â¤Ã§¡Òà “ÃдÁ¸ÃÃÁ ÊѹµÔÊØ¢” ก่อเวรสร้างกรรมใดไว้ ย่อมถูกเลาะไล่ตามให้ผล เป็นเช่นนี้ทุกตัวตน หนีไม่พ้นผลของกรรม
¡ÃÃÁÅÔ¢Ôµ เรียนรูกฎแหงกรรม จากนิทานธรรมบท ประสบการณกรรม จากชีวิตจริง ของคนในปจจุบัน
เคาโครงเรื่อง : ธรรมจักร สิงหทอง บรรณาธิการสาระ : ศักดิ์สิทธิ์ พันธุสัตย ภาพประกอบเรื่อง : สมควร กองศิลา พิมพขอมูล : ธนวรรณ ขันแข็ง
เรียบเรียง บรรณาธิการศิลปะ รูปเลม/จัดอารต พิสูจนอักษร
: ไพยนต กาสี : อนุชิต คำซองเมือง : สุกัญญา ศรีสงคราม : มานิตย กองษา
äÁ‹ÁÕ¤ÓÇ‹ÒÊÒ ¶ŒÒã¨ÃÙŒÊÓ¹Ö¡ ในความเป็นไปของชีวิต ของผู้ที่เคยทำผิดพลาดพลั้ง อาจมีหลายท่านคิดว่า เราเคยทำชั่วทำผิดมาจนนับครั้งไม่ได้ แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว ทำชั่วต่อไปดีกว่า ใครที่คิดเช่นนี้ ถือว่า คิดผิดอย่างมหันต์ เพราะคนเรานั้น ไม่มีใครชั่วจนเกินโปรด และไม่ได้คดจนเกินดัด ดูอย่างพระเทวทัตแม้ทำผิดมากมาย แต่เมื่อสำนึกได้ ยังจะกลับมาเกิดเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า ตัวเราเช่นกันเคยทำผิดมาก็แก้ไขได้ แม้ว่าเรื่องในอดีต เราแก้ไขอะไรไม่ได้เพราะทำไปแล้วนัน้ แต่ในส่วนของปัจจุบนั เมื่อรู้ว่าอะไรดี อะไรชั่ว อะไรควรทำ ควรเว้น ก็จงเลือกเฟ้น ทำแต่สิ่งที่ไม่ก่อความเดือดร้อนแก่ตนและคนอื่น หนั ง สื อ กรรมลิ ขิ ต เล่ ม นี้ สำนั ก พิ ม พ์ เ ลี่ ย งเชี ย งมี เจตนารมณ์พมิ พ์เผยแผ่ในโลกหนังสือ เพือ่ เป็นสือ่ กระตุน้ เตือน จิตสำนึกคนในสังคม ให้มีความระมัดระวังในทุกการกระทำ ทุกคำที่พูด ทุกเรื่องที่คิด โดยเฉพาะที่เป็นความชั่วความผิด ว่ามีผลต่อชีวิตตนอย่างแน่นอน หวังเป็นอย่างยิ่งว่า เมื่อได้อ่านประสบการณ์กรรมของ บุคคลตัวอย่างในเล่มนี้ จักมีส่วนช่วยชี้แนะประคับประคอง ชีวิตท่าน ให้ตั้งมั่นในกรรมดีได้ไม่มากก็น้อย ด้วยใจมุ่งหวังให้ทุกท่านหลุดพ้นบ่วงกรรมเวร น.ธ.เอก, ป.ธ. ๖, พธ.บ., น.บ. รวบรวม/เรียบเรียง ในนามคณาจารย์ สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์
ÃÙŒ·Ñ¹¡ÃÃÁ ¨ÐäÁ‹·ÓªÑèÇ* คำสอนสำคัญเรื่องหนึ่งในพระพุทธศาสนา ก็คือเรื่องว่า ด้วย กฎแห่งกรรม ความเข้าใจเรื่องกรรม และการให้ผล ของกรรม จะทำให้คนเราไม่น้อยใจในโชคชะตาชีวิตของตน และไม่เป็นคนอิจฉาริษยาในความสำเร็จของผู้อื่น เพราะมี ความเข้าใจว่า การที่แต่ละคนเกิดมา มีชีวิตประสบพบพากับ ความสุข ความทุกข์ ความเจริญ ความล้มเหลว เป็นต้น นั่นเป็นเพราะผลกรรมของแต่ละคนเคยทำไว้ ความเข้าใจชัดในเรื่องกรรม และการให้ผลของกรรม ยังทำให้บุคคลมีวิริยะอุตสาหะทำความดีให้มากขึ้น มีน้ำใจ หยิ บ ยื่ น แบ่ ง ปั น ช่ ว ยเหลื อ ผู้ อื่ น ที่ เ ป็ น เช่ น นี้ เพราะมี ความรู้สึกกลัวเกรงต่อผลของกรรมชั่วหากขืนไปทำเข้า
คนเปนทาสของกิเลส จึงวุ่นวาย เปนทุกข์
ช่วยเพื่อนมนุษย์ให้เอาชนะกิเลส พบสุขได้ ด้วยการพิมพ์หนังสือเล่มนี้แจกเปนธรรมทาน ยิ่งมาก บุญยิ่งทวี *หน้า ๓-๑๘ โดย...ไพยนต์ กาสี
สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์
3
à¤ÃÒÐË ´ÕËÃ×ÍÌҠ໚¹ä»µÒÁ¡ÃÃÁ
คำว่า กรรม แปลว่า การกระทำ นั้น เป็นคำกลางๆ ยัง ไม่ระบุชี้ชัดลงไปว่า เป็นการกระทำที่ดีหรือชั่ว ต่อเมื่อเติม คำบริบทลงไปจึงรู้ได้ เช่น กุศลกรรม แปลว่า กรรมดี คือ การกระทำที่ ดี หรื อ อกุ ศ ลกรรม แปลว่ า กรรมชั่ ว คื อ การกระทำที่ไม่ดี แต่ ค วามเข้ า ใจคนทั่ ว ไปนั้ น ยั ง มี ค วามคลาดเคลื่ อ น กั น อยู่ เ พราะมั ก ใช้ ค ำว่ า กรรม ในการบ่ ง ถึ ง สิ่ ง ไม่ ดี มี ผ ล เป็นบาป เช่น เมื่อใครต้องประสบกับความโชคร้ายในชีวิต เป็นต้นว่าเกิดมาพิการ ก็มักเรียกว่า คนมีกรรม ต่างจาก คนที่เกิดมาสมบูรณ์ด้วยรูปสมบัติ โภคสมบัติ มักเรียกว่า คนมี บุ ญ แท้ จ ริ ง แล้ ว ทั้ ง สองกรณี เ กิ ด จากกรรม คื อ การกระทำทั้งนั้น ดั ง ที่ สมเด็ จ พระญาณสั ง วร สมเด็ จ พระสั ง ฆราช สกลมหาสั ง ฆปริ ณ ายก ประทานพระวรคติ ธ รรมเรื่ อ งนี้ ไว้ว่า “คำว่า ‘กรรม’ นั้น โดยทั่วไปใช้ ใน ความหมายว่า ความไม่ดี เช่นเดียวกับ บาปกรรม และอกุศลกรรม จึงเท่ากับ ทั่วไปใช้คำว่า ‘กรรม’ เป็นคำย่อของ กรรมไม่ดี คือบาปกรรม หรืออกุศล กรรม”
44
กรรมลิขิต
ฉะนั้ น ทุ ก คนที่ เ กิ ด มา จึ ง มี ก รรมด้ ว ยกั น ทุ ก คน คื อ ยังทำกรรม และรับผลของกรรมกันอยู่ไม่เว้นในแต่ละวัน ดังจะเห็นได้วา่ บางท่านได้ดมี คี วามเจริญก้าวหน้า ก็เพราะว่า กรรมดีของตน แต่บางคนก็ได้พบกับความทุกข์ยากลำบาก เดือดร้อน นั่นเป็นเพราะกรรมชั่วที่เขาเคยทำไว้ เมื่อเป็นเช่นนี้ ความโชคดีหรือโชคร้าย ที่ใครๆ ต่าง ประสบพบเจอนั้น ถ้าว่าตามหลักการพระพุทธศาสนาแล้ว จึงไม่ได้ขึ้นอยู่กับอำนาจใดๆ ภายนอกตัวเราเลย แต่แท้จริง แล้วมันขึ้นอยู่กับเหตุ คือ กรรมที่เคยทำไว้ มาส่งเป็นวิบาก คือผล จนทำให้ได้รบั สุข หรือทุกข์อยูใ่ นขณะนี้ ดังมีพทุ ธดำรัส ตรัสรับรองไว้ว่า กมฺมุนา วตฺตตี โลโก แปลโดยใจความว่า สัตว์โลก ย่อมเป็นไปตามกรรม เจ้าประคุณสมเด็จพระญาณสังวรฯ ทรงอรรถาธิบาย เพิ่มเติมไว้ว่า “สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม เป็นคำใน พระพุทธศาสนสุภาษิต มีความหมายว่า คน สัตว์ทั้งหลาย เชื่อมั่น ! สร้างบุญนำหน้า สิ่งดีæ จะตามมา ช้าเร็วก็มาเอง ไม่ต้องนั่งเ½‡ารอให้ทรมานจิตใจ
·Õè໚¹ä»µ‹Ò§æ ¹Ò¹Ò ·Ø¡¢ ¡çÁÕ ÊØ¢¡çÁÕ ´Õ¡çÁÕ ªÑèÇ¡çÁÕ ÁÔä´Œà¡Ô´áµ‹¼ÙŒã´Í×è¹ ÁÔä´Œà¡Ô´áµ‹ÍÐäÃÍ×è¹ ÁÔ㪋à¡Ô´áµ‹à˵Øã´·Ñ§é ¹Ñ¹é ¹Í¡¨Ò¡¡ÃÃÁ·Õèµ¹ ä´Œ¡ÃзÓáÅŒÇàͧ¹Ñé¹”
สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ 55
อำนาจกรรม ทำให้คนได้ดีหรือชั่ว ᵋÅФ¹ äÁ‹àËÁ×͹¡Ñ¹àŹŒÍ...
พระพุทธองค์ ตรัสเรื่องกรรม และการให้ผลกรรมไว้ว่า กมฺมํ สตฺเต วิภชติ ยทิทํ หีนปฺปณีตตาย* แปลโดยความว่า กรรม ย่อมจำแนกสัตว์ ให้ดี หรือเลวแตกต่างกันไป จากพุทธภาษิตในข้างต้นนั้น จะเห็นว่า ทุกชีวิตล้วน เป็นไปตามอำนาจอันยิ่งใหญ่ของกรรม เพราะกรรมสามารถ ลิขิตให้ชีวิตดีขึ้น หรือเลวลงได้ และในเรื่องทำไมคนเราถึง เกิดมาแตกต่างกันนี้ มีปรากฏในจูฬกัมมวิภังคสูตร ซึ่งเป็น พระสูตรหนึ่งที่กล่าวเรื่องกรรมไว้โดยละเอียด แต่ขอนำมาลง โดยย่อ พอเป็นแนวทางศึกษาเรื่องกฎแห่งกรรม ดังนี้ ในสมัยที่พระพุทธเจ้ายังทรงพระชนม์ ประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร กรุงสาวัตถี มีพราหมณ์เศรษฐีคนหนึ่ง ชื่อโตเทยยพราหมณ์ เขามีบุตรชายคนหนึ่งชื่อสุภมาณพ * อ่านว่า กำ-มัง, สัด-เต, วิ-พะ-ชะ-ติ, ยะ-ทิ-ทัง, ฮี-นับ-ปะ-นี-ตะ-ตา-ยะ
66
กรรมลิขิต
พราหมณ์คนนี้ มีนิสัยขี้เหนียวมาก แม้บ้านจะอยู่ไม่ไกลจาก ที่ประทับของพระพุทธเจ้ามากนัก แต่ก็ไม่เคยจะทำบุญอะไร แม้ดอกไม้สักกำมือหนึ่งก็ไม่เคยนำไปถวายบูชา ทุกวัน เขาสอนบุตรชายอยู่เสมอว่า รักษาสมบัติให้ดี โดยยกตัวอย่างยาหยอดตาที่บีบทีละหยด ก็หมดไปได้ ฉันใด ทรัพย์ทมี่ อี ยูเ่ ช่นกัน ใช้จา่ ยวันละบาท สองบาท ร้อย สองร้อย เดี๋ยวก็หมดได้ ฉันนั้น ส่ ว นตั ว อย่ า งของการก่ อ ร่ า งสร้ า งตั ว ก็ ย กเอาปลวก เอาแมลงผึ้งมาเป็นข้อเปรียบเทียบว่า ถ้าเจ้าอยากสร้างฐานะ ก็ให้ดูปลวกนะ มันขนดินมาทีละนิดๆ ยังทำเป็นจอมปลวก ใหญ่ โ ตได้ หรื อ ไม่ ก็ แ มลงผึ้ ง ที่ น ำเกสรดอกไม้ ม าสั่ ง สม ทีละน้อย วันเวลาเคลื่อนคล้อยไปไม่นาน ทำให้มันมีน้ำผึ้ง หอมหวานอยู่ในรวงรัง เป็นต้น กาลต่ อ มา โตเทยยพราหมณ์ ป่ ว ยหนั ก ไม่ ทั น บอก ลูกชายว่าตนฝังสมบัติไว้ก็ตายลง คงเป็นเพราะความห่วง สมบัติมาก ทำให้เขาไปเกิดเป็นลูกสุนัขในบ้านนั้นเอง ส่วน ลูกชายก็รักเจ้าลูกสุนัขตัวนี้เป็นพิเศษ ก็ให้คนเลี้ยงดูอย่างดี* ครั้นวันหนึ่ง พระพุทธองค์ ได้เสด็จบิณฑบาตผ่านบ้าน สุภมาณพ บังเอิญว่าเขาไม่อยู่ ลูกสุนัขเมื่อเห็นพระพุทธเจ้า ก็เริ่มส่งเสียงเห่าหอน พระองค์จึงตรัสออกไปว่า
เสริมธรรม
*นี่เปนเรื่องแสดงให้เห็นถึงความผูกพันกันของคน ในสังสารวัฏ ดังพุทธดำรัสที่ตรัสว่า ทุกชีวิตที่เกิดมา ล้วนต่างเคยเปนบิดา มารดา พีน่ อ้ งร่วมเผ่ากันมาทัง้ สิน้
สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ 7 7
â΋§ â΋§ !! â΋§ â΋§ !!
“โตเทยยพราหมณ์ ชาติก่อนเจ้าก็ดูหมิ่นเรา ทำให้มา เกิดในอัตภาพเช่นนี้ ชาตินี้ยังแสดงกิริยาเช่นนี้อีก ตายไป เจ้าจะเกิดในนรก” ลู ก สุ นั ข พอฟั ง พระดำรั ส เพี ย งเท่ า นี้ ก็ วิ่ ง หนี เข้ า ไป ในบ้านนอนจับเจ่าอยู่ข้างเตาไฟ แม้คนรับใช้จะอุ้มไปนอน บนที่นอนก็กลับมานอนที่เดิม สุภมาณพ เมื่อเสร็จธุระกลับมาบ้านเห็นสุนัขของตน นอนอยู่ที่นั้นก็ตวาดคนรับใช้ว่าไม่ดูแล แต่คนรับใช้ก็บอกว่า อุ้มมันไปนอนแล้วมันก็แอบกลับมาอีก สุภมาณพ จึงถามว่าเกิดอะไรขึ้น คนใช้ก็รายงานไป ตามที่ ไ ด้ เ ห็ น เมื่ อ เขาได้ ฟั ง ก็ โ มโหสุ ด ขี ด ที่ มี ผู้ ก ล่ า วหาว่ า บิดามาเกิดเป็นสุนัข ทั้งที่พราหมณ์บอกว่าไปเกิดเป็นพรหม จึ ง รี บ เดิ น ทางไปเฝ้ า พระพุ ท ธเจ้ า เมื่ อ ถึ ง แล้ ว ก็ ไ ม่ ถ วาย อภิวาทกราบไหว้ ถามทันทีทันใดว่า พระองค์รู้อย่างไร ว่า บิดาของเราไปเกิดเป็นสุนัข
88
กรรมลิขิต
พระพุ ท ธองค์ ตรั ส ตอบว่ า ถ้ า อยากพิ สู จ น์ เย็ น นี้ หลังจากให้ลูกสุนัขกินข้าวปลาอาหารแล้ว พอมันนอนให้ ลองกระซิบถามมันเบาๆ ว่า พ่อฝังสมบัติไว้ที่ไหน แล้วจะรู้ ว่าเรื่องที่เราพูดจริงหรือไม่จริง ครั้ น ตกเย็ น สุ ภ มาณพก็ ท ำตามทุ ก ประการ ฝ่ า ยเจ้ า ลูกสุนัข พอถูกเขาถาม ก็ทราบทันทีว่า ลูกชายรู้เรื่องที่เขามา เกิดเป็นสุนัขแล้ว จึงวิ่งไปที่ฝังสมบัติไว้ ใช้เท้าตะกุยตะกาย เป็นสัญญาณ เขาจึงจัดการให้คนขุดลงไปเจอสมบัติมากมาย ตามที่ตรัสไว้ จึงเกิดความเลื่อมใสในพระพุทธเจ้า ครั้นรุ่งเช้าวันใหม่ สุภมาณพได้เข้าเฝ้าพระพุทธองค์ ทูลถามข้อสงสัยที่เคยข้องใจมานานว่า “ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ อะไรเป็นเหตุเป็นปัจจัย ทำ ให้มนุษย์ที่เกิดมา เลว และประณีตแตกต่างกัน คือ ทำไมบางพวกเกิดมาอายุสั้น บางพวกอายุยืน ทำไมบางพวกมี โรคภั ย ไข้ เจ็ บ เบี ย ดเบี ย นมากมาย บางพวกมีสุขภาพอนามัยแข็งแรงไม่มีโรค ทำไมบางพวกผิ ว พรรณงดงามผ่ อ งใส บางพวกมี ผิวพรรณทรามเศร้าหมอง ทำไมบางพวกมีเกียรติศักดิ์ล้นฟ้า บางพวกไร้เกียรติ ทำไมบางพวกเกิดมายากจน บางพวกร่ำรวย ทำไมบางพวกเกิดในตระกูลต่ำ บางพวกตระกูลสูง ทำไมบางพวกเกิดมามีปญ ั ญาทราม บางพวกมีปญ ั ญาดี เป็นอัจฉริยะ พระเจ้าข้า” พระพุทธองค์ จึงทรงแสดงพระธรรมเทศนาโปรดเขา โดยตรัสตอบปัญหาของเขาเป็นคู่ๆ ไป ดังนี้
สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์
ñ ¤¹·Õèà¡Ô´ÁÒáÅŒÇ໚¹¤¹ÁÕÍÒÂØÊÑé¹ เพราะ
ชาติก่อนชอบฆ่าสัตว์ หลังจากตายก็ไปเสวยผลกรรมชั่ว ในนรก เมือ่ ใช้กรรมในนรกนัน้ หมด หากกลับมาเกิดเป็นมนุษย์ จะเป็นคนมีอายุสั้น เพราะเศษกรรมที่เหลืออยู่ µÒÂᵋÍÒÂØÂѧ¹ŒÍÂàÅ ÅÙ¡áÁ‹
¤¹·Õàè ¡Ô´ÁÒáÅŒÇ໚¹¤¹ÁÕÍÒÂØÂ¹× เพราะชาติกอ่ น
เป็นคนยึดมั่นในศีล ๕ เว้นการฆ่าสัตว์ตัดชีวิตโดยเด็ดขาด หลังจากตายก็ไปเกิดในภพภูมิที่ดี หากกลับมาเกิดเป็นมนุษย์ อีกจะเป็นคนมีอายุยืน ÍÒÂØÂ×¹àËÁ×͹‹ҹРËÅÒ¹àÍ Â
เสริมธรรม
“กรรมเก่า คือ สิ่งต่างæ ที่ปราก¯ในป˜จจุบัน แก้ ไม่ ได้ แต่รู้เท่าทันได้ ดังคำว่า อดีตเป็นเหตุ ป˜จจุบันเป็นผล”
พระอาจารย์มิต«ูโอะ คเวสโก
1010
กรรมลิขิต
ò ¤¹·Õè à ¡Ô ´ ÁÒáÅŒ Ç à»š ¹ ¤¹ÁÕ âäÀÑ Â ä¢Œ à ¨ç º àºÕ´àºÕ¹ เพราะชาติกอ่ นชอบเบียดเบียนคนอืน่ สัตว์อนื่
ให้ไ ด้รั บ ความเดือ ดร้ อ น ทุกข์ทรมาน หลังจากตายต้อง ตกนรก เมื่อใช้กรรมในที่นั้นแล้ว ถ้าได้มาเกิดเป็นมนุษย์ เป็นเหตุให้มีโรคร้ายประจำตัว à¨çº¨Ñ§àÅÂ...
¤¹·Õè à ¡Ô ´ ÁÒáÅŒ Ç à»š ¹ ¤¹äÁ‹ ÁÕ âäÀÑ Â ä¢Œ à ¨ç º
เพราะชาติก่อนเป็นคนมีจิตเมตตากรุณาต่อคนและสัตว์ ไม่เบียดเบียนใคร ให้เดือดเนื้อร้อนใจ หลังจากตายก็ไปเกิด ในภพภู มิ ที่ ดี ด้ ว ยผลแห่ ง กรรมดี เมื่ อ เกิ ด มาเป็ น มนุ ษ ย์ จึงไม่มีโรคร้ายประจำตัว á¢ç§áç¡ÒÂ-㨠à¾ÃÒÐäÁ‹¢Ò´àÁµµÒ
สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ 11 11
ó ¤¹·Õèà¡Ô´ÁÒáÅŒÇ໚¹¤¹ÁÕÃٻËҧäÁ‹ÊÇ äÁ‹ Ë Å‹ Í เพราะชาติก่อนมีนิสัยเป็นคนขี้โมโหฉุนเฉียว
หลังจากตายก็ไปเกิดในภพภูมิที่ไม่ดี เมื่อกลับชาติมาเกิดเป็น มนุษย์ทำให้เป็นคนมีรูปร่างขี้เหร่ไม่สวยงาม ªÒµÔ¡‹Í¹·ÓãËŒà¡Ô´ÁÒ Ë¹ŒÒµÒäÁ‹´Õ ªÒµÔ¹Õé¢Í·Ó´Õ·´á·¹
¤¹·Õè à ¡Ô ´ ÁÒáÅŒ Ç à»š ¹ ¤¹ÁÕ Ë ¹Œ Ò µÒ´Õ เพราะ
ชาติก่อนเป็นคนอารมณ์ดี ไม่ใจร้อนหุนหันพลันแล่นเพราะ ความโกรธ หลังจากตายก็ไปเกิดในสุคติโลกสวรรค์ เมื่อกลับ มาเกิดเป็นมนุษย์จะเป็นผู้มีรูปร่างหน้าตาดี ˹ŒÒµÒ´Õ ¨Ôµã¨µŒÍ§´Õ´ŒÇ¤‹Ð
เสริมธรรม
“กรรมใหม่ คือ การสร้างเหตุ ในป˜จจุบัน หากปล่อยใจ ตามกิเลส ก็เท่ากับทำเหตุไม่ดี แต่เมื่อใดสร้างกรรมดี ในป˜จจุบัน ด้วยศีล สมาธิ ป˜ญญา อนาคตก็จะเป็น ผลดี ดังคำที่ว่า ป˜จจุบันเป็นเหตุ อนาคตเป็นผล” พระอาจารย์มิต«ูโอะ คเวสโก
12 12
กรรมลิขิต
ô ¤¹·Õèà¡Ô´ÁÒáÅŒÇ໚¹¤¹äÁ‹ÁÕÍÓ¹Ò¨ÇÒʹÒ
เพราะชาติกอ่ นเป็นคนชอบอิจฉาตาร้อนในความดีของผูอ้ นื่ เห็นใครทำดีนอกจากไม่ชื่นชมยังตำหนิติเตียน หลังจากตาย ก็ไปเกิดในอบายภูมิ เสวยผลกรรมชั่วหมดแล้ว เมื่อกลับมา เกิดเป็นมนุษย์ทำให้เป็นคนต่ำต้อย ไม่มีเกียรติ áÁŒà¡Ô´ÁÒµŒÍµèÓ ¾ÂÒÂÒÁ·Ó´Õ¡°Ò¹Ð
¤¹·Õàè ¡Ô´ÁÒáÅŒÇ໚¹¤¹ÁÕÍÓ¹Ò¨ÇÒÊ¹Ò เพราะ
ชาติก่อนไม่เป็นคนอิจฉาตาร้อนคนอื่น เห็นใครทำดีก็พลอย ยินดีชนื่ ชมเขา เมือ่ กลับมาเกิดเป็นมนุษย์จะเป็นคนมีวาสนาดี มีผู้นับหน้าถือตา à¡Ô´ÁÒÁÕÂÈÈÑ¡´Ôì ᵋÂѧÃÑ¡·Ó´ÕàÃ×èÍÂä»
สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ 13 13
õ ¤¹·Õèà¡Ô´ÁÒáÅŒÇ໚¹¤¹ÂÒ¡¨¹ เพราะชาติ
ก่อนเป็นคนตระหนี่ เป็นคนไม่มีน้ำใจ เมื่อเกิดมาในชาตินี้ จึงเป็นคนยากจนขัดสนเงินทองของใช้ต่างๆ ªÒµÔ¹ÕéáÁŒÂÒ¡äÃŒ ¢ÍÊÙŒµ‹Íä»ãËŒ´Õ¢Öé¹
¤¹·Õèà¡Ô´ÁÒáÅŒÇ໚¹¤¹ÃèÓÃÇ เพราะชาติก่อน
เป็นคนมีน้ำใจ รู้จักช่วยเหลือผู้อื่น เห็นใครตกทุกข์ได้ยาก ก็ไม่นงิ่ ดูดาย ในชาตินจี้ งึ เกิดในตระกูลทีร่ ำ่ รวยหรือทำมาค้าขึน้ ÁÕºØÞ˹عʋ§ ¡ç¨ÐäÁ‹ËŧÁÑÇàÁÒ
เสริมธรรม
“พระพุทธเจ้าให้ความสำคัญกับกรรมป˜จจุบัน มากกว่า กรรมในอดีต เราจึงควรให้ความสำคัญกับการกระทำ ในชาตินี้ ถึงจะเป็นผู้มีทรัพย์ติดตัวมามาก หากชาตินี้ ขาดศีล ขาดป˜ญญา สักวันเงินทองก็ต้องหมดไป” พระอาจารย์ ไพศาล วิสาโล
14 14
กรรมลิขิต
ö ¤¹·Õàè ¡Ô´ã¹µÃСÙŵèÓ เพราะชาติก่อนเป็นคน
ไม่มีสัมมาคารวะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อสมณะชีพราหมณ์และ ผู้ใหญ่ในตระกูลเมื่อเกิดมาในชาตินี้จึงเกิดในตระกูลที่ต่ำต้อย áÁŒà¡Ô´ÁÒµèÓµŒÍ 㹪ҵԻ˜¨¨ØºÑ¹ ᵋ¢ÍÁØ‹§ÁÑè¹ãËŒ´Õ¢Öé¹ ¡Ç‹Òà´ÔÁ
¤¹·Õèà¡Ô´ã¹µÃСÙÅÊÙ§ เพราะชาติก่อนเป็นคนมี
สัมมาคารวะอ่อนน้อมถ่อมตน ไม่ยกตนข่มท่าน เมื่อเกิดมา ในชาตินี้จึงเกิดในตระกูลสูง áÁŒÁÕÇÒÊ¹Ò´Õ ¡ç¨ÐäÁ‹´Óà¹Ô¹ªÕÇÔµ ´ŒÇ¤ÇÒÁ»ÃÐÁÒ·
สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ 15 15
÷ ¤¹·Õè à ¡Ô ´ ÁÒáÅŒ Ç à»š ¹ ¤¹â§‹ à¢ÅÒ เพราะ
ชาติกอ่ น ไม่สนใจใฝศกึ ษา ไม่เคยถามเรือ่ งบาปบุญคุณโทษ ผลกรรมจากอดีตทำให้ชาตินเี้ ป็นคนโง่เขลาเบาปัญญา ¶Ö§¨Ð©ÅÒ´¹ŒÍ ¡ç¨Ð¤‹ÍÂæ ÈÖ¡ÉÒä»
¤¹·Õàè ¡Ô´ÁÒáÅŒÇ໚¹¤¹ÁÕ»Þ ˜ ÞÒ เพราะชาติกอ่ น
เป็นคนชอบใฝหาความรู้จากผู้รู้ในเรื่องต่างๆ รวมถึงเรื่อง บาปบุญคุณโทษ เพื่อจะประพฤติได้อย่างถูกต้อง เมื่อเกิดมา ในชาตินี้จึงเป็นคนมีปัญญาฉลาด ÁÕ¤ÇÒÁÃÙŒ ᵋ¼Á¡çàªÔ´ªÙ¤Ø³¸ÃÃÁ
เสริมธรรม
“ก®แห่งการสะท้อนกลับ เรียกอีกอย่างว่า ก®แห่งกรรม เราให้ความสุขแก่ ใคร ความสุขนัน้ ก็สะท้อนกลับมาทีเ่ รา เราให้คุ³ค่าแก่เด็ก เด็กก็ ให้คุ³ค่าแก่เรา” พระอาจารย์ ไพศาล วิสาโล
16 16
กรรมลิขิต
ในที่สุดพระพุทธองค์ก็ได้สรุปย้ำว่า กรรมที่เป็นไปเพื่อความเป็นคนมีอายุสั้น ย่อมนำไปสู่ ความเป็นคนมีอายุสั้น กรรมที่เป็นไปเพื่อความเป็นคนมีอายุยืน ย่อมนำไปสู่ ความเป็นคนมีอายุยืน กรรมที่เป็นไปเพื่อความเป็นคนมีโรคมาก ย่อมนำไปสู่ ความเป็นคนมีโรคมาก กรรมที่เป็นไปเพื่อความเป็นคนมีโรคน้อย ย่อมนำไปสู่ ความเป็นคนมีโรคน้อย กรรมที่เป็นไปเพื่อความเป็นคนมีผิวพรรณทราม ย่อม นำไปสู่ความเป็นคนมีผิวพรรณทราม กรรมที่เป็นไปเพื่อความเป็นคนมีผิวพรรณผ่องใส ย่อม นำไปสู่ความเป็นคนมีผิวพรรณผ่องใส สวยงาม กรรมที่ เ ป็ น ไปเพื่ อ ความเป็ น คนมี เ กี ย รติ ย ศชื่ อ เสี ย ง ย่อมนำไปสู่ความเป็นคนมีเกียรติยศชื่อเสียง กรรมที่เป็นไปเพื่อความเป็นคนไร้เกียรติไร้ศักดิ์ศรี ย่อม นำไปสู่ความเป็นคนไร้เกียรติไร้ศักดิ์ศรี กรรมที่เป็นไปเพื่อความเป็นคนยากจน ย่อมนำไปสู่ ความเป็นคนยากจน กราบขอบพระคุณท่านผู้ใหญ่ใจบุญ ที่จัดพิมพ์หนังสือเล่มนี้เปนธรรมทาน และส่งให้หนูๆ ได้อ่านศึกษาครับ/ค่ะ
สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ 17 17
กรรมที่ เ ป็ น ไปเพื่ อ ความเป็ น คนร่ ำ รวย มี โ ภคทรั พ ย์ ย่อมนำไปสู่ความเป็นคนร่ำรวย มีโภคทรัพย์ กรรมที่เป็นไปเพื่อความเป็นคนเกิดในตระกูลต่ำ ย่อม นำไปสู่ความเป็นคนเกิดในตระกูลต่ำ กรรมทีเ่ ป็นไปเพือ่ ความเป็นคนเกิดในตระกูลสูง ย่อมนำ ไปสู่ความเป็นคนเกิดในตระกูลสูง กรรมที่เป็นไปเพื่อความเป็นคนมีปัญญาทราม ย่อมนำ ไปสู่ความเป็นคนมีปัญญาทราม กรรมที่เป็นไปเพื่อความเป็นคนมีปัญญาเฉลียวฉลาด ย่อมนำไปสู่ความเป็นคนมีปัญญาเฉลียวฉลาด ที่เป็นเช่นนี้ เพราะสัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของตน เป็น ทายาท ผู้รับผลของกรรม กำเนิดเกิดมาเพราะกรรม มีกรรม เป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่งพาอาศัย สรุปว่า กรรมเป็น ผูจ้ ำแนกแยกแยะสัตว์ทงั้ โลก ให้เลวและประณีตต่างๆ กันไป จากนี้ไป ขอยกตัวอย่าง กฎแห่งกรรม ทั้งในส่วนอดีต และปัจจุบัน ซึ่งเคยเกิดขึ้นท่ามกลางสภาพของสังคม และ ความเชื่อที่แตกต่างกัน พอเป็นตัวอย่างดังต่อไปนี้ 18 18
กรรมลิขิต
ñ ¡®¡ÃÃÁ¢Í§¤¹à¹Ã¤Ø³ ÁѹÁ×´ä»ËÁ´àÅÂ
พระคุณของพ่อแม่ผใู้ ห้กำเนิดเกิดกาย ทัง้ ยังรับภาระ หน้ า ที่ เ ลี้ ย งดู ลู ก น้ อ ยกลอยใจจนเติ บ ใหญ่ นั้ น ท่ า นว่ า เทียบได้กับแสงดวงอาทิตย์ ที่ให้ความสว่างในกลางวัน หรือแสงจันทร์ ที่ให้ความสว่างแจ้งตอนคืนเดือนหงาย ซึ่งปกติชนทั้งหลายย่อมมองเห็นได้ด้วยตาของตน แต่มี คนเจ้ากรรมบางรายที่ไม่อาจเห็นได้นั่นคือ คนตาบอด...!
คนตาบอด ไม่เห็นแสงอาทิตย์ แสงจันทร์ได้ ฉันใด คนใจบอด ก็มองไม่เห็นคุณบิดรมารดาทีม่ ตี อ่ บุตรธิดา ฉันนัน้ ทีจ่ ริง คนอืน่ แค่ให้เงินใช้ ให้ขา้ วเรากิน เรายังนับถือยกย่อง ว่าเขาเป็นคนดี แต่พอ่ แม่เป็นผูใ้ ห้สงิ่ ทีใ่ ครอืน่ ให้ไม่ได้นั่นคือ ชีวติ ใครคิดเนรคุณท่าน ต้องประสบผลกรรมอย่างเลวร้าย ขนาดว่าพระมหาโมคคัลลานะ อัครสาวกเบือ้ งซ้ายผูม้ ฤี ทธิม์ าก ยังต้องชดใช้ผลกรรมที่เคยทำ ดังเรื่องราวต่อไปนี้
สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ 1 1
แผนพิฆาตพระพุทธศาสนา*
สมัยที่สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ยังทรง พระชนม์อยู่ ประทับ ณ พระเวฬุวันมหาวิหาร พวกเดียรถีย์ นักบวชนอกศาสนาปรึกษากันถึงเรื่องประชาชนหันมานับถือ พระพุทธศาสนามากขึ้นทำให้พวกเขาเสื่อมลาภสักการะ ¾Ç¡âÂÁ·Ó¡ÃÃÁ ÍÐäÃänjŋÐ?
ได้รับคำตอบว่า ที่เป็นเช่นนั้น เพราะพระเถระรูปหนึ่ง ชื่อมหาโมคคัลลานะ สามารถเดินทางไปถึงเทวโลก ถาม พวกเทวดาว่าทำกรรมใดถึงได้มาเกิดในเทวโลก แล้วจึงกลับ มาบอกพวกมนุษย์ว่า “เหล่าเทวดาพากันทำกรรมอย่างนี้ จึงได้บังเกิดในเทวโลก เสวยทิพยสมบัติอย่างนี้” แล้วยัง เดินทางไปนรก ถามเหล่าสัตว์นรกถึงกรรมที่ทำอันเป็นเหตุ ให้ ม าเกิ ด ในนรก แล้ ว กลั บ มาบอกพวกมนุ ษ ย์ ถ้ า เราฆ่ า พระเถระนั้ น ได้ ลาภสั ก การะก็ จ ะเกิ ด แก่ พ วกเราแทน จากนัน้ ก็ได้พากันรวบรวมเงินทอง เพือ่ เป็นค่าจ้างแก่พวกโจร ให้ฆ่าพระมหาโมคคัลลานะ *หน้า ๒๐-๒๖ โดย...ธรรมจักร สิงห์ทอง
20 20
กรรมลิขิต
พระมหาโมคคัลลานะ รับกรรมเก่า พวกโจรรับเงินค่าจ้างแล้ว มุ่งหน้าไปสู่ป่ากาฬสิลา ล้อม กุฏิของท่านไว้ พระเถระทราบว่าพวกโจรล้อมกุฏิ จึงแสดง ฤทธิ์หายตัวออกไปทางช่องลูกกุญแจ ครั้งที่สอง พระเถระ เหาะหนีออกไปทางหลังคา ÂÍÁÁѹà¶ÍÐ ¡ÃÃÁʹͧàÃÒáÅŒÇ
ครัง้ ทีส่ าม พระเถระทราบว่า ผลกรรมเก่าทีเ่ คยทำมาแต่ อดีตชาติตามทันแล้วจึงไม่ได้หลบเลี่ยง พวกโจรจับพระเถระ ทุบตีทา่ นจนร่างแหลกเหลวโยนเหวีย่ งเข้าหลังพุม่ ไม้แล้วหนีไป พระเถระคิดว่าเราเข้าเฝ้าพระศาสดาก่อนแล้วจึงนิพพาน จึงประสานร่างให้คืนด้วยพลังฌานสมาบัติ เหาะไปเข้าเฝ้า กราบทูลขอนิพพาน เมื่อได้รับพระพุทธานุญาตแล้วจึงไปสู่ ป่ากาฬสิลานิพพานในที่นั้น
เสริมธรรม
คาถาพระโมคคัลลานะประสานกระดูก หลวงพ่อเมีย้ น วัดโพธิì ท่านใช้รกั ษาโรคกระดูกให้แก่ญาติโยม มีเนือ้ ความว่า เถโร โมคคัลลาโน อันตะระธายิตวî า ภูมสิ ขุ มุ งั ปะระมาโน ภะคะวะโต อิทธิยา อตตะโน สะรีเร มังสัง โลหิตงั ใช้สวด ภาวนาเสกปูนขาวหรือปูนแดงทาบริเว³ทีก่ ระดูกหัก ไพยนต์ กาสี
สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ 21 21
กรรมสนองกรรม
ข่าวการนิพพานของพระมหาโมคคัลลานะได้กระฉ่อนไป ทัว่ ชมพูทวีปว่าท่านถูกโจรฆ่า ในทีส่ ดุ พระเจ้าอชาตศัตรูได้ส่ง สายลับตามจับผู้ลงมือพร้อมผู้บงการได้ทั้งสิ้น ทรงรับสั่งจับ โจรพร้อมด้วยเดียรถียป์ ระมาณ ๕๐๐ คน ลงโทษโดยฝังร่าง ลงดินจนถึงสะดือแล้วใช้ฟางกลบ ให้ประหารด้วยการใช้ไฟ เผาจนไหม้ ให้ใช้ไถเหล็กไถจนตัวขาดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยให้ สาสมแก่ความผิดที่ได้กระทำไว้ ภิกษุสนทนากันในธรรมสภาว่า พระมหาโมคคัลลานะ นิพพานไม่เหมาะสมแก่ฐานะ ช่างน่าสังเวชจริง ? พระศาสดาเสด็จมาแล้วตรัสว่า โมคคัลลานะนิพพาน ไม่เหมาะสำหรับชาตินี้ แต่ในอดีตชาติ เธอเคยทำบาป กรรมทีเ่ ลวร้ายสมกับการถูกทำร้ายจนนิพพานแล้ว จากนัน้ จึ ง ทรงนำเรื่ อ งในอดี ต ชาติ ข องพระเถระมาแสดงแก่ ภิ ก ษุ ทั้งหลาย ดังนี้ ¾Ç¡à¨ŒÒ¦‹Ò¾ÃÐà¶ÃÐ µŒÍ§µÒµ¡µÒÁ¡Ñ¹
22 22
กรรมลิขิต
บุพกรรมของพระมหาโมคคัลลานะ แม่ผัว ลูกสะใภ้ มีเรื่องเล่าไว้ในตำนาน ในอดีตกาลยาวไกล มีบุรุษชาวเมืองพาราณสีคนหนึ่ง ทำหน้าที่ทุกอย่าง เลี้ยงดูพ่อแม่ผู้แก่ชรามีตาบอดทั้งสองข้าง โดยไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยหรือรำคาญเบื่อหน่ายเลย วันหนึง่ พ่อแม่พดู กับลูกว่า ลูกเอย พ่อแม่มแี ต่แก่เฒ่า เห็นเจ้าทำงานคนเดียว เดี๋ยวจะหาหญิงสาวมาเป็นภรรยา จะได้ช่วยกันทำมาหากิน ครั้นลูกชายได้ฟังก็ร้องห้ามว่า ไม่ต้องหามาหรอกครับ ผมไม่แน่ใจว่าหญิงทีม่ าเป็นสะใภ้จะรักท่านเหมือนผมหรือไม่ ผมขอเลีย้ งดูจนกว่าพ่อกับแม่จะสิน้ ชีวติ แม้พอ่ แม่ออ้ นวอน หลายครัง้ ก็ปฏิเสธเรือ่ ยไป แต่พอ่ แม่กต็ ดิ ต่อหญิงมาให้จนได้ ¹ÕèÅÙ¡ªÒ¢ͧáÁ‹àͧ
หญิงสะใภ้นนั้ แรกๆ ก็ปรนนิบตั ริ บั ใช้พอ่ แม่ของเขาดี จากนั้นไม่นานก็นึกรำคาญคนแก่ ไม่ต้องการอยู่ร่วม จึงหา เรื่องต่างๆ นานาว่า ขี้บ่นจู้จี้ ช่วยตัวเองไม่ได้ เพื่อยุสามี ให้นำพ่อแม่ไปไว้ที่อื่น แต่สามีก็ไม่เชื่อ
สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ 23 23
หลงเมียจนลืมพ่อแม่เรือ่ งจริงแท้แม้ในปัจจุบนั ต่อมาเวลาสามีออกไปทำงานนอกบ้าน เธอก็แกล้งนำ เศษขยะเข้ามาโปรย สิ่งของเครื่องใช้วางไว้เกะกะ ตลอดจน เศษอาหารเที่ยววางให้เกลื่อนไปทั้งบ้าน ครั้นสามีกลับบ้าน ถามว่าเกิดอะไรขึ้น ก็กล่าวว่า ผลงานพ่อแม่พี่นะสิ ทำที่อยู่ ให้สกปรกรกรุงรัง ฉันเห็นทีจะอยู่ร่วมกับแกทั้งสองไม่ได้แล้ว หญิงสะใภ้บ่นเช่นนี้ทุกครั้งที่สามีกลับจากทำงานนอกบ้าน ¾‹ÍáÁ‹¾Õ蹋ÐÊÔ ·ÓàÅÍÐà·ÍÐ
ในที่สุดบุรุษผู้มีบุญเคยทำไว้มาก แต่เพราะลมปากของ ภรรยาชั่ว ทำให้ตัวต้องแตกกับพ่อแม่ผู้บังเกิดเกล้าจนได้ จึงรับปากกับภรรยาว่า เดี๋ยวพี่จะจัดการกับแกทั้งสองคนเอง ต่อมาวันหนึง่ ลูกชายให้พอ่ แม่รบั ประทานอาหารแล้ว กล่าวออกอุบายว่า พ่อแม่ครับ วันนี้ ญาติทอี่ ยูอ่ กี บ้านหนึง่ อยากพบท่านทั้งสอง ให้ลูกพาไปพบด้วย เมื่อพ่อแม่ตกลง จึงได้พาขึ้นเกวียนออกเดินทางไป ครั้นถึงกลางป่าแห่งหนึ่ง จึงบอกว่า พ่อครับ ถือเชือกไว้แทนผมหน่อย แถวนี้มีโจร มาก ผมขอลงไปดูลาดเลาก่อน ว่าแล้วก็ลงจากเกวียนไป 24 24
กรรมลิขิต
ความรักพ่อแม่นนั้ ยิง่ ใหญ่ แม้ตวั ตายยังห่วงลูก ฝ่ า ยลู ก ชายพอ ลงจากเกวียนไม่นาน ก็ได้เปลี่ยนเสียงทำที เป็ น พวกโจรดั ก ซุ่ ม ปล้ น ฆ่ า กระโดดขึ้ น มาบนเกวี ย น แล้ ว ทุ บ ตี พ่ อ แม่ ผู้ ต าบอด สนิท ซึ่งไม่คิดขอชีวิต แม้ ค ำเดี ย ว แต่ มี ใจเฉลี ย วถึ ง ความปลอดภั ย ของบุ ต รชาย จึงร้องเตือนไปว่า ลูกเอย พ่อแม่แก่แล้ว โจรจะฆ่าตายก็ชา่ งมัน แต่เจ้าอายุยังน้อย รีบหนีไปเถิดลูก ไม่ต้องห่วงพ่อแม่ คำพูดพ่อแม่ที่เปล่งออกมาด้วยความรัก ห่วงลูกยิ่งกว่า ชีวิตของตนเพียงนี้ ยังไม่สามารถกลับใจของลูกชายให้เป็น คนดีได้เลย กลับทำให้เขาต้องทำมาตุฆาต ปิตุฆาต ทุบตีพ่อ และแม่ ทั้ ง สองจนสิ้ น ชี วิ ต แล้วทิ้งร่างของท่านไว้ในป่าดง แห่งนั้นแล้วกลับบ้านไป บาปกรรมที่น่าเศร้าสลดได้เกิดขึ้นกับบุรุษท่านนี้ แม้จะ เคยสร้างบุญบารมีมากมายก็ตาม ด้วยบาปกรรมนี้เองทำให้ ต้องถูกเผาไหม้ในนรกหลายแสนป คงเหลือเศษผลกรรม บางส่วนทำให้ตอ้ งถูกทุบตีจนเสียชีวติ ร่างแหลกเหลวนานถึง หนึ่งร้อยชาติ ชาติสุดท้ายเกิดมาเป็นพระมหาโมคคัลลานะ แม้บรรลุพระอรหัตผล ยังไม่พ้นผลกรรมตามสนอง ËÂØ´!!...¹Õè¤×Í¡ÒûŌ¹
สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ 25 25
อาญาสวรรค์ บทลงทัณฑ์คนเนรคุณ Ì͹àËÅ×Íà¡Ô¹
ดังนั้น คนที่ทำร้ายท่านผู้ไม่คิดร้ายตอบ ย่อมประสบกับ เหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง ที่เรียกว่า อาญาสวรรค์ ๑๐ อย่างใด อย่างหนึ่ง แล้วแต่ความรุนแรงของกรรมที่ทำนั้น คือ ๑) ได้รับทุกขเวทนาแสนสาหัสในชีวิต ๒) เสียทรัพย์ ยากจนตั้งตัวไม่ได้ ๓) เจ็บปวยด้วยโรคร้ายแรง ๔) เสียสติ หรือเป็นบ้า ๕) ประกอบอาชีพใดๆ ไม่มคี วามเจริญก้าวหน้า ๖) ถูกใส่ความให้เสือ่ มเสีย ๗) เป็นคนไร้ญาติขาดมิตรสหาย ๘) ถูกคนร้ายปล้นจี้ หรือถูกโกงให้ย่อยยับ ๙) ทรัพย์ที่มี ถูกไฟไหม้ ๑๐) เกิดชาติใดเป็นคนอายุสนั้ พลันตาย เป็นต้น
เสริมธรรม
“มีคนถามว่า ทำอย่างไรจะไม่จน อาตมาบอกว่าไม่ยากหรอก ถ้ากินอย่างพ่อแม่ ให้ ใช้อย่างพ่อแม่สอน ท่านลองคิดดูสิ พ่อแม่เรามีลูกตั้งหลายคนแต่เลี้ยงมาจนโตทุกคน ถ้าไม่ อยากจนก็เอาวิชาทีพ่ อ่ แม่เลีย้ งเรามานัน่ แหล่ะเลีย้ งตัว เลีย้ ง ลูกเราต่อไป รับรองได้วา่ รอดทุกคน จนไม่มี หนี้ ไม่เกิด”
พระราชวิจิตรป¯ิภา³
26 26
กรรมลิขิต
บุคคลสำคัญที่ควรยึดมั่นกตัญู
จะเห็นว่า ผลกรรมของคนอกตัญูนั้น ช่างน่ากลัวนัก ทำอย่างไรจักพ้นกรรมนี้ พระเดชพระคุณพระพุทธวรญาณ (มงคล วิโรจโน) วัดประยุรวงศาวาส ท่านชี้แนะไว้ว่า พ่อแม่ เป็นบุคคลสำคัญในชีวติ ลูก ด้วยว่าแต่ละคน มีพ่อได้เพียง คนเดียว มีแม่ ได้เพียงคนเดียว อันนีห้ มายถึงพ่อแม่บงั เกิดเกล้า «ึ่งถ้าท่านล้มหายตายจากไป จะหามาแทนใหม่ อี ก ก็ ไ ม่ ได้ ต้องกลายเป็นคนกำพร้า ที่จริง ควรจะเรียกว่า กรรมพราก เพราะ กรรมมาพรากให้จากพ่อแม่ กรรมทีท่ ำกับพ่อแม่นี้ มีผลร้ายแรงมาก ดูอย่าง ท่านพระมหาโมคคัลลานะทีป่ ระทุษร้ายพ่อแม่ ต้องตก นรกเป็นแสนæ ป‚ บาปยังมีผลทำให้ถกู ¦่าตายอีกเป็น ร้อยæ ชาติ ขนาดเป็นพระอรหันต์ผทู้ รงÄทธิì กรรมยัง ติดตามอีกจนได้ การศึกษาเรื่องกรรม ทำให้เกิดกัมมัสกตาสัทธา เชือ่ กรรมว่ามีผลจริงæ จะได้ ไม่กล้าทำบาป ทำกรรม และจะทำให้เรารักพ่อ รักแม่ บูชาพ่อแม่มากยิ่งขึ้น «ึง่ นับว่าเป็นบุญอย่างประเสริ°
สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ 27 27
ò ÊÑµÇ ÊÂͧÊͧ¾Ø·¸Ñ¹´Ã* ·‹Ò¹àËç¹ÍÐäÃËÃ×ͤÃѺ
ในสมัยที่พระพุทธองค์ทรงพระชนมชีพอยู่ ประทับอยู่ ณ พระเวฬุวันมหาวิหาร วันหนึ่ง ท่านพระมหาโมคคัลลานะ ลงจากเขาคิชฌกูฏพร้อมด้วยพระลักษณะ ผ่านที่หนึ่งบริเวณ เชิงเขาได้ยมิ้ แย้มแล้วเดินผ่านไปโดยไม่ปริปากพูดแม้แต่คำเดียว พระลักษณะเห็นเช่นนั้น เกิดความสงสัย ถามว่า ท่าน ผู้มีอายุ ได้พบเห็นสิ่งใดจึงได้ยิ้มแย้มเช่นนั้นขอรับ พระเถระตอบว่า ท่านอย่าพึ่งถามเรื่องนี้ในเวลานี้เลย ให้พวกเราไปถึงพระเวฬุวัน เข้าเฝ้าพระศาสดาก่อนค่อยถาม ครั้นพระเถระทั้งสอง ได้เข้าสู่เมืองราชคฤห์ เที่ยวบิณฑบาต ในเมืองกลับออกมาฉันภัตตาหารเสร็จแล้ว จึงพากันเข้าเฝ้า พระบรมศาสดา ณ พระเวฬุวัน * หน้า ๒๘-๓๕ โดย...ธรรมจักร สิงห์ทอง
28 28
กรรมลิขิต
จากนั้ น พระมหาโมคคั ล ลานะจึ ง ได้ เริ่ ม สนทนากั บ พระลักษณะเถระว่า ผู้มีอายุ ผมได้เห็นเปรตตนหนึ่ง รูปร่าง ใหญ่โต มีร่างกายคล้ายมนุษย์ แต่ศีรษะเหมือนศีรษะสุกร ปากของมันไม่สามารถปิดสนิทได้ เพราะมีหางยื่นออกมามี หมู่หนอนไต่ยั้วเยี้ยไหลออกมาจากปากของมัน ผมคิดว่า เราไม่เคยพบเห็นสัตว์ที่มีรูปร่างหน้าตาอย่างนี้มาก่อน จึงได้ ยิ้มแย้ม พระศาสดาได้ ส ดั บ ดั ง นั้ น จึ ง ตรั ส ว่ า ภิ ก ษุ ทั้ ง หลาย สัตว์ที่มีรูปร่างหน้าตาอย่างนี้ เราก็เคยเห็นที่โคนต้นโพธิ์ แต่เราไม่พดู เพราะเป็นสิง่ ทีพ่ สิ จู น์ยาก บัดนีพ้ ระโมคคัลลานะ เป็นพยานให้ จึงรับรองได้ว่า เป็นเรื่องจริง แล้วได้ทรงเล่าถึง กรรมเก่าของเปรตตนนั้น ให้ภิกษุทั้งหลายฟังดังนี้
เสริมธรรม
เปรต มี ๒ ความหมาย คือ ๑) ผู้ที่ตายไปแล้ว เรียกว่า เปตชน ๒) ภูมิที่เกิดหลังจากตายไปแล้วของบุคคลผู้มากไปด้วย โลภกิเลส เรียกว่า เปรตวิสัย
ไพยนต์ กาสี
สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ 2 2
กรรมเก่าของสุกรเปรต
นิสัยของผู้มีปัญญา มีแขกมาย่อมต้อนรับ ¾Ñ¡¼‹Í¹µÒÁʺÒ¹з‹Ò¹
ในอดีตกาลยาวไกล สมัยพระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า กัสสปะ มีพระเถระ ๒ รูป อยู่จำพรรษาในอาวาสเดียวกัน ใกล้หมู่บ้านตำบลหนึ่ง รูปหนึ่งอายุ ๖๐ พรรษา อีกรูปหนึ่ง อายุ ๕๙ พรรษา รูปที่อาวุโสน้อยกว่าแม้เพียงพรรษาเดียว แต่ก็ตั้งใจทำวัตรปฏิบัติรับใช้เช่นกับว่าเป็นพระอาจารย์ วันหนึง่ มีพระอาคันตุกะรูปหนึง่ เดินทางมาอาวาสแห่งนัน้ พระเถระทั้งสองต้อนรับด้วยอัธยาศัยไมตรี ได้จัดที่พักให้ ตลอดจนแนะนำให้ญาติโยมได้รู้จัก พร้อมทั้งอาราธนาให้ ท่านแสดงธรรมให้ทุกคนได้รับฟัง ปรากฏว่าทุกคนชอบใจ เลื่อมใสนำเครื่องสักการะมาถวายมากมาย และอาราธนา ฉันภัตตาหารในวันรุ่งขึ้น
เสริมธรรม
อาคันตุกะ แปลว่า ผูจ้ รมา ตรงกับคำในภาษาไทยว่า แขก หรื อ ผู้ ม าเยื อ น การต้ อ นรั บ แขก จั ด เป็ น คารวธรรม อย่างหนึ่ง เรียกว่า ป¯ิสันถารคารวตา มีวิธีป¯ิบัติ คือ ต้อนรับด้วยสิ่งของ เรียกว่า อามิสป¯ิสันถาร ต้อนรับ ด้วยคำพูดดีงาม เรียกว่า ธรรมป¯ิสันถาร 30 30
กรรมลิขิต
ไพยนต์ กาสี
ความโลภมากอยากได้ ทำให้คิดก่อกรรม เพราะเหตุได้ลาภสักการะ ที่ญาติโยมนำมาถวาย ทำให้ พระอาคันตุกะคิดว่า พระเถระทั้งสอง หัวอ่อนเหลือเกิน ถ้าหาทางแกล้งท่านให้หนีไป แล้วอาศัยอยู่ที่นี่แทนน่าจะดี ต่อมา พระอาคันตุกะได้เริ่มวางแผนทำลายพระเถระ ทั้งสอง โดยเข้าพบทีละองค์แล้วพูดมีเงื่อนงำว่า ท่านครับ ผมมีเรื่องบางเรื่อง แต่ไม่ทราบว่าจะเล่าให้ท่านฟังดีหรือไม่ ครั้นพระมหาเถระรบเร้าหลายครั้ง จึงพูดว่า ท่านครับ อย่าให้กระผมต้องพูดเลย ไม่ดีแน่ ว่าเสร็จแล้วก็เข้าไปหา พระอนุเถระ พระอาคันตุกะทำอย่างนั้นอยู่หลายวัน ทำให้ พระเถระทั้งสองเริ่มหวาดระแวงต่อกัน ¾ÃÐ͹Øà¶Ãз‹Ò¹äÁ‹¾Í㨠ÍÐä÷‹Ò¹ËÃ×ͤÃѺ
อยู่มาวันหนึ่ง พระอาคันตุกะเข้าไปหาพระมหาเถระ กล่าวว่า ท่านครับ มีเรือ่ งบางเรือ่ งผมอยากถาม แต่ไม่กล้า พระมหาเถระมองหน้าคล้ายจะถามความในใจ และพูด ว่า คุณสงสัยอะไร ถามมาเถอะ ไม่ต้องกลัว ผมอนุญาต
สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ 31 31
ความสามัคคีแตกได้ง่าย เพียงอาศัยแค่ลมปาก จากนั้ น พระอาคั น ตุ ก ะจึ ง เริ่ ม วาดลวดลายทั น ที ว่ า ท่านครับ กระผมไม่ทราบว่า ท่านพระอนุเถระ ขัดใจกับ ท่านเรื่องอะไร ? พระมหาเถระเบิกตามองท่าทางตื่นเต้น ถามทันทีว่า ท่านพูดอะไรเช่นนั้น ผมทั้งสองเป็นเสมือนพี่น้องร่วมท้อง มารดาเดียวกัน ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางใจกันเลย พระอาคันตุกะถามย้ำว่า เป็นเช่นนั้นหรือครับ ก็ได้รับ คำตอบว่า ถูกต้อง จึงกล่าวต่อไปว่า ท่านครับ พระอนุเถระ พูดกับผมว่า “คุณเป็นคนฉลาด จะคบหากับพระมหาเถระ เพราะเห็ น ว่ า เป็ น ผู้ มี ศี ล มี ค วามละอาย ต้ อ งคิ ด ให้ ดี ” ตั้งแต่วันที่ผมมาถึง ท่านพูดอย่างนี้หลายครั้งแล้ว เมื่อพระมหาเถระได้ฟังเช่นนั้น ก็เกิดอาการโกรธแค้น ความรักความผูกพันที่เคยมีมานานแสนนาน ขาดสะบั้นลง เช่นเดียวกับว่าว หลุดลอยไปเพราะสายป่านขาด แตกหักลง เฉกเช่นหม้อดิน ถูกไม้ทุบตีแตกสลายไป ฉะนั้น จากนั้น พระอาคันตุกะก็ได้ไปหาพระอนุเถระแล้วพูด เหมือนกับที่พูดกับพระมหาเถระ ¾ÃÐÁËÒà¶ÃÐºÍ¡Ç‹Ò ·‹Ò¹à»š¹¤¹äÁ‹¹‹Ò¤º
32 32
กรรมลิขิต
หากเป็นคนไม่หนักแน่น ก็ถูกยุยงได้ง่าย ในที่สุดพระเถระทั้งสอง ซึ่งไม่เคยแม้แต่แยกกันเดิน บิณฑบาต ต้องมาแยกทางกันเดิน ครั้นกลับจากบิณฑบาต พระอนุเถระกลับถึงก่อน พระมหาเถระกลับมาถึงภายหลัง พระอนุเถระเห็นท่านมาถึงก็คดิ ว่า เราควรรับบาตรและ จีวรของพระมหาเถระนีห้ รือไม่ อีกใจหนึง่ ก็ปฏิเสธว่า อย่ารับ แต่ก็อดใจอ่อนไม่ได้ คิดว่า กิจวัตรคือการดูแลท่าน เราทำ มาโดยตลอด ถ้าหยุดเสีย เป็นการไม่สมควรยิ่ง จึงเข้าไปหา กล่าวว่า ท่านครับ ขอบาตรของท่านให้ผมช่วยถือเถอะ พระมหาเถระเห็นเช่นนั้นก็ตวาดอย่างดุดันว่า ไปเสีย ให้ไกลคนหัวดื้อ คุณไม่ควรมารับบาตรจีวรของฉันต่อไป พระอนุเถระเมื่อถูกดุตวาดเช่นนั้น ได้แต่ทอดถอนใจ กล่าวว่า ความจริง ผมก็คิดว่าจะไม่รับบาตรจีวรของท่าน อีกต่อไป เมื่อพระมหาเถระได้ฟังเช่นนั้น ก็บันดาลอาการโกรธ พู ด ว่ า คุ ณ เป็ น ผู้ น้ อ ย คิ ด หรื อ ว่ า ฉั น ยั ง อยากจะอยู่ ร่ ว ม อารามของคุ ณ คุ ณ อยู่ ไ ปเถอะ แม้ พ ระอนุ เ ถระก็ ก ล่ า ว เช่นนั้นเหมือนกัน แล้วพระเถระทั้งสองต่างก็จัดแจงถือบาตร และห่มจีวรแยกย้ายกันออกเดินทางไปคนละทิศ แม้ทั้งสอง จะถูกพระอาคันตุกะทำเป็นแสร้งทัดทานไม่มีผล ˹ѧÊ×ÍÊ‹§àÊÃÔÁ¡ÒÃÍ‹Ò¹ à¾×èÍÊÌҧÊÃä Êѧ¤ÁãˌʧºÊØ¢ ÂÒÁÊÓ¹Ö¡¼Ô´¤Ô´¶Ö§¡ÃÃÁªÑèÇ·Õèà¤ÂËÅÇÁµÑÇ·Ó Ë¹Ñ§Ê×ÍàÅ‹Á¹Õ骋Ç·‹Ò¹ä´Œ ÂÒÁÍÂÒ¡á¹Ð¹ÓãËŒ¼ÙŒÍ×è¹·Ó¡ÃÃÁ´Õ Í‹Ò¹áÅŒÇÍ‹ÒÅ×ÁÊÑè§ÊÁºØÞ à¾ÔèÁºØÞà¾×èÍÅ´¡ÃÃÁÌҢÂÒ¡ÃÃÁ´Õ
สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ 33 33
ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย วันรุ่งขึ้น พระอาคันตุกะได้เข้ารับบิณฑบาตในหมู่บ้าน ชาวบ้านไม่เห็นพระเถระทั้งสองจึงถามหา ได้รับคำตอบว่า อย่าถามเลย พระเถระทั้งสองทะเลาะกันเมื่อวานนี้ อาตมา ห้ามทัดทานก็ไม่ฟัง พากันหนีออกจากวัดไปแต่เช้าแล้ว ชาวบ้านได้ยินข่าวนั้นคิดว่า พระเถระทั้งสองไม่เคยมี เรื่องเสียหาย ถ้าจะมี ก็น่าเป็นเพราะพระอาคันตุกะเป็นแน่ พระเถระทั้งสอง หลังแยกย้ายกันไป พระมหาเถระได้ แต่คิดว่า พระอนุเถระทำได้อย่างไร ไปเที่ยวพูดกับภิกษุที่ เห็นกันเพียงชั่วครู่ว่า อย่าคบหากับเรา ส่วนพระอนุเถระก็ คิดเช่นเดียวกัน ทั้งสองรูปไม่มีจิตใจที่จะปฏิบัติธรรมเลย ครั้นเวลาผ่านไป ๑๐๐ ปี พระเถระทั้งสองเกิดพบกัน ณ วัดแห่งหนึ่ง ก็ได้ถามข้อผิดพลาดของกันและกันที่เกิดขึ้น ก็รู้ว่าเป็นเพราะพระอาคันตุกะมีเจตนาทำลายให้แตกกัน จึงได้ชวนกันเดินทางกลับไปที่วัดเพื่อจัดการกับภิกษุรูปนั้น ครั้นมาถึง พระอาคันตุกะจำพระเถระทั้งสองได้ ทำทีเข้าไป ต้อนรับ ถูกพระมหาเถระชี้นิ้วตวาดว่า คุณไม่สมควรอยู่วัดนี้ จงหลีกไปเสียให้ไกล อย่าได้หวนกลับมาอีก พระอาคั น ตุ ก ะ เมื่ อ ถู ก พระมหาเถระผู้ มี ศี ล ตวาด เช่นนั้นก็ไม่สามารถอยู่ในวัดแห่งนั้นได้ต่อไป จึงหลีกไปหา ที่อยู่ใหม่ และใช้ชีวิตความเป็นพระตามสมควรก็มรณภาพ อ่านสิบรอบ คิดสิบหน ฝึกฝนปัญญา ฉลาดใช้ เฉลียวคิด ชีวิตมีมหาสติ จักสนุก สุข สงบ เย็น เฉกเช่นนิพพานในปัจจุบัน
34 34
กรรมลิขิต
ก่อกรรมด้วยการยุแหย่คนให้แตกสามัคคีกัน เมื่อแตกกายทำลายขันธ์ ย่อมตกนรก »Ò¡ªÍºÂØáË‹à¢Ò ·ÓãËŒàÃÒ໚¹à»ÃµÊØ¡Ã
ในที่สุด สมณธรรมที่เคยบำเพ็ญมานานถึงสองหมื่นป ก็ไม่สามารถจะช่วยเหลือไว้ได้ เมื่อเคลื่อนจากอัตภาพ ความเป็นพระแล้วก็ไปเกิดในนรกอเวจี กาลเวลาผ่านไปนาน ถึงหนึ่งพุทธันดร จึงได้เกิดเป็นเปรตสุกร เสวยทุกขเวทนา ต่อไปอีกที่เชิงเขาคิชฌกูฏ จะเห็นว่ากรรมที่พระอาคันตุกะทำกับพระเถระทั้งสอง สามารถส่งผลให้ได้รบั การสนองโดยไม่มสี งิ่ ใดมาบรรเทาได้เลย แม้แต่ศีลที่เคยรักษา สมาธิจิตที่เคยบำเพ็ญมาเป็นเวลานาน ก็ไม่สามารถช่วยให้พ้นจากการตอบสนองของผลกรรมได้
เสริมธรรม
การพูดยุแหย่คนให้แตกจากกัน เป็นอกุศลกรรมบถ คือ การก่อกรรมชัว่ ทางวาจาข้อหนึง่ เรียกว่า ป ส³ุ าวาจา แปลว่า พูดส่อเสียด ได้แก่ การพูดให้รา้ ยลับหลัง เพือ่ มุง่ ผลให้เขา แตกกัน หรือเพือ่ ทำให้อกี ½†ายหนึง่ มารักตน ทุกคนคงเห็น แล้วว่า กรรมข้อนีส้ ง่ ผลร้ายขนาดไหน ไม่อยากเดือดร้อนใจ ภายหลัง ก็อย่าพูดให้ ใครต้องแตกคอกันอีกเลย ไพยนต์ กาสี
สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ 35 35
เกราะปองกัน ความแตกสามัคคี
จากเรื่องราวข้างต้น ที่มีผลให้พระมหาเถระกับพระอนุเถระต้องแตกความสามัคคี ก็เพราะมีผู้กล่าวยุแหย่ แม้ใน ชีวิตจริงของเรา เวลารับฟังคำบอกเล่าจากใครในลักษณะนี้ จะมีวิธีรับมืออย่างไร พระเดชพระคุณพระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช) ท่านแนะนำไว้ว่า อั น คำนิ น ทาหรื อ สรรเสริ ญ เยิ น ยอ ขอให้ คิ ด เพี ย งว่ า เป็ น แค่ลมปากของคน หากหลง ไปยึด มั่น ไว้ ก็ จ ะปลิ ว ไปตาม ลมปากเขา ตัวเราก็ต้องหวั่น ไหว ต้องเดือดร้อนใจ หรือไม่ก็ ต้องจมลงไปเรื่อยæ ดังนัน้ เมือ่ ถูกนินทาหรือสรรเสริญ ต้องมีสติ คือ พิจาร³าให้ดวี า่ ทีเ่ ขานินทาหรือว่าชมนัน้ มีความเป็นจริง เพียงใด ควรปรับปรุงตัวหรือไม่ คนดี เมือ่ เขาชมก็เป็นอันชม เมือ่ ตำหนิกค็ อื ตำหนิ อย่างนีค้ วรรับ¿˜งเป็นอย่างยิง่ เท่ากับเป็นกระจกเงาให้เรา แต่ถา้ คนพาลติหรือชม มักเอาแน่ ไม่ ได้ ต้องพิจาร³าให้ รอบคอบ ทำตัวเหมือนภูเขาหินล้วนไว้ คือ ไม่¿บุ ลงเมือ่ ถูกนินทา ไม่¿ขู นึ้ เมือ่ ถูกสรรเสริญ เพราะคำติหรือชม ของคนพาล ถือเอาเป็นประมา³ไม่ ได้ 36 36
กรรมลิขิต
ó ¦Òµ¡ÃÃÁÅÙ¡â«‹* à¾ÃÒШԵ¾ÂÒºÒ· ¨Ö§·Ó¦Òµ¡ÃÃÁ¡Ñ¹
ในวัฏสงสารอันยาวไกลสำหรับผู้ยังไม่สิ้นกิเลส ต่างมี เหตุให้ต้องเวียนว่ายตายเกิดมานับครั้งไม่ถ้วน ที่เป็นเช่นนี้ เพราะยังไม่หมดยางแห่งตัณหา จึงนำพาชีวิตให้ก่อกรรม ทั้งดีบ้าง ชั่วบ้างปะปนกันไป เพราะเหตุนี้ ในชีวิตหนึ่งๆ จึงผ่านการเป็นเจ้ากรรม นายเวรกันมาอย่างยาวนาน ประดุจลูกโซ่ที่เกี่ยวกันไว้ ใครที่ ก่อกรรมทำเวรไว้มาก ก็ย่อมมีหนี้ชีวิตต้องชดใช้ให้เจ้ากรรม นายเวรมากเท่านั้น กลับกันตรงข้ามสำหรับผู้ก่อการดี ก็ย่อม มีมือแห่งบุญคอยโอบอุ้มสนับสนุนให้พบแต่สิ่งดีงามในชีวิต ดังนั้น เมื่อเกิดมาชาติหนึ่ง จึงควรพยายามตัดโซ่บ่วง เวรกรรม อย่าให้เกี่ยวพันชีวิตไปอีกยาวไกล ไม่เช่นนั้น จะ เป็นเช่นดังตัวอย่างของหญิงสองนางต่อไปนี้ *หน้า ๓๘-๔๒ โดย...ธรรมจักร สิงห์ทอง
สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ 37 37
โลภกิเลส เปนเหตุให้ก่อกรรม
สมัยอดีตกาล มีบุตรชายเศรษฐีท่านหนึ่งเป็นคนกตัญู รู้คุณ เฝ้าปรนนิบัติพ่อแม่จนแก่ชรา วันหนึ่ง มารดาพูดกับ เขาว่า จะหาภรรยาให้สักคน แต่ได้รับการปฏิเสธ ในที่สุดก็ ไปสู่ขอหญิงสาวคนหนึ่งมาเป็นภรรยา ปรากฏว่าเธอเป็น หมัน มารดาจึงพูดกับบุตรชายว่า จะหาหญิงอื่นมาให้ หญิงสะใภ้ได้ยินเช่นนั้นคิดว่า ถ้าแม่สามีนำหญิงอื่นมา มรดกก็จะตกเป็นของคนอืน่ จึงไปติดต่อขอหญิงสาวมาให้สามี เสียเอง แต่เธอฉุกคิดขึ้นได้ว่า ถ้าหญิงคนนี้มีบุตร ก็จะเป็น เจ้าของสมบัติแต่ผู้เดียว เราต้องทำให้เธออย่าให้กำเนิดทารก ได้ จึงพูดกับนางตกลงก่อนว่า ถ้าท้องเมื่อไหร่ให้บอกฉันด้วย หญิงทีม่ าเป็นเมียน้อยตอบตกลง เมือ่ ภรรยาน้อยตัง้ ครรภ์ ก็บอกแก่นาง เมียหลวงรู้เช่นนั้น ได้จัดยาทำแท้งให้ทาน โดยผสมกับอาหาร จนเมียน้อยแท้งลูกถึง ๒ ครั้ง ต่อมา หญิงที่คุ้นเคยกับเมียน้อย ได้บอกสาเหตุที่เธอแท้งลูกให้รู้ ครั้งที่ ๓ จึงไม่บอกปล่อยให้ท้องโตหลายเดือน เมียหลวงจึง ถามว่า ทำไมเธอไม่บอกกับฉัน เมียน้อยตอบว่า ก็เธอทำลาย ลูกฉันถึง ๒ ครัง้ แล้ว ฉันจะไม่ยอมให้ลกู ฉันตายอีกเป็นอันขาด
เสริมความรู้
การทำแท้ง มีความผิดตามก®หมายทัง้ ตัวหญิงผูย้ นิ ยอม ให้ทำ และผูท้ ที่ ำให้หญิงแท้ง แม้ โทษจะไม่รา้ ยแรงเท่าการ ¦่าคน เพราะตามก®หมายถือว่ายังไม่เป็นสภาพบุคคล «ึง่ ต่างจากผลกรรมทางศาสนา ทีถ่ อื ว่ามีสภาพบุคคลนับแต่มี ป¯ิสนธิวญ ิ ญา³มาเกิด ใครทำจึงมีบาปมาก
ไพยนต์ กาสี
38 38
กรรมลิขิต
เมียหลวงผูกอาฆาตลึกๆ ในใจ แต่กลับพูดว่า เอาเถอะ ไม่เป็นไร จากนี้ฉันจะไม่ทำอันตรายเธออีก ขอให้เธอทำใจให้ สบาย แต่ก็พยายามหาโอกาสที่เมียน้อยเผลอ แล้วโอกาสก็เป็นใจ เมื่อเมียน้อยตั้งครรภ์ได้ ๘ เดือน เมียหลวงให้ยาแท้งอย่างแรง ทำให้เด็กในครรภ์เสียชีวิต แต่ ไม่ ค ลอดออกมาได้ น อนขวางเชิ ง กราน เมี ย น้ อ ยเจ็ บ ปวด ทรมานแสนสาหัส จนทนไม่ไหวและสิ้นใจในที่สุด ก่อนสิน้ ใจเธอได้ผกู อาฆาตว่า มันฆ่าลูกเราถึง ๓ คนแล้ว บัดนี้ แม้แต่เราก็ตกอยู่ในเงื้อมมือของมัน เราตายแล้ว ขอให้เกิดเป็นยักษ์ สามารถจับลูกของมันเคี้ยวกินได้เถิด ครั้นตายแล้วก็บังเกิดเป็นแมว อาศัยอยู่ในเรือนนั้นเอง àÊÃ稢ŒÒ áÁ‹ÁѹäÁ‹ÍÂÙ‹
เสริมความรู้
กรรมที่ทำด้วยความโลภ ความโกรธ ความหลง จะส่งเสริมกรรมทัง้ หลายให้งอกงาม ให้หนาไปด้วยกรรม แต่ถา้ ว่าทำอะไรลงไปด้วยความไม่ โลภ ไม่ โกรธ ไม่หลง แล้ว มันจะลดกรรม ลดกระแสแห่งกรรม จะลดจำนวน แห่งกรรม หลวงป†ู่พุทธทาสภิกขุ
สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ 3 3
จิตไม่อภัย มีเวรติดตัวไปไม่สนิ้ สุด
ฝ่ายสามีจับได้ว่า หญิงหมันฆ่าลูกเขา ๓ คนแล้ว และ ฆ่าเมียน้อยอีกจึงทุบตี หญิงหมันทนความเจ็บปวดไม่ไหว ตายไปเกิดเป็นแม่ไก่อาศัยอยู่ในเรือนนั้น ต่อมา แม่ไก่ตกไข่ แม่แมวก็มากินฟองไข่หมดถึง ๓ ครั้ง แม่ไก่ทำความปรารถนาว่า มันกินไข่ของเราหมด ครั้งนี้จะ กินเราด้วย เมื่อตายแล้วขอให้เราได้กินมันกับลูกของมัน ด้วยแรงอาฆาตจึงไปเกิดเป็นแม่เสือเหลือง ส่วนแมวตายแล้วเกิดเป็นแม่เนื้อ พอแม่เนื้อคลอดลูก แม่เสือก็มาจับลูกกินถึง ๓ ครั้ง เวลาใกล้ตาย แม่เนื้อตั้ง ความปรารถนาว่า ลูกของเราถูกแม่เสือจับกินถึง ๓ ครั้ง เมือ่ ตายแล้วขอให้ได้กนิ มันกับลูก ตายแล้วไปเกิดเป็นยักษิณี แม่เสือเหลือง ตายแล้วไปเกิดเป็นลูกสาวตระกูลหนึ่ง ครั้ น โตเป็ น สาว ก็ ไ ด้ แ ต่ ง งานและคลอดบุ ต ร นางยั ก ษิ ณี จำแลงตัวเป็นหญิง มาจับเด็กกินถึง ๒ ครั้ง ครั้งที่ ๓ จึงพูด กับสามีว่า พี่ นางยักษิณีจับลูกเรากิน ๒ ครั้งแล้ว ขอไป คลอดที่บ้านพ่อ-แม่ดีกว่า จึงไปคลอดที่บ้านพ่อ-แม่ตน
เสริมธรรม
สัตว์ประเภทที่ออกมาเป็นไข่แล้วจึง¿˜กเป็นตัว ท่าน เรียกว่า ทิชากร แปลว่า ผูท้ ำการเกิดสองหน พระพุทธเจ้า ทรงเคยยก¿องไข่ขึ้นแสดงอุปมาแก่เวรัญชพราหม³์ ว่า ลูกไก่ที่อยู่ ใน¿องไข่ ตัวไหนเอาปากหรือเท้า กระเทาะ เปลือกไข่ออกมาได้ก่อนกัน ตัวนั้นเป็นพี่ ตัวเราก็เช่นกัน สามารถกระเทาะเปลือก คือ อวิชชา ได้ก่อนใครในโลก จึงเป็นบุคคลผู้เจริญที่สุดในโลก ó ไพยนต์ กาสี
40 40
กรรมลิขิต
ฝ่ายนางยักษิณี เมื่อจะมากินลูกของเธอแต่ไม่เห็น ก็เลย สอบถามคนในบ้านแล้วติดตามไป ส่วนสองสามีภรรยา เมื่อคลอดลูกแล้วก็คิดว่า ครั้งนี้ นางยักษิณีคงไม่มาแล้ว จึงชวนกันกลับบ้าน ในระหว่างทาง ขณะที่ภรรยาอุ้มลูกรอสามี ที่ขอลงอาบน้ำในสระคลายร้อน เผอิญสายตาเหลือบไปเห็นนางยักษิณี ที่แปลงตัวเป็นหญิง ตามมาเข้า นางจำได้และตกใจจนไม่อาจรอสามีขึ้นจากสระ เลยออกวิ่งอุ้มลูกมุ่งสู่พระวิหาร ขณะนั้น เป็นเวลาที่พระพุทธเจ้ากำลังแสดงธรรมอยู่ ท่ามกลางบริษัทจำนวนมาก นางเดินฝ่าฝูงชนเข้าไปจนถึงที่ ใกล้พระบาทของพระพุทธองค์ วางบุตรนอนข้างพระบาท แล้วกราบทูลว่า บุตรคนนี้ ข้าพระองค์ขอถวายแด่พระองค์ ขอพระองค์ได้โปรดประทานชีวิตให้กับเขาด้วยเถิด ฝ่ายนางยักษิณีวิ่งตามหลังมา ครั้นรู้ว่าสองสามีภรรยา เข้าไปหาพระพุทธเจ้า ไม่กล้าเข้าไป ได้แต่ยืนรออยู่ข้างนอก พระพุทธองค์จึงตรัสให้พระอานนท์ไปเรียกนางยักษิณีเข้ามา ª‹ÇÂÅÙ¡ËÁ‹ÍÁ©Ñ¹ ´ŒÇÂྤÐ
สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ 41 41
หยุดเวรกรรมได้สนิท ด้วยจิตไม่ผูกเวร ¹‹ÒËÁèÓ... àÍŒÂ...¹‹ÒÃÑ¡¨Ñ§àÅÂ
พระศาสดาตรั ส ถาม นางยักษิณีว่า เพราะเหตุใด เจ้ า จึ ง ได้ ท ำอย่ า งนั้ น ถ้ า พวกเจ้ า ไม่ ม าหาเราวั น นี้ วันหน้า เวรของพวกเจ้าก็ ต้ อ งเป็ น เวรกรรมที่ ตั้ ง อยู่ ชั่ ว กั ล ป เหมือนเวรกรรม ของงูกับพังพอน ของหมีกับ ไม้สะคร้อ ของกากับนกเค้า แล้วเพราะเหตุใดพวกเจ้าจึงก่อ เวรกรรมให้กันและกันไม่มีวันจบอย่างนี้ เพราะเวรย่อมระงับ ด้วยการไม่จองเวร หาระงับด้วยการจองเวรไม่ ในที่สุดทั้งนางยักษิณี และหญิงสาวยอมหยุดและยุติ การสร้างเวรสร้างกรรมต่อกันให้อภัยกัน จะเห็นว่า การก่อเวร จองเวร ผูกพยาบาทต่อกันนั้น เป็นเหตุให้หาทางสร้างความสูญเสียแก่กนั ข้ามภพข้ามชาติ และด้วยแรงพยาบาทอาฆาตแค้น แม้นว่าเกิดชาติภพใด ก็จะหาความสุขให้กับชีวิตไม่ได้ มีแต่จ้องจองล้างจองผลาญ กันและกันตลอดไป นี่แหละคืออานุภาพเวรกรรม อันเป็น เหตุให้เกิดฆาตกรรมลูกโซ่ดังกล่าว 42 42
กรรมลิขิต
อุบายวิธีตัดเวรกรรม
จากเรื่องราวการผูกเวรของหญิงสองนางนั้น ทุกท่าน คงเห็นแล้วว่า นำมาซึ่งความเดือดร้อนขนาดไหน ในชีวิต ของเราคงมีเรื่องทำให้ผูกใจเจ็บอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน ท่านจะ ตัดบ่วงเวรกรรมนี้อย่างไร เจ้าประคุณสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรง พระเมตตามีคำแนะนำไว้ว่า เวร คือ ความเป็นศัตรูกันของคน ๒ คน เพราะ½†ายหนึง่ ก่อกรรม กรรมเสียหาย ½†ายที่ ได้รับความเสียหายก็ผูกใจ เจ็บ และคิดแก้แค้นตอบแทน กรรม เมือ่ ให้ผลแล้วก็หมดไป เหมือนผู้ต้องโทษครบกำหนดแล้วก็ หมดโทษ ส่วนเวร เมื่อบุคคลทั้งสอง½†าย ยังผูกใจ เป็นศัตรูกนั อยูต่ ราบใด ก็ยงั ไม่ระงับตราบนัน้ แต่เมือ่ บุคคลทั้งสอง½†ายเลิกเป็นศัตรูกันเมื่อใด เวรก็ระงับ เมื่อนั้น เรื่องการระงับเวรนี้ หากประสงค์ ให้ ได้ผลจริง จำต้ อ งอาศั ย ป¯ิ บั ติ ต ามคำที่ ค งได้ ¿˜ ง จนคุ้ น หู คื อ ขออภัย กับคำว่า ให้อภัย คือ เมื่อใครได้ทำอะไรล่วง เกินผู้อื่นก็กล่าวคำว่า ขอโทษ ½†ายที่ถูกล่วงเกินก็ ไม่ ผูกโกรธด้วยการให้อภัย แล้วเรื่องเลวร้ายต่างæ ก็คง ไม่เกิดขึ้น
สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ 43 43
ô ÊÒÂàÅ×Í´·Ãª¹* µÑÇÍ‹ҧäÁ‹´Õ Áռŵ‹ÍÅÙ¡
เหตุการณ์ต่อไปนี้ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับชีวิตจริงของ ครอบครัวหนึ่ง ซึ่งมีถิ่นฐานอยู่ที่อำเภอเมือง จังหวัดระนอง บุญรอด เป็นลูกชายคนเดียวของครอบครัว เขาเป็น เด็กค่อนข้างดื้อรั้นไม่เชื่อฟังพ่อแม่ ชอบคบเพื่อนเกเร พอมี อายุ ๒๐ ปี พ่อแม่หารือกันว่าจะให้บวช จึงพูดกับเขา แต่ไม่ เป็นผล ต่อมาพ่อก็เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุถูกรถชน เพราะเมา แล้วเดินข้ามถนนตอนกลางคืน ประวัติของพ่อของบุญรอดสมัยยังหนุ่ม เป็นคนเกเร ติดยา ไม่เชื่อฟังพ่อแม่ ถูกกล่าวตักเตือนจะมีอารมณ์ฉุนเฉียว ทำให้พ่อแม่น้ำตาตกอยู่หลายครั้ง และแล้วกรรมก็ตามทัน เขาไม่สามารถแนะนำว่ากล่าวตักเตือนลูกชายได้เลย
เสริมธรรม
เด็กคนหนึง่ มีพอ่ ขีเ้ มา แม่ชอบเล่นการพนัน ป˜จจุบนั เป็น ดอกเตอร์อยู่อเมริกา หลวงพ่อสอนครั้งเดียวว่า วันเกิดให้ พ่อแม่มานัง่ คูก่ นั แล้วกราบขอขมาลาโทษ แล้วป¯ิญา³ตน ต่อหน้าพ่อแม่ว่าจะเป็นคนดี จะไม่ทำให้พ่อแม่ผิดหวัง พอพ่อแม่ ได้¿˜งน้ำตาร่วง แล้วก็ ให้สัญญากับลูกว่าจะเลิก อบายมุขทั้งหมด
หลวงพ่อจรัญ €ิตธมÚโม
*หน้า ๔๔-๔๗ โดย...ธรรมจักร สิงห์ทอง
44 44
กรรมลิขิต
Çѹ¹ÕéàÍÒãËŒàµçÁ·Õè
หลังจากพ่อเสียชีวิตแล้ว บุญรอดก็ยิ่งทำตัวเหลวไหล มากขึ้น พาพวกมาค้างที่บ้านเสพยาทั้งเฮโรอีนและยาบ้า จนแม่ ห นั ก ใจ แต่ ไ ม่ รู้ จ ะตั ก เตื อ นอย่ า งไร ไม่ น านเงิ น ที่ ช่วยกันหาไม่พอซื้อยาเสพ แม้จะหยิบของในบ้านไปขาย จนบุญรอดต้องเอาบ้าง ไม่ว่าเป็นพระเครื่อง นาฬิกา ของใช้ ที่พอจะเปลี่ยนเป็นเงินได้ บุญรอดหยิบไปขายเกือบหมดแล้ว แม่ เ ห็ น ของหายไปจึ ง ถามลู ก ชาย แต่ บุ ญ รอดก็ ต อบ อย่างไม่แยแสว่า เรื่องของผม แม่ไม่เกี่ยว อย่ายุ่ง อยู่เฉยๆ แม่ได้แต่ร้องไห้น้ำตาแทบเป็นสายเลือดเพราะเสียใจ วันหนึ่ง ขณะทุกคนเสพยาจนเมาได้ที่ บังเอิญยาหมด เพื่อนจึงบอกบุญรอดว่า เฮ้ย ! ไอ้รอด ของหมดแล้วไปหามา หน่อย พวกเราหมดทางแล้ว เป็นหน้าที่แกโว้ย วันนี้ บุ ญ รอด หั น รี หั น ขวาง ท่ า ทางซึ ม ๆ เพราะฤทธิ์ ย า ตัดสินใจเดินไปหาแม่ ทันทีที่พบหน้าก็ถูกด่าฟังไม่ได้ศัพท์ เพราะแม่ทนดูไม่ไหว ที่เห็นลูกต้องมาตกนรกทั้งเป็นเช่นนี้ เขาตกตะลึง นึกไม่ถึงว่าแม่จะด่า แต่ก็ไม่เถียง ได้แต่เดิน เลี่ยงไปอีกทางหนึ่งเข้าไปในห้อง ฝ่ายผู้เป็นแม่ก็เดินตามเข้าไปด้วย นั่นแกจะทำอะไร ? แม่ถามเสียงดังเมื่อเห็นลูกชายเดินไปหยิบกล่องสร้อยทองคำ
สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ 45 45
หนัก ๕ บาท พอเขาหยิบสร้อยออกจากกล่อง แม่รีบตรง เข้าไปคว้าข้อมือลูก แต่กถ็ กู สลัดหลุดจนแม่เซถลาไปเกือบล้ม ไอ้บุญรอด วางของลงเดี๋ยวนี้ แต่บุญรอดไม่ฟังกำลัง จะเดินออก แม่เข้าไปขวางตบหน้าลูกเพื่อให้สำนึกขึ้นมาบ้าง แต่ไม่ได้ผล แม่เห็นหมดทาง จึงยื้อแย่งของจากมือลูกชายคืน แม่สู้แรงไม่ไหว จึงกอดขาลูกไว้จนเขาออกห้องไม่ได้ ทันใดนั้น ! บุญรอดก็เหลือบไปเห็นขวานวางอยู่ข้างฝา ไม่ห่างนักจึงผลักแม่อย่างแรงคว้าขวานจับไว้มั่น แม่ไม่ทัน สังเกตว่าในมือลูกชายมีขวานอยู่ พุ่งตัวเข้าไปหาหมายจะเอา สร้อยทองคืน บุญรอดตัดสินใจสับขวานสวนออกไปถูกตรง แสกหน้าพอดีเห็นแม่ยังพยายามจะลุกขึ้นจึงสับเข้าที่ก้านคอ เกือบขาดและสิ้นใจ
µ¡¹Ã¡ªÑ´æ
เสริมธรรม
การ¦่าบุพการี เป็นอนันตริยกรรม กรรมที่ ให้ผลไม่มี ระหว่างคั่น คือ คนทำกรรมนี้เมื่อตายไปก็จะตกนรกทันที แม้จะเคยทำความดีอย่างอื่นไว้ ถือว่าเป็นกรรมหนักที่สุด บาปมากที่สุดกว่ากรรมใดæ ไพยนต์ กาสี
46 46
กรรมลิขิต
บุญรอดและเพื่อนๆ อีก หลายคน ถูกตำรวจจับดำเนิน คดี เพื่อนๆ ถูกจับข้อหาเสพยา ส่วนบุญรอด กลับไม่รอดสมชือ่ ถูกข้อหาฆ่าผู้ให้กำเนิด ถูกขัง อยู่ ใ นเรื อ นจำโดยไม่ มี ใ คร คาดเดาว่ามีกำหนดเท่าไร และ ต่ อ มาเขาก็ เ สี ย สติ เ หม่ อ ลอย และเป็นบ้าวิกลจริตไม่สามารถ ควบคุมสติของตัวเองได้ จะเห็ น ว่ า คนที่ ท ำร้ า ย ผู้ไม่ทำร้ายตอบ หรือทำร้ายผู้มีอุปการคุณ หรือบิดามารดา ย่อมถูกเทวทัณฑ์ ที่เรียกว่า อาญาสวรรค์ ๑๐ ประการ และ หนึ่งในสิบ คือ ทำให้เป็นคนวิกลจริตเป็นบ้า ไม่สามารถ ครองความเป็นมนุษย์ต่อไปได้ หมดหนทางทำบุญ หมดทาง ทำความดี เพื่อความเจริญต่อไป มีแต่ความเสื่อมตลอดไป เหมือนกับบุญรอด สายเลือดทรชน ฉะนั้น µ¡¹Ã¡º¹´Ô¹ ¡‹Í¹àÅÂàÃÒ
อนิจจา ! โลกมนุษย์ ใจต่ำสุดกว่าเดรัจฉาน จิตสันดานเนรคุณ ไม่เจือจุนบุพการี เกิดมามีเพียงแต่พ่อและแม่แค่ในนาม ปัญญาทรามต่ำช้าไม่รู้คุณ ! ...
ร่วมสร้างสายใยสัมพันธ์รักแห่งครอบครัวให้อบอุ่น ด้วยการมอบหนังสือเล่มนี้ให้คนที่รัก โรงเรียน ห้องสมุด เยาวชน สานสุขให้สังคมน่าอยู่ยิ่งขึ้น
สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ 47 47
พฤติกรรมพ่อแม่ แผ่อทิ ธิพลถึงลูก
จากประวัติพ่อของบุญรอด จะเห็นว่า เป็นเรื่องกงกำ กงเกวียน เพราะเขาก็ไม่เคยเชื่อฟังพ่อแม่มาก่อน ซึ่งสะท้อน ให้ว่า บางคราการที่ลูกไม่ดี เราไม่อาจจะโทษเขาฝ่ายเดียวได้ แล้วทำอย่างไรถึงจะเลี้ยงให้เป็นคนดี หลวงปูพุทธทาสภิกขุ ท่านแนะนำวิธีไว้ว่า กรรมพันธุ์ เป็นหลักหนึง่ ในเรือ่ งกรรม พระพุ ท ธเจ้ า สอนให้ เ ราเชื่ อ เรื่ อ ง กรรมว่า ทำดี ได้ดี ทำชั่วก็ ได้ชั่ว นี่เป็นส่วนที่ ได้รับเ©พาะตัวผู้ทำ นอกจากนี้ ยังมีการถ่ายทอดไป ทางสายเลือดอีกด้วย เพราะเด็กจะดี ได้ก็อาศัยพ่อแม่เป็น°านสำคัญ คนโบรา³จึงพูดว่า ลูกไม้หล่นไม่ ไกลต้น พ่อแม่ ต้องเป็นคนสำคัญ ต้องสำนึกอยู่ ในใจ ตลอดเวลาว่า เรามีคนเดินตามหลัง ผู้ที่เดินตามก็คือ ลูกชายลูกหญิงของเรา ถ้าเราเดินทางดี ลูกของเราก็ จะดี ถ้าเดินทางร้าย ลูกของเราก็จะเดินทางร้ายตาม ดังนั้น อนาคตของลูก เกิดจากการกระทำใน ป˜จจุบันของท่าน ท่านจึงควรระมัดระวังป˜จจุบัน เพื่อ ให้ลูกมีอนาคตที่ดีขึ้น ข้อนี้เป็นเรื่องสำคัญของผู้เป็น พ่อแม่ของลูกæ 48 48
กรรมลิขิต
õ ¢Í¤×¹Ë¹Õé¡ÃÃÁ* ¹ÕèṋÐ!!!
เรื่องต่อไปนี้ เกิดขึ้นกับชีวิตของท่านผู้หนึ่ง ซึ่งมีถิ่นฐาน อยู่ที่จังหวัดสระบุรี อาชีพแม่ค้า สามีรับราชการ ป้าสำเภา เป็นที่รู้จักของในคนละแวกนั้นเป็นอย่างดี เพราะแกเป็นคนมีมนุษยสัมพันธ์ดี แถมยัง เป็นแม่ค้าขาย อาหารตามสัง่ และขนมจีนด้วย แต่แกเป็นคนไม่รกั สัตว์ หมา หรือแมวตัวไหนหลงเข้ามาล่ะก็ เป็นซวยโดนหวดเดีย้ งไปทุกตัว วั น หนึ่ ง ขณะที่ ป้ า สำเภาแกกำลั ง นั่ ง พั ก ผ่ อ นหลั ง รับประทานอาหารเย็น กำลังคิดอะไรเพลินๆ เผอิญแมว เจ้ากรรม เป็นแมวท้องแก่เดินลอดใต้ถุนบ้านผ่านมาทาง ห้องครัว ใกล้ๆ กับที่แกนั่งอยู่พอดี
เสริมธรรม
การทำมาค้าขาย ถ้าอยากให้กลายเป็นทำมาค้าขึน้ ท่าน ต้องสร้างความงามให้ครบ ô อย่าง คือ ๑) งามใบหน้า ลูกค้าชอบใจ ๒) งามกิรยิ า ลูกค้าถูกใจ ó) งามวาจา ลูกค้า หลงใหล ô) งามบริการ ลูกค้าบานตะไท สมเด็จพระมหาธีราจารย์
*หน้า ๔๙-๕๒ โดย...ธรรมจักร สิงห์ทอง
สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ 4 4
ความโกรธพุ่ ง ขึ้ น ในความรู้ สึ ก ทั น ที ไวเท่ า ความคิ ด แกมองเห็นไม้ขนาดเหมาะมือยาวเมตรเศษ จึงลุกขึ้นมาคว้า ติ ด มื อ มั่ น แมวดวงซวยกลั บ ยื น เฉย เลยโดนหวดด้ ว ยไม้ เข้ากลางหลังดังสนั่น เสียงร้องครั้งเดียวแมวหลังหักทันที แต่สัญชาตญาณ*รักตัวกลัวตาย หรือการเอาตัวรอด แมวหลังหัก ๒ ขาหลัง ยืนหยัดบนพื้นไม่ได้แล้วเหลือขาหน้า ๒ เท้าพยายามตะเกียกตะกายพาร่างหายไปในดงกล้วยหลังบ้าน เย็นวันนั้น สามีป้าสำเภากลับจากราชการ มาถึงบ้าน แกมักไปอาบน้ำที่ข้างบ่อหลังบ้าน ซึ่งมีต้นกล้วยขึ้นหนาทึบ ประมาณ ๓ ทุ่มเศษ ขณะกำลังยืนอาบน้ำบังเอิญเหลือบตา มองเข้าไปในดงกล้วย เห็นมีคนเป็นผู้หญิงสวมใส่ผ้าถุง ยืน มองมาทางแกหน้าตาเฉยเมย มีเด็กอีก ๔ คนยืนอยู่ข้างๆ àÍ Ð...ÍÐäù‹Ð
แกไม่แน่ใจจึงขยีต้ าแล้วมองอีกครัง้ ปรากฏว่าหายไปแล้ว ปกติแกเป็นคนไม่กลัวผี แต่กเ็ กิดความสงสัยว่า สิง่ ทีเ่ ห็นคืออะไร
เสริมความรู้
สัญชาตญา³ เป็นคำนาม หมายถึง ความรู้ที่มีมาแต่ กำเนิดของคนและสัตว์ทำให้มีความรู้สึก และกระทำได้ เองโดยไม่ต้องมี ใครสั่งสอน เช่น การป‡องกันตัว เป็นต้น พจนานุกรม©บับราชบั³±ิตยสถาน ๒õô๒
50 50
กรรมลิขิต
รุ่งเช้า แกจึงสอบถามทุกคน และให้ลูกสาวคนเล็กไปดู บริเวณดงกล้วย พบว่ามีแมวแม่ลูกอ่อนตาย ลูกคลอดออก มาแล้ว ๓ ตัว ตายคาท้องอีก ๑ ตัว รวมแม่ ๑ เป็น ๕ ตัว ตายทั้งหมด จึงถามหาคนรับผิดชอบ และในที่สุดก็รู้ว่าเป็น ป้าสำเภาภรรยานั่นเอง แกจึงลงโทษตามระเบียบที่แกตั้งไว้ บังเอิญว่าป้าสำเภา กำลังตั้งท้องได้ประมาณ ๔ เดือน จากนั้นไม่นาน ป้าสำเภาปวดท้อง จึงไปให้หมอตรวจแต่ก็ไม่ พบอาการผิดปกติอะไร แต่ก็ปวดอยู่เรื่อยมา ครั้งสุดท้ายแก ปวดมาก เหมือนคนกำลังจะคลอด จึงไปหาหมอ ปรากฏว่า เด็กกำลังจะแท้ง หมอจึงช่วยนำเด็กออกมา เป็นหญิงอวัยวะ ทุกส่วนสมบูรณ์หมด แต่ตัวเล็กและเสียชีวิตแล้ว
แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจ อันทำให้ทุกคนที่เห็นตกตะลึง คือ อวัยวะต่างๆ เหมือนแมว เช่น จมูก-หู-มือ-เล็บ-เท้า และ ขนบริเวณหน้าอกและหลัง ส่วนที่เหลือเหมือนคน ทันทีที่ ป้าสำเภาได้พบหน้าลูกแม้เหลือแต่ซาก แกก็ถึงกับปล่อยโฮ ออกมา รำพันกับตัวเองว่า เราไม่น่าทำเลย ฉันไม่มีเจตนาจะ ให้เกิดเรื่องอย่างนี้ ขอโทษด้วย ให้อภัยฉันด้วย
สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ 51 51
ตัง้ แต่นนั้ เป็นต้นมา บ้านของป้าสำเภากลายเป็นทีร่ องรับ สุนัขจรจัดบ้าง แมวพลัดถิ่นบ้าง หมาแมวพิการบ้าง ถ้าแกไป พบที่ไหน เห็นถูกชนบ้าง รถเฉี่ยวชนบ้าง ถ้าไม่ตาย แกจะนำ มารักษาแล้วนำกลับมาเลี้ยงที่บ้าน หรือเวลาเย็นๆ แกจะทำ กับข้าว โดยไปซื้อโครงไก่มาวันละประมาณ ๒๐ ตัวแล้ว คลุกข้าวนำไปเลี้ยงสุนัข อาหารแมวก็ใช้ปลาทูนึ่งบ้าง ใช้ ปลากระป๋องบ้าง ส่วนหนึ่งจะใส่ภาชนะ หรือถังเดินเที่ยว แจกอาหารตามถนนหนทางที่มีหมาหรือแมวอาศัยอยู่ ที่แกทำเช่นนี้ เป็นเพราะป้าสำเภาเห็นว่าการทำร้าย ร่างกายของกันและกัน จนได้รับบาดเจ็บหรือตาย ถือว่าได้ ทำบาปกรรมอันหนัก สามารถส่งผลให้ผทู้ ำได้รบั ทุกข์เดือดร้อน ในชาติปัจจุบันอย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้น เหมือนที่แกเคยพราก ชีวิตเขาและลูกๆ จึงถูกเจ้ากรรมนายเวรเอาคืน...! ส่งบุญด้วย กระดาษบุญ กระดาษธรรม หลายคนเกิดความกังวลใจเวลาบุคคลเป็นที่รักมา ตายจาก ว่าหากพิมพ์หนังสือเนื้อหากล่าวถึงประวัติของ คนไม่ดี จะมีผลทำให้ผู้รับแจกมองผู้ตายว่าเป็นคนไม่ดี หรือไม่ ขอให้สบายใจได้วา่ คงไม่มี ใครคิดเช่นนัน้ แน่ เพราะ เนื้อแท้ของหนังสือต้องการสื่อให้คนรู้จักดี-ชั่ว ให้รู้จัก กลับตัวกลับใจ หากมี ใครทีอ่ า่ นแล้วสำนึกได้ยอ่ มมีผลบุญ มหาศาล การส่งบุญด้วยกระดาษบุญ กระดาษธรรม ด้วยการ สร้างหนังสือธรรมะให้เป็นทาน ส่งบุญให้ท่านผู้ล่วงลับได้ อิม่ ทิพย์ ไม่มวี นั หมด ตัวผูส้ ง่ บุญยังได้รบั บุญอีกด้วย เพราะ ช่วยผู้อ่านให้ทำดีมีสุข ได้บุญทันตาเห็นในชาตินี้และเป็น บุญนิธิติดตามตัวไปยังภพหน้า สนใจร่วมทำบุญ โปรดติดต่อ ๐๒-๘๗๒-๙๑๙๑ 52 52
กรรมลิขิต
กรรมของคนหนึ่ง ไม่ตกแก่อีกคนหนึ่ง
จากเรื่องที่ป้าสำเภาฆ่าแมว พอลูกเกิดมาแล้วมีอวัยวะ บางส่วนไปคล้ายแมว เช่นนี้แล้วถือว่าลูกมารับกรรมแทนแม่ หรือไม่ เจ้าประคุณสมเด็จพระญาณสังวรฯ ทรงชี้แนะไว้ว่า ป˜จจุบนั นี้ ยังมีความเข้าใจผิดกัน มาก ดังมักได้ยินได้¿˜งกันเนืองæ เช่นว่า มารดาบิดาทำกรรมไม่ดี ต่างæ นานา ต่อมาเกิดเหตุการ³์ รุ น แรงแก่ ชี วิ ต บุ ต รธิ ด า ก็ มั ก กล่าวว่า ลูกมารับเคราะห์กรรมแทน มารดาบิดา ความจริงหาเป็นเช่นนั้นไม่ การทีล่ กู มารับผลไม่ดี ข³ะทีพ่ อ่ แม่เป็นผูป้ ระกอบ กรรมไม่ดี นั่นเป็นเพราะกรรมไม่ดีของลูกมาส่งผลทัน ในระยะนั้น คือ เขาเคยทำกรรมไม่ดีไว้ ในภพชาติ ใด ชาติหนึ่งแน่นอน แต่เราไม่รู้ ไม่เห็นเท่านั้น และคนที่ จ ะมาเกิ ด ร่ ว มกั น เป็ น พ่ อ แม่ ลู ก กั น ต้องมีกรรมดีกรรมชัว่ อยู่ ในระดับเดียวกัน ไม่แตกต่าง ห่างไกลกันนัก ทำให้เหมือนลูกรับกรรมแทนแม่พ่อ ผู้ทำบาปอกุศล แต่อันที่จริง กรรมของคนหนึ่ง ผล จะไม่เกิดแก่อีกคนหนึ่งแน่นอน
สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ 53 53
ö ෾ŧ·Ñ³± * ¹Õè¢Ò´Ê‹§ÁÒ 3 à´×͹áŌǹÐ
เหตุการณ์นี้ เป็นเรื่องเกิดขึ้นจริงอยู่ที่จังหวัดสระบุรี ประมาณปี พ.ศ. ๒๕๑๖ สร้างความตื่นกลัวอกสั่นขวัญแขวน ให้กับผู้พบเห็น และอยู่ในเหตุการณ์อย่างยิ่ง ผู้ใหญ่เอิบ เป็นผู้ใหญ่บ้านผู้กว้างขวาง ชาวไร่ชาวนา มักนำโฉนดที่ดินมาจำนองกับเขาประจำ ระยะเวลา ๑๐ ปี ผู้ใหญ่เอิบสามารถครอบครองที่ดิน โดยกว้านซื้อ และยึด จากคนที่ขาดจำนอง บางครั้งออกเงินกู้ พอส่งดอกไปได้ ๕-๖ เดือนแกก็จะแจ้งยอดต้นที่คงเหลือ โดยแอบเพิ่มยอด เข้าไป สร้างความเดือดร้อนให้กับคนยากจนมาโดยตลอด จนชาวบ้านต่างพากันสาปแช่งให้ตายวันตายคืน
เสริมความรู้
การกู้เงิน ก®หมายกำหนดว่าถ้ากู้สองพันบาทขึ้นไป ต้องทำเป็นหนังสือสัญญากู้และมีลายเ«็นผู้กู้เป็นสำคัญ มิเช่นนัน้ จะ¿‡องร้องกันไม่ ได้ ทีส่ ำคัญห้ามเจ้าหนีค้ ดิ ดอกเบีย้ เกินร้อยละสิบห้าต่อป‚ แต่ทางที่ดีถ้าไม่จำเป็นถึงที่สุด อย่าก่อหนี้จะดีกว่าครับ ไพยนต์ กาสี
*หน้า ๕๔-๕๗ โดย...ธรรมจักร สิงห์ทอง
54 54
กรรมลิขิต
วันหนึ่ง แกไปสำรวจที่ดินซึ่งยึดมาได้ พบว่ามีรอยผู้คน พากันเดินลัดผ่านที่ดินของแก ที่เป็นเช่นนั้นเพราะทางรถไฟ ตัดผ่านตรงนั้นพ้นจากที่แกไปไม่ถึง ๑๐๐ เมตร ก็เป็นสถานี รถไฟ ผู้โดยสารรถไฟไป-มาที่ขึ้นและลงสถานีนั้น ต้องเดิน ผ่านที่ตรงนั้น จนกลายเป็นทางเดินสัญจร แต่แกไม่ยอม จึงทำสิ่งกีดขวางบ้าง แต่ก็ไม่ได้ผลถูกยกออกและมีคนใช้เดิน ต่อไป แม้ผู้ใหญ่เอิบ นำป้ายมาติดห้ามเดินผ่านที่ส่วนบุคคล แต่ก็ไม่เป็นผล ต่อมา แกจึงนำพืชสวนมาหว่านเพื่อปิดการ สัญจรของผู้คน แต่เนื่องจากที่ตรงนั้น ผู้คนใช้กันมานาน จึงทำให้ผู้ผ่านไป-มาเคยชิน ประกอบกับไม่มีทางใดที่จะให้ เลือกเดิน จึงไม่สามารถห้ามคนได้ µÔ´ãˌṋ¹¹Ð
ในที่ สุ ด ผู้ ใ หญ่ เ อิ บ จึ ง ตั ด สิ น ใจขั้ น เด็ ด ขาด โดยทำ หลักกระทู้ติดลวดหนามแข็งแรงปิดทางสัญจร และขึ้นป้าย เขตห้ามเข้าเด็ดขาด ผู้คนที่เคยสัญจรไปมาบริเวณนั้นต้องหา ทางเลี่ยง แต่ต้องเดินอ้อมไปไกลเพราะมีลำคลองน้ำผ่าน บริเวณนั้นพอดี และใช้เส้นทางนั้นสัญจรไปมา
สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ 55 55
ª‹Ç´ŒÇÂ! หลังจากนัน้ ไม่นาน ปรากฏ ¿‡Ò´Ô¹Å§â·ÉàÃÒáÅŒÇ ว่ า ผู้ ใ หญ่ เ อิ บ ถู ก ฟ้ า ผ่ า ตาย ขณะเดินลงจากบ้านเพื่อไปทำ ธุ ร ะ ญาติ ๆ ลู ก หลานตั้ ง ศพ สวดพระอภิธรรม ๓ คืน วั น สุ ด ท้ า ย ก่ อ นนำศพ ของเขาขึ้นเมรุ ขณะพระกำลัง อนุ โ มทนาให้ พ ร ฝนเกิ ด ตก พรำๆ ลงมา ฟ้าคะนองขึ้นมา ทันทีทันใด สายฟ้าได้ผ่าเปรี้ยงลงมาบริเวณที่ตั้งศพหนึ่งครั้ง ปรากฏว่ า โลงศพแตก ศพหล่ น ลงมาด้ า นล่ า ง เดื อ ดร้ อ น ญาติ ต้ อ งช่ ว ยกั น นำศพบรรจุ โ ลงใบใหม่ และยกขึ้ น เมรุ เตรียมเผา บรรดาแขกเหรื่ อ ที่ ม าในงาน และผู้ อ ยู่ ใ กล้ เ คี ย งที่ ไ ด้ พบเห็นเหตุการณ์ ต่างตกใจอกสั่นขวัญหายไปตามๆ กัน นึกไม่ถึงว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นขึ้น ซึ่งไม่เคยมีมาก่อน
อาเฉินเสริมความรู้
¿‡าผ่าตาเอิบ เป็นปรา¯การ³์ธรรมชาติ อาจป‡องกันได้ เช่น ติดตัง้ สายสัญญา³นำลงดิน และสายล่อ¿‡า ไม่อยูท่ ี่ โล่งแจ้ง เวลา½น¿‡าคะนอง เป็นต้น แต่คนป˜จจุบนั มักใช้คำนี้ ในการทำงานด้วย เช่น กร³ีถกู ย้าย จากหน้าที่การงานแบบป˜จจุบันทันด่วน ก็มักเรียกว่า ถูกย้าย ¿‡าผ่า เป็นต้น ป‡องกันได้ ด้วยการทำหน้าที่ของตนให้«ื่อสัตย์ สุจริตเข้าไว้ จะได้ ไม่ถูก¿‡าผ่าลงกลางใจแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว
56 56
กรรมลิขิต
หลังจากเผาศพผู้ใหญ่เอิบไปได้ครบ ๗ วัน ลูกหลาน และญาติๆ ก็จัดงานทำบุญ ๗ วัน เพื่ออุทิศบุญกุศลไปให้ โดยนิมนต์พระสงฆ์มาสวดพระพุทธมนต์จำนวน ๙ รูป มาทำ พิธี ทั้งนี้เพื่อความสบายใจหลังจากเจอเรื่องร้ายๆ ผ่านมา แต่ขณะที่พระสงฆ์กำลังอนุโมทนาจะเสร็จ ปรากฏว่า ฟ้าได้ผ่าลงมาอีกครั้ง บริเวณโตะที่ตั้งโกศกระดูก และผ้าขาว ห่อกระดูกผู้ใหญ่เอิบ ทั้งโกศ และห่อกระดูก กระถางธูป ถาดสำรับกับข้าวที่จัดบูชาอัฐิ กระเด็นแตกกระจาย สิ้นเสียงสายฟ้าฟาด บรรยากาศกลับเข้าสู่ความเงียบ โดยไม่มีใครเอ่ยปากแม้แต่คนเดียว คงได้ยินแต่เสียงหนัก แน่น ของประธานสงฆ์ที่นั่งอยู่ขณะนั้น ว่า เทพศักดิ์สิทธิ์ เจ้ากรรมนายเวร นำชีวิตของเขาไปแล้ว ควรยุติได้แล้ว เพราะคนอื่นไม่เกี่ยวข้อง จากนั้น ลูกหลานได้ประกอบพิธีบังสุกุลซ้ำอีกครั้งหนึ่ง และนำอัฐิของผู้ใหญ่เอิบไปบรรจุตามประเพณี เหตุการณ์ระทึกขวัญ ตั้งแต่วันแรกจนถึงครั้งสุดท้ายยัง คงตราตรึงอยู่ในความทรงจำ ของผู้ได้พบเห็น และถือเป็น คติเตือนให้ทุกคนรู้ว่า การขาดน้ำใจต่อเพื่อนมนุษย์ ในที่สุด ต้องได้รับความเดือดร้อน แม้แต่ที่นอนตายตาหลับยังไม่มีให้ เหมือนผู้ใหญ่เอิบ ฉะนั้น
สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ 57 57
ใจแคบ ใจกว้าง ท่านเปนอย่างไหน
จากเรื่องของผู้ใหญ่เอิบนั้น ท่านคงเห็นแล้วว่า ที่แก ต้องมาพบจุดจบเช่นนี้ ก็เพราะความเป็นคนไม่มีน้ำใจใช่ไหม ผู้ใดไม่อยากเจอเรื่องเลวร้ายอย่างเขา จงเฝ้าระวังใจของตน อย่าให้เป็นคนใจแคบ พระเดชพระคุณพระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช) ท่านแนะนำวิธีแก้นิสัยข้อนี้ไว้ว่า สังคมมนุษย์ เป็นสังคมที่ต้องช่วย เหลื อ กั น เพราะอยู่ ร่ ว มกั น ต้ อ ง ช่วยกันเป็นธรรมดา ควรหัดเป็น คนใจกว้าง จะได้อยู่ร่วมกันอย่าง สงบสุข คนใจกว้าง มักทำสิง่ มีประโยชน์ ต่อผู้อื่นอยู่เสมอ คนใจแคบ มักคิดแคบæ เพียงเอา ตัวรอด½†ายเดียวเท่านั้น คนใจกว้าง มีความสุขอยู่ กับการได้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ คนใจแคบ มีความ สุ ขอยู่กับการนับจำนวนสมบัติที่ตนมี คนทั้งสอง ประเภท มีความสุขกันคนละอย่าง แต่ถ้าดู ให้ดี คนใจกว้างแม้บางทีจนทรัพย์แต่ ไม่จนแรงกลับมีความสุขอย่างลึก«ึ้งที่ ได้ช่วยเหลือ คนอื่นเขา เป็นความสุขบริสุทธิìที่ ไม่อาจ«ื้อได้ด้วย เงินตรา ถ้ารู้อย่างนี้แล้ว จะมาหัดเป็นคนใจแคบ กันอยู่ทำไมล่ะท่าน...! 58 58
กรรมลิขิต
ÇÔ¸ÕÊÇ´Á¹µ á¡Œ¡ÃÃÁ
การสวดมนต์ เป็นวิธีหนึ่งที่นำความดีงาม คือ ศรัทธา ความเชื่อ ความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ปัญญา ความรู้ มาสูช่ วี ติ ได้ เพราะนอกจากเป็นการระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย ซึ่งเป็นที่พึ่งทางใจแล้ว ยังถือว่าได้ท่องบ่นหลักธรรม แล้ว จดจำนำไปพิจารณาให้เกิดปัญญาอีกทางหนึ่งด้วย การสวดมนต์ ยังเป็นวิธีฝกฝนตนในรูปแบบไตรสิกขา หากว่าผู้สวดทำด้วยศรัทธาในเบื้องต้น มีผลทำให้จิตตั้งมั่น เป็นพื้นฐานนำไปสู่ปัญญาต่อไป ดังนั้น การสวดมนต์ด้วย ความเข้าใจเช่นนี้ มีผลให้เกิดสติในการยับยั้ง (ศีล), ตั้งใจ (สมาธิ), ไตร่ตรอง (ปัญญา) ในเรื่องที่ทำ คำที่พูด สิ่งที่คิด มิให้เป็นไปในทางผิดศีลธรรม จึงช่วยแก้ปัจจุบันกรรมของ ท่านให้ห่างหายไปได้ เพราะฉะนั้น การสวดมนต์ ที่ท่านทำด้วยแรงศรัทธา ความเชื่อมั่นในสิ่งดีงาม จะเป็นแรงผลักดันให้ท่านดำเนิน ชีวิตอย่างมีคุณค่า ทำให้เกิดพลังปัญญา ที่จะช่วยแก้ปัญหา ต่างๆ ที่เป็นกรรมของชีวิตได้อย่างถูกต้องเหมาะสมต่อไป
สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ 5 5
บทบูชาพระรัตนตรัย๑ ÍÔÁÔ¹Ò ÊÑ¡¡ÒàùР¾Ø·¸Ñ§ ÍÐÀÔ»ÙªÐÂÒÁÔ. ÍÔÁÔ¹Ò ÊÑ¡¡ÒàùР¸ÑÁÁѧ ÍÐÀÔ»ÙªÐÂÒÁÔ. ÍÔÁÔ¹Ò ÊÑ¡¡ÒàùРÊѧ¦Ñ§ ÍÐÀÔ»ÙªÐÂÒÁÔ.
บทกราบพระรัตนตรัย๒
อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา, พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ. (¡ÃÒº) ส๎วากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม, ¸ÑÁÁѧ ¹ÐÁÑÊÊÒÁÔ. (¡ÃÒº) สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, Êѧ¦Ñ§ ¹ÐÁÒÁÔ. (¡ÃÒº)
บทนอบน้อมพระพุทธเจ้า๓ นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ. (ÊÇ´ ó ¨º)
๑ การบูชาบุคคลผู้ควรบูชา
ทำให้เรามีจิตใจไม่ว้าวุ่นขาดที่พึ่งยามมี ปัญหา ช่วยดึงใจมิให้หลงใหลใฝ่ต่ำ ๒ การกราบ ช่วยแก้ความอวดดื้อถือดี เพราะคนที่รู้จักกราบจักไหว้ แสดงว่าเป็นคนมีสัมมาคารวะ จึงเป็นที่รักใคร่แก่ผู้พบเห็น ๓ ความอ่อนน้อมถ่อมตน ช่วยทำให้เราไม่เป็นคนเย่อหยิ่งทะนงตนว่า เหนือกว่าใคร และทำให้ใจสงบเย็นขึ้น
6060
กรรมลิขิต
บทไตรสรณคมน์
พุทธัง ธัมมัง สังฆัง ทุติยัมปิ พุทธัง ทุติยัมปิ ธัมมัง ทุติยัมปิ สังฆัง ตะติยัมปิ พุทธัง ตะติยัมปิ ธัมมัง ตะติยัมปิ สังฆัง
สะระณัง สะระณัง สะระณัง สะระณัง สะระณัง สะระณัง สะระณัง สะระณัง สะระณัง
คัจ©ามิ. คัจ©ามิ. คัจ©ามิ. คัจ©ามิ. คัจ©ามิ. คัจ©ามิ. คัจ©ามิ. คัจ©ามิ. คัจ©ามิ.
ไตรสรณคมน์ หมายถึง การถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่งของจิตใจ การนับถือพระรัตนตรัยเป็น ที่พึ่ง ช่วยทำให้เราเป็นที่พึ่งของตนเองได้ เพราะเมื่อยอมรับ พระรั ต นตรั ย เป็ น ที่ พึ่ ง ก็ ย่ อ มพร้ อ มจะพึ่ ง คำสอนของ พระพุทธศาสนาเป็นแนวทางการดำเนินชีวิต นำคนดีคืนสู่สังคมไทยด้วยใช้หลักกรรม ป˜จจุบันแม้วิวั²นาการทางโลกจะเจริญก้าวหน้าไปไกล แต่จติ ใจกลับเสือ่ มลงมาก ดูได้จากสถิตผิ ตู้ อ้ งขังทีจ่ ะล้นเรือนจำ ทำอย่างไรจะช่วยให้คนไม่กล้าทำผิดไปมากกว่านี้ ขอเสนอหนังสือสื่อธรรมเล่มนี้ที่ชี้ถึงผลกรรมชั่วว่าใคร ถลำตัวทำไปส่งผลร้ายกับชีวิตแน่แท้ เปลี่ยนแปรวิกÄติที่ ต้องถูกคุมขัง ใช้เวลาว่างอ่านทบทวนกรรมของตน เมื่อพ้น โทษจะได้กลับตัวเป็นคนดีต่อไป ท่านช่วยเขาได้ โดยร่วมเป็น เจ้าภาพพิมพ์มอบให้กรมราชทั³±์ สนใจช่วยคนให้เป็นคนดี โปรดติดต่อ ๐๒-๘๗๒-๘๑๘๑
สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ 61 61
บทสรรเสริญพระพุทธคุณ๑ อิตปิ ิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชา- จะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิท ู อะนุตตะโร ปุรสิ ะทัมมะสาระถิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ.
บทสรรเสริญพระธรรมคุณ๒ ส๎วากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปสั สิโก โอปะนะยิโก ปัจจัตตัง เวทิตพั โพ วิญญูหตี .ิ
บทสรรเสริญพระสังฆคุณ๓ สุปะฏิปนั โน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อุชปุ ะฏิปนั โน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สามีจปิ ะฏิปนั โน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ยะทิ ทั ง จั ต ตาริ ปุ ริ ส ะยุ ค านิ อั ฏ ฐะ ปุ ริ ส ะปุ ค คะลา เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเณยโย อัญชะลิกะระณีโย อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ. ๑ พุทธคุณ
หมายถึง คุณความดีของพระพุทธเจ้า ช่วยทำให้เราเกิด ความพยายามสร้างความดีงามอย่างพระพุทธองค์ ๒ ธรรมคุณ หมายถึง คุณความดีของพระธรรม ช่วยทำให้เรามีชีวิต ไม่ตกต่ำ เพราะประพฤติธรรมโดยสุจริต ๓ สั ง ฆคุ ณ หมายถึ ง คุ ณ ความดี ข องพระสงฆ์ ช่ ว ยทำให้ เรารู้ จั ก ปรับตัวอยู่ร่วมกันกับสังคมได้อย่างสงบสุข
62 62
กรรมลิขิต
พุทธชัยมงคลคาถา (พาหุง) พาหุง สะหัสสะมะภินิมมิตะสาวุธันตัง ค๎รีเมขะลัง อุทิตะโฆระสะเสนะมารัง ทานาทิธัมมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ àÁ* ชะยะมังคะลานิ.ñ มาราติเรกะมะภิยุชฌิตะสัพพะรัตติง โฆรัมปะนาฬะวะกะมักขะมะถัทธะยักขัง ขันตีสุทันตะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ àÁ* ชะยะมังคะลานิ.ò นาฬาคิริง คะชะวะรัง อะติมัตตะภูตัง ทาวัคคิจักกะมะสะนีวะ สุทารุณันตัง เมตตัมพุเสกะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ àÁ* ชะยะมังคะลานิ.ó ๑ บทนี้
พระพุทธองค์กว่าจะตรัสรู้ก็ยังมีมารผจญ เราเป็นสามัญชน ชีวิตย่อมมีอุปสรรคเข้ามาเผชิญทดสอบความแข็งแกร่งของจิตใจ เป็นธรรมดา ถ้าคิดดังนี้จะช่วยทำให้ไม่ย่อท้อทำดีแม้มีอุปสรรค ๒ บทนี้ พระพุทธองค์ชนะอาฬวกยักษ์ด้วยขันติธรรม จึงช่วยทำให้ เราเป็ น คนมี ค วามอดทนอดกลั้ น ทั้ ง ในเรื่ อ งของอารมณ์ ที่ ม า กระทบ และการประกอบอาชีพ ๓ บทนี้ พระพุทธองค์ชนะช้างนาฬาคิรีด้วยเมตตาธรรม จึงช่วยทำให้ เราเป็นคนมีเสน่ห์น่ารักใคร่ ถ้าเป็นคนมีน้ำใจเมตตาเอื้อเฟื้อ * คำที่ขีดเส้นใต้ ถ้าสวดให้ผู้อื่น เปลี่ยน เม เป็น เต ทุกแห่ง
สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ 63 63
อุกขิตตะขัคคะมะติหัตถะสุทารุณันตัง ธาวันติโยชะนะปะถังคุลิมาละวันตัง อิทธีภิสังขะตะมะโน ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ àÁ* ชะยะมังคะลานิ.ñ กัต๎วานะ กัฏฐะมุทะรัง อิวะ คัพภินียา จิญจายะ ทุฏฐะวะจะนัง ชะนะกายะมัชเฌ สันเตนะ โสมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ àÁ* ชะยะมังคะลานิ.ò สัจจัง วิหายะ มะติสัจจะกะวาทะเกตุง วาทาภิโรปิตะมะนัง อะติอันธะภูตัง ปัญญาปะทีปะชะลิโต ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ àÁ* ชะยะมังคะลานิ.ó ๑ บทนี้
พระพุทธองค์ชนะโจรองคุลิมาลที่หลงผิดด้วยถูกคนอิจฉา ด้ ว ยทรงบั น ดาลฤทธิ์ ช่ ว ยทำให้ เ ป็ น คนไม่ คิ ด อิ จ ฉาริ ษ ยาใคร เพราะเข้าใจในพระพุทธพจน์ที่ว่า ความอิจฉา ทำโลกาให้พินาศได้ ๒ บทนี้ พระพุทธองค์ชนะนางจิญจมาณวิกาที่ใส่ร้ายด้วยความสงบ จึงช่วยทำให้พ้นการถูกใส่ร้ายป้ายสี หากเรามีความโปร่งใส ใครจะ ทำลายก็ไม่อาจเผาความดีของเราให้หมองไหม้ได้ ๓ บทนี้ พระพุทธองค์ชนะสัจจกนิครนถ์ที่ท้าตอบปัญหาด้วยปัญญา ช่วยทำให้ไม่เป็นคนอวดดี ว่าตนมีความรูค้ วามสามารถเหนือใคร ไม่หลงมัวเมาแต่สิ่งที่ตนรู้เท่านั้น แต่ขยันหาความรู้ใหม่เพิ่มเติม
64 64
กรรมลิขิต
นันโทปะนันทะภุชะคัง วิพุธัง มะหิทธิง ปุตเตนะ เถระภุชะเคนะ ทะมาปะยันโต อิทธูปะเทสะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ.ñ ทุคคาหะทิฏฐิภุชะเคนะ สุทัฏฐะหัตถัง พ๎รัห๎มัง วิสุทธิชุติมิทธิพะกาภิธานัง ญาณาคะเทนะ วิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ.ò เอตาปิ พุทธะชะยะมังคะละอัฏฐะคาถา โย วาจะโน ทินะทิเน สะระเต มะตันที หิต๎วานะเนกะวิวิธานิ จุปัททะวานิ โมกขัง สุขัง อะธิคะเมยยะ นะโร สะปัญโญ.ó ๑ บทนี้
พระพุทธองค์ชนะนันโทปนันทนาคราชทีป่ ดิ ทางเสด็จให้มดื มิด ด้วยโปรดให้พระมหาโมคคัลลานะไปกำราบ จึงช่วยทำให้เป็นผู้นำ ที่ดีได้ หากใช้คนให้ถูกกับงาน ๒ บทนี้ พระพุ ท ธองค์ ช นะพกพรหมที่ มี ค วามเห็ น ผิ ด ด้ ว ยทำให้ เขา ได้คิดเห็นในทางที่ถูกต้องตามธรรม จึงช่วยสะเดาะกรรมทำให้ หมดทุกข์จากความยึดมั่นถือมั่นได้ ไม่หลงในสิ่งที่สมมติกันขึ้น ๓ การที่พระพุทธองค์ชนะผู้มาผจญทั้ง ๘ ครั้ง ด้วยวิธีแตกต่างกันนั้น ในชีวิตจริงเราก็ต้องมีมารมาผจญบ้าง แต่ถ้าเราตั้งสติด้วยการสวด พุทธชัยมงคลคาถา อานิสงส์ที่เกิดเบื้องต้น คือ จะมีความยับยั้ง ชั่งใจในการตัดสินใจแก้ไขปัญหา ทำให้มีจิตใจมั่นคง คนเราเมื่อ จิ ต ใจมั่ น คงการแก้ ไขปั ญ หาในภาวการณ์ ใ ด ย่ อ มทำลงไปด้ ว ย รอบคอบเสมอ
สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ 65 65
บทชัยปริตร (มหากา)
มะหาการุณิโก นาโถ ปูเรตîวา ปาระมี สัพพา เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ ชะยันโต โพธิยา มูเล เอวัง อะหัง วิชะโย โหมิ อะปะราชิตะปัลลังเก อะภิเสเก สัพพะพุทธานัง สุนักขัตตัง สุมังคะลัง สุขะโณ สุมุหุตโต จะ ปะทักขิณัง กายะกัมมัง ปะทักขิณัง มะโนกัมมัง ปะทักขิณานิ กัต๎วานะ ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง สัพพะพุทธานุภาเวนะ ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง สัพพะธัมมานุภาเวนะ ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง สัพพะสังฆานุภาเวนะ
หิตายะ สัพพะปาณินัง ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง โหตุ àÁ* ชะยะมังคะลัง สัก๎ยานัง นันทิวัฑฒะโน ªÐÂÒÁÔ* ชะยะมังคะเล สีเส ปะฐะวิโปกขะเร อัคคัปปัตโต ปะโมทะติ. สุปะภาตัง สุหุฏฐิตัง สุยิฏฐัง พ๎รัห๎มะจาริสุ วาจากัมมัง ปะทักขิณัง ปะณิธี àÁ* ปะทักขิณา ละภันตัตเถ ปะทักขิเณ. รักขันตุ สัพพะเทวะตา สะทา โสตถี ภะวันตุ àÁ* รักขันตุ สัพพะเทวะตา สะทา โสตถี ภะวันตุ àÁ* รักขันตุ สัพพะเทวะตา สะทา โสตถี ภะวันตุ àÁ*.
บทนี้ นิ ย มเรี ย กว่ า มหากาฯ ตามคำขึ้ น ต้ น ของบทสวด ที่ มี ความหมายว่า ผู้มีความกรุณาอย่างยิ่งใหญ่ ช่วยทำให้เป็นคนมีเสน่ห์ เมตตามหานิยม หากบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น *
คำที่ขีดเส้นใต้ สวดให้ผู้อื่นเปลี่ยนเป็น ต๎วัง วิชะโย โหหิ ชะยัสสุ
66 66
กรรมลิขิต
สมาธิอยางงายๆ เพื่อใชแกกรรม
หลังการสวดมนต์ ควรนั่งสมาธิเพื่อให้จิตใจปลอดโปร่ง สบาย ร่างกายเรายังต้องอาบน้ำทำความสะอาดทุกวัน จิตใจ ก็เช่นกัน ต้องชำระล้างด้วยการปล่อยวางความคิดเรื่องราว ต่างๆ ให้หมดไปจากใจ วิธีทำสมาธิแบบง่ายๆ จะนั่งกับพื้นหรือบนเก้าอี้ วาง มือวางเท้าอย่างไรก็ได้ ให้อยู่ในท่าพอดีไม่ฝืนร่างกายจนถึง กับเกร็ง อย่าให้หลังโค้งงอ เมื่อปรับร่างกายเข้าที่แล้วให้ หลับตาลงเบาๆ สบายๆ คล้ายๆกับกำลังพักผ่อน ไม่บีบ เปลือกตาจนแน่น จากนัน้ เอาจิตมากำหนดทีป่ ลายจมูก (ทีอ่ นื่ ตามทีร่ มู้ าก็ได้) หายใจเข้าบริกรรมว่า พุท หายใจออกบริกรรม ว่า โธ ให้จิตแนบแน่นอยู่กับลมหายใจเข้า-ออก หรืออยู่กับ คำบริกรรมว่า พุท-โธ ให้กำหนดเช่นนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าจิต จะสงบนิ่ ง เป็ น สมาธิ แ ล้ ว ก็ ไ ม่ ต้ อ งบริ ก รรมอี ก แต่ ข ณะใด จิตฟุ้งซ่านรีบใช้สติดึงจิตกลับมาที่คำบริกรรมเพื่อให้จิตมีที่ ยึดเหนี่ยวอยู่กับอารมณ์กรรมฐาน และเมื่อออกจากการทำ สมาธิแล้ว จึงสวดบทแผ่เมตตา กรวดน้ำต่อไป
สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์67 67
บทแผ่เมตตาแก่ตนเอง อะหัง สุขิโต โหมิ, ขอให้ข้าพเจ้ามีความสุข, นิททุกโข โหมิ, ปราศจากความทุกข์, อะเวโร โหมิ, ปราศจากเวร, อัพ๎ยาปัชโฌ โหมิ, ปราศจากอุปสรรคอันตรายทัง้ ปวง, อะนีโฆ โหมิ, ปราศจากความทุกข์กาย ทุกข์ใจ, สุขี อัตตานัง ปะริหะรามิ. มีความสุขกายสุขใจ รักษาตน ให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิด.
บทแผ่เมตตาให้สรรพสัตว์ สัพเพ สัตตา,
สัตว์ทั้งหลาย ที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิดแก่เจ็บตาย ด้วยกันทัง้ หมดทัง้ สิน้ , อะเวรา โหนตุ, จงเป็นสุข เป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรต่อกันและกันเลย, อัพ๎ยาปัชฌา โหนตุ, จงเป็นสุข เป็นสุขเถิด อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย, อะนีฆา โหนตุ, จงเป็นสุข เป็นสุขเถิด อย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย, สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ. จงมีความสุขกาย สุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิด. ท่านที่ต้องการหนังสือสวดมนต์ สำหรับสวดได้ทกุ เวลา สวดก่อนนอน ป้องกันภัย รักษาโรค เสริมลาภแก้กรรม กรุณาติดต่อ สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง ๐๒-๘๗๒-๘๒๒๘, ๐๒-๘๗๒-๙๑๙๑
68 68
กรรมลิขิต
บทแผ่ส่วนกุศล อิทัง เม มาตาปิตูนัง โหตุ, สุขิตา โหนตุ มาตาปิตะโร, ขอส่วนบุญนี้ จงสำเร็จแก่มารดาบิดาของข้าพเจ้า ขอให้มารดาบิดาของข้าพเจ้ามีความสุข, อิทัง เม ญาตีนัง โหตุ, สุขิตา โหนตุ ญาตะโย, ขอส่วนบุญนี้ จงสำเร็จแก่ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า ขอให้ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้ามีความสุข, อิทัง เม คะรุปัชฌายาจะริยานัง โหตุ, สุขิตา โหนตุ คะรุปัชฌายาจะริยา, ขอส่วนบุญนี้ จงสำเร็จแก่ครู อุปัชฌาย์และอาจารย์ของ ข้าพเจ้า ขอให้ครู อุปัชฌาย์และอาจารย์ของข้าพเจ้ามี ความสุข, อิทัง สัพพะเทวะตานัง โหตุ, สุขิตา โหนตุ สัพเพ เทวา, ขอส่วนบุญนี้ จงสำเร็จแก่เทวดาทั้งหลาย ขอให้เทวดาทั้งหลายมีความสุข, อิทัง สัพพะเปตานัง โหตุ, สุขิตา โหนตุ สัพเพ เปตา, ขอส่วนบุญนี้ จงสำเร็จแก่เปรตทั้งหลาย ขอให้เปรตทั้งหลายมีความสุข, อิทัง สัพพะเวรีนัง โหตุ, สุขิตา โหนตุ สัพเพ เวรี, ขอส่วนบุญนี้ จงสำเร็จแก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ขอให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายมีความสุข, อิทัง สัพพะสัตตานัง โหตุ, สุขิตา โหนตุ สัพเพ สัตตา. ขอส่วนบุญนี้ จงสำเร็จแก่สัตว์ทั้งหลาย ขอให้สัตว์ทั้งหลายมีความสุขทั่วหน้ากันเทอญ.
สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ 6 6
บทอธิษฐานอโหสิกรรมต่อกัน กายะกัมมัง วะจีกัมมัง มะโนกัมมัง สัญจิจจะกัมมัง อะสัญจิจจะกัมมัง ขะมันตุ เม อะโหสิกมั มัง ภะวะตุ เม. กรรมใดๆ ที่ข้าพเจ้าได้ทำล่วงเกินแก่ผู้ใด ทั้งโดยตั้งใจก็ดี ไม่ได้ตั้งใจก็ดี จงยกโทษให้เป็นอโหสิกรรมแก่ข้าพเจ้า แม้กรรมใด ที่ใครทำแก่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าอโหสิกรรมให้ ทั้งสิ้น ยกถวายเป็นอภัยทาน ให้เขาเหล่านั้นมีเมตตาจิต คิดเป็นมิตรกับข้าพเจ้า จะได้ไม่มีเวรกรรมต่อกันตลอดไป ด้วยอานิสงส์แห่งอภัยทานนี้ ขอให้ขา้ พเจ้าและครอบครัว ของข้าพเจ้า พ้นจากความทุกข์ยากลำบากเข็ญใจ ปรารถนา สิง่ ใดอันเป็นไปโดยธรรม ขอให้สงิ่ นัน้ จงพลันสำเร็จด้วยเทอญ นิพพานะปัจจะโย โหตุ.
บทกรวดน้ำให้เจ้ากรรมนายเวร ข้าพเจ้า ขออุทิศบุญกุศลจากการสวดพระพุทธมนต์นี้ ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทัง้ หลาย ทีไ่ ด้เคยล่วงเกินท่านไว้ตงั้ แต่ อดีตชาติจนถึงปัจจุบันชาติ ไม่ว่าจะอยู่ภพใดหรือภูมิใด ขอให้ท่านได้รับผลบุญนี้ ท่านที่มีความทุกข์ ขอให้ได้พ้น จากทุกข์ ท่านที่มีความสุข ขอให้มีความสุขยิ่งๆ ขึ้นไป เมื่อเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ได้รับบุญที่ข้าพเจ้าตั้ง จิตอุทิศให้นี้แล้ว โปรดอนุโมทนาบุญแก่ข้าพเจ้า ให้ถึง ความเป็นผู้พ้นทุกข์ ด้วยอำนาจบุญที่อุทิศนี้ด้วยเทอญ. 70 70
กรรมลิขิต
ÃдÁ¸ÃÃÁ ¹ÓÊѹµÔÊØ¢¤×¹ÊÙ‹Êѧ¤Á ในสังคมที่ดูสับสนวุ่นวาย มีข่าวคราวร้ายๆ ปรากฏให้ ได้เห็น ได้ฟังไม่เว้นแต่ละวัน ทำไมหนอ ? สังคมมนุษย์ถึง เป็นเช่นนั้น นั่นเป็นเพราะว่า คนมีความหลงคิดผิด จิตจึงมี ความโลภอยากได้ เมื่อไม่ได้ดังใจจึงเกิดไฟโกรธมาสุมอกให้ ร้อนรุ่มกลุ้มใจ แล้วใครต่อใครต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ศีลธรรมในทางศาสนา เห็นท่าจะเสื่อมสิ้นไป แต่อยากให้ท่านใส่ใจพิจารณาสักนิด คงจะมีสติฉุกคิด ได้ว่า ทุกปัญหาที่เกิดอยู่ในเวลานี้ มิใช่ศีลธรรมเสื่อมไป แต่ใจของคนเราต่างหากที่เสื่อมจากศีลธรรม ทำอย่างไร ? จึงช่วยคนในสังคมกลับมามีศีลธรรมดังเดิมหลวงปูพุทธทาส ท่านพูดถึงแนวทางการระดมธรรมนำสันติสุขกลับคืนมาไว้ว่า ธรรมะ คือ หน้าที่ ทีม่ นุษย์จะต้องป¯ิบตั ิ ให้ถกู ต้องตามก®ของธรรมชาติ ทุกขัน้ ทุกตอนแห่งวิวั²นาการของเขา ทั้ง โดยส่วนตัว ส่วนรวม หรือทั้งโลก การพิ ม พ์ ห นั ง สื อ ธรรมะขึ้ น เป็ น ธ รรมทาน ในสมัยที่ โลกกำลังขาดแคลน ธรรมะอย่างยิ่งเช่นนี้ เป็นสิ่งที่มีเหตุผล และควรแก่ การอนุโมทนา ท่านจึงเป็นผู้ช่วยให้สังคมดีขึ้นได้ ด้วยการให้ของขวัญทางปัญญาแก่ลูกหลานญาติมิตรบุพการี
สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์71 71
จากรุนสูรุน จากยุคสูยุค ไมหยุดยั้งการพัฒนา สรางสรรคสื่อธรรม รังสรรคสังคม อุดมปญญาบารมี
สำนักพิมพเลี่ยงเชียง ดำรงความเพียรเพื่อพุทธศาสน จากพุทธศักราช ๒๔๕๙ ตอไปไมสิ้นสุด
เพื่อจรรโลงพระพุทธศาสนา พัฒนาสังคมใหมั่นคง สงบสุข เจริญรุงเรืองยิ่งขึ้น ตกทอดเปนมรดกธรรม มรดกความดี จนถึงลูกหลานสืบไป
ÊѹµÔÊØ¢¨Ðà¡Ô´¢Öé¹ä´Œ
¡ç´ŒÇ·ء¤¹ÁÕËÅÑ¡¸ÃÃÁäÇŒÀÒÂã¹ã¨ ʧº ÊÐÍÒ´ ÊÇ‹Ò§ ໚¹Ê‹Ç¹µÑÇáÅŒÇ ¨Ö§Ã‹ÇÁ áçË Ç Áã¨ÊÒÁÑ ¤ ¤Õ ¡Ñ ¹ à¼ÂἋ Í Í¡ä»ÊÙ‹ ¤¹Ãͺ¢ŒÒ§ ªØÁª¹ Êѧ¤Á ¢ÂÒ¡njҧ Í͡件֧ªÒÇâÅ¡ ໚¹ÊѹµÔÀÒ¾âÅ¡áÅÐ ÊѹµÔÊآ͋ҧÂÑè§Â×¹
ทานผูประสงคจะพิมพหนังสือเลมนี้ หรือหนังสือเลมอื่นๆ เพื่อเผยแผเปนธรรมทาน โปรดติดตอ : สำนักพิมพเลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน ๑๐๕/๗๕ ถนนประชาอุ ทิ ศ ซอย ๔๕ แขวงบางมด เขตทุ ง ครุ กรุ ง เทพฯ ๑๐๑๔๐ E-mail : LC2YOU@GMAIL.COM, LC2YOU@HOTMAIL.COM, WWW.LC2U.COM ซื้อหนังสือ โทร. ๐๒-๘๗๒-๗๒๒๗, ๐๒-๘๗๒-๘๒๒๘, ๐๒-๘๗๒-๙๘๙๘ พิมพแจก โทร. ๐๒-๘๗๒-๙๑๙๑, ๐๒-๘๗๒-๘๑๘๑, ๐๒-๘๗๒-๕๙๗๘ งานจางพิมพ โทร. ๐๒-๘๗๒-๙๘๙๗ ๏ พิมพที่ โรงพิมพเลี่ยงเชียง ๒๒๓ ถนนบำรุงเมือง แขวงสำราญราษฎร เขตพระนคร กรุงเทพฯ ๑๐๒๐๐ โทร. ๐๒-๒๒๑-๑๐๕๐, ๐๒-๒๒๓-๘๙๗๙ (ระวัง ! อยาเขาผิดราน)