วารสารประจาเดือน เมษายน ปี พ.ศ.2563 (องค์กรสาธารณประโยชน์)
รวม
วันที่
http://www.pavenafoundation.or.th
ข่มขืน/ ค้าประเวณี/ ทารุณกรรม/ ปัญหา กักขัง ยาเสพติด อนาจาร ค้ามนุษย์
เมษายน
2563
แรงงานไม่ ปัญหาสุขภาพ ได้รับ ปัญหา ขอความเป็น แช็ต/ เคสรวม ขอความ และ ปัญหาอื่น ๆ ผลกระทบ คนหาย เป็นธรรม/ ครอบครัว ธรรม อินเทอร์เน็ต อนุเคราะห์ สาธารณสุข (ราย) จากโควิด-19 ถูกหลอก
สถิ ติการรับเรื่องราวร้องทุกข์และขอความช่วยเหลือปัญหาต่าง ๆ ประจาเดือน ตัง้ แต่วนั ที่ 1 ถึง 30 เมษายน 2563
วารสารประจาเดือน เมษายน ปี พ.ศ.2563 (องค์กรสาธารณประโยชน์)
2
วารสารประจาเดือน เมษายน ปี พ.ศ.2563 (องค์กรสาธารณประโยชน์) นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ขอขอบคุณผู้มีจิตอันเป็นกุศลทุกท่านที่ร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือในการ ดาเนินงานช่วยเหลือสังคมของมูลนิธิปวีณาฯ ด้วยดีเสมอมา ทั้งที่บริจาคผ่านบัญชีและบริจาคผ่าน “กองทุนเครือข่ายช่วยเหลือสังคม” มูลนิธปิ วีณาฯ ได้จดั ทารายงานการดาเนินงานของมูลนิธปิ วีณาฯ สถิตกิ ารรับเรือ่ งราวร้องทุกข์ ประจาเดือนเมษายน พ.ศ. 2563 ทั้งสิ้น 1,261 เรื่อง ในการนี้ทางมูลนิธปิ วีณาฯ ขอรายงานตัวอย่างการช่วยเหลือเคส ผลการดาเนินงานและสถิติรับเรื่องราวร้องทุกข์ประจาเดือนเมษายน 2563 รวม 5 กรณี ดังนี้
1.
จ.สงขลา ปู่-ย่า ร้อง "ปวีณา" พ่อหื่นติดยาข่มขืนลูกสาวตัวเองที่พิการหลายครั้ง ล่าสุดคลั่งอาละวาดถือมีดขู่ฆ่ายก ครัว ต้องรีบหนีมาขออาศัยบ้านญาติ วอนช่วยเหลือเอาตัวไปดาเนินคดี หวั่นเป็นอันตรายไม่ปลอดภัย
วันอาทิตย์ที่ 5 เม.ย. ปู่และย่าของ น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 22 ปี ซึ่งพิการจากโรคโปลิโอ อาศัยอยู่ จ.สงขลา ร้องขอความช่วยเหลือมูลนิธิปวีณาฯ แจ้งว่า ตนอยู่กบั ลูกชายชื่อ นายบี (นาม สมมุติ) ติดยาเสพติดจนมีอาการประสาท ทั้งนี้นายบีก็มีลูกสาวพิการคือน.ส.เอ ที่ผ่านมาขณะที่ปู่ย่า ออกไปข้างนอก นายบีจะข่มขืนลูกสาวพิการเป็นประจา ครั้งล่าสุดน.ส.เอ ร้องตะโกนขอความ ช่วยเหลือจนญาติข้างบ้านได้ยนิ วิง่ มาช่วย และเป็นจังหวะที่ปู่ย่ากลับมาพอดี นายบีพยายามจะใช้มดี ทาร้ายและฆ่าทุกคน ปู่ย่าและญาติต้องพาน.ส.เอ หนีออกมาอยูบ่ ้านญาติที่อยู่ติดกัน หลังนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ รับเรื่องได้โทรสอบถามญาติน.ส.เอ ทราบว่า นาย บีได้ข่มขืนน.ส.เอหลายครั้งแล้ว น.ส.เอ กลัวมากตัวสัน่ ตลอดเวลา เพราะนายบีมีพฤติกรรมที่โหดร้าย เคยถูกจาคุกข้อหาฆ่าคนตายในลักษณะโหดเหี้ยม ฆ่าและแร่เนือ้ ผูช้ ายและข่มขืนแฟนของคนตายจนถูก จาคุก 13 ปีมาก่อน และได้ออกจากคุกมาประมาณ 2 ปี แต่พฤติกรรมไม่เปลีย่ นชอบถืออาวุธอยู่ในมือ ตลอดเวลาจนทาให้ญาติพี่น้องคนในละแวกนัน้ หวาดกลัว นางปวีณา จึงได้ประสาน พ.ต.อ.เอกณรงค์ สวัสดิกานนท์ ผกก.สภ.เมืองสงขลา ให้เข้าช่วยเหลือ ทันที โดย พ.ต.อ.เอกณรงค์ มอบหมายให้ พ.ต.ท.หญิง เกษร ศูนย์คล้าย สว.สอบสวน สภ.เมืองสงขลา นากาลังเข้าไปที่บ้านแต่นายบีไหวตัวทันหลบหนีไปก่อน เนื่องจากปู่ ย่า และญาติกลัวว่านายบีจะ กลับมาทาร้ายอีก นางปวีณา จึงประสาน นางสาวคอทรีหม๊ะ หะยีอารุณ พัฒนาสังคมและความมั่นคง ของมนุษย์จังหวัดสงขลา ขอให้น.ส.เอ และปู่ ย่า เข้าพักชั่วคราวทีบ่ ้านพักฉุกเฉินของกระทรวงการ พัฒนาสังคมฯ โดยขอให้ตารวจไปรับน.ส.เอ และปูย่ ่าจากที่บ้านญาติไปพักที่บ้านพักฉุกเฉินและให้ญาติ เฝ้าดูว่านายบีจะเข้าบ้านมาเมื่อใด ต่อมาประมาณ 2 ทุ่ม นายบีได้แอบเข้ามาในบ้านและนอนหลับตารวจจึงนากาลังเข้าจับกุมตัวได้และแจ้ง ข้อหา เสพยาเสพติด ไว้ก่อน และวันจันทร์ที่ 6 เม.ย. พ.ต.ท.หญิง เกษร ศูนย์คล้าย สว.สอบสวน สภ.เมือง สงขลา จะได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดสงขลา เพื่อออกหมายจับข้อหา ข่มขืน ลูกตนเอง ขณะเดียวกันพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสงขลาได้นา น.ส.เอ เข้าตรวจร่างกาย ฟื้นฟูสภาพจิตใจ และมูลนิธิปวีณาฯ จะร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ติดตามให้ความช่วยเหลือน.ส.เอ ต่อไปจนกว่าจะดาเนินชีวติ ได้อย่างเป็นปกติสุข
2. จ.ราชบุรี พลเมืองดีแจ้ง "ปวีณา" เด็กชายวัย 12 ปี ถูกพ่อเลี้ยงติดยาทุบตีน่วมทั้งตัว อีกทั้งไม้บรรทัดเหล็กตีจนศีรษะ แตก เพื่อนบ้านต้องช่วยเหลือส่งนารพ. ขณะที่แม่เด็กต้องโทษอยู่เรือนจา เกรงเด็กจะเป็นอันตรายไปมากกว่านี้ วันเสาร์ที่ 11 เม.ย.63 พลเมืองดีขอความช่วยเหลือมายังมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี แจ้งว่า ที่บ้านเช่าหลังหนึ่งใน ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ราชบุรี พบเด็กชายวัย 12 ปี สัญชาติเมียนมา ถูกพ่อเลี้ยงคนไทยติดยาเสพติดทาร้ายร่างกายเป็นประจา ล่าสุดพ่อเลี้ยงได้ใช้ไม้บรรทัดเหล็กตีที่ ศีรษะแตก และตีที่ลาตัวเด็กจนมีรอ่ งรอยฟกซ้าทั่วร่างกาย เพื่อนบ้านช่วยนาส่งโรงพยาบาลราชบุรี แล้ว ส่วนแม่เด็กต้องโทษคดียาเสพติดอยู่ในเรือนจา ขอมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยเหลือเด็กด้วยเนื่องจาก เกรงว่าเด็กจะเป็นอันตรายไปมากกว่านี้ พลเมืองดี เล่าอีกว่า ก่อนหน้านี้แม่เด็กอยู่กนิ กับสามีเก่าชาวเมียนมาด้วยกัน มีลูก 2 คน คือ เด็กชายวัย 12 ปี กับเด็กหญิงวัย 7 ปี จากนั้นก็มาอยู่กินกับพ่อเลีย้ งคนไทยรายนี้จนมีลูกด้วยกันอีก 1 คน เป็นเด็กชายวัย 2 ปี หลังแม่เด็กถูกจับคดียาเสพติด เด็กชายวัย 12 ปี กับน้องสาววัย 7 ปี จะอาศัยอยู่กับตายายที่อยูบ่ ริเวณใกล้ กัน แต่ ช่วงที่ตายายไปทางานพ่อเลีย้ งจึงจะรับเด็กทั้งหมดไปดูแล หลังรับเรื่องนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสาน พ.ต.อ.จุมพล สิกเสน ผกก.สภ.เมืองราชบุรี และนางสาวสุภลักษณ์ ภาระ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดราชบุรี ช่วยส่งเจ้าหน้าที่ตารวจ และเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กฯ ราชบุรี ลงพื้นที่เยีย่ มเด็กชายอายุ 12 ปี ที่โรงพยาบาลราชบุรี เพื่อให้การช่วยเหลือเด็กและดาเนินคดีกับผู้กระทาความผิด เบื้องต้นบ้านพักเด็กฯ ราชบุรี ได้ไปเยีย่ มเด็กชายที่ 3
วารสารประจาเดือน เมษายน ปี พ.ศ.2563 (องค์กรสาธารณประโยชน์) โรงพยาบาลพร้อมสอบถามข้อมูลเบื้องต้น ขณะที่เจ้าหน้าที่ตารวจสภ.เมืองราชบุรี ได้นาตัว พ่อเลี้ยงมาสอบสวนและตรวจปัสสาวะพบว่ามีสารเสพติดอยู่ในร่างกาย ซึ่งเจ้าตัวสารภาพว่า เสพยาเสพติดจริง เจ้าหน้าที่จึงดาเนินคดีข้อหา เสพยาเสพติด และจะได้รวบรวมพยานหลักฐาน ผลตรวจร่างกาย และสอบสหวิชาชีพเด็กชาย ก่อนจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ทาร้ายร่างกาย และใช้ ความรุนแรงในครอบครัว ขณะที่ตอนนี้ตายายของเด็กได้รบั ตัวหลานสาววัย 7 ขวบ ไปดูแลแล้ว และหลังจากเด็กชาย วัย 12 ปี อาการดีขนึ้ และได้ออกจากโรงพยาบาล ตายายก็จะรับไปดูแลด้วยอีกคน ซึ่งหลังจาก นี้ทางเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กฯ ราชบุรี จะต้องมีการไปเยีย่ มบ้านและประเมินความพร้อม ครอบครัวอีกเป็นระยะ ซึ่งทางมูลนิธิปวีณาฯ จะได้ติดตามความช่วยเหลือร่วมกับบ้านพักเด็กฯ ราชบุรีต่อไป ทัง้ นี้ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธปิ วีณาฯ ขอชืน่ ชมพลเมืองดีทไี่ ด้แจ้งขอความช่วยเหลือมายังมูลนิธิปวีณาฯ และพลเมืองดียังไปดูแลเฝ้าเด็กที่โรงพยาบาลอีกด้วย ขอบคุณพ.ต.อ.จุมพล สิกเสน ผกก.สภ.เมืองราชบุรี และ เจ้าหน้าที่ตารวจสภ.เมืองราชบุรที ุกนาย ที่ได้ปฏิบัติงานจับกุมผู้กระทาผิดอย่างรวดเร็ว และขอบคุณบ้านพัก เด็กฯ ราชบุรี ที่ได้บูรณาการให้การช่วยเหลือเด็กอย่างรวดเร็วและร่วมมือกันเป็นอย่างดี
3. จ.เชียงราย สาวท้อง 6 เดือน ร้อง "ปวีณา" สามีติดยาเลี้ยงด้วยลาแข้ง ทาร้ายทุบตี เตะ ถีบ กระทืบน่วมเกือบทุกวัน หวั่นตัวเองกับลูกเป็นอันตรายถึงชีวิต ขอมูลนิธปิ วีณาฯ ช่วยเหลือให้พ้นขุมนรก คืนวันอังคารที่ 14 เม.ย.63 นางสาวสวย (นามสมมุต)ิ อายุ 23 ปี แอบโทรมาร้องทุกข์มลู นิธปิ วีณาฯ แจ้งว่า ตนเองมีลูกสาววัย 3 ขวบ 1 คน ที่เกิดจากสามีเก่า ปัจจุบนั ตนมาอยู่กนิ กับนายแมน (นามสมมุติ) ชาวจ.เชียงราย ในบ้านพักของนายแมนที่อ.แม่สรวย อยู่กนั มาร่วม 1 ปีแล้ว และตนก็กาลังตั้งท้องลูกของ นายแมนได้ 6 เดือน แรกๆ นายแมนก็เป็นคนดีดูแลตัวเองกับลูกสาวดีทุกอย่าง ต่อมานายแมนเริ่มมี พฤติกรรมเสพยาเสพติดทุบตีทาร้ายตนเป็นประจา ทั้งเตะ ถีบ กระทืบ ทาร้ายจิตใจจนตนทนไม่ไหวแล้ว อยูต่ อ่ ไปตนกับลูกอาจจะตายก็ได้ อยากจะพาลูกกลับไปบ้านเกิดของตัวเองทีจ่ .นครปฐม ขอมูลนิธปิ วีณาฯ ช่วยเหลือด้วย หลังรับเรื่องกลางดึก นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสาน พ.ต.อ.จิตรกร ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา ผกก.สภ.แม่สรวย จ.เชียงราย ขอให้เข้าช่วยเหลือนางสาวสวย ที่กาลังตั้งท้อง 6 เดือน กับลูกสาววัย 3 ขวบ ต่อมาช่วงเช้าตรูว่ ันพุธที่ 15 เม.ย.63 พ.ต.อ.จิตรกร พร้อมกาลัง เจ้าหน้าที่ตารวจสภ.แม่สรวย ได้เดินทางไปที่บ้านของนายแมนและช่วยเหลือนางสาวสวยกับลูกสาว ออกมาได้ปลอดภัย โดย พ.ต.อ.จิตรกร ได้โทรศัพท์แจ้งมายังนางปวีณา พร้อมกับให้นางสาวสวยได้ พูดคุยกับนางปวีณา ซึ่งนางสาวสวยร้องไห้สะอึกสะอื้นด้วยความดีใจและกล่าวขอบคุณนางปวีณาที่ แจ้งตารวจให้เข้ามาช่วยได้รวดเร็ว ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตารวจสภ.แม่สรวย ได้นาตัวนายแมนไป สอบสวนและตรวจปัสสาวะปรากฎพบมีสารเสพติดอยู่ในร่างกาย จึงแจ้งข้อหาดาเนินคดี ทาร้าย ร่างกาย และเสพยาเสพติด สอบสวนนายแมนให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จากนั้น นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสาน นางสาวรัชนี ตรัยตรึงศ์โกศล พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดเชียงราย ส่งเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมฯ มารับนางสาวสวยและลูกสาวไปอยู่ในความดูแลชั่วคราวก่อนจะส่งกลับจ.นครปฐม เนือ่ งจากเป็น ช่วงที่มีพ.ร.ก.ฉุกเฉิน เฝ้าระวังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งนี้ทางมูลนิธิปวีณาฯ จะร่วมกับพัฒนาสังคมฯ เชียงราย และพัฒนา สังคมจ.นครปฐม ทางานบูรณาการร่วมกันเพื่อติดตามช่วยเหลือฟืน้ ฟูสภาพจิตใจนางสาวสวยกับลูกสาวให้กลับมาดารงชีวิตในสังคมได้อย่าง ปกติสุข และเยี่ยมครอบครัวดูความพร้อมศักยภาพว่าสามารถเป็นคุณแม่เลี้ยงเดีย่ วได้หรือไม่ รวมเรือ่ งค่าครองชีพที่จะต้องมีความพร้อมในการ เลี้ยงดูลูก ซึ่งมูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามและให้ความช่วยเหลือต่อไป ต่อมาเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมฯ เชียงราย ได้ช่วยเหลือพานางสาวสวยไปตรวจร่างกายร่องรอยบาดแผลถูกทาร้ายที่โรงพยาบาลเพื่อ ประกอบสานวนในการดาเนินคดีกับนายแมน และพานางสาวสวยไปจดทะเบียนหย่ากับนายแมนที่อาเภอตามทีน่ างสาวสวยร้องขอ ก่อนจะรับ ตัวเข้าอยู่ในความดูแลของศูนย์เรียนรูเ้ พื่อพัฒนาสตรีและครอบครัว ทั้งนี้การช่วยเหลือในการส่งกลับภูมิลาเนานัน้ เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถ ดาเนินการได้ เนื่องจากรถโดยสารตามเส้นทางหยุดวิ่งในช่วงโควิด-19 อาจต้องรอสถานการณ์ดีขนึ้ ถึงจะดาเนินการส่งกลับได้
4
วารสารประจาเดือน เมษายน ปี พ.ศ.2563 (องค์กรสาธารณประโยชน์) 4.
จ.ปทุมธานี ผอ.ศูนย์ชว่ ยเหลือสังคม เข้าพบ "ปวีณา" หลังเข้ารับตาแหน่ง พร้อมเยีย่ มดูงาน "มูลนิธปิ วีณาฯ" บูรณาการ ช่วยเหลือสังคมร่วมกัน
วันศุกร์ที่ 24 เม.ย.63 ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ถนนรังสิตนครนายก คลอง 7 อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี นายสนองวิชญ์ ภูวันทมาตย์ ผอ. ศูนย์ชว่ ยเหลือสังคม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, น.ส.นันท์นภัส ทวีโภคา นักสังคมสงเคราะห์ชานาญการ, น.ส.วสมน ทิพณีย์ นักสังคมสงเคราะห์ชานาญการ, นายพิทักษ์ บุญฤทธิ์ หัวหน้าบ้านพักเด็กและ ครอบครัวจังหวัดปทุมธานี เข้าพบ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ เพื่อประชุมหาแนวทางช่วยเหลือสังคมกรณีผู้ได้รบั ผลกระทบจากสถานการณ์ โควิด-19 ทัว่ ประเทศ และเรือ่ งเคสทีร่ อ้ งทุกข์ขอความช่วยเหลือผ่านมูลนิธปิ วีณาฯ เพือ่ หามาตราการบูรณาการให้ความช่วยเหลือร่วมกันอย่างครบวงจร โดย นายสนองวิชญ์ ภูวนั ทมาตย์ ผอ.ศูนย์ชว่ ยเหลือสังคม กระทรวงการพัฒนา สังคมฯ เพิ่งเข้ารับตาแหน่ง จึงได้มาแนะนาตัวและเยีย่ มดูงานการช่วยเหลือเด็ก สตรี ผู้ที่ไม่ได้รบั ความเป็นธรรม และผู้ที่ได้รบั ผลกระทบจากโควิด-19 ที่ มูลนิธิปวีณาฯ สุดท้าย นางปวีณา ขอขอบคุณกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ที่ได้ ทางานบูรณาการร่วมกับมูลนิธิปวีณาฯ อย่างรวดเร็วและมีคุณภาพ
5.
จ.พิษณุโลก แม่ลกู สองเมืองพิษณุโลก ร้อง "ปวีณา" ผัวเลือดร้อนโมโหขัดใจ ขณะเมียนัง่ ทากับข้าวอยูผ่ วั คว้ามีดไล่ฟนั ก่อนใช้น้ามันร้อนๆ ในกระทะราดแขนบาดเจ็บหลังก่อเหตุหลบหนีไป
วันพุธที่ 29 เม.ย.63 นางน้อย (นามสมมุติ) อายุ 39 ปี ชาวอ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ร้องทุกข์มายัง มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี แจ้งว่า ช่วงเย็นวันอาทิตย์ที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่ตนเองกาลังนั่ง ทากับข้าว อยู่กับลูกสาว อายุ 13 ปี จู่ๆ นายเอก (นามสมมุต)ิ อายุ 40 ปี สามีตนได้เดินเข้ามาเรียกลูกสาวให้ ไปหยิบของ แต่ตนได้บอกว่าให้ไปหยิบเองได้หรือไม่เพราะลูกสาวกาลังช่วยงานอยู่ เป็นเหตุให้นายเอกไม่พอใจ เดินไปคว้ามีดทาครัวมาจะฟันตน ลูกสาวเห็นเข้าจึงได้เข้าห้ามปราม แต่ยิ่งทาให้นายเอกโกรธจัดหันไปคว้า กระทะที่ตั้งเตาไฟมีน้ามันร้อนๆ มาราดใส่ตนบริเวณหัวไหล่ขวาจนได้รับบาดเจ็บผิวหนังไหม้ ปวดแสบปวดร้อน เป็นแผลพุพองตั้งแต่หัวไหล่ขวาลงมาที่แขน หลังก่อเหตุนายเอกได้หลบหนีไป จากนั้นตนเองก็ตั้งสติขี่รถจักรยานยนต์ไปที่รพ.พรหมพิราม เพื่อทาแผลและแพทย์ให้นอนดูอาการ ตนอยู่รพ.ได้ 2 วัน ก็ขอแพทย์กลับบ้านเพราะเป็นห่วงลูก จากนัน้ ได้นาลูก 2 คนไปฝากไว้กบั ยาย เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย ตัง้ แต่อยู่กนิ กันมานายเอกมีนสิ ัยเป็นคนอารมณ์ร้ายเมื่อไม่พอใจอะไรก็ จะใช้กาลัง หลังเกิดเหตุแจ้งความไว้แล้วที่สภ.พรหมพิราม ขอให้มูลนิธิปวีณาฯ ช่วยติดตามคดีให้ด้วย หลังรับเรื่อง นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสาน พ.ต.อ.สมพงษ์ ประดิษฐ์วรกุล ผกก.สภ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ช่วยให้ความเป็นธรรมและดูแลความปลอดภัยนางน้อยกับลูกๆ ด้วย และติดตามตัวนายเอก สามี มาดาเนินคดี เนือ่ งจากนางน้อยและลูกๆ ยังหวาดกลัวเกรงจะไม่ปลอดภัย ด้าน พ.ต.อ.สมพงษ์ จึงได้นดั ให้นางน้อยเข้าพบและให้ปากคา ซึ่งนางน้อยได้เดินทางไปพร้อมกับลูกสาวทั้ง 2 คน และนางน้อยได้แจ้งกับทางพ.ต.อ.สมพงษ์ ว่า ที่แรกตั้งใจจะดาเนินคดีกบั นายเอก แต่ลูกๆ ได้ขอร้องไม่ให้ ดาเนินคดีกบั พ่อ เพราะเกรงว่าจะไม่มีใครส่งเสียค่าเล่าเรียนให้ เพราะแม่ไม่มีงานประจา ตนจึงสงสารลูกขอให้ พ.ต.อ.สมพงษ์ เรียกสามีมาเจรจาให้ช่วยส่งเสียค่าเลี้ยงดูลูกทั้ง 2 คน และแยกทางกันด้วยดี ต่อมาวันศุกร์ที่ 1 พ.ค.63 พ.ต.อ.สมพงษ์ ประดิษฐ์วรกุล ผกก.สภ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ได้นัดนางน้อย ผู้เสียหาย และนายเอก สามี มาเจรจาตกลงกัน ซึ่งผลการเจรจาตกลงกันได้ด้วยดี โดยนายเอกยอมช่วยเหลือค่า เลี้ยงดูลูก 2 คน เดือนละ 2,000 บาท จนกว่าจะบรรลุนิติภาวะโดยลูกสาวทั้ง 2 คน จะอาศัยอยู่กับแม่ ซึ่งนาง น้อยก็ไม่ติดใจกับเหตุทะเลาะและทาร้ายร่างกาย และจากนี้จะแยกกันอยู่โดยไม่ยุ่งเกี่ยวกันอีกต่อไป. 5