พี่วิชิต (Vichit)

Page 1

เรียนรู้จาก นักลงทุนมากนา้ ใจ พีว่ ชิ ิต( Vichit Invest) นักลงทุนหุน้ เพื่อชีวิต เพื่อแสวงหาชีวติ ที่ดีกว่า เพื่อมุ่งหน้าไปสู่ ถนนนักลงทุน ที่มีชื่อว่า "อิสรภาพทางการเงิน"

รวบรวมความรู้จาก facebook พี่วิชิต ที่มีน้ าํ ใจคอยโพสสอนผ่านfacebook เสมอๆ ผมผูซ้ ่ ึงรวบรวม ด้วยเจตนาที่บริ สุทธิ์และไม่คาดหวังสิ่ งใด ซึ่งผมมองว่ามีประโยชน์อย่างมากและสามารถเป็ นแนวทางการลงทุนที่จะนํา ไปใช้ในการปรับปรุ งแนวทางของเพื่อนนักลงทุนต่อไปในอนาคตได้ครับ หากมีอะไรผิดพลาดขออภัยมา ณ โอกาสนีค้ รับ โดย MarkOto (Ukcarajet Seti)


7 วิธีประสบความสาเร็จในทุกเรื่อง 1. เริ่ มจากพื้นฐานง่ายๆ ก่อน ตั้งคําถามให้แน่ใจก่อนว่า จะทําอะไร ต้องมีความ พยายามตั้งเป้ าหมาย และความตั้งใจแน่วแน่กบั อะไรก็ตามที่ตอ้ งการทําให้สาํ เร็จเป็ น อันดับแรก 2. ความสําเร็จอาจไม่ได้มาในครั้งเดียวที่ทาํ อาจต้องทําซํ้าแล้วซํ้าเล่า ล้มบ้าง ก็ไม่ เป็ นไร ให้ใช้ความล้มเหลวมาเรี ยนรู้เป็ นประสบการณ์ ในเพื่อป้ องกันความผิดพลาด ซํ้าครั้งต่อๆ ไป 3. ไม่มีใครสามารถอยูค่ นเดียวได้ การขอความช่วยเหลือหรื อคําแนะนําจากคนอื่นๆ บ้างก็ไม่เป็ นไร ถ้ามันจะทําให้เราพัฒนาขึ้น 4. ทําให้ดีที่สุด อย่ายอมแพ้ก่อนเป็ นอันขาด เพราะทุกครั้งที่เรายอมแพ้ นัน่ หมายถึงว่า เราต้องนับหนึ่งใหม่ในครั้งต่อไป 5. รอบตัวเรามีคนที่ทาํ อะไรที่ประสบความสําเร็จมากมาย เมื่อเราอยูใ่ กล้คนที่มีพลัง หรื อความตั้งใจสูงอย่างนั้น หรื อใช้คนเหล่านั้นเป็ นต้นแบบ มันช่วยเป็ นแรงผลักดันตัว เราเองและเป็ นกําลังใจให้เราได้ 6. วางแผน เพราะความสําเร็จที่แท้จริ งไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคน ควบคุมการใช้ชีวติ ของ ตัวเองอย่างเป็ นระบบ และทําตามเป้ าหมายของตัวเอง ใช้ตวั เองเป็ นมาตรฐาน อย่าไป เปรี ยบเทียบกับคนอื่น เพราะคําว่า ความสําเร็จของแต่ละคนนัน่ ไม่เหมือนกัน 7. รับรู้ รับฟัง เรี ยนรู้และเข้าใจสิ่ งต่างๆ เพราะความรู้คือพลังที่จะทําให้คุณประสบ ความสําเร็จ


หนังสือที่ พีว่ ชิ ิต แนะนา

ควรหาอ่านนะครับ ^^-


นักลงทุนที่จะประสบความสาเร็จ ต้ องแม่ น 1.Fundametal 2.Technical 3.Timing

หลักเด็กเทคนิค มีเพียง 3 ขั้นตอน คือ 1.สังเกตเวลามันใกล้จะ break Downtrend line 2.Follow buy เวลามันทะลุ New high หรื อ All time High 3.สังเกต Divergence ว่าเป็ นกระทิงหรื อหมี เป็ นไดเว่อร์เจ๊งหรื อไดเวอร์เจ๋ ง เป็ นนก ระทิงหรื อกระเทย และใช้ Volume, Sto ,Rsi, Macd ไว้ confirm สัญญาณ “ Buy Signal”


การทะลุของราคาหุ้น 1.การทะลุกรอบ 3 เหลี่ยมขึ้นไป 2.การระเบิดทะลุท่อ BB (Bollinger Bands)ขึ้นไป 3.การทะลุแนว Parabolic sar ขึ้นไปพร้อมแท่งเขียวยาวๆในวันแรก 4.การทะลุเส้นDownTrend Line ขึ้นไป 5.การทะลุเส้น Fibonacci Retracement ที่แนวต้าน 38.2%ขึ้นไป 6.การเรี ยงตัวกันของEMA จาก EMA น้อยไปมากอย่างชัดเจน 7.การที่เส้น DI+ตัดเส้นDI-ขึ้นไป ใน 8.การที่เส้น%K ตัดเส้น%Dขึ้นไปใน STO 9.การที่MACD ตัดเส้น Zero line ขึ้นไป 10.การที่ RSI เข้าสู่ Zone Oversold พร้อมกับราคาหุน้ ในกราฟแท่งเทียนสร้างรู ปแบบ Double Bottom ยืนยันสัญญาณการกลับตัวราคาหุน้


หุ้นเพือ่ ชีวติ ที่ดี 1.ควรมี D/E ตํ่ากว่า 1 เท่ามากๆ ยิง่ ตํ่ายิง่ ดี 2.ควรมี Yield สูง ระดับ 5 % UP อย่างต่อเนื่องยาวนานและสมํ่าเสมอ

หลักการสร้ างพอร์ ตลงทุนหุ้นชีวติ ที่ดกี ว่า สําหรับมนุษย์เงินเดือน ควรมีเงินเหลือเก็บทุกเดือน เดือนละ 5,000-10,000บาท เพื่อนํา เงินนั้นกลับมาทบต้นลงทุนในหุน้ ทุกเดือน แบบออมในหุน้

มีตงั ค์นอ้ ยใช้ มีตงั ค์มาก ก็ตอ้ งใช้นอ้ ย มีตงั ค์ที่เหลือก็เอาไปใช้หนี้ใหเหมดโดยเร็ว เพราะดอกเบี้ยเงินกูน้ ี่มนั โหดมาก เปรี ยบเหมือนปลิง คอยสูบเลือดสูบเลือดเราไม่ปาน ควรเลือกลงทุนหุน้ เพื่อนชีวิต ที่มีพ้ืนฐานดี มีปันผลแจ่มๆ แล้วนําเงินปันผลที่ได้รับ นํามากลับเข้าไปลงทุนทบต้นในหุน้ ต่อไปเรื่ อยๆทุกๆปี ปี แล้วปี เล่า เราก็จะเห็นผลของมหัศจรรย์การทบต้น แล้วก็จะพบเจอกับอิสรภาพทาง การเงิน อย่างน่าแปลกใจ


หลักการลงทุนหุ้นเพือ่ ชีวติ ที่ดกี ว่า ของพีว่ ชิ ิต 1.ผมให้ความสําคัญกับธรรมาภิบาลของผูบ้ ริ หารและบริ ษทั ที่ผมจะลงทุน นี้เป็ นอันดับที่ 1 ครับ เพราะผมลงทุนยาวๆ ผมต้องมัน่ ใจจริ งๆว่า ผมสามารถฝากชีวิต และอนาคต อนางอ ของผมทั้งหมด กับบริ ษทั ที่ผมเลือกลงทุนยาวๆได้อย่างปลอดภัย และมัน่ คง ...ถ้าข้อ 1 นี้ไม่ผา่ น ผมขอเลิกดูขอ้ ต่อไปเลยนะครับ เพราะผมคิดว่า ถ้าได้ผบุ ้ ริ หารที่ไม่ซ้ือสัตย์ แม้แต่บญั ชีงบการเงิน เขาก็ตกแต่งได้นะ ครับ อันนี้อนั ตรายมาก ถึงมากที่สุด 2.ผุบ้ ริ หารต้องถือหุน้ ในบริ ษทั ของตนเองในสัดส่วนที่สูงมาก เพื่อเป็ นแรงจูงใจที่จะ ทําให้ผบุ ้ ริ หารนั้น ทําให้บริ ษทั เติบโตทั้งยอดขายและกําไร 3.ผมจะมองหาหุน้ ที่มี Downside limit แต่ Upside Unlimit 4.เงินปันผลต้องมากกว่า 5% Up 5.หนี้สินต่อทุน หรื อ D/E (Debt/Equit)ต้องตํ่ากว่า 1 เท่าเพื่อป้ องกันการเพิ่มทุน 6.รายได้ตอ้ งมากกว่า “Market cap”นั้นหมายถึงราคาหุน้ ค่อนข้างถูก


เป็ นสูตรที่ผมใช้ไล่ล่าหาหุน้ หลายเด้งๆ 7.Pe หุน้ ต้องตํ่ากว่า Pe ตลาด หรื อ Pe กลุ่มที่มนั อยู่ 8.PEG (Pe/Growth) ต้องมีค่าน้อยกว่า 1 เท่า ยิง่ ตํ่ามากยิง่ ดีมาก 9.ROE ต้องสูงมากกว่า 20% up 10.P/BV ต้องไม่เกิน 3 เท่า ถ้าหาได้ต่าํ กว่า 1 เท่ายิง่ ดี เพราะนั้นหมายถึงเราซื้อหุน้ นั้นในราคาที่ถูกกว่าเจ้าของกิจการซะอีก 11.ต้องมีการเติบโตทั้งรายได้และกําไรสุทธิ 12.อัตรากําไรสุทธิ หรื อ Net Profit Margin ยิง่ สูงยิง่ ดี 13.กําไรสะสมต้องเป็ นบวก ยิง่ เยอะยิง่ ดี เพราะนั้นหมายถึง การการันตีเงินปันผลที่เรา จะได้รับจากบริ ษทั 14.เงินสดสุทธิได้มาจาก(ใช้ไปใน)กิจกรรมดําเนินงานต้องเป็ นบวก เพราะนั้นหมายถึงหมายถึง ความสามารถในการทํามาหาเงินได้ของบริ ษทั เยอะยิง่ ดี 15.เมื่อครบทุกข้อแล้ว ก็ลุยไหน ลุยโลด อย่าได้แคร์ ฮ่า


สาหรับแมงเม่ าปี กบาง พอร์ ตแดง ทุกท่ าน 1.แบ่งหุน้ เป็ นกองๆ เช่น มี 10,000 หุน้ แบ่งเป็ นกองๆละ 1,000 หุน้ ได้ 10 กอง 2.ทําเป็ นตารางจดไว้ในกระดาษ โดยจดราคาทุนแต่ละกองไว้ (ซึ่งตอนนี้ มันเท่ากันหมด) 3.ขายทิ้งทันที 2-3 กองจดราคาที่ขายเอาไว้ 4.รอการเคลื่อนไหวของราคา แบ่งได้ 2 กรณี -ถ้าราคาลงตํ่า รอจังหวะให้ทยอยซื้อกลับ เราจะได้หุน้ มาจํานวนเท่าเดิมแต่ราคาถูก กว่าเดิม นัน่ เท่ากับเรากําไรจากส่วนต่างของราคา -ถ้าราคาสูงขึ้น อาจรอจังหวะทยอยขายเพื่อรอราคาย่อลงแล้วซื้อกลับ ก็จะได้กาํ ไรจาก ส่วนต่างเช่นกัน 5.ทําแบบนี้ไปเรื่ อยๆโดยไม่สนใจว่าพอร์ตเราสี เขียวหรื อแดง เพราะจะ ซื้อตอนถูกแล้ว ขายตอนแพง หรื อ ขายตอนแพงแล้วซื้ อถูก เราจะกําไรจากส่วนต่างโดยไม่ตอ้ งเครี ยด เพราะราคาจะขึ้นหรื อลงก็ทาํ กําไรได้ตลอดเวลา ที่สาํ คัญที่สุดคือ ต้องซื้อกลับ หากเราขายไป 1,000 หุน้ ก็ตอ้ งซื้อกลับ 1,000หุน้ ให้ได้ (แต่ตอ้ งซื้อในราคาที่ถกู กว่าที่ขายไป )

ถ้าใครทําแบบนี้ รับรอง มีความสุขกว่าการซื้อถัว่ เยอะ เพราะ ไม่สนว่าจะขึ้นหรื อมัน จะลงเพราะได้วางแผนดักการขึ้นลงของราคาไว้แล้ว


เทคนิคการ RUN PORT เวลามีกาไร สําหรับผมที่มีความ ..”อึด ถึก ทน”(ทนรวย)สูง จะใช้วิธี Let Profit Run Let Profit LOVE แต่กม็ ีอีกหลายท่านที่กลัวทุนหายกําไรหด

วิธี “ล็อคกาไร” คือ ให้ขายหุน้ เพื่อดึงทุนกลับ เหลือไว้เพียงกําไรที่หอ้ ยติดพอร์ตไว้ เพื่อให้กาํ ไรนั้นมัน RUN ต่อครับ บางครั้งอาจจะขาดทุนกําไรก็ซิวๆครับ เพราะเราได้ขายหุน้ นั้นดึงทุนกลับแล้วครับ เท่ากับหุน้ ที่เหลือในพอร์ตเราก็ได้มาแบบ ฟรี ๆครับ


หลักการบริหารพอร์ ตของพีว่ ชิ ิต จัดพอร์ตแบบแยกกันตี แล้วมาโฟกัสที่ร่วมกันรบ จบที่หุน้ ตัวเดียว แยกร่ างแล้วกลับมาประกอบร่ าง โฟกัสหุน้ ตัวเดียว แล้วหวดให้สุดกําลัง

ปกติเวลาผมจะลงทุนในหุน้ ผมจะสแกนพื้นถันหุน้ ก่อน ถ้าผ่านผมจะเอากราฟมาดูจงั หวะเข้าซื้ออีกที จังหวะเข้าซื้อนี่สาํ คัญนะครับ ถ้าเข้าแล้วมันขึ้น เราสามารถ Let Profit Run ได้ แสดงว่าเรามาถูกทางแล้ว ส่วนใหญ่หุน้ ที่ผมเข้าซื้อลงทุน ซื้อแล้วจะไม่คอ่ ยได้ขายออกไปเลยครับ เก็บเบี้ยใต้ถุน ร้าน เก็บกินปันผลไปเรื่ อยๆ ราคาหุน้ บนกระดานมันเป็ นแค่สิ่งสมมุติครับ มันเป็ นสิ่ งที่ หลอกตาเรา แต่พ้ืนถันและเงินปันผลที่ได้รับนั้น มันคือ ของจริ ง ครับ


7 เทคนิคการเลือกหุ้น เอาเทคนิคการเลือกหุน้ 7 ข้อ ของ นพ.ประมุข วงศ์ธนะเกียรติ มาฝากกันครับ 1. หุน้ ตัวนั้นต้องมีอตั รา ผลตอบแทนต่อส่วนผูถ้ ือหุน้ (ROE) สูง 15-20%ขึ้นไป ROE จะบ่งบอกความสามารถของผลตอบแทนต่อส่วนของผูถ้ ือหุน้ "ยิง่ สูง ยิง่ ดี" แต่บางครั้ง ก็มีตวั หลอก เหมือนกัน หากบริ ษทั นั้นมีหนี้สินจํานวนมาก ฉะนั้นต้องดูดีๆ อย่ารี บเชื่อ ทันที! 2. หุน้ ตัวนั้นต้องมีอตั ราผลตอบแทนต่อสิ นทรัพย์ (ROA) สูงกว่า 10% 3. ต้องมี PEG ratio น้อยกว่า 1 เท่า คือการเทียบค่า P/E ratio กับการเจริ ญเติบโตของ กําไรสุทธิ (Growth) หาโดยเอาค่า P/E ratio ตั้งหารด้วยเปอร์เซ็นต์การเจริ ญเติบโตนั้น บริ ษทั ใดที่ราคาหุน้ ตํ่าจะน่าซื้อ ถ้าค่า PEG ratio เกิน 1 แสดงว่าราคาหุน้ สูงเกินไป 4. ต้องมีอตั ราเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) อยูใ่ นระดับ 3.5-4% ขึ้นไป ถามว่า ทําไมต้องเป็ นตัวเลขนี้ เพราะเป็ นตัวเลขที่มากกว่าอัตราเงินเฟ้ อที่ปกติจะอยูร่ ะดับ 3% 5. หุน้ ตัวนั้นต้องมีกระแสเงินสดสูงๆ ยิง่ ไม่ตอ้ งจ่ายหนี้ "ผมจะชอบมากเป็ นพิเศษ" 6. ผูบ้ ริ หารต้องไว้ใจได้ (โปร่ งใส) พูดแล้วทําได้จริ ง ซึ่งเราต้องไปคุยกับผูบ้ ริ หาร บ่อยๆ ยิง่ เขา ถือหุน้ 20-25% ผมยิง่ ชอบเพราะมันจะบ่งบอกว่า เขาจะทุ่มเทในการ ทํางานมากขนาดไหน


7. จะดูปัจจัยทางกายภาพ ธุรกิจนี้มีความแข็งแรง มากน้อยแค่ไหน โอกาสเติบโตของ รายได้และกําไรเป็ นอย่างไร สิ นค้าหรื อธุรกิจหลักจะเติบโตไปตาม ชีวิตประจําวันที่ เปลี่ยนแปลงไปหรื อไม่ และลูกค้านิยมชมชอบสิ นค้ามากหรื อน้อยแค่ไหน ที่สาํ คัญจะ ดูวา่ คู่แข่งของเขามีใครบ้าง หากจะมีคู่แข่งเกิดขึ้นใหม่จะเข้ามาในธุรกิจนี้ได้ง่ายหรื อ ยาก "ผมไม่นิยมดูเส้นเทคนิคและไม่เคยนํามาประยุกต์ใช้ เพราะไม่เข้าใจในหลักการ ส่วน ใหญ่จะดูเพียงราคา ณ ปัจจุบนั เพื่อนํามาเปรี ยบเทียบกับมูลค่าที่ประเมินไว้วา่ มันมี ส่วนลด (Margin of Safety) เป็ นที่น่าพอใจหรื อไม่ เช่น ถ้ามีส่วนลด 40-50% จากมูล ค่าที่คิดไว้ ก็พอใจที่จะซื้อแล้ว"


การลงทุนในหุ้นแล้วขาดทุน ทาให้ หลายคนกลัวและเข็ดขยาด ไม่ กล้าลงทุนในตลาด หุ้น ถ้าหุน้ ที่เราได้เลือกและได้วิแคะทําการบ้านมาเป็ นอย่างดีแล้ว ไม่ตอ้ งกลัวว่ามันจะลง หรื อเราจะติดดอย ถ้าเรามัน่ ใจ ยิง่ มันลง มันยิง่ คือโอกาส เราต้องดีใจ ที่จะได้ซ้ือหุน้ ดีๆ ในราคาที่ถูกๆเกินจริ ง เราต้องกล้าซื้อ ไม่ใช่กลัว แล้วขายหุน้ นั้นทิ้งในราคาตํ่าๆ ตลาดหุน้ เป็ นตลาดเดียวในโลก ที่เมื่อ Mr.Market ใจดีแล้วลดราคาหุน้ ให้ถูกๆแต่คน ส่วนมากมักจะกลัวและไม่กล้าซื้อกัน นาทีทอง โอกาสดีๆแบบนี้ ปี หนึ่งๆมีไม่เกินครั้งหรื อสองครั้ง หรื อ หลายๆปี อาจจะเกิด ครั้งหนึ่ง จงกล้าเมื่อคนส่วนใหญ่กลัว จงกลัวเมื่อคนส่วนใหญ่กล้า หลายคนกลัวไม่กล้าลงทุนในหุน้ คิดว่ามันคือความเสี่ ยง แต่ผมกลับคิดว่าการไม่ลงทุน ใดๆเลย มันคือความเสี่ ยงยิง่ กว่า เพราะชีวิตคือ การลงทุน ถึงจะขาดทุนก็ช่างมัน ยิง่ ขาดทุนมากเท่าใด ปอดเราจะยิง่ แข็งแกร่ งมากเท่านั้น เพราะ ประสบกามมันจะสอนเราเอง ไม่มีใครเกิดมาแล้ววิ่งได้เลย ไม่มีใครที่เริ่ มลงทุนแล้ว ไม่เคยขาดทุนหรื อติดดอย ถ้าเราสามารถแก้ปอดกลับมาได้ เราก็จะคือ ยอดคน ยอดนักลงทุน สุดท้ายแล้ว 3 คํา จําง่ายๆ อึด ถึก ทน สาธุชน


ถามกันมาเยอะ อยากรู้กนั มามาก VI พันธ์แท้ มีหลักการลงทุน และ. วิธีสร้างปอดลงทุนกันอย่างไรบ้าง ผมในฐานะ ไว ไว (พันธ์ทาง) ขอบังอาจตอบแทน ไวไวพันธ์แท้ คร่ าวๆดังนี้คบั VI พันธ์แท้ ยึดหลักการใดบ้าง #อึด ถึก ทน# VI พันธ์แท้ มีการคัทหุน้ บ้างไหม ###ก่อนที่จะลงทุน ไวไวส่วนใหญ่จะทําการบ้านมาอย่างดี วิแคะมาอย่างดีแล้ว จึงคิดที่ จะลงทุนในหุน้ ตัวนั้นๆ ในระหว่างลง(พุง)ทุน อาจจะมีปัจจัยต่างๆมากระทบกับตลาด หุน้ เช่น สงครามประชาชน วิกฤตเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ อาจทําให้ตลาดหุน้ และหุน้ ที่ไวไวลงทุนนั้นปรับตัวลดลงไปมากบ้างน้อยบ้าง แล้วไวไวมีการคัทหุน้ ทิ้ง บ้างไหม คําตอบ คือ ไม่ครับ หุน้ ยิง่ ลงมาก ไวไวยิง่ ชอบ เพราะจะได้ซ้ือหุน้ ลงทุนได้ ของดีราคาถูกครับ เพราะช่วงที่ไวไวลงทุนนั้นระหว่างทางจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น นั้น ไม่อาจมีใครหยัง่ รู้ได้ และ ไม่อาจเปลี่ยนใจคัทหุน้ ทิ้งครับ เพราะไวไวเขามีความ เชื่อกันอย่างหนึ่งว่า ไวไวเขาลง(พุง)ทุนในตัวหุน้ ไม่ได้ลงทุนซื้อดัชนีตลาดหุน้ เขาจะ โฟกัสไปในตัวหุน้ ที่เขาลง(พุง)ทุนมากกว่า เขาจะถือหุน้ ตัวนั้นๆที่เขาได้วิแคะมาเป็ น อย่างดีแล้วอย่างทรหดอดทน (แม้บางครั้งเขาอาจจะอดนมบ้างเป็ นบางครั้งบางคราว เพราะไม่มีจะกิน ฮา) และถือลงทุนในหุน้ ตัวนั้นตราบนานเท่านาน ถ้าบริ ษทั นั้นไม่เจ๊งไปสักก่อน จะไม่มีวนั ขายครับ (แต่มีขอ้ แม้วา่ บริ ษทั ที่ไวไวลงทุน นั้น ราคาหุน้ ต้องไม่เกินมูลค่าที่ได้ทาํ การวิแคะไว้ และ พื้นถันหุน้ ต้องไม่เปลี่ยนแปลง ในทางที่แย่ลง)### VI พันธ์แท้ ระหว่างลง(พุง)ทุน นั้น เอาอะไรกิน เอาตังค์ที่ไหนมาใช้จ่าย ### ระหว่างลง(พุง)ทุนนั้น ไวไวเขาจะเฝ้ ารอปันผลที่จะได้รับ เดือนที่เขาเฝ้ ารอคือ เดือน เมษายน และ สิงหาคม ของทุกๆปี เพราะเป็ นเดือนที่เงินปันผลเข้าบัญชี ถ้าเป็ น ไวไวพันธ์แท้จริ งๆเขาจะไม่ถอนเงินปันผลออกมากินมาใช้จ่ายเกินควร เขาจะเอาเงิน ปันผลนั้นกลับเข้ามาลงทุนในหุน้ เพิ่มเข้าไปอีก เป็ นการทบต้นของเงินไปเรื่ อยๆ ทํา


ยังงี้ซ้ าํ ๆทุกๆปี ผลที่ได้รับก็จะมีหุน้ เพิ่มขึ้น ปันผลที่ได้รับก็จะเพิ่มขึ้นทุกปี เพราะการ ทบต้น ของเงินลง(พุง)ทุนนั้น นับได้วา่ เป็ นสิ่งมหัศจรรย์ อันดับ 8 ของโลกเลยก็วา่ ได้ นานวันเข้า 10 ปี 20 ปี ผลที่ได้รับ ก็จะ ทวีคูณ ครับ (ไม่มี ทวีหาร) อย่างแน่นอนครับ Vichit Investor Way สาหรับคนที่อยากเรียนกราฟ เอางี้ง่ายๆเลย สําหรับดูกราฟ ไม่หลุดเส้น 5 วันซื้อ (EMA 5 DAY)หลุดขาย และ ดูเทรน(trend) กับ โวลุ่ม(volume) เป็ นหลักเท่านั้นพอคับ หลายคนคงจะสงสัยว่า เทรน คืออีหยัง แม่นนํ้ามันเครื่ องยีห่ อ้ เทรน หรื อเป่ า บ่แม่นคับ เทรน คือ เส้นเปลี่ยนแนวโน้ม หรื อ จุดกลับตัวกลับใจ เปลี่ยนแนวโน้มจาก ลงเป็ นขึ้น จากขึ้นเป็ นลง ครัช อิอิ Ok เข้าใจนะ อิอิ


กลยุทธ Let Profit Run Let Pfofit Love ในการไล่ล่าหาหุน้ 10 เด้ง ถ้าหุน้ ที่เราซื้อนั้นมันพื้นฐานดีจริ งๆ และมีเงินปัน ผลตอบแทนให้กบั เราทุกๆปี และเราซื้อได้ในราคาที่ต่าํ กว่ามูลค่าพื้นฐานมากๆ หรื อ ซื้อได้ในราคาที่มี MOS พอสมควร ก็ถือลืม หรื อลงทุนยาวๆไปได้เลยครับ เพราะการที่ เรามีหุน้ ที่พ้ืนถันดีๆติดไว้ในปอดนั้น เราจะมีเวลาเป็ นเพื่อนที่ดีที่สุด คือ เวลายิง่ ผ่านไป นานเท่าไหร่ เราก็จะมีความมัง่ คัง่ รํ่ารวยยิง่ ๆขึ้นไปเท่านั้น ไม่มีความจําเป็ นที่จะขายหุน้ นั้นออกไปแต่อย่างใดครับ เพราะหุน้ ที่ดี หรื อ หุน้ ที่เป็ นเพชรแท้ มันจะสร้างมูลค่าใน ตัวของมันเองเพิ่มสูงขึ้นไปเรื่ อยๆ จะไม่มีวนั ตกตํ่ากลับมากินทุนเรานะครับ เพราะหุน้ ที่ตกตํ่าจนลงมากินทุนเรา แสดงว่า มันไม่ใช่หุน้ ที่ดี หรื อ ราคาที่เราซื้อลงทุนในหุน้ ตัว นั้นๆ ไม่มี MOS ที่เพียงพอนะครับ เพราะ...ชีวติ คือ การลงทุน ระยะสั้นจะขาดทุนก็ช่างมัน(ฉันไม่แคร์) แต่ระยะยาวต้อง บรรเจิดครับ อิอิ ผมมีนิสยั ที่ไม่ดีอยูอ่ ย่างหนึ่งครับ คือชอบ ลงทุนในหุน้ ที่พ้ืนถันดีๆในปอด แบบ 100% เต็มๆตลอดเวลา และอีกอย่างหุน้ ที่ผมซื้อลงทุนไว้ยาวๆนั้น ส่วนใหญ่แล้วผมจะซื้อ เป็ นอย่างเดียว แต่ขายไม่เป็ น คือไม่เคยคิดที่จะขายหุน้ กินเลยครับ เพราะชีวติ ผมอยูไ่ ด้ เพราะเงินปันผลล้วนๆ และอีกอย่าง ต้นทุนชีวติ ผมตํ่ามากครับ เหล้าเบียร์ไม่กิน บุหรี่ ยาเสพติดไม่สูบ ไม่เล่นหวยการพนันทุกชนิด ไม่เล่นแชร์ ไม่เคยฝากตังค์กะแบงค์เลย ครับ บ้านก็ไม่ตอ้ งเช่า ข้าวก็ไม่ตอ้ งซื้อ สรุ ป ชีวิตนี้ผมสูบแต่หุน้ อย่างเดียวเลยครับ อิอิ Vichit Investor Value Of Love Stock Of Life Value Stock Of Growth


ฟรี ebook จัดพอร์ตเชิงรุ กด้วยกลยุทธ Momentum Trading http://www.ebooks.in.th/download/10203/จัดพอร์ตเชิงรุ กด้วยกลยุทธ์ แบบ_momentum_Trading 10 กฏเหล็กของการวิเคราะห์ ทางเทคนิค นักลงทุนหรื อเทรดเดอร์หลายต่อหลายคนนั้นมักจะเข้าใจผิดคิดว่า “การวิเคราะห์ทาง เทคนิค” หรื อที่เราเรี ยกกันติดปากว่า Technical Analysis นั้นเป็ นทุกอย่างแล้วสําหรับ การทํากําไรและนําไปสู่การลงทุนที่ประสบความสําเร็จ แต่แท้จริ งแล้วการวิเคราะห์ ทางเทคนิคนั้นเป็ นเพียงเครื่ องมือที่ช่วยบอกให้ทราบว่า “จุดไหนเวลาไหนที่เราควรซื้อ หรื อจุดไหนเวลาไหนที่เราควรขายเท่านั้น” แต่ถึงกระนั้นการวิเคราะห์ทางเทคนิคก็ยงั จําเป็ นและสําคัญอยูด่ ีจะขาดไปก็ไม่ได้ ดังนั้นในบทความ “10 กฏเหล็กของการวิเคราะห์ทางเทคนิค” นี้จะมาพูดถึงหลักการ การนํา "การวิเคราะห์ทางเทคนิค" ไปใช้เพื่อเพิ่มประสิ ทธิผลและพัฒนาวิธีการลงทุน ให้กบั นักลงทุนมือใหม่ได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมกับตนเอง John Murphy's Ten Laws of Technical Trading 1. Map the trends : หลักการสําคัญของข้อนี้กค็ ือ การนํา Time Frame ที่ใหญ่ข้ ึนมาใช้ ในการมองแนวโน้มไม่วา่ จะเป็ นแนวโน้มของตลาด หรื อ ของตัวหุน้ เพื่อให้เห็น ภาพรวมของแนวโน้มได้ชดั เจนขึ้น เช่นการใช้ Time Frame ระดับ Weekly หรื อ


Monthly มาช่วยในการมองแนวโน้มซึ่งจะใช้ได้ดีกว่าการมองในระดับ Daily (เพิ่มเติม : ศึกษา Dow Theory จะเข้าใจแนวโน้มได้มากขึ้น) 2. Spot the trends and go with it : ถึงแม้กลยุทธ์การเทรดและการลงทุนจะมีหลายแบบ แต่การเทรดแบบ Trend Following ก็ถือเป็ นการเทรดที่ง่ายที่สุดและปลอดภัยที่สุด ใน ข้อนี้ใจความสําคัญเพียงแค่เรามองหาแนวโน้มที่เราต้องการจะเข้าเทรดและก็เพียงแค่ ตามมันไปแค่น้ ีกไ็ ด้กาํ ไรแล้ว ซึ่งแนวโน้มนั้นก็มีหลายระยะตั้งแต่ ระยะยาว, ระยะ กลาง และระยะสั้น ขึ้นอยูก่ บั ว่าคุณเทรดสไตล์ไหนและสั้นยาวแค่ไหน และควรใช้ Time Frame ที่สูงกว่าเพื่อบอกแนวโน้ม เช่น เล่นระยะกลางให้ใช้ กราฟ Weekly ถ้า เล่น Day trade ให้ใช้ Daily เป็ นต้น 3. Find the low and high of it : ใจความของข้อนี้ไม่ยาก ก็คือ การหาแนวรับ – แนว ต้าน เพราะจุดซื้อที่ดีที่สุดจะอยูใ่ กล้ๆ กับแนวรับ ซึ่งมักจะนําจุดตํ่าสุดสัมพัทธ์ก่อน หน้า (Low เดิม) มาใช้เป็ นแนวรับ และ จุดขายที่ดีที่สุดจะอยูใ่ กล้ๆ กับแนวต้าน ซึ่ง มักจะนําจุดสูงสุดสัมพัทธ์ก่อนหน้า (High เดิม) มาใช้เป็ นแนวต้าน หากราคาทะลุ (Breakout) แนวต้าน แนวต้านนั้นจะกลายเป็ นแนวรับก็ต่อเมื่อราคานั้นย่อลงมาแล้วไม่ หลุด ในทางกลับกันเมื่อราคาหลุดแนวรับและราคาขึ้นไปทดสอบแล้วไม่ผา่ นแนวรับ นี้กจ็ ะกลายเป็ นแนวต้าน 4. Know How far to backtrack : เมื่อเราทราบแล้วว่าเราจะเทรดในแนวโน้มไหน ทีน้ ี อย่างที่รู้ ๆ กันอยูว่ า่ ธรรมชาติของแนวโน้มนั้นไม่ได้ข้ ึนหรื อลงเป็ นเส้นตรงตลอดแต่ จะขึ้นและลงสลับกันในแนวโน้ม โดยในแนวโน้มขาขึ้น การย่อลง (retracement) นั้น มักจะอยูบ่ ริ เวณ 50% ของ Fibonacci (ทัว่ ไป), 33% (น้อยสุด) และ 62% (มากที่สุด) ของแนวโน้ม ซึ่ง John Murphy กล่าวว่าเราสามารถใช้พฤติกรรมดังกล่าวมาใช้ในการ หาจุดซื้อได้


5. Draw the line : Trend Lines ถือเป็ นเครื่ องมือที่ง่ายที่สุดเครื่ องมือหนึ่งที่ใช้ในการ บอกแนวโน้ม สําหรับในแนวโน้มขาขึ้นจะลากระหว่างจุดตํ่าสุด 2 จุด และใน แนวโน้มขาลงจะลากระหว่างจุดสูงสุด 2 จุด John Murphy แนะนําการใช้ Trend Lines ว่า การใช้ 2 จุดนี้ยงั ไม่มีน้ าํ หนักมากนัก ถ้าจะให้ดีควรยืนยันด้วยจุดที่ 3 เพราะ Trend Lines ยิง่ ผ่านหลายจุดจะยิง่ มีนยั สําคัญมากขึ้น และหากราคาหลุด Trend Lines นัน่ แสดงว่ามีโอกาสที่แนวโน้มจะเปลี่ยน 6. Follow that Average : กฎข้อนี้ตอ้ งการจะบอกว่า Moving Average สามารถนํามาใช้ หาจุดซื้อ – จุดขายได้ อีกทั้งยังสามารถช่วยบอกการเคลื่อนไหวของแนวโน้มเดิมที่ เกิดขึ้นและการเปลี่ยนแนวโน้มได้อีกด้วย แต่ถึงอย่างนั้นมันก็บอกได้แค่ข้นั ต้นเท่านั้น ไม่สามารถบอกได้อย่างชัดเจนและครบถ้วน 100 % 7. Learn the Turns : indicator ยอดฮิตอย่าง RSI. และ Stochastic ซึ่งเป็ น indicator ประเภท Oscillator นั้นสามารถนํามาใช้บอกภาวะ Overbought และ Oversold ได้ ภาวะทั้ง 2 นี้จะเป็ นตัวบอกว่า การย่อ (Retracement) และ การขึ้น (Rallies) ของราคา นั้นจะมีโอกาสเกิดการกลับตัว (ในแนวโน้มนั้น) เมื่อไร โดยทัว่ ไปนักลงทุนนิยมใช้ RSI. 14 วัน และ Stochastic 9, 14 วัน และที่สาํ คัญ การเกิด Divergence ก็เป็ นสัญญาณ เตือนให้ทราบถึงการกลับตัวของตลาดได้เช่นกัน 8. Know the warning signs : MACD indicator ที่ Gerald Appel พัฒนาขึ้นจากการนํา Moving Average 2 เส้นมาตัดกันนั้นสามารถนํามาใช้บอกสัญญาณซื้อและขายได้ ซึ่ง John Murphy แนะนําว่า Time Frame Weekly จะให้สญ ั ญาณได้ดีกว่า Daily และ MACD Histogram ที่เกิดจากการนําระยะห่างระหว่าง เส้น MACD 2 เส้นมาสร้างเป็ น กราฟแท่งจะช่วยเป็ นสัญญาณเตือนในการเปลี่ยนแนวโน้มได้ดีอีกด้วย


9. Trend or Not a Trend : จะรู้ได้อย่างไรว่าตลาดอยูใ่ นช่วงที่เป็ น แนวโน้ม (Trend) หรื อไม่เกิดแนวโน้ม (Non-Trend) John Murphy บอกว่า เราสามารถนํา ADX indicator มาช่วยบอกได้เช่นกัน และยังสามารถบอกได้วา่ แนวโน้มที่เกิดขึ้นนั้น แข็งแกร่ ง (คือ มีโอกาสจะขึ้นต่อไปอีก) หรื อ อ่อนแอ (คือ เปราะบางและร่ วงได้ง่าย) ได้อีกด้วย 10. Know the Confirming Signs : เรี ยนรู้การยืนยันสัญญาณต่างๆ เช่น การใช้ Volume ในการยืนยันแนวโน้มขาขึ้น เพราะ การมี Volume เฉลี่ย ที่เพิ่มขึ้นในจะช่วยให้ทิศ ทางการขึ้นในครั้งนั้นมีน้ าํ หนักมากขึ้น ในทางตรงกันข้ามหาก Volume เฉลี่ย ลดลง ในขณะที่ราคาขึ้นไปสูงอาจเป็ นสัญญาณว่าราคาใกล้มาถึงจนสิ้นสุดและอาจจะเกิดการ เปลี่ยนแนวโน้มในระยะเวลาต่อมาได้ เป็ นอย่างไรกันบ้างครับ ครบแล้วทั้ง 10 ข้อหวังว่าจะช่วยให้นกั ลงทุนเข้าใจได้มากขึ้น นะครับ ว่า เครื่ องมือไหน เหมาะที่จะใช้บอกอะไร จะได้ไม่ใช้เครื่ องมือผิดประเภท ซึ่ง บางเครื่ องมือ ก็มีความสามารถหลากหลายก็สามารถใช้แทนกันได้ครับ ไม่ตอ้ งใช้หมด ขอให้เราอ่านและตีความหมายเป็ น ที่สาํ คัญเครื่ องมือนั้นต้องเหมาะกับสไตล์ หรื อ จริ ต ของเราด้วย เพราะอย่างที่บอกไม่มีเครื่ องมือไหนที่จะบอกได้ถูกต้อง 100 % อย่าง แน่นอน แล้วพบกับบทความตอนใหม่ ๆ กันที่ investmentory.com อีกเช่นเคย ขอให้ นักลงทุนทุกท่านโชคดีในการลงทุนครับ http://www.investmentory.com/2013/11/10.html

ลงทุนหุน้ เพื่อชีวิต Look Like Love


มองให้ ไกลเหมือนนก บินให้ ได้ อย่ างนก 1 เดือน เท่ากับ 20 วันทําการ 10 เดือน เท่ากับ 200 วันทําการ หรื อ 3 ไตรมาสกะอีก 1 เดือน หรื อรวมเรี ยกกันว่า เส้น 200 วัน ในกราฟ Day เส้นนี้ค่อนข้างสําคัญมาก(EMA 200 DAY) เปรี ยบเหมือน เส้นกราฟแห่งชีวิตคน เมื่อกราฟแห่งชีวิตคนขึ้นมามากๆจนหมดแรงส่ง สุดท้ายแล้วมันก็ตอ้ งลง เมื่อกราฟแห่งชีวิตคนลงมามากๆจนหมดแรงกด สุดท้ายแล้วมันก็ตอ้ ง.ขึ้น” เป็ น "สัจธรรม"อย่างนั้นเอง กราฟแห่งชีวติ กับ กราฟหุน้ มันก็เหมือนกัน เส้น 200 วันนี้ จึงค่อนข้างมีความหมาย ต่อชีวิตมากเลยทีเดียวเชียวนะจะบอกให้ เพราะมันหมายถึง เส้นกราฟที่จะ เปลี่ยนแปลงเส้นแนวโน้มของชีวติ คน หรื อ แนวโน้มของราคาหุ ้น ถ้าราคาหุน้ นั้น มัน สามารถทะลุเส้น 200 วันนี้ข้ ึนมาได้ และสามารถยืนเหนือเส้น 200 วันนี้ได้อย่าง แข็งแกร่ ง หุน้ นั้นมันก็จะเปลี่ยนแนวโน้มจากลงมา 10 เดือนเต็ม เป็ นแนวโน้มขาขึ้น ทํานองเดียวกัน ถ้าหุน้ นั้นหลังจากที่ข้ ึนมายาวนานแล้วจู่ๆมันเกิดลงมาจนเส้น 200 วัน นั้น รับไม่อยู่ คือ ทะลุเส้น 200 วันลงมา มันก็จะเปลี่ยนแนวโน้มจากขึ้นมายาวนาน เป็ นแนวโน้มขาลง นั้นมันก็คือ 1 รอบวัฏจักรของชีวิตคน หรื อ 1 รอบของชีวิตหุน้ ที่ มันเหวี่ยงขึ้น และ เหวีย่ งลง อย่างละ 1 รอบเท่าๆกัน สุดท้ายแล้วเราต้องรอบครอบในการใช้ชีวิต และ การลงทุน เพราะเวลาที่เราสูญเสี ยไป ในแต่ละนาทีน้ นั ไม่อาจเรี ยกมันกลับมาคืนได้ และ เงินทุกบาททุกสตางค์มีคุณค่ามี ความหมาย กว่าจะทํามาหาได้แต่ละบาทนั้น เลือดตาแทบกระเด็น อย่าเอามันมาละลาย เล่นในตลาดหุน้ เลยครับ และอย่าลืมว่า เวลาที่เราลงทุนใน


หุน้ ที่พ้ืนฐานดี มีปันผล เราจะมีเวลาทุกนาทีที่เดินไปกะเรานั้นจะเป็ นเพื่อนร่ วมทางที่ดีที่สุดของเรา เวลายิง่ ผ่าน ไปนานเท่าไหร่ เราก็จะมีความมัง่ คัง่ รํ่ารวยมากขึ้นเท่านั้น Let Profit Run Let Profit Love แต่ถา้ เรามัวเอาแต่หลงทางเล่นแต่หุน้ เน่า เฝ้ าแต่ดอย หุน้ ปั่น หุน้ เก็งกําไรที่หา พื้นฐานอะไรไม่ได้เลยนั้น ปันผลก็ไม่มีรองรับ มีแต่ถงั ขยะเท่านั้นที่รองรับ เวลาที่ผา่ น ไปแต่ละนาทีน้ นั มันจะกลายเป็ นศัตรู ตวั ฉกาจที่มนั คอยจ้องแต่จะฆ่าเราทุกนาที Let Loss Dead วันนี้เพื่อนๆนักลงทุนพร้อมที่จะกลับตัวกลับใจ กลับมายืนบนเส้น 200 วัน แห่งชีวิต พร้อมกับผมแล้วหรื อยังครับ หยุดหลงทางในตลาด-ลักทรัพย์ หลงทางในตลาดหุน้ อาจจะต้องเสี ยทั้งเงินและเวลา แต่ ถ้าหลงหุน้ เน่า เฝ้ าแต่หุน้ ปั่น จะต้องเสี ยทั้งนํ้าตาและอนาคตอย่างแน่นอน หลงทางเสี ยเวลา หลงปัญญา อาจเสี ย"มยุรา" ซึ่งเป็ นหุน้ ส่วนของชีวติ ไปได้นะครับ เคล็ดลับ ถ้าเส้น 20 วัน ตัดเส้น 200 วันขึ้นมาได้ มันจะยืนยันการเปลี่ยนแนวโน้ม ของหุน้ จากลงเป็ น”ขึ้น” ในทางกลับกัน ถ้าเส้น 20 วัน ตัดเส้น 200 วันลงมานั้น มันจะยืนยันการเปลี่ยน แนวโน้มจากขึ้นเป็ นลง Vichit Investor Stock Of Life Value Of Love Let Profit Run Let Profit Love


การหากาไรสุ ทธิต่อหุ้น หรือ EPS แบบง่ ายๆ ยอดขาย - ต้นทุนขาย = กําไรขั้นต้น (GPM = Gross Profit Margin) กําไรขั้นต้น - ค่าใช้จ่ายในการขายและบริ หาร = กําไรจากการดําเนินงาน ( EBIT) กําไรจากการดําเนินงาน (EBIT) + ค่าเสื่ อมราคาและค่าตัดจ่าย = EBITDA EBITDA - ดอกเบี้ยจ่ายและภาษีเงินได้ = กําไรสุทธิ (NPM = Net Profit Margin) กําไรสุทธิ (NPM = Net Profit Margin) / จํานวนหุน้ ทั้งหมดของบริ ษทั = กําไรสุทธิต่อ หุน้ (EPS = Earning Per Share) สาเหตุ ที่ตอ้ งบวกคืนค่าเสื่ อมและค่าตัดจ่าย เนื่องจากค่าใช้จ่ายนี้ไม่ใช่เงินสดที่จ่ายออกไปจริ ง จึงเป็ นตัวสะท้อนกําไรจากการดําเนินงานที่เป็ นเงินสด ทั้งนี้ยงั ไม่ได้เอาไปหักดอกเบี้ยและภาษีแต่อย่างใดครับการหากําไรสุทธิต่อหุน้ หรื อ EPS แบบง่ายๆ ยอดขาย - ต้นทุนขาย = กําไรขั้นต้น (GPM = Gross Profit Margin) กําไรขั้นต้น - ค่าใช้จ่ายในการขายและบริ หาร = กําไรจากการดําเนินงาน ( EBIT) กําไรจากการดําเนินงาน (EBIT) + ค่าเสื่ อมราคาและค่าตัดจ่าย = EBITDA EBITDA - ดอกเบี้ยจ่ายและภาษีเงินได้ = กําไรสุทธิ (NPM = Net Profit Margin) กําไรสุทธิ (NPM = Net Profit Margin) / จํานวนหุน้ ทั้งหมดของบริ ษทั = กําไรสุทธิต่อ หุน้ (EPS = Earning Per Share) สาเหตุที่ตอ้ งบวกคืนค่าเสื่ อมและค่าตัดจ่าย เนื่องจากค่าใช้จ่ายนี้ไม่ใช่เงินสดที่จ่าย ออกไปจริ ง จึงเป็ นตัวสะท้อนกําไรจากการดําเนินงานที่เป็ นเงินสด


กลยุทธซื้อเฉลีย่ หุ้นขาขึน้ การแบ่งเงินซื้อเฉลี่ยขาขึ้น โดยปกติจะแบ่งเป็ น 3 ไม้ ไม้แรก มักจะ แบ่ง 50% ของพอร์ต ไม้สอง มักจะ แบ่ง 30% ของพอร์ต และที่เหลือ 20% คือไม้สาม ซึ่งเป็ นไม้ Follow ตามนํ้า การเข้าซื้อ โดยปกติการซื้อถัวเฉลี่ยขาขึ้น ผูเ้ ล่นจะต้องกําหนดเงื่อนไขในการเข้าซื้อครับ ว่าการเข้าซื้อประกอบด้วยเงื่อนไขใด หรื อ ปัจจัยใดๆ เป็ นองค์ประกอบบ้าง เช่น หากกําหนดว่าการเข้าซื้อในแต่ละครั้งประกอบด้วย 5 ปัจจัย ก็อาจจะเข้าซื้อ ดังนี้ ครับ กรณี เกิดเหตุการณ์ที่ 3 ปัจจัยเกิดขึ้นแล้ว (แต่ปัจจัยที่ 4-5 ยังไม่เกิด) ก็จะทําการเข้าซื้อ ไปก่อนครึ่ งตัว หรื อซื้อไม้แรก (50%) ไปก่อน แล้วรอดูวา่ ปัจจัยที่ 4 จะเกิดตามมา หรื อไม่ กรณี ปัจจัยที่ 4 ไม่เกิด หุน้ จะไม่ข้ ึนต่อ กลับเลือกทางลง ผูเ้ ล่นก็จะทําการ cut loss จะทําให้ ผูเ้ ล่น ขาดทุนเพียงแค่ครึ่ งเดียวของพอร์ตครับ


ในทางกลับกัน... หากปัจจัยที่ 4 เกิดตามมา หุน้ ขึ้นต่อ ก็จะส่งไม้สอง อีก 30% ซื้อตาม..ในลักษณะเดิม แล้วรอดูวา่ ปัจจัยที่ 5 จะ เกิดตามมาหรื อไม่ หากปัจจัยที่ 5เกิดตามมา ก็จะทําการนําเงินส่วนที่เหลือ ซื้อตามอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งจะทําให้ได้ราคา เฉลี่ยที่ต่าํ กว่าราคาตลาดครับ แต่หากปัจจัยที่ 5 ไม่เกิด หุน้ กลับเลือกทางลง (หลังจากซื้อไม้สองแล้ว) ผูเ้ ล่นก็จะทําการ cut loss ในลักษณะเดิม กรณี หากในรอบนั้น ผูเ้ ล่นสามารถซื้อได้หมด 3 ไม้ ก็จะ let profit run ครับผม คร่ าวๆ ก็จะมีลกั ษณะอย่างนี้แระครับ


วิธีคาดการณ์ รายได้ และกาไรสุ ทธิแบบง่ ายๆ เอารายได้รวมปี ท่ีแล้ว หารด้วย 4 กะเอารายได้ Q1 ปี นี้ คูญด้วย 4 ก็จะได้รายได้รวมพอคร่ าวๆของปี นี้ เทียบกะปี ที่แล้ว ว่ารายได้ที่เราคาดการณ์ได้จะ เติบโตเพิ่มขึ้นหรื อลดลง เมื่อเทียบกะปี ก่อนหน้า แล้วคาดการณ์ NPM ก็จะได้กาํ ไร สุทธิ หารด้วย จํานวนหุน้ รวมก็จะได้ กําไรสุ ทธิต่อหุน้ หรื อ EPS จับคูณกะ Pe ที่เรา อยากได้ MOS ก็จะได้ราคาที่เหมาะสม รายได้ เมื่อเทียบกะ MKC นัน่ ก็เป็ นอีกวิธีหนึ่งที่ใช้ดูวา่ หุน้ นั้นน่าสนใจเข้าซื้อลงทุน หรื อไม่ครับ


การลงทุนที่ผดิ พลาด ความผิดพลาดสามัญ 19 ประการ ที่นกั ลงทุนส่วนมากกระทํา (Nineteen Common Mistakes Most Investors Make) (จาก How to Make Money in Stocks ของ William J. O Neil 1. รั้นที่จะถือขาดทุนไว้เมื่อเป็ นจํานวนเล็กน้อยและสมเหตุสมผล (Stubbornly holding onto losses when they are small and reasonable.) ข้อนี้เป็ นความผิดพลาดที่เกิดขึ้นมาก เป็ นอันดับหนึ่ง (นาย O Neil มีกฏให้ทาํ Cut loss ทันทีเมื่อขาดทุนไป 7-8%) 2. ซื้อตอนหุน้ ตก นัน่ คือการตอกยํ้าความลําเค็ญ (Buying on the way down in price, thus ensuring miserable results.) หุน้ ที่กาํ ลังตกลงมาถูกกว่าเมื่อสัปดาห์ก่อนดูท่าว่าถูก ดี -แต่ จะจ้องรับกริ ชที่กาํ ลังหล่นไปไย 3. ซื้อเฉลี่ยตอนลงมากกว่าตอนขึ้น (Averaging down in price rather than up when buying.) นี่คือการเอาเงินดีไปปนเงินเลว เป็ นกลยุทธแบบมือสมัครเล่นที่จะนําไปสู่การขาดทุน หนักๆ 4. ซื้อหุน้ ราคาตํ่าจํานวนมาก แทนที่จะซื้อหุน้ ราคาสูงจํานวนน้อย (Buying large amounts of low-priced stocks rather than smaller amounts of higher priced stocks.) หุน้ คุณภาพดีราคาไม่มีต่าํ (ลองเทียบ SCC/1000++ กับ TMB/4++) ควรซื้อหุน้ ที่ดีที่สุด (ไม่ใช่ถูกที่สุด) 5. อยากรวยเร็วไม่อยากออกแรง (Wanting to make a quick and easy buck.) โลภมาก ใจร้อนจี๋ มีโอกาสใจด่วนโดดเข้ากองไฟแล้วเสี ยดายไม่อยาก Cut loss เมื่อพลาด


6. ซื้อตามเขาว่า (Buying on tips, rumors, split announcements, and other news hear from supposed market experts on TV.) หรื ออีกนัยหนึ่ง เอาเงินที่ตนสะสมมาอย่าง ยากเย็นไปเชื่อตามคนอื่น แทนที่จะใช้เวลาฝึ กศึกษาให้รู้ตวั ว่ากําลังทําอะไร 7. เลือกหุน้ ชั้นรองเพราะใด้ปันผลหรื อ P/E ตํ่า (Selecting second-rate stocks because of dividends or low price-earnings ratios.) มีปัจจัยข้อมูลอื่นๆอีกมากที่สาํ คัญกว่า เงิน ปันผล หรื อ P/E (เช่นอัตราการเติบโต) 8. ไม่ยอมถอยแม้จะเลือกผิดและไม่รู้จริ งในการหาบริ ษทั ที่พบความสําเร็จ (Never getting out of the starting gate properly due to poor selection criteria and not knowing exactly what to look for in a successful company.) หลายคนหลงอยูก่ บั หุน้ ปลายแถวที่มีขอ้ มูลคลุมเครื อ 9. ซื้อหุน้ ที่คุณคุน้ ชื่อ (Buying old names you're familiar with.) แค่ที่คุณเคยทํางานการ บินไทยไม่จาํ เป็ นต้องเป็ นเหตุให้เป็ นห้นดีที่คุณควรซื้อ มีหุน้ ดีๆเกิดใหม่ข้ ึนมาได้เสมอ 10. ไม่มีปัญญาจดจําทําตามข้อมูลคําแนะนําที่ดี (Not being able to recognize (and follow) good information and advice.) ญาติ มิตร โบรกเกอร์ และ การบริ ให้คาํ แนะนํา ต่างๆ อาจเป็ น -ต้นตอ- ของคําแนะนําที่เลวมีนกั กีฬามืออาชีพเพียงน้อยนิดที่โด่งดัง โดดเด่นจริ งๆ 11. ดูกราฟไม่เป็ นและไม่กล้าซื้อเมื่อเป็ น "new high" (Not using charts and being afraid to buy stocks that are going into new high ground in price.) คนมากกว่า 98% คิดว่าราคาที่ new high แพงไป...แล้วก็ตกรถ


12. ชอบขายหมูแต่ชอบกอดของเน่า (Cashing in small, easy-to-take profits while holding the losers.) อีกนัยหนึ่ง ควรทําตรงกันข้าม คือ ให้โอกาสเวลา เพื่อทํากําไรและ รู้จกั cut loss 13. เป็ นกังวลเกินไปกับค่าภาษีและค่าคอม (Worrying too much about taxes and commissions.) (บ้านเราคงไม่เป็ นนักเพราะไม่แพงอย่างเขา) 14. จดจ้องรู้แต่ตอนซื้อแต่ไม่รู้ตอนขาย (Concentrating your time on what to buy and once the buy decision is made, not undetrstanding when or under what conditions the stock must be sold.) ส่วนมากทําการบ้านแค่ครึ่ งเดียว 15. ไม่เข้าใจความสําคัญของการซื้อหุน้ คุณภาพและการดูทางเท็คนิคเพื่อปรับปรุ งการ เลือกของตน (Failing to understand the importance of buying quality companies with good institutional sponsorship and the importance of learning how to use charts to significantly improve selection and timing.) 16. ชอบเก็งกําไรหนักๆ พวก W/C เพราะเชื่อว่าเป็ นทางลัดรวยเร็ว (Speculating too heavily in options or futures because they're thought to be a way to get rich quick.) (คนที่ชนะคงค้าน -แต่มีกี่คนไม่รู้) 17. ไม่ค่อยทําตามตลาดแต่ชอบเคาะเพดาน (Rarely transacting "at the market" and preferring to put price limits on their buy and sell orders.) (เลยชวดขายชวดซื้อ)


18. ละล้าละลังไม่รู้เวลาลงมือ (Not being able to make up your mind when a decision needs to be made.) (หลายคนไม่รู้เวลาจะซื้อ จะขาย จะถือ ดูกระทูใ้ นสิ นธรก็ท่วมไป หมด) 19. ซื้อหุน้ อย่างไม่มีเป้ าหมาย (Not looking at stocks objectively.) ชอบซื้อตัวที่ชอบ แล้วนัง่ ภาวนา แทนที่จะศึกษาสนใจทั้งตลาด ไม่รู้ใครถูกใครผิดแค่ไหนเพียงไร โปรดใช้วิจารณญาณ ...ตนป็ นที่พ่ งึ แห่งตน....


การเล่นหุ้นและการลงทุน 2 คํานี้ความหมายมันต่างกันลิบลับ การเล่นหุน้ หรื อสิงห์รายวัน สิ งห์เดย์เทรดนั้น ส่วนมากมักจะสายตาสั้น มุ่งหวังส่วน ต่างราคาเล็กน้อยๆ หวังจะได้แต่ Cap Gain ชอบใช้ชีวิตเข้าไปเสี่ ยงกับอันตราย มักจะ ชอบวิ่งเก็บเหรี ยญบาท ตัดหน้ารถสิ บล้อ ส่วนมากมักจะไม่ประสบความสําเร็ จในการ เล่นหุน้ สักเท่าไหร่ มักเล่นหุน้ แบบหาค่ากับข้าวไปวันๆ แต่เวลาเสี ยมักจะเสี ยค่าโต๊ะ จีนชุดใหญ่ ชีวิตเลยวนๆเวียนๆ ลุ่มๆดอนๆ พอมีพอได้ แต่จะไม่รวย การลงทุน นักลงทุนกลุ่มนี้ จะมีเพียงส่วนน้อยในตลาดหุน้ แต่มกั จะกําชัย ชนะตลาด ได้ในท้ายที่สุด มักจะเป็ นคนสายตายาว มองการณ์ไกล ลงทุนมุ่งหวังเพียงแค่เก็บเกี่ยว เงินปันผลอย่างเดียว แต่ส่วนมากจะได้ท้งั เงินปันผล และ แถมด้วย Cap Gain เป็ นกลุ่ม นักลงทุนที่ไม่มีความโลภในระยะยาวเวลาสั้นๆ รู้จกั มีความอดทนอดกลั้น อดเปรี้ ยว ไว้กินหวาน ลอยคอ รอคอยให้เมล็ดพืชพรรณการลงทุนที่หว่าน ออกดอกออกผลได้ เต็มที่ นักลงทุนกลุ่มนี้ จะสร้างปอดแบบสะสมความรวยไปเรื่ อยๆทุกๆปี ได้เงินปันผล มาก็จบั มันยัดกลับเข้าไปลงทุนต่อในหุน้ วันแล้ววันเล่า ปี แล้วปี เล่า หุน้ ก็มีมากขึ้นทุกๆ ปี เงินปันผลก็เพิ่มมากขึ้น เท่าทวีคูณ มหัศจรรย์การทบต้นมันก็จะทําหน้าที่ของมันไป เงินมันก็จะต่อเงินของมันไปเรื่ อยๆ แล้วจะรวยแบบไม่รู้ตวั


มีหลักการลงทุนในหุ้น Commodity Cyclical อยู่ 2 หลัก ที่ผมคิดว่าควรจะเก็บไว้ใช้ตลอดชีวิตการลงทุนครับ เช่น หุน้ กลุ่มเดินเรื อ ให้ซ้ือเมื่อ..... 1. Buy High , Sell Low คือ ซื้อที่ p/e สูง ขายที่ p/e ตํ่า เพราะจุด p/e สูง มักจะเป็ นจุด bottom ของ cycle ส่วน p/e ตํ่า มักจะเป็ นจุดใกล้ peak cycle 2 . Buy Low , Sell High คือ ซื้อที่ p/bv ตํ่า ขายที่ p/bv สูง


คาว่า หุ้นราคาถูก กับ มูลค่าหุ้นถูก นี่มันไม่ เหมือนกันนะ หุน้ ราคา 1 บาท ใครๆก็วา่ หุน้ ราคามันถูก แต่ความจริ งแล้ว มูลค่าหุน้ นั้นแทบไม่มีค่า อะไรเลย เป็ นแค่หุน้ ลม หรื อเศษกระดาษใบหุน้ แค่น้ นั มันมีมูลค่าแพงกว่า หุน้ ราคา 20 บาท ตั้งหลายร้อยเท่า หรื อหุน้ ราคา 20 บาท ยังมีมูลค่าถูกกว่าหุน้ ราคา 1 บาทนั้นเยอะ มาก อย่าลืมประเด็น อย่าเข้าใจผิดคิดว่า หุน้ ราคา 1 บาทนั้น ถูกกว่า หุน้ ราคา 20 บาท นั้น มันคนละเรื่ องเดียวกันเลย เข้าใจตรงกันนะ ฮ่า !!!!! มันคือศิลปะ มันต้องยิง่ ใหญ่ มันต้องนิวไฮ มันต้องซิลลิ่ง แม่นบ่ ฮ่า


การใช้ PE ratio เพือ่ คานวณมูลค่าหุ้น By Marylou Siegle การคํานวณหามูลค่า ข้อสังเกตบางประการเกี่ยวกับ PE ratio 1. การใช้ PE ratio เพื่อประเมิน fair value ของกิจการที่เราลงทุน จัดได้วา่ เป็ นวิธีการที่ ง่าย และให้ sense ถึงความถูกแพงของหุน้ ได้เป็ นอย่างดี 2. อย่างไรก็ดี สําหรับนักลงทุนหน้าใหม่ การใช้ PE ratio อาจจะกลายเป็ นสิ่ งที่ยาก เพราะการใช้ PE ratio นั้นต้องอาศัยทั้ง ”ศิลปะ” และ “ประสบการณ์” พอสมควร 3. สิ่ งแรกที่ผมอยากจะแนะนําก็คือ PE ratio ที่เราใช้น้ นั ควรจะเป็ น PE ratio ของ ” อนาคต” นัน่ หมายความว่าเราต้องสามารถใช้ขอ้ มูลเชิงคุณภาพมาประเมินผลกําไรใน อนาคตให้ ได้เสี ยก่อน ( ผมมองว่าอย่างน้อยเราควรจะต้องประเมินผลกําไรอีก 2 ปี ข้างหน้าให้ได้ ) ก่อนที่จะให้อตั ราส่วนทางการเงินตัวนี้ 4. ไกด์ไลน์คร่ าวๆ สําหรับการใช้ PE ratio… สิ่ งแรกที่ผมจะพิจารณาก็คือคุณภาพของ E ( ซึ่งก็คือคุณภาพของกิจการ ) ถ้ากิจการเป็ นกิจการที่ดีมากๆ มีความได้เปรี ยบในการ แข่งขันสูง ( super stock ) มีรายได้ที่สมํ่าเสมอ และมีกาํ ไรที่มีสเถียรถาพซึ่งสามารถ เติบโตได้ทุกปี ผมมักจะให้ pe 12 -15 สําหรับกิจการที่ดีพอสมควร มีการเติบโตติดกัน หลายๆปี แต่อาจจะไม่ได้มีความได้เปรี ยบทางการแข่งขันมากนัก รายได้อาจจะผัน ผวนในบางไตรมาส ผมก็มกั จะลด pe ลงมาเหลือ 8 -12 ส่วนกิจการ”งั้นๆ” กําไรบ้าง ขาดทุนบ้าง ผมก็มกั จะให้ที่นอ้ ยกว่า 8 5. สิ่ งที่ผมจะใช้ต่อไป ก็คือ PE ratio เฉลี่ยของอุตสาหกรรม อย่าลืมว่า E เกิดจาก คุณภาพของกิจการ แต่ PE ratio เกิดจากความคาดหวังของนักลงทุน ดังนั้น PE ratio ของอุตสาหกรรมนั้นจะเป็ น reference คร่ าวๆ ให้กบั เราได้เป็ นอย่างดีวา่ นักลงทุนส่วน ใหญ่มองอุตสาหกรรมนั้นๆอย่างไร ยกตัวอย่างเช่น เราไปพบหุน้ อสังหาริ มทรัพย์ตวั หนึ่งถูกเทรดที่ PE แค่ 5 แล้วเราดูงบการเงินย้อนหลังไป เราก็พบว่าบริ ษทั ก็มีผลกําไร


สมํ่าเสมอ พอสมควร แบรนด์ของบริ ษทั ก็เป็ นที่รู้จกั ในตลาด เราอาจจะคิดว่านี่คือหุน้ ที่”ดี” และน่าจะเทรดที่ PE 7-8 แต่ถา้ เราไปดูขอ้ มูลของอุตสาหกรรม เราจะพบว่า มี บริ ษทั อสังหาริ มทรัพย์ขนาดเล็กมากมายที่เทรดกันแค่ PE 4-5 ( หลายตัวอาจมีงบ การเงินที่”แข็งแรง”กว่าบริ ษทั ที่เราสนใจด้วยซํ้า ) นัน่ เป็ นเพราะมุมมองของตลาดเรา ต่อบริ ษทั อสังหาริ มทรัพย์ ไม่เคยดีอีกเลย นับตั้งแต่วิกฤติ 40 เป็ นต้นมา 6. PE / % Growth ( PEG ) เป็ นอีกวิธีที่อาจจะใช้หา PE ratio ที่เหมาะสม โดยเฉพาะกับ หุน้ โตเร็ว ที่บางครั้งการใช้ Forward PE ratio ไปแค่ 1-2 ปี อาจจะ”หลอกตา” ทําให้หุน้ ดูแพงเกินจริ ง ปี เตอร ลินช์ ให้หลักการคร่ าวๆว่า PEG ที่เหมาะสมของหุน้ โตเร็วคือ 1 ซึ่งก็แปลว่า PE ratio ที่เหมาะสมของหุน้ โตเร็วนั้นเท่ากับอัตราการเติบโตโดยเฉลี่ย นัน่ เอง 7. หุน้ อีกประเภทที่การใช้ PE อย่างเดียวอาจจะหลอกตา นัน่ ก็คือหุน้ ที่ตอ้ งลงทุนกับ asset ขนาดใหญ่ และมีภาระค่าเสื่ อมในแต่ละปี มากๆ เพราะบริ ษทั ประเภทนี้ผลกําไร ( E ) จะดูนอ้ ย เพราะผลจากค่าเสื่ อม ทั้งที่จริ งๆแล้ว กระแสเงินสดอิสระที่ไหลเข้าบริ ษทั นั้นมาก ( จนบางครั้งบริ ษทั แทบจะปันผลออกมาได้หมดทั้ง 100% ของ EPS ) การ ประเมิน FV ของหุน้ ประเภทนี้ ดีที่สุดคือการใช้ DCF หรื อถ้าจะทําให้ง่าย ก็อาจจะ ประเมินด้วย P / Cash flow or P / EBITDA แทน 8. แล้วถามว่า PE เท่าไรถึงจะเรี ยกว่า Undervalue? คําตอบของคําถามนี้กง็ ่ายๆ นัน่ คือ เมื่อเราเห็นว่าบริ ษทั นั้นๆ กําลังถูกเทรดกันที่ PE ratio ที่นอ้ ยกว่า PE ratio ที่เหมาะสม ที่เราประเมินไว้ ( ลําพังโดยตัวที่ PE เองนั้นไม่อาจบอกได้วา่ หุน้ ถูกหรื อแพง เช่น PE 8 สําหรับอุตสาหกรรมตะวันตกดิน อาจจะเรี ยกได้วา่ แพง แต่ PE 8 สําหรับหุน้ modern trade อาจจะเรี ยกได้วา่ ถูก ) 9. อย่างไรก็ดี PE ที่นอ้ ยมากๆ เช่นตํ่ากว่า 3 -4 ก็อาจจะจัดได้วา่ undervalue โดยไม่ตอ้ ง สนกับคุณภาพของกิจการมากนัก เพราะที่ PE ระดับนี้ ปันผลมักจะเกิน 10% ( ถ้า payout ไม่ต่าํ กว่า 50% ของ EPS ) ซึ่งปันผลที่ข้ ึนถึงสองหลักถือว่า undervalue มาก


หากมองด้วย dividend approach ( หากมีโอกาสผมจะเขียนบทความเรื่ อง dividend approach ให้เพื่อนนลท.ได้อ่านกัน ) 10. สําหรับหุน้ วัฎจักร โดยเฉพาะในกลุ่ม commodity ส่วนตัวผมไม่ค่อยนิยมใช้ PE ratio ในการประเมิน FV เท่าไรนัก เพราะ E ของบริ ษทั เหล่านี้มกั จะผันผวนได้มากๆ ผมมักจะใช้ PB ในการประเมินมูลค่ามากกว่า ( อาศัยหลักการที่วา่ นักลงทุนจะยินดีซ้ือ กิจการต่อจากเจ้าของในราคากี่เท่าของเงินลงทุนเริ่ มแรก ในขณะที่ธุรกิจกําลังอยูใ่ น up-cycle ) โดยอาศัยข้อมูลย้อนหลังว่า ตลาดมักจะให้ PB เท่าไรใน”ขาขึ้น” รอบก่อนๆ อย่างไรก็ดีหลักการในข้อ 9 เรื่ อง PE ratio ที่ต่าํ มากๆ ก็อาจนํามาประยุกต์ใช้กบั หุน้ วัฎ จักรได้ นัน่ คือ ถ้าเราเห็นแล้วว่า E ของขาขึ่นรอบนี้ จะทําให้ Forward PE ratio ตํ่ากว่า 3 -4 ก็เป็ นจุดที่เรามัน่ ใจได้พอสมควรว่าหุน้ ยัง undervalue อยูม่ าก p/e ratio คือ : วิธีหาpeของหุน้ : http://thaistockinvestor.com/392/การใช้-pe-ratio-เพื่อคํานวณมูลค่าหุน้ /


เงินน้ อยควรลงทุนหุ้นประเภทไหนดี? คําถามแนวนี้ เป็ นคําถามหนึ่งที่ผมมักจะเจอบ่อยๆ ต้องขอตอบตรงๆ ว่า สามารถ ลงทุนหุน้ ได้ทุกประเภท ทุกตัวเลยครับ ไม่วา่ เพื่อนๆ จะมีเงินเท่าไหร่ กต็ ามครับ ในการจะเริ่ มลงทุนในหุน้ นั้น เงินเดือน หรื อรายได้ ของเพื่อนๆ จะเท่าไหร่ ไม่สาํ คัญ แต่มนั สําคัญตรงที่วา่ เราจะจัดสรรแบ่งเงินเหล่านั้นมาลงทุนได้อย่างไร จะทําให้มนั งอกเงยมากขึ้นได้อย่างไรตากหาก จริ งมั้ยครับ เรามาดูกนั ดีกว่าว่าพอจะมีล่ทู างใดบ้าง ที่จะทําให้เริ่ มเล่นหุน้ ได้แม้จะด้วยทุนที่ไม่มาก นักก็ตาม สําหรับท่านที่มีทุนเริ่ มต้นน้อย ผมขอแนะนําหลักการง่ายๆในการลงทุนหุน้ ที่ เหมาะสมกับทุนทรัพย์ของเพื่อนๆ ดังนี้ครับ เล่นหุน้ สะสมหุน้ ให้เหมือนกับฝากประจํา ผมเชื่อว่าเพื่อนๆ ที่ทาํ งานและคิดจะเก็บเงินก็น่าจะมีการฝากเงินและก็น่าคุน้ เคยกับการ ฝากประจําเป็ นอย่างดี ซึ่งธนาคารเขาก็มีดอกเบี้ยให้ แต่มนั ก็นอ้ ยนิดจนบางทีเงินมันก็ โตหนีเงินเฟ้ อไม่ไหว ดังนั้นแทนที่จะสะสมเงินกินดอกเบี้ยเราลองเปลี่ยนมาสะสมหุน้ กินปันผลกันดีกว่า เงินเราโตได้ดีกว่า และก็เอาชนะเงินเฟ้ อได้อย่างแน่นอน


ส่วนวิธีการก็ แบ่งเงินเดือนของเพื่อนๆ ออกมาบางส่วนโอนเข้าบัญชีหุน้ ที่เราเปิ ดกับ โบรกเกอร์ต่างๆ (ถ้าโอนเข้าไปแช่ไว้แต่ยงั ไม่ได้ซ้ื อหุน้ อะไร ก็ไม่ตอ้ งกลัวว่าเงินเราจะ เข้าไปแช่เฉยๆ เพราะโบรกเขาก็มีดอกเบี้ยให้เหมือนกันครับ ) พอโอนเข้าไปแล้ว มีวธิ ีสะสมหุน้ อยูส่ องแบบให้เลือกตามด้านล่างเลยครับ วิธีแรก สะสมเงินไว้ทุกเดือน เดือนล่ะเท่าๆ กัน แล้วรอซื้อหุน้ ที่เราหมายตาไว้ทีเดียวเลย ในช่วงที่ราคามันปรับตัวลงแรง แต่ตอ้ งลงชัว่ คราวแบบที่พ้นื ฐานหลักมันไม่เปลี่ยนนะ ครับตัวอย่างสมมติ เช่น หุน้ ค้าปลีกตกชัว่ คราวเพราะนักลงทุนบางส่วนกังวลว่าลูกค้า จะลดลงเพราะนํ้าท่วม แบบนี้เราก็เข้าเก็บได้เพราะว่าหลังนํ้าท่วม คนก็ยงั ต้องกินต้อง ใช้ ยังไงคนก็ตอ้ งกลับมาจับจ่ายใช้สอยสร้างรายได้ให้กบั หุน้ ค้าปลีกของเราเหมือนเดิม เป็ นต้น ส่วนใหญ่ในหนึ่งปี มักจะมีช่วงที่หุน้ ลงแรงๆ อยู่ 2 ถึง 3 ครั้ง เพียงแต่เราหาโอกาศเข้า เก็บหุน้ ช่วงนั้นให้ได้ เราก็จะได้หุน้ ที่มีตน้ ทุนตํ่าที่พร้อมจะทํากําไรให้เราในระยะยาว ได้อย่างยัง่ ยืนแล้วครับ วิธีที่สอง ซื้อหุน้ ตัวที่เราหมายตาไว้ทุกเดือนเลยโดยไม่ตอ้ งสนราคาว่าจะเป็ นเท่าไหร่ เพียงแค่เรา ซื้อสะสมเก็บเข้าพอร์ตเรื่ อยๆ เป็ นประจําทุกเดือน วิธีการนี้มีขอ้ แม้อยูว่ า่ เราจะต้อง เลือกหุน้ ที่มีแนวโน้มเติบโตไปเรื่ อยๆ ในระยะยาวเท่านั้น เพราะมันจะทําให้เงินทุน ของเราสามารถโตได้ในระยะยาวด้วยเช่นกัน สําหรับเพื่อนที่สนใจวิธีสะสมหุน้ แบบ ทะยอยสะสมทุกเดือนแบบนี้ ผมแนะนําให้เข้าไปดูแนวทางการลงทุนที่ชื่อว่า 7thLTG ที่ Blog ของ คุณสุมาอี้ นริ นทร์ โอฬารกิจอนันต์ ครับ รับรองไม่ผดิ หวัง ทั้งง่าย และทํา ได้จริ ง แน่นอน


ซื้อหุน้ ให้เหมือนกับเราเข้าไปซื้อกิจการ หรื อเหมือนกับเข้าหุน้ กับเพื่อน อันนี้ง่ายๆ เลย ด้วยแนวคิดนี้มนั จะทําให้เรารู้สึกเป็ นเจ้าของร่ วมจริ งๆ และถือเป็ น หลักการพื้นฐานของการลงทุนแบบเน้นคุณค่า(VI) ก็วา่ ได้ครับ โดยก่อนเข้าไปซื้อหุน้ นั้นๆ เราก็ควรจะต้องรู้ให้ครบเสี ยก่อนว่า หุน้ ของบริ ษทั ที่เราจะ ซื้อ เขาทํามาค้าขายอะไร ทําธุรกิจเกี่ยวกับอะไร ลูกค้าเขาเป็ นใคร ตลาดที่ทาํ ธุรกิจอยู่ แข่งกันดุเดือดไหม เขาเป็ นเบอร์ที่เท่าไหร่ ของตลาดนั้น รายรับเป็ นอย่างไร รายจ่าย เป็ นอย่างไร มีกาํ ไรต่อเนื่องหรื อเปล่า และสุดท้ายตัวผูบ้ ริ หารซื่อสัตย์ไหม พูดอะไรไว้ สัญญาอะไร ทําได้อย่างนั้นหรื อเปล่า อันนี้กส็ าํ คัญเช่นกัน ถ้าหากเป็ นร้านค้า หรื อธุรกิจพวกบริ การ ถ้ามีสาขาอยูใ่ กล้บา้ นเราก็อาจจะแอบเข้าไป สํารวจซะหน่อย ว่าคนเข้าใช้บริ การเยอะไหม คนใช้แล้วประทับใจบ้างหรื อเปล่า ทําเหมือนกับเป็ นธุรกิจของเราจริ งๆ เราจะซื้ อกิจการจริ งๆ ซึ่งมันจะทําให้เราได้ขอ้ มูล ได้อย่างครบถ้วนว่าเราควรจะร่ วมหัวจมท้ายกับเจ้าหุน้ ตัวนี้ แบบระยะยาว ดีหรื อเปล่า อย่ากังวลไปเลยครับว่าทุนน้อยแล้วจะลงทุนหุน้ ไม่ได้ ทุกอย่างเป็ นไปได้ถา้ เราตั้งใจจะ ทํามันจริ งๆ บ้างท่านถึงเงินทุนจะน้อย แต่ได้มีการแบ่งเงินมาสะสมหุน้ เริ่ มลงทุนกันแต่เนิ่นๆ จาก ทุนน้อย เริ่ มจากรายย่อยธรรมดา ก็ขยับขยายกลายมาเป็ นรายใหญ่ มีกาํ ไรอย่างยัง่ ยืนใน ตลาดหุน้ ก็มีให้เห็นกันมานักต่อนักแล้วครับ ดังนั้นอย่ามัวแต่สงสัยอยูเ่ ลย มาเริ่ มต้น ลงทุนในหุน้ ตั้งแต่วนั นี้ กันดีกว่าครับ


หุ้น คือ การลงทุนเพือ่ ชีวติ (ทีด่ กี ว่า) ในวันข้ างหน้ า หุน้ คือชีวิต ถ้าเรารู้จกั เลือกหุน้ ที่เป็ นคู่ชีวติ เป็ น หุน้ คือ สะพานที่จะพาเราข้ามไปสู่ถนนแห่งดวงดาว ที่มีจุดหมายปลายทางที่มีชื่อว่า สถานีแห่งความเป็ นอิสรภาพทางด้านการเงิน การลงทุน ควรจะมีท้งั ความสุข และ มีเวลาว่างมากพอที่จะฝึ กฝนจิตใจคู่กนั ระหว่าง ทางโลกการลงทุนและทางธรรมะปฏิบตั ิ การลงทุนที่จะประสบผลสําเร็จได้น้ นั เรา ต้องรู้จกั ลงทุนทางด้านจิตใจเราก่อน ไม่ยนิ ดียนิ ร้าย ไม่วา่ หุน้ มันจะเหวี่ยงขึ้นหรื อ เหวี่ยงลง ในระยะสั้นหุน้ มันจะขึ้นหรื อลง มันก็ไม่ใช่หน้าที่ของเราที่จะต้องไปสนใจ มันมาก ในระยะยาวแล้ว ยังไงหุน้ มันก็วงิ่ ตามผลกําไรบริ ษทั อยูด่ ี หน้าที่ของเราคือ เสาะหาหุน้ ที่พ้นื ถันดีๆ ราคามี MOS ราคาหุน้ ที่มนั มีมูลค่าซ่อนเอาไว้ และยังถูกมาก หุน้ ดีๆมันก็เหมือนเพชรในตมที่ยงั ไม่มีใครค้นพบ เมื่อเราค้นพบเราแล้ว เราต้อง ประเมินมูลค่ามันให้ออก ซื้อไว้แล้วก็เก็บใส่ตเู้ ซฟเอาไว้ ที่สาํ คัญเลย อย่าเอาก้อนดินก้อนกรวด ที่ขา่ วทุกช่องเขาออก มีเจ้ามาบอกว่านี่คือ "เพชรแท้" เราในฐานะนักลงทุนต้องแยกแยะให้ออกเท่านั้นพอครับ การลงทุนที่มีแต่ความทุกข์ เห็นหุน้ ตกแล้วถึงกับกินไม่ได้ นอนไม่หลับ มีความกังวล เครี ยดตลอดเวลา นัน่ เขาไม่เรี ยกว่า การลงทุนครับ เขาเรี ยกว่า "เม่าเล่นหุน้ " หรื อ เป็ น" นักเลงหุน้ " สุดท้ายแล้วชีวิตการลงทุนมักจะจบไม่สวยไม่รวยครับ เชื่อผมเต๊อะ กลับ ตัวกลับใจตั้งแต่วนั นี้ยงั ทันก่อนที่จะ"ฝันสลาย" ที่ผมบอกเพราะผมก็เคยเป็ น "เม่า" มาก่อน เลยได้ประสบกามชีวิตมาเล่ามาบอกให้ "สหายเฟส" ได้ฟังกันครับ ฮ่า Vichit Invest นักลงทุนหุน้ เพื่อชีวิต เพื่อแสวงหาชีวติ ที่ดีกว่า เพื่อมุ่งหน้าไปสู่ ถนนนักลงทุน ที่มีชื่อว่า "อิสรภาพทางการเงิน"


เป็ นนักเก็งกาไร เล่นหุน้ ตามกราฟเทคนิค เป็ นการลงทุนตามกระแส เข้าออกตาม ”กราฟ” เป็ นนักลงทุนระยะยาว ลงทุนหุน้ ตามแนวทางปรัชญาวีไอ ราคาหุน้ จะขึ้นหรื อลง ขึ้นอยูก่ บั เจ้ามือตัวจริ ง คือผลกําไรของกิจการ ไม่ใช่เข้าออกตามแนวทางการแกว่ง ไกวของราคาหุน้ บนกระดานรายวัน การลงทุนตามแนวทางปรัชญาวีไอ เป็ นการลงทุนแบบสวนกระแส ราคาหุน้ ตกลงมา ต้องกล้าซื้อ เจ้ามือเขย่าหุน้ กลับลงมาให้ตอ้ งกล้ารับ แล้ว อึด ถึก ทน (ทนรวย) ถือ ลงทุนไปยาวๆ ลงทุนแบบปรัชญาพอเพียง เก็บเกี่ยวเงินปันผลกันไปยาวๆ เลี้ยงห่านที่ คอยออกไข่ทองคําให้อย่างสมํ่าเสมออย่างต่อเนื่องและยาวนาน อย่าฆ่าห่านทิ้งเพราะ ความโลภเป็ นอันขาด เพราะคุณก็จะขาดความมัง่ คัง่ และอิสรภาพทางการเงินอย่าง แน่นอน ลงทุนหุน้ เพื่อชีวิต(ที่ดีกว่า) Vichit Investors Stock For Life Value Of Love Let Profit Run Let Profit Love จอมยุทธ อึด ถึก ทน จอมกระบี่ไร้ใจ แต่มีความรักเต็มหัวใจ จอมดาบไร้พา่ ย แต่ไม่ไร้เพื่อน จอมยุทธที่หล่อที่สุดใน 4 โลก ฮ่า


เดชคัมภีร์เทวดา 9 บท .........ต้องทําลายลมปราณกับกําลังภายใน และ วิชาฝี มือเดิม ก่อนเพื่อฝึ กฝน เดชคัมภีร์เทวดา 01 : สรรพสิ่ งไม่มีใหญ่ไม่มีเล็ก ใหญ่คือการหลอมรวมของเล็ก เล็กคือ การแตกตัวของใหญ่ รู ปเป็ นสิ่ งไม่เที่ยง ไม่มีตวั ตน ไม่ควรยึดมัน่ ถือมัน่ เนื่องด้วยยึด แล้วเป็ นทุกข์ เป็ นกังวล เป็ นเครื่ องผูกมัดให้กงั วล เดชคัมภีร์เทวดา 02 : ไม่มีของดี ไม่มีของชัว่ ดีชวั่ ล้วนไม่มี เป็ นเพียงการตัดสิ น เอาเอง ว่าสิ่ งนั้นดีสิ่งนี้ดี แบบนั้นจึงดี แบบนี้จึงไม่ดี วางตัวเป็ นกลาง ตั้งอยูใ่ นอุเบกขา ไม่อคติ ไม่โอนเอียง ไม่เข้าข้าง วิเคราะห์ดว้ ยปัญญา รับรู้ เข้าใจ แล้ววางเฉย เนื่องด้วยมันเป็ น ของมันอย่างนั้น เดชคัมภีร์เทวดา 03 : สภาวะใดๆจะคงอยูไ่ ปเรื่ อยๆ จนกว่าจะเปลี่ยนสภาวะแล้วก้อคง อยูไ่ ปเรื่ อยๆจนกว่าจะเปลี่ยนแปลงอีกเป็ นอย่างนี้ แปรเปลี่ยนของมันอย่างนี้ เดชคัมภีร์เทวดา 04 : การเปลี่ยนแปลงซ้อนกันหลายชั้น การเปลี่ยนแปลงภายนอก เป็ นไปทางเดียว การเปลี่ยนแปลงภายในไม่จาํ เป็ นต้องมีทางเดียว เป็ นสองทาง สาม ทาง สารพัดทาง ใส่ใจว่าทิศทางการเปลี่ยนแปลงภายในส่งผลต่อภายนอกให้เกิดความ เปลี่ยนแปลงหรื อไม่ เดชคัมภีร์เทวดา 05: เคล็ดวิชาอ้างอิงถึง หลักการที่สรรพสิ่ งย่อมมีการเปลี่ยนแปลง ผูม้ ี ปัญญาพึงฉวยโอกาสหยิบยืมการเปลี่ยนแปลงนี้มาใช้ให้เกิดประโยชน์ ด้วยการพลิก แพลงสุดหยัง่ คาด


เดชคัมภีร์เทวดา 06 : มีภายนอกแล้วมีภายในยังมีภายนอกห่อหุม้ ภายนอกอีก ภายนอก ภายในล้วนเป็ นนาม เป็ นสมมุติ แท้จริ งแล้ว ไม่ มีกรอบแบ่งแยกภายนอกภายในชัดเจน กรอบสามารถพลิกแพลง ย่อขยาย ยืดหด ตามใจปราถนา สําเร็จได้ดว้ ยใจ เดชคัมภีร์เทวดา 07 : กระบวนท่าที่มีขอ้ จํากัดมีขอ้ ห้ามโบราณครํ่าครึ ว่าต้องทําอย่าง นั้นๆ จึงจะอย่างนี้ๆ ยอดฝี มือผูฝ้ ึ กยุทธ ไม่ควรยึดมัน่ ในกระบวนท่า ระเบียบ แบบแผน ใด ต้องรู้จกั พลิกแพลงปรับเปลี่ยนให้เป็ นไปตามธรรมชาติ เดชคัมภีร์เทวดา 08 : ทุกกระบวนท่าที่ใช้ออกย่อมมีจุดอ่อน เนื่องด้วยสามารถ คาดการณ์กระบวนท่าถัดไปได้ ทําให้กระบวนท่าถูกทําลาย หากพลิกแพลง ปรับเปลี่ยนไปตามสภาวะ ไม่ยดึ มัน่ ถือมัน่ ก้อไม่มีผใู้ ดต้านได้ เดชคัมภีร์เทวดา 09: ฉวยโอกาสการเปลี่ยนแปลงสภาวะ หยิบยืมกําลังจากสภาวะ พลิก แพลงล่องลอยไปตามธรรมชาติ ไม่เหนี่ยวรั้ง ไม่ฝืนบังคับ ละทิ้งกฎระเบียบครํ่าครึ จึงไร้ผตู้ ่อต้านทัดเทียมเปรี ยบติด


24 วิธีเอาชนะหุ้น เล่นหุน้ ลงทุนในหุน้ พูดไปแล้วไม่ใช่เรื่ องยากเรื่ องเย็นอะไรพกเงินมาเข้าหาโบรกเกอร์ เปิ ดพอร์ตเล่นหุน้ ก็ซ้ือขายหุน้ ได้แล้ว แต่ที่หวังจะชนะตลาด กําไรจากหุน้ นี่ซิคงไม่ใช่ เรื่ องง่ายแน่ ๆ เพราะเท่าที่เห็นนักลงทุนผูเ้ ล่นหุน้ ส่วนใหญ่กลายเป็ นแมงเม่าในตลาด หุน้ ร้องกันระงม ส่วนพวกที่ประสบความสําเร็จก็มีบา้ งแต่กเ็ ป็ นเพียงส่วนน้อย การ หวังชนะ24 วิธีเอาชนะหุน้ เล่นหุน้ ลงทุนในหุน้ พูดไปแล้วไม่ใช่เรื่ องยากเรื่ องเย็นอะไรพกเงินมาเข้าหาโบรกเกอร์ เปิ ดพอร์ตเล่นหุน้ ก็ซ้ือขายหุน้ ได้แล้ว แต่ที่หวังจะชนะตลาด กําไรจากหุน้ นี่ซิคงไม่ใช่ เรื่ องง่ายแน่ ๆ เพราะเท่าที่เห็นนักลงทุนผูเ้ ล่นหุน้ ส่วนใหญ่กลายเป็ นแมงเม่าในตลาด หุน้ ร้องกันระงม ส่วนพวกที่ประสบความสําเร็จก็มีบา้ งแต่กเ็ ป็ นเพียงส่วนน้อย การ หวังชนะตลาดหุน้ เล่นหุน้ แล้วรวยคงไม่มีสูตรตายตัวแน่ แต่กม็ ีกลยุทธ์แม่ไม้หลาย ขบวนท่าที่นกั ลงทุนผูเ้ ล่นหุน้ ควรต้องศึกษาเพื่อนํามาใช้เป็ นเกาะป้ องกันตัวและเป็ น เครื่ องมือแสวงหาความสําเร็จต่อไป ณ ที่น้ ีขอนําวิธีเล่นหุน้ 24 ขบวนท่ามาฝากเพื่อ เอาชนะหุน้ ส่วนจะได้ผลมากน้อยเพียงใดนั้นขึ้นอยูก่ บั ท่านทั้งหลาย จะนําไปปรุ งแต่ง ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์สร้างแนวคิดต่อยอดค้นหาความสําเร็จกันต่อไป 1. อย่ากลัวกับเรื่ องที่จะเสี ยเวลาต่อการไขว้คว้าหาความรู้เกี่ยวกับเรื่ องหุน้ เพราะเรื่ องราวของการลงทุนในตลาดหุน้ นั้นมีอะไรให้เรี ยนรู้มากมายหลายเรื่ องไม่จบ สิ้น การลงทุนในตลาดหุน้ ก็เหมือนกับการทําธุรกิจบริ หารบริ ษทั ให้เกิดกําไรดังนั้น ต้องรู้จกั แสวงหาความรู้ใหม่ ๆ เพิ่มเติมให้มาก ๆ


2. จงจดจํารายละเอียดเกี่ยวกับตัวหุน้ กลุ่มผูบ้ ริ หาร การประกอบธุรกิจ ความเป็ นมา เป็ นไปของ บริ ษทั ทั้งอดีตและปัจจุบนั เพื่อเป็ นการตอกยํ้าความทรงจําต่อตัวหุน้ ทุกแง่ ทุกมุม 3. ต้องเข้าถึงข้อมูลทั้งเชิงลึกและตื้นเพื่อให้รู้เท่าทันถึงคุณค่าของตัวหุน้ ในยุคสมัยนี้มี สิ่ งใหม่ ๆ ที่เป็ นตัวแปร เกี่ยวกับการดําเนินธุรกิจธุรกรรมของบริ ษทั จดทะเบียนนั้นมี มากเหลือเกิน เช่น การเพิ่มทุน การลดทุน การออกวอแรนต์ การออกหุน้ กู้ การร่ วมทุน ฯลฯ ดังนั้นเราจึงมีความจําเป็ นอย่างยิง่ ที่ตอ้ งศึกษาในตัวหุน้ ที่สนใจอย่างลึกซึ้งเพื่อ เข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้องที่สุดให้ได้ 4. ให้น้ าํ หนักที่จะซื้อหรื อถือครองในตัวหุน้ ที่มีอตั ราการเติบโตที่ดีเท่านั้น เพราะหุน้ ในกระดานมีให้เลือกมากมายหลายตัว จึงควรเปรี ยบเทียบประเมินถึงมูลค่าหุน้ แต่ละ ตัวโดยเฉพาะการพิจารณาถึงผลการดําเนินงานของหุน้ ในอนาคตว่าจะมีอตั ราการ เติบโตเป็ นเช่นใด และก็ควรเลือกหุน้ ที่มีอตั ราการเติบโตโดดเด่น เพื่อความสําเร็จต่อ การลงทุนที่ดีของเรา 5. อย่าปล่อยให้อารมณ์อยูเ่ หนือเหตุผลในการตัดสิ นใจต่อการลงทุนทุกครั้งทุกรอบ เพราะการใช้อารมณ์ในการตัดสิ นลงทุนมักก่อให้เกิดความผิดพลาดได้เสมอ หลักใน การลงทุนที่แท้จริ งนั้นควรต้องใช้เหตุและผลเข้าอ้างอิงพิจารณาลงทุน ดังนั้นการใช้ อารมณ์จึงไม่ใช่เครื่ องมือที่นาํ มาตัดสิ นใจลงทุน 6. เมื่อมีปัญหาในการลงทุนควรใช้หลักแห่งความน่าจะเป็ น หรื อความเป็ นไปได้ใน การตัดสิ นใจแก้ไขปัญหา เพื่อลดความเสี่ ยงที่อาจเกิดขึ้นตามมาให้ได้


7. ในขณะที่แนวโน้มตลาดหุน้ ทรุ ดตัวลง อย่าปล่อยให้เวลาผ่านพ้นไปโดยไม่แก้ไข หรื อปรับปรุ งพอร์ต เพราะนัน่ เท่ากับว่าเรายอมพ่ายแพ้ต่อภาวะตลาดซึ่งจะทําให้ เสี ยหายและแก้ไขยากเมื่อเวลาผ่านไปนานๆ 8. ควรตัดสิ นใจอย่างฉับพลันที่จะซื้อหรื อขายหุน้ โดยทันที เมื่อมองเห็นหรื อสามารถ คาดการณ์ภาวะตลาดว่าจะไปในทิศทางไหน 9. มีขอบเขตในการปรับตัว พร้อมเปลี่ยนแปลงต่อภาวการณ์ลงทุนได้ทุกเมื่อ เพราะ การปรับเปลี่ยนที่คล่องตัว ย่อมทําให้ได้เปรี ยบต่อการลงทุนอย่างยิง่ 10. ห้ามโกหกตัวเองด้วยความคิดที่เข้าข้างตนเองเสมอ ทั้งที่ขอ้ มูลชี้ชดั ว่าทิศทาง แนวโน้มจะเป็ นเช่นใด ราคาหุน้ เริ่ มตอบสนองความเล วร้ายในแง่ปัจจัยกระทบ แต่ ตัวเองกับมองว่าเดี๋ยวทุกอย่างคงคลี่คลายดีข้ ึน เพราะตัวเองถือหุน้ อยู่ นั้นจะทําให้ท่าน ไม่สามารถค้นหาความจริ งได้ 11. อย่าคาดคั้นหาคําตอบในทางตรงกันข้ามกับความเป็ นจริ ง เช่น ทําไมหุน้ ตัวนี้ไม่ข้ ึน หุน้ ตัวนั้นไม่วงิ่ ทั้งที่ความจริ งหุน้ ตัวนั้น ๆ มีปัจจัยพื้นฐานแย่ เพราะอาจทําให้เราเกิด หลงทางได้ 12. จงพยายามฝึ กฝนตนเองเกี่ยวกับการลงทุนในหุน้ ให้เกิดการเรี ยนรู้อย่างสมํ่าเสมอ ทั้งแง่การติดตามปัจจัยพื้นฐาน และปัจจัยทางด้านเทคนิค 13. ไม่ควรคาดหวังกับผลการลงทุนในเชิงบวกมากเกินไปนัก เพราะอาจทําให้ผดิ หวัง จงจําไว้เสมอว่าการลงทุนในตลาดหุน้ ความแน่นอนคือความไม่แน่นอนเพียงแต่วา่ เรา ควรหาวิธีลดความเสี่ ยงในการลงทุนให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทําได้แค่น้ นั ก็เพียงพอแล้ว


14. ห้ามยึดติดกับการชักชวนหรื อชี้นาํ ของใครคนใดคนหนึ่งให้ซ้ือหรื อขายหุน้ โดยที่ เราเองไม่ได้ไตร่ ตรองเสี ยก่อน นัน่ เท่ากับว่าเรานั้นไม่มีหลักคิดในการลงทุนเลยแม้แต่ น้อยซึ่งอาจทําให้เกิดความเสี ยหายตามมาได้ 15. ซื่อสัตย์ต่อตนเองเสมอ โดยเฉพาะในเรื่ องของหลักการลงทุน เราจะลงทุนในหุน้ โดยไม่ออกนอกกรอบกติกา เช่นไม่ไล่ซ้ือหุน้ ด้วยอารมณ์ ไม่ขายหุน้ เพราะคล้อยตาม ผูอ้ ื่น ไม่ซ้ือหุน้ เกินตัว ถ้าเราซื่อสัตย์ต่อตนเองต่อกติกา เราก็สามารถแสวงหากําไรและ หลีกเลี่ยงความเสี่ ยงได้ในระดับหนึ่งอย่างแน่นอน 16. ควรให้โอกาสตนเองเสมอในการแก้ไขข้อผิดพลาด เพราะการลงทุนย่อมเกิดความ ผิดพลาดได้ทุกเมื่อ ดังนั้นไม่ควรท้อแท้หรื อเบื่อหน่ายตนเอง แต่ควรหาจุดแก้ไข ข้อบกพร่ อง ขจัดจุดอ่อน และแสวงหาจุดแข็ง เพื่อการลงทุนที่ถูกหลักถูกต้องต่อไป 17. อย่าทําตัวเป็ นคนเก่งในตลาดหุน้ โดยไม่ยอมรับข้อมูลใด ๆ อย่าเชื่อมัน่ ตนเองจน เกินเลย เพราะอาจทําให้เราเวียนวนอยูใ่ นมุมอับของข้อมูล และจะไม่สามารถเข้าถึงสิ่ ง ที่เป็ นจริ งเหนือความคิดของตนเองได้ 18. จงแสวงหาความรู้ใหม่ ๆ เปิ ดวิชนั่ ให้กว้างไกล อย่าสกัดกั้นตนเองในกรอบแคบ ๆ ควรรับรู้ข่าวสารข้อมูลให้มากที่สุดเท่าที่จะทําได้ และควรรู้จกั ประเมิน พิจารณาใช้ วิจารณาณอย่างถูกต้องเพื่อการลงทุนที่จะได้มาซึ่งผลประโยชน์มากที่สุด 19. ต้องรู้จกั การเรี ยนรู้ นึกถึงข้อดี ข้อเสี ย ในการลงทุนทุก ๆ จุดที่ผา่ นมา ค้นหาความ ได้เปรี ยบเสี ยเปรี ยบ เพื่อนํามาปรับปรุ ง ให้ได้จุดแข็งที่ดีที่สุดต่อการลงทุนในอนาคต


20. มีความรู้สึกที่ยนิ ดี แสดงความดีใจกับเพื่อนนักลงทุนที่คุน้ เคยเมื่อพวกเขาเหล่านั้น สามารถทํากําไรจากตลาดหุน้ ได้ และหลีกเลี่ยงการแสดงอาการหรื อคําพูดที่ส่อเสี ยด ก้าวร้าวกับเพื่อนนักลงทุน เพราะจะทําให้เรานั้นขาดมิตร และไร้เพื่อนคู่คิดต่อการ ลงทุนได้ 21. อย่าปิ ดกั้นตนเองในการมองหุน้ หรื อค้นหาหุน้ ทั้งกระดานเพียงแค่คิดจะเล่นหุน้ อยู่ ในกลุ่มไม่กี่หมวดกี่ตวั เท่านั้น เพราะหุน้ ในกระดานกว่า 500 ตัว มีให้เลือกอย่ามอง เพียงแค่หุน้ สองสามตัวที่คุน้ เคยเท่านั้นเอง 22. รู้จกั ที่จะมองหุน้ พิจารณาว่าซื้อหรื อขายด้วยการทําการบ้าน ประเมินมูลค่าหุน้ มอง ทิศทางหุน้ ด้วยตนเอง ซึ่งจะทําให้เรานั้นสามารถรู้ลึกรู้คุณค่าหุน้ ที่เหมาะสมและลงทุน ได้ถูกต้องถูกตัวในเวลาที่เหมาะสม 23. คิดถึงอนาคตเสมอ จะซื้อหุน้ ควรมองมูลค่าหุน้ ในอนาคต ควรคาดการณ์ผลการ ดําเนินงานในอนาคต เพราะราคาหุน้ นั้นจะเดินหน้าหรื อถอยหลังคงขึ้นอยูก่ บั การ ดําเนินงานที่แท้จริ งในอนาคตเท่านั้นเอง 24. ต้องรู้จกั รักตัวเองให้มาก ๆ อย่างที่รู้ ๆ กันอยูแ่ ล้วว่าการลงทุนนั้นมีความเสี่ ยงสูง พลาดท่าเสี ยทีอาจจะเสี ยคนหมดอนาคตได้ ด้งนั้นการลงทุนทุกรอบทุกครั้งควร ตระหนักพิจารณาอย่างถ้วนถี่หากมองแล้วมีโอกาสชนะมากกว่า 70 ถึง 80 เปอร์เซนต์ ค่อยน่าสู้ จงคิดถึงตัวเองและรักตัวเองเสมอเพราะถ้าลงทุนแล้วผิดพลาดเราเองนั้นละที่ จะเจ็บปวดสุด ๆ เล่นหุน้ แล้วรวยคงไม่มีสูตรตายตัวแน่ แต่กม็ ีกลยุทธ์แม่ไม้หลาย ขบวนท่าที่นกั ลงทุนผูเ้ ล่นหุน้ ควรต้องศึกษาเพื่อนํามาใช้เป็ นเกาะป้ องกันตัวและเป็ น เครื่ องมือแสวงหาความสําเร็จต่อไป ณ ที่น้ ีขอนําวิธีเล่นหุน้ 24 ขบวนท่ามาฝากเพื่อ


เอาชนะหุ้น ส่ วนจะได้ผลมากน้ อยเพียงใดนั้นขึน้ อยู่กบั ท่ านทั้งหลาย จะนาไปปรุงแต่ ง ปรับเปลีย่ นกลยุทธ์ สร้ างแนวคิดต่ อยอดค้นหาความสาเร็จกันต่ อไป 1. อย่ากลัวกับเรื่ องที่จะเสี ยเวลาต่อการไขว้คว้าหาความรู้เกี่ยวกับเรื่ องหุน้ เพราะเรื่ องราวของการลงทุนในตลาดหุน้ นั้นมีอะไรให้เรี ยนรู้มากมายหลายเรื่ องไม่จบ สิ้น การลงทุนในตลาดหุน้ ก็เหมือนกับการทําธุรกิจบริ หารบริ ษทั ให้เกิดกําไรดังนั้น ต้องรู้จกั แสวงหาความรู้ใหม่ ๆ เพิ่มเติมให้มาก ๆ 2. จงจดจํารายละเอียดเกี่ยวกับตัวหุน้ กลุ่มผูบ้ ริ หาร การประกอบธุรกิจ ความเป็ นมา เป็ นไปของ บริ ษทั ทั้งอดีตและปัจจุบนั เพื่อเป็ นการตอกยํ้าความทรงจําต่อตัวหุน้ ทุกแง่ ทุกมุม 3. ต้องเข้าถึงข้อมูลทั้งเชิงลึกและตื้นเพื่อให้รู้เท่าทันถึงคุณค่าของตัวหุน้ ในยุคสมัยนี้มี สิ่ งใหม่ ๆ ที่เป็ นตัวแปร เกี่ยวกับการดําเนินธุรกิจธุรกรรมของบริ ษทั จดทะเบียนนั้นมี มากเหลือเกิน เช่น การเพิ่มทุน การลดทุน การออกวอแรนต์ การออกหุน้ กู้ การร่ วมทุน ฯลฯ ดังนั้นเราจึงมีความจําเป็ นอย่างยิง่ ที่ตอ้ งศึกษาในตัวหุน้ ที่สนใจอย่างลึกซึ้งเพื่อ เข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้องที่สุดให้ได้ 4. ให้น้ าํ หนักที่จะซื้อหรื อถือครองในตัวหุน้ ที่มีอตั ราการเติบโตที่ดีเท่านั้น เพราะหุน้ ในกระดานมีให้เลือกมากมายหลายตัว จึงควรเปรี ยบเทียบประเมินถึงมูลค่าหุน้ แต่ละ ตัวโดยเฉพาะการพิจารณาถึงผลการดําเนินงานของหุน้ ในอนาคตว่าจะมีอตั ราการ เติบโตเป็ นเช่นใด และก็ควรเลือกหุน้ ที่มีอตั ราการเติบโตโดดเด่น เพื่อความสําเร็จต่อ การลงทุนที่ดีของเรา


5. อย่าปล่อยให้อารมณ์อยูเ่ หนือเหตุผลในการตัดสิ นใจต่อการลงทุนทุกครั้งทุกรอบ เพราะการใช้อารมณ์ในการตัดสิ นลงทุนมักก่อให้เกิดความผิดพลาดได้เสมอ หลักใน การลงทุนที่แท้จริ งนั้นควรต้องใช้เหตุและผลเข้าอ้างอิงพิจารณาลงทุน ดังนั้นการใช้ อารมณ์จึงไม่ใช่เครื่ องมือที่นาํ มาตัดสิ นใจลงทุน 6. เมื่อมีปัญหาในการลงทุนควรใช้หลักแห่งความน่าจะเป็ น หรื อความเป็ นไปได้ใน การตัดสิ นใจแก้ไขปัญหา เพื่อลดความเสี่ ยงที่อาจเกิดขึ้นตามมาให้ได้ 7. ในขณะที่แนวโน้มตลาดหุน้ ทรุ ดตัวลง อย่าปล่อยให้เวลาผ่านพ้นไปโดยไม่แก้ไข หรื อปรับปรุ งพอร์ต เพราะนัน่ เท่ากับว่าเรายอมพ่ายแพ้ต่อภาวะตลาดซึ่งจะทําให้ เสี ยหายและแก้ไขยากเมื่อเวลาผ่านไปนานๆ 8. ควรตัดสิ นใจอย่างฉับพลันที่จะซื้อหรื อขายหุน้ โดยทันที เมื่อมองเห็นหรื อสามารถ คาดการณ์ภาวะตลาดว่าจะไปในทิศทางไหน 9. มีขอบเขตในการปรับตัว พร้อมเปลี่ยนแปลงต่อภาวการณ์ลงทุนได้ทุกเมื่อ เพราะ การปรับเปลี่ยนที่คล่องตัว ย่อมทําให้ได้เปรี ยบต่อการลงทุนอย่างยิง่ 10. ห้ามโกหกตัวเองด้วยความคิดที่เข้าข้างตนเองเสมอ ทั้งที่ขอ้ มูลชี้ชดั ว่าทิศทาง แนวโน้มจะเป็ นเช่นใด ราคาหุน้ เริ่ มตอบสนองความเล วร้ายในแง่ปัจจัยกระทบ แต่ ตัวเองกับมองว่าเดี๋ยวทุกอย่างคงคลี่คลายดีข้ ึน เพราะตัวเองถือหุน้ อยู่ นั้นจะทําให้ท่าน ไม่สามารถค้นหาความจริ งได้


11. อย่าคาดคั้นหาคําตอบในทางตรงกันข้ามกับความเป็ นจริ ง เช่น ทําไมหุน้ ตัวนี้ไม่ข้ ึน หุน้ ตัวนั้นไม่วงิ่ ทั้งที่ความจริ งหุน้ ตัวนั้น ๆ มีปัจจัยพื้นฐานแย่ เพราะอาจทําให้เราเกิด หลงทางได้ 12. จงพยายามฝึ กฝนตนเองเกี่ยวกับการลงทุนในหุน้ ให้เกิดการเรี ยนรู้อย่างสมํ่าเสมอ ทั้งแง่การติดตามปัจจัยพื้นฐาน และปัจจัยทางด้านเทคนิค 13. ไม่ควรคาดหวังกับผลการลงทุนในเชิงบวกมากเกินไปนัก เพราะอาจทําให้ผดิ หวัง จงจําไว้เสมอว่าการลงทุนในตลาดหุน้ ความแน่นอนคือความไม่แน่นอนเพียงแต่วา่ เรา ควรหาวิธีลดความเสี่ ยงในการลงทุนให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทําได้แค่น้ นั ก็เพียงพอแล้ว 14. ห้ามยึดติดกับการชักชวนหรื อชี้นาํ ของใครคนใดคนหนึ่งให้ซ้ือหรื อขายหุน้ โดยที่ เราเองไม่ได้ไตร่ ตรองเสี ยก่อน นัน่ เท่ากับว่าเรานั้นไม่มีหลักคิดในการลงทุนเลยแม้แต่ น้อยซึ่งอาจทําให้เกิดความเสี ยหายตามมาได้ 15. ซื่อสัตย์ต่อตนเองเสมอ โดยเฉพาะในเรื่ องของหลักการลงทุน เราจะลงทุนในหุน้ โดยไม่ออกนอกกรอบกติกา เช่นไม่ไล่ซ้ือหุน้ ด้วยอารมณ์ ไม่ขายหุน้ เพราะคล้อยตาม ผูอ้ ื่น ไม่ซ้ือหุน้ เกินตัว ถ้าเราซื่อสัตย์ต่อตนเองต่อกติกา เราก็สามารถแสวงหากําไรและ หลีกเลี่ยงความเสี่ ยงได้ในระดับหนึ่งอย่างแน่นอน 16. ควรให้โอกาสตนเองเสมอในการแก้ไขข้อผิดพลาด เพราะการลงทุนย่อมเกิดความ ผิดพลาดได้ทุกเมื่อ ดังนั้นไม่ควรท้อแท้หรื อเบื่อหน่ายตนเอง แต่ควรหาจุดแก้ไข ข้อบกพร่ อง ขจัดจุดอ่อน และแสวงหาจุดแข็ง เพื่อการลงทุนที่ถูกหลักถูกต้องต่อไป


17. อย่าทําตัวเป็ นคนเก่งในตลาดหุน้ โดยไม่ยอมรับข้อมูลใด ๆ อย่าเชื่อมัน่ ตนเองจน เกินเลย เพราะอาจทําให้เราเวียนวนอยูใ่ นมุมอับของข้อมูล และจะไม่สามารถเข้าถึงสิ่ ง ที่เป็ นจริ งเหนือความคิดของตนเองได้ 18. จงแสวงหาความรู้ใหม่ ๆ เปิ ดวิชนั่ ให้กว้างไกล อย่าสกัดกั้นตนเองในกรอบแคบ ๆ ควรรับรู้ข่าวสารข้อมูลให้มากที่สุดเท่าที่จะทําได้ และควรรู้จกั ประเมิน พิจารณาใช้ วิจารณาณอย่างถูกต้องเพื่อการลงทุนที่จะได้มาซึ่งผลประโยชน์มากที่สุด 19. ต้องรู้จกั การเรี ยนรู้ นึกถึงข้อดี ข้อเสี ย ในการลงทุนทุก ๆ จุดที่ผา่ นมา ค้นหาความ ได้เปรี ยบเสี ยเปรี ยบ เพื่อนํามาปรับปรุ ง ให้ได้จุดแข็งที่ดีที่สุดต่อการลงทุนในอนาคต 20. มีความรู้สึกที่ยนิ ดี แสดงความดีใจกับเพื่อนนักลงทุนที่คุน้ เคยเมื่อพวกเขาเหล่านั้น สามารถทํากําไรจากตลาดหุน้ ได้ และหลีกเลี่ยงการแสดงอาการหรื อคําพูดที่ส่อเสี ยด ก้าวร้าวกับเพื่อนนักลงทุน เพราะจะทําให้เรานั้นขาดมิตร และไร้เพื่อนคู่คิดต่อการ ลงทุนได้ 21. อย่าปิ ดกั้นตนเองในการมองหุน้ หรื อค้นหาหุน้ ทั้งกระดานเพียงแค่คิดจะเล่นหุน้ อยู่ ในกลุ่มไม่กี่หมวดกี่ตวั เท่านั้น เพราะหุน้ ในกระดานกว่า 500 ตัว มีให้เลือกอย่ามอง เพียงแค่หุน้ สองสามตัวที่คุน้ เคยเท่านั้นเอง 22. รู้จกั ที่จะมองหุน้ พิจารณาว่าซื้อหรื อขายด้วยการทําการบ้าน ประเมินมูลค่าหุน้ มอง ทิศทางหุน้ ด้วยตนเอง ซึ่งจะทําให้เรานั้นสามารถรู้ลึกรู้คุณค่าหุน้ ที่เหมาะสมและลงทุน ได้ถูกต้องถูกตัวในเวลาที่เหมาะสม


23. คิดถึงอนาคตเสมอ จะซื้อหุน้ ควรมองมูลค่าหุน้ ในอนาคต ควรคาดการณ์ผลการ ดําเนินงานในอนาคต เพราะราคาหุน้ นั้นจะเดินหน้าหรื อถอยหลังคงขึ้นอยูก่ บั การ ดําเนินงานที่แท้จริ งในอนาคตเท่านั้นเอง 24. ต้องรู้จกั รักตัวเองให้มาก ๆ อย่างที่รู้ ๆ กันอยูแ่ ล้วว่าการลงทุนนั้นมีความเสี่ ยงสูง พลาดท่าเสี ยทีอาจจะเสี ยคนหมดอนาคตได้ ด้งนั้นการลงทุนทุกรอบทุกครั้งควร ตระหนักพิจารณาอย่างถ้วนถี่หากมองแล้วมีโอกาสชนะมากกว่า 70 ถึง 80 เปอร์เซนต์ ค่อยน่าสู้ จงคิดถึงตัวเองและรักตัวเองเสมอเพราะถ้าลงทุนแล้วผิดพลาดเราเองนั้นละที่ จะเจ็บปวดสุด ๆ

แกะงบเสร็จก็เอา PE ที่เหมาะสมคูณกับ EPS เข้าไป PE ก็เอา PE เฉลี่ยของกลุ่มที่มนั อยู่ ก็จะได้ราคาที่เหมาะสมจ้า โดยส่วนใหญ่ PE ยิง่ ตํ่ายิง่ มี MOS มาก PE ส่วนใหญ่ที่วีไอเขาใช้กนั คือ น้อยกว่าหรื อเท่ากับ 10 เท่าครับ


สิ่งมหัศจรรย์ อนั ดับ8ของโลก อัตราทบต้นทบดอก ปี 1 10,000,000 10% 11,000,000 ปี 2 11,000,000 10% 12,100,000 ปี 3 12,100,000 10% 13,310,000 ปี 4 13,310,000 10% 14,641,000 ปี 5 14,641,000 10% 16,105,100 ปี 6 16,105,100 10%17,715,610 .... .... .... ปี 20 61,159,000 10% 67,274,171 พระเจ้า!! ถือ10,000,000บาท ผลตอบแทน10% ระยะเวลาลงทุน 20 ปี กําไร 572% สิ่ งที่ตอ้ งทํา 1.หาเงินต้น 10ล้านบาท 2.หาวิธีการได้ผลตอบแทนเฉลี่ย 10%ต่อปี 3.วิธีการนั้น รักษาเงินต้นและกําไรให้คงอยู่ 4.รักษาสุขภาพให้อยูไ่ ด้อีก 20ปี m เพื่อนๆๆพอมีวิธีดีๆๆข้อ 2-3 อะไรแลกเปลี่ยนกันได้ครับ ^^ ปกติเวลาผมจะลงทุนในหุน้ ผมจะสแกนพื้นถันหุน้ ก่อน ถ้าผ่านผมจะเอากราฟมาดูจงั หวะเข้าซื้ออีกที จังหวะเข้าซื้อนี่สาํ คัญนะครับ ถ้าเข้าแล้วมันขึ้น เราสามารถ Let Profit Run ได้ แสดงว่าเรามาถูกทางแล้ว ส่วนใหญ่หุน้ ที่ผมเข้าซื้อลงทุน ซื้อแล้วจะไม่คอ่ ยได้ขายออกไปเลยครับ เก็บเบี้ยใต้ถุน ร้าน เก็บกินปันผลไปเรื่ อยๆ ราคาหุน้ บนกระดานมันเป็ นแค่สิ่งสมมุติครับ มันเป็ นสิ่ งที่ หลอกตาเรา แต่พ้นื ถันและเงินปันผลที่ได้รับนั้น มันคือ ของจริ ง ครับ


หุ้น คือ การลงทุนเพือ่ ชีวติ (ทีด่ กี ว่า) ในวันข้ างหน้ า หุน้ คือชีวิต ถ้าเรารู้จกั เลือกหุน้ ที่เป็ นคู่ชีวติ เป็ น หุน้ คือ สะพานที่จะพาเราข้ามไปสู่ถนนแห่งดวงดาว ที่มีจุดหมายปลายทางที่มีชื่อว่า สถานีแห่งความเป็ นอิสรภาพทางด้านการเงิน การลงทุน ควรจะมีท้งั ความสุข และ มีเวลาว่างมากพอที่จะฝึ กฝนจิตใจคู่กนั ระหว่าง ทางโลกการลงทุนและทางธรรมะปฏิบตั ิ การลงทุนที่จะประสบผลสําเร็จได้น้ นั เรา ต้องรู้จกั ลงทุนทางด้านจิตใจเราก่อน ไม่ยนิ ดียนิ ร้าย ไม่วา่ หุน้ มันจะเหวี่ยงขึ้นหรื อ เหวี่ยงลง ในระยะสั้นหุน้ มันจะขึ้นหรื อลง มันก็ไม่ใช่หน้าที่ของเราที่จะต้องไปสนใจ มันมาก ในระยะยาวแล้ว ยังไงหุน้ มันก็วงิ่ ตามผลกําไรบริ ษทั อยูด่ ี หน้าที่ของเราคือ เสาะหาหุน้ ที่พ้นื ถันดีๆ ราคามี MOS ราคาหุน้ ที่มนั มีมูลค่าซ่อนเอาไว้ และยังถูกมาก หุน้ ดีๆมันก็เหมือนเพชรในตมที่ยงั ไม่มีใครค้นพบ เมื่อเราค้นพบเราแล้ว เราต้อง ประเมินมูลค่ามันให้ออก ซื้อไว้แล้วก็เก็บใส่ตเู้ ซฟเอาไว้ ที่สาํ คัญเลย อย่าเอาก้อนดินก้อนกรวด ที่ขา่ วทุกช่องเขาออก มีเจ้ามาบอกว่านี่คือ "เพชรแท้" เราในฐานะนักลงทุนต้องแยกแยะให้ออกเท่านั้นพอครับ การลงทุนที่มีแต่ความทุกข์ เห็นหุน้ ตกแล้วถึงกับกินไม่ได้ นอนไม่หลับ มีความกังวล เครี ยดตลอดเวลา นัน่ เขาไม่เรี ยกว่า การลงทุนครับ เขาเรี ยกว่า "เม่าเล่นหุน้ " หรื อ เป็ น" นักเลงหุน้ " สุดท้ายแล้วชีวิตการลงทุนมักจะจบไม่สวยไม่รวยครับ เชื่อผมเต๊อะ กลับ ตัวกลับใจตั้งแต่วนั นี้ยงั ทันก่อนที่จะ"ฝันสลาย" ที่ผมบอกเพราะผมก็เคยเป็ น "เม่า" มาก่อน เลยได้ประสบกามชีวิตมาเล่ามาบอกให้ "สหายเฟส" ได้ฟังกันครับ ฮ่า Vichit Invest นักลงทุนหุน้ เพื่อชีวิต เพื่อแสวงหาชีวติ ที่ดีกว่า เพื่อมุ่งหน้าไปสู่ ถนนนักลงทุน ที่มีชื่อว่า "อิสรภาพทางการเงิน"


เพิ่มเติม หุ้นพืน้ ฐานดี 

ลักษณะทีด่ ี 9 ประการของ ?หุ้นพืน้ ฐานดี? ที่มา ... http://www.stock2morrow.com 9th-December-2010, 21:49 ลักษณะที่ดี 9 ประการของ ?หุน้ พื้นฐานดี? ควรจะมีดงั ต่อไปนี้ 1.มียอดขายเพิ่มขึ้นเรื่ อยๆ หุน้ ที่ดีควรจะมียอดขายที่เติบโตขึ้น ถ้าเติบโตเพิ่มขึ้นได้ทุกปี ก็จะดีมาก แสดง ให้เห็นว่า ธุรกิจนั้นมีการขยายตัว และสามารถแข่งขันในอุตสาหกรรมนั้นได้ ส่วนหุน้ ที่มียอดขายสาละวันเตี้ยลงทุกปี ทุกปี น่าจะเป็ นหุน้ ที่ควรหลีกเลี่ยง หมายถึงว่า กิจการนั้นกําลังถูกคู่แข่งแย่งตลาดสิ นค้าไป หรื อไม่ธุรกิจหรื อ อุตสาหกรรมนั้นก็อาจจะอยูใ่ นข่ายอุตสาหกรรมตะวันตกดิน (sunset industry) หรื อผูบ้ ริ หารมีปัญหาในการดําเนินกิจการ แต่ยอดขายเพียงอย่างเดียวอาจจะไม่ เพียงพอที่จะบอกได้วา่ หุน้ นั้นเป็ นหุน้ พื้นฐานดีหรื อไม่ ต้องใช้ปัจจัยอีกหลาย อย่างในการวิเคราะห์ธุรกิจ ดังจะกล่าวต่อไป 2. มีการควบคุมต้นทุนการดําเนินงานที่ดี บริ ษทั ที่มีการควบคุมการดําเนินงานที่ดี เราสามารถตรวจสอบดูได้จากงบกําไร ขาดทุน โดยสังเกตจากต้นทุนสิ นค้าและค่าใช้จ่ายในการดําเนินงาน ควรจะไป ตามยอดขายของกิจการ ถ้ายอดขายสูงขึ้นค่าใช้จ่ายก็สามารถอนุโลมให้เพิ่มขึ้น


ได้ตามสัดส่วนยอดขายที่สูงขึ้น แต่ธุรกิจที่ยอดขายลดลงแต่ตน้ ทุน และ ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น นักลงทุนควรจะระวังและถ้าเกิดขึ้นเป็ นประจําควรตรวจสอบ ให้ดีก่อนลงทุนในบริ ษทั นั้น 3. ไม่ประสบปัญหาขาดทุน บริ ษทั ที่ดีควรจะมีความสามารถในการทํากําไรอย่างสมํ่าเสมอ บริ ษทั ที่ประสบ ภาวะขาดทุน เป็ นการแสดงให้เห็นถึงการขาดประสิ ทธิภาพของผูบ้ ริ หาร ถ้า ขาดทุนตลอดปี หรื อไม่ ก็ขาดทุนปี เว้นปี นักลงทุนควรเอาเวลาไปศึกษาธุรกิจ อื่นจะดีกว่า ยกเว้นท่านที่ชอบลงทุนใน ?หุน้ ฟื้ นคืนชีพ? (Turnaround) ที่ ขาดทุนมาหลายปี อยูด่ ีๆ ก็กลับมาทํากําไรได้เป็ นกอบเป็ นกํา อันนี้กแ็ ล้วแต่ ความถนัดของแต่ละคน แต่สาํ หรับท่านที่ยงั ไม่มีประสบการณ์ในการลงทุนมาก นัก ควรหลีกเลี่ยงหุน้ ที่มีผลดําเนินงานขาดทุนจะปลอดภัยกว่า 4. เงินทุนหมุนเวียนเป็ นบวก (Positive Working Capital) ธุรกิจที่ดีควรมีทรัพย์สินหมุนเวียนมากกว่าหนี้สินหมุนเวียน เพราะธุรกิจควรมี การเตรี ยมความพร้อมของเงินทุนระยะสั้นให้เพียงพอต่อการจ่ายคืนหนี้สิน ระยะสั้น มิฉะนั้นธุรกิจอาจจะมีปัญหาการเงินเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะบริ ษทั ที่ทาํ การกูย้ มื ระยะสั้นมาก อาจจะต้องสํารองเงินสดไว้พอสมควรทีเดียวสําหรับการ จ่ายคืนหนี้ที่เรี ยกเก็บภายใน เวลาไม่นาน ยกเว้นธุรกิจบางประเภท เช่น ธุรกิจค้า ปลีก หรื อค้าส่ง ที่รับเงินจากการขายให้กบั ลูกค้าเป็ นเงินสดแต่ได้เครดิตจาก ผูผ้ ลิตสิ นค้าเป็ นเวลาหลายเดือนก่อนที่จะจ่ายเงิน ในกรณี น้ ีเงินทุนหมุนเวียน อาจจะติดลบได้ ซึ่งกลับกลายเป็ นจุดแข็งสําหรับธุรกิจประเภทนี้เสี ยอีก เพราะ แทนที่จะต้องมีเงินสําหรับของที่อยูใ่ นสต็อกกลับเป็ นผูผ้ ลิตสิ นค้าที่จะต้องเป็ น


คนจ่ายเงินค่าสิ นค้าคงคลังแทน 5. มีหนี้ไม่มากหรื อมีหนี้อยูใ่ นฐานะที่เหมาะสม ตัวเลขคร่ าวๆ ที่ใช้กนั ส่วนใหญ่ในการตรวจสอบสภาพหนี้สินของธุรกิจก็คือ ? อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน? (Debt/Equity Ratio) ธุรกิจที่มีหนี้สินต่อทุนสูง แสดง ว่า มีการกูย้ มื หนี้ระยะยาวมาก และทําให้ธุรกิจนั้นมีความเสี่ ยงในการดําเนิน ธุรกิจสูง อัตราหนี้สินต่อทุนที่พอเหมาะที่ใช้กนั ทัว่ ไปคือ น้อยกว่าหนึ่งเท่า หรื อไม่เกินสองเท่า 6. มีกาํ ไรสะสม (Retain Earning) เพิ่มขึ้นทุกปี ธุรกิจที่ดีควรมีกาํ ไรสะสมเพิ่มขึ้นอย่างสมํ่าเสมอ และสามารถนํากําไรสะสม นั้นไปลงทุนต่อให้งอกเงยเพิ่มมากขึ้นจากเดิม ธุรกิจที่มีกาํ ไรสะสมลดลง นัก ลงทุนควรตั้งคําถามก่อนที่จะลงทุนในบริ ษทั นั้นว่า บริ ษทั นํากําไรสะสมนั้นไป ใช้ ทําอะไรและมีประโยชน์ต่อผูถ้ ือหุน้ หรื อไม่ 7. มีส่วนของผูถ้ ือหุน้ (Shareholder Equity) เพิ่มขึ้นสมํ่าเสมอ บริ ษทั ที่สามารถเพิ่มส่วนของผูถ้ ือหุน้ ได้อย่างสมํ่าเสมอนับว่า เป็ นธุรกิจที่ น่าสนใจ แสดงให้เห็นถึงความสามารถของผูบ้ ริ หารในการนําเงินของบริ ษทั ไป ลงทุนในกิจการที่มีประโยชน์ต่อผูถ้ ือหุน้ ควรหลีกเลี่ยงบริ ษทั ที่มีส่วนผูถ้ ือหุน้ ลดลงหรื อติดลบ แสดงว่า ธุรกิจนั้นที่ผา่ นมามีการขาดทุนเกิดขึ้น 8. กําไรต่อยอดขาย (Profit Margin) มากพอสมควร


ธุรกิจที่มีกาํ ไรต่อยอดขายสูง แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการควบคุม ต้นทุนของกิจการในระดับที่ดี แต่กาํ ไรต่อยอดขายสูง อาจจะดึงดูดให้คู่แข่งหน้า ใหม่ๆเข้ามาในอุตสาหกรรมนั้นมากขึ้น ในขณะที่ธุรกิจที่อยูใ่ นอุตสาหกรรมมี การแข่งขันสูงส่วนมากจะมีกาํ ไรต่อยอดขายตํ่า เพราะมีการตัดราคาสินค้าเพื่อ ดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาซื้อสิ นค้าและบริ การของตน ทําให้กาํ ไรของทั้ง อุตสาหกรรมลดลง ดังนั้น ธุรกิจที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันสูงก็ คือ ธุรกิจที่มีตน้ ทุนในการดําเนินงานตํ่า (Cost Leadership) 9. ผลตอบแทนต่อส่วนผูถ้ ือหุน้ (Return on Equity) สูง ผลตอบแทนต่อส่วนผูถ้ ือหุน้ คํานวณจาก กําไรหารด้วยส่วนผูถ้ ือหุน้ (Net Profit/ Equity) ธุรกิจที่มีผลตอบแทนต่อผูถ้ ือหุน้ สูงแสดงว่า ผูบ้ ริ หารสามารถ บริ หารเงินทุนของบริ ษทั ได้อย่างมีประสิ ทธิภาพ แต่บางธุรกิจที่มีเงินกูย้ มื สูงก็ อาจจะทําให้ผลตอบแทนต่อผูถ้ ือหุน้ สูงขึ้นได้ เพราะเงินลงทุนส่วนใหญ่จะอยู่ ในรู ปของหนี้สินระยะยาวมากกว่าส่วนผูถ้ ือหุน้ ดังนั้น ในบางกรณีอาจจะ จําเป็ นต้องใช้อตั ราส่วนผลตอบแทนต่อเงินลงทุน (Return on Total Capital) ใน การตรวจสอบความสามารถในการดําเนินงานของธุรกิจนั้น จะเหมาะสมมาก ขึ้น เนื่องจากได้รวมส่วนหนี้สินระยะยาวในการคํานวณไว้ดว้ ย ผลตอบแทนต่อเงินลงทุน หาได้จากกําไรหารด้วยส่วนของผูถ้ ือหุน้ และหนี้สิน ระยะยาว (Net Profit/(Longterm Liability+Equity)) บริ ษทั ที่มีผลตอบแทนต่อ เงินลงทุนสูง จะน่าสนใจกว่าบริ ษทั ที่มีอตั ราส่วนนี้ ต่าํ การค้นหาลักษณะที่ดี 9 ประการข้างต้นของหุน้ ที่อยูใ่ นตลาดหลักทรัพย์ จะช่วย


ให้ท่านมีความรู้ความเข้าใจในหุน้ ที่ท่านลงทุนมากขึ้น แทนที่จะรอให้คนอื่น หรื อนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ตามโบรกเกอร์ต่างๆ มาแนะนํา ?หุน้ พื้นฐานดี? ให้กบั ท่าน ท่านสามารถที่จะเริ่ มศึกษาและค้นหา ?หุน้ พื้นฐานดี? ได้ดว้ ยตัวท่านเอง ซึ่ง นับว่าเป็ นหนทางในการเป็ น ?นักลงทุนแบบเน้นคุณค่า? หรื อ Value Investor ที่ ดีทางหนึ่ง


วิธีเลือกซื้อหุน้ วิเคราะห์จากพื้นฐานของมัน เกริ่ นเรื่ อง: 15 เม.ย. 56 , View: 24453 , Post : 23 ที่มา.. http://my.dek-d.com/kpay/blog/?blog_id=10171979 เอาล่ะ หลังจากเปิ ดบัญชีเล่นหุ้นแล้ว ก็ได้ เวลาเริ่มเล่นหุ้นแล้ว แล้วเราจะซื้อตัวไหนดี วะ?? แน่นอนว่า เราจะซื้อสุ่มสี่ สุ่มห้าไม่ได้ บางคนแบบ "แก ชั้นชอบบริ ษทั นี้ อยากได้ตวั นี้อะ" ไม่ได้เด็ดขาดนะฮะ การซื้อหุน้ แบบนี้ ถือเงินสดไว้เฉยๆ เหอะ เพราะมีแววเจ๊งแน่นอน


สําหรับหน้านี้จะเขียนเรื่ องสายพืน้ ฐาน สิ่ งที่ตอ้ งดูคือ 1. ดูงบการเงิน ว่าขาดทุนหรื อกําไร แน่นอนสิ ไม่ดูวา่ กําไรหรื อขาดทุนก็แย่แล้ว คงไม่ มีใครอยากได้บริ ษทั ที่ขาดทุนมาถือไว้หรอก อย่าง TRUE เงี้ย รู้กนั ปะขาดทุนเยอะมาก ทั้งๆ ที่ดูมีโปรดักส์เยอะมาก แต่หลายคนก็เล่นนะ เพราะเค้ามองว่าอนาคตมันจะไปได้ ไกลไง แต่สาํ หรับเรา ไม่ดีกว่านะ 2. ดูว่าถ้ าไม่ มีหุ้นตัวนี้ จะกระทบประเทศเยอะมากมั้ย เอาง่ายๆ หุน้ ปตท เจอข่าวร้ายที ไร สุดท้ายก็ผา่ นมาได้ คิดดูสิวา่ ประเทศไทยที่ไม่มีปตทจะเป็ นไง ขนาดมีเพจเรี ยกร้อง พลังงานคืนมา ยังทําอะไรหุน้ ปตทไม่ค่อยได้เลย พูดง่ายๆ คือดูว่า หุ้นไหนจาเป็ นต่ อ ประเทศ ทีน่ ่ าสนใจก็ เช่ น ปตท การประปา (บ้านใครไม่ใช้ประปา?) หุน้ พวกนี้แน่นอน 1000000% ไม่มีทางเจ๊งหรอก 3. ดูตวั เลขที่จาเป็ น อันนี้จะพูดไงดีวะ มันเป็ นตัวเลขที่สามารถบอกพื้นฐานของหุน้ ได้ ว่า มันดีปะ วิธีเช็คก็คือเข้าไปที่ www.settrade.com ขวามือจะมีช่องให้กรอกตัวย่อของ หุน้ ชิบหาย ไม่รู้ตวั ย่อหุน้ อีก เอาไงดีวะ มีหุน้ ไหนในตลาดหลักทรัพย์บา้ ง ??? เอางี้ ไปดูที่นี่ก่อน http://www.settrade.com/C13_MarketSummary.jsp?detail=SETHD นี่ คือลิสต์หุน้ ทุกตัว อยากดูกลุ่มไหนตัวไหนก็ลองกดดู เอาล่ะ กลับมาที่ www.settrade.com ขวามือบนจะมีช่องให้กรอกตัวย่อหุน้ อืม สมมติ เราอยากดูของการประปา ตัวย่อ TTW ก็ใส่ไปเลย


พอเข้ามา เราก็จะเจอหน้าแบบนี้ เห็นตัวแดงๆ แบบนี้ แสดงว่าราคาหุน้ ล่าสุดมันตกลง มาจากวันก่อน ไม่ตอ้ งตกใจ หุน้ มีข้ ึนมีลงเป็ นธรรมดา


ส่วนตรงเมนูดา้ นบน สําคัญมากกกกกกก นี่แหละที่เราควรจะดู เริ่ มที่ - ราคาย้ อนหลัง ลองคลิกเข้าไปดูกไ็ ด้วา่ ราคามันเป็ นไงบ้าง อย่างตอนนี้เดือนเมษา มัน มียอ้ นหลังถึงกันยาปี ก่อน สมมติหุน้ ตอนนี้ราคา 10 บาท แต่หากเมื่อ 7-8 เดือนก่อน ราคา 15 บาท!!! บ้าเหรอ ใครจะซื้อจริ งปะ 5555 แต่ถา้ แต่ก่อนมันราคา 6-7 บาท ตอนนี้มาเป็ น 10 บาท เออก็สมเหตุสมผลนะ ดูมีแววว่าจะไปต่อ เริ่ มน่าสนใจ


- บริษทั /หลักทรัพย์ เป็ นการบอกรายละเอียดบริ ษทั เกี่ยวกับเรื่ องการเงิน มีงบการเงิน ให้อ่าน อย่างตรง แบบ 56-1 ล่าสุ ด เนี่ยควรอ่านนะ เพราะจะเป็ นเอกสารที่บอกว่า บริ ษทั นั้นๆ ทําธุรกิจอะไรบ้าง มีความเสี่ ยงอะไรบ้าง บลาๆ เพราะบางคนอาจไปสนใจ หุน้ ที่เราไม่คุน้ มาก่อน ดังนั้นการทําความรู้จกั บริ ษทั ให้ถ่องแท้เป็ นเรื่ องดีนะ อย่างเช่น มีบริ ษทั ในเครื ออะไรบ้าง อะไรทํานองนี้

ส่วนด้านล่างหน้าเดิมมีตวั เลขทางการเงินที่สาํ คัญ นี่กส็ าํ คัญมากกกกกกกกกกก ก็ดูวา่ รายได้เท่าไหร่ กําไรขาดทุนเป็ นไง อันนี้มนั เมคเซนส์อยูแ่ ล้ว ดูกนั เองได้ ที่สาํ คัญคือ


ต้องดูตรง ผลกาไรต่ อสินทรัพย์ หรือ ROA ย่อมาจาก Return on Assets และ ผลกาไร ต่ อส่ วนผู้ถอื หุ้น หรือ ROE ย่อมาจาก Return on Equity สองตัวนี้ยงิ่ มากยิง่ ดี ถ้าหุน้ ตัว ไหนมีสองตัวนี้เกิน 10% ติดต่อกันหลายๆ ปี นี่ถือว่าเริ ดดดด

- อันดับในอุตสาหกรรม ส่วนตรงนี้เราจะดูสามอย่าง ได้แก่ P/E , P/BV , Dvd Yield จะลองอธิบายคร่ าวๆ ทีละตัวนะ P/E หรือ Price-Earnings Ratio เป็ นการบอกว่าหุน้ ตัวนั้นถูกหรื อแพง คือต้องบอก ก่อนนะ บางทีหุน้ ราคา 5 บาท หลายคนอาจจะมองว่าถูก แต่จริ งๆ มันอาจจะแพงก็ได้ หรื อบางตัวราคา 150 บาท จริ งๆ มันอาจจะราคาถูกก็ได้นะ (งงปะ) โดย P/E จะเป็ นตัว บอก ซึ่งหาก P/E ยิง่ ตํ่าแสดงว่าหุน้ ตัวนั้นถูก เราสามารถซื้อได้โดยที่มนั ยังราคาไม่แพง มากเกินไป หลายๆ คนบอกว่า P/E ยิง่ ตํ่ายิง่ ดี แสดงว่าเรายังได้ของในราคาถูก แต่ P/E


ตํ่ามากไปก็ใช่วา่ จะดีนะ มันอาจจะหมายความว่า เป็ นหุน้ ที่ไม่มีใครอยากเล่นก็ได้ เพราะดูตามความจริ ง หุน้ ที่คนนิยมเล่นกัน P/E สูงมว๊ากกกก ดังนั้นถ้าเราเล่นหุน้ ที่ P/E สูง แสดงว่าเราจะเข้าซื้อหุน้ นั้นได้ในราคาแพง ณ ตอนนี้ เพราะคนอื่นๆ เค้ารุ มเล่นกันไปก่อนหน้าเยอะแล้ว มีคาํ ที่พดู บ่อยๆ คือ ตกรถ แปลว่า พลาดของถูกไปแล้ว ตอนนี้มนั ราคาแพงแล้วววว อย่างหุน้ โรงพยาบาลกรุ งเทพเนี่ย P/E สูงมาก หุน้ ก็ราคาตัวละประมาณ 160 แต่มนั ก็มีแววว่าจะไปต่อเรื่ อยๆ ดังนั้นหลาย คนก็นิยมกัน (เรายังอยากเล่นเลยแต่มนั แพงจริ งๆ) อะ เปรี ยบง่ายๆ ไปซื้อมือถือ 2 เครื่ อง เครื่ องนึงแม่งโคดแพงเลย อีกเครื่ องถูกกว่าเยอะ มาก หลายคนอาจมองว่า ซื้อเครื่ องแพงก็เสี ยเงินเยอะดิ ซื้อเครื่ องถุกดีกว่าโทรออกได้ เหมือนกัน แต่เครื่ องแพงที่มนั แพงนี่อาจจะเป็ นเครื่ องที่คนฮิตและสนใจมากกก ส่วน เครื่ องถูกอาจเป็ นยีห่ อ้ ที่ไม่มีใครสนใจ ใช้ๆไปอาจระเบิดได้ไรงี้ นึกออกยัง P/BV หรือ Price/Book Value ตัวนี้เค้าก็วา่ กันว่ายิง่ ตํ่ายิง่ ดี เพราะหากตํ่ากว่า 1 นัน่ หมายความว่า เราซื้อหุน้ นี้ได้ถูกกว่าราคาจริ งของมันหรื อถูกกว่ามูลค่าพื้นฐานของมัน ซะอีก แต่กเ็ ช่นเดียวกัน ตํ่ามากไปก็ไม่ดีนะ Dvd Yield หรือ Dividend Yield คือเงินปันผล การถือหุน้ เนี่ยมันมีเงินปันผลให้ดว้ ย นะ คล้ายๆ ดอกเบี้ย แน่นอน Dividend Yield ยิง่ สูงยิง่ ดี แสดงว่าหุน้ นั้นที่ผา่ นมาปัน ผลดี เค้าบอกว่าตัวนี้สาํ คัญนะ คือนึกออกปะ บริ ษทั ที่ตกแต่งบัญชี จะปลอมอะไรก็ ปลอมได้ แต่ปลอมเงินปันผลนี่ปลอมยากเพราะมันต้องจ่ายออกจริ งๆ ดังนั้น Dividend Yield ยิง่ สูงยิง่ ดีแน่


แล้วจะหาค่า 3 ตัวนีไ้ ด้ยงั ไง? ก็พอคลิกเข้าไปในเมนูอนั ดับอุตสาหกรรมแล้ว ก็เลือก ตามแบบในรู ปเลย ว่าจะดูค่าอะไร เรี ยงจากมากไปน้อยหรื อน้อยไปมาก โดยมันจะ เทียบให้ในอุตสาหกรรมเดียวกัน คือกลุ่มโรงบาลก็โรงบาลเหมือนกัน กลุ่มพลังงานก็ พลังงานเหมือนกัน ก็ลองเทียบกันดู

เอาล่ะ ถ้าหุน้ ที่เราเล็งไว้ โดยรวมมีพ้นื ฐานดีตามที่เขียนเล่าไปข้างบนแล้ว อาจจะโล่ง ใจได้เปราะนึงแล้วล่ะ ^^


ฝึ กตั้งกราฟ โดยพีว่ ชิ ิต ตั้งค่าตามนี้ นะครับ กด Setting ตรงมุมขวาบน รู ปฟันเฟื่ อง ข้างคําว่า Day ครับ แล้วสังเกตุกราฟนะครับ ถ้า สามเหลี่ยมสี แดง ชี้ลงแท่งแรก นัน่ คือ สัญญาณขาย ถ้า สามเหลี่ยมสี เขียว ชี้ข้ ึนแท่งแรก นัน่ คือ สัญญาณซื้อ ดูภาพ กราฟ Set Jas. ประกอบนะครับ http://chart.investor.co.th/m/Default.aspx?symbolnsource=SET*BK&page=หุน้ % 20SET*BK%20SET



หุ้นวัฏจักรคืออะไร? ที่มา .... http://www.stocktipsdd.com/cyclical-stocks/ หุ้นวัฏจักร คือ หุน้ ของบริ ษทั ที่มีผลกําไร ผลประกอบการ และราคาหุน้ ขึ้นลงตาม แนวโน้มของสภาพเศรษฐกิจนัน่ เองครับ ช่วงที่เศรษฐกิจดีๆ หุน้ แบบนี้จะรุ่ งเรื องมากๆ (จนอาจทําให้นกั ลงทุนบางท่านเผลอคิดไปว่ามันจะดีอย่างนั้นตลอดไป ) แต่ในทาง กลับกัน ในช่วงที่เศรษฐกิจมันยํา่ แย่ หุน้ วัฏจักรก็ร่อแร่ และมักจะตกตํ่าสุดๆ เช่นกัน จึง เป็ นที่มาของคําว่า “วัฏจักร” นัน่ แหละครับ หุน้ วัฏจักร กับ หุน้ เติบโต ต่างกันอย่างไร? (Cyclical Stocks vs Growth Stocks) หุน้ วัฏจักร กับ หุน้ เติบโต ต่างกันตรงที่ หุน้ เติบโตแม้วา่ จะอยูใ่ นช่วงสภาวะเศรษฐกิจ ยํา่ แย่ แม้การเติบโตจะมีการชะลอตัวอยูบ่ า้ ง แต่ผลประกอบการโดยรวมก็ยงั คงสร้าง กําไรออกมาอยูเ่ รื่ อยๆ แต่สาํ หรับหุน้ วัฏจักรแล้วจะมีการผันผวนตามสภาพเศรษกิจสูง มากๆ ยามเศรษฐกิจแย่ ก็อาจจะประสบกับการขาดทุนหนัก ซึ่งก็แน่นอนว่า ราคาหุน้ ก็ ลงหนักเช่นกัน แต่เมื่อเศรษฐกิจฟื้ นผลประกอบการกลับมาดี และธุรกิจกําลังอยูช่ ่วง peak ก็จะมีกาํ ไรสูงมาก จนสามารถเปลี่ยนจากขาดทุนมาเป็ นกําไรในชนิดที่เหนือ ความคาดหมายกันเลยทีเดียว ประเภทของหุ้นวัฏจักร สามารถแบ่งเป็ นสองกลุ่มหลักคือ 1. หุ้นสินค้าสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity) ตัวอย่างเช่น นํ้ามัน ปิ โตรเคมี แร่ เหล็ก แร่ สงั กะสี ถ่านหิ น เรื อ เป็ นต้นครับ หุน้ แบบนี้จะมีวฏั จักร ขึ้นลง ตามอุปสงค์ อย่างการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก และอุปทาน คือ จํานวนของผูผ้ ลิตราย


ใหญ่ๆ ในอุตสาหกรรม เช่น การเพิ่มของจํานวนโรงกลัน่ ในธุรกิจปิ โตรเคมี การเพิ่มขึ้นของจํานวนเรื อในธุรกิจขนส่งทางทะเล เป็ นต้นครับ 2. หุ้นสินค้าหรือบริการที่มีความต้ องการผันผวนตามสภาพเศรษกิจ ตัวอย่างเช่น หุน้ กลุม้ อสังหาริ มทรัพย์ กลุ่มวัสดุก่อสร้าง รถยนต์ อิเลคทรอนิกส์ รวมไปถึง หุน้ ธนาคาร บริ ษทั เงินทุนและหลักทรัพย์ดว้ ยครับ เนื่องจากเป็ นสิ นค้าที่ชะลอ การซื้อได้ และแต่ล่ะเจ้าไม่ได้มีความแตกต่างกันมากนัก ทําให้ช่วงตกตํ่าที่ ผูผ้ ลิตมีเยอะ แต่ผตู้ อ้ งการสิ นค้ามีนอ้ ย(ชะลอการซื้อ) ทําให้มีการตัดราคากันได้ ง่ายๆ การลงทุนในหุ้นวัฏจักร การเข้าซื้อหุ้นวัฏจักรนั้นจังหวะการลงทุนเป็ นเรื่องสาคัญมาก นอกจากนี้จะต้องอาศัย การค้นคว้า ติดตามหุน้ และต้องมีความกล้าด้วย การจะเลือกหุ้นวัฏจักร ให้ดูที่อุตสาหกรรม ที่มีแววว่ากําลังจะรุ่ งก่อน หลังจากนั้นให้ เลือกบริ ษทั ที่เด่นๆ ในอุตสาหกรรมนั้นๆ ที่มีความได้เปรี่ ยบในการแข่งขันมากกว่า บริ ษทั อื่น เรี ยกว่ามีดีวา่ งั้นเถอะ จากนั้นให้สงั เกตุค่า P/E ยิง่ ถ้ ามีค่าสู ง มันบ่ งบอกว่าถึงจุดตา่ สุ ดของวงรอบธุรกิจแล้ว เพราะราคาหุน้ สูงแต่มีกาํ ไรต่อหุน้ ตํ่า แสดงว่าความสามารถในการทํากําไรมันน้อยลง แล้ว เมื่อประกอบกับช่วงตกตํ่ายาวนานและรุ นแรง จะทําให้อุตสาหกรรมนั้นๆ มีกาํ ไร น้อยลงเรื่ อยๆ บริ ษทั ที่ไม่มีความได้เปรี ยบในการแข่งขัน ก็จะอยูไ่ ม่ได้ ล้มหายตายจาก ไปเรื่ อยๆ เช่นกัน อาจจะดูเลวร้าย แต่มนั หมายถึงอุปทานได้ลดลงไปด้วย หลังจากนั้น วงจรขาขึ้นก็จะกลับมา ในทางกลับกัน ค่า P/E ตา่ จะเป็ นสัญญาณที่บ่งบอกถึงจุดสิ้นสุ ดของช่ วงขาขึน้ ธุรกิจ กําลังอยูช่ ่วง peak มักจะมีกาํ ไรที่สูงมากทําให้ P/E ตํ่า ในเมื่อกําไรสูง ก็มีบริ ษทั ใหญ่ น้อยเปิ ดตัวเข้ามาชิงส่วนแบ่งเป็ นจํานวนมาก หรื อผลิตสิ นค้าหรื อบริ การออกมาเป็ น


จํานวนมาก ทําให้อุปทานสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว นําไปสู่จุดสิ้นสุดของช่วงขาขึ้นในที่สุด ตัวอย่างเช่น ช่วงปิ โตรเคมีบูมก็สร้างโรงกลัน่ กันเป็ นการใหญ่ กว่าจะเสร็จก็ลน้ ตลาด กันพอดี หรื อ เศรษกิจดีการส่งออกบูม เรื อขนส่ง ไม่พอ ก็ลงทุนสัง่ ต่อเรื อกันเป็ นการ ใหญ่ กว่าจะเสร็จได้ ก็เรื อล้น เกินความต้องการกันพอดีอีกเช่นกัน จะเห็นได้วา่ จังหวะการลงทุนในหุ้นวัฏจักรเป็ นเรื่องสาคัญมาก เข้าถูกจังหวะก็วิ่งฉิว ฟันกําไรได้ ในแบบที่ที่วา่ ทิ้งหุน้ โตเร็วไม่เห็นฝุ่ นกันเลยทีเดียว แต่ถา้ พลาดล่ะก็ ต้อง รอยาวกันเป็ น 5-10 ปี กว่าที่ราคาหุน้ จะมาที่เดิม หุน้ วัฏจักรในตลาดหุน้ ไทยก็มีให้เห็น อยูห่ ลายตัว ที่ชดั เจนก็หุน้ เดินเรื อ อย่าง PSL และ TTA เป็ นต้น หุน้ วัฏจักร เป็ นหุน้ ที่ทาํ กําไรได้มากที่สุด จริ งหรื อ! โดยส่ วนตัวแล้ว ผมคิดว่า หุ้นวัฏจักร ในตลาดหุ้นไทย เป็ นหุ้นทีท่ ากาไรได้มากที่สุด จริงครับ แต่ เราต้ องมอง cycle ของธุรกิจนั้นๆ ให้ ขาดด้ วย เพราะการขึน้ ลงที่รุนแรง ของมัน ถือเป็ นดาบสองคมต่ อนักลงทุนอย่ างเราเช่ นกันครับ ถ้านักลงทุนเข้าใจในวงจรของธุรกิจนั้นเป็ นอย่างดี และเข้าลงทุนได้ถกู จังหวะ ก็จะ สามารถทํากําไรได้มากมายเลยทีเดียว แต่กอ็ ย่าลืมว่า เมื่อธุรกิจกําลังอยูช่ ่วง Peak จะ ขึ้นแรงแค่ไหน เมื่อธุรกิจเข้าสู่ขาลงก็ลงแรงเช่นกัน ดังนั้น อย่าหลงหุน้ ติดหุน้ จนคิด ไปเองว่าหุน้ วัฏจักรจะยังให้ผลกําไรไปเรื่ อยๆ นานๆ ทุกสรรพสิ่ งไม่มีอะไร จีรัง ยัง่ ยืน เป็ นธรรมชาติอยูแ่ ล้ว ได้กาํ ไรแล้วก็ออกมาก่อน ถึง หุน้ จะไปต่อก็ไม่เป็ นไรเราได้กาํ ไรไปแล้ว อย่าโลภเข้าไปซื้ออีก เกิดหุน้ ลงหนัก กําไร ที่ได้มาก็จะคืนตลาดเขาไปซะหมดไม่รู้ดว้ ยนา ดีไม่ดี ติดหุน้ ออกไม่ทนั อาจต้องรอวัฏ จักรรอบใหม่ เป็ น 5 ปี 10 ปี (หรื อนานกว่านั้น) กันเลยทีเดียว กว่าที่มนั จะมาราคาเดิม ผมว่า เสี ยดาย ย่อมดีกว่า เสี ยใจ แน่นอนครั


e-bookและความรู้ต่างๆ 1.เซียนหุน้ พันล้าน เสี่ ยยักษ์ http://www.wcrich.com/wpcontent/uploads/2015/03/%E0%B8%81%E0%B8%B9%E0%B8%A3%E0%B8%B9 %E0%B8%AB%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8 %B1%E0%B8%99%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99_%E0 %B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B8%A2_%E0%B8%A 7%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%87%E0%B8 %A8%E0%B9%8C.pdf 2.หนังสื อสอนการวิเคราะห์หุน้ ด้วยกราฟ จากแมงเม่าสาราญ ณัฐวัฒน์ อ้นรัตน์ กระโจมไฟ 1 http://www.efinancethai.com/Learning/Analyst/relate_file/Technical_Analysis_by_ Nattawat_070913_1.pdf

3.วิเคราะห์ Volume จากfacebook/เซียว จับอิดนึ้ง http://issuu.com/259229/docs/volumeanalysisth


4.บันทึกอ่านหนังสื อจิตวิทยาการลงทุน จาก facebook/ รีววิ หนังสือหุ้น แปลและเรี ยบเรี ยงโดย พี่ชยั พร รัตนนนท์ชยั สุข

ตอน 1 http://bit.ly/1fN2FZX ตอน 2 http://bit.ly/1DdWM2G 5.พื้นฐานการลงทุนในหุน้ สําหรับมือใหม่ … อ่านฟรี อ่านแล้วดี !! จาก ...TIF Presentations อ่านเข้าใจง่าย จาก 4 หลักสูตรของ TSI – Thailand Securities Institute (องค์กรของตลาดหลักทรัพย์ฯ) http://thailandinvestmentforum.com/2014/10/22/tsi_slides/ 6.เรี ยนรู้ดูจาํ "พื้นฐานทฤษฏี Dow แนวโน้ม" จาก FACEBOOK/มาร์ อัครวัฒน์ ธนชิตนวรัตน์ https://www.facebook.com/Akarawat99/media_set?set=a.780671965346175.107374 1879.100002101358163&type=3


สุดท้ายนี้ หากมีขอ้ สงสัยคําศัพท์หรื อความหมายหรื อต้องการความรู้เพิ่มเติม แนะนํา googleและ youtube ครับ สามารถเรี ยนรู้ผา่ นโลกอินเตอร์เน็ตได้ดว้ ยตัวคุณ Web ทรงคุณค่า www.THAIVI.ORG นักลงทุนเน้นคุณค่า www.set.or.th ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

Youtube(บางส่วนที่แนะนําครับ) 1.

Bualuang iChannel

เกร็ดความรู้การลงทุน

2.

efin School

3.

cwayinvestment

4.

แมงเม่าคลับ

5.

settradeclub SETGroup

6.

MoneyTalkChannel

7.

tsithailand

8.

The Stock Exchange of Thailand

สอนการใช้กราฟ e-fin ความรู้การลงทุน สายtrader

เทรดเป็ นระบบ คุณมด ความรู้ต่างการลงทุน

รายการmoney talk

ห้ องเรี ยนนักลงทุน ความรู้ตรงจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย


สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณผูใ้ หญ่ใจดีมา ณ โอกาสนี้ ที่มอบความรู้เป็ นสาธารณะ แก่นกั ลงทุนรุ่ นต่อไปครับ 1.พี่วชิ ิต 2.เสี่ ยยักษ์ 3.แมงเม่าสาราญ ณัฐวัฒน์ อ้นรัตน์ 4. facebook/เซียว จับอิดนึ้ง 5. facebook/ รีววิ หนังสือหุ้น 6. http://thailandinvestmentforum.com 7. FACEBOOK/มาร์ อัครวัฒน์ ธนชิตนวรัตน์

ขอให้ทุกท่านมัง่ มีและมีความสุขกับการลงทุน และพร้อมใจพัฒนาประเทศชาติไทยให้กา้ วหน้าต่อไป และรวมถึงตัวกระผมและครอบครัวด้วยนะครับ…สาธุ markOto (14/10/58)


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.