เฮา (How) issue 2

Page 1

เฮา นิตยสารของเฮาชาวเชียงราย

o

ฉบับที่

02 ตุลาคม 2558

HOW MAGAZINE

ดอย ของ บ้าน เฮา แผนที่ ดอย ในเชียงราย

มอเตอร์เวย์ เชียงใหม่-เชียงราย ภูเขากับคนญี่ปุ่น

นางฟ้าเต้นร�ำ

ม่อนดอยในเชียงราย A

ZI

1

FR

EE

M

G A

N

E


2


3


4


Editor’s Talk ยินดีตอ้ นรับทุกทา่ นสูน่ ิตยสาร “เฮา” ฉบับที่ 2 “ดอยของบา้ นเฮา” ครับ “เฮา” ขอขอบคุณทา่ นผูอ้ ่านทีช่ ่นื ชมนิตยสาร “เฮา” ฉบับแรก และรออ่านฉบับใหมอ่ ยา่ งใจจดจ่อ “เฮา” ฉบับนีน้ อกจากจะเพียบพร้อมไปดว้ ยเนื้อหาจากนักเขียนประจ�ำของเราแลว้ “เฮา” ยังมีความยินดีน�ำเสนอ 5 คอลัมนใ์ หม่ เพิม่ สาระและสีสันการอ่านมากยิง่ ขึ้น เริม่ ตน้ กันที่ “จากเกียวโตถึงเจียงฮาย” โดย เกียวโตโคะมาชิ คนญีป่ ่ นจากเมื ุ องกียวโตผูม้ าอาศัยอยูใ่ นเมืองไทยนาน 15 ปี ทัง้ เกียวโตและเจียงฮายจึงเป็ นบา้ นทีผ่ เู้ ขียนคอยเปรียบเทียบความ เหมือนกับความตา่ งให้ไดข้ บคิดกัน ตามดว้ ย “เชียงรายไกลบา้ น ”โดย นางเกษร ทีจ่ ะมาถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิดของคนบา้ นเฮาที่ อยูไ่ กลบา้ น และมองยอ้ นกลับมายังเชียงรายดว้ ยความถวิลหา ตอ่ กันที่ “วางใจลงในจาน” โดย อุรุดา โควินท์ นักเขียนผูม้ ากความ สามารถในการเขียนและฝี มือการท�ำท�ำอาหาร รับรองไดว้ า่ เรื่องราวของอาหารในนีป้ รุงจากใจสง่ ถึงใจกันทีเดียว สว่ น “เรื่องเลา่ จาก โฮสเทล” โดย เธียรชัย จันทร์ตระกูล แห่ง Happynest Hostel เขามาพร้อมกับเรื่องเลา่ อันเกิดจากปฏิสัมพันธร์ ะหวา่ งเจ้าของโฮสเทล กับแขกผูม้ าพักและสายใยทีถ่ ักทอคน กับคนเขา้ ดว้ ยกัน ปิ ดทา้ ยที่ Read With Me โดย เด็กแวน่ เจ้าของร้านหนังสือเด็กภาษาอังกฤษมือสองทีต่ อ้ งการ แบง่ ปั นเรื่องราวดีๆ ในหนังสือเด็ก เพื่อร่วมสร้างวัฒนธรรมการอ่านตัง้ แตเ่ ด็กขึ้นมาในเชียงรายบา้ นเรา “เฮา” หวังใจเป็ นอยา่ งยิง่ วา่ ทา่ นผูอ้ ่านจะชื่นชอบเรื่องราวจากคอลัมนิสตท์ งั้ เกา่ และใหมท่ ีต่ า่ งทุม่ ก�ำลังแรงกายแรงใจขีดเขียนเรื่องราว ออกมา “เฮา” ฉบับนีว้ า่ ดว้ ยเรื่องราวของดอยหรือภูเขา เนื้อหาทุกบทตอนวา่ ดว้ ยเรื่องภูเขาทัง้ ทีม่ ีในเชียงรายทีอ่ ่นื ๆ จากแงม่ ุมทีแ่ ตกตา่ งกัน ออกไป แตจ่ ุดร่วมของทุกคนคืออยากให้ “ดอยของบา้ นเฮา”งดงามตลอดไป “เฮา” ขอให้ทุกทา่ นมีความสุขกับการอ่าน “เฮา” และ “ฮัก” “ดอยของบา้ นเฮา” ขอบคุณครับ สืบสกุล

Contents 06 แวดเวียงเจียงฮาย 08 Cover Story - ดอยของบา้ นเฮา 18 คนบา้ นเฮา - ครูแดง เตือนใจ ( กุญชร ณ อยุธยา) ดีเทศน์ 20 แผนทีข่ องเฮา - แผนทีด่ อยในเชียงราย 23 Read with me - แนะน�ำหนังสือเด็ก 24 เชียงรายไกลบา้ น - Speak to Mountain 25 ดนตรี - ฟั งโฟลก๋ แลว้ ขึ้นเขา 26 เฮารักสุขภาพ - Mountain Belief Treatment 27 จากเกียวโตถึงเจียงฮาย - ภูเขากับคนญีป่ ่ ุน 28 กวีนิพนธ์ - ความทรงจ�ำ 29 Fototalk - ดอย 30 ศิลปะ - ขึ้นเขาวาดรูปทีด่ อยช้าง 31 SE101 ธุรกิจเพื่อสังคม - ไขไ่ กอ่ ารมณด์ ี SE บนดอยทีเ่ ชียงราย 32 มองโลกในแงง่ าม - เพราะภูเขาคือโลกกวา้ ง และ จุดก�ำเนิดของเรื่องราว 33 คนเล็กเชียงรายแลนด์ - ดอยปูไขใ่ นความทรงจ�ำ 34 นักเขียนรับเชิญ - ชีวิตขา้ มดอย 36 Another Chapter - ดอยเหงา 38 ตามรอยลอ้ - มอ่ นดอยในเวียงเชียงราย 40 ชวนอ่านกับห้องสมุดเสมสิกขาลัย - ภู-มิ-ศาสตร์ ความรู้จากภูเขา เรื่องราวจากผูค้ น 42 อาเซียนและเฮา - ยอดเขาทีส่ ูงทีส่ ุดของชาวอาเซียน 44 เทใจใสจ่ าน - นางฟ้าเตน้ ร�ำ 46 กลางแปลง - จากลีล้ ับมาสูค้ วามโรแมนติก 48 เรื่องเลา่ จากโฮสเทล - ดอยตุง story 49 เรื่องเลา่ ในรอยทาง - Road trip to ดาลักห์ 50 ของกิน๋ บา้ นเฮา@เจียงฮาย - ผิงผิงโภชนา 51 i Draw what I eat - บะหมีย่ ูนนา

เฮา นิตยสารของเฮาชาวเชียงราย

o

HOW MAGAZINE

พิมพท์ ี่ ห้างหุ้นสว่ นสามัญ บลูมมิง่ ครีเอชัน่ กองบรรณาธิการนิตยสาร “ เฮา “ 154 หมูท่ ี่ 4 ต�ำบลริมกก อ�ำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย 57000 โทร. 095-4493070 Email: haohowmagazine@hotmail.com Facebook: http://www.facebook.com/nitiyasanhow บรรณาธิการ: สืบสกุล สนิทกุล กองบรรณาธิการ: กฤติยา ค�ำมูล, ชิดเดือน พฤกษพ์ งศาวลี, ปี ยญ ์ านันท์ รัตนจันทร์ ช่างภาพ : krittiya.k ออกแบบและภาพประกอบ: กะปิ นักเขียนประจ�ำ : ปากกาปากหัก, มาดามกนก สาวสองพันปี , เล็ก, ชูตองเป้, ปฐมพงษ,์ นา้ ปาน, May Wannalak, เมถุนารี, กะปิ , ชาลี จินย,์ บิณฑ,์ อภิชิต ศิริชัย, สันติภาพ วัฒนะ, พันธวัช ภูผาพันธกานต์ , เด็กแวน่ idrawwhatieat , นางเกษร , อุรุดา โควินท์ , เธียรชัย จันทร์ตระกูล , เกียวโตโคะมาชิ , นักเขียนรับเชิญ: ภู เชียงดาว 5


แวดเวียงเจียงฮาย

Painting with scissors โดยคอร์เนลลิสฮุค(CornelisHoek) เมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 กันยายน 2558 เวลา 18.00 น.มีพีธีเปิ ดงานนิทรรศการ Painting with scissors โดยคอร์เนลลิสฮุค(CornelisHoek)ศิลปิ นอาวุโสชาวเนเธอแลนด์ ทีพ่ �ำนัก ในจังหวัดเชียงราย โดยมี คุณประจญ ปรัชญส์ กุล รองผูว้ ่าราชการจังหวัดเชียงราย ให้เกียรติมาเป็ น ประธาน ณ ขัวศิลปะ เชียงราย นิทรรศการ Painting with scissors เป็ นการแสดงผลงานทีส่ ร้างสรรคด์ ว้ ยเทคนิคการปะติด รูปทรง ภาพถ่ายจากหนังสือพิมพ์ นิตยสาร โปสการ์ด หรือบรรจุภัณฑต์ า่ งๆ ดว้ ยความอดทนและ จินตนาการทีไ่ ร้ขอบเขตของศิลปิ น คอร์เนลลิสฮุค(เนเธอแลนด์ 1937) คอร์เนลลิสฮุคมีช่อื เสียงในระดับนานาชาติ ทางดา้ นศิลปะและการแสดงสด เคยผา่ นการเป็ นนัก ร้องโอเปรา และจัดแสดงคอนสิร์ต,จัดแสดงทัวร์ให้กับกลุม่ ทีม่ ีช่อื เสียงมากมาย อาทิเช่น โบลชอยบัลเลต่ ์ (Bolshoi Ballet) คณะบัลเลต่ แ์ ห่งประเทศจีน (the National Ballet of China) เดอะคิรอฟบัลเลต่ ์ (the Kirov Ballet) ในปี 2545 คอรเ์ นลลิสฮุคไดย้ า้ ยมาอยูท่ จี่ งั หวัดเชียงราย และเริม่ สรา้ งสรรคง์ านทีเ่ ขาเรียกวา่ ”Cornelages “ คอรเ์ นลเลจส์ ซึ่งมาจากชื่อของเขา บวกกับค�ำวา่ คอลลาจ (collage) เป็ นเทคนิคทีทเี่ ขาได้ สรา้ งสรรคข์ ้นึ ในตลอดระยะเวลากวา่ 10 ปี โดยมีการแสดงงานมาอยา่ งตอ่ เนื่องทัง้ ในและตา่ งประเทศนับ เป็ นโอกาสดีของชาวเชียงรายทีจ่ ะไดช้ มผลงานจ�ำนวน 83 ชิน้ ซึ่งแบง่ เป็ นชุดผลงานทัง้ หมด 5 ชุด อยา่ ง THE JOY TO CREATE,BALLET PERFORMANCE, BACK TO ITALY, YOU ARE WHAT YOU EAT, THE EVOLUTIONARY ROADลว้ นแตม่ รี ายละเอียดและเรื่องเลา่ อันนา่ ตื่นเตน้ นิทรรศการจัดแสดงวันที่ 20 กันยายน – 18 ตุลาคม 2558 ณ ห้องแสดงงานชัน้ 1 ขัวศิลปะ เชียงราย เปิ ดให้เขา้ ชมทุกวัน เวลา 10.00-19.00 น. ไมม่ ีคา่ เขา้ ชม https://www.facebook.com/events/119400375064597/

6


สมัชชาพลเมืองจังหวัดเชียงราย (สภาคนฮักเจียงฮาย) จัดการประชุมครัง้ ที่ ๔/๒๕๕๘ เมื่อวันที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๕๘ ที่ หอ้ งประชุม ศูนยว์ จิ ยั พืชสวนจังหวัดเชียงราย วา่ ดว้ ยเรื่อง ผังเมือง รวมจังหวัดเชียงราย เพื่อสรา้ งความเขา้ ใจการจัดท�ำผังเมืองรวม จังหวัดเชียงราย โดยมีผเู้ ขา้ รว่ มมาจากผูแ้ ทนประชาชนผูม้ สี ว่ นได้ เสีย ผูแ้ ทนทอ้ งที่ ผูแ้ ทนทอ้ งถิน่ ผูแ้ ทนหนว่ ยงานภาคราชการ ผู้ แทนภาคเอกชน ผูแ้ ทนสภาองคก์ รชุมชนต�ำบล กลุม่ องคก์ รชุมชน และภาคีพฒ ั นาภาคประชาสังคม กวา่ ๑๐๐ คน น.ส.อัจฉรา เทพไชย นักผังเมืองช�ำนาญการพิเศษ สนง.โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดเชียงราย ไดน้ ำ� เสนอรายงาน ร่ างผังเมืองรวมจังหวัดเชี ย งราย ก�ำหนดจัดผังเมืองรวมจังหวัด เชียงราย ๗ ประเภท ไดแ้ ก่ ทีด่ นิ ชุมชน ทีด่ นิ อุตสาหกรรมและคลัง สินคา้ ทีด่ นิ ชนบทและเกษตรกรรม ทีด่ นิ อนุรกั ษส์ งิ่ แวดลอ้ มเพื่อ การทอ่ งเทีย่ ว ทีด่ นิ อนุรกั ษป์ ่ าไม้ และทีด่ นิ อนุรกั ษเ์ พื่อสง่ เสริม เอกลักษณ์ศิลปะวัฒนธรรมไทย ซึ่ งอยู่ในขั้นตอนของการท�ำ ประชาพิ จ ารณ์ กอ่ นการประกาศบังคับใช้ในราชกิจจานุเบกษา เดือนตุลาคม ๒๕๕๘

ทั้ ง นี้ ผู้ เ ข้า ร่ ว มประชุ ม มี ค� ำ ถามและข้อ เสนอแนะต่ อ ผั ง เมื อ ง เชียงราย ดังนี้ ๑)การน�ำทีด่ นิ สาธารณประโยชน์ ต.บุญเรือง อ.เชียงของ จ�ำนวน 3,000 ไร่ สรา้ งนิคมอุตสาหกรรม ควรอนุรกั ษไ์ วเ้ ป็ นป่าชุ่มน้�ำและ ด�ำเนินการจดทะเบียนให้เป็ นพื้นทีช่ ่มุ น้�ำจังหวัดเชียงราย เขา้ สูแ่ ผนการ อนุรกั ษพ์ ้นื ทีช่ ่มุ น้�ำตามอนุสญ ั ญา RAMSA ๒) ควรมีกลไกการมีสว่ น ร่วมของภาคประชาสังคมต่อการพิจารณาก�ำหนดผังเมืองรวมของจังหวัด เชียงราย๓)จัดรับฟั งความคิดเห็นควรมีขนั้ ตอนทีเ่ ป็ นระบบ จัดกลุม่ ผูม้ สี ว่ น ไดส้ ว่ นเสีย มีการอภิปรายแลกเปลีย่ นกันโดยละเอียดทุกขัน้ ตอน๔)เยียวยา ผูท้ ไี่ ดร้ บั ผลกระทบจากการเปลีย่ นแปลงผังเมืองรวมจังหวัดเชียงราย ผูท้ ไี่ ด้ รับผลกระทบ เช่น ผูท้ สี่ ญ ู เสียทีด่ นิ ทางการเกษตรเป็ นตน้

7


Cover Story

ดอยของบ้านเฮา เมื่อเอ่ยถึง “ดอย” หรื อ “ภูเขา” ของบ้ านเรา คุณผู้อา่ น คิดถึงอะไรกันบ้ างครับ ? หากใครคิดถึงดอยทีเ่ ป็ นแหล่งท่องเทีย่ วยอดนิยม ขอให้ พลิกไปยังหน้ าแผนทีใ่ นฉบับนี ้ได้ เลยครับมีดอยอยูต่ งั ้ 12 ดอย ลองนับดูนะครับว่าเคยไปเที่ยวตามดอยในแผนที่ครบกันหรื อยัง ชอบดอยไหนมากทีส่ ดุ และหนาวนี ้จะไปเทีย่ วดอยไหนดี ส่วนคนที่ค้ นุ ตากับดอยที่ตงอยู ั ้ ใ่ นตัวเมืองเชียงราย อย่า ลืมเปิ ดไปยังคอลัมน์ตามรอยล้ อที่หน้ า 38 รับรองได้ วา่ ดอยแต่ละ ม่อ นล้ ว นบรรจุเ รื่ อ งราวทางประวัติศ าสตร์ ก ารเมื อ ง เศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมเอาไว้ อย่างน่าสนใจ ส�ำหรับหลายต่อหลายคนที่เคยไปดอยแม่สลองมาแล้ ว ลองสัมผัสเรื่ องราวของ ภู เชียงดาว (นักเขียนรับเชิญ) เมื่อครัง้ ยัง สัญจรอยูบ่ นดอยรอยต่อเชียงใหม่ เชียงราย ในหน้ า 34 ส่วนนาย หมูอ้วนกับยายตัวเล็กกลับไปดอยแม่สลองอีกเพื่อไปชิมอาหาร จีนยูนนานบนดอยแม่สลอง รี บเปิ ดไปที่หน้ า 50 เลยครับคุณอาจ จะรู้สกึ อยากกลับไปดอยแม่สลองอีกครัง้ ก็เป็ นได้ ผมเชื่อแน่วา่ คงมีคนจ�ำนวนไม่น้อย (รวมถึงตัวผมด้ วย) ที่คิดไม่ถึงว่าบนดอยของบ้ านเฮา นอกจากจะมีทงชาและกาแฟ ั้ คุณภาพแล้ ว เรายังมีไข่ไก่ออแกนิคที่เลี ้ยงไก่แบบธรรมชาติ ผลิต ไข่ไก่ปลอดสารพิษ และเป็ นธุรกิจเพื่อสังคมด้ วยนะครับว่าแล้ วก็ พลิกไปหน้ า 31 โดยพลัน เกริ่นถึงคอลัมน์ตา่ งๆ ในนิตยสารเฮาฉบับนี ้ก็เพราะว่ามัน มี เ รื่ อ งราวอั น หลากหลายและแตกต่ า งกั น เมื่ อ คิ ด ถึ ง ดอย เรามองดอยได้ จากหลายแง่มมุ ตามความสนใจความคิด ความ เชื่อ และประสบการณ์ของแต่ละคน ในทีน่ ี ้ผมอยากชักชวนผู้อา่ น ไปท�ำความรู้จกั กับดอยด้ วยค�ำถามทีว่ า่ ดอยของบ้ านเฮามีป่าหลง เหลือสักเท่าไหร่? มีอทุ ยานแห่งชาติและวนอุทยานแห่งชาติอะไร บ้ าง? มีผ้ คู นกีก่ ลุม่ ชาติพนั ธุ์ทอี่ าศัยอยูบ่ นดอย? พวกเขามีพธิ ีกรรม เกี่ยวกับการรักษาป่ าอะไรบ้ าง?ปั ญหาหมอกควันไฟป่ ามาจากไหน? เราจะมีทางแก้ ไขอย่างไร? และท้ ายสุดถนนมอเตอร์ เวย์เชียงใหม่ – เชียงราย ต้ องตัดดอย ผ่านป่ านัน้ จะสร้ างผลกระทบมากน้ อย แค่ไหน? แต่กอ่ นทีจ่ ะไปตอบค�ำถามข้ างต้ นของผู้เขียน เราลองมา ท�ำความรู้จกั สภาพภูมปิ ระเทศของเชียงรายกันก่อนดีกว่า เชียงราย มีภมู ปิ ระเทศเป็ นเทือกเขาสูงในทวีปตอนเหนือของประเทศ

88

(North Continental Highland) มีพื ้นราบสูงเป็ นหย่อมๆ บริเวณ เทือกเขาจะมีความสูงประมาณ 1,500 – 2,000 เมตร จากระดับน� ้ำ ทะเล บริเวณส่วนทีร่ าบตามลุม่ แม่น� ้ำส�ำคัญในตอนกลางของพื ้นที่ ได้ แก่ อ�ำเภอพาน เมือง แม่จนั แม่สาย เชียงแสน และเชียงของ มี ความสูงประมาณ 410 – 580 เมตร จากระดับน� ้ำทะเลเชียงรายมี ภูเขาจ�ำนวนมากล้ อมรอบ โดยมีเทือกเขาใหญ่ 3 เทือกเขาพาดผ่าน ได้ แก่ เทือกเขาแดนลาวทีเ่ ริ่มต้ นจากทางตอนใต้ ของประเทศจีน พม่า และไทย ทางจังหวัด เข้ ามาทางทิศตะวันตกของ จังหวัดเชียงราย โดยมียอดเขาส�ำคัญของจังหวัดเชียงรายคือดอย ตุงและดอยสามเส้ าในเขตอ�ำเภอแม่จนั นอกจากนี ้ยัง ทอดตัวไป ยังเชียงใหม่ แม่ฮอ่ งสอน และบรรจบกับเทือเขาถนนธงชัย ( เทือก เขาแดนลาวในช่วงที่เป็ นแนวกันพรมแดนระหว่ ้ างประเทศไทยกับ ประเทศพม่า มีความยาวประมาณ 120 กิโลเมตร ) เทือกเขาผีปันน� ้ำ ตังอยู ้ ต่ ามแนวเหนือ-ใต้ ตังแต่ ้ ตอนใต้ ของจังหวัดเชียงราย ต่อเนือ่ งไปทางทิศตะวันตกของจังหวัดพะเยา ผ่านจังหวัดแพร่ และสิน้ สุดที่จังหวัดล�ำปางมี ยอดเขาส�ำคัญใน จังหวัดเชียงรายคือดอยช้ าง ดอยวาวี และดอยกาดผี เป็ นต้ น เทือก เขาผีปันน� ้ำได้ ชื่อมาจากการเป็ นสันปั นน� ้ำให้ ไหลไปทางทิศเหนือ ส่วนหนึ่งและไหลลงไปทางทิศใต้ อีกส่วนหนึ่ง ตามลักษณะความ ลาดชันของแนวสันเขา ทางน� ้ำทีไ่ หลไปทางทิศเหนือ ได้ แก่ แม่น� ้ำ ฝาง น� ้ำแม่กก น� ้ำแม่จนั และน� ้ำแม่องิ เป็ นต้ น ซึง่ แม่น� ้ำเหล่านี ้จะ ไหลลงสูแ่ ม่น� ้ำโขงต่อไป ส่วนทางน� ้ำทีไ่ หลลงทางทิศใต้ นนได้ ั ้ แก่ แม่ น� ้ำปิ ง วัง ยม และน่าน อันเป็ นต้ นก�ำเนิดของแม่น� ้ำเจ้ าพระยา เทื อ กเขาหลวงพระบาง วางตัวทางทิศตะวันออกเฉียง เหนือของอ�ำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ทอดผ่านลงมาทางทิศ ใต้ ในเขตจังหวัดพะเยา แพร่ น่าน และอุตรดิตถ์ เป็ นแนวพรมแดน กันระหว่ ้ างประเทศไทยกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เอาละครั บอารั มภบทกันมาพอหอมปากหอมคอแล้ ว เนื อ้ หาต่อจากนี เ้ ป็ นต้ น ไป ขอเชิญท่านผู้อา่ นร่วมกันท�ำความรู้จกั ดอยของบ้ านเฮาเพิม่ เติมตามหัวข้ อทีส่ ามารถแยกอ่านกันได้ เลยครับ ว่าแต่เมือ่ อ่านจบแล้ว เมือ่ เอ่ยถึง “ดอย” หรือ “ภูเขา” ของบ้ านเรา คุณ ผู้อา่ นคิดถึงอะไรกันบ้ างครับ ?เขียนมาแบ่งกัน “เฮา” ได้ นะครับ


คนบนดอยในเชียงราย

เมื่ อกล่าวถึงดอยก็ ต้องคิดถึงคนที่ อาศัยและท�ำกิ นอยู่บน ดอยคูก่ นั สถาบันวิจยั และพัฒนาพื ้นที่สงู (องค์การมหาชน) ซึง่ เป็ น หน่วยงานสนับสนุนโครงการหลวงที่มีบทบาทในการพัฒนาพืน้ ที่บน ดอย ได้ ให้ ความหมายของพื ้นที่สงู เอาไว้ วา่ “เป็ นพื ้นที่ที่เป็ นภูเขาหรื อ พื ้นที่ที่มีความสูงกว่า 500 เมตรจากระดับทะเลขึ ้นไป” ดังนันแล้ ้ วเวลา ที่เราพูดถึงดอย ภูเขา หรื อ พื ้นที่สงู จึงสามารถใช้ สลับกันไปมาได้ บนดอยเป็ นที่ อ ยู่ แ ละที่ ท� ำ กิ น ของกลุ่ ม ชาติ พั น ธุ์ ต่ า งๆ ครอบคลุมพื ้นที่ประมาณ 67.22 ล้ านไร่ คิด เป็ นร้ อยละ 53 ของพื ้น ที่ใน 20 จังหวัด ได้ แก่เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮอ่ งสอน พะเยา ล�ำพูน แพร่นา่ น ล�ำปาง ตาก เพชรบูรณ์ เลย พิษณุโลก สุโขทัย ก�ำแพงเพชร กาญจนบุรี อุทยั ธานี สุพรรณบุรี ราชบุรี ประจวบ คีรีขนั ธ์ และเพชรบุรี อยูใ่ นบริ เวณลุม่ น� ้ำหลักของประเทศไทย 14 ลุม่ น� ้ำ ประชากรบนพื ้นที่ สูงประกอบด้ วยกลุม่ ชาติพนั ธุ์ 15 กลุม่ มีจ�ำนวนประชากร 1,203,149 คน (พ.ศ. 2545) อยูใ่ นหมูบ่ ้ านทังหมด ้ 4,192 หมูบ่ ้ าน ข้ อมูลจากศูนย์พฒ ั นาชาวเขาจังหวัดเชียงราย กรมพัฒนา ชาวเขาและนิคมสร้ างตนเอง กระทรวงพัฒนาสังคมและความมัน่ คง ของมนุษย์แสดงให้ เห็นว่าจังหวัดเชียงรายมีคนอยู่บนดอยจ� ำนวน13 กลุม่ ชาติพนั ธุ์ ได้ แก่อาข่า (อีก้อ) ลาหู่ (มูเซอ)ม้ ง (แม้ ว) จีนยูนนาน (จีน ฮ่อ)เมี่ยน (เย้ า) ไทยใหญ่ไทยพื ้นราบกะเหรี่ ยง (ปกากญอ) ลีซู (ลีซอ) ลัวะขมุไทยลื ้อและละว้ าจ�ำนวน 812 หมูบ่ ้ านหรื อกลุม่ บ้ าน 47,581 ครอบครัว ประชากร 237,816คน

บนดอยของจังหวัดเชียงรายมีกลุม่ คน 5 กลุม่ แรกที่อาศัย อยูม่ ากที่สดุ ประกอบด้ วย อาข่า 74,352 คน ลาหู่ 52,089 คนม้ ง 31,963 คน จีนยูนนาน 15,826 คน และเมี่ยน14,158 คนส่วนอ�ำเภอ ที่กลุม่ คนอยูบ่ นดอยมากที่สดุ 5 ล�ำดับแรก ประกอบด้ วย อ�ำเภอแม่ฟ้า หลวง 76,627 คน อ�ำเภอแม่สรวย 41,219 คน อ�ำเภอเมือง 25,501 คน อ�ำเภอเวียงแก่น 18,080 คนและอ�ำเภอแม่จนั 16,539 คน ส่วนอ�ำเภอ ที่ไม่มีคนอาศัยอยูบ่ นดอยเลยก็คืออ�ำเภอป่ าแดด

11

1

5 3

2

14 13

9 10 16 12 17 15

8

4

7

6

**จ�ำนวนประชากรบนดอยแยกตามอ�ำเภอในจังหวัดเชียงราย จ�ำนวนหมูบ่ ้ าน / จ�ำนวนครอบครัว รวมประชากร กลุม่ ชาติพนั ธุ์ กลุม่ บ้ าน 74,352 1.อาข่า (อีก้อ) 14,155 14,155 52,089 2.ลาหู่ (มูเซอ) 10,964 10,964 31,963 3.ม้ ง (แม้ ว) 6,030 6,030 15,826 4.จีนยูนนาน (จีนฮ่อ) 2,974 2,974 14,158 5.เมี่ยน (เย้ า) 3,035 3,035 13,828 6.ไทยใหญ่ 1,992 1,992 9,366 7.ไทยพื ้นราบ 2,673 2,673 7,564 8.กะเหรี่ ยง 1,899 1,899 6,971 9.ลีซู (ลีซอ) 1,446 1,446 5,788 10.ลัวะ 1,059 1,059 2,763 11.ขมุ 690 690 2,661 12.ไทยลื ้อ 471 471 484 13.ละว้ า 193 193 237,816 รวมทังหมด ้ 812 47,581

อ�ำเภอ ประชากร (คน) 1. แม่ฟ้าหลวง 76,627 2. แม่สรวย 41,219 3. เมือง 25,501 4. เวียงแก่น 18,080 5. แม่จนั 16,539 6. เวียงป่ าเป้า 13,798 7. เทิง 13,077 8. เชียงของ 9,040 9. เชียงแสน 8,785 10. ดอยหลวง 4,117 11. แม่สาย 3,073 12. พญาเม็งราย 2,815 13. พาน 2,704 14. แม่ลาว 1,064 15. ขุนตาล 587 16. เวียงเชียงรุ้ง 252 17. ป่ าแดด 0 รวม 237,816 99


ในดอยมีผนื ป่า

จังหวัดเชียงรายมีเนื ้อที่ทงหมด ั้ 7,235,954.86 ไร่ มีพื ้นที่ป่าไม้ จ�ำนวน 2,987,963.46 ไร่ คิดเป็ นร้ อยละ 44.2 ของพื ้นที่ทงหมด ั้ พื ้นที่ป่าไม้ แบ่งออกเป็ น 2 ประเภทใหญ่ คืออุทยานแห่งชาติและวนอุทยานแห่งชาติ

อุทยานแห่งชาติ(National Park) เป็ นพื น้ ที่ ที่ มี ค วามส� ำ คั ญ ทางระบบ นิ เ วศวิ ท ยา ได้ รับการคุ้มครองเอาไว้ เพื่อ ประโยชน์ในการศึกษาวิจยั และเป็ นแหล่ง อุทยานแห่งชาติดอยหลวง พักผ่อนหย่อนใจของประชาชน ในจังหวัด เชียงรายมีอทุ ยานแห่งชาติจ�ำนวน 5 แห่ง เนื ้อที่ 731,250 ไร่ ครอบคลุมพื ้นที่ ดังนี ้ อ�ำเภอพาน แม่สรวย เวียงป่ าเป้า จังหวัด เชียงราย และอ�ำเภอแม่ใจ อ�ำเภอเมือง จังหวัดพะเยา อ�ำเภอวังเหนือ อ�ำเภองาว จังหวัดล�ำปาง

อุทยานแห่งชาติขุนแจ มีเนื ้อที่ 168,750 ไร่ ครอบคลุมพื ้นที่ อ�ำเภอเวียงป่ าเป้า จังหวัดเชียงราย

วนอุทยาน (Forest Park) เป็ นแหล่งธรรมชาติทมี่ พี ื ้นทีข่ นาดเล็กกว่าอุทยานแห่งชาติ ทีร่ ัฐจัดไว้ ให้ เป็ นสถานทีพ่ กั ผ่อนหย่อนใจของประชาชน และสามารถพัฒนาเป็ นแหล่งท่องเทีย่ ว ของจังหวัดต่อไปในจังหวัดเชียงรายหมีวนอุทยานทังหมด ้ 27 แห่ง ใน 14 อ�ำเภอ ดังนี ้ 1.อ�ำเภอเวียงป่ าเป้า (1) วนอุทยานน� ้ำตกแม่โท มีน� ้ำตกขนาดเล็ก หลายชัน้ เกิดจากล�ำห้ วยแม่โท มีน� ้ำไหลตลอดปี 2.อ�ำเภอแม่ สรวย (2) วนอุทยานชาพันปี แหล่งทีพ่ บต้ นชาพันปี ทใี่ หญ่ทสี่ ดุ ของประเทศไทย จ�ำนวนหลายต้ น (3) วนอุทยานน� ้ำตกห้ วยน� ้ำอุน่ มีน� ้ำตกห้ วยน� ้ำอุน่ ทีม่ คี วามสวยงาม สูงประมาณ 35 เมตร (4) วนอุทยานภูชมดาว มีถ� ้ำแม่สรวยข้ างในถ� ้ำเป็ นเหมือนเสาพระวิหาร ชาวบ้ านตังชื ้ ่อว่า “ถ� ้ำพระวิหาร” (5) วนอุทยานน� ้ำตกมิโอฉ่อแต๊ ะมีน� ้ำตกมิโอฉ่อแต๊ ะขนาด 9 ชัน้ แต่ละชันสู ้ งประมาณ 30-50 เมตร 3.อ�ำเภอเมือง (6) วนอุทยานดอยกาดผี มีทวิ ทัศน์สวยงาม สามารถชื่นชมทะเลหมอกได้ (7) วนอุทยานน� ้ำตกตาดสวรรค์นกั ท่องเทีย่ วนิยมเดินทางเช้ าไปเย็นกลับ และนอนพักแรม 4.อ�ำเภอแม่ จนั (8) วนอุทยานน� ้ำตกห้ วยก้ างปลามีน� ้ำตกห้ วยก้ างปลา เป็ นน� ้ำตกขนาดเล็ก น� ้ำไหลตลอดปี สูง 4 ชัน้ 5.อ�ำเภอแม่ ฟ้าหลวง (9) วนอุทยานน� ้ำตกแม่สลอง มีน� ้ำตกแม่สลอง เป็ นน� ้ำตกขนาดกลาง มีน� ้ำไหลตลอดปี (10) วนอุทยานดอยหัวแม่คำ� มีทงุ่ ดอกบัวตองบานครอบคลุมพื ้นทีป่ ระมาณ 1,500 ไร่ ออกดอกในฤดูหนาว (11) วนอุทยานสันผาพญาไพรเป็ นสันดอยทีย่ าวและโดดเด่นชมทิวทัศน์ได้ รอบด้ านรวมถึงทิวทัศน์ของประเทศพม่า 6. อ�ำเภอแม่ สาย (28)วนอุทยานถ� ้ำหลวง-ขุนน� ้ำนางนอน มีถ� ้ำให้ ทอ่ งเทีย่ ว คือ ถ� ้ำหลวง ถ� ้ำพระ ถ� ้ำเลียงผา ถ� ้ำมัลติกาเทวี หรื อถ� ้ำพญานาค ขุนน� ้ำนางนอน 10


อุทยานแห่งชาติแม่ปืม

อุทยานแห่งชาติภูซาง

อุทยานแห่งชาติล�ำน�้ำกก

มีเนื ้อที่ 227,312 ไร่ ครอบคลุมพื ้นที่ อ�ำเภอเมือง อ�ำเภอพาน อ�ำเภอป่ าแดด จังหวัดเชียงราย, อ�ำเภอแม่ใจ อ�ำเภอ เมือง อ�ำเภอภูกามยาว จังหวัดพะเยา

เนื ้อที่ 178,050 ไร่ ครอบคลุมพื ้นทีอ่ �ำเภอ เทิง จังหวัดเชียงราย อ�ำเภอเชียงค�ำและ อ�ำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา

มีเนื ้อที่ 467,185 ไร่ ครอบคลุมพื ้นที่ อ�ำเภอเมือง อ�ำเภอแม่จนั อ�ำเภอแม่ลาว อ�ำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย

7.อ�ำเภอเชียงแสน (13) วนอุทยานน� ้ำตกขุนน� ้ำยาบมีน� ้ำตกขุนน� ้ำยาบ6 ชัน้ มีจดุ ชมต้ นไทรยักษ์ ล้อมต้ นมะห้ อ สูงประมาณ 35 เมตร (14) วนอุทยานน� ้ำตกวังธารทอง เป็ นสถานทีพ่ กั แรมศึกษาหาความรู้ทางธรรมชาติ (15) วนอุทยานริมโขง เหมาะแก่การท่องเทีย่ วเชิงนิเวศน์ตามเส้ นทางเดินเท้ า 8.อ�ำเภอเชียงของ (16) วนอุทยานห้ วยทรายมาน รองรับนักท่องเทีย่ วได้ 300 คน ต่อวัน มีลานกางเต็นท์ (17) วนอุทยานห้ วยน� ้ำช้ างมีความหลากหลายทางธรรมชาติ มีสภาพป่ าทีอ่ ดุ มสมบูรณ์ 9.อ�ำเภอขุนตาล (18) วนอุทยานน� ้ำตกศรี ชมภูมนี � ้ำตกขนาดเล็ก จ�ำนวน 4 ชัน้ แต่ละชันสู ้ งประมาณ 3-10 เมตร (19) วนอุทยานพญาพิภกั ดิเ์ ป็ นยอดเขาสูงทีม่ ที วิ ทัศน์สวยงามในเทือกเขาดอยผาหม่น 10.อ�ำเภอเทิง (20) วนอุทยานภูชี ้ฟ้า มีหน้ าผาสูงชัน เป็ นจุดชมวิวทีส่ วยทีส่ ดุ โดยเฉพาะในช่วงเดือน ตุลาคม – กุมภาพันธุ์จะสวยงามเป็ นพิเศษ 11.อ�ำเภอเวียงแก่ น (21) วนอุทยานถ� ้ำผาแล มีถ� ้ำผาแลซึง่ เป็ นถ� ้ำทีม่ คี วามหลากหลายจ�ำนวนหลายถ� ้ำ มีลำ� น� ้ำงาวไหลผ่านตลอดปี 12.อ�ำเภอพญาเม็งราย (22) วนอุทยานน� ้ำตกตาดควัน มีน� ้ำตกตาดควันทีส่ วยงามเนื่องจากเมือ่ น� ้ำตกลงมากระทบกับผิวน� ้ำข้ างล่างจนเกิดละอองน� ้ำคล้ าย ควันสีขาวปกคลุมไปทัว่ บริเวณ (23) วนอุทยานน� ้ำตกตาดทองมีน� ้ำตกห้ วยตาด และอ่างเก็บน� ้ำห้ วยก้ าง ทีส่ ามารถพัฒนาเป็ นสถานทีพ่ กั ผ่อนและท่องเทีย่ วของชุมชน 13.อ�ำเภอเวียงชัย (24) วนอุทยานดอนศิลา – ผางามมีน� ้ำตกแม่ต๊าก ขนาด 3 ชัน้ น� ้ำไหลตลอดปี สูง 5 – 10 เมตร 14.อ�ำเภอเวียงเชียงรุ้ ง (25) วนอุทยานดอยพระบาทกราบรอยพระพุทธบาท และชมวิวมุมสูงเห็นตัวเมืองเชียงราย (26) วนอุทยานน� ้ำตกห้ วยแม่สกั มีน� ้ำตกห้ วยแม่สกั ชันเดี ้ ยวสูงประมาณ 15 เมตร มีน� ้ำไหลตลอดปี (27) วนอุทยานน� ้ำตกตาดสายรุ้งอยูใ่ นเขตป่ าสงวนแห่งชาติป่าห้ วยสักและป่ าแม่กกฝั่ งขวา 11


พิธีกรรมกับ การรักษาป่า ของคนบนดอย

ชนเผ่า “เมี่ยน” “ซิบตะปูงเมีย้ น” เป็ นพิธีบวงสรวงเซ่น ไหว้ สิ่ ง ศัก ดิ์ สิ ท ธิ์ ป ระจ� ำ ชุ ม ชนชนเผ่ า เมี่ยนในช่วงของการเปลี่ยนฤดูกาลของ แต่ ล ะฤดูเ พื่ อ ให้ ช่ ว ยปกป้ องคุ้ม ครอง คนในชุม ชนให้ อ ยู่เ ย็ น เป็ นสุข ตลอดปี จะประกอบพิธีในพื ้นที่ป่าต้ นน� ้ำ ซึง่ เป็ น พื ้นที่ต้องห้ ามเด็ดขาด

12 12

พิธีกรรมเป็ นการให้ ความหมายต่ อสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่คน แต่ ละกลุ่มมีปฏิสมั พันธ์ ด้วย เช่ นเดียวกันกับพิธกี รรมการรักษา ป่ าของคนบนดอยซึ่งแสดงให้ เห็นถึงมุมมองของกลุ่มชาติพนั ธุ์ท่ ี มีต่อภูเขาและผืนป่ าพิธกี รรมเป็ นสื่อส่ งมอบความรู้ ความเข้ าใจ ในวิถธี รรมชาติจากรุ่นสู่ร่ ุน บางพิธกี รรมอาจลบเลือน สูญหาย บางพิธกี รรมได้ รับการรือ้ ฟื ้ นขึน้ มาใหม่ เพื่อเป็ นกลยุทธ์ ในการ รักษาป่ า เราลองมาดูกันว่ าแต่ ละกลุ่มชาติพนั ธุ์ท่ อี ยู่บนดอยมี พิธีกรรมอะไรบ้ างที่เกี่ยวข้ องกับการรั กษาป่ า แหล่ งข้ อมูล 1.มูลนิธิพฒ ั นาชุมชนและเขตภูเขา ( พชภ.) 2.สมาคมศูนย์รวมการศึกษาและวัฒนธรรมของชาวไทยภูเขาในประเทศไท

ชนเผ่า “ม้ง” “ดงเซ้ ง” เป็ นพิธีกรรมระดับชุมชนชนเผ่า ม้ งประกอบพิธีชว่ งเทศกาลปี ใหม่ของทุกปี เป็ นการบนบานเซ่นไหว้ เทพเจ้ า 4 องค์เทพ ถือติ(เทพที่ดแู ลผืนดินผืนป่ าและมนุษย์) ละแล่งติจอื ( เทพทีด่ แู ลสัตว์ป่า ) ฝื อแล่ง หรื อเหยาแล่ง(เทพที่ดแู ลสัตว์กินเนื ้อหรื อ ดุร้าย ) จี ้เฮ้ งโล่งเม่ง(เทพทีด่ แู ลพื ้นดินและ ใต้ พิภพ)ให้ มาปกป้องคุ้มครองทรัพยากร และชุมชนให้ อยูด่ ีมีสขุ ซึง่ จะประกอบพิธีที่ ต้ นไม้ ใหญ่ใกล้ หมูบ่ ้ านและป่ าบริเวณต้ นไม้ นันขึ ้ ้นอยูถ่ อื เป็ นป่ าศักดิส์ ทิ ธิข์ องชุมชน

ชนเผ่า “กะเหรี่ยง” “ ห ลื่ อ ป ก่ า ” พิ ธี ก ร ร ม ข อ ง ช น เ ผ่ า กะเหรี่ ยงเพื่ อ บอกกล่ า วเทพารั ก ษ์ เจ้ าน� ำ้ เจ้ าป่ าเจ้ าเขาซึ่ ง ถื อ ว่ า เป็ น เจ้ าของทรัพยากรธรรมชาติให้ รับทราบ เจตนารมณ์ของคนในชุมชนที่จะปกป้อง ผืนป่ านี ้โดยไม่เข้ าไปท�ำประโยชน์ใดๆใน เขตอาณาบริเวณผืนป่ า “หลือ่ ปก่า” จึง เป็ นผืนป่ าหนึง่ ทีม่ คี วามอุดมสมบูรณ์


ชนเผ่า “ลีซู” “อีด๊ ่ ามาหลั๊วะ” พิธีกรรมของชนเผ่าลีซทู �ำกันอย่างต่อ เนื่องทุกปี เป็ นการคืนผืนป่ าให้ กบั เทพารักษ์ และแสดง ความขอบคุณเทพต่างๆที่ปกป้องคุ้มครองชาวลีซูเช่น อี๊ดา่ มา(เทพแห่งสรรพสิง่ )มีชือต่ามอ(เทพแห่งลม) หวะ วู้สือผ่า(เทพแห่งขุนเขา) หวะสือ(เทพป้องกันสิง่ ชัว่ ร้ าย) บริ เวณป่ าผืนนี ้จึงถือเป็ นป่ าศักดิ์สิทธิ์และมีความอุดม สมบูรณ์

ชนเผ่า “ลัวะ” “เยียน” คือป่ าที่ประกอบพิธีกรรมของชนเผ่าลัวะ เพื่ อ การอนุรั ก ษ์ ป่ ารอบๆพื น้ ที่ ข องไร่ ห มุน เวี ย น และเป็ นจุดประกอบพิธีเลี ้ยงผีแนวกันไฟทุกครัง้ ที่ ได้ ท�ำไร่ หมุนเวียนเป็ นการป้องกันไม่ให้ เข้ าไปท�ำ ประโยชน์ใดๆในพื ้นที่นี ้เป็ นเขตห้ ามตัดไม้ ท�ำลาย ป่ าหาก ฝ่ าฝื นจะลงโทษตามระเบียบของชุมชน

ชนเผ่า “ลาหู่” “มอเลเว” พิธีกรรมของชนเผ่าลาหูป่ ระกอบพิธีในเดือน กรกฎาคมเพื่อระลึกถึงพระคุณของเทพารั กษ์ เจ้ าป่ า เจ้ าเขาที่ปกป้องผืนป่ าให้ มีความอุดมสมบูรณ์และดล บันดาลให้ ผลผลิตทางการเกษตรดีปกป้องคุ้มครองให้ ชาวบ้ านในชุมชนมีความสงบสุข ผืนป่ านี ้ยังเชือ่ ว่าเป็ น ที่อยู่อาศัยของเทพารักษ์ และวิญญาณของผู้ที่ล่วงลับ ไปแล้ ว ชาวบ้ านจึงไม่เข้ าไปรบกวนและใช้ ประโยชน์ใดๆ

ชนเผ่า “อาข่า”

“มีช้ ้ องล้ อ” พิธีกรรมของชนเผ่าอาข่าเพือ่ เซ่นไหว้ บูชาเจ้ าแม่ธรณีสงิ่ ศักดิส์ ทิ ธิ์ทงหลาย ั้ รวมทังดวง ้ วิญญาณเจ้ าเมืองต่างๆเพื่อปกป้องคุ้มครองรักษา ให้ ชมุ ชนอยูเ่ ย็นเป็ นสุขพืชผลการเกษตรให้ มีความ เจริญงอกงาม พิธีกรรมมี ้ช้ องล้ อท�ำบริเวณผืนป่ า อนุรักษ์ ที่ศกั ดิ์สิทธิ์ ของชุมชนที่ไม่มีการตัดไม้ ล่า สัตว์ป่าและท�ำการเกษตรใดๆ อีกต่อไป 13


เมื่อหมอกควันปกคลุมดอย จังหวัดเชียงรายของเรามีปัญหาหมอกควันปกคลุมอยู่เป็ นประจ�ำ ในช่วงหน้ าแล้ ง ระหว่างเดือนมกราคม-เมษายน โดยพบฝุ่ นละอองขนาดเล็ก กว่า ๑๐ ไมครอน (PM10)ซึง่ ถือว่าเป็ นอันตรายต่อสุขภาพ ค�ำถามทีต่ ามมา คือหมอกควันมาจากไหน? เราจะพอมีทางแก้ ไขได้ หรือไม่? อย่างไร? 3 เงือ่ นไขส�ำคัญทีก่ อ่ ให้ เกิดหมอกควัน ประการแรก เกิดจาก ลักษณะภูมปิ ระเทศและสภาพอุตนุ ยิ มวิทยา ของภาคเหนือเป็ นแอ่งกระทะ ล้ อมรอบด้ วยภูเขาสูง และในช่วงหน้ าแล้ งอากาศแห้ ง ความกดอากาศสูง ท�ำให้ อากาศปิ ด หมอกควันไม่ฟ้ งกระจายออกไป ุ ประการทีส่ อง เกิดจากการ เผาเศษวัสดุทางการเกษตร เพือ่ เตรียมพื ้นทีเ่ พาะปลูก โดยเฉพาะการปลูก ข้ าวโพดเลี ้ยงสัตว์ ทีเ่ ป็ นพืชเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงราย รวมไปถึงการการ เผาพื ้นทีป่ ่ าเพือ่ ล่าสัตว์และเก็บหาของป่ าด้ วย ประการทีส่ าม เกิดจากหมอก ควันข้ ามแดนทีม่ าจากประเทศเพือ่ นบ้ านได้ แก่เมียนมาร์ (พม่า)เวียดนามลาว และกัมพูชา โดยทีแ่ ต่ละประเทศก็มกี ารเผาป่ าและเตรียมพื ้นทีก่ ารเกษตรเช่น เดียวกันกับบ้ านเรา เมือ่ ควันไฟลอยข้ ามแดนมา สะสมเข้ ากับหมอกควันทีม่ ี ในบ้ านเรา ก็ยงิ่ ท�ำให้ หมอกควันมีความหนาแน่นมากยิง่ ขึ ้น หากกล่าวอย่างเฉพาะเจาะจงถึงจุดก�ำเนิดหมอกควันในจังหวัด เชียงรายของเราจะพบว่า มีพื ้นที่เสี่ยงจากการเผาในระดับต�ำบล จ�ำแนก โดยใช้ จ�ำนวนจุดความร้ อนสะสม(Hotspot) รายต�ำบล ในระหว่างวันที่ 1 มกราคม – 30 เมษายน 2557 แบ่งได้ เป็ น 4 ระดับ พบว่าพื ้นที่สีแดง มี จุด Hospotมากกว่า 75 จุด ได้ แก่ ต�ำบลวาวี อ�ำเภอแม่สรวย พื ้นที่สีส้มมี จุด Hotspot 51 – 75 จุด ประกอบด้ วย ต�ำบลห้ วยชมภู อ�ำเภอเมือง และ ต�ำบลปออ�ำเภอเวียงแก่น พื ้นที่สีเหลือง มีจดุ Hotspot 26 – 50 จุดประกอบ ด้ วย ต�ำบลเวียง ต�ำบลสันสลี อ�ำเภอเวียงป่ าเป้า ต�ำบลป่ าแดด ต�ำบลศรี ถ้ อย อ�ำเภอแม่สรวยต�ำบลแม่ยาว อ�ำเภอเมือง ต�ำบลแม่สลองใน อ�ำเภอ แม่ฟ้าหลวง และต�ำบลตับเต่า อ�ำเภอเทิง7 ต�ำบล ในพื ้นที่ 6 อ�ำเภอ สาหรับ พื ้นที่สีเขียวคืออ�ำเภอที่ไม่พบพื ้นที่เสี่ยงเลย มีจดุ Hotspot น้ อยกว่า 26 จุด ประกอบด้ วย อ�ำเภอแม่จนั เชียงแสน ขุนตาล พาน เวียงชัย เวียงเชียงรุ้ง แม่ ลาว ป่ าแดด พญาเม็งราย เชียงของ ดอยหลวง และแม่สาย

1414


แมส่ ลอ

งใน

แมย่ าว ห้วยชม ภู

ปอ

วาวี

ตับเต่า

ป่าแดด

ศรีถ้วย

สันสลี เวียง

แหล่งข้ อมูลกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดล้ อม

ส� ำ หรั บ ทางออกของปั ญ หาหมอกควัน มีการเสนอ แนะมาตรการหลากหลาย ไม่วา่ จะเป็ น การลดปริมาณเศษวัสดุ การเกษตรในพื ้นทีเ่ กษตรกรรม โดยบริษทั รับซื ้อผลผลิตการเกษตร ต้ องซื ้อเศษวัสดุการเกษตรออกไปด้ วย เช่น กรณีข้าวโพดทีต่ ้ องซื ้อ ตอซังออกไปจากพื ้นที่ การจัดระเบียบการเผาทีจ่ ะต้ องด�ำเนินการ ให้ เสร็ จก่อนเดือนกุมภาพันธ์ การปรับเปลี่ยนการเกษตรจากพืช อายุสนไปสู ั ้ ไ่ ม้ ยนื ต้ น การปลูกพืชทางเลือก

จ�ำนวน Hotspot สะสม ( 1 ม.ค. - 30 ม.ย 57 ) 75 จุด 51-75 จุด 26-50 จุด 26 จุด

หรื อท�ำเกษตรอินทรี ย์การสร้ างความร่ วมมือเพื่อแก้ ไขปั ญหากับ ประเทศเพื่อนบ้ าน เป็ นต้ น ปั ญหาหมอกควั น จะยั ง คงอยู่ กั บ เชี ย งรายบ้ า น เราอีกหลายปี เนื่องมาจากเงื่อนไขที่เป็ นสาเหตุทงั ้ สามข้ อ ที่กล่ าวมาแล้ วข้ างต้ น แต่ ทงั ้ นีแ้ ละทัง้ นัน้ คนบ้ านเฮาคงจะ ต้ องหันหน้ ามาพิจารณาปั ญหานี ก้ ันอย่ างถ่ องแท้ จริงจัง และรอบด้าน จึงจะท�ำให้ปัญหาหมอกควันทุเลาเบาบางลงไป

15


มอเตอร์เวย์เชียงใหม่ - เชียงราย: ตัด ขุด มุด ดอย

16

30+000

อ.ดอยสะเก็ด อ.สันทราย จุดเริ่ มต้ นโครงการ

ล�ำพูน

40+000

อ.แม่ริม

20+000

พื ้นที่ป่าอนุรักษ์ อุทยานแห่งชาติ ขุนตาล เขตรักษาพันธุ์สตั ว์ป่า ดอนผาเมือง เขตห้ ามล่าสัตว์ป่า ดอยพระบาท (แม่ทรายค�ำ ) อุทยานแห่งชาติ ดอยหลวง อุทยานแห่งชาติ แจ้ ซ้อน

เชียงใหม่

10+000

โครงการก่อสร้ างขนาดใหญ่ โดยเฉพาะถนน มักสร้ าง ผลกระทบต่อสังคมและสิง่ แวดล้ อมอยูเ่ สมอ เช่นเดียวกับถนนสาย ใหม่ทมี่ กี ารศึกษามาตังแต่ ้ ปี 2539 ใครหลายคนอาจเคยได้ รับรู้ กันมาบ้ างแล้ วว่า ตอนนี ้กรมทางหลวงก�ำลังท�ำการว่าจ้ างให้ กลุม่ บริษทั ทีป่ รึกษา (ประกอบด้ วย บริษทั เอ็ม เอ เอ คอนซัลแตนท์ จ�ำกัด บริษทั วี เอ็นจีเนียริ่ง คอนซัลแตนท์ จ�ำกัด และ บริษทั พรี ดีวลี อป เมนท์ คอนซัลแตนท์ จ�ำกัด) ด�ำเนินการศึกษาความเหมาะสมด้ าน เศรษฐกิจวิศวกรรม ผลกระทบด้ านสิง่ แวดล้ อมและแผนการลงทุน ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองแนวใหม่สายเชียงใหม่ – เชียงราย หรือ เรียกสันๆ ้ ว่าถนนมอเตอร์ เวย์เชียงใหม่ เชียงราย เราลองมาส�ำรวจ กันดูวา่ ถนนเส้ นนี ้จะมีหน้ าตาอย่างไร และจะต้ องตัด ขุด มุด ดอย บริเวณไหนบ้ าง ถนนมอเตอร์ เวย์ เชียงใหม่ – เชียงราย เป็ นโครงการ ก่อสร้ างถนนระยะทางประมาณ 185 กิโลเมตร–ขนาด 4 ช่อง ทางการจราจร มีจดุ ตังต้ ้ นทีต่ วั เมืองเชียงใหม่ไปทางทิศตะวันออก เฉียงเหนือ ผ่านอ�ำเภอดอยสะเก็ด อ�ำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ ต่อไปยังอ�ำเภอเมืองปาน อ�ำเภอแจ้ หม่ อ�ำเภอวังเหนือ จังหวัด ล�ำปาง ผ่านอ�ำเภอเมือง อ�ำเภอแม่ใจ จังหวัดพะเยา ก่อนทีจ่ ะเข้ า มายังอ�ำเภอพาน อ�ำเภอเวียงชัย และสิ ้นสุดทีอ่ ำ� เภอเมือง จังหวัด เชียงราย

อ.สันก�ำแพง


เชียงราย

สัญลักษณ์ ต�ำแหน่งอ�ำเภอ

อ.เวียงเชียงรุ้ง

อ.เมือง

อ.เวียงชัย จุดสิ ้นสุดโครงการ

อ.แม่ลาว

แนวเส้ นถนนโครงการ เส้ นทางคมนาคม

184+275 180+000

อ.แม่สรวย

170+000

อ.พาน

160+000 150+000

อ.เวียงป่ าเป้า

อ.แม่ใจ

140+000 130+000

อ.ป่ าแดด

พะเยา

120+000

110+000

อ.วังเหนือ

100+000

90+000 80+000 50+00 0

หลักกิโลเมตร ต�ำแหน่งอุโมงค์

70+000

60+000 อ.เมืองปาน อ.แจ้ หม่

ล�ำปาง

ในการก่ อ สร้ างถนนย่ อ มมี ผ ลกระทบทางด้ านสิ่ ง แวดล้ อมตามมาอย่างหลีกเลีย่ งไม่ได้ โดยเฉพาะการตัดถนนผ่าน ภูเขาทีม่ พี ื ้นทีป่ ่ าอยูด่ ้ วย ทังที ้ เ่ ป็ นป่ าอุทยานแห่งชาติ ป่ าสงวน แห่งชาติ และพื ้นทีช่ นคุ ั ้ ณภาพลุม่ น้ าชันที ้ ่ 1 และ 2เนือ่ งจากว่ามัน ต้ องมีการตัดต้ นไม้ ตัดดินถมคันทาง การเคลือ่ นย้ ายดินออกจาก บริเวณแนวอุโมงค์ จุดตัดล�ำน� ้ำสายหลักและสายรอง เป็ นต้ น กลุ่มบริษทั ที่ปรึกษาได้เสนอผลการศึกษาพบว่ า แนวเส้ นทางถนนมอเตอร์ เวย์เชียงใหม่ – เชียงราย จะต้อง ตัดผ่ านพืนที ้ ่ป่า ประกอบด้วยพืนที ้ ่ชนั ้ คุณภาพลุ่มน�ำ้ 1 ระยะ ทาง 18.4 กิโลเมตร ชัน้ คุณภาพลุ่มน�ำ้ ชัน้ 2 ระยะทาง 8.4 กิโลเมตร พืนที ้ ่อทุ ยานแห่งชาติแจ้ซ้อน 8 กิโลเมตร และ พืนที ้ ่อทุ ยานแห่งชาติดอยหลวง 6 กิโลเมตรแต่ยงั ขาดข้ อมูล จ�ำนวนเนือ้ ที่ป่าทัง้ หมดที่ต้องถูกตัดมีเนือ้ ที่ก่ไี ร่ ต้องตัดต้นไม้ กี่ต้นโดยในขัน้ ต่ อไปจะต้ องมีการจัดท�ำรายงานผลกระทบสิ่ง แวดล้ อม(EIA)ก�ำหนดมาตรการป้องกัน แก้ ไข และลดผลกระ ทบต่อพืนที ้ ่ป่าด้วย ถนนมอเตอร์ เ วย์ เ ชี ย งใหม่ – เชี ย งรายเป็ นอี ก หนึ่ ง โครงการก่อสร้ างสาธารณูปโภคพื ้นฐานขนาดใหญ่ที่สร้ างผลกระ ทบต่อภูเขาและผืนป่ า เราคงต้ องติดตามกันดูตอ่ ไปว่าเพือ่ แลกกับ ถนนเส้ นนี ้จะต้ องเฉือนป่ าออกไปมากน้ อยแค่ไหน และจะมีการลด ผลกระทบทีเ่ กิดขึ ้นจากการพัฒนานี ้อย่างไร

พื ้นที่เตรี ยมการอุทยานแห่งชาติ ถ�่ำผาไท ป่ าแม่ปิม แม่ตระไคร้ 17


คนบ้านเฮา

ครูแดงมองอนาคตของเชียงรายอย่างไรบ้าง? “

อยากให้เชียงรายมีธรรมชาติสวยงาม มีอากาศที่ดี ปัญหาหมอกควัน บุกรุก ป่าต้องลดลง เชียงรายมี 7 สายน�้ำหลัก ควรมาจากป่าต้นน�้ำที่สมบูรณ์ มี การเกษตรยั่งยืน รักษาดิน สิ่งแวดล้อม เพื่อรักษาป่าต้นน�้ำเอาไว้ ถ้าท�ำได้ เชียงรายจะเป็นเมืองน่าอยู่ระดับต้นๆ ของโลก ”

คอลัมน์คนบ้ านเฮาฉบับนี ้มีความภูมิใจที่จะแนะน�ำ ให้ ผ้ ูอ่านได้ ร้ ู จักกับบุคคลท่านหนึ่ง ถึงแม้ วา่ ท่านผู้นี ้มิได้ เป็ น ชาวเชียงรายโดยก�ำเนิด แต่ทา่ นก็ได้ คลุกคลีกบั ภูเขาและคน บนดอยในจังหวัดเชียงรายมาตังแต่ ้ สมัยยังเป็ นนักศึกษา จาก นันท่ ้ านก็ท่มุ เทชีวิตท�ำงานพัฒนาสังคมในจังหวัดเชียงรายมา อย่างต่อเนื่อง ท่านได้ รับรางวัลเชิดชูเกียรติทงในประเทศและ ั้ นานาชาติในฐานะผู้มีบทบาทส�ำคัญในการพัฒนาความเป็ น อยูข่ องประชาชนบนพื ้นที่สงู และการรักษาสิง่ แวดล้ อม ท่าน ได้ รับความไว้ วางใจจากประชาชนในจังหวัดเชียงรายจนได้ รับ เลือกตังเป็ ้ นสมาสมาชิกวุฒิสภาจังหวัดเชียงราย (พ.ศ.25432549) ตามด้ วยการได้ รับคัดเลือกเป็ นสมาชิกสภานิตบิ ญ ั ญัติ แห่งชาติ (พ.ศ.2549-2551) เมื่อเร็วๆ นี ้ ท่านได้ รับการคัดเลือก เป็ นกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ถึงตรงนี ้หลายคนจะพอ เดาออกแล้ วว่า เราก�ำลังพูดถึงครู แดง เตือนใจ (กุญชร ณ อยุธยา) ดีเทศน์ ต่อจากนี ้คือบทสนทนาระหว่างนิตยสารเฮา กับครูแดงเกี่ยวกับชีวิตนักพัฒนาและภูเขาของเชียงราย

18

นิตยสารเฮา: จุดเริ่ มต้ นของการมาท�ำงานพัฒนากลุม่ ชาติพนั ธุ์บนภูเขาในเชียงรายเป็ นอย่างไร ? ครูแดง: ตอนเรี ย นจุ ฬ าลงกรณ์ (คณะรัฐศาสตร์ ) ประมาณปี 2513 ถึง 2517 มีโอกาสออกค่ายพัฒนาทีห่ มูบ่ ้ านบน ดอยในเชียงราย หลายต่อหลายครัง้ แล้ วเกิดความประทับใจ พอ เรียนจบก็เลยตังใจมาท� ้ ำงานทีน่ ี่ ชาวบ้ านทีป่ างสา (อ�ำเภอแม่จนั ) ก็เอ่ยปากชวนให้ ไปเป็ นครู สอนหนังสือที่นั่น เป็ นครูคนแรกของ หมูบ่ ้ าน ท�ำงานพัฒนากับชาวบ้ านเรื่อยมา แล้ วก็ตงมู ั ้ ลนิธิพฒ ั นา ชุมชนและเขตภูเขา ในปี 2528 จนถึงปั จจุบนั นิตยสารเฮา: ย้ อนไปเมือ่ 40 ปี กอ่ นครูแดงมีความ ประทับใจอะไรในภูเขาหรือชีวติ บนดอยของเชียงราย ? ครูแดง: ชอบทีพ่ นี่ ้ องมีอตั ลักษณ์ วัฒนธรรม ภาษา เสื ้อผ้ า อาหารการกินเป็ นของตัวเอง เรียบง่าย พึง่ ตัวเอง ชอบทีส่ ดุ ทีช่ าวบ้ านปลูกข้ าวกินเอง เก็บผักจากไร่ จากป่ า อากาศบริสทุ ธิ์ อาหารธรรมชาติ หลากหลาย ชอบมากก็เลยตังใจจะมาอยู ้ ท่ บี่ ้ าน ปางสา


ครูแดง เตือนใจ (กุญชร ณ อยุธยา) ดีเทศน์

นิตยสารเฮา: อะไรที่เป็ นความเปลี่ยนแปลงและอะไร ที่ยงั คงอยูก่ บั คนบนดอยบ้ าง ครูแดง: ที่ เ ห็ น ชัด ๆ ก็ คื อ คนรุ่ น ใหม่ อ อกไปท� ำ งาน ข้ า งนอกมากขึ น้ บางที ไ ปไกลถึ ง ต่ า งประเทศ พวกเขามีราย ได้ มากขึ ้น แต่ทกุ คนก็ยงั พยายามกลับมาเยี่ยมบ้ าน แต่สงิ่ ที่ยงั ไม่เปลี่ยนแปลงเลยส�ำรับชีวิตบนดอยก็คือการอยู่กบั ธรรมชาติ เรี ยบง่ายและพอเพียง นิตยสารเฮา:ปั ญหาหนึง่ บนดอยของเชียงรายคือเรื่ อง หมอกควันไฟป่ า ครูแดงคิดเห็นอย่างไร ครู แดง: ครูเคยเขียนไว้ ตงแต่ ั ้ ปี 2528 แล้ วว่า เพราะ ระบบการเกษตรที่ปลูกพืชอายุสนั ้ เปิ ดหน้ าดิน ท�ำให้ ต้องเผาป่ า แต่สมัยก่อนไม่หนักหน่วงเท่าทุกวันนี ้ นิตยสารเฮา: เราควรจะแก้ ไขอย่างไร ครูแดง: ถ้ าแก้ ได้ อยากให้ เปลี่ยนอาหารสัตว์ที่ท�ำจาก ข้ าวโพดไปเป็ นอย่างอื่น จะได้ ลดพื ้นที่การปลูกและเผาลงไปบ้ าง อี ก อย่า งควรหลี ก เลี่ ย งการปลูก ข้ าวโพดบนพื น้ ที่ สูง เนือ่ งจาก ควันไฟจากการเผาต้ นข้ าวโพดจะลอยลงมายังพื ้นราบและเราควร คิดถึงพืชตัวใหม่ อาชีพทางเลือกอืน่ ๆ หรือการเกษตรแบบทีไ่ ม่ต้อง เปิ ดหน้ าดิน เรื่องนี ้ส�ำคัญมาก หน่วยงานทังหลายต้ ้ องมาช่วยกันคิด ว่าจะให้ ชาวบ้ านอยูร่ ่วมกับป่ าได้ อย่างไร โดยไม่ต้องเผา ไม่ต้องเปิ ด หน้ าดินกันอีกต่อไป

นิตยสารเฮา: ครูแดงมองอนาคตของเชียงรายอย่างไรบ้ าง? ครูแดง: อยากให้ เชียงรายมีธรรมชาติสวยงาม มีอากาศทีด่ ี ปั ญหาหมอกควัน บุกรุกป่ าต้ องลดลง เชียงรายมี 7 สายน� ้ำหลัก ควร มาจากป่ าต้ นน� ้ำทีส่ มบูรณ์ มีการเกษตรยัง่ ยืน รักษาดิน สิง่ แวดล้ อม เพือ่ รักษาป่ าต้ นน� ้ำเอาไว้ ถ้ าท�ำได้ เชียงรายจะเป็ นเมืองน่าอยูร่ ะดับ ต้ นๆ ของโลก การอนุรักษ์สถาปั ตยกรรมล้ านนาก็ควรจะมี ตัว๋ เมืองก็ น่าจะได้ รับการฟื น้ ฟู เพราะว่าเรามีความรู้อยูใ่ นนัน้ พีน่ ้ องบนดอยก็ อยากให้ รักษาภูมปิ ั ญญาของตัวเองเอาไว้ ส่งทอดให้ ลกู หลานต่อไป แต่ทงหมดนี ั้ ้ต้ องอาศัยศักยภาพของชาวเชียงรายที่มองไปข้ างหน้ า ด้ วยกัน บทสนทนาข้ างต้ นของเราเป็ นเพียงส่วนเสี ้ยวหนึง่ ของชี วิ ต และมุมมองของครู แ ดง แต่กห็ วังว่าจะได้ ชว่ ยจุดประกายให้ ผ้ อู า่ น ที่ ส นใจได้ เรี ย นรู้ เรื่ อ งราวของครู แ ดงและผลงานของครู แ ดง ต่อไป ผู้อา่ นสามารถเข้ าไปเยีย่ มชมงานของครูแดงและมูลนิธิพฒ ั นา ชุมชนและเขตภูเขาต่อได้ ที่ http://www.hadf1985.org/ หรือจะอ่าน หนังสือ “แม่จนั สายน� ้ำทีผ่ นั เปลีย่ น” ทีค่ รูแดงเขียนเป็ นบันทึกชีวติ ประสบการณ์ การท�ำงานที่บ้านปางสาของครู แดงเมื่อครั ง้ สี่สิบปี ก่อนก็จะยิ่งท�ำให้ เข้ าใจมากขึ ้นว่าเหตุใดครูแดงถึงได้ ผกู พันกับภูเขา ในเชียงรายราวกับบ้ านเกิดของตัวเองยิง่ นัก

19


แผนที่ เรื่ อง: Papamungming

แผนที่ดอยในเชียงราย 6 5 3 1

4

2 14

20

15


10

1. น� ้ำแม่โขง 2. ดอยผาตัง้ 3. ภูชี ้ฟ้า 4. ดอยยาว 5. ดอยกาดผี 6. ดอยนางแก้ ว 7. ดอยปางขอน 8. ดอยช้ าง

9. ดอยหัวแม่ค�ำ 10. ดอยตุง 11. ดอยแม่สลอง 12. ดอยนางนอน 13. ดอยสะโง้ 14. อ�ำเภอเวียงแก่น 15. อ�ำเภอเชียงของ 16. อ�ำเภอเชียงราย 17. อ�ำเภอเชียงแสน

9 12

11

7

13

8 16

17

21


22


Read with me เรื่ อง: เด็กแว่น

ท�ำไมต้ องอ่านหนังสือให้ ลกู ฟั ง ? ค�ำถามทีค่ ณ ุ พ่อคุณแม่ หลายคนอยากรู้คำ� ตอบ ใครๆเขาก็วา่ ดี คุณหมอหรือผู้เชีย่ วชาญ ด้ านเด็กต่างก็สนับสนุนให้ อา่ นหนังสือให้ ลกู ฟั งกันทังนั ้ น้ ว่าแต่มนั ดี อย่างไร คอลัมน์นี ้จะมาเฉลยค�ำตอบพร้ อมแนะน�ำหนังสือทีเ่ หมาะ สมกับเด็กในแต่ละวัย เพือ่ เป็ นแนวทางเลือกหนังสือมาอ่านสนุกๆ กับลูก แค่วนั ละ 5 นาที อุ้มลูกไว้ บนตัก นัง่ อ่านหนังสือไปด้ วยกัน สัมผัสอันอบอุน่ และเสียงทีอ่ อ่ นโยนของเราก็จะ ประทับอยูใ่ นความ ทรงจ�ำของลูกตลอดไป วันนี ้ “เด็กแว่น” มีหนังสือมาแนะน�ำกัน 3 เล่ม 3 สไตล์

1. Board Book Wild Animals บอร์ ดบุ๊คคือหนังสือทีก่ ระดาษแข็ง เป็ นพิเศษ เหมาะส�ำหรั บเด็กเล็ก เพราะไม่ขาดง่าย ทนทานมือ น้ อยๆยิง่ นัก เล่มนี ้พิเศษตรงทีเ่ ป็ นแบบสัมผัสได้ หรือ touch&feel เด็ก ๆจะได้ ล องจับ ขนของสัต ว์ ชนิ ด ต่างๆในเล่ม ด้ วยผิวสัมผัสที่ หลากหลาย เด็กเล็กจะได้ เรี ยนรู้ ผ่านการใช้ มือว่ามีทัง้ ของแข็ง ของนุ่ม การใช้ นิ ้วมือหยิบจับ สัมผัสหรื อขีดเขียน จะช่วยพัฒนา กล้ ามเนื ้อมัดเล็ก เป็ นการท�ำงานประสานกันระหว่างสายตาและมือ ( Eye-Hand Coordination ) กระตุ้นการท�ำงานของสมองโดยตรง ชี ้ชวนให้ น้องๆดูภาพสัตว์พร้ อมชวนคุย ง่ายๆแค่นี ้ ลูกๆก็จะมีชว่ ง เวลาสุขสันต์กบั คุณพ่อคุณแม่แล้ วค่ะ

2. First Atlas หรื อหนังสืออ้ างอิงเกี่ยวกับแผนที่ แต่อย่าเพิง่ คิดว่า น่าเบือ่ เพราะเล่มนี ้ออกแบบมาให้ เด็กๆใช้ งานโดยเฉพาะ อธิบาย กันตังแต่ ้ แผนทีค่ อื อะไร อ่านสนุกตรงทีว่ า่ Atlas ไม่ได้ แสดงข้ อมูล แผนทีท่ างภูมศิ าสตร์ อย่างเดียว แต่จะให้ ข้อมูลน่ารู้เกี่ยวกับทวีป หรื อประเทศนันๆด้ ้ วย เช่น ศิลปวัฒนธรรม สินค้ าขึ ้นชื่อ อาหารท้ อง ถิ่น เรี ยกได้ วา่ ย่อเรื่ องน่ารู้ของโลกทังใบ ้ มาไว้ ในหนังสือเล่มเดียว

3. I Can Draw Wild Animals หนังสือหัดวาดรูปส�ำหรับเด็ก เล่ม นี ้เน้ นทีส่ ตั ว์ป่านานาชนิด เด็กหลายคนชอบวาดรูป แต่ไม่ร้ ูจะเริ่ม จากตรงไหน คูม่ อื สอนวาดเล่มนี ้ จะเป็ นตัวช่วยให้ เด็กๆหัดวาดได้ ง่ายขึ ้น ด้ วยค�ำอธิบายแบบ step-by-step วาดส่วนประกอบของ ภาพให้ เห็นทีละส่วนกันจะๆ ท�ำให้ เข้ าใจง่ายขึ ้นเยอะ “เด็กแว่น”จะ คัดสรรหนังสือน่าอ่านส�ำหรับเด็กมาแนะน�ำกันอยูเ่ รื่ อยๆ ติดตาม กันได้ ทนี่ ี่ How Magazine-นิตยสารของเฮาชาวเชียงรายจ้ า **ขอบคุณหนังสือดีๆจากร้ าน “Read With Me Bookshop” – Reading is Dreaming with Open Eyes **ข้ อมูลน่ารู้บางส่วนจากนิตยสารรักลูก

23


เชียงรายไกลบ้าน เรื่ อง: นางเกษร

Speak to the mountain เชียงรายก็เป็ นบ้ านของฉันค่ะ ฉะนันถามฉั ้ นว่าชอบดอย ไหนเป็ นพิเศษ?ตอบไม่ได้ คะ่ รักทุกที.่ .. ฉัน ไปมาแล้ ว ทุก ดอยนะถ้ าจ� ำไม่ผิด ดอยตุงนีด่ อกไม้ เยอะมากเชียวล่ะ ถ้ าคุณอยากเห็นดอกไม้ สสี วยๆแปลกๆ ฉัน แนะน�ำทีน่ เี่ ลย สดชืน่ มาก สวนดอกไม้ เมืองหนาว ดอกซัลเวีย, พิทู เนีย, บีโกเนีย และอีกสารพัดให้ คณ ุ ชมและเซลฟี แต่หากคุณเป็ น พวกแนวคอชา กาแฟ ซึง่ ไม่ใช่ฉนั เท่าไหร่ดอกนะ คุณคงชอบพวก คุณดอยวาวี ดอยช้ าง ดอยแม่สลอง ถามว่าสวยไหม?... “จับใจ” เลยล่ะคุณ ยิง่ ดอยแม่สลองช่วงเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ คุณไม่ ต้ องไปถึงญี่ปนก็ ุ่ เจอซากุระพันธุ์ทเี่ ล็กทีส่ ดุ อย่างดอกนางพญาเสือ โคร่งได้ ดอยวาวีนใี่ กล้ ๆ นันเป็ ้ นดอยกาดผี จุดชมทะเลหมอกทีส่ วย มากจุดหนึง่ เลยนะส�ำหรับมนุษย์โลก ส่วนขาช็อปก็นา่ จะได้ ผลไม้ เมืองหนาวบ๊ วย ท้ อ พลับ พลัม ฯลฯ แลพวกชาทีเ่ ขาว่าคุณภาพคับ กา ผลิตภัณฑ์จากพีน่ ้ องจีนฮ่อ จะเป็ นอูห่ ลง หรือ ชิงชิง มีให้ คณ ุ เลือกกันเพียบ ส่วนกาแฟนีก่ ค็ งต้ องเป็ นอาราบิก้าจากดอยช้ าง ใน เทือกดอยวาวี ดอยต้ นน� ้ำแม่กรณ์นนั่ แหละ มองจากมุมสูงอย่างที่ พวกคุณเห็นกันตามโปสการ์ ด หรืออินเทอร์ เน็ต ไร่ชา ไร่กาแฟนี่ เป็ นการปรับแต่งทางภูมิศาสตร์ ที่ดรู ื่ นรมย์มากที่สดุ อย่างหนึง่ เลย นะคุณว่าไหม? อะไรจะสวยอย่างเป็ นระเบียบกันปานนัน้ เป็ นขัน้ เป็ นแนวเขียวชะอุม่ ...อ้ อ...นึกขึ ้นได้ ภูชี ้ฟ้านีก่ เ็ ป็ นอีกทีห่ นึง่ ทีฉ่ นั ชอบผ่านไป มันมีหน้ าผาแนวยาวยืน่ ไปทางฝั่ งลาว เช้ ามืดช่วงเมือง ไทยหนาวๆ คนชอบแห่ไปรอดูตะวันขึ ้นฉายกัน ถามว่าสวยไหม... สวยสิ ลองไปดูนะ ฉัน ไม่ใ ช่พ วกชี พ จรลงเท้ าหรอก แต่ก็ไปเห็นมากับตา จริ งๆ ทุกดอยละพ่อแม่ชอบเล่าว่า สมัยหนุม่ สาว ดอยในเชียงราย สวยยิ่งกว่านี่เสียอีก ฉันนี่ก็แอบเถียงในใจตลอด แค่นี ้ก็มีชีวิตชีวา จะแย่แล้ ว ยังสวยได้ กว่านี ้อีกหรื อป่ าไม้ ก็ยงั มีเยอะ เท่าที่กวาดตา มองคร่าวๆ ก็ได้ ประมาณ 5,000 กว่าตารางกิโลเมตรแล้ วล่ะ แต่ พ่อกับแม่ก็ยงั บ่นว่า ค�ำนวณเป็ นพื ้นที่ป่าต่อพื ้นที่จงั หวัด เอาเข้ า จริ ง เชียงรายมีพื ้นที่ป่าเพียง 44.22 เปอร์ เซ็นต์เองนะ อย่างแถวๆ ที่บ้านของพวกเรา พ่อแม่มกั เล่าว่าเมื่อก่อนมีดอยเล็กๆ ห้ อมล้ อม มีหนองน� ้ำอยูเ่ งียบๆ เพราะเป็ นป่ าเสื่อมโทรม ถัดจากเนินเขาก็จะ เป็ นพื ้นที่ราบ ตอนนี ้เขาก็ปรับใช้ ประโยชน์ทางการเกษตรกันพอ สมควร คิดไปคิดมา มันก็คงจะจริงอย่างทีพ่ อ่ กับแม่เคยพูด เพราะ แต่กอ่ น เวลาฉันกลับมาเชียงรายทีไร เพือ่ นฝูง ญาติพนี่ ้ องมักจะแห่ กันมาด้ วย แต่หลังๆ ชวนใครมาก็สา่ ยหน้ า บางคนก็บอกปั ดบอก ว่ามีทอี่ นื่ น่าสนใจมากกว่า ทังๆ ้ ทีโ่ ดยธรรมเนียมแล้ ว บ้ านเรามัก 24 24

จะมาพักผ่อนในเชียงรายกันตอนฤดูหนาว เพราะอากาศที่นี่เย็น สบายและหากินก็งา่ ย กลางวันเวลาอารมณ์ชิลๆ เบ่งบาน เราก็ พักผ่อนกันตามอัธยาศัย เพราะเหนื่อยจากการเดินทาง ตอนค�ำ่ โน่นแหละเราถึงจะออกตระเวนกินของอร่อยให้ อมิ่ ท้ อง เชียงราย แถวๆ เชียงแสนนี่กม็ แี ต่ของอร่อยนะ ปลาตัวเล็กๆ กุ้ง ปู หอย อร่อยเหลือหลายบอกเลย บอน บัวหลวง หญ้ าไช กก นี่กส็ ารพัด พันธุ์พชื น� ้ำ ดีตอ่ สุขภาพทังนั ้ น้ ยิง่ กระแสออร์ แกนิคก�ำลังมา ฉันขอ แนะน�ำเลย...ทะเลสาบเชียงแสน ทีเ่ ขาเรี ยกกันติดปากว่า หนอง บงคายนัน่ แหละ พื ้นทีแ่ ถวนันส่ ้ วนใหญ่จะเป็ นหนองน� ้ำ มีป่าแนวแคบๆ อยูร่ อบหนอง ฮิปสเตอร์ ผ้ พู สิ มัยความเงียบ เชิญได้ นะ แต่พวกคุณ อาจต้ องท�ำใจกับเสียงรบกวนจากฉันและผองเพือ่ นหน่อย อย่าง พวกนังอีโก้ ง อีล� ้ำ นังเป็ ดแดง พวกนี ้ชอบแสดงอาการออกนอก หน้ าเวลาฉันกลับไปเชียงราย พวกมันถือตัวว่าเป็ นเจ้ าถิน่ แผด เสียงรับฉันกันเริงร่า ไม่เกรงใจชาวบ้ านแถวนันสั ้ กเท่าไหร่ ยิง่ ปี ไหน ยัยแมนดาริน หรือ ยัยผียกั ษ์ แก็งค์หนูน้อยนกเป็ ดน� ้ำของพวกเรา มาครบองค์ประชุมละก้ อ คงไม่ต้องสาธยายกันเลย เสียงดังน่ะไม่ เท่าไหร่ แต่ใครทีเ่ จอพวกเราพร้ อมหน้ านีส่ ิ กรี๊ดกันสนัน่ ก็มนั แน่ละ่ พวกเราระดับแรร์ ไอเท็ม(rare item)นะเคอะ โดยเฉพาะฉันเอง ไม่ อยากจะคุย แต่ทงโลกก็ ั้ เหลือไม่เท่าไหร่ จนต้ องจัดฉันไว้ ในระดับ “ใกล้ สญ ู พันธุ์ขนวิ ั ้ กฤติ(Critically Endangered)” ก็แค่นน!เอาเป็ ั้ น ว่า ถ้ ามีโอกาส เราอาจได้ เจอกันนะคุณๆ ถ้ าหนาวปี นี ้ไม่ขี ้เกียจ จะ โฉบไปแถวหนองบงคายให้ พวกคุณตืน่ เต้ นเล่น แต่ขอไลน์นดั กับ แก็งค์เพือ่ นสาวของฉันก่อน เพราะแต่ละนางก็บน่ อยากไปเดทกับ แฟนแถวหนองบงคายเหมือนกันในฤดูผสมพันธุ์ปีนี ้ถ้ าสภาพมันยัง อุดมสมบูรณ์อะ่ นะ สุดท้ ายใครจะไปดักเจอฉัน รอถ่ายรูป ก็หาเส้ นทาง กันเอาเองนะคะ ป้อนค�ำว่า เขตห้ ามล่าสัตว์ป่า หนองบงคาย ลงใน เสิร์จเอนจิ ้น ก็คงหาได้ ไม่ยาก ส่วนใหญ่ทกุ ปี ฉนั พักทีน่ แี่ หละค่ะ แต่ ทีไ่ ม่บอกทางไว้ ตรงนี ้ ไม่ได้ หยิง่ อะไรหรอกค่ะคุณ แค่ไม่ชนิ เส้ นทาง รถก็เท่านัน้ ปกติบนิ ค่ะ นับดอยไล่ไปทีละลูกตามดวงตะวัน...ด้ วย เหตุนี ้ฉัน...จึงรักและรู้จกั ดอยในเชียงรายเป็ นพิเศษค่ะ หนูเป็ ดด�ำหัวด�ำ (ตัวเดียวกับที่พวกคุณส�ำรวจเจอใน หนองบงคาย เมื่อปี 2557 ค่ะ)


ดนตรี เรื่ อง: ปากกาหัก

ฟัง โฟล์ก แล้ว ขึ้น เขา กลิ่นลมหนาวพัดผ่ านยอดไม้ มา ยิ่งบนภูสงู ไอหมอก ลอยม้ วนขึน้ สู่ท้องฟ้า เคลื่อนอ้ อยอิ่งปกคลุมรอบตัวกลายเป็ น สีขาว เสียงลม เสียงใบไม้ ไหว บ้างอาจคละเคล้ าด้วยเสียงสาย ฝนและนกร้ อง ก่ อนจะซึมซับเข้ าไปในตัวมนุษย์และกลายเป็ น ดนตรีท่แี ตกแขนงออกไปมากมาย ในดนตรี ท่ แี ตกแขนงไปมากมายนัน้ ยังมีดนตรี อยู่ ประเภทหนึ่ งที่ยังคงความใกล้ ชิดกับต้ นก�ำเนิดแห่ งสรรพ ส�ำเนียงของธรรมชาติได้ มากที่สุด นั่นคือดนตรี “โฟล์ ก ดนตรี โฟล์กหรื อดนตรี พื ้นบ้ าน คือเพลงทีเ่ ติบโตตาม วัฒนธรรมของชนชาติแต่ละชนชาติ มีเครื่ องดนตรี และเรื่ องราว แตกต่างกันออกไป เมือ่ ดนตรี มกี ารพัฒนาตามยุคสมัย ดนตรี โฟล์ ก จึง ถูก น� ำ ไปรวมกับ ดนตรี ร่ ว มสมัย ก่ อ นแตกสายออกไป หลากหลายสาย อาทิ ออสเตรเลียนโฟล์ก ไอริชโฟล์ก คันทรี โฟล์ก และที่เห็นกันชัดเจนคือการเติบโตอย่างรวดเร็วของดนตรี โฟล์กใน อเมริกาทีม่ กี ารเปลีย่ นแปลงเป็ นดนตรี แนวใหม่เรี ยกว่า อเมริกนั โฟล์กมิวสิกรี ไววอล (American folk music revival) ซึง่ เป็ นทีน่ ยิ ม อย่างมากในช่วง ค.ศ.1950ถ้ าหากจะพูดถึงศิลปิ นแนวนี ้ก็มศี ลิ ปิ น ทีต่ า่ งรู้จกั กันดีแน่นอนอย่างบ๊ อบ ดีแลน( Bob Dylan) เจ้ าของ เพลงทีม่ กี ารน�ำไปร้ องใหม่อย่างแพร่หลาย “Knocking on heaven door”ในขณะทีฝ่ ั่ งอังกฤษก็ไม่น้อยหน้ า เอาดนตรี โฟล์กมาผสมกับดนตรีร่วมสมัยอังกฤษจนกลายเป็ นโฟล์ก สายใหม่สไตล์องั กฤษ เรียกกันว่า อิงลิชโฟล์กรีไววอล (Englishfolk revival)ในช่วงปี ค.ศ.1960 วงทีร่ ้ ูจกั กันดีกค็ อื วงซึง่ เป็ นต้ นฉบับเพลง Black Magic Womanอย่างฟลีตวู้ดแม็ค (Fleetwood Mc) หากมอง ใกล้ตวั เข้ ามาหน่อย วงการเพลงไทยยุคนันก็ ้ มนี กั ดนตรีโฟล์กก�ำเนิด ขึ ้นมากมายอย่างจรัล มโนเพ็ชรและภูสมิง หน่อสวรรค์ศลิ ปิ นโฟล์ กชันต� ้ ำนานของไทย ด้ วยความง่ายงามของดนตรี มีกลิน่ ของ ธรรมชาติ ป่ าเขาล�ำเนาไพรและวิถชี วี ติ ของคนชนบทอยูใ่ นเนื ้อเพลง กับท�ำนองทีน่ า่ ฟัง ลืน่ ไหล ท�ำให้ ดนตรีแนวนี ้มีการเคลือ่ นไหวอย่าง สวยงาม สร้ างศิลปิ นรุ่นใหม่ออกมาอย่างต่อเนือ่ ง

Selina and Sirinya ซึง่ ล้ วนแล้ วแต่ท�ำเพลงออกมาได้ ไพเราะและมีเอกลักษณ์เฉพาะ ไม่วา่ จะเป็ น ไอรอน แอน ไวน์(Iron And Wine)เจ้ าของเพลงดัง มากมาย เช่น Fever Dream, เดอะ เฮด แอน เดอะ ฮาร์ ท(The Head And The Heart) กับ 2 อัลบัมเนื ้ ้อหาดีและเพลงเพราะติดหู อย่างเพลง Down in the valleyกับWinter Songไหนจะยังมีวงไวด์ ไชล์(Wild Child),หนุม่ คันทรี เอ เอ บอนดี ้(A. A. Bondy) ,ฟลีต ฟ๊ อกซ์(Fleet Foxes) และวงมากฝี มอื อย่างเอเว็ต บราเธอร์ ส(Avett Brothers) วงเหล่านี ค้ ือวงโฟล์ กที่ ได้ รับความนิ ยมแพร่ หลายใน อเมริกา หรือทางฝั่ งอังกฤษ ทีม่ เี จ้ าของเพลงฮิต Brokenและอีกหล ายเพลงอย่างหนุม่ เจค บักก์ (Jake Bugg) ทีพ่ าเพลงโฟล์กร็อคและ คันทรีพงุ่ ทะยานสูค่ นฟั งรุ่นใหม่ ๆ จนได้ รับการขนานนามว่าเป็ น จอห์น เลนนอน คนใหม่ของวงการดนตรี แม้ แต่ในบ้ านเราเองก็มี วงโฟล์กจ�ำนวนมากไต่ขึ ้นมาจนเป็ นทีร่ ้ ูจกั ไม่วา่ จะเป็ นอภิรมย์ , เน ทูรอล วอร์ กเวย์(Natural Walkway),เซลินา แอน ศิรินยา (Selina and Sirinya) วงที่กล่าวมาล้ วนเป็ นวงโฟล์กที่มีเนื ้อหาและเอกลักษณ์ ทางดนตรี แตกต่างกันของบ้ านเรา ทังยั ้ งน่าติดตามผลงานอย่าง ยิ่งยวด พอมาถึงตรงนีเ้ ราจะเห็นว่าจักรวาลดนตรี โฟล์กกว้ าง ใหญ่ใช่เล่น เป็ นเหมือนดอกไม้ ในทุง่ หญ้ า แทรกแซมทุกยุคสมัย ทั ง้ หมดที่ เ ล่ า มานี เ้ ป็ นเพี ย งส่ ว นเล็ ก น้ อยของเพลงแนวนี ท้ ี่ สามารถหาฟั งได้ ไม่วา่ ซอกมุมไหนของโลก เพราะมันเริ่ มต้ นจาก ทุง่ หญ้ า ภูเขา ฟั งได้ แม้ แต่ตอนที่นงั่ มองข้ างทางบนรถสองแถว มุง่ หน้ าสูช่ นบทหรื อที่แสนไกลที่ไหนสักที่ ดนตรี โฟล์กนับได้ วา่ เป็ นแนวดนตรี ที่เหมาะกับบรรยากาศสบายหรื อการเดินทางท่อง เที่ยวซึง่ น่าพกพาไปผจญภัยด้ วยอย่างยิ่งเลยทีเดียว

25 25


เฮารักสุขภาพ เรื่ อง : มาดามกนก สาวสองพันปี

Mountain Belief Treatment

26

บ้ านบนดอย บ่มีแสงสี บ่มีทีวี บ่มีน� ้ำประปา แค่กๆแค่กๆ โอย..เห็นท่าว่าจะร้ องเพลงต่อไปไม่ไหว ร่างกายบึกบึนทีเ่ ดินทางมา เพือ่ ชืน่ ชมบรรยากาศบนดอยในครัง้ นี ้ เริ่มมีไข้ ปวดเมือ่ ยไปตามตัว ไอ จนเจ็บร้ าวในคอ เหตุเพราะรุ่งเช้ าของทุกวันตืน่ ขึ ้นมาชมความแวววาว ของหยดน� ้ำค้ างทีส่ อ่ งประกายสะท้ อนแสงแดด เคล้ าไอเย็นจากเมฆ ทีล่ อยต�ำ่ ท่ามกลางอากาศทีเ่ ย็นชื ้น ฉันเพลิดเพลินกับความงาม จน เป็ นไข้ หวัดไปเสียได้ แต่เมือ่ เหลียวมองไปรอบๆทีพ่ กั กลับเห็นพีน่ ้ องบนดอยสูง ดูร่างกายแข็งแรงกันเสียจริ ง บางรายอายุยนื เกือบร้ อยปี ด้วยความ เชื่อและพิธีกรรมในการท�ำให้ ร่างกายแข็งแรงรวมทังใช้ ้ วิธีการรักษา ตามแบบฉบับของตน และอาจเนื่องจากการเข้ าถึงการรักษาในแผน ปั จจุบนั มีอปุ สรรคจากระยะทางที่หา่ งไกล พวกเขาจึ ง ยัง คงรั ก ษา พิ ธี ก รรมและความเชื่ อ เหล่ า นี ไ้ ว้ ลองมาดูกนั นะคะว่าแต่ละกลุม่ ชาติพนั ธุ์มีที่นา่ สนใจกันอย่างไรบ้ าง อาข่าหรื ออีก้อ ใช้ วิธีการขูดส่า เป็ นการใช้ เหรี ยญหรื อมือ (งอนิว้ ชีแ้ ละนิว้ กลาง)ขูดไปตามส่วนล�ำคอ หลัง ไหล่ เชือ่ กันว่า เป็ นการขับสารพิษหรือเชื ้อโรคให้ ออกมาจากร่างกาย ม้ งมีการเซ่นไหว้ สิ่งศักดิ์สิทธ์ ปีละครัง้ เชื่อว่าจะช่วยท�ำให้ หมอยาสามารถวินิจฉัยโรคได้ อย่างถูกต้ องและสามารถรักษาโรค ได้ โดยมีพิธีต่างๆเช่น อัว๊ เน้ งคือการท�ำผี หรื อลงผี เมื่อมีคนในบ้ าน เจ็บป่ วยโดยไม่ทราบสาเหตุ การลงผีจะตามขวัญที่หายไปจากการ เจ็บป่ วยกลับมา ท�ำให้ อาการป่ วยไข้ ดีขึ ้น ปกากญอ หรื อ กะเหรี่ ยง ท�ำพิธีถางซึไกยเป็ นพิธีที่ชาวบ้ าน ท�ำขึ ้นเมื่อมีคนในหมูบ่ ้ านเจ็บป่ วยพร้ อมกันหลายๆคน โดยมักท�ำพิธี ในวันอังคาร เพราะเชื่อว่าเป็ นวันที่แรงเหมาะกับการท�ำพิธี ลาหู่ หรื อ มูเซอมีการท�ำบุญสะเดาะเคราะห์ และตามหา วิญญาณหรื อขวัญของผู้ที่เจ็บป่ วยกลับมา โดยใช้ เทียน/ส�ำลี/ผ้ าขาว /น� ้ำสะอาด/และด้ าย ให้ ผ้ นู �ำทางจิตวิญญาณเป็ นผู้ท�ำพิธี ลีซู หรื อ ลีซอ จะรักษาโดยการให้ “ หนี่ผะ” หรื อผู้ชายที่ถกู เลือกโดยบรรพบุรุษ เป็ นผู้เข้ าทรงเพื่อท�ำพิธีการรักษาโรค เมี่ยนหรื อเย้ ามีพิธี ฝูงเยี่ยนฟิ วเมี ้ยน หรื อเรี ยกพิธีสง่ ป่ า เมื่อมีคนที่เกิดอาการเจ็บป่ วย จะตามหมอผีให้ ชว่ ยขอขมาผีป่า ให้ หายจากอาการเจ็บป่ วย ความเชื่อในการรักษาตนเองและการท�ำให้ ร่างกายแข็งแรง ด้ วยพิธีกรรมต่างๆยังมีเรื่ องราวลึกซึ ้งและรายละเอียดอีกมากที่อาจ จะยัง กล่า วได้ ไ ม่ห มด การส่งต่อจากรุ่นสูร่ ุ่นและการปฏิบตั อิ ย่างต่อ เนือ่ งยาวนาน ส่งผลให้ คนรุ่นใหม่ๆยังคงได้ เห็นพิธีกรรมเหล่านี ้อยู่ ซึง่ ตอนนี ้ หากฉันเป็ นพีน่ ้ องในกลุม่ ชาติพนั ธุ์ คงได้ รับโอกาสในการรักษา ด้ วยพิธีกรรมและความเชือ่ เหล่านี ้แน่นอน จากนันพรุ ้ ่งนี ้คงต้ องลงจาก ดอยทีส่ วยงามและแสนสงบ เพือ่ ไปรักษาอาการไข้ หวัดเสียแล้ ว


จากเกียวโตมาเจียงฮาย เรื่ อง: เกียวโตโคะมาชิ

ภูเขา กับ คน ญี่ปุ่น ฉันอาศัยอยูใ่ นประเทศไทยมานาน 15 ปี ส�ำหรับคนไทย โดยทัว่ ไปแล้ ว แม้ วา่ “ภูเขา” จะมีชวี ติ ผูกพันกับภูเขา แต่เมือ่ เทียบ กับประเทศญี่ ปุ่นแล้ วฉันคิดว่ามันแตกต่างกัน ในประเทศญี่ปนุ่ ภูเขาคือทีเ่ ล่นส�ำหรับประชาชนทัว่ ไป คุณสามารถปี นเขา เดินป่ า พร้ อมกับห่ออาหารกลางวันคุณสามารถขับรถไปตัง้ แคมป์และ เพลิดเพลินกับทัศนียภาพก็ได้ อีกวิธีหนึง่ คือไปยีย่ มชมสถานทีน่ า่ สนใจในภูเขา ไม่วา่ จะเป็ นสวนธรรมชาติรวมทังวั ้ ดและเขือ่ นในภูเขา ทีม่ สี งิ่ อ�ำนวยความสะดวกครบครัน บางคนอาจจะคิดว่าญี่ปนเป็ ุ่ นประเทศที่พฒ ั นาแล้ วจึงมี ป่ าเหลืออยูน่ ้ อย แต่ในความเป็ นจริงแล้ วพื ้นที่ 66% เป็ นป่ า เมือ่ เปรียบเทียบกับประเทศไทยซึง่ มีพื ้นทีป่ ่ าเพียง 37% เท่านัน้ และ เมื่อเปรี ยบเทียบในระดับโลกแล้ ว ประเทศญี่ปนก็ ุ่ มีเนื ้อที่ป่าเป็ น จ�ำนวนมากในระดับท็อปเท็นของโลกทีเดียว ทีญ ่ ี่ปนมี ุ่ คนท�ำอาชีพ ป่ าไม้ ด้วยนะ พวกเขาจะท�ำการปลูก ดูแล ตัดต้ นไม้ และเก็บหา ของป่ า พวกเขาอาจจะเป็ นกลุม่ ในชมชน ท�ำงานให้ กบั บริษัทป่ าไม้ สังกัดสหกรณ์เป็ นลูกจ้ างรัฐบาลส่วนกลาง หรื อท้ องถิ่นก็ได้ แต่ทกุ วันนี ้คนท�ำงานในอาชีพป่ าไม้ ลดลงเรื่ อยๆ ก็เลยท�ำให้ ป่าไม้ ของ ญี่ปนดู ุ่ จะเสือ่ มโทรมลงไป เอ๊ ะดูทา่ จะเครียดเกินไปแล้ ว กลับไปคุยเรื่องสนุกๆ เกีย่ ว กับภูเขาต่อดีกว่า ประเทศญี่ปนมี ุ่ สฤี่ ดูทำ� ให้ เรารู้สกึ เพลิดเพลินกับ วิวภูเขาทีเ่ ปลีย่ นแปลงไปตลอดทังปี ้ โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ ผลิ ต้ น เดือนเมษายน มีดอกซากุระบานสะพรั่ง ตามด้ วยสีเขียวอ่อนของ ภูเขาในเดือนพฤษภาคม จากนันราวเดื ้ อนสิงหาคมซึง่ เป็ นหน้ า ร้ อนเราจะได้ ยินเสียงจักจัน่ ร้ องระงมป่ า พอถึงฤดูใบไม้ ร่วงเดือน พฤศจิกายน ภูเขาก็กลายเป็ นสีแดงจากใบไม้ เปลีย่ นสี เมือ่ เข้ าหน้ า หนาวภูเขาก็เปลี่ยนเป็ นสีขาวโพลนจากหิมะที่ตกลงมาปกคลุม ภูเขาญี่ปนจึ ุ่ งมีความสวยงามอยูต่ ลอดทังปี ้

ทีเ่ มืองเกียวโต (เมืองหลวงเก่าของประเทศญี่ปน) ุ่ บ้ าน เกิดของฉันมีงานโกะซัง โนะโอะคุริบิ (เทศกาลไฟบ้ งบนภูเขา)เป็ น ประเพณีเก่าแก่หลายร้ อยปี มาแล้ ว วันที่ 16 สิงหาคมของทุกปี จะมี การจุดไฟบนภูเขาห้ าลูกล้ อมรอบเมือง สามแห่งเป็ นรูปอักษาคันจิ ส่วนไฟอีกสองจุดเป็ นรูปเรือและประตูศาลเจ้ านิกายชินโต เราเชือ่ กันว่าเป็ นการส่องทางให้ ดวงวิญญาณบรรพบุรุษที่กลับมาเยี่ยม และกลับไปยังสรวงสวรรค์งานนี ้เมื่อก่อนเป็ นงานของศาสนาพุทธ และประเพณีคนในท้ องถิน่ แต่ทกุ วันนี ้กลายเป็ นเทศกาลส�ำคัญทีม่ ี คนจากทัว่ ประเทศมาเข้ าร่วม ฉันขอย้ อนกลับไปทีก่ ารเดินป่ าและปี นเขาอีกหน่อย ทีญ ่ ี่ปนฤดู ุ่ กาท่องเทีย่ วยอดนิยม (high season) คือฤดูใบไม้ ผลิ และฤดูใบไม้ ร่วงโรงเรี ยนประถมศึกษาก็มีการท่องเที่ยวปี ละสอง ครัง้ การขึ ้นภูเขาก็มีอยูบ่ อ่ ยครัง้ ฉันจ�ำได้ วา่ สมัยเป็ นเด็กการปี นเขา ใช้ เวลาประมาณ 2-3 ชัว่ โมงในการเดินไปจนถึงยอดเขาบนนันเรา ้ ได้ สดู อากาศเย็นสดชื่นบริ สทุ ธิ์และรู้สกึ ตื่นเต้ นมากๆเพราะได้ เห็น ทิวทัศน์ด้านล่างเต็มตาหลังจากนันก็ ้ ทานข้ าวเที่ยงที่หอ่ กันไปเล่น กับเพือ่ นแล้ วจึงค่อยเดินกลับตอนทีฉ่ นั เรียนอยูช่ นมั ั ้ ธยม พวกเรา ต้ องพากันวิง่ ขึ ้นภูเขาทุกปี เพือ่ เป็ นการฝึ กฝนร่างกาย ใช้ เวลา ประมาณหนึง่ ชัว่ โมงกว่า ทางบนภูเขามันช่างแคบ ขรุขระ มันช่าง เหนือ่ ยเสียเหลือเกิน พอเขียนมาถึงตรงนี ้ฉันก็คิดถึงภูเขาที่ประเทศญี่ปนเสี ุ่ ย แล้ วสิ เพราะภูเขาผูกพันกับชีวติ เหลือเกิน ทีเ่ ชียงรายไม่มที ะเล ฉันก็ เลยคิดว่าถ้ าภูเขาใกล้ ชดิ กับผู้คน มันก็นา่ จะดีกว่านี ้มัยนะ ้ อีกอย่าง หนึง่ ฉันคิดว่าถ้ าหากคนไทยได้ มโี อกาสไปเทีย่ วญี่ปนุ่ นอกจากช้ อป ปิ ง้ และเทีย่ วตามสถานทีต่ า่ งๆ แล้ ว หากได้ ไปเทีย่ วภูเขาบ้ างก็นา่ จะ ดีไม่น้อย 27 27


กวีนิพนธ์ เรื่ อง: สันติภาพ วัฒนะ

ความ ทรง จ�ำ เรื่องราวโดยสารมากับสายลมหนาว เพลงของขุนเขาแจ่มชัด เช่นเดียวกันกับความทรงจ�ำวันวานผ่านพ้น แสนอบอุ่นในความรู้สึก เสียงกีตาร์แปร่งๆ เสียงร้องนุ่มนวลชวนฝัน ฉันยังจ�ำได้ จ�ำได้แม้แต่กลิ่นน�้ำหอมจางๆ ติดตราตรึงในห้วงคิดถึง บทสนทนา เสียงหัวเราะ รอยยิ้มโอบกอดดวงใจ ฉันหลงรักเธอ บนลานดินที่เรายืนดูทะเลหมอก ท่ามกลางแสงตะวันที่พึ่งโผล่พ้นหมู่เมฆ ฉันแอบมองเธอยิ้มมองท้องฟ้า ตะลึงลานเมื่อเธอสบตา

เธอจะรู้ไหม ฉันเล่นละครกลบเกลื่อนความรู้สึก เมื่อเดินลงภูด้วยกัน ในความทรงจ�ำสวยงาม ฉันยังรักเธอ ไม่โหยหา ไร้ความเจ็บปวด เธออาจรู้แล้วหรืออาจไม่รู้ เธอผู้อยู่แสนไกลเกินกว่าจะเอื้อมคว้าปลายเท้า เธอคือคนเดียวที่ฉันนึกถึงเมื่อยืนบนยอดภูชี้ฟ้า และผาตั้ง รู้ไหม ฉันไม่เคยขึ้นไปมองพระอาทิตย์บนนั้นกับใครอีก ไม่แม้แต่จะขึน้ ไปบนนั้นและอาจไม่ขึ้นไปอีก ถ้าไม่ใช่กบั เธอ ฉันยังแอบมองรอยยิ้มเธอ ที่ไม่ใช่ส�ำหรับฉัน แต่ส�ำหรับคนที่คู่ควรกว่า เขาอยู่ที่นั่น และฉันยังอยู่ที่เดิมที่เคยอยู่มาแต่หนแรก เฝ้ามองเธอผู้มคี วามสุขเปี่ยมล้น ด้วยความรู้สึกท่วมท้นหัวใจ ฉันไม่อาจบรรจุทุกอย่างใส่...ในถ้อยค�ำ

ภูชี้ฟ้า มกราคม 2555

28


fototalk เรื่ อง: ชูตองเป้ ภาพ: krittiyafoto http://instagram.com/krittiyaamm

ผมคยถามตัวเองว่า “ท�ำไมต้องมาทนหนาวสั่นใต้ผ้าห่มผืนบาง ในเต๊นท์เปียกชุ่ม ที่มีแต่เสียงเม็ดฝนกระทบผ้าใบ และมองออกไปข้างนอกก็มีแต่ความมืด ท�ำไม?” และในตอนใกล้เช้าของวันนั้น สายตาของผมก็ได้น�ำค�ำตอบมาให้ สายตาผมบอกว่า “มันคุ้มค่า”

29 29


ศิลปะ เรื่ อง: ปากกาหัก

ขึ้นเขาวาดรูป ที่ดอยช้าง

“ดอยช้ าง” พอพูดถึงชื่อนี ้ ทุกคนคงนึกถึงกาแฟดอยช้ าง แบรนด์ดงั ของบ้ านเรา แต่มีใครรู้ บ้ างว่าบนดอยช้ าง มีที่เที่ยวน่า สนใจหลายที่เหมือนกันและหลายที่ก็เหมาะกับการนั่งท� ำงาน ศิลปะอย่างยิ่ง 30 30

ดอยช้ างอยูท่ อี่ ำ� เภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย ดอยสูงทีว่ า่ กันว่ามองแล้ วเหมือนช้ าง ทีน่ นั่ เป็ นพื ้นทีส่ งู ทีม่ กี ารปลูกกาแฟและ ท�ำการเกษตรทีส่ งู อย่างแพร่หลาย สองข้ างทางเต็มไปด้ วยต้ นพญา เสือโคร่งซึง่ จะออกดอกสีชมพูเต็มต้ นเมือ่ ถึงฤดูหนาว ด้ วยความอุดม สมบูรณ์ของภูมปิ ระเทศ ดอยช้ างในฤดูตา่ ง ๆ เต็มไปด้ วยพืชพันธุ์ ทัง้ ไม้ ใหญ่ ไม้ ดอก ไม้ ประดับ เมือ่ ขึ ้นไปถึงทีส่ ำ� นักงานดูแล สามารถเดิน ชมดอกไม้ และแวะพักดูดอกไม้ นานาพันธุ์ได้ ทนี่ นั่ เลย แต่...แต่มอี กี ที่ ทีเ่ ราจะพาคุณไปชิมลางผ่านการเดินทางของเรา สถานที่ ที่ ก ล่ า วถึ ง ข้ างต้ น คื อ บ่ อ น� ำ้ ทิ พ ย์ ห รื อ บ่ อ น� ำ้ ศักดิส์ ทิ ธิ์ เรื่องราวของบ่อน� ้ำทิพย์มคี วามเป็ นมายาวนาน ปั จจุบนั กลายเป็ นสถานทีส่ งบเงียบ รายล้ อมรอบทิศด้ วยต้ นไม้ ใหญ่ แทรก ด้ วยลานปฏิบตั ธิ รรมและพระพุทธรูป ทีบ่ อ่ น� ้ำนี ้เองทีเ่ ราได้ หยุดชม ธรรมชาติงดงาม แล้ วเริ่มบรรเลงเพลงพูก่ นั กับการปะภาพ ตามแต่ ใครจะถนัดอย่างไหน ด้ ว ยบ่ อ น� ำ้ ทิ พ ย์ บ นดอยช้ างประกอบด้ ว ยแหล่ ง น� ำ้ ธรรมชาติสองจุด จึงมีพื ้นที่ให้ เดินถ่ายภาพและหาแรงบันดาลใจ มากมาย ภาพงดงามหลายภาพสะท้ อนให้ เห็นผ่านผิวน� ้ำใส ปลา และสัตว์น�ำ้ หลายชนิดแหวกว่ายอย่างสงบนี่เราไม่ต้องใช้ เพลง จากโทรศัพท์ในการปั น้ อารมณ์ ธรรมชาติบรรเลงเพลงรอพวกเรา อยูแ่ ล้ วตังแต่ ้ ไปถึง และเล่นคลอเป็ นช่วงๆ ในขณะที่เรานัง่ ท�ำงาน บนศาลาปูหนิ เย็นเฉียบ เราหยิบกระดาษออกมา นัง่ มอง กิง่ ไม้ ไหว ระลอกพลิ ้วบนผิวน� ้ำ เราอาศัยน� ้ำจากบ่อน� ้ำเย็นเฉียบมา ผสมสีและล้ างพูก่ นั ทุกคนเงียบเสียง หาสิง่ ทีต่ วั เองจะวาด ปะติด ปะต่อเป็ นภาพ ซึง่ หนีไม่พ้นภาพต้ นไม้ ทอี่ ยูร่ อบตัวเรา บางต้ นยืน่ กิง่ ก้ านไปสัมผัสผิวน� ้ำ ดอกของต้ นไม้ บางต้ นลอยเป็ นเส้นสายกลาง น� ้ำ กระจายไปทัว่ เรานัง่ มองมัน ใครใคร่หยิบใบไม้ กงิ่ ไม้ มาปะเป็ น ภาพปะก็จดั การเดินหา ในกลุม่ ของเราใครทีไ่ ม่สนั ทัดวาดภาพ ต่างก็ แบกกล้องเดินไปทัว่ อาณาบริเวณอันกว้างขวางนันแล้ ้ วเก็บภาพต่าง ๆ เสียงดินสอลากไปบนกระดาษดังแผ่วเบาในความสงัด ของสถานทีอ่ นั ศักดิส์ ทิ ธิ์และขรึมขลัง ภาพของแต่ละคนเป็ นรูปเป็ น ร่างทีละน้ อยจวบจนเราค่อย ๆ ใส่สี บางครัง้ เราใส่สไี ม่ตรงกับของ แท้ ทเี่ ห็น มันเป็ นไปได้ ยากและต้ องผ่านการฝึ กปรือมามากมาย เรา เลยผสมสี วาดภาพทีอ่ ยูใ่ นความคิดออกมาตามทีเ่ ราเห็นว่าสวยงาม ถูกใจตัวเอง เพราะไม่ว่าอย่างไร สถานทีน่ ี ้นันสวยงามมากจนหา ้ อะไรมาคัดลอกให้ เหมือนไม่ได้ แล้ว การจะได้ ภาพเหมือนของสถาน ทีน่ ี ้คือต้ องขึ ้นดอยช้ างมาดูให้ เห็นกับตาและเก็บภาพนันไว้ ้ ในกล่อง ความทรงจ�ำ อย่างทีเ่ ราก�ำลังท�ำกันอยูต่ อนทีข่ ึ ้นมายังสถานทีแ่ ห่งนี ้ ในความเงียบงันนัน้ เราร่างโลกบนกระดาษ โลกกว้ างเกินกว่าจะเก็บใส่กรอบ เราจึงต้ องออกไปมองโลกด้ วยสายตา


SE101 ธุรกิจเพื่อสังคม เรื่ อง: May Wannaluk

ไข่ไก่อารมณ์ดี…SE บนดอยที่เชียงราย SE101 ฉบับนี ้อยากจะน�ำเสนอเรื่องราวของกิจการเพือ่ สังคมทีๆ่ จากบ้ านบนดอยในจังหวัดเชียงรายมาแนะน�ำให้ ร้ ูจกั กัน ค่ะบ้ านบนดอยในเชียงรายสมัยนี ้ น� ้ำไหลไฟสว่างแล้ ว (ไม่เหมือน กับเนื ้อเพลงทีว่ า่ “บ้ านบนดอยบ่มแี สงสีบม่ ที วี ี บ่มนี � ้ำประปา ของ จรัล มโนเพ็ชรแล้ วนะคะ) เมือ่ คนในชุมชนเปลีย่ นแปลงไปตาม ความทันสมัยและความสะดวกสบายภายนอกที่หลัง่ ไหลเข้ ามา ค่าใช้ จา่ ยต่างๆ ก็มมี ากป็ นเงาตามตัวไปด้ วย หลายคนตัดสินใจ ออกเดิน ทางจากบ้ า นดอยเข้ าเมื อ งเพื่ อ โอกาสทางอาชี พและ เศรษฐกิจทีด่ กี ว่า เด็กๆ เข้ าไปเรียนหนังสือ สุดท้ ายตัดสินใจเลือกใช้ ชีวิตในเมืองตามสาขาที่ได้ ร�่ำเรี ยนมาท�ำให้ ทกุ วันนี ้เหลือเพียงคน ท�ำการเกษตร ผู้สงู อายุและเด็กเล็กเท่านันที ้ ย่ งั คงอยูใ่ นบ้านบนดอย

นี่เป็ นที่มาของค�ำถามว่า“ท�ำอย่างไรจะสามารถช่วยเพิ่มคุณภาพ ชีวิตของผู้คนบนดอยให้ ดีขึ ้น ชาวบ้ านมีรายได้ และตัดสินใจอยูใ่ น ชุมชนบนดอย” คุณแซก (Zachary Gomes) ผู้จดั การกิจการเพื่อ สังคมฮิลไทรบ์ออร์ แกนิคส์(HilltribeOrganic: HTO)เล่าให้ ฟัง ถึงที่ มาที่ ไปของแรงบันดาลใจในการเริ่ มต้ นกิ จการเพื่ อสังคม ส�ำหรับชุมชนบนดอยHilltribe Organic เห็นว่าหมูบ่ ้ านบนดอย ในจั ง หวั ด เชี ย งรายหลายแห่ ง ยั ง เป็ นพื น้ ที่ ก ารเกษตรแบบ ธรรมชาติ ทรัพยากรมีความอุดมสมบูรณ์จงึ มีความเหมาะสมที่ จะส่งเสริ มการเลี ้ยงไข่ไก่ออแกนิคได้ ไข่ไก่ออแกนิคเป็ นไข่ไก่ที่ได้ มาจากการเลี ้ยงไก่ซงึ่ ปล่อย ไก่ในพื ้นทีธ่ รรมชาติ 100% โดยไม่จบั ไก่ขงั ไว้ ในกรงแบบโรงเรือน ตามรูปแบบฟาร์ มเชิงพาณิชย์ คุณแซกเล่าให้ ฟังว่ากว่าจะมาเป็ น ไข่ ไ ก่ ห นึ่ ง ฟอง จะต้องใส่ใจตังแต่ ้ การคัดเลือกพื ้นทีท่ ำ� งาน เกษตรกร ต้องมีใจเปิ ดกว้างกับระบบการเลี ้ยงไก่แบบอินทรีย์ พันธุข์ องแม่ไก่ก็ ต้องเป็ นพันธุธ์ รรมชาติ เช่นเดียวกับอาหารของแม่ไก่ก็ต้องมาจาก แหล่งปลอดสารเคมี ปฏิเสธการใช้ ฮอร์ โมนและยาปฏิชีวนะ รวม ถึงให้ ความส�ำคัญกับอารมณ์ของแม่ไก่ด้วย วิธีการเลี ้ยงแบบนี ้ เป็ นวิถีการเลี ้ยงไก่ชองชาวบ้ านในอดีตอยูแ่ ล้ ว เมื่อแม่ไก่สามารถ วิ่งเล่นได้ อย่างอิสระ ได้ อยูใ่ นสิง่ แวดล้ อมทีด่ แี บบบ้ านบนดอย แม่ ไก่กแ็ ข็งแรง ขยันออกไข่ ผลิตไข่ไก่ออแกนิคแบบอารมณ์ดใี ห้ พวก เรากิน จะเห็น ได้ ว่า กระบวนการผลิตไข่ของแม่ไก่จากฟาร์ ม ของฮิลไทรบ์ ออแกนิคเน้ นระบบการเอา-“ใจ”-ใส่ตงแต่ ั ้ ต้นน� ้ำบน ดอยจนถึงปลายน�ำ้ ก่อนเข้ าปากผู้บริ โภค ด้ วยเป้าหมาย 3 วิน วินแรกชาวบ้ านบนพื ้นทีส่ งู มีรายได้ เพิม่ มากถึง 2 เท่าจากปกติ ใน บางครอบครัวสามารถเพิม่ รายได้ มากถึง 4 เท่าเลยทีเดียววินที่ สองคือสิ่งแวดล้ อมที่ได้ รับการดูแลอย่างดีจากการเลี ้ยงไก่แบบ ธรรมชาติ แ ละวิ น ที่ ส ามคื อ ผู้บ ริ โ ภคที่ ไ ด้ อ าหารคุณ ภาพและ ปลอดภัยต่อสุขภาพ ตอนนี ้ ไข่ไก่ของ Hilltribe Organic ออกเดินทางไปยัง ห้ างร้ านต่าง ตามในจังหวัดต่างๆ เช่น กรุงเทพฯ เชียงใหม่ เชียงราย เป็ นต้ น ร้ านอาหารหลายร้ านทีใ่ ส่ใจต่อการคัดเลือก วัตถุดิบแก่ลูกค้ าก็เลือกไข่ไก่จากแม่ไก่อารมณ์ ดีเหล่านีเ้ ช่นกัน ส่วน ใครทีส่ นใจติดตามข่าวสารก็เพียงแค่คลิ ้กไปที่ http://hilltribeorganics.com/ หรื อ https://www.facebook.com/ Hilltribe Organics แล้ วอย่าลืมหาไข่ไก่ออแกนิคจาก Hilltribe Organic มาชิมกันนะคะ 31


มองโลกในแง่งาม เรื่ อง: น้ าปาน

เพราะ ภูเขา คือ โลกกว้าง และ จุด ก�ำเนิด ของ เรื่องราว

32

เด็ก ๆ ชอบวาดรูป ชอบวาดดอกไม้ ชอบวาดทะเล ชอบ วาดดวงดาว ชอบวาดนก ชอบวาดปลา และไม่ลมื วาดภูเขาสอง ลูกที่มดี วงอาทิตย์อยู่ตรงกลางระหว่างภูเขาสองลูกนัน้ วิชาวาดรูปเป็ นวิชาโปรด โดยเฉพาะเด็กๆ ทีช่ อบจินตนาการ วาดรูปด้ วยตากับมือ จดจ�ำในสิง่ ทีม่ องเห็นแล้วร่างภาพตามสิง่ นัน้ จึงไม่ แปลกใจเลยหากเด็กๆ วาดภูเขา เพราะภูเขาสูงใหญ่ มองเห็นได้ งา่ ยและ ชัดเจน มองไปทางไหนก็เห็นแต่ภเู ขา ภูเ ขาบางลูกสูง ใหญ่ เ สี ยจนเสี ยดฟ้า เทียมฟ้าเทียมเมฆ เหมือนไม่มีที่สิ ้นสุด ภูเขาบางลูกก็ยาวมาก ยาวเหมือนไม่มีที่สิ ้นสุด ภูเขาหลายลูกยาวต่อๆ กันไป กลายเป็ นก�ำแพงภูเขา ภูเขาหลายลูก โอบกอดกันเป็ นวงกลม ตรงกลางจึง กลายเป็ นหุบ เขา หุบเขาที่มี ขุมทรัพย์สมบัติ ต้ นไม้ วิเศษที่พดู ได้ และสัตว์ประหลาดที่ใจดี สัตว์ประหลาดที่มีขาหน้ ากับขาหลังเหมือนกระต่ายและ มีปีกกับหางเหมือนนก สัตว์ประหลาดทีม่ ผี วิ สีแดงมีลายด�ำพาดเป็ น ทางยาว มีจมูกยาวและฟั นแหลมคมเหมือนไดโนเสาร์ สัตว์ประหลาด ทีม่ หี วั เหมือนกบแต่ใบหน้ าแยกเขี ้ยวเหมือนช้ างยักษ์ ขาสันหนา ้ มีกรง เล็บใหญ่โต และหางยาวเหมือนปลายหอก ในหุบเขายังมียกั ษ์ อาศัยอยูใ่ นถ� ้ำ กับคนแคระอาศัยอยูใ่ น โพรงกับต้ นไม้ วิเศษที่พดู ได้ และใต้ ต้นไม้ วิเศษต้ นนี ้นี่เองคือประตูสู่ ขุมทรัพย์สมบัติ เด็กที่ไม่ มีสีไม่ มีดินสอไม่ มีกระดาษ ยังวาดรู ปภูเขา ได้ ด้วยนิว้ มือหรื อกิ่งไม้ บนผืนดินหรื อหาดทราย และไม่ ลื ม วาดภูเขาสองลูกที่มีดวงอาทิตย์ อยู่ตรงกลางระหว่ างภูเขาสอง ลูกนัน้ ที่ห้ามลอยขึน้ มาเด็ดขาด มีลำ� ธาร มีก้อนเมฆ มีนกสอง สามตัว มีบ้านเล็กๆ หนึ่งหลัง มีต้นไม้ และบ่ อน�ำ้ มีคนสามคน พ่ อแม่ ลกู ฯลฯ เพราะภูเขาคือโลกกว้ าง และจุดก�ำเนิดของเรื่ องราว.


คนเล็กเชียงรายแลนด์ เรื่ อง:ปฐมพงษ์

ดอยปู่ไข่ในความทรงจ�ำ เมือ่ ตอนผมเป็ นเด็กอายุประมาณ 9ขวบ ซึง่ ก็เป็ นช่วง อายุของลูกเสือส�ำรอง ยังไม่ได้ รับอนุญาตให้ เข้ าค่ายพักแรมทีต่ ้ อง ไปค้ างคืนนอกพื ้นทีเ่ หมือนกับบรรดารุ่นพีล่ กู เสือสามัญ ทังๆ ้ ทีใ่ จ อยากจะไปตังแต่ ้ ปีแรกๆ ของการเป็ นลูกเสือส�ำรอง ในวงสนทนาของกลุ่มรุ่ นพี่ลูกเสือสามัญมักจะมีเรื่ อง เฮฮาสนุกสนานน่าตืน่ เต้ น การผจญภัยทีร่ าวกับหนังไซไฟ มีการ เล่าถึงเรื่องลี ้ลับของสถานทีต่ งค่ ั ้ ายพักแรม ไม่วา่ จะเป็ นบริเวณวัด พระธาตุจอมสัก ต�ำบลบ้ านดู่ จังหวัดเชียงราย และดอยปู่ ไข่ทตี่ งั ้ อยูใ่ นเขตของบ้ านหัวฝาย หมู่ 13 ต�ำบลบ้ านดู่ จังหวัดเชียงราย ที่จริ งแล้ วสถานที่ทงสองติ ั้ ดตรึงอยู่ในใจผมตังแต่ ้ ผมได้ ฟั งเรื่องเล่าจากรุ่นพีล่ กู เสือสามัญแล้ ว ผมอยากมีโอกาสแบบนัน้ บ้ าง อยากไปสัมผัสเรื่องลี ้ลับชวนขนลุกถึงสถานทีเ่ ก็บศพรอเผา ความตืน่ เต้ นในการจับคูเ่ ดินป่ าในเวลากลางคืน โชคเข้ าข้ างผมอย่างหนึง่ คือเมือ่ ผมขึ ้น ป.5 ได้ เลือ่ นยศ จากลูกเสือส�ำรองเป็ นลูกเสือสามัญ และเป็ นปี ทผี่ มจะได้ ไปเข้ า ค่ายทีพ่ ระธาตุจอมสักอย่างทีห่ วังไว้ พอได้ ไปแล้ วก็ไม่ผดิ หวังครับ ได้ เจอทังเรื ้ ่องลี ้ลับและสนุกตืน่ เต้ นสมดัง่ ทีต่ งตาคอยเอาไว้ ั้ แต่ที่ น่าผิดหวังคือเมือ่ ขึ ้น ป.6 ผมได้ เลือ่ นยศเป็ นหัวหน้ าหมูล่ กู เสือชือ่ หมูไ่ ก่ป่า ความฝั นผมต้ องสลายเนือ่ งจากไม่ได้ ไปตามรอยรุ่นพีท่ ี่ ดอยปู่ ไข่ แต่กลับไปทีอ่ นื่ แทนซึง่ ก็ไม่นา่ จดจ�ำเท่าไหร่ เพราะนึก ตอนนี ้นึกยังไงก็นกึ ไม่ออกว่าตอน ป.6 ได้ ไปเข้ าค่ายพักแรมทีไ่ หน หลังจากพลาดหวังไม่ได้ ไปดอยปู่ ไข่ตอน ป.6 จนเวลา ล่วงเลยมาถึงตอนทีผ่ มขึ ้นมหาวิทยาลัยปี 1 ผมมีโอกาสไปผจญ ภัยทีด่ อยปู่ ไข่สมใจ แต่การไปครัง้ นี ้ไม่ได้ ไปเข้ าค่ายลูกเสือแต่ไปท�ำ รายงานเกีย่ วกับกลุม่ ชาติพนั ธุ์ลาหูด่ ำ� ในช่วงเวลา“กินวอ” หรือ ประเพณีขึ ้นปี ใหม่ของกลุม่ ชาติพนั ธุ์

ผมและกลุม่ เพือ่ นประมาณ 10 คน ได้ เฝ้าสังเกตการณ์ อย่างมีสว่ นร่วมกับชาวบ้ าน ซึง่ ในปี นนปี ั ้ 2548 ชาวบ้ านก็เริ่มใช้ วัสดุสร้ างบ้ านเรื อนของตนไม่ต่างไปจากคนพื ้นราบแล้ ว จะมีก็ เพียงทางขึ ้นจากตีนดอยไปบนบ้ านปู่ ไข่ทยี่ งั คงเป็ นทางดินแดงอยู่ ในวันแรกทีไ่ ปบ้ านปู่ ไข่ ผมเห็นหมูดอย(ตัวสีดำ� ผอมๆ ไม่ อ้ ว นอย่ า งกับ หมูบ้ า นตัว ขาวๆ)จ� ำ นวนมากเดิ น ไปเดิ น มาใน หมูบ่ ้ านอย่างสบายใจ แต่พอหลังเทีย่ งคืนของวันนันไปหมู ้ จำ� นวน ครึ่งหนึง่ หายไปจากหมูบ่ ้ านเนือ่ งจากถูกแปรรูปไปเป็ นอาหารเพือ่ งานกินวอ ผมก็มโี อกาสได้ กนิ คัว่ แห้ งหมูดอยทีช่ าวบ้ านท�ำรสชาติ มันก็ไม่คอ่ ยต่างอะไรกับคัว่ แห้ งของคนเมืองเท่าไหร่นกั เพียงแต่ เนื ้อหมูดอยค่อนข้ างเหนียวและเคี ้ยวยาก ตลอดทังงานเราจะได้ ้ กลิน่ ส่าเหล้ าต้ มเคล้ าไปกลับเสียงเพลงพื ้นบ้ านของกลุม่ ชาติพนั ธุ์ ชวนให้ ยกเหล้ าต้ มกระดกแกล้ มด้ วยคัว่ แห้ งหมูดอยเหนียวๆ ยิง่ นัก นอกจากพี่น้องกลุม่ ชาติพนั ธุ์เดียวกันจากต�ำบลแม่ยาว ทีเ่ ดินทางมาร่วมแล้ ว ชาวบ้ านปู่ ไข่ยงั เชิญกลุม่ นักการเมืองท้ องถิน่ ขึ ้นมาร่วมด้ วย ไม่วา่ จะเป็ นนายกเทศมนตรี ผู้ใหญ่บ้านหัวฝาย และหมูบ่ ้ านใกล้ เคียง มาดืม่ กินกันอย่างสนุกสนาน ที่นา่ สนใจคือไม่วา่ แขกไปใครมาในงานก็จะต้ องแวะมา ไหว้ ทกั ทาย “ปู่ ไข่” ผู้บกุ เบิกก่อตังหมู ้ บ่ ้ านปู่ ไข่ของกลุม่ ชาติพนั ธุ์ ที่ พูดภาษาเมืองได้ ชดั เจน ยังมีคนบอกว่า “ปู่ ไข่” ยังสามารถพูด ภาษาจีนได้ อกี ด้ วย แต่ตอนสัมภาษณ์ทา่ นผมไม่ได้ บอกให้ แกโชว์ ภาษาจีน เพราะมีเรื่องอืน่ น่าสนใจกว่า เช่นการอพยพโยกย้ ายมา ตังรกรากที ้ บ่ ้ านปู่ ไข่ การบุกเบิกที่ดินเพื่อเพาะปลูกพืชพาณิชย์ นอกจากนันแล้ ้ วแกยังพาไปดูสสุ านที่ฝังศพคนตาย ซึง่ ทางทีไ่ ป ค่อนข้ างชันเดินล�ำบาก หากหลงไปเราก็แทบไม่ร้ ูหรอกว่าทีน่ นั่ เป็ น สุสาน เพราะมันค่อนข้ างรกเป็ นหนึง่ เดียวกับป่ า บางหลุมศพก็ ท�ำให้ เราคิดว่ามันเป็ นแค่จอมปลวกธรรมดา หลังจากปี 2548 ผมก็ไม่ได้ กลับไปเยีย่ มเยียนดอยปู่ ไข่ อีกเลย แต่กพ็ อได้ ตดิ ตามข่าวสารอยูบ่ ้ าง ว่าได้ ถกู พัฒนาให้ เป็ น พื ้นทีท่ อ่ งเทีย่ ว เป็ นจุดชมวิวของต�ำบลบ้ านดูท่ เี่ มือ่ มองลงมาแล้ ว จะเห็นวิวสวยงามของต�ำบล อีกทังยั ้ งมีรอยเท้ าไดโนเสาร์ ถือว่า เป็ นอีกหนึ่งสถานที่เช็คอินของนักท่องเที่ยวได้ แวะชมวิวระหว่าง ทางในเมืองเชียงรายไปแม่สาย “ภูมทิ ศั น์” ของดอยปู่ ไข่เปลีย่ นแปลงไปอย่างไรแล้ ว ผม ไม่อาจตอบได้ ชดั เจนนัก แต่ผมก็ยงั คงอยากกลับไปสัมผัสดอยปู่ ไข่ ในฐานะลูกเสือสามัญสักครัง้ หนึง่ แล้ วก็ผจญภัยไปกับห้ วยหนอง คลองบึง ใช้ น� ้ำจากประปาภูเขาหุงหาอาหาร เก็บผักกูดมาต้ มเป็ น อาหารเย็นให้ เพือ่ นลูกเสือได้ กนิ ก่อนแสดงรอบกองไฟ ดอยปู่ ไข่ยงั คงอยูใ่ นความทรงจ�ำของผมตลอดมา 33


นักเขียนรับเชิญ เรื่ อง: ภู เชียงดาว

ชีวิตข้ามดอย ชีวิตคนเรา บ่อยครัง้ มักชอบนึกย้ อนกลับไปเดินบนถนน ของความหลัง เหมือนกับผมในยามนี ้ ชอบหวนนึกไปถึงถนนบน ภูเขาที่ค้ นุ เคยสายนี ้อีกครัง้ หนึง่ ถนนสายท่าตอน-แม่สลองนันยั ้ ง คงอยูใ่ นความรู้สกึ ผม ย้ อนกลับไปเมื่อราวๆ ปี 2530 ผมเคยแบกเป้ มาเป็ นครู อาสาสมัค รเดิ น สอนของ กศน.จ�ำได้ วา่ ผมอาสามาสอนหนังสือ การศึ ก ษาผู้ใ หญ่ แ บบเบ็ ด เสร็ จ ให้ กับ ชาวบ้ า นที่ บ้า นหัว เมื อ ง งาม(บ้ านสุขฤทัย) ต�ำบลท่าตอน อ�ำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่ง เป็ นชุม ชนเล็ก ๆ ที่ ตัง้ อยู่ระหว่างรอยต่อ ท่าตอนกับดอยแม่ สลองเชียงราย ชาวบ้ านส่วนใหญ่จะเป็ นคนจีน ไทยใหญ่ อาข่า ตังถิ ้ ่นฐานบ้ านช่องอยูร่ ่วมกัน และแน่นอน ว่ายุคนัน้ คนแถบนัน้ ยังอ่านหนังสือไม่ออก เขียนไม่ได้ รัฐจึงมีนโยบายรณรงค์ให้ คนใน ประเทศรู้หนังสือกันในทุกๆ พื ้นที่ โดยมอบให้ ทาง กศน.จัดการ ศึกษาผู้ใหญ่แบบเบ็ดเสร็ จ ให้ ทุ ก คนอ่ า นออกเขี ย นได้ และ สามารถออกวุฒิให้ เทียบเท่าระดับประถมศึกษา เนื่ อ งจากผมตั ว คนเดี ย ว จึงขอพักอาศัยอยูบ่ ้ านผู้นำ� หมูบ่ ้ านซึง่ เป็ นคนจีน โดยผมอาศัยอยูห่ ้ องพักเล็กๆ กับอ้ ายใบ้ ผ้ ใู จดี และเป็ นลูกน้ องคนสนิทของผู้น�ำหมูบ่ ้ านแกจะคอยดูแลเอาใจใส่ผม ทังในเรื ้ ่องทีพ่ กั และอาหารการกิน พอตกค�ำ่ ผมก็เดินไปสอนหนังสือ ผู้ใหญ่ในโรงเรี ยนประจ�ำหมู่บ้านพอรุ่ งเช้ าผมก็ขับมอเตอร์ ไซค์ เข้ าไปช่วยงานทีห่ ้ องศึกษาธิการอ�ำเภอ พอตกเย็น ก็ขบั มอเตอร์ ไ ซค์ ก ลับ เข้ า สู่หมู่บ้าน เพื่ อ สอนหนังสือ ผู้ใ หญ่ ใ นช่ว ง กลางคืน พอสอนหนังสือเสร็จ ลูกศิษย์ซงึ่ เป็ นเด็กหนุม่ อาข่า ออกรส ไทยใหญ่ จะเชื ้อเชิญผมให้ ไปเยีย่ มบ้ านซึง่ ตังอยู ้ บ่ นเนินเขาสูงโน้ น ผมจึงชวนอ้ ายใบ้ ไปเป็ นเพื่อนกันด้ วย เมื่อนัง่ อยูใ่ นกระท่อมไม้ ไผ่ เรานัง่ คุยกันอยู่ข้างเตาไฟ เรานัง่ จิบน� ้ำชา และสนทนากันอย่าง

34 34

จนค่อนคืนดืน่ ดึก จึงขอตัวกลับมานอนพัก วิถชี วี ติ ของ ผมจึงวนเวียนแบบนี ้เป็ นประจ�ำแต่ผมรู้สกึ ตืน่ เต้ นทีส่ ดุ ก็คอื ในบาง วันทีผ่ มว่างจากการงาน ผมชอบขีม่ อเตอร์ ไซค์คนั เก่า ไปตามถนน สายท่าตอน-แม่สลอง ไต่ไปตามสันดอย ผมชอบเส้ นทางสายนี ้ เพราะในขณะนัน้ ยังคงเป็ นถนนลูกรัง ตัดผ่านช่องเขาขึ ้นดอยไปไม่ นาน ผมก็โผล่เข้ าสูเ่ ขตของเชียงรายแล้ ว เป้าหมายเบื ้องหน้ านันคื ้ อ ดอยแม่สลอง ผมจึงชอบคุยกับเพือ่ นๆ มิตรสหายว่า ชีวติ ผมเดิน ทางข้ ามจังหวัดกันเป็ นว่าเล่น...ก่อนหน้ าไม่กนี่ าทียงั อยูฝ่ ั่ งเชียงใหม่ พอผ่านพ้ นเนินเขา ก็ยนื อยูเ่ ขตเชียงรายเสียแล้ ว ทุกครัง้ ทีผ่ มยืนอยู่ บนดอยแม่สลอง ผมรู้สกึ ตืน่ ตาตืน่ ใจในวิถชี มุ ชนของทีน่ ี่ บางครัง้ ผมมีความรู้สกึ ว่า เหมือนๆ ผมก�ำลังพลัดหลงมาในดินแดนอีกเมือง หนึง่ ประเทศหนึง่ เลยทีเดียว ยืนบนทีโ่ ล่ง ปล่อยให้ สายหมอกขาว ล่องลอยโอบกอดภูเขา ไกลลิบ ผมมองเห็นดอกพญาเสือโคร่งก�ำลัง บานสะพรั่งบนกิ่งก้ าน และในเวิ ้งไร่เบื ้องหน้ า ผมมองเห็นสวนชา สีเขียวสดอยูต่ ามหลัน่ ลาดเนินดอย และตามสองข้ างทาง ผมมองเห็ น พ่ อ ค้ าแม่ ข าย ส่ ว นใหญ่ จ ะเป็ นพี่ น้ องชาวอาข่ า ไทยใหญ่ ขนพืชผักเมืองหนาวสดๆ จากไร่มานัง่ วางขายในราคาถูก และตรงใจกลางของชุมชนบนดอยแม่สลอง จะมองเห็นบ้ านเรื อน รูปทรงแปลกๆ หลายหลังคาเรื อน ก่อบ้ านด้ วยหิน มีร้านอาหารจีน และขายผลผลิ ต จากชาพื น้ เมื อ งให้ ผ้ ูค นนัก เดิ น ทางได้ แ วะชิ ม รสชาติของชาหอมกรุ่นกันอย่างอิ่มเอมใจ ดอยแม่สลอง หรือหมูบ่ ้ านสันติครี ี เดิมทีนนั ้ เป็ นชือ่ บ้ านแม่สลองนอก และเป็ นชุมชนของอดีตทหารจีนคณะชาติ (ทจช.ก๊ กมินตัง๋ ) กองพล 93 ทีอ่ พยพเข้ ามาในเขตไทย จ�ำนวน 2 กองพันคือ กองพันที่ 3 เข้ ามาอยูท่ อี่ ำ� เภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ และ กองพันที่ 5 อยูท่ บี่ ้ านแม่สลองนอก ตังแต่ ้ พ.ศ. 2504 เป็ นต้ นมา


ที่ผ่านมาพวกเขาได้ เคยช่วยราชการไทยต่อสู้และปราบ ปรามคอมมิวนิสต์ในพื ้นที่ ดอยหลวง ดอยยาวและดอยผาหม่น จังหวัดเชียงราย ในช่วงปี พ.ศ. 2514 - 2528 และพื ้นทีเ่ ขาย่าจังหวัด เพชรบูรณ์ ในปี พ.ศ. 2524 จากการสู้รบดังกล่าวรัฐบาลไทยจึง ก�ำหนดสถานะให้ อดีตทหารจีนและคณะชาติเหล่านันเป็ ้ นผู้ทำ� คุณ ประโยชน์แก่ประเทศไทย จนกระทัง่ ในปี พ.ศ. 2515 คณะรัฐมนตรีมี มติรับทหารจีนคณะชาติให้ อาศัยในแผ่นดินไทยอย่างเป็ นทางการ พร้ อมกันนันได้ ้ ขอร้ องให้ ทกุ คนยุตกิ ารค้ าฝิ่ น มีการปลดอาวุธ แล้ ว หันมาท�ำอาชีพเกษตรกรรมโดยได้ ริเริ่มโครงการปลูกชา และปลูก สนสามใบเพื่อทดแทนป่ าชุมชนบนดอยแม่สลองได้ ชื่อใหม่เป็ น บ้ านสันติครี ีจนกระทัง่ มีการออกบัตรประชาชนให้ เมือ่ ปี พ.ศ. 2521 จากนันดอยแม่ ้ สลอง จึงคืนสูค่ วามสงบนับแต่นนมาจนถึ ั้ งทุกวันนี ้ ผมชอบนัง่ มองวิถชี มุ บนดอยแม่สลอง เคลือ่ นไหวไปมาอยู่ อย่างนัน้ ตังแต่ ้ เช้ าสายถึงเย็น จึงขีม่ อเตอร์ไซค์เดินทางกลับข้ ามดอย ไปยังบ้ านหัวเมืองงาม หรือบ้านสุขฤทัย เพือ่ เตรียมแผนการเรียนการ สอนการศึกษาผู้ใหญ่ ให้ ทนั ก่อนมืดค�ำ่ ระหว่างทางนัน้ ผมชอบแวะ ซื ้อพืชผักและเผือกของพีน่ ้ องชาวอาข่า กลับมาอีกด้ วย ผมใช้ ชีวติ ข้ามดอย ไปมาแบบนีอ้ ยู่นานหลายเดือน และท�ำให้ผมรู้ว่า การเดินทางข้ามดอยแบบนี ้ ท�ำให้เราได้สมั ผัส การเรียนรู้หลายสิ่งหลายอย่างที่เราไม่เคยรู้...ถนนมีทงั ้ ราบเรียบ ขรุขระและสูงชัน มนุษย์มภี าษา แต่ชวี ติ ชีวานัน้ ต้องมีความฝั น ดอกหญ้าชอบขึนตามเนิ ้ นเขา นกป่ าบินอยู่ในป่ า ขุดเผือกมัน ออกมากองไว้ เผื่อเตรียมใจไว้ในอนาคต หากแผ่นดินนัน้ ปริล่ นั สั่นสะเทือน จะใช้ชวี ติ กันอย่างไร ฯลฯ ซึ่งแต่ละเรื่องราวที่พาน พบนัน้ ล้วนมีชวี ติ และจิตวิญญาณทัง้ สิน้ ผมไม่ร้ ูว่า พอวันเวลาผันผ่านไปนานนับ 20 ปี แล้ว ถนนบนภูเขาสายนี ้ ชุมชนที่ผมเคยอาศัยอยู่ และผู้คนวิถชี มุ ชน วัฒนธรรมบนดอยแม่ สลอง จะเปลี่ยนไปมากน้ อยเพียงใด แต่ การนึกย้ อนกลับไปครั ง้ นี ้ ท�ำให้ หวั ใจผมเต้ นแรง เหมือน ก�ำลังให้ผมตัดสินใจหวนกลับไปเยือน ใช่ , หัวใจผมก�ำลังเรียกร้ องให้ออกเดินทางอีกครัง้ .

35 35


Another Chapter เรื่ อง: เมถุนารี ภาพประกอบ : กะปิ

“ขอบคุณค่ะ”

ดอยเหงา - Chapter 2

36

-

หญิ งสาวยิม้ หวานพลางส่งเงินทอนให้ ลกู ค้ ารายที่สิบ ของวันอย่างแข็งขัน ยังไม่ทนั ที่เสียงกระดิง่ หน้ าประตูจะหายไป เจ้ ากระดิง่ สีเหลืองก็สนั่ อีกครัง้ ร่างสูงใหญ่ที่ดคู ้ นุ หน้ าก้ าวเข้ ามา ยิ ้มกว้ างทักทายเธอราวกับตัวเขาเป็ นพระอาทิตย์แรกแย้ มของวัน นีเ่ ธอคิ ดว่าเขาคิ ดว่าตัวเองเป็ นอย่างนัน้ หรื อ เธอเองที ่ คิ ดว่าเขาเป็ นอย่างนัน้ ... กันแน่ หา? ลลิ ล ---- สมองตัง้ ค�ำถาม เธอแต่เช้า ยังไงก็ชา่ ง แต่ตอนนี ้ชายหนุม่ เปลี่ยนจากสีหน้ าจาก พระอาทิตย์ยิ ้มแฉ่งเป็ นหน้ าหมาหงอยทันทีที่เห็นเจ้ าของร้ านหุบ ยิ ้ม “หมายความว่ายังไงกันครับ” ชายหนุม่ หยุดยืนกับที่ เมื่อเห็นท่าทีที่เปลี่ยนไปของเธอ “หมายความตามที่เห็นนี่ละ่ ค่ะ รับอะไรดีคะ” ยังไงเขาก็ เป็ นลูกค้ านี่นะ เงินไม่ใช่ปัจจัยสี่ แต่สงิ่ ที่เธออยากได้ ทกุ อย่างต้ อง ใช้ เงิน ---- ยิ ้มสิ ยิ ้ม...


“ นายลูก หมาแฟรปปูชิโ น่... ทีป่ รากฏตัวตรงหน้ าแวะ เวียนมาเป็ นลูกค้ าที่ร้านเธอจนแทบจะยึดต�ำแหน่งขาประจ�ำได้ แล้ ว เขาเปลีย่ นเมนูเครื่ องดืม่ ทีส่ งั่ ทุกครัง้ และเพียรถามเธอเกี่ยวกับ เกร็ดเล็กเกร็ดน้ อยของเมนูทสี่ งั่ แต่ละอย่างด้ วยความสนใจใคร่ร้ ู “วันนี ้ผมขอสองแก้ วทูโกนะฮะ ผมยอมเป็ น ‘ชายพจน์’ เพราะจะขับรถขึ ้นดอยแต่เช้ าเลย ต้ องกระตุ้นกันหน่อย” เขาพูด ด้ วยสายตามุง่ มัน่ หญิงสาวฉีกยิ ้มให้ เขาแล้ วหุบมันลงโดยทันที “เหรอคะ... ใครเขาขึ ้นดอยตอนหน้ าฝนกัน” กลิ่ น ของเมล็ ด กาแฟที่ เ ริ่ ม โดนบดให้ ล ะเอี ย ดลงช้ า ๆ ก�ำลังหอมตลบอบอวลไปทัว่ ร้ าน ชายหนุม่ สูดมันเข้ าเต็มปอด เมื่อ รู้สกึ ว่ากลิน่ เริ่ มแรงขึ ้นจึงรู้ตวั ว่าเจ้ าของร้ านท�ำเสร็จแล้ ว “อะ... อีกแก้ วผมยังไม่ร้ ูวา่ เขาจะสัง่ อะไรนะฮะ” เขาประคองแก้ วกาแฟร้ อนมาดื่มอย่างระมัดระวัง ลลิลท�ำตาขวาง ชายหนุม่ แอบยิ ้มอย่างอารมณ์ดี ท�ำไมคุณไม่ไปถามมาให้ สิ ้นเรื่ องล่ะคะ...ก็อยากจะพูดอย่างนัน้ อยูห่ รอกนะ แต่ปล่อยล�ำแสงพิฆาตไปแล้ ว อดทน... อดทน “ฉันให้ เวลาคุณ 10 วินาทีไปถามเขาละกัน” นี่ปราณี แล้ ว...? “ได้ ฮะ... แล้ วปกติคณ ุ ดื่มอะไรล่ะฮะ” ชายหนุม่ ถาม หน้ าตาเฉย เขาเปิ ดฝาแก้ ว ‘ชายพจน์’ ร้ อน แล้ วค่อยๆ เป่ า ลลิลมองหน้ าเขาด้ วยสีหน้ าที่บอกไม่ได้ ว่าเรี ยบเฉยหรื อ มึนงงกันแน่ บางทีเธอก็นกึ เกลียดสมอง ก่อนหน้ านี ้ก็ออกตัวห้ าม นัน่ ห้ ามโน่นเธอเสียเยอะ แต่ตอนนี ้กลับเป็ นเสียงกลองเต้ นระรัว อยูภ่ ายในแทน... ซึง่ หญิงสาวเองก็หวังว่าคงเป็ นเสียงห้ าม นายลูกหมาชี ้ไปที่กรอบรูปบนฝาผนังด้ านหลังเธอ ภาพ ขาวด�ำในกรอบมีฉากเป็ นผืนกระจกที่มีหยดน�ำ้ เกาะไหลลู่ลงมา เป็ นแนว หากมองจากมุมสูงลงไปไกลนันคื ้ อกิ่งก้ านของไม้ ใหญ่ และสายน� ้ำกว้ างไหลเคียงร่องกลางสองภู “ผมอยากรู้วา่ ท�ำไมรูปนันถึ ้ งดูเหงาจัง ดอยหน้ าฝนมัน เหงาขนาดนันเลยหรื ้ อครับ” สายตาหญิ งเจ้ าของร้ านไม่ได้ เหลียวตามนิว้ มือผู้ชาย จ�ำไม เธอกดมันต�่ำในระดับที่สามารถแน่นิ่งอยูก่ บั เครื่ องกาแฟ ตรงหน้ าให้ ได้ โดยไม่วอกแวกไปไหน

ใครว่าดอยหน้ าฝนดูเหงากัน.... มีสายฝนกับไอน� ้ำเดิน ทางเป็ นเพื่อน ถนนก็ถกู ฝนล้ างให้ เป็ นสีเข้ ม ไม่แห้ ง ไม่ซีดไป อาจ จะดูอนั ตรายสักหน่อย แต่ขนุ เขาบอกว่าไม่เป็ นไรนี่นา --- ดีเสีย อีกที่กระตุ้นสติในการขับรถ เพราะต้ องระวังเป็ นพิเศษ แปลกดี ทังๆ ้ ที่น� ้ำฝนไม่มีสี แต่เวลาที่มนั ชโลมลงบนสีเขียวของผืนดอย ยิ่งท�ำให้ ภเู ขาดูใจดีมากกว่าฤดูไหนๆ ราวกับเขาลูกนันและลู ้ กนี ้ ก�ำลังเผื่อแผ่ความชุม่ ชื ้นให้ ผ้ มู าเยือน มันส่งสารเชิญชวน เพราะ สุดปลายทางคืองานเลี ้ยงเริ งระบ�ำของกลีบดอก ภูผา ใบหญ้ า... เป็ นที ข องพวกมัน ที่ จ ะได้ รั บ พรชุ่ม ฉ�่ ำ จากเบื อ้ งบน เราที่แบก กล้ อ งมาตัง้ ไกลแสนไกลนั น้ เป็ นได้ เพียงพยานรับรู้วา่ พวกมัน สนุกกันแค่ไหน… เท่านัน้ “ระวังนะฮะ ผมว่าคุณเลย 10 วินาทีแล้ วล่ะ” เสียงโพล่ง ขึ ้นมานันท� ้ ำให้ หญิงสาวรู้สกึ ตัวและเงยหน้ ามองเขา “ ‘ชายพจน์’ หนึง่ ที่ 60 บาทค่ะ” เธอว่าพลางกดเครื่ อง คิดเงินตามความเคยชิน ชายหนุ่ ม ยิ ม้ ให้ เธอ ไม่ใช่ยิ ้มราวพระอาทิตย์แย้ มเช่น ตอนแรก... กลายเป็ นพระอาทิตย์ที่อมแสงเฉาๆ ชอบกลเขาถอน หายใจเบา วางเงินลงบนเคาน์เตอร์ แล้ วเดินออกจากร้ านโดยมี เสียงกระดิง่ ดังส่งแขกแทนเสียงเจ้ าของร้ าน เธอท�ำถูกแล้ วลลิล --- สมองขอโทษที่หายไปนาน แต่นี่ ไม่ใช่เวลาให้ ยอดดอยหรื อใบหญ้ าปลอบใจ เธอยังไม่แข็งแรงพอ ส�ำหรับระบ�ำสายฝนบนนัน้

ไม่ใช่ตอนนี ้หรอก

โปรดติดตามตอนต่อไป

37 37


ตามรอยล้อ เรื่ อง: อภิชิต ศิริชยั

ม่อนดอยในเวียงเชียงราย เวียงเชียงราย สร้ างโดยพระญามังรายมหาราช เมื่อปี พ.ศ. 1805 พระองค์ทรง แลเห็นชัยภูมิลกั ษณะที่ดี ด้ วยว่ามีที่ราบข้ างล�ำน� ้ำใหญ่ และถือคติการสร้ างเวียงตาม บรรพบุรุษของท่านที่เมืองหิรัญนครเงินยาง ตามต�ำนานว่า “...อยู่บน่ านเท่าใดช้ างมงคล เจ้ ามังรายปล่อยไปหัวดอยหนวันออกเจ้ าไปตามรอยช้ างหันประเทสที่ 1 ข้ างริ มน� ้ำแม่กก มีม่อนดอยสูงสะเพิงงามนักเจ้ าจริ งคระนิงใจว่าเมื่อปู่ กูเจ้ าลาวจงส้ างบ้ านหื ้อปู่ กูเจ้ าลาว เก้ าอยู่ได้ ยินว่าเพิกดอยผาเลาวันนันเมื ้ ่อปู่ กูเจ้ าลาวเคียงสร้ างเมืองเงินยางก็จิ่มตีนดอย ทัง้ 3 คือ ดอยตุงดอยทาดอยย่าเถ้ าวันนันดี ้ แลเหตุดงั อันควรกู ้ กท�ำม่อนดอยหื ้อเป็ นสะดือ เมืองกท�ำกลางเมืองควรชะแล้ เจ้ ามังรายจิ่งสร้ างเวียงกวมดอยจอมทองหือ้ มีท�่ ำกลาง เวียง สร้ างในปี เต่าเส็ดสกราช 624 ตัวปรากฏชื่อว่าเชียงรายหันแล…” ้ เรื่ องราวของม่อนดอยในเวียงเชียงราย ถูกลืมเลือนไปด้ วยไม่มีผ้ ใู ดบันทึกไว้ แต่ ใช่ว่าจะหายไปหมดสิ ้นไม่ ยังมีผมที่ยงั เก็บข้ อมูลเก่าๆ มาเล่าสูก่ นั ฟั ง

เวียงเชียงราย มีกลุม่ ม่อนดอยทีส่ ำ� คัญอยูใ่ นก�ำแพงเวียงอยู่ 5 ม่อน อันได้ แก่

38


1. ม่อนจอมทอง (ออกเสียง ม่อนจ๋อมตอง)ที่ตงเจดี ั ้ ย์ จอมทองหรื อ วัด พระธาตุด อยจอมทอง เรี ยกตามชาวบ้ านว่า “ดอยตอง” เป็ นม่อนดอยส�ำคัญที่พระญามังรายทรงกระท�ำให้ เป็ น “สะดือเมืองเชียงราย” ปั จจุบนั ได้ เป็ นสถานที่ทอ่ งเที่ยวด้ วย มีพระธาตุจอมทองและสะดือเมืองเป็ นที่เคารพสักการะแก่ชาว เชียงรายและนักท่องเที่ยวทัว่ ไป

“ข่วงหลวง” ปี พ.ศ. 2464 ต่อมาเป็ นสถานทีต่ งั้ หน่วยทหารกองเมือง เชียงราย” ด้านหลังจะเห็นพระธาตุจอมทองอยู่

2. ม่อนจอมแจ้ ง คือ ม่อนทีค่ นั่ อยูร่ ะหว่าง ม่อนจอมแว่ กับ ม่อนจอมทอง ทีต่ งบ้ ั ้ านพักรับรองของจอมพลแปลก (ป. พิบลู สงคราม) เมือ่ ครังท่ ้ านบัญชาให้ จดั สร้ างเพือ่ ใช้ เป็ นศูนย์บญ ั ชาการ ทหารเพื่อไปรบในสงครามเชียงตุง แต่เมื่ อ สร้ างแล้ วเสร็ จ จอมพลแปลก กลับไม่ได้ เข้ าพักเลยแม้ แต่คนื เดียวจนกระทัง่ สิ ้นชีวติ ใกล้ๆ กันใช้ เป็ นสถานทีต่ งสถานี ั้ วทิ ยุกระจายเสียงกรมการทหาร รักษาดินแดน (ร.ด.) ซึง่ ดัดแปลงอาคารหลังเดิมของ “โรงไฟฟ้า เทศบาลเมืองเชียงราย” มาใช้ เป็ นสถานีฯ เมือ่ ประมาณ 60 ปี กอ่ น โรงไฟฟ้าแห่งนี ้จะเริ่มเดินเครื่องก�ำเนิดไฟฟ้าขนาด 25 กิโลวัตต์ ตังแต่ ้ เวลา 17.30 – 21.00 น. เพือ่ จ่ายไฟฟ้าไว้ ใช้ ในเวียงเชียงราย 3. ม่อนจอมแว่ ทีต่ งวิ ั ้ ทยาลัยสงฆ์ มหาวิทยาลัยมหา จุ ฬ าลงกรณราชวิ ท ยาลัย (ก่ อ นหน้ าคื อ ศาลากลางจั ง หวั ด เชียงราย หลังที่ 2 ) ดอยม่อนนี ้เคยใช้ เป็ นทีต่ งั ้ “หน่วยทหารกอง เมืองเชียงราย” มาก่อน ต่อมารัฐบาลสยามมีคำ� สัง่ ยุบหน่วยทหาร กองเมืองเชียงรายเมือ่ ปี พ.ศ. 2471 ประมาณปี พ.ศ. 2492 มีการ จัดตัง้ “จังหวัดทหารบกเชียงราย” ขึ ้นบนบริเวณสันดอยริมฝั่ งน� ้ำ แม่กกจนถึง บ้ านเด่นห้ า จึงย้ ายศูนย์บญ ั ชาการทหารไปทีน่ นั่

ภายหลัง ม่ อ นจอมแว่ ซึ่ง เป็ นที่ ว่ า งโล่ ง ๆอยู่ เมื่อปี พ.ศ. 2496 จึงใช้ เป็ นสถานที่ตงถั ั ้ งประปาคอนกรี ตขนาดใหญ่ ไว้ สง่ น� ้ำประปาไว้ ใช้ หล่อเลี ้ยงชาวเวียงเชียงราย ชาวบ้ านทัว่ ไป ในยุคนี ้กลับเรียกว่า “ดอยจ�ำปี ” จากลักษณะพื ้นทีท่ มี่ ตี ้ นจ�ำปี ขนาดใหญ่ยืนต้ นอยู่บริ เวณนี ้ยังเป็ นสถานที่จดั งานส�ำคัญใน อดีตคือ “พิธีเลี ้ยงผีนาค” เมือ่ ปี พ.ศ. 2460 เรียกบริเวณนี ้ว่า “ข่วงหลวง” นับจากเชิงม่อนจอมแว่ผ่านที่ราบด้ านล่างไปจรด กับม่อนจอมทอง ปั จจุบนั ไม่มีภาพนันให้ ้ เห็นแล้ ว 4. ม่ อนฤาษี (หรื อ ม่ อนรสี) อยู่ด้านหลังม่ อน จอมแจ้ ง ซึ่งเล่ ากันว่ าอดีตเคยมี ฤาษี มาตัง้ อาศรมพ�ำนัก บ�ำเพ็ญบุญอยู่ซ่ ึงม่ อนนี เ้ ป็ นเทือกเขาม่ อนเดียวกันกับ “ดอยงาม” หรื อที่ตงั ้ “วัดงามเมือง” (ปั จจุบนั เรี ยกเพีย้ น เป็ น วัดง�ำเมือง) ปั จจุบนั มีเอกชนเข้ าไปใช้ พนื ้ ที่แล้ วส่ วน หนึ่ง อีกส่ วนเป็ นเขตวัดดอยงามเมือง 5. ม่ อนเจ้ าคุณฯ (ม่ อนเจ้ าคุณราชเดชด�ำรง) พระยาราชเดชด�ำรง(ผล ศรุ ตานนท์ ) อดีตผู้ว่าราชการ จังหวัดเชียงราย และอดีตนายกเทศมนตรี เทศบาลเมือง เชียงราย ท่ านได้ ใช้ ดอยม่ อนนีเ้ ป็ นบ้ านพักอาศัย โดย ปลูกบ้ านไม้ หลังใหญ่ มีบนั ไดขึน้ สูงชัน มีน�ำ้ บ่ อหลวงอยู่ ที่เชิงดอย ปั จจุบนั คือสถานที่ตงั ้ ศูนย์ โทรคมนาคมจังหวัด เชียงราย (CAT) อยู่ ใ กล้ ๆ กั บ สนามฟุ ต บอลโรงเรี ย น เชี ย งรายวิ ท ยาคม เป็ นเทือกเขาที่ต่อเนื่ องไปสิน้ สุดที่ ส�ำนักงานการไฟฟ้าส่ วนภูมภิ าค จ.เชียงราย และส�ำนักงาน รพช.เชียงรายมีถนนคั่นกลางระหว่ างม่ อนเจ้ าคุณฯ กับ ม่ อนฤาษี (ดอยงามเมือง) ชื่อว่ า ถนนราชเดชด�ำรง (ตัง้ ชื่อ ถนนเพื่อเป็ นเกียรติแก่ พระยาราชเดชด�ำรง) บริเวณนีอ้ ดีต เรียกว่ า “ฮ่ อมดอย” ซึ่งเป็ นสถานที่อโคจรส�ำหรับหลายๆ ท่าน แต่มนั ก็เป็ นแค่ เรื่องราวในอดีตที่ผ่านพ้นมาแล้ ว เรื่ องราวของ “ดอย” ในฉบับนีค้ งต้ องน�ำมา เสนอแต่ พอสังเขปเท่ านี ้ ท้ ายนีข้ อฝากชาวเชียงรายและ หลายๆ ท่ านว่ า ดอย คือ ภูเขา ชาวล้ านนาให้ เรี ยกว่ า ดอย ไม่ ใช่ เรี ยกว่ า ภู (ค�ำว่ า ภู ขอสงวนไว้ ให้ ชาวอีสาน เถิด) เพราะปั จจุบนั ทุกหนแห่ งในเชียงรายแทบจะหาฟั ง ค�ำว่ า “ดอย” ไม่ ได้ แล้ ว

39 39


ชวนอ่านกับห้องสมุดเสมสิขาลัย เรื่ อง: ชาลี จินย์

ภู-มี-ศาสตร์ : ความรู้จากภูเขา เรื่องราวจากผู้คน

สารคดีคดั สรร 20 ภู จากมติชนสุดสัปดาห์ โดย บินหลา สันกาลาคีรี. ส�ำนักพิมพ์โพสต์บ๊ กุ ส์, 2551. ราคา 195 บาท.

40

หนังสือเล่มนี ้ตีพิมพ์ในปี 2551 จ�ำได้ วา่ ผมหยิบและ ซื อ้ หนัง สื อเล่มนี ท้ ันที แ ทบจะไม่เ ปิ ดดูภายในเล่มเลยด้ ว ยซ� ำ้ เพราะชื่อนักเขียน “บินหลา สันกาลาคีรี” อย่างเดียวเลยผม ปวารณาตัวเป็ นแฟนหนังสือของบินหลามาเนิ่นนาน นับถึง ปั จจุบนั ก็เกือบยี่สบิ ปี แล้ ว จากหนังสือเล่มแรกที่ได้ ท�ำความรู้จกั กันเป็ นต้ นมา ผลงานของบินหลา สันกาลาคีรี โดยมากมักจะเป็ น รวมบทความ เรื่ องสัน้ นวนิยาย แต่พอมาเป็ นสารคดีแล้ ว ท�ำให้ ภู-มี-ศาสตร์ มีเสน่ห์เหลือล้ น ดังค�ำคิดเห็นของ ค�ำสิงห์ ศรี นอก ได้ ให้ ไว้ วา่ “...ภู-มี -ศาสตร์ เป็ นหนังสือทีม่ ี ลีลาประหลาด ผสม ประสานเรื ่องราวพ้นยุคทีท่ นั ยุคและล�้ำยุค เหมาะอย่างยิ่ งทีจ่ ะ อ่านใน พ.ศ.นี”้ วรรณศิลป์ ลีลาลูกเล่นทางภาษา อารมณ์ขนั ที่เป็ น ลายเซ็น (แต่ในท่วงท�ำนองทีวา่ นี ้ ผมทะลึง่ เห็นเงาของรงค์ วงษ์ สวรรค์ทาบทับอยู่ อาจมีความเป็ นเหตุเป็ นผลเกี่ยวข้ องกันอยู่ แต่ก็เป็ นไปได้ วา่ ความรู้สกึ ของผมนันมั ้ นทะลึง่ ไปเอง) เรื่ องราว ทังหลายที ้ ่ภมู ี จวบจนสรรพศาสตร์ ที่มีในภู ได้ ร้อยเรี ยงออกมา อย่างน่าตื่นตาตื่นใจใคร่อา่ นควรศึกษาเป็ นอย่างยิ่ง หากมองภูเขาในเงาของพระศาสนา: คิชกูฏ (เขาอี แร้ ง) นามกระเดื่อง ก็คือเขาที่พระบรมนราศภทรงอาศัยเป็ น สรณะบ�ำเพ็ญสมาธิและเผยแผ่พระสัทธรรม ยังปรากฏเป็ นร่อง รอยพระกุฎีที่ประทับจนถึงทุกวันนี ้ (และก็ยงั คงอุดมด้ วยนกแร้ ง เฉกเช่นเดิม)เช่นเดียวกับที่พระเยซูคริ สต์ได้ อาศัยภูเขามะกอก เทศ (Mount of Olive) เป็ นที่ประทับและถ่ายทอดค�ำสอน ก่อน จะสิ ้นพระชนม์บนไม้ กางเขน ณ เนินเขากอลโกธา หรื อเนินเขา หัวกะโหลกยับปั นโนน หรื อ ญะบัลนูร (ภูเขาแห่งรัศมี) เนินเขา ในทะเลทราย ที่ซงึ่ ท่านนะบีมฮุ มั มัด เดินขึ ้นไปเพื่อถือศีลอด อด อาหาร ท�ำสมาธิ ครุ่นคิดตรึกตรองเกี่ยวกับชีวิต กระทัง่ ได้ รับ พระโองการจากอัลเลาะห์พระผู้เป็ นเจ้ าเป็ นครัง้ แรกในวันที่ทา่ น อายุครบ 40 ปี


ด้ านการเป็ นสมรภูมติ ่ อสู้ เทือกเขาดงดอยก็หลีกไม่ พ้ นทัง้ ในแง่ ของชัยภูมิ หรื อแม้ แต่ ท่ หี ลีกเร้ นจากข้ าศึกศัตรู ดังที่ ฮานนิบาล ขุนพลผู้เคยน�ำทัพคาร์ เธจข้ ามเทือกเขา แอล์ ปสมาเหยียบยืนแผ่ นดินโรม แต่ คงได้ เพียงฝากถ้ อยค�ำ อย่ างขื่นขมให้ เทือกภูเป็ นพยาน“ข้ าพเจ้ าพูดได้ ว่าฮานนิบาล ได้ พ่ายแพ้ แล้ ว แต่ มไิ ด้ แพ้ แก่ ชาวโรมันซึ่งถูกข้ าพเจ้ าตีแตก ยับเยินหลายครั ง้ ข้ าพเจ้ าแพ้ รัฐบาลคาร์ เธจ” (ฮานนิบาล : พระเจ้ าวรวงค์ เธอพระองค์ เจ้ าจุลจักรพงษ์ ) ส ม ร ภู มิ บ น เ ข า จิ่ ง กั ง ซ า น ฐ า น ที่ มั่ น ที่ พ ร ร ค คอมมิวนิสต์ ของเหมาเจ๋ อตุง ได้ ยดึ เป็ นชัยภูมติ ่ อสู้กบั จอมพล เชียงไคเช็ค ผู้นำ� พรรคก๊ กมินตั๋งเมื่อพรรคคอมมิวนิสต์ จำ� ต้ อง ทิง้ ที่ม่ นั แต่ กต็ ้ องถอยร่ นอย่ างมียทุ ธวิธดี ้ วยปรีชาญาณบวก กับก�ำลังใจเหนือมนุษย์ ของผู้น�ำและเหล่ าเสนาธิการรวมถึง ไพร่ พลเป็ นการเดิน ทัพผ่ านเทือ กเขาสู ง พายุ หิมะที่โ หม กระหน�่ำ กันดารและแสนโหดร้ ายล�ำเค็ญ แม้ แต่ นกก็ยงั ยาก บินข้ ามผ่ าน เว้ นเสียแต่ เทวดา “ข้ าพเจ้ าเห็นกับตา สหาย 3 คนกอดกันหยุดพัก คิดจะให้ ร่างกายอบอุ่นสักหน่ อย แต่ แล้ ว พวกเขาก็มไิ ด้ ลุกขึน้ มาอีกเลย

ข้ า พเจ้ า ได้ แต่ ห ลั่ ง น� ำ้ ตาอยู่ เงีย บๆ ด้ วยความขมขื่นและ อาลั ย สหายที่ถูก หิม ะกลบกลื น ไป ”เอ็ ด การ์ สโนว์ นัก หนั ง สื อพิม พ์ ไ ด้ ใ ห้ ถ้ อยคารวะวี ร กรรมนี ว้ ่ า “เมื่ อเทียบกั บ กองทัพแดงแล้ ว การข้ ามภูเขาแอล์ ปสของฮานนิบาลก็เป็ น เพียงการทัศนาจรในวันพักผ่ อนเท่ านัน้ ” อีกหลายเทือกภู อีกหลากเรื่ องราวและต�ำนาน ที่เลือด ต้ องไหลนองสูห่ ้ วย หยาดเหงื่อและน� ้ำตาผุดพรายประสมละออง ฝนและสายหมอก ทังโทมนั ้ สและปี ติสขุ เกิดขึ ้นทับซ้ อนในราวไพร ดงดอย ขุนเขา และเวิ ้งฟ้า นานาเรื่ องราวที่เกิดขึ ้นได้ ถกู บันทึก และร้ อยเรี ยงเป็ นสารคดีบนภูไพรอย่างน่าสนใจยิ่ง ตากูร์กาฮร์ ‘บิน ลาเดน คีรี’ ภูเขาที่สมุ ด้ วยเพลิงแค้ นต่อ ระบบทุนนิยมของมหาอ�ำนาจประเทศ จนบ่มเพาะผู้ก่อการร้ าย สะท้ านโลก สร้ างโศกนาฏกรรม 11 กันยายน2001 สะเทือนไว้ ใน หน้ าประวัตศิ าสตร์ โลก‘บิน ลาเดน คีรี’โดยชื่อคงเชื่อได้ วา่ ไม่มีสงิ่ ใดจะเชื่อมโยงเกี่ยวข้ องกันกับผู้เขียน แต่เรื่ องเล่าของตากูร์กาฮร์ และทุกๆภู ที่มีใน ภู-มี-ศาสตร์ เล่มนี ้แหละที่ท�ำให้ ร้ ู สกึ ได้ ว่าผู้ เขียนลึกซึ ้งและเอาใจใส่ต่อเรื่ องที่ถ่ายทอดนักเพราะเขาคือ ‘บินหลา สันกาลาคีรี’

41


42


43


อาเซียนและเฮา เรื่ อง: กะปิ

ยอดเขา ที่สูงสุด ของชาวอาเซียน หากพูดถึงยอดเขาสูงที่สดุ ในโลก เอเวอร์ เรสเป็ นยอดเขาที่สงู ที่สดุ ในโลก ฉบับนี ้ “เฮา” มียอดเขาที่สงู ที่สดุ ในอาเซียนมาน�ำเสนอค่ะ (เรี ยงล�ำดับจากยอดเขาที่สงู ที่สดุ ไปถึงต�่ำที่สดุ )

เมียนมาร์ Hkakabo Razi ยอดเขา คากาโบราซี 5,881 เมตร (19,295 ฟุต) เทือกเขาที่มีพรมแดนติดกับประเทศจีนและเป็ น ส่วนหนึง่ ของเทือกเขาหิมาลัยและเป็ นยอดเขาที่ สูงที่สดุ ในภูมิภาคอาเซียนอีกด้ วย ยอดเขาคา กาโบราซีมีสภาพเป็ นหิมะและมีน� ้ำแข็ง อากาศ จึง หนาวเย็ น ตลอดทัง้ ปี เมื่ อ ถึง ฤดูร้ อนน� ำ้ แข็ ง และหิ มะจะละลายท�ำให้ กลายเป็ นทะเลสาบ

44

อินโดนีเซีย Puncak Jaya ยอดเขา ปุนจักจายา 4,884 เมตร (16,024 ฟุต ) เดิมชื่อว่ายอดเขาการ์ สเตินส์เป็ นที่ตงั ้ ของธาร น� ำ้ แข็ ง แห่ ง สุด ท้ า ยในพื น้ ที่ เ ส้ น ศูน ย์ สูต รของ อินโดนีเซีย ปั จจัยทีท่ ำ� ให้ มธี ารน� ้ำแข็งนี ้คือความ สู ง และอุ ณ หภู มิ อ ากาศที่ เ ย็ น และแห้ งแล้ ง อุณหภูมติ อนกลางวันเฉลีย่ ที่ 12 องศาเซลเซียส ตอนกลางคืนเฉลี่ยที่ -8 องศาเซลเซียส

มาเลเซีย Mount Kinabalu คินาบาลู 4,095 เมตร (13,435 ฟุต)

เวียดนาม Fansipan ยอดเขาฟานซีปัง 3,143 เมตร (10,312 ฟุต)

ยอดเขาคิ นาบาลู ตังอยู ้ ใ่ นอุทยานแห่งชาติคนิ า บาลู เดิมทียอดเขาคินาบาลูถกู จัดว่าเป็ นยอด เขาที่สงู ในภูมิภาคอาเซียน คินาบาลูเป็ นสถาน ที่ ท างธรรมชาติ แ ห่ ง แรกในมาเลเซี ย ที่ ไ ด้ ขึ น้ ทะเบียนเป็ นมรดกโลก เนื่องจากว่าเป็ นสถานที่ ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพมากที่สดุ แห่ง

ยอดเขาที่มีความสูงที่สดุ ในประเทศเวียดนามมี ฉายาว่า “หลังคาแห่งอินโดจีน” ในช่วงเดือน มกราคม-กุมภาพัน ธ์ ซึ่ง เป็ นช่ว งอากาศหนาว มากบางปี จะถึง 0 องศา หรื ออาจจะติดลบเลยที เดียว ถ้ าหากไปยอดฟานซีปังจะได้ สมั ผัสทะเล หมอกรอบทิ ศ ทางหากมองจากบนยอดเขา สามารถมองได้ ไกลถึงชายแดนจีน


ฟิลิปปินส์ Mount Apo ภูเขาอาโป 2,954 เมตร (9,692 ฟุต)

ลาว PhouBia ภูเบี้ย 2,819 เมตร (9,249 ฟุต)

ยอดเขา อาโป ปั จจุบนั ได้ ถกู จัดเป็ นอุทยานแห่ง ชาติอาโป ได้ รับการขึ ้นทะเบียนเป็ นมรดกโลก ของฟิ ลปิ ปิ นส์มนี กมากกว่า 270 สายพันธุ์ ทุกวัน นี ้ยอดเขาอาโป เป็ นยอดเขาทีย่ งั คงเป็ น Active volcano อยู่ (ภูเขาทีม่ แี นวโน้ มจะประทุอยูเ่ สมอ)

ยอดเขาที่ สู ง ที่ สุ ด ในลาว อากาศในบริเวณนี ้ หนาวและมีหมอก ก่อนหน้ านี ้ภูเบี ้ยเป็ นเขตพื ้นที่ หวงห้ ามทางการทหารใกล้ กับฐานปฏิบัติการ ทางอากาศล่ อ งแจ้ ง แต่ จ ากข้ อ มูล ปั จ จุบัน ทางการลาวได้ ตัด ถนนมุ่ง ไปยัง ปลายภูแ ห่ ง นี แ้ ล้ ว เพื่ อ พัฒ นาให้ เ ป็ นแหล่ ง ท่ อ งเที่ ย วทาง ธรรมชาติ ชัน้ น� ำ ของประเทศ

ไทย DoiInthanon ดอยอินทนนท์ 2,565 เมตร ( 8,415 ฟุต)

บรูไน Bukit Pagonบูกิต ปากอน 1,850 เมตร (6,070 ฟุต)

เป็ นส่วนหนึ่งของเทือกเขาหิมาลัยซึ่งพาดผ่าน จากประเทศเนปาล ภูฐาน พม่า และมาสิ ้นสุดที่ เชี ย งใหม่ มีสภาพภูมิประเทศและสภาพป่ าที่ หลากหลาย อากาศทีห่ นาวเย็นตลอดทังปี ้ ในฤดู หนาวจะมี ห มอกปกคลุม เกื อ บทัง้ วัน บางครัง้ น� ้ำค้ างยังกลายเป็ นน� ้ำค้ างแข็ง หรือ “แม่คะนิ ้ง” จึงเป็ นเสน่ห์ที่ดึงดูดให้ มีผ้ ูมาเยือนที่นี่อย่างไม่

ยอดเขาป่ าดงดิบที่ตงอยู ั ้ ่ตรงพรหมแดนติดกับ เกาะบอร์ เนียวประเทศมาเลเซีย มีคนไปพิชติ มา แล้ วเพียงแค่ 50 คนเท่านัน้ ถือเป็ นยอดเขาทีข่ ึ ้น ไปพิชติ ได้ ยากพอสมควร เพราะสภาพอากาศไม่ ค่อยดีนกั บริเวณเทือกเขาแห่งนี ้มีต้นไม้ประหลาด อยูห่ ลายสายพันธ์ ถ้ าอยากเห็นต้ น Nepenthes (หม้ อข้ าวหม้ อแกงลิง) สามารถเห็นได้ ตลอดทาง บนเทือกเขานี ้

กัมพูชา Phnom Aural พนมอาออรัล 1,813 เมตร (5,948 ฟุต)

สิงคโปร์ Bukit Timah บูกิต ติมาห์ 163.63 เมตร (537 ฟุต)

เป็ นเขามีเขตแดนติดกับประเทศไทยระยะทาง ยาวไกลถึง 750 กิโลเมตร ติดกับจังหวัด อุบลราชธานี ศรี สะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมภ์ สระแก้ ว จันทบุรี และตราด โดยมีเทือกเขาพนมดงรัก และ มีเทือกเขาบรรทัดกันระหว่ ้ างกัน

บูกิต ติมาห์ เป็ นภูเขาที่สงู ที่สดุ ในสิงคโปร์ ตงอยู ั้ ่ ในอุทยานแห่งชาติ Bukit Timah National Park of Singapore เป็ นสถานที่ที่ชาวสิงคโปร์ นิยมมา เดินออกก�ำลังกาย ภายในอุทยานมีทะเลสาบที่ สวยมาก และมีจดุ ชมวิวที่สามารถเห็นสิงคโปร์ ทังเกาะได้ ้ อีกด้ วย

45 45


เทใจใส่จาน เรื่ อง: อุรุดา โควินท์

นาง ฟ้า เต้น ร�ำ

46

ตอนที่ เ ขาบอกว่า เราจะขึน้ เขาหลวงกัน ฉัน ตื่ นเต้ น นิดหน่อย แน่ละ่ ฉันเคยขึ ้นดอยมาบ้ าง แต่ทงหมดคื ั้ อการเดิน ทางด้ วยรถ อืม...มีเดินเข้ าไปในป่ านิดหน่อย พอให้ เนื ้อตัวแตะ ต้ องธรรมชาติ สักครึ่งค่อนวัน เป้เล็กๆ ติดหลังคนละใบมีน� ้ำมี ข้ าวกลางวัน นัน่ คือการเดินป่ าที่ฉนั รู้จกั ต่างจากการขึ ้นเขาหลวงกับพวกเขาโดยสิ ้นเชิง เขาบอกตัง้ แต่ ต้ น วัน จั น ทร์ เ ราจะเดิ น จากน� ำ้ ตก พรหมโลก ค่อยๆ ไต่เขา เลาะริ มน� ้ำ นอนพัก ริ ม ล� ำ ธารหนึ่งคื น กระทัง่ ถึงจุดที่จะตัดสูส่ นั เขา-เหนือน� ้ำตก นอนบนนันอี ้ กหนึง่ คืน แล้ วเดินกลับ ตอนเดินลง ง่ายกว่าเดินขึ ้น ใช้ เวลาวันเดียว หาก ไม่มีอะไรผิดพลาด เราจะกลับมาถึงน� ้ำตกพรหมโลกก่อนค�ำ่ ของ วันพุธ ฉันจัดแจงนับนิ ้ว สามวันกับสองคืน ต้ องเตรี ยมเสื ้อผ้ า ชุดเดินป่ าสามชุด ชุดนอนหนึง่ ชุด ผ้ าถุงสองผืน เสื ้อไหมพรม หนึง่ ตัว ผ้ าเช็ดตัว ครี มทาผิว และ...อื่นๆ อีกนิดหน่อย เท่าที่คดิ ว่าจ�ำเป็ น(แล้ วนะ)เต็มเป้พอดี ลองแบกดู น� ้ำหนักพอเหมาะฉัน มัน่ ใจว่าเอาอยู่ แบกเป้ใบนี ้และเดินขึ ้นเขา(ทังวั ้ น) ครัน้ ได้ เห็นข้ าวกองประดามีที่พวกเขาจะเอาไปด้ วย ฉันถึงกับเข่าอ่อน กระทะ หม้ อแกง หม้ อสนาม มีด ปลาเค็ม ข้ าวสาร ไข่ แตงกวา น� ้ำมันพืช กาแฟ น� ้ำตาล(ใส่ในขวด หนักขึ ้น อีก) และอีกมากมาย คร้ านจะแจกแจง ฉัน ยื นจ้ องกองสัมภาระราวกับเป็ นสัตว์ ประหลาด ค่อยๆ ปลดเป้ ลง ถาม “เราจะเอาไปทังหมด” ้ ชี ้นิ ้ว “นี่เลยเหรอ” (เน้ นเสียงตรง นี)่


เขาหัวเราะ “ก็ใช่สิ ไปกัน 5 คน สามวัน กี่มื ้อลองนับดู ไหนจะ ต้ องกินขนมอีก” ต้ องกินขนม! อา...ฉันเห็นถัว่ เหลือง ถัว่ เขียว กะทิกระป๋ อง มินา่ ล่ะ ถึงต้ องเอาน� ้ำตาลไปมากมาย ค�ำถามคือ ขนมจ�ำเป็ นด้ วยเหรอ ยังไม่ทนั ถาม แต่ใครสักคน หรื อทุกคน คงอ่านใจฉันออก “ แล้ วจะรู้ ค�่ำๆ เย็นๆ ขนมหวานอร่อยแค่ไหน” เขาว่า หลังค�ำว่าแค่ไหน ตาฉันก็ดนั เห็น (อีก) ถัว่ ตัด โก๋ออ่ น ขนมเกลียว เฮ้ ย...จะเยอะไปไหน แค่ขนมก็หลายกิโลแล้ วไหน จะหม้ อไห ทัพพี กระทะ แบกขึ ้นไปอย่างไรหมด “ ไม่มีหรอกนะ มาม่า ปลากระป๋ อง ยิ่งเหนื่อย เราก็ ต้ องกินของดีๆ” ตามใจ อยากแบกก็ตามใจ อะไร อะไร ฉันก็กินได้ เขา(อีกคน) จัดการแบ่งสัมภาระเป็ น 5 กอง ผลักกอง หนึง่ มาให้ ฉนั “เราจะเอาข้ าวสารในเป้เธอหุงก่อน” ห่ะ...ฉันด้ วยหรื อนี่ มีข้าวสารถุงใหญ่ กุนเชียง ขวดกาแฟ ขวด น� ้ำตาล ปลาเค็ม ถุงขนมโก๋ออ่ น ถัว่ ตัด ขนมเกลียว แก้ วกาแฟ หม้ อสนาม(ข้ างในหม้ อบรรจุไข่ซงึ่ ห่อด้ วยกระดาษหนังสือพิมพ์ ทีละลูก) ฉันถึงกับบีบขมับ หันหลังจากไปตอนนี ้ทันมัย้ ไม่ต้อง รู้เห็นแล้ ว ป่ าดิบชื ้นเป็ นอย่างไร ต้ นสายของน� ้ำตกพรหมโลกมา จากไหน กล้ วยไม้ ป่า ล�ำธารใสเย็น...ก็ทงหมดนั ั้ นล่ ้ ะ ไม่ต้องก็ได้ ถ้ าจะบ�ำเพ็ญทุกข์ขนาดนี ้ แต่ครัน้ สายตาหยามหมิ่น(สี่ค)ู่ มองมา และคล้ ายฉัน ได้ ยิน...นัน่ ไง ว่าแล้ ว ฉันเปิ ดเป้ จัดมันใหม่ หยิบของใช้ สว่ นตัวออก ออก และออกอีก เปิ ดที่ทางให้ ครัวของพวกเขา มันหนักขึ ้นมาก แต่ก็ ไหว ฉันบอกตัวเองในทุกย่างก้ าว-ฉันต้ องไหว ขวดกาแฟ น� ้ำตาล และถุงขนม ให้ วางไว้ ส่วนบนสุดของเป้ (เขาสั่งการ) เพราะต้ อ งหยิ บออกมาทุก ครั ง้ ที่ เราพัก เดินไปราวชัว่ โมงเศษ เราก็หยุด ก่อไฟกองเล็ก ต้ มน� ้ำชงกาแฟ ขนมสองสามชิ ้นเพิ่มเรี่ ยวแรงอย่างอัศจรรย์ กาแฟร้ อนๆ ขมๆ ท�ำให้ ฉนั ตื่น มองเห็นดอกไม้ ดอกเล็ก ดอกน้ อย ตรงนันตรงนี ้ ้ สารภาพว่าตอนเดิน ฉันไม่คอ่ ยดูอะไร ล�ำพังก้ าวต่อไป และแบก ของก็ยากแล้ วนะ

หลังพักดื่มกาแฟ ฉันรู้คณ ุ ของขนม แสนภาคภูมิขณะเก็บขวด กาแฟ ขวดน� ้ำตาลลงเป้(ต่างกับตอนแรก ที่ยดั ๆ มันลงไปอย่าง ประชดประชัน) ฉันสบายตัว ดูเหมือนเราผ่านเส้ นทางชันที่สดุ มาแล้ ว ฉันมองเขา ดีจริ งที่ได้ พกั ตอนนี ้ เหมือนได้ รางวัลเลย เป้ดูจะเบาขึ ้น ขาและตัวฉันก็ด้วย เขาบอกว่า เราจะ พักหุงข้ าวกลางวันที่สามแพร่ง(ตรงไหนไม่ร้ ู แต่มนั ต้ องดีแน่ๆ) ก้ าวไป คิดถึงมื ้อกลางวันไป เราจะกินอะไรนะ ฉันแอบ เห็นถุงคัว่ กลิ ้งหมู เดาว่ า ต้ องใช่ เพราะเป็ นอาหารส�ำเร็ จรูป อย่างเดียวที่เอามา “ถึงแล้ ว ก่อไฟได้ ” เขาปลดเป้ เร็ วจัง ฉันดูนาฬิกา ก็ไม่นะ จะบ่ายโมงอยูแ่ ล้ ว นี่...นี่... หมายความว่า ฉันเพลินกับการเดินป่ าแล้ วใช่มย.... ั ้ เย้ ! เขา(คนหนึง่ ) ส่งมือมา “ข้ าว” ฉั น รี บ หยิ บ ถุง ข้ า วสารจากเป้ เอาไข่อ อกจากหม้ อ สนาม ส่ง หม้ อเปล่า ให้ เ ขา คนหนึง่ หาก้ อนหินมาสามก้ อน หาฟื นมาก่อไฟ อีกคน ท�ำไม้ เส้ า อีกคนเอาข้ าวไปซาว อีกคนแกะคัว่ กลิ ้งออกมาเตรี ยม อุน่ แล้ วๆๆๆ ฉันล่ะ จะนัง่ เฉยได้ ไง ฉันหยิบปลาเค็ม ไม่อะ่ คัว่ กลิ ้วเค็มอยูแ่ ล้ ว ปลาเค็มไม่ใช่ตวั เลือกที่ดี ถุงแตงกวาวางบนก้ อนหินใหญ่ ฉันถาม “จะกินเป็ น ผักเหนาะเหรอ” ทังสองคนพยั ้ กหน้ า “เรามีลูกตอกับลูกเนียงแล้ วนะ เอาแตงกวามาผัด ดีมยั ้ ใส่ไข่ ใส่กนุ เชียงหัน่ บาง” เขาส่งกระทะให้ “จัดการเลย เจียวไข่ด้วย สักสี่ฟอง” คัว่ กลิ ้ง ไข่เจียว ผัดแตงกวาใส่กนุ เชียงและไข่ ผักมี สะตอข้ าว ลูกเนียง และผักกูดลวกที่เก็บจากข้ างทาง ดูเยอะแยะ แต่ก็หมด ข้ าวเต็มหม้ อสนาม เรากิน เกลี ้ยงชนิดขูดก้ นหม้ อ อา...ไม่ได้ กินข้ าวเยอะเท่านี ้มานาน อร่อยเหลือเกิน “มื อ้ เย็ น เราจะหาปลามาแกงส้ ม ” ฉั น ได้ ยิ น เสี ย ง เขา (คนใดคนหนึง่ ) ก่อนจะงีบหลับเอาแรงในเปล อะไรก็ได้ อร่อยทังนั ้ น้ ถ้ าวางใจคนท�ำ ที่ส�ำคัญ ฉันใช้ แรงไปไม่ใช่น้อย แค่ค�ำแรกก็ร้ ูสกึ อาหารคือนางฟ้าที่เต้ นร� ำอยู่ ในปาก ไม่มาก ไม่น้อยไปกว่านี ้เลย

47


กลางแปลง เรื่ อง: บิณฑ์

จากลี้ลับมาสู่ ความโรแมนติก เนือ่ งจากต้ องโยกย้ ายทีอ่ ยูอ่ อกจากห้ องเช่าเดิมๆ ทีไ่ ด้ อยู่ อาศัยมาหลายปี ในหมูบ่ ้ านพลูทองหน้ ามหาวิทยาลัยเชิงดอยแง่ม มายังชายคาใหม่บริเวณเชิงดอยสุเทพ แม้ จะเป็ นเชิงดอยเหมือน กัน แต่กอ็ ยูห่ า่ งกันไปไกลเกือบสองร้ อยกิโลเมตร คิดไปคิดมา ชีวติ ของลูกคนเหนือก็คงหนีไม่พ้นจากดอยเป็ นแน่แท้ (ฮ่า)

โปสเตอร์ หนั ง เรื่ อง งูผี (2509)

โปสเตอร์ หนั ง เรื่ อง คนภูเขา (2522)

โปสเตอร์ หนั ง เรื่ อง รั ก จัง (2549) 48


ระหว่างการเก็บของเพื่อขนย้ าย ก็ต้องมานัง่ จัดระเบียบ แผ่นหนังต่างๆ ที่ซื ้อมาเก็บสะสมไว้ ท�ำให้ พบว่า มีหนังไทยหลาย เรื่ องที่พดู ถึงดอย ภูเขา หลายเรื่ องทีเดียวเมื่อพิจารณาจากแผ่น หนังที่ตนเองซื ้อเก็บไว้ และจากที่ได้ เคยดูมา ท�ำให้ เห็นพัฒนาการ ทางความคิดของผู้ผลิตหนังไทยที่มีตอ่ “ดอย” หรื อ “ภูเขา” ในแง่ มุมต่างๆ โดยตังอยู ้ ่บนประสบการณ์และความรู้ สกึ ส่วนตัวที่ได้ ประสบพบมา บนฐานแห่งแง่มมุ ส่วนตัวล้ วนๆแต่จะขอหยิบยก เพี ย งบางเรื่ อ งที่ ยั ง คงจ� ำ ได้ และได้ เคยดู ม าเป็ นตั ว อย่ า งใน การน� ำ เสนอเท่ า นัน้ อาจจะไม่ครอบคลุมแต่คิดว่าเป็ นตัวแทน สะท้ อนภาพแห่งยุคสมัยได้ พอสมควร หนังไทยที่ให้ ภาพเกี่ยวกับ “ดอย” หรื อ “ภูเขา” ในยุค แรกนัน้ มักจะเกี่ยวข้ องกับสิง่ ลี ้ลับเหนือธรรมชาติ ที่สง่ ผลกระทบ ต่อผู้คนในพื ้นที่บริ เวณนันๆ ้ ท�ำให้ ประชาชนต้ องเดือดร้ อน จนรัฐ (ผ่านตัวแทนคือ เจ้ าหน้ าที่ ข องรั ฐ ) ต้ องมาจัดการและสะสาง ปั ญหาที่เกิดขึ ้น อย่างเช่น หนังเรื่ อง “งูผี” (2509) ที่ก�ำกับโดยรัตน์ เศรษฐภักดี และได้ นกั แสดงน�ำคูพ่ ระนางยอดนิยมอย่าง มิตร ชัย บัญชาและเพชราเชาวราษฎร์ มาร่วมแสดงน�ำ ตัวหนังว่าด้ วยเรื่ อง ราวที่เกิดขึ ้น ณ บ้ านเชียงแสนน้ อย เมื่อปี ศาจงูขาวได้ เข้ าไปสิง ทารกในครรภ์ของหญิงนางหนึง่ แล้ วถูกชาวบ้ านน�ำไปเลี ้ยงคูก่ บั ลูกสาวแท้ ๆ ของพวกเขาเอง ผ่านไปหลายปี จนทังสองเติ ้ บโตขึ ้น กลายเป็ นหญิงสาว จนวันหนึง่ ได้ เกิดคดีลกึ ลับขึ ้นในหมูบ่ ้ านแห่งนี ้ มี เ ด็ ก และผู้ คนสู ญ หายกลายเป็ นศพโดยหาสาเหตุ ไ ม่ ไ ด้ จนทางการต้ องส่งต�ำรวจหนุ่มปลอมตัวเข้ ามาสืบหาความจริ งจน เป็ นที่มาของรักสามเส้ าและการคลี่คลายคดีที่เกิดขึ ้น ยุคสมัยต่อมา มุมมองทีม่ ตี อ่ “ดอย” หรื อ “ภูเขา” ถูกน�ำ เสนอให้ เห็นภาพของดอยหรื อภูเขาในแง่ของพื ้นที่ “ลึกลับ” พื ้นที่ “น่าค้ นหา” และ เป็ นพื ้นทีท่ ี่ “อ�ำนาจรัฐเข้ าไปไม่ถงึ ”หรื อเข้ าไป จัดการได้ เพียงเล็กน้ อยเท่านัน้ อย่างเช่น หนังเรื่ อง เสือภูเขา (2522) เป็ นต้ น โดยหนังเรื่ อง เสือภูเขา นัน้ เป็ นฝี มือการก�ำกับโดย คมน์ อรรฆเดช น�ำแสดงโดยสรพงศ์ ชาตรี และจารุณีสขุ สวัสดิเ์ ป็ น เรื่ องราวที่ว่าด้ วยการต่อสู้ในดินแดนเถื่อนเพื่อเอาชี วิ ต รอดของ เหล่าธง แซ่ ฟู่ ชายหนุม่ ชาวม้ งผู้ปรารถนาทีจ่ ะปกป้องครอบครัว ของเขาจากกลุม่ มูเซอด�ำและกลุม่ อ�ำนาจนอกกฎหมายที่พยายาม ไล่ล่าเขาบรรยากาศภายในหนังจึงเต็มไปด้ วยฉากต่อสู้บนพื ้นที่ ดอยสูง ลีลาการต่อสู้ราวกับหนังจีนก�ำลังภายใน เป็ นการแก้ ปั ญหากันเองด้ วย “ศาลเตี ้ย” และ “อ�ำนาจเถื่อน” มีเจ้ าหน้ าทีร่ ัฐ เข้ ามามีสว่ นเกี่ยวข้ องเพียงน้ อยนิดเท่านัน้ ภาพลักษณ์ ของ “ดอย” หรื อ “ภูเขา” ได้ ถูกส่ ง ต่ อมายังอีกยุคหนึ่ง ด้ วยการน�ำเสนอภาพของดอยที่แสน อบอุ่น มีความสวยงาม และโรแมนติก(แต่ กป็ ฏิเสธไม่ ได้ เช่ นกันว่ าแนวคิดและมุมมองแบบเดิมที่มีต่อดอย-ภูเขานัน้ ยังคงทรงอิทธิพลอยู่) ส่ วนมากมักเป็ นความสวยงามจากการ เข้ ามาของ “คนภายนอก” พืน้ ที่น่ ันเอง

ยกตัวอย่ างเช่ น หนังเรื่อง รักจัง(2549) น�ำแสดงโดย ฟิ ล์ ม รัฐภูมิ และ พอลล่ า เทเลอร์ ร่ วมด้ วย โปงลางสะออนเป็ น เรื่ องราวเกี่ยวกับความรั กระหว่ างซูเปอร์ สตาร์ หนุ่มสุดฮอต ฟิ ล์ ม รัฐภูมิ กับ จ๋ า เหยี่ยวข่ าวปาปารัสซี่สาว ที่ตามถ่ ายภาพ ฟิ ล์ ม ถึ ง อ� ำ เภอปาย เพื่ อ เอาไปขายให้ กั บ ส� ำ นั ก พิ ม พ์ แต่ แล้ วฟิ ล์ มก็ เ กิ ด อุ บั ติ เ หตุ ร ะหว่ างเดิ น ทาง จนท�ำให้ เขาความจ�ำเสื่อมเมื่อจ๋ าเจอฟิ ล์ มอีกครั ง้ และได้ ร้ ู ว่ าเขาความจ�ำเสื่อม จึ ง สบโอกาสสร้ างข่ า วเพื่ อ ขายให้ กั บ ส� ำ นั ก พิ ม พ์ ด้ วยความใกล้ ชิดและบรรยากาศสถานที่ ในธรรมชาติบริ สุทธิ์ ความผูกพันทางใจของคนสองคนที่ อยู่ตรงข้ ามกันมาตลอดก็ก่อตัวขึน้ ท่ ามกลางลมหนาวและ สายหมอกบนยอดดอย นอกจากเรื่ องรั ก จัง แล้ ว ยังมีหนังไทยอีกหลาย เรื่ องมากมายที่น�ำเสนอภาพความโรแมนติกของป่ าเขา และยอดดอยเช่ นThe Letters จดหมายรั ก (2547), Happy Birthday (2551), บุญชู จะอยู่ในใจเสมอ(2553), รักเลีย้ วเฟี ้ ยว (อ่ ะ) (2555),The Melody รักท�ำนองนี ้ (2555) Coffee Please แก้ วนีห้ วั ใจสั่น (2556), Timeline จดหมาย ความทรงจ�ำ (2557) ฯลฯ แม้ การน�ำเสนอภาพลักษณ์ เกี่ยวกับ “ดอย” หรือ “ภูเ ขา”จะผ่ อนคลายจากพืน้ ที่ลีล้ ับภายใต้ อ�ำนาจของสิ่ง เหนือธรรมชาติมาสู่ดนิ แดนที่น่าตื่นเต้ น น่ า ค้ น ห า จน กลายมาเป็ นดินแดนที่อบอุ่ นสวยงามและโรแมนติกแต่ การน�ำเสนอภาพลักษณ์ ของกลุ่มชาติพนั ธุ์ต่างๆ หรือคน ทั่วๆไปเรียกว่ า “ชาวเขา” ที่อยู่ภายในหนังไทย(หรือสื่อ บันเทิง)ยังคงเป็ นเรื่องน่ ากังวล แม้ ว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนไป แค่ ไหนก็ตาม กลุ่มชาติพนั ธุ์ส่วนใหญ่ ยงั คงถูกน�ำเสนอใน รู ป แบบคนที่ พู ด ภาษาไทยกลางไม่ ชั ด มี ค วามตลก ล้ าหลัง(หรื อไม่ ฉลาด) และต้ องเกี่ยวข้ องกับยาเสพติด อันแสดงถึงการขาดความเข้ าใจในความเปลี่ยนแปลงของ วิถชี วี ติ และวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพนั ธุ์ต่างๆ เมื่อคิดมาถึงตอนนีแ้ ล้ วได้ แต่ ทอดสายตาออกไป ข้ า งนอกหน้ าต่ า ง มองเห็นดอยสุเทพที่ปกคลุมด้ วยเมฆ ฝนที่ก�ำลังคืบคลานลงมาช้ าๆ จนกลืนกินไปทัง้ ลูก แต่ อีก เดี๋ยวเมื่อฟ้าฝนพ้ นผ่ านไป ก็จ ะเห็นดอยสุ เทพกลั บ มาสู ง เด่ นอี ก ครั ้ง หวังว่ าเมฆหมอกแห่ งอคติทางชาติพันธุ์(หรื อ แม้ แต่ อคติต่อคนกลุ่มอื่น) จะผ่ านพ้ นไปเพื่อจะท�ำให้ เรา เข้ าใจกันมากยิ่งขึน้ และด�ำรงชีวติ อยู่ร่วมกันภายใต้ สังคม ที่เข้ าอกเข้ าใจกัน

49


เรื่องเล่าจากโฮสเทล เรื่ อง: เธียรชัย จันทร์ ตระกูล แห่ง Happynest Hostel

ดอยตุง story “โฮสเทล (hostel)” ค�ำนี ้อาจไม่คอ่ ยคุ้นหูนกั ท่องเที่ยว ชาวไทยส่วนใหญ่นกั เพราะเรามักจะรู้จกั แค่คาว่าโฮเทล (hotel) ที่พกั ประเภทโฮสเทลนันมี ้ จดุ เด่นในเรื่ องราคาห้ องราคาประหยัด โดยจะมีห้องพักประเภท Dormitory ที่หน้ าตาก็คล้ ายกับหอพัก สมชื่อส่วนใหญ่เป็ นเตียงสองชันและมี ้ ห้องน้ าส่วนกลางอยู่ด้าน นอกเวลาเราพักที่โฮสเทลเราจะตื่นเต้ นว่าจะได้ เจอเพื่อนร่ วม ห้ องแบบไหนซึ่งแต่ละคนก็จะมีเรื่ องราวการเดินทางของตัวเอง มาเล่าสูก่ นั ฟั งอย่างสนุกสนาน นับว่าเป็ นหนึง่ ในเสน่ห์ของการ มาพัก โฮสเทลเลยที เ ดี ย ว ส่วนด้ านการบริการก็แน่นอนว่าไม่ได้ เต็มรูปแบบเหมือนมาตรฐานโรงแรม โฮสเทลบางแห่งทุกอย่างต้ อง บริการตัวเอง เพราะพนักงานของโฮสเทลก็จะมีไม่มาก แปรผันไป ตามราคาห้ องพักทีค่ อ่ นข้ างประหยัดนัน่ เอง นักท่องเที่ยวที่มาพักกับเรานันถ้ ้ าเป็ นคนที่ชอบวางแผน ก็จะจัดเตรี ยมแผนการท่องเที่ยวมาแล้ วอย่างเป๊ ะมากเหลือแค่ คอนเฟิ ร์ มว่าต้ องขึ ้นรถไปยังไงใช้ เวลาเท่าไหร่ ค่าตัว๋ เท่าไหร่ พวก เขาจะมีกาหนดการเช็คเอาท์และจุดหมายต่อไปที่ชดั เจนแต่ถ้า เป็ นประเภททีม่ าชิลล์ๆก็จะหาทุกอย่างเอาข้ างหน้ าไม่มแี ผนการมี แค่ใจขี ส้ งสัยที่ อยากจะแวะเข้ ามาดูว่าเจ้ าเชี ยงรายนัน้ รู ปร่ าง หน้ าตาเป็ นอย่างไร ซึง่ โฮสเทลของเราก็ได้ เตรียมข้ อมูลการท่อง เที่ยวไว้ แนะน�ำอย่างพร้ อมมากช่วยเหลือตังแต่ ้ การเช่ารถเขียน แผนที่หาตารางเวลารถประจ�ำทางและอื่นๆเท่าที่สามารถจะช่วย เหลือได้ เพราะเราทนไม่ได้ จริงๆเวลาได้ ยนิ แขกพูดว่าเชียงรายไม่มี อะไรให้ ดเู ลย จุดหมายยอดฮิตที่ทกุ คนจะถามถึงคงหนีไม่พ้นวัดร่ อง ขุน่ (The White Temple) และบ้ านดา (The Black House) ซึง่ เปรียบเสมือนอารมณ์ขนั ของศิลปิ นแห่งชาติ 2 ท่านทีม่ ภี มู ลิ าเนา อยูใ่ นบ้ านเราซึง่ ทังสองท่ ้ านก็ถา่ ยทอดศิลปะในแบบฉบับของท่าน ได้ ตรงกันข้ ามกันอย่างน่าอัศจรรย์ การชมศิลปะบางทีเราก็ไม่ สามารถใช้ ตรรกะกับมันได้ แทนที่จะปล่อยให้ สมองตังค� ้ ำถามเรา ควรจะใช้ ใจชื่นชมอย่างตรงไปตรงมาดีกว่า...ผมกล่าวไปยังงัน้ บางทีกไ็ ม่เข้ าใจหรอกครับ :P 50

วันนี ้ผมได้ มโี อกาสขึ ้นไปนมัสการพระธาตุดอยตุง (พระ ธาตุประจาปี กนุ ) และได้ พดู คุยกับเจ้ าหน้ าทีข่ ้ างบนพระต�ำหนัก ท�ำให้ ผมได้ รับความรู้หลายอย่างเกีย่ วกับดอยตุง “โครงการพัฒนา ดอยตุง” ทีเ่ รารู้จกั และคิดว่ามันอยูค่ บู่ ้ านคูเ่ มืองตลอดไปนันแท้ ้ ที่ จริงแล้ วเป็ นโครงการทีม่ รี ะยะเวลาดาเนินการ 30 ปี ซึง่ ก่อตังโดย ้ สมเด็จพระศรี นคริ นทราบรมราชชนนีทา่ นต้ องการพัฒนาดอยตุง (สมัย ก่ อ นเรี ย กว่า ดอยดิ น แดงเพราะแห้ ง แล้ ง ไม่มี ต้ น ไม้ มี แ ต่ ดินแดง...พูดตอนนี ้นึกภาพไม่ออกจริ งๆเพราะเราคุ้นชินกับภาพ ดอยตุงอันอุดมสมบูรณ์มาตังแต่ ้ เกิด) โดยยกระดับคุณภาพชีวติ ประชากรและต้ องการให้ “คนกับป่ าอยูร่ ่วมกันได้ ” โครงการนี ้เริ่ม ต้ นในปี 2530 และจะสิ ้นสุดในปี 2560… ฟั งถึงตรงนี ้ผมสะดุ้ง เพราะมันเหลืออีกแค่สองปี เท่านันต่ ้ อจากนี ้ทิศทางของโครงการ พัฒนาดอยตุงจะเปลี่ยนไปต้ องให้ ชาวบ้ านดูแลตัวเองได้ มากขึ ้น ปั จจุบนั ในจ�ำนวน 29 หมูบ่ ้ าน พื ้นทีก่ ว่าเก้ าหมืน่ ไร่นนมี ั ้ เพียง หมูบ่ ้ านเดียวที่ “รอด” จากการดูแลด้ านการสร้ างอาชีพให้ กบั ชาว บ้ านหมายความว่ามีหมู่บ้านเดียวที่มีเศรษฐกิจดีดแู ลตัวเองได้ และบอกกับโครงการพัฒนาดอยตุงว่าให้ ไปดูแลหมูบ่ ้ านอีก 28หมู่ เถิดเพราะยังมีชาวบ้ านที่ไม่ได้ รับการศึกษาไม่มีแม้ แต่ทะเบียน ราษฎร์ ซึ่งก็เป็ นดอยตุงอีกนั่นแหละที่ต้องคอยให้ ความรู้ ให้ ค�ำ แนะน�ำส่งเสริ มให้ แต่ละหมู่บ้านสร้ างผลิตภัณฑ์ของตนเองสร้ าง จุดเด่นสร้ างจุดขายเพือ่ ที่จะสามารถยืนหยัดด้ วยตัวเองอย่างภาค ภูมใิ จในภายภาคหน้ า อี กหนึ่ง โจทย์ ที่ดอยตุง ก� ำ ลัง ดาเนิ น การคื อ “ปลูกป่ า เหมือนไม่ปลูก” หมายความว่าป่ าบนดอยตุงทีเ่ ราเห็นในปั จจุบนั เป็ นป่ าปลูกทังสิ ้ ้นทังต้ ้ นสนและพืชเมืองหนาวบางอย่างไม่ได้ ขึ ้น ตามธรรมชาตินนั่ คือเราได้ เปลี่ยนแปลงระบบนิเวศมันพอสมควร และต่อจากนี ด้ อยตุงต้ องการให้ ป่าที่ มี นัน้ กลับไปเป็ นป่ าซึ่งมี ลักษณะเหมือนต้ นก�ำเนิดดังเดิ ้ มของที่นี่ซงึ่ ก็ต้องหาข้ อมูลจากผู้ เฒ่าผู้แก่ ว่าที่ แห่งนัน้ เดิมมี ต้นไม้ ประเภทไหนระบบนิ เวศเป็ น อย่างไรและค่อยๆเริ่ มปลูกพืชประเภทนันกลั ้ บสภาพย้ อนให้ มนั กลายเป็ นต้ นก�ำเนิดของป่ าอันอุดมสมบูรณ์เช่นเดิมอีกครัง้ โครงการพั ฒ นาดอยตุ ง กาลั ง เข้ าสู่ ช่ ว งแห่ ง การ เปลีย่ นแปลงในช่วงโค้ งสุดท้ ายนี ้มีโจทย์และหน้ าที่การเป็ นพี่เลี ้ยง ให้ ประชาชน 29 หมูบ่ ้ านในความรับผิดชอบชาวดอยตุงทุม่ เทให้ กับการท�ำงานด้ วยจิตวิญญาณจริงๆแล้ วผมคิดว่ามันไม่ใช่แค่งาน แต่มนั เป็ นส่วนหนึง่ ในชีวติ ของพวกเขาเลยเขาเกิดมากับสิง่ นี ้และก็ ก�ำลังค่อยๆเติบโตไปพร้ อมๆกับมันชาวดอยตุงมักจะมีดวงตาเป็ น ประกายทุกครั ง้ เวลาเขาพูดถึงเรื่ องราวของเขาที่นี่เต็มไปด้ วย ความสวยงามทางทัศนียภาพและแรงบันดาลใจท�ำให้ ผมรู้ สึก หัวใจพองโตทุกครัง้ ทีไ่ ด้ มาเยือน


เรื่องเล่าในรอยทาง เรื่ อง: เล็ก

Road trip ไปลาดักห์ เราก�ำลังจะเปลีย่ นเมืองอีกครัง้ คราวนีเ้ ราก�ำลังจะเดินทางออกจากแคชเมียร์ มุง่ หน้าไปยังลาดักห์ดว้ ย รถจีป๊ ระยะทางประมาณ 434 กิโลเมตร ค�ำนวณคร่าวๆ ว่าอาจต้องใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 2 วัน โดยแวะ ค้างคืนทีค่ าร์กลิ ซึง่ อยูต่ รงระหว่างทางโอเค!! ก็แค่นานหน่อย แต่ประหยัดตังค์ในกระเป๋า ไม่เป็นไร นัง่ หลับๆตืน่ ๆ เดีย๋ วก็ถงึ เอง ฉันคิดในใจ ไม่ได้เตรียมใจมาก่อนเลยว่าการเดินทางครั้งนี้จะเป็น road trip ที่ทางโหดสุดในปฐพีแต่ก็สวยที่สุด เท่าที่เคย road trip มาเช่นกัน... เราเริ่มออกเดินทางตอนเช้าตรู่ท่ามกลางอากาศหนาวเย็น ฉันทานอาหารเช้าและดื่มกาแฟไล่ความง่วง ปลุกตัวเองให้พร้อมรับการเดินทางอันยาวนานจุดหมายข้างหน้าคือเลย์ ลาดักห์ดินแดนตรงกลางระหว่างเทือกเขา หิมาลัยและที่ราบสูงคาราโครัม ว่ากันว่าลาดักห์เป็นเมืองที่มีภูมิประเทศสวยงามมาก คนขับรถชาวแคชเมียร์น�ำรถจี๊ป พร้อมชาวไทย 3 ชีวิตออกเดินทางเลียบเทือกเขาหิมาลัย เส้นทางมุ่งหน้าสู่ลาดักห์...ไม่สบายอย่างที่คิด รถจี๊ปเริ่มไต่ภูเขาสูงชัน ถนนขรุขระ สลับซับซ้อน ตวัดไป ตวัดมา ฉันไม่ได้งีบหลับอย่างที่ตั้งใจไว้ แต่นั่งตลึงงันกับเส้นทางเลียบเทือกเขาหิมาลัย โอ้ววว!!นี่มันถนนหรือ อะไรโค้งหักศอกนับครั้งไม่ถ้วน ด้านซ้ายคือหุบเหวลึกสุดลูกหูลูกตา ส่วนด้านขวาคือหน้าผาสูงชัน ส่วนทางที่รถวิ่ง ก็แคบนิดเดียว แถมลื่นจากหิมะที่ก�ำลังละลายอีกต่างหาก ฉันนั่งลุ้นตัวเกร็งตลอดทางด้วยกลัวว่ารถจะเสีย หลักลื่นตกเหวพร้อมๆ กับตกตะลึงกับภาพที่เห็นอยู่เบื้องหน้ามันไม่เหมือนหุบเขาใดๆ ที่ฉันเคยเห็นตลอดการ เดินทางร่วมยี่สิบชั่วโมง ไม่ใช่ส.ิ ..ต้องบอกว่ามันเหมือนไม่ใช่หบุ เขาบนโลกมนุษย์ ภาพหุบเขาเปลีย่ นสี บางลูกก็ถก ู ฉาบด้วยหิมะ สีขาวโพลน บ้างก็สเี ขียว น�ำ้ ตาล แดงอิฐ ขนาดมหึมา สวยประหลาด มันคือความงามของธรรมชาติความยิง่ ใหญ่และ งดงามของธรรมชาติตลอดเส้นทางแคชเมียร์-ลาดักสร้างความประทับใจให้กบั ฉันมาก จนสุดท้ายแล้วเมือ่ ฉันได้พบ กับทัชมาฮาลในอีก 5 วันถัดมา ฉันไม่รสู้ ก ึ ตืน่ เต้นหรือชืน่ ชมกับสิง่ มหัศจรรย์ของโลกชิน้ นีเ้ ลย เพราะฉันได้เจอกับสิง่ ทีม่ หัศจรรย์มากกว่านัน้ เป็นสิง่ ทีธ่ รรมชาติสรรค์สร้าง งดงามและยิง่ ใหญ่อยูเ่ หนือค�ำบรรยายใดๆ เล็ก

51


ของกิน๋ บ้านเฮา@เจียงฮาย เรื่ องและภาพ: เจ้ าหมูอ้วนกับยัยตัวเล็ก

ผิงผิงโภชนา

‘เรา’ ไม่ ได้ ขนึ ้ ไป “ดอยแม่ สลอง” นานมากๆ ครัง้ หลังสุดก็ร่วม 10 ปี มาแล้ ว ราวปี 2547 ที่จำ� ได้ เพราะครัง้ นัน้ ไปเที่ยวพิพธิ ภัณฑ์ วรี ชนอดีตทหารจีนคณะชาติ ซึ่งก็เพิ่งจะ เปิ ดพอดี ดอยแม่สลองถือเป็ นชุมชนชาวจีนยูนนาน (จีนฮ่อ) หนา แน่นทีส่ ดุ ของไทย ส่วนใหญ่คอื อดีตทหารจีนกองพล 93 สังกัด พรรคก๊ กมินตัง๋ ของนายพลเจียงไคเช็คที่อพยพลี ้ภัยสงครามจาก จีนผ่านพม่า กระทัง่ เข้ ามาตังรกรากอยู ้ บ่ ริเวณนี ้ ตังแต่ ้ พ.ศ. 2504 ประมาณ 1.5 หมืน่ คน แม่ สลองที่ ผ มได้ เห็ น หนนี ค้ ึ ก คั ก ด้ วยร้ านรวง สารพัด เป็ นไปตามกระแสการท่ องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ไม่ ว่ าจะร้ านขายชา ร้ านอาหารจีนยูนนาน (จากป้ายเชิญชวนมี ทัง้ ขาหมู สุกี ้ และขนมจีนสูตรต้ นต�ำรับ) ร้ านกาแฟแนวๆ รวมถึงที่พกั สไตล์ บทู คี อีกเป็ นสิบๆ แห่ ง กระทั่ง 7-11 ก็มขี นึ ้ มาเปิ ดสาขาถึงบนนี ้ จากที่เคยไปครัง้ ก่อนโน้ นยังมีจดุ แวะเที่ยวแค่ไม่กี่แห่ง อย่างสุสานนายพลต้ วน, พระบรมธาตุเจดีย์ศรีนครินทร์ สถิตมหา สันติครี ี (คนจ�ำนวนมากคุ้นตามาจากโฆษณาเบียร์ สงิ ห์) และชม ดอกซากุระบานช่วงหน้ าหนาว ส่วนร้ านอาหารก็มเี พียงแม่สลอง วิลล่าเท่านันซึ ้ ง่ เป็ นทีร่ ้ ูจกั “ผิงๆ” อาม่าเจ้ าของรี สอร์ ทสบายดีแม่สลอง ที่พกั ของเรา ย� ้ำนักย� ้ำหนา ว่าต้ องร้ านนี ้ เมื่อลองถามไถ่เกี่ยวกับร้ านอาหารขึ ้นชื่อ “ผิ ง ผิ ง โภชนา” เป็ นร้ านอาหารจีนสไตล์ ยนู นาน ขนานแท้ ของคุณเหมย แซ่ หลี่ ย้ ายมาเปิ ดขายอยู่ท่นี ่ ีได้ 8 ปี (ก่ อนนีเ้ คยท�ำอยู่ด้านล่ างมา 7 ปี ) เธอเป็ นคนจีนยูนนานรุ่น ที่ 2 ของที่น่ ี ไม่ ได้ ร่ �ำเรียนท�ำอาหารมาโดยตรง แต่ อาศัยการ เรียนรู้ด้วยวิธคี รูพกั ลักจ�ำจนพอท�ำขายได้

52

อาหารยู น นานจะมี เ อกลั ก ษณ์ เ ฉพาะตั ว ด้ วย ใช้ วั ต ถุ ดิ บ เป็ นผั ก สดเเละเนื อ้ สั ต ว์ ท่ ี ห าได้ ต ามที่ ร าบลุ่ ม เกษตรกรรมเชิงเขา สภาพภูมิอากาศค่ อนข้ างหนาวเย็น ตลอดทัง้ ปี ผนวกเข้ ากับเทคนิคการปรุ งรสชาติๆ ที่ได้ จึง จัดจ้ าน และเข้ มข้ น รายการอาหารก็ไม่ต่างจากร้ านอาหารจีนยูนนานอื่น ไม่พ้นขาหมู, เคาหยก (หมูสามชันนึ ้ ง่ กับเกี๊ยมฉ่าย), หมัน่ โถ, ไก่ ด�ำตุน๋ ยาจีน, เห็ดหอมอบซีอิ ้ว และผัดผักต่างๆ เมนูแนะน�ำทีเ่ ราสัง่ ก็มขี าหมู, หมัน่ โถ (ไม่ได้ มแี ต่สี ขาว เพราะใช้ ทงฟั ั ้ กทอง เผือก แคนตาลูปมาเป็ นส่วนผสม สีสนั สวยงาม), ไข่ยดั ไส้ ยนู นาน (หน้ าตาแปลกๆ ดูคล้ ายๆ ปอเปี๊ ยะ ทอด), ผัดเห็ดหอมสด และย�ำใบชาสด (ขมมาก แต่ใช้ ตดั เลี่ยน จากเมนูอื่นได้ ดี) ค�ำตอบคือ อร่ อยทุกอย่ างแถมราคาสุดแสนกันเอง มือ้ นัน้ กับข้ าว 5 อย่ าง ข้ าวอีก 1 โถ หมดไป 5 ร้ อยกว่ าบาท ใครได้ขนมาที ึ้ ่แม่สลองไม่อยากจะให้พลาดร้ านนีค้ รับ ร้ านหาง่ ายมาก ตัง้ เด่ นอยู่ใจกลางย่ านชุมชน ฝั่ งตรงข้ ามปาก ทางขึน้ พระธาตุฯ เลย ใกล้ ๆ กันจะเห็นหลักกิโลเมตรใหญ่ เป็ นจุดสังเกต เปิ ดขายทุกวัน ตัง้ แต่ 7 โมงเช้ าไปจนถึง 2 ทุ่ม


I draw what I eat ภาพประกอบ : idrawwhatieat

ร้าน บะหมี่-เกี๊ยว ยูนนาน ร้านก๋วยเตี๋ยวของชาวจีนยูนนาน บนดอยแม่สลอง เส้นบะหมี่ท�ำเอง เกี๊ยวก็ท�ำเองด้วย มีทั้งแบบแห้ง-น�้ำ และมีเกี๊ยวซ่าขายด้วย อร่อยมากๆ บรรยากาศเสมือนกินอยู่ที่เมืองจีน รอบๆ ตัว มีแต่คนพูดภาษาจีน 35-40 บาท ราคาเป็นมิตร

53


เฮา นิตยสารของเฮาชาวเชียงราย

o

HOW MAGAZINE

สมัครสมาชิกกับเฮา 1 ปี 12 เล่ม ราคา 300.-บาท/ปี ชื่อ-สกุล .......................................................................อายุ...............ปี อาชีพ........................................... สถานทีท่ �ำงาน............................................................................................................................................ สถานทีจ่ ัดสง่ นิตยสาร เลขที.่ .............หมูท่ .ี่ ................อาคาร/หมูบ่ า้ น.......................ซอย....................ถนน....................................... ต�ำบล...................อ�ำเภอ....................... จังหวัด..........................รหัlสไปรษณีย.์ ............................................ โทรศัพท.์ ........................................E-mail.................................................................................................... กรุณาช�ำระเงินเขา้ บัญชี ชิดเดือน พฤกษพ์ งศาวลี หมายเลขบัญชี 504-0-85495-1 ธนาคารกรุงไทย สาขา เชียงราย สง่ หลักฐานพรอ้ มใบโอนมาที่ haohowmagazine@hotmail.com หรือ Facebook fanpage : How Magazine ( http://www.facebook.com/nitiyasanhow )

54


55


56


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.