รูปแบบการจัดการองค์ความรู้ (Knowledge Management) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการสถานศึกษา ในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน
นายอานนท์ เกียรติสาร
ผลการปฏิบัติงานที่เป็นเลิศ Best Practice (BP) รูปแบบการจัดการองค์ความรู้(Knowledge Management) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการสถานศึกษาในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน แบบสรุปผลการปฏิบัติงานที่เป็นเลิศ Best Practice (BP) ๑. ชื่อ BP.รูปแบบการจัดการองค์ความรู้ (Knowledge Management)เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหาร จัดการสถานศึกษาในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ๒. ข้อมูลทั่วไปของผู้พัฒนา BP ๒.๑ นายอานนท์ เกียรติสาร รองผู้อ้านวยการโรงเรียนบ้านห้วยน้้าขาว สังกัดส้านักงานเขตพื้นที่ การศึกษาประถมศึกษากาญจนบุรี เขต ๑ ๓. เป้าหมาย/วัตถุประสงค์ของการพัฒนา BP โรงเรียนบ้านห้วยน้้าขาว ผ่านการรับรองมาตรฐานจากการประเมินภายนอกรอบสองทั้งในระดับปฐมวัย และระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาเมื่ อเดือนมกราคม ๒๕๕๒ สมศ.ได้ให้ข้อเสนอแนะว่าทิศทางการพัฒนา ในอนาคต ด้านครู ควรจัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้ผู้เรียนได้ฝึกทักษะในการคิดจากการใช้แหล่งเรียนรู้ใน ท้องถิ่น เปิดโอกาสในการสร้างงานใหม่จากภูมิปัญญาในท้องถิ่นให้มากขึ้น ด้านการบริหาร ด้านวิชาการควร พัฒนาการใช้สื่อและเทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์แก่ผู้เรียนให้มากขึ้น (ส้านักงานรับรองมาตรฐานและประเมิน คุณภาพการศึกษา ,๒๕๕๒ ) ดังนั้นจึงจ้าเป็นต้องหารูปแบบหรือแนวทางในการบริหารจัดการที่ให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง มีส่วนร่วมและพัฒนาคุณผู้เรียนจึงก้าหนดวัตถุประสงค์ไว้ดังนี้ ๑) เพื่อบริหารจัดการความรู้ความรู้จากภูมปิ ญ ั ญาในท้องถิ่นให้เป็นระเบียบ ครบถ้วน ง่ายต่อการเรียกใช้
โดยน้าเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการจัดการ ๒) เพื่อเป็นการปรับปรุงเทคนิค กระบวนการในการจัดการเรียนการสอนของครู โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อ พัฒนาองค์ความรู้จากภูมิปัญญาในท้องถิ่นและน้าความรู้นั้นไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ๔. ระยะเวลาในการพัฒนา BP ปีการศึกษา ๒๕๕๕ -๒๕๕๖ ๕. ความเชื่อมโยง/สัมพันธ์ระหว่าง BP กับเป้าหมาย/จุดเน้นของ สพป./สพฐ./สถานศึกษา พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๔๒และแก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่ ๒)พ.ศ.๒๕๔๕มาตรา ๒๙ ให้ สถานศึกษาร่วมกับบุคคล ครอบครัว ชุมชน องค์กรชุมชน องค์กรปกครองท้องถิ่น เอกชน องค์กรเอกชน องค์กรวิชาชีพ สถาบันศาสนา สถานประกอบการและสถาบันสังคมอื่น ส่งเสริมความเข้มแข็งของชุมชนโดยจัด กระบวนการเรียนรู้ภายในชุมชน เพื่อ ให้ชุมชนมีการจัดการศึกษาอบรม มีการแสวงหาความรู้ ข้อมูลข่าวสาร และรู้จักเลือกสรรภูมิปัญญาในท้องถิ่น และวิทยาการต่างๆ เพื่อพัฒนาชุมชนให้สอดคล้องกับสภาพปัญหาและ ความต้องการ รวมทั้งหาวิธีการสนับสนุนให้มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ การพัฒนาระหว่างชุมชน รวมทั้ง สอดคล้องกับนโยบาย จุดเน้น และยุทธศาสตร์ของกระทรวงศึกษาธิการ ข้อเสนอการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษ ที่สองนั้นให้ความส้าคัญกับการพัฒนาคุณภาพคนไทยยุคใหม่ที่มีนิสัยใฝ่เรียนรู้การพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาและ แหล่งการเรียนรู้ยุคใหม่ รวมทั้งการมีส่วนร่วมของผู้ปกครอง ชุมชน ภาคเอกชนและทุกภาค
โรงเรียนบ้านห้วยน้้าขาว ส้านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาญจนบุรีเขต ๑
หน้า ๑
๖. แนวคิด หลักการ ทฤษฎีที่นามาใช้ในการพัฒนา BP การพัฒนา BPในครั้งนี้ ได้สังเคราะห์แนวคิดการจัดการองค์ความรู้ (Knowledge Management, KM) ด้านการจัดการเรียนรู้จากแหล่งเรียนรู้ และด้านภูมิปัญญาท้องถิ่น สรุปได้ ดังนี้ ๑. การด้าเนินงานการปฏิรูปการเรียนรู้ของโรงเรียนยึดหลักการและแนวคิด การจัดการองค์ความรู้ ด้าน การจัดการเรียนรู้จากแหล่งเรียนรู้ และด้านภูมิปัญญาท้องถิ่นดังนี้ ๑.๑ แนวคิดด้านการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นส้าคัญ และการปฏิรูปทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง คือ ต้อง ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้พัฒนาไปตามธรรมชาติและเต็มศักยภาพของ ดังสาระของการจัดกระบวนการเรียนรู้ตาม พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๔๒ และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่๒)พ.ศ.๒๕๔๕ ที่ก้าหนดไว้ในหมวด๔ ตามมาตรา ๒๔, ๒๕,๒๙ ผู้พัฒนาจึงได้วิเคราะห์และสรุปองค์ประกอบของการจัดการองค์ความรู้ด้านการจัดการ เรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นส้าคัญ ด้านการจัดการเรียนรู้จากแหล่งเรียนรู้ และด้านภูมิปัญญาท้องถิ่น ที่จะใช้เป็น แนวทางในการพัฒนาครั้งนี้ออกเป็น๔ ด้านได้แก่ด้านการจัดเนื้อหาสาระการเรียนรู้ด้านการจัดสื่อและแหล่งการ เรียนรู้ด้านการปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมและด้านความร่วมมือกับชุมชนในการจัดการศึกษา ๑.๒ แนวคิดการปฏิรูปทั้งโรงเรียน เป็นแนวคิดที่มุ่งเน้นให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ ในการน้าหลักการมีส่วนร่วมของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายโดยมีขั้นตอนที่ส้าคัญ ๔ ขั้นตอนคือ ๑)การร่วมคิด และสร้างจิตอาสา๒)ร่วมวางแผนใช้แหล่งเรียนรู้และน้าภูมิปัญ ญาท้องถิ่น๓)การร่วมด้าเนินการ ๔)ร่วมประเมิน และเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ๑.๓ การใช้กระบวนการวิจัยและพัฒนาเป็นเครื่องมือหลักในการด้าเนินการวิจัยและพัฒนามีขั้นตอนการ ด้ า เนิ น งานที่ ส้ า คั ญ แบ่ ง กระบวนหลั ก เป็ น ๒ ขั้ น ตอนคื อ ขั้ น ตอนการพั ฒ นา และขั้ น ตอนการวิ จั ย มีการด้าเนินการต่อเนื่องกันไป
โรงเรียนบ้านห้วยน้้าขาว ส้านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาญจนบุรีเขต ๑
หน้า ๒
กระบวนการจัดการความรู้ (Knowledge Management Process) เป็นกระบวนการแบบหนึ่งที่จะช่วยให้ องค์กรเข้าใจถึงขั้นตอนที่ท้าให้เกิดกระบวนการจัดการความรู้ หรือพัฒนาการของความรู้ที่จะเกิดขึ้นภายใน องค์กร ประกอบด้วย ๗ ขั้นตอน ดังนี้ ๑) การบ่งชี้ความรู้ – เช่นพิจารณาว่า วิสัยทัศน์/ พันธกิจ/ เป้าหมาย คืออะไร และเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย เรา จ้าเป็นต้องรู้อะไร , ขณะนี้เรามีความรู้อะไรบ้าง, อยู่ในรูปแบบใด, อยู่ที่ใคร ๒) การสร้างและแสวงหาความรู้ – เช่นการสร้างความรู้ใหม่, แสวงหาความรู้จากภายนอก, รักษาความรู้เก่า, ก้าจัดความรู้ที่ใช้ไม่ได้แล้ว ๓) การจัดความรู้ให้เป็นระบบ - เป็นการวางโครงสร้างความรู้ เพื่อเตรียมพร้อมส้าหรับการเก็บความรู้ อย่างเป็น ระบบในอนาคต ๔) การประมวลและกลั่นกรองความรู้ – เช่นปรับปรุงรูปแบบเอกสารให้เป็นมาตรฐาน, ใช้ภาษาเดียวกัน, ปรับปรุงเนื้อหาให้สมบูรณ์ ๕) การเข้าถึงความรู้ – เป็นการท้าให้ผู้ใช้ความรู้นั้นเข้าถึงความรู้ที่ต้องการได้ง่ายและสะดวก เช่น ระบบ เทคโนโลยีสารสนเทศ (IT), Web board ,บอร์ดประชาสัมพันธ์ เป็นต้น ๖) การแบ่งปันแลกเปลี่ยนความรู้ – ท้าได้หลายวิธีการ โดยกรณีเป็น Explicit Knowledge อาจจัดท้าเป็น เอกสาร, ฐานความรู้, เทคโนโลยีสารสนเทศ หรือกรณีเป็น Tacit Knowledge อาจจัดท้าเป็นระบบ ทีมข้ามสาย งาน, กิจกรรมกลุ่มคุณภาพและนวัตกรรม, ชุมชนแห่งการเรียนรู้, ระบบพี่เลี้ยง, การสับเปลี่ยนงาน, การยืมตัว, เวทีแลกเปลี่ยนความรู้ เป็นต้น ๗) การเรียนรู้ – ควรท้าให้การเรียนรู้เป็นส่วนหนึ่งของงาน เช่นเกิดระบบการเรียนรู้จาก สร้างองค์ความรู้> น้า ความรู้ไปใช้>เกิดการเรียนรู้และประสบการณ์ใหม่ และหมุนเวียนต่อไปอย่างต่อเนื่อง
โรงเรียนบ้านห้วยน้้าขาว ส้านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาญจนบุรีเขต ๑
หน้า ๓
สารวจสภาพ ปัจจุบัน วิ สั ย ทั ศ น์ / เป้าหมาย/กลยุทธ์ ของโรงเรียน
ผลการประเมินของ สมศ.
แบบสารวจความ ต้ อ ง ก า ร พั ฒ น า ข อ ง บุคลากร
(KV) กาหนดแนวทางสร้าง/พัฒนาแหล่งเรียนรู้
การติดตาม ประเมินผล โดย เครื่องมือ AAR
(KM) การบริหารงาน 4 งาน งานวิชาการ งานงบประมาณ งานบุคลากร งานบริหารทั่วไป
Best Practice สื่อ – นวัตกรรม (KS) - การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในองค์กร - การแลกเรียนรู้กับภูมิปัญญาชาวบ้าน การนาไปใช้/ปรับปรุง/ต่อยอด/ยกระดับ (KA) การจัดเก็บอย่างเป็นระบบภายใน องค์กร (คลังความรู้)
การขยายผล - การจัดนิทรรศการ - แลกเปลี่ยนเรียนรู้ใน อ ง ค์ ก ร แ ล ะ น อ ก องค์กร
แผนภาพ รูปแบบการจัดการความรู้โรงเรียนบ้านห้วยน้าขาว โรงเรียนบ้านห้วยน้้าขาว ส้านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาญจนบุรีเขต ๑
หน้า ๔
๗. กระบวนการพัฒนา BP ๗.๑ กลุ่มเป้าหมายในการนา BP ไปใช้ กลุ่มเป้าหมายในการพัฒนาได้แก่ บุคลากรของโรงเรียนบ้าน ห้วยน้้าขาว และผู้เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ครู ๒๖ คน นักเรียนจ้านวน ๕๔๘ คน ผู้ปกครองนักเรียนจ้านวน ๕๔๘ คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จ้านวน ๑๕คน ผู้น้าชุมชน จ้านวน ๑๐ คน รวม ๑,๑๔๗คน ๗.๒ ขั้นตอนการพัฒนา BP รูปแบบการจัดการองค์ความรู้จากการใช้แหล่งเรียนรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ประกอบด้วย ๑) ศึกษาสภาพภาพทั่วไป ส้ารวจ รวบรวม ข้อมูล แหล่งเรียนรู้ ๒) สร้างความร่วมมือกับชุมชนในการจัดการองค์ความรู้จากภูมิปัญญาท้องถิ่นในหมู่บ้านห้วยน้้า ขาว ๓) น้าเสนอ และทดลองใช้ รูปแบบการจัดการองค์ความรู้ ในการใช้แหล่งเรียนรู้และน้าภูมิ ปัญญาท้องถิ่นของหมู่บ้านห้วยน้้าขาวมาพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ๗.๓ การตรวจสอบคุณภาพ BP ในขั้นนี้ผู้พัฒนาด้าเนินการตามกระบวนการมีส่วนร่วม ดังนี้ ๑. ประเมินก่อนน้ารูปแบบการจัดการองค์ความรู้มาใช้กับแหล่งเรียนรู้และของหมู่บ้านห้วยน้้าขาวมา พัฒนาคุณภาพผู้เรียน ๒. ประชุมปฏิบัติการในการใช้รูปแบบการจัดการองค์ความรู้มาใช้กับแหล่งเรียนรู้และน้าภูมิปัญญา ท้องถิ่นของหมู่บ้านห้วยน้้าขาวมาพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ได้แก่ ครู นักเรียน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้น พื้นฐาน ผู้ปกครองโรงเรียนบ้านห้วยน้้าขาว และผู้น้าชุมชน ๓. ปฏิบัติตามปฏิทินการด้าเนินงานที่วางไว้ ๔. ผู้บริหารและคณะท้างานนิเทศ เพื่อสอบถามติดตาม สอบถามปัญหา และให้การช่วยเหลือ ๕. ประเมิ น หลังเสร็ จสิ้ นการด้า เนิน การกั บ ครู นั กเรียน คณะกรรมการสถานศึก ษาขั้น พื้น ฐาน ผู้ปกครองโรงเรียนบ้านห้วยน้้าขาว และผู้น้าชุมชน ๖.จัดนิทรรศการจากความส้าเร็จในการจัดการองค์ความรู้มาใช้กับแหล่งเรียนรู้และน้าภูมิปัญญาท้องถิ่น ของหมู่บ้านห้วยน้้าขาวมาพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ๗. มอบเกียรติบัตร รางวัล แก่บุคลากรและผู้เกี่ยวข้องในโรงเรียนรวมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการจัดการองค์ ความรู้มาใช้กับแหล่งเรียนรู้และน้าภูมิปัญญาท้องถิ่นของหมู่บ้านห้วยน้้าขาวมาพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ๗.๔ แนวทางการนา BP ไปใช้ประโยชน์ ในการน้ารูปแบบการจัดการองค์ความรู้มาใช้กับแหล่งเรียนรู้และน้าภูมิปัญญาท้องถิ่นของหมู่บ้านห้วย น้้าขาวมาพัฒนาคุณภาพผู้เรียนไปใช้ประโยชน์ มีแนวทาง ดังนี้ ๑. การร่วมคิดและสร้างจิตอาสาเป็นก้าวแรกที่มีความส้าคัญที่จะท้าให้งานประสบผลส้าเร็จ โดยจะต้อง สร้างความตระหนักให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเห็นความส้าคัญ ๒. สร้างวิสัยทัศน์ร่วมในการด้าเนินงานตั้งแต่ขั้นแรกจนจบสิ้นกระบวนการ ๓. ส่งเสริมการท้างานเป็นทีม เน้นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของโรงเรียนและภาคีเครือข่ายในชุมชน
โรงเรียนบ้านห้วยน้้าขาว ส้านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาญจนบุรีเขต ๑
หน้า ๕
๔. นิเทศติดตาม ประเมินผล และประชาสัมพันธ์ผลการด้าเนินงาน พร้อมมอบเกียรติบัตรยกย่องผู้ที่มี จิตอาสา เสียสละเพื่อโรงเรียนและชุมชน ๘.ผลสาเร็จที่เกิดขึ้นจากการพัฒนา BP ๘.๑ ผลสาเร็จเชิงปริมาณ ๑. นักเรียนและครูร้อยละ ๑๐๐ ได้มีการพัฒนาในด้านวิชาการ นักเรียนมีทักษะ ในการอ่าน การเขียน และด้านคิดค้านวณดีขึ้นมี วิจารณญาณในการแยกแยะกล้า พูดกล้า ถามกล้า ท้า น้า ความรู้ไ ปใช้แก้ ปัญหาใน ชีวิตประจ้าวันได้ มีความคิดสร้างสรรค์ น้าไปสร้างชิ้นงานต่าง ๆ ได้ด้วยตนเอง มีความเข้าใจในความแตกต่าง วัฒนธรรม และวิธีการด้าเนินงานที่หลากหลายลดลดปัญหาความขัดแย้งลง ให้ความร่วมมือและท้างานร่วมกับ ผู้อื่นได้ดี และภาวะผู้น้าที่สูงขึ้นมีความสามารถในการสื่อสาร สารสนเทศ และรู้เท่าทันสื่อ สามารถวิเคราะห์ แยกแยะประมวลความคิดตัดสินใจทางเลือกได้ถูกต้องมีความสามารถในการใช้คอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น มีทักษะอาชีพขั้นพื้นฐานสามารถน้าไปประยุกต์ใช้กับ ชีวิตประจ้าวันได้ ได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจากเดิมเปลี่ยนจากเดิมที่ครูเป็นผู้ให้ความรู้มาเป็นการเรียนรู้ร่วมกันโดยมีการ ออกแบบการเรียนรู้ คือ ๑.๑. ออกแบบการเรียนรู้ทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณและการแก้ปัญหาโดยมีเป้าประสงค์ คือ มุ่งให้นักเรียนสามารถใช้เหตุผลนักเรียนสามารถใช้การคิดกระบวนระบบ (systems thinking)นักเรียน สามารถใช้วิจารณญาณและตัดสินใจนักเรียนสามารถแก้ปัญหาได้ ๑.๒.ออกแบบการเรียนรู้ทักษะการสื่อสารและความร่วมมือโดยมีเป้าประสงค์ คือ ทักษะใน การสื่อสารอย่างชัดเจนทักษะในการร่วมมือกับผู้อื่น ๑.๓. การออกแบบการเรียนรู้ทักษะด้านความสร้างสรรค์และนวัตกรรมโดยมีเป้าประสงค์ คือ ทักษะการคิดอย่างสร้างสรรค์ทักษะในการท้างานร่วมกับผู้อื่นอย่างสร้างสรรค์ ๒. นักเรียนทุกคนได้เรียนรู้เรื่องราวความเป็นมาของหมู่บ้านห้วยน้้าขาว ซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ สามารถส่งต่อไปยังคนรุ่นต่อไปในอนาคต ๓. โรงเรียนเป็นแหล่งรวบรวมของข้อมูลความรู้จากใช้แหล่งเรียนรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่นของหมู่บ้าน ห้วยน้้าขาวมาใช้ในการด้าเนินงานเพื่อสร้างความเป็นเลิศของสถานศึกษาต่อไป ๔. ครูทุกคนมีแหล่งเรียนรู้ได้รับความรู้จากภูมิปัญญาท้องถิ่นบ้านห้วยน้้าขาวตลอดจนน้าภูมิปัญญามา ถ่ายทอดสู่ผู้เรียน จากการประเมิ น ความพึ ง พอใจของบุ ค ลากรของโรงเรี ย นบ้ า นห้ ว ยน้้ า ขาวและผู้ ที่ เ กี่ ย วข้ อ ง ประกอบด้วย ครู ๒๖ คน นักเรียน ป.๕ – ม.๓ จ้านวน ๑๐๐ คน ผู้ปกครองนักเรียน จ้านวน ๑๕๐ คน คณะกรรมการสถานศึ ก ษาขั้ น พื้ น ฐาน จ้ า นวน ๑๕ คน ผู้ น้ า ชุ ม ชน ๑๐ คน รวม ๓๐๑ คน โดยใช้ แบบสอบถาม ภาพรวมมีความคิดเห็นว่า ในระดับมาก ( =๔.๔๐, S.D.=๐.๓๑) กระบวนการตรวจสอบซ้้าเพื่อพัฒนาปรับปรุง BP ให้เกิดผลดีอย่างต่อเนื่อง วิธีการตรวจสอบซ้้า หลังจากด้าเนินงานพัฒนา BP จนประสบผลส้าเร็จแล้ว ปีการศึกษาต่อมาก็ยังคงด้าเนินการต่อเนื่อง โดยมีการประชุมสรุปบทเรียนที่ได้รับจาการด้าเนินการเพื่อน้าไปพัฒนาในปีต่อไป
โรงเรียนบ้านห้วยน้้าขาว ส้านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาญจนบุรีเขต ๑
หน้า ๖
ผลการตรวจสอบซ้้าเพื่อการพัฒนาและปรับปรุง BP ผลการประเมินพบว่า ๑. ผลการประเมินการน้ารูปแบบการบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วมสร้างสรรค์ มาพัฒนาคุณภาพผู้เรียน จากแบบสอบถามในภาพรวมอยู่ในระดับดีมาก ๒. ผลจากการสัมภาษณ์นักเรียน ครู ผู้ปกครอง คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและผู้น้าชุมชน อยู่ในระดับดีมาก การประชาสัมพันธ์ผลส้าเร็จ BP และการเผยแพร่ ขยายผลในวงกว้าง ได้น้าผลส้าเร็จดังกล่าวไปประชาสัมพันธ์ และ เผยแพร่ ดังนี้ ๑. ในปีการศึกษา ๒๕๕๖ - ปัจจุบัน โรงเรียนเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีของชุมชน และเขตพื้นที่ฯ ๒. โรงเรียนได้น้า BP เผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ต มาจนถึงปัจจุบัน ๓. จัดนิทรรศการเผยแพร่ผลงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์ ๘.๒ ผลสาเร็จเชิงคุณภาพ ๑.โรงเรียนบ้านห้วยน้้าขาวได้รับรางวัล ระดับเหรียญเงิน ในงานเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้การ ด้าเนินโครงการอาหารกลางวันแบบยั่งยืนระดับชาติประจ้าปี ๒๕๕๖ ส้านักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ส้านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ๒. โรงเรียนบ้านห้วยน้้าขาวได้รับ รางวัลที่ ๑ ในการส่งเสริมการสอนจริยธรรมดีเด่นระดับ มัธยมศึกษาตามโครงการพอเพียงแห่งชีวิตประจ้าปี ๒๕๕๔ ๓. โรงเรียนบ้านห้วยน้้าชาวได้รับรางวัลชนะเลิศโรงเรียนต้นแบบระดับเขตพื้นที่การศึกษา โครงการเงินทุนหมุนเวียนส่งเสริมผลผลิต เพื่อโครงการอาหารกลางวัน มหกรรมอาหารกลางวัน “น้องอิ่มท้อง สมองแจ่มใส” ประจ้าปี ๒๕๕๖
โรงเรียนบ้านห้วยน้้าขาว ส้านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาญจนบุรีเขต ๑
หน้า ๗
ภาพการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนของโรงเรียนบ้านห้วยน้าขาว
ประชุมวางแผนการด้าเนิน และการวิเคราะห์บริบทของโรงเรียนบ้านห้วยน้้าขาว
จัดอาคารสถานที่ให้เอื้อต่อการจัดการเรียนรู้ตลอดจนมีความสวยงามคงทนและปลอดภัย
โรงเรียนบ้านห้วยน้้าขาว ส้านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาญจนบุรีเขต ๑
หน้า ๘
จัดอาคารสถานที่ให้เอื้อต่อการจัดการเรียนรู้ตลอดจนมีความสวยงามคงทนและปลอดภัย
การใช้สื่อเทคโนโลยีควบคู่ไปกับแหล่งเรียนรู้ภายในโรงเรียน
โรงเรียนบ้านห้วยน้้าขาว ส้านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาญจนบุรีเขต ๑
หน้า ๙
กิจกรรมความร่วมมือกับชุมชนและทางศาสนา
พัฒนาที่ดินจังหวัดและวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีกาญจนบุรี
หน่วยงานทหารร่วมกันด้าเนินงานเกี่ยวกับระเบียบวินัยของนักเรียน
โรงเรียนบ้านห้วยน้้าขาว ส้านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาญจนบุรีเขต ๑
หน้า ๑๐
การนาเสนอผลงานต่อสาธารณะชน
โรงเรียนบ้านห้วยน้้าขาว ส้านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาญจนบุรีเขต ๑
หน้า ๑๑
ผลสาเร็จ
โรงเรียนบ้านห้วยน้้าขาว ส้านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาญจนบุรีเขต ๑
หน้า ๑๒