1
b side
EDITORIAL J A N U A R Y 2 0 1 6 V o l. 1 2 N o. 1 3 5
หากฉันเก็บเวลาในขวดแก้ว สายน�ำ้ ไม่เคยไหลย้อนกลับ กาลเวลาก็เช่นกัน... เทศกาลปี ใหม่ทผ่ี า่ นมาหลายคนคงอยากเก็บช่วงเวลาแห่งความสุขเหล่านัน้ ไว้นานๆ เพราะไม่เพียงได้หยุดยาว พักผ่อนกันอย่างเต็มที่ แต่เป็ นห้วงเวลาทีไ่ ด้อยู่กบั คนทีร่ กั ไม่วา่ จะครอบครัว คนรัก หรือแม้กระทังเพื ่ อ่ นฝูง ทีส่ กั ปี นงึ จะมีโอกาสได้เจอกันก็ช่วงเทศกาลหยุดยาว แบบนี้ละ่ แต่งานเลี้ยงย่อมมีวนั เลิกลา และต้องพาชีวติ กลับเข้าสู่โลกแห่งความจริงทีว่ า่ วันคืนผ่านไปอีกปี แล ้ว... เด็กน้อยย่อมเติบโตขึ้น และผูใ้ หญ่กย็ ่อมแก่ตวั ลง เป็ นวัฎจักรหมุนเวียนไปเช่นนี้ … และช่วงเวลาแบบนี้...ก็ทำ� ให้เรานึกถึงเพลง ‘เวลาในขวดแก้ว’ ขึ้นมา เพลงนี้แต่งโดยคุณประภัสสร เสวิกลุ นักเขียนและศิลปิ นแห่งชาติผูล้ ว่ งลับไปแล ้ว โดยน�ำท�ำนองมาจากเพลง Time in a Bottle ของ Jim Croce ในต้นฉบับภาษาอังกฤษ Jim Croce แต่งให้แก่ลูกชาย แต่ในเวอร์ชนภาษาไทยคุ ั่ ณประภัสสร แต่งขึ้นมาเพือ่ ประกอบหนัง เรื่อง ‘เวลาในขวดแก้ว’ ซึง่ ดัดแปลงมาจากนิยายชื่อเดียวกัน อันเป็ นผลงานของเขานัน่ เอง … หากเราสามารถเก็บกอดเอาช่วงเวลาแห่งความสุขเอาไว้ตลอดไปได้กค็ งดี แต่สดุ ท้ายแล ้วเราอาจท�ำได้เพียงเก็บรอยยิ้มแห่งความสุขไว้ ในกล่องความทรงจ�ำ เผือ่ วันไหนเดินไปถึงจุดทีร่ ูส้ กึ ว่าชีวติ ไร้ค่า จะได้หยิบขึ้นมาเตือนตัวเอง...ว่าอย่างน้อยเราก็เคยมีวนั ดีๆ อยูบ่ ้างเหมือนกัน
สวัสดีปีใหม่
ชลธิดา พระเมเด หัวหน้ากองบรรณาธิการ
CONTENTS
03
TRAVEL 03 BIKE TRIP 06 BIKE SECTION 10
TRAVEL
10
สงสั ย อากาศร้ อ นจะท� ำ พิ ษ อยู ่ ๆ หั ว หน้ า กอง บรรณาธิการ HIP Magazine ก็เก็บกระเป๋าหนีความร้อน ในฤดูหนาวของเชียงใหม่ ไปลุยเดีย่ วกับอุณหภูมริ อ้ นกว่า ทีเ่ มืองย่างกุง้ ประเทศพม่าซะงัน้ กับทริปตะลุยเพือ่ นบ้าน ก่อนเปิด AEC ในปีนี้
BIKE SECTION
ครบรสเรือ่ งจักรยาน ไม่วา่ จะเป็นเส้นทาง, การแข่งขัน, กิจกรรม, สุขภาพ แม้กระทัง่ อาหารการกินก็ยังมี จากการสร้างสรรค์ และควบคุมการผลิตโดย บก. Acid Alappe 2
b side
06
BIKE TRIP
เมือ่ บก. HIP และ The Gang นักปัน ่ สายแข็ง เปลีย่ นเส้นทางไปควงขาไกลถึงฮ่องกง เมืองที่ หลายคนอาจคิดว่าไม่น่าจะมีที่ปั่นจักรยาน ซึง่ เราขอบอกว่าคุณคิดผิด!!!
digital contents www.hipthailand.net
BIKE SECTION
VISIT MYANMAR
อันดับแรกต้องยกความดีความชอบให้การเดินทางทีส่ ะดวก มากขึน้ มีหลายสายการบินและราคาให้เลือกจอง รวมทัง้ การยกเลิกวีซา่ ให้แก่ชาวไทย ท�ำให้การไปเทีย่ วพม่าครัง้ นี้สามารถไปอย่างง่ายดาย เพียงแค่หาวันว่าง จองตัวเครื ๋ อ่ งบิน แลกเงินให้เสร็จสรรพก็ไปพม่า ได้เลยแบบไม่ตอ้ งคิดมาก และส�ำหรับเราแลว้ ... พม่ามีทงั้ ความ ลึกลับน่าค้นหา มีสถาปัตยกรรม รวมทัง้ ศิลปวัฒนธรรมเฉพาะตัว ทีต่ อ้ งไปเห็นด้วยตาตัวเองสักครัง้ ในชีวติ โดยเฉพาะเจดียช์ เวดากอง อันเป็ นที่รำ� ่ ลือถึงความโอ่อ่า และเป็ นสัญลักษณ์ของแรงศรัทธา อันมากล ้นของชาวพม่าทีม่ ตี ่อพระพุทธศาสนา เราเดินทางด้วยสายการบินแอร์เอเชียจากเชียงใหม่ ไปต่อเครือ่ ง ที่สนามบินดอนเมือง เพียงชัว่ โมงนิดๆ ก็แตะรันเวย์สนามบิน นานาชาติย่างกุง้ แล ้ว ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองเรียบร้อย ก็ไปหา ตูแ้ ลกเงิน ส�ำหรับใครทีอ่ ยากจะไปพม่าคุณต้องเตรียมเงินดอลล่าร์ แบงค์ใหม่ไร้รอยยับเอาไว้ให้พร้อม ร้านแลกเงินถึงจะยอมรับ หรือจะใช้เงินบาทก็ได้แต่กต็ ้องเป็นแบงค์ใหม่เช่นกัน จากนัน้ ก็ออกมา เรียกแท็กซีเ่ ข้าเมือง ส�ำหรับราคามาตรฐานควรไม่เกิน 8,000 จั ๊ด แต่ตอนทีเ่ ราไปเรียกได้ 9,000 จั ๊ด ซึง่ ก็โอเค... คิดเป็ นเงินไทยราว สองร้อยกว่าบาท กับระยะทาง 13 กิโลเมตร ซึ่งต้องฝ่ ารถติด เป็ นระยะๆ กว่าจะถึงที่พกั ในย่านไชน่ าทาวน์ และโชคดีหน่ อย ที่แท็กซี่คนั ที่เรานัง่ เปิ ดแอร์ให้ดว้ ย เพราะตามรีววิ ที่อ่านก่อนไป บางคันก็ไม่เปิ ด ถ้าจะให้เปิ ดอาจจะต้องเสียค่าเปิ ดเพิม่ อีกต่างหาก
ย่างกุ้ง : คนเดียวก็เที่ยวได้ เรื่อง / ภาพ: ชลธิดา
อาว’รงค์ วงษ์สวรรค์ เคยบอกว่า “การเดินทางคือสายตาของ นักเขียน” หากไม่ออกเดินทางไปให้เห็นกับตา ไปได้ยนิ กับหู ไปสูดให้รกู้ ลิน่ เราคงไม่สามารถบอกได้ชดั ๆ ว่าทีไ่ หนเป็นอย่างไร การไป ‘พม่า’ หรือ ‘เมียนมา’ ครัง้ นี้ จึงเกิดขึน้ มาจากการอยาก ไปดูว่า พม่าหลังเปิดประเทศแล้วเป็นอย่างไร ก่อนที่เราจะเข้าร่วม เป็น ‘ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน’ ด้วยกันในปี 2559 นี้ ซึง่ บอกเลยว่า พม่า 4 วัน 3 คืน มีเงินไป 5,000 บาท ก็เอาอยู!่
3
b side
HIP BIKE SECTION
-travel -
BIKE SECTION -travel -
ก่อนไปเราจองเกสเฮาส์เอาไว้ก่อนแล ้ว จะเรียกให้ถูกน่าจะเป็ นโฮสเทลมากกว่า แม้หอ้ งนอนจะแยก แต่หอ้ งน�ำ้ รวม เป็ นเกสเฮ้าส์เปิ ดใหม่ ชื่อ 1415 Guesthouse อยู่กลางไชน่าทาวน์เลย สนนราคาคืนละ 15 US แต่เขาลดเป็ นพิเศษส�ำหรับคนไทย เราจ่ายไป 3 คืน 40 US รวมอาหารเช้า ซึง่ นับว่าถูกมาก ถ้าเทียบกับความสะดวก ไม่วา่ จะอาหารการกิน รถรา รวมทัง้ แหล่งแฮงค์เอ้าท์รองรับนักท่องเทีย่ ว พนักงานก็ พูดภาษาอังกฤษได้ และเฟรนด์ล่ดี ี ท�ำให้อุ่นใจไปได้เยอะ หลังจากไปถึงแลว้ เราก็พกั เอาแรงสักหน่อย เพราะยามบ่ายของพม่าร้อน และแดดแรงมาก พอพระอาทิตย์ออ่ นแสงเราค่อยออกมาเตร็ดเตร่อยูแ่ ถวๆ นัน้ ชมวิถชี วี ติ ผู ้คน และหาอาหารเย็นกิน สังเกตว่าข้างทางทีเ่ ราเดินไปมีแผงลอยขายสินค้าเต็มไปหมด ทัง้ ข้าวของเครื่องใช้ เสื้อผ้า ผลไม้ อาหาร รวมทัง้ ร้านขายหมากพลูทต่ี งั้ เรียงราย อยู่ห่างกันไม่ไกล แม้จะมีรา้ นค้าหมากมากขนาดนัน้ แต่ก็ยงั มีลูกค้าชาวพม่าแวะ ใช้บริการไม่ขาดสาย ร้านที่มจี ำ� นวนเยอะรองลงมาก็คือร้านขายหมูจุ่มเสียบไม้ ทีม่ เี ครื่องในหมูตนุ๋ ในน�ำ้ ซุบร้อนๆ และเก้าอี้เตี้ยๆ ตัง้ อยู่รายรอบให้ลูกค้านัง่ จ้วงกัน อย่างจุใจ เวลาคิดเงินก็ใช้วธิ นี บั ไม้เอา เราโดนไป 30 ไม้ ราคา 5,500 จั ๊ด ส่วนอีกร้าน ทีม่ ปี ริมาณเยอะไม่แพ้กนั คือร้านขายปิ้ งย่างสไตล์ยูนนาน หรือหม่าล่า อาจจะเพราะ เป็นย่านชาวจีน หรือไม่กเ็ หมาะเป็นกับแกล ้มชัน้ ดีทท่ี ำ� ให้มีอาหารชนิดนี้ขายกันอย่างคึกคัก คืนแรกเรายังไม่กลา้ ท้าทายประสบการณ์ดา้ นอาหารเท่าไหร่ เพราะได้ยนิ กิตติศพั ท์เรื่องอาหารในพม่ามาไม่นอ้ ย ว่าให้ระมัดระวังการกินให้ดี โดยเฉพาะ คนธาตุอ่อน ถ้าพลัง้ พลาดท้องเสียไปจะเทีย่ วไม่สนุก ซึง่ เราก็ปฏิบตั อิ ย่างเคร่งครัด ด้วยการกินข้าวเสร็จ ก็เดินไปหาซื้อน�ำ้ บรรจุขวดและเบียร์กระป๋องทีม่ นิ มิ าร์ทมากล่อม ให้หลับฝันดีทห่ี ้องพัก เตรียมพร้อมลุยเดีย่ วพม่าในวันถัดไป ตื่นมากินขนมปังและกาแฟก่ อนออกตะลอนทัวร์พม่าด้วยรถเมล์ทอ้ งถิ่น เราถามเส้นทางกับพนักงานเกสเฮ้าส์คร่าวๆ ว่าถ้าจะเน้นเทีย่ วโดยอาศัยการนัง่ รถเมล์ และเดินเป็ นหลักพอจะเป็ นไปได้มยั้ น้องเพียว พนักงานคนสวยก็บอกว่าได้ แค่ไป ยืนที่ป้ายรถเมล์แลว้ ตะโกนบอกจุดมุ่งหมายที่อยากไป ถ้ารถเมล์ผ่านเขาก็จะ พยักหน้าให้ข้นึ พอถึงทีห่ มายเขาก็จะบอกให้เราลง ซึง่ ก็เป็ นแบบนัน้ จริงๆ เราตะโกน ถามกระเป๋ ารถเมล์วา่ Sule Pagoda (เจดียส์ ุเล) เขาก็พยักหน้า พอขึ้นไปเสร็จก็ ยืน่ เงินให้ เขาก็หยิบแบงค์ 100 จั ๊ดไป พอถึงเจดียส์ ุเหร่ปบก็ ุ๊ เรียกให้ลง เออ...ง่ายดี เป็ นอันว่าทริปนี้เลยสลับกันระหว่างเดินกับนัง่ รถเมล์ ถ้าไปไกลหน่อยหรือมืดค�ำ่ แล ้ว ค่อยนัง่ แท็กซี่ ก็จะประหยัดมากกว่า
ส�ำหรับใครทีช่ อบชมวัดน่าจะถูกใจกับย่างกุง้ เพราะมีวดั สวยๆ เยอะมาก!!!! แต่ ละแห่ งก็มีความวิจิตรอลังการตามแบบศิ ลปะพม่าที่มกั ใช้ทองและอัญมณี มาประดับตกแต่ง อย่างเจดียส์ เุ ลทีเ่ ราเลือกไปเป็ นทีแ่ รกนัน้ เป็ นเจดียร์ ูปทรงระฆังคว�ำ่ สีทองอร่ามตา เปรียบเหมือนจัตรุ สั กลางเมือง และศูนย์กลางทางศาสนาของย่างกุง้ ด้วย เราถอดรองเท้าฝากไว้รา้ นขายดอกไม้บูชา เพราะจ่ายค่ าดอกไม้ไป 1,000 จั ๊ด แล ้วซื้อตัวเข้ ๋ าชมอีก 4,000 จั ๊ด ก็ข้นึ บันไดไปเดินชมเจดีย ์ วิธกี ารเดินทีถ่ กู ต้องคือ ให้ว นรอบเจดีย ต์ ามเข็ม นาฬิก า ส่ ว นดอกไม้บู ช าจะไหว้พ ระพุท ธรู ป ที่จ ำ� ลอง พระพุทธเจ้าทัง้ อดีต, ปัจจุบนั และอนาคต ทีป่ ระดิษฐานอยูท่ งั้ 4 ทิศ หรือจะน�ำไปบูชา พระพุทธรูปประจ�ำวันเกิดก็ได้ ระหว่างเราเดินเวิน่ ๆ อยู่นนั้ ก็มชี ายพม่าพูดภาษาอังกฤษได้ และอาสามาน�ำ เที่ยวพร้อมให้ความรู เ้ กี่ยวกับเจดีย ์ เมื่อชมจนจบแลว้ จึงถึงบางอ้อ...ว่าเขาเป็ น ไกด์ท ้องถิน่ และเราต้องจ่ายค่าไกด์ให้เขาด้วย ซึง่ ไม่มรี าคากลาง มีแต่ราคาทีเ่ หมาะสม ตามความพึงพอใจ จึงอยากจะบอกเอาไว้ก่อนส�ำหรับใครทีไ่ ปเทีย่ วเอง ถ้าก�ำลังเดินๆ ชมสถานทีส่ ำ� คัญอยูแ่ ล ้วเจอลักษณะนี้ และไม่มปี ญั หาอะไรหากจะมีใครมาช่วยแนะน�ำ ก็ให้ตกลงราคากันให้เรียบร้อย หรือถ้าอยากชมเองไม่ตอ้ งการไกด์ก็ให้ปฏิเสธ ไปตรงๆ เลย จะได้ไม่มปี ญั หาภายหลัง ออกจากเจดียส์ ุเลเราเดินไปอีกสถานทีส่ ำ� คัญของเมืองอย่าง Scott Market หรือ Bogyoke Aung San Market ตลาดนี้คล ้ายๆ กาดหลวงบ้านเรา มีสนิ ค้าทุกอย่าง ตัง้ แต่อาหารการกิน, ของฝาก, อัญมณี, เสื้อผ้า ฯลฯ ในราคาไม่แพง และต่อรองได้ แนะน�ำให้มาเดินวันสุดท้ายก่อนกลับ จะได้ใช้เงินจั ๊ดทีเ่ หลืออยู่ให้หมดไปเลย แลว้ ก็มาถึงไฮไลท์ของทริปนี้ คือเจดียช์ เวดากอง ศาสนสถานทีค่ วรมาชม ให้เห็นกับตาสักครัง้ ในชีวติ เราเลือกนัง่ รถเมล์มาแทนแท็กซี่ ประหยัดไปได้เยอะเลย จ่ายค่ารถเมล์ไป 300 จั ๊ด ก็ลงตรงหน้าทางเข้าเจดีย ์ ก่อนเข้าไปต้องถอดรองเท้า ตัง้ แต่บนั ไดขัน้ แรก คราวนี้เราเลือกเอารองเท้าเก็บกระเป๋ า จะได้ไม่ตอ้ งเสียค่าฝาก และตอนกลับจะออกประตูไหนก็ได้ใน 4 ประตูซง่ึ แยกตามทิศทัง้ 4 ส�ำหรับใคร ที่ไ ม่ส ามารถเดิน เท้า ขึ้น บัน ไดสู ง สู่ เ จดีย ์ ด้า นข้า งมีบ ริก ารลิฟ ท์ข นส่ ง ด้ว ยนะ แต่เสียค่าบริการรึเปล่านี่ ไม่แน่ใจเหมือนกัน 4
b side
BIKE SECTION -travel -
ระหว่างทางขึ้นจะมีจดุ ตรวจอาวุธเหมือนในสนามบิน แต่แยก ฝัง่ หญิงชาย ผ่านแล ้วก็ไปจ่ายค่าเข้าชม 8,000 จั ๊ด จะได้ไกด์บคุ๊ ฉบับเล็กๆ ที่บรรจุประวัติ, แผนที่ และรายละเอียดที่จำ� เป็ นต้องทราบเกี่ยวกับ เจดียช์ เวดากอง ส่วนใครใส่ขาสัน้ หรือกระโปรงสัน้ ไปจะต้องเช่าลองกี (โสร่ง) นุ่งทับอีกชัน้ หนึ่งด้วย ซึง่ เป็ นระเบียบทีต่ อ้ งปฏิบตั อิ ย่างเคร่งครัด ส�ำหรับการเข้าชมวัดทุกแห่งในพม่า เราใช้เวลชมอยู่หลายชัว่ โมง ตัง้ แต่ บ่ายแก่ๆ ไปจนพระอาทิตย์เริม่ ราแสง กระทังพระจั ่ นทร์ข้นึ เพราะมีอะไร ให้ดูเยอะมาก ทัง้ พิพธิ ภัณฑ์, พระพุทธรูป์ และสถาปัตยกรรมแบบพม่า ทีส่ ร้างขึน้ อย่างวิจติ รอลังการทัวบริ ่ เวณ เอาจริงๆ แค่นงชมเจดี ั่ ยช์ เวดากอง ก็อม่ิ เอมแล ้วล่ะ เพราะความสวยงามมะลังเมลืองด้วยทองค�ำอร่ามตา ที่ฉาบองค์เจดียอ์ ยู่ ยิ่งสะท้อนด้วยแสงเทียนแสงไฟโดยรอบแลว้ ยิง่ สวยงามจับตา มองเท่าไหร่กไ็ ม่เบือ่ ทัง้ ยังรูส้ กึ สงบอย่างประหลาด อีกวันเราไปชมพิพธิ ภัณฑ์สถานแห่งชาติพม่า ชมศิลปะตัง้ แต่ ยุคโบราณของพม่ามาจนถึงปัจจุบนั ทัง้ ถ้วยโถโอชาม, การขุดพบ ทางโบราณคดี, ความรุ่งเรืองในอดีตผ่านข้าวของเครื่องใช้ของกษัตริย,์ การจ�ำลองความเปลีย่ นแปลงของพม่าผ่านยุคสมัยมาจนถึงปัจจุบนั ซึง่ จ่ายค่าเข้าชมเพียง 5,000 จั ๊ด ถือว่าคุม้ ค่ามาก และสามารถใช้เวลา ได้ทัง้ วันเลย ออกจากพิพธิ ภัณฑ์ตอนแรกว่าจะเดินไปดูทะเลสาบกันดอจี แต่เดินไปเดินมา ก็เจอเข้ากับแก็งนักปัน่ ทีก่ ำ� ลังเล่นท่ายากกับจักรยาน BMX คันจิว๋ กันอยู่ ก็เลยขอแชะภาพซะหน่ อย จ�ำได้ว่าตรงนี้เคยผ่านแลว้ ในวันแรกที่กำ� ลัง นัง่ แท็กซี่เข้าเมือง แต่ไม่รูเ้ ขาเรียกว่าอะไร จนเดินหาทางเข้าได้นนั ่ ล่ะถึงรู ว้ ่าที่น่ี คือ People Park (ค่าเข้า 300 จั ๊ด) สวนสาธารณะขนาดใหญ่ทม่ี พี ้นื ทีใ่ ห้ทำ� กิจกรรม หลากหลาย จะเดินเล่น นัง่ เล่น ถ่ายภาพ หรือกิจกรรมทางน�ำ้ ก็มี ใครจะเอาจักรยาน มาปัน่ ก็ได้ ตัง้ อยู่ ตรงข้ามกับเจดียช์ เวดากอง เราจึงได้เห็นความหลากหลาย ของกิจกรรมชาวพม่า ที่มที งั้ พาหมามาวิ่งเล่น, พาลูกมาเดินเล่น พอตกเย็นก็มี คนขายไฟสีๆ ให้ยงิ ขึ้นฟ้ า สวยดี และทุกวันเวลาประมาณหกโมงเย็นจนถึงหนึ่งทุ่ม จะมีการแสดงน�ำ้ พุเต็นระบ�ำให้ชมด้วย แต่คนื วันเสาร์อาทิตย์จะพิเศษกว่าคือมีการ แสดงระบ�ำท้องถิน่ และการแสดงจากนักเรียนนาฏศิลป์ ให้ชมฟรี
5
b side
HIP BIKE SECTION
ถ้าถามหาชีวติ ยามค�ำ่ คืนนัน้ ก็คงมีล่ะ แต่เราไม่แน่ใจว่าอยู่ตรงไหนบ้าง ก็เลยเดินโต๋เต๋ไปมาแถวๆ ย่านไชน่าทาวน์ เพราะไม่ไกลทีพ่ กั แลว้ ก็ไปปะเข้ากับ ตรอกเล็ก ๆ ที่มีร า้ นปิ้ งย่ า งและตัง้ โต๊ะ ขายเบีย ร์ริม ทางเลย ถนนสายนี้ ช่ือ ว่า 19th Street คล า้ ยๆ ถนนข้า วสาร มีร า้ นนัง่ ดื่ม เต็ม ไปหมด พร้อ มรถเข็น ขายกับแกลม้ ทุกร้านเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวต่างชาติมานัง่ ดื่มกัน เราก็เนียนๆ หาที่น งั ่ ดื่ม ด�ำ่ ไปกับ เขาด้ว ย ก็ น บั ว่า ยัง ดีท่ีมีถนนสายนี้ให้หย่อนใจ ไม่ตอ้ งหิ้ว จากมินมิ าร์ทกลับไปนอนเหงาๆ ทีห่ ้องแล ้ว คืนสุดท้ายก่ อนบินปิ ๊กบ้านเชียงใหม่ อาหารดันท�ำพิษ ท้องเสียตัง้ แต่คำ � ่ แล ้วก็เป็ นอย่างนัน้ ทัง้ คืนจนถึงอีกวัน โชคดีทใ่ี ช้อนิ เตอร์เน็ตได้ เพราะซื้อซิมเปลีย่ นแล ้ว (ราคา 1,500 จั ๊ด ถูกมาก!!!) เลยต้องไลน์หาเพือ่ นหมอทีเ่ มืองไทยให้ช่วยสังยาหน่ ่ อย แล ้วก็เอาชื่อนัน้ ล่ะไปซื้อทีร่ า้ นขายยา เลยรอดตายไป สาเหตุคาดว่าถ้าไม่เป็ นเพราะ น�ำ้ แข็ง ก็คงจะน�ำ้ จิ้มหมูจ่มุ ... เลยเสียเวลาไปหนึ่งคืนกับอีกหนึ่งวันกับการเข้าห้องน�ำ ้ ฉะนัน้ จะกินอะไรควรดูดๆี เอาทีส่ ะอาดปลอดภัยชัวร์ๆ จะดีกว่า - คนเราไม่จำ� เป็ น ต้องลองทุกอย่างหรอก...จริงมัย้ ? ทริปนี้จงึ จ�ำต้องบ๊ายบายย่างกุง้ แบบไร้วญิ ญาณ พร้อมจิบเกลือแร่ไปพลางๆ จนกว่าจะพบกันใหม่.
BIKE SECTION - bike trip -
BIKE TRIP IN HONG KONG ไปปั่นบ้านนอก Yuen Long Area เรือ่ ง: Touringboy ภาพ: HIP Editor & The Gang
บอกจะไปปั ่ น Hong Kong ทุ ก คนต้ อ งคิ ด ว่ า ไปปั ่ น ใน Kowloon ย่าน Shopping Area ขืนไปโดนรถชนตายห่า... จริงๆ แล้วเกาะ Hong Kong มีพนื้ ทีส่ เี ขียวถึง 70% (คนฮ่องกงเขาบอกมา) มี 3 พืน้ ทีท่ ปี่ น่ั จักรยานท่องเทีย่ วได้ 1. Yuen Long Area อยู่ตะวันตกเฉียงเหนือไปจนติดชายแดนจีน 2. Lantau Island อยู่ตะวันตกเฉียงใต้ 3. Reservior Area อยู่ตะวันออกเฉียงเหนือ บก.สมชาย หัวหน้าทีมเลือกไป Yuen Long Area เพราะโรงแรมไม่แพง บวกมีรถตู้รับ-ส่งจากสนามบิน สะดวกแก่การขนย้ายจักรยาน
14 ธ.ค. 2558
สมชาย บก. HIP Mag. เชียงใหม่กบั จุย๋ จุย๋ ส์ ศิลปิ นเดีย่ ว, Graphic Designer, เจ้าของกิจการล ้าง + ดูแลจักรยาน บินไป จากเชียงใหม่ ส่วนคุณฟู เจ้าของร้านเหลา้ ชื่อดัง About HIP, About Stories, New Stories กับข้าพเจ้า (ทาํ ร้าน Touringboy จักรยานพับทัวริ่ง) อืมม... นี่เป็ นโฆษณาแฝงหรือเปล่าเนี่ย... บินจากดอนเมือง ใช้เวลาแค่ 2 ชัว่ โมง 45 นาที ถึงสนามบิน เช็ก แล็ป ก็อก (Chek Lab Kok International Airport : ท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกง) แต่ตอ้ งนัง่ รอรถโรงแรมมารับ อีก 1 ชัวโมงเลยเดิ ่ นไปดูห ้องน้าํ เขาซะหน่อย โอ้โฮ... มีโถฉี่เป็น 10 โถ สุ ว รรณภูมิข องเรามีแ ค่ ส องสามโถเอง... บ่า ยโมงรถตู ม้ ารับ รับแต่พวกเราเท่านัน้ ดูเป็ นคนสําคัญดีจงั จากสนามบินไปถึง Habour Plaza Resort City 2 ใช้เวลา 1 ชัว่ โมง... ขึ้นห้องเก็บของเสร็จรื้อกล่องเปิ ดถุงจักรยานทันที... บ่ายสองครึ่งอากาศเย็นสบายที่ 18 องศา จักรยานพับ 4 คัน 6
b side
FSIR ล ้อ 16, FSIR ล ้อ 20, Tyrell ล ้อ 20 และ KHS ล ้อ 20 นิ้ว ออกปัน่ มุง่ หน้าไปชายฝัง่ ทะเล ช่วงในเมืองมีทางจักรยานคูข่ นานกับถนนไปเรือ่ ย แต่พอพ้นเมือง เป็ นทางเขาจะเป็ นถนนไม่มไี หล่ทาง ต้องคอยจอดหลบรถ หรือไม่ ก็ข้นึ ไปปัน่ บนฟุตบาท ปัน่ เส้นถนน Deep Bay Road มาจนถึง ย่านทีข่ ายอาหารทะเล เห็นมีรา้ นอาหารเล็กๆ แอบอยู่ในซอยเลย จอดกินข้าวกลางวันกันตอนสามโมงกว่า เจ้าของร้านยิ้มแย้มอารมณ์ดี เรา Speak English แต่เธอ Speak Chinese ท่าทางไม่รอดแน่ เลยเดินดูตามโต๊ะว่าชาวบ้านกินอะไร แล ้วชี้ให้ดูวา่ ... เอาอย่างเนี้ยเจ๊... ซึง่ มันคือบะหมีเ่ กีย๊ วน�ำ ้ ไม่ถงึ นาทีเจ๊เดินกลับมา พยายามอธิบาย ด้วยภาษาจีนอย่างคล่องแคล่ว ไม่มใี ครเข้าใจนอกจาก... “เจ๊เขาบอกว่า เกีย๊ วไม่พอสําหรับ 4 ชาม...” บก.สมชายแปลให้ทุกคนเข้าใจ เลยต้องเดินตามเจ๊เข้าครัวไปชี้ๆ ว่าจะใส่อะไรแทน สรุปว่าได้บะหมีเ่ กีย๊ ว (ได้แค่คนละลูกเดียว) น�ำ ้ แฮม ไส้กรอก รสชาติอร่อยใช้ได้เลย แต่ชามละ 105 บาทแหน่ะ... ออกจากร้านปัน่ ขึ้นเขาไปจนถึงจุดชมวิวทะเล มองเห็นเมือง เซินเจิ้นอยู่ไกลๆ ไม่นานมีกลุม่ จักรยานเจ้าถิน่ มาจอด เลยเดินไป ขอข้อมูลเส้นทาง เจ้าถิน่ แนะนําให้ปนั ่ รอบใหญ่จาก Tin Shui Wai - Sheung Shui -Taipo - Sha Tin - Taiwai - Tai Po road - Sham Shui Po - Kwan Chung - Tseun Wan - Tuen Mun - Yeung Long - Tin Shui Wai ระยะทาง 120 กม. ดูนาฬกิ า มันบอกจะ 5 โมงเย็นแลว้ ควรกลับโรงแรมก่อนจะมืดดีกว่า... ทุ่มตรงทุกคนมาเจอกันทีช่ นั้ ล่างก่อนออกเดินหาของกิน เนื่องจาก บริเวณนี้เป็ นเมืองใหม่จงึ ไม่มรี า้ นอาหาร หรือร้านข้าวต้มข้างถนน แม้แต่รา้ นเดียว มีแต่หา้ งใหญ่ 2 ห้างขนาบซ้าย - ขวาโรงแรม ร้านอาหารในห้างก็เหมือนบ้านเราอาหารญี่ป่ ุน เกาหลี อิตาเลีย่ น ทีส่ าํ คัญร้านเหล่านัน้ มันไม่มเี บียร์ขาย ซึง่ เป็ นเรื่องคอขาดบาดตาย สํา หรับ พวกเรามากถึง มากที่สุ ด แต่ โ ชคดีท่ีถ ามแหล่ง กิ น ดื่ม กับกลุม่ จักรยานเจ้าถิน่ เอาไว้แล ้ว นัง่ Taxi ไป Sai Ching St. ระยะทางประมาณ 15 นาที แต่ดนั มีอบุ ตั เิ หตุข ้างหน้าเสียเวลารอตํารวจมาจัดการไปอีก 10 นาที ถึง Sai Ching St. มองหาร้านทีม่ เี ป็ ดพะโล ้ ซึง่ มีอยู่หลายร้าน เลือกร้านทีน่ งั ่ แลว้ ไม่อดึ อัด ร้านหัวมุมดูดี ทีต่ ูก้ ระจกมีเป็ ดพะโล ้ ตัวโตเท่าหมา เรียงเป็ นแถวแขวนอยู่ ตรงดิ่งเข้าไปทันที สัง่ เป็ ด แค่ครึง่ ตัวยังมาจานใหญ่มาก นี่ถา้ ไม่มปี ี กมายืนยันมันต้องเป็ นหมา แน่ นอน, ปลานึ่งสดอร่อย, หอยทอด หอยมันตัวเล็กไปหน่ อย เคี้ยวไม่เต็มฟัน และ Yanjing Beer รสอ่อนดืม่ ง่าย ทําให้ตอ้ งดืม่ หลายยยยขวด
BIKE SECTION - bike trip -
ออกจากสวนปัน่ ไปได้ไม่ไกลเป็ นทางตัน ต้องปัน่ กลับไปสถานี Tuen Mun หาอะไรรองท้อง เพราะระหว่างทางไม่มรี า้ นค้าอาหารใดๆ ล็อคจักรยานไว้ทล่ี านจอดจักรยานแลว้ เดินขึ้นไปหาของกินบนสถานี มีอยู่ 2 ร้าน 7/11 กับร้านอาหาร Take Away จุย๋ จุย๋ ส์ เข้า 7/11 ซื้อข้าวกล่อง แต่มนั ไม่มี Microwave อุ่นให้ ต้องกินแบบเย็นๆ เรากับฟูเลยย้ายไปร้าน Take Away ข้าวกับขาไก่อบ (เค็มฉิบ) 106 บาท อิม่ แล ้วลุยต่อ ปัน่ ลัดเลาะไปหาทางเขา โอ... ลูกนี้ไม่ยาวแต่ชนั เอาเรื่อง จุย๋ จุย๋ ส์ บอก “ชันกว่าดอยสุเทพอีกพี”่ ขึ้นถึงยอดก็ปนั ่ ลงอีกข้าง แต่ไปได้ไม่ไกลมีรวั้ ขวางห้ามเข้า ต้องย้อนกลับทางเดิม ลงเขาปัน่ กลับเข้าเมืองมาโผล่ Town Center ดูคกึ คัก วุน่ วาย ไม่แวะดีกว่า
ออกปัน่ 10 โมงเพราะเมือ่ คืนหนักไปนิด อากาศเย็น 15 องศา วันนี้เริม่ ทริปแบบจริงจัง จุย๋ จุย๋ ส์ เป็ นหัวลาก บก.โหน่งวางแผนเส้นทาง ฟูคอยเช็คแผนที่ ข้าพเจ้าเป็ นล่ามสือ่ สารถามทางกับผู ้คนและสังอาหาร ่ เป้ าหมายตรงไป Sheung Shui ระยะทาง 22 กม. ตามเส้นทาง จักรยานไปเรื่อย มีแวะถามทางตํารวจ ถามชาวบ้าน จนมาเจอทางตัน ทีเ่ สาสถานีรถไฟฟ้ าต้นใหญ่เต็มฟุตปาธขวางหน้า จะลงปัน่ ต่อบนถนน ก็หวาดเสียว รถมันเยอะขับเร็วบวกไม่มไี หล่ทาง ต้องหาทางอืน่ แทน เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวา ขึ้นบนสะพาน ข้ามถนน ลงลอดใต้ดนิ ตามทาง จักรยานไปจนมาโผล่ทางคู่ขนานทางรถไฟฟ้ า หยุดดูแผนทีม่ นั ไม่ใช่ ทางนี้น่ีหว่า แต่ ไม่เป็ นไรเส้นทางนี้ดูน่าสนใจ วันนี้ไปเส้นนี้ก่อน คนปัน่ จักรยานเยอะมาก ทัง้ ปัน่ มาจอดขึ้นรถไฟ ปัน่ ออกกาํ ลังกาย ปัน่ เลาะทางรถไฟยาวไปจนถึงสถานีสุดท้าย Tuen Mun จากนัน้ เป็ น ทางจักรยานเลียบแม่นำ�้ สวยงามร่มรื่นไปออกทะเล มาถึงสามแยก ลองเลีย้ วขวาไป Butterfly Beach ทางผ่านสวนป่ าไปออกถนนเลีย้ วซ้าย มีทางจักรยานต่อไปจนถึง Butterfly Beach ทีน่ ม่ี แี ต่คนสูงวัยมาจับกลุม่ เล่นซอจีน หมากรุก อยูต่ ามซุมคอนกรี ้ ตทีม่ อี ยูม่ ากมาย ตัวหาดไม่ได้ สวยงามอะไรนัก แต่ได้นัง่ พักฟังดนตรีจนี ชมทะเลมันก็รน่ื รมย์ดที เี ดียว 7
b side
HIP BIKE SECTION
15 ธ.ค. 2558
BIKE SECTION - bike trip -
ปันต่ ่ อกลับโรงแรมเลย... 5 โมงครึง่ ขึน้ Taxi ไปกินอาหารทะเล วิวสวย อาหารอร่อย ฟูบอกเพือ่ นแนะนํามาร้านอยูไ่ กลใช้ได้ ค่ ารถฟาดไป 500 บาท ลงรถเดินทะลุสถาปัตยกรรม แบบเมดิเตอร์เรเนียนออกไปก็เป็ นระเบียงใหญ่ยาววว ติดทะเล ด้านหน้าเป็ นฝูงเรือยอร์จของมหาเศรษฐีทงั้ หลาย จอดเบีย ดเสี ย ดเรี ย งราย ด้า นหลัง เป็ นร้า นอาหาร อิตาเลีย่ น, เมดิเตอร์เรเนียน, ซีฟ้ ูดแบบ Open Air... ว้าว...นี่มนั ‘มอนติคาโล’ ชัดๆ ลองดูราคาที่สแตนเมนู หน้าร้าน อาหารพีเ่ ขาเริม่ ทีร่ าคาจานเกือบพัน ขืนแดร็กเข้าไป อีก 3 วันทีเ่ หลือต้องกินมาม่าอย่างเดียว... กลัวเสียฟอร์ม เลยตกลงกันว่าดืม่ เบียร์ขวดเล็กคนละขวด Selfie กับวิว ฝูงเรือยอร์จคนละรูปสองรูป แล ้วค่อยเผ่นกลับไปกินทีเ่ ดิม Sai Ching St. (เบียร์ขวดเล็ก ยังขวดละสองร้อยกว่าบาท)
16 ธ.ค. 2558 14 องศา อากาศหนาว มีแดดอ่อนๆ แต่ลมแรงเย็นเจียบ ๊ แผนการคือไปวงกลม Sheung Shui - Tin Shui Wai เหมือนเดิม และเหตุการณ์กเ็ หมือนเดิม คือหลงทาง ไป โผล่เอาเส้น Deep Bay Road ไม่เป็ นไรเส้นนี้ก่อนแล ้ว กัน วันแรกทีม่ า แค่ข้นึ เขามาถึงจุดชมวิวเมืองเซินเจิ้น วันนี้ปนั ่ ต่อดูซวิ า่ ไปได้ถึงไหน จากจุดชมวิวเป็นทางขึน้ ลงเนิน ร่ ม รื่น บางช่ ว งเรีย บทะเล บางช่ ว งวิว เหมือ นหุ บ เขา ทีเ่ ชียงใหม่สวยงามใช้ได้ แต่แล ้วก็เจอทางตันจนได้ มีป้าย ห้ามเข้า มีไม้กัน้ กับหมา 2 ตัว ยืนตัวนึง นอนตัวนึง ขวางอยู่ ไม่เห่า แต่เหมือนท้าทาย...ลองเข้ามาดิพ่ี น้องมีเซอร์ไพรส์... ต้องปัน่ กลับทางเดิม มาถึงสามแยกลองเลี้ยวซ้ายลงไป หมู่บา้ นเล็กๆ เจอร้านอาหาร แวะกินข้าวเที่ยงที่น่ีดกี ว่า บะหมีน่ ำ�้ นิชชิน 4 ชาม ไก่พะโล ้ 12 ชิ้น ผัดผัก 1 ชาม ป้ าแกคิดค่าเสียหายเกือบ 600 บาท อยูบ่ ้านเราข้าวหน้าเป็ ด จานละ 45 บาท ก๋วยเตีย๋ วเนื้อชามละ 45 พิเศษ 55 บาท ยังบ่นแพง... กลับบ้านคราวนี้จะกินแม่มทีละสองสามจานเลย... 8
b side
จาก Deep Bay Road หาทางขึน้ ไปทิศเหนืออย่างเดียว เพือ่ ไปให้ถงึ Sheung Shui... ปัน่ กันมาพักใหญ่ยงั คงต้อง ไปอีก 22 กม. ช่วงจากนี้ไปเส้นทางเป็ นถนนใหญ่ไม่มี Bike Lane และไหล่ทาง รถวิง่ เร็วน่ากลัว ต้องย้ายขึ้นไป ปัน่ บนฟุตปาธ ปัน่ กระเด้งกระดอนบนฟุตปาธไปไม่ก่กี โิ ล เจอปั ๊มน�ำ้ มันเลยแวะเข้าห้องน�ำ ้ ดูจากเส้นทางและเวลา ทุกคนเห็นควรว่ากลับดีกว่าอย่างน้อยรูแล ้ ้วว่าต้องมาเส้นไหน ขากลับแวะ Town Center ดืม่ เบียร์เล็กน้อย อากาศหนาว เพราะลมเย็นเจีย๊ บพัดตลอดเวลา หน้าร้านอาหารต้องมี พลาสติกใสผืนใหญ่ขงึ กันลม ลองเบียร์ Blue Girl รสชาติออ่ น ดืม่ ง่าย Blue Girl 8 ขวดเล็ก ปี กไก่พะโล ้ 1 ชาม ไส้ลวก 1 ชาม 920 บาท จ่ายเงินค่าอาหารทีไรคิดถึงเมืองไทย น�ำ้ ตาไหลเป็ นเผาเต่า
BIKE SECTION - bike trip -
17 ธ.ค. 2558 วันนี้หนาวมาก 13 องศา ลมเย็นยะเยือกพัดไม่หยุด ยืนเฉยๆ ไม่ได้เลย ต้องขยับแข้งขาแขนคอตลอดเวลา ผู ้คนรอบตัวล ้วนใส่เสือ้ กันหนาว ผ้าพันคอ สวมหมวกไหมพรม แต่มไี อ้บ ้า 4 ตัวใส่แค่เสื้อกันลมผ้าร่ม ยืนสันคร่ ่ อมจักรยาน พับอยูห่ น้าโรงแรม... จากทีจ่ ะไป Sheung Shui เปลีย่ นเป็ น ไป Tai Po แทน คือตัดวงให้เล็กลงหน่อย แต่กต็ อ้ งปัน่ ไปทาง Sheung Shui ก่อนแล ้วเลี้ยวขวาตัดไป Tai Po เลี้ยวขวามาไม่ไกลก็สุดทางจักรยาน ต้องขึ้นไปปัน่ บน ฟุตปาธแคบๆ ทุลกั ทุเลขึน้ เขาไปประมาณ 2 กิโลเจอจุดพักรถ มีรา้ นเป็ ดพะโล ้ 2 ร้าน ร้านติ่มซํา 1 ร้าน พวกเราเลือกกิน ติม่ ซาํ กับชาจีน อร่อยใช้ได้แต่แป้ งฮะเก๋าหนาไปนิด ยุย่ ไปหน่อย ออกจากจุด พัก รถเป็ น ทางเขาร่ ม รื่ น ตลอดแต่ ป นั ่ ยาก เพราะถนนแคบรถเยอะ ต้องจอดเอียงตัวหลบรถเป็ นระยะ แค่ 9 กม. ก็ถงึ Tai Po จากนัน้ ปัน่ เข้า Bike Lane ลัดเลาะไปโผล่เส้นเลียบแม่นำ �้ เมือง Tai Po ดูอบอุ่นมีชวี ติ ชีวากว่า Yuen Long เส้นเลียบแม่นำ�้ ก็ดูคกึ คัก ปัน่ ดูคน ดูววิ ยาว มาโผล่ถนนใหญ่ แลว้ เลี้ยวซ้ายไปต่ออีกไม่ไกล ก็เข้าเส้นเลาะอ่าว Tolo สวยมากกก สวยขนาดพีเ่ บิรด์ ยังมาถ่ายละครวันนี้ทร่ี อคอยเมือ่ 20 กว่าปีทแ่ี ล ้ว...
บก. HIP ขอขอบคุณพิเศษ FSIR Thailand ทีใ่ ห้ยมื FSIR Spin 5.0 ไปปัน่ ในทริปนี้
ข้อมูลเพิ่มเติม 1. Bike Lane มี 2 สี สีแดงกับเขียว แต่ไม่ได้มีความหมายแตกต่างกัน 2. หมาที่ Yuen Long ไม่เห่า และสุภาพกับคนขี่จักรยานทุกแบบ ทุกแบรนด์ 3. เบียร์เย็นเจี๊ยบยังเสิร์ฟแช่ใส่มาในถังน�้ำแข็ง ขณะที่อุณภูมินอกร้านเย็นเท่ากับเบียร์ 4. 7/11 ที่นี่ไม่มี Microwave อุ่นอาหารกล่อง หรือน�ำ้ร้อนให้ต้มมาม่านะจ๊ะ 5. สาวเชียร์เบียร์แต่งตัวผิดระเบียบ ไม่รัดรูป และกระโปรงยาวเกิน ปล. ผู้หญิงหน้าตาน่ารักหายากจัง (จุ๋ย จุ๋ยส์ บอกมา 5 วัน เจอแค่ 3 คนเอง) *อ้อ Yuen Long อ่านว่า หยวนหลง แต่คนฮ่องกงออกเสียงว่า ยวนลอง 9
b side
HIP BIKE SECTION
ปัน่ ช้า ๆ ดู วิว อ่ า ว ดู ค นมาวิ่ง ดู ค นขี่จ กั รยาน ระยะทางประมาณ 7 กม. จากนัน้ เลี้ยวซ้ายข้ามสะพาน เข้า Sha Tin วิวจากสะพานมองไปสวยทัง้ ซ้ายและขวา ลงสะพานเลี้ยวขวาเลาะแม่นำ �้ แล ้วปัน่ เข้า Town Center หาอาหารกลางวัน... บ่ายโมงกว่าออกเดินทาง แต่วา่ ไม่ปนั ่ เป็ นวงกลมกลับทีพ่ กั แล ้ว มันไกลเกิน เวลาไม่พอ เราจะ ย้อนกลับไปทาง Tai Po แล ้วใช้เส้นกลับทีพ่ กั ทีไ่ ม่ซำ�้ กับขามา แต่ก่อนออกจาก Sha Tin พวกเราปัน่ เล่นเลาะแม่น�ำ้ ชมวิวไปจนถึง Ma On Chan แล ้วค่อยย้อนกลับไป Tai Po ชมวิวอ่าว Tolo ให้ชน่ื ใจอีกรอบ จาก Tai Po ลัดเลาะเลี้ยว เลื้อยไปเรื่อย จนไปขึ้นเขาลูกเดิมแต่อกี ด้าน ทางเขาสวย ร่มรืน่ มาก แต่ถนนก็แคบมาก ต้องจอดทําตัวลีบเอียงหลบรถ เป็ นระยะ พอลงเขาก็มาโผล่เอาใกลจ้ ดุ พักรถที่กินติ่มซาํ เมือ่ เช้า จากนัน้ เลี้ยวซ้ายปัน่ ลงเขายาวกลับเข้าเมือง... สรุปได้ว่า Yuen Long มันเป็นเมืองบ้านนอกเมืองใหม่ มีแต่ทะเล ตึกทีพ่ กั อาศัยสูงเสียดฟ้ า ทางจักรยานมีแค่ใช้ สัญจรในเมือง ส่วนชานเมือง ถนนระหว่างเมือง ทางเขา ต้องปัน่ ถนนที่แคบไม่มไี หล่ทางค่อนข้างอันตราย ถ้ามา เป็ นกลุ่มใหญ่คงมีโดนรถชนตายอย่างน้อย 2 - 3 คน ตัวเมืองก็ห่างจาก Kowloon แหล่งท่องเทีย่ วมาก ต้องนัง่ รถไฟฟ้ าสามต่อ 1 ชัว่ โมงเต็ม จะให้ดคี วรพักที่ Tai Po หรือ Sha Tin เมืองมีชวี ติ ชีวากว่า ทางจักรยานเลียบแม่นำ �้ เลียบอ่าว Tolo สวยงามกว่า ไปเทีย่ ว Kowloon ตอนกลางคืน ก็ใกล ้กว่า แต่ไม่วา่ จะพักทีไ่ หน สิง่ นึงทีเ่ หมือนกันคืออาหาร การกินแพง และเข้มข้นด้วยผงชูรส ถึงที่พกั เกิดอาการ คอแห้งลิน้ แห้งกันถ้วนหน้า... จําเป็ นต้องหาเบียร์จาํ นวนมาก มาล ้างพิษกันทุกคืน.
BIKE SECTION -Route Road -
SOITAN HANSAA
ChiangMai - ChiangRai 2015 เชียงรายระทึก
เรื่อง: ฝาฟา / ภาพ: TroyPhotography Production
จะมีสกั กีค่ รัง้ ในชีวติ คนปกติอย่างเราๆ ทีจ่ ะมีโอกาสน�ำพาร่างกายเคลือ่ นที่ ด้วยแรงขาบนจักรยานล้วนๆ ระยะทางไกลเกือบๆ สองร้อยกิโลเมตร จากเชียงใหม่ สูเ่ ชียงราย เช้าวันจันทร์วนั ท�ำงานทีแ่ สนจะธรรมดาวันหนึง่ “เธอๆ เสาร์อาทิตย์ ไปเทีย่ วไหนมาบ้างเหรอ?” “ไปไร่บญ ุ รอดทีเ่ ชียงรายหน่ะ” “อืมมม..ขับรถไปเอง เหรอหรือว่านัง่ รถบัสไปหล่ะ?” “อ๋อเปล่า ปัน่ ไป...” “.......”
10
b side
บร้ะ!!!! จังหวะที่ตอบกับเพือ่ นว่าปัน่ ไป มันเป็ นอะไรที่เท่สุดๆ แบบยิ้มอ่อนหน่อยๆ เบ้มุมปากข้างซ้ายลงนิดๆ พลางคิดในใจ “ท�ำไมเหรอ ก็แค่ปนั ่ ไปเชียงรายเอง แปลกยังงัยหรา” (น่าหมันไส้ ่ ตวั เองสุดๆ แทบจะ ตบปากตัวเอง ฮ่ าๆๆ) ใช่ แลว้ ครับ...ผมเพิ่งได้มีโอกาสปัน่ จักรยาน พาตัวเองจากเชียงใหม่ไปไกลถึงจังหวัดเชียงราย ผ่านทางทริปประจ�ำปี สุดคลาสสิคของกลุม่ นักปัน่ ‘ซอยตัน’ ผมได้ยนิ มาหลายปี แล ้วตัง้ แต่ได้เริ่มฝึ กปัน่ จักรยานว่าจะมีนกั ปัน่ กลุม่ หนึ่งชื่อ ‘ซอยตันหรรษา’ ทีไ่ ด้จดั ทริปปัน่ ไปเชียงรายกันเป็ นประจ�ำ ทุกปี ครัง้ แรกทีไ่ ด้ยนิ ก็จนิ ตนาการไม่ออกเหมือนกันว่าผมจะพาตัวเองไป ถึงจุดทีจ่ ะสามารถไปร่วมทริปได้ยังไง เพราะแค่ขบั รถยนต์ไปก็ยงั เหนือ่ ยเลย นับประสาอะไรกับจักรยานทีใ่ ช้เพียงแรงจากสองขาไร้ซง่ึ เครื่องยนต์ใดๆ และยังต้องปัน่ ขึ้นและลงเนินไม่รูก้ ่ีเนิน มันแทบจะเป็ นไปไม่ได้เลย ส�ำหรับผม มิหน�ำซ�ำ ้ ด้วยทีเ่ วลาว่างจากการท�ำงานของผมก็ไม่ได้มีเยอะแยะ อะไรมากทีจ่ ะออกไปซ้อมทางไกลแนวเอ็นดูรา้ นซ์ (Endurance) ได้ทกุ วัน นานๆ อาจจะมีออกทริปร้อยโลสักทีหนึ่ง ท�ำให้ผมปัน่ ได้อย่างมากไม่เกิน วันละ 40 ถึง 50 กิโลต่อวัน จนกระทัง่ ประมาณสองเดือนก่อน ได้เห็น ประกาศในเฟซบุค๊ ว่า มีพ่ีๆ กลุ่ม ซอยตัน จัด ทริป ปัน่ ไปเชีย งรายกัน ครัง้ แรกทีเ่ ห็นผมลงชือ่ เข้าร่วมทันที เพราะเคยเห็นรูปปีกอ่ นๆ มาก็หลายครัง้ แล ้วอยากไป เอาสิวะ ปี น้ ลี องสักตัง้ คนเรามันต้องมีครัง้ แรก จากนัน้ ผมก็ ไม่ได้เตรียมพร้อมหรือซ้อมอะไรมากไปกว่าเดิมเลย ได้แต่สวดมนต์ ไหว้พระภาวนาขอให้ปนั ่ จบทริป ไม่ข้นึ รถเซอร์วสิ และมีรูปสวยๆ กลับ บ้านก็พอแล ้ว ฮ่าๆๆ แล ้ววันจริงก็มาถึง... เสาร์ท่ี 28 พ.ย. 2558 เหล่านักปัน่ ค่อยๆ มา รวมพลกันทีส่ แ่ี ยกศาลเด็ก ตัง้ แต่เวลาตีหา้ กว่าๆ ทักทาย ถ่ายรูปกัน บรรยากาศคึกครื้นรื่นเริง นักปัน่ ประมาณ 130 ชีวติ ออกเดินทางมุ่งสู่ Singha Park Farm Festival 2015 ไร่บญ ุ รอด จ.เชียงราย มีรถต�ำรวจ คอยดู แ ลความปลอดภัย ทางจราจรให้ต ลอดเส้น ทาง มีร ถเซอร์วิส
BIKE SECTION -Route Road -
ของการปัน่ ทางไกลทัวริ่งทีผ่ มเข้าใจอย่างสิ้นเชิง ท�ำให้ปนั ่ ผ่านจุดพักย่อย ตามแผนไปซะดื้อๆ เมือ่ กลุม่ หน้าทัง้ ลากทัง้ ยิง กระแทกกระทัน้ คนข้างหลัง ก็ไม่ยอมน้อยหน้า เกาะกันเป็ นกลุม่ ดูสามัคคี ไอ้ทข่ี ้นึ ชือ่ ลือชาว่า ซอยตัน ยิงกันหูดบั ตับไหม้เนี่ยะรูซ้ ้งึ เลยครับ! จนผมเริม่ เอะใจว่า เอ้ะ มันเกินระยะ ที่พ กั มาละนี่ น า ท�ำ ไมไม่ จ อดซัก ที หัน ไปถามใครก็ ไ ม่ มีใ ครทราบ ว่าเป็ นอะไรยังไง (คาดว่าหูคงดับไปแล ้ว!) ผมคิดในใจนีถ่ ้าเลยจุดพักมาจริงๆ มันก็ไกลแลว้ แต่ ถา้ ปัน่ ต่ อจนถึงจุดพักทานอาหารเที่ยงก็ยงั อีกไกล แต่กท็ ำ� อะไรไม่ได้ เมือ่ เขาปัน่ เราก็ตอ้ งปัน่ หม้อน�ำ้ ก็เริม่ เดือดแล ้ว ทางก็เป็ น เนินขึ้นลงไม่เว้นว่างให้พกั กลุ่มหน้าก็ฟิตกันเหลือเกิน ผมกัดฟันทน 11
b side
แบบสุดๆ ตะคริวเพือ่ นเก่าก็เหมือนจะแวะมาทักทายเป็ นพักๆ อดทนมาได้ พอสมควร และแล ้วขบวนรถด่วน ก็ได้น�ำผมมาถึงจุดพักทานอาหารกลางวัน จนได้ ที่ อ.แม่สรวย (จากน�ำ้ พุรอ้ นแม่ขะจานกิโลที่ 65 พักทานอาหาร กลางวันกิโลที่132) ดีใจสุดๆ เพราะตะคริวไม่มา งงตัวเองอยู่ว่ารอด มาได้ไง ในช่วง 10 กิโลสุดท้าย หม้อน�ำ้ แทบแตก (หม้อน�ำ้ แตก ในทางจักรยาน หมายถึงการแหกซิปเสื้อระบายความร้อน) หิวก็หิว ในภาษาเหนือ เรียกกันว่า “เป็ นปิ ” ที่รา้ นอาหารได้จดั เตรียมกับข้าวและเครื่องดื่มไว้ เป็ นอย่างดี มีกลุม่ นักปัน่ ท้องถิน่ ปัน่ มาต้อนรับและแจกข้าวต้มมัดแก่นกั ปัน่ ผมนี่อม่ิ ท้องและประทับใจมากๆ ตอนนี้อกี ไม่ถงึ 50 กิโลเมตรก็จะถึง จุดหมายแลว้ ก่อนจะออกสตาร์ทอีกครัง้ ได้มปี ระโยคที่ไพเราะมากๆ กระแทกเข้าหูผม จากพีท่ ค่ี มุ ขบวนว่า “ปัน่ โรลลิง่ บ่ะเกิน 35 เน่อ จะถึงละ” โอ้โห สวรรค์ลงมาโปรด ผมได้รอดตายจากสงครามโลกครัง้ ทีส่ ามแล ้ว! นี่สิ ความเร็วทัวริง่ ทีแ่ ท้จริง ค่อยๆ ปัน่ กันไปอย่างเป็ นระเบียบ ชมทิวทัศน์ และบรรยากาศสองข้างทาง หัวเราะต่อกระซิก พูดคุยกระหนุงกระหนิง มันดีสุดๆ เกินจะบรรยาย ต่างจาก 50 กิโลแรกอย่างสิ้นเชิง ผมรูส้ กึ ว่า ไม่นานเลย ครู่เดียวเท่านัน้ ขบวนจักรยานก็ได้เลี้ยวผ่านหน้าวัดร่องขุน่ ที่เวลามองดู รูส้ ึกว่าสวยงามกว่าครัง้ ไหนๆ จากนัน้ ก็ม่งุ ตรงสู่ท่หี มาย ของทริปนี้กค็ อื ไร่บญ ุ รอด ทริปนี้เป็ นอีกทริปทีผ่ มประทับใจมากเพราะเป็ นระยะการปัน่ ทีไ่ กล ทีส่ ุดทีเ่ คยปัน่ จักรยานมา คือ 180 กิโลเมตร และก็เป็ นครัง้ แรกของผม ที่ใช้จกั รยานบวกกับแรงกายแรงใจน�ำตัวผมเองมาอยู่ท่เี ชียงรายแห่งนี้ ได้สำ� เร็จ ทีส่ ำ� คัญทีส่ ุด ผมสัมผัสได้ถงึ มิตรภาพของนักปัน่ ซึง่ ในทริปนี้ มีนกั ปัน่ จากทุกทัวสารทิ ่ ศไม่ใช่เพียงนักปัน่ เชียงใหม่ทม่ี าร่วม แต่ยงั มีพๆ่ี นักปัน่ ไกลจากกรุงเทพ อย่างเช่น ทีม DTK ทีม่ าร่วมทริปนี้ ระหว่างทาง ทุกคนยิ้มให้กนั (และแยกเขี้ยวยิงกระหน�ำ่ !) ช่วยเหลือกัน ไม่ได้สนว่า ใครท�ำอาชีพอะไรมาจากไหน เพราะเมือ่ อยู่จุดนี้ทุกคนคือคนที่รกั การ ปัน่ จัก รยานเหมือ นกัน ...แค่ น ั้น เอง ส�ำ หรับ ใครที่ส นใจอยากจะ หาประสบการณ์ ม นั ๆ แบบนี้ ปี ต่ อ ๆ ไปเตรี ย มร่ า งกายให้พ ร้อ ม (เพราะขบวนหรรษาของซอยตันนี่ข้ ึนชื่อเรื่องความโหดอยู่แลว้ อิอิ) แล ้วก็รอฟังข่าวไว้เลย เพราะเดีย๋ วจะคุยกับเขาไม่รูเ้ รือ่ ง ถ้ามีโอกาสผมก็คง จะมาร่วมทริปดีๆ แบบนี้อกี จะได้เอาไปอวดกับเพือ่ นเกร๋ๆ ว่า “เคยปันจั ่ กรยาน ไปเชียงรายมาแล ้ว”
HIP BIKE SECTION
คอยให้นำ�้ และดูแลคนทีไ่ ม่ไหวเป็ นอย่างดี สเตจแรกนี้ ขบวนจะจอดพักทีร่ า้ นริมธารบ้านเมีย่ งระยะทางประมาณ 50 กิโ ล แน่ น อนว่า จากจุด สตาร์ท ออกมาได้ไ ม่ไ กล เมือ่ ผ่านอ�ำเภอดอยสะเก็ด สิ่งที่นกั ปัน่ ต้องเผชิญก็คือ เนิน และเนิน จากทีป่ นั ่ เป็ นขบวนสองแถวเรียงเป็ นระเบียบ สถานการณ์แทบพลิกกลับเป็ นหนังคนละม้วน เพราะเมือ่ ถึงเนินแรกที่เรียกว่า ‘เนินศาล’ กลุ่มใหญ่ได้แตกออก อย่างละเอียด ขาแรงขาดอยด้านหน้าก็ซดั กันไม่ยงั้ ไม่วา่ จะเนินขึ้นก็ยงิ จะเนินลงก็เร่งเข้าไปอีก โอ้โห! ตอนนัน้ ผมคิ ด ในใจถ้า ตามไปด้ว ยนี่ ไ ด้ข้ ึน รถกลับ บ้า นแน่ ๆ เอาวะ ค่อยๆ ควงรอบขาตามจังหวะของตัวเองดีกว่า เมือ่ ไปถึงร้านริมธารบ้านเมีย่ ง พีๆ่ ได้จดั เตรียมอาหารเช้า อย่างดีเยีย่ มไว้รอแล ้ว ทุกคนต่างก็เติมคาร์โบและเม้ามอยกับ สงครามทีผ่ า่ นมาพอหอมปากหอมคอ ขบวนก็ทยอยไหล ออกไปสู่ อีก จุด พัก คื อ น�ำ้ พุร อ้ นแม่ ข ะจาน หากดู แ ต่ ระยะทางแล ว้ อาจจะดู ว่า เป็ น สเตจที่ใ กล ๆ้ เท่ า นัน้ แต่ ในความเป็ นจริงนักปัน่ ก�ำลังจะต้องปัน่ ข้ามดอยนางแก้วอันสู งชัน เพือ่ ข้ามสูเ่ ขตจังหวัดเชียงรายกันแล ้ว ช่วงนี้กลุม่ หน้าขาแรงก็ซดั วิทยายุทธ ออกอาวุธใส่กนั เช่นเคย ข้างหลังก็ค่อยๆ ขึ้นไป พอถึงยอดแล ้ว ทีน้ มี แี ต่ ลงกับลงเท่านัน้ ลงอย่างเดียวจนถึงน�ำ้ พุรอ้ นแม่ขะจาน ได้พกั เติมน�ำ้ เติมเกลือแร่และถ่ายรู ปกันเล็กน้อย ไม่นาน ขบวนก็ออกเดินทางต่อ อย่างตรงเวลาตามแผน ตามก�ำหนดการ กลุม่ จะปัน่ ไปอีกไม่ไกลมากนัก ก็มีจุดพักเป็ นช่ วงๆ แต่ เอาเข้าจริงๆ มันกลับเป็ นระยะที่ยาวมากๆ ยาวจนผมนี้อ้ ึงไปเลย อาจเป็ นเพราะความเร็วของกลุ่มหน้าที่ลากกัน มากกว่า 40 กม./ชม. หรือขึน้ ไปถึง 50 ในบางช่วงซะด้วยซ�ำ้ ! มันช่างผิดวิสยั
BIKE SECTION - race -
TRIATH ไตรกีฬา
เรื่อง: Weekend Warrior / ภาพ: โอดี้นิวส์
ไตรกีฬา หรือ กีฬาคนเหล็ก ได้ยนิ ครัง้ แรกรูส้ กึ เป็นเรือ่ งห่างไกลส�ำหรับนักปัน่ จักรยาน อย่างเราเหลือเกิน เพราะนอกจากจะต้องปัน่ จักรยานแล้ว ยังต้องมีทงั้ วิง่ และว่ายน�ำ้ ทัง้ 3 ชนิดกีฬา ในคราวเดียวกัน ล�ำพังแค่ปน่ั จักรยานอย่างเดียวก็จะแย่แล้ว หลายคนจึงมักจะปฏิเสธกีฬาประเภทนี้ ด้วยข้ออ้างเรือ่ งการว่ายน�ำ้ ก่อนอืน่ มาท�ำความรูจ้ กั นิยามของค�ำว่าไตรกีฬากันก่อน ไตรกีฬา คือการแข่งขันกีฬา 3 ประเภท ต่อเนือ่ งกัน คือ ว่ายน�ำ้ ขีจ่ กั รยาน และวิง่
ระยะทางในการแข่งขันไตรกีฬานัน้ สามารถแบ่งออกได้เป็ นหลายระยะทาง แตกต่างกันออกไป โดยจะแบ่งตามล�ำดับดังนี้ ว่ายน�ำ้ /จักรยาน/วิง่ (กิโลเมตร) 1. Sprint Distance 0.75/20/5 2. Olympic Distance 1.5/40/10 (เป็ นระยะทีใ่ ช้ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิ ก และการแข่งขันระดับชาติอน่ื ๆ) 3. Half Ironman 1.9/90/21 (รูจ้ กั กันอีกชื่อหนึ่งคือ Ironman 70.3 มาจาก ระยะทางรวมเมือ่ คิดเป็ นหน่วยไมล์) 4. Ironman 3.8/180/42 ในเบื้องต้นพอจะทราบแล ้วว่าไตรกีฬามีกฬี าชนิดไหนบ้าง และมีระยะใดบ้าง ตัง้ แต่ ร ะยะสัน้ จนไปถึง ระยะยาว แล ว้ แต่ จ ะเลือ กเล่น ว่ า จะเล่น ระยะไหน โดยส่วนตัวผมเองก็เพิ่งจะเริ่มเล่นไตรฯ ได้ไม่นานนัก ลงแข่งในสนามต่ างๆ มาระดับหนึ่ง พอจะมีประสบการณ์การแข่งขัน การเตรียมตัวก่อนแข่ง ระหว่างแข่ง และการซ้อมเพื่อ ไปแข่ง แต่ ล ะสนามมาอยู่ บา้ ง ก็เลยจะมาเล่า ประสบการณ์ การเล่นไตรฯ ว่ากีฬาประเภทนี้สนุกขนาดไหน ก่ อ นหน้า นี้ ผ มปัน่ จัก รยานอย่ า งเดีย ว ไม่ มีกี ฬ าชนิ ด อื่น ผสมอยู่ เ ลย อยู่ ม าวัน หนึ่ ง ได้อ่ า นบทความเกี่ย วกับ นัก จัก รยานว่า นัก จัก รยานส่ ว นมาก เมื่อ อายุ เ พิ่ม มากขึ้น มัก จะเกิด ภาวะกระดู ก พรุ น มากกว่า นัก กีฬ าประเภทอื่น เนื่องจากเล่นกีฬาชนิดเดียว ร่างกายไม่ได้รบั แรงกระแทกจากการวิง่ หรือกระโดด 12
b side
ท�ำให้นกั จักรยานมักมีภาวะกระดูกพรุนมากกว่าเมือ่ เทียบกับนักกีฬาประเภทอื่น ผมจึงเริม่ หันมาวิง่ สลับกับการปัน่ จักรยาน ในระหว่างทีว่ ง่ิ เพิม่ ขึ้น และปัน่ จักรยาน น้อยลง ค้นพบด้วยตนเองว่าถึงแม้เราจะซ้อมจักรยานลดลง แต่ความแข็งแรง ของการปัน่ จักรยานเราไม่ได้ลดลงเลย เนื่องจากว่าเราวิง่ ชดเชย ท�ำให้ร่างกาย โดยรวมแข็งแรงกว่าเดิมอีกมาก (เป็ นความเห็นส่วนตัว) ในระหว่างนัน้ เอง ผมก็ได้มโี อกาสลงแข่ง Duathlon (ทวิกฬี า) คือการแข่งสองประเภทกีฬาต่อเนือ่ งกัน คือวิง่ และปัน่ จักรยาน ก็ซ ้อมแบบมวยวัด และไปแข่งแบบมวยวัด ก็เลยดูไม่ไปวัดไปวา กับคนอื่นที่เขาเล่นกันมานาน กว่าจะลากสังขารตัวเองเข้าเส้นมาได้ก็แทบแย่ แต่ในระหว่างแข่ง Duathlon อยู่นนั้ ก็มกี ารแข่ง Triathlon อยู่เช่นเดียวกัน สายตาผมมองไปทางนักไตรฯ แต่ละคนมันช่างดูโปรเหลือเกิน โอ้วววว พระเจ้าจอร์จ!! มันยอดมาก นี่แหละกีฬาในฝันของผม มันช่างดูเท่เหลือเกิน ท่วงท่าแต่ละคน เวลากระโดดลงน�ำ ้ ขึ้นจากน�ำ้ วิ่งมาจับจักรยานออกไปปัน่ พอปัน่ เสร็จเข้ามา สวมรองเท้าวิง่ สวมหมวกไวเซอร์บงั แดด พร้อมแว่นโอ๊คเลย์ ท�ำไมมันดูดอี ย่างนี้ หลังจากวันนัน้ เป็ นต้นมา ไตรกีฬาได้ถกู บรรจุอยู่ในความฝันของผม แต่ผมก็ยงั ไม่ได้เริ่มสักที ได้แต่ผดั ผ่อนไปวันๆ โดยใช้คำ� แก้ตวั ว่าว่ายน�ำ้ ไม่เก่ง จนมาวันหนึ่ง เหมือนชะตาฟ้ าลิขติ ขณะผมซ้อมวิง่ อยูก่ บั พีช่ ายท่านหนึง่ ในขณะวิง่ ผมจ�ำไม่ได้แล ้วว่า เราคุยอะไรกัน แต่บทสรุปสุดท้ายของวันนัน้ ผมได้สมัครแข่งไตรกีฬา รายการแรก ของชีวติ เรียบร้อยแลว้ ทัง้ ๆ ที่ยงั ไม่เคยซ้อมว่ายน�ำ้ เลย แต่คิดในแง่บวกก็คือ
BIKE SECTION - race -
จะได้ไม่ตอ้ งมีขอ้ อ้างอีกต่อไป ยังไงก็ตอ้ งเริ่มซ้อมว่ายน�ำ้ ได้แลว้ จากวันนัน้ เอง ผมเริ่มวิถแี ห่งไตรฯ คืออุปกรณ์ต่างๆ ได้เพิม่ ขึ้นเรื่อยๆ จากปกติใช้รถเสือหมอบ ก็ตอ้ งเปลีย่ นเป็ นรถ Time Trial ซึ่งมีขอ้ ได้เปรียบคือออกแบบมาให้ลูล่ มกว่า รถเสือหมอบปกติ กับมี Aero Bar เพิม่ ขึ้นเพือ่ ให้เป็ นทีพ่ กั แขน และเป็ นการ วางต�ำแหน่งแขนและล�ำตัวให้ลูล่ มมากทีส่ ุด เพือ่ ให้เคลือ่ นทีไ่ ปข้างหน้าให้เร็วทีส่ ุด นอกจากนัน้ แล ้วก็ตอ้ งมีรองเท้าส�ำหรับวิง่ และอุปกรณ์ต่างๆ ส�ำหรับว่ายน�ำ้ ทีเ่ พิม่ ขึ้น แต่นนั ่ ก็ไม่ได้เป็ นอุปสรรคมากมายเท่าใดนักเมือ่ เทียบกับการซ้อม การซ้อมกีฬา ทุกอย่างต้องมีแบบแผน เพราะเราต้องซ้อมทัง้ 3 ชนิดกีฬากับเวลาทีม่ อี ยู่ ซึง่ สิง่ ทีผ่ ม เรียนรูไ้ ด้จากการซ้อมกีฬาเพือ่ เป้ าหมายอย่างใดอย่างหนึ่งก็คอื วินยั จากก่อนหน้า เคยเป็ นคนไม่มวี นิ ยั แต่กฬี านี้เปลีย่ นผมให้เป็ นคนมีวนิ ยั และมีความรับผิดชอบ สามารถปรับไปใช้ในชีวติ ประจ�ำวัน ซึง่ ส่งผลต่อการใช้ชวี ติ ประจ�ำวันทีเ่ ปลีย่ นแปลง ไปในทางทีด่ ขี ้นึ อยากรูว้ า่ ดีอย่างไร ก็ลองสมัครลงแข่งสักรายการ แล ้วก็เริ่มซ้อม ตัง้ แต่วนั นี้ หลังแข่งลองประเมินตนเองดูความเปลีย่ นแปลงว่าไปในทิศทางใด แต่บอกได้เลยว่าเกือบทัง้ หมดของผูท้ เ่ี ล่นไตรกีฬาบอกว่าดีข้นึ Challenge Laguna Phuket 70.3 นี่คอื ครัง้ ที่ 2 ของผมส�ำหรับงานนี้ หลังจากปี ทแ่ี ล ้วผมเอาชื่อมาทิ้งไว้ทน่ี ่ี ปี น้ มี ภี ารกิจต้องกลับมากูช้ ่อื ให้ได้ แต่เกือบ ฝันสลายจากความประมาท และขาดวินยั ของตัวเองแท้ๆ ยอมรับว่าปี น้ ซี อ้ มน้อย กว่าปี ทแ่ี ล ้วเยอะมาก ปัน่ จักรยานก็นอ้ ยลง ว่ายน�ำ้ ก็นอ้ ยกว่าปี ทแ่ี ล ้ว ส่วนวิง่ อันนี้ ดีกว่าปี ทแ่ี ล ้ว ได้อานิสงส์มาจากการ Cross Training เช่นการวิง่ เทรล เข้าป่ าที 5-6 ชัว่ โมง ยืนระยะได้สบายมาก เลยค่อนข้างมันใจว่ ่ าแข่งจบแน่ เพราะปี ทผ่ี า่ นมา ไป Trail Run อยู่หลายครัง้ ออกทีไม่เคยต�ำ่ กว่า 6 ชัว่ โมง ก็เลยมันใจเรื ่ ่องการ ยืนระยะทีส่ ามารถท�ำได้
13
b side
HIP BIKE SECTION
LON
เริม่ ทีว่ า่ ยน�ำ ้ ปี ทแ่ี ล ้วพกความกลัวไปด้วย ว่ายได้หว่ ยมาก ทัง้ ทีซ่ อ้ มมาเยอะ แต่ปีน้ คี วามกลัวหาย ถึงแม้จะซ้อมน้อยกว่าปี ทแ่ี ล ้ว แต่เวลาดีกว่าเดิม ท�ำให้รูว้ า่ ศักยภาพที่เรามีของถูกปิ ดกัน้ เพราะความกลัว จบว่ายน�ำ้ ขึ้นมาไม่มอี าการลา้ หรือหอบเหนื่อยแม้แต่นอ้ ย วิง่ ไปจับจักรยานต่อ ออกมาแบบไม่รบี เพราะ Inner Scorecard ของเราไม่ใช่เรื่องเวลา แต่เป็ นเรื่องของการแข่งจบ หรือไม่จบ ปี น้ ี รูเ้ ส้นทางเป็ นอย่างดี ควงขาไปเรือ่ ยๆ ไม่เร่ง ไม่ไล่ ไปตามจังหวะหัวใจและรอบขา แต่ได้เวลาดีกว่าปี ทแ่ี ล ้ว 15 นาที ทัง้ ๆ ทีป่ ี ทแ่ี ล ้ว ทัง้ เร่ง ทัง้ ไล่ เหนื่อยแทบตาย เป็ นเหตุให้เกิดตะคริว วิง่ ไม่จบ แต่ปีน้ ีไม่มอี าการเลย เหนื่อยน้อยกว่าเดิมมาก แถมเวลาดีกว่าปี ทแ่ี ล ้วเยอะ แสดงถึง Aerobic Capacity ทีเ่ พิม่ ขึ้น เกิดจากการ สะสมมาอย่างต่อเนื่อง หลังจากปัน่ เสร็จเอารถเข้าแขวน สวมรองเท้า แต่ไม่ลมื เติมครีมกันแดด อันนี้ขาดไม่ได้ ติดยิ่งกว่าสารโด๊ป ฮ่าๆๆๆ ตอนจะออกจาก จุดทรานซิชนั ่ วิง่ เดีย่ วไปซักพัก สิง่ ทีก่ ลัวทีส่ ดุ มันย้อนกลับมาจนได้ นัน่ ก็คอื ตะคริว ฝื นต่อไปก้อนตะคริวขยายแน่ หยุดเดินแม่งเลย เอาสิ!! เจอกันหน่อย กูกล ้าเดิน มรึงอย่ ามาหน้าด้านมาขึ้นขากู ฮ่ าๆๆๆ พอตะคริวไปก็เริ่มออกวิ่งได้อีกครัง้ แต่สุดท้ายมันคือหนังชีวติ ชัดๆ จู่ๆ ร่างกายก็แป๊ กขึ้นมาดื้อๆ ตะคริวก็รุมเร้า เสียเหลือเกิน ภาพของการ DNF (Did Not Finish) ปี ท่แี ลว้ ย้อนมาอีกครัง้ นี่ตูจะ DNF อีกเหรอฟร่ะ กลับเชียงใหม่แบบนี้รบั รองจุดยืนในสังคมไม่มแี น่ ถูกกระทืบซ�ำ้ จมดินจากเพือ่ นๆ รอบกายแน่ นอน ตายๆๆๆๆๆ ก็เลยพยายาม ประคองตัวทัง้ วิง่ ทัง้ เดินสลับกัน ลากขาเข้าเส้นจบ แต่เป็ นการวิง่ Half-Marathon ทีห่ ่วยทีส่ ุดเท่าทีเ่ คยวิง่ มา อนาถตัวเองสุดๆ ยอมรับว่าซ้อมไม่ถงึ ท�ำให้ยนื ระยะ ไม่ได้เอง ก็จบแบบอนาถๆ ไป ไม่สวยหรูอย่างทีต่ งั้ ใจไว้ สรุป ขึ้นอยู่กบั ว่าอยากยิ้มเข้าเส้น หรืออยากเข้าเส้นแบบ suffer ก็ข้นึ กับ วินยั การซ้อม การเตรียมตัว อย่าอ้างว่าไม่มเี วลาความจริงหากบริหารจัดการเวลาดีๆ และเพิม่ วินยั เข้ามามันก็จะมีเวลาเอง ขึ้นอยู่กบั ว่าจะมากหรือน้อย ส่วนการเทรน ก็เน้นทีค่ ณุ ภาพของการเทรน ลดปริมาณลง ฟังเสียงร่างกายให้มากขึน้ ซ้อมให้เหมาะสม วันธรรมดามีงานท�ำเวลาน้อยก็ประคองร่างกายเอาไว้ แล ้วไปเพิม่ ความหนักหน่วง ให้กบั การซ้อมในวันหยุด ตามแบบฉบับ Weekend Warrior ส่วนตัวผมหลังจากนี้ก็คงถอยกลับมาเล่นระยะ Olympic Distance ให้สนุกก่อน สะสมประสบการณ์ไปเรื่อยๆ เริ่มแกร่งเมือ่ ไหร่ค่อยกลับขึ้นมาระยะ 70.3 ใหม่ แล ้วพบกันฉบับหน้า สวัสดีครับ
BIKE SECTION
Chiang Mai Thailand 2015
AUDAX 200
- challenge -
เอ๋อแดก
เรื่อง / ภาพ: Acidslaper
ผมได้ยินเรื่องงานแข่งจักรยานชื่อประหลาด ‘เอ๋อแดก’ นีม้ าได้สกั ประมาณ 1-2 ปีทผ ี่ า่ นมาแล้วครับ แต่ไม่มโี อกาสได้เข้าร่วม เพราะมันฟังดูไม่คอ่ ยเป็นมิตร สักเท่าไหร่ มีอย่างทีไ่ หน ปัน่ 200-300 กิโลฯ เนีย่ นะ บ้า! ใครจะไปท�ำได้ฟะ! บวกกับสไตล์การปัน่ ของผม ทีไ่ ม่ถนัดแนวสงครามยืดเยือ้ ติดพันค่อนวันค่อนคืน ไม่ถนัดประเภทปัน่ เรือ่ ยๆ ยาวๆ น่ะครับ แต่กอ็ ย่างว่า มันเลยกลายเป็นปมในใจอยูห่ น่อยนึงว่าเราไม่กล้า (บางที ก็เกลียดตัวเองนะ ไอ้อารมณ์แบบนีเ้ นีย่ ะ!!! 555) -เวลาผ่านไป ปัน่ ไปปัน่ มา แข็งแรงขึน้ ดีวนั ดีคนื จากที่ ออกทริปร้อยกิโลฯ ได้ ก็เริม่ เขยิบสถิตติ วั เองมาจนถึง 180 กิโลฯ ได้ (เชียงใหม่-เชียงราย) มันก็เริม่ รูส้ กึ ว่า อยากลองไปงานนีด้ บู า้ ง แหม่ ปมในใจเวลามันคลีไ่ ด้ สารฟามสุขมันหลัง่ นะเออ ผมดันเสพติดอารมณ์นี้ ซะด้วย พอเพื่อนในกลุ่มชวนก็เลยตกลง เอาวะ! ให้มนั รูก้ นั ไป! -- เข้าไปสมัครที่ audaxthailand.com ก็เลยถือโอกาสอ่านโน่นอ่านนีห่ น่อยละกัน...
AUDAX เป็ นกิจกรรมปัน่ จักรยานทางไกลทีม่ มี านานแลว้ ตัง้ แต่ ก่ อ นผมเกิด (อนุ ญาตเปลี่ยนประเด็นนะ!) AUDAX มาจากค�ำว่า Audacious = บ้าบิน่ เริ่มจากนักปัน่ ชาวอิตาเลีย่ นกลุม่ หนึ่งทีท่ ำ� สถิติ บันทึกกัน เป็ นการปัน่ แบบไม่ได้จดั อันดับเพือ่ การเอาชนะ แต่เป็ นการ บันทึกสถิติเวลาส่วนตัวของนักปัน่ โดยอาจมีทงั้ การปัน่ เดี่ยวหรือกลุ่ม ก็ตามแต่จะตกลงกัน จัดต่อเนื่องเป็ นประจ�ำทุกปี เรื่อยมา จนเปิ ดให้ แต่ละประเทศสามารถก�ำหนดเส้นทางส่งไปขอรับรองเส้นทางจาก Audax Club Parisien (ACP) แล ้วก็จดั งานปัน่ และสรุปผลการบันทึกสถิตเิ วลา เพือ่ ส่งไปขอการรับรองอย่างเป็นทางการจากสมาคมฯ อีกครัง้ เป็นอันเสร็จพิธี ระยะทางส่วนใหญ่จะก�ำหนดเป็นขัน้ ๆ เช่น 200 300 400 600 ลุกลามไปถึง 1,200 กิโลฯ!!! โดยมีกติกาง่ายๆ คือนักปัน่ ต้องผ่านจุด Checkpoint และเข้าเส้นชัยภายในเวลาทีก่ ำ� หนด ไทยเรามีจดั หลายทีค่ รับ เช่น หาดใหญ่ ระยอง เชียงใหม่เราก็เช่นกัน ก็เขาอุตส่าห์มาจัดถึงบ้านเรา งัน้ ก็... ลุย!!! เส้นทาง AUDAX 200 Chiangmai Thailand 2015 ครัง้ นี้ ก�ำหนดปล่อยตัวทีโ่ รงเรียนสันทรายวิทยาคม (ข้าง ม.แม่โจ้) ยาวไปทาง อ�ำเภอพร้าวจนถึงโรงเรียนบ้านปางมะเยา (เข้าเขต อ.เชียงดาว) ก่อนจะ วกกลับมาเข้าเส้นชัยด้วยเส้นทางเดิม ระยะทางรวม 208 กิโลเมตร ระยะไต่ดอย 2,000 เมตร (ก็แค่เฉียดๆ ดอยอินทนนท์!!!) โดยมีจดุ Checkpoint ทัง้ หมด 5 จุด – เร้าใจเหลือเกินแม่คุณเอ๊ยยย ตลอดสัปดาห์ก่อนถึงวันงาน ผมวางตารางซ้อมให้เหมาะสม กับงานนี้ครับ – ทว่า!-- วันก่อนแข่งดันพลาดทะลึง่ อยากเห็นทะเลหมอก บนเนินปุย (คนทัวไปเรี ่ ยกดอยปุย แต่ผมว่าแค่น้เี รียกเนินก็พอ! อว้อออ!!!) อย่างว่าเนาะ ทะเลหมอกสวยๆ สุ ทรียท์ างใจเนี่ยะจ�ำเป็ น!!! ก็เลย แบกอาการล ้าขามานิดๆ – วันงาน ผมมาถึงตอน 6 โมงเช้า ก�ำหนดการ ปล่อยตัวคือ 7 โมงตรง กว่าจะประกอบรถ ตรวจเช็คทุกอย่าง รับป้ าย ติดเบอร์ ตรวจแผนที่ และก็ถงึ เวลาปล่อยตัวพอดี ได้วอร์มนิดหน่อย แต่กโ็ อเค ปัน่ ทางไกล 200 กิโลฯ แบบไม่วดั อันดับเข้าเส้นชัย ไปวอร์ม ตอนปัน่ จริงช่วงแรกๆ ก็ได้ เนื่องจากงานนี้ไม่มจี ดั อันดับแต่เป็ นการบันทึกสถิติเวลาส่วนตัว ผมจึงสัญญากับตัวเองไว้ว่างานนี้จะปัน่ เดี่ยวๆ เลย ไม่หมก-ไม่ดูดใคร จักรยานชายเดี่ยวรุ่นโต้ลมว่างัน้ !!! คือมันอยากรูว้ ่าระยะท�ำการ (ศึก) ของเรามันอยู่แค่ไหน เวลาท�ำสงครามจะได้เจียมเนื้อเจียมตัวถูก 555
14
b side
BIKE SECTION - challenge -
15
b side
และฝัง่ ศิลปศาสตร์ประมวลผลร่ วมกันจนได้คำ� ตอบออกมาว่า “45 กิโลฯ ต่อจากนี้... หนังชีวติ !!!” เข้าสู่โหมดพูดกับตัวเอง... A : อีโก้น่ะเพลาๆ ลงบ้าง ตอนนี้กร็ ูแ้ ล ้วว่าระยะท�ำการมันอยู่ตรงไหน (140) ประคองไปต่อได้ถงึ ไหน (160) เอางี้ หาใครสักคนแล ้วดูดเขาไปให้จบ! โอเคนะ B : ก็ตงั้ ใจไว้แล ้วว่าจะปัน่ คนเดียวจนจบ A : ถ้าเจ็บถ้าป่ วยร่างพังขึ้นมานี่ยาวเลยนะ B : อีกไม่ก่วี นั ก็จะ Off Season แล ้ว ลุยให้มนั จบๆ ไปเหอะ A : เมือ่ วานไปดอยปุยท�ำไม? แล ้วเมือ่ คืนท�ำไมไม่นอนตัง้ แต่หวั ค�ำ่ ? อย่าดื้อสิ โตแล ้วนะ รูจ้ กั แยกแยะอะไรควรไม่ควรหน่อย B : ลุยเดีย่ วๆ ดุๆ อย่างกับเสือมาตัง้ 160 กว่ากิโลฯ เหลือแค่ 40 กว่ากิโลฯ จะให้กลับไปเป็นแมวเหมียวเหรอ กูไม่เอาด้วยหรอก!!! มันนอนหลับไม่สนิทเฟ้ ย!!! Checkpoint สุดท้าย ขนมปังก้อนสุ ดท้าย แรงกายเฮือกสุ ดท้าย
ยืดแข้งยืดขาคลายเส้น กระโดดกลับขึ้นรถ กระหน�ำ่ ต่อ!!! จะได้ไม่ตอ้ งมาเสียใจ ทีหลังว่าน่าจะอย่างงัน้ น่าจะอย่างงี้ ลุย!!! -- แต่..... หนังชีวติ จริงๆครับ ทีเ่ หลือ เป็ น ทางเรีย บล ว้ นๆ ปัญ หาคื อ ไอ้แ พะภู เ ขานี่ ม นั ดัน ด้อ ยทางเรีย บนี่ สิ! !! ซ้อมมันแต่ดอย ออกทริปมาทัง้ ปี ยิงเขาทิ้งบนเนิน พอทางเรียบก็ไปไล่ดูดชาวบ้าน จนเสียนิสยั ไงล่ะ จักรยานชายเดีย่ ว เจอของแสลงตอนทีห่ มดแรงแล ้ว คลาสสิค เป็ นบ้า!!! เสือหมอบตัวร้ายบนถนนเรียบ ตอนนี้ทำ� ความเร็วได้แค่ 30 เผลอปุ๊ บ เหีย่ วลงไปที่ 27-28 ตาลอย หูดบั สติเริ่มพร่าๆ ก้มดูมเิ ตอร์ กว่าเลขกิโลฯ มันจะเพิม่ สักตัวนี่ทำ� ไมมันนานจังฟะ สูด้ ิ สูด้ ิ เอาไงดี? ขึ้นเกียร์เบาสักแก๊ก เพิม่ รอบขา ฟื้ บบบบ...เหีย่ ว! เอาใหม่! ตบเกียร์หนัก ยืนสปรินท์เรียกรอบขา แล ้วควงต่อ จืด๊ ดดด...ตะคริวมา! ก้มดูมเิ ตอร์ ระยะทางยังไม่เพิม่ !!! เสียสุขภาพจิต ถอดมิเตอร์ไปเก็บใส่กระเป๋ าหลังเสื้อ! จะได้ไม่ตอ้ งวิตกจริต คิดแต่เรื่องดีๆ ไว้ เอ้ออออ ดีจงั เราตัดสินใจยกเลิกวิง่ มินิมาราธอนทีไ่ ปสมัครไว้ ไม่งนั้ ถ้าพรุ่งนี้ ต้องไปวิง่ อีก 11 กิโลฯ คราวนี้คงได้พงั กันไปข้าง เฮ้ยยยย แล ้วท�ำไมไม่ปฏิเสธ งานนี้แล ้วไปวิง่ ดูสาวๆ ฟะ!!! ตะคริวแปล๊บมาอีก คุณพระ! มีจกั รยานคันนึง อยู่ ข า้ งหน้า ดู ด ไม่ดู ด ดู ด ไม่ดู ด ดู ด ไม่ดู ด คิด ไม่อ อกโว้ย ! ยิง !!! ไปยกสปรินท์สวนใส่เขาอีก (ถ้าพีค่ นนัน้ บังเอิญอ่านอยู่ ผมขอโทษจริงๆ ครับพี่ ตอนนัน้ ผมก�ำลังอยู่ในช่วงสับสนของชีวติ ครับ) พุ่งเข้าเส้นชัยด้วยอารมณ์แปลกๆ ชอบกล ดีใจ สะใจ พะอืดพะอม ควักมิเตอร์ออกมาดู... ระยะทาง 208 กิโลเมตร / ระยะไต่ดอย 2,098เมตร / เวลา 7 ชัว่ โมง 21 นาที ชื่น ใจสิค รับ ทุบ สถิติข องตัว เองได้เ รีย บร้อ ย ฮี้วววววววว!!! ท�ำได้แล ้วโว้ยยยยยย!!! เก็บรถ เปลีย่ นเสื้อผ้า ล ้างหน้าล ้างตา โทรหาแม่หาพ่อ คิดเรือ่ งเมนู อาหาร เสียงโฆษกประกาศว่า “เดือนหน้าจะมี AUDAX 300 อีกนะคะ” ...เอ๋อแดก!... ผมเกลียดความรูส้ กึ นี้ของตัวเองจัง...
HIP BIKE SECTION
กฎก็คอื ลุยเดีย่ ว ไม่ต ้องการคนลากบังลมให้ ใครอยากมาดูดก็เชิญ ใครแรงกว่า ก็แซงไปไม่วา่ กัน ทีส่ ำ� คัญผมจะ ‘ยิงทุกดอก ยอกทุกเนิน’ และจะใช้เวลาในจุด เช็คพ้อยท์ให้นอ้ ยทีส่ ุด ช่วง 30 นาทีแรกก็ควงรอบขา 90-100 เบาๆ ไปก่อน ซึง่ ก็พอดีกบั เส้นทาง ที่เป็ นทางเรียบไร้เนิน พอจบการวอร์มปุ๊ บก็เร่งความเร็วขึ้นมาอีกนิด จนเจอ จุดเช็คพ้อยท์แรก เช็คเสร็จปึ บ๊ เอาล่ะ! ‘ของดีอำ� เภอแม่แตง’ กระแทกดอย ต้อนรับกันไปก่ อนย่อมๆ ระหว่างนี้จิบน�ำ้ ไปเรื่อยๆ ไม่ปล่อยหม้อน�ำ้ แห้ง นึกได้กเ็ ติมขนมปังทีพ่ กมาซะหน่อย (ฝรัง่ เรียกคาร์โบฯ โหลด ผมเรียกกินแป้ ง!) ทางค่อนข้างเรียบยาวมาจนถึงกิโลฯที่ 80 กว่าๆ ถึงจุดเช็คที่ 2 (โรงเรียนพร้าว วิทยาคม) ก้มดูมเิ ตอร์ ฮัน่ แน่! แข่ง 200 กิโลฯ แบบไปยู-เทิรน์ วกกลับทางเก่า ผูจ้ ดั บอกว่าระยะไต่ 2,000 เมตร นี่ปนั ่ มาเกือบร้อยกิโลฯ ยังไม่เจอภูเขาสักลูก ลางสังหรณ์ของแพะภูเขาบอกผมว่า “ข้างหน้านี้สนิ ะ!” ผ่านเข้าตัวอ�ำเภอพร้าว ผมแวะเติมเสบียงก่อนเลย ขนมปัง เกลือแร่ น�ำ ้ พร้อม!!! จริงดังคาดครับ!!! เงยหน้ามาเจอถนนสีเทาๆ ตัง้ เด่นเป็ นสง่า อยูต่ รงหน้า!!! ชืน่ ใจจริงๆ พับผ่า!!! (ใครที่ ปัน่ จักรยานคงนึกออกนะครับ ก�ำลังปัน่ มาเพลินๆ แล ้วเจอดอยสูงๆ ชันๆ ดักหน้า อยู่น่ะครับ – นี่แหล่ะเหตุผลทีท่ กุ ๆ คน สวดมนต์!!!) อากาศก็เย็นสบายเกือบหนาว แต่ จงั หวะนี้ขอแหกเสื้อรอเลยละกันนะ ที่รกั ! การศึกนี้ท่าทางจะเนียนัวยาวยืด จริงของมัน!!! ขึ้นแล ้วขึ้นอีก ขึ้นแล ้วก็ข้นึ อีก ผูจ้ ดั เขาเก่งนะครับ เอาปี ศาจตัวที่ดุทส่ี ุด มาไว้ตรงกิโลฯ ที่ 100 เนี่ยยยย!!! (แว่ว ท�ำนองเพลงในวาบความคิดว่า “หัวใจเธอ มีหรือปล่าววววววว” แต่ ก็อย่างว่าครับ วิถีแห่งแพะภูเขา ชอบไต่ ดอยมันก็ตอ้ ง อย่างงี้แหละไอ้แพะหนุ่ม! (ซึง่ ส่วนตัวผม ชอบปัน่ ขึ้นเขามากกว่าทางเรียบครับ เดีย๋ วจะมาเล่าให้ฟงั ในล�ำดับต่ อไป) ก�ำลังดันดอยขึ้นมาเพลินๆ คุณพระ!!! อันดับ 1 และ 2 สวนกลับมาแล ้ว!!! ผมถึงกับหลุดปากอุทานขึ้นมาว่า “เชี่ยยยยย พีค่ รับ พวกมึงหายใจทางเหงือก กันหรือไงครับ!!!” ที่ 3 และ 4 ตามมาไม่หา่ ง บอกตัวเอง... “ไม่ท ้อ ไม่ท ้อ งานนี้ ไม่มแี ข่งเอาอันดับ ไม่ตอ้ งตกใจกับชาวไซย่าพวกนัน้ ! กระแทกดอยของเราต่อไป” เฮ้อ! ถึงยอดดอยซะที หัวใจนี่ไม่ตอ้ งถามถึงครับ ดีดขึ้นทีโ่ ซนอนาโรบิคตัง้ แต่ ปลดซิปเสื้อข้างล่างเนินโน่น! หายใจลึกๆ ผ่อนจังหวะพักเหนือ่ ย เตรียมดิง่ ลงดอย ป้ ายบอกใกล ้จุดเช็คที่ 3 และไม่ลมื ชมทิวทัศน์ระดับตระการตา หน้าผาสวยๆ ป่ าทึบๆ อากาศชื่นปอด มีฟามสุขจังโว้ยยยยยยย!!! ลงดอยมาอย่างสบายใจ ฉุ กคิดขึ้นได้ว่า เฮ้ย! เราต้องย้อนกลับทางนี้น่ีหว่า! งัน้ ไอ้ท่ีด่ิงลงสบายๆ ตอนนี้ก็...... พอคิดได้อย่างนี้ ฟามสุขก็มลายหายไปพลัน! ลงมาถึงโรงเรียน บ้านปางมะเยา จุดเช็คก่อนเลี้ยวกลับ แวะกินขนมปัง ถ่ายรูปประหยัดแชะ รีบก็รบี จะไม่ถา่ ยก็ยงั ไงอยู่ เส้นทางแบบนี้ไม่รูว้ า่ จะมาอีกทีเมือ่ ไหร่ ดีไม่ดอี าจจะ ไม่อยากมาอีกแล ้วด้วยซ�ำ ้ 555 พร้อมลุยต่อ... ตามนัน้ เลยครับ ไอ้ท่ลี งมาสนุ กๆ เมือ่ กีน๊ ่ ะ ความทุกข์ของปัจจุบนั ! แต่ก็ยงั มีกำ� ลังใจดีอยู่นา้ าาาา ขากลับแลว้ ... คราวนี้ขอผมอิ่มเอมใจกับการ ได้เห็นหน้าคนที่สวนมาแลว้ ตกใจบ้างเถอะ 55555 (หัวเราะอย่างบ้าคลัง่ ) กลับเข้าถึงตัวเมืองพร้าวอีกครัง้ เวลาประมาณเกือบเทีย่ ง จอดเติมเสบียงอีกรอบ (ฝรัง่ เรียกฟาสต์ฟ้ ูด ผมเรียกแดกด่วน!) เข้าเช็คพ้อยท์ท่ี 4 คราวนี้โหดแน่ ยาวๆ ร่วมร้อยกิโลฯ และอากาศร้อนแทนทีฤ่ ดูหนาวเฉียบพลัน! นี่แหละคือ บททดสอบระยะท�ำการของเรา ผมซัดให้เร็วทีส่ ดุ เท่าทีร่ า่ งกายจะไหว จนเริม่ รูสึ้ กได้ว่า เริ่มเหีย่ วเฉาลงตอนกิโลฯทีป่ ระมาณ 140 ก่อนจะพบว่า... ป้ าย “โปรดระวัง ทางลงเขาลาดชัน ยาว 3 กิโลฯ” ทีเ่ ห็นเมือ่ ขามา จะกลายเป็ นนรกส�ำหรับยุงร้าย ในขากลับ!!! และพบเพื่อนเก่ าที่สนิทสนมชื่อว่า ‘ตะคริว’ มันมาแลว้ !!! ก้มดู มเิ ตอร์ 163 กิโลฯ คอนทาดอร์!!! (ค�ำอุทาน) สมองฝัง่ คณิ ตศาสตร์
BIKE SECTION - bike friends -
CUP FINE DAY เรื่อง / ภาพ: แพะภูเขา
พู ด ถึ ง ดอยกอม ดอยค�ำ แม่ เ หี ย ะ พื ช สวนโลก นัก ปัน่ สายสุ ข ภาพฟรุ ง้ ฟริ้ ง ปนซาดิสม์นิดๆ นี่คงนึกภาพออก เพราะว่า ผ่านหูผ่านตากันมาประจ�ำ ด้วยความทีไ่ ปบ่อย ก็เลยลืมสังเกตร้านกาแฟร้านนึงทีต่ งั้ อยู่ระหว่าง ทางจากดอยค�ำไปดอยกอม บรรยากาศดีเชียว มีท่ีจอดจักรยานสะดวกสบาย อากาศเย็นๆ ครึ้มๆ สวยงามครับ แต่ สายซาดิสม์จะให้ปนั ่ มาที่รา้ นนี้เลย ก็แหมมมมม เกรงว่ากลา้ มเนื้อภูเขามันจะยัง ไม่ทนั ท�ำงานน่ ะสิ งัน้ เอางี้ จัดไปก่อนหนึ่งชุด Happy Set เรียกน�ำ้ ย่อย 1 ค�ำ 1 กอม ตะล่อมรัก! แล ้วค่อยวกกลับมากิน ฮี้ววววววว ทริปนี้เราเริม่ กันจากถนนนิมมานเหมินท์ เบื่อรถเยอะพลุกพล่านตัดเข้าซอยวัดอุโมงค์ สงบสุ ข ครับ ไหลมาเรื่ อ ยๆ ผ่ า นวัด ร�ำ่ เปิ ง บ้านข้างวัด วัดโป่ งน้อย แล ้วต่อไปทางแม่เหียะใน ตรงยาวขึ้นดอยกอมไปลงอีกด้านเลยครับ จ๊ะเอ๋! เส้น สะเมิง เลี้ย วซ้า ย วนกลับ มาซ้า ยอีก ครัง้ ที่ป ั ๊มน�ำ้ มัน ตัดเข้าทางลัดไป Night Safari วนซ้า ยผ่ า นพืช สวนโลก แล ว้ ไปขึ้น ดอยค�ำ ! ดอยค�ำก็ยงั เป็ นดอยค�ำอยู่วนั ยันค�ำ่ ครับ “สัน้ ๆ แต่ ไ ด้ใ จฟาม!!!” ขึ้น ถึง ยอดดอยค�ำแวะพัก ให้หายเหนือ่ ย ถ่ายรูป เช็คอิน กระตุนโลกไซเบอร์ ้ ให้คกึ คักหน่อย แล ้วค่อนไหลกลับลงมา (ขาลง ระวังด้วยนะครับ ทางดิง่ และแคบอันตรายมาก) ลงมาถึงทางแยกเลี้ยวซ้ายผ่านตลาดขายมะลิ แก้บน ลงเนินมานิดเดียวมองทางขวาไว้ จ๊ะเอ๋!
- bike news-
เสาร์ 16 มกราคม 2559 Chiang Mai Bike Night
CUP FINE DAY ร้านกาแฟบรรยากาศชอุ่มใจ คือ... มาร้านกาแฟ แต่ขอสังข้าวก่ ่ อนนะครับ หิวฮะ! เมนูอาหารเพียบ! เอาทีอ่ ยากละกัน จัดไป ก๋วยเตีย๋ วคัว่ ไก่และข้าวคลุกกะปิ --โซโล่!!!-อิ่มแปลป้ ุ๊ บ คราวนี้ ตบด้วยกาแฟซะหน่ อย เอสเปรสโซ่เข้มๆให้สดชื่นหน่อยละกัน ฮูว้ วววว์ สดชื่นนนนนน ระหว่างนัง่ เล่นมีนกั ปัน่ ผ่านไป ผ่านมาเต็มไปหมดเลยครับ ที่น่ีเหมาะส�ำหรับ การดักส่องพวก ‘เสือซุม่ ’ ทีแ่ อบมาซ้อมดอยนะครับ ไอ้พวกทีบ่ อกว่าช่วงนี้ไม่ค่อยได้ซอ้ มเลย เปลี้ยๆ แต่แอบมาดอยค�ำทุกวัน! พอไปออกทริปนี่แหม่ ยิงกันไม่มหี ยุดเลย! คนพวกนี้ควรโดนดักจับ ให้หลักฐานมัดตัวคาหนังคาเขา อิอิ ขากลับก็กลับทางเดิมเลย แวะเข้าไปชม ทะเลสาบแม่เหียะซะหน่อย ครึ้มอารมณ์ อิม่ ท้อง อิม่ ดอย อิม่ ใจ จบวันหยุดเก๋เก๋ แล ้วพบกันใหม่ ฉบับหน้านะครับ
กิจกรรมทีจ่ ะท�ำให้ทา่ นได้รบั ประสบการณ์ใหม่ ในการขี่จักรยาน เป็นการปั่นจักรยานยามค�่ำคืน ไม่ต้องตากแดดร้อนๆ ตอนกลางวัน แถมช่วงที่ จัดงานปัน่ เชียงใหม่จะมีอากาศทีเ่ ย็นสบายเหมาะแก่การ ค่อยย�่ำบันไดชมเมืองแต่เราก็มีถนนโล่งๆ ยาวๆ ในช่วงแรกๆ และช่วงกลางๆ ให้ท่านผู้เข้าร่วม ได้ ค วงขาวั ด รอบกั น ได้ พ อสมควร และยั ง มี กิจกรรมร่วมกันจุดผางประทีป ที่จะท�ำให้กิจกรรม ครั้งนี้ตราตรึงในความทรงจ�ำท่านทุกคน
อาทิตย์ 17 มกราคม 2559 Tour de Chiang Mai 1st การแข่งขันจักรยานเสือหมอบ และเสือภูเขา สามารถสมัครได้ที่ https://docs.google.com/forms/d/ 1k9nGbq0cBhfBVPJgkYy20ihc4pNhqDBTGp385b401Rg/viewform?c=0&w=1
เสาร์ 23 มกราคม 2559 AUDAX 300 Chiangmai งานจักรยานทางไกลระยะทาง 300 กิโลฯ เส้นทางจากประตูท่าแพ - อ.เชียงดาว และกลับมา จบเส้นทางที่ประตูท่าแพ ใครสนใจก็เข้าไปสมัครได้ที่ www.audaxthailand.com
“คอลัมน์ Bike Friend ยินดีปั่นไปเที่ยว ไปกิน ไปดื่ม ไปชิมนะคะ โดยมีเงื่อนไขว่าทางร้านจะต้องเป็น ‘เพื่อนกับจักรยาน’ เช่น มีขาตั้งจักรยาน สูบลม ชุดปะยาง หรือ อุปกรณ์ซ่อมรถเบื้องต้น เป็นต้น ร้านไหนสนใจให้เราไปเยี่ยมเยียนเชิญติดต่อ กองบรรณาธิการได้เลย”
16
b side
BIKE SECTION
ลุ ง น โ ป เ ลี ย น เ ค ย กล่าวไว้ว่า “An army marches o n i t s stomach.” ซึ่ ง ช่ ว งนี้ อย่า เพิ่ง พูดเรื่องกองทัพ กันดีกว่า (บก. เห็นด้วยครับ) แต่ครัน้ จะบอกว่านักจักรยาน ต้ อ งปั ่ น ด้ ว ยท้ อ งก็ ค งจะ ดูแหม่งๆ ชอบกล เอาเป็นว่า นักจักรยานก็ตอ้ งกิน ตัง้ แต่ เริ่มปั่นมานี่ สังเกตุกันไหม กินเยอะเสียด้วย ทัง้ ก่อนปัน่ ระหว่ า งปั ่ น และหลั ง ปั ่ น ตกกลางคืนมาหิวอีก ต้องปัน่ ออกไปหาของกินอีก
กินแล ้วร่างกายก็ตอ้ งย่อยสิง่ ทีก่ นิ เข้าไปให้เป็ นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ก่อนจะ ดูดซึมเอาสารอาหารเข้าไปใช้ได้ ถ้ากินแลว้ ไม่ย่อยหรือการย่อยอาหารไม่ดี ร่างกายก็ไม่ได้สารอาหารครบถ้วน กลายเป็ นว่ายิ่งออกก�ำลัง ร่างกายก็ย่งิ อ่อนแอ เพราะร่างกายฟื้ นตัวช้า หลายคนเป็ นหวัดง่าย ทัง้ ๆ ที่ออกก�ำลัง อย่างสม�ำ่ เสมอ อาหารประเภทแป้ ง ที่นกั ปัน่ มักกินเป็ นอาหารหลัก (ข้าว เผือก มัน มาม่า ขนมปัง พาสต้า เบเกิล พริงเกิ้ล ฯลฯ) ต้องถูกช่วยย่อยตัง้ แต่ในปาก ด้วยการเคี้ยว และคลุกเคล ้าให้เข้ากันแบบขลุกขลิกกับน�ำ้ ลาย โดยเอนไซม์อะไมเลส ในน�ำ้ ลาย จะช่วยเริ่มช่วยย่อยอาหารประเภทนี้ตงั้ แต่ในปาก (เรียนตอน ป.5 จ�ำได้บา้ งมัย้ ?) จะได้ไม่เป็ นภาระของกระเพาะมากเกินไป ถ้ารีบทาน รีบกลืน มัวแต่เล่นไลน์ หรือ IG ตอนกิน หรือเพราะก�ำลังปัน่ อยู่ ปัน่ ไปกินไป เคี้ยวสองที แลว้ กลืน เพราะหอบแฮกๆ ต้องรีบหายใจทางปาก สิ่งที่เกิดตามมาก็คือ อาหารถูกย่อยได้ไม่ดี พลังงานรวมถึงสารอาหารทีไ่ ด้กจ็ ะลดลงไปด้วย การแพทย์แ ผนตะวัน ออกทัง้ หลายเกื อ บทุ ก ส�ำ นัก จึ ง แนะน�ำ ให้ เคี้ยวอาหารให้ดีก่อนกลืน โดยระบุจำ� นวนครัง้ ของการเคี้ยวว่าควรจะอยู่ท่ี 75 ถึง 150 ครัง้ ต่ออาหารหนึ่งค�ำในปาก อี ก ปัญ หาหนึ่ ง ของการย่ อ ยอาหารได้ไ ม่ ดี โดยเฉพาะตอนปัน่ (ปัน่ ต้นฉบับก็ใช่ดว้ ย!) คือการกินในขณะทีร่ ่างกายขาดน�ำ ้ เพราะจะท�ำให้เกิด อาการเหมือนฉันขาดเธอ คือทานข้าวไม่ลง เอ้ย กลืนอาหารล�ำบาก เนื่องจาก น�ำ้ ลายไม่มากพอ เป็ นเหตุให้เมือ่ กินแล ้วท้องไส้ปนั ่ ป่ วน เหมือนอาหารอยากจะ กลับออกมาให้ได้ หรือเกิดลมในท้อง เพราะการย่อยไม่สามารถเกิดขึ้นได้ โดยสมบูรณ์นนั ่ เอง
ปล. การกินอะไรที่ไม่ควรกิน นอกจากจะย่อยยากและท�ำให้ร้อนท้องแล้ว ยังท�ำให้ส่วนรวมเสียประโยชน์ด้วยนะ
17
b side
HIP BIKE SECTION
เรื่อง / ภาพ: @T
เรื่องย่อย เรื่องใหญ่
- healthy -