เผยแพร่ เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2561 แถลงการณ์ ศาลจังหวัดปั ตตานี ยกคาร้ องกรณีแรงงานข้ ามชาติชาวเมียนมา ขอให้ มีการไต่ สวน การจับกุมและควบคุมโดยไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย : ความจริงที่ยังไม่ ได้ ถูกค้ นหาโดยกระบวนการยุตธิ รรม วันนี ้ (23 สิงหาคม 2561) เวลา 09.00 น. ศาลจังหวัดปั ตตานี ได้ นัดไต่สวนคาร้ องกรณี ที่มีการจับกุมและ ควบคุม ตัว แรงงานข้ า มชาติ ห ญิ ง ชาวเมี ย นมาสองคน โดยไม่ ช อบด้ ว ยกฎหมาย (รายละเอี ย ดเพิ่ ม เติ ม ค าร้ อง http://hrdfoundation.org/?p=2009 ) ศาลได้ ออกหมายเรี ยกสารวัตรตรวจคนเข้ าเมืองจังหวัดปั ตตานี ผู้เกี่ยวข้ องกับ การคุมขังแรงงานมาให้ การในชัน้ ไต่สวน ซึ่งผู้คุมได้ แถลงต่อศาลได้ นาตัวผู้ถูกคุมขังทัง้ สองไปยังตรวจคนเข้ าเมือง จัง หวัด ระนองแล้ วตัง้ แต่เ มื่อวัน ที่ 20 สิ ง หาคม 2561 เวลาประมาณ 18.00 น. เพื่ อดาเนิ น การส่งออกไปนอก ราชอาณาจักรตามระเบียบต่อไปแล้ ว ดังนัน้ ขณะนีผ้ ้ ูถูกคุมขังทัง้ สองไม่ได้ ถูกคุมขังอยู่ที่ตรวจคนเข้ าเมืองจังหวัด ปั ตตานีแต่อย่างใด ดังนัน้ ศาลจึงมีความเห็นว่า ไม่มีความจาเป็ นที่จะต้ องไต่สวนคาร้ องต่อไป จึงมีคาสัง่ ยกคาร้ อง เกี่ยวกับคดีนี ้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2561 ได้ มีเจ้ าหน้ าที่ตารวจตรวจคนเข้ าเมืองปั ตตานี ร่ วมกับ เจ้ าหน้ าที่กองอานวยการรักษาความมัน่ คงภายใน (กอ.รมน) ตารวจท่องเที่ยว และเจ้ าหน้ าที่สานักงานจัดหางาน บุก เข้ าสานักสงฆ์แหลมนก ต.บานา อ.เมือง จ.ปั ตตานี และได้ จบั กุมแรงงานข้ ามชาติหญิงชาวเมียนมาสองคน ซึง่ ใช้ เวลา ยามว่างจากการทางานประจามาเป็ นจิตอาสาสอนหนังสือให้ กบั ลูกหลานคนงานข้ ามชาติกว่า 80 คน โดยเจ้ าหน้ าที่ กล่าวหาว่า แรงงานข้ ามชาติทงสอง ั ้ ทางานนอกเหนือจากที่กฎหมายอนุญาต และดาเนินการเปรี ยบเทียบปรับขณะที่ แรงงานทังสองถู ้ กสัง่ ให้ ลงนามในเอกสารภาษาไทยที่ตนไม่สามารถอ่านได้ และจะมีการดาเนินการผลักดันทังสองคน ้ กลับไปยังประเทศต้ นทางตามพระราชบัญญัติคนเข้ าเมืองพ.ศ.2522 และยังได้ ออกคาสัง่ ห้ ามเข้ ามาทางานในประเทศ ไทยอีกเป็ นเวลาสองปี นอกจากนี ้ ยังมีชาวเมียนมาที่ถือวีซ่านักท่องเที่ยวและขอเข้ าเยี่ยมชมการเรี ยนการสอนที่วดั ถูก จับปรับในข้ อหาเดียวกัน จุด เริ่ ม ต้ น ของการใช้ ก ลไกทางกระบวนการยุติธ รรม เพื่ อการคุ้มครองสิ ท ธิ ในครั ง้ นี ้ สื บ เนื่ องจาก การ ดาเนินการของพนักงานเจ้ าหน้ าที่ นนั ้ ขาดการตรวจสอบข้ อเท็จจริ ง ถึงการทางานของหญิ งชาวเมียนมาทัง้ สองคน รวมถึงการละเลยข้ อเท็จจริ งที่วา่ การสอนหนังสือให้ เด็กๆ ในชุมชน มิได้ เป็ นการดาเนินการอย่างเป็ นทางการ การเข้ า มาให้ ความรู้ ด้ านการศึกษาและวัฒนธรรมแก่เด็ก ๆ ในชุมชน เป็ นการทาโดยจิตอาสา มิได้ รับค่าตอบแทนหรื อค่าจ้ าง แต่อย่างใด ดังนัน้ การยื่นคาร้ องตามมาตรา 90 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา จึงเป็ นกระบวนการขอให้
ศาลไต่สวนเพื่อแสวงหาความจริ งว่าการควบคุมตัว บุคคลใดบุคคลหนึ่งนัน้ เป็ นไปโดยชอบด้ วยกฎหมายหรื อไม่ แต่ การแสวงหาข้ อเท็จจริ งประเด็นนี ก้ ลับยุติลงด้ วย “การส่งตัวหญิ งชาวเมียนมาทัง้ สองคนออกไปนอกราชอาณาจักร แล้ ว” ซึง่ การ “ปล่อยตัว” ในลักษณะนี ้ ย่อมไม่ใช่การคืนเสรี ภาพให้ แก่ผ้ รู ้ องตามเจตนารมณ์ของมาตรา 90 -------------------------------------------------------------------------------------------------------------ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 90 ที่ระบุวา่ เมื่อมีการอ้ างว่าบุคคลใดถูกคุมขังในคดีอาญาหรื อในกรณีอื่นใดโดยมิชอบด้ วยกฎหมาย บุคคลเหล่ านี ้มีสิทธิ ยื่นคาร้ องต่อศาลท้ องที่ที่มีอานาจพิจารณาคดีอาญาขอให้ ปล่อย คือ ผู้คมุ ขังเอง พนักงานอัยการ พนักงานสอบสวน ผู้ บัญชาการเรื อนจาหรื อพัศดี สามี ภริ ยา หรื อญาติของผู้นนั ้ หรื อบุคคลอื่นใดเพื่อประโยชน์ของผู้ถกู คุมขัง และเมื่อได้ รับ คาร้ องแล้ ว ให้ ศาลไต่สวนฝ่ ายเดียวโดยด่วน ถ้ าศาลเห็นว่า คาร้ องนันมี ้ มลู ศาลมีอานาจสัง่ ผู้คมุ ขังให้ นาตัวผู้ถูกคุมขัง มาศาลโดยพลัน และถ้ าผู้คุมขังแสดงให้ เป็ นที่พอใจแก่ศาลไม่ได้ ว่าการคุมขังเป็ นการชอบด้ วยกฎหมาย ให้ ศาลสั่ง ปล่อยตัวผู้ถกู คุมขังไปทันที
ข้ อมูลเพิ่มเติมติดต่ อ นางสาวคอรี เยาะ มานุแช ทนายความ 091 838 6265 หรื อ yor.manuchae@gmail.com