THE KEYS TO THE STREET ลอนดอน ซ่อนเงื่อน
THE KEYS TO THE STREET ลอนดอน ซ่อนเงื่อน Ruth Rendell เขียน ขจรจันทร์ แปล
กรุงเทพมหานคร ส�ำนักพิมพ์มติชน 2559
ลอนดอนซ่อนเงื่อน • ขจรจันทร์ แปล
จากเรื่อง The Keys to the Street ของ Ruth Rendell Copyright @ Kingsmarkham Enterprises, 1996 Thai Language Copyright © 2016 by Matichon Publishing House. All rights reserved. พิมพ์ครั้งแรก : สำ�นักพิมพ์มติชน, สิงหาคม 2559 ราคา 265 บาท ข้อมูลทางบรรณานุกรม ลอนดอนซ่อนเงื่อน. กรุงเทพฯ : มติชน, 2559. 384 หน้า. 1. นวนิยายอังกฤษ. I. ขจรจันทร์, ผู้แปล II. ชื่อเรื่อง 823.914 ISBN 978 - 974 - 02 - 1500 - 4
ที่ปรึกษาส�ำนักพิมพ์ : อารักษ์ คคะนาท, สุพจน์ แจ้งเร็ว, สุชาติ ศรีสุวรรณ, ปิยชนน์ สุทวีทรัพย์, ไพรัตน์ พงศ์พานิชย์, นงนุช สิงหเดชะ ผู้จัดการส�ำนักพิมพ์ : กิตติวรรณ เทิงวิเศษ • รองผู้จัดการส�ำนักพิมพ์ : รุจิรัตน์ ทิมวัฒน์, อพิสิทธิ์ ธีระจารุวรรณ บรรณาธิการบริหาร : สุลักษณ์ บุนปาน • บรรณาธิการส�ำนักพิมพ์ : พัลลภ สามสี บรรณาธิการเล่ม : นันท์ชนก คามชิตานนท์ • พิสูจน์อักษร : บุญพา มีชนะ กราฟิกเลย์เอาต์ : อรอนงค์ อินทรอุดม • ออกแบบปก-ศิลปกรรม : ประภาพร ประเสริฐโสภา ประชาสัมพันธ์ : สุชาดา ฝ่ายสิงห์ • นักศึกษาฝึกงานกองบรรณาธิการ : พัทธมน งามยิ่งยวด, กชนันท์ อยู่ใจ
หากท่านต้องการสั่งซื้อหนังสือเล่มนี้จ�ำนวนมากในราคาพิเศษ เพื่อมอบให้วัด ห้องสมุด โรงเรียน หรือองค์กรการกุศลต่างๆ โปรดติดต่อโดยตรงที่ บริษัทงานดี จ�ำกัด โทรศัพท์ 0-2580-0021 ต่อ 3353 โทรสาร 0-2591-9012
www.matichonbook.com บริษัทมติชน จำ�กัด (มหาชน) : 12 ถนนเทศบาลนฤมาล ประชานิเวศน์ 1 เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 โทรศัพท์ 0-2580-0021 ต่อ 1235 โทรสาร 0-2589-5818 แม่พิมพ์สี-ขาวดำ� : กองการเตรียมพิมพ์ บริษัทมติชน จำ�กัด (มหาชน) 12 ถนนเทศบาลนฤมาล ประชานิเวศน์ 1 เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 โทรศัพท์ 0-2580-0021 ต่อ 2400-2402 พิมพ์ที่ : โรงพิมพ์มติชนปากเกร็ด 27/1 หมู่ 5 ถนนสุขาประชาสรรค์ 2 ตำ�บลบางพูด อำ�เภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 11120 โทรศัพท์ 0-2584-2133, 0-2582-0596 โทรสาร 0-2582-0597 จัดจำ�หน่ายโดย : บริษัทงานดี จำ�กัด (ในเครือมติชน) 12 ถนนเทศบาลนฤมาล ประชานิเวศน์ 1 เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 โทรศัพท์ 0-2580-0021 ต่อ 3350-3353 โทรสาร 0-2591-9012 Matichon Publishing House a division of Matichon Public Co., Ltd. 12 Tethsabannarueman Rd., Prachanivate 1, Chatuchak, Bangkok 10900 Thailand หนังสือเล่มนี้พิมพ์ด้วยหมึกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อปกป้องธรรมชาติ ลดภาวะโลกร้อน และส่งเสริมสุขภาวะที่ดีของผู้อ่าน
คำ�นำ�สำ�นักพิมพ์
ลอนดอนมีเงื่อนง�ำซ่อนอยู่ แมรี่ สาวผู้บอบบางตัดสินใจบริจาคไขกระดูกสันหลังให้ชายหนุ่ม นิรนาม แล้ววันหนึ่งเธอก็ได้พบชายหนุ่มคนนั้น บีน ชายรับจ้างจูงสุนัขจอมสอดรู้สอดเห็นถูกท�ำร้ายระหว่างพาสุนัข ไปเดินเล่น ฮ็อบ ชายติดยาผู้ดิ้นรนท�ำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ยา แม้จะต้องท�ำงาน ผิดกฎหมายก็ตาม โรมัน ชายผู้มั่งมีที่ละทิ้งชีวิตสุขสบายมาระหกระเหเร่ร่อนอยู่ข้างถนน ในเมืองลอนดอน พร้อมแบกความเจ็บปวดจากบาดแผลในอดีตเอาไว้ ชีวิตทั้งสี่พันผูกผ่านพบกันในเมืองใหญ่อย่างลอนดอน ที่มีสถาปัตย- กรรมตระการตา สวนดอกไม้งดงาม ผู้คนใช้ชีวิตใต้ฟ้าครามสดใสในฤดู ร้อน... แต่แล้วรุ่งสางวันหนึ่ง ศพแรกก็ปรากฏ ฆาตกรต่อเนื่องฉายา ‘นักเสียบ’ บรรเลงบทเพลงฆาตกรรมอ�ำมหิต ซ�้ำแล้วซ�้ำเล่ากลางมหานครลอนดอนอันโอ่อ่า เย้ยหยันอ�ำนาจรัฐ ข่มขวัญ ลอนดอนซ่อนเงื่อน
5
ผู้คนในเมือง โดยเฉพาะเหล่าคนจร ที่ดูเหมือนจะเป็นเป้าหมายของฆาตกร เหี้ยมโหดรายนี้ รูธ เรนเดลล์ นักเขียนมือรางวัลชาวอังกฤษฝากผลงานระทึกขวัญ และฆาตกรรมเชิงจิตวิทยามาแล้วมากมาย ใน ลอนดอนซ่อนเงื่อน เธอวาด ลวดลายเล่าเรื่องราวแบบที่เธอถนัดอีกครั้ง ชีวิตของตัวละครหลักสัมพันธ์ ร้อยเรียงกันโดยมีเหตุการณ์ระทึกขวัญด�ำเนินเป็นฉากหลัง ผู้เขียนผูก ปริศนาต่างๆ เข้าด้วยกันอย่างมีชั้นเชิง และยังสะท้อนแง่มุมทางสังคมใน เมืองใหญ่เอาไว้ได้อย่างแยบคาย ‘เงื่อน’ ที่มหานครลอนดอนซ่อนไว้ จึงไม่ใช่เพียงเงื่อนง� ำของฆาต- กรรมอ�ำพราง หากแต่เป็นเงื่อนปมในจิตใจมนุษย์ที่ซับซ้อน ยากจะคลี่คลาย ไม่ต่างกัน ส�ำนักพิมพ์มติชน
6
ขจรจันทร์ แปล
คำ�นำ�ผู้แปล
รูธ เรนเดลล์คือนักเขียนชาวอังกฤษอีกท่านหนึ่งที่มีชื่อเสียงโด่งดัง นิยาย ที่เธอเขียนเป็นแนวสยองขวัญและน�ำเสนอเรื่องราวของอาชญากรโรคจิต เป็นส่วนใหญ่ นิยายหลายเรื่องของเธอถูกน�ำมาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ ทั้งจอแก้วและจอเงิน เรือ่ งราวใน ลอนดอนซ่อนเงือ่ น สะท้อนให้เห็นภาพชีวติ ของคนจรจัด ที่ถูกปัญหาชีวิตเล่นงานจนรู้สึกว่าตัวเองหมดอนาคต ไม่มีบ้านอยู่ ไม่มีคนให้ ความรักความอบอุ่น และเผชิญกับความรู้สึกรังเกียจเดียดฉันท์ของเพื่อน ร่วมโลกที่อยู่ในฐานะสูงกว่า มีชีวิตอยู่อย่างไร้ค่า ไม่มีความหมาย จนต้อง หันไปพึ่งยาเสพติด และยินดีท�ำทุกอย่างแม้จะเป็นเรื่องผิดทั้งจริยธรรมและ กฎหมาย เพื่อให้ได้เงินมาซื้อยาเสพ ปัญหาซับซ้อนน�ำไปสู่เหตุฆาตกรรมต่อเนื่อง ให้ผู้อ่านลุ้นระทึกว่าใคร กันแน่ที่เป็นฆาตกร และท�ำไมต้องฆ่า ขอเชิญท่านพบกับแง่มุมต่างๆ ของชีวิตที่ชวนให้คิด และหาค�ำตอบ ได้ใน ลอนดอนซ่อนเงื่อน เล่มนี้
ขจรจันทร์ ลอนดอนซ่อนเงื่อน
7
แด่ดอน
ลอนดอน ซ่อนเงื่อน
10
ขจรจันทร์ แปล
บทที่หนึ่ง
ประตูทางเข้าสวนสาธารณะประดับยอดเหล็กปลายแหลม บางบานมียี่สิบ เจ็ดยอด ที่เหลือมีสิบแปดหรือสิบเอ็ดยอด อาณาบริเวณส่วนใหญ่ภายใน สวนมีพุ่มไม้หนามห้อมล้อม แต่ก็ยังปรากฏลูกกรงรั้วยอดแหลมอีกหลายพัน ฟุต ยอดบางส่วนทื่อ เช่นส่วนที่ล้อมรอบสวนฝั่งประตูกลอสเตอร์ บางส่วน มีลายประดับ และบางส่วนโก่งโค้งตรงกลาง บนลูกกรงรั้วนอกคฤหาสน์หลัง หนึ่งมียอดเหล็กแหลมหกแฉกยื่นล�้ำเหนือลูกกรงแต่ละซี่ดุจอุ้งเท้า โค้งงอ แหลมคมราวกรงเล็บ เสาระเบียงบ้านหลังหนึ่งมีปลายแหลมแผ่กางโดยรอบ บานสะพรั่งดุจต้นไม้หนาม หากจะนับยอดแหลมบริเวณสวนสาธารณะและ พื้นที่โดยรอบก็คงนับได้จ�ำนวนหลายล้านทีเดียว ยอดแหลมเหล่านี้เหมาะ อย่างยิ่งกับสถาปัตยกรรมแบบจอร์เจียน สวนสาธารณะปิดไม่ให้สาธารณชนเข้าไปในยามค�ำ่ คืน สิ่งมีชีวติ ที่ยงั อาศัยอยู่ในเขตรั้ว ส่วนมากได้แก่สัตว์ในสวนสัตว์และพวกนกน�้ ำ ทุกวัน ตลอดทั้งปี ประตูรั้วยอดแหลมจะเปิดตอนหกโมงเช้าและปิดเมื่อถึงเวลา โพล้เพล้ ซึ่งหมายถึงสี่โมงครึ่งในฤดูหนาว และสามทุ่มครึ่งในเดือนพฤษ- ภาคม เนื้อที่ขนาดสี่ร้อยหกสิบสี่เอเคอร์ทอดตัวเป็นวงกลม ด้านในถนน ลอนดอนซ่อนเงื่อน
11
ที่ล้อมรอบยังมีถนนวงแหวนอีกเส้น และในนั้นเองคือสวนสัตว์ลอนดอน รูปสามเหลี่ยมด้านเท่าซึ่งถูกตัดแบ่งกลาง ทะเลสาบรูปสามแฉกที่มีเกาะสี ่ เกาะ ถนนอีกเส้นล้อมรอบสวนไม้ประดับ ดูจากแผนที่แล้วไม่ต่างอะไรจาก วงล้อมีแกนสองซี่ชี้โด่เด่ ยามกลางคืนในสวนสาธารณะแห่งนี้ร้างผู้คน ทั้งนี้ก็เพราะเจตนา ไม่ให้ใครเข้าไปอยู่ในสวน เจ้าหน้าที่ต�ำรวจประจ�ำสวนสาธารณะจะออก ลาดตระเวนช่วงโพล้เพล้ถึงรุ่งสาง โดยเฉพาะบริเวณร้านอาหารซึ่งเหมาะ เป็นที่ซุกตัวหลับนอน รวมไปถึงบริเวณบ้านพัก คฤหาสน์รอบสวน อสัง- หาริมทรัพย์ราคาแพง และวินฟีลด์เฮ้าส์ซึ่งเป็นที่พ�ำนักของเอกอัครราชทูต อเมริกัน ไม่มีคนจรจัดหน้าไหนเข้ามาอาศัยหลับนอนใต้ร่มเงาศาลาหรือ ปะร�ำกลางแจ้งได้อย่างเป็นสุข แต่เจ้าหน้าที่ต�ำรวจก็ไม่อาจตรวจค้นทั่วทุก แห่งได้ทุกคืน บริเวณริมคลองจึงเหมาะเป็นสถานที่ซ่อนตัว และยังเป็นพื้นที ่ สีเขียวกว้างใหญ่ที่เต็มไปด้วยพงหญ้าสูงใต้ต้นไม้ในฤดูร้อน ด้านเหนือของสวน ถัดจากสวนสัตว์และถนนอัลเบิร์ต เป็นที่ตั้งของ เนินเขาพริมโรสฮิลล์และย่านเซนต์จอห์นส์วู้ด โบสถ์เซนต์จอห์นส์วู้ดและ สนามคริกเก็ตลอร์ดสตั้งอยู่ที่นี่ เมื่อหันไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้จะพบ มัสยิดลอนดอน ถนนพาร์คทอดตัวเชื่อมกับถนนเบเกอร์และพิพิธภัณฑ์ เชอร์ล็อค โฮล์มส์ ผ่านโรงเรียนธุรกิจแห่งลอนดอนและโบสถ์เซนต์ซีเพรียน ของนิกายแองโกล-คาทอลิกที่ภายในตกแต่งด้วยสีขาวและสีทองอวลกลิ่น ก�ำยาน ถนนมารีลเบินเป็นที่ตั้งของท้องฟ้าจ�ำลองและพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง มาดามทุสโซ ซึ่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวมากที่สุดและมีผู้เยี่ยมชมมาก กว่าหอคอยแห่งลอนดอนกับพระราชวังบักกิงแฮมเสียอีก นอกจากนั้น ยังมีสถาบันสอนดนตรีรอยัลอคาเดมีออฟมิวสิก สวนพาร์คเครสเซนท์ และ จัตุรัสพาร์คที่มีสวนลับและอุโมงค์ลอดใต้ถนนเชื่อมสถานที่ทั้งสองแห่ง สวน สาธารณะแห่งนี้จึงถูกห้อมล้อมด้วยถนน ฝั่งนี้เป็นถนนอัลบานีซึ่งทอดยาว เป็นเส้นตรงเช่นเดียวกับถนนของชาวโรมัน เริ่มจากสถานีถนนเกรทพอร์ต แลนด์มุ่งขึ้นเหนือ ไปบรรจบกับถนนอัลเบิร์ตและกลอสเตอร์อเวนิว เครือ ข่ายถนนบนเนินเขาพริมโรสฮิลล์พาดตัดกันเป็นรูปไม้เทนนิส โดยมีถนน 12
ขจรจันทร์ แปล
กลอสเตอร์อเวนิวเป็นส่วนด้าม ทุกหนแห่งล้วนแต่มีลูกกรงรั้ว บ้างปลาย แหลมชี้ตรง บ้างปลายบิดท�ำมุมเหมาะเจาะ หรือปลายทู่มีลวดลายประดับ ถนนอัลบานีไม่ได้ร่มครึ้มและเงียบสงบเช่นเดียวกับถนนสายอื่นๆ ใกล้สวน สาธารณะ แต่เป็นถนนสีเทาสายกว้างปราศจากต้นไม้ ด้านหนึ่งเต็มไปด้วย อาคารที่พักหลังใหญ่ไร้ความโดดเด่น ในขณะที่ฝั่งตรงข้ามกันนั้นคือหมู ่ อาคารพักอาศัยโอ่โถงหรูหราเรียงติดกัน ทั้งเคมบริดจ์ เชสเตอร์ และคัม- เบอร์แลนด์ พรั่งพร้อมด้วยเสาระเบียง หน้าจั่ว รูปปั้น และผู้อยู่อาศัยฐานะ ร�่ำรวย พื้นที่ถัดจากหมู่อาคารดาษดื่นฝั่งตรงข้ามอยู่ในสภาพไม่น่าดูนัก แต่ก็ยังอีกนานกว่าจะเสื่อมโทรมลงจนถึงระดับเดียวกับย่านซอมเมอร์สทาวน์ ที่อยู่ระหว่างสถานียูสตันและสถานีเซนต์แพนคราส จากถนนเส้นหนึ่งใกล้ๆ ย่านเซนต์เจมส์การ์เดนส์ ชายหนุ่มรายหนึ่งก�ำลังเดินข้ามจัตุรัสมุนสเตอร์ ตรงไปทางถนนอัลบานี ทุกคนเรียกเขาว่าฮ็อบ ซึ่งมาจากอักษรย่อสามตัวของชื่อตัว ชื่อกลาง และนามสกุลของเขา นอกจากชื่อเรียก ลักษณะที่ท� ำให้เขาโดดเด่นกว่า คนรุ่นเดียวกันก็คือขนาดของศีรษะ เขามีรูปร่างก�ำย�ำแข็งแรง แต่ศีรษะ ก็ยังดูใหญ่โตเกินตัวอยู่ดี หากเขามีชีวิตอยู่จนถึงอายุห้าสิบ แก้มคงย้อย ลงมาถึงไหล่เป็นแน่ ผมสีอ่อนตัดสั้นหนึ่งนิ้วเสมอกันทั่วทั้งศีรษะขนาดใหญ่ เปล่งประกายวับวาวเมื่อกระทบแสงไฟสีเหลือง ผมสีอ่อนกับตาสีน�้ำตาล นับเป็นส่วนผสมที่แปลกประหลาด ดวงตาเขาเป็นสีน้�ำตาลเข้มแปลกตา เหมือนสีช็อกโกแลตมูส บางครั้งรูม่านตาเขาขยายกว้างเหมือนตาแมว แต่ บางครั้งก็หรี่แคบดุจเดียวกับเครื่องหมายจุดบนแป้นพิมพ์ ฮ็อบมีงานต้องท�ำ งานที่เขาเพิ่งรับค่าจ้างมัดจ�ำมาก่อนครึ่งหนึ่งของ ห้าสิบปอนด์ ซึ่งหมายความว่าเขาได้รับเงินมาแล้วยี่สิบห้าปอนด์ เขาตั้งใจ จะใช้เงินจ�ำนวนนี้และทุกสิ่งทุกอย่างที่มีซื้อสิ่งที่ตนต้องการก่อน แล้วจึงจะ ลงมือท�ำอย่างอื่น บ่อยครั้งเขานึกอยากให้ตัวเองเป็นผู้หญิง เพราะเท่าที่เห็น ผู้หญิงหาเงินได้คล่องและง่ายกว่ามาก เรื่องแรกๆ ที่เขาจ�ำได้ว่าได้ยินผู้ใหญ่ พูดถึง มาจากลุงหรือก็คือแฟนของแม่ แกบอกว่า ผู้หญิงทุกคนนั่งอยู่บน ลอนดอนซ่อนเงื่อน
13
กองเงินกองทอง เขาก�ำลังกระสับกระส่าย นั่นคือสิ่งที่ฮ็อบบอกตัวเอง วลีเดิมๆ ที่เขา ใช้เรียกอาการเช่นนี้เป็นประจ�ำ น้องสาวต่างพ่อเคยเล่าถึงอาการตื่นกลัว ที่จู่โจมเธอให้เขาฟัง เขาจ�ำได้ว่าอาการที่เธออธิบายก็คืออาการเดียวกับที่เขา ประสบนั่นเอง แต่อาการของเขายาวนานกว่า และมีเหตุผลบางอย่างท�ำให้ เขารู้สึกว่ามันรุนแรงกว่าด้วย มันท�ำให้โลกทั้งใบผิดเพี้ยนไป ท�ำให้เขากลัว ทุกอย่างที่เห็นและได้ยิน เช่นเดียวกับสิ่งที่มองไม่เห็นและความเงียบ อาการ หวาดผวาทวีความรุนแรงขึ้นจนกลายเป็นฟองแห่งความหวาดกลัวขนาดยักษ์ ราวกับลูกแก้วห่อหุ้มตัวเขา จนเขาอยากหวดอยากฟาดผนังโค้งนั้น บางครั้ง เขาก็ท�ำแบบนั้นจริงๆ แม้ขณะอยู่นอกบ้านกลางถนนเช่นตอนนี้ ผู้คนต่าง พากันข้ามถนนโดยหลบเลี่ยงชายวิกลจริตผู้เอาแต่ชกต่อยอากาศ เขายังไม่ถึงกับเจ็บปวดหรือคลื่นเหียน แต่ก็ไม่อาจท�ำอย่างอื่นได้ นอกจากเดินไปตามถนนยาวกว้างขวางสีเทามุ่งสู่จุดหมายของตน ถนนที่ ขณะนี้ไม่มีใครคอยหลบหลีกหรือจ้องมองเขาอีก ฮ็อบไม่สามารถท�ำอะไร ได้ทั้งสิ้น และไม่อาจท�ำงานที่รับค่าจ้างครึ่งหนึ่งแล้วนั่นแน่นอน การเดิน กลายเป็นกลไกอัตโนมัติ แม้ก�ำลังทุรนทุรายกระสับกระส่าย บางครั้งเขาก็ คิดว่าตัวเองสามารถเดินไปเรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุด เดินและเดิน ผ่านสนาม หญ้ามืดมิด ยอดเนินเขียวขจี เนินเขาตอนเหนือของลอนดอน สู่ท้องทุ่งและ ดงไม้ห่างไปเบื้องหลัง แต่ ไ ม่ มี ค วามจ�ำ เป็ น อั น ใดจะต้ อ งเดิ น เป็ น ระยะทางหลายๆ ไมล์ กุปตา หรือคาร์ล หรือลู น่าจะอยู่อีกฟากของประตูคัมเบอร์แลนด์ ตรงที่มี ต้นไม้จีน เขาเดินไปตามช่องแคบระหว่างอาคารและตรอกซอกซอย แล้ว ขึ้นเนินบริเวณอาคารพักอาศัยคัมเบอร์แลนด์ เงาด�ำมืดจากร่างที่ทาบทับ บนหินปูพื้นขรุขระเคลื่อนตัวอย่างเชื่องช้า แสงไฟสาดสะท้อนมาจากผนัง และเบื้องหลังใบไม้ลดหลั่นเป็นชั้น ถนนวงแหวนชั้นนอกที่คับคั่งยามกลางวัน มีแต่ความว่างเปล่ายาม ค�่ำคืน ไม่มีรถจอดบนผิวถนนเงาวับแม้แต่คันเดียว แนวอาคารเทอร์เรซ ดุจพระราชวังในดงไม้ หลับสนิทอยู่เบื้องหลังใบไม้มืดมิด แม้หน้าต่างซึ่ง 14
ขจรจันทร์ แปล
เปรียบประหนึ่งดวงตาของบรรดาบ้านเรือนจะถูกมู่ลี่บดบัง แต่บางหลังก็ยัง ฉายความมีชีวิตชีวาด้วยแสงไฟสีส้ม ดวงโคมส่องสว่างทุกทิศทางตลอด แนวทางเท้าไปไกลสุดสายตา ความมืดเลื่อมพรายเติมเต็มช่องว่างระหว่าง โคมแต่ละดวง เขาข้ามถนน ประตูคัมเบอร์แลนด์ปิดล็อกมาเกือบสาม ชั่วโมงแล้ว เหนือลูกกรงที่ประกอบเป็นประตูแต่ละบานเทินด้วยเหล็กปลายแหลม บานละสิบแปดแท่ง หากจิตใจเป็นปกติ ดังค�ำที่เขาใช้เรียกสภาพที่ไม่ใช่ ภาวะจิตใจระส�่ำระสาย เขาคงไม่คิดจะปีนข้ามประตูบานนั้น แต่ตอนนี้เขา งุ่มง่ามตะกายขึ้นไปอย่างระมัดระวังเหมือนคนแก่ ด้วยกลัวว่าเนื้อหนังจะ ถูกทิ่มแทงหรือกระดูกจะหัก อาณาบริเวณเกือบมืดมิดทอดตัวกว้าง สนาม หญ้าสีเทา ทางเดินซีดจาง ต้นไม้เป็นเงามืด และต้นไม้จีนผอมสูงด�ำทะมึน ท�ำให้เขานึกถึงแมงป่อง ต�ำรวจออกลาดตระเวนด้วยรถยนต์ เดินเท้า ขี่จักรยาน และบางครั้ง ก็จูงสุนัขมาด้วย ทั้งเขาและคาร์ลยึดหลักการว่าต�ำรวจพวกนี้ไม่มีทางอยู่ได้ ทุกที่ตลอดเวลา และส่วนใหญ่จะไม่อยู่ในจุดที่เขาหรือคาร์ลอยู่ ฮ็อบเดิน เข้าไปในดงไม้ ตั้งใจจะไม่ท�ำเสียงดัง แต่กลับอุทานลั่นด้วยความกลัว เมื่อ แมงป่องตัวน้อยกระโดดจากหลังพ่อแม่ สยายปีกกลายร่างเป็นเพโรแดคทิล1 ทั้งที่จริงมันเป็นแค่นกพิราบโผบินจากยอดไม้ มือหนึ่งเอื้อมมาปิดปากเขาจากด้านหลัง เขาไม่กลัวเพราะรู้ว่าเป็นใคร กุปตาพูดขึ้นว่า “จะบ้ารึไง” “ฉันรู้สึกไม่ดีเท่าไหร่” แม้จะอยู่ในความมืด เขาก็ยังเห็นฟันสีเลือดของกุปตาถนัดตายาม อ้าปากพูด ดูแล้วเหมือนกุปตาเพิ่งกินสเต็กดิบมาสดๆ ร้อนๆ แต่ความจริง เป็นเพราะเคี้ยวหมาก เงินทั้งหมดที่ฮ็อบได้มาถูกแลกเปลี่ยนเป็นสิ่งที่กุปตา ส่งให้ เป็นถุงซิปล็อกบรรจุวัตถุก้อนเล็กๆ คล้ายกรวดสีขาว แต่ผิวหยาบ 1
Pterodactyl สัตว์เลื้อยคลานมีปีกยุคไดโนเสาร์ ตัวใหญ่ มีฟันแหลมคม - ผู้แปล ลอนดอนซ่อนเงื่อน
15
ขรุขระ ไม่ได้ถูกน�ำ้ ทะเลกร่อนเกลาจนเรียบเนียน ฮ็อบคิดถึงความแข็งแกร่ง ของตัวเองและความอ่อนแอของกุปตา ตลอดจนหินสีขาวก้อนอื่นๆ ในกล่อง โยเกิร์ตใบนั้นขึ้นมาอัตโนมัติ แค่นี้ก็มากพอจะท�ำให้เขารู้สึกดีไปได้อีกนาน ทีเดียว แต่ไม่มีประโยชน์ ต้องมีการล้างแค้นตามมาอย่างรวดเร็วแน่ เขา เคยท�ำงานแบบนี้ให้คนพวกนั้นมาบ้าง ฉะนั้นเขาย่อมรู้ดี พวกนั้นจะเริ่มด้วย การหักขา เขาไม่แน่ใจด้วยซ�้ำว่าจะทันได้ปล่อยหมัดแรกใส่ท้องผอมแห้ง ของกุปตาหรือเปล่า แปลกมาก แต่เขาเลิกพยายามท�ำความเข้าใจไปแล้ว อาการกระสับ กระส่ายหนักหนาสาหัสอย่างยิ่ง ท�ำไมเขาจะต้องประวิงเวลาให้เนิ่นนานออก ไปด้วยเล่า เขาท�ำแบบนั้นมาตลอด ลุงคนนั้นหรือใครสักคนในนั้นคงบอก ว่ามันไม่ต่างอะไรกับการเอาหัวโขกก�ำแพง เราจะรู้สึกดีมากๆ เมื่อหยุดท�ำ แต่เขาไม่เชิงรู้สึกแบบนั้นเสียทีเดียว เหมือนกับว่าความเจ็บปวดและอาการ ทุรนทุราย ความรู้สึกหวาดผวาและทุกสิ่งทุกอย่างปราศจากความหมายโดย สิ้นเชิง และแล้วก็กลับกลายเป็นความสุขอย่างล้นเหลือเมื่อรู้ว่ามีวิธียุติความ รู้สึกเหล่านั้น อาการทุรนทุรายแทบจะกลายเป็นความสนุกสุขสันต์ แล้วเขา ก็เดินโยกศีรษะ ขยับปากคล้ายรอยยิ้มล่องลอยอยู่ในโลกฟองอากาศแก้ว ของตน หากมุ่งหน้าไปยังถนนเชสเตอร์และถนนวงแหวนชั้นใน อาจต้อง เผชิญหน้ากับต�ำรวจ เขาจึงย้อนกลับไปตามทางเดิม แต่แทนที่จะปีนข้าม ประตูคัมเบอร์แลนด์อีกครั้ง เขากลับเลาะไปตามขอบหญ้ามืดมิดใต้พุ่มไม้ เขารู้สึกหนาวขึ้นมา อากาศยามค�่ำคืนหนาวเหน็บอย่างที่เป็นเสมอในเดือน เมษายน เหงื่อที่ผุดตามใบหน้าและแผ่นอกอยู่เรื่อยๆ แห้งเหือด เย็นเฉียบ เค็มปะแล่ม เขาลิ้มรสเค็มเมื่อเลียริมฝีปากแห้งผาก ไม่ช้า หากอาการกระวนกระวายถูกประวิงจนเนิ่นนานเกินไป เขาจะ เริ่มสั่นและรู้สึกคลื่นไส้ ตามด้วยความอ่อนเพลียมหันต์ ราวกับแก่ไปหลาย ปีในชั่วเวลาไม่กี่นาที ส�ำคัญที่สุดคือต้องใช้ตัวช่วย เขาปีนกลับขึ้นไปบน รั้วลูกกรงปลายแหลมอีกครั้ง คราวนี้เป็นประตูกลอสเตอร์ แถมยากกว่าเก่า เขาแก่หง่อมลงไปอีก ไหนจะยังอาการไขข้ออักเสบรุนแรงกว่าเดิม กระดูกก็ 16
ขจรจันทร์ แปล
น่ากลัวจะเปราะขึ้นด้วย เขาปีนข้ามประตูรั้วไปยืนรอสัญญาณไฟตรงต้นถนนอัลบานี ผ่าน ไปหลายวินาทีหรืออาจจะหนึ่งนาทีเต็ม กว่าเขาจะตระหนักว่าสัญญาณไฟ เปลี่ยนจากแดงเป็นเขียว จนเป็นแดงใหม่อีกครั้งแล้ว รถคันหนึ่งหยุดรอ ฮ็อบเดินข้ามถนนโดยอาศัยไต่ไปตามผนังข้างสะพาน ส�ำหรับคนที่เดินผ่าน ไปมา สภาพเขาตอนนี้ไม่ต่างจากคนเมา เขาเลี้ยวเข้าย่านพาร์ควิลเลจอีสต์ แล้วผลักประตูรั้วเข้าไปในสวนรกร้าง ก�ำลังมีการปรับปรุงบ้านที่ยืนตระหง่านเป็นเงารางเลือนตรงหน้าเขา หน้าต่างไม่เหลือสักบาน ทิ้งไว้เพียงช่องโหว่มืดมิด วัสดุก่อสร้างกองพะเนิน ทั้งไม้ อิฐ และบันได เขาเกือบซุ่มซ่ามไปชนเครื่องผสมปูนที่ดูคล้ายเจ้าสัตว์ สีซีดตัวโตในสวนสัตว์บั้นท้ายอวบอ้วน หัวหลิมเล็กดูโง่เง่า ต�่ำลงไปตาม ลาดเนินเป็นที่ตั้งของเดอะกร็อตโตมืดๆ แต่มองเห็นผืนน�้ำด้านในเป็นประ กาย เขาไต่ลงไป พยายามเลี่ยงขดลวดหนาม แต่ก็ยังโดนพุ่มไม้หนามเกี่ยว มือเป็นทาง เมื่อถึงก้นโพรง ล�ำแสงบางๆ จากโคมไฟบนสะพานสาดให้เห็น ที่นั่งบนขอบก�ำแพง เขาตัวสั่น ค้อมร่างลงก่อนควานหาอุปกรณ์ในกระเป๋า เสื้อแจ๊คเก็ต อุปกรณ์เหล่านั้นอยู่ในถุงก�ำมะหยี่สีแดงมีเชือกรูดปิดปาก เหมือน กล่องใส่แหวนหรือสายสร้อยตามร้านขายเครื่องประดับ เขาพบมันในถังขยะ แถวอาคารยอร์กเทอร์เรซ ขยะที่น่ันล้วนแต่เป็นของคุณภาพสูง อันดับแรก เขาหยิบวัตถุอีกชิ้นที่ค้นพบออกมาจากถุง มันคือกรวยโลหะจากบัวรดน�้ำ สังกะสี ชิ้นต่อมาคือฝากระป๋องขนาดพอดีกับขอบกรวยที่พบโดยบังเอิญ (เขาค้นหาสิ่งนี้อยู่นานมาก) จากนั้นก็เป็นฝาขวดวอดก้าเขียนว่า ผู้จัดส่ง ให้ราชส�ำนักรัสเซีย พิมพ์ตัวเลขปี 1887-1917 สีแดง ตามด้วยหลอดที่ยัง บรรจุอยู่ในซองพลาสติก (เขาถือวิสาสะหยิบมาจากเคาน์เตอร์ร้านขายเครื่อง ดื่มใกล้ทางเดินบรอดวอล์ก) และสุดท้ายคือไฟแช็ก ก่อนอื่น เขาคีบผลึกสารสีขาวที่ซื้อมาจากกุปตาระหว่างนิ้วชี้และนิ้ว หัวแม่มือ มือเขาสั่นระริก แต่ไม่ส�ำคัญ เพราะสิ่งที่เขาต้องท�ำก็แค่บ้ีสาร ดังกล่าวให้แตก แล้วหย่อนใส่กรวยที่เจาะรูสองรูไว้ห่างกันประมาณหนึ่ง ลอนดอนซ่อนเงื่อน
17
เซนติเมตร เขาดึงหลอดออกจากซอง ตัดครึ่งด้วยกรรไกรตัดเล็บ สอด หลอดทั้งสองท่อนเข้าไปในรูข้างกรวยลึกราวสามเซนติเมตร บริเวณนั้นมี แสงสว่างเพียงแค่พอมองเห็นและท�ำเช่นนั้นได้ แต่ถึงจะมืดสนิทเขาก็ท�ำได้ อยู่ดี หลังจากคล�ำส�ำรวจว่าหลอดสอดเข้าไปในระยะที่ถูกต้องดีแล้ว ซึ่ง เป็นเรื่องส�ำคัญมาก เขาจึงจุดไฟแช็ก จ่อเปลวตรงก้นกรวยที่โคเคนวางอยู ่ ทันทีที่จุดติด เขาปิดฝาที่ฐานกรวย อมหลอดสองอันไว้พร้อมกับสูดลมลึก ขณะท�ำเช่นนี้ เขามักจะส่งเสียงดังเสมอเมื่อสูดลมครั้งแรก มันคือเสียงแห่ง ความสุขสันต์ สุดยอดแห่งความหฤหรรษ์ แต่ส�ำหรับคนอื่นมันน่าจะฟังดู เหมือนเสียงครางทอดอาลัยมากกว่า ไม่มีใครได้ยิน แถวนั้นไม่มีใครอยู่ใกล้พอจะได้ยิน ตอนสอนให้เขา ท�ำแบบนี้ ลูบอกว่าแค่สิบวินาทีฤทธิ์โคเคนจะขึ้นไปถึงสมอง ลูว่ามันจะ เปลี่ยนเขาเป็นคนละคน ลูพูดถูกทีเดียว ฮ็อบส่งเสียงครางอย่างพึงพอใจ รถคันหนึ่งแล่นผ่านไปตามสะพาน ต้นไม้สั่นไหวเล็กน้อย อาการกระวน กระวายเริ่มลดลง ราวกับสิ่งชั่วร้ายในความฝันถูกดูดออกไป มันดิ้นรน ขัดขืนขณะลอดออกไป แต่ประตูงับปิด เมฆหมอกแห่งความอบอุ่นกรูเข้ามา เต็มพื้นที่ว่าง พร้อมเสียงเพลงแสนไพเราะและความหวัง เขาหลับตา ครั้ง หนึ่ง ตอนใช้กรวยบัวรดน�้ำครั้งแรก เขาจับมันคว�่ำลงแล้วสูดควันจากช่อง เปิดตรงปากกรวยโดยตรง แต่ท�ำเช่นนั้นสิ้นเปลืองโดยเปล่าประโยชน์ ความ สิ้นเปลืองถือเป็นความผิดร้ายแรง ผ่านไปพักใหญ่ เขาถอดฝาวอดก้าจากปากกรวย สลัดกรวยและฝา กระป๋อง เก็บใส่ถุงเครื่องประดับ แล้วโยนหลอดเข้าไปในพุ่มไม้ เขาเริ่มรู้สึก มีก�ำลังวังชาและมีความสุขมากล้น นั่นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น ถนนโล่งมาก ไม่มีรถบรรทุกหนักหรือรถบรรทุกตู้สินค้า มีเพียง รถยนต์ส่วนบุคคลเท่านั้น รถยนต์ส่วนบุคคลมักแล่นผ่านไปมาเสมอ และ ไม่ว่าเวลาใด ถนนแคมเดนไฮก็มีผู้คนสัญจรผ่านตลอดเวลา หลังเที่ยงคืน ไปแล้ว ช่วงหนึ่งจังหวะของลอนดอนคลายความคึกคักลง แต่ก็ยังคึกคักอยู ่ แสงสว่างจากโคมไฟเรืองแสงอาบความมืดด้วยสีขาวอมเขียวและสีส้มหม่น 18
ขจรจันทร์ แปล
สัญญาณไฟจราจรเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีเหลืองแล้วเปลี่ยนเป็นสีแดง ก่อน กลับมาเป็นสีเหลืองและสีเขียวอีกครั้งอย่างเงียบกริบ บ่อยครั้งที่มันเปลี่ยน ขณะถนนว่างเปล่า ณ จุดที่สัญญาณไฟเปลี่ยนสีอย่างไร้จุดหมาย กลาง ถนนร้างยวดยานแห่งนี้ ฮ็อบข้ามถนนอัลเบิร์ตมุ่งสู่ถนนพาร์คเวย์ เขาก้าว เดินฉับไว เปลี่ยนเป็นคนละคนเมื่อรู้สึกสบายดี ชายผู้เปลี่ยนไปเป็นอีกคน คนที่ไม่มีอาการกระสับกระส่ายใจ กลาย เป็นคนมีอารมณ์ขัน สนุกสนาน ชอบใช้ค�ำสแลงแปลกๆ หัวเราะได้กับทุก เรื่อง เขาแข็งแรงกระปรี้กระเปร่า ท�ำได้ทุกอย่าง แน่นอน เขาสามารถ ท�ำงานที่รับค่าจ้างมัดจ�ำครึ่งแรกมาก่อนได้แล้ว นาฬิกาข้อมือที่ร�่ำๆ อยาก ขายบ่อยครั้ง บอกให้รู้ว่าขณะนั้นคือตีหนึ่งสิบสองนาที เป้าหมายก�ำหนดจะมาถึงลอนดอนโดยรถไฟจากสถานีชรูส์เบอรี ่ เที่ยวสามทุ่มยี่สิบห้า ซึ่งจะมาถึงสถานียูสตันเวลาตีหนึ่งสิบสี่นาที ยูสตัน อยู่ห่างไปไม่ถึงหนึ่งไมล์ เป็นสถานีปลายทางใกล้ที่สุดในสถานีทุกแห่งของ ลอนดอน หากรถไฟมาถึงตรงเวลาและมีแท็กซี่รออยู่แล้ว เขาจะมีเวลา ไปถึงย่านเซนต์มาร์กส์เครสเซนท์พอดี อันที่จริงเวลาก็เหมาะเจาะอยู่หรอก เป้าหมายอาศัยอยู่ในเซนต์มาร์กส์เครสเซนท์ เป็นอีกอย่างที่ทำ� ให้เขาหัวเราะ เขาหัวเราะกับตัวเอง แต่เป็นเพียงเสียงหัวเราะเบาๆ เขาเดินไปตามถนนกลอสเตอร์อเวนิว เลือกทางแยกไปถนนรีเจนท์ส พาร์ค เดินไปตามทางแยกขวามือ เขามองไม่เห็นสวนสาธารณะ แม้มันจะ อยู่หลังก�ำแพงใต้ร่มเงาไม้ห่างไปไม่กี่หลา เงามืดและใบไม้แทบไม่กระดิก ไหว ถังขยะรอเจ้าหน้าที่มาเก็บเท แมวตัวหนึ่งย่องเงียบกริบพอๆ กับความ เงียบในบริเวณนัน้ มันนิง่ ฟัง หยุดยืน ดมกลิน่ และสัมผัสเขา แล้วเผ่นแผล็ว ข้ามก�ำแพงไปอย่างรวดเร็วราวกับตัววีเซิล ไฟตามบ้านพักเปิดสว่าง แต่ไม่มากนัก บ้านที่เป็นจุดหมายของเขา ไม่มีแสงไฟสว่างเลยสักชั้น สวนหน้าบ้านรกรุงรัง พุ่มวัชพืชขึ้นหนาแน่น เขารู้ว่าบางพุ่มเป็นไม้หนาม เพราะมันเกาะเสื้อผ้าขณะทิ้งตัวลงกลางพุ่มไม้ เหล่านั้น ไม้หนามต้นหนึ่งเกี่ยวหลังมือเขา ข่วนเป็นรอยย่นจนเลือดซึมบน ผิวเหมือนรอยซิป ลอนดอนซ่อนเงื่อน
19
บรรยากาศเงียบสงัดจนได้ยินเสียงรถแท็กซี่ที่แล่นอยู่บนถนนรีเจนท์ส พาร์ค เขารู้สึกสงบและเบิกบาน แค่อยากมีใครสักคนให้พูดคุยหยอกล้อ ด้วย เขาอาจจะเลียนบทบาทมือปืนรับจ้างและเลียนเสียงดาราโทรทัศน์ รถแท็กซี่เลี้ยวอ้อมมุมถนนแล่นมาจอดหน้าสวนที่เขาซ่อนตัวอยู่ แสงไฟ หน้ารถส่องมาที่ร่างเขาสาดเข้าตา เขาหมอบต�่ำสุดเท่าที่สามารถท�ำได้ ฟัง เสียงสนทนา “เอ้านี่ สามปอนด์” “ขอบคุณมากครับนาย” ประตูรั้วเปิด แท็กซี่สตาร์ตเครื่อง ออกตัว แล้วเริ่มตีวงเลี้ยว เขา ไม่รู้เหมือนกันว่าจะท�ำเช่นไร หากคนขับรออยู่จนประตูหน้าบ้านเปิด กระเป๋า เดินทางถูกดันมาวางบนทางเท้า ประตูรั้วปิดกริ๊กเบาๆ ตามหลังกระเป๋าและ เจ้าของ แสงไฟจากรถแท็กซี่ค่อยๆ หดแคบลงจนลับตา เสียงครางของ เครื่องยนต์จางหายไป เขาลุกขึ้นยืนใช้มือเปล่า มือสองข้างยื่นไปก่อน ตามด้วยเท้า มือ หนึ่งเอื้อมปิดปากจากข้างหลัง แขนล็อกคอกระชากร่างเป้าหมายล้มลง เท้าดีดเตะเมื่อร่างนั้นล้มบนพื้น ไม่หนักหนาจนท�ำให้ถึงตายหรือพิการอย่าง ถาวร แต่แรงพอจะท�ำให้เจ็บ ท�ำให้ซี่โครงเป้าหมายหักสักสองซี่ หรือไม่ม้าม ก็อาจใช้การไม่ได้อีกเลยในวันข้างหน้า และอาจจ�ำเป็นต้องรักษาฟันกันบ้างละ ฮ็อบสนุกกับสิ่งที่ท�ำนี้ เขาชื่นชมตัวเองที่ท�ำงานได้ดีเยี่ยม โดยเฉพาะ ความสามารถในการลงมืออย่างเงียบกริบ ฝีมือที่ผ่านการฝึกปรือมานาน ประกอบกับความช�ำนาญในการใช้มือ เป็นเครื่องรับประกันได้ว่าจะไม่มีเสียง ใดๆ เล็ดลอดจากปากเหยื่อ ซึ่งขณะนี้มีเลือดไหลรินออกมาเป็นเส้นบางๆ เขายอบตัวลงคุกเข่า ค�ำสั่งที่ได้รับไม่ได้บอกให้ปล้นชายผู้น้ี แต่เมื่อคิดๆ ดูแล้ว ค่าจ้างที่ได้รับนั้นมันช่างน่าหัวเราะนัก เขามีสิทธิ์จะท�ำ ฮ็อบล้วงเข้า ไปในเสื้อแจ๊คเก็ต คล�ำกระเป๋าดูและพบกระเป๋าสตางค์ บัตรเครดิตไม่ม ี ประโยชน์ส�ำหรับเขา มีสิ่งเดียวที่เขาอยากซื้อ ซึ่งทั้งคาร์ลและกุปตาก็คงไม่ รับบัตรวีซ่า ธนบัตรสิบปอนด์หลายใบ ยี่สิบ แล้วก็อีกยี่สิบ...ความเบิกบาน ส�ำราญใจเริ่มเติมเต็มความอบอุ่นทั่วร่างฮ็อบ แปดสิบปอนด์ เขายัดธนบัตร 20
ขจรจันทร์ แปล
เหล่านั้นใส่กระเป๋ารวมกับถุงก�ำมะหยี่สีแดง จากนั้น ด้วยความที่ชอบเรื่องตลกขบขันและอยู่ในอารมณ์แช่มชื่น เขาจึงเปิดกระเป๋าเดินทางดูของข้างใน ไม่น่าแปลกใจที่มันเต็มไปด้วยเสื้อผ้า แต่ที่ประหลาดก็คือมันเป็นเสื้อผ้าผู้หญิง ส่วนใหญ่เป็นชุดชั้นในสตรี เขา เพิ่งนึกได้ว่าตนเคยได้ยินเรื่องพิลึกพิลั่นเกี่ยวกับเป้าหมายรายนี้ แต่ลืมไป เกือบหมดแล้วว่าเป็นเรื่องอะไร เขาลงมือพาดชุดชั้นในพวกนั้นไว้ตามพุ่มไม้ บิกินีไหมสีแดง กางเกง ในตัวยาวคลุมต้นขาแบบฝรั่งเศส ยกทรงสีด�ำ และชุดนอนผ้าลูกไม้สีด�ำ ดูราวกับเด็กสาวมาตั้งแคมป์พักแรมกันแถวนั้น แล้วซักผ้าตากไว้ก่อนเข้า นอน ชุดสีด�ำซีทรูตัวนั้นจะเรียกว่าอะไรก็แล้วแต่ มันเป็นชุดแบบติดกัน มีตะขอปิดเปิดตรงเป้าซึ่งเขาไม่รู้จักชื่อ แต่ก็เอาไปแขวนไว้ที่ประตูรั้ว แล้ว โยนเข็มขัดรั้งถุงน่องสองเส้นไว้บนร่างเหยียดยาวของเป้าหมาย เสียงครางแผ่วเบาดังลอดจากปากกึ่งอ้าเผยอหากขืนรีรอชักช้านาน กว่านี้ย่อมหมายถึงอันตราย เขาออกจากสวน เลียเลือดจากรอยข่วนบน หลังมือ คราวนี้เขาสาวเท้าก้าวเดินอย่างรวดเร็วไปในทิศทางตรงกันข้าม มุ่งสู่พริมโรสฮิลล์ เขาเริ่มหดหู่ ลูเล่าเรื่องฤทธิ์ยาที่ออกผลไวในสิบวินาที แต่ไม่เคยบอกเรื่องอาการหดหู่ที่จะหวนคืนมาในอีกครึ่งชั่วโมงให้หลัง สาย ไปเสียแล้ว กุปตาคงไม่อยู่ในดงต้นไม้จีนอีกต่อไป แต่คาร์ลหรือลูน่าจะอยู่ บนเนินเขานั่น หรือไม่ก็ที่สะพานแม็กเคิลส์ฟิลด์ ฮ็อบมุ่งหน้าไปทางนั้น เงิน ที่ได้มานอนอยู่ในกระเป๋า “จัมโบ จัมโบ” ฮ็อบพึมพ�ำ แล้วเปล่งเสียงร้องเพลงเพื่อรักษาความ กระปรี้กระเปร่า “จัมโบ จัมโบ...”
ลอนดอนซ่อนเงื่อน
21
บทที่สอง
จดหมายมาถึงวันเดียวกับที่เธอจะจากไป มีโปสการ์ดจากยาย บิลค่าน�ำ้ และ จดหมายในซองสีน�้ำตาลประทับตราโลโก้ฮาร์เวสต์ทรัสต์หน้าตาดูคล้ายเห็ด สีเลือดหมู แน่นอนว่ามันไม่ใช่รปู เห็ด แต่เป็นอะไรอืน่ สักอย่าง เธอผัดผ่อน ไม่ยอมเปิดจดหมาย โปสการ์ดของยายส่งมาจากสถานที่ชื่อย็อคม็อค ทาง ตอนเหนือของสวีเดน มีข้อความว่า แมรี่หลานรัก ยายจะกลับถึงลอนดอน วันพฤหัสฯ หน้า กว่าจะถึงตอนนั้นหลานคงไปอยู่ที่พาร์ควิลเลจเรียบร้อย แล้ว ไว้ยายจะโทร.หา ที่นี่ร้อนจนน่าแปลกใจ มีพระอาทิตย์เที่ยงคืนด้วย รักมาก... “ช่วยเขียนเช็คค่าน�้ำครึ่งของคุณให้ผมด้วย” อลิสแตร์เอ่ย เสียงขุ่น เคืองและโกรธขึ้ง ประกาศความก้าวร้าวรุนแรง แมรี่ไม่พูดถึงเรื่องที่เธอเป็นคนจ่ายบิลค่าไฟฟ้าทั้งหมด เขาถือซอง จดหมายอีกฉบับก�ำลังเพ่งมองโลโก้สีแดง “ขอจดหมายฉันคืนมาด้วย” เขาส่งจดหมายให้เธออย่างอิดเอื้อน “สงสัยพวกนั้นคงอยากได้อีก ละมั้ง” 22
ขจรจันทร์ แปล
“ไม่น่าใช่” เธอพยายามคุมให้ทุกค�ำที่พูดกับเขาสั้น สุภาพ และสุขุม เรื่องทะเลาะเบาะแว้งกลายเป็นอดีตไปแล้ว “น่าจะรายงานความคืบหน้ามาก กว่า ทางนั้นคอยติดต่อส่งข่าวตลอด” “ขอให้เป็นจดหมายการตายของเขาทีเถอะ” อลิสแตร์เชือดเฉือน ยากจะรักษากิริยาอาการให้สงบเมื่อเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ “ขอที ค่ะ อย่าพูดอย่างนั้นเลย” “อย่างนี้แหละดีที่สุดแล้วที่จะแสดงให้คุณรับรู้ว่าต้องเสียเวลาและ ทรมานร่างกายตัวเองโดยเปล่าประโยชน์ไปมากขนาดไหน” “ฉันจะไปจัดกระเป๋าต่อให้เสร็จ” เธอบอก เขาตามเธอไปในห้องนอน กระเป๋าเดินทางสองใบเปิดอ้าอยู่บนเตียง ใบหนึ่งมีเสื้อผ้าเธออยู่แล้วครึ่งหนึ่ง เธอวางจดหมายฉบับนั้นและโปสการ์ด ลงบนเสื้อยืดสีฟ้า แล้ววางกางเกงสูทห่อกระดาษนุ่มทับลงไป เธอไม่ได้นอน กับเขาบนเตียงหลังนั้นมาหนึ่งอาทิตย์แล้ว ตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมาเขานอน บนเตียง ส่วนเธอนอนบนเตียงโซฟาในห้องนั่งเล่น แบบนั้นสะดวกกว่ามาก เมื่อเป้าหมายของเธอคือชีวิตที่เงียบสงบ อย่างไรเสีย การอยู่ร่วมกันระหว่าง ทั้งคู่ก็เหลืออยู่แค่นั้น เธอเจอสมุดเช็คในลิ้นชัก จึงเขียนเช็คค่าน�้ำครึ่งหนึ่ง ให้เขา เขาพยักหน้า รับเช็คไปใส่กระเป๋า ไม่มีรอยยิ้ม ไม่มีค�ำขอบใจ “ถ้า มันไม่ใช่บ้านหรูๆ คุณก็คงไม่ไปใช่ไหม ถ้ามันเป็นแค่ห้องพักพร้อมเฟอร์- นิเจอร์ หรือกลับไปอยู่กับยายล่ะ” “เราพูดกันไปหมดแล้วนะ อลิสแตร์” “แล้วถ้าพวกนั้นกลับจากเที่ยวพักผ่อนยืดเยื้อยาวนานนี่แล้วล่ะ ยังไง ต่อ ถ้าสองคนนั้นเตะโด่งคุณออกจากวิมานในฝันนั่น คุณจะกลับมานี่ บอก ว่าคุณผิดไปแล้ว ขอเตียงเก่าคืนงั้นรึ” “อาจเป็นได้ แต่ฉันว่าคงไม่หรอก คราวนี้เป็นการแยกทางกันถาวร” “ทดลองแยกทางกันต่างหาก” “ตามใจคุณ” ท�ำไมเธอถึงอ่อนแอ ยอมประนีประนอมง่ายๆ แบบนี้ นะ “หลังสี่เดือน ความรู้สึกเราสองคนอาจจะเปลี่ยนไปก็ได้” ลอนดอนซ่อนเงื่อน
23
“คุณยอมรับใช่ไหมว่าความรู้สึกของผมอาจเปลี่ยนไป ว่าผมอาจจะ ไม่อยากแต่งงานกับคุณอีกแล้ว รู้อะไรไหม ตอนนี้มันก็เปลี่ยนไปแล้วละ มันคลอนแคลนมาตั้งแต่คุณหลอกผมเรื่องสถาบันฮาร์เวสต์บ้าๆ ที่ผมไม่ควร พูดถึงนั่นแหละ คุณเจตนาท�ำร้ายตัวเองโดยไม่ได้ประโยชน์อะไรนอกจาก ท�ำให้ตัวเองรู้สึกดี รู้สึกมีคุณค่า เป็นผู้เสียสละที่ได้ ‘ท�ำคุณงามความดีบาง อย่างบนโลกใบนี้’ คุณเรียกแบบนี้ใช่ไหม” “ฉันไม่เคยใช้ค�ำพูดนั้น” เธอตอบ รู้สึกว่าอารมณ์เดือดเหนือการ ควบคุม มันหลุดมือเหมือนลูกบอลกลิ้งลงเนิน วิ่งฉิวลงไปตามไหล่เขา เธอ คว้ามัน ยึดไว้มั่น “ฉันไม่เคยพูดเรื่องพวกนั้น ไม่เคยเลย” ขอบคุณพระเจ้า ที่ฉันไม่ได้แต่งงานกับคุณ เธอคิดในใจ ถ้าฉันปลงใจแต่งงานกับคุณไป อะไรๆ คงแย่กว่านี้ เธอปิดฝากระเป๋าเดินทางใบหนึ่งแล้วลงมือจัดอีกใบ เขาจับตามอง เธอ ริมฝีปากบนเหยียดขึ้นน้อยๆ ดุจเดียวกับสัตว์ สีหน้าแบบที่เธอไม่เคย เห็นตอนรู้จักกันครั้งแรก “ถ้ายายฉันโทร.มา ช่วยบอกเบอร์นี้กับท่านได้ไหม ฉันว่าท่านน่าจะมีเบอร์ใหม่อยู่แล้ว แต่เผื่อไว้ก่อน” เธอจดหมายเลขโทรศัพท์กับที่อยู่ให้เขา ชาร์ล็อตต์คอตเทจ พาร์ค วิลเลจเวสต์ รีเจนท์สพาร์ค ลอนดอน เอ็นดับเบิลยู 1 “กระท่อม (คอตเทจ) เนี่ยนะ!” เขาอุทาน “ตอนสร้างใหม่ๆ เขาคิดกันว่าบ้านหลังนั้นค่อนข้างเล็ก” “ดัดจริตเป็นบ้า” เขาเอ่ย “อย่างกับเปอตีทริอานง1” “มันอยู่ใกล้ที่ท�ำงาน” เธอบอก “ฉันเดินไปท�ำงานได้” ราวกับนั่นเป็น เหตุผลให้เธอต้องไป ราวกับว่าการที่มันอยู่ใกล้พิพิธภัณฑ์คือเหตุผลของเธอ เขาหยั่งรู้เรื่องพวกนี้ได้อย่างน่าประหลาด หยั่งรู้ถึงปฏิกิริยาของคน อ่อนแอ สีหน้าเขาเปลี่ยนไปขณะออดอ้อน ทั้งที่ไม่เคยออดอ้อนตอนแรก ที่รู้จักกัน “คุณจะชวนผมไปที่บ้านนั้นใช่ไหม พูดก็พูดเถอะ ไม่มีเหตุผล 1
Petit Trianon ปราสาทหลังเล็กในพระราชวังแวร์ซาย สร้างในรัชสมัยของพระเจ้า หลุยส์ที่ 15 แห่งฝรั่งเศส - ผู้แปล 24
ขจรจันทร์ แปล
อะไรที่ผมไม่ควรย้ายเข้าไปอยู่ที่นั่นด้วยเลยนี่” “เหตุผลน่ะมีค่ะ” เธอพูดเสียงเบา กลับมาควบคุมอารมณ์ได้อีกครั้ง อารมณ์ของเธอไม่ค่อยมีอิสระมากนัก แทบจะไม่เคยกระเจิดกระเจิง มัน สงบเสงี่ยม ไม่สู้คนเหมือนเจ้าของ อีกทั้งไม่อาจลุกขึ้นปกป้องตัวเองได้สัก เท่าไหร่ เธอรัดเข็มขัดกระเป๋าเดินทางใบที่สอง หยิบกระเป๋าถือแล้ววางลง อีกเพื่อสวมเสื้อแจ๊คเก็ต “มีเหตุผลหลายอย่างเลยละ อลิสแตร์ แต่ไม่มี ประโยชน์จะพูดถึงหรอก” “คุณคงไม่คิดหรอกนะว่าผมจะ...” เขาอึกอัก พยายามเฟ้นหาค�ำพูด อาจเป็นค�ำโง่ๆ ค�ำเบาๆ ค�ำที่ฟังดูรุนแรงน้อยลง “จะซ้อมคุณอีก” เขาเอ่ย แน่นอนว่าเธอคิดอย่างนั้น ใช่ว่าจะเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นบ่อยๆ แต่มัน ก็มากพอ มากพอจะเปลี่ยนเธอจากผู้หญิงทั่วไปตามแบบฉบับที่จะพูดว่า เขาคงไม่ซ้อมเราเป็นครัง้ ทีส่ องอีก จากผู้หญิงทัว่ ไปทีพ่ ูดถึงหญิงซึง่ ถูกข่มเหง รังแกว่า พวกเธอจะทนอยู่ไปเพื่ออะไร มาเป็นผู้หญิงประเภทที่กึ่งๆ ยอมรับ ประเภท ก็แค่-ครั้งเดียว-เท่านั้นแหละ หรือแม้กระทั่งประเภทที่พูดว่า เขา แค่น็อตหลุดจนเกินกว่าจะทนได้ แต่แมรี่จะไม่อยู่ ไม่ยอมรับ และไม่ทน ต่อไป เธอเลือกจะเดินไปจากชีวิตเช่นนี้ อลิสแตร์ยืนขวางอยู่กลางช่องประตู ระหว่างเธอกับโถงทางเดิน เธอ ต้องเดินผ่านเขา เธอพลันถามตัวเองขึ้นว่า นี่เราคิดอะไรอยู่ ท�ำไมถึงอยู่กับ ผู้ชายที่ท�ำให้เรากลัวได้ตั้งกว่าห้านาที ผู้ชายไร้เหตุผลที่คิดว่าตนเป็นเจ้าของ เราทั้งร่างกายและจิตใจ เธอหิ้วกระเป๋าเดินทางทั้งสองมือเดินผ่านเขาไป กล้ามเนื้อทุกส่วน เขม็งตึง กลั้นหายใจ แทนที่จะก้าวหลบ เขากลับปักหลักนิ่งเฉย เธอจ�ำต้อง เบียดตัวผ่านเขา มือเขาไม่ได้แตะต้องเธอ เธอจ�ำได้ว่าเขาเคยยื่นเท้ามาขัดขา ให้เธอสะดุดล้มตั้งแต่ช่วงแรกๆ ที่เธอติดต่อกับสถาบันฮาร์เวสต์ทรัสต์ และ เขาเพิ่งรู้ความจริง เขาเหยียดขาข้างหนึ่งออกมาขวาง ท�ำให้เธอนอนแผ่หน้า คะม�ำ พอลุกขึ้นได้ เขาก็บอกว่า “ผมไม่ได้ท�ำนะ เป็นเพราะกระดูกคุณเอง ต่างหาก คุณท�ำให้กระดูกเปราะ ท�ำให้ตัวเองมีสภาพเป็นยายแก่” ลอนดอนซ่อนเงื่อน
25
แต่เขาไม่ได้แตะต้องเธอ “ลาก่อน อลิสแตร์” เธอเอ่ย เมื่อยืนอยู ่ ห่างจากเขาในระยะปลอดภัย เขายื่นมือมาข้างหนึ่ง แล้วยื่นอีกข้าง เอียงศีรษะน้อยๆ “จูบลาหน่อย เป็นไง” จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขาเอื้อมมือมาคว้าตัวเธอ มือหนึ่งตบหน้า อีกมือ จับเธอเขย่า เหวี่ยงร่างเธอลงบนพื้น ใช้ก�ำปั้น...เขาไม่เคยท�ำอะไรแบบนั้น ไม่ถึงขนาดนั้น แต่เธอก็ส่ายหน้า ก่อนเปิดประตูออกไป ข้างลิฟต์มีคนยืน รออยู่ก่อนแล้ว ขอบคุณพระเจ้า... “ลาก่อนที่รัก หมั่นติดต่อมาด้วยละ” อลิสแตร์ใช้น�้ำเสียงอบอุ่นเหมือนสมัยก่อน แต่เธอไม่รู้ว่าเขาตั้งใจพูดกับเธอ หรือเจตนาให้คนหน้าลิฟต์ได้ยินกันแน่ เธอลืมโทร.เรียกแท็กซี่ให้มารับไปส่งที่สถานีรถไฟใต้ดิน จึงลาก กระเป๋าเดินทางเลี้ยวอ้อมมุมถนน ไปยังจุดที่มองไม่เห็นจากหน้าต่างบานใด ของแฟลต แล้วทรุดตัวนั่งรอรถแท็กซี่บนก�ำแพงเตี้ยๆ หน้าส�ำนักงานตัวแทน ซื้อขายและให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ ถนนเดวอนเชอร์อยู่สุดทิศใต้ของบริเวณที่บรรดาสุนัขในความดูแลของบีน อาศัยอยู่ เจ้าตัวนี้เป็นสุนัขบีเกิลชื่อรูบี้ ข้างๆ เป็นสุนัขบอร์ซอยชื่อบอริส อยู่ในพาร์คเครสเซนท์ ทั้งสองตัวเป็นสุนัขของคนรวย กินอาหารอย่างดี มี ประกันกับสัตวแพทย์ชั้นน�ำ ขนมันเงา หยิ่งทะนง และถูกตามใจจนเสียนิสัย แต่สุนัขในความดูแลของบีนทุกตัวก็เป็นแบบนั้น หาไม่แล้วพวกมันคงไม่ได้ มาอยู่ในความดูแลของเขา ไม่มีทางที่เขาจะพาสุนัขพันธุ์ผสมหรือพันธุ์ทาง ออกมาเดินเล่น เขาเดินลงเนินที่ทอดตัวสู่อุโมงค์เนอร์สเมดส์ พร้อมสายจูงสองเส้น ล่ามบอริสและรูบี้ อุโมงค์ดังกล่าวเป็นทางเชื่อมสวนพาร์คเครสเซนท์ด้านใต้ กับจัตุรัสพาร์คด้านเหนือ โดยพาดผ่านเหนือทางรถไฟใต้ดินสายจูบิลี และ ลอดใต้ถนนมารีลเบิน การจราจรแถวนี้คับคั่งทั้งวันทั้งคืน รถราพุ่งทะยาน ไปด้านทิศตะวันตกสู่ถนนเวสต์เวย์กับทางหลวงเอ็ม 40 และมุ่งหน้าไปทาง 26
ขจรจันทร์ แปล
ทิศตะวันออกสู่สถานียูสตันและย่านคิงส์ครอส ปริมาณรถไม่เคยลดน้อยลง แม้จะเป็นช่วงตีสามตีสี่ตอนเช้ามืด แต่ช่วงเช้าตรู่และบ่ายแก่ๆ ที่บีนพา บรรดาสุนัขในความดูแลออกมาข้างนอกเป็นช่วงที่การจราจรหนาแน่นที่สุด รถแล่นกึง-กึง-กึงผ่านไปเหนือเพดานอุโมงค์ สะท้านสะเทือนตลอดช่องทาง ใต้ดินผนังสีน�้ำตาลและพื้นหินเปียกชื้น สาดสว่างด้วยแสงธรรมชาติจาก ปลายอุโมงค์แต่ละด้าน การข้ามถนนด้วยช่องทางอื่นเป็นเรื่องยากไม่ว่าเวลาไหน สัญลักษณ์ รูปคนเดินสีเขียวสว่างวาบเพียงชั่วระยะสั้นมาก สั้นเกินกว่าจะข้ามไปถึงเกาะ กลาง ก่อนข้ามต่อไปถึงอีกฝั่ง และสั้นยิ่งกว่าเมื่อต้องจูงสุนัขสองตัวซึ่งมี แนวโน้มจะหยุดสูดจมูกฟุดฟิดโดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้าด้วย ในฐานะของ ผู้พักอาศัยอยู่ในคราวน์เอสเตท บีนมีกุญแจเปิดเข้าไปในสวนและเดินลอด อุโมงค์ได้ ครั้งหนึ่งอุโมงค์เส้นนี้เคยเป็นช่องทางที่พวกพี่เลี้ยงและเด็กๆ ใน ความดูแลใช้ ทั้งยังเป็นสถานที่นัดพบกันของคู่รักอีกด้วย บีนไม่แน่ใจว่า นอกจากตัวเขาแล้ว ตอนนี้ยังมีใครใช้มันอยู่อีกหรือไม่ บีนจัดล�ำดับเส้นทางอย่างรอบคอบ ให้สุนัขตัวใหญ่แข็งแรงได้วิ่งเป็น ระยะทางยาวที่สุด และสุนัขตัวเล็กขาสั้นวิ่งน้อยที่สุด เขาเริ่มด้วยการไปรับ สุนัขบีเกิลเวลาสามโมงสี่สิบห้านาที ไปรับสุนัขบอร์ซอยห้านาทีต่อมา แล้ว เดินต่อไปรับเจ้าชาร์ล ี สุนขั โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ทเี่ ซนต์แอนดรูส์เพลซ ต่อด้วย แมเรียตตา สุนัขพูเดิลสีช็อกโกแลตจากอาคารคัมเบอร์แลนด์เทอร์เรซ บีน จูงสุนัขทั้งสี่เดินตามทางเดินอาคารเทอร์เรซออกไปยังถนนอัลบานี ยามบ่ายแดดจ้าวันหนึ่งช่วงปลายเดือนเมษายน อากาศไม่อุ่น ลม หนาวพัดพาปุยเมฆลอยผ่านท้องฟ้าสีคราม ต้นไม้แตกใบอ่อนในฤดูใบไม้ ผลิ ดอกไม้ผุดชูช่อตามรางใต้หน้าต่าง บีนในวัยเจ็ดสิบเป็นคนแข็งแรง กระฉับกระเฉงแม้จะร่างเล็ก มองไกลๆ เขาดูไม่ต่างจากคนวัยห้าสิบห้า ตอนสมัครงานครั้งสุดท้ายเมื่อปี 1986 เขาบอกว่าตัวเองอายุสี่สิบเก้า และ เจ้าหน้าที่ก็เชื่อเขา ลักษณะการแต่งเนื้อแต่งตัวของเขายังดูเหมือนคนหนุ่ม แต่ก็ไม่มากเกินไปจนน่าขัน แม้จะมีชุดสูทของมอริซ คลิเธอโรที่ปรับขนาด ลอนดอนซ่อนเงื่อน
27
ให้พอดีรูปร่างอยู่หลายชุด แต่เสื้อผ้าที่เขาแต่งในหน้าหนาวคือกางเกงยีนส์ รีดเรียบกริบ เสื้อขนสัตว์คอเต่าและแจ๊คเก็ตบุนวมสีน�้ำเงิน ก็อย่างค�ำกล่าว ที่ว่า จงอย่าเพิ่งละทิ้งเครื่องแต่งกายหน้าหนาว จนกว่าจะพ้นเดือนพฤษภาคม และขณะนี้ก็ยังไม่ผ่านพ้นเดือนเมษายนดี เขาตัดผมสั้นเกรียนเหมือนทหาร มาตลอด แต่ทุกวันนี้เขาโกนศีรษะจนเกลี้ยงเพื่อเลี่ยงผมสีขาวตอสั้นๆ บีนก�ำหนดเงื่อนไขว่าจะไม่รับดูแลสุนัขแก่ สุนัขอ้วน หรือสุนัขที่มี ปัญหาด้านสุขภาพเด็ดขาด จ�ำนวนสูงสุดที่รับดูแลคือหกตัว และไม่รับสุนัข ที่กฎหมายระบุให้ใส่ตะกร้อครอบปาก เขามีรายได้จากงานที่ท�ำดีทีเดียว ดีเกินกว่าจะเป็นรายได้เสริมเงินบ�ำนาญ แต่เขาก็มีกฎเกณฑ์มากมายหลาย ข้อ เขาชี้แจงกับคุณนายโกลด์สเวิร์ธตี้ที่อยู่บ้านบนถนนอัลบานีตอนพาสุนัข สก็อตตี้ของเธอไปเดินเป็นครั้งแรกว่าเขาจ�ำเป็นต้องเคร่งครัด “หากจะพาสุนขั ไปเทีย่ วพักผ่อน ต้องแจ้งก่อนเจ็ดวันนะครับ มาดาม” เขาบอกเธอ “และต้องบอกล่วงหน้าหนึ่งเดือนเมื่อต้องการยกเลิกสัญญา แน่นอนว่ายกเว้นกรณีเจ็บป่วยกะทันหัน และหากมีใครอื่นหรือตัวคุณเอง พาสุนัขออกไปเดินเล่น ก็ไม่นับเป็นการชดเชยเหมือนกัน คุณคงเข้าใจนะ ครับว่าผมหมายถึงอะไร” “อ๋อ แน่นอน ฉันเข้าใจ” “งั้นเจ้าตัวนี้ก็คือแม็คไบรด์ใช่ไหมครับ สก็อตตี้นักสู้ตัวเล็ก แต่ขา ออกจะสั้นไปหน่อย เพราะฉะนั้นจัดเป็นพวกวิ่งระดับกลาง คู่กันกับชิสุของ เลดี้แบล็คเบิร์น-นอร์ริส” บีนเอ่ยชื่อออกมาอย่างไม่สะทกสะท้าน เพราะเป็น เรื่องดีสำ� หรับธุรกิจ “งั้นอีกสี่สิบห้านาทีเจอกันนะครับ” บีนกระปรี้กระเปร่าแข็งแรงจากการพาสุนัขเดิน (เขาพูดเอง) สุขภาพ หัวใจแก่ๆ ของเขาดีพอกับคนอายุน้อยกว่าสามสิบปี เขาเดินตามถนนเส้น ตรงด้วยอัตราสี่ไมล์ต่อชั่วโมง กินอาหารมังสวิรัติ แตะเครื่องดื่มที่แรงกว่า โค้กเฉพาะคืนวันศุกร์ เขาเป็นคนใส่ใจเรื่องสุขภาพ และถือว่าถนนเป็น เพียงอุปกรณ์ออกก�ำลังส�ำหรับตัวเองและบรรดาสุนัข ‘ของเขา’ เขาไม่รู้เรื่อง ประวัติศาสตร์และความเป็นมาด้านสถาปัตยกรรมของสถานที่แห่งนี้หรือ ตัวสวนสาธารณะ เขาแทบจะไม่สังเกตเห็นอาคารยุคหกศูนย์ที่โดดเด่นอย่าง 28
ขจรจันทร์ แปล
มหาวิทยาลัยลาสดันรอยัลคอลเลจออฟฟิซิเชียนส์ 2 และไม่เคยสังเกตว่า จุดที่ตนข้ามถนนนั้นอยู่หน้าโบสถ์ชาวเดนมาร์กเซนต์แคทเธอรีนส์ ซึ่งสร้าง เลียนแบบโบสถ์คิงส์คอลเลจในเคมบริดจ์แต่ไม่ประสบความส�ำเร็จนัก เวิ้งรูปจันทร์เสี้ยวมีชื่อว่าพาร์ควิลเลจเวสต์ และยังขึ้นชื่อว่าเป็นถนน ที่สวยที่สุดในลอนดอนด้วย โดยเฉพาะจากบรรดาผู้อยู่อาศัยในบริเวณนั้น มันทอดตัวขยายกว้างออกจากถนนอัลบานีตรงจุดสิน้ สุดย่านแคมเดน ถนน อัลบานีเป็นถนนที่มีรถแล่นผ่านมากที่สุด การจราจรจะเบาบางเฉพาะในยาม กลางคืนและเช้าวันอาทิตย์ แต่ย่านพาร์ควิลเลจเวสต์เปรียบเสมือนสวรรค์ น้อยๆ แห่งความเงียบสงบและเสน่ห์แบบชนบท เหมือนส่วนผสมระหว่าง ถนนแคบๆ ในชนบทและอาณาบริเวณรอบมหาวิหาร ในฤดูใบไม้ผลิ แถบนี ้ จะอบอวลไปด้วยกลิ่นต้นไม้ผลิดอก ดอกนาร์ซิสซัส และดอกไม้เลื้อยตาม ก�ำแพง บีนกับฝูงสุนัขเลี้ยวเข้าไปใต้ซุ้มกิ่งไม้ห้อยย้อย บ้านยุค 1840 เหล่านี้ ได้ชื่อว่า ‘วิลลาแห่งไมตรี’ และ ‘ผลงานชิ้นเอกของสถาบันแนช’ บ้านแต่ละ หลังตั้งแยกจากกันกลางสวนที่ห้อมล้อมด้วยต้นไม้ ทุกหลังมีรูปแบบแตก ต่างกันและมีเครื่องตกแต่งโบราณสไตล์ของตัวเอง ทั้งหน้าต่างหลอก แจกัน เขียนภาพเล่าเรื่อง รูปปั้นครึ่งตัวของบุคคลส�ำคัญ ประติมากรรมในวงกลม ของเดลลา ร็อบเบีย3 ศาลาพักผ่อน กังหันชี้ทางลม และโรงรถอ�ำพรางเป็น รูปวิหารบูชาทวยเทพแห่งโอลิมปัส บ้านหลังต่อมาทีเ่ ขาแวะมีสวนกว้างคัน่ ระหว่างทางเท้าและตัวบ้านเป็น ชั้นแรก ถัดไปเป็นก�ำแพงเตี้ยๆ เพิ่งทาสีหมาดๆ พร้อมป้ายชื่อชาร์ล็อตต์ คอตเทจสลักบนเนื้อปูน บีนผูกปลายเชือกล่ามที่เสาประตูรั้วอย่างแน่นหนา 2
Lasdun Royal College of Physicians มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์มีชื่อเสียง ในลอนดอน ออกแบบโดย Denys Lasdun เมื่อปี 1958 - ผู้แปล 3 Della Robbia (1435-1525) ประติมากรยุคเรอเนซองส์ชาวอิตาลี หนึ่งในผลงาน ที่โดดเด่นคือแผ่นกลมรูปพระกุมารที่ระลึกการสถาปนาโรงพยาบาล Hospital of Innocents ในฟลอเรนซ์ อิตาลี และรูปแม่พระรับสารจากเทวดาเหนือประตู ชั้นใน - ผู้แปล ลอนดอนซ่อนเงื่อน
29
เขาสั่งให้สุนัขนั่งนิ่งๆ แล้วจึงเดินตามทางเท้าเข้าไปในสวน ดอกทิวลิปสีแดง กลีบสุดท้ายร่วงหล่น เผยละอองในกระเปาะเกสร แพนซีและออริคูลาเริ่ม ผลิดอก และลาเบอนัมก็จะผลิบานตามมาในไม่ช้า เคลมาทิสเบ่งบานแผ่ ดุจผ้าซาตินสีฟ้าหม่น แตกยอดเลื้อยพาดก�ำแพงสีครีมเป็นมันเงาเล็กน้อย อยู่หน้าบ้าน เสาสลักร่องยืนตระหง่านทั้งสองด้านของประตูหน้าสีน�้ ำเงิน รองรับหน้าจั่วนูนต�ำ่ สีครีมบนพื้นสีน�้ำเงินของแนช รูปเทพและเทพีกำ� ลังส�ำเริง ส�ำราญกับการเล่นสนุก หน้าต่างชั้นล่างบานหนึ่งเปิดทิ้งไว้ สตรีวัยใกล้เคียง หรือแก่กว่าบีนโผล่หน้าออกมา “ได้เวลาแล้วหรือนี่” เธอเอ่ย “คิดว่าเพิ่งจะสามโมงเสียอีก” “สี่โมงสิบหกนาทีแล้วครับ เลดี้แบล็คเบิร์น-นอร์ริส” บีนตอบด้วย น�้ำเสียงสุภาพไม่เคยเปลี่ยน เพราะการรักษามารยาทที่ดีไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่ อย่างใด เธอถอยกลับ อีกไม่กี่วินาทีต่อมาเธอก็เปิดประตูหน้าบ้าน พร้อมอุ้ม สุนัขชิสุมาด้วย ขนสีทองปรกทั่วตัวกูชิราวกลีบดอกไม้ ห้อยระลงมาถึงตา คล้ายกับผมบลอนด์เหลือบแดงของผู้เป็นเจ้าของ แว่นกันแดดกรอบสีนำ�้ เงิน คาดเสยผมที่ปรกหน้าผากขึ้นไป “เจ้าบีเกิลตัวนั้นมันท�ำอะไรบอร์ซอยน่ะ” “อย่าสนใจดีกว่าครับมาดาม” บีนตอบ หากป่านนี้แล้วเธอยังไม่รู้ ก็ไม่ใช่ธุระที่เขาจะต้องบอกเธอ เขารับสุนัขชิสุมาจากเธอ ขณะก�ำลังติด สายล่ามที่ว่างอยู่กับปลอกคอของมัน และพยายามปรามบทโหมโรงของรูบ ี้ แท็กซี่คันหนึ่งก็เลี้ยวจากมุมถนนมาจอดหน้าชาร์ล็อตต์คอตเทจ หญิงสาวที่ก้าวลงจากรถลากกระเป๋าเดินทางสองใบลงจากเบาะข้าง คนขับ น่าจะเป็นคนที่มาเฝ้าบ้านให้สามีภรรยาแบล็คเบิร์น-นอร์ริส เธอดูเด็ก มากส�ำหรับบีน แต่ต้องยอมรับว่าประชากรส่วนใหญ่ล้วนดูเด็กกว่าในสายตา เขาทั้งนั้น เขาไม่สามารถบอกได้แล้วว่าใครอายุสิบแปด ใครอายุสามสิบ รูปร่างลักษณะของผู้หญิงคนนี้ ซึ่งเขามองว่าเป็นเด็กสาวเสียมากกว่า ดูแบบ บาง ราวกับว่าลมอาจพัดเธอปลิวไปได้ทุกเมื่อ เธอผอมเพรียวและท�ำให้เขา นึกถึงดอกลิลี่ ล�ำคอยาวระหง ผิวขาวซีดจัด ดูจากท่าทางแล้ว เธอไม่ใช่ คนประเภทที่จะพากูชิออกไปเดินเล่นนานๆ ได้เองแน่ นับว่าเป็นเรื่องดี 30
ขจรจันทร์ แปล
อย่างยิ่ง เขาผงกศีรษะให้เธอพร้อมกล่าวสวัสดีตอนบ่าย เขามองออกว่าเธอ น่าจะมีเสน่ห์ดึงดูดส�ำหรับใครหลายคน หรือเรียกได้ว่าสวยเลยด้วยซ�้ำ แต่ เขาไม่ได้สนใจเธอ เซ็กซ์ที่เขารู้จักโดยเฉพาะในช่วงปีหลังๆ เป็นเรื่องวิตถาร หรือกระทั่งน่ากลัวอย่างยิ่ง พอมอริซ คลิเธอโรตายจากไป เขาก็เลิกคิดถึง เรื่องนี้ตลอดกาล พร้อมถอนหายใจด้วยความรู้สึกที่มากกว่าความโล่งอก ความคิดที่จะช่วยหญิงสาวหิ้วกระเป๋าไปตามทางเดินวูบขึ้นในสมอง แล้วก็ เลือนหาย เขาจูงสุนัขเต็มมือ ยิ่งกว่านั้นเธอคงไม่หิ้วกระเป๋าเดินทางหนักๆ มา หากไม่สามารถจัดการมันเองได้ ถึงเธอจะให้ทิปเขา มันก็คงเป็นจ�ำนวน เงินน่าหัวเราะตามแบบฉบับของผู้หญิงทั่วไป ไม่มากไปกว่ายี่สิบหรือเต็มที่ ก็แค่ห้าสิบปอนด์ ถึงตอนนี้พวกสุนัขพากันดึงรั้งอย่างหงุดหงิดเพราะอยากไปจากที่นั่น พวกมันร้อนใจใคร่จะออกไปเดินเล่นเต็มแก่ เขาข้ามถนนและถนนวงแหวน ชั้นนอก จูงสุนัขเข้าไปในสวนสาธารณะฝั่งประตูกลอสเตอร์ สู่พื้นที่สีเขียว กว้างใหญ่ด้านใต้ของสวนสัตว์ แล้วปลดเชือกล่ามให้พวกมันวิ่งได้อิสระ ไกลออกไป ผู้หญิงคนหนึ่งคุมสุนัขสิบสองตัวมาออกก�ำลัง เธอท�ำตัว ราวกับเป็นพี่เลี้ยงเด็ก เธอก�ำลังโยนบอลเล่นกับสุนัขลาบราดอร์สามตัวและ บ็อกเซอร์อีกหนึ่งตัว บีนชักสีหน้าใส่เธอ แต่เธออยู่ไกลเกินกว่าจะมองเห็น “เราจะเริ่มจากบราซิล” เลดี้แบล็คเบิร์น-นอร์ริสเอ่ย “แล้วต่อด้วยเม็กซิโกกับ คอสตาริกา หลังจากนั้นก็ไปแคลิฟอร์เนีย เที่ยวที่อุทยานแห่งชาติหรือชื่อ อะไรก็แล้วแต่ในยูทาห์ แล้วไปชมสีสันของฤดูใบไม้ร่วงแถบนิวอิงแลนด์ เราจะกลับถึงบ้านช่วงต้นเดือนกันยา ใช่ไหมคะที่รัก” รูปร่างหน้าตาสามีเธอ คล้ายสุนัขบอร์ซอยที่แมรี่เห็นตรงประตูรั้วมาก เหมือนแม้กระทั่งท่อนขา ผอมเก้งก้าง หัวไหล่งองุ้ม และจมูกยื่นยาวเหมือนตัวกินมด “ถ้าเราไม่เหนื่อยตายซะก่อน” เขาตอบ “คุณคงเห็นว่าเราแก่เกินกว่า จะท�ำอะไรแบบนี้ใช่ไหมคุณยาโก คุณอาจจะคิดถูกก็ได้ ผมน่ะปาเข้าไป แปดสิบสอง ส่วนมาดามคนนี้ก็เจ็ดสิบเก้าแล้ว” ลอนดอนซ่อนเงื่อน
31
“ยายฉันอายุมากกว่านี้อีกค่ะ แต่ก็ยังเดินทางบ่อยมาก” แมรี่ตอบ “โอ้ เฟรเดอริกาเพื่อนรัก! ถ้าเธอไปกับเราก็ดีน่ะสิ! แต่เธอยังอยู่ใน สวีเดนนี่นะ แล้วก็นัดสามีภรรยาแทร็ตตันมานานแล้วว่าจะไปเที่ยวเกาะครีต ด้วยกันเดือนหน้า บอกไม่ถูกเลยจริงๆ คุณยาโก ว่าเราซึ้งใจมากแค่ไหนที ่ เธอแนะน�ำคุณให้เรา ถ้าไม่มีคนไว้ใจได้มาอยู่บ้าน เราคงไปไหนไม่ได้ จริง ไหมคะที่รัก” เซอร์สจ๊วร์ต แบล็คเบิร์น-นอร์ริสตอบด้วยเสียงแห้งแล้งออมถ้อยค�ำ ว่าทั้งสองคงไปไม่ได้จริงๆ ถ้าไม่ได้เธอ เขาสนุกกับการจินตนาการแผน ฆาตกรรมเฟรเดอริกา ยาโก เพื่อนสนิทของภรรยาที่บันดาลให้การเดินทาง ยืดเยื้อนี้เกิดขึ้นได้ แค่แจ้งต�ำรวจเอาไว้ก็น่าจะได้ แถมพวกเขายังมีสุนัข อีกตัว หากจะเรียกกูชิว่าเป็นสุนัขได้ แต่ไม่มีอะไรดีเท่ากับการมีใครสักคน อยู่บ้าน หากไม่มีใครอยู่บ้าน แม้แต่ภรรยาเขาก็คงต้องทบทวนเรื่องที่จะทิ้ง บ้านไป แน่ละ ตัวเขาเองไม่อยากไปสักนิด เขาไม่เคยปิดบังเรื่องนี้กับเพื่อน ฝูงใกล้ชิด เขาอยากอยู่บ้าน อยากเดินทอดน่องไปสโมสรบนถนนบรูคทุกเช้า และรับประทานอาหารกลางวันที่นั่น อยากขึ้นรถแท็กซี่กลับมาที่สวนพาร์ค สแควร์ตอนบ่ายเพื่อคุยกับเพื่อนซึ่งเป็นผู้อ�ำนวยการคราวน์เอสเตทในห้อง ส่วนตัวโดยปราศจากคนรบกวน ณ อาคารรูปทรงเหมือนวิหารถัดจากปาก อุโมงค์เนอร์สเมดส์ อยากไปรับประทานอาหารค�่ำที่ร้านโอเด็ตต์สอาทิตย์ละ สามครั้ง ที่ร้านโอดินส์อีกสามครั้ง และที่ร้านมุมตาสทุกวันอาทิตย์ “คงเป็นไปไม่ได้” เขาพูดออกมาดังๆ แต่ไม่ได้อธิบายเพิ่มเติมเมื่อ หลานสาวเฟรเดอริกามองเขาเป็นเชิงถาม เขาสอนวิธีใช้เครื่องท�ำความร้อนให้เธอ ส่วนภรรยาสอนวิธีเปิดปิด เครื่องบันทึกวิดีโอ ทั้งสองมอบรายการหมายเลขโทรศัพท์ที่เป็นประโยชน์ ตลอดจนบริการต่างๆ ที่จ�ำเป็นให้เธอ พวกเขาสั่งเธอไม่ให้พากูชิออกไป เดินเล่นระหว่างแปดโมงถึงเก้าโมงเช้า หรือสี่โมงสิบห้าถึงห้าโมงสิบห้า ไม่ว่า ในกรณีใด บีนจะเป็นคนท�ำหน้าที่นั้นเอง แต่เธอสามารถพามันออกไปได้ช่วง เวลาอื่น หากเธอและตัวสุนัขเองต้องการและมีเรี่ยวแรงพอจะไป 32
ขจรจันทร์ แปล
“ฉันคงไม่พามันออกไปหรอกค่ะ” แมรี่บอก “ตอนกลางวันฉันต้อง ท�ำงาน” “อ้อ จริงสินะ เธอท�ำงานนี่นา” เซอร์สจ๊วร์ตเอ่ย ราวกับเพิ่งเคยได้ยิน ว่ามีผู้หญิงด�ำเนินชีวิตด้วยวิถีประหลาดเช่นนี้ ราวกับว่าผู้หญิงหนึ่งในพัน คนถูกบีบคั้นให้ท�ำเช่นนั้นด้วยเหตุผลที่ยากจะเข้าใจ หรือเป็นคุณสมบัติ เฉพาะตัวที่พบได้น้อยมาก “ที่พิพิธภัณฑ์เชอร์ล็อค โฮล์มส์บนถนนเบเกอร์ ใช่รึเปล่า” แมรี่หัวเราะ “เปล่า ไม่ใช่หรอกค่ะ ไม่ใช่เชอร์ล็อค โฮล์มส์ ไอรีน แอดเลอร์ ต ่ า งหาก ฉั น ท� ำ งานอยู ่ ที่ พิ พิ ธ ภั ณ ฑ์ ไ อรี น แอดเลอร์ ใ นซอย ชาร์ลส์เลนค่ะ” เธอคิดว่าชื่อนั้นน่าจะมีความหมายส�ำหรับคนทั้งคู่บ้าง แต่ เห็นชัดว่าไม่เลย “แถวย่านเซนต์จอห์นส์วู้ดน่ะค่ะ ฉันเดินไปจากที่นี่ได้” เซอร์ ส จ๊ ว ร์ ต ยื น กรานจะมองหาจุ ด นั้ น บนแผนที่ ภู มิ ศ าสตร์ เ มื อ ง ลอนดอน เขาค�ำนวณระยะทางประกอบการตัดสินใจว่ามันไกลเกินกว่า ที่เธอหรือใครสักคนจะเดินถึงหรือไม่ โดยเฉพาะคนที่ดูอ้อนแอ้นแบบบาง อย่างเธอ ตอนนี้เองที่บีนกลับมาพร้อมสุนัข ทั้งสองแนะน�ำตัวแล้วบีนก็พูด ขึ้นมาว่า “ถ้าอย่างนั้นก็เจอกันตอนแปดโมงสิบห้านะครับ คุณผู้หญิง” ไม่มีใครเคยเรียกเธอว่า ‘คุณผู้หญิง’ มาก่อน มันท�ำให้เธอรู้สึกเหมือน ตัวเองเป็นคุณหนูในครอบครัวสมัยวิกตอเรียในนิยาย เสียงพูดและการ ลูบตัวอย่างอ่อนโยนท�ำให้กูชิกระโจนเข้าหาเธอ แลบลิ้นเลียและซุกไซ้ใน อ้อมแขนเธอราวกับดอกไม้ช่อใหญ่ “ลงมานะ เจ้าหมาเกเร” เซอร์สจ๊วร์ตปราม “ท�ำไมถึงเรียกมันว่ากูชคิ ะ ชื่อนี้มาจากไหนเหรอ” แมรี่ถามขึ้นว่า “กูชิ ข่านปกครองทิเบตสมัยศตวรรษที่ 17 ใช่ไหมคะที่รัก” “พระเจ้าเท่านั้นที่รู้” เซอร์สจ๊วร์ตเอ่ย “เจ้าของคนแรกตั้งชื่อไว้ เป็น ฉันคงเรียกมันว่าแซม” แมรี่เดินเตร่ไปตามห้องต่างๆ ระหว่างที่สองสามีภรรยาแบล็คเบิร์น- นอร์ริสจัดกระเป๋าเป็นครั้งสุดท้าย บ้านหลังนี้สวยงาม สะดวกสบาย และ ลอนดอนซ่อนเงื่อน
33
ภูมิฐาน ตกแต่งอย่างมีเสน่ห์ชวนมอง แต่ไม่มีอะไรต่างจากบ้านและแฟลต นับพันหลังรอบสวนสาธารณะแห่งนี้ ผ้าลายดอกเงาเลื่อมสีสด ก�ำมะหยี ่ พรมวิลตันทอพิเศษ เครื่องกระเบื้องจีน เครื่องเงินจอร์เจียน กระเปาะดอก ป๊อปปี้และขนนกยูง เก้าอี้นวมตรึงกระดุมลายนูน โซฟาเอน โต๊ะกลมสมัย ศตวรรษที่ 18 เก้าอี้โบราณและอีกตัวที่น่าจะเป็นผลงานของดันแคน ไฟฟ์4 เธอรู้จักเครื่องเรือนเหล่านี้ดี และบางครั้งก็หวังจะได้เห็นอะไรที่ต่างไปจากนี ้ เธออยากเห็นการตกแต่งภายในที่ท�ำให้ประหลาดใจหรือทึ่งบ้าง แน่นอนว่า วันหนึ่งเธอจะมีบ้านเป็นของตัวเองให้ตกแต่ง หน้าต่างติดบานเกล็ดช่วยเพิม่ ความปลอดภัย ไม่มมี ่านลูกไม้ปิดซ่อน โครงลายตารางบนบานหน้าต่างหรือบดบังทิวทัศน์ เธอยืนทอดตามอง ไม้เลื้อยในสวนและสระน�้ำที่ตกแต่งงดงาม ถัดไปเป็นพื้นที่เขียวขจีซึ่งแบ่ง หมู่บ้านออกเป็นสองส่วน ช่วงนี้ของปี ต้นไม้ใหญ่และสุมทุมพุ่มไม้ล้วนอุดมสมบูรณ์ ดอกไม้ เลื้อยแผ่เกาะเกี่ยวผนังขึ้นสู่ที่สูงทุกหนแห่ง ก�ำแพงอิฐซ่อนตัวใต้ม่านใบสลับ ซับซ้อน ทุกสิ่งที่ปรากฏล้วนให้บรรยากาศแบบชนบทไกลห่าง หากมีอาคาร สูงระฟ้าข้างนอกนั่น มันก็จะถูกบดบังหมดสิ้นด้วยสีเขียวสดดังหยกและสี ทองอมเขียว ควันสีขาวจากเครื่องบินลากเป็นทางพาดเหนือแผ่นฟ้าสีคราม ดูคล้ายปุยเมฆสีขาว ดอกไลแล็คสีขาวชูช่อเบ่งบานอยู่ในสวนท่ามกลางดอกฟอร์ซีเทียที่ บานช้ากว่าปกติ และดอกสไพเรียที่พันเกี่ยวไปมาขาวสะพรั่งราวหิมะ เพราะ อะไรบางอย่าง ความงามของมันเพิ่มพูนความอ้างว้างขึ้นมาอย่างไม่คาดคิด เธอไม่ได้อยู่คนเดียวมานานมาก และจะต้องอยู่ตามล�ำพังในอีกครึ่งชั่วโมงนี้ แล้ว แน่นอนว่ามีกูชิด้วย แต่แมรี่ไม่ใช่คนประเภทที่เห็นว่าการมีสัตว์เป็น เพื่อนจะเทียบเท่ามนุษย์ เธอลูบหัวเจ้าสุนัข เพราะความคิดดังกล่าวออกจะ เป็นการหักหลังอยู่สักหน่อย 4
Duncan Phyfe (1768-1854) ผู้ประดิษฐ์เครื่องเรือนชาวอเมริกันสัญชาติสกอต แลนด์ - ผู้แปล 34
ขจรจันทร์ แปล
แท็ ก ซี่ ม าถึ ง เร็ ว กว่ า ที่ ค าด แมรี่ เ ปิ ด ประตู รั บ คนขั บ สามี ภ รรยา แบล็คเบิร์น-นอร์ริสยังอยู่ข้างบน ทันทีที่ได้ยินเสียง เซอร์สจ๊วร์ตก็ร้องบอก ให้คนขับรถขึ้นไปช่วยยกกระเป๋าเสื้อผ้า สถานการณ์โกลาหลวุ่นวายอยู่ห้า นาที คนขับแท็กซี่อ้างนู่นนี่แถมบ่นพึมเรื่องเจ็บหลัง เลดี้แบล็คเบิร์น-นอร์ริส เดินวนเวียนวุ่นวาย แล้วจู่ๆ ก็จูบลาแมรี่โดยไม่ทันตั้งตัว และไม่รู้ด้วยเหตุ ผลข้อใด เซอร์สจ๊วร์ตจึงเลือกสั่งเสียเธอเรื่องวิธีล็อกหน้าต่างในนาทีสุดท้ายนี้ ทั้งสองจากไป เจ้าสุนัขหลับแล้ว แมรี่ยืนมองออกไปนอกหน้าต่าง เป็นเวลานานหลังแท็กซี่แล่นลับสายตาไป บรรยากาศสงบนิ่ง เงียบสงัดอย่าง ชนบท แม้จะพยายามเงี่ยหูฟัง แต่เธอไม่ได้ยินจังหวะหรือเสียงครางใดๆ ของนครลอนดอน ภาพอลิสแตร์วาบขึ้นในสมอง แมรี่ครุ่นคิดว่าการกลัว คนที่ครั้งหนึ่งตนเคยรักเคยชื่นชมนั้นหมายถึงอะไร เป็นไปได้มากว่าค�่ำนี ้ เขาคงโทร.มา แมรี่สงสัยว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากเธอไม่รับโทรศัพท์ และปล่อย ให้มันดังอยู่อย่างนั้น แต่แล้วกลายเป็นว่าคนที่โทร.มาเป็นเพื่อนของสามี ภรรยาแบล็คเบิร์น-นอร์ริส ความคิดเรื่องการพูดคุยกับอลิสแตร์กลายเป็นเรื่องน่ากลัวขึ้นมา กะทันหัน บางทีเธอน่าจะออกไปเดินเล่น หรือไม่ก็ไปดูหนัง มีโรงภาพ- ยนตร์แห่งหนึง่ ใกล้สถานีรถไฟถนนเบเกอร์ และอีกสองแห่งในเมืองแคมเดน แต่เธอจะกลายเป็นคนไม่มีความรับผิดชอบหรือเปล่า หากทิ้งบ้าน ทิ้งสุนัขไว้ ทันทีที่มาถึง แมรี่ขึ้นไปชั้นบนแล้วลงมือรื้อเสื้อผ้าออกจากกระเป๋า ห้องนอนของเธอมองเห็นวิวสวนในบ้าน ตลอดจนสวนในพาร์ควิลเลจ อีสต์ เลยไปถึงทางรถไฟทอดสู่สถานีมอร์นิงตันเครสเซนท์ บอลลูนสีเหลือง สลับแดงลอยอยู่กลางฟ้าเหนือสถานียูสตัน เธอรือ้ เสือ้ ผ้าจากกระเป๋าใบแรก ออกมาแขวนในตู้ไม้มะฮอกกานีขายกสูงจากพื้น แล้วเก็บเสื้อผ้าในกระเป๋า ใบที่สองเข้าลิ้นชัก หยิบกางเกงสูทออกมา ใต้กางเกงคือโปสการ์ดจากย่าน ย็อคม็อคและจดหมายจากสถาบันฮาร์เวสต์ทรัสต์ แมรี่ทรุดตัวนั่งบนเตียง มองซองจดหมายในมือสองสามอึดใจก่อน เปิด เธอท�ำแบบนี้กับจดหมายจากสถาบันเสมอ เธออยากรู้แต่ก็กลัวที่จะรู ้ จึงมักลังเลเช่นนี้ เธอต้องตั้งสติเตรียมใจให้พร้อมก่อน แต่เราเตรียมใจให้ ลอนดอนซ่อนเงื่อน
35
พร้อมได้จริงน่ะหรือ ไม่ว่าจะเตรียมพร้อมขนาดไหน เรื่องเลวร้ายที่สุดที่เธอ กลัวว่าจะต้องรับรู้ ก็ยังน่าตกใจอยู่ดีมิใช่หรือ อลิสแตร์บอกว่าอยากให้ผู้ชายที่เธอรู้จักเพียงชื่อ ‘โอลิเวอร์’ ตายๆ ไปเสีย แน่นอน เขาไม่ได้หมายความอย่างนั้น เขาไร้เหตุผล ไม่เคยใส่ใจ เหตุผลหรอกถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับการบริจาคนั่น แต่ ‘โอลิเวอร์’ อาจตาย แล้วจริงๆ ก็ได้ จดหมายฉบับนี้อาจจะเขียนมาแจ้งเรื่องนั้น เธอได้ข่าวครั้งสุดท้ายตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ เธอหวนคิด ก่อนคริสต์- มาส...เดือนตุลาคมหรือไม่ก็พฤศจิกายน...กว่าหกเดือนมาแล้ว แน่นอนว่า นั่นเป็นเรื่องปกติ ทุกอย่างเป็นไปตามที่ควร เธอขอให้ทางสถาบันแจ้งข่าว มาหลังสามเดือน...หลังหกเดือน เก้าเดือน สิบสองเดือน แล้วก็สิบแปดเดือน ตั้งแต่การบริจาค ป่านนี้น่าจะผ่านมาเกินสิบแปดเดือนแล้ว...เกือบยี่สิบเดือน เห็นจะได้ เขาอาจจะตายแล้ว อัตราที่ประสบผลส�ำเร็จมีอยู่เพียงยี่สิบถึงห้าสิบ เปอร์เซ็นต์ ความจริงเขามีโอกาสตายมากกว่ารอด เธอเตรียมใจพร้อม หรือเกือบพร้อม แล้วกรีดรอยผนึกเปิดซองด้วยเล็บหัวแม่มือโดยเร็ว จดหมายมาจากเจ้าหน้าที่แผนกดูแลผู้บริจาคของฮาร์เวสต์ทรัสต์ เตือนให้รู้ว่าเธอ ‘ขอลดหย่อนการปิดบังตัวตนหลังผ่านไปหนึ่งปีครึ่ง หาก ทุกอย่างยังด�ำเนินไปด้วยดี’ ดังนั้น ทางสถาบันจะเปิดเผยชื่อและที่อยู่ของ เธอกับ ‘โอลิเวอร์’ ตามความยินยอมของเธอ รวมทั้งเปิดเผยชื่อและที่อยู ่ ของเขากับเธอด้วยตามความยินยอมของเขา หรือเมื่อรู้ที่อยู่ของ ‘โอลิเวอร์’ แล้ว เธออาจติดต่อเขาด้วยตัวเอง แนะน�ำให้ทั้งสองฝ่ายติดต่อกันก่อน จัดการนัดพบ เจ้าหน้าที่แผนกดูแลผู้บริจาคยินดีให้ความช่วยเหลือทุกทาง ที่เป็นไปได้ เธอหวังว่า ‘เฮเลน’ จะปรึกษาเธอหากเกิดปัญหาใดๆ และ ลงนามท้ายจดหมายว่าเดบอร่าห์ ค็อกซ์ แมรี่อ่านจดหมายฉบับนั้นอีกครั้ง เธอมีอะไรให้ท�ำในค�่ำคืนแรกแล้ว
36
ขจรจันทร์ แปล