HIP MAGAZINE ISSUE 98 : DECEMBER 2012 (SECTION B)

Page 1


MY KING

ท ร ง พ ร ะ เ จ ริ ญ “ กี่ปีมาแล้ ว ที่เห็นพระองค์นนทรงเหนื ั้ ่อยล­้าใจกาย โดยมุง่ หมายดูแลแก้ ไขป้องภัยให้ เรา จนบัดนี ้พระองค์ก็ยงั คงคอยช่วยเหลือบรรเทา และคงเฝ้าท�ำเพื่อพวกเราไม่เคยเสื่อมคลาย เป็ นเจ้ าฟ้าที่ยืนข้ างล่าง แบกไพร่ฟ้าเอา ไว้ บนไหล่ อยากรู้พระองค์เคยคิดเหนื่อยบ้ างไหม ทรงพระเจริ ญ ยิ่งยืนนาน ขอจงทรงพระเกษมส�ำราญพระวรกายและพระทัย ทรงพระเจริ ญ พระเจ้ าอยูห่ วั ของชาวไทย จากใจพสกนิกรของพระองค์”

ด้ ว ย เ ก ล้ า ด้ ว ย ก ร ะ ห ม่ อ ม ข อ เ ด ช ะ ข้ า พ ร ะ พุ ท ธ เ จ้ า ร้ า น ท่ า ช้ า ง ค า เ ฟ่ แ ล ะ วิ น เ ท จ บ า ร์ เพลง ทรงพระเจริญ / คำ�ร้อง บอย โกสิยพงษ์ ภาพประกอบโดย DONOT6_STUDIO (http://donot6.info)


editorial: Vol.09 No.98 December 2012

Goodbye My Dear เผลอแป๊ บๆ ก็เดินทางมาถึงเดือนสุดท้ายของปี กนั แลว้ นะคะ หลายคนคงวางแผนกันอยู่วา่ ปี ใหม่จะไป เค้าดาวน์ (ตัวเองผ่อน) ทีไ่ หนกันดี? แต่ก่อนจะถึงปี ใหม่ เรามีโปรแกรมดีๆ ส�ำหรับวันหยุดยาวช่วงวัน เฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั ฯ มาฝากกัน ค่ะ อย่างในวันที่ 5 - 10 ธันวาคมนี้ ก็มงี าน NAP 2012 มาให้ เดินเล่นกันเช่นเคย จัดทีเ่ ก่าเวลาเดิมภายในซอย 1 นิมมานเหมินท์ งานนี้คนรักของดีไซน์หา้ มพลาด และโปรดดูแลกระเป๋ าสตางค์ของ คุณให้ดี เพราะอาจฉีกได้ เนื่องจากงานนี้มสี นิ ค้าละลานตามาให้ ช้อปปิ้ งส่งท้ายปี กนั อย่างจุใจ และเพือ่ ให้เข้ากับเทศกาล HIP มี คอลัมน์ Product มาน�ำเสนอของดีไซน์จาก 11 แบรนด์น่าสนใจ ในเชียงใหม่มายัวน� ่ ำ้ ลาย พร้อมส่วนลดสุดพิเศษส�ำหรับชาวฮิพกัน ด้วย อีกงานพลาดไม่ได้สำ� หรับใครทีช่ อบสไตล์ Mods และ Rockers วันที่ 6 ธันวาคม ร้านท่าช้าง คาเฟ่ และวินเทจ บาร์ ร่วมกับ พันธมิตรจัดงาน Mods & Rockers Thailand ในธีม The Chiang Mai Sparkle ณ วินเทจ บาร์ สนใจเข้าไปดูรายละเอียด กันได้ท่ี facebook/thai.modsvsrockers ได้ยนิ ว่ามีฟรีบาร์และ ดนตรีมนั ๆ จาก Trix ‘O’ Treat ให้ชมด้วย และทีน่ ่าสนุกคือเขา ก�ำหนด Dress Code ในสไตล์ Mods & Rockers ใครอยากรู ้ ว่าเป็ นอย่างไร หน้าถัดจากนี้มคี ำ� ตอบให้คุณ

และอีกหลายงานสมกับเป็ นเดือนสุดท้ายของปี ทเ่ี ชียงใหม่มกั จะคึกคัก ด้วยนักท่องเทีย่ วทีข่ ้นึ มาสัมผัสลมหนาว แม้ปีน้ จี ะไม่ค่อยหนาวสมใจ แถมยังมีฝนโปรยมาเป็ นระยะอีกต่างหาก สิง่ ทีต่ ามมาของฤดูเทศกาลและเพิม่ จ�ำนวนขึ้นเรื่อยๆ คือรถรายาน พาหนะทีเ่ ริ่มติดกันแล ้วตัง้ แต่เดือนพฤศจิกายน จะไปห้ามให้ไม่ใช้รถ ใช้ถนนกันก็คงจะไม่ได้ และก็ไม่อาจเรียกร้องให้ขยายถนนเพิม่ ด้วย ถึงเวลาสิ้นปี , หลายคนมักถามว่าขึ้นปี ใหม่อยากได้อะไร ถ้าขอได้จริงๆ คงอยากให้เชียงใหม่มรี ะบบขนส่งมวลชนที่สะดวกมากกว่านี้ บอก ตรงๆ ว่าเห็นใจคนทีไ่ ม่มรี ถส่วนตัว รวมทัง้ นักท่องเทีย่ วทีเ่ วลาจะไป ไหนมาไหนแต่ละทีกล็ ำ� บาก แถมยังไม่รูว้ า่ จะโดนค่าโดยสารคนละเท่า ไหร่ นี่ยงั ไม่รวมถึงการถูกบังคับกลายๆ ให้คนในเมืองต้องมีพาหนะเป็ น ของตัวเอง เพราะเราไม่สามารถพึ่งพาขนส่งมวลชนได้อย่ างเต็ม ประสิทธิภาพ ความเป็ นศูนย์กลางการท่องเทีย่ ว อาจไม่ใช่แค่เราต้องด�ำรงอัตลักษณ์ เฉพาะถิน่ เอาไว้ แต่การให้ความสะดวกแก่คนมาเทีย่ วด้วย โดยเฉพาะ การเดินทางทีป่ ลอดภัยไว้ใจได้ ถ้าปี ใหม่ขอพรได้ ก็อยากจะขอสิง่ นี้ละ่ ค่ะ ชลธิดา พระเมเด หัวหน้ากองบรรณาธิการ

Contents: Cover Story 04 Exhibition 15 Gallery 16 Music 20 Classic Album 22 Film 24

Cover: ThaChang Cafe Photographer: Adit Sombunsa


T HAC HA N G C A F E

ผ่

านร้อนผ่านหนาวมา 6 ปี แล ้ว กับร้าน ‘นัง่ ดืม่ ’ สุดแนวของเชียงใหม่ ท่าช้าง คาเฟ่ จากร้านทีม่ เี พียง 7 โต๊ะ และต้องคอยยกไปยกกลับ ไม่มแี ม้กระทัง่ ห้องหับให้ตกแต่งสวยงามเหมือนร้านอืน่ เขา หรือแม้แต่ พื้นทีไ่ ว้เก็บข้าวเก็บของ จากวันนัน้ มาสู่วนั นี้กลายเป็ น ร้านทีม่ แี ต่คนพูดถึง และต้องหาโอกาสมาเยือนสักครัง้ กว่าจะมาถึงจุดนี้ ‘พีช่ ายคนโต’ ของท่าช้าง เล่าให้ฟงั ถึง 2 คนที่อาจเรียกได้ว่าเปิ ดโอกาสให้เขา พาท่าช้างเติบโต “หลังจากเริ่มเพิม่ จ�ำนวนโต๊ะมากขึ้น ก็ไม่สามารถยกของกลับบ้านได้เหมือนตอนแรก จึงขอ

WE ARE MODS

เช่าห้องกับทางโครงการ เจเจ มาร์เก็ต ซึง่ พีโ่ อ๋ (อภิรดี ตัน ติเวชกุล) ให้ข อ้ แม้ว่า ต้องตกแต่ งร้านให้สวย และช่วยพัฒนาโครงการด้วยกัน ด้วยทุนทีม่ อี ยู่นอ้ ย แต่ตอ้ งท�ำร้านให้ดูดี จึงเป็ นที่มาของการตกแต่งร้าน แนว JUNK ART ของท่าช้าง คาเฟ่ ” นัน่ คือบุคคลแรก ทีเ่ ข้าใจ และให้โอกาสเขา “ส่วนอีกคน คือพีห่ มวดกูด้ วิว (ธนิต ชุมแสง) ตอนนัน้ ท่าช้าง อยู่ติดกับห้องของ สถาปนิกล ้านนา เวลาเขามีประชุมก็จะสังข้าวปลาอาหาร ่ ทีร่ า้ นทุกครัง้ ทัง้ ยังคอยให้คำ� ปรึกษา คอยสนับสนุน ในทุกๆ ด้าน”

เขาเล่าว่า ท่าช้าง คงไม่มวี นั นี้ ถ้าทัง้ 2 คน ไม่ให้โอกาส จากวันนัน้ ถึงวันนี้ ท่าช้าง คาเฟ่ มีการ ตกแต่งร้านทีด่ ูเพลินตา และพัฒนาระบบมากมายให้ สามารถบริการได้อย่างรวดเร็ว อย่างการรับออร์เดอร์ผ่าน iPod จึงนับเป็ นหนึ่งในร้านที่ ‘ต้องเทีย่ ว’ ในเชียงใหม่ แต่ก็ยงั คงไม่มพี จี ี ไม่มที วี ี ไม่มดี นตรีสด และไม่มี โปรโมชัน่ มีเพียงอาหาร ทีป่ จั จุบนั มุง่ เน้นไปทางอาหาร อีสานรสแซ่บ และเช่นเดิมไม่เน้นบริการ แต่ให้ความ เป็ นส่วนตัว และเป็ นกันเองแก่ลูกค้า ที่สำ� คัญร้านนี้ เปิ ดเพลงไทยเท่านัน้


VINTAGE BAR

ส่

วนร้านนี้ เรียกว่าแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงกับ ‘ท่าช้าง คาเฟ่ ’ เพราะเน้นการเป็ นร้าน ‘นัง่ รับประทาน’ สุดเท่อย่าง ‘วินเทจ บาร์’ เสน่ หข์ องร้านนี้ คือการ ตกแต่งร้าน โดยน�ำของเก่า-ใหม่ มาผสมผสานกันอย่าง ลงตัว มีทงั้ โต๊ะเก้าอี้แนวเรโทรหลายรูปแบบมาวางสลับ กันไปสร้างบรรยากาศให้ดูแปลกตาดี รวมทัง้ น�ำป้ าย โบราณ และโคมไฟดีไซน์ต่างๆ มาเสริมเข้าไปด้วย ท�ำให้รา้ นนี้ดูโดดเด่น และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ร้านนี้เปิ ดบริการมาได้ 1 ปี แล ้ว และเน้นการ ให้บริการเป็ นพิเศษ โดยมีนอ้ งๆ หน้าตาน่ารักคอยให้

WE ARE RO CKERS

บริการอาหารและเครื่องดืม่ ความต่างอย่างเห็นได้ชดั ของ วินเทจ บาร์ ก็คือมีการถ่ายทอดสดรายการ น่าสนใจทัง้ ภาพและเสียง โดยมีโซนนัง่ ชมโดยเฉพาะ ไม่วา่ จะเป็ นละคร ภาพยนตร์ สารคดี หรือกีฬาแมทช์ ส�ำคัญๆ สามารถรับชมได้หมด รวมถึงมีดนตรีสด เพราะๆ ฟัง สบายๆ ไปจนถึง เพลงฝรัง่ หาฟัง ยาก ตกดึกก็มดี เี จมาเปิ ดเพลงให้ฟงั อีกต่างหาก ที่สำ� คัญ อาหารอร่อยมาก และไม่แพง จะพากันมารับประทาน ทัง้ ครอบครัว สังสรรค์กบั เพือ่ นฝูง หรือจัดเลีย้ งงานต่างๆ ได้ส บายไม่มีอ าย ขอย�ำ้ ว่า อาหารอร่ อ ยมากจริง ๆ

แถมทุ ก ๆ เดื อ นยัง มี ก ารจัด คอนเสิ ร ์ต จากศิลปิ นร่นุ ใหญ่จากกรุงเทพฯ มาให้ชมฟรีไม่มชี าร์ท อย่างเดือนทีผ่ า่ นมาก็มี แอม เสาวลักษณ์, สุเมธ&เดอะปัง๋ ล่าสุด ปัน่ ไพบูลย์เกียรติ เขียวแก้ว และช่วงปลาย เดือนธันวาคมจะเชิญ ตุก๊ วิยะดา โกมารกุล ณ นคร มาขับ กล่อ มเพลงเพราะๆ ให้แ ฟนเพลงได้ฟ งั กัน (ใครไม่อยากพลาดรีบจองโต๊ะด่วนๆ) และได้ยนิ มาว่า อนาคตจะมีการจัดแพคเกจเครื่องดื่มสุดคุม้ ทุกเดือน ตลอดทัง้ ปี ดว้ ย เห็นมัย้ ล่ะว่าแตกต่ างกันสิ้นเชิงนะ 2 ร้านนี้





T HAC HA N G C A F E

วามเจริ ญ ก้า วหน้า ทางอุ ต สาหกรรม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ตลอดจนการเปลีย่ นแปลง ทางด้านสังคม ในยุค 50s-60s ส่งผลต่อวัฒนธรรม และศิลปะของยุคสมัยใหม่ (Modernity) รวมทัง้ กระบวนการคิดของผูค้ นในยุคสมัยนัน้ น�ำมาสู่การ แสวงหารูปแบบเฉพาะตน เมือ่ ศิลปะและการออกแบบ ถูกพัฒนาไปพร้อมๆ กับความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ไม่วา่ จะเป็ น การมาถึงของกล ้องถ่ายรูป หรือน�ำระบบพิมพ์มาใช้รว่ มกับการสือ่ สารและงานศิลปะ ในด้านการออกแบบรูปทรงโค้งมนถูกน�ำมาประยุกต์ เข้ากับผลิตภัณฑ์ในชีวติ ประจ�ำวัน รวมไปถึงเสื้อผ้าที่ แสดงให้เห็นถึงการขบถต่ อขนบเดิม และยังคงส่ง อิทธิพลมาถึงยุคปัจจุบนั การแสวงหารูปแบบเฉพาะตน ไม่ว่าจะเป็ น วิถชี วี ติ , การแต่งกาย, แนวคิด, ศิลปะหรือแม้กระทัง่ เรื่องของดนตรี ที่ถอื ได้ว่าเป็ นลักษณะเฉพาะตัวของ ยุคสมัย สร้างให้เกิดกลุม่ วัฒนธรรมย่อย (Subculture) หลากหลายกลุ่มที่มพี ้ นื ฐานทางความคิด ความชอบ ความคลังไคล ่ ้ไปในทิศทางเดียวกัน และนัน่ คือทีม่ าของ Mods และ Rockers กลุม่ วัฒนธรรมย่อยทีแ่ ตกต่างกันอย่างชัดเจนทัง้ สไตล์ การแต่งตัว, แนวคิด รวมไปทัง้ การใช้ชีวติ ความแตกต่าง สุดขัว้ แบบนัน้ เอง บ่อยครัง้ ทีเ่ มือ่ ต้องมาประจันหน้ากัน มักจะลงท้ายด้วยการมีเรือ่ ง เรียกว่าไม่ลงรอยกันแบบสุดๆ แต่เมือ่ เวลาผ่านไป ความขัดแย้งท�ำนองนัน้ ก็เบาบางลง

CHIANG MAI

เหลือแค่สไตล์ทย่ี งั คงอยู่ผ่านเสื้อผ้า, การแต่งตัว และ ยานพาหนะ จากตอนนัน้ ถึงตอนนี้แม้จะผ่านเวลา มากว่าครึง่ ศตวรรษแล ้วทัง้ Mods และ Rockers ยังคง ส่งอิทธิพลต่อวัยรุ่นมาทุกยุคทุกสมัย ม็อด (Mods) เป็นกลุม่ วัฒนธรรมย่อยทีเ่ กิดขึน้ ในกรุ ง ลอนดอน ประเทศอัง กฤษ ค�ำ นี้ ย่ อ มาจาก Modernism หมายถึงกลุม่ ทีม่ แี นวความคิดในแบบ สมัยใหม่ แต่เดิม ม็อด ใช้เรียกกลุม่ ทีช่ น่ื ชอบแนวดนตรี โมเดิรน์ แจ็ซซ์ (Modern Jazz) รูปแบบทีน่ า่ สนใจของม็อด คือประยุกต์การแต่งกายอิงความเป็ นสมัยใหม่ ด้วยยุค สมัย นั้น มีค วามก้า วหน้า ในหลายๆด้า นทัง้ ศิ ล ปะ การออกแบบ และดนตรีท่ีสนุ กสนานชวนหลงไหล ชาวม็อดจึงประยุกต์สง่ิ ทีต่ นชืน่ ชอบให้กลายมาเป็นวิถชี วี ติ ผู ้ชายม็อดส่วนมากนิยมการใส่สูททีม่ ลี กั ษณะ คลา้ ยแจ๊กเก็ต สเว็ตเตอร์คอเต่า หรือสวมเสื้อโปโล ติดกระดุมทุกเม็ด ส่วนกางเกงจะเป็ นทรงกระบอก ค่อนข้างเข้ารูป สวมรองเท้าหนังคัตชู หรือรองเท้าบูต๊ ด้านทรงผมมีทงั้ ทรงหน้าม้า แบบหัวเห็ด หรือผมสัน้ การเลือกสวมใส่เสื้อผ้าแบบนี้ของหนุ่มม็อด นอกเหนือ จากช่วยป้ องกันความหนาวเย็นจากการขีส่ กูต้ เตอร์แล ้ว ยังสอดคลอ้ งกับแนวดนตรีสมัยใหม่ สามารถไปได้ ทุกหนแห่งทัง้ ทีท่ ำ� งาน หรือแม้แต่การเข้าสังคม ผู ้หญิงสายม็อดเองก็ดสู ดใสไม่แพ้ฝ่ ายชายเช่นกัน พวกเธอนิยมการแต่งหน้าทีเ่ น้นดวงตาให้โดดเด่นด้วย การเขียนขอบตาเข้ม หรือเพิม่ ขนตาปลอม ส่วนปากจะ

คุมโทนให้ซดี เพือ่ รับกับดวงตาสีเข้ม ส่วนทรงผมอาจ ยีให้พองโต หรือปาดผมด้านหน้ามาเก็บอย่างเรียบร้อย ส�ำหรับชุดจะเลือกสวมใส่ชดุ ทีใ่ ห้ความคล่องตัว อย่าง มินิสเกิรต์ , เดรสสัน้ , เสื้อคอบัว แต่เน้นสีสนั จัดจ้าน และลวดลายเรขาคณิต โดยแบบเสื้อผ้าของม็อดได้รบั ความนิยมอย่างมากในช่วงปลายยุค 60s และกลับมา นิยมเป็ นระยะจนถึงปัจจุบนั ซึ่งแฟชัน่ ของม็อดมักมีความสอดคลอ้ งกับ ดนตรีท่พี วกเขานิยม อย่างแนวเพลงโมเดิรน์ แจ็ซซ์, ดนตรีอาร์แอนด์บี และขยายต่อไปสู่ดนตรีบลูสบ์ ที , ส�ำหรับวงดนตรีทม่ี บี ทบาทและส่งอิทธิพลต่อรูปแบบ ความเป็ นม็อดในยุคนัน้ อย่างโดดเด่นคือ The Who The Jam, The Small Faces เป็ นต้น ส่วนทางด้าน งานศิลปะจะผลิตผลงานทีม่ คี วามสอดคล ้องกับสังคม แบบบริโภค และถ่ายทอดออกมาเป็ นงานศิลปะแบบ ป๊ อป อาร์ต (Pop Art) นิยมการพิมพ์ซำ�้ เพือ่ ให้ศิลปะ เดินทางเข้าถึงสังคมและผูค้ นมากขึ้น ซึง่ เป็ นรากฐาน ของแนวความคิดศิลปะหลังสมัยใหม่ (Post Modernism) ในช่วงเวลาต่อมา ม็อดนิยมใช้สกูตเตอร์ ้ เป็นพาหนะ ซึง่ สอดคล ้อง กับวิถชี วี ติ ในเมือง โดยนิยมรถทีผ่ ลิตจากอิตาลี ทัง้ รถ เวสป้ า, แลมแบรตต้า ด้วยรูปแบบโค้งมน ตลอดจน สีสนั สวยงามน่ าสัมผัส เข้ากันได้ดีกบั การแต่ งกาย สไตล์มอ็ ด โดยเฉพาะยามขับขีส่ กูตเตอร์ ้ ในท่าหลังยืดตรง ยิง่ ช่วยเสริมให้ชาวม็อดดูมเี สน่หม์ ากยิง่ ขึ้น

MODS


ขอบคุณ : รถมอเตอร์ไซค์ Triumph เท่ๆ เสื้อผ้าบางส่วนและหมวกกันน็ อค จากพีต่ ุ๊ Triumph ร้านบริทไบค์ (เชียงใหม่) : รถเวสป้ าสวยๆ จากพีน่ อ้ งกลุม่ ท้ายวัง รวมถึงสถานทีเ่ ก๋ๆ ในโครงการ Think Park แยกรินค�ำ : เสื้อผ้าบางส่วนจาก Kaber Vintage Clothes Shop, แสตมป์ และโฟล์ค ฮอม


ช่างภาพ : อดิศร์ สมบุญสา ผูช้ ่วยช่างภาพ : นักศึกษาชัน้ ปี ท่ี 3 สาขาศิลปะการถ่ายภาพ คณะวิจติ รศิลป์ มหาวิยาลัยเชียงใหม่ (กลุม่ หนวดม้วนสตูดโิ อ, กลุม่ Rain Tree) แต่งหน้า-ท�ำผม : อนุ พงษ์ อินทราวุธ และฆนากร ชัยมูลฐาน



VINTAGE BAR

ร็

อคเกอร์ (Rockers) ในทีน่ ้ มี ไิ ด้หมายความ เพียงแค่นกั ร้องนักดนตรีเพลงร็อคเท่านัน้ แต่รวมถึง สไตล์ ความชืน่ ชอบ คลังไคล ่ ้ในวิถชี วี ติ คล่องแคล่ว ดุดนั แต่มมี มุ อ่อนหวานแบบร็อค ด้วยความชอบในดนตรีทม่ี ี จังหวะสนุกสนาน ซึง่ มีรากมาจากดนตรีรอ็ คแอนด์โรล ในช่ ว งกลางยุ ค 50s รวมถึง ดนตรีบ ลู ส ,์ คัน ทรี, คลาสสิค, แจ็ซซ์ การเกิดขึ้นของดนตรีรอ็ คกลายเป็ นต้น แบบของดนตรีหลายรูปแบบในเวลาต่อมา ทัง้ ร็อคอะบิลลี่ ทีม่ กี ารผสมระหว่างดนตรีรอ็ คกับฮิลบิลลี่ (ใช้เรียกดนตรี คันทรียคุ 50s) หรือดนตรีซ ้อฟท์รอ็ คทีน่ ุ่มนวล ฟังง่าย กลุม่ ร็อคเกอร์มกี ารแต่งกายทีส่ ะท้อนความ หนัก แน่ น คุ ม สีโ ทนทึบ กระชับ เข้า รู ป เพื่อ ความ ทะมัด ทะแมงคล่อ งตัว ชาวร็อ คเกอร์ม กั มาพร้อม มอเตอร์ไซค์เครื่องยนต์ทีมขี นาดใหญ่ เร็วและแรง สอดคลอ้ งกับแนวเพลงร็อคแอนด์โรลที่มจี งั หวะการ เคลือ่ นไหวอย่างฉับไว หนุ่มร็อคนิยมกางเกงยีนส์ หรือกางเกงหนัง ทรงกระบอกพอดีต วั หรือ รัด รู ป สวมรองเท้า บู ต๊ ใส่ เ สื้อ ยื ด หรื อ เสื้อ เชิ ต๊ ด้า นในที่ไ ม่ พิถีพิถ นั หรื อ เรียบร้อยมากนัก โดยมีการใส่แจ็กเก็ตหนังหรือยีนส์ เข้ารูปสวมทับอีกชัน้ โดยส่วนมากจะนิยมใช้หมุดปัก ทีเ่ สื้อ หรือพิมพ์ช่อื กลุม่ ของตนไว้บนนัน้ ของคู่กนั กับ เครื่องแต่งกายชาวร็อคสีทมึ ทึบทีด่ ูจะขาดเสียมิได้คือ เข็มขัดและเครื่องประดับกายทีม่ คี วามมันวาว พร้อม ด้วยทรงผมแบบร็อคแอนด์โรล

CHIANG MAI

ด้านการแต่งกายของผูห้ ญิงก็ดูทะมัดทะแมง และคล่องแคล่วไม่แพ้ผู ้ชาย ด้วยกางเกงรัดรูป อย่างยีนส์ ที่มีร้ ิ ว รอยขาดแบบตัง้ ใจ หรื อ ประดับ ลวดลายที่ สร้างสรรค์ข้นึ มา เสื้อผ้าทีด่ ูดุดนั แฝงความเซ็กซีเ่ ล็กๆ โดยได้มาจากรูปแบบการใช้ชวี ติ ประจ�ำวันเป็ นส่วนใหญ่ ในอดีตเมือ่ ได้ยนิ ค�ำว่า ม็อด แอนด์ ร็อคเกอร์ ท�ำให้นึกถึงเรือ่ งราวการกระทบกระทังกั ่ น ด้วยตอนนัน้ ในประเทศอังกฤษมีกลุม่ วัฒนธรรมย่อยหลากหลายและ ก�ำ ลัง เดิ น ทางไปสู่ ก ารเติ บ โตทางเศรษฐกิ จ หลัง สงครามโลกครัง้ ทีส่ อง และการเข้าสูย่ คุ ของสงครามเย็น ที่มกี ารแข่งขันทางด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ตลอดจนการเกิดขึ้นของระบบอุตสาหกรรม รวมทัง้ การ ตืน่ ตัวทางการศึกษา ท�ำให้เกิดการจ้างงานในหลายอาชีพ สิ่งที่ตามมาคือความมัง่ คัง่ ทางเศรษฐกิจ วัฒนธรรม ศิลปะ และดนตรี ในยุค 60s นัน้ การแสดงออกของ หนุ่ มสาวมีทางให้เลือกหลากหลาย และเป็ นไปอย่าง ค่อนข้างเสรี จึงสร้างความน่าหลงไหลได้ง่าย และเป็ นไป ได้งา่ ยเช่นกันทีจ่ ะกระทบกระทัง่ จากการวิจารณ์ หรือ ไม่พอใจเมือ่ พบกัน ในกลุม่ ม็อดเองก็มมี มุ มองเกี่ยวกับร็อคเกอร์ ว่าเป็นพวกไม่มรี สนิยม แต่งกายไม่นา่ สนใจ ขีม่ อเตอร์ไซค์ คันใหญ่เสียงดัง ชอบดนตรีแนวร็อคแอนด์โรล ทาง ร็อคเกอร์เองก็มองกลุม่ ม็อดว่าเป็ นพวกคลังไคล ่ ้แฟชัน่ มากเกินไป ดูหยิง่ และมีท่าทางคลา้ ยผูห้ ญิง อาจจะ ด้วยชุดทีส่ วมใส่ หรือแม้แต่ทา่ ทางการนัง่ บนสกูต้ เตอร์

การกระทบกระทัง่ ของทัง้ สองกลุ่มเกิดขึ้น เป็ นประจ�ำเมือ่ พบปะกันในวันหยุด แต่เหตุการณ์หนึ่ง ทีถ่ กู บันทึกไว้ในความทรงจ�ำ คือเหตุรนุ แรงในวันที่ 18 พฤษภาคม 1964 ที่ชาดหาด Palace Pier เมือง Brighton ประเทศอังกฤษ เมือ่ ทัง้ สองกลุม่ เกิดปะทะ กันอย่างรุนแรงจนท�ำให้เกิดความเสียหาย และโกลาหล วุ่ น วายจนควบคุ ม ไม่ ไ ด้ มีท งั้ การท�ำ ร้า ยร่ า งกาย และขว้า งปาสิ่ ง ของใส่ ก ัน จนต�ำ รวจต้อ งเข้า มา ยุติสถานการณ์วุ่นวายก่ อนจะบานปลายไปกันใหญ่ โดยสามารถรวบตัว ผู ร้ ่ ว มก่ อ เหตุ ก ว่ า 600 คน และถูกจับกุมทันที 50 คน เรื่องราวในวันนัน้ โด่งดัง จนถูกน�ำมาสร้างเป็ นภาพยนตร์ในปี ค.ศ. 1979 ความขัด แย้ง อย่ า งรุ น แรงของสองกลุ่ ม เมือ่ ด�ำเนินผ่านกาลเวลามาจนถึงปัจจุบนั สิง่ เหล่านัน้ ก็ ดู เ หมือ นจะถูก ลบออกจากความทรงจ�ำ ในสัง คม ร่ วมสมัย เหลือเพียงรู ปแบบที่เป็ นประโยชน์น�ำมา ประยุ กต์ใช้ในชีวิตประจ�ำวัน โดยยังคงอัตลักษณ์ ของวัฒนธรรมย่อยเหล่านัน้ เอาไว้ บ้างก็ปรากฏออกมา ในลักษณะของแฟชัน่ รูปแบบการใช้ชวี ติ แนวเพลง งานศิลปะที่แต่ละคนสนใจ ในบางสถานที่อาจมีการ จัดกิจกรรมของม็อด แอนด์ ร็อคเกอร์ ให้เป็ นงาน รื่นเริงสนุ กสนาน เพือ่ สร้างความสัมพันธ์อนั ดีต่อกัน ในยุคโลกไร้พรมแดนที่เราสามารถสื่อสารกันอย่าง ง่ายดาย ยิง่ เป็ นผลดีหากน�ำมาใช้ประโยชน์ในการสร้าง ความเข้าใจและอยู่ร่วมกันอย่างสนุก และสันติสุข… ขอบคุณข้อมูล Mods และ Rockers จากคุณสมศักดิ์ เหมะรักษ์

ROCKERS


LIVE IN PEACE ม

นุษย์ทกุ คนล ้วนมีความต่าง ทัง้ ความแตกต่างทางความคิด รสนิยม วิถชี วี ติ ความชอบ ความเชือ่ และอืน่ ๆ อีก มากมาย เมื่อ เรามาอยู่ ร วมกัน ในสังคม ความต่างย่อมน�ำไปสู่ความ ขัดแย้ง เพียงข้อขัดแย้งของใครคนใด คนหนึ่ง อาจน�ำไปสู่ ประเด็นความ ขัดแย้งลุกลามใหญ่โต ดังทีเ่ คยเกิดขึ้น มาแล ้ว ในสังคมมนุษย์นบั แต่อดีต แท้จริงแลว้ ...เราอาจไม่ตอ้ ง พูดถึงผูอ้ น่ื เพียงแค่ในใจเราเอง ตัว ของเราเอง ย่อมมีความขัดแย้งอยูใ่ นตัว เอง ฉะนัน้ ความขัดแย้งจึงมิใช่ประเด็น ของปัญหา ในทางกลับกัน ความขัด แย้งมีความจ�ำเป็ นในการพัฒนาสังคม เพือ่ ความก้าวหน้า ทว่าจะท�ำอย่างไรให้ สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างปรกติสุข ยอมรับซึง่ กันและกัน ทัง้ ในความเห็น เหมือน และเห็นต่าง

ทั้ง หลายทั้ง ปวงของความ วุน่ วายทีเ่ กิดขึ้น ไม่วา่ ยุคใดสมัยใด คือ เลือกใช้ความรุนแรงเข้ามาจัดการ หาก ลองคิดดูให้ดี ความรุนแรงไม่วา่ รูปแบบใด ไม่เคยส่งผลดีต่อใครทัง้ สิ้น บทเรียนจาก ความสูญเสียทีเ่ กิดขึ้น มีมากมายแค่ไหน แล ้ว แต่มนุษย์อย่างเราๆ ก็ไม่เคยน�ำกลับ มาคิดทบทวนถึงผลกระทบทีต่ ามมา จ�ำ เป็ น ด้ว ยหรื อ ที่ เ ราจะต้อง ท�ำร้ายตัวเอง เพียงแค่ในใจเรา ขัดแย้งกัน จ�ำเป็ นด้วยหรือ ทีพ่ น่ี อ้ งถึงกับต้องลงไม้ ลงมือกัน เพราะความขัดแย้งภายในครอบครัว เช่นกัน เราซึง่ เป็นคนไทยด้วยกัน ต้องเข่น ฆ่ากันให้ตายไปข้างนึงเลยใช่มยั้ หากเพียง แค่คนในชาติขดั แย้งกันเอง หยุ ด เถอะ เราไม่จ ำ� เป็ น ต้อ ง ถอยหลังไปข้างหน้า หยิบประโยชน์ของ ความต่ า งมาใช้ แล ว้ ก้า วไปพร้อ มกัน อย่างช้าๆ และสามัคคี

THACHANG SOCIETY


EXHIBITION

HaPPeN

ชาญวุฒิ โห้ไทย ผูช้ ายธรรมดาๆ ทีม่ ใี จ รักในงานศิลปะโดยมีพ้นื ฐานความรูเ้ ชิง ศิลป์ มาจากรัว้ ลาดกระบัง คณะนิเทศ ศิลป์ เขาก็เป็ นเหมือนกับนกพิราบตัว หนึ่งทีบ่ นิ ชื่นชมความงามของเมืองและ ธรรมชาติอย่างอิสระ จนมาหลงเสน่ห ์ เมืองปายก่อนทีจ่ ะหยุดบินและตัดสินใจ ย้ายถิ่นมาลงหลักปักฐานที่น่ีเป็ นเวลา นานกว่า 17 ปี เป็ นหนึ่งในรุ่นบุกเบิกท�ำ รีสอร์ทเล็กๆ ในชื่อไพเราะว่า บ้านสิบ สองพันนา ที่ใครๆ ต่างประทับใจใน บรรรยากาศอบอุ่น โรแมนติกริมแม่นำ�้ ปาย วันนี้ของนายชาญมีความสุขไปกับ การได้วาดภาพ ถ่ายรูป และการเดินทาง ทีพ่ ร้อมแบ่งปันความสุขนัน้ มาเผือ่ คุณ

บันทึกประหลาด เรื่อง: ลุงทอย ภาพ: ลุงทอย

การบันทึกเรื่องราวของแต่ละคนต่างก็มีแง่มุมที่แตกต่างกัน ทั้งในแง่ของการน�ำเสนอและเรื่อง ราวที่ถูกบันทึกลงในหน่วยความจ�ำ และส�ำหรับชายคนนี้เขากล่าวว่าสิ่งนี้คือ บันทึกประหลาด อาจจะประหลาดในสายตาของคนอื่น แต่ส�ำหรับเขาการบันทึกนี้เป็นปกติสุขดีทุกประการ HaPPeN นิทรรศการภาพวาด ศิลปะสือ่ ผสม และภาพถ่าย ที่ ชาญวุฒิ โห้ไทย สังสมจากประสบการณ์ ่ ชวี ติ ในช่วง 17 ปี ทอ่ี าศัยอยู่ ณ เมืองปาย เมือง ทีเ่ ขาบอกว่ามีกระแสของความสุขพัดผ่านอยู่รอบตัวจนไม่สามารถถอนตัวออก ไปไหนได้อกี นิทรรศการครัง้ นี้จดั แสดงตัง้ แต่วนั ที่ 29 พฤศจิกายน ไปจนตลอด เดือนธันวาคมนี้ ทีบ่ า้ นสิบสองพันนาของเขาเอง รีสอร์ทอบอุ่น บรรยากาศดีรมิ แม่นำ�้ ปายในเขตบ้านเวียงเหนือ อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองมากนัก หน่วยความจ�ำทางศิลปะในครัง้ นี้เกิดขึ้นและเปลีย่ นไปจากนิทรรศการ ครัง้ ทีผ่ า่ นๆ มาของเขา ทุกเรือ่ งราวทุกชิ้นงานเกิดขึ้นตามสภาวะอารมณ์ ณ ขณะ นัน้ ไม่วา่ จะเป็ นงานภาพวาดสีนำ �้ สีนำ�้ มัน ทีถ่ า่ ยทอดเรื่องราวของกาลเวลาและ ธรรมชาติ เป็ นการวาดด้วยกรรมวิธพี ริ้นต์บนั ทึกจากจิตทีเ่ ขารูส้ กึ และเห็นต่าง และกลอ้ งไม่สามารถบันทึกได้ งานสือ่ ผสมทีเ่ ป็ นการจัดวางบางสิง่ บางอย่างที่ เข้าและไม่เข้ากัน เป็ น Happening Arts ทีต่ วั เขาเองก็ไม่สามารถคาดเดาความ รูส้ กึ ได้ก่อน และงานภาพถ่ายซึง่ เป็ นงานถนัดอีกอย่างหนึ่งทีต่ ดิ ตัวเขามานาน และไม่เคยแยกจากกันตลอดช่วงเวลาของการเป็ นนักเดินทาง

“ผมเป็ นคนชอบเดินทางไปในทีท่ ไ่ี ม่ค่อยมีใครได้เห็น บางวันผมนอน กลางวันและตืน่ กลางคืน ขีร่ ถมอเตอร์ไซค์ข้นึ ดอย ยามทีไ่ ด้เดินทางมันคือการ ที่เราได้อยู่กบั ตัวเอง ควบคุมทุกอย่างด้วยตัวเอง เอากายแทรกผ่านอากาศ หายใจเอาหมอกเข้าไปในตัว ท�ำให้มนั เป็ นหนึ่งเดียวกันแล ้วเราจะได้ยนิ ค�ำถาม ค�ำตอบอยูใ่ นตัวของมันเอง คือการท�ำสมาธิอย่างหนึ่ง หรือการเลือกไปในทีไ่ ม่มี ผูค้ น ถ้าคุณเคยเดินอยู่ในทุ่งหญ้ากลางหุบเขา คุณจะได้ยนิ เสียงหัวใจตัวเอง เต้น นี่คอื ค�ำว่าสงบ และท�ำให้ผมหลงรัก เช่นเดียวกับการวาดภาพ” ภาพตืน่ ในภาพหลับของคนหลายคน สิง่ นี้แหละทีอ่ าจกล่าวว่าเป็ นบันทึก ประหลาดของชายผูไ้ ม่ยอมหลับ ซึง่ อาจสร้างความแปลกตาเพราะเป็ นภาพทีไ่ ม่ ไขว่คว้าก็จะไม่ได้มา หรือเป็ นบันทึกผ่านจากมุมกลับของผูช้ ายธรรมดาๆ ที่ อยากท�ำประโยชน์ เพือ่ เป็ นฟันเฟื องตัวเล็กที่ยงั คงหมุนและเดินเครื่องเบาๆ สบายๆ อยู่ในปาย เป็ นอีกหนึ่งเสียงสะท้อนทีอ่ ยากบอกให้ชาวโลกได้รูว้ า่ เมือง ปายยังมีสง่ิ ดีๆ มีธรรมชาติ มีศิลปะอันหอมหวลให้คนรักศิลปะได้เสพย์อยู่ เสมอ :15


GALLERY

THE GALLERY เรื่อง: ลุงทอย ภาพ: ลุงทอย

เชียงใหม่ เป็นอีกจังหวัดหนึง่ ทีข่ นึ้ ชือ่ เรือ่ งศิลปะ ไปทางไหนก็เจอะเจอ แต่ แกลเลอรี่ ยิ่งอากาศหนาวเริ่มมาเยือนแล้ว ผู้คนมากมายก็หลั่ง ไหลมาเจอกันที่เมืองนี้ HIP ก็เลยถือโอกาสอันดี แนะน�ำแกลเลอรี่ ให้ คนทีช่ นื่ ชอบในงานศิลปะ ได้เสพกันอย่างสมใจ ให้หายหนาวกันไปเลย

Gallery Seescape

22/1 ซอย17 ถนนนิมมานเหมินท์ เชียงใหม่ Facebook :galleryseescape seescapechiangmai.blogspot.com เบอร์โทร 08-6114-2845 Gallery Seescape แกลเลอรี่บรรยากาศดีๆ เปิ ดให้บริการทุกวัน (เว้นวัน จันทร์) ให้คณ ุ ได้ชมผลงานศิลปะ และสามารถจับจองเป็ นเจ้าของผลงานอาร์ตๆ กัน ได้ ไปพร้อมๆกับการจิบเครื่องดืม่ ทัง้ ร้อนเละเย็น ไปพร้อมกับ เมนู คพั เค้กหลาก หลายแสนอร่อยจาก Jun Jun ในบรรยากาศแบบกันเอง นิทรรศการทีจ่ ะจัดขึ้นในเดือนธันวาคม 2555 พบกับนิทรรศการ ภาพวาด รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย ์ “รักในหลวง” (ครัง้ ที2่ ) โดย รุ่งศักดิ์ ดอกบัว ระหว่างวัน ที่ 5 - 31 ธันวาคม 2555 เข้าร่วมพิธเี ปิ ดกันได้ในวันที5่ ธันวาคม 2555 เวลา18.00 น.ต่อด้วย นิทรรศการ เบ็ดเตล็ด ด345อ โดย เด็ด จงมันคง ่ และ อธิคม มุกดาประกร ระหว่างวันที่ 22 ธันวาคม ถึง 4 มกราคม 2556

แสงดีแกลลอรี่

ซอย 5 ถนนศิริมังคลาจารย์ เชียงใหม่ Facebook: แสงดีแกลเลอรี่ เบอร์โทร 0-5389-4955 แกลเลอรี่ทใ่ี ห้ความรูส้ กึ เหมือนได้นงั ่ ชมศิลปะอยู่บา้ น เป็ นแกลเลอรี่ ทีไ่ ด้ ไปแล ้วสามารถสัมผัสได้ถงึ อารมณ์ ทีด่ ม่ื ด�ำ่ ไปกับเสียงดนตรี เคล ้างานศิลป์ นิทรรศการทีจ่ ะจัดขึ้นในเดือนธันวาคม 2555 พบกับนิทรรศการ Circus Terminal THAILAND ในวันที1่ – 10 ธันวาคม 2555 :16


หอนิทรรศการศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

239 ถนนนิมมานเหมินท์ ต�ำบลสุเทพ อ�ำเภอเมือง เชียงใหม่ (ตรง ข้ามสาธารณสุขจังหวัด ใกล้ตลาดต้นพะยอม ถนนสุเทพ) www.cmumuseum.org. เบอร์โทร 0-5394-4833

คงไม่ใครไม่รูจ้ กั หอนิทรรศการศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็ น แน่ ยิง่ ถ้าได้เป็ นนักเรียนศิลปะ ต้องไม่พลาดทีน่ ่ี แหล่งรวมงานศิลปะ ทีม่ ที งั้ ศิลปิ น และผลงานของนักศึกษา ทีห่ มดเวียนพลัดเปลีย่ น เข้ามาแสดงงานกันอย่างไม่ขาด สาย มาให้ตดิ ตามกันว่าแต่ละเดือนจะมีผลงานของใครกันบ้าง นิทรรศการทีจ่ ะจัดขึ้นในเดือนธันวาคม 2555 พบกับ โครงการดนตรีรบั ลม หนาวทีค่ รัง้ ที่ 2 ปี 2012 โดย Tasana NagavajaraThailand ‘s Leading violinist directs The Sillpakorn University String Orchestra ณ โถงกลาง ห้อง แสดงงานชัน้ 1 หอนิทรรศการศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่บตั รราคา 300 บาท (นักเรียน 100 บาท) เวลา 16.00 น. ในวันที่ 8 ธันวาคม 2555***********รอ ข้อมูลเพิม่ เติ่ม*************

The Meeting Room Art Cafe

89 ถนนเจริญราษฎร์ ต�ำบล วัดเกต อ�ำเภอเมือง เชียงใหม่ Facebook: The-Meeting-Room-Art-Cafe เบอร์โทร 08-0627-9219 แกลเลอรี่ทใ่ี ห้ความรูส้ กึ เหมือนอยู่ในห้องสมุด บรรยากาศในสบายๆริมแม่ น�ำ้ ปิ ง ตัวแกลเลอรีถ่ กู แบ่งเป็ นสัดส่วน มีทงั้ มุมอ่านหนังสือหรือจะนัง่ ดืม่ เครือ่ งชิลล์ๆ สบายๆ แล ้วค่อยเดินชม งานศิลปะสวยๆ ต่อก็ไม่มใี ครว่าอะไรส่วนตัวแกลเลอรี่นนั้ ก็จดั แสดงงานหมุนเวียนกันไปที่น่ีเขาสนับสนุ นคนรักที่มใี จรักศิลปะและต้องการ พื้นทีแ่ สดงออก ให้มาใช้พ้นื ทีต่ รงนี้ได้ นิทรรศการทีจ่ ะจัดขึ้นในเดือนธันวาคม 2555 พบกับนิทรรศการ Old Fartly Surreal ภาพวาด สี Acrylic ผลงานของ Bucklee Bell ในวันที1่ - 30 ธันวาคม 2555นี้ :17


บ้านตึก แกลเลอรี่

อยู่ติดถนนท่าแพตรงกันข้ามกับพุทธสถานเชียงใหม่ Facebook: Baan Tuek Art Cente เบอร์โทร 08-1706-7061 หากขับรถผ่าน มองผิวเผินอาจจะดูไม่รูห้ รอกว่า ทีน่ ่ีคอื แกลเลอรี่ บ้านตึก แห่งนี้ มีอายุนบั 100กว่าปี มาแล ้ว ถูกสร้างขึ้นเมือ่ พ.ศ 2443 ถือได้วา่ เป็ นบ้านตึก เป็ นอาคารหลังแรกของเชียงใหม่สมัยก่อน ทีส่ ร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก และใน ปัจจุบนั บริษทั สุเทพ จ�ำกันซึง่ เป็ นผูด้ ูแล บ้านตึกแห่งนี้กไ็ ด้ ให้ทางคณะวิจติ รศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ใช้พ้นื ทีช่ นั้ ล่าง ในการจัดแสดงนิทรรศการศิลปะให้แก่ผูท้ ่ี สนใจ นิทรรศการทีจ่ ะจัดขึ้นในเดือนธันวาคม 2555 พบกับนิทรรศการ Supplymentary Food II โดย ชนิกานต์ เข็มสวัสดิ์ และ สุดาภรณ์ เตจา ในวันที1่ 6 ธันวาคม – 14 มกราคม 2556 นี้

ชั้น1

24 ซอย1 ถนนนิมมานเหมินท์ เชียงใหม่ เบอร์โทร 08-8493-4379 Facebook: channeung

:18

เป็ นทัง้ ทีน่ งั ่ จิบกาแฟ ทีผ่ ่อนคลาย มี Guesthouse ส�ำหรับผูท้ ต่ี อ้ งการมา แบบค้างคืน นอกจากนี้ยงั มีของ Handmade ให้เลือกซื้ออีกไปพร้อมกับ การชม งานศิลปะ ทีจ่ ะมีศิลปิ นหมุนเวียนกันมาแสดงงานกัน รับรองว่าคงเป็ นอีกหนึ่งทีท่ ่ี ถูกใจ ชาวติสอย่างแน่นอน นิทรรศการทีจ่ ะจัดขึ้นในเดือนธันวาคม 2555 พบกับนิทรรศการศิลปะ”อิอิ คริคริ ชิ ๊ มิ ๊ จิบจิ สิ ครุครุ จูบจุ ูบุ จุงเบย ด้วยได้เมอะอ่ะเคอะ”โดยเหล่าศิลปิ นวัยใส น่ารัก กุก๊ กิก๊ เบาสมอง ประลองปัญญา เพือ่ ความบันเทิงของชุมชน และความหรรษาใน จิตวิญญาณของหนุ่มสาวนับสิบกว่าชีวติ ในวันที่ 5 - 15 ธันวาคม 2555นี้ (ร่วมเปิ ด งาน ในวันที่ 5 ธันวาคม 2555 เวลา 18.00 น.)


Mimimal Gallery

ซอย13 ถนน นิมมานเหมินท์ เชียงใหม่ Facebook: minimal เบอร์โทร 08-9853-2248 ห้องแถวเล็กๆสองชัน้ ทีม่ พี ้นื ที่ เปิ ดโอกาสให้คนทีร่ กั ในศิลปะ ได้โชว์ความสามารถ มาจัดแสดงผลงานได้ โดยชัน้ ล่างจะมีเป็ นบาร์เล็กๆ ชัน้ หนึ่งและชัน้ สองจะเป็ นทีจ่ ดั แสดงโชว์งานศิลปะ นิทรรศการทีจ่ ะจัดขึ้นในเดือนธันวาคม 2555 พบกับนิทรรศการ งานฉายหนังสัน้ ซีร่สี อ์ สิ ระ แนว exploitation / thriller ในชื่อ “อีสาวแสบล่าผีกนิ คน - Demon Interceptors” เป็ นผลงานการก�ำกับของ เทพ ปิ ลนั ธน์ พงษ์พานิช ในวันที่ 15 ธันวาคม 2555 เวลา 19.00 น. เป็ นต้นไป ต่อกันอีกงานเลยแล ้วกันกับ งานของ Playground Design ร่วมกับ Designiti ภายใต้คอนเซ็บต์ “Too Many is North Enough” “ลายเหนือเหนือ ซะยิง่ กว่าเหนือ” ชวนกันมาประกวดออกแบบลายเสื้อ ยืด ถึงเวลาประกาศผลรางวัลแล ้วทีร่ า้ น Minimal ในวันที่ 15 ธันวาคม 2555นี้

Lounge Warm up Cafe’

ถนนนิมมานเหมินท์ ต�ำบลสุเทพ อ�ำเภอเมือง เชียงใหม่ Facebook: warmupcafe chiangmai เบอร์โทร 0-5340-0677 ร้านนี้เขาครบวงจรเสียจริง หลังจากทีป่ รับเปลีย่ นตกแต่งสถานทีก่ นั ไปได้สกั ระยะหนึ่ง ความน่าสนใจอยู่ในส่วนของ Lounge คือสามารถจัดให้แสดงงานศิลปะ ได้ดว้ ย โดยจะมีศิลปิ นเข้ามาแสดงงานหมุนเวียนกันไป อย่าม่วนแต่แด๊นซ์ กันมัน จนลืมดูงานศิลปะกันนะค่ะ นิทรรศการที่จะจัดขึ้นในเดือนธันวาคม 2555 พบกับนิทรรศการ******รอ ข้อมูล****** :19


MUSIC

The Darkness Hot Cakes (EMI)

แฮร์แบนด์แปลงร่าง

ความส�ำเร็จของ The Darkness เป็ นเรื่องทีค่ นเขียนสงสัยมานาน เพราะไม่ เข้าใจว่าท�ำไมงานเปิ ดตัวชุดแรกในปี 2003 ถึงได้โด่งดังนักหนา ทัง้ ๆ ทีจ่ ะว่าไปแล ้ว ตัวเพลงก็ไม่ได้มอี ะไรแปลกใหม่ แถมการได้เห็นนักร้องน�ำอย่างจัสติน ฮอว์กนิ ส์แต่ง ตัวเหมือน เฟรดดี้ เมอคิวรี่ หรือ เดวิด ลี ร็อธ นัน้ ก็ไม่เห็นจะเข้าท่าตรงไหน จน หลายครัง้ อดคิดไม่ได้วา่ ถ้าคนทีพ่ ากันกรีด๊ วงดนตรีวงนี้เอาเวลาไปฟัง Queen หรือ Van Halen ก็น่าจะสนุก (และได้สาระ) กว่ากันตัง้ เยอะ กระทัง่ เมือ่ ได้ลองฟังบางเพลงจาก Hot Cakes งานชุดใหม่ของพวกเขาแล ้ว ความคิดทีเ่ คยมีต่อวงดนตรีวงนี้กเ็ ปลีย่ นไป และแม้วา่ จะอาจจะยังไม่ได้หนั กลับมา ชื่นชอบกันอย่างเต็มตัว แต่อย่างน้อยงานชุดที่ 3 ของวง (กับสมาชิกยุคดัง้ เดิมครบ ทีม) ก็ถอื ว่าสอบผ่านได้สบายๆ และน่าจะเป็ นก้าวแรกของการกลับมาทีน่ ่าพึงพอใจ ส�ำหรับบรรดาหนุ่มๆ จากอังกฤษวงนี้ อันทีจ่ ริงดนตรีของ The Darkness นัน้ ก็ไม่ได้เป็ นของตืน่ เต้นอะไรนัก ด้วย ดนตรีทผ่ี สมเอาฮาร์ดร็อคและเฮฟวีเ่ มทัลด้วยอีกหน่อย กับเสียงร้องแหลมสูงทีม่ ี เอกลักษณ์ของจัสตินนักร้องน�ำ (ทีน่ ่าข�ำก็คอื Wikipedia ยังลงข้อมูลว่าพวกเขา เป็ นวงแกลมร็อคเสียด้วยซ�ำ้ ) แต่สง่ิ หนึ่งทีต่ อ้ งยอมรับก็คอื พวกเขาท�ำได้ดใี นการใช้ งานเสียงร้องของจัสตินให้ขบั เคลือ่ นร่วมกับดนตรีทม่ี จี งั หวะจะโคนคึกคักเร้าใจ และ ริฟฟ์ กตี าร์เท่ๆ ได้อย่างลงตัว อีกทัง้ การเลือกหยิบเอาดนตรีฮาร์ดร็อคนิด เฮวีเ่ มทัล หน่อย มาผสมและท�ำให้ดูเข้ากับยุคสมัยนัน้ ก็เป็ นอีกเรื่องทีต่ อ้ งให้คำ� ชม

60 ยังแจ๋ว...

นอกเหนือจากสิง่ ทีก่ ล่าวมาแลว้ อีกเหตุผลหนึ่งทีค่ นเขียนประทับใจ Hot Cakes เป็ นพิเศษ คงอยู่ทอ่ี ารมณ์ของเพลงโดยรวมทีช่ วนให้หวนกลับไปนึกถึงช่วง เวลาทีว่ งเฮฟวีเ่ มทัลและบรรดาแฮร์แบนด์ทงั้ หลายประกาศศักดาอยู่ในโลกดนตรี แม้หลายคนอาจมองว่าสิง่ เหล่านี้เชยและตกรุ่นไปแล ้ว แต่เมือ่ ถูกน�ำเสนออีกครัง้ ใน รูปลักษณ์ทด่ี ูเหมาะกับยุคสมัยมากขึ้น นอกจากจะช่วยท�ำให้ทศั นคติทเ่ี คยมอง The Darkness ในฐานะวงดนตรีทแ่ี ค่เอาของเก่ามาเล่าใหม่ ให้กลายเป็ นวงดนตรีทร่ี ูจ้ กั หยิบฉวยสิง่ ของจากเมือ่ วันวานมาสร้างสรรค์ใหม่ได้อย่างน่าสนใจแล ้ว ยังช่วยย้อน วันเวลาให้นึกถึงเมือ่ ครัง้ ทีเ่ คยบูชาทรงผมยาวสลวย ชุดหนังหรือกางเกงรัดติ้ว หรือ แม้แต่พฤติกรรมเห่ยๆ อย่างการสะพายไม้กวาดแล ้ววาดลีลาราวกับเป็ นมือโซโล่ไฟ แลบ (และแอบข�ำทุกครัง้ ทีเ่ ห็นเด็กๆ ใส่เสื้อทัวร์หรือรองเท้า Dr.Martens ทีเ่ คยคิด ว่าคงเอาท์ไปนานแล ้ว) ขึ้นมาอีกครัง้ เวลาเท่านัน้ ทีจ่ ะบอกได้วา่ The Darkness จะน�ำพางานดนตรีของพวกเขา ไปได้ไกลแค่ไหน แต่อย่างน้อยในโลกทีอ่ ะไรๆ ก็กา้ วไปข้างหน้าจนตามแทบไม่ทนั อย่างในปัจจุบนั บางทีการหันมามีความสุขกับเรื่องราวในอดีตบ้างก็คงจะไม่ผดิ บาป อะไรนัก และถึงแม้อดีตนัน้ จะมาในรูปลักษณ์ทแ่ี ปลกออกไป (และโดยคนทีไ่ ม่ใช่) แต่กค็ งไม่เสียหายอะไรเช่นกันทีจ่ ะทดลองสัมผัสดู

ถึงแม้เมคอัพและคอสตูมสุดประหลาดทีเ่ คยเป็ นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของยุคสมัย อาจกลายเป็ นแค่ของ แปลกประหลาดส�ำหรับคนในยุคนี้ไปแล ้ว (เช่นเดียวกับดนตรีฮาร์ดร็อคทีด่ ูเหมือนจะเป็ นของขึ้นหิ้งไปด้วยเช่น กัน) แต่ดูเหมือน Kiss จะไม่ได้แคร์กบั เรื่องทีว่ า่ แต่อย่างใด และ Monster (Universal Music) ผลงานล่าสุด ของพวกเขา (ในยุคทีเ่ หลือแค่ พอล สแตนลีย ์ และ จีน ซิมมอนส์ เท่านัน้ ทีเ่ ป็ นสมาชิกดัง้ เดิม) ก็มดี พี อทีจ่ ะได้ รับค�ำชมเสียด้วย สิง่ ทีน่ ่าชมในงานชุดใหม่น้ ีก็คือ การทีด่ นตรีฮาร์ดร็อคและเฮฟวีเ่ มทัลของพวกเขา ยังคงขับเคลือ่ นได้ อย่างกระฉับกระเฉงและเปี่ ยมด้วยชีวติ ชีวา แม้อาจจะยังไม่ถงึ ระดับเดียวกับเมือ่ ครัง้ ทีพ่ วกเขาสร้างชือ่ ให้ตวั เอง ในยุคแรกเริม่ แต่ถา้ คิดว่าวงดนตรีร่นุ ราวคราวเดียวกันต่างพากันล ้มหายตายจากหรือเลิกราไปก็มากแล ้ว (แถม สองสมาชิกหลักยังอยู่ในวัยคุณปู่ดว้ ย) การทีพ่ วกเขายังร็อคได้แบบนี้ ก็เพียงพอต่อการยกนิ้วให้ในคุณภาพ และยินดีกบั การคงอยู่ของพวกเขา ส่วนใครทีค่ ดิ ว่าทางวงคงหมดทางหากินจนต้องขุดชุดและเมคอัพมาขายนัน้ คงต้องบอกว่าเรื่องฝี มอื น่ะยังไหว ส่วนชุดนัน้ ไซร้...เขาแค่เอาไว้เรียกแขก :20


Music Review

The Flaming Lips

The Flaming Lips and Heady Fwends

(Warner Bros.) เฉพาะชื่อชัน้ และคุณภาพของวงก็เรียก แขกได้เยอะแล ้ว งานชุดล่าสุดของ เดอะ เฟล มมิง ลิปส์ ยังเต็มไปด้วยสารพัดแขกรับเชิญที่ แต่ละชื่อล ้วนแต่น่าสนใจทัง้ นัน้ แถมยังมีส่วน ช่วยเพิม่ ความหลากหลายให้กบั งานที่อุดมไป ด้วยซาวน์ดหลอนๆ กับดนตรีหนักๆ ของพวก เขาได้เป็ นอย่างดี

Beth Orton

Sugaring Season

The Collection

เหตุผลที่ HIP เลือก Fifty Big Ones Greatest Hits (Capitol) และ A&M 50 : The Anniversary Collection (A&M) มาแนะน�ำว่าน่าสะสมใน กรอบนี้ ไม่ใช่เพราะทัง้ สองชุดเป็ นงานรวมฮิตทีม่ เี พลงให้ฟงั กันอย่างจุใจ แต่เป็ น เพราะนอกเหนือจากทีม่ าของงานทัง้ 2 ชุดจะเกิดขึ้นเนื่องในวาระเฉลิมฉลองครบ รอบ 50 ปี เหมือนๆ กันแล ้ว สิง่ ทีม่ คี ุณค่าและท�ำให้งานทัง้ 2 ชุดนี้ควรแก่การเก็บ ไว้ในคอลเล็คชัน่ อยู่ทบ่ี รรดาบทเพลงทีถ่ กู รวบรวมไว้ ซึง่ ช่วยแสดงให้เห็นถึงเส้น ทางและความเปลีย่ นแปลงต่างๆ ทีเ่ กิดขึ้นตลอดระยะเวลา 50 ปี ในวงการดนตรี ได้เป็ นอย่างดี โดยในงานชุดแรก 50 เพลงทีบ่ รรจุอยูใ่ นซีดี 2 แผ่น จัดเพลงฮิตของเดอะ บีช บอยส์ มาได้อย่างครบถ้วน (งานนี้เป็ นส่วนหนึ่งในโปรเจ็กต์ฉลองครบ 50 ปี ของวง ทีร่ วมไปถึงการรีมาสเตอร์งานเก่าและสตูดโิ ออัลบัม้ ชุดใหม่) และน่าจะ เหมาะเป็ นอย่างยิง่ ส�ำหรับใครทีส่ งสัยว่า เหตุใดวงดนตรีจากแคลิฟอร์เนียวงนี้ถงึ ได้รบั การยกย่องในระดับเดียวกับ เดอะ บีทเทิลส์ และ เดอะ โรลลิง่ สโตนส์ ส่วน ในงานหลัง ทัง้ 60 เพลงทีบ่ รรจุในซีดี 3 แผ่นท�ำให้เราได้เห็นว่า เฮิรบ์ อัลเพิรท์ และ เจอร์ร่ี มอสส์ นัน้ มีสว่ นร่วมในการสร้างสรรค์งานเพลงดีๆ (และดึงดูดศิลปิ น ดังๆ ให้มาร่วมงาน) มากมายขนาดไหน และท�ำไม เอแอนด์เอ็ม เรคคอร์ดส์ ของ พวกเขาถึงกลายเป็ นหนึ่งในค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ของวงการดนตรีโลกได้

(Anti) ปล่อยผลงานชุดใหม่หลังจากเงียบหาย ไป 6 ปี เพลงโฟล์คในแบบของ เบธ ออร์ตนั อาจฟัง ดู ห ม่ น มัว ทัง้ จaากท่ ว งท�ำ นองและ สารพัดเสียงที่ดึงเข้ามาช่ วยสร้างสีสนั (โดย เฉพาะเครื่องสายทีม่ บี ทบาทโดดเด่น) แต่ภาย ใต้ความหม่นมัวนัน้ ก็แฝงไว้ดว้ ยความไพเราะ งดงามทีน่ ่าชื่นชมในคุณภาพ

Ellie Goulding Halcyon

(Cherrytree) งานชุดที่ 3 ของสาวอังกฤษทีย่ งั คงผสม เสียงร้องในแบบโซลของเธอเข้ากับดนตรีอนิ ดี้ ร็อคและซาวด์อเิ ล็คทรอนิกส์ ซึง่ นัน่ อาจท�ำให้ งานของเธอดูจะฟังยากกว่าสาวๆ จากอังกฤษ อีกหลายคนในรุ่นไล่ๆ กัน แต่ในขณะเดียวกัน ก็ทำ� ให้งานของเธอแตกต่างและน่ าสนใจด้วย เช่นกัน

Zedd Clarity

(Interscope) เรือ่ งทีน่ ่าชมในงานชุดแรกของหนุ่มจาก เยอรมันคนนี้ (มีเครดิตจากการร่วมงานกับสค ริลเล็กซ์และศิลปิ นดังๆ อีกหลายคน) นอกจาก สารพัดซาวด์อเิ ล็กทรอนิกส์ทเ่ี ขาเลือกหยิบมา ใช้จะฟังดูเข้าท่าน่าสนใจแล ้ว เพลงเฮาส์ของเขา ยังคึกคักเร้าใจ และชวนให้เต้นได้อย่างร้ายกาจ อีกต่างหาก

The Journey Without Maps

คุณภาพของ The Journey Without Maps (Smallroom) ไม่วา่ จะจาก ภาคดนตรีทล่ี งตัว ท่วงท�ำนองทีห่ ม่นทึมแต่เข้าถึงอารมณ์ความรูส้ กึ ได้อย่างมี พลัง และเรือ่ งราวทีบ่ อกเล่าผ่านถ้อยค�ำได้อย่างมีเอกลักษณ์ของ อภิชยั ตระกูล เผด็จไกร หรือ Greasy Café นัน้ ถือว่าอยู่ในขัน้ ดีเยีย่ ม ชนิดแทบไม่มอี ะไรให้ ต�ำหนิ จนไม่น่าเชือ่ ว่าทีม่ าของงานชุดนี้ เกิดขึ้นจากการทีศ่ ิลปิ นประสบกับความ หดหูผ่ ดิ หวังในชีวติ และตัดสินใจเดินทางไปยังประเทศอังกฤษพร้อมกับความ หวันวิ ่ ตกว่าจะไม่สามารถสร้างผลงานเพลงออกมาได้อกี ถ้าการเดินทางครัง้ นัน้ น�ำมาซึง่ ความคลีค่ ลายในชีวติ และแรงขับเคลือ่ นในการสร้างสรรค์ผลงานทีท่ งั้ ลุม่ ลึกและคมคายแลว้ บางทีน่ีอาจถือเป็ นโชคดีของผูฟ้ งั อย่างเราด้วย ทีก่ าร เดินทางโดยไม่มจี ดุ หมายปลายทางนัน้ ให้ผลลัพธ์ออกมาเป็ นบทเพลงชัน้ ยอด เช่นงานชุดนี้

The Lumineers The Lumineers

(Dualtone) 2 หนุ่ม 1 สาวจากโคโลราโดกลุม่ นี้เปิ ด ตัวด้วยงานดนตรีท่มี สี ่วนผสมของโฟล์คและ อเมริกานา เมือ่ ดูจากภาพรวมแล ้ว บทเพลงที่ ทัง้ ติดหูฟงั ง่ายและเต็มเปี่ ยมไปด้วยกลิน่ อาย ลูกทุง่ ของพวกเขานัน้ มีแนวโน้มทีจ่ ะไปได้สวย อยู่ไม่นอ้ ยเลย ถือเป็ นการเปิ ดตัวที่น่าเอาใจ ช่วยให้ไปต่อ :21


ITการเดิ’Sนทางแสนอมตะของสวิ BETTER TOง TRAVEL เอาท์ ซิสเตอร์ เรื่อง: ลุงทอย

ย้อนไปในปี 1986 ท่ามกลางกระแสเสียงเพลงนิว เวฟ ที่ผสมผสานงานอิเล็กทรอนิกส์ กับดนตรีร็อคออกมาเป็นงานดนตรีป็อปที่มีลักษณะเฉพาะ ผ่านภาพลักษณ์ถูกปรุงแต่งมา อย่างดี วงทรีโอจากอังกฤษวงหนึ่งสร้างความแตกต่างทางดนตรีให้กับตัวเอง จากการเดิน ทางสายดนตรีก้าวแรก ด้วยการผสมผสานดนตรีแจ็ซซ์ลงในเพลง ท�ำให้พวกเขาและ ‘เธอ’ ประสบความส�ำเร็จอย่างงดงามในบ้านเกิด ก่อนจะข้ามฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติคไปจนถึง อเมริกา วงทรีโอวงนัน้ ชื่อว่า สวิง เอาท์ ซิสเตอร์ และงานชุด นัน้ คืออัลบัม้ แรกของพวกเขา It’s Better to Travel ชื่อวง สวิง เอาท์ ซิสเตอร์ ไม่ได้มคี วามหมายพิเศษ อะไร นอกจากเป็ นชื่อหนังปี 1945 ทีน่ ำ� แสดงโดย อาร์เธอ ร์ ทรีเชอร์ ซึง่ สมาชิกในตอนก่อตัง้ วงเมือ่ ปี 1985 ทีแ่ มน เชสเตอร์ แอนดี้ คอนเนลล์ (คียบ์ อร์ดส์), มาร์ตนิ แจ็คสัน (กลอง) และ คอรินน์ ดรูเวอร์ร่ี (ร้องน�ำ) เห็นพ้องต้องกัน มากทีส่ ุดแล ้ว แม้จะไม่มใี ครชอบเลยก็ตาม คอนเนลล์ กับ แจ็คสัน เคยเล่นดนตรีมาก่อนหน้าแต่ ดรูเวอร์ร่ี เธอคือนัก ออกแบบเสื้อผ้าและนางแบบ ทีไ่ ม่มปี ระสบการณ์ในการ ท�ำงานเพลงมาเลย แต่ 2 นักดนตรี กับหนึ่งนางแบบ-คน ออกแบบเสื้อผ้า ก็ทำ� ให้ดนตรีป็อปของ สวิง เอาท์ ซิสเตอร์ กลายเป็ นหมายเหตุสำ� คัญในหน้าประวัตศิ าสตร์วงการเพลง และน่าจะเป็ นพิมพ์เขียวชิ้นส�ำคัญให้กบั งานอิเล็กทรอนิกส์ :22

ในยุคถัดๆ มาอย่าง เซนต์ เอเตียง หรือว่างานของ เอฟเวรี่ธงิ บัท เดอะ เกิรล์ ชื่ออัลบัม้ It’s Better to Travel นัน้ มีทม่ี าจาก ‘It’s better to travel hopefully than to arrive.’ ซึง่ เป็ นการถอดความจากค�ำกล่าวของ โรเบิรท์ หลุยส์ สตีเวนสัน นักเขียนชาวสก็อตติช ทีว่ า่ ‘To travel hopefully is a better thing than to arrive, and the true success is to labour.’ และการเดินทางก้าวส�ำคัญของอัลบัม้ ก็คือการมาบรรจบพบกันของดนตรี แจ็ซซ์กบั งานอิเล็กทรอนิกส์ป็อปร่วมสมัย ทีเ่ ขย่าผสมกันได้อย่างกลมกลืน จนกลาย เป็ นเสน่ห ์ และส�ำเนียงดนตรีทแ่ี ตกต่างในยุคนัน้ (หรือกระทังยุ ่ คนี้) ให้อารมณ์เคลิ้ม ฝัน ซาวนด์อบอุ่น นุ่มนวล ไม่ใช่แข็งกระด้างจากเครื่องดนตรีอเิ ล็กทรอนิกส์ เพราะ สวิง เอาท์ ซิสเตอร์ ยังให้ชวี ติ ชีวากับบทเพลงด้วยเสียงเครื่องเป่ าทองเหลืองสดๆ และเครื่องสาย (เล่นโดยใช้ซนิ ธิไซเซอร์) ขณะทีก่ ารเขียนสกอร์ให้กบั เพลงของ ริ ชาร์ด ไนล์ส ก็เติมเต็มความอิม่ ในเนื้อดนตรีของวงให้มากขึ้น แล ้วทีล่ มื ไม่ได้เสียง ร้องทีช่ วนให้หลงรักของ ดรูเวอร์ร่ี ทีน่ กั วิจารณ์หลายๆ คนบอกว่า ท�ำให้นึกถึงเสียง ร้องระดับต�ำนานอย่าง ดัสตี้ สปริงฟิ ลด์


รวมไปถึงจัดให้ สวิง เอาท์ ซิสเตอร์ อยู่ในกลุม่ เดียวกับศิลปิ นแบบ โซฟิ สติ-ป็ อป (Sophisti-Pop) เจ้าของงานเพลงป็ อปทีผ่ สมผสานดนตรีรอ็ ค, แจ็ซซ์ และ โซล อย่าง ร็อกซี่ มิวสิค, ชาเด, เดอะ สไตล์ เคาน์ซลิ เป็ นต้น สวิง เอาท์ ซิสเตอร์ ท�ำ It’s Better To Travel ร่วมกับโปรดิวเซอร์ พอล สแตฟลีย ์ โอดัฟฟี่ โดยก่อนอัลบัม้ จะออก ทางวงทีเ่ ซ็นสัญญากับ เมอร์ควิ รี่ เรคอร์ด ส์ ก็ปล่อยซิงเกิ้ล Blue Mood ชิมลางก่อนในอังกฤษในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ.1985 แต่ก็ไปได้ไม่ถงึ ไหน ไม่ตดิ ชาร์ทและไม่สร้างชื่อให้กบั วงเลย จนอีกเกือบๆ หนึ่งปี เต็ม พวกเขาก็ตดั Breakout เป็ นซิงเกิ้ล และนันก็ ่ คอื จุดเปลีย่ นของ สวิง เอาท์ ซิสเตอร์ Breakout เพลงเปิ ดอัลบัม้ และซิงเกิ้ลแรก คือเพลงส�ำคัญทีไ่ ม่ใช่เฉพาะกับ อัลบัม้ นี้ หรือกับ สวิง เอาท์ ซิสเตอร์ เพราะนี่คอื หนึ่งในซิงเกิ้ลป็ อปเยีย่ มยอดทีส่ ุด เพลงหนึ่งของเกาะอังกฤษจากปลายยุค 80 และความเฉพาะตัวของเพลง ก็ไม่ได้ ท�ำให้แค่นกึ ถึงยุคสมัยนัน้ ในยามได้ยนิ หากแต่เฉพาะเจาะจงลงไปยิง่ กว่า เมือ่ คิดถึง ได้แค่ สวิง เอาท์ ซิสเตอร์ ด้วยซ�ำ้ ไป Breakout ขึ้นถึงอันดับ 4 ในชาร์ทซิงเกิ้ลของ อังกฤษ เดือนพฤศจิกายน 1986 ก่อนจะไปดังในอเมริกา และขึ้นอันดับ 6 ของชาร์ท บิลล์บอร์ด ฮอท 100 ในอีกหนึ่งปี ถดั มา ซิงเกิ้ลที่ 2 Surrender ทีเ่ ด่นด้วยเสียงโซโลทรัมเป็ ตของ จอห์น เธอร์เคลล์ ขึ้นถึงอันดับ 7 ชาร์ทเพลงของอังกฤษในเดือนมกราคม 1987 พอมาถึงซิงเกิ้ลที่ 3 Twilight World เป็ นงานขายความเข้มข้นทางดนตรี และมีความเป็ นแจ็ซซ์มากขึ้น ซึง่ ในยุคนัน้ เพลงนี้ถกู หยิบจับน�ำไปท�ำรีมกิ ซ์เป็ นว่าเล่น สวิง เอาท์ ซิสเตอร์ ปิ ด อัลบัม้ ด้วยซิงเกิ้ลสุดท้าย Fooled By a Smile เพลงสนุกๆ ดนตรีแบบนอร์เธิรน์ โซลเสนาะหู ทีย่ อ้ นกลับไปในเส้นทางทีพ่ วกเขาเริ่มต้นจาก Breakout แต่ในอัลบัม้ ก็ยงั มีเพลงที่น่าสนใจอย่างเพลงบรรเลงในสไตล์งานดนตรีประกอบภาพยนตร์ Theme From It’s Better To Travel ซึง่ แสดงให้เห็นศักยภาพการท�ำงานดนตรี ของวงได้เป็ นอย่างดี ตัวอัลบัม้ It’s Better to Travel ออกวางจ�ำหน่ายในอังกฤษ วันที่ 11 พฤษภาคม 1987 และขึ้นถึงอันดับ 1 ในชาร์ทอัลบัม้ ของอังกฤษ นอกจากความ ส�ำเร็จจากคนฟัง It’s Better to Travel ยังท�ำให้ สวิง เอาท์ ซิสเตอร์ ได้รบั การเสนอ ชื่อเข้าชิงรางวัลแกรมมีใ่ นปี 1988 ถึง 2 สาขา คือ Best New Artist และ Best Pop Vocal Performance by a Group or Duo (จากเพลง Breakout) กับความส�ำเร็จทีไ่ ด้รบั การเป็ นอัลบัม้ ทีอ่ ยู่เหนือกาลเวลา นอกจากการวาง จ�ำหน่ายครัง้ แรกในแบบแผ่นไวนีล ทีม่ เี พลงบรรจุไว้เพียง 9 เพลง It’s Better to Travel ถูกน�ำกลับมาท�ำใหม่ อีกหลายต่อหลายครัง้ โดยในครัง้ ล่าสุดในวาระครบ รอบ 25 ปี ของอัลบัม้ ชุดนี้ ยูนิเวอร์แซล มิวสิค ต้นสังกัดของวง ได้ทำ� อัลบัม้ ออกมา เป็ นซีดแี ผ่นคู่ วางจ�ำหน่ายตัง้ แต่ 16 กรกฎาคม 2555 ในซีดแี ผ่นแรกนอกจาก 9 เพลงจากต้นฉบับทีท่ ำ� รีมาสเตอร์ใหม่ ก็จะเพิม่ งานรีมกิ ซ์ 3 ซิงเกิ้ลฮิตของอัลบัม้ Breakout, Surrender และ Twilight World เข้าไป ส่วนซีดแี ผ่นที่ 2 ซึง่ เป็ นแผ่นโบนัส จะเป็ นงานรวมเพลงรีมกิ ซ์ และเพลงจาก ซิงเกิ้ลหน้าบี ซึง่ ส่วนใหญ่ไม่เคยท�ำออกมาในรูปแบบของซีดเี อาไว้ให้ฟงั กันอีก 12 เพลง และถึงวันนี้ ไม่วา่ จะเป็ นบทเพลง หรือตัวอัลบัม้ It’s Better to Travel ก็ ยังคงเดินทางจากคนฟังรุน่ หนึง่ ไปสูค่ นฟังอีกรุน่ อย่างไม่มวี นั เหน็ดเหนือ่ ยหรืออ่อนล ้า การได้ ‘เดินทาง’ ช่างดีกว่า ‘การมาถึง’ จริงๆ

ALBUM PROFILE

อัลบัม้ : It’s Better to Travel ศิลปิ น: Swing Out Sister แนวเพลง: ป็ อป, แจ็ซซ์, ร็อค ออกจ�ำหน่าย: 11 May 1987 บันทึกเสียง: 19851987 ความยาวของอัลบัม้ : 63:45 สังกัด: Mercury โปรดิวเซอร์: พอล สตาฟลีย ์ โอดัฟฟี่ เพลงซิงเกิ้ล: Blue Mood Released: November 1985, Breakout Released: October 1986 (UK Chart - 4/ Billboard Hot - 100 6), Surrender Released: January 1987 (UK Chart – 7), Twilight World Released: April 1987 (UK Chart - 32/ Billboard Hot 100 - 31), Fooled by a Smile Released: July 1987 (UK Chart 43)


FILM

ATกลับSKYFALL สู่จุดเริ่มต้น เรื่อง: ชลธิดา ภาพ: ชะมะพู่

ด้วยภาพลักษณ์ของความเป็ นฮีโร่ท่ี เจมส์ บอนด์ แบกรับมาตลอด 50 ปี สร้างภาพจ�ำให้กบั สายลับรหัส 007 ผูน้ ้ ีกลายเป็ นชายมาดแมนแฮนซัม่ ดู ดีทุก กระเบียดนิ้ว เป็ นสุภาพบุรุษอังกฤษขนานแท้ทผ่ี ูห้ ญิงค่อนโลกใฝ่ ฝนั ถึง แถมยังไม่ ได้มดี แี ค่หน้าตา แต่เขามาพร้อมความสามารถรอบตัวทัง้ ทางการต่อสูก้ บั คนร้ายและ ต่อกรกับคนน่ารัก ด้วยกลวิธอี นั แยบยล อุดมเทคโนโลยีลำ�้ สมัย แต่ บอนด์ ใน Skyfall เปลีย่ นไป อาจจะด้วยความทีภ่ าคนี้ไม่ได้สร้างจาก บทประพันธ์ของ เอียน เฟรมมิง่ (Ian Fleming) เฉกเช่นภาคก่อนๆ แต่เป็ นการ ตีความ บอนด์ โดยฝี มอื การเขียนบทและก�ำกับของ แซม เมนเดส (Sam Mendes) ผูก้ ำ� กับทีโ่ ด่งดังทางหนังสายดราม่า โดยเฉพาะเรื่อง American Beauty สร้างให้ เข้าเป็ นทีร่ ูจ้ กั ไปทัว่ โลก บอนด์ ในภาคนี้จงึ มีความเป็ นมนุษย์มากขึ้น ลดฉากแอคชั ่ นบ้าเลือดสุดระห�ำ่ ลง แต่เพิม่ ชีวติ จิตใจ และปมวัยเด็กของ บอนด์ เข้ามา ซึง่ ท�ำให้ บอนด์ ในภาคนี้เป็ นสายลับทีด่ ูมอี ยู่จริง จับต้องได้ หากบางอย่างจะต้องเปลีย่ นแปลงไป การครบรอบครึง่ ศตวรรษของภาพยนตร์ เรื่องนี้ ก็ถอื ว่าเป็ นโอกาสอันดีสำ� หรับความเปลีย่ นแปลง เมนเดส เปลื้องภาพลักษณ์ความเป็ นฮีโร่สุดไฮเทค หล่อล�ำ ้ น�ำสมัย ของ บอนด์ ทิ้งไปเกือบหมดสิ้น แถมยังใจร้ายปล่อยให้พระเอกของเราพ่ายต่อคู่ต่อสูอ้ ย่าง ยับเยินตัง้ แต่ฉากแรก ด้วยถูกพวกเดียวกันยิงพลาดท�ำให้เขาตกลงไปในสายน�ำ้ อัน เกรี้ยวกราดของประเทศตุรกี และหายสาบสูญไป บอนด์ อาจหายไป Enjoying Death แบบตลอดกาลหากไม่เกิดเหตุรา้ ยกับ MI6 ต้นสังกัดของเขาเสียก่อน นัน่ ท�ำให้เขากลับมาเพือ่ รับหน้าทีส่ ายลับรหัส 007 อีกครัง้ แต่คราวนี้ไม่เหมือนเดิม เพราะ บอนด์ เริ่มแก่ไปเสียแล ้ว ก�ำลังวังชา ความ คล่องแคล่วก็ลดลง ยิงปื นไม่เข้าเป้ า แถมยังติดเหล ้าและยาเสพติดอีกต่างหาก (โปรด ลืม ‘มาร์ตนิ ่ี เขย่า ไม่คน’ ไปได้เลย บอนด์ ภาคนี้ดม่ื ทัง้ เบียร์, วิสกี้ และแอลกอฮอล์ อืน่ อีกหลายแขนง) ทีช่ วี ติ เขาตกต�ำ่ ขนาดนี้อาจมาจากสาเหตุของความแคลงใจทีเ่ ขา

*บทความนี้เปิ ดเผยเนื้อหาภาพยนตร์

มีต่อ เอ็ม ในทีเ่ ขาท�ำงานถวายชีวติ แต่หวั หน้ากลับสังให้ ่ ยงิ โดยไม่สนว่ากระสุนจะ ถูกเขาหรือไม่ ความรูส้ กึ น้อยใจ ไม่ไว้วางใจผลักให้ บอนด์ เลือกหลบหายไปท�ำตัว ส�ำมะเลเทเมาประชดชีวติ มันเสียเลย สายสัมพันธ์ก็เหมือนสายบัว ไม่อาจตัดขาดง่าย เมือ่ เอ็ม ก�ำลังเดือดร้อน MI6 ถูกบุกอย่างหนัก บอนด์ ก็อดไม่ได้ทจ่ี ะกลับมา แม้จะยังเคืองอยู่ แต่ทส่ี ุดแล ้ว บอนด์ ก็ตระหนักดีวา่ ระหว่างเขากับเอ็มนัน้ ตัดไม่ได้ขายไม่ขาด อาจเพราะลึกๆ แล ้ว ทัง้ คู่มคี วามเชื่อใจกันยึดโยงอยู่อย่างเหนียวแน่น ในภาคนี้ผูก้ ำ� กับวางตัวร้ายให้เป็ นอดีตสายลับอัจฉริยะของ MI6 ชื่อ ซิลวา (Silva) เขาเคยป็ นคนโปรดของ เอ็ม เช่นเดียวกับ บอนด์ แต่ความผิดพลาดในการ ปฏิบตั งิ านภาคสนามท�ำให้เขาถูกผูก้ ่อการร้ายจับตัวไปทรมาน เขาพยายามฆ่าตัวตาย ด้วยไซยาไนซ์ทฝ่ี งั อยู่ในฝันของสายลับทุกคน แต่ไม่ตาย ความเจ็บปวดทางร่างกาย บวกกับการสูญเสียความศรัทธาต่อ เอ็ม ท�ำให้ ซิลวา กลับมาเอาคืน MI6 โดยเฉพาะ เอ็ม เมือ่ การก่อการร้ายท�ำง่ายได้เพียงปลายนิ้ว ในโลกทีด่ ูเหมือนว่าจะไม่มคี วาม ลับ และสิง่ ทีอ่ ยู่ในเงามืดอีกต่อไป การมีอยู่ขององค์กรสายลับอย่าง MI6 จึงถึงคราว ถูกตรวจสอบ และทบทวนว่าควรมีอยู่หรือไม่ สายลับส�ำหรับปฏิบตั ภิ ารกิจเสีย่ งตาย เป็ นเรื่องคร�ำ่ ครึไปแล ้วหรือเปล่าในยุคของไซเบอร์ เฉกเช่นเดียวกับ บอนด์ เขาอาจ แก่เกินไปแล ้วส�ำหรับการท�ำงานสายลับ หนังเหมือนจะเปรียบเทียบระหว่างโลกยุคใหม่ทเ่ี ต็มไปด้วยสิง่ ไฮเทคของไม่ ว่าจะเป็ นเรื่องของอาวุธสุดล�ำ ้ หรือวิธีการก่อการร้ายทีใ่ ช้เครือข่ายออนไลน์ในการ ปลุกปัน่ ซึง่ ภาพของความเป็ นฮีโร่ยุคใหม่ และผูก้ ่อการร้ายยุคใหม่ถกู น�ำเสนอผ่าน ตัวละครอย่าง Q หัวหน้าหน่วยผลิตอาวุธทีภ่ าคนี้มบี ทบาทมากขึ้น และ ซิลวา ทีไ่ ม่ จ�ำเป็ นต้องลงสนามเพือ่ ปฏิบตั กิ าร เพียงแต่เปิ ดคอมพิวเตอร์และคลิกเพียงเท่านัน้ ก็ ก่อความวุน่ วายในส่วนใดก็ได้บนโลก


Coming Soon

Did You Know:

เกาะร้างทีซ่ ลิ วาตัวร้ายของเรื่อง ใช้เป็ นฐานปฏิบตั กิ ารนัน้ มีอยู่จริง มีช่อื ว่าเกาะ Hashima ตัง้ อยู่ในประเทศ ญีป่ ่ นุ หรือรูจ้ กั กันในชือ่ Gunkanjima ซึง่ แปลว่าเรือรบ เกาะนี้อยูห่ า่ งจากเมือง Nagasaki ประมาณ 15 กิโลเมตร ผู่ ้ เป็ นเจ้าของกรรมสิทธิ์คือบริษทั Mitsubishi ซื้อเกาะแห่งนี้ในปี 1890 เพือ่ ใช้เ ป็ นที่ พ กั ส�ำ หรับ คนงานเหมื อ ง ถ่านหิน เมือ่ น�ำ้ มันเข้ามามีบทบาทแทน ถ่านหินก็ทำ� ให้เหมืองบนเกาะนี้ปิดตัว ไปด้วยในปี 1974 ผูค้ นบนเกาะซึง่ ล ้วน เป็ นพนักงานของ Mitsubishi ก็อพยพ ออกจากเกาะนี้จนหมด จากเกาะทีเ่ คย มีประชากรหนาแน่น 835 คนต่อเฮค เตอร์กลายสภาพเป็ นเกาะร้างในพริบตา

ในขณะที่ บอนด์ ถูกลดอาวุธไฮเทคลงเหลือเพียงปื น 9 มม. ติดเซ็นเซอร์ 1 กระบอก และวิทยุตดิ ตามตัว แต่เขาก็ยงั เอาตัวรอดและจับผูร้ า้ ยอย่างซิลวากลับมา ได้ (อันทีจ่ ริงต้องบอกว่า ซิลวา วางแผนให้จบั ตัวเองมาต่างหาก) ยิง่ ตอนต่อสูก้ นั ใน Skyfall บ้านเกิดของ บอนด์ เป็ นการกลับคืนสู่อดีตอย่างเต็มตัว ไม่วา่ จะเป้ นการ เปลีย่ นจากรถขององค์กรมาใช้รถคู่บุญตัง้ แต่ภาคแรกของ บอนด์ อย่าง Aston Martin DB5, การกลับไปสูพ่ ้นื ทีแ่ ห่งวัยเยาว์ของตัวเองทีไ่ ม่เคยถูกพูดถึงในภาคอืน่ ๆ มาก่อน รวมทัง้ อาวุธยุโธปกรณ์ทม่ี เี พียงปื นไรเฟิ ล, ระเบิดท�ำมือ และมีด อาวุธเก่า แก่ทส่ี ุดของมนุษย์กว็ า่ ได้ การกลับมาสูจ่ ดุ เริ่มต้นของ บอนด์ ในครัง้ นี้ เผยให้เห็นปมบางอย่างในใจเขา ทัง้ เรื่องในวัยเด็กทีไ่ ม่ค่อยแฮปปี้ เท่าไหร่, พ่อแม่ถกู ฆ่าตายกลายเป็ นลูกก�ำพร้า และ เรื่องทีว่ า่ เอ็ม อาจจะเป็ นผูด้ ูแลเขามาตัง้ แต่ตอนนัน้ จึงท�ำให้ทงั้ คู่ผูกพันกันมาก การ มีอยู่ของ เอ็ม ช่วยให้ บอนด์ รูส้ กึ ถึงคุณค่าในตัวเอง อย่างน้อยส�ำหรับ เอ็ม เขาคือ สายลับมือหนึ่ง และ เอ็ม ก็เหมือนเป็ นแม่ของเขาจริงๆ อย่างทีท่ กุ คนใน MI6 เรียก เธอว่า คุณแม่ (Mom) ฉากต่อสู่ในบ้านอันดุเดือดแสดงให้เห็นถึงไหวพริบและความสามารถอัน แท้จริงของ บอนด์ เมือ่ ปราศจากอาวุธไฮเทคจาก Q เขาก็ยงั มีนำ�้ ยา และฟัดศัตรูได้ อย่างเมามันเฉกเช่นเดียวกับหมาล่าเนื้อมากประสบการณ์ กระทังฉากสุ ่ ดท้ายทีค่ ่อน ข้างสร้างความประหลาดใจให้มาก แม้จะรูอ้ ยู่แล ้วล่ะว่าถึงอย่างไร บอนด์ ก็ตอ้ งชนะ แน่ แม้ผูร้ า้ ยจะเก่งแค่ไหน แต่คาดไม่ถงึ ว่าภาคนี้จะกล ้าเขียนบทให้ เอ็ม ตายตอน จบ เมือ่ สิ้นคนไว้เนื้อเชื่อใจตนเองอย่างทีส่ ุดไปแล ้ว บอนด์ ก็เหมือนเรือขาดหาง เสือ แต่กน็ นั ่ ล่ะ เขาคือสายลับไม่มวี นั ตาย และหมาแก่ตวั นี้กย็ งั คงมีลูกเก๋ามากพอ จะท�ำให้เขาได้รบั หน้าทีเ่ ป็ นสายลับรหหัส 007 ต่อไป นี่อาจเรียกได้วา่ เป็ นการตายแล ้วเกิดใหม่ของ บอนด์ อย่างแท้จริงเลยก็วา่ ได้

วิ่ง ปล้น ฟัด (Chinese Zodiac)

ก�ำกับ: เฉินหลง ประเภท: Action เข้าฉาย: 12 ธันวาคม 2555 เอาใจคอหนังแอ็คชัน่ ด้วยภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของ เฉินหลง เจ้าพ่อนักบูส๊ ู ้ ฟัด การันตีความอลังการด้วยทุนสร้างกว่า 300 ล ้านหยวน เล่าเรื่องราวของ ฮอร์ค นักผจญภัยล่าสมบัตทิ อ่ี อกเดินทางรอบโลก เพือ่ ตามหาหัวรูปปัน้ ทองแดงของ 12 นักษัตรที่ถูกขโมยไปจากพระราชวังฤดูรอ้ นในกรุงปักกิ่งไปตัง้ แต่ศตวรรษที่แลว้ พวกเขาต้องรีบเร่งท�ำงานแข่งกับเวลา เพราะประตูขมุ ทรัพย์สุดท้ายที่ ฮอร์ค และลูก ทีมตามหาก�ำลังจะปรากฏเพียงครัง้ เดียวในรอบ 100 ปี เท่านัน้

สามวันสองคืน รัก-เลิก-เลย

ก�ำกับ: ฐิตพิ งศ์ ใช้สติ, สรเทพ เวศวงษ์ษาทิพย์ ส�ำคัญ โชติกสวัสดิ์ ประเภท: Romantic เข้าฉาย: 5 ธันวาคม 2555 กว่าจะ ‘บอกรัก’ ก็วา่ ยากแสนยากแล ้ว แต่ ‘บอกเลิก’ นัน้ ยากยิง่ กว่า ถ้าคุณ เป็ น กิฟ๊ จะท�ำยังไงเมือ่ มีหนุ่ม หล่อ รวย แสนดี อยากขยับฐานะจากกิก๊ มาเป็ นแฟน สาวไม่โสดอย่างกิฟ๊ จึงคิดหนักว่าจะสลัดรักจาก โอ แฟนหนุ่มศิลปิ น ไส้แห้ง ไม่หล่อ แต่น่ารัก ออกไปให้พ ้นทางรักครัง้ ใหม่อย่างไรดี แผนการบอกเลิกบนภูกระดึงจึงเริม่ ขึ้น ระหว่างทางยากล�ำบากกว่าจะไปถึงบนนัน้ และเวลาสามวันสองคืนทีจ่ ะได้อยู่ ด้วยกันเป็ นครัง้ สุดท้าย จะท�ำให้กฟิ ๊ และโอตัดสินใจเลือกปลายทางความรักของพวก เขาอย่างไร

วันที่รัก (Together)

ก�ำกับ: ษรัณยู จิราลักษณ์ ประเภท: Drama เข้าฉาย: 20 ธันวาคม 2555 ภาพยนตร์เรื่องนี้แบ่งเป็ น 3 ส่วนเชื่อมโยงกัน เล่าเรื่องราวความรักความ สัมพันธ์หลายรูปแบบทีจ่ ะตัง้ ค�ำถาม และท�ำให้คิดถึงวันทีเ่ คยมีความรัก โดยการ ก�ำกับของ ษรัญยู จิราลักษณ์ เรื่องราวด�ำเนินขึ้นในคืนฝนตก การพบกันของคน แปลกหน้าภายในรถยนต์ทก่ี ำ� ลังวิง่ ฝ่ าฝนไปในความมืด ภาวะเงียงันนัน้ ผลักให้ทงั้ สาม จมลงในห้วงความคิด ย้อนไปถึงความผิดทีต่ นเองก่อไว้ในอดีต พวกเขาจะ เลือกกลับไปแก้ไข หรือจะปล่อยให้สูญหายไปพร้อมกาลเวลา

เดอะ เคาท์ดาวน์ (The Countdown)

ก�ำกับ: ฐิตพิ งศ์ ใช้สติ, สรเทพ เวศวงษ์ษาทิพย์, ส�ำคัญ โชติกสวัสดิ์ ประเภท: Thiller เข้าฉาย: 20 ธันวาคม 2555 ผลงานก�ำกับของผูก้ ำ� กับหน้าใหม่ในวงการ แต่มปี ระสบการณ์ทำ� หนังสัน้ ที่ เข้าตา จิระ มะลิกลุ จากหนังสัน้ เขย่าขวัญน�ำมาขยายบทให้กลายเป็ นหนังใหญ่ เรื่อง ด�ำเนินไปในคืนส่งท้ายปี ภายในหอพักกลางกรุงนิวยอร์ค สามวัยรุ่นไทยทีแ่ ชร์หอ้ ง อยู่ร่วมกัน แจ็ค หนุ่มไฮโซ, บี แฟนสาวของแจ็ค และ แพม สาวเปรี้ยว หัวสูง อยาก ให้คนื เคาท์ดาวน์ของปี น้ กี ลายเป็ นคืนทีส่ นุกสุดเหวีย่ ง จึงติดต่อ เฮซุส พ่อค้ายามา ส่งของทีห่ อ้ ง โดยทีพ่ วกเขาไม่รูเ้ ลยว่านัน่ คือการนับถอยหลังเข้าสู่วนั ใหม่ของพวก เขาทีอ่ าจไม่มอี กี ต่อไป :25


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.