ธรรมะสบายๆ ลีลากวนๆ แต่ล้วนแฝงด้วยคติธรรม
สวัสดีอย่างมีความหมาย ดี งาม ง่าย รุ่งเรือง ปลอดภัย
พระมหากิตติศักดิ์ โคตมสิสฺโส สุภาพ หอมจิตร (น.ธ.เอก, ป.ธ.๗, ร.บ.)
รวบรวม/เรียบเรียง
บรรณาธิการ : ศักดิ์สิทธิ์ พันธุ์สัตย์ ออกแบบปก/ศิลปกรรม : อนุชิต คำซองเมือง ภาพประกอบ : ธนรัตน์ ไทยพานิช, สมควร กองศิลา รูปเล่ม/จัดอาร์ต : จิระพัฒน์ ยังโป้ย พิสูจน์อักษร : อรัญ มีพันธ์
บริษัท สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำกัด
1
ธรรมทาน
สานสันติสุขทั่วแผ่นดินไทย ธรรมทาน คือ การให้ธรรมะเป็นทาน เช่น ให้วิชาความรู้ ให้คำ แนะนำสั่งสอนในทางที่ดี ให้คำตักเตือนเมื่อหลงทางผิด เป็นต้น และ ที่ ท ำได้ ง่ า ยที่ สุ ด ก็ คื อ การให้ ห นั ง สื อ ธรรมะเป็ น ทาน ในบรรดาการให้ ทั้ ง หลายไม่ ว่ า จะเป็ น ข้ า วน้ ำ หรื อ วั ต ถุ สิ่ ง ของต่ า งๆ พระพุ ท ธเจ้ า ทรง สรรเสริ ญ การให้ ธ รรมะเป็ น ทานว่ า เป็ น สิ่ ง ที่ ป ระเสริ ฐ ที่ สุ ด และเป็ น สุดยอดแห่งการให้ทานทั้งปวง พระพุทธเจ้าตรัสว่า “ผู้ให้ข้าวน้ำชื่อว่าให้กำลัง ผู้ให้เสื้อผ้าชื่อว่า ให้ ค วามสวยงาม แต่ผู้ให้ธรรมะเป็นทาน ชื่อว่าเป็นผู้ให้ความเป็นคน ให้สติปัญญา ให้ความพ้นทุกข์” ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะ... ผู้ที่ได้อ่านหรือฟังธรรมะแล้ว ย่อมเกิดความสำนึกที่ดี มีความพากเพียรในการละความชั่ว มุ่งทำแต่ความดี มีสติปัญญาและความเพียรแก่กล้า ในการปฏิบัติตนให้พ้นจากความทุกข์ สร้างสุขให้เกิดขึ้นแก่ตน คนรอบข้าง และสังคมต่อๆ ไป ไม่มีที่สิ้นสุด ก ารพิ ม พ์ แจกเป็ น ธรรมทาน หนั ง สื อ ธรรมะเล่ ม นี้ เหมาะแก่ ในโอกาสต่างๆ เช่น ถวายพระสงฆ์ วัด โรงเรียน ชุมชน ญาติสนิทมิตร สหาย ทำบุ ญ วั น เกิ ด ฯลฯ ได้ บุ ญ ใหญ่ แ ละอานิ ส งส์ ม าก เพราะเป็ น สื่อธรรมะที่จะช่วยปลูกจิตสำนึกให้ทุกคนมีคุณธรรมจริยธรรม ดังคำว่า “สังคมจะสงบสุข เพราะทุกคนไม่ห่างธรรม”
คำนำสำนักพิมพ์
พระพุ ท ธศาสนาสอนว่ า คนเราจะได้ ดี มี ค วามสุ ข ความเจริ ญ มีความก้าวหน้า มั่งมีศรีสุข หรือที่เรียกกันว่าอยู่ดีกินดีนั้น ต้องอาศัยการ ทำด้วยตัวเอง ตัวเองจะต้องประพฤติปฏิบัติดี ทำถูกทั้งทางกาย วาจา และใจ มิใช่เกิดจากเทวดาฟ้าดิน หรือดวงดาวบันดาลให้อย่างที่ชาวโลก ทั่วไปเชื่อและถือกัน ธรรมะในพระพุ ท ธศาสนา ถื อ เป็ น สั จ ธรรม คื อ เป็ น ธรรมชาติ ที่มีจริงและเป็นจริงทุกยุคทุกสมัย ที่สำคัญให้ผลแก่ผู้ปฏิบัติตามทุกคน โดยไม่ เ ลื อ กชั้ น วรรณะ หรื อ เพศวั ย ใดๆ ผู้ ป ฏิ บั ติ จ ะเป็ น คนชาติ ไ หน ภาษาไหน เพศไหน หรื อ ศาสนาไหนก็ ต าม หากน้ อ มรั บ หลั ก ธรรม ของพระพุทธเจ้ามาปฏิบัติย่อมจะมีความสงบสุขทั้งกายและใจ เปรียบเหมือนการรับประทานอาหาร อาหารจะมีประโยชน์ก็แต่ ผู้ที่รับประทานลงไปเท่านั้น และคนที่รับประทานลงไปจะรู้จักว่าเป็น อาหารชื่อนั้นชื่อนี้ จะรู้จักวิธีปรุงหรือไม่ จะมีพิธีรีตองในการรับประทาน อย่ า งไร และเป็ น คนชาติ ใ ดรั บ ประทานก็ ต าม หากผู้ นั้ น สามารถกลื น อาหารนั้นลงท้องได้แล้วเป็นได้รับประโยชน์จากอาหารนั้นพอๆ กัน ตรงกันข้าม พ่อครัวหรือแม่ครัวผู้ฉลาดปรุงอาหารได้สารพัดชนิด รู้จักอาหารสารพัดอย่าง ชนิดที่ว่านอนกอดตำราอาหารหรือมีตำราอยู่ใน สมองนั่นเทียว หากตัวเองไม่รับประทานด้วยตัวเองเสียแล้วก็ไม่อาจได้รับ ประโยชน์จากอาหารนั้นๆ ได้เลย หนังสือเรื่อง ธรรมะสวัสดี เล่มนี้ เป็นผลงานของอาจารย์พระมหา กิ ต ติ ศั ก ดิ์ โคตมสิ สฺ โ ส (ศ. สี ย วน) วั ด พระเชตุ พ นฯ พระนั ก เผยแผ่ นักทำ (งาน) และเป็นมัคคุเทศก์ธรรมประจำวัดโพธิ์ (ท่าเตียน) สำนักพิมพ์ฯ พิจารณาเห็นว่ามีเนื้อหาสาระดี อ่านง่ายเข้าใจง่าย และสามารถนำไป
ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี จึงได้ขออนุญาตเพื่อจัดพิมพ์ เผยแผ่ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น ขอกราบขอบพระคุณในเมตตาธรรมของพระอาจารย์มา ณ โอกาสนี้ด้วย หนังสือธรรมะสวัสดีเล่มนี้ประกอบด้วยเนื้อหา ๒ ส่วน คือ ๑) ธรรมะสวัสดี ว่าด้วยความหมายของคำว่า “สวัสดี” และทำ อย่างไรจึงจะเกิดขึ้นได้ เพื่อดำรงชีวิตให้มีความสวัสดีตลอดไป ๒) นานาปัญหา ถามมา-ตอบไป รวมปัญหาไขข้อข้องใจที่ชาวพุทธ ควรรู้และอยู่ในความสนใจของคนทั่วไป เพื่อนำไปปฏิบัติให้ถูกต้อง อนึ่ง ในการจัดทำครั้งนี้ได้ตั้งหัวข้อธรรม ย่อหน้า จัดวรรคตอน วาดภาพประกอบ และสรรค์สาระเพิ่มเติมจนสำเร็จเป็นรูปเล่มสวยงามดัง ที่ปรากฏนี้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าหนังสือธรรมะสวัสดีเล่มนี้ จักช่วยให้ผู้อ่าน ทุกท่านนำไปคิดพิจารณาเพื่อปรับใช้ในชีวิตประจำวัน และดำรงชีวิตอย่าง มีความสุข มีแต่ความจริงใจต่อกัน กระทำในสิ่งที่ถูกต้องดีงาม อันจะ นำพาตนเอง คนรอบข้าง และสังคมให้มีแต่ความสงบสุขตลอดไป ธรรมะสวัสดี ด้วยกตัญญูกตเวทิตาธรรม (น.ธ.เอก, ป.ธ.๗, ร.บ.) รวบรวม/เรียบเรียง โปรดใช้เล่มนี้ให้คุ้มสุดคุ้ม & อ่านแล้ว -> แบ่งกันอ่านหลายท่านนะจ๊ะ
อ่านสิบรอบ ระดมสมองคิดสิบหน ฝึกฝนปัญญา พัฒนาการประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน จิตมีสติสัมปชัญญะ รู้เท่าทันสรรพสิ่ง ฉลาดใช้ เฉลียวคิด ชีวิตจักสนุก สุข สงบ เย็น เฉกเช่นพระนิพพาน สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ ปรารถนาให้ทุกครอบครัวมีความสุข
คุยกันก่อนอ่าน
ขอบคุ ณ ผู้ อ่ า นที่ ติ ด ตามงานเขี ย น ของผู้เขียนอย่างเหนียวแน่น บางคนมาบอก ให้ชื่นใจว่า หาไว้เป็นยาสามัญประจำบ้าน ครบทุกเล่ม และจะติดตามตลอดไป นี่คือ กำลังใจสำคัญในการทำงาน พูดแล้วมีคน อยากฟัง เขียนแล้วมีคนอยากอ่านนับเป็น ความสำเร็จของงานที่ทำ สุขใจที่ใครๆ เห็น งานของเราอยู่ในสายตา เขียนหนังสือมาทั้งหมด ๕๔ ปกแล้วผู้ที่ติดตามมาตลอดจะเห็นได้ ว่า เนื้อหาที่เขียนใกล้ตัวคนที่สุด เป็นธรรมะใกล้ตัวใกล้โลกไม่ห่างโลก เพราะคนส่วนใหญ่อยู่ในโลกนี้มากกว่าอยู่ในโลกพระจันทร์ งานที่ทำตั้งใจ ทำเพื่อคนทุกวัย ทุกกลุ่ม ทุกเจนเนอเรชั่น (Generation) ไม่ได้เขียน ธรรมะเพื่อผู้สูงอายุเท่านั้น กะให้อ่านได้ทั้งวัยใส วัยโทรม จึงเน้นคิหิ ปฏิบัติปริยัติ ข้อปฏิบัติของผู้ครองงาน ครองคน ครองตน ครองบ้าน เพื่อ ให้ เ กิ ด ปฏิ เวธรู้ แจ้ ง แทงตลอดแบบโลกๆ ไปพลางๆ ก่ อ น ส่ ว นใครมี อัธยาศัยอรหันต์แล้วค่อยว่ากันอีกที ไม่ได้ยกธรรมะมาเป็นดุ้นๆ อ้างที่มาเป็นฉากๆ เพราะไม่ได้มาทำ วิทยานิพนธ์ จึงไม่ต้องลอกพระไตรปิฎกมาเป็นหน้าๆ ถ้าทำอย่างนั้นสถิติ การเขียนต้องไม่ใช่ ๕๔ ปกเป็นแน่ เพราะเขียนมาตั้งแต่ปีพ.ศ.๒๕๓๔ จนปีนี้ ๒๕๕๔ คงเป็นร้อยๆ เล่มเกวียนแล้ว แล้วใครจะอ่านของเรานี่ ที่เขียนมาก็ยกธรรมะมาตลอด แต่ยกมาเฉพาะธรรมะที่ใช้ได้ทันที เหมือน อาหารที่ ป รุ ง ให้ ส ะอาดรสชาติ น่ า กิ น อร่ อ ยถู ก ปากถู ก ใจ ถู ก อนามั ย กินแล้วไส้ไม่ทะลุ ยกมาให้กินแต่พอเพียง ไม่ได้ยกมาทั้งหมดเหมือนอย่าง
พระนางซูสีไทเฮาที่เวลาเสวยอาหารบนโต๊ะต้องตั้งไว้ ๑๐๘ อย่าง อย่างนี้ เป็นโรคเบื่ออาหารไปเลย งานธรรมะของผู้เขียน ไม่ว่าจะเป็นงานพูดหรืองานเขียน จึงยกมา แต่พอเพียง น่าปฏิบัติ เป็นธรรมเฉพาะกิจ เป็นบทเฉพาะการเฉพาะงาน ของแต่ละกลุ่มเป้าหมาย เอามาอธิบายเป็นฉากๆ ให้เข้าใจง่าย ใครอยาก ศึกษาหลักธรรมหลักศาสนาของแท้บริสุทธิ์ล้วนๆ ขอให้ไปอ่านพระไตรปิฎกนั่นเถิดแน่นอนที่สุด เล่มนี้เป็นเล่มพิเศษเป็นธรรมะอินเตอร์ ธรรมะกลิ่นเนยของนอก เพราะพรรษาปีพ.ศ.๒๕๕๒ ทางวัดไทยแอลเอ มหานครลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้นิมนต์ผู้เขียนไปทำงานเผยแผ่ธรรมะในศาสนา ให้ประชาชาวไทยที่นั่น ได้ทำงานทุกอย่างครบเครื่องคุ้มค่าคุ้มเวลาจริงๆ ออกทีวี เทศน์มหาชาติ เทศน์ปุจฉา บรรยายธรรมหลายสถานที่ทั้งองค์กร วัดและบ้าน ได้สอนเด็กทุกวันจันทร์ตลอดฤดูร้อน ที่นั่นมีหนังสือพิมพ์ เหมือนเมืองไทยหลายฉบับลงเรื่องต่างๆ ของผู้เขียน หนังสือพิมพ์ข่าวสด USA ได้นิมนต์ให้เขียนบทความประจำคอลัมน์ กลับมาเมืองไทยแล้วเขา ให้ช่วยเขียนต่อ เพราะมีผู้อ่านประทับใจเรื่องที่เขียน ติดตามอ่านอยู่เป็น จำนวนมาก โดยให้ผู้เขียนส่งทางอีเมล์ เขียนติดต่อกันมาด้วยความสุขใจ เพราะได้ทำงานที่รัก คุ ณ ผู้ อ่ า นหลายท่ า นได้ โ ทรศั พ ท์ ม าเยี่ ย มคุ ย บางท่ า นก็ ม าพบ ผู้เขียนด้วยตนเอง เอายาหอมมาให้บอกว่าชอบที่ท่านเขียนมาก อ่าน ประจำเลย แนะนำให้คนอื่นอ่านด้วย บางท่านบอกว่าอ่านแล้วตัดแปะ ติดไว้ข้างฝาอีกด้วย ปลื้มใจจริงๆ เชียว ทำให้นึกถึงแฟนคลับพันธุ์แท้ ของผูเ้ ขียนซึง่ อยูเ่ มืองไทย ยังไม่ได้อา่ นทัง้ หมดซึง่ ตีพมิ พ์ทเี่ มืองนอก จึงบอก กล่าวแก่หนังสือพิมพ์ข่าวสด USA ที่เขียนอยู่ว่าจะเอามาพิมพ์รวมเล่ม
ขอบคุ ณ พี่ แ ต๋ ว สุ วั ฒ นา ปิ่ น วั ฒ นะ คนเก่ ง และแสนดี แ ห่ ง หนังสือพิมพ์ข่าวสด USA ที่จิตใจยิ่งใหญ่กว้างขวาง เป็นธุระประเคนถวาย เวที มอบสถานที่ให้ทำงาน ทำให้ชีวิตมีค่าเพราะว่ามีงานทำ คนไร้งานก็ไร้ ค่า งานเล็กงานใหญ่ขอให้ได้ทำงาน เนื่องจากหนัง (สือ) เรื่องยาวมาก จึงสร้างภาคเดียวไม่จบ โปรดติดตามภาค ๒ ภาค ๓ ต่อไปเรื่อยๆ ฉายที่นี่ เร็วๆ นี้ ขอให้ผู้อ่านมีความสุขความสำเร็จจากการอ่านโดยทั่วกัน มิตรแท้ของผู้อ่าน
พระมหากิตติศักดิ์ โคตมสิสฺโส
ติดต่อผูเ้ ขียน : คณะ น. ๒๐ วัดพระเชตุพนฯ (วัดโพธิ์ ท่าเตียน) เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ๑๐๒๐๐ โทรศัพท์ : ๐๒-๒๒๕-๙๑๔๓, ๐๘๑-๘๒๕-๐๑๗๘ โทรสาร : ๐๒-๖๒๒-๓๐๗๑ E-mail : s_siyuan@hotmail.com, www.s-siyuan.com
ธรรมะ “สวัสดี”
ที่ เ มื อ งไทยกำลั ง อยู่ ใ นเทศกาล “สวั ส ดี ” แล้ ว ตามด้ ว ยปี ใ หม่ ต่างหน้าระรื่นสดชื่นใจ ฉลองอะไรได้ก็งัดมาฉลองสุดฤทธิ์ แต่ก็มีหงุดหงิด ซึมเศร้าเหงาเครียด
ความหมายของ “สวัสดี” ที่แท้จริง
เพราะอายุเบียดเบียนขยับให้อัพเดท จำต้องเปลี่ยนเกรดเลขนำหน้าให้ดูอาวุโสขึ้น สุดจะฝืนใจรับ โห...๓๙ เป็น ๔๐ จาก ๔๙ เป็น ๕๐ และจาก ๕๙ เป็น ๖๐ เป็นตัวเลขที่ ไม่มีใครต้องการ
แหมๆ ทีเลขเงินเดือนไม่เห็นขึ้นไวเหมือนเป็นจรวดอย่างนี้เลย ช่างร้ายเหลือทน คนอะไรไร้ความปรานี ช่างร้ายเหลือดี.... เลขเงินเดือนขึ้นสูง คนยิ่งเหมือนยูงรำแพนหางงามสง่าเชียว แต่ อายุยิ่งสูง นอนฝันเห็นแต่ควันที่พวยพุ่งขึ้นกลางหาว อารมณ์มันผิดกัน ราวนั่งรถไฟลอยฟ้ากับรถเมล์ ขสมก. ของไทย ปีใหม่คนเลยพากันอวยพรให้อายุยาวอยู่ราวๆ ร้อย เรียกว่า เงิน อยากมีล้าน แต่อายุอยากมีร้อย เมียน้อยอยากมีไม่น้อย
8
“สวัสดี”
คำยอดฮิต ใครคิดเป็นคนแรก ?
คำอวยพรยอดฮิตติดปากคือคำว่า “สวัสดี” แต่มใี ครทราบหรือไม่ ว่า “สวัสดี” ที่แท้จริงคืออะไร ? บางคนบอกว่า “สวัสดี” แปลว่า จบ เพราะเห็นพิธีกรแทบทุก รายการ พอจบรายการมักพูดว่า สำหรับวันนี้ “สวัสดี” ครับ/ค่ะ เราก็นกึ ว่า สำหรับวันนี้จะมีอะไรดูต่อไปอีก ที่แท้มี “สวัสดี” ให้ดูนี่เอง วัยรุ่นเซ็งเลย เลยนึกทึกทักเอาว่า “สวัสดี” แปลว่า จบแล้ว เหมือนคำว่า เอวัง คนมักนึกว่าแปลว่า จบ ที่จริงไม่ได้แปลว่าจบ บางคนก็มีความรู้รอบตัวดี บอกว่า “สวัสดี” เป็นคำของพระยาอุปกิตศิลปสาร (นิม่ กาญจนาชีวะ) ปราชญ์ดา้ นภาษาไทย เป็นผูบ้ กุ เบิกคำนีข้ นึ้ ที่จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย แต่ แท้ที่จริงแล้ว “สวัสดี” เป็ นภาษาพระที่ท่านให้พรญาติโยม ท่ านจะสวดมากี่บทก็ตาม
จะเป็นงานมงคลหรืออวมงคลก็ช่าง บทสุดท้ายต้องมีคำพรทีใ่ ห้ เรียกว่า “สวัสดี” ทุกครัง้ ไป
พระยาอุปกิตศิลปสาร
หนังสือเล่มนี้บรรจุพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าและพระอริยสงฆ์
โปรดใช้หนังสือเล่มนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด คุ้มค่าที่สุด เมื่อไม่อ่านแล้ว กรุณาส่งต่อผู้อื่นเพื่อเป็นการเผยแผ่ธรรมและบำเพ็ญทานบารมีแก่ตน
บริษัท สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำกัด
9
“สวัสดี” คำเดียวแต่มี ๕ ความหมาย
บททีพ่ ระขึน้ ว่า ภะวะตุ สัพ... จบด้วย สะทา โสตถี ภะวันตุ เต*ฯ ตอนท้ายท่านจะสวดแบบลดความเร็วจาก ๓๐๐ กม./ชั่วโมง ลงมาช้าๆ ยืดๆ ยานๆ และแล้วก็จบ เหมือนรถยนต์ขับมาด้วยความเร็วสูง จะจอด ต้องชะลอความเร็วลงช้าๆ ไม่ใช่เบรกหยุดกึ๊กเลย หัวทะลุกระจกไปอยู่ ข้างหน้าแน่นอนครับเจ้านาย ! บางคนหลั บ ตั้ ง แต่ น ะโม แต่ จ ะตื่ น โดยอั ต โนมั ติ ต รงบทนี้ พ อดี เพราะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต ฯ จะไปสะกิดต่อมตืน่ ให้ฟนื้ คืนชีพ ภะวันตุ เต แปลว่า ขอท่านทั้งหลายจงมี มีอะไร มี โสตถี โสตถี คืออะไร คือคำว่า “สวัสดี” นั่นเอง ไม่ใช่ให้มี “สวัสดี” เฉพาะวันนี้นะ แต่สวดว่า สะทา คือ ให้มีตลอดกาลทุกเมื่อ ตลอดปี ตลอดไป ถอดรหั สออกมาเป็น “สวัสดี” “สวัสดีครับ” ตามศั พท์แปลได้ถึง ๕ อย่าง “สวัสดีค่ะ” แปลว่า ดี งาม ง่าย รุ่งเรือง ปลอดภัย ใครกล่าวคำว่า “สวัสดี” กับเรา เท่ากับเขาอวยพรเราให้มี ของดี ๕ อย่างเลยเชียว
* บทนี้เป็นคำให้พรของพระสงฆ์ แปลว่า ขอความสวัสดีจงมีแก่ท่านตลอดกาลทุกเมื่อ มาจากศัพท์ว่า สะทา (ทุกเมื่อ) + โสตถี (ความสวัสดี) + ภะวันตุ (จงมี) + เต (แก่ท่าน)
10
ชีวิตจะ “สวัสดี” ต้องมีดีให้ครบ
แต่จะมีสักกี่คนที่มี “สวัสดี” ได้ครบ เพราะบางคนรุ่งเรืองแต่ ไม่ปลอดภัย บางคนปลอดภัยแต่ไม่รุ่งเรือง หมายความว่าอย่างไร บางคนรุง่ เรืองสอบเข้าเรียนเข้าทำงานผ่านฉลุยเรียบร้อย ดาวเต็มบ่า ตราเต็มอก ชื่อไม่ตก ตำแหน่งไม่ต่ำ เป็นผู้นำเขาตลอด แต่กลับออดๆ แอดๆ ไม่ใช่ไปเปิดประตูบ่อย แต่เจ็บไข้ได้อุบัติเหตุ เข้าออกโรงพยาบาล ทั้งปี หมดค่าเมีย เสียค่าหมอ รอค่าเมรุอยู่อย่างนั้น บางคนปลอดภัยแต่ไม่รุ่งเรือง คือไปตรวจสุขภาพทุกปี แข็งแรง ไร้โรค โชคดี ไม่มเี จ็บไข้ ไอสักแค็กก็ยงั ไม่เคย แต่สอบอะไรก็ตก ชกเมือ่ ไหร่ ก็แพ้ โดนแฉแต่เรื่องฉาว ไม่เคยได้ข่าวเลื่อนขั้นอะไรกับเขาเลย เรียกว่า สุขภาพดีฟรีๆ ไปงั้นเอง ทำไมคำพรไม่ศักดิ์สิทธิ์หรือ ก็ไม่เชิง เพราะทุกคนก็รับพรพร้อมกัน แต่คนหนึ่ง ก้าวไปไกลลิบ อีกคนกลับกลายเป็นหายลับ แม้จะก้าวตะบึงแต่ไม่ถึงที่หมาย เรื่ อ งนี้ มี ค ำตอบ แต่ ต้ อ ง ตอบในฉบับหน้า เพราะเนื้อหายัง มีแต่เนื้อที่กำลังจะหมด บริษัท สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำกัด 11
คำอวยพรก่อนจากลา
เนื้อที่ที่เหลือเผื่อไว้ให้พรตอนปีใหม่ โปรดจงได้รับไว้ซะ ณ บัดนี้ ตั้งดวงจิตสัมฤทธิ์พรก่อนสิ้นปี อ่านดีดีนี่คือพรแต่งให้ตอนก่อนจากลา ให้ฉลาดเหมือนขงเบ้ง ให้เก่งเหมือนคึกฤทธิ์ ให้ได้มิตรเหมือนกวนอู ให้มีความรูเ้ หมือนพุทธทาส ให้มีอำนาจเหมือนพระเจ้าอโศก ให้เป็นแชมป์โลกเหมือนเขาทราย ให้ตายเหมือนพระอานนท์ ให้ผิวไม่ย่นเหมือนผุสดี ให้กตเวทีเหมือนพระสารีบุตร ให้งามสุดเหมือนวิสาขา ให้หล่อกว่าอภิสิทธิ ์ ให้เป็นนักวิทย์เหมือนไอสไตน์ ให้พูดได้เหมือนโอบามา ให้ยุติธรรมกว่าเปาบุ้นจิ้น ให้มีกินเหมือนพระสิวลี ให้มศี กั ดิศ์ รีเหมือนพันท้ายนรสิงห์ ให้อ่อนน้อมถ่อมตนยิ่งเหมือนเล่าปี่ ให้อารมณ์ดเี หมือนอับราฮัม ลินคอล์น....
12
ศ. สียวน
ชีวิตจะดีต้องมี ๑๒ อย่า ให้ยาดีแล้วต้องแจงของแสลงด้วย เพื่อได้ช่วยยามีฤทธิ์ประสิทธิภาพ จึงฝากอย่าและอย่ามากำราบ ชีวิตจะราบรื่นดีต้องมีอย่า.... อย่าใจร้อนเหมือนเตียวหุย อย่าขี้คุยเหมือนยี่เอ๋ง อย่าอวดเก่งเหมือนอ้วนเสี้ยว อย่าโดดเดี่ยวเหมือนนายฉันนะ อย่าโลภะเหมือนลิโป้ อย่าพุงโตเหมือนชูชก อย่าตกนรกเหมือนพระเทวทัต อย่าริษยาจัดเหมือนจิวยี่ อย่าโดนปาขีเ้ หมือนอุทัย อย่าถูกปารองเท้าเบอร์ใหญ่เหมือนจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช อย่าหมดตูดเหมือนไทสัน อย่ารบราฆ่าฟันแตกแยกแหลกสลายเหมือนไทยประเทศ... ...สวัสดี...
บริษัท สำนักสำนั พิมพ์กเพิลีม่ยพ์งเชีเลีย่ยงงเชีเพียยงรเพื เพี่อยพุรเพื ทธศาสน์ ่อพุทธศาสน์ จำกั ด 13
“สวัสดี” อย่างไรให้มีความหมาย
ในความหมายของคำว่า “สวัสดี” คำนี้ได้แปลไว้ให้อ่านแล้วใน ฉบับก่อน ขอย้ำอีกครั้งว่า แปลตามศัพท์ได้ ๕ อย่าง คือ ดี งาม ง่าย รุ่งเรือง ปลอดภัย ใครกล่าวคำว่า “สวัสดี” กับเรา เขาช่างหวังดี ดูเป็น มิตรที่ดีกับเรายิ่งนัก แต่หลายคน แม้ใครๆ พยายามจะอวยพรให้เดินทาง โดยสวัสดิภาพ ทั้งทางคมนาคม ขึ้นรถลงเรือ ไปเหนือล่องใต้ ขี่เครื่องบิน กลางฟ้า ขี่ม้ากลางฝน ขี่รถยนต์กลางแดด ขี่แรดกลางทุ่ง เที่ยวมุ่งไปมาใน โลกนี้ และเตรียมพาสปอร์ต (PASSPORT) ตั๋วฟรีไปโลกหน้า แต่ ก็ไม่สมปรารถนาในเรื่องความสวัสดี เรียกว่าสวัสดิภาพเป็นบางคน สวัสดีครับ มรณภาพเป็ นบางครั้ง สวัสดีค่ะ แต่ทุกคนก็เรียกหา ความสวัสดิภาพ ในชี วิตกันทั้งนั้น มหกรรมงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ที่วัดในประเทศไทยและ ต่างประเทศ จึงได้รับการตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างสูงแบบวัดแทบ แตก ดีใจเหลือหลายที่คนหันหน้าเข้าวัด ไปกันมืดฟ้ามัวดิน (ที่จริงไม่มืด หรอก สว่างเจิดจ้านะ เพราะวัดเขาติดไฟเพิ่มอีกหลายดวง) ล้วนแต่ไป สะสมแสวงหา “ความสวัสดี” กันนั่นแล
14
“สวัสดี” อย่างไรให้มีหลักการ
ไปขอพรจากพระปฏิ ม ากรและพระสงฆ์ สวดมนต์ กั น อย่ า ง ยาวนานข้ามวันข้ามเดือนข้ามปี กินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ด (Guinness Wold Records) น่าเอาไปลงซะ สุดยอดทำได้ไง สวดมนต์สองวัน สองเดือน สองปีไม่มีหยุด คนไปยืนรับพรกันยาว หลายกิโลเมตร แต่งานเสร็จแล้วเราน่าจะมาตั้งคำถามว่า ได้พรกันมา กี่กิโลกรัม ได้กรรมกันมากี่กิโลขีด ชีวิตมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้างหรือไม่ เราไปแบบไสยศาสตร์หรือไปแบบพุทธศาสตร์ ทำไมหรื อ ? เพราะได้พรมาเท่าๆ กัน แต่ ได้ “สวัสดี” กันมาไม่ครบทุกคน บางคนยังหลักลอยคอยงาน สังขารเสื่อม เพื่อนเอือมระอา เมียหลวงด่า เมียน้อยหนี เงินไม่มีใช้ กำไรไม่มีเหลือ เบื่อๆ อยากๆ ยังจนยาก จนไม่พอ จนไม่ เจียม จนไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย ..เหมื อนเดิมเลยนะ แต่บางคนเลิศหรู เลิศลอย เลิศล้ำ เลิศรวย หล่อด้วยสวยเช้ง เก่ง ฉลาด มาดแมนแฮนด์ซั่ม งามขำ สุดเท่เพียบพูนด้วยเสน่ห์ กิ๊บเก๋ และ แสนดี อะไรจะ “สวัสดี” มีโชคถึงเพียงนั้น รับพรมาพร้อมกันมิใช่หรือ แต่ ทำไมได้ “สวัสดี” มาไม่เท่ากัน ? บริษัท สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำกัด 15
“สวัสดี” มี ๔ แบบ
เรื่องนี้เขียนค้างไว้ในฉบับก่อนว่าเรื่องนี้มีคำตอบ ไม่ใช่ตอบเอง ตอบเองไม่มีทางเคลียร์ได้แน่ พระพุทธเจ้าทรงตอบไว้นานแล้ว มีบันทึกไว้ ในคัมภีร์พระไตรปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค (เล่มที่ ๑๕/๗๕) ว่า ความสวัสดีเกิดแต่เหตุ ๔ อย่าง คือ ความรู้ ความเพียร นาญญัตตะระ โพชฌาตะปะสา ความสำรวม และความเสียสละ นาญญัตตะระ อินทîรยิ ะสังวะรา นาญญัตตะระ สัพพะนิสสัคคา โสตถิง ปัสสามิ ปาณินัง. ตรงนี้เป็นภาษาต่างประเทศ แปลซะหน่อยแปลว่า ตถาคตไม่เห็น ใครจะสวัสดีได้ถ้าขาดเหตุ ๔ อย่างนี้ ๔ อย่างนี้เป็นไฉน... ต้องเข้าใจอย่างหนึง่ ว่าเหตุทคี่ นจะ “สวัสดี” ได้ใน ๔ อย่างต่อไปนี้ ถ้าจะเอาไปใช้ ใช้ได้สองแบบ แบบหนึ่งตั้งใจจะไม่อยู่ในโลกนี้แล้ว ไม่ใช่ ตาย แต่หมายถึงเอาจริงเอาจังจะบวชไม่สึกกันละ พ้นทุกข์กันเลย ไม่ยุ่ง ทางโลกกันแล้ว หาทางพ้นทุกข์อย่างเดียว อย่างนี้จะ “สวัสดี” ๑๐๐% แต่ถ้ายังข้องอยู่ในโลกต้อง “สวัสดี” อีกแบบหนึ่ง ๑. “สวัสดี” แบบโลกุตระ (ของพระพุทธเจ้า) ๒. “สวัสดี” แบบโลกิยะ (ของเราเอง) แปลมาจากศัพท์เดียวกันกับพระพุทธเจ้า จะถึงซึ่งความ “สวัสดี” ได้เหมือนกัน แต่เป็น “สวัสดี” แบบโลกๆ ที่ชาวโลกถือว่านี่แหละคือชีวิต ที่ประสบความสำเร็จ
16
๑. “สวัสดี”
ทำให้มีสติปัญญา ๑. โพชฌา* แปลว่า ปัญญาเครื่องตรัสรู้ แต่ของเราเอาเพียง ปัญญาแบบทางโลก คนจะ “สวัสดี” ได้ต้องมีปัญญา คือมีความรู้ ต้องรู้ ให้มากกว่าที่รู้ ความรู้ต้องอัพเดทอยู่ตลอดเวลา นักธุรกิจนักการค้าที่ยิ่งใหญ่ซึ่งเป็นอดีตประธานบริษัทที่ทำให้ บริษัทแข็งแกร่งยืนยาวนานที่สุด มียอดขายต่อปีเป็นหมื่นๆ ล้านบาท ดร.เทียม โชควัฒนา มีปรัชญาการค้าสอนไว้น่าสนใจว่า “การธุรกิจถ้าหยุดอยู่กับที่ คือถอยหลังนั่นเอง ตลกมุกเก่าคนไม่ขำ หนังฉายซ้ำคนไม่อยากดู” รู้ไหมว่า คำว่ า “สวั สดี” ในเล่มนี้ อยากรู้เปิดไปดู มีกี่คำนะ คำตอบหน้า ๕๘ จ้า ทุกอย่างนิ่งอยู่กับที่ไม่ได้ ต้องพัฒนาเรื่อยไป เปลี่ยนแปลงเรื่อยไป ให้ทันโลกทันเหตุการณ์ ทั้งการโลก การตลาด การคน แหล่งองค์รวม ความรู้ปัจจุบันมีอยู่มากมาย * อ่านว่า โพด-ชา บริษัท สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำกัด 17
หนังสือ คือสื่อให้ปัญญา
หนังสือเป็นสิ่งหนึ่ง เป็นส่วนหนึ่งของปัญญา การฟังมากอ่านมาก เป็นความ “สวัสดี” พระพุทธเจ้าทรงยกย่องพระอานนท์ว่าเป็นเอตทัคคะ เลิศด้านเป็นพหูสูต หนังสือแปลต่างประเทศเรื่องหนึ่งของ H. Jackson Brown jr. ที่เขียนไว้สอนลูกหลายข้อ มีอยู่ข้อหนึ่งเขาเขียนว่า “หนังสือเป็นที่รวม ปัญญาของโลก จงอ่านหนังสือเดือนละเล่ม” ไม่น่าเชื่อบุคคลสำคัญของ โลกที่ประสบความสำเร็จ มักเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่งตรงชอบอ่านหนังสือ ประธานาธิบดีอับราฮัม ลินคอล์น บอกว่า “เพื่อนที่ดีที่สุดของ ข้าพเจ้า คือเพื่อนที่นำหนังสือมาให้ข้าพเจ้าอ่าน...” ลินคอล์นนั้นเห็น กระดาษตกอยู่ที่พื้นยังเก็บมาอ่าน กระดาษติดอยู่ที่ลังไม้เก่าๆ ก็หยิบมา อ่ า น เดิ น ทางวั น ละ ๘ ไมล์ เ พื่ อ หาหนั ง สื อ มาอ่ า น บ้ า นไม่ มี ไ ฟฟ้ า ใช้ จนขนาดนั้นเลย เอาหนังสือไปอ่านที่โคนเสาไฟฟ้าข้างถนน ไฟคือแสง สว่างส่องหนังสือ หนังสือคือแสงสว่างแห่งปัญญา ส่องสมองส่องจิตใจให้มีคุณภาพชีวิต
เขาคิดได้ว่าเพียงวาทะประโยคเดียว ผลกรรมดี ก็เปลี่ยนแปลงชีวิตได้ จากความตั้งใจเรียนค่ะ ขณะอ่านหนังสือเล่มแล้วเล่มเล่า ในครั้งนั้นเขาไม่ทราบเลยว่า อนาคตของเขาคือคนสวัสดีและ ทำให้ประเทศ “สวัสดี” เป็นบุรษุ หมายเลขหนึง่ ของโลก
เก่งจังลูกแม่
18
นั กวิทยาศาสตร์ยงิ่ ใหญ่เพราะใส่ใจอ่านหนังสือ โทมัส อัลวา เอดิสัน (Thomas Alva Edison) ผู้ทำกลางคืนเป็น กลางวันด้วยหลอดไฟฟ้าเจิดจ้าด้วยแสงสว่างแห่งปัญญานำมาซึ่งความ “สวัสดี” แก่เขาเพียงไหน เขากล่าวว่า “ข้าพเจ้าสละเงินเป็นประจำเพื่อ ซื้อหนังสือมาอ่าน อ่าน และอ่านตลอดชีวิต...” เฮนรี่ ฟอร์ด (Henry Ford) ราชารถยนต์บอกว่า “การลงทุนที่ ยิ่งใหญ่ของข้าพเจ้าคือการอ่านหนังสือ...”
เพราะนักปราชญ์กวีเขียนว่า... หนั งสือคือมิตรเลิศ ย่อมให้เปิดอ่านเรื่อยไป ความคิดที่แจ่มใส ถ่ายทอดมาน่าพิศวง พาเราท่องเที่ยวทั่ว รู้ดีชั่วทั้งอ้อมตรง โทมัส เอดิสัน กลั บใจเลิกใหลหลง เพราะหนังสือสื่อความดี. ประเทศสิงคโปร์คนอ่านหนังสือปีละ ๔๕ เล่ม ประเทศและคนใน ประเทศถึงซึ่งความ “สวัสดี” ประเทศเวียดนามคนอ่านหนังสือปีละ ๖๐ เล่ม ประเทศและคนในประเทศถึงซึ่งความ “สวัสดี” ประเทศไทยคนอ่านหนังสือปีละ ๗ บรรทัด ประเทศไทยและ คนในประเทศจึงเครียด เพราะไม่หาความสุข “สวัสดี” แต่หาความทุกข์ ในการอัดหยิกจิกตี ไม่ชอบอ่านวรรณคดี แต่ชอบก่อการวันละคดี กลัว บ้านเมืองจะเงียบเหงาวังเวง จึงต้องหาเรื่องรบกันเองอย่างเต็มที่ จึงอย่า สงสัยว่าทำไมไทยจึงได้ดีมากกว่าได้ A บริษัท สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำกัด 19
๒. “สวัสดี”
ทำความเพียรให้เกิดมี ผลดีเกิดจากเหตุดี เพียรทำดีไว้เป็นเสบียงบุญ “สวัสดี” มีค่ากว่าที่คิด “สวัสดี” มีฤทธิ์กว่าที่เห็น “สวัสดี” ทุกคนอยากมีและอยากเป็น “สวัสดี” โดดเด่นได้ทำไงดี ? อย่างที่ ๒ ตะปะสา แปลว่า ความเพียร, ความขยัน ซึ่งมีกัน หลายระดับคล้ายปัญญา ต้องใช้ความเพียรให้ถูกต้องเหมือนกัน แม้ความเพียรจะเป็นของดี แต่ถ้าเพียรไปตีรันฟันแทง ปล้นจี้ ขโมย ไม่ได้วันนี้วันหน้าก็ต้องได้ วันนี้ปล้ำมันไม่ได้ วันหน้าต้องปล้ำให้ได้ นี่ไม่ใช่ความเพียรที่เป็นกุศล แต่เป็นอัปมงคลนำตนไม่ให้ “สวัสดี” ศ. สียวน เขียนเป็นบทกวีดังนี้ว่า เกิดเป็นเปรต เพราะทำเหตุไม่ดี หมั่นทำดีไว้นะครับ ต้ องเพียรไม่ให้บาปเกิด เพี ยรตะเพิดบาปหนี เพี ยรให้กุศลมี เพี ยรรักษาดีให้คงทน
20
ความเพียร ๔ อย่าง ทางแห่งความ “สวัสดี”
ทางพุทธศาสนาเรียกว่า “ปธาน” คือ ความเพียร ๔ อย่าง เป็ นหนทางแห่งความ “สวัสดี” อีกระดับหนึ่ง เพี ยรอย่างฉลาดไม่พลาดความสำเร็จ ร่วมแรงร่วมใจ เพี ยรทำงานซะใหญ่โตแต่โง่เบ็ดเสร็จ งานใหญ่แค่ไหน ก็สำเร็จได้ ความสำเร็ จจะมาจากไหน พวกเราช่วยกัน ๑-๒-๓ ยก ลิ ง เกิ ด กตั ญญูแบบว่า อยู่บ้านท่านอย่านั่งดูนิ่ง ปั้นวัวปั้นลิง ให้ลูก ท่ า นเล่ น (ถู กหรือเปล่าหว่า) คิดได้ดังนี้ก็ปรี่ไปก๊อปปี้พากเพียรเลียนแบบ และเรียนแบก ไปแบกน้ำมา รดต้นไม้แบบนาย รดไปหลายต้น เกิดฉงนตามประสาสมองหมาปัญญาลิง คิดในใจ ว่า เอ ?...ใบและต้นก็เปียกแล้ว แต่รากมันล่ะเปียกหรือเปล่า ส่วนสำคัญ ของต้นไม้คือราก รากไม่เปียกต้นไม้เหี่ยวเฉาเหงาแห้งดังหน้าแล้งโรยรา พาให้ใบเหลือง อา... รากมันต้องเปียก เจี๊ยกๆๆๆ ถอนต้นไม้ขึ้นมาดูราก ต้นพริก ต้นกะเพรา ต้นมะเขือนะไม่ใช่ต้นไทร ต้นตาล ต้นรัง นั่นมันต้องลิงสุครีพ วานรทหารพระรามเรื่องรามเกียรติ์แล้วที่ถอนต้นพญารังน่ะ บริษัท สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำกัด 21
มงคล หนทางมุ่งหาความ “สวัสดี”
แต่ นี่ มั น ลิ ง ลพบุ รี ข้ า งล้ อ เกวี ย น ถอนขึ้ น มาดู อ้ อ ...เปี ย ก แล้วปักลงไปในดินใหม่ ถอนแล้วปัก ปักแล้วถอนไปทั่วทั้งร่อง ตายเรียบ หมดไร่ มิมีเหลือไว้ให้ร่ำรวยเลย นี่คือโง่แต่ขยันของแท้ แล้วจะหาความ “สวัสดี” ดี งาม ง่าย รุ่งเรือง ปลอดภัย ได้อย่างไร เมื่อเจ้าของกลับมา ลิงก็ไม่รุ่งแล้ว นอกจาก ไม่รุ่งแล้วยังไม่ปลอดภัยอีกต่างหาก สิ ่งที่น่าแปลกคือ คนชอบหาเทศกาลทำดี รอวั นใหม่ เดือนใหม่ ปีใหม่ รอไปเรื่อยๆ จนมีคนร้องถามว่า เปลี่ยน พ.ศ. ใหม่ เปลี่ยนใจหรือยัง แต่หารู้ไม่หรอกว่าการรอเป็นความเสื่อมระยะแรก และจะเป็นระยะสุดท้ายในที่สุด จากนั้นก็สุดจะเยียวยาแล้ว ทำความดี จะมัวรอรีทำไมละ เจ้านาย ว่าจะบริจาค เสื้อตัวนี้ แต่รอให้เก่า กว่านี้ก่อนแล้วกัน คนที่เรียนสำเร็จ การงานสำเร็จ จนสู่วัยเป็นผู้ใหญ่ แสดงว่าได้ผ่านทะเล กามที่คลื่นลมแรง และสัตว์นานาชนิดมาได้อย่างน่าทึ่ง มีจิตใจเข้มแข็งอย่างน่าชม ไม่แลกชีวิตกับกามารมณ์จนการเรียนชะงัก การงานขะมักไม่เขม้น แต่คะมำหงาย วอดวายวิบัติ ตายเสียก่อนโต แล้วก็โทษผู้อื่นที่ใกล้ตัว
22
การงานไม่คงั่ ค้าง คือตัวอย่างของมงคล
มงคลของพระพุทธเจ้า ๓๘ ประการ ในสมัยพระพุทธเจ้ามีการ เถียงกันถึงเรื่องมงคล เป็นข่าวร้อนกระฉ่อนไปถึงสามภพ ประมุขหลาย โลกไม่เข้าใจมงคล ต่างสับสนว่ามงคลคือวัตถุ จึงเฝ้าเพียรเรียนจนหัวผุ แต่วัตถุมงคล ครั้นถึงการอุบัติขึ้นแห่งพระพุทธเจ้า ทรงตัดสินชี้ขาดไปแต่ครั้ง นั้นแล้วว่าอะไรกันแน่ที่เป็นมงคล ทรงกล่าวว่ามงคลมี ๓๘ ข้อ เป็นบันได ๓๘ ขั้นที่ให้คนก้าวขึ้น มงคล จึงแปลว่า ก้าวหน้า ไม่ใช่ถอยหลัง ก้าวไป ไหน ไปหาความ “สวัสดี” นั่นเอง งานเก่าไม่คั่งค้าง พร้อมรับงานใหม่เต็มที่ มีมงคลอยู่ข้อหนึ่งสอนว่า รู้สึกดีจัง การทำงานไม่คั่งค้างเป็นมงคลอย่างยิ่ง คื อไม่ใช่มงคลธรรมดา นายสต ิ อิ่มสต แต่เป็น เอตัมมังคะละมุตตะมัง างค์บุญ เป็นมงคลชั้นอุดม ไม่ใช่มงคลชั้นอนุบาล ที่คนชอบหากันอยู่เป็นล่ำเป็นสันในเวลานี้ มัวแต่หามงคลอนุบาลซ้ำชั้น ย่ำเท้าอยู่กับที่อย่างนี้ จะก้าวไปข้างหน้าได้อย่างไร ในมงคลข้อนี้สอนไม่ให้ผัดวันประกันพรุ่ง การปล่อยงานให้คั่งค้าง พอกหางหมูเป็นความเสื่อมของชีวิต สอนให้ทำเดี๋ยวนี้ แต่บังเอิญคำว่า ทำเดี๋ยวนี้ มันมีเดี๋ยวอยู่ด้วย ทำเดี๋ยว เดี๋ยวทำ แต่จะหนักไปทางคำหลัง นั่นแหละ ถ้าทำเลยมันจะเดี๋ยวเดียว แต่ถ้าเดี๋ยวทำๆ มันจะบ่อยๆ จนเป็น ร้อยรถบรรทุก
บริษัท สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำกัด 23
ไม่ว่างานอะไร ทิ้งไว้ไม่เป็นมงคล
ผ้าถ้าเราซักวันละตัว ก็สะอาดทั่วได้ทุกวัน ซักแบบมือขยันมันเบา แรงมือ ไม่เมื่อยไม่เหนื่อยมาก แต่ถ้าใส่จนเหม็นสาบแล้วลอกคราบไว้ เรื่อยๆ เหม็นกองๆ ครบหนึ่งเดือนค่อยซัก ต่อให้มีเครื่องซักไว้ก็ยัดเข้าไป ได้ไม่หมด ของคนอื่นอีกล่ะ นั่งรอคิวซัก งานหนักมิใช่น้อย งานอื่นใดก็เป็นดังเช่นนั้น ถ้ามีอย่างเดียวทำเดี๋ยว (นี้) ให้เสร็จ ถ้า มีหลายงานแบ่งความสำคัญก่อนหลังแต่อย่างใดอย่างหนึ่ง จะน้อยมาก ยากง่าย ต้องบังคับบัญชาใจให้ทำให้ได้ จึงจะเกิดความ “สวัสดี” สร้างสมาธิก่อนทำงาน ช่ ว ยกำจัดความเกียจคร้าน ความเกียจคร้านจะบันดาลให้มีนักๆ นะครับ พุท นำไปสู่หนักๆ ทำงานเรื่อยๆ ไม่ โธ เหนื่อยไม่หนัก ทำๆ พักๆ ทั้งหนักทั้งเหนื่อย ชีวิตจะดีได้ ไม่ได้แปลว่าทำโดยไม่ต้องพัก ถ้าไม่ เกี ย จคร้าน แปลว่า ทำทิ้งๆ ขว้างๆ ค้างๆ คาๆ ไม่มีอะไรเสร็จสักอย่าง พอกไว้จนหนา พอหนามันเลยหนัก เรียกว่าหนักหนาและก็สาหัส
คนเป็นทาสของกิเลส จึงวุ่นวาย เป็นทุกข์ อย่างรู้ตัวหรือไม่รู้ตัว
สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เชิญชวนทุกท่านร่วมกันช่วยเพื่อนมนุษย์ให้เอาชนะกิเลส พบสุขได้ ด้วยการพิมพ์หนังสือเล่มนี้แจกเป็นธรรมทาน ยิ่งมาก บุญยิ่งทวี อย่างไม่โลภเมาบุญ รู้ว่าเป็นหน้าที่ช่วยเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน (โปรดใช้ปัญญาพิจารณาเรื่องนี้)
24
เวลาไม่คอยใคร มีอะไรให้รีบทำ
พระพุ ท ธเจ้ า จึ ง ทรงสอนว่ า คนเกี ย จคร้ า นมั ก อ้ า งว่ า หนาวนั ก ร้อนนัก หิวนัก ยังเช้านัก ฯลฯ แล้วไม่ทำการงาน ตั้งนาฬิกาปลุกไว้เช้ามืด จะทำงานอย่างหนึ่งให้เสร็จ นาฬิกาปลุกตีห้า อากาศฤดูนี้เย็นจับขั้วหัวใจ นอนซุกกายอยู่ในห้องอันแสนจะอบอุ่น หมอนเอ๋ยเราจะไม่พรากจากหัว ตัวจะไม่พรากจากเบาะ ร่างกายจะขบเผาะหรือใกล้เผา เราก็จะไม่พราก จากผ้าห่มเป็นอันขาด ตัดสินใจไม่รอราเอื้อมหัตถาไม่รอรี หยุดนาฬิกาและวารีให้อยู่กับ ที่ แล้วนิทราหลับเพื่อชาติอย่างต่อเนื่อง สายๆ ค่อยทำเถอะ เริ่มผัดชั่วโมง ตื่นมาสายแล้ว ทำงานตามที่ตั้งใจ สายแดดร้อนจัด เออ...ร้อนซะแล้ว ไว้ บ่ายๆ เย็นๆ เต๊อะ แดดร่มลมตกค่อยทำ... พอบ่ า ยเย็ น แดดร่ ม ลมตก ฝนดั น ตกแถมเป็ น โปรโมชั่ น มาอี ก อากาศช่างวิปริตแท้ อา...ฝนตกซะแล้ว เอาไว้ตอนค่ำเถอะน่า...ทำแน่ พอค่ำๆ ละครน้ำครำมาอีก (เอ...รัฐแคลิฟอร์เนียเขาดูอะไรกันหนอ ?) ดูไปจนสี่ทุ่มครึ่ง นี่มันไม่ใช่เวลาทำงานแล้วนี่ ดึกซะแล้ว...ตีห้าค่อยทำ โห...วงจรอุบาทว์กลับมาตีห้าอีกแว้ว ไปดื่มกันเถอะ นี่คือความเสื่อมโดยแท้ เพื่อนมากันเยอะเลย ไม่ล่ะ ครบวันซะจนได้ ความดี ไม่ขวนขวาย ตายไป ตกนรกแน่ๆ
วันนี้ไม่ทันแล้ว ไว้พรุ่งนี้เถิด พอพรุ่งนี้ก็เหมือนเดิม
บริษัท สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำกัด 25
รอแต่วนั หน้ารับรองว่าไม่เจอความ “สวัสดี”
นิสัยอะนะ วันหน้าละกัน ผัดไปจน ๗ พรุ่งครบอาทิตย์ อาทิตย์นี้ ไม่ทันอะจ้าอาทิตย์หน้าครับพี่ เลยมาสี่อาทิตย์ยังไม่ได้ทำอะไร ครบเดือน ไว้เดือนหน้าแน่นอน... ครบสิบสองเดือนเป็นหนึ่งปี แหมปีนี้ไม่ทันนะ ปีหน้าคอยดูกูมั่ง เป็นคนใหม่นิวๆๆ ติ๊วๆๆ กะจะเปลี่ยนแปลงตอนปีใหม่ ไปฉลองซะนาน อ้วกจนเลยปีใหม่ก็บอกว่านี่สากลไป ไปตั้งต้นปีใหม่จีน ตรุษจีนค่อยทำ เรามีเชื้อนิดๆ... เลยตรุษจีน แหม ถึงเราอยู่อเมริกาเราก็เป็นคนไทย สงกรานต์ ก็ แ ล้ ว กั น ปี ใ หม่ ไ ทย กลั บ ตั ว กลั บ ใจปี ใ หม่ ไ ทยชั ว ร์ ป้ า บ ไว้ วั น หน้ า ไว้ อ าทิ ต ย์ ห น้ า ไว้ เ ดื อ นหน้ า ไว้ ปี ห น้ า ผั ด จนเผลอ ฮ้ า !...เจ็ ด สิ บ กว่ า แล้วหรือนี่ โอ...ไว้ชาติหน้าเถอะ ! คุณขยันทำงานดีมาก ไม่ ม ท ี างสวั ส ดี ไ ด้ ห รอก ผมอนุ มัติทุกเรื่องที่คุณ เสนอมา เพราะพื ้นฐานไม่เก่งมาแต่ก่อน ขอบคุณครับ ธาตุ เกียจคร้านมันฝังแน่น
จนจรแจ้นแล่นตามไปข้ามชาติ ไม่เคยได้ยินหรือ “เอาไว้ชาติหน้าตอนบ่ายๆ...” เห็นไหมล่ะขนาดชาติหน้าแล้ว ตอนเช้ายังไม่ทำเลย เอาไว้ทำตอนบ่ายๆ 26
ให้สำรวมอินทรีย์มีความสุข สำรวมกาย วาจา ใจ “สวัสดี” ยังมีอยู่ไม่รู้จบ ทำอะไรก็ ส วั ส ดี ยังไม่ครบจบสี่ข้อย่อไขขาน “ศ. สียวน” มาด่วนหายไปเสียนาน คุณผู้อ่านถามหาพาชื่นใจ ขอบคุณคุณผู้อ่านที่โทรศัพท์ถามข้ามทวีปว่าหายไปไหน ติดตาม อยู่ตลอดรอดฝั่งฝามหาสมุทร บอกว่าอ่านแล้วจิตแจ่มใส ได้ข้อคิด แถม ตั ด ไปติ ด ข้ า งฝาบ้ า น เพราะไม่ อ ยากหน้ า บานอ่ า นอิ่ ม ยิ้ ม อยู่ ค นเดี ย ว ใครโฉบเฉี่ยวเดินเลี้ยวมา จะได้พักสายตาจากที่อื่นมายืนอ่าน แบ่งสรร ปันสุขกัน ปลื้มแล้วปลื้มอีกอะค้า ก็ลาหยุดพักไปแล้ว สงสัยคุณผู้อ่านไม่ได้อ่านฉบับนั้นสินะไม่เจอ หน้า (กระดาษ) กัน หนึ่งเดือน อย่าลืมอ่านทุกบรรทัดนะจะได้หายคิดถึง เรื่องสวัสดียังมีอีกสอง ดองเอาไว้ยังไม่ได้ปอกเปลือก เลือกเขียนเรื่อง อื่นคั้น เพราะมีวันสำคัญเข้ามาครอง วันของความรักและนักเก่งกรรม เว้นไปหลายฉบับ วันนี้กลับมาต่อในหัวข้อที่ ๓ ความว่า อินทîริยะสังวะรา แปลว่า สำรวมอินทรีย์ แปลอีกทีถา้ ยังงงอยู่ สำรวม แปลว่า ระวัง, อินทรีย์ แปลว่า อะไรดี ? อินทรี แบบไม่มี ย ยักษ์การันต์แปลว่า ปลาหรือนก ถ้ามี ย ยักษ์การันต์แปลว่า สังขาร ร่างกาย รวมแล้วแปลให้ได้ความว่า ระวัง อวั ย วะในสั ง ขารร่ า งกายมั น จะออกฤทธิ์ ระวั ง ไว้ จ ะไม่ วิ ก ฤติ ระวั ง ไว้ จะวิบูลย์ ไม่ระวังจะวิบัติ ไม่ “สวัสดี” ชีวีจะไม่สวัสดิภาพ
๓. “สวัสดี”
บริษัท สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำกัด 27
สำรวมระวังดี ความ “สวัสดี” ย่อมตามมา
อวัยวะที่ควรทราบควรระวังคือ ตา หู จมูก ลิ้น (อายตนะภายใน) ตามมาดูต่อไปว่าทำไมต้องระวัง ตัวอย่างเรื่องตา เรื่องหูเขียนมาหลาย ครั้งแล้ว ลองมาดูเรื่อง ตา บ้าง มาลันดูแก มาแลดูกัน มาสร้างสัมพันธ์ ส่งความหมายทางสายตา ตา กับ รูป มันอยู่คนละที่ ถ้าระหว่างวิถี ตากับรูปนี้โคจรมาเจอกัน จะเกิดอาถรรพ์ อาร์เอ็กซ์ และอารมณ์ได้ถึง ๓ อย่าง คือ ชอบ ชัง เฉย อารมณ์ทั้ง ๓ อย่าง ให้คุณให้โทษได้ทั้งนั้น ความงามไม่คงที่ มีแต่ความดีที่คงทน เห็ น รู ป เมื่ อ ไปทะเล ไป เย้ๆ... วู้... สวนดอกไม้ ความงามเป็นรูปที่ตา เห็น รู้สึกสดชื่นอากาศดี ทำให้จิต แจ่ ม ใส ร่ า งกายแข็ ง แรง ไร้ โรค โชคดี เป็นคุณค่าที่ดีเป็นกุศล ไปเห็นรถหรือโทรศัพท์รุ่นใหม่ ชอบ อยากได้ เป็นตัณหาพาไป ล้วงกระเป๋า ทั้งๆ ที่เครื่องเก่าก็ยังดีใช้ได้อยู่ ความอยากหรูไม่อยากตกรุ่น อยากให้สังคมตีตราประทับรับรองว่าฉันเป็นคนทันสมัย จึงไม่รู้จักเรื่อง สันโดษ ซึง่ แปลว่า พอเพียงตามมี ยินดีตามได้ อยากหรูหราแต่ไม่อยากรูว้ า่ เวลาจ่ายเงินสังคมจ่ายหรือเราจ่าย
28
สำรวมตาให้ดี ระวังจะเสียทีกิเลส
ปล่อยชีวิตให้เป็นดุจดังดาราฮอลลีวู้ด ที่จะหัวเราะวิโยคโศกเศร้า เหงาสนุกทุกข์จนรวยสวยหล่อ โก้หรูผู้ดีไพร่ ร้ายหรือรัก ชอบใครเกลียด ใครก็ตามสคริปต์ทั้งนั้น ตามแต่ผู้กำกับจะสั่งการไปตามกระแส (ไม่เคยดู ซีรีย์เกาหลี รักนี้ไม่มีสคริปต์) ตาเห็นรูป รถ เสื้อผ้า โทรศัพท์ ไม่รู้จักขยับหลบหลีก กระเป๋าฉีก โดยไม่ได้ตั้งจิตมาแต่ไกล ไม่ได้ตั้งใจมาแต่บ้าน กิเลสมันเกิดมาบานฉ่ำ ฉุกเฉิน มันมาเดิ้นอยู่กลางห้างสรรพสินค้าและโชว์รูม ดูโชว์รูมไม่ระวังตา จึงถูกสิ่งที่โชว์รุมสกรัมเสียสะบักสะบอมไปหมด เพราะเราไม่เป็นตัวของตัวเอง ปล่ อยตัวไปตามสคริปต์ของกิเลส แสดงไปตามบทตามผู ้กำกับสั่งอย่างเดียว จึ งแจ้งเกิดในชีวิตมายา แต่ แจ้งมรณาในชีวิตจริง “ชอบของใหม่ มีสมัย คือไทยแท้ นับตั้งแต่ ปลายเท้า ถึงเกล้าผม ต้องอินเทรนด์ ของแท้ แน่นิยม จึงอุดม ไปด้วย รวยไม่จริง รถคันใหม่ ป้ายแดง เรี่ยวแรงเยอะ ชนเลอะเทอะ ชักดิน้ หงอ งอก่อขิง กางเกงใหม่ ไหงสั้น ถึงชั้นลิง ไอ้หื่นชิ่ง ข่มขืนง่าย ตายทั้งเป็น ผมสีใหม่ เขียวแดงหยก เหมือนนกแก้ว ‘เหา’ ลาแล้ว ย้ายบ้านใหม่ ไม่เคยเห็น เมียก็เก่า เบื่อเหลือเกิน เดินชาเย็น ไปเที่ยวเล่น เมียใหม่ ตายยกครัว”
บริษัท สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำกัด 29
ระวังจิตใจ พิชิตภัยได้ทุกอย่าง
ขณะเดินอยู่ดีๆ อารมณ์ก็ดี หน้าตาก็ดีๆ แต่ตาไปเห็นรูป เห็น ข้อความโพสต์ด่าเราไว้ในอินเตอร์เน็ตหรือฝาผนัง ตาเห็นรูปแบบนี้เกิด อนิฏฐารมณ์๑ อารมณ์ไม่ชอบใจ ใจขุ่นข้อง หน้าเลยพลอยหมองไหม้ ไปด้วย ไปทำกรรมฐานในคุก อุทิศให้เจ้ากรรมนายเวร ทำกรรมฐานในคุก เถอะนะ หมดทุกข์ได้นะ เพราะไฟโทสะมันไหม้จนหมอง ไฟไหม้ฟืนทำให้เป็นถ่านดำ ไฟกิเลสลึกล้ำ ไหม้หน้าคล้ำหน้าพอง ลุ กลามมาเป็นวิญญาณ พยาบาทอาฆาตทำลายล้ าง ชี วิตวิบัติยุ่งยากตามมา เห็นหรือไม่ว่า อยู่ดีๆ แท้ๆ เลย แก้วเปล่าๆ เอาน้ำหวานใส่เป็น แก้วน้ำหวาน เอาเหล้าไปใส่เป็นแก้วเหล้า เอาสตาร์บัคส์ไปใส่มันจะเป็น อะไรไปไม่ได้นอกจากสตาร์บัคส์ หวานอมขมกลืนไปตามสิ่งที่กรอกเท อารมณ์ก็เช่นเดียวกัน ท่านจึงให้ระวังจะทำจะพูดอะไร อย่าใส่ อารมณ์ (ไม่ดี) เพราะถ้าพูด ทำ โดยใส่อารมณ์ จะทำให้ลมใส่หงายท้อง ชักดิ้นชักงอ ต้องฝึกจิต ต้องตามรักษาจิต ต้องพลิกจิต พลิกวิกฤติไม่ให้ วิการ ชีวิตจะได้เหมือนอยู่วิมาน ไม่ให้เหมือนอยู่บนเมรุ ๑ อ่านว่า อะ-นิด-ถา-รม แปลว่า อารมณ์อันไม่น่าปรารถนา
30