เผยแพร่ วนั ที่ 10 เมษายน 2562 ใบแจ้ งข่ าว จาเลยชาวเมียนมา 2 คนกลับคาให้ การ แถลงขอรั บสารภาพต่ อศาลอาญาแผนกคดีค้ามนุษย์ วันนี ้ (9 เมษายน 2562) ศาลอาญาแผนกคดีค้ามนุษย์ได้ นดั พิจารณาไต่สวนคดีค้ามนุษย์แรงงานประมง ชาวเมียนมา 7 คน ในพื ้นที่ตาบลอ่าวน้ อย อาเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ คดีหมายเลขดาที่ คม. 69/2561 โดยวันนี ้เป็ นการสืบพยานผู้เสียหายต่อเนื่องจากการสืบพยานเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนสืบพยาน ศาลได้ เรี ยกจาเลยทังสองในคดี ้ นีม้ าเพื่อสอบถามว่าจาเลยจะยังยืนยั นคาให้ การปฏิเสธ หรื อไม่ เนื่องจากการสืบพยานผู้เสียหายที่ผ่านมาปรากฏข้ อเท็จจริ งชัดเจนครบถ้ วนในประเด็น การนาพา เป็ น ธุ ระจั ดหา บั งคั บขู่ เข็ญ และการแสวงหาประโยชน์ โดยมิชอบจากการใช้ แ รงงานขั ดหนี้ ซึ่ง ครบเป็ น องค์ ประกอบความผิดตามพระราชบัญญัตปิ ้ องกันและปราบปรามการค้ ามนุ ษย์ พ.ศ. 2551 จาเลยทังสอง ้ จึงได้ ปรึ กษากับทนายความและตัดสินใจกลับคาให้ การเป็ นรั บสารภาพ ในข้ อหาสมคบตัง้ แต่สองคนขึน้ ไปทา ความผิดฐานค้ ามนุษย์แก่เด็กอายุเกินสิบห้ าปี แต่ไม่ถึงสิบแปดปี และอายุไม่เกินสิบห้ าปี ฯ และร่ วมกันบังคับขู่เข็ญ ขืนใจโดยมีอาวุธ หน่วงเหนี่ยวกังขังผู้อื่นหรื อกระทาการประการใดให้ ผ้ อู ื่นปราศจากเสรี ภาพทางร่ างกาย ดังนี ้ศาล จึงได้ มีคาสัง่ ยุติกระบวนการสืบพยานและนัดฟั งคาพิพากษาในวันที่ 23 เมษายน 2562 เวลา 09:00 น. นางสาวกาญจนา อัครชาติ ผู้จดั การคดีโครงการต่อต้ านการค้ ามนุษย์ มูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการ พัฒนา (มสพ.) มีความเห็นว่ากระบวนการพิจารณาคดีโดยใช้ ระบบไต่สวนในคดีค้ามนุษย์ เป็ นกระบวนการที่ทา ให้ ศาลสามารถค้ นหาข้ อเท็จจริ งได้ รวดเร็ วมากขึน้ โดยศาลสามารถกาหนดประเด็นที่สาคัญและเลือกสอบถาม พยานเฉพาะในกรณีที่มีข้อสงสัยเท่านัน้ แต่อย่างไรก็ตามการพิจารณาคดีในระบบเช่นว่านี ้ ยังมีปัญหาเรื่ องการมี ส่วนร่ วมของคูค่ วามในคดีทงฝ่ ั ้ ายผู้เสียหายในฐานะโจทก์ร่วมและจาเลย โดยหากพนักงานสอบสวนและพนักงาน อัยการไม่สอบสวนข้ อเท็จจริ งและพยานหลักฐานจากจาเลยและผู้เสียหายอย่างถี่ถ้วนแล้ ว จะส่งผลให้ การนาเสนอ พยานหลักฐานของทังสองฝ่ ้ ายขึ ้นสู่การพิจารณาของศาลยังมีข้อจากัดอยู่พอสมควร นอกจากนี ้จากข้ อเท็จจริ งในคดียงั สะท้ อนให้ เห็นถึงในสถานการณ์ปัจจุบนั ว่า หากแรงงานที่เข้ ามาทางาน ประมงในประเทศไทยยังคงต้ องรั บ ภาระค่าใช้ จ่ ายในการจัดท าเอกสารจ้ างงาน เอกสารคนประจ าเรื อและ ค่าใช้ จ่ายอื่น ๆ แรงงานประมงจากประเทศเพื่อบ้ าน ก็ยงั คงมีแรงงานจานวนมากที่เป็ นกลุ่มเสี่ยงต่อการเป็ นเหยื่อ ของการค้ ามนุษย์ โดยถูกแสวงหาประโยชน์ จากการใช้ แรงงานขัดหนี ้ ซึ่งเคยมีกรณี ศึกษาที่ทางมูลนิธิได้ ให้ การ
ช่วยเหลือในคดีกนั ตัง (http://hrdfoundation.org/?p=1946 ) กระทรวงแรงงานจึงควรมีแนวปฏิบตั ิหรื อวิธีการใน การตรวจสอบและกากับไม่ให้ แรงงานต้ องเป็ นผู้แบกรับภาระค่าใช้ จ่ายที่ว่านีเ้ พื่อป้องกันการค้ ามนุษย์ในกิจการ ภาคประมงของประเทศไทย ที่มาของคดี เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2560 เครื อข่ายเพื่อสิทธิแรงงานข้ ามชาติ (MWRN) ได้ รับเรื่ องร้ องเรี ยนจากชุมชน เครื อข่ายแรงงาน ว่ามีแรงงานเมียนมาและครอบครั ว จานวน 12 ราย ถูกหลอกลวงมาจากเมืองเย จังหวัดเมาะ ลาไยหรื อมะละแหม่ง ประเทศเมียนมาเพื่อเข้ ามาทางานในประเทศไทย เมื่อมาถึงจังหวัดประจวบคีรีขนั ธ์ ก็ได้ รับ แจ้ งจาก นายหน้ าซึง่ เป็ นจาเลยในคดีนี ้ว่าพวกตนตกเป็ นหนี ้จานวนมาก ประกอบด้ วยค่าเดินทาง ค่าจัดทาเอกสาร และค่าอาหารระหว่างเดินทางและในขณะที่อาศัยอยู่กบั นายหน้ าที่ประเทศไทย และหากไม่สามารถชาระหนี ้ได้ จะ มีดอกเบี ้ยรายวันเพิ่มเติม ดังนันจึ ้ งจาต้ องทางานตามที่จาเลยกาหนดเพื่อชดใช้ หนี ้ให้ แก่จาเลย เครื อข่ายเพื่อสิทธิ แรงงานข้ ามชาติจึงประสานงานกับมูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา (มสพ.) เข้ าให้ ความช่วยเหลือด้ าน กฎหมายและแจ้ งความกล่าวโทษต่อ กรมสอบสวนคดีพิเศษเพื่อสอบสวนกรณี ดงั กล่าว และนาไปสู่การจับกุม จาเลยทัง้ 2 รายในคดีนี ้ในวันที่ 28 สิงหาคม 2561 โดยทังสองถู ้ กตังข้ ้ อหานาพาแรงงานและสมาชิกในครอบครัว ชาวเมียนมาจานวน 12 ราย มายังบริ เวณตาบลอ่าวน้ อย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่ อบังคับใช้ แรงงานบน เรื อประมงและอุตสาหกรรมต่อเนื่องโดยใช้ ภาระแห่งหนี ้มาเป็ นเงื่อนไขในการบังคับให้ ทางาน (แรงงานขัดหนี ้) ทังนี ้ ้สมาชิกในครอบครัวชาวเมียนมาทังหมดได้ ้ เข้ าสูก่ ระบวนการคัดแยกผู้เสียหายจากการค้ ามนุษย์ โดย ที มสหวิชาชี พมีความเห็นประเมินให้ สมาชิ กในครอบครั วจานวน 7 คน ในจานวนนัน้ เป็ นเด็ก 2 คน ว่าเป็ น ผู้เสียหายจากการค้ ามนุษ ย์ จากการบังคับใช้ แรงงาน ส่วนสมาชิกที่เหลือ 5 คนไม่เป็ นผู้เสียหาย จึงได้ รับการ คุ้มครองในฐานะพยานในคดี อนึ่ง หลังคดีสิ ้นสุดมูลนิธิเพื่อสิทธิ มนุษยชนและการพัฒนาพร้ อมกับเครื อข่ายองค์กรภาคประชาสังคม ยังคงให้ ความช่วยเหลือผู้เสียหายในการเข้ าถึงสิทธิที่จะได้ รับการชดเชยเยียวยา และการส่งกลับเพื่อไม่ให้ เกิดถูก กระทาซ ้าเป็ นเหยื่อค้ ามนุษย์อีกครัง้
---------------------------------------------------------------------------------------------
รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ 1. นายปภพ เสียมหาญ ผู้อานวยการฝ่ ายคดี มูลนิ ธิเพื่ อสิทธิ มนุษยชนและการพัฒ นา เบอร์ โทรศัพท์ 0945485306 email: mthaim420@gmail.com 2. นางสาวกาญจนา อัครชาติ ผู้จัดการฝ่ ายคดี โครงการต่อต้ านการค้ ามนุษย์ ด้านแรงงาน มูลนิ ธิเพื่ อสิท ธิ มนุษยชนและการพัฒนา เบอร์ โทรศัพท์ 090-9160011 email: kanjana.ak@gmail.com