1
b side
1 HILIGHT Cover Story
CON TENTS O c t o b e r
2 0 1 7
V o l. 1 3
Bike Route 03 Bike Trip 06 Bike Safe 09 Run 10 Cover Story 14
N o. 1 5 6
Journey & Amazing Dishes
24
03 Bike Route
10 Run
14 Cover Story
บก. Bike Section ขอเชิญนักชิมและนักปัน่ ไป อิ่มอร่อยกับ 10 ร้านอาหารเด็ดของชาว น่องเหล็กเชียงใหม่ ซึง่ ไม่เพียงแต่จะมีรา้ นและเมนู มาแนะน�ำ แต่ บก.ยังจัดแจงใส่เส้นทางทีน่ า่ ไปปัน่ เมือ่ ไปเยือนแต่ละร้านมาให้ดว้ ย เรียกว่าได้ทงั้ กิน และออกแรงครบในงานเดียวเลย
‘อาเหลี ย ง’ คุ ย กั บ นั ก วิ่ ง ผู ้ ซึ่ ง เข้ า เส้ น ชั ย เป็นคนสุดท้ายก่อนตัดตัวในรายการ CM6 เกี่ยวกับการก้าวเข้าสู่วงการวิ่งและวิ่งเทรล, การตัดสินใจสมัครแข่งรายการนี้ รวมถึง ประสบการณ์ตลอด 30 กว่าชัว่ โมงทีเ่ ขาวิง่ อยู่ ในป่า และพยายามท�ำเวลาเพือ่ เข้าเส้นชัยให้สำ� เร็จ
ไดอารี่ของนักบิดหนุ่มส่งตรงมาถึงมือ HIP บอกเล่าเรือ่ งราวการเดินทางตลอด 16 วัน ทีเ่ ขาและเพือ่ นๆ ขีม่ อเตอร์ไซค์ทอ่ งไปตามเส้นทาง มะลาลี – เลห์ – ลาดักห์ และพบเจอประสบการณ์ ทีม่ คี ณ ุ ค่ามากมาย ในแบบทีห่ าซือ้ จากทีไ่ หนไม่ได้ แต่ตอ้ งออกเดินทางไปค้นหาด้วยตัวเอง
digital contents www.hipthailand.net
2
a side
10
B I K E R O U T E
RESTAURANTS FOR CNX CYCLIST
1 0 ร้ า น อ า ห า ร ที เ ด็ ด ข อ ง ช า ว น่ อ ง เ ห ล็ ก เ ชี ย ง ใ ห ม่ เรื่อง / ภาพ : acidslapper
เมื่อฉบับที่แล้ว Bike Section พาเพื่อนๆ ชาวเสือไปแอ่ว 10 ร้านกาแฟ ยอดนิยมคูเ่ คียงนักปัน่ เชียงใหม่ จากนักปัน่ สายคาเฟอีนในฉบับก่อน ฉบับนีผ ้ มก็เลย เอาใจนักปั่นแนวตระเวนชิมโน่นชิมนี่ ด้วยการตามเก็บ 10 ร้านอาหารทีเด็ดของชาว น่องเหล็กเชียงใหม่ เผื่อเพื่อนนักปั่นคนไหนยังเก็บไอเท็มไม่ครบ เกรงว่าโปรไฟล์ ไม่หล่อไม่สวย จะได้ไปตามเก็บกันให้ครบ หรือให้เพื่อนๆ ชาวเสือที่มาจากต่างบ้าน ต่างเมืองได้ลองหาไอเดียในการออกทริป ถ้ามีโอกาสมาที่ปั่นในเชียงใหม่กันครับ
The Larder
แนะน�ำให้เริ่มปัน่ ขึ้นดอยสุเทพ กัน ก่ อ น แต่ จ ะไต่ ก นั ขึ้น ไปถึง ไหนนี่ ก็ตามแต่ความแรงหรือความหิวนะครับ ก็เรียกน�ำ้ ย่อยกันไป พอลงดอยสุเทพ มาปุ๊ บก็เลี้ยวเข้าทางนิมมานฯ เตรียม วอร์มพุงไว้ เพราะร้าน The Ladder คือ ร้านอาหารสไตล์ฝรัง่ เศสแนวโฮมเมด อยู่ในซอยสุขเกษม ถนนนิมมานเหมินท์ บรรยากาศสบายๆ สโลว์ไลฟ์ สวยงาม มีเมนู ตงั้ แต่อาวุธหนักๆ อย่างแซนด์วชิ ไก่ทอด ไล่ไปจนสลัดผลไม้เบาๆ แถมมี เครื่องดืม่ อีกหลายเมนู
ภาพ : acidslapper
ภาพ : FB : The Larder Cafe and Bar
เปิด : 8:30 - 15:00 น. โทร : 0 5200 1594 ที่ตั้ง : ซ.สุขเกษม ถ.นิมมานเหมินท์ ต.สุเทพ อ.เมือง เชียงใหม่ Facebook : The Larder Cafe and Bar
Lapin Cafe
ภาพ : FB: Lapin Cafe ลาแปง คาเฟ่กระต่ายน้อย
เปิด : 11:00 - 14:00 น., 16:00 - 22:00 น. (ปิดวันพุธ) โทร : 0 5324 5098 ที่ตั้ง : 14 ถ.สันป่าข่อย ต.วัดเกต อ.เมือง เชียงใหม่ Facebook : Lapin Cafe ลาแปง คาเฟ่กระต่ายน้อย
ร้า นตัง้ อยู่ ใ กล ส้ ะพานนวรัต น์ ตลาด สันป่ าข่อย เส้นทางแนะน�ำคือน�ำ้ พุรอ้ นสันก�ำแพง ตรงตามถนนเจริญประเทศไปทางตะวันออกเลย อัดตรงไปเรือ่ ยๆ ทางเรียบๆ ยาวๆ ยังไงก็ไม่หลง มีป้ายบอกตลอดทาง ระยะทางไป - กลับก็ 70 - 80 กิโลเมตร เรียกได้วา่ ก�ำลังตึงหน้าขา (แต่ น่องเป็ นตะคริวไปแล ้ว 555) ทีน่ ่อี าหารเป็ นแนว ยุโรป เมนู แนะน�ำทีผ่ มชอบมากคือ สปาเก็ตตี้ คาร์โบนาร่า พิซซ่าปาร์มา่ แฮม และสเต็กเนื้ออัน ร้ายกาจ แถมไม่พอ! เชฟเจ้าของร้าน (คนผูช้ าย) ก็เป็ นนักปัน่ มีทงั้ เสือหมอบ เสือภูเขา รถพับ เรียกได้ว่า ‘รถเต็มบ้าน’ ว่างัน้ เหอะ แต่หา้ ม ชวนคุยเรื่องจักรยานตอนทีเ่ จ้าของ (คนผูห้ ญิง) อยู่นะครับ!!! เรื่องจักรยานมันเป็ นเรื่องของ จิตวิญญาณ เรื่องหัวใจ เรื่องการออกก�ำลังกาย ช�ำระจิตใจให้ผ่องใส เพือ่ ยกระดับคุณภาพชีวติ ให้สูงส่ง... ไม่ควรพูดเรื่องราคาอุปกรณ์!!!
สวนอาหารปลาสาละวิน ระยะทางไป - กลับ 80 กิโลเมตรจาก ตัวเมืองเชียงใหม่ เลาะถนนคันคลองชลประทาน ตรงลงไปทางทิศใต้เรื่อยๆ เรียบๆ ยาวๆ ผ่าน แม่เหียะ หางดง ไปจนถึงถนนเส้นแม่วางตัดใหม่ (เลีย่ งเมือสันป่ าตอง) จนสุดถนน เลี้ยวซ้ายไปนิด ร้านอยูท่ างขวามือ ชือ่ ร้านบอกอยูแ่ ล ้วว่าทีเด็ดคือ เมนู ปลา อะไรที่เกี่ยวกับปลาอร่ อยทุกอย่าง! แต่ ถา้ 80 กิโลเมตรมันยังไม่สาแก่ ใจสายถึก สายโหด แนะน�ำให้ไปจอมทองก่ อนแลว้ ค่ อย วกกลับมากินปลาก็ไม่เลวนะครับ หรือถ้าจะ โรคจิตให้สุด ...ไปดอยอินทนนท์แลว้ ค่อยแวะ กินก่อนกลับ ถ้าท�ำได้น่รี บั รองว่าอัพเลเวลไปเป็ น ‘ยอดมนุษย์’ แน่นอนครับ!!! เปิด : 11:00 - 22:00 น. โทร : 08 6919 3851 ที่ตั้ง : 4 ซ.2 ต.ท่าวังพร้าว อ.สันป่าตอง เชียงใหม่
ลาบลุงน้อย
ภาพ : acidslapper
เปิด : 10:30 - 22:00 น. โทร : 08 1884 3400 ที่ตั้ง : 69/1 หมู่ที่ 5 บ้านร�่ำเปิง ต.สุเทพ อ.เมือง เชียงใหม่
อีกหนึ่งร้านลาบคู่บา้ นคู่เมืองเชียงใหม่ อันนี้ตอ้ งบอกว่าลาบแท้นะครับ ที่ตอ้ งบอกแบบนี้ เพราะว่าเชียงใหม่เป็ นเมืองท่องเทีย่ ว ดังนัน้ ร้านลาบแนวนักท่องเทีย่ วจะมีรสชาติทจ่ี ำ� เป็ นจะต้องลด ความดิบเถือ่ น (ของโลค่อลสไตล์) ลงบ้าง เพือ่ ไม่ให้มนั โหดร้ายเกินไปกับแขกบ้านแขกเมือง ดังนัน้ จึงเป็ นสาเหตุให้คนเชียงใหม่เกือบ 100% มักมีไอเท็มลับ (แบบว่าไม่กลา้ ชวนคนกรุงเทพฯ ไป) ซึง่ ของผมก็คอื ลาบลุงน้อยนี่แหละ เครือ่ งพริกลาบฉุนเม็ดผักชีข้นึ คอขึ้นจมูก สะใจเชียวล่ะอ้ายเหยยยย ร้านตัง้ อยู่ในซอยวัดอุโมงค์ ใกล ้ๆ อบต.สุเทพ เยื้องๆ วัดโป่ งน้อย เมนู โปรดของผมคือ ลาบ แกงอ่อม เนื้อ เนื้อย่าง ส้มต�ำ อาดเซาะ!!! ไหนๆ ก็มาแนวดิบๆ จริงใจ งัน้ ขอแนะน�ำเส้นทางแบบดิบๆ ด้วยเลย ละกัน เอาเสือภูเขาไต่ข้นึ ดอยสุเทพไป ระหว่างลานจอดเฮลิคอปเตอร์กบั พระต�ำหนักภูพงิ ค์ราชนิเวศน์ จะมีทางเล็กๆ ซ้ายมือ ยกรถข้ามรัว้ ข้างทางไป แล ้วเริ่ม ‘ดิง่ ’ ลงมาอย่างเร่าร้อนเลยวัยรุ่น! ทางเส้นนี้ ในวงการเรียก ‘Bamboo Trail’ ส�ำหรับสายดาวน์ฮลิ ขนานแท้เขาว่ากันว่าเส้นนี้น่ี ‘Beginner’ แต่ ส�ำหรับชาว Crosscountry อันนี้เรียก ‘นรก’ รักษาเนื้อรักษาตัวดีๆ แล ้วสนุกกับลาบเจ๋งๆ นะครับ
ขาหมูเชียงดาว ชื่อก็บอกอยู่แลว้ ว่า ‘ขาหมู’ ก็ท่อี ำ� เภอเชียงดาวนัน้ มีรา้ น ข้าวขาหมูข้นึ ชื่ออยู่ไงครับ อร่อยจริงๆ อร่อยทัง้ ข้าวขาหมู และ เส้นทางการปัน่ ครับ! เตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อม เพราะระยะทาง ไป – กลับส�ำหรับข้าวขาหมูจานนี้คอื 150 กิโลเมตร เอาเป็ นว่า ขาไปนี่หวิ ตาลาย ซัดข้าวขาหมูไปสองจาน กลับมาถึงเชียงใหม่ปบุ๊ หิวอีกรอบพอดี!!! ปิ ดด้วยขาหมูฮ่องเต้ชา้ งเผือก แฮ่! เปิด : 6:00 - 18:00 น. โทร : 0 5345 5093 ที่ตั้ง : ทางหลวงหมายเลข 107 ติดกับที่ว่าการอ�ำเภอเชียงดาว
ภาพ : acidslapper
ลาบไก่ป้ามัย ร้านตัง้ อยู่บนถนนเลียบคันคลองชลประทาน เส้นแม่เหียะ - หางดง ใกลก้ บั สีแ่ ยกต้นเกว๋นหรือแยกสะเมิง (รุ่นใหญ่เรียกแยกกฤษดาดอย) ขึ้น ชื่ อ ว่ า ร้า นลาบทัง้ ที เส้น ทางปัน่ มัน ก็ ต อ้ งเร้า ใจกัน หน่ อ ยสิทิด ! รอบสะเมิงมันเลยละกัน ก็เรามันเด็กดอยอยู่แล ้ววววววว ขึ้นทางแม่รมิ ลงมาทางหางดง ระยะทาง 80 กิโลเมตร ไต่กระจาย! จ๊ะเอ๋ ป้ ามัย ควงเครื่องลาบรอ เมนู แนะน�ำก็ลาบไก่ ลาบปลา เห็ดนึง่ จิม้ น�ำ้ พริกข่า ต้มไข่ปลา โอ่ยยยยยย น�ำ้ ลายจะหก! เปิด : 8:00 - 22:00 น. โทร : 08 9631 5950 ที่ตั้ง : ก่อนถึงแยกสะเมืง ถ.คันคลองชลประทาน ต.แม่เหียะ อ.เมือง เชียงใหม่ ภาพ : acidslapper
ก.การย่าง เมือ่ ก่อนอยู่แถวบ้านฟ่ อน เดีย๋ วนี้ยา้ ยมาอยู่ถนนหน้าพืชสวนโลก โอ่อ่า ตระการตา เพือ่ การกระหน�ำ่ เมนู ป้ ิ งย่างได้อย่างสะใจ อากาศดีๆ ยามเย็น แนะน�ำเส้นทางรวมฮิตสามดอย ดอยกอม ดอยค�ำ โลหะปราสาท ตามสูตร แพะภู เ ขา ถ้า ยัง ไม่ ห น�ำ ใจ อยากเป็ น พญาแพะภู เ ขา ก็ อ ดั ต่ อ ไปศาลา ยอดเจ็ดพับแลว้ ค่ อยวกกลับลงมาก็ได้ครับ! แต่ ละชื่อนี่ก็การันตีความ สะเด่าเร่าร้อนอยู่แล ้ว รับรองว่าคุม้ ค่าแก่การโหลดคาร์โบฯ (ข้าวเหนียวร้อนๆ) และเนื้อย่างอันฉ�ำ่ ชุ่มแน่นอนครับ เปิด : 18:00 - 23:30 น. (หยุดวันจันทร์) โทร : 08 2189 9192 ที่ตั้ง : ถ.ราชพฤกษ์ ต.หนองควาย อ.หางดง เชียงใหม่ Facebook : ก.การย่าง ภาพ : FB : ก.การย่าง
โกปิง ข้าวซอยอิสลาม ข้าวซอยเนื้อเปื่ อยในต�ำนาน ตัง้ อยู่ทบ่ี า้ นแม่แสะ หรือพิกดั ง่ายๆ ว่าอยู่ กึ่งกลางระหว่าง เชียงใหม่ - ปาย (เลยจากนี้ไปอีกนิดก็เข้าเขตแม่ฮ่องสอนแล ้วค่ะ) เส้นทางปัน่ ต้องบอกว่าครบเครื่องสุดๆ มีทงั้ ทางเรียบและทางดอย ขับรถยนต์ไป ไม่เข้าใจหรอก ถ้าปัน่ ไปแล ้วจะรูว้ า่ ข้าวซอยเนื้อ ข้าวหมกไก่ และซุปหางวัวทีอ่ ร่อย ทีส่ ุดในโลกนัน้ มีอยู่จริง! ถ้าจะปัน่ ไปปายก็แวะกินก่อนนะครับ เติมพลังก่อนไต่ ต่อไปห้วยน�ำ้ ดัง แต่ถา้ จะปัน่ ไป - กลับล่ะก็… เตรียมกายและใจให้พร้อมนะครับ อันนี้โหดจริง! ขนาดผมเองยังไม่กลา้ เลย! แต่มสี หายในกลุ่มเคยลองมาแลว้ ระยะทางประมาณ 160 กิโลเมตร+++ ทัง้ เรียบทัง้ ดอย ระยะไต่หายห่วง! เอาเป็ นว่า ออกเช้ากลับค�ำ่ แน่นอน! เรียนตามตรง ปัน่ ไปปายเลยง่ายกว่านะทิด!!! เปิด : 7:00 - 19:00 น. โทร : 08 0129 9225 ที่ตั้ง : ทางหลวงหมายเลข 1095 ต.ป่าแป๋ อ.แม่แตง เชียงใหม่ ภาพ : acidslapper
Rock Me Burger เจอแต่เส้นทางโหดๆ กันมาทัง้ นัน้ งัน้ มาพักปัน่ เบาๆ กันบ้าง ดีกว่าครับ ปัน่ ดูวดั วาอาราม ชมบ้านชมเมือง ทัง้ ด้านใน - นอกคูเมือง เชียงใหม่ แล ้วยาวต่อไปทีถ่ นนลอยเคราะห์ บอกไว้ก่อนนะครับ วันนี้ ปัน่ เบาแต่อาหารหนัก! เพราะว่าที่น่ีเป็ นชาวร็อค! 555 เบอเกอร์ท่นี ่ี อลังการสะใจเลยครับ หนักแน่นได้ใจฟาม! อร่อยหายห่วง แถมเมนู ซิก เนเจอร์จากทางร้านอีกเพีย บ เจ้าของร้านก็นกั ปัน่ แถมที่รา้ น มีดนตรีสดบรรเลง ครบเครื่อง ค�ำแนะน�ำเดียวคือ อย่าสัง่ เพราะหิว นะครับ มันใหญ่จริงๆ 555
แพห้วยตึงเฒ่า
ภาพ : acidslapper
เส้นทางและร้านอาหารส่วนใหญ่ ท่ีผมแนะน�ำมานี่เหมาะกับการใช้ จักรยานเสือหมอบ งัน้ ร้านสุดท้ายผมเอาใจ #สายป่ า กันหน่อยละกันนะครับ เริ่มต้นทีห่ ว้ ยตึงเฒ่า จากด่านกรมป่ าไม้ ปัน่ ย้อนขึ้นไปจนถึงบ้านศรีเนห์รู (ดอยปุย) แลว้ ดิ่งย้อนกลับลงมาทางเดิม ระยะทาง 16 กิโลเมตร (ขึ้น 8 กิโลเมตร ลง 8 กิโลเมตร) ฟังจากระยะแลว้ อุทานโพล่งขึ้นมาว่า “แอ๊ ปัน่ ไม่ถงึ 20 กิโลเมตรเนี่ยนะ?” โทษนะฮะ 8 กิโลเมตรขาขึ้นนี่แหละครับ จ�ำจนวันตาย ต้อนรับกันทีเ่ นินแรกด้วยความชัน 25% เป็ นการรับขวัญ!!! และมีทเี ด็ดอีกเพียบ รับรองว่าถ้าชอบไต่ดอย หรืออยากมี ‘ไอเท็ม’ ไว้ประดับ โปรไฟล์ ผมแนะน�ำเลยครับ ไต่ข้นึ ชันขนาดนี้ ขาลงไม่ตอ้ งพูดถึงครับ สะใจ #สายดิง่ แน่นอน เส้นนี้แหละครับทีใ่ ครต่อมิใครในวงการดาวน์ฮลิ จะต้อง มาพิชิตให้ได้ เราอาจได้เจอกรุ๊ปทัวร์นกั ท่องเที่ยวต่ างชาติท่ีมาเดินป่ า หรือมาดาวน์ฮลิ กัน ยิ่งถ้ากะจังหวะฤดูกาลถูก เราจะได้ชมพญาเสือโคร่ง ดอกชมพูบานสะพรัง่ เต็มดอยเลยครับ พอดิง่ ลงถึงห้วยตึงเฒ่าปุ๊ บ รอบๆ ทะเลสาบห้ว ยตึ ง เฒ่ า จะมีร า้ นอาหารเป็ น แพยื่น ไปในน�ำ้ ให้เ ราได้พ กั ทานอาหารกัน เลือกแวะสักแพ แพไหนก็ได้แล ้วแต่เลยครับ เมนู รา้ นแถวนี้ ก็อาหารไทยไม่ต่างกันมาก เท่าทีผ่ มลองมา 4 - 5 ร้าน อร่อยเหมือนกัน ทุกร้านครับ คอนเฟิ รม์ ! เมนู เด็ดๆ ก็ปลาทอดสมุนไพร กบทอดกระเทียม กุง้ ไม่เต้น (เอาไปท�ำสุกก่อน เห็นพยาธิแล ้วใจไม่ถงึ 555) และอีกหมืน่ กว่า เมนู กินอาหารอร่อย ชมวิวบึงน�ำ้ ติดภูเขา เจริญอาหารดีนกั เชียว เปิด : 8:00 - 18:00 น. โทร : 0 5312 1119 (ส�ำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยว อ่างเก็บน�้ำห้วยตึงเฒ่า มณฑลทหารบกที่ 33) ที่ตั้ง : อ่างเก็บน�้ำห้วยตึงเฒ่า ต.ดอนแก้ว อ.แม่ริม เชียงใหม่
ภาพ : FB : Rock Me Burger&bar
เปิด : 11:30 - 24:00 น. โทร : 08 9852 8801 ที่ตั้ง : Raminglodge Hotel 17 - 19 ถ.ลอยเคราะห์ ต.ช้างคลาน เชียงใหม่ Facebook : Rock Me Burger&bar
เอาเป็ นว่าหาโอกาสไปลองชิมลองปัน่ กันดูกแ็ ล ้วกันนะครับ แล ้วพบกันฉบับหน้าครับ
B I K E T R I P
TOURING MANIA สายทัวร์
เรื่อง / ภาพ : กานต์ ฮาร์โม
สวัสดีครับพี่ๆ นักปั่นทั้งหลาย นานๆ ทีท่าน บก.จะให้ผมโผล่มาออกหน้าใน Bike Section บ้าง ผมก็เลยต้องขอบอกก่อนนะครับว่าผมเนี่ยไม่ใช่นักปั่นจักรยาน หรอกครับ แค่ชอบท่องเที่ยว (ตามเขาไป) ด้วยการขี่จักรยานเท่านั้นเองครับ ย้อ นไปสิบ กว่ า ปี ก่ อ น ผมมีโ อกาสได้ไ ป ขี่จกั รยานกับทีม Mekong Challenge ซึ่งเป็ น โครงการขีจ่ กั รยานท่องเทีย่ วในประเทศลุม่ แม่นำ�้ โขง ปี ละครัง้ (พักหลังปี ละ 2 ครัง้ แถมไปไกลถึงทิเบต ท�ำให้ตงั ค์หมดเร็วดี) คนในทีมเป็ นผูห้ ลงใหลในการ ขีจ่ กั รยานท่องเทีย่ ว (และรักการกินดืม่ ) ซึง่ ลุงๆ ป้ าๆ กลุม่ นี้แหละทีค่ อยแนะน�ำผมเกี่ยวกับการเตรียมตัว เดินทางไปท่องเทีย่ วด้วยจักรยานทางไกล กว่าสิบปี ที่ไ ด้ร่ ว มเดิน ทาง เลยมีอ ะไรมาฝากท่ า นนัก ปัน่ เกี่ยวกับการเตรียมตัวไปขีจ่ กั รยาน (เน้นเทีย่ วและ กินดื่ม) ในต่างประเทศ เอาเป็ นว่าขอพูดถึงเฉพาะ เรือ่ งเกีย่ วกับจักรยานตามแบบของผมละกันนะครับ เรามาพูดถึงการเตรียมร่ างกายก่ อนละกัน ขอย�ำ้ อีกทีว่าเราไม่ได้ไปแข่งขันเพื่อพุ่งชนเส้นชัย
ให้เร็วทีส่ ุด หรือไปขีท่ รหดวันละ 200 กิโลเมตรอะไร แบบนัน้ เราไปเทีย่ ว!!! เรื่องการเตรียมตัวมันก็เลย ขึ้น อยู่ ก ับ สภาพภู มิป ระเทศและภู มิอ ากาศของ ประเทศที่เราจะไป ถ้าตามโปรแกรมเราต้องไปขี่ ในทีท่ น่ี ่าจะโหด เช่นเลาะริมแม่นำ�้ ในพม่าจากเหนือ ลงใต้ 7 วันติด แน่นอนเราต้องฟิ ตพอทีจ่ ะขีว่ นั ละ ประมาณ 100 กิโลเมตรให้ได้ครับ ซึง่ โดยปกติแล ้ว เราจะขีท่ งั้ วัน จึงไม่เน้นความเร็ว แต่เน้นความอึดและ เน้นท่องเที่ยวระหว่างทางครับ เจออะไรน่ าสนใจ ก็แวะ กินบ้าง ถ่ายรูปบ้าง ว่ากันไป ใครเป็ นนักแข่ง ล่าถ้วยรางวัล มาเที่ยวแบบนี้ผมเห็นจอดถ่ายรู ป ทุกหัวโค้ง 555 ยิง่ มีทมี งานคอยติดตามนี่สบายใหญ่ ถ้าใครขีท่ งั้ วันวันละ 100 กว่ากิโลเมตรแบบชิลล์ๆ ได้ ก็ไม่น่าห่วงอะไรครับ
แต่ถา้ ต้องไปขึ้นภูเขาสูงๆ เช่นประเทศลาว หรือจีน อันนี้อาจต้องกลัน้ ใจซ้อมดันดอยให้พอ ไปไหว อย่าลืมว่าเราขีก่ นั เป็ นหมูค่ ณะ ใครช้าจะท�ำให้ คนอืน่ ต้องรอนานครับ อีกอย่างหนึ่ง การท่องเทีย่ ว แบบนี้ตอ้ งการความถึกทนมากนะครับ ห้ามป่ วย ห้ามท้องเสีย ห้ามแพ้ความสูง ห้ามซุกซน เพราะ นอกจากจะท�ำให้กลุม่ หมดสนุ ก อดลองเครื่องดื่ม ท้องถิน่ แล ้ว เพือ่ นๆ ก็จะไม่คนื เงินค่าส่วนกลางด้วย 555 เราต้องพยายาม ‘สบายดี’ อยู่ตลอดนะครับ ส�ำคัญมาก แต่ สุดท้ายถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็อย่าฝื น ไม่มใี ครจะว่าถ้าเราขีไ่ ม่ไหวครับ นัง่ รถเซอร์วสิ ก็ได้ ดีกว่าป่ วยร่างพังกลับมา เสียการเสียงานอีกต่างหาก สรุปว่าฟิ ตร่างกายให้พองาม อย่าให้ป่วย เราไม่ได้ มาแข่ง เรามาเทีย่ ว!!!! ยิง่ แข็งแรงยิง่ เทีย่ วสนุก มาที่เรื่องรถกันบ้าง การเที่ยวแบบนี้ตอ้ ง เสือภูเขาหรือรถทัวริ่งคุณภาพดีนะครับ เสือหมอบ เอาเก็บไว้บา้ นเลย เพราะเราไม่รูว้ ่า ถนนเรียบๆ จะมีให้ขีห่ รือเปล่า ปี ทแ่ี ล ้วขีจ่ ากเชียงตุงในพม่าเข้าไป ในกลางรัฐฉาน รถทัวริ่งยังแทบกลายเป็ นเศษเหล็ก เลยครับ 555 เอาเซฟๆ เสือ ภู เ ขายางซัก 2.0 ติดตะแกรงแบกของ ที่สำ� คัญอย่าเอารถแพงไป เด็ดขาด!! เช่นในประเทศจีน ถนนดีแต่วา่ ช�ำรุดบ่อย อาจจะต้องลุยโคลนหรือว่าใช้เส้นทางชาวบ้านเละๆ เคยแบกรถข้ามเหว โอกาสรอด 50 - 50 ลองคิดว่า ถ้าตกลงไปจะเสียดายรถขนาดไหน ผมใช้รถปี 2009 หนักแต่ทนทาน ออกทริปไม่มหี ่วงครับ ในการเดินทางเราต้องดู ว่าเดินทางอย่างไร ถ้าขึ้นเครื่องบิน แนะน�ำให้เอาจักรยานหุม้ โฟมหรือ พัน ด้ว ยกระดาษหนัง สือ พิม พ์แ ล ว้ เอาใส่ ก ล่ อ ง (กล่อ งกระดาษใหญ่ ท่ีใส่จกั รยานตอนส่งมาขาย
ขอจากร้านจักรยานได้ ให้รา้ นแพคให้กไ็ ด้ ค่ากล่อง กับค่าแรงประมาณ 300 บาท) หรือใส่กระเป๋ าจักรยาน ไม่ตอ้ งแพงมากนะครับ เพราะต้องขึ้นไปขลุกอยู่บน รถติดตาม เจอฝุ่น โคลน ถ้าไปแบบทัวร์ดๆี หน่อย ก็ไม่มปี ญั หาครับ กล่องจะพับเก็บได้ ส่วนเคสดีๆ จะไปเปลืองเนื้อที่ในรถเซอร์วสิ แนะน�ำกล่องหรือ กระเป๋ าอ่อน (Soft Case) ดีกว่า ทีส่ ำ� คัญอย่าลืมซื้อ น�ำ้ หนักจักรยานตอนซื้อตัวเครื ๋ ่องบินด้วยนะครับ บางสายการบิน จะมีใ ห้เ ลือ กเลยว่ า เป็ น Sport Equipment ตอนแพ็คปล่อยลมยางครึง่ หนึ่งกันยาง ระเบิดด้วย ยางจักรยานนะ ไม่ใช่ยางล ้อเครื่องบิน! ส่ ว นอุป กรณ์ ท่ีต อ้ งเอาไปไม่ ต อ้ งกั ๊กครับ กระเป๋ าท้ายจักรยาน สูบ ชุดปะยาง ยางในส�ำรอง (ได้ใช้แน่นอน) ไฟหน้า ไฟท้าย อุปกรณ์ช่างซ่อมนี่ ขาดไม่ได้เลย แค่ตอนทีไ่ ปถึง เราต้องประกอบจักรยาน ถ้า จะหยิ บ ยื ม อุ ป กรณ์ ก ัน นี่ ก็ ล �ำ บากแล ว้ ครับ ระหว่างทางมักจะมีเรือ่ งให้ได้แก้ให้ได้ซอ่ มกันตลอด ถ้าเรามีอปุ กรณ์ครบก็สามารถช่วยเพือ่ นๆ ได้ดว้ ย อีกอย่างอย่าลืมตรวจเช็คระบบขับเคลื่อน เกียร์ เบรค และโซ่ให้ดคี รับ หรือจะให้ดสี ุดๆ ก็ศึกษาวิธี แก้ปญั หาเรือ่ งการปรับจูนเกียร์และเบรคเลยนะครับ หลายคนระหว่างเดินทางมีการกระแทก พอไปถึง แลว้ รถพัง ตีนผีเบี้ยว เบรคโย้ อดขี่ ก็หมดสนุ ก แนะน�ำว่าควรซื้อน�ำ้ หนักจากสายการบินไม่นอ้ ยกว่า 25 กิโลกรัมส�ำหรับอุปกรณ์กีฬาครับ เราสามารถ เอาเสื้อกันหนาวหรือของใช้ใส่ไปด้วยได้ ส่วนการ เดินทางด้วยรถบรรทุก รถไฟ หรือรถตู ้ ก็ควรแพ็ครถ ไม่ต่างกันเท่าไหร่ ยิ่งแพ็คดีก็ลดโอกาสรถพังครับ เก็บอุปกรณ์การแพ็คไว้ใช้ตอนขากลับด้วยนะครับ
เสื้อกันหนาวหนาๆ ทีส่ ำ� คัญชุดลองจอน เดีย๋ วนี้ราคา ไม่แพง ใส่เป็ นชุดนอนได้ ใส่ไว้ชนั้ ในตลอดเวลา รับรองอุ่นครับ กระเป๋ าท้ายจักรยานก็ใส่อุปกรณ์ ซ่อมรถ หรือจะกระติกอุปกรณ์ทใ่ี ส่แทนกระติกน�ำ้ ก็ได้ ถ้าไปแถวๆ บ้านเรา เตรียมชุดกันฝน ถุงกันน�ำ ้ ครีมกันแดด ยา ชุดทีซ่ กั แล ้วแห้งไว ใช้แล ้วทิ้งได้ น�ำ้ หนักเบา เพราะเราต้องซักผ้าเอง เลือกวันทีแ่ ดดดีๆ วันทีพ่ กั หรือวันทีไ่ ปถึงทีห่ มายก่อนเวลา ยิง่ ถ้าไป ประเทศหนาวๆ เนี่ย จะเกิดอาการไม่อยากซักผ้า เตรียมชุดชัน้ ในจ�ำนวนอนันต์ไปเผือ่ ก็ช่วยได้ครับ! อย่าลืมนะครับว่าเราไม่ได้ไปแข่ง ส่วนใหญ่เราจะใส่ ชุดกึ่งล�ำลองกึ่งชุดปัน่ ครับ เช่ นกางเกงขาสัน้ ที่มี เบาะรองก้น เสื้อ แขนยาว ผ้า คลุม หน้า บัง แดด คือไม่จำ� เป็ นต้องหล่อเต็มยศแบบแข่งโอลิมปิ กนะ เดีย๋ วมันจะเทีย่ วไม่สนุ ก ยิ่งดูเหมือนนักท่องเทีย่ ว มากเท่าไหร่ยง่ิ ดี อ้อ รองเท้าคลีทนี่ตามใจเลยครับ ถ้าอยากปัน่ สะดวกก็ใช้คลีท แต่ถา้ อยากเดินสะดวก ไม่ควรใช้คลีท ใส่รองเท้าธรรมดาก็ได้ ไม่วา่ กันครับ เรือ่ งทีส่ ำ� คัญมากอีกอย่างก็คอื การเตรียมตัว ศึ กษาหาข้อมูลตามเส้นทางที่เราจะไปปัน่ ผู ค้ น สภาพภูมปิ ระเทศ ไปต่างบ้านต่างเมืองเรื่องแบบนี้ เป็ นอะไรทีข่ าดไม่ได้เลยนะครับ ทริปจะสนุกหรือไม่ ขึ้นอยู่กบั เวลาตอนที่เราไม่ได้ปนั ่ ซะด้วยซ�ำ ้ 555 อย่ า หัก โหมปัน่ จนพลาดความสนุ ก ที่ไ ด้ไ ปเจอ อะไรใหม่ๆ ได้ใช้ชีวติ ร่ วมกับผูอ้ ่ืน ได้ช่วยเหลือ (ผลัดกันเลี้ยงเครื่องดืม่ ) เรียนรูส้ ง่ิ ทีห่ าไม่ได้ในชีวติ ประจ�ำวัน ถ้าเราเตรียมตัวดี ทุกอย่างจะราบรื่น สุดท้ายนี้ ถ้ามีบางอย่างทีต่ กหล่นไปก็กราบ ขออภัยด้วยครับ ขอส่งท้ายด้วยค�ำพูดทีผ่ มมักจะ ได้ยินบ่อยๆ ในทริปก็แลว้ กันนะครับ “ถ้าอยาก ขีเ่ ยอะๆ ก็ขอ่ี ยู่ทบ่ี า้ น ไม่ตอ้ งมาเทีย่ ว!!!” 555 ขอให้ สนุ กกับการเตรียมตัวไปขี่ท่องเที่ยวในต่ างแดน พบกันใหม่โอกาสหน้า สวัสดีครับ ในช่วงระหว่างการปัน่ ถ้าเราไม่แบกของเอง ทัง้ หมด เราสามารถจ้างรถบรรทุกหรือรถตูร้ บั จ้าง ให้ขับบริการเราได้ครับ จะตลอดทริปหรือเป็ นเมืองๆ ไปก็แล ้วแต่เจรจา ควรมีลา่ มไปด้วยเพือ่ ความราบรืน่ บางครัง้ เราเน้นโปรแกรมเทีย่ ว อาจเอาจักรยานขึ้น รถบรรทุกครึ่งวันเช้า แลว้ ช่วงบ่ายค่อยลงปัน่ ก็ได้ ต้องระมัดระวังในการยกขึ้นยกลง รวมถึงการยึดรถ จัก รยานไว้บ นรถบรรทุก นะครับ นัก รบย่ อ มมี บาดแผล จักรยานทุกคันจะได้แผลมากๆ น้อยๆ เฉลีย่ ๆ กันไปเสมอ มากหน่อยก็ตนี ผีพงั เฟรมบุบ ถ้าแค่รถเบาะฉีก มีรอยถลอก ไฟแตก ไมล์หาย แฮนด์เบี้ยวนี่เรื่องเล็กครับ ไปเที่ยวแบบนี้อย่าเอา รถแพงไปนะครับ เป็ นห่วงปนอิจฉาครับ 555 จัด การจัก รยานไปแล ว้ ต่ อ ไปก็ เ ป็ น การเตรียมของใช้เกี่ยวกับจักรยาน เสื้อผ้า ชุดปัน่ ขึ้นอยู่กบั ประเทศที่ไปเลยครับ ถ้าหนาวอย่าลืม กางเกงปัน่ ขายาว ถุงมือหนาๆ เสื้อกันลม เสื้อกันฝน
B I K E S A F E
RETURN FROM INJURY ฟื้นขึ้นมาฟัด เรื่อง : เอ๋หนวด
การบาดเจ็บคู่กับนักปั่นเสมอ? เมื่อนักปั่นไปบอกกับใครๆ ว่าตัวเองมีอาการบาดเจ็บจากการปั่นจักรยาน คนที่ไม่ได้ปั่นจักรยานคงจะแปลกใจ เพราะจักรยานไม่ใช่กฬ ี าทีม่ กี ารปะทะ ก็ใครจะไปเข้าใจหัวอกนักปัน่ ได้เท่ากับนักปัน่ ล่ะครับ อาการบาดเจ็บมีตงั้ แต่ IT Band ตึง ขาหนีบตึง หน้าขาตึง น่องตึง ตามมาด้วยอาการเจ็บเข่า เจ็บหลังส่วนล่าง ปวดต้นคอ ตึงไปหมดล่ะครับ อย่าให้หตู งึ เป็นพอ คนอื่น ๆ อาจจะลืม นึ ก ไปว่ า การปัน่ จัก รยานนี่ เ กิด อุบ ตั ิเ หตุ ได้ตลอด ทีเ่ จอบ่อยก็เป็ นรถลม้ แผลถลอกจากการทีผ่ วิ หนังครูดไปกับ ผิวถนน ต่อมาก็เป็ นกระดูกไหปลาร้าหัก และยังมีการบาดเจ็บจากการปัน่ หนักเกินไป ใช้กลา้ มเนื้อมากเกินไป นอกจากนัน้ ยังมีอาการเจ็บป่ วย ไม่สบาย เช่น เป็ นหวัด เป็ นไข้ ระหว่างทีเ่ ราออกทริปปัน่ ก�ำลังมันๆ วิหคเพลิง (Phoenix) สามารถฟื้ นคืนชีพได้ฉนั ใด การฟื้ นตัวจาก การบาดเจ็บและกลับมาปัน่ ได้อย่างปกติ นับเป็ นส่วนหนึ่งของสิง่ ทีน่ กั ปัน่ ต้องค�ำนึงถึง เมือ่ นักปัน่ มีอาการบาดเจ็บ การวางแผนเพือ่ ทีจ่ ะรักษาอาการเจ็บ ให้หายและกลับมาปัน่ ได้โดยเร็วทีส่ ดุ อาจจะต่างกันไปตามความหนักเบา และส่วนทีบ่ าดเจ็บ ซึง่ แบ่งเป็ น การบาดเจ็บศีรษะ การบาดเจ็บร่างกาย ส่วนบน และการบาดเจ็บร่างกายส่วนล่าง แต่ไม่วา่ อาการบาดเจ็บจะเกิด ตรงส่วนไหน จะหนักหรือเบา สิง่ ส�ำคัญทีค่ วรค�ำนึงถึงคือ สุขภาพทีด่ ี ในระยะยาวและความสามารถในการออกลังกาย ซึง่ เราเองควรจะรักษา สมดุลระหว่างการกลับไปฝึ กซ้อมและลงแข่งขันให้เร็วทีส่ ุดเท่าทีจ่ ะท�ำได้ กับโอกาสทีจ่ ะฟื้ นจากอาการบาดเจ็บในระยะยาว การบาดเจ็บศีรษะ มีทางเดียวเลยครับ ปรึกษาแพทย์ผูเ้ ชี่ยวชาญ อย่าคิดเอง ท�ำเอง หัวคนเรามีหวั เดียว ไม่อย่างนัน้ แพทย์คงไม่ตอ้ งเรียน กันถึงหกปี พักก่อนครับ ไม่ตอ้ งรีบกลับมาปัน่ หรอกครับ ใจเย็นๆ การบาดเจ็บร่างกายส่วนบน ได้แก่ กระดูกไหปลาร้าหัก แขน ข้อมือ มือหัก แตก ร้าว เคล็ดหรือแพลง ถ้าไม่มกี ารเจ็บหลัง สะโพกและ ขาร่วมด้วย อาการเจ็บล�ำตัวช่วงบนค่อนข้างจะกลับมาปัน่ ได้ไว อย่างน้อย ก็ยงั ลุก ขึ้น มาปัน่ เทรนเนอร์ ท�ำกายภาพบ�ำบัด ได้ในวัน ที่ยงั ไม่หาย แต่ทางทีด่ ที ส่ี ุดควรปรึกษาแพทย์หรือนักกายภาพบ�ำบัด เพือ่ ให้ได้รบั การ วินิจฉัยและการดูแลทางการแพทย์ โดยเฉพาะจากบุคคลที่ทำ� งานกับ นักกีฬา เพือ่ ให้ได้ผลการรักษาทีด่ ี
การบาดเจ็บร่างกายส่วนล่าง ซึง่ จะมีผลกับการออกแรงของนักปัน่ อย่ า งมาก ไม่มีอ ะไรแย่ ไ ปกว่า การรีบ กลับ มาปัน่ ถ้า อาการบาดเจ็บ ยังไม่หาย นักปัน่ ทีบ่ าดเจ็บส่วนมากใจร้อน กลับมาปัน่ หนักๆ เร็วเกินไป (กลัวไม่คมุ ้ รถแพง 555) ท�ำให้กลับมามีอาการเจ็บอีกรอบ สิง่ ทีค่ วรท�ำคือ เคลือ่ นไหวหรือบริหารช่วงล่างโดยไม่ให้มอี าการเจ็บเกิดขึ้น อีกเช่นเคย ควรปรึกษาแพทย์หรือนักกายภาพบ�ำบัด ถ้าได้รบั อนุญาติให้ออกก�ำลัง ได้แล ้ว ต้องอย่าชงแก่เกิน ถ้ามีเครื่องวัดหัวใจก็เต็มทีโ่ ซน 1 - 2 พอแล ้ว ไม่ตอ้ งรีบกลับไปแรง ใจเย็นๆ จนกว่าจะปลอดจากอาการเจ็บข้อต่อ กล ้ามเนื้อหรือเส้นเอ็น อาจจะใช้เวลาซัก 3 - 6 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กบั การ บาดเจ็บ ระหว่างนี้ควรปรึกษานักกายภาพฯ หรือหมอนวดด้วย กล่าวโดยสรุป เมื่อเกิดอาการบาดเจ็บ ไม่ว่าจะเป็ นส่วนไหน ของร่ า งกาย ถ้า เป็ นไปได้ใ ห้ป รึ ก ษาแพทย์ โดยเฉพาะแพทย์ ทีม่ คี วามเชีย่ วชาญในการรักษานักกีฬา อาการบาดเจ็บบางครัง้ ก็รกั ษาง่าย บางครัง้ ส่งผลถึงความมัน่ ใจในการปัน่ ครัง้ ต่อๆ มา อาจจะไม่กลา้ ใช้ ความเร็วสูง ไม่กล ้าสาดโค้ง หรือไม่กล ้าทีจ่ ะปัน่ หมกตามกลุม่ กลัวทีจ่ ะ ออกทริปยาวๆ หนักๆ หนักเข้าก็อาจจะกังวลว่าจะกลับมาเจ็บอีก ถ้า เป็ น แบบนี้ ค งต้อ งค่ อ ยเป็ น ค่ อ ยไปในการกลับ มาเริ่ม ปัน่ อีก ครัง้ อาจเริ่ม ปัน่ กับ เพื่อ นสองสามคน แล ว้ จึง ปัน่ ร่ ว มกับ กลุ่ม ที่ใ หญ่ ข้ ึน บนเส้นทางทีเ่ ราชอบ ค่อยๆ เพิม่ ความเร็ว แล ้วความมันใจ ่ ความสนุก เพลิดเพลินในการปัน่ ก็จะกลับมา ฉบับหน้าจะมาแนะน�ำขัน้ ตอนในการเริ่มกลับมาวาดลวดลาย หลังจากอาการบาดเจ็บนะครับ ขอให้นักปันทุ ่ กคนปันจั ่ กรยานอย่างมีความสุขและปลอดภัยครับ
R U N
THE LAST MAN STANDING ศุ ภ ก ฤ ต อิ น ต๊ ะ ปั น เรื่อง : อาเหลียง ภาพ :
เมือ่ เดือนสิงหาคมทีผ่ า่ นมา จังหวัดเชียงใหม่ ก็มีการจัดการแข่งขันรายการอัลตร้าเทรลขึ้นมา ชื่อรายการ CM6 โดยมีระยะตัง้ แต่ 10 กิโลเมตร จนถึงระยะสุดโหด 130 กิโลเมตร ระยะไต่สูงสุด ประมาณ 7000 เมตร (สูงแค่ไหน นึกภาพดอยสุเทพ ต่อกัน 7 ลูกตัง้ ขึ้นไปข้างบนนะครับ) ผูเ้ ข้าแข่งขัน ในระยะสุดโหดนี้มปี ระมาณ 100 คน ให้เวลาในการ แข่งขันทัง้ หมดที่ 38 ชัว่ โมง และทีส่ ำ� คัญ มีนกั วิง่ ทีไ่ ม่สามารถวิง่ จบเกินครึ่งของผูเ้ ข้าแข่งขันทัง้ หมด
ผมเคยกล่าวไปใน HIP เล่มก่อนๆ ว่าการวิ่งไม่ได้มีแค่ระยะ 10, 21 และ 42 กิโลเมตรเท่านั้น บางรายการก็มีมากกว่านั้นอีก หรือถ้า เป็นการวิ่งเข้าป่าเข้าเขา ไม่ใช่ทางถนนราบๆ มีความชันเข้ามาเกี่ยว ก็จะ เรียกว่า ‘วิ่งเทรล’ และถ้าวิ่งเกิน 42 กิโลเมตร ก็จะเรียกกันว่าเป็น รายการ ‘อัลตร้าเทรล (Ultra Trail)’ นั่นเอง ระยะก็มีตั้งแต่ 50, 70, 100 ,130 หรือมากกว่านั้นก็จะเป็นพวกรายการร้อยไมล์ (100 Mile = 160 Km.) จริงๆ ก็จะมีมากกว่านี้อีก แต่เราจะยังไม่พูดถึงมันตอนนี้
ของระยะนี้ แสดงถึงความโหดของสนามนี้เป็นอย่างดี และในวัน นี้ เราจะมาสัม ภาษณ์ ห นึ่ ง ใน ผูท้ ่สี ามารถจบการแข่งขันรายการ CM6 ได้ ถึง ความรูส้ กึ ตลอดการแข่งขัน 38 ชัว่ โมงทีอ่ ยู่ในป่ า หลังบ้านของพวกเราอย่างดอยสุเทพ ว่าเขารูส้ กึ อย่างไรบ้าง กับ เป้ า - ศุภกฤต อินต๊ะปัน ซึ่งเป็ นผูเ้ ข้าเส้นชัยคนสุดท้าย จากจ�ำนวน 50 คนทีเ่ ข้าเส้นชัย และจากจ�ำนวน 107 คน ทีเ่ ข้าแข่งขัน (แข่งไม่จบ 57 คน)
คุณเป้ าช่วยแนะน� ำตัวเองหน่ อยครับ เป้ า : ศุภกฤต อินต๊ะปันครับ ชื่อเล่นชื่อเป้ าครับ จบจากคณะวิจติ รศิลป์ มช. ปัจจุบนั เปิ ดร้านอาหารเวียดนาม ชื่อร้าน ‘แจ่มจันทร์แหนมเนือง’ อยู่ทจ่ี งั หวัดล�ำพูนครับ ท�ำไมถึงมาเริ่มวิ่งครับ? เป้ า : ช่วงนัน้ เพิง่ เรียนจบ แล ้วมีปญั หาด้านสุขภาพ ก็คอื อ้วนนัน่ ล่ะครับ ก็เลยคิดว่าอยากจะลดน�ำ้ หนักด้วยการออกก�ำลังกายอะไรสักอย่ าง เพราะคิดว่าช่วงรับปริญญาตอนถ่ายรูปจะได้ออกมาดูดหี น่อย ก็เลยเลือก ที่จะเข้ายิม ฟิ ตเนส เพื่อลดน�ำ้ หนัก แต่ ก็ไม่ได้จริงจังอะไรมากนัก เพราะคิดว่าแค่ขยับก็เท่ากับออกก�ำลังกายแล ้ว ตอนนัน้ ก็ยงั ไม่ได้เข้าวงการวิง่ จริงจัง ยังไม่รูจ้ กั งานวิง่ เท่าไหร่นกั จนเพือ่ นคนหนึ่งแนะน�ำให้ลองไปวิง่ มินิมาราธอน เราก็ไป เพราะว่าเราก็ ออกก�ำลังกายอยู่แล ้ว คิดว่าไม่น่าจะยากอะไร แต่พอได้ไปวิง่ จริงๆ แล ้ว กลับรูส้ กึ สนุก ชอบบรรยากาศของงานวิง่ และเริม่ ติดใจ ได้รูจ้ กั เพือ่ นใหม่ สังคมใหม่ๆ หลังจากนัน้ ก็เลยวิง่ ต่อมาเรื่อย ๆ
อะไรที่ทำ� ให้เรารูจ้ กั กับการวิ่งเทรลครับ? เป้ า : จริงๆ ก็ไม่ได้รูจ้ กั เทรลหรอกครับ มันเริ่มมาจากผมได้มโี อกาส ไปแข่งขันงาน สิงห์เก่ง แกร่ง กล ้า ทีไ่ ร่บญ ุ รอด เชียงราย เมือ่ ประมาณ ปี 2015 เป็ นงานวิง่ แบบลุยโคลนผ่านด่านต่างๆ ไต่เชือก ฯลฯ ประมาณ วิ่งวิบาก แลว้ ชอบมาก ผมก็เลยไปค้นหางานแบบนี้ในอินเตอร์เน็ต เพิม่ เติม ก็ไปเจอกับงาน เดอะ โคลัมเบีย เทรลมาสเตอร์ จัดทีเ่ ขาอีโต้ จังหวัดปราจีนบุรี ผมเห็นว่ามันแปลกดี มีวง่ิ เข้าป่ าด้วย ก็เลยลงแข่งรุ่น 25 กิโลเมตรไป ตอนไปแข่งจริงๆ รูส้ กึ ประทับใจกับการวิง่ เทรล ตรงทีค่ นื ก่อนแข่ง ฝนตกหนักมาก แล ้วตอนผมออกไปวิง่ มันได้ฟีลแบบไร่บญ ุ รอดเลย รูส้ กึ สนุกตลอดการแข่งขัน บวกกับมีเวลาในสนามมากพอทีจ่ ะรูจ้ กั คนรอบข้าง ได้มากขึ้น ก็เลยเริ่มติดตามงานวิง่ เทรลหลังจากนัน้ เป็ นต้นมา จาก 25 กิโลเมตร คุณเป้ าก็ขยับระยะขึ้นมาเรื่อยๆ ตอนนั้นคิดอะไรอยู?่ เป้ า : หลังจากรายการเดอะ โคลัมเบีย เทรลมาสเตอร์ ก็มเี พือ่ นรักชื่อ น้องอัน้ เจิด แนะน�ำรายการแข่งขันอีกรายการให้รูจ้ กั ชื่อรายการ DS100 เป็ นรายการวิง่ เทรลระยะไกลในเชียงใหม่ ซึง่ ตอนนัน้ ไกลทีส่ ุดคือระยะ 100 กิโลเมตร และ 66 กิโลเมตร ผมลงแข่งในระยะ 66 กิโลเมตร เป็ นการ วิ่งจากห้วยตึงเฒ่าไปยังโรงเรียนศรีเนรู ห ์ (ขุนช่ างเคี่ยน หมู่บา้ นบน ดอยสุเทพ) ไป - กลับ 3 รอบ (รอบละ 22 กิโลเมตร) ผมตื่นเต้นมาก เพราะยังไม่เคยวิง่ มาราธอน แต่ตอ้ งวิง่ เยอะกว่าระยะมาราธอนอีก ระหว่างแข่งถึงจะเหนื่อยแต่ ก็รูส้ ึกท้าทายสุดๆ มีความสุขตลอดการแข่งขัน เนื่องจากสนามเป็ น ลักษณะ Loop วิง่ สวนกันไปมาตลอดทัง้ วัน ทัง้ คื น บางคนเจอหน้า กัน ประมาณ 10 รอบจนเบือ่ และยังได้พดู คุยกับ นักวิ่งเก่ งๆ ระดับประเทศที่มา ลงแข่งขันรายการนี้ดว้ ย รูส้ กึ ฟิ นมากครับ ใช้เวลาทัง้ หมด 15 ชัว่ โมง พอจบงานนี้กไ็ ด้ เพือ่ นใหม่ๆ มากมาย รูส้ กึ ดีใ จมากที่ไ ด้ล งแข่ ง ใน รายการนี้ เพราะตอนนัน้ งานวิง่ เทรลในไทยยังมี ไม่มาก และอยากจะ ลองรายการทีม่ รี ะยะ มากกว่านี้อกี
“ตอนนัน้ เวลาผ่านมา 24 ชัว่ โมง แล้ ว แถมเท้ า ผมก็ เ ริ่ ม เปื ่ อ ย จากการลุยน�้ำมาตลอด แต่ก็ผ่าน มาได้ แ บบเหลื อ เวลาตั ด ตั ว แค่ 30 นาที”
หลังจากนั้นก็มีรายการ CM6 ที่มีระยะสูงสุดที่ 130 กิโลเมตร อะไร ท�ำให้เรารูส้ กึ สนใจงานนี้ เป็ นพิเศษ? เป้ า : จริงๆ ก่อน CM6 ผมไปจบระยะ 100 กิโลเมตรมา 2 สนาม ก็เ ลยอยากจะหาระยะที่ทา้ ทายกว่า นี้ แล ว้ รายการนี้ก็โผล่มาพอดี อีกอย่างนี่เป็ นรายการที่จดั ใกลบ้ า้ นและค่ าใช้จ่ายโดยรวมไม่สูงมาก ทีส่ ำ� คัญ เป็ นรายการทีม่ ผี ูจ้ ดั เดียวกันกับ ‘โป่ งแยงเทรล’ ซึง่ เป็ นงานที่ ผมประทับใจทีส่ ุดเท่าทีแ่ ข่งมา คุณเป้ าเตรียมตัวอย่างไรส�ำหรับรายการนี้ บา้ งครับ? แนะน� ำวิธซี อ้ มด้วย ก็ได้ครับ เป้ า : หลังจากสมัครแล ้ว ผมจะมีเวลาเหลือ 6 เดือนในการเตรียมตัว ซึง่ ผมเตรียมตัวเองดังนี้ หนึ่งคือต้องลดน�ำ้ หนักตัวเองลง เพือ่ ทีจ่ ะได้แบกน�ำ้ หนักตัวเอง ระหว่างวิง่ แต่วา่ ลม้ เหลวเพราะกินหนักไปหน่อย ห้ามใจไม่อยู่ เพือ่ น ชวนไปกินเยอะ สองคือการซ้อมวิง่ วันจันทร์ - ศุกร์ ผมจะซ้อมวิง่ ถนน ตามเวลาว่างทีม่ ี แต่ทกุ วันพุธจะมีซอ้ ม Interval (เน้นความเร็ว) และ Hill Repeat (ซ้อมวิง่ ขึ้นเขาแบบวนๆ ไป) ส่วนวันอาทิตย์จะต้องไป วิง่ เทรลตามเส้นทางทีว่ างแผนไว้กบั เพือ่ นๆ สามคือศึกษาข้อมูลของสนามแข่งขัน เช่นเส้นทาง กราฟความชัน รวมไปถึงอุปกรณ์บงั คับต่างๆ ที่สนามได้กำ� หนดไว้ ส่วนข้อสุดท้าย ก็เป็ นเรื่องการวางแผนการกิน โหลดอาหารระหว่างแข่งขัน แล ้วก็เตรียม เสื้อผ้าไปเปลีย่ นด้วย เพราะตัวจะได้ไม่เปี ยกเหงือ่ นานหลายชัว่ โมง ทัง้ วันทัง้ คืน ช่ วงก่อนแข่ งหนึ่ งสัปดาห์ ซึ่งนักวิ่งจะเรียกกันว่า Taper Week (สัปดาห์ซอ้ มเบา) คุณเป้ ารูส้ กึ อย่างไรบ้างครับ? เป้ า : ฝันร้ายครับ 555 ตอนนัน้ พะวงมากเกินไป หลับๆ ตื่นๆ ได้ขา่ วว่า คนแข่งรายการนี้ฝนั ร้ายไปหลายคน 555 12
a side
42 กิโลเมตรกลับไปหมดแลว้ แต่ก็ยงั เดินต่อไป ลากเท้าเปื่ อยๆ กลับไปยังโรงเรียนเป็ นครัง้ สุ ดท้าย เหมือนไม่มีอะไรจะเสียแลว้ ลืมเจ็บไปซะ เดินต่อไปให้มนั จบ แล ้วค่อยไปตายทีบ่ า้ นเอา ต้องจบ จะไม่เจ็บฟรีแน่นอน 555 สรุปรายการนี้ผมใช้เวลาไป 37.44 ชัว่ โมง ก่อนเวลาตัดตัวที่ 38 ชัว่ โมง แค่ 16 นาที ลุนสุ ้ ดๆ มีช่วงไหนของการแข่งขันที่คุณเป้ ารูส้ กึ ว่ามันพีกที่สุด หรือเหนื่ อย ที่สดุ แล้ว ชนิ ดท้อจนอยากจะเลิกบ้างไหมครับ? เป้ า : เป็ นช่วงทีเ่ รียกว่า Last Man Standing กิโลเมตรที่ 70 - 85 ตอนทีผ่ ่านจุดนัน้ น่าจะประมาณ 5 ทุ่ม หมอกหนาจัด น�ำ้ ค้างใบไม้ หยดใส่ตลอด ตอนนัน้ ความทีค่ ดิ ตลอดว่าไม่น่าจะวิง่ ทันเวลาตัดตัว ของรายการ ท�ำให้ตวั เองตื่นเต้นทัง้ คืนและรีบเข็นตัวเองขึ้นไปยังจุด Check Point ต่อไปให้ทนั เวลา เรียกว่าลืมง่วงไปเลย ทัง้ ๆ ทีต่ อนนัน้ เวลาผ่านมา 24 ชัว่ โมงแลว้ แถมเท้าผมก็เริ่มเปื่ อยจากการลุยน�ำ้ มาตลอด แต่กผ็ ่านมาได้แบบเหลือเวลาตัดตัวแค่ 30 นาที ระหว่างที่ ก�ำลังวิ่งช่วงนัน้ ก็ถามตัวเองตลอดว่าจะหยุดดีไหม เพราะตอนนัน้ เจ็บเท้ามาก และไม่สามารถวิง่ ได้แล ้ว คนก็แซงไปเรื่อยๆ จนเหลือเรา เป็ นคนสุดท้าย แต่ ก็มองในแง่บวกนะว่าจะเจ็บตัวฟรีหรอ มาถึง ขนาดนี้แล ้วต้องเอาให้จบสถานเดียว แล้ว กลับ กัน ช่ ว งไหนรู ส้ ึก ว่ า ก�ำ ลัง ใจดี ท่ีสุด หรือ ว่ า รู ส้ ึก ดี ท่ีสุด ของการแข่งขันบ้างครับ? เป้ า : จริงๆ ก็ประทับใจตลอดทัง้ การแข่งขันนะ แต่ช่วงทีป่ ระทับใจ ทีส่ ุดคือ 10 กิโลเมตรสุดท้ายทีเ่ ราจะได้ลงเขาอย่างเดียว จังหวะนัน้ คิดอย่างเดียว กูสบายละ ใกลจ้ บละ ถึงเจ็บเท้ายังไงก็ตอ้ งไปให้ได้ ให้มนั จบจบไป พอก่อนจะเข้าเส้นชัยสัก 2 กิโลเมตร ก็มเี พื่อนๆ มารอรับรอเชียร์ รูส้ กึ ดีใจทีท่ กุ คนยังรอ ประทับใจมากครับ หลังจากรูว้ า่ เราเป็ นคนสุดท้ายทีร่ อดจากสนามนี้ได้ รูส้ กึ อย่างไรบ้างครับ? เป้ า : ผมไม่ได้สนใจอันดับเลยนะ แค่รอดมาได้กบ็ ญ ุ แล ้วครับ 555 ช่วยบรรยายความรูส้ กึ ของตัวเองในระหว่างแข่งขันหน่ อยได้ไหมครับ? เป้ า : ช่ วงแรกก็กงั วลนิดหน่ อย เพราะผมไม่เคยวิ่งในระยะยาว ขนาดนี้ แต่ ก็ คิ ด ในแง่ บ วกนะ เพราะว่ า ผมซ้อ มเส้น นี้ อ ยู่ แ ล ว้ เหมือนเป็ นสนามหลังบ้าน แถมมีฝนด้วย เป็ นตัวแปรส�ำคัญเลย เหนือความคาดหมายมาก ไม่ได้คดิ ว่าจะเจอ ช่วง 10 กิโลเมตรแรกนี่ ไม่มปี ญั หาอะไร แต่เหงือ่ เหมือนจะออกเยอะผิดปกติ ช่วงต่อมาอีก 50 กิโลเมตร เป็ นตัวแปรส�ำคัญทีผ่ มพลาดเอง คือลุยน�ำ้ มากไปหน่อย เลยส่งผลให้เท้าเปื่ อยตลอดการแข่งขัน เป็ นการตัดสินใจทีพ่ ลาดมากๆ ท�ำให้วง่ิ ไม่ได้ตลอดทัง้ การแข่งขัน ยิ่งไปก็ย่งิ ช้าลง กลัวว่าจะไม่ทนั เวลาตัดตัวในแต่ ละจุด แต่ ก็ฝืนตัวเองไปเรื่อยๆ ยิ่งตอนที่ผ่าน Last Man Standing (ชือ่ เส้นทางหนึ่งของการแข่งขัน) ยิง่ รูส้ กึ กดดัน และตอนนัน้ เหลือเราเป็ นคนสุดท้ายแล ้ว แต่กพ็ ยายามเลี้ยงความเร็ว ให้ไม่ตำ� ่ กว่าที่ตงั้ ใจไว้ เพื่อไปให้ทนั จุดตัดตัวแต่ ละจุดไปเรื่อยๆ โชคดีทร่ี ายการนี้นกั วิง่ สามารถมีเพเซอร์หรือผูช้ ่วยนักวิง่ (น้องเบส) ได้ ก็ช่วยให้กำ� ลังใจ เป็ นเพือ่ นคุยตลอดการแข่งขันช่วงหลัง ท�ำให้เรา รู ส้ กึ ไม่กดดัน ไม่ตอ้ งคุยกับตัวเอง ก็คือไม่เพ้อ ไม่คิดเรื่อยเปื่ อย จนท�ำให้เกิดความคิดในแง่ลบ พอวิง่ จนถึงเช้า ผ่านมาได้ประมาณ 90 กิโลเมตร (26 ชัว่ โมง) เคารพธงชาติทโ่ี รงเรียนศรีเนรูห ์ ก็ลงไปทางห้วยตึงเฒ่าต่อ จังหวะนัน้ เริ่มมีกำ� ลังใจมากขึ้น เพราะมีนกั วิง่ ระยะอืน่ ๆ อยู่ในเส้นทางด้วยแล ้ว (ระยะ 42 กิโลเมตร ปล่อยตัวเช้าอีกวัน) ท�ำให้เราไม่รูส้ กึ เหมือน อยู่คนเดียว แต่พอขากลับก็เริ่มโดดเดี่ยวเหมือนเดิม เพราะระยะ 13
b side
ชี วิตหลังจากจบ CM6 ระยะ 130 กิโลเมตร ไปแล้ว คุณเป้ า รู ส้ ึกอย่างไรบ้าง? และวางแผนการวิ่งก้าวต่อไปของตัวเองเอาไว้ อย่างไรบ้างครับ? เป้ า : หลังจากเข้าเส้นชัยแล ้วผมเดินไม่ได้เลยครับ ง่วงมาก พอหัว แตะหมอนเท่านัน้ แหละ เหมือนถอดปลั ๊ก หลับเป็ นตายเลย แต่กร็ ูส้ กึ ดีใจมากทีค่ รัง้ หนึ่งเราเคยวิง่ ในป่ าในระยะ 130 กิโลเมตร ได้รวดเดียว จนจบ ส่วนในอนาคตก็ยงั ไม่ได้วางแผนอะไรมากมายนะ แต่ก็คง จะวิ่งไปเรื่อยๆ เพราะมันเป็ นกิจกรรมที่เราท�ำแลว้ มีความสุขที่สุด ได้ฝึกสมาธิ อยู่กบั ตัวเอง แอบคิดไว้ในใจว่าอยากจบระยะ 100 ไมล์ หรือ 160 กิโลเมตรสักวันเหมือนกัน แต่จะสนามไหนก็ยงั ไม่รู ้ สุดท้ายนี้ อยากมีอะไรฝากให้กบั นักวิ่งรุ่นใหม่ๆ หรือนักวิ่งเทรล รุน่ ใหม่ๆ ที่กำ� ลังเข้าสูว่ งการอย่างไรบ้างครับ? เป้ า : ไม่วา่ จะท�ำอะไร จะเรือ่ งวิง่ หรือเรือ่ งอะไรก็แล ้วแต่ ไม่วา่ เป้ าหมาย ของแต่ ล ะคนจะเป็ น อย่ า งไร ขอให้ท ำ� ไปให้ถึง ที่สุ ด และขอให้ ท�ำอย่างมีความสุข แลว้ เราจะท�ำมันได้ดเี อง ตัง้ หัวใจเป็ นประธาน และสวมรองเท้าออกไปครับ
C O V E R S T O R Y
THE MOTOR DIARY์
14
a side
CYCLE
บันทึกการเดินทาง 16 วัน ด้วยมอเตอร์ ไซค์ มะนาลี - เลห์ - ลาดักห์ เรื่อง / ภาพ : รณรงค์ บูรณัติ
เรามีเวลาเหลือในชีวิตเท่าไหร่? ที่จะใช้ชีวิตของเราในแบบที่เราหลับตาฝัน ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ที่จะได้ทำ� อะไรบ้าๆ แต่สิ่งนั้นก็ได้มอบความมีชีวิตที่แท้จริงกลับคืนมาให้เราได้ ทุกข์ สุข เหนื่อยล้า สบาย รัก คิดถึง เกลียดชัง อภัย อดทน และปล่อยวาง ก่อนอืน่ ผมต้องขอออกตัวแรงๆ ก่อนนะครับว่าผมไม่ใช่นกั เขียนปากกาคม ไม่ใช่ชา่ งภาพ ฝีมือเทพเจ้า และไม่ใช่ไบค์เกอร์ในต�ำนานแต่อย่างใด ผมเป็นแค่คนธรรมดามากๆ ที่รักในการ เดินทางด้วยมอเตอร์ไซค์ และต้องการบันทึกเรื่องราวในแบบฉบับของตัวเองก็แค่นั้นครับผม และนี่คือมอเตอร์ไซเคิลไดอารี่ ที่บันทึก 16 วันของผม กับการเดินทางด้วยมอเตอร์ไซค์ ไปในดินแดนสวรรค์ที่ถูกพระเจ้าลืมไว้ทางตอนเหนือของอินเดีย ที่ชื่อว่า ‘แคชเมียร์’
15
b side
01
02
03
21 สิงหาคม 2560 ก่อนออกเดินทาง เราจัดการเตรียมอุปกรณ์ยงั ชีพ เช่น เต็นท์ ถุงนอน เตาแก๊ส อาหารแห้ง รวมถึงเสื้อผ้า ทีใ่ ช้ในการขับขีแ่ ละแจ๊คเกตกันหนาว แต่เวลา 3 - 4 เดือน มันผ่านไปรวดเร็วอย่างกับจรวดติดเทอร์โบ พอรูต้ วั อีกที ต้องออกเดินทางแล ้วสิ! หลังจากนัง่ เครื่องบินแบบเมาขี้ตามากว่า 5 ชัว่ โมง เราถูกต้อนรับสไตล์อินเดียด้วยอากาศอุณหภูมิระดับ 34 องศา และการถูกรถตูท้ ่นี ดั มารับเบี้ยวเราซะงัน้ !!! เราเสียเวลาไปราว 3 ชัว่ โมงเพือ่ แลกกับรถตูค้ นั ใหม่ทจ่ี ะ พาเราไปเมือง ‘มะนาลี (Manali)’ ซึง่ ห่างจาก เดลี (Delhi) ไปราวๆ 580 กิโลเมตร และใช้เวลาเดินทาง 16 ชัว่ โมง!!!! ลุงโชเฟอร์ขอเราจัดว่าเป็ นสายดิบขนานแท้ กับการ สร้างท่วงท�ำนองการขับรถแบบทีผ่ มไม่เคยเคยเห็นมาก่อน ถ้าเป็ นบทเพลงก็คงเป็ นเพลงแขกผสมกับเฮฟวี่เมทัล คือซัดยับตัง้ แต่เมืองยันภูเขา เทโค้ง กินเลน เบียดชาวบ้าน ผมโคตรเมามันไปกับ16 ชัว่ โมงในรถตู ้ ราวกับตัวเอง ถูกเขย่าในเครื่องซักผ้า!! 16
a side
22 สิงหาคม 2560 หลังจากทีผ่ มได้ลงุ โชเฟอร์เป็ นไอดอลในการขับรถ เราขึ้นไปทางเหนือแต่ยงั ไม่ถงึ มะนาลีซกั ที เพราะทัง้ คืน เราวิ่งผ่านภูเขาที่อนั ตราย บวกกับถนนที่น่ีราวกับพื้น ดาวอังคาร ท�ำให้ไม่สามารถใช้ความเร็วได้ ในขณะทีค่ นอืน่ ก�ำลังหลับยาวๆ... ปุ้งงงงงง!!!!... กูวา่ แล ้ววว ยางแตก!!!! ก็ถอื ว่าเป็ นการต้อนรับเราด้วยอุปสรรคเล็กๆ น้อยๆ ดี 80 กิโลต่อมาเราเดินทางมาถึงมะนาลี เป็ นเมืองท่องเทีย่ ว ขนาดใหญ่ มองๆ ไปผมก็วา่ คล ้ายๆ กับปายทีบ่ า้ นเรานะ คือชาวต่างชาติเยอะ ร้านขายของ ร้านอาหารมากมาย ส่วนผูค้ นทีน่ ่ีก็ดูน่ารัก สูก้ ล ้องกันทุกคนเลยจ้าขอบอก!! จิกตาพอยท์ขากันเต็มที่ ที่มะนาลีอยู่สูงจากระดับน�ำ้ ทะเล 1,950 เมตร (ยอดดอยอินทนนท์สูงราว 2,200 เมตร) วันนี้เราเลย ใช้ชีวติ เบาๆ เพื่อปรับสภาพร่ างกาย เพราะอากาศที่น่ี หนาวเย็นกว่าเดลีมาก รวมไปถึงเราต้องรอรับมอเตอไซค์ คู่ใจทีจ่ ะพาเราออกเดินทางท่องโลกไปอีกหลายวันด้วย
01 ประเดิมการเดินทางด้วยรถตู้ยางรั่วกลางทาง 02 เราใช้เวลาสั้นๆ เสมอในแต่ละช่วง เพื่อพักรถและพักร่างกาย 03 เพื่อนร่วมเดินทางนั่งพักเหนื่อย ขณะเข้าด่านตรวจใบอนุญาตผ่านแดน
23 สิงหาคม 2560 วันนี้เราตื่นกันแต่เช้า โคตรฟิ ตขอบอก เราจัดการ แพ็คกระเป๋ าพร้อมอาหารแห้ง และน�ำ้ มันส�ำรองคนละ 20 ลิตร เพือ่ ใช้เวลา 3 วันส�ำหรับเดินทางถึง ‘เลห์ (Leh)’ เมือ งท่ อ งเที่ย วสุ ด ฮิ พ ที่เ หล่ า นัก เดิน ทางจากทัว่ โลก ต่างอยากไปเยือน เราเดินทางราว 80 กิโลเมตรผ่านซูลอง วัลเล่ย ์ (Solang Valley), มาร์ไฮ (Marhi) จนมาถึง ราตัง พาส (Rohtang Pass) ที่สูงจากระดับน�ำ้ ทะเล 3,800 เมตร เป็ นคล ้ายจุดเช็คอินแรกๆ ทีใ่ ห้เราได้สมั ผัส ธงสีๆ สไตล์ทเิ บต ต้อ งบอกก่ อ นนะครับ ว่ า ระยะทางแนวราบ เราไม่ ก ลัว เลย แต่ ก ลัว ระยะทางในแนวดิ่ง มากกว่ า คือระดับความสูงทีเ่ ราไต่ไปเรือ่ ยๆ เราผ่านจุด 4,000 เมตร เหนือระดับน�ำ้ ทะเล ยังไม่มใี ครมีอาการแพ้ท่สี ูง เพราะ ทุกคนกินยาดักไว้ก่อนแล ้ว อาการแพ้ทีส่ ูงคือการทีร่ ่างกาย มีอาการผิดปกติในสภาวะออกซิเจนเบาบาง เช่น ปวดหัว อาเจียน หน้ามืด หายใจไม่ออก หมดสติ เป็ นต้น วันนี้ฟ้ามืดเร็วมาก เราเลยตัดสินใจพักทีเ่ กสต์เฮาส์ ริมถนนในเมือง ซิสซู (Sissu) ทีน่ ่เี ราจะได้ยนิ เสียงล�ำธาร ที่เกิดจากการละลายของหิมะดังไปทัว่ โอบลอ้ มไปด้วย ภูเขาและมิตรภาพทีด่ ี ถึงแม้วา่ ไฟจะดับตลอดคืนก็ตามที 04 เวลาต้องการพักเหนื่อย เรามีพื้นถนนเป็นเก้าอี้ และเตียง มีรถคู่ใจเป็นร่มเงาบังแดด 05 เราเป็นแค่กอ้ นหินในทุง่ หญ้าก�ำมะหยี่ ทีห่ อ้ มล้อม ไปด้วยความยิง่ ใหญ่ของธรรมชาติ 06 ความเหนื่อยล้าและความหนาวเย็น เป็นเหมือนดังเงาติดตามเราตลอดการเดินทาง
06
17
b side
04
05
24 สิงหาคม 2560 เราเก็บสัมภาระออจากซิสซู ดว้ ยความคึกเต็มที่ แวะทานข้าวที่เมือง คีลอง (Keylong) เป็ นเมืองเล็กๆ น่ า รัก ได้ภ าพถ่ า ยพอร์เ ทรตสวยๆ จากที่น่ี ห ลายรู ป พวกเด็กๆ ไม่อายทีจ่ ะมาเล่นกับคนหน้าโหดๆ อย่างผม เราทานอาหารรสชาติแปลกๆ แต่กอ็ ม่ิ ท้องแล ้วเดินทางต่อ ถึงจุด บาราลาชา ลา (Baralacha La) สู งจากระดับ น�ำ้ ทะเล 4,890 เมตร เพือ่ พักและถ่ายรูป ถนนในช่วงนี้ เริ่มบูข๊ ้นึ ตามระยะทางทีไ่ กลออกไปเรื่อยๆ ทีน่ ่อี ากาศหนาวแบบเฉียบพลัน หมอกหนาจนมอง อะไรข้างหน้าแค่ 2 - 3 เมตรไม่เห็น อันตรายสุดๆ เพราะ ถนนทีน่ ่ซี า้ ยภูผา ขวาก็เหว!! วันนี้เราตัดสินใจกางเต็นท์ นอนที่ ซาชู (Sarchu) สูงจากระดับน�ำ้ ทะเล 4,290 เมตร จริงๆ ย่านชุมชนก็พอมีทพ่ี กั แบบกระโจมให้เช่า แต่เราขอ แค้มปิ้ งหน่อยละกัน เตรียมเต็นท์และอุปกรณ์มาแล ้วนี่นา พอพระอาทิตย์ลบั ขอบฟ้ าเท่านัน้ ล่ะมึงเอ๊ยยย!!! ความหนาวประหนึ่งเปิ ดช่องฟรีซค้างไว้ 2 เดือน บวกกับ ลมแรงที่ผ่านช่ องเขาระดับเบอร์ 5 ได้ผสมผสานเป็ น ความเย็นมรณะ พัดกระชากทัง้ เต็นท์และวิญญาณของผม แทบจะปลิวไปพร้อมๆ กัน คืนนัน้ ผมเอาชีวติ รอดด้วยการ เอามาม่า โจ๊กถ้วย ถุงเท้า หมวกกันน็อค ยัดใส่ถงุ นอน แล ้วแทรกตัวอยูใ่ นนัน้ โดยหวังว่ามันจะอุน่ ขึ้น และจัดการ ผูกเต็นท์เข้ากับมอเตอร์ไซค์และหินก้อนเขื่องๆ ไม่งนั้ แค้มปิ้ งในฝันของกรูปลิวไปหมดทัง้ ยวงแน่ ๆ เราข่มตา นอนหลับแทบไม่ลง เสียงลมทีโ่ คตรโหยหวน พร้อมกับ นอนภาวนาตาเหลือกๆ ว่าเมื่อไรมันถึงจะเช้าสักทีวะ หนาวชิบหาย!!!!!
25 สิงหาคม 2560 เราตื่น นอนราว 6 โมงเช้า ด้ว ยสภาพตัว แข็ง เป็ นมัมมีฤ่ ดูหนาว ความโหดร้ายจากลมหนาวเมือ่ คืนท�ำให้ ผิว หน้า ที่เ คยฟรุ ง้ ฟริ้ง ยาวไปจนถึง ผิว ตีน ของผมแห้ง ราวกับหนังปลาอบกรอบ มือและเล็บม่วงจนน่ าตกใจ ภาพของเดอะแก๊ง ในเช้า นี้ อ ยู่ ใ นสภาพพัง ยับ ทุ ก คน เราค่ อยๆ คืบคลานเข้าหาความอุ่นจากเตาแก๊สปิ กนิก ทีเ่ ตรียมกันมา ได้โจ๊กยับๆ และมาม่าพังๆ เป็ นอาหารเช้า เพือ่ ให้มแี รงขยับ ก่อนทีจ่ ะเดินทางเพือ่ ไปให้ถงึ เมือง แปง (Pang) สูงจากระดับน�ำ้ ทะเล 4,688 เมตร ทุกคนมีอาการ อ่อนล ้าให้เห็นอย่างชัดเจน จอดปุ๊ บนัง่ ปั ๊บ ถามอะไรไม่ตอบ เราคุยกันน้อยลง แต่หน้าเหีย่ วมากขึ้น ด้วยสภาพอากาศ ทีห่ นาวและถนนสไตล์โคตรพ่อฮาร์ดคอร์ เราเจอถนนตรงๆ ยาวๆ เรียบๆ เป็ นเส้นตรง ลากผ่านทีร่ าบบนยอดเขาอันน่าพิศวง ผมใช้ความเร็วถึง 100 กิโลเมตร/ชัว่ โมงเป็ นครัง้ แรกในทริป เช็ดดดด!!! มัน คือ ที่ร าบที่ไ ม่น่ า จะมีไ ด้บ นยอดเขาระดับ ความสู ง 4,500 เมตร กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตาหลายสิบกิโลเมตร ท�ำให้ผมคิดขึ้นมาได้ว่า นี่คือโลกมนุ ษย์จริงๆ เหรอวะ? ท�ำไมภูมปิ ระเทศมันสุดขัว้ แบบนี้ งดงามและโหดร้าย ในเวลาเดียวกัน นี่คือโลกที่เราไม่เคยเห็นมาก่ อนเลย เป็ นวัยรุ่นมันเจ๋งอย่างนี้น่เี อง! เราตัดสินใจพักที่เดอบริง เป็ นที่พกั แบบบ้านดิน เก่าๆ นอนเรียงกันในห้องฝุ่นหนาๆ ห้องน�ำ้ สไตล์คนงาน ก่อสร้างย่านบางพลีท่ไี ม่มนี ำ�้ ลา้ งตูด แต่นนั ่ ไม่ใช่ปญั หา พวกเราเลือกที่จะสลบ ทิ้งตัวยาวๆ ข้าวปลาไม่ตอ้ งกิน เพื่อ นอนพัก ผ่ อ นแบบร่ า งกับ วิญ ญาณอยู่ ก นั คนละที่ นอนมันทัง้ ชุดขีม่ อไซค์น่ีแหละ ช่างแม่ง!!! เป็ นวันทีร่ ่าง พังทีส่ ุด และเราก�ำลังเจอกับอากาศทีห่ นาวกว่าทุกๆ วัน
07
08
09
11
10
07 ป้ายเก๋ๆ กลางเมืองอัปชิ 50 กิโลเมตร ก่อนถึงเลห์ 08 จุดเช็คอิน ตากลัง ลา สูงอันดับ 2 ของโลก ลมแรงและหนาวมาก 09 เจ จุง กิ ผู้ช�ำนาญเรื่องเครื่องส�ำอางจากเกาหลีก็เดินทางลุยๆ ไปกับเราด้วย 10 บรรยากาศเมืองลามายูรู เมืองแห่งลามะและหุบเขาอันน่าทึ่ง 11 ลามะน่ารักๆ องค์นี้ก�ำลังเติมน�้ำมันในตะเกียง เพื่อใช้ในพิธีกรรมทางศาสนา
18
a side
26 สิงหาคม 2560 7 โมงกว่ า ๆ เราตื่น มาในสภาพยับ และพัง พิน าศสุ ด ๆ ไม่มใี ครอยากตื่นในสภาพมีแผ่นน�ำ้ แข็งเกาะที่เบาะมอเตอร์ไซค์ เราใช้แสงแดดเป็ นพลังในการขับเคลือ่ นพลังในร่างกายอย่างช้าๆ ค่อยๆ เก็บของแล ้วไปกันต่อ วันนี้รถเราหลายคันเริ่มมีปญั หา เช่นหัวเทียนบอด และต้อง ปรับจูนคาร์บูเรเตอร์ เพราะที่น่ีอากาศเริ่มเบาบางทุกที เราขับมา สัก 60 กิโลเมตรก็มาถึงจุดทีเ่ ป็ นถนนสูงอันดับ 2 ของโลก ชื่อว่า ตากลัง ลา (Taglang La) สูงจากระดับน�ำ้ ทะเล 5,328 เมตร ทีน่ ่ี อากาศหนาวแบบสุดขัว้ ปากแตกจมูกลอกกันเป็ นแถว ลิปมัน ก็เอาไม่อยู่ ต้องเอาน�ำ้ มันหมูทาหน้า ไม่น่าเชื่อว่านี่คือฤดูรอ้ นของ ทีน่ ่ี หลายคนมีอาการปวดหัวเบาๆ ให้เห็น ผมก็มอี าการบ้างเพราะ ดันลืมกินยาแพ้ทีส่ ูง เดินก็เหนื่อย พูดก็เหนื่อย เพราะออกซิเจนน้อย ตรงนี้เราเริ่มเห็นน�ำ้ แข็งสไตล์อินเดียได้ตามริมถนนที่เราขับผ่าน ไม่ตอ้ งรอแม่คะนิ้งจุม๋ จิม๋ ทีย่ อดดอยในฤดูหนาวบ้านเรา เพราะทีน่ ่ี สามารถเจอน�ำ้ แข็งและหิมะได้ตามริมถนนในฤดูรอ้ น! จากนัน้ เราดิง่ ลงเขายาวๆ จากระดับความสูง 5,328 เมตร จนมาเหลือ 3,480 เมตร ในระยะทาง 60 กิโลเมตร จนมาถึงเมือง อัพชิ (Upshi) เมืองหน้าด่านของเลห์ และเป็ นประตูสู่แคชเมียร์ เราจะต้องมาตรวจเอกสารทีน่ ่ี (ทีจ่ ริงเราต้องตรวจเอกสารพาสปอร์ต และเพอร์มิตรถมอเตอร์ไซค์ตลอดเส้นทางที่เราเจอด่ านตรวจ อยู่แล ้ว) จากนัน้ เรามุง่ หน้าอีก 50 กิโลเมตรก็ถงึ เลห์ เมืองจุดหมาย ของเราในวันนี้ และเราจะพักทีเ่ ลห์ 2 วันด้วยกัน
12
12 ถนนหินคมๆ กับทุ่งดอกไม้สีม่วง ที่สวยงามจนเราต้องลุยออกนอก เส้นทาง 13 ความหนาวเย็นและความสวยงาม ของหิมะ ท�ำให้เราเรียนรู้ที่จะอดทน เพื่อแลกกับจุดมุ่งหมายบางอย่าง 14 แปงกอง เลค ทะเลสาปน�้ำเค็มที่สูง ที่สุดในโลก ที่เฝ้ารอให้คู่รักที่มี ความอดทนหลายๆ คู่มาเยือนที่นี่
28 สิงหาคม 2560 วันนี้เรามุ่งหน้าไปเมือง ลามายู รู (Lamayuru) ระยะทางราว 120 กิโลเมตร ถนนค่อนข้างดี ขีส่ บายสไตล์ อีซช่ี คิ ๆ คูลๆ ผิดจากเส้นทางมะนาลี - เลห์ทถ่ี นนดิบ ขรุขระ ขับไปหัวโยกไป ขีจ่ นเครื่องในแทบจะรวมกันกับขี้ 555 เส้นทางวันนี้เราเจอเพื่อนๆ นักขี่ตลอดเส้นทาง เพราะทุกคนเริ่มต้นทริปที่เลห์เป็ นหลัก ผิดกับพวกเรา ทีเ่ ริ่มจากมะนาลี เราใช้เวลากันถึงบ่ายแก่ๆ ก็มาถึงเมือง ลามายูรู เมืองแห่งลามะนะยูว ์ ลามายูรูเป็ นเมืองขนาดเล็กมาก ผมชอบทีน่ ่ีมาก เงียบสงบ เป็ นเมืองเก่ าที่ซ่อนตัวในเทือกเขา ชาวบ้าน ปลูกบ้านที่ทำ� จากดินเหนียวและเศษไม้ โดยใช้แนวหิน จากภูเขาเป็ นส่วนหนึ่งของบ้าน เก๋ๆ นะผมว่า ทีน่ ่มี วี ดั อายุ หลายร้อยปี มีพระลามะทัง้ เด็กๆ และดูแก่พรรษาพอทีจ่ ะ นับจ�ำนวนได้ กิจกรรมทางศาสนาและบรรยากาศของวัด ค่อนข้างขลังและศักดิ์สทิ ธิ์มาก รักษาวัฒนธรรมดัง้ เดิม ได้เกือบ 100% ในฤดูหนาวลามะที่น่ีบอกผมว่าอาจจะ หนาวกันจนถึงติดลบ 30 องศา เรียกว่าหนาวแบบสุดติ่ง กระดิ่งแพะกันเลยทีเดียว บ้านเรือนที่น่ีจึงพังด้วยหิมะ ทุกปี ผมเลยใช้เวลาในการเดินเทีย่ วเมืองนี้ทกุ ซอกทุกมุม ด้วยความประทับใจ
13 14
19
b side
27 สิงหาคม 2560 วัน นี้ เ ราตื่ น มาพบว่ า เลห์เ หมือ นกับ เมือ งร้า ง ร้านค้า ร้านอาหารที่เคยคลาคล�ำ่ ไปด้วยนักท่องเที่ยว หลายเชื้อชาติกลับปิ ดตัวลงแบบงงๆ เพราะคนในเมือง ต่างปิ ดกิจการ 1 วันเพื่อไว้อาลัยให้กบั ลามะองค์หนึ่ง ซึ่ ง ลามะองค์ น้ ี ได้ฆ่ า ตัว ตายที่ เ ลห์เ มื่ อ 7 ปี ก่ อ น เพือ่ ประท้วงจีนทีจ่ ะเอาดินแดนทิเบตไปเป็ นของจีน วันนี้ เราเลยหาอะไรกินยากหน่อย เลห์เป็ นเมืองใหญ่ ครับ มีสนามบิน ค่ ายทหาร ศู นย์กลางการท่องเที่ยวในแคชเมียร์จะอยู่ท่เี มืองนี้เป็ น หลัก เราใช้เวลาท่องเทีย่ วในเลห์แทบจะทัง้ วันเพือ่ พักร่าง และขีร่ ถเพือ่ บันทึกภาพความทรงจ�ำในเลห์เอาไว้
15
29 สิงหาคม 2560 เราเดินทางกลับเลห์ เส้นทางวันนี้คือทางเดียวกับเมือ่ วาน เลยไม่ต่ืนเต้นเท่าไหร่ พวกเราเลยคุยกันว่าจะลองเดินทางแบบ เอนดูโร่ดูบา้ ง เป็ นเส้นทางไต่ไหล่เขา ค่อนข้างอันตรายมากเพราะ แทบไม่มรี ถวิง่ ผ่านเส้นนี้เลย เราเดินทางด้วยเส้นทางประหลาดๆ นี้ ออกนอกแผนทีไ่ ปได้ราว 3 กิโลเมตรก็มาเจอกับทุ่งหญ้าสีมว่ ง!!! มันเป็ นทีร่ าบทีส่ สี นั เหมือนไอติมเรนโบว์กอ้ นเท่าภูเขา ละลายเป็ น ทุ่งหญ้า และกลางทุ่งหญ้าสีพาสเทลนัน้ มีตวั Yak หรือจามรี สัตว์ทอ้ งถิน่ ในต�ำนานอยูก่ ลางทุง่ โอ้วพระเจ้า!!! มันเป็ นภาพทีท่ ำ� ให้ ทุกคนต้องขับรถฝ่ าดงหินคมๆ เพือ่ เข้าไปเก็บความทรงจ�ำกันทุกคน เราหลงใหลกับ Yak และทุ่ง หญ้า พาสเทลเกือ บชัว่ โมง ถึงได้ออกเดินทางต่อ แต่แล ้วก็พบว่าถนนทีเ่ ราจะไปถูกดินจากภูเขา ถล่มลงมาจนถนนขาด บวกกับถนนที่แคบ เป็ นเหวจนแทบจะ กลับรถกันไม่ได้ เราเลยตัดสินใจย้อนกลับทางเดิม ดีกว่าเอาชีวติ ไปเสีย่ งข้างหน้า เลยเสียเวลาไปราวๆ 2 ชัว่ โมงเศษ แต่ในวันนัน้ เรา ก็เดินทางกลับมาถึงเลห์จนได้ 30 สิงหาคม 2560 วันนี้เราจ�ำเป็ นต้องเปลี่ยนรถจาก Royal Enfield รุ่น Himalayan ซึ่งเป็ นแนวเอนดู โร่ มาใช้ Royal Enfield รุ่น Bullet 500 แทน เพราะรถเช่าจากมะนาลีไม่สามารถจะวิง่ ในเขต แจมมูและแคชเมียร์ (Jammu and Kashmir) ได้ มันคนละเขต การปกครองกัน เราเดินทางไปราวๆ 130 กิโลเมตร ผ่านเส้นทางทีส่ ุดแสน มหัศจรรย์ของธรรมชาติ งดงามแบบสุ ดๆ จนผมไม่สามารถ จะอธิบ ายให้ทุก คนเข้า ใจได้ว่า โลกใบนี้ ข องเรางดงามเพีย งใด เราขับผ่านภูเขาสีเลือดหมูทเ่ี ป็ นชัน้ ๆ คล ้ายเลเยอร์เค้กรสราสเบอรี่ ก้อนใหญ่ ทะเลทรายสีขาวทีเ่ กิดจากตะกอนจากภูเขาหิมะ ทุ่งหญ้า ทีม่ มี อสขึ้นตามโขดหินมีลำ� ธารไหลผ่านเหมือนถูกจัดวางในแบบเซน โดยศิลปิ นทีช่ ่อื ว่าธรรมชาติเป็ นผูร้ งั สรรค์ข้นึ มา เราเดินทางจนมาถึง แปงกอง เลค (Pangong Lake) ทะเลสาบน�ำ้ เค็มทีส่ ูงทีส่ ดุ ในโลก สีเขียวมรกตของผืนน�ำ้ ตัดกับภูเขา สีช็อกโกแลตเวอร์ชนั ่ ละลายแลว้ ช่างเป็ นภาพที่งดงามเหลือเกิน เราจึงใช้เวลาช้าๆ ในช่วงตอนเย็นๆ กับการเดินซึมซับบรรยากาศ หายใจให้ช า้ ลงแล ว้ นึ ก ถึง เรื่อ งราวในชีวิต ที่ผ่ า นมา ถือ ว่า เป็ น ช่ ว งเวลาสุ ด พิเ ศษส�ำ หรับ ผม ที่เ งิน ไม่ส ามารถจะซื้อ ช่ ว งเวลา สุดพิเศษเหล่านี้ หรือหาได้ตามทองหล่อหรือห้างดังๆ แถวสยาม คุณต้องออกเดินทางเท่านัน้ ถึงจะพบด้วยตัวคุณเอง
17
20
a side
16
15 ตะกอนดินที่ยื่นไปในแปงกอง เลค ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ลงไปถ่ายรูปเป็นที่ระลึก 16 ความตัง้ ใจของผมคือการได้มาส่งพระองค์ขนึ้ สูส่ รวงสรรค์ ณ จุดทีถ่ นนสูงสุดในโลก คือทีน่ ี่ กาดุง ลา 17 เราขับไปตามถนนเลียบแม่น�้ำไซยอค แม่น�้ำแห่งความตาย เพื่อมุ่งหน้าไปนูบร้าวัลเล่ย์ 18 เราสามารถขีอ่ ฐู แทนมอเตอร์ไซค์ได้ ด้วยเงิน 350 รูปี หรือราว 175 บาทต่อครึง่ ชัว่ โมง
18
21
b side
31 สิงหาคม 2560 เมือ่ คืนเรานอนในกระโจมริมแปงกอง เลค เพือ่ นในกลุม่ มีอาการแพ้ทส่ี ูง คือปวดหัว ไม่มแี รงและกินอาหารไม่ได้ อาการ ดู แย่และน่ าเป็ นห่วง ผมเลยบังคับให้มนั กินยาและดื่มน�ำ้ มากๆ ฝื น ใจทานอาหารเยอะๆ เพราะการเดิน ทางด้ว ยมอเตอร์ไ ซค์ หลายๆ วันแบบนี้ ใช้กำ� ลัง สมาธิ มากกว่านัง่ ในรถเก๋งมาก เราจึง จ�ำเป็ นต้องดูแลร่างกายและสภาพจิตใจของเราด้วย วันนี้เราขับรถกลับเลห์ มีรถยางแตกและอุบตั ิเหตุเกิดขึ้น ในกลุม่ เราทัง้ วัน เป็ นวันทีเ่ ราต้องแสดงน�ำ้ ใจต่อกันในการเดินทาง ช่ ว ยเหลือ กัน จะมาเห็น แก่ ต วั กัน ไม่ไ ด้ สุ ด ท้า ยเรามาถึง เลห์ ด้วยความเมามัน หลังจากทีช่ อ้ ปปิ้ งซื้อของฝากเล็กๆ น้อยๆ เราก็ มีปาร์ต้ กี นิ เบียร์กนั แถวๆ ร้านรถเช่า คืนนี้ยาววววววววไปพีน่ อ้ ง
1 กันยายน 2560 เราตื่นขึ้นมาด้วยอาการแฮงค์เบาๆ เก๋ๆ กันไป แต่หลังจาก กิน กาแฟร้อนไปท�ำให้เรากลับมาแมนเต็ม ร้อ ย พร้อ มที่จะขึ้น กาดุง ลา (Khardung La) ถนนทีส่ ูงสุดในโลกซีง่ อยู่ใน ‘ลาดักห์ (Ladakh)’ ในวันนี้จา้ เลยตบยาแพ้ความสูงไป 1 เม็ดเบาๆ ก่อน ออกเดินทาง พีเ่ จ้าของที่พกั เตือนผมว่า ถ้าเห็นคลา้ ยๆ เมฆฝน ปกคลุมภูเขา นัน่ ไม่ใช่ฝน แต่เป็ นสัณญาณบอกว่าหิมะก�ำลังจะมา ให้เราเตรียมพร้อมไว้ เราหวดมอเตอไซค์ฝ่าหิมะมาจนถึง กาดุง ลา จุดที่ถนน สู งที่สุดในโลก (5,600 เมตร) ที่น่ีออกซิเจนน้อยและหิมะตก แรงมาก แต่ผมต้องการที่จะชูพระบรมฉายาลักษณ์ของในหลวง รัชกาลที่ 9 ณ จุดๆ นี้ เพราะผมถือว่าผมสามารถขับมอเตอร์ไซค์ คู่ใจของผมมาส่งพระองค์ไปสวรรค์ได้สูงสุดแค่เพียงเท่านี้ แล ้วผม ก็ได้ทำ� สิง่ ทีต่ งั้ ใจไว้สำ� หรับทริปนี้สำ� เร็จแล ้ว หลังจากทีเ่ ราลงจากกาดุง ลา แล ้ว เรากลับเจอฝนห่าใหญ่ หลายสิบ กิโ ลเมตร ความหนาวเย็น ผสมกับ ความเปี ย กท�ำ ให้ พวกเราแทบจะช็อตไปดื้อๆ กันเลย สภาพพวกเราแย่กนั หมด เหมือนแพะตกน�ำ ้ วันนี้เราถึง นู บร้าวัลเล่ย ์ (Nubra Valley) และ พักทีน่ ่ี ผมมีไข้เล็กน้อย เลยจ�ำเป็ นต้องนอนพักเอาแรงในกระโจม กลางหุบเขากันหน่อย พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน
19
2 กันยายน 2560 วันนี้ผมตื่นมาพร้อมกับอาการผิดปกติทางสายตา คือ มองอะไรไม่ชดั เลย ปกติผมสายตาสัน้ 200 อยูแ่ ล ้ว แต่กไ็ ม่ได้สวม แว่นสายตาตลอดทริปเพราะไม่ได้จำ� เป็ นมากมายอะไร แต่วนั นี้ผม กลับ มองเท้า ตัว เองเบลอไปหมด เหมือ นกับ สายตาสัน้ ขึ้น แบบเฉียบพลัน ผมจ�ำเป็ นต้องยืมแว่นสายตาของเพือ่ นซึง่ สัน้ 300 มาใส่ถงึ จะมองเห็นและขับรถต่อไปได้ อาจจะเพราะความอ่อนล ้า ความหนาวเย็น หรือสภาพความกดอากาศต่างๆ ทีท่ ำ� ให้สายตาผม เพี้ยนไปในชัว่ ข้ามคืน แต่เราก็เดินทางต่อ เพือ่ มาขีอ่ ูฐที่ Sand Dune ทะเลทราย ใกล ้ๆ ทีม่ วี วิ ทัศน์ระดับห้าดาว การขีอ่ ูฐทีน่ ่รี าคาไม่แพงนัก ราวๆ 175 บาทต่อครึ่งชัง่ โมง ซึง่ ผมถือว่าคุม้ แสนคุม้ กับประสบการณ์ ชีวติ ทีป่ ระเมินราคาไม่ได้ ผมนี่รกั อูฐเลยจ้า เราผ่านกาดุง ลาอีกครัง้ เพือ่ เดินทางกลับเลห์ วันนี้อากาศเปิด ไม่หนาวทรมานเหมือนเมือ่ วาน พวกเราทุกคนเลยซื้อธงสีๆ สไตล์ ทิเบตมาผูกไว้ท่เี จดียท์ ่กี าดุง ลา เพื่อเสริมโชคลาภให้เดินทาง ปลอดภัย สายตาผมค่อนข้างโอเคขึ้นบ้างแลว้ ตอนกลับมาทีเ่ ลห์ เราเดินเก็บภาพความทรงจ�ำทีเ่ ลห์เป็ นวันสุดท้าย ก่อนจะเดินทาง กลับนิวเดลีในวันพรุ่งนี้ 3 กันยายน 2560 เราบินกลับเดลี ใช้เวลาในการเหินฟ้ าราวๆ ชัว่ โมงครึ่ง เพื่อกลับไปพบกับความดิบเถื่อนของเมืองหลวง แต่ในระหว่าง อยูบ่ นฟ้ า เราได้รบั ของขวัญชิ้นสุดท้ายจากเลห์ผา่ นมุมมองหน้าต่าง เครื่องบิน ได้แก่ วิวเทือกเขาสลับซับซ้อนกว้างไกลสุดขอบฟ้ า และหนึ่งในนัน้ คือเทือกเขาหิมาลัย ผมคิดว่าหากเราโชคดีกว่านี้ อาจจะได้เห็นยอดเขาเอเวอร์เรสต์ผ่านมุมมองแบบนี้กไ็ ด้ เราได้ท่ีพ กั ในเดลีเ ป็ น โรงแรมเก๋ๆ แนวบู ทีค ใจกลาง ความวุ่นวายในย่านสุดเถือ่ น เป็ นบ้านเราก็ประมาณหมอชิตเก่า ผสมสะพานควายยุคกุหลาบรุ่งเรือง พ่วงมาด้วยย่านส�ำเพ็ง แต่เอา ทัง้ หมดมารวมกันและคูณความดิบจากบ้านเราเข้าไปอีก 5 เท่า!!!! แต่ผมชอบนะ!!! ดิบสะใจดี ส�ำหรับคนชอบถ่ายภาพ นี่คอื สวรรค์ ของการกดชัตเตอร์เลยก็วา่ ได้ ถ่ายมุมไหนก็ได้อารมณ์
20
22
a side
21 19 บรรยากาศน่ารักๆ ของเมืองเลห์ ที่นักเดินทางต่างมาเยือน 20 วิถชี วี ติ รับจ้างของสามล้อถีบและสามล้อเครือ่ ง ทีเ่ ราพบเห็นได้ทกุ ตารางเมตรในเดลี 21 เทศกาลคานิเชียที่เราไปเจอพอดี คือเทศกาลที่เอาสีฝุ่นมาสาดใส่กันเพื่อบูชาพระพิฆเนศ คล้ายๆ สาดน�้ำแบบสงกรานต์บ้านเรา 22 ชนชั้นในอินเดียที่พบเห็นได้ง่าย แม้ในทัชมาฮาล สถานที่ชื่อก้องโลกในเมืองอักกร้า
22
5 กันยายน 2560 เราเตรียมตัวเดินทางกลับกรุงเทพในวันนี้ช่วง 5 ทุ่ม เลยมีเวลา ในการเดินเท้าเพื่อบันทึกภาพการมีชีวติ อยู่ของคนในเดลี โชคดีมาก ที่วนั นี้เป็ นวันคานิเชีย เฟสติวลั หรือภาษาบ้านเราก็คือเทศกาลแห่ พระพิฆเนศนัน่ เอง ผูค้ นต่างออกมาร้องร�ำท�ำเพลงกันตามถนนพร้อมกับ แห่พระพิฆเนศกันไปทัว่ เมือง แถมเอาสีฝ่ ุนมาสาดใส่กนั ก็คลา้ ยๆ สงกรานต์บา้ นเราทีส่ าดน�ำ้ ใส่กนั วันนี้ของผมจึงเต็มไปด้วยสีสนั เต็มที่ แต่ถามสักค�ำมัย้ ว่าตัวเป็ นสีขนาดนี้แล ้วกูจะกลับบ้านยังไง 555 16 วันที่ผ่านมาท�ำให้ผมเรียนรู อ้ ะไรมากมายจากการเดินทาง ถึงแม้วา่ จะล�ำบากไปบ้าง แต่มนั ก็ทำ� ให้ผมมองเห็นความสุขเล็กๆ ทีเ่ รา เคยมองข้ามในชีวติ ประจ�ำวันไปได้ เช่นการจิบชาอุ่นๆ ในวันทีห่ มิ ะตก การได้นอนหลับสนิทแม้ไม่ได้อาบน�ำ้ มาหลายวัน การได้ขม่ี อเตอร์ไซค์ ท่ามกลางวิวดาวอังคารอันสุดแสนงดงาม การได้เห็นความเป็ นและ ความตายทีว่ นเวียนอยู่ตามรายทางทีเ่ ราผ่านมา การได้เห็นความงดงาม ของศิลปะทีธ่ รรมชาติได้สร้างขึ้นเมือ่ หลายล ้านปี ก่อน และทีส่ ำ� คัญทีส่ ุด ในฐานะคนไทย คือการได้ชู พ ระบรมฉายาลัก ษณ์ข องรัช กาลที่ 9 บนถนนที่สูงที่สุดในโลก เหล่านี้คือประสบการณ์ท่ีประเมินค่ าไม่ได้ เราต้องออกเดินทางเพือ่ ไปค้นหามัน ผมหวังว่าสิง่ ต่างๆ ทัง้ ภาพถ่ายและ ไดอารี่ของผม จะเป็ นแรงบันดาลใจให้ทกุ คนทีไ่ ด้อ่านได้ออกไปใช้ชีวติ ได้ออกไปเดินทางเพือ่ ค้นหาความหมายของการใช้ชีวติ ในแบบของคุณเอง ขอบคุณมากครับผม
4 กันยายน 2560 วันนี้เราใช้เวลาเดินทางไปกลับราว 6 ชัว่ โมงเพือ่ ไปเมือง อักกร้า (Agra) เพื่อเที่ยวชมทัชมาฮาล หนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ ของโลก และ อักกร้า ฟอร์ต (Agra Fort) ป้ อมปราการโบราณ ทีแ่ ฝงปราสาทไว้ภายใน แหล่งก�ำเนิดฮาเร็มอันเลือ่ งชือ่ แต่ผมกลับ รู ส้ ึกคิดถึงการผจญภัยกับการขี่มอเตอร์ไซค์เมื่อ 12 วันก่ อน มากกว่าการเดินชมปราสาทในสไตล์ทวั ร์จนี จืดๆ 23
b side
J O U R N E Y & A M A Z I N G D I S H E S คอลัมน์นี้เกิดจากความตื่นเต้นของเราที่ได้ไปเจออาหารแปลกๆใหม่ๆแบบ...เฮ้ย!!! เพิ่งเคยเห็นง่ะ จากการท่องเที่ยวในต่างประเทศหรือแม้แต่ในประเทศเอง อาหารนั้นๆส�ำหรับหลายๆคนคงไม่รู้สึก wowww! แต่อีกหลายคนต้อง wowww! แน่ๆเพราะไม่รู้จักเช่นเดียวกับเรา ซึ่งอาจไม่ได้เป็นอาหารที่แปลกหรือเป็นอาหาร พืน้ บ้านธรรมดา แต่กท็ ำ� ให้เรา wowww! ได้ จนเราต้องไปค้นหาสูตรเพือ่ ทีจ่ ะปรุงรสชาติให้เหมือนหรือคล้ายทีส่ ดุ และบางทีกเ็ ป็นเเรงบันดาลใจให้เรา ดีไซน์เมนูใหม่ๆขึน้ มาซะเลย
02
03
04
01
KAKIAGE @ HIROSHIMA เรื่อง / ภาพ : Missน�้ำปู๋
Wowww …ก้อนเบ้อเริ่มเทิ่ม!!! ณ ร้านอิซากายะชื่อ Hamaken หัวมุมถนนตรงข้าม Enko Bridge, Hiroshima
Amazing Dish (Kakiage)
ถ้าพูดถึงเมืองฮิโรชิมา่ เราก็จะนึกถึง เมือ งที่โ ดนทิ้ง ระเบิด ปรมาณู บาดแผล จากสงครามโลกครั้ง ที่ 2 และนึ ก ถึ ง นกกระเรียนกระดาษพับ... เราไปฮิโรชิมา่ 2 ครัง้ ... ครัง้ แรกปี 2011 ไม่ได้คา้ ง ไป - กลับจากโอซาก้า… เราตัง้ ใจไป ในส่ ว นที่เ ป็ น ประวัติ ศ าสตร์ส �ำ คัญ ของเมือ ง... ‘Atomic Bomb Dome (โดมปรมาณูหรืออนุสรณ์ สัน ติ ภ าพฮิ โ รชิ ม่ า )’ เป็ นสถานที่ ส �ำ คัญ ที่ เ ป็ น สัญลักษณ์ท่ีแรก ซึ่งถ้าลงรถรางมาก็จะเจอเลย เราจะเห็นซากอาคารทีย่ งั เหลือรอด แต่ท้งิ ร่องรอย ความเสียหายจากระเบิดปรมาณู เอาไว้… เดินข้าม แม่นำ�้ ไปก็จะเป็ น ในส่วนของ ‘สวนอนุสรณ์สถาน 24
a side
สัน ติภ าพฮิโ รชิม่า ’ ซึ่ง มี ‘อนุสาวรียส์ นั ติภาพเด็ก (Children’s Peace Monument)’ มีรูปปัน้ เพื่อ เป็ น อนุ ส รณ์ เ พื่อ ร�ำลึกถึงเด็กหญิงซาดาโกะ และบ้า นนกกระเรี ย น กระดาษพัน ตัว ที่ ร อ้ ยบน เส้น ด้า ยมัด รวมกั น แขวนอยู่ มากมาย เดินต่อไปอีกหน่อยก็คอื ‘อนุสาวรียท์ ร่ี ะลึก ถึงเหยือ่ ผู ้เคราะห์รา้ ยจากระเบิดปรมาณู (Cenotaph For The Atomic Bomb Victims)’ และ ถัด ไปก็ จ ะเป็ น ‘พิพิธ ภัณ ฑ์ส นั ติ ภ าพฮิ โ รชิ ม่ า (Hiroshima Peace Memorial Museum)’ ใช้เวลากับพิพธิ ภัณฑ์พอสมควร เมื่อเราออกมา ก็ได้แต่มองหน้ากันพูดอะไรไม่ออก หดหู่ไปหมด...
06
07 05
ครัง้ ทีส่ องปี 2012… เราค้างทีฮ่ โิ รชิมา่ เพือ่ จะ ไปเที่ ย ว Miyajima… พอเรื อ ใกล ้ จะถึงเกาะ เราก็เห็นประตู โทริอิสีแดง อย่างเด่นชัด ใหญ่โตสวยงามเหมือนลอยอยู่ กลางทะเล... บนเกาะเราเดินเล่นถ่ายรูป ‘ศาลเจ้า อิ สึ กุ ชิ ม ะ (Itsukushima Shrine)’… เดินขึ้นเขาไป ‘วัดไดโชอิน (Daisho-In)’ ร่มรื่นสวยงาม พอกลับลงมา เราได้เ จอหญิง สาวใส่ ชุด กิโ มโนที่มีค ล า้ ยๆ มุ ง้ ครอบเดิ น สวน (ในใจตอนนั้น นึ ก ว่ า มุ ง้ ใช้กนั แมลงแน่ๆ? 555) จริงๆแล ้วชือ่ ชุด ‘Tsubo Shozoku’ เป็ นชุดแบบดัง้ เดิมของหญิงชัน้ สูงในยุคเฮอัน - คามากุระนัน่ เอง กลับ เข้า เมือ งฮิ โ รชิ ม าก็ ไ ด้เ วลาหาร้า นดื่ม กิ น ตอนเย็ น เดินมาเจอร้านหัวมุม ดู ภายนอกแลว้ ใช่ เลย ขึ้นไปนัง่ ชัน้ สอง ริมหน้าต่าง สังอาหารโดยใช้นิ ่ ้วชี้สงตามรู ั ่ ป... สิง่ ทีม่ าวางอยูต่ รงหน้าเรา หน้า ตาเหมื อ นของชุ ป แป้ งทอดก้อ นใหญ่ ๆ Wowww… ก้อนเบ้อเริ่มเทิ่ม!!! เราจัดการฉี กออกดู ก็รูว้ ่ามีทงั้ หอมหัวใหญ่ เศษปลาหมึก กุง้ ตัวเล็กๆ หอยตัวเล็กๆ ผักเขียวๆ ผสมกันแล ้วเอา ไปชุบแป้ งทอดนัน่ เอง เรียกว่า Kakiage และเมนู น้ ีก็ได้ทำ� ให้เรา ต่ อยอดดีไซน์เมนู ใหม่ข้ ึนมาชื่อว่า ‘ปู อดั ถัว่ (Crab Stick & Soy Bean In Batter)’
Crab Stick & Soy Bean In Batter by ครัวHIP
08
01 02 03 04 05 06 07 08 09
09
อนุสรณ์สันติภาพฮิโระชิม่า (Atomic Bomb Dome) แบบโมเดลจ�ำลอง ซึ่งลูกบอลสีแดงแสดงต�ำแหน่งที่ถูกทิ้งระเบิด นกกระเรียนกระดาษที่ร้อยบนเส้นด้ายและข้อความแห่งสันติภาพ ร้าน Hamaken อนุสาวรีย์ที่ระลึกถึงเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายจากระเบิดปรมาณู บรรยากาศรอบๆ บริเวณอนุสรณ์สันติภาพฮิโระชิม่า ประตูโทริอิสีแดง ( มุมมองจากศาลเจ้าอิสึกุชิมะ) หญิงสาวในชุด Tsubo Shozoku วัดไดโชอิน Miyajima
ดูสูตร ‘ปูอดั ถัว’่ ได้ท ่ี www.hipthailand.net > Eatery > Recipe
25
b side