เรียนรู้ : คำ�สอน หลักปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน แนวสติปัฏฐาน ๔
กรรมฐาน แก้ไขเวรกรรมได้อย่างไร
โดย...พระธรรมสิงหบุราจารย์
(หลวงพ่อจรัญ ิตธมฺโม)
บรรณาธิการ : ไพยนต์ กาสี น.ธ. เอก, ป.ธ. ๖, พธ.บ., น.บ. ปก/รูปเล่ม : สุกัญญา ศรีสงคราม ภาพประกอบ : เทิดเกียรติ ปลูกปานย้อย พิมพ์ข้อมูล : ธนวรรณ ขันแข็ง พิสูจน์อักษร : มานิตย์ กองษา
เคราะห์กรรมในชีวิตพิชิตได้ด้วยกรรมฐาน เนื่องจากชาวไทยส่วนใหญ่นับถือพระพุทธศาสนา มีวัดวาอารามมากมาย กับทั้งได้อาศัยพระสงฆ์ผู้ทรงศีลาจารวัตรพร่ำ�สอนให้พุทธศาสนิกชนประพฤติ ตนอยู่ในกรอบศีลธรรมอันดีงามอยู่เสมอมา พระเดชพระคุณพระธรรมสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ิตธมฺโม) เป็น พระเถราจารย์อีกรูปหนึ่ง ซึ่งได้เพียรแนะนำ�เรื่องการทำ�ดีหรือชั่ว ว่ามีผลต่อตัว ผูท้ �ำ แน่แท้ พร้อมแนะวิธแี ก้พฤติกรรมตนด้วยการเจริญวิปสั สนากรรมฐาน ดังคำ� ที่ท่านสอนว่า “ปัญหาในชีวติ มันเป็นกฎแห่งกรรม คือ เกิดจากการกระทำ�ของเราเอง แต่ การเจริญกรรมฐาน จะช่วยให้ทา่ นสติดี มีปญ ั ญาเอาไว้แก้ไขปัญหาในชีวติ ” หนังสือ กรรมฐาน แก้ไขเวรกรรมได้อย่างไร เป็นหนึ่งในพระธรรมเทศนา ที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อแสดงไว้ ผู้รวบรวมได้นำ�มาสร้างสรรค์ใหม่ โดย จัดทำ�หัวข้อย่อย ซอยย่อหน้า อธิบายสารธรรมเพิม่ เติม ให้ฝา่ ยศิลปกรรมของ บริษัทสำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด วาดภาพประกอบ เนื้อหาพร้อมคำ�การ์ตูนเพื่อความสวยงามและเข้าใจง่าย นับเป็นลิขสิทธิ์ตาม กฎหมายในส่วนที่ได้สร้างสรรค์งานขึ้นใหม่ และผู้รวบรวมได้มอบลิขสิทธิ์ในงานสร้างสรรค์นี้ให้กับบริษัทสำ�นักพิมพ์ เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด และกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียงฯ อนุญาตให้มูลนิธิจิตอิ่มบุญบารมีพิมพ์เผยแผ่เป็น ธรรมทานเป็นการเฉพาะชั่วคราวเท่านั้น สำ�หรับท่านผู้สนใจใฝ่บุญร่วมพิมพ์ เผยแผ่ค�ำ สอนของหลวงพ่อให้กว้างขวางออกไป โปรดติดต่อประสานงานกับทาง มูลนิธิจิตอิ่มบุญบารมีได้โดยตรงตามที่อยู่ท้ายเล่มนี้ หวังอย่างยิ่งว่า ข้อคิดทางธรรมของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ที่นำ�มา รวมไว้ในหนังสือเล่มนี้ จักเป็นเหมือนเข็มทิศชี้นำ�พาชีวิตท่านผู้อ่านก้าวผ่านพ้น ปัญหาชีวิตในปัจจุบัน ดลจิตให้มุ่งมั่นทำ�แต่กรรมดีด้วยกันทุกท่านเทอญ.
น.ธ.เอก, ป.ธ.๖, พธ.บ., น.บ. รวมรวม/เรียบเรียง
กรรมฐานแก้ไขเวรกรรมได้อย่างไร เจริญสุขสวัสดีท่านพุทธบริษัททั้งหลาย วันนี้ จะแสดงธรรมเรื่อง กรรมฐานกับการพัฒนาชีวิต ขอท่านทั้งหลายโปรดได้ตั้งใจฟังสืบไป วันนี้ นับว่าเราโชคดีที่ได้มาปฏิบัติธรรม จะเป็น ๓ วันหรือ ๗ วัน ก็ตาม เป็นประโยชน์ในชีวิตในกิจประจำ�วัน แต่จะมากหรือน้อยนั้นขึ้นอยู่ ที่ ค วามตั้ ง ใจปฏิ บั ติ ท่ า นทั้ ง หลาย แนวทางการศึ ก ษาชี วิ ต ตามหลั ก พระพุทธศาสนาทำ�ให้เกิดประโยชน์ทั้งคันถธุระ และวิปัสสนาธุระ คันถธุระ คือ การศึกษาหลักธรรมคำ�สอน เรียกว่า การศึกษา วิปัสสนาธุระ๑ คือ การนำ�ความรู้นั้นมาประพฤติด้วยตน เรียกว่า การปฏิบัติธรรม ๑ ธุระ แปลว่า หน้าที่ หรือกิจที่ควรทำ� ท่านจัดไว้เป็น ๒ อย่าง คือ ๑) คันถธุระ คือ หน้าทีใ่ นการศึกษาเล่าเรียนคัมภีรด์ ว้ ยการอ่าน เขียน ท่องจำ� เช่น การเรียนนักธรรม-บาลี เป็นต้น เรียกอีกอย่างว่า ปริยัติ, ๒) วิปัสสนาธุระ คือ หน้าที่ในการบำ�เพ็ญกรรมฐานเพื่อให้ใจสงบ หรือเพื่อให้ เกิดปัญญารู้แจ้งเห็นจริง เรียกอีกอย่างว่า ปฏิบัติ เสริมธรรมโดย... ไพยนต์ กาสี คณาจารย์สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียงฯ บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด
3
ผู้พัฒนาชีวิตด้วยการปฏิบัติธรรม เป็นผูก้ �ำ หนดชะตากรรมชีวติ ด้วยตัวเอง คนที่มาเจริญกรรมฐาน มีขันธ์ ๕ รูป นาม เป็นอารมณ์ ณ ที่วัด นี้ เราให้แนวสติปัฏฐาน ๔ มรรค ๘ อริยสัจ ๔ เป็นต้น ส่วนวิธีปฏิบัติ เมื่อว่าโดยรวบยอด ก็มี ศีล สมาธิ ปัญญา เท่านั้น ข้อกำ�หนด ก็คือ สติ สัมปชัญญะ๑ เป็นตัวกำ�หนด
สร้างบ้าน ยังต้องมีแบบแปลน สร้ างชีวิต ก็ต้องมีแบบแผน
ตัวกำ�หนดนี้เอง เป็นตัวสร้างแบบให้แก่ชีวิต เป็นมนุษย์สมบูรณ์แบบ สร้างรูปแบบที่ดี นิสัยที่ดีได้ ก็เพราะมีสติ สัมปชัญญะดี
๑ สติ แปลว่า ความระลึกได้, สัมปชัญญะ แปลว่า ความรูต้ วั ทัว่ พร้อม เป็นอาการฉุกคิด
ขึ้นได้ของจิต ทั้งก่อนและขณะทำ� พูด คิด จึงเป็นตัวกำ�หนดมิให้มีความผิดพลาด ผู้รวบรวมเคยฟังการบรรยายธรรมของท่านพระอาจารย์ประสงค์ ปริปุณฺโณ ที่สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียงฯ เรื่องการใช้สติมิให้ประมาทในการดำ�เนินชีวิตว่า จงระวัง ความคิด เพราะความคิดจะกลายเป็นความประพฤติ จงระวังความประพฤติ เพราะความประพฤติ จ ะกลายเป็ น ความเคยชิ น จงระวั ง ความเคยชิ น เพราะ ความเคยชินจะกลายเป็นนิสยั จงระวังนิสยั เพราะนิสยั จะกลายเป็นสันดาน จงระวัง สันดาน เพราะสันดานจะ กำ�หนดชะตากรรม ตลอดชีวิต เสริมธรรมโดย... ไพยนต์ กาสี คณาจารย์สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียงฯ
4 กรรมฐาน แก้ไขเวรกรรมได้อย่างไร
สุขใจเมื่อใฝ่ธรรม ทั้งนำ�ชีวิตให้มีคุณค่า การปฏิบัติธรรมนี้ เรามีจิตมุ่งปรารถนาอยู่ด้วยความไม่ประมาท หมายถึงว่า เมื่อความไม่ประมาทเกิดขึ้นแล้ว ท่านก็จะเป็นเอกัคคตา หนึ่งไม่มีสอง ประคองชีวิตด้วยสติปัญญา แก้ไขปัญหาได้ ี้กํา ไรดี พวกเรา เหนืปีน่อยกายมามากแล้ ว จะให้โบนั สไปปฏิบัต ิธรรม ตามอัธยาศัย ๗ วัน
ขออนุโมทนา ด้วยจ้ า
การปฏิบัติธรรม เป็นการพัฒนาชีวิต ให้ชีวิตของท่านแจ่มใส มีความรุง่ เรืองวัฒนาสถาพร การเจริญพระกรรมฐาน จึงจำ�เป็นแก่ชีวิตมาก ทำ�ให้ชีวิตมีความสุข
ทีนี้ จะดำ�เนินชีวิตให้เกิดความสุขอย่างไร ? การดำ�เนินชีวิตให้เกิด ความสุขนั้น ก็ด้วยพัฒนาตัวเราเอง ทั้งในด้านการศึกษาหาวิชาความรู้ เป็นต้น ความรู้ที่จะทำ�ให้ชีวิตมีความสุขที่ควรใฝ่หามากที่สุด ก็คือ คำ�สอนของพระพุทธเจ้า เมื่อหาได้แล้วก็นำ�มาพัฒนาคุณภาพชีวิต ชีวิต ท่านจะมีค่า เวลาของท่านจะมีประโยชน์ต่อไป อันนี้ เป็นหลักปฏิบัติแนวทางชีวิต เรียกว่า การพัฒนา นั่นเอง พัฒนาให้เกิดสติปัญญา พัฒนาวิชาการ พัฒนาความคิด พัฒนาความรู้ พัฒนาเพื่อให้เรามีสติปัญญา ให้มีความตั้งใจ และแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เฉพาะหน้าด้วยประสบการณ์ของเรา เรียกว่า การพัฒนาคุณภาพชีวิต บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด
5
กรรมฐาน คือ งานพัฒนาชีวิต การเจริญกรรมฐาน ทำ�ให้เรารู้จักชีวิตที่มีค่า เวลาที่มีประโยชน์ การเจริญกรรมฐานต้องการตรงนี้ เราปฏิบัติกรรมฐาน ก็เพื่อต้องการ แก้ไขปัญหาชีวิตอันแร้นแค้น และไร้ความหมาย งานที่สำ�คัญของชีวิตอย่างหนึ่ง คือ การเจริญกรรมฐาน ได้แก่ บำ�เพ็ญศีล สมาธิ ปัญญา ซึ่งต้องทำ�ด้วยตัวเองชั่วชีวิต เพราะเป็นงาน กำ�หนดชะตาชีวิต เป็นการพัฒนาตัวเองอย่างเห็นได้ชัดที่สุด
งานพัฒนาตัวเอง ได้แก่ การสร้างสรรค์สิ่งที่ ตัวเองจำ�เป็นต้องมี หรือสิ่งที่ตัวควรจะมี แต่ยังไม่มี ทำ�ให้มีขึ้น ก็คือ การเจริญพระกรรมฐาน การเจริญกรรมฐานไม่รู้เจริญอะไร ? เราก็ต้องใช้ทางสายเอกของ พระพุทธเจ้า คือ สติปัฏฐาน ๔ มีคนรู้เยอะ แต่ทำ�กันไม่ได้ กายจะยืน จะเดิน จะนั่ง จะนอน เหลียวซ้าย แลขวา มีสติควบคุมตลอดรายการ อย่างยืนหนอ ๕ ครั้งทำ�ได้ไหม ? หาว่าไม่มีคนสอน สอนอยู่ทุกวัน แต่ท่านก็ไม่ค่อยจะทำ�ตามคำ�สอนของอาตมา จึงออกไปนอกประเด็น ขยันนอกหน้าที่นอกการงานหมด จึงไม่มีความเจริญรุ่งเรืองในชีวิตท่าน 6 กรรมฐาน แก้ไขเวรกรรมได้อย่างไร
พัฒนาอะไร ไม่เท่าพัฒนาตน การปฏิบัติธรรมทางพุทธศาสนานั้น มิใช่ทำ�กันได้โดยง่าย แต่ก็ ไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไปหากท่านตั้งใจจะทำ� พระพุทธเจ้าจึงทรงสอน ให้เรามีสติ-สัมปชัญญะทุกวิถีทาง เราจะต้องเจริญกุศลภาวนา เพื่อเกิด ปัญญาแก้ปัญหาชีวิต เพื่อดำ�เนินชีวิตให้เจริญรุ่งเรืองวัฒนาสถาพรให้ จงได้ ดังนั้น การพัฒนาชีวิตนี่ จึงเป็นเรื่องสำ�คัญมาก ในโลกมนุ ษ ย์เรานี้ ไม่ว่าจะเป็น ในบ้านเมือง สถาบันการศึกษา หรือว่าวัดวาอารามก็ตาม มันมีทั้งคนดี มีทั้งคนไม่ดี ไม่มีใครจะทำ�ให้ ทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด การทำ � คนให้ เ ป็ น คนดี นั้ น มั น เป็ น เรื่ อ งที่ ย ากแสนยาก หาก ไม่อยากให้โลกมนุษย์เดือดร้อนวุน่ วาย เราก็ตอ้ งทำ�ตัวเราเองให้ดกี อ่ น ต้อง พัฒนาตัวเอง ต้องสร้างฐานรองรับความดีด้วยตนเองเท่านั้น
พระพุทธองค์ตรัสว่า
ตนเท่านั้นเป็นที่พึ่งของตน
ไม่มีใครจะทำ�ให้ใครเป็นคนดีได้ ไม่มี มันเป็นเรื่องยากมาก เราไม่สามารถจะปลุกเสก ให้เขาเป็นคนดีได้ หากเขาไม่สร้างความดี ให้แก่ตัวเองแล้วนั้น ไฉนเลยจะเป็นคนดีได้
พุทธัง อาราธนานัง... ทําตนให้เป็นฐาน รองรับความดี หรือยังล่ะพี่
บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด
7
สติปัฏฐาน ๔ แผนที่พัฒนาชีวิต ท่านผู้ปฏิบัติธรรมทั้งหญิงทั้งชาย การที่เรามาพัฒนาชีวิตด้วยการ เจริญสติปัฏฐาน ๔ นี้ ต้องตั้งใจประพฤติปฏิบัติให้จริง หากท่านทำ�จริง จะ ทำ�ให้เรามีสติ-สัมปชัญญะ มีฐานะดี สติปัฏฐาน มีอะไรบ้าง ? มี ๔ อย่าง คือ... กายานุปัสสนาสติปัฏฐาน สติก�ำ หนดพิจารณากายเป็นอารมณ์ เวทนานุปสั สนาสติปฏั ฐาน สติก�ำ หนดพิจารณาเวทนาเป็นอารมณ์ จิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน สติก�ำ หนดพิจารณาจิตเป็นอารมณ์ ธัมมานุปัสสนาสติปัฏฐาน สติก�ำ หนดพิจารณาธรรมเป็นอารมณ์ กายานุ ปั ส สนาสติ ปั ฏ ฐาน กายจะยื น จะนอน จะนั่ ง จะคู้ จะเหยียด รู้สึกนึกคิดตั้งสติไว้ทุกประการ เราก็จะเกิดปัญญา เกิดกุศล ผลบุญในด้านภาคกาย เวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน เวทนานั้นเกิดมีโดยที่เราไม่ได้สร้าง มัน เกิดเองโดยธรรมชาติ ปวดเมื่อย มีสุข มีทุกข์ มีดี มีชั่วอยู่ในตัวเอง เมื่อมี เวทนาเราก็ตั้งสติกำ�หนด เวทนาเกิดตรงไหนก็ปักจิตลงไปตั้งสติกำ�หนด ตรงนัน้ ตามอาการทีเ่ วทนาเกิด เช่น ปวดเมือ่ ยก็ก�ำ หนด ปวดหนอ ปวดหนอ เป็นต้น นีเ่ ป็นวิธปี ฏิบตั งิ า่ ยทีส่ ดุ แต่ยากจะทำ� คนไม่มศี รัทธา ความเชือ่ ความ เลื่อมใสทำ�ได้ยาก ไม่ใช่ของง่าย แต่ไม่เป็นของยากสำ�หรับคนที่มีศรัทธา มีความเลื่อมใส และปฏิบัติธรรมได้ในตัวเอง
8 กรรมฐาน แก้ไขเวรกรรมได้อย่างไร
จิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน จิตเป็นธรรมชาติต้องคิดอ่านอารมณ์ รับรู้อารมณ์ได้เป็นเวลานาน เหมือนเทปบันทึกเสียง ไม่มีตัวที่ลูบคลำ � แต่ มั น เกิ ด ขึ้ น ตามอายตนะ ๑ ตามอิ น ทรี ย์ ตา หู จมู ก ลิ้ น กาย ใจ เรียก ทวาร ๖ เช่น ตาเห็นรูป หูได้ยินเสียง จมูกได้กลิ่นหอมเหม็น ลิ้นรับรสเปรี้ยวหวานมันเค็ม กายได้สัมผัสอ่อนแข็ง ใจกำ�ลังคิดอะไร ก็ต้องตั้งสติกำ�หนดไว้ รู้ตัวด้วยมีสติสัมปชัญญะในทุกอย่างที่เกิดขึ้น อย่า ประมาทละโอกาสอันดีงาม อย่างนี้ก็ทำ�ให้เรามีปัญญาทั้งนั้น ธั ม มานุ ปั ส สนาสติ ปั ฏ ฐาน ธรรมที่ เ ป็ น กุ ศ ล ธรรมที่ เ ป็ น อกุ ศ ล เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป คิดดี คิดไม่ดี เป็นต้น เกิดขึ้นเราก็กำ�หนดที่ลิ้นปี่ กำ�หนด รู้หนอ รู้หนอ จะได้รู้ว่าเราทำ�ถูกหรือผิด ทำ�ดีหรือทำ�ชั่วอย่างไร เราจะรู้ตัวเอง
๑ อายตนะ หมายถึง กระบวนการเชือ่ มต่อให้เกิดความรับรู้ แบ่งเป็น ๒ อย่าง คือ
อายตนะภายใน หมายถึง สิ่งที่ใช้เชื่อมต่อที่มีอยู่ในตัวเรา มี ๖ อย่าง ได้แก่ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เรียกอีกอย่างว่า อินทรีย์ แปลว่า เป็นใหญ่ใน หน้าที่ของตน เช่น ตา เป็นใหญ่ในการเห็นรูป, เรียกว่า ทวาร เพราะเป็นเหมือน ประตูสำ�หรับรับอารมณ์ที่ผา่ นมาทางตา หู เป็นต้น ทั้ง ๖ อย่างนี้ เอาไว้เชื่อมต่อ กับอายตนะภายนอก ๖ คือ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ (สิ่งที่สัมผัสได้ด้วยกาย) ธรรมารมณ์ (สิ่งที่รู้สึกทางใจ) โดยเชื่อมต่อกันเป็นคู่ๆ เช่น ตาเชื่อมต่อกับรูป หู เชื่อมต่อกับเสียง เป็นต้น เสริมธรรมโดย... ไพยนต์ กาสี คณาจารย์สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียงฯ บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด
9
มีสติอยู่กับจิต ชีวิตจะมีค่า การพัฒนาตัวเองด้วยกรรมฐาน จะช่วยให้ อ่านตัวออก บอกตัวได้ ใช้ตัวเป็น เห็นตัวตาย คลายทิฐิ อย่างเช่น การยืน นั่ง ฟัง เดิน นอน เหลียวซ้าย แลขวา มีสติตลอดเวลา กายยืนหนอ ๕ ครั้ง หลับตาตั้งสติ ตั้งแต่ศีรษะลงปลายเท้า จากปลายเท้าขึ้นมาศีรษะไป-มาๆ ๕ ครั้ง
ถ้าสติอยู่กับจิตเมื่อไร ชีวิตท่านจะมีคา ่ ท่านจะรู้สภาวธรรม รู้อะไรเกิดขึ้นในชีวิตของท่าน ยืนหนอ ๕ ครัง้ เราจะมีความเข้าใจ ในชีวิตอันมีคา่ มาก เราจะมองคนในแง่ดีเสมอ
ช่างเขาเถอะเธอ นี่เธอดูคนนั้นสิ ทําหน้าที่ของตัวเรา วันๆ ไม่เห็นทําอะไร ให้ดีก็พอแล้ว
ถ้ามองคนในแง่ดี ก็จะประสบพบเห็นในชีวิตของเขาว่า คนนี้มีนิสัย เป็นอย่างไร ? ไม่มีเงาหัวจะต้องตายอย่างไร ? มันบอกได้ชัดมาก อาตมาสอนทุกวันพระ เน้นอยู่ตรงนี้ ขอให้ทำ �ตรงนี้ให้ได้ ท่านก็ ยังทำ�ไม่ได้ พูดมาหลายวันพระ ท่านก็ไม่ได้จดจำ�แต่ประการใด ก็แสดง ความเสี ย ใจที่ ท่ า นทำ � ไม่ ไ ด้ ถามปั ญ หาก็ ต อบไม่ ไ ด้ ไม่ รู้ จ ะใช้ อ ะไรดี คนมันดีแค่นี้ มันดีกว่านี้ไม่ได้ ขอเจริญพรอย่างนี้ คนประเภทนี้ดีแค่นี้ ดีกว่านี้ไม่ได้ คุณค่าของ คนเป็นอย่างนี้จริงๆ คนที่ไร้บุญไร้วาสนา จะไม่สนใจเรื่องนี้ จะสนใจแต่ที่ นอกเรื่อง ไม่เตรียมเวลาตลอดรายการ 10 กรรมฐาน แก้ไขเวรกรรมได้อย่างไร
สตินำ� ปัญญาตาม ทำ�อะไรก็สำ�เร็จ การตั้งสติ เป็นจุดมุ่งหมายสำ�คัญของการพัฒนาชีวิตทุกด้าน ผู้ปฏิบัติธรรมละทิ้งไม่ได้เลย เป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิต ทำ�ให้มีสติ มีปัญญา มุ่งให้มีความเป็นอยู่ดีขึ้น ความเป็นอยู่ในชีวิตไม่ดี สติไม่มี สัมปชัญญะไม่มี เพราะไม่เคยปฏิบัติกรรมฐาน จึงไม่มีการพัฒนาชีวิต คำ�ว่า สติ ปัญญา ทุกคนรู้ทั้งนั้น แต่เป็นที่น่าเสียดายว่า แค่สติ ตัวเดียวที่เรากำ�หนดจิตให้อยู่ที่อยู่ทาง ให้เกิดความรู้ตื้นลึกหนาบาง รู้กาลเทศะกิจจะลักษณะอย่างนี้ ยังกำ�หนดกันไม่ค่อยได้ ประเมิน สถานการณ์ผิด ทีเดียว เจ๊งเลยเรา
หุ้นตก อย่าให้ ใจตกค่ะเจ้านาย
แต่ ปั ญ หามั น อยู่ ที่ ว่ า ได้ เอาสติมาใช้ใ ห้เป็นประโยชน์ต่อ การงาน และหน้าที่บ้างไหม ให้ เป็ น ประโยชน์ ต่ อ ชี วิ ต หรื อ ใน กิ จ ประจำ � วั น บ้ า งไหม ไม่ ใช่ นั่ ง หลั บ ตา พอลื ม ตาแล้ ว ก็ พู ด เรื่องนั้นเรื่องนี้ เท้าความหลังกัน ขึ้นมา อย่างนี้มันจะมีสติกันที่ไหน นี่แหละขอฝากไว้
เราพูดกันอยู่เสมอ ถึงคำ�ว่า “สติ ปัญญา” เราใช้ปัญญาอยู่เสมอก็จริง แต่สตินั้น แท้จริงแล้ว เรานำ�ออกมาใช้น้อยนัก ทั้งที่สตินั้นมีคุณค่าแก่ชีวิต และจำ�เป็นแก่ชีวิต มีคุณค่าอย่างที่เหลือจะประมาณได้ บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด
11
พัฒนาจิต = พัฒนาคุณภาพชีวิต ชีวติ ของเรา จิตของเรานัน้ มันเป็นธรรมชาติ เราก็พฒ ั นาชีวติ ให้เจริญ รุ่งเรืองด้วยการพัฒนาคุณภาพ คนไหนไร้คุณภาพ ขาดคุณธรรมชีวิตจะ แร้นแค้น ทำ�อะไรไม่มีแบบแปลนแผนผัง ขาดสติสัมปชัญญะ ปัญญาก็ ไม่เกิดขึ้น การปฏิบัติธรรมจึงเป็นประโยชน์แก่ชีวิตอย่างนี้ อย่ า งที่ เ คยบอก ยื น หนอ ๕ ครั้ ง ใครทำ � ได้ จ ะรู้ เ หตุ ก ารณ์ ไ ด้ ดี นี่แหละคุณภาพชีวิต รักษาจิต หลวงพ่อครับ
การพัฒนาคุณภาพชีวิต ต้องตั้งสติกำ�หนดจิตให้ได้ มุ่งศึกษาธรรม ตั้งใจปฏิบัติธรรม ให้เกิดมีขึ้นในตัวเองให้ได้ เพื่อได้รู้วา ่ ธรรมะมีอะไรบ้าง
ได้อย่างเดียว ก็รักษาได้ทุกอย่าง แหละโยม
ข้อห้ามข้อปฏิบัติ ในศาสนามีมากมาย ทําอย่างไรจะรักษา ได้หมดครับ
ธรรมะนั้น ท่านสอนเรื่องธรรมชาติ สอนเหตุ สอนผล สอนอดีต ปั จ จุ บั น อนาคต แต่ ใ ห้ เรารู้ ปั จ จุ บั น เพี ย งอย่ า งเดี ย ว อดี ต อย่ า รื้ อ ฟื้ น เรื่องคนอื่นอย่าไปคิด จิตจะได้ไม่วุ่นวาย การยืนหนอ ๕ ครั้ง หรือเดินจงกรม เป็นการมุ่งศึกษาปฏิบัติธรรม คุณภาพจิตก็จะดีขึ้น จิตดีได้ด้วยมีสติ จิตจะไม่พลาดไม่ละโอกาสดีงาม สัมปชัญญะรู้ตัวทั่วพร้อม รู้กาลเทศะ รู้บาป รู้บุญ รู้คุณ รู้โทษ รู้สิ่งที่ เป็นประโยชน์ และไม่เป็นประโยชน์ เป็นต้น อันนี้เป็นความสำ�คัญของ การปฏิบัติธรรมอย่างยิ่ง ขอให้ทำ�ตามนั้น 12 กรรมฐาน แก้ไขเวรกรรมได้อย่างไร
ปัจจุบัน เป็นทางสายกลางของชีวิต ท่านสาธุชนเอ๋ย โปรดพัฒนาคุณธรรมให้มีคุณภาพ ให้มีเมตตา ปรารถนาความสุ ข ต่ อ กั น คนที่ ป ฏิ บั ติ ธ รรมได้ แ ล้ ว นั้ น จะมี แ ต่ เ มตตา จะไม่มีอกุศลใดๆ ทั้งสิ้น จะไม่โกรธเคือง ไม่ผูกพยาบาทอาฆาตต่อผู้ใด มีแต่ให้อภัย เห็นใครขาดเหลือก็ดูแลกันไป ไม่ต้องการให้คนอื่นมีทุกข์ นี่เรียกว่า พัฒนาคุณธรรมให้มีคุณภาพ ทำ�ให้เรามีธรรมะประจำ�ใจ อันตัวเรานี้เกิดมาด้วยธรรมชาติ ธรรมชาติก็สอนให้รู้เหตุรู้ผล เพราะ อดีตเป็นเหตุให้รับผลในปัจจุบัน ปัจจุบันเป็นเหตุให้รับผลในอนาคต ข้างหน้าต่อไป เราต้อง ทําตัวให้เป็น บัวพ้นน้ำ�
ดังนั้น เมื่อเกิดเป็นชีวิตนี้แล้ว ให้เอาปัจจุบันเป็นหลัก อดีตเป็นสิ่งที่ผา่ นไปแล้ว อนาคตยังเป็นสิ่งที่มาไม่ถึง ปัจจุบันจึงเป็นทางสายกลาง ให้เราเลือกทางเดินชีวิต ให้ดีหรือชั่วได้
ทางสายกลาง ที่ทำ�ได้ในปัจจุบัน คือ ไปไหนปากไม่ไว ใจไม่เบา เรื่องเก่าไม่รื้อฟื้น เรื่องคนอื่นไม่คิด ทำ�ชีวิตให้ชอบธรรมให้ได้ เอาปัจจุบันอย่างเดียว อนาคตไม่แน่นอน อย่าจับมั่น คั้นให้ตาย หากผิดหวังก็จะเสียใจตลอดชีวิต นี่ข้อคิดของนักปฏิบัติธรรม เรียกว่า พัฒนาคุณธรรมให้มีคุณภาพ เมื่อพัฒนาคุณธรรมในใจได้แล้ว ก็พัฒนา ความเป็นอยู่ของชีวิตให้ดีขึ้นต่อไป บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด
13
ไม่มีโรคภัย ทำ�ให้พัฒนาความเป็นอยู่ดีขึ้น๑ ท่ า นทั้ ง หลาย เราเกิ ด มาในสากลโลกนี้ มี ค วามเป็ น อยู่ มี ชี วิ ต เป็ น อย่ า งไร มี แ ต่ ค วามทุ ก ข์ ใช่ ห รื อ ไม่ โลกเอ๋ ย โลกมนุ ษ ย์ ห าความสุ ข อันแน่นอนไม่ได้ มีแต่ความสุขเจือปนด้วยความทุกข์นานาประการ ฉะนัน้ เราพัฒนาความเป็นอยู่ ก็เพือ่ ต้องการให้เรามีสติดี มีสมั ปชัญญะดี ไม่เป็นบาป อกุศลกรรมเกิดขึ้นแก่ตัวเรา มุ่งให้อยู่ดีกินดี ไม่มีโรคาพยาธิ การเดินจงกรมทำ�ให้ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ อดทนต่อการเดินทางไกล อดทนต่อการบำ�เพ็ญเพียร แล้วโรคภัยพยาธิไม่มี ทำ�ให้อาหารย่อยง่ายไม่ เป็นพิษต่อร่างกาย ทำ�ให้สมาธิตั้งอยู่ได้นานกว่าการนั่ง นี่การพัฒนาความ เป็นอยู่ ก็มุ่งให้อยู่ดีกินดี ไม่มีโรคาพยาธิแต่ประการใด การพัฒนาความเป็นอยู่ เพื่อต้องการให้อยู่ดีกินดี ไม่มีโรคาพยาธิ โรคกายก็ไม่มี โรคจิตก็ไม่มี ไม่มีการเบียดเบียนตัวเอง ไม่มีการเบียดเบียน คนอื่ น อยู่ เ ย็ น เป็ น สุ ข ตลอดกาล ไม่ ทำ � ให้ ตั ว เองและคนอื่ น เดื อ ดร้ อ น อย่างนี้เป็นต้น ๑ การพัฒนาความเป็นอยู่ให้ดีขึ้นในหัวข้อนี้ พระเดชพระคุณหลวงพ่อกำ �ลังบอก
เราว่า การปฏิบัติธรรม มิได้ขัดขวางต่อการทำ�มาหาเลี้ยงชีพ แต่กลับเป็นกำ�ลัง สนั บ สนุ น การพั ฒ นาความเป็ น อยู่ ใ ห้ ดี ขึ้ น ได้ เพราะทำ � ให้ ผู้ ป ฏิ บั ติ มี พ ลั ง ทาง กาย-ใจ ไปพร้อมกัน เช่น การเดินจงกรม ทำ�ให้สุขภาพแข็งแรง ย่อยอาหารได้ง่าย ไม่มีโรคภัยเบียดเบียน และสมาธิที่เกิดขึ้นนั้นตั้งอยู่ได้นาน คนเราเมื่อร่างกายไม่มี ความเจ็บไข้ ใจแน่วแน่เป็นสมาธิเช่นนี้ จะคิดอ่านทำ�การใดก็สำ�เร็จได้ดังประสงค์ เสริมธรรมโดย... ไพยนต์ กาสี คณาจารย์สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียงฯ
14 กรรมฐาน แก้ไขเวรกรรมได้อย่างไร
เบื้องต้นอาจฝืนใจ ทำ�ต่อไปจะได้ดี ฉะนั้น การปลูกในชีวิตนี้ จะต้องมีการปลูกความรักความศรัทธา ให้เชื่อมั่นตัวเอง เรามาปฏิบัติธรรมก็มาด้วยศรัทธา มาด้วยความรักที่จะ ปฏิบัติธรรม ถ้าความศรัทธาเกิดขึ้น รับรองโยมได้ผลสมปรารถนา เมื่อเราจะสร้างความดีแก่ชีวิต ต้องละความชั่ว ด้วยการปลดทุกข์ ออกไปจากตัวให้ได้ อย่าเอาทุกข์มาไว้ในใจเลย มันไม่ได้เกิดประโยชน์ ปลดทุกข์ออกไป เพราะเราปลูกสร้างดีแล้ว มีธรรมะประจำ�ใจแล้ว อดทนหนอ
ธรรมะ แปลว่า ฝืนใจ ถ้าเราไม่ฝืนใจ จิตใจก็ไหลไปสู่ที่ต่ำ� ไปหาความชั่วอยู่เสมอ ไปตามใจตัวตลอดกาล เราก็ต้องฝืนขึ้นมาให้ถึงความดี
ดั ง นั้ น คนเราจะดี ไ ด้ มั น ต้ อ งหั ด ฝื น ใจ ส่ ว นคนจั ญ ไรปล่ อ ยไหล ไปตามเหล็กไหล ไหลไปตามอารมณ์นานาประการ ชีวิตมันจึงแร้นแค้น แต่ ก ารสร้ า งความดี บ างที มั น มี อุ ป สรรค จำ�ไว้ มารบ่ มี บารมี บ่ เ กิ ด ต้ อ งลงทุ น ด้ ว ยความลำ � บาก ท่ า นมาที่ นี่ ก็ ต้ อ งลงทุ น ด้ ว ยความลำ � บาก ด้วยความอดทน เมื่อปวดเมื่อยต้องกำ�หนด ปวดหนอ ปวดหนอให้ได้ อย่างนี้ เราก็ ป ลดทุกข์ออกจากตัว ปลดความชั่วไม่ดีออกจากตัวไปได้ แน่นอนที่สุด บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด
15
รู้จัก ปรับ เปลี่ยน ปลง ชีวิตนี้คงไม่มีทุกข์ ถ้ า ปลดไม่ ไ ด้ ก็ ป รั บ ปรับตัวเองให้เข้ากับเขาให้ ได้ ให้ เข้ า กั บ ธรรมะให้ ไ ด้ ช่างมันเถอะ ทุ ก อย่างมันต้อง ปรับตัวเองให้เข้ากับเหตุผล ดีขึ้นสักวัน ที่มาเจริญกุศลภาวนาให้ได้ แล้ ว เราก็ จ ะได้ ผ ลอย่ า งสม ความปรารถนา นอกจาก ปรั บ ตั ว เองให้ เข้ า กั บ เขาได้ ให้เข้ากับธรรมะ มีธรรมะประจำ�ใจแล้ว ก็ตั้งสติด้วยความอดทน ต่อสู้กับ เหตุการณ์ให้จงได้ ปรับไม่ได้ก็เปลี่ยน เปลี่ยนนิสัยพัฒนาให้เจริญขึ้น มาพัฒนาจิต ให้เจริญก้าวหน้า ก้าวเร็ว ต้องก้าวให้ทันด้วย ทันต่อเหตุการณ์ปัจจุบัน อดีตอย่ารื้อฟื้น เรื่องอื่นอย่าคิด กิจที่ชอบให้รีบทำ� อดีตเป็นความฝัน ปัจจุบันเป็นความจริง อนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน เรียกว่า เปลี่ยนไปตาม สภาพความเป็นอยู่ในชีวิตของเรา ถ้าเปลี่ยนไม่ได้ ก็ปลงให้ตก อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ไม่มีอะไร แน่นอนในชีวิตแต่ประการใด หาความแน่นอนในชีวิตไม่ได้เลย เราก็ต้อง ปลง อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เมื่อปลงได้เราก็ ไม่มีทุกข์มาไว้ในใจต่อไป เรียกว่า ปลงให้มันตก 16 กรรมฐาน แก้ไขเวรกรรมได้อย่างไร
กิจนิสัยที่ได้จากการเจริญกรรมฐาน การเจริญกรรมฐาน เป็นการกระทำ�ที่ทำ�ให้จิตของท่านเป็นบุญ เป็นกุศล เมื่อทำ�อย่างจริงจัง กิจนิสัย ๔ ประการ ก็ต้องได้ตามมา คือ ๑. ขยัน ผู้เจริญกรรมฐานทำ�อะไรจะไม่จับจด รักงาน สู้งาน อดทน จะทำ�งานอะไรที่ไหนต้องให้เสร็จ จะเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ ๒. ประหยัด ผู้เจริญกรรมฐานจะรู้จักการใช้ชีวิต ใช้ทรัพย์สินอย่าง ถูกต้องและคุ้มค่า ไม่ใช้เงินทองไปในทางที่ทุจริตผิดศีลธรรม ๓. พัฒนา ผู้เจริญกรรมฐานจะรู้จักพัฒนาตนเอง ช่วยตัวเองได้ พึ่งตัวเองได้ สอนตัวเองได้อย่างแน่นอน เมื่อรู้จักพัฒนาตนเอง ย่อมจะ ช่วยให้การประกอบอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นการค้าธุรกิจส่วนตัว หรือการรับราชการอะไรก็ตาม มีแต่ความเจริญดีขึ้นตามลำ�ดับ ๔. สามั ค คี ผู้ เจริ ญ กรรมฐานจะอยู่ ใ นสั ง คมด้ ว ยความมี เ มตตา ปรารถนาดีต่อกันเสมอ ไม่มีการอิจฉาริษยาแต่ประการใด จะทำ�ให้เรา เกิดความสามัคคี รักครอบครัว รักหมู่คณะ และรักประเทศชาติ รักพี่ รั ก น้ อ ง นี่ เรี ย กว่ า รั ก สามั ค คี รั ก ครอบครั ว รั ก พี่ รั ก น้ อ ง พี่ ช่ ว ยน้ อ ง น้องช่วยพี่ สร้างความดีให้พ่อแม่ต่อไป ขยัน หา
รักษา ดี
ก่อ เกิด เมตตา
มีวิสัยทัศน์ เป็นเลิศ
บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด
17
ลักษณะนิสยั ทีไ่ ด้จากการเจริญกรรมฐาน การเจริญกรรมฐาน ทำ�ให้เรามี ลักษณะนิสัย ๔ ประการ ได้แก่ ๑ มีสัมมาคารวะ ผู้เจริญ กรรมฐานจะมีนิสัยอ่อนน้อมถ่อมตัว ปากหวาน ตัวอ่อน มือเป็นหงอน
๒ มีอุตสาหะพยายาม๑
ผู้เจริญกรรมฐานจะประกอบหน้าที่ การงานใดก็พยายามจะให้ส�ำ เร็จพลัน ทันเวลา
อ่อนน้อม ย่อมชนะใจ, แข็งกระด้าง ใครก็ไม่รัก
๓ ปฏิบัติตามระเบียบวินัย ผู้เจริญกรรมฐานจะมีระเบียบ
แบบแผนของตนเองโดยเฉพาะ จะไม่เสียกาลเวลาแต่ประการใด ใช้เวลา ให้เป็นประโยชน์ต่อตนเองในชีวิตในกิจประจำ�วัน ๔ รู้ จั ก เด็ ก รู้ จั ก ผู้ ใ หญ่ ผู้ เ จริ ญ กรรมฐานจะวางตั ว ได้ เหมาะสม รู้จักผู้ใหญ่ผู้น้อย รู้อะไรควรไม่ควร รู้กาลเทศะ จะรู้เหตุผล ต้ น ปลายด้ ว ยตั ว เอง จะรู้ บ าปบุ ญ คุ ณ โทษ เป็ น ประโยชน์ ห รื อ ไม่ เ ป็ น ประโยชน์ จะรู้เองโดยอัตโนมัติ โดยปัจจุบันนั้นเอง ๑ คำ�ว่า อุตสาหะ (ภาษาบาลีเขียนเป็น อุสฺสาห) ในภาษาไทยมักใช้คู่กับคำ�ว่า
วิริยะ เป็น วิริยอุตสาหะ ทั้งอุตสาหะ และวิริยะ มีค�ำ แปลที่ได้ความหมาย คล้ายกัน คือ ความเพียร ความพยายาม ความกล้าหาญ ความบากบั่น ความอดทน เป็นต้น เสริมธรรมโดย... ไพยนต์ กาสี คณาจารย์สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียงฯ
18 กรรมฐาน แก้ไขเวรกรรมได้อย่างไร
ความรู้คู่ความดี = มีปัญญา แก้ปัญหาชีวิต การปฏิบัติกรรมฐานนั้น ต้องการความรู้คู่กับความดี จะได้มีปัญญา เอาไปแก้ปัญหาได้สมปรารถนา ท่านมีความรู้คู่ความดีเมื่อใด จะมีคุณภาพ ชีวิต ๔ ประการครบ คือ ๑ รู้จักคิด ผู้เจริญกรรมฐานเป็นประจำ�ทำ�ให้คิดอะไรได้เร็ว คิด ได้ถูกต้อง และความคิดนั้นนำ�ไปปฏิบัติได้ ๒ รู้จักปรับตัว ผู้เจริญกรรมฐานเป็นประจำ�จะรู้จักปรับตัวเอง ให้เข้ากับเขาได้ ๓ รู้จักแก้ปัญหาชีวิต ปัญหาที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้าในปัจจุบัน สำ�หรับผู้เจริญกรรมฐานจะพบทางออกเสมอ เพราะมีสติอยู่กับตัว ๔ มีทก ั ษะในการทำ�งานและค่านิยมทีด ่ งี าม ไม่วา่ ทำ�งาน ที่ไหน ตำ�แหน่งอะไร จะรู้ว่า ถ้าเป็นเจ้านายก็ทิ้งลูกน้องไม่ได้ ลูกน้องก็ทง้ิ เจ้านายไม่ได้ เข้าในลักษณะว่า ผู้ใหญ่ดึง ผู้น้อยดัน คนเสมอกันก็ คำ้ � จุ น กันต่อไป สิ่งเหล่านี้ท่านจะได้จากกรรมฐานนี่เอง ที่ท่านทั้งหลายตั้งใจปฏิบัติแล้ว ท่านจะแก้ปัญหาในปัจจุบันนั้นได้ เมื่ อ ปั ญ หาเกิ ด ขึ้ น เสี ย ใจกำ � หนด ดี ใจกำ � หนด ดี ใจทำ � ไมต้ อ งกำ � หนด เพื่อความไม่ประมาท เผื่อไม่ได้ตามที่ดีใจ จะผิดหวังเสียใจตลอดชีวิต จึงต้องรู้ตัวอยู่เสมอว่า อะไรควรทำ�ไม่ควรทำ� อย่าประมาท มีความรู้ คู่คุณธรรม มีสติสัมปชัญญะปรับตัวเอง ฉลาดในการคิด การพูด การทำ� การแก้ปัญหาทุกๆ ประการที่เกิดขึ้นกับตัวท่านขณะปัจจุบันนั่นเอง บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด
19
กรรมฐานกับการแก้ปัญหาชีวิต ท่านสาธุชนทั้งหลาย เราได้มีโอกาสมาปฏิบัติธรรมนั่งกรรมฐาน เราได้สร้างบุญสร้างกุศล ไม่ใช่มาเที่ยวกัน บุญอยู่ที่จิตใจ ท่านจะชื่นใจ ท่านจะดีใจว่าเราได้บุญแล้ว บุญ แปลว่าอะไร ? แปลว่า ความสุข๑ ความสุขเกิดขึ้นกับตัวเรา โดยเฉพาะแน่นอน ไม่ต้องเสียเงินเสียทองแต่ประการใด การที่เรามา เจริ ญกรรมฐานต้องการสร้างความดี สร้างบุญ ไว้ใ นใจให้เกิดความสุข ไม่มีความทุกข์ อย่าเอาความทุกข์มาไว้ในใจ ความทุกข์๒ ถ้าเอามาไว้ ในใจท่านจะแก้ปัญหาไม่ได้นะ การแก้ปัญหาด้วยกรรมฐาน ย่อใจความได้ ๓ ข้อ คือ เจริญกรรมฐาน... ๑ ทำ�ให้ระลึกชาติของชีวิตได้ ๒ รูก้ ฎแห่งกรรม ทำ�ดีได้ดี ทำ�ชั่วได้ชั่ว ท่านจะรู้ตัวเอง ๓ แก้ปัญหาที่มันเกิดขึ้นเฉพาะหน้าได้
พี่น้องเอ๋ย บุญกรรมฐานช่วยเราได้ ขอให้ทำ�เสมอต้นเสมอปลาย กลับไปบ้านแล้วเดินจงกรมสัก ๑ ชั่วโมงหรือ ๓๐ นาที นั่ง ๓๐ นาที ถ้าทำ�เสมอต้นเสมอปลาย ต้องได้ดีแน่นอน ๑-๒ คำ�ว่า สุข มาจากคำ�บาลีว่า สุ (ง่าย) + ขม (ทน) รวมกันเป็น สุข แปลว่า สิ่งที่ทน
ได้งา่ ย, คำ�ว่า ทุกข์ มาจากคำ�บาลีวา่ ทุ (ยาก) + ขม (ทน) รวมกันเป็น ทุกข์ แปลว่า สิ่งที่ทนได้ยาก ความทุกข์เป็นเหมือนอุณหภูมิด้านร้อน เพราะเมื่อเกิดกับผู้ใด ก็ ทำ�ให้เกิดความรุม่ ร้อนทัง้ ทางกาย-ใจ มีนยั ตรงกันข้ามกับความสุขทีเ่ ป็นอุณหภูมิ ด้านเย็น เพราะเมือ่ เกิดกับผูใ้ ด ก็ท�ำ ให้เกิดความเย็นทัง้ ทางกาย-ใจ เสริมธรรมโดย... ไพยนต์ กาสี คณาจารย์สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียงฯ
20 กรรมฐาน แก้ไขเวรกรรมได้อย่างไร
เจริญกรรมฐาน ทำ�ให้เกิดปัญญา แก้ปัญหาตามแบบอริยสัจ ๔ บางคนทำ�กรรมฐานกลับไปเลิกเลย ไม่เอา ไม่ได้สนใจในความรู้ ความดีมีปัญญาแต่ประการใด ท่านจะแก้ปัญหาได้หรือ ? แก้ปัญหาไม่ได้ เลย อันนี้ส�ำ คัญมาก การแก้ปัญหา ตัวเองต้องแก้เอง เช่น ปัญหาเกิดขึ้นเฉพาะหน้า มีใครเขาด่าว่าเรา เราจะต้องแก้ปัญหาด้วยสติ กำ�หนดเสียงหนอๆๆ ถ้าโกรธขึ้นมา แก้เดี๋ยวนี้อย่าให้อารมณ์ค้าง กำ�หนดโกรธหนอๆๆ ที่ลิ้นปี่ หายใจยาวๆ ไว้ โยมจะหายโกรธได้ไม่เกิน ๕ นาที เสียงหนอๆ
ดูซิทํางาน ไม่เรียบร้อย
โกรธแล้วจะรู้ที่มาของโกรธ คือ อริยสัจ ๔ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค เราจะโกรธเขาไปเพื่ออะไร ? ยิ่งถ้าเขาด่าว่าเราแล้ว แต่เราไม่รบั คำ�ด่ามาไว้ในใจ เราก็ไม่โกรธ เราก็มีปัญญาแก้ไขปัญหาของเราเอง เขาด่าเรา เราไม่รับ มันก็กลับไปหา เจ้าของเขาเอง เราก็มีความสุข
แต่คนเรานี่แปลกชอบรับคำ�ด่ามาไว้ในใจ ทั้งที่พระพุทธเจ้าสอนว่า ใครนินทาด่าว่าเสียดสี เราต้องนิง่ วางอุเบกขา อย่าไปสนใจกับคนอืน่ สนใจ กับตัวเองให้มากที่สุด เพราะตนเป็นที่พึ่งของตน บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด
21
บ้านแสนสุข เพราะทุกคนรักษาสัจจะ ฉะนั้ น ขอเจริ ญ พรว่ า อย่ า ขยั น นอกหน้ า ที่ ก ารงาน ขยั น แต่ ในหน้าที่การงานเท่านั้น เรามีหน้าที่เป็นสามี ก็ต้องทำ�หน้าที่รับผิดชอบ เพราะคนเราอยู่ได้ก็ด้วยหน้าที่การงานเท่านั้น ไม่มีหน้าที่ ไม่มีการงาน ก็อยู่ไม่ได้ในโลกมนุษย์นี้ ท่ า นมี ห น้ า ที่ เ ป็ น อะไร, ท่ า นรั บ ผิ ด ชอบหน้ า ที่ ท่ า นหรื อ ยั ง ? ท่านจริงต่อการงานไหม, ท่านจริงต่อหน้าที่ไหม ? ท่านจริงต่อวาจา ไหม ? ท่านจริงต่อบุคคลไหม ? แล้วท่านจริงต่อความดีไหม ?
ถ้าจริงต่อสัจจะทัง้ ๕ ประการแล้ว รับรองท่านจะเป็นผู้รับผิดชอบได้ ในหน้าที่การงานของแต่ละคน ในบ้านท่านจะไม่มีการทะเลาะกัน บ้านของท่านจะเป็นบ้านแสนสุข มีแต่ความสุขสบาย ไม่มีเรื่องอะไรให้ต้องทุกข์
คุณพ่อขา หนูคิดถึงจังเลย
บ้านท่านจะมีแต่ความรักกันดี มีปัญญาตลอด ผลออกมาอย่างนี้ ชัดเจน ถ้าท่านจริงต่อการงาน จริงต่อหน้าที่ จริงต่อวาจา จริงต่อบุคคล และจริงต่อความดี อยู่ที่ไหนก็มีแต่ความสุขเจริญรุ่งเรืองวัฒนาสถาพร ตลอดรายการ 22 กรรมฐาน แก้ไขเวรกรรมได้อย่างไร
เรือน ๓ น้ำ� ๔ คุณสมบัติที่ดีของแม่ศรีเรือน ท่านที่เป็นแม่บ้าน ต้องมีเรือน ๓ น้ำ� ๔ ถ้ามีสติเราเป็นแม่บ้าน ต้องดูแลบ้าน บ้านสะอาดนักปราชญ์มาเกิด แม่บ้านมีความรับผิดชอบ บ้ า นต้ อ งสะอาด ที่ กิ น สะอาด ที่ ถ่ า ยสะดวก กิ น ของร้ อ น นอนในมุ้ ง ทุ่งในส้วม๑ สวมรองเท้า เรือน ๓ น้ำ� ๔ คืออะไร ? เรือน ๓ คือ เรือนผม ต้องสวย เรือนนอน เรือนครัว ก็ต้องสะอาด จัดเป็นระเบียบเรียบร้อยทุกประการ ถ้าสะอาดเรียบร้อย คือ กรรมฐาน นี่เรือน ๓ แม่บ้านต้องรับผิดชอบนะ น้ำ� ๔ คือ นำ้�รอบบ้าน แม่บ้านต้องรับผิดชอบนำ้�ใช้ในเขตบ้าน ให้เรียบร้อย เช่น น้ำ�รดต้นไม้ให้เขียวชอุ่มเป็นพุ่มไสวจะอยู่เย็นเป็นสุข น้ำ�รับประทาน ต้องให้พร้อม ต้องมีตามจุดต่างๆ บ้างสำ�หรับแขกเหรื่อ น้ำ�ล้างหน้า อย่าหน้างอ ต้องยิ้มแย้มแจ่มใส ตั้งใจสนทนา เจรจาไพเราะ สงเคราะห์ เ อื้ อ เฟื้ อ หากมี โ มโหโทโสอยู่ บ้ า งต้ อ งปลดออกไป แขกมา ก็ต้องยิ้มแย้มแจ่มใส ต่อไปน้ำ�ใจ มีอัธยาศัยดี โอบอ้อมอารี วจีไพเราะ สงเคราะห์ทุกคน วางตนให้เป็นกลาง นี่เป็นแม่บ้านที่รับผิดชอบในเรือนครัว ในเรือนร่างของชีวิต นี่คือ กรรมฐาน เป็นอย่างนี้สามีภรรยาจะไม่มีการทะเลาะกัน ๑ คำ�ว่า ทุ่ง ในสำ�นวนนี้ หมายถึง อุจจาระ รวมความคือให้ถ่ายอุจจาระในส้วม
บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด
23
กรรมฐาน บุญสำ�คัญ ให้กลับมาเกิดเป็นมนุษย์ ท่านผู้ปฏิบัติธรรมทั้งหลาย ถ้าท่านปฏิบัติได้เสมอต้นเสมอปลาย ท่านจะต้องไปในรูปนี้ ขยันไม่นอกหน้าที่การงาน ขยันเฉพาะในหน้าที่ รับผิดชอบ ขยันตลอดไป ไม่ประมาท มีปัญญาแก้ไขปัญหาได้ ถ้าท่านมีปัญญาจะแก้ไขปัญหาได้ทุกอย่าง บุญต้องช่วยท่านได้แน่ บุญอื่นนอกจากนี้ช่วยไม่ได้ เราต้องช่วยตัวเอง ต้องพึ่งตัวเอง และต้องสอน ตัวเองได้ นี่เป็นบุญคือความสุข อันนี้เป็นเรื่องสำ�คัญ
กรรมฐาน ทำ�ให้เราเกิด มาเป็นมนุษย์อย่างน้อยที่สุด ทำ�ให้เราเกิดมามีร่างกายสมบูรณ์ ช่วยเราให้มีรูปร่างสวยสดงดงาม หน้ายิ้มแย้มแจ่มใสตลอดเวลา กรรมฐาน เป็นบุญให้เรามีความสุข กรรมฐานเป็นบุญที่สุด มีอยู่ในตัวบุคคลใดจะช่วยให้เขาเหล่านั้น เกิดในตระกูลสูง ในตระกูลรำ่�รวย สวย ดี มั่งมีศรีสุขตลอดชีวิต นี่คือ กรรมฐาน ทำ�ให้เกิดมาเป็นคนทีม่ อี ายุยนื อารมณ์ดตี ลอด จะทำ�ให้อายุยนื ปราศจากโรคาพยาธิที่มาเบียดเบียน ทำ�ให้เป็นผู้มีอัธยาศัยกว้างขวาง เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มีวิสัยทัศน์กว้างไกล 24 กรรมฐาน แก้ไขเวรกรรมได้อย่างไร
บุญกรรมฐาน สร้างได้โดยไม่ต้องใช้เงิน
ญาติโยมทั้งหลายเอ๋ย..! สร้างบุญไว้เถิดประเสริฐที่สุด สร้างบุญด้วยกรรมฐาน ไม่ต้องใช้เงินทองแต่ประการใด การเจริญกรรมฐานทำ�ให้บญุ ช่วยเราได้ เกิดปัญหาแก้ได้ ไม่ทะเลาะผูกใจเจ็บใคร
ถ้ า ญาติ โ ยมอิ จ ฉาริ ษ ยา จะมี ศั ต รู ม าก มี ศั ต รู ม ากจะ อายุยืนได้ไหม ขอฝากไว้ เพราะ บุญ คือ อารมณ์ดีไม่โกรธใคร ไม่เกลียดใคร จึงทำ�ให้อายุยืน ท่ า นสาธุ ช นเอ๋ ย ! อย่ า โกรธ อย่ า เกลี ย ด อย่ า อิ จ ฉา ริษยาใครไว้ในใจเลย อย่าเก็บ เอาไว้ กำ � จั ด ความโกรธด้ ว ย เมตตาปรานี อ ารี เ อื้ อ เฟื้ อ ขาด เหลื อ คอยดู กั น เมตตาดี ที่ สุ ด ปรารถนาดีต่อทุกคน แม้คนชั่ว เราก็ ต้ อ งเมตตาเขา อยากให้ เขาเป็ น คนดี ก็ ต้ อ งเมตตาเขา เช่นเดียวกัน
กรรมฐานเป็นบุญอันสำ�คัญ ช่วยให้เราเป็นคนที่แข็งแรง ทำ�ให้มีสติ เข้มแข็งด้วยการเดิน การเดินจงกรม อายุมากก็ยังแข็งแรง นอกจากนั้น ยังช่วยเราให้เป็นคนฉลาดตั้งแต่เด็ก ฉลาดพูด ฉลาดคิด ฉลาดทำ�ตั้งแต่ เป็นเด็ก ช่วยคนชั่วช้าสามานย์กลับจากร้ายกลายเป็นดี กลายเป็นคนดี ในสังคมต่อไปได้ บริษัท สำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำ�กัด
25