มารีสาร โรงเรียนมารีวิทย์บ่อวิน ปีการศึกษา 2561 ภาคเรียนที่ 2

Page 1

149


พระคุณเจ้าฟรังซิสเซเวียร์ วีระ อาภรณ์รัตน์ พระสังฆราช สั ง ฆมณฑลเชี ย งใหม่ เป็ น ประธานในพิ ธี ฉลองวั ด นั ก บุ ญ สเตเฟน อ.แม่จนั จ.เชียงราย เนือ่ งในโอกาสครบรอบ 10 ปี โดยมีคณะผูบ้ ริหาร เครือโรงเรียนมารีวิทย์เข้าร่วมในพิธี

150


ชาวคาทอลิกให้ความส�ำคัญกับพระแม่มารียเ์ ป็นอย่างมาก ในฐานะมารดาของพระเยซู ผู้มาจากสวรรค์ซึ่งสะท้อนความเชื่อ ในเรื่อง พระเจ้าทรงเตรียมคนที่ดีที่สุดส�ำหรับพระผู้ไถ่ จนท�ำให้ ศาสนจักรคาทอลิกได้จัดพิธีเฉลิมฉลองแด่พระแม่มารีย์ และ เพือ่ เป็นการร�ำลึกถึงแม่พระผูเ้ ป็นองค์อปุ ถัมภ์ของโรงเรียนมารีวทิ ย์ บ่อวิน ทางโรงเรียนจึงได้จดั พิธฉี ลองแม่พระบังเกิด ซึง่ เป็นกิจกรรม ที่แสดงถึงความรัก ความกตัญญูกตเวที และการเรียนรู้วัฒนธรรม ประเพณีของศาสนาคริสต์ได้เป็นอย่างดี

1


ครูใหญ่ในฐานะผู้ดูแลนักเรียนทุกคน มีความมุ่งมั่นตั้งใจจริงในการจัด การศึ ก ษาตามนโยบายในการจั ด การศึ ก ษาของเครื อ โรงเรี ย นมารี วิ ท ย์ เพื่อสร้างเยาวชนที่จะเป็นก�ำลังส�ำคัญในการพัฒนาประเทศให้มีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่ ง ยื น โรงเรี ย นปรารถนาให้ นั ก เรี ย นมี ค วามมุ ่ ง มั่ น ในการเรี ย น เพื่ อ มี ผลการเรียนที่ดี มีความประพฤติเรียบร้อยกิริยามารยาทที่ดี มีวาจาสุภาพต่อผู้อื่น มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง และปลูกฝังคุณค่าของเครือโรงเรียนมารีวิทย์ 4 ประการ ให้กับนักเรียนคือความรัก (Loving) ปลูกฝังให้นักเรียนมีความรัก ความกตัญญู ต่อพ่อแม่ คุณครู ญาติพี่น้อง เพื่อน และเพื่อนมนุษย์ ความเอาใจใส่ (Caring) ต้องฝึกที่ครูก่อน ครูต้องรักเด็ก เมื่อเกิดความรักจะน�ำมาสู่การดูแลสิ่งที่เรารัก เพื่ อ ให้ เขาประสบความส� ำ เร็จ ต้องปลูกฝังนั ก เรี ย นให้ มีจิ ต ใจที่ ดี คิ ด ถึ ง ผู ้ อื่น คิดถึงสังคม มีความรับผิดชอบในการอยู่ร่วมกับผู้อื่น การแบ่งปัน (Sharing) ครูและนักเรียนต้องรูค้ ณ ุ ค่าของการแบ่งปัน ประโยชน์ของการแบ่งปัน ท�ำให้มคี วามรอบคอบ ปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ตา่ ง ๆ รู้จักใช้สิ่งสาธารณประโยชน์ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข การให้ (Giving) การรู้จักเสียสละ ผู้เสียสละ จะต้องเป็น ผูท้ มี่ จี ติ ใจดี ท�ำสิง่ ใดต้องไม่คดิ หวังผล ต้องท�ำแล้วมีความสุข แต่ถา้ หวังผลจะท�ำให้มคี วามทุกข์ เพราะอาจไม่ได้กลับมาตามทีค่ ดิ คุณค่าทั้ง 4 ประการเด็ก ๆ ทุกคนต้องมี จึงจะสามารถอยู่ในยุคเปลี่ยนแปลงของโลกศตวรรษที่ 21 ได้ โรงเรียนน�ำนวัตกรรม พัฒนาเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน และใช้ในการบริหารงานด้านการศึกษาให้มีคุณภาพ สู่มาตรฐานสากล เน้นความปลอดภัยและห่างไกลยาเสพติด พัฒนาครูให้มีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง ขอขอบคุณท่านผู้ปกครอง ที่ให้ความไว้วางใจในการจัดการศึกษา อบรมนักเรียน ตลอดจนให้ความร่วมมืออย่างดี ในกิจกรรมต่าง ๆ ของโรงเรียน ขอบใจนักเรียนทุกคนที่ปฏิบัติตนอยู่ในโอวาทของครู และปฏิบัติตามกฎระเบียบของโรงเรียน ด้วยดีตลอดมา สุดท้ายนี ้ ปกี ารศึกษา 2561 กำ� ลังจะสิน้ สุดลง ขอพระแม่มารีย ์ องค์อปุ ถัมภ์โรงเรียนมารีวทิ ย์บอ่ วินโปรดประทานพระพร ให้นกั เรียนระดับชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 6 รุน่ 7 จงประสบความส�ำเร็จในการศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย และขอแสดงความยินดี กับนักเรียนชัน้ อนุบาลปีที่ 3 ทีจ่ บหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย ตลอดจนประทานพระพรให้ทา่ นผูป้ กครอง นักเรียน ครู บุคลากร ทุกคนมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ ตลอดไป

2

ด้วยความปรารถนาดี นางพัชรา ลายประดิษฐ์ ผู้อ�ำนวยการโรงเรียนมารีวิทย์บ่อวิน


มารีสารบ่อวิน ปีการศึกษา 2561

ดร.สตีเวน ชนะ กิตเิ กียรติศกั ดิ ์ ได้รบั เกียรติให้เป็นผูร้ ว่ มเสวนาพิเศษ ในงานสัมมนาผูน้ า� ทางการศึกษาแห่งประเทศไทย ประจ�าปี 2561 (TELS 2018 : Thailand’s Education Leader Symposium 2018) ณ อิมแพค เมืองทองธานี จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2561 โดยการสัมมนานี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน : แนวโน้มคุณภาพ การศึกษาส�าหรับทุกคน” ซึ่งมีผู้ทรงคุณวุฒิทั้งในและต่างประเทศที่ประสบความส�าเร็จอย่าง โดดเด่นด้านการบริหารการศึกษาเข้าร่วมเป็นวิทยากรในการสัมมนาครัง้ นี ้ อาทิเช่น Mr.Andreas Schleicher (Director for the Directorate of Education and Skills : OECD) Professor Tan Oon Seng, Ph.D. (Professor and Centre Director, Centre for Research in Child Development : NIE, Republic of Singapore) รองศาสตราจารย์ ดร.ศิริเดช สุชีวะ (คณบดีคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) การเสวนาพิเศษได้มีการแสดงวิสัยทัศน์ และประสบการณ์ของผู้บริหารในหลายประเทศ ได้แก่ Mr.Wong Chi Keung, Eric (Principal of Sing Yin Secondary School, Hong Kong Special Administrative Region of the People’s Republic of China) Ms.Shiori Moriyama (Principal of Namazuta Elementary School, Japan) Mr.Nguyen Thanh Tung (Principal of Pathway School, Socialist Republic of Vietnam) ดร.สตีเวน ชนะ กิติเกียรติศักดิ์ (ประธาน กรรมการบริหารเครือโรงเรียนมารีวิทย์ ประเทศไทย) โดยหัวข้อในการเสวนาเป็นเรื่องที่ เกีย่ วกับแนวโน้มทางการศึกษาทีม่ คี ณ ุ ภาพ : การบริหารจัดการ วิธกี ารสอนการออกแบบและ การจัดการเรียนการสอน เทคโนโลยี การสร้างแรงบันดาลใจ สภาพแวดล้อมในสถานศึกษา

เพื่อให้ผู้ปกครองและนักเรียน ได้รับทราบข่าวสารของโรงเรียน เพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบ้านกับโรงเรียน ผู้ปกครองกับครู นักเรียนกับเพื่อนนักเรียน เพื่อเผยแพร่กิจกรรมของนักเรียน เพือ่ เพิม่ พูนความรูท้ างวิชาการ ส่งเสริมการแสดงออก และความสามารถของนักเรียน

วารสารเพื่อประชาสัมพันธ์ ปีที่ 9 ฉบับที่ 17

1. 2. 3. 4.

วัตถุประสงค์

คณะผู้จัดทำ� เจ้าของ

โรงเรียนมารีวิทย์บ่อวิน 301 ม.3 ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี โทร. 08-4784-1100, 038-350605-9 โทรสาร 038-350609 http://bowin.maryvit.ac.th E-mail : bowin@maryvit.ac.th

ที่ปรึกษา

นายชวน กิติเกียรติศักดิ์ ผู้รับใบอนุญาตโรงเรียนมารีวิทย์บ่อวิน ดร.สตีเวน ชนะ กิติเกียรติศักดิ์ ประธานกรรมการบริหารเครือโรงเรียนมารีวทิ ย์ นายไมเคิล ชนินทร์ กิติเกียรติศักดิ์ ผู้จัดการโรงเรียนมารีวิทย์บ่อวิน นางพัชรา ลายประดิษฐ์ ผู้อำ�นวยการโรงเรียนมารีวิทย์บ่อวิน ดร.ธันฐกานต์ ทองสินเกียรติ หัวหน้าฝ่ายวิชาการเครือโรงเรียนมารีวิทย์ ครูสายสมร ไชยตรี หัวหน้าฝ่ายธุรการ การเงินและฝ่ายปกครอง

บรรณาธิการ

มาสเตอร์กฤษ ทองกลอย

ผู้ช่วยบรรณาธิการ

ครูดวงใจ สุขพันธุ์ถาวร ครูวราภรณ์ ประชุม ครูวรัญญา จินกระวี ครูประภาศรี คำ�ทุม

ฝ่ายเรียบเรียงข้อมูล/พิสูจน์อักษร มาสเตอร์ปิยะวัฒน์ พันธมาศ มาสเตอร์ณัฏฐภัทร มูลหิลัญจน์เดชา ครูจิราพรรณ พินิจมนตรี ครูณัฏฐาพร ธิสาคร ครูสุกัญญา อังคณา

ฝ่ายศิลป์/ภาพ

มาสเตอร์กิรติ นามวงษา พิมพ์ที่ : ชลบุรีการพิมพ์ โทร. 038-274991

http://www.maryvit.ac.th

CONTENTS

สารผู้อำ�นวยการ2����������������������������������������������2 หน้าต่างคนเก่ง..................................................4 Congratulations อนุบาล...............................8 Students of the month...............................22 Family 4.0 ห้องเรียนพ่อ-แม่...........................46 English Camp 2018......................................48 ให้ความรักก่อนให้ความรู้..................................52 บทสัมภาษณ์พิเศษ............................................68 Change for the better.................................70 Winter in China.............................................72 งาน TELS.........................................................76 สายใยแห่งรัก....................................................84 นานาทัศนะ.......................................................86 บันทึกความทรงจำ� ชั้น ม.3/19�������������������������90 ทำ�เนียบนักเรียน ชั้น ม.3/19�����������������������������91 บันทึกความทรงจำ� ชั้น ม.3/29�������������������������95 ทำ�เนียบนักเรียน ชั้น ม.3/29�����������������������������96 บันทึกความทรงจำ� ชั้น ม.3/31�������������������������100

บรรณาธิการ

ทำ�เนียบนักเรียน ชั้น ม.3/31���������������������������������� 101 บันทึกความทรงจำ� ชั้น ม.3/41������������������������������ 105 ทำ�เนียบนักเรียน ชั้น ม.3/41���������������������������������� 106 จินตนาการสู่การสร้างสรรค์................................... 110 ทำ�ไมคุณครูต้องทำ�วิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียน1������� 112 บันทึกความทรงจำ� ชั้น ม.6/11������������������������������ 114 ทำ�เนียบนักเรียน ชั้น ม.6/11���������������������������������� 115 บันทึกความทรงจำ� ชั้น ม.6/21������������������������������ 118 ทำ�เนียบนักเรียน ชั้น ม.6/21���������������������������������� 119 บันทึกความทรงจำ� ชั้น ม.6/31������������������������������ 122 ทำ�เนียบนักเรียน ชั้น ม.6/31���������������������������������� 123 TCAS คืออะไร....................................................... 126 Cebu, Philippines.............................................. 128 นักเขียนรุ่นจิ๋ว........................................................ 130 ประสบการณ์การฝึกงาน........................................ 132 แซวครูด้วยภาพ..................................................... 140 แซวนักเรียนด้วยภาพ............................................. 142 อบรมพัฒนาบุคลากร............................................. 144

สวัสดีครับ ท่านผู้ปกครอง นักเรียนและท่านผู้อ่านทุกท่าน มารีสารฉบับนี้เป็นฉบับที่ 17 ปีที่ 9 ประจ�ำปีการศึกษา 2561 โรงเรียนมารีวิทย์บ่อวิน ยังคงมีความมุ่งมั่นพัฒนาการจัดการศึกษาให้มีคุณภาพเพื่อพัฒนาศักยภาพของนักเรียนให้ไปสู่ เป้าหมายสูงสุด และยังปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม คุณค่าของเครือโรงเรียนมารีวิทย์ ทั้ง 4 ประการ อันได้แก่ ความรัก ความเอาใจใส่ การแบ่งปัน และการให้ ซึ่งจะต้องเรียนรู้ควบคู่กับการพัฒนา ไปพร้อม ๆ กัน ในปีการศึกษานี้ โรงเรียนได้น�ำนวัตกรรม และเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการจัดการเรียน การสอนเพื่อเพิ่มศักยภาพของครูและเป็นแหล่งการเรียนรู้ของนักเรียน ให้ก้าวทันกับสังคมโลก ทีเ่ ปลีย่ นแปลงอยูต่ ลอดเวลา นอกจากนัน้ ยังได้จดั กิจกรรมทีส่ ง่ เสริมในด้านจินตนาการ ซึง่ ก่อให้เกิด ความคิดสร้างสรรค์ หากนักเรียนได้รับการพัฒนาและส่งเสริมเต็มศักยภาพจะมีความสมดุล ทั้งทางร่างกาย จิตใจ การกล้าแสดงออก และมีความเชื่อมั่นในตนเอง ในโอกาสนี้ขอแสดงความยินดีกับนักเรียนระดับชั้นอนุบาลปีที่ 3 ที่ส�ำเร็จการศึกษาหลักสูตร ปฐมวัยและนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่ส�ำเร็จการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ขอขอบคุ ณ ท่ า นผู ้ ป กครองทุ ก ท่ า นที่ ยั ง คงให้ ค วามไว้ ว างใจส่ ง บุ ต รหลานเข้ า มาเรี ย นที่ โรงเรียนมารีวทิ ย์บอ่ วิน และช่วยสนับสนุนกิจกรรมต่าง ๆ ของโรงเรียนด้วยดีเสมอมา ขอให้พระแม่มารีย์ โปรดประทานพรให้ผู้ปกครองและนักเรียนทุกคนมีความสุขและความเจริญรุ่งเรืองตลอดไป 3


เด็กหญิงภวรัญชน์ มหาสาโร ชั้นอนุบาล 3/10

ได้รับรางวัล Yamaha Gold Prize ประเภท Piano Solo รุ่นอายุไม่เกิน 7 ปี ในการแข่งขัน Yamaha Thailand Music Festival 2019 ณ ห้องประชุม ดร.ถาวร พรประภา อาคารสยามกลการ วันอาทิตย์ที่ 28 ตุลาคม 2561

หนูรู้สึกตื่นเต้นและดีใจมากค่ะ ที่ได้รับรางวัลนี้ เพราะหนูต้องใช้ความอดทนและเวลาในการฝึกซ้อมนานมากค่ะ โดยฝึกซ้อม ในทุก ๆ วันหลังเลิกเรียน ท�ำให้หนูรวู้ า่ หนูได้ทำ� ในสิง่ ทีห่ นูชอบ หนูตอ้ งขอขอบคุณ คุณพ่อ คุณแม่ และคุณครูทคี่ อยให้การสนับสนุน ให้หนูได้มีโอกาสแสดงความสามารถและท�ำในสิ่งที่หนูรัก หนูขอบคุณค่ะ 4


รางวัลชนะเลิศ การแข่งขันรายการ เศรษฐศาสตร์-เศรษฐี ณ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศรีราชา วันพฤหัสบดีที่ 30 สิงหาคม 2561

เศรษฐศาสตร์-เศรษฐี เป็นการแข่งขันการจ�ำลองระบบการค้า การแลกเปลี่ยนในชีวิตจริง โดยจะแบ่งเป็นบริษัท และสมมุติตัวเรา เป็นผู้จัดการบริษัทโดยมีทรัพยากรต่าง ๆ มาให้ ซึ่งบริษัทจะต้องวางแผนคิดวิเคราะห์และค�ำนวณในการสร้างสินทรัพย์ให้มีมูลค่าสูงที่สุด ส่วนใหญ่เป็นจ�ำพวกอสังหาริมทรัพย์ เช่น บ้าน คอนโดมิเนียม โรงแรม โดยจะมีมูลค่าของสินทรัพย์เหล่านั้นที่แตกต่างกันออกไป และ ยังใช้ทรัพยากรในการสร้างงานหรือสามารถ ซือ้ -ขาย ทรัพย์สนิ ระหว่างบริษทั กลุม่ อืน่ ๆ ได้ โดยเมือ่ หมดเวลาการแข่งขันบริษทั ใดมีสนิ ทรัพย์ มูลค่าสูงทีส่ ดุ ก็จะเป็นผูช้ นะ ซึง่ พวกเราทัง้ 3 คน รูส้ กึ ตืน่ เต้น เพราะมีโรงเรียนทีส่ ง่ ทีมนักเรียนเข้าแข่งขัน ทัง้ หมด 16 ทีม การแข่งขันในครัง้ นี้ ท�ำให้พวกเราได้รับประสบการณ์ที่ดี เพราะพวกเราจะต้องมีการวางแผน การคิดวิเคราะห์ การค�ำนวณ รวมถึงการร่วมกันท�ำงานเป็นทีม ที่จะส่งผลให้พวกเราประสบความส�ำเร็จ พวกเราทั้ง 3 คน รู้สึกดีใจ และภาคภูมิใจกับรางวัลที่ได้รับมา อีกทั้งประสบการณ์ที่ดีที่เพิ่มเติม จากการเรียนในห้องเรียน พวกเราต้องขอขอบคุณ คณะครูผู้สอนและโรงเรียนที่ให้การสนับสนุนในการไปแข่งขันครั้งนี้

นายณัฐภัทร ศุภรัตน์โสภิณ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/2 นายยศพล เรืองสกุล นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/2 นายศิริศักดิ์ ยศอ่อน นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/2

5


รางวัลชมเชย การแข่งขันวาดภาพ หัวข้อ “เพลินศิลป์ถิ่นนาวี” ครั้งที่ 1 ประจ�ำปี 2561 ณ บริเวณสโมสรสัญญาบัตรศูนย์ฝึกทหารใหม่ อ�ำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี วันอาทิตย์ที่ 30 กันยายน 2561

“เพลินศิลป์ถนิ่ นาวี” เป็นกิจกรรมทางศิลปะทีจ่ ดั ขึน้ เพื่อให้นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไปได้เข้ามาท�ำ กิจกรรมทางศิลปะร่วมกัน เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนและ ประชาชนได้แสดงความสามารถของตนเองในงานศิลปะ และใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและสังคม ทั้งยัง เป็นการส่งเสริมและประชาสัมพันธ์การท่องเทีย่ วเชิงอนุรกั ษ์ ทางธรรมชาติในพื้นที่สัตหีบ ในครัง้ นีท้ างโรงเรียนมารีวทิ ย์บอ่ วิน ได้เป็นส่วนหนึง่ ในการแข่งขันประกวดวาดภาพ พวกเราตัวแทนนักเรียน โรงเรียนมารีวิทย์บ่อวินรู้สึกประทับใจมากในการแข่งขัน เพราะสนุก และตื่นเต้น เนื่องจากครั้งแรกที่ไปถึงนั้น มีผู้ เข้าร่วมการแข่งขันเป็นจ�ำนวนมาก ท�ำให้รู้สึกกดดัน แต่พอ ได้ เริ่ ม ลงมื อ ท� ำ การแข่ ง ขั น แล้ ว ความกดดั น ที่ มี ก็ ห ายไปและพวกเราก็ พ ยายามตั้ ง ใจวาดภาพเพื่ อ จะให้ ผ ลงานนั้ น ออกมาดี ที่ สุ ด พวกเรามีความสุขต่อประสบการณ์ดี ๆ ในการแข่งขันประกวดวาดภาพครั้งนี้มาก พวกเราต้องขอขอบคุณทางโรงเรียน ผู้ปกครอง ที่คอยสนับสนุนและคุณครูที่ให้ค�ำแนะน�ำ แนะแนวความรู้ในการวาดภาพต่าง ๆ และยังสามารถน�ำประสบการณ์ที่ได้จากการท�ำกิจกรรม ในครั้งนี้ไปใช้ในการต่อยอดกิจกรรมอื่น ๆ ได้

6

เด็กหญิงวรินทร เหลี่ยมมณี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/10 นายชลธาร แววน�ำ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/1


การประดิษฐ์เครื่องบินร่อนบังคับ

จากการได้เรียนเสริมประสบการณ์ในช่วง Winter ทางโรงเรียนได้มีการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึง่ พวกเรามีความสนใจและได้รว่ มท�ำกิจกรรม การประดิษฐ์เครือ่ งบินร่อนบังคับ โดยเริม่ วางแผนในการท�ำและใช้ความรูท้ างด้านคณิตศาสตร์ เรื่องการวัด ความเท่ากัน การคาดคะเน น�้ำหนักและรูปร่างทางคณิตศาสตร์ และใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ในเรื่องความสมดุล ซึ่งในการประดิษฐ์เริ่มจากการออกแบบ การค�ำนวณอย่างแม่นย�ำเพื่อให้เกิดความสมดุลของล�ำตัวเครื่องบิน และความกว้างของปีก และขนาดความยาวของตัวเครื่องบินจะต้องมีอัตราส่วน 6 เท่า คือความกว้างของปีก 15 cm ความยาวของปีกต้องมีขนาด 90 cm ซึ่งในการออกแบบ อัตราส่วนแต่ละส่วนมีความสำ�คัญมาก เพราะจะส่งผลต่อ ความสมดุลของเครื่องบินได้ หลังจากประดิษฐ์เครื่องบินร่อนได้สำ�เร็จ ก็ได้นำ�มาทดลองในการบินซึ่งผลปรากฏว่า สามารถบินได้นาน 20 วินาที พวกเราจึงหาสาเหตุและค้นพบว่าการบังคับและควบคุมหางเสือยังไม่ดีพอ จึงได้มีการปรับแก้ไขและทดลองอีกครั้งผลปรากฏว่าบินได้นานขึ้น ซึ่งจาก ประสบการณ์ในครั้งนี้ทำ�ให้พวกเราได้รู้จักการวางแผน การคิดแก้ไขปัญหา การนำ�ความรู้ที่เรียนมาใช้ในการประดิษฐ์และทดลอง ซึ่งพวกเราจะพัฒนา และต่อยอดความรู้ต่อไป นายกิตติศักดิ์ นายศุภวิชญ์ นายชลาดล นายอภิชาติ นายมังกร

อุดมศักดิ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/2 เหลาแตว ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 แสงเพชร ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/1 มะปะเข ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/2 ไชยเสนา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/2

7


อนุบาล 3/1 คุณครูวันเพ็ญ สิงขร คุณครูสุธิดา ศีลให้อยู่สุข ซ้ายไปขวา แถวที่ 1 ยืน แถวที่ 2 กลาง แถวที่ 3 นั่ง 8

เด็กชายอิทธิพัทธ์ อุดมมงคล เด็กชายภาคิณ อินทรมี เด็กชายณภัฏ แย้มพิกุล เด็กชายน�ำตะวัน จันทะรศ เด็กชายพชรพล สบกระโทก เด็กหญิงตรีทิพยนิภา ทาโคกสูง เด็กหญิงณัฐภัสสร สุบันนารถ เด็กหญิงชนวรรณ ชัยสมบูรณ์ เด็กชายญาณวุฒิ อดุลย์เดช เด็กหญิงธิดารัตน์ ถึงแสง เด็กชายภูปกรณ์ สุขสุผล เด็กหญิงปิยธิดา ศุภลักษณ์เมธา เด็กชายธนภัทร เอี่ยมพินิจ

เด็กชายยิ่งคุณ ชินศรี เด็กชายฐนฤทธิ สัจจะรชุน เด็กชายรัฐภู อนันต์ เด็กชายวชิรวิทย์ ศรีเกาะ เด็กหญิงกวินทิพย์ ยศตะโคตร เด็กหญิงณัฐชยาน์ ตราชู เด็กชายศิวกร พรมโนภาศ เด็กหญิงเอมมิกา มังคะลา เด็กหญิงกัญญาพัชญ์ กองพิลา เด็กหญิงเนตรฐิฌา สงบเงียบ เด็กหญิงชญานิน พินศิริ

เด็กชายชิเนติ ตติยก้องเกียรติ์ เด็กชายคณิศร ค�ำสงวน เด็กชายภาคิน ขุนอินทร์ เด็กชายวริศ เกิดสาย เด็กหญิงสุภกรานต์ ธรรมเส็น เด็กหญิงเกศกนก สว่างเมฆ เด็กชายกวินท์ จิตนิยม เด็กชายปุญญพัตน์ วิเศษฤทธิ์ เด็กหญิงสุขใจ ป้องขันธ์ เด็กชายตันติกร บุญรอด เด็กหญิงอตินุช ห่วงชื่น


อนุบาล 3/2 Miss Maria Lina Sarip คุณครูพรนภัส จันทร์ค�ำ คุณครูพัชยา สว่างภักดิ์ ซ้ายไปขวา แถวที่ 1 ยืน แถวที่ 2 กลาง แถวที่ 3 นั่ง

เด็กชายกฤดิทัต จันทร์นิ่ม เด็กชายธนะศักดิ์ จิตต์ศิลป์ เด็กชายพิชญภัทร จาบรัมย์ เด็กชายไดอิกิ ซาตาเกะ เด็กหญิงชญาภา ลาติวรรณ เด็กหญิงพิชญาภรณ์ ยุทธพลนาวี เด็กหญิงปกมล โกสินทรจิตต์ เด็กชายภูวดล โพธิแชแล เด็กหญิงอาภากร เวทย์วีระพงศ์ เด็กหญิงพิชามญชุ์ สีหวงศ์ เด็กหญิงกัลยกร มัคครากุล

เด็กชายศุภกร โชว์สูงเนิน เด็กหญิงณัฐิดา เกียรติพงศ์พันธุ์ เด็กชายพัทรดล อนุชิต เด็กชายธนเดช สีเย็น เด็กหญิงวรัณปภา ขันดี เด็กหญิงพิชญานันท์ ศิริไสย์ เด็กหญิงกรุณา ไชยเสนา เด็กหญิงภัชพิชชา แหวนวิเศษ เด็กหญิงปวีณ์สุดา เพียซ้าย เด็กชายอนาวิล วงเวียนค�ำ เด็กชายจิรภัทร อ่อนสา

เด็กชายปกรณ์ คุ้มเกรง เด็กชายทรงพล หล้าบุดดา เด็กหญิงณปภัชร นาคค�ำ เด็กหญิงเผย ยู หวง เด็กชายวสุธา ตุ้ยหนิ้ว เด็กชายตันติวัฒน์ บุญรอด เด็กชายจิตตินันท์ บัวสิงห์ เด็กหญิงชุติกาญน์ ช่วงสูงเนิน เด็กหญิงปภาดา เสงี่ยมตน เด็กชายธัญฒ์ สุวรรณนาคะ

9


อนุบาล 3/3 คุณครูส�ำรวม พลอินทร์ คุณครูนิตยา นิ รารมย์ ซ้ายไปขวา แถวที่ 1 ยืน แถวที่ 2 กลาง แถวที่ 3 นั่ง 10

เด็กชายวินทกร สิงห์ชู เด็กชายณัฐภาคย์ ปิ่นจินดา เด็กชายกิตติพงศ์ อารีสิงขร เด็กชายไพน์ทวี ภูธรรม เด็กชายปัณณธร ช็อก เด็กหญิงศรัณย์พร ยองใย เด็กหญิงชมพูนุช เมาะ เด็กหญิงปทิตตา อ่อนรัสมี เด็กชายวีรภัทร จ�ำปาเทศ เด็กหญิงพอใจ รักษา เด็กชายนภัสดล ธนะเนตร เด็กหญิงกฤติยาณี เศิกศิริ เด็กชายกรวิชญ์ เหล่าโสภา

เด็กชายกรรวีวัฒนา ฮุยเสนา เด็กชายจิรภัทร จันทร์พร เด็กชายปัญญากรณ์ บัวใหญ่ เด็กชายธนวัฒน์ แจ่มศรี เด็กหญิงวรรณารัตน์ สารสุวรรณ เด็กหญิงณัฐกาญจน์ แสนวงศ์ใน เด็กชายสุทธิวิชญ์ เล้าเจริญเรืองกิจ เด็กหญิงกัญญพัชร สุริยะธรรม เด็กหญิงลภาภัทร สุวรรณเจริญ เด็กหญิงนัชชา แจ่มไธสง เด็กหญิงอภิษฎาภา จันทาพูน

เด็กชายปภังกร จิตจันทร์ เด็กชายณัฐชัย ฟ้องเสียง เด็กชายปฐวีร์ พรมแก้ว เด็กหญิงนาวากานต์ ตราชู เด็กหญิงชลภัสสรณ์ ใจดี เด็กหญิงกัญญาณัฐ แก้วส�ำราญ เด็กชายจิตติพัฒน์ เขาทอง เด็กชายกฤติเดช รุ่งโรจน์ เด็กหญิงวรวลัญช์ ยิ้มกระโทก เด็กชายภสุ แนบเนียด เด็กหญิงชนมน จันทคราม


อนุบาล 3/4 Miss Kathyleen Jade Salisid คุณครูมยุรี บุดดี คุณครูศรสุญา จุลศักดิ์ ซ้ายไปขวา แถวที่ 1 ยืน เด็กชายธีรภัทร วังคีรี เด็กชายวีระภัทร ทองบุญมา เด็กชายภูดิส พรมโสภา เด็กชายธนวัฒน์ พุทธกลัด เด็กชายพสิษฐ์ ชาวนา เด็กชายปราชญ์ อิสริยโยธิน แถวที่ 2 กลาง เด็กชายพิชยา รักจันทร์ เด็กชายณัฐวัฒน์ คอมแพงจันทร์ เด็กหญิงธมลวรรณ สันทาลุนัย เด็กชายณัฐเศรษฐ สิริวรกุลพันธ์ เด็กหญิงอภิญญา วิยะรันดร์ เด็กหญิงกัญณภัทร เอมอิ่ม เด็กหญิงโศภนิศ วัดเขียว เด็กหญิงสุชัญญา ปานยอด เด็กชายอคิราห์ พันธุ์ทอง เด็กชายศุภกร ท่าใหญ่ แถวที่ 3 นั่ง เด็กชายเตชิต พรมฤทธิ์ เด็กชายภูเบศ จันทร์สุข เด็กหญิงกรการ วรรณสวัสดิ์ เด็กหญิงวรวลัญช์ อนุสรณ์เจริญ เด็กหญิงลลิตญา ยาสมุทร เด็กหญิงเปริน ซอยชนะวัฒนา เด็กหญิงชื่นชีวา เนื่องจ�ำนงค์ เด็กชายธาวิน บัวทอง

เด็กชายอลงกรณ์ อัครมหานิติกุล เด็กชายกิตตินันท์ อารีสิงขร เด็กชายภูริณัฐ มิกา เด็กชายธรรมศาสตร์ อินทฤทธิ์ เด็กหญิงพิชารัตน์ สุวรรณหาญ เด็กหญิงณัฐภัสสร ปะผะลา เด็กชายภาคิน สวยสูงเนิน เด็กหญิงณิชาพร ชูศรี เด็กหญิงทักษพร รังสันเทียะ เด็กหญิงศิวะนาฏ สุค�ำภา เด็กชายสุทธิเดช บูรณสมภพ 11


อนุบาล 3/5 Miss Zou Chuanyan คุณครูจิตติมาภรณ์ ศรีประทุม คุณครูกาญจนา ลุนภูงา ซ้ายไปขวา แถวที่ 1 ยืน เด็กชายภูริทัต เทพสิงห์ เด็กชายธนภูมิ แสนศรี เด็กชายรวินทร์ มีมา เด็กชายนันทวัฒน์ มั่นใจ เด็กชายวีรวิชญ์ กวีวัฒนถาวร เด็กชายธนกฤติ หอมกาย แถวที่ 2 กลาง เด็กชายนัควัต หล่าหมัน เด็กชายณัฏฏวุฒิ ณัฐดุลย์พานิช เด็กหญิงนันท์ณภัทร ดอกบัว เด็กหญิงราชาวดี ค�ำเครื่อง เด็กหญิงพรนพภา เสรีรัตนเสถียร เด็กหญิงธัญชนก จันทร์เทศ เด็กหญิงณิชมน อินทเจริญศานต์ เด็กชายศุภกร หาญชัย เด็กชายศุภณัฐ์ ม่วงวัฒนกุล เด็กชายธีรดนย์ ประพฤติดี แถวที่ 3 นั่ง เด็กหญิงวาริน พฤกษาภูริน เด็กหญิงธัญมล เม่าน�้ำพราย เด็กชายปรัชญ์ฐาภัทร ขันทรักษ์ เด็กหญิงธัญมล หนุนกระโทก เด็กหญิงชัญญา อธิมติชัยกุล เด็กหญิงนลินธารา สมยาราช เด็กชายมังกร สุดสายลม เด็กหญิงสิริลภัส เหล่าศรีนาท 12

เด็กชายธนกร ลาภอุดมทรัพย์ เด็กชายเหวย เฉิน หวง เด็กชายกวีพันธ์ ทรัพย์สุวรรณ์ เด็กหญิงณัฏฐณิชา นรสิงห์ เด็กหญิงปุณณิศา มั่นประสิทธิ์ เด็กหญิงนนทชา บุญญานพนนท์ เด็กชายภูมิรพี ศรีจันทร์ เด็กชายปิติพัฒน์ โรจน์ธนานนท์ เด็กหญิงอริสรา ชุณหเมธา เด็กชายเมธาวิทย์ สายหยุด เด็กหญิงนัชชา ประจงมูล


อนุบาล 3/6 Miss Xian Jane A. Arias คุณครูญาณิ ศา โฮงค�ำแก้ว คุณครูกาญนิ กา จ�ำเริญทิพย์ ซ้ายไปขวา แถวที่ 1 ยืน เด็กชายกิตติพันธ์ จิกจักร เด็กชายสิรวิชญ์ ภูสีน�้ำ เด็กชายธนาธิป แรงการนา เด็กชายพุฒิภัทร โม่งปราณีต เด็กชายกฤษ บุญรอด เด็กชายสุวิจักขณ์ เข็มนาค เด็กชายกวินทัต เนตรมณี แถวที่ 2 กลาง เด็กชายพิทยา กังวานพณิชย์ เด็กชายธนกฤต สอนกลาง เด็กหญิงจิณัฐตา คชคีลี เด็กหญิงธัญชนก พลศักดิ์ เด็กหญิงรนิดา ป้อมถาวร เด็กหญิงภัณธิรา สายถิ่น เด็กหญิงเกตน์นิภา วงษ์ค�ำจันทร์ เด็กหญิงณัฐากุล โพธิ์ไทรย์ เด็กชายพีรวัฒน์ พุ่งอุไรช�ำนาญ เด็กชายวิริยะทรัพย์ มุ่งยุทธกลาง แถวที่ 3 นั่ง เด็กชายพีรวิชญ์ กุลชุติสิน เด็กชายธนภัทร เรณูขจร เด็กหญิงพลอยนภัส วงษาวัตรจีระกุล เด็กหญิงไอศิกา ยุทธอาจ เด็กหญิงณัฐภัทร ยะแก้วบุตร เด็กหญิงณฉัตร ปิ่นสุข เด็กหญิงพราวฝัน ฤทธิ์บ�ำรุง เด็กชายธนภัทร์ เหลาสิทธิ์

เด็กชายธาราเทพ กลางเมือง เด็กชายตฤณ ทีพลกรัง เด็กชายจตุภัทร นิวาสวงค์ เด็กชายพิชญุตม์ ทรัพย์สมบูรณ์ เด็กหญิงกัญภัทร บุญยืน เด็กหญิงพริมรดา ปากดีสี เด็กชายพชร พิมพ์เพชร เด็กหญิงกชพร สุพรรณ์ เด็กหญิงภัคธีมา ปรีชาวรพันธ์ เด็กหญิงปาณิสรา วงษ์บุญทองดี เด็กชายญาณวุฒิ บ�ำรุงชีพ 13


อนุบาล 3/7 คุณครูอุปนิ สษา สุวรรณโชติ คุณครูบุศรา กันเข็ม ซ้ายไปขวา แถวที่ 1 ยืน แถวที่ 2 กลาง แถวที่ 3 นั่ง 14

เด็กชายศุภกร เกตุสาลี เด็กหญิงกัญญาวีร์ พูลเขตนคร เด็กชายสรวิชญ์ ทินคาม เด็กชายวรพล นาคเห็ม เด็กชายปรมะ พวงท้าว เด็กหญิงนวรัตน์ จาระ เด็กชายจีรพัฒน์ ลือค�ำหาญ เด็กหญิงวัลยณัฐ ชกิจพาพิพัฒน์ เด็กหญิงนิชชามล บัวประทุม เด็กหญิงลภัสนันท์ เพ็ญบูรณสันติ เด็กหญิงจุฬาลักษณ์ เอี้ยวสุวรรณ เด็กชายทีปกร ไกรสิน

เด็กชายศุภกฤต ทองบุญชู เด็กหญิงฮานิเฟ่ เอกซ์ เด็กชายชีวานนท์ แก้วดวงดี เด็กชายกิตติศักดิ์ โกพลรัตน์ เด็กชายทินภัทร ศรชัย เด็กหญิงภิญญาพัชญ์ ทรัพย์พาลี เด็กชายใบบุญ นามวิชัย เด็กหญิงกิติมาพร สุขละ เด็กหญิงกชดรุณ อุกฤษฏชน เด็กหญิงปิยาพัชร ประกอบธรรม เด็กหญิงณัฏฐิกา โนมายา

เด็กชายธนเดช เจริญชาลี เด็กชายณัฐเศรษฐ มงคลศิลป์ เด็กชายณภัทร แซ่เตียว เด็กชายพชฏ สายทอง เด็กหญิงบุศรินทรักษ์ ภักดิ์ไชยสงค์ เด็กชายพิชยะ กานต์วิศิษฎ์ เด็กชายสิปโปทัย รอดคง เด็กชายธนภัทร จันทะขึ้น เด็กชายธนันดร สิริภควัต เด็กชายปฐมเดช จันกระวัน เด็กหญิงกนกวรรณ สังรวมใจ


อนุบาล 3/8 คุณครูเดือนเพ็ญ กันทวงค์ คุณครูบุณญรัตน์ เชาว์นอ้ ย ซ้ายไปขวา แถวที่ 1 ยืน แถวที่ 2 กลาง แถวที่ 3 นั่ง

เด็กชายณัฐดนัย วันสวัสดิ์ เด็กชายรชานนท์ กองวงค์ เด็กชายภูวเดช หอมพะวงษ์ เด็กชายธีรภัทร สมหวัง เด็กหญิงสิริณพร พานทอง เด็กหญิงอรษิตา ปรุงเลิศบัวทอง เด็กหญิงปรัสรา เดชหนองหว้า เด็กชายพศิน พิมพ์รัตน์ เด็กหญิงทรรศนีย์ ศรีวิบูลย์ เด็กชายพลภัทร วงศ์วัฒน์ เด็กหญิงณชนก พิศพันธุ์ เด็กชายวุฒิภัทร จุ้ยม่วงศรี เด็กหญิงธัญญาภรณ์ ศรีบรรเทา

เด็กชายปกรณ์กิตติ์ ดวงศรี เด็กชายชิษณุพงศ์ ค�ำโฮง เด็กชายกิตติคุณ จันทร์สุขสมบุญ ด็กชายสิรวิชญ์ ก่อรัตนกิจเจริญ เด็กหญิงสิรินธิรา มงคล เด็กหญิงณัฐวดี ป้องนาทราย เด็กชายณฐกร พูลผล เด็กหญิงปัญณัทฐาน์ ประดิษฐศิลป์ เด็กชายนราธิป ทองค้าไม้ เด็กหญิงอลิสา พรธัญกิจ เด็กชายชินดนัย บุญเกิด เด็กหญิงปุณณดา บุญสร้อย

เด็กชายสุธินันท์ ภู่มาก เด็กชายกฤตภัทธ์ ดิษฐบ�ำรุง เด็กชายธนัท วิเชียรสาร เด็กหญิงสุพิชญา เอื้อมเก็บ เด็กหญิงจิรัชญา ทวีวงค์ เด็กหญิงกัญญาภัท ศิริจันดา เด็กชายชนณธัญ สุทธะ เด็กชายณัฐฏ์พัฒน์ อุ่นวงค์ เด็กหญิงฐิติชญา อินทร์เจริญ เด็กหญิงณฤทัยรัตน์ ค�ำเม้า เด็กชายธีร์ปกรณ์ หลอดแก้ว 15


อนุบาล 3/9 Miss Haidee Jean O. Say-a คุณครูวิไลลักษณ์ สายแขก คุณครูจิณห์นิภา สุวรรณโชติ ซ้ายไปขวา แถวที่ 1 ยืน แถวที่ 2 กลาง แถวที่ 3 นั่ง 16

เด็กชายภูดิศ ไชยวงศา เด็กชายธนวัฒน์ ทัศนิยม เด็กชายกิตติศักดิ์ ภิลัยวัลย์ เด็กชายสิรธีร์ โพธิ์ดี เด็กชายนิพิฐพนธ์ ศิริรัตน์ เด็กชายชยุต ฉันทมิตร์ เด็กหญิงภคพร งามแฉล้ม เด็กหญิงศนิตรา โพธิ์นา เด็กชายธีรเทพ ทองอิ่น เด็กหญิงธิดารัตน์ โกมล เด็กชายภัคพล หัตถภูมิเกษตร เด็กหญิงอิสรีย์ ดนตรี เด็กชายจิรพัทธ์ นวภาณุภาคย์

เด็กชายธนวินท์ เสือโป๋ เด็กชายกฤตานนท์ สุริวินิจ เด็กชายเสฏฐ์ อาริยา เด็กชายปัณณวัฒน์ เพชรทอง เด็กหญิงญาดา กิ่งสีเสียด เด็กหญิงภัทรปภา อู่อรุณ เด็กหญิงณิชชาวรรณ พันโพธิ์ เด็กชายปสุต แสวงชอบ เด็กหญิงนันท์ชพร เพียกขุนทด เด็กหญิงวิรินธร ม่วงบังยุง เด็กหญิงณัฐิดา ณวราศุภสิน เด็กหญิงธัญพิชชา พูนสิน

เด็กชายธนภูมิ เย็นสบาย เด็กชายเธียรวิชญ์ ลาพิง เด็กชายศรัณณ์ ทิพย์วงษา เด็กชายภูมิพิทักษ์ ศรีสุทัศน์ เด็กหญิงปุณณภา ค�ำแพง เด็กหญิงปรีญารัสมิ์ ศรีเจริญทอง เด็กหญิงวรรณิดา รักกิจการพูล เด็กชายธราวุธ สีดา เด็กหญิงพุทธิชา แพรัตนดิลก เด็กชายศศธร จอมแปง เด็กหญิงวิภาดา กกกลาง


อนุบาล 3/10 คุณครูจิตราพรรนต์ โพธิ์ศรี คุณครูเสาวภา สาครสูงเนิ น Miss Rosemarie Mae S. Soriano ซ้ายไปขวา แถวที่ 1 ยืน แถวที่ 2 กลาง แถวที่ 3 นั่ง

เด็กชายจิรายุ จ�ำรูญรังสรรค์ เด็กชายเปรมปกรณ์ แผนสมบูรณ์ เด็กชายณัฐภูมิ วันชัย เด็กชายชิษณุชา สุขแจ่ม เด็กชายกฤตยชญ์ ชมศรี เด็กหญิงปัณณดา ค�ำบ�ำรุง เด็กหญิงปรียากมล แซ่หยาง เด็กชายภูริณัฐ ตั้งเจริญไพศาล เด็กหญิงพิมพ์นิภา จีนปรีชา เด็กชายอภิชาธนา สุมาลุ เด็กหญิงปสุตา แสวงชอบ เด็กชายธเนษฐ แสนกุง

เด็กชายกันตินันท์ ชินนอก เด็กชายณภัทร เรืองเจริญ เด็กชายภัทรพล สมประสงค์ เด็กชายณพิชส์ เมืองเกิด เด็กหญิงธัญพิชชา พูลจันทร์ เด็กหญิงอัจฉราภรณ์ มิ่งโอโล เด็กชายจิรานุวัฒน์ โกพลรัตน์ เด็กชายจักรภัทร ภูมิคอนสาร เด็กหญิงณัชชาภัทร พงศวรชัย เด็กหญิงภัทรภรณ์ โสภณรัตน์ เด็กหญิงกุลรดา ขับร้อง เด็กหญิงภวรัญชน์ มหาสาโร

เด็กชายอัครพงค์ วงษ์ปัญญา เด็กชายฮาซิม หมันเจริญ เด็กชายพานเพชรแท้ ตันเจริญ เด็กหญิงธัญรดา ชลวัฒนะ เด็กหญิงนภัสชา สุริยาอมรชัย เด็กชายสุภพัชญ์ สรณะ เด็กชายธนกฤต จันต๊ะบุญ เด็กหญิงนิษฐ์วดี สุปรีดีจิรสิน เด็กชายพีรวิชญ์ วรจีรพัส เด็กหญิงศิริรัตน์ พวงมะเดื่อ 17


อนุบาล 3/11 คุณครูเกษร บุญสมัคร คุณครูโชติกา วีระภักดี ซ้ายไปขวา แถวที่ 1 ยืน เด็กชายฐาฐัฒน์ เลิศล�้ำ เด็กชายธนากร สุวรรณวงค์ เด็กชายนิชพล ศรีโมอ่อน เด็กชายปกรฐ์ ดีแสน เด็กชายชิติพัทธ์ โชคมุนทีน เด็กชายวณัฐพงศ์ ภู่ทอง แถวที่ 2 กลาง เด็กชายภัทรดนัย อิ้มค�ำ เด็กชายณัฐพงศ์ สีสมบัติ เด็กหญิงภคพร จิบทอง เด็กหญิงภัคนันท์ ระฆัง เด็กหญิงกัญชลิกา ธนวีรเทศ เด็กหญิงแยอึม โจ เด็กหญิงณิศศา มีราคา เด็กชายภัทรพล จรดรัมย์ เด็กชายธนนันท์ ค�ำสอน แถวที่ 3 นั่ง เด็กชายทีปกร สกลศุภรัตน์ เด็กชายธนัชชา เหมะ เด็กหญิงกัญญาพัชร เจริญตาม เด็กหญิงพลอยนวภัทร์ ยุนิลา เด็กหญิงณฉัตร กิตติโรจนวงค์ เด็กหญิงหาญฤดี วงษาพาน เด็กหญิงพิมพ์หัสยา เหลือหลาย เด็กชายมิณภัทร วงศ์ปัญญา 18

เด็กชายดลรัฐ พึ่งสติ เด็กชายศุภกฤต พวงทอง เด็กชายธรรมรส รสธรรม เด็กชายณัฏฐวัฒน์ อ่อนรัสมี เด็กหญิงโชตกา นุชปรีดา เด็กหญิงฐิตาภรณ์ หล้าบุญมา เด็กชายปกรณ์ บุญเกิด เด็กหญิงณัจฉรียา ศรีอรห์ เด็กหญิงพิมพ์พิศา รินทร์วงศ์ เด็กหญิงณฐนน จ�ำปาหวาย เด็กชายกิตติศักดิ์ บัวค�ำ


อนุบาล 3/12 คุณครูพัชรินทร์ เทพารักษ์ คุณครูปรานี ซื่อจริง ซ้ายไปขวา แถวที่ 1 ยืน เด็กชายอินทัช ผาสุริวงษ์ เด็กชายธันภ์ธนพัศ ครองทองสี เด็กชายติณห์ภัทร นันตะการ เด็กชายธนัญญู เชยชม เด็กชายปภังกร พวงมะเดื่อ เด็กชายสกลวัฒณ์ ชัยสงครามธนทัต เด็กชายภูริชิศ ศรีระยศ แถวที่ 2 กลาง เด็กชายชีวานนท์ อรดี เด็กชายธนกฤต โอภาสประภากร เด็กหญิงสุธาทิพย์ บุษบา เด็กหญิงธนัญรัตน์ เกตุวงศา เด็กหญิงกวิสรา เม่งบุตร เด็กหญิงจตุรดา ก้อนสินธุ์ เด็กหญิงหริญญาชนก โห เด็กหญิงปานชีวา เลิศสีดา เด็กชายกฤษกร ค�ำสาว แถวที่ 3 นั่ง เด็กชายทนงศักดิ์ สุทมา เด็กชายปัณณฑัต ขุนโหร เด็กหญิงจันทร์ทิพย รัตนภิรมย์ เด็กหญิงวิจิตรา ภายไธสง เด็กหญิงนันธิดา บุญยิ่ง เด็กหญิงสรัลพร คลังทับ เด็กหญิงมัญชพร สืบสังข์ เด็กชายณัฐดนัย ศรีโชติ

เด็กชายศิวัช รัตนพล เด็กชายภูปกรณ์ บ�ำรุงบ้าน เด็กชายคณพศ สัจจะ เด็กชายประวันวิทย์ แดนหนองฮี เด็กหญิงวริศรา กมลรัตน์ เด็กหญิงกัญพัชญ์ ศรีมาชัย เด็กชายกวินท์ พรปัญญานุรักษ์ เด็กหญิงวรณัน สีดาหอม เด็กหญิงสิญาพัทธ์ เปรมประยูรวงศา เด็กหญิงณรัชวิน เถินบุรินทร์ เด็กชายณัชพล สุรินทร์บาง 19


อนุบาล 3/13 คุณครูเดือนฉาย วงศ์อุดม คุณครูเกศแก้ว เทินสะเกษ Miss Ma Lyric E. Alcantara ซ้ายไปขวา แถวที่ 1 ยืน แถวที่ 2 กลาง แถวที่ 3 นั่ง 20

เด็กชายกฤษฎาพล ค�ำมา เด็กชายจิรจรัส ศรีบุญเลิศ เด็กชายนนทพัทธ์ นาวินปฐมวงศ์ เด็กชายพชร ลาค�ำสาย เด็กชายกฤตภาส วิภางกูร เด็กชายขุนฟ้า ไข่รอด เด็กหญิงกัญจนพร ไชยคาม เด็กหญิงสวิชญา ไร่ชูศรี เด็กชายศุภวิชญ์ ทองเจือ เด็กหญิงปลายฟ้า ศรีวิบูลย์ เด็กชายอธิปพัฒน์ ถาน้อย เด็กหญิงอุรัสยา ไชยวงค์ เด็กชายฑีบฎิณร์ เกิดมงคล

เด็กชายสุทธิภัทร โมรา เด็กชายนันทภูมิ ศิริจันทร์ เด็กชายสรวิชญ์ สุดบูชาศักดิ์ เด็กชายสหภูมิ คิลาโน เด็กหญิงกาญจน์สิตา บุญธรรม เด็กหญิงภิญญาพัชญ์ ศรีสิรดนัยกุล เด็กหญิงสุพิชชา แสงจินดา เด็กชายจิรภัทร หัสดี เด็กหญิงกมลวรรณ นิลแก้ว เด็กหญิงพรนภัส จงขจรสุข เด็กหญิงสิริรัตน์ วัดโสภา เด็กหญิงมณฑิตา ห่อมา

เด็กชายเจษฎากร งามดังนาค เด็กชายโชคธนัตถ์ สีสืบมา เด็กชายปรัตถกร สีดาเกษ เด็กชายน�ำโชค ถีระพันธ์ เด็กหญิงณัฏฐณิชา เลี่ยมปรีชา เด็กหญิงบีแอล์ซ่า อิมเร่ เด็กหญิงปัญจรัตน์ ตั้งมั่น เด็กชายฐิติกร เลิศคอนสาร เด็กหญิงปัญญ์นภัส ช้างงาม เด็กชายปณิธาน วันยาว เด็กหญิงธรณ์ณัชชา ใจบุญ


ในวันศุกร์ที่ 24 สิงหาคม 2561 โรงเรียนมารีวิทย์บ่อวิน ได้จัดกิจกรรม แนะแนวการเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ซึ่งกิจกรรมนี้เน้นกระบวนการพัฒนาคนให้รู้จักตนเองอย่างถ่องแท้ รู้จักความถนัด ความชอบ สามารถวิเคราะห์ตนเองได้ถกู ต้องมากยิง่ ขึน้ เพือ่ เป็นแนวทางในการศึกษา ต่อและเลือกประกอบอาชีพที่ตนเองชอบและถนัดโดยมี นายปามากร ถาวรเลิศทวี (พี่มอส) เป็นวิทยากร มาให้ความรู้เรื่องระบบการเข้ามหาวิทยาลัยในระบบ TCAS ซึง่ เป็นระบบใหม่ทมี่ กี ารปรับปรุงเงือ่ นไขและหลักเกณฑ์ในการรับสมัครในรอบต่าง ๆ แนะนำ�เกี่ยวกับการประเมินตนเองในการเลือกคณะ สาขาวิชา จากการเทียบ กับคะแนนสอบ GAT PAT เกรดเฉลี่ยสะสม และการทำ� Portfolio เพื่อให้นักเรียน ได้ประเมินศักยภาพตนเอง และเลือกคณะ สาขาวิชา ทีต่ นเองมีความสามารถ ความถนัด ความสนใจ ซึง่ ทำ�ให้นกั เรียนชัน้ มัธยมศึกษาตอนปลายรูจ้ กั เป้าหมายของตนเองมากขึน้

21


เด็กชายกรวิชญ์ เด็กหญิงชนัญธิดา เด็กชายณัฐดนัย เด็กหญิงปราณปรียา เด็กชายทักษ์ดนัย เด็กหญิงณัฏฐากร เด็กหญิงสิริน เด็กชายศวัส เด็กชายปิยบุตร เด็กหญิงศุภญา เด็กหญิงกันต์ชิสา เด็กชายสุทธิสิทธิ์ เด็กหญิงธนกานต์ เด็กชายณพงศ์ เด็กหญิงญาริญดา เด็กชายกันต์ดนัย เด็กหญิงกนกพร เด็กหญิงอัญญารินทร์ เด็กชายสัจจะธรรม เด็กหญิงบงกชกรณ์ เด็กหญิงกุลยา เด็กหญิงปทิตตา 22

พิพิศ สว่างวงษ์ การสรรพ์ วิไลพันธ์ โตสุข สุจินต์ สุธัมมา แจ้งจันทร์ โพธิ์นา บุญเสริมเพชร ดารากร ณ อยุธยา ศรีวิชัยล�ำพรรณ เจริญวิริยาภรณ์ เจริญ เดือนแจ้งรัมย์ โชติรณพัสดุ์ เรือนมูล รัตน์รอดกิจ รัดรอดกิจ ทรัพย์เพาะพูล ฮาซัน กมลรัตน์

ก.ไก่/1 ก.ไก่/2 ก.ไก่/3 ก.ไก่/4 ก.ไก่/5 ก.ไก่/6 ก.ไก่/7 อ.1/1 อ.1/2 อ.1/3 อ.1/4 อ.1/5 อ.1/6 อ.1/7 อ.1/8 อ.1/9 อ.1/10 อ.1/11 อ.1/12 อ.2/1 อ.2/2 อ.2/3

เด็กหญิงคีตราภา เด็กชายศรัณยพงศ์ เด็กชายกฤตภัค เด็กหญิงพัชรากร เด็กหญิงธัญพิชชา เด็กหญิงกวินทิพย์ เด็กหญิงมณรดา เด็กชายชัยมงคล เด็กชายวชิรวิทย์ เด็กหญิงชุติกาญน์ เด็กชายนภัสดล เด็กหญิงพิชารัตน์ เด็กชายกวีพันธ์ เด็กชายพีรวิชญ์ เด็กชายศุภกฤต เด็กหญิงปัญณัทฐาน์ เด็กหญิงวรรณิดา เด็กหญิงกุลรดา เด็กชายทีปกร เด็กหญิงมัญชพร เด็กหญิงอุรัสยา

ใจสี ไผ่จันทร์ นาอุดม ชัยรัตน์ ทวีวงค์ ประสาระเอ สุดสงวน เรืองฤทธิ์ ศรีเกาะ ช่วงสูงเนิน ธนะเนตร สุวรรณหาญ ทรัพย์สุวรรณ์ กุลชุติสิน ทองบุญชู ประดิษฐศิลป์ รักกิจการพูล ขับร้อง สกลศุภรัตน์ สืบสังข์ ไชยวงค์

อ.2/4 อ.2/5 อ.2/6 อ.2/7 อ.2/8 อ.2/9 อ.2/10 อ.2/11 อ.3/1 อ.3/2 อ.3/3 อ.3/4 อ.3/5 อ.3/6 อ.3/7 อ.3/8 อ.3/9 อ.3/10 อ.3/11 อ.3/12 อ.3/13


เด็กชายฐกฤต เด็กชายชวนากร เด็กหญิงสุณัฐชา เด็กหญิงกุลปริญา เด็กหญิงชฎาภรณ์ เด็กหญิงชญานิศ เด็กหญิงวรวลัญช์ เด็กหญิงณัฐลัญช์ เด็กหญิงพิชญธิดา เด็กชายจารุพัฒน์ เด็กหญิงธันยรัตน์ เด็กชายวชิรวิชญ์ เด็กหญิงนันท์นภัส เด็กชายกิตติเชษฐ์ เด็กหญิงธัญพิชชา เด็กหญิงศรันย์พร เด็กหญิงธีรณา เด็กหญิงทิพย์ชญา เด็กชายเมธาสิทธิ์ เด็กหญิงสุพิชชา เด็กหญิงไอรดา เด็กหญิงวรกานต์ เด็กหญิงสโรชา เด็กหญิงปรียาลักษณ์ เด็กหญิงสิริกานต์ เด็กชายคณิศร เด็กหญิงเธียรกัลยาณ์ เด็กชายนนทกร เด็กหญิงธัญจิรา เด็กชายสรธร เด็กชายยลพินิจ เด็กหญิงธนวันต์

ศรีปทุมวงศ์ ป.1/1 ล�่ำสัน ป.1/2 พวงแก้ว ป.1/3 กาญจนสกุล ป.1/4 คุ้มกล�่ำ ป.1/5 อุดศรี ป.1/6 กุมพันธุ์ ป.1/7 แก้วพิภพ ป.1/8 หงษ์กา ป.1/9 ดาววงค์ ป.1/10 เจริญกิจอนนต์ ป.1/11 กัญจน์วรากุล ป.1/12 ศรีประเสริฐ ป.1/13 เปรื่องปรเมษฐ์ ป.1/14 ศรีเจริญชอบ ป.2/1 มามี ป.2/2 สุขแต้ม ป.2/3 ศรีโยราช ป.2/4 พรหมประเสริฐ ป.2/5 ยังสีนาด ป.2/6 เอี่ยมสอาด ป.2/7 ทรัพย์มาก ป.2/8 นรจิตร์ ป.2/9 พลอยพณาสโชค ป.2/10 พุ่มจันทร์ ป.2/11 กรังพานิชย์ ป.2/12 รัตนวิจิตร ป.3/1 อนุมาตย์ ป.3/2 ใจมีธรรม ป.3/3 แป้นเอียด ป.3/4 สีดา ป.3/5 ยาละ ป.3/6

เด็กหญิงสุมณฑา เด็กชายพสิษฐ์ เด็กชายกรวิชญ์ เด็กหญิงพิมพ์ลภัส เด็กหญิงวิลาวัณย์ เด็กชายวรปรัชญ์ เด็กหญิงอาภัสรา เด็กหญิงชนิภรณ์ เด็กหญิงชัชชา เด็กหญิงกชพร เด็กหญิงปภาวี เด็กชายธีรภัทร เด็กชายชัยพัชร์ เด็กชายพิสิษฐ์พล เด็กชายอัฐวุฒิ เด็กชายคมชาญ เด็กหญิงพิชญาภา เด็กหญิงชมพูเนกข์ เด็กหญิงสุพรรษา เด็กชายฐิชานนท์ เด็กหญิงชลพินธุ์ เด็กชายสรวิชญ์ เด็กหญิงญนันทนิยา เด็กชายพูลทรัพย์ เด็กชายชนาธิปบดินทร์ เด็กหญิงวรินทร เด็กหญิงปัณฑิตา เด็กหญิงไอศิกา เด็กหญิงฉัตราภรณ์ เด็กหญิงโชติกา เด็กชายชวัลวิทย์ เด็กหญิงยุวธิดา

สีอาจ ราตะกั่ว เม่งบุตร ด่านด�ำรงรักษ์ แสงทอง ชินลาภา ทองงาม รัดรอดกิจ ไพเราะ ตันเจริญ พะวงจิต โต๊ะอาด วงศ์วัฒน์ ธีรกันทรากร จั่นผ่อง กันจันวงศ์ พิพิธทอง แท่งทอง บุญทา แตงโสภา อิสระภาพ รุ่งรวีพิริยะกิจ โนค�ำ อังคพนมไพร มีทรัพย์ เหลี่ยมมณี ผาวิชัย สละ บุตรโพธิ์ หมุนลี ศรีก�ำพล อุปรีพันธ์

ป.3/7 ป.3/8 ป.3/9 ป.3/10 ป.3/11 ป.4/1 ป.4/2 ป.4/3 ป.4/4 ป.4/5 ป.4/6 ป.4/7 ป.4/8 ป.4/9 ป.4/10 ป.4/11 ป.5/1 ป.5/2 ป.5/3 ป.5/4 ป.5/5 ป.5/6 ป.5/7 ป.5/8 ป.5/9 ป.5/10 ป.6/1 ป.6/2 ป.6/3 ป.6/4 ป.6/5 ป.6/6

เด็กชายจุลอรรถ เด็กหญิงหรรษพร เด็กชายปรียะพงษ์ เด็กชายกวิณฌ์ เด็กชายอิสระ เด็กหญิงณิชาพัชร์ เด็กหญิงพรหมพร เด็กชายธาวิน เด็กหญิงธัญจิรา เด็กหญิงจตุพร เด็กหญิงโยศิตา เด็กหญิงเอมิกา เด็กหญิงชมพูณุช เด็กชายฤทธิชัย เด็กหญิงภาณุมาษ เด็กหญิงภรภัทร เด็กชายวศิน เด็กชายศิวัช เด็กหญิงศรุตยา เด็กหญิงสุพิชฌาย์ เด็กหญิงปิยธิดา นางสาวณัฐนิชา นางสาวรุ่งไพลิน นางสาวชญานิศ นายศุภณัฐ นางสาวพรรณษา นางสาววิลาวรรณ นายณัชพล นางสาวจิรัฐกาล นางสาวกัญญาภัค นางสาวณัฐชยา นายวริทธิ์นันท์

พันธ์พานิช บุญชูรอด พรมมาอ้วน ชูท้วม กาลจักร เพียรธรรม กิจแก้ว ดวงค�ำน้อย สิริโภไคย เทศารินทร์ วารีพัฒน์ ไชยศรี อุ่นวงค์ บุญสูง จ�ำรัส ชูรัตน์ ภิลัยวัลย์ บุหรี่ทอง สิทธิพรไพบูลย์ อรรถพรพิทักษ์ สุวรรณเดชา สมิทธิ์บุริมสิทธิ์ โอกาศ ประเสริฐพงษ์ แห่กลาง กาจันตา บุญหล้า ดวงศรี เนื่องจ�ำนงค์ สหวงศ์ ทรัพย์สิน บัวโชติ

ป.6/7 ป.6/8 ป.6/9 ป.6/10 ม.1/1 ม.1/2 ม.1/3 ม.1/4 ม.1/5 ม.1/6 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5 ม.2/6 ม.2/7 ม.3/1 ม.3/2 ม.3/3 ม.3/4 ม.4/1 ม.4/2 ม.4/3 ม.4/4 ม.5/1 ม.5/2 ม.5/3 ม.5/4 ม.6/1 ม.6/2 ม.6/3

23


เด็กชายจีฮู เด็กหญิงลภัสรินทร์ เด็กหญิงญารุณี เด็กชายวีรยุทธ เด็กชายปฐพี เด็กหญิงธัชกร เด็กหญิงญาณิฐา เด็กชายจูวอน เด็กหญิงจิตติมา เด็กหญิงชุติมันต์ เด็กชายณารัณย์ เด็กหญิงณัฏฐณิชา เด็กชายคุณกร เด็กหญิงเบญญาภา เด็กชายวิวรรธน์ เด็กหญิงกรรณิการ์ เด็กชายศุภโชค เด็กหญิงณิชภูมินทรตรา เด็กหญิงจิรัชญา เด็กชายวิศรุต เด็กชายเหิงไท่ เด็กชายธีระ 24

ฮัน การุญ มีนนท์ ปิ่นแก้ว นพทีปกังวาล วงษ์สุวรรณ เอี้ยงทอง โจ สบายวงษ์ แก้วจิตร ผลพิทักษ์ สิริวรกุลพันธ์ วัฒนะชัย ไชยเพชร เพชรพล ทรัพย์สุวรรณ์ เสนาเพ็ง เทียบแก้ว กลักเพชร ทองระหึ่ง คัง หรรษพลางกูร

ก.ไก่/1 ก.ไก่/2 ก.ไก่/3 ก.ไก่/4 ก.ไก่/5 ก.ไก่/6 ก.ไก่/7 อ.1/1 อ.1/2 อ.1/3 อ.1/4 อ.1/5 อ.1/6 อ.1/7 อ.1/8 อ.1/9 อ.1/10 อ.1/11 อ.1/12 อ.2/1 อ.2/2 อ.2/3

เด็กหญิงจิดาภา เด็กหญิงจิรัชญา เด็กหญิงพิมพัฒน์ เด็กชายธนกฤต เด็กหญิงมณภัทร เด็กชายพันธ์วริศ เด็กหญิงพัณณ์ชิตา เด็กหญิงธีรนาฎ เด็กชายภาคิน เด็กหญิงเผย ยู เด็กหญิงชลภัสสรณ์ เด็กหญิงณิชาพร เด็กชายวีรวิชญ์ เด็กหญิงปาณิสรา เด็กหญิงบุศรินทรักษ์ เด็กชายชินดนัย เด็กชายปสุต เด็กชายธนกฤต เด็กชายณัฏฐวัฒน์ เด็กหญิงจตุรดา เด็กหญิงกาญจน์สิตา

หลักรอด ช�ำนาญจิตร เดโช อ่อนทอง สงวนศฤงคาร ชูพันธ์ เกียรติสมกิจ เกิดปรางค์ ขุนอินทร์ หวง ใจดี ชูศรี กวีวัฒนถาวร วงษ์บุญทองดี ภักดิ์ไชยสงค์ บุญเกิด แสวงชอบ จันต๊ะบุญ อ่อนรัสมี ก้อนสินธุ์ บุญธรรม

อ.2/4 อ.2/5 อ.2/6 อ.2/7 อ.2/8 อ.2/9 อ.2/10 อ.2/11 อ.3/1 อ.3/2 อ.3/3 อ.3/4 อ.3/5 อ.3/6 อ.3/7 อ.3/8 อ.3/9 อ.3/10 อ.3/11 อ.3/12 อ.3/13


เด็กชายธนเทพ เด็กหญิงกัลยกร เด็กหญิงพศวีร์ เด็กหญิงศศิวิมล เด็กชายณวุฒิ เด็กหญิงภัทรธิชา เด็กหญิงกัญญารัตน์ เด็กชายอัศม์เดช เด็กหญิงณัฐธิดา เด็กหญิงพิรานันท์ เด็กหญิงชานิดา เด็กหญิงพรรวี เด็กชายกฤตภาส เด็กหญิงณิชาพร เด็กหญิงกัญพัชญ์ เด็กหญิงจันเจ้าฉาย เด็กหญิงพีชญา เด็กชายธนะเทพ เด็กหญิงเทพธิดา เด็กหญิงชลกร เด็กชายชลันธร เด็กชายสุวณิชพงศ์ เด็กชายศุภเดช เด็กหญิงกัญญาพัชร เด็กหญิงขวัญชนก เด็กหญิงณัชภัสรา เด็กชายภูริษ เด็กชายกีรติ เด็กหญิงณัฐวดี เด็กชายรณกร เด็กชายพรเพชร เด็กหญิงอมรสิริ

หาวิรส คำ�คล้าย พรหมสุวรรณ แสนบุญ รสเครือ ภูธาตุเพชร พลเยี่ยม กุลคง แชกลาง สุมาไทย ดิษฐบำ�รุง อยู่ยัง วงษ์สาริกา จันทร์ศิริ ขัตติยะวงศ์ กุลภาภัทร สมทรง แซ่ตั้ง แสงคำ� จันทคราม โสมาบุตร โภคาพานิชย์ จิตสันเทียะ วิชัยวงศ์ วรางกูร แน่นอุดร เกิดบรรดิษฐ กำ�เนิดเหมาะ บุญร่มเย็น รัตนพรหม ขันทะรักษ์ สีนาแค

ป.1/1 ป.1/2 ป.1/3 ป.1/4 ป.1/5 ป.1/6 ป.1/7 ป.1/8 ป.1/9 ป.1/10 ป.1/11 ป.1/12 ป.1/13 ป.1/14 ป.2/1 ป.2/2 ป.2/3 ป.2/4 ป.2/5 ป.2/6 ป.2/7 ป.2/8 ป.2/9 ป.2/10 ป.2/11 ป.2/12 ป.3/1 ป.3/2 ป.3/3 ป.3/4 ป.3/5 ป.3/6

เด็กหญิงศิรภัค เด็กหญิงสุพิชญา เด็กหญิงปภาวรินทร์ เด็กหญิงเบญญาภา เด็กชายศิววงศ์ เด็กหญิงอุษามณี เด็กหญิงฉัตรมณี เด็กหญิงพริมประภัสสร เด็กหญิงพิมพ์วลัญช์ เด็กชายนพวรรธ เด็กหญิงพิชชากานต์ เด็กชายญาณพล เด็กชายอภิรักษ์ เด็กหญิงอชิรญา เด็กหญิงนัทธ์ชนัน เด็กชายวงศกร เด็กหญิงภัสธารีย์ เด็กหญิงกวินธิดา เด็กหญิงปุญยนุช เด็กหญิงธิดารัตน์ เด็กหญิงฐิตาพร เด็กหญิงกมลทิพย์ เด็กหญิงสุรคคนางค์ เด็กชายณัฐพงษ์ เด็กชายวุฒิกรณ์ เด็กหญิงชุติมน เด็กหญิงมนัสนันท์ เด็กชายพชร เด็กชายชินาธิป เด็กชายจิตติพัฒน์ เด็กชายเจษฎา เด็กชายธนบูรณ์

ฉันทมิตร์ ปัสสาสิงห์ จันทะขึ้น มงคลพิพัฒน์ รภัทภร มโนสกุลกิจ วาชัยยุง โมรีย์ สลามเต๊ะ จันทวารี สุราราช เหลืองดี จันทร์สุข แสงเงิน บุญรัตนพิชิต ลาพิง พงษ์สิมา ผ่องชมภู ศิริวิชิตชัย วิลาทอง โพธา ดิษฐบำ�รุง อ่อนก้อม แขมน้อย สมในใจ เชิดเพชรรัตน์ ประคองยศ โชตินันทกุล พุ่มเมือง ศรีบุระ ไสยที โพธิ์ทอง

ป.3/7 ป.3/8 ป.3/9 ป.3/10 ป.3/11 ป.4/1 ป.4/2 ป.4/3 ป.4/4 ป.4/5 ป.4/6 ป.4/7 ป.4/8 ป.4/9 ป.4/10 ป.4/11 ป.5/1 ป.5/2 ป.5/3 ป.5/4 ป.5/5 ป.5/6 ป.5/7 ป.5/8 ป.5/9 ป.5/10 ป.6/1 ป.6/2 ป.6/3 ป.6/4 ป.6/5 ป.6/6

เด็กหญิงลัลนา เด็กหญิงสุวิชาดา เด็กหญิงประณยา เด็กหญิงชนาภา เด็กชายปัณณธร เด็กหญิงสุภัชญา เด็กชายวิธิเนตร เด็กหญิงพิมพ์พิชญา เด็กหญิงจีรนันท์ เด็กหญิงภารดี เด็กชายโภคิน เด็กหญิงอัฌชญา เด็กหญิงพัทธนันท์ เด็กหญิงกัญญาณัฐ เด็กหญิงสวิตตา เด็กหญิงนิรัชพร เด็กชายมนต์ธร เด็กชายวุฒิภัทร เด็กชายนฤเบศ เด็กชายวีรพล เด็กหญิงจีรนันท์ นายยศภัทร นางสาวเจนจิรา นางสาวชลณิชา นางสาวนลัทพร นายพงษ์ธวัช นางสาวญาณธิชา นายพิเชษฐไชย นางสาวภัทราภรณ์ นายชลธาร นายอภิชาติ นางสาวอารียา

สุขสวัสดิ์ ศิริสุวรรณ รัตนวงษ์ ภิลัยวัลย์ ขุนโหร บริบูรณ์ ทองเดช อุ่นแก้ว ศรีภิรมย์ เรืองวชิรปัญญา คุณเจริญ อินทรฑูต มุลเมืองแสน แขวงภูเขียว พุ่มพิกุล ประกอบธรรม กอเจริญทรัพย์ ทองสอาด เสดสี ชะเอม มานอก สุดชนะ ประสาททอง เพียรหาดี มั่นใจ ทิตา สวัสดี ชำ�นาญกิจ เฉยเจริญ แววนำ� มะปะเข สาริมา

ป.6/7 ป.6/8 ป.6/9 ป.6/10 ม.1/1 ม.1/2 ม.1/3 ม.1/4 ม.1/5 ม.1/6 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5 ม.2/6 ม.2/7 ม.3/1 ม.3/2 ม.3/3 ม.3/4 ม.4/1 ม.4/2 ม.4/3 ม.4/4 ม.5/1 ม.5/2 ม.5/3 ม.5/4 ม.6/1 ม.6/2 ม.6/3

25


วิธกี ารสอนเด็ก ๆ ช่วยเหลือตนเองเมือ่ ติดอยูภ่ ายในรถ เป็ น อี ก หนึ่ ง เรื่ อ งที่ คุ ณ ครู อ นุ บ าลใส่ ใจและให้ ค วามส� ำ คั ญ เป็นอย่างมาก เพราะจากข่าวทีม่ กั จะได้รบั รูก้ นั บ่อย ๆ ว่าบางคน มักจะทิ้งลูกไว้ในรถคนเดียว แล้วลงไปซื้อของ บางคนก็ลืมลูก ไว้ในรถ แล้วตัวเองก็ลงจากรถไปเลย หรือข่าวคนขับรถรับ - ส่ง นักเรียน ลืมนักเรียนไว้ในรถจนเด็กเสียชีวิต เหตุการณ์เหล่านี้ ท�ำให้ฉกุ คิดได้วา่ ถึงเวลาแล้วทีโ่ รงเรียนและคุณครูควรสอนเด็ก ในเรื่องนี้อย่างจริงจังและเป็นรูปธรรมมากขึ้น นอกเหนือ จากการพู ด อบรมหรื อ สนทนาในชั้ น เรี ย นเพี ย งอย่ า งเดี ย ว ดังนั้นจึงได้ขอความร่วมมือไปยังพนักงานขับรถตู้ เพื่อขอใช้ รถตูร้ บั - ส่งนักเรียนจริง ๆ ในการฝึกปฏิบตั ซิ งึ่ ก็ได้รบั ความร่วมมือ เป็นอย่างดี ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 วัน ในการฝึกอบรมในแต่ละ ระดับชั้น โดยมีกิจกรรมดังนี้

26

1. การฟั ง การบรรยาย และสนทนาเกี่ ย วกั บ ข่ า วเหตุ ก ารณ์ ทีม่ นี กั เรียนเสียชีวติ จากการติดอยูภ่ ายในรถ และการดูคลิปวิดโี อ สาธิตการช่วยเหลือตนเองเมื่อติดอยู่ภายในรถ 2. การฝึกปฏิบัติจริง โดยเน้น 3 วิธีการที่ส�ำคัญคือ 2.1 การฝึกบีบแตร โดยสอนให้เด็ก ๆ รู้ว่าแตรรถอยู่ตรงไหน ใช้งานอย่างไร กดตรงไหน ทีจ่ ะท�ำให้คนทีผ่ า่ นไปผ่านมาได้ยนิ เช่น การกดยาว ๆ ย�้ำ ๆ หลาย ๆ ครั้ง 2.2 ตัวล็อค โดยสอนให้เด็ก ๆ รู้ว่าตัวล็อคอยู่ต�ำแหน่งตรงไหน ล็อคอย่างไร ปลดล็อคอย่างไร ตอนไหนปลดล็อคได้ ตอนไหน ไม่ควรปลดล็อค 2.3 วิธกี ารเปิดประตู เด็ก 3-6 ขวบ มแี รงพอทีจ่ ะเปิดประตูรถเองได้ เมื่อสามารถปลดล็อคได้ แต่ต้องอธิบายให้เด็ก ๆ เข้าใจว่า ตอนไหนควรเปิดประตูรถ ตอนไหนไม่ควรเปิดประตูรถ จากการสอนเด็กกว่า 98 % สามารถปฏิบัติตามค�ำแนะน�ำ ได้ ทั น ที โดยเฉพาะนั ก เรี ย นชั้ น อนุ บ าล 2 และชั้ น อนุ บ าล 3 ส่วนนักเรียนชัน้ อนุบาล 1 สามารถปฏิบตั ไิ ด้ แต่ดว้ ยความพร้อมตามวัย อาจจะยังท�ำไม่ได้ในทันที ถ้าไม่ได้รับการแนะน�ำอย่างใกล้ชิด ซึง่ ทางโรงเรียนมารีวทิ ย์บอ่ วินจะยังคงฝึกอบรมการช่วยเหลือตนเอง เมือ่ ติดอยูภ่ ายในรถ ให้กบั นักเรียนอนุบาลต่อไปในทุก ๆ ปีการศึกษา


โครงการ iRESCUE goes to schools ได้เปิดอบรมการปฐมพยาบาล เบื้องต้นเกี่ยวกับการช่วยฟื้นคืนชีพแก่ผู้ประสบเหตุ หรือ CPR ที่โรงเรียน มารี วิ ท ย์ บ ่ อ วิ น ด้ ว ยการแลกเปลี่ ย นเรี ย นรู ้ ก ารนวดหั ว ใจ และการใช้ เครื่องกระตุกหัวใจด้วยไฟฟ้า (AED) ซึ่งนักเรียนจะได้ฝึกปฏิบัติการปั๊ม กับหุ่นจ�ำลองของจริงเพื่อช่วยเหลือผู้ที่หยุดหายใจหรือหัวใจหยุดเต้น ให้มีการหายใจและกลับคืนสู่สภาพปกติ การอบรมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้ นั ก เรี ย นได้ รั บ ความรู ้ แ ละประสบการณ์ ใ นการช่ ว ยชี วิ ต ขั้ น พื้ น ฐาน นอกจากนั้นยังได้รับความสนุกสนานเป็นกันเองกับทีม CPR Instructor ทีม่ าจากโรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา โดยนักเรียนระดับชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 5-6 ได้เข้ารับการอบรมในวันอังคารที่ 30 ตุลาคม 2561

27


ตลอดสัปดาห์วันแม่แห่งชาติ นักเรียนระดับชั้นอนุบาล ได้เรียนรู้เกี่ยวกับพระคุณของแม่ การปฏิบัติตนในการเป็นลูกที่ดี รวมถึงเรียนรู้เกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระนางเจ้า สิรกิ ติ ิ์ พระบรมราชินนี าถ ในรัชกาลที่ 9 มีการประดิษฐ์สอื่ รักแทนใจ มอบให้แม่ และมีการประกวดระบายสีภาพ ร้องเพลง และท่องค�ำ คล้องจองทีเ่ ทิดทูนพระคุณแม่ และในวันศุกร์ที่ 10 สิงหาคม 2561 แผนกอนุ บ าลได้ ร ่ ว มท� ำ บุ ญ ตั ก บาตรข้ า วสารอาหารแห้ ง และ จั ด กิ จ กรรมร� ำ ถวายพระพรโดยคณะครู แ ละนั ก เรี ย นอนุ บ าล ทุกคน ณ บริเวณลานกิจกรรมอาคารอนุบาลมีการแสดงการร�ำ ถวายพระพรจากนักเรียนที่เรียนเสริมพิเศษวันเสาร์ โปรแกรม นาฏศิลป์ การร้องเพลง และท่องค�ำคล้องจองจากตัวแทนนักเรียน ที่ชนะการประกวด กิจกรรมต่าง ๆ ที่จัดขึ้นนั้นล้วนสื่อให้เด็ก ได้ ถ ่ า ยทอดความรั ก ที่ มี ต ่ อ แม่ ผ ่ า นผลงาน ดนตรี แ ละศิ ล ปะ สร้างสรรค์

28


เนื่องในวันแม่แห่งชาติ โรงเรียนมารีวิทย์บ่อวินได้จัดกิจกรรมขึ้น โดยช่วงเช้า ได้จัดพิธีท�ำบุญตักบาตร ข้าวสารอาหารแห้ง ถวายเครื่องจตุปัจจัยไทยธรรมแด่พระสงฆ์ จ�ำนวน 26 รูป จากนั้นนักเรียนฟังพระธรรมเทศนา เรื่อง “พระคุ ณ ของแม่ ” โดย พระครูวิจิตรสมรรถคุณ เจ้าอาวาสวัดบ่อวิน ช่วงบ่ายได้รบั เกียรติจาก คุณแม่ธญ ั ชนก ตะ๊ สุทา ผูป้ กครองของ เด็กหญิงรินรดา ตะ๊ สุทา นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เป็นประธานในพิธีเปิดกรวยถวายเครื่องราชสักการะ ถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ และถวายพระพรชัยมงคล แด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชิ นี น าถ ในรั ช กาลที่ 9 เพื่ อ น้ อ มส� ำ นึ ก ในพระมหากรุ ณ าธิ คุ ณ และแสดง ความจงรักภักดี และเพื่อให้นักเรียนได้ตระหนักถึงพระคุณของแม่ ปลูกจิตส�ำนึกให้มี ความกตัญญูกตเวที ปฏิบตั ติ นเป็นลูกทีด่ ี จึงได้จดั กิจกรรม “กราบเท้าบอกรักแม่” โดยได้เรียนเชิญ คุ ณแม่ ข องนั ก เรี ย นในระดับ ชั้น ประถมศึก ษาปีที่ 6 และระดั บชั้ น มั ธ ยมศึ ก ษาปี ที่ 3 เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ในวันศุกร์ที่ 10 สิงหาคม 2561

29


30


โรงเรียนมารีวทิ ย์บอ่ วินมีนโยบายสร้างความสัมพันธ์ ทีด่ รี ะหว่างบ้านกับโรงเรียนจึงได้จดั กิจกรรม Open House ขึ้นในวันเสาร์ที่ 29 กันยายน 2561 เพื่อให้ผู้ปกครอง ได้ มี โ อกาสชมกิ จ กรรมการเรี ย นการสอนของลู ก ๆ ในระดั บ ชั้ น ประถมศึ ก ษาปี ที่ 1-2 ในปี ก ารศึ ก ษานี้ ทางโรงเรี ย นมารี วิ ท ย์ บ ่ อ วิ น ได้ น� ำ เสนอในรู ป แบบ กิจกรรม Active Learning กระบวนการจัดการเรียนรู้ ทีผ่ เู้ รียนได้ลงมือปฏิบตั ิ โดยผ่านกระบวนการคิด วิเคราะห์ ของผู ้ เรี ย นเพื่ อ น� ำ เสนอและยั ง สอดคล้ อ งกั บ ทั ก ษะ กระบวนการ EF (Executive Functions) ประกอบด้วย 3 กลุ่ม คือ ทักษะปฏิบัติ ทักษะพื้นฐาน และทักษะ การก�ำกับตนเอง โดยคุณครูได้เสริมศักยภาพของเด็ก ๆ ด้วยการจัดกิจกรรมเสริมสร้างทักษะสมองอย่างต่อเนือ่ ง ซึ่งทางโรงเรียนมารีวิทย์บ่อวินเล็งเห็นถึงความส�ำคัญ และจะพัฒนาการเรียนการสอนเพื่อให้ทันต่อโลกที่มี การเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

31


32


กิจกรรมสานสัมพันธ์ระหว่างบ้านและโรงเรียน (Open House) ในระดับชั้นอนุบาล 1 ถึง ชั้นอนุบาล 3 ได้จัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ.2561 ภายใต้แนวคิด Developing EF Skill Through Effective Learning Strategies เพื่อให้ผู้ปกครอง ได้เห็นการพัฒนาทางด้านการเรียนรู้ตามพัฒนาการทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ ด้านร่างกาย ด้านอารมณ์และจิตใจ ด้านสังคม และ ด้านสติปญ ั ญาของนักเรียนตลอดระยะเวลาทีผ่ า่ นมา อีกทัง้ ยังเป็น การเปิดโอกาสให้ผู้ปกครองและบุคคลภายนอกได้เข้ามาชม การสาธิตการเรียนการสอนที่น�ำกิจกรรม Active Learning มาประยุกต์ใช้เพื่อมุ่งเน้นในการฝึกทักษะสมองทางด้าน EF (Executive Functions) นอกจากนี้ผู้ปกครองยังได้มีส่วนร่วม ในการแสดงความคิดเห็น เสนอข้อคิดเกี่ยวกับการจัดกิจกรรม การเรียนการสอนของทางโรงเรียนอีกด้วย และก่อนที่จะเริ่ม กิจกรรมภายในห้องเรียน เด็ก ๆ ได้รว่ มท�ำกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย ตามฐานกิ จ กรรมการเรี ย นรู ้ ที่ ท างแผนกอนุ บ าลจั ด ขึ้ น เช่ น ฐานนิทานหรรษา โดยมีการเล่านิทานจาก คุณมนฤดี ทองกลอย หรือพี่ฟาง ซึ่งเป็นผู้แต่งนิทานเรื่องกุ๋งกิ๋ง ที่เด็ก ๆ ชื่นชอบ ฐานกิจกรรมเกี่ยวกับภาษาไทย คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาจี น ซึ่ ง บรรยากาศภายในงานเต็ ม ไปด้ ว ยความ สนุกสนาน อบอุ่นและเป็นกันเอง (ติดตามรับชมบรรยากาศภายในงาน แบบภาพเคลือ่ นไหวโดยการสแกนคิวอาร์โค้ด)

33


กิจกรรมทัศนศึกษาในครั้งนี้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งที่มีค่า ทางธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นไม้ดัดไทยในยุคต้นกรุงรัตนโกสินทร์ที่มีอายุ เก่าแก่กว่า 200 ล้านปี ต้นไม้ทกี่ ลายเป็นหินอายุนบั หลายล้านปี หินลายรุง้ และหินชนิดต่าง ๆ ที่มีรูปร่างสวยงามแปลกตา นอกจากนี้ยังได้รับชม การแสดง อันน่าตื่นเต้น เช่น การแสดงการต่อสู้กับจระเข้ด้วยมือเปล่า การตกจระเข้ และชมสัตว์ต่าง ๆ เช่น หมี ช้าง ยีราฟ เสือ ปลาบึก นกแก้ว นกยูง เป็นต้น ซึ่งเด็ก ๆ ได้รับความรู้และความสนุกสนานเป็นอย่างมาก

34


กิจกรรมทัศนศึกษาในครั้งนี้ เด็ก ๆ ได้รับชมเทคนิคการเพาะเลี้ยง เสือโคร่งในห้องอนุบาลลูกเสือกับแม่หมู ชมความน่ารักและความใจดี ของแม่เสือเลี้ยงลูกหมู ชมอุทยานสัตว์กินพืช เช่น อูฐ กวางดาว ลา หนูยักษ์ ชมนางพญาแมงป่องแสนสวยกับแมงป่องมีพษิ บนร่างกาย ชมการแสดงโชว์ หมูคดิ เลข โชว์จระเข้ โชว์ชา้ ง โชว์เสือ นอกจากเด็ก ๆ จะได้รบั ความสนุกสนาน ตืน่ เต้นแล้ว ยังได้รบั ความรู้ ประสบการณ์และความประทับใจในการไปร่วม กิจกรรมในครั้งนี้อีกด้วย

35


กิจกรรมทัศนศึกษาในครั้งนี้เด็ก ๆ ได้นั่งรถรางชมสวนเพื่อเรียนรู้ เกี่ยวกับลักษณะของพรรณไม้ชนิดต่าง ๆ แล้ว เด็ก ๆ ยังได้ไปตะลุยโลกล้านปี ในหุ บ เขาไดโนเสาร์ รับ ชมการแสดงของช้างแสนรู้ที่ แสดงความสามารถ ในการเล่นกีฬา เช่น ฟุตบอล บาสเกตบอล โบว์ลิ่ง รวมทั้งศิลปะการวาดภาพ และการเต้นร�ำ นอกจากนี้ยังได้รับชมการแสดงเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมไทย ที่อ่อนช้อยงดงาม ในโรงละคร Nongnooch Theatre ซึ่งมีระบบแสง สี เสียง อันตระการตา ซึ่งเด็ก ๆ ได้รับความรู้ประสบการณ์และความสนุกสนานตื่นตา ตื่นใจเป็นอย่างมาก

36


“นาฏยวัฒนธรรมอันล�้ำค่า ช่วยบ�ำรุงศิลปศาสตร์ให้ก้าวไกล นาฏศิลป์นาฏยลีลาร้อย สานสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่นอบอุ่นจริง

งามสง่าสวยยิ่งกว่าสิ่งไหน เผยแพร่ไปทุกเขตแคว้นทุกแดนดิน งามชดช้อยเลอค่าสง่ายิ่ง สวยงามยิ่งกว่าสิ่งใดร�ำไทยเอย”

นาฏศิลป์ไทยเป็นศิลปะประจ�ำชาติซึ่งเป็นวัฒนธรรม ที่อ่อนช้อยและงดงาม มีการร่ายร�ำการแสดงที่แตกต่างกัน ตามความเชื่อ ศาสนาและวัฒนธรรมท้องถิ่นในแต่ละภาค ซึ่ ง ทางโรงเรี ย นได้ จั ด กิ จ กรรมเพื่ อ ส่ ง เสริ ม และอนุ รั ก ษ์ วั ฒ นธรรมที่ ดี ง ามของไทยโดยจั ด ตั้ ง ชมรมนาฏศิ ล ป์ ขึ้ น และได้ มี โ อกาสน� ำ กิ จ กรรมการแสดงชุ ด ร� ำ ไทย 4 ภาค ไปเผยแพร่ แ ละแลกเปลี่ ย นวั ฒ นธรรมกั บ เยาวชนญี่ ปุ ่ น ณ โรงงานยามาดะสมบู ร ณ์ นิ ค มอุ ต สาหกรรม Eastern Seaboard ในวันศุกร์ที่ 17 สิงหาคม 2561

37


“ท่านนักบุญสเตเฟนเป็นมรณสักขี ผูม้ คี วามรักให้กบั ทุกคน มีความเสียสละ และมั่นคงในค�ำสอนของพระเยซู โดย ไม่เสื่อมคลายแม้ต้องเผชิญอุปสรรค ต่าง ๆ มากเท่าใดก็ตาม” ท่านนักบุญ สเตเฟนเป็ น องค์ อุ ป ถั ม ภ์ ข องท่ า น ผอ.ชวน กิติเกียรติศักดิ์ และ ดร.สตีเวน ชนะ กิ ติ เ กี ย รติ ศั ก ดิ์ ซึ่ ง ท่ า นได้ น� ำ หลั ก คิ ด และหลักการปฏิบัติตนทั้งในด้านความรัก ความเสียสละ และด้านอื่น ๆ อีกมากมายเพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับคณะครู และนักเรียน สมกับค�ำกล่าวที่ว่า “ตัวอย่างความส�ำเร็จที่ดี มีค่า มากกว่าค�ำสอน” ดังนั้นเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองนักบุญสเตเฟน คณะครู แ ละนั ก เรี ย นจึ ง ได้ ร ่ ว มใจจั ด กิ จ กรรมฉลองศาสนนาม นักบุญสเตเฟน ขึ้นในวันศุกร์ที่ 21 ธันวาคม 2561

38


กิจกรรมมอบทุนการศึกษาแก่บุตรครูและบุคลากรของโรงเรียนมารีวิทย์บ่อวิน ในภาคเรียนที่ 2 ประจ�ำปีการศึกษา 2561 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นขวัญและก�ำลังใจแก่ครูและบุคลากรของโรงเรียน และเปิดโอกาสทางการศึกษาแก่นักเรียนที่เรียนดี เพื่ อ สนั บ สนุ น ด้ า นการศึ ก ษาแก่ บุ ต รของครู แ ละบุ ค ลากร ส่ ง เสริ ม ให้ นั ก เรี ย นมี ค วามมุ ่ ง มั่ น ตั้ ง ใจเรี ย น มี ค วามกตั ญ ญู มีความประพฤติเรียบร้อย ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีแก่เพื่อนและสังคมในอนาคตต่อไป โดยการมอบทุนในภาคเรียนที่ 2 มีจ�ำนวน 45 ทุน รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 764,472 บาท (เจ็ดแสนหกหมื่นสี่พันสี่ร้อยเจ็ดสิบสองบาทถ้วน) ประธานในพิธี โดย นางสายสมร ไชยตรี หัวหน้าฝ่ายการเงินและฝ่ายปกครอง วันจันทร์ที่ 17 ธันวาคม 2561

39


กิจกรรมทัศนศึกษานอกสถานทีเ่ ป็นกิจกรรมทีส่ ง่ เสริมให้นกั เรียนได้เกิดการเรียนรู้ ในทักษะด้านต่าง ๆ ซึง่ จะสอดคล้องกับการน�ำไปใช้ในชีวติ จริงได้ และในปีนที้ างโรงเรียน ได้น�ำนักเรียนระดับชั้น ป.1 ไปทัศนศึกษาที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น�้ำ บางแสนและวัดแสนสุข ซึ่งนักเรียนได้เที่ยวชมชีวิตความเป็นอยู่ของสัตว์ใต้ท้องทะเล ได้เห็นสัตว์นานาชนิด เช่น ม้าน�้ำ ปลาการ์ตูน ปลาฉลาม ปลาไหลทะเล ปลากระเบน แมงกระพรุน ฯลฯ ท�ำให้นักเรียนรู้สึกสนุกสนานและตื่นเต้นกับการได้เรียนรู้สัตว์ชนิดต่าง ๆ ที่อยู่ใต้ทะเล นอกจากนี้ นั ก เรี ย นยั ง ได้ เรี ย นรู ้ ป ระวั ติ ข องพระพุ ท ธเจ้ า และเรื่ อ งของ บาป บุ ญ คุณ โทษ ได้ชมบรรยากาศในดินแดนนรกและสวรรค์ที่วัดแสนสุข เพื่อให้นักเรียน ได้ตระหนักถึงการท�ำความดีและเห็นถึงผลของการกระท�ำสิ่งที่ไม่ดี ซึ่งประสบการณ์ เหล่านี้นักเรียนได้เรียนรู้จากภายนอกห้องเรียนและสามารถน�ำมาประยุกต์ใช้ใน ชีวิตประจ�ำวันได้

40


ทัศนศึกษาเป็นการเปิดโลกทัศน์และเป็นการสร้างวิสัยทัศน์ใหม่ ๆ ให้กับนักเรียน ได้เรียนรู้จากประสบการณ์ตรงเป็นการจุดประกายด้านความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งน�ำไปต่อยอด ความสนใจในด้านต่าง ๆ นอกจากนี้ยังฝึกให้นักเรียนได้ปฏิบัติตามกฎระเบียบของสถานที่ และการอยูร่ ว่ มกับผูอ้ นื่ ในสังคมภายนอกได้ ประโยชน์และสิง่ ทีไ่ ด้จากการทัศนศึกษาในครัง้ นี้ คือ นักเรียนได้รจู้ กั สัตว์ชนิดต่าง ๆ ทีห่ าชมได้ยากและตืน่ ตาตืน่ ใจกับการการแสดงความสามารถ ของสัตว์ เช่นโชว์หมูคิดเลข โชว์ช้างปาลูกโป่ง เป็นต้น นอกจากนี้ยังเป็นการปลูกฝัง ความรัก ความเมตตาและเรียนรู้วิธีการดูแลสัตว์อย่างถูกต้อง

41


นักเรียนไปท�ำกิจกรรมทัศนศึกษาเรียนรู้นอกห้องเรียน ที่สวนสัตว์เปิดเขาเขียว เพื่อเน้นให้นักเรียนมีทักษะในการ หาความรู้ด้วยตนเอง นอกเหนือจากการเรียนรู้ในห้องเรียน แล้วเป็นการเปิดรับประสบการณ์ใหม่ ๆ จากการดู การฟัง และการลงมือปฏิบัติ เพื่อค้นหาค�ำตอบด้วยตนเอง กิจกรรม ทั ศ นศึ ก ษาถื อ เป็ น การเรี ย นรู ้ ที่ ส� ำ คั ญ อี ก รู ป แบบหนึ่ ง ของ การศึกษาในปัจจุบันและเป็นหัวใจหลักของโรงเรียนในเครือ มารีวิทย์ที่มุ่งเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลางให้เด็กได้เรียนรู้จาก สถานที่จริง และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสิ่งที่นักเรียน ได้เรียนรู้ในวันนี้ไม่เพียงแค่พวกเขาได้เห็นสัตว์ชนิดต่าง ๆ เท่านั้น แต่พวกเขายังได้ฝึกการสังเกตการณ์การด�ำรงชีวิต การกินอาหาร การท�ำกิจกรรมหรือแสดงความสามารถของสัตว์ ชนิดต่าง ๆ และยังได้ขอ้ คิดจากการฝึกการเรียนรูข้ องสัตว์อกี ด้วย เช่น การโชว์บวกลบเลขของนกแก้ว การหาอาหารของเสือ การว่ายน�ำ้ ของช้าง เป็นต้น นอกจากนีย้ งั เป็นการปลูกจิตส�ำนึก ให้ กั บ นั ก เรี ย นในด้ า นความรั ก ความเมตตาต่ อ สั ต ว์ และ การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติให้คงอยู่สืบไป 42


ในการไปทัศนศึกษาทีส่ วนนงนุช พัทยาในครัง้ นี้ นักเรียน ได้เรียนรูท้ งั้ ทางด้านวัฒนธรรมไทย การท�ำขนมไทย ชมการสาธิต การท�ำน�้ำยาล้างจาน และการสาธิตการท�ำน�้ำหมักต่าง ๆ ได้รับ ความรูเ้ กีย่ วกับวิธกี ารท�ำเตาเผาถ่าน ชมการแสดงความสามารถ ของช้างแสนรู้ในรูปแบบต่าง ๆ ศึกษาพืชพรรณไม้นานาชนิด ที่ ห าชมได้ ย ากและเรี ย นรู ้ ก ารจั ด สวนของแต่ ล ะประเทศ นอกจากนั้ น ยั ง ได้ รั บ ชมการแสดงวั ฒ นธรรมไทย 4 ภาค ในโรงละคร กิ จ กรรมทั ศ นศึ ก ษาในครั้ ง นี้ นั ก เรี ย นได้ รั บ ทั้ ง ความรู้ การลงมือปฏิบตั ิ ความสนุกสนานและประสบการณ์จริง เพื่อน�ำไปปรับใช้ในชีวิตประจ�ำวันได้

43


การเรียนรู้นอกห้องเรียนในครั้งนี้นักเรียนได้ท�ำ กิจกรรมทั้งหมด 5 ฐานกิจกรรม คือ การขยายพันธุ์พืช การท�ำบ้านดิน การท�ำปุย๋ หมักจากมูลไส้เดือน การคัว่ ใบชา และการปลูกพืชลอยน�้ำ ซึ่งในการท�ำกิจกรรมนักเรียน ได้รับประโยชน์และสามารถน�ำไปใช้ในการด�ำเนินชีวิต ของตนเองได้ และยังได้รบั ฟังการบรรยายเกีย่ วกับปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ พร้อมทัง้ เยีย่ มชม หอศิลป์ที่มีการรวบรวมผลงานของในหลวงรัชกาลที่ 9 ชมบ่อเลี้ยงเป็ด บ้านกระดาษ และแปลงเกษตรสาธิต ท�ำให้นักเรียนได้สัมผัสกับบรรยากาศความเป็นธรรมชาติ และวิถีชีวิตของสังคมไทย

44


เพราะรอบ ๆ ตัวเราคือแหล่งการเรียนรู้ที่ส�ำคัญและน่าสนใจ การทัศนศึกษา จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกเนื่องจากเป็นกระบวนการเรียนการสอนที่ช่วยให้นักเรียน ได้เรียนรูต้ ามวัตถุประสงค์ผา่ นการเรียนรูน้ อกห้องเรียน โดยนักเรียนจะได้รบั ความรูจ้ าก ประสบการณ์ตรงและการลงมือปฏิบัติจริง ซึ่งช่วยให้เกิดความเข้าใจและจดจ� ำสิ่ง ที่ได้พบเห็นในเวลาอันรวดเร็ว และการจัดการเรียนการสอนในรูปแบบนี้เป็นการใช้ แหล่งการเรียนรูท้ มี่ อี ยูใ่ ห้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด ในปีนนี้ กั เรียนชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 6 ได้เดินทางไปทัศนศึกษา ณ สวนนงนุช พัทยา ซึง่ จัดกิจกรรมให้นกั เรียนได้ลงมือปฏิบตั จิ ริง เช่น การท�ำน�้ำยาล้างจานจากน�้ำหมักธรรมชาติ การปั้นกระถางดินเผา ซึ่งต้องใช้ ความอดทน สมาธิในการประคับประคองให้กระถางของตนเองได้รปู ทรงตามทีต่ อ้ งการ นอกจากนี้นักเรียนยังได้ชมการแสดงในโรงละครที่สะท้อนถึงเอกลักษณ์ความเป็นไทย ในแต่ละภูมิภาค ชมการแสดงช้าง ชมพันธุ์ไม้ชนิดต่าง ๆ และนั่งรถรางศึกษาเรียนรู้ ลักษณะและสายพันธุ์ไดโนเสาร์ ซึ่งนักเรียนมีความสนุกสนานและสามารถน�ำความรู้ ไปบูรณาการใช้ในชีวิตประจ�ำวันได้

45


เดี๋ยวนี้อะไรก็ต้อง 4.0 เพราะในยุคปัจจุบันโลกเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา อินเทอร์เน็ต เกม โทรศัพท์มือถือ และเทคโนโลยีมีบทบาทส�ำคัญในชีวิตของเด็กมาก แล้วท�ำอย่างไรเราจึงจะพัฒนาเด็กเหล่านั้นอย่างเต็มศักยภาพ ท�ำให้เขาเป็นคนเก่ง คนดีและสามารถมีชีวิตอยู่ในโลกความเป็นจริง ห้องเรียนพ่อแม่จึงเกิดขึ้นเพราะคนเหล่านั้นคือ บุคคลที่จะต้องดูแลและพัฒนาเด็ก เด็กจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่ว่าพ่อแม่เป็นอย่างไร ดังส�ำนวน ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น เพราะลูกจะซึมซับจากสิ่งที่เขาเห็น จากสิ่งที่เราเป็นมากกว่าสิ่งที่เราสอน จนกล่าวได้ว่า อยากให้เด็กเป็นเช่นไร พ่อแม่ต้องเป็นเช่นนั้นก่อน ขั้นแรกพิจารณาดูก่อนว่าเราเป็นพ่อแม่ในยุคไหน พ่อแม่ 1.0 ทีอ่ ยากให้ลกู เป็นอย่างทีต่ นเองอยากให้เป็น โดยไม่สนว่าลูกสนใจหรือไม่สนใจอะไร ลูกจะต้องสืบต่อกิจการ ของครอบครัวเพราะพ่อแม่วางรากฐานมาให้แล้ว พ่ อ แม่ 2.0 ที่ แ สวงหาแต่ สิ่ ง ที่ ดี ที่ สุ ด ให้ ลู ก เท่ า นั้ น ทุกอย่างต้องดีที่สุดส�ำหรับลูก โดยลูกไม่เคยรู้เลยว่ากว่าจะได้ สิ่ ง เหล่ า นั้ น มาพ่ อ แม่ ต ้ อ งท� ำ อย่ า งไร และพ่ อ แม่ ก็ ไ ม่ เ คยรู ้ อี ก เช่ น กั น ว่ า ลู ก อยากได้ ห รื อ ไม่ ใ นสิ่ ง ที่ พ ่ อ แม่ ห ามาให้ กลายเป็นปัญหาที่เห็นได้บ่อยในสังคมปัจจุบัน พ่อแม่ 3.0 ที่เน้นหนักด้านจิตวิญญาณ พยายามพัฒนา ให้ลูกมีคุณธรรมสูงสุดแล้วผลักดันความรับผิดชอบเหล่านั้น ให้กบั สังคมและศาสนา โดยพาลูกไปอบรมบ้าง ปฏิบตั ธิ รรมบ้าง บางคนก็พาไปบวชโดยหวังว่าลูกจะดีขึ้น 46

ส่วนพ่อแม่ 4.0 จะเป็นพ่อแม่ทยี่ อมรับฟังความคิดของลูก และปรับตนเองเป็นเพียงผูส้ นับสนุนทัง้ เบือ้ งหน้าและเบือ้ งหลัง อย่างเต็มตัวเพื่อให้ลูกพัฒนาอย่างเต็มศักยภาพ ให้เขาได้มี โอกาสเลือกในสิ่งที่ชอบและตัดสินใจอนาคตด้วยตนเอง หลายคนบอกว่าการเลีย้ งลูกไม่มเี ทคนิคทีต่ ายตัว เพราะ เด็กทุกคนมีความแตกต่างกันและเด็กทุกคนมีความสามารถ และความสนใจที่ไม่เหมือนกัน การเลี้ยงเด็กแบบเดียวกันอาจ เป็นการท�ำลายศักยภาพของเขาโดยที่เราไม่รู้ตัว การสร้าง ห้องเรียนพ่อแม่นั้นจึงจ�ำเป็นต้องใช้แนวคิดของปีเตอร์ เซงเก้ ในเรือ่ งของ Learning Organization หรือองค์กรแห่งการเรียนรู้ เป็นรากฐานส�ำคัญ


องค์ประกอบของการสร้างห้องเรียนพ่อแม่ได้แก่ 1. การแลกเปลี่ยนความรู้ความคิดระหว่างพ่อแม่กับลูก ผ่านการ เล่าเรือ่ งราวต่าง ๆ การสนทนา การรับประทานอาหารร่วมกันโดยไม่มกี ารต�ำหนิ ตัดสิน เน้นการใช้ทักษะการฟัง โดยเฉพาะการฟังด้วยใจ เพราะหากเรา ฟังด้วยใจเราจะได้ยนิ ในสิง่ ทีล่ กู ไม่ได้บอก ทัง้ นีพ้ อ่ แม่ตอ้ งเปิดใจ (open mind) ที่จะฟังเขาเสียก่อน 2. การมองเห็นภูเขาน�ำ้ แข็งทีอ่ ยูภ่ ายในใจของลูก เพราะทุกคนไม่สามารถ แสดงออกซึ่งพฤติกรรมหรือความสามารถทุกอย่างที่ตนเองเป็น สิ่งที่เราเห็น เป็นเพียงพฤติกรรมทีอ่ ยูย่ อดบนสุดของภูเขาน�ำ้ แข็งขนาดใหญ่แต่ยงั มีอกี มากมาย ที่ถูกเก็บซ่อนไว้ ความคิด ความรู้สึก ความคาดหวัง ความปรารถนาและตัวตน ทีแ่ ท้จริงของเขา หลายครัง้ พ่อแม่บอกว่าท�ำไมลูกจึงเป็นเช่นนัน้ ท�ำไมลูกจึงท�ำเช่นนี้ ท�ำไมลูกจึงเปลี่ยนไป แท้ที่จริงแล้วเขาแค่แสดงตัวตนที่ถูกปิดบังเอาไว้ภายใต้ ภูเขาน�้ำแข็งนั่นเอง พ่อแม่ที่ดีจึงจ�ำเป็นจะต้องค้นหาสิ่งที่อยู่ภายใต้ภูเขาน�้ำแข็ง ของเขาและน�ำมาปรับ ขัดเกลา และสลายภูเขาลูกใหญ่ที่ถูกเก็บซ่อนเอาไว้ในใจ ทีส่ ำ� คัญ พ่อแม่ตอ้ งเปลีย่ นสถานะจากผูป้ กครองมาเป็นผูส้ นับสนุนแทนทีจ่ ะต�ำหนิ ต่อว่า ต้องช่วยกันค้นหาว่าอะไรคือสาเหตุที่แท้จริงของพฤติกรรมเหล่านั้น อย่าบีบบังคับให้เขาตอบหรือท�ำอย่างทีพ่ อ่ แม่ตอ้ งการ เพราะหากพ่อแม่ทำ� เช่นนัน้ เด็กจะต่อต้าน ปิดบังและเริ่มโกหกเพื่อให้พ่อแม่สบายใจ จนเกิดเป็นภาวะบุคลิก 2 ขั้ว หรือภาวะซึมเศร้าได้ 3. การสร้างแรงบันดาลใจ เราต้องปลุกพลังสร้างแรงบันดาลใจไปพร้อมกับการค้นหาว่าอะไร คือสิ่งที่ลูกอยากท�ำ แล้วออกแบบดูว่าอะไรสามารถสนับสนุนได้บ้าง จากนั้นพ่อแม่ต้องอยู่กับลูก ไปจนกว่าเขาจะประสบความส�ำเร็จในฐานะเพื่อนร่วมทางและเพื่อนคู่คิดไม่ใช่ในฐานะพ่อแม่ ที่อาบน�้ำร้อนมาก่อน 4. การจัดระบบความคิด เป็นการวางรากฐานของความคิดเพื่อให้บรรลุในสิ่งที่หวังหรือ ปรารถนา เราอาจคุ้นเคยกับการท�ำ Mind Mapping เพราะมีลักษณะแบบเดียวกันแต่การจัด ระบบความคิ ด ที่ ดี นั้ น ควรมาจากการตั ด สิ น ใจของตั ว เด็ ก เอง โดยที่ เราเป็ น เพี ย งผู ้ ตั้ ง ค� ำ ถาม สะท้อนความคิด สะท้อนการตัดสินใจเพื่อให้เขาเห็นภาพของการตัดสินใจได้ชัดเจนมากขึ้น 5. การท�ำงานเป็นทีม พ่อแม่ต้องเป็นทีมเดียวกับลูก สนับสนุนดูแลแนะน�ำแต่ไม่สั่งสอน ต้ อ งเปิ ด ใจ เชื่ อ ใจและไว้ ว างใจซึ่ ง กั น และกั น ไม่ ว ่ า ผลจะออกมาเช่ น ไร จะผิ ด พลาดหรื อ ประสบความส�ำเร็จก็สามารถเรียนรู้และเติบโตไปพร้อมกันได้ ยอมรับในความเป็นปัจเจกบุคคล ของเด็ ก ที่ ส� ำ คั ญ พึ ง ระลึ ก ไว้ เ สมอว่ า ลู ก ต้ อ งการความรั ก มากที่ สุ ด ในเวลาที่ เขาไม่ น ่ า รั ก ยิ่งเขาไม่น่ารักเท่าไร ยิ่งเขาก้าวร้าวเท่าไร แสดงว่าเขาต้องการความรักและการเอาใจใส่ จากเรามากขึ้นเท่านั้น เราต้องให้ความรักก่อนที่จะให้ความรู้เพราะหากเขารับรู้ถึงความรัก เขาก็ พ ร้ อ มที่ จ ะเรี ย นรู ้ ทุ ก สิ่ ง ทุ ก อย่ า ง โรงเรี ย นเป็ น เสมื อ นครอบครั ว จ� ำ ลองขนาดใหญ่ ครูจึงเป็นพ่อแม่คนที่สองของเด็กด้วย เราพยายามสร้างเขาและพัฒนาอย่างที่เขาควรเป็น แต่คงจะส�ำเร็จไม่ได้หากทางบ้านไม่สนับสนุน ลองดูนะคะเพราะอนาคตของเขาอยูท่ เี่ ราชีแ้ นะ อนาคตของชาติอยูใ่ นความคิดของพวกเขา ห้ อ งเรี ย นพ่ อ แม่ อ าจเป็ น เรื่ อ งใหม่ แ ต่ ไ ม่ ใช่ เรื่ อ งยาก เรามาสร้ า งห้ อ งเรี ย นพ่ อ แม่ ที่ เ หมาะ กับการเรียนรู้ของเขาด้วยกันเถอะค่ะ 47


Maryvit Bowin Mathayom 1-3

English Camp 2018

Maryvit Bowin School organized a fun-filled English Camp last Winter for the Mathayom 1-3 students. The camp was held over a 10-day period starting on October 8 until October 19. “Nature meets Adventure” was the theme for the English Camp this year. Students participated in morning classes where they learned English, Math, and Science. The morning class-based activities allowed the students to understand more about nature and environment, and explore the ways we consume natural resources and what we can do to conserve and protect these natural resources. In the afternoon, students enjoyed outdoor games and sports related to the subject content that was presented to them in the morning classes. The students were encouraged to speak and use English at 48

all times during the activities. All instructions during the camp were presented in English either by the foreign or Thai English teachers. It was a very engaging two-week of active learning using English in different situations. The main highlight of the 2-week camp was the 3-day and 2-night outing at Brookside Valley Resort in Rayong. A total of 63 students from Maryvit Bowin and 7 students from Maryvit Sattahip took part in this overnight camp. Students had fun exploring the campsite while working in teams to accomplish various outdoor group activities such as treasure hunting and emergency shelter building. Students were also allowed free time to swim in the pool, play basketball and volleyball, take pictures of the beautiful sceneries, or just hang out with friends in the lobby area playing darts, pool, and foosball. In addition to all the activities organized


Words from our English campers English Camp is a time when I get to practice

by the teachers, the students got to enjoyed the Adventure Land where they took turns ziplining, rock climbing, boating, and cycling. During the last night at the overnight camp, students showed their group performances and nature fashion show. On the last day, students started their day with morning meditation and exercise. After breakfast, they had time to reflect on the activities for the past two days and complete their personal journal. The rest of the days were all spent in school with more fun activities. It was such a memorable experience for both the campers and teachers. Learning English was indeed fun for the students during those 10 days. See you next year in a more fun-filled English Camp.

my English daily with my friends and teachers. I would like to share some of my experiences during English camp. It was a fun way to learn English because all the activities were well organized and we got to work in teams. Active learning makes learning English fun even in difficult subjects. Part of the camp was spent overnight at Brookside Valley Resort and Strawberry Town in Rayong. The main reason we travelled there was to gain more experience and learn how to survive in the jungle. At the resort, we did a lot of activities like building a tent, nature fashion show, swimming, singing, and dancing. We stayed at the resort for 3 days and 2 nights. When we came back from Rayong, we did more activities at school. On the last day, we showcased our group presentation, viewed camp photos for the past two weeks, and went to the cafeteria to eat ice cream. It was a memorable day for all of us. This will be my last English Camp because I will be in Mathayom 4 next year. I am glad I was able to join the camp this year because it was special to be with friends and work in teams while learning English at the same time. Sasiprapa “Ice” Arjsin M.3/1

49


This is my first time to experience English Camp and I am very amazed about the camp. Why? Because this camp let me meet new friends, learn many things, and experience new things. I have an opportunity to learn and share different ways of surviving in the jungle. I also learn the rules and techniques of playing basketball, how to cook and make churros, and many more. I have so much happy memories and precious moments with my friends. I would like to share this experience with my other friends because I want to encourage my friends to learn and speak English. I hope that there will be more fun activities and crazy adventure next time. Punnathorn “Fume” Khunhon M.1/1

English Camp is a learning camp for the students to learn and practice English and have fun together. I and my fellow campers tried some new adventures and new things in a safe environment away from home. I can say that this year’s English Camp was great because I get to make new friends, develop my social skills, and learn to be independent. I made new friends during English camp because I was grouped with students from other grades. We had to work together during group activities. Also, when we went to Brookside Valley Resort, I met other English campers who came from Maryvit Sattahip. We had fun and worked together in some activities like team building activity, games, singing, dancing, arts, and many more. English camp for me is a place where students can build good relationships and socialize with each other. Joining English camp this year allowed me to develop my social skills. I became more cooperative and engaged in working with others. We performed several tasks together with my team and other teams too. I had so much fun working with them. I learned to be more independent after attending English camp. The activities at English camp presented many opportunities for me to grow more independently. Being away from home during the overnight camp, I needed to take care of myself without the guidance of my parent. I learned to manage myself like doing chores and make sure that I was safe in every activity that I participated in. I also gained more self confidence because I had to be active in all the activities at camp. I now have more confidence in performing and speaking English in front of many people. English camp is fun. The value of experience that I have gained during camp is invaluable. I hope that the next camp is livelier and filled with more activities! Pailene Peakkhuntod M.2/4

50


“วั น สมเด็ จ พระมหาธี ร ราชเจ้ า ” เป็ น วั น ส� ำ คั ญ ของ คณะลูกเสือแห่งชาติตลอดจนลูกเสือ-เนตรนารี และบุคลากร ทางการลูกเสือ คือเป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จ พระรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราวุธฯ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว “พระผู ้ พ ระราชทานก� ำ เนิ ด ลู ก เสื อ ไทย” และเพื่ อ เป็ น การ น้ อ มร� ำ ลึ ก ในพระมหากรุ ณ าธิ คุ ณ และแสดงความกตั ญ ญู กตเวทิตาธรรม คณะลูกเสือ-เนตรนารี และบุคลากรทางการลูกเสือ โรงเรียนมารีวิทย์บ่อวิน จึงได้จัดพิธีวางพวงมาลาและถวาย ราชสดุดีขึ้นในพุธที่ 21 พฤศจิกายน 2561

51


52

“การศึกษาทีด่ ยี อ่ มมาจากการเรียนรูท้ ไี่ ด้รบั ผ่านประสบการณ์ ด้วยตนเอง” หากจะพูดถึงการเรียนรู้แล้วนั้นคงไม่มีใครปฏิเสธได้ว่า การได้เรียนรูด้ ว้ ยทัศนคติเชิงบวก รักและมีความสุขทีจ่ ะได้ทำ � รักทีจ่ ะรู้ ในสิ่ ง นั้ น ได้ ค ้ น พบทั ก ษะความสามารถของตนเองแล้ ว ท� ำ สิ่ ง นั้ น อย่ างสุ ด ความสามารถจนกลายเป็นทัก ษะติด ตัว ไปตลอดชี วิ ต นั้ น เป็นการเรียนรู้ที่ดีที่สุด ปัจจัยส�ำคัญที่จะท�ำให้เกิดการเรียนรู้ที่คงทน นัน่ ก็คอื ความพอใจและรักทีจ่ ะท�ำสิง่ นัน้ ในการจัดการศึกษาในโรงเรียน สิ่งแรกที่ทุกคนควรค�ำนึงจึงไม่ใช่แค่ความรู้จากหนังสือ หรือจาก หลักสูตรอีกต่อไป แต่เป็นการมอบความรักให้กับนักเรียนเพื่อให้เขา ได้มีทัศนคติที่ดีต่อสิ่งที่ก�ำลังจะเรียนรู้และพัฒนาไปสู่การเกิดทักษะ ที่ดีติดตัวต่อไป ในวันที่ 19-22 สิงหาคม 2561 ได้มีการจัดประชุมสัมมนา ของสภาการศึกษาคาทอลิกแห่งประเทศไทย ณ โรงแรมเอเชีย พัทยา ในหัวข้อ “การศึกษาคาทอลิกเสริมสร้างความรักและความรู้สู่ Thailand 4.0” ในการจั ด ประชุ ม สั ม มนาในครั้ ง นี้ ได้ มี ก าร ให้ ค วามรู ้ แ ละสารประโยชน์ ด ้ า นการศึ ก ษาในหลายหั ว ข้ อ จากวิทยากรผู้มีความรู้และประสบการณ์ในด้านการจัดการศึกษา โดยหัวข้อแรกท่านอาจารย์ชัยณรงค์ มณเฑียรวิเชียรฉาย ได้กล่าวถึง พ่ อ แม่ ผู ้ ที่ มี บ ทบาทส� ำ คั ญ ในการพั ฒ นาด้ า นศี ล ธรรมของลู ก โดยท่านอาจารย์ได้ให้ข้อคิดว่าพ่อแม่ต้องรู้ว่าเวลาหลังเลิกเรียน ลูกของเราอยู่ที่ไหน การหล่อหลอมศีลธรรมแก่ลูกผ่านความใส่ใจลูก และดู แ ลเขาอย่ า งใกล้ ชิ ด การลงโทษลู ก ด้ ว ยเหตุ ผ ล และหาก

พ่อแม่ท�ำผิดต้องกล้าที่จะขอโทษเพื่อเป็นแบบอย่างที่ดี ให้แก่ลูก หัวข้อที่สอง “ให้ความรักก่อนให้ความรู้” โดย ดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ ที่ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับการศึกษาในแง่ จิตวิทยาเชิงบวก (Positive Psychology) กล่าวคือ ทุกคน มีทักษะความสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง (self directed learning) รวมทัง้ ครูและผูเ้ กีย่ วข้องไม่ใช่แค่นกั เรียนเท่านัน้ แต่ทุกคนต้องปรับทัศนคติและฝึกทักษะใหม่ ๆ เพื่อเปลี่ยน การศึ ก ษาเป็ น การเรี ย นรู ้ แ ละเปลี่ ย นการป้ อ นความรู ้ เป็นกระตุ้นผู้เรียนให้เปิดศักยภาพของตนเอง เปลี่ยนการ วัดผลทางวิชาการเป็นการวัดผลพฤติกรรม เปลี่ยนบทบาท ของครูเป็นโค้ช จัดการเรียนการสอนเป็นทีม สร้างบรรยากาศ ในการเรียนให้เกิดความสนุกสนาน และสิ่งส�ำคัญคือการ สร้างทัศนคติเชิงบวกผ่านกิจกรรมทีไ่ ม่เน้นการแข่งขันพร้อม กับการชืน่ ชมเมือ่ ท�ำดีมากกว่าการต�ำหนิเมือ่ เกิดข้อผิดพลาด หัวข้อต่อมาเกี่ยวกับหลักจิตวิทยาสถาบันครอบครัวและ คุณค่า ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ โดย ท่าน พว.สุวลักษณ์ อัศดรเดชา ซึ่งท่านได้ให้ความรู้ด้านจิตวิทยาครอบครัว เพือ่ ให้ทกุ คนรอบข้างเด็ก ๆ ได้มคี วามเข้าใจพวกเขา พร้อมกับ ให้ความรักความเข้าใจอย่างเหมาะสม ซึ่งท่านได้กล่าวว่า การพั ฒ นาพื้ น ฐานด้ า นจิ ต ใจของเด็ ก ถื อ เป็ น สิ่ ง ส� ำ คั ญ เป็นต้นทุนที่จ�ำเป็นต่อการเจริญเติบโตและการด�ำเนินชีวิต


ขั้นพื้นฐาน ครอบครัวจึงจ�ำเป็นต้องตระหนักและ ให้ความส�ำคัญอย่างยิง่ ยวด ผลลัพธ์จากการถูกเลีย้ งดู ของครอบครั ว ที่ แ ตกต่ า งกั น จึ ง มี อิ ท ธิ พ ลต่ อ เด็ ก ทั้งด้านพฤติกรรมและการเรียนรู้ ดังนั้นพ่อแม่และ ผู้ใหญ่รอบข้างของเด็กจึงต้องเปิดปุ่มความดีของเขา ด้ ว ยการท� ำ ให้ เขาเกิ ด ความภาคภู มิ ใจในตนเอง ต้องชืน่ ชมเขาทัง้ ด้วยภาษาพูดและภาษากาย ท�ำให้เขา ได้รบั การยอมรับในตนเองและมีความเข้าใจว่า “คนที่ ประสบความส�ำเร็จคือคนที่เข้าใจว่าตนเองเป็นคน ธรรมดา” หัวข้อที่น่าสนใจหัวข้อต่อมาคือ การจัด การศึกษาสูบ่ รู พาภิวตั น์ โดย รศ.ดร. จ�ำนง สรพิพฒ ั น์ อาจารย์ยุวดี คาดการณ์ไกลและซิสเตอร์ชวาลา เวชยันต์ ในหัวข้อนี้ได้รับความรู้เกี่ยวกับการพัฒนา ของประเทศในโลกตะวั น ออกในหลาย ๆ ด้ า น โดยเฉพาะด้านการศึกษา ซึง่ คณะวิทยากรได้ให้ความรู้ ว่าการพัฒนาอย่างรวดเร็วของประเทศฝั่งตะวันออก โดยเฉพาะในประเทศจีนและประเทศอินเดีย ที่มี บทบาทส�ำคัญในหลาย ๆ ด้านต่อสังคมโลกในปัจจุบนั ดังนั้นประเทศไทยของเราจึงควรใส่ใจและพัฒนา ด้านการศึกษาเพื่อให้ก้าวทันประเทศที่พัฒนาแล้ว โดยในการจัดการหลักสูตรให้สอดคล้องกับบูรพาภิวตั น์ นั้นมีองค์ประกอบ 4 ประการที่ส�ำคัญ คือ เป้าหมาย เนื้อหาส�ำหรับการเรียนการสอน กิจกรรมในการจัด การเรียนการสอนและการประเมินผลทีส่ อดคล้องกับ เป้าหมายของการเป็นบูรพาภิวัตน์ ซึ่งในการวาง เป้าหมายของหลักสูตรต้องมีการพัฒนาผู้เรียนให้มี คุณธรรม มีศักยภาพมีความสามารถที่สอดคล้อง กั บ การเป็ น ผู ้ น� ำ แบบตะวั น ออก ด้ า นเนื้ อ หาของ การเรียนการสอนจะมุง่ เน้นวิทยาการด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและทางด้านมนุษยศาสตร์ สังคมวัฒนธรรม ทักษะด้านภาษา ความสามารถในการประกอบอาชีพ รวมทั้งด้านจริยธรรมที่ส่งเสริมทักษะชีวิตการใส่ใจ ต่อผู้คนและสิ่งแวดล้อม ในการจัดกิจกรรมการเรียน การสอนควรเป็นกิจกรรมที่เน้นความเป็นหมู่คณะ การเคารพในความแตกต่าง การส่งเสริมความคิดริเริม่ และการมีความรับผิดชอบในการท�ำหน้าทีข่ องตนเอง และส่วนรวม และส�ำหรับการประเมินผลควรเป็นการ ประเมินผลทั้งในด้านกระบวนการและผลลัพธ์หรือ การประเมินผลตามสภาพจริง อีกหนึ่งหัวข้อที่ถือว่า เป็นหัวข้อที่มีความส�ำคัญอย่างยิ่งกับทุกคนในสังคม ที่อยู่นอกตัวของเด็กนั่นก็คือ สื่อสารสังคมสร้างสรรค์ เพือ่ รักและเรียนรูท้ เี่ ป็นหัวข้อทีก่ ล่าวถึงการใช้อปุ กรณ์ สื่อสารในปัจจุบันที่มีบทบาทมากในชีวิตประจ�ำวัน ของทุกคน โดยผู้ที่มาให้ความรู้ในครั้งนี้คือคุณวิบูลย์ ลีรัตนขจร ซึ่งได้ให้แนวทางในการใช้อุปกรณ์สื่อสาร

ให้เหมาะสมว่าควรลองมาสร้าง “ชั่วโมงออฟไลน์” ภายในครอบครัว คือให้ทุกคนลองปิดเครื่องมือสื่อสารแล้วหันมาใช้เวลาร่วมกันเพื่อร่วมท�ำ กิจกรรมทีไ่ ด้ทบทวนเรือ่ งราวต่าง ๆ ในชีวติ ประจ�ำวัน ได้พดู คุยแลกเปลีย่ น ความคิดของกันและกัน พร้อมกับช่วยกันคิดหาแนวทางในการพัฒนา ตนเองร่วมกับการใช้สื่อดิจิทัลในปัจจุบันได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม กับบทบาทและการด�ำเนินชีวิตของเราในแต่ละวัน และหัวข้อสุดท้าย ที่จะพูดถึงในครั้งนี้คือการกล่าวปาฐกถาพิเศษ “การสร้างสรรค์ของการ ศึกษาคาทอลิกต่อสังคมไทย” โดย นายแพทย์ธรี ะเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่ได้ให้ความรู้และข้อคิดในการ จัดการศึกษาว่า ในการจัดการเรียนการสอนต้องสอนให้ผู้เรียนรู้แนวทาง การด�ำเนินชีวิต ไม่มองเพียงตนเองเป็นส�ำคัญแต่ใส่ใจผู้อื่น ฝึกให้เด็กรู้จัก ตนเองไปพร้อมกับการรักตนเอง มุ่งเน้นการยกระดับจิตใจเพื่อให้เขา พัฒนาทั้งด้านร่างกายและจิตใจได้อย่างเหมาะสมและสมวัย โดยท่านได้ กล่าวสรุปว่า “หัวใจของการปฏิรูปการศึกษา คือความสัมพันธ์ของครูกับ นักเรียน” ดังนั้นต้องเน้นให้เด็กและครูได้ท�ำกิจกรรมร่วมกัน ต้องให้ครู รักเด็กและเด็กรักครูไปพร้อม ๆ กัน ในการเข้าร่วมการประชุมสัมมนาในครั้งนี้ท�ำให้ได้เปิดมุมมอง ความรู้และความเข้าใจด้านการศึกษาอย่างกว้างไกล โดยเฉพาะ อย่างยิง่ การพัฒนาด้านการจัดการเรียนการสอน การไม่มอง เพี ย งแค่ ห ลั ก สู ต รหรื อ การป้ อ นความรู ้ ด ้ า นวิ ช าการ ให้กบั เด็กเท่านัน้ ในยุคทีโ่ ลกมีววิ ฒ ั นาการอย่างรวดเร็ว สิง่ ทีต่ อ้ งพัฒนาไปควบคูก่ นั เพือ่ ให้เกิดการพัฒนาทีย่ งั่ ยืน และด�ำเนินไปอย่างถูกต้อง คงไม่พน้ การสร้างความเข้าใจ ให้ทั้งผู้ที่มอบความรู้ให้แก่ผู้รับและหากผู้รับจะยื่นมือรับ ไว้ อ ย่ า งเต็ ม ใจเขานั้ น ต้ อ งมี ค วามรั ก และความสุ ข ที่ จ ะรั บ มั น อย่ า งแท้ จ ริ ง ดั ง นั้ น การเสริ ม สร้ า ง ความรักแก่ผู้เรียนก่อนมอบความรู้ให้แก่เขา จึ ง เป็ น สิ่ ง ส� ำ คั ญ ที่ สุ ด เพื่ อ ให้ เขาเกิ ด ความ ภาคภูมิใจและเรียนรู้สิ่งนั้นอย่างมีความสุข 53


คณะผูบ้ ริหารและคณะครูโรงเรียนมารีวทิ ย์บอ่ วิน ได้ เ ล็ ง เห็ น ถึ ง ความส� ำ คั ญ ของภาษาอั ง กฤษ และมี ความต้ อ งการที่ จ ะพั ฒ นาคณะครู ใ ห้ มี ทั ก ษะในด้ า น การฟัง การอ่านภาษาอังกฤษ และการสื่อสารทั่ว ๆ ไป จึ ง ได้ มี ก ารจั ด สอบ TOEIC Mock Test (Test of English for International Communication) เพื่อวัดระดับความรู้ทางภาษาอังกฤษ ซึ่งในปัจจุบัน มีรูปแบบ TOEIC Test อยู่ 2 แบบ คือ Listening & Reading Test และ Speaking & Writing Test แต่ มั ก จะนิ ย มในการสอบแบบแรกมากกว่ า ซึ่ ง ใน ปีการศึกษานี้มีคณะครูที่ประจ�ำการสอนวิชาภาษาอังกฤษ และไม่ได้ประจ�ำการสอนวิชาภาษาอังกฤษมาร่วมท�ำ การทดสอบเป็นจ�ำนวนมาก เพราะเนือ่ งจากภาษาอังกฤษ เป็ น ภาษาสากลที่ ใช้ กั น ทั่ ว โลกและยั ง สามารถใช้ ใ น ชีวิตประจ�ำวัน ซึ่งในปัจจุบันไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ คณะครูจึงต้องมีการพัฒนาตนเองอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้ ก้าวทันกับสังคมโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย 54


การเรี ย นรู ้ ที่ ดี มั ก เกิ ด มาจากการมี ป ระสบการณ์ ที่ เราได้ มี ป ฏิ สั ม พั น ธ์ กั บ สิง่ แวดล้อมหรือการฝึกฝน การได้พบเห็นสิง่ ใหม่ในสถานทีใ่ หม่ ได้พบได้เห็นได้ลงมือท�ำ ในสิ่งที่ไม่เคยได้ท�ำ ซึ่งเป็นการส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ได้อย่างถาวรไปพร้อม ๆ กับ เกิดทัศนคติที่มุ่งเน้นให้นักเรียนสนใจศึกษาในสิ่งที่อยู่รอบตัว การไปทัศนศึกษาจึงเป็นการ สร้างการเรียนรู้ที่เกิดประโยชน์อย่างสูงสุดอีกทางหนึ่งซึ่งจะท�ำให้นักเรียนได้เกิดการเรียนรู้ ผ่านประสบการณ์ตรง ได้เรียนรู้นอกห้องเรียนและได้รับความรู้ที่ตนเองสนใจอีกด้วย ทางโรงเรียนมารีวิทย์บ่อวินจึงได้จัดให้นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ไปทัศนศึกษาที่สวนป่าสิริเจริญวรรษอันเนื่องมาจากพระราชด�ำริ สถานทีซ่ งึ่ เป็นแหล่งการเรียนรูท้ างด้านสิง่ แวดล้อมทีส่ ำ� คัญแห่งหนึง่ นักเรียนได้รบั ความรูเ้ กีย่ วกับการอนุรกั ษ์ปา่ และต้นน�ำ้ ซึง่ เป็นการปลูกฝัง ให้นักเรียนได้ตระหนักถึงความส�ำคัญของป่าไม้ อีกทั้งยังได้เดินส�ำรวจป่าซึ่งท�ำให้นักเรียนได้เรียนรู้วิถีการใช้ชีวิตในป่า ความรู้รอบตัว เกี่ยวกับพันธุ์ไม้และพันธุ์สัตว์ป่านานาชนิด ตลอดจนได้ท�ำกิจกรรมต่าง ๆ เช่นการจัดท�ำฝายชะลอน�้ำ กิจกรรมปลูกป่าในใจคน ซึง่ นักเรียนได้รบั ความสนุกสนานพร้อมกับการท�ำประโยชน์ในด้านการอนุรกั ษ์นำ�้ และเสริมสร้างจิตส�ำนึกทีด่ ใี นการอนุรกั ษ์วา่ ต้องท�ำอย่างไร ค�ำตอบนั้นอาจมีได้หลายอย่างแต่ค�ำตอบหนึ่งที่บอกได้ชัดเจนคือ การให้นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติและเกิดความภาคภูมิใจไปพร้อมกัน

55


การเรียนรูไ้ ม่จำ� เป็นต้องถูกจ�ำกัดอยูแ่ ค่ภายในโรงเรียนเท่านัน้ ชีวติ คือการเรียนรู้ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด จากแนวคิดเรื่องนี้โรงเรียนมารีวิทย์บ่อวินจึงจัดกิจกรรมให้นักเรียน ได้ทัศนศึกษาภายใต้แหล่งเรียนรู้ที่มีคุณค่า โดยเน้นให้นักเรียนได้เรียนรู้ทั้งความรู ้ คุณธรรม และค่านิยมอันดีงามเพื่อเตรียมความพร้อมสู่การเป็นพลเมืองที่ดีและพลโลก ที่มีประสิทธิภาพต่อไป ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ได้พานักเรียนไปทัศนศึกษา ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอือ้ งทีม่ แี นวคิดว่าความส�ำเร็จมีคา่ มากกว่าหลายร้อยค�ำสอน และสอนผ่านการลงมือปฏิบัติ นักเรียนได้เรียนรู้กิจกรรมที่สอดคล้องกับการรักษาดูแล ธรรมชาติ เช่น ฐานคนเอาถ่าน รู้จักการผลิตถ่านโดยไม่ท�ำลายธรรมชาติ ฐานคนรักน�้ำ ผลิตระเบิดจุลนิ ทรียเ์ พือ่ เพิม่ จุลนิ ทรียใ์ ห้แหล่งน�ำ ้ ฐานคนติดดินเรียนรูว้ ธิ กี ารสร้างบ้านดิน พร้อมตัวอย่างบ้านดินหลากหลายรูปแบบที่อยู่ได้จริง และฐานคนรักป่า ได้เห็นป่า หลายรูปแบบทีล่ ว้ นแล้วแต่พงึ่ พาอาศัยกัน เป็นต้น ซึง่ การไปทัศนศึกษาในครัง้ นีน้ กั เรียน ได้รับความรู้และประสบการณ์จากการปฏิบัติโดยตรง ได้ทราบถึงปัญหาทางธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นและแนวทางในการแก้ไขซึ่งถือว่าเป็นการเรียนรู้นอกห้องเรียนอย่างมีคุณค่า

56


ศู น ย์ วิ ท ยาศาสตร์ เ พื่ อ การศึ ก ษาแห่ ง ชาติ ท้ อ งฟ้ า จ� ำ ลองกรุ ง เทพ (BANGKOK PLANETARIUM) เป็นศูนย์การเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ด้วยกระบวนการเรียนรู้ในรูปแบบพิพิธภัณฑ์การศึกษา เพื่อสร้างความตระหนัก และจิตส�ำนึกเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อมให้กับนักเรียนและยัง ได้สนุกไปกับเครือ่ งมือและอุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์ทสี่ ามารถลงมือทดลองทดสอบ และสัมผัสสิง่ ต่าง ๆ ได้ดว้ ยตัวเอง เช่น เครือ่ งจ�ำลองสภาวะไร้แรงดึงดูด ห้องปฏิบตั กิ าร หุ่นยนต์ เลเซอร์แสงมหัศจรรย์เมืองกระจกทะลุจักรวาล ตลอดจนนิทรรศการต่าง ๆ เช่น กาล-อวกาศ ดาวเทียม พลังวิทย์พิชิตยาเสพติด ฯลฯ นอกจากนี้ยังได้เข้าชม ภาพยนตร์วิทยาศาสตร์ที่ห้องมหกรรม 3D ซึ่งจัดแสดงภาพยนตร์ 3 มิติ นักเรียน ได้รบั ความรูค้ วามเพลิดเพลินจากการสอนดูกลุม่ หมูด่ าวต่าง ๆ ซึง่ เป็นแหล่งการเรียนรู้ นวัตกรรมความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีต่าง ๆ และเป็นการบูรณาการองค์ความรู้ ในศตวรรษที่ 21

57


“พิพิธภัณฑ์ศิริราชพิมุขสถาน แหล่งเรียนรู้ทางการแพทย์” กิจกรรมทัศนศึกษาในครั้งนี้นักเรียนได้เปิดโลกทัศน์ ในด้านการเรียนรูท้ างการแพทย์ เช่น การศึกษาระบบการท�ำงาน ของอวัยวะต่าง ๆ ภายในร่างกายมนุษย์ การพัฒนาการและ การก�ำเนิดของทารก นอกจากนั้นจึงได้ฝึกการปฏิบัติการ ในห้องจ�ำลองทางการแพทย์ เรียนรู้ประวัติความเป็นมาของ โรงพยาบาลศิริราช และชมภาพยนตร์เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ และโบราณคดี ข องพื้ น ที่ วั ง หลั ง -บางกอกน้ อ ย โดยผ่ า น วั ฒ นธรรมวิ ถี ชี วิ ต ชุ ม ชนจ� ำ ลอง ซึ่ ง ประสบการณ์ ค รั้ ง นี้ นั ก เรี ย นได้ รั บ ความรู ้ ความสนุ ก สนาน เพื่ อ น� ำ มาใช้ เ ป็ น แนวทางการศึกษาต่อในอนาคต 58


“มินิมูร่าห์ฟาร์ม” มิ นิ มู ร ่ า ห์ ฟ าร์ ม เป็ น ฟาร์ ม ปศุ สั ต ว์ อิ น ทรี ย ์ (Organic Farm) ซึ่ ง นั ก เรี ย น ได้ ศึ ก ษาต้ น แบบการท� ำ ธุ ร กิ จ เกษตรกรรมแบบครบวงจรและยั่ ง ยื น ตั้ ง แต่ ก าร เพาะปลู ก พื ช เพื่ อ ใช้ เ ป็ น อาหารสั ต ว์ จนถึ ง ขั้ น ตอนการเลี้ ย ง รี ด นมและแปรรู ป เป็ น ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ มูร่าห์ (Murrah) คือชื่อสายพันธุ์ควายนมที่นิยมเลี้ยงเป็นอย่างมาก ในทวี ป ยุ โรปเป็ น สายพั น ธุ ์ ที่ ใ ห้ น�้ ำ นมดี และมี คุ ณ ภาพ ทั้ ง นี้ นั ก เรี ย นได้ รั บ ความรู ้ ประสบการณ์และร่วมท�ำกิจกรรมกันอย่างสนุกสนาน

“องค์การพิพิธภัณฑ์ วิทยาศาสตร์แห่งชาติ” นักเรียนได้ไปศึกษาเรียนรู้ในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทราบถึง ประวัตนิ กั วิทยาศาสตร์ในรุน่ บุกเบิก การทดลองวิทยาศาสตร์ขนั้ พืน้ ฐาน อุโมงค์พลังงาน ความเป็นมาของโลกของเรา สิ่งแวดล้อมและธรรมชาติต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรม ทางวิทยาศาสตร์ที่หลากหลายและสนุกสนานให้นักเรียนได้ทดลอง โดยผ่านกระบวนการ เรียนรู้และการปฏิบัติทางวิทยาศาสตร์ในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งสร้างความตื่นตาตื่นใจ ให้กับนักเรียนเป็นอย่างมาก

59


“โอ้ เมือ่ มีไฟ ไฟ ไฟ ลุกขึน้ แจ่มจ้า สุขอุราเมือ่ เรามาพร้อมหน้ากัน ” บทเพลงนี้เป็นส่วนหนึ่งของบรรยากาศของการเข้าค่ายลูกเสือส�ำรอง ซึง่ โรงเรียนมารีวทิ ย์บอ่ วินได้จดั กิจกรรมนีข้ นึ้ เพือ่ ให้นกั เรียนได้เรียนทักษะ พื้นฐานทั่วไป เช่น การสังเกต การเอาตัวรอด ความอดทน การมีระเบียบ วินยั ความมีนำ�้ ใจ การอ่อนน้อมถ่อมตน และความเสียสละโดยผ่านกิจกรรม ตามฐานลูกเสือต่าง ๆ ซึ่งนักเรียนได้เรียนรู้และสามารถน�ำไปประยุกต์ใช้ ในชีวิตประจ�ำวันได้ นอกจากนี้ยังรู้จักการบ�ำเพ็ญประโยชน์ต่อผู้อื่น มีจิตสาธารณะ และพร้อมที่จะสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ ให้กับสังคม

60


กิจกรรมลูกเสือเป็นกิจกรรมทางการเรียนทีม่ วี ตั ถุประสงค์จะสร้าง บุคลิกภาพและพัฒนาการทางสังคมให้กับนักเรียน เพื่อให้เป็นพลเมืองดี ของประเทศโดยใช้ วิ ธี ก ารของลู ก เสื อ ยึ ด มั่ น ในกฎและค� ำ ปฏิ ญ าณ (Scout Promise and Laws) การเรียนรู้โดยการกระท�ำ (Learning by Doing) เน้นการปฏิบตั กิ จิ กรรมกลางแจ้ง (Outdoor Activities) และ การใช้ระบบหมู่ (Patrol System) โดยใช้หลักสูตรและวิชาพิเศษลูกเสือ (Proficiency Badges) ทางโรงเรียนมารีวิทย์บ่อวิน เล็งเห็นความส�ำคัญ จึงได้จัดกิจกรรมเข้าค่ายลูกเสือ เพื่อฝึกให้ลูกเสือระดับชั้นประถมศึกษา ปีที่ 4-6 เกิดความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ สร้างความ สามัคคีในหมู่คณะ ฝึกความมีระเบียบวินัย และฝึกทักษะการใช้ชีวิต อยู่ร่วมกัน รู้จักการเสียสละเห็นประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตน และ มีความตระหนักถึงภาระหน้าที่ที่ตนพึงปฏิบัติอยู่เสมอ ดังค�ำกล่าวที่ว่า “การเป็นลูกเสือมิใช่วา่ การลูกเสือเป็นเพียงของสนุก แต่จงเป็นลูกเสือ ด้วยจิตใจอันบริสุทธิ์ เสียสละ เพื่อว่าจะได้เตรียมตัวให้เป็นพลเมืองดี ไม่ใช่ของประเทศเท่านั้น แต่เป็นพลเมืองดีของโลกด้วย”

61


วิชาลูกเสือเป็นวิชาทีม่ งุ่ เน้นการพัฒนาทักษะของผูเ้ รียน เป็นส�ำคัญ โดยเน้นในเรื่องความมีระเบียบวินัย การเคารพกฎ กติกา การอยูร่ ว่ มกันกับบุคคลอืน่ การรูจ้ กั ช่วยเหลือซึง่ กันและกัน รวมไปถึ ง การมี จิ ต สาธารณะ และสามารถสร้ างทัก ษะชี วิ ต โดยผ่านกิจกรรมของลูกเสือตามฐานต่าง ๆ ซึ่งคติพจน์ของ ลูกเสือวิสามัญระดับชั้น ม.ต้น คือ “มองไกล” หมายถึงการรู้จัก มองไปข้างหน้าวางแผนอนาคตเป็นและสามารถแก้ไขปัญหาได้

62


63


การเรี ย น October Camp จะมี ขึ้ น ในช่ ว ง ปิดภาคเรียนที่ 1 ของทุกปี เพื่อให้เด็ก ๆ ระดับชั้น อนุบาลได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ และมีกิจกรรม ที่หลากหลายท�ำในช่วงปิดภาคเรียน ซึ่งในปีนี้จัดขึ้น ระหว่างวันที่ 8 - 19 ตุลาคม 2561 โดยมีโปรแกรม การเรียนสนุก ๆ ให้เด็ก ๆ ระดับชั้นอนุบาลได้เลือกเรียน ตามความสนใจ ดังนี้

64

โปรแกรมที่ 1 ฉลาดคิด สมาร์ทไอคิว เป็นกิจกรรมการเรียน แบบบูรณาการ เพือ่ ส่งเสริมการเรียนรูด้ า้ นศิลปะ ดนตรี กีฬา ภาษา การคิด การลงมือปฏิบตั จิ ริง เช่น การท�ำอาหาร การท�ำแป้งโดว์ การท�ำผ้ามัดย้อม เป็นต้น โปรแกรมที่ 2 Come and enjoy English เป็นกิจกรรมทีจ่ ดั ขึน้ เพื่อฝึกทักษะให้นักเรียนอนุบาลได้ฝึกใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ในชีวิตประจ�ำวันผ่านกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลาย เช่น Games and Communicative , Music and Dance , Story Telling เป็นต้น โปรแกรมที่ 3 วิชาการ เป็นกิจกรรมทีจ่ ดั ขึน้ เพือ่ ส่งเสริมและพัฒนา ทั ก ษะทางด้ า นการเรี ย นรู ้ ภาษาไทย คณิ ต ศาสตร์ ภาษาอั ง กฤษ และภาษาจี น ผ่ า นกิ จ กรรมการเรี ย นการสอนที่ เ น้ น กระบวนการ Active Learning นอกจากนี้ ทุ ก โปรแกรมยั ง ได้ ไ ปทั ศ นศึ ก ษานอกสถานที่ ณ ฟาร์มแกะพัทยา ซึ่งเด็ก ๆ ระดับชั้นอนุบาลทุกคนสนุกสนานกับการ ป้อนอาหารแกะ กระต่าย ชมเมืองนิทาน และยังได้ชมการแสดงแสนน่ารัก ของนกแสนรู้อีกด้วย


65


กิจกรรมการเรียนรู้เสริมสร้างประสบการณ์และเสริม ทักษะกระบวนการคิด และการปฏิบตั ผิ า่ นรูปแบบของกิจกรรม การเรียนรู้ในฐานต่าง ๆ ที่หลากหลาย เช่น - Art/Com ศิลปะสร้างสรรค์ฝึกใช้จินตนาการ ความคิด สร้างสรรค์ในการสร้างชิ้นงานผสมผสานเข้ากับการใช้ เทคโนโลยีในรูปแบบต่าง ๆ - Science & Thinking วิ ท ยสั ป ระยุ ท ธ์ ฝึ ก การคิ ด การทดลองและฝึกการลงมือปฏิบตั ิ โดยใช้หลักการเบือ้ งต้น ทางวิทยาศาสตร์ - Cooking ฝึกทักษะในด้านการประกอบอาหารไทย/สากล เช่น พิซซ่า, ย�ำรวมมิตร, มะกะโรนีผดั ขีเ้ มา, เกีย๊ วทอดและ ขนมไทยที่หลากหลาย เช่น วุ้นกะทิ, ตะโก้, ชานมไข่มุก, น�้ำผลไม้ปั่น - Sport เสริมสร้างความแข็งแรงของร่างกายและฝึกทักษะ กีฬาในประเภทต่าง ๆ เช่น ว่ายน�ำ้ , ฟุตซอล, วอลเลย์บอล, แชร์บอล - Stem ฝึกการบูรณาการองค์ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยีและวิศวกรรมศาสตร์มาเชื่อมโยง ความเข้าใจทางทฤษฎีผ่านการปฏิบัติให้เห็นจริง

66


- Singing & Dancing ฝึกความมัน่ ใจ การกล้าแสดงออก และส่งเสริมสุนทรียภาพทางอารมณ์ผา่ นการร้องเพลง การเต้นและการแสดง อี ก ทั้ ง ยั ง มี ก ารเรี ย นรู ้ วิ ช าการในรู ป แบบของ กิจกรรมตามฐานต่าง ๆ ซึ่งนักเรียนได้รับความรู้ ทักษะ ความคิด จินตนาการจากการปฏิบัติ รวมทั้งยังได้รับ ประสบการณ์ ความสุข และความสนุกสนาน จากการ ไปทัศนศึกษาในสถานทีต่ า่ ง ๆ เช่น Teddy Bear, Parody Art และสวนน�้ำรามายณะ ในช่วงการเรียน Winter

67


ก่อนอื่นทางโรงเรียนมารีวิทย์บ่อวินต้องขอแสดงความยินดี กับ ดร. สตีเวน ชนะ กิติเกียรติศักดิ์ ทั้งนี้ไม่ใช่ ในฐานะของผู้บริหารเครือโรงเรียนมารีวิทย์ หากแต่ในฐานะของคุณพ่อคนหนึ่ง ที่ในปีการศึกษา 2561 นี้ ลูกสาวคนสวย คุณจูลอี าน่า ชยุตรา กิตเิ กียรติศกั ดิ์ (น้องแป้งร�ำ่ ) ส�ำเร็จการศึกษาระดับชัน้ อนุบาล 3 หลักสูตรปฐมวัย จากโรงเรียนมารีวิทย์ ในโอกาสนี้เรามีบทสัมภาษณ์ ถาม-ตอบ ซึ่งเป็นความรู้สึกในฐานะของคุณพ่อดังนี้ ความรู้สึกอย่างไรกับความส�ำเร็จของลูก ในการ Q : มีส�ำเร็ จการศึกษาระดับปฐมวัย A : มีความรู้สึกปลื้มปิติกับลูกมากครับ ผมมาย้อนมองตั้งแต่วัน

ที่ลูกออกมาลืมตามองโลกจนถึงวันนี้เป็นเวลา 6 ปีกว่า ๆ มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เปลี่ยนไป จากที่ลูกต้องพึ่งพ่อและแม่ ตลอดเวลา จนเริ่มช่วยตัวเองได้มากขึ้นตั้งแต่การรับประทาน อาหาร การแต่งกาย และเรื่องอื่น ๆ ถ้ามาดูเรื่องการเรียน น้องแป้งร�่ำเองก็ไม่ได้ต่างจากเด็กคนอื่น ๆ ที่ไม่อยากมาเรียน ตอนอยู่ระดับชั้น ก. ไก่ ก็ร้องไห้ เพราะ ไม่อยากมาโรงเรียน แต่พอได้มาอยูก่ บั เพือ่ น ๆ ได้ทำ� กิจกรรมร่วมกัน ท�ำให้อยากมา โรงเรียนครับ ผมเองก็ได้เห็นพัฒนาการของลูกในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านสังคมที่เริ่มมีเพื่อน อยากเล่นกับเพื่อน ๆ ตลอดเวลา ด้านสติปัญญาก็จะเห็นว่าลูกเริ่มที่จะหัดระบายสี หัดเขียนหนังสือ หัดอ่าน ด้านร่างกายมีการเจริญเติบโต มีสว่ นสูง ที่สูงขึ้น ทางด้านอารมณ์จะเห็นว่าลูกเริ่มที่จะชอบอะไรบ้าง เขาเริม่ รูจ้ กั ทีจ่ ะแสดงความรัก ความไม่พอใจ ความพึงพอใจได้ ในปี ก ารศึ ก ษาหน้ า ลู ก จะต้ อ งเจอกั บ สิ่ ง ที่ ท ้ า ทายมากขึ้ น ต้องช่วยเหลือตัวเองมากขึ้นและก็คงจะเริ่มเป็นตัวของตัวเอง มากขึ้น สิ่งเหล่านี้ผมก็คงจะคอยเฝ้าดูด้วยความห่วงใยและ ต้องยอมรับว่าลูกก�ำลังเติบโตขึ้นทุกวัน ผมอยากจะขอบคุณ คุณครูอนุบาลทุกท่านที่ช่วยดูแลลูกให้เติบโตเป็นเด็กที่ดี และเก่ง ท�ำให้เขาเติบโตขึ้นตลอด 4 ปีที่ผ่านมา น้องแป้งร�่ำ มีความภาคภูมิใจที่ได้เรียนโรงเรียนมารีวิทย์และรักคุณครู ทุกท่าน

เพราะเป็ น ผู ้ บ ริ ห ารโรงเรี ย น ผมขอตอบว่ า ผมเองก็ เ ป็ น พ่อธรรมดาที่มีทั้งข้อดีและข้อบกพร่อง ผมเองก็พยายาม ที่จะอ่านหนังสือในการเลี้ยงลูกแต่ก็คงไม่ได้ท�ำตามหนังสือ ได้ทกุ อย่าง แต่สงิ่ หนึง่ ทีผ่ มท�ำ คือ กลับมาสะท้อนดูวา่ สิง่ ทีต่ วั เอง จะต้องปรับปรุงเพื่อจะได้เป็นพ่อที่ดีของลูกคืออะไร

Q : มีเทคนิคในการเลี้ยงลูกอย่างไร A : ผู้ปกครองหลายท่านอาจจะมองว่าผมจะเป็นพ่อที่สมบูรณ์

68


ตอนทีผ่ มได้อา่ นหนังสือ 5 ภาษารักส�ำหรับลูก ได้พดู ถึงการสือ่ สาร ระหว่างพ่อแม่กับลูก หนังสือเล่มนี้พูดถึงภาษารัก 5 ภาษา คือ เวลา แห่งคุณภาพ ถ้อยค�ำทีเ่ สริมสร้าง การให้ของขวัญ การปรนนิบตั ิ การสัมผัส ทางกาย จริง ๆ แล้วในทุก ๆ ครอบครัวก็แสดงความรักด้วย 5 ภาษา ทีก่ ล่าวมาข้างต้นแต่อาจจะไม่ได้ทำ� อย่างสม�ำ่ เสมอ ส�ำหรับผมหนังสือเล่มนี้ ท�ำให้ผมมาสะท้อนถึงเวลาแห่งคุณภาพ ก่อนอ่านหนังสือเล่มนี้ ผมจะรูส้ กึ หงุดหงิดเพราะลูกไม่คอ่ ยอยากเล่นด้วยในเวลาทีผ่ มพร้อมจะเล่นกับเขา แต่พออ่านหนังสือเล่มนี้กลับได้ยินลูกเรียกพ่ออยากจะเล่นด้วยครับ ปัญหาคือเวลาที่ต้องการจะเล่นผมก�ำลังยุ่งกับสิ่งอื่น ๆ อยู่ เวลาเล่น ของพ่อกับลูกไม่ตรงกัน ผมไม่สามารถที่จะปรับลูกได้เรื่องนี้ ผมก็ต้อง ปรับตัวเองเมื่อลูกต้องการที่จะเล่นด้วย ผมก็จะต้องวางสิ่งที่ท�ำอยู่ เพื่อเล่นกับลูก การได้อยู่กับลูกและท�ำกิจกรรมร่วมกันก็เป็นสิ่งผมท�ำ แล้วมีความสุข ผมชอบที่จะอ่านนิทานให้ลูกฟังก่อนนอน บางครั้ง เขาอาจจะไม่อยากฟังแต่ก็พยายามอ่านให้ฟังครับ แต่บางครั้งลูกก็จะ เป็นคนไปหยิบนิทานมาให้อา่ นให้เขาฟังครับ สิง่ นีก้ เ็ ป็นกิจกรรมอีกอย่าง ที่ผมได้ท�ำกับลูกและก็ท�ำให้เรามีสัมพันธ์ที่ดีต่อกันครับ

การเลือกการศึกษาทีด่ ที สี่ ดุ ให้กบั ลูก มีหลักการอย่างไร ผมต้องบอกก่อนว่าผมโชคดีที่สุดที่เป็นผู้บริหารโรงเรียน เพราะ เราสามารถที่จะพัฒนาโรงเรียนให้กับลูกเราได้ ผมเคยปรึกษากัน ในครอบครัวว่าควรส่งลูกเรียนที่ไหนดี ท้ายที่สุดเราก็ตกลงกันว่า ให้เรียนที่โรงเรียนมารีวิทย์ เพราะเรามั่นใจว่าลูกจะได้สิ่งที่ดีที่สุด ในฐานะพ่อ สิง่ ทีผ่ มคิดว่าส�ำคัญทีส่ ดุ คือโรงเรียนจะต้องเป็นทีล่ กู ไป แล้วมีความสุข สร้างระเบียบวินยั และเสริมสร้างการเรียนรูใ้ ห้กบั ลูก สิ่งเหล่านี้ลูกผมได้รับที่โรงเรียนมารีวิทย์ คุณครูดูแลเอาใจใส่ ในทุก ๆ เรือ่ ง พัฒนาการของเด็กแต่ละคนจะแตกต่างกันแต่คณ ุ ครู ก็สามารถช่วยพัฒนาให้เขาพร้อมที่จะก้าวสู่ระดับประถมศึกษา ลูกผมเองก็ไม่ได้เป็นเด็กที่มีพัฒนาการด้านความพร้อมสูงนัก เพราะลูกผมเป็นเด็กที่เริ่มพูดช้า ตอนมาเรียน ก. ไก่ ก็ยังพูดได้ ไม่ ค ่ อ ยมาก และก็ เ คยไปหาผู ้ เชี่ ย วชาญในการพู ด เพื่ อ ให้ ลู ก ได้ฝึกพูด แต่ทุกสิ่งทุกอย่างก็ผ่านมาได้ ลูกผมจะไม่ค่อยแม่นย�ำ พยัญชนะไทย ตอนขึ้นอนุบาล 3 ใหม่ ๆ ก็ยังไม่แม่นแต่พออยู่ อนุบาล 3 มาประมาณ 3 เดือนก็เริ่มที่จะอ่านออกเสียงให้ฟัง

Q: A:

Q : เรื่องภาษามีความส�ำคัญอย่างไรกับอนาคตของเด็ก ๆ าพูดถึงเรื่องภาษา ภาษาที่ส�ำคัญที่สุดคือภาษาที่พ่อแม่และลูก A : ถ้จะสามารถสื ่อสารกันได้และเข้าใจกันได้ เพราะฉะนั้นถ้าพ่อแม่

ในฐานะผู้บริหาร ผมก็พยายามพัฒนาโรงเรียนเพื่อนักเรียนทุก คนจะได้เติบโตเป็นคนดีของสังคม เป็นผู้ที่มีความสุขในการใช้ชีวิตและ เป็นที่ยอมรับของสังคม ความท้าทายนี้ผมมองว่าเป็นแรงผลักดันให้ โรงเรียนมารีวทิ ย์ตอ้ งพัฒนาไปอย่างรวดเร็วและต่อเนือ่ ง แต่แน่นอนครับ มันก็มีบางสิ่งบางอย่างที่อาจจะยังไม่สมบูรณ์แต่เราก็ยังมุ่งมั่นเดินหน้า ต่อไปครับ

ใช้ภาษาไทยที่บ้านผมก็มองว่าภาษาไทยส�ำคัญที่สุด ส่วนภาษา ที่สองและสามนั้นมีความส�ำคัญเช่นกัน แต่ก็สามารถที่จะเรียนรู้ และพัฒนาได้ วันนีผ้ มมองว่าคนไทยให้ความสนใจกับเรือ่ งการเรียน ภาษาที่สองและสามมากจนภาษาไทยอาจจะถูกลดความส�ำคัญ จนกลายเป็นภาษาที่สองหรือสามไปแล้วก็มี แต่ผมจะกลับไปมอง คนทีป่ ระสบความส�ำเร็จวันนีแ้ ละพูดภาษาอังกฤษหรือภาษาจีนได้ จะต้องมีพื้นฐานภาษาไทยที่ดีก่อนจึงไปเรียนภาษาอื่น ๆ ได้ ทักษะในการเรียนรูภ้ าษาเหมือนกันทุกภาษาครับ ผมก็เห็นด้วยครับ ว่าถ้าจะให้คนอายุ 30 ปีมาเรียนภาษามันก็อาจจะสายเกินไป แต่ เ ด็ ก ไม่ เ กิ น 20 ปี ยั ง มี ค วามสามารถในการเรี ย นรู ้ อี ก ครั บ ถ้าเขามองเห็นคุณค่าในสิ่งที่จะเรียนรู้

Q : คิดว่าอนาคตทางการศึกษาของไทยจะไปในทิศทางใด A : วันนี้นักวิชาการหลายท่านบอกว่าจะต้องเตรียมการศึกษาให้กับ เด็ก ๆ ในอนาคต แต่เป็นอนาคตที่ยังไม่มีใครรู้ว่าจะเป็นอย่างไร ผมก็ ถ ามตั ว เองค� ำ ถามนี้ เช่ น กั น และในฐานะผู ้ บ ริ ห ารของ เครือโรงเรียนมารีวิทย์หลังจากคิดและไตร่ตรองแล้วว่า การศึกษา ในอนาคตจะต้องเน้นที่การสื่อสาร ซึ่งเป็นการใช้ภาษาเพื่อสื่อสาร ส�ำหรับเครือโรงเรียนมารีวิทย์เราพุ่งเป้าไปที่ภาษาอังกฤษและ ภาษาจีน เพราะสองภาษานีน้ า่ จะเปิดโอกาสให้นกั เรียนพอสมควร อีกทั้งสองภาษานี้ยังเป็นภาษาทางการขององค์กรสหประชาชาติ การที่นักเรียนจะสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษและภาษาจีนได้ ก็จะเปิดโลกของนักเรียนให้กว้างขึ้นและจะเป็นข้อได้เปรียบ เมือ่ จะต้องติดต่อกับชาวต่างชาติ อีกประเด็นทีส่ ำ� คัญ คือ การสร้าง คุณธรรม จริยธรรม ให้กับนักเรียนทุกคน ทักษะต่าง ๆ ทางด้าน เทคโนโลยี ทางด้านความรู้ เป็นส่วนส�ำคัญส�ำหรับการท�ำงาน แต่ ห ลาย ๆ อย่ า งคงจะต้ อ งถู ก ทดแทนด้ ว ยปั ญญาประดิษ ฐ์ หุ่นยนต์ แต่สิ่งหนึ่งที่ท�ำให้มนุษย์เหนือสิ่งเหล่านี้คือ คุณธรรม จริยธรรม Jack Ma ผู้ก่อตั้ง Alibaba ก็บอกว่าสิ่งที่ส�ำคัญ ที่ สุ ด ส� ำ หรั บ อนาคตที่ ไ ม่ ส ามารถทดแทนได้ ก็ คื อ หั ว ใจของ ความเป็นมนุษย์

จากมุมมองของ ดร. สตีเวน ชนะ กิติเกียรติศักดิ์ ไม่ว่าจะในฐานะ ของผู้บริหารหรือฐานะของคุณพ่อ จะเห็นว่า ดร. สตีเวน มุ่งหวังที่จะ ให้ทงั้ สองอย่างออกมาดีทสี่ ดุ นัน่ คือ เด็ก ๆ ทุกคนในโรงเรียนเครือมารีวทิ ย์ จะต้องได้รับในสิ่งที่ดีที่สุด เหมือนที่พ่อคนหนึ่งที่ได้พยายามพัฒนา ในทุก ๆ ด้าน เพื่อให้ลูก ๆ ได้ก้าวไปสู่จุดมุ่งหมายในอนาคตที่ดีที่สุด เช่นเดียวกันทุกคน

69


มนุ ษ ย์ ทุ ก คนย่ อ มเคยตกอยู ่ ใ นสภาวะเดี ย วกั น นั่นคือ “การจมอยู่กับความทุกข์” ทั้งทุกข์ที่เกิดจากหน้าที่ การงาน ทุ ก ข์ ที่ เ กิ ด จากเพื่ อ นร่ ว มงาน ทุ ก ข์ ที่ เ กิ ด จาก ความกดดันภายในองค์กร หรือทุกข์ทตี่ อ้ งแบกรับภาระและ ความรับผิดชอบต่าง ๆ ในชีวิต ความทุกข์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด มาจากต้นเหตุที่ส�ำคัญ คือการเก็บเอาทุกปัญหามาสะสมไว้ ในความคิด เมือ่ หาทางออกไม่ได้ จนสุดท้ายปัญหาเหล่านัน้ ก็ยังคงวนเวียนอยู่ในหัว การเกิดสภาวะเช่นนี้ มีแค่ตัวเรา เท่านัน้ ทีร่ คู้ ำ� ตอบ ว่าทางออกทีด่ ที สี่ ดุ ทีจ่ ะท�ำให้เราหลุดพ้น จากความทุกข์ที่เกิดขึ้นมาภายในจิตใจคือเส้นทางใด ในบางครั้ง... เราต้องเหนื่อยเมื่อต้องวิ่งตามสิ่งที่เรา ไม่สามารถควบคุมมันได้ เราอาจจะท้อหากสิ่งที่เราตั้งใจ ลงมือท�ำไม่ประสบผลส�ำเร็จ เราอาจจะเบื่อหากต้องท�ำ อะไรซ�ำ ้ ๆ บ่อยมากจนเกินไป และหลายครัง้ ทีเ่ ราต้องพบกับ ความล้มเหลวในชีวติ จนเรารูส้ กึ ว่านีค่ อื ความล้มเหลวทีร่ นุ แรง ทีส่ ดุ จนไม่สามารถหลุดออกจากวงล้อมแห่งความเสียใจนัน้ ได้ อย่าได้กลัวว่าตนเองจะดูแย่ต่อหน้าใคร ๆ เพราะการกลัว ความล้มเหลวคือศัตรูตัวฉกาจที่ปิดกั้นตนเองไม่ให้ก้าวเดิน ตามฝันและเป้าหมายทีต่ งั้ ไว้ จำ� ไว้วา่ ความล้มเหลวจะเป็นไปได้ เมื่ อเราเลื อ กจะยอมแพ้แ ละล้ม เลิก ความฝัน ของตั ว เอง เท่านัน้ เอง ฉะนัน้ การเกิดความล้มเหลวในชีวติ คือการสะสม ประสบการณ์ ที่ เ ลวร้ า ย เพื่ อ ให้ เราได้ คิ ด และทบทวน กับตนเองมากขึ้น ว่าเรามี “ความพยายาม” มากพอหรือยัง กับการค้นพบกับ “ความส�ำเร็จ” 70

“ความพยายาม” คือความตั้งใจที่จะท�ำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ให้ประสบความส�ำเร็จ แต่สิ่งที่เราหวังอาจจะไม่สมหวังเสมอไป การยอมรั บ ความผิ ด พลาดเท่ า นั้ น ที่ จ ะเป็ น เกราะป้ อ งกั น กับความเสียใจได้ดีที่สุด “หัวใจ” คือสิ่งที่คอยควบคุมการท�ำงานของร่างกาย “จิ ต ใจ” คื อ สิ่ ง ที่ ค อยควบคุ ม การตั ด สิ น ใจทุ ก เรื่ อ ง ในชีวิต “สภาวะจิตใจ” จึงเป็นสิ่งที่สามารถสร้างแรงผลักดัน ให้กับเราเพื่อก้าวข้ามอุปสรรคที่ถาโถมเข้ามาในชีวิตได้ และ หากเราจะพบกับ “ความสุข” ได้ เราต้องสร้างจิตใจให้เข้มแข็ง และยอมรับกับการเปลี่ยนแปลงเพื่อน�ำสิ่งดี ๆ เข้ามาให้กับชีวิต การเปลีย่ นแปลงอะไรสักอย่าง โดยเฉพาะการเปลีย่ นแปลง ตนเองให้มชี วี ติ ใหม่ทดี่ กี ว่าเดิม ย่อมต้องอาศัยหลายองค์ประกอบ ด้วยกัน ดังนี้


ประการแรก ต้องหาเหตุผลเป็นแรงผลักดันหรือแรงกระตุ้นให้กับตนเอง ประการนี้ เป็นสิ่งส�ำคัญที่จะท�ำให้คุณเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ เพราะขั้นแรกของการเปลี่ยนแปลงตนเองคือ การหา “เหตุผล” ที่จะปลุกพลังในตัวของเราเองออกมาท�ำให้ตนเองมีแรงผลักดันในการไล่ล่า เป้าหมายและพัฒนาตนเองให้ได้

ประการที่สอง ต้องหาเครื่องน�ำทางชีวิต เพราะการที่จะไปให้ถึงเป้าหมายนั้น ต้องรู้ เส้นทางก่อนเพื่อจะได้ไม่หลงทาง การปราศจากสิ่งน�ำทางจะท�ำให้เผลอไขว้เขวออกนอกเส้นทาง ทีต่ งั้ เอาไว้ได้ ซึง่ อาจท�ำให้ตวั เรานัน้ รูส้ กึ ท้อแท้ใจทีจ่ ะเดินต่อ ดังนัน้ การขอค�ำแนะน�ำหรือความช่วยเหลือ จึงเป็นอีกสิง่ หนึง่ ทีส่ ำ� คัญ จงหลีกเลีย่ งความผิดหวังด้วยการไม่ทำ� พลาดซ�ำ้ สอง และมองหาผูใ้ ห้คำ� ปรึกษา ที่มีประสบการณ์ กลุ่มคนที่ให้การสนับสนุนได้ หรือหนังสือซึ่งเป็นแหล่งรวบรวมปัญญาความรู้ ที่น�ำมาใช้ได้ไม่มีสิ้นสุด

ประการที่สาม ต้องออกจาก Comfort Zone การเปลี่ยนแปลงตัวเองใหม่ เริ่มต้นด้วยการออกจาก “พื้นที่ปลอดภัย” ของตนเองให้ได้เสียก่อน การเจริญเติบโตนั้น จะไม่เกิดขึน้ เลยหากไม่ลองท�ำอะไรทีม่ คี วามเสีย่ ง ความท้าทาย หรือสิง่ ทีข่ ยายกรอบความคิด และเสริมสร้างทักษะของตนเองออกไป การออกจาก Comfort Zone อาจเป็นเรื่องยาก ในช่วงแรก ถึงกระนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าให้เราเปลี่ยนแปลงในทันทีทันใด หรือท�ำอะไร ที่มันยิ่งใหญ่เกินตัว แต่มันกลับสามารถเริ่มต้นได้จากการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาตนเอง ทีละน้อยในทุก ๆ วัน ขอเพียงแค่ 1% ต่อวัน ก็สามารถสร้างผลลัพธ์อนั ยิง่ ใหญ่ในระยะยาวได้ หากตั้งใจท�ำอย่างสม�่ำเสมอ

การเปลี่ยนแปลงตนเอง จุดเริ่มต้นย่อมมาจาก ตัวของเราเอง ความส�ำเร็จระยะยาวของการเปลีย่ นแปลง ตัวเองนัน้ ลว้ นเป็นผลมาจากนิสยั ทีเ่ ราลงมือท�ำในแต่ละวัน อย่างสม�ำ่ เสมอและอดทนเฝ้ารอให้เกิดขึน้ เราต้องยอมรับ ผลที่เกิดจากการกระท�ำของตนเอง เพราะทุกอย่าง ทีเ่ กิดขึน้ มีเหตุและผลในตัวของมันเอง ไม่มใี ครท�ำให้เรา มีความสุขได้ หากเราไม่สร้างมันขึน้ มาเอง ไม่มใี ครท�ำให้ เราหลุดพ้นจากความทุกข์ได้ หากเราไม่ยอมปล่อยวาง “ไม่มีใครเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราได้ นอกจากเรา เปลี่ยนแปลงชีวิตของเราเอง”

71


ประสบการณ์ในต่างแดน ก็ไม่ต่างจากการผจญภัยในโลก ของนิทาน ระยะเวลาเพียงสองสัปดาห์ในต่างแดน แต่กลับรูส้ กึ ผูกพัน ราวกลับอยู่มาแล้วสองเดือน เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2561 ที่ผ่านมา มาสเตอร์วุฒิชัย มาพล ครูผู้สอนวิชา ภาษาจีน และคณะครูอีก 3 ท่าน ได้มีโอกาส พานักเรียนจ�ำนวน 37 คน เดินทางไปยังประเทศจีน เมืองคุนหมิง มณฑลยูนนาน โดยการเดินทางไปในครั้งนี้เป็นการพานักเรียน ในเครือโรงเรียนมารีวิทย์ไปเรียนรู้แลกเปลี่ยนประสบการณ์และ วั ฒ นธรรมนอกสถานที่ ซึ่ ง ทางคณะพวกเราได้ รั บ การต้ อ นรั บ อย่างอบอุ่นจากคณะอาจารย์ของมหาวิทยาลัย 工商学院 (Gong shang xue yuan) ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่พัก เรื่องอาหาร ตลอดจน ค่าใช้จา่ ยอืน่ ๆ ความอบอุน่ ทีไ่ ด้รบั ท�ำให้อณ ุ หภูมิ 7 องศาทีป่ ระเทศ จีนไม่มีผลต่อพวกเราเลย ตลอดระยะเวลา 2 สัปดาห์ นักเรียนจะต้องตื่นนอนแต่เช้า เพื่อเตรียมตัวไปเรียน การเรียนในช่วงเช้าคือการเรียนเกี่ยวกับ หลักภาษาทั่วไป ซึ่งนักเรียนของเราก็ท�ำได้ดีเพราะเนื้อหาที่เรียน ส่วนใหญ่พวกเขาต่างก็เคยเรียนมาหมดแล้ว แต่สิ่งที่สร้างความ ตื่นเต้นให้แก่เด็ก ๆ คงจะเป็นคาบเรียนในช่วงบ่าย เพราะนักเรียน จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมของประเทศจีนที่ส�ำคัญคือได้เรียน 72

กับเจ้าของภาษาโดยตรงด้วย กิจกรรมทีท่ างมหาวิทยาลัยจัดเอาไว้ให้ ได้แก่ เขียนพูก่ นั จีน เครือ่ งดนตรีโบราณของประเทศจีน การแสดงพืน้ บ้านของชาวยูนนาน การวาดภาพบนพัดจีน การชงชา การจัดดอกไม้ รวมไปถึงการเรียน ศิลปะป้องกันตัวของจีน เรียกได้ว่านอกจากจะได้รับความรู้แล้ว นักเรียนยังได้รบั ความสนุกสนานและทีส่ �ำคัญคือได้รบั ประสบการณ์ ที่ดีในชีวิตนี้ ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์ในการเดินทางไปต่างแดน ประสบการณ์การใช้ชีวิตโดยปราศจากพ่อกับแม่ ประสบการณ์ ในการตัดสินใจด้วยตนเอง ประสบการณ์เหล่านี้ไม่เพียงแต่เป็น ประสบการณ์ทแี่ ปลกและใหม่สำ� หรับเด็ก ๆ แต่ยงั เป็นประสบการณ์ ทีท่ ำ� ให้พวกเขาทุกคนได้เติบโตขึน้ พร้อมทีจ่ ะเผชิญหน้ากับทุกปัญหา ที่จะเข้ามาในอนาคตได้อย่างกล้าหาญและชาญฉลาดอีกด้วย โลกของเด็กก็ไม่ต่างจากโลกในนิทาน ทุกอย่างเต็มไปด้วย ความสนุกสนาน สีสันสดใส ทุกอย่างรอบกายถูกเนรมิตขึ้นมาจาก พ่ อ กั บ แม่ แต่ เชื่ อ ว่ า หลั ง จากที่ นั ก เรี ย นเหล่ า นี้ ได้ ก ลั บ มายั ง ประเทศไทยแล้ว พวกเขาจะเติบโตขึ้น แข็งแกร่งขึ้น พร้อมที่จะ ก้ า วออกมาจากโลกของนิ ท านที่ ส วยงามและยื น หยั ด บนโลก แห่งความจริงได้อย่างแน่นอน


ดิฉนั รูส้ กึ สนุกมาก เพราะนอกจากจะได้ไปเรียนภาษาจีน กับเจ้าของภาษาแล้วยังได้ท�ำกิจกรรมมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การท�ำเกี๊ยว การเรียนศิลปะป้องกันตัวและความรู้เกี่ยวกับ วัฒนธรรมของจีนเมือ่ ตอนไปถึงทีน่ นั่ ทางมหาวิทยาลัยได้ให้รนุ่ พี่ มาคอยดูแลพวกเรา ซึง่ พีท่ ดี่ แู ลดิฉนั น่ารักมาก ๆ พาไปทานข้าว ซื้อของและเที่ยวชมมหาวิทยาลัย ทั้งยังมีการแสดงให้พวกเรา ได้ชมด้วย ซึ่งดิฉันและเพื่อน ๆ ก็ได้มีโอกาสสอนพี่ ๆ ร�ำไทยด้วยเช่นกัน นอกจากนีย้ งั มีสถานทีท่ อ่ งเทีย่ วทีส่ วยงามมากมาย เช่น น�ำ้ ตก ภูเขา ตลอดจนบ้านเมือง ของพวกเขาก็ช่างสงบและน่าอยู่ อาหารของที่นั่นส่วนใหญ่จะมีรสชาติที่จืดและเผ็ด แต่ก็อร่อยมาก ในระยะเวลา 15 วันที่ดิฉันได้ใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองคุนหมิง ดิฉันคิดว่านี่ไม่ใช่แค่ การมาเรียนรู้ แต่ดฉิ นั คิดว่านีค่ อื การเชือ่ มสัมพันธไมตรีระหว่างประเทศไทยและประเทศจีน ฉันกล้าพูดได้เลยว่า นี่คือประสบการณ์ที่ดีที่สุดของฉันเลยค่ะ

นางสาวณิชกมล เป้าปราณี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/4

ความรู ้ สึ ก ของผมที่ ไ ด้ ไ ปยั ง ประเทศจี น ผมรู ้ สึ ก ว่ า ช่างเป็นเวลา 15 วันที่ผมรู้สึกมีความสุขมากๆ เพราะเป็น ครั้งแรกเลยที่ผมได้มีโอกาสนั่งเครื่องบินและก็เป็นครั้งแรกเลย ทีผ่ มได้มโี อกาสไปต่างประเทศ เมือ่ เดินทางไปถึงทุกสิง่ ทุกอย่าง ช่างดูแตกต่างจากประเทศไทยมาก อากาศเย็นมาก แต่เราก็ได้รบั การต้อนรับจากคณะอาจารย์จากมหาวิทยาลัยอย่างอบอุ่น ผมได้มีโอกาสท�ำความรู้จักกับพี่ ๆ ที่มาดูแลผม ผมชอบที่จะพูดคุยกับพี่ ๆ ถึงแม้ว่าจะยัง สื่อสารได้ไม่ดีพอ แต่ผมคิดว่าก็ไม่มีอะไรน่าอายที่จะลองฝึกพูด ผมได้เรียนรูว้ ฒ ั นธรรมของจีนหลายอย่างมาก ไม่วา่ จะเป็นเรือ่ งของพัดจีน การแสดง ดนตรีพื้นบ้านของจีน ชาจีน อาหารจีน การเขียนพู่กันจีน ศิลปะป้องกันตัว และสิ่งที่ท�ำให้ ผมรูส้ กึ ว่าพี่ ๆ ชาวจีนมีความสุขมากนัน่ ก็คอื ผมได้มโี อกาสแสดงวัฒนธรรมของประเทศไทย ให้แก่พี่ ๆ และคณะอาจารย์ที่จีนได้ชม ผมรู้สึกดีใจมากครับที่ได้มีโอกาสออกมาเรียนรู้โลกภายนอกที่กว้างใหญ่มากขึ้น ความทรงจ�ำทุกอย่างที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ผมจะไม่มีวันลืมอย่างแน่นอนครับ

นายณภัทร สิมสุวรรณ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/4

73


เมือ่ วันที่ 9 ตุลาคม 2561 ดิฉนั ได้เดินทางไปยังประเทศจีน ซึ่งเป็นประสบการณ์ การเดินทางไปยังสถานที่ที่ห่างไกลจาก บ้านครั้งแรกของดิฉัน ความฝันอย่างหนึ่งของดิฉันคืออยากนั่ง เครื่องบินสักครั้งหนึ่งและความฝันก็เป็นจริง เมื่อเดินทางมาถึง ประเทศจีน เมืองคุนหมิง ได้เดินทางต่อไปยังมหาวิทยาลัย เมือ่ ไปถึงคณะอาจารย์และพี่ ๆ ดูแลพวกเราเป็นอย่างดี วันแรก ของการเรียนนอกสถานที่ อาจารย์จากทางมหาวิทยาลัยพาดิฉันและเพื่อน ๆ เดินเยี่ยมชม ทั่วมหาวิทยาลัย ในทุก ๆ วัน ดิฉันรู้สึกตื่นเต้นที่ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ได้เรียนรู้ภาษาและ วัฒนธรรมของจีน ซึง่ มีอยูม่ ากมายและทีส่ ำ� คัญ คือได้ลองทานอาหารจีนซึง่ มีรสชาติทอี่ ร่อย และในวันก่อนที่พวกเราจะเดินทางกลับ พวกเราได้มีโอกาสจัดการแสดงขึ้นเพื่อเป็น การตอบแทนคณะอาจารย์และพี่ ๆ ที่คอยดูแลพวกเราตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้าย การที่ดิฉันได้มายังประเทศจีนนี้ท�ำให้ได้รับประสบการณ์มากมายซึ่งสิ่งเหล่านี้เอง ที่สอนให้ดิฉันใช้ชีวิตด้วยตนเองเป็น ดิฉันไม่รู้สึกผิดหวังเลย เพราะดิฉันไม่เพียงแต่ได้รับ ความสนุกสนานแต่มันคือประสบการณ์ที่มีค่ามากที่สุดส�ำหรับดิฉัน

นางสาววชิรญาณ์ ธิดา นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/4

有机会去中国让我很高兴,我都没想到。 我很激动因为这是我第一次去外国。这次我和朋友 有机会去昆明云南为学习中国文化。我们很开心, 全部都很新鲜。如果还有机会我一定乐意参加。

ความรู ้ สึ ก ของดิ ฉั น หลั ง จากที่ ไ ด้ มี โ อกาสไปเรี ย นรู ้ นอกสถานที่ยังประเทศจีน เมื องคุ น หมิ ง ดิ ฉัน ได้ มีโ อกาส ไปใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นเป็นเวลา 15 วัน โดยเราพักกันที่หอพัก ของทางมหาวิทยาลัย เมื่อไปถึง พวกเราทุกคนได้รับการต้อนรับจากคณะอาจารย์และพี่ ๆ ที่มหาวิทยาลัยอย่างอบอุ่น ดิฉันและเพื่อน ๆ รู้สึกตื่นเต้นกันมาก เพราะมหาวิทยาลัย กว้างใหญ่มากในวันแรกทีไ่ ปถึงมีรนุ่ พีม่ าคอยดูแลพวกเรา พี่ ๆ ช่วยเหลือพวกเราเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการสอนพวกเราสั่งอาหารหรือแม้แต่เดินมาส่งที่หอพัก กิจกรรมของพวกเราจะแบ่งออกเป็นสองช่วงคือ ช่วงเช้ากับช่วงบ่าย ในตอนเช้า ดิฉันและเพื่อน ๆ เรียนเกี่ยวกับหลักภาษาทั่วไป ส่วนช่วงบ่ายพวกเราได้เรียนรู้เกี่ยวกับ วัฒนธรรมของจีน เช่น การชงชา การเขียนพูก่ นั จีน การท�ำเกีย๊ ว การท�ำพัด และอืน่ ๆ อีกมากมาย ในวันหยุดทางมหาวิทยาลัยจะพาพวกเราไปท่องเที่ยวนอกสถานที่ ส่วนวันอาทิตย์ก็จะเป็น เวลาพักผ่อน ดิฉันกับเพื่อน ๆ มักจะออกไปข้างนอกมหาวิทยาลัยกับพี่ ๆ เช่น ไปทานข้าว ไปซือ้ ของใช้สว่ นตัว ช่วงแรก ๆ ดิฉนั มีปญ ั หาในการสือ่ สารอยูบ่ า้ ง เพราะยังไม่กล้าใช้ภาษาจีน กลัวจะพูดผิด จึงใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารเป็นส่วนใหญ่ แต่พวกเราก็มีความสุขมาก เราต่างพยายามเข้าใจกันและกัน ดิฉนั กล้าพูดได้เลยว่าตลอดระยะเวลา 15 วันนัน้ มันผ่านไปเร็วมาก พวกเราได้รบั ทัง้ ความสนุกสนาน ได้รู้จักการใช้ชีวิตด้วยตนเอง ดูแลตนเองและช่วยเหลือเพื่อน ๆ นี่คือ ประสบการณ์ครั้งแรกที่ดีมาก ๆ ส�ำหรับดิฉัน ดิฉันอยากขอบคุณทางโรงเรียนมารีวิทย์ ที่ได้จัดกิจกรรมดี ๆ และอยากจะให้จัดกิจกรรมดี ๆ แบบนี้ต่อไปค่ะ 74

นางสาวอชิรญาณ์ รัตนเจริญธรรม นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/4


我从来没去过中国。这是第一次有机会去。 我感到很高兴。我在那里的时候,有机会跟中国人 谈话也认识很多中国朋友。在那里每天我和同学们 有机会学中国文化,也有机会尝一尝中国菜。我还 记得第一天到中国的感觉,我很激动因为都是我们 的新经验。去中国这次我收到了很多经验。我永远 不会忘记的。 ดิฉันไม่เคยมีโอกาสได้ไปประเทศจีนมาก่อน นี่คือครั้งแรกในการเดินทางไปยัง ประเทศจีนของดิฉัน ดิฉันรู้สึกดีใจมาก ตลอดระยะเวลาที่อยู่ที่นั่น ดิฉันได้มีโอกาสท�ำ หลายสิ่งหลายอย่างและได้ท�ำสิ่งที่ไม่เคยท�ำมาก่อนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการสนทนา กั บ พี่ ๆ ชาวจี น หรื อ การสนทนากั บ พ่ อ ค้ า แม่ ค ้ า เพื่ อ ซื้ อ อาหารทานในแต่ ล ะมื้ อ ดิ ฉั น ได้ มี โ อกาสรู ้ จั ก กั บ เพื่ อ นชาวต่ า งชาติ ม ากมาย ในแต่ ล ะวั น ดิ ฉั น และเพื่ อ น ๆ ได้มีโอกาสเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรมของชาวจีน ตั้งแต่เรื่องเล็ก ๆ ไปจนถึงเรื่องที่ส�ำคัญมาก แต่สิ่งที่ท�ำให้ดิฉันประทับใจมากคงจะเป็นการได้มีโอกาส ทานอาหารจีนเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ารสชาติต้องแตกต่างจากของไทย แต่ดิฉันคิดว่า ก็ไม่ได้เลวร้าย ออกจะอร่อยเสียด้วยซ�้ำ ถึงแม้ว่าเวลาจะผ่านมาหลายเดือนแล้ว แต่ดิฉัน ยังจ�ำความรู้สึกในตอนนั้นได้ไม่มีวันลืม ความรู้สึกตื่นเต้นกับทุกสิ่งทุกอย่างรอบกาย เพราะส�ำหรับดิฉันและเพื่อน ๆ แล้ว ทุกอย่างที่นั่นล้วนเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่ และจะเป็นประสบการณ์ที่ดีที่สุดของดิฉัน นางสาวรพีพิมล์ พิมพากร นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/3

75


ดร.สตีเวน ชนะ กิติเกียรติศักดิ์ ประธานกรรมการบริหาร เครือโรงเรียนมารีวิทย์

เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2561 ที่ผ่านมา ผู้เขียนได้มีโอกาส เข้าร่วมงานสัมมนาผูน้ ำ�ทางการศึกษาแห่งประเทศไทย ประจำ�ปี 2561 (TELS 2018 : Thailand’s Education Leader Symposium 2018) ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี นนทบุรี ซึ่งเป็นงานที่รวมสุดยอดผู้นำ� ทางการศึกษาจากทั่วโลก มาร่วมแสดงวิสัยทัศน์ทางการศึกษา ซึ่งสิ่งที่ผู้เขียนคิดว่ามีความสำ�คัญในวงการการศึกษาและได้นำ�ไป แสดงวิ สั ย ทั ศ น์ ใ นการสั ม มนาครั้ ง นี้ ได้ แ ก่ การได้ รั บ การศึ ก ษา อย่ า งเท่ า เที ย มกั น โดยอาจจะเกิ ด ขึ้ น ได้ เมื่ อ มี ก ารแบ่ ง ปั น ทางการศึ ก ษา ซึ่ง เชื่อ มโยงกั บ เป้ า หมายการพั ฒ นาอย่ า งยั่ ง ยื น ปี ค.ศ. 2030 (Sustainable Development Goals) มีทั้งหมด 17 ข้อ เป็นมติของประเทศต่าง ๆ ในสหประชาชาติ และในเป้าหมาย ที่ 4 คือ การศึกษาคุณภาพ ที่เน้นการให้การศึกษาที่มีคุณภาพ แก่เด็ก ๆ อย่างเท่าเทียมกัน

76


ในมุมมองของผูเ้ ขียนซึง่ มีบทบาทเป็นส่วนหนึง่ ในการ พัฒนาการศึกษาของประเทศไทยเล็งเห็นความสำ�คัญในการ พัฒนาการศึกษาเพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียนในเครือโรงเรียน มารีวิทย์ และยังต้องมองให้กว้างถึงการพัฒนาของเด็กและ เยาวชนในจังหวัดชลบุรี การบริหารเครือโรงเรียนมารีวิทย์ ทางผู้บริหารโรงเรียนได้ยึดมั่นในหลักการที่จะมอบการศึกษา คุณภาพให้กับนักเรียนทุกคนในโรงเรียน สำ�หรับผู้เขียนในฐานะผู้บริหารโรงเรียน จึงพยายาม มองกว้างออกไปว่าจะสามารถที่จะพัฒนานักเรียนที่ไม่ได้ ศึ ก ษาในเครื อ โรงเรี ย นมารี วิ ท ย์ ไ ด้ อ ย่ า งไร โดยได้ ม องว่ า เศรษฐกิจแบบแบ่งปัน หรือ Sharing Economy น่าจะตอบโจทย์

ทางด้านการศึกษาได้ เพราะปัญหาของการศึกษาทัว่ โลกคือทรัพยากรทีม่ จี ำ�กัด ตัวอย่างหนึ่งของ Sharing Economy คือ Ride Sharing ที่เราอาจจะรู้จักกัน ในรูปแบบของ Grab, Lyft, หรือ Uber เกิดจากที่มีทรัพยากรที่ใช้ประโยชน์ ไม่ได้เต็มทีค่ อื รถยนต์ เลยหาวิธที จี่ ะให้มผี รู้ ว่ มทางในการเดินทางทีไ่ ปในทิศทาง เดียวกัน อีกตัวอย่างก็คือ AirBnB ที่เกิดจากการที่มีความต้องการห้องพัก ในราคาถู ก เมื่ อ มี ก ารจั ด สั ม มนาแล้ ว โรงแรมเต็ ม หรื อ มี ร าคาที่ โ ดดสู ง ขึ้ น มากเกินไป ทางด้านการศึกษาก็เช่นกัน มีโอกาสทีท่ างโรงเรียนจะได้แบ่งปันความรู้ และทรัพยากรที่อาจจะยังเหลือหรือยังใช้ได้ไม่คุ้มค่า ผู้เขียนได้ตั้งนิยามนี้ว่า Education Sharing หรือ การแบ่งปันทางการศึกษา ในรูปแบบที่ทางเครือ โรงเรี ย นมารี วิ ท ย์ ไ ด้ ทำ�การแบ่ ง ปั น ทางการศึ ก ษา เช่ น โครงการนิ สิ ต จี น สอนภาษาจีนให้กับโรงเรียนอนุบาล และ โครงการเล่านิทานสำ�หรับน้อง ๆ ในโรงเรียนอนุบาลและศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก สำ�หรับโครงการนิสติ จีนสอนภาษาจีนให้กบั โรงเรียนอนุบาลนัน้ เกิดขึน้ จากการที่ เ ครื อ โรงเรี ย นมารี วิ ท ย์ ไ ด้ ไ ปทำ� MOU กั บมหาวิ ท ยาลัยต่า ง ๆ ในประเทศจีน แต่จำ�นวนนิสิตจีนที่สนใจจะมาฝึกสอนในประเทศไทยนั้น มีจำ�นวนเกินกว่าที่เครือโรงเรียนมารีวิทย์จะรับได้ ทางเครือโรงเรียนมารีวิทย์ เลยเห็นโอกาสทีจ่ ะสามารถช่วยโรงเรียนอนุบาล ทีไ่ ม่สามารถสือ่ สารภาษาจีนได้ แต่มีความต้องการที่จะสอนภาษาจีนให้กับนักเรียนในโรงเรียน ทางเครือ โรงเรียนมารีวิทย์จึงได้จัดเตรียมหลักสูตรเบื้องต้น สื่อการสอน และเป็นผู้ช่วย ประสานงานระหว่างโรงเรียนอนุบาลกับนิสิตจีน ใน 2 ปีที่ผ่านมาทางเครือ โรงเรียนมารีวิทย์ได้ส่งนิสิตจีน จำ�นวน 32 คน ให้กับโรงเรียนอนุบาลจำ�นวน 10 โรงเรียน ในจังหวัดชลบุรี เป้าหมายของเครือโรงเรียนมารีวิทย์ก็คือโอกาส ของเด็ก ๆ ในจังหวัดชลบุรี ที่จะได้มีพื้นฐานภาษาจีน เพื่ออนาคตในการเรียน การประกอบอาชีพของเด็ก ๆ ในจังหวัดชลบุรี สำ�หรับโครงการเล่านิทานสำ�หรับน้อง ๆ อนุบาล และศูนย์พฒ ั นาเด็กเล็ก ซึ่งทางเครือโรงเรียนมารีวิทย์ได้จัดทำ�มาหลายปีแล้ว จุดประสงค์ที่ได้จัดทำ� โครงการนี้ ก็ เ พื่ อ เปิ ด โอกาสให้ นั ก เรี ย นได้ มี โ อกาสที่ จ ะแบ่ ง ปั น ความรู้ ความสามารถของพี่ ๆ ให้กับน้อง ๆ และยังปลูกฝังให้นักเรียนเครือโรงเรียน มารีวิทย์ ได้รู้จักการแบ่งปันและการทำ�เพื่อสังคม ขอสรุปว่าเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ปี ค.ศ. 2030 ในเรื่องการศึกษา คุณภาพ คงไม่ได้ตกเป็นหน้าที่เพียงแต่ของรัฐบาล แต่ทุกคนในโลกสามารถ ทีจ่ ะมีบทบาทในการช่วยให้บรรลุเป้าหมายนีไ้ ด้ โดยเริม่ จากการแบ่งปันความรู้ ความสามารถเพื่อพัฒนาให้เด็ก ๆ ทุกคนมีโอกาสทางการศึกษา อ้างอิง : https://www.un.or.th/globalgoals/th/the-goals/ 77


โรงเรียนมารีวิทย์บ่อวินได้จัดกิจกรรมการแข่งขันกีฬาสี ภายใน ครั้งที่ 9 ประจ�ำปีการศึกษา 2561 ในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2561 เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนเห็นคุณค่าของการออกก�ำลังกาย ฝึกให้นกั เรียนมีระเบียบวินยั ฝึกการสร้างความสามัคคีในหมูค่ ณะ รู ้ จั ก ใช้ เวลาว่ า งให้ เ กิ ด ประโยชน์ เ พื่ อ ห่ า งไกลจากยาเสพติ ด และส่ ง เสริ ม ให้ นั ก เรี ย นแสดงความสามารถพิ เ ศษด้ า นกี ฬ า อย่างเหมาะสมมีน�้ำใจนักกีฬา “รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย” โดยการจัด การแข่งขันกีฬาออกเป็นประเภทกีฬา ได้แก่ ฟุตซอล วอลเลย์บอล บาสเกตบอล ว่ายน�้ำ และกรีฑา ส่วนกีฬาที่เพิ่มเติมขึ้นมาในปีนี้ คือการแข่งขันวิง่ ผลัดสามัคคีรวมใจแบบยกทีมยกห้องซึง่ เป็นการ จัดแข่งขันในปีแรกเพือ่ ให้นกั เรียนทุก ๆ คนได้มสี ว่ นร่วม มีความสนุก สนานและรักในการออกก�ำลังกาย ซึ่งเป็นแนวคิดของ คุณไมเคิล ชนินทร์ กิติเกียรติศักดิ์ ผู้จัดการโรงเรียนมารีวิทย์บ่อวิน ที่เห็น ความส�ำคัญของการออกก�ำลังกายและอยากให้นกั เรียนทุก ๆ คน นั้นมีส่วนร่วมในกิจกรรมครั้งนี้ ซึ่งการจัดกิจกรรมการแข่งกีฬาสี ภายในครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก พ.ต.ท.สยาม นรมาตย์ สารวัตร อ� ำ นวยการ สภ.บ่ อ วิ น เป็ น ประธานในพิ ธี เ ปิ ด การแข่งขัน (ติดตามรับชมบรรยากาศภายในงาน แบบภาพเคลื่อนไหวโดยการสแกนคิวอาร์โค้ด)

78


79


กิจกรรมวันคริสต์มาสระดับชั้นอนุบาลจัดขึ้นในวันจันทร์ที่ 24 ธันวาคม 2561 ณ ลานกิจกรรมหน้าเสาธงแผนกอนุบาล เพื่อเป็นการ ส่งเสริมพัฒนาการด้านสังคมให้นักเรียนมีความกล้าแสดงออกและ เพื่ อ เป็ น การเฉลิ ม ฉลองวั น คล้ า ยวั น เกิ ด ของพระเยซู ซึ่ ง ในแต่ ล ะ ห้ อ งเรี ย นได้ มี ก ารจั ด ตกแต่ ง และสร้ า งบรรยากาศภายในห้ อ งเรี ย น ด้วยสายรุ้ง ดวงดาว ต้นคริสต์มาส และซานตาคลอส ภายในกิจกรรม ยังมี การแสดงจากตัว แทนนักเรียนชั้นอนุบาล 1-3 มีการจับฉลาก ของขวัญจากคณะครูและผู้บริหาร นอกจากนี้ยังได้จัดเลี้ยงอาหาร เครื่องดื่ม ไอศกรีม รวมถึงได้มอบตุ๊กตา กระเป๋าดินสอให้แก่นักเรียน ในระดับชั้นวัยก่อน ก.ไก่ จนถึงระดับชั้นอนุบาล 3 ทุกคน

80


Ho Ho Ho! Merry Christmas ภาพชายตัวกลม เครายาวสีขาว ในชุดสีแดง นั่งบนรถเลื่อน ที่ลากโดยกวางเรนเดียร์เป็นภาพความทรงจำ�ในความคิดของใคร หลาย ๆ คน เมื่ อ พู ด ถึ ง วั น คริ ส ต์ ม าส ภาพซานตาคลอสและห่ อ ของขวั ญ คื อ สิ่ ง ที่ เ ด็ ก ทุ ก คนฝั น ถึ ง คริ ส ต์ ม าสจึ ง เป็ น เทศกาลแห่ ง ความสุ ข ของเด็ ก ๆ ทุ ก คน สำ�หรับชาวคาทอลิกทุกคนวันคริสต์มาส คือ วันครบรอบวันประสูติของพระเยซู แสดงให้เห็นถึงความรักอันบริสุทธิ์ที่ควรค่าแก่การเฉลิมฉลองเป็นช่วงเวลาที่มอบ ให้กับครอบครัวและคนสำ�คัญในเทศกาลแห่งความสุขและการแบ่งปัน โรงเรียนมารีวิทย์บ่อวิน ขอส่งมอบความสุข ให้นักเรียนผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ในวัน คริ ส ต์ ม าส เช่ น การแสดงละครเวทีประวัติพระเยซู การเล่ น เกมการกุ ศล เพื่ อ บริ จาคแก่ ผู้ ย ากไร้ โชว์ก ารแสดงดนตรีแ ละการจับ รางวั ล เพื่ อ มอบของขวั ญ จากคณะครูและผู้บริหาร ซึ่งเด็ก ๆ ทุกคนได้รับความสนุกสนานและมีความสุข เป็นอย่างมาก โดยได้จัดขึ้นในวันจันทร์ที่ 24 ธันวาคม 2561

81


กิจกรรมกีฬาสี จัดขึน้ เพือ่ ส่งเสริมพัฒนาการทางด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และสติปัญญา ฝึกให้เด็กมีน�้ำใจเป็นนักกีฬา รูแ้ พ้ รูช้ นะ รูอ้ ภัย และมีความสามัคคี การแข่งขันกีฬาสีได้เปิดโอกาส ให้นักเรียนเข้าร่วมแข่งขันกีฬาตามที่ตนเองชื่นชอบและเหมาะสม กับวัย ซึ่งได้จัดการแข่งขันกีฬาทั้งประเภทลู่และประเภทลาน นอกจากนี้ยังมีการแข่งขันกองเชียร์และขบวนพาเหรดอีกด้วย โดยการแข่งขันกีฬาสีนอกรอบจัดขึ้นระหว่างวันที่ 4-9 มกราคม 2562 ณ ลานกิจกรรมแผนกอนุบาล และจัดการแข่งขันรอบ ชิงชนะเลิศ ในวันศุกร์ที่ 11 มกราคม 2562 ณ สนามหน้าเสาธง แผนกประถม - มั ธ ยม ซึ่ ง ได้ รั บ เกี ย รติ จ าก เรือโท ศุภพัฒน์ ดนตรี มาเป็นประธานในพิธี (ติดตามรับชมบรรยากาศภายในงานแบบภาพ เคลื่อนไหว โดยการสแกนคิวอาร์โค้ด)

82


83


ปัจจุบันบริบทต่าง ๆ ของโลกและสังคมไทยเปลี่ยน ไปอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของโลกและ การก้าวเข้าสูย่ คุ ไทยแลนด์ 4.0 ดังนัน้ การวางแผนด้านการศึกษา จึงมีความส�ำคัญ เพือ่ เตรียมความพร้อมกับยุคสมัยทีเ่ ปลีย่ นไป บทบาทของครอบครัวจึงเป็นสิ่งส�ำคัญที่จะผลักดันให้บุตร หลานได้เรียนตามความถนัด ความพร้อม และความสามารถ ซึ่งในโลกของเด็กมีความฝันและมีจินตนาการว่าอยากท�ำ อะไรและคิดอย่างไร โลกของพ่อแม่คือความคาดหวังในสิ่งที่ พ่อแม่อยากจะให้ลูกเป็น อยากให้สิ่งที่ดีที่สุดส�ำหรับลูก และ เห็นลูกได้ดีในอนาคต แต่ในโลกของความเป็นจริงนั้น ทุกคน จะต้องหันหน้ามาคุยกัน ลูกเองก็จะต้องเรียนรู้เข้าใจในสิ่งที่ พ่อแม่ต้องการ ในขณะเดียวกันพ่อแม่ก็ต้องเรียนรู้ที่จะเข้าใจ ในโลกของลูกเช่นกัน โลกเปลี่ยน การศึกษาเปลี่ยน ยุคสมัย เปลีย่ นแปลงไปตามเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ซงึ่ เป็นสิง่ เร้า ทีอ่ ยูร่ อบ ๆ ท�ำให้สภาพครอบครัวในสังคมปัจจุบนั ห่างเหินกัน มากขึน้ แต่สงิ่ ทีส่ ามารถยึดเหนีย่ วจิตใจของคนในครอบครัวได้ คือ สายใยความผูกพันของ พ่อ แม่ และลูก การมีปฏิสัมพันธ์ ภายในครอบครัวให้มากขึ้นเรียนรู้ความต้องการของบุคคล ภายในครอบครัว เพื่อให้เกิดการยอมรับซึ่งกันและกัน น�ำมา สู่ความสุขภายในครอบครัว โรงเรียนมารีวิทย์บ่อวินได้ตระหนักและเล็งเห็นถึง ความส�ำคัญของความเข้าใจภายในครอบครัวจึงได้จดั กิจกรรม “สายใย...แห่งรัก” ให้แก่นกั เรียนชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 3 เพือ่ เปิด โอกาสให้พอ่ แม่ และลูกได้เปิดใจค้นหาความต้องการความสุข การยอมรับ และหาแนวทางร่วมกันในการศึกษา ซึ่งกิจกรรม ดังกล่าวเน้น ความรัก ความอบอุน่ ความเข้าใจ และการยอมรับ ซึ่งกันและกัน โดยจัดขึ้นวันอาทิตย์ที่ 9 กันยายน 2561 และ วันเสาร์ที่ 15 กันยายน 2561

84


กิจกรรม “สายใยแห่งรัก” เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้น เพื่อให้นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และผู้ปกครองได้คุยและแลกเปลี่ยนทัศนคติต่อกัน รวมถึงวางแผนอนาคตของนักเรียน ซึ่ง บรรยากาศภายในกิจกรรม จะเห็นนักเรียนและผูป้ กครอง มีการเปิดใจคุยกันและตัดสินใจร่วมกัน ซึ่งการตัดสินใจครั้งนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นสิ่งใหม่ ๆ ให้กับนักเรียนในอนาคตข้างหน้า ส�ำหรับผมแล้ว ผมต้องการที่จะเรียนสายวิทย์-คณิต และต้องการที่จะเป็นโปรแกรมเมอร์ แต่ผมยังไม่แน่ใจว่า จะเป็นโปรแกรมเมอร์ดีไหม ผมรู้สึกสับสนกับอนาคตของตัวเอง พ่อกับแม่จึงบอกกับผมว่า “ลูกอยากเป็นอะไรก็ได้ที่ลูกชอบ ลูกถนัด เพื่ออนาคตของตัวลูกเอง” ซึ่งผมก็ดีใจมาก ๆ ที่พ่อกับแม่ของผมพร้อมที่จะยอมรับในสิ่งที่ผมชอบ พร้อมที่จะยอมรับตัวผมในอนาคต สิ่งที่ผม ประทับใจทีส่ ดุ ในกิจกรรมนีก้ ค็ อื การทีใ่ ห้นกั เรียนเขียนค�ำตอบ จากค�ำถามทีว่ า่ “นักเรียนต้องการ ทีจ่ ะประกอบอาชีพใดในอนาคต” ซึง่ ผมก็ตอบไปว่า “อยากเป็นโปรแกรมเมอร์ แต่ยงั ไม่แน่ใจครับ” และหลังจากนัน้ ก็มคี ำ� ถาม อีกข้อแต่คราวนีใ้ ห้ผปู้ กครองตอบค�ำถามนัน้ คือ “คุณพ่อ คุณแม่ ต้องการให้ลกู ของท่านประกอบอาชีพใดในอนาคต” ผมก็ไม่รวู้ า่ พ่อกับแม่ของผมต้องการให้ผมประกอบอาชีพใด แต่ผมคิดว่าท่านทัง้ สองคงอยากให้ผมประกอบอาชีพทีม่ รี ายได้สงู และเป็นทีย่ อมรับ กันในสังคม หลังจากที่พ่อกับแม่ของผมเขียนเสร็จ ซึ่งผลปรากฏว่า พ่อกับแม่ของผมต้องการที่จะให้ผมประกอบอาชีพ “หมอ” ซึง่ แน่นอนว่าค�ำตอบของผมกับพ่อและแม่แตกต่างกันโดยสิน้ เชิง พวกท่านทัง้ สองก็ได้บอกกับผมว่า “เรือ่ งอาชีพ ไม่บงั คับลูกอยูแ่ ล้ว ลูกเป็นคนก�ำหนดชีวิตของลูกเองอยู่แล้ว ลูกชอบสิ่งใด ลูกก็ท�ำสิ่งนั้นเถอะ ในเมื่อมันเป็นความต้องการของลูก พ่อกับแม่ ก็พร้อมที่จะสนับสนุนนะ ตั้งเป้าหมายมาแล้ว ก็จงท�ำเป้าหมายนั้นให้ส�ำเร็จด้วยนะ” พอผมได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกดีใจและคิดว่า “ไม่มีใครที่ไหน รักเราเท่าพ่อกับแม่อีกแล้ว” สุดท้ายสิ่งที่ผมอยากจะพูดถึงกิจกรรมนี้ก็คือโอกาสครับ ถ้าถามว่าโอกาสอะไร แน่นอนว่าค�ำตอบก็คือ “โอกาสที่สมาชิก ทุกคนในครอบครัวได้แสดงความรักต่อกันนั่นเองครับ”

เด็กชายชังเจิ้น ปัง นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/2

85


้ งทอง คุณกฤชฐา - คุณรมณี ย์ เอีย ผู้ปกครอง เด็กหญิงญาณิ ฐา เอี้ยงทอง ชั้นวัยก่อน ก.ไก่ 7

ครอบครัวมีความประทับใจโรงเรียนมารีวิทย์บ่อวิน เป็นอย่างมาก น้องปริมมีพัฒนาการที่ดีขึ้น สามารถเรียนรู้ ช่ ว ยเหลื อ ตั ว เองได้ ม ากขึ้ น เช่ น น้ อ งปริ ม ช่ ว ยคุ ณ แม่ ท�ำความสะอาดบ้านและเก็บของเล่นเองทุกครั้ง รวมทัง้ ได้รบั ความเอาใจใส่และความอบอุน่ จากคุณครู ประจ�ำชั้นและคุณครูทุกท่าน เวลากลับบ้านมาจะเล่าเรื่อง กิจกรรมในห้องเรียนรวมถึงกล่าวถึงคุณครูทุกครั้ง น้องปริม มีความสุขและอยากไปโรงเรียนทุกวันค่ะ

คุณธงชัย ตั๋นแก้ว - คุณมานิ ตา มีศักดิ์ ผู้ปกครอง เด็กชายภูเบศ ตั๋นแก้ว ชั้นอนุบาล 1/8 เด็กหญิงธนภรณ์ ตั๋นแก้ว ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/4

สิ่ ง ส� ำ คั ญ ที่ ห ลาย ๆ ครอบครั ว มองหา ก็ คื อ บ้านหลังที่ 2 ให้บุตรหลานนั่นคือ สถานศึกษาที่ดี มีคุณภาพ สามารถประสิ ท ธิ์ ป ระสาทวิ ช าความรู ้ แ ละขั ด เกลาให้ มี ความสามารถและเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในอนาคตข้างหน้า เช่น ครอบครัวของดิฉัน ที่ไว้วางใจในโรงเรียนมารีวิทย์บ่อวิน และมีความเชือ่ มัน่ ต่อคุณภาพของโรงเรียน คุณภาพการเรียน การสอน คุณภาพของบุคลากร โรงเรียนมารีวิทย์บ่อวิน มี ชื่ อ เสี ย งด้ า นวิ ช าการและภาษา มี ค วามเคร่ ง ครั ด ใน การเรียนการสอนและระเบียบวินัย สภาพแวดล้อมโรงเรียน มีความสะอาด เป็นระเบียบ สวยงาม และมีความปลอดภัย ด้วยเหตุผลนีท้ ำ� ให้ทางครอบครัวไว้วางใจทีจ่ ะฝากบุตรหลาน ไว้กับทางโรงเรียนแห่งนี้ ทั้งนี้ต้องขอขอบพระคุณคณะผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์ที่มองการณ์ไกลในระบบการศึกษา และพัฒนา การเรียนการสอนที่ดีมีคุณภาพ และขอขอบคุณคุณครูผู้สอน และบุคลากรทุกท่านที่ได้ทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจ อบรมสั่งสอน นักเรียนทุกคนให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดี มีความรู้ความสามารถต่อไป 86


คุณณรงค์ศักดิ์ - คุณสุมน ภูมิมา ผู้ปกครอง เด็กหญิงธัญญ์ชนก ภูมิมา ชั้นอนุบาลปีท่ี 2/6 เด็กหญิงธัญญลักษณ์ ภูมิมา ชัน ้ ประถมศึกษาปีท่ี 3/10

ความกังวลใจของคุณพ่อ คุณแม่ ก็คอื อนาคตของลูก จะท�ำอย่างไร ให้เขาเติบโตไปพร้อมกับความรู้ ความสามารถ เพื่อใช้ชีวิตอยู่ในสังคม ปัจจุบันได้อย่างมีความสุข ถือเป็นการตัดสินใจที่ส�ำคัญที่เลือกให้ลูก ทั้ง 2 คนเข้ามาศึกษาที่โรงเรียนมารีวิทย์บ่อวิน แรก ๆ ก็เป็นกังวลว่า ลูกจะไหวไหม แต่ได้เห็นความตัง้ ใจ การเอาใจใส่ ระบบการเรียนการสอน ทีม่ พี ร้อมในทุก ๆ ด้าน ของโรงเรียนท�ำให้เรามัน่ ใจคุณภาพของนักเรียน ทุกคน ที่จบออกไปจะมีอนาคตทางการศึกษาที่ดี ทุก ๆ วันเราเห็นลูก มีความตั้งใจอยากไปโรงเรียน อยากร่วมกิจกรรมที่โรงเรียนจัดขึ้น เราก็ รู ้ สึ ก ภู มิ ใจไม่ เ ป็ น กั ง วล ทุ ก วั น นี้ จึ ง ท� ำ ให้ เรามั่ น ใจต่ อ สถาบั น แห่งนี้และไม่ลังเลที่จะบอกต่อ หากพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใดที่ยังมองหา สถาบันการศึกษาที่ดที ี่จะให้ลูก ๆ ได้มีพื้นฐานทางการศึกษาที่ดี และ มีคุณภาพ เพื่อต่อยอดสู่อนาคตที่ดีของลูก สุดท้ายต้องขอขอบพระคุณ ผูบ้ ริหารคณะครูและบุคลากรทุกท่าน ทีด่ แู ลเด็ก ๆ ให้ได้รบั การศึกษาทีด่ ี มีความรู้ คู่คุณธรรม เพื่อที่จะได้เติบโตเป็นคนดีของสังคมต่อไป

คุณอัญชลี พินศิริ ผู้ปกครอง เด็กหญิงชญานิ น พินศิริ เด็กชายรชต ธาราดล

ชั้นอนุบาลปีท่ี 3/1 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/2

การเลื อ กโรงเรี ย นให้ ลู ก เป็ น สิ่ ง ส� ำ คั ญมากเนื่ อ งจากคุ ณ แม่จะ ไม่ค่อยมีเวลา และโรงเรียนมารีวิทย์บ่อวินท�ำให้คุณแม่รู้สึกไว้วางใจ และ ไม่กงั วลเมือ่ ลูก ๆ มาโรงเรียน ไม่วา่ จะเป็นในเรือ่ งของระบบการเรียนการสอน ที่มีคุณภาพ หรือการดูแลเอาใจใส่นักเรียนเป็นอย่างดี ทัง้ นีค้ ณ ุ แม่ขอขอบคุณคณะครูทกุ ท่านทีต่ งั้ ใจอบรมสัง่ สอนลูกและ ปลูกฝังด้านคุณธรรม จริยธรรม เพื่อส่งเสริมให้เขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดี ในวันข้างหน้า

87


คุณสุเมฆ - คุณสมจิตร สิงห์ทอง ผู้ปกครอง เด็กหญิงสุจิตรา สิงห์ทอง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/13

ตัง้ แต่วนิ าทีแรกทีเ่ ห็นหน้าลูก ความรักความห่วงใยทีม่ ใี ห้ลกู ไม่รวู้ า่ มากแค่ไหน รู้แค่เพียงว่าไม่มีสิ่งไหนเทียบเท่าได้ พอลูกเริ่มโตเราก็เริ่มมองถึงอนาคตของลูก รวมถึง อนาคตทางการศึกษา เพราะทุกวันนี้ การศึกษาถือเป็นสิ่งส�ำคัญ เป็นการวางรากฐาน ส�ำหรับหน้าทีก่ ารงานในอนาคตของลูก เพราะฉะนัน้ เราจึงอยากเลือกโรงเรียนทีด่ ที สี่ ดุ ให้กับลูกของเรา และโรงเรียนมารีวิทย์บ่อวินก็เป็นอีกหนึ่งโรงเรียนที่เราเห็นว่า มีความพร้อมทั้งทางด้านบุคลากรและมีความสามารถที่หลากหลาย รวมถึงนโยบาย ที่ดีจากทีมผู้บริหาร เราจึงไว้วางใจที่จะฝากลูกของเราไว้กับครอบครัวมารีวิทย์บ่อวิน ขอบคุณคุณครูทุกท่าน รวมถึงคณะผู้บริหาร ครอบครัวของเรามั่นใจว่า ท่านจะรักและดูแลลูกของเราให้เดินไปสู่ความส�ำเร็จในอนาคตได้อย่างแน่นอน

คุณดิเรก - คุณฐิติรัตน์ กันทะเนตร ผู้ปกครอง เด็กชายวุฒิภัทร กันทะเนตร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/8

ปัจจุบนั เป็นยุคของการแข่งขันทางด้านสติปญั ญา ความรูค้ วามสามารถ ใครมีมากกว่า ฝึกฝนได้มากกว่า มักจะได้เปรียบและใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ถือว่ามีชัยไปกว่าครึ่ง การศึกษาเป็นตัวแปลหลักที่ผลักดันและส่งเสริมให้แต่ละบุคคลมีสถานภาพ มีโอกาส และอนาคตที่แตกต่างกัน ดังนั้น สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ในฐานะผู้ปกครองให้ความส�ำคัญ มากที่สุดส�ำหรับลูก คือ การมองหาโรงเรียนที่ดีมีคุณภาพ มีบุคลากรที่พร้อมด้วย ความรู้ความสามารถ สื่ออุปกรณ์การเรียนการสอนครบครันและทันยุคทันสมัย ตอบสนองความต้องการของสังคมและความต้องการของตลาดแรงงานในอนาคต โรงเรียนมารีวิทย์บ่อวินเป็นสถาบันการศึกษาที่มีความพร้อมทุกด้าน น้องโตโต้ เพิ่งย้ายมาจากโรงเรียนอื่นสามารถสอบเข้าเรียนต่อชั้น ป.5 ได้ คุณพ่อและคุณแม่ รู้สึกดีใจมาก เพราะเราอยากให้ลูกเราได้เข้าเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ซึ่งเป็นสิ่งที่พ่อแม่ ตั้งใจไว้ ภาคเรียนที่ผ่านมาสิ่งที่พ่อแม่เห็นได้อย่างชัดเจน คือ น้องโตโต้มีพัฒนาการ ดีขึ้นทุกด้าน โดยเฉพาะภาษาอังกฤษจากที่ไม่ค่อยได้น�ำไปใช้ในชีวิตประจ�ำวัน ปัจจุบันน้องมีทักษะด้านการพูดหมั่นฝึกฝนและใช้ภาษาอังกฤษทุกวัน เลิกเล่นเกมส์ เลิกดูการ์ตูน มีระเบียบวินัยมากขึ้น กล้าแสดงความคิดเห็นมากขึ้นและสามารถ วางแผนในการใช้ชวี ติ ประจ�ำวันของตัวเองได้ ขอขอบคุณคณะผูบ้ ริหาร คณะครูทกุ ท่านทีส่ ง่ เสริมการเรียนการสอน และหวังเป็นอย่างยิง่ ว่าเด็ก ๆ ทุกคนจะได้รับโอกาสดี ๆ แบบนี้อย่างต่อเนื่องต่อไป 88


คุณอ�ำนวย - คุณวิจิตร เทศารินทร์ ผู้ปกครองของ เด็กหญิงจตุพร เทศารินทร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/6

ส�ำหรับครอบครัวของเรานัน้ ประทับใจโรงเรียน มารีวิทย์บ่อวินในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้าน กิจกรรม กฎระเบียบวินยั ของโรงเรียน ความปลอดภัย และด้านการศึกษา ซึ่งทางครอบครัวเราได้มองเห็น การเปลี่ ย นแปลงถึ ง แม้ จ ะเป็ น เทอมแรกที่ ลู ก สาว ได้เข้ามาศึกษาในโรงเรียนแห่งนี้ และรูส้ กึ อบอุน่ ทุกครัง้ ที่ เ ดิ น เข้ า มาในโรงเรี ย น ซึ่ ง มี ส ถานที่ ก ว้ า งขวาง มีความปลอดภัย คณะครูและบุคลากรทุกท่านต้อนรับ เป็นอย่างดี ส่วนทีเ่ ห็นในการเปลีย่ นแปลงด้านการเรียน ของลูกสาว คือ ด้านภาษา ทางครอบครัวเรารู้สึก ประทั บ ใจมากค่ ะ และผลการเรี ย นของลู ก ก็ อ ยู ่ ในเกณฑ์ดีมาก สุดท้ายนี้ครอบครัวของเราขอขอบคุณคณะผู้บริหารและคณะครูของโรงเรียนมารีวิทย์บ่อวินทุกท่านที่ดูแลเอาใจใส่ อบรมบ่มนิสัยให้ลูกได้รับความรู้ เมื่อเติบโตขึ้นจะได้น�ำความรู้ ความสามารถและข้อดีของการมีระเบียบวินัยไปพัฒนาตนเองและ สังคมต่อไป

คุณไพรศาล - คุณบุญสิน ปัสสาโก ผู้ปกครอง เด็กหญิงชญาดา ปัสสาโก ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/5 นายศตคุณ ปัสสาโก ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1

การศึกษาถือว่าเป็นสิ่งส�ำคัญมากโดยเฉพาะ ในปัจจุบนั มีการแข่งขันทางด้านการศึกษาทีเ่ พิม่ ขึน้ มาก เราก็เป็นครอบครัวหนึง่ ทีอ่ ยากให้ลกู ๆ ได้รบั การศึกษาทีด่ ี มีวินัยในตัวเอง จึงตัดสินใจให้ลูก ๆ ทั้ง 2 คน เข้าเรียนที่ โรงเรียนมารีวิทย์บ่อวิน จนวันนี้เราได้เห็นการพัฒนา ของลูกที่ดีขึ้นในหลาย ๆ ด้านอย่างต่อเนื่อง จนท�ำให้ เราคิดว่า “เราตัดสินใจถูกต้องที่ส่งลูกของเรามาเป็น ครอบครัวเดียวกันกับโรงเรียนมารีวิทย์บ่อวิน” สุ ด ท้ า ยนี้ ค รอบครั ว ของเราขอขอบพระคุ ณ คณะผู ้ บ ริ ห าร คณะคุ ณ ครู ทุ ก ท่ า น และเราจะเป็ น ส่วนหนึง่ ทีจ่ ะก้าวไปพร้อม ๆ กับโรงเรียนมารีวทิ ย์บอ่ วิน เพื่อส่งลูก ๆ ของเราให้ถึงฝั่งอย่างที่เขาตั้งใจไว้ 89


ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1

พวกเราคงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า โรงเรียนนัน้ ก็เปรียบเสมือนบ้านหลังที่ 2 นอกจากจะเป็นสถานทีใ่ ห้ความรูแ้ ล้ว ยังให้ทงั้ ความรัก ความอบอุน่ ความเอาใจใส่และยังมีเรือ่ งราวดี ๆ เกิดขึน้ มากมาย ในรัว้ ขาว - เขียวแห่งนีม้ สี ถานทีท่ สี่ วยงาม มีอาคารทีม่ คี วามทันสมัย และมีสงิ่ อ�ำนวยความสะดวก เช่น เครือ่ งโปรเจคเตอร์ อินเทอร์เน็ต เครือ่ งปรับอากาศ รวมไปถึงอาหารกลางวันทีอ่ ร่อยและสะอาด อีกทัง้ ยังมีการจัดสภาพแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติ มีทั้งต้นไม้และดอกไม้ที่สวยงาม นอกจากนี้โรงเรียนของพวกเรายังมีการเรียนการสอน ที่ทันสมัย เน้นด้านวิชาการและเล็งเห็นถึงความส�ำคัญของภาษาต่างประเทศ โดยให้นักเรียนท่องศัพท์ภาษาอังกฤษทุก ๆ เช้า และยั ง มี โ อกาสได้ เรี ย นกั บ ครู ต ่ า งชาติ ซึ่ ง ท� ำ ให้ พ วกเราได้ พั ฒ นาตนเองในด้ า นภาษาอั ง กฤษมากขึ้ น ทั้ ง ในด้ า นการอ่ า น การพูด และการเขียน พวกเราได้รบั การอบรมสัง่ สอนในด้านคุณธรรม โดยการปลูกฝังคุณธรรมผ่านกิจกรรมและโครงการต่าง ๆ เช่น กิจกรรม 3 ดี, โครงการคัดแยกขยะ ซึง่ เป็นสิง่ ทีด่ ที จี่ ะติดตัวพวกเราไปตลอด นอกจากนีโ้ รงเรียนยังมีการส่งเสริมในด้านกิจกรรมต่าง ๆ เช่น กิจกรรมกีฬาสี, กิจกรรมเข้าค่ายลูกเสือ, กิจกรรมวันคริสต์มาส, กิจกรรมวันวิชาการ, กิจกรรมวันเด็ก ฯลฯ ซึง่ กิจกรรมต่าง ๆ เหล่านี้ ให้ความรู้ และความสนุกสนานแก่พวกเราเป็นอย่างมาก และสิ่งที่ส�ำคัญที่สุดคือการดูแลเอาใจใส่ของคณะครูที่มีต่อพวกเรา คอยแนะน�ำอบรมสั่งสอนและขัดเกลาให้พวกเราเป็นคนดีของสังคม สุดท้ายนีพ้ วกเราขอขอบคุณสถาบันรัว้ ขาว-เขียวแห่งนีท้ ที่ ำ� ให้พวกเรามีความทรงจ�ำดี ๆ ทีห่ าจากทีไ่ หนไม่ได้ และขอขอบคุณ คณะครูทกุ ท่านทีใ่ ห้ความรู้ ปลูกฝังคุณธรรม เพือ่ จะให้พวกเราเป็นคนดีของสังคม พวกเราจะจดจ�ำสิง่ ดี ๆ นี้ ทีเ่ กิดขึน้ ในรัว้ ขาว-เขียว และจะอยู่ในความทรงจ�ำตลอดไป

90

นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1 รุ่น 7


เรียบเรียงโดย ครูวิภารัตน์ กวินภพพิริยากูล “จินตนาการ” มีผใู้ ห้คำ� นิยามและความหมายไว้มากมาย เช่น จินตนาการคือภาพที่ถูกสร้างขึ้นในจิตใจ จินตนาการ เป็นความรู้พื้นฐานที่เกิดขึ้นจากการรับรู้ด้วยประสาทสัมผัส จินตนาการหล่อเลี้ยงความเป็นมนุษย์โลก จินตนาการเป็นเรื่อง ธรรมดาสามัญของมนุษย์ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ “การสร้างสรรค์” คือความสามารถของมนุษย์ที่จะคิด แก้ปญ ั หาและพัฒนาจนสามารถประดิษฐ์ผลิตผลใหม่ ๆ การคิด ริเริ่มในสิ่งที่แปลกใหม่เพื่อสนองความต้องการของตนเองและ สังคม ดังนั้นการริเริ่มสร้างสรรค์จึงเป็นการกระท�ำเพื่อให้เกิด

110

ความก้ า วหน้ า แปลกไปจากเดิ ม และการที่ ม นุ ษ ย์ รู้จักการสร้างสรรค์นี้เองที่ท�ำให้โลกได้รับการพัฒนา ในด้านต่าง ๆ มีความเจริญก้าวหน้าจนถึงปัจจุบัน และต่อไปในอนาคตอย่างไม่หยุดยั้ง ตราบใดที่ยัง มีการสร้างสรรค์อย่างต่อเนื่อง จุดเริม่ ต้นของการสร้างสรรค์สงิ่ ต่าง ๆ ในโลก นี้เกิดจาก “ความคิดสร้างสรรค์บวกกับจินตนาการ” ซึ่งเป็นคุณสมบัติพิเศษของมนุษย์ที่มนุษย์ทุกคนล้วน แต่มีอยู่ในตนเองทั้งสิ้น และการที่เราจะดึงเอาความ คิดสร้างสรรค์และจินตนาการเหล่านั้นให้ปรากฏ ออกมา สิ่งแรกที่จะเป็นสิ่งน�ำทางคือความมีอิสระ ทางความคิดที่ไร้ขอบเขตนั่นเอง จะเห็นได้ว่าศิลปะ จะตอบโจทย์ได้ดีในส่วนนี้ ซึ่งไม่ได้มุ่งเฉพาะเจาะจง ในเด็กเท่านั้น หากรวมถึงผู้ใหญ่หรือความเป็นมนุษย์ ทุกคนและถ้าหากชีเ้ ฉพาะไปทีเ่ ด็กนัน่ ย่อมหมายความ ว่ า หากจิ น ตนาการของเด็ ก ได้ รั บ การพั ฒ นาและ ส่งเสริมเต็มตามศักยภาพแล้วเส้นทางชีวติ ทีเ่ ติบโตขึน้ ก็จะมีความสมดุลทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ กล้า แสดงออก มีความเชื่อมั่นในตนเอง และมีความคิด ริ เริ่ ม สร้ า งสรรค์ อั น จะส่ ง ผลต่ อ คุ ณ ภาพชี วิ ต ของ สังคมโดยรวม เพื่อให้เกิดจินตนาการและความคิด สร้างสรรค์ที่สมบูรณ์ การปลูกฝังให้เด็กมีทักษะการ คิดและรู้สึกสามารถท�ำได้โดยให้เด็กมีโอกาสเรียนรู้ และค้นหาประสบการณ์ด้วยตัวเอง ซึ่งจะมีผลให้เกิด การแสดงออกทางจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ อย่างต่อเนือ่ ง อีกทัง้ สามารถน�ำไปใช้ประโยชน์ในชีวติ ประจ�ำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพือ่ เป็นพืน้ ฐานน�ำ ไปสู่ความเจริญก้าวหน้าของชาติบ้านเมือง เนื่องจาก ความคิดสร้างสรรค์สามารถทีจ่ ะฝึกฝน ทดลอง ปฏิบตั ิ จนเกิดประสบการณ์และน�ำไปสู่การค้นพบแนวทาง ใหม่ ๆ เพื่อการสร้างสรรค์งานต่อไป


ดังนั้นศิลปะในเด็กควรผลักดันให้เด็กได้ แสดงออกทางความคิดและความรู้สึกอย่างอิสระ ตามความถนัดและความสนใจ ถ้ากิจกรรมศิลปะ กระตุ้นการแสดงออกทางศิลปะด้วยสื่อวัสดุ กลวิธี เทคนิควิธกี ารที่หลากหลายสอดคล้องกับวุฒิภาวะ ย่อมสร้างเสริมให้เด็กเกิดคุณค่าอย่างกว้างขวาง ทั้งในแง่คุณค่าทางด้านผลงาน คุณค่าทางด้าน บุคลิกภาพ และคุณค่าทางด้านประสบการณ์สนุ ทรียะ ซึ่งจะท�ำให้เด็กเหล่านั้นได้สั่งสมสุนทรียรสของตน เกิดความเชื่อมั่นในแนวทางการสร้างสรรค์ศิลปะ ทีฝ่ กึ ฝนจินตนาการและกระบวนการคิดสร้างสรรค์ ไปพร้อม ๆ กันจะเป็นการช่วยชักน�ำให้เด็กเข้าสูโ่ ลก ของศิลปะเพื่อเรียนรู้และสร้างสรรค์ เข้าใจและ มองเห็นสิง่ ใหม่ ๆ มีความรูส้ กึ ใหม่ ๆ เกิดประสบการณ์ ที่มีความหมายต่อชีวิตของตนและประสบการณ์ ร่วมกับผูอ้ นื่ ทีจ่ ะชืน่ ชมและเห็นคุณค่าศิลปวัฒนธรรม ภูมปิ ญ ั ญาของชุมชน ความเป็นชาติ ความเป็นสากล และเป็นพลังส�ำคัญในการพัฒนาสังคมไทยให้เจริญ ก้าวหน้าและดีงาม ซึ่งทางโรงเรียนมารีวิทย์บ่อวิน ได้จัดกิจกรรมเสริมทักษะในการสร้างจินตนาการ สู่การสร้างสรรค์ โดยได้เปิดการเรียนเสริมทักษะ พิเศษศิลปะขึ้นในทุกวันเสาร์

111


เรียบเรียงโดย ครูปุณณภา วิเชียรราช การปฏิ บั ติ ก ารวิ จั ย ในชั้ น เรี ย น (Classroom Action Research) ถื อ เป็ น นวัต กรรมรูป แบบหนึ่งที่เอื้อต่อการพั ฒ นา การเรี ย นการสอนสำ�หรั บ ครู ยุ ค ใหม่ ที่ ส อดคล้ อ งกั บ แนวการ จัดการศึกษาตามพระราชบัญญัติแห่งชาติ พุทธศักราช 2542 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในมาตรา 24 ระบุว่า “การจัดกระบวนการเรียนรู้ ให้สถานศึกษาและหน่วยงาน ทีเ่ กีย่ วข้องดำ�เนินการส่งเสริม สนับสนุนให้ผสู้ อนสามารถจัด บรรยากาศ สภาพแวดล้อม สื่ อ การเรี ย น และอำ�นวย ความสะดวก เพื่ อ ให้ ผู้ เรี ย นเกิ ด การเรี ย นรู้ และมี ค วามรอบรู้ รวมทั้งสามารถใช้การวิจัย เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเรียนรู้” ประโยชน์ของการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียน มีดังนี้ 1. ช่วยแก้ปัญหาในห้องเรียน 2. ช่วยทำ�ให้นักเรียนเกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น 3. เป็นการเปลี่ยนบทบาทการจัดการเรียนการสอนของ ครูใหม่ 4. เสริมพลังอำ�นาจแก่ครูในการแก้ปัญหาในชั้นเรียน 5. ทำ�ให้วิธีการจัดการเรียนการสอนมีประสิทธิภาพ 6. เป็นการกระตุ้นการสอนแบบสะท้อนกลับ 7. ช่วยตรวจสอบวิธีการทำ�งานของครูที่มีประสิทธิภาพ 8. ช่วยพัฒนาทักษะของครู/นักเรียน 9. เป็นการเชื่อมโยงระหว่างวิธีสอนกับผลที่ได้รับ 10. ช่วยให้ครูนำ�ผลการวิจัยไปใช้ในห้องเรียน 11. ทำ�ให้ครูเป็นผู้นำ�การเปลี่ยนแปลง (Change agent) จะเห็นได้ว่าการวิจัยเชิงปฏิบัติการในชั้นเรียน มีประโยชน์ ต่อการพัฒนาการเรียนการสอนเป็นอย่างมาก นักเรียนจะได้รับ การพัฒนา/ครูสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ 112

จากการทำ�วิจัยในชั้นเรียนเรื่อง การพัฒนาทักษะในด้าน การอ่านของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/7 จำ�นวน 4 คน โดยใช้แบบฝึกการอ่านสะกดคำ�จากภาพ ในการจัดกิจกรรมการเรียน การสอน ครูผสู้ อนพบว่ามีนกั เรียนจำ�นวน 4 คนทีอ่ า่ นสะกดคำ�ไม่ได้ แต่ รู้ จั ก รู ป ภาพว่ า คื อ อะไร ดั ง นั้ น ครู ผู้ ส อนจึ ง สร้ า งบั ต รภาพ เพื่อนำ�มาช่วยฝึกพัฒนาการอ่านสะกดคำ�ของนักเรียนกลุ่มนี้ และ ดำ�เนินการทำ�วิจัยในชั้นเรียนควบคู่ไปกับการจัดการเรียนการสอน แบบเน้นผู้เรียนเป็นสำ�คัญ หลังจากทำ�การวิจัยในชั้นเรียนในครั้งนี้ พบว่านักเรียนมีพฒ ั นาด้านการอ่าน สะกดคำ�ได้เพิม่ มากขึน้ จากเดิม ซึง่ จากการทดสอบการอ่านปรากฏว่านักเรียนมีการจำ�ภาพมากกว่า คำ�บางคำ�นักเรียนอ่านไม่ออกแต่สามารถดูได้จากภาพและอ่าน สะกดคำ�ถูกต้องทำ�ให้คะแนนออกมาดีตามลำ�ดับเป็นที่น่าพอใจ ส่งผลให้นักเรียนเกิดการพัฒนาทักษะกระบวนการอ่านได้ดีขึ้น กว่าเดิม และมีเจตคติที่ดีต่อการเรียน

ครูจำ�เนียร โภคาพานิชย์ ครูประจำ�ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/7


ผมมีโอกาสได้ทำ�วิจัยในชั้นเรียนเรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชาสังคมศึกษา เรื่อง สังเวชนียสถาน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/10 จำ�นวน 2 คน เนื่องจากผู้เรียนไม่ชอบการเรียนวิชาสังคมศึกษา คงเป็นเพราะเนื้อหา มาก ต้องท่องจำ�และจดจำ�มาก จึงทำ�ให้ผู้เรียนเบื่อหน่ายต่อการเรียน ดังนั้นผมจึง พยายามคัดเลือกหาสื่อที่เหมาะสม เพื่อกระตุ้นให้ผู้เรียนสนุกกับการเรียนรู้ ผมจึง เลือกใช้สอื่ การสอนทีเ่ ป็นสือ่ วีดทิ ศั น์ ในรูปแบบของ VDO ในการจัดการเรียนรู้ รวมทัง้ สร้างกิจกรรมโดยผ่านโปรแกรม PowerPoint ในรูปแบบของเกม ผลของการวิจัย จากการสังเกตพฤติกรรมของผู้เรียน ผู้เรียนมีความสนุกสนานกับการเรียน และ มีความสุขกับการเล่นเกมกับเพือ่ น มีรอยยิม้ และเสียงหัวเราะ ประกอบกับผลคะแนน ของการทดสอบหลังเรียนมากกว่าก่อนเรียน นัน่ หมายความว่าการวิจยั เรือ่ งนีถ้ อื ได้วา่ เป็นการวิจัยที่ช่วยพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

มาสเตอร์อานนท์ พลากร ครูประจำ�ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/10

ดิฉันได้ท�ำงานวิจัยในชั้นเรียนเรื่อง การพัฒนาทักษะการฟัง พูด อ่าน เขียน ของนักเรียนชั้น ม.1 จ�ำนวน 10 คน โดยน�ำกิจกรรม play and learn เพลิน English มาจัดการเรียนการสอน เป็นการพัฒนาการเรียนการสอน อีกรูปแบบหนึ่ง จูงใจให้ผู้เรียนเกิดความอยากรู้อยากเรียนปรับปรุงพฤติกรรม ของผู้เรียน ท�ำให้นักเรียนทั้ง 10 คน ที่เคยไม่ชอบเรียนวิชาภาษาอังกฤษ ที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนค่อนข้างต�่ำ เกิดเจตคติที่ดีขึ้นต่อวิชาภาษาอังกฤษ ร่วมท�ำกิจกรรมอย่างสนุกสนาน ส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น ดิฉันจึง พยายามพัฒนาการเรียนการสอนให้มีคุณภาพมากขึ้น โดยผ่านการท�ำวิจัย ในชั้นเรียน ศึกษาค้นคว้าเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติการเรียนการสอนในทุกปีการศึกษา สร้างบรรยากาศการเรียนรู้ให้ผู้เรียน มีความสุขกับการเรียน เพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และพัฒนาการเรียนรู้ของเด็กให้มีประสิทธิภาพอยู่เสมอ จุดประสงค์ที่ดิฉันต้องการ คือ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับนักเรียน

ครูบรรจง วงศ์ศรี ครูประจ�ำชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/3

จากการท�ำวิจัยในชั้นเรียน เรื่อง การพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง ประเภทขับเสภาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/1 จ�ำนวน 6 คน โดยใช้ Youtube เกิดประโยชน์มาก ครูผู้สอนพบว่านักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ที่ดีขึ้น ซึ่งตัวครูผู้สอนเองไม่ได้ เลือกนักเรียนจากนักเรียนที่มีผลสัมฤทธิ์ต�่ำจากการอ่านเท่านั้น แต่ยังเลือกนักเรียนที่มี ผลสั ม ฤทธิ์ สู ง และสามารถพั ฒ นาดี ยิ่ ง ขึ้ น ได้ ทั้ ง นี้ ก็ เ พื่ อ พั ฒ นาให้ นั ก เรี ย นสามารถ อ่านออกเสียงบทร้อยกรอง ประเภทขับเสภาได้ไพเราะและถูกต้องตามลักษณะของอักขรวิธี โดยครูผู้สอนผลิตสื่อผ่าน Youtube ใช้เป็นการบันทึกวิดีโอการขับเสภาของ ตัวผูส้ อนเอง เพราะนักเรียนสามารถฝึกฝนได้ตลอดเวลาทีอ่ ยูท่ บี่ า้ น โดยไม่จำ� เป็นต้องฝึกฝน ตามครูผสู้ อนภายในโรงเรียนเพียงอย่างเดียว การใช้สอื่ เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในการสอน ก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่สามารถท�ำให้สื่อ กลายเป็นสื่อกลางระหว่างครูผู้สอนและนักเรียน ได้ผลสัมฤทธิ์ที่เกิดขึ้นจากการใช้กลวิธีนี้ ผมมองว่ามันคุ้มค่าเป็นอย่างมาก มาสเตอร์ณัฏฐภัทร มูลหิลัญจน์เดชา ครูประจำ�ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/3 113


TCAS เป็นระบบการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยรูปแบบใหม่ ซึ่งย่อมาจาก Thai University Central Admission System มี 5 รอบ ดังนี้

รอบที่ 1 Portfolio

ระยะเวลา 1 ธันวาคม 2561 - 31 มกราคม 2562 เป็นรอบรับตรงใช้ความสามารถพิเศษ ไม่ใช้คะแนน เป้าหมายเป็นนักเรียนทีม่ คี วามสามารถพิเศษ นักเรียนโควตาทีไ่ ม่ตอ้ งสอบข้อเขียนหรือข้อปฏิบตั ิ ยืน่ สมัครกับสถาบันอุดมศึกษา และผูผ้ า่ นการคัดเลือก เข้ามาบริหารจัดการสิทธิ์ในระบบ TCAS

รอบที่ 2 โควตา

ระยะเวลา 4 กุมภาพันธ์ - 25 เมษายน 2562 เป็นรอบที่มีการใช้คะแนน เช่น คะแนน O-Net GAT/PAT คะแนน 9 วิชาสามัญ คะแนนรายวิชาเฉพาะและอาจใช้คะแนน GPAX 5 หรือ 6 ภาคเรียน จากศูนย์ขอ้ มูลสารสนเทศเพือ่ การคัดเลือกเข้าสถาบันอุดมศึกษา เป้าหมายเป็นนักเรียนที่อยู่ในเขตพื้นที่หรือภูมิภาค นักเรียนในโรงเรียน เครื อ ข่ า ย นั ก เรี ย นโครงการความสามารถพิ เ ศษ นั ก เรี ย นในเขตพิ เ ศษ ของประเทศ นักเรียนยื่นสมัครกับสถาบันอุดมศึกษา และผู้ผ่านการคัดเลือก เข้ามาบริหารจัดการสิทธิ์ในระบบ TCAS

รอบที่ 3 รับตรงร่วมกัน

ระยะเวลา 17 เมษายน - 17 พฤษภาคม 2562 เป็นรอบที่มีการใช้คะแนนตามองค์ประกอบและเกณฑ์ ทีก่ ำ� หนดมาจากสาขาวิชา/มหาวิทยาลัย กลุม่ เป้าหมายเป็นนักเรียน ทัว่ ไป นักเรียนโครงการ กสพท และนักเรียนโครงการอืน่ ๆ สมัครผ่าน ระบบ TCAS เลือกได้สูงสุด 6 สาขาวิชา แบบเรียงล�ำดับ ทั้งนี้ การเลือกสาขาวิชากับการช�ำระเงินแยกอิสระ สามารถช�ำระเงินเพิม่ เพื่อเลือกสาขาวิชาเพิ่มได้ สถาบันอุดมศึกษาคัดเลือกผู้สมัครและ ส่งชือ่ เข้าระบบ TCAS เพือ่ การบริหารจัดการสิทธิ์ การบริหารจัดการ สิทธิ์เป็นแบบ Auto-Clearing ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์เข้าสอบ สัมภาษณ์เพียงสาขาวิชาเดียว 126


รอบที่ 4 Admission

ระยะเวลา 9 พฤษภาคม - 7 มิถุนายน 2562 เป็นรอบที่มีการใช้คะแนนตามองค์ประกอบและเกณฑ์ที่ก�ำหนดมาจากกลุ่มสาขาวิชา/ มหาวิทยาลัย ที่ก�ำหนดไว้ 10 กลุ่ม กลุ่มเป้าหมายเป็นนักเรียนทั่วไป ยื่นสมัครผ่านระบบ TCAS นักเรียนเลือกได้สงู สุด 4 สาขาวิชา แบบเรียงล�ำดับ การบริหารจัดการสิทธิเ์ ป็นแบบ Auto-Clearing ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์เข้าสอบสัมภาษณ์เพียงสาขาวิชาเดียว

รอบที่ 5 รับตรงอิสระ

ระยะเวลา 30 พฤษภาคม - 18 มิถุนายน 2562 เป้าหมายเป็นนักเรียนทั่วไป ผู้สมัครยื่นสมัครกับสถาบันอุดมศึกษา สถาบันอุดมศึกษา ก�ำหนดเกณฑ์การรับ (อาจจะมีการใช้คะแนนสอบร่วมด้วย) จัดสอบเพิ่มเติมได้กรณีที่นักเรียน ไม่มีคะแนนของวิชาที่ต้องการ สถาบันอุดมศึกษาส่งชื่อเข้าระบบ TCAS เพื่อการบริหารจัดการสิทธิ์ หลักสูตรนานาชาติ มหาวิทยาลัยมีอิสระในการก�ำหนด ปฏิทินการคัดเลือกตั้งแต่การรับสมัคร การจัดสอบรายวิชาเพิ่มเติม การสัมภาษณ์ หรือรูปแบบการคัดเลือกอื่น ๆ และเมื่อกระบวนการ คัดเลือกเสร็จสิน้ จนได้รายชือ่ ผูม้ สี ทิ ธิเ์ ข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา ให้น�ำรายชื่อมาเข้าบริหารจัดการสิทธิ์ในระบบ TCAS

การยืนยันสิทธิ์ ส�ำหรับการสมัครรอบที่ 1 รอบที่ 2 และ รอบที่ 5 ในระบบ TCAS ระบบเปิดให้ผู้สมัครเข้ามายืนยันสิทธิ์ในช่วงเวลาที่ก�ำหนด ผู้สมัครเลือก “ยืนยันสิทธิ์” ในสาขาวิชาที่ตนเองได้รับการคัดเลือก ให้เข้าศึกษาได้เพียงสาขาวิชาเดียวหรือเลือก “ไม่ยืนยันสิทธิ์” ในกรณีทไี่ ม่ประสงค์จะเข้าศึกษา ทัง้ นี้ หากผูส้ มัครไม่ดำ� เนินการเลือก “ยืนยันสิทธิ์” หรือ “ไม่ยืนยันสิทธิ์” ภายในช่วงเวลาที่ก�ำหนด จะถือว่า ผู้สมัครยังไม่ได้ใช้สิทธิ์ในการเข้าศึกษาและไม่ต้องการ เข้าศึกษาในสาขาวิชาที่ได้รับการคัดเลือก ซึ่งจะขอใช้สิทธิ์เข้าศึกษา ภายหลังจากช่วงเวลาที่ก�ำหนดไม่ได้ การยืนยันสิทธิ์ส�ำหรับการสมัครรอบที่ 3 และ รอบที่ 4 ณ วันสอบสัมภาษณ์ทสี่ ถาบันอุดมศึกษา ระบบประกาศรายชือ่ ผูผ้ า่ น การคัดเลือกให้เข้าสอบสัมภาษณ์เพียงสาขาวิชาเดียว ผู้สมัคร ตรวจสอบรายชือ่ สาขาวิชาทีไ่ ด้รบั การคัดเลือกให้เข้าสอบสัมภาษณ์ ถ้ า ผู ้ ส มั ค รต้ อ งการเข้ า ศึ ก ษาในสาขาวิ ช าที่ ไ ด้ รั บ สิ ท ธิ์ เข้ า สอบ สัมภาษณ์ให้ผู้สมัครเข้าสอบสัมภาษณ์ตามวันและเวลาที่ก� ำหนด ถ้าผู้สมัครมีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่สาขาวิชาก�ำหนด และลงนาม ในเอกสารเพื่อแสดงความประสงค์ว่า “ยืนยันสิทธิ์” เข้าศึกษา จะถือว่าผู้สมัครได้ยืนยันสิทธิ์เข้าศึกษาทันที และนับเป็นหนึ่งครั้ง ของการยืนยันสิทธิ์

การสละสิทธิ์ การสละสิทธิ์เพื่อไปสมัครรอบต่อไปต้องด� ำเนินการ ภายในระยะเวลาทีก่ ำ� หนดของแต่ละรอบ ผูส้ มัครทีไ่ ด้ยนื ยันสิทธิ์ เข้าศึกษาในรอบทีต่ อ้ งการไปแล้ว ต้องการทีจ่ ะขอสละสิทธิท์ ไี่ ด้ ยืนยันไปแล้ว สามารถเข้าระบบเพือ่ ขอสละสิทธิไ์ ด้ ระบบเปิดให้ ผู้สมัครสามารถสละสิทธิ์ได้ในช่วงเวลาที่ก�ำหนดเท่านั้น ทปอ. ให้สิทธิ์การสละสิทธิ์เพียง 1 ครั้งเท่านั้นจาก TCAS 5 รอบ ดังนั้น การเตรียมตัวสมัคร TCAS ควรมี 3 ข้อที่ต้องรู้ ก่อนเลือกเรียน 1. รู้จักตนเอง นักเรียนต้องศึกษาตนเองในมิติต่าง ๆ เช่น บุคลิกภาพ ความชอบหรือความสนใจ ความถนัด สติปญ ั ญา และความสามารถ และเป้าหมายในชีวิตว่าเราอยากเรียน ในคณะอะไร เพื่อง่ายต่อการวางแผนในการท�ำเป้าหมาย ให้ส�ำเร็จ 2. รู ้ จั ก อาชี พ อาชี พ ที่ นั ก เรี ย นต้ อ งการจะเป็ น ในอนาคต ควรเลือกเรียนคณะใด สาขาไหน หรือจบมาแล้วสามารถ ประกอบอาชีพใดได้บ้าง 3. รูจ้ กั วางแผน การวางแผนทีด่ ี เปรียบเสมือนการวางเป้าหมาย ทีด่ เี ช่นกัน เมือ่ รูแ้ ล้วว่าจะเรียนคณะ/สาขาไหน สมัครรอบใด ใช้ ค ะแนนอะไรบ้ า งในการพิ จ ารณา ต่ อ มาให้ ว างแผน เรื่องการแบ่งเวลาส�ำหรับการอ่านหนังสือทบทวนความรู้ ที่ เ คยเรี ย นมา การท� ำ กิ จ กรรม เก็ บ เนื้ อ หาล่ ว งหน้ า ท� ำ Portfolio และสิ่ ง ส� ำ คั ญ คื อ ต้ อ งติ ด ตามข่ า วของ ระบบ TCAS อยู่เสมอ จะได้เตรียมพร้อมทุกสถานการณ์ 127


“A change of view on learning English in Cebu” For 3 months, I studied English at EV Academy, a language school in Cebu, Philippines. I spent the first 3 weeks in ESL (English as a Second Language) course. It is a basic course intended for beginning English learners. The teachers teach the course according to each student’s English competency. I made new friends in my ESL classes. After that, I enrolled in the IELTS program. IELTS is a comprehensive course intended for students who would like to improve their English skills further. IELTS was quite difficult for me because of the advanced vocabulary and readings. My English skills needed to be improved and the study time was quite short. There was a lot to learn in 3 months. I had a lot of pressure but I tried my best. At the end, my weak points improved and I was motivated to learn more. Moreover, the experience did not only help me improve my English skills, but also changed the way I see English in my teaching. I used to think that sharing knowledge with my students was enough and that language did not matter much. However, while reading articles on Science and Technology, Social Studies, and History in my IELTS reading classes, I realized that delivering my lessons on these subjects in the original language would be able to help my students understand the context immensely. My teacher also said that it would be best for students to learn these subjects in English at an early age so they can easily adjust to English proficiency. English will prepare my students to become globally competitive with better opportunities in the future. In conclusion, learning English can be difficult for some people but definitely possible if you are determined. You just need to open up your mind and step out of your comfort zone. I believe that those who put their efforts into learning a new language will succeed. Although I went to study English in Cebu for 3 months, there is a lot of room for improvements in order for me to effectively deliver my lessons in English. I am ready to take the challenge and teach Science next year to my Mathayom 1 students. I hope that this article will help those who are looking to advance their English skills, especially my students and fellow teachers at Maryvit Bowin School. You will view this world in many different ways with just the ability to understand English language.

128

By Jittakarn Srinok Mathayom 1 Science Teacher


Learning Experience in

Cebu, Philippines

I went to Cebu, Philippines for a period of 3 months to study English. I took a 6-week ESL course and a 6-week TOEIC course. I met new friends from many different countries. The ESL course helped me improve the four basic English communication skills: reading, speaking, listening, and writing. In the TOEIC course, my teachers taught me different techniques so that I can remember the vocabulary and improve my reading comprehension skill. During my ESL and TOEIC courses, I had one-on-one and small group classes. In my one-on-one classes, the teachers worked with me based on my English proficiency. They helped me with my pronunciation, reading, and speaking. These skills were important with my living in Cebu so I can communicate with others, adapt to the new environment, make new friends, and travel around the city. I was able to adjust rather quickly because I had information about the school prior to my arrival at Cebu and the teachers and classmates were very supportive and helpful. After 3 months of learning English in Cebu, I was able to speak English confidently. Although I still make mistakes in my pronunciation, I will continue to practice it with the foreign teachers at Maryvit Bowin. I was very excited to be teaching English to my Kindergarten students upon my return. Lastly, I am very grateful for this once-in-a-lifetime opportunity. For those who are learning to speak English, my suggestion is to be confident in yourself and practice often.

By Patimakorn Roopriep Kindergarten Teacher

My Experience Studying English in Cebu , Philippines

Nowadays, English is an important part of our lives especially for me as an educator. I must continue to develop myself in every aspect in order to effectively educate my students and be a good role model to other teachers. Last year, I was given the opportunity to study English in Cebu, Philippines for 8 weeks. I was hesitant at first since I have never been outside of Thailand for that long. I studied at English Fella Educational Centre from September 30 - November 24, 2018. I enrolled in ESL and IELTS courses. Learning English in Cebu was very exciting and challenging at the same time because my teachers are Filipinos and my classmates came from many countries such as Korea, Japan, Taiwan, and Vietnam. I had to use English all the time. Understanding the vocabulary part is important for me to prepare for my daily classes. I had improved my basic English communication skills. I used English most of the time because my roommate came from Korea. We often shared our experiences about our culture and country. During the weekends, I spent time with my friends travelling around Cebu and nearby provinces. The local people were very friendly. Finally, I think that learning English is very advantageous for me. I would like to thank the Executives at Maryvit School for giving me the opportunity to study English in Cebu. I have the courage to speak English and can effectively communicate with the foreign teachers.

By Sunee Anusasanee Head of Primary 1

129


EEC กับการศึกษาไทย

การศึกษาของไทยในปัจจุบันได้มีการพัฒนาในทุก ๆ ด้านไม่ว่าจะเป็นหลักสูตร กระบวนการ กิจกรรมการเรียน การสอน การพัฒนาครู โดยการเรียน การสอนเน้นด้านการใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก ตลอดจนการใช้เทคโนโลยีในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนซึ่งปัจจัยส�ำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ภายในพื้นที่ โดยเฉพาะ 3 จังหวัด อันได้แก่ ชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา เป็นการน�ำร่องในการพัฒนาเศรษฐกิจ ควบคู่ไปกับการพัฒนาด้านการศึกษา ซึ่งผลดีต่อการศึกษาเป็นการเปิดโอกาสให้นักเรียน ครู บุคลากรด้านการศึกษา ได้มีโอกาส ในการพัฒนาทั้งระบบและเกิดการปรับเปลี่ยนพัฒนาคุณภาพการศึกษาเพื่อรองรับเศรษฐกิจ อีกทั้งเป็นการบ่มเพาะแรงงาน ก่อนจะส่งเข้าสูภ่ าคอุตสาหกรรมให้มคี วามรูค้ วามสามารถและตรงกับความต้องการของตลาดแรงงานซึง่ จะมาถึงในอีกไม่กปี่ ขี า้ งหน้านี้ ภายใต้เศรษฐกิจทีก่ ำ� ลังเติบโต โครงการ EEC เป็นเพียงส่วนหนึง่ ทีช่ ว่ ยกระตุน้ ให้เกิดการแข่งขัน โอกาสและการพัฒนาสูค่ วามส�ำเร็จ ในภาคอุตสาหกรรมจะส�ำเร็จไปไม่ได้หากไม่ได้มีการเตรียมความพร้อมในด้านการศึกษา ดังนั้นการศึกษาจึงเป็นแรงขับเคลื่อน ที่ส�ำคัญในการพัฒนาคนให้มีคุณภาพและเป็นก�ำลังส�ำคัญในการพัฒนาประเทศและพัฒนาโลกต่อไป เด็กหญิงปิยากร เหมือนเสน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/5

เด็กไทยในยุค 4.0

ปัจจุบนั ประเทศไทยได้กา้ วเข้าสูย่ คุ 4.0 ซึง่ ยุคนีจ้ ะมีนวัตกรรมใหม่ ๆ เข้ามามากมายและเราจะเห็นว่า นวัตกรรมเหล่านี้ล�้ำเลิศมาก สามารถท�ำงานได้อย่างอัตโนมัติมีเทคโนโลยีและโลกดิจิทัล ซึ่งมักไปไว และเคลื่อนที่ไม่มีหยุด เด็กไทยในยุคนี้จึงต้องเตรียมความพร้อมพัฒนาตนเองให้สามารถก้าวผ่านสิ่งต่าง ๆ ที่ก�ำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเรื่องของการใช้เทคโนโลยี และที่ส�ำคัญการมีความคิดสร้างสรรค์ ในการคิดค้นนวัตกรรมต่าง ๆ ของเด็กไทยก็เป็นสิง่ ทีด่ เี พือ่ ช่วยในการพัฒนาประเทศให้สอดคล้องกับยุค 4.0 ซึง่ การศึกษาของเด็กไทย ในยุคนี้จะต้องมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้รู้ถึงความสามารถของตนเอง ซึ่งในยุคนี้จะมีการแข่งขันต่าง ๆ มากขึ้น และผู้ปกครองหลาย ๆ คนเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้เด็กไทยพัฒนาตนเองให้ก้าวทันการแข่งขันและอย่างน้อยเด็กไทยในยุคนี้ ควรพูดได้อย่างน้อยสองภาษาเพือ่ ให้ผเู้ รียนมีความพร้อมทีจ่ ะก้าวเข้าสูก่ ารพัฒนาประเทศเมือ่ ประเทศไทยของเราก้าวเข้าสูย่ คุ 4.0 ซึง่ จะมีการน�ำเทคโนโลยีทขี่ บั เคลือ่ นเองโดยอัตโนมัตมิ าใช้ เเละเราจะเห็นว่าแรงงานบางส่วนอาจถูกเลิกจ้าง ฉะนัน้ เราควรต้องเตรียม ความพร้อมและรับมือกับเทคโนโลยีด้วยการเตรียมตนเองให้มีทักษะที่สามารถท�ำงานกับนวัตกรรมเทคโนโลยีเหล่านี้ได้ ในเมื่อวันนี้ประเทศไทยของเราได้ก้าวเข้าสู่ยุคที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีเกิดการเปลี่ยนแปลงหลากหลาย ซึ่งการศึกษา ของเด็กไทยนัน้ จ�ำเป็นต้องพัฒนาให้เด็กไทยในยุคนีก้ า้ วทันยุคทีเ่ ต็มไปด้วยนวัตกรรม หากไม่เตรียมพร้อมรับการเปลีย่ นแปลงในยุคนี้ เราจะไม่สามารถอยู่ได้และช้าล้าหลังกว่านานาประเทศ เด็กหญิงกัญญ์วรา จ�ำปาหอม นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/1

130


วัยรุ่นไทยในยุค 4.0 ในโลกที่ เ ปลี่ ย นแปลงอย่ า งรวดเร็ ว ซึ่ ง ท� ำ ให้ ทุ ก คนต้ อ งเตรี ย มพร้ อ มรั บ มื อ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเปลี่ยนประเทศเข้าสู่ยุค ไทยเเลนด์ 4.0 โดยโครงสร้างเศรษฐกิจจะถูกขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม เเละเทคโนโลยีที่ทันสมัย ยุคที่เทคโนโลยีถูกน�ำมาใช้เเทนเเรงงาน เเละ เป็นยุคที่สมองกลถูกน�ำมาใช้เเทนสมองคน ซึ่งเด็กที่ปรับตัวไม่ทันกับ การเปลี่ยนเเปลงก็จะไม่สามารถเเข่งขันกับนานาประเทศได้ รวมทั้ง สูญเสียโอกาสทีจ่ ะประสบความส�ำเร็จ ดังนัน้ วัยรุน่ ไทยยุคนีจ้ งึ ต้องฉลาด เเละมีทกั ษะทีห่ ลากหลาย เพือ่ พร้อมเข้าสูก่ ารเปลีย่ นเเปลงของโลกเเละ สังคมในอนาคต “เด็ก คือ อนาคตของชาติ” และ “เด็กในวันนีค้ อื ผูใ้ หญ่ในวันหน้า” ค�ำพูดนี้ในแนวคิดของผมคือวัยรุ่นในวันนี้คือผู้ใหญ่ในวันหน้าค�ำพูดนี้ เป็นค�ำพูดที่คนทั่วไปมักพูดเป็นประจ�ำ สะท้อนให้เห็นว่าอนาคตของ ประเทศจะพัฒนาไปในทิศทางใดนั้นขึ้นอยู่กับคุณภาพของเยาวชน รุ ่ น ใหม่ เ พราะคนเหล่ า นี้ เ หมื อ นผ้ า ขาวที่ ร อให้ ผู ้ ใ หญ่ ม าแต่ ง เติ ม ประกอบกับการทีป่ ระเทศไทยได้กา้ วเข้าสูย่ คุ ไทยแลนด์ 4.0 การขับเคลือ่ น เศรษฐกิจและเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศผ่าน เทคโนโลยีนวัตกรรมความคิดสร้างสรรค์ดังนั้นนี่จึงเป็นแรงผลักดันให้มี การพัฒนาคุณภาพเยาวชนไทยให้พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว และการแข่งขันบนเวทีโลกซึง่ การทีว่ ยั รุน่ ไทยจะกลายเป็นผูน้ ำ� ระดับโลก ได้นั้นก็ควรที่จะมีทักษะที่หลากหลายได้แก่

1. ทักษะพิเศษทางด้านภาษาเนือ่ งจากในปัจจุบนั มีประเทศทีม่ อี ทิ ธิพล ต่อโลกมากขึน้ ดังนัน้ การมีความสามารถพูดได้หลายภาษาจึงเป็นสิง่ ที่มีความจ�ำเป็น 2. ทักษะพิเศษทางด้านกีฬาเนื่องในปัจจุบันกีฬาบนโลกนั้นมีมากมาย จึงท�ำให้ทกั ษะทางด้านกีฬามีความส�ำคัญเนือ่ งจากจะช่วยให้หา่ งไกล กับยาเสพติดได้แล้วนั้น ยังช่วยสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นในสังคม ซึ่งเป็นสิ่งที่จ�ำเป็นในการอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคม 3. ทักษะพิเศษด้านการแสดงเพือ่ ให้วยั รุน่ กล้าแสดงออกกล้าคิด กล้าพูด กล้าท�ำ 4. ทักษะพิเศษด้านดนตรีเพือ่ ให้วยั รุน่ สามารถควบคุมอารมณ์ได้ดแี ละ สิ่งสุดท้าย 5. ทักษะพิเศษด้านคอมพิวเตอร์เพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ อย่างเป็นระบบเพื่อให้วัยรุ่นมีระเบียบวินัยในการท�ำสิ่งต่าง ๆ มากยิ่งขึ้นและทั้งหมดนี้เป็นทักษะที่ผมคิดว่าวัยรุ่นไทยในปัจจุบัน นั้นควรมี จากการเปลี่ยนแปลงของสังคมในปัจจุบันและการเข้าสู่ยุค ไทยแลนด์ 4.0 ท�ำให้พบว่าวัยรุน่ มีความส�ำคัญต่อประเทศชาติมากยิง่ ขึน้ และวัยรุ่นในปัจจุบันต้องเป็นก�ำลังในการพัฒนาชาติในอนาคตต่อไป เด็กชายชิติพัทธ์ แสงงาม นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/3

ระบบเศรษฐกิจใน EEC

“สีจ่ ดุ ศูนย์ ประเทศไทยพร้อมเดินหน้า ยุทธศาสตร์การค้าสมัยใหม่ยกระดับอุตสาหกรรม ให้ก้าวไกล EEC ของไทยมุ่งพัฒนา” จากบทความข้างต้น หลาย ๆ คนอาจยังไม่คุ้นชินกับค�ำว่า EEC (Eastern Economic Corridor) ซึ่งเป็นโครงการการค้าใหม่ของไทย ที่น่าจับตามองมากที่สุดในปัจจุบัน ถือเป็นการปรับเปลี่ยนครั้งส�ำคัญ ของไทยโดยเฉพาะภาคตะวันออกตามแผนยุทธศาสตร์ ประเทศไทย 4.0 ที่ มุ ่ ง เน้ น การพั ฒ นาส่ ง เสริ ม การลงทุ น ระหว่ า งประเทศ เนื่ อ งจาก ประเทศไทยเป็นประเทศทีม่ ที รัพยากรทีห่ ลากหลายและเป็นศูนย์กลาง การค้าของโลกประเทศหนึ่ง ท�ำให้หลาย ๆ ประเทศต่างจับตามอง เพื่อท�ำการร่วมลงทุน แน่นอนว่าการเข้ามาลงทุนในประเทศผู้ลงทุน ต้องศึกษาและมั่นใจก่อนที่จะลงทุนได้ ประเทศไทยมีภาคตะวันออกติดกับทะเลสะดวกต่อการติดต่อ การค้า รัฐบาลจึงมองเห็นสิ่งที่ควรปรับปรุงเปลี่ยนแปลง โดยจัดตั้ง โครงการ EEC ขึ้นมา ในระยะแรกจะพัฒนา 3 จังหวัด ที่เป็นเมืองท่า และเป็นเขตอุตสาหกรรมของไทย ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง ทัง้ 3 จังหวัด จะได้รบั การพัฒนาและยกระดับอุตสาหกรรมเพือ่ การเติบโต ในระยะยาว โดยจะมีการปรับปรุงด้านการคมนาคม การขนส่ง อาทิ

การเตรียมยกระดับสนามบินอู่ตะเภาให้เป็นท่าอากาศยาน การสร้าง รถไฟทางเชื่อม รวมทั้งการสร้างท่าเรือแหลมฉบัง ท่าเรือมาบตาพุด ทางด่วนอีก 3 เส้นทาง ซึง่ จะเห็นได้วา่ เป็นการขับเคลือ่ นประเทศให้เติบโต เสริมสร้างความสะดวกสบายด้านการลงทุน อีกทั้งยังมุ่งเน้นการพัฒนา ยานยนต์ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมหลักของประเทศ ด้านการเกษตรจะถูก พัฒนาเป็นการเกษตรขั้นสูง เพื่อใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ด้านอุตสาหกรรมอาหารจะเน้นการแปรรูปอาหารเพื่อการส่งออก การท่องเทีย่ วย่อมมีการสร้างรายได้ให้แก่ประเทศเพิม่ มากขึน้ ท�ำให้คนไทย มีอัตราการจ้างงานเพิ่มขึ้น และมีการกระจายรายได้สู่ชุมชน อย่างไรก็ตาม การพัฒนาเศรษฐกิจ EEC ในภาคตะวันออก ของประเทศไทย ยังต้องได้รับความร่วมมือจากหลาย ๆ ฝ่าย เพื่อให้มี ความพร้อมที่จะพัฒนาประเทศในทุก ๆ ด้าน รวมถึงต้องเตรียมพร้อม รับมือกับอุปสรรคต่าง ๆ พร้อมปรับตัวเข้ากับทุกสถานการณ์ หากโครงการนี้ ส�ำเร็จอาจท�ำให้ประเทศไทย กลายเป็นประเทศมหาอ�ำนาจด้านการค้า ที่ส�ำคัญของโลกได้ในอนาคต นางสาวกัญญาณัฐ นาพรม นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/1 131


โรงเรี ย นมารี วิ ท ย์ บ่ อ วิ น ได้ จั ด กิ จ กรรมให้ นั ก เรี ย น ได้ไปฝึกงานที่สวนนงนุชพัทยา ในช่วงปิดภาคเรียนเป็นการ เสริมสร้างประสบการณ์ ทักษะวิชาชีพให้กบั นักเรียนในระดับชัน้ มัธยมศึกษาตอนปลาย ได้เรียนรูแ้ ละฝึกการทำ�งานในสภาพจริง ฝึกการแก้ไขปัญหา และรู้จักการทำ�งานเป็นหมู่คณะ จึงได้ส่ง นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จำ�นวน 17 คน ไปฝึกทักษะประสบการณ์วิชาชีพที่สวนนงนุชพัทยา ในระหว่างวันที่ 1 - 7 ตุลาคม 2561 ซึ่งตลอดการฝึกงาน นักเรียนได้ฝึกทักษะวิชาชีพในฝ่ายต่าง ๆ เช่น ฝ่ายต้อนรับ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ฝ่ายร้านกาแฟ ฝ่ายศูนย์อาหารครัวจีน ฝ่ายบ้านพักรีสอร์ท ฝ่ายการตกแต่งสวน ฝ่ายประสานงาน กลุ่มคณะทัวร์ หลังจากการฝึกทักษะประสบการณ์วิชาชีพครั้งนี้ นักเรียนทุกคนจะได้รับใบรับรองการฝึกงาน เพื่อใช้เป็นหลักฐาน ประกอบการศึกษาต่อและการทำ�งานในอนาคตได้ แต่สิ่งที่ทุกคนจะได้รับและมีคุณค่ามากที่สุดคือ ประสบการณ์ตรง จากการเรียนรู้และการได้ลงมือปฏิบัติจริง ซึ่งทำ�ให้นักเรียนมีความภาคภูมิใจในตนเอง

132

132


ผมได้ ไ ปฝึ ก งานที่ ส วนนงนุ ช พั ท ยาเนื่ อ งจากอยู่ ใ นช่ ว งปิ ด เทอมและ อยากได้ ป ระสบการณ์ ดี ๆ ในการฝึ ก งาน ซึ่ ง การฝึ ก งานในแต่ ล ะวั น จะฝึ ก ไม่เหมือนกันจะมีทั้งการฝึกต้อนรับนักท่องเที่ยว การฝึกเป็นไกด์ การฝึกทำ�งาน เกี่ ย วกั บ ร้ า นกาแฟ การฝึ ก งานเกี่ ย วกั บ ร้ า นอาหารและการฝึ ก งานเกี่ ย วกั บ การตรวจบั ต รเข้ า ชมการแสดงละคร การฝึ ก งานครั้ ง นี้ ไ ด้ ทั้ ง ประสบการณ์ ได้ทั้งภาษา ได้ทั้งการฝึกความอดทนและการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี เช่น ที่สวนนงนุชพัทยานั้นนักท่องเที่ยวหลัก ๆ คือ คนจีน ผมจึงได้ภาษาจีนมากขึ้นได้ ทั้ ง คำ�ศั พ ท์ ได้ ทั้ ง การฝึ ก พู ด ประโยคที่ ใช้ ใ นงานบริ ก าร การฝึ ก งานเกี่ ย วกั บ ร้านอาหารก็ได้ความอดทนมากเนื่องจากต้องคอยเก็บจานและคอยเก็บอาหาร ที่ ลู ก ค้ า รั บ ประทานเหลื อ ซึ่ ง เป็ น งานที่ เ หนื่ อ ยที่ สุ ด จึ ง ต้ อ งมี ค วามอดทน นายพงศุภสร ประพันธ์พัฒน์ เป็นอย่างมาก การฝึกงานเกี่ยวกับการเป็นไกด์เป็นอะไรที่สนุกมาก เนื่องจาก ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/2 เราได้บรรยายประวัตหิ รือสถานทีต่ า่ ง ๆ ของสวนนงนุชพัทยาให้นกั ท่องเทีย่ วได้ฟงั ซึ่งทำ�ให้เราได้ทั้งฝึกการพูด การใช้ภาษาและการเป็นวิทยากรได้อีกด้วย สุ ด ท้ า ยนี้ ในการฝึ ก งานครั้ ง นี้ เ ป็ น การฝึ ก งานที่ ส นุ ก สำ�หรั บ ผมมากเพราะได้ ป ระสบการณ์ ต รง ได้ ใช้ ภ าษาที่ เรี ย นมา ฝึกความอดทน และได้เพือ่ นใหม่อกี มากมาย กระผมขอขอบคุณโรงเรียนและเจ้าของสถานทีค่ อื สวนนงนุชพัทยา ทีห่ ยิบยืน่ โอกาสดี ๆ และ ประสบการณ์ที่หาไม่ได้อีกแล้ว ขอบคุณมากครับ

ระยะเวลา 7 วันในช่วงปิดเทอม ตัง้ แต่วนั ที่ 1 - 7 ตุลาคม 2561 กับการฝึกงาน ที่สวนนงนุชพัทยาโดยส่วนตัวแล้วคิดว่าเป็นระยะเวลาที่ค่อนข้างน้อยมาก สำ�หรับ การได้เข้าไปเรียนรูป้ ระสบการณ์การทำ�งานจริง แต่ในช่วงระยะเวลา 7 วันนี้ ทำ�ให้ดฉิ นั ได้เรียนรู้อะไรหลาย ๆ อย่างทั้งสไตล์การทำ�งานของแต่ละคน ระบบการทำ�งาน ของบริษัทเป็นอย่างไรและสิ่งที่เราจะได้รับจากการฝึกงานในหลาย ๆ ด้าน สิ่งหนึ่งคือ การที่เราเข้าไปฝึกงานเท่ากับว่าเรายังไม่มีประสบการณ์ในการทำ�งาน เราจึงต้องมี ความอ่อนน้อมถ่อมตน เปิดรับฟังสิ่งที่พี่ ๆ แนะนำ� ตั้งใจเรียนรู้งานเกี่ยวกับบทบาท หน้าที่ของตำ�แหน่งงานนั้น ๆ เพื่อเป็นการรับสิ่งใหม่ ๆ หรือหากลงมือทำ�สิ่งใดแล้ว ยังไม่ดีพอเมื่อมีคนแนะนำ�ก็ให้รับฟังคำ�ชี้แนะด้วยความกระตือรือร้น เป็นผู้ฟังที่ดี และมีทัศนคติเชิงบวกในการทำ�งานซึ่งจะส่งผลให้เกิดการฝึกงานที่มีประสิทธิภาพ และแม้ว่าจะเป็นเพียงการฝึกงาน ไม่ใช่การทำ�งานจริง ดิฉันก็ทุ่มเทให้กับการฝึกงาน อย่างเต็มที่ มีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมายไม่ว่าจะเป็นการส่งงานให้ทัน นางสาวญาณธิชา สวัสดี กำ�หนดของแต่ละวัน ปฏิบัติตามกฎระเบียบเพื่อแสดงให้บริษัทเห็นถึงความตั้งใจ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/2 และความรับผิดชอบ สิ่งสำ�คัญอีกอย่างที่ไม่ควรมองข้ามเลยก็คือ เวลา เพราะเวลา ในโลกธุรกิจเป็นสิ่งที่มีคุณค่ามากหากมองข้ามสิ่งนี้อาจก่อให้เกิดผลเสียหายได้ สุ ด ท้ า ยต้ อ งขอขอบคุ ณ ทางโรงเรี ย นมารี วิ ท ย์ บ่ อ วิ น และทางสวนนงนุ ช พั ท ยา ที่มอบโอกาสดี ๆ ให้กับพวกเราได้มีประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากในห้องเรียน ขอบคุณค่ะ

133

133


จากแนวคิดทีเ่ ปลีย่ นไปเกีย่ วกับสถานศึกษาทีว่ า่ ไม่ใช่หน้าทีข่ องสถานศึกษาทีจ่ ะให้ความรูเ้ พียงอย่างเดียว อีกต่อไป การมีส่วนร่วมจากบ้านคือพ่อแม่ ผู้ปกครอง หรือชุมชนเป็นพลังอันสำ�คัญยิ่งในการช่วยเหลือกิจกรรม ของสถานศึกษา รวมไปถึงสถาบันอื่น ๆ ในสังคม เพื่อให้สถานศึกษาประสานความร่วมมือกับพ่อแม่ และ ผู้ปกครองในชุมชนทุกฝ่ายได้ร่วมมือกันพัฒนาผู้เรียน โดยมีการจัดกิจกรรมและปรับหลักสูตรการศึกษา ปฐมวัยตามหลักสูตรการศึกษาปฐมวัยพุทธศักราช 2560 ซึ่งทางแผนกอนุบาลโรงเรียนมารีวิทย์บ่อวิน ได้จัดกิจกรรม วิทยากรท้องถิ่นสู่การเรียนการสอนปฐมวัยขึ้น และได้รับความร่วมมือจากผู้ปกครองในหลาย ๆ อาชีพมาร่วมแบ่งปันประสบการณ์และให้ความรู้กับนักเรียนดังนี้

ระดับชั้นอนุบาล 1 ที่ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 134

ชื่อ-สกุล ผู้ปกครอง นางสาวเนตรนภา สิมพร นางสาวปิ่นเพชร พวงทอง นางสาวขวัญเรือน แก้วจิตร นางสาวชนัญชิตา นามบุบผา นางสาวปนัดดา จิตตชัย นางสาวชาริณี สิงหนาท นางสาวชัชดา ซิบังเกิด นางสวย ผุยแก้ว นางสาวดวงกมล พุ่มจันทร์ นางสาววิจิตรา สุธิตา นางสาวพิมพ์วดี แพ่งศิริ นางสาวปภัสรา โพธิ์สุวรรณ นางสาวจิรา แก้วกล้า นางแพรภคราช พงศวรชัย นางธัญชนก ทบลม

เรื่องที่มาให้ความรู้ - การทำ�แซนด์วิชทูน่า - การท�ำน�้ำสับปะรดปั่น - การถนอมอาหารไข่เค็ม - การจัดดอกไม้ - การทำ�แซนด์วิชทูน่า - การทำ�ลูกชุบปลา - การทำ�ข้าวโพดคลุกเนย - การทำ�วุ้นแตงโม - การประกอบอาหารผักบุ้งชุปแป้งทอด - การทำ�ข้าวเหนียวมะม่วงซูชิ - การทำ�นมสดปั่นโอวัลตินภูเขาไฟ - การทำ�ขนมปังปิ้งราดนม - การทำ�บาร์บีคิวเห็ดและยำ�เห็ด

ชั้นที่มาให้ความรู้ อนุบาล 1/1 อนุบาล 1/2 อนุบาล 1/3 อนุบาล 1/4 อนุบาล 1/5 อนุบาล 1/6 อนุบาล 1/7

วันที่ 4 ก.ย. 61 21 ก.ย. 61 24 ส.ค. 61 4 ก.ย. 61 27 ส.ค. 61 12 ก.ย. 61 11 ก.ย. 61

อนุบาล 1/8 อนุบาล 1/9 อนุบาล 1/10 อนุบาล 1/11 อนุบาล 1/11 อนุบาล 1/12

11 ก.ย. 61 11 ก.ย. 61 11 ก.ย. 61 5 ก.ย. 61 5 ก.ย. 61 4 ก.ย. 61


ระดับชั้นอนุบาล 2 ที่ 1 2 3

ชื่อ-สกุล ผู้ปกครอง นางสาวสุนันท์ เหมือนเหลา นางน้องเพื่อน สุขศรี นางสาวณพิชญา สมานทอง

เรื่องที่มาให้ความรู้ - Shabu Yaki อร่อยเด็ดเห็ดมีประโยชน์ - น�้ำกล้วยปั่นคาราเมล กล้วยแปลงร่าง - น�้ำแครอทปั่น , น�้ำแตงโมปั่น

4 5 6 7 8 9 10

นางสาวอริสรา นางสาวพิมลรัตน์ นางสาววิภาวดี นางสาววิภาดา นางสุภาวดี นางจิราพร นางอรอนงค์

- ข้าวต้มมัด - ลอดช่องสิงคโปร์ - ปั้นผีเสื้อ - น�้ำมะนาวปั่น , บลูฮาวาย - ไข่เจียวเปาะแปะ - Cup Cake สับปะรด - ลูกชิ้นแครอท

เชื้อชมกุล แย้มแสงทอง พรมน้อย ป้องกัน จันทรา จงธรรม รวมดอน

ชั้นที่มาให้ความรู้ อนุบาล 2/1 อนุบาล 2/2 อนุบาล 2/3 อนุบาล 2/4 อนุบาล 2/5 อนุบาล 2/6 อนุบาล 2/7 อนุบาล 2/8 อนุบาล 2/9 อนุบาล 2/10 อนุบาล 2/11

วันที่ 28 ส.ค. 61 5 ก.ย. 61 12 ก.ย. 61

ชั้นที่มาให้ความรู้ อนุบาล 3/1 อนุบาล 3/5 อนุบาล 3/2 อนุบาล 3/3 อนุบาล 3/4 อนุบาล 3/6 อนุบาล 3/8 อนุบาล 3/9 อนุบาล 3/7 อนุบาล 3/10 อนุบาล 3/11 อนุบาล 3/13 อนุบาล 3/12

วันที่ 13 ก.ย. 61

13 ก.ย. 61 12 ก.ย. 61 28 ส.ค. 61 12 ก.ย. 61 28 ส.ค. 61 12 ก.ย. 61 5 ก.ย. 61

ระดับชั้นอนุบาล 3 ที่ 1

ชื่อ-สกุล ผู้ปกครอง นางกัญญ์กุลณัช หาญชัย

เรื่องที่มาให้ความรู้ - ส้มต�ำแซ่บเวอร์

2

นางสาวณัฐธิตา สุระประเสริฐ

- สลัดทูน่า

3

นายนพพร

- ไฟฟ้าน่ารู้

4 5 6

นางสาวพัชญ์สิตา ชกิจพาพิพัฒน์ นางสาวสุนิตา พลสยม นางสาวแววมยุรา ใยรักษ์

- คุกกี้ - แซนด์วิชแสนอร่อย - แซนด์วิชพิชิตใจ

7

นางส�ำลี

- Delicious Mulberry

พรมไทย

กมลรัตน์

13 ก.ย. 61

13 ก.ย. 61

12 ก.ย. 61 7 ก.ย. 61 12 ก.ย. 61 26 ก.ย. 61 135


หลายคนคงสงสัยว่า “เรียนคณิตศาสตร์ไปท�ำไม” ทัง้ ๆ ทีใ่ นความ เป็นจริงนั้นไม่จ�ำเป็นต้องใช้คณิตศาสตร์ทุก ๆ เรื่องมาประยุกต์ใช้กับ ชีวติ จริง แต่สำ� หรับคณิตศาสตร์ระดับชัน้ ประถมศึกษามีความส�ำคัญมาก ส�ำหรับทุกคนเพราะความรู้ในระดับนี้เป็นพื้นฐานหรือเป็นหัวใจส�ำคัญ ในการใช้ชีวิตหรือต่อยอดความรู้ในระดับชั้นที่สูงขึ้นไป ซึ่งการศึกษา ที่ มี ค วามยั่ ง ยื น และมี ค วามคงทนจะต้ อ งมาจากครู ที่ มี ค วามพร้ อ ม ความรู้ใหม่ที่ทันสมัยก้าวทันไปพร้อมกับเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลง อยู ่ ต ลอดเวลา พร้ อ มต่ อ ยอดและแก้ ไขปั ญ หาเฉพาะหน้ า ได้ อ ย่ า ง เป็นระบบและมีคุณภาพ โรงเรียนมารีวิทย์บ่อวินจึงเล็งเห็นความส�ำคัญ ในเรือ่ งทักษะทางคณิตศาสตร์ทงั้ ของครูและนักเรียน จึงมีโครงการพัฒนา ทักษะคณิตศาสตร์ส� ำหรับครูที่สอนอยู่ในระดับชั้นประถมศึกษาขึ้น เพื่อเพิ่มพูนความรู้ใหม่ แนวคิดใหม่และทบทวนความรู้เดิมให้กับคุณครู ทีส่ อนในระดับชัน้ ประถมศึกษา นอกจากคุณครูจะได้ความรูท้ างคณิตศาสตร์ เพิ่มเติมแล้วยังสามารถน�ำไปปรับใช้กับนักเรียนให้มีผลการเรียนที่ดีขึ้น และยังสามารถน�ำไปใช้ในชีวิตจริงได้

136


ส�ำหรับเด็ก ๆ นั้นนิทานมีส่วนช่วยในการส่งเสริมพัฒนาการขั้นพื้นฐาน นิทานช่วยกระตุน้ ประสาทสัมผัสต่าง ๆ เช่น หู ตา รวมทัง้ สมอง นิทานช่วยสร้างสมาธิ และความจ�ำดี ถือเป็นการกระตุน้ การเรียนรูข้ องเด็กได้อย่างสนุกสนานเพลิดเพลิน การเล่านิทานจะช่วยให้เด็กเกิดทักษะด้านการฟัง การพูด การกล้าแสดงออก ปลูกฝัง ความประพฤติและค่านิยมในสังคมและเปิดโอกาสให้เด็กได้แสดงความคิดสร้างสรรค์ ตลอดจนช่วยปรับพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของเด็ก สร้างแรงจูงใจในการเรียนรู้ ความเชื่อมั่นในตนเอง การคิดและมีจินตนาการ อีกทั้งยังช่วยสร้างแรงจูงใจให้เด็ก ได้เปิดรับพฤติกรรมใหม่ ๆ ได้ กิจกรรมนิทานสัญจร จึงจัดขึน้ เพือ่ เป็นการส่งเสริมการกล้าแสดงออกและ การมีพฒ ั นาการด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคมและสติปญ ั ญา ทีเ่ หมาะสมกับวัย และความสามารถ น�ำไปสูก่ ารปฏิบตั จิ ริงอย่างมีคณ ุ ภาพ ทางโรงเรียนมารีวทิ ย์บอ่ วิน จึงได้จดั การแสดงนิทานและได้ไปแบ่งปันความสนุกสนานให้แก่นอ้ ง ๆ ณ ศูนย์พฒ ั นา เด็กเล็กองค์การบริหารส่วนต�ำบลเขาไม้แก้ว ศูนย์พฒ ั นาเด็กเล็กเทศบาลเจ้าพระยา สุรศักดิ์มนตรีและสุชาดาเนอสเซอรี่ ระหว่างวันที่ 28 พ.ย. - 7 ธ.ค. 2561 ถือเป็น การมอบความสุขในช่วงเทศกาลวันคริสต์มาสและวันขึ้นปีใหม่ที่ก� ำลังจะมาถึง นอกจากความสนุกสนานแล้วเด็ก ๆ ยังได้เรียนรูค้ �ำศัพท์จากนิทานทัง้ ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน และการร้องเล่นเต้นร�ำประกอบเพลง เรียกได้ว่าสุขใจทั้งผู้ให้และผู้รับ

137


สืบเนื่องจาก คุณไมเคิล ชนินทร์ กิติเกียรติศักดิ์ ผูจ้ ดั การโรงเรียนมารีวทิ ย์บอ่ วิน พร้อมด้วยคณะผูบ้ ริหาร ได้เดินทางไปศึกษาดูงานที่ประเทศออสเตรเลีย และ ร่วมลงนามความร่วมมือกันระหว่าง Edith Cowan University และเครือโรงเรียนมารีวทิ ย์ เมือ่ ปีทผี่ า่ นมา และในปีนี้ ทาง Edith Cowan University น�ำโดย Professor Christine Lovering พร้อมทั้งนักศึกษา จ� ำ นวน 6 คน ผู ้ ซึ่ ง ก� ำ ลั ง ศึ ก ษาในสาขา Early Childhood Studies and Primary Education มาศึกษาดูงาน และฝึกปฏิบัติการสอน แลกเปลี่ยน ความรู้ ด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ที่โรงเรียน มารีวทิ ย์บอ่ วิน โดยได้ดำ� เนินการจัดการเรียนการสอน ในระดับชั้นอนุบาล ในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2561

138


นักศึกษาวิชาทหารชั้นปีที่ 3 เข้ารับการฝึกภาคสนาม นั ก ศึ ก ษาวิ ช าทหารหรื อ นศท. คื อ บุ ค คลซึ่ ง อยู่ ใ นระหว่ า ง เข้ า รั บ การฝึ ก วิ ช าทหารตามหลั ก สู ต รที่ ก ระทรวงกลาโหมกำ�หนด ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการฝึกวิชาทหาร พ.ศ.2503 เป็นกำ�ลังพล สำ�รองของกองทัพไทยภายใต้การควบคุมของหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน หรือ รด. ซึง่ กิจกรรมการฝึกภาคสนามของนักศึกษาวิชาทหารนัน้ เพือ่ ทบทวน เกี่ ย วกั บ ระเบี ย บวิ นั ย คำ�ปฏิ ญ าณตน การใช้ ค วามรู้ วิ ช าทางทหาร ทั้งทางเทคนิคและยุทธวิธีสามารถใช้อาวุธประจำ�กายและทำ�การยิงปืน อย่ า งได้ ผ ล โดยในปี ก ารศึ ก ษา 2561 นั ก ศึ ก ษาวิ ช าทหารชั้ น ปี ที่ 3 ของโรงเรียนมารีวิทย์บ่อวิน จำ�นวน 20 นาย ได้เข้ารับการฝึกภาคสนาม ณ หน่วยต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง กองทัพเรือ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ระหว่างวันที่ 10 - 16 มกราคม 2562

139


140


141


142


143


นางสาววราภรณ์ ประชุม นางสาวเพียรพรรณ วงศ์สุริยา นางสาวสายชล จินดาเวชช์ นางสาววิไลลักษณ์ สายแขก นางสาวนิภาพร ช่างไถ นางสาวพัชรินทร์ เทพารักษ์ นางสาวศิริรัตน์ พกขุนทด ◆ เข้ารับการอบรมสัมมนาครูปฐมวัย เรือ ่ ง การจัดการเรียนรูเ้ ชิงรุกทีเ่ น้น ทักษะการบริหารจัดการชีวิตของเด็กปฐมวัย (Active Learning to Executive Functions : AL to EF) ◆ วิทยากรโดย : นางสาวลักคะณา เสโนฤทธิ์ และคณะ จากส�ำนักพิมพ์เอมพันธ์ ◆ วันเสาร์ที่ 3 พฤศจิกายน 2561 ณ ห้องประชุม IC203 อาคารวิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยบูรพา ◆ การจัดการเรียนรู้ AL to EF เป็นการจัดการเรียนรูท ้ เี่ น้นการปฏิบตั เิ ชิงรุก อย่ า งต่ อ เนื่ อ งพั ฒ นาทั ก ษะการคิ ด การวิ เ คราะห์ การแก้ ปั ญหา การท�ำงานร่วมกันเป็นทีม การเรียนอย่างมีความสุขและเปิดโอกาส ให้ เ ด็ ก ได้ มี ป ฏิ สั ม พั น ธ์ กั บ สิ่ ง แวดล้ อ ม ส่ ง เสริ ม ทั ก ษะการบริ ห าร จัดการชีวิต

นางสาวกัญญานัฐ กงซุย นางสาวจิตติมาภรณ์ ศรีประทุม นางสาวพรพรรณ กบกลาง นางสาวเกษร บุญสมัคร นางสาวสุพรรษา พยัคสา ◆ เข้ารับการอบรมสัมมนาครูปฐมวัย เรื่อง การส่งเสริมประสบการณ์ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี โดยใช้การจัดการเรียนรู้ แบบ Active Learning เพื่อพัฒนาเด็กปฐมวัยในศตวรรษที่ 21 และการประเมินตามมาตรฐานหลักสูตรการศึกษาปฐมวัยเพื่อการ ประกันคุณภาพ ◆ วิทยากรโดย : สถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) ◆ วันอาทิตย์ที่ 25 พฤศจิกายน 2561 ณ โรงแรมเมาท์เท่นบีช อ�ำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ◆ การจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning เน้นฝึกให้เด็กได้ลงมือท�ำ จากการจัดกิจกรรมเด็กจะเกิดความสงสัยใคร่รู้ เกิดค�ำถาม และ การค้นคว้าหาค�ำตอบ เพื่อเด็กจะได้เกิดทักษะ ที่เรียกว่าการเรียนรู้ ด้วยตนเอง โดยแฝงแนวความคิดทางคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และ เทคโนโลยี

144


นางสาววราภรณ์ ประชุม นางสาวพัชรี นามวิจิตร นางภณิดา ขจิตวัฒนกุล นางสาวเพียรพรรณ วงศ์สุริยา ◆ เข้ารับการอบรมสัมมนาครูปฐมวัย โครงการสัมมนาวิชาการเชิงปฏิบต ั กิ าร การบูรณาการองค์ความรูแ้ ละการจัดการเรียนการสอนเชิงรุก (Active Learning) ส�ำหรับผู้เรียนปฐมวัยแห่งศตวรรษที่ 21 ภายใต้แนวคิด อนาคตเด็กไทยสร้างได้ ด้วยผู้บริหารและครูปฐมวัยมืออาชีพ ◆ วันพุธที่ 19 ธันวาคม 2561 ณ ห้องมิราเคิล แกรนด์ ชั้น 4 โรงแรม มิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น ◆ ผูบ ้ ริหารและครูผสู้ อนต้องตระหนักถึงบทบาท หน้าที่ และความส�ำคัญ ของตน และเกิดความรู้ความเข้าใจหลักสูตร และแนวทางการจัด การเรียนการสอน รวมทั้งมีแนวทาง เทคนิควิธีการต่าง ๆ ที่สามารถ น�ำไปประยุกต์ใช้ เพื่อพัฒนาการบริหารจัดการการเรียนการสอน ของตนเองให้ มี ป ระสิ ท ธิ ภ าพยิ่ ง ขึ้ น ไป โดยครอบคลุ ม การพั ฒ นา ด้านวิชาการ ความคิดสร้างสรรค์ และภาษาอังกฤษ ตลอดจนสามารถ สร้างเครือข่ายและความร่วมมือในการพัฒนาการศึกษาปฐมวัยได้ อย่างยั่งยืน นางโสภา คล้อยสุวรรณ นางสาวจิราพรรณ พินิจมนตรี ◆ เข้าร่วมการประชุมสัมมนาประจำ�ปีการศึกษา 2561 ของสภาการศึกษา คาทอลิกแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 48 หัวข้อ “การศึกษาคาทอลิก เสริมสร้างความรักและความรู้ Thailand 4.0” ◆ วันอาทิตย์ที่ 19 ถึงวันพุธที่ 22 สิงหาคม 2561 ณ โรงแรมเอเชีย พัทยา จังหวัดชลบุรี นายกฤษ ทองกลอย นางสาวนพมาศ สินสวัสดิ์ ◆ เข้าร่วมประชุมเชิงปฏิบต ั กิ ารสำ�หรับผูบ้ ริหาร ครู บุคลากรทางการศึกษา และผูเ้ กีย่ วข้องเพือ่ สร้างความเข้าใจเกีย่ วกับกระบวนการจัดการศึกษา ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ◆ จัดโดย สำ�นักการศึกษาเอกชน ระหว่างวันที่ 8 - 9 กันยายน 2561 โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ ซิตี้จอมเทียน อำ�เภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ◆ การจัดการศึกษาเพือ ่ รองรับระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษตะวันออก หรือ EEC โดยส่งเสริมตามนโยบาย Thailand 4.0 เน้นการศึกษาในด้านภาษา การส่งเสริมอาชีพด้านอุตสาหกรรม และการจัดทำ�หลักสูตรด้านวิชาชีพ ในสถานศึกษาทั้งในระบบและนอกระบบ และพัฒนาโรงเรียนเอกชน ต้นแบบในพื้นที่ EEC เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของสถาน ประกอบการและโรงงานอุตสาหกรรมในภาคตะวันออก

145


นางสาวพรชนก ลมไธสง นางสาวจิตรกานท์ ศรีนอก นายศิริพงศ์ แก้วสุวรรณ์ นายเมธี ชยานนท์ นางสาววราพร ศรีหล้า ◆ เข้าร่วมอบรม “STEAM Education” นวัตกรรมการบูรณาการ การจัดการเรียนการสอน เน้นทักษะกระบวนการคิดสร้างสรรค์ ◆ วิทยากรโดย ดร.กมลรัตน์ ฉิมพาลี และบริษัทอักษรเจริญทัศน์ ◆ ระหว่างวันที่ 8 - 9 กันยายน 2561 ณ โรงแรมชลจันทร์ พัทยา

นางสาวเกษศิรินทร์ กันดอก นางสาวทิพาภรณ์ สุพร ◆ เข้าร่วมอบรมเทคนิคการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ◆ วิทยากรโดย ผศ.ดร.ศิตา เยีย ่ มขันติถาวร และ ผศ.ดร.สุวรรณี ยหะกร ◆ ระหว่างวันที่ 10 - 14 กันยายน 2561 ณ โรงแรมเดอะพาลาสโซ กรุงเทพมหานคร

นางสาวพัชรินทร์ ถามูลเลศ นางสาวมณีรัตน์ สายทอง ◆ เข้าร่วมสัมมนา ระบบคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา (Thai university Central Admission System : TCAS) ◆ วิทยากรโดย ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ◆ วันจันทร์ที่ 24 กันยายน 2561 ณ ห้องประชุมออดิทอเรียม อาคารไซเบอร์เวิลด์ ทาวเวอร์ กรุงเทพมหานคร

Mr.Francis Aldrin Ramos Mr.Richard Dagondon Mr.Theodore Daniel Tee Miss Hurret Love Robago ◆ เข้าร่วมการอบรม Targeting Mathematics Workshop ◆ วันเสาร์ที่ 27 ตุลาคม 2561 ณ Singapore International School of Bangkok

146


นางสาวมณัฐชยา ราศีเกษมสุข นางสาวดารารัตน์ พงษ์ดำ� นายคริวุฒิ พุฒซ้าย ◆ เข้าร่วมอบรม ครูคณิตศาสตร์ระดับประถมศึกษา หัวข้อ Teaching of Fractions and Decimals และระดับมัธยมศึกษา หัวข้อ Differentiated Instruction for Mixed Ability Learners ◆ วิทยากรโดย Mr. Brandon Oh และบริษัทเลิร์นนิ่งทรี จำ�กัด ร่วมกับ Shing Lee Publishers จากประเทศสิงคโปร์ ◆ วันพุธที่ 7 พฤศจิกายน 2561 ณ ศูนย์พัฒนาบุคลากร (มูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทย) ครูปรียานุช สุวรรณเลิศ ◆ เข้าร่วมอบรม Active Learning เรื่อง กระบวนการคิดเชิงคำ�นวณ เพือ่ สนับสนุนการสอน Coding กับกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม และคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภูมิศาสตร์แนวใหม่ ของหลักสูตรฯ ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560 ◆ จัดโดย สถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ ◆ วันเสาร์ที่ 24 พฤศจิกายน 2561 ณ โรงแรมเมาท์เท่นบีช พัทยา คณะครูเครือโรงเรียนมารีวิทย์ เข้าอบรมเรื่อง “การศึกษาคาทอลิกกับ ความรักของพระเจ้า” ◆ วิทยากรโดย อาจารย์ชัยณรงค์ มณเฑียรวิเชียรฉาย ◆ วันจันทร์ที่ 10 ธันวาคม 2561 ◆ Catholic school ต้องมี 3 มิติ คือ 1. Academic Excellence ดา้ นวิชาการต้องมีฝา่ ยวิชาการ มีโครงงาน ให้เกิดการเรียนรู้ เช่น STEM Education/Skill ทักษะต่าง ๆ การใช้ ภาษาอังกฤษ การใช้คอมพิวเตอร์ ฯลฯ เมือ่ ครูผสู้ อนสอนจบ ครูผสู้ อน ต้องรูเ้ ลยว่านักเรียนมีความเข้าใจมากน้อยเพียงใด ไม่ใช่มารูต้ อนสอบ ปลายภาค เพราะมันจะสายเกินไป ควรใช้วิธีการประเมินหลายวิธี เช่น สอนเสร็จ Test เลย หรือให้นักเรียนยกมือตอบ ถ้ายังผิด ให้เพือ่ นเสริมเป็นต้น ฝึกให้เด็กมีนสิ ยั รักการอ่าน ครูตอ้ งสร้างนิสยั รักการอ่านให้นกั เรียนให้ได้ “การศึกษาเปรียบเสมือนแสงสว่างของโลก” 2. Character Education หน้าทีข่ องโรงเรียน คาทอลิก นอกจากสอน ให้วิชาการแล้ว ยังต้องอบรมบ่มนิสัยให้นักเรียนมีความอ่อนน้อม สุภาพ และต้องแข็งแกร่งในขณะเดียวกัน นักเรียนเรียนจบไปแล้ว ต้องเป็นคนดี ไม่แข็งกระด้างหรือเปราะบางเกินไป 3. Transformative Education เมือ่ นักเรียนเรียนจบไปอยูใ่ นสังคมใด เขาต้องสามารถทำ�ให้สงั คมนัน้ ดีตามตัวเขาไปด้วย สังคมควรได้รบั ประโยชน์จากความรูข้ องเด็ก ไม่ใช่เด็กได้ความรูไ้ ด้ประโยชน์จากสังคม สรุปคือ “การศึกษาต้องทำ�ให้เกิดการเปลีย่ นแปลงในทางทีด่ ขี นึ้ ใน 3 มิต”ิ 147


เครือโรงเรียนมารีวิทย์ได้จัดกิจกรรมวันครูและวันครอบครัวมารีวิทย์ขึ้น เพือ่ ร�ำลึกถึงครูบาอาจารย์และเชิดชูเกียรติแก่ครูทมี่ คี วามมุง่ มัน่ ตัง้ ใจในการท�ำงาน เพือ่ เป็นขวัญและก�ำลังใจแก่ครู ภายในงานมีการมอบทองและเกียรติบตั รให้แก่ครู ที่ท�ำงานครบ 10 ปี 15 ปี 20 ปี และ 25 ปีตามล�ำดับ มีการมอบของรางวัล แก่ครู บุคลากร นักการภารโรงและมีการแสดงของแต่ละโรงเรียนในเครือมารีวทิ ย์ โดยท่าน ผอ.ชวน กิติเกียรติศักดิ์ เป็นประธานในพิธี ซึ่งกิจกรรมดังกล่าว จัดขึ้น ในวันเสาร์ที่ 12 มกราคม 2562 ณ ลานอเนกประสงค์ โรงเรียนมารีวิทย์พัทยา ครูที่ท�ำงานครบ 25 ปี รับสร้อยคอทองค�ำหนัก 2 บาท พร้อมเกียรติบัตร ● ครูสุนีย์ อนุศาสนี ครูที่ท�ำงานครบ 10 ปี รับสร้อยคอทองค�ำหนัก 1 บาท พร้อมเกียรติบัตร ● ครูสายสมร ไชยตรี

148


โรงเรียนมารีวิทย์บ่อวินจัดกิจกรรมให้คณะครู ได้ไปทัศนศึกษา เพือ่ สร้างขวัญและก�าลังใจในการท�างาน ให้ กั บ คณะครู แ ละบุ ค ลากร ส่ ง เสริ ม ให้ เ กิ ด ความรั ก ความสามัคคีในหมูค่ ณะ โดยมีการท�ากิจกรรมต่าง ๆ รว่ มกัน เป็นการพบปะสังสรรค์และร่วมกันบ�าเพ็ญประโยชน์ ต่อสังคม เช่น การปลูกป่า การเก็บขยะ และการกวาด ลานวัด เป็นต้น ซึ่งท�าให้คณะครูและบุคลากรได้รับ ทั้งความสุขความสนุกสนานและประสบการณ์ อย่างหลากหลาย

151


ดร.สตีเวน ชนะ กิตเิ กียรติศกั ดิ ์ ได้รบั เกียรติให้เป็นผูร้ ว่ มเสวนาพิเศษ ในงานสัมมนาผูน้ า� ทางการศึกษาแห่งประเทศไทย ประจ�าปี 2561 (TELS 2018 : Thailand’s Education Leader Symposium 2018) ณ อิมแพค เมืองทองธานี จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2561 โดยการสัมมนานี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน : แนวโน้มคุณภาพ การศึกษาส�าหรับทุกคน” ซึ่งมีผู้ทรงคุณวุฒิทั้งในและต่างประเทศที่ประสบความส�าเร็จอย่าง โดดเด่นด้านการบริหารการศึกษาเข้าร่วมเป็นวิทยากรในการสัมมนาครัง้ นี ้ อาทิเช่น Mr.Andreas Schleicher (Director for the Directorate of Education and Skills : OECD) Professor Tan Oon Seng, Ph.D. (Professor and Centre Director, Centre for Research in Child Development : NIE, Republic of Singapore) รองศาสตราจารย์ ดร.ศิริเดช สุชีวะ (คณบดีคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) การเสวนาพิเศษได้มีการแสดงวิสัยทัศน์ และประสบการณ์ของผู้บริหารในหลายประเทศ ได้แก่ Mr.Wong Chi Keung, Eric (Principal of Sing Yin Secondary School, Hong Kong Special Administrative Region of the People’s Republic of China) Ms.Shiori Moriyama (Principal of Namazuta Elementary School, Japan) Mr.Nguyen Thanh Tung (Principal of Pathway School, Socialist Republic of Vietnam) ดร.สตีเวน ชนะ กิติเกียรติศักดิ์ (ประธาน กรรมการบริหารเครือโรงเรียนมารีวิทย์ ประเทศไทย) โดยหัวข้อในการเสวนาเป็นเรื่องที่ เกีย่ วกับแนวโน้มทางการศึกษาทีม่ คี ณ ุ ภาพ : การบริหารจัดการ วิธกี ารสอนการออกแบบและ การจัดการเรียนการสอน เทคโนโลยี การสร้างแรงบันดาลใจ สภาพแวดล้อมในสถานศึกษา

152


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.