สวดมนต์ สะเดาะเคราะห์ต่อชะตา ทำให้อายุยืน

Page 1


ปันความรักห่วงใย ด้วยให้ความรู้แก่กัน ขอมอบหนังสือ

สวดมนต์สะเดาะเคราะห์ต่อชะตา ทำ�ให้อายุยืน

ด้วยอานิสงส์การให้ธรรมทานในครั้งนี้ ขอเดชะคุณพระพุทธรัตน์ก�ำ จัดทุกข์ ให้ข้าฯ สุขสิริศักดิ์มีหลักฐาน ขอเดชะคุณพระธรรมรัตน์กำ�จัดพาล ให้ข้าฯ นั้นผุดผ่องพ้นผองภัย ขอเดชะคุณพระสังฆรัตน์กำ�จัดโรค ให้หมดโศกสืบชนม์จนเกินขัย ขอเดชะคุณพระไตรรัตน์ดังฉัตรชัย โปรดคุม้ ภัยให้ขา้ พเจ้านัน้ พ้นบ่วงมารดังอธิษฐานเทอญ.


มหาอานิสงส์แห่งธรรมทาน สาธุชนผู้มีจิตเป็นกุศล จัดพิมพ์หนังสือธรรมะแจกจ่าย เป็นธรรมทาน ขอท่านโปรดจงภูมิใจในกรรมดีของตนเถิดว่า ได้เป็นผู้สร้างบุญกิจอันยิ่งใหญ่ที่จะทำ�ให้ได้รับผลบุญ ดังนี้ ๑. เมื่อยังต้องเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสาร ท่านจะได้ เกิดในตระกูลที่เป็นสัมมาทิฐิทุกภพชาติ ๒. เกิดมาในชาติใด จะไม่ไร้ญาติขาดมิตรคอยค้ำ�จุน ด้วยผลบุญที่เคยช่วยให้ผู้อื่นได้สติปัญญา ๓. เวรกรรมเก่าที่เคยทำ�ไว้ ติดตามไล่ล่าไม่ทัน เพราะมี อุปฆาตกกรรมฝ่ายกุศลจากการสร้างธรรมทานคอยห้ามไว้ ๔. ทำ�ให้ชีวิตส่วนตน และคนในครอบครัวมีความสุข กันถ้วนหน้า มีความรักเมตตาสามัคคีต่อกัน ๕. มีจิตเบิกบาน ผิวพรรณผ่องใส สุขภาพพลานามัย สมบูรณ์ดี ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บมาเบียดเบียน ๖. ทำ�ความเพียรประพฤติธรรมได้งา่ ยพลันสำ�เร็จเร็ววัน อันเป็นผลบุญจากการให้ปัญญาบารมีไว้เป็นทาน ๗. กิจการงานทีท่ �ำ อยูน่ นั้ จักสำ�เร็จเจริญรุง่ เรืองก้าวหน้า ด้วยดี แม้มีอุปสรรคปัญหาก็จะมีผู้ให้ความช่วยเหลือแก้ไข ๘. ไปในที่ใดก็จะมีแต่กัลยาณมิตร ชวนกันคิดชวนกัน ทำ�แต่ความดีงาม เพื่อสร้างสมบุญบารมีให้ชีวิตต่อไป ๙. ได้เสบียงบุญเป็นพลวปัจจัยอุปนิสัยตามส่งให้เข้าถึง กระแสแห่งมรรคผลนิพพานในอนาคตกาลข้างหน้าโน้นแล.

สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ


เคราะห์ร้ายในชีวิต พิชิตได้ด้วยปริตรธรรม สวดภาวนาอยู่ประจำ� ย่อมได้รับความคุ้มครองรักษา

โดย... ไพยนต์ กาสี บรรณาธิการ : ไพยนต์ กาสี น.ธ. เอก, ป.ธ. ๖, พธ.บ., น.บ. ปก/รูปเล่ม : สุกัญญา ศรีสงคราม พิสูจน์อักษร : มานิตย์ กองษา ภาพประกอบ : เทิดเกียรติ ปลูกปานย้อย, ธนรัตน์ ไทยพานิช


เคราะห์ร้าย พ่ายแพ้พระพุทธมนต์ ขณะกำ�ลังทำ�ต้นฉบับหนังสือเล่มนี้ ก็ประจวบเหมาะพอดี กับเทศกาลสงกรานต์ อันเป็นวันขึ้นปีใหม่ไทยแต่โบราณ และ ด้วยเหตุผเู้ ขียนมีถนิ่ ฐานเดิมอยูจ่ งั หวัดเชียงราย ยิง่ ทำ�ให้นกึ ถึง พิธีกรรมนิยมทำ�กันในช่วงนี้ คือ พิธีสืบชาตา และปี นี้ ไ ม่ ไ ด้ ก ลั บ บ้ า น พลั น ทำ � ให้ ฉุ ก คิ ด ว่ า ถ้ า คนที่ ไม่ได้กลับอยากทำ�พิธีสืบชาตาตามแบบล้านนาไทย หรือ คนในภาคอื่ น อยากทำ � มี วิ ธี ไ หนพอจะแนะนำ � เขาได้ บ้ า ง เพราะการทำ�พิธีเต็มรูปแบบนั้น โบราณาจารย์ท่านให้จัดหา สิ่งของประกอบพิธีมากโขอยู่ดูแล้วน่าอลังการตา หนังสือ สวดมนต์สะเดาะเคราะห์ตอ่ ชะตา ทำ�ให้อายุยนื เล่มนี้ ผู้เรียบเรียงเขียนขึ้นจากประสบการณ์ที่เคยได้ศึกษา กับพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระครูสิริธรรมานันท์ (บุญทา อานนฺโท) อดีตเจ้าอาวาสวัดศรีบุญเรือง อ. เมือง จ. เชียงราย ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์ โดยจัดลำ�ดับเนื้อหาสวดมนต์ตามที่เคย ร่วมพิธีสวดกับท่าน ด้วยจุดประสงค์เพื่อสร้างขวัญกำ�ลังใจ ให้ กับท่านที่กำ�ลังประสบกับเคราะห์หามยามร้าย และอยากให้ เร่งสร้างกรรมดีให้เกิดมีในตน เพื่อให้เกิดผลบุญไว้ต้านทาน เคราะห์กรรมร้ายที่ไล่ล่าท่านอยู่ขณะนี้ หวังว่าข้อคิดข้อธรรมทีเ่ ป็นคำ�สวดพร้อมคำ�สอนทีน่ �ำ มา ลงไว้เล่มนี้ จักช่วยให้ทา่ นพบทางสว่างสดใส ไม่มเี คราะห์ภยั มากลำ�้ กราย มีความสุขกายสุขใจด้วยกันทุกท่านเทอญ. ขอบุญบารมีที่ท่านสร้างไว้ เป็นเกราะป้องกันภัยให้ท่าน พ้นเคราะห์กรรม

น.ธ.เอก, ป.ธ. ๖, พธ.บ., น.บ. บรรณาธิการสำ�นักพิมพ์ แอล ซี พี เด็กดีมีบุญ


สะเดาะเคราะห์ต่อชะตา ท่านสามารถทำ�ได้ด้วยตนเอง

การทำ�พิธีสะเดาะเคราะห์ต่อชะตา เป็นพิธีกรรม ทีเ่ ราจะพบเห็นอยูเ่ ป็นประจำ�อันทำ�ให้เห็นว่า ความเชือ่ ในเรื่องนี้ ยากที่จะแยกออกจากวิถีชีวิตคนในสังคมไทย แม้ผู้คนส่วนใหญ่จะนับถือพระพุทธศาสนาก็ตาม และแม้แนวความคิดเรื่องนี้ ก็ยังมีข้อถกเถียงกัน อยู่ว่าสามารถสะเดาะเคราะห์ได้จริงหรือไม่ เพราะใน บางท่านก็เชื่อว่าสามารถตัดเคราะห์แก้กรรมที่เคยทำ� มาได้ บางคนก็ไม่เชือ่ เลยก็มี แต่กม็ หี ลายท่านก็เชือ่ แบบ ครึ่งๆ กลางๆ เข้าทำ�นองไม่เชื่อแต่ก็ไม่ลบหลู่ โดยให้ เหตุผลว่า ถ้าทำ�แล้วสบายใจ ไม่ได้เสียเงินทองมากมายก็ ทำ�ไปเถิด ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร เป็นต้น เพราะบางสิ่ง พิสูจน์ให้รู้เห็นด้วยตาเนื้อของคนปกติธรรมดาไม่ได้ บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด

5


เคราะห์ คืออะไร ? ท่านเคยสังเกตไหมว่า ในบางช่วงเวลาของชีวิตเรา ท่านทั้งหลาย ต้องประสบอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น กับตัวเองหรือคนใกล้ชิด ให้ต้องได้รับความเดือดร้อน วุน่ วาย ในบางรายก็มาเจ็บป่วยโดยทีไ่ ม่มเี ค้าลางมาก่อน เป็นต้น คำ�พูดทีค่ นมักจะใช้ปลอบใจตนอยูเ่ สมอ นัน่ ก็คอื คำ�ที่ว่า ช่างมันเถอะ ถือว่าฟาดเคราะห์ไป ฟาดเคราะห์คอื อะไร แล้วทำ�ไมเราจึงต้องมีเคราะห์ เราพอจะรูล้ ว่ งหน้าได้หรือไม่วา่ เมือ่ ไรเราจะมีเคราะห์อกี สิง่ เหล่านีม้ กั จะเป็นคำ�ถามทีต่ ามติดมาเสมอ ก่อนทีจ่ ะรู้ สิ่งเหล่านี้ ลองมารู้จักคำ�ว่า เคราะห์ กันก่อนดีกว่า เคราะห์ พจนานุ ก รม ฉบั บ ราชบั ณ ฑิ ต ยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒ ให้ความหมายว่า สิ่งที่นำ�ผลมาให้โดยไม่ คาดหมาย เช่น เคราะห์ดี เคราะห์รา้ ย แต่โดยมากนิยมใช้ ในทางที่ไม่ดี เช่นว่า มีเคราะห์, ฟาดเคราะห์ จากคำ�นิยามข้างต้นนั้น ก็ขอสรุปสั้นๆ ง่ายๆ ว่า “เคราะห์” คือ ต้องสะเดาะ ขนาดนั้นเลย เคราะห์ ด่วน เหรอพ่ อ หมอ เรื่องเลวร้ายทั้งหลาย ซึ่งมักเรียกกันว่า “ความซวย” ที่เราไม่อยากให้มันเกิดมี หรือทีไ่ ม่อยากประสบ แต่มนั ก็มเี หตุให้เกิดพบเจอจนได้ 6

ส ว ด ม น ต์

สะเดาะเคราะห์ต่อชะตา ทำ�ให้อายุยืน


เคราะห์ มาจากไหน ? เมื่อจะหาวิธีสะเดาะเคราะห์นั้น ก็ควรรู้กันว่ามันมี สาเหตุจากอะไร ? โดยในเบื้องต้น ขอนำ�ความเชื่อตาม หลักโหราศาสตร์มาแจกแจงให้ทราบกันก่อน

ที่มาของเคราะห์ตามหลักโหราศาสตร์ ตามตำ�ราโหราศาสตร์ นักปราชญ์ดา้ นนีช้ แ้ี นะไว้วา่ ดาวพระเคราะห์นั้น มีทั้งที่เป็นศุภเคราะห์ เคราะห์ดี และปาปเคราะห์ เคราะห์ร้าย ดาวพระเคราะห์ดวงใด ก็ดี โคจรมาเป็นโทษแก่ดวงชะตากำ�เนิด ในทำ�นองที่ เรียกว่า ฆาฏ และพระเคราะห์ที่เป็นทุกข์โทษเข้ามา เสวย หรือแทรกตามตำ�ราทักษาพยากรณ์ จะทำ�ให้ บังเกิดทุกข์โทษแก่เจ้าของชะตา เช่น เกิดเจ็บไข้ได้ป่วย บางทีทำ�ให้ซวยเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ และตามวิสัย ของมนุษย์ เมื่อรู้ว่าจะต้องบังเกิดทุกข์โทษ อันตราย แก่ตน ก็จะหากลวิธีปัดเป่าให้ภัยนั้นผ่านพ้นไป

บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด

7


ในเรื่องการเชื่อถือเทวดา ว่าอาจจะบันดาลผลดี และผลร้ายให้ มิใช่เพียงคนธรรมดาเท่านั้นที่เชื่อกัน แม้แต่เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน ก็ทรงมีความเชื่อเลื่อมใส เช่น องค์พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยูห่ วั รัชกาลที่ ๔ ซึ่ ง ทรงเป็ น ปราชญ์ ใ นศาสตร์ ทุ ก ชนิด ทั้งพุทธศาสตร์ โหราศาสตร์ รัฐศาสตร์ ฯลฯ เป็นต้น พระองค์ ท่ า นทรงเชื่ อ ถื อ เทวดามากจึ ง ทรงโปรดให้สร้างพระสยามเทวาธิราชขึ้นไว้ในพระบรมมหาราชวัง และแม้ทกุ วันนีเ้ จ้านายฝ่ายใน ข้าราชการชัน้ ผูใ้ หญ่ ก็ให้ความเชือ่ ถือ ประพฤติปฏิบตั ใิ นเทวตาพลีอยูเ่ สมอมา นอกจากนั้น การสะเดาะเคราะห์ต่อชะตา ยังเป็น พิธที เี่ นือ่ งมาแต่ความเชือ่ ในทางศาสนาพราหมณ์ ได้แก่ การบูชาเทวดาประจำ�ชีวติ ของแต่ละบุคคล ซึง่ ถือกันว่า คนที่เกิดมา ต้องมีเทวดาพระเคราะห์เสวยอายุ เช่น คนเกิดวันอาทิตย์ นับแต่ตกฟากไปพระอาทิตย์ เสวยอายุอยู่ ๖ ปี พอครบ ๖ ปีก็ออกพ้นหน้าที่ ต่อไป เทวดาจันทร์เข้าเสวยอายุต่ออีก ๑๕ ปี รวมอายุได้ ๒๑ ปีบริบูรณ์ พระจันทร์ก็พ้นหน้าที่ออกไป เทวดาอังคาร เข้าเสวยอายุตอ่ อีก ๘ ปี เวียนกันไปดังนี้ จนหมดอายุขยั ของบุคคลนัน้ ๆ จึงรวมเทวดาทีเ่ ข้ามาเสวยอายุมี ๘ องค์ และมีเทวดาช่วยอีก ๑ องค์ คือ เทวดาพระเกตุ เป็นต้น 8

ส ว ด ม น ต์

สะเดาะเคราะห์ต่อชะตา ทำ�ให้อายุยืน


เทวดานพพระเคราะห์ ๑. เทวดาพระอาทิตย์ มีกำ�ลัง ๖ ตามตำ�นานว่าเกิดจากราชสีห์ ๖ ตัว มีสีแดงเป็นสีประจำ� เป็นพระเคราะห์ ฝ่ายเข้มแข็งเป็นธาตุไฟ ประจำ�อยู่ทิศ อีสาน (ตะวันออกเฉียงเหนือ) ให้บูชา พระพุทธรูปปางถวายเนตร ๒. เทวดาพระจันทร์ มีกำ�ลัง ๑๕ ตามตำ�นานว่า เกิดจากนางฟ้า ๑๕ ตน มีสีขาวเหลืองเป็นสีประจำ� เป็น พระเคราะห์ฝ่ายอ่อนโยน เป็นธาตุดิน ประจำ � อยู่ ทิ ศ บู ร พา (ตะวั น ออก) ให้บูชาพระพุทธรูปปางห้ามพยาธิ ๓. เทวดาพระอังคาร มีกำ�ลัง ๘ ตามตำ � นานว่ า เกิ ด จากกระบื อ ๘ ตั ว มี สี ช มพู เ ป็ น สี ป ระจำ � เป็ น พระเคราะห์ฝ่ายเข้มแข็ง เป็นธาตุลม ประจำ�ทิศอาคเนย์ (ตะวันออกเฉียงใต้) ให้บูชาพระพุทธรูปปางไสยาสน์ บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด

9


๔. เทวดาพระพุธ (เกิดกลางวัน) มีกำ�ลัง ๑๗ ตามตำ�นานว่า เกิด จากคชสาร ๑๗ เชื อ ก มี สี เ ขี ย ว ใบไม้เป็นสีประจำ� เป็นพระเคราะห์ ฝ่ายอ่อนโยน เป็นธาตุนำ้� ประจำ�อยู่ ทิศทักษิณ (ใต้) ให้บูชาพระพุทธรูป ปางอุ้มบาตร ๕. เทวดาพฤหัสบดี มีกำ�ลัง ๑๙ ตำ�นานว่า เกิดจากฤาษี ๑๙ องค์ มีสเี หลืองเป็นสีประจำ� เป็นพระเคราะห์ ฝ่ายอ่อนโยนเป็นธาตุดิน ประจำ�อยู่ทิศ ปัจฉิม (ทิศตะวันตก) ให้บูชาพระพุทธ รูปปางสมาธิ ๖. เทวดาพระศุกร์ มีกำ�ลัง ๒๑ ตามตำ � นานว่ า เกิ ด จากคาวี โ ค ๒๑ ตัว มีสีน้ำ�เงินหรือสีคราม หรือ สีประภัสสรเป็นสีประจำ� เป็นพระเคราะห์ ฝ่ า ยอ่ อ นโยน เป็ น ธาตุ นำ้ � ประจำ�อยู่ทิศอุดร (เหนือ) ให้บูชา พระพุทธรูปปางทรงรำ�พึง 10

ส ว ด ม น ต์

สะเดาะเคราะห์ต่อชะตา ทำ�ให้อายุยืน


๗. เทวดาพระเสาร์ มีกำ�ลัง ๑๐ ตำ � นานว่ า เกิ ด จากพยั ค ฆ์ เ สื อ ๑๐ ตั ว มี สี ดำ � เป็ น สี ป ระจำ � เป็ น พระเคราะห์ฝ่ายเข้มแข็ง เป็นธาตุไฟ ประจำ�อยู่ทิศหรดี (ตะวันตกเฉียงใต้) ให้บูชาพระพุทธรูปปางนาคปรก ๘. เทวดาราหู (เกิดวันพุธกลางคืน) มีกำ�ลัง ๑๒ ตำ�นานว่า เกิดจาก หัวผีโขมด ๑๒ หัว มีสีม่วงหรือดำ�สลัว เป็นสีประจำ� เป็ น พระเคราะห์ฝ่าย เข้ ม แข็ ง เป็ น ธาตุ ล ม ประจำ � อยู่ ทิศพายัพ (ตะวันออกเฉียงเหนือ) ให้ บูชาพระพุทธรูปปางป่าเลไลย์ ๙. เทวดาพระเกตุ มีกำ�ลัง ๙ ตำ�นานว่า เกิดจากพระยานาค ๙ ตัว มีสีทองชมพูนุทเป็นสีประจำ� เป็น พระผู้ช่วยดวงชะตา ไม่ได้เข้าเสวย อายุคน บางตำ�ราท่านว่าสำ�หรับคนที่ ไม่รู้วันเกิด ให้บูชาเทวดาองค์นี้ เป็น วิ ญ ญาณธาตุ ประจำ � อยู่ มั ธ ยมทิ ศ (จุ ด ศู น ย์ ก ลางดวงชะตา) ให้ บู ช า พระพุทธรูปปางมารวิชัย บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด

11


ที่มาของเคราะห์ตามหลักพุทธศาสนา ส่วนเคราะห์ดีหรือร้าย ในทางพระพุทธศาสนา พระพุทธเจ้าทรงวางหลักวินจิ ฉัยง่ายๆ ไม่ยงุ่ ยากซับซ้อน อะไรว่า บุคคลหว่านพืชเช่นไร ย่อมได้รบั ผลจากพืชเช่นนัน้ คนทำ�ดี ย่อมได้รับผลดี คนทำ�ชั่ว ย่อมได้รับผลชั่ว จากหลักดังกล่าวจึงสรุปได้ว่า เคราะห์นั้น เกิด อำ�นาจกรรม ไม่ว่าจะเป็นกรรมเก่า หรือกรรมปัจจุบัน ที่ทำ�ไว้ ทำ�ให้เราได้ประสบกับเคราะห์กรรมเช่นนี้ แล้วมีอะไรเป็นเหตุชกั ใยให้เราก่อกรรม โดยเฉพาะ ในสิ่งที่เป็นความชั่วช้าทั้งหลาย จนทำ�ให้มีเคราะห์หาม ยามร้ายติดตามมาให้ผล ซึง่ ก็คงหนีไม่พน้ ไปจากกิเลสที่ เป็นหัวโจกใหญ่ คือเจ้าความ... โลภ โกรธ หลง นั่นเอง ซึ่งเป็นตัวเร่งให้เราก่อกรรม ทั้งนี้ ไม่ว่าเคราะห์จะเกิดจากเหตุอะไร ทุกคน ต่างก็ไม่ปรารถนาจะพบกับเคราะห์ที่เป็นผลร้ายทั้งสิ้น แล้วมีวิธีไหนที่จะบรรเทาเคราะห์ร้ายให้ห่างหายไป ทำ � เช่ น ไรเคราะห์ ที่ ดี อ ยู่ แ ล้ ว ให้ ดี ยิ่ ง ขึ้ น การทำ � พิ ธี สะเดาะเคราะห์จงึ เข้ามามีบทบาทในชีวติ เพราะเมือ่ ว่า โดยผล การทำ � พิ ธี นี้ มี ผ ลต่ อ จิ ต ใจผู้ ทำ � โดยตรง คื อ เกิดความสบายใจ คลายความทุกข์ ไปได้ระดับหนึ่ง คนเราเมื่อมีความสบายใจแล้ว ย่อมมีสติปัญญาในการ แก้ปัญหาต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น 12

ส ว ด ม น ต์

สะเดาะเคราะห์ต่อชะตา ทำ�ให้อายุยืน


บูชาเทวดาพระเคราะห์ ผิดหลักพระพุทธศาสนาหรือไม่?

พระอาทิตย์ ๖

พระศุกร์ ๒๑

พระจันทร์ ๑๕

พระเกตุ ๙

พระราหู ๑๒

พระอังคาร ๘

พระพุธ ๑๗ พระเสาร์ ๑๐

พระพฤหัสบดี ๑๙

การบูชาเทวดานพเคราะห์ ต่อเทวดาที่เสวยอายุ ตนอยู่ และทีจ่ ะมาเสวยอายุตนต่อไป ในงานทำ�บุญฉลอง อายุของตนก็ดี หรือเวลามีเรื่องราวร้ายๆ เกิดแก่ตน โดยไม่รสู้ าเหตุวา่ เกิดจากอะไร แต่โดยส่วนลึกของจิตใจ ของผูอ้ ยากทำ�พิธมี กั จะคิดเสมอว่า ขณะนีช้ ะตาชีวติ ของ ตนกำ�ลังอยู่ในช่วงเคราะห์ร้ายนั้น ถ้ า พิ จ ารณากั น ตามหลั ก พระพุ ท ธศาสนาแล้ ว การบูชานพเคราะห์เข้ากันได้กบั พุทธศาสนาเป็นอย่างดี เช่น หลักเรื่องพลีกรรม ๕ ได้มีคำ�ว่า “เทวตาพลี” สอนให้ทำ�บุญอุทิศให้เทวดาอยู่ด้วย บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด

13


ดังนั้น แม้ว่าการทำ�พิธีสะเดาะเคราะห์ต่อชะตา โดยเฉพาะการบูชาเทวดานพเคราะห์ จะมีที่มาจาก ความเชื่อทางศาสนาพราหมณ์ก็ตามที แต่ทั้งนี้ ควรจะทำ�ความเข้าใจให้ตรงกันก่อนว่า สำ�หรับท่านผู้ที่จะได้ ไม่ยากเลย อยากเป็น ทํ ากรรมดีสิ เทวดาจัง มาเกิดเป็นเทวดา ในภพภูมิต่างๆ นั้น แสดงว่าต้องเป็นผู้ที่ได้ สั่งสมอบรมคุณงามความดี มามิใช่น้อยจึงจะเป็นเทวดาได้ และเมื่อผู้ใดทำ�ความเคารพสักการะเทวดา ก็เป็น การให้ความเคารพบูชาผูท้ มี่ คี ณ ุ ความดีนนั่ เอง การบูชา ผู้มีคุณงามความดีนั้น พระพุทธองค์ตรัสว่า เป็นมงคล ชีวิตประการหนึ่ง จึงจะหาโทษอะไรมิได้ ย่อมประสบ แต่ผลดีอย่างเดียว ส่วนผูน้ บั ถือพระพุทธศาสนา ได้นบั ถือ พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ ว่าเป็นใหญ่กว่าเทวดาอยู่แล้วก็ จริงแต่ก็ยังมีความปรารถนาที่จะทำ�พลีกรรมบวงสรวง เทวดาเพื่ อ ให้ ต นได้ รั บ ความเจริ ญ ก้ า วหน้ า เพิ่ ม พู น จากคุณของเทวานุภาพอีกฝ่ายหนึ่งยิ่งๆ ขึ้นไป และ ปรารถนาจะให้เทวดาได้กระทำ�ปัตตานุโมทนามัยส่วน บุญของตนอีกด้วย จึงได้คิดประกอบพิธีกรรมในทาง พระพุทธศาสนา รวมเข้ากับทางพราหมณ์ แล้วอุทศิ กุศล ทางพระพุทธศาสนาเป็นพลีแก่เทวดา 14

ส ว ด ม น ต์

สะเดาะเคราะห์ต่อชะตา ทำ�ให้อายุยืน


สวดมนต์

กุศลพิธีช่วยให้พ้นเคราะห์ การประกอบสะเดาะเคราะห์ต่อชะตา ถ้าจะทำ�ให้ ครบตามตำ�ราที่โบราณาจารย์ท่านวางไว้ ต้องใช้เครื่อง ประกอบพิธจี �ำ นวนมากมาย ต้องมีคา่ ใช้จา่ ยเป็นธรรมดา จึ ง อยากแนะนำ � ว่ า ถ้ า ประสงค์ ทำ � พิ ธี ก็ ร อโอกาสดี ที่ทางวัดจัดดีกว่า จะได้ประหยัดเงินทองไม่ต้องเสีย ค่าใช้จ่ายเยอะเกินไป อีกทั้งยังได้ทำ�บุญไปในตัวด้วย อีกหนึง่ วิธที ชี่ ว่ ยท่านประหยัดยิง่ ขึน้ ไป แต่กไ็ ด้ผลดี เช่นกัน คือ การสวดมนต์ไหว้พระ เพือ่ สะเดาะเคราะห์ ต่อชะตาด้วยตัวของท่านเอง วิธีนี้นอกจากประหยัด ท่านยังสามารถทำ�ได้ทุกวันเวลา ไม่ต้องรอโอกาส แต่ประการใด ทำ�ไมผู้เรียบเรียงถึงกล่าวว่า การสวดมนต์ จะเกิด ผลดีจนท่านพ้นเคราะห์ได้ ประเด็นนีก้ ค็ งจะตอบได้วา่ เป็นเพราะ การไหว้พระ สวดมนต์ เป็นกุศลเจตนา คือ การทำ�บุญตามหลักของ บุญกิริยาวัตถุ ๓ ประการ อันได้แก่ ทานมัย บุญจากการให้ทาน เพราะขณะที่เรา เปล่งเสียงสวดมนต์ ก็เป็นเหมือนการให้ธรรมเป็นทาน บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด

15


เพราะบทมนต์ที่นำ�มาสวดบริกรรมล้วนเป็นคำ�สั่งสอน ของพระพุทธเจ้าทั้งสิ้น สีลมัย บุญที่ได้จากการรักษาศีล เพราะขณะที่ เราสวดมนต์จะสำ�รวมกาย เรียบร้อยดูงามตา วาจา กล่าวแต่ค�ำ ดีงามตามพระพุทธภาษิต เป็นต้น ภาวนามัย บุญที่ได้จากการเจริญภาวนา เพราะ ขณะที่เราสวดมนต์ จิตใจของเราจะไม่ฟุ้งซ่านหวั่นไหว แต่มีใจตั้งมั่นสงบเย็น เป็นต้น ดังนั้น เมื่อเราสร้างบุญด้วยการสวดมนต์ ก็ย่อมมี กุศลกรรมไว้เป็นทุนคอยต้านทานเคราะห์กรรมร้ายๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตได้ และเพือ่ ให้มหี ลักมีฐาน ใช้ในการประกอบพิจารณา ตั ด สิ น ใจของท่ า นว่ า จะทำ � ตามที่ ผู้ เรี ย บเรี ย งแนะดี หรือไม่ จึงได้นำ�เรื่องการสวดมนต์ที่มีผลช่วยให้คน ที่ มี อั น ตรายถึ ง ชี วิ ต แต่ ค รั้ ง พุ ท ธกาลแต่ ก็ ผ่ า นพ้ น มา ได้ดว้ ยพระพุทธมนต์ จนกลายมาเป็นตำ�นานทางศาสนา ดังเรื่องที่ปรากฏในพระสุต ตัน ตปิฎ ก ขุททกนิกาย ธรรมบท ดังต่อไปนี้ ในสมัยทีพ่ ระพุทธเจ้ายังทรงพระชนม์อยู่ มีพราหมณ์ ชาวเมืองทีฆลัมพิกะ ๒ คน ได้ออกบวชบำ�เพ็ญพรตใน ลัทธิหนึ่งนานถึง ๔๘ ปี ต่อมาพราหมณ์คนหนึง่ คิดว่า “ถ้ายังบวชอยูอ่ ย่างนี้ วงศ์ตระกูลของเราจักไม่มผี สู้ บื ทอด” จึงสึกออกมา และ 16

ส ว ด ม น ต์

สะเดาะเคราะห์ต่อชะตา ทำ�ให้อายุยืน


ได้แต่งงานกับหญิงคนหนึง่ ต่อมาภรรยาของเขาก็ตง้ั ครรภ์ คลอดบุตรชายสร้างความดีใจแก่พราหมณ์ผเู้ ป็นพ่อยิง่ นัก ส่วนสหายพราหมณ์ทบี่ วชไม่ยอมสึกนัน้ ได้เดินทาง ไปบำ�เพ็ญเพียรในทีต่ า่ งๆ แล้วก็กลับมาสูบ่ า้ นเกิดของตน พราหมณ์ผู้เป็นพ่อของเด็กทราบข่าวจึงได้พาบุตร และภรรยาไปเยี่ยม เมื่อไปถึงที่อยู่ของพราหมณ์ผู้เป็น นักบวช สองสามีภรรยาได้ยกมือไหว้ กล่าวคำ�ทักทาย ถามไถ่สารทุกข์กันตามประสาเพื่อน สหายผู้เป็นนักบวชนั้น กล่าวอวยพรว่า “ขอท่าน ทั้งสอง จงเป็นผู้มีอายุยืน” แต่พอมารดาบิดาให้บุตร ไหว้บา้ ง พราหมณ์สหายกลับนัง่ นิง่ เสียไม่พดู ให้พรอะไร พ่อของเด็กเกิดความสงสัยจึงถามสหายว่า “ท่าน พราหมณ์ ในเวลาที่ผมและภรรยาไหว้ ท่านกล่าวว่า ‘ขอท่านจงเป็นผู้มีอายุยืน’ แต่ในเวลาที่บุตรชายผม ไหว้ ไม่กล่าวคำ�อะไรเลย มีเหตุร้ายอะไรหรือ” พราหมณ์ผู้เป็นสหายจึงบอกว่า “เด็กคนนี้จะมี อันตรายอย่างหนึ่งทำ�ให้ถึงแก่ชีวิตได้ภายใน ๗ วันนี้ ที่เรารู้มีเพียงเท่านี้แหละ” พราหมณ์ผู้เป็นพ่อจึงถามต่อว่า “พอมีหนทางใด ที่จะแก้ไขได้บ้างไหมครับท่าน” พราหมณ์สหาย “ตัวเราไม่รู้วิธีแก้ไข แต่มีท่าน ผู้หนึ่งรู้คือ พระสมณโคดมพุทธเจ้า” พราหมณ์ผู้เป็นพ่อ “ถ้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้า ตบะ ของเราก็จะเสื่อมสิครับ” บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด

17


พราหมณ์สหาย “ท่านก็เลือกเอาแล้วกัน ระหว่าง ชีวิตลูกกับตบะอะไรสำ�คัญกว่า” ด้ ว ยความรั ก ของพ่ อ ที่ มี ต่ อ ลู ก พราหมณ์ จึ ง พา ภรรยาและลูกไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า เมือ่ ไปถึงสองสามี ภรรยาก็ยกมือขึ้นอภิวาทถวายความเคารพนอบน้อม พระพุทธองค์ ก็ตรัสว่า “ขอให้ทา่ นทัง้ สองจงมีอายุ ยืนเถิด” แต่เวลาที่เขาให้บุตรถวายอภิวาทกลับทรง นิ่งเสีย เขาจึงทูลถามถึงสาเหตุ พระองค์ก็ทรงพยากรณ์ แก่เขาอย่างนั้นเหมือนกัน พราหมณ์ จึ ง ทู ล ถามว่ า “ข้ า แต่ พ ระองค์ ผู้ เ ป็ น ที่พึ่งของโลกทั้งสาม พระองค์ทรงมีวิธีอะไรที่จะช่วย ให้บุตรของข้าพระองค์ ให้พ้นจากมรณภัยได้ไหม พระเจ้าข้า” พระพุทธเจ้า ตรัสบอกว่า “ถ้าท่านให้ท�ำ มณฑปใกล้ ประตูบา้ น แล้วทำ�เตียงสำ�หรับให้เด็กนอนไว้ตรงกลาง มณฑป ทำ�ตั่งสำ�หรับปูอาสนะไว้ ๘ หรือ ๑๖ ที่ ล้อม รอบเตียงนั้น ให้สาวกของเรานั่งบนอาสนะแล้วสวด พระปริตรตลอด ๗ วัน ๗ คืน จะไม่มีอันตรายใดๆ เกิดแก่บุตรชายท่าน” พราหมณ์ผู้พ่อได้ปฏิบัติตามคำ�แนะนำ�ของพระพุทธเจ้าทุกสิ่ง เมื่อเสร็จแล้วจึงกราบทูลขอให้ทรงส่ง พระสงฆ์สาวกไปสวดพระปริตร พระพุทธองค์ทรงส่งภิกษุทงั้ หลายไปสวดพระปริตร ๖ วัน ๖ คืน วันที่ ๗ เสด็จมาเป็นประธานนำ�สวดเอง 18

ส ว ด ม น ต์

สะเดาะเคราะห์ต่อชะตา ทำ�ให้อายุยืน


และในวั น ที่ เริ่ ม มี ก ารสวดพระปริ ต ร ขอย้ อ น กล่ า วถึ ง อวรุ ท ธกยั ก ษ์ ซึ่ ง ทำ � หน้ า ที่ ดู แ ลรั บ ใช้ ท่ า น ท้าวเวสสุวรรณมานาน ๑๒ ปี จึงได้รับพรจากท้าวเธอ ว่า “นับจากนี้ไปอีก ๗ วัน ท่านสามารถจับเอาบุตร ชายของพราหมณ์คนนี้ไปเป็นอาหารได้” เมื่อครบ กำ�หนดแล้ว อวรุทธกยักษ์จึงได้มายืนอยู่เพื่อรอโอกาส จับเด็ก แต่เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จไปที่บ้านพราหมณ์นั้น พวกเทวดาในจักรวาลทั้งสิ้นมาประชุมกันเพื่อรับเสด็จ เทวดาที่มีศักดิ์ใหญ่ก็เข้าเฝ้าอยู่แถวใกล้ๆ ทำ�ให้เทวดา ผู้มีศักดิ์น้อยถดถอยไปไกลถึง ๑๒ โยชน์ (๑๙๒ ก.ม.) ไม่ได้โอกาสเข้าเฝ้าอย่างใกล้ชิด ยิ่งอวรุทธกยักษ์ต้อง หลีกไปยืนอยู่เกือบสุดปลายแถว จนไม่มีแม้แต่โอกาส เข้าใกล้บริเวณพิธีเลย พระพุทธองค์ ได้ทรงนำ�สวดพระปริตรตลอดทั้ง กลางวันกลางคืนจนถึงรุ่งเช้าของวันใหม่ อวรุทธกยักษ์ เมื่อ ๗ วัน ผ่านพ้นเขตกำ�หนดที่ได้รับพรมาเห็นว่าไม่มี หนทางที่ตนจะจับเด็กคนนี้ได้แน่แล้วจึงหนีไป ในวันที่ ๘ เมื่อวาระแห่งความตายของบุตรชาย ผ่านพ้นไป สองสามีภรรยานำ�เด็กมาให้ถวายบังคม พระพุทธเจ้า พระองค์ตรัสว่า “ขอเจ้าจงมีอายุยนื เถิด” พราหมณ์ผู้เป็นพ่อจึงทูลถามว่า “บุตรชายของข้า พระองค์จักมีอายุยืนยาวเท่าไร พระเจ้าข้า” “เด็กคนนี้จะมีอายุยืนถึง ๑๒๐ ปี” บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด

19


สองสามีภรรยาจึงตัง้ ชือ่ บุตรว่า “อายุวฑั ฒนกุมาร” แล้วพากันปฏิญาณตนนับถือพระพุทธศาสนามีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งตลอดชีวิต เมื่ออายุวัฑฒนกุมารเจริญวัยขึ้น ทราบประวัติ ความเป็นมาของตน ว่ารอดพ้นจากความตายด้วยพลัง แห่งพระปริตร ทำ�ให้มองเห็นภัยแห่งชีวิตที่เกิดแก่ตน จึงเข้ามาบวชเป็นภิกษุในพระพุทธศาสนา และบรรลุ อรหัตผลเป็นพระอริยบุคคลผูห้ มดสิน้ กิเลส ไม่มเี หตุตอ้ ง เวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสารอีกต่อไป จากความเป็นมาในเหตุการณ์ทกี่ ล่าวมานีเ้ อง ทำ�ให้ ชาวพุทธเรายึดถือเป็นแบบอย่างของการทำ�พิธสี ะเดาะ เคราะห์ต่อชะตาด้วยการสวดมนต์ให้กับผู้ที่ชะตาขาด และได้ถือปฏิบัติต่อๆ กันมาจนถึงยุคปัจจุบันนี้ เพียงแต่วา่ การสะเดาะเคราะห์ในครัง้ พุทธกาล จะให้ ความสำ�คัญกับการสวดพระปริตร และเวลาทีก่ �ำ หนดใน การสวดพระปริตรเป็นพิเศษ เมือ่ เป็นดังนี้ การสวดมนต์ เพือ่ สะเดาะเคราะห์ในปัจจุบนั โบราณาจารย์จงึ กำ�หนด บทสวดมนต์ โดยให้สวดตามกำ�ลังวันทีด่ าวพระเคราะห์ นั้นๆ เข้ามาเสวยหรือแทรกอายุ เพื่อให้เกิดมีพลัง พระพุทธานุภาพในการขจัดปัดเป่าเคราะห์ภัยนั้นๆ เมือ่ ทราบอานิสงส์การสวดมนต์ ว่ามีมหาศาลเช่นนี้ ก็ตั้งใจสวดมนต์ตามลำ�ดับที่จัดไว้ในเล่มนี้สืบไป เพื่อ อิงอาศัยคุณของพระรัตนตรัย คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ผ่านพระพุทธมนต์บทต่างๆ นำ�มากล่าวอ้างเป็น สัจกิรยิ า นำ�พาตนให้พน้ จากสรรพเคราะห์รา้ ยๆ นัน้ แล 20

ส ว ด ม น ต์

สะเดาะเคราะห์ต่อชะตา ทำ�ให้อายุยืน


บทบูชาพระรัตนตรัย อิมินา สักกาเรนะ พุทธัง อะภิปูชะยามิ. อิมนิ า สักกาเรนะ ธัมมัง อะภิปูชะยามิ. อิมนิ า สักกาเรนะ สังฆัง อะภิปูชะยามิ.

บทกราบพระรัตนตรัย อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา, พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ. (กราบ) ส๎วากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม, ธัมมัง นะมัสสามิ. (กราบ) สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, สังฆัง นะมามิ. (กราบ)

คำ�สมาทานศีล ๕ ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ. อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ. กาเมสุ มิ จ ฉาจารา เวระมะณี สิ ก ขาปะทั ง สะมาทิยามิ. มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ. สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ. บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด

21


บทขัดสัคเคหลวง สัคเค กาเม จะ รูเป คิรสิ ขิ ะระตะเฏ จันตะลิกเข วิมาเน ทีเป รัฏเฐ จะ คาเม ตะรุวะนะคะหะเน เคหะวัตถุมหิ เขตเต ภุมมัฏฐาทะโย จะตุโลกะปาละราชา ยะมะราชา อินโท เวสสุวัณณะราชา อะริยะเมตเตยโย โพธิสัตตา วะกาทะโย อะริยะสาวะกา จะ ปุถุชชะนะกัลîยาณา จะ สัมมาทิฏฐี เยวะ พุทเธ ปะสันนา ธัมเม ปะสันนา สังเฆ ปะสันนา พุทเธ สะคาระวา ธัมเม สะคาระวา สังเฆ สะคาระวา อิโต ฐานะโต ยาวะ ปะรัมปะรา อิมัสîมิงสุ จักกะวาเฬสุ เทวะตา ยัง มุนิวะระวะจะนัง สาธะโว โน สุณันตุ. ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา. ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา. ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา. บทขัดสัคเคหลวง ในทางภาคเหนือ ก็คอื บทชุมนุมเทวดา ที่ใช้ในการสวดมนต์ทั่วไปนั่นเอง เพียงแต่ว่าถ้าเป็นพิธีที่จัดขึ้น เป็นวาระพิเศษ เช่น การสวดมนต์พุทธาภิเษกอบรมสมโภช พระพุ ท ธรู ป สวดมนต์ สื บ ชะตา เป็ น ต้ น นิ ย มใช้ บ ทสวด สั ค เคหลวง สวดอั ญ เชิ ญ เทวดาผู้ เ ป็ น สั ม มาทิ ฐิ ม าป้ อ งกั น เทวบุตรมารจะมาขัดขวาง ทัง้ ยังเชิญให้รว่ มฟังการสวดสาธยาย หลักธรรมคำ�สอนของพระพุทธเจ้า

ส ว ด ม น ต์ 22 สะเดาะเคราะห์ ต่อชะตา ทำ�ให้อายุยืน


บทนอบน้อมพระพุทธเจ้า นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ. (สวด ๓ จบ)

บทไตรสรณคมน์

พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ. ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ. สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ. ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ. ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ. ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ. ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ. ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ. ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ.

บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด

23


นะโม เม นะโม เม สัพพะพุทธานัง ทîวัตติงสา วะระลักขะโณ ตัณหังกะโร มะหาวีโร เมธังกะโร มะหายะโส สะระณังกะโร โลกะหิโต ทีปังกะโร ชุตินธะโร โกณฑัญโญ ชะนะปาโมกโข มังคะโล ปุริสาสะโภ สุมะโน สุมะโน ธีโร เรวะโต ระติวัฑฒะโน โสภิโต คุณะสัมปันโน อะโนมะทัสสี ชะนุตตะโม ปะทุโม โลกะปัชโชโต นาระโท วะระสาระถิ ปะทุมุตตะโร สัตตะสาโร สุเมโธ อัคคะปุคคะโล สุชาโต สัพพะโลกัคโค ปิยะทัสสี นะราสะโภ อัตถะทัสสี การุณิโก ธัมมะทัสสี ตะโมนุโท สิทธัตโถ อะสะโม โลเก ติสโส จะ วะทะตัง วะโร ปุสโส จะ วะระโท พุทโธ วิปัสสี จะ อะนูปะโม สิขี สัพพะหิโต สัตถา เวสสะภู สุขะทายะโก กะกุสันโธ สัตถาวาโห โกนาคะมะโน ระณัญชะโห กัสสะโป สิริสัมปันโน โคตะโม สักîยะปุงคะโว. อัฏฐะวีสะติ สังขาตา อิเม พุทธา มะหิทธิกา กะรุณา คุณะสัมปันโน สัพพะโลกาภิปูชิตา เอเต ทะสะ พะลา พุทธา อุตตะมา อัคคะปุคคะลา เตปิ สังฆะคุณา อาสุง ปีติเย อะมะตัง ปะทัง เอเต พุทธา อะตีตา จะ มังคะลา โหนติ สัพพะทา อัฏฐะวีสะติ เม พุทเธ อะหัง วันทามิ สัพพะทา เตสัง ญาเณนะ สีเลนะ ขันตีเมตตาพะเลนะ จะ 24

ส ว ด ม น ต์

สะเดาะเคราะห์ต่อชะตา ทำ�ให้อายุยืน


เตปิ โน อะนุรักขันตุ อาโรคîเยนะ สุเขนะ จะ อัฏฐะวีสะติ เม พุทเธ โย นะโร สะระณัง คะโต กัปปานิ สะตะสะหัสสานิ ทุคคะติง โส นะ คัจฉันติ. อัฏฐะวีสะติ พุทธะปะริตตัง บทนะโม เม สวดแสดงความนอบน้ อ มพระพุ ท ธเจ้ า ๒๘ พระองค์ ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐแตกต่างกันไป คือ พระตัณหังกร ผู้กล้าหาญ, พระเมธังกร ผู้มียศใหญ่, พระสรณังกร ผู้เกื้อกูลต่อชาวโลก, พระทีปังกร ผู้ทรงไว้ซึ่งปัญญา อั น รุ่ ง เรื อ ง, พระโกณฑั ญ ญะ ผู้ เ ป็ น ประมุ ข แห่ ง หมู่ ช น, พระมังคละ ผู้เป็นบุรุษประเสริฐ, พระสุมนะ ผู้เป็นธีรบุรุษ มีพระหฤทัยงาม, พระเรวะตะ ผูเ้ พิม่ พูนความยินดี, พระโสภิตะ ผู้สมบูรณ์ด้วยพระคุณ, พระอโนมทัสสี ผู้สูงสุดอยู่ในหมู่ชน, พระปทุมะ ผูท้ �ำ ให้โลกสว่าง, พระนารทะ ผูเ้ ป็นสารถีประเสริฐ, พระปทุมุตตระ ผู้เป็นที่พึ่งของหมู่สัตว์, พระสุเมธะ ผู้หา บุคคลเปรียบมิได้, พระสุชาตะ ผู้เลิศกว่าสัตว์โลกทั้งปวง, พระปิยทัสสี ผู้ประเสริฐกว่าหมู่นรชน, พระอัตถทัสสี ผู้มี พระกรุณา, พระธรรมทัสสี ผู้บรรเทาความมืด, พระสิทธัตถะ ผูห้ าบุคคลเสมอมิได้ในโลก, พระติสสะ ผูป้ ระเสริฐกว่านักปราชญ์ ทั้งหลาย, พระปุสสะ ผู้ประทานธรรมอันประเสริฐ, พระวิปสั สี ผู้ที่หาเปรียบมิได้, พระสิขี ผู้เป็นศาสดาเกื้อกูลแก่สรรพสัตว์, พระเวสสภู ผูป้ ระทานความสุข, พระกกุสนั ธะ ผูน้ �ำ สัตว์ออกจาก กันดารคือกิเลส, พระโกนาคมนะ ผู้หักเสียซึ่งข้าศึก คือ กิเลส, พระกัสสปะ ผู้สมบูรณ์ด้วยสิริ, พระโคดม ผู้ประเสริฐแห่งหมู่ ศากยราช ส่วนตอนท้ายเป็นคำ�สัจกิรยิ า ขออำ�นาจแห่งพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ อย่าให้ผู้สวดภาวนาไปสู่ทุคติตลอดแสนกัป บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด

25


สัมพุทเธ สัมพุทเธ อัฏฐะวีสัญจะ ท๎วาทะสัญจะ สะหัสสะเก ปัญจะสะตะสะหัสสานิ นะมามิ สิระสา อะหัง เตสัง ธัมมัญจะ สังฆัญจะ อาทะเรนะ นะมามิหัง นะมะการานุภาเวนะ หันต๎วา สัพเพ อุปัททะเว อะเนกา อันตะรายาปิ วินัสสันตุ อะเสสะโต. สัมพุทเธ ปัญจะปัญญาสัญจะ จะตุวีสะติสะหัสสะเก ทะสะสะตะสะหัสสานิ นะมามิ สิระสา อะหัง เตสัง ธัมมัญจะ สังฆัญจะ อาทะเรนะ นะมามิหัง นะมะการานุภาเวนะ หันต๎วา สัพเพ อุปัททะเว อะเนกา อันตะรายาปิ วินัสสันตุ อะเสสะโต. สัมพุทเธ นะวุตตะระสะเต อัฏฐะจัตตาฬีสะสะหัสสะเก วีสะติสะตะสะหัสสานิ นะมามิ สิระสา อะหัง เตสัง ธัมมัญจะ สังฆัญจะ อาทะเรนะ นะมามิหัง นะมะการานุภาเวนะ หันต๎วา สัพเพ อุปัททะเว อะเนกา อันตะรายาปิ วินัสสันตุ อะเสสะโต. บทสมพุทเธ สวดระลึกถึงพระคุณของพระพุทธเจ้าในอดีต ถ้านับตามในบทสวดมีจ�ำ นวนถึง ๓,๕๘๔,๑๙๒ พระองค์ การระลึก นึกถึงคุณของพระพุทธเจ้าในอดีตนั้น ช่วยคุ้มกันตนให้พ้นภัยได้ อย่างในวัฏฏกปริตร พระพุทธเจ้าของเราในสมัยเสวยพระชาติเป็น นกคุม่ โพธิสตั ว์ ก็อาศัยการน้อมนึกถึงคุณมีศลี เป็นต้น ของพระพุทธเจ้า ในอดีตมาคุ้มครองรักษาจนไฟป่าดับมอดไป 26

ส ว ด ม น ต์

สะเดาะเคราะห์ต่อชะตา ทำ�ให้อายุยืน


เย สันตา เย สันตา สันตะจิตตา ติสะระณะสะระณา เอตถะ โลกันตะเร วา, ภุมมาภุมมา จะ เทวา คุณะคะณะคะหะณัพîยาวะฏา สัพพะกาลัง, เอเต อายันตุ เทวา วะระกะนะกะมะเย เมรุราเช วะสันโต, สันโต สันโต สะเหตุง มุนิวะระวะจะนัง โสตุมัคคัง สะมัคคัง. สัพเพสุ จักกะวาเฬสุ ยักขา เทวา จะ พîรัหîมุโน ยัง อัมเหหิ กะตัง ปุญญัง สัพพะสัมปัตติสาธะกัง สัพเพ ตัง อะนุโมทิตîวา สะมัคคา สาสะเน ระตา ปะมาทะระหิตา โหนตุ อารักขาสุ วิเสสะโต สาสะนัมปิ จะ โลกัสสะ วุฑฒี ภะวะตุ สัพพะทา สาสะนัสสะ จะ โลกัญจะ เทวา รักขันตุ สัพพะทา สัทธิง โหนตุ สุขี สัพเพ ปะริวาเรหิ อัตตะโน อะนีฆา สุมะนา โหนตุ สะหะ สัพเพหิ ญาติภิ. บทเย สันตา ก็คือ บทขัดมงคลสูตร ที่พระใช้สวดนำ�ก่อน สวดมงคลสูตร ทีเ่ รียก เย สันตา ด้วยมีค�ำ ขึน้ ต้นว่า เย สันตา เหมือน ทีม่ กั เรียกพุทธชัยมงคลคาถา ว่าคาถาพาหุง (การสวดบทขัดตำ�นาน แต่ละพระสูตร โดยมากเป็นพระรูปที่ ๓ และนิยมสวดเฉพาะงาน ใหญ่ๆ เช่น สวดมนต์นพเคราะห์ ทำ�บุญต่อนาม เป็นต้น) กล่าวเฉพาะความหมายในมนต์บทนี้ เป็นการชี้ชวนให้เหล่า เทวดา ยักษ์ พรหม ทัว่ ทัง้ จักรวาลให้มาอนุโมทนาบุญ พร้อมอำ�นวย อวยพรให้เหล่าเทวดามีความสุขกายสบายจิตในที่ทุกสถานตลอด กาลทุกเมื่อ และเมื่อผู้สวดเผื่อแผ่เมตตาจิตไปให้เช่นนี้ ย่อมได้รับ ความคุ้มครองรักษาจากเทวดาเป็นสิ่งตอบแทน บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด

27


มงคลสูตร อะเสวะนา จะ พาลานัง ปัณฑิตานัญจะ เสวะนา ปูชา จะ ปูชะนียานัง เอตัมมังคะละมุตตะมัง. ปะฏิรูปะเทสะวาโส จะ ปุพเพ จะ กะตะปุญญะตา อัตตะสัมมาปะณิธิ จะ เอตัมมังคะละมุตตะมัง. พาหุสัจจัญจะ สิปปัญจะ วินะโย จะ สุสิกขิโต สุภาสิตา จะ ยา วาจา เอตัมมังคะละมุตตะมัง. มาตาปิตุอุปัฏฐานัง ปุตตะทารัสสะ สังคะโห อะนากุลา จะ กัมมันตา เอตัมมังคะละมุตตะมัง. ทานัญจะ ธัมมะจะริยา จะ ญาตะกานัญจะ สังคะโห อะนะวัชชานิ กัมมานิ เอตัมมังคะละมุตตะมัง. อาระตี วิระตี ปาปา มัชชะปานา จะ สัญญะโม อัปปะมาโท จะ ธัมเมสุ เอตัมมังคะละมุตตะมัง. คาระโว จะ นิวาโต จะ สันตุฏฐี จะ กะตัญญุตา กาเลนะ ธัมมัสสะวะนัง เอตัมมังคะละมุตตะมัง. ขันตี จะ โสวะจัสสะตา สะมะณานัญจะ ทัสสะนัง กาเลนะ ธัมมะสากัจฉา เอตัมมังคะละมุตตะมัง. ตะโป จะ พîรหั มî ะจะริยญ ั จะ อะริยะสัจจานะ ทัสสะนัง นิพพานะสัจฉิกิริยา จะ เอตัมมังคะละมุตตะมัง. ผุฏฐัสสะ โลกะธัมเมหิ จิตตัง ยัสสะ นะ กัมปะติ อะโสกัง วิระชัง เขมัง เอตัมมังคะละมุตตะมัง. เอตาทิสานิ กัตîวานะ สัพพัตถะมะปะราชิตา สัพพัตถะ โสตถิง คัจฉันติ ตันเตสัง มังคะละมุตตะมันติ. เวลาพระท่านสวดถึงบทนี้ นิยมให้เจ้าภาพจุดเทียนที่บาตร ้นำ�มนต์ ดลให้เกิดข้อคิดว่า ถ้าดำ�รงตนในมงคล ๓๘ ย่อมมีชีวิต สว่างไสว คล้ายเปลวเทียนที่มีแสงสว่างอยู่ในตัว 28

ส ว ด ม น ต์

สะเดาะเคราะห์ต่อชะตา ทำ�ให้อายุยืน


ราชะโต ราชะโต วา โจระโต วา มะนุสสะโต วา อะมะนุส-

สะโต วา อัคคิโต วา อุทะกะโต วา ปิสาจะโต วา ขาณุกะโต วา กัณฑะกะโต วา นักขัตตะโต วา ชะนะปะทะโรคะโต วา อะสัทธัมมะโต วา อะสันทิฏฐิโต วา อะสัปปุริสะโต วา จัณฑะหัตถิอัสสะมิคะโคณะกุกกุระอะหิวจิ ฉิกะมะนิสปั ปะทีปอิ จั ฉะตะรัจฉะสุกะระมะหิสะยักขะรักขะสาทีหิ นานาภะยะโต วา นานาโรคะโต วา นานาอุปัททะวะโต วา อารักขัง คัณหันตุ. ปะณิธานะโต ปัฏฐายะ ตะถาคะตัสสะ ทะสะ ปาระมิโย ทะสะ อุปะปาระมิโย ทะสะ ปะระมัตถะปาระมิโย ปัญจะ มะหาปะริจจาเค ติสโส จะริยา ปัจฉิมัพภะเว คัพภาวักกันติง ชาติง อะภินิกขะมะนัง ปะธานะจะริยงั โพธิปลั ลังเก มาระวิชะยัง สัพพัญญุตะญาณัปปะฏิเวธัง นะวะ โลกุตตะระธัมเมติ สัพเพปิเม พุทธะคุเณ อาวัชชิตîวา เวสาลิยา ตีสุ ปาการันตะเรสุ ติยามะรัตติง ปะริตตัง กะโรนโต อายัสîมา อานันทัตเถโร วิยะ การุญญะจิตตัง อุปัฏฐะเปตîวา โกฏิสะตะสะหัสเสสุ จักกะวาเฬสุ เทวะตา ยัสสาณัมปะฏิคคัณหันติ ยัญจะ เวสาลิยัมปุเร โรคามะนุสสะทุพภิกขะ- สัมภูตันติวิธัมภะยัง ขิปปะมันตะระธาเปสิ ปะริตตันตัมภะณามะ เห. บทราชะโต ก็คือ บทขัดระตะนะสูตร อานุภาพคาถาบทนี้ ท่านว่าแผ่ไปถึงแสนจักรวาล จึงป้องภัยได้สารพัด ขจัดเคราะห์หาม ยามร้ายได้ด้วย บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด

29


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.