HIP MAGAZINE APRIL 2019 (B)

Page 1


2


T R E N D

WAKE UP! ACTIVE LIFE. ป ลุ ก ชี วิ ต แ อ็ คที ฟ ใ นตั วคุ ณ เรื่อง/ภาพ : Virgin Active Thailand

คุณจะได้รบั ทัง้ ร่างกายทีแ่ ข็งแรง และปลอดภัยกลับไป และยังให้ขอ้ มูลเพิม่ เติม ด้ว ยว่ า ตามธรรมชาติ แ ล ว้ การออกก�ำ ลัง อย่ า งต่ อ เนื่ อ ง และสม�ำ่ เสมอจะท�ำให้เห็นผล ชัด เจนในระยะสามเดือนแรก หลังจากนัน้ ร่างกายจะอยู่ตวั การออกก�ำลังกายในโปรแกรมเดิมหรือคลาสเดิม จะเกิด การเปลี่ย นแปลงของร่ า งกายน้อ ยมาก ท�ำ ให้ไ ม่ เ ห็น ผลเท่ า ที่ต งั้ ไว้ ที่น่ี จึ ง มีก ารเปลี่ย นแปลงท่ า ทาง และวิธี ก ารการออกก�ำ ลัง กาย รวมถึง เพลงประกอบ ทุกๆ สามเดือน โดยเฉพาะคลาสทีเ่ ราได้รบั ลิขสิทธิ์อย่าง Lessmill “ทุกอย่างถูกคิดไว้หมดแล ้ว ไม่วา่ จะเป็ นบรรยากาศ อุณหภูมิ ความชื้น ถ้าเราออกก�ำลังกายในสถานทีอ่ บั ไม่เหมาะสม ออกซิเจนไม่เพียงพอ ร่างกาย ก็ อ าจจะน็ อ คได้เ หมือ นกัน เพราะฉะนัน้ ก็ เ ป็ น เหตุผ ลว่ า ท�ำ ไมต้อ งเข้า ยิม ทีไ่ ด้มาตรฐาน จึงจะท�ำให้การออกก�ำลังกายมีประสิทธิภาพมากทีส่ ุด” โดยสาขาเชีย งใหม่น นั้ จะเน้น การตอบสนองไลฟ์ ส ไตล์ ที่น่ี จึง มีท งั้ อุปกรณ์ สิง่ อ�ำนวยความสะดวกต่างๆ และห้องสตูดโิ อถึง 4 ห้อง เพือ่ รองรับ การออกก�ำลังกายหลายรูปแบบ อาทิ ห้อง High Energy ซึง่ เป็ นการออกก�ำลังกาย ในรูปแบบการเต้นประกอบเสียงเพลงทีส่ นุกสนาน เช่น Body Jam, Body Combat, Zumba, CLUBBERCISE และอีกหลายคลาสทีส่ ร้างความสนุ กและเห็นผล ในการออกก�ำลังอย่างรวดเร็ว, สตูดโิ อชกมวย อันกว้างขวาง อุปกรณ์ครบครัน และฝึ กสอนโดยผูเ้ ชี่ยวชาญ, สตูดโิ อ Mind & Body สร้างสมดุลให้ร่างกาย และจิตใจกับคลาสโยคะ ไม่วา่ จะเป็ น Flow Yoga, Gentle Yoga, AntiGravity Yoga, หัตถโยคะ และอีกมากมาย นอกจากนี้ ยังมีห ้อง Ride Studio เหมาะส�ำหรับ ผูช้ ่ืนชอบไลฟ์ สไตล์แบบเอ้าท์ดอร์ มีเทคโนโลยีการออกก�ำลังกายใหม่ล่าสุด อย่างจักรยาน Stages รุ่น SC3 อุปกรณ์ออกก�ำลังกายจาก Technogym ซึง่ มี เพียง 2 แห่งในประเทศไทยเท่านัน้ คือทีส่ าขา Wireless Road และสาขาเชียงใหม่ โดยในเดือนเมษายนนี้ Virgin Active Chiang Mai จะจัดกิจกรรม V Event คลาสโยคะเพื่อสุขภาพที่ใหญ่ ท่ีสุดในภาคเหนือ เรียนรู ก้ ารฝึ กความสมดุล ของร่างกายและจิตใจ ฝึ กสอนโดยครู ฝึกระดับมาสเตอร์จากประเทศอินเดีย พร้อมรับเสือ่ โยคะกลับบ้านไปเลย ในวันที่ 26 เมษายน 2562 บริเวณลานกิจกรรม ด้านหน้าศู นย์การค้า เซ็นทรัลเฟสติวลั เชียงใหม่ ผู ส้ นใจสามารถติดตาม รายละเอีย ด และลงทะเบีย นได้ท่ีเ ว็บ ไซต์ www.virginactive.co.th หรือเพจเฟซบุค๊ www.facebook.com/VirginActiveChiangMai

่ เสียง ส�ำหรับผูท ้ รี่ ก ั การออกก�ำลังกาย คงคุน ้ เคยกันดีกบ ั ชือ ของฟิตเนสระดับพรีเมี่ยมอย่าง Virgin Active ที่ในเชียงใหม่ เองก็มีสาขามาเปิดให้บริการครบรอบ 1 ปีไปหมาดๆ เมื่อเดือน มีนาคมที่ผ่านมา แม้จะเป็นที่รู้จักและโด่งดังในหมู่คนรักสุ ขภาพ แต่ กั บ สายตาของคนภายนอก อาจจะยั ง ไม่ ท ราบว่ า ที่นี่ มี อ ะไร แตกต่างไปจากฟิตเนสอื่นๆ บ้าง เราจะพาไปส�ำรวจบริการต่างๆ ที่ซ่อนอยู่ภายในคลับพื้ นที่กว่า 2,000 ตร.ม. บนชั้น 4 ของ ศูนย์การค้า เซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่ แห่งนี้

ดร.วุธรวี จารุวฒั นะ Country Manager Virgin Active Thailand เปิ ดเผยว่า ในประเทศไทยมี Virgin Active Fitness Club อยู่ทงั้ สิ้น 8 สาขา เชีย งใหม่เ ป็ น สาขาเดีย ว ที่ตงั้ อยู่ นอกกรุงเทพฯ และในปี น้ ี คุณยุพาพร ทัพเทียร และ ดร.วุธรวี จารุวัฒนะ ทาง Virgin Active ชูแคมเปญ THE POWER OF ENOUGH สนับสนุนการ ‘ออกก�ำลังกายอย่างพอเพียง เพือ่ ชีวติ ที่เพียงพอ’ ไม่เน้นการออกก�ำลังกายอย่างหักโหม แต่ชวนให้มาร่วม สร้างเป้ าหมายให้ชวี ติ แล ้วก้าวไปพร้อมๆ กัน “ส�ำ หรับ เชี ย งใหม่ เ อง ตัว ผมก็ ม องว่ า ที่น่ี ผู ค้ นนิ ย มออกก�ำ ลัง กาย กลางแจ้งกันมาก แต่ดว้ ยปัญหามลภาวะในสองเดือนที่ผ่านมาค่อนข้างหนัก ทางเราก็เล็งเห็นความส�ำคัญของปัญหานี้ จึงท�ำการอัพเกรดระบบฟิ ลเตอร์ กรองอากาศทัว่ ทัง้ คลับ นอกจากระบบควบคุมอุณหภูมิและความชื้นที่เรา มีอยูแ่ ล ้ว เพือ่ เพิม่ ศักยภาพในการกรอง PM 2.5 โดยเฉพาะ ดังนัน้ เราเลยมองว่า ตอนนี้เป็ นโอกาสทีด่ ที ผ่ี ูช้ น่ื ชอบออกก�ำลังกายเอ้าท์ดอร์ จะเข้ามาฝึ กเทคนิคต่างๆ หลังจากฝุ่นควันหมดแล ้ว ก็จะได้ไปออกก�ำลังกายอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น” ด้า น คุ ณ ยุ พ าพร ทับ เทีย ร Senior Club General Manager Virgin Active Chiang Mai ในฐานะผูด้ ูแลเล่าให้ฟงั ว่า นอกจากอุปกรณ์ ออกก�ำลังกายทีม่ หี ลากหลายแล ้ว สิง่ หนึ่งทีเ่ ป็ นเรื่อง Behind the Scene และ หลายคนอาจยังไม่ทราบคือ Virgin Active ให้ความส�ำคัญด้านสุขอนามัยมาก ไม่ว่าจะเป็ นการท�ำความสะอาดอุปกรณ์หลังการใช้งาน การท�ำความสะอาด ภายในสตูดโิ อหลังจบคลาส รวมไปถึงการใช้อปุ กรณ์และน�ำ้ ยาท�ำความสะอาด ที่ ป ลอดภัย ต่ อ สมาชิ ก เพื่อ ให้เ กิ ด ความมัน่ ใจว่ า การออกก�ำ ลัง กายที่ น่ี

3


B I K E

R A C E

CLUB RACE THAILAND 2019 ปั่ นลุยฝนกับ Club Race ครั้ ง แ ร ก ( แ ละ ส นา มแ ร ก ) เรื่อง : หมอตง Tongkatsu ภาพ : 55 CyclingClub / Club Race Thailand

้ ั้ย “ “หมอ สนใจจะไปปั่น Club Race กับทีมปีนีม หลังจากปั่นกลุ่มในวันเสาร์กับทีม 55 Tsukemen พวกพี่ๆ ในทีมก็ชวนผมไปงานแข่ง Club Race 2019 ่ ก่อนหน้านีก ้ ม ่ วนผม ทีแรกผมไม่คอ ่ ยสนใจมากนัก (ซึง ็ ท ี ม ี ทีช ไปร่วม แต่ผมก็ปฏิเสธไป เพราะขีเ้ กียจเดินทาง + ซ้อม + เตรียมตัว) แต่ช่วงหลังๆ เสียงเชียร์ของเพื่อนๆ เริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ “เรามาสร้างต�ำนานไปด้วยกัน เป็นทีมแรกของภาคเหนือ ที่จะเข้ารอบไปด้วยกัน” “เดี๋ยวพี่ช่วยขนรถจักรยานไปให้ หมอนั่งเครื่องไปเลย” “เดี๋ยวทีมออกค่าสมัครให้ ทีมเราต้องการหมอมาช่วย” เออ... ไปก็ไปครับ

Club Race มันคืออะไร

ถ้า จะให้เ ข้า ใจง่ า ยๆ Club Race ก็ คื อ งานแข่ ง จัก รยานถนน ของมือสมัครเล่นรายการที่ใหญ่ท่ีสุดในประเทศไทย รวบรวมนักปัน่ ขาแรง จากทีมต่ างๆ ทัว่ ประเทศมาประชันกันในรู ปแบบต่ างๆ ทัง้ แข่งสนามปกติ, Time Trial และ Criterium การแข่งจะมีทงั้ สิ้น 4 สนาม และแต่ละสนาม จะจัดห่างกันประมาณ 3 เดือน โดยแต่ละทีม สามารถส่งชื่อได้ 9 คน แต่จะลงสูงสุดในแต่ละสนามได้ ไม่เกิน 7 คน (ส�ำรอง 2 คน) ซึง่ แต่ละปี กท็ วีความดุเดือดเพิม่ ขึ้นเรื่อยๆ ปี น้ ี สนามแรกคือ Team Time Trial หรือการปัน่ จับเวลาแบบกลุม่ โดยสนามนี้เราจะปัน่ กันที่ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขนั ธ์ เรียกว่าเป็ นถนน เส้น ติ ด ทะเลเลย รับ ประกัน ว่ า ลมทะเลซัด กัน สนุ ก แน่ ๆ ซึ่ ง สนามแรก มีความหมายมากๆ เพราะทางผูจ้ ดั จะคัดทีมทีล่ งสมัครกว่า 40 ทีม เหลือเพียง 20 ทีม เพือ่ เข้าไปปัน่ ในสนามถัดไป พูดง่ายๆ คือ ถ้าเราไม่ตดิ 20 ทีมแรก ก็จะไม่มโี อกาสปัน่ ในสนามถัดๆ ไปอีก แล ้วทีส่ ำ� คัญคือ 20 ทีมทีไ่ ด้รบั คัดเลือก เขามีโควต้า 10 ทีม จากปี ก่อนทีท่ ำ� อันดับได้ดี เข้ารอบไปอัตโนมัตเิ ลย แปลว่า อีกกว่า 30 ทีมทีเ่ หลือ รับแค่ 10 ทีน่ งั ่ เท่านัน้ !! “ไม่เป็ นไร ไม่ซเี รียสนะ อยากให้ปนั ่ ให้สนุกไว้ เก็บเกี่ยวประสบการณ์ แต่ทมี เราต้องเข้ารอบนะ!!!” นี่คอื ค�ำฝากฝังของพีๆ่ ตัง้ แต่ผมตบปากรับค�ำเข้าทีม 4


We are the Team :: Singha AV55

หลังจากตกร่องปล่องชิ้น เราก็มาฟอร์มทีมกันครับ ทีมของเรา เกิดมาจาก สปอนเซอร์หลัก คือ ร้าน Velocity, ร้าน Anek Bike, เครื่องดืม่ สิงห์ และ 55 Tsukemen จึงกลายเป็ นชื่อทีม Singha AV55 ซึง่ ผูจ้ ดั การทีมของเรา คือพีต่ มั้ แห่งร้านเวโลซิต้ ี อดีตทีมชาติไทย ทีแรกพีแ่ กก็จะลง แต่ติดที่เป็ น อดีตทีมชาตินนั ่ แหละ เลยต้องผันตัวมาเป็ นผูจ้ ดั การทีมแทน ส่วนสมาชิกทีม หลักๆ เราก็ดงึ มาจากทีม 55 Tsukemen และเพือ่ นๆ นักปัน่ เชียงใหม่ จนสุดท้าย เราได้ทมี คือ พีต่ อ้ มโม (หัวหน้าทีม), ตัม้ , พีห่ นุ่มศาลา, โอ, ไก่, บอย, หนึ่ง, น้องปาล์ม และผมเอง ซึง่ ดูไปดูมาผมว่าน่าสนุกดี มีหลากหลายอาชีพมารวมกัน ตัง้ แต่คนส่งผัก, เจ้าของร้านอาหาร, คนท�ำเบเกอรี,่ คนขับรถ, และหมอ แต่ทกุ คน มีสง่ิ ทีร่ กั เดียวกัน คือ จักรยาน เพือ่ เป้ าหมายเดียวกัน คือ เราจะต้องพาทีม เข้ารอบ และปัน่ สนามถัดไปให้ได้! นับหนึ่งกับ Team Time Trial

ความยากที่สุดของสเตจแรกคือรู ปแบบการแข่งที่เป็ น Team Time Trial แบบทีมครับ เพราะเป็ นการปัน่ ทีเ่ ราไม่เคยปัน่ กันมาก่อนเลย แค่การปัน่ Time Trial เดี่ยวในเชียงใหม่ยงั หายาก เรื่องปัน่ กลุ่มไม่ตอ้ งพูดถึงครับ และอีกเหตุผลคือ ทุกคนในทีมไม่มรี ถ Time Trial (ยกเว้นผมมีแค่คนเดียว!!!) ซึง่ ถ้าถามผมว่า รถ Time Trial ต่างกับเสือหมอบธรรมดาเยอะไหม พูดได้เลยว่า ไม่เหมือนกันแม้แต่นอ้ ยเลยครับ ตัง้ แต่องศารถ การลงน�ำ้ หนักปัน่ การทรงตัว การจัดระเบียบร่างกาย ฯลฯ

ส่ ว นเรื่ อ งรถ พี่ต มั้ เวโล ผู จ้ ดั การทีม ของเราก็ พ ยายามใช้ค วามรู ้ และอุปกรณ์ทพ่ี อมี ดัดแปลงรถสมาชิกในทีม ให้กลายเสือหมอบทีต่ ดิ แอโร่บาร์ ซึ่งแอโร่บาร์ อาจเห็นเป็ นแค่แท่งเหล็กยื่นออกมาให้จบั แต่จริงๆ มันเหมือน เป็ นอุปกรณ์ขายวิญญาณ โดยเอาความเหนื่อยและทรมานแลกกับความเร็ว คุณจะต้องก้มลงไปจับมัน คุณจะต้องบีบไหล่ให้แคบลง ปริมาตรของปอดคุณ จะลดลง คุณจะต้องลดคอรถให้เตี้ยลง ท�ำตัวให้ตำ� ่ เพื่อให้มุดลมได้ดีข้ ึน แต่ความเร็วทีไ่ ด้ รับรองว่าคุม้ ค่ากับความทรมานแน่นอน และนอกจากอุปกรณ์แล ้ว พีต่ มั้ เวโลยังช่วย Fitting ให้เราด้วย ซึง่ การ Fiiting คือการปรับรถให้เหมาะกับท่าทางเรา ให้เราปัน่ ได้เร็วขึ้นในท่าทีส่ บายขึ้น ความรูแ้ ละประสบการณ์ของพีต่ มั้ ช่วยเราในตรงนี้ได้ดมี ากๆ อีกทัง้ พีต่ มั้ ยังช่วย ตรวจเช็ครถให้เป็ นไปตามกฏของจักรยานสากลด้วย อย่างรถผมปรับเยอะมาก ทัง้ ระยะเบาะ ระยะแอโร่บาร์ ซึง่ พอปรับเสร็จแล ้วเหมือนกับว่าปัน่ เป็ นอีกท่าเลย แต่พอฟิ ตติ้งร่วมด้วยแลว้ ก็ทำ� ให้รูส้ กึ สบายขึ้น และไม่ตอ้ งปรับตัวอะไรมาก กับท่าใหม่เท่าไหร่

แต่ในทุกอุปสรรคย่อมมีโอกาสเสมอ

พวกเราและทีม (รวมถึงเพือ่ นๆ นักปัน่ ) พยายามดัดแปลงการปัน่ ปกติ ทีเ่ ราซ้อมกันอยู่แล ้ว ให้มกี ารซ้อมปัน่ กลุม่ ร่วมด้วย ทัง้ การปัน่ คันคลองไฮสปี ด ตอนเย็น และท่าลีเ่ อ็นดูรานส์ในวันเสาร์ แถมทางทีมงาน 55 Tsukemen Cycling ยังจัดงานปัน่ แข่ง Team Time Trial (น่าจะเป็ นการจัดครัง้ แรกของเชียงใหม่เลย) ซึง่ มีทมี ไทยและเทศ รวมกว่า 14 ทีมเข้าร่วม และผลการตอบรับดีมากๆ สนุกมากๆ แม้ว่าทีม AV55 จะเข้ามาเป็ นที่สาม แต่งานนี้ก็ทำ� ให้เราได้มโี อกาสซ้อมทีม และมองเห็นจุดอ่อนก่อนถึงงานจริง

อุปสรรคและอุบัติเหตุ

ก่อนการแข่งราว 3 อาทิตย์ ขณะก�ำลังซ้อมปัน่ ขึ้น - ลงเขาตามปกติ ในเส้นทางที่คุ น้ เคยอย่ างเส้นกฤษฎาดอย ผมเข้าโค้งพลาดในขณะลงเขา ด้วยความเร็ว 65 กม./ชม. เพราะสะดุดตาแมวกลางถนน ผมกระเด็นออกจาก ตัวรถไปคนละทิศละทาง ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากๆ ผมไถลไปตามพื้นถนน จนอยูอ่ กี ฝัง่ ถนน มีคนมามุงดูเยอะ หมวกกันน็อคช่วยผมไว้ได้ดมี ากๆ แต่ตอนนี้ คือนอนกองข้างทาง มีแผลถลอกตามตัว แต่ท่แี ย่คือจุกอกมากๆ โคตรเจ็บ ขยับตัวก็เจ็บ ลุกไม่ข้นึ เลย (แต่กย็ งั ฝื นปัน่ กลับได้!!!) แผลถลอกแม้ว่าจะแสบมากๆ ในช่วงแรกๆ แต่แค่สห่ี า้ วันก็เริม่ ตกสะเก็ด และไม่ปวดแล ้ว แต่ทแ่ี ย่ทส่ี ดุ คือหน้าอก ไม่ดขี ้นึ เลย แค่หายใจลึกๆ ไอหรือจามเบาๆ ก็ปวดมาก ต้องเอ็กเรย์สองครัง้ ถึงรูว้ ่าซี่โครงร้าว แต่จดุ นี้เราถอยไม่ได้แลว้ แม้แต่จะพักก็ยงั ไม่มเี วลา ก็เรียกว่าอัดยาแก้ปวดก่ อนซ้อม และคงต้องอัด ช่วงแข่งด้วยแน่นอน ไม่งนั้ ก้มตัวหรือแม้แต่หายใจลึกๆ ไม่ไหวแน่ๆ อีกอย่างคือช่วงสามวันก่อนแข่ง ผมต้องอยู่เวรติดๆ กัน และไม่สามารถ เดินทางไปพร้อมเพือ่ นๆ คนอืน่ ๆ ได้ ดังนัน้ วันศุกร์หลังจากเสร็จงาน ผมต้อง รีบขับรถเพือ่ นัง่ เครือ่ งบินไปลงทีส่ นามบินดอนเมือง แล ้วจึงขับรถไปยังปราณบุรี ระยะทางทัง้ สิ้นกว่าหนึ่งพันกิโลเมตร ทีแรกค�ำนวณคร่าวๆ คิดว่าจะถึงทีน่ นั ่ ราวๆ เทีย่ งคืน แต่พอเอาจริงๆ กว่าจะถึงทีแ่ คมป์ เก็บตัวก็คอื ตีหนึ่ง (ซึง่ ต้องขอบคุณ ภรรยาผมทีเ่ ดินทางและอยู่ดว้ ยระหว่างขับรถ) แลว้ พอถึงทีพ่ กั ผมยังมีภาระ ที่ตอ้ งมาประกอบรถและเช็คความสมบูรณ์ของรถ ซึ่งกว่าที่ผมจะประกอบรถ และเตรียมทุกสิง่ ให้เรียบร้อยในระดับหนึ่ง ก็ปาไปเกือบตีสองกว่า กังวลเหมือนกัน เรือ่ งรถไม่พร้อม อะไหล่มปี ญั หา แถมตัวเราท�ำงานหนักๆ ข้ามคืนมาหลายวันแล ้ว กลัวพรุ่งนี้ปนั ่ ไม่ออกเหมือนกัน 5


Club Race is Calling

เดินไปคุยไปก็ทำ� ให้ความกดดันมันดีข้ นึ นะ เผลอครู่ เดียวกรรมการ ก็เรียกไปตรวจรถ ซึ่งรถในการแข่ง Time Trial จะมีขอ้ ก�ำหนด/ข้อจ�ำกัด ทีค่ ่อนข้างเยอะมาก แม้วา่ จะเป็ นรถทรงเดียวกับการแข่งไตรกีฬาก็ตาม ผมกลับมาเต๊นท์ ตรวจสอบรถครัง้ สุดท้าย ตรวจสอบสภาพร่างกาย และจิตใจ เข้าห้องน�ำ้ ทีมหญิงทีป่ ล่อยตัวกันไปตัง้ แต่เก้าโมงเช้าก็เริม่ กลับมาแล ้ว บอกว่ามีฝนช่วงกลับตัวนะ ระวังด้วย แต่จดุ นี้ฝนตกหรือไม่ เราก็ตอ้ งลุยแล ้วล่ะ แต่อาจต้องระวังอุบตั เิ หตุหรือล ้มได้งา่ ยๆ อีกสักพักพีต่ มั้ กลับมาอีกครัง้ พร้อมกับ ไอเท็มลับอย่างวิทยุสอ่ื สาร เพือ่ ทีจ่ ะได้บอกสถานการณ์และแผนทีจ่ ะปรับเปลีย่ น ไปตามรูปเกมได้ทนั ท่วงที จนถึงสิบนาทีสุดท้าย เพื่อนๆ ในทีมก็ชวนกันไปที่จุดสตาร์ทกันครับ บรรยากาศคึกคักมาก มาร์แชลและสตาฟฟ์ ร่วมร้อยคนคุมทีจ่ ดุ ปล่อยตัว แม้วา่ จะไม่ได้ปิดถนน 100% แต่ตอ้ งบอกว่าการเตรียมงานดีมากนะ มีการแบ่งเลน ให้กบั การจราจรปกติสลับกับการปล่อยตัวนักแข่งและมีมาร์แชลขีจ่ กั รยานยนต์ ตามไปคู่กบั รถเซอร์วสิ ของทีมที่ดา้ นท้ายด้วย ทุกทีมปล่อยตัวตรงเวลามากๆ โดยแต่ละทีมก็ปล่อยตัวห่างกัน 2 นาที พอถึง 11:15 น. หลังจากทีมที่ 16 ปล่อยตัวไป เจ้าหน้าทีก่ ็เรียกเรา ไปอยู่ท่เี ส้นแลว้ ครับ เจ้าหน้าที่เข้ามาจับท้ายเบาะเพือ่ ให้เราใส่คลีททัง้ 2 ข้าง ก่อนปล่อยตัว ผมสูดหายใจลึกๆ รวบรวมสมาธิ ทิ้งความกังวลไว้ และคิดถึง ช่วงเวลาทีซ่ อ้ มมาหลายพันกิโลเมตร เพือ่ ทีจ่ ะมาใช้แค่ 50 กิโลเมตรสุดท้าย 11:17 น. เราปล่อยตัวตรงเวลาครับ

แม้วา่ ตามก�ำหนดการณ์ เราจะปล่อยตัว 11:17 น. แต่ดว้ ยความเคยชิน (ผสมกับความกังวล) ผมตืน่ ราวๆ หกโมงเช้า ลุกขึ้นมาเตรียมตัวและอุปกรณ์ตา่ งๆ เช็ครถซ�ำ้ อีกครัง้ ตรวจลมยาง, ความเนียนของการเข้าเกียร์, น�ำ้ มันหยอดโซ่, ความลื่น ของจุด หมุน ต่ า งๆ และลองออกไปปัน่ ระยะสัน้ ๆ เพื่อ ไม่ใ ห้เ กิด ความผิด พลาดใดๆ เมื่อ ทุก อย่ า งพร้อ มแล ว้ จึง มาเตรี ย มเครื่ อ งแต่ ง กาย และติดหมายเลข จากนัน้ จึงรีบไปทานอาหารเช้า หลังจากทานเสร็จ เรายังพอเหลือเวลามานัง่ คุยแผนการอีกเล็กๆ น้อยๆ และตรวจเช็ครถซ�ำ้ อีกครัง้ ก่อนที่จะนัดรวมพลตอน 8:45 น. เพือ่ ปัน่ ไปยัง จุดปล่อยตัว ซึง่ ห่างจากโรงแรมทีเ่ ราพักประมาณ 6 กม. อากาศวันนี้ค่อนข้าง อบอ้าว สลับกับมีลมทะเลเป็ นช่วงๆ ซึง่ เดีย๋ วเรามาลุนกั ้ นว่า ทีก่ รมอุตนุ ยิ มวิทยา ท�ำนายไว้วา่ จะมีฝนตกตอน 11 โมง มันจะแม่นย�ำสักแค่ไหน เราใช้เ วลาเดิน ทางจากที่พ กั มายัง สถานที่จ ดั งานเกื อ บครึ่ ง ชัว่ โมง ซึ่งบรรยากาศงานยิ่งใหญ่มากๆ เรียกว่าใหญ่ท่สี ุดที่ผมเคยเห็น ทัง้ จากการ เตรี ย มงานของที ม ผู จ้ ดั ที่ ใ ห้บ รรยากาศแบบการแข่ ง ขัน ระดับ มือ อาชี พ และบรรยากาศจากทีม อื่น ๆ ที่ม าเข้า ร่ ว มการแข่ ง ขัน ด้ว ย เรี ย กว่ า มีร งั สี แห่งความกดดันออกมาตลอดทางเดิน ทุกทีมดูคกึ คักสุดๆ ผมตื่นตาตื่นใจมาก ลุนว่ ้ าทีมของเราจะมีเตรียมอะไรให้เรามัย้ จนกระทัง่ ถึงเต๊นท์ของเราครับ... เต๊นท์ของเราไม่มอี ะไรเลย เป็ นแค่เต๊นท์โล่งๆ และเก้าอี้หา้ ตัว ผิดกับ เต๊นท์อน่ื ๆ ทีเ่ ขาเอาเรนเนอร์มาปัน่ วอร์มอัพ มีทมี งานมานวดและยืดกล ้ามเนื้อ ดู แ บบจริ ง จัง มากๆ ซึ่ง พวกเราก็ ม องหน้า กัน แล ว้ ก็ ก ม้ หน้า นัง่ เล่ น มือ ถือ เพื่อคลายความกดดันกันครับ บ้างก็เดินไปหาอะไรกิน บ้างก็ไปโทรศัพท์ บ้างก็งบี หลับไป เพราะกว่าจะถึงเวลาปล่อยตัวก็อกี ตัง้ 2 ชม. อีกไม่นาน พี่ตมั้ เวโลผูจ้ ดั การทีมของเราก็มาพร้อมกับน�ำ้ ดื่ม, กลว้ ย และอาหารเล็กน้อย มานัง่ คุย เล่าเรื่องทีมคู่แข่งและสภาพสนามคร่าวๆ ทุกคน ยังดูสบายๆ แต่กบั ตัวผมนัน้ ไม่ใช่เลย ผมรูส้ กึ ว่าถ้านัง่ เฉยๆ มันรูส้ กึ กดดันมากๆ จึงขอตัวมาเดินเล่นชมบรรยากาศตามเต๊นท์อน่ื ๆ แอบดูรถ Time Trial สวยๆ ระดับโลกหลายร้อยคันที่หาดู ท่ีไหนไม่ได้ง่ายๆ อารมณ์เดินดู มอเตอร์โชว์ ของจักรยานเลยทีเดียว, แลว้ ก็ทกั ทายพีน่ อ้ งนักปัน่ ทีร่ ูจ้ กั กัน ทัง้ พีน่ อ้ งดราม่า (ทีป่ นั ่ ให้ RTCT Nakornsawan) เจ้นทั แม๊ก (ปัน่ ให้ทมี เต็งอย่างทีมรูใ้ จ) พีเ่ กม และพีต่ ะวัน (ปัน่ ให้ทมี Gemburi) แต่ละคนเก่งๆ ทัง้ นัน้ เลย ซึง่ ถ้าเราเกณฑ์ นักปัน่ เชียงใหม่มาสูร้ บั รองไม่แพ้ใครแน่ๆ

เพื่ อ 50 กิโลเมตรสุดท้าย

ช่วงแรกทีอ่ อกตัวลมค่อนข้างแรง พีต่ มั้ ผูจ้ ดั การทีมเร่งให้เราฟอร์มกลุม่ ให้ได้เร็วที่สุด เพื่อที่จะท�ำให้เราปัน่ บังลมได้และไปได้เร็วขึ้น ผมรีบมองหา พีห่ นุ่มศาลาและไปต่อท้ายแกตามแผน เราเปิ ดตัวทีค่ วามเร็ว 45 กม./ชม. ซึง่ ถือว่า ดีมากๆ เพราะว่าช่วงแรกมีลมต้านเราแล ้วก็มเี นินเล็กๆ สลับกันเป็ นช่วง ถ้าปัน่ ได้ ตามแผนทีว่ างไว้แบบนี้ ช่วยกันพากันไปทัง้ 7 คน เราน่าจะเข้ารอบแน่นอน แต่อปุ สรรคไม่ได้มแี ค่นนั้ ครับ พอปัน่ ไปได้ราว 6 กม. ฝนเริ่มลงเม็ดครับ จากฝนปรอยๆ เพียงไม่นาน ก็เปลี่ยนเป็ นพายุฝน ลมที่ตีตา้ นเราตอนนี้ไม่สามารถคาดเดาทิศทางลมได้ วิสยั ทัศน์แย่แบบสุดๆ มองแทบไม่เห็นอะไรนอกจากท้ายรถคันข้างหน้าเรา 6


และถนนแห้งๆ ก็เปี ยกผสมดินข้างทางกลางเป็ นโคลนไหลลงมา ถนนบางจุด กลายเป็ นแอ่ งน�ำ้ แผนการในตอนนี้เปลี่ยนไปหมด พี่ตมั้ ตะโกนผ่านวิทยุ ให้เราใจเย็นๆ ปัน่ รักษาความเร็ว และพยายามเกาะเส้นกลางถนนไว้ ปัน่ ไปอีกไม่นานผมเริ่มเห็นพี่หนุ่ มศาลาอาการแปลกๆ แกปัน่ ดู ชา้ ลง และเกาะกลุม่ ไม่อยู่ ทัง้ ๆ ทีป่ กติพห่ี นุ่มปัน่ กลุม่ และจี้ได้ดมี ากๆ จนในทีส่ ดุ พีห่ นุ่ม ก็หลุดกลุม่ เราไปอย่างไม่ทราบสาเหตุ ตอนนี้เพือ่ นๆ เริม่ กังวลว่าพีห่ นุ่มเป็ นอะไร ท�ำไมถึงหลุดง่ายๆ ไปตัง้ แต่ตน้ เกม ซึง่ เราก็พยายามเติมแรงกันอีกคนละหน่อย เพือ่ ชดเชยทีพ่ ห่ี นุ่มหายไป (สุดท้ายมาทราบว่าพีห่ นุ่มยางรัว่ !!!) และอีกไม่นาน พีต่ มั้ ก็บอกผ่านวิทยุวา่ น้องปาล์มก็หลุดไปอีกคน ทีมเราเหลือปัน่ กัน 5 คนนะ จุดนี้ทกุ คนกังวลเพราะแค่ประมาณสิบกิโลเมตรเหลือกันแค่หา้ คนแลว้ เราลดความเร็วกันลงเล็กน้อยเพราะกลัวจะมีคนหลุดอีก แต่ พ่ตี มั้ สัง่ ให้เรา ประคองความเร็วไว้อย่าให้ตกลงไป โอเป็ นหัวลากทีช่ ่วยประคองทีมได้ดมี ากๆ ส่วนคนอื่นๆ ก็พยายามท�ำหน้าที่ของตัวเองให้ดีท่ีสุดและเติมในส่วนที่ขาด ของพีห่ นุ่มศาลาและน้องปาล์ม ผมพยายามปัน่ เกาะโอให้ตดิ ทีส่ ุด ก้มหน้ามุดลม ให้ได้มากทีส่ ุด พยายามมองล ้อหลังของคันข้างหน้าเราไว้อย่างมีสมาธิ และกด ลู กบันไดเต็มแรงหากได้มโี อกาสขึ้นไปลากให้ ยิ่งปัน่ ไปฝนก็ย่ิงตกหนักขึ้น เป็ นทวีคูณ สภาพทีมตอนนี้เปี ยกเละไปหมดทุกคน ทางข้างหน้ามองเห็นแค่ไม่ถงึ สองร้อยเมตร แต่แทนทีจ่ ะกลัว ในใจผมตอนนี้มสี มาธิ จดจ่อกับการปัน่ กลุม่ มาก เมือ่ ยขานิดๆ แต่ไม่รูส้ กึ เหนื่อยเลย น�ำ้ ก็แทบไม่ได้หยิบขึ้นมาดืม่ จากกระติกเลย เพราะอาศัยดื่มน�ำ้ ฝนและน�ำ้ จากพื้นถนนที่ดีดมาจากลอ้ หลังของรถคันหน้า จนกระทัง่ พีต่ มั้ บอกผ่านวิทยุสอ่ื สารว่า “อีก 1 กิโลเมตรถึงจุดกลับตัว” เห้ย!!! ครึ่งทางแล ้วเหรอเนี่ย พอใกลถ้ งึ จุดกลับตัว เราค่อยๆ ชะลอรถ พีต่ มั้ ย�ำ้ เสมอว่าต้องแบ่งกัน กลับให้ดี ไม่ตอ้ งรอคิวกัน แลว้ รีบรวมกลุม่ ให้ได้เร็วทีส่ ุด แต่ดว้ ยสถาพถนน ทีเ่ ปี ยกและลืน่ มากๆ เราพยายามประคองรถให้ดที ส่ี ุด และไม่มใี ครล ้ม!! จากนัน้ เราก็รบี รวมกลุม่ ได้รวดเร็วมากๆ ซึง่ จุดนี้พวกเราท�ำได้ดมี ากจริงๆ ขากลับเราก็ปนั ่ กลับทางเดิมครับ ช่ วงไหนที่เคยเป็ นเนินตอนขาไป ก็จะกลายเป็ นทางลาดลงขากลับ พวกเราประคองความเร็วได้ดี ฝนเริ่มซาลงบ้าง วิสยั ทัศน์ดีข้ นึ มาบ้าง ลมที่ทแี รกคาดว่าจะเป็ นลมส่งตอนนี้กลับเป็ นลมนิ่งๆ แต่ปญ ั หาช่วงนี้คือผิวถนนที่แย่กว่าขาปัน่ มา และก็เริ่มมีแอ่งน�ำ้ ตามข้างทาง ซึง่ ผมว่าค่อนข้างอันตรายถ้าขับฝ่ าแอ่งน�ำ้ เพราะเราไม่รูว้ า่ อะไรอยู่ขา้ งใต้นนั้ บ้าง ดังนัน้ ขากลับเลยปัน่ ยากกว่าพอสมควร เพราะว่าต้องหลบไอ้พวกนี้ดๆี เลย

หลังจากฝนซาได้ไม่นาน มันก็กลับมาตกเยอะอีกครัง้ ช่วงนี้เป็ นช่วงทีผ่ ม เหนื่อยมากๆ เพราะใส่เต็มแรงมาตลอด เหนื่อยแบบเหมือนจะตาย ต้นขา ก็เริ่มเตือนๆ ว่าถ้ากดหนักๆ กว่านี้อกี นิดนี่ตะคริวมาหาแน่ๆ ระหว่างปัน่ ช่วงนี้ ผมคิดถอดใจไปแลว้ หลายที ฟุ้งซ่านว่าท�ำไมเราถึงไม่นอนอยู่บา้ นเฉยๆ ท�ำไม ไม่ น อนตากแอร์ส บายๆ หรื อ ไปเที่ย วชายทะเลสวยๆ แต่ พ อสติก ลับ มา ถ้าผมยอมเมื่อไหร่ ทุกคนน่ าจะแย่ แน่ ๆ ทัง้ แรงกายที่แต่ ละคนจะต้องลาก หนักหน่วงขึ้น และแรงใจทีค่ าดว่าจะฝ่ อลงไปอีกเยอะ ผมจึงพยายามรวมรวม สมาธิและกัดฟันไว้ ไม่ยอมแพ้แน่ นอน เกาะให้ติดกว่าเดิม พยายามลาก ให้พอดีกบั แรงทีเ่ หลือ และช่วงทีเ่ ราได้พกั ก็จะพยายามสลับใช้กล ้ามเนื้อปัน่ บ้าง ซึง่ ผมว่ามันดีข้นึ นะ ประคองตัวเองมาได้เรื่อยๆ โดยความเร็วแทบไม่ได้ตกลง จากเดิมเท่าไหร่นกั “หมอระวัง มีรถออกจากซอยมา” ผมมัวแต่ตงั้ ใจปัน่ จนลืมดูทางข้างหน้า ดีวา่ มีเพือ่ นร่วมทีมช่วยบอก “เหลืออีกสิบกิโล หมอตงสู ้ๆ ครับ” พีต่ มั้ เวโลบอกระยะอัพเดทให้เราเรือ่ ยๆ “เหลืออีกแปดกิโลครับ” โอเค อดทนอีกไม่ถงึ 15 นาทีแล ้ว “ตงสูๆ้ นะ อีกนิดเดียว” ภรรยาผมให้กำ� ลังใจสลับมาเป็ นระยะๆ “เหลืออีกห้ากิโลนะ เวลาดี” จุดนี้ ทุกคนเริ่มพยายามอัดให้หนักกว่าเดิม เร่งความเร็วช่วงท้าย “อีกสามกิโล หมอตงอีกนิดนะ อีกเนินเดียว” ตอนนี้มาหมดแลว้ ครับ ทัง้ เหนื่อย ทัง้ ปวดขา แต่เราจะยอมแพ้ไม่ได้ ทีผ่ ่านมาจะไม่สูญเปล่า “กิโลสุดท้ายแลว้ มีเท่าไหร่ ใส่หมดเลย” แค่ ได้ยินค�ำนี้ ผมพยายาม กดและควงให้หนักขึ้น แต่มนั ได้แค่นนั้ จริงๆ อีกนิดเดียว “ไม่ ถึง ห้า ร้อ ยเมตรแล ว้ ลุ ย ๆๆๆๆ” ผมพยายามรี ด ก�ำ ลัง ออกมา อีกครัง้ พยายามจะยกตัวขึ้นสปรินท์ตามเพือ่ นๆ แต่รูส้ กึ เหวงๆ กลัวว่าจะลม้ เลยนัง่ กดลูกบันไดต่อดีกว่า ดูเพือ่ นๆ สปรินท์กนั เข้าเส้นชัย ส่วนผมก็ไหลเข้า ตามเพือ่ นๆ ประมาณ 1 วินาที เข้าเส้นชัยแลว้ พวกเราท�ำได้! พวกเราท�ำได้!!! พี่ตมั้ ตะโกนมาว่า “หนึ่งชัว่ โมง แปดนาที สามสิบวินาที” เป็ นเวลาทีพ่ วกเราท�ำได้ครับ!!! หรือคิดเป็ น ความเร็วเฉลีย่ 44 กม./ชม. ผมปล่ อ ยรถค่ อ ยๆ ไหลไป พร้อ มกับ ควงขาเบาๆ เพื่อ คู ล ดาวน์ หมดแรงจริงๆ จุดนี้ทกุ อย่างมันมาพร้อมกันหมด ปวดต้นขามาก ปวดฝ่ าเท้ามากๆ ปวดก้น และเจ็บหน้าอก แค่จะปลดบันไดคลีทยังล�ำบากมากๆ แต่ถงึ จะปวด อย่างไร ผมดีใจมากๆ ทีเ่ ราทีเ่ หลือกันแค่หา้ คนประคองมาถึงเส้นชัยได้ จากนี้ ไม่วา่ จะเป็ นอย่างไร พวกเราท�ำดีทส่ี ุดแล ้ว บทสรุปแห่ง Club Race ครั้งแรก ในสนามแรก

นัง่ ในซุม้ พักไปสักช่วง เพือ่ นๆ ในทีมก็เริ่มไปหาอาหารมาทาน ส่วนผม ยังทานไม่ลงจึงนัง่ ดูทมี อืน่ ๆ ค่อยๆ ทยอยเข้ามา เวลาโดยมากไม่ดกี ว่าเราเลย นับไปนับมาเวลาเราก็มลี ุน้ ที่จะเข้ารอบเหมือนกัน ซึ่งเท่าที่ผมไปถาม ทีมที่ ปล่อยตัวท้ายๆ มีปญั หาคือสภาพถนนแย่มาก วิสยั ทัศน์แย่ และมีแอ่งน�ำ้ เยอะ ซึง่ ด้วยเหตุผลทัง้ หลาย ท�ำให้เขาท�ำความเร็วได้ไม่เหมือนกับสภาพถนนแห้งๆ การแข่งจักรยานก็แบบนี้แหละ เรายังมีอกี หลายปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ ทัง้ เรื่องดินฟ้ าอากาศ, แรงลม, รถเสียระหว่างทาง, อุบตั เิ หตุต่างๆ หรือแม้แต่ ฟอร์มในแต่ละวัน สิง่ ทีเ่ ราท�ำได้ดที ส่ี ุดคือการฝึ กซ้อมทัง้ กายและใจ และการ เตรียมอุปกรณ์ให้มขี อ้ ผิดพลาดน้อยทีส่ ุดแค่นนั้ แต่ผ่านไปสักครู่ ทัง้ ความหิวและความหนาวมาเยือน ผมจึงรีบไปกินข้าว และกลับไปอาบน�ำ้ ก่อน พอกลับไปได้ไม่นาน พีต่ มั้ ก็ส่งข้อความมาว่า “ทีมเรา ได้เข้ารอบนะ เป็ นทีมอันดับที่ 19” ซึง่ พอมาดูเวลาจริงๆ เราแพ้ทีมอันดับ 14 - 18 ไม่กว่ี นิ าทีเอง พวกเราดีใจกันมาก แม้จะเป็ นรูปแบบการแข่งทีเ่ ราแทบไม่เคยซ้อม และไม่ถนัดทีส่ ุด แต่เราท�ำตามสัญญาทีไ่ ว้ให้กบั ทีมได้สำ� เร็จ และทีส่ ำ� คัญ เรายังจะต้องเหนื่อยในอีกสามสนามถัดไป!!! 7


B I K E

R O U T E

INTHANON CHALLENGE 12 เก็บตก ‘ปั่นพิ ชิตอินทนนท์ ครั้งที่ 12’ กับ 12 เรื่องราวสุดประทับใจ เรื่อง : ตาโจ Thaimtb.com / 55 Cycling Club ภาพ : 55 Cycling Club

้ ดอยอินทนนท์ หรือ Inthanon เผลอแป๊บเดียว งานปั่นขึน Challenge ก็ ถู ก จั ด ขึ้ น เป็ น ปี ที่ 12 แล้ ว ผ่ า นร้ อ นผ่ า นหนาว ่ ช่วงสมัยจักรยาน มาตัง ู้ มัครหลักร้อย จนเกือบถึงหลักหมืน ้ แต่ผส เฟื่ องฟู สุ ดขีด ถึงวันนี้แม้กระแสจักรยานจะลดลงจนน่าใจหาย แต่ ง านนี้ ยั ง คงเป็ น งานเดี ย วที่ ค นยั ง สมั ค รเข้ า มาอย่ า งคึ ก คั ก แม้ยอดจ�ำนวนนักปั่นจะถือว่าไม่เยอะเมื่อเทียบกับปีก่อน แต่ก็เป็น งานเดียวในประเทศขณะนี้ที่นักจักรยานสนใจและเฝ้ารอมากที่สุด กับยอดผู้สมัครกว่า 5,900 คน!

งานนี้ ร วมนัก ปัน่ ทัว่ สารทิ ศ จากทัว่ ฟ้ าเมื อ งไทย นัก ปัน่ ต่ า งชาติ และนักปัน่ เพือ่ นบ้าน ทีม่ าร่วมเยอะสุดเห็นจะเป็ นนักปัน่ จากประเทศมาเลเซีย งานดอยอิน ทนนท์ค รัง้ นี้ เ ป็ น งานดอยอิน ทนนท์ท่ีร อ้ นที่สุ ด เท่ า ที่เ คยจัด มา ด้วยเหตุทต่ี อ้ งจัดหลบการเลือกตัง้ (ทีต่ อนแรกจะมีในเดือน กุมภาพันธิ์ 2562) ท�ำให้ผูจ้ ดั ต้องเลือ่ นงานมาจัดกันในเดือนมีนาคม (วันที่ 10 มีนาคม 2562) แม้ขา้ งล่างจะอากาศร้อน แต่ยอดดอยอากาศยังเย็นสบายเหมือนเดิม

8


10. แบกน�ำ้ หนัก ตัว เยอะสุ ด น่ า จะเป็ น คุ ณ ทรรศิ น สุ ว รรณสุ ง ข์ ขี่ 31 กม. ท�ำเวลาได้ 04:46:43 ชัว่ โมง 11. สถิตชิ า้ สุด - ทีย่ อดดอย อันดับทีช่ า้ สุด ท�ำเวลาได้ 09:37:16 ชัว่ โมง - ที่ กม.31 อันทีช่ า้ สุด ท�ำเวลาได้ 05:53:32 ชัว่ โมง ปี ห น้า ค่ อ ยว่ า กัน ใหม่ น ะครับ ฟิ ตซ้อ มกัน มาให้พ ร้อ มมากกว่ า นี้ เป็ นก�ำลังใจให้ครับ 12. ขวัญใจมหาชน จะเป็ นใครไม่ได้ นอกจาก คุณสุรมั ภา หยกโชติกลุ (น้องกอล์ฟ) นางฟ้ า Sky Lane แม้จะลงร่วมกิจกรรมปัน่ พิชติ ดอยอินทนนท์ เป็ นครัง้ ทีส่ อง แต่ทำ� เวลาได้ไม่เลวทีเดียว ใช้เวลา 03:41:29 ชัว่ โมง เข้าเป็ น อันดับที่ 23 ของรุ่นผูห้ ญิง

มาดูกนั เลยว่า 12 สถิตแิ ละเรือ่ งราวประทับใจของ Inthanon Challenge ในครัง้ ที่ 12 นี้ มีอะไรบ้าง 1. เป็ นงานครัง้ ทีม่ ตี ากล ้องเยอะทีส่ ุด งานนี้ผูจ้ ดั ได้มกี ารเปิ ดลงทะเบียน ตากล ้องจิตอาสาเข้ามาร่วมถ่ายภาพกันเยอะมาก เรียกได้วา่ มีถา่ ยกันครบทุกช่วง ถ้าเอารูปทัง้ หมดมารวมกัน น่าจะเป็ นงานทีม่ ภี าพถ่ายมากกว่า 100,000 ใบ! 2. ผูร้ ่วมกิจกรรมสามารถพิมพ์ใบประกาศสถิตขิ องตัวเองได้ทางออนไลน์ โดยผู ร้ ่ วมกิจกรรมสามารถเข้าไปพิมพ์ใบประกาศได้ดว้ ยตัวเอง ที่เว็บไซต์ www.thaimtb.com 3. หัวใจแกร่งทีส่ ุดในงานคงต้องยกให้ คุณสุรตั น์ ทองเมือง นักจักรยาน เสือภูเขาจากภาคใต้ ทีแ่ ม้จะมีอปุ สรรคทางร่างกาย (มีแขนซ้ายเพียงข้างเดียว) แต่กส็ ามารถปัน่ พิชติ ยอดดอยอินทนนท์ได้ดว้ ยเวลา 05:14:33 ชัว่ โมง 4. แชมป์ รุ่นชาย ปี น้ ีได้แก่ คุณ John Ebsen นัง่ ปัน่ ต่างชาติ เจ้าของ รางวัลแชมป์ KOM Taiwan 3 ปี (2012/2014/2018) 5. แชมป์ รุ่นหญิง ปี น้ ีได้แก่ คุณ Holly Richer ท�ำเวลา 02:45:10 ชัว่ โมง 6. ชายไทยทีข่ ้นึ ดอยเร็วทีส่ ุด ได้แก่ คุณสัญลักษณ์ พุฒวัจน์ (น้องแมค) ท�ำเวลา 02:13:31 ชัว่ โมง 7. หญิงไทยทีข่ ้นึ ดอยเร็วทีส่ ุด ได้แก่ คุณณัฏฐา คล่องแคล่ว (น้องน�ำ้ อิง) ท�ำเวลาได้ 03:05:35 ชัว่ โมง 8. สถิตขิ ้นึ ดอยอินทีเ่ ร็วทีส่ ุดคือ คุณ Peter Pouly ท�ำไว้เมือ่ ปี 2561 ท�ำเวลาได้ 02:00:26 ชัว่ โมง ยังไม่ถกู ท�ำลายลง แต่ปี 2562 คุณ Peter ท�ำเวลา ได้อนั ดับ 3 ด้วยเวลา 02:10:10 ชัว่ โมง 9. ล ้อเล็กทีส่ ุดในงาน ได้แก่ คุณกิตติ จันเจริญ ขีจ่ กั รยานล ้อเล็กมาก แถมมีเกียร์เดียวอีกต่างหาก ท�ำเวลาได้ 08:03:24 ชัว่ โมง

ปล. ส� ำหรับปีน้ีนักปั่นจากทีมของเรา (55 Cycling Club) เข้าร่วมทั้งหมด เกือบ 20 คน และสามารถท�ำเวลาได้ดีไม่แพ้ใคร โดยคนที่ท�ำเวลาได้ดีท่ส ี ุดของทีม คือ ตั้ม ท�ำเวลาไปได้ 02:28:48 ชั่วโมง ได้อันดับที่ 19 ของนักปั่นทั้งหมด

จบการรายงานเก็ บ ตกงานปัน่ พิชิต อิน ทนนท์ก นั เพีย งเท่ า นี้ ปี ห น้า เจอกัน ใหม่ ค รับ เส้น ทางยัง เหมือ นเดิ ม เพิ่ม เติ ม คื อ ความท้า ทาย ปี น้ ี เป็ น ที่น่ า ยิน ดีท่ีมีน ัก ปัน่ จากต่ า งชาติ ม าเข้า ร่ ว มกิ จ กรรมกัน เยอะมากขึ้น ซึง่ บ้านเราเองก็มศี กั ยภาพในการจัดงานให้ย่งิ ใหญ่มคี วามเป็ นอินเตอร์มากขึ้น ด้วยเช่นกัน ไม่แน่วา่ ถ้าผลักดันกันได้ งานของบ้านเราอาจจะโด่งดังระดับโลก ไม่แพ้งาน KOM ของไต้หวันก็ได้นะครับ

9


T R I P

เรื่อง / ภาพ : acidslapper

จ รว ด เ รี ย บ ต อ นที่ 1

TIME TRIAL TRIATHLON BIKE

B I K E

Butterfly Effect!! (ค�ำอุทาน) เรื่องมันเริ่มจากเมื่อ 3 ปีก่อน ตอนที่ผมยังหมกมุ่นกับการปั่นจักรยานอย่างบ้าคลั่ง เสือหมอบ เสือภูเขา ปั่นแข่ง ปั่นทริป ปั่นไปธุระ ปั่นไปท�ำงาน เอามันซะหมดทุกทาง ทั้งสนุก ทั้งสุขภาพดี อยากเก่ง อยากแรง อะไรๆ ก็ดูสดใสไปหมด แล้วอยู่มาวันหนึ่งก็... เปรี๊ยะ! อยู่ดีไม่ว่าดีอาการปวดหลังก็จู่โจมอย่างกะทันหัน คาดไม่ถึงมาก่อนว่าจะมาเกิดเรื่องแบบนี้ ปวดรุนแรงมาก พั กแล้วกลับมาปั่นก็ปวด ปั่นเบาลงแล้วก็ยังปวด เรื้อรัง มาจนทุกวันนี้เลย ไอ้ท่ไี ม่ค่อยได้วอร์มอัพ - คูลดาวน์ และออกก�ำลัง Core Muscle ตอนนี้เพิ่ งมารู้ว่ามันส�ำคัญมาก แต่ก็ดูเหมือนจะสายไปซะแล้ว

แต่ก็นะ... ถึงแม้ว่าจะปัน่ จักรยานไม่ได้ แต่ว่าการได้หยุดปัน่ จักรยาน ไปช่วงหนึ่งนัน้ ท�ำให้ผมได้คดิ ได้พจิ ารณาอะไรใหม่ๆ ได้อกี เยอะ จากการทีล่ อง ตรวจสอบตัวเองดูแล ้ว จึงได้คำ� ตอบว่า ทีจ่ ริงแล ้วเราไม่ได้คลังจั ่ กรยานหรอก! แต่เราก็แค่คนที่ชอบเสียเหงือ่ ชอบออกก�ำลังกาย และเสพติดความเมือ่ ยลา้ จากการเล่นกีฬาต่างหาก! พอได้ปรับความเข้าใจตัวเองใหม่แบบนี้กเ็ ลยเริ่มสนใจการวิง่ เอาก็เอาวะ ลองดู! ตอนนัน้ คิดแค่ว่าอะไรก็ได้ท่ที ำ� แลว้ มันเหนื่อย (ยกเว้นท�ำงาน...แฮ่!) พอได้ลองวิง่ ปรากฏว่าชอบแฮะ ใช้เวลาน้อยดี 30 - 45 นาทีรูเ้ รือ่ งเลย! ไม่เหมือน ปัน่ จักรยาน หายไปครึ่งค่อนวัน กลับบ้านมาบางวันก็รูส้ กึ ไม่ค่อยเหนื่อยเลย แต่พอมาวิง่ แล ้วมันกระแทกกระทัน้ สะใจดีเหลือเกิน ทีส่ ำ� คัญคือท่าทางในการวิง่ นี่หลังเหยียดตรง วิง่ เสร็จไม่ปวดหลังเลยสักนิด เฉียบ!! ช่วง 2 - 3 ปี ให้หลังมานี้ ผมก็ เ ลยไปบ้า วิ่ง ซะเป็ น ส่ ว นใหญ่ คนหลายใครบอกว่า ผมวิ่ง ตามกระแส ทีก่ ำ� ลังนิยมกัน ไม่เถียง! เพราะชอบนะ มีเพือ่ นวิง่ ด้วยเยอะดี แต่ผมก็ยงั ถือว่า มีปมในใจเรื่องปวดหลังจากการปัน่ จักรยานอยู่ ดี และยังคงอยากกลับไป ปัน่ จักรยานให้ได้อกี ครัง้

ช่วง 1 - 2 ปี ทผ่ี ่านมา หลังจากทีโ่ ยกเวลาส่วนใหญ่ไปทุ่มให้กบั การวิง่ ผมก็ มีโ อกาสได้ไ ปลองว่า ยน�ำ้ ดู ตอนนัน้ คิด แค่ ว่า จะหาอะไรท�ำ แก้เ บื่อ วิ่ง ปรากฏว่าว่ายไปว่ายมาก็ติดใจซะอีก! ว่ายน�ำ้ ก็หลังยืดตรง ไม่ปวดเลยแฮะ ด้วยความโรคจิตก็เลยลองเอามารวมกันดู รวมไปรวมมา จากทวิกฬี าก็กลาย มาเป็ นไตรกีฬาซะงัน้ ! เผลอแป๊ บเดียว รูต้ วั อีกที กลายเป็ นคนเล่นไตรกีฬาไปซะแล ้ว แต่กย็ งั เป็ นไตรแบบทีใ่ ช้จกั รยานเสือหมอบธรรมดาๆ นี่แหละ จนกระทัง่ ได้มโี อกาส ไปนัง่ หลังแก้วเบียร์ฟงั นักไตรตัวฉกาจเขาคุยกันเรื่องรถจรวด เห็นเขาว่า มันไหลมันเร็วลู่ลมดีเหลือเกิน ผมก็เลยเกิดความคิดอยากจะลองดู สกั ครัง้ ไอ้ท่ีร่ายยาวมาทัง้ หมดเนี่ย ก็เพื่อจะบอกว่ามันกลายเป็ นที่มาของคอลัมน์ ในวันนี้ไงครับ พอมาสนใจเจ้าจักรยานจรวดติดปื นกล (Aero Bar) ก็เลยไปศึกษา ถามผู ม้ ีป ระสบการณ์ และท�ำ ตัว มุ่น หมกกับ ข้อ มูล อยู่ พ กั ใหญ่ จึง ได้รู ว้ ่ า ไอ้จกั รยานแนวเนี้ย ถึงแม้วา่ หน้าตามันจะคลา้ ยๆ กัน แต่รายละเอียดของรถ Time Trial และ Triathlon (ไตรกีฬา) นี่มนั ต่างกันลิบลับเลย 10


จักรยานแบบ Time Trial ทีเ่ ราเห็นเขาเรียงแถวเป็ นทีมสวยๆ ในงานแข่ง ตูร ์ เดอ ฟร็องซ์ นัน้ คือจักรยานที่มกี ฎข้อบังคับในการเซ็ทรถที่ละเอียดยิบ แต่โดยสรุปแลว้ แนวคิดของมันก็คือท�ำให้จกั รยานเร็วที่สุดเท่าที่มนั จะท�ำได้ บนถนน ซึง่ แนวคิดแบบนี้ส่งผลต่อการเซ็ทรถ ท่าขีข่ องนักปัน่ อาจทรมานบ้าง และอาจอยู่ในต�ำแหน่งทีค่ วบคุมรถได้ยาก (ยากกว่าจักรยานชนิดอื่น) ดังนัน้ เพือ่ ความปลอดภัยของนักปัน่ จักรยาน Time Trial จึงจ�ำกัดการแข่งไว้เฉพาะ แบบจับเวลาบุคคล (Individual Time Trial - ITT) และแบบจับเวลาทีม (Team Time Trial - TTT) เท่านัน้ ไม่เปิ ดโอกาสให้ไปปัน่ หมกเป็ นกลุ่ม เหมือนจักรยานเสือหมอบที่เราเห็นตามงานแข่งขันทัว่ ๆ ไป ส่วนจักรยาน Triathlon Bike แตกต่างจาก Time Trial อย่างสิ้นเชิง ตรงทีไ่ ม่มกี ฎเกณฑ์ ในการเซ็ทรถทีว่ ุ่นวาย เพราะปรัชญาของรถไตรกีฬาก็คือ นักปัน่ ต้องอยู่ในท่า ทีส่ บายทีส่ ุด ท�ำความเร็วให้ได้มากทีส่ ุด โดยประหยัดแรงทีส่ ุด ทีส่ ำ� คัญคือการ คลายกลา้ มเนื้อจากการว่ายน�ำ้ และเตรียมความพร้อมส�ำหรับการวิง่ เพราะ ต้องไม่ลมื ว่าจักรยานในไตรกีฬานัน้ อยู่คนั ่ กลางระหว่างว่ายน�ำ้ และวิง่ อีกอย่าง ก็คอื ระยะของการปัน่ ในไตรกีฬาจะมีระยะทีไ่ กลกว่าการแข่งแบบ Time Trial ดังนัน้ หน้าตาของรถไตรจะไม่กม้ ลู่ลมมากเหมือน Time Trial แต่ แฮนด์ จะยกสูงกว่า เพือ่ เน้นความสบายของนักปัน่ ในระยะยาว ว่าแล ้วก็เริ่มศึกษาราคา คุณพระ! มือหนึ่งแต่ละคันนี่แหมมม่ ซื้อบิก๊ ไบค์ ขี่ให้ท่อดังหนวกหู ชาวบ้านดีกว่าเยอะ!!! ผมจึงตัดสินใจว่าจะประกอบรถ จากการหาของมือสองมารวมกันดีกว่า นกน้อยท�ำรังแต่พอตัว! เท่าทีม่ ี เท่าทีไ่ ด้ เท่าทีไ่ หว จะได้ไม่เป็ นปัญหาสังคม 555 เอาสิง่ นี้มาจากนัน่ เอาสิง่ นัน้ มาจากนี่ เอาสิง่ นู น้ มาจากโน่น ได้เฟรมมาปุ๊ บก็เอาไปท�ำสีก่อนเลย เราถือคติทว่ี า่ ‘รถทีด่ ี ต้องเป็ นสีขาว’ ใช้เวลารวบรวมดราก้อนบอลอยู่ร่วมครึ่งปี เจ้าแฟรงเก้นสไตน์ ก็ครบสมบูรณ์ (ขอบพระคุณร้าน Jacky Bike ส�ำหรับอะไหล่ - การประกอบรถ และ V Sports Clothes ส�ำหรับชุดไตรกีฬามา ณ โอกาสนี้ดว้ ยครับ)

ทริปแรก! ตัง้ ใจไว้ว่าจะพกเครื่องมือไปด้วย ประมาณว่าปัน่ ไปปรับไป ค่ อยๆ เซ็ทรถไป ระยะทางพอดีๆ สักประมาณ 50 กิโลเมตรพอได้เข้าใจ คาแร็คเตอร์รถ นัดช่างต่อจากร้าน Jacky Bike ไปด้วยกันเพือ่ ความอุ่นใจ สัมผัสแรกที่รูส้ กึ ในการปัน่ ก็คือ ทรงตัวโคตรยาก! จากที่เคยอ้าแขนกว้างๆ ทรงตัวง่าย พอเจอแนวหุบแขนนี่มนั ดิ้นดุก๊ ดิก๊ ๆ เหลือเกิน ยิง่ โดยเฉพาะสมัยที่ ปัน่ เสือหมอบ ผมเนี่ยมาแนวแพะภูเขาใส่ลอ้ ขอบต�ำ่ เน้นกระแทกดอย งานนี้ เจอลอ้ ขอบสูงนี่ไปไม่เป็ นเลยจ้า ลมตีขา้ งก็เป๋ รถสิบลอ้ แซงก็เป๋ ยิง่ รวมกับรถ ทีท่ รงตัวยากอีก โอ้โห เปิ ดต�ำราไม่ถกู กันเลยทีเดียว แต่สง่ิ ส�ำคัญทีเ่ ซอร์ไพรส์มาก ก็คอื เรื่องการลูล่ มและความเร็วนี่แหละครับ แหมมม่ ความเร็วมันสูงดีเหลือเกิน จากเสือหมอบธรรมดาๆทีเ่ ราคุน้ เคย เจอจรวดเรียบตัวนี้เข้าไปนี่คนละเรื่องเลย แม้วา่ น�ำ้ หนักรถจะค่อนข้างหนัก (เกือบเท่าเสือภูเขา!!!) แต่รถแนวนี้ไม่ใช่รถเบา เพราะต้องการแรงเหวีย่ งของน�ำ้ หนักรถ ดังนัน้ ตอนเริ่มปัน่ ช่วงแรกๆ ทีค่ วามเร็ว 20 - 35 กม./ชม. จะรูส้ กึ ว่ารถหนืดมากๆ แต่พอตัง้ ความเร็วได้สกั 37 กม./ชม. จะเริ่มรูส้ กึ ว่าสบายขามากขึ้น ประมาณ 38 - 40 กม./ชม. จะรูส้ กึ ว่ารถมันไหล และมีแรงเหวีย่ งมากขึ้น ไอ้ทเ่ี ขาบอกว่า ‘รอบติด’ นัน่ แหละครับ แต่ถา้ ความเร็ว 40+ กม./ชม. นี่ขอแปะเอาไว้ก่อนนะฮะ ยังไม่มปี ญั ญาปัน่ ได้ขนาดนัน้ 555 เพราะล�ำพังแค่แช่ไว้ท่ี 39 - 40 กม./ชม. ก็ปวดเมือ่ ยไปทัง้ ตัวแล ้วจ้า ไล่มาตัง้ แต่ ท่านัง่ ทีท่ รงตัวยาก วิธกี ารออกแรงของขา ต�ำแหน่งของก้นบนอาน การก้มตัว การเงยคอ การวางไหล่ การวางแขน และการลงน�ำ้ หนักทีแ่ ฮนด์ ลองไปลองมา จบทริปซัดไป 100 กิโลเมตรเลย! ตื่นเช้ามาร้าวระบมไปทัว่ ร่าง (รูส้ กึ ดีจงั ... แฮ่!) จากการปัน่ วันแรก วันต่อๆ มาก็ยงั ปัน่ ซ�ำ้ อีก 50 บ้าง 30 บ้าง 40 บ้าง ตามแต่ เวลาจะเอื้ออ�ำนวย จนไปจบที่ทริปซอยตันหรรษาตอนสุ ดสัป ดาห์ ปัน่ ไปเชียงดาว ซัดไป 130 กิโลเมตร อร่อยเหาะ! ตอนนี้ยงั เป็ นช่วงปรับตัว กับรถและท่าทางใหม่ มันจะปวดโน่นเจ็บนี่ก็คงเพราะความไม่คุน้ ชิน (สมัยที่ ปัน่ จักรยานใหม่ๆ มันก็เป็ นกันทุกคนนัน่ แหละ) แต่สง่ิ ทีส่ งั เกตได้ชดั มากๆ ก็คอื อาการปวดหลังไม่กำ� เริบอย่างทีค่ ดิ ไว้แฮะ! ระหว่างทีป่ ระกอบรถนี่กงั วลสารพัด ว่าจะปวดหลังหนักแค่ไหน แต่พอมาปัน่ เข้าจริงๆ แลว้ ท่านัง่ มันไม่ได้โก่งตัว อย่างที่คิดเลย ทว่ามันคือการพับตัวลงโดยที่หลังยังอยู่ในท่าตรง ปลอดภัย สบายบรือ๋ ส่วนเพือ่ นบางคนให้ทศั นะว่ามันเป็ นแค่อาการเห่อรถใหม่เท่านัน้ 555 เอาเป็ นว่าตอนนี้ผมมีนดั ท�ำ Fitting ให้มนั กลายเป็ นรถไตรกีฬาแล ้ว... โปรดติดตามตอนต่อไปครับ... 11


S P E C I A L

มาเชี ย งใหม่ วิ่ ง ไหนดี เรื่อง : นายลูกช้าง ภาพ : นรวัฒน์ กุณามา

‘เชี ย งใหม่ ’ ถื อ เป็ น เมื อ งท่ อ งเที่ ย วอั น ดั บ ต้ น ๆ ของประเทศไทย ที่ เ พี ย บพร้ อ มไปด้ ว ยป่ า เขาล� ำ เนาไพร อาหารเหนือแสนอร่อย อากาศเย็นมากๆ ช่วงหน้าหนาวในทุกๆ ปี และผู้คนที่น่ารัก เป็นมิตร มีรอยยิ้มหวานตราตรึงใจ ให้แก่นักท่องเที่ยวหลายๆ คนที่ได้มาเยือน

เช่ น เดี ย วกับ การที่เ ชี ย งใหม่ เป็ น เมือ งที่มีง านวิ่ง เป็ น อัน ดับ ต้น ๆ ของประเทศไทย เรียกว่าอาทิตย์ไหนไม่มีงานวิ่ง ที่นนั ่ ไม่ใช่ เชียงใหม่แน่ ๆ และแน่ น อนว่ า ที่ มีง านวิ่ง เยอะแบบนี้ นัก วิ่ง ก็ ย่ อ มมีฝี เท้า ที่ ไ ม่ ธ รรมดา อย่ างแน่ นอน นักวิ่งเชียงใหม่ต่างมีการฝึ กซ้อมกันอย่ างเข้มข้นในรู ปแบบ ของตัว เอง ไม่ ว่ า จะเป็ น นัก วิ่ง สายถนน (Road Runner) หรื อ ว่ า เป็ น นักวิ่งสายป่ าเขาล�ำเนาไพร (Trail Runner) ต่างก็มกี ารฝึ กซ้อมกันตามแนวทาง ของตัวเอง วันนี้ผูเ้ ขียนขอพาผูอ้ ่านทุกท่านไปชมกันว่า จอมยุทธ์ชาวเชียงใหม่ ไปซุ่มฝึ กซ้อมกันทีไ่ หนบ้าง ไปดูกนั เลยครับ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

มหาวิ ท ยาลัย เชี ย งใหม่ เป็ นมหาวิ ท ยาลัย ชื่ อ ดัง อัน ดับ ต้น ๆ ของจังหวัดเชียงใหม่ และเป็ นมหาวิทยาลัยอันดับแรกๆ ของโลกทีอ่ ยูต่ ดิ ดอยสุเทพ มหาวิ ท ยาลัย แห่ ง นี้ แวดล อ้ มไปด้ว ยทรัพ ยากรธรรมชาติ อ ัน ดี ง าม และวิ ว ทิ ว ทัศ น์ อ ัน สวยสดงดงามมากมาย ที่ ท �ำ ให้น ัก วิ่ ง หลายๆ คน เพลิด เพลิน กับ วิว ระหว่ า งทางจนลืม ระยะทางที่ต นเองต้อ งการวิ่ง ไปเลย จุดเด่นของการมาวิง่ ทีม่ หาวิทยาลัยเชียงใหม่ คือ ‘หอนาฬกิ า’ ทีส่ ูงเด่นเป็ นสง่า และ ‘อ่างแก้ว’ ที่หนุ่ มๆ สาวๆ ชาวมหาวิทยาลัยชอบมานัง่ พักผ่อนกันที่น่ี กับเนินลูกระนาดมากมายที่ทำ� ให้แข้งขาสัน่ สะท้านไปตลอดเส้นทาง การมาที่ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่นนั้ ไม่ยาก สามารถเดินทางด้วยการนัง่ รถเมลล์สาธารณะ หรือนัง่ รถรับจ้างจากแทบทุกจุดจากในเมือง ตรงมายังมหาวิทยาลัยได้เลย ส่วนจุดหมายปลายทาง แค่บอกว่า “ไป มช. จ้าววว” เท่านัน้ คนขับก็รูเ้ รือ่ งได้ทนั ที! 12


เส้นทางออกก�ำลังกายเลียบคันคลอง - สนามกีฬา 700 ปี

เส้นทางนี้ เป็ นเส้นทางยอดฮิตส�ำหรับนักวิง่ ทีต่ อ้ งการพัฒนาฝี มอื ตัวเอง หรือแม้กระทัง่ ออกก�ำลังกายธรรมดาเพื่อสุ ขภาพ เพราะเส้นทางนี้ เดิมที เป็ นเส้นทางวิง่ ช่วงหนึ่ง และเป็ นเส้นปัน่ จักรยาน แต่ผูท้ ใ่ี ช้เส้นทางทัง้ คู่ต่างแบ่งปัน เส้น ทางกัน อย่ า งมีน�ำ้ ใจ ระหว่า งทางรายล อ้ มไปด้ว ยความเป็ น ธรรมชาติ และเส้นทางทีด่ ูปลอดภัย ท�ำให้นักวิง่ แต่ละคนทีม่ าวิง่ ทีน่ ่ี ต่างมาวิง่ ด้วยความมันใจ ่ และมีการท�ำเป้ าหมายในการวิง่ แต่ละครัง้ ค่อนข้างชัดเจน ส�ำหรับโซนของการ ออกก�ำลังกายก็จะค่อนข้างชัดเจน เช่น นักวิง่ เพือ่ สุขภาพ ก็มกั จะวิง่ บนเส้น เลียบคันคลองไปเรื่อยๆ ชมวิว สูดอากาศดีๆ ตลอดทางไปเรื่อยๆ เพือ่ สุขภาพ และวนกลับ มาจบที่เ ดิม ส่ ว นนัก วิ่ง เพื่อ พัฒ นาฝี เ ท้า ตนเอง อาจจะมีก าร ไปลงคอร์ท (การวิง่ เพือ่ พัฒนาความเร็ว) ซึง่ สนามกีฬา 700 ปี ก็จะมีสนามลูย่ าง ให้นกั วิง่ ทีต่ อ้ งการใช้งานสามารถใช้ได้ฟรีๆ เรียกว่าเพือ่ ประชาชนจริงๆ ใครมา ถูกช่วงถูกเวลา ก็จะเจอนักวิง่ ขาแรง วิง่ อยู่บนสนามลูย่ างอย่างดุดนั เสมอ ส�ำ หรับ เส้น ทางข้า งคัน คลอง นัก วิ่ง จะได้เ ห็น หอประชุม นานาชาติ และรูปปัน้ รูปแพนด้าตกแต่งอยู่ขา้ งทางอย่างน่ารักน่าชัง สามารถมาวิง่ พักผ่อน ถ่ายรูปเล่นได้อย่างสบายอารมณ์เช่นเดียวกัน ส่วนการเดินทางก็ไม่ได้ยากมากมาย ทางไปสนามกีฬา 700 ปี ถ้ามาจาก มช. ตรงเข้าเมือง เจอทางแยกทีเ่ ป็ นคันคลอง ให้เลี้ยวซ้ายเลียบคันคลองไปทาง ทิศเหนือเรื่อยๆ ก็จะเจอกับสนามกีฬา 700 ปี ได้ไม่ยากครับ ทีจ่ อดรถเยอะมาก แนะน�ำว่าขับมอเตอร์ไซค์มาจะสะดวกมากครับ ห้วยตึงเฒ่า – ลานเนินนุ่ม

เป็ นอีกทีห่ นึ่งทีด่ ูเหมือนจะเป็ นสนามวิง่ ธรรมดา แต่ถ ้าคุณมาถูกทีถ่ กู เวลา คุณก็จะเจอนักวิง่ ขาแรงระดับทีมชาติซมุ่ ซ้อมอยูท่ น่ี ่เี ป็ นล�ำ่ เป็ นสัน เพราะสนามวิง่ ทีห่ ว้ ยตึงเฒ่า เป็ นเส้นทางทีม่ ที งั้ เนิน ทัง้ ลูกระนาด ให้เราซ้อมกันได้เป็ นอย่างดี เลยทีเดียว เส้นทางห้วยตึงเฒ่า เคยถูกเอาไปใช้จดั การแข่งขันมาหลายครัง้ ทัง้ ๆ ที่ เป็ นสนามฝึ กซ้อม แต่นนั ่ ก็ไม่ได้ทำ� ให้นกั วิง่ เชียงใหม่เบือ่ แต่อย่างใด ยิ่งยาก มันยิง่ เป็ นความท้าทาย ใครมีโอกาสมาก็ควรแวะมาโดนสักครัง้ ปัจจุบนั อ่างเก็บน�ำ้ ห้วยตึงเฒ่า จังหวัดเชียงใหม่ ได้ถูกปรับปรุงให้มีชวี ติ ชีวามากขึ้นกว่าเดิม ทัง้ หุน่ ฟาง รูปคิงคอง ท�ำถนนใหม่ รวมไปถึงตรงทางเข้าจะมีลานกว้าง ทีจ่ ะเห็นแกะออกมา วิง่ เล่นกันเป็ นระยะๆ เรียกกันว่าเป็ น ‘ลานเนินนุ่ม’ ช่วงหลังๆ จะมีโชว์บอลลูน ทุกๆ ตอนเย็น ทีน่ ่ีจงึ เป็ นอีกหนึ่งสถานทีย่ อดฮิตส�ำหรับนักวิง่ ท้องถิน่ ไปในทันที การเดินทาง คล ้ายๆ กับการไปสนามกีฬา 700 ปี แค่ขบั ตรงไปต่ออีกสัก ประมาณ 3 กิโลเมตร คุณก็จะเจอทางเข้าอ่างเก็บน�ำ้ ห้วยตึงเฒ่าแล ้ว

เส้นทางจากเมืองเชียงใหม่ ขึ้นดอยปุย (เส้นทางเทรล)

นอกจากวิง่ ถนนแล ้ว นักวิง่ เทรลหลายๆ ท่านต่างก็ชอบมาซ้อมทีเ่ ชียงใหม่ อันเนื่องมาจากเชียงใหม่มี ‘ดอยปุย’ ดอยปุยคืออะไร? ดอยปุยคือยอดเขาอีกลูก ทีอ่ ยู่ถดั จากดอยสุเทพไปอีก ประมาณ 10 กิโลเมตร (ถนน) แต่ในขณะเดียวกัน ยังมีเส้นทางอีกมากมาย ทีจ่ ะท�ำให้เราไปพิชติ ยอดดอยปุยได้ โดยเส้นทางเหล่านัน้ จะเป็ นเส้นทางทีล่ ว้ น เริ่มต้นจากบริเวณตีนดอย ทีต่ ดิ กับทางสัญจรทัวไปของจั ่ งหวัดเชียงใหม่ ไม่ไกล จากตัวเมืองมากนัก เส้นทางเทรลของเชียงใหม่ ต่างเป็ นเส้นทางทีม่ คี ณ ุ สมบัตทิ ด่ี ี ในการฝึ กวิง่ เทรลทัง้ สิ้น ไม่ว่าจะเป็ นการ Uphill, Downhill หรือแม้กระทัง่ การวิง่ แบบ Technical Trail Running ทัง้ หลาย ต่างมีครบถ้วนในการวิง่ ไปให้ถึง ดอยปุยทัง้ สิ้น นักวิ่งเทรลท่านใดที่ลงงานแข่งเทรลไว้ ถ้ามีโอกาสได้มาวิ่ง ที่เ ชี ย งใหม่ ไม่ ค วรพลาดการวิ่ง ขึ้น ดอยปุ ย สัก ครัง้ ด้ว ยประการทัง้ ปวง เพราะเกือบตลอดเส้นทางเต็มไปด้วยร่มไม้ และไอเย็นจากทีส่ ูงตลอดทัง้ เส้นทาง ท�ำให้เส้นทางหลายสิบกิโลเมตรที่จะต้องเดินทาง อาจจะจบลงอย่างรวดเร็ว แบบไม่ทนั รูต้ วั เลยทีเดียว ส่วนเส้นทางไปดอยปุย หากไปครัง้ แรก แนะน�ำว่าควรหาบัดดี้ไปด้วย เพื่อความปลอดภัย แต่ หากต้องการไปคนเดียวจริงๆ ควรศึ กษาเส้นทาง อย่างละเอียดก่อนทุกครัง้ และน�ำเครื่องมือสือ่ สารไปด้วยเพือ่ ความปลอดภัย โดยนักวิง่ สามารถหาข้อมูลเพิม่ เติมเกีย่ วกับการวิง่ ได้จาก ร้านกาแฟ BASECAMP บริเวณถนนด้านหลังมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งทางร้านจะมีขอ้ มูลให้สำ� หรับ นักวิง่ เทรลทีต่ อ้ งการ หาซื้อ Garmin ในเชียงใหม่ได้ที่

K Love Phone, Sandy Health Shop, B2S, Power Buy, แผนกนาฬิ กา Robinson Airport ชั้น 3, Bike Express เชียงใหม่ สันทราย, AIS Shop Central Festival, Doctor Sport 13


T R I P

DON’T MISS LAMPANG

เริ่มจาก ‘กิ่วฝิ่ น’ จุดชมวิวทิวทัศน์ของเขตผืนป่ าอันอุดมสมบูรณ์ของ 4 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่, เชียงราย, ล�ำปาง และ ล�ำพูน ในอดีตจุดนี้ เคยเป็ นทีพ่ กั ของคาราวานพ่อค้าฝิ่ น กิ่วฝิ่ นสูงจากระดับน�ำ้ ทะเล 1,517 เมตร ในช่วงฤดูหนาวอุณหภูมบิ นยอดจึงอาจลดลงเหลือเพียง 3 - 4 องศาเซลเซียส ตามทางมีสนสามใบขึ้นทัว่ ไป จากกิ่วฝิ่ นเราจะได้ต่นื ตาตื่นใจกับสายหมอกขาว ทีป่ กคลุมทัว่ หุบดอย จนนึกว่าก�ำลังยืนอยู่ในความฝัน ช่วงหน้าฝนเป็ นฤดูกาล ทีน่ ่าออกไปท่องเทีย่ ว เพราะป่ าเขาจะเขียวขจี อากาศสดชื่นเย็นสบาย ถ้าโชคดี ก็จะได้เห็นวิวของทะเลหมอกอันงดงามอีกด้วย และเหมาะแก่ การไปเที่ยว พักผ่อน ซึง่ ต้องบอกว่าทีน่ ่ีสามารถเทีย่ วได้ตลอดทัง้ ปี ส�ำ หรับ ที่พ กั บนดอยกิ่ ว ฝิ่ นจะไม่ มีบ า้ นพัก ไว้ร องรับ นัก ท่ อ งเที่ย ว แต่สามารถติดต่อเจ้าหน้าทีอ่ ทุ ยานเพือ่ กางเต๊นท์ได้ หรือหากต้องการจะสัมผัส วิถชี วี ติ ชุมชน สามารถทีจ่ ะเดินทางต่อไปยัง ‘บ้านป่ าเหมี้ยง’ Slow Life ใจร่มๆ ณ บ้านป่ าเหมี้ยง หมู่บา้ นเล็กๆ ทีซ่ ุกตัวอยู่หลังทิวเขาในอ้อมกอดของผืนป่ า ผูค้ นหล่อเลี้ยงชีวติ ด้วยลมหายใจแห่งความสุขและวิถชี ีวติ พอเพียง กับการ ประกอบอาชีพเก็บใบชาป่ า น�ำมาแปรรู ปเป็ นของกินเล่นของคนภาคเหนือ ทีเ่ รียกว่า ‘เหมี้ยง’ หรือ ‘เมีย่ ง’ ในภาษากลาง จนเป็ นชือ่ หมูบ่ ้านว่า ‘บ้านป่ าเหมี้ยง’ เส้นทางสู่บา้ นป่ าเหมี้ยงใช้ทางหลวงหมายเลข 1252 ตัดผ่านผืนป่ า อันหนาทึบของอุทยานแห่งชาติแจ้ซอ้ น สองข้างทางมีหญ้าดอกขาวปลิวไหว ตามแรงลม ก่อนถึงหมูบ่ า้ นจะผ่านลานดอกเสี้ยว ซึง่ จะบานสะพรัง่ ในช่วงเดือน กุมภาพันธ์ - มีนาคม นี่จงึ เป็ นทีม่ าของการจัดงานเทศกาลวันดอกเสี้ยวบาน

เที่ ยว เ มื อ งต้ อง ห้ า ม พลา ด พลั ส ‘ล� ำ ปา ง ม่ ว น แต๊ ห น า ’ เรื่อง / ภาพ : ศมนภรณ์, มณีรัตน์, ททท. ส�ำนักงานล�ำปาง

่ HIP ตอบรับค�ำเชิญชวนของ ททท.ส�ำนักงานล�ำปาง เมือ ที่อยากชวนคุณมาเที่ยว! ทดลองเก็บใบเหมี้ยง ชิมอาหารพื้นบ้าน แสนอร่อย พักผ่อนในบรรยากาศธรรมชาติอันเย็นฉ�ำ่ ของผืนป่า แล้วดื่มด�ำ่ ความสุขแบบช้าๆ ให้เต็มอิ่ม กับเส้นทาง ‘เชียงใหม่ ้ ง – ดอกเสีย ้ วบาน - อุทยานแจ้ซอ แม่ออน - กิว่ ฝิ่น - บ้านป่าเหมีย ้ น - ดอยแม่แจ๋ม’ ในช่วงที่มีเทศกาลชมดอกเสี้ยว งานประจ�ำปีของ ชาวป่าเหมี้ยง จ.ล�ำปาง ขอบอกว่าเส้นทางนี้ถือว่าเป็น Unseen ที่อยากให้ทุกคนมาสัมผัสและอยากให้มากัน 14


เหมี้ยงทีน่ ่ไี ม่ใช่เมีย่ งค�ำ ของกินเล่นทีเ่ ราคุน้ เคย แต่หมายถึงชาพันธุอ์ สั สัม ซึง่ เติบโตในป่ าทีม่ ตี น้ ไม้ใหญ่ อากาศหนาวเย็นและความชื้นสูง ชาวบ้านท�ำเหมี้ยง สืบต่อกันมาเกือบ 200 ปี ตัง้ แต่สมัยปู่ย่าตายาย ฤดูกาลเก็บเหมี้ยงเริ่มตัง้ แต่ เข้าหน้าฝนไปจนหมดหน้าหนาว ราวเดือนพฤษภาคมจนถึงกุมภาพันธ์ การเก็บเหมี้ยงไม่ใช่เด็ดทัง้ ใบ แต่ให้ตดั โดยเว้นก้านใบเอาไว้ เพื่อให้ ใบเหมี้ยงได้หายใจ ไม่อย่างนัน้ ต้นจะไม่แตกยอด เน้นเก็บยอดสามใบแรกเท่านัน้ แม้วิถขี องเหมี้ยงคือลมหายใจของทีน่ ่ี แต่น่าเสียดายทีล่ มหายใจนี้กำ� ลังแผ่วลงไป ทุกที ด้วยปัจจุบนั เหมี้ยงไม่ค่อยเป็ นทีน่ ิยมอย่างทีผ่ ่านมา ชาวบ้านจึงน�ำพลับ และกาแฟพันธุอ์ าราบิกา้ มาปลูกทดแทนมากขึ้น ส่วนการท�ำเหมี้ยงเริ่มจากขัน้ ตอนการใส่ใบเหมี้ยงที่น่ึงแลว้ เรียงลง เป็ นแถววงกลมในถัง เติมน�ำ้ เปล่าแลว้ หมักไว้ 20 วันถึง 1 เดือน ขึ้นอยู่กบั ความอ่อนความแก่ของเหมี้ยง จากนัน้ น�ำขึ้นมาทุบเพือ่ ให้นุ่ม มัดส่งขายไปทัว่ จังหวัดในภาคเหนือ ลูกค้าส่วนใหญ่ยงั คงเป็ นคนอายุ 40 ปี ข้นึ ไปทีค่ ุน้ เคยกับ วัฒนธรรมการกินเหมี้ยงมาแต่ดงั้ เดิม นิยมอมเล่นเวลาหลังอาหารหรือท�ำงาน เพราะจะช่วยให้กระชุ่มกระชวย ไม่งว่ งนอน เรียกกันเล่นๆ ว่าเป็ น ‘โอเล่ดอย’ อยากจะให้ลองหยิบเหมี้ยงหนึ่งค�ำเข้าปาก รับรองว่ารสชาติสุดจะบรรยาย ทัง้ เปรี้ยว หวาน และฝาด หากไม่ลองแล ้วจะรูไ้ ด้ไง! ส�ำหรับของทีร่ ะลึกจากชุมชนแห่งนี้ นอกจากทีก่ ล่าวมาข้างต้นแล ้ว ยังมี หมอนใบชาเพื่อสุ ขภาพ ด้วยการน�ำใบเหมี้ยงแก่ แห้งท�ำเป็ นหมอนสีหวาน ภายใต้แบรนด์ ‘หมอนดอกเหมี้ยงหอมไก๋’ หรือ หอมไกล มีหลายแบบให้เลือก ทัง้ หมอนทรงธรรมดาไปจนถึงหมอนเล็กใช้แขวนในตูเ้ สื้อผ้า กลิน่ ใบเหมี้ยง หรื อ ใบชามีส รรพคุ ณ ช่ ว ยผ่ อ นคลายความเครี ย ดและช่ ว ยให้ห ลับ สบาย มี ข องที่ ร ะลึ ก ติ ด ไม้ติ ด มื อ กลับ บ้า นแล ว้ ที่ น่ี ย ัง มี ส่ิ ง ที่ ต อ้ งลอง หากไม่ได้ลองแสดงว่ายังไม่ถงึ ป่ าเหมี้ยง นัน่ ก็คือเมนู เด็ดต้องห้ามพลาดอย่าง ‘ย�ำใบเหมี้ยง’ ที่มมี าตัง้ แต่สมัยปู่ย่า ปัจจุบนั กลายเป็ นเมนู เด็ดที่จดั ต้อนรับ นักท่องเทีย่ ว ด้วยการเด็ดใบอ่อนปานกลาง ไม่ขมไม่แข็งเกินไป น�ำไปล ้างแล ้ว ซอยละเอียด ซอยหอมใหญ่ มะเขือเทศหัน่ ลู กเต๋า พริกขี้หนู ซอยละเอียด กระเทีย มสับ ละเอีย ดที่เ จีย วจนเหลือ งหอม ลงคลุก เคล า้ แล ว้ บีบ มะนาว เติมน�ำ้ ปลา จากนัน้ เทปลากระป๋ องคลุกเคล ้าให้เข้ากัน เพียงเท่านี้กจ็ า๊ ดล�ำ กับเมนู จานเด็ดน�ำ้ พริกเห็ดหอมสด และไส้อวั ่ อร่อยเหาะอย่าบอกใครเชียว

ที่บา้ นป่ าเหมี้ยงมีโฮมสเตย์ให้พกั หลายหลัง จัดการโดยคนในชุมชน ซึ่งต้องติดต่อมาล่วงหน้า เมือ่ จัดแจงน�ำสัมภาระเข้าเก็บในบ้านแลว้ ชาวบ้าน จะชวนสมาชิกเดินชมบรรยากาศภายในหมู่บา้ น ความที่ตงั้ อยู่เกือบใจกลาง อุทยานแห่งชาติแจ้ซอ้ น ที่น่ีจึงร่ มรื่นด้วยพรรณไม้หลากหลายชนิด ตัง้ แต่ ไม้นำ�้ เล็กๆ ทีพ่ ลิ้วไหวอยู่ในล�ำธารไหลเย็น ไปจนถึงไม้ใหญ่ขนาด 10 คนโอบ ผืนป่ ารอบบ้านป่ าเหมี้ยงจัดเป็ นป่ าต้นน�ำ้ ระดับ 1-A ของแม่นำ�้ วัง ซึ่งได้รบั การอนุ รกั ษ์จากชาวบ้านในลักษณะที่เอื้อประโยชน์ซ่ึงกันและกัน เพราะการ ท�ำเหมี้ยงต้องอาศัยร่มไม้ใหญ่ค่อนข้างหนาทึบในป่ าดิบเขา ที่ความสู งระดับ 900 - 1,400 เมตรจากระดับน�ำ้ ทะเล และระบบรากของเหมี้ยงต้องรับอาหาร และแร่ธาตุผ่านไมคอร์ไรซา (Mycorrhiza) เชื้อราชนิดหนึ่งทีเ่ กิดขึ้นเชื่อมโยง ระบบรากของต้นไม้ในป่ า ดังนัน้ การทีช่ าวบ้านดูแลรักษาป่ าให้มีความอุดมสมบูรณ์ ก็เท่ากับเป็ นการท�ำนุบำ� รุงแหล่งผลิตรายได้ของชุมชน กิจ กรรมส�ำ คัญ เมื่อ นัก ท่ อ งเที่ย วมาเยือ นที่น่ี คือ การเที่ย วป่ าเหมี้ย ง เจ้าของสวนจะน�ำไปพร้อมกับอุปกรณ์ครบมือ ไล่ไปตัง้ แต่ ‘ซ้า’ หรือตะกร้า ขนาดพอเหมาะส�ำหรับใส่ใบเหมี้ยงสะพายอยู่บนบ่า มีตอกเส้นเรียวบางเอา ไว้มดั เหมี้ยง มีดพร้าส�ำหรับฟันวัชพืช และ ‘ปอก’ (หรือปลอก) ซึ่งท�ำจาก แผ่นสังกะสีมว้ นคลา้ ยแหวนใส่ท่ีปลายนิ้ว ที่ปลายติดใบมีดโกนไว้ ใช้เก็บ ใบเหมี้ยง รวมทัง้ ‘ขอ’ ซึง่ เป็ นเชือกยาว ทีป่ ลายเชือกติดตะขอไม้ ใช้โน้มต้นทีส่ ูง ให้ตำ� ่ ลงจะได้เก็บง่ายขึ้น 15


จุดหมายต่อไปในเส้นทางนี้ คือ ‘ลานดอกเสี้ยว’ แล ้วดอกเสี้ยว คือดอกอะไร? ท�ำไมถึงต้องมาดู ? ต้นเสี้ยวเป็ นไม้ป่าพื้นเมือง มีดอกสีขาว 5 กลีบ กลีบใหญ่จะมีแต้มสีชมพู พบได้ตามเขต ภูเขาสู ง ส่วนมากจะเป็ นภาคเหนือ แต่ท่ปี ่ าเหมี้ยงแห่งนี้ถอื เป็ น แหล่งทีม่ ตี น้ เสี้ยวขึ้นตามธรรมชาติมากทีส่ ุด

เราเดินทางต่อไปยัง ‘อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน’ มีธารน�ำ้ แร่ทเ่ี ต็มไปด้วย โขดหิน ธรรมชาติท่ีส วยงามแทรกอยู่ ท่ า มกลางแอ่ ง น�ำ้ ร้อ น น�ำ้ แร่ ท่ีมี อุณหภูมสิ ู งถึง 70 - 80 องศาเซลเซียส สามารถแช่ไข่ให้สุกได้ภายใน 15 นาที ไข่จะมีลกั ษณะไข่แดงสุก ไข่ขาวสุกไม่แข็ง จะเหมือนมะพร้าวอ่อน น�ำมาปรุงเป็ น ‘ย�ำไข่แช่นำ�้ แร่’ เมนู อาหารถิน่ ขึ้นชื่อ แจ้ซอ้ นแห่งนี้มธี ารน�ำ้ จากน�ำ้ ตกแจ้ซอ้ นไหลมาบรรจบกับธารน�ำ้ ร้อน จากน�ำ้ แร่ จึงกลายเป็ น ธารน�ำ้ อุ่น ทางอุทยานฯ จึงได้สร้างทีอ่ าบน�ำ้ แร่มาตรฐานขึ้นเพือ่ ให้บริการ แก่นกั ท่องเที่ยว เป็ นสิ่งอ�ำนวยความสะดวกที่อยู่ในอุทยานฯ ได้อย่าง กลมกลืนกับธรรมชาติ มาทีน่ ่ีทเ่ี ดียวเทีย่ วได้ตลอดปี 16


ปิ ด ท้า ยด้ว ย ‘แม่ แ จ๋ม ’ หมู่บ า้ นกลางหุ บ เขาที่เ ต็ ม ไปด้ว ย ความสมบู รณ์ข องธรรมชาติ ตัง้ อยู่ ท่ีอ ำ� เมืองปาน จังหวัดล�ำปาง เป็ นหมูบ่ ้านทีถ่ อื ว่ายังคงใหม่มากส�ำหรับการท่องเทีย่ วของจังหวัดล�ำปาง ภายในหมู่บา้ นจะมีอตั ลักษณ์ทางการท่องเที่ยวหลายอย่างที่น่าสนใจ และพร้อ มจะให้น กั ท่ อ งเที่ย วได้เ ข้า มาชม ทัง้ ทางด้า นธรรมชาติ และศิลปวัฒนธรรม เริ่มต้นชิลๆ ด้วยการไปชมไร่ กาแฟที่ได้รบั รางวัลชนะเลิศ การประกวดกาแฟระดับโลกเลยทีเดียว โดยไร่กาแฟนี้จะตัง้ อยู่สูงจาก ระดับน�ำ้ ทะเลพอสมควร และมีพ้ นื ที่โดยรอบเป็ นป่ าเขาที่หอ้ มลอ้ ม ไร่กาแฟเอาไว้ ด้านบนไร่กาแฟจะมีโรงคัว่ กาแฟที่ชาวบ้านใช้งานอยู่ เป็ น ประจ�ำ ทุก วัน และมีก ารสาธิต การดริป กาแฟให้น กั ท่ อ งเที่ย ว ได้ชมิ แบบสดๆ จากโรงคัว่ ด้วย กาแฟมีรสชาติเข้มข้นและหอมกว่าทีอ่ น่ื อย่างเห็นได้ชดั ใครทีช่ อบทานกาแฟห้ามพลาด หลังจากนัน้ ถึงคิวชม สวนพริกหยวก และไร่สตรอเบอร์ร่ี ซึง่ ในช่วงนี้สตรอเบอร์ร่ยี งั คงพอมี ให้ได้ชมและชิมท่ามกลางขุนเขา นอกจากนี้แม่แจ๋มยังถือเป็ นอีกสถานที่หนึ่งที่นกั ท่องเที่ยว นิยมมาพักผ่อนในโฮมสเตย์ ด้วยบรรยากาศที่เย็นสบายตลอดทัง้ ปี ในเส้นทางนี้มอี กี ทีห่ นึง่ ทีอ่ ยากจะแนะน�ำ คือ ‘ไร่สวุ รรณ’ แหล่งท่องเทีย่ ว เชิ ง เกษตร ที่ น อกจากคุ ณ จะได้ร ับ การต้อ นรับ อย่ า งอบอุ่ น จากคนที่นนั ่ แลว้ ยังได้กินอาหารง่ายๆ ที่ใช้พืชผักผลไม้ในพื้นที่ ปรุงอาหาร และในตอนเช้ายังได้ออกไปเก็บแมคคาเดเมียกับบ๊วย อีกด้วย เรียกได้วา่ ถ้าได้ไปแล ้วจะต้องซื้อแมคคาเดเมียกลีบบ้านแน่นอน เพราะกรอบอร่อยมาก ถือเป็ นของดีของทีน่ ่ีเลย และนี่ คื อ อี ก หนึ่ ง เส้ น ทางเลื อ กเมื่ อ มาเยื อ นล� ำ ปาง ปลายทางฝั น ..... ทริ ป สุ ด ม่ ว นเมื่ อ มาล� ำ ปาง..... เมื อ งรอง ที่ต้องมาลอง..... แอ่วล�ำปางม่วนแต๊หนา 17


T R AV E L

LANGTANG จดหมายจากลังตัง เรื่อง / ภาพ : ชา ฮาร์โม

ต้ น มี น าคม วั น ที่ อุ ณ หภู มิ เ ชี ย งใหม่ สู ง ขึ้ น วั น ที่ ล าลี กู รั น ส์ เ ริ่ ม ผลิ ด อก วั น ที่ ล มหนาว เตรียมเดินทางไกล วันที่ฉันออกเดินทางอีกครั้งเช่นกัน…

เป็ นการเดินทางทีค่ ่อนข้างฉุกละหุก ไม่รูน้ กึ อะไรถึงได้มา หรือจริงๆ คงไม่ทนั ได้นกึ อะไรนัน่ ล่ะ เริ่มจากการพูดคุยทักทายไปยังไกด์เก่าเมือ่ ครัง้ เยือนเนปาลรอบก่อนทีค่ ่ายฐานอันนะปุรณะ เกริ่นไปว่าอยากไปเนปาลอีกรอบ อยากจะเดินเขาอีก เขาไหนก็ได้ มีแนะน�ำไหม ‘ซานโต้ส’ ไกด์เก่าเสนอว่า “พีช่ าย ลองเส้นทางหุบเขาลังตัง (Langtang Valley) ดูไหม น่าสนใจนะ” ก็รบั ปากไปแบบไม่คดิ เช่นเคย ได้ตารางแจกแจงรายละเอียดการเดินทางกลับมา พบว่าใช้เวลาเดินเท้าไป - กลับ 6 วันเท่านัน้ เอง โอเค สบายมาก กดจองตัวโปรฯ ๋ ไปเรียบร้อย เช้า นัน้ เจ็ด โมงครึ่ง ออกเดิน ทางโดยรถบัส ท้อ งถิ่น จากกาฐมาณฑุทท่ี ่ารถหน้าตลาดสดสักแห่ง เรา (ประกอบด้วย ฉัน, ซานโต้สและไกด์รุ่นน้องอีกคน) 3 คน รถวิ่งขึ้นเหนือ เฉียงไปทางตะวันออกมุง่ สู่ ‘ชยาพรู เบซี่ (Shyaphru Besi)’ หมูบ่ า้ นห่างไกลซึง่ จัดเป็ นหมูบ่ า้ นท้ายๆ ทีเ่ ส้นทางรถจะสามารถ เข้าถึงได้ ระยะทางจากกาฐมาณฑุไม่ถึง 150 กิโลเมตรดี แต่เพราะเส้นทางทีค่ บั แคบ ลัดเลาะหุบเหวไปเรื่อยๆ เริ่มจาก ทางทีแ่ ย่แล ้วก็ค่อยๆแย่ไปกันใหญ่ เป็ นหลุมเป็ นบ่อ บางจุดก็มี ล�ำน�ำ้ ตกเล็กๆ ไหลผ่าน บางจุดไหล่ทางทรุดจนน่ากลัว เราใช้เวลา

18

เดินทางกันเกือบ 10 ชัว่ โมง!! ค�ำ่ คืนนัน้ ทีช่ ยาพรูเบซี่ หลับตาลง ในถุงนอนหนาพิเศษกับอุณหภูมิ 10 องศา ช่างแตกต่างกับ เมือ่ วันก่อนทีเ่ ชียงใหม่เสียเหลือเกิน ทีน่ ่ีเข้าฤดูใบไม้ผลิ บ้านเราเข้าฤดูรอ้ น อุณหภูมทิ ไ่ี ทย ได้ขา่ วว่าเฉียด 38 องศา แต่เช้านี้ทน่ี ่ี 8 องศา ธงมนตร์ 5 สี ถูกผูกระโยงระยางตามถนน ผูค้ นเริม่ ต้นวันพร้อมกับสรรพสัตว์ นก, กา, หมา, ไก่ ผูค้ นแถวนี้เป็ นคนภูเขาทีม่ เี ชื้อชาติเดียวกัน กับชาวทิเบตหลังหิมาลัยที่กนั้ ไว้ ซึ่งมีลกั ษณะไม่เหมือนแขก แบบเนปาลทัว่ ไป ภาษาทีใ่ ช้กนั ในหมูบ่ า้ นก็เป็ นภาษาทิเบต


เราออกเดินกันหลังมื้อเช้า นาฬิกาที่น่ีเข็มสัน้ ยัง ไม่ถึง เลข 8 แต่ เ ข็ม สัน้ ที่เ ชีย งใหม่ค งเลยเลข 9 ไปแล ว้ เดิ น ได้ส กั พัก ก็ พ บกับ ซากปรัก หัก พัง ของ สิง่ ก่อสร้างต่างๆ ซานโต้สบอกว่านีแ่ หล่ะ “จากแผ่นดินไหว ครัง้ ใหญ่ทเ่ี นปาล พื้นทีแ่ ถบนี้ได้รับผลกระทบรุนแรงมาก” สะพานแขวนอันใหม่ทอดยาวเชื่อม 2 ฟากฝัง่ แม่นำ�้ ลัง ตัง ซานโต้สว่า “หลายสะพานแถบนี้ได้รบั ความเสียหาย บางจุดพอจะใช้ได้ก็ฝืนใช้ต่อไป อันไหนพังมากก็ตอ้ ง สร้างขึ้นมาใหม่ทบั อันเดิม” ก่อนจะเปลีย่ นเรื่องบอกว่า “อีก 2 วันจะมีงาน Shiwaratri หรือค�ำ่ คืนแห่งพระศิวะ ชาวฮินดู ในประเทศจากหลายๆ เมืองจะเดินทางมาที่ กาฐมาณฑุ เ พื่อ เฉลิม ฉลองและมีก ารละเล่ น ต่ า งๆ และคืนนัน้ พวกเราจะสูบกัญชาได้ ต�ำรวจไม่จบั เสียดาย ทีเ่ รา 3 คนต้องมาเดินอยู่กลางเขา” ไกด์ฮนิ ดูผูม้ รี อยสัก พระศิวะอยู่บนแผ่นอกเล่าแบบเสียดาย เพราะตัวเอง เป็ นคนก�ำ หนดวัน เองแต่ ลืม ดู ป ฏิ ทิ น ก่ อ นจะยิ้ ม แลว้ บอกว่า “ไม่เป็ นไรหรอก เดีย๋ วพวกเราไปฉลองกัน ระหว่างเดินนี่กไ็ ด้”

19


เดินๆมาก็เจอโรงเตีย๊ มชื่อ Bob Marley Guesthouse รอบตัวบ้าน มีแ ต่ ภ าพเขีย นบ๊อ บ มาร์เ ล่ย ์ ด้า นในห้อ งกิน ข้า วมีข อ้ ความจากเนื้ อ เพลง ของพีบ่ อ๊ บ ไม่แน่ใจว่าป้ าเจ้าของแกชื่นชอบพีบ่ อ๊ บมากมายขนาดนัน้ เชียวหรือ แต่ ท่ีแน่ ๆ รอบร้านมีตน้ กัญชาเยอะมาก ซานโต้สเข้าไปสัง่ ชาร้อนมาดื่มกัน ก่อนจะส่งไกด์ร่นุ น้องไปเดินเด็ดใบเด็ดกิง่ ต้นไม้แถวๆ นัน้ บอกว่า “นี่ละ่ วัตถุดบิ การเฉลิมฉลองของเรา” เส้น ทางเดิน วัน แรกของที่น่ี ใ ห้ค วามรู ส้ ึก เหมือ นการเดิน วัน กลางๆ ของเส้นทางไปค่ายฐานอันนะปุรณะ (ABC) ซึ่งเป็ นทางเดินขึ้นเสียส่วนใหญ่ เลาะเลียบแม่นำ�้ ลังตัง, แดดแรงแต่ อากาศเย็น เดินไปสักพักก็เหนื่อยร้อน พอหยุดสักพักก็ดนั หนาวอีก เลยต้องเดินๆ หยุดๆ เราใช้เวลา 5 ชัวโมง ่ ถึงทีพ่ กั คือ โรงแรมลามะ (Lama Hotel) เวลาประมาณบ่ายสาม อุณหภูมิ 12 องศา กลางแดดจัดและลมแรง สอบถามดูพบว่ามีนำ�้ อุ่นให้อาบซึง่ แน่นอนว่าเสียเงิน รีบอาบน�ำ้ สระผม ออกมาเปิ ดดูสญั ญาณอินเทอร์เน็ตในมือถือ คือ เงียบสนิท No Service ถามทีน่ ่ีวา่ มี WIFI ไหมจะส่งข่าวสารถึงคนทางบ้าน ก็ได้คำ� ตอบ ว่าไม่มี เปิ ดมือถืออีกครัง้ หวังจะหาเพลงในเครื่องฟังก็ไม่ได้โหลดไว้เลยสักเพลง แลว้ ความพลาดของการมาครัง้ นี้คือ ฉันไม่ได้หยิบหนังสือติดมือมาสักเล่ม!! เริ่มรูส้ กึ ได้วา่ ทริปนี้น่าจะมีความเงียบเยอะมาก ความบันเทิงเพียงหนึ่งเดียวของ 1 ลูกทัวร์กบั 2 ไกด์คอื ไพ่โกหก หรือวัยรุ่นเรียกคล่องปากว่าไพ่ตอแหลนัน่ ล่ะ นัง่ ตอแหลบ้างพูดจริงบ้างกันอยู่ 3 คนจนจบมื้อเย็น เดินออกมาฉลองให้พระศิวะ กันคนละค�ำสองค�ำ ก่อนแยกย้ายไปนอนหนาวบนทีน่ อนซึง่ อุณหภูมติ ำ� ่ ลงจาก เมือ่ คืนไปอีก 1 - 2 องศา

จากลามะโฮเต็ลเราออกเดินทางกันเช้าตรู่เช่นเคย พระอาทิตย์ยงั โผล่ไม่พ ้น เทือกเขาสูง สีสนั รอบตัวเลยเกือบจะเหมือนภาพขาวด�ำ เดินผ่านป่ าสนบนพื้นมีหมิ ะ ประปรายไปด้วยขี้ของสัตว์เคี้ยวเอื้อง ก้าวย่างไปอีกพักใหญ่ก็เจอตัวเจ้าของขี้ เหล่านัน้ วัวหน้าตาแปลกๆ วัวทีม่ ขี นยาวๆ ซานโต้สบอกว่าเป็ นลูกครึง่ ระหว่างวัว กับตัวแย็ก (จามรี) นัน่ ล่ะ เดีย๋ วขึ้นไปสูงๆ อีกสักนิดก็จะเจอเจ้าแย็กแล ้ว การมารอบนี้ถอื ว่าได้ใช้เวลาพูดคุยกับตัวเองเยอะมาก เพราะไม่มคี นไทย อยูใ่ นรัศมีนนั้ เลย ท�ำให้ไม่มเี หตุให้พูดคุยกับใคร กลุม่ เราก็มแี ต่ฉนั กับไกด์อกี 2 คน กลุม่ อืน่ ๆ เท่าทีพ่ อนับได้กไ็ ม่ถงึ 10 กลุม่ กลุม่ ละก็ไม่เกิน 5 คน คงเพราะเส้นทางนี้ ยังไม่เป็ นทีร่ ูจ้ กั เท่าเส้นทางอืน่ เช่น ABC หรือ EBC (ค่ายฐานเอเวอร์เรสต์) รวมทัง้ ช่วงเวลาทีฉ่ นั มานี่กย็ งั ไม่เข้าฤดูท่องเทีย่ วจริงๆ เพราะเพิง่ จะหมดหนาว การเดินเงียบๆ โดยไม่มใี ครให้พดู ไม่มเี สียงเพลงให้ฟงั สิง่ ทีไ่ ด้ยนิ มีเพียง ความคิดตัวเองผสมกับเสียงป่ าเขา, เสียงน�ำ้ ไหล, เสียงนกแปลกหน้า แลว้ ก็ พลันนึกถึงเพลง ‘Mountain sound’ ของ Of Monster and Men เพลงทีเ่ ธอ แนะน�ำให้ฉนั รูจ้ กั เคยฟังหลายทีแต่ก็ไม่เคยเปิ ดเนื้อเพลงอ่านดีๆ ท�ำนองหรือ ก็ เ ลือ นราง เพีย งเพราะบรรยากาศรอบตัว เท่ า นัน้ ล่ะ ที่น�ำ พาเพลงนี้ เ ข้า มา ในห้วงความคิด พยายามจะร้องก็จำ� ได้แค่ “Deep into the mountain sound” พอคิดถึงเพลงนี้ แน่นอน มันก็คดิ ถึงเธอต่อ... แวะกินข้าวเทีย่ ง ก็เป็ นพวกแป้ งเหมือนมื้อทีผ่ ่านมาและมื้อทีจ่ ะต้องเจอ ต่อไป รสชาติและกลิน่ เครื่องเทศทีแ่ ปลกดีตอนแรกๆ ผ่านไปสักพักก็ชกั ไม่ไหว ฉัน พอจะรอดไปได้แ ต่ ล ะมื้อ ก็ ด ว้ ยซอสมะเขือ เทศที่ช อบกิน มาตัง้ แต่ เ ด็ก หวานๆ เปรี้ยวๆ เจออะไรไม่อร่อยใส่ไปหน่อยก็รอดได้ ซานโต้สบอกว่าช่วงบ่าย 20


เราเดินอีกไม่เกิน 2 ชัว่ โมงก็จะถึง ‘ลังตัง (Langtang)’ แล ้วล่ะ ระหว่างนัง่ คุยกัน ก็เห็นคุณตาท่านหนึ่งเดินช้าๆ หมุนวงลอ้ มนตร์เจริญภาวนาแบบพุทธวัชรยาน ของทิเบต ซานโต้สเล่าว่าตาแกมีช่อื เสียงนะ แกเป็ นผูร้ อดชีวติ จากเหตุการณ์ แผ่นดินไหวครัง้ นัน้ แบบปาฏิหารย์ แกนัง่ อยู่ฝงั ่ นี้แต่แผ่นดินไหวแลว้ ดินถล่ม ลงมาใส่บา้ น แรงกระแทกดันแกกระเด็นข้ามแม่น�ำ้ ไปอยู่ บนต้นสนอีกฝัง่ ส่วนญาติ ทีอ่ ยู่บา้ นทางฝัง่ นี้หลายคนเสียชีวติ ‘ลังตัง’ หมู่บา้ นขนาดใหญ่ของชนพื้นเมืองเชื้อสายทิเบตที่หายไปจาก แผนทีช่ ่วงหนึ่งจากเหตุแผ่นดินไหวเมือ่ ปี 2558 ผูค้ นสูญหายไปกว่า 200 คน ‘ลังตัง’ เป็ นภาษาทิเบตแปลว่า ‘ลามะตามมา’ ในประวัติคือ มีลามะรูปหนึ่ง เดินตามตัวแย็กหรือจามรีมาก็ไม่รูต้ ามมาตัง้ แต่ไหน แต่ตามมาเรื่อยๆ ก็มาเจอ พื้นทีห่ ุบเขาติดแม่นำ�้ ดูเหมาะสมจะสร้างชุมชนอยู่ ก็เลยเกิดเป็ นหมูบ่ า้ นขึ้นมา ใครจะรูว้ า่ อีกหลายร้อยปี ต่อมาหมูบ่ า้ นนี้จะถูกถล่มไปเพราะธรณีพโิ รธ เราถึงลังตัง (หมูบ่ ้านทีถ่ กู สร้างขึ้นใหม่อยูเ่ ลยไปจากจุดเดิม) ก่อนก�ำหนด ประมาณเกือบชัว่ โมงเพราะทีมเราอันประกอบด้วยฉันซึง่ เป็ นคนเดินเร็วอยู่แล ้ว พอมาเจอ 2 ไกด์ทเ่ี ดินเร็วกว่าเลยพาลไม่ยอมกัน สุดท้ายเลยถึงปลายทางเร็วขึ้น เพียงแต่ มนั เหนื่อยเกินไป การถึงที่หมายรวดเร็วแต่ เหนื่อยเกินมันก็ไม่ได้ น่ายินดีอะไรมากมาย ค่อยๆ เดิน ลดความเร็วตัวเองลงมาใกล ้เคียงเพือ่ นร่วมทาง ทีแ่ ม้จะเดินช้ากว่าเราบ้าง แต่พอถึงจุดหมายยังไงมันก็เหงาน้อยกว่ามาถึงก่อน แต่ตอ้ งมายืนเหนื่อยหน่ายเดียวดายอยู่คนเดียว ทีน่ ่ียงั มีนำ�้ อุ่นให้อาบแต่ราคาก็สูงกว่าเมือ่ วานไปอีก ต้องรีบอาบตอนนี้ เพราะอากาศเย็นลงเรื่อยๆ หิมะเก่าไม่ทนั ละลายน�ำ้ แข็งหน้าใหม่ก็ก่อตัวขึ้น รู ก้ นั ว่ายิ่งอุณหภูมติ ำ� ่ ลงเท่าใดน�ำ้ อุ่นจะให้ใช้ก็ทำ� ยากขึ้นเท่านัน้ สุดท้ายแม้ น�ำ้ ธรรมดาก็จะกลายเป็ นน�ำ้ แข็งคาในระบบท่อและเราจะไม่มนี ำ�้ ใช้กนั จะท�ำ ธุ รกรรมใดในห้องน�ำ้ ก็ตอ้ งรีบท�ำกันตอนนี้ล่ะ เพราะค�ำ่ ไปจนพรุ่งนี้สายๆ ระบบน�ำ้ จะหยุดชะงัก ภายนอกลมแรง เมฆมากบังแสงแดด ระบบน�ำ้ อุน่ และไฟฟ้ า จากโซล่าเซลล์จงึ เริ่มมีปญั หาติดๆ ดับๆ ฉันเพิง่ จ่ายเงินซื้อไวไฟไป 500 รูปี หวังได้สง่ ข่าวหาแผ่นดินเกิดและหวังได้คยุ กับเธอหลังหายเงียบไปเกิน 48 ชัว่ โมง พอไฟดับทุกอย่างก็จบ รหัสไวไฟทีไ่ ด้มาก็เหมือนอักขระไร้ความหมาย ขอเงินคืน ก็ไม่ได้ เรา (3 คน) กลับมาเจอกันทีไ่ พ่ตอแหลเช่นเคย ร่วมชัว่ โมงจนไม่รูจ้ ะ ตอแหลกันไปถึงไหนได้แลว้ ก็จำ� ต้องออกมาสรรเสริญพระศิวะกัน แลว้ แยก ห้องใครห้องมันไปนอนแม้จะยังไม่งว่ งนัก ถ้าไม่นบั เมือ่ ครัง้ บวชพระ นี่น่าจะเป็ น อีกคราทีฉ่ นั ต้องร้องเพลงในใจให้ตวั เองฟังเพือ่ กล่อมตัวเองนอน

เช้าตรู่ออกเดินทางผ่านกองอิฐกองหินที่วางซ้อนเป็ นอนุ สรณ์ระลึกถึง ผูจ้ ากไปเพราะแผ่นดินไหว ซานโต้สบอกว่าให้เราเดินด้านขวามือของแนวอนุสรณ์ เหล่านี้คงเป็ นความเชือ่ อะไรสักอย่างของเขา ปลายทางของวันนี้อนั เป็ นจุดหมาย ของทริปอยู่ท่ี ‘กยานจิน กุมปา (Kyanjin Gompa)’ หมูบ่ า้ นสุดท้ายปลายทาง ซีกประเทศด้านนี้ เพราะเลยไปอีกนี่ก็ไม่มใี ครอาศัยอยู่แลว้ ถ้าอยากจะเดิน เลยไปจากนี้กต็ อ้ งพกเต๊นท์พกอาหารไปกางเต๊นท์ทำ� อาหารการกินกันเอง มีคน ไปบ้างก็เพือ่ จะปี นไปซัมมิทยอดเขาทางนัน้ เราใช้เวลาแค่ ครึ่งเช้าไม่ถงึ 3 ชัว่ โมงดีก็มาถึงที่พกั วันนี้ซ่งึ แปลกจาก ทุกวัน เพราะเป็ นตึก 4 ชัน้ ห้องพักอยู่ 3 ชัน้ ล่าง ห้องครัวห้องกินข้าวอยู่ชนั้ 4 เดินขึ้นไปอีกเป็ นดาดฟ้ าวิวสวยงามมาก ‘ยิ่งสู งยิ่งหนาว’ เป็ นวลีท่ีจริงมาก โดยเฉพาะกับ ภูมิป ระเทศและภูมิอ ากาศเช่ น นี้ บนดาดฟ้ านี้ ย ามบ่า ยแดด เปรี้ยงแต่อยู่ท่ามกลางเทือกเขาหิมะ พวกเรานัง่ หนาวจิบชาร้อนพร้อมฉลอง ให้พระศิวะเหมือนทุกวันทีผ่ ่านมา (เลยมาหลายวันแล ้วพวกเราก็ยงั คงฉลองกัน เมือ่ สบโอกาส) ท้องฟ้ าเป็ นฟ้ าเข้ม เมฆกับหมอกอยู่ดว้ ยกันในความสูงระดับนี้ ที่ยากจะแยกแยะจากกันว่าอันไหนเมฆอันไหนหมอก ต่างเกาะเกี่ยวปกคลุม ยอดเขาหิมะ หลังบทสนทนาแลกเปลีย่ นเรื่องราวของไทยและเนปาล คนเนปาล หันไปคุยกัน คนไทยคนเดียวหันหาความเงียบ ยามนี้ถา้ มีหนังสือหนาๆ สักเล่ม คงเป็ นช่วงบ่ายทีว่ เิ ศษสุด แต่ในเมือ่ ฉันไม่ได้หยิบอะไรมาเลย จะหาอะไรอ่าน ในมือถือก็ไม่มอี นิ เทอร์เน็ต สุดท้ายเลยได้อ่านความคิดตัวเองโดยการเขียนอะไร สะเปะสะปะลงไปในสมุดบันทึก พลบค�ำ่ อีกครัง้ หลังมื้อเย็นและแน่นอนหลังวงไพ่ตอแหล ซานโต้สบอก “พรุ่งนี้เช้าเราจะเดินขึ้นยอด ‘กยานจิน รี (Kyanjin Ri)’ ไปดูววิ กัน เดินไม่นาน แต่มนั ชันเหมือนกันนะพีช่ าย รีบนอนได้แล ้ว” 21


เดินออกมาหลังที่พกั นิดเดียวก็พบเนินเขาและรอยเท้ามากมายบนพื้น หิมะทอดยาวขึ้นไปบนเขา คะเนด้วยสายตาก็บอกได้วา่ ไม่ธรรมดา ซานโต้สว่า “ความสูงของยอดกยานจินรีคอื 4,400 เมตร สูงกว่า ABC อีกนะ” ตัวเลขเหล่านี้หาไม่ยากในกูเกิล คงเหมือนกับอีกหลายข้อมูลไม่วา่ จะภาพ นิ่ง, ภาพเคลือ่ นไหว, เสียง หรืออะไรอีกมากมายทีเ่ ราสามารถหาได้จากหน้าจอ มือถือ แต่ก็ยงั ยืนยันอยู่เสมอว่า การทีเ่ ราได้มาสัมผัสกับของจริงๆ ตรงหน้า ทุกสิง่ ทีเ่ กิดขึ้นกับสัมผัสทัง้ หมด มันส่งผลต่ออารมณ์ความรูส้ กึ ก่อให้เหตุการณ์ ณ ช่วงเวลานัน้ ถูกบันทึกเป็ นความทรงจ�ำหรือประสบการณ์ส่วนตัวของใคร ของมัน ภาวะแห่งการหยัง่ คิดอะไรบางอย่างทีม่ นั เกิดขึ้นเองมันก็เป็ นของมันเอง จริงๆ อ่านหนังสือทีพ่ ดู ถึงสภาวะนี้มากี่เล่มก็ไม่เหมือนการได้มาเจอด้วยตัวเอง แต่ ล ะก้า วบนทางหิม ะสู ง ชัน นอกจากจะเรียนรู ต้ ามผู ท้ ่ีเ ดินน�ำหน้า ส�ำคัญไม่แพ้กนั คือสติตนเอง หินก้อนไหนไม่มนั ่ คงอย่าไปเหยียบ, พื้นหิมะ ที่เกาะเป็ นน�ำ้ แข็งและละลายเหยียบไปจะลื่น, หิมะตกใหม่เหยียบได้ไม่ล่นื แต่ไม่รูว้ ่าข้างล่างมันจะกลวงทะลุลงไปหรือเปล่า สังเกตจากผูม้ ปี ระสบการณ์ ประกอบกับรักษาสติของตัว น่ าจะท�ำให้ตนเองเกิดการเรียนรู ้ ไม่ว่าจะเป็ น การเดินทางบนเส้นทางไหน หรือแม้แต่เส้นทางชีวติ ก็ดว้ ย ถ้า ใครเคยเดิ น ที่ด อยม่ อ นจองต้อ งเคยขึ้น เนิ น หมาหอบ ทางขึ้น ยอดกยานจินรีก็คลา้ ยแบบนัน้ ล่ะ แต่เหมือนเจอเนินหมาหอบ 5 อันต่อกัน ช่วงท้ายก่อนถึงยอดทางสูงชันและแคบลง 2 ข้างซ้ายขวาเป็ นหุบเหว ใครเป็ น โรคกลัวความสูงจะล�ำบาก ใช่ ฉันล�ำบากเพราะฉันกลัวความสูง กลัวมาแต่เด็ก และกลัว มากด้ว ย แต่ ห ลายครัง้ เมื่อ พาตัว เองไปอยู่ ใ นจุด ที่เ รากลัว มากๆ แต่ทำ� อะไรไม่ได้นอกจากเผชิญหน้ากับมัน ไม่ใช่วา่ อยูด่ ๆี ก็กล ้า แต่เมือ่ เลือกอะไร ไม่ได้ สุดท้ายเราก็ตอ้ งผ่านมันไปให้จนได้ บ่อยๆ เข้าเวลาเจอหน้ากับมันอีก ความกลัวจะลดลง ไม่ถงึ กับหายหมด แต่ภมู คิ ุม้ กันมันสูงขึ้นได้จริงๆ

เดินไต่กนั สักพักก็มาถึงยอดเขา ทิวธง 5 สีมที งั้ เก่าใหม่ถกู ผูกโยงกับเสา และโขดหิน ทิวทัศน์รอบตัว 360 องศาคือแผ่นฟ้ าเข้ม เทือกเขาหิมะขาวโพลน ทุกสิง่ แลดูยง่ิ ใหญ่ ยิง่ ใหญ่เกินกว่าชีวติ มนุษย์เราหลายหมืน่ พันเท่านัก “ขึ้นไป ในท้อ งฟ้ ากว้า ง เที่ย วไปบนผืน น�ำ้ บ้า ง แผ่ น ดิน ยัง มีเ ส้น ทางอีก มากมาย ให้เธอก้าวไป ทบทวนความจริงความฝันเพือ่ รูว้ า่ มันส�ำคัญเท่าไหร่ ให้เธอเข้าใจ ความหมายของการได้มชี ีวติ อยู่” เพลงที่ฉนั เขียนให้ตวั เองร้องให้ตวั เองฟัง เมื่อหลายปี ก่อนช่ วงเริ่มออกเที่ยวเดินทางดังขึ้นในใจ ตอกย�ำ้ ทัง้ ภาพจริง ตรงหน้ากับภาพฝันในสมอง ซึมซับบรรยากาศตรงนัน้ อยู่พกั ใหญ่ 4,400 เมตร จากระดับน�ำ้ ทะเล ไม่ใช่ไม่สูง แต่มองไปรอบๆ พบว่ายังต้องได้เงยหน้าขึ้นมองอยู่ ใช่ เพราะเทือกเขาเหล่านัน้ สู งกว่า 7,000 เมตร มีท่ีท่ีสูงกว่าให้มนุ ษย์เรา ขึ้นไปพิชติ อยู่เสมอ ใช่จริงๆ แต่เขาสูงแค่ไหนทีค่ นเราไปพิชติ ได้ ท้ายสุดท�ำได้ เพียงปักธงและถ่ายรู ปก่อนต้องเดินกลับลงมา ก็ใครมันจะไปอยู่บนยอดเขา ได้ตลอดไปกันล่ะ เดินลงกลับมาที่พกั ตามก�ำหนดเดิมเราจะต้องอยู่ท่นี ่ีอกี คืนเพือ่ พรุ่งนี้ จะไปเดินขึ้นยอดเขาอะไรแถวๆ นัน้ อีกสักยอดนัน่ ล่ะ ซานโต้สบอกว่า “ก็สูงกว่านี้ นิดหน่อย พีช่ ายอยากไปไหม?” มาใคร่ครวญดูแล ้ว ท�ำไมกูตอ้ งไปขึ้นยอดเขา อะไรบ่อยๆ 2 วันติดกันนะ รวมกับเหตุผลว่าสมควรแก่เวลาแล ้วทีจ่ ะได้ตดิ ต่อกับ เพือ่ นมนุษย์ร่วมภาษาไทยด้วยกันบ้าง คืออยากออกไปหาสัญญาณอินเทอร์เน็ต แล ้วนัน่ ล่ะ เลยบอกซานโต้สว่าเราเดินกลับกันเลยดีไหม เผือ่ จะกลับเข้ากาฐมาณฑุ เร็วกว่าก�ำหนด 1 วัน ทุกคนเห็นด้วย เพราะยิง่ เราเดินย้อนไปใกล ้ทางนู น้ อุณหภูมิ ทีเ่ ราจะด�ำรงชีวติ ก็จะสูงขึ้นอีกหน่อย จะอุ่นขึ้นสบายตัวกว่าอยู่หนาวๆ แถวนี้ 22


เวลานี้ขอเพียงให้ไอ้รถคันนี้มนั พาฉันไปถึงปลายทางอย่างปลอดภัยนัน่ ก็พอแล ้ว พอแล ้วจริงๆ จากทีท่ กุ ข์ไปกับปัญหาทีจ่ ติ ใจสร้างขึ้นมาเอง พอเทียบกับเรื่องจริง ตรงหน้า เรื่องทีไ่ กลออกไปกลายเป็ นดูเล็กลง เหลืออย่างเดียวคือขจัดความกลัว ตรงหน้า โดยพยายามมองหาความสวยงามอย่างอืน่ จากสองข้างทาง ผูค้ น ฝูงวัว สรรพชีวติ ทีด่ ำ� เนินเคลือ่ นไปรับรู ้ ค่อยๆ ผสานไปกับเรื่องราวรอบตัว ก็พอจะ ลดละความกลัวลงไปได้ในช่วงเวลานัน้ “ช่ วงเวลาหนึ่ ง มากมายในใจ ไม่เสียดาย จะดีหรือร้ายไม่เ ป็ นไร” ความสัมพันธ์ก บั การเดินทางคล า้ ยกันก็ตรงนี้ บางความสัมพันธ์ห รือบาง การเดินทาง เราก็ไม่รูว้ า่ จริงๆ แล ้วปลายทางมันจะสวยงามตามทีค่ าดไว้แต่แรก หรือเปล่า ไม่ว่าเส้นทางจะสัน้ หรือยาว สุดท้ายของความสัมพันธ์จะเป็ นเช่นไร แต่ตราบที่ระหว่างทางนัน้ มันสวยงามและน�ำมาซึ่งความสุขใจ นัน่ ก็พอจะเป็ น เหตุผลให้เรายังจะเดินทางต่อไป อีก ไม่ ก่ี ว นั เราก็ จ ะได้พ บกัน แล ว้ ก็ เ ท่ า ที่เ รายัง หายใจ ชี วิต ก็ ต อ้ ง ด�ำเนินต่อไป การเดินทางมาลังตังครัง้ นี้กส็ ้นิ สุดลง แต่การเดินทางของเรา 2 คน เพิง่ จะเริ่มต้นขึ้น เมือ่ ลมหนาวเดินทางกลับมาอีกครัง้ … ถึงวันนัน้ เรา 2 คนจะเป็ นอย่างไรกันบ้างนะ

ขากลับเราใช้เวลาน้อยกว่าตอนแรก เดินแค่ 2 วันก็ถงึ ชยาพรูเบซี่ วันเวลา เดินของมันไปอย่างซื่อสัตย์ 1 เดือนก่อนจะเดินทางยังรู ส้ กึ ว่ามันยังอีกนาน จนวันเดินทางก็รูส้ กึ ว่า 10 วันเลยนะเนี่ยทีเ่ ราจะต้องห่างกัน ก่อนหน้านัน้ 10 วัน ระหว่างเรามันไม่ได้นานขนาดนี้ เวลาเป็ นปริมาณสัมพัทธ์จริงๆ ยามที่เรารอ บางอย่าง เวลามันก็จะนานกว่าเป็ นธรรมดา ช่วงเวลาใดจะมีความหมายอย่างไร ก็อยู่ทช่ี ่วงเวลานัน้ เกิดเหตุการณ์ใดกับเรา เหตุการณ์นนั้ จะสร้างประสบการณ์ แบบไหน กลับ กลายเป็ น ความทรงจ�ำ ที่ดีห รือ บทเรีย นที่ร า้ ย ก็ มีแ ต่ เ วลา และเรานัน่ ล่ะทีจ่ ะบอกได้ บนรถบัสเส้นทางเดิมที่ลดั เลาะหุบเหวลึก “โปรดอย่ามัวช้ายังไม่สาย มอบจิตมันหมายเคล ่ ้าเคลียคลอ” เพราะสัญญาณอินเทอร์เน็ตทีโ่ ผล่มาเป็ นระยะ ท�ำให้ iTunes ทันโหลดเพลงนี้ของ ดิ อิมพอสซิเบิ้ลได้พอดี เลยท�ำให้มเี พลงฟัง ซ�ำ้ ๆ อยู่ 1 เพลง อิมพอสซิเบิ้ล ตอนแรกก็คดิ ว่ารักของเรามันคงเป็ นไปไม่ได้ ฉันก็คดิ เธอก็คดิ แต่ตอนนี้กเ็ ป็ นไปแล ้ว แต่ยงั มีหลายเรื่องราวทีก่ ่อความกังวล สับสนในใจ ส่วนใหญ่เป็ นเรื่องจากอดีต อีกส่วนใหญ่เป็ นเรื่องอนาคต มีเพียง ส่วนน้อยทีเ่ ป็ นปัจจุบนั สมองและหัวใจทีม่ กั พามันมาก่อกวนปัจจุบนั ฉันก�ำลัง นัง่ อยู่ในรถบัสบนถนนที่น่ากลัว แต่ใจกลับกังวลไปถึงเรื่องราวแสนห่างไกล อยู่ตรงไหนไม่รู ้ พอดึงจิตกลับมาตรงนี้ตอนนี้ รถที่เลาะขอบเหวกับคนขับ ผูข้ บั รถมือเดียวพร้อมโทรศัพท์คุยตลอดเวลา ตาก็เหมือนไม่มองถนน ความสูง ระดับนี้ร่วงลงไปก็คงหมดสภาพ หลายความกังวลใจก็คงหมดสภาพไปด้วย เช่นกัน คิดได้ดงั นัน้ ฉันจะไปกลัวอะไรมากมายกับอะไรทีม่ นั ไม่ได้อยูต่ รงนี้กนั นะ

ข้อมูลคร่าวๆ

Langtang Valley, Kyanjin Gompa อาจยังไม่เป็นที่นิยมเท่า ABC หรือ EBC แต่ ด้ ว ยระยะทางและระยะเวลาที่ ใ ช้ ไ ม่ ม ากเมื่ อ เที ย บกั บ วิ ว ทิ ว ทั ศ น์ ท่ี จ ะได้ เ จอ ในแต่ ล ะวั น ปลายทางที่ ห มู่ บ้ านกยานจิ น กุ ม ปาก็ มี ย อดเขาให้ ปี น ขึ้ น ไปชมวิ ว เทือกเขาหิมะรอบตัว 360 องศาด้วย เวลาเดินเท้าไป - กลับ 5 วัน, การเดินทาง จากกาฐมาณฑุท่ส ี ะดวกกว่า (จริงๆ เส้นทางก็โหดร้ายอยู่ดี), ที่พักระหว่างทาง ที่ดูจะหลับนอนได้สบายกว่า ยกเว้นเรื่องไฟฟ้าและอินเทอร์เน็ต จึงขอแนะน�ำ เส้นทางนี้ให้ส�ำหรับผู้อยากลองเดินเขาหิมะในเนปาลเล่นดูบ้างครับ

เพลงประกอบทริปที่วิ่งเข้ามาในหัวระหว่างเดิน เพลง เพลง เพลง เพลง

23

‘Mountain Sound’ ของ Of Monster and Men ‘ออกไปบ้าง’ ของ ชฮม. ‘รักกันหนอ’ ของ ดิ อิมพอสซิเบิ้ล ‘ช่วงเวลาหนึ่ง’ ของ สุขเสมอ


C H I N A

T A L K

อ้ายจงเล่าจีน ตอน

ความพยายามของจีนอย่างหนัก เพื่ อก้าวเป็นผู้น�ำด้าน AI : ปัญญาประดิษฐ์ ของโลก เรื่อง : ภากร กัทชลี ภาพ : 7 nation homie

ปัญญาประดิษฐ์ (AI : Artificial Intelligence) เป็นเทคโนโลยีทเ่ี ริม ิ ประจ�ำวัน ่ เข้ามามีบทบาทกับชีวต ของเรามากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในช่วงยี่สิบปีมานี้ โดยเริ่มแรก เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ได้รับ ความสนใจทั้งด้านวิจัยและพั ฒนาอย่างมากในประเทศสหรัฐอเมริกาและแถบทวีปยุโรป ดังจะเห็น ทั้ ง ในชี วิ ต จริ ง และในโลกของภาพยนตร์ ที่ ห นั ง ประเภทวิ ท ยาศาสตร์ Sci-Fi จะมี ฟ ีเ จอร์ ปัญญาประดิษฐ์อยู่เสมอ อย่างเช่น ภาพยนตร์เรื่อง A.I. Artificial Intelligence ที่ฉายในปี 2001 ที่ยังคงเป็นภาพยนตร์อันดับต้นๆ ที่ผู้สนใจปัญญาประดิษฐ์จะนึกถึงอยู่เสมอ

ในปัจจุบนั ปัญญาประดิษฐ์ ไม่ได้ถกู พัฒนาอยูแ่ ต่ในประเทศสหรัฐอเมริกา และแถบทวีปยุโรปเท่านัน้ แต่มาอยู่ในภูมภิ าคเอเชีย อย่างประเทศจีน โดยจาก รายงาน ‘TOP AI Trends to Watch In 2018’ รายงานเกี่ยวกับเทรนด์ ปัญญาประดิษฐ์ท่ีน่าจับตามองมากที่สุดในปี 2018 ของ CBINSIGHTS บริษทั วิจยั ด้านการลงทุนใน Startup สัญชาติอเมริกา ระบุวา่ จีนมีการจดสิทธิบตั ร ทีเ่ กีย่ วข้องกับปัญญาประดิษฐ์นำ� หน้าอเมริกาไปแล ้วในปี 2017 ซึง่ ทีเ่ กีย่ วข้องกับ ‘Deep Learning’ อัตราส่วน 652:101, ‘Artificial Intelligence’ อัตราส่วน 641:130 และ ‘Machine Learning’ อัตราส่วน 882:770 และในรายงานนี้ยงั ระบุว่า กลุม่ ทุนจากประเทศจีนลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพปัญญาประดิษฐ์คดิ เป็ นสัดส่วน สูงถึงร้อยละ 48 ของการลงทุนธุรกิจสตาร์ทอัพปัญญาประดิษฐ์ทวั ่ โลก จากการศึกษาข้อมูลของผูเ้ ขียนพบว่า เบื้องหลังการพัฒนาเทคโนโลยี ปัญ ญาประดิษ ฐ์ใ นจีน จนเติบ โตอย่ า งก้า วกระโดดนัน้ มีจำ� นวนสิท ธิบ ตั ร ปัญ ญาประดิ ษ ฐ์ม ากกว่ า ในประเทศสหรัฐ อเมริ ก า ผู เ้ ริ่ ม ต้น เทคโนโลยี ปัญญาประดิษฐ์ มากกว่า 3 เท่าตัว จนท�ำให้สทิ ธิบตั รโดยรวมทีเ่ กี่ยวข้องกับ ปัญญาประดิษฐ์มจี ำ� นวน 15,745 ชิ้น ครองอันดับ 2 ของโลก ในปี 2017 ซึ่ง เป็ น ผลมาจากการสนับ สนุ น ของรัฐ บาลจี น ที่ด �ำ เนิ น นโยบายพัฒ นา ปัญญาประดิษฐ์ในประเทศจีนโดยจ�ำเพาะเจาะจง

ปี 2017 ปั ญ ญาประดิ ษ ฐ์ไ ด้เ ข้า มาอยู่ ใ นรายงานการท�ำ งาน ของรัฐบาลเป็ นครัง้ แรก ในการประชุมสองสภา ซึง่ ถือเป็ นการประชุมทางการเมือง ทีส่ ำ� คัญทีส่ ุดของประเทศจีน โดยข้อมูล ณ ตอนนัน้ ระบุวา่ ปี 2016 อุตสาหกรรม ปัญญาประดิษฐ์ของจีนเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด เพิ่มขึ้นจากปี ก่อนหน้า ร้อยละ 43.3 สร้างเม็ดเงินกว่าหนึ่งหมืน่ ล ้านหยวน (ประมาณห้าหมืน่ ล ้านบาท) และคาดว่าจะสูงถึง 3.4 หมืน่ ล ้านหยวนในปี 2019 นอกเหนือจากนัน้ จากแผน นโยบายระดับ ชาติ ใ นการพัฒ นาอุ ต สาหกรรมหุ่ น ยนต์ข องจีน ที่จ ดั ท�ำ ขึ้น ในปี 2016 ก่อให้เกิดศู นย์อุตสาหกรรมหุ่นยนต์กว่า 40 แห่งทัว่ ประเทศจีน ซึ่ ง ปัญ ญาประดิ ษ ฐ์ถื อ เป็ นเทคโนโลยี ส �ำ คัญ ในอุ ต สาหกรรมหุ่ น ยนต์ จากเหตุผลข้างต้นและปัจจัยอื่นๆ ในแง่ของการแข่งขันทางเศรษฐกิจและ อุตสาหกรรมเทคโนโลยีกบั นานาประเทศ โดยเฉพาะอเมริกา ท�ำให้ทางรัฐบาลจีน เห็นความส�ำคัญของการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ นายว่าน กัง รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของจีน จึงประกาศว่า จะจัดท�ำแผนนโยบาย การพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ของประเทศจีนขึ้นมา

24


ความจริงแล ้ว ปัญญาประดิษฐ์ได้เริ่มเข้ามาอยู่ในแผนนโยบายระดับชาติ ของจีน ตัง้ แต่ในปี 2006 เมือ่ คณะรัฐบาลได้ประกาศแผนพัฒนาวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยีระดับชาติ ระยะกลางและระยะยาว ปี 2006 - 2020 โดยก�ำหนดให้ ปัญญาประดิษฐ์เป็ นหนึ่งในเทคโนโลยีทต่ี อ้ งมีการศึกษาและพัฒนา เพือ่ น�ำไปสู่ การสร้าง Smart Sensors, Smart Robots และเทคโนโลยีเสมือนจริง ภายในปี 2020 หลัง จากปัญ ญาประดิษ ฐ์ไ ด้เ ข้า มาเป็ น เทคโนโลยีส ำ� คัญ ที่มีบ ทบาท อย่างมากของจีน จนถูกเน้นย�ำ้ ในรายงานการท�ำงานของรัฐบาลทีน่ ายกรัฐมนตรี หลี่ เค่อเฉียง รายงานต่อทีป่ ระชุมสองสภาเมือ่ เดือนมีนาคม พ.ศ. 2560 กระแส ของปัญญาประดิษฐ์ในจีนถูกพูดถึงอย่างต่ อเนื่อง โดยราวเดือนกรกฎาคม ปี เดียวกัน สภาจีน (The State Council) ได้ออกกลยุทธ์ปญั ญาประดิษฐ์ โดยมีเป้ าหมายเพือ่ ผลักดันให้มีการพัฒนาแกนหลักอุตสาหกรรมปัญญาประดิษฐ์ ในจีน โดยคาดการณ์วา่ จะสามารถสร้างเม็ดเงินได้มากกว่าหนึ่งลา้ นลา้ นหยวน (ประมาณห้าล ้านล ้านบาท) มากกว่าตัวเลขในปี 2016 ถึง 100 เท่า และเทคโนโลยี ปัญญาประดิษฐ์จะสร้างเม็ดเงินให้กบั ธุรกิจทีเ่ กี่ยวข้อง ทะลุสบิ ลา้ นลา้ นหยวน ภายในปี 2030 จากการศึ ก ษาเกี่ ย วกับ นโยบายการท�ำ งานของประเทศจี น และ ประสบการณ์ของอ้ายจงในฐานะทีอ่ ยู่ในจีนเกือบ 10 ปี ท�ำให้ทราบดีวา่ ก่อนที่ รัฐบาลจีนจะออกนโยบายใดก็ตาม จะมีการศึกษาค้นคว้าหาจุดเด่นจุดด้อย อย่างละเอียดและรัดกุมให้มากทีส่ ุดเท่าทีส่ ามารถท�ำได้ กลยุทธ์ปญั ญาประดิษฐ์ ทีท่ างสภาจีนได้ออกมาในครัง้ นี้ก็เช่นกัน โดยทางสภาจีนระบุวา่ ปัญหาของจีน ในขณะนัน้ ที่อาจจะท�ำให้เป้ าหมายที่ตงั้ ไว้ไม่สามารถส�ำเร็จ ได้แก่ ข้อมูล ซึง่ เป็ นสิง่ จ�ำเป็ นทีต่ อ้ งใช้ในงานปัญญาประดิษฐ์

อุตสาหกรรมอืน่ ๆ ทีเ่ กี่ยวข้อง มีมลู ค่ามากกว่าห้าล ้านล ้านหยวน ภายในปี 2025 ขัน้ ที่ 3 - ขัน้ ตอนสุดท้าย : จีนต้องก้าวสู่ตำ� แหน่งผูน้ ำ� ปัญญาประดิษฐ์ ในทุกแง่มมุ ทัง้ ทฤษฎี เทคโนโลยี และผลิตภัณฑ์แอพพลิเคชัน พร้อมกับ พาอุตสาหกรรมหลักปัญญาประดิษฐ์ให้มมี ูลค่ ามากกว่าหนึ่งลา้ นลา้ นหยวน ตามเป้ าของกลยุทธ์ปญั ญาประดิษฐ์ทก่ี ำ� หนดไว้ ภายในปี 2035 ก�ำแพงเมืองจีนหมืน่ ลี้ทย่ี งั คงตัง้ ตระหง่านจนถึงปัจจุบนั มิอาจท�ำส�ำเร็จ ภายในวันเดียว การพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ของประเทศจีนก็เช่นกัน ดังทีท่ าง สภาจีนได้ระบุถงึ ปัญหาพร้อมขัน้ ตอนการปฎิบตั ิของกลยุทธ์ปญั ญาประดิษฐ์ ซึง่ สิง่ ทีข่ าดไม่ได้อกี หนึง่ สิง่ คือ สิง่ ชี้วดั ทางสภาจีนจึงได้กำ� หนดสิง่ ชี้วดั 6 ประการ ดังต่อไปนี้ 1. การจัดตัง้ ระบบนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์แบบระบบเปิ ด และท�ำงาน ร่วมกัน (Open and Collaborative AI Technology Innovation System) 2. การบ่มเพาะระบบเศรษฐกิจอัจฉริยะ ไฮเอนด์ และมีประสิทธิภาพ 3. สร้างสังคมอัจฉริยะ สะดวกสบาย และปลอดภัย 4. เพิ่ม ประสิท ธิภ าพและความแข็ง แกร่ ง ของระบบผนวกพลเรือ น และการทหารเข้ากับเทคโนโลยีปญั ญาประดิษฐ์ 5. สร้างโครงสร้างพื้นฐานให้มปี ระสิทธิภาพ ปลอดภัย ครอบคลุมวงกว้าง และเป็ นระบบอัจฉริยะ 6. สร้างเลย์เอ้าท์ (Layout) ขัน้ สูง ส�ำหรับโครงการปัญญาประดิษฐ์ยคุ ใหม่ หลัง จากสภาจีน ได้อ อกกลยุ ท ธ์ป ญ ั ญาประดิษ ฐ์ใ นเดือ นกรกฎาคม รัฐบาลจีนก็ได้ประกาศแผนนโยบายแห่งชาติเกี่ยวกับการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ เมือ่ วันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2560 โดยกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี สารสนเทศของจีน ได้ประกาศแผนปฏิบตั กิ ารสามปี (2018 - 2020) เพือ่ พัฒนา

้ ย ้ ตระหง่านจนถึงปัจจุบัน มิอาจท�ำส�ำเร็จ “ก�ำแพงเมืองจีนหมื่นลีท ี่ ังคงตัง ภายในวันเดียว การพั ฒนาปัญญาประดิษฐ์ของประเทศจีนก็เช่นกัน” ประเทศจีนเป็ นประเทศใหญ่ ทงั้ ขนาดพื้นที่ของประเทศและจ�ำนวน ประชากร ดังนัน้ ข้อมูลทีเ่ กิดขึ้นจึงเป็ นข้อมูลทีม่ ขี นาดใหญ่และปริมาณมหาศาล การน�ำมาใช้ในปัญญาประดิษฐ์จำ� เป็ นต้องมีวธิ ีการจัดการข้อมูลทีด่ พี อ แต่จนี ยังคงตามหลังอเมริกา ประเทศผูน้ ำ� ด้านปัญญาประดิษฐ์ ในด้านของการพัฒนา ทฤษฎีพ้นื ฐาน, อัลกอริทมึ หลัก, ชิพ, อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟท์แวร์ รวมถึง ระบบ - สภาพแวดล ้อมทีใ่ ช้ในการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์และจัดการกับข้อมูล ขนาดใหญ่ โดยอีกช่องว่างของการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ในจีน คือช่องว่าง ระหว่างสถาบันวิจยั และผูป้ ระกอบการเอกชน กล่าวคือ สิ่งที่วจิ ยั ออกมาได้ จะน�ำมาใช้ในเชิงพาณิชย์ได้อย่างไร, ขาดบุคลากรผูม้ พี รสวรรค์, นโยบายและ มาตรฐานในการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ในจีน ยังคงเป็ นปัญหาส�ำคัญ ซึง่ มีการ กล่าวถึงในกลยุทธ์ปญั ญาประดิษฐ์ทอ่ี อกโดยสภาจีน ปัญหาทีก่ ล่าวมาข้างต้น สภาจีนจึงได้วางกลยุทธ์พฒั นาปัญญาประดิษฐ์ ออกเป็ นขัน้ ต่างๆ ดังต่อไปนี้ ขัน้ ที่ 1 : พัฒนาเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ทเ่ี กี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์ ให้ถงึ ในระดับขัน้ สูง ภายในปี 2020 โดยประเทศจีนควรก�ำหนดมาตรฐานของเทคโนโลยี ระบบให้บริการ และมู ล ค่ า เม็ ด เงิ น สะพัด ของอุ ต สาหกรรมปัญ ญาประดิ ษ ฐ์ใ ห้ช ัด เจน ซึ่งอุตสาหกรรมหลักปัญญาประดิษฐ์ควรมีมูลค่ ามากกว่าหนึ่งแสนห้าหมื่น ลา้ นหยวน และสามารถขับเคลือ่ นให้อตุ สาหกรรมทีเ่ กี่ยวข้องมีมลู ค่ามากกว่า หนึ่งล ้านล ้านหยวน ขัน้ ที่ 2 : บรรลุความก้าวหน้าและมีผลงานเป็ นรูปธรรมในการพัฒนา ทฤษฎีปญั ญาประดิษฐ์ ภายในปี 2025 ปัญญาประดิษฐ์ของจีนควรเข้าไปมีบทบาทในอุตสาหกรรมหลัก สาขาต่างๆ อาทิ การผลิตอย่างชาญฉลาด, การแพทย์, การแก้ปญั หาระบบ ในเมืองใหญ่, การเกษตร และการป้ องกันประเทศ เป็ นต้น โดยอุตสาหกรรมหลัก ปัญญาประดิษฐ์จะต้องสร้างมูลค่ามากกว่าสีแ่ สนลา้ นหยวน และขับเคลือ่ นให้

และผลักดันเทคโนโลยีปญั ญาประดิษฐ์ออกสู่ภาคอุตสาหกรรมภายในสามปี โดยมีจุดมุ่งหมายไม่ใช่แค่วจิ ยั เกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ แต่ตอ้ งมีการพัฒนา ออกมาเป็ นรูปธรรม เพือ่ ผลทางอุตสาหกรรมและสร้างเม็ดเงินให้กบั ประเทศ นอกเหนื อ จากแผนกลยุ ท ธ์แ ละนโยบายจากทางรัฐ บาลกลางแล ว้ รัฐบาลท้องถิน่ ในหลายพื้นทีข่ องจีน เริ่มตื่นตัวอย่างมากในปี ทผ่ี ่านมา แต่ทเ่ี ห็น ได้ชดั เจนทีส่ ุด ได้แก่ รัฐบาลท้องถิน่ มณฑลเจ้อเจียง ซึง่ เป็ นเมืองบ้านเกิดของ แจ็ค หม่า รวมถึงยังเป็ นทีต่ งั้ ของส�ำนักงานใหญ่อาลีบาบา (Alibaba) บริษทั ไอที และอีคอมเมิรซ์ ระดับโลก ในเดื อ นกรกฎาคม พ.ศ. 2560 เจ้า หน้า ที่ ร ะดับ สู ง ของรัฐ บาล มณฑลเจ้อ เจีย งแถลงว่ า ทางมณฑลเจ้อ เจีย งมีแ ผนที่จ ะจ้า งผู เ้ ชี่ย วชาญ ทางด้านเทคโนโลยีปญั ญาประดิษฐ์ จ�ำนวน 110,000 คน ภายในห้าปี ต่อจากนี้ และตัง้ เป้ าให้อุตสาหกรรมปัญญาประดิษฐ์ในมณฑลเจ้อเจียงสร้างเม็ดเงิน ห้าหมืน่ ลา้ นหยวนภายในเวลาสามปี โดยก�ำหนดให้เมืองหังโจว เมืองเอกของ มณฑลเจ้อเจียง และเมืองหนิงโป เมืองเศรษฐกิจหลักของเจ้อเจียงเป็ นฐานหลัก โดย นายเหยา จื้อเหวิน รองหัวหน้าแผนกองค์กรของพรรคคอมมิวนิสต์ คณะกรรมการเมืองมณฑลเจ้อเจียง เผยรายละเอียดเพิ่มเติมว่า ในจ�ำนวน ผูเ้ ชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยีปญั ญาประดิษฐ์ 110,000 คน ทีจ่ ะเข้ามาท�ำงาน ในมณฑลเจ้อเจียงภายในห้าปี จะมีผูเ้ ชี่ยวชาญปัญญาประดิษฐ์ท่ีมชี ่ือเสียง ระดับโลกจ�ำนวน 50 คน ผูป้ ระกอบการธุรกิจทางสายวิทยาศาสตร์ 500 คน และนักพัฒนา - นักวิจยั ผูม้ พี รสวรรค์อกี 1,000 คน ทีท่ างมณฑลเจ้อเจียง จะเชิญและคัดสรรโดยตรงให้มาท�ำงาน ซึ่งทางรัฐบาลเจ้อเจียงเตรียมเงิน หนึ่งพันลา้ นหยวนส�ำหรับพัฒนาเทคโนโลยีปญ ั ญาประดิษฐ์ และสนับสนุ น เงิน ทุน แก่ ผู ป้ ระกอบการด้า นปัญ ญาประดิษ ฐ์ โดยลงทุน เป็ น จ�ำ นวนเงิน ห้าสิบลา้ นหยวนส�ำหรับผูเ้ ชี่ยวชาญ ผูป้ ระกอบการ และสตาร์ทอัพ รวมถึง สนับ สนุ น มหาวิท ยาลัย ให้ค ดั เลือ กนัก ศึ ก ษาระดับ บัณ ฑิต ศึ ก ษามาเรี ย น ทางสายปัญญาประดิษฐ์ให้มากยิง่ ขึ้น 25


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.