MEAT PRO ASIA

Messe Frankfurt and VNU Group join forces to launch a new meat and food processing trade show for the Asian market in March 2023

Contact แสงทิพ เตชะปฏิภาณดี Saengtip Techapatiphandee Marketing & Communications Manager, VNU Exhibitions Asia Pacific Co., Ltd. saengtip@vnuasiapacific.com +662 1116611 Ext. 330

จากกลยุทธ์การขยายตลาดสู่อุตสาหกรรม เทคโนโลยีการผลิตอาหาร Messe Frankfurt และวีเอ็นยู เอ็กซิบิชั่นส์ จึงประกาศความร่วม มือการจัดงาน ‘Meat Pro Asia’ งานแสดง สินค้าสำาหรับอุตสาหกรรมการแปรรูปเนื้อสัตว์ สำาหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อขยาย กลยุทธ์สู่อุตสาหกรรมเทคโนโลยีอาหารที่กำาลัง ขยายตัว ซึ่งจะจัดขึ้นทุกๆ สองปีในประเทศไทย พร้อมกับงาน VIV Asia งานแสดงสินค้าใน อุตสาหกรรมการผลิตอาหารจากโปรตีนสัตว์ ที่ทรงอิทธิพลที่สุดในภูมิภาค โดยงาน Meat Pro Asia ครั้งแรกนี้จะจัดขึ้นในวันที่ 10-12 มีนาคม พ.ศ. 2566 ณ อิมแพ็ค เมืองทอง ธานี ซึ่งในโอกาสที่งาน IFFA แฟรงก์เฟิร์ตได้ เวียนกลับมาจัดงานเต็มรูปแบบอีกครั้ง ทางทีม Meat Pro Asia จากประเทศไทยจึงร่วมนำา เสนอข้อมูลของงาน Meat Pro Asia ภายใน IFFA Forum โดยได้รับเกียรติจากคุณปนัดดา ก๋งม้า ร่วมให้ข้อมูลกับบรรดาสื่อมวลชนและผู้ ประกอบการภายในงาน IFFA ครั้งนี้

Mr. Wolfgang Marzin ประธานและ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท Messe Frankfurt Group กล่าวถึงงาน Meat Pro Asia ที่กำาลังจะถูกเพิ่มในปฏิทินการจัดงาน ว่า “แม้เราต้องพบกับความท้าทายในช่วงครึ่ง ปีแรก แต่เรายังมองเห็นโอกาสทางธุรกิจในการ สร้างงานแสดงสินค้าใหม่ในช่วงเวลานี้ ตลาด ใหม่เกิดขึ้นมากมาย อีกทั้งตลาดเดิมก็เกิดการ พัฒนาอย่างชัดเจนเนื่องด้วยจำานวนประชากรที่ เพิ่มมากขึ้นถึง 600 ล้านคน จึงทำาให้อาเซียน ถูกจับตามองมากเป็นพิเศษในฐานะภูมิภาคที่ มีศักยภาพและการเติบโตสูงในภาคธุรกิจ เช่น เดียวกับอุตสาหกรรมอาหารแปรรูปเนื้อสัตว์ ซึ่ง เราจะแสดงให้เห็นผ่านงานแสดงสินค้าใหม่นี้”

“นี่คือการเพิ่มเครือข่ายทางธุรกิจระหว่าง ประเทศของการจัดงานในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี การแปรรูปอาหาร Meat Pro Asia จะ เป็นการก้าวเข้าสู่ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียง ใต้ของ Messe Frankfurt” Mr. Stephan Buurma คณะกรรมการผู้บริหาร บริษัท Messe Frankfurt Group และกรรมการผู้ จัดการสำานักงานใหญ่ประจำาภูมิภาคเอเชียกล่าว “เรามองเห็นศักยภาพในการใช้ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญในส่วนธุรกิจจากการจัด งาน IFFA ในแฟรงก์เฟิร์ตเพื่อนำาเสนองาน แสดงสินค้าแปรรูปเนื้อสัตว์ชั้นนำาของโลกมา สู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”

ความร่วมมือในอุตสาหกรรม

“การทำางานอย่างใกล้ชิดกับ Messe Frankfurt เรามุ่งมั่นที่จะนำาสิ่งที่ดีที่สุดของ อุตสาหกรรมการแปรรูปอาหารมานำาเสนอใน งาน Meat Pro Asia เพื่อสร้างแรงผลักดัน ให้ Meat Pro Asia เป็นเวทีที่ได้รับความ เชื่อมั่นในภูมิภาคอาเซียนด้านธุรกิจการแปรรูป เนื้อสัตว์” Mr. Igor Palka กรรมการผู้จัดการ บริษัท วีเอ็นยู เอ็กซิบิชั่นส์ เอเชีย แปซิฟิค กล่าว “เราได้มีการติดตามการเติบโตอย่างต่อ เนื่องของธุรกิจการแปรรูปอาหารภายในงาน ของเราบางส่วน ดังนั้น การจัดงาน Meat Pro Asia ควบคู่ไปพร้อมกับ VIV Asia จะ เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ด้วยความเชี่ยวชาญ ในอุตสาหกรรมนี้ของ Messe Frankfurt พันธมิตรการจัดงานร่วมกันในครั้งนี้ เราเชื่อ มั่นว่างานจะประสบความสำาเร็จอย่างยิ่ง” Mr. Palka กล่าว

ความเป็นสากลเป็นองค์ประกอบสำาคัญของ งาน VIV Asia และงาน Meat Pro Asia” คุณปนัดดา ก๋งม้า ผู้อำานวยการสายงาน ธุรกิจเกษตร-ปศุสัตว์ และฝ่ายปฏิบัติการ วีเอ็นยู เอ็กซิบิชั่นส์ เอเชีย แปซิฟิค กล่าวว่า “กำาหนดการจัดงานใหม่ในปี 2566 จะเป็น ประโยชน์กับทุกฝ่าย อาทิ การดึงดูดผู้ซื้อจาก ต่างประเทศและผู้มีชื่อเสียงในอุตสาหกรรม โดยเดือนมีนาคมเป็นช่วงเวลาดั้งเดิมของ VIV Asia และเป็นช่วงเวลาการจัดหาที่มั่นคงและ เหมาะสมสำาหรับอุตสาหกรรม โดยทั้งสองงาน นี้จะมีกำาหนดการจัดงานขึ้นในเดือนมีนาคม ใน ทุกๆ 2 ปี ซึ่งเรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้จัด งาน Meat Pro Asia ในช่วงเวลาที่สำาคัญ นี้ในปี 2566”

ตลาดที่เต็มไปด้วยความหลากหลาย และน่าจับตามอง ตลาดอาหารแปรรูปในอาเซียนถูกผลักดัน โดยความต้องการของชนชั้นกลางที่เพิ่มขึ้น มีการคาดการณ์ว่าจะเติบโตถึง 5% ต่อปีไป จนถึงปี พ.ศ. 2565 อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เป็นแรงผลักดันสำาคัญ ในการเติบโตของอุตสาหกรรมนี้คือนโยบาย ของรัฐบาลที่มุ่งเปลี่ยนประเทศไทยให้เป็น หนึ่งในผู้ส่งออกอาหาร 5 อันดับแรกของโลก ภายในปี พ.ศ. 2579 ดังนั้นจึงมีการส่งเสริม สภาพแวดล้อมทางการค้าและกฎหมายที่เอื้อ ต่อผู้เข้าร่วมและนักลงทุน Meat Pro Asia จะอำานวยความสะดวกให้แก่ผู้เชี่ยวชาญใน อุตสาหกรรมจากทั้งอาเซียนและภูมิภาคอื่นๆ ให้เข้าถึงตลาดที่มีศักยภาพสูงยิ่งขึ้น

ครอบคลุมผลิตภัณฑ์จากฟาร์ม สู่โต๊ะอาหาร

Meat Pro Asia พร้อมมอบทุกโซลูชันตั้งแต่ ต้นน้ำาจนปลายน้ำา ครอบคลุมทุกกระบวนการ ผลิตตั้งแต่ฟาร์ม การผลิตเนื้อสัตว์ ตลอดจน สู่โต๊ะอาหาร หรือ Farm to Table ซึ่งรวม ถึงกระบวนการฆ่าสัตว์ ห่วงโซ่การประมวลผล เต็มรูปแบบ บรรจุภัณฑ์ การติดฉลาก ระบบ การขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิ การควบคุม คุณภาพ สุขอนามัย IoT และระบบอัตโนมัติ รวมถึงการบำาบัดน้ำาเสีย และอื่นๆ

Meat Pro Asia จะจัดขึ้นเป็นครั้งแรกใน วันที่ 8-10 มีนาคม พ.ศ. 2566 ณ อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 กรุงเทพฯ ร่วมกันกับ งาน VIV Asia โดยทั้งสองงานจะดึงดูดผู้แสดง สินค้ากว่า 1,500 ราย รวมถึงผู้ผลิตอุปกรณ์ และผู้จัดจำาหน่าย ตลอดจนผู้เข้าชมงานมือ อาชีพ ผู้เชี่ยวชาญ ผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงผู้ซื้อ ประมาณ 50,000 รายจากทั่วโลก

งาน Meat Pro Asia จัดโดย Messe Frankfurt (HK) Ltd และ VNU Asia Pacific สำาหรับข้อมูลเพิ่มเติม www.meatproasia.com อีเมล meatproasia@china. messefrankfurt.com / meatproasia@ vnuasiapacific.com 

In a strategic expansion into the growing food technology sector, Messe Frankfurt (HK) Ltd and VNU Group, announced a partnership to jointly organise ‘Meat Pro Asia’, a new trade show dedicated to meat and food processing and catering to the Asian market. The show will take place on a biennial basis in co-location with VIV Asia – the number 1 international trade show from Feed to Food in Asia. The inaugural edition will open its doors from 8th-10th March 2023 at IMPACT, Bangkok, Thailand.

Commenting on the new event, Mr. Wolfgang Marzin, President and Chief Executive Officer of Messe Frankfurt Group, said: “Despite a challenging two years, we continue to see the need to establish new trade fairs in emerging markets around the world. With an increasingly wealthy population of 600 million, the ASEAN region is an exciting prospect, with high potential for growth in sectors such as meat and food processing.”

“Adding to an international network of events related to food processing technologies, Meat Pro Asia is Messe Frankfurt’s first venture in this sector in South East Asia,” noted Mr. Stephan Buurma, Member of the Board of Management, Messe Frankfurt Group and Managing Director of the Asia regional head office. “We therefore see great potential to leverage our experience and sector expertise, including the resources of IFFA in Frankfurt, the world’s leading meat processing trade fair, for the benefit of the industry in Asia.” Combining industry resources

“Working closely with Messe Frankfurt, we aim at attracting the top suppliers and buyers in the processing industry to Meat Pro Asia, establishing this exhibition as a top destination in Asia for meat processing and packaging equipment” said Mr. Igor Palka, Managing Director of VNU Asia Pacific. “VIV Asia has witnessed a consistent growth during the recent editions of the food processing segment. By holding Meat Pro Asia alongside VIV Asia, and leveraging on the experience of Messe Frankfurt in this specific sector, we are going to provide the entire spectrum of food technology to trade buyers. We are confident that this new event will be a great success,” Palka added.

“Internationality is a key ingredient of both VIV Asia and the concurrent Meat Pro Asia show,” says Ms. Panadda Kongma, Director of Agribusiness and Operations, VNU Asia Pacific. “The new dates in 2023 will benefit all parties by attracting more international buyers and industry luminaries. March has long been the traditional timeslot of VIV Asia and a well-established sourcing period for the industry every two years. We are therefore thrilled to have secured a prime timeslot at the venue for Meat Pro Asia during this period in 2023.”

A vibrant market

Expected to grow by 4.7% annually until 20231, the market for processed foods in ASEAN has been bolstered by the demands of a rising middle class.

More important contributors to the industry’s growth trajectory are government policies which aim to convert Thailand into one of the world’s top five food exporters by 20362, thereby fostering a favourable trading and regulatory environment for Meat Pro Asia’s participants to benefit from when it opens its doors in March 2023.

Comprehensive product coverage from farm to table

Meat Pro Asia focuses exclusively on solutions that deliver meat from farm to table. This includes slaughtering, the full processing chain, packaging, labelling, cold chain logistics, quality control, hygiene, IoT and automation, waste water treatment and more.

The inaugural edition of Meat Pro will be held from 8th-10th March 2023. Together with VIV Asia, the two fairs are set to attract over 1,500 exhibitors, including equipment manufacturers and distributors, as well as around 50,000 trade visitors, professionals and key buyers from around the world.

Meat Pro Asia is organised by Messe Frankfurt (HK) Ltd and VNU Group. For more information, please e-mail meatproasia@china.messefrankfurt.com and/or meatproasia@vnuasiapacific. com. 

THAI SCIENTIST HONOURED AT L’ORÉAL-UNESCO FOR WOMEN IN SCIENCE INTERNATIONAL AWARDS FOR FIRST TIME EVER

Author info สิตานันท์ สิทธิกิจ Sitanun Sittikij Corporate Communications Manager, L’Oréal

Sitanun.SITTIKIT@loreal.com 099 9463665 ญาดา สินธวะรัตน์ Yada Sintavarattana Hill & Knowlton Strategies Thailand

Onanong.PRATAKPHIRIYA@loreal.com 081 6949949

นักวิทยาศาสตร์หญิงไทยผงาด! คว้าทุน “เพื่อสตรีในงานวิทยาศาสตร์” ระดับนานาชาติ ครั้งแรกในรอบ 19 ปี ดร.พันธนา ตอเงิน จากภาควิชา วิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตัวแทนจาก โครงการทุนวิจัย ลอรีอัล ประเทศไทย “เพื่อ สตรีในงานวิทยาศาสตร์” (For Women in Science) นักวิทยาศาสตร์หญิงไทยคน แรกที่ได้รับรางวัล “นักวิทยาศาสตร์ดาวรุ่ง ระดับนานาชาติ” มูลนิธิลอรีอัล (L’Oréal Foundation) และองค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และ วัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) เดินหน้าจัดโครงการทุนวิจัยลอรีอัล “เพื่อ สตรีในงานวิทยาศาสตร์” ครั้งประวัติศาสตร์ ณ องค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยู เนสโก สำานักงานใหญ่ กรุงปารีส ในวันที่ 23 มิถุนายน 2565 เพื่อเชิดชูเกียรตินัก วิทยาศาสตร์หญิงชั้นนำาทั้งหมด 45 ท่าน จากกว่า 35 ประเทศทั่วโลก

พิธีสำาคัญดังกล่าวได้มอบทุนวิจัย “เพื่อสตรีในงานวิทยาศาสตร์” ให้กับนัก วิทยาศาสตร์หญิงจำานวน 15 ท่าน ที่มี ผลงานการวิจัยที่โดดเด่นและเป็นที่ยอมรับ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อีกทั้งยังเดินหน้า มอบรางวัล “นักวิทยาศาสตร์ดาวรุ่งระดับ นานาชาติ” (International Rising Talents) ให้กับนักวิทยาศาสตร์หญิงรุ่นใหม่จำานวน 30 ท่าน ที่ได้รับคัดเลือกในช่วงปี พ.ศ. 2563 – 2565 อีกด้วย โดยในปีนี้ รองศาสตราจารย์ ดร.พันธ นา ตอเงิน จากภาควิชาวิทยาศาสตร์สิ่ง แวดล้อม คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย ตัวแทนจากโครงการทุน วิจัย ลอรีอัล ประเทศไทย “เพื่อสตรีใน งานวิทยาศาสตร์” (For Women in Science) เป็นนักวิทยาศาสตร์หญิงไทย คนแรกที่ได้รับการเสนอชื่อเข้ารับรางวัล “นักวิทยาศาสตร์ดาวรุ่งระดับนานาชาติ” ด้วยผลงานวิจัยที่โดดเด่นในหัวข้อ ‘การ ศึกษาผลกระทบของความแปรปรวนและ การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศต่อ วัฏจักรน้ำาในระบบนิเวศป่า’ แต่ละปี มูลนิธิลอรีอัลจะมอบรางวัล “นัก วิทยาศาสตร์ดาวรุ่งระดับนานาชาติ” ให้กับ นักวิทยาศาสตร์หญิงที่มีศักยภาพมากที่สุด 15 ท่าน จากนักวิทยาศาสตร์ดาวรุ่งทั้งหมด กว่า 250 ท่านในโครงการทุนวิจัยลอรีอัล “เพื่อสตรีในงานวิทยาศาสตร์” ระดับภูมิภาค และระดับประเทศ โดยนักวิทยาศาสตร์ หญิงเหล่านี้จะได้รับการคัดเลือกเบื้องต้น จากคณะกรรมการกิตติมศักดิ์ในประเทศ หลังจากนั้นจะได้รับคำาเชิญให้ส่งใบสมัคร ซึ่งผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการ กิตติมศักดิ์ระดับนานาชาติที่ได้รับรางวัล นักวิทยาศาสตร์ดาวรุ่งระดับนานาชาติ 15 ท่าน จะได้รับทุนวิจัยสนับสนุนเพิ่มอีก 15,000 ยูโร นอกเหนือจากการสนับสนุน ด้านทุนวิจัยและการเชิดชูจากนานาประเทศ แล้ว นักวิทยาศาสตร์หญิงเหล่านี้จะได้รับ การฝึกอบรมด้านความเป็นผู้นำา ที่นับเป็น หลักสูตรพิเศษสำาหรับสายวิชาการ ที่จะเข้า มาช่วยส่งเสริมการเดินหน้าสร้างความเท่า เทียมกันของนักวิจัยหญิงที่นับเป็นอนาคต ของวงการวิทยาศาสตร์ และการมอบรางวัล ในครั้งนี้จะช่วยดึงศักยภาพของพวกเขาออก มาได้อย่างเต็มกำาลัง รองศาสตราจารย์ ดร.พันธนา ตอเงิน เป็นนักวิจัยสตรีผู้มีผลงานอันโดดเด่นที่ได้ รับทุนโครงการทุนวิจัยลอรีอัล ประเทศไทย “เพื่อสตรีในงานวิทยาศาสตร์” ในปีที่ผ่าน มา โดยมีผลงานวิจัยมุ่งเน้นติดตั้งเสาและ อุปกรณ์ตรวจวัดอย่างต่อเนื่องในป่าหลาย ขั้นการทดแทน ซึ่งนับเป็นงานวิจัยในเรื่อง ดังกล่าวเป็นครั้งแรกของประเทศไทย โดย อุปกรณ์เหล่านี้จะสามารถเก็บข้อมูลได้ เป็นเวลานานเพื่อติดตามสถานะและการ เปลี่ยนแปลงของอัตราการใช้น้ำาของป่า ซึ่งหากเก็บข้อมูลเป็นระยะเวลานานกว่า 30 ปีก็จะสามารถนาไปวิเคราะห์ผลกระ ทบจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศได้ นับ เป็นข้อมูลสาคัญที่เกิดจากการตรวจวัดใน พื้นที่จริงที่ยังไม่ปรากฏในป่าเขตร้อนที่มี หลายขั้นการทดแทนแห่งใดในโลก และ ยังเป็นประโยชน์เชิงนโยบาย ช่วยในการ วางแผนและบริหารจัดการการใช้น้ำาของ ชุมชนที่จะแม่นยามากขึ้น นอกจากนี้ การ วิเคราะห์ความทนแล้งของชนิดพันธุ์ต้นไม้ ในป่าเหล่านี้ ยังจะเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์ ต่อการคัดเลือกพันธุ์ต้นไม้ที่สามารถทน แล้งได้มาปลูกทดแทน นับเป็นฐานข้อมูล สาคัญสาหรับโครงการฟื้นฟูป่าในพื้นที่ใกล้ เคียง นาไปสู่ผลประโยชน์ทั้งด้านวิชาการ และการใช้ประโยชน์เชิงนโยบาย เนื่องจาก ยังไม่มีข้อมูลในป่าเขตร้อนของภูมิภาค เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ค้นพบได้ในการ ศึกษาด้านป่าไม้และการเปลี่ยนแปลงภูมิ อากาศโลก

การส่งเสริมความเท่าเทียมกันให้กับ เหล่านักวิทยาศาสตร์หญิง 3 ปีที่ผ่านมานับเป็นช่วงเวลาที่ท้าทาย ที่สุดสำาหรับวงการวิทยาศาสตร์ นัก วิทยาศาสตร์หญิงก้าวขึ้นมามีบทบาทใน แถวหน้า ในการจัดการกับปัญหาต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลง ของสภาพภูมิอากาศ โรคติดต่อ และ ภาวะวิกฤตอย่างการแพร่ระบาดของโรค โควิด 19 แต่ถึงแม้ว่าพวกเธอจะมีความ สำาคัญในการจัดการกับสถานการณ์ฉุกเฉิน ปัจจุบันนี้มากเพียงใดก็ตาม นักวิทยาศาสตร์

หญิงก็ยังมีจำานวนไม่มากพอ และไม่ได้รับ การยอมรับอย่างที่ควรจะเป็น อ้างอิงข้อมูลล่าสุดจากยูเนสโกพบว่า ผู้ หญิงที่ประกอบอาชีพในสายงานวิทยาศาสตร์ มีจำานวนเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และ ถึงแม้ว่าปัจจุบันในจำานวนนักวิจัย 3 คน จะ เป็นนักวิทยาศาสตร์หญิงแล้ว 1 คน1 แต่ ความไม่เท่าเทียมกันนั้นยังคงอยู่ โดยใน ยุโรปมีนักวิทยาศาสตร์หญิงเพียง 14.2%2 เท่านั้นที่ดำารงตำาแหน่งในระดับอาวุโส และ ในรอบทศวรรษที่ผ่านมา มีนักวิทยาศาสตร์ หญิงได้รับรางวัลโนเบลในสาขาวิทยาศาสตร์ เพียง 8% เท่านั้น อเล็กซานดรา พัลท์ ประธานเจ้าหน้าที่ ฝ่ายความรับผิดชอบขององค์กร ลอรีอัล กรุ๊ป และกรรมการผู้จัดการ มูลนิธิลอรีอัล กล่าวว่า “ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโค วิด 19 ลอรีอัลเล็งเห็นถึงความสำาคัญของ นักวิทยาศาสตร์หญิงในหลากหลายมิติ ทั้ง ในระดับสังคมและระดับโลก ตลอดจนการ จัดการกับวิกฤตโรคระบาดที่เกิดขึ้น แต่นัก วิทยาศาสตร์หญิงเหล่านี้ก็ยังไม่ได้รับการ ยอมรับในวงกว้าง อีกทั้งยังต้องเผชิญกับ อุปสรรคมากมายทั้งในระหว่างการทำางาน

1 UNESCO Science Report: “the Race Against Time for Smarter Development”, UNESCO Publishing (2021) 2 European Commission 2018 She figures report และการวิจัย สถานการณ์เช่นนี้เป็นผลมาจาก การไม่เห็นความสำาคัญของความเท่าเทียม กัน การมีอคติโดยที่ไม่รู้ตัว การมองข้าม ความเป็นจริง ตลอดจนถึงการเลือกปฏิบัติ ต่อคนในวงการเดียวกัน ซึ่งปัญหาเหล่านี้ ไม่ได้เกิดขึ้นแค่กับผู้หญิงเท่านั้น แต่ยังเกิด ขึ้นกับผลงานวิจัยด้วย ซึ่งในความเป็นจริง แล้ว งานวิจัยที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงให้ กับโลกใบนี้ได้อย่างแท้จริง ควรต้องดำาเนิน การอย่างไร้อคติและครอบคลุม” นับตั้งแต่ก่อตั้งโครงการฯ เมื่อปี พ.ศ. 2541 โครงการทุนวิจัย “เพื่อสตรีในงาน วิทยาศาสตร์” ได้สนับสนุนนักวิทยาศาสตร์ หญิงรุ่นใหม่จำานวนกว่า 3,900 คน แต่ละปี โครงการฯ ได้สนับสนุนนักวิจัยสตรีรุ่นใหม่ มากกว่า 250 ท่าน ทั้งในโครงการระดับ ประเทศและระดับทั่วโลก และได้มอบทุน เกียรติยศนานาชาติแก่นักวิจัยสตรีระดับ Laureates ไปแล้วกว่า 100 ท่าน แสดง ให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของโครงการฯ ใน การผลักดันวงการวิทยาศาสตร์อย่างแท้จริง นักวิจัยหญิงที่ยอดเยี่ยมเหล่านี้ล้วนแต่ มีส่วนในการสนับสนุนวิทยาศาสตร์ในสาขา ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และช่วยค้นหาแนวทาง ที่มีประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาความ ท้าทายเร่งด่วนที่โลกกำาลังเผชิญอย่างมีนัย สำาคัญ การจัดโครงการฯ ครั้งประวัติศาสตร์ ในปีนี้นับเป็นอีกหนึ่งโอกาสในการเชิดชู นักวิทยาศาสตร์หญิงทุกคนที่สามารถข้าม ผ่านปัญหาต่างๆ มาได้อย่างประสบความ สำาเร็จ โดยโครงการฯ จะยังคงเดินหน้าส่ง เสริมเหล่านักวิทยาศาสตร์หญิงให้ได้รับการ ยอมรับอย่างที่ควรจะเป็นต่อไป สำาหรับประเทศไทยนั้น โครงการทุ นวิจัยลอรีอัล ประเทศไทย “เพื่อสตรีในงาน วิทยาศาสตร์” ได้สนับสนุนนักวิทยาศาสตร์ หญิงชาวไทยมาแล้วเป็นระยะเวลากว่า 20 ปี โดยโครงการฯ ประจำาปี 2565 ได้เปิด รับสมัครนักวิทยาศาสตร์หญิงแล้วตั้งแต่วัน นี้ - 31 กรกฎาคม 2565 ผ่านทาง www. fwisthailand.com โดยจะเดินหน้ามอบ ทุนวิจัยทุนละ 250,000 บาท ให้กับนักวิจัย สตรีที่มีอายุระหว่าง 25-40 ปี ใน 2 สาขา ได้แก่ สาขาวิทยาศาสตร์ชีวภาพ และสาขา วิทยาศาสตร์กายภาพ ลอรีอัล ประเทศไทย ได้ดำาเนินงานโครงการมาเป็นปีที่ 19 โดย มีนักวิจัยสตรีไทยที่ได้รับทุนสนับสนุนจาก โครงการนี้รวมแล้วทั้งสิ้น 76 ท่าน จาก 20 สถาบัน 

The first Thai scientist to be named as the International Rising Talents.

Assoc. Prof. Dr. Pantana Torngern from the Department of Environmental Science, Faculty of Science, Chulalongkorn University,

L’Oréal Foundation and UNESCO recently celebrated 45 leading female scientists from over 35 countries at the historic For Women in Science Awards Ceremony being held at UNESCO Headquarters in Paris.

This special ceremony saw 15 exceptional researchers receive the L’Oréal-UNESCO For Women in Science International Award in recognition of their outstanding scientific achievements during recent years. Additionally, 30 young female scientists, selected between 2020 and 2022, earned the title of International Rising Talents.

Assoc. Prof. Dr. Pantana Torngern, is the first Thai scientist to be named among the International Rising Talents thanks to her distinctive study entitled: ‘Assessments of vulnerability of mature and secondary forests to climatic water stress in Southeast Asia’. Assoc. Prof. Dr. Pantana is from Department of Environmental Science, Faculty of Science, Chulalongkorn University

Each year, L’Oréal Foundation selects the 15 most promising female scientists out of more than 250 young talents of the L’Oréal-UNESCO For Women in Science programme to earn the title of International Rising Talents. These young women are first selected by local juries and are then invited to apply. The 15 International Rising Talents, selected by an international Selection committee, receive an additional endowment of €15,000. In addition to this financial support and international recognition, these young women also benefit from a leadership training that is complementary to their academic background and essential to fight against discrimination. These young researchers are the very future of science and recognising their excellence will help ensure that they reach their full potential.

COUNTERING THE SIDELINING OF WOMEN SCIENTISTS

The past three years have been some of the most challenging for science in recent history. Women have been on the frontlines, addressing unparalleled issues related to climate change, disease, and health crises like the COVID-19 pandemic. Despite being essential to tackle today’s emergencies, female scientists are not yet sufficiently visible and numerous.

According to recent data from UNESCO, the number of women pursuing scientific careers is increasing slightly, although only one in three researchers is a woman globally.1In the research world, the glass ceiling persists: just 14%2of senior academic positions in Europe are held by women and, over the past decade, just 8% of the Nobel prizes in science have been awarded to women.

Alexandra Palt, L’Oréal Chief Corporate Responsibility Officer and CEO of the L’Oréal Foundation said: “During the COVID-19 pandemic, we have seen how women scientists are essential to respond to existential threats to our health, to society, to the planet. But still, they are invisibilised and often face tremendous obstacles during their careers and research studies. This situation is the result of systemic barriers, unconscious bias, self-censorship but also discrimination. This is not just a problem for women: this is a problem for research. To be relevant, research has to be inclusive and needs all its talents to be mobilized.”

Since its inception in 1998, the L’Oréal-UNESCO For Women in Science programme has honoured and supported 3,900 young women. Each year, the programme honours and supports female researchers – presenting the outstanding work of more than 250 researchers nationally and internationally. To date, more than eminent 100 female researchers have been honoured as Laureates which is the prominent recognition of this program.

The programme continues to lobby for these women to receive the recognition that they deserve. These brilliant female researchers have contributed significantly to their respective scientific fields and to finding effective solutions to some of the most pressing and urgent challenges that we face as a global society. This year’s celebration will be a way to acclaim them for their life’s work and the many obstacles they have overcome.

In Thailand, the L’Oréal ‘For Women in Science’ fellowship programme has been supporting female Thai scientists for the past 20 years. The 2022 program is now open for application via www. fwisthailand.com. Entrees will be accepted until 31st July. The program offers a 250,000 baht grant to each of the selected Thai female researchers (aged between 25 and 40) across two categories: Life Science and Physical Science. Throughout its 19 years, the programme has granted fellowships to 76 female Thai researchers from more than 20 institutions. 

Successful and emotional: IFFA 2022 exceeds expectations

Author info โดมินิก แอแวร์ต Dominique Ewert Director Marketing Communications, Messe Frankfurt Exhibition GmbH dominique.ewert@messefrankfurt.com +49 69 75 75-64 63

อุตสาหกรรมเนื้อสัตว์และโปรตีนทั่วโลกคว้าโอกาสทุกช่วงเวลาในงาน IFFA ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14-19 พฤษภาคม เพื่อสร้างเครือข่าย ศึกษานวัตกรรม และทำาธุรกิจ ความพิเศษของผลิตภัณฑ์ในบูทต่างๆ ได้แก่ การผลิตที่ยั่งยืน กระบวนการอัตโนมัติ และระบบดิจิทัลในการแปรรูป การบรรจุ และการขาย โปรตีนทางเลือกได้รับความสนใจอย่าง สูงซึ่งแสดงถึงอนาคตอันสดใสและศักยภาพในการเติบโตของตลาดดังกล่าว ผู้เข้าชมงานราว 50,000 คน จาก 129 ประเทศเดินทางมายังฟรังค์ฟวร์ทอัมไมน์เพื่องานแสดงสินค้าชั้นนำาระดับโลก IFFA เทคโนโลยีสำาหรับเนื้อสัตว์ และโปรตีนทางเลือก

การรวมตัวแบบพบหน้ากันอีกครั้งที่งาน IFFA สร้างความตื่นเต้นยินดีอย่างมาก ในหก วัน ผู้จัดแสดงสินค้าต่างนำาเสนอนวัตกรรม การผลิตและการบรรจุเนื้อสัตว์และโปรตีน ทางเลือกที่ยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ ผู้เข้า ชมงานราว 50,000 คนต่างพึงพอใจอย่าง มากกับการชุมนุมทางอุตสาหกรรมที่เกิดขึ้น ตามปกติทุกสามปีอันสอดคล้องกับวัฏจักร นวัตกรรมของอุตสาหกรรม Wolfgang Marzin ประธานและประธานบริหารของ เมสเซ่ แฟรงก์เฟิร์ต แสดงออกถึงความ กระตือรือร้นเช่นกันว่า “มันเป็นความสุขที่ได้ เดินผ่านฮอลล์และพบกับผู้คนในอุตสาหกรรม อีกครั้ง ความร่าเริงยินดีครอบคลุมไปทั่วทั้ง งาน คุณจะรู้สึกได้เลยว่าทุกคนมีความโล่ง ใจที่ได้มาพบหน้ากันอีกครั้ง อุตสาหกรรม มีการนำาเสนอหัวข้อใหม่ๆ และสาธิตให้ เห็นความแข็งแกร่งด้านนวัตกรรมอย่างน่า ประทับใจ ครอบครัวโลกรวมตัวกันอีกครั้ง และร่วมกำาหนดเทรนด์สำาหรับปีต่อๆ ไป โดยเฉพาะการเพิ่มโปรตีนทางเลือกเข้ามา”

IFFA 2022: ผู้มีส่วนร่วมในอุตสาหกรรม จาก 129 ประเทศได้ประโยชน์จากผลิตภัณฑ์ และบริการที่หลากหลายซึ่งมีการนำาเสนอ ภายในงาน (ที่มา: เมสเซ่แฟรงก์เฟิร์ต / โจเชน กุนเธอร์)

อุตสาหกรรมที่เปี่ยมด้วยพลังแห่ง นวัตกรรมแสดงโซลูชันสำาหรับวันพรุ่งนี้ ระบบอัตโนมัติและดิจิทัลเป็นหัวข้อขับ เคลื่อนการแปรรูปเนื้อสัตว์และโปรตีน รวม ถึงเป็นศูนย์กลางของนวัตกรรม อุตสาหกรรม ที่มาจัดแสดงยังแสดงโซลูชันและแนวคิด ในการเพิ่มประสิทธิภาพพลังงานและการ ผลิตที่ประหยัดทรัพยากรเพื่อบรรลุเป้า หมายความเป็นกลางทางคาร์บอนในปี ค.ศ. 2050 ของสหภาพยุโรป Richard Clemens กรรมการผู้จัดการของ VDMA Food Processing and Packaging Machinery Association พอใจกับหลักสูตร ของงานแสดงสินค้าอย่างมากและย้ำาว่า “ในที่สุด คนในแวดวงอุตสาหกรรมก็กลับ มาเจอกันได้อีกครั้ง บรรยากาศภายในงาน IFFA 2022 นั้นดีมาก ผู้เข้าชมงานจากทั้ง ในและต่างประเทศสนใจในนวัตกรรมอย่าง มาก และหลายรายมีโครงการที่เป็นรูปธรรม อยู่ในแผนงานแล้ว ความสุขของการได้เจอ หน้ากันอีกครั้งปรากฏอยู่ในทุกที่” นวัตกรรมสำาหรับอุตสาหกรรมบรรจุ ภัณฑ์สอดคล้องกับสโลแกนที่ว่า “มากเท่าที่ จำาเป็น น้อยเท่าที่เป็นไปได้” นอกเหนือจาก ความสามารถในการรีไซเคิลแล้ว ผู้ผลิตยัง เน้นในเรื่องของวัตถุดิบที่หมุนเวียนได้ บรรจุ ภัณฑ์ฐานชีวภาพที่ทำาจากวัตถุดิบฟอสซิล ในฐานะทางเลือกทดแทนพลาสติกนำาทาง สู่อนาคตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น สมาคมผู้ขายเนื้อแห่งเยอรมัน (DFV) ซึ่ง ได้รับการสนับสนุนจากทีมชาติด้านการค้า เนื้อ (National Team of the Butchers’ Trade) มอบโปรโมชันสำาหรับผู้มีพรสวรรค์ ทางอาชีพรุ่นเยาว์ตรงใจกลางของกิจกรรม ในฮอลล์ 12.0 Herbert Dohrmann ประธานของ DFV พึงพอใจกับงาน IFFA “ฉันเป็นคนมองโลกในแง่ดี แต่ก็ไม่คาดหวัง ว่าจะได้เจอเพื่อนร่วมงานมากขนาดนี้ รวม ถึงไม่ได้คาดหวังว่าบรรยากาศภายในงาน จะยอดเยี่ยมเช่นนี้ ผลิตภัณฑ์ที่อยู่ตรงการ แข่งขันคุณภาพนานาชาติมีจำานวนเพิ่มขึ้น มากกว่า 25 เปอร์เซ็นต์ ผู้เข้าแข่งขันมือ อาชีพรุ่นเยาว์รายใหม่สองรายและผลงานที่ แข็งแกร่งจากทีมชาติของเรานำาชีวิตชีวามา สู่บริเวณดังกล่าว การเข้าชมงาน IFFA คุ้ม ค่าสำาหรับทุกบริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมเนื้อ สัตว์ เพราะในสามปีที่ผ่านมามีการพัฒนา ทางเทคนิคและเทคโนโลยีอย่างมหาศาล งาน แสดงสินค้าได้ทำาหน้าที่อย่างยอดเยี่ยมใน ฐานะผู้ขับเคลื่อนนวัตกรรมในภาคส่วนนี้”

เปิดตัวอย่างประสบความสำาเร็จ: ความสนใจพุ่งมาสู่โปรตีนทางเลือก เทรนด์พุ่งมาที่การบริโภคเนื้อสัตว์อย่างมี สติมากขึ้น ถึงกระนั้น หลายคนไม่ต้องการ เลิกรับประทานอาหารในรูปแบบเดิม ดัง นั้น อุตสาหกรรมและธุรกิจจึงพัฒนาทาง เลือกจากพืชที่สมบูรณ์แบบมากขึ้น ตลาด สำาหรับเนื้อสัตว์ทางเลือกจากพืชหรือจาก การเพาะเลี้ยงเซลล์เติบโตอย่างรวดเร็ว เกิดผลิตภัณฑ์ใหม่มากมายรวมถึงการเพิ่ม ขึ้นของนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีการผลิต งาน IFFA ชูเทรนด์ดังกล่าวด้วยการขยาย กลุ่มผลิตภัณฑ์เป็นครั้งแรกและให้ความ สำาคัญกับเทคโนโลยีกระบวนการผลิตและ ส่วนผสมสำาหรับโปรตีนทางเลือก ผู้เข้าชม งานแสดงความสนใจอย่างมากต่อเนื้อสัตว์ ทางเลือกจากพืช ผลิตภัณฑ์ข้ามสายพันธุ์ และเนื้อสัตว์เพาะเลี้ยง ทั้งการเข้าชมบูท ของผู้จัดแสดงสินค้าและการมีส่วนร่วมกับ โปรแกรมของงานอย่างการประชุมที่จัดโดย ProVeg และทัวร์ที่นำาโดย Good Food Institute Europe ซึ่งได้รับความนิยมอย่าง มาก Fabio Ziemßen ประธานคนแรกของ สมาคมแหล่งโปรตีนทางเลือกเยอรมันสรุป จากการมีส่วนร่วมของสมาคมว่า “งาน IFFA 2022 สร้างความชัดเจนว่าแหล่งโปรตีนทาง เลือกจะยังคงยืนหยัดในงานแสดงสินค้าชั้น นำาระดับโลกต่อไปในอนาคต และหัวข้อนี้ จะยังคงเติบโตในปีต่อๆ ไป ดังนั้น ผู้ผลิต และผู้จัดจำาหน่ายแหล่งโปรตีนทางเลือกจะ ต้องมาอยู่ในงานอีกครั้งในสามปีข้างหน้า จากการเป็นสมาคมอุตสาหกรรมเยอรมัน เราหวังว่าจะได้เคียงข้างและปลุกปั้นการ พัฒนานี้ต่อไปในอนาคต”

สร้างความเชื่อมั่น ความตื่นเต้น และ แรงบันดาลใจ บูทของผู้จัดแสดงสินค้าหนาแน่นไป ด้วยผู้คน ไม่ว่าจะเป็นตรงเครื่องสับผสม สายการขนส่ง หรือเครื่องจักรบรรจุภัณฑ์ หน้าชั้นวางวัตถุดิบ ในพื้นที่การแข่งขัน ของผู้ขายเนื้อ หรือในโรงงาน IFFA ผู้เข้า ชมงานต่างสนใจประสบการณ์ที่เกี่ยวกับ สัมผัส การสัมผัส ดม ชิม ดูเครื่องทำางาน จริง แลกเปลี่ยนประสบการณ์ส่วนบุคคล และเพิ่มความรู้ต่างเป็นวาระอันดับต้นๆ ความพึงพอใจโดยรวมอยู่ที่ 96 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งสูงกว่างาน IFFA 2019 และแน่นอน ว่าอยู่ในระดับสูงสุด จากการสำารวจโดย เมสเซ่แฟรงก์เฟิร์ตพบว่าผู้เข้าชมงาน 95 เปอร์เซ็นต์พึงพอใจกับสินค้าและบริการที่ นำามาจัดแสดง และ 96 เปอร์เซ็นต์กล่าว ว่าพวกเขาบรรลุวัตถุประสงค์การเยี่ยมชม งานแสดงสินค้า ถึงแม้ว่าสภาพทั่วไปใน ปัจจุบันจะยากลำาบากแต่ก็มีผู้เข้าชมงาน จาก 129 ประเทศเดินทางมายังแฟรงก์เฟิร์ต งาน IFFA มีผู้เข้าชมงานจากต่างประเทศ

ทั้งหมด 72 เปอร์เซ็นต์จึงคงความเป็นงาน สำาคัญสำาหรับอุตสาหกรรมทั่วโลก ประเทศ ผู้มาเยือนอันดับต้นๆ ได้แก่ เนเธอร์แลนด์ อิตาลี สเปน โปแลนด์ สหรัฐอเมริกา บราซิล ออสเตรีย เกาะบริเตนใหญ่ สวิต เซอร์แลนด์ และฝรั่งเศส งาน IFFA ขยายสู่พื้นที่ดิจิทัลเป็นครั้งแรก บนแพลตฟอร์ม IFFA Digital Extension ซึ่งผู้ใช้งานสามารถติดต่อกันล่วงหน้า นัด หมาย และค้นหานวัตกรรมของผู้จัดแสดง สินค้าก่อนที่งานจะเริ่มขึ้น ฟังก์ชันเหล่านี้ ของแพลตฟอร์มกิจกรรมดิจิทัลจะยังสามารถ ใช้งานได้หลังจบงาน IFFA ไปจนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2565 และผู้ที่พลาดการนำา เสนอที่การประชุม IFFA Forum สามารถ ดูบันทึกย้อนหลังผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลได้ โดย IFFA Digital Extension บันทึกไว้ว่า มีผู้เข้าใช้งาน 12,661 ครั้งเมื่อสิ้นสุดงาน ข้อมูลทั้งหมดของงาน IFFA อยู่ที่ www.iffa.com ด้วยสี่งานแสดงสินค้าในสี่ทวีป เมส เซ่แฟรงก์เฟิร์ตร่วมทางไปกับการเติบโต อย่างไม่หยุดนิ่งของอุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมระดับโลกมาพบกันที่งานใน อาร์เจนตินา ไทย สหรัฐอเมริกา และ เยอรมนี งานแสดงสินค้านานาชาติจัด แสดงแนวโน้มและนวัตกรรมรวมถึงเชื่อม โยงผู้เชี่ยวชาญจากทั่วทุกมุมโลก ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.foodtechnologies.messefrankfurt.com

IFFA เป็นงานที่จัด 3 ปีครั้ง ครั้งต่อ ไปคือปี 2568 ขอแนะนำาให้เยี่ยมชมงาน Meat Pro Asia เป็นงานที่ถอดรูปแบบมา จาก IFFA ครั้งแรกจะจัดขึ้นในวันที่ 8-10 มีนาคม 2566 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี อย่าพลาด! 

The global meat and protein industry seized every minute of IFFA from 14 to 19 May: for intensive networking, to see innovations and to do business. Sustainable production, automated processes and digitalisation in all areas of processing, packaging and sales characterized the range of products at the booths. The high interest in alternative proteins also showed the great future and growth potential of this market. Around 50,000 visitors from 129 countries travelled to Frankfurt am Main for the leading international trade fair IFFA – Technology for Meat and Alternative Proteins.

Emotions and delight to reunite in person at IFFA were high: For six days, exhibitors presented innovations for sustainable and efficient production and packaging of meat and alternative proteins. Around 50,000 trade visitors were more than satisfied with ‘their’ industry meeting, which took place following its usual three-year cycle,

which corresponds to the industry’s innovation cycle. Wolfgang Marzin, President and CEO of Messe Frankfurt, also expressed his enthusiasm: “It was a pleasure to walk through the halls and meet industry participants again. An almost euphoric mood dominated IFFA. You could clearly feel how relieved everyone was to finally be able to meet in person again. The industry was open to new topics and impressively demonstrated its innovative strength. The global family reunion once again set the trends for the coming years – not least due to the expansion to include alternative proteins.”

IFFA 2022: Industry participants from 129 countries took advantage of the extensive range of products and services on offer. (Source: Messe Frankfurt / Jochen Günther)

Industry with innovative power shows solutions for tomorrow

Automation and digitalisation are the driving topics in meat and protein processing and were at the centre of the innovations. The exhibiting industry also showed solutions and ideas for increasing energy efficiency and resource-saving production in order to achieve the EU’s target of climate neutrality by 2050. Richard Clemens, Managing Director of the VDMA Food Processing and Packaging Machinery Association, is more than satisfied with the course of the trade fair and emphasised: “Finally, the industry can meet again. The mood at IFFA 2022 is exceptionally good. The national and international visitors are very interested in the innovations and, in numerous cases, have very concrete projects in the pipelines. The joy of finally meeting in person again is apparent everywhere.”

As for the packaging industry, the innovations were entirely in line with the slogan: “As much as necessary, as little as possible”. In addition to recyclability, manufacturers focused on renewable raw materials: bio-based packaging as an alternative to plastic made from fossil raw materials points the way to a more environmentally friendly future.

The German Butchers’ Association (DFV), supported by the National Team of the Butchers’ Trade, placed the promotion of young professional talent at the centre of many activities in Hall 12.0. Herbert Dohrmann, President of the DFV, is entirely satisfied with IFFA: “I am an optimist, but I would certainly not have expected that we would meet so many of our colleagues here and that there would be such a great atmosphere at the fair. More than 25 percent increase in the number of products at the international quality competitions, two brand new competitions for young professionals and a strong performance by our national squad have brought a lot of life to our areas. A visit to IFFA was worthwhile for every company in the meat industry, because the technical and technological developments of the last three years have been tremendous. The fair has more than fulfilled its role as a driver of innovation for the sector.”

Successful premiere: Great interest in alternative proteins

The trend is towards more conscious consumption of meat. Nevertheless, many people do not want to give up their usual dietary patterns. Industry and trade are therefore developing ever more perfect plant-based alternatives – the market for meat alternatives based on plants or from cell cultures is growing rapidly. New products are emerging which also mean a boost in innovation for production technology. Picking up on this trend, IFFA expanded its product portfolio for the first time and focused on process technology and ingredients for alternative proteins. Visitors showed great interest in plant-based meat alternatives, hybrid products and cell-cultured meat – both on the exhibitors’ stands and with their participation in the event programme. The conference by ProVeg and the Discovery Tours led by the Good Food Institute Europe, for example, were very popular. Fabio Ziemßen, first chairman at the German Association for Alternative Protein Sources, draws a positive conclusion from his association’s premiere participation at IFFA: “IFFA 2022 has made it clear that alternative protein sources will continue to have a firm place at the leading international trade fair in the future, and that this topic will continue to grow in the coming years. It is therefore indispensable for producers and distributors of alternative protein sources to be present here in three years’ time. Being the German industry association, we look forward to continuing to accompany and shape this development in the future.” Convinced, excited and inspired The exhibitors’ booths were crowded: whether between bowl cutters, transport lines or packaging machines, in front of shelves of ingredients, in the butchers’ competition area or in the IFFA Factory – visitors were primarily interested in the haptic experience. Touching, smelling, tasting, seeing machines in live operation, exchanging personal experiences and expanding knowledge were at the top of the agenda. At 96 percent, overall satisfaction is even higher than at IFFA 2019 - and thus at an absolute top level. According to a regular visitor survey conducted by Messe Frankfurt, 95 percent were satisfied with the exhibitors’ range of products and services, and 96 percent said they had achieved their trade fair visit objectives. Despite the currently difficult general conditions, visitors came to Frankfurt from 129

countries. With a total share of 72 percent international visitors, IFFA thus maintains its high relevance for the global industry. The top visitor nations included the Netherlands, Italy, Spain, Poland, USA, Brazil, Austria, Great Britain, Switzerland and France.

For the first time, IFFA was also extended into the digital space: on the IFFA Digital Extension platform, participants were able to contact each other in advance, make appointments and find out about exhibitors’ innovations even before the fair begun. These functions of the digital event platform will also be available after the IFFA onsite event until 31 May 2022. And: Anyone who missed a presentation at the IFFA Forum can still watch the recordings on the digital platform afterwards. The IFFA Digital Extension recorded 12,661 accesses by the end of the show. All information on IFFA at: www.iffa.com

With four trade fairs on four continents, Messe Frankfurt accompanies the dynamic growth of the food industry. The global industry meets at the events in Argentina, Thailand, the USA and Germany. The international trade fairs showcase the trends and innovations and connect experts from all over the world.

Find out more at: www.foodtechnologies.messefrankfurt.com

IFFA will talk palce every 3 years The next edition is on 2025. We would like to recommend you to join Meat Pro Asia, the sister exhibiton of IFFA. The inaugural edition will open its doors from on 8-10, 2023 at IMPACT, Bangkok, Thailand.