คำ�นิยม
บนโลกใบเดียวกันนี้เอง บางที่ก็เป็นประดุจแดนสวรรค์ ผู้คนที่อาศัยอยู่ ณ ที่นั้น ล้วนมีชีวิตเปี่ยมท้นไปด้วยความสุข บรรยากาศและสิ่งแวดล้อมก็เอื้ออำ�นวย อาหารการกิน ก็อดุ มสมบูรณ์ แต่ในเวลาเดียวกัน บางทีบ่ างแห่ง บนโลกใบเดียวกันนี้ กลับมีสภาพประดุจขุมนรก อดอยากหิวโหย มีโรคระบาด รบราฆ่าฟัน เห็นกันและกันประหนึ่งเนื้อ เข้าเชือดเฉือน กระทำ�ทารุณ แก่กันและกัน ไม่ละเว้น แม้แต่เด็ก สตรี หรือคนชรา แม้มีชีวิตอยู่ นรกสวรรค์ ก็ปรากฏให้เรา ได้เห็น ได้สัมผัส ได้รับรู้ เป็นสวรรค์หรือ นรกบนดิน หรือแม้แต่ที่กล่าวว่า “สวรรค์ในอก นรกในใจ” ก็พอจะเข้าใจได้ แล้วชีวิตหลังความตายเล่า เราจะหายสาบสูญไปเฉยๆ เลยใช่ไหม ? ไม่มีอะไรตกค้าง หลงเหลืออยู่เลยใช่ไหม ? ตอบว่าไม่ใช่ เพราะถ้าตายแล้วสูญ ย่อมตกลงไปในฝ่าย “อุจเฉททิฏฐิ” คือ ความเห็นว่าขาดสูญ, ความเห็นว่ามีอัตตาและโลก ซึ่งจักพินาศขาดสูญหมดสิ้นไป แต่ถ้าใคร ที่คิดว่า ตายแล้วต้องไปนอนรอในหลุมฝังศพ รอวันพิพากษา เพื่อที่จะขึ้นสวรรค์ หรือตกนรก ชัว่ จิรกาลาวสาน ก็จะตกไปในฝ่าย “สัสสตทิฏฐิ” คือ ความเห็นว่าเทีย่ ง, ความเห็นว่ามีอตั ตาและโลก ซึง่ เทีย่ งแท้ยงั่ ยืน คงอยูต่ ลอดไป ซึง่ ทิฏฐิทงั้ สองประการนี้ จัดเป็นมิจฉาทิฏฐิ ความเห็นผิดหลงผิด ที่มืดบอดรุนแรง ถ้าหากปลูกฝัง เข้มข้น ลงไปในจิตใจของใครแล้ว เขาผู้นั้นย่อมมีแต่ โลกันตนรก อันหนาวเย็นมืดมิด สุดขอบจักรวาล เป็นคติทไี่ ป ให้ตอ้ งทนทุกข์ทรมาน ยาวนานเกินว่าทีจ่ ะพยากรณ์ “กรรมย่อมให้ผลเป็นยุติธรรม” นรก สวรรค์ คือกระบวนการตามกฎธรรมชาติของจิต ที่จะชำ�ระล้าง จัดสมดุลของ วิญญาณความรู้ อันจิตปรุงแต่งสั่งสมเอาไว้ ด้วยความไม่เป็นกลาง ทั้งฝ่ายกุศลและอกุศล ด้วยการสร้างภพภูมิ อันเสมอด้วยการสลายข้อมูลที่ไม่เป็นกลางเหล่านั้น ให้กลับมาสู่ความเป็นกลาง นรกสวรรค์จึงเป็นสาธารณะ เป็นกฎธรรมชาติ ไม่สนไม่แคร์ ว่าใคร จะนับถือศาสนาอะไร ย่อมให้ผลเป็นยุตธิ รรมเสมอ ไม่มขี อ้ ยกเว้น ขออนุโมทนาสาธุ กับสำ�นักพิมพ์เลี่ยงเชียง ที่ได้นำ� เรื่ อ งราวของ นรกสวรรค์ มาตี แ ผ่ เ ป็ น การ์ ตู น ภาพ ที่ วิ จิ ต ร ด้วยสีสันบรรยากาศ ช่วยให้เยาวชนได้เกิดจิตสำ�นึกที่ดีงาม มี หิริโอตตัปปะ ความละอายและเกรงกลัวต่อบาปกรรม ที่จะไม่ กระทำ�ชั่วต่อไปในอนาคต โมทนาสาธุๆๆ พระภาสกร ภูริวฑฺฒโน (ภาวิไล)
สังคมอุดมศรัทธา คนโบราณสอนเรื่ อ งระบบศี ล ธรรมอั น ดี ง ามหรื อ ทำ � นองคลองธรรมอั น ดี เ อาไว้ โดยเน้นการปลูกศรัทธาในเรื่องดังต่อไปนี้คือ ปลูกคนให้เชื่อชัดลงไปว่า ชาตินี้ ชาติหน้ามีจริง นรก-สวรรค์มีจริง การเกิดใหม่มีจริง การบูชามีผลจริง กรรมและการให้ผลของกรรมมีจริง เป็นต้น โดยไม่ต้องพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ การปลูกศรัทธาเรือ่ งภพชาติ เรือ่ งกรรมและการให้ผลของกรรมเอาไว้แต่เด็กๆ นีเ่ อง ทำ�ให้ เยาวชนรูส้ กึ ละอายชัว่ กลัวบาปกรรม ไม่กล้าทำ�ผิดทัง้ ในทีแ่ จ้งและทีล่ บั ไม่วา่ จะมีคนเห็นหรือไม่เห็น หลักการของคนโบราณเช่นนี้ ทำ�ให้คนในสังคมสามารถปกครองตนเองได้ โดยไม่ต้อง รอให้ใครมาปกครอง หรือใช้กฎหมายมาบังคับ ไม่ต้องแสวงหาประจักษ์พยานหลักฐานใดๆ มาชี้ชัดอีก หากแต่ใช้หิริโอตตัปปะในใจของผู้นั้นเป็นหลัก การสร้างภูมิคุ้มกันแก่ครอบครัวและสังคม จึงต้องเริ่มต้นที่ปลูกศรัทธาแก่ลูกหลาน เยาวชน และประชาชนคนในชาติ จนเป็นสัง คมอุด มศรัทธา มิใช่เอาแต่สังคมอุดมปัญญา จนกลายเป็นอุดมปัญหา เมื่อศรัทธาของเขาหยั่งรากลึกมั่นคงลงไปแล้ว ก็ไม่ต่างจากกล้าไม้ที่รากติดดินแล้ว จะมีแต่เจริญเติบโตก้าวหน้าและมั่นคง ยิ่งโตยิ่งสง่างาม เมื่อโตขึ้นก็จะมีรากแก้วที่มั่นคง สามารถ ต้านลมแรงพายุรา้ ยทุกชนิดได้ จากนัน้ จึงค่อยปลูกปัญญาตาม เมือ่ เขามีปญั ญา เขาก็จะไม่เดินหลงทาง การเน้นปัญญาโดยละทิ้งศรัทธา จะกลายเป็นสังคมทาบกิ่งได้ง่ายๆ โลกวิทยาศาสตร์ยุคนี้เน้นปัญญาก่อนศรัทธา จึงทำ�ให้เด็กไม่เชื่อเรื่องที่ยังพิสูจน์ไม่ได้ เช่น ภพชาติ นรกสวรรค์ ชาติน้ีชาติหน้า ไม่เชื่อว่ากฎแห่งกรรมมีจริง ด้วยเหตุน้ีจึงไม่มีอะไร มากระตุกใจให้เดินถูกทาง เมือ่ ออกนอกทางกันมากๆ ระบบศีลธรรมจึงเสือ่ มโทรมอย่างทีเ่ ห็นกันในวันนี้ ข้าพเจ้าดีใจที่เลี่ยงเชียงได้จัดพิมพ์หนังสือพระมาลัยท่องนรกสวรรค์ข้ามภพภูมิฉบับ การ์ตนู ขึน้ มา เชือ่ มัน่ ว่าจะเป็นหนังสือขายดีและมีคณ ุ ค่าต่อการปลูกฝังศรัทธาโดยไม่สงสัย ข้าพเจ้า ขอแนะนำ�ให้พ่อแม่ทุกครอบครัวมีเล่มนี้ไว้หัวเตียง ให้ลูกอ่านหรืออ่านให้ลูกฟังก่อนนอน การเผยแผ่พระพุทธศาสนาที่ดีที่สุด คือการสร้างแรงบันดาลใจ แก่เยาวชน หนังสือการ์ตูนเล่มนี้ จะเป็นแรงบันดาลใจชั้นเยี่ยม ที่จะช่วย ปลูกศรัทธาและปัญญาแก่ลกู ของท่าน จนสามารถทำ�ให้เขาเปลีย่ นระบบความ คิดจากหน้ามือเป็นหลังมือ และหันกลับมาสนใจเรื่องภพภูมิ กฎแห่งกรรม อันเป็นวัคซีนใจที่สังคมยุคใหม่ใฝ่ฝันหา พระราชญาณกวี (ปิยโสภณ)
คำ�นำ�
เรื่องราวการท่องนรก ท่องสวรรค์ เพื่อเทศน์โปรดสัตว์โลกของ “พระมาลั ย ” พระอรหั น ต์ ผู้ ท รงอภิ ญ ญามากด้ ว ยฤทธิ์ ป าฏิ ห าริ ย์ อันน่ามหัศจรรย์ (จากจินตนาการของพวกเรา) ได้ด�ำ เนินมาถึงภาคที่ ๒ แล้ว !! เป้าหมายสำ�คัญที่สุดในการสร้างสรรค์ผลงานชิ้นนี้ (นอกจากความ บันเทิงทางธรรม) คือ การสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อ่านได้เกิดความศรัทธา เกิดความละอายและเกรงกลัวในบาป เชื่อว่าบาปบุญคุณโทษ นรกสวรรค์ มี จ ริ ง กฎแห่ ง กรรมมี จ ริ ง และนำ � ไปสู่ ก ารปฏิ บั ติ ต นในการละความชั่ ว ทำ�แต่ความดี ทำ�ใจให้บริสทุ ธิ์ มุง่ สูค่ วามพ้นทุกข์ (จากการเวียนว่ายตายเกิด) ดังที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสสอน หวั ง เป็ น อย่ า งยิ่ ง ว่ า หนั ง สื อ การ์ ตู น ธรรมะเล่ ม นี้ คงมี ป ระโยชน์ กับผู้อ่านทุกคนและโลกใบนี้บ้างไม่มากก็น้อย ถ้าพร้อมแล้ว เราไปสัมผัสเรื่องราวอันน่าตื่นเต้น เข้มข้น ของการ์ตูน ธรรมะ “พระมาลัยท่องนรก ๒ – ภาค นรกหม้อเหล็ก” กันได้เลย
ณัฐพันธ์ ปิ่นทวีเกียรติ กันยายน ๒๕๕๙
กมฺมุนา วตฺตตี โลโก : สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
ส�ำหรับ "มหานรก" ขุมใหญ่ ๘ ขุมก็ดี "อุสสทนรก" นรกขุมกลาง ๔ ขุมก็ดี
เป็นนรกที่เกิด มาจากกฎของกรรม
ที่ล่วงละเมิด "ศีล ๕"
และ "อกุศลกรรมบถ ๑๐ ประการ" เป็นส�ำคัญ
สัตว์นรก ที่ต้องรับโทษ ในมหานรก ทั้ง ๘ ขุมนั้น
ไม่ได้แจกแจง ว่าท�ำผิดอะไร แล้วจะต้อง ตกนรกขุมไหน
ขึ้นอยู่กับ ความหนักเบา ของกรรม ของแต่ละคน
ถ้ากรรมหนักสุด ก็ต้องลง “อเวจีมหานรก” มหานรกขุมที่ ๘
เมื่อรับโทษ ในนรกขุมใหญ่ และนรกขุมกลางแล้ว
ใครท�ำความชั่วแบบไหน ก็ต้องตกนรกขุมนั้น
หากชดใช้กรรมยังไม่หมด สัตว์นรกจะต้องถูกลงโทษ ที่ “ยมโลกนรก” นรกขุมเล็กอีก ๑๐ ขุม
แยกโทษ เฉพาะเจาะจงกันไป เป็นขุมๆ
พร้อมจะชมนรกขุมเล็ก ขุมที่ ๑ กันแล้วนะขอรับ
โลหกุมภีนรก
เอาล่ะ !! เปิดประตู
ตอนที่ ๑ :: คตินิมิตตารมณ์
แฮ่ก
แฮ่ก
เอ็งฆ่ามันตาย รึยัง ? ย่ะ... ยัง... ยังไม่ตาย ครับ
แฮ่ก แฮ่ก