GASP.Magazine

Page 1


First Check!



01 Food

02 Theme

03 Idea

026 DIDTHISDISH สอนการทำ�อาหารแบบง่ายๆ มีสูตรมีรูป มาให้แล้วทำ�ตามนั้นอยากจะทำ�ก็ทำ�เลย

032 COCKTAIL (SQUASHING DIS.ORDER) ภาพถ่ายแฟชั่นในโรงพยาบาล

076 SMOKIES SEIZE Marti Guixe , Food Designer ชื่อดังกับ ผลงานของเขา

064 SPOON&FORK สอนทำ�อาหารหลัก มีวิธีขั้นตอนมากขึ้น เมนูคือ ฟักทอง!

044 MENTAL HOSPITAL AND THE PUMPKINS ที่มาของธีมและเรื่องเล่าที่จะให้อ่าน

070 WRAP OUT ห่อกลับมาให้เห็นกับร้านอาหารเมืองนอก

092 COCKTAIL (PHYCHOSIS CHIC) ภาพถ่ายอลังการ์งานสร้างโดย ธาดา วาริช กับโรงพยาบาล


04 People

05 Some Column

050 HASH UP! สัมภาษณ์เหล่าเชฟทั้ง 4 ต่างคนต่างที่มา ต่างความคิด

004 A LA’ CARTE เมนูจานเด็ดมาเสริ์ฟให้คุณ ก็คือหน้าที่ คุณเปิดอยู่นี่แหละ!

084 TONGUE’ STREET EATING FASHION ถ่ายคนหลาย ชาติที่ข้าวสาร

006 HORSDOEUV! คุยกับคนทำ�และคนทำ�ก็คุยกับคุณ 012 KETCH UP แนะนำ�ข่าวสารในวงการอาหารและศิลปะ ข่าวใหม่และข่าวอนาคต 020 CHOP-STICKS เลือกซื้อเครื่องมือแพทย์ที่ไม่เคยเห็นและ ขนมทานเล่นกันให้เพลิดเพลิน 104 FRIDGE! WHAT YOU EAT, YOU ARE อาหารขยะ 110 HOROSCOOP ทำ�นายดวงสุขภาพแต่ละราศี

more.


สมั ย ก่ อ นเราถู ก สอนว่ า อาหารเอาไว้ กินไม่ได้มีไว้เล่นแต่น่าแปลกยิ่งมนุษย์เรา พั ฒ นาเท่ า ไหร่ ค วามคิ ด ที่ ค นโบราณไม่ เห็ น ด้ ว ยมั ก จะมี เ สมอและกลายเป็ น สิ่ ง แปลกใหม่ มั ก จะได้ รั บ ความสนใจซะด้ ว ย สิ แมกกาซีนเล่มนี้ก็เช่นกัน ให้ถามว่าเป็น แมกกาซี น เกี่ ย วกั บ อะไรจะตอบว่ า เป็ น อาหารร้ อ ยเปอร์ เ ซ็ น ต์ ก็ ไ ม่ ใ ช่ ค วรจะเป็ น ศิลปะที่ใช้อาหารเป็นส่วนประกอบหลักจะ ดีกว่า แมกกาซีนนี้จึงเหมือนโลกใหม่ของ วงการที่ ไ ม่ รู้ ว่ า จะเอาแมกกาซี น ไหนเป็ น คู่แข่ง ไม่เป็นไร การท้าทายก็เป็นสิ่งที่คน โบราณไม่เห็นด้วย แต่สมัยนี้เห็นทดลอง สิ่งแปลกใหม่กันจัง (เราก็เป็นหนึ่งในนั้น นะ) เพราะงั้นก่อนที่จะพลิกไปหน้าต่อๆไป ของเรา โปรดทำ�ความเข้าใจว่านี่คือการ เริ่มต้นการทดลองของเรา อาจจะไม่คุ้น เคยแต่อยากให้ลองทำ�ความรู้จักดู เพราะ พวกเราก็ทดลองเช่นกันกับคุณ เ มื่ อ ม า ถึ ง ย่ อ ห น้ า นี้ แ ป ล ว่ า ใ จ คุ ณ ยอมรับความคิดเราซักสามสิบเปอร์เซ็นต์ แล้ว ก็อยากจะเล่าต่อว่าทำ�ไมภาพลักษณ์

ของเล่มนี้ถึงเป็นแบบนี้(แต่ต้องทำ �ใจนิด หน่ อ ยในความบ้ า ของเรา)เมื่ อ ถึ ง เดื อ น ตุลาคม เราก็จะคิดถึงช่วงปลายฝนต้น หนาวที่อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยทำ�ให้เรา คิดถึงสุขภาพ เมื่อคิดถึงสุขภาพก็คิดถึง โรงพยาบาล ในส่วนของอาหารเราคิดว่า เดือนตุลาคม = Halloween = ฟักทอง เล่ ม นี้ จึ ง เน้ น การทำ � อาหารเกี่ ย วกั บ ฟักทองเป็นหลัก(เริ่มเข้าใจยากละ) กลาย เป็ น ว่ า เราจะเอาฟั ก ทองมาเชื่ อ มกั บ โรง พยาบาลยังไง จนได้ยินเรื่องเล่าที่ว่าคน เราชอบอุปโลกน์ให้ฟักทองเป็นสิ่งมีชีวิต จนกลายเป็นว่าคนเราบ้ากันไปเอง จึงไป เชื่อมกับโรงพยาบาลบ้าได้พอดี (ธีมเล่มนี้ มันช่างซับซ้อนจริงๆ) เอาละ!เล่ า มาซะยาวพอสมควรตอนนี้ ร่างกายคุณสามารถควบคุมมือขวาได้อยู่ ถ้าพร้อมจะยอมรับและอยากเจอกับอะไร ที่ไม่ปกติ ก็ให้สมองสั่งการมือขวาให้พลิก หน้าต่อไปได้เลย !

สกาวเดือน งามศิริอุดม บรรณาธิการบริหาร



Editorial Editor-in-Chief Executive Editor Creative Director Editorial Director Design Editor Graphic Designer Photographer Stylist

สกาวเดือน งามศิริอุดม ธารรวี งามศิริอุดม เมธาวดี พันธุ์อุดม ณฑิรา ว่องไพฑูรย์ ภัสสร อัศวาภิรมย์ สกาวเดือน งามศิริอุดม เวธิต ศรีรางกูล ณฑิรา ว่องไพฑูรย์

Advertising Media Consultant manager Account Executive

เมธาวดี พันธุ์อุดม สุกันตา อู่เต่าบิน

Marketing Marketing Coordinator Circulation & Subscription Manager

มนัญญา มงคล เพ็ญพร สุทธิชัยพฤกษ์

Production Production Manager

สุจิตรา งามศิริอุดม

President Executive Vice President

สกาวเดือน งามศิริอุดม ธารรวี งามศิริอุดม

Contributors Natira Wongpaitoon, Patsorn Asawapirom, Matavadee Punudom, Sukanta Utaobin, Tarawee Ngamsiriudom and Etc.,

Special Thanks โรงพยาบาล ศิริราช,ชั้น 3 ตึกเจ้าฟ้ามหาจักรี โรงพยาบาลโรคปอดกรุงเทพ และ เหล่าอาหารทั้งหลายที่ให้เราเล่น !

เจ้าของ บริษัท เมดอินไชน่า จำ�กัด เลขที่ 253 ถนน สุขุมวิท เขต วัฒนา กรุงเทพ 10110 โทรศัพท์ +66 2 889 2443-4 โทรสาร +66 2 889 2443 เว็บไซต์ www.gaspmagazine.com , www.madeinchina.com/gaspmags อีเมล์ gasp@gaspmagazine.com Printed for Thailand





London De- Vienna sign Festi- -Design val Week 19-27 October 2009 London www.londondesignfestival.com

1-11 October 2009 Vienna www.viennadesignweek.at

ถือว่า เป็นเทศกาลที่มุ่งหาความครีเอท ทั่ ว ลอนดอนมารวมกั น ไว้ ด้ ว ยกั น และที่ สำ�คัญขนาดที่ถูกจดลงปฎิทินสังคมของ Veuva Clicquot อีกด้วยที่น่าสนใจคือโปร เจ็คท์ Size+Matter ที่เป็นผลงานร่วมทีม ระหว่างสถาปนิกและดีไซเนอร์ในการสร้าง มุมมองใหม่ให้กับเหล่าบริษัทผู้ผลิตวัสดุ

สำ�หรับ ปีที่ 3 ของการจัดงานครั้งนี้คง เพื่อสร้างสีสันให้กับปฎิทินดีไซน์ งานนี้จึง รวมไปด้วยงานโปรดักส์ , งานเฟอร์นิเจอร์ และงานออกแบบอุตสาหกรรมต่างๆ แต่ที่ อยากให้ดูคือ เมื่อคุณเข้าเวบไซต์หน้าแรก จะมีดนตรีขึ้นมา ดนตรีเก๋จริงๆอีกทั้งภาพ ประกอบก็โอเคอยู่ เรียกว่างานนี้เหมือนได้ ไปเที่ยวยุโรปด้วยเลย

The London Design Festival is the UK’s biggest annual celebration of design and reflects London’s status as the world creative hub. It is made up of the widest possible range of design disciplines, all of who prosper in the city. These new ideas and activities make each Festival dynamic, different and uniquely London. Supported by government, the design sector, and leading businesses, the Festival offers a platform for the best design talent.

The aim of VIENNA DESIGN WEEK is to show and enable people to experience the many-faceted creative work in the fields of product, furniture and industrial design, but also positions of experimental design. This wide-ranging impact is a reason both to celebrate design and to examine it critically, and VIENNA DESIGN WEEK has made both of these its mission.


Ambiente Trade. Fair

Art Forum_ Berlin

12-16 Febuary 2010 Frankfurt www.ambientemessefrankfurt.com

24-27 October 2009 Berlin www.art-forum-berlin.com

งานเทรดแฟร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกงานนี้ สำ�หรับสินค้าในครัวเรือนก็มีให้เลือกทุกชิ้น ในระดับราคาที่มีทุกระดับก็ว่าได้ งานแฟร์ Ambiente ยังยั่วเราด้วยผลงานท็อปโต๊ะ สวยๆ ของใช้และของตกแต่งในบ้าน ซึ่งนำ� มารวมไว้ที่งานนี้ก่อนพิมพ์ในแคตตาล็อก หรือวางหน้าตู้โชว์เสียอีก

เบอร์ลินปีนี้เปิดฤดูกาล ด้วยงานแฟร์ ศิลปะยุโรป เริ่มจากเลือกเส้นทางง่ายที่สุด เรียกว่าหาในกูเกิลก็เจอแผ่นที่เลย (จริงๆ แล้ ว ทุ ก งานก็ ห าได้ ห มดแหละสมั ย นี้ ) เข้าไปในเมืองพร้อมตรงไปยังไพรเวตแกลเลอรี่ที่รวบรวมตั้งแต่งานภาพเคลื่อนไหว งานพิมพ์ ภาพกราฟฟิก และภาพถ่าย

In February, Ambiente will be the hub of the consumer goods world. Around 100 different nationalities on both the exhibitor’s and visitor’s side make visiting Ambiente a journey around the world in just five days.

This year, the art Thus, for the first time, in the sector galleries, in addition to galleries for contemporary art, a series of galleries will be admitted which present art since 1960. With this expansion of the exhibition offers – without detracting from the main emphasis on contemporary art – the International Art Show will become more varied and even more attractive and interesting for the visitors.


Heim+ Handwerk Fair

HongKong Summer Spectacular

28 November -6 December 2009 Munich www.hh-online.de

19-30 October 2009 Hongkong www.discover-hongkong.com/

งานแสดงสินค้า ประเภทเครื่องครัวกับ พร้อมอุปกรณ์และของตกแต่งบ้าน เรียง รายมาพร้อมสำ�หรับเปิดบ้านช่วงเทศกาล คริสมาสต์อย่างทันเวลาพอเจาะพอดี เห็น อย่ า งนี้ ใ ครมี ง บหน่ อ ยก็ บิ น ลั ด ฟ้ า ไปหา ของเครื่องครัวมาประดับห้องครัวก็ได้เลย

Hong Kong Summer Spectacular งานนี้ ทำ � เอาบรรดาขาช้ อ ปปิ้ ง ทั้ ง หลาย ตาลุกเป็นไฟ เพราะเขาลดราคาทั่วทั้งเกาะ กิจกรรมนี้เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคม เรื่อยไปจนถึง 30 ตุลาคมนี้ โดยเทศกาล นี้เป็นการหนึ่งในกิจกรรมที่จะมีทั้งปีของ เกาะฮ่องกงภายใต้ธีมหลักคือ“ Think Hip Think Hong Kong ”

Heim+Handwerk is the biggest German consumer exhibition in the field of construction, furnishing and home decoration which has been held each year since 1978 in the pre-Christmas period. The exhibition portfolio comprises interior furnishing – including kitchens, bathrooms, furniture, antiques, home accessories and arts and crafts. decoration.

Want to get the coolest news on what’s happening this summer in Hong Kong? Then you better grab a Hip Hot Hong Kong Guide that not only provides you with the latest hot places for shopping, dining, sightseeing and accommodation, but also includes the famous popsinger, Eason Chan, famous models, image consultant and make-up artists who share their views on the latest hot trends to be found in the city. If you want to have your finger on the pulse this summer, then this guide is not to be missed! This guide is available at all


Lunchtime 55 Mins Go!

Printemps Gourmand FoodFair

Chef’s & Baker’s Fair

Everyday Thailand,Centara Hotel www.centarahotelresorts.com/

20-24 October 2009 Thailand , Dusit Thani Hotel www.dusit.com/

20 October – 1 September 2009 Thailand , Central http://www.central.co.th/

เราเพิ่งทราบเหมือนกันว่า บนชั้น 55 ของโรงแรมแกรนด์เซ็นทารา เขาเปิดคอร์ส อาหารกลางวัน สำ�หรับคนที่อยากกินอะไร อร่อยๆแบบเป็นส่วนตัว ไม่พลุกพล่านเป็น Lunch Set ที่มาพร้อมสรรพ ทั้ง Starter, Main Dish และตบด้วยของหวานทั้งหมด นี้ รั บ ป ร ะ กั น ก า ร เ ส ริ์ ฟ ที่ ร ว ด เ ร็ ว แ ล ะ เรียบร้อยแบบไม่เกิน 55 นาทีกรณีที่คุณมี นัดต่อ หรือคุณอยากนั่งไปเรื่อยๆที่ @55 ก็เปิดบริการจนถึงบ่าย 2 โมง

ผู้ที่ชอบอาหารฝรั่งเศส ไม่ควรพลาด! สุดยอดเมนูอาหารฝรั่งเศส ที่ผ่านการ ปรุงแต่งเป็นพิเศษจากเชฟชื่อดังมากมาย ใน งานเทศกาลอาหารและศิลปะฝรั่งเศส ‘แพรงตองส์ กูร์มองด์’ ระหว่างวันที่ 2024 ตุลาคมนี้ ณ ห้องอาหารฝรั่งเศส เดซองส์ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ

แผนกเครื่องครัวเซ็นทรัลทุกสาขาเปิด ครั ว เตรี ย มต้ อ นรั บ ปลายปี ด้ ว ยส่ ว นลด 15- 50 % เรียกว่าถ้าไปงานนี้ได้ของติด มื อ กลั บ บ้ า นแน่ ๆ อี ก ทั้ ง สมาชิ ก เซ็ น ทรั ล คาร์ด ลดเพิ่ม 5%, จะเลือกผ่อนดอกเบี้ย 0% เมื่อช้อป 3,000-5000 บาทขึ้นไป อีกทั้ง FoodLoft / FoodCeller ก็ยังลด 10 % อีกต่างหาก หากันไม่ได้ง่ายๆ แถม ซื้อสินค้าครบ 2,000 บาทรับของสมนาคุณอีกเพียบ

Welcome to 55 (Fifty-five), Bangkok’s newest, brightest star in the fine dining scene. Here, Centara sought to recreate the era of great restaurants, where people dressed their best, and live music was the only music. For instance, the bread basket is presented with Spanish Olive Oil, French Butter, and Australian Pink Salt. Nothing but the best ingredients are used, down to the smallest iota of detail.

Frenchcuisine is one of the world’s most refined cuisines, with a kind of cooking that has inspired and influenced chefs through the ages. During October 20 - 24, Dusit Thani Bangkok invites you to sample the very best of French cuisine with the “Printemps Gourmand’ a celebration of French Cuisine and the Arts.

Time to get cooking! The perfect kitchen helpers to complemrnt your mealtime flair 10% off at FoodLoft / FoodCellar - 50% Regular Class Cooking Course from Sangdad Cooking Studio, an affiliate of Sangdad Publishing Don’t miss our informative cooking demonstrations by leading brands every Friday, Saturday and Sunday. (Chidlom, Lardproa, Bangna andPinklao ONLY)


Sche_dules! Art International Zurich 16-18 November Zurich art-zurich.com เทศกาลศิลปะที่จัดขึ้นริมทะเลสาบ งานที่ มาโชว์เน้นสะท้อนด้านศีลธรรมแบบร่วม สมัยรวมไปถึงแนวอะวองต์การ์ด

Melbourne Food & Wine 7-23 December Melbourne melbournefood.com.au เทศกาลอาหารและไวน์จัดขึ้นที่โลกฝั่งใต้ ที่งานนี้มีกว่า 200 ร้านอาหารและงานไม่ ธรรมดาจัดนานถึง 14 วันทีเดียว

Apéritif à la française 24 November Thailand lafete-bangkok.com/ เทศกาลอาหารฝรั่ ง เศสจากสมาคม ฝรั่งเศสจัดขึ้นที่โรงแรม Four Season โดยรวบรวมผลงานอาหารกว่าร้อยชนิด

Niagarafoodfestival 2-3 November Niagara,Canada niagarafoodfestival.com/ งานนี้ไม่ธรรมดา เพราะนอกจาก จะมีงาน เทศกาลอาหารแล้ ว ที่ นี่ ยั ง เตรี ย มพร้ อ ม ทีเดียวเรียกว่า ซื้อตั๋ว 1 ครั้งได้ทั้งชม เทศกาลและที่พักพร้อมแถมยังพอท่องเที่ยวอีก

Berlin - Gourmet Festival 30 November - 2 December Berlin tasteofberlin.de/ เทศกาลอาหารที่ จั ด ขึ้ น ที่ เ บอร์ ลิ น ปี นี้ รวบรวมกว่า 300 ร้าน และมีเชิญชิมเบียร์ และไวน์จากเยอรมันเอง Basel Food World 18-25 November Basel baselworld.com คงสงสัยว่าเมืองเล็กๆอย่างบาร์เซลมีจัด เทศกาลอาหารกะเขากันด้วย จริงๆเมืองนี้ สามารถเเป็นเจ้าภาพได้เลยในเรื่องการกิน Heineken Music Hall 20 November Amsterdam heineken-music-hall.nl/ งานเพลงจัดที่เมืองคึกคักอย่างอัมเตอร์ดัมส์ งานนี้เรียกว่าทั้งกินทั้งดื่นสบายเลย

Singapore Food Festival 2009 17-26 December Singapore singaporefood.com/ งานอาหารแถบใกล้บ้านเรา ง่ายต่อการไป อย่างยิ่งด้วยอาหารท ี่เน้นอาหารพื้นเมือง ของสิงคโปร์เค้า Stockholm Furniture Fair 9-13 December Stockholm stockholmfurniture.com รวมผลงานแบบสแกนดิเนเวียนตั้งแต่โคม ไฟไปจนถึงของประดับบ้าน สิ่งที่น่าจับตา มอง น่าจะเป็น Greenhouse ส่วนจัดงาน ที่เป็นผลงานของนักเรียนดีไซน์ที่นั่น

9thAvenue Food Festival 16-17 December Newyork City ninthavenuefoodfestival.com/ เทศกาลถนนสายที่ 9 ย่านแมนฮัตตันเต็ม Ludlow Food Festival ไปด้วยการรอคอยของชาวนิวยอร์ก 2 วัน 11-13 November กับเวลาช็อปปิ้งทั้งงานแฟร์ อาหาร เรียก England ว่างานนี้เป็นที่โปรดปรานของบรรดาชาว www.foodfestival.co.uk ด้ ว ยประวั ติ ศ าสตร์ เ ทศกาลนี้ ที่ เ ริ่ ม ต้ น กรุงมาก ตั้งแต่ปี 1995 จนถึงวันนี้ ในงานมีทั้ง กิ น ทั้ ง ดื่ ม พร้ อ มและอากาศดี ๆ รอเราอยู่ พร้อมงานนิทรรศการพร้อมรอแล้ว





1

2

4 3

Vaccineand Injections


5

7

1 Syringe 8 Size ( 3 Brands ) 27 G (0.33x13 mm) Terumo Brand with Needle 4.50 Baht // 29 G Nipro Brand with Needle 4.50 Baht // 3 ml Nipro Brand 3.00 Baht // 5 ml Nipro Brand 5.0 Baht // 10 ml (10 ml=10cc) Terumo Brand 7.0 Baht // 20 ml Nipro Brand 10.0 Baht // 50 ml Terumo Brand 25.0 Baht // 60 ml (2 Oz.) BD Brand 30 Baht 2 Needle Nipro Brand 24 G Thinwall 1 Baht 3 Gauze Sterile 25 Baht (5 Pieces) 4 Disposable Syringe Nipro Brand 30 Baht 5 Ondansetron Injection 2 Size 30 Baht/20 Baht 6 Rubber Gloves 12 Baht 7 Bovine Rhinotracheitis Vaccine 250 Baht 8 Procine Reproductive Vaccine 150 Baht 9 Water For Injections 25 Baht

6

8

9

1 หลอดฉีดยา 8 ขนาด ( 3 ยี่ห้อ) 27 กรัม ตรา Terumo มีเข็มมาให้ ราคา 4.50 บาท // 29 กรัม ตรา Nipro มีเข็มมาให้ ราคา 4.50 บาท // 3 มิลลิลิตร ตรา Nipro ราคา 3 บาท // 5 มิลลิลิตร ตรา Nipro ราคา 5 บาท // 10 มิลลิลิตร ตรา Terumo ราคา 7 บาท // 20 มิลลิลิตร ตรา Nipro ราคา 10 บาท // 50 มิลลิลิตร ตรา Terumo ราคา 25 บาท // 60 มิลลิลิตร (2 ออนซ์) ตรา BD ราคา 30 บาท 2 เข็มฉีดยา ตรา Nipro 24 กรัม ราคา 1 บาท 3 ผ้าก็อซ ผ่านการฆ่าเชื้อ ราคา 25 บาท (5 ชิ้น) 4 หลอดฉีดยาใช้แล้วทิ้ง ตรา Nipro ราคา 30 บาท 5 ยาฉีดตรา Ondansetron 2 ขนาด ราคา 30 และ 20 บาท 6 ถุงมือยาง ราคา 12 บาท 7 วัคซีน Bovine Rhinotracheitis ราคา 250 บาท 8 วัคซีน Procine Reproductive ราคา 150 บาท 9 ยาฉีดน้ำ� ราคา 25 บาท


2

1

4 3 1 Nutri-Bag Sterile EtO Brand 18 Baht 2 Stomach Tube Kendall 125 cm Brand 18 Baht 3 Gag colour Green 15 Baht 4 Cotton Ball Saturated with Alcohol 10 Baht 5 Infusion Set with Needle 15 Baht 6 Eye Pad Sterile 4 Baht 7 Gauze Pad 4x4’’ Sterile (10 Pads) 12 Baht 8 Calpis Lacto Softdrink 35 Baht 9 Snickers Almond Chocolate 35 Baht 10 Meiji Salty Crunch 50 Baht 11 Dust Protect Glasses 35 Baht

1 ถุงใส่อาหาร ผ่านการฆ่าเชื​ื้อ ยี่ห้อ EtO ราคา 18 บาท 2 สายสวนกระเพาะอาหาร ตรา Kendall ราคา 18 บาท 3 ผ้าปิดปากสีเขียว ราคา 15 บาท 4 สำ�ลีก้อนชุบแอลกอฮอล์ ราคา 10 บาท 5 ชุดให้อาหารทางเส้นเลือด มีเข็มมาให้ ราคา 15 บาท 6 แผ่นรองตา ผ่านการฆ่าเชื่อ ราคา 4 บาท 7 แผ่นผ้าก็อซ ขนาด 4x4 นิ้ว ผ่านการฆ่าเชื้อ ราคา 12 บาท 8 เครื่องดื่ม คาลพิสแลคโตะ ราคา 35 บาท 9 ช็อคโกแลต อัลมอนด์ ตราสนิกเกอร์ ราคา 35 บาท 10 ช็อคโกแลต ตราเมจิ ราคา 50 บาท 11 แว่นป้องกันฝุ่น ราคา 35 บาท


6

7

8

5 11

9

10

Protection.and Rejections


1

4

5

2

6

7

3

8

9

CureandAfterCare 1 Blackmore Vitamins 62 Tablets 800 Baht Up 2 Water everywhere you can buy! 3 La Roche-Posay Eye Drops 350 Baht 4 La Roche-Posay Cleansing Foam 450 Baht 5 La Roche-Posay Cleansing Gel soap 380 Baht 6 La Roche-Posay Cleansing Fluid 450 Baht 7 La Roche-Posay Purifying Foaming 420 Baht 8 La Roche-Posay Redermic XL 1,000 Baht 9 La Roche-Posay Anti Wrinkle ActiveC 1000 B.

1 วิตามินตราแบล็คมอร์ (1ขวด=62 เม็ด)ราคา 800 บาทขึ้นไป 2 น้ำ�เปล่า หาซื้อได้ทุกที่ ! 3 La Roche-Posay ยาหยอดตา ราคา 350 บาท 4 La Roche-Posay โฟมล้างหน้า ราคา 450 บาท 5 La Roche-Posay เจลล้างหน้า ราคา 380 บาท 6 La Roche-Posay เจลล้างหน้าแบบเหลว ราคา 450 บาท 7 La Roche-Posay โฟมล้างหน้าบริสุทธิ์ ราคา 420 บาท 8 La Roche-Posay ครีมลดริ้วรอย ราคา 1,000 บาท 9 La Roche-Posay ครีมลดริ้วรอย ActiveC ราคา 1,000 บ.



ข้าวผัดฟักทอง

ฟักทองผัดไข่

ส่วนผสม ข้าวสวย 2 ถ้วยตวง แครอทหั่นลูกเต๋า ½ ถ้วยตวง ฟักทองหั่นลูกเต๋า ½ ถ้วยตวง เผือกหั่นลูกเต๋า ½ ถ้วยตวง ถั่วฝักยาวหั่น ½ ถ้วยตวง น้ำ�มันหอย 3 ช้อนโต๊ะ น้ำ�มันพืช 2 ช้อนโต๊ะ ซีอิ๊ว 3 ช้อนโต๊ะ น้ำ�ตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ ต้นหอม 1 ต้น มะเขือเทศ ½ ลูก หอมใหญ่ ½ ลูก

ส่วนผสม ฟักทอง 250 กรัม
 กระเทียมกลีบเล็ก 3-4 กลีบ
 หอมหัวใหญ่ 1 หัว
 น้ำ�มันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
 น้ำ�มันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
 น้ำ�ปลา 1/2 ช้อนโต๊ะ

 น้ำ�ซุป 3-4 ช้อนโต๊ะ
 ไข่ไก่ 1 ฟอง
 ใบโหระพา 1 กำ�มือ

วิธีทำ� -ตั้งกระทะใส่น้ำ�มันพืชพอร้อน ใส่แครอท ฟักทอง ถั่วฝักยาว เผือก ผัดให้เข้ากัน -ใส่ข้าวสวยลงผัด ปรุงรสด้วย ซีอิ๊วขาว น้ำ�ตาลทราย ผัดให้ เข้ากัน ชิมรส ใส่หัวหอมท้ายสุด -พร้อมจัดเสิร์ฟ รับประทานคู่ กับต้นหอมและมะเขือเทศ ระดับความอร่อย : ▲▲▲▲

วิธีทำ� -นำ�กระทะตั้งไฟปานกลาง เท น้ำ�มันพืชลงไป -ใส่หอมใหญ่ผัดพอให้ได้กลิ่น ใส่ฟักทองและกระเทียมลงไป ผัดรวมกันเติมน้ำ�ซุปแล้วปิด กระทะให้ฟักทองสุก -เมื่อฟักทองสุกแล้ว ตอกไข่ใส่ ลงไปใส่น้ำ�มันหอย น้ำ�ปลา และ พริกไทย ผัดให้เข้ากัน -เมื่อไข่สุก ชิมรสตามชอบแล้ว เร่งไฟแรงสุด ใส่ใบ โหระพาลง ไปคน 3-4 ครั้ง -ตักใส่จานเสิร์ฟทันทีๆได้เลย ระดับความอร่อย : ▲▲▲


ปลาราดหน้าฟักทอง ส่วนผสม เนื้อปลาช่อน ครึ่งตัว ฟักทองห่ั่นลูกเต๋า 1/2 ถ้วย แครอทหั่นลูกเต๋า 1/2 ถ้วย น้ำ�ซุป 2 ช้อนโต๊ะ
 ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา น้ำ�ตาลทราย 1/2 ช้อนชา น้ำ�มันพืช 1 ช้อนชา วิธีทำ� -ผัดปลากับน้ำ�มัน เติมน้ำ�ซุป ผัดจนสุกทั่ว ปรุงรสด้วยซีอิ๊ว- ขาว และน้ำ�ตาลทราย
 -ผัดฟักทอง และ แครอท ตัก ราดปลาที่ทอดไว้แล้ว -ใส่จานพร้อมเสริ์ฟ ทานคู่กับ ข้าวสวย ระดับความอร่อย : ▲▲▲▲


สังขยาฟักทอง ส่วนผสม ฟักทองลูกขนาดกลาง กะทิ 1 กระป๋อง ไข่ไก่ 4 ฟอง น้ำ�ตาลปิ๊ป 1 ถ้วย เกลือ ½ ช้อนชา ใบเตย 3-4 ใบ วิธีทำ� -เจาะช่องด้านบนของฟักทอง แล้วคว้านเม็ดฟักทองออก -ตอกไข่ใส่ชามแล้วตีให้เข้ากัน -ใส่กะทิลงไป คนให้เข้ากัน -ใส่น้ำ�ตาลปี๊ป เกลือป่น และใส่ ใบเตยลงไป -ใช้ใบเตยบีบไปเรื่อยๆ จนน้ำ�ตาล ละลายหมดและส่วนผสมเข้ากัน -นำ�ส่วนผสมกรองผ่านกระชอน ใส่ลงในฟักทอง แล้วนำ�ไปนึ่ง เวลา 45 นาทีหรือจนสังขยาสุก -ตัดแบ่งเป็นชิ้น ยกเสิร์ฟได้เลย ระดับความอร่อย : ▲▲▲


ขนมฟักทอง

โจ๊กฟักทอง

ส่วนผสม ฟักทองต้มสุก 1 ถ้วยตวง
 แป้งข้าวเจ้า ½ ถ้วยตวง แป้งท้าวยายม่อม 1 ช้อนโต๊ะ
 แป้งมัน 3 ช้อนโต๊ะ
 น้ำ�ตาลทราย ½ ถ้วยตวง
 มะพร้าวขูด 400 กรัม

ส่วนผสม ปลายข้าวหอมมะลิ 1 ถ้วย เนื้อหมู 300 กรัม น้ำ�ซุปกระดูกหมู 4 ถ้วย ซีอิ๋ว ½ ช้อนโต๊ะ
 ต้นหอมหั่นซอย ¼ ต้น ฟักทองหั่นลูกเต๋า ½ ถ้วย แครอทหั่นลูกเต๋า ½ ถ้วย กระเทียมสับ น้ำ�มันหอย ซอสปรุงรส

วิธีทำ� -ผสมส่วนผสมสำ�หรับโรยหน้า เข้าด้วยกัน พักไว้ -ผสมแป้งเข้าเจ้า,เท้ายายม่อม แป้งมัน น้ำ�ตาลทราย เกลือป่น จึงใส่ฟักทองนวด ให้เป็นเนื้อ เดียวกัน ใส่กะทิทีละนิดนวดจน น้ำ�ตาลทรายละลาย ใส่มะพร้าว ขูดขาว คนให้เข้า ตักส่วนผสม ใส่ถ้วยตะไลให้เต็มถ้วย โรยหน้า ด้วยส่วนผสมทิ้ง พักไว้
 -นำ�น้ำ�ใส่ภาชนะสำ�หรับนึ่ง ปิด ฝาภาชนะ นำ�เข้าเตาไมโครเวฟ ใช้เวลาประมาณ 1 นาที ระดับ ความร้อน HIGH -นำ�ส่วนผสมที่เตรียมไว้ นำ�เข้า เตาไมโครเวฟ ใช้เวลาประมาณ 6-8 นาที พร้อมเสิร์ฟ ระดับความอร่อย : ▲▲▲▲

วิธีทำ� -นำ�เนื้อหมูบดมาเติมกระเทียม น้ำ�มันหอย ซอส ปรุงรส ซีอิ๊ว -ต้มปลายข้าวกับน้ำ�เปล่าจน สุกเปื่อยข้นพักไว้ -หม้อแยกตักปลายข้าว ที่สุก เติมน้ำ�ซุปกระดูกหมูลงในหม้อ ให้พอเข้ากัน ระวังอย่าให้ใส -ตั้งไฟกลางให้เดือดจัดๆ ลดไฟ ลง จากนั้นปั้นหมูเป็นก้อนใส่ลง ให้พอสุก ใส่ฟักทอง แครอท ลง ตามชอบ ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว ชิมรสตามชอบปิดไฟ - ตักใส่ชามพร้อมรับประทาน ระดับความอร่อย : ▲▲▲▲▲


น้ำ�ฟักทองโยเกิร์ต ส่วนผสม น้ำ�ฟักทอง½ ถ้วย
 โยเกิร์ตรสธรรมชาติ ¼ ถ้วย ไอศกรีมรสวานิลลา ¼ ถ้วย
 นมสดชนิดจืด ¼ ถ้วย
 วิธีทำ� -ปั่น เนื้อฟักทองกับน้ำ�ต้มให้ เข้ากัน เทใส่หม้อ -ใส่น้ำ�ตาลและเกลือ เคี่ยวจน น้ำ�ตาลละลาย -พอเดือดอีกครั้ง ปิดไฟ ยกลง พักไว้ไฟเย็น -นำ�น้ำ�ฟักทองที่ได้มาปั่นรวมกับ ส่วนผสมที่เขียนข้างต้น -แช่เย็นอีกครั้งจนเย็น ดื่มได้ ระดับความอร่อย : ▲▲▲▲




Squashing dis.order










Location Siriraj Hospital Chaofahmahachaki Bd. 3 Fl Costume Siriraj Hospital / Vivanchana Ngamsiriudom Model Phudtangkoon Vongsapan | Suppachot Suttachot | Aukardate Pimpry | Matavadee Pun-udom Photographer Sgawduen Ngamsiriudom | Patsorn Asawapirom Stylist Natira wongpaitoon Make.up Matavadee Pun-udom



Mental Hospital A. โรงพยาบาลและฟักทอง (Mental Hospital andPumpkins) ไม่ต้องสงสัยว่าคำ�นี้มันคืออะไร เพราะ เวลาที่ เ ราเริ่ ม ทำ � นิ ต ยสารเล่ ม นี้ ตั้ ง แต่ ติดต่อถ่ายภาพยันอธิบายให้คนอื่นฟังมัน ก็มีปัญหามันตั้งแต่สรุปมันคือ นิตยสาร อะไร? คำ�ตอบที่เราอยากตอบก็คือ เราไม่ ได้อยากให้คุณเข้าใจกับตัวเรามากนัก แต่ แค่อยากให้เปิดใจยอมรับกับอะไรที่แปลก ไปบ้าง อย่างที่บอกในหน้าต้นๆแล้วว่าจริง จริ ง แล้ ว เราไม่ ใ ช่ นิ ต ยสารอาหารแบบที่ คุณรู้จัก แค่เราต้องการเอาอาหารมาเป็น ส่วนหนึ่งในการทดลองของเรานั่นเอง ดัง นั้นถ้าคุณคิดว่าเปิดนิตยสารเราแล้วจะได้ เจอหน้ า ทำ�กับข้ า วเยอะๆสอนเทคนิ ค ทำ � อาหารสำ�หรับแม่บ้าน คงต้องไปดูเล่มอื่น แล้วหล่ะ ความหวังมากที่สุดของเราก็คือ เราจะสามารถควบคุ ม ธี ม ที่ ห ลอนแบบนี้ เข้าคู่กับนิตยสารอาหารได้อย่างไรดี นับว่า ยากดีนะ กลับมาที่ธีมนิตยสารหลายสิ่งที่ เราคิดได้ในสมอง ก็พยายามเต็มที่ที่จะส่ง ไปถึงคนอ่านอย่างตั้งใจไม่ใช่สุดท้ายเราทำ� ไม่ได้แล้ว ก็จะกลับไปเป็น นิตยสารอาหาร เหมือนเดิม มันไม่ใช่ เราเดินมาถึงจุดนี้แล้ว มีแต่ต้องก้าวไปเท่านั้นไม่ใช่กลับไปเริ่มต้น ใหม่ ธีมในเดือนนี้อย่างที่ท่านเข้าใจก็คือ โรงพยาบาลและฟักทอง คนอื่นก็จะสงสัย ว่าทำ�ไมต้อง โรงพยาบาลและฟักทอง เอา ง่ายๆ ตอนนี้เดือนตุลาคม ซึ่งปลายเดือน ก็ จ ะมี เ ทศกาลฮั ล โลวี น ที่ ใ ช้ ฟั ก ทองเป็ น หลัก ใครๆก็นึกออก เราจึงเอาฟักทองนี่ แหละมาทำ�เป็นอาหารในเล่มนี้ โดยเมนูใน เล่มของเราจะเป็นฟักทองทั้งนั้น (ที่มีน้อย นิดก็เถอะ) พอเราได้เข้าไปสนใจฟักทองก็ พบว่ า ฟั ก ทองเป็ น ที่ นิ ย มกิ น ในเมื อ งไทย

ขนาดนั้ น เลยหรอ?เพราะส่ ว นตั ว ไม่ ช อบ กินเลย พอได้มาทำ�กลายเป็นว่าเราได้รู้อีก เยอะ ตั้งแต่ฟักทองที่เราเห็นสีส้มๆในหนัง นั้น เมืองไทยมันไม่มีหรอกนะ ของเรามีแต่ สีเขียวแบบดูไม่สวย แต่เรื่องรสชาตินี่เรา สวยกว่าชัวร์ ฟักทองยังสามารถทำ�ไปเป็น อาหารได้หลายรูปแบบตั้งแต่ของคาวยัน ของหวานที่คิดว่าหลายคนคงเคยผ่านตา ไม่ก็ผ่านปากไปแล้วบ้าง ต่อมาก็เป็นเรื่อง ของโรงพยาบาลที่ เ ดื อ นตุ ล าคมเหมื อ น เดิมเป็นช่วงปลายฝนต้นหนาว(ไปเที่ยวนี่ ดีเลย) อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยดูแลรักษา สุขภาพให้ดี สุขภาพเราก็จะตีความยังไงให้ มันเป็นภาพลักษณ์ให้ได้ ความนั้นคือโรงพยาบาล ถ้าให้พูดคือกว่าจะได้เล่มนี้มา ก็ เข้าออกโรงพยาบาลเป็นสิบครั้ง หลายโรง พยาบาลด้วย บางครั้งก็รู้สึกสลดใจเพราะ บรรยากาศส่ ว นใหญ่ จ ะเป็ น แบบอึ ม ครึ ม ไม่ได้สนุกสนานเหมือนนิตยสารเรา กลาย เป็นว่าเราจะตีความยังไงให้มันเข้ากับเล่ม เราดีเอาเป็นว่าเราเป็นนิตยสารที่กวนแบบ นิ่งๆที่เอาอะไรที่คนไม่เล่นมาทำ�ให้ออกมา ให้ท่านเห็น สังเกตสิว่าแฟชั่นเชทเล่มไหน บ้างถ่ายในโรงพยาบาล แทบไม่มี แล้วแฟชั่นเซทที่ไหนเอาฟักทองมาถ่ายอีก ยิ่งบ้า หลุดโลกไปกันใหญ่ แต่เราทำ� ! สุดท้าย โรง-พยาบาลก็ เ ป็ น คำ � ตอบของเราแล้ ว เราจะตีความยังไงให้มันเชื่อมกับฟักทอง ที่ ไ ม่ ใ ช่ เ อาฟั ก ทองมาตั้ ง เป็ น ตั ว ประกอบ เฉยๆแต่ ฟั ก ทองคื อ ตั ว ละครหนึ่ ง ของ เล่มเราเมื่อเราให้ความสำ�คัญกับฟักทอง มนุ ษ ย์ เ ราชอบตี ค วามให้ ห ลายสิ่ ง มี ชีิ วิ ต ตั้งแต่ ต้นไม้ อาหาร หลายอย่างที่จริงๆ

มันไม่มีชีิวิตก็ใส่อารมณ์ให้มันซะ ฟักทอง ในความคิดเราคงเป็นคนธรรมดาที่อยู่ดีดี ก็ถูกมนุษย์มาทำ�อะไรก็ไม่รู้ แต่ก็ยังคงนิ่ง ต่อไป กลายเป็นว่าด้วยบุคลิกของฟักทอง ที่เป็นแบบนี้ จนมีเรื่องเล่าที่หลายคนอาจ จะไม่เคยได้ยิน หรือเคยแต่อาจจะแทนด้วย ของสิ่งอื่นแทน อย่างเช่น เวลาเราต้องไป แสดงบนเวทีรู้สึกว่าอายมั๊ย พวกผู้ใหญ่ก็ จะสอนเราว่า คิดว่าคนดูเป็น_____ สิ มัน ไม่มีชีิวิต ตรงขีดเส้นใต้นั้นให้คิดกันเองว่า มันคืออะไร แต่ในความคิดของเล่มเรามัน คือฟักทอง ! กลายเป็นว่าสรุปฟักทองมัน จะมีหรือไม่มีชีวิตกันแน่เนี่ย? แต่ถึงอย่างไรก็ตาม มนุษย์เรานั่นแหละเป็นคนสร้าง เรื่ อ งเองเพราะฟั ก ทองไม่ ไ ด้ ม าตอบ คำ�ถามให้เราฟังซักหน่อยว่าสรุปผมเป็น ยังไง กลายเป็นว่า เออ! ถ้าเราเปลี่ยนโรงพยาบาลเฉยๆเป็นโรงพยาบาลโรคจิตนิด หน่อยที่บุคลิกตัวละครในโรงพยาบาลเป็น คนที่เห็นฟักทองมีชีวิตแทนมันคงจะเจ๋ง ดี (คิดเหมือนกันรึเปล่า?) ดังนั้น เรื่องต่อ ไปนี้ที่จะกล่าวถึงจะเป็นข้อมูลต่างๆที่เรา คิดว่ายัดเยียดมาให้คุณอ่านละกัน เพราะ เมื่ออ่านจบสมองคุณจะได้มีแต่เรื่องการ แพทย์ โรงพยาบาล และ ฟักทอง ข้อมูล ที่ผ่านไปคงไม่มีประโยชน์ถ้าคุณไม่อ่านแต่ ไม่เป็นไร เมื่อมาถึงตอนนี้แล้วหนังสือเรา ไม่ใช่นิตยสารอาหารแต่เป็นนิตยสารเพื่อ การบริโภค นั่นคืออะไรก็ตามที่มนุษย์เอา ใส่ร่างกายและสุดท้ายก็ขับถ่ายออกมา แต่ อาหารเป็นแค่ซับเซทของสิ่งบริโภคเท่านั้น ดังนั้น ขอให้สนุกกับการอ่านนิตยสารที่ ออกจะแปลกๆเล่มนี้ละกัน.


ND. the Pumpkins Story : Thai encyclopedia Volume Eight

ฟักทอง (Pumpkins) ฟักทอง ตามความหมายในพจนานุกรม บั ณ ฑิ ต ยสถานแล้ ว ให้ คำ � จำ � กั ด ความว่ า ฟักทอง (Pumpkins) เป็นพืชชนิดหนึ่ง มักจัดเป็นพวกผัก ฟักทอง เป็นพืชผักที่ จัดอยู่ในกลุ่มพืชตระกูลแตง (Cucurbitaceae) ซึ่งได้แก่ ฟักทอง แตงกวา แตงร้าน ฟักแฟง มะระ บวบ แตงโม แคนตาลูป ฯลฯ เป็นพืชผักที่มีราคาถูก มีวิตามินเอ สูงช่วยบำ�รุงผิวพรรณและถนอมสายตา นำ�มาทำ�อาหารได้หลายชนิด เช่น ยอด อ่ อ นนำ � มาลวกจิ้ ม น้ำ � พริ ก หรื อ ใส่ แ กง เลียง แกงส้มเปรอะ แกงส้ม เป็นต้น เนื้อ ใช้ทำ�อาหารได้ทั้งคาว-หวานทั้งผัด-แกงขนม และใช้เป็นอาหารเสริมในเด็กเล็กรวม ทั้งดัดแปลงมาใช้โรยหน้าหรือปนในขนม ต่างๆ ทำ�ให้มีสีสันสวยงาม และมีคุณค่า ทางอาหารมากยิ่งขึ้นเนื่องจากนิยมนำ�มา เป็นส่วนประกอบในอาหาร แต่ก็ยังนำ�ไป ทำ�ของหวานเป็นอาหารว่างได้ด้วย ปกติ ฟักทองเมื่อแก่จัดจะมีสีเหลืองอมส้มเป็น พืชมีเถาปลูกได้ทั่วไปทั้งในเขตร้อนและเขต หนาว ในทางพฤกษศาสตร์ จัดอยู่ในสกุล Cucurbitaวงศ์ Cucurbitaceae ถือว่าเป็น พืชดั้งเดิมของโลกตะวันตก ลักษณะทาง พฤกษศาสตร์ของฟักทองเป็นไม้เถาเลื้อย ไปตามดินมีมือสำ�หรับยึดเกาะ ลำ�ต้นอวบ น้ำ� ใบเดี่ยวรูปห้าเหลี่ยม มีขนทั้งสองด้าน ดอกสีเหลืองรูปกระดิ่งผลฟักทองมีด้วย กั น หลายลั ก ษณะบางครั้ ง เป็ น ผลเกื อ บ กลมก็มี แต่โดยทั่วไปเป็นรูปทรงกลมแป้น ผิวขรุขระเล็กน้อย เมื่อยังดิบเนื้อค่อนข้าง แข็ง นอกจากเนื้อของผลฟักทองจะใช้เป็น อาหารแล้ว เมล็ดฟักทองก็ใช้เป็นอาหาร

ว่างได้ด้วย ในประเทศตะวันตก นิยมนำ� ฟั ก ทองมาเจาะเป็ น ช่ อ งมี จ มู ก ตาแล้ ว ใส่ เ ที ย นหรื อ ดวงไฟข้ า งในเพื่ อ เอาฉลอง ในวันฮาโลวีน เรียกว่า แจคโอแลนเทิน’ (Jack-o’-lantern pumpkin) แหล่งปลูกฟักทองส่วนใหญ่ในไทยจะเป็น จังหวัด ศรีษะเกษ สกลนคร ขอนแก่น กาญจนบุรี ชุมพร ฉะเชิงเทรา ส่​่วนใหญ่ ซึ่งจะทยอยกันให้ผลิตออกมาสู่ท้องตลาด ทำ�ให้มีฟักทองขายตลอดทั้งปี ฟักทองสด 100 กรัมจะมีคุณค่าทางอาหาร โปรตีน 1.63 KgCal ไขมัน 0.2 KgCal กากใย 0.88 KgCal คาร์โบไฮเดรต 10.1 KgCal วิตามิน-เอ พลังงาน 48.7 KgCal ซึ่งจะ เห็นว่าฟักทองเป็นพืชผักที่มีกากใยมาก พอสมควร ช่วยให้ระบบย่อยอาหารดีขึ้น และไม่ทำ�ให้อ้วน เพราะมีแคลอรีไม่สูงมาก ผู้ ต้ อ งการมี รู ป ร่ า งสวยงามควรบริ โ ภค เป็นประจำ�และฟักทองยังมีวิตามินสูง ซึ่ง ช่ ว ยบำ � รุ ง ผิ ว พรรณและสายตาอี ก ด้ ว ย ฟั ก ทองมี ก ากใยสู ง อุ ด มด้ ว ยวิ ต ามิ น เอ และสารต่อต้านการผสมกับออกซิเจนกับ เกลือแร่ และมี “กรดโปรไพโอนิ​ิค” กรดนี้ ทำ�ให้ทำ�ให้เซลล์มะเร็งให้อ่อนแอลงในเนื้อ ฟักทองมีแคโรทีนและแป้ง ใช้แต่งสีขนม เช่น ขนมฟักทอง ลูกชุบ โดยนำ�เนื้อนึ่งสุก มายีกับแป้งหรือถั่วกวน

ตะเกียงฟักทอง หรือ แจ็ก-โอ’-แลนเทิร์น (Jack-o’-lantern) ชื่อเดิมคือ ดร.แจ๊กเกิ้ล & มิสเตอร์แลนเทิร์น เป็นอุปกรณ์ประดับ ตกแต่งสถานที่ซึ่งเป็นที่นิยมใช้ในเทศกาล ฮาโลวี น มี ลั ก ษณะเป็ น ผลฟั ก ทองสี ส้ ม (ไม่นิยมใช้ฟักทองเอเชีย)แกะสลักเป็นรูป หน้าคนในกริยาต่างๆโดยมากจะเป็นกริยา แสดง อาการข่มขวัญหรือโอดครวญ ทั้งนี้ การใช้ ต ะเกี ย งฟั ก ทองเป็ น การระลึ ก ถึ ง แจ็ค ชายชาวนา ในตำ�นานที่หาญกล้า ต่อ กรกับซาตาน ในวัน “ฮัลโลวีน” ซึ่งเป็นวัน ปล่อยผีของฝรั่ง เรามักจะเห็นสัญลักษณ์ ที่เป็นฟักทองมาเจาะหน้าตาให้ดูน่ากลัว เหมือนผี ส่วนเหตุที่ฟักทองกลายมาเป็น สั ญ ลั ก ษณ์ ข องวั น ฮั ล โลวี น ก็ มี ที่ ม าจาก เรื่องเล่านิทานปรัมปราของชาวไอริชที่ว่า ซาตานกำ�ลังจะไปรับวิญญาณของคนเจ้า เล่ห์ที่ชื่อว่าเเจ็ค แจ็คจึงชวนให้ซาตานดื่ม เหล้าด้วยกันและหลอกล่อให้ซาตานแปลง ร่ า งเป็ น เหรี ย ญเพื่ อ นำ � ไปจ่ า ยค่ า เหล้ า และแจ็คก็นำ�เหรียญนั้นไปใส่รวมไว้กับไม้ กางเขน ทำ�ให้ซาตานแปลงกลับมาเป็นร่าง เดิมไม่ได้ ซาตานจึงต้องสัญญากับเเจ๊คว่า จะไม่ ม ายุ่ ง กั บ เขาอี ก เป็ น เวลาหนึ่ ง ปี แ ละ ถ้ า เขาตายเมื่ อ ไหร่ ซ าตานก็ ไ ม่ มี สิ ท ธิ เ อา วิญญาณของเขาไป จากนั้นหนึ่งปีผ่านไป ซาตานก็กลับมาอีก คราวนี้เเจ็คหลอกล่อ ให้ซาตานปีนไปเก็บแอปเปิ้ลบนต้นไม้และ แอบสลั ก รู ป กางเขนไว้ บ นต้ น แอปเปิ้ ล ซาตานจึ ง ลงมาไม่ ไ ด้ เ ลยถู ก บั ง คั บ ให้ สัญญาอีกตามเคยว่าจะไม่มายุ่งกับแจ๊ค ไปอีกสิบปี สิบปีผ่านไป นายแจ็คตายลง แต่สวรรค์ก็ไม่ต้อนรับเพราะเป็นคนเจ้าเล่ห์


นรกก็ ไ ปไม่ ไ ด้ เ พราะดั น บั ง คั บ ให้ ซ าตาน สั ญ ญาไว้ จึ ง ต้ อ งกลายเป็ น วิ ญ ญาณ เร่ร่อนมีเพียงก้อนถ่านที่ซาตานให้ไว้คอย ส่องแสงนำ�ทางและเพื่อรักษาถ่านให้ส่อง สว่ า งนานที่ สุ ด วิ ญ ญาณของนายแจ็ ค จึ ง คว้ า นหั ว ผั ก กาดแล้ ว ใส่ ก้ อ นถ่ า นลง ไป คนไอริชจึงเรียกผีแจ็กกับตะเกียง ว่า Jack of Lantern (และเพี้ยนมาเป็น Jack O’Lantern) ต่อมาเมื่อถึงวันฮัลโลวีนชาว เมืองจึงทำ�ตะเกียงแจ็กด้วยการแกะสลัก หัวผักกาดให้เป็นหน้าตาน่ากลัว นำ�ไฟใส่ ไว้ ด้ า นในเพื่ อ ขั บ ไล่ ผี แ จ็ ก และวิ ญ ญาณ ต่างๆ อันเป็นอีกสัญลักษณ์ของวันฮาโลวีน เพื่อระลึกถึง ‘’การหยุดยั้งความชั่ว’’ Trick or Treat เพื่อส่งผลบุญให้กับญาติ ผู้ ล่ ว งลั บ และพิ ธี ท างศาสนาเพื่ อ ทำ � บุ ญ วันปีใหม่ แต่เมื่อมีการฉลองฮาโลวีนใน สหรัฐอเมริกา ชาวอเมริกาพบว่า ฟักทอง หาง่ า ยกว่ า หั ว ผั ก กาดมากจึ ง เปลี่ ย นมา ใช้ฟักทองแทน หัวผักกาดจึงกลายเป็น ฟักทองด้วยเหตุผลฉะนี้ ส่วนพวกเซลติก (คนพื้นเมืองในอังกฤษ) เชื่อว่า Jack-o’lantern เป็นวิญญาณของฟักทอง ซึ่ง พวกเซลติกจะแกะสลักฟักทองให้ออกมา เป็นหน้าตาใจดีเพื่อแสดงให้รู้ว่าแจ๊กเป็น วิญญาณน่ารัก ไม่ได้ดุแบบผีทั่วไป โดย ธรรมเนียมแล้ววันฮาโลวีนเป็นวันถือศีล และไม่ดื่มสุราหรืออาหารฟุ่มเฟือยอาจจะ มีโซลเค้ก (Soul Cake) ซึ่งเป็นขนมตาม ธรรมเนี ย มดั้ ง เดิ ม ของงานวั น ฮาโลวี น หรือ อาหาร ที่ไม่ใช่เนื้อ และเมื่อได้รับโซล เค้ ก ให้ ส วดภาวนาแด่ ผู้ ล่ ว งลั บ เป็ น การ ตอบแทน (อย่างไรก็ดี นี่เป็นละครในงาน วัน “ฮาโลวีน” ไม่ใช่พิธีกรรม ดังนั้นการ จัดงานเลี้ยงในบ้านเราคงจะต้องมีขนมน้ำ� และอาหารเป็นธรรมดา)จะเห็นได้ว่ามนุษย์ นั้นทำ�ให้ฟักทองมีอารมณ์บุคลิกมาตั้งแต่ สมั ย ก่ อ นเพื่ อ การเฉลิ ม ฉลองอย่ า งแกะ สลั ก หน้ า ตาและใส่ ไ ฟที่ ทำ � ให้ ฟั ก ทองดู มี ชีวิตมากที่สุดทั้งนี้เพื่อความสนุกของตัว เองแหละวัฒนธรรมที่เป็นมา

โรงพยาบาล (Hospital) โรงพยาบาล (สถานพยาบาล หรือ ศูนย์ การแพทย์) เป็นสถานที่สำ�หรับการบริการ ทางด้านสุขภาพ โดยมักที่จะมุ่งเน้นทาง ด้านการส่งเสริม ป้องกัน รักษา และ ฟื้นฟูภาวะความเจ็บป่วยหรือโรคต่างๆทั้ง ทางร่างกายและทางจิตใจในประเทศไทย มี ก ารให้ บ ริ ก ารทั้ ง โรงพยาบาลรั ฐ บาล โรงพยาบาลเอกชนรวมทั้ ง คลิ นิ ก ที่ เ ปิ ด บริการโดยทั่วไป โรงพยาบาลส่วนใหญ่ใน ประเทศไทยเป็นโรงพยาบาลรัฐบาลสังกัด กระทรวงสาธารณสุข โดยมักเป็นหน่วย ประจำ�จังหวัดหรืออำ�เภอต่างๆ มีหลายระ ดับตามขีดความสามารถ นอกจากนี้ยังมี โรงพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุขที่ เป็นสถานพยาบาลเฉพาะทางอื่นๆ อีกเช่น สถาบันมะเร็งแห่งชาติ สถาบันโรคทรวงอก สถาบันประสาทวิทยา สถาบันผิวหนัง สถาบั น สุ ข ภาพเด็ ก แห่ ง ชาติ ม หาราชิ นี สถาบั น จิ ต เวชศาสตร์ ส มเด็ จ เจ้ า พระยา เป็นต้น นอกเหนือจากโรงพยาบาลรัฐบาล สังกัดกระทรวงสาธารณสุขแล้ว ในไทยยัง มีโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลสังกัด หน่วยงานอื่นๆเช่น สภากาชาดไทย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกระทรวงกลาโหม กระทรวงศึกษาธิการอีกด้วย โดยหน่วย งานของรั ฐ บาลทั้ ง หมดจะให้ บ ริ ก าร ประชาชนตามสิทธิการรักษาในโครงการ หลั ก ประกั น สุ ข ภาพถ้ ว นหน้ า โดยไม่ คิ ด ค่าใช้จ่าย ส่วนใหญ่แล้วคนที่เข้ามาในโรง พยาบาลจะเป็ น คนที่ ต้ อ งการความช่ ว ย เหลื อ หรื อ รั ก ษาโรคที่ เ กิ ด ขึ้ น ตามความ สำ�คัญพื้นฐานแล้วโรงพยาบาลเหมือนกับ เป็นที่ที่ช่วยให้คนตายช้าลง หรืออาการดี ขึ้น ทุกวันนี้นอกจากการรักษาแล้วยังเป็น การเพิ่ ม เติ ม ความต้ อ งการต่ า งๆของ มนุษย์ที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรค การทำ�ฟัน การทำ�ศัลยกรรมความงาม การผ่าตัดให้ บริจาคหรือแม้แต่การเป็นพิพิธภัณฑ์หรือ สถานที่ที่ให้ความรู้ทางด้านการแพทย์แก่ เราได้ดี ซึ่งการศึกษาด้านการแพทย์นั้น ถือเป็นวิทยาศาสตร์ด้านชีววิทยาที่เกี่ยว กับสิ่งมีชีวิตในที่นี้หมายถึง มนุษย์ ที่ระบบ ร่างกายเรามีการเปลี่ยนแปลงหรือเกิดโรค ขึ้น ก่อให้เกิดการตายจึงต้องทำ�การรักษา การแพทย์ ใ นสมั ย ก่ อ นประวั ติ ศ าสตร์ และใกล้ ป ระวั ติ ศ าสตร์ ข องประเทศไทย
 ประเทศไทยมีการแพทย์สองอย่างคือ

1.การแพทย์พื้นบ้าน ชาวบ้านได้ใช้กันมา เป็นเวลานานขณะนี้ประชาชนจำ�นวนมาก ก็ ยั ง ใช้ กั น อยู่ ปั จ จุ บั น เรี ย กว่ า การแพทย์ แผนโบราณไม่ได้ใช้ว่า“การแพทย์เดิมหรือ การแพทย์พื้นบ้านของไทย”
 2.แพทย์แผนปัจจุบัน นำ�เข้ามาโดยชาว ตะวันตก เรียกกันในขณะนี้ว่า “การแพทย์ แผนปัจจุบัน”การแพทย์แผนโบราณอาจ เกิ ด ขึ้ น มาเป็ น เวลานานขณะที่ ม นุ ษ ย์ ที่ อาศั ย อยู่ ใ นดิ น แดนที่ เ ป็ น ประเทศไทย ปัจจุบันรู้จักอยู่กันเป็นหมู่เหล่า รู้จักเพาะปลูกและเลี้ยงสัตว์ จากผลของการขุดค้น พบว่ามนุษย์ที่อาศัยอยู่ในดินแดนแถบนี้ และรวมกันเป็นหมู่เหล่านั้น จะปรากฏเมื่อ ประมาณ๔,๐๐๐ ปีมาแล้ว ร่องรอยที่เชื่อ ว่ า อาจมี บุ ค คลที่ ทำ � หน้ า ที่ ค ล้ า ยกั บ เป็ น หมอหรือแพทย์ ก็คือ การพบสัญลักษณ์ ที่ อ าจสั น นิ ษ ฐานได้ ว่ าเกี่ ย วเนื่ อ งกั บ การ เจ็บป่วยคือในโครงที่ B.10 หลุม BKI ที่ขุด โดยคณะสำ�รวจเรื่องก่อนประวัติศาสตร์ ที่ หมู่บ้านเก่า ตำ�บลจระเข้เผือก อำ�เภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ขณะนี้ยังไม่มีร่องรอย ของหลักฐานอื่นๆ ในระยะเวลานี้ไทยมีการ ติดต่อกับประเทศใกล้เคียง ประเทศที่ติดต่อกันมากควรจะเป็น อินเดีย เพราะนอก จากการแพร่ ข องพุ ท ธศาสนาเข้ า มาสู่ ประเทศไทยแล้ว ประเทศไทยอาจรับลัทธิ ฮินดูพร้อมกับศิลปะวิทยาอื่นๆเข้ามาด้วย ซึ่งอาจจะมี วิชาการแพทย์ อยู่ด้วย จึงน่า จะได้ พิ จ ารณาการแพทย์ ข องประเทศ อินเดียในสมัยนั้น ซึ่งอาจจะเผยแพร่เข้าสู่ ประเทศไทยเพราะในประเทศไทยได้ รู้ จั ก บุ ค คลสำ � คั ญ ในทางแพทย์ ข องประเทศ อินเดียคือ ท่านชีวกโกมารภัจจ์ดี และชาว อินเดียส่วนมาก นอกนั้นก็มีบันทึกเกี่ยว กับปรัชญา และวิชาการทางวิทยาศาสตร์ ต่อมาจึงเข้าสู่ยุคที่ทางตะวันตกเข้ามาใน ไทยและมีการเผยแพร่การแพทย์จากมิชชันนารีจนการแพทย์ไทยพัฒนามาถึงขั้น นี้ถือว่าทางด้านการแพทย์ในประเทศไทย นั้นมีการพัฒนามาเรื่อยๆ และก็พัฒนา ต่อไปอย่างไม่หยุด ถึงตอนนี้เทคโนโลยีเรา อาจจะยังสู้ต่างประเทศหรือบุคลากรไม่ได้ แต่เราก็ถือว่าได้รับการพัฒนามามากกว่า เดิมเยอะ.






(

Belgium/FrenchChef อาหารฝรั่งเศสเป็นอาหารที่สวยแต่เรียบง่าย ดูดี ดูเก๋ และเป็น อาหารที่ดีต่อสุขภาพ

เชฟชาร์ลส คริสเตียนส์ เป็นเชฟหนุ่มชาวเบลเยียมเขาได้สั่งสม ประสบการณ์ ก ารทำ � อาหารมามากมายหลายประเทศอย่ า ง ประเทศ เบลเยียม, ฝรั่งเศส, ไอร์แลนด์, อังกฤษ และ ประเทศไทย เชฟชาร์ลสจบหลักสูตรการทำ�อาหารการบริหารและการบัญชี จากโรงเรียนจัดการการโรงแรมที่เบลเยียม เขาทำ�งานเป็นพ่อครัว ที่ประเทศเบลเยียมก่อนที่จะเดินทางไปทั่วโลก เพื่อความต้องการ ที่จะปรุงอาหารสไตล์ฝรั่งเศสและอาหารสไตล์เมดิเตอร์เรเนียนที่ เขาถนัดมากที่สุดนั่นเอง เชฟชาร์ลสสนใจการทำ�อาหารผ่านครอบครัวแต่เด็ก ทำ�ให้เขา ตัดสินใจที่จะเรียนรู้ด้านอาหารทั่วโลกและเรียนรู้เกี่ยวกับการทำ� อาหารในประเทศตนเองก่อน “ ผมเดินทางไปสมัครที่มหาวิทยาลัยครั้งแรกนั้นเขาไม่รับผมเพราะไม่มีประสบการณ์มาก่อน ทำ�ให้ ผมต้องไปสมัครในร้านอาหารก็ทำ�งานตำ�แหน่งล้างจาน ก็แอบดู การทำ�งานของเชฟที่นั่นเป็นเวลา 6 เดือน ผมก็ไปสมัครที่นั่นอีก ที การเรียนทำ�อาหาร ที่นั่นมี 3 ระดับ ผมเรียนถึงระดับที่ 2 ก็ได้ รางวัล Culinary Excellent Award จากอาหารรายการอาหารอัน หนึ่ง ในตอนนั้นผมก็รู้สึกงงมาก เพราะก่อนหน้านั้นมหาวิทยาลัย ยังไม่รับผมอยู่เลย แต่ตอนนี้ผมกลายเป็นนักเรียนที่อยู่ในระดับ ต้นๆของมหาวิทยาลัยไปซะแล้ว ” ชีวิตในต่างประเทศของชาร์ลส เริ่มต้นที่ เป็นพ่อครัวที่ร้านอาหาร En Provence ประเทศอังกฤษ ต่อจากนั้นเขาก็ได้เดินทางไป ยังประเทศฝรั่งเศส เพื่อไปทำ�งานในร้านอาหารของฝรั่งเศสซึ่ง คือโรงแรม La Villa ในตำ�แหน่งผู้ช่วยหัวหน้าพ่อครัว เมื่อ 6 ปีที่แล้ว เชฟชาร์ลสได้ตัดสินใจเดินทางมาทำ�งานในไทย เริ่มจากร้านอาหาร Le Bistingo ใน ตำ�แหน่งหัวหน้าพ่อครัว และ ต่อมาเขาได้ย้ายไปทำ�งานในHarvey“Inspires California Cusine” ก่อนที่จะย้ายมาทำ�งานในตำ�แหน่ง หัวหน้าพ่อครัว ในห้องอาหาร ฝรั่งเศส มา เมซอง (Ma Maison) ที่โรงแรมปาร์คนายเลิศ แรฟเฟิลส์ อินเตอร์เนชั่นแนล ในปัจจุบัน “อาหารฝรั่งเศสเป็นอาหารที่สวยแต่เรียบง่าย ดูดี ดูเก๋ และเป็น อาหารที่ดีต่อสุขภาพ เพราะเน้นการปรุงด้วยน้ำ�มันมะกอก ซึ่งใน อาหารฝรั่งเศสที่ดีนั้นในหนึ่งจานต้องเป็นอาหารที่ไม่ควรมีหลาย

)


รสชาติและที่สำ�คัญอาหารฝรั่งเศสที่ดีต้องสดและ ปรุงในวัตถุดิบ และส่วนผสมที่เข้มข้น ” เชฟชาร์ลส กล่าวอย่างอารมณ์ดี ถึงอาหารฝรั่งเศสที่เขาถนัดในการปรุงและได้โชว์ฝีมือมาทั่วโลกแล้ว เมื่อได้ยินอย่างนี้แล้วก็ทำ�ให้เราอยากรู้แล้วว่า อะไรที่ทำ�ให้เมนู ของเชฟชาร์ลสพิเศษกว่าเชฟคนอื่นๆ “ที่จริงแล้วอาหารทุกอย่าง ล้วนทำ�ไม่ยากมาก อยู่ที่ว่า คุณมีเวลาให้กับมันมากแค่ไหน และมี อะไรที่อยากทำ�ในหัว ถ้าใครเคยมากินอาหารที่ร้านจะรู้ว่าเมนูของ เราทั้งหมดจะออกแนวเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งอาหารอาหารแนวนี้จะ มีการผสมผสานระหว่างวัตถุดิบหลากหลายชนิดและตกแต่งให้ ดูสวยงามน่ารับประทาน และ ทางห้องอาหารยัง ปรับเปลี่ยนเมนู เรื่อยๆ ทั้งเมนูประจำ�สัปดาห์และเมนูประจำ�เดือน ตกปีละ 52 ครั้ง สำ�หรับเมนูประจำ�สัปดาห์และ 12 ครั้ง สำ�หรับเมนูประจำ�เดือน

ผมกล้าบอกได้เลยว่ามีเชฟไม่กี่คนที่กล้าเปลี่ยนเมนูได้มากขนาด นี้ เพื่อให้ได้ความหลากหลาย จึงเป็นงานที่ค่อนข้างท้าทาย และ ผมต้องคิดเมนูใหม่ตลอด ซึ่งบางทีผมหาไอเดียจากการไปกินที่ ร้านต่างๆในประเทศไทยและต่างประเทศ แล้วจึงกลับมาปรึกษา กับลูกมือและผมยังหาเทคนิคทำ�อาหารในอินเตอร์เน็ตอยู่ตลอด เวลา เช่น เทคนิคการสอดไส้ด้วยการใช้เนื้อสองชิ้นให้ติดกันหรือ เทคนิคการแพ็กด้วยห่อสูญญากาศแล้วนำ�ไปต้มด้วยไฟอ่อนๆ ซึ่งทำ�ให้อาหารที่ออกมาจะนุ่ม ที่สำ�คัญ รสชาติของอาหารก็จะไม่ เปลี่ยนเพราะไม่ได้ผ่านอากาศและช่วงปลายปีผมวางแผนที่จะ กลับเบลเยียมเพื่อหาไอเดียในการสร้างสรรค์เมนูใหม่ๆอีก ” เมื่อ เชฟชาร์ลสคุยกับเราเสร็จเค้าและลูกมือก็ไปที่ห้องครัวเพื่อโชว์ การเตรียมอาหารให้ดูกัน


(

ผมกล้าบอกได้เลยว่ามีเชฟไม่กี่คนที่กล้า เปลี่ยนเมนูได้มากขนาดนี้ เพื่อให้ได้ความ หลากหลาย จึงเป็นงานที่ค่อนข้างท้าทาย และผมต้องคิดเมนูใหม่ตลอด

)





จากละครการทำ�อาหารของพ่อครัวญี่ปุ่นในตอนเด็กได้สร้าง แรงบั น ดาลใจอี ก ทั้ ง ให้ เ ด็ ก ชายชาวญี่ ปุ่ น ที่ นั่ ง ดู อ ยู่ ภ ายในร้ า น อาหารของพ่อได้ก้าวสู่เส้นทางอาชีพเชฟ ด้วยความรัก หลงใหล ในการทำ�อาหาร ประกอบกับพรสวรรค์ที่มี ทำ�ให้เด็กชายเติบโต กลายเป็นเชฟอาหารญี่ปุ่นชื่อดัง “อากิฮิโร อิซูมิ” หรือ เชฟอิซูมิ หัวหน้าพ่อครัวญี่ปุ่นแห่งห้องอาหารสึและนามิโรงแรมเจดับบลิว บลิว แมริออท โรงแรมชื่อดังที่ขึ้นชื่อในเรื่องอาหารญี่ปุ่น และคน ดังในแวดวงไฮโตต่างแวะเวียนมาเป็นแขกประจำ�ด้วยฝีมือการแล่ ปลาอย่างมีศิลปะและความอร่อยด้วยมีดทำ�ปลาที่ค่าเท่าเทียม ดาบซามูไร ประเทศญี่ปุ่นถือว่าการกินเป็นศิลปะของชีวิต ซาซิ มิ จึงเป็นอาหารศิลปะประชาติ และนี่คือเชฟที่แล่ปลาดิบได้ดีที่สุด เวลาเราทานอาหารญี่ปุ่นเราดูออกหรือเปล่าว่าพ่อครัวคนไหน ยอดเยี่ยมไร้เทียมทาน เชฟอิซูมิจะมาเผยเคล็ดลับ บอกเราให้ฟัง คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่วัดอาหารอร่อยไม่อร่อยที่การแล่ปลาเพราะที่ ส่วนใหญ่ของญี่ปุ่นติดทะเลและมีแต่ปลาเป็นอาหารหลัก ทำ�ให้เรา คิดค้นศิลปะการทำ�อาหารจากปลาได้ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก ซึ่งสิ่ง ที่ยากของการทำ�อาหารคือ ปลาแต่ละชนิดจะมีลักษณะเฉพาะตัว แตกต่างกันไป การรับประทานปลาแต่ละชิ้นจึงกลายเป็นศิลปะที่

(

ฝีมือดียังไงแต่วัตถุดิบแย่มาก อาหารก็จะไม่ดี ทำ�ให้เวลาเลือกซื้อ จะกลายเป็นเรื่องจำ�เป็นมากสำ�หรับพ่อครัวที่ต้องมีทักษะติดตัว เมื่อคิดได้ผมจึงตัดสินใจเรียนรู้การเลือกซื้อปลา เพราะเหมือน กับเราเก่งแล่แล้วถ้าเลือกปลาเก่งอีกเราก็จะเก่งขึ้นไปเรื่อยๆ ตอน เลือกปลานั้นก็ยาก เพราะหลายคนคิดว่า ปลาที่สดคือปลาที่ว่าย อยู่ แต่จริงๆแล้วมันขึ้นอยู่กับชนิด อย่างปลาทะเลเราเห็นมันอยู่ ในตลาดและว่ายน้ำ�อยู่ ก็แปลว่ามันไม่สดแล้ว ปลาทะเลสดจริงก็ คือต้องตาย นอกนั้นก็ยังมีรายละเอียดยิบย่อยอีกเยอะ อย่าง อุณหภูมิของปลา สีปลา ลักษณะปลา จุดที่ตัว ที่เหมือนเราต้อง ใช้เวลาในการเรียนรู้เยอะมากเหมือนกับการทำ�อาหารนอกจากได้ สร้างศิลปะแล้วยังได้เรียนรู้ธรรมชาติไปพร้อมกัน ครั้งหนึ่ง ผมเคยเลือกปลาซาบะแล้วพอแล่ออกมาแล้วกินมัน ไม่อร่อย สุดท้ายเพิ่งรู้ว่าเพราะธรรมชาติของปลาซาบะ เราต้องไป ซื้อหลังจากที่ในร่างกายมันย่อยอาหารแล้ว เนื้อปลาจึงจะอร่อยที่ สุด ”เมื่อเห็นดังนี้แล้วรู้สึกว่าการเลือกซื้อปลาและการแล่ปลาเป็น ศาสตร์ที่ยากสำ�หรับพ่อครัวอย่างหนึ่งเลยเมื่อขึ้นถึงจุดสูงสุด เซฟอิซูมิ ได้รับการขนานนามว่าเป็นเซฟที่แล่ปลาดิบที่เก่งที่สุด ทำ�ให้ชีวิตเค้าเปลี่ยนไป ต้องรับภาระเยอะขึ้น ความคาดหวังจาก

Tokyo_Samurai Chef

ผมอยากจะสร้างมาตรฐานให้สูงขึ้นไปเรื่อยๆ ไม่ใช่ให้คนอื่นตามไม่ทันแต่อยาก สร้างสิ่งใหม่ๆให้แก่โลกและวงการอาหาร

วัดฝีมือพ่อครัวโดยตรงอย่างซาซิมิ เซฟอิซูมิเปิดเผยเทคนิคการ แล่ปลาของญี่ปุ่น มีวิธีแล่ 4 วิธี ซึ่งต้องดูตามความเหมาะสม ของปลานั้นๆ 1. ฮิการิ คือการแล่ปลาให้เนื้อแบน 2. คาตุกิริ คือ การแล่ปลาให้เนื้อเป็นก้อน 3. อิโต ซูคุริ คือการแล่ปลาให้เนื้อ เป็นเส้น 4. อุสุ ซูคุริ คือการแล่ปลาให้บางเบาราวกับกระดาษ ซึ่งศิลปะการทำ�อาหารนั้นนับเป็นเรื่องยากที่พ่อครัวจะทำ�ได้ทั้ง สวยงาม น่ารับประทานและรสชาติดี “ผมเริ่มทำ�งานตั้งแต่อายุ 8 ขวบ ตอนนั้นยังเป็นเด็กเก็บเสื้อ โค คือคอยรับเสื้อไปแขวนจากแขกที่มาทานอาหาร ผมรู้สึกชอบ มากเพราะเหมือนกับเราได้เข้าไปมีส่วนร่วมในอาหารและเห็นช่วง เวลาที่มีความสุขของแขกแต่ละคน ซึ่งตอนนั้นผมเป็นพนักงาน ที่อายุน้อยที่สุด ก็ได้ทิปมากที่สุดด้วย” ด้วยความที่เชฟอิซูมิเป็น คนชอบทานปลาอยู่แล้วญี่ปุ่นจึงเป็นแหล่งวัตถุดิบชั้นดีในการ ทดลองทำ�อาหาร “ ผมเริ่มมีมีดเป็นของตัวเองตอนวัยรุ่นอายุก็ ประมาณ 15-16 ปี มีดที่ดีคือต้องผ่านการตีด้วยไฟร้อนๆ ถ้า เราซื้อมีดตามร้านของของมันจะได้ไม่ได้มีดที่คมจริงๆ เมื่อได้มีด ผมเริ่มทดลองแล่ปลาตามที่ดูจากพ่อครัวในร้านที่ทำ� ปลาแต่ละ ตัวจะมีวิธีการแล่แตกต่างกันด้วยเนื้อ และก้างที่บางตัวก้างน้อย บางตัวมีก้างตรงแกนกลาง จะแล่ให้ใสจนเห็นกระดูกได้เนี่ย ฝึก อยู่นานมากพอเมื่อเราแล่ได้จนพอเชี่ยวชาญแล้วจุดที่ยากก็คือ การเลื อ กปลาที่ ป ลาเป็ น ปั จ จั ย หลั ก ของอาหารคื อ ถ้ า พ่ อ ครั ว

ลูกค้าและตัวเองที่อยากเก่งขึ้นกว่านี้เรื่อยๆ”บ่อยๆผมรู้สึกว่า บางทีเราอาจจะไม่ได้เก่งที่สุดอย่างเราได้รับการยกย่องในวงการ นี้ แต่ถ้าเราไปติดเกาะอยู่ในทะเลชื่อเสียงก็ไม่มีความหมายเพราะ แบบการทำ�อาหารสุดท้ายก็คือเพื่อการดำ�รงชีวิตให้อยู่ได้ด้วย การกิน ก็แค่นั้น แต่เมื่อผมได้รับการยกย่องแล้วผมอยากจะ สร้างมาตรฐานให้สูงขึ้นไปเรื่อยๆไม่ใช่ให้คนอื่นตามไม่ทันแต่อยาก สร้างสิ่งใหม่ๆให้แก่โลกและวงการอาหาร”

)



แฟรงค์ สิทธิปรีดานันท์ ชายหนุ่มคนนี้เป็นเชฟที่มีสไตล์เป็น ของตัวเอง เขาเพิ่งเดินทางกลับมาเมืองไทยได้ปีกว่าๆ หลังจาก ไปใช้ ชี วิ ต ที่ แ คนนาดาตั้ ง แต่ อ ยู่ ไ ฮสคู ล และมาเรี ย นต่ อ ชิ ค าโก ประเทศสหรัฐอเมริกาจนคว้าปริญญาตรีมาสองใบใบแรกด้าน IT ที่ DePaul University ใบที่ 2 ด้านอาหารที่ Kendall College

ChicagoFusion / Chef.

บางทีมีพลาดแต่ก็ไม่เป็นไร เพราะถือว่าเป็นการลอง สนุกๆแต่เมื่อโดนขึ้นมามันก็ใช่ !

พอกลับเมืองไทย ก็ได้งานเป็น พิธีกรรายการ The Living ที่ ออกอากาศทางช่อง TGN ที่แพร่ภาพ 170 ประเทศทั่วโลก ซึ่งการ กลับมาทำ�งานที่เมืองไทยครั้งนี้ ทำ�ให้เขาได้ศึกษาเรียนรู้เมืองไทย ในหลายๆมุม “ หน้าที่ของผมหลักๆในรายการคือ เป็นพิธีกรภาค สนามเกี่ยวกับเรื่องอาหารมีไปชิมตามร้านอาหารบ้าง สอนทำ�กับ เชฟ บางทีก็ทำ�เองบ้าง เหมือนได้เที่ยวด้วย ได้ไปต่างจังหวัดเยอะ ต่างประเทศเดินทางอยู่ตลอดเวลา” ส่วนจุดพลิกผันที่ทำ�ให้เบนเข็มมาเอาดีทางด้านการทำ�อาหาร แฟรงค์เล่าว่าเริ่มตั้งแต่ช่วงย้ายมาอยู่ชิคาโกและได้ทำ �งานร้าน อาหารควบคู่มาเรื่อยๆเลยเป็นแรงบันดาลใจอยากเรียนรู้ด้าน อาหารให้เชี่ยวชาญ ทำ�ให้ตัดสินใจเรียนปริญญาตรีด้านนี้อีกใบ หนึ่งสุดท้ายเลยยึดเป็นอาชีพ “สิ่งที่ผมเรียนมาด้านอาหารเป็นเทคนิคแบบฝรั่งเศสหลักคือ อาหารฝรั่งเศสเขาจะสอนเป็นระบบแบ่งเป็นสเตชั่นในครัวใครมี ตำ�แหน่ง อะไรจัด ระบบระเบียบในครัว เวลาเข้าไปทำ�งานจะได้เป็น ระเบียบเพราะระเบียบถือเป็นหัวใจสำ�คัญในการทำ�งานแต่ส่วนตัว ที่ทำ�ส่วนใหญ่จะทำ�ตามประสบการณ์มีทั้งไทย อเมริกาบ้าง ไม่ถึง กับคลาสสิคฝรั่งเศสทีเดียว จากที่เคยทำ�ที่ร้านอาหารญี่ปุ่น ร้าน อาหารไทย ผมก็นำ�เทคนิคหลายๆอย่างมาผสมผสานเป็นสไตล์ ของตัวเอง เช่น อาหารฝรั่งเศส ไม่มีการนึ่ง บางทีผมนำ�วิธีการ นึ่งเข้ามาใช้ก็เป็นอะไรที่แปลกใหม่ เพราะความที่เป็นของคนไทย ของเราด้วยทำ�ให้มีเทคนิคที่นำ�มาใช้ในการทำ�อาหารมากขึ้น โดยที่เราสามารถนำ�มาดัดแปลงตามที่เราอยากจะลอง อย่าง ทำ�พวกแพะ แกะ ผมก็จะใส่โกโก้เข้าไป “ ซึ่งเป็นอะไรที่เราไม่เคยทำ� พอเราทำ�อาหารเยอะๆ จะเริ่มรู้ว่าอะไรคืออะไร บางทีมีพลาดแต่ก็ ไม่เป็นไร เพราะถือว่าเป็นการลองสนุกๆแต่เมื่อมันโดนขึ้นมามันก็ ใช่” เชฟแฟรงค์กล่าวอย่างมั่นใจแบบยิ้มๆ สำ�หรับประสบการณ์หลังเรียนจบ หนุ่มแฟรงค์บอกว่าเขาได้ มีโอกาสได้ไปฝึกงานที่ฝรั่งเศสและกลับมาทำ�งานที่ชิคาโกอยู่พัก ใหญ่ “ พอจบปริญญาตรีด้านอาหารผมก็ทำ�งานที ่โซฟิเทล เป็น Chef de Partie อยู่ในร้านอาหารของโรงแรมทำ�อยู่ประมาณ 6-7 เดือน จากนั้นผมก็ออกมาทำ�งานกับเชฟเม็กซิกันซึ่งสนิทกันคือ

(

ผมชอบทานอาหารเม็กซิกันมากเพราะจะคล้ายกับอาหารไทย ซึ่งเชฟคนนี้สอนผมพอสมควร เขาจะเปิดร้านอาหารอินเดียนนา โปลิส เป็นเมืองที่อยู่ใกล้ชิคาโก ซึ่งเขาให้ผมเป็นเชฟที่ร้านเขา แต่ สุดท้ายร้านก็ไม่ได้เปิด ชีวิตช่วงนั้นเพื่อนจึงแนะนำ�ให้ไปทำ�ที่ Food Thought ผมได้ ตำ�แหน่ง Sous Chef คือทำ�โปรดักต์ออกไปตามงานอีเวนท์ต่างๆ ก็ทำ�จนเข้าช่วงโลว์ซีซั่น งานอีเวนต์ก็ไม่ค่อยมี ผมมีโอกาสได้คุย กับเชฟเขาก็ให้ผมกลับเข้ามาทำ�งานในโรงงานในตำ�แหน่งTasting Chef คือออกแบบเมนูสำ�หรับงานอีเวนต์ ซึ่งต้องมีการเทสต์เมนู อาหารก่อน ผมมีหน้าที่ทำ�อาหารให้เชฟเซลส์และเจ้าของงานได้ ชิมเมื่อผ่านก็จะส่งต่อไปให้ฝ่ายโปรดักต์ทำ�ต่อซึ่งในงานนี้ตอน แรกผมเพิ่งรู้ว่ามีแบบนี้ด้วย พอได้ทำ�ก็สนุกดี แต่ทำ�ไปก็รู้สึกเบื่อ สิ่งที่ทำ�มันไม่ท้าทายแล้ว เลยตัดสินใจบินกลับเมืองไทย” นอกจากอาชีพเชฟที่ได้ติดตัวมางานพิธีกรที่เขารู้สึกสนุกคือ อีกหนึ่งบทบาทของหนุ่มแฟรงค์ในตอนนี้คือที่ปรึกษาด้านอาหาร อีกหนึ่งงานที่ท้าทายเรียกว่าเป็นงานที่ต้องดูแลตั้งแต่การเทรนด์ บุคลากร การวางแผนธุรกิจการตลาด การทำ�เมนูการออกแบบ ครัว ตลอดจนหน้าตาอาหาร และเพื่อไม่ให้เสียชื่อเชฟชื่อดังเขา ทิ้งท้ายว่าของหวานที่ชอบที่สุดคือ Mascarpone Mousse “ผมชอบของหวานที่ทำ�ง่ายๆ ไม่ต้องตวงส่วนผสมมากมาย กะเอาได้ ซึ่งขนมชนิดนี้เนื้อจะนุ่มๆเบาๆ มีผลไม้คือ สับปะรด ส้มมะนาว เข้ามาช่วยเพิ่มสีสันและรสชาติ ทานแล้วสดชื่น ส่วน ผงปาปาริกาที่นำ�เข้ามาเป็นส่วนผสมเนื่องจากไม่เห็นบ่อยนักใน ขนมหวาน

)



(

หนึ่งในสุดยอดของอาหารเอเชีย ถ้าไม่พูดถึงอาหารจีนก็ยังไง อยู่เพราะอาหารของชาวโพ้นทะเลนั้นเป็นหนึ่งในอาหารที่ผู้คนชื่น ชอบและได้รับการยอมรับไปทั่ว-โลก สำ�หรับอาหารจีน เชฟแต่ละ คนก็จะมีเทคนิคที่แตกต่างกันออกไปและในเมืองไทยอาหารจีนมี มากมายหลายร้าน หลายภัตตาคาร ซึ่งอาหารจีนของแต่ละที่จะ มีความโดดเด่นแตกต่างกันออกไป แต่เชฟ แจคกี้ ชาน แห่งห้อง อาหาร Shanghai 38 โรงแรมโซฟิเทลสีลมห้องอาหารที่อยู่ชั้นบน สุดของโรงแรมนั้นเป็นอาหารจีนฮ่องกงสไตล์กวางตุ้งที่แตกต่าง กันหลายแบบทั้งรสชาติที่มีเอกลักษณ์เป็นของตนเองและความ สวยงามของวิวใจกลางแหล่งธุรกิจย่านสีลม จึงไม่น่าแปลกที่ร้าน อาหารของเชฟคนดังจะมีลูกค้าให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆของ กรุงเทพฯ ในฐานะเชฟของร้านอาหารจีนรสเลิศ เชฟแจคกี้ชานมีประสบการณ์ในการทำ�อาหารด้านโรงแรมมา กว่า 24 ปี มีความผูกพันกับการเข้าครัวตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่รักการ ทำ�อาหารตั้งแต่เด็กมักจะช่วยในครอบครัวเสมอ ส่วนพ่อเซฟเป็น พ่อครัวประจำ�เรือ เมื่อถึงคราวออกเรือหาปลาก็จะเดินทางไปกับ พ่อเพื่อทำ�อาหารให้เหล่าลูกเรือกิน สุภาษิต ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น คงเหมาะกับเชฟชานที่สุด เมื่อเข้าวัย 20 ปี เชฟชานเริ่มทำ�งานครั้งแรกในห้องอาหารจีน แห่งหนึ่งย่านสยามสแควร์ ทุกอย่างดูแปลกใหม่ โดยเชฟชานเริ่ม ต้นจากตำ�แหน่งเล็กๆก่อน “ตอนนั้นผมทำ�ตั้งแต่ล้างเข่ง ล้างไก่ ห่อขนมจีบ งานหนักมาก ทำ�ทุกอย่าง แต่ก็ได้เรียนรู้อะไรเยอะ หลายๆอย่างนำ�มาปรับใช้ชีิวิตกับลูกน้องในปัจจุบัน ทำ�อยู่ที่นี่ประมาณ 9 ปี ก็ย้ายไปที่โรงแรมโซฟิเทล สีลม เริ่ม ทำ�งานมากขึ้น เจ้านายเห็นหน่วยก้านดี จึงให้เป็นผัดหน้าเตา อาหารที่ทำ�อย่างแรก คือ ปอเปี๊ยะปูกะหรี่ทอด ซึ่งตอนนี้ก็ยังเป็น เมนูในเทศกาลอาหารของห้องอาหาร Shanghai 38 อยู่

Shanghai,sChef ตอนนั้นผมทำ�ตั้งแต่ ล้างเข่ง ล้างไก่ ห่อขนมจีบ งานหนักมากทำ�ทุกอย่าง

แต่ก็ได้เรียนรู้เยอะ

)

เชฟเล่าถึงอดีตให้ฟังอย่างเบิกบานพร้อมเล่าต่อว่า สิ่งที่เชฟ ทำ�อยู่คือการทำ�อาหารจีนซึ่งอาหารจีนเป็นสิ่งที่มีประวัติศาสตร์ ยาวนาน เราไม่สามารถเอาตัวไปเปรียบได้ หน้าที่ของเชฟอาหาร จีนก็คือ นำ�เสนออาหารจีนและรักษาวัฒนธรรมต่อไปพร้อมทั้ง คิดค้นเมนูใหม่ๆเพื่อการสร้างสรรค์ศิลปะอาหารที่ตนเองชอบซึ่ง อาหารจีนของห้องอาหาร Shanghai38 เป็นการนำ�อาหารจีน สไตล์ใหม่ที่ผสมผสานวัตถุดิบที่เราเห็นทุกวันมาทำ�เป็นอาหาร แปลกใหม่ เช่น การดื่มไวน์ไทยคู่กับอาหารจีน ทาร์ตชา-เขียว ที่ นำ�อาหารตะวันตกมาผสมผสานกับเครื่องดื่มตะวันออก ห้องอาหาร Shanghai38 ที่ เชฟ แจ็คกี้ ชานเป็นหัวหน้าพ่อ ครั ว อยู่ นั้ น ตั้ ง อยู่ บ นชั้ น 38โรงแรมโซฟิ เ ทลสี ล มห้ อ งอาหาร เป็ น การรวมเอาศิ ล ปะและวั ฒ นธรรมการตกแต่ ง ภายในกั บ อิทธิพลเอเชียในช่วงศตวรรษที่30ไว้ด้วยกัน ร้านนี้มีวิวที่สวยและ พร้ อ มทานติ่ ม ซำ � ในมื้ อ เที่ ย งหรื อ ว่ า จะเป็ น เมนู อ าหารจี น ก็ มี ใ ห้ เลือกแถมดนตรีสดให้ฟังกันด้วย




(Pumpkins Soup!) บางคนเห็นชื่อเมนูเเล้วอาจจะร้องยี้ เเต่ว่า อย่ าเพิ่ งด่ว นสรุ ปกับอาหารชามนี้ ตั้ ง เเต่ ต้ น เนื่ อ งจากสู ต รซุ ป ฟั ก ทองที่ เ ราได้ คั ด เลื อ กมาผ่ า นกระบวนการพิ สู จ น์ ชิ ม รส ชาติ เ เล้ ว ว่ า อร่ อ ยซึ่ ง จากวิ ธี ทำ � กั บ ส่ ว น ประกอบที่นำ�มาปรุง ถือเป็นส่วนสำ�คัญที่ สุดที่ทำ�ให้ซุปฟักทองชามนี้เเตกต่างออก ไปเปลี่ ย นความคิ ด เเบบเดิ ม ที่ ห ลายคน มองว่าซุปฟักทองเป็นเเค่อาหารเละๆของ เด็กอ่อน หรือ อาหารสำ�หรับผู้ป่วยพักฟื้น หันมาเปลี่ยนนิสัยการเลือกกิน มาทานสิ่ง ที่มีหน้าตาไม่น่าทานนักเเต่เน้นไปที่คุณค่า ของวิตามินซีที่มีสารต้านอนุมูลอิสระซึ่ง ประโยชน์สูงจะดีกว่า เพราะว่าซุปฟักทอง นั้ น นอกจากจะเป็ น ที่ นิ ย มทานในต่ า ง ประเทศแล้วประเทศไทยเราน้อยคนนักที่ จะทานหรือทำ�กินที่บ้าน ทั้งที่จริงอาหาร ชนิดนี้ทำ�ได้ง่ายกว่าที่ท่านคิดอย่างเราเป็น แค่คนทำ�อาหารฝึกหัดยังทำ�ได้เลย!! (ส่วน รสชาติค่อยว่ากัน) ฟักทองตามที่กล่าวไป ข้ า งต้ น ในคอลั ม น์ บ นๆแล้ ว ว่ า มี คุ ณ ประโยชน์ยังไงยังช่วยเสริมสร้างเบต้าแค-

โรทีนให้ร่างกายที่เป็นตัวช่วยป้องกันโรค มะเร็งและระบบหายใจอีก เห็นแบบนี้ตอน แรกก็ ไ ม่ อ ยากจะทำ� แต่ พ อทำ� ไปก็ รู้ สึ ก ว่ า จริงๆการทำ�อาหาร หั่นผัก ใส่เครื่องปรุง มันก็เป็นการผ่อนคลายนะ แถมยังไม่เสีย สายตาเหมือนดูทีวี นอกจากนั้นยังมีของ กินตอนหลังอีก ซึ่งถ้ารู้จักฟักทองกันจริง แล้ ว นั้ น มั น ก็ เ หมื อ นผั ก ชนิ ด หนึ่ ง ที่ ไ ม่ มี กลิ่นตอนที่ยังไม่สุกทั้งนั้นแหละ ดังนั้นเรา จะมี ส อนวิ ธี ก ารทำ � ข้ า งต้ น ก่ อ นเตรี ย ม อาหารกัน สิ่งที่จะต้องมีอยู่แล้วก็คือ ฟักทอง หาซื้อง่ายตามท้องตลาด เดินไปหา แม่ค้าขอ 1 กลีบเค้าก็จะตัดให้ ราคาก็ไม่ แพงแต่ถูกจนถึงขั้นตกใจเรียกว่าซื้อไม่ถึง 50 บาทกินได้หลายมื้อเลย จากนั้นก็นำ� มาหั่นปอกเปลือกออก หั่นเป็นชิ้นกลางๆ ให้ไม่เล็กมากแล้วเอาไปต้มให้สุก เตรียม เครื่องปรุงที่เราบอกให้แล้วคุณจะค้นพบ ว่ามันไม่ยากอย่างที่คิด !

Some people see the name of the menu may say that damn. เเ not just want that quick summary on food bowl เเ want from this set. The most important is to make pumpkin soup bowl this fall เเ different. The food is actually easier than you think. We are just like people do all the cooking practice! (The same flavors that slowly). Also reinforces Beta Carotene to help protect the body of cancer and other respiratory system. See this at first did not want to do, but enough to make it feel really cooking shred vegetables include flavoring. It is relaxing นะ. Plus, do not deserve the same TV. We shall be taught how to do the above before preparing food together. What must have already purchased pumpkin is easy as the market.then you will let us find it very difficult not to think!


(01 Curry pumpkin soup)


(02 Pumpkin soup, garlic bread)


(03 Misou Pumpkin soup) 01 ซุปฟักทองสูตรแกง

02 ซุปฟักทองขนมปังกระเทียม

ฟักทองปั่น 1 1/2 ถ้วย น้ำ�ซุปผักหรือไก่ 2 ถ้วย หอมใหญ่ซอย 1 หัว ขิงซอยละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ ต้นหอมซอยไว้โรยหน้า 1 ต้น ขนมปังกรอบไว้โรยหน้า 1/4 ถ้วย ผงอบเชย (Cinnamon) 1/2 ช้อนชา ผงลูกจันทน์ (Nutmeg) 1/4 ช้อนชา ผงปาปริก้า 1/4 ช้อนชา พริกไทยดำ� 1/4 ช้อนชา เกลือ 1/4 ช้อนชา ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา นมสดจืด 1/4 ถ้วย

ฟักทอง 1 1/2 ถ้วย เม็ดมะม่วงหิมพานต์อบ 1/3ถ้วย น้ำ�นมถั่วเหลือง 3 ถ้วย เกลือ พริกไทย ปรุงรส น้ำ�มันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ ขนมปังกระเทียม 1 ก้อน

1 ใส่เนย ตามด้วยหอมกับขิง ผัด 5 นาที 2 เติมน้ำ�ซุปกับฟักทองปั่นตามไป 3 ตามด้วยเครื่องเทศทั้งหมด 4 เติมนมสดลงไปสุดท้าย แล้วเคี่ยวด้วย ไฟอ่อนสักพัก พร้อมเสิร์ฟ 1 Add butter onion, followed by 5 minutes with fried ginger. 2 Fill the pumpkin soup as blended 3, followed by all the spices. 4 add fresh milk into the final. Then boil with some soft light with served.

1 ใส่น้ำ�มันมะกอกลงกระทะ ใส่ฟักทอง เม็ดมะม่วงหิมพานต์ 2 เติมนมถั่วเหลืองลงไปให้นุ่ม 3 ปรุงรสอย่างอ่อนด้วยเกลือ พริกไทย 4 เมื่อเสร็จเอาทั้งหมดใส่เครื่องปั่น นำ�มา เคี่ยวต่อตักใส่ถ้วยทานกับขนมปัง กระเทียมร้อน 1 Add olive oil to pan Add pumpkin seed cashew nut. 2 added into the soft soy milk. 3 flavour with Salt ,Pepper 4 When finished remove all be put shaker. Add stew to dip bread bowl with garlic, hot review.


(04 Ginger Pumpkin soup) 03 ซุปฟักทองมิโซะ

04 ซุปฟักทองขิง

ฟักทอง 400 กรัม น้ำ�เปล่า 2 ถ้วย สาหร่ายคอมบุ 5 เซนติเมตร มิโซะ 1 ช้อโต๊ะ เกลือ 1/3 ช้อนชา นมถั่วเหลือง 1/2 ถ้วย

ฟักทอง กระเทียม หอมแดง ขิง นมสด ผักชีฝรั่ง เกลือ พริกไทย ซุปไก่ก้อน เนยจืด

1 นำ�ฟักทองคลุกกับเกลือเล็กน้อย นึ่งฟักทองจนนิ่ม 2 บดฟักทองด้วยเครื่องบด 3 ตั้งหม้อ ใส่น้ำ� ใส่คอมบุ 4 น้ำ�เดือดแล้วใส่เกลือ มิโซะและฟักทอง 5 คนให้เข้ากัน ยกลงจากเตา พักให้เย็น 6 เติมนมถั่วเหลือง แล้วเอาไปแช่เย็น 1 the pumpkin with salt,Steam pumpkin until soft. 2 mashed pumpkin with a grinder. 3 Put Combu Seaweed 4 boiling water salt ,Pumpkins,Misou 5 raise the oven to stay cool. 6 add soy milk.

1 ใส่ กระเทียม หอมแดง และฟักทอง ลง ในหม้อต้มให้สุก 2 ใส่ขิง ผักชีฝรั่ง เกลือ พริกไทย เนยจืด ชิมรสตามใจชอบ 3 นำ�ที่ทำ�เสร็จมาพักไว้ 4 ปั่นพร้อมกัน จนเป็นน้ำ� 1 Shallot and garlic put on pumpkin cooked pot to boil. 2 Add ginger, celery salt, pepper, fresh butter savor as you like. 3 led to a complete hold. 4 blended together until the water.



01 Maison Boulud Beijing

Restaurant Rate : 8 | WRAP OUT ห่อกลับบ้าน |

01

เพื่อเพิ่มความเป็นแมกกาซีนทำ�อาหาร ให้ ม ากกว่ า เดิ ม เราจึ ง มี ค อลั ม น์ แ นะนำ � อาหารจากต่ า งประเทศซึ่ ง อาจจะไม่ เ ป็ น ประโยชน์และทำ�ให้หิวกับคุณในตอนนี้แต่ ถ้าเมื่อไหร่ได้มีโอกาสไปเมื อ งไหนที่ อ ยู่ ใ น เล่ ม นี้ ล ะก็ รั บ รองว่ า ซั ก ครั้ ง จะต้ อ งไปชิ ม อาหารในร้านนี้มั่งหละ !

ว่ากันว่าในนิวยอร์ก ถ้าถามหาร้านอาหาร ฝรั่ ง เศสที่ มี เ จ้ า ของเป็ น เซฟฝรั่ ง เศสซั ก คนแล้วละก็ ชื่อของ เดเนียล บูลู (Daniel Boulud) จะเป็นชื่อแรกๆที่คนนิวยอร์กพูด ถึ ง เชฟบู ลู เ ปิ ด ร้ า นอาหารฝรั่ ง เศสหลาย สาขาเกือบทัว่ โลกตัง้ แต่นวิ ยอร์ก-ฝรัง่ เศส บ้านเกิดเค้า แต่วันนี้โชคดีชาวเอเชียเพราะ สาขาใหม่ล่าสุดที่เค้าเปิดคือที่ ปักกิ่ง ร้าน อาหารนี้เปิดก่อนโอลิมปิคได้ไม่นาน มีชื่อ ว่า เมชอง บูลู ปักกิ่ง ( Maison Boulud beijing) ร้านอาหารเมชอง ตกแต่งด้วย สไตล์หรูหราที่เรียกว่าตั้งแต่แรกเห็นก็รู้สึก ได้ทันทีถึงความเป็นฝรั่งเศสและราคาแพง แต่ในเรื่องของอาหารเชฟบูลูกล่าวว่า เป็น เรื่องยากที่จะประสบความสำ�เร็จในเอเชีย เนื่ อ งจากมี วั ฒ นธรรมอาหารที่ น่ า สนใจ ส่วนตัวผมกำ�ลังจะไปเปิดที่สิงคโปร์ผมว่า น่าจะมีที่เมืองไทยบ้าง เพราะชอบอาหาร ไทย ในส่วนสาขาที่ปักกิ่งเราตั้งใจทำ�และ ประณีตกับการทำ�อาหารมาก แม้กระทั่ง

เรื่ อ งบุ ค ลิ ก ภาพของบริ ก รในร้ า นอาหาร ซึ่งถ้าคุณได้เข้าไปในร้านนี้หรือดูภาพจาก เราก็ จ ะรู้ ไ ด้ ทั น ที ว่ า ร้ า นอาหารนี้ เ อาจริ ง เอาจังจริงๆตั้งแต่การบริการยันอาหารที่ รับรองว่าถ้ามีโอกาสได้กินละก็ไม่ผิดหวัง แน่ๆ นอกจากนั้นเชฟบูลู ยังมีสาขาอื่นๆ ตั้งแต่ นิวยอร์ก ลาสเวกัส เลยทีเดียว ใคร ที่ติดใจฝีมือของเชฟคนนี้ก็ตามไปกินทั่ว โลกเลยก็ได้

INFORMATION http://www.danielnyc.com Chi’En Men 23 Qian Men Dong Da Jie ,Beijing 100006 China Tel : +86(10).6559.9200 For Reservations : ignace.lecleir@ chienmen23.com Open : Mon– Sun 11.30 - 22.30 pm


La Bernardin

02 La Bernardin

Restaurant Rate : 8.5 02

ร้านอาหารนี้อาจจะคุ้นหูหรือชื่ออาจจะไม่ คุ้นหูกันแต่ถ้าเห็นหน้าเชฟแล้วละก็หน้าจะ คุ้นตาทันที ร้าน La Bernardin อยู่ถนน 51 นิวยอร์กซิตี้ ด้วยการสไตล์ตกแต่งร้าน เน้นหรูหราและโมเดิร์นทำ�ให้ร้านนี้ง่ายต่อ การเข้าถึงคนนิวยอร์กที่ต้องการอาหาร มื้อดีๆซักมื้อ ด้วยฝีมือ เชฟ Eric Ripert เชฟฝรั่ ง เศสที่ ม าทำ � อาหารในนิ ว ยอร์ ก ประสบความสำ�เร็จในด้านหนังสืออาหาร ที่เขียนออกมา 3 เล่มและรางวัลต่างๆอีก มากมายทำ � ให้ ร้ า นนี้ ดั ง จนฉุ ด ไม่ อ ยู่ ถึ ง ขนาดได้ รั บ คะแนนโหวตเป็ น อั น ดั บ ที่ 1 5 ของร้ า นอาหารที่ ดี ที่ สุ ด ในโลกนอกจาก นี้ยังมีไวน์บริการ และ Private Dinning เรี ย กว่ า ถ้ า ใครอยู่ นิ ว ยอร์ ก แล้ ว อยากลิ้ ม รสอาหารฝรั่งเศสคงต้องลองซักมื้อจริงๆ

INFORMATION http://www.le-bernardin.com/ 155 West 51st Street Newyork.New York 10019 Tel : (212)554-1515 For Reservations : (212)554-1515 Open : Mon – Sat 12.00 – 23.00 Lunch : Mon – Fri 12.00 – 14.30 Dinner : Mon – Thurs 17.30 – 22.30 Fri – Sat 17.30 – 23.00


03 Joel Robuchon Las vagus

Restaurant Rate : 9 03 ร้านอาหารสไตล์โมเดิร์นสร้างเสร็จเมื่อปี 2003ตกแต่งด้วยสีดำ�และแดง เน้นการ ใช้กระจก ทำ�ให้ความรู้สึกเหมือนในผับแต่ ก็ ถู ก ที่ สำ � หรั บ สถานที่ เ พราะอยู่ บ นถนน เส้นหลักของ Las Vegus อาหารในร้านมี ตั้งแต่แฮมเบอร์เกอร์ ฟาสต์ฟู้ดจนถึงของ หวาน ถ้าอยากทานอะไรที่ดีและหรูหรา ร้านนี้ก็มีให้บริการ ส่วนใหญ่ร้านนี้จะเป็น นักท่องเที่ยวและคู่รักมาทานเพราะคนที่ ไป Las Vegus คุณก็รู้เหตุผลดีว่าไปเพื่อ หาความบันเทิง ร้านนี้จึงตอบโจทย์ความ ต้ อ งการตั้ ง แต่ ก ารตกแต่ ง จนถึ ง อาหาร นอกจากนี้ด้านคุณภาพร้านนี้ก็ไม่แพ้ใคร เพราะมี JOËL ROBUCHON เชฟฝรั่งเศส มือฉมังมาควบคุมให้จนได้รับฉายาว่าเป็น พ่อครัวแห่งศตวรรษ ที่ได้การรับรองจาก มิชลินสตาร์ถึง 3 ดาว ด้านนี่ไม่ได้ให้ง่ายๆ นะ นอกจากสาขา Las Vegus แล้วเชฟ ที่ พู ด ถึ ง ทุ ก คนรู้ สึ ก จะมี ส าขาที่ ต่ า งแดน กันหมด JOËL ก็ไม่แพ้เหมือนกันมีตั้งแต่

ลอนดอน ปารีส อเมริกา ฮ่องกง มาเก๊า โตเกียว ฯลฯ เรียกว่าเราสามารถทาน ฝีมือJOËLได้ทั่วโลกทีเดียวเหมือนที่พูดมา จะโม้แต่ว่าๆกันแล้วร้านสาขา Las Vegus ที่ แ นะนำ � มาร้ า นนี้ ดู ถู ก ใจวั ย รุ่ น อย่ า งเรา ที่สุดทั้งอาหารทั้งสไตล์ จนอยากจะไปชิม เองเลย

INFORMATION http://www.joel-robuchon.com/ 3799 Las Vegas Blvd S Las Vegas, NV 89109 Tel : (702)891-7925 For Reservations : +(1) 702891-7358 Open : Mon – Sun 17.30 – 22.30 Dinner : Mon – Fri 17.30 – 22.00 Sat – Sun 17.30 – 22.30


04 Jean-George Shanghai

Restaurant Rate : 8.5 04 “อาหารอร่ อ ยมากวิ เ ศษสุ ด แต่ ไ วน์ ค่ อ น ข้ า งแพงและบริ ก ารอาจจะช้ า ไปบ้ า ง สำ�หรับสายๆวันอาทิตย์ เราเดาว่าอาจจะ เพราะบริกรทีต ่ อ้ งเหนือ่ ยล้ามาทัง้ สัปดาห์” เราเห็นคอมเมนต์ของแพททริค ในบอร์ด แห่งหนึ่งของจีน เมื่อถามถึงร้านชื่อ JeanGeorge Shianghai ในเซี่ยงไฮ้ ส่วนใหญ่ บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าอาหารในร้านนี้ นั้นสุดวิเศษ แต่ราคาสูงใช่เล่น แต่ก็คุ้มเมื่อ เชฟอย่าง ฌอง จอร์จ เชฟชื่อดังระดับ 3 ดาวมิชชินมาเปิดกิจการที่เซี่ยงไฮ้ ปีนี้เป็น ปีที่ 6 แล้ว ด้วยร้านที่ตกแต่งแบบโมเดิร์น มี ก ลิ่ น อายความเป็ น ตะวั น ออกหน่ อ ยๆ ซึ่ ง ในการตกแต่ ง ของร้ า นนั้ น ก็ สู้ อ าหาร ของร้านไม่ได้ มีทั้งไวน์บริการและอาหาร ชั้นเลิศ ตั้งแต่ฟัวกราส์ที่มีในปารัส ฌองก็ เอามาไว้ในเมืองจีนได้ อาหารอื่นๆก็เลิศจน ดังในอินเตอร์เน็ตเชื่อว่าอ่านเสร็จแล้วค้น ชื่อเชฟคนนี้ก็เจอเลย ดังนั้นร้านนี้ไม่น่า พลาดที่จะลองไปชิม

INFORMATION http://www.jean-georges.com/ No.3 The Bund,4th Floor 3 Zhong Shan Dong Yi Rd,(entrance on 17 Guang Dong Rd.) Shanghai 200002 Tel : 86 21.6321.7733 For Reservations : +86 21.6321.7733 //JGRESERVATION@on-the-bund.com Open : Mon– Sun 11.30 – 1.00 Lunch : Mon – Sun 11.30 – 14.30 Dinner : Mon – Sun 17.30 – 23.00 Brunch : Sat – Sun 11.30 – 15.00 Bar : Mon – Sun 11.30 – 13.00


05 Café de Flore

Restaurant Rate : 9.5

05 ร้านอาหารริมถนนในเมืองฝรั่งเศสเหมือน กั บ เป็ น ที่ เ ลื่ อ งลื อ ว่ า ถ้ า มาฝรั่ ง เศสต้ อ ง กินอาหารเช้าริมทางเหมือนกับเราไปเที่ยว ต่างจังหวัดแล้วต้องกินโจ๊กกับปาท่องโก๋ แต่ แ ค่ เ ปลี่ ย นวั ฒ นธรรมกั น เป็ น ขนมปั ง และกาแฟแทน ถือว่าน่าลองทีเดียว ร้าน Café de Flore ตั้งอยู่ที่หัวมุม Boulevard Saint-Germain และ the Rue St. Benoit คนส่วนใหญ่นับว่าร้านนี้เป็น Cafe of the world เลยทีเดียว ด้วยการตกแต่งร้านเป็น สไตล์ Art-Deco ตั้งแต่สมัยสงครามโลก ครั้งที่ 2 ที่เข้ากับ Flore ชื่อร้าน ทำ�ให้เกิด บรรยากาศที่พักผ่อน สบายๆเหมือนกับ การค่ อ ยๆละเลี ย ดกาแฟพร้ อ มชมวิ ว ริ ม ถนนปารีสได้สบายๆ ถือว่าเป็นร้านอาหาร ดั้ ง เดิ ม ที่ น่ า ลองมากเมื่ อ คุ ณ ไปถึ ง ปารี ส

INFORMATION http://www.cafe-de-flore.com/ Café de Flore 172 bd St Germain 75006 Paris Tel : + 33 1 45 48 55 26 For Reservations : +33 1 45 48 55 26 Open : Daily 7.30 – 13.30



(


ถ้าจะให้พูดถึง Food Designer,Eating Designer หรือจะเรียกว่าอะไรแล้วแต่ก็คง มีอยู่ไม่กี่คน และยิ่งถ้าให้เฉพาะเจาะจงแล้ว คนที่โดดเด่นและครบเครื่องที่ครบเครื่อง คงหนีไม่พ้น ดีไซเนอร์มากความสามารถ และมากความคิดสร้างสรรค์คนๆนั้นไม่ใช่ ใคร Martí Guixé เจ้าของเวบไซต์ FoodDesigning Martí Guixé ไม่ได้ทำ�งานแต่ เฉพาะงานออกแบบอาหารเท่านั้น เขายัง

ทำ�งานด้านออกแบบทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น Corporate Identity ของรองเท้าแบรนด์ ดังของสเปนอย่าง Camper หรือจะเป็น การตกแต่งภายในของร้าน Alessi แบรนด์ เครื่องครัวของอิตาลี แต่ไม่ว่าเขาจะออกแบบตกแต่งภายใน งานกราฟฟิคดีไซน์หรือผลิตภัณฑ์มากก็ ยั ง รู้ สึ ก ว่ า อาหารนั้ น เป็ น สิ่ ง ที่ ท้ า ทายใน การออกแบบมากที่ สุ ด ดั ง นั้ น เขาจึ ง หั น มาหาออกแบบอาหาร และสร้างโปรเจ็คต์ แปลกใหม่ขึ้นมาจากอาหารมากมาย

สิ่งที่เขาทำ�ส่วนใหญ่จะออกไปทางด้าน การทดลองที่ใช้อาหารเป็นตัวแปรสำ�คัญ ในการออกแบบครั้งนี้ ซึ่งนับว่าเป็นงานที่ ท้าทาย เหมือนกับแมกกาซีนของเราที่เป็น การสร้ า งความคิ ด สร้ า งสรรค์ ที่ เ กิ ด ขึ้ น จากอาหาร สิ่งที่เขาเรียนรู้และผลงานที่ ออกมาจะเป็นอย่างไรนั้น ต้องพลิกหน้า ต่อไปจริงๆ


ครั้งแรกของการทดลอง เริ่มต้นที่เมือง บาร์เซโลน่าในปี 1997 และยึดแนวคิดที่ว่า อาหารเป็นเหมือนกับการออกแบบผลิตภัณฑ์อื่นๆ เพียงแต่ว่าสามารถรับประทาน ได้และละทิ้งความเชื่อในการทำ�อาหารหรือ เทคนิกวิธีการแบบเดิมๆในการทำ�อาหาร ออกไป ผลลัพธ์จึงเป็นอาหารที่สนใจเรื่อง ของ สรีรศาสตร์ (Ergonomic) ประโยชน์ ใช้สอย (Function) การสื่อสารทางการม องเห็นและมีปฎิสัมพันธ์กับผู้ประทาน ใน รูปแบบที่แตกต่างออกไปจากเดิม Martí Guixé ออกแบบอาหารในหลาก หลายด้านและรูปแบบไม่ว่าจะเป็นอาหารก็ มีระบบของการรับประทานอาหารหรือร้าน อาหารรูปแบบใหม่ ร้านอาหาร การจัดงาน แสดงโชว์เกี่ยวกับเกี่ยวกับอาหาร หีบห่อ บรรจุภัณฑ์ อุปกรณ์ประกอบอาหารแบบ ต่างๆ หรือแม้กระทั่งหนังสือ Cook Book แต่แน่นอนว่าสิ่งที่ฟังดูพื้นๆธรรมดาๆเช่น หนังสือ cook book คงจะออกมาไม่ปกติ แน่ ถ้ า สิ่ ง นั้ น ผ่ า นการออกแบบอย่ า ง Guixe มาแล้ว ยกตัวอย่างเช่น ผลงานที่จัดแสดงใน ในนิทรรศการที่มีชื่อว่า FOODWORK ซึ่ง จัดขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2001 ที่ La Sala Vincon ในเมืองบาร์เซโลน่า โดย Guixe ให้ความเห็นต่องานของเขาว่าตอน นี้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นสิ่งบริโภคได้ ไม่ว่า

จะอยู่ในรูปแบบใด อาหาร บ้านเมือง เงินตรา ความบันเทิง หรือการสื่อสาร ดังนั้น การบริโภคอาหารนั้นนอกจากจะเป็นการ บริโภคสารอาหาร ก็อาจจะเป็นการบริโภค ข้อมูลหรือด้านอื่นๆไปพร้อมๆกัน งาน FOODWORK จึงเป็นการนำ�เสนอ อาหารที่บำ�รุงทั้งทางร่างกาย(สารอาหาร) และ จิตใจ(สื่อสาร) แบบใหม่ๆไม่ว่าจะเป็น I-cakes ขนมเค้กซึ่งตกแต่งหน้าแบบพาย ชาร์ท โดยสีแต่ละสัดส่วนจะบ่งบอกคุณค่า เปอร์เซ็นต์ ส่วนผสมที่ใช้ในเค้กชิ้นนี้ ทำ�ให้ การตกแต่งมาเป็นข้อมูลได้ Flavor Stamp ซึ่งล้อเลียนพฤติกรรม ที่ ต้ อ งเลี ย ด้ า นหลั ง แสตมป์ เ พื่ อ ให้ ก าว เปียกและสามารถติดลงบนซองจดหมาย ได้ Guixe จึงได้ออกแบบแสตมป์ที่เป็นรูป อาหารและด้านหลังบริเวณกาวก็มีรสชาติ เหมือนอาหารที่ปรากฎอยู่บนแสตมป์บาง งานนั้ น ก็ ล้ อ เลี ย นวั ฒ นธรรมของคนเรา อย่างได้ Uva Millenium Kit ซึ่งล้อกับความเชื่อ ของคนสเปนที่ เ ชื่ อ ว่ า หากรั บ ประทาน อาหารองุ่นในช่วงเวลาที่กำ�ลังจะขึ้นปีใหม่ มากที่สุดเท่าใด ก็ยิ่งจะโชคดีในปีใหม่มาก มากขึ้นเท่านั้น Guixe จึงทำ�องุ่นพิมพ์ลาย สัญลักษณ์แห่งความโชคดีต่างๆ เช่น เงิน ไอเดียความคิด ความรัก เป็นต้น บางงานก็เป็นการคิดถึงพฤติกรรมใน การบริโภค เช่น Fish and- Lemon อาหาร ที่มักเข้าคู่กันเสมอ เพื่อให้รับให้รับประทาน ได้ง่ายขึ้น Guixe จึงออกแบบให้ปลานั้น ฝั ง ตั ว อยู่ ใ นครึ่ ง หนึ่ ง ของลู ก มะนาวซี ก ผู้รับประทานก็สามารถที่จะใช้มะนาวเป็น ที่จับเพื่อย่างปลาบนเตา จากนั้นเพียงแค่

บีบก็รับประทานได้ทั้งปลาพร้อมน้ำ�มะนาว พร้อมกัน เห็นแล้วคุ้มจริงๆน่าจะลองกับ อาหารอย่างอื่นในบ้านเราดูบ้างนะ Casco the Gin and Tonic Party ที่มี ควันขึ้นจาก Gin และ Tonic โดยเปลี่ยนวิธี การเปลี่ยนวิธีการบริโภคใหม่ แทนที่จะดื่ม ก็กลายเป็นสูด Gin Tonic แทนพร้อมป้าย คำ�เตือนที่จริงจังแต่ขำ�ขันว่า “ DANGERthe Air Contains Alcohol” เรียกได้ว่า เป็นการผสมผสานกันอย่างลงตัวระว่าง การหายใจและการบริโภค! นอกจาก Guixé จะคิดออกแบบแค่ใน ในเรื่ อ งรู ป ลั ก ษณ์ , พฤติ ก รรมการรั บ ประทานหรือจะเป็นเรื่องของรสชาติแล้ว ยั ง คิ ด ตั้ ง แต่ ต้ น ที่ เ ราเริ่ ม มองเห็ น อาหาร รับประทานเข้าไป และยังรวมไปถึงตอนจบ หลั ง จากที่ อ าหารนั้ น ผ่ า นการย่ อ ยแล้ ว ด้วย ดังจะเห็นได้ว่าจากงานที่มีชื่อว่า Reforestation Snack อาหารที่มีส่วนผสม ของเมล็ดมะเขือเทศอยู่ภายใน กินเสร็จก็ ภารกิจกลางป่ามะเขือเทศก็จะเติบโตกลาย เป็นต้นไม้อีกครั้ง แนวคิดเดียวกันนี้ยังถูก นำ�มาใช้กับ Oranienbaum Lollipop ลูกอมที่รับประทานเสร็จแล้วบ้วนเมล็ดด้าน ในไว้ที่พื้นเมล็ดก็จะโตเป็นต้นไม้อีกครั้ง ในเรื่องของบรรจุภัณฑ์ หรือ ฉลากบน ภาชนะบรรจุอาหารต่า Guixé ก็ออกแบบ ด้วยเช่นกันยกตัวอย่างเช่น ฉลากขวดไวน์ ที่มีรอยฉีกด้านล่างเหมือนใบปลิวโฆษณา ต่างๆ ที่สามารถฉีกเบอร์ด้านล่างได้ ใน กรณีนี้สามารถฉีกเก็บฉลากไว้เผื่อลืมชื่อ ไวน์จะได้ไปหาซื้อได้ถูก หรือจะเป็นช็อคโก แลตที่ อ อกแบบหน้ า ตารู ป ร่ า งให้ เ หมื อ น กับบรรจุภัณฑ์ของช็อค-โกแลตเอง เพื่อ


ที่ จ ะได้ ไ ม่ ต้ อ งสิ้ น เปลื อ งทำ � ขึ้ น มาอี ก นอกจากนี้แล้ว Guixé ยังคิดผลิตภัณฑ์ สนุกๆอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับภาชนะบรรจุอีก ด้วยเช่น Prosecco Target เป้าสำ�หรับเล็ง เมื่อเปิดขวดไวน์เป็นต้น นอกจากตัวอาหารและบรรจุภัณฑ์แล้ว Guixé ยังออกแบบระบบใหม่ๆที่เกี่ยวข้อง กับอาหารอีกด้วย เช่น โครงการ Sponsored Food ร้านอาหารที่ทำ�ให้คนเราไม่ ต้องอยู่ในสังคมทุนนิยมปัจจุบันที่ทุกคน ต้องแข่งขันต้องทำ�งานเพื่อให้ได้มาซึ่งเงิน ตราที่นำ�มาใช้เลี้ยงชีพผู้ที่มารับประทาน สามารถรับประทานอาหารโดยไม่ต้องเสีย ค่าใช้จ่ายใดๆ อาหารแต่ละจานจะได้รับการ สนับสนุนจากแบรนด์ใหญ่ต่างๆโดยหน้าตาของอาหารนั้ น จะเป็ น รู ป โลโก้ ข อง แบรนด์ที่ให้การสนับสนุน หรือทำ�โครงการ FoodBank การบริการ ด้านอาหารที่ไม่มี ตั ว ร้ า นนั่ ง กิ น บริ ก ารนี้ ล้ อ เลี ย นมาจาก พฤติกรรมผู้บริโภคที่มักซื้ออาหารไปรับ ประทานตามม้ า นั่ ง ในสวนบนม้ า นั่ ง จะมี รายละเอียดเบอร์โทรศัพท์ในการสั่งอาหาร เบอร์เก้าอี้ซึ่งทั้งหมดออกแบบกราฟฟิค ให้มีลักษณะเหมือนกราฟฟิตี้ที่พบอยู่ตาม ม้ า นั่ ง ทั่ ว ไปเพี ย งแค่ โ ทรสั่ ง อาหารตาม เบอร์ ที่ ป รากฎบนม้ า นั่ ง และแจ้ ง เบอร์ ม้ า นั่งสักพักก็มีอาหารมาเสิร์ฟถึงม้านั่งนั้นๆ อย่างในรูปของหน้านี้เป็นงานที่ Guixé จัด นิทรรศการขึ้น โดยใช้สถานที่ซักที่เพื่อจัด งานปาร์ตี้ที่มีการกินอาหารเป็นหลักโดยใช้ ชื่องานว่า Food Facility จะคล้ายกับงาน Sponsored Food แต่งานนี้เหมือนเป็นต้น แบบของการทดลองให้เอา 9 แบรนด์ดัง มาสนั บ สนุ น เพื่ อ การประหยั ด ค่ า อาหาร


Guixé บอกว่างานนี้เป็นงานที่มีร้านดังๆ และเครื่องดื่มไม่อั้นอีกต่างหาก ซึ่งในงาน ดีไซน์ของเขาได้ไอเดียมาจาก googleทั้ง สี ทั้ ง กราฟฟิ ค ที่ ทำ � เป็ น พื้ น หลั ง ของงาน เหมือนต้องการสื่อว่า อาหารจริงๆแล้วเรา สามารถหาได้ทุกที เมื่อดูจากงานก็น่าจะรู้ ว่าคนจะมามากมายแค่ไหน โดยรวมงานนี้ ได้รับการตอบรับอย่างดีจากคนในวงการ แต่งานออกจะเก่าไปหน่อยเพราะเป็นงาน ตั้งแต่ปี 2005 แล้ว ถ้ายังสนใจอยู่ลอง เข้าไปที่ foodfacility.org/ ในส่วนตัวงานของเค้าตัวอื่นอย่างงาน ที่เป็นที่รู้จักส่วนใหญ่ใน Forward Mail น่าจะเป็นเทปที่ติดแล้วจะเป็นรูปนั้นอย่าง รู ป กรอบรู ป หลุ ย ส์ แ ต่ ง านส่ ว นใหญ่ ข อง Guixé จะทำ�เพื่อรณรงค์นิดหน่อย เทปชิ้น ใหม่ของเค้าจึงเป็นเมื่อเรานำ�ก้อนขยะมา

ห่อด้วยเทปนี้ จะเป็นลูกฟุตบอลทันที ถือ เป็นการรีไซเคิลขยะไปในตัวเลย จะเห็นได้ว่า Martí Guixé สร้างงานไว้ ม า ก ม า ย ห ล า ย ห ล า ย รู ป แ บ บ อ ย่ า ง สร้างสรรค์ แต่ยังแฝงไว้ด้วยความดิบ ขำ� ขัน สุดโต่ง เหมือนชายสไตล์กวนๆ แม้ว่า บางอย่ า งอาจจะดู ว่ า รั บ ประทานได้ จ ริ ง ไหมหรือจะอร่อยหรือเปล่า ซึ่งก็ดูเหมือน ว่ า เขาก็ รู้ ตั ว ดี ว่ า งานที่ เ ขาทำ � เป็ น เพี ย ง การนำ�เสนอรูปแบบความคิดสร้างสรรค์ ความน่าสนใจใหม่ๆ ให้กับอาหารแน่นอน ว่านักออกแบบก็เป็นนักออกแบบไม่ใช่เชฟ อยู่วันยันค่ำ� เขาจึงโปรยความหมายของ Food Designer ของเขาไว้เต็มหน้าแรกใน เวบไซต์ว่า A Food Designer is somebody working with food,with no idea of cooking เข้ากับแมกกาซีนเราจริงๆ.

) “ A Food Designer is somebody working with food, with no idea of cooking.





>Name FLIG , Norway >> Padthai 30 baht


>>>> Name KUMIKO, Japan > Fruit Juice 40 baht


Name AURELIEN Snoy, Belgium >>> PineApple 10 baht


>>>>>>>> Name SIMON , Scotland >>> Coffee 40 baht


Name MICHAEL, German > Guinness beer 150 baht


>>> Name KELLY, England >> Padthai 30 baht


Name MICHAEL, German Name สมัย อนันตภักดิ์ , ประเทศไทย > Guinness beer 150 หมูย่าbaht ง 10 บาท (แต่เค้าบอกว่า 5 บาท)
















เรื่อง > กนิษฐา จงภักดีตระกูล ภาพ > สกาวเดือน งามศิริอุดม

ตอนนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักฟาสต์ฟู้ดที่หา กินได้ง่ายสะดวกและรวดเร็วแถมยังมีรส หวาน,มัน,เค็ม ถูกปากซะด้วยสิ เพราะทุก วั น นี้ วิ ถี ชี วิ ต และพฤติ ก รรมการบริ โ ภค ของเราเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนจากอิทธิพล การบริโภคอาหารจานด่วนแบบตะวันตก กลายเป็นแฟชั่นที่นิยมแพร่หลาย จนทำ�ให้ เราลืมคิดกันไปว่า อาหารประเภทนี้ไม่ค่อย จะมีประโยชน์ซักเท่าไหร่ สารอาหารไม่ครบ ถ้วนไม่ขาดก็เกินไปอย่างใดอย่างหนึ่ง ถ้า เราไม่ระมัดระวังในการกินอาจจะทำ�ให้ขาด สารอาหารได้อย่างไม่รู้ตัว หรือถ้ากินบ่อย เกินไปโรคอ้วนก็จะถามหาได้ ดังนั้นเราน่า จะมาทำ � ความรู้ จั ก กั บ อาหารประเภท ฟาสต์ฟู้ดและจั๊งค์ฟู้ดกันก่อน คงมีหลาย คนสงสัยกันอยู่ว่ามันเหมือนกัน หรือแตก ต่างกันอย่างไร ฟาสต์ฟู้ด (Fast food) โดยทั่วไปจะ หมายถึงอาหารจานด่วนที่หาง่าย รวดเร็ว ไม่แพง สั่งแล้วรอเดี๋ยวเดียวก็ทำ�เสร็จแล้ว เพราะเป็นอาหารที่ทำ� ง่าย กับทำ�เตรียมไว้ แล้วเป็นส่วนใหญ่ อย่างมากก็เพียงแต่อุ่น ด้วยไมโครเวฟบางครั้งไม่ต้องเข้าร้านด้วย ซ้ำ�และยังสามารถสั่งกลับไปกินที่บ้านได้ อีกด้วย อาจจะมีประโยชน์และคุณค่าทาง โภชนาการครบ หรือไม่ครบบ้างแตกต่าง กันไปตามแต่ละชนิดถ้าจะว่าไปอาหารจาน เดียวอย่าง ข้าวแกงบ้านเราก็อาจจัดได้ว่า เป็น fast food ได้เหมือนกัน เพราะส่งแล้ว ได้เลยเหมือนกัน หรือ สั่งบะหมี่ชามหนึ่งก็ แทบไม่ต้องรอ จั๊งค์ฟู้ด (Junk Food) ถือว่าเป็นส่วน ย่อยของอาหาร Fast Food อีกทีหนึ่งแต่ จะเป็นอาหารที่ไม่ค่อยมีคุณค่าทางโภชนา เช่น เบอร์เกอร์ ไก่ทอด มันฝรั่งทอด ฮอทดอก พิซซ่า โดนัท น้ำ�อัดลม ลูกอม แสน็ค ที่ส่วนใหญ่จะเน้นหนักไปด้วยแป้ง น้ำ�ตาล ไขมัน เกลือ ไม่ค่อยมีวิตามิน และใยอาหาร ซึ่งส่วนประกอบในอาหาร Junk food เป็น ตัวสำ�คัญที่ส่งผลกับร่างกายเรา ดังนี้

ไขมันอิ่มตัว (Saturated Fats) ได้แก่ อาหารประเภททอด เช่น ไก่ทอด มันทอด มักจะใช้น้ำ�มันที่มีไขมันอิ่มตัวทอดเนื่องว่า ราคาถูกแถมยังทนความร้อนได้ดี อีกด้วย การทานอาหาร Junk Food เราจะได้ไขมัน มากกว่าที่ร่างกายต้องการสำ�หรับ ซึ่งถ้า เกลือ (Salt) โดยทั่วไปแล้วร่างกายเรา ต้องการเพียงเล็กน้อยใน 1 วัน แต่อาหาร ประเภท Junk Food จะมีปริมาณโซเดียม เป็นส่วนผสมในสัดส่วนที่สูงมาก ถ้าทาน เข้าไปในปริมาณมาก จะทำ�ให้ความดันสูง และเพิ่ ม โอกาสเสี่ ย งต่ อ โรคหั ว ใจอี ก ด้ ว ย ปริมาณโซเดียมที่มากที่สุดต่อ 1 วันที่คน เราต้องการนัน ้ จะอยูท ่ ป ี่ ระมาณ 2,500 มก. น้ำ�ตาล (Sugar) น้ำ�อัดลม ลูกอม นั้น จะมีระดับน้ำ�ตาลในปริมาณสูงมาก การที่ เราบริโภคเข้าไปในปริมาณมากย่อมส่งผล เสียโดยตร งต่อการเพิ่มขึ้นของน้ำ�หนักตัว อาจทำ�ให้เกิดโรคอ้วน เบาหวาน นอกจาก นี้ยังเป็นต้นเหตุของการเกิดฟันผุอีกด้วย คาร์โบไฮเดรต (Carbohydrate) เป็น แหล่งพลังงานหลักของร่างกายก็จริง แต่ หากเรากินเข้าไปมากเกินความต้องการใน 1 มื้อ ส่วนที่เหลือใช้ก็จะเก็บสะสมเป็นไขมัน ตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย แล้วโรคอ้วน ก็จะถามหาคราวนี้เราก็ได้รู้แล้วว่าทำ�ไมกิน อาหาร junk food จึงไม่ให้ประโยชน์แถม ยังก่อโทษกับร่างกายเราด้วย ซ้ำ�ถ้าให้เลิก กินไปเลยมันก็คงยากต่อเรา เราเข้าใจดีว่า ต่อให้คุณทราบข้อมูลแค่ ไหนก็ไม่สามารถเปลี่ยนพฤติกรรมการรับ ประทานอาหารที่สังคมเมืองส่วนใหญ่เน้น ความเร็วเป็นหลัก ยังมีประชากรอีกหลาย คนเชื่ อ ว่ า อาหารที่ ดี คื อ อาหารที่ ไ ด้ ผ่ า น การตีตราแบรนด์ออกมา ซึ่งเมื่อเราลอง กลับหันไปมองการผลิตอาหารครั้งหนึ่ง นั้น จริงๆอย่างแฮมเบอร์เกอร์สามารถนำ� วัตถุดิบที่หาได้ง่ายตามท้องตลาดได้เลย แต่ ไ ม่ เ มื่ อ โลกเจริ ญ ขึ้ น อาหารผ่ า นขนส่ ง มากขึ้น ขนมปังที่ท้องถิ่นมีก็ต้องเอามา

จากที่อื่น ขนส่งเข้ากรุงเทพ ผักหาซื้อจาก ตลาดตามสาขาไม่ได้ต้องเป็นผักที่ทางเจ้า ของส่งมาให้ทำ� ไม่ว่าจะผ่านกระบวนการ ใดๆ ที่มาถึงมือผู้บริโภคเป็นลำ�ดับสุดท้าย ล้วนสิ้นเปลืองพลังงานคุณค่าอาหารก็ลด ลง เรื่องนี้ทุกคนรู้ดีอยู่แล้วตั้งแต่เด็ก วิชา สปช. ที่ว่าอาหารที่ดีคือความสดใหม่จะได้ รับคุณค่าที่แท้จริง แต่ในทางปฎิบัติทุกคน เลือกที่จะละเลย เพราะความสะดวก หรือ แฟชั่นเห็นเพื่อนกิน เข้าร้านนี้ต้องเข้าบ้าง เมืองนอกครอบครองตลาดอาหารเรา ทำ� ให้เราเลือกจะต้องกินเพราะไม่มีทางเลือก หลายๆเหตุผลเป็นสิ่งที่คนอ้างว่าต้อง กินแบรนด์นี้ ซึ่งผู้เขียนก็ยอมรับว่าเป็น เช่นนั้น ด้วยเหตุผลที่คิดว่ากินนิดเดียวน่า นั้นด้วยเหตุผลที่คิดว่ากินนิดเดียวคงไม่ เป็นไรหรือว่า เฮ้ย! มันจำ�เป็นจริงๆ ไม่มี เวลาขนาดนั้น ถูกกว่า เสียเวลาน้อยกว่า ด้วยสังคมที่เป็นแบบนี้บทความนี้จึงเกิด ขึ้นมาเพื่อให้รู้ว่าตอนนี้เรากำ�ลังทำ�อะไรอยู่ หนังสารคดีเรื่อง Super Size Me ถูก ถ่ายทอดด้วยชายคนหนึ่งชื่อ Mogan ที่ ต้องการพิสูจน์ว่า อาหารจั๊งค์ฟูดเป็นสิ่งที่ ไม่ดี โดยเริ่มที่ เด็กสาวคนหนึ่งอ้วนเกินวัย เพราะแมคโดนัลด์ เป็นปัจจัยหลักแต่ท้าย สุ ด ก็ ถู ก ยกฟ้ อ งเพราะหาหลั ก ฐานไม่ ไ ด้ ชายคนนี้จึงเริ่มต้นใช้ชีวิตโดยการทานของ แมคโดนัลด์ทุกมื้อ ก่อนหน้าที่จะเริ่มทาน เขาไปตรวจสุขภาพพบว่าทุกอย่างแข็งแรง ต่อมา เขาเริ่มมีอาการอ่อนเพลีย เหนื่อย ง่าย เจ็บหน้าอก เซ็กส์เสื่อม และเมื่อไปพบ หมอตรวจก็ต้องตกใจ เมื่อเขามีไขมันเส้นเลือดสูงและมีโอกาสไตเสื่อม จนถึงโอกาส เป็นโรคหัวใจได้และที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด คือ น้ำ�หนักขึ้นนั่นเอง จากผลที่เกิดจากทาน Mogan ก็ได้โทรศัพท์ไปหา Lisa ฝ่ายสื่อสารของแมคโดนัลด์ให้รู้และรับผิดชอบต่อ สังคม ซึ่งเขาต้องติดต่อไปเป็นสิบกว่าครั้ง กว่าที่จะได้พูดคุยกับ Lisa แต่ภายหลัง การพูดคุย แมคโดนัลด์ก็ไม่ได้มีการดำ�เนิน


การใดๆ 
เมื่อภาพยนตร์ของเขาออกฉาย สู่สารธารณชนก็ ส่งผลให้เขาได้รับรางวัล และ แมคโดนัลด์ เองก็เข้าไปมีส่วนร่วมกับ สังคมมากขึ้นโดยการไปเป็นสปอนเซอร์ใน การแข่งขันก๊ฬาต่างๆและ แมคโดนัลด์ก็ได้ ตัดเมนู Super Size ออกจากเมนูของร้าน และก็ส่งเมนูเพื่อสุขภาพเข้ามาแทนที่ จากเรื่องราวที่ได้ดูทั้งหมดนั้นเราพอจะ สรุ ป ได้ ว่ า พฤติ ก รรมการบริ โ ภคของคน สหรั ฐ อเมริ ก าซึ่ ง นั บ วั น จะยิ่ ง เกิ ด ปั ญ หา มากขึ้นทุกที อาหารซึ่งถือว่าเป็นปัจจัยที่ ใช้ในการดำ�รงชีวิต ที่จะขาดไปไม่ได้ ในทุกๆ วัน วันนี้ผู้คนในประเทศสหรัฐอเมริกาต่าง แก่งแย่งทั้งในด้านหน้าที่และการงานเพื่อ ทำ � ให้ ค นได้ ก้ า วสู่ จุ ด สู ง สุ ด ของชี วิ ต และ สิ่งเหล่านี้เองทำ�ให้ทุกอย่างดูจะรีบเร่งและ รวดเร็ว ฟาสฟู้ตหรือที่เรียกว่าอาหารขยะ คื อ อี ก หนึ่ ง ทางเลื อ กที่ ค นอเมริ ก าส่ ว น ใหญ่เลือกรับประทานกัน เนื่องมาจากสะดวกรวดเร็วที่คนเหล่านั้นจะได้รับ แต่สิ่ง เหล่ า นี้ ไ ม่ มี คุ ณ ค่ า ทางสารอาหารที่ ค รบ ถ้วนกับตัวผู้บริโภค และผู้บริโภคน้อยคน นักที่จะรู้ในเรื่องนี้ บางคนอาจคิดว่าสิ่งที่ ตนกินเข้าไปมีสารอาหารเพียงพอต่อร่างกายแต่ ค วามเป็ น จริ ง แล้ ว มั น มากเกิ น กว่าที่ร่างกายจะต้องการ ซึ่งเป็นตัวทำ�ให้ ร่างกายเราไม่แข็งแรงจึงเกิดโรคต่างๆ เพราะสภาพสังคมที่เป็นแบบนั้นได้บีบ บังคับให้คนเลือกในสิ่งที่ตอบสนองความ

ต้องการได้ดีกว่า ซึ่งสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นจาก การเลือกของตัวคนคนนั้น เกิดขึ้นโดยคิด ที่ จ ะกิ น เองและไม่ ศึ ก ษาว่ า สิ่ ง เหล่ า นั้ น ให้ โทษกับร่างกายมากเท่าไร ถึงแม้ในบางคน ที่ รู้ ว่ า มี โ ทษกั บ ร่ า งกายแต่ ก็ ยั ง เลื อ กที่ จ ะ กินเข้าไป จึงเป็นสิ่งที่ไม่ถูกที่จะโยนความผิ ด ไปให้ ร้ า นอาหารแมคโดนั ล เพี ย งฝ่ า ย เดียว เพราะว่าเป็นสิทธิ์ของคนทุกคนที่จะ เลือกกินโดยแมคโดนัลไม่ได้บงั คับให้คณ ุ ไป ซื้อของเค้าหนิ ถ้าจะผิดก็ผิดที่ตัวผู้ซื้อเอง ด้วยที่เลือกกินอาหารขยะเหล่านี้ ในส่วน ทางแมคโดนั ล ด์ นั้ น ก็ ทำ � โฆษณาออกมา เชิญชวนให้ผู้คนบริโภคสินค้าของตนโดย ไม่ได้บอกถึงโทษที่จะตามมา แม้ว่าจะมีตัว แผ่นพับหรือใบโภชนาการติดอยู่ตามร้าน ต่างๆ แต่ก็เป็นเพียงบางแห่งบางสาขาที่มี เท่านั้น นั่นแสดงถึงความไม่ใส่ใจของเจ้าของในเรื่องนี้ แม้กระทั่งพนักงานต่างๆที่ ทำ � งานในร้ า นก็ ยั ง ไม่ รู้ ถึ ง ข้ อ มู ล ที่ แ ท้ จ ริ ง ของโภชนาการเหล่านี้ในสินค้าของตน และ สิ่งนี้ก็แสดงให้เห็นว่าการสื่อสารมาสู่ระดับ พนักงานก็เป็นไปอย่างไม่ดีอีกด้วย ซึ่ง ตามหลักแล้ว คนที่ทำ�อาหารควรจะใส่ใจใน สุขภาพของผู้กินเป็นอันดับแรกแต่ทว่าใน สมั ย นี้ นั้ น ทำ � แทบจะตรงกั น ข้ า มเพราะ ความใส่ ใ จเหล่ า นั้ น กลั บ ไม่ ไ ด้ ถู ก ให้ ค วาม สำ�คัญเลยสักนิด ซ้ำ�ภายหลังร้านค้าก็ยัง คงเพิ่มขนาดของสินค้าในร้านให้มีขนาด ใหญ่ขึ้นเป็น Super Size อีกนั่นยิ่งแสดง


บางคนอาจคิดว่าสิ่งที่ตนกิน เข้าไปมีสารอาหารเพียงพอต่อ ร่างกายแต่ความเป็นจริงแล้ว มันมากเกินกว่าที่ร่างกายจะ ต้องการ.

ให้เห็นว่าร้านค้านั้นทำ�เหมือนกับเป็นการ ฆ่าคนทางอ้อม ซึ่งทั้งหมดเหล่านี้เป็นสิ่งที่ แมคโดนั ล ด์ ห รื อ ร้ า นค้ า อื่ น ๆไม่ ไ ด้ ใ ส่ ใ จใน รายละเอียดอย่างน้อยก็ควรจะแจ้งถึงโทษ ให้ผู้บริโภครับรู้อย่างชัดเจน อาจเป็นการ ทำ � โฆษณาออกมาเพื่ อ ให้ ผู้ บ ริ โ ภคได้ รั บ รู้ถึงข้อเท็จจริงต่างๆ ว่าอาหารขยะหรือ ฟาสต์ฟูดเหล่านี้นั้นเป็นอาหารที่มีคอเรสเตอรอลสูงกว่าอาหารปกติ ซึ่งเมื่อมาถึง จุดนี้จะโทษแต่แมคโดนัลด์ฝ่ายเดียวก็ไม่ ถูก ด้วยสังคมที่เป็นแบบโลกาภิวัฒน์ คน ที่มีอำ�นาจที่สุดในตลาดทางเศรษฐศาสตร์ คือผู้ซื้อหรือลูกค้าท ี่เมื่อไม่มีอุปสงค์ก็ไม่มี อุปทาน ถ้าทุกคนพร้อมใจกันไม่ทาน เรื่อง แบบนี้ก็จะไม่เกิด แต่เพราะว่าสังคมยังยึด กับร้านอาหารที่เป็นเช่นนี้อยู่ ประโยชน์ที่ ผู้บริโภคได้เห็นเมื่อนั้นคือความเร็ว แต่ไม่ มองไปถึงอนาคตสุขภาพของตนเอง ที่ยัง ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนั้น หรือว่าต่อให้ คนอื่นอย่าง Mogan มาแสดงให้เห็นก็ยัง ไม่รู้สึกเพราะ มันเป็นประสบการณ์ของคน อื่นที่ไม่ใช่ตัวเอง สารคดีอีกเรื่องที่จะนำ�เสนอคือ FastFood Nation เป็นเรื่องเกี่ยวกับพนักงาน ในบริ ษั ท แฮมเบอร์ เ กอร์ ร ายหนึ่ ง ถู ก เจ้ า นายสั่งให้ไปตรวจสอบสาขานอกเมือง ที่ ระบบธุรกิจแบบเฟรนชายส์ที่ต่อให้เจ้าของ กิจการใส่ใจเพียงใดแต่ถ้าคนทำ�อาหารไม่ ใส่ใจอย่างในหนังคือ เด็กทำ�เบอร์เกอร์ ทำ�


เบอร์เกอร์แอบถุยน้ำ�ลายลงไปแล้วเอาเนื้อ ไปย่าง ลูกค้าก็ไม่รู้อยู่ดี ทั้งยังมีเรื่องแรงงานเม็กซิโก ที่หนีเข้ามาทำ�งานในเมืองเป็น ในโรงงานฆ่าสัตว์ของบริษัทนี้ หลากหลาย ชีวิต กว่าจะมาเป็นก้อนเนื้อหนึ่งก้อนล้วน ผ่านกระบวนการมานับไม่ถ้วนไหนจะติด โรค การขนส่ง ฯลฯ สารคดีทั้งสองเรื่องแสดงให้เห็นว่าการ ทานอาหารจั๊งค์ฟู้ดนั้น อาจจะเป็นเรื่องดี สำ�หรับคนรีบเร่ง แต่ถ้าเราเห็นการทำ�งาน ของมันจริงๆแล้วจะพบว่ามัน คือสิ่งแปลก หน้าอย่างหนึ่งที่เราไม่รู้ว่ามัน คืออะไร และ ผ่านมือใครมาบ้าง ที่เราเลือกจะกินเข้าตัว เราเองด้วยทั้งนั้นโดยไม่คิดว่ามันมาได้ยัง ไงและผ่านอะไรมากบ้าง

ตราบใดที่คนส่วนใหญ่ยังเลือกที่จะทำ� ให้ชีวิตที่เร่งรีบ แข่งขันกันสูง ต้องการเงิน อยากเหลือเวลาเยอะๆ หรืออะไรก็ตาม ที่ ยังคิดว่​่าจังค์ฟูดมีประโยชน์อยู่ ธุรกิจนี้ก็ ยังเติบโตได้เรื่อยๆทั้งโลกที่เจริญและอาจ จะขยายไปเรื่อยๆจนถึงโลกที่สาม ซึ่งใน สุดท้ายแล้ว คนเราเลือกที่จะเห็นเงินที่เป็น สิ่ ง ของที่ เ ราสร้ า งขึ้ น เองมาจากไหนไม่ รู้ แต่รู้แค่ว่าสร้างประโยชน์และอำ�นวยความ สุขให้ได้ มากกว่าตัวเราเองหรือชีวิตของ เพื่อนมนุษย์คนอื่นๆ แต่เรื่องแบบนี้ก็ไม่มี ใครผิดหรือใครถูกหาต้นเหตุไม่ได้ว่า ต่อให้ หาได้ก็ไม่กล้าที่จะแก้เรื่องแบบนี้เราจึงต้อง ยอมให้มันเป็นไป แต่อย่าลืมว่าสุดท้ายนั้น คนที่ ทำ � แบบนี้ ไ ม่ ใ ช่ ใ ครตั ว ท่ า นเองก็ เ ป็ น ส่วนหนึ่งในวัฏจักรแบบนั้น

ตัวท่านเองก็เป็นส่วน หนึ่งในวัฏจักรแบบนั้น.

“ ที่มา :

ภาพยนตร์ Super Size Me ภาพยนตร์ Fast food Nation เว็บไซต์ เด็กไทยสุขภาพดี



Capricorn

Aqua/rius

(Pisces

/ 21 ธันวาคม - 19 มกราคม

20 มกราคม / 18 กุมภาพันธ์

( 19 กุมภาพันธ์ - 20 มีนาคม

ลักษณะและบุคลิกที่ดูก้าวร้าวของคนราศี นี้มักส่งผลมาจากลักษณะทางกายภาพ ของส่ ว นกระดู ก และข้ อ ต่ อ ที่ ไ ม่ ค่ อ ยมี ความยืดหยุ่นทำ�ให้เมื่อยิ่งแก่ตัวหรือเริ่ม เข้าสู่ช่วงครึ่งหลังของชีวิตจะเป็นโรคเกี่ยว กั บ ข้ อ ต่ อ และกระดู ก ทางที่ ดี ค วรบริ โ ภค แคลเซียมวิตามินดีและออกกำ�ลังกายเป็น ประจำ� แต่จะให้เจ๋งกว่าควรรีบทำ�ก่อนอายุ 35 ไม่งั้นจะสายเกินแก้ โรคข้ออักเสบเป็น โรคที่ก่อให้เกิดความอ่อนเพลียทรมานและ เจ็บปวดมากที่สุดโรคหนึ่งสำ�หรับชาวราศี มั ง กรเพราะไม่ ส ามารถรั ก ษาได้ โ ดยตรง ทำ�ได้เพียงให้ยาลดอักเสบและบวมตามข้อ เท่านั้น ดังนั้นการเลือกอาหารบริโภค ฝึก โยคะ ทำ�สมาธิ สร้างจินตนาการจะเป็นตัว ช่วยในการบรรเทาปวดอีกวิธีที่ยอดเยี่ยม ทีเดียว

โรคข้อเท้าบวม ข้อเท้าเคล็ด หลอดเลือด (ดำ�) ขอด จากทิศทางของดวงดาวทำ�ให้ ชาวราศี กุ ม ภ์ มั ก มี อ าการบวมที่ ข้ อ เท้ า หรือบริเวณต่ำ�กว่าหัวเข่าลงมา ดังนั้นจึง ควรนวดขาทุกวัน ตั้งแต่นิ้วเท้าจนถึงต้น ขาด้ ว ยน้ำ � มั น วิ ต ามิ น อี ห รื อ น้ำ � มั น หอม ระเหยมะนาวผสมกั บ ลาเวนเดอร์ เ พื่ อ บริหารให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น

ชาวราศี มี น มั ก มี ร ะบบต่ อ มน้ำ � เหลื อ งทำ � หน้าที่หลักในระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำ�ให้มีโอกาสเป็นโรคเกี่ยวกับระบบต่อม น้ำ�เหลืองได้มาก แต่ทางแก้ไม่ยาก แค่ดื่ม น้ำ�สมุนไพร ชาและเครื่องดื่มบำ�รุงร่างกาย จากการที่ โ หมงานหนั ก ชอบคิ ด มากใน เรื่องไม่เป็นเรื่อง ทำ�ให้ชาวราศีมีนจะรู้สึก เหนื่ อ ยอ่ อ นและเวี ย นศี ร ษะอยู่ บ่ อ ยๆซึ่ ง เป็นส่วนหนึ่งของภาวะเลือดจางและขาด ธาตุ เ หล็ ก แต่ เ พี ย งแค่ รั บ ประทานอาหาร ทดแทนธาตุ เ หล็ ก เสริ ม สร้ า งเซลล์ เ ม็ ด เลือดแดงก็จะบำ�บัดได้มาก


A.ries

Taurus!

Ge_mini

21 มีนาคม.19 เมษายน

20 เมษายน - 20 พฤษภาคม !

21 พฤษภาคม _ 22 มิถุนายน

อาการปวดศีรษะและโรคไมเกรน เป็นโรคที่ ชาวเมษควรระวัง เพราะตามการเดินทาง ของดวงดาวจะมีอิทธิพลปกคลุมร่างกาย ส่วนศีรษะทั้งหมด ยิ่งประกอบกับความที่ เป็ น คนคิ ด มากเครี ย ดจั ด ไม่ ย อมทาน อาหารตรงตามเวลา อาการปวดหัวจึงมัก จะมาเยี่ยมเยียนอยู่เป็นประจำ�โรคหวัดและ ไซนัสอักเสบ ก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาสุขภาพ ของชาวเมษ จึงควรดื่มน้ำ�หัวบีต แครอท และชาสมุนไพรคาโมมายล์เป็นประจำ�

ด้วยความที่เป็นคนทานเก่งชอบกินจุบจิบ ตลอดเวลาทำ�ให้ปัญหาใหญ่เป็นเรื่องรูป ร่าง ซึ่งพอคิดจะลดก็มักตบะแตก ไม่เคย สำ � เร็ จ สั ก ที เ พราะฉะนั้ น จึ ง ควรนำ � ความ มุ่ ง มั่ น ความดั น ทุ รั ง ที่ เ ป็ น นิ สั ย พื้ น ฐาน ประจำ�ตัวมาปรับใช้ให้เป็นประโยชน์กับการ ลดน้ำ � หนั ก ซึ่ ง ถ้ า ทำ � ได้ เ ชื่ อ ว่ า คราวหน้ า ส่องกระจกคุณอาจจะตะลึงคิดว่านางฟ้า แปลงกายมาอยู่ตรงหน้าปัญหาเรื่องคอ เป็นอีกปัญหาสำ�คัญของชาวพฤษภ ยิ่ง เมื่ออยู่ในที่เย็นหรือเกิดอาการเครียดจัด จะปวดเมื่อยตามคอได้ง่าย ซึ่งวิธีแก้คือใช้ มือนวดเบาๆใต้ติ่งหู ต่อมไทรอยด์ทำ�งาน ไม่ ป กติ ก็ เ ป็ น อี ก โรคที่ มั ก มาก่ อ กวนชาว ราศี นี้ ทำ � ให้ ร ะบบการเผาผลาญร่ า งกาย ทำ�งานไม่ปกติ ควรทานปลาหรืออาหารที่ มีไอโอดีนเยอะๆ

ชาวราศีเมถุนมีจุดอ่อนอยู่ที่หลังและไหล่ ทำ�ให้มักเกิดอาการตึงเส้นเอ็นบริเวณข้อ มื อ บ่ อ ยๆยิ่ ง ถ้ า ต้ อ งนั่ ง ทำ � งานหรื อ อยู่ หน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆเพราะฉะนั้นจึง ควรหาอุปกรณ์เสริมเช่นหาเบาะนิ่มๆ มา รองข้อมือเวลาใช้คอมพิวเตอร์หรือเก้าอี้ ที่นั่งสบายมีพนักตรงปรับระดับอย่างพอ เหมาะกับโต๊ะทำ�งาน นอนไม่หลับ ถือเป็น โรคที่ รุ น แรงสำ � หรั บ ชาวราศี นี้ เ พราะไม่ ใ ช่ แค่ ห ลั บ ๆตื่ น ๆแต่ จ ะถึ ง ขั้ น ตาค้ า งสมอง ทำ � งานตลอดเวลาจนร่ า งกายทรุ ด โทรม อ่อนเพลียวิธีแก้คือลด ละ เลิก เครื่องดื่ม กระตุ้นร่างกายทั้งหลาย หลอดลมอักเสบ หวัดลงปอด หืด ปอดอักเสบ ถุงลมโป่ง พองและโรคที่ เ กี่ ย วกั บ ระบบทางเดิ น หายใจซึ่ ง อากาศบริ สุ ท ธิ์ แ ละการออก กำ � ลั ง กายเป็ น ประจำ � จะช่ ว ยสร้ า งเกราะ ป้องกันได้


Cancer.

Leo-

23 มิถุนายน 22 กรกฎาคม.

23 กรกฎาคม 22 สิงหาคม-

อาการต่างๆก่อนมีประจำ�เดือน ไม่ว่าจะมี การปวดท้อง มีอาการอารมณ์แปรปรวน หงุ ด หงิ ด ง่ า ยเป็ น โรคที่ มั ก เกิ ด กั บ ชาว กรกฎ ด้วยสาเหตุที่ดาวเคราะห์ประจำ�ราศี เป็นดวงจันทร์และร่างกายมีระดับฮอร์โมน เอสโตรเจนสูงส่งผลให้หน้าอกเต้านมและ ต่อมน้ำ�นมมักเกิดอาการผิดปกติ จึงควร ทานวิ ต ามิ น และอาหารเสริ ม เป็ น ประจำ � อี ก ทั้ ง โรคกระเพาะลำ � ไส้ อั ก เสบและโรคที่ เกี่ ย วกั บ ระบบย่ อ ยอาหารจึ ง ควรใส่ ใ จใน พฤติกรรมการทานให้มาก

ปวดเมื่ อ ยตามกล้ า มเนื้ อ หลั ง และส่ ว น ต่างๆของร่างกาย เนื่องจากมีนิสัยดื้อรั้น ชอบทำ�ทุกอย่างด้วยตนเอง ไม่ยอมผ่อน ให้ยืดหยุ่น ทำ�ให้ร่างกายเมื่อยล้าและเคล็ด ขัดยอกอยู่บ่อยๆ ชาวราศีสิงห์มักมีน้ำ� หนั ก ตั ว มากเกิ น พอดี เ พราะพอเครี ย ดก็ มักระบายออกกับมันฝรั่ง ไอศกรีม หรือ ขนมหวานทั้ ง หลายทำ � ให้ เ ป็ น โรคความ ดั น โลหิ ต สู ง โรคหั ว ใจและหลอดเลื อ ด ตี บ ซึ่ ง หากยั ง เลิ ก การทานเพื่ อ ระบาย ความเครียดไม่ได้ควรเปลี่ยนมาทานผัก ผลไม้หรือมันฝรั่งทอดปราศจากเกลือและ ไขมันต่ำ�แทน

(Virgo)

(23 สิงหาคม 20 กันยายน)

ด้วยความที่เป็นคนร่าเริง ชอบทำ�กิจกรรม ออกกำ�ลังกายอยู่เป็นประจำ� ทำ�ให้โรค ต่างๆ ไม่ค่อยมารุมเร้ากวนใจคุณมากนัก แต่ สำ � หรั บ โรคนอนไม่ ห ลั บ ถื อ เป็ น กรณี ยกเว้น คุณมักจะตื่นกลางดึกแล้วนอน ไม่หลับอยู่บ่อยๆ ลองอาบน้ำ�อุ่นจัดก่อน นอน หลีกเลี่ยงอาหารมื้อหนักหลังสี่โมง เย็น หรือดื่มนมและน้ำ�ผึ้งอุ่นๆ ก่อนนอน


Li|bra 21 กันยายน | 22 ตุลาคม จากนิสัยที่คุณเป็นคนชอบทานของหวาน และอาหารมันๆเป็นประจำ�แต่ไม่ยอมออก กำ�ลังกายส่งผลให้ไตทำ�งานหนักมากกว่า ปกติจึงควรดูแลไตเป็นพิเศษโดยดื่มน้ำ�วัน ละ 6-8 แก้ว หลีกเลี่ยงอาหารพวกเนื้อ ปลา เป็ด ไก่ แล้วแทนที่ด้วยผักผลไม้สี เขียวและสีเหลือง รับรองถ้าทำ�ตามไตคุณ จะยิ้ ม ระรื่ น เลยที เ ดี ย วเนื่ อ งจากผิ ว หนั ง และไตของชาวราศี นี้ อ ยู่ ใ ต้ อิ ท ธิ พ ลของ ดาวศุกร์ จึงมักส่งผลให้ไขมันและส่วนเกิน ที่ถูกขับออกมาจากไตถูกปลดปล่อยทาง ร่างกายผิวหนังเป็นเหงื่อและสิว การดูแล ใบหน้ า ให้ ส ะอาดจึ ง เป็ น สิ่ ง ที่ ช าวตุ ล ควร ใส่ใจให้มากเป็นพิเศษ

Scor’pio

Sagit tarius

23 ตุลาคม ‘ 22 พฤศจิกายน

23 พฤศจิกายน 20 ธันวาคม

ชาวราศีพิจิกมีนิสัยชอบกลั้นการขับถ่ายๆ ไว้ น านๆแถมยั ง ชอบอาหารที่ มี ไ ขมั น สู ง แบบที่ เ ห็ น เป็ น ไม่ ไ ด้ ต้ อ งวิ่ ง เข้ า หาทั น ที ทำ�ให้โรคท้องผูกมักมาเยือนบ่อยๆจนบาง ครั้งอาจเรื้อรั้งไปถึงริดสีดวงทวารทางที่ ดีควรปรับเปลี่ยนกิจวัตรประจำ�วันและทำ� ระบบขับถ่ายให้เป็นกิจวัตร

ด้ ว ยความที่ เ ป็ น คนทุ่ ม เทเต็ ม ที่ กั บ เรื่ อ ง กิ น เรื่ อ งดื่ ม เป็ น พิ เ ศษทำ � ให้ ช าวราศี นี้ มี โอกาสเป็ น โรคตั บ อั ก เสบโรคตั บ แข็ ง และ โรคพิ ษ สุ ร าเรื้ อ รั ง มากกว่ า ชาวราศี อื่ น เพราะฉะนั้นเลิกดื่มซะเถอะราศีธนูหมาย ถึ ง ร่ า งกายส่ ว นตั บ และถุ ง น้ำ�ดี ทำ� ให้ ช าว ราศี ธ นู มี โ อกาสเป็ น โรคนิ่ ว ในถุ ง น้ำ � ดี สู ง ซึ่งโรคนี้มักทำ�ให้คุณเกิดอาการปวดท้อง ประมาณ 15 นาทีถึง 1 ชั่วโมงหลังกินเสร็จ ถ้ า อยากให้ อ าการดี ขึ้ น ลองทานอาหาร ประเภทโปรเท้า คาร์โบไฮเดรตหรือวิตามิน เสริมที่ช่วยให้เกิดการดูดย่อยไขมันได้ดี



Subscription form ! Thailand 450 Baht 1/2 Year Thailand 900 Baht 1 Year Thailand 1,600 Baht 2 Year Oversea 2,000 Baht 1 Year

Name Company Name / College Birthday Address Zipcode E-mail

Gender

Female

Male

Tel

Type of Business

Designer Artist

Chef / Cook Researcher

Etc.

Payable to Gasp.Magazine Current account 003-1-14028-5 Transfer to SCB Bank,Sukhumvit Branch Slip Fax 662 260 2609 Cheque Money order (Payable to Gaps.Magazine) Credit Card (Visa / Citibank) No. Enclose a cheque,money order for Signature Date

Baht

Snail Mail Please !

Name Country/City Address E-mail Social Network What do you think ?

* 5 ท่านแรกที่ส่งใบสมัครเล่มนี้มา จะได้รับเครื่องมือช้ินนี้


uncommon food magazine

บริษัท เมดอินไชน่า จำ�กัด เลขที่ 253 ถนน สุขุมวิท เขต วัฒนา กรุงเทพ 10110

Next Issue November 2009

uncommon food magazine

บริษัท เมดอินไชน่า จำ�กัด เลขที่ 253 ถนน สุขุมวิท เขต วัฒนา กรุงเทพ 10110

Black Foods and Scorpion





Food/Snack/ Drink| Chupa Chups http://www.chupachups.com/ | Häagen-Dazs http://www.haagendazs.com/ | Sobe Energy Drink http://www.sobeworld.com/ | Wyeth Nutriotion http://www.wyeth.com/ | Pepsi www.pepsi.com | Calpis http://www.calpis.net/ | Meiji http://www.meiji.com | Snickers Bar www.snickers.com | Golden Skins potato chips www.goldenskinspotato.com | Lacto Free http://www.lactofree.co.uk/ | Heineken www.heineken.com | Parmalat Milk www.parmalat.net | Absolut Vodka www.absolut.com/ | Heinz Ketchup www.heinz.com/ | Fromart Cheese www.fromart.com.au | Wrigley’s Gum / | Winterfresh Gum www.wrigley.com/ | Pringles www.pringles.com/ | Mcdonald’s www.mcdonalds.com/

Instruments.

Etc.

| Nipro http://www.nipro.com/ | Terumo Medical www.terumomedical.com/ | Blackmore Vitamins www.blackmores.com.au | La Roche-Posay http://www.laroche-posay.com/ | Lazer Bike Helmets www.lazer.be/

| www.wikipedia.org | www.google.com | Fox Television www.fox.com/ | www.univali.br/ | Adobe Software www.adobe.com/

Magazine | Art 4d Magazine http://www.art4d.com/ | Food Stylist Magazine www.foodstylist.co.th/ | @Kitchen Magazine www.atkitchen.com | Wallpaper Magazine www.wallpaper.com/ | นิตยสาร ครัว สำ�นักพิมพ์ แสงแดด www.sangdad.com

Locations | Central world http://www.centralworld.co.th/ | Water Front Shopping http://waterfront-shopping.dk/ | โรงพยาบาลศิริราช ตึกเจ้าฟ้ามหาจักรี | โรงพยาบาลโรคปอดกรุงเทพ | โรงพยาบาลบุรฉัตรไชยากร | ถนนข้าวสาร | โรงแรมปาร์คนายเลิศ | ตลาดนัดศาลายา


issue 01 october 2009 E-Magazine DVD

ระบบปฏิบัติการที่ต้องการ | ระบบปฎิบัติการ Mac OS X ขึั้นไป | ระบบปฎิบัติการ Windows XP ขึ้นไป //System requirements | Mac OS X or later | Windows XP or later // ด้านในมีโฟลเดอร์ for mac และ for windows หรือ ดาวน์โหลดเพิ่มที่เวบไซต์


Finale Check!




Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.