Fangirl

Page 1

‘ earnest

มัณฑุกา แปล



Rainbow Rowell เขียน มัณฑุกา แปล

earnest

publishing


แฟนเกิร์ล Fangirl

Rainbow Rowell เขียน

มัณฑุกา แปล

บรรณาธิการ วิลาส วศินสังวร บรรณาธิการบริหาร ชญานุช วศินสังวร ศิลปกรรม สนพ. เอิร์นเนส พับลิชชิ่ง Copyright for Fangirl Copyright © 2013 by Rainbow Rowell Published by agreement with The Lotts Agency, Ltd. through Silkroad Publishers Agency

จัดพิมพ์โดย: บริษัท เอิร์นเนส พับลิชชิ่ง จ�ำกัด 610/35-36 ถนนทรงวาด แขวงจักรวรรดิ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ 10100 โทรศัพท์: 02 223 9460-3 โทรสาร: 02 622 4419 Facebook : http://www.facebook.com/EarnestPublishing จัดพิมพ์: บริษัท โอ.เอส. พริ้นติ้ง เฮ้ำส์ จ�ำกัด 113/13 ซอยวัดสุวรรณคีรี ถนนบรมราชชนนี แขวงอรุณอัมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ 10700 โทรศัพท์: 02 424 6944 โทรสาร: 02 434 3802 จัดจ�ำหน่ำยทั่วประเทศ: บริษัท อมรินทร์ บุ๊ค เซ็นเตอร์ จ�ำกัด 108 หมู่ 2 ถนนบางกรวย-จงถนอม แขวงมหาสวัสดิ์ เขตบางกรวย นนทบุรี 11130 โทรศัพท์: 02 423 9999 โทรสาร: 02 499 9561-3 www.naiin.com สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2558 © บริษัท เอิร์นเนส พับลิชชิ่ง จ�ากัด เลขมำตรฐำนสำกลประจ�ำหนังสือ 978-616-7691-22-0 พิมพ์ครั้งที่ 1 ตุลาคม 2558 รำคำ 400 บาท


ค�ำน�ำส�ำนักพิมพ์ เรนโบว์ ราวเวลล์ เพิ่งเขียนหนังสือออกมาเพียง 4 เล่ม และ ก�าลังจะออกเล่มที่ 5 ในเดือนนีใ้ นอเมริกา เธอเป็นนักเขียนทีป่ ระสบความ ส�าเร็จอย่างมาก ความประทับใจจะอยู่ที่เมื่อตัวละครหลักสื่อสารกัน จะมี อะไรบางอย่างอยู่ลึกๆ มีเคมีเชื่อมถึงกันระหว่างตัวละคร คนอ่านจะรู้สึก อินทุกครั้งเมื่อเธอปล่อยให้ตัวละครโลดแล่นและบอกความในใจซึ่งกัน แฟนเกิรล์ มีพล็อตเรือ่ งทีเ่ ขียนยาก แปลกใหม่ ไม่คอ่ ยได้พบเจอ เท่าไหร่นัก แต่ก็ยังมีความโรแมนติกที่เป็นสากล ซึ่งแฟนนิยายรักพลาด ไม่ได้



แด่เจนนิเฟอร์ ผู้มีดาบเลเซอร์ส�ารองอยู่เสมอ





ภาคเรียนฤดูใบไม้ร่วง 2011


ไซมอน สโนว์ จาก เอนไซโคลวิเกีย สารานุกรมของประชาชน บทความนี้เกี่ยวกับชุดวรรณกรรมเยาวชน ส�าหรับความหมายอื่น ดูที่ ไซมอน สโนว์ (แก้ความก�ากวม) ไซมอน สโนว์ เป็นชุดนวนิยายแฟนตาซีจ�านวนเจ็ดเล่ม ประพันธ์โดยนัก นิรุกติศาสตร์ชาวอังกฤษ เจ็มมา ที. เลสลี บอกเล่าเรื่องราวของไซมอน สโนว์ เด็กก�าพร้าวัย 11 ปีจากแลงคาสเชอร์ ผูไ้ ด้รบั การคัดเลือกให้เข้าศึกษา ในโรงเรียนเวทมนตร์วอตฟอร์ดเพือ่ เป็นนักเวทมนตร์ ระหว่างทีเ่ ติบโต ไซมอน เข้าร่วมกลุม่ นักเวทมนตร์ทเี่ รียกว่า กลุม่ จอมเวท เพือ่ ต่อสูก้ บั ฮัมดรัมผูล้ กึ ลับ มารร้ายที่พยายามท�าลายล้างโลกแห่งเวทมนตร์ นับตั้งแต่ ไซมอน สโนว์ กับทายาทจอมเวท ได้รับการตีพิมพ์ใน ปี 2001 หนังสือชุดนี้ได้รับการแปลเป็นภาษาต่างๆ 53 ภาษา และจนถึง เดือนสิงหาคม 2011 ท�ายอดขายแล้วกว่า 380 ล้านเล่ม เลสลีได้รบั ค�าวิจารณ์ถงึ ความรุนแรงในหนังสือ และการสร้างตัวเอกที่ อารมณ์รา้ ยและเห็นแก่ตวั ในบางครัง้ ฉากขับไล่ปศี าจในเล่มสี่ ไซมอน สโนว์ กับสี่เซลกี จุดชนวนการคว�า่ บาตรในกลุ่มคริสเตียนอเมริกันในปี 2008 แต่ หนังสือชุดนี้ก็ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นวรรณกรรมคลาสสิคยุค ใหม่ ในปี 2010 นิตยสารไทม์ เรียกไซมอนเป็น “ตัวละครในวรรณกรรม เยาวชนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ฮัคเคิลเบอร์รี ฟินน์” หนังสือเล่มแปด ซึ่งเป็นเล่มสุดท้ายในชุด มีกา� หนดวางจ�าหน่ายใน วันที่ 1 พฤษภาคม 2012


ประวัติการพิมพ์ ไซมอน สโนว์ ไซมอน สโนว์ ไซมอน สโนว์ ไซมอน สโนว์ ไซมอน สโนว์ ไซมอน สโนว์ ไซมอน สโนว์ ไซมอน สโนว์ 1 พฤษภาคม 2012

กับทายาทจอมเวท, 2001 กับงูล�าดับสอง, 2003 กับประตูที่สาม, 2004 กับสี่เซลกี, 2007 กับดาบทั้งห้า, 2008 กับหกกระต่ายขาว, 2009 กับต้นโอ๊คที่เจ็ด, 2010 กับการเต้นร�าทีแ่ ปด มีกา� หนดวางจ�าหน่ายในวันที่


1

มีผู้ชายอยู่ในห้องของเธอ แคธเงยหน้าขึ้นมองตัวเลขบนประตู แล้วก้มดูหมายเลขห้องที่ถูก ก�าหนดให้ในมือ พาวด์ฮอลล์ ห้อง 913 นีเ่ ป็นห้อง 913 แน่ๆ แต่อาจจะไม่ใช่พาวด์ฮอลล์ หอพักทุกหลัง หน้าตาเหมือนกันหมดอย่างกับตึกบ้านพักคนชรา บางทีแคธน่าจะรีบบอกพ่อ ก่อนพ่อจะยกสัมภาระที่เหลือของเธอขึ้นมา “เธอคงเป็นแคเธอร์” หนุ่มน้อยคนนั้นยิ้มกว้างแล้วยื่นมือให้ “แคธ” เธอตอบ รู้สึกถึงความตระหนกที่เต้นโลดอยู่ในท้อง เธอ ไม่ได้จับมือเขา (ก็เธอถือกล่องอยู่ จะให้เธอท�ายังไง) ต้องมีอะไรผิดพลาด มีอะไรผิดพลาดแน่ๆ เธอรู้ว่าหอพาวด์เป็น หอรวมชายหญิง... แต่ให้ผู้ชายกับผู้หญิงอยู่ห้องเดียวกันเลยเหรอ ผู้ชายคนนั้นยกกล่องจากมือเธอไปวางบนเตียงที่ว่างอยู่ เพราะ เตียงอีกฟากพูนไปด้วยเสื้อผ้าและลังใส่ของแล้ว “ข้างล่างยังมีอีกไหม” เขาถาม “เราเพิ่งขนของเราเสร็จ ว่าจะไป กินเบอร์เกอร์พอดี เธออยากกินเบอร์เกอร์ไหมล่ะ เคยไปร้านเพียร์สห์ รือยัง 12


แฟนเกิร์ล

เบอร์เกอร์ขนาดเท่าก�าปัน้ เชียวนา” เขาจับแขนเธอยกขึน้ แคธกลืนน�า้ ลาย “ก�ามือสิ” เขาบอก แคธท�าตาม “ใหญ่กว่าก�าปั้นเธออีก” เขาบอก ปล่อยมือเธอลง แล้วหยิบเป้ ที่เธอทิ้งไว้หน้าประตูขึ้นมา “มีของอีกไหม ต้องมีหลายกล่องแน่ เธอหิว หรือยัง” เขาเป็นคนตัวสูง ผอม ผิวคล�้าแดด และดูเหมือนเพิ่งถอดหมวก กันหนาวออก ผมสีบลอนด์เข้มลูล่ บี ไปทุกทิศทาง แคธก้มลงมองหมายเลข ห้องในมืออีก ผู้ชายคนนี้คือ เรแกนงั้นเหรอ “เรแกน!” เขาร้องเสียงใส “นี่ เพื่อนร่วมห้องเธอมาแล้ว” เด็กสาวคนหนึง่ เดินอ้อมตัวแคธในโถงทางเดิน ก่อนจะเหลียวกลับ มามองนิ่งๆ เธอมีผมสีน�้าตาลแดงและคาบบุหรี่ที่ไม่ได้จุดอยู่ หนุ่มคนนั้น คว้ามาไว้ที่ปากตนเอง “เรแกน นี่แคเธอร์ แคเธอร์ นี่เรแกน” เขาพูด “แคธ” แคธบอก เรแกนพยักหน้าแล้วควานหาบุหรีอ่ กี มวนในกระเป๋าถือ “ฉันเลือก ฝัง่ นีไ้ ปแล้ว” เธอพยักเพยิดไปทางกองกล่องใส่ของทางฝัง่ ขวาของห้อง “แต่ ไม่เป็นไรนะ ถ้าเธอมีปัญหาเรื่องฮวงจุ้ย ย้ายข้าวของฉันได้เลย” เธอหัน ไปหาหนุ่มคนนั้น “พร้อมยัง” เขาหันไปหาแคธ “ไปด้วยกันไหม” แคธส่ายหน้า พอประตูปิดลงเบื้องหลังพวกเขา แคธก็นั่งลงบนฟูกเปลือยที่ ดูเหมือนจะเป็นของเธอ ปัญหาเรื่องฮวงจุ้ยน่ะขี้ผง เธอพิงศีรษะกับผนัง อิฐบล็อก เธอแค่ต้องสงบสติอารมณ์ เธอต้องจับความเครียดที่เหมือนผงสีด�าเต้นริกอยู่ในลูกตา พร้อม กับหัวใจอีกดวงในล�าคอ ยัดกลับลงไปยังที่อยู่ของมันในกระเพาะ เธอจะ ได้จับมันผูกด้วยกันให้แน่นๆ แล้วค่อยมาจัดการทีหลัง 13


เรน ์ ร เ ลล์

พ่อกับเวร็นจะขึน้ มาอยูเ่ ดีย๋ วนีแ้ ล้ว แคธไม่อยากให้สองคนนัน้ รูว้ า่ เธอก�าลังจะสติแตก ถ้าแคธสติแตก พ่อก็จะสติแตกด้วย และถ้ามีใครคนใด คนหนึ่งสติแตก เวร็นก็จะท�าเหมือนพวกเขาจงใจท�าลายวันแรกอันแสนจะ เพียบพร้อมของเธอในมหาวิทยาลัย ท�าลายการผจญภัยก้าวใหม่อนั สวยงาม ของเธอ เดี๋ยวเธอก็จะขอบคุณฉันละน่า เวร็นชอบพูดอย่างนี้ ครั้งแรกที่เวร็นพูดคือเมื่อเดือนมิถุนายน แคธส่งใบสมัครเข้าหอพักของมหาวิทยาลัยไปแล้ว และแน่นอนว่า เธอใส่ชอื่ เวร็นเป็นเพือ่ นร่วมห้อง...โดยไม่ตอ้ งคิด ทัง้ สองอยูห่ อ้ งเดียวกันมา สิบแปดปี จะมาแยกกันตอนนี้ท�าไม “เราอยูห่ อ้ งเดียวกันมาตัง้ สิบแปดปีแล้วนะ” เวร็นแย้ง ตอนนัน้ เวร็น นั่งอยู่ที่หัวเตียงของแคธ พร้อมกับปั้นสีหน้า ฉันเป็นผู้ใหญ่กว่า อย่างน่า โมโห “และทุกอย่างก็เรียบร้อยดี” แคธว่าพลางโบกมือไปรอบห้อง ชีใ้ ห้ เห็นกองหนังสือ โปสเตอร์ไซมอน สโนว์ และตู้เสื้อผ้าที่ทั้งสองยัดเสื้อผ้า รวมกันได้โดยแทบไม่ต้องกังวลว่าตัวไหนเป็นของใคร แคธนั่งอยู่ที่ปลายเตียง พยายามไม่ท�าท่าเหมือน คนขี้แยน่า สมเพช “นีม่ นั มหา’ลัยแล้วนะ” เวร็นยืนกราน “เราเข้ามหา’ลัยก็เพือ่ จะได้ เจอคนใหม่ๆ” “เรามีฝาแฝดก็เพือ่ จะได้ไม่ตอ้ งกังวลกับเรือ่ งแบบนี”้ แคธย้อน “ไม่ ต้องกลัวใครก็ไม่รแู้ อบหยิบผ้าอนามัยเราไปใช้ หรือมีกลิน่ ตัวเหมือนน�า้ สลัด หรือใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปเราตอนหลับ” เวร็นถอนหายใจ “เธอพูดอะไรของเธอ มีใครทีไ่ หนกลิน่ ตัวเหมือน น�้าสลัด” “กลิน่ เหม็นเปรีย้ วไง” แคธบอก “จ�าตอนทีเ่ ขาพานักศึกษาใหม่ชม โรงเรียนได้ไหม มีห้องผู้หญิงคนหนึ่งกลิ่นอย่างกับน�า้ สลัดอิตาเลียน” 14


แฟนเกิร์ล

“จ�าไม่ได้” “มันน่าขยะแขยงก็แล้วกัน” “นี่มหา’ลัยแล้วนะ” เวร็นพูดอย่างอ่อนใจ แล้วยกมือขึ้นปิดหน้า “มันควรจะเป็นการผจญภัยสิ” “นีก่ ผ็ จญภัยแล้วไง” แคธคลานขึน้ ไปข้างตัวคูแ่ ฝด แล้วดึงมือเวร็น ออกจากหน้า “อนาคตข้างหน้าน่ากลัวจะแย่แล้ว” “เราควรจะได้เจอเพื่อนใหม่” เวร็นพูดซ�้า “ฉันไม่ต้องการเพื่อนใหม่” “นั่นแหละแปลว่าเธอต้องมีเพื่อนใหม่...” เวร็นบีบมือแคธ “แคธ คิดดูสิ ถ้าเราไปมหา’ลัยด้วยกัน ทุกคนจะท�าเหมือนเราเป็นคนเดียวกัน คงต้องรออีกสี่ปีกว่าจะมีคนแยกเราออกว่าใครเป็นใคร” “แค่สังเกตหน่อยก็รู้แล้ว” แคธแตะแผลเป็นที่คางของเวร็น ซึ่งอยู่ ใต้ริมฝีปากพอดี (อุบัติเหตุจากเลื่อนหิมะตอนเก้าขวบ เวร็นนั่งข้างหน้า ตอนที่เลื่อนชนต้นไม้ ส่วนแคธหงายหลังลงไปในหิมะ) “เธอรู้ว่าฉันพูดถูก” เวร็นบอก แคธสั่นหน้า “ไม่รู้” “แคธ...” “อย่าทิ้งฉันไว้คนเดียวเลยนะ” “เธอไม่มีวันเหลือตัวคนเดียวหรอก” เวร็นถอนหายใจอีก “นั่นละ ประเด็นหลักของการมีพี่น้องฝาแฝด” “สวยดีน”ี่ พ่อพูดพลางมองไปรอบๆ ห้อง 913 ของหอพาวด์ จากนัน้ ก็วาง ตะกร้าผ้าที่เต็มไปด้วยรองเท้าและหนังสือบนเตียงของแคธ “ไม่เห็นจะสวยตรงไหน” แคธพูดขณะยืนนิ่งอยู่ข้างประตู “อย่าง กับห้องในโรงพยาบาล แต่เล็กกว่า แล้วก็ไม่มีทีวี” “เห็นวิวมหาวิทยาลัยชัดดีออก” พ่อบอก เวร็นเดินไปที่หน้าต่าง “ห้องฉันได้วิวที่จอดรถ” 15


เรน ์ ร เ ลล์

“เธอรู้ได้ยังไง” แคธถาม “กูเกิลเอิร์ธ” เวร็นไม่ได้รอจนกว่ามหาวิทยาลัยจะเริ่ม เธอกับเพื่อนร่วมห้อง คอร์ตนีย์ คุยกันมาหลายสัปดาห์แล้ว คอร์ตนียเ์ องก็มาจากโอมาฮาเหมือนกัน ทั้งสองนัดไปซื้อของเข้าห้องด้วยกันเรียบร้อยแล้ว แคธติดตามไปด้วยและ พยายามไม่ท�าหน้างอเวลาทั้งสองเลือกโปสเตอร์แต่งห้องและโคมไฟโต๊ะ เขียนหนังสือที่เข้าชุดกัน พ่อหันกลับมาโอบบ่าแคธ “เดี๋ยวก็ดีเองละน่า” พ่อพูด เธอพยักหน้า “หนูรู้” “เอาละ” พ่อตบมือ “ป้ายหน้า หอแชรมม์ ป้ายสอง บุฟเฟต์ พิซซ่า ป้ายสาม รังว่างเปล่าเหงาหงอยของพ่อ” “ไม่เอาพิซซ่า” เวร็นพูด “ขอโทษนะพ่อ หนูกับคอร์ตนีย์จะไป งานเลี้ยงบาร์บีคิวน้องใหม่คืนนี้” เธอส่งสายตามาทางแคธ “แคธก็น่าจะ ไปด้วย” “เอาพิซซ่า” แคธเสียงแข็ง พ่อยิ้ม “เวร็นพูดถูกนะแคธ ลูกควรจะไป จะได้เจอคนใหม่ๆ” “อีกเก้าเดือนต่อไปนีห้ นูจะต้องเจอคนใหม่ๆ ทุกวัน วันนีห้ นูเลือก บุฟเฟต์พิซซ่า” เวร็นกลอกตา “ก็ได้” พ่อพูด แล้วตบบ่าแคธเบาๆ “ป้ายหน้า หอแชรมม์ ไป กันเลยมั้ยสาวๆ” เขาเปิดประตู แคธไม่ขยับ “พ่อไปส่งเวร็นแล้วกลับมาก็แล้วกัน” เธอมองคู่แฝด “หนูอยากจัดของ” เวร็นไม่โต้แย้ง “พรุ่งนี้ค่อยคุยกันนะ” เธอบอก โดยแทบไม่หัน ไปมองแคธ “ได้” แคธพูด * * * 16


แฟนเกิร์ล

การจัดของเข้าที่ทา� ให้รู้สึกดี เธอปูที่นอน จัดต�าราเรียนใหม่เอี่ยมและแพง ระยับของเธอเข้าชั้นเหนือโต๊ะเขียนหนังสือ พอพ่อกลับมา ทั้งสองก็เดินไปร้านวาเลนติโนส์ด้วยกัน ผู้คนที่ได้ เห็นตลอดเส้นทางล้วนอายุรุ่นราวคราวเดียวกับแคธ มันน่าขนลุก “ท�าไมทุกคนผมบลอนด์กนั หมด” แคธถาม “ท�าไมผิวขาวกันหมด” พ่อหัวเราะ “ลูกแค่ชนิ กับการอยูใ่ นชุมชนทีข่ าวน้อยสุดในเนบราสกา” บ้านของพวกเขาทีเ่ ขตโอมาฮาตอนใต้อยูใ่ นชุมชนคนเม็กซิกนั บ้าน ของแคธเป็นครอบครัวคนขาวหนึ่งเดียวในละแวกนั้น “ตายละ” เธอพูด “พ่อว่าเมืองนี้มีรถขายทาโก้ไหมนี่” “พ่อว่าพ่อเห็นชิโพทเล1” เธอคราง “เอาน่า” พ่อพูด “ลูกชอบชิโพทเลนี่” “ไม่เกี่ยวกันสักหน่อย” เมื่อทั้งสองไปถึงวาเลนติโนส์ ในร้านแออัดไปด้วยนักศึกษา บาง คนเหมือนกับแคธ คือมากับพ่อแม่ แต่มีไม่มากนัก “อย่างกับนิยาย วิทยาศาสตร์แน่ะ” เธอว่า “ไม่มเี ด็กเล็ก... ไม่มใี ครอายุเกินสามสิบ... คน แก่ๆ ไปไหนกันหมดเนี่ย” พ่อชูชิ้นพิซซ่าของตัวเองขึ้น “ซอยเลนท์ กรีน2” แคธหัวเราะ “พ่อยังไม่แก่นะ รู้ไหม” พ่อเคาะนิ้วกลางกับนิ้วนางบนโต๊ะด้วย มือซ้าย “แค่สี่สิบเอ็ด เพื่อนร่วมงานที่อายุเท่าพ่อเพิ่งจะมีลูกกันเอง” “พ่อนี่ฉลาด” แคธว่า “เขี่ยพวกเราให้พ้นทางอย่างไว ทีนี้ก็จะได้ พาสาวๆ กลับมาบ้านได้ซะที ทางสะดวกแล้ว” “สาวๆ รึ...” พ่อพูดพลางก้มลงมองจาน “สาวๆ ที่พ่อสนใจมีแต่ ลูกสองคน” 1 ร้านชิโพทเล เม็กซิกัน กริลล์ เป็นร้านฟาสต์ฟู้ดที่เน้นขายเบอร์ริโตและทาโก้ 2 ภาพยนตร์ไซไฟเกี่ยวกับวิกฤตการขาดแคลนอาหารเนื่องจากประชากรล้นโลก 17


เรน ์ ร เ ลล์

“อึ๋ย พ่อ ขนลุกน่า” “ลูกรู้ว่าพ่อหมายความว่ายังไง ตกลงลูกกับเวร็นมีเรื่องอะไรกัน ไม่เคยเห็นทะเลาะกันอย่างนี้มาก่อน...” “ตอนนีก้ ไ็ ม่ได้ทะเลาะ” แคธว่า แล้วกัดพิซซ่าเบคอน-ชีสเบอร์เกอร์ “อึ๋ยย...” เธอถ่มออกมา “เป็นอะไร กัดเจอหนังตาเข้าหรือไง1” “เปล่า แตงดอง หนูแค่ไม่นึกว่าจะเจอ” “ท่าทางลูกสองคนเหมือนทะเลาะกันอยู่” พ่อว่า แคธยักไหล่ เธอกับเวร็นไม่ได้คุยกันเท่าไหร่ด้วยซ�้า อย่าว่าแต่ ทะเลาะกันเลย “เวร็นแค่อยาก...เป็นตัวของตัวเองมากกว่านี้” “ฟังดูมีเหตุผลนี่นา” พ่อพูด แหงละ แคธคิด นั่นแหละจุดเด่นของเวร็น แต่เธอปล่อยผ่านไป เธอไม่อยากให้พ่อกังวลเรื่องนั้นในตอนนี้ เธอบอกได้จากการเคาะโต๊ะไม่ หยุดว่าพ่อก�าลังใกล้ถงึ ขีดสุดแล้ว เพราะท�าตัวเป็นพ่อธรรมดามานานหลาย ชั่วโมงติดต่อกัน “เหนื่อยหรือคะ” เธอถาม พ่อยิ้มให้เป็นเชิงขอโทษ แล้ววางมือลงบนตัก “นี่เป็นวันส�าคัญ วันส�าคัญที่พ่อท�าใจล�าบาก แต่พ่อรู้อยู่แล้วว่าจะเป็นอย่างนี้” เขาเลิกคิ้ว “พร้อมกัน สองคนในวันเดียว ฟิว้ พ่อยังเชือ่ ไม่ลงเลยว่าลูกจะไม่กลับบ้าน ไปกับพ่อ...” “อย่าเคยตัวล่ะ หนูยงั ไม่แน่ใจเลยว่าตัวเองจะทนอยูไ่ ด้ครบภาคเรียน” เธอพูดเล่น แต่ไม่ห่างความจริงเท่าไหร่ และพ่อก็รู้ “ลูกท�าได้ แคธ” พ่อวางมือที่ยุกยิกน้อยกว่าอีกข้างกุมมือเธอไว้ แล้วบีบ “พ่อเองก็ท�าได้เหมือนกัน รู้ไหม” แคธสบตาพ่ออยูพ่ กั หนึง่ พ่อดูเหนือ่ ย... และ ใช่ กระสับกระส่าย 1 ในภาพยนตร์เรื่อง Soylent Green “ซอยเลนท์ กรีน” อาหารในโลกอนาคตท�ามาจาก ชิ้นส่วนของมนุษย์ที่ตายแล้ว 18


แฟนเกิร์ล

ด้วย แต่ยังควบคุมตัวเองไว้ได้ “หนูยังอยากให้พ่อเลี้ยงหมาอยู่นะ” เธอบอก “พ่อจะลืมให้อาหารมันน่ะสิ” “บางทีเราน่าจะฝึกมันให้อาหารพ่อได้” พอแคธกลับมาถึงหอ เรแกน เพื่อนร่วมห้องของเธอ ก็ยังไม่กลับ หรือ อาจจะกลับมาแล้วออกไปใหม่อีก กล่องสัมภาระของเรแกนยังอยู่ในสภาพ เดิม แคธจัดเสื้อผ้าของตัวเองเสร็จ จากนั้นก็เปิดกล่องข้าวของส่วนตัวที่ น�ามาจากบ้าน เธอหยิบรูปถ่ายของเธอและเวร็นขึ้นมาปักหมุดกับกระดานไม้ก๊อก ที่โต๊ะเขียนหนังสือ มันเป็นรูปวันจบการศึกษา ทั้งสองสวมเสื้อคลุมสีแดง และก�าลังยิ้ม นั่นเป็นช่วงก่อนที่เวร็นจะตัดผม... เวร็นไม่ได้บอกแคธด้วยซ�้าว่าจะตัดผม เธอแค่กลับจากงานพิเศษ เมื่อจบฤดูร้อนด้วยทรงผมที่ซอยสั้นกุด ซึ่งดูเก๋มาก และจะว่าไปคงรับกับ หน้าแคธด้วย แต่แคธหมดโอกาสจะตัดทรงนัน้ แล้ว ต่อให้เธอรวบรวมความ กล้าตัดผมยาวสิบห้านิว้ ออกได้กเ็ ถอะ เธอลอกแบบการแต่งตัวพีน่ อ้ งฝาแฝด ของเธอเองไม่ได้ จากนั้นแคธก็หยิบกรอบรูปที่ใส่ภาพของพ่อออกมา ตลอดเวลาที่ ผ่านมามันเคยตั้งอยู่บนโต๊ะแต่งตัวของทั้งสองที่บ้าน รูปนี้พ่อดูดีเป็นพิเศษ เพราะถ่ายในวันแต่งงาน พ่อยังหนุ่มแน่นยิ้มแย้ม และติดดอกทานตะวัน ดอกจิ๋วบนสาบเสื้อ แคธวางรูปไว้บนหิ้งเหนือโต๊ะของเธอ ต่อไปเป็นรูปของเธอกับเอเบิลในงานเต้นร�าฉลองจบการศึกษา แคธสวมชุดกระโปรงสีเขียวเงาระยับ เอเบิลคาดแถบผ้าที่เอวสีเดียวกัน แคธธดูดีในรูปนี้ ถึงใบหน้าจะดูว่างโล่งเมื่อปราศจากแว่นตา เอเบิลก็ดูดี ในรูปนี้เช่นกัน ถึงสีหน้าเขาจะดูเบื่อๆ เอเบิลมักจะมีสีหน้าเบื่อหน่ายอยู่เสมอ แคธควรจะส่งข้อความไปหาเอเบิลได้แล้ว แค่บอกว่ามาถึงแล้วก็ยงั 19


เรน ์ ร เ ลล์

ดี แต่เธออยากรอจนกว่าจะรูส้ กึ สบายใจและเป็นปกติกว่านีก้ อ่ น ข้อความ น่ะส่งแล้วเรียกกลับไม่ได้ ถ้าข้อความของเราออกมาเหมือนคนหงุดหงิด ระทมทุกข์ มันก็จะค้างในโทรศัพท์อยู่อย่างนั้น และคอยเตือนว่าเราน่า ร�าคาญขนาดไหน ทีก่ น้ กล่องคือบรรดาโปสเตอร์ไซมอนกับแบซ เธอค่อยๆ เอาออก มากางเรียงบนเตียง บางภาพเป็นภาพจากหนังหรือหนังสือ บางภาพถูก วาดขึ้นเพื่อแคธโดยเฉพาะ เธอคงต้องเลือกเฉพาะใบที่ชอบ เพราะไม่มีที่ พอบนกระดานไม้กอ๊ ก และแคธตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ตดิ มันบนฝาผนังให้คน ทั้งโลกเห็น เธอเลือกออกมาสามแผ่น... ไซมอนก�าลังยกดาบจอมเวท แบซเอกเขนกบนบัลลังก์เขี้ยวสีด�า ทัง้ สองเดินคูก่ นั ท่ามกลางใบไม้สที องปลิวว่อน ผ้าพันคอปลิวไสวในสายลม ยังมีของอย่างอื่นเหลืออยู่ในกล่อง ดอกไม้ติดเสื้อแห้งกรอบ ริบบิน้ จากเวร็นทีเ่ ขียนว่า ชมรมจานสะอาด1 และรูปปัน้ ครึง่ ตัวของไซมอน และแบซ เป็นสินค้าที่ระลึกที่เธอสั่งซื้อจากโนเบิลคอลเลคชัน2...

1 Clean Plate Club เป็นส่วนหนึ่งในแคมเปญของรัฐบาลอเมริกันในอดีตที่รณรงค์ให้ นักเรียนประถมรับประทานอาหารในจานของตนเองให้หมดและไม่กินจุบกินจิบระหว่างมื้อ 2 บริษัทผู้ผลิตสินค้าที่ระลึกจากหนังสือและภาพยนตร์ต่างๆ เช่น แฮร์รี พอตเตอร์, ซู เปอร์แมน, ลอร์ดออฟเดอะริง ฯลฯ 20


มีผู้ชายคนหนึ่งอยู่ในห้องของไซมอน เด็กผู้ชายผมด�าเรียบและมีดวงตาเย็นชาสีเทา เขาก�าลังอุ้มแมวขึ้นสูง แล้วหมุนตัวไปรอบๆ ให้เด็กผู้หญิงคนหนึ่งกระโดดไขว่คว้า “เอาคืนมานะ” เด็กหญิงร้อง “เดี๋ยวมันก็เป็นอะไรไปหรอก” เด็กชายหัวเราะแล้วชูแมวสูงกว่าเก่า จากนั้นก็สังเกตเห็นไซมอนยืน อยู่ที่ช่องประตูจึงหยุด ดวงหน้าเคร่งขึ้น “หวัดดี” เด็กชายผมด�ากล่าวแล้วปล่อยแมว แมวลงถึงพื้นด้วยสี่ขา แล้ววิ่งออกจากห้องโดยมีเด็กหญิงไล่ตามไป เด็กชายไม่สนใจ เขาดึงเสือ้ นอกทีเ่ ป็นเครือ่ งแบบของโรงเรียนให้เข้าที่ แล้วยิ้มด้วยมุมปากซ้าย “ฉันรู้จักนาย ไซมอน สโนว์... ทายาทจอมเวท” เขา ส่งมือให้ ท่าทางยโส “ฉัน ทีแรนนัส แบซิลตัน พิทช์ แต่เรียกฉันว่าแบซก็ได้ เราก�าลังจะเป็นเพื่อนร่วมห้องกัน” ไซมอนหน้าบึง้ แล้วท�าเป็นไม่เห็นมือขาวซีดของอีกฝ่าย “นายท�าอะไร กับแมวนั่นไม่ทราบ” —จากบทที่ 3 ไซมอน สโนว์ กับทายาทจอมเวท ลิขสิทธิ์ © 2001 โดย เจ็มมา ที. เลสลี


2

ในหนังสือ เวลาตัวละครตื่นขึ้นมาในที่ไม่คุ้นเคย ทุกคนจะมีช่วงเวลางุนงง เมื่อไม่รู้ว่าตนเองอยู่ที่ไหน เรื่องแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับแคธ เธอจ�าช่วงที่เข้านอนได้เสมอ แต่มนั ก็ยงั แปลกอยูด่ ที ไี่ ด้ยนิ เสียงสัญญาณปลุกแสนคุน้ หูในสถานที่ ใหม่ แสงในห้องดูแปลกตาและออกเหลืองเกินไปส�าหรับยามเช้า อากาศ ในหอเจือกลิ่นฉุนของผงซักฟอกที่เธอไม่แน่ใจว่าตัวเองจะชินได้ แคธหยิบ โทรศัพท์มือถือขึ้นมากดปิดเสียงปลุก แล้วนึกได้ว่ายังไม่ได้ส่งข้อความไป หาเอเบิล เธอไม่ได้เช็คอีเมลหรือบัญชีแฟนฟิคซ์ของเธอด้วยซ�้าก่อนจะเข้า นอน “วันแรกแล้ว” เธอส่งข้อความหาเอเบิลในตอนนี้ “ไว้คุยกันนะ จุ๊บๆ” เตียงอีกฟากของห้องยังว่างเปล่า ถ้าเป็นอย่างนีไ้ ปตลอด แคธคงดีใจ บางทีเรแกนอาจจะไปขลุกอยู่ ทีห่ อ้ งหรืออพาร์ตเมนต์ของแฟนตลอดเวลา ผูช้ ายคนนัน้ ดูโตกว่า เขาอาจ จะพักอยูน่ อกมหาวิทยาลัยกับเพือ่ นผูช้ ายอีกสักโขยง ในบ้านโกโรโกโสทีต่ งั้ เก้าอี้ยาวในสนามหน้าบ้าน 22


แฟนเกิร์ล

ต่อให้ทงั้ ห้องมีเธอคนเดียว แคธก็ไม่สะดวกใจจะเปลีย่ นเสือ้ ผ้าทีน่ ี่ เรแกนอาจจะเดินเข้ามาเมือ่ ไหร่กไ็ ด้ แฟนของเรแกนอาจจะเดินเข้ามาเมือ่ ไหร่ ก็ได้... และหนึง่ ในสองคนนัน้ อาจจะเป็นพวกชอบแอบถ่ายรูปด้วยโทรศัพท์ มือถือ แคธหอบเสือ้ ผ้าไปเปลีย่ นในห้องน�า้ ส่วนกลาง ผูห้ ญิงทีอ่ า่ งล้างมือ พยายามสุดชีวิตที่จะส่งสายตาผูกมิตร แคธท�าเป็นมองไม่เห็น เธอแต่งตัวเสร็จและเหลือเวลาอีกมากมายที่จะกินอาหารเช้า แต่ เธอไม่รสู้ กึ อยากไปผจญภัยทีโ่ รงอาหาร เธอยังไม่รเู้ ลยว่าโรงอาหารอยูไ่ หน และไปถึงแล้วต้องท�าตัวยังไง... ในสถานการณ์ใหม่ๆ กฎที่น่าปวดหัวที่สุดคือกฎที่ไม่มีใครคิดจะ อธิบายให้เราฟัง (และหาในกูเกิลไม่ได้) อย่างเช่น เริม่ ต่อแถวทีไ่ หน หยิบ อาหารอะไรได้บ้าง ต้องยืนตรงไหน นั่งตรงไหน กินเสร็จแล้วต้องท�ายังไง ท�าไมทุกคนถึงมองเรา... เฮ้อ แคธเปิดกล่องโปรตีนอัดแท่ง เธอมีโปรตีนอีกสี่กล่องและเนยถั่ว สามขวดยักษ์ซอ่ นอยูใ่ ต้เตียง ถ้าเธอค่อยๆ กิน เธออาจจะไม่ตอ้ งเผชิญหน้า กับโรงอาหารจนถึงเดือนตุลาคม เธอเปิดคอมพิวเตอร์แล็ปท็อปขณะเคี้ยวโปรตีนแท่งรสถั่วแครอบ และข้าวโอ๊ต จากนั้นก็คลิกเข้าบัญชีแฟนฟิคซ์ของเธอ ที่หน้าหลักมีความ เห็นใหม่มากมาย ทุกคนกระวนกระวายเพราะแคธไม่ได้โพสต์ สู้ต่อไปฯ บทใหม่เมื่อวานนี้ สวัสดีทุกคน เธอพิมพ์ เมื่อวานขอโทษนะ เข้ามหา’ลัยวันแรก แล้วก็เรื่องที่บ้าน เยอะแยะไปหมด วันนี้ก็คงไม่ได้โพสต์อีก แต่ขอสัญญา ว่าจะกลับมาเต็มตัววันอังคารนี้ มีของเด็ดเตรียมไว้ให้ดว้ ย บ๊ายบาย จาก เมจิแคธ ขณะเดิ น ไปห้ อ งเรี ย น แคธอดรู ้ สึ ก ไม่ ไ ด้ ว ่ า เธอก� า ลั ง เล่ น บทนั ก ศึ ก ษา มหาวิทยาลัยในภาพยนตร์เกี่ยวกับการเติบโตของวัยรุ่น ฉากรอบข้างมัน 23


เรน ์ ร เ ลล์

ใช่ไปหมด ทั้งสนามหญ้าเรียบเขียว อาคารอิฐ หนุ่มสาวสะพายเป้ แคธ ขยับเป้ของตัวเองบนหลังอย่างอึดอัด ดูฉันสิ แค่มองก็รู้เลยว่านักศึกษา มหาวิทยาลัย เธอไปถึงชั้นเรียนประวัติศาสตร์อเมริกาก่อนเวลาสิบนาที แต่ยัง ไม่เร็วพอจะจองที่นั่งหลังห้อง ทุกคนดูประหม่าเคอะเขิน เหมือนคิดแล้ว คิดอีกว่าจะแต่งตัวอย่างไรมาเรียน (ต่อไปอยากท�ายังไงก็เริม่ ต้นแบบนัน้ แคธคิดเมือ่ หยิบเสือ้ ผ้าออกมา เมื่อคืน กางเกงยีนส์ เสื้อยืดไซมอน เสื้อไหมพรมผ่าหน้าสีเขียว) ผูช้ ายทีน่ งั่ โต๊ะข้างๆ สวมหูฟงั และวางมาดผงกศีรษะขึน้ ลง ผูห้ ญิง อีกฝั่งของแคธเอาแต่สะบัดผมตัวเองจากบ่าข้างหนึ่งไปอีกข้างหนึ่ง แคธหลับตา เธอสัมผัสได้ถึงโต๊ะที่ขยับเอียดอาดและยาระงับกลิ่น ของผู้คนรอบข้าง แค่รู้ว่ามีคนอื่นอยู่ด้วย เธอก็ทั้งเครียดและอึดอัด ถ้าแคธมีศักดิ์ศรีน้อยกว่านี้หน่อย เธอคงเลือกลงชั้นเดียวกับเวร็น เพราะทัง้ คูต่ า่ งต้องการหน่วยกิตวิชาประวัตศิ าสตร์ บางทีเธอควรจะลงเรียน กับเวร็นในขณะที่ทั้งสองยังมีอะไรเหมือนกันอยู่ เธอกับเวร็นไม่มีความ สนใจตรงกันเลยไม่ว่าในวิชาไหนๆ เวร็นอยากเรียนการตลาด และท�างาน โฆษณาเหมือนพ่อ แคธนึกไม่ออกว่าตัวเองจะท�างานแบบไหนหรือมีอาชีพอะไร เธอ ลงเอกภาษาอังกฤษ เพราะหวังว่าจะได้ใช้เวลาอีกสีป่ ตี อ่ จากนีอ้ า่ นและเขียน หนังสือ และอาจจะอีกสี่ปีต่อจากนั้นด้วย แต่แคธผ่านการทดสอบวิชาคอมพิวเตอร์ปหี นึง่ แล้ว และตอนทีไ่ ด้ เจอหน้าอาจารย์ทปี่ รึกษาในฤดูใบไม้ผลิ แคธก็หว่านล้อมให้เขาเชือ่ ว่าเธอมี คุณสมบัตจิ ะเรียนวิชาการเขียนนวนิยาย ซึง่ เป็นวิชาของนักศึกษาปีสาม มัน เป็นวิชาเดียวและอาจจะสิง่ เดียวในมหาวิทยาลัยทีแ่ คธรอคอยอยู่ อาจารย์ ที่สอนวิชานี้เป็นนักเขียนนิยายตัวจริง ช่วงฤดูร้อนแคธอ่านหนังสือของเธอ หมดทั้งสามเล่ม (เกี่ยวกับความตกต�า่ และอ้างว้างในชนบทของอเมริกา) “อ่านอะไรอยู่น่ะ” ตอนนั้นเวร็นถามเมื่อสังเกตเห็น 24


แฟนเกิร์ล

“หือ?” “หน้าปกไม่เห็นมีมังกรหรือเอลฟ์” “ก็ลองอ่านแนวอื่นบ้าง” “ชูว่ ”์ เวร็นพูด ปิดหูโปสเตอร์ภาพยนตร์เหนือหัวเตียงเธอ “เดีย๋ ว แบซก็ได้ยินหรอก” “ความสัมพันธ์ของฉันกับแบซมั่นคงดี” แคธว่า และอดยิ้มไม่ได้ การคิดถึงเวร็นตอนนี้ท�าให้แคธควานหาโทรศัพท์ เมื่อคืนเวร็นคงออกไปข้างนอก เมื่อคืนมีเสียงเหมือนทั้งมหาวิทยาลัยลุกขึ้นมาปาร์ตี้ แคธรู้สึก เหมือนถูกโจมตีอยู่ในห้องว่างเปล่าในหอ ทั้งเสียงโห่ร้อง เสียงหัวเราะ เสียงดนตรี ดังมาจากทุกทิศทาง เวร็นคงต้านทานเสียงเหล่านั้นไม่ได้ แคธควักโทรศัพท์ออกจากเป้ “ตื่นยัง” กดส่ง ไม่กี่วินาทีต่อมา โทรศัพท์ของเธอก็ร้องเตือน “ฉันควรเป็นฝ่าย ถามนะ” “เมื่อคืนฉันเหนื่อยจนเขียนไม่ไหว” แคธพิมพ์ “นอนตั้งแต่สี่ทุ่ม” เสียงข้อความเข้า “ทอดทิ้งแฟนคลับซะแล้ว...” แคธยิ้ม “อิจฉาแฟนๆ ฉันละสิ” “โชคดีนะ” “อื้อ เธอก็ด้วย” ชายวัยกลางคนเชื้อสายอินเดียในเสื้อนอกผ้าขนสัตว์เคร่งขรึมเดิน เข้ามาในโถงเลคเชอร์ แคธกดปิดโทรศัพท์แล้วสอดเข้าไปในเป้ พอกลับถึงห้อง แคธก็หิวจนไส้กิ่ว ขืนเป็นอย่างนี้ต่อไป โปรตีนแท่งคงอยู่ ได้ไม่ถึงสัปดาห์... มีผชู้ ายนัง่ อยูห่ น้าห้อง หนุม่ คนเดิม แฟนของเรแกน? หรือเพือ่ น ดูดบุหรี่ของเรแกน? 25


เรน ์ ร เ ลล์

“แคเธอร์!” เขาร้องพร้อมรอยยิ้ม และรีบยืนขึ้นทันทีท่ีเห็นเธอ ท่วงท่าดูล�าบากกว่าที่ควรจะเป็น เพราะแขนขาของเขายาวเกินตัว “แคธต่างหาก” เธอบอก “แน่ใจเหรอ” เขายกมือเสยผม เหมือนอยากให้แน่ใจว่าผมยัง ยุ่งเหยิงอยู่ “เพราะฉันชอบชื่อแคเธอร์จริงๆ นะ” “แน่ใจ” เธอตอบเสียงเรียบ “ฉันมีเวลาคิดนานแล้ว” เขายืนรอให้เธอเปิดประตู “เรแกนอยู่หรือเปล่า” แคธถาม “ถ้าเรแกนอยู่” เขายิ้ม “ฉันคงอยู่ในห้องแล้ว” แคธใช้นวิ้ จับลูกกุญแจขึน้ มาแต่ไม่เปิดประตู เธอท�าไม่ได้ แค่นเี้ ธอ ก็รบั ความแปลก และ ความใหม่ มากเกินขนาดส�าหรับวันนีแ้ ล้ว ตอนนี้ เธอแค่อยากไปขดตัวอยูบ่ นเตียงเสียงเอียดอาดของเธอและสวาปามโปรตีน สักสามแท่ง เธอมองข้ามบ่าเขาไป “แล้วจะมาเมื่อไหร่” เขายักไหล่ กระเพาะของแคธเกร็งเข้าหากัน “เอ่อ ฉันให้เธอเข้าห้องไม่ได้ หรอก” เธอโพล่งออกมา “ท�าไมล่ะ” “ก็ฉันไม่รู้จักเธอ” “ล้อเล่นน่า” เขาหัวเราะ “เราเจอกันแล้วเมือ่ วานไง ฉันอยูใ่ นห้อง ด้วยตอนที่เราเจอกัน” “ใช่ แต่ฉันไม่รู้จักเธอ ฉันไม่รู้จักเรแกนด้วยซ�า้ ” “เธอจะให้เรแกนรอหน้าห้องด้วยงั้นเหรอ” “ฟังนะ...” แคธพูด “ฉันปล่อยให้ผู้ชายแปลกหน้าเข้าห้องไม่ได้ หรอก ขนาดชื่อเธอฉันยังไม่รู้จักเลย สถานการณ์ทั้งหมดนี้มันเอื้อต่อการ ข่มขืนมากเกินไป” “ข่มขืน?” “เธอเข้าใจ ใช่ไหม” แคธถาม 26


แฟนเกิร์ล

เขาลดคิว้ ลงแล้วสัน่ ศีรษะ แต่หน้ายังยิม้ อยู่ “ไม่เชิง แต่คราวนีฉ้ นั เลยไม่อยากเข้าไปในห้องกับเธอแล้ว ค�าว่า ‘ข่มขืน’ ท�าให้ฉนั หนาวๆ ร้อนๆ” “ฉันก็เหมือนกัน” แคธพูดอย่างโล่งอก เขาพิงหลังกับก�าแพง แล้วลืน่ พรืดกลับลงไปทีพ่ นื้ จากนัน้ ก็เงยหน้า มองพร้อมกับยกมือข้างหนึ่งขึ้น “อ้อ ฉันชื่อลีไว” แคธขมวดคิ้วแล้วจับมือเขาเบาๆ มือยังก�ากุญแจ “โอเค” เธอ พูด จากนั้นก็เปิดประตูและปิดตามหลังอย่างรวดเร็ว แคธคว้าแล็ปท็อปกับโปรตีนแท่ง แล้วปีนขึ้นไปยังมุมเตียงของ ตนเอง แคธพยายามเดินไปๆ กลับๆ ในฝั่งของตัวเอง แต่พื้นที่ห้องไม่พอ แค่นกี้ ็ เหมือนติดคุกแล้ว แถมยังมีลไี ว แฟนของเรแกนยืนยาม—หรือนัง่ ยาม—อยู่ หน้าห้องอีก ถ้าได้คยุ กับใครสักคน แคธคงรูส้ กึ ดีขนึ้ เธอสงสัยว่าโทรหาเวร็น ตอนนี้จะเร็วไปไหม... เธอโทรหาพ่อแทน แล้วฝากข้อความเสียงไว้ เธอส่งข้อความไปหาเอเบิล “นี่ ผ่านไปวันนึงแล้วนะ เป็นไงบ้าง” เธอเปิดหนังสือวิชาสังคมศึกษา แล้วเปิดแล็ปท็อป จากนัน้ ก็ลกุ ไป เปิดหน้าต่าง ข้างนอกอากาศอบอุ่น มีคนถือปืนของเล่นวิ่งไล่กันอยู่นอก บ้านสมาคมกรีกฝั่งตรงข้าม ไพแคปปา1บ้าบออะไรสักอย่าง แคธชักโทรศัพท์ออกมากดหมายเลข “ฮัลโหล” เวร็นตอบ “วันแรกเป็นไง” “เฉยๆ เธอล่ะ” “ก็ดี” เวร็นพูด เสียงของเวร็นมักฟังดูเอื่อยเฉื่อยไม่เคยทุกข์ร้อน “แบบว่า จะบ้าตาย ละมั้ง ตอนไปเรียนวิชาสถิติ ฉันดันไปผิดตึก” 1 มหาวิทยาลัยในอเมริกาจะมีสมาคมพิเศษของนักศึกษาแยกย่อยไปหลายกลุม่ โดยสมาชิก ทีไ่ ด้รบั การคัดเลือกจะพักอาศัยรวมกันในบ้านของสมาคมนัน้ ๆ ชือ่ ของบ้านมักใช้อกั ษรกรีก 2-3 ตัวเป็นการก�ากับ (ไพ และ แคปปา เป็นอักษรกรีก) 27


เรน ์ ร เ ลล์

“แย่เลยสิ” ประตูเปิดออก แล้วเรแกนกับลีไวก็เดินเข้ามา เรแกนมองแคธด้วย สายตาแปลกๆ แต่ลีไวเพียงแต่ยิ้ม “ใช่” เวร็นพูด “จริงๆ แค่ท�าให้สายไปสองสามนาทีแหละ แต่ ฉันก็ยังรู้สึกตัวเองโง่อยู่ดี เออ นี่ ฉันกับคอร์ตนีย์จะไปกินอาหารเย็นกัน เดี๋ยวโทรกลับได้มั้ย หรือเธอแค่โทรมานัดกินมื้อเที่ยงกับเราพรุ่งนี้ ฉันว่า เราน่าจะนัดกันที่เซลเล็คฮอลล์ตอนเที่ยงทุกวัน ไปถูกหรือเปล่า” “เดี๋ยวก็หาเจอ” แคธบอก “โอเค เยี่ยม แล้วเจอกัน” “อื้อ” แคธตอบ กดตัดสายแล้วเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋า ลีไวขึ้นไปเหยียดยาวบนเตียงเรแกนเรียบร้อยแล้ว “ช่วยกันท�ามาหากินหน่อย” เรแกนว่า แล้วโยนผ้าปูทนี่ อนก้อนขยุม้ ใส่เขา “หวัดดี” เธอพูดกับแคธ “หวัดดี” แคธตอบ เธอยืนนิ่งอยู่หนึ่งนาที รอให้มีบทสนทนา สักอย่างเกิดขึ้น แต่เรแกนดูไม่สนใจ เธอก�าลังรื้อกล่องต่างๆ ราวกับหา อะไรอยู่ “วันแรกเป็นไงบ้าง” ลีไวถาม แคธต้องใช้เวลาหนึ่งวินาทีก่อนจะส�านึกว่าเขาพูดกับเธอ “เฉยๆ” เธอตอบ “เธออยูป่ หี นึง่ ใช่มั้ย” เขาก�าลังปูทนี่ อนให้เรแกน แคธสงสัยว่าเขา จะอยู่ค้างคืนด้วยหรือเปล่า ไม่ได้นะ ไม่ได้เด็ดขาด เขายังจ้องมาอยู่ พร้อมด้วยรอยยิ้ม แคธจึงพยักหน้า “ไปห้องเรียนถูกหมดมั้ย” “อื้อ...” “ได้เจอคนใหม่ๆ บ้างรึเปล่า” ก็เจออยู่นี่ไง เธอคิด “ไม่อยากเจอก็ต้องเจอ” เธอตอบ 28


แฟนเกิร์ล

เธอได้ยินเรแกนหัวเราะพรืด “ปลอกหมอนอยู่ไหน” ลีไวถามตู้เสื้อผ้า “ในกล่อง” เรแกนตอบ เขาเริม่ รือ้ ของในกล่องมาวางบนโต๊ะของเรแกน ราวกับรูว้ า่ อะไรควร อยูต่ รงไหน ศีรษะเขาห้อยต�า่ เหมือนติดอยูห่ ลวมๆ กับคอและบ่า หรือเป็น หุ่นของเล่นที่หัวและแขนขาโดนยึดไว้ข้างในด้วยยางยืดเก่าๆ ลีไวดูเหมือน พวกคึกคะนอง ทั้งลีไวและเรแกน คนเรามักจะจับคู่กับคนแบบเดียวกัน แคธคิด “แล้วเธอเรียนเอกอะไร” เขาถามแคธ “ภาษาอังกฤษ” เธอตอบ และหลังจากเว้นช่วงนานไปนิดก็พูดว่า “เธอล่ะ” เขาดูจะดีใจทีเ่ จอค�าถามนี.้ .. หรือค�าถามไหนๆ “การจัดการพืน้ ที่ ทุ่งหญ้า” แคธไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่ไม่อยากถาม “อย่าได้เอ่ยถึงทุ่งหญ้าขึ้นมาเชียว” เรแกนคราง “ตั้งกฎเลยดีกว่า ตลอดเวลาที่เหลือปีนี้ ห้ามพูดเรื่องการจัดการทุ่งหญ้าในห้องของฉัน” “นี่เป็นห้องของแคเธอร์ด้วย” ลีไวว่า “แคธ” เรแกนแก้ให้ “งัน้ เวลาเธอไม่อยูล่ ะ่ ” เขาถามเรแกน “เราคุยเรือ่ งการจัดการพืน้ ที่ ทุ่งหญ้าเวลาเธอไม่อยู่ในห้องได้ไหม” “เวลาฉันไม่อยู่ในห้องน่ะเหรอ...” เรแกนพูด “นายก็ได้นั่งรออยู่ หน้าห้องไง” แคธยิ้มอยู่ข้างหลังเรแกน จากนั้นก็เห็นลีไวมองมาจึงหุบยิ้ม ทุกคนในห้องเรียนท่าทางเหมือนรอวิชานี้มาตลอดอาทิตย์ มันเหมือนการ รอให้คอนเสิร์ตเริ่ม หรือรอหนังเปิดตัวรอบแรก ศาสตราจารย์ไพเพอร์เดินเข้ามาในห้องโดยสายไปสองสามนาที 29


เรน ์ ร เ ลล์

สิ่งแรกที่แคธสังเกตคือ เธอตัวเล็กกว่าที่เห็นในภาพถ่ายบนปกหนังสือ มันอาจจะฟังดูเหลวไหล เพราะรูปพวกนั้นมองเห็นแต่หน้า แต่ ศาสตราจารย์ไพเพอร์ดูยิ่งใหญ่คับภาพ โหนกแก้มสูง ดวงตาโตสีฟ้าจาง และผมยาวสีน�้าตาลตระการตา ผมของศาสตราจารย์ตวั จริงยังน่าประทับใจอยู่ แต่ผมแซมด้วยสีเทา และดูรุงรังกว่าในภาพเล็กน้อย เธอตัวเล็กมาก และต้องกระโดดน้อยๆ กว่าจะขึ้นไปนั่งบนโต๊ะได้ “เอาละ” เธอพูดแทนค�าทัก “ขอต้อนรับสู่วิชาการเขียนนวนิยาย ครูจ�าหน้าพวกเธอได้หลายคน...” เธอยิ้มไปรอบห้องให้กับผู้คนที่ไม่ใช่แคธ เห็นได้ชัดว่าแคธเป็นนักศึกษาปีหนึ่งคนเดียวในห้อง เธอเพิ่งจะรู้ ว่าสัญลักษณ์บอกยี่ห้อเด็กปีหนึ่งอยู่ที่ไหน... เป้ใหม่เอี่ยม เครื่องส�าอาง บนใบหน้าสาวๆ เสือ้ ยืดข้อความขบขันเกีย่ วกับประเด็นดังๆ บนตัวหนุม่ ๆ รวมถึงทุกอย่างบนตัวแคธ ตั้งแต่รองเท้าผ้าใบยี่ห้อแวนส์ไปจนถึง แว่นสีมว่ งเข้มทีเ่ ธอเลือกจากร้านทาร์เก็ต ในขณะทีพ่ วกรุน่ พีส่ วมแว่นตาด�า กรอบหนา อาจารย์ทุกคนก็เช่นกัน ถ้าแคธมีแว่นตาด�า เธอคงสั่งจินกับ โทนิคแถวนี้ได้โดยไม่โดนตรวจบัตร “เอาละ” ศาสตราจารย์ไพเพอร์พูด “ครูดีใจที่พวกเธอมาอยู่ที่นี่” เสียงของเธออบอุน่ และแทรกลมหายใจ จะบอกว่าคล้ายเสียง “แมวครางใน ล�าคอ” ก็ยังไหว และเธอพูดเสียงเบาพอที่จะท�าให้ทุกคนต้องนั่งนิ่งมากๆ เพื่อให้ได้ยิน “ภาคเรียนนี้เรามีอะไรต้องท�าหลายอย่าง” เธอพูด “เพราะงั้น อย่าเสียเวลาดีกว่า พุง่ ชนกันเลย” เธอโน้มตัวมาข้างหน้า กัดริมฝีปากล่าง ค้างไว้ “พร้อมหรือยัง พุ่งชนไปกับครูดีไหม” คนส่วนใหญ่พยักหน้า แคธก้มลงมองสมุดจด “เอาละ เริ่มจากค�าถามที่ไม่มีค�าตอบแน่ชัด... ท�าไมเราถึงเขียน นิยาย” นักศึกษารุ่นเดอะคนหนึ่งคิดว่าตัวเองตอบได้ “เพื่อแสดงความคิด 30


แฟนเกิร์ล

ของตัวเอง” เขาเสนอ “แน่นอน” ศาสตราจารย์ไพเพอร์พูด “นั่นคือสาเหตุที่เธอเขียน ใช่ไหม” ชายคนนั้นพยักหน้า “โอเค... อะไรอีก” “เพราะเราชอบเสียงของตัวเอง” ผู้หญิงคนหนึ่งบอก ทรงผมของ เธอคล้ายเวร็น แต่อาจจะเท่กว่าด้วยซ�้า เธอดูเหมือนมิอา ฟาร์โรว์ ใน ภาพยนตร์เรื่อง โรสแมรี่ส์เบบี้ (แต่สวมแว่นตาด�า) “ใช่” ศาสตราจารย์ไพเพอร์หัวเราะ แคธคิดว่าฟังเหมือนเสียง หัวเราะของนางฟ้า “นัน่ ละสาเหตุทคี่ รูเขียน และสาเหตุทคี่ รูสอน” ทุกคน หัวเราะไปกับเธอ “อะไรอีก” ท�าไมฉันถึงเขียนนิยายงั้นเหรอ แคธพยายามหาค�าตอบที่ลึกซึ้ง แต่รู้ว่าต่อให้หาได้ เธอก็คงไม่พูดออกมาอยู่ดี “เพื่อส�ารวจโลกใหม่ๆ” ใครคนหนึ่งบอก “เพือ่ ส�ารวจโลกเก่าๆ” อีกคนพูด ศาสตราจารย์ไพเพอร์พยักหน้า เพื่อไปยังโลกอื่น แคธคิด “หรือ...” ศาสตราจารย์ไพเพอร์พดู เสียงนุม่ “อาจเพือ่ เข้าใจตัวเอง” “เพื่อปลดปล่อยตัวเองให้เป็นอิสระ” ผู้หญิงคนหนึ่งพูด เพื่อเป็นอิสระจากตัวเอง “เพือ่ ให้คนอืน่ เห็นว่าในหัวของเราเป็นยังไง” เป็นเสียงจากชายหนุม่ ในกางเกงยีนส์รัดรูปสีแดง “ถ้ามีคนอยากรู้นะ” ศาสตราจารย์ไพเพอร์หยอด ทุกคนหัวเราะ “เพื่อให้ผู้คนหัวเราะ” “เพื่อให้ได้รับความสนใจ” “เพราะเป็นสิ่งเดียวที่เราท�าได้” “อาจจะเฉพาะเธอ” ศาสตราจารย์บอก “ครูเล่นเปียโนด้วย แต่ ว่าไงต่อ มันเยี่ยมมาก เยี่ยมมากๆ” 31


เรน ์ ร เ ลล์

“เพือ่ หยุดเสียงในหัวของเรา” หนุม่ ข้างหน้าแคธตอบ เขามีผมสัน้ สีเข้มที่ไถเกรียนลงมาที่ท้ายทอย เพื่อหยุด แคธคิด เพื่อให้ลืมทุกอย่าง ลืมว่าเราเป็นใครและอยู่ที่ไหน “เพื่อทิ้งสัญลักษณ์ของเราไว้” มิอา ฟาร์โรว์พูด “เพื่อสร้างสิ่งที่ จะคงอยู่แม้เราจะตายไปแล้ว” ผูช้ ายข้างหน้าแคธพูดขึน้ อีก “เป็นการสืบทายาทแบบไม่อาศัยเพศ” แคธจินตนาการว่าตนเองอยู่หน้าแล็ปท็อป พยายามหาค�าพูดให้ กับสิง่ ทีเ่ ธอรูส้ กึ สิง่ ทีเ่ กิดขึน้ เวลาทุกอย่างเป็นไปด้วยดี เวลาทีท่ กุ อย่างเข้าที่ เวลาตัวอักษรพรัง่ พรูออกมาก่อนเธอจะรูว้ า่ คืออะไร เวลาตัวอักษรผุดขึน้ มา ในอก เหมือนค�าคล้องจอง เหมือนเพลงแร็ป เหมือนการกระโดดเชือก เธอคิด เหมือนการกระโดดก่อนที่เชือกจะฟาดข้อเท้า “เพื่อแบ่งปันสิ่งที่เป็นจริง” สาวแว่นตาด�าอีกคนหนึ่งพูด แคธส่ายหน้า “ท�าไมเราจึงเขียนนิยาย” ศาสตราจารย์ไพเพอร์ถาม แคธก้มมองสมุดจด เพื่อหายตัวไป

32


เขาก�าลังตั้งสมาธิและหงุดหงิดเสียจนไม่เห็นเด็กผู้หญิงผมแดงนั่งลงที่โต๊ะของ เขา เธอไว้เปียสองข้างและสวมแว่นสายตากรอบเชิดแสนเชย แว่นแบบที่เรา จะใส่เวลาแต่งเป็นแม่มดไปงานแฟนซี “เดี๋ยวก็เหนื่อยตายหรอก” เด็กสาวว่า “ฉันแค่อยากท�าให้ส�าเร็จ” ไซมอนตอบเสียงต�่าในล�าคอ เขาใช้ ไม้เท้าแตะเหรียญสองเพนซ์อีกครั้งแล้วขมวดคิ้วเครียด แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น “นี่” เธอบอกพลางโบกมือวูบเหนือเหรียญ เธอไม่มีไม้เท้า แต่สวมแหวนสีม่วงวงใหญ่ โดยมีด้ายเส้นหนาพัน แหวนให้ติดอยู่กับนิ้ว “โบยบินกลับถิ่นเดิม” เหรียญสั่นริก แล้วงอกอกและหกขา จากนั้นก็เริ่มคลานแกรกกราก หนีไป เด็กสาวกวาดมันพลิ้วจากโต๊ะเข้าสู่โหลแก้ว “เธอท� าได้ ยั ง ไง” ไซมอนถาม เธอเป็ น เด็ ก ปี ห นึ่ ง เหมื อ นกั บ เขา ไซมอนบอกได้จากโล่สีเขียวที่อกเสื้อสเวตเตอร์ของเธอ “เราท�าเวทมนตร์ให้เกิดขึน้ ไม่ได้” เธอพูด พยายามยิม้ ถ่อมตัวและเกือบ จะส�าเร็จ “เราเองต่างหากที่คือเวทมนตร์” ไซมอนจ้องแมลงเหรียญสองเพนซ์ “ฉัน เพเนโลปี บันซ์” เด็กสาวพูดแล้วส่งมือให้ “ฉัน ไซมอน สโนว์” เขาพูด แล้วจับมือกับเธอ “ฉันรู้” เพเนโลปีพูดแล้วยิ้ม —จาก บทที่ 8 ไซมอน สโนว์ กับทายาทจอมเวท ลิขสิทธิ์ © 2001 โดย เจ็มมา ที. เลสลี


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.