ก า ร อ น ุ ร ก ั ษ อ ท ุ ย า น แ ห ง ช า ต ห ิ ม เ ู ก า ะ ส ร ุ น ิ ท ร
คณะที่ปรึกษา สุวิทย์ รัตนมณี โสภณ เพ็งประพันธ์ มรกต จันทร์ไทย วิสูตร ศรีสงวน พุทธพจน์ คู่ประสิทธิ์ ก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์ คณะผู้จัดทำ เสาวภา อาศน์ศิลารัตน์ กรองแก้ว สูอำพัน ภาสินี รักษาราษฏร์ อรวรรณ แสงมาศ
รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเล และป่าชายเลน จังหวัดภูเก็ต
พิมพ์ที่ P.P.BOOK&COM 51-15/1 ถนนนคร ตำบลตลาดใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต โทร. 076-221616, 236575 ปีที่พิมพ์ (ฉบับแก้ไข) ตุลาคม พ.ศ. 2553
สื่ออิเล็กโทรนิค PDF
โครงการพัฒนาศักยภาพเครือข่ายร่วมระหว่างชุมชนมอแกนและอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ เพื่อสำรวจความหลากหลายและสถานภาพของทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ส่วนศึกษาและวิจัยอุทยานแห่งชาติ 61 ถ.พหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจัตร จังหวัดกรุงเทพฯ 10900 โทร. 02-5610777 website: www.dnp.go.th อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ตำบลคุระ อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา 82150 โทร. 076-472145 website: www.mukosurin.com , www.mukosurinnp.multiply.com PLIMO Protect Local Intelligence and Marine Organism email: kaewya@gmail.com
Introduction บทนำ
ภัยค กุ คามตอ่ เต่าท ะเล ท มี่ มี าตงั้ แ ต่อ ดีตถ งึ ปัจ บุ นั ก อ่ ให้เกิดก ระแสการอนุรกั ษ์เพือ่ ป อ้ งกนั ไม่ให้ส งิ่ มีชวี ติ ส ายพันธุ์
นี้สูญหาย ความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และประชาชนในประเทศรวมถึงนานาชาติถ ูกสร้างขึ้นบ นแนวทาง ทีจ่ ะปอ้ งกนั อ นั ตรายทเกิ ี่ ดก บั เต่าในทะเลทเี่ ป็นน กั เดินทางไกลตลอดถงึ แ หล่งว างไข่ท มี่ อี ยูห่ ลายแห่งร ปู แ บบการอนุรกั ษ์ ถูกคิดพัฒนาเพื่อให้ได้วิธที ี่ดี ถูกต้องและได้ผลในระยะยาว สภาพแวดล้อมของระบบนิเวศของเต่าทะเล ที่ประกอบด้วย แหล่งขยายพันธุ์ แหล่งอาศัย หากิน และหลบภัย คือประเด็นส ำคัญที่ทั่วโลกตระหนักแ ละให้ความคุ้มครองเป็นอันดับ แรกแทนการพงุ่ เป้าไปทกี่ ารเพิม่ จำนวนเต่าท ะเลเหมือนในอดีต ด ว้ ยปจั จุบนั ภ ยั ธ รรมชาติแ ละการขยายตัวท างเศรษฐกิจ ส่งผลให้เกิดก ารพฒ ั นาพนื้ ท ชี่ ายฝัง่ ห ลายพนื้ ท ถี่ กู แ ปรเปลีย่ นและถกู น ำไปใช้ป ระโยชน์ด า้ นสาธารณูปโภค ส ภาพแวดล้อม บริเวณชายหาด ช ายฝัง่ แ ละในทะเลเสือ่ มโทรมและขาดการควบคุม แ ผนการประกาศพนื้ ท แี่ หล่งว างไข่ให้เป็นพืน้ ท คี่ มุ้ ครอง ควบคูไ่ ปกบั ก ารเพิม่ ป ระสิทธิภาพในการเฝ้าระวังแ ละจดั การ รังไข่เต่าโดยปล่อยให้เต่าทะเลขยายพันธุ์และแพร่ขยายเอง ตามธรรมชาติเพื่อคงไว้ซึ่งความหลากหลายทางพันธุกรรม และสัญชาตญาณตามธรรมชาติ และศึกษาติดตามการ เปลี่ยนแปลงสัณฐานวิทยาของชายหาดที่เป็นแหล่งวางไข่ เป็นแนวทางการจัดการที่ประเทศไทยมุ่งมั่นจะให้เกิดความ สำเร็จ โดยจำเป็นต้องอาศัยเวลา ความรู้ความสามารถจาก ผู้เชี่ยวชาญและความร่วมมือในทุกระดับจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะก ลุ่ ม คนท้ อ งที่ ที่ อ าศั ย อ ยู่ บ ริ เวณช ายฝั่ ง ห รื อ ประกอบอาชีพท างทะเลทมี่ โี อกาสใกล้ช ดิ ส มั ผัสกับเต่าท ะเล มากที่สุดจะสามารถเฝ้ารังระวังระบบนิเวศธรรมชาติในพื้น ที่ และส ามารถให้ ข้ อ มู ล ที่ มี คุ ณ ค่ า เ พื่ อ ก ารตั ด สิ น ที่มีประสิทธิภาพในระดับบริหาร กันยายน 2553
Acknowledgement กิตติกรรมประกาศ
ขอบคุณ ดร.เกษมสันต์ จิณณวาโส อดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช นายสุวิทย์ รัตนมณี รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ปา่ และพนั ธุพ์ ชื นายเยีย่ มสรุ ยิ า พาลุสขุ ผูว้ า่ ราชการจงั หวัด พังงา และนายวโิ รจน์ โรจนจนิ ดา อดีตหัวหน้าอ ุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ที่ริเริ่มโครงการฯ และให้ ความสำคัญกับการคุ้มครองพื้นที่แหล่งว างไข่เต่าทะเลและการอนุร ักษ์่เต่าทะเล ขอบคุณ ดร.ก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์ และเจ้าหน้าที่กลุ่มสัตว์ทะเลหายาก ประจำสถาบันวิจัยและ พัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเล และป่าชายเลน จังห วัตภูเก็ต และวะหนุ่ย (วันพิชัย สำเนียงล้ำ) ชาวอูรักลาโวจ หาดราไวย์ จังหวัดภูเก็ต ทีเ่ป็นครูให้ความรู้และคำแนะนำต่างๆ ในการทำงานด้านการ อนุรักษ์เต่าทะเลมาโดยตลอด ขอบคุณบ ริษทั ท วั ร์ (กรีนว วิ ซ าบนี า่ บ าราคูด า้ เม็ดทราย ไดมอนต์ท วั ร์ แ ละ ท อมแอนด์แ อม) นักท อ่ งเทีย่ ว หน่วยรักษาความปลอดภัยทางทะเล ฝั่งทะเลอันดามัน (ท หารเรือ) และหน่วยป้องกันและปราบปราม ประมงทะเลอันดามัน (กรมประมง)ทีใ่ห้ความร่วมมือเก็บข้อมูลก ารพบเห็นเต่าทะเล เก็บข ยะชายหาด และสอดส่องดูแลแหล่งวางไข่เต่าท ะเลบริเวณหมู่เกาะสุร ินทรอย่างดี
Content สารบัญ
บทนำ กิตติกรรมประกาศ บทสรุปผู้บริหาร
บทที่ ๑ แหล่งวางไข่เต่าทะเล ๘ ๑.๑ แหล่งวางไข่เต่าทะเล ๑.๒ส ัณฐานของหาด ความเหมาะสมต่อก ารเป็นแหล่งว างไข่ บทที่ ๒ การกระจายและการวางไข่ของเต่าทะเล ๔๖
๒.๑ เต่าทะเลในหมู่เกาะสุรินทร์ ๒.๒ ประวัติการขึ้นวางไข่ ๒.๓ สถิติการขึ้นวางไข่ ๒.๔ ฤดูกาลขึ้นวางไข่ ๒.๕ สถานภาพรังไข่ ๒.๖ ลูกเต่าแรกเกิด ๒.๗ อัตราการฟัก ๒.๘ ปัญหาการขึ้นวางไข่ บทที่ ๓ ภัยคุกคามของเต่าทะเล ๕๘
๓.๑ ภัยอันตรายต่อชีวิต ๓.๒ การบาดเจ็บ
บทที่ ๔ การปกป้องและการอนุรักษ์เต่าทะเล ๖๒ ๔.๑ แนวทางการอนุรักษ์ในปัจจุบัน ๔.๒ แผนการอนุรักษ์ในอนาคต ๔.๓ การมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์และการจัดการ เอกสารอ้างอิง ภาคผนวก
4
ลูกเต่าตนุฟักออกจากไข่และคลานขึ้นจากหลุมมุ่งลงสู่ทะเล ที่หาดทรายขาวเล็ก
Executive summary
บทสรุปผู้บริหาร
หมู่เกาะสุรินทร์ มีชายหาดที่เป็นแหล่งวางไข่เต่าท ะเลในปัจจุบัน ทั้งหมด 7 หาด ความยาวกว่า 1 กิโลเมตร สภาพ
ชายหาดที่เหมาะสม และได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย (Protected Area) ทำให้ชายหาดเหล่านี้รองรับการขึ้นวางไข่ ของเต่าท ะเลมากกว่า 30 ครั้งในหนึ่งป ี ในปัจจุบันช ายหาดที่เป็นแ หล่งว างไข่ม ีแนวโน้มล ดลงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพ ภูมิอากาศและการพัฒนาพื้นที่ท่องเที่ยว แต่ยังสามารถพบเต่าทะเลอาศัย ว่ายน้ำ หากินและผสมพันธุ์ในแนวปะการัง และหญ้าท ะเลบริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ได้บ่อยครั้งเช่นเดิม เต่าท ะเลที่พบมี 3 สายพันธุ์ เต่ากระ (Eretmochelys imbricata) เต่าตนุ (Chelonia mydas) และเต่าหญ้า (Lepidochelys olivacea) (มักพ บในลักษณะบาดเจ็บ หรือตายแล้ว) บริเวณเกาะสตอร์ค และเกาะตอรินล าเป็นสถานที่ที่ติดอันดับก ารพบเห็นเต่าท ะเล โดยหาดเกาะสตอร์คเป็นแ หล่งวางไข่ ที่มีชื่อเสียงและมีสถิติการขึ้นวางไข่มากที่สุดมาตั้งแต่อดีต ชายหาดแต่ละหาดบริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ทำหน้าที่เป็นแ หล่ง วางไข่ในชว่ งเวลาแตกต่างกัน ครอบคลุมต ลอดสบิ สองเดือน ซึง่ เป็นความหลากหลายทางพนื้ ทีท่ ชี่ ว่ ยให้ร งั ไข่ป ลอดภัยจ าก อันตรายของผลู้ า่ และในปี พ.ศ.2552 มีร ายงานการพบเต่าตนุข นึ้ ว างไข่ท หี่ าดอา่ วบอนเล็กเป็นค รัง้ แรก ซึง่ เป็นการขยาย พื้นที่แหล่งวางไข่เพิ่มขึ้นอ ีกหนึ่งท ี่ ในช่วง 1 ปี (ผลสำรวจปี พ.ศ.2552) หมู่เกาะสุรินทร์มเีต่าทะเลขึ้นว างไข่ 33 ครั้ง มี จำนวนไข่ทั้งหมด 897 ฟองที่อยู่ในความดูแลโดยวิธีธรรมชาติ ไข่มีระยะเวลาฟัก 54-64 วัน ฟักเป็นตัวท ั้งหมด 226 ตัว (เต่าตนุ) คิดเป็นร ้อยละ 25 ของจำนวนไข่ท ั้งหมด (ต่ำสุด ร้อยละ 0 มากสุด ร้อยละ 96) อัตราการฟักท นี่ ้อยมากเนื่องจาก ไข่เต่าประสบปัญหาน้ำเชื้อจากเต่าเพศผูไ้ม่เพียงพอ ซึ่งม ีมากถึงร ้อยละ 58 ของไข่ท ั้งหมด ปัญหาน้ำเชื้อเพศผู้ไม่เพียงพอ และปัญหาจำนวนการขึ้นวางไข่ลดลงกำลังเป็นประเด็นสำคัญที่เกิดขึ้นไม่ใช่เฉพาะที่หมู่เกาะสุรินทร์แต่ยังเกิดกับที่อื่นๆ โดยประเด็นเรื่องอุณหภูมิกำลังเป็นข้อถกเถียงถึงสาเหตุของปัญหาเพราะเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลตลอดช่วงชีวิตของเต่า ทะเล คอยควบคุมการเริ่มต้นและระยะห่างระหว่างฤดูวางไข่แต่ละครั้งของเต่าทะเลแต่ละตัว และเป็นตัวกำหนดอัตรา ส่วนเพศผูเ้พศเมียของลูกเต่าทะเลแต่ละรัง นอกจากนั้นย ังส่งผลต่อสถานภาพแนวปะการังซ ึ่งเป็นร ะบบนิเวศสำคัญของ เต่าทะเลจากปรากฎการณ์ปะการังฟอกขาวครั้งใหญ่ในปี พ.ศ.2553 ข้อมูลท งั้ หมดนี้ คือผ ลจากการทำงานรว่ มกันข องอทุ ยานแห่งชาติห มูเ่ กาะสรุ นิ ทร์แ ละชมุ ชนมอแกน ซึง่ ถ อื เป็นการทำงาน ร่วมกันร ะหว่างหน่วยงานรัฐแ ละชมุ ชนในพนื้ ทีค่ รัง้ แรกเพือ่ ก ารอนุรกั ษ์ ในชือ่ เครือข่ายรว่ มเฝ้าระวังแ หล่งว างไข่เต่าท ะเล (Marine Monitoring Network, MMN) ที่ร่วมกันสำรวจและเก็บข้อมูล เพื่อนำมาใช้ในการปกป้องแหล่งวางไข่และ เฝ้าระวังรังไข่เต่าทะเลในหมู่เกาะสุรินทร์ เครือข่ายร่วมฯ ยึดแนวทางดำเนินงานตามแนวทางที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ปา่ และพนั ธุพ์ ชื ว างไว้ คือ ให้ด แู ลรงั ไข่เต่าท ะเลโดยวธิ ธี รรมชาติ และมงุ่ เน้นค มุ้ ครองแหล่งว างไข่เต่าท ะเล ซึง่ ผ ลจาก การดำเนินงานแสดงให้เห็นอัตราการฟักไข่ที่สูงพอกับวิธีเพาะฟัก (ในกรณีที่ไม่มีปัญหาน้ำเชื้อเพศผู้ไม่พ อ) และลูกเต่ายัง ได้ลงสู่ทะเลทันทีพร้อมกับส ัญชาตญาณการเอาตัวรอด พลังงานที่สะสมไว้ และความจำที่จะกลับมายังชายหาดเดิมเพื่อ ใช้เป็นแหล่งวางไข่ของตัวเองต่อไปในอนาคต และแผนรองรับแ ละจัดการรังไข่ท ี่อยู่ในจุดเสี่ยงจากความไม่เหมาะสมของ ตำแหน่งร งั ซ งึ่ เป็นผลจากการตดิ ตามการเปลีย่ นแปลงสภาพชายหาด (สัณฐานหาด) ตลอดระยะเวลาสองปขี องเครือข่าย ร่วมฯ ทำให้รังไข่ได้รับการช่วยเหลือทันท่วงที ส่งผลให้ปลอดภัยจากน้ำทะเลท่วมรังแ ละการกัดเซาะชายหาด
5
6
อุปสรรค เครือข่ายร่วมฯ พบอุปสรรคปัญหาเรื่องการบังคับใช้กฎระเบียบและการปฏิบัติตามที่ไม่เพียงพอ เทคโนโลยีที่ใช้ในการ ศึกษาและรวบรวมขอ้ มูลย งั ไม่ส ามารถตอบทกุ ป ญ ั หา สือ่ ป ระชาสมั พันธ์ย งั ไม่ส ามารถเข้าถึงท กุ คนได้ในระดับม วลชน และ การมสี ว่ นร่วมสำหรับภ าคการทอ่ งเทีย่ วยงั มีน อ้ ย ซึง่ เครือข่ายรว่ มฯ วางแผนทจี่ ะพฒ ั นาเพือ่ ต อบโจทย์ป ญ ั หาเหล่าน ตี้ อ่ ไป ในอนาคต ข้อเสนอแนะ ระดับนโยบาย sควรกำหนดนโยบายการดำเนินงานเรือ่ งการอนุรกั ษ์เต่า ทะเลที่ชัดเจน ถูกต้อง และเป็นไปในทิศทางเดียวกัน sควรมนี โยบายควบคุมก ารขยายพนื้ ทีเ่ พือ่ ก ารทอ่ งเทีย่ ว หรือ สิ่งก่อสร้างบริเวณชายหาดเพื่อป้องกันการรบกวน แหล่งวางไข่เต่าท ะเล sควรมีกลไกตดิ ตาม ตรวจสอบประสิทธิผล หรือ ผลการ บังคับใช้ของกฎหมาย กฎระเบียบ และข้อบังคับของ อุทยานทเี่ กีย่ วข้องกบั เต่าท ะเล เพือ่ ป อ้ งกันไม่ให้เต่าท ะเล ถูกท ำร้ายจากการละเลยของเจ้าหน้าที่ หรือก ารไม่ป ฏิบตั ิ ตามของผู้ทถี่ ูกบังคับ s ควรจัดสรรงบประมาณ กำลังคนที่เหมาะสมและ ต่อเนือ่ งเพือ่ ง านดา้ นการอนุรกั ษ์ท รัพยากรธรรมชาติ และ งานป้องกันปราบปรามในเขตพื้นที่คุ้มครองเพื่อรักษาไว้ ซึ่งคุณค่าและความอุดมสมบูรณ์ข องทรัพยากร s ควรส นั บ สนุ น ใ ห้ เ กิ ด ง านวิ จั ย ที่ เ ป็ น ปั จ จุ บั น เรื่ อ ง ทรัพยากรธรรมชาติทั้งบนบกและในทะเลเพื่อนำมาใช้ เป็นฐานข้อมูลทรัพยากรเพื่อการจัดการที่ประสิทธิภาพ และหวังผลได้ sควรส่งเสริมและผลักดันให้มีการนำเสนอและแสดงผล งานของเจ้าหน้าที่อุทยานเพื่อเปิดโอกาสให้เกิดการ แลกเปลี่ยน เรียนรู้ข้อมูลของทรัพยากรในแต่ละพื้นที่ และพัฒนาตนเอง
ระดับปฏิบัตกิ าร sติดตามข้อมูลสถานภาพและวางแผนการจัดการแหล่ง วางไข่เต่าทะเลโดยแบ่งพื้นที่ออกเป็น เขตชายหาด เขต ชายฝั่ง และเขตทะเล เพื่อให้ง่ายต่อก ารจัดการ s ควบคุมกิจกรรมการท่องเที่ยวที่อาจส่งผลกระทบต่อ แหล่งวางไข่เต่าท ะเล และเต่าท ะเล sควบคุมมลภาวะสิ่งแวดล้อม เช่น ขยะทางทะเล คราบ น้ำมัน ไม่ให้อ ยูใ่ นระดับท จี่ ะทำอันตรายตอ่ เต่าท ะเล และ สัตว์อื่นๆ sพัฒนาการทำงานของเครือข่ายร่วมเฝ้าระวังแหล่งวาง ไข่เต่าท ะเลให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น sจัดกิจกรรมที่เพิ่มบทบาทการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ แหล่งวางไข่เต่าท ะเลให้กับกลุ่มอื่น เช่น นักท ่องเที่ยว s ทำสื่อประชาสัมพันธ์ที่มุ่งเน้นแนวทางการทำงาน ปกป้องคุ้มครองแหล่งวางไข่เต่าท ะเล และดูแลรังไข่โดย วิธีธรรมชาติเพื่อปรับทัศนคติเรื่องแนวทางการอนุรักษ์ เต่าท ะเลของคนทั่วไปที่ไม่ใช่ม ีแค่เพียงวิธีการเพาะฟัก sประชาสัมพันธ์และให้ความรู้กับทุกคนเมื่อพบเห็นเต่า ทะเลบาดเจ็บ หรือ ป่วย ว่าควรปฏิบัติอย่างไร sปรับเปลีย่ นรปู แบบสอื่ ป ระชาสมั พันธ์ให้ส ามารถเข้าถึง คนทุกกลุ่มได้มากขึ้น s จัดตั้งกองทุนอนุรักษ์เต่าทะเลเพื่อนำรายได้ มาใช้ ประโยชน์ในการทำงานของเครือข่ายร่วมฯ s เพิ่มโจทย์งานวิจัยเรื่องเส้นทางการเดินทางของเต่า ทะเลหมู่เกาะสุรินทร์ ผลกระทบของสภาพภูมิอากาศ เปลี่ยนแปลง (Climate Change) ต่อเต่าทะเลหมู่เกาะ สุรินทร์ มูลค่าทางเศรษฐศาสตร์และสังคมของเต่าทะเล และสัตว์หายากหมู่เกาะสุรินทร์ และสภาพสมุทรศาสตร์ ต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพชายหาดหมู่เกาะสุรินทร์
7
แนวหญ้าทะเล บริเวณอ่าวช่องขาด (ด้านหลัง)
8
Chapter 1 ๑ บทที่
Sea Turtle Nesting Beach
แหล่งวางไข่เต่าทะเล
9
หมู่เกาะสุรินทร์ เป็นหมู่เกาะไกลฝั่งในทะเลอันดามันเหนือ ประกอบด้วยเกาะใหญ่ 2 เกาะ (เกาะสุรินทร์เหนือ และ เกาะสุรินทร์ใต้) เกาะบริวาร 3 เกาะ (เกาะสตอร์ค เกาะมังกร และเกาะตอรินลา) และกองหินโผล่พ้นน้ำ 3 กอง (หินร าบ หินกอง และริเชลิว) มีช ายหาดโดยรอบ ทั้งหมดมากกว่า 44 หาด ความยาวกว่า 8 กิโลเมตร ใต้พื้นน้ำเป็นแ หล่งกำเนิด แนวปะการังน ำ้ ต นื้ ท มี่ คี วามหลากหลายสงู และแหล่งห ญ้าท ะเลทสี่ มบูรณ์แ ห่งห นึง่ ในประเทศ ความหลากหลายและความ อุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติหมู่เกาะสุรินทร์จึงถูกประกาศให้เป็นพื้นที่อนุรักษ์ทางทะเล เมื่อปี พ.ศ. 2524 ครอบคลุมพ นื้ ที่ 141.25 ตารางกโิ ลเมตร (พืน้ ที่บ กรอ้ ยละ 23 พืน้ ที่ท ะเลรอ้ ยละ 77) เพือ่ ร กั ษาแหล่งกำเนิดแ ละทอี่ ยูข่ อง สิ่งมีชีวิตที่สำคัญไว้
เต่าท ะเล คือ หนึง่ ในสงิ่ มีชวี ติ ส ำคัญท เี่ ป็นผ บู้ ง่ ชีค้ วามสมบูรณ์ข องแนวปะการังเพราะเป็นผ รู้ กั ษาสมดุลของระบบนิเวศ มี ความสำคัญทางวัฒนธรรมเมื่อถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของชนเผ่าต่างๆ เช่น ชนเผ่ามอแกนที่ใช้เต่าทะเลซึ่งเป็นสัตว์ที่เชื่อม ระหว่างผืนน้ำและแผ่นดินเป็นตัวแทนบ่งบอกถึงวิถีการดำรงชีวิต และมีความสำคัญในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเพราะ สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวและนักด ำน้ำท ี่ปรารถนาจะเห็นสิ่งมีชีวิตที่กำเนิดม าตั้งแต่ย ุคโบราญให้มาเที่ยวได้ ผลสำรวจของอทุ ยานแห่งชาติห มูเ่ กาะสรุ นิ ทร์แสดงว่าเราสามารถพบเต่าท ะเลได้ง า่ ยมากถงึ 18 ครัง้ ต อ่ เดือน รอบหมูเ่ กาะ สุรินทร์ ตลอดทั้งปี ชนิดพันธุท์ ี่พบบ่อยคือ เต่ากระ และเต่าตนุท ี่อาศัย หากิน และเดินทางมาเพื่อส ืบพันธุ์ และวางไข่ และเต่าหญ้าที่มักขึ้นมาเกยหาดในสภาพได้รับบาดเจ็บ ตั้งแต่ในอดีตชายหาดรอบหมู่เกาะสุรินทร์ มากกว่าร้อยละ 50 เป็นหาดที่เป็นแหล่งวางไข่ และในหนึ่งปีพบรังไข่มากกว่า 30 รัง (อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์, 2552) แม้ว่าจ ำนวน ชายหาดที่เป็นแหล่งว างไข่จะมีแนวโน้มลดน้อยลง และไม่พ บการขึ้นว างไข่เลยในปี พ.ศ. 2553 แต่พื้นที่หมู่เกาะสุรินทร์ ยังคงมีความสำคัญในแง่เป็นแหล่งวางไข่เต่าทะเลที่เหลืออยู่ไม่กี่ที่ในแถบอันดามันที่ต้องได้รับการเฝ้าระวัง ดูแลและ ติดตาม
ชายหาด คือ บริเวณหาดทราย ตั้งแต่แนวขอบน้ำจรดแนวพุ่มไม้ชายหาด ทะเล คือ บริเวณพื้นน้ำตั้งแต่แนวขอบน้ำชายฝั่งออกไปในทะเล 5.4 กม. ชายฝั่ง คือ บริเวณพื้นที่ต่อจากชายหาดลึกเข้าไปในแผ่นดินจนถึงบริเวณที่มีลักษณะภูมิประเทศเปลี่ยนแปลงอย่างเด่นชัด (ที่มา: กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง, 2551)
10
1.1 แหล่งวางไข่เต่าทะเล แหล่งวางไข่เต่าทะเล คือ แหล่งที่เต่าทะเลขึ้นมาวางไข่ตามธรรมชาติอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งหมายถึงบริเวณชายหาดที่เต่า วางไข่ บริเวณทะเลที่เต่าใช้พักระหว่างการวางไข่และบนชายฝั่งที่มีผลกระทบต่อก ารวางไข่ สถานทีท่ เี่ ต่าท ะเลเลือกเพือ่ ใช้เป็นแ หล่งว างไข่ บริเวณหมูเ่ กาะสรุ นิ ทร์ โดยทวั่ ไปจะเป็นเนินท รายสงู อ ยูเ่ หนือร ะดับน ำ้ ทะเล ขึ้นส ูงสุดเพื่อป ้องกันน ้ำท่วมถึง เนินท รายมพี ืชค ลุมห รืออ ยูใ่ต้ร ่มไม้ท แี่ สงแดดส่องถึงเพื่อป ้องกันค วามเปียกชื้นจ ากน้ำฝน เม็ดทรายร่วนหยาบถึงละเอียดอาจมีดินเจือปนบ้างเพื่อให้การส่งผ่านแก๊สใต้พื้นทรายเกิดได้ดี ความชื้นเล็กน้อยเพื่อง ่าย ต่อเต่าทะเลขณะขุดหลุมทำรัง ไม่มรี ากไม้ใหญ่หรือก้อนหินอยู่ด้านล่าง สำคัญที่สุดค ือต้องเงียบสงบ ไม่มสี ิ่งรบกวนใดๆ พืน้ ทีเ่ หล่านีส้ ว่ นใหญ่อ ยูน่ อกเขตพนื้ ทีใ่ ช้ป ระโยชน์ (Use Zone) ของอทุ ยานแห่งชาติห มูเ่ กาะสรุ นิ ทร์จ งึ ได้รบั ก ารปกป้อง ไม่ให้ม กี ิจกรรมใดๆเกิดขึ้น และลดปัญหาการรบกวนและรักษาความเป็นธรรมชาติข องชายหาดไว้ม าก ผลสำรวจประวัติ ชายหาดบริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ท ี่เต่าท ะเลเคยขึ้นวางไข่จ ึงมีจำนวนหาดมากถึง 18 หาด ดังนี้ คือ หาดเกาะสตอร์ค หาด เกาะตอรินล า หาดเกาะมงั กร หาดอา่ วกระทิง หาดไม้ง าม หาดไม้ง ามเล็ก หาดอา่ วปอ หาดทรายแดง หาดทรายขาว หาด ทรายขาวเล็ก หาดอ่าวจาก หาดแหลมแม่ยายเหนือ1-2 หาดแหลมแม่ยายใต้1-2 หาดสุเทพเล็ก หาดอ่าวบอนเล็ก หาด อ่าวเต่า และหาดอา่ วผกั กาด โดยเมือ่ น ำมาพจิ ารณารว่ มกับส ณ ั ฐานของหาด (Beach Profile) แต่ละหาด หาดทมี่ ปี ระวัติ เต่าท ะเลขนึ้ ว างไข่แ ละมคี วามเหมาะสมจริงต อ่ ก ารเป็นแ หล่งว างไข่ส ามารถแบ่งออกเป็น 3 กลุม่ ต ามชว่ งเวลาทเี่ กิดป รากฎ- การณ์ที่เปลี่ยนแปลงสัณฐานของหาดอย่างรุนแรง 1
1) ชายหาดที่เหมาะสมเป็นแหล่งวางไข่เต่าทะเล ปัจจุบัน (2553) 7 หาด คือ หาดเกาะมังกร หาดไม้ งามเล็ก หาดอ่าวปอ หาดทรายแดง หาดทรายขาว หาดทรายขาวเล็ก หาดอ่าวบอนเล็ก
14
2
13
12
14 13
12
3
11 9
1
11 4
10
9
8 15 16
5
6
17
15 16
6
5
7 18
2) ชายหาดที่เหมาะสมเป็นแหล่งวางไข่เต่าทะเลช่วง ปี พ.ศ.2548-2552 10 หาด คือ หาดเกาะสตอร์ค หาด เกาะมงั กร หาดไม้ง ามเล็ก หาดอา่ วปอ หาดทรายแดง หาดทรายขาว หาดทรายขาวเล็ก หาดแหลมแม่ยาย เหนือ2 หาดแหลมแม่ยายใต้1 หาดอ่าวบอนเล็ก
19 20 21 22 23 24
ชายหาดที่เหมาะสมเปนแหลงวางไขเตาทะเล
3) ชายหาดที่เหมาะสมเป็นแหล่งวางไข่เต่าทะเล ในอดีต ตั้งแต่อดีต-ปี พ.ศ.25471 17 หาด คือ หาด เกาะสตอร์ค หาดเกาะตอรินล า หาดเกาะมังกร หาด อ่าวกระทิง หาดไม้งาม หาดไม้งามเล็ก หาดอ่าวปอ หาดทรายแดง หาดทรายขาว หาดทรายขาวเล็ก หาด อ่าวจาก หาดแหลมแม่ยายเหนือ1-2 หาดแหลม แม่ยายใต้1-2 หาดสุเทพเล็ก หาดอ่าวเต่า และหาด อ่าวผักกาด
1
14 13
12 11 9
15 16
18
x x x
ปจจุบัน (พ.ศ.2553) ชวงป พ.ศ.2548 - 2552 อดีต - พ.ศ.2547 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24
เกาะสตอรค อาวจาก (ขวา) อาวจาก (ซาย) แหลมแมยายเหนือ 1 แหลมแมยายเหนือ 2 แหลมแมยายใต 1 แหลมแมยายใต 2 อาวกระทิง อาวไมงามเล็ก อาวไมงาม อาวปอ หาดทรายแดง หาดทรายขาว หาดทรายขาวเล็ก เกาะมังกร (ขวา) เกาะมังกร (ซาย) อาวสุเทพเล็ก อาวบอนเล็ก อาวเตา (เหนือ) อาวเตา (ใต) อาวผักกาด เกาะตอรินลา (เหนือ) เกาะตอรินลา (ตะวันออกเฉียงเหนือ) เกาะตอรินลา (ตะวันออกเฉียงใต)
ในอดีตไม่เคยมีการติดตามสัณฐานของชายหาดและบันทึกข้อมูลมาก่อน ทำให้ต้องใช้การอนุมานจากข้อมูลหาดที่พบเห็นเต่าทะเลขึ้นวางไข่ว่าคือหาดที่มีความเหมาะสม
11
1.2สัณฐานของหาด ความเหมาะสมต่อการเป็นแหล่งวางไข่ สัณฐานของหาด หมายถึง รูปร่างหาดโดย มากจะแสดงในรูปแบบภาพตัดขวาง มี ส่วนประกอบตา่ งๆ ของหาด ตัง้ แต่ส ว่ นหลัง หาด (backshore) ซึ่ ง มี ลั ก ษณะเ ป็ น สันทราย (berm) ส่วนหน้าหาด (foreshore) หรือชายหาด (beach) ซึ่งเป็น บริเวณที่คลื่นไถลขึ้นไปถึง และส่วนพื้น ทะเลบริเวณชายฝัง่ (nearshore) โดยทอี่ าจ มีส นั ดอนใต้น ำ้ (sand bar) ซึง่ เป็นจ ดุ ท คี่ ลืน่ แตกทอดตัวขนานไปกับแ นวชายฝั่ง
s ภาพแสดง รูปร่างชายหาดตามฤดูกาล
(ผศ.ดร. สมบูรณ์ พรพเิ นตพงศ์ กระบวนการ ของช ายฝั่ ง แ ละผ ลก ระทบจ ากง าน วิศวกรรมชายฝั่ง, 2549)
s คลื่นเป็นปัจจัยหลักที่มีอิทธิพลต่อการ
เคลื่อนที่ของทรายซึ่งส่งผลให้รูปร่างหาด เปลี่ยนแปลง ระหว่างที่คลื่นลมปกติทราย จะถูกพัดเข้าหาฝั่งช้าๆ และก่อตัวเป็นหาด และกลายเป็นสันทราย ทำให้หาดมีความ ลาดชันม ากขึน้ เมือ่ พ ายุเกิดขึน้ ท รายกจ็ ะถกู พัดพาออกจากหาดลงสทู่ ะเล และสนั ทราย จะถูกกัดเซาะ ถ้าช่วงเวลาที่พายุและคลื่น กระทำต่อชายฝั่งนานเพียงพอ หาดจะถูก กัดเซาะลึกจนถึงสันทราย คลื่นพายุและ คลื่นลมจะเกิดขึ้นในช่วงฤดูที่แตกต่างกัน (สมบูรณ์, 2549)
ผลการติดตามชายหาดที่เหมาะสมเป็นแหล่งวางไข่จากอดีตถึงปัจจุบันทำให้เห็นจำนวนที่ลดลงของแหล่งวางไข่จากการ เปลีย่ นแปลงรปู ร่างชายหาดจนไม่มคี วามเหมาะสมพอโดยเฉพาะเหตุป จั จัยหลักจ ากการพฒ ั นาพนื้ ท ธี่ รรมชาติเป็นส ถาน ที่ท่องเที่ยว และชุมชนถาวร และสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา รวมถึงผลจากภาวะโลกร้อน (Glob alW arming)ส่งผลถึงลักษณะคลื่นล ม พายุในทะเลทำให้รูปร่างชายหาดเปลี่ยนแปลงไป เช่น การกัดเซาะสันทราย และการ พัดพาทรายมาทับถมหรือห ายไป ข้อมูลสัณฐานของหาด เช่น พิกัดบ อกตำแหน่งของชายหาดและเนินท รายที่เหมาะสม เป็นแหล่งวางไข่ ความกว้าง-ยาว ความชัน ระดับน ้ำขึ้น-ลง แนวป่า แนวซากเกยหาด ลักษณะทั่วไปใต้พ ื้นทราย สังคม พืชชายหาด (Dune vegetation) จึงมีความจำเป็นเพราะจะทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นบนชายหาดในแต่ละ ช่วงเวลา ท งั้ ในระยะสัน้ ร ะยะยาว แ ละตามฤดูกาลเพือ่ น ำมาชว่ ยในการวางแผนการจดั การแหล่งว างไข่เต่าท ะเลและการ วางแผนฟื้นฟู
12
หาดเกาะมังกร
หาดเกาะมังกร หาดที่ 1 (ขวา)
สัณฐานของหาด หาดเกาะมังกรตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะมี 2 หาด เชื่อมต่อกันด้วยแนวหิน หาดมีลักษณะลาดเอียง ลงสู่ทะเล เชื่อมต่อก ับแนวปะการังริมฝั่ง หาดที่ 1 (ขวา) (Mung Korn_R) มีความยาวอยู่ในช่วง 75-120 เมตร ความกว้างไม่เกิน 34 เมตร แนวนำ้ ขึน้ ส งู สุดแ ละแนวนำ้ ลง ต่ำสุดถึงแนวป่า เท่ากับ 0 เมตร และ 34 เมตร หาดที่ 2 (ซ้าย) (Mung Korn_L) มีความยาวอยู่ในช่วง 109-130 เมตร ความกว้างไม่เกิน 28 เมตร แนวนำ้ ขึน้ ส งู สุดแ ละแนว น้ำลงต่ำสุดถึงแนวป่า เท่ากับ 4 เมตร และ 28 เมตร ด้านหลังเนินท รายของทงั้ สองหาดเป็นแ นวป่าต ามหน้าผา สังคมพชื ช ายหาดเป็นพ นั ธุไ์ ม้ท วั่ ไปขนึ้ อยูบ่ นทราย เช่น จิก ทะเล (Barringtonia asiatica (L.) Kurz) หูกวาง (Terminalia catappa L.) เตยทะเล (Pandanus odoratissimus L.f.) พลับพลึงทะเล (Crinum nothianum Baker) มะนาวผี (Atalantia monophylla) ลักษณะ เม็ดทรายเป็นทรายสีขาว ละเอียด ลึกลงไปด้านล่างเป็น หิน หาดได้รับอิทธิพลรุนแรงจากลมมรสุมตะวันตกเฉียง ใต้ ตั้ ง แต่ เ ดื อ นพ ฤษภาคมถึ ง เ ดื อ นกั น ยายน และจ าก ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงเดือน เมษายน
หาดเกาะมังกร หาดที่ 1 (ขวา)
หาดเกาะมังกร หาดที่ 2 (ซ้าย)
13
เนินทรายดานหนา หาดทรายฤดูแลง หาดทรายฤดูฝน
แนวปา 0
ระดับน้ำทะเล (Mid level) 2 เมตร
ภาพตัดขวางจำลองของหาดเกาะมังกร หาดที่ 1 (ขวา)
เนินทรายดานหนา สันทราย
หาดทรายฤดูแลง
แนวปา ระดับน้ำทะเล (Mid level) 0
2 เมตร
ภาพตัดขวางจำลองของหาดเกาะมังกร หาดที่ 2 (ซาย)
การเปลี่ยนแปลงความลาดชันของหาด (Slope) หาดเกาะมงั กรอยูใ่ นพนื้ ทีท่ ไี่ ด้รบั อ ทิ ธิพลจากลมมรสุมท งั้ สองฤดูกาลทำให้ต ลอดทงั้ ปี โดยเฉพาะหาดสว่ นหน้าเจอกบั ก าร เปลี่ยนแปลงของคลื่นลมตลอดเวลา หาดที่ 1 ในเดือนตุลาคมถึงเดือนเมษายนพบว่าความลาดชันหาดอยู่ระหว่าง 1:9 และ 1:13 จากอิทธิพลของลมมรสุมต ะวันออกเฉียงเหนือ สภาพหาดเปลี่ยนแปลงจากความลาดชันน้อย (ความลาดชัน 5-10%) ในสองเดือนแรกเป็นลาดชันม ากขึ้น (ความลาดชันปานกลาง 10-25%) มีส ันทรายและการปรากฎของชั้นทราย ด้านล่างถึงก้อนหินจ ากการกัดเซาะของน้ำทะเลบริเวณหาดฝั่งขวาสุด ระดับน้ำขึ้นส ูงสุดขึ้นถึงส ่วนหลังหาด เฉพาะเดือน เมษายนที่จะมสี ันทราย (Berm) ปรากฎบริเวณหาดฝั่งซ้ายและตรงกลาง เดือนพฤษภาคมถึงเดือนกันยายนพบว่าความ ลาดชันหาดอยู่ระหว่าง 1:11 และ 1:18 จากอิทธิพลของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ สภาพหาดมีความลาดชันน้อย (ความ ลาดชัน 5-10%) มีส นั ทรายและการปรากฎของชนั้ ท รายดา้ นล่างถงึ ก อ้ นหนิ จ ากการกดั เซาะของนำ้ ทะเลบริเวณหาดหลาย จุด ระดับน้ำขึ้นสูงสุดขึ้นถึงส่วนหลังหาด ในการสำรวจปี 2553 แสดงแนวโน้มของระดับน้ำขึ้นสูงสุดและการกัดเซาะ มากขึ้น หาดที่ 2 ในเดือนตุลาคมถึงเดือนเมษายนพบ ว่าความลาดชันหาดอยู่ระหว่าง 1:7 และ 1:8 จากอิทธิพล ของลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ สภาพหาดมีความ ลาดชันปานกลาง (ความลาดชัน 10-25%) มีสันทรายจาก การกัดเซาะของน้ำทะเลในเดือนตุลาคมถึงธันวาคมซึ่ง เป็นช่วงเปลี่ยนฤดูกาลจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้เข้าสู่ มรสุมต ะวันออกเฉียงเหนือส ง่ ผลให้ค ลืน่ ล มแรงในชว่ งเดือน แรก เดือนพฤษภาคมถึงเดือนกันยายนพบว่าความลาดชัน หาดมีความเป็นไปได้ที่จะเพิ่มมากขึ้นจากการพัดพาเอา เม็ดทรายมาทับถมบนหาด ระดับน้ำขึ้นสูงสุดขึ้นไม่ถึงเนิน ทรายและสันทราย ในการสำรวจปี 2553 แสดงแนวโน้ม ของพื้นทีส่ ันทรายที่มากขึ้น
14 ปี
เดือน
ความกว้างเนิน ทรายด้านหน้า (ม.)
ความชัน
ระดับ การกัดเซาะ
ระดับ รากไม้/หิน
ระดับ ความเหมาะสม
Mung Korn_R
52
กันยายน
0
1 : 11
2
1
Mung Korn_R
52
ตุลาคม
0
1 : 13
2
1
Mung Korn_R
52
พฤศจิการยน
0
1 : 11
2
1
Mung Korn_R
52
ธันวาคม
0
1:9
1
1
Mung Korn_R
53
มกราคม
0
1:9
1
1
Mung Korn_R
53
กุมภาพันธ์
0
1 : 10
1
1
Mung Korn_R
53
มีนาคม
3
1:9
1
1
Mung Korn_R
53
เมษายน
3
1 : 11
1
1
n n n n n n n n
Mung Korn_R
53
พฤษภาคม
0
1 : 18
2
1
Mung Korn_R
53
มิถุนายน
0
-
2
1
Mung Korn_R
53
กรกฎาคม
0
-
2
1
Mung Korn_R
53
สิงหาคม
1
-
0
1
Mung Korn_L
52
พฤศจิกายน
0
1:8
1
0
Mung Korn_L
52
ธันวาคม
4
1:7
1
0
Mung Korn_L
53
กุมภาพันธ์
6
1:8
0
0
Mung Korn_L
53
มีนาคม
4.8
1:7
0
0
Mung Korn_L
53
เมษายน
4.8
1:8
0
0
Mung Korn_L
53
สิงหาคม
-
-
0
0
ชื่อหาด
<5
5-10
11-25
>25%
ระดับความชัน
-
ไม่มี
มีน้อย
มีปานกลาง
มีมาก
ระดับรากไม้/หิน
มีหนาแน่น
0
1
2
3
ระดับการกัดเซาะ
4
n n n n n n n n n n
ระดับความเหมาะสมของหาดต่อการเป็นแหล่งวางไข่ เหมาะสมต่อการวางไข่มาก n มีเนินทรายให้วางไข่ n เริ่มมีความเสื่อมโทรม n
ความเหมาะสมต่อการเป็นแหล่งวางไข่ หาดทรายเกาะมังกร หาดที่ 1 (ขวา) เป็นแหล่งว างไข่ท ี่ พบการขึ้นวางไข่ในอดีตแ ต่ไม่พ บแล้วในปัจจุบัน ข้อดี + เป็นหาดที่เงียบสงบ อยู่ทิศตะวันตกของหมู่เกาะ สุรินทร์ + อยู่ห่างไกลจากแหล่งกิจกรรม (ห่างจากที่ทำการ อุทยานอ่าวช่องขาด 4 กม. อ่าวไม้งาม 4 กม.) + เม็ดทรายขาว สะอาด ละเอียด + มีเนินทรายที่หม าะสมสองจุด ความยาวไม่เกิน 10 ม. ปญหา - ก้อนหินใต้พื้นทราย - แนวโน้มข องระดับน้ำขึ้นส ูงสุดแ ละการกัดเซาะมากขึ้น - แนวโน้มข องเนินท รายถูกน้ำท่วมภายในช่วงสามเดือน
หาดทรายเกาะมังกร หาดที่ 2 (ซาย) มีสภาพความ เหมาะสมต่อการเป็นแหล่งวางไข่มากถึงแม้ว่าจะไม่มี ประวัติการขึ้นว างไข่ข องเต่าทะเล ข้อดี + เม็ดท รายขาว สะอาด ละเอียด + ไม่มกี ้อนหิน หรือ รากไม้ใต้พื้นทราย + มีเนินท รายที่หมาะสมหนึ่งจุด ความยาวไม่เกิน 50 ม. + เนินท รายเหมาะสมอยูใ่นตำแหน่งใต้ร่มไม้และมี แสงแดดส่องถึง
15
หาดเกาะสตอรค
สัณฐานของหาด หาดเกาะสตอร์คตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของเกาะมี 2 หาด หาดมีลักษณะลาดและเอียงเล็กน้อยลงสู่ทะเลเชื่อมต่อกับ แนวปะการังริมฝั่ง หาดที่ 1 (Stork_L) มีความยาวอยู่ในช่วง 46-61 เมตร ความกว้าง 32 เมตร แนวน้ำขึ้นส ูงสุดและแนว น้ำลงต่ำสุดถึงแนวป่า เท่ากับ 2 และ 32 เมตร ด้านหลังเนินท รายเป็นแ นวป่า สังคมพืชชายหาดเป็นพ ันธุ์ไม้ทั่วไปขึ้นอยู่ บนทราย เช่น โกงกางหูช้าง (Guettarda speciosa L.) หูกวาง (Terminalia catappa L.) จิกท ะเล (Barringtonia asiatica (L.) Kurz) ปอทะเล (Hibiscus tiliaceus L.) หยีท ะเล (Derris indica Bennet) เตยทะเล (Pandanus odoratissimus L.f.) ขึน้ อยูบ่ นดนิ ร่วนปนทราย เช่น โพกริง่ (Hernandia nymphaeifolia) ขึน้ อยูบ่ นทราย เช่น มะพลับ (Diospyros areolata) มะนาวผี (Atalantia monophylla) และพชื สกุลไทรส่วนของเนินท รายจงึ อ ยูภ่ ายใต้รม่ เงาของ ต้นไม้ใหญ่ ลักษณะเม็ดทรายบริเวณเนินท รายส่วนหน้าเป็นทรายสีขาว ละเอียด ลึกลงไปด้านล่างตั้งแต่ 5-10 เซนติเมตร เป็นดินทรายละเอียด สีน้ำตาลแดง และมักพบรากไม้ฝ อยหนาแน่น ต่างจากเม็ดทรายบริเวณยอดสันทราย (Bermtop) และหาดส่วนหน้า (Foreshore) ทีเ่ป็นทรายสีขาว ขนาดเล็กถ ึงป านกลาง ปนเศษปะการังหัก ลึกลงไปด้านล่างตั้งแต่ 30 เซนติเมตร เป็นก้อนหนิ หรือ ซากกอ้ นปะการังห ลายขนาด หาดได้รบั อ ทิ ธิพลจากลมมรสุมต ะวันตกเฉียงใต้เริม่ ต งั้ แต่เดือน พฤษภาคมถึงเดือนกันยายน และจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงเดือนเมษายน อิทธิพลจาก ลมมรสุมเช่นนีท้ ำให้ค วามยาวของหาดเพิม่ ม ากขึน้ ช วั่ คราวจนมองเห็นเป็นส องหาดโดยเกิดเฉพาะชว่ งเดือนพฤษภาคมถงึ เดือนตุลาคมเท่านั้น หาดที่ 2 (Stork_R) มีความยาวอยู่ในช่วง 40-70 เมตร ความกว้างไม่เกิน 22 เมตร แนวน้ำขึ้นส ูงสุด และแนวน้ำลงต่ำสุดถ ึงแนวป่าเท่ากับ 0 และ 22 เมตร ด้านหลังเนินท รายเป็นแ นวหิน สังคมพืชชายหาดเป็นพ ันธุ์ไม้ที่ ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่บนหิน เช่น เตยทะเล (Pandanus odoratissimus L.f.) ลักษณะเม็ดทรายทั่วทั้งหาดเป็นทรายสีขาว ละเอียด ลึกลงไปด้านล่างตั้งแต่ 30 เซนติเมตร เป็นก้อนหิน หาดได้รับอิทธิพลเฉพาะจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ช่วง พฤษภาคมถึงเดือนกันยายนเท่านั้น
16
เนินทรายดานหนา หาดทรายฤดูแลง
แนวปา
หาดทรายฤดูฝน ระดับน้ำทะเลปานกลาง
0
2 เมตร
ภาพตัดขวางจำลองของหาดเกาะสตอรค หาดที่ 1 (ซาย)
การเปลี่ยนแปลงความลาดชันของหาด (Slope) หาดเกาะสตอร์คแม้จะอยู่ในพื้นที่กึ่งอับล ม (BISIS,2548) แต่ค วามลาดชันของหาดคงเปลี่ยนแปลงตามอิทธิพลของคลื่น ลม พายุและกระแสน้ำท ี่ส่งผลต่อแนวน้ำขึ้นลง ทำให้รูปร่างหาดเปลี่ยนแปลงตามแต่ละช่วงฤดูกาลเป็นวัฎจ ักรของหาด (Seasonal cycle of a beach) หาดที่ 1 ในเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนเมษายนพบว่าความลาดชันหาดอยู่ระหว่าง 1:10 และ 1:11 จากอิทธิพลของ ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ สภาพหาดมีความลาดชันน้อย (ความลาดชัน 5-10%) มีสันทรายจากการกัดเซาะของ น้ำทะเล ระดับน ำ้ ขึน้ ส งู สุดข นึ้ ไม่ถงึ เนินท รายสว่ นหน้า เดือนพฤษภาคมถงึ เดือนตลุ าคมพบวา่ ความลาดชันห าดอยูร่ ะหว่าง 1:5 และ 1:9 จากอิทธิพลของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ทั้งนีเ้ดือนตุลาคมเป็นช่วงปลายของมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ และ เข้าสู่มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ จึงเป็นช่วงเวลาที่คลื่นลมแรง สภาพหาดมคี วามชันปานกลาง (ความลาดชัน 10-25%) สันทรายหายไป น้ำทะเลขึ้นมาถึงเนินท รายส่วนหน้า เกิดก ารกัดเซาะและพังทะลายลงมา อย่างไรก็ตาม ในการสำรวจ ช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายน ปีพ.ศ.2552 สภาพหาดมีลักษณะแตกต่างกับส ภาพหาดช่วงนี้ คือ เป็นท ี่ราบ (ความ ลาดชัน <5%) เนินทรายส่วนหน้าสูงเพียงเล็กน้อย เมื่อเริ่มเข้าสู่ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่มีคลื่นลมแรงรูปร่างหาดจึง เริ่มเปลี่ยนแปลง โดยมีแนวโน้มข องระดับน ้ำขึ้นส ูงสุดและการกัดเซาะมากขึ้น
หาดเกาะสตอร์ค หาดที่ 1 (ซ้าย)
17
หาดเกาะสตอร์ค หาดที่ 1 (ซ้าย)
หาดที่ 2 จากอิทธิพลของลมมรสุมต ะวันตกเฉียงใต้เหมือนกัน เดือนกันยนยนถึงเดือนตุลาคม ปี พ.ศ.2552 พบว่าความ ลาดชันห าดอยูร่ ะหว่าง 1:5 และ 1:8 สภาพหาดมคี วามชนั ป านกลาง (ความลาดชัน 10-25%) ไม่มเีนินท รายและสนั ทราย น้ำทะเลขึ้นท่วมถึงแนวหินด้านหลัง ช่วงปลายเดือนตุลาคมหาดจึงเริ่มเกิดการกัดเซาะและพังทะลายลงมาจนหมดไปใน เดือนพฤศจิกายน ในเดือนมถิ นุ ายนถงึ เดือนสงิ หาคม ปีพ.ศ.2553 สภาพหาดไม่มเี นินท รายและสนั ทราย น้ำทะเลขนึ้ ท ว่ ม ถึงแนวหินด้านหลังเหมือนปีที่ผ่านมา แต่หาดมีความชันน้อยถึงป านกลาง ความลาดชันหาดอยู่ระหว่าง 1:10 และ 1:12 (ความลาดชัน 5-25%) แสดงแนวโน้มก ารทับถมทรายจากคลื่นที่เปลี่ยนแปลงไป
หาดเกาะสตอร์ค หาดที่ 2 (ขวา)
18 ปี
เดือน
ความกว้างเนิน ทรายด้านหน้า (ม.)
ความชัน
ระดับ การกัดเซาะ
ระดับ รากไม้/หิน
ระดับ ความเหมาะสม
Stork_L
52
สิงหาคม
2.7
1:7
2
2
Stork_L
52
กันยายน
2.8
1:7
3
3
Stork_L
52
ตุลาคม
-
1:5
2
3
Stork_L
52
พฤศจิกายน
2.7
1 : 11
1
3
Stork_L
52
ธันวาคม
1.8
1 : 11
2
3
Stork_L
53
มกราคม
-
1 : 11
2
3
Stork_L
53
กุมภาพันธ์
-
1 : 11
2
3
Stork_L
53
มีนาคม
3
1 : 11
2
3
Stork_L
53
เมษายน
6.7
1 : 10
1
3
Stork_L
53
พฤษภาคม
2
1:9
1
3
Stork_L
53
มิถุนายน
0.3
1:7
2
3
Stork_L
53
กรกฎาคม
0
1:7
2
3
Stork_L
53
สิงหาคม
2
1:6
2
3
Stork _R
52
กันยายน
0
1:8
0
3
Stork _R
52
ตุลาคม
0
1:5
3
3
Stork _R
52
พฤศจิกายน
0
-
4
3
Stork _R
53
มิถุนายน
0
1 : 11
2
3
Stork _R
53
กรกฎาคม
0
1 : 12
2
3
Stork _R
53
สิงหาคม
0
1 : 10
1
3
n n n n n n n n n n n n n n n n n n n
ชื่อหาด
<5
5-10
11-25
>25%
ระดับความชัน
-
ไม่มี
มีน้อย
มีปานกลาง
มีมาก
ระดับรากไม้/หิน
มีหนาแน่น
0
1
2
3
ระดับการกัดเซาะ
4
ระดับความเหมาะสมของหาดต่อการเป็นแหล่งวางไข่ เหมาะสมต่อการวางไข่มาก n มีเนินทรายให้วางไข่ n เริ่มมีความเสื่อมโทรม n
ความเหมาะสมต่อการเป็นแหล่งวางไข่ หาดทรายเกาะสตอร์ค (เฉพาะหาดที่ 1) เป็นแ หล่งวางไข่ ที่ มี ชื่ อ เสี ย งเ พราะเ ต่ า ท ะเลจ ะขึ้ น ม าว างไข่ ที่ นี้ ทุ ก ปี (ภาษามอแกนเรียกหาดนวี้ ่า บุไน แปลว่า ไข่เต่า) แต่ขณะ เดียวกันกพ็ บปัญหาที่มีเช่นกัน ข้อดี + เป็นหาดทเี่งียบสงบ เพราะอยู่เหนือสุดข องหมู่เกาะ สุรินทร์ + อยู่ห่างไกลจากแหล่งกิจกรรม (ห่างจากที่ทำการ อุทยานอ่าวช่องขาด 11 กม.) + เม็ดทรายขาว สะอาด ขนาดเล็กถึงปานกลาง + มีเนินทรายที่หมาะสมหลายจุด ความยาวไม่เกิน 43 ม.
ปญหา - รากไม้ฝ อยใต้พื้นทรายมากทุกจุดของเนินท ราย - แนวโน้มของระดับน้ำขึ้นส ูงสุดและการกัดเซาะมากขึ้น - แนวโน้มของจำนวนเนินท รายที่เหมาะสมลดลง 100% ภายใน 1 ปี - ความชื้นใต้พื้นทรายทำให้ไข่เสี่ยงต่อการติดโรคจาก เชื้อรา - ปริมาณขยะชายหาดมากทำให้พื้นที่วางไข่ลดลง (ปีพ.ศ.2553 สามารถเก็บข ยะชายหาดเกาะสตอร์คได้ ทั้งหมด 37 ถุง เป็นส ัดส่วนขยะจากเครื่องมือประมง มากกว่า ร้อยละ 40 ปี) - ความเสี่ยงต่อการลักลอบขุดแ ละเก็บไข่เต่าจ ากบุคคล ภายนอก
19
หาดไม้งามเล็ก
สัณฐานของหาด หาดอ่าวไม้งามเล็กตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของอ่าวไม้ งาม หาดมีลักษณะเป็นพื้นราบก่อนจะลาดชันลงสู่ทะเล เชือ่ มตอ่ ก บั ก องหนิ ใต้น ำ้ ท างทศิ เหนือ และแนวปะการังร มิ ฝัง่ ทางทศิ ตะวันตกเฉียงเหนือ หาดมคี วามยาวอยูใ่ นชว่ ง 27-35 เมตร ความกว้างไม่เกิน 32 เมตร แนวน้ำขึ้นส ูงสุดและแนว น้ำลงต่ำสุดถึงแนวป่า เท่ากับ 3.2 และ 18 เมตร ด้านหลัง เนินทรายเป็นแนวป่า สังคมพืชชายหาดเป็นพันธุ์ไม้ทั่วไป ขึ้นอยู่บนดินตื้นปนทรายมาก เช่น โกงกางหูช้าง (Guettarda speciosa L.) จิกท ะเล (Barringtonia asiatica (L.) Kurz) ปอทะเล (Hibiscus tiliaceus L.) บุก (Arisaema pattaniensis) และพืชสกุลไทร ลักษณะเม็ดทรายบริเวณ เนินทรายส่วนหน้าเป็นทรายสีน้ำตาล หยาบ ขนาดใหญ่ลึก ลงไปดา้ นล่าง 5 เซนติเมตร เป็นท รายปนดนิ ส นี ำ้ ตาลดำ และ รากไม้ฝอย มากกว่า 20 เซนติเมตร เป็นร ากไม้ใหญ่ บริเวณ หาดสว่ นหน้าเม็ดทรายเป็นท รายสนี ำ้ ตาล ขนาดใหญ่ป นเศษ ปะการังหัก หาดได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันออกเฉียง เหนือและลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ในทิศทางเดียวกันโดย คลื่นจะเข้ากระทบชายฝั่งทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือเสมอ
20
เนินทรายดานหนา
หาดทรายฤดูแลง หาดทรายฤดูฝน
แนวปา 0
ระดับน้ำทะเล (Mid level) 2 เมตร
ภาพตัดขวางจำลองของหาดไมงามเล็ก
แนวหิน
การเปลี่ยนแปลงความลาดชันของหาด (Slope) หาดอ่าวไม้งามเล็กอยู่ในพื้นท ี่อับลม มีแนวหินก ำบังอิทธิพลจากคลื่นลม พายุจึงไม่ทำให้รูปร่างหาดเปลี่ยนแปลง ตลอด ทั้งปีพบว่าความลาดชันห าดอยู่ระหว่าง 1:5 และ 1:8 จากอิทธิพลของลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือและตะวันตกเฉียง ใต้ สภาพหาดมีความลาดชันปานกลาง (ความลาดชัน 10-25%) ระดับน้ำขึ้นสูงสุดขึ้นไม่ถึงเนินทราย มีการพัดพาเอา ทรายมาทับถมหาดตั้งแต่เดือนเมษายนตลอดจนกระทั่งเดือนสิงหาคมก็ยังคงมีอ ยู่ หาดไม่มีแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงใน ช่วงสองปี
21
ปี
เดือน
ความกว้างเนิน ทรายด้านหน้า (ม.)
ความชัน
ระดับ การกัดเซาะ
ระดับ รากไม้/หิน
ระดับ ความเหมาะสม
Mai Ngam Lek
52
กันยายน (1)
>6
1:7
0
1
Mai Ngam Lek
52
กันยายน (2)
>6
1:6
0
1
Mai Ngam Lek
52
ตุลาคม
>6
1:7
0
1
Mai Ngam Lek
52
พฤศจิกายน
>6
1:7
0
1
Mai Ngam Lek
52
ธันวาคม
>6
1:7
0
1
Mai Ngam Lek
53
มกราคม
>6
1:7
0
1
Mai Ngam Lek
53
กุมภาพันธ์
>6
1:7
0
1
Mai Ngam Lek
53
มีนาคม
6.7
1:5
0
1
Mai Ngam Lek
53
เมษายน
5.2
1:7
0
1
Mai Ngam Lek
53
พฤษภาคม
7
1:7
1
1
Mai Ngam Lek
53
มิถุนายน
5
1:6
0
1
Mai Ngam Lek
53
กรกฎาคม
-
-
0
1
Mai Ngam Lek
53
สิงหาคม
3.2
1:8
0
1
n n n n n n n n n n n n n
ชื่อหาด
<5
5-10
11-25
>25%
ระดับความชัน
-
ไม่มี
มีน้อย
มีปานกลาง
มีมาก
ระดับรากไม้/หิน
มีหนาแน่น
0
1
2
3
ระดับการกัดเซาะ
4
ระดับความเหมาะสมของหาดต่อการเป็นแหล่งวางไข่ เหมาะสมต่อการวางไข่มาก n มีเนินทรายให้วางไข่ n เริ่มมีความเสื่อมโทรม n
ความเหมาะสมต่อการเป็นแหล่งวางไข่ หาดทรายอ่าวไม้งามเล็กเป็นแหล่งวางไข่ที่พบการขึ้น วางไข่ตั้งแต่อดีตแม้สภาพหาดและเม็ดทรายจะมีสภาพ เป็นป่าและมีดินปนในจำนวนมากแต่เต่าทะเลยังเลือกใช้ พื้นที่นี้สำหรับการวางไข่ ข้อดี + เป็นหาดที่เงียบสงบ เพราะอยู่ห่างจากที่ทำการ อุทยานอ่าวไม้งาม 0.3 กม. + มีเนินทรายที่เต่าท ะเลใช้เป็นแหล่งว างไข่ได้ตลอดทั้งปี ความยาวไม่เกิน 25 ม. ปญหา - รากไม้ใหญ่และฝอยใต้พื้นทรายมาก - ปริมาณขยะชายหาดมากทำให้พื้นทีว่ างไข่ลดลง
พืน้ ทีบ่ ริเวณอา่ วไม้ง ามถกู จ ดั อ ยูใ่ นเขตฟนื้ ฟูสภาพซงึ่ ย งั คง ใช้ป ระโยชน์ได้ ทำให้ม นี กั ท อ่ งเทีย่ วโดยเฉพาะชาวตา่ งชาติ ทีม่ กั เดินเท้าจ ากทที่ ำการอทุ ยานอา่ วไม้ง ามมาเพือ่ เล่นน ำ้ และนอนชายหาด โอกาสที่พื้นที่นี้จะถูกเต่าท ะเลเลือกใช้ สำหรับก ารวางไข่จ งึ ถ กู ล ดลงเป็นร ะยะเวลา 6 เดือน ตัง้ แต่ เดือนพฤศจิกายนถึงเมษายน
22
หาดอ่าวปอ
สัณฐานของหาด หาดอ่าวปอตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือข องอ่าวไม้ง าม หาดมี ลักษณะแตกต่างกันตามระยะหาด กลางหาดเป็นพื้นราบก่อนจะ ลาดชันลงสู่ทะเล เชื่อมต่อกับแนวปะการังริมฝั่ง หาดมีความยาว 180 เมตร ความกว้างไม่เกิน 28 เมตร แนวน้ำขึ้นส ูงสุดและแนว น้ำลงต่ำสุดถึงแนวป่า เท่ากับ 3.3 และ 28 เมตร เนินทรายอยู่ ด้านหลังแ นวป่า สังคมพชื ช ายหาดเป็นพ นั ธ์ไม้ท วั่ ไปขนึ้ อยูบ่ นทราย เช่น หูกวาง (Terminalia catappa L.) โกงกางหูช้าง (Guettarda speciosa L.) กระทิง (Calophyllum inophyllum L.) จิก ทะเล (Barringtonia asiatica (L.) Kurz) ยอป่า (Morinda coreia) กะพ้อ (Licuala spinosa Thunb.) รักทะเล (Scaevola taccada (Gaertn.) Roxb.) เตยทะเล (Pandanus odoratissimus L.f.) พลับพลึงทะเล (Crinum nothianum Baker) ผัก บุ้งทะเล (Ipomoea pes-caprae (L.) R.Br.) และพืชสกุลไทร ลักษณะเม็ดทรายบริเวณด้านหลังเนินทรายเป็นทรายสีน้ำตาล ขนาดปานกลาง ลึกลงไปด้านล่างเป็นร ากไม้ฝอย บริเวณเนินท ราย ส่วนหน้าเป็นเม็ดทรายสนี ำ้ ตาล หยาบ ขนาดใหญ่ ลึกล งไปดา้ นล่าง เป็นก้อนปะการังขนาดใหญ่ บริเวณหาดส่วนหน้าเป็นเม็ดทราย สีน้ำตาล หยาบ ขนาดใหญ่ปนเศษปะการังหัก หาดได้รับอ ิทธิพล รุนแรงจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือและลมมรสุมตะวันตก เฉี ย งใ ต้ ใ นทิ ศ ทางเ ดี ย วกั น โ ดยค ลื่ น จ ะเข้ า ก ระทบช ายฝั่ ง ท าง ทิศตะวันตกเฉียงใต้เสมอ
23
เนินทรายดานหนา หาดทรายฤดูแลง แนวปา 0
ระดับน้ำทะเล (Mid level) 2 เมตร
ภาพตัดขวางจำลองของหาดอาวปอ
การเปลี่ยนแปลงความลาดชันของหาด (Slope) ห าดอ่าวปออยู่ในพื้นที่กึ่งอับลม ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมทั้งสองฤดูกาลทำให้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะหาดส่วนหน้าเจอ กับก ารเปลี่ยนแปลงของคลื่นล มแรงตลอดเวลา ในเดือนตุลาคมถึงเดือนเมษายนพบว่าความลาดชันหาดอยู่ระหว่าง 1:7 และ 1:9 จากอิทธิพลของลมมรสุมต ะวันออกเฉียงเหนือ สภาพหาดมีความลาดชันปานกลาง (ความลาดชัน 10 -25 %) น้ำทะเลขึ้นไม่ถึงเนินทราย เดือนพฤษภาคมถึงเดือนกันยายนพบว่าความลาดชันหาดมีความเป็นไปได้ที่จะเพิ่มมากขึ้น จากการพัดพาเอาเม็ดทรายมาทับถมบนหาดด้วยอิทธิพลของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ หาดมีแนวโน้มของระดับน้ำขึ้น สูงสุดและการกัดเซาะบริเวณหาดฝั่งซ้ายมากขึ้นในช่วงสองปี
24
ปี
เดือน
ความกว้างเนิน ทรายด้านหน้า (ม.)
ความชัน
ระดับ การกัดเซาะ
ระดับ รากไม้/หิน
ระดับ ความเหมาะสม
Ao Por
52
ตุลาคม
>3
1:7
0
1
Ao Por
52
พฤศจิกายน
>3
1:8
0
1
Ao Por
52
ธันวาคม
>3
1:9
0
1
Ao Por
53
มกราคม
>3
1:9
0
1
Ao Por
53
กุมภาพันธ์
>3
1:8
0
1
Ao Por
53
มีนาคม
>3
1:7
0
1
Ao Por
53
เมษายน
3.3
1:8
0
1
Ao Por
53
พฤษภาคม
-
-
0
1
n n n n n n n n
Ao Por
53
มิถุนายน
-
-
-
1
-
Ao Por
53
กรกฎาคม
-
-
-
1
-
Ao Por
53
สิงหาคม
-
-
0
1
n
ชื่อหาด
<5
5-10
11-25
>25%
ระดับความชัน
-
ไม่มี
มีน้อย
มีปานกลาง
มีมาก
ระดับรากไม้/หิน
มีหนาแน่น
0
1
2
3
ระดับการกัดเซาะ
4
ระดับความเหมาะสมของหาดต่อการเป็นแหล่งวางไข่ เหมาะสมต่อการวางไข่มาก n มีเนินทรายให้วางไข่ n เริ่มมีความเสื่อมโทรม n
ความเหมาะสมต่อการเป็นแหล่งวางไข่ หาดทรายอ่าวปอเป็นแหล่งวางไข่ท ี่พบการขึ้นวางไข่ ตั้งแต่อดีต ข้อดี + เป็นหาดทเี่งียบสงบ เพราะอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยาน อ่าวไม้งาม 1.3 กม. + มีเนินทรายที่เต่าท ะเลใช้เป็นแหล่งวางไข่ความยาวไม่ เกิน 50 ม.
ปญหา - รากไม้ใหญ่แ ละฝอยใต้พื้นทรายเฉพาะบางเนินท ราย - แนวโน้มของระดับน้ำขึ้นส ูงสุดและการกัดเซาะมากขึ้น - แนวโน้มของจำนวนเนินท รายที่เหมาะสมลดลง 33% ภายใน 2 ปี - พื้นที่บริเวณอ่าวปอไม่ได้ถ ูกจัดอยูใ่นเขตการจัดการ ภายในอุทยานฯ ทำให้มีนักท ่องเที่ยวโดยเฉพาะชาว ต่างชาติห ลบเลี่ยงมาเพื่อเล่นน้ำ นอนชายหาด และพัก ค้างแรมโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ โอกาสที่พื้น ที่นี้จะถูกรบกวนจากการเป็นแ หล่งวางไข่จ ึงมากขึ้น ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงเมษายน
25
หาดทรายแดง
สัณฐานของหาด หาดทรายแดงตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะสุรินทร์ เหนือ หาดมลี กั ษณะเป็นเนินท รายสงู ก อ่ นเป็นส นั ทรายลาดเอียงลง สู่ทะเล เชื่อมต่อกับแนวปะการังริมฝั่ง หาดมีความยาวอยู่ในช่วง 142-180 เมตร ความกว้างไม่เกิน 44 เมตร แนวน้ำขึ้นส ูงสุดและ แนวน้ำลงต่ำสุดถึงแนวป่า เท่ากับ 0 และ 44 เมตร เนินท รายอยู่ ด้านหน้าแ นวป่า สังคมพชื ช ายหาดเป็นพ นั ธุไ์ ม้ท วั่ ไปขนึ้ อยูบ่ นทราย เช่น โกงกางหชู า้ ง (Guettarda speciosa L.) หูกวาง (Terminalia catappa L.) จิกทะเล (Barringtonia asiatica (L.) Kurz) หยี ทะเล (Derris indica Bennet) รักท ะเล (Scaevola taccada (Gaertn.) Roxb.) ลักษณะเม็ดทรายบริเวณด้านหลังเนินทรายเป็น ดินปนทรายสีน้ำตาลแดง ขนาดปานกลาง ลึกลงไปด้านล่าง 0-5 เซนติเมตร เป็นรากไม้ใหญ่และฝอย บริเวณเนินท รายส่วนหน้าเป็น เม็ดทรายสีน้ำตาลแดง ขนาดปานกลาง ร่วน บริเวณที่มีไม้พุ่มจิก ทะเลปกคลุม ลึกลงไปด้านล่างจะเป็นรากไม้ฝ อย ส่วนบริเวณที่ไม่มี ไม้พมุ่ ป กคลุม ลึกล งไปดา้ นล่าง 0-20 เซนติเมตรจะเป็นด นิ ปนทราย มีร ากไม้ฝ อย บริเวณหาดสว่ นหน้าเป็นเม็ดทรายสนี ำ้ ตาลแดง หยาบ ขนาดใหญ่ปนเศษปะการังหัก หาดได้รับอิทธิพลจากลมมรสุม ตะวันออกเฉียงเหนือและลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ในทิศทาง เดียวกันโดยคลื่นจะเข้ากระทบชายฝั่งทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ เสมอ
26
เนินทรายดานหนา หาดทรายฤดูแลง หาดทรายฤดูฝน
แนวปา
ระดับน้ำทะเล (Mid level)
0
2 เมตร
ภาพตัดขวางจำลองของหาดทรายแดง (ซาย)
เนินทรายดานหนา สันทราย
หาดทรายฤดูแลง หาดทรายฤดูฝน
แนวปา
ระดับน้ำทะเล (Mid level) 0
2 เมตร
ภาพตัดขวางจำลองของหาดทรายแดง (กลาง)
เนินทรายดานหนา สันทราย
หาดทรายฤดูแลง หาดทรายฤดูฝน
แนวปา 0
ระดับน้ำทะเล (Mid level)
2 เมตร
ภาพตัดขวางจำลองของหาดทรายแดง (ขวา)
การเปลี่ยนแปลงความลาดชันของหาด (Slope) หาดทรายแดงอยู่ในพื้นทีก่ ึ่งอับลม แต่ความลาดชันข องหาดคงเปลี่ยนแปลงตามอิทธิพลของคลื่นลม พายุและกระแสน้ำ ในเดือนตุลาคมถึงเดือนเมษายนพบว่าความลาดชันห าดอยู่ระหว่าง 1:11 และ 1:17 จากอิทธิพลของลมมรสุมต ะวันออก เฉียงเหนือ สภาพหาดมคี วามลาดชันน อ้ ย (ความลาดชัน 5-10%) เฉพาะหาดฝงั่ ซ า้ ยทสี่ ภาพหาดมคี วามลาดชันป านกลาง (ความลาดชัน 10-25%) น้ำทะเลขึ้นไม่ถึงด้านหลังเนินท ราย คลื่นเข้ากระทบชายฝั่งท างทิศตะวันตกเฉียงเหนือทำให้มี สันทรายจากการกดั เซาะของนำ้ ทะเลปรากฎบริเวณชว่ งกลางหาดและหาดฝงั่ ข วา โดยเฉพาะชว่ งเดือนตลุ าคมถงึ ธ นั วาคม ที่มีระดับน้ำขึ้นสูงสุดถึงเนินทรายด้านหน้า ในเดือนพฤษภาคมถึงเดือนกันยายนพบว่าความลาดชันหาดอยู่ระหว่าง 1:6 และ 1:10 จากอิทธิพลของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ สภาพหาดมีความลาดชันปานกลาง (ความลาดชัน 10-25%) มีก าร พัดพาเอาเม็ดทรายมาทับถมหาดมากขึ้น ระดับน้ำขึ้นสูงสุดไม่ถึงเนินท รายด้านหน้า หาดไม่มแี นวโน้มการเปลี่ยนแปลง ในช่วงสองปี
27 ชื่อหาด
ปี
เดือน
ความกว้างเนิน ทรายด้านหน้า (ม.)
ความชัน
ระดับ การกัดเซาะ
ระดับ รากไม้/หิน
ระดับ ความเหมาะสม
Sai Dang_L
52
กันยายน
<2
1 : 10
0
0
Sai Dang_L
52
ตุลาคม
<2
1:6
0
0
Sai Dang_L
52
พฤศจิกายน
-
1:8
0
0
Sai Dang_L
52
ธันวาคม
<2
1:8
0
1
Sai Dang_L
53
มกราคม
>4
1:8
0
0
Sai Dang_L
53
กุมภาพันธ์
>4
1:8
0
0
Sai Dang_L
53
มีนาคม
>4
1 : 19
0
0
Sai Dang_L
53
เมษายน
4.2
1:7
0
0
Sai Dang_L
53
พฤษภาคม
2.6
1:8
0
0
Sai Dang_L
53
มิถุนายน
4.3
1:6
0
0
Sai Dang_L
53
กรกฎาคม
-
-
0
0
Sai Dang_L
53
สิงหาคม
1.8
1:6
0
0
Sai Dang_M
52
กันยายน
-
1 : 13
1
3
Sai Dang_M
52
ตุลาคม
-
1 : 17
1
3
Sai Dang_M
52
พฤศจิกายน
-
1 : 16
1
3
Sai Dang_M
52
ธันวาคม
-
1 : 14
1
3
Sai Dang_M
53
มกราคม
-
1 : 15
1
3
Sai Dang_M
53
กุมภาพันธ์
-
1 : 15
1
3
Sai Dang_M
53
มีนาคม
-
1 : 15
1
3
Sai Dang_M
53
เมษายน
9.6
1 : 16
1
3
Sai Dang_M
53
พฤษภาคม
2
1 : 25
1
3
Sai Dang_M
53
มิถุนายน
14
1 : 19
1
3
Sai Dang_M
53
กรกฎาคม
-
-
1
3
Sai Dang_M
53
สิงหาคม
4.5
1 : 15
1
3
Sai Dang_R
52
กันยายน
0
1:8
1
3
Sai Dang_R
52
ตุลาคม
0
1:9
1
3
Sai Dang_R
52
พฤศจิกายน
0
1 : 14
2
3
Sai Dang_R
52
ธันวาคม
>2
1 : 11
2
3
Sai Dang_R
53
มกราคม
>2
1 : 11
1
1
Sai Dang_R
53
กุมภาพันธ์
2
1 : 12
1
0
Sai Dang_R
53
มีนาคม
2
1 : 11
1
0
Sai Dang_R
53
เมษายน
5
1:9
1
0
Sai Dang_R
53
พฤษภาคม
5
1 : 10
1
0
Sai Dang_R
53
มิถุนายน
8
1:8
2
0
Sai Dang_R
53
กรกฎาคม
-
-
2
0
Sai Dang_R
53
สิงหาคม
3.5
1:9
1
0
n n n n n n n n n n n n n n n n n n n n n n n n n n n n n n n n n n n n
<5
5-10
11-25
>25%
ระดับความชัน
-
ไม่มี
มีน้อย
มีปานกลาง
มีมาก
ระดับรากไม้/หิน
มีหนาแน่น
0
1
2
3
ระดับการกัดเซาะ
4
ระดับความเหมาะสมของหาดต่อการเป็นแหล่งวางไข่ เหมาะสมต่อการวางไข่มาก n มีเนินทรายให้วางไข่ n เริ่มมีความเสื่อมโทรม n
28
ความเหมาะสมต่อการเป็นแหล่งวางไข่ หาดทรายแดงเป็นแหล่งวางไข่ที่พบการขึ้นวางไข่ ตั้งแต่อดีตถึงปจจุบัน ข้อดี + เป็นหาดทเี่งียบสงบ เพราะอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยาน อ่าวไม้งาม 3.6 กม. + มีเนินทรายที่เต่าท ะเลใช้เป็นแหล่งวางไข่ความยาวไม่ เกิน 70 ม.
ปญหา - รากไม้ใหญ่แ ละฝอยใต้พื้นทราย - แนวโน้มของจำนวนเนินท รายที่เหมาะสมลดลง โดยเฉพาะพื้นที่ใต้ไม้พุ่มที่กิ่งพ ันกันหนาแน่นมากและ ดานหลังเนินทรายติดแนวป่าที่มีชั้นทรายเพียงแค่ 0-5 ซม. ลึกล งไปเป็นด ินปนทรายและรากไม้
29
หาดทรายขาว
สัณฐานของหาด หาดทรายขาวตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะสุรินทร์ เหนือ หาดมีลักษณะลาดเอียงลงสู่ทะเล เชื่อมต่อกับแนวปะการัง ริมฝั่ง หาดมีความยาวอยู่ในช่วง 287-290 เมตร ความกว้างไม่เกิน 24 เมตร แนวน้ำขึ้นสูงสุดและแนวน้ำลงต่ำสุดถึงแนวป่า เท่ากับ 4.5 และ 24 เมตร เนินท รายอยู่ด้านหน้าแ นวป่า สังคมพืชชายหาด เป็นพันธุ์ไม้ทั่วไปขึ้นอยูบ่ นทราย เช่น จิกทะเล (Barringtonia asiatica (L.) Kurz) ปอทะเล (Hibiscus tiliaceus L.) พลับพลึงทะเล (Crinum nothianum Baker) รักทะเล (Scaevola taccada (Gaertn.)) เตยทะเล (Pandanus odoratissimus L.f.) เข็มป่า และสกุลไทร ลักษณะเม็ดทรายบริเวณเนินท รายดา้ นหน้าเป็นท ราย สีขาว ขนาดปานกลาง ลึกล งไปดา้ นล่าง 15-20 เซนติเมตรเป็นท ราย สีน้ำตาลแดง ขนาดปานกลาง เม็ดทรายบริเวณเนินทรายใต้ไม้พุ่ม รักทะเลเป็นทรายสีขาว ขนาดปานกลาง ร่วน ลึกล งไปด้านล่าง 10 เซนติเมตร เป็นร ากไม้ฝ อย บริเวณหาดสว่ นหน้าเป็นเม็ดทรายสขี าว ขนาดปานกลางถึงใหญ่ ลึกลงไปด้านล่าง 30 เซนติเมตร เป็นก้อน หิน หาดได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือและ ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ในทิศทางเดียวกันโดยคลื่นจะเข้ากระทบ ชายฝั่งทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือเสมอ
30
เนินทรายดานหนา หาดทรายฤดูแลง หาดทรายฤดูฝน
แนวปา
0
ระดับน้ำทะเล (Mid level)
2 เมตร
ภาพตัดขวางจำลองของหาดทรายขาว
การเปลี่ยนแปลงความลาดชันของหาด (Slope) หาดทรายขาวอยูใ่นพนื้ ทีก่ งึ่ อ บั ล ม ในเดือนตลุ าคมถงึ เดือนเมษายนพบวา่ ความลาดชันห าดอยูร่ ะหว่าง 1:5 และ 1:6 จาก อิทธิพลของลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ สภาพหาดมีความลาดชันปานกลาง (ความลาดชัน 10-25%) ไม่มีสันทราย น้ำทะเลขึ้นไม่ถึงเนินทรายด้านหน้า ในเดือนพฤษภาคมถึงเดือนกันยายนความลาดชันหาดมคี วามเป็นไปได้ที่จะน้อยลง (ความลาดชันน อ้ ย 5-10%) มีก ารพดั พาเอาเม็ดทรายมาทบั ถมหาดมากขึน้ น้ำทะเลขนึ้ ถ งึ เนินท รายดา้ นหน้าจ ากอทิ ธิพล ของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ มีสันทรายจากการกัดเซาะของน้ำทะเลปรากฎบริเวณหาดฝั่งซ้ายเฉพาะเดือนพฤษภาคม ถึงเดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นช่วงเปลี่ยนเข้าสู่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ จึงเป็นช่วงเวลาที่คลื่นลมแรง หาดไม่มีแนวโน้มการ เปลี่ยนแปลงในช่วงสองปี
31
ชื่อหาด
ปี
เดือน
ความกว้างเนิน ทรายด้านหน้า (ม.)
ความชัน
ระดับ การกัดเซาะ
ระดับ รากไม้/หิน
ระดับ ความเหมาะสม
Sai Kao Yai
52
สิงหาคม
-
-
0
0
Sai Kao Yai
52
กันยายน
0
1:6
0
0
Sai Kao Yai
52
ตุลาคม
-
1:6
0
0
Sai Kao Yai
52
พฤศจิกายน
-
1:6
0
0
Sai Kao Yai
52
ธันวาคม
-
1:6
0
0
Sai Kao Yai
53
มกราคม
-
1:6
0
0
Sai Kao Yai
53
กุมภาพันธ์
-
1:6
0
0
Sai Kao Yai
53
มีนาคม
4.5
1:5
1
0
Sai Kao Yai
53
เมษยน
4.6
1:5
0
0
Sai Kao Yai
53
พฤษภาคม
0
1:5
1
0
Sai Kao Yai
53
มิถุนายน
0
-
1
0
Sai Kao Yai
53
กรกฎาคม
-
-
1
0
Sai Kao Yai
53
สิงหาคม
-
-
0
0
n n n n n n n n n n n n n
<5
5-10
11-25
>25%
ระดับความชัน
-
ไม่มี
มีน้อย
มีปานกลาง
มีมาก
ระดับรากไม้/หิน
มีหนาแน่น
0
1
2
3
ระดับการกัดเซาะ
4
ระดับความเหมาะสมของหาดต่อการเป็นแหล่งวางไข่ เหมาะสมต่อการวางไข่มาก n มีเนินทรายให้วางไข่ n เริ่มมีความเสื่อมโทรม n
ความเหมาะสมต่อการเป็นแหล่งวางไข่ หาดทรายขาวเป็นแหล่งวางไข่ที่พบการขึ้นวางไข่ตั้งแต่ อดีตถึงปัจจุบัน ข้อดี + เม็ดทรายขาว สะอาด + ไม่มีก้อนหิน หรือ รากไม้ใต้พื้นทราย + เนินทรายเหมาะสมอยู่ในตำแหน่งใต้ร่มไม้แ ละมี แสงแดดส่องถึง + เป็นหาดที่เงียบสงบ เพราะอยู่ห่างจากที่ทำการ อุทยานอ่าวไม้งาม 4.5 กม. + มีเนินทรายที่เต่าท ะเลใช้เป็นแหล่งว างไข่ ความยาวไม่ เกิน 50 ม.
ปญหา - แนวโน้มของระดับน้ำขึ้นสูงสุดมากขึ้น
32
หาดทรายขาวเล็ก
สัณฐานของหาด หาดทรายขาวเล็กต งั้ อยูท่ างทศิ ตะวันตกเฉียงเหนือข องเกาะสรุ นิ ทร์ เหนือ หาดทรายลาดเอียงลงสู่ทะเล เชื่อมต่อกับแนวปะการังร ิมฝั่ง หาดมีความยาวอยูใ่นช่วง 37-60 เมตร ความกว้างไม่เกิน 22 เมตร แนวน้ำขึ้นสูงสุดและแนวน้ำลงต่ำสุดถ ึงแนวป่า เท่ากับ 0 และ 22 เมตร เนินทรายอยู่ด้านหน้าแนวป่าและผาหิน สังคมพืชชายหาด เป็นพันธุ์ไม้ทั่วไปขึ้นอยู่บนทราย เช่น จิกทะเล (Barringtonia asiatica (L.) Kurz) ลักษณะเม็ดทรายบริเวณเนินทรายด้าน หน้าเป็นทรายสีขาวใส ขนาดปานกลาง ร่วน ลึกล งไปด้านล่าง 80 เซนติเมตร เป็นก้อนหิน หาดได้รับอ ิทธิพลจากลมมรสุมตะวันออก เฉียงเหนือแ ละลมมรสุมต ะวันตกเฉียงใต้ในทศิ ทางเดียวกันโดยคลืน่ จะเข้ากระทบชายฝั่งทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือเสมอ
33
เนินทรายดานหนา สันทราย
หาดทรายฤดูแลง หาดทรายฤดูฝน
แนวปา 0
2 เมตร
ภาพตัดขวางจำลองของหาดทรายขาวเล็ก
การเปลี่ยนแปลงความลาดชันของหาด (Slope) หาดทรายขาวเล็กอยู่ในพื้นที่กึ่งอับลม ในเดือนตุลาคมถึง เดือนเมษายนพบว่าความลาดชันห าดอยู่ระหว่าง 1:6 และ 1:8 จากอิทธิพลของลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ สภาพ หาดมีความลาดชันปานกลาง (ความลาดชัน 10-25%) มี สันทรายเฉพาะช่วงที่น้ำทะเลขึ้นถึงเนินทรายด้านหน้า ใน เดือนพฤษภาคมถึงเดือนกันยายนความลาดชันหาดมีความ เป็นไปได้ท จี่ ะคงที่ น้ำทะเลขนึ้ ถ งึ เนินท รายดา้ นหน้า อย่างไร ก็ตาม ในการสำรวจ ปีพ.ศ.2552 (เดือนเมษายนถึงเดือน กันยายน) สภาพหาดมีลักษณะแตกต่างกับสภาพหาดช่วงนี้ คือ หาดมีทรายถมสูงเท่ากัน ยาวตั้งแต่ฝั่งซ้ายถึงขวา เมื่อ เริ่มเข้าสู่ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือท ี่มีคลื่นล มแรง หาด เกิดการเปลี่ยนแปลง โดยน้ำทะเลกัดเซาะหาด ทำให้ท ราย ชัน้ บนถกู ค ลืน่ พ ดั พาออกไป จนเกือบถงึ ช นั้ ห นิ ด า้ นล่าง และ ไม่มกี ารพดั พากลับม าจนถึงป จั จุบนั การเปลีย่ นแปลงนแี้ สดง แนวโน้มก ารกัดเซาะมากขึ้นในช่วงสองปี
ระดับน้ำทะเล (Mid level)
34
ชื่อหาด
ปี
เดือน
ความกว้างเนิน ทรายด้านหน้า (ม.)
ความชัน
ระดับ การกัดเซาะ
ระดับ รากไม้/หิน
ระดับ ความเหมาะสม
Sai Kao Lek
52
สิงหาคม
0
-
4
3
Sai Kao Lek
52
กันยายน
0
-
4
3
Sai Kao Lek
52
ตุลาคม
>4.5
1:7
0
0
Sai Kao Lek
52
พฤศจิกายน
>4.5
1:8
0
0
Sai Kao Lek
52
ธันวาคม
>4.5
1:7
1
0
Sai Kao Lek
53
มกราคม
>4.5
1:7
1
0
Sai Kao Lek
53
กุมภาพันธ์
>4.5
1:8
1
0
Sai Kao Lek
53
มีนาคม
4.4
1:6
1
0
Sai Kao Lek
53
เมษายน
4.5
1:7
1
0
Sai Kao Lek
53
พฤษภาคม
2
1:6
1
0
Sai Kao Lek
53
มิถุนายน
2
-
0
1
Sai Kao Lek
53
กรกฎาคม
0
-
0
1
Sai Kao Lek
53
สิงหาคม
0
-
0
0
n n n n n n n n n n n n n
<5
5-10
11-25
>25%
ระดับความชัน
-
ไม่มี
มีน้อย
มีปานกลาง
มีมาก
ระดับรากไม้/หิน
มีหนาแน่น
0
1
2
3
ระดับการกัดเซาะ
4
ระดับความเหมาะสมของหาดต่อการเป็นแหล่งวางไข่ เหมาะสมต่อการวางไข่มาก n มีเนินทรายให้วางไข่ n เริ่มมีความเสื่อมโทรม n
ความเหมาะสมต่อการเป็นแหล่งวางไข่ หาดทรายขาวเล็กเป็นแหล่งวางไข่ที่พบการขึ้นวางไข่ของ เต่าทะเลเป็นประจำ ตั้งแต่อ ดีตถ ึงปัจจุบัน ข้อดี + เม็ดทรายขาว สะอาด + ไม่มีรากไม้ใต้พื้นทราย + เนินทรายเหมาะสมอยู่ในตำแหน่งใต้ร่มไม้และมี แสงแดดส่องถึง + เป็นหาดทเี่งียบสงบ เพราะอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยาน อ่าวไม้งาม 5.3 กม. + มีเนินทรายที่เต่าท ะเลใช้เป็นแหล่งวางไข่ ความยาวไม่ เกิน 15 ม.
ปญหา - ก้อนหินใต้พื้นทราย - แนวโน้มของระดับน้ำขึ้นส ูงสุดมากขึ้น - โอกาสเกิดการกัดเซาะและพังทลายของเนินท รายช่วง คลื่นลมรุนแรง - แนวโน้มของจำนวนเนินทรายที่เหมาะสมลดลงและ เปลี่ยนไปเป็นห าดหินแทน
35
หาดแหลมแม่ยายใต้ 1
สัณฐานของหาด หาดแหลมแม่ยายใต้ 1 ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของเกาะสุรินทร์ เหนือ หาดมีลักษณะราบและค่อยๆลาดเอียงลงสู่ทะเล เชื่อมต่อกับ แนวปะการังริมฝั่ง หาดมีความยาวอยู่ในช่วง 148-161 เมตร ความ กว้างไม่เกิน 22 เมตร แนวนำ้ ขึน้ ส งู สุดแ ละแนวนำ้ ลงตำ่ สุดถ งึ แ นวป่า เท่ากับ 0 และ 22 เมตร เนินท รายอยู่ด้านหน้าแนวป่า สังคมพืช ชายหาดเป็นพ นั ธุไ์ ม้ท วั่ ไปขนึ้ อยูบ่ นทราย เช่น หูกวาง (Terminalia catappa L.) โกงกางหูช้าง (Guettarda speciosa L.) จิกทะเล (Barringtonia asiatica (L.) Kurz) รักท ะเล (Scaevola taccada (Gaertn.)) หยีท ะเล (Derris indica Bennet) และสกุลไทร ลักษณะ เม็ดทรายบริเวณเนินทรายด้านหน้าเป็นทรายสีขาว ละเอียด ลึกล ง ไปด้านล่าง 0-5 เซนติเมตร เป็นดินปนทรายสีน้ำตาลแดง เศษ ปะการังหัก และรากไม้ฝอยและใหญ่ บริเวณหาดส่วนหน้าเป็น เม็ดทรายสขี าว ละเอียด ลึกล งไปดา้ นล่าง 15 เซนติเมตร เป็นร ากไม้ ฝอย หาดได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือและ ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ในทิศทางเดียวกันโดยคลื่นจะเข้ากระทบ ชายฝั่งทางทิศตะวันออกเสมอ
36
เนินทรายดานหนา
สันทราย
หาดทรายฤดูแลง หาดทรายฤดูฝน
แนวปา 0
ระดับน้ำทะเล (Mid level) 2 เมตร
ภาพตัดขวางจำลองของหาดแหลมแมยายใต 1
การเปลี่ยนแปลงความลาดชันของหาด (Slope) หาดแหลมแม่ยายใต้ 1 อยูใ่ นพนื้ ทีก่ งึ่ อบั ลม ในเดือนตลุ าคมถงึ เดือนเมษายนพบวา่ ความลาดชันหาดอยู่ระหว่าง 1:8 และ 1:11 จากอิทธิพลของลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ สภาพหาดมีความลาดชันน้อยถึงปานกลาง (ความลาดชัน 5-25%) น้ำทะเลขึ้นถึงเนินทรายด้านหน้า ยกเว้นเดือนมีนาคมถึงเมษายนที่คลื่นลมสงบ มีสันทรายเฉพาะช่วงเดือนแรกของ ลมมรสุมต ะวันออกเฉียงเหนือ ซึง่ เป็นช ว่ งเวลาทคี่ ลืน่ ล มแรง ในเดือนพฤษภาคมถงึ เดือนกนั ยายนพบวา่ ความลาดชันห าด อยู่ระหว่าง 1:8 และ 1:10 จากอิทธิพลของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ สภาพหาดมีความลาดชันปานกลาง (ความลาดชัน 10-25%) มีสันทราย น้ำทะเลขึ้นถึงเนินทรายด้านหน้า ยกเว้นเดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายน หาดไม่มีแนวโน้มการ เปลี่ยนแปลงในช่วงสองปี
37
ชื่อหาด
ปี
เดือน
ความกว้างเนิน ทรายด้านหน้า (ม.)
ความชัน
ระดับ การกัดเซาะ
ระดับ รากไม้/หิน
ระดับ ความเหมาะสม
Mae Yai Tai
52
Aug
0
1 : 10
1
3
Mae Yai Tai
52
Sep
0
1:9
1
3
Mae Yai Tai
52
Oct
0
1 : 11
2
3
Mae Yai Tai
52
Nov
0
1 : 11
1
2
Mae Yai Tai
52
Dec
0
1:9
0
2
Mae Yai Tai
53
Jan
0
1:9
0
2
Mae Yai Tai
53
Feb
0
1:8
0
2
Mae Yai Tai
53
Mar
4
1 : 11
1
2
Mae Yai Tai
53
Apr
4
1:8
1
2
Mae Yai Tai
53
May
3
1:9
1
2
Mae Yai Tai
53
Jun
1.5
1 : 10
2
3
Mae Yai Tai
53
July
0
1 : 10
2
3
Mae Yai Tai
53
Aug
0
1:8
0
3
n n n n n n n n n n n n n
<5
5-10
11-25
>25%
ระดับความชัน
-
ไม่มี
มีน้อย
มีปานกลาง
มีมาก
ระดับรากไม้/หิน
มีหนาแน่น
0
1
2
3
ระดับการกัดเซาะ
4
ระดับความเหมาะสมของหาดต่อการเป็นแหล่งวางไข่ เหมาะสมต่อการวางไข่มาก n มีเนินทรายให้วางไข่ n เริ่มมีความเสื่อมโทรม n
ความเหมาะสมต่อการเป็นแหล่งวางไข่ หาดทรายแหลมแม่ยายใต้ 1 เคยเป็นแหล่งว างไข่ในอดีต แต่ป จั จุบนั ไม่พ บแล้วเพราะสภาพหาดไม่มพี นื้ ทีเ่ หมาะสม สำหรับการวางไข่
ปญหา - รากไม้ฝ อยและใหญ่ ก้อนหินใต้พื้นทราย - ระดับน ้ำขึ้นสูงสุดถึงเนินทรายด้านหน้าตลอดทั้งปี ยกเว้นเพียงช่วงระยะเวลาสั้นๆ ซึ่งก ็พบปัญหาชั้นทราย ตื้น เม็ดทรายอัดต ัวแน่น และความชื้นใต้พื้นทราย
38
หาดแหลมแม่ยายใต้ 2
สัณฐานของหาด หาดแหลมแม่ยายใต้ 2 ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะ สุรินทร์เหนือ หาดมีลักษณะลาดเอียงเล็กน้อยลงสู่ทะเล เชื่อมต่อ กับแ นวปะการังริมฝั่ง หาดมีความยาว 20 เมตร ความกว้างไม่เกิน 26 เมตร แนวน้ำขึ้นสูงสุดแ ละแนวน้ำลงต่ำสุดถ ึงแนวป่า เท่ากับ 0 และ 26 เมตร ด้านหลังเนินทรายเป็นพื้นดินราบก่อนถึงแนวป่า สังคมพืชชายหาดเป็นพันธุ์ไม้ทั่วไปขึ้นอยู่บนทราย เช่น หูกวาง (Terminalia catappa L.) โกงกางหูช้าง (Guettarda speciosa L.) จิกท ะเล (Barringtonia asiatica (L.) Kurz) รักท ะเล (Scaevola taccada (Gaertn.)) มะนาวผี (Atalantia monophylla) และ สกุลก ล้วยไม้ ลักษณะเม็ดทรายบริเวณเนินท รายดา้ นหน้าเป็นท ราย สีขาว ละเอียด ลึกลงไปด้านล่าง 5 เซนติเมตร เป็นด ินปนทราย มี รากไม้ฝอย บริเวณหาดส่วนหน้าเป็นเม็ดทรายสีขาว ละเอียดปน เศษปะการังห กั ลึกล งไปดา้ นล่าง 1 เซนติเมตร เป็นเม็ดทรายขนาด ปานกลางถึงใหญ่ ปนเศษปะการังหัก หาดได้รับอิทธิพลจาก ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือและลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ใน ทิศทางเดียวกันโดยคลืน่ จ ะเข้าก ระทบชายฝัง่ ท างทศิ ตะวันออกเฉียง ใต้เสมอ
39
เนินทรายดานหนา สันทราย
หาดทรายฤดูแลง หาดทรายฤดูฝน
แนวปา 0
ระดับน้ำทะเล (Mid level) 2 เมตร
ภาพตัดขวางจำลองของหาดแหลมแมยายใต 2
การเปลี่ยนแปลงความลาดชันของหาด (Slope) ห าดแหลมแม่ยายใต้ 2 อยูใ่นพนื้ ทีก่ งึ่ อ บั ล ม ในเดือนตลุ าคมถงึ เดือนเมษายนพบวา่ ความลาดชันห าดอยูร่ ะหว่าง 1:9 และ 1:12 จากอิทธิพลของลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ สภาพหาดมีความลาดชันน้อยถึงปานกลาง (ความลาดชัน 5-25%) น้ำทะเลขนึ้ ไม่ถงึ เนินท รายดา้ นหน้า ไม่มสี นั ทราย ในเดือนพฤษภาคมถงึ เดือนกนั ยายนพบวา่ ความลาดชันห าดอยูร่ ะหว่าง 1:9 และ 1:12 จากอิทธิพลของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ สภาพหาดมีความลาดชันน้อยถึงปานกลาง (ความลาดชัน 5-25%) ระดับน้ำขึ้นสูงสุดถึงเนินทรายด้านหน้า มีสันทรายปรากฎจากการกัดเซาะของน้ำทะเล หาดไม่มีแนวโน้มการ เปลี่ยนแปลงในช่วงสองปี
40
ชื่อหาด
ปี
เดือน
ความกว้างเนิน ทรายด้านหน้า (ม.)
ความชัน
ระดับ การกัดเซาะ
ระดับ รากไม้/หิน
ระดับ ความเหมาะสม
Mae Yai Tai 2
52
ตุลาคม
-
1 : 11
0
3
Mae Yai Tai 2
53
มกราคม
-
1 : 11
0
3
Mae Yai Tai 2
53
มีนาคม
>2
1:9
0
3
Mae Yai Tai 2
53
เมษายน
>2
1 : 12
0
3
Mae Yai Tai 2
53
พฤษภาคม
2
1 : 12
0
3
Mae Yai Tai 2
53
มิถุนายน
2.2
1 : 10
2
3
Mae Yai Tai 2
53
กรกฎาคม
0
1:9
2
3
Mae Yai Tai 2
53
สิงหาคม
1
1 : 12
0
2
n n n n n n n n
<5
5-10
11-25
>25%
ระดับความชัน
-
ไม่มี
มีน้อย
มีปานกลาง
มีมาก
ระดับรากไม้/หิน
มีหนาแน่น
0
1
2
3
ระดับการกัดเซาะ
4
ระดับความเหมาะสมของหาดต่อการเป็นแหล่งวางไข่ เหมาะสมต่อการวางไข่มาก n มีเนินทรายให้วางไข่ n เริ่มมีความเสื่อมโทรม n
ความเหมาะสมต่อการเป็นแหล่งวางไข่ หาดทรายแหลมแม่ยายใต้ 2 เคยเป็นแหล่งวางไข่ในอดีต แต่ปัจจุบันไม่พบแล้วเพราะสภาพหาดไม่มีพื้นที่เหมาะสม สำหรับการวางไข่
ปญหา - รากไม้ฝ อยใต้พื้นทราย - ระดับน ้ำขึ้นสูงสุดถึงเนินทรายด้านหน้าตลอดทั้งปี ยกเว้นเพียงช่วงระยะเวลาสั้นๆ ซึ่งกพ็ บปัญหาชั้น ทรายตื้น
41
หาดอ่าวบอนเล็ก
สัณฐานของหาด หาดอ่าวบอนเล็ก ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของเกาะสุรินทร์ใต้ หาด มีลักษณะราบและค่อยๆลาดเอียงลงสู่ทะเล เชื่อมต่อกับแนว ปะการังริมฝั่ง หาดมีความยาวอยู่ในช่วง 107-75 เมตร ความกว้าง ไม่เกิน 20 เมตร แนวน้ำขึ้นสูงสุดและแนวน้ำลงต่ำสุดถึงแนวป่า เท่ากับ 0 และ 20 เมตร เนินท รายอยู่ด้านหน้าแ นวป่า สังคมพืช ชายหาดเป็นพ นั ธุไ์ ม้ท วั่ ไปขนึ้ อยูบ่ นทราย เช่น รักท ะเล (Scaevola taccada (Gaertn.)) ผักบุ้งทะเล (Ipomoea pescaprae (L.) R.Br.) และพืชสกุลไทร ลักษณะเม็ดทรายบริเวณเนินทรายด้าน หน้าเป็นทรายสีน้ำตาลอ่อน ละเอียด ลึก ลงไปด้านล่าง 0-8 เซนติเมตร เป็นทรายขนาดปานกลาง มีก รวดและรากไม้ฝ อย หาด ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือและลมมรสุม ตะวันตกเฉียงใต้ในทิศทางเดียวกันโดยคลื่นจะเข้ากระทบชายฝั่ง ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้เสมอ
42
เนินทรายดานหนา สันทราย
หาดทรายฤดูแลง หาดทรายฤดูฝน ระดับน้ำทะเล (Mid level)
แนวปา 0
2 เมตร
ภาพตัดขวางจำลองของหาดอาวบอนเล็ก
การเปลี่ยนแปลงความลาดชันของหาด (Slope) หาดอา่ วบอนเล็กอ ยูใ่ นพนื้ ท อี่ บั ล ม ในเดือนตลุ าคมถงึ เดือนเมษายนพบวา่ ความลาดชันห าดอยูร่ ะหว่าง 1:6 และ 1:9 จาก อิทธิพลของลมมรสุมต ะวันออกเฉียงเหนือ สภาพหาดมคี วามลาดชันป านกลาง (ความลาดชัน 10-25%) ระดับน ำ้ ขึน้ ส งู สุด ไม่ถงึ เนินท รายดา้ นหน้า มีส นั ทรายหลงเหลือจ ากการกดั เซาะของนำ้ ท ะเลในฤดูมรสุมต ะวันตกเฉียงใต้ ในเดือนพฤษภาคม ถึงเดือนกนั ยายนพบวา่ ความลาดชันห าดอยูร่ ะหว่าง 1:6 และ 1:10 จากอทิ ธิพลของลมมรสุมต ะวันตกเฉียงใต้ สภาพหาด มีความลาดชันปานกลาง (ความลาดชัน 10-25%) ระดับน้ำขึ้นส ูงสุดไม่ถึงเนินท รายด้านหน้า มีส ันทรายปรากฎจากการ กัดเซาะของน้ำทะเล หาดไม่มีแนวโน้มก ารเปลี่ยนแปลงในช่วงสองปี
43
ชื่อหาด
ปี
เดือน
ความกว้างเนิน ทรายด้านหน้า (ม.)
ความชัน
ระดับ การกัดเซาะ
ระดับ รากไม้/หิน
ระดับ ความเหมาะสม
Ao Bon Lek
52
Aug
4
1:8
2
1
Ao Bon Lek
52
Sep
4
1:8
2
1
Ao Bon Lek
52
Oct
4
1:9
2
1
Ao Bon Lek
52
Nov
4
1:8
1
1
Ao Bon Lek
52
Dec
4
1:7
1
1
Ao Bon Lek
53
Jan
4
1:7
1
1
Ao Bon Lek
53
Feb
4
1:7
1
1
Ao Bon Lek
53
Mar
6.5
1:7
0
1
Ao Bon Lek
53
Apr
5.5
1:6
0
1
Ao Bon Lek
53
May
5.4
1 : 10
0
1
Ao Bon Lek
53
Jun
1
1:6
2
1
Ao Bon Lek
53
July
0
1:7
2
1
Ao Bon Lek
53
Aug
1.4
1:8
1
1
n n n n n n n n n n n n n
<5
5-10
11-25
>25%
ระดับความชัน
-
ไม่มี
มีน้อย
มีปานกลาง
มีมาก
ระดับรากไม้/หิน
มีหนาแน่น
0
1
2
3
ระดับการกัดเซาะ
4
ระดับความเหมาะสมของหาดต่อการเป็นแหล่งวางไข่ เหมาะสมต่อการวางไข่มาก n มีเนินทรายให้วางไข่ n เริ่มมีความเสื่อมโทรม n
ความเหมาะสมต่อการเป็นแหล่งวางไข่ หาดอ่าวบอนเล็กเป็นแหล่งวางไข่ที่เพิ่งพบการขึ้นวางไข่ ของเต่าทะเลเป็นครั้งแรกใน ปี พ.ศ.2552 ข้อดี + เม็ดทรายสะอาด + เนินทรายเหมาะสมอยู่ในตำแหน่งใต้ร่มไม้และมี แสงแดดส่องถึง + เป็นหาดทเี่งียบสงบ เพราะอยู่ห่างจากหมู่บ้านชุมชน มอแกน 0.6 กม. + แม้มีการปรากฎของสันทรายจากการกัดเซาะของน้ำ ทะเล แต่เกิดเพียงบางส่วนของหาดเท่านั้น ยังคงมีเนิน ทรายที่ใช้เป็นแหล่งวางไข่ ความยาวไม่เกิน 60 ม.
ปญหา - รากไม้ฝอยใต้พื้นทราย
44
ความเหมาะสมของชายหาด ต่อก ารเป็นแหล่งวางไข่เต่าท ะเลตลอด 12 เดือน ในรอบ 2 ปี แสดงแนวโน้มการ
เปลีย่ นแปลงทเี่ กิดจ ากสาเหตุก ารกดั เซาะและระดับน ำ้ ทะเลขนึ้ ส งู สุด โดยเฉพาะกบั ห าดทมี่ คี วามกว้างของหาดสนั้ มีส ว่ น ของเนินทรายอยู่เฉพาะด้านหน้าแนวป่า หรือ แนวหิน ส่งผลให้เมื่อคลื่นพายุ หรือ คลื่นลมแรง น้ำทะเลจะท่วมขังถึง แนวป่า และเกิดก ารกดั เซาะเอาทรายชนั้ บนหายไปเหลือแ ต่ช นั้ ดินห รือห นิ การเปลีย่ นแปลงเช่นนีไ้ ม่ส ง่ ผลโดยตรงตอ่ ห าด ที่มีเนินทรายอยู่ด้านหลังแ นวป่า ซึ่งส่วนมากมีสังคมพืชชายหาดเป็นไม้พุ่มที่ขึ้นอยูแ่ นวหน้าก่อนเป็นไม้ยืนต้น จึงช ่วยลด ความรุนแรงของคลื่นได้บ างส่วน ดังนั้น เกณฑ์ก ารประเมินค วามเหมาะสมต่อก ารเป็นแ หล่งว างไข่จ ะพิจารณาเรื่องความ ปลอดภัยข องรงั ไข่เป็นหลัก โดยการประเมินพ นื้ ทีห่ าดหรือ เนินทรายด้านหน้าทีเ่ หลือเมือ่ น ำ้ ทะเลขนึ้ ส งู สุด (Back Shore Area) ประกอบกับความหนาแน่นข องรากไม้หรือก ้อนหินใต้พื้นทรายในระดับความลึกของรังไข่ (Root/Rock) จากนั้น จะประเมินระดับการกัดเซาะ (Beach Erosion) และความชันของเนินทราย (Slope) (เกณฑ์ในการประเมินแตกต่าง จากที่ใช้ประเมินผลเมื่อปี พ.ศ.2552 เพื่อให้ม ีความเหมาะสมมากขึ้น) เกณฑ์การประเมิน : การกััดเซาะของหาด 0 = ไม่เกิดการกัดเซาะหาดทราย 1 = เกิดการกัดเซาะหาดทรายน้อย คือเกิดการกัดเซาะเฉพาะบางส่วนของหาดจนเกิดสันทรายบริเวณแนวป่า และอาจเห็น หรือ ไม่เห็น ซากสิ่งมีชีวิตและไม่มีชีวิตที่เคยอยู่ใต้หาด 2 = เกิดการกัดเซาะหาดทรายปานกลาง คือเกิดการกัดเซาะเฉพาะบางส่วนของหาดจนเกิดสันทรายบริเวณแนวป่าและสามารถเห็นซาก สิ่งมีชีวิตหรือไม่มีชีวิตที่เคยอยู่ใต้หาดอย่างชัดเจน 3 = เกิดการกัดเซาะหาดทรายมาก คือเกิดการกัดเซาะทั่วทั้งหาดจนเกิดสันทรายบริเวณแนวป่าและสามารถเห็นซากสิ่งมีชีวิตหรือไม่มีชีวิต ที่เคยอยู่ใต้หาดอย่างชัดเจน 4 = เกิดการกัดเซาะหาดทรายรุนแรงจากที่เคยมีหาดทรายเปลี่ยนเป็นไม่มี เกณฑ์การประเมิน : ความเหมาะสมของชายหาดต่อการเป็นแหล่งวางไข่เต่าทะเล n สภาพหาดเหมาะสมต่อการวางไข่มาก คือ พื้นที่ที่เหมาะต่อก ารวางไข่ มีเนินทรายให้วางไข่ยาว น้ำท่วมไม่ถึง ชั้นท รายสูง ไม่มีรากไม้และ ก้อนหินหรือม ีน้อย ไม่มกี ารกัดเซาะของเนินทราย n สภาพหาดมเี นินท รายให้ว างไข่ คือ พ นื้ ทีท่ มี่ เี นินท รายให้ว างไข่ อาจจะมบี างช่วงของเนินท รายทมี่ นี ำ้ ท่วมถงึ แ ต่ไม่ข งั ชัน้ ท รายหายไปบา้ ง มีรากไม้หรือก้อนหินปานกลาง มีการกัดเซาะของเนินทราย n สภาพหาดเริ่มมีค วามเสื่อมโทรม คือพื้นทีท่ ี่มีเนินทรายเหมาะสมเหลือน้อยจนอาจไม่มี เนินท รายเริ่มมีความเสื่อมโทรม น้ำท่วมถึงและ ขัง ชั้นท รายหายไปกลายเป็นชั้นดินปนทราย มีร ากไม้ห รือก้อนหินม าก อาจมกี ารกัดเซาะของเนินทรายมากถึงม ากที่สุด
แผนที่แสดงความเหมาะสมของชายหาดต่อการเป็นแหล่งวางไข่เต่าทะเลในรอบ 12 เดือน สามารถแบ่งได้เป็น 2 ช่วงเวลาจากอิทธิพลลมมรสุมที่ได้รับ j ระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงเดือนกันยายน อิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ (ฤดูฝน) s สภาพหาดเริ่มมีความเสื่อมโทรม หาดเกาะมังกร (ขวา) หาดเกาะสตอร์ค หาดทรายขาว หาดทรายขาวเล็ก หาดแหลมแม่ยายใต้1-2 s สภาพหาดเหมาะสมต่อการวางไข่มาก หาดเกาะมังกร (ซ้าย) หาดไม้งามเล็ก หาดอ่าวปอ หาดทรายแดง หาดอ่าวบอนเล็ก k ระหว่างเดือนตุลาคมถึงเดือนเมษายน อิทธิพลจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ (ฤดูแล้ง) s สภาพหาดเริ่มมีความเสื่อมโทรม หาดเกาะมังกร (ขวา) หาดเกาะสตอร์ค หาดแหลมแม่ยายใต้1-2 s สภาพหาดเหมาะสมต่อการวางไข่มาก หาดเกาะมังกร (ซ้าย) หาดไม้งามเล็ก หาดอ่าวปอ หาดทรายแดง หาดทรายขาว หาดทรายขาวเล็ก หาดอ่าวบอนเล็ก
u
1
5
9
3
เกาะสตอรค 1
5
9
1
5
9
1
5
9
4 5
6
เกาะสุรินทรเหนือ
1
5
9
7
1
5
9
8
1
1
5
9
5
9
1
9
2
1
5
9
1
10
5
9
เกาะมังกร
1
5
9
11
เกาะสุรินทร ใต
เกาะตอรินลา 1
5
9
x
แถบสีแสดงความเหมาะสมของชายหาด ตอการเปนแหลงวางไขเตาทะเล ในรอบ 12 เดือน
เหมาะสมตอการวางไขมาก
มีเนินทรายใหวางไข
เกาะมังกร(ขวา) 4 หาดทรายขาวเล็ก 7 อาวปอ 10 แหลมแมยายใต2 เริ่มมีความเสื่อมโทรม 1
เกาะมังกร(ซาย) 5 หาดทรายขาว 8 หาดไมงามเล็ก 11 อาวบอนเล็ก 2
เกาะสตอรค 6 หาดทรายแดง 9 แหลมแมยายใต1
3
ในปี พ.ศ.2552 ม กี ารคน้ พบแหล่งว างไข่ใหม่ท เี่ ต่าท ะเลเลือกใช้อ ยูบ่ ริเวณเกาะสุรนิ ทร์ใต้ฝงั่ ตะวันออก ชือ่ ว่า ห าดอา่ วบอน เล็ก ซึง่ ในอดีตหาดนีช้ มุ ชนมอแกนใช้เป็นทีต่ งั้ ของชมุ ชนตัง้ แต่ปี พ.ศ.2533-2547 แต่ป จั จุบนั ได้ย า้ ยไปตงั้ ใหม่บ ริเวณหาด อ่าวบอนใหญ่ ซึง่ ห า่ งจากหาดอา่ วบอกเล็ก 0.6 กิโลเมตร แทน ชายหาดซงึ่ เคยมสี งิ่ ป ลูกสร้างจงึ ได้ฟ นื้ คืนส สู่ ภาพธรรมชาติ อีกครั้งถือเป็นการขยายพื้นที่การวางไข่จ ากเดิมท ี่เคยพบ
45
46
Chapter 2 ๒ บทที่
Sea Turtle : Distribution and Nesting การกระจายและการวางไข่ของเต่าทะเล
47
2.1เต่าทะเลในหมู่เกาะสุรินทร์ เต่าทะเลที่สามารถพบได้บ ริเวณหมู่เกาะสุรินทร์มี 3 สายพันธุ์ ได้แก่ เต่ากระ เต่าตนุ และเต่าหญ้า เต่ากระและเต่าตนุ คือเต่าท ะเลสองสายพันธุท์ อี่ าศัยห ากินครอบคลุมพ นื้ ทีต่ งั้ แต่เกาะสรุ นิ ทร์เหนือ โดยเฉพาะบริเวณอา่ ว ช่องขาด อ่าวแม่ยาย อ่าวไทรเอน อ่าวจาก อ่าวไม้ง าม อ่าวกระทิง ถึงเกาะสุรินทร์ใต้ โดยเฉพาะบริเวณอ่าวบอน อ่าว สัปปะรด อ่าวเต่า อ่าวผักกาด รวมทั้งเกาะบริวาร 3 เกาะ (เกาะสตอร์ค เกาะมังกร และเกาะตอรินลา) และกองหินโผล่ น้ำท ศิ ตะวันออก (หินก อง) ส่วนอกี ส ายพันธุห์ นึง่ ค อื เต่าห ญ้าซ งึ่ ส ว่ นใหญ่พ บอยูใ่ นสภาพลอยเกยหาดเพราะบาดเจ็บหรือ ไม่มีชีวิตแล้ว เต่ากระ (Eretmochelys imbricata) มีลวดลายบนกระดองเป็น ลายกระสีน้ำตาล เหลือง ดำสวยงาม ปากคมแหลมแข็งเหมือนนก เหยี่ยว (Hawksbill) เป็นล ักษณะเด่นข องเต่ากระนอกจากจำนวน เกล็ดคู่หน้าบนหัวที่มี 2 คู่ ขนาดเต่ากระกว้างสุดที่พบ เท่ากับ 60 ซม. เล็กส ุด 15 ซม. สามารถพบเต่ากระได้ทั่วไปตั้งแต่น ้ำตื้น 0.5 ม. ถึงล ึกมากกว่า 30 ม. ในแนวปะการัง พื้นทราย และกองหิน ลักษณะการกิน มีการกินที่หลากหลาย เช่น สาหร่าย หญ้าทะเล ปลา ฟองน้ำ แต่จ ะกินสัตว์ในแนวปะการังเป็นหลัก เต่าตนุ (Chelonia mydas) มีกระดองสีน้ำตาล เหลือง แต่ข ณะทยี่ งั เป็นล กู เต่าจ ะมสี ดี ำ เมือ่ แ ก่ส สี นั และลวดลายบนกระดองจะซดี ล งหรือจ างหายไป ชือ่ เรียก Green turtle มาจากชั้นไขมันของเต่าตนุมี สีเขียว เต่าตนุแ ตกต่างจากเต่าส ายพันธุอ์ ื่นท ี่มีเกล็ด บนหัวคู่หน้าเพียง 1 คู่ ขนาดเต่าตนุกว้างสุดที่พบ เท่ากับ 100 ซม. เล็กสุด 15 ซม. สามารถพบเต่าตนุ ได้ท วั่ ไปตงั้ แต่น ำ้ ต นื้ 0.5 ม. ถึงล กึ ม ากกว่า 30 ม. ใน แนวปะการัง พื้นทราย กองหิน หญ้าทะเล และ สาหร่ายทะเล ลักษณะการกิน เต่าตนุก ินพืชเป็นหลัก เช่น หญ้าทะเล หรือ สาหร่ายทะเล การขึ้นวางไข่ ขนาดแม่เต่าที่ขึ้นว างไข่ประมาณ 100 ซม. (วัดจ ากรอยคลานตำแหน่งครีบซ้ายสุดถ ึงขวา)
ที่มาภาพ: http://www.fnpf.org/rehabilitation_3.htm
เต่าห ญ้า (Lepidochelys olivacea) มีกระดองเรียบ สีเทาอมเขียว ปาก สัน้ ทูก่ ว่าเต่าตนุ ลักษณะเด่นค อื เกล็ด บนก ระดองห ลั ง แ ถวข้ า ง (Costal scute) มีจำนวน 6-8 แผ่น (สุพจน์, 2544) บริ เ วณห มู่ เ กาะสุ ริ น ทร์ มี
รายงานพบเห็นเต่าหญ้าที่บาดเจ็บหรือต ายขึ้นม าเกยหาดเป็นประจำ ลักษณะการกิน เต่าห ญ้ากินสัตว์ข นาดเล็กในแนวปะการังแ ละหญ้าทะเลเป็นอ าหาร
48
พฤติกรรมของเต่าทะเล ที่พบเห็นได้บริเวณหมู่เกาะสุรินทร์นอกจากการว่ายน้ำอยู่ในทะเลคือการขึ้นมาหายใจที่ ผิวน้ำเพราะเต่าทะเลเป็นสัตว์เลื้อยคลานถึงแม้จ ะอาศัยอยู่ใต้น้ำแต่ยังคงจำเป็นต้องหายใจด้วยปอดผ่านรูจมูกบนหัว จึง ต้องว่ายขึ้นมาหายใจบนผิวน้ำเป็นระยะ เต่าท ะเลส่วนใหญ่ยังคงมีพฤติกรรมกลัวและไม่คุ้นเคยกับค น โดยมักว่ายน้ำหนี ห่างเมื่อคนเข้าใกล้ ซึ่งเป็นสัณชาตญาณหลบหลีกภัยที่ดีที่จะป้องกันเต่าทะเลจากการล่าของคนบางกลุ่ม อย่างไรก็ตาม ยังมีภ ยั จ ากเครือ่ งมือป ระมง เช่น เศษอวนทพี่ นั ต ดิ กับเต่าท ะเลทำให้เกิดบ าดแผลหรือร า้ ยแรงมากถงึ ขัน้ เสียชีวติ น อกจาก นั้นการผสมพันธุ์ระหว่างเต่าเพศผู้และเพศเมียคืออีกห นึ่งพฤติกรรมที่สังเกตุพบในเดือนมีนาคมและมิถุนายน โดยทั่วไป การผสมพันธุ์จะเกิดขึ้นก่อนที่เต่าเพศเมียจะขึ้นว างไข่ ป ระมาณ 1สัปดาห์
ข้อมูลการพบเห็นเต่าทะเล3 แสดงให้เห็นพฤติกรรมดังเช่น ว่ายน้ำ กินอาหาร อยู่นิ่ง หายใจ ผสมพันธุ์ และบาดเจ็บ ตามลำดับ สำหรับพฤติกรรมผสมพันธุ์พบที่บริเวณกองหินโผล่น้ำทิศเหนือ (หินแพ) 1 ครั้ง และบริเวณเกาะมังกร 1 ครั้ง
หายใจ
บาดเจ็บ
ผสมพันธุ
7.5%
0.5%
1.5%
วายน้ำ
65%
กินอาหาร
อยูนิ่ง
13.5%
12%
บริเวณที่พบเห็นเต่าทะเล ส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นแนวปะการังแ ละแนวหญ้าทะเล เนื่องจากสองระบบนิเวศนี้เป็น แหล่งอาหารที่สำคัญของเต่าทะเล นอกจากนั้นยังสามารถพบได้บริเวณพื้นทราย แนวน้ำลึก และบริเวณกองหิน ด้วย เช่นกัน แนว หญาทะเล
9%
แนว ปะการัง
81%
กองหิน
พื้นทราย
1%
7%
แนวน้ำลึก >20ม.
2%
ผลสำรวจตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคม 2552 ถึง 1 กันยายน 2553 โดยความร่วมมือจ ากนักท่องเที่ยว เจ้าหน้าทีบ่ ริษัทท่องเที่ยวและอุทยานฯ เจ้าหน้าห น่วยปราบปรามประมง และ เจ้าหน้าที่หน่วยรักษาความปลอดภัยทางทะเล ฝั่งทะเลอันดามัน (ทหารเรือ) 3
49
เกาะสตอรค
หินราบ
อาวจาก เกาะสุรินทรเหนือ อาวไทรเอน
อาวไมงาม
อาวกระทิง อาวแมยาย ชองขาด
เกาะมังกร เกาะสุรินทร ใต
อาวบอน อาวสัปปะรด อาวเตา
หินกอง
อาวผักกาด บริเวณที่มีจำนวนในการพบเห็นเตาทะเล
เกาะตอรินลา
มากที่สุด มาก ปานกลาง
การก ระจายตั ว ข องเ ต่ า ท ะเล พบการกระจายตัวอยู่โดยรอบ
โดยเฉพาะบ ริ เ วณฝั่ ง ต ะวั น ออกข องเ กาะ (จ ำนวนก ารพ บเห็ น ที่ มากอาจมาจากการเข้าถึงพื้นที่ฝั่งตะวันออกมีมากกว่าฝั่งตะวันตกของ เกาะ)
นอย ไมมีการพบเห็น/ไมมีการเขาถึงพื้นที่
50
2.2ประวัติการขึ้นวางไข่ ประวัติการขึ้นวางไข่เต่าท ะเลบริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ไม่เคยได้รับการบันทึก หรือ มีก ารสำรวจอย่างจริงจังจากหน่วยงาน ใด จนกระทั่งมีโครงการเพาะฟักไข่เต่าทะเลในบ่ออนุบาลเพื่อการอนุรักษ์ โดยอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ในปี พ.ศ.2539-2549 จึงมีการจดบันทึกข้อมูลการขึ้นวางไข่และอัตราการฟักของลูกเต่าทะเลไว้ แต่ระบบบันทึกข้อมูลที่ไม่ สมบูรณ์ และขอ้ มูลส ว่ นใหญ่ได้ส ญ ู ห ายไปในเหตุการณ์ส นึ ามิ เมือ่ ป ี พ.ศ.2547 ทำให้ป ระวัตกิ ารขนึ้ ว างไข่เต่าท ะเล บริเวณ หมูเ่ กาะสรุ นิ ทร์ไม่ค รบถ้วนสมบูรณ์ เมือ่ เครือข่ายเฝ้าระวังแ หล่งว างไข่เต่าท ะเล อุทยานแห่งชาติห มูเ่ กาะสรุ นิ ทร์ก อ่ ต งั้ ขึน้ ในปี พ.ศ.2552 เพือ่ ก ารอนุรกั ษ์แ หล่งว างไข่ และเต่าท ะเลอย่างยงั่ ยืนท ำให้ก ระบวนการสำรวจ เฝ้าระวัง และบนั ทึกข อ้ มูล อย่างมีระบบได้รับการรื้อฟ ื้นขึ้นใหม่อีกครั้ง ข้อมูลทั่วไปของแหล่งวางไข่ ฤดูกาลวางไข่ และสถิติจำนวนการขึ้นวางไข่ได้ ถูกรวบรวมทั้งจากการสำรวจในสถานที่จริง การสอบถาม พูดคุย และค้นคว้าจากข้อมูลที่มีอยู่เดิมจากผู้เชี่ยวชาญ และผู้ ทีเ่ กีย่ วข้องทงั้ หมดในพนื้ ที่ เช่น เจ้าหน้าที่อ ทุ ยานฯ เจ้าหน้าที่ห น่วยปราบปรามประมง และมอแกนผทู้ เี่ ชีย่ วชาญเรือ่ งเต่า ทะเล ชายหาดความยาวมากกว่า 4 กิโลเมตร จากทั้งหมด 18 หาด บริเวณหมู่เกาะสุรินทร์มีประวัตเิป็นแ หล่งวางไข่ม า ตั้งแต่ในอดีต บางหาดเกิดการเปลี่ยนแปลงรูปร่างตามกาลเวลาจนไม่เหมาะสมต่อการเป็นแ หล่งวางไข่ แต่บ างหาดยังคง ทำหน้าที่ต้อนรับการมาเยือนของแม่เต่าท ะเลจนถึงป ัจจุบัน
2.3สถิติการขึ้นวางไข่
หมายเหตุ : กราฟแ สดงส ถิ ติ ก ารขึ้ น วางไข่ของเต่าทะเล บริเวณหมู่เกาะ สุรินทร์ต ั้งแต่อดีตถ ึงปัจจุบัน
แต่ละชายหาดมสี ถิตกิ ารขนึ้ ว างไข่ม ากนอ้ ยตา่ งกัน โดยหาดเกาะสตอร์คเป็นห าดทมี่ กี ารขนึ้ ว างไข่ม ากทสี่ ดุ ตามดว้ ยหาด แหลมแม่ยายเหนือ 2 และหาดไม้งามเล็ก และหาดอ่าวบอนเล็กที่ทำหน้าที่เป็นแ หล่งวางไข่ให้กับเต่าท ะเลเป็นค รั้งแรก ในปี พ.ศ.2552 และมีแนวโน้มท ี่จะเป็นแหล่งวางไข่ฝ ั่งตะวันออกที่มีความเหมาะสมอีกห าดหนึ่งต่อไปในอนาคต
51
2.4ฤดูกาลวางไข่ ตลอดทั้งปีบริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ สามารถพบการขึ้นวางไข่ได้ทุกเดือน โดยแต่ละชายหาดจะทำหน้าที่เป็นแหล่งวางไข่ ให้กับเต่าทะเลในช่วงเดือนเดิม ในทุกๆรอบปี ตั้งแต่อดีตถ ึงปัจจุบัน แม้ว่าไม่มีเทคโนโลยีร ะบุตัวและติดตามการเดินทาง ของแม่เต่าท ะเลทใี่ ช้ช ายหาดบริเวณหมูเ่ กาะสรุ นิ ทร์เป็นแ หล่งว างไข่ แต่ผ ลจากปฏิทนิ (พระจันทร์) การขนึ้ ว างไข่ (อุทยาน แห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์, 2552) แสดงให้เห็นล ักษณะขึ้นวางไข่ หรือ พฤติก รรมการขึ้นวางไข่ข องเต่าท ะเลที่มักจะเลือก สถานที่เดิมที่เคยใช้เป็นประจำ และสิ่งที่สังเกตได้จากการเฝ้าติดตามพฤติกรรมพบว่า เมื่อเต่าทะเลพบสภาพชายหาด ทีจ่ ะใช้เป็นแ หล่งว างไข่ไม่เหมาะสมจนไม่ส ามารถวางไข่แ ล้ว (False crawl) เต่าท ะเลจะไม่ห าสถานทอี่ นื่ ในบริเวณหมูเ่ กาะ สุ ร ิ น ทร์ เพื ่ อ ใช้ ว างไข่ แ ทน โดยยั ง ไ ม่ ส ามารถร ะบุ ไ ด้ ว ่ า เต่ า ท ะเลป ล่ อ ยไข่ ทิ้ ง หรื อ ออกไปห าส ถานที่ น อกเขต หมู ่ เ กาะส ุ ร ิ น ทร์แทน
ปฏิทิน (พระจันทร์) แสดงบันทึก ปีที่เต่าทะเลขึ้นวางไข่ ตั้งแต่อดีตถึง ปัจจุบัน แต่ละหาดทำหน้าที่เป็นแหล่ง วางไข่ในช่วงเวลาแตกต่างกัน ครอบคลุม ตลอดสิบสองเดือน แสดงให้เห็นความ หลากหลายของพนื้ ทีท่ เี่ ป็นแ หล่งว างไข่ให้ กับเต่าท ะเลซึง่ เป็นผลดตี อ่ ค วามปลอดภัย ของรั ง ไข่ จ ากภั ย ธ รรมชาติ แ ละม นุ ษ ย์ อย่างไรกต็ าม ช่วงเดือน 1-10 ปี พ.ศ.2553 เป็นปีที่ไม่พบการขึ้นวางไข่บนหาดใดเลย หลังจากการขนึ้ ว างไข่ค รัง้ ส ดุ ท้ายในเดือน 11 ปี พ.ศ.2552
52
ปฏิทิน (พระจันทร์) แสดงบันทึกปีที่เต่าทะเลขึ้นวางไข่ 3
4
5
อดีต
อดีต
อดีต
6
7
8
อดีต
หาดทรายขาวเล็ ก
52
อดีต
อดีต
อดีต
49 49
52
อดีต
อดีต
หาดทรายแดง อดีต
อดีต
52 49
PAST
อดีต
อดีต
52 อดีต
อดีต
อดีต
อดีต
52 52 52 52
อ่าวบอนเล็ก อดีต
เกาะมั ง กร
อดีต
อดีต
หาดแม่ ย าย (ใต้ ) 1 อดีต
อดีต มีการขึ้นวางไขใ่นอดีต 52 แสดงปี พ.ศ. ที่ขึ้นวางไข่
สิงหาคม - กันยายน
กรกฎาคม - สิงหาคม
มิถุนายน - กรกฎาคม
52 พฤษภาคม - มิถุนายน
เมษายน - พฤษภาคม
มีนาคม - เมษายน
กุมภาพันธ์ - มีนาคม
หาดไม้งาม มกราคม - กุมภาพันธ์
อดีต
อดีต
หาดแม่ ย าย (เหนื อ ) 2
ธันวาคม - มกราคม
อดีต
49
อดีต
52 52 52
พฤศจิกายน - ธันวาคม
12
อ่ า วกระทิ ง
หาดไม้งามเล็ก
คำอธิบายตาราง :
11
52 52 52
อ่ า วปอ
52
อดีต
อดีต
หาดทรายขาว
49 อดีต
10
เกาะสตอร์ ค
52 52 52 อดีต
9
ตุลาตม - พฤศจิกายน
2
กันยายน - ตุลาคม
เดือนตามพระจันทร์ 1
มีการขึ้นวางไข่ในปัจจุบันและ/หรือในอดีต มีการขึ้นวางไข่เฉพาะในอดีต มีการขึ้นหาดแต่ไม่มีการวางไข่
53
2.5 สถานภาพรังไข่ ในระยะเวลา 5 ปี ตัง้ แต่ พ.ศ.2549-2553 จำนวนเต่าท ะเลทขี่ นึ้ ว างไข่แ ละรงั ไข่ได้รบั ก ารดแู ลมที งั้ หมด 18 รัง จากทงั้ หมด 45 รัง แบ่งเป็น 9 รัง (764 ฟอง) คือรังที่ไข่และลูกเต่าถูกน ำมาเพาะฟักในบ่อเลี้ยง และ9 รัง (897 ฟอง) คือรังที่ไข่แ ละ ลูกเต่าได้รับการดูแลโดยธรรมชาติ สถานภาพรังไข่เต่าทะเลจากการเพาะฟักในบ่อเลี้ยง ตั้งแต่ปี พ.ศ.2539 - 2549 อุทยานฯ มีน โยบายอนุรักษ์เต่าทะเลโดยการเก็บไข่เต่าท ะเลจากธรรมชาติมาเพาะฟักเพื่อ ป้องกันภัยค ุกคามจากมนุษย์ท ี่มีต่อเต่าทะเล ไข่ที่ได้จ ากการเก็บถ ูกน ำมาฟักในบ่อทรายซีเมนต์จนได้ก ำหนดฟัก ลูกเต่า จะถกู น ำมาอนุบาลในบอ่ เลีย้ งจนมอี ายุได้ป ระมาณ 3-6 เดือน จึงป ล่อยคนื ส ธู่ รรมชาติ อย่างไรกต็ ามจากปญ ั หาการสญ ู หาย ของข้อมูล ข้อมูลส ถานภาพรังไข่จากวิธีการนี้จึงม ีเพียงในปี พ.ศ.2549 คือ เต่าท ี่ได้รับการเพาะเลี้ยงมีพันธุ์เต่ากระ และ เต่าตนุ จำนวนไข่ทั้งหมดของ เต่ากระ เท่ากับ 178 ฟอง เฉลี่ยต ่อ 1 รัง เท่ากับ 89 ฟอง ระยะเวลาฟักตั้งแต่ 47-65 วัน ฟักเป็นตัวทั้งสิ้น 92 ตัว มีอ ัตราการฟักเฉลี่ย ร้อยละ 52 ของจำนวนไข่ท ั้งหมด ของ เต่าตนุ มีจ ำนวนไข่ท ั้งหมด 586 ฟอง เฉลี่ยต่อ 1 รัง เท่ากับ 81 ฟอง ระยะเวลาฟักตั้งแต่ 12-58 วัน ฟักเป็นตัวท ั้งสิ้น 203 ตัว มีอ ัตราการฟักเฉลี่ย ร้อยละ 35 ของจำนวนไข่ทั้งหมด จำนวนลูกเต่าที่ได้กลับคืนส ู่ทะเล ไม่ท ราบจำนวน สถานภาพรังไข่เต่าทะเลตามธรรมชาติ ปี พ.ศ. 2552-2553 อุทยานฯ มีน โยบายอนุรักษ์แหล่งวางไข่เต่าท ะเลแทนการเพาะเลี้ยงเพื่อต ิดตามและปกป้องแหล่ง วางไข่จ ากการเปลีย่ นแปลงจากธรรมชาติแ ละมนุษย์ ลูกเต่าได้เกิดจ ากหลุมท แี่ ม่เต่าเลือกและวางไข่แ ละได้ล งสทู่ ะเลทนั ทีที่ ออกจากรัง ซึ่งในปี พ.ศ.2552 รังไข่เต่าที่ได้รับการเฝ้าระวังมีพันธุ์เต่าตนุ จำนวนไข่ทั้งหมด 897 ฟอง เฉลี่ยต่อ 1 รัง เท่ากับ 100 ฟอง ระยะเวลาฟักตั้งแต่ 54-64วัน ฟักเป็นตัวทั้งสิ้น 226 ตัว มีอ ัตราการฟักเฉลี่ย ร้อยละ 25ของจำนวนไข่ ทัง้ หมด อัตราการไม่ฟ กั แ บ่งออกเป็น 1) อัตราการไม่ฟ กั จ ากสาเหตุท ตี่ วั อ่อนตายระหว่างการพฒ ั นาเฉลีย่ เท่ากับ ร้อยละ 17 ของจำนวนไข่ทั้งหมด และ 2) อัตราการไม่ฟ ักจากสาเหตุน้ำเชื้อต ัวผู้ไม่เพียงพอเฉลี่ย เท่ากับ ร้อยละ 58 ของจำนวน ไข่ทั้งหมด จำนวนลูกเต่าที่ได้กลับคืนส ู่ทะเล เท่ากับ ร้อยละ 100 ของจำนวนไข่ท ี่ฟักทั้งหมด กราฟเปรียบเทียบสถานภาพรังไข่เต่าทะเลระหว่างปี พ.ศ.2549 และ 2552
การเดินลงทะเล
จำนวนไข่
วันที่
สถานที่
54
ข้อมูลรังไข่เต่าที่ได้รับการเฝ้าระวังด้วยวิธีธรรมชาติ ปี พ.ศ.2552 วางไข่ที่ เกาะสตอร์ค (รังที่ 2, 3, 4, 5, 6) หาดไม้งามเล็ก (รังที่ 7) หาดทรายขาวเล็ก (รังที่ 8, 9, 10) พิกัด GPS เกาะสตอร์ค E97.90516 N9.47524 หาดไม้งามเล็ก E97.86018 N9.43265 หาดทรายขาวเล็ก E97.88164 N 9.45501 ระยะห่างเฉลี่ยของรังไข่กับแนวป่า 1.5 ม. ระยะห่างของรังไข่กับแนวน้ำขึ้นสูงสุด 1 - 12 ม. 0.8 ม. ความลึกของรังขึ้นอยูก่ ับสภาพใต้พื้นทราย อาจลึกไม่ถึง 0.8 ม. ถ้ามีปัญหารากไม้หรือปริมาณดินมีมากเกินที่ ความลึกมากขึ้น เช่น รังไข่ท ี่หาดไม้งามเล็กความลึกข องรัง 0.4 ม. สภาพของรัง สภาพภายในรังส่วนใหญ่มีรากไม้ใหญ่และฝอย โดยเฉพาะหาดเกาะสตอร์คมีรากไม้ฝอยหนาแน่น ความชื้นสูง เหมือนหาดไม้งามเล็กที่มีรากไม้และเป็นดินปนทราย ต่างจากหาดทรายขาวเล็กที่ไม่มีรากไม้และก้อนหิน ย้ายไข่ไปฝังที่* อ่าวบอนเล็ก อุณหภูมิเฉลี่ยใต้ 28.8°C อุณหภูมิเพาะฟักไข่เต่าที่ให้อัตราการเกิดเพศผู้และเพศเมียของเต่ากระเท่ากัน (Pivotal Temperature) เท่ากับ 29.2°C (Mrosovsky,1992) อุณหภูมิกำหนดเพศในรังตามธรรมชาติ พื้นทรายที่ความลึก ของเต่าตนุ (Temperature Dependent Sex Determination,TSD) ถ้าน้อยกว่า 28.5 °C ระดับรัง ลูกเต่าจะเป็นเพศผู้ มากกว่า 30°C ลูกเต่าส่วนใหญ่จ ะเป็นเพศเมีย (Spotila et al.,1987) เต่าวางไข่ รังที่ 2 26/02/52 (ขึ้น 3 ค่ำ เดือน 4) รังที่ 7 20/08/52 (แรม 14 ค่ำ เดือน 9) รังที่ 3 10/03/52 (ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 4) รังที่ 8 11/09/52 (แรม 7 ค่ำ เดือน 10) รังที่ 4 21/03/52 (แรม 11 ค่ำ เดือน 4) รังที่ 9 21/10/52 (แรม 3 ค่ำ เดือน 9) รังที่ 5 2/04/52 (ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 5) รังที่ 10 25/10/52 (แรม 7 ค่ำ เดือน 11) รังที่ 6 10/04/52 (แรม 1 ค่ำ เดือน 5) มอแกนแจ้ง (พบรัง) มีการแจ้ง ทั้งหมด 6 รัง และเจ้าหน้าที่อุทยานฯ พบขณะสำรวจการขึ้นวางไข่ 3 รัง ย้ายรัง* ทำการย้ายเฉพาะ รังที่ 4, 8, 9 ตำแหน่งรังอยู่ในจุดเสี่ยงต่อน้ำทะเลท่วมถึง ล้อมรัง ล้อมสูง ล้อมต่ำ คลุมอวน เอาที่ล้อมรังออก เมื่อรังไข่มีอายุ 48 วัน หลุมยุบ เมื่อรังไข่มีอายุ 50-60 วัน พิสูจน์รัง เมื่อรังไข่มีอายุ 50 60 70 วัน ไข่ฟัก เมื่อรังไข่มีอายุ 54-64 วัน จำนวนไข่เฉลี่ยต่อ 1 รัง (ฟอง) 100 ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางไข่เต่าประมาณ 4 ซม. อัตราการฟัก มีชีวิต ร้อยละ 25 เป็นตัวเฉลี่ย ตาย ร้อยละ 0 อัตราการไม่ ตายระหว่างพัฒนา ร้อยละ 17 ฟักเฉลี่ย น้ำเชื้อตัวผู้ไม่พอ ร้อยละ 58 ลูกเต่าค ลานมุ่งหน้าลงทะเลทันทีทอี่ อกจากรัง ระหว่างเดินจะหยุดเพื่อสูดกลิ่นและมุ่งหน้าเดินต่อ ลูกเต่าแต่ละตัวม ีไข่แดงขนาดเท่าเม็ด ถั่วเขียว บางตัวเพิ่งออกมาจากเปลือกไข่จ ึงยังมีส ายรกติดท้องไปบ้าง ลูกเต่าที่มีตำแหน่งไข่อยู่ล่างสุดจะมกี ระดองแบนบี้ เบี้ยว หรือ มี สีขาว น ้ำตาล
หมายเหตุ: รังที่ 1 พบเต่าทะเลวางไข่วันที่ 17/02/52 (แรม 8 ค่ำ เดือน 3) ซึ่งได้รับการดูแลด้วยวิธีการเก็บไข่เต่าทะเลจากธรรมชาติมาเพาะฟัก
55
2.6 ลูกเต่าแรกเกิด ลูกเต่าตนุใช้เวลาเจริญเติบโตอยู่ภายในเปลือกไข่ 54-64 วัน เมื่อต ัวอ่อนมีอายุไม่เกิน 7 วัน จะมสี ่วนหัวกลมมน ลำตัว สีขาวยาว และลูกตาดำเห็นได้ชัดเจน ขนาดไม่เกิน 0.5 เซนติเมตร และเมื่ออายุ 40-50 วัน ตัวอ่อนมีอวัยวะทุกส่วน ครบถ้วน สีสนั เหมือนลกู เต่าแ รกเกิดแ ต่ล ำตัวน มุ่ นิม่ อ ยูภ่ ายในถงุ น ำ้ ไข่แดงมขี นาดใหญ่ 1.5-1 เซนติเมตร เมือ่ อ ายุ 50-60 วัน ไข่แดงมีขนาดเท่าเม็ดถั่วเขียวจากการใช้สารอาหารของลูกเต่า
“
Chantrapornsyl (1992) กล่าวว่า เมื่อตัวอ่อน อายุ 12 วัน จะพัฒนาส่วนหัวโต ลูกตาเห็นได้ ชัดเจน หัวใจและอวัยวะภายในเริม่ ช ดั เจน เมือ่ อ ายุ 15 วันส ว่ นของระยางค์เริม่ ย นื่ อ อกแต่ย งั ไม่เป็นร ปู ขา หางยาว กระดูกส ันหลังเริ่มปรากฏชัดข ึ้น เมื่อ อายุ 25 วัน เริ่มป รากฏการแบ่งเกล็ดบ นกระดอง ขาหน้าขาหลังเห็นได้ช ดั เจน หางคอ่ นข้างยาว เมือ่ อายุได้ 30 วัน ส่วนหางหดสนั้ ลง เกล็ดบ นกระดอง ชัดเจนและเริ่มมีสีเข้ม อวัยวะทุกส่วนครบถ้วนแต่ ลั ก ษณะบ างนิ่ ม อายุ 40 วั น ทุ ก อย่ า งเจริ ญ ครบถ้ ว นสี สั น เ หมื อ นลู ก เ ต่ า แรกเกิ ด ทุ ก อย่ า ง เพียงแต่ขนาดเล็กก ว่า
”
และเมื่อพร้อมจะฟักออกจากไข่ซึ่งจะเกิดพร้อมกันหลายๆตัว ลูกเต่าจะใช้จงอยปากแหลมเจาะเปลือกไข่ และคลานขึ้น จากหลุมร งั ไข่ท นั ที โดยมากจะเกิดช ว่ งเวลาเย็นใกล้ค ำ่ ซึง่ เป็นช่วงทอี่ ณ ุ หภูมลิ ดลงต่ำ และจะรบี ค ลานสทู่ ะเลโดยหยุดพัก เป็นระยะเพื่อเงยหัว คล้ายสูดรับกลิ่น ก่อนถึงทะเล เมื่อลูกเต่าแรกเกิดถึงทะเลก็จะว่ายน้ำอย่างรวดเร็วออกสู่ทะเล เบื้องหน้า
56
2.7อัตราการฟัก ปัญหาสภาพรังไข่ (ลักษณะใต้พื้นทราย) ตำแหน่งร ังไข่ท ี่ไม่เหมาะสม และน้ำเชื้อจ ากเต่าเพศผู้ไม่เพียงพอผสมกับไข่จ าก เพศเมียส่งผลโดยตรงต่ออ ัตราการฟักของไข่ นอกเหนือจากศัตรูทางธรรมชาติ เช่น สัตว์ผู้ล่า และการลักลอบขุดไข่เต่า ของมนุษย์ สภาพใต้พื้นทราย รากไม้โดยเฉพาะรากฝอย ก้อนหิน น้ำข ัง และเม็ดทรายอัดตัวแน่น ทำให้ไข่เสี่ยงต่อการติดเชื้อรา แตก หรือ พัฒนาการของลูกเต่าอ าจผิดปกติจ ากการโดน ชอนไช บีบรัด หรือ กดทับจนไม่สามารถขึ้นจากหลุมฟักได้ ซึ่งมักเกิดกับลูกเต่าที่มี ตำแหน่งไข่อยูด่ ้านล่างสุดของรัง โดยปกติเต่าท ะเลจะเลือกตำแหน่งที่ปลอดภัยที่สุดบน หาดเพือ่ ข ดุ ห ลุมว างไข่ การใช้ค รีบค หู่ น้าแ ละคหู่ ลังข ดุ ล งไปดา้ นล่างจะทำให้ร ากฝอยทอี่ ยู่ ใต้พื้นทรายขาดเป็นโพรงกว้าง ปลอดภัยสำหรับการวางไข่ แต่ลักษณะรากของต้นปอ ทะเล และไม้พุ่มอื่น เช่น รักทะเล ที่พบขึ้นทั่วไปทุกหาดนั้นเจริญเติบโตเร็วทำให้ไข่เต่า ที่อยู่ภายในรัง 2-3 เดือน อยู่ในภาวะเสี่ยง ปัญหาสภาพรังไข่ไม่เหมาะสมพบได้กับร ังไข่ ที่หาดเกาะสตอร์ค หาดอ่าวบอนเล็ก และหาดไม้งามเล็กในบางตำแหน่งของชายหาด ระยะห่างของรังไข่กับแนวน้ำขึ้นสูงสุดและแนวป่า ส่งผลอย่างมากต่อความปลอดภัย ของรงั ไข่ต ลอดชว่ งระยะฟกั ระยะทใี่ กล้แ นวป่าม ากเกินไปทำให้ร งั ไข่เสีย่ งกบั ป ญ ั หาจาก รากไม้ และผู้ล่าในป่ามากขึ้น และเมื่อล ูกเต่าฟักจะต้องเสี่ยงกับผ ู้ล่าบนบกมากขึ้นจ าก ระยะทางกลับส ู่ทะเล การเลือกตำแหน่งว างไข่ของเต่าท ะเลจึงเลือกอยู่ห่างจากแนวป่า ในระยะปลอดภัย และสำคัญค อื ไกลจากแนวนำ้ ขึน้ ให้ม ากทสี่ ดุ เพราะนำ้ ทะเลทขี่ นึ้ ท ว่ ม และขังอยู่ภายในรังไข่ทำให้ของเหลวภายในไข่เกิด “กระบวนการออสโมซิส” ส่งผลให้ ตัวอ่อนหยุดพ ฒ ั นาการและตายในทีส่ ดุ เต่าบ างตวั จ ะเลือกชว่ งเวลานำ้ ขึน้ ส งู สุดป ระกอบ กับชว่ งอณ ุ หภูมิทเี่ หมาะสมขนึ้ หาดเพือ่ จะได้ร รู้ ะยะปลอดภัยข องรงั ไข่จากความชืน้ ของ เม็ดทราย แต่สภาพภูมิอากาศแปรปรวน ณ ปัจจุบันส ่งผลให้ระดับน้ำขึ้นส ูงสุด และการ กัดเซาะชายหาดมีแนวโน้มมากขึ้นส่งผลให้พื้นที่เหมาะสมสำหรับวางไข่ลดลง ทำให้ ตำแหน่งรังไข่ที่เต่าทะเลเลือกอาจไม่เหมาะสมในระยะยาว ปัญหาสภาพรังไข่อยู่ใน ตำแหน่งไม่เหมาะสมพบได้กับรังไข่ที่หาดเกาะสตอร์ค และหาดทรายขาวเล็ก ปริมาณน้ำเชื้อเต่าเพศผู้ เต่าเพศเมีย 1 ตัว อาจผสมกับเต่าเพศผู้มากกว่า 1 ตัว เพื่อ เก็บน ำ้ เชือ้ ไว้ผ สมกบั ไข่ต ลอดฤดูกาลวางไข่ท ใี่ ช้เวลาหลายเดือน จำนวนเต่าเพศผูท้ นี่ อ้ ยลง หรือ น้ำเชื้อไม่มีคุณภาพจึงเป็นปัญหาสำคัญปัจจุบันที่กำลังเผชิญอยู่ เช่น รังไข่ที่หาด เกาะสตอร์ค ร้อยละ100 ของรังไข่ทุกรังในปี 2552 (ทั้งหมด 5 รัง) เป็นไข่น ้ำเชื้อไม่พ อ (ร้อยละ 2 ของรังที่หาดทรายขาวเล็ก และ ร้อยละ 61 ของรังท ี่หาดไม้ง ามเล็กเป็นไข่ น้ำเชื้อไม่พอ ในกรณีหาดไม้งามเล็กเป็นไข่ชุดสุดท้ายของฤดูกาลวางไข่ข องแม่เต่า จึงม ี ความเป็นไปได้ที่ไข่จะไม่ได้รับก ารผสมจากน้ำเชื้อเพศผู้)
57
2.8 ปัญหาการขึ้นวางไข่ เต่าทะเลไม่ขึ้นวางไข่บ นหาดใดเลยระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนสิงหาคมปี พ.ศ.2553 สันนิษฐานว่าเกิดจ ากเรื่องรอบ ฤดูว างไข่ข องเต่าท ะเล โดยปกติเต่าท ะเลจะมรี อบฤดูว างไข่ห า่ งกัน 3-4 ปี และอาจยงั ไม่ถ งึ กำหนดหรือเกิดก ารเปลีย่ นแปลง จากสาเหตุข องอณ ุ หภูมิ เนือ่ งจากอณ ุ หภูมนิ ำ้ ทะเลเป็นก ญ ุ แจสำคัญค อยควบคุมก ารเริม่ ต้นข องและระยะห่างระหว่างฤดู วางไข่แต่ละครั้งของเต่าทะเลแต่ละตัว (Florida Power & Light Company, 2002) อุณหภูมเิป็นป ัจจัยสำคัญที่มีผล ตลอดช่วงชีวิตของเต่าทะเลซึ่งเป็นสัตว์เลื้อยคลาน ตั้งแต่อ ยู่ในไข่จ นตาย ปกติแ ล้วเต่าท ะเลจะเลือกอุณหภูมิที่เหมาะสม ที่สุดเพื่อให้ลูกเต่าม ีโอกาสรอดชีวิต แต่เมื่อเกิดภาวะที่ส่งผลให้อุณหภูมิแปรปรวนจำนวนการขึ้นว างไข่จ ึงลดลงตาม เช่น ในปี พ.ศ.2541 สถิตเิต่าทะเลขึ้นว างไข่ลดลงจากปกติก ว่าร้อยละ 50 (ก้องเกียรติ, 2553) จากสภาพอากาศที่ร้อนขึ้น เนื่องจากปรากฎการณ์เอลนิโญ่ และในปี พ.ศ.2553 ปรากฎการณ์เอลนิโญ่ส ่งผลให้อุณหภูมิน้ำทะเลสูงขึ้นอ ย่างต่อเนื่อง อีกครั้งจนเป็นสาเหตุให้ปะการังเกิดการฟอกขาวและอาจส่งผลต่อเต่าทะเลได้ในทางเดียวกัน เต่าท ะเลทถี่ งึ ว ยั เจริญพ นั ธุเ์พศผูแ้ ละเพศเมียจ ะวา่ ยน้ำอ อกจากแหล่งห ากินเป็นร ะยะทางไกลมาพบกันเพือ่ ผ สมพนั ธุใ์กล้ กับแ หล่งว างไข่ เมือ่ ผ สมพนั ธุเ์ รียบร้อย เต่าเพศผูจ้ ะกลับส ทู่ ะเลลกึ เต่าเพศเมียจ ะหากนิ อยูบ่ ริเวณรอบๆ แหล่งว างไข่ รัศมี ประมาณ 3 ไมล์ทะเล ในระหว่างเดินทางมาวางไข่และระหว่างพักวางไข่แ ต่ละครั้งจนไข่ห มดท้อง โอกาสที่เต่าทะเลต้อง เสี่ยงภัยจากการติดเครื่องมือป ระมง เช่น อวนลาก อวนลอย เบ็ดราว และการล่าของสัตว์อื่น เช่น ฉลาม รวมถึงมนุษย์ จึงเกิดขึ้นได้ทุกช่วงเวลา โอกาสที่เต่าทะเลจะได้ก ลับมายังแ หล่งวางไข่อ ีกจ ึงไม่ส ามารถคาดการณ์ได้
58
Chapter 3 ๓ บทที่
Sea Turtle: Threats ภัยคุกคามของเต่าทะเล
59
สถานภาพเต่าทะเลหมู่เกาะสุรินทร์ เกี่ยวพันกับก ารเปลี่ยนแปลงของหลายปัจจัยทั้งภายในและภายนอกพื้นที่
โดยมีตัวนำปัจจัยท ี่เกี่ยวโยงกันคือธ รรมชาติแ ละมนุษย์ ภัยธรรมชาติ เช่น พายุลมแรง ฝนแล้ง และแผ่นดินไหวส่งผล ต่อเนื่องให้เกิดฝ นตกหนัก คลื่นสูง กระแสน้ำแรง อุณหภูมิอากาศ น้ำแปรปรวน และคลื่นยักษ์ ระดับความรุนแรงและ ความถี่ของภัยธรรมชาติท ี่มากขึ้นกว่าอดีต โดยที่ไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าสร้างผลกระทบโดยตรงต่อส ัณฐานหาด และตวั เต่าท ะเล ก ารกดั เซาะและการพดั พาทบั ถมทเี่ กิดจ ากพายุแ ละคลืน่ ล มเปลีย่ นขนาดพนื้ ท แี่ ละชนั้ ท รายของชายหาด ทีเ่ คยเหมาะสมตอ่ ก ารเป็นแ หล่งว างไข่ให้ล ดน้อยลง (แ หล่งว างไข่ล ดลง ร อ้ ยละ 3 0 ภ ายในระยะเวลา 1 ป )ี เปลีย่ นระดับ น้ำทะเลและการทว่ มถงึ ให้เพิม่ ม ากขึน้ อ ณ ุ หภูมนิ ำ้ ทะเลและอากาศสงู จ ากฝนแล้งเปลีย่ นแหล่งกำเนิด แ หล่งส ร้างอาหาร และที่อยู่อาศัยในแนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์ให้ลดน้อยลง (ปรากฎการณ์ปะการังฟอกขาวปี พ.ศ. 2553) เปลี่ยน พฤติกรรมดำรงชีวติ แ ละโอกาสในการดำรงเผ่าพันธุใ์ห้ย ากมากขึน้ (อ ตั ราส่วนเพศผูแ้ ละเพศเมีย แ ละรอบฤดูกาลวางไข่) เหตุแ ละผลเหล่านีค้ อื ค วามเชือ่ มโยงระหว่างธรรมชาติท มี่ มี นุษย์เป็นผ เู้ ร่งร ะดับค วามรุนแ รงและความถี่ แ ม้วา่ ป จั จัยท ที่ ำ ให้เกิดภัยคุกคามต่อเต่าทะเลที่เป็นเหตุจากธรรมชาติเกิดขึ้นมาตั้งแต่ยุคโบราญและเต่าทะเลสามารถวิวัฒนการตัวเอง เพื่อความอยู่รอดจนถึงปัจจุบันแต่เมื่อมนุษย์ ผู้ที่อยู่ในชั้นบนสุดของกลุ่มผู้บริโภคแสวงหาการใช้ประโยชน์จาก แหล่งกำเนิด แหล่งอาศัย และแม้กระทั่งจากเต่าทะเลมากขึ้น ภาวะเสี่ยงต่อก ารสูญพันธุ์จึงเกิดขึ้นอ ย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โอกาสเสี่ยงจากการถูกล่าและจับเพื่อนำกระดองไปทำเครื่องประดับ นำไข่หรือเนื้อไปบริโภคด้วยรสนิยมความเชื่อว่า เป็นยาบำรุงชั้นเยี่ยม หรือการติดกับเครื่องมือป ระมง เช่น อวน แห ตาข่าย หรือใบพัดเรือจนจมน้ำตาย หรือพิการหรือ เกิดบาดแผลเป็นภัยในระดับสากลที่ไม่ใช่เพียงเฉพาะในพื้นที่หมู่เกาะสุรินทร์แต่รวมถึงทั่วโลก มลภาวะทางทะเลเช่น ขยะจากการทิ้งในกิจกรรมต่างๆ ล่อยลอยอยู่ในทะเล บางชนิดขึ้นมาเกยหาด กลายเป็นขยะชายหาดกีดขว้างและลด พืน้ ท วี่ างไข่ข องเต่าท ะเล บ างชนิดม สี ภาพคล้ายสงิ่ มีชวี ติ ในทะเลทเี่ ป็นอ าหารทำให้เกิดค วามเข้าใจผดิ แ ละเมือ่ ก นิ เข้าไป เกิดภ าวะอดุ ตันในลำไส้จ นตายเป็นอ กี ภ ยั ค กุ คามทนี่ า่ ห่วงเพราะถงึ แ ม้จ ะยงั ไม่พ บหลักฐานการตายบริเวณหมูเ่ กาะสรุ นิ ทร์ แต่ปริมาณขยะในทะเลก็มีมาก การพัฒนาพื้นที่เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวและชุมชนทับซ้อนกับพื้นที่ที่เหมาะสมต่อการ เป็นแหล่งวางไข่ทำให้ชายหาดบางส่วนหายไปเนื่องจากสิ่งปลูกสร้างและแสงไฟ การดำรงชีวิตถูกรบกวนจากกิจกรรม ท่องเที่ยวบางประเภทและมลภาวะที่ไม่เหมาะสมจนเต่าท ะเลอาจต้องเสี่ยงออกนอกทะเลลึกและการล่าจากสัตว์อื่น
60
3.1 ภัยอันตรายต่อชีวิต เต่าทะเลถือเป็นสัตว์ที่มีอายุยืนชนิดหนึ่ง ในตลอดช่วงชีวิตของเต่าทะเลตั้งแต่ระยะก่อนฟักตัวออกจากไข่ถึงระยะตัวโต เต็มว ยั ท พี่ ร้อมสำหรับก ารสบื พันธุน์ นั้ เต่าท ะเลตอ้ งเผชิญกับภ ยั อันตรายจากศตั รูต ามธรรมชาติแ ละมนุษย์ซงึ่ ห ลากหลาย และแตกต่างกนั ไปตามชว่ งอายุแ ละสถานที่ ภัยเหล่านีเ้ ป็นสาเหตุส ำคัญท ที่ ำให้ป ระชากรและแหล่งท อี่ ยูอ่ าศัยในธรรมชาติ ของเต่าทะเลลดลง การประกาศพื้นที่หมู่เกาะสุรินทร์ซึ่งเป็นแหล่งวางไข่สำคัญให้เป็นพื้นที่คุ้มครองสามารถปกป้องและ คุ้งครองได้เพียงในระดับหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถครอบคลุมแหล่งอาศัย (Habitat) ทั้งหมดของเต่าทะเลได้ จากธรรมชาติ : ศัตรูแ ละภัยตามธรรมชาติ ต่อ s ไข่ : ตะกวด ปูลม s ลูกเต่า : ตะกวด ปูลม นก ปลาฉลาม ปลาสาก s ตัวโตเต็มวัย : ปลาฉลาม วาฬเพชรฆาต s แหล่งที่อยู่อาศัยและวางไข่ : ภัยธ รรมชาติ
จากมนุษย์ : ภัยจากกิจกรรมทั้งทางตรงและทางอ้อม ต่อ s ไข่ : ขุดเก็บไข่เพื่อบริโภคเป็นอ าหารบำรุงกำลัง s ลูกเต่า : ข ายเพื่อเป็นสัตว์เลี้ยง s ตัวโตเต็มวยั : ล่าเพือ่ นำมาเป็นเครือ่ งประดับและอาหาร หรือ ได้รบั บ าดเจ็บจ นเสียชีวติ จ ากการตดิ กับเครือ่ งมือป ระมง(เช่น อวน เบ็ดราว ใบพัดเรือ) หรือ กินเศษขยะ (เช่น พลาสติก เชือก) หรือการรบกวนของเสียงเครื่องยนต์ ั นาพนื้ ทีช่ ายฝัง่ แ ละสงิ่ s แหล่งท อี่ ยูอ่ าศัยแ ละวางไข่ : การพฒ ปลูกสร้างบริเวณชายหาดรวมทั้งขยะชายหาด
3.2 การบาดเจ็บ เต่าท ะเลทลี่ อยขนึ้ ม าเกยหาดบริเวณหมูเ่ กาะสรุ นิ ทร์ส ว่ นใหญ่เป็นเต่าท ไี่ ด้รบั บ าดเจ็บจ ากเครือ่ งมือป ระมงอย่าง อวนหรือ ถูกสัตว์อ ื่นทำร้าย ซึ่งมีทั้งเสียชีวิตแล้วและยังมีชีวิตอยู่ โดยชนิดเต่าท ี่พบเกยหาดเป็นเต่าหญ้าและเต่ากระ ดังนี้
เมือ่ วันที่ 27 พฤศจิกายน 2549 พบ u ซากเต่าหญ้า ขนาดกว้างประมาณ 60 ซม. สภาพเหลือแ ต่ส ว่ นกระดอง และลำตัวลอย ขนึ้ ม าเกยหาดบริเวณ อ่าวเต่า
61
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2550 พบเต่า u หญ้า ขนาดกว้างประมาณ 40 ซม. ได้รับบาดเจ็บโดนอวนบาดบริเวณ โคนครีบคู่หน้า ว่ายขึ้นมาเกยหาด อ่าวช่องขาด เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ให้การปฐมพยาบาลและปล่อยกลับ ลงสู่ทะเล
เมือ่ ว นั ที่ 2 พฤษภาคม 2551 พบเต่า u หญ้า ไม่ทราบขนาด มีสภาพเป็น ซากลอยขึ้นมาเกยหาดบริเวณหาด ด้านหลังของอ่าวไม้งาม (ชมรมคน รักเกาะสุรินทร์, 2551)
ที่มาภาพ: ชมรมคนรักเกาะสุรินทร์
sเมื่อว ันที่ 11 มกราคม 2553 พบซากเต่าท ะเลไม่ท ราบชนิดและขนาด ลอยขึ้นม าเกยหาดบริเวณอ่าวสุเทพ sเมื่อว ันที่ 29 สิงหาคม 2553 พบเต่ากระ ขนาดกว้างประมาณ 40 ซม. สภาพตัวพันติดกับเศษอวน ไม่มบี าดแผล ลอย มาเกยตื้นอยู่บริเวณหาดอ่าวกระทิง เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ทำการตัดเศษอวนดังกล่าวออกและปล่อยกลับลงสู่ทะเล
62
Chapter 4 ๔ บทที่
Sea Turtle : Protection and Conservation การปกป้องและการอนุรักษ์เต่าทะเล
63
ในประเทศไทยมีความพยายามที่จะอนุรักษ์เต่าทะเล เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการสูญพันธุ์โดยการประกาศใช้
กฎระเบียบ และกฎหมายเพือ่ ค มุ้ ครองตวั เต่าท ะเล รวมถึงแ หล่งให้กำเนิดห รือส ถานทีท่ เี่ ป็นแ หล่งว างไข่ และทสี่ ำคัญเพือ่ ป้องกันอ ันตรายจากเครื่องมือป ระมงประเภทต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประมง พ.ศ.2490 โดย ห้ามการดกั จับ ล่อ ฆ่า หรือ ทำอันตรายเต่าท ะเลทกุ ชนิด รวมถึงไข่เต่าท ะเล พ.ร.บ.สงวนและคมุ้ ครองสตั ว์ปา่ พ.ศ.2535 กำหนดให้เต่าท ะเลเป็นส ตั ว์ค มุ้ ครอง ห า้ มมเี ต่าท ะเล หรือ ซากของเต่าท ะเล หรือ ผลิตภัณฑ์จ ากเต่าท ะเลไว้ในครอบครอง หรือ ส่งออกนอกราชอาณาจักร และ พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 ห้ามไม่ให้ทำอันตราย หรือ ก่อให้เกิดความ เสื่อมสภาพต่อดิน หิน กรวด ทราย และก่อความเดือดร้อนรำคาญใดๆ แก่สัตว์ ในระดับนานาชาติ เต่าท ะเลทุกสายพันธุ์ ถูกจัดอยู่ในบัญชีตามสนธิสัญญาการค้าส ัตว์ที่ใกล้จะสูญพันธุ์ระหว่างประเทศ (Convention of International Trade in Endangered Species, CITES) ในปี พ.ศ. 2518 เพื่อห ้ามไม่ให้ประเทศสมาชิกนำเข้าแ ละส่งออกเต่าท ะเล ซากเต่า ทะเล หรือ ส่วนหนึ่งส่วนใดของเต่าทะเลเพื่อการค้า สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงหนทางหนึ่งที่ช่วยคุ้มครองเต่าทะเลนอกเหนือ จากการให้ความรู้ สื่อป ระชาสัมพันธ์ และปลูกจิตสำนึกให้กับประชาชนรู้ถึงความสำคัญและร่วมกันปฎิบตั ิตามกฎหมาย (กฎหมายต่างๆ ในการอนุรักษ์เต่าทะเล ดูในภาคผนวก)
64
4.1แนวทางการอนุรักษ์ในปัจจุบัน กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชม ีนโยบายและแนวทางการอนุรักษ์ท ี่มุ้งเน้นก ารปกป้องและคุ้มครองเต่าท ะเล และระบบนิเวศของเต่าทะเลที่ประกอบด้วยแหล่งอาหาร แหล่งอาศัยและแหล่งวางไข่เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการ จัดการแหล่งวางไข่เต่าทะเลของประเทศ การปฏิบัติงานด้านการอนุรักษ์ของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์จึงมุ่ง ปฏิบตั งิ านเพือ่ ป กป้องแหล่งว างไข่ โดยปล่อยให้ล กู เต่าได้เกิดจ ากหลุมท แี่ ม่เต่าเลือกและวางไข่แ ละได้ล งสทู่ ะเลทนั ทีที่ ออกจากรังตามธรรมชาติ พร้อมกับสร้างและพัฒนาเครือข่ายทำงานเฝ้าระวังของคนในพื้นที่ เครือข่ายนถี้ ูกจัดตั้งใน ปี พ.ศ.2552 ในชื่อ “เครือข่ายร่วมเฝ้าระวังแหล่งวางไข่เต่าทะเล” โดยมีภารกิจหลักคือเฝ้าระวังและจัดการแหล่งวางไข่ อย่างมีประสิทธิภาพและถูกต้อง รวมถึงศึกษาเก็บรวบรวมข้อมูลแ หล่งวางไข่แ ละเต่าท ะเล และประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ ข้อมูล ความรู้แก่นักท่องเที่ยวและประชาชน
65
66
การดำเนินงานด้านการสำรวจและเฝ้าระวังการขึ้นวางไข่ของเต่าทะเลถูกปฏิบัติอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุก สัปดาห์ (หรือเมื่อได้รับแจ้งการพบการขึ้นวางไข่) เพื่อเก็บบันทึกข้อมูลการขึ้นวางไข่คู่ขนานไปกับการติดตาม การเปลี่ยนแปลงสภาพแหล่งวางไข่ โดยการบันทึกข้อมูลสัณฐานของหาดทุกเดือนและนำมาวิเคราะห์ความ เหมาะสมของพนื้ ท ตี่ อ่ ก ารเป็นแ หล่งว างไข่เพือ่ ว างแผนรบั มือก บั ส ถานการณ์เสีย่ งทอี่ าจเกิดข นึ้ กับร งั ไข่ในอนาคต รังไข่ท ไี่ ด้รบั ก ารเฝ้าระวังจ ะถกู ป กป้องจากอนั ตราย เช่น การลกั ลอบขดุ เพือ่ น ำไข่ไปกนิ ห รือข ายโดยมนุษย์ และ การรบกวนจากสัตว์ผู้ล่าบนบก ข้อมูลสภาพรังไข่จะถูกบันทึกท ุกส ัปดาห์เพื่อวิเคราะห์อัตราการฟักและสาเหตุ ของปัญหาที่อาจเกิดขึ้นภายในรังไข่ ชายหาดที่อยู่นอกเขตพื้นที่ใช้ประโยชน์และเป็นแหล่งวางไข่ได้รับการ ปกป้องจากกจิ กรรมทอ่ งเทีย่ วทกุ ป ระเภท และมกี จิ กรรมเก็บข ยะให้ก บั ห าดทเี่ ป็นแ หล่งว างไข่ท กุ ส ามเดือนเพือ่ เพิม่ พ นื้ ทีว่ างไข่แ ละเพือ่ ป ลูกฝังจ ติ สำนึกในการอนุรกั ษ์ และให้ค วามรูแ้ ก่น กั ท อ่ งเทีย่ ว และชมุ ชนมอแกน บริเวณ อาคารนิทรรศการและตู้หนังสือได้จัดแสดงข้อมูล ข่าวสารต่างๆในรูปแบบ 2 มิตแิ ละ 3 มิติ เช่น แหล่งว างไข่ เต่าท ะเล คูม่ อื ส ำรวจและเฝ้าระวังแ หล่งว างไข่เต่าท ะเล และสำหรับผ ทู้ สี่ นใจสามารถเข้าร่วมกจิ กรรมสำรวจเต่า ทะเลบริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ร ่วมกับอุทยานฯ ได้ด ้วย
67
68
4.2 แผนการอนุรักษ์ในอนาคต ระยะเวลา 2 ปี อุทยานฯ พยายามเติมเต็มช่องโหว่เรื่องการอนุรักษ์แหล่งวางไข่เต่าท ะเลในพื้นที่ที่ ถึงแม้จ ะมปี ระกาศกฎระเบียบ กฎหมายเพือ่ ค มุ้ ครองเต่าท ะเลอยูแ่ ล้วแต่ก ย็ งั คงพบจดุ บ กพร่อง การ บังคับใช้ก ฎทไี่ ม่เพียงพอประกอบกบั ก ารไม่ป ฏิบตั ติ ามของผอู้ ยูใ่ ต้ก ฎหมายยงั เป็นเรือ่ งสำคัญท ตี่ อ้ ง แก้ไขเพือ่ ป อ้ งกันปัญหาทีอ่ าจเกิดขึน้ การควบคุมก จิ กรรมบนชายหาดและในทะเลของนกั ท อ่ งเทีย่ ว และเรื อป ระเภทต่างๆ ที่รบกวนเต่าท ะเลจ ะต้องเข้มงวดแ ละมีสื่อประชาสัมพันธ์ที่ชัดเจน เข้าใจได้ง่าย กระบวนการศึกษา เก็บรวบรวมข้อมูลต้องสามารถตอบโจทย์ปัญหาที่มีอยู่เดิมให้ได้เพื่อเป็น ฐานข้อมูลในการจัดการและตัดสิน เช่น วัฏจักรการเปลี่ยนแปลงสัณฐานของหาด การระบุต ัวเต่า ทะเล เส้นทางการเดินทาง ความชุกชุมของเต่าท ะเล สิ่งเหล่านีจ้ ำเป็นต ้องอาศัยเทคโนโลยีแ ละการ ประสานกับผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงสมาชิกเครือข่ายร่วมฯ ก็ต้องพัฒนาศักยภาพในการทำงานเพิ่มขึ้น สื่อประชาสัมพันธ์การทำงานด้านการอนุรักษ์ของอุทยานฯ จำเป็นต้องยกระดับสู่มวลชน เพราะ แม้ว่าแนวทางการทำงานเพื่อการอนุรักษ์แ หล่งวางไข่เต่าท ะเลจะเป็นท ี่ยอมรับในระดับสากล แต่ก็ ยังพบกลุ่มคนที่ยังไม่สามารถเข้าถึงและเข้าใจได้ การผลิตสื่อประชาสัมพันธ์การอนุรักษ์จึงจะมุ่งให้ ผู้ชมได้เข้าใจความสำคัญของแหล่งวางไข่ และประโยชน์ของการปกป้องรักษา รวมถึงเพิ่มการมี ส่วนร่วมในกลุ่มนักท่องเที่ยวเรื่องการเฝ้าระวังและติดตามแหล่งวางไข่เต่าท ะเล
69
เต่ากระ บริเวณเกาะตอรินลา
70
4.3การมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์และการจัดการ เครือข่ายรว่ มเฝ้าระวังแ หล่งว างไข่เต่าท ะเลจดั ต งั้ ขึน้ ด ว้ ยจดุ ประสงค์เพือ่ ให้เกิดค วามรว่ มมือในการทำงานดา้ นการอนุรกั ษ์ ระหว่างเจ้าหน้าท อี่ ทุ ยานฯ แ ละภาคชมุ ชน เช่น ช มุ ชนมอแกนผซู้ งึ่ ถ อื ว่าเป็นเจ้าของบา้ นรว่ มกนั บ นหมูเ่ กาะสรุ นิ ทร์ ท งั้ สอง กลุม่ ร ว่ มกนั ม บี ทบาทสำคัญต งั้ แ ต่เริม่ ต้นเพือ่ ช ว่ ยกนั ค ดิ ว างแผนงาน ว ธิ ดี ำเนินงาน ว ธิ แี ก้ปญ ั หา แ ละรว่ มกนั ล งมือป ฏิบตั ิ ตามความสามารถที่ตนมี แม้ว่ามอแกนในชุมชนไม่ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกเครือข่ายฯ ทุกคน และยังคงพบการบริโภคเนื้อ เต่าทะเลอยู่ แต่มอแกนทุกคนก็เต็มใจให้ข้อมูล ความรู้ที่เป็นภูมิปัญญาเรื่องเต่าทะเล แจ้งเบาะแสเมื่อพบการขึ้นวางไข่ และให้ความช่วยเหลือกับเจ้าหน้าที่อุทยานฯ สิ่งเหล่านี้แสดงการเริ่มต้นที่ดีที่อาจยังไม่สมบูรณ์แต่จะพัฒนาได้ในอนาคต ภ าคการทอ่ งเทยี่ ว เช่น เจ้าหน้าท บี่ ริษทั ท วั ร์จ ากบริษทั ก รีนว วิ ซ าบนี า่ บ าราคูด า้ เม็ดทราย ไดมอนต์ท วั ร์ แ ละ ท อมแอนด์ แอม ฯ ลฯ เป็นอ กี ส ว่ นหนึง่ ท มี่ บี ทบาทรว่ มในการอนุรกั ษ์ผ า่ นการประชาสมั พันธ์ให้ก บั น กั ท อ่ งเทยี่ วผทู้ สี่ นใจจะชว่ ยสำรวจ เต่าทะเลบริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ ห น่วยงานราชการ (ในพื้นท ี่) ได้แก่ หน่วยรักษาความปลอดภัยทางทะเล ฝั่งทะเลอันดามัน (ทหารเรือ) และหน่วยป้อง กันและปราบปรามประมงทะเลอันดามัน (กรมประมง)มีส่วนร่วมสำรวจเต่าทะเลหมู่เกาะสุรินทร์ และเก็บข ยะชายหาด (นอกพื้นที่)ได้แก่ สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเล และป่าชายเลน จ ังหวัดภูเก็ต ป ัจจุบันสมาชิกเครือข่ายร่วมฯ มีจำนวนทั้งสิ้น 98คน เป็นเจ้าหน้าท ี่อุทยานฯ 39คน มอแกน 23คน นักท่องเที่ยวและ เจ้าหน้าที่บริษัททัวร์ 22คน เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานราชการในพื้นที่และนอกพื้นที่ 14 คน
71
ไข่เต่าทะเลจากหาดทรายขาวเล็กที่ตัวอ่อนตายขณะพัฒนาจากการขนย้ายที่ผิดและไม่เหมาะสม
References เอกสารอ้างอิง
ก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์. 2553. เต่ามะเฟืองยักษ์วางไข่ชายหาด. หนังสือพิมพ์ข่าวสดรายวัน วันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2553 ปีที่ 19 ฉบับที่ 6976. เข้าล่าสุดเมื่อเดือนกันยายน 2553. URL: http://board.palungjit.com/f178/ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ ทำนายกันจริงๆหรือไม่-3906-908.html ชมรมคนรักเกาะสุรินทร์. 2551. สรุปกิจกรรม คืนบ้าน#5, 1-3 พฤษภาคม 2551 (รูปภาพ). เข้าล่าสุดเมื่อเดือนกันยายน 2553. URL: http://www.savekohsurin.com/ webboard/topic.php?topicid=1882. สมบูรณ์ พรพิเนตพงศ์. 2549. กระบวนการของชายฝั่งและผลกระทบจากงานวิศวกรรมชายฝั่ง. เข้าล่าสุดเมื่อเดือนกันยายน 2553. URL: http://www.combiolaw.de/article/201/. สุพจน์ จันทราภรณ์ศิลป์. 2544. ชีววิทยาและการอนุรักษ์เต่าทะเลไทย เอกสารประกอบการสอนวิชา นิเวศวิทยาทางทะเลภาคฤดูร้อน ปี 2544. สถาบันวิจัยชีววิทยาและประมงทะเล สถาบัน วิจัยชีววิทยาและประมงทะเล. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์. 2552. รายงานฉบับสมบูรณ์ โครงการสร้างเครือข่ายร่วมระหว่าง ชุมชนมอแกนและอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์เพื่อดูแลทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล ในพื้นที่อนุรักษ์. จังหวัดพังงา. Chantrapornsy l.S. 1992. Artificial incubation and embryonic development of olive ridley turtle eggs (Lepidochelys olivacea). Phuket mar. boil. Cent. Res. Bull, 57: 41-50. Florida Power & Light Company. 2002. Florida’s Sea Turtles. Victoria Brook Van Meter Miami. Florida. Friends of the National Parks Foundation. Olive Ridley Turtle (Picture). Retrived on September, 2010. URL: http://www.fnpf.org/rehabilitation_3.htm. Spotila J.R., Edward A.S., Stephen J.M. & Georgita J.R. 1987. Temperature Dependent Sex Determination in the Green Turtle (Chelonia mydas): Effects on the Sex Ratio on a Natural Nesting Beach. Herpetologica, 43(1): 74-81, (Mar., 1987). Mrosovsky N., Bass, A., Corliss, L.A., Richardson, J.I. & Richardson, T.H. 1992. Pivotal and Beach Temperatures for Hawksbill Turtles Nesting in Antigua. Canadian Journal of Zoology, 70:1920-25.
Appendix ภาคผนวก
กฏหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์เต่าทะเล 1. ประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ลงวันที่ 14 เมษายน 2490 อาศัยอ ำนาจตามความ ใน มาตรา 32 (7) แห่งพระราชบัญญัติการประมงพ.ศ. 2490 “ ห้ามมิให้บุคคลใด จับ ดัก ล่อ ทำอันตราย หรือ ฆ่าเต่าทะเล และ กระทะเล ทุกชนิดโดยเด็ดขาด แม้เต่าห รือกระนั้นจะติดห รือถูก จับขึ้นมาด้วยเครื่องมือใด ๆ ก็ตามให้ปล่อยลงทะเลไปทันที่รวมทั้งห้ามมิให้บุคคลใด เก็บ หรือ ทำอันตรายไข่เต่าท ะเล และ ไข่ก ระทะเล ทุกชนิดในหาดทกุ แห่ง เว้นแต่ผ ทู้ ไี่ ด้รบั อ นุญาตจากพนักงาน เจ้าหน้าที่ 2. กฏกระทรวงฉบับท ี่ 14 (พ.ศ. 2535) ออกตามความในพระราชบญ ั ญัติ สงวนและคมุ้ ครอง สัตว์ป่า พ.ศ. 2503 กำหนดให้เต่ากระเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองประเภท 1 ดังนั้นจึงห้ามฆ่าหรือมีไว้ ครอบครอง ซากของเต่ากระ เว้นแต่จ ะได้รับอ นุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ 3. พระราชกฤษฎีการะบุสัตว์น้ำ ผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำบางชนิดห ้ามมีไว้ในครอบครองเพื่อการ ค้า พ.ศ. 2535 ซึง่ เนือ้ หาของพระราชกฤษฎีกาครอบคลุมร วมทัง้ เต่าแ ละกระทะเล ตลอดจนผลิตภัณฑ์ ของเต่า และกระทะเลด้วย 4. ประกาศกระทรวงพาณิชย์ ว่าด้วยการส่งสินค้าออกนอกราชอาณาจักรฉบับที่ 58 ปี พ.ศ. 2534 ข้อความในประกาศกระทรวงพาณิชย์ฉบับนี้ครอบคลุมถึงการห้ามส่งออกเต่าและกระทะเล ตลอดจนผลิตภัณฑ์ของเต่าและกระทะเลด้วย 5. ประกาศกรมประมง เรื่องการใช้พระราชบัญญัตสิ งวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 ข้อความในประกาศกรมประมงฉบับนี้ ได้รวมเต่าทะเลและกระทะเลเป็นสัตว์สงวนเช่นเดียวกันกับ สัตว์อ ื่นๆ อีกห ลายชนิด นอกจากกฏหมายในประเทศหลายข้อที่มุ่งอนุรักษ์เต่าทะเลของไทยแล้ว ยังมีกฏหมาย ระหว่างประเทศ ที่ได้เห็นพ้องต้องกันให้มีการเข้มงวดในการอนุรักษ์เต่าทะเลของโลกไว้ด้วย ซึ่ง มาตรการที่สำคัญได้แก่ ั ญา CITES ห้ามประเทศสมาชิกน ำเข้าแ ละสง่ ออก เต่า, กระ, ซากเต่าห รือส ว่ นหนึง่ s อนุสญ ส่วนใด ของเต่า และกระเพื่อการค้า ซึ่งนับว่าเป็นการร่วมมือกันอนุรักษ์เต่าท ะเลในระดับประเทศ
s การรณรงค์ให้ใช้เครื่องมือแ ยกเต่าอ อกจากอวนลาก Turtle Exclusive Device (TED)
Memo บันทึก
________________________________________________________________ ________________________________________________________________ ________________________________________________________________ ________________________________________________________________ ________________________________________________________________ ________________________________________________________________ ________________________________________________________________ ________________________________________________________________ ________________________________________________________________ ________________________________________________________________ ________________________________________________________________ ________________________________________________________________ ________________________________________________________________ ________________________________________________________________ ________________________________________________________________ ________________________________________________________________ ________________________________________________________________ ________________________________________________________________ ________________________________________________________________ ________________________________________________________________ ________________________________________________________________ ________________________________________________________________ ________________________________________________________________ ________________________________________________________________ ________________________________________________________________ ________________________________________________________________ ________________________________________________________________ ________________________________________________________________ ________________________________________________________________ ________________________________________________________________
Memo บันทึก
________________________________________________________________ ________________________________________________________________ ________________________________________________________________ ________________________________________________________________ ________________________________________________________________ ________________________________________________________________ ________________________________________________________________ ________________________________________________________________ ________________________________________________________________ ________________________________________________________________ ________________________________________________________________ ________________________________________________________________ ________________________________________________________________ ________________________________________________________________ ________________________________________________________________ ________________________________________________________________ ________________________________________________________________ ________________________________________________________________ ________________________________________________________________ ________________________________________________________________ ________________________________________________________________ ________________________________________________________________ ________________________________________________________________ ________________________________________________________________ ________________________________________________________________ ________________________________________________________________ ________________________________________________________________ ________________________________________________________________ ________________________________________________________________ ________________________________________________________________
รายชื่อสมาชิกเครือข่ายร่วมเฝ้าระวังแหล่งวางไข่เต่าทะเล อุทยานเห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ชาวมอแกน
นักท่องเที่ยว
ประชา
กล้าทะเล
สมศักดิ์
สลาม
Buboo
สีปาน
กล้าทะเล
ภัทรพงศ์
มากมูล
Alizabeth
เล็ก
กล้าทะเล
เกียรติศักดิ์
สุทธิมานนท์
Chris
โอเล่
กล้าทะเล
อารีย์
หมัดจุโกบ
Alizabeth’s friend
มูลิง
กล้าทะเล
วุฒิชัย
คมขำ
พี่เชียร ดำน้ำ
มอแต
กล้าทะเล
อนันทา
นุ่นแป้น
พี่ดำ ดำน้ำ
ยาเร็จ
กล้าทะเล
จันทิมา
จันทร์ช่วง
Oscar’s family
ปลา
กล้าทะเล
ผดุงผล
ศิลปะ
พี่วิน (Winnie the Math)
มุมุด
กล้าทะเล
เพียร
อินทนัย
ครอบครัวอาศน์ศิลารัตน์
เจียว
กล้าทะเล
ธีรพล
สุวรรณ
ครอบครัวสูอำพัน
นิน
กล้าทะเล
อุทัย
ศิลปเพชร
บาเซียว
กล้าทะเล
อนุสรณ์
และเยาะ
การ์ตูน
กล้าทะเล
ปาริชาติ
ขนาดผล
จินดา
กล้าทะเล
สถาพร
พรหมเจริญ
เฮ้ง
กล้าทะเล
ธัญญารัตน์
แก้วกา
ซาเละ
กล้าทะเล
กนกกร
นุ่นน้อย
หนอโมง
กล้าทะเล
กาหริม
วาโต๊ะ
เค
กล้าทะเล
อนุรักษ์
จันทร์เจิมพักตร์
เงย
กล้าทะเล
อีสา
หลงสลัม
โมเม
กล้าทะเล
เสาวภา
อาศน์ศิลารัตน์
น๊อด
กล้าทะเล
กรองแก้ว
สูอำพัน
สุรินทร์
กล้าทะเล
อดุลย์
ไบกาเด็น
เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์
น้องนิ น้องยะ
ไกด์ทัวร์
ลูกชายจ๊ะมล sabina
น้องเลาะ sabina น้องไอซ์ sabina พี่ไมตรี sabina พี่โก้ baracuda บังดำ staff green view บังฟาเรส staff green view บังคง greenview พี่เบียร์ Baracuda พี่ณพ baracuda พี่ลูกเกาะ Tom&Am พี่แชร์ Med Sai
วีรศักดิ์
ใฝ่สุข
วิรัช
บรรเลง
ฮามิช
หะสะเล็ม
เกษม
คงทอง
วิสูตร
ศรีสงวน
เอนก
วังมา
สมพร
ศรีมณี
พี่แฟรงค์
พิพบ
เดชประสิทธิ์
เจ้าหน้าที่หน่วยประมง
พี่วัต
สุรชัย
และเยาะ
ตาหลวง
ป๋าก้อง
ธีรพล
อยู่ประดิษฐ์
ป้าเล็ก
พี่อาร์ต
อุเทน
สังขะวัลลิ์
พี่เที่ยง
พี่เบิ้ม
สามารถ
สุระสาร
ลูกสาวป้าเล็ก
น้องกาเหว่า
PMBC
น้องไลลา
พี่ก้องเกียรติ
น้องต้อม
ชิน
ทหารเรือ อดีตหัวหน้าหน่วย
ลี พี่มุก
T h eC o n s e r v a t i o nof “
S e aT u r t l eNes t i n gA r e a s” : : MuK oS u r i nN a t i o n a l P a r k: :
โ ค ร ง ก า ร พั ฒน า ศ ก ั ย ภ า พเ ค ร อ ื ข า ย ร ว ม ร ะ ห ว า ง ช ม ุ ช น ม อ แ ก น แ ล ะ อ ท ุ ย า น แ ห ง ช า ต ห ิ ม เ ู ก า ะ ส ร ุ น ิ ท ร เ พื อ ่ ส ำ ร ว จ ค ว า ม ห ล า ก ห ล า ยแ ล ะ ส ถ า น ภ า พข อ ง ท ร พย ั า ก ร ธ ร ร ม ช า ต ท ิ า ง ท ะ เ ล