Psusci magazine

Page 1


ทรงพระเจริญ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้า คณาจารย์ บุคลากรคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์


สารบัญ

คณะผู้จัดทำ� ที่ปรึกษา I รศ.์ดร.วิไลวรรณ โชิตเกียรติ , ผศ.ดร.ภัทร อัยรักษ์ , รศ.ดร.อัญชนา ประเทพ บรรณาธิการ I ดร.ภูวดล ธนะเกียรติไกร รองบรรณาธิการ I ดร.กมลธรรม อำ�่สกุล กองบรรณาธิการ I คณะกรรมการการจัดทำ�วารสารคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เลขากองบรรณาธิการ l อิสรภาพ ชุมรักษา ประสานงานกองบรรณาธิการ I ศศิมา หมื่นนคร รูปเล่ม I ประชาสัมพันธ์ คณะวิทยาศาสตร์ จัดพิมพ์ I คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ตู้ปณ. 3 ตำ�บลคอหงส์ อำ�เภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา 90112 Tel 0 7428 8022 E-mail I sci-pr@group.psu.ac.th

อ่านวารสารฉบับออนไลน์ได้ที่ www.sc.psu.ac.th/ Facebook I PSUSci Twitter I PSUSci Instargram I PSUSci Google+I gplus.to/PSUSci ธันวาคม 2556 I วิทยาศาสตร์(สาร) I 2


บทบรรณาธิการ EDITOR’S TALK

ธันวาคม 2556 I วิทยาศาสตร์(สาร) I 3


สารจากผู้บริหาร ADMINISTRATOR TALK

ความพร้อมของนักศึกษา คณะวิทยาศาสตร์ สู่ AEC รองศาสตราจารย์ ดร.วิไลวรรณ โชิติเกียรติ คณบดีคณะวิทยาศาสตร์

ธันวาคม 2556 I วิทยาศาสตร์(สาร) I 4


รอบรั้ว วิดยา SCIENCE ALL

ลงนามความร่วมมือระหว่างคณะวิทยาศาสตร์ กับ Institute of Tropical Biology (VIETNAM)

2 I 10 I 2556 11 I 10 I 2556

เมื่อวันพุธที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา คณบดีคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ รองศาสตราจารย์ ดร.วิไลวรรณ โชติเกียรติ และ Dr.Hoang Nghia Son Director, Institute of Tropical Biology ได้ลงนามความร่วมมือระหว่างคณะวิทยาศาสตร์ กับ Institute of Tropical Biology (VIETNAM) โดยได้รับการติดต่อจากผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สาระ บำ�รุงศรี ภาควิชาชีววิทยา กับนักวิจัยของ Institute of Tropical Biology เพื่อแลกเปลี่ยนงานทางด้านการวิจัย เนื่องจากมีทรัพยากรความหลากหลายที่คล้ายคลึง กัน โดยในครั้งนี้

คณะวิทยาศาสตร์ ต้อนรับคณาจารย์และนักศึกษาจากคณะวิทยาศาสตร์ UNIVERSITI SAINS ISLAM MALAYSIA

เมื่อวันศุกร์ ที่ 11 ตุลาคม ที่ผ่านมา คณะวิทยาศาสตร์​ มหาวิทยาลัยสงขลา นครินทร์ ได้มีโอกาสต้อนรับ คณะครูอาจารย์ นักศึกษา จาก คณะวิทยาศาสตร์ UNIVERSITI SAINS ISLAM MALAYSIA โดยมีท่านอาจารย์ Mr.Hishamuddin bin Abdul Wahab. และนักศึกษาระดับ ปริญญาตรี จำ�นวน 22 คน โดยมีผู้ ช่วยคณบดีฝ่ายวิเทศสัมพันธ์และประชาสัมพันธ์ ดร.ภูวดล ธนะเกียรติไกร เป็น ผู้ให้การต้อนรับ โดยกำ�หนดการ คณาจารย์เเละนักศึกษา ดูงานที่ภาควิชาฟิสิกส์ และภาควิชาเคมี

ธันวาคม 2556 I วิทยาศาสตร์(สาร) I 5


รอบรั้ว วิดยา SCIENCE ALL

การสัมภาษณ์รับนักศึกษาโครงการผลการเรียนดีเข้าศึกษา ในระดับปริญญาตรีประจำ�ปี 2557

เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2556 ณ ห้องสัมมนาคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัย สงขลานครินทร์ คณะวิทยาศาสตร์ ได้ดำ�เนินโครงการรับนักศึกษาโครงการผลการ เรียนดีเข้าศึกษาในระดับปริญญาตรี ประจำ�ปี 2557 คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัย สงขลานครินทร์ โดยในปีนี้มีนักเรียนรายงานตัวเข้าโครงการทั้งสิ้น 240 คน

17 I 10 I 2556

ธันวาคม 2556 I วิทยาศาสตร์(สาร) I 6


รอบรั้ว วิดยา SCIENCE ALL

ธันวาคม 2556 I วิทยาศาสตร์(สาร) I 7


รอบรั้ว วิดยา SCIENCE ALL

ธันวาคม 2556 I วิทยาศาสตร์(สาร) I 8


เล่าเรื่องประกันคุณภาพ SCIENCE ALL

ว่าด้วย.....งานประกันคุณภาพ คณะวิ

ธันวาคม 2556 I วิทยาศาสตร์(สาร) I 9


คนเก่ง วิดยา SCIENCE ALL

ขอแสดงความยินดีกับ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. อารีย์ ชูดำ� รางวัลเกียรติบัตรนำ�เสนอผลงานยอดเยี่ยมแบบโปสเตอร์ ขอแสดงความยินดีกับ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. อารีย์ ชูดำ� อาจารย์จาก ภาควิชาวิทยาศาสตร์ประยุกต์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ทีไ่ ด้รบั รางวัลเกียรติบตั รนำ�เสนอผลงานยอดเยีย่ มแบบโปสเตอร์ การประชุมวิชาการ “นักวิจัยรุ่นใหม่ พบ เมธีวิจัยอาวุโส สกว.” ครั้งที่ 13 เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2556 โดยมี ศ.ดร.จำ�รัส ลิ้มตระกูล เมธีวิจัยอาวุโส สกว. เป็นผู้มอบรางวัล

ขอแสดงความยินดี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ดรุณี ผ่องสุวรรณ และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. อุราพร วงศ์วัชรานนท์ และคณะ ที่ได้รับรางวัลอาจารย์ตัวอย่างและผลงานดีเด่นของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ประจำ�ปี 2556

ธันวาคม 2556 I วิทยาศาสตร์(สาร) I 10


เรื่องจากปก COVER STORY

ผลวิจัยทางสมองชี้พืชกระท่อม ช่วยลดอาการลงเเดงจากสารเสพติดในหนูทดลอง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เอกสิทธิ์ กุมารสิทธิ์ อาจารย์ประจำ�ภาควิชาสรีรวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

กระท่อม(Kratom) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Mitragyna speciosa Korth. อยู่ในวงศ์ Rubiaceae เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางสูง 10-15 เมตร ใบเป็นใบเดี่ยวสีเขียว เรียงตัวเป็นคู่ตรงพบมากใน ป่าธรรมชาติบริเวณภาคใต้ เช่น สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง สตูลพัทลุง สงขลา ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และตอนบนของ ประเทศมาเลเซีย กระท่อมเป็นพืชเสพติดให้โทษประเภท 5 ตามพ ระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 ธันวาคม 2556 I วิทยาศาสตร์(สาร) I 11


เรื่องจากปก COVER STORY

เริ่มต้นจากงานวิจัยเรื่องผลของสารสกัดน้ำ�จากใบกระท่อมต่อ อาการถอนเอทานอล (ลงแดง) ในหนูทดลองซึ่งได้ตีพิมพ์ผลงานไป แล้วในวารสาร Fitoterpia พบว่าสารสกัดน้ำ�จากในกระท่อมสามารถ ลดอาการถอนเอทานอลในหนูทดลองที่ถูกชักนำ�ให้ติดเอทานอลได้ หลังจากนั้นจึงได้มีการศึกษาเพิ่มเติม โดยศึกษาผลของสารสกัดอัลคา ลอยด์จากใบกระท่อมต่อการกระตุ้นการทำ�งานของสมองที่เกี่ยวข้อง กับการเสพติด โดยเฉพาะบริเวณนิวเคลียส แอคคัมเบนส์ (nucleus accumbens) และ สไตรเอตัม (striatum) ซึ่งเป็นบริเวณที่เซลล์ ประสาทสื่อสารกันด้วยสารโดปามีน (dopamine) การกระตุ้นสมอง บริเวณนี้มีผลทำ�ให้รู้สึกเป็นสุข เคลิบเคลิ้มและติดใจ และสุดท้ายนำ�ไป สู่การเสพติดได้ จากการศึกษาโดยวิธีการตรวจวัดโปรตีนที่พิสูจน์ว่ามีการกระตุ้ นการทำ�งานของเซลล์สมองบริเวณที่ต้องการศึกษา พบว่าสารสกัดอัล คาลอยด์จากใบกระท่อมที่ความเข้มข้น 40 และ 80 มก. ต่อน้ำ�หนัก ตัว 1 กก. ไม่มีผลกระตุ้นการทำ�งานของสมองทั้งสองบริเวณ ในขณะ ที่ผลการศึกษาฤทธิ์ของยาซูโดอีฟีดรีน (pseudoephedrine) ที่ใช้เป็น ส่วนผสมของยาแก้หวัด คัดจมูก ที่ผ่านมาของผู้วิจัยเองในปี 1998 พบ ว่ายาซูโดอีฟีดรีน มีฤทธิ์คล้ายกับสารเสพติด เช่นแอมเฟตามีน โดยมี ผลกระตุ้นสมองบริเวณนิวเคลียส แอคคัมเบนส์ และสไตรเอตัม อย่างไรก็ตาม เพื่อความแน่ใจ ขั้นตอนที่จะต้องศึกษาต่อไป คือการ ตรวจวัดผลของสารสกัดจากใบกระท่อมต่อการทำ�งานของสมองด้วย เทคนิคที่มีความไวต่อการเปลี่ยนแปลงและสามารถติดตามการทำ�งาน ของสมองได้ต่อเนื่องแบบ real-time ซึ่งเทคนิคดังกล่าวคือการวัด สัญญาณคลื่นไฟฟ้าสมอง (electroencephalo-graphy, EEG)

สำ�หรับการศึกษาผลระยะยาวของการได้รับสารสกัดจากใบกระท่อม เพื่อดูอาการถอนหรืออาการลงแดงโดยเปรียบเทียบผลกับสารเสพติด มาตรฐาน ได้แก่ มอร์ฟีน และเอทานอล ผลการศึกษาพบว่าการได้รับ มอร์ฟีนเพียง 3 วัน มีผลทำ�ให้หนูทดลองติด และเมื่อชักนำ�ให้เกิดอาการ ถอน ทำ�ให้เกิดอาการถอนอย่างรุนแรง เช่น การกระโดดซ้ำ� ๆ ซึ่งจะไม่ เกิดขึ้นในภาวะปกติ พร้อมทั้งมีการขับถ่ายเรี่ยราด เหมือนในกรณีของ คนที่มีอาการลงแดงจากการเสพติดมอร์ฟีน ส่วนการทดสอบการเสพ ติดเอทานอล โดยให้หนูทดลองกินอาหารเหลวที่มีเอทานอลผสมอยู่ 7 เปอร์เซ็นต์ด้วยตัวหนูเองเป็นเวลานาน 21 วัน ส่วนวันที่ 22 งดให้อาหาร เหลวที่มีเอทานอล พบว่าหนูทดลองเกิดอาการถอนเอทานอล เห็นได้จากการเคลื่อนไหวที่พลุ่งพล่านมากขึ้น ซึ่งสัมพันธ์กับการเพิ่ม ขึ้นของคลื่นไฟฟ้าสมองในช่วงความถี่แกมม่า (gamma wave) ในขณะ ที่หนูทดลองที่ได้รับสารสกัดอัลคาลอยด์จากใบกระท่อมเป็นเวลานาน 3 เดือน ในปริมาณ 20 มก. ต่อน้ำ�หนักตัว 1 กก. นั้นเมื่อหยุดให้สารสกัด พบว่าไม่ทำ�ให้เกิดอาการถอน หรือทุรนทุรายทางด้านร่างกายดังที่พบใน การศึกษาการถอนมอร์ฟีนและเอทานอลเลย สรุปคือไม่พบอาการถอน กระท่อมทางด้านร่างกาย อย่างไรก็ตามควรมีการทดสอบขั้นต่อไปด้วย การวัดคลื่นไฟฟ้าสมองซึ่งไวและมีความละเอียดสูงกว่าเพื่อศึกษาความ เปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในสมอง ซึ่งจะทำ�ให้ได้คำ�ตอบที่ชัดเจน

ธันวาคม 2556 I วิทยาศาสตร์(สาร) I 12


เรื่องจากปก COVER STORY

ได้มีการทดลองนำ�พืชกระท่อมมาประยุกต์ใช้ลดอาการถอนจากการเสพติดมอร์ฟีนและเหล้า พบว่าสารสกัดอัลคาลอยด์จากใบกระท่อม ช่วยลดอาการถอนมอร์ฟีนโดยวัดจากพฤติกรรมการกระโดดและการขับถ่ายเหลว ส่วนอาการถอนเหล้าหรือเอทานอลนั้น จากการประเมินผล ด้านพฤติกรรม สังเกตได้จากระยะทางรวมทั้งหมดขณะที่หนูทดลองเคลื่อนไหว พบว่าหนูทดลองกลุ่มที่ถูกชักนำ�ให้มีอาการถอนเหล้ามีระดับการ เคลื่อนไหวเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากซึ่งแสดงถึงอาการลงแดงจากภาวะถอนเหล้านั่นเอง และเมื่อให้สารสกัดอัลคาลอยด์จากใบกระท่อมในขนาด 60 มก. ต่อน้ำ�หนักตัว 1 กก. แก่หนูทดลองก่อนการถอนเหล้า พบว่าอาการถอนเหล้าลดความรุนแรงลงได้ และยังมีการค้นพบที่น่าสนใจอย่างยิ่งคือ สา รสกัดอัลคาลอยด์จากใบกระท่อมบรรเทาอาการถอนเหล้าได้ผลดีพอ ๆ กับยามาตรฐานที่ใช้คือ ฟลูอ็อกซีติน (fluoxetine) ในขนาด 10 มก. ต่อน้ำ� หนักตัว 1 กก. นอกจากการประเมินทางด้านพฤติกรรมแล้ว ยังมีการยืนยันด้วยรูปแบบของคลื่นไฟฟ้าสมอง จากรูปซึ่งแสดงคลื่นไฟฟ้าสมองในช่วงความ ถี่แกมม่า จะเห็นได้ว่าหนูทดลองกลุ่มที่ไม่ถอนเหล้าเปรียบเทียบกับกลุ่มที่ถอนเหล้า มีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด คือคลื่นช่วงความถี่แกมม่ามี ค่าเพิ่มขึ้นในกลุ่มที่ถอนเหล้า แต่เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มที่ถอนเหล้าแต่ได้รับให้สารสกัดจากใบกระท่อม คลื่นช่วงความถี่แกมม่าลดลงอย่างเห็นได้ ชัด ผลจากการทดลองนี้ยืนยันได้ว่า สารสกัดจากใบกระท่อม สามารถลดอาการลงแดงได้ชัดเจนอย่างมีนัยสำ�คัญตามหลักฐานทาง วิทยาศาสตร์ การศึกษาด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์นี้เป็นสิ่งที่ สามารถทำ�ซ้ำ�และได้ผลเหมือนเดิม ไม่ขึ้นอยู่กับตัวบุคคล หรือเวลา และสถานที่ สรุปแล้วพืชกระท่อมสามารถบรรเทาอาการถอนเหล้าได้ ผลใกล้เคียงกับยามาตราฐานฟลูอ็อกซีติน ไม่ว่าจะศึกษาจากพฤติกรรม หรือจากคลื่นไฟฟ้าสมอง และจากการศึกษาผลแบบเฉียบพลันของสารสกัดจากใบกระท่อม ต่อภาวะหลับ-ตื่น โดยเปรียบเทียบกับหนูทดลองกลุ่มควบคุมและกลุ่ม ที่ได้รับยามาตรฐานคือฟลูอ็อกซีติน 10 มก. ต่อน้ำ�หนักตัว 1 กก. พบ ว่าฟลูอ็อกซีตินทำ�ให้รูปแบบการนอนหลับเปลี่ยนแปลงไปจากปกติ คือ มีผลกดการนอนหลับช่วงที่มีการกลอกลูกตา (rapid eye movement sleep) ส่วนหนูทดลองที่ได้รับสารสกัดอัลคาลอยด์จากใบกระท่อมทั้ง ขนาด 10 และ 60 มก. นั้นไม่มีผลกดการนอนหลับช่วงที่มีการกลอกลูก ตา แสดงให้เห็นว่าพืชกระท่อมไม่มีผลข้างเคียงดังกล่าว การวิจัยที่กล่าวมาข้างต้นเป็นการศึกษาในหนูทดลองที่มีการควบคุมปัจจัยต่างๆ ด้วยหลักการทางวิทยาศาสตร์ เพื่อตัดปัจจัยบิดเบือนจาก การตัดสินหรือความคาดหวังของมนุษย์ แม้ว่าผลการทดลองที่ผ่านมาจะยังไม่สามารถชี้ชัดถึงฤทธิ์เสพติดของพืชกระท่อมได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อดู จากพฤติกรรมการเคี้ยวใบกระท่อมอย่างต่อเนื่องในกลุ่มเกษตรกรก็น่าจะบ่งบอกถึงฤทธิ์เสพติดได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่เคี้ยวใบกระท่อมเป็นเวลา สิบ ๆ ปี นั้น ถ้าไม่ได้เคี้ยวเมื่อถึงเวลาจะรู้สึกว่าไม่กระปรี้กระเปร่าหรือพร้อมที่จะทำ�งาน มีอาการอยากเคี้ยว หาวบ่อยๆ และหาวจนน้ำ�หูน้ำ�ตาไหล คล้าย ๆ กับคนที่ติดการเคี้ยวหมาก เพียงแต่ผลที่มีต่อร่างกายนั้นไม่ชัดเจนเท่ากับการขาดเมทแอมเฟตามีน นอกจากนี้ยังสามารถตรวจวัดผลของกระท่อมต่อการทำ�งานของสมองได้หลายวิธี การวัดผลทางพฤติกรรมอาจจะทำ�ให้ได้เพียงข้อมูลเบื้อง ต้น ดังนั้นจึงจำ�เป็นต้องมีการนำ�วิธีการตรวจวัดการทำ�งานของสมองที่ไวและละเอียดกว่ามาใช้ และถ้าพบว่าการหยุดเสพกระท่อมแล้วนำ�ไปสู่ความ ผิดปกติของสมอง ก็จะสามารถชี้ชัดได้ว่ากระท่อมเป็นพืชที่มีฤทธิ์เสพติดหรือมีโทษ ปัจจุบันห้องปฏิบัติการทางระบบประสาทของเราได้พัฒนา วิธีการบันทึกคลื่นไฟฟ้าสมองทั้งในสัตว์ทดลองและในคนเพื่อรองรับงานวิจัยด้านสารเสพติด รวมทั้งสารใหม่ๆ ที่มีการนำ�มาเสพหรือใช้แบบผิด วัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่จำ�เป็นและทันต่อเหตุการณ์

ธันวาคม 2556 I วิทยาศาสตร์(สาร) I 13


เรื่องจากปก COVER STORY

“ส่วนแนวความคิดที่จะนำ�มาใช้เพื่อบำ�บัดการเสพติดก็ มีความเป็นไปได้ขึ้นอยู่กับการประยุกต์ใช้สรรพคุณและ หลีกเลี่ยงด้านที่เป็นโทษก็จะเกิดประโยชน์สูงสุด ที่สำ�คัญ ไม่ควรให้มีการทดลองใช้พืชกระท่อมตามลำ�พัง ควรอยู่ ภายใต้การดูแลของศูนย์บำ�บัดอย่างใกล้ชิด”

ธันวาคม 2556 I วิทยาศาสตร์(สาร) I 14


สุขกับการทำ�งาน SCIENCE ALL

ธันวาคม 2556 I วิทยาศาสตร์(สาร) I 15


สัมภาษณ์พิเศษ SPECIAL INTERVIEW

องค์ความรู้งานวิจัยจากเยอรมัน

ตอนเหนือสู่ตอนใต้ของประเทศไทย สัมภาษณ์ / เขียนข่าวโดย ศศิมา หมื่นนคร นักประชาสัมพันธ์

เป็นอีกครั้งหนึ่งที่คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มีโอกาสต้อนรับนักศึกษาชาวต่างชาติในระดับปริญญาตรีเข้าร่วมทำ�วิจัย แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ทางวิชาการระหว่างกัน ….. Ms. Henrike Schmidt นักศึกษาระดับปริญญาตรีจาก University of Kiel, Germany ทางตอนเหนือของประเทศเยอรมนี ได้รับทุน จาก DAAD, The German Academic Exchange Service ณ ภาควิชา ฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ซึ่งได้เข้าฝึกงานใน ระยะเวลา 6 สัปดาห์ เหตุผลที่ Rike เลือกมารับทุนที่ประเทศไทย และเลือกลงที่ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เพราะเธอมองว่าคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ มีสาขาที่รองรับเนื้อหา ทางด้านวิชาการ งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง รวมถึงยังมี ดร.HELMUT JOSEF DURRAST อาจารย์ประจำ�ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ อาจารย์ ชาวเยอรมนีที่มีความเชี่ยวชาญในด้านที่ตนเองสนใจอยู่ที่นี่อีกด้วย นอก เหนือจากความรู้ทางด้านวิชาการแล้ว Rike ยังให้ความสนใจเกี่ยวกับศิลป วัฒนธรรมของไทย และยังหวังว่าจะได้แลกเปลี่ยน เรียนรู้ และสามารถนำ� ไปเผยแพร่ เล่าสู่กันฟังให้กับเพื่อนๆชาวเยอรมนีต่อไป

แต่สิ่งเหล่านี้ก็ไม่ได้ทำ�ให้ Rike มีทัศนคติหรือความรู้สึกที่ไม่ดี กับประเทศไทยแต่อย่างใด ในทางกลับกันกลับรู้สึกประทับใจ และรักที่จะได้ เรียนรู้ความแตกต่างที่มีของทั้งสองประเทศ ในช่วงเวลาที่มีเพียงแค่ 6 สัปดาห์เท่านั้น

ธันวาคม 2556 I วิทยาศาสตร์(สาร) I 16


แนะนำ�หลักสูตรปริญญาตรี SCIENCE ALL

ธันวาคม 2556 I วิทยาศาสตร์(สาร) I 17


สถานี ไอที IT TODAY

IPHONE 5S

ธันวาคม 2556 I วิทยาศาสตร์(สาร) I 18


รอบบ้านพิพิธภัณฑ์ IT TODAY

บุคลากรพิพิธภัณฑ์ฯ เข้าร่วมการประชุมใหญ่ ประจำ�ปีขององค์การพิพิธภัณฑ์นานาชาติ ทุกๆ 3 ปี องค์การพิพิธภัณฑ์นานาชาติ (International Council of Museum: ICOM) จะมี การจัดประชุมใหญ่เพื่อให้บุคลากรในวงการพิพิธภัณฑ์จากทั่วโลกได้พบปะเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และ ประสบการณ์ รวมทั้งนำ�เสนอผลงานวิจัยด้านพิพิธภัณฑ์ สำ�หรับในปี 2013 นี้ มีการจัดประชุม ณ เมืองริโอ เดอ เจนีโร ประเทศบราซิล ซึ่งนับเป็น ครั้งที่ 23 แล้ว โดยการประชุมครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมประชุมมากกว่า 2,000 คน และในปีนี้ทางคณะผู้จัดมี โครงการสนับสนุนทุนแก่นักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่จำ�นวน 100 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ นายยิ่งยศ ลาภวงศ์ นักวิทยาศาสตร์ประจำ�พิพิธภัณฑสถานธรรมชาติวิทยา ๕๐ พรรษา สยามบรมราชกุมารี โดยนายยิ่งยศ ได้เดินทางไปเข้าร่วมประชุมและฝึกอมรมเชิงปฏิบัติการระหว่างวันที่ 9 – 26 สิงหาคม ที่ผ่านมา และได้ เก็บเกี่ยวความรู้และประสบการณ์ต่างๆเพื่อนำ�มาพัฒนางานด้านพิพิธภัณฑ์ต่อไปในอนาคต

แต่สิ่งเหล่านี้ก็ไม่ได้ทำ�ให้ Rike มีทัศนคติหรือความรู้สึกที่ไม่ดี กับประเทศไทยแต่อย่างใด ในทางกลับกันกลับรู้สึกประทับใจ และรักที่จะได้ เรียนรู้ความแตกต่างที่มีของทั้งสองประเทศ ในช่วงเวลาที่มีเพียงแค่ 6 สัปดาห์เท่านั้น

ธันวาคม 2556 I วิทยาศาสตร์(สาร) I 19


คนเก่งในสื่อมวลชน IT TODAY

ชุดทดสอบสังกะสีภาคสนาม ผศ.ดร.วรากร ลิ่มบุตร รายการเกษตรก้าวไกล

เป็นชุดทดสอบสังกะสีภาคสนามในน้ำ� ยางพารา ดินและปุ๋ย ที่พัฒนาซึ่งโดยนักวิจัยไทย ราคาถูก ลดการเข้าจากต่างประเทศใช้งานง่าย ทั้งในและนอกสถานที่ใช้สารเคมีเป็นมิตรกับสิ่ง แวดล้อมไม่ต้องทำ� calibration curue

ธันวาคม 2556 I วิทยาศาสตร์(สาร) I 20


คนเก่งในสื่อมวลชน IT TODAY

2 อาจารย์นักวิจัย จากคณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และ

คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ บูรณาการความรู้ร่วมกัน ศึกษาผลิตภัณฑ์สาร ออกฤทธิ์ทางชีวภาพ จากข้าวกล้องงอก ช่วยฟื้นฟูระบบประสาทและสมอง เตรียมศึกษาวิจัย เชิงลึกในมนุษย์ก่อนต่อยอดในเชิงพาณิชย์ ข้าวกล้องงอก เป็นอาหารที่ได้รับความนิยมบริโภค อย่างสูง และมีการผลิตเพื่อป้อนสู่ตลาดอาหาร เพื่อสุขภาพในปริมาณมากในช่วง 5 ปีที่ผ่าน มา เนื่องจากมีการกล่าวถึงสรรพคุณมากมายของข้าวกล้องงอก ต่อการบำ�บัดหรือช่วยฟื้นฟู สุขภาพของผู้บริโภค ทั้งการออกฤทธิ์ต่อต้านอนุมูลอิสระ การลดภาวะความเครียด คลายกังวล ซึ่งเป็นผลมาจากสารในกลุ่ม สารประกอบฟีนอลิก และสารกาบา (GABA: gamma-aminobutyric acid) เป็นต้น และจากจุดนี้จึงได้มีการศึกษาวิจัยลึกลงไป เพื่อศึกษาฤทธิ์ต่อสุขภาพอื่นๆ เพิ่มเติมของข้าวกล้องงอก ซึ่งพบว่าหากใช้กระบวนการและสภาวะในการเตรียมและสกัดที่ นอกจากนี้การทำ�งานวิจัยเชิงบูรณาการข้ามสาขาวิชาระหว่างสถาบัน ทำ�ให้เกิดความ เหมาะสม สามารถทำ�ให้ได้สารออกฤทธิ์ทางชีวภาพ ที่ส่งผลต่อการฟื้นฟูระบบประสาทและ ร่วมมือในการศึกษาเชิงลึกถึงผลของสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพจากข้าวกล้องงอกต่อสุขภาพ สมองในผู้สูงอายุได้ โดยได้พบว่าการกำ�หนดสภาวะและการ ควบคุมปัจจัยที่เหมาะสม รวมถึงการใช้สารกระตุ้น การทำ�งานของเอนไซม์บางชนิดในข้าว ทำ�ให้ข้าวกล้องมีการผลิต หรือสร้างสารออกฤทธิ์ คณะผู้วิจัยซึ่งทำ�งานวิจัยเชิงบูรณาการระหว่างสถาบัน นำ�โดย อ.ดร.เอกสิทธิ์ จงเจริญ สำ�คัญขึ้นในระหว่างกระบวนการงอก ซึ่งจากการศึกษาในสัตว์ทดลองพบว่าสารสกัดที่ได้จาก รักษ์ จากสาขา วิชาวิศวกรรมอาหาร คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมกับ ข้าวกล้องงอกนี้ ออกฤทธิ์ต่อการกระตุ้นให้การทำ�งานของสมองของสัตว์ทดลองที่ถูกทำ�ลาย ผศ.ดร.เอกสิทธิ์ กุมารสิทธิ์ ภาควิชาสรีรวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ไปฟื้นฟูขึ้น และยังพบว่าสามารถช่วยในการฟื้นฟูสภาวะการนอนหลับของสัตว์ทดลองที่ ได้ค้นพบว่า ในระหว่างกระบวนการงอกของข้าวนั้น หากทำ�การจำ�กัดสภาวะในการงอกของ มีอายุมากให้เข้าสู่สภาวะการหลับลึกได้อีกด้วย อีกทั้งยังส่งผลต่อคลื่นไฟฟ้าสมองของสัตว์ ข้าว เช่น การกำ�หนดความเป็นกรด-ด่าง ปริมาณออกซิเจนที่ให้ อุณหภูมิ ระยะเวลา รวมถึง ทดลอง ในช่วงที่บ่งชี้ถึงการเพิ่มขึ้นของความสามารถในการเรียนรู้ และจดจำ� ซึ่งโดยปกติแล้ว การให้สารสำ�คัญบางชนิดที่มีผลต่อกระบวนการงอกของข้าว มีผลทำ�ให้ข้าวกล้องงอก สร้าง เมื่อสัตว์หรือมนุษย์มีอายุมากขึ้น การเข้าสู่สภาวะหลับลึกเป็นไปได้ยากมากยิ่งขึ้น และ ส่งผล สารต่างๆ ออกมาแตกต่างกันไป และด้วยการศึกษาวิจัยอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานกว่า 5 ปี ต่อสุขภาพโดยองค์รวม เนื่องจากเมื่อนอนหลับได้ไม่เต็มที่ร่างกายจึงไม่ได้รับการพักผ่อนที่ โดยได้รับ การสนับสนุนทุนวิจัยจาก สำ�นักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ผ่านงบประมาณ เพียงพอ ทำ�ให้เกิด สภาวะเครียดของร่างกายหากเกิดสภาวะเช่นนี้ต่อเนื่องเป็นระยะเวลา แผ่นดิน จึงทำ�ให้ได้ข้อมูลมากมาย ที่สำ�คัญของสภาวะระหว่างกระบวนการงอกต่อการผลิตสาร นาน จะส่งผลให้ระบบการฟื้นฟูร่างกายโดย ธรรมชาติสูญเสียไป และส่งผลให้เกิดปัญหาสุข ออกฤทธิ์ทางชีวภาพของข้าวกล้องงอก เช่น หากทำ�ให้ เกิดสภาวะความเป็นกรดขึ้นเล็กน้อย ภาพอื่นๆตามมาในระยะยาว ระหว่างกระบวนการงอกของข้าวมีผลทำ�ให้ ข้าวเจริญหรืองอกและสร้าง สารออกฤทธิ์ต่อต้าน อนุมูลอิสระมากขึ้นกว่าที่สภาวะเป็นกลางหรือด่าง เป็นต้น ดังนั้นจากการค้นพบนี้จึงอาจเป็นแนวทางที่สำ�คัญในการนำ�สารสกัดออกฤทธิ์ทาง ชีวภาพจากข้าวกล้องงอกมาประยุกต์ใช้ในมนุษย์เพื่อใช้นในการบำ�บัดร่วมหรือฟื้นฟูผู้สูง อายุและผู้ที่มีปัญหาด้านการนอนหลับ ซึ่งไม่สามารถเข้าสู่สภาวะหลับลึกได้ อีกทั้งอาจช่วย ใน การบำ�บัดสำ�หรับผู้ที่มีปัญหาด้านสภาวะการเรียนรู้และจดจำ� นอกจากนี้จากการศึกษา ในเบื้องต้นพบว่า สารสกัดนี้ ไม่ก่อพิษและไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพของสัตว์ทดลองจึงไม่เป็น อุปสรรคในการนำ�ไปประยุกต์ใช้ในอนาคต แต่อย่างไรก็ตามการศึกษาวิจัยในเชิงลึกในมนุษย์ ก่อนนำ�ไปประยุกต์ใช้เป็นสิ่งที่คณะผู้วิจัยให้ความสำ�คัญและสนใจศึกษาต่อ ขณะนี้มีผู้ประกอบการให้ความสนใจและยินดีในการสนับสนุนการศึกษาในเชิงลึกและ ประสงค์ใน การขอนำ�ผลิตภัณฑ์สารสกัดออกฤทธิ์ทางชีวภาพช่วยฟื้นฟูระบบประสาทและ สมองของคณะผู้วิจัยไปต่อยอดเพื่อการผลิตในเชิงพาณิชย์ต่อไป สารออกฤทธิ์ต่อต้านอนุมูล อิสระมากขึ้นกว่าที่สภาวะเป็นกลางหรือด่าง เป็นต้น ธันวาคม 2556 I วิทยาศาสตร์(สาร) I 21


สนุกกับวิทยาศาสตร์ COVER STORY

ธันวาคม 2556 I วิทยาศาสตร์(สาร) I 22


วิดยาสู่สังคม COVER STORY

ค่ายวิทยาศาสตร์อาสาสู่ชนบท ณ วัดจาก อำ�เภอระโนด สงขลา

ธันวาคม 2556 I วิทยาศาสตร์(สาร) I 23


วิดยาสู่สังคม COVER STORY

ธันวาคม 2556 I วิทยาศาสตร์(สาร) I 24


วิดยาสู่สังคม COVER STORY

ความรู้ในห้องเรียน เป็นความรู้ที่เรา ต้องเรียนรู้ ในรูปแบบการเรียนการสอนที่เรา ต้องเรียน เเต่ความรู้จากการทำ�กิจกรรม ค่ายอาสา เราจะเรียนรู้ในสิ่งที่นอกเหนือจาก ในห้องเรียน โดยเฉพาะเรื่องการอยู่ร่วมกัน ในสังคม และการมองประโยชน์เพื่อนมนุษย์ เป็นกิจที่หนึ่ง น้องปีโป้ นักศึกษาชั้ยปีที่ 2 ที่ร่วมค่ายอาสา ธันวาคม 2556 I วิทยาศาสตร์(สาร) I 21




Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.