เน
พระเดชพระคุณ พระธรรมโกศาจารย หรือที่รูจักกันดีในนาม หลวงพอ พุทธทาสภิกขุ ทานไดชื่อวาเปนพระเถระผูสุปฏิปนโน คือเปนผูปฏิบัติดีปฏิบัติ ชอบ นอกจากนั้นทานยังเปนผูสามารถในการแสดงพระธรรมเทศนาอยางลึกซึ้ง เขาถึงจิตใจของผูคนทุกยุคทุกสมัย ลีลาในการประกาศสัจธรรมของทาน ตั้งแต ทานเริ่มตั้งสัจจะปวารณาตนวาเปนทาสของพระพุทธเจานั้น เรียบงาย กระชับ ชัดเจน และตรงไปตรงมา เจาะลึกถึงกิเลสที่ฝงแนนอยูในจิตใจของ ผูคนมาจนถึง ปจจุบันนี้ หนังสือ สอนเด็กใหไปนิพพาน สอนลูกหลานใหเปนคนดี ( ปนมนุษย แตยังเด็ก) เลมนี้ เปนผลงานที่ทรงคุณคาอีกเลมหนึ่ง ที่หลวงพอพุทธทาสภิกขุ ไดฝากไวเปนมรดกธรรมมรดกโลก หากไดอานและศึกษาจนเขาใจเนื้อหาอยาง ละเอียดลึกซึ้งแจมแจง และนำไปประพฤติปฏิบัติเปนธรรมประจำชีวิตจิตใจแลว ก็จักเปนประโยชนสุข ทั้งแกตนเองและผูอื่น ตลอดจนสังคมโลก ทั้งในปจจุบัน ชาตินี้หรือในอนาคตกาลภายหนา หนังสือเลมนี้สำนักพิมพไดจัดพิมพมาแลวหลายครั้ง แตก็ยังเปนที่ ตองการอยูอยางตอเนื่อง จึงไดจัดพิมพขึ้นอีกครั้งหนึ่งโดยจัดวรรคตอน ยอหนา วาดภาพประกอบจนสำเร็จเปนรูปเลมสวยงามดังปรากฏนี้ และยังคงเนื้อหา สารธรรมไวครบถวน หวังเปนอยางยิ่งวา หนังสือเลมนี้จักชวยสงเสริมศรัทธาในการศึกษา และปฏิบัติธรรมแกพุทธศาสนิกชนและผูสนใจทั่วไป ในการระดมธรรม สรางสันติสุขแกตนเอง ครอบครัว สังคม และประเทศชาติไดเปนอยางดี
ดวยศรัทธาและปรารถนาดี สำนักพิมพเลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน รวมระดมธรรมสันติสุขแกชาวโลก
การปน มนุษยแตยงั เด็ก ตามความหมายของ หลวงพอพุทธทาสภิกขุ
คือการปลูกฝงอุปนิสัย ปูพื้นฐานแหงธรรมแกเด็กแตเนิ่นๆ เพื่อหลอหลอมจิตใจ ของเด็กใหซึมซับรับเอาปรมัตถธรรม ธรรมอันสูงสุดเพื่อความดับทุกขโดยสิ้นเชิง ตั้งแตเยาววัย การดับทุกขเปนภาระอันหนักและยาวนานของมนุษย ไมวาทุกขเล็กๆ นอยๆ หรือทุกขอันเกิดแตการเกิด แก เจ็บ ตาย การดับทุกขโดยไมเหลือ จึงเปนเปาหมายอันสูงสุดของมวลมนุษยชาติ การที่จะกาวเขาถึงความดับทุกขอยางสิ้นเชิงนั้น ตองอาศัยหลักการ เรียนรูที่ถูกตอง ตรงตามกระบวนการแหงความเปนจริงที่เรียกวา ปรมัตถธรรม หรือบรมธรรม โดยเริ่มอบรมศึกษาตั้งแตเด็กๆ สอนเด็กใหรูจักวิธีการดับทุกข ดวยตัวเอง ปรมัตถธรรม เปนมรดกธรรมอันล้ำคา ที่องคพระบรมศาสดาสมเด็จ พระสัมมาสัมพุทธเจาทรงมอบไวแกมวลมนุษย เพื่อเปนเครื่องมือในการดับ ทุกข เปรียบเสมือนลายแทงที่จะนำมวลมนุษยไปสูสุขสมบัติอันล้ำคา คือ พระนิพพานสุข สุขอันเกิดแตความดับทุกขโดยสิ้นเชิง แตในสังคมยุคปจจุบัน มนุษยพากันละทิ้งและขยับหางจากปรมัตถธรรม ออกไปไกลทุกขณะ ปรมัตถธรรมซึ่งผูกพันกับชีวิตประจำวันไดถูกยกขึ้นเปนของ ศักดิ์สิทธิ์ ของขลัง นาบูชามากกวาที่จะนำมาปฏิบัติ และเรียนรูอยางจริงจัง สงผลใหมนุษยตองประสบความทุกขมากมายอยางหลีกเลี่ยงไมได
บัดนี้ ถึงเวลาแลวที่มวลมนุษยชาติจะตองหันมาศึกษาปรมัตถธรรม และชวยกันเผยแผใหกระจายสูสังคมมนุษยทุกระดับชั้นอยางกวางขวาง โดยเฉพาะเด็กๆ ที่ตองใหเขาเรียนรูอุปนิสัยที่นอมเขาไปหาปรมัตถธรรม เพื่อให รูวิธีการเอาชนะทุกขไดในระดับหนึ่ง ดังพุทธภาษิตที่วา ปุตฺตา วตฺถุ มนุสฺสานํ : เด็กๆ เปนทรัพยากรของ มนุษย หากเด็กๆ ไดรูจักและเรียนรูปรมัตถธรรมหรือบรมธรรมเสียตั้งแตตน เชื่อเหลือเกินวาตอไปในอนาคต มวลมนุษยชาติจักหมดทุกขโดยทั่วกัน ขอใหทานพุทธศาสนิกชนผูสนใจในธรรม ตองการทำชีวิตใหพนจาก ความทุกข เขาถึงบรมสุขคือพระนิพพาน ไดพิจารณาไตรตรอง ศึกษา และซึมซับ เอารสแหงธรรมจากธรรมบรรยายเรื่อง สอนเด็กใหไปนิพพาน สอนลูกหลาน ใหเปนคนดี (ปนมนุษย แตยังเด็ก) ตามอัธยาศัยเทอญ. สัพพะระสัง ธัมมะระโส ชินาติ รสของธรรม ยอมชนะรสทั้งปวง ดวยกตัญูกตเวทิตาธรรม (ป.ธ.๗, ร.บ.) ผูสรรคสาระในนามคณาจารย สำนักพิมพเลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน โปรดใชเลมนี้ใหคุมสุดคุม & อานแลว -> แบงกันอานหลายทานนะจะ
อานสิบรอบ ระดมสมองคิดสิบหน ฝกฝนปญญา พัฒนาการประยุกตใชในชีวิตประจำวัน จิตรูเทาทันสรรพสิ่ง มีสติปญญา ฉลาดใช เฉลียวคิด ชีวิตจักสนุก สงบ เย็น เปนสุข สำนักพิมพเลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน ปรารถนาใหทุกครอบครัวมีความสุข
๑
เด็กจำเปนตองรูบรมธรรม ...วันนี้จะไดพูดกันถึงเรื่อง “ºÃÁ¸ÃÃÁ¡Ñºà´ç¡·Òá” ในที่นี้ ก็จะขอถือโอกาสพูดถึงการทำใหเด็กมีบรมธรรม แมในขนาด ที่เรียกวา à´ç¡·Òá ถาถือเอาตามภาษาบาลีที่มีคำกลาวถึงเด็กอยูหลายคำ ก็พอจะจำกัดความลงไปไดวา คำวา ·Òá หมายถึง à´ç¡ÃØ‹¹àÅç¡ÃØ‹¹¨ÔëÇ ถาเปนอยางสมัยนี้ ก็อยางเด็กในโรงเรียนอนุบาล คำวา ¡ØÁÒà ¡ØÁÒÃÕ หมายถึง à´ç¡ÃØ‹¹»ÃжÁ ÃØ‹¹ÁѸÂÁ ทำนองนั้น คำวา ÂØÇÒ ÂØÇµÕ ก็หมายถึงที่เราเรียกกันวา ÂØǪ¹ สมัยนี้ ๑ ชื่อเดิมคือ ปนมนุษย แต...ยังเด็ก บรรยายอบรมพระนิสิตฯ บวชภาคฤดูรอน ป ๒๕๑๒ ณ สวนโมกขพลาราม ไชยา วันที่ ๒๐ เมษายน ๒๕๑๒.
๖
Ãç ÙºŒ ÃÁ¸ÃÃÁä´Œ
à´ç¡
·ÃÕè
¼Å ¡ Ø µ Ë ¨ÙŒ ¡Ñ à
à¾ÃÒЩйÑé¹ ¤ÓÇ‹Ò “à´ç¡·Òá” ¢Í§àÃÒ ¨Ö§äÁ‹ä´ŒËÁÒ¶֧à´ç¡Í‹Í¹¹Í¹àºÒРᵋËÁÒ¶֧ “à´ç¡·ÕèÃÙŒ¿˜§ ÃÙŒ¤Ô´ ÃٌⵌáÂŒ§´ŒÇÂà˵ؼŢͧµÑÇàͧ” และมีหลักที่จะตองพิสูจนวาเด็กๆ ก็ตองเกี่ยวของกับบรมธรรม หรือมีบรมธรรม บรมธรรมเปนสิ่งที่มีไวสำหรับมนุษยทุกคน และทุกระดับตั้งแต เด็กทารกเปนตนไป คอย ๆ อาน คอย ๆ คิด
คราคิดติดขัด หยุดพักสักนิด ทำจิตใหสงบ จักพบทางออก
๗
บรมธรรมเปนพื้นฐาน ของทุกสรรพสิ่ง สำหรับคำวา “ºÃÁ¸ÃÃÁ” จะตอง หมายถึง âšصøÃÃÁ ËÃ×Í »ÃÁѵ¶¸ÃÃÁ อยางที่เรียกกันเดี๋ยวนี้เสมอไป จะเปนอยางอื่นไมได แมที่เปนเด็กทารกก็ตองมีธรรมที่เปนฝกฝายของโลกุตรธรรม ที่เรียกวา ปรมัตถธรรม คือ ธรรมที่มีเนื้อหาลึกซึ้ง หรือสูงสุดอยางยิ่ง เดี๋ยวนี้เราถูกกระทำใหยึดถือในฐานะเปนของขลัง ของศักดิ์สิทธิ์ มากเกินไป ถาพูดอยางธรรมดาๆ ที่ไมมีความยึดถือแลว สิ่งนี้มันก็เปน เพียงสิ่งสูงสุดเทานั้นเอง เปนธรรมชาติอันสูงสุด เรียกภาษาอยางงายๆ ก็วา ÂÍ´ÊØ´¢Í§·Ø¡ÊÔè§ »ÃÁѵ¶¸ÃÃÁ ¨ÐÈÑ¡´ÔìÊÔ·¸Ôì แตแลวยอดสุดของทุกสิ่งนี้ไมใช àËÁ×͹਌ÒáÁ‹µÐà¤Õ¹ เปนยอดสุดอยูผูเดียว ตองมาเกี่ยวของกัน ËÃ×Íà»Å‹Ò¹Ð !!! กับมนุษย จะเกี่ยวของกับมนุษยแตเพียง ชั้นผูใหญ หรือชั้นคนเฒาคนแกมันก็ไมได เพราะวาเด็กๆ จะเดินผิดทาง áÅÐâ´Âá·Œ¨ÃÔ§¹Ñé¹ ¸ÃÃÁªÒµÔä´Œ¨Ñ´ÊÃÃËÃ×ÍÇ‹ÒÁÕÊÔ觹ÕéäÇŒ ã¹°Ò¹Ð໚¹¾×é¹°Ò¹¢Í§ÊÔ觷ÑèÇä» ÊÔè§ÊÙ§ÊØ´¹Õé໚¹¾×é¹°Ò¹¢Í§ÊÔ觷ÑèÇä»
๘
บรมธรรมมีฐานะ เชนกับพระเจา
ã¹ÍÕ¡·Ò§Ë¹Öè§ àÁ×èÍàÃÒ¾Ù´¶Ö§ÊÔ觷ÕèàÃÕÂ¡Ç‹Ò ºÃÁ¸ÃÃÁ ã¹¹ÒÁÇ‹Ò ¾ÃÐà¨ŒÒ àÃÒ¡çËÁÒ¤ÇÒÁÇ‹Ò ¾ÃÐ਌ÒÊÓËÃѺ·Ø¡¤¹ áÁŒáµ‹à´ç¡·Òá áÁŒáµ‹ÊÔ觷ÕèÂѧäÁ‹¤ÅÍ´ÍÍ¡¨Ò¡¤ÃÃÀ ÁÒÃ´Ò ในฐานะที่เปนสิ่งมีชีวิตอยูในที่ทุกหนทุกแหง พระเจามีอยูในที่ทุกหนทุกแหง มีอยูในสิ่งทุกสิ่ง ในทุกเวลา และทุกสถานที่นั่นเอง
ÊÓËÃѺÊÔ觷ÕèàÃÕÂ¡Ç‹Ò “ºÃÁ¸ÃÃÁ” ¹Õé¡çàËÁ×͹¡Ñ¹ หลวงพอพุทธทาสสอนวา “สมัยกอนมีธรรมะคุมครองอยูในโลกมาก เดี๋ยวนี้ธรรมะ รอยหรอลงไป ความเห็นแกตัวมันเขามาแทน บูชาตนเองยิ่งกวาบูชาธรรมะ โลกจึงได เปนอยางนี้ ถาธรรมะเขามา ก็จะเกิดความเมตตา ความสามัคคี ความรักใครวาเปน เพื่อนเกิด แก เจ็บ ตาย ดวยกันทั้งหมดทั้งสิ้น มันก็จะมีมา โลกก็จะเปนผาสุก”
๙
ความเขาใจผิด เกี่ยวกับบรมธรรม เดี๋ยวนี้ มันมีปญหาเกิดขึ้น ในการที่ผูใหญนั่นเอง โดยมาก มีความคิดไปทำนองวา
“ºÃÁ¸ÃÃÁñ” ËÃ×Í “âšصøÃÃÁò” ¹Õé äÁ‹à¡ÕèÂÇ¢ŒÍ§¡Ñ¹àÅ ¡Ñºà´ç¡æ ÂÔ觡NjҹÑé¹ ¡çÇ‹ÒµŒÍ§äÁ‹à¡ÕèÂÇáÁŒáµ‹¼ÙŒãËÞ‹·Õè໚¹¦ÃÒÇÒÊ ·Õè¤ÃͧàÃ×͹ áÅÐÇ‹ÒäÁ‹ãª‹à¾Õ§ᵋÁѹäÁ‹à¡ÕèÂÇ¢ŒÍ§¡Ñ¹áµ‹Áѹ¨Ð·ÓãËŒà¢Ò äÁ‹¡ŒÒÇ˹ŒÒã¹àÃ×èͧâÅ¡ â´Â੾ÒÐã¹àÃ×èͧºÃÔâÀ¤¡ÒÁÊØ¢ ผูใหญมีความเห็นอยางนี้เสียโดยมาก เพราะไดรับการศึกษา หรือสิ่งแวดลอมที่ทำใหคิดอยางนั้น หรือบางทีก็เปนเพียงความคาด คะเนของตัวเอง อาตมาขอยืนยันวาเปนความเขาใจผิด ¼Ô´Í‹ҧÂÔè§ ถามีการ พูดไปตามความคาดคะเนของตัวเอง มันก็ยิ่งเปนเรื่องที่นาสงสาร ๑ อานวา บอ-รม-มะ-ทำ แปลวา ธรรมอันยอดเยี่ยม ๒ อานวา โล-กุด-ตะ-ระ-ทำ แปลวา ธรรมอันพนโลก คือ อยูเหนือวิสัยของโลก มี ๙ อยาง คือ มรรค ๔, ผล ๔ และนิพพาน ๑
๑๐
เพราะวาเขาไมสนใจ และไมเขาใจในพระพุทธภาษิต ที่เปนหัวใจของพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะอยางยิ่งคือเรื่อง สุญญตา๑ ที่พระพุทธเจาตรัสวา เปนประโยชนเกื้อกูลอยางยิ่ง ตลอดกาลนานแกฆราวาส
à¢ÒäÁ‹à¢ŒÒ㨻ÃÐâ¤ÊÑé¹æ »ÃÐ⤹Õé ·Õè¾Ãоط¸à¨ŒÒ ·‹Ò¹ä´ŒµÃÑÊäÇŒáÅŒÇ ¡çäÁ‹Ê¹ã¨·Õè¨ÐࢌÒ㨠à¾ÃÒж١¤Ãͺ§Ó´ŒÇ “Çѵ¶Ø¹ÔÂÁ” àÅ×Í´¢Í§Çѵ¶Ø¹ÔÂÁ “ࢌÒËÙࢌҵҔ ¹Õè¾Ù´Í‹ҧ
“ÀÒÉÒªÒǺŒÒ¹”
๑ อานวา สุน-ยะ-ตา แปลวา ความวางเปลา, ความเปนของสูญ หมายถึง สภาวะที่วางจากความเปนตน หรืออัตตา ไดแก เบญจขันธ ธาตุ อายตนะ ซึ่งเปนอนัตตา ไมมีสาระที่พึงยึดถือวาเปนสัตว เปนบุคคล อีกอยางหนึ่งหมายถึง สภาวะที่วางหรือปราศจากกิเลสเครื่องรอยรัดทั้งปวง คือ ราคะ โทสะ โมหะ เปนตน โดยความหมายก็คือ พระนิพพาน
๑๑
ปูพื้นฐานสู ความเปนมนุษยที่สมบูรณ ผมขอยืนยันวา à´ç¡æ áÁŒà´ç¡·Òá ¡çµŒÍ§ÁÕÊÔ觷ÕèàÃÕÂ¡Ç‹Ò ºÃÁ¸ÃÃÁ ໚¹¾×é¹°Ò¹ ËÃ×ÍࢌÒÁÒà¡ÕèÂÇ¢ŒÍ§Í‹ҧ¨Ó໚¹àµçÁ·Õè àµçÁ¤ÇÒÁËÁÒ¢ͧÊÔè§æ ¹Õé เหมือนกับที่เราไดพูดกันมาแลววา แมในมหาวิทยาลัยตางๆ ในโลก ก็จะไมพูดไมสอน หรือไม เอามาพูดกันในเรื่องพระเจา เรื่องสิ่งที่ดีที่สุดของมนุษย หรือเรื่อง บรมธรรม ในประเทศไทยเรานี้ก็เหมือนกัน นี้เพราะวาผูจัดการศึกษาเหลานั้น ไมมองเห็นคาของสิ่งเหลานี้ หรือสูงขึ้นไปกวานั้น ก็พวกนักการเมืองไมรูจักสิ่งเหลานี้ เขาจึงจัดหรือควบคุมหมุนหัน ใหการศึกษาของประเทศ ไปตามความประสงคของการเมือง โดยไมตองเขามาเกี่ยวของ กับสิ่งๆ นี้ ËÁ ? Í‹Ò¹ºŒÒ§ä ÁÕµÓÃÒÇÔªÒ¾Œ¹·Ø¡¢ ãˌ˹Ù
๑๒
ทั้งๆ สิ่งๆ นี้ตองเปนพื้นฐานของมนุษยทุกคน แมแตในขั้น เด็กทารก เพื่อเตรียมพื้นฐานของจิตใจของเขาไวใหดีๆ สำหรับจะเปน มนุษยที่ถูกตอง และเต็มเปยมสมบูรณตอไปขางหนา เราระบุกัน ใหชัดลงไปเลยวา
à´ç¡·ÒᢹҴà´ç¡ã¹âçàÃÕ¹͹غÒÅ໚¹½Ù§æ ¤ÇÃä´ŒÃѺ¡ÒÃͺÃÁ㹡ÃÐáÊËÃ×Í㹤Åͧ¢Í§ ÊÔ觷ÕèàÃÕÂ¡Ç‹Ò ºÃÁ¸ÃÃÁ ໚¹¡ÒûÅÙ¡½˜§ÃÒ¡ ËÃ×Íàª×éͧ͢ÊÔè§æ ¹Õé ŧä»ã¹¨Ôµã¨¢Í§à´ç¡ หลวงพอพุทธทาสสอนวา “ถาวาคนในโลกนี้มีคนที่ไมมีธรรมะมาก คนที่มีธรรมะ ก็จะอยูไมได ก็จะตองหนีไปอยูที่ไหนก็ไมรู การที่ทำใหมีธรรมะนั้น มันจะทำใหโลกอยู รวมกันได แลวเปนสุขดวยกันทุกฝาย พระพุทธเจาคงจะทรงมองเห็นความเปนจริงขอนี้ จึงทรงเปนหวงที่สุด เอาใจใสที่สุด ในการที่จะสงพระสาวกใหออกไปประกาศพระศาสนา สงไปคนละทิศคนละทางเดี๋ยวก็มากขึ้นเปนรอย เปนพัน เปนหมื่น เปนแสน ความสงบสุขมันก็เกิดขึ้น ในหมูมนุษยที่มีธรรมะ...”
๑๓
ตัวอยางการสอนเด็ก ใหเรียนรูบรมธรรม
การที่จะพูดโดยวิธีพูด อยางอื่นนี้ ผมรูสึกวาไมเหมาะ เราพูดเปนเรื่องๆ ไป ในลักษณะเพียงยกตัวอยาง จะดีกวา à¾ÃÒÐÇ‹ÒÊÔ觷ÕèàÃÕÂ¡Ç‹Ò ºÃÁ¸ÃÃÁ ¹ÕéÁѹ¡ÇŒÒ§ áÁŒ¨ÐàÍÒÁÒ¾Ù´ÊÓËÃѺà´ç¡æ Áѹ¡ç¡Ô¹àÇÅÒÁÒ¡ÁÒ ฉะนั้น จะพูดไปในลักษณะที่เปนตัวอยาง เปนเรื่องๆ ไป มันก็จะชวยไดเหมือนกัน คือ ถาเขาใจตัวอยางสัก ๒-๓ ตัวอยาง หรือสักจำนวนหนึ่ง แลวก็เขาใจไดทั้งหมด ˹ѧÊ×ÍÁÕäÇŒà¾×èÍÊ‹§àÊÃÔÁ¡ÒÃÍ‹Ò¹ ÊÌҧÊÃä Êѧ¤ÁãˌʧºÊØ¢ ÂÒÁÊÓ¹Ö¡¼Ô´¤Ô´¶Ö§¡ÃÃÁªÑèÇ·Õèà¤ÂËÅÇÁµÑÇ·Ó Ë¹Ñ§Ê×ÍàÅ‹Á¹Õ骋Ç·‹Ò¹ä´Œ ÂÒÁÍÂÒ¡á¹Ð¹ÓãËŒ¼ÙŒÍ×è¹·Ó¡ÃÃÁ´Õ Í‹Ò¹áÅŒÇÍ‹ÒÅ×ÁÊѧè ÊÁºØÞ à¾ÔÁè ºØÞà¾×Íè Å´¡ÃÃÁÌҢÂÒ¡ÃÃÁ´Õ ãËŒÁÊÕ ¢Ø ¤ÃºÅŒÒ¹¤¹
๑๔
๑. สอนเด็กใหรูจัก “หลักของอนัตตา”
(·ÓÍ‹ҧäÃãËŒà´ç¡äÁ‹ÃŒÍ§äËŒàÁ×èÍàÊÕ¢ͧÃÑ¡)
à´ç¡æ ¢Í§àÃÒ µŒÍ§äÁ‹ÃŒÍ§äËŒ àÁ×è굯 ¡µÒµ¡áµ¡ µŒÍ§äÁ‹â¡Ã¸ ã¹àÁ×è굯 ¡µÒµ¡áµ¡ µŒÍ§äÁ‹â·É¤¹Í×è¹ ã¹àÁ×è굯 ¡µÒµ¡áµ¡ ËÃ×ÍÍÐä÷Õè¤ÅŒÒÂæ ¡Ñ¹¡ÑºàÁ×è굯 ¡µÒµ¡áµ¡ คุณลองคิดดูทีวา มันจะตองทำอยางไรจึงจะเปนเชนนั้นได หรือวาจะไมรองไหเมื่อสอบไลตก หรือเมื่ออะไรๆ มันผิดหวังมาก เดี๋ยวนี้เราเห็นเด็กๆ ของเรารองไหในกรณีเหลานี้ หรือถึงกับ ตีโพยตีพายโทษคนนั้นโทษคนนี้ กลายเปนคนไมมีเหตุผลไปในขณะนั้น นี่เพราะมันขาดบรมธรรม คนเลี้ยงก็มีแตปลอบ หรือเอาสิ่งอื่น มาจางมาชดใชใหหยุดรองไห มันก็กลายเปนการทำใหเด็กไมใหมีเหตุผล ใหมันมีมันสมองชนิดที่ไมอยูในรองในรอยของบรมธรรม
๑๕
àÃÒµŒÍ§ãËŒà¢ÒÁÕ¤ÇÒÁÃÙŒ¤ÇÒÁࢌÒ㨠෋ҷÕèà¢Ò¨ÐࢌÒã¨ä´Œ Í‹ҧ¹ŒÍ¡çÇ‹Ò äÁ‹ÁÕÍÐä÷Õè¨Ð໚¹ä»µÒÁã¨àÃÒ Áѹ໚¹ä»µÒÁ¸ÃÃÁªÒµÔ äÁ‹à»š¹ä»µÒÁã¨àÃÒ à´ç¡æ ¤ÇèÐÃٌ͋ҧ¹Õé áŌǡçäÁ‹µŒÍ§ÃŒÍ§äËŒ à¾ÃÒÐÁѹ໚¹ä»µÒÁ¸ÃÃÁªÒµÔ à¾ÃÒиÃÃÁªÒµÔÁѹµŒÍ§à»š¹ä»Í‹ҧ¹Ñé¹ áŌǤÇÒÁ·Õ赌ͧ໚¹ä»Í‹ҧ¹Ñé¹ àÃÒàÃÕÂ¡Ç‹Ò à»š¹¸ÃÃÁ´Ò
ÃÙŒ¸ÃÃÁªÒµÔ ¸ÃÃÁ´Ò äÁ‹·Ø¡¢
เพราะฉะนั้น เด็กๆ ควรจะรูจักสิ่งที่เรียกวา ¸ÃÃÁªÒµÔ หรือ ¸ÃÃÁ´Ò พอเหมาะสมแกมันสมองนอยๆ ของเขาในจุดตั้งตน นี่ก็คือบรมธรรมที่กำลังจะกอเชื้อ หรือฟกตัวขึ้นในสมองของ เด็กๆ ที่วา “äÁ‹ÁÕÍÐäèÐ໚¹ä»µÒÁ¤ÇÒÁ¾Í㨢ͧàÃÒ” นี้มันเปนหลักสำคัญ ที่แมผูใหญก็ยังไมรูยังรองไหเหมือนเด็กๆ จึงไมไดสอนเด็กๆ ในเรื่องนี้ หรือสอนไมเปน หลักที่ใหรูวา “äÁ‹ÁÕÍÐä÷Õè¨Ð໚¹ä»ã¹ÍÓ¹Ò¨¢Í§àÃÒ” คือ ËÅÑ¡ ͹ѵµÒã¹¾Ãоط¸ÈÒʹÒ
๑๖
อนัตตา สุญญตา ประสาเด็ก พอพูดถึงอนัตตา เขาก็สั่นหัว อยา... อยาเอามาสอนเด็ก แมแตผูใหญ แมแตคนชาวบานที่หัวหงอกแลวก็วา อยาเอามาพูดถึง เรื่องอนัตตา ใหพูดถึงเรื่องที่จะทำอะไรไดตามที่ตนตองการ หวังที่จะไดตาม ที่ตนตองการ แลวก็ตายไปดวยความหวังเทานั้นเอง
à´ç¡æ ¨ÐµŒÍ§ÃÙŒàÃ×èͧ ͹ѵµÒ ÊØÞÞµÒ «Öè§à»š¹àÃ×èͧËÑÇ㨢ͧ¾Ø·¸ÈÒÊ¹Ò µÒÁ»ÃÐÊÒà´ç¡æ Ç‹Ò “ÁѹäÁ‹ÁÕÍÐä÷Õè¨Ð໚¹ä»µÒÁ ¤ÇÒÁ¾Í㨢ͧàÃÒä´Œ·Ø¡Í‹ҧ Áѹ໚¹¸ÃÃÁªÒµÔ¸ÃÃÁ´Ò¢Í§Áѹ Í‹ҧ¹Ñé¹àͧ” พูดกันหลายๆ ครั้งเขา เด็กตัวเล็กๆ ก็เขาใจไดวาไมมีอะไรที่จะ เปนไปตรงตามความประสงคของเราไดทั้งหมด
¤¹à»š¹·Òʢͧ¡ÔàÅÊ ¨Ö§ÇØ‹¹ÇÒ ໚¹·Ø¡¢
ª‹ÇÂà¾×è͹Á¹ØÉ ãËŒàÍÒª¹Ð¡ÔàÅÊ ¾ºÊآ䴌 ´ŒÇ¡ÒþÔÁ¾ ˹ѧÊ×ÍàÅ‹Á¹Õéᨡ໚¹¸ÃÃÁ·Ò¹ ÂÔè§ÁÒ¡ ºØÞÂÔè§à¾ÔèÁ·ÇÕ
๑๗
เพราะฉะนั้น ถามีอะไรวิบัติไปก็ไมตองรองไห หรือเสีย อะไรไป ก็ไมตองรองไห หรือวาไดอะไรมาอยางถูกอกถูกใจ ก็ไมตองดีใจใหมันมากไป เพราะวาไมเทาไร มันก็จะตองเปนไปตามธรรมชาติ หรือ ธรรมดาของมันอีกอยางนี้ ผมขอฝากไวใหทุกๆ คน ไปลองสังเกตดู แลวพยายาม ดูวา เด็กจะเขาใจไดหรือไม จะบรรเทาการรองไหของเด็กๆ ได หรือไม
àÅ‹¹à¡Á Êͺµ¡ ã¤Ã ໚¹¡®¸ÃÃÁ´Ò Í‹Òâ·É ãËŒâ·ÉµÑÇàͧ หลวงพอพุทธทาสสอนวา “...รวมความวาเรื่องที่เห็นแกตัวนะ อยางเด็กๆ มันก็มี เด็กๆ ควรจะไดรับคำสั่งสอนเรื่องนี้ เรื่องไมใหเห็นแกตัว ใหเห็นแกธรรมะ ใหลดความ เห็นแกตน ใหเห็นแกผูอื่น ใหเห็นแกความจริง ใหเห็นแกความถูกตอง เด็กๆ เขาก็จะได รับผลดี มีความสงบสุข ไมตองเปนทุกขเพราะเรื่องตางๆ อยางที่กลาวมาแลว...”
๑๘
๒. สอนเด็กใหมี ความกลา ไมกลัวตาย
(·ÓÍ‹ҧäÃãËŒà´ç¡¡ÅŒÒ༪ÔޡѺ¤ÇÒÁÊÙÞàÊÕÂ)
เด็กๆ ตองไมกลัวตาย มันเปนเรื่องที่ยากที่จะทำใหเด็กๆ ไมกลัวตาย เพราะผูใหญนั้น กลัวตายเปนตัวอยาง ทำใหดูอยูทุกกระเบียดนิ้ว ทุกวินาที เด็กๆ ตองไมกลัวตาย ไมกลัวความเจ็บไข ไมกลัวความวิบัติ ไมกลัวตอการที่จะเผชิญกับอันตราย หรืออุปสรรค เราตองชวนกัน พูดจาซักไซ สอบถามใหเด็กๆ มีความคิด จนมองเห็นวา ¤ÇÒÁµÒ ¤ÇÒÁà¨çºä¢Œ ¤ÇÒÁÇԺѵÔàËÅ‹Ò¹Õé Áѹ໚¹¢Í§¸ÃÃÁ´Ò äÁ‹ãª‹ÁÕÁÒãËŒàÃÒ¡ÅÑÇ äÁ‹ãª‹ÁÕäÇŒÊÓËÃѺãËŒàÃÒ¡ÅÑÇ áµ‹ÁÕäÇŒÊÓËÃѺãËŒàÃÒàÃÕ¹ãËŒàÃÒÈÖ¡ÉÒ ãËŒàÃÒ¡ÅŒÒ༪ÔÞ˹ŒÒ ãËŒÊÔ觷ÕèäÁ‹µÃ§¡Ñº ¤ÇÒÁµŒÍ§¡ÒâͧàÃÒ ¹Ñè¹áËÅÐ ÁѹÁÒà¾×èÍãËŒàÃÒàÃÕ¹ ËÃ×ÍÁÒà¾×èÍÊͺäÅ‹¤ÇÒÁà¡‹§¢Í§àÃÒ Ò
¤ÇÒÁµÒÂ໚¹àÃ×èͧ¸ÃÃÁ´ Í‹ҡÅÑÇä»àŹÐ
๑๙ เด็กๆ ตัวเล็กๆ คนไหนเกง ก็ลองดูดวยการทดสอบขอนี้ ใหเด็กๆ พยายามที่จะแสดงความสามารถหรือความเกงของตัว ในการที่จะเผชิญกับความตาย ความเจ็บไข หรือสิ่งที่เรียกวาอันตราย อยางยิ้มแยมแจมใส เขาคงจะหาวา นี่เปนเรื่องเกินไป หรือการทำอยางนี้เปนเรื่อง บาๆ บอๆ แตผมวาไม ตองเปนอยางนั้น มันมีหนทางที่จะÂŒÍÁ¹ÔÊÑ เด็กๆ ของเรา
à´ç¡·Òá¹ÕéãËŒÁÕ¹ÔÊÑ·Õè¨Ð¡ÅŒÒËÒÞ ËÃ×ÍÇ‹ÒÁÕà˵ؼŷÕè¨Ð ༪ÔޡѺ¸ÃÃÁªÒµÔ ËÃ×ͤÇÒÁ¨ÃÔ§¢Í§¸ÃÃÁªÒµÔ ´ŒÇÂʵԻ˜ÞÞÒ ´ŒÇ¤ÇÒÁ¤Ô´¹Ö¡ ´Õ¡Ç‹ÒàÍÒàÃ×èͧ¤ÇÒÁµÒ ËÃ×ͤÇÒÁÁ×´ËÃ×ÍÍÐäà ·ÕèÁѹÁÕÅѡɳÐ໚¹¤ÇÒÁËÁÒ ¢Í§¤ÇÒÁµÒ¹Ñé¹ÁÒ¢Ù‹ãËŒà¢Ò¡ÅÑÇ àÍÒàÃ×èͧ§Ù àÃ×èͧµØ ¡á¡ àÃ×èͧÍÐäõ‹Ò§æ ÁÒ¢Ù‹ãËŒà¢Ò¡ÅÑÇ ¨¹·ÓãËŒà¢ÒÁÕ¹ÔÊÑÂáË‹§¤ÇÒÁ¡ÅÑÇ ÁÕ¤ÇÒÁ¡ÅÑǵÒÂÁÒ¡¡Ç‹Ò ·Õè¸ÃÃÁªÒµÔ¡Ó˹´äÇŒ Í‹Ò¹ãËŒ ÇŧÁ× Í·Ó·Ó ·Ó ·Ó ·Ó ·Ó ¹ÊØ¢¹ÊØ¢ Í‹Ò¹ãËŒ ÃÙŒ ÃÙÃŒáÙŒ ÃÙÅŒŒáÇŌŧÁ× Í·Ó ·Ó à·‹à·‹Ò¹ÑÒé¹¹Ñ鹨֧¨Ð໚ ¨Ö§¨Ð໚ ‹·Õè ã¨ã¨à¢Ò ã¨ã¤ÃÍѵã¨à¢Ò µµÐâ¹ ¹ÒⶠÊØ¢ ·Ø¡¢ ÊØ¢ÍÂٷ؋·¡¢ Õè㨠ÍÂÙ ã¨ã¤Ã µÒËÔ ÍÑÍѵµµÒ µâ¹ËÔ ÍѹÒⶠµ¹áÅ໚¹¹·Õ·Õè¾è¾Ö§¢Í§µ¹ Ö觢ͧµ¹·Õ·Õè¾è¾Ö§¢Í§µ¹·Õ Ö觢ͧµ¹·Õè´è´Õ·Õ·ÕèÊÕèÊشش¤×ͤ×ͤÇÒÁ´Õ ¤ÇÒÁ´Õ¤Ô´¤Ô´Õ´´Õ·Ó´Õ ·Ó´Õ¾Ù´¾Ù´Õ´´Õ µ¹áÅ໚ ÊÔè§´Õ æ ÊԨеÒÁÁÒ ¾Ò¾Œ¹¾Ò¾Œ ·Ø¡¢ ¹Êطآ¡·Ø¢ ¡ÊØ¢³Ð ÊÒ¸Ø ÊÒ¸Ø è§´Õæ ¨ÐµÒÁÁÒ ¢·Ø¡¢³Ð ÊÒ¸Ø ÊÒ¸Ø ÊÒ¸Ø...ÊÒ¸Ø...
๒๐
ดูสัตวเดรัจฉานก็แลวกัน มันเกือบจะไมมีความหมายสำหรับ ความกลัวตาย เพราะมันไมถูกหลอกอยางนั้นมาตั้งแตเล็กๆ สวนมนุษยนี้มีอะไรๆ ที่จะถายทอดกันไดทางจิตใจ มันกลับ ไปถายทอดในเรื่องที่ไมมีประโยชน ในเรื่องที่เปนความโง เพาะ นิสัยใหกลัวตาย ใหสะดุงหวั่นไหวตอความตายเกินกวาระดับที่ ธรรมชาติกำหนดไว เหมือนกับที่มีไวสำหรับสัตวเดรัจฉานนั้น มัน มีนอยมันไมมีปญหา
ËÅÍ¡à´ç¡ ºÒ»¹Ð
¼ÕËÅÍ¡!!!
à´ç¡æ ·Õè໚¹Á¹ØÉ ¡ÅѺ¶Ù¡ËÅÍ¡ ¶Ö§¢¹Ò´·Õè໚¹»˜ÞËÒ¢Öé¹ÁÒ ·Ó¤ÇÒÁÂØ‹§ÂÒ¡ 㹵͹ËÅѧ¢Öé¹ÁÒ¹Õé Áѹ¨ÐµŒÍ§á¡Œä¢¡Ñ¹ÁÒ¡ ¶ŒÒ¨ÐãËŒà´ç¡æ à¡ÕèÂÇ¢ŒÍ§¡Ñº ºÃÁ¸ÃÃÁµÑé§áµ‹àÅç¡
หลวงพอพุทธทาสสอนวา “...ถารัฐบาลสามารถทำพลเมืองใหมีธรรมะไดแลว ก็จะหมดปญหา ไมตองชักจูงหรือบีบบังคับ หรือไมตองลอไมตองหลอก ไมตองอะไรดอก ถาพลเมืองมีธรรมะแลว ก็สมัครทำดวยความพอใจ แลวก็ทำไดจริง ทำไดสำเร็จประโยชน เดี๋ยวนี้กลับไมคอยมองเห็น ทำใหมีธรรมะกันเสียกอน มีแตไปชักจูงอยางอื่น ซึ่งบางที มันก็กลายเปนเรื่องที่ทำใหไมมีธรรมะ...”
๒๑
๓. สอนลูก อยาตามใจในสิ่งที่ผิด (·ÓÍ‹ҧäÃäÁ‹ãËŒàÍÒᵋ㨵¹ áÅÐãËŒÃÙŒ¨Ñ¡¾Ö觾ҵ¹àͧ)
อีกทางหนึ่ง
à´ç¡æ µŒÍ§äÁ‹¶Ù¡·ÓãËŒà¡Ô´¤ÇÒÁÊÓ¤ÑÞ¼Ô´ä»Ç‹Ò “ºÔ´ÒÁÒôÒÁÕ˹ŒÒ·Õè¨ÐµŒÍ§ÃÑ¡àÃÒ ª‹ÇÂàÃÒ µÒÁã¨àÃÒ” ทีเ่ ด็กๆ มาเกณฑหรือมาปรับ หรือมาถือวาเปนความยุตธิ รรมแลว ที่วาบิดามารดาตองรักเรา ชวยเรา ตามใจเรา ไมถือไปในทางตรงกันขาม ที่วา เราตองรักบิดามารดา ตองชวยบิดามารดา ตองตามใจบิดามารดา เด็กๆ เสียนิสัยไปหมด ในขอนี้เห็นเปนวาบิดามารดาตองตามใจเรา ไมใชเราตองตามใจบิดามารดา หรืองอบิดามารดา เด็กๆ ตองมีความเขาใจ ถูกตองวา บิดามารดาจะรักเรา หรือไมรักเรานั้น ทานถือเอา ความถูกตองเปนใหญ บิดา มารดาตองถือเอาความถูกตอง ˹٨ÐàÍÒæ เปนใหญ ไมใชมาโงรักเราตะพึดไป
๒๒
เราจะตองรูวาเราอยูในฐานะที่จะตองชวยตัวเองมากขึ้น ทุกที โดยไมตองรบกวนบิดามารดา ความหมายวา ทำใหเด็กเขาใจพระพุทธภาษิตที่วา
ÍµÚµÒ ËÔ ÍµÚµâ¹ ¹Òⶠ(ÍѵµÒ ËÔ ÍѵµÐâ¹ ¹Òâ¶) µ¹áŠ໚¹·Õè¾Ö觢ͧµ¹
¢Íºã¨ÁÒ¡¨ŒÐ
˹٪‹Ç¾‹Í ô¹éÓµŒ¹äÁŒ¹Ð¤Ð
หลวงพอพุทธทาสสอนวา “จงชวยเหลือบุคคลอื่นใหมีธรรมะมากเทาที่จะมากได เทาที่จะทำได เพราะวาเมื่อมีธรรมะขึ้นมาในโลกแลว จะทำใหเกิดผลดังที่กลาวแลวขางตนวา สามารถที่จะมีเมตตาสามัคคี มีความคิดเห็นกลมเกลียวกัน มีการกระทำกลมเกลียวกัน โลกนี้ก็เปนสุข เพราะฉะนั้น ก็อยากจะพูดวา ธรรมทาน นั่นแหละ เปนสิ่งที่ทุกคนควร พยายามกระทำ...”
๒๓
๔. สอนใหรูจัก ทำลายความเห็นแกตัว
(·ÓÍ‹ҧäÃãËŒÃÙŒÃÑ¡¼ÙŒÍ×è¹à·‹Ò¡ÑºÃÑ¡µÑÇàͧ)
เด็กๆ จะตองรักผูอื่นหรือรักสัตวอื่น เทากับรักตัวเองเปน อยางนอย เพราะวาเขาเปนเพื่อนของเรา เปนเพื่อนที่มีความเกิด ความแก ความเจ็บ ความตายเหมือนเรา ใหเด็กรูจักวา
¹¡àÅç¡æ ¼ÕàÊ×é͵ÑÇàÅç¡æ ÅÙ¡áÁǵÑÇàÅç¡æ ¡çµÒÁ Áѹ໚¹à¾×è͹ à¡Ô´ á¡‹ à¨çº µÒ ¢Í§àÃÒ ผมเชื่อวา เด็กๆ จะเขาใจคำพูดนี้ไดวา Áѹ à¡Ô´ àËÁ×͹àÃÒ Áѹ á¡‹ àËÁ×͹àÃÒ Áѹ µÒ àËÁ×͹àÃÒ Áѹ äÁ‹ÍÂÒ¡¨Ðà´×ʹÌ͹ àËÁ×͹àÃÒ Áѹ ÍÂÒ¡¨ÐʺÒ àËÁ×͹àÃÒ ÁѹÍÂÒ¡ÍÐäÃàËÁ×͹àÃÒ·Ø¡æ Í‹ҧ
๒๔ เพราะฉะนั้น ก็ตองรักเขาเทากับรักเรา เพราะเขามีชีวิตจิตใจ เหมือนเรา แลวเปนเพื่อน ซึ่งถาเปนในทางความทุกข เปนเพื่อนทุกข กันกับเรา ในทางความสุขก็เปนเพื่อนสุขกันกับเรา ทำไมเราไมอบรมเด็กใหมีความรูสึกอยางนี้ เราปลอยใหเด็กๆ มีความคิดไปในทางเห็นแกตัว ทำลายความสุขของผูอื่น เพื่อเห็นแก ความสุขของตัว
àÃҨеŒÍ§·Ó·Ø¡Í‹ҧãËŒà´ç¡æ ÁÕ¤ÇÒÁÊØ¢ µ‹ÍàÁ×èÍàËç¹¼ÙŒÍ×è¹ÁÕ¤ÇÒÁÊØ¢ àËç¹áÁÇÁÕ¤ÇÒÁÊØ¢ àËç¹ÊعѢÁÕ¤ÇÒÁÊØ¢ àËç¹¹¡ÁÕ¤ÇÒÁÊØ¢ àËç¹¼ÕàÊ×éÍÁÕ¤ÇÒÁÊØ¢ áÅŒÇàÃÒ ¨Ö§¨ÐÁÕ¤ÇÒÁÊØ¢
๒๕
พิสูจนใหเห็นวาใหคนอื่น ดีกวาเอาเอง ถาพูดใหละเอียดออกไปอีก เราจะตองพยายามพิสูจนใหเด็ก เห็นวา ¡ÒÃàÊÕÂÊÅÐãËŒ¼ÙŒÍ×è¹´Õ¡Ç‹Ò¡Ô¹àͧ เด็กๆ คงจะไมยอมวากินเองมันอิ่มที่ปากที่ทองของเราก็จะดีกวา ใหผูอื่นกินจะดีอะไร แมวาเปนสิ่งที่ทำไมได เราก็ยังมีทางที่จะคิด หรือจะรูวามันมีมันเปนอยูอยางนั้น ทีนี้เราไมตองถึงขนาดนั้น เอามาครึ่งหนึ่งเรียกวา ไมกินคนเดียว เชนจะยกตัวอยางใหเด็กๆ ฟงวา มีดอกกุหลาบที่สวย หอมที่สุดดอกหนึ่ง ถาเราหวงไวดมเอง เสียบผมเอง อะไรเอง วันเดียวมันตองเหี่ยวแลวมันก็หมดไป แตถาเราเอาดอกกุหลาบดอกนั้นใหเพื่อน เขาจะขอบใจเรา ไปอีกกี่ป หรือถาเขารูจักคิดนึกวานี้มันเปนความดีที่เราทำลงไป และ ความดีนั้นมีอายุยืนไมจำกัด
¹Ö¡¶Ö§àÁ×èÍäà Áѹ¡ç´ÕàÁ×è͹Ñé¹ ¹Ö¡¶Ö§àÁ×èÍäáçÂÔ¹´Õ ʺÒÂã¨àÁ×è͹Ñé¹ ¾Í㨵ÑÇàͧàÁ×è͹Ñé¹ äÁ‹ÃÙŒ¡Õ軂 ËÃ×ͨ¹µÅÍ´ªÒµÔ
๒๖ ถาเอามาเสียบผมเอง ดมเอง เดี๋ยวมันก็เหี่ยว ก็ขวางทิ้งไป แตถาเราใหผูอื่น ดอกกุหลาบนั้นมันไปบานอยูในจิตใจของ ผูอื่น และไปบานอยูในจิตใจของเราเอง มันก็ไดกำไรมากกวาที่จะ กินเองใชเอง เพราะฉะนั้น เมื่อมีอะไรที่เปนของกินได ควรแบงใหผูอื่นบาง หรือถาเปนไปไดก็ควร ãËŒ©Ñ¹àËÃÍ ÊǨѧ ¢Íºã¨¹Ð
ãËŒ¤¹Í×蹡Թ´Õ¡Ç‹ÒàÃÒ¡Ô¹àͧ ¹Õè໚¹¡Ò÷ÓÅÒ ¤ÇÒÁàËç¹á¡‹µÑÇÍ‹ҧÂÔè§ à»š¹¡ÃÐáÊ áË‹§ºÃÁ¸ÃÃÁÍ‹ҧÂÔè§ ·Õèà´ç¡æ ÍÒ¨¨ÐࢌÒã¨ä´Œ ËÃ×ÍÁÕä´Œ
การเห็นแกผูอื่นดีกวาเห็นแกตัว เด็กเล็กๆ ก็นาจะเขาใจได ถาพยายามชี้แจงใหพยายามทำอะไรเพื่อใหตัวเองเจริญ พอแมตกเปนทาสของวัตถุนิยม อยากจะใหลูกร่ำรวยดวยวัตถุ ก็สนับสนุนสงเสริมลูกไปในทางที่จะใหเห็นแกตัวทั้งนั้น เพื่อจะไดมา ซึ่งวัตถุ
๒๗
ใหเด็กสำนึกวาความไมเห็นแกตัวนั้น เปนความดี ¡ÒÃàËç¹á¡‹¼ÙŒÍ×è¹¹Ñè¹áËÅР໚¹¤ÇÒÁ´Õ ตอนนี้จะตองพูดกันหลายคำ จะตองซักไซกันหลายคำ ตองใช โวหารที่เปนเหตุผลกันหลายคำ เด็กๆ จะเขาใจไดวา àËç¹á¡‹¼ÙŒÍ×è¹¹Ñè¹áËÅÐ໚¹¤ÇÒÁ´Õ เห็นแก ตัวนั้นไมใชความดี หรือ ถาดี ก็ดีนิดเดียว กอนอื่นผูใหญจะตองรูวา ไมเห็นแกตัว นั้นแหละ เปนความดี จริงๆ คนโตๆ แลวจะตองรูสึกวา
àËç¹á¡‹µÑǹÕéÁѹ໚¹Çѵ¶Ø¹ÔÂÁ àËç¹á¡‹¼ÙŒÍ×è¹Áѹ໚¹Áâ¹¹ÔÂÁ ໚¹¸ÃÃÁà¹ÕÂÁ ໚¹½†Ò Spiritualism ¤×Í à»š¹½†Ò ºÙªÒÁ⹸ÃÃÁ ¶ŒÒàËç¹á¡‹µÑÇ à»š¹½†Òº٪ÒÇѵ¶Ø äÁ‹à»š¹äà àÍҢͧ¼Áä»àÅ‹¹¡‹Í¹¡çä´Œ
¢Í§àÅ‹¹¾Ç¡àÃÒ ¾Ñ§ËÁ´àÅÂ