” หลังจากพบค�ำตอบแล้วสองขั้นตอนถัดไปที่ ห้ามพลาดโดยเด็ดขาดได้แก่แสวงหาวิธีการแล้วลงมือกระท�ำ 158 / สวิตเซอร์แลนด์แสนดี
อังกฤษส หลังเดินทางกลับจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ฉันก็ปรับตัวให้เข้ากลับกิจวัตร ปรกติของวัดป่าในประเทศอังกฤษ ซึ่งก็ไม่แตกต่างจากวัดป่าทั่วไปในต่างแดนมาก นักนั่นก็คือตื่นเช้า สวดมนต์ นั่งสมาธิ ฉันอาหารเช้า ท�ำงาน ฉันอาหารกลางวัน พักผ่อน อ่านหนังสือ ฉันน�้ำชา สวดมนต์ นั่งสมาธิหรือเดินจงกรม พักผ่อน แล้ว ก็วนกลับไปตื่นเช้าอีก เห็นกิจวัตรเดิมๆซ�้ำๆอย่างนี้หลายใครอาจจะเผลอบ่นว่า “น่าเบื่อ” แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจริงก็คืออารมณ์ต่างๆที่ปรากฏให้เห็นภายในจิตมีการ เปลี่ยนแปลงแทบไม่ซ�้ำในแต่ละวัน บางวันเริ่มต้นด้วยความหงุดหงิดแต่จบลงด้วย ความผ่อนคลาย หลายวันวาดแผนอนาคตไว้สารพัดแต่ตัดสินใจอะไรไม่ได้เลยฯ สิง่ ทีฉ่ นั พอจะท�ำได้กค็ อื การน�ำถ้อยค�ำของปรมาจารย์กงั ฟูจากหนังการ์ตนู มาเตือน ตัวเอง “Yesterday is history, tomorrow is a mystery but today is a gift, that's why it's called the present”.
สนิทกัน#2
A Good Day for Hike
ด้วยลักษณะภูมิประเทศเป็นเกาะขนาดใหญ่รายล้อมด้วยผืนน�้ำสีคราม สหราชอาณาจักรจึงมีฝนโปรยปรายให้เย็นฉ�่ำและร�ำคาญตลอดทั้งปี เป็นเหตุให้ ผู้อยู่อาศัยและนักเดินทางต้องปรับตัวปรับใจให้ยอมรับอารมณ์แปรปรวนอันเป็น ธรรมชาติของเกาะ ก็มันเป็นของมันอย่างนี้มาตั้งแต่ยังไม่มีเราด้วยซ�ำ้ จังหวะใด ที่แดดสาดส่องติดต่อกัน 3 วันชาวจึงอังกฤษถือว่าเป็นสวรรค์ แต่สัปดาห์นี้เกิด ปรากฏการณ์แปลกประหลาดเนือ่ งจากฝูงเมฆเกียจคร้านและดวงตะวันขะมักเขม้น อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน หลังอาหารมื้อหนักชาววัดป่าจิตตวิเวกจึงพร้อมใจกัน บรรจุสัมภาระส่วนตัวเช่นขวดน�้ำลงในเป้ (อังกฤษเรียก Rucksack อเมริกันเรียก Backpack) แล้วออกเดินไปตามทางเท้าซึ่งกระจัดกระจายอยู่ทุกหัวระแหง ราว สามวันที่แล้วฉันสอบถามเส้นทางใหม่ๆจากอนาคาริกซึ่งเขาก็ใจดีน�ำแผนที่มากาง ให้ดูพร้อมอธิบายหนักแน่นว่า “เดินไปเลยครับอาจารย์ ไม่ต้องกลัวหลง ทางเดิน จะน�ำเราไปสู่ที่ไหนสักแห่ง” ...แล้วมันจะพูดประโยคพวกนี้ท�ำไม แม้แดดตอนบ่ายโมงจะแผดแสงเปรี้ยงปร้างแต่อากาศก็ยังเย็นยะเยือก ทั้ง พระเจ้าถิ่นและพระแปลกถิ่นจึงสวมอุปกรณ์กันหนาวอย่างครบเครื่อง สิ่งหนึ่งที่ สะดุดตาโดยไม่ต้องสังเกตระหว่างสองข้างทางก็คือดอกไม้หลากสีสันหลายรูปทรง ที่ก�ำลังแข่งขันกันเบิกบานรับฤดูใบไม้ผลิ นกนานาพันธุ์ขับขานกังวานก้องป่า บ้านในชนบทของอังกฤษยังคงรักษาความโบร�ำ่ โบราณอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ฉันเดินผ่านฟาร์มแห่งหนึ่งซึ่งก�ำลังก่อสร้างอาคาร ใช้วัสดุในยุคปัจจุบันแต่หยิบยืม ดีไซน์มาจากอดีต นโยบายของรัฐบาลเป็นอย่างนี้ ฉันหยุดถ่ายภาพและกางแผนที่ออกดูเป็นระยะๆ เหงื่อชุ่มหลังจนคันคะเยอ เนื่องจากความชื้นไปกระตุ้นโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Eczima) ซึ่งมีสาเหตุมาจาก 164 / อังกฤษสนิทกัน
โรคภูมิแพ้ปะทะอากาศเย็นจัด อาการของโรคเริ่มปรากฏเมื่อฉันมาอยู่ที่อังกฤษได้ 2-3 เดือน จากนั้นก็อาละวาดต่อเนื่องข้ามปีศิริรวมถึงปัจจุบันก็ 8 เดือนเศษเข้าไป แล้ว ฉันเพิ่งนึกได้ว่าวันนี้ตรงกับวันจันทร์ มิน่าบ้านแต่ละหลังจึงเงียบเชียบราว กับถูกทิ้งร้าง ฉันสาวเท้าไปเรื่อยๆ ลุยโคลนบ้าง ปีนข้ามรั้วบ้าง เดินขึ้นเนินบ้าง ไต่ลงล�ำห้วยบ้าง เป็นการเติมรสชาติให้กับชีวิตพรหมจรรย์ สามชั่วโมงผ่านไปฉัน ก็วกกลับมาถึงประตูหน้าวัด เมื่อครั้งยังเป็นพระใหม่จิตใจของฉันรกรุงรังยิ่งกว่า รังเอเลี่ยน บางวันนั่งมึนงงอยู่นานร่วมชั่วโมงเพราะไม่รู้จะเอาอย่างไรดีกับชีวิต จนกระทั่งวันหนึ่งทนไม่ไหวจึงเข้าไปกราบเรียนปรึกษาพระอาจารย์ฝรั่ง ท่านให้ ค�ำแนะน�ำว่า “เดินจงกรมมากๆจิตใจจะได้ปลอดโปร่ง” ทุกวันนี้ความรุงรังรกเรื้อ ถูกเก็บกวาดจนเข้าที่เข้าทาง มิหน�ำซ�้ำบางอย่างยังสามารถน�ำมารีไซเคิลให้เป็น ประโยชน์กับตัวเองและคนอื่นได้อีกด้วย
อังกฤษสนิทกัน / 165
Out & About
“ทะเลอังกฤษงั้นๆ” หลังจากเดินเลียบชายหาดของ Lepe Country Park ร่วมชั่วโมง ฉันก็ได้ข้อสรุปอย่างนี้ จากนั้นสมาชิกทั้ง 9 ชีวิตก็ขึ้นรถมินิบัสเดินทาง ไปยัง New Forest National Park ท้องฟ้าปกคลุมไปด้วยแผ่นเมฆและอากาศเย็น เป็นปรกติ “ป่าอังกฤษงั้นๆ” หลังจากเดินผ่านประตูอุทยานเข้าไปเพียงไม่กี่ก้าว ฉันก็ได้ข้อสรุปอย่างนี้ สองชั่วโมงถัดมาสมาชิกทั้ง 9 ชีวิตจากวัดป่าจิตตวิเวกก็ขึ้น รถมินิบัสเดินทางกลับวัด อ้าว! ก่อนสิ้นสุดการเดินทางฉันถามอนาคาริกหนุ่มที่มา ด้วยกันว่าไปเรียนท�ำอาหารมาจากที่ไหน เนื่องจากช่วงเช้าฉันเห็นพวกเขาทั้งสาม สวมวิญญาณเชฟอยู่ในครัว พ่อหนุ่มคนหนึ่งเฉลยว่า “เพิ่งมาเรียนท�ำอาหารที่วัดนี่ แหละครับ จ�ำเป็นต้องท�ำเพราะผู้หญิงที่มาอยู่วัดไม่ยอมเข้าครัว ฝีมือของพวกเรา ใช้ได้ไหมครับ” ฉันตอบด้วยการอมยิ้มพร้อมพยักหน้าแรงๆหนึ่งที กุลสตรีนี่นี้ บุรุษปรุงอาหาร ครบเครื่องทั้งคาวหวาน อิ่มแล้วอวยพรให้
168 / อังกฤษสนิทกัน
เป็นพยาน เองได้ yummy! จริงพ่อ บุญนี้คืนสนอง
Blue Bells
สภาพอากาศถูกพยากรณ์ไว้ว่าจะมีฝนตกติดต่อกันเกือบ 2 สัปดาห์โดยเริ่ม จากบ่ายนี้ เพือ่ ความไม่ประมาทฉันจึงตัดสินใจออกไปเดินยืดเส้นยืดสายตุนไว้กอ่ น ผู้มีประสบการณ์ให้ข้อมูลว่าสาเหตุหนึ่งที่ฉันป่วยเป็น Eczima หรือโรคผื่นภูมิแพ้ ผิวหนัง ก็เนื่องมาจากใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในตัวอาคารซึ่งอากาศไม่ถ่ายเท เป็นเหตุ ให้มีเชื้อโรคที่เรามองไม่เห็นสะสมอยู่เป็นจ�ำนวนมาก คงจะจริงอย่างนั้นเพราะมี การส�ำรวจพบว่าพรมในบ้านของชาวอังกฤษสกปรกกว่าพื้นถนนถึง 5 เท่า! แรกออกเดินพอจะมีแสงแดดให้เห็นอยู่บ้าง 2-3 เม็ด แต่หลังจากนั้นเมฆก็มา เบียดหมอกก็มาบัง ฤดูนี้ใบไม้ผลิไม่เสียชื่อ ในระยะไม่ถึงสิบเมตรจึงปรากฏดอกไม้ นานาพันธุเ์ บ่งบานละลานตา และคงไม่มชี นิดใดโดดเด่นไปกว่าดอกสีมว่ งทรงระฆัง ทีช่ อื่ ว่า Blue Bells ฉันพยายามจะถ่ายรูปในแบบทีช่ า่ งภาพมือสมัครเล่นเรียกกันว่า “หน้าชัดหลังละลาย” (เรื่องเล่าแทรก: สามีซื้อเลนส์มาหลายชุด หมดเงินไป หลายหมืน่ บาทโดยบอกภรรยาว่าจะเอาไปถ่ายรูป “หน้าชัดหลังละลาย” ภรรยาจึง ขนาบสามีวา่ ซือ้ ของแพงมาใช้กถ็ า่ ยให้มนั ได้อย่างทีว่ า่ นะ ถ้าคราวนี้ “หลังไม่ละลาย” จะตีให้ “หลังลาย” เลยเชียว - ฮา) ขณะทีฉ่ นั ก�ำลังจะกดชัตเตอร์ชายหนุม่ คนหนึง่ ก็ขมี่ า้ ตรงเข้ามา ฉันจึงเล็งดอกไม้ เป็นฉากหน้า แล้วยกให้เขากับม้าเป็นฉากหลังละลาย แต่เมื่อม้ามองเห็นฉันมันก็ กระโดดดึง๋ ดัง๋ ไม่ยอมเดินเข้ามาใกล้ ชายหนุม่ ตะโกนส่งมาว่า “ช่วยเก็บกล้องก่อนได้ ไหม! ม้าสงสัยว่าสิง่ ทีค่ ณ ุ ถืออยูจ่ ะเป็นอันตรายกับมัน!” ฉันลดกล้องลงแล้วขยับเข้า ข้างทางอย่างงงๆ ชายหนุม่ ควบคุมม้าให้ยอ่ งผ่านฉันไปอย่างเยือกเย็นแล้วพูดขึน้ ว่า Thanks mate! (ถ้าเป็นอเมริกนั จะพูดว่า Thanks man!) จากนัน้ ฉันก็เลาะเลีย้ วลัด ไปตามเส้นทางเลียบไหล่เขาอันคุน้ เคยแล้ววกเข้าสูอ่ าณาเขตของวัด ระหว่างทีเ่ ดิน 172 / อังกฤษสนิทกัน
ผ่านทุ่งดอกบลูเบลส์หนึ่งธรรมบทพลันกังวาน ยถาปิ รุจิรํ ปุปฺผํ วณฺณวนฺตํ สคนฺธกํ เอวํ สุภาสิตา วาจา สผลา โหติ สุกุพฺพโต วาจาสุภาษิตของผู้ท�ำได้ตามที่พูด ย่อมอ�ำนวยผลดีดุจดอกไม้สีสวยและมีกลิ่นหอม As a flower that is lovely, Colorful and fragrant, Even so fruitful is the well-spoken word Of one who practices it.
อังกฤษสนิทกัน / 173
London Indeed!
ถ้าไม่มธี รุ ะส�ำคัญจริงๆฉันก็ไม่คดิ จะเดินทางเข้าไปยังใจกลางมหานครลอนดอน เพราะนอกจากจะเลื่องชื่อด้านความแออัดของการจราจรอันเป็นธรรมชาติของ เมืองหลวงแล้ว พยากรณ์อากาศวันนี้ยังยืนยันทะลุเมฆว่าจะฝนตก 100% ฉันกับ อนาคาริกที่เพิ่งบวชได้ 4 เดือนเศษและอุบาสกที่ปฏิบัติธรรมมานานหลายปี เดินทางออกจากวัดป่าจิตตวิเวกในเวลาประมาณเจ็ดนาฬิกา ระหว่างทางเราแลกหมัด ประสบการณ์ชีวิตกันอย่างออกรสออกชาติ อนาคาริกเป็นชาวไอริช ฉันจ�ำไม่ได้วา่ ก่อนบวชเขาท�ำมาหาเลีย้ งชีพอะไร รูแ้ ต่ เพียงว่าเขาเป็นนักเล่นกระดานโต้คลืน่ ตัวฉกาจ เมือ่ ได้ยนิ ค�ำว่า Surfing ฉันก็ระลึกถึง เหตุการณ์ทหี่ ลวงพ่อดาไล ลามะ เดินทางไปแสดงธรรมทีม่ ลรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศ สหรัฐอเมริกา ในตอนท้ายของกิจกรรมชายหนุ่มคนหนึ่งยืนขึ้นพูดในที่ประชุมว่า “The Buddha taugh about suffering bacause he never went surfing พระพุทธเจ้าสอนเรือ่ งความทุกข์เพราะพระองค์ไม่เคยเล่นกระดานโต้คลืน่ ” อนาคาริก เล่าว่าเพือ่ นของเขาเคยถามว่า “นัง่ สมาธิสนุกตรงไหน? เล่นกระดานโต้คลืน่ มันส์กว่ากัน เยอะ” เป็นเรือ่ งธรรมดาทีค่ นหนุม่ สาวผูม้ เี รีย่ วแรงโลดโผนโจนทะยานจะคิดกันอย่างนี้ อุบาสกเป็นชาวฮอลแลนด์ อาชีพล่าสุดคือการเป็นลูกจ้างชัว่ คราวของห้องสมุด แห่งหนึ่ง ซึ่งเขามีชั่วโมงท�ำงานเพียงสัปดาห์ละสามวัน ที่พักของเขาคือเต้นท์ที่กาง ทิง้ ไว้ในแคมป์แห่งหนึง่ นอกเมือง รัฐบาลจัดสถานทีเ่ ช่นนีไ้ ว้สำ� หรับบุคคลทัว่ ไปพร้อม เครือ่ งอ�ำนวยความสะดวกครบครัน เขาใช้เวลาส่วนใหญ่เดินเล่นในป่า นัง่ สมาธิ และ อ่านหนังสือธรรมะ เมือ่ ถึงเวลาท�ำงานก็นงั่ รถเมล์เข้าไปในเมือง ฉันบอกเขาว่า “ถ้าโยม ด�ำเนินชีวติ แบบนีท้ เี่ มืองไทย ชาวบ้านจะเหมาว่าโยมเป็นบ้า” อุบาสกหัวเราะร่วนแล้ว พูดว่า “ช่วงทีน่ งั่ รถเมล์เข้าไปท�ำงานในเมือง ผมกลับคิดว่าคนเหล่านีต้ า่ งหากทีบ่ า้ ” 176 / อังกฤษสนิทกัน
ฝนตกปรอยๆสลับปานกลางผสานหนักหน่วงจนถึงกรุงลอนดอน เราจอดรถ แล้วแวะท�ำธุระที่สถานฑูตฯย่าน Queen Gate ประมาณครึ่งชั่วโมง จากนั้นก็เดิน หาร้านอาหารส�ำหรับมือ้ กลางวัน ว่ากันว่าถ้ามาลอนดอนแล้วต้องหาโอกาสลองลิม้ ชิม Fish & Chips อาหารท้องถิ่นเลื่องชื่อให้จงได้ ซึ่งเราก็เห็นพ้องอย่างนั้น ฟิช แอนด์ชพิ ส์ประกอบด้วยปลาชุบแป้งทอดชิน้ โตกับมันฝรัง่ ทอดพร้อมเครือ่ งจิม้ เป็น อาหารที่มีมานานกว่า 150 ปี แม้จะก�ำเนิดขึ้นเพราะความต้องการอาหารที่หาง่าย ราคาถูก และให้พลังงานสูงส�ำหรับกลุ่มผู้ใช้แรงงานในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม แต่ปัจจุบันฟิชแอนด์ชิพส์ระบาดไปทุกซอกหลืบของกรุงลอนดอนไม่เว้นกระทั่ง ภัตตาคารระดับไฮเอนด์ หลังอาหารมื้อหนักเราเดินทางออกจากกรุงลอนดอนโดยพักเหยียดแข้งขา หลังไหล่ที่เมือง Guildford ซึ่งมีบรรยากาศเช่นเดียวกับเมืองอื่นๆในชนบทของ อังกฤษนัน่ ก็คอื อุดมไปด้วยถนนโรมัน อาคารอิฐหรือหินโบราณ นาฬิกาแขวนเรือนโต ประจ�ำเมืองฯ พูดได้วา่ มีองค์ประกอบครบครันของความเป็นโลคัล เราแวะทีร่ า้ นกาแฟ ครูห่ นึง่ แล้วเตรียมตัวเดินทางกลับวัด แต่ตอนออกจากร้านกาแฟไม่มใี ครทันสังเกต ว่าฝนก�ำลังกระหน�่ำลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา เราเร่งฝีเท้าเข้าไปหลบใต้หลังคา ร้านจ�ำหน่ายช็อกโกแลตแฟนซี ระหว่างนีพ้ อ่ หนุม่ ร่างท้วมคนหนึง่ ก�ำลังขนอุปกรณ์ ก่อสร้างลงจากรถที่จอดอยู่ริมถนนอย่างขะมักเขม้นเพียงล�ำพัง ทันทีที่สังเกตเห็น เราเขาก็โยนค�ำถามฝ่าสายฝนมาว่า Are you Buddhists? Can you give me some good Khamma! เราทั้งสามส่งยิ้มชื่นใจให้เขา แม้ปัจจุบันค�ำว่า Khamma ในภาษาบาลีหรือ Karma ในภาษาสันสกฤตจะเป็นศัพท์ที่ฝรั่งใช้กันทั่วไป แต่ฉัน ก็อดสงไม่ได้วา่ เราจะมอบ “กรรม” ซึง่ เป็นค�ำกลางๆทีม่ คี วามหมายว่า “การกระท�ำ ประกอบด้วยเจตนา” ให้กบั ใครคนหนึง่ ได้อย่างไร ไม่นานนาทีอนาคาริกกับอุบาสก อังกฤษสนิทกัน / 177
ก็เฉลยพร้อมๆกันว่า ฝรั่งไม่ได้ใช้ค�ำว่า “กรรม” เหมือนที่ชาวพุทธทั่วไปใช้กัน แต่เขาใช้ในความหมายว่า “โชคดีมชี ยั ” เหตุการณ์นที้ ำ� ให้ฉนั ทราบว่าในสายตาของ ชาวอังกฤษจ�ำนวนหนึ่ง “ชาวพุทธ” คือสัญลักษณ์ของความเป็นศิริมงคล เมื่อเม็ดฝนเปลี่ยนจากรุนแรงเป็นปานกลาง เราก็เดินลุยพื้นนองน�้ำจากร้าน ช็อกโกแลตมาที่รถ ระหว่างนั้นฉันบอกอนาคาริกว่าถ้ามีพระผู้ใหญ่จากเมืองไทย มาเยี่ยม และท่านอยากสัมผัสความเป็นท้องถิ่นของอังกฤษ เรานิมนต์ท่านมาที่ เมืองกิลฟอร์ดก็ได้เพราะใกล้ดี ขับรถจากวัดมาที่นี่เพียง 45 นาทีเท่านั้นเอง และ ในเวลาประมาณนั้นเราก็เดินทางมาถึง Malt House บ้านและสวนขนาด 125 ไร่ ของครอบครัวจี.เฟอร์กูสัน ซึ่งเปิดให้เข้าชมระหว่างเดือนเมษายนถึงกันยายน โดย เก็บค่าบ�ำรุงสถานทีเ่ ฉพาะผูใ้ หญ่เพียง 5 ปอนด์ ซึง่ ราคานีร้ วมน�ำ้ ชาโฮมเมดส�ำหรับ แขกผู้มาเยือนด้วย แต่สมาชิกจากวัดป่าจิตตวิเวกอย่างพวกเราเข้าชมได้ฟรีเพราะ เป็นเพือ่ นบ้านกันมานาน นอกจากสวนญีป่ นุ่ ทีแ่ ซนแฟรนซิสโกแล้ว ฉันขอยกนิว้ โป้ง สองข้างให้ “มอลท์เฮาส์” พร้อมชื่นชมดังๆว่าที่นี่เป็นสวนที่สวยที่สุดเท่าที่ฉันเคย ไปเยือน ต่างกันก็เพียงว่าสวนญีป่ นุ่ เป็นสวนประดิษฐ์ซงึ่ ต้องใช้แรงงานและทุนทรัพย์ มหาศาลในการดูแลรักษา แต่ทนี่ ดี่ เู หมือนจะปล่อยให้ตน้ ไม้เติบโตตามอัธยาศัยและมี บรรยากาศของป่าธรรมชาติ แรกได้ยนิ พระฝรัง่ กล่าวขานถึงสถานทีแ่ ห่งนีฉ้ นั ไม่คอ่ ย สนใจนัก เพราะวัดป่าจิตตวิเวกก็แวดล้อมไปด้วยป่าและดอกไม้ใบหญ้าสวยงามอยู่ แล้ว อีกทั้งก่อนหน้านี้ฉันเคยเดินผ่านบ้านสวนมอลท์หลายครั้ง แต่ก็รู้สึกเช่นเดียว กับบ้านทั่วไปในชนบทของอังกฤษ ทว่าหลังจากอบอวลอยู่ในบรรยากาศวิเศษของ ฤดูใบไม้ผลิกว่าค่อนชั่วโมง พวกเราก็ต้องหลุดอุทานเป็นส�ำนวนอังกฤษแทบจะ พร้อมกันว่า Lovely garden indeed!
178 / อังกฤษสนิทกัน
Haunted House Blessing
สหราชอาณาจักรอุน่ หนาฝาคัง่ ด้วยบ้านเก่าแก่อายุหลายร้อยปีกระจัดกระจาย อยูท่ วั่ ไป เคหสถานทีฉ่ นั กับพระฝรัง่ เดินทางมาเยือนบ่ายนีเ้ ป็นบ้านเดีย่ วขนาดใหญ่ อายุราวๆห้าร้อยปีพร้อมสวนสวยและบึงขนาดย่อม ตัง้ อยูบ่ นพืน้ ทีซ่ งึ่ เคยเป็นสุสาน โบราณทอดตัวขนานไปกับถนนสายหลัก โดยมีสองครอบครัวแบ่งเขตอาศัยอยูค่ นละ ฟากผนัง ทีพ่ เิ ศษก็คอื หลังคาบ้านมุงด้วยหญ้าอย่างหนาสวยแคลสสิกสะดุดซึง่ มีชอื่ เรียกในท้องถิ่นว่า Thatch Roof เหตุที่เราต้องมาเจริญพระพุทธมนต์ที่บ้านหลังนี้ ก็เนือ่ งจากพ่อบ้านกับลูกชายเห็นวิญญาณของเด็กผูห้ ญิง ในเวลาไล่เลีย่ กันเพือ่ นบ้าน ซึง่ อยูค่ นละฝัง่ รัว้ ก็เห็นวิญญาณของเด็กผูห้ ญิงยืนอยูข่ า้ งหน้าต่าง ขณะทีเ่ ธอก�ำลังง่วน อยู่กับการปลูกต้นไม้ในสวนแล้วแหงนหน้าขึ้นไปมองตัวบ้าน อันที่จริงพ่อบ้านฝรั่ง ไม่ได้กลัวผีแต่แม่บา้ นชาวไทยกับลูกชายกลัวจนแทบไม่เป็นอันท�ำอะไร สถานการณ์ หน้าสิว่ หน้าขวานยิง่ ขึน้ เมือ่ พ่อบ้านต้องเดินทางไปติดต่อธุรกิจในต่างแดนนานแรมเดือน เป็นเหตุให้แม่บ้านกับลูกชายต้องขนหัวลุกอย่างไร้ที่พึ่ง บรื๋อออออ... ก่อนเริม่ พิธพี อ่ บ้านฝรัง่ ถามว่า “ท�ำไมวิญญาณของเด็กผูห้ ญิงยังอยูท่ บี่ า้ นหลังนี?้ ” ฉันตอบว่า “เพราะเขามีความยึดมั่นถือมั่นหรือห่วงใยอะไรสักอย่าง แต่พระไม่ได้ มาที่นี่เพื่อไล่เขา พระมาเพื่อเผื่อแผ่ส่วนบุญหรือคุณงามความดีให้เขา สร้างความ เป็นมิตรกับเขา อะไรที่จะท�ำให้เขามีความสุข ช่วยให้เขาสบายใจปราศจากความ วิตกกังวล เรายินดีที่จะช่วยเหลือ เพราะเราเป็นเพื่อนร่วมเกิด แก่ เจ็บ ตาย นี่เป็น สิง่ ทีพ่ ระท�ำได้และเคยท�ำได้ผลมาแล้ว” เมือ่ ทุกคนพร้อมเราก็เจริญพระพุทธมนตร์ ตามด้วยกรณียเมตตสูตร บทแผ่เมตตา และอุทิศส่วนบุญกุศลเป็นภาษาอังกฤษ ฉันมอบพระพุทธรูปองค์เล็กและฝากหนังสือสวดมนตร์ให้แม่บา้ นเอาไว้สวดก่อนนอน จากนั้นก็ประพรมน�้ำพระพุทธมนตร์จนทั่วบ้านจึงเป็นอันเสร็จพิธี ก่อนกลับทั้ง ครอบครัวได้ถวายสังฆทานชุดใหญ่ตามรายการสิ่งของที่คณะสงฆ์จ�ำเป็นต้องใช้ 182 / อังกฤษสนิทกัน
ซึง่ มีแจ้งไว้ในเว็บไซต์ของทางวัดในหัวข้อ Dana List นับว่าเป็นการท�ำบุญทีฉ่ ลาดล�ำ้ และได้ประโยชน์เต็มเม็ดเต็มหน่วย อีกทั้งยังช่วยให้ทางวัดไม่ต้องเป็นภาระในการ คัดแยกขยะที่แฝงมากับถังสังฆทาน ไม่ไกลจากบ้านหลังนี้ปรากฏทุ่งดอกไม้สีม่วง ทรงระฆังละลานตาที่ชื่อว่า Blue Bells เราจึงแวะเข้าไปเดินชม ระหว่างที่เดิน อยูน่ นั้ ฉันแอบวาดหวังเล็กๆว่าสิง่ ทีเ่ ราท�ำในวันนี้ จะส่งผลให้ “เจ้าของบ้าน” สดชืน่ เบิกบานดั่งดอกบลูเบลส์
อังกฤษสนิทกัน / 183
Hang Out Around Isle of Wight
เพียง 45 นาทีจากผืนแผ่นดินใหญ่ เฟอร์รลี่ ำ� เขือ่ งพร้อมสิง่ อ�ำนวยความสะดวก สารพันก็น�ำพระสี่รูปกับโยมหนึ่งท่านมาถึงเกาะที่ชื่อว่า Isle of Wight เพื่อเจริญ พระพุทธมนตร์ที่ร้านอาหารไทยในเมือง Ryde ก่อนเวลานัดหมายเราพอมีเวลา อยู่บ้างจึงแวะชมวัดคริสต์ เนื่องจากพระฝรั่งรูปหนึ่งที่เคยมาพักค้างคืนระหว่าง การเดินธุดงค์แนะน�ำให้เรามาเยี่ยม พระชาวคริสต์ใจดีน�ำพระชาวพุทธเดินชมรอบ บริเวณซึ่งแออัดไปด้วยความสงบเงียบไม่ต่างจากวัดป่า เมื่ออบอุ่นกันพอสมควร เราก็ออกเดินทางไปยังจุดหมาย จากการสอบถามญาติโยมท�ำให้ทราบว่า บนเกาะ ไอลส์ออฟไวท์มีคนไทยอยู่ประมาณ 60 คน พิธีกรรมด�ำเนินไปอย่างเรียบง่ายตาม ขัน้ ตอนปรกติคอื ประธานจุดธูปเทียน กล่าวค�ำบูชาพระรัตนตรัย สมาทานศีล เจริญ พระพุทธมนตร์ ถวายสังฆทาน ให้พร รดน�้ำมนตร์ ท�ำภัตกิจ อาหารคาวหวานวันนี้ รสชาติคุ้นเคยราวกับปรุงด้วยมือของแม่ หลังจากเสร็จกิจกรรมประดามีแล้ว แปรงฟันบ้วนปาก ญาติโยมก็เข้ามาสนทนาธรรมด้วย โยม : หลวงพี่เคยเห็นพญานาคไหม? พระ : เคย ที่วัดมีอยู่แปดตัว มีคนปั้นไว้ตรงบันไดทางขึ้นเจดีย์ โยม : แสดงว่าหลวงพี่ไม่เคยเห็นพญานาคตัวจริง พระ : อาตมาไม่ได้บวชมาดูพญานาค อาตมาบวชมาดูจิตของตัวเอง ถ้าเห็น ว่าจิตของตัวเองเป็นทุกข์ก็รีบหาวิธีแก้ไข ก่อนจะเลยเถิดไปถึงเปรต กระสือ กระหัง ซอมบี้ แดรกคิวล่า ก็อดซิลล่า มนุษย์ หมาป่า แฟรงเกนสไตน์ ไส้เดือน คางคก นกแสกฯ เราก็รบี ร�ำ่ ลาร้านอาหารไทยแล้ว ขับรถวนรอบเกาะ อากาศวันนีส้ ดสว่างกระจ่างใสเกินปรกติของอังกฤษ เราจอดรถ ใต้ร่มไม้ใหญ่ริมทางแล้วลงไปยืดเส้นยืดสายริมทะเล แต่เมื่อเดินไปจนสุดถนน 186 / อังกฤษสนิทกัน
ก็ต้องรีบวกกลับ เพราะเห็นฝรั่งพันธุ์ Topless ก�ำลังเอกเขนกอยู่บนเก้าอี้ชายหาด โยมที่มาด้วยกันให้ข้อมูลว่าผู้คนที่อาศัยอยู่บนเกาะนี้ส่วนใหญ่สังกัดวัยเกษียณ บรรยากาศของเกาะจึงเงียบสงบไม่พลุกพล่านเอิกเกริก ลูกสาวลูกชายวัยรุ่นมาอยู่ ได้ไม่กวี่ นั ก็พากันเบือ่ ก่อนขับรถลงเฟอร์รใี่ นเวลา 17 นาฬิกายังมีเวลาเหลืออีกเล็ก น้อย เราจึงเลาะเลีย้ วเข้าไปชมหมูบ่ า้ นเล็กๆริมทะเลน่ารืน่ รมย์ ฉันก้าวลงจากรถไป เดินย�ำ่ ดอกไม้ใบหญ้าในสวนสาธาณะแล้วร�ำพึงเบาๆกับตัวเองแต่อยากให้กงั วานถึง เมืองไทย...บ้านนี้เมืองนี้ช่างดูแลเอาใจใส่ประชาชนของเขาดีเหลือเกิน
อังกฤษสนิทกัน / 187
Open Dhamma at Open Air Museum
พระผูใ้ หญ่จากเมืองไทย 2 รูปเดินทางมาเยือนวัดป่าจิตตวิเวก ท่านเป็นลูกศิษย์ รุน่ ใหญ่และรุน่ กลางของหลวงพ่อชา สุภทฺโท แห่งวัดหนองป่าพง จังหวัดอุบลราชธานี ข้อวัตรปฏิบตั ขิ องวัดหนองป่าพงในยุคนัน้ เข้มข้นจนต้องร้องโฮก! อาทิเช่นทุกวันพระ จะมีการถือเนสัชชิก นั่นหมายถึงพระภิกษุสามเณรตลอดจนอุบาสกอุบาสิกาที่ ไม่เจ็บไข้ได้ป่วย ต้องอยู่ฟังเทศน์ เดินจงกรม นั่งสมาธิ ตั้งแต่หัวค�่ำยันสว่างโดย งดเว้นอิริยาบถนอน ระยะนั้นสุขภาพของหลวงพ่อชายังเต็มอัตราศึก ท่านจึงน�ำ การปฏิบัติด้วยตัวของท่านเอง เมื่อเนสัชชิกจนถึง 5 นาฬิกาของวันใหม่ พระภิกษุ สามเณรก็จะช่วยกันปัดกวาดเช็ดถูศาลาแล้วออกบิณฑบาตทั้งๆที่ยังง่วงๆเบลอๆ จนบางครั้งเผลอเดินเข้าไปในคอกควาย แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือความภาคภูมิใจที่ ฟันผ่าความยากล�ำบากมาได้ บางวันหลวงพ่อชาจะสั่งให้น�ำอาหารคาวหวานที่แม่ชีและญาติโยมสู้อุตส่าห์ ปรุงอย่างสุดฝีมือ เทรวมลงในกาละมังใบใหญ่แล้วให้พระภิกษุสามเณรตักใส่บาตร พิจารณากันตามสะดวก โดยมีเป้าประสงค์คอื การฝึกให้เป็นผูเ้ ลีย้ งง่ายไม่ตดิ ในรสชาติ ของอาหาร นักบวชรูปใดทีเ่ อาชีวติ รอดมาได้กม็ แี นวโน้มว่าจะสามารถพัฒนาตนไป สู่ความดับทุกข์ในไม่ช้าก็เร็ว (ความรู้แทรก: หากญาติโยมต้องการทราบว่าวัดที่ไป ท�ำบุญหรือปฏิบัติธรรมเป็น “วัดป่า” หรือไม่ มีข้อสังเกตง่ายๆ สองประการได้แก่ พระในวัดนั้นฉันอาหารเพียงหนึ่งมื้อต่อวันและฉันโดยใช้ภาชนะเพียงใบเดียวคือ บาตร ถึงจุดนี้แล้วก็ไม่จ�ำเป็นต้องถามว่าวัดแห่งนั้นสังกัดมหานิกายหรือธรรมยุติ เพราะ “สังกัด” เป็นเพียงข้อมูลที่ใช้ส�ำหรับติดต่องานเอกสารในกิจการคณะสงฆ์) เนือ่ งจากพระผูม้ ตี ำ� แหน่งเจ้าอาวาสจะต้องรับผิดชอบเกีย่ วกับงานก่อสร้างหรือ ปรับปรุงซ่อมแซมเสนาสนะอยูเ่ สมอ ในเวลาบ่ายสองโมงโดยประมาณ เราจึงนิมนต์ 190 / อังกฤษสนิทกัน
พระผู้ใหญ่ทั้งสองท่านเดินทางไปทัศนศึกษาที่ Weald & Downland Open Air Museum ซึ่งอยู่ห่างจากวัดป่าจิตตวิเวกเพียง 30 นาที พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งแห่งนี้ เป็นสถานทีร่ วบรวมวิถชี วี ติ ความเป็นอยูด่ งั้ เดิมของชาวอังกฤษ อันประกอบด้วยบ้าน โบราณ โรงท�ำอิฐ โรงเลือ่ ยไม้ โรงตีเหล็ก โรงหล่อทองแดง โรงหล่อปูนปัน้ แปลงผัก สวนดอกไม้ ฟาร์มเลี้ยงแกะ ยวดยานพาหนะฯ ในบรรดาอาคารสถานที่เหล่านี้มี สิ่งประดิษฐ์แสนธรรมดาแต่สะดุดใจฉันเอาเรื่องก็คือกังหันน�้ำซึ่งใช้ส�ำหรับโม่แป้ง เหตุที่ใจของฉันตกร่องปล่องชิ้นกับกังหันน�้ำก็เนื่องจากมันแสดงถึงภูมิปัญญาของ มนุษย์ ทีส่ ามารถน�ำสายน�ำ้ ซึง่ ไหลเอือ่ ยอยูต่ ามธรรมชาติมาใช้ให้เกิดประโยชน์โดย แทบมิได้รบกวนสภาพแวดล้อมเลยแม้แต่น้อย ระหว่างที่เราก�ำลังเดินชมสถานที่อยู่นั้นมีฝรั่งนักทัศนาจรหลากวัยหลายคณะ เข้ามาสนทนาสอบถามถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของพระในพุทธศาสนา ซึ่งก็ต้อง ใช้เวลาในการอธิบายกันพอสมควร แวบแรกที่เด็กหนุ่มกลุ่มใหญ่เห็นอนาคาริกก็ พากันเดาว่าคงจะเป็นพ่อครัวประจ�ำวัด พ่อหนุ่มคนหนึ่งบอกว่าเป็นอาจารย์สอน คาราเต้เหมือนในหนังเรื่อง Karate Kid ที่เขาเคยดู เราได้แต่หัวเราะทักทายสร้าง ความคุ้นเคยแล้วเดินผ่านไป จุดสุดท้ายที่ทางคณะแวะเวียนเข้าไปชมก็คือ Jerwood Gridshell Space สิง่ ปลูกสร้างร่วมสมัยรูปทรงคล้ายเปลือกถัว่ ลิสงครึง่ ซีกคว�ำ่ อาคารหลังนีอ้ อกแบบ มาเพ่ื่อใช้เป็นสถานที่จัดประชุมสัมมนาทั้งเชิงวิชาการและปฏิบัติการ ฉันยังนึกๆ อยู่ว่าถ้าสร้างศาลาแบบนี้ที่วัดป่าในเมืองไทยคงระทึกใจพิลึก แต่เกรงเหลือเกินว่า ผู้คนจะแห่แหนกันมาดูศาลาจนลืมดูจิตของตัวเอง สถานการณ์เช่นนี้น่าหวาดหวั่น พรัน่ พรึงเพราะส่งผลกระทบต่อโลกทีเ่ ราอยูอ่ าศัยอย่างใหญ่หลวง สมดังอรรถธรรม อังกฤษสนิทกัน / 191
ที่หลวงพ่อชาถ่ายทอดผ่านมาถึงลูกหลาน “คนมีความรู้แต่ไม่มีคุณธรรม ท�ำให้โลกวุ่นวาย คนมีคุณธรรมแต่ไม่มีความรู้ ท�ำให้โลกสงบ คนมีทั้งความรู้และคุณธรรม ท�ำให้โลกสว่างไสว”
192 / อังกฤษสนิทกัน
Homemade Coffee at Hammerfield Farm
Dear Ajahn Pesalo, Whenever you like I can give you a mini-tour at Hammerfield Farm, introducing you to all the animals here that found a safe refugee and as part of the outing I can offer you a cup of homemade coffee at my kuti! - Metta, Friend. หลังจากได้รับอีเมล์ฉบับนี้ฉันก็ตรวจดูสภาพอากาศทันที เมื่อพบว่าเช้า วันอาทิตย์อากาศแจ่มใสหายห่วง ฉันจึงท�ำการนัดหมายกับอุบาสกผู้เป็นเจ้าของ ความปรารถนาดี ประมาณแปดนาฬิกาเศษๆเราก็ออกเดินไปยังฟาร์มซึ่งอยู่ห่าง จากประตูวัดเพียง 2-3 นาที...ไกลกว่านี้มีไหม? เดิมทีอุบาสกผู้นี้พักอยู่ในวัดแต่เมื่อ ค้นพบภายหลังว่าทีฟ่ าร์มแฮมเมอร์ฟลี ด์มกี ฏุ หิ ลังเล็กๆให้เช่าในราคาถูก เขาจึงตัดสิน ใจเช่าเป็นเวลา 6 เดือนเพราะเล็งเห็นความสะดวกในการปฏิบัติธรรม อุบาสกมี รายได้จากการท�ำงานเล็กๆน้อยๆให้กับวัดป่าจิตตวิเวกแล้วน�ำค่าตอบแทนมาจ่าย ค่าเช่า แม้ทางคณะสงฆ์จะอนุญาตให้เขาพักอยู่ในวัดได้เพราะถือว่าเป็นสมาชิก และคุ้นเคยกันมานาน แต่อุบาสกก็เลือกที่จะย้ายมายังกุฏิแห่งนี้เนื่องจากต้องการ ความเป็นอิสระ ภายในฟาร์มแฮมเมอร์ฟีลด์เลี้ยงสัตว์ไว้หลายชนิดเช่นแพะ แกะ ม้าแคระ หมู ยักษ์ ลาม่า และที่ส�ำคัญอย่างยิ่งก็คือไก่ เนื่องจากรายได้ส่วนหนึ่งของฟาร์มมาจาก การจ�ำหน่ายไข่ไก่ดว้ ยวิธงี า่ ยๆ เพียงเก็บไข่ใส่ตะกร้าไปวางไว้ทรี่ า้ นจ�ำหน่ายผลผลิต ภายในฟาร์มซึ่งเป็นเพิงเล็กๆตั้งอยู่หน้าบ้าน สิ่งที่ผู้บริโภคต้องท�ำก็คือเลือกหยิบไข่ ตามจ�ำนวนที่ตัวเองต้องการ แล้ววางเงินไว้เท่ากับราคาที่แสดงบนป้าย ถ้าน�ำวิธีนี้ ไปใช้ที่เมืองไทยจะเกิดอะไรขึ้น? ในช่วงที่ผ่านมามีข่าวว่าคนร้ายแอบเข้าไปขโมย 196 / อังกฤษสนิทกัน
ข้าวเปลือกจากยุ้งฉางของชาวนาในหลายจังหวัดทางภาคอีสานของประเทศไทย ไม่ได้ขโมยแค่พอประทังชีวิตแต่ยุ้งฉางบางแห่งแก๊งค์คนร้ายขับรถกะบะมาขนเอา ข้าวเปลือกไปกว่า 2,000 กิโลกรัม!! หลังจากเดินบุกหญ้าฝ่าน�้ำค้างจนรอบฟาร์มแล้ว เราก็ไปนั่งพักที่กุฏิหลัง เล็กเรียบง่าย อุบาสกท�ำกาแฟผสมนมถั่วเหลืองร้อนๆมาถวายพร้อมคุกกี้ขิง เรา สนทนากันหลายเรือ่ ง ส่วนใหญ่เป็นประสบการณ์ในการเดินทาง จากกาแฟหนึง่ ถ้วย ก็ตามมาด้วยน�ำ้ ชา อันทีจ่ ริงฉันคันปากอยากเล่าเหตุการณ์ในบ้านเมืองไทยให้เขาฟัง แต่ยามเช้าที่อากาศอบอุ่นเช่นนี้ ฉันยังไม่อยากให้สมองต้องท�ำงานหนักเพราะ การคิดค้นค�ำศัพท์เกี่ยวกับการเมือง แต่จนแล้วจนรอดก็มีค�ำหนึ่งผุดขึ้นมาจนได้ “Coup - รัฐประหาร” ประมาณสิบนาฬิกาเศษๆอุบาสกเก็บถ้วยชากาแฟไปล้าง แล้วเราก็เดินกลับวัดพร้อมกัน ไหนๆวันนีก้ ข็ ลุกอยูใ่ นฟาร์มมาหลายชัว่ โมง ปิดท้าย กันด้วยพระสูตรที่อบอวลไปด้วยบรรยากาศสัตว์ๆคงจะหวานขมกลมกลืน ม้าบางตัวเพียงเห็นเงาแส้กร็ แู้ ล้วว่าสารถีตอ้ งการให้วงิ่ หยุด เลีย้ วซ้าย เลีย้ วขวา ม้าบางตัวต้องลงแส้สักครั้งจึงบังคับได้ ม้าบางตัวต้องเฆี่ยนจนหนังปริเลือดไหลจึง จะท�ำตามค�ำสั่ง ม้าบางตัวดื้อด้าน ไม่ว่าจะโบยตีหนักหน่วงปานใดก็ไม่ยอมขยับ พระพุทธองค์ตรัสถามคนฝึกม้าว่า เธอท�ำอย่างไรกับม้าตัวสุดท้าย? คนฝึกม้าตอบว่า “ฆ่าทิง้ ” เพราะมันจะน�ำความเสือ่ มเสียมาสูผ่ ฝู้ กึ เอ...แล้วม้ากับรัฐบาลเหมือนหรือ ต่างกันอย่างไร ช่างน่าสงสัยจริงๆ
อังกฤษสนิทกัน / 197
Meeting to the Deathless
ศิริรวมเวลาเกือบ 2 สัปดาห์ที่พระภิกษุสามเณรกว่าร้อยรูปจาก 29 ประเทศ เดินทางมาร่วมประชุม ณ วัดอมราวดี ส�ำนักสาขาของวัดหนองป่าพงอีกแห่งหนึ่ง ในประเทศอังกฤษ ในสัปดาห์แรกเป็นรอบของพระผู้ใหญ่ระดับเจ้าอาวาส ถัดมา สัปดาห์หลังจึงเป็นโอกาสของคณะสงฆ์ เนื้อหาในการประชุมแยกย่อยได้ถึง 20 หัวข้อ ขอยกมาเป็นตัวอย่างเพียงสามประเด็น (1) เราจะรักษาพระธรรมวินัยและ ข้อวัตรปฏิบตั ขิ องพระป่าสายหลวงพ่อชาได้อย่างไรในโลกตะวันตกและมีอะไรบ้าง ที่เราสามารถประยุกต์ได้ (2) พระป่าด�ำเนินชีวิตด้วยความเข้าใจและสอดคล้อง กับระบบนิเวศน์มากน้อยเพียงใด (3) เทรนด์ร่วมสมัยในการสอนเรื่องสติและสมถ วิปสั สนาของอาจารย์กรรมฐานทีเ่ ป็นฆราวาสมีความคลาดเคลือ่ นจากพระสัทธรรม หรือไม่? อย่างไร? ส่วนประเด็นทีฉ่ นั เห็นว่าท้าทายพระภิกษุสามเณรและนักปฏิบตั ิ ธรรมรุ่นใหม่มากที่สุดก็คือ เราจะประนีประนอมวิถีชีวิตของนักบวชกับอุปกรณ์ ไฮเทคทันสมัยและสิ่งอ�ำนวยความสะดวกมากมายในโลกยุคปัจจุบันได้อย่างไร? พระผู้ท�ำหน้าที่สรุปการประชุมในหัวข้อนี้พูดเป็นเชิงประชดประชันว่า “อยากรู้ เรือ่ งคอมพิวเตอร์ให้ถามพระ อยากรูเ้ รือ่ งธรรมะให้ถามโยม” ฮาจนศาลาแทบถล่ม! กิจกรรมด�ำเนินไปอย่างคึกคักและอัดแน่นด้วยสาระ ปิดท้ายทุกค�ำ่ ด้วยพระธรรม เทศนาเป็นของแถม นอกจากนีผ้ ทู้ เี่ ดินทางมาร่วมงานยังได้สมั ผัสบรรยากาศของอังกฤษ อย่างข้นเข้มเต็มรสด้วยสายฝนพร�ำแถมซ�้ำเข้าไปอีก แต่ในช่วงกลางสัปดาห์กลับมี เหตุการณ์ประหลาดเกิดขึน้ พร้อมกันถึงสองเหตุการณ์นนั่ ก็คอื ท้องฟ้าเปิดโล่งโปร่งใสให้ แดดทอประกายอบอุน่ เคียงคูก่ บั การเคลือ่ นย้ายศพมาไว้ทหี่ อ้ งด้านหลังพระประธาน ฉันไม่ได้อา่ นประวัตขิ องคุณยายผูว้ ายชนม์ละเอียดนัก รูแ้ ต่เพียงว่าเป็นอุบาสิกาทีผ่ กู พัน กับวัดป่ามานาน พิธศี พจะมีขนึ้ หลังงานประชุมแล้วเสร็จ แต่กอ่ นจะถึงวันนัน้ คุณยาย ก็ได้อทุ ิศร่างกายให้เกิดประโยชน์ แก่ผู้ที่พยายามจะถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาท 200 / อังกฤษสนิทกัน
พระภิกษุ สามเณร แม่ชี อุบาสก อุบาสิกา มากหน้าหลายตาแวะเวียนกันเข้าไป เยี่ยมเยียนคุณยายอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง เพื่อไม่ให้ถูกขัดจังหวะฉันจึงวางแผนว่าจะ ย่องมาคุยกับคุณยายสองต่อสองตอนเที่ยงคืน แต่เมื่อรู้ภายหลังว่าศาลามีก�ำหนด ปิดตอนสามทุ่มครึ่ง ฉันจึงเปลี่ยนเวลานัดหมายเป็นเช้ามืดของวันถัดไป ทว่าก่อน ถึงเวลานัน้ ฉันก็เกิดความคิดวิตถารขึน้ มาว่า เป็นไปได้ไหมทีเ่ ราจะจัดท�ำ “อมราวดี โมเดล” ด้วยการเรียกบรรดานักโกงเมืองกับพวกที่ให้การสนับ สนุนมารายงานตัว กับคุณยายในห้องที่มีบรรยากาศอย่างนี้คนละยี่สิบสี่ชั่วโมง
อังกฤษสนิทกัน / 201
Short Walk to Milland
แม้ทอ้ งฟ้าจะไม่สดสว่างกระจ่างใสเพราะปรากฏเมฆสลับแดดร�ำไร แต่บรรยากาศ ของวันนีก้ ส็ มควรได้รบั รางวัลชมเชย อุบาสกนิมนต์ฉนั มาหลายวันแล้วว่าถ้ามีโอกาสก็ น่าจะเดินไปทีเ่ มืองมิลแลนด์ดว้ ยกัน ทีน่ นั่ มีรา้ นค้าชุมชนเล็กๆกึง่ คาเฟ่นา่ นัง่ ละเลียด กาแฟ เมื่อโอกาสอันหอมกรุ่นมาถึงเราก็ออกเดินจากประตูวัดในเวลา 13:30 น. คนในท้องถิน่ เรียกถนนสายนีว้ า่ Roman Road หมายความถึงถนนโบราณทีเ่ ชือ่ มต่อ ระหว่างเมืองต่างๆ โดยยานพาหนะหลักในยุคนัน้ คือรถม้าซึง่ จะต้องมีจดุ พักค้างคืน เป็นระยะๆ เราเดินผ่านบริเวณทีส่ นั นิษฐานว่าเป็นสถานีสำ� หรับเปลีย่ นม้าแห่งหนึง่ มีสระน�้ำและม้าก�ำลังยืนเล็มหญ้าอยู่หลายตัว ฉันกับอุบาสกสนทนาธรรมะเบ็ดเตล็ดกันไปเรื่อยจนล่วงเข้าเขตชานเมือง มิลแลนด์จึงพบร้านค้าชุมชน ด้านหน้าร้านค้ามีกล่องใส่ผักผลไม้หลากหลายชนิด วางจ�ำหน่าย ฉันลืมถามว่ามาจากสวนออร์แกนิคส์หรือเปล่า เราตรงไปทีเ่ คาน์เตอร์ สั่งเครื่องดื่มแล้วเลือกมุมสงบบริเวณระเบียง แต่นั่งได้เพียงไม่กี่นาทีก็ต้องย้าย เข้าไปในร้านเพราะความร้อนจากแสงแดด ระหว่างที่ละเลียดกาแฟ น�้ำผลไม้ และ ช็อกโกแลตอยูน่ นั้ อุบาสกบอกว่าพุทธศาสนาช่างเป็นศาสนาทีเ่ อาจริงเอาจัง ไม่คอ่ ย มีเรือ่ งขบขัน ได้ยนิ ดังนัน้ ฉันจึงเล่าเรือ่ งจากพระสูตรให้เขาฟัง...พราหมณ์ผหู้ นึง่ เดิน อยู่ริมถนนจนบังเอิญไปพบแพะตัวหนึ่งก�ำลังก้มหัว พราหมณ์คิดว่าแพะเคารพตน จึงโค้งค�ำนับตอบ ทันใดนั้นแพะก็พุ่งเข้าชนอย่างแรงจนพราหมณ์ถึงแก่ความตาย เมื่อฉันเล่าจบอุบาสกก็หัวเราะเสียงดังสนั่นร้าน เมื่อออกจากร้านกาแฟเราก็เดินต่ออีกเล็กน้อยเข้าไปในเมืองอันแสนจะเงียบ สงบ พบตู้โทรศัพท์สีแดงเข้มอันเป็นเอกลักษณ์ของอังกฤษซึ่งปัจจุบันถูกเปลี่ยนให้ เป็นตูเ้ ก็บกล่องเครือ่ งมือปฐมพยาบาลส�ำหรับผูม้ อี าการหัวใจวาย นับว่าชาญฉลาด 204 / อังกฤษสนิทกัน
ไม่ธรรมดา ถัดจากนั้นมาไม่ไกลเราก็พบโต๊ะจ�ำหน่ายไข่ที่หล่นออกมาจากก้นของ แม่ไก่แสนสุข เนื่องจากเจ้าของฟาร์มให้อิสระเสรีนิวฟรีด้อมแก่ฝูงกุ๊กไก่ ไม่กักขัง หน่วงเหนี่ยวไว้ในโรงเลี้ยงสัตว์แล้วฉีดอัดฮอร์โมนจนแม่ไก่คลุ้มคลั่ง ที่น่าชื่นใจ ก็คอื ผูจ้ ดั จ�ำหน่ายไข่ไก่ Free Range ให้อสิ ระแก่ผบู้ ริโภคด้วยการให้เขาหรือหล่อน รับผิดชอบ “ศีลธรรม” ของตัวเอง จึงไม่จำ� เป็นต้องมานัง่ เฝ้าผลผลิตจากฟาร์มตลอด ทัง้ วัน สิง่ ทีผ่ บู้ ริโภคต้องท�ำก็คอื เลือกหยิบไข่ซงึ่ บรรจุไว้กล่องละ 6 ฟอง แล้วเอาเงิน ใส่ถุงพลาสติกตามราคาที่ระบุไว้บนบรรจุภัณฑ์ จากนั้นก็น�ำไปหย่อนลงกล่องรับ จดหมายหน้าบ้าน ง่ายๆแค่นี้ก็ได้อ่ิมอร่อยสุขภาพดีมีความสุขทั้งครอบครัวของ ผู้ผลิตและผู้บริโภค ช่วงเดินกลับวัดเราแวะกันที่ The Sawmill Studio สังเกตจากลานจอดรถ อันกว้างขวางใหญ่โตที่นี่น่าจะเคยเป็นร้านอาหารมาก่อน เมื่อเราแง้มประตูแสดง ความจ�ำนงว่าต้องการเข้าไปชม เด็กหนุม่ ผมทรงเกลียวเชือกสีทองก็เดินมาเปิดประตู เชือ้ เชิญด้วยความยินดี เขาน�ำเราเดินชมรอบสตูดโิ อขนาดย่อมพร้อมอธิบายถึงสิง่ ที่ เขาก�ำลังท�ำ เด็กหนุม่ เป็นลูกมือของศิลปินคนหนึง่ ซึง่ เน้นท�ำงานออกแบบชิงช้าทีผ่ ลิต จากวัสดุประเภททองแดง มีทั้งดัดแปลงเป็นรูปฟักทอง ครึ่งวงรี พระจันทร์ ใบโอ๊ค ดอกลิลลี่ฯ เด็กหนุ่มเล่าว่าวัสดุราคาไม่แพงแต่ที่แพงคือค่าแรง เพราะกว่าจะเสร็จ แต่ละชิ้นมีขั้นตอนมากมาย อุบาสกถามถึงราคาของผลงานซึ่งเมื่อใครได้ยินก็ต้อง ร้องเจี๊ยก! เพราะค�ำตอบคือ 5,000 ปอนด์หรือ 275,000 บาท! แต่เมื่อน�ำไปติดตั้ง ในงาน Chelsea Flower Show ตามที่เห็นในเว็บไซต์ก็ต้องยอมรับว่าเก๋จริงไรจริง
อังกฤษสนิทกัน / 205
My First Dhamma Talk in UK
Good evening brothers and sisters in the Dhamma. This is my first opportunity to share some of my experiences with the whole community. First I would like to apologise if I will say something wrong, I'm still a student of English. I've been in Europe for one year now. I spent time in the UK for nine months and in Switzerland for three months. The first day I arrived to Chithurst, two monks took me for a walk to Hammer Wood. It's a beautiful forest. We talked about a lot of things concerning monastic life in Thailand and the UK; different weather, different language, different culture, but we all have the same suffering from birth, sickness, aging and death. Some dude in California said “The Buddha taught about suffering because he never went surfing”. It's true, but one who goes surfing still has suffering. I had the opportunity to go for alms-round in every town around here – Midhurst, Chichester, Liss and Petersfield. People are very kind, and yet, it's different. In Thailand people know we are monks and they come to offer food with reverence. In the UK I feel more like I'm just a little hungry creature, very hungry. This feeling made me feel humble. Maybe I should say something about the way I practice Dhamma here. I just increase the wholesome and decrease the unwholesome. 208 / อังกฤษสนิทกัน
For example when I sat with the community in the hall and someone was coughing many times in one hour. He kept coughing again and again. I thought -“why doesn't he just go and do some walking meditation outside the hall? He is not mindful, he should care for his friends who share the hall with him!”. I complained about it like this in my mind. This thought was unwholesome but after few days I turned it to something wholesome. “May he get better, May he be healthy, May he be happy.” My mind accepted that, no more complaints and then peace came to my mind. We can practice like this in any posture, anywhere, at any time. Some people belong to the new generation in Thailand. They've seen many lay people go to the monastery to offer food and requisites to monks. They're in doubt - “How do monks actually benefit the world?” I know that young people in the West also think like this. The answer to this question is that monks are an example of someone who is trying to decrease selfishness and increase loving-kindness in their mind. People who are less selfish and have a lot of loving-kindness can be of great benefit to the world. This is the reflection I would like to offer today. * Revised by Pesalo Bhikkhu, Samanera Cakkavaro & Anakariga Alex
อังกฤษสนิทกัน / 209
Welcome to Wales
(1) พระหนุ่มสามรูปเดินทางไปเยือนปราสาทโบราณสองแห่งในแคว้นเวลส์ Caerphilly Castle ปราสาททีผ่ า่ นยุครุง่ เรืองสุดขีดเมือ่ ครัง้ ยังเป็นทีพ่ ำ� นักอันวิจติ ร ของผู้ครองนคร จากนั้นก็ตกต�่ำสุดๆจนกระทั่งกลายมาเป็นที่คุมขังนักโทษ และ ถูกผูร้ กุ รานใช้ระเบิดท�ำลายในบัน้ ปลาย Coch Castle ปราสาทขนาดย่อมท่ามกลาง ป่าธรรมชาติบนยอดเขา ปราสาททั้งสองแห่งถูกทิ้งร้างไปนาน เมื่อกลุ่มนักส�ำรวจ ค้นพบครั้งแรกไม่ได้มีสภาพสมบูรณ์อย่างที่เห็นในปัจจุบัน แต่เป็นซากปรักหักพัง เช่นเดียวกับวัดและวังที่สุโขทัยหรืออยุธยา กาโล ฆสติ ภูตานิ สพฺพาเนว สหตฺตนา กาลเวลาย่อมกลืนกินสัตว์ทั้งหลาย พร้อมกันไปกับตัวมันเอง (2) พระหนุ่มสามรูปเดินทางไปเยือน Brecon Beacons National Park อุทยานแห่งชาติในเขตภูเขาและทุ่งโล่งกว้าง ใช้เวลาเดินขึ้นไปถึงยอดเขาประมาณ หนึ่งชั่วโมงสามสิบนาที เหงื่อไม่ไหลไคลไม่ย้อยเพราะแดดไม่แรงและมีลมพัดโชย อยู่ตลอดเวลา แต่เมื่อขึ้นไปยืนอยู่ชั้นบนสุดกลับหนาวยะเยือกจนหูชา เราเดิน สวนทางกับคนและสุนขั หลายช่วงอายุ ได้ยนิ เสียงนกกาแกะขับขานระงมอยูท่ วั่ บริเวณ ช่วงเดินลงเราอ้อมไปอีกเส้นทางหนึ่ง ใช้เวลาเพียง 45 นาทีก็ถึงจุดจอดรถ รู้สึก สดชืน่ กว่าตอนเดินขึน้ เพราะมีลำ� ธารไหลอ้อยอิง่ ขนาบราวครึง่ ระยะทาง บางครัง้ คน ยังนึกอิจฉาฝูงแกะที่ก�ำลังแทะเล็มหญ้าอยู่ทั่วภูเขา หิวกระหายก็มีหญ้ามีน�้ำให้กิน ง่วงก็มีที่ให้นอน ขับถ่ายตรงไหนก็ได้ ถึงฤดูผสมพันธ์ุก็จัดไปไม่ต้องคิดอะไรมาก แต่เมือ่ พิจารณาให้ถว้ นถีก่ ลับเกิดความสังเวชใจ เอ…แล้วมันต้องเวียนว่ายตายแกะ 212 / อังกฤษสนิทกัน
อยู่อย่างนี้อีกกี่ภพกี่ชาติ กว่าจะวิวัฒนาการตัวเองให้พ้นจากภัยในวัฏสังสาร น เหว ติฏฐํ นาสีนํ น สยานํ น ปตฺถคุ อายุสังขาร ใช่จะประมาทไปตามสัตว์ผู้ยืน นั่ง นอน หรือเดินอยู่ก็หาไม่ (3) พระหนุ่มรูปหนึ่งเดินทางไปเยือน Parc Bryn Bach สวนสาธารณะขนาดใหญ่ ซึ่งอยู่ห่างจากวัดไทยขนาดกะทัดรัดชานเมือง Rhymney แคว้นเวลส์ ด้วยการเดิน เพียง 20 กว่านาที ที่นี่ถูกจัดสรรออกเป็นหลายส่วนตามประโยชน์ใช้สอย มีทั้ง ทางเดินเท้ารอบบึงกว้าง ฐานออกก�ำลังกายพร้อมอุปกรณ์และป้ายแนะน�ำ สนาม ขีจ่ กั รยาน สถานทีต่ งั้ แคมป์ ลานจอดคาราวาน ร้านกาแฟ ร้านอาหาร สนามกอล์ฟฯ นับว่าเป็นสวนสาธารณะทีม่ กี ารออกแบบและการจัดการน่าชมเชย อากาศ ณ เวลา เก้านาฬิกาเย็นสบายตามปรกติ ยิง่ เป็นวันทีท่ อ้ งฟ้าโปร่งใสยิง่ ไม่คดิ ถึงเมืองไทยเลย แม้แต่นอ้ ย ญาติโยมรุน่ พีค่ นหนึง่ บอกว่า “อยูเ่ มืองไทยสบายกว่า” ถ้าเธอน�ำบ้านเกิด เมืองนอนไปเปรียบเทียบกับอินเดีย ซึ่งเป็นประเทศที่เธอเคยเดินทางไปเหยียบ (อึแขก) มาหลายต่อหลายเหม็นก็คงจะเป็นอย่างนั้น แต่ถ้าเธอมาอยู่ที่นี่จนผ่าน ระยะ Culture Shock ซึ่งกินเวลานานหลายเดือนแล้วยังยืนยันประโยคเดิม ฉันก็ จะยอมรับในแง่ที่ว่าเรื่องนี้เป็นทัศนคติส่วนบุคคลอันมีที่มาจากประสบการณ์ตรง เช่นเดียวกับฝรั่งหลายคนที่ใช้ชีวิตอยู่เมืองไทยนานนับ 10 ปีจนรู้สึกว่าประเทศนี้ เป็นเหมือนบ้าน ส่วนฉันเองถ้าสามารถปรับตัวปรับใจให้เข้ากับแห่งหนต�ำบลใด ที่นั่นก็กลายเป็นบ้านได้ไม่ยากเย็น
อังกฤษสนิทกัน / 213
Question from Fanclub
น้องแป้ง : โยมยังไม่เคยเข้ากลุ่มปฏิบัติธรรมเลยสักครั้ง เพียงแต่ได้อ่าน ข้อธรรมของครูบาอาจารย์จากหนังสือ แต่เพื่อนๆที่ท�ำงานจิตอาสาด้วยกัน ทุกคน เคยผ่านการฝึกอบรมหรือผ่านส�ำนักอาจารย์มาแล้วทั้งนั้นคะ มีเพื่อนคนหนึ่งรู้จัก กันมาประมาณหนึง่ ปี เป็นคล้ายๆแรงบันดาลใจให้โยมหันมาสนใจศึกษาธรรมะและ ท�ำงานจิตอาสา ตลอดจนชักชวนคนอื่นๆให้มาทางนี้ แต่อยู่มาวันหนึ่งเพื่อนคนนี้ก็ พูดหลายครั้งในท�ำนองว่า รู้สึกเหนื่อยในการต่อสู้กับนิสัยที่ไม่ดีของตัวเอง เพลียใน การต่อสูก้ บั กิเลส แต่เนือ่ งจากโยมรูข้ อ้ ธรรมน้อยกว่าเพือ่ นคนนี้ เวลาพบกันส่วนใหญ่ โยมจะเป็นฝ่ายรับฟังมากกว่า ถ้าพระอาจารย์มีข้อธรรมที่สอดคล้องกับเรื่องที่โยม เล่ามา ก็กราบขอความเมตตาช่วยแนะน�ำด้วยนะคะ โยมจะได้แนะน�ำให้เพือ่ นอ่าน เปสโลภิกขุ : เพื่อนเพลียในการต่อสู้กับกิเลสแล้วไง เขาจะเลิกคบกับน้องแป้ง เพื่อจะได้ไม่ต้องมีใครมาชวนไปปฏิบัติธรรมอย่างนั้นเหรอ (ฮา) น้องแป้ง : จากทีฟ่ งั และสังเกตดูกค็ ล้ายๆอย่างนัน้ แต่คงไม่ถงึ ขนาดเลิกคบค่ะ -__-” เหมือนกับว่าอยากเดินทางท่องเทีย่ วทัว่ โลก แทนการเดินทางท่องภายในหรือ การสังเกตความทุกข์ที่เกิดขึ้นกับตัวเอง เปสโลภิกขุ : กินข้าวค�ำเดียวมันก็ยังไม่อิ่มเป็นธรรมดา เมื่อยังไม่เห็นผลของ การปฏิบัติธรรมมันก็ท้อถอยเป็นเรื่องปรกติ พระเณรก็เป็นอย่างนี้เหมือนกัน เราก็ แนะน�ำเท่าทีพ่ อท�ำได้ตามก�ำลังของเรา ไม่ตอ้ งไปห่วงเพือ่ นมากหรอก คนไม่หวิ ข้าว เราเอาข้าวไปให้ เขาก็ไม่กิน ถึงเวลาหิว เขาก็หากินของเขาเอง ที่เราต้องท�ำก็คือ เป็นตัวอย่างของผู้ปฏิบัติธรรมที่มีความสุขให้เขาเห็น ถ้าพิจารณาได้อย่างนี้ก็เบาดี
216 / อังกฤษสนิทกัน
น้องแป้ง : พอพระอาจารย์บอกว่าไม่ต้องห่วง มันก็วกกลับไปห่วงเจ้าคะ 555 คงจะเป็นเพราะเคยเห็นเขามีความสุขกับการปฏิบัติธรรม เราก็พลอยมีความสุข ไปด้วย พอตอนเขาสับสนแต่เรายังมีความสุขอยู่ มันก็เลยแว๊บขึ้นมาว่า เราจะสุข คนเดียวไม่เผื่อแผ่เพื่อนเลยเหรอ แฮ่ๆ เปสโลภิกขุ : เล่านิทานชาดกให้ฟังละกัน ขณะที่ไฟก�ำลังไหม้ป่า เต่าตัวหนึ่ง คลานมาเห็นงูก็เกิดความสงสาร เพราะเต่าคิดว่าไฟไหม้รุนแรงขนาดนี้ งูไม่มีขา จะหนีไปได้ยังไง ช่างน่าสงสารเสียจริง แต่เมื่อไฟโหมมาถึงที่อยู่ของงู งูกลับเลื้อย หนีไปอย่างรวดเร็ว เต่าต้วมเตี้ยมหนีมันทันจึงถูกไปคลอกตาย นิทานชาดกเรื่องนี้ สนุกดีเนอะ
อังกฤษสนิทกัน / 217
A Little Chat with Fanclub
เปสโลภิกขุ : เดือนที่แล้ว คสช. ประกาศจับมือปืนมือระเบิดที่ท�ำร้าย กปปส. ที่ก�ำลังชุมนุมกันอยู่มี่จังหวัดตราด มีคนเอาบัตรประชาชนของคนร้ายมาลงใน เฟซบุ๊ค ในนั้นมีชื่อ นามสกุล ที่อยู่ วันเดือนปีเกิด และศาสนาที่ระบุว่า “พุทธ” อาตมาเห็นแล้วสะเทือนใจ ชาวพุทธจริงๆจะไปท�ำยังงั้นได้ยังไง น้องแป้ง : คงไม่ทันได้เปลี่ยนก่อนลงมือกระท�ำน่ะเจ้าคะ เปสโลภิกขุ : อาตมาก็เลยพิจารณาว่าเอางีด้ ไี หม ปฏิรปู ...เด็กแรกเกิดยังไม่ตอ้ ง ระบุศาสนา ตอนท�ำบัตรประชาชนอายุ 18 หรือ 20 ปี ค่อยให้เขาตัดสินใจเอง เราจะไม่ให้เอาชื่อชาวพุทธไปใช้มั่วๆอีกแล้ว น้องแป้ง : ตอนนี้ยังมีการท�ำบัตรประชาชนตั้งแต่อายุ 7 ขวบอยู่เจ้าคะ เปสโลภิกขุ : ก็ให้เด็กค่อยๆเรียนรู้ มีคนรุ่นใหม่เยอะแยะที่ไม่อยากระบุใน บัตรประชาชนว่านับถือศาสนาอะไร เราก็ไม่ต้องไปบังคับเขา เรารับเฉพาะคนที่ มั่นใจจริงๆว่าต้องการเป็นชาวพุทธ น้องแป้ง : ถ้าเป็นอย่างนัน้ จริง แป้งเริม่ มองเห็นกระบวนการถอนรากถอนโคน ความเคยชินบางอย่างของสังคมร�ำไรเลยเจ้าคะ เปสโลภิกขุ : ที่อังกฤษถ้าใครจะมาสมัครเป็นพลเมืองของเขาต้องมุ่งมั่นจริงๆ ปีหนึ่งๆต้องอยู่ในอังกฤษไม่ต�่ำกว่า 9 เดือน ติดต่อกันนานถึง 6 ปีและต้องไม่เคย ท�ำผิดกฏหมาย ในปีที่ 5 จึงจะมีสิทธิ์สมัครเข้าสอบประวัติศาสตร์และความรู้ 220 / อังกฤษสนิทกัน
รอบตัวเกี่ยวกับสหราชอาณาจักรที่เรียกกันว่า Life in the UK Test และต้องสอบ ภาษาอังกฤษขั้นพื้นฐานด้วย เขาไม่รับกันง่ายๆ น้องแป้ง : เพื่อนแป้งหลายคนแจ้งในเอกสารราชการชัดเจนตั้งแต่สมัยเรียน มหา'ลัยมาแล้วว่า “ไม่มีศาสนา” เปสโลภิกขุ : ดีแล้ว อย่าไปบังคับเขาเลย ถ้าใครต้องการจะระบุวา่ เป็นชาวพุทธ ในบัตรประชาชนก็ต้องมีความประพฤติดี ปฏิบัติศีลห้าอย่างสม�่ำเสมอ หรือเคยเข้า คอร์สอบรมสมาธิภาวนา คือต้องมีความรู้ที่เรียกว่า “สัมมาทิฐิ” จึงจะได้ชื่อว่าเป็น ชาวพุทธ จากนั้นอาจจะน�ำประกาศนียบัตรที่ได้รับจากศูนย์ฝึกอบรมสมาธิภาวนา ไปแจ้งกับทางหน่วยงานของราชการว่าต้องการระบุในบัตรประชาชนว่าเป็นชาวพุทธ เรื่องนี้อาจจะมีข้อเด่นข้อด้อยในแง่มุมอื่นๆอีก คงต้องปรึกษาพระผู้ใหญ่ด้วย
อังกฤษสนิทกัน / 221
Another Day in London
แวะเวียนมาเยือนลอนดอนถึงสามครัง้ นีเ่ ป็นครัง้ แรกทีฉ่ นั ได้เห็นแสงแดดสาด สว่างไปทั่วมหานครแห่งนี้ แม้จะเป็นวันกลางสัปดาห์แต่ลอนดอนก็ยังคงคราคร�่ำ ไปด้วยนักท่องเที่ยวหลากเผ่าหลายพันธุ์อยู่เสมอ ฉันนัดกับทิดลอนดอนเนอร์ซึ่ง เคยบวชที่วัดป่าในประเทศอังกฤษเป็นเวลาสองปีเศษไปเดินออกก�ำลังกาย โดย เริ่มจากสวนสาธารณะเซนต์เจมส์แล้วตรงดิ่งไปยังหอนาฬิกาบิ๊กเบน แลนด์มาร์ค ที่ฉันเคยเห็นครั้งแรกในหนังสือเรียนภาษาอังกฤษซึ่งมาพร้อมกับเทปคาสเซ็ทเมื่อ สมัยยังเด็ก ตอนนั้นจ�ำได้เลือนลางว่าฉันร�ำพึงเบาๆกับตัวเองว่า “ประเทศอะไร กันหนอ...ช่างบุร�่ำบุราณเสียจริง” เราเร่งฝีเท้าหลบหลีกฝูงชนไปเรื่อยๆ ปรากฏตู้โทรศัพท์สีแดงสดเป็นระยะๆ ซึ่งยุคนี้ไม่มีใครใช้กันแล้ว แต่หน่วยงานการท่องเที่ยวของอังกฤษน�ำมาติดตั้งไว้ให้ นักเดินทางถ่ายภาพกันอย่างคึกคัก ซึง่ ท�ำเลนีน้ บั ว่าคุม้ ค่าสุดๆเพราะกดชัตเตอร์เพียง ครั้งเดียวแต่ได้สัญลักษณ์ของอังกฤษกลับไปเป็นที่ระลึกถึงสองอย่าง เราเดินเลียบ แม่น�้ำเธมส์ไปตามถนนย่าน Victoria Embankmentอันที่จริงเป้าหมายปลายทาง ของวันนี้คือ Tower Bridge แต่ทิดลอนดอนเนอร์มีเวลาจ�ำกัด เราจึงตัดสินใจ เดินข้าม Millennium Bridge สะพานบางเบาที่เชื่อมระหว่างโลกยุคเก่าซึ่งมี มหาวิหารเซนต์พอลเป็นสัญลักษณ์ และโลกยุคใหม่ซึ่งมีหอศิลป์ Tate Modern เป็นเสมือนตัวแทน อันที่จริง Tower Bridge ก็จัดเป็นแลนด์มาร์คส�ำคัญ แต่หลัง จากทราบประวัตคิ วามเป็นมาอันน่าสยดสยอง ฉันก็ไม่รสู้ กึ เสียดายสัดนิดทีม่ ไิ ด้เฉียด เข้าไปใกล้ ในอดีตสะพานหอคอยแห่งนี้เป็นที่คุมขังนักโทษ เป็นลานประหารชีวิต ทั้งชนิดแขวนและตัดคอ นอกจากนั้นศีรษะของนักโทษบางรายยังได้รับเกียรติให้ น�ำไปเสียบประจานอีกด้วย แต่ฉันจินตนาการไปไม่ถึงจริงๆว่าต้องก่อกรรมท�ำเข็ญ อุกฉกรรจ์สักปานใดจึงจะสมควรแก่การน�ำกบาลไปปักบนหอกแหลม ให้พลเมือง 224 / อังกฤษสนิทกัน
ที่สัญจรผ่านไปมาได้ส�ำนึกส�ำเหนียกว่าพฤติกรรมของบุคคลผู้นี้ไม่สมควรแก่การ ลอกเลียนแบบอย่างยิ่งยวด และถ้าใครยังดื้อด้านท�ำตามก็จะได้รับจุดจบเป็น บรรณาการเช่นเดียวกัน ฉันคงต้องพกพาข้อสงสัยชวนสังเวชนีก้ ลับไปถามนักการเมือง ที่ไทยแลนด์ แม้จะเคยร�่ำเรียนมาทางศิลปะ แต่อธิบายไม่ถูกเหมือนกันหลายปีที่ผ่านมา เหตุใดฉันจึงไม่มอี ารมณ์ชนื่ ชมผลงานของศิลปินทัง้ รุน่ เก่ารุน่ ใหม่ นอกจากหอศิลป์ Tate Modernแล้ว British Museum และ Victoria & Albert Museum ก็เป็น พิพิธภัณฑ์อีกสองแห่งที่มีผู้แนะน�ำว่าฉันควรจะไปเปิดตาอ้าหูสักครั้ง แต่ฉันกลับไร้ ความกระตือรือล้นโดยสิน้ เชิงทัง้ ๆทีอ่ ยูใ่ นวิสยั ทีท่ ำ� ได้ อาจจะเป็นเพราะอายุมากขึน้ จึง ปลดปล่อยให้เรือ่ งนีเ้ ป็นธุระของเด็กๆ แล้วพุง่ ความสนใจไปสูส่ งิ่ ทีจ่ ำ� เป็นกับชีวติ จริงๆ เราส่งท้ายวันอันอบอ้าวด้วยน�้ำชาปั่นเย็นที่ร้านแห่งหนึ่ง จากนั้นก็เดินทาง โดยรถไฟกลับไปยังที่พักย่านวิมเบิลดัน ทิดลอนดอนเนอร์พิจารณาอาหารเย็นแล้ว ช่วยนวดขาให้ฉัน วันนี้เราใช้สองขาหนักเอาการ ขณะที่ทิดกดนิ้วลงไปบนน่องของ พระหนุ่ม ฉันสังเกตเห็นเส้นผมสีดอกเลาบนศีรษะของเขา มันท�ำให้ฉันระลึกขึ้นมา ได้ว่าปีนี้เรามีอายุ 41 กะรัตเท่ากัน
อังกฤษสนิทกัน / 225
เปสโลภิกขุ 2516 2536 2539 2553-2554 2555 2556 2557
เกิดที่อ�ำเภอวารินช�ำราบ จังหวัดอุบลราชธานี เรียนที่คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ บวชที่วัดหนองป่าพง จังหวัดอุบลราชธานี จ�ำพรรษาที่วัดป่าอภัยคีรี ประเทศสหรัฐอเมริกา พ�ำนักอยู่ตามส�ำนักสาขาของวัดหนองป่าพงในประเทศไทย จ�ำพรรษาที่วัดป่าจิตตวิเวก ประเทศอังกฤษ พ�ำนักอยู่ตามส�ำนักสาขาของวัดหนองป่าพงในประเทศไทย
ผลงานจัดพิมพ์เป็นธรรมทาน 2550 Dhamma Design Issue 1: Experimental, บทกวีในที่ว่าง 2551 Dhamma Design Issue 2: Evolution, แดนสนทนา 2552 เรื่องเป็นเรื่อง, หนึ่งร้อย, เรื่องของเรา, เสียงฝนบนภูเขา, Poems on the Road 2553 Pesalocation 2554 Fearless Diary + Spring Talk, To be Awake + Enchanted Hiking 2555 The Organic Experience, จุดชมวิว + 38 วัน ฉัน ซิดนีย์ 2556 บทกวีในที่อื่น, สาส์นจากความเงียบ 2557 KEEP CALM & CARRY ON, ทูตยามวิกาล
226 / อังกฤษสนิทกัน
ผลงานจัดพิมพ์เพื่อการจ�ำหน่าย 2553 Dhammascapes (ส�ำนักพิมพ์พาบุญมา) 2556 อะไรเป็นอะไร (ส�ำนักพิมพ์โพสต์บุ๊คส์) 2557 เมื่อเกรียนไปเรียนธรรม (ส�ำนักพิมพ์อัมรินทร์ธรรมะ) 2557 สัตว์สอนธรรม (ส�ำนักพิมพ์ฟีลกู๊ด) 2557 อเมริกาประสาหนุ่ม (ส�ำนักพิมพ์โพสต์บุ๊คส์)
อังกฤษสนิทกัน / 227
เหตุใดชาวยุโรปจำนวนหนึ่ง จึงยอมละทิ้งความกาวหนาในอาชีพการงาน ความสุขในชีวิตครอบครัว ตลอดจนความศิวิไลซ ตามอุดมคติบริโภคนิยม มาดำเนินชีวิตแบบพอเพียงดานปจจัยสี่ เพื่อจะไดทุมเทเวลาอยางเต็มที่ ใหกับการฝกสมาธิภาวนาตามอยางเอเชียวิถี ซึ่งสืบทอดและพัฒนาตอเนื่องมายาวนานกวา 2,500 ป