รวมคุตบะฮท่าอิฐ_2553

Page 1

‫السالم عليكم ورحمةااهلل وبركاته‬ ผมได้ รับคุตบะฮของมัสยิดท่าอิฐจากรุ่นพี่ อ.ว.ท. อ่านแล้ ว ผมก็ได้ forward mail ต่อ แต่หลายท่านแจ้ งกลับมาว่า บางครั้งอ่านไม่ได้ ตัวหนังสือซ้ อนกัน บ้ าง โดยเฉพาะอายะฮฺกุรอาน คิดว่าน่าจะเป็ นเพราะในคอมพ์ฯไม่มี font ที่รองรับได้ จึงรวบรวมคุตบะฮฺท้งั หมดที่ผมได้ รับ ในปี 2553 แปลงในรูป pdf file จัดส่งมาอย่างที่เห็น ในการ copy จัดรูปใหม่ ตัวหนังสืออาจเพี้ยน หากพบเห็น แจ้ งด้ วย จะได้ แก้ ไข ‫و السالم‬

Aziz Samoh โปรดชว่ ยกันเผยแพร่ตอ ่ ๆด ้วย


#1. คุตบะห์ วนั ศุกร์ ณ มัสยิดท่ าอิฐ วันศุกร์ ที่ 1 มกราคม 2553 ตรงกับวันที่ 15 มุฮัรรอม ฮ.ศ.1431 โดย อาจารย์อิมรอน สาดและ

ขอความสุขสวัสดี ความกรุ ณาปรานี จาก อัลลอฮฺ (ซ.บ.) จงประสบแด่บรรดาพี่นอ้ งผูศ้ รัทธาที่เคารพรักทุกท่าน อัลฮัมดูลิลลาฮ์ วันนี้เป็ นวันที่ ๑ เดือนมกราคม พ.ศ. ๒๕๕๓ ซึ่ งเป็ นวันขึ้นปี ใหม่ ที่เรารู้ จกั กันดี แล้วเป็ นอย่างดี และตรงกับวันที่ ๑๕ เดือนมุฮรั รอม ฮ.ศ. ๑๔๓๑ เป็ นปี ศักราชของอิสลามเรา ท่ านพี่น้องที่ เคารพ วันนี้กระผมขอนําประวัติความเป็ นมาของการเฉลิมฉลองวันขึ้นปี ใหม่สากล ๑ มกราคม ซึ่ งเขียน โดยนักวิชาการมุสลิมท่านหนึ่งในเมืองไทยเรา (อาจารย์ อาลี เสื อสมิง ) นํามาฝากพี่น้อง ได้รับฟั งกัน ใน การใช้ชีวิต ในช่วงของวันขึ้นปี ใหม่ ๑ มกราคม ที่เรารู้จกั กันเป็ นอย่างดี ข้อเขียนมีดงั นี้ ในทุก ๆ ปี พลเมืองโลกทัว่ ไปจะเฉลิมฉลองวันขึ้นปี ใหม่ในวันที่ 1 มกราคมกันอย่างเอิกเกริ ก ในคืนสุ ดท้าย ของปี ซึ่ งเรี ยกกันว่า “คืนส่ งท้ ายปี เก่ า” จะมีการเตรี ยมการสําหรับนับถอยหลัง (Countdown) ในช่วงการเปลี่ยน วัน ณ เวลา 0 นาฬิกา (เที่ยงคืน) ซึ่ งถือเป็ นการขึ้นวันใหม่ตามอย่างสากล ผูค้ นที่ร่วมเฉลิมฉลองในวันขึ้นปี ใหม่น้ นั ต่างก็รู้เพียงว่านัน่ คือวันที่ 1 ของปี ใหม่ที่ควรจะยินดีและต้อนรับด้วยการเฉลิมฉลอง ทว่าคงไม่มีผใู้ ด รับรู้ หรื อฉุ กคิดหรอกว่า ทําไมหนอ พวกฝรั่งตะวันตกจึ งกําหนดเอาวันที่ 1 มกราคม ของทุกปี เป็ นวันเฉลิ ม ฉลองขึ้ นปี ใหม่ ทั้ง ๆ ที่ ผูน้ ้ ันอาจเป็ นคนไทย ที่ ถื อเอาช่วงวันสงกรานต์เป็ นวันขึ้ นปี ใหม่ตามธรรมเนี ยม ปฏิบตั ิ หรื อผูน้ ้ นั อาจจะเป็ นผูม้ ีเชื้อสายจีน ซึ่ งก็มีวนั ขึ้นปี ใหม่ตามคติจีนและมิใช่วนั ที่ 1 มกราคมแต่อย่างใด กระนั้นพวกเขาก็ร่วมเฉลิมฉลองในวันที่ 1 มกราคม ตามสากล (หรื อตามฝรั่งตะวันตก) ได้ อย่างสนิทใจ ที่น่าเศร้าใจก็คือมีชาวมุสลิมเป็ นจํานวนมิใช่น้อยที่เข้าร่ วมในการเฉลิมฉลองนั้นด้วย ซึ่ ง นัน่ ก็ไม่น่าเศร้าใจเท่ากับการที่ชาวมุสลิมเหล่านั้นขาดภูมิความรู้ ทางประวัติศาสตร์ แห่ งประชาชาติของ ตน จะด้วยเพราะไม่รู้หรื อมิได้ฉุกคิดก็ตามทีจึงได้เผลอไผลเห็นดีเห็นงามจนเอาเป็ นเหตุแห่ งการเฉลิม ฉลองร่ ว มกับเหล่าชนอื่น ทั้งๆ ที่ ชาวมุสลิ มนั้นมีวนั รื่ นเริ ง ตามหลัก การของศาสนาเป็ นของตนเองอยู่ แล้ว คือวันอีดอีดิลฟิ ริ และช่วงวันอีดิลอัฎฮา ตลอดจนมีปฏิทินทางจันทรคติในการกําหนดวันเดือนปี และมีศกั ราชเป็ นของเฉพาะตนซึ่ งเรี ยกกันว่า ฮิจเราะฮฺ ศกั ราช ต่อคําถามที่ว่า ทําไมหนอ พวกฝรั่งมังค่าจึ งกําหนดเอาวันที่ 1 มกราคม ของทุกปี เป็ นวันขึ้นปี ใหม่ อาจกล่าวได้ว่า เรื่ องนี้น่าจะมีเงื่ อนงําที่แอบแฝง กล่าวคือ หากย้อนเวลากลับไปในอดีต เมื่อปี คศ. 1492 ณ ดินแดนอัลอันดะลุส (Andalucia) ในสเปน ได้เกิดเหตุการณ์ครั้งสําคัญในประวัติศาสตร์ ของ ชาวมุสลิม คือ เหตุการณ์ สูญเสี ย ที่มนั่ สุ ดท้ายของชาวมุสลิมในอาณาจักรฆอรนาเฏาะฮฺ (Granada) แก่ เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 1


อาณาจักรคริ สเตียนสเปนซึ่ งถูกรวบรวมให้เป็ นหนึ่ งภายหลังการอภิเษกสมรสของเฟอร์ ดินานด์ หรื อ เฟอร์ นานโดที่ 5 แห่งแคว้นอรากอน (Aragon) กับพระนางอิซาเบลล่า แห่งแคว้นกิชตาละฮฺ (Castile) ในช่วงเวลานั้น อาณาจักรฆอรนาเฏาะฮฺ (Granada) มีกษัตริ ย ์มุสลิมนามว่า อบู อับดิลลาฮฺ มุ ฮา หมัด อัซซ่ อฆีร หรื อที่ฝรั่งเรี ยกว่า อบูอับดิล (Abuabdi, Bodillah) เป็ นผูป้ กครอง พวกคริ สเตียนสเปนได้ ยกทั พ เข้ า ปิ ดล้ อ มนครฆอรนาเฏาะฮฺ ตั้ งแต่ ปี ค.ศ.1491 การปิ ดล้ อ มเป็ นไปอย่ า งหนั ก และ ต่อเนื่อง จนกระทัง่ อบูอบั ดิลลาฮฺ ยอมจํานนต่อฝ่ ายคริ สเตียนสเปนด้วยการยอมทําข้อตกลงกับฝ่ ายคริ สเตียน ในการส่งมอบเมืองเป็ นจํานวนถึง 67 ข้อซึ่ งนับเป็ นสนธิสญ ั ญาที่ยืดยาวที่สุดฉบับหนึ่ งในช่วงสิ้ นสุ ดยุคกลาง ของยุโรป การลงนามในสนธิสญ ั ญาระหว่างสองฝ่ ายเสร็ จสิ้ นอย่างเป็ นทางการในวันที่ 2 ร่ อบีอุลเอาวัล ฮ.ศ. 897 ตรงกับวันที่ 2 มกราคม ค.ศ.1492 ซึ่ งในวันเดียวกันนั้น กษัตริ ยเ์ ฟอร์ ดินานด์ที่ 5 กับพระราชินี อิซา เบลล่าก็ได้เสด็จเข้าสู่พระราชวัง อัลฮัมรออฺ (Alhambra) อันเป็ นที่ประทับของกษัตริ ย์ อบูอบั ดิลลาฮฺ และมี การนําไม้กางเขนเงิ นขึ้นสู่ ยอดโดมของมัสญิดในพระราชวัง กษัตริ ยอ์ บูอบั ดิลลาฮฺ ได้จุมพิตพระหัตถ์ของ กษัตริ ยค์ ริ สเตียนแห่งสเปนและดําเนินออกจากพระราชวัง กษัตริ ยอ์ บูอบั ดิลลาฮฺ ได้หยุดทอดพระเนตรนครฆ อรนาเฏาะฮฺ เป็ นครั้งสุดท้าย ณ เนินแห่ งหนึ่ งที่เรี ยกกันว่า เนิ นอัลบันดูล และรํ่าไห้พร้ อมสะอึกสะอื้น พระ นางอาอิชะฮฺ ผูเ้ ป็ นพระมารดาจึงตะโกนบอกกับอบูอบั ดิลลาฮฺ ว่า “เจ้ าจงร่าไห้ เยี่ยงอิสตรีต่ออานาจที่สูญ สิ้ น เจ้ าหาได้ รักษามันไว้ ได้ ไม่ เยี่ยงเหล่ าบุรุษ” ชาวสเปนเรี ยกขานเนิ นแห่ งนี้ ว่า “การสะอื้นร่าไห้ ครั้ง สุ ดท้ ายของชาวอาหรับ”(el ultimo suspiro del Moro) อาณาจักรฆอรนาเฏาะฮฺ หรื อ แกรนาดา (Granada) ที่มนั่ สุ ดท้ายของชาวมุสลิมในอัลอันดะลุส (สเปน) ก็ปิดฉากลงพร้อมกับชัยชนะของฝ่ ายคริ สเตียนที่ขบั เคี่ยวต่อสู้กบั ชาวมุสลิมหรื อพวกมัวร์มาตลอด ระยะเวลาร่ วม 800 ปี ความจริ งชาวมุสลิมได้สูญเสี ยฆอรนาเฏาะฮฺ มาตั้งแต่วนั ที่ 1 มกราคมของปี นั้น (1492) แล้วเพียงแต่การสูญเสี ยอย่างเป็ นทางการนั้นเกิดขึ้นในวันถัดมาคือวันที่ 2 มกราคม 1492และ การสูญเสี ยนครฆอรนาเฏาะฮฺ ในปี ดังกล่าวก็หาใช่เป็ นโศกนาฏกรรมที่แท้จริ งไม่ หากแต่ว่าโศกนาฏกรรม ที่แท้จริ งได้เริ่ มขึ้นหลังจากนั้นเพราะเพียง 7 ปี ให้หลัง (คศ.1499) เงื่อนไขอันเป็ นข้อตกลง ในสนธิสญ ั ญา ส่ งมอบเมื องนั้นก็ถูก ละเมิ ดอย่างไม่แยแสจากฝ่ าย คริ สเตี ยน บรรดามัสญิ ดถูก สั่งปิ ด การประกอบ พิธีกรรมถูกสัง่ ห้าม การตั้งศาลพิเศษเพื่อตรวจสอบชาวมุสลิมที่ตกค้างอยูใ่ นฆอรนาเฏาะฮฺ โดยฝ่ ายศาสน จักรก็มีข้ ึน มุสลิมถูกบังคับให้เข้ารี ตในคริ สต์ศาสนา ตํารับตําราทางวิชาการถูกเผาทําลายไม่เว้นแม้แต่ พระมหาคัมภีร์อลั กุรอ่าน มีการสัง่ ห้ามชาวมุสลิมพูดภาษาอาหรับและห้ามอาบนํ้าดินแดนที่ครั้งหนึ่ งเคย เป็ นดิ นแดนอิสลามกลับ กลายมาเป็ นดินแดนแห่ ง การปฏิ เ สธโดยสิ้ นเชิง บรรดามัสญิ ดที่สง่ างามด้ว ย สถาปัตยกรรมอิสลามถูกแปรเปลี่ยนเป็ นโบสถ์วิหารในคริ สตศาสนาจนหมดสิ้ น มุสลิมจํานวนหลายล้าน คนจึงจําต้องอพยพละทิ้งถิ่นฐานของตนซึ่ งเคยอาศัยและรังสรรค์ความเจริ ญรุ่ ง เรื องเอาไว้ตลอดระยะเวลา เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 2


ร่ วม 8 ศตวรรษ สงครามครู เสดในดินแดนตะวันออก (เยรู ซาเล็มปาเลสไตน์) พวกคริ สเตียนอาจจะพ่ายแพ้ ต่อชาวมุสลิมนับแต่ชยั ชนะของสุ ลตอนซ่อลาฮุดดีน อัลอัยยูบียห์ รื อสลาดินในการปลดปล่อยแผ่นดินอัน ศักดิ์สิทธิ์ แต่สงครามครู เสดในดินแดนอัลอันดะลุส มุสลิมเป็ นฝ่ ายปราชัย อีกทั้งในปี เดียวกันนั้น (1492) คริ สโตเฟอร์ โคลัมบัส ผูไ้ ด้รับการอุปถัมภ์จากพระราชินีอิซาเบล ล่าของสเปนก็สามารถค้นพบโลกใหม่หรื อทวีปอเมริ กาได้สาํ เร็ จ ศักราชแห่งการล่าอาณานิ คมและความ ยิง่ ใหญ่ของกองเรื อ อมาด้าของสเปนและการผงาดขึ้นของมหาอํานาจทางทะเลอย่างโปรตุเกสก็เริ่ มต้น ขึ้นพร้ อมกับการล่มสลายของการผูกขาดทางการค้าและการควบคุมเส้นทางการค้าทั้งทางบกและทาง ทะเลของประชาคมมุสลิม นี่กระมังเป็ นสาเหตุที่พวกฝรั่งตะวันตกได้ถือเอาวันที่ 1 มกราคมเป็ นวันเฉลิมฉลองชัยชนะใน สงครามครู เ สดที่มีต่อพวกนอกศาสนาอันหมายถึงชาวมุสลิมโดยรวม ซึ่ งช่างเหมาะเจาะกับช่วงเวลา ก่อนหน้านั้นราว 1 สัปดาห์ ที่พวกเขาเฉลิมฉลองวันคริ สต์มาสในวันที่ 25 ธันวาคมต่อเนื่ องจนถึง วันที่ 1 มกราคม การเฉลิมฉลองของชาวคริ สเตียนในช่วงเวลานั้นโดยเฉพาะในปี คศ.1492 จึ งเป็ นการ เฉลิมฉลองชัยชนะที่มีต่อชาวมุสลิมอย่างมิตอ้ งสงสัย ถึงแม้ว่าเมื่อกาลเวลาผ่านล่วงเลยไปผูค้ นในสมัย หลังจะหลงลืมไปแล้วว่า เพราะอะไรพวกฝรั่งชาวคริ สต์จึงถือเอาวันที่ 1 มกราคมเป็ นวันสําคัญของ พวกเขาก็ตาม ในช่วงคริ สต์มาสอีฟ ทําไมฝรั่งจึ งมีธรรมเนี ยมกิ นไก่งวง ในทุกปี ทําเนี ยบขาวจะจัด ประเพณี การกิ นไก่ งวงเพื่อขอบคุณพระเจ้า มีก ารปล่อ ยไก่งวงผูโ้ ชคดีให้เป็ นข่าวเกรี ยวกราวไปทัว่ โลก ชะรอยไก่ง วงที่ว่านี้ ก็มีสัญลัก ษณ์แอบแฝงอยู่ พวกฝรั่ งเรียกไก่ งวงว่ า เทอคิ (Turkey) ซึ่ ง หมายถึง ไก่ แขกตุรกีและตุรกีในชั้นหลังก็หมายถึง พวกมุสลิมที่ต่อสู้ ขับเคีย่ วกับพวกฝรั่งชาวคริสเตียน ในการทาสงครามศาสนา (ครู เสด) การฆ่ าไก่ งวงเพื่อรับประทานเป็ นอาหารในช่ วงคริสต์ มาสอีฟก็คือ สั ญลักษณ์ ในการพิฆาตพวกเติร์กหรือพวกคนนอกศาสนาที่หมายถึงมุสลิมนั่นเอง ย้อนกลับไปยังอัลอัน ดะลุส (Andalucia) อีกครั้ง ในยุคที่ชาวมุสลิมหรื อพวกมัวร์ (Moor) ปกครองสเปนและมีการสู้รบกับ พวกคริ สเตียนทางตอนเหนือนั้น มีการประกาศจากพระสันตะประปาแห่ งกรุ งโรมให้ชาวคริ สเตียนทํา สงครามครู เสดกับชาวมุสลิมในสเปนมาโดยตลอด นับตั้งแต่ครั้งกษัตริ ยช์ ารล์ มาร์ แตง ของพวกแฟรงก์ (ฝรั่งเศส) ทําศึ กกับกองทัพของชาวมุสลิมที่ขา้ มเทือกเขาพิเรนี สไปยังตอนใต้ของฝรั่ งเศสในสมรภูมิ ตูร บูวาติเยร์ (Tour-Poitiers) เมื่อปี ฮ.ศ.114 ตรงกับปี คศ.732 เป็ นต้นมา ดังนั้นการสู้รบของพวกคริ สเตียนทางตอนเหนื อของคาบสมุทรไอบีเรี ย (สเปน) กับชาวมุสลิม ในอัลอันดะลุส จึงเป็ นการทําสงครามครู เสดอย่างไม่ตอ้ งสัย บ่อยครั้งที่พวกคริ สเตียนในสเปนได้รับการ สนับสนุนจากกองเรื อรบของพวกครู เสดซึ่ งมีท้งั ฝรั่งเศส,อังกฤษ,เยอรมันและอิตาลี (เวนิ ส-เจนัวร์ ) ใน เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 3


การศึกเพื่อเข้ายึดครองหัวเมืองชายทะเลในอัลอันดะลุส พวกคริ สเตียนในยุโรปมิเคยละความพยายามใน การร่ วมมือกันทําการศึกกับชาวมุสลิมเลยนับแต่ยคุ กลางจวบจนทุกวันนี้ ฉะนั้นชัยชนะของคริ สเตียนในสเปนที่สามารถขับไล่ชาวมุสลิมออกจากอัลอันดะลุสได้สําเร็ จ จึ ง เป็ นชัยชนะร่ วมกันของคริ สเตียนทัว่ ยุโรป เหตุน้ ีจึงไม่แปลกอันใดในการที่พวกเขาจะเฉลิมฉลองกันอย่าง เอิกเกริ กในวันที่ 1 มกราคมของทุกปี แต่สําหรับประชาคมมุสลิมแล้ววันที่ 1 มกราคมของทุกปี หาใช่ เป็ นวันแห่งการเฉลิมฉลองไม่แต่เป็ นวันแห่ งโศกนาฏกรรมและความสู ญเสี ยที่ไม่มีวนั คืนกลับ เราอาจจะ สูญเสี ยอัลอันดะลุสไปแล้ว แต่ที่สาํ คัญขออย่าให้มุสลิมได้สูญเสี ยจิตวิญญาณและความเป็ นอัตลักษณ์ของ ตน เพราะนั่นย่ อมหมายถึงความอัปยศและความปราชัยอย่ างที่สุดซึ่งจะไปโทษใครมิได้ เลยนอกจากตัวเอง (‫ )الحول والقوة إالبا هلل‬อะลี อะฮฺหมัด อบูบกั ร มุฮาํ หมัด อะมีน อัลอัซฮะรี ย ์ 10 มกราคม 2551 (1 มุฮรั รอม 1429) ท่ านพี่น้องที่เคารพ เราได้รับข่าวสารจากต่างประเทศ เกี่ ยวกับเทศกาลปามะเขือเทศในสเปนนั้น ท่านทราบหรื อไม่ว่า จริ งๆแล้วก็คือการรําลึกถึงเหตการณ์ “การอพยบของชาวมุสลิมออกจากบรรดาหัว เมืองที่ตกเป็ นของฝ่ ายคริสเตียนสเปน” เมื่อชาวมุสลิมละทิ้งบ้านเรื อนของพวกตนและพากันอพยบออก จากเมือง ในระหว่างทางนั้นต้องเดินผ่านบ้านเรื อนและชุมชนของชาวคริ สเตียน ซึ่ งพวกนั้นก็จะขว้างปา สิ่ งของประดามีเข้าใส่กลุ่มชาวมุสลิม ไม่เว้นแม้แต่มะเขือเทศ ที่พวกเขาหยิบฉวยได้จากก้นครัว นี่คือที่มา ของเทศกาลปามะเขือเทศในสเปน ซึ่ งเราเคยพบเห็นจากข่าวต่างประเทศนัน่ เอง ผูศ้ รัทธาที่เคารพทั้งหลาย ที่ผมนําเอาประวัติวนั ขึ้นปี ใหม่ เอาประวัติแห่ งความปราชัย ความพ่าย แพ้ของมุสลิม มาเล่าสู่กนั ฟัง มิได้หมายความว่าให้เราตั้งตัวเป็ นศัตรู กบั ชาวคริ สเตียนก็หาไม่ เพียงแต่ผม จะเน้นที่มาของวันขึ้นปี ใหม่ ๑ มกราคม นั้นเป็ นชัยชนะของชาวคริ สเตียนต่อชางมุสลิ มในสเปน ดังนั้น เราชาวมุสลิมผูศ้ รัทธาในโลกอาคีเราะฮ์ เราจะปฎิบตั ิตามชนชาวตะวันตกด้วยการเฉลิมฉลองวันขึ้นปี ใหม่น้ นั เหมาะสมเพียงใด ท่านทั้งหลายโปรดคิดดูก็แล้วกัน ศาสนาอิสลามกําหนดวันรื่ นเริ งของเราอยู่ แล้ว นัน่ คือ วันอีดิ้ลฟิ ตริ และวันอีดิ้ลอัฎฮา ท่านรอซูลุลลอฮ์ (ซ.ล.)ได้กล่าวกับท่าน อนัส อิบนิ มาลิ ก (ร.ด.) ดังนี้ สรุปสาระสาคัญ

– อิสลามมีวนั รื่ นเริ งเฉลิมฉลองอยูแ่ ล้ว คือ วันอีดิ้ลฟิ ตริ และวันอีดิ้ลอัฎฮา

– มุสลิมเราไม่ควรเลียนแบบชาวยาฮูดี และชาวนัสรอนี – มุสลิมต้องมีจุดยืนแน่วแน่ เพราะเรามีวนั ตอบแทน – หากเราไม่รณรงค์กบั ลูกหลานของเรา ต่อไปพวกเราจะเป็ นอย่างไร – สุดท้ายอาจเลยไปถึงขั้นการทําชีริก วัลอิยาซุบิลละห์ เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 4


#2. คุตบะห์ วนั ศุกร์ ณ มัสยิดท่ าอิฐวันศุกร์ ที่ 8 มกราคม 2553 ตรงกับ วันที่ 22 มุฮัรรอม ฮ.ศ. 1431 โดยอาจารย์วัง มูฮัมมัด(สมาน) แสงเราะหมัด

ศรัทธาชนที่เคารพรักทุกท่าน ขอเราท่านทั้งหลายได้ย้ าํ อยู่ในจุดยืนอันมัน่ คงของพวกเราทุกคน ในฐานะที่เ ป็ นผูศ้ รั ทธาจะต้อ งดํารงมัน่ อยู่บนจุ ดยืนแห่ ง การตัก วาต่อ พระองค์อ ลั เลาะห์ (ซ.บ.) อย่าง แท้จริ ง ด้วยการตักวาเป็ นสิ่ งสิ่ งเดียวที่จะมาประดับ มาเสริ มแต่งทําให้อีหม่านหรื อการศรัทธาของเรานั้น มันมี ความสมบูรณ์ ใครที่ มีเพี ยงแค่การศรั ทธาเชื่ อมัน่ ต่อ องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า เชื่ อมัน่ ต่อ วันสัมปรายภพ แต่ไม่มีความยําเกรง ไม่มีความตักวาอยู่ในตัว แน่ นอนเหลือเกิ นการศรัทธาอันนั้น อาจจะเป็ นเพียงแค่ การศรัทธาที่เป็ นการกล่าวอ้างเท่านั้น ท่านพี่นอ้ งที่ศรัทธาที่เคารพรักทุกท่าน วันเวลาได้หมุนเวียนเปลี่ยนผ่านเข้ามาในชีวิตของเรา เรา ย่างเข้าสู่ศกั ราชใหม่ ทั้งฮิจเราะห์ศกั ราช คริ สต์ศกั ราช และพร้อมๆกับพุทธศักราชด้วย ชีวิตที่เราได้มีการ หมุนเวียนเปลี่ยนไปตามกาลเวลานั้น แน่ นอนที่สุดสําหรับผูศ้ รั ทธาแล้ว นัน่ หมายถึง สิ่ ง ที่จะมาเป็ น ต้นทุน ในการที่เราจะทําธุรกิจในอาคีเราะห์ กับ อัลเลาะห์ (ซ.บ.) ต้นทุนที่อลั เลาะห์ (ซ.บ.) ให้มานั้นใน เรื่ องของกาลเวลา บัดนี้มนั ได้หดหายไปจากตัวของเราไปอีก 1 ปี แปลว่าเราใกล้ที่จะกลับไปสู่ อาหลา่ บัร ซัก อีก 1 ปี เพราะฉะนั้นสําหรับผูท้ ี่เป็ นมุมิน มีวิจารณญาณ เป็ นวิญํูชน เขาจะไม่มีความดีอกดีใจในวัน ปี ใหม่ ที่คนที่ส่วนใหญ่ไม่รู้ เขามีการเฉลิมฉลอง เขามีความรู้สึกลิงโลด มีการฉลองนับ count down ต่าง ๆ นานา แต่สําหรั บผูศ้ รัทธาแล้วมันหมายถึง ชีวิตของเขาที่ส้ นั ลงไปอีก 1 วัน ท่านอาลีอิบนี่อบีตอลิบ (ร.ด.) ได้เคยบอกเอาไว้ว่า ตักวา ที่แท้จริ ง ที่จะเป็ นสิ่ งที่เป็ นประโยชน์ของเขา ทั้งดุนยาและอาคีเราะห์ นั้น จะหมายถึงสิ่ งที่มีองค์ประกอบ 4 ประการด้วยกัน นัน่ ก็คือ ประการที่ 1 ‫ الخوف من الجليل‬อัล เคาฟู่ มิน้ ั น ยาลิ้ล เขาจะต้อ งมี ความกลัว ต่อ การลงโทษ ของ พระองค์อลั เลาะห์ (ซ.บ.) กลัวในมหิ ทธานุภาพ อันยิ่งใหญ่ของพระองค์ กลัวในเดชานุภาพ ซึ่ งไม่มีผใู้ ด ที่ไปยับยั้ง จะไปปกป้ อง หรื อป้ องกันจากเดชานุภาพอันยิ่งใหญ่ของอัลเลาะห์(ซ.บ.) เมื่อพระองค์มีความ ประสงค์ไม่ได้เลย เราเป็ นมนุ ษย์ที่ อัล เลาะห์ (ซ.บ.) สร้ างขึ้ นมา เป็ นเพีย งสรรพสิ่ งอันเล็ก อันจิ๋ ว ใน จัก รวาลนี้ อ ลั เลาะห์ ( ซ.บ.) สร้ างมาอันกว้างใหญ่ไพศาล เพราะฉะนั้นแล้ว มันจึ ง ไม่ มีหนทางอื่ นใด นอกจากเราจะต้องยอมศิ โรราบ ยอมตามในการที่จะปฏิบตั ิ ตามคําสั่ง ต่อพระองค์อลั เลาะห์ (ซ.บ.) อย่างโดยดุษฎี ไม่มีการอิดเอื้อนใด ๆทั้งสิ้ น เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 5


ประการที่ 2 จะต้องมีการ ‫ العمل بالتنزيل‬อัลอามั้ลบิลตันซีล จะต้องมีการปฏิบตั ิตามในสิ่ งที่คมั ภีร์อลั กุรอานได้กล่าวระบุ อะไรที่เป็ นคําสั่งใช้ ในพระคัมภีร์อลั กุรอาน ตลอดรวมทั้งจริ ย วัตร หรื อซุนนะห์ ของท่านพระศาสดามู ฮัมมัด (ซ.ล.) เราจะต้อ งน้อ มนําปฏิ บตั ิ อ ย่างเคร่ ง ครั ดทุก เรื่ อ ง อย่างไม่มีก าร แยกแยะ ไม่มีการเลือกที่จะปฏิบตั ิ สิ่ งไหนที่ตรงกับ ฮาวอนัฟซู ของเราเราก็ทาํ อันไหนที่ไม่ตรงเราก็ละ เว้นไว้ก่อนอย่างนี้ไม่ได้ จะต้องเข้าสู่การปฎิบตั ิในกิ ตาบุ้ลเลาะห์ และซุนนะห์ ของท่านรอซูลลุลเลาะห์ (ซ.ล.) ทั้งระบบ ทั้งหมดจะไม่มีการคัคเลือก จะไม่มีการแยกแยะ ประการที่ 3 ‫ الرضا بالقليل‬อัรริดอบิ้ลกอลีล จะต้องมีความพออกพอใจต่อ สิ่ งที่อลั เลาะห์ (ซ.บ.) ได้ จัดสรรปันส่วนให้กบั ตนเอง แม้ว่ามันจะน้อยนิดก็ตาม อันนี้แสดงถึงการศรัทธาอย่างสมบูรณ์แบบที่มีต่อ พระผูเ้ ป็ นเจ้า เรื่ องของการได้ลาภยศ ได้ปัจจัย ได้สิ่งที่ตรงต้องเจตนาของตนเอง ถูกใจตัวเอง นั้นเราไม่ สามารถที่จะเลือกได้ดว้ ยตัวของเราอย่างสมบูรณ์แบบ แต่มนั เป็ นสิ่ งที่ประทานจากพระผูเ้ ป็ นเจ้า ดังนั้น ใครที่มีความยินดี มีความพอใจ ต่อสิ่ งที่อลั เลาะห์ (ซ.บ.) จัดสรรให้กบั เขาไม่ว่าจะในฐานะใดก็ตามถือ ว่าเขาคนนั้นกําลังก้าวสู่มีความตักวาต่ออัลเลาะห์(ซ.บ.) อีกรู ปแบบหนึ่ง ประการที่ 4 ‫ االستعداد لٌوم الرحٌل‬อลีส เตี๊ยะดาลลู่ คิเยามิรรอฮีม การยําเกรงนี้ หมายถึง การที่ เรา จะต้องมีการเตรี ยมพร้อม ที่จะไปสู่วนั ที่เราจะอําลาจากโลกนี้ ไป จาก 4 ประการที่ได้กล่าวไว้แล้ว ท่าน อาลีอิบนี่อบีตอลิบ ให้กลัวอัลเลาะห์ (ซ.บ.) กลัวการลงโทษ มีการปฏิบตั ิตามห้ามตามใช้ของอัลกุรอาน และหะดี ษ อย่ า งเคร่ งครั ด มี ค วามพอใจในลาภปั จ จัย ที่ อ ัล เลาะห์ (ซ.บ.) ได้ป ระทาน และมี ก าร เตรี ยมพร้ อมต่อการที่จะกลับไปสู่ พระองค์อลั เลาะห์ (ซ.บ.)เพราะฉะนั้นพอถึงปี ใหม่ หรื อศักราชใหม่ ของชีวิตเรา อัลเลาะห์ (ซ.บ.) ได้กล่าวไว้ในคัมภีร์อลั กุรอาน สิ่ งแรกที่เราจะต้องกระทําก็คือให้ตรวจสอบ ดูว่า เราได้กระทําในปี ที่ ผ่านมาที่ เป็ นกิ จกรรมดี หรื อ ไม่ดีอย่างไร บวกลบกลบหนี้ ให้ถูก ต้อง และใน คัมภีร์อลั กุรอานได้กล่าวว่า:                    

} 18 : ‫{ سورة الحشر‬ “โอ้ พวกเจ้ าที่มีศรั ทธาทั้งหลายท่ านจงยาเกรงต่ ออัลเลาะห์ และชี วิตหนึ่งนั้น เขาจะต้ องพิ จารณามองดู สิ่ งอันใดที่ เขาจะต้ องปฏิ บัติไปก่ อนหน้ า เพื่ อวันพรุ่ งนี ้” ซึ่ งหมายถึง วันอาคีเราะห์ อัลเลาะห์ (ซ.บ.) เลือกใช้คาํ ว่า “พรุ่ งนี้ ” หรื อ Tomorrow ต้องการสื่ อบอกพวกเราว่า วันกี ยามัตที่กาํ ลังจะมาถึงนั้นมัน ไม่ได้อยูน่ าน หรื ออยูห่ ่างจากชีวิตของเราเลย เปรี ยบประหนี่ งมันจะมาในวันพรุ่ งนี้ ให้เราพิจารณาดูว่า สิ่ งที่เราได้กระทําในปี ที่ผา่ นมามันมีอะไรบ้าง ที่เป็ นคุณประโยชน์กบั ชีวิตของเราในสัมปรายภพ และมี สิ่ งใดบ้างที่มนั จะมาบัน่ ทอน สร้ างความทุกข์ระทมให้เกิ ดขึ้นในชีวิตของเรา หลังจากที่เราได้อาํ ลาจาก เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 6


ไป จากโลกนี้ ไปแล้ว อันนี้ เ ป็ นหน้าที่ของเราทุกคนจะต้อ งตรวจสอบบัญชีของตัวเอง งบบุญ งบบาป ตรวจสอบตัว เองว่า อันไหนมันเกิ นดุล หรื อขาดดุลมากน้อยกว่ากัน อัล เลาะห์ (ซ.บ.) บอกตอนท้าย โองการว่า “จงยําเกรงต่อพระองค์อลั เลาะห์ (ซ.บ.) เถิด อัลเลาะห์ (ซ.บ.) ทรงรอบรู้ ยิ่ง ต่อสิ่ งที่พวก ท่านทั้งหลาย ได้กระทํา ตักวา ” เปิ ดฉากตอนต้นอายะห์ให้รําลึกถึงนั้นให้วางตนในทางที่เหมาะสม ใน ฐานะที่เราเป็ นบ่าวของพระองค์อลั เลาะห์(ซ.บ.) และอัลเลาะห์(ซ.บ.) ได้ปิดท้ายโองการด้วย “ตักวา” อีก เพื่อต้องการสร้างให้เกิดความสําเหนียก ความรู้ สึกของเราว่า แน่แท้อลั เลาะห์(ซ.บ.) ทรงรู้ ทรงเห็น ทุก อย่าง ทุกประการ ไม่ว่าผลงานของเราที่ทาํ จะเป็ นผลงานที่ดี มีแต่อามั้ลอิบาดะห์ที่เต็มไปด้วยความดีงาม อัล เลาะห์ (ซ.บ.) ก็รู้ เมื่ อรู้ พระองค์ก็จะตอบแทน ในขณะเดี วยกันพระองค์ก็รู้ อีก ใครที่ ปฏิบ ตั ิ ฉ้อ ฉล ทุจริ ตต่อหน้าที่ในการเป็ นบ่าวของพระองค์อลั เลาะห์(ซ.บ.) อามานะห์ต่าง ๆ ที่อลั เลาะห์(ซ.บ.) มอบหมายและพระองค์กร็ ู้อีกก็จะตอบแทนไปตามปริ มาณหรื อขีด ปฎิบตั ิของเขาในแต่ละเรื่ อง ท่านพี่นอ้ งที่เคารพรัก หลังจากวันนี้เป็ นต้นไป ชีวิตของเราได้เดินไปสู่หลุมฝังศพใกล้เข้าไปอีก วาระหนึ่ง เพราะฉนั้นแล้วอัลเลาะห์(ซ.บ.) ได้ตกั เตือนในโองการถัดมาว่า } 19 : ‫ {سورة الحشر‬           

“พวกเจ้ าจงอย่ าได้ เป็ นเหมือนกั บบรรดาผู้ที่หลงลื ม อั ลเลาะห์ (ซ.บ.)” ลื มที่ จะปฏิ บตั ิ การห้าม การใช้ ของอัลเลาะห์(ซ.บ.) ลืมว่าตัวเองจะต้องตาย ลืมว่าตัวเองนั้นจะต้องไปรับผลกรรมของตัวเองที่ปฏิบตั ิใน โลกหน้า เพราะถ้าหากว่า เราเป็ นเช่นเฉกบุคคลดังกล่าวแล้ว เมื่อเราลืมอัลเลาะห์ (ซ.บ.) ก็จะทําให้ อัล เลาะห์(ซ.บ.) ให้เขาลืมตัวของเขาเอง ให้หลงระเริ งกับดุนยาที่ฉาบไปด้วยมายาคติท้ งั หลาย ให้เราหลงทาง อยูก่ บั สิ่ งที่เป็ นสิ่ งจอมปลอม หาความจริ งไม่ได้ จะทําให้หวั ใจของเขามืดบอดสนิ ท จนไม่อาจปฏิบตั ิในสิ่ ง ที่เป็ นคุณูประการ กับชีวิตตัวเอง ในโลกอาคีเราะห์ได้เลย และพวกเขาเหล่านั้นเป็ นบุคคลโฉด บุคคลที่ ทรยศต่อ อัลเลาะห์(ซ.บ.) บุคคลที่ไม่ปฏิบตั ิตนในการเป็ นบ่าวที่ดี อัลเลาะห์ (ซ.บ.) จะตีตราว่าเขาเป็ น คนโฉด คนขี้ลื ม อัลเลาะห์(ซ.บ.) ที่ เพี้ ยนไป หลังจากวันนี้ เป็ นต้นไปเราลืมอัลเลาะห์ (ซ.บ.) ไม่ได้แล้ว โดยเฉพาะพรุ่ งนี้ เป็ นวันเด็กแห่ งชาติ ที่ ทางการของประเทศไทยกําหนด เป็ นวันที่ ต้องการจะเตื อนสติ ผูใ้ หญ่ท้ งั หลาย ให้ตระหนักถึ งความสําคัญของเด็ก ๆ หรื อเยาวชนที่อยู่ในการปกครองดูแลของเรา มี งานวิจยั จากฝ่ ายเฝ้ าระวังวัฒนธรรม ซึ่ งสังกัดสํานักปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ได้วิจยั เยาวชนคนไทยใน ภาพรวม ผลการวิ จยั ฟั งแล้วน่าตกใจมาก เยาวชนคนไทยโดยรวมไม่ได้เกี่ ยวข้องกับศาสนาใด ๆ ทั้งสิ้ น โดยรวมแล้วสรุ ปได้มนั มีความเสื่ อมในทุกมิติของชีวิต เสื่ อมในเรื่ องของความเป็ นอยู่ในครอบครัว เสื่ อม ทางจริ ยธรรมเรื่ องเพศ ซึ่ งมักจะมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร เสื่ อมที่ถลําไปในเรื่ องปัญหายาเสพติด ปั ญหา เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 7


การพนัน สื่ อลามกอานาจาร และที่สาํ คัญที่เยาวชนคนไทยกําลังหลงไหลได้ปลื้ม คือมีค่านิ ยมหลงไหลบริ โภค ตามลัทธิ ตะวันตก ฝ่ ายเฝ้ าระวังทางวัฒนธรรม มี งานวิ จ ัยในเรื่ องนี้ สรุ ปได้ว่า เยาวชนคนไทยยุคปั จจุ บ ัน เปลี่ ยนแปลงไปมากและให้ข้อจํากัดความ 4 คําเพื่ อสื่ อให้ชดั เจนว่า เยาวชนยุคนี้ “ ร้ าว-ร้ อน-แรง-เร็ ว” ท่านพี่นอ้ งที่เคารพรัก งานวิจยั เป็ นงานที่ทาํ การสํารวจตามหลักวิชาการ เป็ นงานที่เราจะต้องทํา ความเข้าใจ เราในฐานะผูป้ กครอง เป็ นผูใ้ หญ่ เราจําเป็ นต้องกลับมาดูแลลูกหลานของเราในวันเด็กพรุ่ งนี้ ซึ่ งเป็ นวันที่ ก ํา หนดมาเพื่ อ ที่ จ ะให้เ ด็ก ได้รู้ ถึ ง สิ ท ธิ และหน้าที่ ของตัว เอง ที่ พึ ง มี พึ ง ได้ ให้ผู้ใหญ่ไ ด้ ตระหนักถึงความสําคัญ เราใช้โอกาสอันนี้ สอนลูกหลานของเราให้อยู่ในกรอบ ให้อยู่ในศิลธรรมอันดี งามของอิสลาม ท่านพี่นอ้ งที่เคารพรัก เยาวชนมีพลังที่เรามองไม่เห็น ถ้าเราสร้ างเยาวชนของเราให้เป็ นเยาวชน เหมือนกับเยาวชนในประวัติศาสตร์ ในสมัยของท่านรอซูลุลเลาะห์ (ซ.ล) ได้เคยสร้างขึ้นมา คือเยาวชนที่ อยูต่ ิดมัสยิด เป็ นเยาวชนที่ติดสอยห้อยตามท่านศาสดาและบรรดาอัครสาวก ผูม้ ีวิชาความรู้ เขาอยูใ่ กล้ชิด คอยเฝ้ าดูพฤติ กรรมของบุคคลเหล่านั้น เพราะฉะนั้นแล้ว เราที่ มีเ ยาวชนที่ต้องดูแล มี ลูก หลานที่ ตอ้ ง ปกครอง เราฐานะที่เป็ นผูป้ กครอง จะต้องทําเป็ นตัวอย่างอันดับแรก เป็ นแบบฉบับที่ดี เหมือนกับที่ท่าน รอซูลลุลเลาะห์ (ซ.ล) ได้เคยทําเป็ นตัวอย่างเอาไว้ ท่านจะขนี บหลานของท่านมามัสยิดเป็ นประจํา ลูก ของท่านเสี ยชีวิตหมดที่เป็ นผูช้ าย เป็ นผูห้ ญิงก็อากี ลบาลิค แล้วท่านก็ขนี บหลานที่ยงั ไม่อากี ลบาลิคมา มัสยิด มีรายงานว่าท่านได้หิ้วหลานอุมามะห์บุตรของพระนางไซหนับบุตรสาวท่านนบี มาละหมาด มา เป็ นอีหม่าม และอุม้ ในสภาพทีกาํ ลังละหมาดอยู่ มีรายงานว่าท่านรอซูลลุลเลาะห์ (ซ.ล)ของเราได้นาํ เอา ท่านหะซันและท่านฮูเซ็น หลานรักทั้งสอง ติดสอยห้อยตามออกมาที่มสั ยิดเป็ นประจํา สิ่ งต่าง ๆ เหล่านี้ มันเป็ นภาพที่ ฉายให้เ ห็ นว่าเราผูท้ ี่ เ ป็ นผูป้ กครองจะปล่อ ยให้เ ด็ก เน่ าเฟะอยู่ก ับหน้าจอที วี ปล่อ ยให้ สู ญเสี ยไปกับการเล่นเกมส์คอมพิวเตอร์ ไม่ได้แล้ว เราต้องทําเป็ นตัวอย่าง โดยเฉพาะมัสยิดของเรา ได้เคยมีโครงการ หนึ่งบ้ าน หนึ่งคน ระดมพลละหมาดญมาอะห์ ที่มัสยิดท่ าอิฐ ก็ขนีบมาด้วยครับ หิ้ วมา ด้วยครับ ตรงนี้แหละจะเป็ นการสร้างหลักประกันที่ดีที่สุดที่บรรดานักคิด นักวิจยั ที่ไม่ใช่มุสลิม เขาคง คิดไม่ถึง ในงานวิจยั ที่ผมได้อ่านมาทั้งหมดในเรื่ องของศาสนาเขาระบุว่า ตอนนี้ เด็กไทยห่ างเหิ นจากวัด มาก พ่อแม่ไม่เคยพาลูกหลานไปวัด ไม่เคยแม้กระทัง่ วันพระ ไม่เคยพบกับสิ่ งที่ดีงาม ที่จะได้รับฟั ง พวก เขาจมปลัก กับสิ่ งที่ ฟุ้งเฟ้ อ ตามสถานบันเทิ ง ตามศูนย์ก ารค้า สิ่ งต่าง ๆ เหล่านี้ มันสะท้อ นให้เ ห็นว่า ทางแก้ไขเราจะต้องนําเอาเรื่ องของศาสนาเข้ามาให้เขาได้คุน้ เคยกับเรื่ อ งของศาสนาให้มากที่ สุด ขอ เรี ยกร้องเชิญชวนอีกครั้งหนึ่ง ผูท้ ี่เป็ นผูป้ กครองได้ร่วมกันละหมาดญมาอะห์ที่มสั ยิด แล้วบารอกัตอันนี้ มันจะเกิด มันจะส่งอานิสงค์ไปถึงครอบครัวของเรา ที่จะทําให้ลูกหลานของเราแม้ว่าวันนี้ เขาอาจจะยัง ไม่มามัสยิด แต่อนาคตอันใกล้ เขาจะต้องมามัสยิดเหมือ นกับเรา เราลองมาครั บวันนี้ มัก ริ บ อี ชาอฺ เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 8


ลองมาเพ่งดู คนที่มาละหมาด ญมาอะห์ ลองดูหน้า ลองดูตวั กัน และถ้าหากว่าท่านเป็ นคนท่าอิฐโดย กําเนิด โดยท้องถิ่น ท่านจะพบสัจธรรมที่ยืนยันได้เลยว่า คนที่มาละหมาดในวันนี้ คือคนที่ พ่อเขา กี เขา โต๊ะเขา แชร์ เขา เคยมาละหมาดในอดีต นี่คืออานิสงค์ที่ส่งสะท้อนไปถึงลูกหลาน เพราะตรงนี้ เป็ นแบบ ฉบับที่เราทุกคนจําเป็ นจะต้องยึดถือและปฏิบตั ิ เพื่อสร้ างสังคมชุมชนของเรา ให้เป็ นชุมชนอิสลามโดย แท้จ ริ ง สร้ างแนวหลัก ยึด หลัก ปฏิ บ ตั ิ แก่ เ ยาวชนลูก หลานของเราต่อ ไป ในอนาคตเยาวชนของเรา ลูกหลานของเรา จะดีหรื อไม่ดีอยูท่ ี่ตวั ของเราครับ เป็ นสัจธรรมของศาสดาได้กล่าวไว้ว่า ‫كل مولود ٌولد على الفطرة فأبواه ٌهودانه أو ٌنصرانه أو ٌمجسا نه‬ “เด็กที่เกิดมาทุกคน ใสซื่อ ใสสะอาดบริ สุท ธิ์ ตามธรรมชาติที่อัลเลาะห์ (ซ.บ.) สร้ างมา ด้ วยกับมือทั้ง สองของพ่อแม่ นั่นเอง ที่จะปั้นแต่ งให้ กับลูกของเขา เป็ นยะฮูดี นาซอรอ หรือพวกกราบไหว้ ไฟ” ในโอกาสวันขึ้นปี ใหม่ของอิสลาม ผนวกกับวันเด็กแห่ งชาติในวันพรุ่ งนี้ ก็ขอฝากให้พวกเราทุกคน ได้ ปฏิบตั ิในหน้าที่ของความเป็ นมุมิน เป็ นมุสลิมผูศ้ รัทธาต่ออัลเลาะห์ (ซ.บ.) และปฏิบตั ิหน้าที่ในฐานะ ผูป้ กครอง เยาวชนลูกหลานให้ทาํ หน้าที่ได้อย่างเต็มที่และสมบูรณ์ อินชาอัลเลาะห์ แล้วเรา จะพบกับ ความสุขอย่างแท้จริ งทั้งโลกนี้และโลกหน้า

เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 9


#3. คุตบะห์ วนั ศุกร์ ณ มัสยิดท่ าอิฐ วันศุกร์ ที่ 15 มกราคม 2553 ตรงกับ วันที่ 29 มุฮัรรอม ฮ.ศ. 1431 โดย อาจารย์อะห์ซะนุดดีน(สุวรรณ) มัง่ มี

พี่นอ้ งผูม้ ีศรัทธา มีความยําเกรงต่อพระองค์อลั เลาะห์ (ซ.บ.) วันศุกร์ เป็ นวันที่ ผูพ้ ูดจําเป็ นต้อง พูด ผูฟ้ ัง จําเป็ นต้องฟัง ผูพ้ ูดและผูฟ้ ัง จะต้องสะอาด ทั้งจิตใจ ร่ างกาย และสถานที่ ผูพ้ ูดและผูฟ้ ั ง จะต้อง ตักวา มีความยําเกรงต่อพระองค์อลั เลาะห์ (ซ.บ.) ในสภาพที่อยูค่ นเดียว หรื อหลายคน ทั้งที่ลบั และที่แจ้ง ทั้งที่แห้งและที่เปี ยก โดยประพฤติปฏิบตั ิตามสิ่ งต่างๆที่พระองค์ทรงใช้ หลีกเลี่ยงห่างไกลจากสิ่ งต่างๆ ที่ พระองค์ทรงห้าม และการตักวานี่เองเป็ นตราชัง่ ที่ดีที่สุด เป็ นสื่ อกลางที่ดีที่สุด ที่เราจะต้องนําเสนอต่อ พระองค์อลั เลาะห์ (ซ.บ.) ในวันกิ ยามัต ซึ่ งเป็ นวันที่บุคคลหนึ่ ง จะหนี จากพ่อแม่ของเขา หนี จากพี่น้อง ของเขา หนี จ ากภรรยาและบุต รของเขา เงิ นทองอํา นาจ เกี ย รติ ย ศ บุต รบริ ว าร ไม่ สามารถอํานวย ประโยชน์ใดๆได้เลย พี่นอ้ งที่เคารพรัก ครู เป็ นทรัพยากรบุคคลที่มีความสําคัญ และมีค่ายิ่ง ครู คือใคร ครู คือผูใ้ ห้รัศมี ครู คือ ผูอ้ บรมลูกศิษย์ให้เป็ นคนดี ครู คือ ผูช้ ้ ีทางแห่งความดี ครู คือ ผูห้ วังดีต่อลูกศิษย์ ครู คือ พ่อแม่คนที่สอง ซึ่ งอยูท่ ี่โรงเรี ยน โรงเรี ยนคือสถานที่สร้ างเยาวชนให้เป็ นคนดี โรงเรี ยนคือแหล่งรวมความรู้ โรงเรี ยนคือ สถานที่บ่มเพาะความดี โรงเรี ยนคือสถานที่สร้างอนาคต แต่โรงเรี ยนจะขาดสิ่ งเหล่านี้ เพราะโรงเรี ยนไม่มี ชีวิต ไม่มีความคิด และคนที่จะคิดและทําโรงเรี ยนให้เป็ นแหล่งอนาคต ก็คือครู ซึ่ งเป็ นหัวใจของโรงเรี ยน ที่ จ ะสู บ ฉี ดโลหิ ต สู บฉี ดความรู้ ไปหล่ อ เลี้ ย งส่ ว นต่ างๆของร่ างกาย และสมอง แต่ ทว่ า ณ ปั จ จุ บ ัน ความสําคัญ ความประเสริ ฐของครู ถูกหลงลืม หรื อแกล้งลื ม ซึ่ งครู ตามคํานิ ยามนั้น ครู คือ ปูชนี ยบุคคล หมายถึง ผูท้ าํ หน้าที่ถ่ายทอดความรู้ ที่ควรให้เกียรติและควรให้ความนับถือ แต่มีบางคนไม่เข้าใจคํานิ ยามนี้ เขากลับบอกว่า ครู คือ การนําสัตว์สองชนิด มาผสมกัน คือ ตัวปู กับ ตัวชนี หมายถึง ปูขาเก กับ ชนี ปากแดง หรื อเปรี ยบเทียบครู เหมือนเรื อจ้าง ที่คอยรับส่งลูกศิษย์ให้ถึงฝั่ง เมื่อศิษย์ถึงฝั่ง ก็ไสหัวถีบ แต่ปัจจุบนั เรื อ จ้าง ดูเหมือนจะกลับกลายเป็ นได้แค่ อาชีพรับจ้าง ที่คอยรับจ๊อบพิเศษ พี่นอ้ งที่เคารพรัก ท่าน ซัยยิดินาอาลี กัรรอมัลลอฮฺ วัฏฮะหฺ ได้กล่าวถึง ผูท้ ี่รู้จกั ครู และ ความหมายของครู ว่า ‫ الٌعرف فضل أهل العلم‬ไม่มีผใู้ ดที่จะรู้ความ ประเสริ ฐของครู

‫ إالأهل الفضل‬เว้นแต่ผทู้ ี่มีความประเสริ ฐเท่านั้น เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 10


และท่านรอซูลลุลเลาะห์ (ซ.ล.) ได้กล่าวว่า

ً‫سٌأتً زمان على أمت‬

จะมีช่วงระยะเวลาหนึ่ง ซึ่ งจะเกิดกับประชาชาติของฉั น

‫ ٌفرون من العلماء والفقهاء‬ซึ่ งพวกเขาประชาชาติน้ ี จะห่างเหิ นกับผูร้ ู้และนักวิชาการฟิ กฮฺ ‫ فٌبلٌهم هللا تعالى بثالث بلٌات‬เมื่อนั้น พระองค์อลั เลาะห์ (ซ.บ.) จะลง สาม ภัยพิบตั ิ กับ พวกเขาที่ทาํ เบาความกับพวกครู

‫ ٌرفع البركة من كسبهم‬: ‫أولها‬ 1. พระองค์อลั เลาะห์ (ซ.บ.) จะยกความ บารอกัต ออกจากการงานอาชีพของพวกเขา

‫ ٌسلط هللا تعالى علٌهم سلطاناظالما‬: ‫الثانٌة‬ 2 พระองค์อลั เลาะห์ (ซ.บ.) จะทําให้ผมู้ ีอาํ นาจที่ทุจริ ต ควบคุมบงการพวกเขา

‫ ٌخرجون من الدنٌا بغٌرإٌمان‬:‫الثالثة‬ 3

พวกเขาจะลาโลกไปโดยไม่มี อีหม่าน น่ าอูซ่ ูบิลลาฮฺ มินซาลิก

พี่นอ้ งที่เคารพรัก ผูป้ กครอง คือผูท้ ี่รักลูกจนตาบอดข้างหนึ่ง ผูป้ กครอง คือกระจกเงาของ ครู ผูป้ กครอง คือผูค้ วบคุมความประพฤติของครู ผูป้ กครอง คือคู่ตอ่ กรของครู พี่นอ้ งที่เคารพรัก ศาสนาอิสลาม ไม่อนุญาตให้ลงโทษร่ างกายเด็ก ด้วยการตี เว้นแต่ในกรณี ฏอรู เราะฮฺ คือในกรณี จาํ เป็ น และ ได้ผลเท่านั้น เพราะการตีน้ นั เปรี ยบเสมือนยาปฏิชีวนะขั้นสุ ดท้าย อิสลามไม่อนุญาตให้ตบตีที่ใบหน้า เพราะใบหน้าเป็ นสถานที่บ่งบอกถึงความดีใจ และเสี ยใจ อิสลามไม่ อนุญาตให้ตีจุดที่ทาํ ให้ตายได้ อิสลามไม่อนุญาตให้ตีเพราะแก้แค้น อิสลามไม่อนุญาตให้ตีเพราะระบาย ความเครี ยด และการตีน้ นั ต้องไม่เกิดบาดแผล การตีตอ้ งเหมาะสมกับความผิด ตีไม่เกินสามครั้ง และเว้น ระยะเวลาลงโทษ พร้อมกับอบรมตักเตือน พี่น้อ งที่ เคารพรั ก ถ้าหากเด็กคนหนึ่ ง ถูก ลงโทษถูก ตี แสดงว่าเด็กคนนี้ อยู่ในอาการป่ วยขั้น รุ นแรง จําเป็ นจะต้องใช้ยาตัวนี้ เราในฐานะผูป้ กครอง ก็จาํ เป็ นจะต้องดูแลรักษาพยาบาลร่ วมกัน ถ้าเป็ น สมัยก่อน คนท่าอิฐแท้ๆ เขาจะซํ้ายาตัวนี้ คือตีซ้ าํ ส่ วนเด็กผูถ้ ูกตี ต้องสํานึ กว่า เรานี้ ไม่สบายหนัก เรา มันแย่มากๆ ต้องขอบคุณคุณครู ที่ใช้ยาตัวนี้กบั เรา (คือการตี) ส่วนการด่าคําหยาบ สาบแช่ง ศาสนาไม่ อนุญาตเช่นกัน เพราะการกล่าวเช่นนี้ เป็ นการขอพรร้ายให้กบั ลูกศิษย์ พี่นอ้ งที่เคารพรัก ลูกศิษย์คือผูร้ ับการถ่ายทอด ลูกศิษย์ คือแหล่งรับความรู้ ลูกศิษย์คือความหวัง ของพ่อแม่ ลูกศิษย์คือลูกไก่ที่อยูใ่ นกํามือ ลูกศิษย์คือผูส้ ร้างชื่อเสี ยงให้กบั ครู และโรงเรี ยน ดังนั้นจําเป็ น เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 11


บนลูกศิษย์ตอ้ งให้เกียรติ แสดงมารยาทที่ดีต่อครู บาอาจารย์ แม้ว่าเขาจะสอนเพียง อลิฟ บา ตา กอ ขอ คอ เอ บี ซี หรื อไม่สอนก็ตาม จําเป็ นต้องให้เกี ยรติ ซึ่ งความ บารอกัต ความสิ ริมงคล จะเกิ ดขึ้นแก่เขา และส่วนหนึ่งจากมารยาทที่นกั เรี ยนจําเป็ นต้องปฏิบตั ิน้ นั คือ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙

กล่าวสลามทักทายกับครู ก่อน เพราะสลามนั้นเป็ นการขอพร ใช้น้ าํ เสี ยงและคําพูดที่อ่อนโยน ไม่มีทศั นคติที่ไม่ดีต่อครู ไม่ ซังกอยาฮะ คือไม่มองครู ในแง่ร้าย ไม่เดินนําหน้าครู ให้เกียรติให้ความเคารพ ไม่ว่าจะอยูใ่ นโรงเรี ยน หรื อจบออกไปแล้วก็ตาม เมื่อถูกลงโทษจะต้องสํานึกถึงความผิดทันที ไม่ออกอาการ ไม่ผกู ใจเจ็บคิดแก้แค้น เจตนาเล่าเรี ยนตลอดชีวิต ความรู้ท้งั หมดต้องเจตนาเผยแพร่ แสดงกิริยานอบน้อมถ่อมตน ไม่หยิ่งยโสโอหัง ต้องไม่เรี ยกชื่อของครู

ผูเ้ รี ยนที่ให้เกียรติครู มีมารยาทต่อครู เขาจะได้รับ บารอกัต ในความรู้ ความรู้ จะให้ประโยชน์แก่ ตัวเขาและผูอ้ ื่น ความรู้จะปกป้ องเขา ดังเช่าอาวุธอันหนึ่ ง เขาจะมีบารอกัต ในการดําเนิ นชีวิต ชีวิตมีแต่ ความราบรื่ น สะดวกสบาย มี แต่ความดี งาม สําหรับผูท้ ี่ไม่ให้เกี ยรติครู ทรยศต่อครู ความรู้ การ ดําเนิ นชีวิต จะไม่มีบ ารอกัต ไม่มีความสิ ริ มงคล เมื่อเรี ยน ก.ไก่ อาจจะโกงกิ น เมื่ อเรี ยน ข.ไข่ อาจจะ ชอบขโมย เมื่อเรี ยน บ.ใบไม้ อาจจะชอบเสพย์ยาบ้า ขายยาบ้า หรื อเปิ ดโต๊ะบอล เดินโพยบอล เป็ นต้น สื บเนื่องมาจากไม่มี บารอกัตในวิชาความรู้นนั่ เอง พี่ น้ อ งที่ เ คารพรั ก ครู บาอาจารย์ ผู้มี ค วามรู้ เป็ นธรรมะทายาทของเหล่ า บรรดานบี ซึ่ ง เปรี ยบเสมือนดวงดาวที่ให้แสงสว่างส่องทาง เปรี ยบเสมือนดวงประทีปที่ให้แสง ให้จิตวิญญาณ นําทาง ไปสู่หนทางที่เที่ยงตรง ซึ่ งจําเป็ นบนเราทุกคน จะต้องให้ความรั ก แสดงความรัก แก่บรรดาผูป้ ระเสริ ฐ เหล่านี้ ดังที่ พระองค์อลั เลาะห์ (ซ.บ.) ทรงตรัสกับนบีอิบรอฮีม อลัยฮิสสลาม ความว่า อาน่ าอลีย์มนุ อู้ฮิบ บู้อลีย์มัน ฉัน (พระองค์อลั เลาะห์ ซ.บ.) เป็ นผูม้ ีความรู้ ยิ่ง ซึ่ งฉัน (พระองค์อลั เลาะห์ ซ.บ.) ทรงรักผูม้ ี ความรู้เช่นกัน ครับ ท้ายนี้ ขอให้นกั เรี ยนทุกคน เยาวชนทุกคน ได้รับ บารอกัต ในการเป็ นลูกศิษย์ที่ดี ของครู บา อาจารย์ เป็ นคนดีของสังคม และเป็ นบ่าวที่ ซอและห์ เป็ นบ่าวที่ดีของ พระองค์อลั เลาะห์ (ซ.บ.) อามีน

เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 12


คุตบะฮฺที่ 4 (22 มกราคม 53) ถึงคุต บะฮฺ 39 (27 สิงหาคม 53) ผมไม่ ได้รบั และหาย้อนหลังไม่ ได้

‫ٳﻧﺷﺎٴ ﷲ‬ ถ้ามีโ อกาส จะพยายามรวบรวม

เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 13


#40. คุตบะห์ วนั ศุกร์ ณ มัสยิดท่ าอิฐ วันศุกร์ ที่ 3 กันยายน 2553 ตรงกับวันที่ 23 รอมฎอน ฮ.ศ.1431 โดย อาจารย์ อิมรอน สาดและ

ขอความสุขสวัสดี ความกรุ ณาปรานี จาก อัลลอฮฺ (ซ.บ.) จงประสบแด่บรรดาพี่น้องผูศ้ รัทธาที่ เคารพรักทุกท่าน อัลฮัมดูลิลลาฮ์ วันนี้เป็ นอีกวันหนึ่งที่เรามาร่ วมกันปฏิบตั ิภารกิ จทางศาสนา มาร่ วมกัน ทําอิบาดะห์ เป็ นประจําทุกๆวันศุกร์ คือการละหมาดฟัรดูวนั ศุกร์ ซึ่ งในวันนี้ อาจเป็ นวันศุกร์ สุดท้ายก็ได้ ของเดือนรอมฎอนในปี นี้ เพราะว่าทางสํานักจุฬาราชมนตรี ได้ประกาศให้มุสลิมในประเทศไทยทําการ ดูดวงจันทร์ ในวันพฤหัสบดีที่ ๙ กันยายน ๒๕๕๓ นัน่ หมายถึงว่า หากว่าในวันพฤหัสบดีที่จะถึงนี้ มีผู้ เห็นดวงจันทร์ แปลว่าวันศุกร์ ที่๑๐ กันยายน ๒๕๕๓ เป็ นวันอีดิ้ลฟิ ตริ 1...................................................................................................................................................... ท่านพี่นอ้ งที่เคารพ เมื่อพูดถึงวันอีดิ้ลฟิ ตริ ใกล้เข้ามาแล้ว นัน่ หมายความว่าเดือนรอมฏอน กําลัง จะจากเราไปในอีกไม่กี่วนั ถ้านับจากวันนี้ ไปก็เหลือเพียง ๗ วันเท่านั้น หากวันพฤหัสบดีที่จะถึงนี้ มีผู้ เห็นดวงจันทร์ วันอีดิ้ลฟิ ตริ เป็ นวันศุกร์ ท่านพี่นอ้ งที่เคารพ ในระยะเวลาที่ผา่ นมา ๒๓ วัน ที่เราทําการ ถือศีลอดในเดือนรอมฏอนนั้น เราท่านทั้งหลายได้เข้าถึงเป้ าหมายของการถือศีลอดที่ อัลลอฮฺ (ซ.บ.) ได้ ลงฟัรดูให้กบั บ่าวของพระองค์แล้วหรื อยัง เป้ าหมายของการถือศีลอดอันสู งสุ ดที่ อัลลอฮฺ (ซ.บ.) ได้ลง บัญญัติให้บ่าวของพระองค์น้ นั ชัดเจนอยูใ่ น พระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน ที่เราอ่านกันอยูเ่ ป็ นประจํา 2................................................................................................................................................................... โอ้บรรดาผูศ้ รัทธาแล้วทั้งหลาย การถือศีลอดเป็ นบัญญัติให้กบั พวกเจ้าทั้งหลาย ซึ่ งได้เคยบัญญัติ ให้กบั ประชาชาติก่อนจากพวกเจ้า มาแล้วในอดีต ทั้งนี้ เพื่อให้พวกเจ้าเกิ ดความยําเกรง นัน่ คือเกิ ดความ ตักวาต่อ อัลลอฮฺ (ซ.บ.) เมื่อเป็ นเช่นนี้ เราถือศี ลอดตั้งแต่วนั แรกของเดือนรอมฎอน เราท่านทั้งหลาย ทราบดีว่า เมื่อเข้าสู่ เดือรรอมฎอน ประตูสวรรค์ถูกเปิ ด ประตูนรกถูกปิ ด ไชตอนถูกล่ามโซ่ ดังนั้นมัน เป็ นโอกาสที่พวกเราได้ปฎิบตั ิอามั้นที่ผา่ นมาในช่วงเดือนรอมาฎอนนั้นด้วยกับการกอบโกยผลบุญต่างๆ ที่ได้เพิ่มพูนเป็ นทวีคูณในเดือนรอมาฎอน ๒๓ วันที่ผา่ นมานั้น ท่ านนบีมูฮามัด(ซ.ล.) ได้รับรอง ดังหะ ดีษที่ได้เคยกล่าวมาแล้วครั้งหนึ่ งว่า การทําความดีใดๆหนึ่ งความดีในเดือนรอมาฎอน ท่านร่ อซูลุลลอฮฺ รับรองว่า เขาจะได้รับผลบุญทําความดีเทียบเท่าทําฟัรดูทีเดียว ในเดือนอื่นๆ และการทํา ๑ ฟั รดูในเดือน เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 14


รอมาฎอน ท่านร่ อซูลุลลอฮฺได้รับรองว่า อัลลอฮฺ (ซ.บ.) จะให้ความดีมากเป็ น ๗๐ ฟัรดูในเดือนอื่นๆ เลย ทีเดียว เดือนนี้เป็ นเดือนแห่ งการอดทน ผลแห่ งความอดทน จะนําผูอ้ ดทนสู่ สรวงสวรรค์ของ อัลลอฮฺ (ซ.บ.) ซึ่ งเป็ นเป้ าหมายสูงสุดของผูศ้ รัทธา เมื่อเป็ นเช่นนี้ เราท่านทั้งหลาย มีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม แล้วหรื อยัง รอมาฎอนอยูก่ บั เราอีกไม่กี่วนั อาจจะเป็ น ๗ วัน อย่างมากก็ ๘ วัน เราทบทวนหรื อยังว่า เรา มีความยําเกรงตามที่ อัลลอฮฺ (ซ.บ.) ได้มุ่ง หวังให้เ หล่าผูศ้ รัทธาได้ปฎิบตั ิในการถือ ศีลอดแล้วหรื อยัง ท่านพี่นอ้ งที่เคารพรักทั้งหลาย แต่ละวันในการถือศีลอดนั้น เราถือศีลอดด้วยความมุ่งมัน่ เพื่อหวังผลบุญ จาก อัลลอฮฺ (ซ.บ.) อย่างจริ งจังหรื อเปล่า ลองทบทวนในพฤติกรรมที่ผ่านมา ถ้าผูใ้ ดได้ทาํ การถือศีลอด ตั้ง แต่ว นั แรกด้ว ยกับ ความศรั ทธามัน่ ต่อ อัลลอฮฺ (ซ.บ.) ด้ว ยความหวัง ผลในอาคี เ ราะฮ์อ ย่างจริ ง จัง อัลลอฮฺ (ซ.บ.) จะอภัยโทษให้กบั เขา ในบาปต่างๆที่ผา่ นมา ดังที่ท่านร่ อซูลุลลอฮฺ(ซ.ล.) ได้กล่าวว่า 3 ........................................................................................................................................................ ซึ่ งมีความว่า ใครทําการถือศีลอดในเดือนรอมฏอน ด้วยความอีหม่าน ศรัทธาต่อ อัลลอฮฺ (ซ.บ.) เชื่อมัน่ ในคําใช้ คําบัญชาของ อัลลอฮฺ (ซ.บ.) เชื่อมัน่ ในคําสัง่ ของท่านร่ อซูลุลลอฮฺ(ซ.ล.) มิได้มีเหตุผลอื่น และ หวังภาคผลบุญที่ อัลลอฮฺ (ซ.บ.) จะมอบให้แก่เขา ในโลกอาคีเราะฮ์ ถ้าใครจริ งจังในเรื่ องของการถือศีล อดในสองประการนี้แล้ว โดยไม่มีสิ่งแอบแฝงอื่นใดในจิตใจของเขา อัลลอฮฺ (ซ.บ.) จะอภัยโทษในบาป ต่างๆที่เ ขาได้ปฎิ บตั ิมาในอดีตเลยทีเดียว ท่านพี่น้องที่เคารพรัก มุสลิมทัว่ โลกได้ทาํ การถือศี ลอดด้ว ย ความอิ่ มเอิ บ ใจ มุสลิ มทัว่ โลกดี อ กดี ใจที่ อัลลอฮฺ (ซ.บ.) ได้ให้ชีวิ ตเขา สู่ เ ดือ นรอมาฎอนด้ว ยความ ปลอดภัย มุสลิมทัว่ โลกเขามีความปลื้มใจที่เขาได้มีโอกาสกอบโกย อามั้ลอิบาดะห์ ต่างๆในเดื อนรอ มาฎอน ในยามกลางวันอดทนในการถือศีลอด ในยามกลางคืน เน้นหนักในการทําอิบาดะห์ต่อ อัลลอฮฺ (ซ.บ.) ไม่ว่าจะเป็ นการละหมาดซุ นนะฮ์ สุ นตั ตะรอเวียฮ์ การอ่านพระมหาคัมภีร์ อลั กุรอ่าน การทํา ซิ กรุ้ ลลอฮ์ การทําอิ สติฆฟ้ าร การซ่ อลาวาตนาบี การขอดูอา สิ่ งต่างๆที่เป็ นอามั้ลในยามคํ่าคืนนั้น เรา ปฏิ บ ตั ิ กิ ย ามุ้ล เลนในตอนกลางคื นของเดื อ นรอมาฎอนนั้น ด้ว ยความบริ สุ ทธิ์ ใจ ด้ว ยความศรั ทธา ต่ออัลลอฮ์ และหวังผลในโลกอาคีเราะฮ์ อัลลอฮฺ (ซ.บ.) จะอภัยโทษให้กบั เรา จากบาปต่างๆที่ผ่านมา เช่นเดียวกัน ดังที่ท่านร่ อซูลุลลอฮฺ(ซ.ล.) ได้กล่าวว่า 4..................................................................................................................................................... ใครก็ต ามที่ ได้ปฏิ บ ตั ิ กิ ย ามุ้ล เลน อิ บาดะห์ ในยามคํ่าคื น ของรอมาฎอน ด้ว ยความอี หม่ าน ศรั ทธา ต่ อ อั ล ลอฮฺ (ซ.บ.) เชื่ อ มั่น ในคํ า สั่ ง ของ ท่ า นร่ อซู ลุ ล ลอฮฺ ( ซ.ล.) หวัง ผลในโลกอาคี เ ราะฮ์ 5..................................................................................................................................................... เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 15


อัลลอฮฺ (ซ.บ.) จะอภัยโทษในบาปต่างๆที่ผา่ นมา ท่านพี่นอ้ งที่เคารพ เมื่อเรามุ่งมัน่ ที่ จะปฎิบตั ิศาสนกิ จ การถือศีลอดในเวลากลางวัน มุ่งมัน่ ที่จะปฎิบตั ิศาสนกิ จ การถือศีลอดในยามคํ่าคืน อย่างนี้ เป็ นประจํา เสมือนหนึ่ ง ประตูสวรรค์ถูกเปิ ด ให้เราเดินทางเข้าได้อ ย่างสะดวก และในขณะที่เราปฎิบตั ิภารกิ จ ใน เดือนรอมาฎอนนั้น เรามิได้เปิ ดช่องว่างในการที่จะปฎิบตั ิความชัว่ ในการที่จะกระทําการฝ่ าฝื นคําสั่ง ของอัลลอฮฺ (ซ.บ.) ในช่วงใดช่วงหนึ่ งของเดือนรอมาฎอน มันจึ งไม่มีโอกาสในช่วงใดที่จะเปิ ดให้ไช ตอนเข้ามาในชีวิตของเราได้เลย ท่านร่ อซูลุลลอฮฺ(ซ.ล.) ได้บอกว่าไชตอนนั้นได้ถูกล่ามโซ่ ท่านพี่น้องที่ เคารพ เมื่อเป็ นเช่นนี้แล้ว เราทราบดีว่าวันนี้ เป็ นวันที่ ๒๓ ของเดือนรอมาฎอน เหลืออีกเพียงไม่เกิ น ๗ วัน ถ้าเราเห็นเดือน ๑๐ คืนหลังมีความสําคัญอย่างไร ท่านทั้งหลายคงได้รับฟั ง บทความต่างๆก็ดี คํา ตักเตื อนจากผูม้ ีความรู้ ท้ งั หลายก็ดี ให้ผคู้ นทั้งหลายที่มีความศรัทธาต่อ อัลลอฮฺ (ซ.บ.) จะต้องมุ่งมัน่ ปฏิบตั ิภารกิจ ๑๐ คืนหลังของเดือนรอมาฎอน ให้มากกว่า ๑๐ คืนแรก และ ๑๐ คืนที่สองของรอมาฎอน เพราะท่านร่ อซูลุลลอฮฺ(ซ.ล.) ได้ทาํ แบบฉบับเอาไว้ และได้กล่าวยืนยัน รับรอง สนับสนุน ให้ผศู้ รัทธา ทั้งหลายนั้น แสวงหา คํ่าคืน ลัยลาตุล้ ก้อดริ์ ซึ่ ง คืน ลัยลาตุล้ ก้อดริ์ นั้น จะเกิ ดขึ้ นในทุก ๆปี ของเดือ น รอมาฎอน ใน ๑๐ คืนหลังของเดือนรอมาฎอน ท่านพี่นอ้ งที่เคารพรักทั้งหลาย เดือนรอมาฎอน เป็ นเดือน ที่พระมหาคัม ภีร์อัลกุรอาน ถูก ประทานลงมา เราท่านทั้งหลาย ทราบดีถึ งความสําคัญของ พระมหา คัมภีร์อัลกุรอาน เป็ นทางนําของชีวิตมนุษย์ ถ้ามนุษย์ผศู้ รัทธาไม่นาํ เอาพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน เป็ นผูน้ าํ ในการปฏิบตั ิแล้ว เขาจะหลงผิดในโลกดุนยา เขาจะงมงายในโลกดุนยา และเขาจะพบกับความผิดหวัง ที่ ยิ่งใหญ่ในโลกอาคีเราะห์ จะต้องเข้าในขุมนรก วัลอิยาซุบิลลาฮ์ ดังนั้น พระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน ที่ อัลลอฮฺ (ซ.บ.) ประทานให้แก่เราในเดือนรอมาฎอนนั้น พระองค์ได้ประทานในคืน ลัยลาตุล้ ก้อดริ์ 6..................................................................................................................................................... พระองค์ อัลลอฮฺ (ซ.บ.) ได้ทรงตรัสใน พระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน ของพระองค์ว่า พระมหา คัมภีร์อัลกุรอาน นั้น ในเดือนรอมาฎอน พระองค์ประทานลงมาในเดือนรอมาฎอนแน่นอน มิใช่เดือนอื่น และอีกโองการหนึ่ง อัลกุรอาน ถูกประทานในคํ่าคืน ลัยลาตุล้ ก้อดริ์ แน่นอนอีกเช่นกัน ซึ่ งพระองค์ได้ ตรัสในซูเราะฮ์ตลุ้ ก้อดริ์ ว่า 7..................................................................................................................................................... แท้จ ริ งเราได้ป ระทานมัน ลงมา หมายถึ ง พระมหาคัม ภีร์ อั ล กุ ร อาน ในคื น ลัย ลาตุ้ล ก้อ ดริ์ เพราะฉะนั้น พระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน ประทานลงมาในเดือนรอมาฎอน และได้ถูกประทานในคํ่าคื น ลัยลาตุล้ ก้อดริ์ ด้วยสาเหตุน้ ี ลัยลาตุล้ ก้อดริ์ จึงมีความสําคัญอย่างยิ่งยวด ในซูเราะฮ์น้ ีของ อัลกุรอาน ยัง ได้กล่าวอีกว่า เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 16


8..................................................................................................................................................... โอ้ มูฮาํ มัด อะไรหรื อที่ ทาํ ให้เจ้ารู้ ว่า อะไรคื อ คํ่าคืน ลัยลาตุล้ ก้อดริ์ เจ้ารู้ ไหม ความสําคัญ เกี ย รติย ศ ความยิ่งใหญ่ ความสูงส่ง คืน ลัยลาตุล้ ก้อดริ์ คืออะไร โอ้ มูฮาํ มัด เจ้ารู้ไหม 9..................................................................................................................................................... อัล ลอฮฺ (ซ.บ.) ให้ค ําตอบ ว่ าคํ่าคื น ลัย ลาตุ้ล ก้อ ดริ์ นั้น มี ความประเสริ ฐกว่า ๑๐๐๐ เดื อ น ความ ประเสริ ฐที่ว่านี้ หมายถึงผูท้ ี่ปฏิบตั ิอามั้ลอิบาดะฮ์ ในคํ่าคืนของ ลัยลาตุล้ ก้อดริ์ เพียงคืนเดียว คํ่าคืนใน หลักของอิสลาม หลัก ของเรานั้น เขานับกันหลังเวลาละหมาดมักริ บ เรี ยกว่าคํ่าคื นแล้ว และยาวไปถึ ง แสงฟาชั้ร............... ................ขึ้น ดังนั้นคํ่าคืน ลัยลาตุล้ ก้อดริ์ ที่มีภาคผลบุญเหนื อกว่า ๑๐๐๐ เดือน ถ้า เราเอา ๑๐๐๐ เดื อน หารด้ว ย ๑๒ มันจะออกมา ๘๓ ปี กับอี ก ๔ เดื อน โดยประมาณ ดังนั้นถ้าคนเรา ปฏิ บ ตั ิอ ามั้ล อิ บาดะห์ ในยามคํ่าคื นของ ลัยลาตุล้ ก้อ ดริ์ เพี ยงคื นเดี ยวเท่านั้น เขาจะได้รั บผลบุญเป็ น ทวีคูณมากกว่าการปฏิบตั ิที่ใช้เวลาถึง ๘๓ ปี กับอีก ๔ เดือน ที่ไม่ใช่ในยามคํ่าคืนของ ลัยลาตุล้ ก้อดริ์ การ ทวี คูณอย่างนี้ พระองค์ อัลลอฮฺ (ซ.บ.) ไม่ได้ให้ก ับประชาชาติ อื่นๆ พระองค์ อัลลอฮฺ (ซ.บ.) ทรง ให้กบั ประชาชาติของท่านร่ อซูลุลลอฮฺ(ซ.ล.) เท่านั้น เพราะมี หะดีษของท่านร่ อซูลุลลอฮฺ(ซ.ล.) บอกว่า อายุโดยเฉลี่ยของประชากรของนาบีมูฮาํ มัดจะอยูร่ ะหว่าง 60-70 ปี ด้วยความเมตตาของอัลเลาะห์ดว้ ยบา รอกะห์ของท่านนบี(ซ.ล. )อัลลอฮฺ (ซ.บ.) จึงมอบความประเสริ ฐให้กบั ประชากรของนบีมูฮาํ หมัดด้วย กับคืนของ ลัยลาตุล้ ก้อดริ์ ด้วยกับการทําอิบาดะห์ ท่านพี่นอ้ งที่เคารพ 10...................................................................................................................................................... อัลลอฮฺ (ซ.บ.) ได้อธิบายความว่าในคํ่าคืนนี้บรรดามลาอิกะห์จะทยอยลงมามากมายรวมทั้งท่านญิบรี ล 11..................................................................................................................................................... ที่บรรดามลาอิกะห์และท่านญิบรี ลลงมานั้นก็ดว้ ยพระอนุมตั ิแห่ ง อัลลอฮฺ (ซ.บ.) ลงมาเพื่อที่จะรับเอา หน้าที่ ต่างๆที่อัลลอฮฺ (ซ.บ.) มอบหมายให้บรรดามลาอิกะห์เหล่านั้นได้ปฏิบตั ิหน้าที่ตลอดทั้งปี เริ่ มต้น จากคืนลัยลาตุล้ ก้อดริ์ นัน่ เอง ไม่ว่าจะเป็ นมลาอิกะห์ที่รับมอบริ สกี เรื่ องอายุไข เรื่ องต่างๆมากมายที่ได้ ถูกมอบหมายในคํ่าคืนนี้ มลาอิกะห์ลงมาเจอผูใ้ ดก็ตามที่ทาํ อิบาดะห์ในคํ่าคืนนี้ จะขอพรกล่าวสลามแก่ ทุกคนที่ทาํ อิบาดะห์ในคืนนี้ ภาคผลมากเหลือเกิน 12..................................................................................................................................................... ความสุขสันติความปลอดภัยจากความชัว่ ร้ายเกิดขึ้นจนกระทัง่ แสงฟาชั้รขึ้น เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 17


13.................................................................................................................................................. พอถึงเวลาอะซานซุบฮิ ผลบุญอย่างนี้ ก็หมดทันที ท่านพี่น้องที่เคารพรักทั้งหลาย เมื่อเราทราบอย่างนี้ แล้วเหลืออีกประมาณ 7 วันเราเองก็ไม่ทราบว่าคืนลัยลาตุล้ ก้อดริ์ นั้นถึงแล้วหรื อยัง หรื ออาจจะเลยไป แล้วก็ได้ ไม่แน่นอนทั้งนี้เนื่องจากท่านร่ อซูลลุ ลอฮฺ(ซ.ล.)ได้บอกกับซอฮาบะห์ของท่านว่า 14..................................................................................................................................................... เจ้าทั้ง หลายจงแสวงหาคํ่าคื นแห่ ง ลัย ลาตุ้ลก้อ ดริ์ ใน10 คืนสุ ดท้ายของเดื อนรอมาฏอน ซึ่ งเราได้เ ริ่ ม มาแล้ว 3-4 วัน เราสํารวจดูสิว่าที่ผา่ นมาเราแสวหากันไหม และท่านร่ อซูลุลลอฮฺ(ซ.ล.) ก็ได้กาํ ชับให้แคบ ลงไปอีกว่า 15..................................................................................................................................................... เจ้าทั้งหลายจงแสวงหาคํ่าคืนแห่ง ลัยลาตุล้ ก้อดริ์ ในคืนคี่ 16..................................................................................................................................................... ใน 10 คืนสุดท้ายของเดือนรอมาฏอน ความหมายก็คือ คืนที่ 21-23-25-27-29 เหล่านี้ เป็ นคืนคี่ ใน 10 คืน สุดท้าของเดือนรอมาฏอนทั้งสิ้ น มีโอกาสที่จะเกิดลัยลาตุล้ ก้อดริ์ ที่ผ่านไปแล้วก็เป็ นได้ แต่มีซอฮาบะห์ หลายท่าน 17..................................................................................................................................................... และอี ก หลายท่านบอกว่า ฉันสาบานว่า ท่านร่ อ ซู ลุล ลอฮฺ(ซ.ล.)กล่าวว่าลัย ลาตุ้ล ก้อ ดริ์ นั้นในคํ่าที่ 27 แปลว่า 26 มืดลง อุลามาอ์หลายท่านก็ลงความคิดเห็นว่าอย่างนั้น ฮะดิษหลากหลายอย่างนี้ เราอย่าชะล่า ใจทําอิบาดะห์ค่าํ คืนเดียวคือคํ่าคืนที่ 27 อย่างเดียว มันอาจจะตรงกับคืนอื่นก็ได้ มี หะดีษ ว่า ลัย ลาตุ้ล ก้อดริ์ นั้นจะเกิดขึ้นเมื่อเหลือเวลาอีก 3 วัน 5 วัน 7 วัน จะหมดเดือนรอมาฏอน ถ้านับอย่างนี้ แสดงว่าลัย ลาตุล้ ก้อดริ์ นั้นไม่แน่นอนแล้วว่าจะเกิดวันที่เท่าไรในคืนคี่ แต่หากถ้านับ 3 วัน 5 วัน 7 วัน แล้วปี ใดรอ มาฏอนมี 30 วัน ลัยลาตุล้ ก้อดริ์ อาจเป็ นคืนคู่ก็ได้ นักวิชาการได้ลงความคิดเห็นอย่างนั้น ดังนั้นที่ดีที่สุด จงยึดเอาฮะดิษที่ว่า 18..................................................................................................................................................... เจ้าทั้งหลายจงแสวงหาคํ่าคืนแห่ง ลัยลาตุล้ ก้อดริ์ ใน10คืนสุดท้ายของเดือนรอมาฏอน แสวงกันทุกคืนเรา ต้อ งพบคื นใดคื นหนึ่ ง อย่างแน่ นอน มี อ ยู่คืนหนึ่ ง ท่านนบี ได้พบกับลัย ลาตุ้ล ก้อ ดริ์ แล้ว ต้อ งการที่ จ ะ ออกมาบอกว่าคืนนี้ เ ป็ นคืนแห่ งลัย ลาตุล้ ก้อดริ์ ปรากฏว่าท่านร่ อซู ลุลลอฮฺ(ซ.ล.) ออกมาพบชาย 2 คน ทะเลาะวิวาทกันทําให้ท่านร่ อซูลลุ ลอฮฺ (ซ.ล.) ลืมว่าคืน ลัยลาตุล้ ก้อดริ์ นั้นคืนไหนกันแน่เมื่อเป็ นเช่นนั้น เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 18


นบีก็ได้กล่าวว่า นี่ คงเป็ นความดีงามที่ อัลเลาะห์ ได้ให้ฉันลืมว่าเป็ นวันไหนเพื่อที่จะให้สูเจ้าทั้งหลาย ปฏิ บ ตั ิ ความดี ตลอดทั้ง เดื อ นนัน่ เอง ท่ านพี่ น้อ งที่ เ คารพรัก ทั้ง หลาย เหลื อ เวลาอี ก ไม่กี่ ว นั อย่าปล่อ ย โอกาสทองผ่า นไป ๑ คื น มี ค่า เท่ ากับ ๘๓ ปี กับอี ก ๔ เดื อ น แต่ ซอฮาบะห์ บอกว่ าคํ่าที่ 27 เราต้อ ง เน้นหนักเข้าไปอีกตามฮะดิษของท่านร่ อซูลุลลอฮฺ(ซ.ล.) และเมื่อรอมาฏอนผ่านไปเราจะพบแต่ความดี งาม เราจะพบแต่ความสุ ขใจ ทุกวันนี้ เราพบความสุ ขใจในขณะละศีลอด และอีกครั้งหนึ่ งขณะเราพบผู้ เป็ นเจ้า ท่านร่ อซูลุลลอฮฺ(ซ.ล.) กล่าวว่า คนที่ถือศีลอดในเดือนรอมาฏอนนั้น เขาจะพบกับความดีอกดีใจ ๒ ครั้งด้วยกัน 19..................................................................................................................................................... ครั้ งที่ ๑ ในขณะเขาละศี ล อดดี ใ จเหลื อ เกิ น หิ ว โหยมาตลอดทั้ง วัน พออัล เลาะห์ อ นุ ญ าตให้ เ ขา รับประทานอาหารได้ เขาดีใจ และอีกครั้งหนึ่งเป็ นการดีใจครั้งยิ่งใหญ่ขณะที่เขาไปพบผูเ้ ป็ นเจ้า อัลลอฮฺ (ซ.บ.) ในวันกิ ยามะฮ์ ความดี ใจครั้ งหลัง นี้ เ ป็ นความดี ใจที่เ ขาจะได้เข้าสู่ ประตูสวรรค์ของ อัลลอฮฺ (ซ.บ.) ใน ๘ ประตู เขาจะได้เข้าประตูชื่อประตู อัรรอยยาน เป็ นประตูสวรรค์ สําหรับ V.I.P. พิเศษสุ ด เฉพาะผูท้ ี่ถือศีลอดเท่านั้น ท่านพี่นอ้ งที่เคารพ จงขวนขวายในเวลาที่เหลือ อีกประการ หนึ่ ง เรื่ องซากาต ฟิ ตเราะฮ์ ใครก็ตามที่ยงั มิได้จ่ายซากาตฟิ ตเราะฮ์ จงพิจารณาหลักเกณฑ์ของการจ่ายซากาตฟิ ตเราะฮ์น้ นั อนุญาตให้ทาํ การจ่ายได้ ตั้งแต่เริ่ มต้นเข้าเดือนรอมาฎอน จนถึงวันสุ ดท้าย สอง มีสุนตั ให้จ่ายซากาตฟิ ต เราะฮ์จนถึงเช้า วันอีดิ้ลฟิ ตริ สาม วายิบ หากมีชีวิตถึงวันสุดท้ายของเดือนรอมาฎอน และมีชีวิตคาบเกี่ ยว ส่วนหนึ่งของเดือนเซาวาล ถือว่าเป็ นวายิบ และเป็ นมักโระฮ์สาํ หรับผูท้ ี่จ่ายซากาตฟิ ตเราะฮ์หลังละหมาด วันอีดิ้ลฟิ ตริ หากละหมาดวันอีดิ้ลฟิ ตริ ไปแล้วถือว่า ฮารอม เพราะฉะนั้นเราต้องสํารวจ การถือศีลอด ด้วยความดีงาม ขอดุอาจากอัลลอฮฺ (ซ.บ.) ให้เราได้รับการตอบรับจากพระองค์ จ่ายซากาตฟิ ตเราะฮ์ให้ สมบูร ณ์ เพื่ อ ที่ พระองค์จ ะได้รับการถื อ ศี ล อดจากเรา ขอพระองค์รั บการถื อ ศี ล อดจากเรา และการ ละหมาดยามคํ่าคืนของทุกๆคน

เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 19


#41. คุตบะห์ว ันศุกร์ ณ ม ัสยิดท่าอิฐ 10 ก ันยายน 2553

‫الحمد هلل الذى جعل شهر رمضان لسائر الشهور سٌدا وكمل فٌه الفخر حٌث جعله للبركات‬ ‫والخٌرات موردا وأنزل فٌه القرآن موعظة وشفاء لما فى الصدور وهدى أحمده سبحانه وتعالى‬ ‫وأتوب إلٌه متوكال معتمدا وأشهد أن ال إله إال هللا وحده ال شرٌك له جل وعال ما اتخذ صاحبة‬ ‫وال ولدا وأشهد أن سٌدنا محمدا عبده ورسوله نبى جاءنا بالبٌنات والهدى صلى هللا علٌه وعلى‬ ‫آله وأصحابه صالة وسالما دائمٌن متالزمٌن سرمدا أبدا وسلم تسلٌما كثٌرا‬ ‫أما بعد فٌأٌها المؤمنون واتقوا ٌوما ترجعون فٌه إلى هللا ومن ٌعص هللا ورسوله وٌتعد‬ ‫حدوده ٌدخله نارا خالدا فٌها وله عذاب مهٌن‬

กระผมใคร่ ขอตักเตือนตัวเองและท่านทั้งหลายเป็ นอับดับแรก ให้ต้งั มัน่ อยูบ่ นการตักวา / ยาเกรง ต่ออัลลอฮฺ (ซ.บ) โดยการประพฤติปฏิบตั ิในสิ่ งที่พระองค์ทรงใช้ ละเว้นห่างไกลและไม่กระทาจากสิ่ งที่ เป็ นข้อบัญญัติห้ามของพระองค์ ขอชุโก๊ รต่ออัลลอฮฺ (ซ.บ)ที่พระองค์ทรงเมตตาให้เ ราและท่านทั้งหลายได้มีชีวิตอยู่จนกระทัง่ มาถึงวันนี้ วันนี้ เป็ นวันอีดิ้ลฟิ ตริ ที่นานทีปีหนจะตรงกับวันศุกร์ วันอีดิ้ลฟิ ตริ เป็ นเสมือนวันแห่ งการ ตอบแทนให้แก่ปวงบ่าวผูศ้ รัทธาหลังจากที่ได้บาํ เพ็ญตนเพื่อพระผูเ้ ป็ นเจ้าตลอดเดือนรอมดอนที่ผ่านมา วันนี้ เป็ นวันที่ มวลผูศ้ รัทธาได้รู้ ซ้ ึ ง ถึ ง ความเมตตาและความโปรดปรานที่ พระองค์ทรงมอบให้ เป็ น ความรู้สึกที่เปี่ ยมล้นไปด้วยความปิ ติยินดีในสิ่ งที่พระผูเ้ ป็ นเจ้าทรงมอบให้ หรื ออีกนัยหนึ่ ง วันอีดิ้ลฟิ ตริ เปรี ยบได้ดงั วันมอบเกี ยรติบตั รและเป็ นวันแห่ งการพระราชทานรางวัลแก่ผสู้ ําเร็ จที่ผ่านการถือศิลอด ประจําปี โดยมีมวล มลาอิกะห์ร่วมเป็ นสักขีพยาน ดังมีรายงานในหะดีษบทหนึ่งว่า ‫إذا كان ٌوم الفطر ٌبعث هللا المالئكة فٌهبطون إلى األرض فى كل البالد فٌقولون ٌا أمة‬ ‫ إشهدوا ٌامالئكتى أنى قد جعلت‬: ‫محمد أخرجوا إلى رب كرٌم فإذا برزوا إلى مصالهم ٌقول هللا‬ ‫ثوابهم على صٌامهم رضاى ومغفرتى‬

ความว่า เมื่อวันอีดิล้ ฟิ ตริ มาถึง อัลลอฮฺ (ซ.บ) จะทรงส่ งมวลมลาอิกะห์ ลงสู่ ภาคพืน้ ดินในทุกๆเมือง มวล มลาอิ กะห์ จะกล่ าวว่ า “โอ้ ประชาชาติของนบี มฮุ าหมัด พวกเจ้ าจงออกไปสู่ พระเจ้ าผู้ทรงเกี ยรติเถิด ” เมื่อพวกเขาปรากฎตัว ณ สถานที่ ละหมาด พระองค์ อัล ลอฮฺ (ซ.บ)ทรงกล่ าวว่ า “โอ้ มลาอิ ก ะห์ ของข้ า พวกเจ้ าจงเป็ นพยานเถิดว่ าข้ าได้ บันดาลให้ ผลบุญการถือศิลอดของพวกเขาเป็ นความพึ งพอพระทัยและ เป็ นการอภัยโทษของข้ าแล้ ว” เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 20


ศรัทธาชนที่รักและเคารพ วันอีดิ้ลฟิ ตริ น้ ีขอให้เรามีความรู้ สึกความดีใจ+เสี ยใจผสมผสานอยู่ใน จิตใจของเรา ดีใจที่เราได้ปฏิบตั ิอะมั้ลอิบาดะห์ตามพระบัญชาแห่ งพระผูเ้ ป็ นเจ้า และเสี ยใจที่รอมดอน เดือนอันประเสริ ฐได้จากเราไปแล้ว ขอให้การจากของเรากับเดือนรอมดอนเป็ นจากกันของคนที่รักกัน อย่าให้เป็ นการจากกันของคนที่เกลียดกัน...ไปเสี ยได้ก็ดี !!! หลังจากนี้ ประตูสวรรค์จะถูกปิ ด ประตู นรกจะถูกเปิ ด และชัยตอนจะถูกปล่อยให้เป็ นอิสระแล้ว ขอให้เรานําบทเรี ยนที่ได้รับจากรอมดอนเป็ น วิถีชีวิต อย่าให้ความดีงามต้องสิ้ นสุดลงเมื่อรอมดอนจากไป ศรัทธาชนที่รักและเคารพ ท่านทราบไหมว่า ขณะที่มุสลิมทัว่ โลกกําลังเฉลิมฉลองวันอีดิ้ลฟิ ตริ มีบาทหลวงชื่อ “เทอร์ รี่ โจนส์ ”ของโบส์ถแห่ งหนึ่ งในมลรัฐฟลอริ ดาออกมาประกาศจะเผาอัลกุรอ่าน เพื่อท้าทายต่อมุสลิมทัว่ โลก และเพื่อรําลึกเหตุการณ์ 9 / 11 ครบรอบ 9 ปี ที่ตึกเวิลด์เ ทรดเซ็นเตอร์ ถูก ถล่มเหตุการณ์ครั้งนั้นมุสลิมและศาสนาอิสลามถูกนําไปโยงใยว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อต้องการจุดกระแส การก่อการร้ายให้ชาวโลกมีความหวาดกลัว และเพื่อสร้ างกระแสเกลียดชังต่อมุสลิมและศาสนาอิสลาม โดยมีเป้ าหมายทําลายศาสนาอิสลาม พี่นอ้ งผูศ้ รัทธาทั้งหลาย มีอายะห์อลั กุรอ่านโองการที่ 110 ซูเราะห์อตั เตาบะห์ ซึ่ งอยูใ่ นยุซที่ 11 อัลเลาะห์(ซ.บ)ได้ทรงมีพระราชโองการว่า                 

ความว่า สิ่งปลูกสร้ างที่พวกเขาได้ ก่อสร้ างขึ้นมานั้นยังคงเป็ นที่เคลือบแคลงในหัวใจของพวกเขา หากแต่ ว่า หัวใจของพวกเขานั้นแหลกสลาย และอัลลอฮฺ(ซ.บ) เป็ นผู้ทรงรอบรู้ อีกทั้งทรงปรีชาญานยิ่ง ศรัทธาชนที่รักและเคารพ หากเราสังเกตจะพบว่าอายะห์ดงั กล่าวเป็ นอายะห์ที่ 110 ซึ่ งเท่ากับ จํานวนชั้นของตึ กเวิ ล ด์เ ทรด ซูเ ราะห์ อ ตั เตาบะห์ เป็ นซู เราะห์ล าํ ดับที่ 9 ซึ่ งตรงกับลําดับของเดื อ น กันยายน และยุซที่ 11 ซึ่ งตรงกับวันที่เกิดเหตุการณ์น้ นั ประหนึ่งว่าพระองค์อลั ลอฮฺ (ซ.บ) ได้มีพระราช โองการที่เกี่ยวเหตุการณ์ดงั กล่าว เพื่อให้มุสลิมได้รับรู้ถึงเล่ห์กลของพวกมัน ขอให้เราตั้งมัน่ ว่าศัตรู ของ อิสลามนั้นพยายามที่จะทําลายมุสลิมและศาสนาอิสลามตลอดเวลา แต่ถา้ เราเป็ นมุสลิมประเภทที่แอ่น อกให้เขาทําลายศาสนาของตัวเอง สมแล้วหรื อที่เราเกิดมาเป็ นมุสลิม...? อัลเลาะห์ (ซ.บ) ทรงประทาน สิ่ งดีงามให้เราปฏิบตั ิ แต่เรากลับฝ่ าฝื น ศัตรู ที่น่ากลัวไม่ใช่พวกมัน แต่ศตั รู ที่น่ากลัวที่สุดคือศัตรู ที่อยู่ ใกล้ตวั เรา ศรัทธาชนที่รั กและเคารพ หากเราจะวิเ คราะห์ จากเหตุการณ์ น้ ี ก็จะพบว่าประเทศมหาอานาจ พยายามที่จ ะโยงใยให้มุสลิมและศาสนาอิสลามเข้าไปเกี่ ย วข้อ ง และก่ อกระแสการก่ อการร้ ายขึ้ นมา เพื่อให้ชาวโลกอยูใ่ นความหวาดกลัว และชาวโลกก็ยอมให้ประเทศมหาอานาจจูงจมูกโดยง่าย แต่ละ เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 21


ประเทศต่างไปซบอกและยอมสยบให้แก่ประเทศมหาอานาจ เหตุการณ์น้ ี เสี ยเครื่ องบินเพียง 2 ลา เสี ย ตึกเก่าๆไป 2 ตึก แต่สิ่งที่ได้กลับมามหาศาล บ่อน้ ามันในประเทศอิรักมีแต่บริ ษทั น้ ามันของอเมริ กาที่ เข้ายึดครอง ท่านทราบไหมครั บว่าขณะนี้ พี่น้องมุสลิมในประเทศอิรักไม่มีโอกาสได้ออกอีดอย่างสุ ข สบายเหมื อ นอย่างเรา พวกเขาต้อ งคอยหลบลูก กระสุ น เมื่ อ สองวัน ที่ แ ล้ว มี ร ะเบิ ด ที่ ถู ก ยิง มาจาก เครื่ องบินที่ไร้นกั บินทาลายบ้านเรื อนของประชาชนที่ไม่มีโอกาสได้ต่อสู้หรื อป้ องกันตัวเอง พี่น้องของ เราในอิ รักต้องถูกสังหารอย่างป่ าเถื่อ น พี่น้อ งมุสลิมะห์ถูกรัง แก ถูก ข่มขื นจากทหารของพวกที่เ รี ย ก ตัวเองฝ่ ายพันธมิตร ศรัทธาชนที่รักครับ นี่คือโลกปัจจุบนั ขอให้เราชุโก๊รต่ออัลลอฮฺ กนั ให้มากๆ ที่พระองค์เมตตาให้ หมู่บา้ นของเรา ประเทศของเราได้ใช้ชีวิตกันอย่างสุขสบาย พวกมันพยายามจะบอกว่ามันคือเจ้าพ่อของ ประชาธิปไตย แต่เป็ นอย่างไรครับ มุสลิมะห์ในประเทศฝรั่งเศสไม่มีโอกาสได้คลุมฮิ ญาบได้อย่างเสรี แต่บรรดานางแบบที่นุ่งน้อยห่ มน้อยสามารถกระทาได้ !!! นี่ หรื อประชาธิ ปไตย ??? ขอให้พวกเรา ช่วยกันขอดุอาให้กบั พี่นอ้ งของเราเหล่านั้นที่พวกเขาไม่ได้มีชีวิตที่สุขสบายเหมือนอย่างพวกเรา แต่ถา้ วันนี้ยงั เป็ นผูท้ ี่เนรคุณต่ออัลลอฮฺ (ซ.บ) สมแล้วหรื อที่เราจะเป็ นผูศ้ รัทธา... ? ? ? ขออัลลอฮฺ (ซ.บ) ทรง โปรดฮิดายะห์ให้กบั เราและท่านทั้งหลาย

‫أعوذ باهلل من الشٌطان الرجٌم قد أفلح من تزكى وذكر اسم ربه فصلى‬ ‫بل تؤثرون الحٌاة الدنٌا واآلخرة خٌر وأبقى إن هذا لفى الصحف األولى‬ ‫صحف إبرهٌم وموسى أقول قولى هذا واستغفروا هللا العظٌم لى ولكم ولسائر‬ ‫المسلمٌن والمسلمات والمؤمنٌن والمؤمنات فاستغفروه إنه هو الغفور الرحٌم‬

เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 22


#42. คุตบะห์ วนั ศุกร์ ณ มัสยิดท่ าอิฐ 17 กันยายน 2553 ตรงกับวันที่ 8 เซาวาล ฮ.ศ.1431 โดย อาจารย์ อิบรอเฮม และซัน

‫ الحمدهلل الذي أرسل محمدا صلى هللا‬.‫الحمدهلل‬ ‫ وجعل االسالم دٌنه‬.‫علٌه وسلم بشٌرا ونذٌرا‬ ‫ وأشهد أن ال إله إال هللا وحده ال شرٌك له‬, ‫الذي ارتضاه‬ ‫ وصلى هللا على سٌدنا‬, ‫ وأشهد أن محمدا عبده ورسوله‬, .‫محمد النبً االمً وعلى اله وصحبه ومن تبعهم بإحسان إلى ٌوم الدٌن‬ ‫ فٌاأٌهاالمسلمون رحمكم هللا أوصٌكم وإٌاى بتقوى هللا فقد‬: ‫أمابعد‬ ‫ إتقواهللا حق تقاته والتموتن إال وأنتم مسلمون‬.‫فازالمتقون‬ ท่านพี่นอ้ งที่เคารพรักทั้งหลาย ก่อนอื่นกระผมใคร่ ขอตักเตือนตัวของกระผมเอง และท่าน ทั้งหลาย จงพยายามตั้งมัน่ เกรงกลัวต่อ อัลเลาะห์(ซ.บ.)ให้มากยิ่งขึ้นเถิดโดยการพยายามปฎิบตั ิในสิ่ งที่ พระองค์ทรงใช้และ ห่างไกลในสิ่ งที่พระองค์ทรงห้าม ท่านพี่นอ้ งที่เคารพ ถึงแม้ว่ารอมาดอนจะผ่านพ้น ไปแล้ว ๑ สัปดาห์ สุ นตั ของการถือศีลอด ๖ วันในเดือนเซาวาล ของผูท้ ี่ยงั มิได้กระทํา ก็ยงั มีสุนตั ให้ กระทําได้ ตราบเท่าที่ยงั อยูใ่ นเดือนเซาวาล แต่การถือศีลอด บวช ๖ หลังจากวันอีดิลฟิ ตริ ที่ ประติดประต่อกันทั้ง ๖ วัน ย่อมประเสริ ฐกว่า เพราะฉะนั้นผูท้ ี่ยงั มิได้ถือศีลทั้ง ๖ วันของเซาวาล ก็ยงั ถือ ว่ามีโอกาสอยู่ เพื่อที่เราจะได้รับบุญกุศลเหมือนกับถือศีลอด ๑ ปี ตามที่ท่านนบีซ.ล ได้บอกไว้

‫من صام رمضان ثم أتبعه ستا من شوال كان كصوم الدهر‬ ใครที่เขาถือศีลอดในเดือนรอมาดอน และเขาได้ติดตามอีก ๖ วัน จากเดือนเซาวาล เขาจะได้รับกุศล เปรี ยบเสมือนถือศีลอดทั้งปี ท่านพี่นอ้ งที่รักทั้งหลาย เวลานี้เราได้มาใช้ชีวิตอยูใ่ นเดือน เซาวาล ที่มีมงคล เดือนนี้เป็ นเดือนที่ พระองค์อลั เลาะห์ (ซ.บ.) ทรงประทานความปลอดภัยให้แก่บรรดาอุมมะห์ประชากรของท่านนบีมูฮมั มัด(ซ.ล.) ในสมัยต่างๆ มากมาย เป็ นเดือนที่คนทําดีมีศรัทธา รอดพ้นจากคนชัว่ คนเลว เดือนเซาวาลเป็ น เดือนที่พวกเราทั้งหลายเพิ่งจะผ่านเดือนรอมาดอนมาใหม่ๆจิตใจของเรายังสดชื่น ศรัธาอีหม่านของเรายัง สดใส ใจคอของเรายังมัน่ คงอยูด่ ว้ ยการทําความดีสนองบัญชาองค์พระผูอ้ ภิบาล จึงขอให้เราช่วยกัน รักษาความดี ที่ต่อติดยืดเยื้อมาจากเดือนรอมาดอน ให้คงอยูก่ บั เรา ให้นานแสนนาน จนกว่าเดือนรอมา ดอนปี หน้า จะมาหาเราใหม่ อินชาอัลลอฮ์ เรื่ องพระเมตตาที่ทรงประทานมาให้แก่มวลบ่าวของพระองค์ ในเดือนเซาวาล ปรากฎเป็ นหลักฐานให้เราทราบจาก อัลกุรอาน ซูเราะห์ ฮู๊ด อายะห์ที่ ๕๘ ว่า เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 23


        .................               

ซึ่ งมีใจความว่า ท่านนบี ฮู๊ด ได้กล่าวแก่บรรดาประชากรของท่าน ที่ไม่ยอมศรัทธาต่อคําสอนของ ท่านว่า แท้จริ งองค์พระอภิบาลของฉัน ทรงเป็ นองค์คมุ้ ครองรักษาซึ่ งทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งบรรดากิจกรรม ของพวกท่านจะซ่อนให้รอดพ้นจากพระองค์ก็หาได้ไม่ และพระองค์น้ นั เล่า ก็หาได้ละเลยในการ ตอบสนองผลกรรมแก่พวกท่านที่ไม่ยอมศรัทธา อัลเลาะห์ได้ทรงแจ้งโองการให้เราทราบต่อไปอีกว่า เมื่อมีบญั ชาการลงโทษจากเราที่จะลงโทษพวกนั้นในโลกนี้มา จึงให้มีลมพายุมาพัดทําลายพวกเหล่านั้น ในตอนเช้าของวันพุธที่ ๘ ของเดือนเซาวาล เป็ นเวลาถึงเจ็ดวันเจ็ดคืน กระแสลมพายุเอาพวกเขาเหล่านั้น ลอยขึ้นไปเบื้องสูง แล้วตกลงมากระทบพื้นร่ างแหลกเหลว แล้วเราได้ให้บรรดาผูท้ ี่ที่มีศรัทธาร่ วมกับ นบีฯ ฮู๊ดจํานวนสี่ พนั คนได้พน้ ภัยจากลมพายุน้ ี ไม่โดนลงโทษไปด้วย นับเป็ นความปรานีจากเราและเรา ยังให้พวกเขาที่ศรัทธาเหล่านั้นปลอดพ้นจากโทษทัณฑ์ร้ายกาจในภาคภพนี้อีกด้วย นี่คือเหตุการณ์ที่ให้คนดีมีศรัทธาปลอดภัยในโลกนี้สมัยท่านนบี ฮู๊ด ส่วนเหตุการณ์ในสมัยของ ท่านนบีมุฮาํ มัด ก็มีมากมายหลายเรื่ องดังปรากฎในโองการจากคัมภัร์อลั กุรอาน ซูเราะห์อลั อะห์ซาบ อา ยะห์ที่ ๙ ที่องค์พระผูอ้ ภิบาลทรงยํ้าเตือนให้เรารําลึกถึงความโปรดปรานแห่งพระองค์ที่ทรงประทานมา ให้ในเดือนเซาวาลนี้ ดังที่มีโองการว่า                       

ซึ่ งมีใจความว่า โอ้บรรดาผูท้ ี่มีศรัทธาทั้งหลาย พวกเจ้าจงรําลึกถึงความโปรดปรานแห่งอัลเลาะห์ ที่ประทานแก่พวกเจ้าเถิด เมื่อครั้งที่บรรดากองทัพของเหล่าผูเ้ นรคุณจากนครมักกะห์ได้ยกมาประชิ ด พวกเจ้าในสงครามคอนดัก๊ ในเดือนเซาวาลปี ที่ ๕ ซึ่ งกองทัพข้าศึกมีจาํ นวนถึง ๑๒๐,๐๐๐ คน การทํา สงครามครั้งนี้ ท่านนบีมูฮาํ มัด และมวลมุสลิมในนครมะดีนะห์ได้ร่วมมือกันขุดคูลอ้ มรอบนครมะดีนะห์ โดยคําแนะนําของท่านซัลมาน อัลฟารี ซี แล้วเราก็ได้ส่งลมพายุใหญ่ให้พดั กระหนํ่าอย่างรุ นแรงเหนื อ กองทัพพวกเขา จนกระโจมที่พกั ของพวกเหล่าข้าศึกพังทลาย และเราได้ส่งกองทัพมะลาอีกะห์ ซึ่ งพวก เจ้ามองพวกเขาไม่เห็น ให้มาช่วยเหลือพวกเจ้าในการทําศึกครั้งนี้ จนเหล่าข้าศึกต้องเผ่นหนี ไปโดยที่ยงั ไม่มีการรบ หลังจากที่ได้ต้งั มัน่ ล้อมนครมะดีนะห์ไว้ถึง ๑๕ วัน และอัลเลาะห์ทรงเล็งเห็น สิ่ งที่พวกเจ้า ปฎิบตั ิในการช่วยกันขุดคูลอ้ มเมืองในครั้งนั้นโดยแต่ละคนได้แบ่งงานกันทําโดยแบ่งพี้นที่กนั ขุดคนละ เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 24


๔ ศอก ใช้เวลา ๖ วัน จึงแล้วเสร็ จ โดยความพร้อมใจกันของผูศ้ รัทธาชาวนครมะดีนะห์ แม้กระทัง่ ท่านน บีเองก็ร่วมในการลงแรงลงมือขุดด้วย นี่ คือเนี๊ ยะอฺ มตั ความโปรดปรานเพีย งเรื่ อ งหนึ่ งที่ เ ราควรคํานึ ง รําลึ กถึ ง หากไม่มีล มพายุ ไม่มี กองทัพมะลาอีกะห์จากพระเมตตาแห่งองค์พระผูอ้ ภิบาลมาช่วย กองทัพข้าศึกที่ยกมาถึง ๑๒๐,๐๐๐ คน ที่หมายบดขยี้มวลมุสลิมในครั้งนั้น คงจะได้รับความสําเร็ จไปแล้ว ศาสนาที่เที่ยงแท้คือศาสนาอิสลาม อาจมีมาไม่ถึงพวกเราในสมัยนี้ก็เป็ นได้ พระเมตตาอันยิ่งใหญ่น้ ี ก็ประทานมาในเดือนเซาวาลอีกเช่นกัน และในซูเราะห์น้ ีอายะห์ ที่ ๖ พระองค์ทรงตรัสว่า  …………..          ซึ่ งมีใจความว่า ผูเ้ ป็ น นบีฯ นั้น ย่อมบังควรสําหรับศรัทธาชนทั้งหลายที่จะพึงภัคดี ยิง่ กว่าตัวของ พวกเขาเองเสี ยอีก ต้องเชื่อฟังมากว่าที่จะคล้อยตามความต้องการหรื อตามอารมณ์ของตนเอง และภรรยา ของท่านนบี หรื อบรรดาภรรยาของผูท้ ี่เป็ นนบี ก็คือ มารดาของพวกเขาผูท้ ี่มีศรัทธานัน่ เอง ซึ่ งภรรยาของท่านนบีฯ คือ ท่านหญิง อาอิซะห์ รฎิฯ ได้สมรสกับท่านนบีฯ ก็ในเดือนเซาวาล ภรรยาของท่านก็เสมือนเป็ นมารดาของเรานัน่ เอง ดังนั้นเดือนเซาวาลจึงเป็ นเดือนที่มีสิริมงคล มีความดีไม่แพ้เดือนอื่นใด จงหาทางขวนขวายสร้ าง ทําความดีเอาไว้ให้มากๆเถิด ให้การทําความดีของเราเป็ นแบบอย่างแก่ทุกคนในครอบครัวของเรา เรารักดุนยา เราชอบชีวิตในโลกนี้ เราอยากมีความสุข เรารักความสบาย เรื่ องนี้ไม่ใช่เรื่ องเสี ยหาย แต่เ ราต้อ งรั ก ต้อ งเป็ นห่ ว งชี วิ ตอนาคตของเราในโลกหน้าให้ มากกว่า โลกนี้ อยากสบายต้อ งหมั่น ขวนขวายหาทรัพย์สิ นเงิ นทอง โลกหน้าอาคีเราะห์ หากเราปรารถนาความร่ มเย็น อยากไปอยู่กบั องค์ ศาสดา อยากไปอยูร่ ่ วมกับคนดี อยากไปใช้ชีวิตร่ วมกับพ่อแม่ ปู่ ย่า ตา ยาย บรรพบุรุษของเราที่ซอและห์ เราก็ตอ้ งขวนขวายสร้างทําความดี ขวนขวายศึกษาหาความรู้ดา้ นศาสนาให้มากขึ้น ดูแลคนในครอบครัว ของเราให้ดีข้ ึน ความหวังของเราจะได้มีผล

‫أعوذ باهلل من الشٌطان الرجٌم من عمل صالحا فلنفسه ومن اساء‬ ‫فعلٌها وماربك بظالم للعبٌد بارك هللا لى ولكم ولسائرالمسلمٌن‬ ‫فاستغفروه إنه هو الغفور الرحٌم‬

เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 25


#43. คุตบะห์ วนั ศุกร์ ณ มัสยิดท่ าอิฐ

24 กันยายน 2553 ตรงกับ วันที่ 15 เซาวาล ฮ.ศ. 1431 อาจารย์ สมาน (มูฮัมมัด) แสงเราะหมัด

ศรัทธาชนที่เคารพรักทุกท่าน ขอเราท่านทั้งหลาย ได้โปรดตั้งมัน่ ยืนหยัดอยู่บนอุดมการณ์ที่สําคัญของ อัล - อิสลาม นัน่ คือ ยืนหยัดอยู่ บนพื้นฐานแห่ งความยําเกรงต่อ พระองค์อลั เลาะห์ (ซ.บ.) อย่างแท้จริ ง ความยําเกรงที่มีต่อ พระองค์อลั เลาะห์ (ซ.บ.) จะเป็ นสิ่ งที่ ทําให้ชีวิตของเรา ครอบครัวของเรา สังคมของ เรา สามารถที่จะประสบกับความสําเร็ จได้ ทั้งโลกนี้และโลกหน้า ท่ านพี่น้องผู้ศรั ทธาที่เคารพรั กทุกท่ าน ด้ว ยกับ การยํ้าเตื อ นให้พวกเรามี ความยําเกรงกันอยู่ตลอดเวลานั้น หมายถึ ง เราจําเป็ นจะต้อ ง นําเอา บทบัญญัติของศาสนาที่ พระองค์อ ลั เลาะห์ (ซ.บ.) และที่ ท่านพระศาสดานบี มูฮาํ มัด (ซ.ล.) ได้ทรง บัญญัติ ให้นาํ มาปฎิบตั ิ และอันใดที่ พระองค์อลั เลาะห์ (ซ.บ.) และที่ท่านพระศาสดานบีมูฮาํ มัด (ซ.ล.) ได้ทรงห้าม เราจําเป็ นต้องหลีกเลี่ยง ออกห่ างไกลที่สุด จึ งรวมความได้ว่า เรื่ อง ของการ ตักวา นั้น เป็ น การที่เราต้องสํารวมตน รักษาตนอยู่ในกฎ อยู่ในกติกา แห่ งบทบัญญัติพระศาสนา การที่เรายืนหยัดอยู่ บนหลักการและบทบัญญัติของพระศาสนานั้น มันจะทําให้สัง คมของเรา ซึ่ งเป็ นสังคมมนุษย์โลก มี ความเรี ยบร้อย มีความสะอาด มีความเจริ ญรุ ดหน้า ในทุกๆด้าน ท่ านพี่ น้องผู้ศรั ทธาที่ เคารพรั กทุกท่ าน นับ วันที่ โ ลกเราแก่ ตวั ลง ความไม่ดีไม่ง ามทั้ง หลายในแง่ ของศี ล ธรรม มันได้เ พิ่ มจํานวนมากยิ่ง ขึ้ น ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมและท่านพี่ น้องมุสลิม ผูท้ ี่มีความศรัทธา คงจะมีความรู้ สึกเหมือนๆกัน กับ ข่าวในประเทศไทย ที่ไม่ค่อ ยจะมีค่ามากเท่าใดนักในสังคม แต่เ ป็ นข่าวที่ ได้รับความสนใจ และมีการ ติดตามกัน นั่นคื อ ข่าวที่ มีก ารปฎิ บตั ิผิดประเวณี ซึ่ ง ความจริ ง แล้ว สังคมไม่ควรที่ จ ะให้ความสําคัญ มากมาย ถึงกับขนาดที่มีการออกสื่ อต่างๆ อย่างล้นหลาม ความจริ งคนๆหนึ่ ง ทําผิดประเวณี ไปลักลอบ กระทําในสิ่ งที่ไม่ดี ในสิ่ งที่เป็ นข้อห้าม ไม่ว่าจะเป็ นศาสนาใดก็ตาม เราจะต้องประนามกัน แต่ดูว่า ข่าวที่ ออกมานั้น ไม่มีใครประนาม ไม่มีใครประนามในแง่ของการปฎิบตั ิ ว่าเป็ นการผิดศีลธรรมอย่างร้ ายแรง จะมองกันแต่ในแง่ไม่มีความรับผิดชอบเท่านั้นเอง แต่ตน้ ตอของปั ญหา ในการที่ เขาไป

สําส่ อนทาง

เพศกัน ไม่มีใครพูดถึง ว่ามันผิดหลัก มันผิดกฏมาตั้งแต่ตน้ เพราะฉะนั้นแล้วในความยําเกรงของพวกเรา เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 26


ที่มีต่อพระองค์ อัลเลาะห์ (ซ.บ.) เรารู้สึกรับไม่ได้ กับความโสมม ความระยํา ของสิ่ งที่มนั เกิ ดขึ้นตรงนั้น ความจริ งสังคมจะต้องให้บทเรี ยน จะต้องสอน จะต้องบอกให้กบั ประชาชน ให้คนได้รับรู้ถึงสิ่ งเลวร้ายที่ มันเกิดขึ้น ที่ได้กระทํากัน ในอิสลามถือว่า การกระทําผิดประเวณี น้ นั เป็ นหนึ่งจาก กะบาเอ็ร ถือเป็ นบาป ใหญ่เป็ นบาปหนึ่ง ที่จะนํามาซึ่ งการลงโทษอย่างรุ นแรง เนื่องจากเป็ นบาปที่ผกู้ ระทําแล้วก่อให้เกิ ดความ เสี ยหายบนหน้าพื้นภิภพนี้ อย่างใหญ่หลวง การผิดประเวณี หรื อการทํา ซีนา ในภาษาอาหรับ มันทําให้ ระเบียบของโลกที่ อัลเลาะห์ตา้ อาลา ต้องการจะให้เป็ นไปด้วยความสะอาดบริ สุทธ์ เกิ ดความมัวหมอง อัลเลาะห์ฯ ต้องการรักษาเผ่าพันธ์มนุษย์โลกทั้งหลายให้คงอยูด่ ว้ ยความใสสะอาด ให้รู้ว่าใครเป็ นลูกใคร ใครเป็ นตระกูลของใคร ให้สืบเผ่าพันธ์ ให้มีการ นิกะห์ ทําให้มีการสื บเชื้อสายเผ่าพันธ์ต่อไป จนกระทัง่ วัน กีย ามะห์ แต่ ด้ว ยการผิ ดประเวณี ตรงนี้ มัน ทําให้ ระบบการสื บ ทอดเผ่าพันธ์ ของมนุ ษย์ ความ กระทบกระเทือนอย่างรุ นแรงจนกระทัง่ ไม่สามารถที่จะนับได้ว่า ใครอยูใ่ นตระกูลของใคร และใครเป็ น ลูก ของใคร ท่ า นพี่ น้อ งที่ เ คารพรั กครั บ อิ สลามได้ว างบทลงโทษอย่างรุ น แรง ที่ เ กี่ ย วกับการทําผิ ด ประเวณี หรื อ การทํา ซี น า นี้ ไว้ การมี เ พศสัมพันธ์ก ับคนที่ ไม่ ได้ผ่านการ นิ กะห์ อย่างถูก ต้อ ง ตาม หลัก การ ชารี อ ะฮ์ ของพระองค์ อัล เลาะห์ ต้า อาลา เป็ นการกระทํา ด้ว ยความพละการหรื อการ รู้ เท่าไม่ถึ งการณ์หรื อจากอะไรก็ตาม ที่ ไม่ได้ผ่านการ นิกะห์ แล้ว ถือ ว่า เป็ นบาปใหญ่อ ย่างมหันต์ มี รายงานจากท่าน ร่ อซู้ลลุ้นเลาะห์ ฯ ที่ท่านได้ให้โอวาทครั้งหนึ่ง บอกว่า ِّ ‫ب َب ْعدَ ال‬ ُ }‫ج الَ ٌَ ِحلًّ​ّ لَه‬ ٍ ‫{ َمامِن َذن‬ َ ‫ض َع َه‬ َ ‫شركِ ِباهللِ أَ ْع َظ ُم عِ ندَ هللا مِن ُن ْط َف ٍة َو‬ ٍ ‫ار ُجل ٌ فِى َف ْر‬

ไม่มีบาปใดหลังที่จากการตั้งภาคีกบั องค์ อัลเลาะห์ฯ ที่มนั จะใหญ่ที่มนั จะหนัก ในทัศนะขององค์ อัลเลาะห์ฯ ที่ยิ่งไปกว่านํ้าอสุจิหนึ่งหยด ที่ชายคนหนึ่งได้หยิบยื่นวางเอาไว้ในอวัยวะเพศหญิง ที่ไม่เป็ นที่ ฮาลาล สําหรับเขา เป็ นบาปใหญ่ ที่เป็ นบาปรองจาก ซีริก รองจากการตั้งภาคีเ ลยทีเดียว ท่ านพี่ น้องที่ เคารพรั กทั้ง หลาย เมื่อ มันเป็ นบาปใหญ่ มันจะต้อ งมีบทลงโทษนะครับ มีบทลงโทษทางอาญา นัน่ ก็ หมายความว่าผูท้ ี่ไปปฎิบตั ิน้ นั ถ้าหากว่ายังไม่ได้เคยผ่านการ นิกะห์ มาก่อน จะต้องถูกการเฆี่ยนตีหนึ่ ง ร้อยที ถ้าหากผ่านการ นิกะห์ ที่เรี ยบร้อยแล้ว จําเป็ นที่ตอ้ งจะถูกขว้างด้วยหิ นจนกระทัง่ ตาย ไม่ว่าผูช้ าย หรื อว่ า ผูห้ ญิ ง ต้อ งถู ก ขว้า งจนกระทัง่ ตาย นี่ คื อ บทลงโทษในโลก ดุน ยา ถ้า หากว่า ใครไม่ ไ ด้รั บ บทลงโทษบนโลก ใน ดุนยา ไม่ได้มีการ เตาบะห์ ไม่ได้มีการกลับเนื้ อกลับตัว แน่นอน โทษดังกล่าว ก็ จะได้รับการลงโทษในโลก อาคีเราะห์ อย่างแน่นอน พ่ อแม่พี่น้องที่เคารพรั กทั้งหลาย คุณลักษณะของผู้ เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 27


ที่ มีจ ริ ย ะธรรมที่ ง ดงาม ของผูท้ ี่ มีความสํารวมตน มัน จะต้อ งมี หลายอย่างที่ เ ป็ นองค์ประกอบ มี โองการหนึ่ งใน

ซูเราะห์ อั้ลฟุรกอน ได้พูดถึงลักษณะของ อิบาดุ้รเราะฮ์ มาน พูดถึงลักษณะของผูท้ ี่

เป็ นบ่าวที่แท้จริ งของ อัลเลาะห์ฯ ว่าควรมีคุณลักษณะประการใดบ้าง หนึ่ งในคุณลักษณะต่างๆนั้น อัล เลาะห์ฯ บอกว่า                  

‫ان‬ ‫ق‬ ‫ر‬ ‫ف‬ ‫ل‬ ‫]ا‬69-68[

              

และพวกเขาเป็ นผู้ซ่ ึ งไม่ ได้วิ ง วอนร้ อ งขอต่ อ พระเจ้า อื่ น ใด พร้ อ มกับ อัล เลาะห์ ฯ และพวกเขา มี คุณลักษณะ ที่จะไม่ฆ่าชีวิตอื่นใดที่ อัลเลาะห์ฯ ทรงห้ามไว้ เว้นแต่เป็ นความถูกต้อง ที่ถูกทํานองคลอง ธรรมและคนที่เป็ น อิบาดุ้รเราะฮ์ มาน เป็ นบ่าวที่สมบูรณ์แบบของพระผูเ้ ป็ นเจ้า ต้องไม่กระทําการผิด ประเวณี ในโองการนี้ ได้บอกถึง ๓ คุณลักษณะของผูท้ ี่เป็ นลักษณะบ่าวที่ ดีของ อัลเลาะห์ฯ จะต้องไม่ สร้างภาคีต่อพระองค์ จะต้องไม่เข่นฆ่าชีวิตของผูใ้ ด แล้วจะต้องไม่กระทําการผิดประเวณี ใครไปปฎิบตั ิ สิ่ ง ดัง กล่าวเขาจะพบกับ บทลงโทษ การลงโทษจะถูก ทบทวี คูณสําหรับเขาในวัน กียามะห์ และเขา จะต้อ งคงอยู่ในการลงโทษนั้น อย่างอัป ยศยิ่ ง นี่ คือ สิ่ ง ที่ อัล เลาะห์ ฯ ได้บ อกไว้ ผู้ที่ก ระทําการผิ ด คุณลักษณะของการเป็ นมนุษย์ที่ดี การเป็ นคนดี เป็ นคนประเสริ ฐ จะต้องได้รับการชดใช้ในผลกรรมของ ตัวเอง ฮาดีซ ของท่าน นบีมูฮาํ หมัดซอลลั้ลลอฮู่วา้ อาลัยฮิ วา้ ซั้ลลัม ได้มาขยาย ได้มาอธิ บายว่า การลง ทัณฑ์ของผูท้ ี่ได้กระทําการผิดประเวณี น้ นั เป็ นอย่างไรซึ่ งปรากฎอยู่ใน ซอเฮี้ยฮ์ อั้ลบูคอรี รายงานโดย ท่าน ซ่ ามูเราะห์ อิบนี่ ญุนดุบ ซึ่ งเป็ น ฮาดีซ ที่ยาวที่เป็ นการเล่าถึงฝันของท่าน นบีฯ หลายต่อหลายครั้ง ซึ่ งท่าน นบีฯ ในครั้งหนึ่งนั้นท่านศาสดาของเรา หรื อท่านนบีฯ ของเรา ได้ฝัน ซึ่ งการฝันของท่าน นบีฯ ถือเป็ น ว้ าฮี นะครับ ถือเป็ นบทบัญญัติอย่างหนึ่ งของท่านได้ ในความฝันของท่าน นบีฯ ท่าน นบีฯ ได้ เล่าว่า ...... ‫ض ٌِّ ٌق َوأَ ْس َفلَ ُه‬ َ ‫ور أَ ْعالَ ُه‬ َ ‫{ َجا َء ُه ِج ْب َرئٌِل ُ َومٌِ َكائٌِل ُ َقال َ َفان َطلَ ْق َنا َفا َ َتٌ َنا َع‬ ِ ‫لى ِم ْث ِل ال َّت ُّن‬ ٌ ‫ص َو‬ }‫ات‬ ْ َ‫َواسِ ٌع فٌِ ِه لَ ْغ ٌط َوأ‬

เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 28


ได้มีท่าน ยิบรีล กับท่าน มีกาอีล ทั้งสองได้มาหาท่าน ท่าน นบีฯ ได้เล่าว่าพวกเราได้เดินไปร่ วมกันไปที่ หนึ่ง เหมือนกับเป็ นลักษณะเตาไฟ ซึ่ งลักษณะของเตาไฟอันนี้ ที่ดา้ นบนของมันจะแคบ ด้านล่างของมัน จะกว้าง ในเตาไฟนั้นจะมีเสี ยงอึกทึกอย่างรุ นแรงเลยทีเดียว ท่าน นบีฯ ก็ได้เล่าต่อไปว่า َّ ‫ َف‬:َ‫{ َقال‬ ‫ب مِ ن َأ ْس َفل َ مِ ْن ُه ْم َفإِ َذا‬ ٌ ‫اطلَ ْعناَفٌِ ِه َفإِ َذ افٌِ ِه ِر َجال ٌ َونِسا َ ٌء ُعر َا ٌة َفإِ َذا ُه ْم ٌَأْتٌِ ِه ْم َل ْه‬ َّ ‫لز َنا ُة‬ ُّ ‫ت َمنْ هؤُ َال ِء ٌَا ِج ْب ِر ٌل ُ ؟ َقا َل هَ ؤُ َال ِء ا‬ ُ ‫ضوا} َفقُ ْل‬ }‫الز وا نِى‬ َ ‫ضو‬ َ ‫ب‬ ُ ‫َأ َتاهُ ْم َذ ِل َك اللَ َه‬ พวกเราก็เลยชะโงกเข้าไปดูในเตาไฟนั้น ชะโงกเข้าไปก็ได้ไปพบไปเห็นในเตาไฟนั้น มีผชู้ าย มีผหู้ ญิง ที่เปลือยกายเต็มไปหมด ระหว่างที่พวกเขาอยูใ่ นเตาไฟนั้น ก็ได้มีเปลวไฟจากด้านล่างของพวกเขา ได้ลุก ขึ้นมา และเมื่อเปลวไฟเหล่านั้นได้มาถึงพวกเขา พวกเขาได้ร้องอย่างโหยหวลด้วยความทุกข์ทรมาน ฉัน ก็เลยถามท่าน ยิบรีล ว่า ผูใ้ ดมันอยูใ่ นเตาไฟ และถูกทรมานกับเพลิงเปลวไฟอันนั้น ท่าน ยีบรี บ ตอบว่า พวกเหล่านี้ก็คือพวกทํา ซีนา ผูช้ ายที่ทาํ ซีนา และผูห้ ญิงที่ทาํ ซีนา นี่คือการกล่าวถึงบทลงโทษของ อัล เลาะห์ฯ และยังมี ฮาดีซ อื่นๆอีก รายงานถึงความน่าเกลียด ถึงความขยะขแยง ถึงการทํา ซีนา เป็ นการ กระทําถึงสิ่ งสกปรก มันน่าเกลียด มันลามกสกปรก เป็ นแนวทางที่เลวทรามอย่างยิ่ง ท่ านพี่ น้องที่ เคารพ รั กทั้งหลายครั บ เพราะฉะนั้นแล้ว หน้าที่ของเรา ที่เราจะเป็ นผูท้ ี่ยาํ เกรงต่อ อัลเลาะห์ฯ เพื่อเป็ นบ่าวของ พระองค์ อัลเลาะห์ฯ อย่างสมบูรณ์แบบนั้น จําเป็ นจะต้องตั้งอยู่บนคุณลักษณะนั้น คุณลักษณะต่างๆ ที่ พระองค์ได้ทรงบทบัญญัติน้ นั ไว้ ขอให้พวกเราทั้งหลายได้มีใจที่ รังเกียจของการทํา ซีนา ซึ่ งดูเหมือนว่า ในยุคปัจจุบนั นี้ เป็ นเรื่ องที่ค่อนข้างจะไม่มีใคร ที่จะกล่าวในทางที่ไม่ดีแล้ว สังคมโดยทัว่ ไป โดยเฉพาะ สังคมตะวันตก ถือว่ามันเป็ นเรื่ องปรกติ ไม่ได้สร้ างความเดือดร้ อนให้ใคร แต่จริ งๆแล้วมันสร้ างความ เดือดร้อน มันกระทบกับต่อเสถียรถาพอย่างใหญ่หลวง ทําให้เกิ ดปั ญหาสังคมตามมา ทําให้เกิ ดปั ญหา เด็ก ไม่ มี พ่อ ทํา ให้เ กิ ดปั ญ หาอาญชากรรม ล้ว นแล้ว แต่มี ต้นตอมาจากเรื่ องของผิ ดประเวณี ท้ งั สิ้ น เพราะฉะนั้นขอให้พวกเรามีใจที่รังเกียจ อย่าได้มีการ เห็นดีเห็นงาม และก็มีความชิงชัง นะครับ กับพวก เขา ที่ได้กระทําผิดประเวณี บนหน้าพื้นภิภพ ขอ ดุอา ให้พวกเขาได้รับ ฮิดายะห์ จาก อัลเลาะห์ฯ ให้ ได้รับการ เตาบะห์ ตัวว่าก่อนที่พวกเขาจะอําลาจากโลกนี้ไป ว่าการลงทัณฑ์ของ อัลเลาะห์ฯ จะเกิ ดขึ้น ในวัน กียามะห์ นั้น มีอ ย่างแน่นอน อัล เลาะห์ฯ ได้กล่าวไว้ว่า สิ่ ง ที่พวกเขาจะได้รับการลงโทษอย่าง รุ นแรงอย่างครบทวีคูณแล้ว พระองค์ ยังได้ทรงยกเว้นกับคนที่ได้ปฎิบตั ิดงั กล่าว พระองค์บอกว่า

เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 29


               

]‫الفرقان‬/00[

 

พระองค์ยกเว้นจะไม่ลงโทษคนที่มีการ เตาบะห์ ตัว ต่ออัลเลาะห์ฯ หรื อมีการสารภาพผิด หรื อมีใจแน่ว แน่ ที่จ ะไม่กลับไปทําอี ก มี การขอ อิ๊กติฆฟ้ าร มีความจริ งจัง จริ งใจ มี การ เตาบะห์ ที่ น่ าซู้ ฮา ชนิ ดที่ เหมือนกับนํ้านมที่ออกมาจากรังนมแล้ว ไม่สามารถที่จะไหลย้อนกลับเข้าไปสู่รังนมได้อีก คนเหล่านี้ อัล เลาะห์ฯ จะเปลี่ยนความผิด ความไม่ดีต่างๆของเขา ให้กลายเป็ นคุณงามความดี แน่แท้ อัลเลาะห์ฯ ทรง เป็ นผูท้ ี่อภัยอีกครั้งและเมตตายิ่ง ท่ านพี่ น้องที่ เคารพรั กครั บ เราจงปกป้ องตัวของเรา คนในครอบครัว ของเรา ให้พน้ จากบาปของการทํา ซีนา ระมัดระวัง ให้คาํ สอน บอกกับคนที่รอบข้างของเราว่า มันเป็ น บาปที่ อัลเลาะห์ฯ ทรงโกรธกริ้ วอย่างรุ นแรง ใครที่ได้ปฎิบตั ิเรื่ องของการ ซีนา อาจจะพลั้งพลาดไปแล้ว เวลายังมีอยู่ ที่จะกลับเนื้อกลับตัว เตาบั๊ต ตัวต่อ อัลเลาะห์ฯ ท่าน นบีฯ บอกให้จงระวังเรื่ องของ ซีนา ให้ ดี เพราะมันมีสิ่ง ๖ ประการ ที่ อัลเลาะห์ฯ ทรงลงโทษ ๓ ประการที่จะลงทรงลงโทษในโลก ดุนยา อีก ๓ ประการ จะลงโทษในโลก อาคีเราะห์ ๓ ประการที่ อัลเลาะห์ฯ จะลงโทษกับบุคคลที่ประพฤติผิด ประเวณี หรื อการทํา ซีนา นี้ ก็คือการทําให้ความน่ามอง ของใบหน้าของพวกเขา ลดหายไป ทําให้พวก เขามีชีวิตที่ไม่เป็ นมงคล อายุส้ นั ไม่ว่าจะกระทําอะไรก็ตาม ต่างสาปแช่งเขาไปหมด เขาจะอยู่กบั ความ ยากจนตลอดกาล นี่ เป็ นบทลงโทษของผูท้ ี่กระทําผิดประเวณี ในโลก ดุนยา นี้ อีก ๓ ประการในโลก อาคีเราะห์ ก็คือ ประการที่หนึ่ ง เขาจะได้ความโกรธกริ้ วจาก อัลเลาะห์ ฯ ประการที่สอง จะพบกับการ สอบสวนที่เลวร้ายยิ่ง และ ประการที่สาม เขาจะต้องถูกลงโทษในขุมนรกอเวจี เพราะฉะนั้นขอให้พวก เราได้ขอ ดุอา และระมัดระวัง สํารวมตน ให้พน้ จากภัยในเรื่ องการผิดประเวณี ซึ่ งแพร่ หลายในสังคม โลกของเราในเวลานี้

เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 30


#44. คุตบะห์ วนั ศุกร์ ณ มัสยิดท่ าอิฐ วันศุกร์ ที่ 1 ตุลาคม 2553 ตรงกับวันที่ 22 เซาวาล ฮ.ศ. 1431 โดยอาจารย์มูยาฮิด ลาตีฟี

‫بسم هللا الرحمن الرحيم‬ )‫ الصف‬:4(            

พี่น้องศรั ทธาชนที่เคารพรั กทั้งหลาย ขอท่านทั้งหลาย จงตั้งมัน่ ยําเกรง ต่ ออัลลอฮฺ (ซ.บ.) อย่าง แท้จริ งด้วยการประพฤติปฏิบตั ิตามในสิ่ งที่พระองค์ทรงใช้ ละเว้นห่ างไกลจากสิ่ งที่พระองค์ทรงห้าม นับเป็ น เนี๊ยะมัต ความโปรดปรานจาก อัลลอฮฺ (ซ.บ.) ที่มีต่อเราท่านทุกคน กับโอกาสและลมหายใจที่ เราได้รับจาก อัลลอฮฺ (ซ.บ.) ในการปฏิบตั ิอามั้ลอิบาดะห์ประจําสัปดาห์ของเรา ในการละหมาด ยุมอะห์ ของเราในวัน นี้ พี่ น้ อ งที่ เ คารพรั กทั้ ง หลาย ความหมายโองการที่ ก ระผมได้อ ัน เชิ ญ ข้า งต้น นั้น มี ความหมายว่า แท้จริ ง อัลลอฮฺ (ซ.บ.) ทรงรักบุคคลซึ่ งที่ต่อสู้ในแนวทางของพระองค์ ในสภาพที่อยู่ใน แถวอย่างเป็ นระเบียบเสมือนพวกเขาเหล่านั้นเป็ นอาคารสิ่ งปลูกสร้าง ที่มีความมัน่ คง ยึดเกาะซึ่ งกันและ กัน พี่นอ้ งที่รักและเคารพทั้งหลาย สิ่ งนี้ คือสิ่ งที่เราโหยหา สิ่ งนี้ คือสิ่ งที่เราปรารถนา อยากจะให้เกิ ดใน สังคมมุสลิมของเราในทุกๆระดับ คําถามเกิดขึ้น ว่าการเข้าแถวอย่างเป็ นระเบียบเพื่อการต่อสู้ในแนวทาง ของ อัลลอฮฺ (ซ.บ.) นั้น จะเกิดขึ้นได้อย่างไร อะไรคือสิ่ งแรก อะไรคือสิ่ งจําเป็ น ประการแรก ที่จะทําให้ ความต้องการของเราบรรลุสู่ผลสําเร็ จ นัน่ หมายความว่า สิ่ งซึ่ งที่มนั จะเกิ ดขึ้นในแนวทางของการต่อสู้ เพื่อ อัลลอฮฺ (ซ.บ.) นั้น จะต้องเกิ ดขึ้นจากความเข้าใจซึ่ งที่ตรงกัน ความเข้าใจซึ่ งที่ตรงกันในสิ่ งที่อ ลั อิสลามได้วางกรอบความเข้าใจในแต่ละเรื่ องเอาไว้ สิ่ งนี้ เอง ประการนี้ เอง ที่ท่าน เช็ค อะตี้ยะซ๊ อกรอฮิ มะฮุลเลาะห์ อดีตคณะกรรมาธิการของมหาวิทยาลัยอั้ลอัซฮัร ผูล้ ่วงลับ ได้กล่าวไว้ว่า

ِ ‫ص ٌرهَا ٌّم مِنْ َع َناصِ ِر ْال َب ْح‬ ‫ض ْو ٍع َو ِبد ُْونِ ِه‬ ُ ‫ي َم ْو‬ ِّ َ‫ث فِى أ‬ ُ ‫إِنَّ َت ْح ِد ٌْ َد ا ْل َم َفا ِه ٌْ ِم ُع ْن‬ ُ ‫ب ْاألَ ْق َوال ُ َو ٌَ ْحد‬ , ‫ُث ال َّت َف ُّر ُق‬ ُ ‫ار‬ َ ‫ض‬ َ ‫ِف ْاألَ ْح َكا ُم َو َت َت‬ ُ ‫َت ْخ َتل‬

แท้จ ริ งการวางกรอบความเข้าใจ มันเป็ นปั จ จัยสําคัญอันหนึ่ งจากบรรดาปั จจัย ต่าง ๆ ของการ ค้นหาและการวิเคราะห์ ในเรื่ องใด ๆ ก็ตาม และด้วยกับการไม่มีการวางกรอบความเข้าใจ กฎเกณฑ์ทาง ศาสนาจะแตกต่าง คําพูดต่าง ๆ ก็จะเกิดความสับสน และในท้ายที่สุด คือสิ่ งที่มนั เกิดขึ้นในสังคมของเรา ในทุกระดับ นัน่ ก็คือ ความแต่กแยกมันก็จะเกิดขึ้น เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 31


พี่ น้อ งศรั ทธาชนที่ เ คารพรั ก ทั้ง หลาย สิ่ ง นี้ คือ สิ่ ง สําคัญที่ สุดแห่ ง ที่ สุดของกลุ่มชนใดก็ตามที่ ต้องการจะบรรลุ สู่เป้ าหมายแห่งอิสลาม นัน่ คือความสําเร็ จในกรอบที่อิสลามได้กาํ หนด จะต้องมีความ เข้าใจที่สอดคล้องตรงกัน ไม่ผิดเพี้ยน ไม่ผิดเพี้ยน ที่เรารู้จกั ในคําว่า สัจจธรรม นัน่ เอง ในดุนยานี้เองมีสิ่ง ที่เป็ นสัจจธรรม และสิ่ งที่ไม่ใช่สจั จธรรม แต่ความจําเป็ นสําหรับเรา เป็ นสําคัญที่สุด สําหรับบุคคลซึ่ งที่ ได้ชื่อว่า เป็ นปัญญาชน เป็ นศาสนบุคคลในแต่ละสังคม ในทุก ๆ ระดับ จําเป็ นเหลือเกิ นสําหรับชนกลุ่ม นี้ที่จะต้องหันหน้าเข้าหากัน ปรึ กษาหารื อกัน ในประเด็นใดก็ตามซึ่ งที่ก่อให้เกิ ดความแตกแยกในชุมชน หรื อในสังคมนั้น ๆ พี่น้องที่เคารพรักทั้งหลาย นัน่ คือเป็ นภาระ เป็ นหน้าที่แล้ว เป็ นสิ่ งซึ่ งที่ขาดไม่ได้ แล้ว กับการพัฒนาที่จะเกิดขึ้นในชุมชน กับสิ่ งที่เราจะเข้าใจโดยพร้อมเพรี ยงกันใน คุตบะห์ในวันนี้ คือ การเตาฮีดซุฟู๊ฟ อยูใ่ นแถว อยูใ่ นแนวเดียวกัน อยูใ่ นความเข้าใจเดียวกัน เพราะฉะนั้น จะเข้าใจ จะอยู่ใน แถวเดียวกัน จะต้องปรึ กษาหารื อ พูดคุยกัน จึ งจะเข้าใจกัน เพราะเราอย่าลืมว่า สิ่ งที่ท่านนบีมูฮมั หมัด (ซ.ล.) ได้ทรงบอกกับเราว่า (‫)رواه الحاكم عن أنس‬

‫س ْو ِء‬ ِ ‫و ٌْل ٌ ألُ َّمت ًِْ مِنْ ُع َل َم‬ ُّ ‫اء ال‬

ความวิบตั ิ ความหายนะ ของประชาชาติของฉัน มันเกิดจากนํ้ามือของปวงปราญช์ซ่ ึ งที่ชวั่ ปวงป ราญช์ซ่ ึ งที่เลว ที่ก่อให้เกิดความแตกแยกในสังคมทําให้พี่น้องบุคลลซึ่ งที่เป็ นสามัญชน เกิ ดความเข้าใจ ผิดในหลักการหนึ่งหลักการใดของอั้ลอิสลาม ที่มีเป้ าหมายสู่ การปรองดอง เป้ าหมายสู่ การเป็ นเอกภาพ แต่แล้วปวงปราญช์กลุ่มนี้ทาํ ให้สิ่งต่าง ๆ เหล่านั้น จะต้องสูญสลาย มลายหายไป พี่นอ้ งที่เคารพรักทั้งหลาย ในช่วงท้ายแห่งคุตบะห์น้ ี ขออัลลอฮฺ (ซ.บ.) ทรงดลบรรดาลให้ชุมชน ให้สังคมของเรา ในทุก ๆ ระดับ มี ปวงปราญช์ซ่ ึ งที่เ ป็ นปวงปราญช์แห่ ง อาคิเ รอะห์ ที่จะนํานาวาแห่ ง สังคม แห่งชุมชนสู่เป้ าหมายของการเป็ นเอกภาพ อินชาอัลเลาะห์

เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 32


#45. คุตบะห์ วนั ศุกร์ ณ มัสยิดท่ าอิฐ วันศุกร์ ที่ 8 ตุลาคม 2553 ตรงกับวันที่ 29 เซาวาล ฮ.ศ. 1431 โดย อาจารย์ดาวุด สันติวิไลพร

สวัสดีท่านพี่นอ้ งมุสลิมที่เคารพ ขอให้เราทุกคนจงตัก๊ วายําเกรงต่ออัลเลาะห์ให้ตลอดเวลา ขอให้ เราทุกคนอยูใ่ นครรลองของอิสลาม ไม่เมินเฉยหรื อละเลยต่อหน้าที่ที่มีต่ออิสลาม และต้องระมัด ระวัง ตนเองจากความชัว่ ร้ ายทั้ง ปวง ท่านผูฟ้ ั ง ที่ เคารพ อิ สลามมี คาํ สอนหนึ่ ง ที่ เ กี่ ย วข้อ งกับความสัมพันธุ์ ระหว่างมุสลิมกับมุสลิมด้วยกัน นัน่ คือ การกระชับมิตรไมตรี ซ่ ึ งกันและกัน ระหว่างญาติมิตรผูใ้ กล้ชิด เพราะอิสลามได้เล่งเห็นว่าการกระชับมิตรไมตรี น้ ี เป็ นสื่ อหรื อวิธีการอย่างหนึ่ง ที่จะทําให้ความสัมพันธุ์ ระหว่างมุสลิมมีความมัน่ คงแน่นแฟ้ นขึ้น พร้ อมกันนั้นจะขจัดความเหิ นห่ างและช่องว่างระหว่างญาติ มิตร ด้วยความสําคัญนี้ อัลเลาะห์ทรงตรัสว่า

ُ‫َوا َّتق‬ ‫سا َءلُ ْونَ ِب ِه َو ْاألَ ْر َحا َم‬ َ ‫ِي َت‬ ْ ‫واهللا الَّذ‬ َ ความว่า และพวกเจ้าทั้งหลายจงตักวา ยําเกรงต่ออัลเลาะห์ ที่เจ้าต่างขอดุอาจากพระองค์ และจงกระชับมิตร ต่อกัน ท่านผูฟ้ ังที่เคารพ ท่านนบีมูฮาํ มัด ซ.ล. (เป็ นแบบอย่างที่ดีในการกระชับไมตรี แม้กระทัง่ พวกกาเฟร กุเรชยังยกย่องท่านว่า เป็ นผูท้ ี่พูดจริ งทําจริ ง และเป็ นผูท้ ี่ได้รับความไว้วางใจได้ในทุกเรื่ อง และความเป็ น แบบอย่างของท่านถูกเล่าเสริ มโดยท่านหญิงคอดียะห์ ภรรยาของท่านในฐานะผูใ้ กล้ชิด และรู้ จกั ท่านนบีดี ที่สุด กล่าวว่า “ท่านนบีเป็ นผูท้ ี่ชอบกระชับมิตรไมตรี กบั ผูค้ นโดยกล่าวความว่า แท้จริ งท่านนบีเป็ นคนที่ ชอบการกระชับมิตรไมตรี และชอบพูดจริ ง” สําหรับท่านนบีมูฮาํ มัด ซ.ล. แล้วท่านไม่ได้ปฎิบตั ิเฉพาะตัว ท่านเองเท่านั้น ท่านไม่ได้เก็บอามานะห์น้ ีเป็ นความลับหรื อเก็บข้อดีอนั ใหญ่หลวงเกี่ ยวกับการกระชับมิตร ไมตรี น้ ีไว้คนเดียว แต่ท่านยังอธิบายและส่งเสริ มมุสลิม มีการกระชับมิตรไมตรี ต่อกัน ท่านกล่าวว่า

‫سأ َ فِى ُع ُم ِر ِه َف ْل ٌُصِ لْ َر ِح َم ُه‬ َ ‫س َط َل ُه فِى ِر ْز ِق ِه َو ٌُ ْن‬ َ ‫ب أَنْ ٌُ ْب‬ َّ ‫َمنْ أَ َح‬ ความว่า ใครก็ตามชอบที่จะให้เงิ นทองไหลมาเทมาและมีอายุยืน (มีความบารอกัตในชีวิต) แล้ว เขาจง กระชับความสัมพันธุ์และสร้างมิตรไมตรี กบั ผูค้ นเถิด ท่านผูฟ้ ังที่เคารพ ทุกคนที่ได้ฟังฮาดีสนี้ ย่อมมีความรู้สึกอยากได้สิ่งทั้งสอง อย่างที่กล่าวไว้ ทั้งสองอย่าง ที่ทุกคนชอบและต้อ งการคื อ การได้มาซึ่ ง ทรั พย์สินเงิ นทองที่ คล่อ งตัว และการมี ชิวิตที่ยืนยาว ทั้ง นี้ เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 33


โดยทัว่ ไปแล้ว คนเราส่วนใหญ่จะขอดุอาต่ออัลเลาะห์ เพื่อให้ประทานสองอย่างที่สําคัญดังกล่าว และที่ สําคัญยิ่งไปกว่านั้น คือการกระชับมิตรไมตรี น้ นั เป็ นส่วนหนึ่งของสิ่ งที่บ่งบอกถึงการศรัทธา ดังที่ในฮา ดีสบุคอรี ซ่ ึ งรายงานจากท่านอบูฮุรอยเราะห์ ท่านนบีมูฮาํ มัด ซ.ล. กล่าวว่า

‫ان ٌُ ْؤمِنُ ِباهللِ َوا ْل ٌَ ْو ِم ْاألخ ِ​ِر َف ْل ٌُصِ لْ َر ِح َم ُه‬ ِ ‫َمنْ َك‬ ความว่า ใครก็ตามที่มีความศรัทธาต่ออัลเลาะห์ และวันกียามะห์ก็จงกระชับมิตรไมตรี ซ่ ึ งกันและกัน ท่านผูฟ้ ังที่เคารพ เราอย่าลืมว่า คนที่ไม่มีการกระชับมิตรไมตรี น้ นั จะมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุ ขสมหวัง กระนั้นหรื อ เพราะตามหลักการอิสลามแล้ว การสร้ างความสัมพันธุ์ไมตรี เป็ นหน้าที่ของมุสลิมทุกคน จะต้องแบกรับไว้ แบกภาระนี้ได้สาํ เร็ จ เราก็จะได้รับผลพลอยได้มากมาย และในทางกลับกัน ถ้าเราแบก ภาระนี้ ไม่ไหว เราก็จะมี บาปติดตัว อย่างใหญ่หลวง ดัง ที่ได้อธิ บายไว้ โดยอุล ามะห์ท่านหนึ่ ง ที่ ชื่อ ว่า กอฎีย ์ อิยาฎ กล่าวความว่า “ไม่ มีความขัดแย้ งกัน ในหมู่อุลามาห์ (ผู้รู้) ว่าการสร้ างมิตรไมตรีน้ ัน เป็ นสิ่ ง วายิบ และการตัดสั มพันธุ์ไมตรีน้ ันเป็ นการต่ อต้ านคาสั่ งของอัลเลาะห์ ที่ใหญ่ หลวง ซึ่ งแน่นอน คําพูดนี้ กล่าวได้ถูกต้อง เพราะผูท้ ี่ชอบตัดสัมพันธุ์ไมตรี น้ นั จะไม่มีสิทธิเข้าสวรรค์ ท่านนบีกล่าวว่า

‫لج َّن َة َقاطِ ُع َرح ٍِم‬ َ ‫الَ ٌَدْ ُخل ُ ْا‬ ความว่า “จะไม่ ได้ เข้ าสวรรค์ สาหรับผู้ที่ชอบตัดสั มพันธุ์กับผู้อนื่ ” รายงานโดยมุสลิม และถ้าหากไม่ได้เข้าสวรรค์ แล้วพวกเราจะไปอยูท่ ี่ไหนกัน มีอีกหรื อ สถานที่ที่ให้ความสุ ข สิ่ งที่อาํ นวย ความสะดวกทุกอย่าง ที่นอกเหนือจากสวรรค์ ดังนั้นเราจําเป็ นจะต้องคิดให้ดีดี ก่อนที่เราจะจากโลกนี้ไป ท่านผูฟ้ ังที่เคารพ ความจริ งแล้ว การสร้างสัมพันธุ์ไมตรี น้ นั มีหลายขั้นตอนและหลายระดับ มีข้ นั สู งและ มีข้นั ตํ่า แต่ที่อยู่ในระดับขั้นที่ต่าํ ที่สุดคือ การที่ไม่เมินเฉยต่อญาติใกล้ชิด หรื ออีกความหมายหนึ่ งก็คือ อย่าให้ถึง ขั้นไม่พูดคุยกันกับญาติ มิตร และจงกระชับความสัมพันธุ์ไมตรี กบั พวกเขา ถึง แม้ว่าจะด้ว ย คําพูดไม่กี่ คาํ หรื อ ด้วยการให้สลาม ที่แสดงถึ งความมี มนุษยสัมพันธุ์ ทั้งนี้ คนบางคน อาจมี หน้าที่การ งานที่มากมาย อย่างไรก็ตามเขาก็ควรที่จะเอาใจใส่ ในการสร้ างความสัมพันธุ์น้ ี ให้เป็ นงานหนึ่ งของเขา ด้วย สิ่ งหนึ่งที่เป็ นการสร้างสัมพันธุ์ไมตรี ที่ค่อนข้างมีประสิ ทธิ ภาพคือการเยี่ยมเยียนนั้นมีผลทําให้เกิ ด ความทรงจําที่ยาวนาน นอกจากนี้ ถ้าเป็ นไปได้ ควรมีของฝากเล็ก ๆ น้อย ๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็ นซอดอเกาะ หรื อฮาดียะห์เพื่อกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้ นยิ่งขึ้น พระองค์อลั เลาะห์ทรงตรัสว่า

, ‫ض َو َت ْق َط ُع ْواأَ ْر َحا َم ُك ْم‬ ِ ‫س ٌْ ُت ْم إِنْ َت َولَّ ٌْ ُت ْم أَنْ ُت ْفسِ د ٌْوافِى ْاألَ ْر‬ َ ‫َف َهلْ َع‬ ‫ار ُه ْم‬ َ ‫ص‬ َ ‫ص َّم ُه ْم َوأَ ْع َمى أَ ْب‬ َ َ ‫أُولئِ َك الَّ ِذ ٌْنَ لَ َع َن ُه ُم هللاُ َفأ‬

เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 34


ความว่า “ซึ่งพวกเจ้าหวังว่า ถ้ าพวกเจ้ ามีอานาจ พวกเจ้าจะสร้ างความเสี ยหายบนหน้ าแผ่นดินนี้ และตัด ความสั มพันธ์ ต่อกัน คนเหล่ านั้นคือคนที่อัลเลาะห์ สาปแช่ ง ดังนั้นพวกเขาจึงหูหนวกและตาบอด” ท่านผูฟ้ ังที่เคารพ นี่คือสิ่ งที่อลั เลาะห์สอนไว้ให้มนุษย์ เพื่อเตือนไม่ให้นาํ ความเสี ยหายบนหน้าแผ่นดิน และไม่ให้ตดั ความสัมพันธ์ต่อกัน เพื่ออัลเลาะห์จะได้ไม่สาปแช่งและโกรธกริ้ ว

เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 35


#46. คุตบะห์ วันศุกร์ ณ มัสยิดท่ าอิฐ วันศุกร์ ท่ ี 15 ตุลาคม 2553 ตรงกับวันที่ 7 ซุลกอดะห์ ฮ.ศ. 1431 โดย อาจารย์ อิมรอน สาดและ

ขอความสุขสวัสดี ความกรุ ณาปรานีจาก อัลลอฮฺ (ซ.บ.) จงประสบแด่บรรดาพี่นอ้ งผูศ้ รัทธาที่มาร่ วม ทําการละหมาด ฟั รดู วันศุกร์ โดยพร้อมเพียงกัน อัลฮั มดูลิลลาฮ์ เราทุกคนรู้จุดยืนในการเป็ นบ่าวของ อัลลอ ฮฺ (ซ.บ.)ดีว่า เราได้ใช้ชีวิตในโลก ดุนยา นี้ เพื่อปฏิบตั ิตามคําสัง่ ของพระองค์ และออกห่ างจากข้อห้ามต่างๆ ที่พระองค์ทรงห้าม และเราได้ใช้ชีวิ ตในโลก ดุนยา นี้ เป็ นทางผ่าน เพื่ อนําไปสู่ ชีวิตที่ ถาวรในโลก อาคี เราะฮ์ ดังนั้น ขอให้เราผูศ้ รัทธาทุกคน จงประคับประคองชี วิตของเรา ให้อยู่ในแนวทางของศาสนาอิสลาม จนกระทัง่ ถึงวันสุดท้าย ที่ อัลลอฮฺ (ซ.บ.) จะนําเอาชีวิตของเรากลับสู่ พระองค์ พระมหาคัมภีร์อัลกุรอ่ าน มี โองการหนึ่ง ที่บรรดานักวิชาการได้นาํ มากล่าวกับพวกเราเป็ นประจํา ‫بسم هللا الرحمن الرحيم‬

) 102 ‫(أل عمران‬

            

ซึ่ งมีความหมายว่า โอ้ศรัทธาชนทั้งหลาย สูเจ้าทั้งหลายจงยําเกรงต่อ อัลลอฮฺ (ซ.บ.) อย่างจริ งจัง เถิด และสู เจ้าทั้งหลาย จงอย่าได้เ สี ยชีวิ ต เว้นเสี ยแต่สูเจ้า เป็ นมุสลิม เป็ นผูย้ อมสวามิภคั ดิ์ ต่อ อั ลลอฮฺ (ซ.บ.) และนัก วิชาการได้ให้อตั ถาธิ บาย โองการนี้ ว่า การที่พระองค์ อั ลลอฮฺ (ซ.บ.) ทรงตรัสว่า สู เจ้า ทั้ง หลาย จงอย่าได้เ สี ย ชี วิ ต จนกว่ าจะได้ เป็ นมุสลิ ม เป็ นผูส้ วามิ ภคั ดิ์ นั้นมี ความหมายว่ า ให้สู เ จ้า ทั้งหลายนั้น จงรักษาความเป็ นมุสลิม ความเป็ นผูแ้ สดงการสวามิภคั ดิ์ ต่ออัลลอฮฺ (ซ.บ.) ยอมรับในพระผู้ เป็ นเจ้าแห่ง อัลลอฮฺ (ซ.บ.) ปฎิบตั ิตามบัญชา และออกห่างจากข้อห้ามของพระองค์ จนถึงวันสุ ดท้ายของ ชีวิ ตเราเถิ ด พี่ น้อ งผูศ้ รั ทธาที่ เ คารพ เราทั้ง หลายทราบดี ว่า การที่ เ ราจะพบความสุ ข การที่ เ ราจะพบ ความสําเร็ จในชีวิตแห่ ง โลกดุนยา และการที่เราจะพบความสุ ขอันถาวร ในโลกอาคีเ ราะห์ คือ พบกับ สวรรค์ของอัลเลาะห์น้ นั จะต้องปฎิบตั ิตามคําบัญชาของพระองค์โดยเคร่ งครัด และคําสั่งของ อัลลอฮฺ (ซ.บ.) ที่ให้บ่าวของพระองค์ ทําตามคําสัง่ บางอย่าง เป็ นการบังคับ เราจะเรี ยกว่า ฟัรดู หรื อเราจะเรี ยกว่า วายิบ นั้นก็หมายความว่า มุสลิ มทุกคน ที่อ ยู่ในเขตมูกลั ลัฟ เป็ นผูท้ ี่ เ ข้าเขตบัง คับของศาสนา จําเป็ น จะต้องปฎิบตั ิ ผูใ้ ดละทิ้งสิ่ งหนึ่งสิ่ งใด เขาจะต้องได้รับโทษจากพระองค์ อัลลอฮฺ (ซ.บ.) และนอกจากนั้น ก็จะมีคาํ สัง่ ที่สนับสนุนให้ทาํ การปฎิบตั ิ ซึ่ งผูใ้ ดไม่ปฎิบตั ิตามคําสัง่ ที่สนับสนุน เขาจะได้ผลบุญมากมาย เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 36


ที่เรี ยกว่า สุ นัต หรื อบางครั้งนักวิชาการก็เรี ยกว่า มุสต้าฮัส การปฎิบตั ิสิ่งที่เป็ น สุนตั เราผูศ้ รัทธาทั้งหลาย ต่ออัลเลาะห์ ที่ รักในอัลเลาะห์ หวังในโลก อาคีเราะห์ เขาจะไม่ละทิ้ง ในสิ่ งที่ เป็ นสุ นัตอย่างเด็ดขาด ถึงแม้ว่า การละทิ้งสุนตั จะไม่เป็ นบาปต่อเขาก็จริ งอยู่ แต่สุนตั ต่างๆ ที่เราทําในอีบาดะฮ์ต่างๆนั้น จะไป เติมเต็มในภาคฟัรดู ที่เราบกพร่ องในวันกียามะห์ พี่นอ้ งผูศ้ รัทธาที่เคารพทั้งหลาย เมื่อเป็ นเช่นนี้ เราจะต้องทําตัวของเราให้เป็ นมุสลิม ให้เป็ นผูท้ ี่ สวามิ ภคั ดิ์ ต่อ คําสั่ง ของอัล เลาะห์ อย่างจริ ง จัง การเป็ นมุสลิม จะต้อ งประกอบไปด้วยการเป็ น มุมิน ควบคู่กนั ไป ผูห้ นึ่ งจะเป็ นมุสลิม โดยไม่มีความเป็ น มุมิน เท่ากับว่า ชีวิตของเขาไม่สมบูรณ์ เพราะผูท้ ี่ ศรั ท ธาต่อ อัล เลาะห์ จ ะเป็ นมุมิน จะต้องเป็ นผูท้ ี่ มีอีหม่าน จะต้อ งเป็ นผูย้ ึดมัน่ ในใจของเขาในหลัก ๖ ประการต่ออัลเลาะห์เสี ยก่อน จึงจะปฎบัติภาระกิจที่เป็ นรู่ ก่นอิสลาม ๕ ประการ เราทั้งหลายทราบดีว่า การอี หม่านต่อ อัล เลาะห์น้ นั เริ่ มต้นด้ว ยการศรั ทธา ยึดมัน่ ต่อ อัล เลาะห์อ งค์เดี ยว การยึดมัน่ ศรั ทธาใน บรรดาคัมภีร์ ในบรรดาศาสนฑูต ยึมมัน่ ศรัทธาในวันอาคีเราะห์ ในการกําหนดความดีความชัว่ และ ยึดมัน่ ในบรรดา ม่าลาอีกะฮ์ การยึดมัน่ ซึ่ งเรามองไม่เห็นด้วยสายตา ต้องอาศัยหลักยึดมัน่ ที่หนักแน่น เหนี ย วแน่ น ฝั งลึ ก เข้าไปในหัวใจและจิ ตใจของผูศ้ รั ทธาอย่างแท้จริ ง จึ งจะเรี ย กว่ามุมิน ผูศ้ รั ทธาต่อ พระองค์ใน ๖ ประการ หลังจากนั้นจะมีมีรูก่นอิสลาม คือการปฎิบตั ิดว้ ยกับเรื อนร่ าง ๕ ประการ ด้วยรู ก่นอิสลามนั้น ๑. เริ่ มต้นด้วยการกล่าวกาลีเมาะห์ซะฮาดะห์ ๒. การดํารงการละหมาดที่เราปฏิบตั ิ กันเป็ นประจํา ๓. การออกซะกาด บริ จาคทานที่เป็ นภาคบังคับ ๔. การถือศีลอดในเดือนรอมดอน และ ๕. การไปประกอบพิธีฮจั ย์ ท่า นผู้ศรั ท ธาที่ เ คารพรั ก ทั้ง หลาย ดูเ หมื อ นว่ า เราทั้ง หลายปฎิ บ ัติภ าระกิ จ กันเป็ นประจํา ใน หลัก การของอีหม่านและในหลัก การของอิ สลามอยูในชีวิ ตของเราเป็ นประจํา และที่ สําคัญขอให้เรา ระมัดระวังประคับประคองหลักการที่เราปฎิบตั ิอยู่ หลักหนึ่ งที่ก้าวมาในขณะนี้ ก้าวที่จะอยู่ในฤดูการ ประกอบพิธีฮจั ย์ ณ บัยตุล้ เลาะห์ ในนครมักกะฮ์ ประเทศซาอุดิ้อาระเบีย แม้ว่าเราอาจจะยังไม่มีโอกาสได้ ไป แต่ท่านพี่ น้องที่ เคารพ ทุกคนต้องตั้งใจ ขอดุอาจาก อั ลลอฮฺ (ซ.บ.) ว่า โอ้อลั เลาะห์ ขอให้ฉันได้มี โอกาสไปปฎิบตั ิภาระกิจในการทําฮัจย์สกั ครั้งหนึ่งในชีวิตก็ยงั ดี เพราะวายิบในการทําฮัจย์น้ นั บังคับเฉพาะ ผูม้ ีความสามารถเท่านั้น พระมหาคัมภีร์อลั กุรอ่าน อัลลอฮฺ (ซ.บ.)ทรงตรัสไว้ในซูเราะห์ อ่าลาอิมรอน                                      

) 97-96‫(أل عمران‬ เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

 

www.tha-it.ac.th

หน้า 37


ความว่า อาคารแรกที่ถูกตั้งขึ้นเพื่อมวลมนุษย์คืออาคาร ณ นครมักกะฮ์ นัน่ คือ บัยตุล้ เลาะห์ เป็ น ทั้งสิ ริมงคลและเป็ นทางนําแก่ชาวโลก ในนั้นมีสญ ั ญลักษณ์ที่ชดั แจ้ง ได้แก่รอยเท้าที่ยืนของนบีอิบรอฮีม ผูใ้ ดเข้าไปที่น้ นั เขาจะปลอดภัย พระองค์อลั เลาะห์ทรงตรัสว่า และเป็ นสิ ทธิ ของอัลเลาะห์ ที่จะกําหนด ให้มนุยษ์เข้าไปประกอบพิธีฮจั ย์ สําหรับผูท้ ี่สามารถเดินทางไปได้ เป็ นกําหนด เป็ นการบังคับ สําหรับผู้ ที่มีความสามารถ ผูใ้ ดทรยศแน่แท้อลั เลาะห์ ไม่พึงอาศัยต่อชาวโลก ท่านพี่ น้องที่เคารพ จากโองการสั้นๆ ทําให้เรามองเห็นความสําคัญของรู ก่ นที่ ๕ ของศาสนา อิสลาม นั้นคือการประกอบพิธีฮจั ย์สําหรับผูท้ ี่มีความสามารถ แต่มนั ยังมีมุสลิมบางคนในบรรดาพวก เราๆ ที่มีความสามารถที่จะไปประกอบพิธีฮจั ย์ ด้วยกับร่ างกายสมบูรณ์ มีทรัพย์สินเงินทองพอที่จะไปทํา ฮัจย์ แต่ไม่สนใจในเรื่ องการทําอีบาดะฮ์ ในประการที่ ๕นี้ เป็ นที่น่าเสี ยใจเหลือเกิน เขาเหล่านั้นนําเอา ร่ างกายที่สมบูรณ์นาํ เอาทรัพย์สินเขาพร้อม เอาไปใช้จ่ายใช้สอยในโลก ดุนยา โดยไม่คาํ นึ งถึงภาควายิบ ภาคฟัรดู ที่เขาได้ติดค้าง อัลลอฮฺ (ซ.บ.) เป็ นที่น่าเสี ยใจเหลือเกินดังนั้น พี่น้องผูศ้ รัทธา ที่มีหลักยึดมัน่ ใน อีหม่าน ๖ ประการ หลักยึดมัน่ ในหลักอิสลาม ๕ ประการ ต่างจะต้องตระหนัก เรื่ องวายิบของการทําฮัจย์ ถ้ามี โอกาสจําเป็ นในครั้ งหนึ่ งของชีวิตของเราจะต้องเดินทางไปให้ได้ อินซาอัล เลาะห์ ท่านร่ อ ซูล้ ลั เลาะห์วา้ อาลัยฮีว่าซั้ลลัม ได้กล่าวไว้ตามรายงานของ ฮาดีซบุคอรี มุสลิม นัน่ เอง ท่านอ้าบีฮุรอยเราะห์ ได้ เล่าว่า ท่านร่ อซูลลุ้ เลาะห์ ซ้อลลั้ลลอฮุ่อาลัยฮีว่าซั้ลลัม ได้เคยกล่าวว่า

َ ‫س‬ ‫س ْول ُ هللاِ َوإِ َق ِام‬ ُ ‫ًّار‬ َّ ‫ش َها َد ِة أَنْ الَإِل َه إِالَّهللاُ َوأَنَّ ُم َح َّمد‬ ٍ ‫ُبن َِى ْاإلِ ْسالَ ُم َعلَى َخ ْم‬ ًّ‫س ِب ٌْال‬ َّ ‫اء‬ ِ ٌْ ‫ضانَ َو َح ِّج ا ْل َب‬ ِ ‫صالَ ِة َوإِ ٌْ َت‬ َ ‫اع إِلَ ٌْ ِه‬ َ ‫اس َت َط‬ ْ ‫ت لِ َم ِن‬ َ ‫ص ْو ِم َر َم‬ َ ‫الز َكا ِة َو‬ َّ ‫ال‬ ศาสนาอิสลามนั้น ตั้งอยูบ่ นหลัก ๕ ประการ ไม่ใช่ ๔ ประการ ประการที่ ๑ ไม่มีพระเจ้าอื่นใด นอกจาก อัลลอฮฺ (ซ.บ.) และมีน่าบีมูฮาํ หมัดเป็ นศาสนฑูตของอัลเลาะห์ ๒ การดํารงไว้ซ่ ึ งการละหมาด ๓ การจ่ า ยซะกาด ๔ การถื อ ศี ล อดในเดื อ นรอมดอน และ ๕ การประกอบพิ ธี ฮัจ ย์สํา หรั บ ผู้ที่ มี ความสามารถเดินทางไปได้ ในโองการกุรอ่านนี้ ได้ยืนยันว่า ในความจําเป็ นของการปฎิบตั ิพิธีฮจั ย์ ทั้ง ซุนนะห์ ที่เ ป็ นฮาดิ ษของ ท่านร่ อ ซูล้ ลั เลาะห์ว ้าอาลัยฮี ว่าซั้ล ลัม ทรงยืนยันความจําเป็ นของมนุษย์ผูท้ ี่ จําเป็ นต้องเป็ นมุสลิมที่สมบูรณ์ ถึงเวลาได้โอกาสพร้ อมจําเป็ นที่จะต้องไปประกอบพิธีฮจั ย์ ดังนั้นการ ปฎิบตั ิตามคําสัง่ นี้ถือเป็ นวายิบ ท่านพี่ น้องที่ เคารพ เราต้องการที่ จะพบ อัลลอฮฺ (ซ.บ.) ในโลกอาคีเราะห์ เราต้องการที่จะได้เข้า สวรรค์อนั บรมสุขของพระองค์ในโลกอาคีเราะห์ โดยจะต้องปฎิบตั ิตามคําสัง่ ของพระองค์โดยเคร่ งครัด เรา จะละทิ้งสิ่ งหนึ่งสิ่ งใด ประการใดประการหนึ่ง ที่เป็ นการบัญชาของอัลเลาะห์ไม่ได้เด็ดขาด ดังที่เกิ ดขึ้นใน สมัยของ อ้าบูบกั กัร หลังจากท่านร้อซูลลุ้ เลาะห์ ได้สิ้นพระชนม์ไป มีบรรดาคนที่จ่ายซะกาด เคยได้จ่ายแก่ เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 38


ท่านร้อซูลลุ้ เลาะห์กลับมองเห็นว่า การจ่ายซะกาดนั้นไม่จาํ เป็ น ไม่สําคัญ และไม่ยอมจ่ายซะกาด ท่านอ้าบู บักร ได้ปรึ กษาหารื อ ในที่สุดก็ได้วินิจฉัยว่าคนที่ปฎิเสธเรื่ องการการจ่ายซะกาด ถือว่าเขาผูน้ ้ นั ต้องสิ้นสภาพ การเป็ นมุสลิ ม ท่านอ้าบูบ กั ร สั่งฆ่าเขาเหล่านี้ นี่ คือความเด็ดขาดของผูน้ ํามุสลิ มในอดีต ดังนั้นจึ งเป็ น อุทาหรณ์ให้พวกเราว่า ถ้าพวกเรามีความพร้อมในการทําฮัจย์ อย่าละเลย อย่าละเลยครับท่านพี่น้องที่เคารพ รัก เราไม่ทราบว่าเราจะมีชีวิตจะอยู่ไปถึ งวันไหน เดือนไหน ปี ไหน นัน่ คื อการทําตามบัญชา ที่ เป็ นภาค บังคับอีกภาคหนึ่ง ที่เป็ นภาคสุนตั หรื อว่าเป็ นภาคที่สนับสนุน ที่ให้ผใู้ ดทําการปฎิบตั ิ ได้ภาคผลบุญ ซึ่ งผล บุญในการทําสุนตั นั้น สามารถที่จะมาเติมเต็มในภาคฟัรดู ที่เราบกพร่ อง หนึ่งในนั้นหรื อที่เราเรี ยกว่าการทํา คุทรี ยะฮ์ หรื อ กุรบานนัน่ เอง ท่านพี่นอ้ งที่เคารพ เกณฑ์ของการทํากุรบาน มันเข้าเวลาในช่วงของเดือน ซุ้ล ฮิจยะห์ นัน่ หมายถึงว่า ที่ประเทศอาหรับที่ประเทศซาอุดิอาระเบียที่นครมักกะฮ์ การทําฮัจย์จะต้องมีการวูก่ ฟู ที่ทุ่งอารอฟะฮ์ ซึ่ งเป็ นหลักการหรื อเป็ นรู ก่นสําคัญที่สุดของการทําฮัจย์ วันวู่กูฟที่ทุ่งอารอฟะฮ์คือวันที่ ๙ ของเดื อนดุล้ ฮิ ดยะฮ์ หลังจากนั้นวันที่ ๑๐ เราเรี ยกวัน อี ดิลอัดฮา มี สุนตั ให้มุสลิ มทัว่ โลก ทําการเชื อด กุรบาน เชือดคุทรี ยะห์ นักวิชาการส่วนใหญ่ลงความเห็นพร้องต้องกันแล้วว่า การทําคุทฮียะห์ หรื อการทํากุ บารนั้น เป็ นซุนนะห์มูอดั กาดะฮ์ เป็ นสุนตั ที่ได้ผลบุญอย่างมาก ท่านรอซุ้ลลุล้ เลาะห์ ทําสุ นตั ที่จะทํานั้น จะ ได้เกิดประโยชน์กบั ผูท้ ี่ได้เสี ยสละ ทรัพย์สินบางส่วน เขาจะได้รับผลประโยชน์ในวันอาคีเราะห์ ท่านพี่นอ้ งที่เคารพ คนที่ยาํ เกรง ตักวา ต่ออัลเลาะห์ นั้นจะต้องนําเอาคัมภีร์อลั กุรอาน มาเป็ นทาง นําแห่งชีวิต เราอ่านพระมหาคัมภีร์อลั กุรอาน เริ่ มต้นที่                

) ‫ البقرة‬3 -1(     

คัมภี ร์ เ ล่ มนั้น เป็ นพระมหาคัมภี ร์ อ ลั กุร อาน ไม่เ ป็ นที่ สงสัย แต่ประการใด เป็ นคัมภี ร์ ที่ เ ดิ น แนวทางนําต่อผูม้ ีความยําเกรงต่ออัลเลาะห์ นัน่ หมายถึงผูท้ ี่มีความยําเกรงอัลเลาะห์ จะเป็ นผูท้ ี่ศรัทธาใน สิ่ งเร้นลับ ที่เราได้กล่าวไว้ขา้ งต้น สิ่ งเร้นลับที่เรามองไม่เห็นด้วยสายตา เราศรัทธาในอัลเลาะห์ เป็ นสิ่ ง เร้นลับ ที่เรามองไม่เห็นด้วยสายตา เราศรัทธาในมวล มาลาอีกะห์ เราก็มองไม่เห็นมวล มาลาอีกะห์ ด้วยสายตา เราศรัทธาในบรรดาคัมภีร์ต่างๆ บรรดรอซู้ลทั้งหลาย ศรัทธาในวันอาคีเราะห์ ศรัทธาในการ กําหนดความดีความชัว่ ซึ่ งเป็ นสิ่ งที่เร้ นลับ เราศรัทธาในชีวิตแห่ งหลุมฝังศพ อาลั้มบัรซัก เราลงไปใน หลุมฝังศพ เราจะต้องมีการถูกสอบสวนจากมาลาอีกะห์ที่ชื่อ มุงกัรน่ากิ ร ใครทําความดีไว้ในชีวิตนี้ เขา จะได้ความบรมสุขในอาลั้มบัรซัก ในหลุมกุโบร ใครทําความชัว่ ไว้ในชีวิตแห่ งโลกดุนยา ในหลุมกุโบร ก่อนถึงวันกียามะห์ ก่อนถึงวันฟื้ นคีนชีพ เขาจะได้รับการทรมาน ก่อนที่จะได้รับโทษในวันอาคีเราะห์ เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 39


สิ่ งต่างๆเหล่านี้ ถือเป็ นการศรัทธาต่อสิ่ งที่เร้นลับทั้งสิ้ น ไม่มีคนหนึ่ งคนใดมองเห็นโลกแห่ งกุโบร ด้วย สายตาของเขา ไม่มีคนใดคนหนึ่งได้ยินเสี ยงการทรมานในหลุม กุโบร ด้วยกับหูของเขา เพราะฉะนั้นสิ่ ง เร้นลับเหล่านี้จาํ เป็ นที่ผศู้ รัทธาจะต้องยึดมัน่ และปฎิบตั ิตามคําสั่งของอัลเลาะห์โดยเคร่ งครัด นั้นคือใน บรรดาของผูท้ ี่ได้ปฎิบตั ิการละหมาดโดยเคร่ งครัด ทําละหมาด ๕ เวลาเป็ นประจํานัน่ เอง และส่ วนหนึ่ ง จากสิ่ งที่เราได้ประทานให้ยงั ที่ของเขา บริ จาก นัน่ คือผูท้ ี่ศรัทธาในสิ่ งเร้นลับ เขาศรัทธาในสิ่ งเร้ นลับเขา ได้เอาส่วนหนึ่งซึ่ งเป็ นทรัพย์สินก็ดี หรื อปัจจัยยังชีพอื่นๆที่ อัลเลาะห์ ประทานให้แก่เขา และเขาบริ จาค ไปในหนทางของพระองค์ ไม่ว่าจะเป็ นทรั พย์ ซะกาด ที่ เป็ นวายิบที่ เ ราจะต้อ งบริ จ าคของจํานวนที่ จําเป็ นที่จะต้องจ่าย หรื อทรัพย์ของเราที่จะต้องเป็ นเรื่ องของซุนนะห์ ดังนั้นคนหนึ่งคนใดจะทําการเชือด กุรบานหรื อการทําตามซุนนะห์มูอดั กาดะห์ หากผูใ้ ดได้ทาํ การบนบานเอาไว้ว่าจะเชือดกุรบานก็เป็ นวา ยิบทันที ดังนั้น ผมขอฝากไว้ว่า ใครก็ตามที่มีความต้องการที่จะทําดีต่อ อัลลอฮ์ ให้เราตั้งจิ ตมุ่งตรงต่อ อัลลอฮ์ว่า อิบาดะฮ์ ทุก สิ่ งทุกอย่างไม่ได้ทาํ เพื่อ มนุษย์ ไม่ว่าเราจะบริ จาคซากาต วายิบ ที่ได้ให้กบั คน ยากจนแปดประเภท ก็ทาํ เพราะเป็ นคําสัง่ ของอัลลอฮ์ เราจึ งจะได้รับผลตอบแทนในวันอาคีเราะฮ์ และ แม้ว่าเราจะบริ จากในการทํา อุดฮียะฮ์ หรื อทํากุรบานที่จะมีการเชื อดในวันที่ ๑๐ ของเดือนซุลฮิ จยะฮ์ ก็ ต้องตั้งเจตนาให้ชดั เจนว่าเราทําเพื่อ อัลลอฮฺ (ซ.บ.) เพราะสิ่ งที่เป็ นอิบาดะฮ์ที่เราจะได้รับการตอบแทน อย่างดีงามในโลก อาคีเราะฮ์จะต้องเป็ นอิบาดะฮ์ที่ต้งั อยูบ่ นความบริ สุทธิ์ใจ

َ‫ب ا ْل َعالَ ِم ٌْن‬ ِ ّ ِ ‫اي َو َم َمات ِْى‬ ِّ ‫هلل َر‬ َ ٌَ ‫سك ِْى َو َم ْح‬ ُ ‫صالَت ِْى َو ُن‬ َ َّ‫قُلْ إِن‬ จงกล่าวเถิด แท้จริ งการละหมาดของฉัน การปฏิบตั ิพิธีกรรมต่าง ๆ ของฉัน การเป็ นของฉัน การ ตายของฉัน ลิ้ลลาฮิรอบบิ้ลอาล่ามีล ต้องทําเพื่อ อัลลอฮฺ (ซ.บ.) อย่างเดียว

َ َ‫ال‬ ‫ش ِر ٌْ َك لَ ُه‬ ต้องไม่มีการตั้งภาคี นําสิ่ งหนึ่งมาอยูใ่ นในจิตใจ ว่าการปฏิบตั ิอิบาดะห์ของเราทําเพื่อสิ่ งนั้นสิ่ งนี้ เพื่อจะ ประกาศให้คนเขาทราบว่าเราเป็ นคนมีทรั พย์สิน เราจะไม่ได้รับผลบุญในโลกอาคิเรอะห์แต่อย่างใด ท่าน พี่นอ้ งที่เคารพ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็ นฟัรดูต่าง ๆ ที่ อัลลอฮฺ (ซ.บ.)ได้ลงบัญชาให้เราได้ปฏิบตั ิ จงปฏิบตั ิอย่าง เคร่ งครัด หรื อไม่ว่าจะเป็ นสุนัต หรื อสุนัตมุอักกัต หรื อสุนัตฆอยรู่ มุอักกัต ก็ตาม ขอให้เราปฏิบตั ิ หวัง ภาคผลในอัลลอฮฺ (ซ.บ.) อย่างบริ สุทธิ์ใจเถิด อินซาอัลเลาะห์ เราก็จะได้ผลบุญแบบเต็มๆ ในโลกอาคิ เราะห์ ได้รับความสุขในโลกดุลยา และได้รับสวรรค์ของพระองค์ อินชาอัลเลาะห์

เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 40


#47. คุตบะห์ วนั ศุกร์ ณ มัสยิดท่ าอิฐ วันศุกร์ ที่ 22 ตุลาคม 2553 ตรงกับวันที่ 14 ซุลกอดะห์ ฮ.ศ. 1431 โดย อาจารย์ มัรวาน (ณรงค์ ) อิสมาแอล

‫السالم عليكم ورحمةااهلل وبركاته‬ ‫ض َذ َهبًا‬ ِ ْ‫ إِنَّ الَّ ِذٌ َْن َك َفر ُْوا َو َما ُت ْوا َو ُه ْم ُك َّفا ٌر َفلَنْ ٌُ ْق َب َل ِمنْ أَ َح ِدهِم ْ ِم ْل ُء ْاألَر‬: ‫قال هللا تعالى‬ ‫أُولئ َِك لَ ُه ْم َع َذابٌ اَلِ ٌْ ٌم َو َمالَ ُه ْم ِمنْ َناصِ ِرٌ َْن‬ ‫َولَ ِوا ْف َتدَى ِب ِه‬

พี่น้องผูศ้ รัทธา และเป็ นที่รักยิ่ง ณ ที่พระองค์อลั เลาะห์ (ซ.บ.) ทุกท่าน พระองค์อลั เลาะห์ (ซ.บ.) กล่าวใน อัลกุรอ่าน พูดถึงฐานะอันสู งส่ งและตําแหน่งที่มีเกี ยรติ ของมนุษยชาติ พระองค์ได้พูด ว่าผูท้ ี่ไร้ศรัทธาทั้งหลาย ‫إِنَّ الَّ ِذٌ َْن َك َفر ُْوا َو َما ُت ْوا َو ُه ْم ُك َّفا ٌر‬

แท้จริ งผูท้ ี่ไม่มีศรัทธาทั้งหลาย และตัวเขาได้เสี ยชีวิต ได้จบชีวิตลงในสภาพที่ตวั เขาเป็ นกาเฟร เป็ นผูท้ ี่ปฎิเ สธศรัทธา คนที่เกิ ดมาแล้ว ไม่มีอีหม่านต่อพระองค์อลั เลาะห์ (ซ.บ.) เขาไม่ได้เป็ นอิสลาม หลังจากนั้นก่อนที่ชีวิตจะจบลง เขาไม่ได้กล่าว กาลีมะห์ชาฮาดะห์ ลาอิลาฮาอิลลัลลาห์ ตายไปในสภาพ ที่เขาเป็ นผูป้ ฎิเสธ เป็ นผูท้ ี่ไม่รู้จกั อัลเลาะห์ (ซ.บ.) พระองค์ได้กล่าวว่า ‫ض َذ َهبًا‬ ِ ْ‫َفلَنْ ٌُ ْق َب َل ِمنْ أَ َح ِدهِم ْ ِم ْل ُء ْاألَر‬

หากมาตรแม้นว่าคนๆหนึ่ง ในหมู่พวกเขาเหล่านั้น โดยที่เขาได้ครอบครองกรรมสิ ทธิ์ ทองคําเต็ม ผืนแผ่น ดิน และใช้จ่ายทองคําเหล่านั้น บริ จากให้ผคู้ น ใช้จ่ายไปในเรื่ องสาธารณประโยชน์ ใช้จ่ายไปใน เรื่ องของผูท้ ี่ขดั สน ผูท้ ี่ยากไร้ บริ จากทองคําที่เขามี แม้เต็มผืนแผ่นดิน แก่ผคู้ นทัว่ ไป อัลเลาะห์ (ซ.บ.) บอกว่า ไม่ถูกตอบรับ การกระทําความดีอนั นั้น ‫َولَ ِوا ْف َتدَى ِب ِه‬

หากมาตรแม้นว่า เขาผูน้ ้ นั มีทองคําเท่าผืนแผ่นดิน และจบชีวิตลง ต้องการที่จะนําทองคํานั้น มา ไถ่ชีวิตตัวของเขา จากการที่จะถูกลงโทษ มันก็ไม่มีประโยชน์ ไม่สามารถที่จะมาไถ่ตวั ของเขา จากนรก ของ อัลเลาะห์ (ซ.บ.) ได้ ‫أُولئ َِك لَ ُه ْم َع َذابٌ اَلِ ٌْ ٌم َو َمالَ ُه ْم ِمنْ َناصِ ِرٌ َْن‬ เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 41


คนเหล่านี้ในวันกิยามะฮ์ เขาจะได้รับการลงโทษที่เจ็บปวด แสนที่จะเจ็บแสบ การลงโทษในขุม นรกยะหันนํา การลงโทษในนรกต่าง ๆ ขุมต่าง ๆ ที่ อัลเลาะห์ (ซ.บ.) ได้ตระเตรี ยมเอาไว้เช่นเดียวกัน คนเหล่านี้ก็จะไม่ได้รับความช่วยเหลือใด ๆ จะไม่มีใครที่จะยื่นมือมาช่วยเหลือเค้าได้ พี่นอ้ งที่รักของ อัล เลาะห์ (ซ.บ.) จากโองการนี้มนั ชี้ให้เห็น ว่าวันนี้เราเป็ นผูท้ ี่โชคดีแค่ไหน เราได้รับเนียะมัตที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เนียะมัตแห่งอิสลาม วันนี้เราไม่ได้ร้องขอต่อ อัลเลาะห์ (ซ.บ.) เลย แต่ อัลเลาะห์ (ซ.บ.) นั้นได้เลือกเรา คนหนึ่ งให้เ กิ ดในท้องพ่อท้องแม่ที่เ ค้ามีกะลีมะห์ ลาอิลาฮ่ะอิ้ลลัลเลาะห์ แต่พี่น้องที่รักของ อัลเลาะห์ (ซ.บ.) ใช่ว่าสิ่ งต่าง ๆ เหล่านี้ มันจะเป็ นสิ่ งที่การันตีว่าเรานั้นได้รับความสําเร็ จแล้ว จริ งอยู่ ราคาของการ เป็ นอิสลามนั้นไม่สามารถที่จะประเมินค่าได้ มันมากมายมหาศาล ไม่สามารถเป็ นตัวต่อรองวันกิ ยามะห์ ที่เราจะสามารถหลุดพ้นนรกยะหันนําของ อัลเลาะห์ (ซ.บ.) ได้ก็ตาม แต่มนั ยังไม่ใช่ที่สุด ที่จะทําให้ตวั ของเรานั้นได้พบกับความปลอดภัยอย่างแม้จริ ง นบี ซ.ล.หะดิษบทหนึ่งของท่าน กล่าวว่า ‫ان‬ َ ‫ار َمنْ َك‬ ٍ ‫ان فًِْ َق ْل ِب ِه م ِْث َقا ُل َذرَّ ٍة ِمنْ إِ ٌْ َم‬ ِ ‫ٌ ُْخ َر ُج م َِن ال َّن‬

บุคคลเหล่านี้ จ ะไม่มีสักคนที่จ ะมาทรยศต่อ อัลเลาะห์ (ซ.บ.) แม้เพี ยงกระพริ บตาเดียวก็ไม่เคย กล่าวชื่ออัลเลาะห์ (ซ.บ.) ได้บญั ชาใช้ท้งั หมด บางม่าลาอิกะห์ อัลเลาะห์ (ซ.บ.) ให้เกิ ดขึ้นมา สร้ างขึ้นมา และก็วางบทบัญญัติว่าท่านจะต้อง ซูยตู ต่อฉัน เค้าก็จะซูยูต บางม่าลาอีกะห์ถูกสร้ างขึ้นมา และก็ให้ทาํ การรู่ กวั ะต่อ อัลเลาะห์ (ซ.บ.) ม่าลาอีกะห์เหล่านี้ก็จะทําการรู่ กวะต่ออัลเลาะห์ (ซ.บ.) จนกระทัง่ วันกิ ยา มะห์เช่นเดียวกัน ถามว่า...เรานั้นเป็ นสิ่ งปลูกสร้างที่ประเสิ รฐ มันจะยังใช่ความจริ งอยู่รึเปล่า มันยังเป็ น ความจริ งอยูร่ ึ เปล่า อามั้ลของเรา กับอามั้ลของม่าลาอีกะห์ เมื่อนํามาเปรี ยบเทียบกันแล้ว มันเทียบกันได้ ไหม ถามว่าวันหนึ่งเรามีความผิดมากมายขนาดไหน ไหนจะความผิดที่เกิ ดจากลิ้นของเรา เราจะไปพูด สิ่ งต่าง ๆ ที่ อัลเลาะห์ (ซ.บ.) ไม่พอใจ พูดเรื่ องของคนอื่น นิ นทา ว่าร้ าย ใส่ ร้ายต่าง ๆ มากมายมหาศาล ในแต่ละวัน หูของเรา ที่อลั เลาะห์ (ซ.บ.) สร้างมา วันหนึ่งหูสร้างความผิดขนาดไหน ฟังสิ่ งที่ฮ่าหร่ าม ฟั ง การนินทา ฟังเสี ยงเพลง ฟังสิ่ งที่ไร้สาระ สายตาก็มอง ออกจากบ้าน นี่ก็เห็นแล้วความชัว่ แล้วเราจะเป็ น ‫ت‬ ِ ‫أَ ْش َرفُ ْال َم ْخلُ ْو َقا‬.. ที่จะมีฐานะเหนื อกว่าม่าลาอีกะห์ ถามว่ามันจะเป็ นไปได้ไหม พี่น้องที่รักของ อัล เลาะห์ (ซ.บ.) วัน นี้ คํา พู ด นี้ มัน จะยัง สั จ จริ งอยู่ รึ เปล่ า เรายัง กล้า ที่ จ ะภู มิ ใ จรึ เปล่ า ว่ า เราเกิ ด เป็ น ‫ت‬ ِ ‫ أَ ْش َرفُ ْال َم ْخلُ ْو َقا‬หรื อไม่ และหากวันนี้ ถ้าหากในโลกดุนยานี้ ไม่มีก ลุ่มของอัมบียะห์ ไม่มีกลุ่มของ บรรดา ร่ อซู้ล มนุษย์ไม่มีสิทธิ์เป็ น ‫ت‬ ِ ‫ أَ ْش َرفُ ْال َم ْخلُ ْو َقا‬คนที่จะเป็ น ‫ت‬ ِ ‫ أَ ْش َرفُ ْال َم ْخلُ ْو َقا‬คืออัมบียาอ์ และ บรรดาร่ อ ซู้ลทั้งหลายคนเหล่านั้นเป็ น ‫ت‬ ِ ‫ َأ ْش َرفُ ْا ل َم ْخلُ ْو َقا‬เพราะสาเหตุอะไร เค้าเป็ นสิ่ งปลูกสร้ างที่ ประเสริ ฐที่ สุด แล้ว สาเหตุอะไร ทั้ง ๆ ที่คนเหล่านี้ ก็ใช้ชีวิ ตเหมื อนพวกเรา เค้าก็กิน เค้าก็ดื่ม เค้าก็มี ภรรยา เค้ามีอารมณ์เหมือ นพวกเรา มีอารมณ์อยากที่จะทําในสิ่ งที่ความรู้ สึกข้างในเค้าต้องการ แต่เค้า สามารถที่จะยับยั้งอารมณ์ของเค้าได้ คนเหล่านี้ งานที่ อัลเลาะห์ (ซ.บ.) ให้มา จนกระทั้งฐานะของเค้ามี เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 42


ฐานะสูงส่งกว่าม่าลาอีกะห์ งานตัวนี้มนั เป็ นสิ่ งที่จะการันตีตวั เค้าว่าเป็ น ‫ت‬ ِ ‫ أَ ْش َرفُ ْال َم ْخلُ ْو َقا‬เพราะงานนี้ ทําให้อีหม่านของคนเหล่านี้ กระเทิบขึ้นไปเรื่ อยๆ ซึ่ งอีหม่านของม่าลาอีกะห์ กับอีหม่านของอัมบียะห์ แตกต่างกัน สมมุติว่า อัลเลาะห์ (ซ.บ.) สร้ างม่าลาอีกะห์ข้ ึนมา อีหม่านของม่าลาอีกะห์ต้ งั แต่วนั ที่สร้ าง จนกระทัง่ วันกิยามะห์ มี 50 ม่าลาอีกะห์ก็จะมีอีหม่านแค่ 50 ไม่มีคาํ ว่าลดและคําว่าเพิ่ม สิ่ งนี้ คือสิ่ งที่เป็ น ความต่างแห่งการเป็ นมัคลู๊ค ม่าลาอีกะห์มีอีหม่าน 50 สมมุติ เค้าก็จะมีอีหม่าน 50 นี้ จนกระทัง่ ถึงวันกิ ยา มะห์ แต่บรรดาอัมบียะห์ และร่ อซู้ลทั้งหลาย คนเหล่านี้ ถูกส่ งลงมาให้พยายามกับกลุ่มชนของเค้า กับ ประชาชาติของเค้าในทางศาสนา ทําอย่างไรให้มนุษย์ท้ งั หมดรู้ จกั อัลเลาะห์ (ซ.บ.) ชีวะประวัติของแต่ ละคน ด้วยความที่ยากลําบาก เช่นท่านนบี นัวะห์ (อ)ในอัล กรุ อ่านบอกการทํางานของนบี นัวะห์ ท้ งั กลางวัน และกลางคืน 950 ปี ในการพยายามในหนทางศาสนา พยายามในกลุ่มชนของเค้าให้ได้รู้จกั อัล เลาะห์ (ซ.บ.) พยายามให้กลุ่มชนของเค้ายอมที่จะสิ โรราบต่อ อัลเลาะห์ (ซ.บ.) พอคนเหล่านั้นปฏิเสธอัล เลาะห์ (ซ.บ.)... 20.35 กระทําในสิ่ ง ที่ เ ป็ นความผิ ด บนพื้ นแผ่นดิ นของ อัล เลาะห์ (ซ.บ.) นบี นัว ะฮ์ พยายาม พยายามทั้งกลางวันและกลางคืน 950 ปี เป็ นเวลาที่ยาวนานเหลือเกิ น ในยุคของเรา แม้แต่คน เดี ยวก็ไม่เคยมี อ ายุถึง 950 ปี นัน่ คื องาน เพราะฉะนั้นอี หม่านของคนเหล่านี้ จ ะเพิ่มขึ้ นเรื่ อ ยๆ ไม่มีที่ สิ้ นสุด ความแตกต่างระหว่าง บรรดาอัมบียะห์ กับม่าลาอีกะห์ ฐานะของเค้าคืออีหม่าน แต่ถามว่า ทําไม ละ ในวันที่ อัลเลาะห์ (ซ.บ.) จะทําลาย ตัวของนัวะฮ์ คนที่ไม่ศรัทธาต่อนบีนวั ะฮ์ อัลเลาะห์ (ซ.บ.) ให้น บีนวั ะฮ์เอาบุคคลที่มีอีหม่านต่อ อัลเลาะห์ (ซ.บ.) ประมาณ 80 คน ขึ้นเรื อทั้งหมด หลังจากนั้น อัลเลาะห์ (ซ.บ.) ให้น้ าํ ไหลออกมาจากทุกสิ่ งทุกอย่าง จนนํ้าท่วมโลก ในยุคนั้นไม่มีคนที่ปฏิเสธอีกแล้ว ไม่มีคนที่ ปฏิเสธต่อ อัลเลาะห์ (ซ.บ.) หลงเหลือแม้แต่คนเดียว แต่หลังจากที่ว่านํ้าลด ผูค้ นมีการแต่งงานแต่งการ กัน หลัง จากนั้นลูก หลานของเค้าเริ่ มปฏิ เ สธ อัล เลาะห์ (ซ.บ.) ที ล ะคน ๆ จนกระทัง่ จบจากยุคของ นบีนวั ะฮ์ ทั้งหมด คนที่มีอีหม่านศรัทธา ตายกันหมด หลังจากนั้นคนเหล่านี้กลายเป็ น กุโฟรทั้งหมด ถ้า จะเหลือก็ไม่กี่คน มันเกิ ดอะไรขึ้น คนที่พ่อแม่ของเค้าอีหม่าน ปู่ ย่าตายายของเค้าอีหม่านต่อ อัลเลาะห์ (ซ.บ.) แต่พอมาลูกหลานกลายเป็ นกุโฟรทั้งหมด เพราะสาเหตุอะไร หลังจากนั้นก็มาดูยคุ สมัยของท่านน บี ซ.ล. ยุคของท่านนบี ซ.ล. ตั้งแต่วนั ที่ท่าน ซ.ล. เสี ยชีวิต จนกระทัง่ วันนี้ ถามว่ากี่ปีแล้ว พันกว่าปี แล้วพี่ น้อ งที่รัก ของ อัล เลาะห์ (ซ.บ.) พันกว่าปี แต่ทาํ ไมวันนี้ อิสลามมาถึ ง พวกเรา ทําไมวันนี้ เ ราสามารถ กล่าวก่าลีมะห์ ลาอิลาฮ่ ะอิ้ลลัลเลาะห์ มะของเราเป็ นมุสลิม อาเยาะห์ของเราเป็ นมุสลิม กี ของเรา ทวด ของเราเป็ นมุสลิมหมดเลย เกิ ดอะไรขึ้ น ไม่ใช่เ ฉพาะบุคคลเหล่านี้ เ ข้าใจในทางศาสนา ร่ อ ซู้ล ซ.ล. แตกต่างจากนบีนวั ะฮ์ ตรงนี้ นบีนวั ะฮ์สอนให้ลูกหลานให้ปฏิบตั ิศาสนา แต่นบีนวั ะฮ์ไม่ได้บอกให้อุม มะห์ของท่าน ไม่ได้มีบทบัญญัติ อุมมะห์ของท่านต้องดํารงค์ศาสนา วันนี้ ศาสนาจึ งหมดในยุคของท่าน แต่อุมมะห์สุดท้าย อุมมะห์ของท่านนบี ซ.ล. หลังจากนบีของเรา จะไม่มีวนั นี้ อีกแล้ว เพราะนบีมุฮาํ มัด เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 43


ซ.ล เป็ น ‫ َخا َت ُم ْاألَ ْن ِب ٌَ ِاء‬เป็ นนบีองค์สุดท้าย อัลเลาะห์ (ซ.บ.) จะไม่ส่งนบีมาอีกแล้ว อุมมะห์น้ ี ก็จะเป็ น อุมมะห์สุดท้ายเช่นกัน นบี ซ.ล. ถูก ส่ ง มาทํางานศาสนาเรี ยกร้ อ งสู่ อัลเลาะห์ (ซ.บ.) และนบีได้สอน ศาสนาแก่ซอฮาบะฮ์ สอนให้เชื่ อมัน่ ต่อ อัล เลาะห์ (ซ.บ.) สอนจนซอฮาบะฮ์เข้าใจ และซอฮาบะฮ์ได้ ออกไปบนหน้าแผ่นดินของ อัลเลาะห์ (ซ.บ.) ไปในที่ไกลโพ้น แม้ในที่ๆไม่เข้าใจในภาษาเหล่านั้น แม้ ไกลถึงเมืองจีน พูดภาษาจีนไม่ได้ แต่ ณ ปัจจุบนั มีถึงกว่า ๒๐๐ ล้านคนที่มีอิสลาม ด้วยสาเหตุของความ พยายามที่จะทํางานศาสนาของซอฮาบะฮ์ วันนี้ เกี ยรติ ของอุมมะห์ สุดท้ายอุมมะห์ของท่านนบี ซ.ล. มี โอกาสเทียบเคียงเกียรติของมาลาอีกะฮ์ ด้วยสาเหตุเพราะคนที่ลุกขึ้นมาทํางานศาสนา พยายามที่จะทําให้ คนๆหนึ่งรู้จกั อัลเลาะห์ (ซ.บ.) มีความปวดร้าวที่จะพยายามที่จะให้คนสุดท้ายบนโลกใบนี้ รู้จกั อัลเลาะห์ (ซ.บ.) ไม่ตอ้ งการที่จะให้คนสุดท้ายตกนรก ยาฮันนัมของอัลเลาะห์ (ซ.บ.) วันนี้ที่พวกเราที่นงั่ อยู่ ณ ที่น้ ี ทั้ง หมด ทุก คนมี สิท ธิ์ ที่จ ะเป็ น ‫ أشرف المخلوقات‬เราสามารถที่ จะมีเ กี ยรติในการพยายามที่ จะให้ มนุษยชาติรู้จกั อัลเลาะห์ (ซ.บ.) ‫ َتأْ ُمر ُْو َن ِباْل َمعْ ر ُْوفِ َو َت ْن َه ْو َن َع ِن ْال ُم ْن َك ِر‬เรี ยกร้องสู่ความดี ห่างไกลจาก ความชัว่ สมมุติว่าวันนี้ ทุก บ้าน ทํางานนี้ แน่ นอนไม่มีคนชัว่ แน่ นอน ทุกคนจะไม่ทาํ ผิดหลัก การของ ศาสนา ทุกคนไม่กล้าที่จะขัดคําสัง่ ของ อัลเลาะห์ (ซ.บ.) แต่วนั นี้คนชัว่ มันกลาดเกลื่อน ทัว่ ทุกหัวระแหง เพราะสาเหตุที่พวกเราละทิ้งงานศาสนา เราไม่กล้าที่จะบอกเขา ภรรยาของเราไม่ปิดเอาเราะห์ออกจาก บ้าน เราก็ไม่บอกกับเค้า ลูกของเราทิ้งละหมาด เราไม่ยอมที่จะตักเตือนเค้า ไม่ยอมที่จะลงโทษเค้า ถาม ว่าถ้าเราทิ้งงานเหล่านี้ ทุกคนไม่เอากัน ไม่เอางานของร่ อซู้ลมาดําเนิ นชีวิต มาปฏิบตั ิในวันนี้ เราจะหวัง ได้อย่างไรว่าลูกหลานของเราในอนาคตเค้าจะมีอิสลามในการดํารงค์ชีวิต เค้ายังเป็ นมุสลิมอยู่ เราจะหวัง ได้อย่างไร เพราะฉะนั้นพี่นอ้ งที่รักของ อัลเลาะห์ (ซ.บ.) วันนี้เราสร้างจิตสํานึ กให้เกิ ดขึ้น ไม่ใช่เพียงเรา เท่านั้นที่จะต้องละหมาดที่มสั ยิด ไม่เพียงเราเท่านั้นที่จะรู้จกั อัลเลาะห์ (ซ.บ.) ไม่ใช่เพียงเราเท่านั้นที่จะมี ยาเก็น ร้อยเปอร์ เซ็น ว่า อัลเลาะห์ (ซ.บ.) เป็ นผูส้ ร้าง อัลเลาะห์ (ซ.บ.) เป็ นผูท้ ี่ดูแล อัลเลาะห์ (ซ.บ.) เป็ น ผูท้ ี่ประทานริ สกี อัลเลาะห์ (ซ.บ.) เป็ นผูท้ ี่ให้ชีวิต และเป็ นผูท้ ี่เอาชีวิตกลับคืน ไม่ใช่เราเท่านั้นที่จะเชื่อ ร้อยเปอร์ เซ็นแบบนี้ ทุกคนที่อยู่บนโลกดุนยา เป็ นอามานะฮ์ที่เราทุกคนต้องรับผิดชอบ คนที่เค้ายังไม่ มี ก่ าลี ม ะฮ์ ลาอิ ล าฮะอิ้ ล ลัล ลอฮ์ มันเป็ นอามานะฮ์ของคนที่ มีก่ าลี ม ะฮ์ ลาอิ ล าฮะอิ้ ล ลัล ลอฮ์ จะต้อ ง รับผิดชอบชีวิตของเค้า เพราะวันกิยามะฮ์น้ นั คนเหล่านี้จะไม่ยอมตกนรก เค้าก็จะต้องบอก จะต้องขอจาก อัลเลาะห์ (ซ.บ.) คนเหล่านี้เห็นชัดทุกวัน คนเหล่านี้มามัสยิดทุกวัน เค้าไม่เคยบอกฉันเลย ไม่เคยชวนฉัน เลย แล้ว อัลเลาะห์ (ซ.บ.)จะให้เค้าเข้าสวรรค์ได้อย่างไร และ อัลเลาะห์ (ซ.บ.)ก็จะฟั งถึงการตัดพ้อต่อ อัลเลาะห์ (ซ.บ.) ฉะนั้นพี่นอ้ งที่รักของ อัลเลาะห์ (ซ.บ.) ให้เราทุกคนสร้ างจิ ตสํานึ กให้เกิ ดขึ้น จิ ตสํานึ ก แห่ งการเป็ นอุมมะฮ์ของนบี ..วันนี้ จ ําเป็ นที่เ ราจะต้อ งเอาไปอยู่ในการดําเนิ นชีวิตของเรา เราปั ดความ รับผิดชอบให้ใครสักคนหนึ่งไม่ได้ เมื่อเราบอกเราเป็ นบ่าวของ อัลเลาะห์ (ซ.บ.) เมื่อเราบอกเราเป็ นอุม มะฮ์ของนบี ไม่ใช่อุมมะฮ์นบี นัว ะฮ์ ไม่ใช่นบี มูซา งานนี้ เ ป็ นงานของเรา เป็ นอามานะฮ์ที่ อัล เลาะห์ เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 44


(ซ.บ.) มอบให้กบั เรา ฉะนั้นสิ่ งต่าง ๆ ที่เราได้พูดคุยกัน มันจะไม่เกิดประโยชน์เลย ถ้าหากเราจะฟั ง แล้ว เราก็กลับบ้าน ประโยชน์จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเรานํามาทบทวน มันใช่รึเปล่า เราจะสู งส่ งจริ งไหม ฐานะ ของเราจะมีความสูงส่งกว่าม่าลากี กะห์ได้อย่างไร ถ้าหากวันนี้ อีหม่านของเรานั้นลงอยู่ตลอดเวลาอีหม่าน ของเราไม่ได้ข้ ึนเพราะเราไม่ได้ทาํ งานศาสนา ในวันนี้ เอง เราทุกคนจะเอางานชิ้นนี้ มาอยู่ในการดําเนิ น ชีวิตจนกว่ากิยามะฮฺ จะเกิดขึ้น อินชาอัลลอฮ์

เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 45


#48. คุตบะห์ วนั ศุกร์ ณ มัสยิดท่ าอิฐวันศุกร์ ที่ 29 ตุลาคม 2553 ตรงกับวันที่ 21 ซุลกอดะห์ ฮ.ศ.1431 โดย อาจารย์อะห์ซะนุดดีน(สุวรรณ) มัง่ มี

พี่น้อ งที่เ คารพรั ก ศาสนฑูตที่เราจําเป็ นจะต้อ งรู้ จ ักนั้นมี 25 ท่าน จาก 25 ท่าน มี 5 ท่าน ซึ่ ง มี ภาระกิจหนัก และถูกทดสอบอย่างหนักหน่วง ที่เราเรี ยกว่า ‫ أُولُواا ْل َع ْز ِم‬ผูท้ ี่มีกาํ ลังใจหนักแน่นมัน่ คง ได้แก่ท่าน นบีมูฮาํ มัด (ซ.ล.) และ นบีอิบรอฮีม นบีมูซา นบีอีซา และ นบีนวั ฮ์ อะลัยฮิสสลาม พี่นอ้ งที่เคารพรัก ตามประวัติศาสตร์ ระยะเวลาการเกิ ด นบีนวั ฮ์ และการสิ้ นชีวิตของ นบีอาดัม นั้น ห่ างกัน 146 ปี แต่ท่าน นบีอาดัม มีอายุ 960 ปี นบีนวั ฮ์ มีอายุ 1050 ปี ได้รับสมญานามว่า อาดัมที่ สอง เพราะเหลือมนุษยชาติเพียง 80 คน ซึ่ งผูค้ นในสมัย นบีนวั ฮ์ ได้สักการะรู ปปั้ น ที่ถูกเรี ยกว่าเทพเจ้า มาเป็ นเวลาหลายชัว่ อายุคน พวกเขาเชื่อว่า เทพเจ้าเหล่านี้ จะนําความดีมาให้พวกเขา คุม้ ครองพวกเขา ให้ พ้นจากความชัว่ พวกเขาเรี ย กชื่ อ รู ปปั้ นด้ว ยนามชื่อ ต่าง ๆ เช่น วัดด์ สุ ว าอ์ และ นัส ดัง พจนารถของ อัลเลาะฮ์ (ซ.บ.) ซึ่ งพวกปฏิเสธได้กล่าวว่า

‫َوالَ َت َذ ُرنَّ َو ًّ​ّدا‬ พวกท่านทั้งหลาย อย่าทอดทิ้งการกราบไหว้เทวรู ป # ที่มีนามว่า วัด #

َ ‫س َوا ًّعا َوالَ ٌَ ُغ ْو‬ ‫ث َو ٌَ ُع ْو َق َو َن ْس ًّرا‬ ُ َ‫َوال‬ และอย่าทอดทิ้ง สุวาอ์ ยะฆูษ ยะอุ๊ก และ นัสร์ พี่นอ้ งที่เคารพรัก แต่เดิมทีแล้ว ชื่อรู ปปั้นเหล่านี้ เป็ นชื่อของคนดี ที่มีชีวิตอยู่ในสมัยของพวกเขา แต่หลังจากคนดีเหล่านี้ได้ตายลง ผูค้ นก็สร้างรู ปปั้นคนดีเหล่านี้ ไว้เป็ นอนุสรณ์ และหลังจากที่เวลาผ่าน ไป ผูค้ นก็เริ่ มสักการะบูชารู ปปั้นเหล่านี้ เรื่ อยมา นี่คือที่มาของรู ปปั้น และสิ่ งแรกที่ได้ถูกกราบไหว้แทน อัลเลาะฮ์ (ซ.บ.) มี ชื่อว่า # วัดด์ # เป็ นรู ปปั้ นที่ พวกเขาตั้งชื่ อขึ้นมา ตามคนดีที่พวกเขารัก ด้วยความ เมตตาของ อัลเลาะฮ์ (ซ.บ.) พระองค์ได้ส่งนบี นัวฮ์ มาตักเตือน ซึ่ งผูค้ นได้แบ่งเป็ น 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่ ง คน อ่อนแอ คนขัดสนยากจน คนอนาถา ซึ่ งศรัทธาต่อ อัลเลาะฮ์ (ซ.บ.) กลุ่มที่สอง คนรวย คนเข้มแข็ง คนมี อํานาจการปกครอง ซึ่ งคนเหล่านี้ มองการตักเตือนของ นบีนวั ฮ์ เป็ นเรื่ องไร้ สาระ พวกเขากล่าวกับนบี นบีนวั ฮ์ ว่า โอ้ นบีนวั ฮ์ ท่านเป็ นมนุษย์ธรรมดาเหมือนกับพวกเรา จะเผยแผ่ศาสนาได้อย่างไร เรามองว่า เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 46


ท่านนั้นเป็ นผูโ้ กหก ท่าน นบีนวั ฮ์ ได้ตอบว่า ตัวฉันนี่ เป็ นเพียงมนุษย์คนหนึ่ ง แต่ อัลเลาะฮ์ (ซ.บ.)ได้ส่ง ฉันมาเป็ นศาสนฑูต ที่เป็ นมนุษย์ เพราะโลกนี้เป็ นที่อยู่อาศัยของมนุษย์ ถ้าหากโลกนี้ เป็ นที่อยู่อาศัยของ มาลาอิ ก ะห์ แน่ นอนพระองค์ อัล เลาะฮ์ (ซ.บ.) ก็จ ะส่ ง ศาสนฑู ตที่ เ ป็ น มาลาอิ ก ะห์ นบี นัว ฮ์ ยัง คง เรี ยกร้องผูค้ นของเขา ให้ศรัทธาต่อ อัลเลาะฮ์ (ซ.บ) วันแล้ววันเล่า ปี แล้วปี เล่า ทั้งกลางวันและกลางคืน โดยลับและเปิ ดเผย แต่ก็ไม่มีผศู้ รัทธาเพิ่มขึ้น แถมยังทําร้าย นบีนวั ฮ์ ซึ่ งมีเด็กคนหนึ่ ง กําลังขี่หลังพ่อ เจ้า เด็กเห็น นบีนวั ฮ์ ก็ขอก้อนหิ นจากพ่อ แล้วเอาหิ นขว้าง นบีนวั ฮ์ จนเลือดไหล หลังจากนั้น นบีนวั ฮ์ ถูก เอาเชือกรัดคอจนเป็ นลม และถูกตีจนสลบ คิดว่าตัวเองตายแล้ว เมื่อฟื้ นขึ้นมา นบีนวั ฮ์ กล่าวว่า “โอ้พระ ผูเ้ ป็ นเจ้า โปรดอภัยโทษให้กบั พวกเขาด้วยเถิด เพราะพวกเขาไม่รู้ว่า ตัวข้านี้ เป็ นศาสนฑูตของพระองค์ ผูค้ นของ นบีนวั ฮ์ ทุกรุ่ นได้เสี่ ยมสอนประชากรรุ่ นต่อมา ไม่ให้เชื่อ นบีนวั ฮ์ และต่อต้าน นบีนวั ฮ์ เป็ น เวลา 950 ปี อยูม่ าวันหนึ่ง อัลเลาะฮ์ (ซ.บ.) ได้ดลใจนบีนวั ฮ์ มิให้เสี ยใจกับคนเหล่านั้น ด้วยเหตุหนึ่งนี้เอง นบีนวั ฮ์ ได้วิงวอนต่อพระเจ้า ให้ทาํ ลายผูป้ ฏิเสธ ซึ่ ง อัลเลาะฮ์ (ซ.บ.) ก็ตอบรับคําวิงวอนของ นบีนวั ฮ์ โดยให้เกิดนํ้าท่วม หลังจากนั้น นบีนวั ฮ์ ก็เลือกสถานที่แห่ งหนึ่ ง นอกเมืองที่ห่างไกลจากทะเลเป็ นอัน มาก และเริ่ มต่อเรื อทั้งกลางวันและกลางคืน ด้วยความช่วงเหลือของ มาลาอิกะห์ เป็ นเวลา 2 ปี เมื่อผูค้ น มาพบเห็น จึงเหยียดหยาม นบีนวั ฮ์ ว่า โอ้ นบีนวั ฮ์ เอ๋ ย ท่านเป็ นช่างไม้ไปแล้วหรื อ และได้มีรายงานว่า เหล่าผูป้ ฏิเสธ ได้อุจจาระใส่เรื อ และสร้างความสกปรกบนเรื อ จนเกิ ดโรคระบาด โรคตาแดง และมีคน หนึ่งได้เอาอุจจาระไปทาตา และโรคร้ายก็หาย หลังจากนั้นเรื อของ นบีนวั ฮ์ ก็สะอาดใหม่เหมือนเดิม เมื่อ เรื อถูกสร้างเรี ยบร้อยแล้ว อัลเลาะฮ์ (ซ.บ.) ก็บอกให้ นบีนวั ฮ์ ทราบว่า เมื่อนํ้าพุ่งออกจากเตาที่บา้ น ซึ่ ง เตานี้ เ ดิมเป็ นของพระนางฮาวอ เมื่ อนํ้าพุ่งออกจากเตาแล้ว นี่ คือ สัญญาณนํ้าท่ว ม และแล้ว วันอันน่ า สะพรึ งกลัว ก็มาถึง เมื่ อเตาที่บ้าน นบี นวั ฮ์ มี น้ าํ เดื อ ดทะลักขึ้ นมา นบีนัว ฮ์ รี บไปเปิ ดเรื อ เรี ย กเหล่าผู้ ศรัทธา ให้มาที่เรื อ นอกจากนั้น เขายังได้เอาสัตว์ต่าง ๆ ทั้งตัวผูแ้ ละตัวเมียทุกชนิ ด อย่างละ 1 คู่ แม้กระ ทั้งนกและมด ขึ้นเรื อไปด้วย เมื่อผูค้ นเห็นเช่นนั้น พวกเขาก็หวั เราะเยาะ พร้อมกับกล่าวว่า นบีนวั ฮ์ บ้าไป แล้ว นํ้าได้พุ่งทะลักขึ้นจากทุกแห่งบนพื้นดิน ฝนก็เทลงมาจากท้องฟ้ า 40 วัน 40 คืน ในปริ มาณที่ไม่เคย เห็นมาก่อนในโลก นํ้าทะเลและคลื่นเท่าภูเขา ก็ทะลักเข้ามาในแผ่นดิน จนท่วมแผ่นดินทั้งหมด ทุกสิ่ ง ทุกอย่างตายหมด นี่คือครั้งแรกที่โลกจมอยูใ่ ต้น้ าํ และความเป็ น มัวะยีซาต ของ อัลกุรอ่าน ได้กล่าวว่า

‫اب ْس ِم هللاِ َم ْج ِرى َها َو ُم ْرس َها‬ ْ َ ‫َو َقال‬ ِ ‫ار َك ُب ْوافِ ٌْ َه‬ และ นบีนวั ฮ์ ได้กล่าวว่า ท่านทั้งหลายจงโดยสารไปในเรื อ ด้วยพระนามแห่ง อัลเลาะฮ์ (ซ.บ) ทั้ง ที่เรื อได้แล่นหรื อเรื อจอดอยู่ กุรอานกล่าวว่า ‫ إِركبوافٌها‬จงโดยสารอยูภ่ ายในเรื อ กุรอานไม่ได้กล่าว ว่า‫ إركبواعلٌها‬จงโดยสารอยูบ่ นเรื อเปล่า กุรอานใช้คาํ ว่า #ฟี ย์# แปลว่า #ใน# แทนคําว่า #อ้าลา# แปลว่า #บน# และการใช้ค าํ ว่า #ฟี ย์# แปลว่า #ใน# เรื อ นี้ ชี้ ใ ห้ รู้ ว่าเรื อ นั้น ถูก ออกแบบถูก สร้ า ง เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 47


เหมือนกับเรื อโดยสาร ในสมัยปัจจุบนั ที่เดินทางข้ามทวีป คือมีหลายชั้น จําเป็ นต้องมีหลายชั้น เพราะว่า มนุษย์ สัตว์ดุร้าย สัตว์เปลียว สัตว์เชื่อง นกและสัตว์อื่น ไม่สามารถอยู่รวมกันได้ นี้ คือความเป็ น มัวะยี ซาต เพียงอักษรเดียว คือคําว่า #ฟี ย์# ถ้าใช้คาํ ว่า #อ้าลา# แปลว่า บน เรื อจะมีเพียงชั้นเดียว ทั้งคนและ สัตว์ ก็จะอยูร่ วมกัน ซึ่ งเป็ นไปไม่ได้ ความยาวเรื อ นบีนวั ฮ์ นั้น 300 ศอก กว้าง 50 ศอก สู ง 30 ศอก ชั้น ล่างสําหรับสัตว์เปลียว สัตว์ดุร้าย ชั้นกลางสัตว์เชื่องต่าง ๆ ชั้นบนสุ ด สําหรับ นบีนวั ฮ์ และลูกทั้ง 3 คน คือ..ซาม , ฮาม , ยาฟิ ซ และเหล่าบรรดาผูศ้ รัทธา ซึ่ งอยู่ในทะเลเกื อบปี เมื่อทุกชีวิตอยู่ในเรื อลําเดียวกัน แล้ว นบีก็ประกาศว่า ท่านทั้งหลายจงอยู่ร่วมกันด้วยความอดทน ช่วยเหลือซึ่ งกันและกัน ห้ามก่อความ เดือดร้อนในเรื อ ห้ามขโมยเสบียงอาหาร ห้ามจุดไฟหุงต้มอาหาร ห้ามมีเพศสัมพันธ์เ นื้ อจิ้ มเนื้ อ ซึ่ งจะทํา ให้เรื อมีน้ าํ หนักเพิ่มขึ้น แต่อย่างไรก็ดี มีผฝู้ ่ าฝื น หนูสร้างความเดือดร้ อนในเรื อไปกัดเชือกเรื อ ท่าน นบี นัวฮ์ ก็เอามื อลูบไปที่จ มูก สิ ง โต ก็มีแมวมาจัดการกับหนู หมูขโมยเสบีย งอาหาร อัลเลาะฮ์ (ซ.บ.) จึ ง สาปแช่ง ให้กินอุจจาระสิ่ งสกปรกต่าง ๆ จนถึงปัจจุบนั (เขาว่า) ถ้าจะกล่าวถามว่า อัลเลาะฮ์ (ซ.บ.) สร้ าง หมูมาทําไม ทั้ง ๆที่ หะรอม กิ น คําตอบก็คือ หมูมิได้ถูกสร้ างเพื่อบริ โภค แต่เพื่อเป็ นระบบนิ เวศน์ ซึ่ ง หน้าที่หลักของหมูน้ นั ก็คือ กําจัดกัดกินสิ่ งสกปรกต่าง ๆ ซึ่ งเป็ นแหล่งเพาะพันธ์ของเชื้อโรคและโรคร้ าย ต่าง ๆ ดังที่หมูได้กินอุจจาระสิ่ งสกปรกต่าง ๆ ในเรื อ นบีนวั ฮ์ ส่ ว นหมาก็แอบไปมีเ พศสัมพันธ์ จึ งถูก สาปแช่งให้ติดเก้งจนถึงบัดนี้ (เขาว่า) พี่นอ้ งที่เคารพรัก ณ ชัว่ โมงนี้ เราทุกคนเหมือนอาศัยอยูใ่ นเรื อของ นบีนวั ฮ์ ต้องประสบกับนํ้าท่วมบ้าน นํ้าท่วมห้องนํ้า กลิ่นเน่ าเหม็น โรคร้ ายต่าง ๆ เสี ยหายทั้งทรัพย์สิน และเงิ นทอง และอื่น ๆ ซึ่ งคนเราที่อยู่ในเรื อ ลําเดีย วกันนี้ จะรัก จริ ง จริ งใจ จริ งจังไม่ใช่จิงโจ้ ก็ช่วงนี้ แหละ แต่ถา้ หากว่าใครจะมีนิสัยหนู ชอบสร้ างความเดือดร้ อน มีนิสัยหมูแอบยักยอกเอาเปรี ยบ หรื อมี นิสยั หมา ก็มีได้ทาํ ได้ แต่อย่าให้ อัลเลาะฮ์ (ซ.บ.) รู้ อัลเลาะฮ์ (ซ.บ.) เห็น พี่นอ้ งที่รัก ท้ายนี้ขอฝากคําดํารัสของ อัลเลาะฮ์ (ซ.บ.) ที่กล่าวกับท่าน นบีมูฮาํ มัด (ซ.ล.) ที่ว่า

َ‫اص ِب ْرإِنَّ ا ْل َعاقِ َب َة لِ ْل ُم َّتقِ ٌْن‬ ْ ‫َف‬

โอ้ มูฮาํ มัด ท่านจงอดทน เหมือนที่ท่านนบีนวั ฮ์ ซอบัร อดทน หมายความว่า ประชาชาติของ นบีมูฮาํ มัด (ซ.ล.) คือเราท่านทั้งหลาย จง ซอบัร อดทนเหมือนกับประชาชาติของ นบีนวั ฮ์ ที่ ซอบัร

َ‫إِنَّ ا ْل َعاقِ َب َة لِ ْل ُم َّتقِ ٌْن‬

แท้ที่จริ ง จุดจบที่รอดพ้น ที่ดีเยีย่ มนั้น สําหรับบรรดาผูท้ ี่กลัวเกรง อัลเลาะฮ์ (ซ.บ.) และจุดจบที่ เลวสุดนั้น คือการจมนํ้าตาย เหมือนผูป้ ฏิเสธ

‫َن ُع ْو ُذ ِباهللِ منْ ذلِ َك‬

เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 48


#49.

คุตบะห์วนั ศุกร์ ณ มัสยิดท่าอิฐวันศุกร์ ที่ 5 พฤศจิกายน 2553 ตรงกับวันที่ 28 ซุลกอดะห์ ฮ.ศ.1431 โดย อาจารย์ อาซิส พิทกั ษ์ คุมพล จุฬาราชมนตรี

‫السالم عليكم ورحمةااهلل وبركاته‬

เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 49


#50. คุตบะห์วนั ศุกร์ ณ มัสยิดท่าอิฐวันศุกร์ที่ 12 พฤศจิกายน 2553 ตรงกับวันที่ 6 ซุล้ ฮิจยะห์ ฮ.ศ.1431 โดย อาจารย์มูยาฮิด ลาตีฟี

‫السالم عليكم ورحمة اهلل وبركاته‬ พี่นอ้ งศรัทธาชนที่เคารพรักทั้งหลาย ขอท่านทั้งหลายจงตั้งมัน่ ยําเกรงต่ออัลเลาะห์ (ซ.บ.) อย่าง แท้จริ ง ด้วยการประพฤติปฏิบตั ิตามในสิ่ งที่พระองค์ทรงใช้ ละเว้นห่ างไกลจากสิ่ งที่พระองค์ทรงห้าม พี่นอ้ งศรัทธาชนที่เคารพรักทั้งหลาย นับเป็ นเนี๊ยะมะห์ ความโปรดปรานของอัลเลาะห์ (ซ.บ.) ที่มีต่อเรา ท่านทุกคนอีกครั้งหนึ่ง กับการปฏิบตั ิอาม้าลอิบาดะห์ประจําสัปดาห์ของเรา การที่เราได้รับโอกาสมีลม หายใจ ต่อ การที่ เ ราได้มีโ อกาสมาร่ ว มละหมาดวันศุกร์ โ ดยพร้ อมเพรี ย งกันในวันนี้ กับบรรยากาศที่ แตกต่าง กับ บรรยากาศซึ่ งที่ เ รานั้นมี ความรู้ สึก กัง วล มี ความรู้ สึก เป็ นห่ ว งกับบุคคลที่ อ ยู่ภายใต้ก าร ปกครองของเรา ทรัพย์สิน เงิ นทอง กับสภาวะซึ่ งที่เปลี่ยนแปลง กับปริ มาณนํ้าที่เพิ่มขึ้น พี่น้องศรัทธา ชน ที่เคารพรักทั้งหลาย สิ่ งหนึ่ ง ที่หลักการอิ สลามได้กาํ หนดให้กบั เรา ในฐานะที่เป็ นศรัทธาชน เป็ น มุก้ ลั ลัฟ ที่จะต้องนึกถึงอยูเ่ สมอ นึกถึงในช่วงเวลาใดก็ตาม ที่เราจะต้องมีการกระทําเรื่ องหนึ่ งเรื่ องใด ที่ ُ ต้องการความคิด ต้องการความเห็น ต้องการคําปรึ กษา ในคุตบะห์วนั นี้ จะได้กล่าวถึงการ ‫ش ْو َرى‬ “ชูร อ” การปรึ กษาหารื อ ในทัศนะ แนวทางของอัล -อิ สลาม อัล เลาะห์ (ซ.บ.) ได้ทรงมี พระดํารั สใน ตอนท้ายของอายะห์ที่ ๑๕๙ จากซูเราะห์ อาละอิมรอน               ......

อัลเลาะห์ (ซ.บ.) ได้ทรงมีบญั ชาให้น่าบี (ซ.ล.) ทําการปรึ กษาหารื อกับเหล่าบรรดาซอฮาบะห์ ถึงแม้ว่า َ ‫َفإِ َذا َع َز ْم‬ เหล่าซอฮาบะห์ น้ นั จะขัดแย้ง ต่อคําสั่ง ใช้ของท่านน่าบี (ซ.ล.) ในสงครามอุฮุดก็ตาม ‫ت‬ “เมื่อใดที่เจ้าแน่ใจ เมื่อใดที่เ จ้ามัน่ ใจ” ‫هللا‬ ِ ‫“ َف َت َو َّكلْ َعلَى‬จงมอบหมายต่ออัลเลาะห์ (ซ.บ.) เถิ ด” َ‫ِب ْال ُم َت َو ِّكلِ ٌْن‬ ُّ ‫هللا ٌُح‬ َ َّ‫“ اِن‬แน่ แท้อลั เลาะห์ (ซ.บ.) ทรงรั ก เหล่าบุคคลซึ่ งที่ ทาํ การ มอบหมาย” พี่น้อ งศรั ท ธาชนที่ เ คารพรัก ทั้ง หลาย การปรึ ก ษาหารื อ การชูรอ การระดมความคิ ด ใน ประเด็นหนึ่ ง ประเด็นใดนั้น คื อ จุ ดเริ่ มต้นของความสําเร็ จ คื อ จุ ดเริ่ มต้นของการบรรลุสู่เ ป้ าหมายที่ อิสลาม มีความต้องการในสิ่ งนั้น สิ่ งจําเป็ นต่อการที่เราจะระดมความคิดนั้น แน่นอนที่สุดว่า จะต้อ ง เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 50


ระดมสมอง แนวความคิด ที่มาจากบุคคลที่มีความคิด และเป็ นความคิดแบบอิสลาม ทุกคนมีความคิด มี ความเห็ น มี ความแตกต่าง แต่ที่เ ราต้องการ ในฐานะที่เราเป็ นมุอ์มินที่ ศรัทธารั กของอัล เลาะห์ (ซ.บ.) จะต้องนําหลักคิด ความเห็น ที่มนั สอดคล้องกับหลักธรรมคําสอนของอัล-อิสลาม อัลเลาะห์ (ซ.บ.) ได้ กล่าวไว้ใน ‫س ْو َرةُ ال َّن ْح ِل‬ ُ อายะห์ที่ ๔๓ ว่า         

“สูเจ้าทั้งหลายจงไต่ถามเหล่าบรรดาคณะปวงปราชญ์ หากพวกเจ้านั้นไม่รู้” ในฐานะที่เราเป็ นมุอ์มินผูศ้ รัทธามัน่ แน่นอนที่สุดว่า คําว่าปราชญ์ ณ ที่น้ ี คือ ُ ‫ ِر َجال‬ในฐานะที่ เราเป็ นมุอม์ ินผูศ้ รัทธามัน่ แน่นอนที่สุดว่า คําว่าปราชญ์ ณ ที่น้ ี คือ ‫“ ِر َجا ُل ال ِّدٌْن‬ศาสนบุคคล” บุคคลที่ มีความเข้าใจในหลักธรรมคําสอนของอัล-อิสลาม เราจึงจะได้รับความคิด ความเห็ นที่มนั สอดคล้องกับ หลักการอิสลาม ในสิ่ งนี้ท่านซัยดินาอาลี (‫ ) َكرَّ َم هللاُ َوجْ َه ُه‬บอกกับเรา ถึงประเภทต่างๆของมนุษย์ที่มีอยู่ ประเภทที่หนึ่ง ْ‫ َر ُج ٌل ٌَ ْد ِريْ َو ٌَ ْد ِريْ أَ َّن ُه ٌَ ْد ِري‬คือ “บุคคลซึ่ งที่มีความรู้ และตนก็รู้ว่าตนมีความรู้ ” ‫“ َفسْ َئ ْلوا‬จงถามบุคคลนั้น” ประเภทที่สอง ْ‫ َر ُج ٌل ٌَ ْد ِريْ َو َال ٌَ ْد ِريْ أَ َّن ُه ٌَ ْد ِري‬คือ “บุคคลซึ่ งที่ตนเองนั้นมีความรู้ แต่ตนเองนั้นไม่รู้ ว่าตนเองมีความรู้” ‫“ َف َذ ِّكر ُْوا‬จงไปบอกไปเตือนเขา” ประเภทที่สาม ْ‫ َر ُج ٌل َال ٌَ ْد ِريْ َو ٌَ ْد ِريْ أَ َّن ُه َال ٌَ ْد ِري‬คือ “บุคคลซึ่ งที่ไม่รู้ และตนเองก็รู้ว่าตนเอง นั้นไม่รู้” ‫“ َف َعلِّم ُْوا‬จงสอนเขาเถิด” ประเภทที่สี่ เป็ นกลุ่มบุคคลที่อนั ตราย เป็ นอุปสรรคขวากหนามที่ขดั ขวางความเจริ ญ ْ‫َرجُ ٌل َال ٌَ ْد ِري‬ ْ‫ َو َال ٌَ ْد ِريْ أَ َّن ُه َال ٌَ ْد ِري‬คือ“บุคคลซึ่ งที่ไม่รู้และตนเองก็ไม่รู้ว่าตนเองนั้นไม่รู้” ‫“ َفحْ َذر ُْوا‬จงระวังให้ดี” พี่น้องศรัท ธาชนที่เ คารพรัก ทั้งหลาย นัน่ คือสิ่ งซึ่ งที่ บรรพชนในอดีต ได้เตือ นเรา ได้บอก กล่าวกับเรา อย่างน้อยที่ สุด จะได้ยอ้ นกลับมาดูตวั เรา ว่าเรานั้น อยู่ในกลุ่มบุคคลจําพวกใด เราจะได้ เปลี่ยนแปลง เราจะได้แก้ไข หรื อเราจะได้เพิ่มพูนในสิ่ งซึ่ งที่มนั ตรงตามหลักการอิสลาม ท่านพี่นอ้ ง ผู้ ศรั ทธาทั้ง หลาย ที่สุดแล้วเราต้องย้อนกลับมาดู กลับมา หาบุคคลซึ่ งที่ เ ป็ นปวงปราชญ์ในทัศนะของ อิสลาม ว่าอยูใ่ นกลุ่มบุคคลใด เราก็ไปถามบุคคลนั้น สิ่ งสําคัญที่สุดที่เราจะได้รับจากการหารื อ ภายหลัง จากการที่ เ ราได้ทาํ การไต่สวน ไต่ถาม หาความเห็ นที่ ถูก ต้อ งตามแนวทางของอิ สลามแล้ว เรามี การ ทบทวน จนกระทัง่ เกิดความมัน่ ใจ นัน่ แหละ จึงจะย่างก้าวสู่ข้นั ตอนของการปฏิบตั ิได้ เมื่อปฏิบตั ิแล้ว ก็ ให้เราทําการมอบหมายต่ออัลเลาะห์ (ซ.บ.) นัน่ ก็เป็ นกลการ เป็ นขั้นเป็ นตอน ว่าเราจะทําสิ่ งหนึ่งสิ่ งใดลง ไป ให้เราถามในใจเราเสมอว่า สิ่ งที่เราได้กลับมานั้น มันสอดคล้อง มันตรงตามหลักการอิสลามหรื อไม่ เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 51


เราจะไม่ทาํ โดยพละการ เราจะไม่ทาํ โดยซึ่ ง ที่เ ราไม่ได้ไต่สวน สอบถาม บุคคลหนึ่ ง บุคคลใดซึ่ ง ที่ มี ความรู้ เสี ยก่อน เพราะฉะนั้น น่าบี (ซ.ล.) ได้บอกกับเราว่า ‫ب َم ِن اسْ َت َشار‬ َ ‫“ َما َن ِد‬บุคคลซึ่ งที่ขอคํา ปรึ ก ษาหารื อนั้น เขาจะไม่ เ สี ย ใจ” เพราะเขาปฏิ บ ัติต ามแนวทางที่ อิ สลามได้ว างไว้ให้ ปฏิ บตั ิ แล้ว พยายามแล้ว ที่สุด เขาก็มอบหมายต่ออัลเลาะห์ (ซ.บ.) และนัน่ คือที่สุดแห่ งความสําเร็ จ ที่ สุดแห่ งการ ปราถนาของเราในฐานะที่เ ป็ นศรัทธาชน ที่ เราบอกกันเองว่าเป็ นผูท้ ี่มีอี หม่านศรัทธามัน่ ต่ออัลเลาะห์ (ซ.บ.) นั่นแหละ คือ บทพิสูจน์ตวั เรา ว่าเรามี ก ารมอบหมายจจริ งหรื อ ไม่ มี ความ ‫ضا‬ َ ‫ ِر‬ยินดีในพระ ดํารัสของอัลเลาะห์ (ซ.บ.) ในระดับไหน นัน่ คือสิ่ งที่เราสามารถที่จะประเมินจากตัวของเราเอง ُ ท่านพี่ น้องที่ เคารพรักทั้งหลาย การปรึ กษาหารื อไม่ใช่เ รื่ องไกลตัว การ ‫ ُم َش َّو َر ٌة‬การ ‫ش ْو َرى‬ ไม่ใช่เรื่ องไกลตัว แม้กระทัง่ การปรึ กษาหารื อ ในครอบครัว นัน่ ก็เป็ นส่ วนหนึ่ งจากหลักธรรมคําสอน ของอิสลามเหมือนกัน ดังเราจะเห็นในสิ่ งซึ่ งที่ปรากฏใน ‫ت‬ َّ ‫ س ُْو َرةُ ال‬อายะห์ที่ ๑๐๒ ที่ว่า ِ ‫ص َّف‬                   …..      

เป็ นอายะห์ ซ่ ึ งที่ เ ราได้รั บฟั ง แทบจะทุ ก ปี ในช่ ว งเวลา ในเทศกาลของการเชื อ ดกุ ร บ่ า น แต่ สิ่ ง ที่ นอกเหนื อจากสิ่ ง ที่เราเคยได้ยินได้ฟัง จากสิ่ งที่ ท่านน่าบีอิ บรอฮี ม ได้ทรงกล่าวกับอิ สมาอี ลผูเ้ ป็ นลูก ‫ك‬ َ ‫“ ٌَ ُب َنىَّ إِ ِّنًْ اَ َرى فِى ْال َم َن ِام أَ ِّنًْ أَ ْذ َب ُح‬โอ้ลูกน้อยของฉัน ว่าฉันนั้นเห็นในฝัน ว่าฉันนั้นจะต้องทํา การเชือดเจ้า” ‫“ َفا ْنظرْ َم َاذا َت َرى‬เจ้าจงพิจารณา จงไต่ตรองว่าเป็ นเช่นไร” ท่านน่าบีอิสมาอีลได้ตอบ กับผูท้ ี่เป็ นพ่อว่า ْ‫ت ا ْف َع ْل َما ُت ْؤ َمر‬ ِ ‫“ َقا َل ٌَا َ َب‬โอ้ท่านบิดาเอ๋ ย ท่านจงปฏิบตั ิเถิดในสิ่ งซึ่ งที่ท่านได้รับคํา บัญชาใช้” ‫َّاب ِرٌ َْن‬ ِ ‫“ َس َت‬และท่านจะพบว่าฉันนี้เป็ นส่วนหนึ่งจากบรรดาผูท้ ี่ ِ ‫ج ُدنِىْ إِنْ َشا َء هللاُ م َِن الص‬ มีความอดทน” นัน่ คื อรู ปแบบของอิสลาม ความใกล้ชิดของผูท้ ี่เ ป็ นพ่อกับผูท้ ี่เป็ นลูก ในสิ่ ง ใดก็ตามที่ เกิดขึ้นในครอบครัว ที่เราจะกระทําสิ่ งหนึ่งสิ่ งใดลงไป การพูดคุยระหว่างสมาชิกในครอบครัวนั้น คือสิ่ ง ซึ่ ง ที่ จะก่ อให้เกิ ดความอบอุ่น ก่ อ ให้เ กิ ดความเชื่ อ มัน่ ก่ อให้เกิ ดความรู้ สึก ดีๆ บรรยากาศดี ๆที่มนั จะ เกิ ดขึ้ นในครอบครั ว ในสิ่ ง นี้ มันไม่ใช่สิ่ ง ที่ ไกลตัว แต่เ มื่ อ ใดก็ ตาม ที่ เ ราเพิ ก เฉย ที่ เ ราห่ างเหิ นจาก หลักธรรมคําสอนของอิสลาม แน่นอนที่สุดว่า บาลา ภัยพิบตั ิ นัน่ คือภัย พิบตั ิ ที่ยิ่งใหญ่ ยิ่งกว่าสิ่ ง ที่เรา พบเจอในช่วงเวลา ๑ เดือนที่ผา่ นมา ที่เราบอกว่า การที่เราประสบบาลา นัน่ คือสิ่ งที่เลวร้ายสําหรับเรา แต่ สิ่ งที่เลวร้ายที่สุดสําหรับเราในฐานะศรัทธาชน คือการที่เราเพิกเฉยต่อหลักธรรมคําสอนของอิสลามใน ข้อหนึ่งข้อใดก็ตาม นัน่ คือบาลา ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ขออัลเลาะห์ (ซ.บ.) ทรงพิทกั ษ์ รักษาเรา ในฐานะศรัทธา ชน ในฐานะมุสลิมผูศ้ รัทธามัน่ ต่ออัลเลาะห์ (ซ.บ.) ให้รอดพ้นจากบาลาแห่ งการเพิกเฉยต่อหลักธรรมคํา สอนของอิสลาม เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 52


#51. คุตบะห์วนั ศุกร์ ณ มัสยิดท่าอิฐวันศุกร์ที่ 19 พฤศจิกายน 2553 ตรงกับวันที่ 13 ซุล้ ฮิจยะห์ ฮ.ศ.1431 โดย อาจารย์อิบรอเฮม และซัน

‫السالم عليكم ورحمة اهلل وبركاته‬ ท่านพ่อแม่พี่นอ้ งที่เคารพรักทั้งหลาย ก่อนอื่นข้าพเจ้าขอใคร่ ตกั เตือนตัวของข้าพเจ้าเองและท่าน ทั้งหลาย จงมีการตักวายําเกรงต่ออัลเลาะห์ (ซ.บ.) ให้มาก โดยพยายามประพฤติปฏิบตั ิในสิ่ งที่พระองค์ ทรงใช้ และออกห่างจากสิ่ งที่พระองค์ทรงห้าม ท่านพ่อแม่พี่น้องผูท้ ี่มีความยําเกรงต่ออัลเลาะห์ (ซ.บ.) ที่รักทั้งหลาย ในวันศุกร์ น้ ี ถ้าเรานึกไปถึงพี่นอ้ งของเราที่เดินทางไปทําฮัจย์ บัดนี้ เขาก็ได้ทาํ ฮัจย์เกื อบจะ เรี ยบร้อยสมบูรณ์ ขอเรามาช่วยกันดุอาอ์วิงวอนขอให้ฮจั ย์ของเขาเหล่านั้นได้เป็ นฮัจย์ที่อลั เลาะห์ (ซ.บ.) ทรงรับรอง ขอให้เป็ นฮัจย์มบั รู ร์โดยทัว่ หน้าสําหรับพวกเราที่ไม่ได้เดินทางไปในปี นี้ ปี หน้าเราก็ยงั มี ُ ‫َال َت ْق َن‬ ความหวัง เพราะองค์อลั เลาะห์ (ซ.บ.) ทรงตรัสแก่พวกเราว่า ِ‫ط ْوا ِمنْ رَّ حْ َم ِة هللا‬ ซึ่ งมีใจความว่า “พวกเจ้ าจงอย่ าได้ ท้อใจหมดหวังในพระเมตตาจากอัลเลาะห์ ” ( อัซซุมรั : 53 ) เมื่อปี นี้เรายังไม่มีความสามารถ ขาดทุนทรัพย์บา้ ง สุ ขภาพกําลังวังชาไม่อาํ นวยบ้าง เราก็หวังว่าปี หน้า องค์พระผูอ้ ภิบาลอาจจะทรงเมตตา แต่ถา้ ฐานะของเรายังยากจน ครอบครัวของเรายังขาดเรื่ องจําเป็ นอีก มากมาย กุศลผลบุญที่ไม่นอ้ ยไปกว่าคนที่เขาไปทําฮัจย์เราก็ยงั มีหวังได้ แถมเรายังมีหวังได้กุศลเทียบเท่านักรบ ในหนทางศาสนาเพิ่มทวี บวกเข้ามาอีก เพราะมีรายงานจากท่านอะบีฮุร็อยเราะห์ว่า ท่านน่าบี (ซ.ล.) ได้กล่าวว่า ‫ف َقانِ ٌع بِا ْل ٌَسِ ٌْ ِر مِنَ ال ُّد ْن ٌَا‬ ٌ ‫ال ُم َت َع ِّف‬ ْ َ‫اجا َوأ‬ ّ​ًّ ‫ُط ْو َبى لِ َمنْ َباتَ َح‬ ٍ ٌَ ِ‫ َر ُجل ٌ َم ْس ُت ْو ٌر ُذ ْوع‬,‫از ًٌّا‬ ِ ‫ص َب َح َغ‬

ซึ่ งมีใจความว่า “โชควาสนาดีจะเป็ นของบุคคลที่เขานอนกลางคืนก็ได้ กุศลเที ยบเท่ าผู้ไปทาฮั จย์ และถึง ตอนเช้ าก็ได้ กุศลเทียบเท่ านักรบในหนทางของศาสนา เขาคือชายคนหนึ่งที่ ตา่ ต้ อยไม่ มีใครรู้ จั ก เขามีคน ในครอบครั วอยู่ในความรั บผิดชอบหลายคนที่จะต้ องดูแลเลีย้ งดูอุปการะ แต่ เขารั กษาเกียรติ ไม่ ยอมไป อ้ อนวอนขอใครกิน เขาพอใจในทรั พย์ สินเท่ าที่เขามีอยู่ َ‫اج ْونَ ا ْل َغا ُز ْون‬ ُّ ‫ِي َن ْفسِ ًْ ِب ٌَ ِد ِه إِ َّن ُه ْم ُه ُم ا ْل َح‬ ْ ‫ضا ِح ًّكا َف َوالَّذ‬ َ ‫ج َع ْن ُه ْم‬ ُ ‫ضا ِح ًّكا َو ٌَ ْخ ُر‬ َ ‫ٌَدْ ُخل ُ َعلَ ٌْ ِه ْم‬ ‫ َر َواهُ ال َّد ٌْلَمًُِّ َعنْ أَ ِبًْ ه َُرٌ َْر َة‬. ِ‫ف ِْى َس ِب ٌْ ِل هللا‬

เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 53


เมื่อ เขากลับ เข้ ามาหาครอบครั ว ของเขา เขาก็มาหาอย่ างยิ ม้ แย้ ม และเมื่อ เขาจะออกไปจาก ครอบครั ว เขาก็ไปอย่ างแจ่ มใส ท่ านน่ าบีกล่ าวว่ า ฉั นขอสาบานต่ ออัลเลาะห์ ซึ่ งตัวฉั นอยู่ในพระอานาจ ของพระองค์ แท้ จริ ง พวกเขา เป็ นผู้ที่ทาฮั จย์ และเป็ นนักรบในหนทางของอัลเลาะห์ อย่ างแน่ นอน” จากฮะดิษนี้ หากใครที่ยงั ไม่มีความสามารถเพราะฐานะเรายังด้อย ทรัพย์เรายังน้อยก็ขอให้เรา อดทน ทํามาหากินเลี้ยงดูครอบครัวด้วยความมานะ อดทน รักษาศักดิ์ศรี ปกป้ องเกียรติ ไม่ตอ้ งไปขอใคร กิ น พอใจในฐานะที่อลั เลาะห์ (ซ.บ.) ทรงกําหนดให้ ยิ้มแย้มแจ่มใสกับคนในครอบครัว ไม่ใช้อารมณ์ เลือกพูดจาต่อกันด้วยวาจาที่ดี มีมารยาทแบบมุสลิม ใครทําตัวได้อย่างนี้ กุศลเช่นไปทําฮัจย์ก็ได้ กุศลเท่า นักรบปกป้ องศาสนาก็ยงั มี ประเสริ ฐเหลือหลาย ท่านพี่ น้องที่ เคารพรั กทั้งหลาย คนเราหากยากจนทรั พย์สิน ไม่ใช่เรื่ องเสี ยหาย แต่ใครที่ ยากจน มารยาท ยากจนความดี ไม่มีความเมตตา ขาดความรัก อัตคัตความอบอุ่น ไม่หยิบยื่นแม้แต่รอยยิ้มให้กบั คน ในครอบครัว คนนั้นก็หาดีได้ยาก เพราะขนาดคนในครอบครัวของเขาเองเขายังไม่รัก แล้วเขาจะไปรักใครได้ เมื่อเรามาปรึ กษาหารื อ กันเรื่ องการไปทําฮัจย์ในปี หน้าหรื อ ปี โน้น ทั้งๆที่เรื่ อ งทําฮัจย์เป็ นเรื่ อ ง สุ ดท้ายในหลัก ปฏิ บ ตั ิ ของมวลมุสลิม ใครที่ จ ะเดิ นทางไปทําฮัจ ย์ก็ขอให้ก ารงานในเรื่ อ งอื่ นของเรา เรี ยบร้อยสมบูรณ์ครบถ้วน โดยเฉพาะในเรื่ องละหมาดฟัรดูห้าเวลา ละหมาดวันศุกร์ สาํ หรับผูช้ าย การถือ ศีลอดในเดือนรอมฎอน เรื่ องซะกาตในรอบปี ถ้าหากมีทรัพย์ครบพิกดั ที่ศาสนากําหนด การทํามาหากิ น ในหนทางที่ดี การดูแลให้การศึกษาแก่ลูกหลานด้านศาสนาแก่คนในครอบครัว เรื่ องต่าง ๆ เหล่านี้ ขอให้ เราสอบผ่าน พยายามทําให้ได้ เรื่ องการเตาบัต การสารภาพโทษให้เรามีอยู่เป็ นประจํา ถ้าเราปฏิบตั ิได้ เรี ย บร้ อ ยก่ อ น จะเป็ นสิ่ ง ที่ ดี มาก อย่าได้ก้าวข้ามขั้น เพราะบางคนเดิ นทางไปทําฮัจ ย์ ทั้ง ๆ ที่ เ รื่ อ ง ละหมาดฟัรดูห้าเวลายังไม่ค่อยครบ มัสยิดยังไม่ชอบ วันศุกร์ ยงั ไม่ค่อยได้มาร่ วมยุมอัต แบบนี้ไม่สวย ไม่ นาดู แถมไม่น่าชมด้วย ท่านน่าบี (ซ.ล.) ทรงกล่าวว่า َ ‫َما َع ِمل َ ا ْبنُ آدَ َم‬ ‫ق‬ ِ ‫ح َذا‬ َ‫ضل َ مِن‬ َ ‫الصالَ ِة َو‬ َّ َ ‫ش ٌْ ًّئا أَ ْف‬ ِ ُ ‫ت ا ْل َب ٌْ ِن َو ُح ْس ِن ا ْل ُخل‬ ِ ‫ص َال‬

ซึ่ งมีใจความว่า “ไม่มีสิ่งใดอีกแล้ วที่ลูกหลานของอาดาประพฤติ ที่จะประเสริ ฐเลิศไปกว่ าการทา ละหมาด, การส่ งเสริ มช่ วยเหลือวงศ์ ญาติ , และการมีกิริยามารยาทที่ดีงาม” (อัลบัยฮะกีย)์ หากเรามีฐานะยากจน ครอบครัวของเรายังขาดสิ่ งจําเป็ นอีกมากมาย กุศลผลบุญจากอามั้ลความดี ที่ไม่ตอ้ งใช้ทรัพย์สินก็มีมากมาย ละหมาด ถื อ ศีล อด อ่านอัล กุร อาน ไปร่ วมยะมาอะห์ ทาํ ละหมาดที่ มัสยิด ศึ ก ษาหาความรู้ ด้านศาสนา แนะนําสอนสั่งลูก เมีย ให้ดาํ เนิ นชี วิ ตตามบัญญัติของศาสนาอย่า ง เคร่ ง ครั ด ไม่ไปมี ส่ว นร่ ว มเกี่ ย วกับกิ จ กรรมหรื อ ประเพณี ง านเทศกาลที่ ไม่ใช่อิ สลาม เช่น ปล่อ ยปะ ละเลย ไม่ดูแล สัง่ สอน ห้ามปรามบุตรหลานที่ไปเที่ยวงานที่เป็ นต่างศาสนิ ก เช่น งานที่จะมีอีกไม่กี่วนั เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 54


งานลอยกระทงก็ดี งานสงกรานต์ ตรุ ษจีน หรื อฉลองปี ใหม่ที่ไม่ใช่อิสลาม ซึ่ งสิ่ งต่างๆเหล่านี้ มันมีอยู่ใน บรรดาลูกหลานของเรา ซึ่ งเราจะต้องให้ความดูแลพวกเขา สัง่ สอนให้เขารู้ว่าสิ่ งที่ถูกต้องในอิสลาม และ สิ่ งที่เป็ นศาสนาอิสลาม แบบฉบับของท่านน่าบีน้ นั ทุกอย่างมีไว้พร้ อมแล้ว เพราะฉะนั้นเอกลักษณ์ของ เรา มีอยูแ่ ล้ว วันปี ใหม่ของอิสลามของเราก็มี คือเดือนมุฮรั รอม เพราะฉะนั้น เรื่ องนี้นอ้ ยนัก ลูกๆหลานๆ ของเรา ที่จะรู้ หรื อเข้าใจ แล้วก็นํามาประพฤติปฏิบตั ิ แต่กลับไปคล้อยตามในสิ่ งซึ่ งที่ มิใช่อิสลาม ซึ่ ง เรื่ องเหล่านี้ เราในฐานะผูท้ ี่เป็ นหัวหน้าครอบครัว ก็ตอ้ งรับผิดชอบ ดูแล ให้การสัง่ สอน เอาใจใส่ เราต้อง ทําไปตามหน้าที่ให้สุด ส่วนจะดีอย่างไรนั้น สุดแล้วแต่ฮิดายะห์ของอัลเลาะห์ แต่ขอให้เราทําหน้าที่ของ เราให้สมบูรณ์ ซึ่ งท่านอิบนุ อัมร์ บิน อ๊าศ (ร.ด.) รายงานว่า ท่านน่าบี (ซ.ล.) ทรงตรัสไว้ว่า

َ ‫ش َّب َه ِب َغ ٌْ ِر َنا َال َت‬ َ ‫س ِم َّنا َمنْ َت‬ ‫ارى‬ َ ‫ص‬ َ ‫ش َّب ُه ْوا ِبا ْل ٌَ ُه ْو ِد َو َالال َّن‬ َ ٌْ َ‫ل‬ ซึ่ งมีใจความว่า “ย่ อมไม่ใช่ พวกของเราอย่ างแน่ นอน บุคคลที่ เขาไปเลียนแบบบุคคลอื่ นจากเรา และท่ านทั้งหลายอย่ าได้ ไปเอาเยี่ยงอย่ างหรื อไปทาตัวคล้ ายๆกับ ชาวยิว และชาวคริ สต์ ” ท่านพี่นอ้ งที่เคารพรัก ขอยํ้าเตือนอีกครั้งว่า ขอให้เราท่านทั้งหลาย ให้ลูกหลานของเรานั้นเรี ยนรู้ ในเรื่ อ งของศาสนา และเอาใจใส่ ดู แลเขา ให้อ ยู่ในหนทางแนวทางของอัล เลาะห์ อยู่ในแบบฉบับ ซุนนะห์ ของท่านร่ อ ซู้ล (ซ.ล.) ซึ่ ง เป็ นแบบอย่างที่ อลั เลาะห์ (ซ.บ.) ทรงรับ รอง เพราะฉะนั้นขอฝาก สิ่ งต่าง ๆ เหล่านี้ให้พ่อแม่พี่นอ้ งได้เก็บไปพินิจพิจารณา

เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 55


#52. คุตบะห์วนั ศุกร์ ณ มัสยิดท่าอิฐวันศุกร์ที่ 26 พฤศจิกายน 2553 ตรงกับวันที่ 20 ซุล้ ฮิจยะห์ ฮ.ศ.1431 โดย อาจารย์ดาวุด สันติวิไลพร

‫السالم عليكم ورحمة اهلل وبركاته‬ ท่านผูฟ้ ังที่เคารพ ในฐานะที่เราทุกคนเป็ นบ่าวของอัลเลาะห์ เราจะต้องรู้ คุณในความโปรดปราน ต่างๆ ที่พระองค์ทรงประทานให้แก่เรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่ งที่อยูใ่ นตัวของเรา ซึ่ งถือว่าเป็ นความโปรด ปรานที่ใกล้ตวั ที่สุด แต่น่าเสี ยดายว่า บางครั้งเรามองข้ามความโปรดปราน ที่พระผูเ้ ป็ นเจ้า สร้ างไว้ในตัว เรา เราลืมพินิจพิเคราะห์ เราลืมพิจารณา โดยเห็นว่าเป็ นเรื่ องปกติธรรมดา คนเรามักคิดว่า การเกิ ดมามี อวัยวะครบถ้วนสมบูรณ์น้ นั เป็ นเรื่ องธรรมดาที่ใครๆเขาก็มีกนั ทั้งนั้น จนลืมนึ กถึง ความยิ่ง ใหญ่ และ ความเดชานุภาพของผูส้ ร้าง ไปเสี ยสนิท ด้วยเราไม่เคยสังเกตว่า อวัยวะต่างๆในร่ างกายของเรา ตลอดจน ระบบต่า งๆทั้ง ภายนอกและภายในนั้น มี ความแยบยลในการทําหน้าที่ ของมัน และมี ความอย่างน่ า อัศจรรย์อย่างไร ? ตราบจนวันหนึ่ง เราพบว่า อวัยวะในร่ างกาย เริ่ มบกพร่ อง สู ญเสี ยความสามารถบาง ประการ หูเริ่ มตึง ตาเริ่ มฝ้ าฟาง เราจึงเริ่ มสํานึกในคุณค่าของอวัยวะเหล่านั้น พระองค์ได้ตรัสถึงความจริ ง ในซูเราะห์ อัซซาริ ยาต โองการที่ 21 ว่า َ‫َوف ِْى أَ ْنفُسِ ُك ْم أَ َفالَ ُت ْبصِ ُر ْون‬ ความว่า “และในตัวของพวกเจ้ าเอง พวกเจ้ าไม่เห็น (ความเดชานุภาพของอัลเลาะห์ ดอกหรื อ)” ท่านผูฟ้ ั ง ที่ เ คารพ หัว ใจ นับเป็ นอวัย วะที่ สําคัญในร่ างกายของมนุ ษย์เ รา มัน เปรี ยบเสมื อ น กองบัญ ชาการ หรื อ ศู นย์ควบคุม การทํา งานของอวัย วะทุก ส่ ว น ในร่ า งกายของมนุ ษ ย์ มัน มี ผลต่ อ พฤติกรรมต่างๆ ที่จะออกมาทั้งในด้านที่ดี และด้านที่เลวร้าย ในขณะที่อวัยวะส่ วนอื่นๆ ในร่ างกาย เป็ น เพียงพลพรรค ที่คอยรับคําสัง่ จากกองบัญชาการหรื อศูนย์ควบคุมเท่านั้น เพราะฉะนั้น หากเราต้องการที่ จะทราบว่า หัวใจของเราเป็ นอย่างไร อยูใ่ นสภาพไหน เราก็สามารถพิจารณาได้จากพลพรรคหรื ออวัยวะ ส่วนต่างๆที่ยอมรับคําสัง่ จากกองบัญชาการนัน่ เอง ท่านน่าบี (ซ.ล.) ได้กล่าวไว้ในเรื่ องนี้ ซึ่ งปรากฏอยู่ ใน ซอเฮียะห์ บุคอรี และมุสลิม รายงานโดยนัวะอ์มาน บิน บาซี ร ความว่า ‫ب‬ ُ ‫س ُد ُكلُّ ُه أَالَ َوه ًَِ ْال َق ْل‬ َ ‫لج‬ َ ‫سدَ ْا‬ َ ‫سدَ تْ َف‬ َ ‫س ُد ُكلُّ ُه َوإِ َذا َف‬ َ ‫لج‬ َ ‫صلَ َح ْا‬ َ ْ‫صلَ َحت‬ َ ‫س ِد إِ َذا‬ َ ‫لج‬ َ ‫أَالَ إِنَّ فِى ْا‬

เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 56


ความว่า “จงทราบเถิดในร่ างกายของเรานั้น มีก้อนเนื ้ออยู่ก้อนหนึ่ง ซึ่ งถ้ าหากมันดี ทุกส่ วนใน ร่ างกายก็พลอยดีไปด้ วย และถ้ าหากมันเสี ยหายหรื อบกพร่ อง ทุกส่ วนในร่ างกายก็พลอยได้ รับความสี ย หายไปด้ วย จงทราบเถิดก้ อนเนือ้ ดังกล่ าวก็คือ หั วใจ” ท่านผูฟ้ ังที่เคารพ องค์อลั เลาะห์ (ซ.บ.) ทรงอรรถาธิ บายไว้ในพระมหาคัมภีร์อลั กุรอาน ถึงคนที่ อยูใ่ นสภาพที่มืดบอด หาทางออกไม่ได้ ไม่รู้ว่าตนเองอยู่ที่ไหน หรื อกําลังทําอะไร บุคคลเหล่านี้ ไม่ใช่ หมายถึ ง บุคคลที่สายตาของเขามืดบอด มองอะไรไม่เห็ น แต่หมายถึ ง คนดี ๆที่ สายตาดี มองเห็ นได้ กว้างไกลนัน่ แหละ แต่หวั ใจของเขาต่างหากที่มืดบอด มองไม่เห็นสัจธรรม แยกแยะอะไรไม่ได้ว่าอะไร คือสิ่ งผิด และอะไรคือความถูกต้อง หรื ออะไรคือสิ่ งจอมปลอมความเท็จ และอะไรคือของจริ ง สิ่ งที่เป็ น สัจธรรม บุคคลเหล่านี้ ฮิดายะห์ไม่ถูกจุดขึ้นในหัวใจ ดังนั้นหัวใจของเขาจึ งมืดบอดสนิ ท และห่ างไกล จากสัจธรรมนัน่ เอง องอัลเลาะห์ (ซ.บ.) ทรงตรัสยํ้าเตือนเอาไว้ในซูเราะห์ อัลฮัจญ์ อายะห์ที่ 46 ว่า

‫صد ُْو ِر‬ ُّ ‫ب الَّت ًِْ فِى ال‬ ُ ‫ص ُر َولَكِنْ َت ْع َمى ْال ُقلُ ْو‬ َ ‫َف ِا َّن َها الَ َت ْع َمى ا ْألَ ْب‬

ความว่า “แน่ นอน พวกเขาหาใช่ คนที่ ดวงตามืดบอด มองหาอะไรไม่ พบ แต่ ทว่ าหั ว ใจของเขา ต่ างหากที่มืดบอด (มองไม่เห็นสั จธรรม)” เพราฉะนั้น การที่เราจะพิจารณาหรื อพิสูจน์ใครคนหนึ่ ง เราต้องพิสูจน์กนั เข้าไปให้ถึงจิ ตใจอัน เป็ นแก่นแท้ และมองถึงการกระทําของเขาว่า ดําเนินไปตามกฏกติกาที่ศาสนาวางเอาไว้หรื อไม่ อย่ามอง หรื อพิ จารณาแต่เปลื อกนอก อันเป็ นส่ ว นประกอบที่ไม่ได้มีความสําคัญอะไรเลย ไม่ว่าจะเป็ นรู ปร่ าง หน้าตา ทรัพย์สิน เงินทอง ชื่อเสี ยงเกียรติยศ หรื อวงศ์ตระกูลก็ตาม ดังนั้นบ่อยครั้งเหลือเกิ น เราจะพบว่า ท่านน่าบี (ซ.ล.) ได้กล่าววิงวอนต่ออัลเลาะห์ (ซ.บ.) เสมอๆว่า‫ب َث ِّب ْت َق ْل ِب ًْ َعلَى ِد ٌْنِ َك‬ ِ ‫ب ْالقُلُ ْو‬ َ ِّ‫ٌَا ُم َقل‬ “โอ้ พระผู้ทรงควบคุมหั ว ใจของข้ า พเจ้ า โปรดดลบั นดาลให้ หั วใจของข้ าพเจ้ า ยื นหยัดอยู่ใน แนวทางของพระองค์ อย่ างมัน่ คงด้ วยเถิด” ท่านผูฟ้ ั ง ที่เ คารพ ดังนั้น ผูท้ ี่ จะกลับไปพบกับอัล เลาะห์ (ซ.บ.) และหวังที่ จะอยู่ในร่ มเงาแห่ ง ความเมตตาของพระองค์ ตราบชัว่ นิจนิรันดร์ กาล หัวใจของเขาจึงต้องบริ สุทธิ์และสมบูรณ์เพรี ยบพร้ อม ปราศจากมลทินใดๆ ดังนั้น ขอเราจงหวนกลับมาดูแลเอาใจใส่ หัวใจของเราเถิดครับ มาปั ดกวาดสนิ ม ของหัวใจ เอาสิ่ งไม่ดีไม่งาม ขัดเกลาให้มนั ออกไปเสี ย เพื่อเตรี ยมความพร้ อมเสมอ ไม่ว่าจะวันใด เวลา ใดก็ตาม ที่อลั เลาะห์ (ซ.บ.) ทรงเรี ยกเรากลับคืนสู่พระองค์ มาช่วยกัน เอามันออกไปเถิดครับ ความอิจฉา ริ ษยา การตะกับ๊ บุร โอ้อวด การแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น การให้ร้ายป้ ายสี นิ นทา การมองกันในแง่ร้าย การ จ้องจับผิด การตั้งตัวเป็ นศัตรู กนั เอง แล้วมาช่วยกันเปลี่ยนให้มนั เป็ นความรัก ความสามัคคี การให้อภัย กัน การมองกันในแง่ ที่ดี ชื่ นชมเป็ นกําลังใจในการทํางาน โอบอ้อมอารี สร้ างความเข้าใจ มีความเอื้ อ อาทรต่อกัน และให้เกียรติซ่ ึ งกันและกัน เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 57


#53. คุตบะห์วนั ศุกร์ ณ มัสยิดท่าอิฐวันศุกร์ที่ 3 ธันวาคม 2553 ตรงกับวันที่ 27 ซุล้ ฮิจยะห์ ฮ.ศ.1431 โดย อาจารย์อะห์ซะนุดดีน(สุวรรณ) มัง่ มี

‫السالم عليكم ورحمة اهلل وبركاته‬ น้องที่เคารพรัก ศาสนฑูตที่เราจําเป็ นจะต้องรู้จกั นั้นมี 25 ท่าน จาก 25 ท่าน มี 5 ท่าน ซึ่ งมี ْ ُ‫ أُول‬ผูท้ ี่มีกาํ ลังใจหนักแน่นมัน่ คง ภาระกิจหนัก และถูกทดสอบอย่างหนักหน่วง ที่เราเรี ยกว่า ‫واال َع ْز ِم‬ ได้แก่ท่าน นบีมูฮาํ มัด (ซ.ล.) และ นบีอิบรอฮีม นบีมูซา นบีอีซา และ นบีนวั ฮ์ อะลัยฮิมุสลาม พี่นอ้ งที่เคารพรัก ตามประวัติศาสตร์ ระยะเวลาการเกิ ด นบีนวั ฮ์ และการสิ้ นชีวิตของ นบีอาดัม นั้น ห่างกัน 146 ปี แต่ท่าน นบีอาดัม มีอายุ 960 ปี นบีนวั ฮ์ มีอายุ 1050 ปี คือท่านนบีนวั ฮ์ รับ ً‫ وح‬เมื่อ อายุ 40 ปี เผยแพร่ ศาสนาจนถึงนํ้าท่ว มโลก 950 ปี และใช้ชีวิ ตหลังนํ้าท่วมอีก 60 ปี รวมอายุนบีนวั ฮ์ 1050 ปี ท่านนบีนวั ฮ์ได้รับสมญานามว่า เจ้าแห่ งนํ้าตา เพราะต้องเสี ยลูก เสี ยภรรยา ในสภาพที่ปฏิเสธ และได้รับสมญานามว่า อาดัมที่สอง เพราะเหลือมนุษยชาติเพียง 80 คน หลังจากเหตุการณ์น้ าํ ท่วมโลก นบีนวั ฮ์ประกาศศาสนา 950 ปี มีผศู้ รัทธาเพียง 80 คน เพราะประชาชาติของนัวฮ์ สักการะรู ปปั้ น ผูค้ น ทุกรุ่ น ได้สงั่ สอนคนรุ่ นต่อมา มิให้เชื่อนบีนวั ฮ์ พ่อได้สั่งสอนลูกของตนเอง ให้ปฏิเสธการเรี ยกร้ องนบี นัว ฮ์ และต่อ ต้านนบีนัว ฮ์ แม้แต่ลูก ของนบี นัว ฮ์ ที่ มีชื่อ ว่า กันอาน และภรรยาของนบี นัว ฮ์ ที่ มีชื่อ ว่า ‫ واعلة‬ก็ไม่เ ชื่อไม่ศรัทธาต่อ ท่านนบีนวั ฮ์ จนในที่สุด นบี นวั ฮ์ได้วิงวอนต่อ พระผูเ้ ป็ นเจ้า ให้ทาํ ลายผู้ เนรคุณผูป้ ฏิเ สธ ซึ่ ง อัลเลาะห์ (ซ.บ.) ก็ทรงตอบรับคําวิ งวอนของท่านนบีนัวฮ์ และหลัง จากอัล เลาะห์ (ซ.บ.) ตอบรับคําวิงวอนของนบีนวั ฮ์แล้ว นบีนวั ฮ์ก็เริ่ มต่อเรื อ เรื อของท่านนบีนวั ฮ์ ยาว 300 ศอก กว้าง 50 ศอก สูง 30 ศอก มี 3 ชั้น เหมือนเรื อในสมัยปัจจุบนั ใช้เวลาต่อเรื อ 2 ปี และแล้ววันแห่ งนํ้าท่วมก็มาถึ ง เมื่ อมีสัญญาณที่บา้ นนบี นวั ฮ์ มีน้ าํ เดือ ดทะลักขึ้นมาจากเตาไฟ นบีนวั ฮ์รีบไปเปิ ดเรื อ เรี ยกเหล่าผูศ้ รัทธา 80 คนขึ้นเรื อ และสัตว์ต่างๆทั้งตัวผูแ้ ละตัวเมียทุกชนิด อย่างละ 1คู่ นํ้าได้พุ่งทะลักมาจากพื้นดิน ทุกแห่งหน ฝนก็เทมาจากท้องฟ้ า 40 วัน 40 คืน นํ้าทะเล คลื่นทะเล ราว กับภูเขา ก็โถมกระหนํ่าเข้ามาในแผ่นดิน จนท่วมแผ่นดินทั้งหมด ท่านนบีนวั ฮ์ได้ข้ ึนเรื อในวันที่ 10 ของ เดือน ‫ رجب‬เรื อมุ่งหน้าไปที่ ‫ بٌت هللا‬และเรื อได้ทาํ การ ‫ طواف‬7 รอบ และเรื อได้ล่องลอยอยูบ่ นผิว นํ้า เป็ นเวลา 6 เดือน จนกระทัง่ นํ้าลด ซึ่ งเรื อได้ไปเทียบท่าจอด ที่ภูเขา ประเทศอิรัก ในวันที่ 10 ของ เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 58


เดือน ซึ่ งผูโ้ ดยสารก็ถือศีลอดในวันนี้ เพื่อเป็ นการขอบคุณต่ออัลเลาะห์ (ซ.บ.) ท่านนบีนวั ฮ์ได้ปล่อยนก และสัตว์ต่างๆ ลงจากเรื อ สัตว์เหล่านั้นก็ได้กระจัดกระจาย ไปทัว่ ผืนแผ่นดิ น สําหรับเสบียงอาหารที่ เหลืออยูน่ ้ นั ก็มีเหลืออยูไ่ ม่มาก นบีนวั ฮ์จึงสั่งให้นาํ เมล็ดพันธุ์ต่างๆ จากถัว่ และสิ่ งอื่นๆ มากวนรวมกัน ประกอบกับการอยูใ่ นเรื อนั้น ไม่เคยกินของร้อนเลย เพราะการจุดไฟเป็ นสิ่ งต้องห้าม เพราะเกรงกลัวว่า จะทํา ให้เ รื อ ติ ดไฟ ดัง นั้นผู้ศรั ท ธาที่ เ หลื อ อยู่ ก็ไ ด้ทาํ การกวนเสบี ย งอาหารที่ เ หลื อ อยู่ แล้ว แบ่ง กัน รับประทาน ที่เราเรี ยกกันว่า กวนอาซูรออ์ จนถึงปัจจุบนั นี้ พี่นอ้ งที่เคารพรักนํ้าท่วมได้บอกเราว่า อัลเลาะห์ (ซ.บ.) ได้ทาํ ลายล้างผูป้ ฏิเสธ อัลเลาะห์ (ซ.บ.) ได้ชาํ ระล้างสิ่ งสกปรก บนหน้าผืนแผ่นดิน ทางด้านนามธรรม และรู ปธรรม นํ้าท่วมได้บอกเราว่า อัล เลาะห์ (ซ.บ.) ทรงนํา ‫ نعمة‬ต่างๆ มาไว้ในนํ้าท่วมมาไว้ในภัยบาลาอ์ นํ้าท่วมทําให้เราเห็นสิ่ งดีๆต่างๆ ซึ่ ง หาดูได้ยากในยามปกติ จนกระทัง่ นํ้าลด ‫الحمدهللا‬ พี่น้อ งที่เ คารพรั ก ลูกชายนบีนัวฮ์ ที่มีชื่อว่า กันอาน และภรรยาของนบี นวั ฮ์ ที่มีชื่อว่า ‫واعلة‬ จมนํ้าตายทั้งคู่ เพราะเป็ นผูป้ ฏิเสธ ไม่ยอมศรัทธาต่อนบีนวั ฮ์ คือทั้งสองแม่ลูกนี้ ต่อหน้าทําแกล้งเป็ น ศรัทธา แต่ลบั หลังไม่ศรัทธา ที่เราเรี ยกกันว่า ‫ منافق‬หน้าไหว้หลังหลอก ซึ่ งนบีนวั ฮ์ไม่สามารถรับรู้ได้ เพิ่ งจะรู้ ว่าเป็ น‫ منافق‬เมื่อ ทั้ง สองใกล้จ ะตายแล้ว ทํานองเดี ยวกันในสมัย นบี เรา‫ منافق‬ก็สร้ างความ หนักใจ ให้กบั ท่านนบี (ซ.ล.) เป็ นอย่างมาก เพราะนบีมูฮาํ มัด ไม่รู้จะทําอย่างไร เพราะภายนอกของ ‫ منافق‬ดูดี เคร่ งดี ปากดี เสี ยงดี แต่ในใจคิดชัว่ คิดเลวไม่ศรัทธา พวกนี้เลวมาก เลวกว่าพวก‫ كافر‬เสี ย อีกและพวก ‫ منافق‬นี้ จะอยูใ่ นนรก ในชั้นที่ต่าํ ที่สุด พี่นอ้ งที่เคารพรัก การที่ลูกนบีนวั ฮ์ ภรรยานบีนวั ฮ์ไม่ศรัทธานั้น ตรงนี้ บอกให้เรารับรู้ ว่า ลูกของ คนทุกคนมีสิทธิ์เป็ นคนเลวได้ ไม่ว่าลูกจุฬาหรื อลูกชาวนา แม้แต่ลูกนบีนวั ฮ์เองก็ตาม ดังนั้นเมื่อเห็นตัว ลูกของบุคคลหนึ่ งเลว อย่าไปมองที่ตวั พ่อ เพราะตัวพ่อไม่เกี่ยวกับตัวลูก ตราบใดที่ตวั ลูกบรรลุนิติภาวะ แล้ว แยกแยะความดีความชัว่ ได้แล้ว แต่คนเราเดี๋ยวนี้ เห็นเด็กนักเรี ยนเลว ก็มองไปที่ตวั ครู เห็นลูกคน หนึ่งเลว ก็มองไปที่ตวั พ่อ ซึ่ งคนเราเดี๋ยวนี้ จะใช้พฤติกรรมของตัวเอง ไปตัดสิ นผูอ้ ื่น ใช้พฤติกรรมของ พ่อแม่ตวั เอง หรื อพฤติ กรรมของวงศ์ตระกูลตัวเอง ไปตัดสิ นผูอ้ ื่ น อย่างนี้ ไม่ถูก ต้อ ง เพราะคนเราไม่ เหมือนกันทั้งหมด ดังตัวอย่างท่านนบีนวั ฮ์ ท่านนบีนวั ฮ์เป็ นทั้งพ่อ เป็ นทั้งนบี แต่ทาํ ไม ลูกเมียไม่ตามพ่อ ไม่ตามนบีนวั ฮ์ ทั้งๆที่พ่อนั้นเป็ นแบบอย่างที่ดีที่สุด ในยุคนั้น แต่ลูกเมียกับเป็ นผูป้ ฏิเสธ เป็ นเพราะอะไร พี่นอ้ งที่เคารพรัก แต่อย่างไรก็ดี ครู บาอาจารย์ หรื อพ่อแม่ ที่มีแบบอย่างที่ไม่ดีน้ นั จะมีผลอย่าง มากกับ เด็ก อนุ บาล กับเด็ก ประถมหรื อ เด็ก เล็ก ซึ่ งไม่สามารถที่ จะแยกแยะสิ่ ง ที่ ให้โ ทษ กับสิ่ ง ที่ ให้ ประโยชน์ หรื อไม่สามารถแยกแยะสิ่ งที่ดีสิ่งที่เลวได้ เพราะฉะนั้น ช่วงวัยนี้ เด็กต้องการแบบอย่างที่ดี ต้องการพ่อปูแม่ปู พ่อพิมพ์แม่พิมพ์ ที่ดี ซึ่ งเด็กในช่วงนี้ จะเลียนแบบตามต้นแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 59


หากสมมติ เด็กเห็น พ่อแม่แข่งกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ที่บา้ น เล่นกายกรรม พลังตัวเบา เด็กก็จะลอกเลียนแบบ ท่าทาง ถ้าเด็กทะลึ่งด้วย ดังเลย ได้เหรี ยญทองเลย ตรงนี้ตอ้ งระวังเป็ นอย่างยิ่ง เพราะเด็กจะจําฝังใจ และ จะส่งผลในอนาคต เพราะฉะนั้น ช่วงวัยนี้ เด็กต้องการแบบอย่างที่ดี พี่นอ้ งที่เคารพรัก อัลเลาะห์ (ซ.บ.) ได้ลา้ งโลก ทําให้มนุษย์จมนํ้าตายเกือบหมด เหลือแต่ผศู้ รัทธา เพียงไม่กี่คน และหลังจากนบีนวั ฮ์ อะลัยฮิ สลาม ก็มีผตู้ ้ งั ภาคีอีก มีผปู้ ฏิเสธอีก และอัลเลาะห์ (ซ.บ.) ก็ ทรงทําลายล้างอีกหลายครั้งด้วยกัน ด้วยการพลิกแผ่นดิน ธรณี สูบ แยกทะเล สาปให้เป็ นหมู สาปให้เป็ น ลิง และอื่นๆ เพราะอะไร อัลเลาะห์ (ซ.บ.) จึ งทรงลงโทษ ซํ้าแล้วซํ้าอีก เพราะว่ามวลมนุษย์น้ นั ตกอยู่ ในใคความหลงลื ม และเป็ นทาสของดุนยา ทํานองเดีย วกัน เราอยู่ในประชาชาติของท่านนบีมูฮาํ มัด (ซ.ล) ก็จาํ เป็ นจะต้องตักเตือนกัน มิให้หลงลืม จนกว่าจะตายกันไปข้างหนึ่ง

เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 60


#54. คุตบะห์วนั ศุกร์ ณ มัสยิดท่าอิฐวันศุกร์ที่ 10 ธันวาคม 2553 ตรงกับวันที่ 4 มุฮรั รอม ฮ.ศ.1432 โดย อาจารย์อบั ดุลบาซิ ด โพธิ์ทอง

‫السالم عليكم ورحمة اهلل وبركاته‬ ท่านพี่ น้อ งผูศ้ รัทธามัน่ ในเอกองค์อ ลั เลาะห์ (ซ.บ.) ที่รั กและเคารพทั้ง หลาย ขอยํ้าเตือ นท่าน ทั้ง หลายและตัว ของข้าพเจ้าเองเป็ นสําคัญ ให้เ ราท่านทั้ง หลาย จงตั้งมัน่ ยําเกรงต่อเอกองค์อ ลั เลาะห์ (ซ.บ.) สิ่ งใดที่พระองค์ทรงใช้จงรี บปฏิบตั ิ สิ่ งใดที่พระองค์ทรงห้าม จงลด เลิ ก และละเสี ย ก่อนที่เราจะ พูดถึงสาระสําคัญของคุตบะห์ในวันนี้ ขอยํ้าเตือนและขอวิงวอนต่อท่านทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็ นผูใ้ หญ่ ไม่ ว่าจะเป็ นเด็ก หรื อใครก็ตาม ที่มาร่ วมํุมอัตในวันนี้ ณ มัสยิดอันทรงเกี ยรติสถานแห่ งนี้ เมื่อคอเต็บได้ เริ่ มคุตบะห์ บนมิมบัร เรามีหน้าที่ต้องนิ่ งฟั ง ต้องเงี ยบฟั ง ใครพูดคุย ในขณะที่คุตบะห์ก ําลังดําเนิ นอยู่ แม้กระทัง่ เขาได้หนั ไปเตือนคนที่กาํ ลังนัง่ พูดคุยอยู่ ว่าเงียบสิ เขาผูน้ ้ นั ไม่ได้อะไรเลยจากการมาวันศุกร์ ในวันนั้น ขนาดคนเตือนด้วยเจตนาดี ยังไม่ได้อะไร แล้วสัมหาอะไรกับคนที่ต้ งั อกตั้งใจคุยแข่งกับคอ เต็บ เขาจะได้อะไรไปจากการมาวันศุกร์ วนั นี้ อย่าว่าแต่ได้เลย พ้นฟัรดูก็อาจจะไม่พน้ ‫والعٌاذباهلل‬ สาระสําคัญที่ต้ งั ใจนําเสนอแก่ พี่น้อ งในวันนี้ ก็คือ เรื่ อ ง อย่าเข้าใกล้ซินา ท่านพี่น้อ งที่อี หม่าน ศรัทธาต่ออัลเลาะห์ (ซ.บ.) ที่รักและเคารพทั้งหลายครับ ก่อนหน้านี้ เราคงจะได้ยินข่าว เกื อบทุกวัน ว่า ด้วย ๒๐๐๒ ศพ ซึ่ งเป็ นศพของเด็กทารกที่ถูกทําแท้ง ถูกเก็บซ่ อนไว้ ณ ศาสนสถานแห่ งหนึ่ ง เรารู้ สึก อย่ า งไรบ้า งกับ ข่ า วที่ เ ราได้ยิ น อย่ า งนี้ ถ้า หากว่ า เราคิ ด ให้ ไ กลๆซั ก นิ ด นึ ง ใน ๒๐๐๐ ศพนั้น มี เลือดเนื้ อ เชื้อ ไขของมุสลิมอยู่หรื อป่ าว เป็ นเรื่ องที่น่าคิด ถ้าไม่มีก็อลั ฮัมดุลิ้ล ลาห์ แต่ถา้ มี เราจะว่ากัน อย่างไร หากเราย้อนกลับมามองสังคมของบ้านเรา หรื อตรงไหนก็แล้วแต่ สังคมมุสลิมของเราไม่ตอ้ ง มองสังคมอื่น จะพบว่าปรากฏการณ์ที่มนั จะเป็ นสื่ อชักนําให้เยาวชนของเรา ลื่นไถล และก็ตกลงเหวแห่ ง ซิ นานั้น มันมีปรากฏอยูด่ าษดื่นในสังคมของเรา หรื อแม้กระทัง่ บนตัวของเราเอง ท่านทั้งหลายที่รักและ เคารพครับ ศาสนาอิสลามนั้นไม่ได้เป็ นเพียงแค่ศาสนาที่แก้ปัญหาเท่านั้น แต่เป็ นศาสนาที่ป้องกันปั ญหา ِّ ‫“ َوالَ َت ْق َر ُب ْوا‬สู เจ้ า ก่อนที่มนั จะเกิดซะด้วยซํ้าไป เกี่ยวกับการนี้ อัลอิสลามของเรามีคาํ สอนอย่างไร ‫الز َنا‬ ทั้งหลายอย่ าเข้ าใกล้ การประพฤติผิดทางเพศ การผิดประเวณี ” ใช้คาํ ว่าอย่าเข้าใกล้ ไม่ได้ใช้คาํ ว่า อย่า กระทําซิ นา นัน่ แปลได้ความว่า แม้กระทัง่ จะสื บเท้าเข้าไปให้ใกล้ การกระทําอะไรที่จะเป็ นสื่ อ เป็ นเหตุ เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 61


ให้จบลงด้วยการทําซิ นา ศาสนาก็ห้ามตั้งแต่ตน้ ลมแล้ว เพราะฉะนั้นตัวของการซิ นาไม่ตอ้ งพูดถึง ว่ามัน َ ‫“ إِ َّن ُه كاَنَ َفا ِح‬มันเป็ นความชั่วช้ าสามานย์ จะมีผลพวง มันจะมีผลร้ ายมากมายประการใด ทําไม ‫ش ًّة‬ َ ‫ َفا ِح‬เป็ นความเลวร้ าย อันดับที่ต่าํ มาก ‫س ِب ٌْ ًّال‬ เสี ยนี่กระไร” คําว่า ‫ش ًّة‬ َ ‫اء‬ َ ‫س‬ َ ‫“ َو‬และมันยังเป็ นวิ ถีแห่ ง ความชั่วด้ วยอีกประการหนึ่ง” ๒๐๐๒ ศพนั้น คือคําตอบว่ามันชัว่ ร้ ายอย่างไร มันเลวร้ ายอย่างไร มันมี ผลคล้อยผลพวงเกิดขึ้นต่อสังคมอย่างไรบ้าง ทําให้มนุษย์ซ่ ึ งชื่อได้ว่าเป็ นสัตว์ที่ประเสริ ฐ เป็ นสัตว์เลี้ยง ลูกด้วยนมที่ประเสริ ฐชนิดหนึ่ง เพราะมีสติปัญญา กลับกลายมีพฤติกรรมที่เลวร้ าย มากกว่าสัตว์ที่อยู่ใน ตระกูลอื่นที่ต่าํ กว่า ลูกไก่ ลูกแมว ลูกสุนขั ยังไม่ปรากฏว่าสัตว์เหล่านี้ทาํ แท้ง หรื อคลอดลูกแล้วทิ้ง และ มนุษย์อย่างเราท่านทั้งหลายละครั บ หรื อว่าเราเป็ นสัตว์พนั ธุ์ใหม่ เป็ นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยเงิ น มันจึ งไม่มี อะไรเป็ นสิ่ งโยงใยความรู้ สึกอันละเอีย ดอ่อน ไม่มีความรู้ สึก สํานึ ก ในความเป็ นมนุษย์ ความเป็ นบ่าว ความเป็ นผูร้ ับผิดชอบที่จะต้องดูแลโลกนี้ สังคมนี้ ให้มีความดีความงาม ท่านทั้งหลายที่รักและเคารพครับ อิสลามนั้นได้วางกรอบป้ องกันไว้มากมาย ไว้ทุกด้าน เพียงแต่ เราต่างหากที่ไม่ได้เอาหลักการมาใช้ เรานอนทับหลักการของเรา ศาสนาอิสลาม ห้ามแต่งกายรัดรู ป อวด โฉมโนมพรรณ แต่ว นั นี้ เ ราท่านทั้งหลายที่ นงั่ อยู่เ นี่ ย รู้ สึก เฉยๆ เมื่ อลูก สาว เมื่ อภรรยา อันเป็ นความ รับผิดชอบของเรานี้น้ นั เดินออกจากบ้านในสภาพที่ไม่มีฮิญาบคลุมศีรษะ หลักการคลุมฮิญาบนั้น ไม่ต่าง อะไรกับการละหมาดฟัรดู ๕ เวลา เป็ นเรื่ องวายิบที่ตอ้ งกระทํา เรายังพอใจที่สงั คมของเรา ครอบครัวของ เรา ลูกเมียของเรา เป็ นเช่นนั้นกระนั้นหรื อ การคลุมฮิ ญาบไม่ใช่เครื่ องแบบที่ทางโรงเรี ยนใด ๆกําหนด ขึ้น แต่มนั เป็ นเครื่ องแบบที่อลั เลาะห์ (ซ.บ.) ได้ตราบัญญัติไว้ในอัลกุรอาน ไม่ใช่ผิดกฏหมายบ้านเมือง แต่เป็ นการผิดบัญญัติที่ อลั เลาะห์ (ซ.บ.) ได้ทรงชี้ใช้เอาไว้ ประการต่อมา ศาสนาของเรานั้น จํากัดใน เรื่ องของ การอยูร่ ่ วมกัน การอยูป่ ะปนกันระหว่างชายหญิงโดยไม่จาํ เป็ น ศาสนาไม่อนุญาต ลองกลับไป ดูซิครั บ ที่ บ ้าน ลูก ผูพ้ ี่ ลูก ผูน้ ้อ ง ท่านร่ อ ซู้ล (ซ.ล.) ก็ไม่อ นุ ญาตให้อยู่ก ันเพี ย งลําพัง เราอย่าปล่อ ยให้ ลูกหลานของเรา บอกว่ามันเป็ นลูกผูพ้ ี่ลูกผูน้ อ้ งกัน แล้วเราก็ปล่อยให้อยูเ่ พียงลําพัง เรื่ องต่างๆเหล่านี้ เกิ ด เป็ นความเลวร้ ายมามากมายบ่อยครั้งแล้ว หรื อยัง พอใจให้เกิ ดขึ้ นอีก ซํ้าแล้วซํ้าเล่า เครื่ องมือ สื่ อ สาร วันนี้ เราหลงลูก เราไม่ได้รักลูก ทั้งๆที่อลั เลาะห์ (ซ.บ.) นั้นส่งลูกมาเป็ นของขวัญ ส่งลูกมาให้เรารัก ทะนุ ถนอม เลี้ยงดู เอาใจใส่ วันนี้เราไม่รักลูกแต่เราหลงลูก ลูกอยากได้อะไรให้หมด โดยไม่ดูหน้าดูหลังว่าสิ่ ง นั้นมันจะนําซึ่ ง ประโยชน์หรื อโทษต่อชีวิตลูกมากกว่ากัน อินเตอร์ เ น็ตที่บา้ นเราอยู่ตรงไหน ถ้าอยู่ใน ห้องนอนของลูกรี บเอาออกซะ ลูกของท่านกําลังตกอยูใ่ นวังวนอันตราย โทรศัพท์ที่เราท่านทั้งหลายขยัน ซื้ อให้ลูก เป็ นพัน เป็ นหมื่น หลายๆหมื่น เคยดูเขาไหม ว่า ๕ ทุ่ม เที่ยงคืน มันจําเป็ นต้องโทรศัพท์ เรื่ อง อะไร คุยกับใคร เคยถามเขาไหม หรื อมีความสุ ขแค่เพียงลูกยกโทรศัพท์ข้ ึนมาแล้วก็พูดคุย ลูกเป็ นคน

เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 62


ทันสมัย ลูกมีโทรศัพท์ราคาแพง เป็ นลูกคนมีอนั จะกิน มีความสุขแค่น้ นั ใช่ไหม ถ้ามีความสุ ขแค่ตรงนั้น เราก็ไม่ต่างอะไร เราเป็ นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยเงินเท่านั้นเอง ท่านทั้งหลายที่รักและเคารพครับ และสุดท้าย มันมีมากมายหลายประการ แต่ยกมาพอเป็ นสังเขป แฟชัน่ ทั้งหลาย ตามนิตยสาร ลูกเราขยันซื้ อมาอ่าน ซื้ อมาดู การแต่งกาย แฟชัน่ ดารา การเปลี่ยนคู่ การมี อะไรต่อมิอะไร ลูกหลานของเรากําลังลอกเลียนแบบ รายการทีวี ละครทีวี จะเป็ นช่องไหนก็แล้วแต่ มัน สอนอะไรกับลูกเรา เราโตพอที่จะแยกแยะได้แล้ว แต่ลูกของเราละครับ พระเอกแสดงบทรักกับนางเอก ท่านรู้ หรื อ ไม่ว่า มันตอกลิ่มลงไปในมันสมองในหัวใจของลูก ของเราแค่ไหน เขากําลัง คิดว่านัน่ เป็ น บทบาทของพระเอก เมื่อไหร่ ก็ตามที่เขาสบโอกาส เขาจะต้องแสดงบทบาทความเป็ นพระเอกนั้นให้จง ได้ เมื่อไหร่ ก็ตามที่อยูก่ บั ผูห้ ญิงสองต่อสอง เขาจะต้องแสดงบทบาทนั้นให้จงได้ เพราะมันน่าชื่นชม มัน มีความสุข ในความรู้สึก และสายตาของเขา เขาไม่เคยได้รู้เลยว่านัน่ เป็ นบทบาทของชัยตอน เขาไม่เคยได้ เห็นบทบาทของสุภาพบุรุษจริ งๆนั้นเป็ นอย่างไร ต้องไม่ถือโอกาส การแตะเนื้อต้องตัวของผูห้ ญิงนั้นมัน ถือเป็ นเรื่ องที่ตอ้ งห้าม ถ้าไม่ใช่ญาติใกล้ชิด ไม่ใช่ภรรยา มันเป็ นเรื่ องน่าเศร้าเหลือเกิ น และเราคงจะต้อง เศร้าต่อไป ถ้าเราพอใจให้สภาพเหล่านั้นมันยังดํารงอยู่ ท่านทั้งหลายที่รักและเคารพครับ เคล็ดลับง่ายๆที่จะป้ องกันปั ญหาต่างๆเหล่านี้ ครับ ก็คือ ทําทุก วิถีทางให้ลูกของเราละหมาดครบ ๕ เวลา ให้ได้ เริ่ มตั้งแต่ตวั เรา ต้องเป็ นแบบอย่างก่อน ลูกเข้าบ้าน ถาม เขาก่อนว่าละหมาดแล้วหรื อยัง อย่าเพิ่งถามว่าหิ วข้าวหรื อเปล่า หิ วข้าวไม่ตายหรอกครับ อยากมากก็ตาย หมดชีวิต แต่ถา้ ไม่ได้ละหมาดสิ ครับ ตายทั้งโลกนี้ ตายทั้งโลกหน้า และก็จะดึงพ่อของเขา แม่ของเขาลง สู่นรกด้วย อย่าคิดว่าเราละหมาด ๕ เวลา ครบแล้ว มาละหมาดวันศุกร์ ครบแล้ว ยกมือขอดุอาอ์ทุกวันแล้ว พอแล้ว ยัง ยังมีห่วงที่อยูข่ า้ งหลังเรา พร้อมที่จะดึงเราไปสู่ญะฮันนัมของอัลเลาะห์ (ซ.บ.) เสมอ ถ้าเราไม่ ปฏิบตั ิหน้าที่ของความเป็ นผูน้ าํ ครอบครัวที่ดี เอาใจใส่ อย่ามองข้าม ให้เวลาแก่ลูกหลาน ให้ความรักแก่ ลูกหลาน ให้ความรู้ แก่ลูกหลาน ให้ศาสนาแก่ลูกหลาน ให้ละหมาดแก่ลูกหลาน ลูกหลานของเราจักได้ ไม่ตกอยูใ่ นวังวนแห่งการเข้าใกล้การซิ นา

เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 63


#55. คุตบะห์ วนั ศุกร์ ณ มัสยิดท่ าอิฐวันศุกร์ ที่ 17 ธันวาคม 2553 ตรงกับวันที่ 11 มุฮัรรอม ฮ.ศ.1432 โดย อาจารย์อิมรอน สาดและ

‫السالم عليكم ورحمة اهلل وبركاته‬ ท่านพี่น้องผูศ้ รัทธาที่เคารพรักทั้งหลาย ‫ الحمدهلل‬ก่อนอื่นเราทุกคนต้อ งสรรเสริ ญในเอกองค์ อัลเลาะห์ (ซ.บ.) ที่ให้เรามีชีวิตยืนยาวจนถึงวันนี้ จนกระทัง่ ถึงเดือนมุฮรั รอมของ ปี ฮ.ศ.1432 ‫الحمدهلل‬ ดังนั้นเมื่ออัลเลาะห์ให้เรามีชีวิตยืนยาว เรามีหน้าที่ที่จะต้องขอบคุณ ที่พระองค์ได้ให้ชีวิต ให้ความสุ ข สบาย ให้ริสกีปัจจัยยังชีพกับเรา ดังนั้นสิ่ งที่อลั เลาะห์ (ซ.บ.) ได้มอบให้กบั เราในชีวิตแห่ งโลกดุนยานั้น ไม่สามารถที่จะคณานับได้ อัลกุรอานได้กล่าวไว้ในเรื่ องนี้ว่า ‫ص ْوهَ ا‬ ِ ‫“ َو ِإنْ َت ُعد ُّْوا ن ِْع َم َة‬ถ้ าแม้ ว่าพวกเจ้ าทั้งหลายจะนับเนี๊ยะมัตของอั ลเลาะห์ ُ ‫هللا َال ُت ْح‬ หรื อความโปรดปรานของอัลเลาะห์ (ที่ได้ ให้ กับพวกเจ้ าทั้งหลายนั้น) เจ้ าไม่สามารถที่จะคณานับได้ ” ‫سانَ لَ َظلُ ْو ٌم َك َّفار‬ َ ‫“إِنَّ ْاالِ ْن‬แต่ ถึงกระนั้น มนุษย์ กย็ ังเป็ นผู้อธรรม และยังเป็ นผู้ที่ปฏิเสธพระองค์ ” ‫ والعٌا ُذ باهلل‬ท่านพี่นอ้ งที่เคารพ ถ้าเราจะศึกษาเรื่ องความเมตตา ความโปรดปราน เนี๊ ยะมัตที่อลั เลาะห์ได้ มอบให้กบั เรานั้นมากมายเหลือเกิน แต่สิ่งหนึ่งที่เราควรจะหวนคิด ณ ปัจจุบนั คือ การที่อลั เลาะห์ (ซ.บ.) ได้ ให้เราใช้ชีวิตจนกระทัง่ ถึงวันนี้ เข้ามาในเดือนมุฮรั รอมของ ปี ฮ.ศ.1432 แล้ว ผูศ้ รัทธาต่อพระองค์สมควรที่ จะฉุกคิด ถึงอดีตที่ผ่านมา ที่เราใช้ชีวิตในรอบปี ที่ผ่านไปแล้วนั้น บัดนี้ เรากําลังใช้ชีวิตในรอบปี ใหม่ของ อิสลาม ดังนั้นขอให้เราท่านทั้งหลายได้รําลึก ว่าเราสมควรอย่างยิ่งที่จะต้องปรับปรุ งชีวิตของเรา แก้ไขส่ วน ที่บกพร่ องในชีวิ ต ในหน้าที่ที่เราจะต้องปฏิบตั ิต่อพระองค์อ ลั เลาะห์ (ซ.บ.) ก็ดี หรื อจะเป็ นหน้าที่ที่เรา จะต้องปฏิบตั ิต่อบ่าวของอัลเลาะห์ (ซ.บ.) ก็ดี สิ่ งใดที่เป็ นหน้าที่ที่เราเรี ยกว่า ِ‫ َح ُّق هللا‬ที่เราจะต้องปฏิบตั ิ ต่ออัลเลาะห์ที่บกพร่ อง บัดนี้ ถึงเวลาที่เราจะต้องแก้ไข ปรับปรุ งสิ่ งที่ เราบกพร่ องในชี วิต ในหน้าที่ที่เรา จะต้องปฏิบตั ิ ต่อพระองค์อลั เลาะห์ และสิ่ งใดก็ตามที่เราบกพร่ องในหน้าที่ที่เราจะต้องปฏิบตั ิต่อมนุษย์ หรื อบ่าวของอัลเลาะห์ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็ นพ่อแม่ ลูกหลาน ครอบครั ว แม้กระทัง่ คนในสังคม ที่เราได้ บกพร่ องในหน้าที่ที่จะต้องปฏิบตั ิต่อบุคคลเหล่านั้น ก็ถือว่าเป็ นข้อบกพร่ องที่เราจะต้องปรับปรุ ง แก้ไข

เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 64


ท่านพี่นอ้ งที่เคารพ โอกาสแห่ งเดือนขึ้นปี ใหม่ของอิสลาม มุสลิมที่มีความตระหนักอยู่ในใจว่า วันหนึ่งเราจะต้องกลับไปหาอัลเลาะห์ (ซ.บ.) อย่างแน่นอน ญาติพี่นอ้ งของเรากลับไปสู่อลั เลาะห์ (ซ.บ.) กันมากมาย มีให้เห็นกันบ่อย วันสองวันนี้ ก็กลับไปสู่ อลั เลาะห์ซ่ ึ งเป็ นญาติพี่น้องของเรา ใกล้ชิดมัสยิด ของเรา แต่มีพวกเราหลายคนที่ไม่นาํ เอาเรื่ องถึง ‫ أجل‬มาเป็ นข้อคิดในการปรับปรุ งตัวเอง ก็มีให้เห็ น ท่านพี่นอ้ งที่เคารพ เมื่อเราเสี ยชีวิตไปแล้วเราไม่มีสิทธิ์ที่จะมากลับเนื้อกลับตัว ไม่มีสิทธิ์ที่จะเริ่ มต้น ไม่มี สิ ทธิ์ ที่จ ะขออภัยอี กต่อ ไปแล้ว ไม่ว่าจะขออภัย ต่อ อัล เลาะห์ หรื อ ขออภัยต่อ มนุ ษย์ก็ตาม ดังนั้นชี วิตที่ เหลืออยู่ ซึ่ งเราไม่สามารถทราบได้ว่า วันใดที่อลั เลาะห์จะนําวิญญาณของเรากลับไปสู่พระองค์ ขอให้เรา เตรี ยมการไว้ตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเริ่ มต้นปี ใหม่ ก็สมควรอย่างยิ่งที่จะทบทวนอดีตกาลที่เรา ผ่านมา ในปี ที่ ผ่านมาก็ดี หรื อในหลายๆปี ตั้งแต่เราเป็ นผูท้ ี่ถูกบังคับ จากอัลเลาะห์ (ซ.บ.) ที่เราเรี ยกว่า ‫ مكلف‬ย้อนหลังไปว่าเราขาดตกบกพร่ องอะไรบ้าง ไม่สายเกินไปที่เราจะแก้ไข ท่านพี่นอ้ งที่เคารพ เมื่อเรานับปี ฮิจเราะห์ศกั ราช มีฮะดีษของท่านร่ อซู้ล (ซ.ล.) บางฮะดีษที่กล่าว ว่า ‫ الَه ِْج َر َة َب ْع َد ْال َف ْت ِح‬ซึ่ งมีความว่า“ไม่มีการฮิ จเราะห์ ไม่มีการอพยพแล้ ว หลังจากการพิ ชิตมักกะห์ ในปี นั้น” ซึ่ งหมายถึงอพยพไปหาท่านร่ อซู้ลขณะท่านมีชีวิตอยู่ เพราะเรื่ องของ ‫ ه ِْج َرة‬นั้น มีฮะดีษบท หนึ่งมายืนยันในความหมายว่า การอพยพนั้นยังไม่สิ้นสุด ซึ่ งความหมายของการอพยพนั้นเราสามารถที่ จะแบ่งสั้นๆโดยสรุ ปคือ ๑.อพยพจากสถานที่หนึ่ งไปยังสถานที่หนึ่ ง เราเรี ยกว่า ‫اَ ْل ِه ْج َر ُة ا ْل َم َكا ِن ٌَّة‬ คือการอพยพย้ายสถานที่นั่นเอง ส่ วน ‫ ه ِْج َرة‬อีก ประการหนึ่ ง เรี ยกว่า ‫ ه ِْج َر ُة ْالم َكا َنة‬หมายถึ ง อพยพโดยตําแหน่ง หรื อโดยสถานภาพ ท่านพี่น้องที่เคารพ เราจะได้รับหลักฐานยืนยันจากฮะดีษของ ท่านร่ อซู้ล (ซ.ล.) อีกบทหนึ่ง ที่เราท่านทั้งหลายได้ร่ ําเรี ยนกันมา แม้ในหลักสู ตรฟั รดูอีนก็มี ท่านร่ อ ซู้ล (ซ.ล.) ได้กล่าวว่า ‫سانِ ِه َو ٌَ ِد ِه‬ َ ِ‫سلِ َم ْال ُم ْسلِ ُم ْونَ مِنْ ل‬ َ ْ‫اَ ْل ُم ْسلِ ُم َمن‬ ความว่า “มุสลิ มนั้นคื อ ผู้ที่บรรดามุสลิ มได้ รับความปลอดภัยจากลิน้ ของเขาและมือ ของเขา” ‫ َو ْال ُم َها ِج ُر َمنْ ه َ​َج َر َما َن َهى هللاُ َع ْن ُه‬ส่วน ‫ ْال ُم َها ِج ُر‬ผูอ้ พยพนั้น คือผูท้ ี่ได้ทาํ การอพยพหลบหนี ออกจากสิ่ งที่ อลั เลาะห์ (ซ.บ.) ได้ห้ามเอาไว้ ดังนั้นจากความเข้าใจในฮะดีษหลังนี้ ทําให้เ ราเข้าใจได้ ชัดเจนว่า การอพยพยังไม่สิ้นสุด และในรายละเอียดของการอพยพ เรื่ องของสถานที่ก็ยงั มีรายละเอียดอีก มาก แม้กระทัง่ ปัจจุบนั ก็มีบทบัญญัติให้ทาํ การอพยพ กระผมจะไม่ขอนํามากล่าวในรายละเอียดตรงนี้ คง จะขอนํามากล่าวในรายละเอียด ในการอพยพ ในประเภทที่สอง ก็คือ การอพยพหลบหนี ความชัว่ ร้ าย จากความเลว จากสิ่ ง ที่ อลั เลาะห์ (ซ.บ.) ห้าม ท่านพี่ น้อ งที่ เ คารพรั ก ทั้ง หลาย นัก วิชาการได้พยายาม รวบรวม ข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับการอพยพประเภทนี้ และการอพยพประเภทนี้ จะคงยืนหยัดอย่างนี้ไปตราบ จนกระทัง่ ชัว่ ฟ้ าดินสลาย หมายถึง จนกระทัง่ ถึงวันกิ ยามัตนัน่ เอง นัน่ คือการเปลี่ยนแปลงจากตําแหน่ง แห่ งความเลวร้ าย แห่ งความชัว่ ร้ าย ตําแหน่งแห่ ง การฝ่ าฝี นคําสั่ง ของอัล เลาะห์ ไปสู่ ตาํ แหน่ง แห่ งการ เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 65


‫ة‬ ‫ع‬ ‫ا‬ ‫ط‬ภักดี เชื่อฟั งต่ออัลเลาะห์ (ซ.บ.) อพยพหลบหนี จากความผิดไปสู่ ความถูกต้อง อพยพจากความ เหลวไหล ไปสู่สจั ธรรม ทั้งนี้ข้ ึนอยูก่ บั การตั้งเจตนาของเราให้ถูกต้อง เมื่อเริ่ มต้นปี ใหม่อย่างนี้ สมควร อย่างยิ่งที่ผูศ้ รัท ธาต่อ อัลเลาะห์ (ซ.บ.) จะต้องตั้ง เจตนาเริ่ มต้นชี วิตที่มนั ผ่านไปโดยมีข้อบกพร่ อง เรา จะต้องเริ่ มต้นชีวิตใหม่ดว้ ยการเหนียต ตั้งเจตนาให้ถูกต้อง ว่าต่อไปนี้ ชีวิตของฉันจะอพยพหลบหนี จาก สิ่ งที่อลั เลาะห์ (ซ.บ.) ห้าม ไปสู่สิ่งที่อลั เลาะห์ (ซ.บ.) ได้ทรงบัญญัติใช้ ซึ่ งเป็ นไปตามฮะดีษบทหนึ่ ง ที่ เรานํา มากล่ า วกัน ทุ ก ๆวิ ช าฮะดี ษ ทุก ๆเล่ ม ซึ่ งเป็ นฮะดี ษ เริ่ มต้น นั่นคื อ ِ‫ِإ َّن َما ْا َال ْع َما لُ ِبال ِّن ٌَّات‬ “แท้ จริ งกิจการงานทั้งหลายขึน้ อยู่กับการตั้งเจตนา ‫ئ َما َن َوى‬ ْ ِّ ‫“ َوإِ َّن َما لِ ُكل‬และแท้ จริ งบุคคล ٍ ‫ام ِر‬ แต่ ละคนนั้น เขาจะได้ รับผลตามที่เขาได้ ตั้งเจตนาเอาไว้ ” ท่าน ร่ อซู้ลจึงกล่าวว่า ‫س ْولِ ِه‬ ُ ‫س ْولِ ِه َف ِه ْج َر ُت ُه إِلَى هللاِ َو َر‬ ُ ‫َف َمنْ َكا َن ْت ه ِْج َر ُت ُه إِلَى هللاِ َو َر‬ “ใครก็ตามที่ อ พยพไป ตั้งเจตนาเพื่ ออัล เลาะห์ เขาจะได้ รั บภาคผลในการอพยพนั้นไปเพื่ ออั ล เลาะห์ และร่ อซู้ล” ‫ام َرأَ ٍة ٌَ ْن ِك ُح َها‬ ْ ‫“ َو َمنْ َكا َن ْت ه ِْج َر ُت ُه إِ َلى ُد ْن ٌَا أَ ِو‬และใครก็ตามที่ อพยพไปเพื่ อโลกดุนยา หรื อเพื่อสุภาพสตรี คนหนึ่ง เพื่อเขาจะได้ ไปสมรสกับนาง” ‫َاج َر إِلَ ٌْ ِه‬ َ ‫“ َف ِه ُج َر ُت ُه إِلَى َما ه‬ดังนั้นการอพยพของเขา เขาก็จะได้ รับภาคผลตามนั้นไป”

ท่านพี่นอ้ งที่เคารพ เมื่อเราทราบเช่นนี้ เราจะพบว่า การปฏิบตั ิของบ่าวของอัลเลาะห์ (ซ.บ.) ใน โลกดุนยา กว่าจะถึงวันสุดท้ายของเขานั้น มันจะวนเวียนอยูก่ บั สิ่ งต่างๆต่อไปนี้ คือ ๑.การปฏิบตั ิที่เป็ นวายิบ คือหน้าที่ที่ตอ้ งปฏิบตั ิ ถ้าไม่ปฏิบตั ิก็ถือว่าฮารอม ๒.การปฏิบตั ิที่เป็ นฮารอม ข้อห้าม ถ้าใครปฏิบตั ิก็จะต้องได้รับโทษแน่นอน ๓. ‫ مندوب‬สิ่ งที่สนับสนุนให้ทาํ การปฏิบตั ิ ใครกระทําได้บุญเพิ่มเติม ๔. ‫ مكروه‬สิ่ งที่ปฏิบตั ิแล้วเป็ นที่น่ารังเกลียด อัลเลาะห์ (ซ.บ.) ทรงเกลียด ๕. ‫ مباح‬สิ่ งที่อนุญาตให้ปฏิบตั ิก็ได้ไม่ปฏิบตั ิก็ได้ ดังนั้นสิ่ งที่มนุษย์ได้ปฏิบตั ิท้งั ๕ ประการ มันเกี่ ยวโยงกับความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กบั พระผู้ เป็ นเจ้า ก็คือ อัลเลาะห์ (ซ.บ.) เกี่ ยวพันกับความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กบั การใช้ชีวิต และเกี่ ยวพันกับ ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กบั มนุษย์ดว้ ยกัน ท่านพี่นอ้ งที่เคารพ ถ้าเรามานัง่ ใช้ความคิด พินิจ พิเคราะห์ ตรึ กตรอง สักช่วงเวลาหนึ่งในหนึ่งวัน ครึ่ งชัว่ โมง หรื อหนึ่งชัว่ โมง เราจะพบว่า ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องอพยพหลบหนีจากความเลวร้ายต่างๆ ที่ เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 66


เราจะต้องไปถูกตอบแทนโทษในโลกอาคิเราะห์อย่างแสนสาหัส ไปสู่ การปฏิบตั ิตวั ดี ซึ่ งนักวิชาการได้ รวบรวมสิ่ งต่างๆเหล่านี้ไว้ สมควรอย่างยิ่งที่เราจะต้องปรับปรุ ง ดังต่อไปนี้ ๑.การอพยพหลบหนีจากการ ละทิ้งอัลกุรอาน การไม่สนใจในพระมหาคัมภีร์ของอัลเลาะห์ (ซ.บ.) ซึ่ งเรื่ องนี้ เกิ ดขึ้นมากมายกับพี่น้อง เยาวชนมุสลิม เราจะต้องอพยพหลบหนีจากสิ่ งต่างๆนี้ ไปสู่การเอาใจใส่ ในเรื่ องของพระมหาคัมภีร์อลั กุ รอาน ในวันหนึ่ง ๆ ถ้าเราสามารถที่จะหันมาจับพระมหาคัมภีร์อลั กุรอานขึ้นมาอ่าน สัก ๑ หน้ากระดาษ ก็ยงั ดีกว่าเราปล่อยชีวิตเราทั้งชีวิตนั้น หันห่ าง ละทิ้ง พระคัมภีร์ของอัลเลาะห์ ซึ่ งเป็ นธรรมนูญในการ ดําเนิ นชีวิตของเรา ๒.การอพยพหลบหนี จ ากความคิดไม่ดีในเอกองค์อ ลั เลาะห์ (ซ.บ.) ไปสู่ ก ารคิดดี ต่ออัลเลาะห์ (ซ.บ.) เรี ยกว่าจาก ِ‫س ْو ُءال َّظن ِباهللا‬ ُ ไปสู่ ‫ ُح ْسنُ ال َّظن ِب ِه‬บางคนคิดไม่ดีกบั พระผูเ้ ป็ น เจ้า ในหมู่มวลผูศ้ รัทธาเรานี่ แหละ พอห่ างไกลศาสนา มีสิ่งหนึ่ งสิ่ งใดหรื อหลายสิ่ งที่เกิ ดขึ้นกับเขา ซึ่ ง เป็ นการทดสอบ อาจจะด้วยกับภัยบาลาอ์ก็ดี หรื อสิ่ งต่างๆที่เขาไม่ถูกอกถูกใจ ในโลกดุนยา บางครั้งเขา คิ ด ไม่ ดีต่ อ อัล เลาะห์ (ซ.บ.) ‫ والعٌا ُذ باهلل‬ให้ เ ราหวนกลับ มาสู่ ก ารคิ ดดี ว่ า ทุก สิ่ ง นั้น อัล เลาะห์ ไ ด้ กําหนดให้เกิดกับเรามีฮิกมัต ทําไมจึงได้ประสบกับเราสิ่ งต่างๆเหล่านั้น ให้เราคิดดีกบั อัลเลาะห์ไว้ และ ให้เราคิดเสมอว่า ผูอ้ ื่นที่อลั เลาะห์ (ซ.บ.) ได้ให้สิ่งที่ประสบกับเขาหนักหนาสาหัสสากันมากมาย เขายัง ‫ صبر‬เขายังอดทน เขายังไม่คิดร้ายในอัลเลาะห์ (ซ.บ.) แต่ไฉนเล่าเรา มีอะไรมากระทบกระเทือนใน ชีวิต เราก็คิดไม่ดีกบั พระผูเ้ ป็ นเจ้าเสี ยแล้ว ‫ أعوذباهلل من ذلك‬ประการต่อมา การคิดไม่ถูกต้องในหลัก ยึดมัน่ หลักยึดมัน่ ในอัลเลาะห์ (ซ.บ.) องค์เดียว บางครั้งเราคิดว่ามีสิ่งหนึ่ งสิ่ งใดแอบแฝง ในเรื่ องความ َّ เราไม่ได้นาํ ชีวิตของเรามอบหมายต่อ อัล เป็ นเอกะของอัลเลาะห์ (ซ.บ.) เราไม่ได้ ‫توكل على هللا‬ เลาะห์องค์เดียวอย่างจริ งจัง บางครั้งเราก็ออกไปหาหมอดู ตรวจดวงชะตาบ้าง สิ่ งต่างๆเหล่านี้ แสดงว่า เราไม่มนั่ ใจในการกําหนด ในเอี๊ยะติกอดในหัวใจของเราต่ออัลเลาะห์อย่างจริ งจัง ดังนั้นเราต้องอพยพ ละทิ้ง จากสิ่ งเหล่านี้ หันไปสู่การเอี๊ยะติกอดที่ถูกต้องต่ออัลเลาะห์องค์เดียว พึ่งพาอัลเลาะห์เท่านั้น หัน กลับไปสู่การเตาบัตตัว หันกลับไปสู่การขอ ‫إستغفار‬ต่ออัลเลาะห์ และปฏิเสธทุกสิ่ งที่จะนําเราไปสู่ การ ทํา ‫ شِ ِر ْك‬ต่ออัลเลาะห์ (ซ.บ.) ‫ والعٌا ُذ باهلل‬ประการถัดมา การนอนมาก การมีจิตใจแข็งกระด้างต่ออัล เลาะห์ โดยเฉพาะในยามคํ่าคืน มีแต่นอนอย่างเดียว ไม่มี ช่วงเวลาหนึ่งเวลาใดที่เราจะลุก ขึ้นมานึ กถึงอัล เลาะห์ การกระทําอย่างนี้ ไม่ถูกต้อง ควรจะหันกลับมาหา ช่วงเวลาหนึ่ งเวลาใดในยามคํ่าคืน แบ่งเวลา ขึ้นมารําลึกถึงอัลเลาะห์ในยามดึกสงัดบ้าง ในชีวิตของเรา ประการต่อมา การที่เรามุ่งหน้าเอาแต่กอบโกย เรื่ องของทรัพย์สิน แสวงหาปั จจัยยังชีพ เมื่ออัลเลาะห์ (ซ.บ.) ให้เราได้สมประสงค์ แทนที่เราจะรําลึก ขอบคุณอัลเลาะห์ดว้ ยการบริ จาค แต่เราก็เสี ยดายทรัพย์ เราก็ ‫ بخٌل‬เราต้องหันกลับมาทําเรื่ องซะกาต ทํา เรื่ องซอดาเกาะห์ ทําทรัพย์สินของเราให้มีความบริ สุทธิ์ ท่านพี่นอ้ งที่เคารพ มีอีกเรื่ องหนึ่ งคือ หลายคน จากพวกเรา มีจิตใจมุ่งมัน่ อยูก่ บั เรื่ องอาหารการกิน วันนี้ จะรับประทานอะไร เมนูอะไร จะทานที่ไหนดี เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 67


เครื่ อ งดื่ มอะไรดี เน้นหนัก ในชีวิ ตของเขา ต่อ ไปนี้ เราต้อ งอพยพหลบหนี สิ่งเหล่านี้ ละทิ้ ง แล้วก็หัน กลับมาพยายามจัดระเบียบกระเพาะอาหารของเรา โดยการระมัดระวังเรื่ องอาหารการกิน โดยเฉพาะสิ่ งที่ ฮารอม ต้องขจัดออกจากเมนูอาหารของเราอย่างสิ้ นเชิง และประการถัดมา เราต้องอพยพหลบหนี จาก การใช้เวลาโดยเปล่าประโยชน์ วันหนึ่งๆ บางทีเราไม่ได้ใช้เวลาไปในการทําประโยชน์กบั ตัวเรา ให้กบั ครอบครัว ให้กบั สังคม เราก็ตอ้ งหันกลับมาจัดระบบเวลาของเราให้ถูกต้องในแต่ละวัน ประการถัดมา การทําร้ายสิ่ งแวดล้อม นี่ก็เป็ นอีกสิ่ งหนึ่ ง ที่เป็ นการกระทําที่ไม่ถูกต้อง สิ่ งแวดล้อมที่ดีเราจะต้องรักษา ให้มีความสะอาดสวยงาม เพราะอิสลามรักเรื่ องความสะอาดท่านร่ อซู้ลสนับสนุน ‫ان‬ ِ ‫اَل َّن َظا َف ُة مِنَ ْاالِ ٌْ َم‬ ความสะอาดเป็ นส่วนหนึ่งของการศรัทธา ‫ب‬ ٌ ٌِّ ‫هللا َط‬ َ َّ‫ إِن‬อัลเลาะห์เป็ นผูท้ ี่ดี ‫ الَ ٌَ ْق َبل ُ إِالَّ َط ٌِّ ًّبا‬อัลเลาะห์ ไม่ทรงรับยกเว้นแต่สิ่งที่ดีๆ ดังนั้นสภาพแวดล้อมของบ้านเรา เมืองเรา ชุมชนของเรา อิสลามสนับสนุน ส่งเสริ ม และใช้ให้ทาํ การรักษาให้มีความสะอาด ประการต่อมา ละทิ้งจากการ ‫ص ْب‬ ُّ ‫ َت َع‬หรื อการยึดมัน่ ใน ทิฐิของตัวเอง ถือว่าสิ่ งที่ตวั เองทํานั้นถูกอย่างเดียว โดยไม่ฟังความเห็นของคนอื่นรอบข้าง ว่าจะถูกหรื อ ผิด การกระทําอย่างนี้ ถือว่าเป็ นสิ่ งที่ผิด เราต้องอพยพหลบหนีไปสู่การ ‫سا ُم ْح‬ َ ‫ َت‬ให้อภัยกัน ْ‫ اَللَّ ٌِّن‬ความ อ่อนโยน ‫سن‬ َ ‫لح‬ َ ‫ اَ ْل ُخلُ ُق ْا‬มีจริ ยธรรมที่ดีงามต่อกัน มี ‫ب َو ْاالِ ْحت َِرا ْم‬ ُّ ‫ اَ ْل ُح‬มีความรัก ‫ َو ْا ِال ْحت َِرام‬มีการ ให้เกี ย รติซ่ ึ งกันและกัน อย่ายึดเอาว่าสิ่ ง ที่เรายึดถืออยู่น้ นั ถูกอยู่คนเดียวหรื อกลุ่มเดียว ไม่ได้ ประการ ต่อมา มีผทู้ ี่ตดั ขาดจากญาติพี่นอ้ ง บางคนตัดขาดจากพ่อแม่ สิ่ งต่างๆเหล่านี้ เป็ นผลร้ ายต่อเราทั้งโลกดุน ยา จนกระทัง่ ถึงโลกอาคิเราะห์อย่างร้ ายแรง ดังนั้นเราต้องอพยพหลบหนี จากสิ่ งเหล่านี้ ไปสู่ การเชื่อม สัมพันธ์ ทําคุณงามความดี ติดต่อกับบุคคลเหล่านั้นที่เป็ นญาติกบั เรา ยังไม่สายเกิ นไป ที่เราจะ ‫سا ُم ْح‬ َ ‫َت‬ ที่เราจะจับมือ กัน ที่ เราจะขอมาอัฟกัน เพราะชีวิตของเราก็เหลื อกันไม่นานแต่ละคน ต่อ มาเราจะต้อ ง อพยพหลบหนีจากการปล่อยปละละเลยภรรยาของเรา ลูกหลานที่เราไม่เคยกํากับดูแล ปล่อยเขาไปตาม ยถากรรม ปล่อยเขาไปตามสิ่ งที่เขาชอบที่จะปฏิบตั ิ โดยไม่มีการยับยั้ง ไม่มีการชี้แนะ เราต้องละทิ้งสิ่ ง เหล่านี้ ไปสู่การ ‫ إِهْ تِ َمام‬สนใจ แล้วก็ให้สิทธิที่เราต้องปฏิบตั ิต่อเขา นัน่ คือปฏิบตั ิหน้าที่ต่อภรรยา สําหรับสามีที่เคยปล่อยปละละเลย หน้าที่ หรื อภรรยาปล่อยปละละเลยหน้าที่ที่ตอ้ งปฏิบตั ิต่อสามี ยังไม่สายเกินไป ที่เราจะอพยพหลบหนีสิ่งที่บกพร่ องเหล่านั้น มาสู่การปฏิบตั ิต่อกันอย่างดีงาม ประการ ถัดมา ความรั บผิดชอบในเรื่ องการศึ กษา มี หลายคนไม่ส นใจอนาคตการศึ ก ษาของลูก เลย ไม่ว่าจะ การศึกษาศาสนา หรื อสามัญ ไม่เคยสนใจใยดี อย่างนี้ จะนําอนาคตของลูกเราไปสู่ ความเลวร้ ายแน่นอน ที่สุด ถ้าขาดการศึกษา ดังนั้นเราจะต้องหันกลับมาสู่ การจัดระเบียบครอบครัวด้วยกับการให้การศึกษา บุตรของเรา ไม่ว่าจะศาสนา หรื อสามัญ ถ้าเราเองไม่สามารถที่จะให้การศึกษา ให้ความรู้กบั ลูกของเราได้ เราต้องสนับสนุนการเรี ยนในโรงเรี ยนต่างๆกับลูก หลานของเรา หันกลับมาให้ได้ ต่อมา การ ‫َظا ِل ْم‬ ‫س‬ ُ ‫ َن ْف‬คือเราอธรรมต่อจิตใจของเรา ด้วยการเกียจคร้าน ไม่ปฏิบตั ิหน้าที่ เพราะมีความขี้เกี ยจ เราต้องหัน เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 68


ْ ‫ش‬ َ ‫ َن‬มีความกระปี้ กระเป่ า หันกลับมาให้ความสําคัญกับหน้าที่ตา่ งๆ และประการถัดมาก็คือ กลับมามี ‫اط‬ การศึกษาหาความรู้ของตัวเราเอง บาคนในชีวิตประจําวัน ไม่เคยหันมาศึกษาหาวิชาความรู้เลย ใช้ชีวิตใน แต่ละวัน เพื่อที่จะหาปัจจัยยังชีพมาเลี้ยงตัวเอง เลี้ยงครอบครัว เราต้องอพยพหลบหนีจากคํากล่าวนี้ ไปสู่ การใฝ่ หาความรู้ ใ ส่ ต ัว ไม่ ว่ า วัน หนึ่ งจะครึ่ งชั่ว โมง หรื อหนึ่ งชั่ว โมง หรื อด้ว ยกับ สื่ อ ใด ๆ ที่ เ ป็ น สื่ อการศึกษามีมากมายเหลือเกิ นในปั จจุบนั เริ่ มต้นได้ครับ และประการสุ ดท้าย การที่เราทําร้ ายสายตา ทําร้ายหู ทําร้ายจมูก ทําร้ายลิ้น และอวัยวะต่างๆในร่ างกายของเรา ด้วยกับการปฏิบตั ิสิ่งที่ฝ่าฝื นอัลเลาะห์ (ซ.บ.) ไม่ว่าจะด้วยสายตา ด้วยหู ด้วยลิ้น ด้วยจมูก ด้วยอวัยวะต่างๆเหล่านั้น เท่ากับเราทําร้ ายร่ างกาย ของเรา หันกลับมาสู่การรักษาอวัยวะทั้งหมด ด้วยกับการปกป้ องให้มีความบริ สุทธิ์ในการปฏิบตั ิ ในการ ที่เราจะต้องระมัดระวังอวัยวะต่างๆเหล่านี้ ท่านพี่นอ้ งที่เคารพ จากสิ่ งต่างๆที่เราสมควรอย่างยิ่ง ที่จะต้อง ละทิ้ง ที่จะต้องอพยพหลบหนีจากสิ่ งไม่ดีที่กล่าวมาข้างต้น หันมาสู่สิ่งที่ดีในการเริ่ มต้นชีวิตใหม่น้ ี มันยัง ไม่สายเกินแก้ กับผูศ้ รัทธาต่ออัลเลาะห์ทุกคนที่จะเริ่ มต้นชีวิตใหม่ ใครก็ตามที่ได้ทาํ การเตาบัตตัว ในสิ่ ง ที่ผิดพลาดในอดีตที่ผา่ นมา อัลเลาะห์จะทรงรับการกลับเนื้อกลับตัวของบุคคลเหล่านั้น เพราะท่านร่ อซู้ล ได้กล่าวว่า ‫ُكل ُّ ِا ْب ِن آ َد َم َخ َّطا ٌء‬ “มนุษย์ ลูกหลานอาดาทุกคนทาผิดกันทั้งนั้น َ ‫َو َخ ٌْ ُر ْا‬ َ‫لخ َّطا ِئ ٌْنَ اَل َّت َّوا ُب ْون‬ คนที่ดีที่สุดของผู้ที่กระทาผิดก็คือ คนที่เตาบัตตัวต่ ออัลเลาะห์ (ซ.บ.)”

เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 69


#56. คุตบะห์วนั ศุกร์ ณ มัสยิดท่าอิฐวันศุกร์ที่ 24 ธันวาคม 2553 ตรงกับวันที่ 18 มุฮรั รอม ฮ.ศ.1432 โดย ท่านจุฬาราชมนตรี นายอาซิ ซ พิทกั ษ์คุมพล

‫السالم عليكم ورحمة اهلل وبركاته‬ พี่น้องญามาอะห์ ที่เ ป็ นที่รักของอัลเลาะห์ (ซ.บ.) ทุกท่าน เราทั้งหลายควรดํารงอยู่บนความยํา เกรง บนความสํารวมตนต่ออัลเลาะห์ (ซ.บ.) อย่างแท้จริ ง เราทั้งหลายต้องยึดมัน่ ในกรอบอิสลามอย่าง เหนียวแน่น และทุกคนต้องระวัง หลีกเลี่ยงจากเรื่ องของ ‫ معصٌة‬และความเลวร้ายต่างๆ เพราะแน่นอน เท้าของพวกเราทุกคน ไม่อาจที่ยืนอยูบ่ นกล่องไฟแห่งอัลเลาะห์ (ซ.บ.) ได้ ในวันอาคิเราะห์อย่างแน่นอน เราทั้งหลาย เตรี ยมไว้ ตั้งแต่โลกดุนยาวันนี้ ในขณะที่เรายังมีชีวิตอยู่ ยังมีศกั ยภาพที่จะเคลื่อนไหว ทํา อะไรได้อยู่ ด้วยการเตรี ยมเสบียงไว้ สําหรับที่จะนําไปเป็ นประโยชน์ในอนาคตวันข้างหน้า หลังจากที่ เรากลับไปหาอัลเลาะห์ (ซ.บ.) เสบียงที่ดีที่สุดที่พึงจะนําไปในวันข้างหน้า ไม่มีอะไรที่จะมีความสําคัญ และมีคุณค่า เท่ากับเรื่ องของความสํารวมตน และความยําเกรง หรื อตักวาต่ออัลเลาะห์ (ซ.บ.) َّ ‫ َفإِنَّ َخ ٌْ َر‬จึงขอให้เราทั้งหลายต้องดํารงอยูบ่ นโลกวันนี้ ด้วยความระมัดระวัง ‫الزا ِد ال َّت ْق َوى‬ อย่าได้อยูบ่ นความเผลอเรอ อย่าได้ปล่อยตัวไปตามความต้องการของฮาวอนับซู หรื ออารมณ์เพียงอย่าง เดียว อย่าปล่อยให้กระแสชีวิตของเราไหลไปตาม แรงผลักดันของโลกาภิวฒั น์ ที่นาํ มาซึ่ งความเสื่ อมเสี ย นํามาซึ่ งแรงผลักดันที่จะทําให้เรานั้นต้องเดินออกนอกกรอบของอิสลามอยู่ตลอดเวลา ชีวิตที่เดินอยู่บน โลก โดยปราศจากความสํารวมตนและความระมัดระวัง เป็ นชีวิตที่อนั ตราย ไม่มีทางที่มนุษย์เรา มุอ์มิน เราจะปลอดภัยทั้งในดุนยาวันนี้ และในอาคิเราะห์ขา้ งหน้า นอกจากต้องดําเนินชีวิตอยูใ่ นกรอบที่อิสลาม กําหนดไว้เท่านั้น พี่น้องผูม้ ีอีหม่านทั้ง หลาย สัญชาติณาณความเป็ นมนุ ษย์ของเรานั้น ต้องการความสุ ข ต้องการ ความสําเร็ จในชีวิต ไม่ว่าคนระดับไหน ตั้งแต่ระดับสู งสุ ด ตั้งแต่ระดับที่เป็ นเจ้าบ้านเจ้าเมือง ผูบ้ ริ หาร ราชการแผ่นดิน จนกระทัง่ ถึงคนธรรมดาที่อยูท่ างบ้าน แม้กระทัง่ ต้องอาศัย ขอทาน มาประทังชีวิต ต่างก็ ต้องการความสําเร็ จ ในชี วิตด้ว ยกันทั้งนั้น ต้อ งการที่จะดําเนิ นชีวิตอย่างผาสุ ก อัลเลาะห์สั่งในอายะห์ َّ ‫اهللا َح َّق ُت َقا ِت ِه َفإِنَّ َخ ٌْ َر‬ กุรอานมากมายในเรื่ องของ ‫الزا ِد ال َّت ْق َوى‬ َ ‫ إِ َّتقُ ْو‬เหมือนที่กล่าวไปแล้ว ก็ บอกว่าชีวิตที่จะประสบความสําเร็ จก็คือคนประเภทไหนอย่างไร อายะห์กุรอานอัลเลาะห์ (ซ.บ.) ทรง เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 70


บัญญัติ َ‫ف َع َل ٌْ ِه ْم َو َال ُه ْم ٌَ ْح َز ُن ْو ن‬ ِ ‫اء‬ ٌ ‫هللا َال َخ ْو‬ َ ٌَ ‫ َأ َال إِنَّ أَ ْو ِل‬แน่นอนระวัง เถิ ด บรรดา ‫أَ ْو ِل ٌَا َء‬ ของอัลเลาะห์ คนที่เป็ นฝ่ ายของอัลเลาะห์ คนที่รักต่ออัลเลาะห์ และพระองค์ทรงรักต่อเขานั้น ‫ف َعلَ ٌْ ِه ْم‬ ٌ ‫ الَ َخ ْو‬คนเหล่านี้จะไม่มีความกลัวหวาดหวัน่ َ‫ َوالَ ُه ْم ٌَ ْح َز ُن ْون‬เขาจะไม่โศกเศร้า จะไม่มีวนั กลัดกลุม้ َ‫ اَلَّ ِذ ٌْنَ َكا ُن ْوا ٌَ َّتقُ ْون‬นัน่ แหละคือบรรดาคนที่มีความสํารวมตน มีความตักวาในอัลเลาะห์ (ซ.บ.) ْ ‫ لَ ُه ُم ْال ُب‬คนเหล่านี้จะมีแต่ข่าวดี มีแต่ความชื่นชม ทั้งในชีวิตดุนยาแห่งนี้ ‫لح ٌَا ِة ال ُّد ْن ٌَا‬ َ ‫ش َرى فِى ْا‬ ‫ َوفِى ْاآلخ َِر ِة‬และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในชีวิตแห่งอาคิเราะห์ ‫هللا‬ ِ ِ‫ الَ َت ْب ِد ٌْل ُ لِ َكلِ َمات‬นี่ คือ สัจ จะ นี่ คือความจริ ง นี่ คือประกาศิ ตของอัลเลาะห์ ซ่ ึ งไม่มีวนั ที่จ ะ เปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอนและเด็ดขาด ‫ َذلِ َك ه َُو ْال َف ْو ُز ْال َعظِ ٌْ ُم‬และนัน่ แหละคือความสําเร็ จ และชัยชนะอย่างแท้จริ งในชีวิตของคนมุอม์ ินทุกคน พี่นอ้ งผูม้ ีอีหม่านทั้งหลาย อัลกุรอานบอกทางแล้วว่า คนที่จะประสบความสําเร็ จ ได้รับชัยชนะ ในชีวิต ก็คือลักษณะอย่างที่ว่า และความสําเร็ จ หรื อความร่ มเย็นของชีวิต เป็ นความปราถนาของคนทุก ระดับ เป็ นความปราถนาของคนทุกคน แต่ความคิดในเรื่ องของความสําเร็ จในชีวิตนั้น มีความแตกต่าง กันไป เมื่อเป้ าหมายแตกต่างกันไป ความสําเร็ จในนิยามของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นวิธีการ หรื อ ที่จะเดินไปสู่ความสําเร็ จ จึงมีความแตกต่างกันออกไป บางคน มองว่าความสําเร็ จในชีวิต ก็คือการ สะสมเงิ นทอง ทรัพย์สิน สมบัติไว้ให้มากๆ ไว้นงั่ นับในยามชรา ไว้แบ่งให้ลูก หลาน แล้วก็จ ะได้เห็ น ความสุ ขเมื่ อลูก หลานนั้นมีความสบายบนดุนยา เพราะฉะนั้นชีวิตจึ งทุ่มเทเพราะการสะสมทรัพย์สิน เท่านั้น เพราะคิดว่าเป้ าหมาย ความสําเร็ จในชีวิต คือความมัง่ มีสีสุข การรวบรวมเอาทรัพย์สิน สมบัติไว้ อย่างมากมาย นัค่ ือความสําเร็ จในชีวิต บางคนคิดว่า ความสําเร็ จในชีวิตคนเรานั้น การที่คนเราอยู่บนโลก โดยที่มีตาํ แหน่งแห่งหน มียศถาบรรดาศักดิ์ มีตาํ แหน่งหน้าที่ที่เป็ นที่เชิดหน้าชูตา และเป็ นที่เคารพนับ ถือของคน มีคนรับใช้รอบๆ คอยบริ การ คอยดูและเอาใจใส่ และประคับประคอง มีอาํ นาจวาสนา และก็ นัน่ คือความสําเร็ จ บางคนบอกว่าความสําเร็ จในชีวิต ก็คือ ความสนุก อะไรก็ได้ที่ทาํ ให้ชีวิตมีความสนุก มีความเพลิดเพลิน โดยไม่ตอ้ งคิดถึงเรื่ องอื่น เมื่อเป้ าหมายมีความแตกต่างกันอย่างนี้ นิ ยามความสําเร็ จ ต่างกันอย่างนี้ แน่นอน วิธีการที่จะไปสู่เป้ าหมายของคนเรานั้น ก็มีความต่างกัน คนที่คิดว่าความสุ ขคือ ความมัง่ มี การได้ยึดครองทรัพย์สิน สมบัติ ก็มุ่งตั้งหน้าตั้งตาแต่การที่จะทุ่มเทชีวิตทั้งชีวิตต่อการได้มา ของทรัพย์สิน สมบัติ แต่เพียงอย่างเดียว โดยไม่นาํ พาว่า เมื่อได้มาแล้ว หลังจากจบชีวิตไปแล้ว อะไรจะ เกิ ดขึ้นกับตัวเอง ได้มาโดยวิธีการใดก็ได้ ขอให้ไ ด้มาก็แล้วกัน จะชอบไม่ชอบ จะได้มาในทางละเมิ ด หรื อไม่ละเมิดข้าไม่สนใจ แต่ขอให้มนั มีมากเอาไว้ก่อน แล้วก็บอกว่านัน่ คือความสําเร็ จในชีวิต ทุ่มเท เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 71


ชีวิตทั้งชีวิต โดยไม่คิดถึงเรื่ องกรอบแห่งการดําเนินชีวิตที่ถูกต้องดีงาม ไม่เคยคิด ไม่เคยสําเหนียกต่อการ ที่จะฟังเสี ยงอาซานจากมัสยิด ไม่เคยฟังคําสัง่ สอนคําแนะนําจากคอเต็บทั้งหลายว่า ชีวิตคนไม่ได้จบแค่ ความตายบนโลกดุนยานะ เราจะต้องเผชิญกับอะไรอีกมากมายหลังวันนั้น ไม่ได้นาํ พาสิ่ งเหล่านี้ และ ลักษณะอย่างนี้เป็ นชีวิตที่สาํ เร็ จสมบูรณ์จริ งหรื อไม่ ขอให้เราทั้งหลายได้มองดูสภาพแวดล้อมตัวเราเอง ที่เราเห็นอยูบ่ นโลกวันนี้ บนหน้าประวัติศาสตร์ ยังไม่เคยปรากฏว่า มีใครที่ร่ ํารวยมหาศาลเท่ากับกอรู น ในยุคของนบีมูซา ในไคโร ในอัซฮัร ในอียิปต์ ความรํ่ารวย ของกอรู น แค่กุญแจสําหรับที่จะใช้ไขคลัง ทรัพย์สิน สมบัติ หรื อตูเ้ ซฟสําหรับใส่ ทรัพย์สิน สมบัติของกอรู นนั้น ต้องใช้กลุ่มคนเป็ นจํานวนหนึ่ ง ‫ال‬ ِّ َ‫ص َب ٌة مِن‬ ْ ِ‫ع‬เป็ นกลุ่มคนที เดีย ว กลุ่มคนต้องมากกว่า ๔ , ๕ คน แสดงให้เ ห็นถึ งความรํ่ารวย ِ ‫الر َج‬ มหาศาลของกอรู นบนหน้าประวัติศาสตร์ และคนเหล่านี้ ก็อุทิศตัวเพื่อการได้มาซึ่ ง ทรัพย์สินอย่างเดียว อย่างที่ ว่า โดยไม่นําพาในคําสั่ง สอนของท่านนบี ในการเรี ย กร้ อ งไปสู่ เ ตาฮี ดของอัล เลาะห์ ในการ เรี ย กร้ อ งไปสู่ ก รอบ คุณธรรมอันดี งามในการดํารงอยู่ ในที่ สุดชี วิตของกอรู นเป็ นอย่างไร ถูก สู บอยู่ ภายใต้แผ่นดิน แล้วยังหาศพไม่เจอ จนกระทัง่ ถึงวันนี้ และปรากฏการณ์เหล่านี้ แหล่งที่กอรู นเคยถูกสู บ วัน นี้ เป็ นทะเลสาบเล็ก ๆที่ เ รี ยกในภาษาของคนอี ยิ ป ต์ว่ า ‫ار ْو ن‬ ُ ‫ ُب َح ٌْ َر ُة َق‬นี่ คื อ ตัว อบ่ า งบนหน้ า ประวัติศาสตร์ บนโลกวันนี้ที่เราอาศัยอยูก่ ็เห็นๆ ท่านดูให้ดี ที่ท่านมองว่าคนมีทรัพย์สิน มีวาสนาบารมี มีย ศตําแหน่ ง มดก็ไต่ไม่ได้ มดไม่ไต่ไรไม่ตอม คิ ดว่าจะมี ความสุ ขหรอ บ้านแตกสาแหรกขาด ชี วิ ต ครอบครัวล้มเหลว ลูกไปคนละทิศคนละทาง ติดยาบ้าง ไม่ติดยาบ้าง อะไรต่างๆ ก็แล้วแต่ ซึ่ งหากเรา มองอะไรอย่างพินิจพิเคราะห์ ก็จะเห็นว่าสังคมที่เป็ นอยู่วนั นี้ ก็บอกให้รู้ ย้อนกลับไปมองถึงอดีต เมื่อ ประมาณ ๑๐ ปี ที่ผา่ นมา ลูกชายของคนผูห้ นึ่ง เป็ นรัฐมนตรี เรี ยนจบปริ ญญาโทจากต่างประเทศ วันดีคืน ดี จ้างอาชญากรมาสัง หารบิ ดาตัว เอง สิ่ ง เหล่านี้ เกิ ดขึ้ นบนโลกมนุ ษย์นี่คือ การที่ ค นส่ ว นหนึ่ ง นิ ย าม ความสุขว่าคือความมัง่ มี นิยามความสุขว่าต้องมีอาํ นาจวาสนา ในที่สุดก็ตอ้ งประสบกับความล้มเหลว ใน บรรดาคนที่มีอาํ นาจ วาสนา บนโลก ถ้าศึกษาประวัติศาสตร์ ตั้งแต่อดีตมา ๕๐๐๐ , ๖๐๐๐ ปี จนกระทัง่ ถึง วันนี้ ยังไม่เคยปรากฏว่า ใครบนโลกที่จะมีอาํ นาจยิ่งใหญ่เท่ากับฟาโรห์ของอียิปต์ ฟาโรห์ ท่านรู้ จกั ดี ฟิ รอูนที่อลั กุรอานเรี ยก ท่านทั้งหลายรู้จกั ดี ท่านดูประวัติศาสตร์ ของเขา ท่านดูเรื่ องราวของเขา เขามีอาํ นาจ ใหญ่โต ถึงขนาดที่อา้ งตนว่า มันไม่มีใครที่จะบอกว่าเป็ นพระเจ้าจริ ง ข้าเท่านั้นที่เป็ นพระเจ้า ด้วยความที่มี อํานาจวาสนา สัง่ อะไรต้องได้ ทําอะไรต้องได้ ทําอะไรต้องประสบ ตามความต้องการทุกประการ อัลกุ รอานได้เล่าถึงคํากล่าวของฟิ รอูนไว้ ให้ปรากฏว่าเป็ นอุทาหรณ์แก่คนรุ่ นหลังว่า ฟิ รอูนกล่าวว่า

َ ‫ِصر‬ ْ ‫س ل ًِْ ِم ْل ُك م‬ َ ٌْ َ‫ ٌَا َق ْو ِم أَل‬ฉันเป็ นผูอ้ าํ นาจในอียิปต์ไม่ใช่หรื อ ฉันเป็ นพระเจ้าแห่ งอียิปต์

ไม่ใช่หรื อ ًِْ ‫ َو َه ِذ ِه ْاالَ ْن َها ُر َت ْج ِر ْي مِنْ َت ْحت‬เห็นไหมว่าลําธารเหล่านี้ตอ้ งไหลผ่านหน้าราชวังของข้า เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 72


َ ‫ ٌَأ َ ٌُّ َها ْا‬บรรดาคนชั้นนําทั้งหลาย َ‫ أَ َفالَ ُت ْبصِ ُر ْون‬เห็นไหมนี่คืออํานาจอันยิง่ ใหญ่ของฉัน ُ ‫لمل‬ ของอียิปต์ ُ ‫اعل ِْم‬ ฟาโรห์ พู ด ‫ت َل ُك ْم مِ نْ ِإ َل ٍه َغ ٌْ ِر ْي‬ َ ‫ َم‬ฉัน ไม่ รู้ เ ลยว่า มี ใครที่ นอกเหนื อ จากฉัน แล้ว ที่ มี อํานาจเท่ากับฉันที่จะเป็ นพระเจ้าคนอื่นเหนื อจากฉัน นี่ คือความอหังการของฟาโรห์ นี่ คือคนที่มองว่า ความสุขและความสําเร็ จในชีวิต คือการได้มาซึ่ งอํานาจเบ็ดเสร็ จทุกอย่าง เหมือนกับที่ฟาโรห์ปรากฏบน หน้าประวัติศาสตร์ แล้วท่านมาดูบ้านเมืองในวันนี้ สังคมวันนี้ ผูเ้ ผด็จการทั้งหลายที่มีอาํ นาจเบ็ดเสร็ จ ต้องระหกระเหออกจากอํานาจตัว เอง บางรายก็อ ยู่ในบ้านเมืองไม่ได้ ในต่างประเทศ ที่ไหนก็เห็นกัน มากมาย เพราะฉะนั้นนี่ความสําเร็ จของคนคิด ส่วนคนที่คิดว่าความสําเร็ จก็คือการแสวงหาความสุ ข โดย ไม่อีนงั ขังขอบว่าเรื่ องกฏเกณฑ์กติกาและคุณธรรมอันดีงามในความเป็ นมนุษย์ของตัวเอง ชีวิตทั้งชีวิต อุทิศเพื่อความสนุก คํ่าคืน นัง่ อยูต่ ามที่อโคจร เรี ยกอาหารดีๆมากิ น มีบิดนั ดารี ปลอมมาปนเปรอ แล้วก็ ใช้ ชีวิตอย่างเสเพล สํามะเลเทเมา แล้วก็บอกว่านี่คือความสุข ก็เห็นอยูม่ ากมายว่าคนเหล่านี้ ยงั ไม่ตายเลย ยัง มีชีวิตอยู่บ นโลก แต่เขาก็ใช้ชีวิตอย่างทรมาน อันเนื่ อ งมาจากโลกาพยาธิ ที่ เขาจะต้อ งประสบ อัน เนื่องมาจากความสิ้ นเนื้อประดาตัว ที่ท้งั ตัวเอง นอกเหนื อจากตัวเองแล้วเนี่ย แม้กระทัง่ ครอบครัว ก็ตอ้ ง รับผลแห่งความเดือดร้ อน จากการนิ ยามความสุ ขปลอมๆเหล่านั้น แล้วอะไรคือความสุ ขที่แท้จริ งของ มนุษย์ อะไรคือสิ่ งที่จะทําให้มนุษย์น้ นั มีความสําเร็ จและความสุขอย่างแท้จริ ง ‫ ولٌد بن ُم ِغ ٌْ َرة‬เป็ นเจ้า เมืองคนหนึ่งในยุคอุมยั ยะห์ ‫ عبدالمالك بن مروان بن ِح َكم‬เป็ นเลขาของสมัยมุอาวียะห์ แล้วก็ใน ยุคของ ‫ عبدالمالك‬อาณาจักรอิสลามขยายใหญ่โต ก็มีอาํ นาจล้นฟ้ า เรี ยกว่าอิสลามเป็ นจักรวรรดิได้เลย ในยุคของ ‫ عبدالمالك بن ولٌد‬เป็ นผู้ที่ อ าํ นาจที่ สุ ดในยุค อุ มยั ยะห์ ท่า นใช้ชี วิ ตอยู่ในตําแหน่ ง จนกระทัง่ วันหนึ่ ง แล้ว ท่านเจ็บป่ วย ใกล้จะตาย เห็นคนซักเสื้ อข้างบ้านได้ยินเสี ยงคนรับจ้างซักเสื้ อ รับจ้างซักเสื้ อ และก็ในขณะที่ซกั เสื้ อก็ว่าลํานําเพลงไปด้วย ด้วยความสบายใจ ‫ مالك بن مروان‬บอก กับคนรอบข้างว่า หากข้าพเจ้าเกิดมาอยูใ่ นฐานะเหมือนคนรับจ้างซักผ้าคนนี้ ก็จะดีไม่น้อย ดีกว่าที่มาอยู่ ในตําแหน่งอํานาจวาสนาอย่างนี้ ดีกว่าที่มาขึ้นมาเป็ นคอลีฟะห์แล้วมารับผิดชอบอะไรมากมาย สํานึ กผิด ในการที่ ตวั เองอยู่ในอํานาจ สํานึ กว่านี่ คื อ ‫ام ٌة‬ َ ‫ َن َد‬ความเศร้ าโสกในภายหลังเกิ ดขึ้ น เพราะฉะนั้น ความสุ ขที่แท้จริ งไม่ได้อยู่ตรงนั้นเลย ไม่มีอะไรที่จะเป็ นความสุ ขจริ งๆของมนุ ษย์เท่ากับหัวใจที่สัมผัส กับอัลเลาะห์ดว้ ยความอีหม่าน อย่างลึกซึ้ ง จงรักภักดีต่อพระองค์ ทําอะไรก็มีความบริ สุทธิ์ ใจต่ออัลเลาะห์ (ซ.บ.) ถ้าเตือนก็เตือนด้วย ความบริ สุทธิ์ ไม่หน้าอย่างหลังอย่าง ตรงไปตรงมา และก็เตือนด้วยความบริ สุทธิ์ ใจ นอบน้อม ทําตน เป็ นผูน้ อบน้อมในคําสัง่ ของอัลเลาะห์ นอบน้อมต่อเพื่อนมนุษย์ ผมประทับใจ เมื่อวานได้ไปเยี่ยมโต๊ะครู ปอเนาะใหญ่แห่งหนึ่งในปัตตานี ท่านได้ยินชื่อผม แต่ว่าไม่เคยพบ ไม่เคยรู้ จกั ผมไปเยี่ยมก็บอกว่า ท่าน เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 73


มา ท่านได้มา ผมรู้ว่าท่านเป็ นคนที่นอบน้อม เมื่อนอบน้อมก็เป็ นอย่างนี้ แหละ ‫ض َع َت َرا َف َع‬ َ ‫ إِ َذا َت َوا‬ท่าน บอกกับ ผมอย่างนั้น เป็ นคําที่ ผมประทับใจมาก ในความเป็ นมุอ์มินของคนเรา ต้องเป็ นคนที่ มีความ อ่อนโยน สุภาพอ่อนน้อมต่อคนทัว่ ไป ُ ‫ُالر ْح َم ِن ا َّل ِذ ٌْنَ ٌَ ْم‬ ‫ض ه َْو ًّنا‬ ِ ‫ش ْونَ َع َلى ْاالَ ْر‬ َّ ‫ َوعِ َباد‬บ่าวของพระผูเ้ ป็ นเจ้าผูเ้ มตตานั้น บ่าวอัน แท้จริ งของพระผูเ้ ป็ นเจ้าผูเ้ มตตานั้น จะต้องเดินอยูบ่ นหน้าแผ่นดินด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน َ ‫اخ‬ َ ‫ َوإِ َذ‬เมื่อได้รับการกล่าวว่าด่าทอจากคนไม่เข้าเรื่ อง َ‫ َجا ِهلُ ْون‬คน ‫سالَ ًّما‬ َ ‫لجا ِهلُ ْونَ َقالُ ْوا‬ َ ‫ب ُه ُم ْا‬ َ ‫اط‬ ‫ َجاهِل‬,‫سالَ ًّما‬ َ ‫سالَ ًّما‬ َ ‫ َقالُ ْوا‬เขาก็จะตอบว่า สวัสดีครับ ๆ ผมไม่ร่วมด้วย ผมไม่โต้ดว้ ย นี่ คือลักษณะ ของคนซึ่ งจะได้สมั ผัสกับความสําเร็ จและความสุขอย่างแท้จริ งในชีวิต ท่านร่ อซู้ล (ซ.ล.) ได้บอกกับพวก เรา ต้องการที่จะให้เราได้สมั ผัสกับความสุข ชีวิตที่มีสุขอย่างแท้จริ ง َ ‫ام َذ‬ َ ‫ َمنْ َذ‬คนที่จะประสบกับอีหม่าน คนที่จะได้ ‫هلل َر ًّ​ّبا‬ ِ ‫ام َمنْ َرضِ ًَ ِبا‬ ِ ‫اق ال َّط َع‬ ِ ‫اق ال َّط َع‬ ลิ้มรสความหวานของอีหม่าน ความเลื่อมใส ความศรัทธา ที่จะทําอะไรด้วยความจงรักภักดีต่ออัลเลาะห์ และจะได้รับรสหวานของอีหม่านนั้น ‫هلل َر ًّ​ّبا‬ ِ ‫ َمنْ َرضِ ًَ ِبا‬คนที่ยึดเอาพระเจ้าเท่านั้นที่จะเป็ นผูด้ ูแล รัก ษา พอใจในพระเจ้า ที่ อ ลั เลาะห์ (ซ.บ.) เป็ นผูด้ ูแลรั กษา ใครจะทําร้ าย ใครจะทําอะไร ใครจะไม่ ประสงค์ดี ก็เ ป็ นเรื่ อ งที่ ธรรมดา แต่ว่ า ‫هلل َر ًّ​ّبا‬ ِ ‫ َرضِ ًَ ِبا‬พอใจที่ ได้ยึดเอาพระเจ้าเป็ นผูด้ ูแ ลรั กษา ‫ َو ِباْالِ ْسالَ ِم ِد ٌْ ًّنا‬คนที่ยึดเอากรอบของอิสลามมาเป็ นสรณะในการดําเนินชีวิต ًّ‫س ْوال‬ ُ ‫ َو ِب ُم َح َّم ٍد َر‬และคน ที่ ยึด เอาร่ อ ซู้ล มู ฮํา หมัด เป็ นร่ อ ซู้ล ที่ จ ะต้อ งดําเนิ น แบบอย่าง นี่ คือ คนที่ จ ะต้อ งดํา รงชี วิ ต อยู่อ ย่างมี ความสุข บนโลกดุนยาวันนี้ เราก็เห็นอยูว่ ่า คนเราไม่จาํ เป็ นจะต้องมีตาํ แหน่งแห่งหน ไม่จาํ เป็ นต้องมีเงิ น ทอง ทรั พย์สิน บารมีมากมาย ใช้ชีวิ ตเรี ยบๆง่ายๆ วันหนึ่ ง มีอาหารประทังชีวิต ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ อยู่ อย่างธรรมดาๆ เขาก็สามารถที่จะสถาปนาความสุขขึ้นแก่ตนเองและครอบครัว ร่ อซู้ลลุล้ เลาะห์ บอกว่า ‫ص َب َح مِنْ آ ِم ًّنا ف ِْى سِ ِّر ِه‬ ْ َ‫ َمنْ أ‬ใครก็ตามที่ตื่นเช้าขึ้นมามีจิตใจที่สงบ ไม่กระวนกระวาย ไม่หวาดผวา ไม่กลัว กลัวในเรื่ องความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน ไม่หวัน่ ไหว ในเรื่ องที่ใครจะได้ดีหรื อใครจะรํ่ารวย ‫ آ ِم ًّنا‬รู้สึกใจที่สงบ ‫ آ ِم ًّنا ف ِْى سِ ِّر ِه‬ในใจมีความสงบ ‫س ِد ِه‬ َ ‫ َو ُم َعا ًّفا ف ِْى َج‬สุ ขภาพร่ างกายก็ไม่มีโ รคภัย ไข้เจ็บ ‫ عِ ْن َد ُه ُق َّو تِ ٌَ ْومِ ِه‬มี อาหารประทัง ชีวิ ตไป วันๆ ‫ َف َكأ َ َّن َما ِح ٌْ َز ْت لَ ُه ال ُّد ْن ٌَا‬คนเหล่านั้นประหนึ่ งเขาครองโลกทั้งโลกไว้ใต้ฝ่ามือ ไว้ในฝ่ ามือ นี่ คือ ความสุ ขจริ งๆที่ ท่ านศาสดานบี มูฮํา หมัด (ซ.ล.) ได้สอนเอาไว้ เพราะฉะนั้น การแสวงหาความสุ ข ความสําเร็ จในชีวิตที่เดินออกไปนอกกรอบของศาสนา เดินออกไปนอกกรอบของอิสลาม เดินออกไป นอกแบบการวิถีชีวิตที่ร่อซู้ลได้ทาํ ไว้เป็ นแบบอย่าง จึ งเป็ นความหลงทางทั้งนั้น ความสําเร็ จในชีวิตคน ต้องหาในศาสนาของอัลเลาะห์เท่านั้น ต้องหาในแบบในกฏเกณฑ์ที่ท่านร่ อซู้ลได้กาํ หนดและปฏิบตั ิไว้ เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 74


เป็ นแบบอย่างเท่านั้น จึงขอให้เราท่านทั้งหลายได้ดาํ รงอยูบ่ นโลกวันนี้ดว้ ยความสํารวมตน ยึดเอาอิสลาม เป็ นกรอบอย่างแท้จริ งในการดําเนินชีวิต และก็ดาํ เนินชีวิตอย่างผูน้ อบน้อม สมถะ ‫اما‬ ًّ ٌَ ‫س َّج ًّد َّاو ِق‬ ُ ‫ َو ا َّل ِذ ٌْنَ ٌَ ِب ٌْ ُت ْو َن ل َِر ِّب ِه ْم‬ยามคํ่า คื น ยามดึ ก ดื่ น ก็ ยื น ขึ้ น เพื่ อ แสดงความ จงรักภักดีต่อ อัลเลาะห์ ทั้งในรู ปของการยืนขึ้น และก็ก้มกราบ ก้มนอบน้อม คือมาละหมาด ละหมาด เป็ นการแสดงความจงรักภักดีที่เป็ นอัตลักษณ์ บ่งบอกถึงความมีอีหม่านของคน ความสุขที่แท้จริ งก็คืออยู่ ที่พอใจที่อลั เลาะห์เป็ นพระเจ้า พอใจที่อลั เลาะห์เป็ นผูด้ ูแลรักษา แล้วก็ยึดอิสลามเป็ นกรอบ ยึดท่านนบี เป็ นแบบอย่างในการดําเนินชีวิต นี่คือแนวทางที่จะนําไปสู่ความสําเร็ จอย่างแท้จริ ง โลกในอดีตที่ผ่านมา คนที่ประสบความล้มเหลวในชีวิต ประสบความหายนะในชีวิต ตั้งแต่โบราณจนกระทัง่ ถึงวันนี้ ล้วนแต่ เป็ นคนที่เดินออกนอกกรอบอันดีงามของอิสลามทั้งนั้น คนที่ปฏิเสธอิสลาม คนที่ปฏิเสธพระเจ้า คนที่ ปฏิเสธอัลเลาะห์ (ซ.บ.) และคนที่ไม่ยอมก้าวตามรอยก้าวของร่ อซู ลุล้ ลอฮ์ (ซ.ล.) ทั้งนั้น จึ งขอให้เรา ทั้งหลายได้มีความตระหนัก แล้วก็ยึดเอาอิสลามเป็ นสรณะอย่างแท้จ ริ งในการดํารงอยู่ของเรา อันนั้น ประตูเดียวเท่านั้น ที่จะนําเราไปสู่ความสําเร็ จ จึงขอฝากพี่นอ้ งไว้สาํ หรับคุตบะห์วนั นี้

เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 75


#57. คุตบะห์วนั ศุกร์ ณ มัสยิดท่าอิฐวันศุกร์ที่ 31 ธันวาคม 2553 ตรงกับวันที่ 25 มุฮรั รอม ฮ.ศ.1432 โดย อาจารย์ อัดนาน เชื้อผูด้ ี

‫السالم عليكم ورحمة اهلل وبركاته‬ ศรัทธาชนที่รักและเคารพทั้งหลาย ขอเราและท่านทั้งหลาย ได้โปรดตั้งมัน่ อยู่บนความตักวายํา เกรงต่อเอกองค์อลั เลาะห์ (ซ.บ.) โดยการยึดมัน่ และปฏิบตั ิในสิ่ งที่พระองค์ทรงใช้ ห่างไกล ไม่กระทําใน สิ่ งที่พระองค์ทรงห้าม ‫ الحمدهلل‬ขอชุโกรต่ออัลเลาะห์ (ซ.บ.) ที่ให้เราและท่านทั้งหลาย ได้มีโอกาสได้มี ชีวิตยืนยาวจนกระทัง่ ฮ.ศ. ใหม่ แม้นว่าในบรรยากาศช่วงนี้ จะมีกระแสที่หลาย ๆ คนเขาอาจจะรู้ สึกว่า เป็ นวันที่รื่นเริ ง ขอเราและท่านทั้งหลายได้โปรดยึดมัน่ ตั้งมัน่ อยู่บนหลักธรรมคําสอนของศาสนา กับ การถ้าหากว่าเราได้ทาํ งาน เราได้หยุดพัก ก็ขอให้เราได้หยุดพัก ในสิ่ งที่จะทําให้เรานั้นได้เติมเต็มสิ่ งที่ เป็ นความดีงาม ที่จะได้ปฏิบตั ิต่ออัลเลาะห์ (ซ.บ.) หาใช่เป็ นการหยุดพัก ในเรื่ องที่จะทําให้มลาอิกะห์ที่ คอยจดบัญชีความไม่ดีของเรา ต้องไม่ได้พกั ด้วย เพราะมิฉะนั้นแล้ว มันอาจจะทําให้เรานั้นต้องได้รับกับ หายนะ ก็เป็ นได้ ศรัทธาชนที่รักและเคารพทั้งหลาย ในช่วงวันเวลาที่เรากําลังใช้ชีวิตอยูน่ ้ ี เป็ นช่วงวันเวลาที่เราคง จะต้องตั้งมัน่ และก็พยายามที่จะไม่หลงไปกับกระแส ที่สังคมโดยทัว่ ไป เขากําลังให้ความสําคัญ ในคํ่า คืนนี้ก็คงจะมีกิจกรรมที่เราจะเคยได้ยิน ว่าเขาจะมีการนับถอยหลัง การเปลี่ยนแปลงศักราชใหม่ อันนั้นก็ เป็ นเรื่ องของเขา ไม่ใช่เรื่ องของเรา สําคัญที่สุด เราอย่าได้ไปยุ่งในกิ จกรรม ลักษณะเช่นนั้น เพราะมัน อาจจะเป็ นการเข้าข่าย การสนับสนุน ในสิ่ งที่ไม่ได้ยืนอยูบ่ นพื้นฐานหลักธรรมคําสอนของศาสนา ในอัล ْ ٌَ َ‫ َوالَّ ِذ ٌْنَ ال‬คุณลักษณะ กุรอาน อัลเลาะห์ (ซ.บ.) ได้พูดถึงซี ฟัต ลักษณะของผูศ้ รัทธาว่า ‫ش َهد ُْونَ ال ُّذ ْور‬ หนึ่งของผูศ้ รัทธา ก็คือ “ผู้ที่ไม่เข้ าร่ วมกับสิ่ งที่เป็ น ‫ ” ُذ ْور‬ท่าน ‫ ابن كثٌر‬ได้ให้คาํ อธิ บายคําว่า ‫ ُذ ْور‬ว่า ْ ‫ أَ ْع ٌَا ُد ْال ُم‬คือวันรื่ นเริ งของพวกมุชรี กีน ดังนั้นเราคงจะต้องตั้งมัน่ และไม่ยุ่งเกี่ ยวกับ หมายถึง َ‫ش ِر ِك ٌْن‬ เรื่ องที่เป็ นลักษณะอย่างนี้ ท่านอุมรั ก็ได้กล่าวอีกว่า ‫هللا ف ِْى ِع ٌْ ِد ِه ْم‬ ِ ‫ إِ ْج َتنِ ُب ْوا أَ ْعدَا َء‬พวกท่านทั้งหลาย จงห่ างไกล กับศัตรู ของอัลเลาะห์ ในวันรื่ นเริ ง ของพวกเขา สิ่ งที่ เ ราในฐานะที่เ ป็ นมุสลิ ม เราน่ าที่ จ ะ ทบทวนมากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับปี ฮ.ศ. ใหม่ ที่ยา่ งก้าวเข้ามาสู่ชีวิต อิสลามไม่ตอ้ งการให้เรารื่ นเริ ง จนกระทัง่ เราปล่อยให้การรื่ นเริ งนั้น ถลําลึกไปในสิ่ งที่ผิดต่อหลักการศาสนา เราน่าจะได้คิดว่า ในปี ฮ. เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 76


ศ. เก่า หรื อชีวิตของเราที่ผา่ นมานั้น เราได้ทาํ อะไรในสิ่ งที่ไม่ดีบา้ ง เราจะได้ปรับปรุ งแก้ไข และอะไรคือ สิ่ งที่เราได้กระทําในสิ่ งที่ดี เพื่อที่จะได้เพิ่มพูน หรื ออย่างน้อย ๆ ก็จะได้รักษาให้ความดีเท่ากับปี ที่ผ่าน ๆ มา นัน่ คือสิ่ งที่เราน่าจะได้หยิบฉวย ในช่วงวันเวลา ถ้าหากว่าเราจะพูดถึงเรื่ องของ ฮ.ศ. ก็ดี หรื อชีวิตที่ ผ่านมาของเราก็ดี หาใช่เป็ นการเฉลิมฉลองกันในลักษณะที่ บางครั้ง จะต้องทําให้ผอู้ ื่นได้รับอันตรายจาก เรา จะเห็นได้ว่าในช่วงนี้ มีก ารรณรงค์อี ก ในเรื่ องของอุบตั ิเ หตุก็ดี ๗ วันอันตรายก็ตาม เหล่านี้ ก็ลว้ น แล้วแต่จะเป็ นสิ่ งที่จะเป็ นผลพวงมาจากความรื่ นเริ งที่ไม่มีขอบเขต เราคงจะเตือนลูกหลานของเรา ว่า อย่าได้เข้าไปยุง่ เกี่ยวกับเรื่ องที่มนั ไม่ได้เป็ นเรื่ องของอัลอิสลามของเรา และที่เศร้าใจ ท่านพี่นอ้ งที่รักครับ คนที่อื่ นเขาอาจจะรื่ นเริ ง เมื่ อ มีก ารเปลี่ ยนศัก ราชใหม่ แต่สําหรั บมุสลิ มเราบางคน อาจจะรู้ สึก ว่าพอ เปลี่ยนศักราชใหม่ ก็มาเจอ ความคิดที่มนั เป็ นความเชื่อ ว่าเรากําลังย่างก้าวเข้าสู่ เดือนที่เรี ยกว่าเป็ นเดือน อัปมงคล ก็คือ เดือนมุฮรั รอม ทั้ง ๆ ที่ ในหลักการศาสนานั้นไม่ได้มียืนยัน และก็ไม่ได้มีพูดถึงว่า เดือนมุ ฮัรรอมนั้น เป็ นเดือนต้องห้าม ในหลาย ๆ เรื่ อง จะสังเกตไหมครับว่า ในหลาย ๆ สังคมมุสลิม พอเข้าสู่ เดือนมุฮรั รอมนั้น งานมงคลก็ดี หรื อสิ่ งต่าง ๆ ที่จะต้องทํานั้น ต้องยุติ เพราะมีความเชื่อว่ามุฮรั รอมนั้น เป็ นเดือนอัปมงคล ท่านพี่นอ้ งที่รักและเคารพทั้งหลาย สิ่ งที่น่าเป็ นห่วงก็คือ บางครั้งกระแสต่างๆ แค่น้ นั ยังไม่พอ แต่บางทีเราสร้างกระแสในสังคมของเราเอง ที่ทาํ ให้เห็นว่าปี ศักราชใหม่ของอิสลามนั้นเริ่ มต้น ด้วยความอัปมงคล ทั้ง ๆ ที่ไม่มีหลักฐานยืนยันเลยว่า เดือนมุฮรั รอมนั้นเป็ นเดือนต้องห้ามแต่ประการใด ที่ในอัล กุร อานห้ามนั้นก็คือ ห้ามในเรื่ อ งของการทําศึก สงคราม แต่ไม่ได้หมายความว่าเป็ นการห้าม เหมือนอย่างกับที่หลายๆคนเข้าใจ ขึ้นบ้านใหม่ก็ไม่ได้ ออกรถก็ไม่ได้ แต่งงานก็ไม่ได้ นัน่ เป็ นสิ่ งที่น่า เป็ นห่ วง ถ้าหากว่าความเชื่อ นั้น เป็ นความเชื่อที่ยืนอยู่และมัน่ ใจว่านัน่ คื อหลักการของศาสนา หาเป็ น เช่นนั้นไม่ครับ ท่านพี่ น้อ งที่ รั ก และเคารพทั้ง หลาย เนี๊ ย ะมัตที่ อ ัล เลาะห์ ประทานให้ก ับ เราอัน ยิ่ง ใหญ่ ก็คื อ เนี๊ ย ะมัตของการเป็ นมุสลิ ม การที่ เ ราได้เกิ ดมาเป็ นบ่าวของอัล เลาะห์ ที่ ศรั ทธาต่อ พระองค์ ดัง นั้นเรา อย่าได้หลงอยูก่ บั กระแสใด ๆ ที่ไม่ใช่กระแส และไม่ใช่เป็ นสิ่ งที่ยืนอยูบ่ นหลักธรรมคําสอนของศาสนา สิ่ งที่เราน่าจะได้ทบทวนว่าวันนี้ เรา ชี วิตที่ผ่านมา เราได้กระทําตนอยู่ครรลองครองธรรมของศาสนา อย่างไร ดังที่อลั เลาะห์ (ซ.บ.) ได้ใช้ให้เราทบทวนในโองการที่ว่า ‫س َّما َق َّد َم ْت لِ َغ ٍد‬ ٌ ‫هللا َو ْل َت ْن ُظ ْر َن ْف‬ َ ‫ٌَأ َ ٌُّ َها الَّ ِذ ٌْنَ آ َم ُن ْوا ا َّتقُ ْو‬ “โอ้ บรรดาผู้ศรั ทธาแล้ วทั้งหลาย พวกท่ านจงยาเกรงต่ ออัลเลาะห์ และชีวิตหนึ่งจงใคร่ ครวญว่ าที่ ผ่ านมานั้นได้ ทาอะไรเพื่อวันพรุ่ งนีบ้ ้ าง” วันพรุ่ งนี้ ที่อลั เลาะห์ หมายถึง ก็คือ โลกอาคิเราะห์ วันนี้ ก็คือ ขณะที่เรากําลังใช้ชีวิตอยูใ่ นดุนยานี้ เราได้ทาํ อะไรที่จะเป็ นประโยชน์สําหรับชีวิตเราในสัมปรายภพ ใน อาคิเราะห์หน้าบ้าง นัน่ คือสิ่ งที่เราน่าจะได้ทบทวน หาใช่เราจะมารื่ นเริ งในวันที่กระแสเขากําลังโหมโรง เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 77


ว่าเป็ นวันคริ สตศักราชใหม่กาํ ลังจะมาถึง ทั้ง ๆ ที่ คงไม่มีผลอะไรหรอกครับ ถ้าหากว่าเราปลูกบ้านใหม่ แต่ถา้ หากว่าเราไม่ดูแลบ้านของเราให้สะอาดสะอ้าน มันก็ไม่ต่างอะไรกับการอยู่บา้ นเก่า แม้ว่าวันนี้ เรา จะอยูบ่ า้ นหลังเก่า แต่เราดูแลบ้านของเราให้สะอาดสะอ้าน ก็เป็ นบ้านที่น่าอยู่ เหมือนกันไม่ใช่หรื อ ท่านพี่ น้อ งที่ รั ก และเคารพทั้ง หลาย นั่นคื อ สิ่ ง ที่ เ ราท่านทั้ง หลายคงจะต้อ งพึ ง สัง วรณ์ ในยุค ปัจจุบนั นี้เราปล่อยให้กระแสต่างๆ จูงจมูกของเรา ทั้ง ๆ ที่ อัลเลาะห์ (ซ.บ.) ได้ใช้ให้เรานั้น เป็ นผูท้ ี่ยึด มัน่ และปฏิบตั ิตามอัลกุรอาน อัลฮะดีษ ขอเราและท่านทั้งหลายได้โปรดพิจารณา อย่าลืมนะครับ วันนี้ บ้านเรามี มะยัต ๒ มะยัต ด้วยกัน อยากให้เราและท่านทั้ง หลายได้ลองโปรดพิ จารณาว่า เขาเหล่านั้น หมดโอกาสที่จะได้ชีวิตในดุนยานี้ เหมือนกับที่พวกเรากําลังได้รับจากอัลเลาะห์ ถ้าหากว่าเรายังปล่อยให้ ชีวิตของเรา ปล่อยไปตามกระแส แล้วถ้าหากว่าวันหนึ่งเราจะต้องเป็ นมะยัต แล้วเราจะเสี ยใจ ก็คงจะสาย เกินไป

เอกสารเผยแพร่ คุตบะห์ วันศุกร์ จัดทาโดยโรงเรี ยนท่ าอิฐศึกษา มีข้อความจาก อัลกุรอาน โปรดเก็บในที่เหมาะสม

www.tha-it.ac.th

หน้า 78


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.