1
b side
2
a side
GREENERY IN TOWN,
GOOD DAY IN RAINY SEASON สร้างวันธรรมดาให้เป็นวันพิเศษที่ไม่ธรรมดา
อย่าให้ฤดูฝนเป็นอุปสรรคขัดขวางการออกไปนอกบ้านของคุณ ใช้เวลาให้คุ้มค่า สร้างวันธรรมดาให้เป็นวันพิเศษที่ไม่ธรรมดา HIP ฉบับนี้ แนะน�ำ 4 ร้านเก๋ไก๋ในตัวเมืองเชียงใหม่สไตล์ธรรมชาติ ให้เหมาะกับฤดูของผลไม้ตลอดซีซั่นนี้
Cheevit Cheeva Fine Desserts สาขา : ซอยกรรไกรทอง/นิ่มซิตี้/สตาร์อเวนิว อาเขต/แจ่มฟ้า ล�ำพูน
Forest Bake
เป็ นร้านทีม่ จี ดุ เด่นคือ น�ำ้ แข็งใสสไตล์เกาหลี หรือ ‘บิงซู’ ทีม่ ี ให้เลือกมากมาย ผสมผสานกับการแต่งร้านทีเ่ หมือนยกสวนหลังบ้าน มาไว้ในร้าน ยิ่งช่ วงนี้เป็ นฤดู ผลไม้ ทางร้านก็คิดค้นเมนู สุดพิเศษ ส�ำหรับคนรักทุเรียน อย่างบิงซู ทุเรียน หรือถ้าหากใครชอบผลไม้ แบบอื่น เขาก็มีให้เลือกตามความชอบ เรียกได้ว่าแย่งช้อนกันตัก แทบไม่ทนั ถ้าได้มากับกลุม่ เพือ่ นคนสนิทหรือครอบครัว
ถนนหน้าวัดเกต ซอย 1
House of Crepe
NO.39
ถนนนิมมานเหมินท์ ซอย 9
ซอยวัดอุโมงค์
ถ้าอยากกินเครปที่มที อ๊ ปปิ้ งให้เลือกแบบหลากหลายต้องมา ขอแนะน�ำ เครปผลไม้รวม ฟิ นสุดๆ กับความความกรอบของแป้ งเครป และความสดของผลไม้ ทีใ่ ส่มาให้แบบจัดเต็มคุม้ ราคา #ฟิ นเวอร์
ร้านขายขนมเล็กๆ ร้านนี้ซ่อนตัวอยู่ในโซนวัดเกตใจกลางเมือง กระท่อมขนาดน่ารัก ภายในบริเวณร้านมีตน้ ไม้ใหญ่ปกคลุม ประทับใจ ด้วยการตกแต่งที่สวยงาม และอร่ อยตามสู ตรเด็ดของร้าน การันตี ได้เลยว่าความพิถพี ถิ นั ของร้านนี้จะต้องถูกอกถูกใจใครหลายคน
คาเฟ่ แห่งนี้เหมาะส�ำหรับคนทีม่ ไี ลฟ์ สไตล์หลายแบบ ใครชอบ นัง่ ตากอากาศธรรมชาติ เขาก็มโี ซนส�ำหรับนัง่ ชิลล์กว้างขวาง จะนอนเล่น อ่านหนังสือ หรือท�ำงาน ก็แล ้วแต่ความสะดวก ว่าแล ้วก็ถา่ ยรูปอัพขึ้น อินสตราแกรมให้เพือ่ นดูซกั หน่อย ก็มนั #ดีต่อใจ ขนาดนี้ ข้อมูลเพิ่มเติม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ส�ำนักงานจังหวัดเชียงใหม่ โทรศัพท์: 053 248 604-5 website : www.tourismchiangmai.org facebook : www.facebook.com/tatchiangmai
B I K E S P E C I A L
PHUKET/PHANG-NGA CYCLING หนีเขามาหาเธอเล เรื่อง : แบงค์ ภาพ : แบงค์ / ทศ
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมเดินทางจากเชียงใหม่สู่ภูเก็ต ก่อนหน้านี้ผมเคยมาที่นี่หลายครั้ง ส่วนใหญ่ก็เที่ยวอยู่ในเมือง เดินเล่นถ่ายรูปเมืองเก่า เล่นน�ำ้ หาของกินอร่อยตามมุมเมืองต่างๆ พอดีวา่ ในครัง้ นีร้ นุ่ พีข่ องผมชือ่ พีท่ ศทีเ่ คยปัน่ จักรยาน ด้วยกันอยู่บ่อยๆ ที่เชียงใหม่ต้องกลับมาท�ำธุระที่ภูเก็ต เลยใช้โอกาสนี้มาเที่ยวที่นี่ พร้อมติดจักรยานมาปั่นด้วยเลย
เล่ากันว่า… ทางสวย วิวดี แต่กช็ นั มากๆ เอาเป็ นว่าไม่ธรรมดาแน่นอน การมาปัน่ จักยานในครัง้ นี้ผมไม่ได้ทำ� การบ้านมาเลยเรื่องเส้นทาง ส่วนใหญ่ จะให้พท่ี ศดูแลทัง้ หมด แต่ผมก�ำชับตลอดว่าขอเส้นทางทีป่ นั ่ สบาย รถไม่เยอะ ปัน่ สนุ กๆ ถ่ายรูปเล่นได้ตลอดเส้นทาง และต้องปลอดภัย วันแรกๆที่มาถึง เราก็เริ่มส�ำรวจเส้นทางทีเ่ รียบหาดต่างๆ เหมือนขับรถเล่นไปด้วย เส้นทางทีน่ ่ี สวยจริ ง ๆ ครับ ถนนเรี ย บตลอดทุ ก เส้น ทาง แต่ ก็ ติ ด อยู่ อ ย่ า งหนึ่ ง คื อ รถเยอะมากและถนนค่ อนข้างแคบ เราเลยปรึกษากันใหม่อีกครัง้ เลยได้ ข้อสรุปว่าน่ าจะปัน่ ออกไปนอกเมืองมากกว่าทางเข้าเมืองไปจุดส�ำคัญต่ างๆ ทีม่ รี ถค่อนข้างหนาแน่น จึงสรุปได้มา 3 เส้นทางดังนี้ครับ 4
a side
- เส้นทางสะพานสารสิน บ้านในหยง บ้านทองหลาง จุดชมวิวเสม็ดนางชี - เส้นทางลายัน ท่าเรือแหลมทราย บ้านหลังแดง ท่าเรืออ่าวปอ - เส้นทางลายัน สะพานสารสิน บ้านคอเอน ส�ำหรับเส้นทางแรก เส้นทางส่วนใหญ่อยู่ในพื้นทีข่ องจังหวัดพังงาครับ จุดหมายคือจุดชมวิวเสม็ดนางชี โดยเราได้ขบั รถออกมาจากบ้านมาจอดที่ ปั ๊มเชลล์ก่ อ นสะพานสารสิน ไม่ ไ กลมากครับ วัน นี้ เ ป็ น เช้า ที่อ ากาศดีม าก แดดเปรี้ยงๆ แต่กม็ เี มฆมากพอสมควร เราคิดว่าถ้าฝนตกก็ไม่น่าจะแปลกอะไร เพราะหลายวันก่อนหน้านี้ฝนตกมาตลอด เราเริม่ ปัน่ พร้อมกับขนมเต็มกระเป๋ าหลัง เพราะตัวคนน�ำทางคือพีท่ ศก็ไม่เคยมาเส้นทางนี้เหมือนกัน ก็ไม่รูจ้ ะเจออะไรบ้าง กันเหนียวไว้ก่อน อิอิ เส้นทางช่ วงแรกเป็ นถนนใหญ่ ถนนเรียบปัน่ สนุ กดี ปัน่ ข้า มสะพานสารสิน มาไม่ ไ กลจะเห็น โรงเรีย นบ้า นท่ า นุ่ น อยู่ ด า้ นขวามือ กลับ รถแล ว้ เข้า ซอยก่ อ นโรงเรี ย นครับ พอเราเลี้ย วเข้า ซอยมาได้ไ ม่ ไ กล บอกได้เลยครับว่าถนนนี้เป็ นของเรา 55 รถค่อนข้างน้อยครับ ปัน่ ชิลล์ๆ สบายๆ สองข้างทางส่วนใหญ่จะเป็ นสวนยางพารา ปลูกสับปะรด ปลูกต้นปาล์มบ้าง แล ว้ ก็ ฟ าร์ ม เลี้ ย งกุ ง้ ครับ ตอนที่ เ ราปัน่ อยู่ ใ นเส้น ทางนั้น เวลาน่ า จะ ประมาณเก้าโมง เส้นทางแทบจะร่มตลอดทัง้ เส้นทางครับ เพราะต้นยางพาราทีน่ ่ี สูงเลยบังแสงแดดได้ดี ปัน่ ไปเรือ่ ยๆ ถนนเส้นนี้จะเป็ นแบบขึ้นๆ ลงๆ สลับกันไป ความชันอยู่ท่ี 5 – 6% ปัน่ สนุ กท�ำความเร็วได้ดี ทางไปจุดชมวิวเสม็ดนางชี ค่อนข้างง่าย ไม่มที างแยกให้งง แลว้ ก็มปี ้ ายบอกตลอดทาง แต่เราก็จอดถาม ชาวบ้านอยู่ ครัง้ สองครัง้ เพื่อความมัน่ ใจ ถนนจะคดเคี้ยวผ่ านบ้านในหยง บ้านทองหลาง ยาวไปจนถึงจุดชมวิวเลย ในทีส่ ุดปัน่ อยูช่ วั ่ โมงเศษก็ถงึ ทางขึ้นจุดชมวิว จะมีป้ายรูปใหญ่มากติดอยู่ พร้อมค่าใช้จ่ายในการเข้าชมคนละ 30 บาท เมื่อเราทอดสายตาไปที่ทางขึ้น อื้อหือ... ดินลูกรังผสมหินก้อนใหญ่ คมใช้ได้เลย 55 เราคุยกันว่าจะเอายังไงดี ได้ขอ้ สรุปว่าปัน่ ขึ้นเลย ลองดู ! ผมเริ่มขึ้นเป็ นคนแรกก็ทุลกั ทุเลพอสมควร จะลม้ แหล่ไม่ลม้ แหล่ สุดท้ายไต่ไปได้ประมาณ 50 เมตรก็ตอ้ งลงครับ 55 อันตรายครับรถจะลม้ เอา เอาเป็ นว่าผมไม่รอดต้องลงจูง คราวนี้ถงึ ทีพท่ี ศบ้าง ตะโกนบอกให้ผมหลบไป “แบงค์ก้ ๆี หลบไปๆ” พีท่ ศแกก็ไต่ข้นึ มาเรือ่ ยๆ สุดท้าย ก็มาตายทีเ่ ดียวกัน 55 เลยจอดพักถ่ายรูปเล่นฮาๆ กันไป ความชันทางขึ้นจุดชมวิว อยู่ท่ี 17 - 20% เราคิดว่าทุกคนปัน่ ขึ้นได้ครับ แต่ มนั ลื่น คิดว่าเสือภูเขา น่าจะเหมาะกว่า เมื่อภารกิจปัน่ ขึ้นเราไม่สำ� เร็จภารกิจจูงก็ตอ้ งมาสิ 55 เราก็จูงขึ้นไป ประมาณ 300 เมตร จูง พัก จูง พัก จนถึงจุดชมวิวแหละครับ พอเห็นวิว
เสม็ดนางชีปปุ๊ ไม่ได้ทำ� ให้หายเหนื่อยเลย ไม่ใช่ววิ ไม่สวยนะครับ แต่ยงั ไม่พร้อม ทีจ่ ะมอง ขอหายใจก่อน หลังจากนัง่ พักผ่อนกินน�ำ้ แลว้ ก็ปนั ่ จักรยานไปชมวิว บอกได้คำ� เดียวว่า สวยมากกก เฉพาะตรงนัน้ ถ่ายรูปไป 30 กว่ารูปเห็นจะได้ 55 ยัง ไม่ร วมถ่ า ยคลิป และภาพนิ่ ง ตอนจู ง จัก รยาน แน่ สิป ระสบการณ์แ บบนี้ ไม่ใช่จะหากันได้งา่ ยๆ เนอะ ขาลงก็จูงลง ลองขึ้นจักรยานแลว้ แต่ไม่ได้จริงๆ T T เส้นทางไปกลับเราใช้เส้นทางเดียวกันครับ ระหว่างทางก็แวะเติมข้าวเติมน�ำ้ กันไป เราจะเห็นหมูบ่ า้ นแล ้วก็มรี า้ นอาหารตลอดทางเลยครับ เรื่องนี้หายห่วง พังงา ฝน 8 แดด 4 ใครเคยได้ยนิ ค�ำนี้บา้ งครับ ผมก็เพิง่ จะเคยได้ยนิ วัน นี้ แ หละ ระหว่ า งทางตอนปัน่ ขากลับ เราโดนฝนเล่น งานหนัก 2 รอบ สลับกับแสงแดด คือระหว่างทีแ่ ดดออกฝนก็ยงั จะตกอยู่ สุดจริงๆ อากาศทีน่ ่ี เอาแน่เอานอนไม่ได้ เราก็จอดหลบฝนครับ อันไหนพอไปได้กล็ ยุ ไปแบบเปี ยกๆ แหละครับ เย็น สบายดี แต่ บ งั เอิญ เจ้า จัก รยานไม่ส บายเหมือ นกับ ผมน่ ะ สิ ตอนผมเซ็ตรถมาไม่ได้นกึ ถึงเรื่องฝนเลย ผมใช้นำ�้ มันหยอดโซ่แบบแห้ง พอโดน ฝนหนักๆ แถมยังต้องลุยอีกก็เรียบร้อยสิครับ เสียงโซ่ปะทะจานหน้าเฟื องหลัง ก้องกังวานมากๆ พยายามปัน่ ฝื นจนเจอร้านซ่อมมอเตอร์ไซค์เลยขอน�ำ้ มันทีร่ า้ น มาซ่อมแซม ต้องขอขอบคุณความมีนำ�้ ใจมากๆ ครับ ก็ปนั ่ ประคองไปจนจบครับ 5
b side
เส้นทางปันมาจุ ่ ดชมวิวเสม็ดนางชีของเราใช้เวลาประมาณ 3 ชัวโมง ่ 40 นาที ระยะทางรวม 72 กิโลเมตร เส้นทางสวยงาม จุดชมวิวสวย ของกินเยอะ เห็นวิถชี วี ติ ชาวบ้าน เป็ นอีกหนึ่งเส้นทางในจังหวัดพังงาทีไ่ ม่ควรพลาดครับ เส้น ทางที่ ส องอยู่ ใ นพื้ น ที่ จ ัง หวัด ภู เ ก็ ต ครับ วัน นี้ ผมลองมาปัน่ ช่ ว งเวลาเย็น บ้า ง ด้ว ยว่ า เส้น ทางวัน นี้ ไ ม่ ไ ด้อ อกไปไกลมาก เลยเริ่ ม ปัน่ ออกจากบ้านที่ลายันเลย ตอนช่ วงที่เริ่มปัน่ ก็แอบนึกถึงตอนขากลับอยู่บา้ ง เพราะบ้านทีผ่ มพักอยูบ่ นยอดดอยพอดี เริม่ ปัน่ ก็คอื การไหลลงเนินชัน 17 – 20% เป็ นระยะกว่า 300 เมตรเห็นจะได้ ก็แอบกังวลตอนขากลับอยู่บา้ ง แต่ก็พก เฟื อง 32 มาด้วยน่าจะพอไหวอยู่ จุดหมายของผมในวันนี้คือไปชมวิวท่าเรือ แหลมทรายและท่าเรืออ่าวปอ ออกจากบ้านปัน่ ผ่านอ�ำเภอถลาง ทางช่วงนี้จะเป็ น ทางราบ ถนนเรียบปัน่ สบายและค่ อนข้างกว้าง แต่ดว้ ยความกว้างของถนน มักจะมีรถมอเตอร์ไซค์ขส่ี วนเลนขึ้นมาอยู่บ่อยๆ อันนี้ตอ้ งระวัง ปัน่ ไปเรื่อยๆ แลว้ กลับรถเข้าซอยถนนเมืองใหม่ - ป่ าคลอก เมือ่ เลี้ยวมาแลว้ รถจะค่อยๆ บางตาไปเรื่ อ ยๆ สัก พัก จะพบกับ สามแยก จะมีป้ ายบอกให้เ ลี้ย วซ้า ย เข้าบ้านแหลมทรายครับ เลี้ยวเข้าไปเลย สองข้างทางจะพบกับสวนยางพารา แล ้วก็ฟาร์มเลี้ยงกุง้ ตลอดทาง ระหว่างทางด้านซ้ายมือของเราจะติดกับทะเลเลย จะเห็น วิถีชีวิต ชาวประมงอยู่ ม ากพอสมควร เราปัน่ มาถึง จุด หมายที่แ รก ท่าเรือแหลมทราย ผมมองไปรอบๆ สมชือ่ เลยครับ เราจะมองเห็นเป็ นสามเหลีย่ ม ทีม่ นี ำ�้ ทะเลไหลผ่าน มองดูเป็ นแหลมครับ บรรยากาศตอนเย็นๆ เรือนักท่องเทีย่ ว แล่นผ่านแหลมทราย สวยงามครับ เราพักผ่อนดืม่ น�ำ้ อยู่สกั พักก็จะพบคนอืน่ ๆ ทีป่ นั ่ จักรยานเข้ามาเทีย่ วอยูห่ ลายคัน ปัน่ วนไปเรือ่ ยๆ ผ่านสนามกอล์ฟ Mission Hills Phuket เส้นทางจะเป็ นแบบขึ้นๆ ลงๆ มีความชันอยู่บา้ งประมาณ 5 – 6% / 17 – 20% ระหว่างทางผ่านบ้านหลังแดง ผ่านท่าเรืออ่าวปอ จะมีจดุ ชมวิวให้เราหลายจุดครับ ทัง้ เส้นทางของถนนทีม่ ใี บไม้ร่วงตามธรรมชาติ สีสนั สวยงาม จุดชมวิวอ่ าวปอที่กรมทางหลวงชนบทมาสร้างไว้ เราชมวิว กันอยู่ไม่นานครับ เพราะเริ่มมืดแล ้วเลยรีบปัน่ ไปกันต่อ ปัน่ ไปจากจุดนี้ไม่ไกล ส่วนใหญ่จะเป็ นทางลงเขา สักพักก็จะเจอทางแยก มีรา้ นสะดวกซื้อแลว้ ก็ของกินมากมาย ส่วนใหญ่ จะเป็ นอาหารมุสลิมครับ มาถึงทีแ่ ล ้วเลยต้องลองหน่อยเพราะหลายเมนู ไม่เคยได้ยนิ มาก่อน ทีล่ องกินก็มี ไก่ขา้ วโพด, ไข่ชมจันทร์, ปี กไก่ยดั ไส้ กินจนอิม่ ถึงกับขี้เกียจปัน่ กลับกันเลย 55 ถึงตอนนี้บรรยากาศมืดแลว้ เรารีบติดไฟหน้าหลังซิง่ กลับบ้านกันเลย เรากลับ ทางเดิมถนนเมืองใหม่-ป่ าคลอก ถนนค่อนข้างมืดครับ มีไฟน้อยมาก ถ้าปัน่ ผ่าน เวลากลางคืนต้องใช้ความระมัดระวังหน่อยครับ และแล ้วก็ปนั ่ มาถึงเนินหน้าบ้าน ทีช่ นั ทีส่ ุดด้วยความเหนื่อยล ้า ผมกินน�ำ้ จนอิม่ แล ้วบีบน�ำ้ ทัง้ หมดทีม่ ที ้งิ เลยครับ ลดน�ำ้ หนักกันสุดๆ 55 ในที่สุดก็ควงขามาจบที่บา้ นครับ เหนื่อยจริงๆ แต่ก็ สนุกมาก ฝากไว้อกี นิดหนึ่งครับ ถ้าใครมีโอกาสมาปัน่ ทีน่ ่ีควรทายากันยุงด้วย เพราะยุงทีน่ ่ีเมือ่ กัดแลว้ ไล่ยงั ไงก็ไม่ไป เหมือนไม่เคยกินเลือดอะไรท�ำนองนัน้ โดยเฉพาะช่วงเย็นๆ ค�ำ่ ๆ ปัน่ ขึ้นเนินช้าๆ บินมากินเลือดเราเฉย 55 เส้นทางปัน่ มาชมวิวท่าเรือแหลมทรายและท่าเรืออ่าวปอ ใช้เวลาประมาณ 3 ชัว่ โมง ระยะทางรวม 70 กิโลเมตร เส้นทางจะเห็นวิถีชีวิตชาวประมง ชุมชนชาวมุสลิม และสวนยางพาราพืชไร่ต่างๆ ถ้าชอบปัน่ เงียบๆ เส้นทางเล็ก ถนนเรียบทางนี้ดูจะเหมาะมากเลยครับ
6
a side
เส้นทางที่ 1
เส้นทางที่ 2
เส้นทางที่สามอยู่ในพื้นที่จงั หวัดภูเก็ตเช่นกันครับ ผมคุยกับพี่ทศว่า สองเส้น ทางที่เ ราปัน่ ไม่ ค่ อ ยจะเจอชาวบ้า นที่ป นั ่ จัก รยานเลย บางทีผ มก็ อยากเจอเจ้าถิ่นบ้างว่าเขาปัน่ กันที่ไหน พี่ทศเลยบอกว่าถ้างัน้ ต้องเส้นทาง สะพานสารสินเลย ขึ้นลงกันยาวๆ ท�ำความเร็วได้สูง คนทีน่ ่มี กั จะมาซ้อมทีน่ ่กี นั เราเริ่มปัน่ ช่วงเย็นออกจากบ้านที่ลายันเช่นเคย ปัน่ ผ่านอ�ำเภอถลาง เส้นทาง ค่ อ นข้า งง่ า ยครับ คื อ ตรงไปยาวๆ จนสุ ด ถนนเลยก็ เ จอสะพานสารสิน ถนนกว้างประมาณสีเ่ ลน มีเส้นแบ่งจักรยาน มอเตอร์ไซค์ รถยนต์ ชัดเจนครับ ระหว่างปัน่ เราก็จะพบคนอืน่ อยู่หลายคนครับ ส่วนใหญ่ก็แซงเราไปหมดแหละ 55 ปัน่ มาเป็ นกลุม่ ละ 5 - 6 คน สลับขึ้นลงไปเรื่อยๆ ความเร็วน่าจะอยู่ในย่าน 35 - 50+ ความชัน 5 - 6% ส่วนเราก็ปนั ่ ชมนกชมไม้ไปเรื่อยๆ ระหว่างทาง ทัง้ ขาไปและขากลับจะเจองานก่อสร้างท�ำถนนอยูห่ ลายจุด ท�ำให้ถนนโดนบีบแคบ ต้องใช้ความระมัดระวังกันด้วยครับ ก่อนถึงสะพานสารสินด้านซ้ายมือก็มหี าดไม้ขาว เป็ นอีกหนึ่งหาดทีด่ ูสวย และมีเสน่ ห ์ ก็แวะถ่ายรู ปนิดหนึ่ง พอถึงสะพานสารสินจะมีผูค้ นมาพักผ่อน อยู่มากเลย คงเพราะวันนี้เป็ นวันอาทิตย์ช่วงเย็นด้วย มีรา้ นอาหาร ร้านขนม เปิ ดให้กนิ ริมทาง ได้บรรยากาศดีครับ เราจอดรถชมวิวพักผ่อนอยู่สกั พัก ตาผม ก็มองไปเห็นไกลๆ เหมือนมีท่าเรือ มองแลว้ ดูสวยดี เลยถามพีท่ ศว่าตรงนัน้ เราจะปัน่ เข้าไปได้ไหม แน่นนอนว่าค�ำตอบคือได้ 55 ท่าเรือนัน้ อยู่ในบริเวณของ บ้านคอเอน ปัน่ เลี้ยวเข้าไปจากทางกลับบ้านไม่ไกลมากเลยตัดสินใจไปดีกว่า เรากลับรถไปทางเข้าเมืองภูเก็ต ปัน่ ไปสักระยะก็จะพบป้ ายโตๆ ให้เลี้ยวซ้าย เข้าไปครับ สองข้างทางก่ อนถึงท่าเรือจะเป็ นชุมชนชาวมุสลิมเปิ ดร้านอาหาร ขายของ มีคนเดินไปเดินมาอยู่เยอะ บนถนนจะมีหลังเต่าอยู่มาก ถนนเป็ น เนิ น ขึ้น ไม่ช นั ครับ ใช้เวลาปัน่ ขึ้น ไปไม่น านเราก็จะพบท่ า จอดเรือที่ว่าครับ วิวสวยดี ฝัง่ ตรงข้ามที่เรามองจะเป็ นพื้นที่จงั หวัดพังงา มีชาวบ้านมาปูเสื่อ นัง่ พักผ่อนด้วยครับ บรรยากาศโดยรอบเงียบสงบ ผมใช้เวลาพักทีน่ ่ีนานกว่า ทีอ่ น่ื ๆ เพราะจุดนี้จะเป็ นทีพ่ กั สุดท้ายแล ้วก่อนจะปัน่ ยาวกลับบ้านเลย
เส้นทางที่ 3
เส้นทางขากลับเราก็ใช้เส้นทางเดิมคือทางเข้าเมืองภูเก็ตผ่านอ�ำเภอถลาง เลี้ยวขวาเข้าลายัน แต่โชคไม่เข้าข้างครับ รถผมล ้อหลังยางรัว่ ! T T เลยเข็นมา จอดหน้าบ้านหลังหนึ่ง เจ้าของบ้านเป็ นคุณยายก็เปิ ดหน้าต่างมาดู ถามเป็ น ภาษาใต้แต่ผมฟังไม่เข้าใจ ก็อธิบายว่าขอเปลีย่ นยางที่หน้าบ้านหน่อยนะครับ เราใช้เวลาอยู่นานทีจ่ ะหารอยรัว่ คุณยายน่ารักมากๆ เปิ ดไฟให้ ยกถังน�ำ้ มาให้ ซาบซึ้งมากๆ ครับ พอเราหาแผลรัว่ เจอ ตรวจดูทย่ี างว่ามีเศษอะไรติดไหมก็ตอ้ ง ตกใจเพราะยางเป็ นรู ถึงจะเปลีย่ นแต่ถา้ ไปต่อก็เสี่ยงที่จะรัว่ อีกแน่ ๆ เลยขอ เทปกาวจากคุณยายมาปะยางอีก ระหว่างนัน้ ลูกหลานคุณยายก็มาช่วยดูแลเรา เอาน�ำ้ เอากลว้ ยมาให้กิน ต้องขอขอบคุณจริงๆ ซาบซึ้งในน�ำ้ ใจมากๆ ครับ เสร็จเรียบร้อยเติมลมประคองจนกลับถึงบ้านครับ เส้นทางปัน่ ชมวิวสะพานสารสิน บ้านคอเอน ใช้เวลาประมาณ 2 ชัว่ โมง 35 นาที ระยะทางรวม 68 กิโลเมตร เส้นทางถนนเรียบดีมากครับ ทางขึ้นลง ท�ำความเร็วได้สูง วิวมองดูทะเลทีส่ ะพานสารสินเวลาพระอาทิตย์ตกดินสวยดี จุดชมวิวบ้านคอเอนและชุมชนชาวมุสลิมก็สวยและน่าสนใจมากครับ ผมใช้เวลาเทีย่ วทีน่ ่ี 10 วันครับ อาจจะไม่ได้มากแต่กท็ ำ� ให้เราได้รูไ้ ด้เห็น หลายอย่าง ได้มองหาวิธีท่องเที่ยวใหม่ๆ ไปพร้อมกับจักรยานช้าๆ มองเห็น วิถีชีวิตที่สวยงาม ผมอยากจะเชิญชวนเพื่อนๆ มาเที่ยวที่ภาคใต้ดว้ ยการ ปัน่ จักรยาน ยังมีเส้นทางอีกมากมายให้คน้ หา ถ้ามีโอกาสก็อย่าลืมติดจักรยาน มาด้วยนะครับ ส่วนผมตัง้ ใจว่าถ้ามาคราวหน้าก็คงจะพกจักรยานมาแน่นอน และจะค้นหาเส้นทางสวยๆ มาฝากอีกนะครับ 7
b side
B I K E R O U T E
SAVAGE SAMERNG ดอยชนดอย เรื่อง / ภาพ : Weekend Warrior
บก.หัวโล ้น : พี่ วันอาทิตย์วา่ งไหม ผม : ว่าง... ท�ำไม บก.หัวโล ้น : ป๊ ะ ปัน่ ด่านชนด่าน ผม : ด่านไรมึง จะชวนกูไปเขาใหญ่เหรอ? ไม่ไปโว้ย บก.หัวโล ้น : ป่ าวพี่ ปัน่ ด่านชนด่านแบบรอบสะเมิง 2 รอบไง ขึ้นทางหางดง ลงแม่รมิ แล ้วปัน่ ย้อนกลับจากแม่รมิ มาหางดง ผม : (คิดในใจ – อ้าว ซวยละคราวนี้ ถ้าตอบปฏิเสธไป ไอ้โล ้นจะต้องว่าเราอ่อนแน่ ตอบตกลงไปเลยก็ไม่ค่อยมัน่ ใจว่าจะปัน่ แบบด่านชนด่านได้หรือเปล่า ก็เลย ย้อนถามกลับหยัง่ เชิงคนชวนไปซักหน่ อยละกัน) อืมมม... ไปก็ได้นะ ว่าแต่ เอ็งน่ะปัน่ ไหวอ๊ะป่ าว? (แน๊ะ!! มีการย้อนถามแบบเหนือๆ อีกนะเนี่ยเรา) บก.หัวโลน้ : ปัน่ แบบนี้มาหลายครัง้ แลว้ พี่ เผอิญรอบนี้ข้ เี กียจปัน่ คนเดียว เลยชวนพีไ่ ปด้วย แต่ถา้ พีไ่ ม่ไหวไม่เป็ นไรนะ ผมไปเองได้ ผม : (เหยดดด มันของจริงว่ะ) อืมมม ไปดิ เดีย๋ วไปเป็ นเพือ่ นก็ได้ (ตอบแบบ เสียงสันนิ ่ ดๆ) เจอกันวันอาทิตย์นะ
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นตอนประมาณสามทุ่มคืนวันพฤหัสบดี ในสัปดาห์แรกของเดือนพฤษภาคม ฝนแรกเริ่มชโลมลงสู่ผืนดิน ท้องฟ้าเริม่ กลับมาสดใสอีกครัง้ หลังผ่านฤดูหมอกควันมาอย่าง หนักหน่วงในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ถงึ เดือนเมษายน เป็นทีร่ กู้ นั ในกลุ ่ ม ผู ้ รั ก การออกก� ำ ลั ง กายกลางแจ้ ง ว่ า ฤดู ก าลเสี ย เหงื่ อ เริ่มกลับมาถึงแล้ว หากใครสามารถรักษาความฟิตของร่างกาย ผ่านพ้นฤดูหมอกควันมาได้ ช่วงเปิดฤดูกาลใหม่ๆ ฟอร์มจะสดมาก สร้างเสียงเกรียวกราวได้ในหมู่เพื่อนฝูง แถมยังได้คุยโม้โอ้อวด ว่านี่ขนาดไม่ค่อยได้ซ้อมนะ! ย้อนกลับมาทีเ่ สียงโทรศัพท์ทเ่ี กริ่นไว้ก่อนหน้านี้ ปลายสายเป็ นเสียงจาก บก. Bike Section หัวโลน้ ที่กำ� ลังตกอยู่ในวังวนแห่งอ�ำนาจของความรัก การสนทนาระหว่าง บก. และผมก็เกิดขึ้นดังนี้ 8
a side
แกร๊กกก! เสียงโทรศัพท์วางลง ผมช็อคสิ้นสติเสียจนโทรศัพท์มอื ถือ แทบร่วง นี่เรารับปากอะไรลงไป การปัน่ รอบสะเมิง 2 รอบแบบด่านชนด่าน นี่มนั ไม่ใช่เบาๆ นะเนี่ย แต่เอาน่า รับปากไปแล ้ว งานนี้เสียหน้าไม่ได้ เข้าท�ำนองว่า “ชิบหายไม่วา่ เอาหน้าไว้ก่อน” อันทีจ่ ริงแล ้ว ค�ำว่า ‘ด่านชนด่าน’ เนี่ย เป็ นค�ำทีใ่ นหมูน่ กั ปัน่ ภาคกลาง ก�ำ ลัง นิ ย มพู ด ถึง กัน อย่ า งหนาหู เป็ น ชื่อ เรีย กเส้น ทางสุ ด หฤโหดจากด่ า น อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ปากช่อง นครราชสีมา ไปด่านเนินหอม ปราจีนบุรี แลว้ ย้อนกลับมาที่ด่านปากช่อง นครราชสีมาอีกครัง้ คุณ บก.หัวโลน้ ของเรา คงเกิดอาการโรคจิตบางอย่าง ทีอ่ ยากจะแซวนักปัน่ ภาคกลางและสนองอาการ ป่ วยทางจิต ด้วยการรังสรรค์เส้นทาง หางดง - สะเมิง - แม่รมิ - สะเมิง - หางดง และเรียกมันว่า ‘ดอยชนดอย’ หรือ ‘สะเมิงอ�ำมหิต!’ ถ้าพูดถึงการปัน่ รอบสะเมิง นักปัน่ เชียงใหม่คงรูจ้ กั กันดีอยูแ่ ล ้วถึงความโหดร้ายของการไต่ดอยว่ามันร้ายกาจ เพียงไหน แต่น่ีเราจะต้องท�ำมันสองครัง้ ในทริปเดียว มิหน�ำ! ยังมีปีศาจร้าย ทีช่ ่อื ว่า ‘เจ็ดพับ’ ยืนยิ้มหวานรออยู่ก่อนจบพิธกี าร! ในทีส่ ุดก็ถงึ เช้าวันทีพ่ วกเรานัดปัน่ ‘ดอยชนดอย’ ด้วยความทีผ่ มไม่เคย ปัน่ แบบนี้ แต่พอทีจ่ ะคาดเดาได้วา่ วันนี้ตอ้ งเป็ นวันทีเ่ หนื่อยมากแน่ๆ กับการปัน่ เป็ นระยะทางร่วมร้อยกว่ากิโลเมตร และเป็ นดอยทัง้ นัน้ เคล็ดลับส�ำคัญทีส่ ุด ของการปัน่ วันนี้คือการเฉลี่ยแรงไว้ดีๆ อย่ ากระชาก หรือกระทืบขึ้นดอย อย่างบ้าคลัง่ เพราะต้องเหลือพลังไว้ปนั ่ กลับอีกหนึ่งขา ผมจึงออกตัวกับเจ้า บก.หัวโล ้นว่า “วันนี้ไปเรือ่ ยๆ นะ เมือ่ วานเพิง่ กดไปร้อยกว่าโล นีข่ ายังตึงๆ อยูเ่ ลย” เป็ นการพูดแบบอ่อยเดิมพันแบบสุดๆ ว่าวันนี้ไม่ค่อยพร้อม ถ้าไม่ไหวจริงๆ ขอไม่ปนั ่ กลับนะ ไปแค่รอบเดียวพอ แต่ดว้ ยความทีร่ ูจ้ กั กันมานาน ท่าน บก. จึงพูดดักคอผมว่า “ถ้าพีไ่ ม่ค่อยไหว ไปส่งผมแค่ยอดเจ็ดพับก็พอ แล ้วพีห่ นั หัวรถ กลับเลย ผมไปต่อเองได้ รับรองว่าจะไม่ลอ้ เพราะแค่ขายขี้หน้าตัวเองพีก่ ็คง ล�ำบากใจแย่แลว้ ” เฮ้ย! พูดอย่างนี้นม่ี นั หยามกันชัดๆ เอาวะ วันนี้เป็ นไงเป็ นกัน กูต ้องปัน่ ให้จบให้ได้! ว่าแลว้ พวกเราก็ควงขาออกจากจุดเริ่มต้นทางฝัง่ หางดง พุ่งตรงไป ยอดเจ็ดพับ เส้นทางสลับเป็ นเนินสัน้ ๆ ทุกๆ เนิน เจ้า บก.ตัวแสบ เหมือนจะ
หยัง่ เชิงผมเป็ นระยะๆ ด้วยการพยายามกระทืบไปรอผมบนปลายเนินอยู่บอ่ ยๆ เหมือนกับจะรูว้ า่ วันนี้ผมง่อยแน่ๆ เป็ นการยิงขูอ่ ะไรเทือกนัน้ แต่ด ้วยความเก๋าเกม ของผมเอง ทุกครัง้ ทีม่ นั จะยิงออกไป ผมมักจะชวนคุยเรือ่ งต่างๆ ทีค่ อ่ นข้างน่าสนใจ หรือเรื่องเล่าต่ างๆ ท�ำให้เจ้า บก.อยากฟัง จึงเป็ นเหตุให้ม นั ไม่ยิงหนี ผ ม ออกไปบ่อยๆ เป็ นไงล่ะครับ มุขนี้ถา้ ไม่เก๋าจริงท�ำไม่ได้นะครับ คุณยิงได้ยงิ ไป ผมชวนคุยไปเรื่อยๆ ยังไงมันก็ไม่ยงิ หนี แถมต้องปัน่ ตามเราอีกต่างหาก ฮ่าๆๆๆ จนแล ว้ จนรอดผมเริ่ม หมดเรื่อ งเล่า และเรื่อ งนิ น ทาชาวบ้า นต่ า งๆ มารู ต้ วั อีกที นี่เราปัน่ มาถึงฝัง่ แม่ริมเรียบร้อยแลว้ เริ่มมีอาการขาลา้ อยู่บา้ ง แต่นรกยังมีอกี ขุมรออยู่ขา้ งหน้า คือการปัน่ กลับทางเดิม และตัวบอสตัวสุดท้าย ทีจ่ ะต้องเจอคือการไต่ข้นึ เจ็ดพับ สมองเริ่มประมวลผลอีกครัง้ ว่าปัน่ กลับจะใช้ แผนไหน แผนชวนคุยใช้ไปจนหมดแล ้ว คิดว่าขากลับไม่น่าจะมีเรือ่ งต้องคุยกันอีก ระหว่างที่นงั ่ พักทานข้าวและเติมน�ำ้ ก่ อนปัน่ กลับนัน้ ก็นึกแผนชัว่ ร้ายออก โดยการออกอุบายว่า ช่วงทีผ่ า่ นมาใช้พลังงานไปเยอะ และขากลับก็ตอ้ งใช้พลังงาน อีกเหมือนกัน ดังนัน้ ต้องเติมพลังงานตุนไว้ตอนปัน่ กลับ เล่าถึงความน่ากลัวว่า ระหว่างปัน่ แล ้วเกิดพลังงานไม่พอเพียงมันน่ากลัวเพียงใด ความที่ บก.เรียนมาน้อย จึงเชือ่ ผมเป็ นตุเป็ นตะ ซัดข้าวไปสองจาน ขนมขบเคี้ยวต่างๆ เติมเข้าไปจนเต็มพุง หารูไ้ ม่วา่ การรับประทานอิม่ จนเกินไป ท�ำให้เลือดไปเลีย้ งกระเพาะอาหารมากเท่านัน้ แทนทีจ่ ะไปหล่อเลี้ยงขา และมัดกลา้ มเนื้อต่างๆ แต่กว่าจะรูต้ วั ก็สายเสียแลว้ บก.หัวโล ้นเอ๋ย ตกเป็ นเหยือ่ ของคนวอกแห่งหางดงเสียแล ้ว! และทุกอย่างก็เข้าแผน ขากลับ บก.หัวโล ้นปัน่ ไม่ออก จุกเสียดแน่นท้อง ไปหมด ผมแค่ปนั ่ ควงขาประคองตัวเองไปเรื่อยๆ ก็เพียงพอ แต่กว่าจะปัน่ จบ ทริปนี้ได้กเ็ รียกได้วา่ ค่อนข้างทุลกั ทุเลพอสมควร เพราะเส้นทางทีเ่ ป็ นภูเขาตลอด กว่าร้อยกิโลเมตร การทีจ่ ะปัน่ จบได้ไม่ใช่แค่ร่างกายแข็งแรงอย่างเดียว แต่จติ ใจ ต้องแน่วแน่ (ในการด�ำเนินแผนชัว่ ) และมีความตัง้ ใจอย่างสูงอีกด้วย เป็ นอีก เส้นทางหนึ่งทีผ่ มอยากแนะน�ำให้เพือ่ นๆ ลองไปปัน่ เพือ่ ทดสอบสภาพร่างกาย และจิตใจดู ว่ามีความแข็งแกร่งขนาดไหน กับเส้นทาง ‘ด่านชนด่านเวอร์ชนั ่ เชียงใหม่’ จะได้เอาไว้คุยให้เพือ่ นต่างจังหวัด (กรุงเทพฯ) ว่าหนุ่มสาวชาวเหนือ ก็ใช่ย่อยซะทีไ่ หน! ส�ำหรับเดือนนี้ขอตัวไปซ่อมร่างก่อน... สวัสดีครับ 9
b side
B I K E I N T E R V I E W
TU SKP ตุ๊ สันก�ำแพง
เรื่อง : acidslapper ภาพ : แต้ม เสือสันก�ำแพง
อย่ า งที่ ไ ด้ เ คยเกริ่ น ไว้ ตั้ ง แต่ ค อลั ม น์ ข องผมเมื่ อ ฉบั บ เดื อ นที่ ผ ่ า นมา ว่ า ผมตั้ ง ใจจะตระเวน ออกปั่นจักรยานไปพบปะพูดคุยกับนักปั่นคนโน้นคนนี้ ทีมนี่ทีมนั่น เพื่อน�ำมาเล่าให้ชาว HIP Bike ได้อ่านกัน ปรากฏว่าพระพิรุณผู้น่ารักก็กราดกระหน�่ำติดต่อกันเสียหลายวัน ท�ำซะชาวกิจกรรมกลางแจ้งอย่างเราๆ ต้องกรอกตาบนบ่นเซ็งแซ่กนั ระงม ฉบับนีผ ้ มจึงท�ำได้เพียงนัง่ พูดคุยกับพีช่ ายคนนึง ซึง่ อันทีจ่ ริงนีอ่ าจจะเป็น เรือ่ งทีด่ กี ไ็ ด้ ...ท�ำไมน่ะเหรอ? ก็เพราะไอดอลของผมคนนีน้ ะ่ ดีกรีแชมป์จกั รยานเสือภูเขาภาคเหนือเชียวนะครับ! ในวงการจักรยานเชียงใหม่ หากเอ่ยถึง ‘เสือตุ๊ สันก�ำแพง’ ชื่อนี้ ชาวเสือหมอบและบรรดาขาใหม่อาจขมวดคิ้วท�ำหน้างง แต่ ในวงการ จักรยานเสือภูเขาคงไม่มใี ครไม่รูจ้ กั แน่นอนสิครับ งานไหนงานนัน้ เราจะเห็น พีต่ ยุ๊ นื ยิ้มหวานถือถ้วยรางวัลอยู่บนเวทีงานจักรยานเสือภูเขาแทบทุกงาน ในเชียงใหม่และอีกหลายจังหวัดในภาคเหนือ แค่ น้ ีก็การันตีความแรง ของพีแ่ กได้แล ้ว ผมเจอพีต่ ุค๊ รัง้ แรกตัง้ แต่ผมเริ่มแข่งจักรยานเสือภูเขา ทุกสนาม ทีผ่ มไปก็จะเจอแกเสมอ พอได้มารูจ้ กั กัน ตัวจริงแกเป็ นพีช่ ายทีอ่ ธั ยาศัยดี ใจดี และน่ ารักมาก ซึ่งต่ างจากตอนที่อยู่ บนจักรยานลิบลับ!!! 555 แต่ ดว้ ยสังกัดทีม และชัยภูมขิ องเราที่ต่างกัน ท�ำให้ผมกับพี่ตุ๊ไม่ค่อย ได้เจอกันบ่อยนัก แต่กย็ อมรับว่า ผมติดตามความเคลือ่ นไหวโดยเฉพาะ ผลการแข่งขันของแกอยู่ตลอด เรียกว่าเป็ นแฟนทีต่ ามเชียร์พต่ี เุ๊ ลยก็วา่ ได้ (ยกเว้นช่ วงที่เราต้องลงแข่งในรุ่นอายุ เดียวกัน! แฮ่ !) ตัวอย่ างง่ายๆ ถ้าวันไหนมีงานแข่งจักรยาน ตอนสายๆ ลองกด Refresh เฟซบุค๊ ดู จะเจอ รูปพีต่ ยุ๊ ้มิ หรายืนอยู่บนโพเดียมแน่นอน 10
a side
จนกระทัง่ งานแข่ง จัก รยานเสือ ภูเ ขาชิง แชมป์ ภ าคเหนื อ สนาม เชียงดาว นี่เป็ นครัง้ แรกทีพ่ ต่ี ลุ๊ งแข่งเสือภูเขาประเภท Cross Country แนว #สายป่ า #สายขรุขระ ได้อนั ดับที่ 3 แกก็เลยติดใจการปัน่ จักรยานแนวนี้ ขึ้นมาทันที เพราะมันได้ไต่ ได้ดง่ิ ได้ลยุ ครบทุกรสชาติ เป็ นแนวทีช่ อบทีส่ ุด แล ้วก็ตามแข่งชิงแชมป์ ภาคเหนือมาตลอด จนคว้าถ้วยรางวัลรองชนะเลิศ คะแนนรวมประจ�ำปี 2556 และ 2557 จนผงาดขึ้นฟาดถ้วยใหญ่ ชนะเลิศ คะแนนรวมในปี 2558 ในรุ่นอายุ 35-39 ปี และล่าสุดก�ำลังจะกวาดมา อีกหนึ่งถ้วยใหญ่ประจ�ำปี 2559 ในรุ่น 40-44 ปี (เหลืออีกสนามเดียว แต่คะแนนทิ้งห่างมาก) ผมถามพี่ตุเ๊ รื่องการปัน่ แบบนักแข่งมืออาชีพ แกตอบติดตลกว่า “พีแ่ ก่เกินไปแลว้ ไม่มสี โมสรไหนอยากได้หรอก 555” ด้วยงานประจ�ำ ทีต่ อ้ งรับผิดชอบนัน้ เป็ นงานโรงแรมทีเ่ ป็ นกะเวลา จึงไม่สามารถวางปฏิทนิ การแข่งล่วงหน้าได้มากนัก “พี่เคยฝันว่าอยากไปลองสนามชิงแชมป์ ประเทศไทยดู นะ แต่ งานมันไม่เอื้อให้ไปตระเวนแข่งทัว่ ประเทศน่ ะ” ถึงกระนัน้ ด้วยฝี เท้า ชื่อเสียง และผลงานของแกก็ทำ� ให้พ่ตี ุ๊มแี ฟนๆ ติดตามเชียร์มากมาย ถึงขัน้ มีหลังไมค์มาไม่ขาดสายเรื่องการปัน่ ไปจนถึง อุปกรณ์ทแ่ี กใช้ แหมมม ว่าแล ้วก็เอาซะหน่อย ขอถามเรื่องสูตรการซ้อม เลยก็แล ้วกัน! ขอวิชาไปประดับฝี เท้าหน่อยเถอะพี่
จักรยานเสือภูเขามันออกแบบมาเพือ่ ลุยป่า ฉะนัน้ ใครทีม่ เี สือภูเขาแล้วยังปัน่ แค่บนถนนเรียบๆ ก็ลองเอามาเข้าป่ากันดูสิ แล้วคุณจะรูว้ า่ มันสนุกแค่ไหน!” พี่ตุ๊ในวัยสี่สิบต้นๆ (ตัวเลขจริงไม่เป็ นที่เปิ ดเผย!) ท�ำงานอยู่ท่ี โรงแรมดาราเทวี ด้ว ยความที่แ กท�ำ งานเป็ น ระบบกะเวลา ดัง นั้น การปัน่ จักรยานของพี่ตุจ๊ ึงต้องปรับเปลีย่ นโยกไปย้ายมาตามตารางงาน ในแต่ละช่วง นัน่ โยงไปถึงเส้นทางการปัน่ ของพีแ่ กทีจ่ ะต้องเปลีย่ นไปตาม โอกาส ผมถามพีต่ ถุ๊ งึ ทีม่ าทีไ่ ปของการปัน่ จักรยาน แกบอกว่า “เมือ่ 8 ปี ก่อน คืนหนึ่งพีน่ งั ่ อยู่ดๆี พอลุกขึ้นยืนปุ๊ บ มันรูส้ กึ มึนๆ วูบๆ หน้ามืดแปลกๆ รูส้ กึ ผิดปกติมากๆ ก็เลยไปตรวจ หมอบอกว่าเป็ นความดันสูง ได้ยากลับมา พร้อ มค�ำ แนะน�ำ ว่ า ควรออกก�ำ ลัง กาย พอดีก บั งานที่พ่ีท ำ� จะต้อ งพา นักท่องเทีย่ วขึ้นดอยสุเทพเป็ นประจ�ำ ทุกครัง้ ทีไ่ ปก็จะเห็นคนปัน่ จักรยาน เสมอ ก็เลยรูส้ กึ ว่าอยากปัน่ จักรยานขึ้นดอยให้ได้เหมือนนักปัน่ เหล่านัน้ บ้าง “แล ้วพอดีมคี นรูจ้ กั เขามีจกั รยานทีไ่ ม่ค่อยได้ปนั ่ ตอนแรกกะไว้วา่ จะยืม แต่เกรงใจ ก็เลยเอามอเตอร์ไซค์ฮอนด้าดรีมไปแลกมาเลย! 555 จากนัน้ ก็ปนั ่ แบบงูๆ ปลาๆ ไม่รูอ้ ะไรมาสักระยะนึง ก็เริ่มรู ส้ กึ เสพติด จักรยานซะแล ้ว พอมารูต้ วั อีกทีกอ็ พั อุปกรณ์มาซะเต็มยศเลย” แกบอกว่า อาการป่ วยนี่ลมื ไปนานแล ้ว หายสนิท! ไม่ได้คดิ ถึงมัน และมันก็ไม่ได้มา ป้ วนเปี้ ยนกวนใจแกอีกเลย ไม่ น านเกิ น รอ พี่ตุ๊ก็ ไ ด้เ ข้า ร่ ว มทีม จัก รยาน ‘เสือ สัน ก�ำ แพง’ (ตอนนัน้ ยังเป็ นการรวมกลุม่ นักปัน่ ของอ�ำเภอสันก�ำแพง ทีม่ กี ารรวมกลุม่ กัน เพือ่ ปัน่ ออกก�ำลังกาย ซึง่ ปัจจุบนั ได้พฒั นากลายเป็ นทีมยักษ์ใหญ่ทมี หนึ่ง ของเชียงใหม่ไปแลว้ เรียบร้อย) “ทริปแรกทีป่ นั ่ กับทีมสันก�ำแพงก็คอื ทริป กิว่ ฝิ่ น! (เฮ่ย! อนุญาตให้อุทานดังๆ) ดอยมันชันมาก พีเ่ ลยจะลงจูง รถก็ล ้ม เพราะถอดคลีทไม่ทนั ” พีต่ บุ๊ อกว่าหลังจากนัน้ ก็รูส้ กึ แค้นใจมาก จนต้อง กลับไปแก้แค้น! “พีไ่ ปซ�ำ้ อีกสามสีค่ รัง้ กว่าจะปัน่ ขึ้นได้มว้ นเดียวจบแบบ ไม่ตอ้ งลงเดินจูง” (*เส้นทางกิ่วฝิ่ น ผมเคยเขียนลงในฉบับเดือนกันยายน 2559 นัง่ Time Machine ย้อนไปเองนะจ๊ะยาหยี) พอได้เ ข้ากลุ่มก็เริ่ม มีโอกาสได้เข้าร่ วมงานแข่งต่ างๆ การแข่ง จักรยานครัง้ แรกของพีต่ คุ๊ อื การแข่งจักรยานเสือภูเขาทางเรียบ “พีไ่ ด้ท่ี 4 ก็งงเหมือนกันนะ เพิ่งเคยมาครัง้ แรกก็ได้ถว้ ยเลย” หลังจากนัน้ ก็เริ่ม ตระเวนร่วมงานแข่งต่างๆ ไปงานไหนก็มถี ว้ ย ไปงานไหนก็ยนื โพเดียม “พีก่ เ็ ริ่มย่ามใจ แต่กย็ งั ไม่เคยขึ้นดอยอินทนนท์สกั ที ก็เลยกะว่าจะไปพิชติ ให้ได้ (งานประจ�ำปี ‘อินทนนท์คนพันธุ อ์ ดึ ’) ตอนนัน้ ก�ำลังมัน่ ใจสุดขีด ว่าแรงมาก ปรากฏว่าลงจูงครับ! 555 อายตัวเองมาก คิดว่าจะต้องมา ล ้างตาให้ได้ ก็เลยเป็ นแรงผลักดันให้ขยันซ้อมมากขึ้น” เดีย๋ วนี้ปนั ่ ขึ้นดอย อินฯ นี่ขนมๆ แล ้วใช่มยั้ ครับพี?่ “ก็ไม่ขนาดนัน้ หรอก 555”
“พี่ตุ๊มีวิธี ก ารและแบ่ ง วัน ซ้อ มยัง ไงครับ ?” ผมยิง ค�ำ ถามแบบ Hard Buy (ตรงกันข้ามกับ Hard Sell) แกตอบเสียงใสว่า “ไม่ม!ี ” ผมท�ำหน้าตกใจ แกบอกว่า “พีไ่ ม่มโี ปรแกรมฝึ กซ้อม ทุกครัง้ ทีม่ โี อกาส พี่จะปัน่ ระยะไกลๆ ปัน่ ต่ อเนื่องยาวๆ” แกบอกต่ อว่า “เดีย๋ วนี้เริ่มวิ่ง แล ้วด้วย เปลีย่ นบรรยากาศน่ะ 555 แต่พอกลับมาปัน่ รูส้ กึ ได้เลยว่าการวิง่ มันช่วยให้พม่ี แี รงกดลูกบันไดเพิม่ ขึ้น มันเลยได้ทงั้ แก้เลีย่ นจักรยาน และ ยังช่วยเสริมการปัน่ จักรยานได้ดว้ ย” ผมถามต่อถึงแผนในอนาคตเกี่ยวกับ การแข่งจักรยาน “เดีย๋ วนี้เริ่มแข่งน้อยลงแล ้ว จากเดิมทีไ่ ปทุกงาน เวลามัน เริ่มไม่ค่อยเอื้อ แต่ยงั คงปัน่ อยู่ตลอด เพียงแต่คงได้ร่วมงานแข่งน้อยลง” อีก ค�ำ ถามคาใจชาวเสือ ภูเ ขาทัง้ เล็ก - ใหญ่ และเก่ า - ใหม่ 27.5” หรือ 29” ดีคะ? พีต่ ตุ๊ อบแน่นหนักเป็ นค�ำเมืองว่า “ซาวเก้าก่ะ เด็ด!!!” และเมือ่ ถามต่อว่าระหว่างเสือภูเขากับเสือหมอบ พีต่ ชุ๊ อบอะไรมากกว่ากัน? ค�ำตอบทีไ่ ด้กค็ อื “อันทีจ่ ริงแล ้วก็ชอบทัง้ คู่นะ แต่ใจมันเทไปทางเสือภูเขา มากกว่า เสือหมอบจะสนุ กมันต้องไปกับกลุ่มใหญ่ๆ พีก่ ็มหี มอบคันนึง เอาไว้แก้เลีย่ น 555 เคยไปแข่งด้วย ขึ้นดอยสุเทพได้ท่ี 2 แต่ก็ยงั ชอบ เสือภูเขามากกว่าอยู่ดี มันได้ลยุ เข้าไปในป่ า มันตื่นเต้นเร้าใจกว่าเยอะ” พีต่ ทุ๊ ้งิ ท้ายฝากถึงนักปัน่ ชาว HIP ว่า “คนส่วนใหญ่มกั เริ่มปัน่ ด้วย จักรยานเสือภูเขา เพราะคิดว่าเสือหมอบคงปัน่ ยาก และเสือภูเขามัน ครอบคลุมทุกการใช้งานมากกว่า พอวันหนึ่งได้ลองเสือหมอบ ก็ประทับใจ ในความพุ่ง ความแรงและเร็ว คนส่วนใหญ่ก็เลยย้ายไปปัน่ เสือหมอบ อันนี้กไ็ ม่วา่ กัน แต่เราลืมกันไปอย่างนึง! จักรยานเสือภูเขามันออกแบบมา เพื่อลุยป่ า ฉะนัน้ ใครที่มเี สือภูเขาแลว้ ยังปัน่ แค่บนถนนเรียบๆ ก็ลอง เอามาเข้าป่ ากันดูสิ แล ้วคุณจะรูว้ า่ มันสนุกแค่ไหน!” นี่ คื อ ตัว อย่ า งของชายผู ซ้ ่ึง ปัน่ จัก รยานในหลากหลายรู ป แบบ จากการปัน่ เพือ่ หนีอาการเจ็บป่ วย เพือ่ ท่องเที่ยว เพือ่ แข่งขัน หรือเพือ่ ออกก�ำ ลัง กาย แม้ยืน ยัน ว่า จะแข่ง น้อ ยลง แต่ ผ มเชื่อ ว่า ทัศ นคติดีๆ ของพีต่ จุ๊ ะยังคงสร้างแรงบันดาลใจให้กบั นักปัน่ อืน่ ๆ ได้อยู่เสมอครับ
11
b side
B I K E S A F E
REST & RECOVERY การพักและรีคัฟเวอรี่ เรื่อง / ภาพ : เอ๋หนวด
เมื่อเอ่ยถึง ‘การพัก’ ผู้อ่านหลายท่านก็คงนึกกันไปต่างๆ ตามแต่ประสบการณ์ นอนอยูบ่ า้ นเฉยๆ นอนบนชายหาด ไปเดินป่า ธรรมชาติ ไปเดินห้าง ไปหาอะไรอร่อยๆ กิน ไปดูหนัง ก็ว่ากันไป ตามความสบายใจ แต่ ‘การพัก’ ที่จะเอ่ยถึงต่อไปนี้ เป็นการพัก เพื่อให้ร่างกายและจิตใจ เอ๊ะ! จิตใจต้องพักด้วยเหรอ? ได้ฟ้ ื นจากการฝึ กซ้อมหรือออกทริป หนักๆ มา ร่างกายเราจะเห็นได้ชดั เจนว่าเกิดอาการล ้า อ่อนแรง ปวดตามกล ้ามเนื้อ แต่จติ ใจทีอ่ ่อนล ้าเกิดจากการออกก�ำลังกายทีห่ นักและต่อเนื่องในระยะเวลาหนึ่ง และภาระจากงานประจ�ำ การดูแลครอบครัว ความสัมพันธ์กบั เพือ่ น ภาระการเงิน และแรงกดดันจากความรับผิดชอบต่างๆ อาจจะสังเกตได้จาก ไม่อยากออกก�ำลังกาย (ต่างจากขีเ้ กียจออกก�ำลังนะครับ 555) เบือ่ โดยไม่มเี หตุผล ไม่มชี วี ติ ชีวา อ่อนแรง ฯลฯ เรื่องของเรื่องก็คืออยากแรงก็เลยปัน่ หนัก แต่ ส่ิงส�ำคัญที่ถูกมองข้ามก็คือ ‘การพัก’ ทีด่ นี นั้ เป็ นปัจจัยส�ำคัญของความแรง!
12
a side
‘พักกาย’ หลังปั่นหรือวิ่งทันที - 30 นาที : - ยืดเส้นยืดสาย เดีย๋ วนี้หาในยูทูบได้งา่ ยๆ - น็อคน�ำ้ เย็น ลงแช่ในอ่างน�ำ้ เย็น เพือ่ หยุดการฉีกขาดของเซลล์กลา้ มเนื้อ และลดอุณหภูมริ ่างกาย - กินอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตทีย่ อ่ ยง่ายผสมโปรตีนนิดหน่อย เพือ่ ชดเชย ไกลโคเจนในกล ้ามเนื้อ สัดส่วนโดยประมาณ คาร์โบฯ 0.8 กรัม : โปรตีน 0.2 กรัม ต่อน�ำ้ หนักตัว 1 กก. - ดืม่ เครื่องดืม่ ทีช่ ่วยให้ฟ้ ื นตัวได้เร็ว น�ำ้ บีทรูท เพือ่ ลดการอักเสบ ขับกรด แลคติก ลดความดันเลือดสู ง ช่วยเพิ่มการหมุนเวียนเลือด น�ำ้ มะพร้าว น�ำ้ ผักต่างๆ เช่น น�ำ้ แครอท มะเขือเทศ ฝรัง่ ม่อน ฯลฯ - ปัน่ สมูทตี้ โยเกิรต์ ปัน่ ใส่เบอร์ร่ตี ่างๆ หรืออาจจะใช้กะทิสดแทนโยเกิรต์ ชอบอะไรก็หามาใส่กนั ได้เลย อย่างผมชอบใบสะระแหน่ ปลูกในกระถาง เวลาใช้กเ็ ด็ดมาใส่ สดชื่นดี ถ้ารูส้ กึ หิวอาจใส่ขา้ วสุกลงไปด้วย - ถ้ามีเวลาและไม่มธี ุระ งีบสิครับ ซัก 15 - 30 นาที อย่ามากกว่านัน้
หลังออกก�ำลังกายสองถึงสามชั่วโมง : กิ น ข้า วอีก ซัก มื้อ หนึ่ ง เลือ กอาหารเพื่อ สุ ข ภาพกัน หน่ อ ย มื้อ นี้ ควรประกอบด้วยคาร์โบไฮเดรต โปรตีนประมาณ 20 กรัม และไขมันนิดหน่อย ถ้ารูส้ กึ ยังร้อนอยู่ หาเครื่องดืม่ เย็นๆ ดืม่ งดน�ำ้ ตาลนะครับ แช่ตวั ในน�ำ้ เย็น อยูห่ อ้ งแอร์ หาถุงใส่นำ�้ แข็งประคบท้ายทอยเพือ่ ลดความร้อน คืนนัน้ ควรนอน ให้ได้ 8 - 10 ชัว่ โมง และควรนอนให้มคี ุณภาพ คือ ท�ำยังไงก็ได้ให้หลับสนิท นัน่ แหละ วันต่อมาอาจจะใช้วธิ กี ารเหล่านีใ้ นการพักและช่วยให้รา่ งกายฟืน้ ตัว ได้เร็วขึ้น : ลดความเครียด (คงต้องหาเทคนิคลดความเครียดกันเองแลว้ ครับ) นวดหรือกดจุดแผนไทย, Active Recovery เช่น ออกปัน่ หรือวิ่งเบาๆ หัวใจเต้นอยู่ในโซน 1, ยืดเส้น, นวดโฟมโรลเลอร์, Compression เช่น ใส่กางเกง Compression หรือใช้เครื่อง Compression, โยคะ, ท�ำสมาธิ, ฝังเข็ม, ซาวน่า, ดืม่ น�ำ้ เยอะๆ พักและรีคัฟเวอร์รี่อย่างจริงจัง : ถ้า เราออกก�ำ ลัง กายอย่ า งหนัก ต่ อ เนื่ อ งมาหลายสัป ดาห์ ควรมี สัปดาห์พกั คือ เป็ นสัปดาห์ทล่ี ดการออกก�ำลังกายลงอย่างมาก แต่สง่ิ ทีม่ กั จะ ท�ำผิดพลาดกันในสัปดาห์รคี ฟั เวอร์ร่ี คือ ยังออกซ้อมตามปกติ มีโครงการ ใหญ่ทต่ี อ้ งท�ำให้เสร็จ เช่น สร้างชานบ้าน รื้อสวนท�ำสวน ซึง่ ท�ำให้หมดสัปดาห์ แบบหมดแรง อ่อนล ้า ฉะนัน้ ในสัปดาห์รคี ฟั เวอร์ร่คี วรวางแผนไปนวด พักขา พักงานหนักๆ เพือ่ ให้พร้อมส�ำหรับการศึกสงครามทีจ่ ะตามมา แต่อย่าพักนาน เกิน ไป โปรดจ�ำ ไว้ การพัก ก็ ถือ เป็ น การซ้อ ม ‘พัก ให้ห นัก เหมือ นกับ ที่ คุณซ้อมหนัก’ ตัวอย่างง่ายๆของการรีคัฟเวอร์รี่หลังออกก�ำลัง - หลังฝึ กหนัก หาเครื่องดืม่ มาจิบ และกินอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต - แช่นำ�้ เย็นในอ่าง หรืออาบน�ำ้ เย็น 10 นาที - อาบน�ำ้ ช�ำระตัว - ยืดเส้นยืดสาย 10 นาที - ใส่กางเกง Compression หรือ ใช้เครื่อง Compression 20 นาที - งีบ 30 นาที - กินอาหารทีป่ ระกอบด้วย โปรตีน 20 กรัม คาร์โบฯ และไขมันนิดหน่อย - ตกดึก นอนให้ได้คุณภาพ 8-10 ชัว่ โมง หวังว่าผู อ้ ่านทุกท่านจะกินให้ดี หลับให้ลกึ และฟื้ นตัวให้เร็วกว่า คู่ฟดั คู่เหวีย่ งของคุณนะครับ
13
b side
R U N
MARATHON GOAL วิ่งไปให้ถึง ‘มาราธอน’ เรื่อง / ภาพ : อาเหลียง
อย่างที่ผมเขียนเขียนไปในเล่มก่อน ว่างานวิ่งต่างๆ มักจะมีหลายระยะ ให้เลือกสรร ระยะหนึ่งที่ดูจะเตะตาและท้าทายกับนักวิ่งทุกคนไม่ว่าหน้าใหม ่หรือวัยเก๋า นั่นก็คือระยะที่เรียกว่า ‘มาราธอน 42.195 กม.’ ระยะหรือตัวเลข 42.195 นี้ มันดูมมี นต์ขลังมาก ตัง้ แต่ท่มี า ว่าท�ำไมต้อง 42.195? แล ้วท�ำไมต้องไกลขนาดนัน้ ? วิง่ กิโลเดียวชัน้ ก็จะตายแล ้วมัย้ ? นัน่ คือค�ำถาม แต่ใจจริงๆ แล ้ว มันเหมือนเป็ นตัวเลขกระตุกต่อมคันในร่างกาย ให้เรารูส้ กึ อยากลอง หรืออยากโดนมันสักที เหมือนกับเราเห็นของ Sale แต่พยายามกลัน้ ใจไม่ซ้อื พอไม่ซ้อื แล ้ว เวลาผ่านไป ก็มี Sale อีก กระตุน้ ต่อมเราไปเรื่อยๆ และผมว่า ถ้าคุณเป็ นนักวิง่ แล ้วล่ะก็ คุณไม่น่าจะหนีระยะนี้พน้ แน่ๆ สักครัง้ ในชีวติ คุณ เกิดมาทัง้ ที ก็ควรจะลองดูนะครับ สักครัง้ หนึ่งในชีวติ ทีค่ ุณจะถูกเรียกว่า Marathoner ท�ำอย่างไรถึงจะเป็ นมาราธอนเนอร์ล่ะ? มันไม่ใช่ว่าอยู่ๆ เราจะมาเป็ นนักวิง่ 42 กิโล ได้เลยหรอกนะ มันต้องมีขนั้ ตอน เหมือนการเดินขึ้นบันไดแหละครับ เราจะกระโดดขึ้นไป 3 ขัน้ 4 ขัน้ 5 ขัน้ เลยก็ได้ แต่ย่งิ คุณกระโดดข้ามขัน้ สู งขึ้นเท่าไหร่ คุณก็ย่งิ มีโอกาสเสี่ยงต่อการ พลาดพลัง้ และบาดเจ็บได้ ดังนัน้ การก้าวเดินทีละขัน้ ย่อมมันคงกว่ ่ าเสมอ แล ้วการก้าวทีละขัน้ นัน้ มันเป็ นยังไงกันล่ะ? เราลองมาดูกนั ว่าเราพร้อมท�ำสิง่ เหล่านี้ได้ไหม 14
a side
1. ลองถามตัวเองก่อนว่าคุณตั้งใจจะวิ่งมาราธอนเมื่อไหร่ ? - อาจจะเป็ นอีกสองปี อีกหนึ่งปี หรืออีก 6 เดือน ทัง้ หมดนี้ข้ นึ อยู่กบั ความพร้อมของคุณ ผมไม่แนะน�ำให้ว่าอยู่ดๆี ก็อยากลอง เคยวิง่ ได้แค่ 10 กิโลนิดๆ แล ้วมาลงเลย อันนี้ไม่แนะน�ำ การเลือกมาราธอนแรก เป็ นอะไร ที่ดีต่ อ ใจพอสมควร เหมือ นกับ รัก แรกของเราที่อ ยากจะมอบให้ใ คร สนามมาราธอนก็เช่นกัน มาราธอนไม่ได้มสี นามเดียวบนโลก สนามธรรมดา บ้านเราก็มีเยอะ หรือสนามที่ดูดี โกอินเตอร์ ต่ างประเทศก็มีมากมาย อย่างเช่น โตเกียวมาราธอน เบอร์ลนิ มาราธอน บอสตันมาราธอน เป็ นต้น แต่ กว่าจะได้ไปก็ไม่ง่ายเช่ นกัน ดังนัน้ การเลือกสนามแรกให้ประทับใจ ก็จะส่งผลต่อการวิง่ ของเราในระยะยาวได้ดเี ช่นกัน 2. เมื่อก�ำหนดเวลาได้แล้ว ก็จัดตารางซ้อม - ตารางซ้อมมาราธอน ส่วนใหญ่ จะแบ่งได้เป็ น 3 ระดับ คือ ระดับเริ่มต้น (Beginner) ปานกลาง (Intermediate) และเพือ่ การแข่งขัน (Best Performance) ซึง่ การซ้อมก็จะใช้เวลาต่างกัน ระดับเริ่มต้นอาจจะนานหน่อย ส่วนใหญ่กจ็ ะ ใช้เวลาประมาณ 16 สัปดาห์ บางต�ำราก็ว่า 24 สัปดาห์ไปเลย การซ้อม ก็จะแบ่งเป็ นสัปดาห์ต่างๆ เช่น - สัปดาห์อ่นุ เครื่อง (Warm Up) คือเริ่มเบาๆ ก่อน เน้นให้ร่างกายเกิด ความเคยชิน และพร้อมส�ำหรับการฝึ กในสัปดาห์ต่อไป - สัปดาห์สร้างเพิม่ ความแข็งแรง (Strengthening) จะเป็ นการเน้นไปยัง การเพิม่ ความเร็ว หรือยืดระยะการท�ำการให้ยาวขึ้น หรือวิง่ ได้นานขึ้นนัน่ เอง อาจจะมีการให้ฝึกวิง่ แบบ Tempo (วิง่ ความด้วยความเร็วประมาณ 80% ของทีจ่ ะแข่ง และต่อเนื่องเป็ นระยะทางตามก�ำหนด) หรือ Interval (บ้านเรา เรียกกันว่าลงคอร์ด เป็ นการวิง่ ด้วยความเร็วสูง เป็ นรอบ พร้อมให้มกี ารพัก เป็ นช่วงๆ เป็ นการกระตุน้ หัวใจ และให้กลา้ มเนื้อเกิดการเคยชิน และฝึ ก ดึง กรดแลคติ ก มาใช้) มากขึ้น และบางโปรแกรมอาจจะให้ฝึ ก แบบ Hill Repeat (วิง่ ขึ้นเขาซ�ำ้ ๆ) ด้วย - สัปดาห์นรก (Peak Week) จริงๆ แลว้ ไม่ได้ช่ือสัปดาห์นรกหรอก ผมตัง้ ชื่อเอง สัปดาห์น้ ี วันทุกวันของคุณคือการซ้อม และไม่ใช่ซอ้ มธรรมดา ซ้อมหนักมาก โดยท้ายทีส่ ุดทีท่ กุ คนจะโดน คือต้องวิง่ 35 - 36 กม. แล ้วแต่ ตารางซ้อมของคุณ และปกติแลว้ สัปดาห์นรกนี้จะอยู่ในช่วงท้ายๆ ของ การฝึ กแล ้ว ร่างกายเราจะต้องพร้อมในระดับหนึ่งแล ้วนะครับ ไม่ตอ้ งกังวล ไปกับการเปิ ดตารางฝึ กมาวันแรกๆ แล ้วเห็นเขาบังคับให้วง่ิ 30 กว่ากิโลน่ะ - สัปดาห์เบา (Taper Week) หลังจากการฝึ กหนักไปแล ้ว เป้ าหมายของเรา คือการแข่ง ดังนัน้ หากเราโหมร่างกายใช้ตลอด ร่างจะพังเอา ดังนัน้ ก็ตอ้ งมี การเบาร่างเก็บไว้ใช้วนั จริงบ้าง แต่ก็ไม่ใช่เบาซะจนไม่ได้วง่ิ นะ แค่เบาลง เท่านัน้ แหละ - สัปดาห์แข่ง (Race Week) สัปดาห์น้ จี ะเน้นไปการเตรียมพร้อมร่างกาย ให้พร้อมที่จะแข่งได้ ถึงตอนนี้แลว้ ทุกท่านก็น่าจะพร้อมเข้าสู่การแข่งขัน ทีต่ งั้ ใจรอมานานแล ้วล่ะ!!! *ตารางซ้อมสามารถหาได้ตามอินเตอร์เน็ ตทัว่ ไป ควรเลือกให้ตรงกับ ความเหมาะสมของเรานะครับ 3. มีวินัย - ส�ำคัญที่สุดที่จะท�ำให้เราไปถึงเป้ าหมายได้ คือ การหมัน่ ซ้อม ถ้าเรา แค่เสียเงินสมัครวิง่ มาราธอน แลว้ นอนรอ มันจะไปวิง่ แบบนัน้ ไม่ดา๊ ยยยย (เสีย งแบบเท่ ง เถิด เทิง) มัน ต้อ งหมัน่ ซ้อ มบ่อ ยๆ เปลี่ยนเวลาพักผ่ อน ไปใส่รองเท้าผ้าใบแลว้ ออกไปวิง่ วันละนิด วันละหน่อย จากทีเ่ ราไม่เป็ น อะไรเลย ก็จะแข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ ครับ 4. รู้ตัวเอง - ไม่ใช่ว่าตะบี้ตะบันซ้อม กินข้าวน้อย พักผ่อนน้อย แลว้ ก็ยงั ไปซ้อมอีก ของแบบนี้มนั ต้องบาลานซ์ให้ดๆี ครับ ถ้าเราเจ็บ หรืออยู่ดๆี เครื่องน๊อก (วู บ ) ไป มัน ไม่ คุ ม้ กับ ที่เ ราเตรีย มตัว มาตลอดหลายเดือ นหรอกครับ ตัวผมเองก็เคยเป็ น แบบว่าซ้อมหนักเอามากๆ ยังไงก็จะวิง่ ให้ได้ตามตาราง สุดท้ายก็เกิดอาการเจ็บ หาหมอ หมอบอกให้หยุดเลย เพราะถ้ายังฝื น มันจะเรื้อรังไปเรื่อยๆ อาการจะหนักกว่าเดิมอีก หน�ำซ�ำ้ ยังรบกวนเวลา การท�ำงานของเราอีก เนื่องจากเราไม่ใช่นกั กีฬาอาชีพ ทีส่ ามารถซ้อมได้ทงั้ วัน เราต้องให้เวลากับการท�ำงานประจ�ำของเราก่อน หากซ้อมหนักไป อาจจะ ไปเพลียในเวลาท�ำงานด้วยก็เป็ นได้ครับ ดังนัน้ เราต้องรูต้ วั เองก่อน ว่าเรา แข็งแรงแค่ไหน แลว้ จัดตารางซ้อมให้ตวั เอง ส่วนตัวผม จะชอบไปซ้อม
ตอนเช้า เพราะจะรูส้ กึ กระปรี้กะเปร่าเวลาท�ำงานมากกว่า แต่กไ็ ม่ใช่วา่ ไม่ชอบ ซ้อมตอนเย็นนะครับ ช่วงเย็น ส่วนใหญ่เราจะก�ำหนดเวลาง่ายกว่า เพราะว่า รูเ้ วลาเลิกงานและเดินทาง ต่างกับตอนเช้าทีต่ อ้ งแหกขี้ตาตืน่ คุณจะต้องสู ้กับ สภาวะ ‘เตียงดู ด’ เป็ นอันดับแรก หากเอาชนะได้ คุณก็ออกมาซ้อมได้ แต่ถ ้าพ่ายแพ้ วันนัน้ คุณก็จะมีฉายาว่า ‘เตียงดูดรันเนอร์’ ติดตัวไปทัง้ วันเลย 5. การกิน - อาหารการกินใครว่าไม่สำ� คัญ ไม่ใช่วา่ ‘วิง่ แล ้วกินอะไรก็ได้’ ทีเ่ ป็ นสโลแกน ของใครหลายๆ คน (จริงๆ ผมก็เคยอ้างกับตัวเองด้วยค�ำนี้เหมือนกัน แหะๆ) จริงๆ แล ้วการกินนี่แหละ เป็ นตัวก�ำหนดสุขภาพเราเลย หากเปรียบเทียบ การออกก�ำลังกายคือการเผาผลาญพลังงานทัง้ ส่วนทีเ่ กินและไม่เกินออกไป การเติมของใหม่เข้ามาทดแทนนัน้ มันจะเป็ นตัวชี้วดั ว่า เราอยากให้ร่างกาย ของเราเจริญไปในรูปแบบไหน ถ้าอยากหุ่นดีไขมันน้อย ก็ตอ้ งหัดกินคลีน ลดไขมัน ลดแป้ ง เพิม่ โปรตีน แต่ถา้ ตามใจปาก ก็ถกู ปากและอิม่ ท้อง แต่ก็ ต้องท�ำใจว่าต้องรับสารอาหารไม่จำ� เป็ นมาด้วย เช่ นไขมันเลว เป็ นต้น เราจะสังเกตได้วา่ พวกนักเพาะกาย ท�ำไมกินเยอะ แต่กล ้ามขึ้นเอาๆ ก็เพราะ พวกเขาคัดสรรแต่ของดีๆ เข้าร่างกายคับ ท�ำให้ร่างกายเมือ่ ใช้งานหนักแล ้ว เติมของทีเ่ หมาะสมเข้าไป ก็จะยิง่ ท�ำให้ร่างกายพัฒนาไปในทางทีเ่ หมาะสม เช่นกันนัน่ เอง - ส่ ว นนัก วิ่ง ของเรา เมื่อ เติ ม อาหารหลัง จากซ้อ มแล ว้ ก่ อ นแข่ ง ขัน การกินอาหารก็สำ� คัญ ในทีน่ ้ ี จะชอบเรียกกันว่าการโหลดคาร์บ หรือการโหลด คาร์โบไฮเดรตนัน่ เอง ของจ�ำพวกแป้ ง หรือสารอาหารทีจ่ ำ� เป็ น ท�ำให้ร่างกาย มีพลังงานสะสมก่ อนการแข่งยาวเช่นมาราธอนเป็ นต้น ไม่งนั้ จะมีอาการ ทีเ่ รียกว่า ‘หมด’ มาทักทายกันระหว่างแข่งนะครับ - โดยส่วนใหญ่ การโหลดคาร์บทีด่ ี ควรจะโหลด 1 - 2 วันก่อนแข่งขันครับ ถ้าโหลดก่อนหน้านัน้ พลังงานอาจจะเปลีย่ นร่างไปอยู่ในรูปของไขมันแทน ก็ได้ครับ :P 6. การพัก - อาจจะเป็ นสิง่ ทีท่ กุ คนชอบ แต่นกั วิง่ หลายท่านกลับละเลย ซ้อมตะบี้ตะบัน กันทุกวัน เพื่อเร่ งตัวเองสู่ จุดหมายที่วาดฝันไว้ โดยหารู ไ้ ม่ว่าร่ างกาย ของตัวเองนัน้ มันถึงขีดจ�ำกัดสุดๆ แลว้ และนี่เองเป็ นสาเหตุของนักวิ่ง หลายๆ ท่านทีเ่ กิดอาการบาดเจ็บรบกวนต่อเนื่อง เพราะ ‘ไม่ยอมพัก’ นี่แหละ - ร่างกายเราไม่ใช่ห่นุ ยนต์ ทีใ่ ช้งานได้ต่อเนื่อยเรื่อยๆ ถ้าเสียก็เปลีย่ นอะไหล่ แต่ในชีวติ จริงเราไม่มอี ะไหล่สำ� รองง่ายๆ แบบนัน้ แต่ร่างกายเราฉลาด ที่สามารถซ่อมตัวเองได้ไม่เหมือนเครื่องจักร แต่เขาก็ตอ้ งใช้เวลาเช่นกัน ดังนัน้ การพักผ่อนก็จดั เป็ นการซ้อมอย่างหนึ่งเช่นกัน ต้องรูจ้ กั พอ ต้องรูจ้ กั ตัวเอง ต้องไม่งอแงครับ จะเห็นได้วา่ วิถแี ห่งมาราธอนเนอร์นนั้ ถ้าคุณรูจ้ กั การบริหารตัวเอง แบบ 6 ข้อทีก่ ล่าวมาทัง้ หมดนี้ คุณก็สามารถก้าวถึงความเป็ นมาราธอนเนอร์ ได้แลว้ ล่ะ มันไม่ยากหรอก หากคุณลม้ ก็แค่ยนื ถ้าคุณเหนื่อย ก็แค่พกั เมื่อพร้อมแลว้ ค่อยพุ่งสู่เป้ าหมาย อย่ารีบร้อนเพราะวู่วาม แลว้ ความสุข จากการวิง่ จะอยู่ไปอีกนานครับ 15
b side
เที่ ยวข้ามภาค
04 05
01 02
03
16
a side
THE AMAZING EAST สีสันตะวันออก เรื่อง /ภาพ : ศมนภรณ์ / ภัคจิรา
สิบปีกว่าแล้วที่ไม่ได้ไประยอง กลับไปครั้งนี้โตขี้น เห็นสิ่งรอบตัวต่างไปจากเดิม ว่านอกจากระยองจะมี ของเด่นของดังคือเกาะเสม็ดแล้ว ยังมีเกาะเล็กเกาะน้อยที่สวยงามอีกหลายจุด เริ่มด้วย ‘เกาะมันใน’ ลงแวะชม โครงการอนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเลของสมเด็จพระราชินีฯ และพิพิธภัณฑ์เต่าทะเลไทย ‘เกาะทะลุ’ เหมาะส�ำหรับด�ำน�้ำ ชมประการังน�ำ้ ตืน้ และฝูงปลาในน�ำ้ ใสไหลเย็น ด�ำน�ำ้ เสร็จแล้วก็อย่าลืมแวะไปกินอาหารทะเลสดๆ ทีบ่ า้ นเพให้ทอ้ งแตก
01 อาคารในชุมชนเก่าริมน�้ำจันทบูร ที่ยังคงเสน่ห์ แบบเมืองเก่าและศิลปะของคนรุ่นใหม่ 02 อุทยานแห่งชาติน�้ำตกพริ้ว เล่นน�้ำกับปลาง่ายๆ งี้เลย 03 เป็นครัง้ แรกทีไ่ ด้เห็นต้นทุเรียนจริงๆ ตืน่ ตาตืน่ ใจไม่นอ้ ย 04 ทางเดินไม้ทลี่ อ้ มรอบไปด้วยต้นโปรงสะท้อนสีเขียวอ่อน ที่ขึ้นอยู่อย่างหนาแน่นเต็มพื้นที่ในทุ่งโปรงทอง 05 อย่าลืมแวะร้านก๋วยเตี๋ยวขลุกขลิก ริมน�้ำจันทบูร แล้วสั่งข้าวคลุกพริกเกลือ (อย่าลืมดูรูปของอร่อยๆ ในหน้าถัดไป... ไม่เหมาะส�ำหรับ คนที่ยังไม่ได้ทานข้าวนะ)
นอกจากทะเลแลว้ ระยองยังมีท่เี ที่ยว อีกหลายแบบ ‘ทุ่งโปรงทอง’ ที่ชุมชนปากน�ำ้ ประแส แหล่งท่องเที่ยวที่ให้ความรูเ้ รื่องระบบ นิเวศน์ของป่ าชายเลน ได้เห็นความสวยงามของ ป่ าโกงกาง ไม้โปรงและไม้รมิ ชายฝัง่ ส่วนใครที่ ชอบกินผลไม้ ‘มหาวิทยาลัยบ้านนอก’ เขาก็ ให้ค วามรู เ้ รื่ อ งวิ ถี ชุ ม ชนและหลัก ปรัช ญา เศรษฐกิจพอเพียง ก่ อนจะพาชมสวนทุเรียน เงาะ มังคุด และกินให้หน�ำใจ อร่อยหวานสมกับ เป็ นของเด่นของดังภาคตะวันออก จังหวัดใกลเ้ คียงอย่างจันทบุรีก็มคี วาม น่าสนใจไม่แพ้กนั ด้วยประวัตศิ าสตร์ทย่ี าวนาน 17
b side
ของชุมชนริมน�ำ้ จันทบูร คุณจะได้เห็นการใช้ชวี ติ อาคารบ้านเรือนที่ยงั คงเอกลักษณ์แบบดัง้ เดิม ใกล ้ๆ กันมี ‘อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธิ นิรมล’ โบสถ์คริสต์โรมันคาทอลิค อายุกว่า 100 ปี สวยงามตามศิลปะแบบโกธิก ออกนอกเมือง มาอีกนิดส�ำหรับคนชอบสายธรรมชาติ ต้องแวะ ‘อุทยานแห่งชาติน้� ำตกพลิ้ว’ อย่าลืมเอาเสื้อผ้า มาลงเล่นน�ำ้ กับปลาด้วยล่ะ ตืน่ เต้นอย่าบอกใคร นับเป็นประสบการณ์ดๆี จากทริป ‘ท ้าเทีย่ วข้ามภาค ในวันธรรมดาทีไ่ ม่ธรรมดา’ ของเราอีกทริปหนึ่ง และอยากให้ทุ ก คนได้ล องไปสัม ผัส เองว่ า ภาคตะวันออกของเราก็เก๋ไก๋ไม่เหมือนใคร
HIPTHAILAND Rayong
...
>
500 likes
มาเที่ยวสนุกจัง #ท้าเที่ยวข้ามภาคในวันธรรมดาที่ ไม่ธรรมดา #ระยอง #จันทบุรี #seafood #durian HIP THAILAND
18
a side
A D V E N T U R E
CAN’T WAIT UNTIL NEXT TIME เสี ย วกว่ า นี้ มี อี ก มั้ ย !? เรื่อง /ภาพ : ศมนภรณ์
สารภาพตามตรงเลยว่าเพิง่ เคยเล่น Zipline (โหนสลิง) กับ Roller Coaster ครัง้ แรกในชีวติ ก็ตอนอายุเกือบจะ 28!! ถือว่าเป็นเรือ่ งแปลกส�ำหรับเราเองทีอ่ ยูใ่ นวงการท�ำหนังสือและใช้ชวี ติ อยูใ่ นเชียงใหม่มาอย่างยาวนาน เพราะซิปไลน์มนั เป็น OTOP ของบ้านเราเหมือนกับร่มบ่อสร้าง สันก�ำแพง ยังไงอย่างงัน้
เราได้รบั การเชิญชวนจากทาง tripzii.co ให้ไปลองเล่นเจ้าซิปไลน์ตวั นี้ ที่ Jungle Flight Zipline อ�ำเภอดอยสะเก็ด (ตื่นตะลึงเข้าไปอีกเพราะบ้านอยู่ ดอยสะเก็ดไม่ยกั รู ว้ ่ามี) ด้วยค�ำว่า ‘โหนสลิงผจญภัยบนยอดไม้ 39 สถานี ชมป่ าฝนอายุกว่า 1,000 ปี สู งที่สุดและใหญ่ท่สี ุดในเชียงใหม่ + โหนสลิง ชมธรรมชาติความยาว 1,000 เมตร + โรลเลอร์โคสเตอร์ ความยาว 1,100 เมตร’ ตกปากรับค�ำทันทีทนั ใด “จะไหวมัย้ เนี่ย” ขาเริ่มสัน่ ขณะที่สต๊าฟก�ำลังจัดการใส่อุปกรณ์เซฟตี้ ความปลอดภัย สายนู น้ สายนี้ เ ต็ ม ไปหมด กล อ้ งโกโปรที่เ อาติ ด ตัว มา ก็แลดูจะไม่ปลอดภัยหากถือและโหนไปด้วย ดีทส่ี ต๊าฟเขามีหมวกทีต่ ดิ โกโปรได้ ให้ยมื หลังจากบรีฟเรื่องเทคนิคท่าทางต่างๆ แล ้วก็ถงึ เวลาขึ้นสลิง! เรารูส้ กึ ว่า การท�ำกิจกรรมอะไรแบบนี้มนั น่ากลัวนะ เราก็นำ�้ หนักไม่ใช่นอ้ ยๆ แต่กค็ ดิ อีกว่า คนสร้างมันก็ตอ้ งเจ๋งพอตัวล่ะ เขาค�ำนวนมาแลว้ ทัง้ นัน้ ใครๆ ก็เล่นกัน และทีส่ ำ� คัญ มันคือการปลดล็อคสกิลบางอย่างในตัวเอง แบบถ้าเราผ่านอันนี้ ไม่ได้ ก็อย่าหวังจะไปท�ำอย่างอืน่ เลย (ให้กำ� ลังใจตัวเองไป) “อูยยยยยยยย” นี่คอื เสียงทีเ่ ล็ดลอดออกมาจากไรฟันระหว่างโหนสลิง จากสถานีแรกไปสถานีทส่ี อง ระยะไม่ไกลมากแต่กพ็ อท�ำให้เสียวขาอ่อน “เดีย๋ วเจอ อันยาวสุดเสียวกว่านี้อกี ” สต๊าฟให้ก�ำลังใจดีมาก! เล่นไปได้หลายสถานี เริม่ รูจ้ งั หวะ “สถานีต่อไป ถ้าสต๊าฟบอกว่า Stop ก็เบรคเลยนะครับ!” นี่ละ่ คือจุดทีเ่ สียวทีส่ ุด เป็ นระยะทีย่ าวทีส่ ดุ ของทีน่ ่ี ซึง่ มันก็คอื ครัง้ แรกของเรานัน่ แหละ ยาวสุดในทริปนี้ ก็ยาวสุดในชีวติ แล ้ว คือมันมากกว่า 1 กิโลเมตรอ่ะคิดดู วิวด้านล่างสวยมากกกก เพราะระหว่างทีโ่ หนสลิงนีห่ มุนรอบตัวเองเป็ นเกลียวเลยค่ะ เห็นวิวแบบ 360 องศา
(จังหวะทีห่ มุนเอาหลังน�ำคือโครตเสียว เพราะไม่เห็นทางด้านหน้า) ท�ำให้เรา เห็นว่าป่ าบ้านเรายังอุดมสมบูรณ์อยูม่ ากจริงๆ เราหวงแหนนะ เพราะการท�ำธุรกิจ แบบนี้เขาต้องเข้าใจและรักต้นไม้จริงๆ ต้นไม้ใหญ่มนั มีประโยชน์หลายอย่าง มันท�ำให้คนในพื้นทีม่ รี ายได้ดว้ ย ระหว่างคิดนู่นคิดนี่ในหัว ก็เล่นผ่านไปเกือบ จะหมดแล ้ว สังเกตตัวเองว่าความกลัวมันหายไปแล ้ว (เพราะไม่มเี สียงออกมา จากปากเลย) กลับกลายเป็ นความเมือ่ ยล ้ากล ้ามเนื้อแทน ฮ่าๆๆ (จังหวะลงจอด ของแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน มีปจั จัยหลายอย่าง เช่น น�ำ้ หนักตัว ความตึง ความหย่อนของสลิง หรือแม้กระทัง่ สภาพอากาศ) แต่เราก็ไม่ได้ซีเรียสว่า ต้องลงจอดสวยงามแบบสต๊าฟนะ ถือเป็ นความสนุกอีกแบบหนึ่ง “โครตเหวีย่ งเลยอ่ะ” เราพูดกับพีท่ ม่ี าด้วยกัน ขณะยืนดูสาวชาวจีนหน้าเรา เล่น Roller Coaster น�ำไป เราเห็นรางคดเคี้ยวไปมา ซึง่ เขาบอกว่ายาวกว่า 1,000 เมตร อืม! แล ้วก็ถงึ ตาเรา เอาสองมือจับบาร์ ยกขาและไขว้ขวา จากนัน้ ก็พ่งุ ไปเลยจ้า ความรูส้ กึ หลังจากผ่านโค้งแรกคือ “ชิบหาย จะหลุดมัย้ เนี่ย” คื อ เป็ น อะไรที่ค่ อ นข้า งจะเหวี่ย งแรงมาก และเสีย วกว่ า การโหนสลิง อีก เพราะรางจะคดไปมา เลี้ย วซ้า ยเลี้ย วขวา มีจ งั หวะให้ต วั กระเด็น หวิว ๆ อยูบ่ อ่ ยครัง้ ท�ำให้เราสาวแตกออกมาเลยทีเดียว แต่ตอ้ งยอมรับว่าอุปกรณ์เซฟตี้ ค่อนข้างดี และสต๊าฟก็รเี ชคทุกครัง้ แถมตลกด้วย โม้กนั ตลอดทัง้ ทริป ทัศนคติเกี่ยวกับซิปไลน์ของเราเปลีย่ นไปหลังจากวันทีม่ าเล่น บางคน มักจะตัง้ แง่กบั ราคาของกิจกรรมแบบนี้ไว้ตำ� ่ เกินไป เราควรให้ความส�ำคัญของ ความปลอดภัยด้วย หวังว่าหลายๆ คนทีไ่ ม่เคยเล่นซิปไลน์จะมาลอง ถ้าในใจ เพียงแค่คุณคิดว่าอยากเล่นซักเสี้ยวหนึ่งก็ดี อย่ารอช้า Let’s Enjoy! 19
b side
T R A V E L
01
SRI LANKA ‘เราชอบประเทศนี้ เพราะยังสดอยู่มาก’ เรื่อง : รัตน์ชฎา วงศ์วสุ ภาพ : อภิเษก - รัตน์ชฎา วงศ์วสุ
การไปศรีลงั กาครัง้ นี้ของดิฉนั เกิดขึ้นเพราะความต้องการของสามี ทีอ่ ยากจะไปเทีย่ วทีไ่ หนก็ได้ทค่ี นไม่เยอะ จึงตัดญี่ป่ นุ ออกไป ส่วนยุโรปช่วงนี้ ก็มขี า่ วการก่อการร้ายเยอะ เลยไม่กล ้าไป สามีเลยเลือกศรีลงั กา เพราะเขาเคย อยากไปดูงานสถาปัตยกรรมของสถาปนิกชื่อดังของศรีลงั กา เจฟฟรี่ บาวา (Geoffery Bawa) ซึ่งได้ช่ือว่าเป็ นสถาปนิกผู ส้ ร้างแรงบันดาลใจของงาน สถาปัตยกรรมแนว Tropical Modernist เมือ่ ตัดสินใจได้จงึ เริ่มหาข้อมูลกัน จนในทีส่ ุดเราตัดสินใจทีจ่ ะใช้เอเจนซี่ ทีโ่ น่น แต่เลือกเป็ น Private Tour ซึง่ จะมีรถพร้อมคนขับ ไกด์ และโรงแรมให้ ด้วยความทีเ่ ป็ นประเทศทีเ่ พิง่ เปิ ดไม่นานและยังมีขอ้ มูลเกี่ยวกับการท่องเทีย่ ว ไม่เยอะมาก เราจึงเลือกการใช้เอเจนซีซ่ ง่ึ น่าจะปลอดภัยกว่า และเมือ่ เริ่มมีการ คุยกันกับทางเอเจนซี่แลว้ เขาก็ส่งโปรแกรมทัวร์มาให้ ซึ่งส่วนมากก็จะพาไป ซาฟารี ดูชา้ ง ส่องนก ดูการแสดงท้องถิน่ และสถานทีท่ น่ี กั ท่องเทีย่ วชอบไปกัน เราจึงมีการปรับเปลีย่ นโปรแกรมนิดหน่อย (จริงๆ ก็เยอะอยู่) โดยเราจะไปในที่ ทีม่ งี านของบาวาเป็ นหลัก อีก 30 เปอร์เซ็นต์กเ็ ทีย่ วตามโปรแกรมทีเ่ ขาจัด ส�ำหรับ การเตรียมตัวนัน้ ก่ อนอื่นเราเช็คเรื่องอากาศ ซึ่งก็ไม่ค่อยต่ างจากบ้านเรา แต่อากาศเย็นกว่า 3 - 5 องศาเซลเซียส แต่บางเมืองอากาศจะเย็นกว่าเยอะเพราะ อยู่บนเขา และสิง่ ทีข่ าดไม่ได้คือ บะหมีก่ ่งึ ส�ำเร็จรูป, น�ำ้ พริกนรก - สวรรค์, แม๊กกี้ 1 ขวด, น�ำ้ จิ้มซีฟู๊ด 1 ขวด และยาสามัญประจ�ำตัว
“นี่ไปแสวงบุญใช่ไหม? ไปกี่วัน?” “ไปวัดพระเขี้ยวแก้วหรือเปล่า? เอาบุญมาฝากด้วยนะ” “เฮ้ย! มันเพิ่งมีก่อการร้ายไปไม่นานนี่นะ ไปท�ำไม?” “พี่ๆ ไปแล้วอย่าลืมกินปูนะ ที่นั่นเขาดัง” “อนุโมทนาบุญด้วยจ้ะ สาธุ” นี่ คื อ ปฏิ กิ ริ ย าของเพื่ อ นๆ เมื่ อ ดิ ฉั น บอกว่ า จะไปเที่ ย ว ศรี ลั ง กา หลายๆ คนมั ก จะคิ ด ว่ า ไปศรี ลั ง กาเพื่ อ แสวงบุ ญ ตามรอยพระพุ ท ธเจ้ า แต่ ใ นความเป็ น จริ ง แล้ ว ดิ ฉั น ไม่ มี ความรู้อะไรเกี่ยวกับศรีลังกาเลย ไม่รู้แม้กระทั่งว่าเป็นเมืองพุทธ เพราะคิดว่าเป็นเมืองอิสลาม (ความรู้รอบตัวแย่มาก) ดังนั้น เรื่องที่จะไปแสวงบุญหรืออะไรไม่เคยอยู่ในหัวเลยค่ะ
20
a side
วันที่ 5 เมษายน 2560 / เวลา 22:10 น.
เครื่องบินการบินไทย เที่ยวบิน TG 307 ได้เดินทางมุ่งหน้าไปยัง เมืองโคลัมโบ เราใช้เวลาอยู่บนเครื่องบิน 4 ชัว่ โมง 40 นาที เมือ่ เครื่องลงจอด ที่สนามบินโคลัมโบก็เป็ นเวลา 1:20 น. ในเวลาท้องถิ่น ถ้าเป็ นบ้านเรา เวลานัน้ ก็จะประมาณ 2:50 น. เพราะทีน่ ่เี วลาช้ากว่าบ้านเรา 1 ชัว่ โมง 30 นาที เมือ่ ถึงโคลัมโบ ก็มชี ายคนหนึ่งยืนถือป้ ายชื่อดิฉนั และสามี เรารีบเดิน ตรงไปทักทาย เขาชือ่ ‘ซันจีวา่ ’ เขาจะเป็ นทัง้ ไกด์และคนขับรถให้เราตลอดทริป ก่อนขึ้นรถ เรารีบน�ำเงินดอลลาร์ไปแลกเป็ นเงินท้องถิน่ ซึง่ เรียกว่าศรีลงั การูปี จากนัน้ เราก็เดินลากกระเป๋ าไปขึ้นรถโตโยต้า Premio ขนาดก็พอๆ กับ Altis บ้านเรา เพื่อเดินทางออกจากสนามบินไป ขณะที่นงั ่ รถผ่านตัวเมืองและ แยกต่างๆ ก็เกิดความแปลกใจ ท�ำไมทีน่ ่มี พี ระพุทธรูปองค์ใหญ่บา้ ง เล็กบ้าง อยู่แทบจะทุกทางแยก หรือแม้กระทังวงเวี ่ ยน เป็ นภาพทีแ่ ปลกตามากเลยค่ะ เราใช้เวลาประมาณ 25 นาทีจากสนามบินมาถึงโรงแรมแห่งแรกเพือ่ พักผ่อน ก่อนจะเริ่มทริปของเรา โรงแรมแห่งแรกนี้มชี ่อื ว่า เจ็ตวิง ลากูน (Jetwing Lagoon) ออกแบบโดยเจฟฟรี่ บาวา แต่ พอมาถึงโรงแรมกลับเห็นแต่ ความมืดกับกลิน่ คาวปลาและทะเล ไกด์ของเราบอกว่าที่ตงั้ ของโรงแรมนี้ อยู่ท่เี มือง เนกัมโบ้ (Negombo) เป็ นเมืองที่มหี มู่บา้ นชาวประมงแลว้ ก็มี ตลาดปลาอยู่ใกลๆ้ แต่ มนั มืดมากเลยไม่เห็นอะไร เราจึงเข้าไปห้องพัก เพือ่ พักผ่อนเก็บแรงไว้สำ� หรับวันพรุ่งนี้ 02
05
01 วิ ถี ชี วิ ต ของชาวประมงที่ เ มื อ งอะฮั ง กะม่ า (Fisherman in Ahungama) 02 มัสยิดใจกลางเมืองโคลัมโบ (Jami-UL Alfar Mosque in Colombo) 03 บรรยากาศของลากูนที่ติดกับโรงแรมเจ็ตวิง ลากูน (Jetwing Lagoon Hotel) 04 อาคารในโรงแรมเจ็ตวิง ลากูน (Jetwing Lagoon Hotel) 05 มุมในบ้านหมายเลข 11 ของเจฟฟรี บาวา ในเมืองโคลัมโบ (House No.11) 06 บรรยากาศรอบๆ ทะเลสาบคันดาลาม่า ( Kandalama Lake)
06
21
b side
03
04
วันที่ 6 เมษายน 2560
เราตื่นแต่เช้า อาบน�ำ้ แต่งตัวแลว้ ออกไปส�ำรวจโรงแรม เนื่องจาก เป็ นวันแรก ความตื่นเต้นยังมีอย่างเต็มเปี่ ยม สองคนผัวเมีย หน้าตาเหมือน นัก ท่ อ งเที่ย วชาวจีน สะพายกล อ้ งไปคนละตัว เดิน ไปทุก ที่ใ นโรงแรม ถ่ายทุกซอกทุกมุม ตัง้ แต่หอ้ งนอน ห้องน�ำ้ กระเบื้องปูพ้ นื เสาแต่ละต้น ยันกระเบื้องปูหลังคา ครัน้ จะถามว่าโรงแรมนี้สวยไหม? เอาเป็ นว่ามันให้ ความรู ส้ ึกเหมือนภาพยนตร์ยอ้ นยุค ส่วนในเรื่องของตัวอาคาร บางมุม ก็ดูคุน้ ๆ เหมือนโรงแรมสไตล์บาหลีในบ้านเรา แต่ภาพรวมในเรื่องของอาคาร และแลนด์สเคปแล ้วถือว่าสวยดี มันดูอบอุ่นมากกว่าโรงแรมโมเดิรน์ ๆ ทีค่ น เขาฮิตท�ำกันในยุคนี้ พอถ่ายภาพอย่างหน�ำใจแล ้ว เราก็เดินไปทานอาหารเช้า สิ่งที่เราเห็นก็คือ เกือบทุกโต๊ะเป็ นคนจีน มีคนเกาหลี 2 - 3 โต๊ะ ฝรัง่ ไม่เห็นเลย แล ้วก็คนไทย 1 โต๊ะ (เราเอง) หลังจากทานข้าวเช้าเสร็จ ไกด์ก็มารับเราเพือ่ มุ่งหน้าไปยัง โคลัมโบ (Colombo) เพื่อไปดู House Number 11 ซึ่งเป็ นบ้านของบาวา ที่เรา ต้องแวะไปดูก่อน เพราะว่าวันถัดไปเขาจะปิ ดยาว 2 สัปดาห์เลย ในช่วง วันหยุดปี ใหม่ของทีน่ ่ี ด้วยระยะทางเพียง 45 กิโลเมตรจากโรงแรมไปโคลัมโบ เราใช้เวลาเกือบ 2 ชัว่ โมงครึ่ง พอมาถึงก็มเี จ้าหน้าทีม่ าแนะน�ำและพาไปชม ภายในบ้าน ส�ำหรับสามีดฉิ นั นัน้ รูส้ กึ ตื่นเต้นมาก เพราะก่อนมา เขาหาข้อมูล และดูหนังสือเกี่ยวกับงานของบาวา สามีบอกว่า บ้านหลังนี้เขาเห็นในหนังสือ คิดว่าใหญ่มาก เพราะมีหอ้ งหลายห้อง มีมมุ หลายมุม แต่พอมาดูของจริง ห้องเล็กกว่าทีค่ ิดมาก แต่ความเก่งของสถาปนิกคือ การน�ำสวนหรือบ่อน�ำ้ เข้า มาอยู่ ใ นบ้า นตามมุม ต่ า งๆ ซึ่ง ช่ ว ยสร้า งความร่ ม เย็ น ให้บ า้ นที่อ ยู่ ใจกลางเมืองที่มพี ้ นื ที่จำ� กัดได้ดีมาก อีกทัง้ การออกแบบโดยค�ำนึงถึงการ เปิ ดช่องแสงจากธรรมชาติ ท�ำให้ในแต่ละช่วงเวลาภายในบ้าน จะมีบรรยากาศ ทีแ่ ตกต่างกันไป ดิฉนั จึงไม่แปลกใจเลยว่า ท�ำไมคนเป็ นสถาปนิกถึงอยากมา ดูงานของเขากันนัก ถึงแม้ดิฉนั ไม่ได้เป็ นสถาปนิก แต่กไ็ ด้ไอเดียหลายๆ อย่าง จากบ้านหลังนี้ทน่ี ่าจะน�ำไปใช้ในงานได้ หลังจากท�ำตัวเป็ นนักศึกษามาทัศนศึกษาแล ้ว ดิฉนั ก็แปลงร่างกลับไป เป็นนักท่องเทีย่ ว เพือ่ เดินทางต่อ ไปยังเมืองทีช่ อ่ื ว่า กันดาลาม่า (Kandalama) เราจะต้องใช้เวลาทัง้ หมด 4 ชัว่ โมง ด้วยระยะทางเพียง 160 กิโลเมตร ทีใ่ ช้เวลานาน เพราะว่าทีศ่ รีลงั กา ถ้าไม่ใช่ไฮเวย์ ถนนส่วนใหญ่จะเป็ นถนน สองเลนทีแ่ คบมาก ซึง่ ขับรถยากมากค่ะ แต่ดว้ ยสองข้างทางของศรีลงั กานัน้ อุดมไปด้วยต้นไม้เขียวชอุ่มและชุ่มชื้น เหมือนขับรถอยู่ในอุโมงค์ตน้ ไม้ ตลอดทาง ก็ทำ� ให้เรารูส้ กึ เพลินไปกับวิวสองข้างทางเป็ นอย่างมากค่ะ ในทีส่ ดุ เราก็มาถึงโรงแรมทีช่ อ่ื ว่า Heritance Kandalama เป็ นโรงแรม ทีต่ งั้ อยู่ในป่ า ฝังอยู่ในตัวภูเขา ทางทีมของบาวา เขาได้ออกแบบให้ตวั โรงแรม กลมกลืนเข้าไปกับธรรมชาติ ทางเดินเข้าโรงแรมก็มโี ขดหินแทรกเข้ามาระหว่าง ก�ำ แพง ซึ่ง ก็ ดู เ ก๋ใ ช่ เ ล่ น ส่ ว นทุ ก ห้อ งในโรงแรมก็ จ ะเห็ น ทะเลสาบ Kandalama Lake อันกว้างใหญ่ การมาทีน่ ท่ี ำ� ให้นึกถึงเขาใหญ่บ ้านเราจริงๆ ค่ะ
วันที่ 7 เมษายน 2560
วันนี้เป็ นวันทดสอบความฟิ ตของร่ างกาย เพราะเราก�ำลังจะไปปี น ยอดเขาทีช่ ่อื ว่า สิกริ ิยา (Sigiriya) เราใช้เวลานัง่ รถ 30 นาทีจากโรงแรม เราเดินทางมาถึงทางขึ้น Sigiriya เดินผ่านซากปรักหักพังของตัวเมืองโบราณ ไกด์เล่าให้ฟงั ว่า เกาะแห่งนี้นนั้ ก่อนทีจ่ ะกลายเป็ นประเทศศรีลงั กา เคยเป็ น ทีอ่ ยู่ของ 3 ชนเผ่า อันได้แก่ เผ่ายักษ์ เผ่าคอบบร้าหรือเผ่างูเห่า และเผ่า เทวดา และเมือ่ หลายพันปี ทแ่ี ลว้ มีเจ้าชายจากอินเดียถูกส่งมายังเกาะแห่งนี้ แลว้ มาแต่งงานกับเจ้าหญิงเผ่ายักษ์ ซึ่งคนที่น่ีเขาถือว่านี่เป็ นจุดก�ำเนิดของ คนศรีลงั กา หลังจากฟังเรื่องราวต่างๆ จากไกด์พอสังเขปแลว้ เราเริ่มเดิน ไปยังจุดแรก ซึง่ เป็ นจุดชมภาพเขียนสีปนู เปี ยก หรือ Fresco ทีม่ อี ายุพนั กว่าปี และได้ถกู จัดให้เป็ นสิง่ มหัศจรรย์ของโลก แต่เสียดายเขาไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพ จากนัน้ เราเดินขึ้นไปจุดทีเ่ รียกว่า Lion Rock หรือ แท่นศิลาราชสีห ์ หลังจาก ที่ปีนป่ ายได้ครึ่งทางดิฉนั เกิดความวิงเวียนเหมือนจะเป็ นลม ไม่รูว้ ่าเพราะ เหนือ่ ยหรือเริม่ กลัวความสูง แต่ในทีส่ ดุ ดิฉนั ก็เดินขึ้นไปถึงด้านบน ต้องขอบคุณ คนด้านหลังที่คอยกดดันท�ำให้หยุ ดไม่ได้ แต่ เมื่อเดินมาถึงด้านบนแลว้ ความเหนื่อยหายไปเป็ นปลิดทิ้ง เมือ่ ลมเย็นๆ ปะทะเข้าทีใ่ บหน้า พร้อมด้วย สิ่งที่อยู่ดา้ นหน้ามันช่างมหัศจรรย์เหลือเกิน ด้วยวิว 360 องศา พร้อมทัง้ ซากของพระราชวังที่ตงั้ ตระหง่านอยู่ดา้ นบนนี้ ท�ำให้คิดว่า คนสมัยก่ อน มีความมานะมากเลยที่มาสร้างอะไรอยู่บนนี้ได้ หลังจากเดินชมพระราชวัง ลอยฟ้ าเรียบร้อยแล ้ว เราจึงเริ่มเดินลง เพือ่ ไป วัดถ�้ำดัมบุลล่า (Dumbula Cave Temple) ทีท่ างยูเนสโก้ได้ข้นึ ทะเบียนเป็ นมรดกโลก ทีว่ ดั แห่งนี้มคี วาม วิจติ รงดงามของตัวอาคารทีแ่ ทรกตัวอยู่ในหน้าผาหิน อีกทัง้ ภาพจิตรกรรม ฝาผนัง ทีม่ รี ูปของพระพุทธเจ้าและเทวดามากมาย
07
จากนัน้ เราเดินทางไปรับประทานอาหารกลางวัน ซึ่งอาหารกลางวัน วันนี้ ดิฉนั ได้ทานบุฟเฟ่ ตอ์ าหารพื้นเมือง เป็ นแกงไก่ กับแกงขนุน รสชาติ คลา้ ยๆ แกงแดงบ้านเราแต่ ไม่ใส่กะทิ แต่ กลิ่นผงกระหรี่และเครื่องเทศ เขาแรงมาก ซึ่งท�ำให้รสชาติอาหารจัดจ้านมาก หลังจากอาหารกลางวัน เราเดินทางไปนวดในสไตล์ศรีลงั กา ซึง่ ไกด์ของเราบอกว่าอยากให้เราได้ไปลอง เพราะไม่เหมือนนวดไทยแน่นอน แล ้วยังปรามาสอีกว่า นวดไทยมันนวดเบาๆ ไม่รูส้ ึก อะไร ที่น่ี เ ขาจะมีศ าสตร์ข องเขา สมุนไพรทุก อย่ า งล ว้ นแล ว้ แต่ มีสรรพคุณช่วยโน่นนี่ ดิฉนั บอกว่า ขออาบน�ำ้ ก่อนนวดนะ เพราะปี นเขานี่ ตัวทัง้ เหนียวทัง้ เหม็นไปหมด ไกด์บอกว่ามีสิ ที่น่ีเป็ นที่ท่ที ุกคนจะต้องมา แหม! ไกด์พดู ขนาดนี้แล ้วก็คงต้องลองสิคะ เมือ่ เดินทางถึงร้านนวด ภาพทีเ่ ห็นก็คอื กระท่อมอิฐมุงคาเป็ นหลังๆ เราเดินตรงไปยังรีเซ็ปชัน่ ดิฉนั ถามก่ อนเลยว่าขอดู เมนู หน่ อย ตามนิสยั เจ้ากี้เจ้าการ ปรากฏว่าเมนู มีทางเลือกไม่มากนัก แต่ นวดทุกอย่ างเป็ น นวดน�ำ้ มันทัง้ หมด ดิฉนั จึงเลือกแพ็คเกจยอดนิยมของเขา จากนัน้ หมอนวด ก็พาเราเข้าไปในห้องนวด ดิฉันถามหมอนวดว่ามีหอ้ งน�ำ้ ให้อาบน�ำ้ ไหม เขาตอบว่ามี แต่ให้ใช้หลังจากนวดเสร็จนะ โอ้แม่เจ้า! รักแร้อฉิ นั เหนียวมากค่ะ ตัวเงี้ยหนึบเลย แลว้ จะนวดมันทัง้ อย่างนี้เหรอ? สรุป ใช่ค่ะ สามีบอกว่า นวดๆ ไปเหอะ เอาค่ะ! นวดก็นวด คือดิฉนั อยากให้ทกุ คนลองจินตนาการว่า หลังจากเดินเหงือ่ ท่วมตัวมา คุณต้องมานวดต่อ ตอนที่อุณหภูมปิ ระมาณ 35 องศาเซลเซียส ในห้องทีพ่ ้นื เหนียวเหนาะเพราะคราบน�ำ้ มันนวดทีค่ ่อนข้าง เหม็นหืนและด�ำ (คิดว่ามีการรีไซเคิล) นอกจากนัน้ ห้องนวดทุกห้องไม่มแี อร์คะ่ ... ดิฉนั ต้องทนให้เขานวดแบบว่าจากเท้าขึ้นไปจนถึงหัว ตัวทัง้ มัน ทัง้ เหนียว แต่ในทีส่ ุดดิฉนั ก็ทนมาได้กว่า 90 นาที ดิฉนั รีบวิง่ เข้าห้องน�ำ้ และเมือ่ โดน น�ำ้ เย็นเท่านัน้ แหละ อย่างกะสวรรค์เลยค่ะ! คุณรูไ้ หมคะ ค่านวดของเรา สองคนนี่แพงพอๆ กับไปนวดในโรงแรมห้าดาวบ้านเรา แต่ หาความคุม้ ไม่ได้เลย ดิฉนั ขอยืนยันค่ ะ ไม่มที ่ีไหนนวดดีและถูกเท่าบ้านเราอีกแลว้ ตอนนี้เลยรูแ้ ล ้วค่ะว่าท�ำไมนวดไทยถึงดังทัวโลก ่ ดิฉนั ขอเตือนนะคะ ถ้าอยาก จะนวดทีน่ ่ี เช็คให้ดๆี อย่างน้อยทีโ่ รงแรมทีม่ แี อร์น่าจะดีกว่าค่ะ เพราะเคย เช็คทีโ่ รงแรมทีพ่ กั ถูกกว่านี้แน่นอนค่ะ
08
22
a side
วันที่ 8 เมษายน 2560
เป็ นวันทีเ่ ราต้องเดินทางไปเมือง คานดี้ (Kandy) ระหว่างทางไกด์บอกว่า จะพาแวะไปชมสวนสมุนไพรแล ้วก็ไร่ชาต่อ เราก็โอเค พอไปถึงสวนสมุนไพร ก็มลี งุ คนหนึง่ พาเราไปดูสมุนไพรแบบต่างๆ สุดท้ายมาจบทีร่ า้ นขายของ ตามสูตร เรากะจะซื้อบางอย่างเพื่อเป็ นของฝาก แต่ราคามันน่ าตกใจมากๆ เลยค่ะ แต่ดนั หยิบมาแล ้ว พอคิดราคามาเป็ นหมืน่ ดิฉนั จึงเริม่ ค่อยๆ ดึงของออกทีละชิ้น จนในทีส่ ุดจบและต่อรองกันได้เหลือไม่ก่พี นั หลังจากออกจากร้านมาก็บน่ ด่า ตัวเองทีซ่ ้อื ของแพง แล ้วเริ่มคิดว่านี่ชนั้ โดนไกด์มนั หลอกใช่ไหมเนี่ย จากนัน้ เลยไม่แวะไหนซักทีท่ ไ่ี กด์บอกอีกเลย แต่พอเขาบอกว่าทีพ่ าไปทีต่ ่างๆ เพราะ เขาอยากให้ช่วยเหลือคนในท้องถิน่ ให้มรี ายได้ เขาไม่ได้อะไรเลย ตอนนัน้ เรา ถึงเริ่มเข้าใจ แต่ก็ตดั สินใจว่าจะไม่ไปไหนทีข่ ายของอีกแลว้ ปกติก็ไม่ใช่คน ชอบซื้อของอยู่แล ้ว อีกทัง้ ขี้เกียจแบกของกลับด้วย เราแวะไปที่ Botanical Garden ในเมืองคานดี้ สวนแห่งนี้ใหญ่และ สวยงามมาก เพราะมีตน้ ไม้ใหญ่สูงหลายสิบเมตรเต็มไปหมด ดิฉนั และสามี เดินเพือ่ สูดอากาศบริสุทธิ์ ก่อนทีจ่ ะเดินทางไปเช็คอินทีโ่ รงแรมแลว้ ใช้เวลา อยู่ ท่ีนนั ่ ส�ำหรับโรงแรมที่เราพักที่เมืองนี้นนั้ เป็ นบ้านคหบดีเก่ าอายุ กว่า สองร้อยปี ทีเ่ อามาท�ำเป็ นโรงแรมชื่อว่า คานดี้เฮ้าส์ (Kandy House) ทีน่ ่ี เราเหมือนมีบตั เลอร์ส่วนตัวคอยดูแลเราอย่างดี มีมมุ ให้นงั ่ เล่นอ่านหนังสือ หลายมุม ห้องของเรามีหอ้ งนัง่ เล่นด้านนอกในสวนทีเ่ ป็ นมุมส่วนตัวอีกด้วย ตัง้ แต่เดินทางมาเพิง่ รูส้ กึ ว่าวันนี้เป็ นวันทีเ่ ราได้พกั ผ่อนจริงๆ
09
10
11
07 ซากเมืองโบราณที่สิกิริยา (Sigiriya) 08 ทางเดินขึ้นที่สิกิริยา (Sigiriya Walk Way) 09 ทะเลสาบใจกลางเมืองคานดี้ (Lake in Kandy) 10 รถตุ๊ก ตุ๊กในเมืองคานดี้ (Tuk Tuk in Kandy) 11 ชาวบ้านก�ำลังนมัสการพระเขึ้ยวแก้ว (People in Temple of the Truth) 12 เดอะ แกลเลอรี่ คาเฟ่ ในเมืองโคลัมโบ (The Gallery Cafe) 13 มุมขนมใน เดอะ แกลเลอรี่ คาเฟ่ (Dessert Conner in The Gallery Cafe)
วันที่ 9 เมษายน 2560
วันนี้เราเข้าไปในเมืองคานดี้ เพือ่ ไป วัดเขี้ยวแก้ว หรือ Temple of the Truth ซึง่ วันนี้เราโชคดีมาก เพราะเป็ นวันทีว่ ดั เขาเปิ ดห้องทีป่ ระดิษฐาน พระเขี้ยวแก้วให้คนมาสักการะ เราจะเห็นคนแต่งชุดขาวแลว้ ถือดอกไม้มา เต็มไปหมด ไกด์ของเราบอกว่า ช่วงนี้ชาวศรีลงั กาจากทุกสารทิศเดินทางมา เพือ่ สักการะ จึงท�ำให้วนั นี้คนเยอะมาก ซึง่ เขาจะเริ่มเปิ ดห้องตอน 9:30 ถึง 10:30 น. เท่านัน้ เอาสิคะ! บิวท์ขนาดนี้ เราก็รบี ไปต่อคิวกลัวไม่ได้เข้าไป ช่วงทีย่ นื รออยู่ ดิฉนั ยืนมองชาวบ้านทีม่ าทีน่ ่ี ดิฉนั คิดว่าคนศรีลงั กาเป็ นคน มีอธั ยาศัยดี ดูไม่น่ากลัว มีความคล ้ายคนต่างจังหวัดบ้านเราเมือ่ 30 ปี ก่อน หลังจากได้นมัสการพระเขี้ยวแก้วแล ้ว เราก็แยกกับไกด์ แล ้วเดินเล่นในเมือง คานดี้ แวะดืม่ ชา ถ้าหากใครได้มโี อกาสมาทีน่ ่อี ย่าลืมดืม่ ชานะคะ เพราะทีน่ ่ี เป็ นแหล่งผลิตใบชาที่ใหญ่แห่งหนึ่งของโลกเลยค่ ะ แลว้ จะบอกว่าชายี่หอ้ ลิปตัน เขาก็มไี ร่ชาอยู่ทป่ี ระเทศนี้ดว้ ยนะคะ วันที่ 10 เมษายน 2560
12
13 23
b side
จากเมืองแคนดี้ เราเดินทางกลับเข้าไปทีโ่ คลัมโบอีกครัง้ ทีน่ ่เี ราแวะไป ทานอาหารกลางวันที่ The Gallery ร้านอาหารเก๋ไก๋ของเมืองนี้ ซึง่ เคยเป็ น ออฟฟิ ศเก่าของบาวา เรานัง่ ทานอาหารแล ้วกลับเข้าโรงแรมเพือ่ พักผ่อน
14
15
16
17
18
19
วิถีชีวิตผู้คนในตลาดเมืองคานดี้ (People in Kandy) 15 ร้านปูชื่อดัง เดอะ มินิสตี้ ออฟ แครป ในโคลัมโบ (The Ministry of Crab in Colombo) 16-17 บรีฟ การ์เด้น ในเมืองเบนโตต้า (Brief Garden in Bentota) 18-20 บรรยากาศในโรงแรม วิลล่า เบนโตต้า (Villa Bentota) 21-22 บรรยากาศบ้านเลขที่ 87 ในเมืองเบนโตต้า ( House No.87 in Bentota) 23 ป้อมปราการในเมืองเกลล์ (Galle Fort) 24 โบสถ์ดัชต์ในเมืองเกลล์ (Dutch Church in Galle) 25 ชาวบ้านลงมาเล่นน�้ำที่ชายหาดในเมืองเกลล์ (Galle Beach) 26 ชาวบ้านก�ำลังสาธิตวิถีชาวประมงในเมืองอะฮังกาม่า (Fisherman in Ahungama)
20
14
วันที่ 11 เมษายน 2560
ตืน่ แต่เช้า เรานัง่ ตุก๊ ๆ ซึง่ ถือว่าเป็ นรถประจ�ำชาติของทีน่ ่ี (คิดเองนะคะ) เพราะคุณจะเห็นรถตุก๊ ๆ จ�ำนวนเยอะมาก นอกจากจะเป็ นรถรับจ้างแลว้ ยังเป็ นรถบ้านของคนประเทศนี้ ด้วยราคาทีถ่ ูก มีความคล่องตัวสูงในถนน ทีแ่ คบและรถเยอะ เราจึงเลือกตุก๊ ๆ เพือ่ นัง่ เข้าไปในเมือง บริเวณทีเ่ ป็ นตลาด ซึ่ง ก็ ค่ อ นข้า งวุ่ น วาย ไม่ ค่ อ ยมีอ ะไรมากนัก พอใกล เ้ ที่ย ง เริ่ม รู ส้ ึก หิว และหลังจากทีอ่ ดั อัน้ ไม่ได้ทานอาหารดีๆ มาหลายวัน วันนี้เราได้ไปลิ้มรสปู ที่เขาว่าเป็ นปู ท่ีดีท่ีสุด เพราะปู ท่ีน่ีส่งออกไปสิงคโปร์ ฮ่ องกง และยุโรป เป็ นจ�ำนวนมาก เรามาทีร่ า้ น The Ministry of Crab ส�ำหรับร้านนี้ ใครมาที่ โคลัมโบก็ตอ้ งแวะมาทีน่ ่ีให้ได้ เราจึงจัดการสัง่ ปูคนละตัว ตัวหนึ่งประมาณ 1 กิโลกรัม เอาให้สะใจไปเลย ถึงแม้ปูจะหวานแค่ไหน แต่ทานๆ ไปก็มี เลีย่ นบ้าง เราจึงขอใช้ตวั ช่วย นัน่ ก็คือ ‘น�ำ้ จิ้มซีฟู๊ด’ ค่ะ หลังจากอิ่มหน�ำ เมนู ปูแล ้ว เราก็กลับโรงแรมไปพักผ่อนตามประสาคนขี้เกียจ 24
a side
21
22
วันที่ 12 เมษายน 2560
เรามุง่ หน้าไปเมืองทีช่ ่อื ว่า Bentota ทีเ่ มืองนี้เราตัง้ ใจชิลล์ อยู่ดูโน่นนี่ นิดหน่อย แต่ก่อนทีจ่ ะเข้าโรงแรม เราแวะไปทีส่ วนชือ่ ว่า บรีฟ การ์เด้น (Brief Garden) สวนแห่งนี้เป็ นบ้านพักตากอากาศของพี่ชายของเจฟฟรี่ บาวา ทีช่ ่อื ว่า บาวีส บาวา (Bavis Bawa) ซึง่ ตัวบ้านนัน้ ค่อนข้างจะท�ำแบบเรียบง่าย แต่การจัดสวนนัน้ จัดวางได้สวยงามเลยทีเดียว มีการเล่นระดับ มีมมุ ลับๆ เต็มไปหมด แต่กม็ กี ลิน่ ไอของสวนตะวันตกอยู่เหมือนกัน วันนี้น่าเสียดาย ทีเ่ ราอยากไปชมบ้านตากอากาศของเจฟฟรี่ บาวา ทีช่ ่อื ว่า Lunuganga ต่อ แต่เขาปิ ดช่วงปี ใหม่ เราจึงมุ่งหน้าตรงไปที่โรงแรม วิลล่าเบนโตต้า (Villa Bentota) ซึง่ เจฟฟรี่ บาวา ก็ได้ออกแบบไว้ดว้ ยเช่นกัน วันที่ 13 เมษายน 2560
เราไปไล่ตามเก็บภาพสถานที่ต่างๆ ที่บาวาเคยออกแบบในเมือง เบนโตต้า ซึง่ มีโรงแรมและบ้านอีกหลายหลัง เช่น Avani Bentota, The Club Bentota หรือ House Number 87 บ้านนี้มคี าแรคเตอร์ทแ่ี ปลกตามาก เป็ นบ้านที่ตงั้ อยู่บนพื้นที่ 42 เอเคอร์ ก็ประมาณ 126 ไร่ แต่ว่าตัวบ้าน หลังไม่ใหญ่มาก มีอยู่ 2 หลังกับเรือนคนงาน 1 หลัง ทีเ่ หลือเขาขุดเป็ นบ่อ และทิ้งไว้ให้ดูเป็ นป่ ารก ส�ำหรับบ้านหลังนี้เขาวางพื้นทีไ่ ด้สนุกและน่าสนใจมาก ซึง่ แสดงให้เห็นลูกเล่นของคนออกแบบทีย่ ากจะมีใครท�ำตามได้ ส�ำหรับวันนี้ จึงถือว่าเป็ นวันทัศนศึกษาอีกหนึ่งวัน
วันที่ 14 เมษายน 2560
ส�ำหรับสองวันสุดท้าย เรามาจบทริปในเมืองทีช่ ่อื ว่า เกลล์ (Galle) ส�ำหรับเมืองนี้เป็ นเมืองทีช่ าวโปรตุเกสเคยมาสร้างปราการและอาคารบ้านเรือน เอาไว้ จากนัน้ ชาวดัตช์เข้ามายึดต่อ ตามด้วยชาวอังกฤษก็ตามเข้ามายึดครอง เมือ่ ร้อยกว่าปี ก่อน เมืองนี้จงึ มีคาแรคเตอร์แบบยุโรปผสมผสาน แต่สวยงาม ต่ างจากเมืองอื่นๆ ที่ผ่านมา เราทัง้ สองเริ่มต้นเดินจากตัวป้ อมปราการ ไกด์ของเราเล่าให้ฟงั ว่า ตอนทีม่ สี นึ ามิครัง้ ใหญ่ทศ่ี รีลงั กา คลืน่ นัน้ ได้ฆ่าผูค้ น ในแถบจังหวัดทางตะวันตกเฉียงใต้น้ ไี ปกว่าห้าหมืน่ คน แต่บา้ นเมืองและผูค้ น ในป้ อมปราการนี้กลับไม่เป็ นอะไรเลย เพราะมีป้อมปราการบังไว้ ก็ถอื ว่า โชคดีทช่ี าวโปรตุเกสได้มาสร้างสิง่ นี้ให้กบั พวกเขา ดิฉนั กับสามีรูส้ กึ ชอบและ ประทับใจเมืองนี้มาก เพราะมีรา้ นเล็กๆ น่ารักเต็มไปหมด เหมาะกับการเดินเล่น ที่น่ีเป็ นเมืองที่เห็นฝรัง่ หัวทองเยอะมาก นอกจากจะเป็ นนักท่องเที่ยวแลว้ หลายๆ คนก็มาท�ำธุรกิจอยู่ทน่ี ่ี แต่นกั ท่องเทีย่ วชาวจีนก็มไี ม่นอ้ ยไปกว่ากัน ทีน่ ่เี ราจะเห็นโรงแรมเก๋ๆ มากมาย ส่วนใหญ่จะเป็ นสไตล์โคโลเนียล บ้านเมือง จะมีถนน ซอกซอยเล็กๆ แล ้วก็มเี กสต์เฮาส์ โฮสเทล อยู่ทกุ ซอกมุม อีกทัง้ มีรา้ นอาหารนานาชาติมากมายให้เลือก ซึง่ แสดงให้เห็นว่าทีน่ ่ีมนี กั ท่องเทีย่ ว เป็ นจ�ำนวนมากทีม่ าเยีย่ มเยือน
23
26 24
25
15 เมษายน 2560
เราเดิน ทางออกจากตัว เมือ งเกลล์ ออกไปยัง เมือ ง อะฮัง กาม่ า (Ahangama) เพือ่ ไปดูชาวประมงทีน่ งั ่ บนเสาไม้เพือ่ ตกปลา แต่สง่ิ ทีเ่ ราเจอ ก็คอื เราต้องจ่ายเงินคนละ 500 รูปีให้กับชาวประมง (ปลอม) รวมทัง้ หมด 3 คน เพื่อไปโพสต์ท่าให้เราถ่ายรูป คือแบบว่า อะไรคะเนี่ย! งงค่ะ! แต่ก็เข้าใจ คงเหมือ นพวกฝรัง่ ที่ไ ปเที่ย วบ้า นเราแล ว้ ไปถ่ า ยภาพกับ ชาวเขา เพราะ ในความเป็ นจริงแลว้ ชาวประมงทีน่ งั ่ เสาไม้ตกปลานัน้ เขาจะตกตอนดึกถึง ก่อนพระอาทิตย์ข้นึ และปกติเสาไม้นัน้ จะต้องตัง้ ห่างจากชายฝัง่ เป็ นกิโล ไม่ใช่ อยู่รมิ หาดแบบนี้ ซึง่ ทีเ่ ขาท�ำนี้ก็เพือ่ ให้คนได้เห็นว่าชาวประมงแถวนี้ตกปลา กันยังไงเท่านัน้ เอง ก็ถา้ คิดว่าเป็ นโชว์ซะก็คงไม่เสียอารมณ์ เพราะก็ไม่ได้แพง อะไรมากมาย จากนัน้ พอตกเย็น เราเดินทางกลับ แล ้วแวะทานอาหารเย็นที่ Negombo ก่อนทีจ่ ะไปถึงสนามบินตอนสามทุ่ม เพือ่ รอขึ้นเครื่องตอนตีสอง ซึง่ มันเป็ นอะไรทีท่ รมานมากค่ะ หลังจากจบทริป ดิฉนั กับสามีคดิ ว่า เราชอบประเทศนี้ มันยังสดอยูม่ าก บ้านเมืองก็ถอื ว่าสะอาดสะอ้านกว่าบ้านเรา เวลาขับผ่านบ้านเรือนของผูค้ น ก็จะเห็นคนกวาดถนนตลอดเวลาจนชินตาไปแลว้ แต่ สำ� หรับทริปต่ อไป เราวางแผนกันว่าอาจจะเปลีย่ นเป็ น ขีม่ อเตอร์ไซค์เข้าป่ า แล ้วไปโผล่ทางด้าน ตะวันออกเฉียงเหนือ ทีท่ ไ่ี ด้ช่อื ว่าทะเลสวย น�ำ้ ใส ทรายขาว ไม่แพ้มลั ดีฟส์ เลยทีเ ดีย ว ดิฉัน หวัง ว่า เรื่อ งที่น�ำ มาเล่า อาจจะพอเป็ น ไอเดีย ส�ำ หรับ ผู ท้ ่ี อยากเดินทางไปเทีย่ วศรีลงั กาได้บา้ งนะคะ 25
b side
J O U R N E Y & A M A Z I N G D I S H E S คอลั ม น์ Journey & Amazing Dishes เกิ ด ขึ้ น มาได้ เ พราะความตื่ น เต้ น ของเราที่ ไ ด้ ไ ปเจอ-ชิ ม -กิ น อาหาร จากการที่ เ ราได้ ไ ปเที่ ย วในต่ า งประเทศหรื อ แม้ แ ต่ ใ น ประเทศเอง อาหารนั้ น ๆอาจจะไม่ ว ้ า วววส� ำ หรั บ หลายคน แต่ อี ก หลายคนว้ า วววแน่ ๆ เพราะไม่ รู ้ จั ก เช่ น เดี ย วกั บ เรา บางที อ าจจะไม่ ใ ช่ อ าหารที่ แ ปลกหรื อ อาจเป็ น อาหาร พื้นบ้านธรรมดา แต่ก็ท�ำให้เราว้าวววได้ จนเราต้องไปค้นหาสูตรเพื่อจะได้ปรุงรสชาติให้เหมือนหรือคล้ายที่สุด และบางทีก็เป็นแรงบันดาลใจให้เราประยุกต์ขึ้นมาเป็นเมนูใหม่ๆ ซะเลย
ARANCINI
@ HOBART TASMANIA เรื่อง / ภาพ : Missน�้ำปู๋
Wowww… เหมือนลูกชิ้นยักษ์!!! ณ ร้าน Barcelona, Salamanca Place, Hobart
01
Hobart (โฮบาร์ต) คือเมืองหลวงของเกาะ Tasmania เป็ นเมือง ทีต่ งั้ อยู่ปากแม่นำ�้ Derwent สู่ Strom Bay และเป็ นเมืองทีเ่ ก่าแก่ทส่ี ุด เป็ นอันดับสองของออสเตรเลียรองจากเมืองซิดนีย ์ พอเราโยนกระเป๋ าเข้า ห้อ งเสร็ จ ก็ อ อกมาเดิ น เล่ น ริ ม ท่ า เรื อ Constitution แวะเดินไปดูงานศิลปะที่ University of Tasmania Centre for the Arts และต่อด้วย Tasmanian Museum and Art Gallery... ตกเย็นกินอาหารทะเลง่ายๆ Fish & Chips นี่แหละ อร่อยสดมากเพราะ เราซื้อจากเรือทีด่ ดั แปลงเป็ นครัว ซึง่ จอดอยูต่ รงท่าเรือนัน่ เลย Take Away อย่างเดียว... นัง่ กินริมฟุตปาธ เหยียดขา รับลม มองดูเรือเข้าๆ ออกๆ ทัง้ เรือโบราณ เรือส�ำราญขนาดใหญ่ จนถึงเครือ่ งบินทะเล เพลิดเพลินมาก... แน่นอนว่ามีเบียร์เย็นๆ อยู่ในมือด้วย... เช้าอีกวัน ออกไปเดินตลาด Salamanca เป็ นตลาดชือ่ ดังทีม่ เี ฉพาะ วันเสาร์ ส่วนตัวแล ้วก็รูส้ กึ ของทีข่ าย ไม่โดนเท่าไหร่ (เจอตลาดมาเยอะ) มีแ ต่ ถ าดไม้ส นหอมๆ และ Single Malt ที่น่าสนใจ ส�ำหรับเรา แถมแพงอีกด้วย แต่สุดท้ายเราก็ตอ้ งเสียเงิน กับถาดไม้สนจนได้ เฮ้ออ… เอาน่าอาจไม่ได้กลับมาแล ้ว (คิดเข้าข้างตัวเองดีกว่า)...
02
Amazing Dish
03 26
a side
04
หลังจากเดินตลาดเราตัง้ ใจไป MONA (Museum of Old and New Art) ซึ่งต้องนัง่ เรือของมิวเซียมไป เพราะมิวเซียมตัง้ อยู่อกี โซนของแม่นำ�้ ขึ้นชือ่ ว่าเรือของมิวเซียมแล ้วไม่ธรรมดา เพราะเขาตกแต่งบนเรือได้เท่และสนุก เห็นได้จากตัวเรือท�ำสีเป็ นลายทหาร, รูปปัน้ แกะท�ำเป็นทีน่ งั ่ - ทีท่ ้าวแขน, รูปปัน้ วัวท�ำให้คนนังพิ ่ ง ฯลฯ (เข้าไปอ่านเรือ่ งของ MONA ได้ใน www.hipthailand.net > Trip > Hip Trip) และแล ้วก็ถงึ เวลาเเห่งความสุขและทุกข์ คือการหาร้านอาหารดินเนอร์ นันเอง... ่ ดูๆ แถว Salamanca Place (โกดังสินค้าเก่าแก่สร้างด้วยหินทราย) มีรา้ น เยอะแยะ เดินดูรอบนึงก็ตดั สินใจเลือกร้านชื่อ Barcelona เพราะคนเยอะดี เสียงดังด้วย เเปลว่าร้านนี้สนุกแน่!!! Amazing Dish ของเราก็ คื อ Arancini ...พอมาเสิรฟ์ ปุ๊ บ เราตืน่ เต้นใหญ่ เมือ่ เห็นก้อนกลมๆ 3 ก้อนเรียงกันมาบนซอส Wowww… เหมือ นลู ก ชิ้ น ยัก ษ์! !! และก็ผ่าออกดู เป็ นข้าวยัดไส้ ปัน้ เป็ น ก้อนกลมและเอาไปชุบเกล็ดขนมปังทอด …ชอบเลย พอกลับมา จึงไปเล่าให้ ‘ครัว HIP’ ฟัง และก็ไม่ผดิ หวัง ครัว HIP จัดแจงดีไซน์ เมนูลกู ผสมมาให้ พร้อมตัง้ ชื่อว่า ‘ลูกชิ้นข้าว’… ลูกชิ้นข้าว
* เข้าไปดูสูตร ‘ลูกชิ้นข้าว’ ได้ท่ี www.hipthailand.net > Food&Place > Recipe > 2017
05 01 02 03 04 05 06 07 08 09 10
06
07
08
09 27
b side
10
ท่าเรือ Constitution เครื่องบินทะเลที่ท่าเรือ Constitution อาหารที่เราสั่งในร้าน Bacelona และ Amazing Dish University of Tasmania Centre for the Arts ด้านนอกประตูทางเข้า MONA ถาดไม้สนที่มีกลิ่นหอม ชุดมือสองหรือมากกว่าสองที่วางขายในตลาด Salamanca รูปปั้นแกะตั้งไว้เป็นที่นั่งบนเรือ MONA Salamanca Market ทัวร์ล่องเรือโบราณ