วารสารมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ประจำเดือน กุมภาพันธ์ 2563

Page 1

วารสารประจาเดือน กุมภาพันธ์ ปี พ.ศ.2563 (องค์กรสาธารณประโยชน์)

มู ล นิ ธิ ป วี ณ าฯ ท าบุ ญ ครบรอบ 21 ปี วันอาทิตย์ที่ 1 มี.ค.63 นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ทาบุญครบรอบ 21 ปี ในการก่อตัง้ มูลนิธปิ วีณาฯ และทอดผ้าป่าการกุศลเพือ่ หารายได้ เพือ่ ดาเนินการปรับปรุงและพัฒนาระบบงานของมูลนิธปิ วีณาฯ ให้รองรับการรับเรื่องราวร้องทุกข์จากทุกช่องทางการสื่อสารที่หลากหลายตามเทคโนโลยีอันทันสมัย ประกอบด้วย 1.จัดตั้ง ระบบรับเรื่องราวร้องทุกข์ระบบดิจิทัล เช่น บันทึกเสียงรับเรื่องร้องทุกข์ และเก็บฐานข้อมูลแบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อยกระดับ การดาเนินงานช่วยเหลือเด็ก สตรี และผู้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมให้มีประสิทธิภาพทันต่อสถานการณ์มากยิ่งขึ้น เป็นเงิน 393,140 บาท 2.ค่าใช้จ่ายในการดาเนินกิจการมูลนิธิฯ เพื่อช่วยเหลือเด็ก สตรี และผู้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ประมาณ เดือนละ 350,000 บาท และ 3.งานปรับปรุงศาลาเจ้าแม่กวนอิมที่ทรุดโทรม เพื่อให้บรรดาพุทธศาสนิกชนที่มาร้องทุกข์ได้ สักการะบูชา ณ ที่ทาการมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ถนนรังสิต-นครนายก คลอง 7 อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เป็นเงิน 242,100 บาท มูลนิธิปวีณาฯ ขอขอบคุณ ท่านผู้มีจิตอันเป็นกุศลที่ได้มาร่วมงานทาบุญ ทั้งผู้ที่ไม่สามารถมาร่วมงานและได้บริจาค เงินทาบุญร่วมทอดผ้าป่าในครั้งนี้ ซึ่งมียอดรวม 1,727,289.- บาท (หนึ่งล้านเจ็ดแสนสองหมื่นเจ็ดพันสองร้อยแปดสิบเก้าบาท) นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ขอขอบคุณภาครัฐ เอกชน ประชาชน สื่อมวลชน ที่ได้ให้ความร่วมมือกับ มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ในการดาเนินการช่วยเหลือสังคมด้วยดีตลอดระยะเวลา 21 ปี โดยเฉพาะพลเมืองดีทไี่ ด้ แจ้งเบาะแสช่วยเหลือสังคมกับมูลนิธปิ วีณาฯ รวมทัง้ ขอบคุณทุกท่านทีม่ จี ติ ศรัทธาร่วมบริจาคเงินเพือ่ ให้มลู นิธฯิ สามารถ ดาเนินการช่วยเหลือสังคมต่อไป ขออานาจคุณพระศรีรตั นตรัยและสิง่ ศักดิส์ ทิ ธิใ์ นสากลโลก ได้โปรดประทานพรให้ท่านและ ครอบครัวจงประสพแต่ความสุขความเจริญ ความก้าวหน้ามั่นคงในชีวิต มีสุขภาพพลานามัยที่แข็งแรง สัมฤทธิ์ผลในสิ่งที่พึง ปรารถนาทุกประการตลอดไป


วารสารประจาเดือน กุมภาพันธ์ ปี พ.ศ.2563 (องค์กรสาธารณประโยชน์)

ii


วารสารประจาเดือน กุมภาพันธ์ ปี พ.ศ.2563 (องค์กรสาธารณประโยชน์)

iii


วารสารประจาเดือน กุมภาพันธ์ ปี พ.ศ.2563 (องค์กรสาธารณประโยชน์)

iv


วารสารประจาเดือน กุมภาพันธ์ ปี พ.ศ.2563 (องค์กรสาธารณประโยชน์)

งานปรั บ ปรุ ง ศาลาเจ้ า แม่ ก วนอิ ม ที่ ท รุ ด โทรม

งานปรับปรุงศาลาพระแม่กวนอิม ทีท่ รุดโทรม เพือ่ ให้บรรดาพุทธศาสนิกชน ทีม่ าร้องทุกข์ได้สกั การะบูชา ณ ทีท่ าการ มูลนิธปิ วีณาหงสกุลเพือ่ เด็กและสตรี ถนนรังสิต-นครนายก คลอง 7 อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เป็นเงิน 242,100 บาท

v


วารสารประจาเดือน กุมภาพันธ์ ปี พ.ศ.2563 (องค์กรสาธารณประโยชน์)

งานติ ด ตั้ ง ระบบรั บ เรื่ อ งราวร้ อ งทุ ก ข์ ร ะบบดิ จิ ทั ล

จัดตัง้ ระบบรับเรือ่ งราวร้องทุกข์ระบบดิจทิ ลั เช่น บันทึกเสียงรับเรือ่ งร้องทุกข์ และเก็บฐานข้อมูลแบบ อิเล็กทรอนิกส์ เพือ่ ยกระดับการดาเนินงานช่วยเหลือเด็ก สตรี และผูท้ ไี่ ม่ได้รบั ความเป็นธรรมให้มปี ระสิทธิภาพทันต่อ สถานการณ์มากยิง่ ขึน้ พัฒนาระบบสารสนเทศเพือ่ ประโยชน์ในการประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ เช่น สานักงานตารวจ แห่งชาติ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมัน่ คงของมนุษย์ กระทรวงศึกษาธิการ สถาบันทางวิชาการ เป็นต้น รวมทัง้ ประมวลผลข้อมูล สถิติ เพือ่ ประโยชน์ในการพัฒนางานให้บริการ งานวิจยั งานวิชาการ และประกอบการวางแผนพัฒนาสังคม และสวัสดิการของประเทศของภาครัฐ ต่อไป โดยงบประมาณในการพัฒนาดังกล่าว เป็นเงิน 393,140 บาท

vi


วารสารประจาเดือน กุมภาพันธ์ ปี พ.ศ.2563 (องค์กรสาธารณประโยชน์)


3 4 5 6 7 10 11 12 13 14 17 18 19 20 21 24 25 26 27 28 รวม

วันที่

กุมภาพันธ์ 2563

2

2 2 2 2 2 2 1 1 14

6 3 4 4 3 2 2 3 9 4 6 4 1 14 5 3 2 9 84

http://www.pavenafoundation.or.th

5 2 3 1 6 6 3 2 9 2 3 6 14 2 1 4 69

1 2 1 1 1 1 1 1 1 2 1 1 1 1 2 1 19

1 1 1 1 1 1 1 1 2 3 1 1 15 3 1 1 2 7

19 7 4 7 7 9 7 10 9 8 7 1 6 7 16 5 7 3 6 145

5 3 4 2 3 9 1 2 5 2 2 3 3 1 7 4 2 6 2 66 1 2 1 1 1 1 1 1 9

5 3 1 2 2 3 3 1 3 7 9 6 4 5 4 7 3 4 5 5 82

2 1 1 1 1 3 1 1 11

1 1 1 1 1 5

47 21 16 17 20 33 22 23 21 24 38 18 19 20 21 68 22 24 22 30 526

แรงงานไม่ ปัญหาสุขภาพ ข่มขืน/ ค้าประเวณี/ค้า ทารุณกรรม/ ปัญหา ขอความเป็น แช็ต/ ขอความ เคสรวม ปัญหายาเสพติด คนหาย เป็นธรรม/ถูก และ ปัญหาอื่น ๆ กักขัง อนาจาร มนุษย์ ครอบครัว ธรรม อินเทอร์เน็ต อนุเคราะห์ สาธารณสุข (ราย) หลอก

สถิ ติการรับเรื่องราวร้องทุกข์และขอความช่วยเหลือปัญหาต่างๆ ประจาเดือน ตัง้ แต่วนั ที่ 3 ถึง 28 กุมภาพันธ์ 2563

วารสารประจาเดือน กุมภาพันธ์ ปี พ.ศ.2563 (องค์กรสาธารณประโยชน์)


วารสารประจาเดือน กุมภาพันธ์ ปี พ.ศ.2563 (องค์กรสาธารณประโยชน์) นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ขอขอบคุณผู้มีจิตอันเป็นกุศลทุกท่านที่ร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือในการ ดาเนินงานช่วยเหลือสังคมของมูลนิธิปวีณาฯ ด้วยดีเสมอมา ทั้งที่บริจาคผ่านบัญชีและบริจาคผ่าน “กองทุนเครือข่ายช่วยเหลือสังคม” มูลนิธปิ วีณาฯ ได้จดั ทารายงานการดาเนินงานของมูลนิธปิ วีณาฯ สถิตกิ ารรับเรือ่ งราวร้องทุกข์ ประจาเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 ทั้งสิ้น 526 เรือ่ ง ในการนี้ทางมูลนิธปิ วีณาฯ ขอรายงานตัวอย่างการช่วยเหลือเคส ผลการดาเนินงานและสถิติรับเรื่องราวร้องทุกข์ประจาเดือนกุมภาพันธ์ 2563 รวม 10 กรณี ดังนี้

1.

จ.สกลนคร แม่กบั น้องของหญิงสาวโชคร้ายถูกสามีเมายาซ้อมน่วมจนเสียสติ ร้อง "ปวีณา" ขอช่วยติดตามคดีเอาผิด "ลูกเขยโหด" ให้ถึงที่สุด และคุ้มครองความปลอดภัยครอบครัว หวั่น "ลูกเขยโหด" ได้ประกันหรือพ้นโทษจะกลับมา ทาร้าย

วันพฤหัสบดีที่ 6 ก.พ.63 แม่กับน้องสาวของหญิงสาวโชคร้ายที่ ถูกสามีทาร้ายสะบักสะบอมเสียสติ จนต้องเข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่ โรงพยาบาลวานรนิวาส จ.สกลนคร เดินทางมาจาก จ.สกลนคร เข้าพบ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธปิ วีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เพือ่ ขอบคุณทีช่ ว่ ยติดตามคดี หลังจากก่อนหน้านีท้ างน้องสาวได้มกี ารแชร์โพสต์ ลงในโซเชียลและแจ้งขอความช่วยเหลือมายังเพจมูลนิธิปวีณาฯ และ นางปวีณาได้ประสานการช่วยเหลือไปยัง พ.ต.อ.สุนันท์ สร้อยสุด ผกก.สภ. พังโคน จ.สกลนคร จนมีการจับกุมตัวสามีมาดาเนินคดีแล้ว นอกจากนี้ทาง แม่ยังได้แจ้งอีกว่า กังวลเรื่องความปลอดภัยหากผู้ต้องหาได้รับการประกัน ตัวหรือพ้นโทษออกมาจะกลับมาทาร้ายลูกสาวอีก ขอให้มูลนิธิปวีณาฯ ประสานความช่วยเหลือให้ครอบครัวได้รับความปลอดภัย และฟื้นฟูสภาพ จิตใจลูกสาวด้วย จากนั้น นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสานไปยัง พ.ต.อ.สุนันท์ สร้อยสุด ผกก.สภ.พังโคน อีกครั้ง เพื่อขอให้ช่วยคุ้มครอง ความปลอดภัยให้กับหญิงสาวที่บาดเจ็บและครอบครัว โดยทางพ.ต.อ.สุนันท์ จะได้สงั่ การให้เจ้าหน้าทีต่ ารวจสายตรวจเข้าไปดูแลทีบ่ า้ นผูเ้ สียหายเพือ่ ความสบายใจ สาหรับเรื่องคดีตารวจได้แจ้งข้อหาสามี เสพยาเสพติด และทาร้ายร่างกาย ขณะเดียวกัน นางปวีณา ยังได้ประสานไปยัง นางจิราพร สุวรไตร หัวหน้า บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสกลนคร ขอให้ช่วยดูแลฟื้นฟูสภาพจิตใจ ผู้เสียหายและครอบครัวให้กลับมาเป็นปกติสุข ซึ่งทางมูลนิธิปวีณาฯ จะติดตาม การช่วยเหลืออย่างใกล้ชิดต่อไป.

2. กรุงเทพฯ แม่พาลูกสาววัย 14 ปี นักเรียนชั้นม.3 ร้อง “ปวีณา” ถูกนักเรียนชายห้องเดียวกันลวงไปล่วงละเมิด ทางเพศบนชั้น 4 อาคารเรียนหลังเก่า ระหว่างที่โรงเรียนจัดกิจกรรม ก่อนถ่ายคลิปไว้แบล็กเมล์ วันพฤหัสบดีที่ 6 ก.พ.63 ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี นางแหม่ม (นามสมมุติ) อายุ 32 ปี พาเด็กหญิงใหม่ (นามสมมุติ) ลูกสาววัย 14 ปี นักเรียนชั้นม.3 โรงเรียนแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เข้าร้องทุกข์ต่อ นาง ปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ โดยนางแหม่ม แจ้งว่า ช่วงสายของ วันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา ลูกสาวถูกนายเอก (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี เพื่อนที่ เรียนอยู่ห้องเดียวกันหลอกพาไปล่วงละเมิดทางเพศที่ชั้น 4 ของอาคารเรียน หลังเก่าและถ่ายคลิปเก็บไว้เพื่อข่มขู่อีกด้วย หลังเกิดเหตุนายเอกยังได้ส่ง คลิปลับมาข่มขูล่ ูกสาวให้ออกไปพบมิฉะนั้นจะเผยแพร่คลิปในโซเชียล ทาให้ ลูกสาวกลัวจนไม่กล้าไปโรงเรียนอีก ตอนนี้ได้แจ้งความไว้แล้วทีส่ น.บางเขน ขอให้มูลนิธิปวีณาฯ ช่วยเหลือติดตามคดี 3


วารสารประจาเดือน กุมภาพันธ์ ปี พ.ศ.2563 (องค์กรสาธารณประโยชน์) หลังรับเรื่อง นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสาน พ.ต.อ.อรรถพล มีเสียง ผกก.สน.บางเขน เพื่อให้พนักงานสอบสวน ส่งตัวเด็กหญิงใหม่ไปตรวจร่างกายที่รพ.ตารวจ และจัดสอบสหวิชาชีพเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานหาข้อเท็จจริงและให้ความเป็นธรรมกับ ครอบครัวเด็กหญิงใหม่ด้วย พร้อมกันนี้ นางปวีณา ยังได้ประสาน ดร.ชนะ สุ่มมาตย์ ผู้อานวยการศูนย์เฉพาะกิจคุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียน (ผอ.ฉก.ชน.สพฐ.) สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ส่งทีมเฉพาะกิจคุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียน (ฉก.ชน.สพฐ.) ไป ตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยในสถานศึกษา เพื่อป้องกันเหตุไม่ให้เกิดเรื่องซ้าอีก วันศุกร์ที่ 7 ก.พ.63 นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้เชิญทีมเฉพาะกิจคุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียน (ฉก.ชน.สพฐ.), ผู้อานวยการโรงเรียนและคณะครูโรงเรียนที่เกิดเหตุ, สานักงานเขตพืน้ ที่การศึกษาประถมศึกษากรุงเทพฯ และนางแหม่มกับลูกสาว มาประชุม เพื่อหาแนวทางการช่วยเหลือเด็กหญิงใหม่ โดยสรุปทางโรงเรียนจะจัดการเรียนการสอนเป็นกรณีพเิ ศษให้โดยฝากการบ้านไปกับญาติที่เรียนอยู่ ห้องเดียวกันและให้ครูตดิ ตามการเรียนเป็นระยะหลังจากนี้จนกว่าการสอบปลายภาคจะเสร็จสิ้น และทางทีมเฉพาะกิจคุ้มครองและช่วยเหลือ นักเรียน (ฉก.ชน.สพฐ.) ได้จัดหาสถานศึกษาสายอาชีพ ระดับปวช. ให้กับเด็กหญิงใหม่หลังจบม.3 อีกด้วย ต่อมาวันอังคารที่ 11 ก.พ.63 เจ้าหน้าที่ตารวจได้นาตัวนายเอกพร้อมกับผู้ปกครองมาสอบถามเบื้องต้นและจัดสอบสหวิชาชีพ โดย นายเอกให้การรับสารภาพ เจ้าหน้าที่ตารวจจึงดาเนินคดีข้อหา กระทาชาเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี และนาตัวส่งศาลเยาวชนฯ ดาเนินการ ตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

3.

จ.กาแพงเพชร พลเมืองดีแห่แชร์คลิปขอความช่วยเหลือ “ปวีณา” พบเด็กน้อย 1 ขวบถูกทาร้าย “ปวีณา” ประสาน บ้านพักเด็กฯ กาแพงเพชร ตารวจสภ.คลองลาน ทราบว่าให้การช่วยเหลือเด็กปลอดภัยแล้ว

วันพฤหัสบดีที่ 13 ก.พ.63 โลกโชเชี่ยลมีการแชร์คลิปเด็กชายอายุประมาณ 1 ขวบ ถูกทาร้าย ภายในห้องพักทั้งตบหน้าและถูกเท้าถีบที่ลาตัวจนร้องไห้จ้า และผู้ทกี่ ระทาก็ด่าทอรุนแรง “เมื่อไหร่แม่มึง จะมารับ” จนมีการแชร์ออกไปในวงกว้าง และชาวเน็ตพลเมืองดีได้ส่งข้อมูลและเบาะแสว่าบ้านทีเ่ กิดเหตุ อยู่ในพื้นที่อ.คลองลาน จ.กาแพงเพชร มาขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ หลังรับเรื่องนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ห่วงใยความปลอดภัยเด็กอย่างยิ่งจึงได้ ประสานไปยัง พ.ต.อ.ฐมฌ์พงศ์ เพ็ชร์พิรุณ ผกก.สภ.คลองลาน จ.กาแพงเพชร และให้เบาะแสตามที่ พลเมืองดีแจ้งเพื่อให้ตรวจสอบและช่วยเหลือเด็กทันที ขณะเดียวกันนางปวีณา ก็ได้ประสาน นางสาวชมนภัส คงสัมฤทธิ์ หัวหน้าบ้านพักเด็กและ ครอบครัวจังหวัดกาแพงเพชร ทราบว่า ทางบ้านพักฯ ก็ได้รับเรื่องดังกล่าวด้วยเช่นกัน จึงได้ประสานงาน กับนายอาเภอคลองลาน, ตารวจสภ.คลองลาน และพัฒนาสังคมฯ กาแพงเพชร ลงพื้นที่และพาแม่ของ เด็กที่ถูกทาร้ายซึ่งอายุเพียง 17 ปี และเพิ่งเดินทางมาจากจ.ชลบุรี เดินทางไปบ้านที่เกิดเหตุ และ ช่วยเหลือเด็กไว้ได้ปลอดภัย ต่อมา พ.ต.อ.ฐมฌ์พงศ์ ได้รายงานมายัง นางปวีณา ว่า ผู้ที่ก่อเหตุเป็นด.ช.อายุ 14 ปี และเป็น ลูกพี่ลูกน้องกับแม่เด็ก โดยแม่เด็กได้นาลูกมาฝากไว้กับอา (พ่อของด.ช.อายุ 14 ปี) เป็นเดือนแล้วและไม่ กลับมารับลูก ด.ช.อายุ 14 ปี จึงได้ถ่ายคลิปส่งให้แม่เด็กเพื่อเรียกร้องให้กลับมาดูลูกของตัวเองบ้าง ทั้งนี้ จากการพาเด็กไปตรวจร่างกายทีร่ พ.คลองลาน ไม่พบร่องรอยบาดแผลแต่อย่างใด โดยหลังให้การ ช่วยเหลือแม่และเด็กจะเข้ารับการดูแลที่บ้านพักเด็กฯ กาแพงเพชร ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ประชุมหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือระยะยาวต่อไป

4


วารสารประจาเดือน กุมภาพันธ์ ปี พ.ศ.2563 (องค์กรสาธารณประโยชน์) 4.

จ.บุรีรัมย์ สาวบุรีรัมย์ร้อง “ปวีณา” สามีใหม่ที่เลิกราตามราวีเพื่อให้กลับไปอยู่ด้วย ฉุนถูกปฏิเสธเย้ยให้เจ็บใจบอกล่วง ละเมิดทางเพศลูกสาววัย 11 ขวบ ไปแล้วหลายครั้ง ตอนมีสถานะเป็นพ่อเลีย้ ง แถมขู่ฆ่าเด็กไม่ให้บอกใคร ขอช่วยให้ ความเป็นธรรมติดตามคดีประสานตารวจจับกุมตัวมารับกรรมที่ก่อไว้

วันจันทร์ที่ 13 ม.ค.63 นางพิม (นามสมมุติ) อายุ 30 ปี ชาวอ.พุทไธสง จ.บุรีรมั ย์ ร้องทุกข์มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี แจ้งว่า ถูกนายหนึ่ง (นามสมมุติ) อายุ 24 ปี สามีใหม่ทเี่ ลิกรากันเมือ่ หลายเดือนก่อนตามราวีอยูต่ ลอดเพราะต้องการให้ตนกลับไปอยูก่ นิ กัน อีกครั้ง แต่ตนปฏิเสธไปทาให้นายหนึ่งโกรธแค้นอย่างมาก ก่อนจะพูดจาข่มขู่และพูดให้เจ็บใจ โดยบอกว่าได้ล่วงละเมิดทางเพศ ด.ญ.หน่อย (นามสมมุติ) อายุ 11 ปี ลูกสาวของตนที่เกิดกับ สามีเก่าช่วงตอนที่อยู่ด้วยกันหลายครั้งแล้ว จากนั้นตนได้ไปถามลูกสาวก็ยอมรับว่าถูกกระทา จริง ที่ผ่านมาไม่กล้าบอกใครเพราะถูกขู่ฆ่า และได้พาลูกสาวไปแจ้งความไว้ที่ สภ.พุทไธสง จ.บุรีรมั ย์ โดยตารวจได้ส่งด.ญ.หน่อยไปตรวจร่างกายและนัดสอบสหวิชาชีพในวันที่ 16 ม.ค.63 ซึ่งตนอยากขอให้มูลนิธิปวีณาฯ ให้ความเป็นธรรมและช่วยติดตามทางด้านคดีให้ด้วย หลังรับเรื่อง นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสาน พ.ต.อ.ณัฏฐพล ดารงค์วัชรศักดิ์ ผกก.สภ.พุทไธสง จ.บุรีรมั ย์ ตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ความเป็นธรรมกับด.ญ.หน่อย และมารดาด้วย จากนั้นพนักงานสอบสวนสภ.พุทไธสง ได้จัดสอบสหวิชาชีพด.ญ.หน่อย ซึ่ง เด็กหญิงให้การชัดเจน ก่อนจะรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับ นายหนึ่ง พ่อเลี้ยง ในข้อหา กระทาชาเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน 13 ปี และ ตารวจสภ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ ได้ประสานงานตารวจ สืบสวนภูธรจังหวัดปทุมธานี ร่วมกันจับกุมตัวนายหนึง่ ขณะหลบหนีได้ในพืน้ ทีจ่ .ปทุมธานี ก่อนส่งตัว ไปดาเนินคดีที่สภ.พุทไธสง จ.บุรีรมั ย์ ต่อไป.

5.

กรุงเทพฯ “ปวีณา” ประชุมร่วมกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์, สถานคุม้ ครองสวัสดิภาพผู้เสียหายจาก การค้ามนุษย์ และกองต่อต้านการค้ามนุษย์ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เพื่อบูรณาการทางานร่วมกันในการช่วยเหลือ เหยื่อการค้ามนุษย์รูปแบบต่างๆ ที่ร้องทุกข์ผ่านมูลนิธปิ วีณาฯ

เมื่อเร็วๆ นี้ นางปวีณา หงสกุล ประธาน มูลนิธิปวีณาฯ ได้เดินทางไปที่กองบังคับการปราบปราม การค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) หลังนัดหมายประชุมร่วมกับ พล.ต.ต.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบก.ปคม. พ.ต.อ. มานะ กลีบสัตบุศย์ รอง ผบก.ปคม. และคณะพนักงาน สอบสวน ปคม. เพื่อติดตามคดีที่มผี ู้ร้องทุกข์ขอความ ช่วยเหลือผ่านมูลนิธิปวีณาฯ และบูรณาการร่วมกันให้ ความช่วยเหลือ ซึ่งแต่ละเคสจะต้องมีการประสานงาน อย่างต่อเนื่อง และขยายผลจับกุมทั้งขบวนการ ต่อมาวันพฤหัสบดีที่ 6 ก.พ.63 นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมบูรณาการให้การช่วยเหลือเคสที่ตกเป็นเหยื่อ การค้ามนุษย์รูปแบบต่างๆ ที่เข้าขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ ประกอบด้วย กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) โดย พล.ต.ต.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบก.ปคม. ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.มานะ กลีบสัตบุศย์ รอง ผบก.ปคม. เป็นตัวแทน, นายปรินทร์วัฒ ธิติพลธนวิชญ์ ผู้อานวยการสถานคุ้มครองสวัสดิภาพผู้เสียหายจาก การค้ามนุษย์ จังหวัดสงขลา (สคม.สงขลา) นางไพวรรณ ปะเมโท ตัวแทนผู้อานวยการ สถานคุ้มครองสวัสดิภาพผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ จังหวัดปทุมธานี (สคม.ปทุมธานี) และว่าทีร่ .ต.วศิน แก้วแสงแจ่ม เจ้าหน้าทีก่ องต่อต้านการค้ามนุษย์ กระทรวงการพัฒนา สังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ณ สานักงานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี. 5


วารสารประจาเดือน กุมภาพันธ์ ปี พ.ศ.2563 (องค์กรสาธารณประโยชน์) 6.

จ.ตาก "ปวีณา" ประสานตารวจ บ้านพักเด็กฯ กระทรวงพม. ช่วยเด็ก 2 ขวบ รวดเร็วปลอดภัย หลังชาวเน็ตพลเมืองดี แห่แชร์คลิปพ่อรัดคอลูกในโซเชียลมาขอความช่วยเหลือ หวั่นเด็กน้อยเป็นอันตราย

วันเสาร์ที่ 15 ก.พ.63 มีผใู้ ช้เฟซบุก๊ รายหนึง่ โพสต์คลิปชายคนหนึง่ กาลังอุ้มเด็กน้อยอายุประมาณ 2 ขวบ อยู่บนตักและใช้สายสะพายกระเป๋า รัดคอเด็ก โดยเด็กคนดังกล่าวร้องไห้ด้วยความหวาดกลัวและพยายามใช้มือ ดึงสายสะพายกระเป๋าทีล่ าคอออก พร้อมระบุว่า บอกหน่อย ผมควรทา อย่างไรกับลูกเขยคนนี้...? หลังโพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ออกไปมีชาวเน็ต พลเมืองดีแจ้งมายังมูลนิธิปวีณาฯ เพื่อขอให้ช่วยตรวจสอบและช่วยเหลือ เด็กคนดังกล่าวจานวนมาก เบื้องต้นพบว่าผู้ที่โพสต์น่าจะเป็นพ่อตาของผู้ที่ก่อเหตุซึ่งอาศัยอยู่ ในพื้นที่เทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ จึงได้ประสาน นายอินปัน รบชนะ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัว จังหวัดอุตรดิตถ์ และพ.ต.อ.โอภาส คงเมือง รอง ผบก.ภ.จว.อุตรดิตถ์ ทันที เพื่อ ขอให้ตรวจสอบข้อมูลช่วยเหลือเด็กโดยเร็ว ต่อมาพบว่าเหตุเกิดในพื้นที่ ต.วังประจบ อ.เมือง จ.ตาก นางปวีณา จึงได้ประสานไปยัง พล.ต.ต.ปริญญา วิศิษฐฏากุล ผบก.ภ.จว.ตาก และบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดตาก ลงพื้นที่ ตรวจสอบ โดย พล.ต.ต.ปริญญา ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.แมน รัตนประทีป ผกก.สภ. วังประจบ จ.ตาก ส่งกาลังเจ้าหน้าทีต่ ารวจสภ.วังประจบ ไปยังบ้านทีเ่ กิดเหตุ พบ ชายที่ถ่ายคลิปกับเด็กชาย 2 คน อายุ 3 ขวบ กับ 2 ขวบ ทั้งหมดเป็นพ่อลูกกันอยู่ ในบ้านพักจึงนาตัวทั้งหมดมาสอบถาม ที่สภ.วังประจบ จากการสอบถามพ่อเด็ก ยอมรับว่า ได้โทรคุยกับภรรยาทีไ่ ปทางานอยู่ประเทศดูไบก่อนจะมีปากเสียงกันเพราะภรรยาขอเลิก จึงได้ ถ่ายคลิปเพื่อประชดภรรยา แต่ไม่ได้รดั คอลูกจริง และเมื่อตารวจตรวจปัสสาวะก็ไม่พบสารเสพติด อีกทั้ง เด็กชายทัง้ 2 คน ก็ตดิ พ่อมาก และหลังส่งเด็กไปตรวจร่างกายทีร่ พ.ก็ไม่พบร่องรอยการถูกทาร้ายแต่อย่างใด เบือ้ งต้นตารวจได้รอ้ งทุกข์กล่าวโทษพ่อเด็กในความผิดฐาน 1.ทาร้ายร่างกาย 2.พ.ร.บ.ความรุนแรง ในครอบครัว 3.พ.ร.บ.คุม้ ครองเด็ก ก่อนจะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดาเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย ขณะที่ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ก็ให้ข้อมูลตารวจว่าพ่อเด็กไม่ใช่คนใจคอโหดร้ายอะไร รักลูกมากและดูแลอย่างดี แต่ภาพจากคลิปที่ทาประชดภรรยามันดูรุนแรงซึ่งคนทาก็ไม่คดิ ถึงผลลัพธ์ที่จะตามมา ต่อมานางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสาน นายประทีป มูลเพา พัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตาก ส่งเจ้าหน้ามาสืบเสาะข้อเท็จจริงร่วมกับทางบ้านพักเด็กและ ครอบครัวจังหวัดตาก เนื่องจากเป็นห่วงสวัสดิภาพของเด็ก และเพื่อทารายงานส่งให้กับทางเจ้าหน้าที่ ตารวจเพื่อพิจารณาส่งฟ้องต่อไป

6


วารสารประจาเดือน กุมภาพันธ์ ปี พ.ศ.2563 (องค์กรสาธารณประโยชน์) 7.

จ.นครราชสีมา สลด!! หนุ่มโคราชพาลูกสาว ป.1 ร้อง "ปวีณา" ถูกรุ่นพี่ ป.4 และป.6 รวม 3 คน ล่วงละเมิดทางเพศ ในห้องน้าโรงเรียน และถ่ายคลิปแชร์ในโซเชียล ขอเอาเรื่องถึงที่สุดเพื่อให้เป็นกรณีตัวอย่าง จะได้ไม่เกิดขึ้นกับเด็กคน อื่นอีก

วันพุธที่ 1 ก.พ.63 ทีม่ ลู นิธปิ วีณาหงสกุลเพือ่ เด็กและสตรี นายโชค (นามสมมุต)ิ อายุ 41 ปี ชาวจ.นครราชสีมา พาด.ญ.นิม่ (นามสมมุต)ิ อายุ 7 ปี ลูกสาวซึง่ เรียนอยูช่ นั้ ป.1 โรงเรียนแห่งหนึง่ ในอ.ครบุรี จ.นครราชสีมา เดินทางเข้า ร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ขอความเป็นธรรม กรณี ด.ญ.นิ่ม ถูกรุ่นพี่ 3 คนในโรงเรียนเดียวกัน ซึ่งอยู่ชั้นป.4 จานวน 2 คน อายุ 10 ปีเท่ากัน ชื่อด.ช.เอ กับ ด.ช.บี และด.ช.ซี รุ่นพี่ป.6 อายุ 12 ปี ล่วง ละเมิดทางเพศในห้องน้าของโรงเรียนและบังคับให้อมอวัยวะเพศ ก่อนถ่าย คลิปขณะก่อเหตุไปเผยแพร่ในโซเชียล เหตุเกิดช่วงเย็นวันที่ 21 ม.ค.63

นายโชค กล่าวว่า ตนแยกทางกับแม่เด็กได้ปีเศษ ที่ผา่ นมา ลูกอาศัยอยู่กับแม่ และตนเพิ่งมารูเ้ รื่องเมื่อวันที่ 3 ก.พ.63 หลังไป เยี่ยมลูกและพบแม่ยาย เล่าว่า แม่เด็กไปเจรจาไกล่เกลี่ยกับ ผู้ปกครองด.ช.ทั้ง 3 คน ที่โรงเรียนต่อหน้าผู้อานวยการโรงเรียน และแม่เด็กมีการรับเงินไปแล้ว ซึง่ ตนคิดว่าเป็นเรือ่ งทีไ่ ม่ถกู ต้อง จึงได้ บอกกับแม่เด็กให้นาเงินไปคืนเพราะต้องการจะดาเนินคดีเรียกร้อง ความเป็นธรรมให้ลูก จากนั้นแม่เด็กก็ไม่พอใจออกจากบ้านไปพร้อม แฟนใหม่และยังไม่กลับมาเลย ตนจึงขอให้มูลนิธิปวีณาฯ ให้ความ เป็นธรรมติดตามทางด้านคดีให้ด้วย เนื่องจากห่วงสภาพจิตใจของ ลูกอย่างมาก เพราะหลังเกิดเหตุไม่กล้าไปโรงเรียนอีกเลย นางปวีณา กล่าวว่า ก่อนหน้าที่พอ่ เด็กจะมาร้องมูลนิธิปวีณาฯ นั้น เมื่อวันที่ 1 ก.พ.63 แม่ของด.ญ.นิ่ม ได้โทรมาขอความช่วยเหลือจาก มูลนิธิปวีณาฯ ว่าลูกสาวถูกล่วงละเมิดทางเพศจากด.ช. นักเรียนชั้นป.4 และป.6 รวม 3 คน ที่ห้องน้าของโรงเรียนและถ่ายคลิปนาไปลงโซเชียล เมื่อไปพบผู้อานวยการโรงเรียนก็ได้มีการเจรจาไกล่เกลีย่ ทั้ง 2 ฝ่าย โดย ผู้ปกครองของเด็กชายทั้ง 3 คน เสนอจะให้เงินเยียวยาคนละ 3 หมืน่ บาท เพื่อแลกกับการไม่ดาเนินคดี และผู้อานวยการโรงเรียนก็ขอให้ปิดเรือ่ ง เพราะกลัวทางโรงเรียนจะเสียชื่อ ซึ่งตนได้บอกกับแม่เด็กไปว่าไม่ต้องไปรับ เงินจากใคร ควรเยียวยาเด็กด้วยการฟื้นฟูสภาพจิต ให้หน่วยงานราชการที่ เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยป้องกันและแก้ไขปัญหาไม่ให้เกิดขึ้นอีก เพราะถือเป็นเรื่องรายแรงมาก จากนั้นได้ประสาน พ.ต.อ.ประสิทธิ์ เปรมกมล ผกก.สภ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ให้แม่พาลูกสาวไปแจ้งความ พร้อมประสาน ดร.ชนะ สุ่มมาตย์ ผู้อานวยการศูนย์เฉพาะกิจคุ้มครองและช่วยเหลือ นักเรียน สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (ผอ.ฉก.ชน.สพฐ.) ให้เข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงที่โรงเรียนดังกล่าวและหามาตรการ ป้องกันเหตุ ต่อมาทางมูลนิธิปวีณาฯ พยายามติดตามเรื่องแต่ก็ไม่สามารถติดต่อแม่เด็กได้อีก และก็มารู้จากพ่อว่าแม่ไปรับเงินจากคู่กรณีแล้ว วันนี้ภายหลังรับเรื่องร้องทุกข์ นางปวีณา ได้ประสาน พล.ต.ต.สุจินต์ นิจพานิชย์ ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา พ.ต.อ.ประสิทธิ์ เปรมกมล ผกก.สภ.ครบุรี จ.นครราชสีมา เพือ่ ให้ความเป็นธรรมกับด.ญ.นิ่ม และดาเนินการส่งเด็กไปตรวจร่างกาย จัดสอบสหวิชาชีพทั้งด.ญ. และด.ช.ทั้ง 3 คน ตามขั้นตอนกฎหมายเพื่อช่วยเหลือให้ถูกต้อง ซึ่งด.ช.ทั้ง 3 คน จะต้องมีการบาบัดสภาพจิตใจ ตักเตือนตามกระบวนการยุติธรรม เพื่อให้เขา รับรู้ถึงสิ่งที่กระทาไปนั้นไม่ถูกต้อง จะได้ไม่กลับมาทาซ้าอีก นอกจากนี้ นางปวีณา ยังได้ประสาน นางอรินท์มาศ กาแก้ว หัวหน้าบ้านพักเด็กและ ครอบครัวจังหวัดนครราชสีมา ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยดูแลฟื้นฟูสภาพจิตใจด.ญ.นิม่ และพาไปตรวจร่างกาย สอบสหวิชาชีพ ทั้งนี้มูลนิธิปวีณาฯ จะประสานความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง. 7


วารสารประจาเดือน กุมภาพันธ์ ปี พ.ศ.2563 (องค์กรสาธารณประโยชน์) 8.

กรุงเทพฯ สาวพิการพาลูกสาว 2 คน 11 ขวบ กับ 4 ขวบ ร้อง "ปวีณา" ถูกพ่อขี้เมาล่วงละเมิดทางเพศ ทาร้ายร่างกาย ขู่ฆ่าห้ามบอกใคร กราบขอร้องเท่าไหร่ไม่เป็นผล ต้องทนทุกข์ตกนรกมาเป็นปี ขอลุกขึ้นสู้เรียกร้องความยุติธรรมเพือ่ ลูก ให้ตารวจลากคอพ่อหื่นมาดาเนินคดี และขอคัดค้านการประกันตัว วันพฤหัสบดีที่ 20 ก.พ.63 ที่สน.คันนายาว นางปวีณา หงสกุล ประธาน มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้พานางอร (นามสมมุติ) อายุ 27 ปี ซึ่งเป็น ผู้พิการทางการเคลื่อนไหว พร้อมเด็กหญิงเอ๋ (นามสมมุติ) อายุ 11 ปี และเด็กหญิงอ้อย (นามสมมุติ) อายุ 4 ปี ลูกสาวทั้งสองคนเดินทางไปพบกับ พ.ต.อ.วาสุเทพ คงกล่อม ผกก.สน.คันนายาว เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีที่เด็กหญิงสองพี่น้องถูกพ่อแท้ๆ ขี้เมา ข่มขืนและกระทาอนาจารมานานเป็นปี และขอคัดค้านการประกันตัวหากจับกุมตัวได้ แล้ว เนื่องจากกลัวจะถูกฆ่าเพราะผู้ต้องหาเคยข่มขู่ไว้

ซึ่งช่วงบ่ายวันเดียวกัน ชุดสืบสวนสน.คันนายาว สามารถจับกุมตัวพ่อ แท้ๆ ได้ภายในซอยวัชรพล ย่านบางเขน กรุงเทพฯ ดาเนินคดีข้อหา กระทาชาเรา เด็กหญิงอายุต่ากว่า 13 ปี โดยเป็นผู้สืบสันดาน และกระทาอนาจารเด็ก สอบสวน ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพ ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อจันทร์วันที่ 17 ก.พ.63 นางอรได้พาลูกสาว 2 คน เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ โดยเล่าเรื่องทั้งหมดที่ เกิดขึ้นพร้อมกับบอกว่า ตนเคยเห็นกับตาและพยายามกราบขอร้องสามีแต่กไ็ ม่ ยอมหยุดการกระทา และนายเอกได้ทาร้ายร่างกายตนพร้อมกับขู่ฆา่ ถ้านาเรื่องนี้ไปบอก ใคร จนตอนนี้ทนไม่ไหวแล้วต้องลุกขึ้นสู้ช่วยลูกให้ได้ และต้องการดาเนินคดีกับนายเอกให้ ถึงที่สุด หลังรับเรื่อง นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสาน พ.ต.อ. วาสุเทพ คงกล่อม ผกก.สน.คันนายาว ช่วยให้ความเป็นธรรมกับนางอรและลูกสาวสองคน โดยพ.ต.อ.วาสุเทพ สั่งการให้พนักงานสอบสวนส่งเด็กทั้ง 2 คน ไปตรวจร่างกาย และ สอบสหวิชาชีพ ก่อนนาไปสู่การออกหมายจับ และจับกุมผู้ต้องหามาดาเนินคดี ทั้งนี้ทางมูลนิธิปวีณาฯ จะได้พานางอรกับลูกสาว 2 คน ไปขอรับเงินเยียวยา ผู้เสียหายทางคดี ที่กรมคุ้มครองสิทธิ กระทรวงยุติธรรม และพาเด็กไปฟื้นฟูสภาพจิตใจที่ รพ.ตารวจ จนกว่าเด็กจะหายหวาดกลัว และใช้ชีวิตได้อย่างเป็นปกติสุขต่อไป

9.

จ.อ่างทอง ลูกสาวสุดทนร้อง "ปวีณา" แม่กบั พ่อเลี้ยงพากันเสพยาบ้า ทะเลาะกันเป็นประจา ก่อนที่แม่จะมาระบาย อารมณ์กับน้องวัย 2 เดือน โมโหทุบตีบ่อยครั้ง และให้นมทั้งที่ยังเมายาบ้าอยู่ เป็นห่วงสวัสดิภาพและสุขภาพของน้อง ขอให้ความช่วยเหลือด้วย

วันอังคารที่ 18 ก.พ.63 เด็กสาววัย 18 ปี แจ้งขอความช่วยเหลือมายังมูลนิธิปวีณาหงสกุล เพื่อเด็กและสตรี แจ้งว่า แม่ของตนได้เลิกกับพ่อก่อนจะมามีสามีใหม่ และมีลูกน้อยวัย 2 เดือน ตนเองกับแม่ พ่อเลี้ยง และน้องอาศัยอยู่ในพื้นที่ต.ศาลาแดง อ.เมือง จ.อ่างทอง โดยพ่อเลี้ยงกับแม่มี พฤติกรรมเสพยาด้วยกันทั้งคู่และทะเลาะกันเป็นประจา เวลาน้องร้องหิวนมแม่ก็จะตีน้องและให้นม หลังเสพยาบ้าเข้าไป ตนเป็นห่วงน้องมากขอมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยเหลือด้วย หลังรับเรื่อง นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสาน พ.ต.อ.วิชัยนาวิน อนันต์ ผกก.สภ.เมืองอ่างทอง และนางอ้อยทิพย์ ชื่นตา หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัด อ่างทอง ช่วยส่งเจ้าหน้าที่ตารวจและเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กฯ อ่างทอง ลงพื้นที่ตรวจสอบและให้ การช่วยเหลือด้วยความเป็นห่วงเด็กน้อยอย่างยิ่ง 8


วารสารประจาเดือน กุมภาพันธ์ ปี พ.ศ.2563 (องค์กรสาธารณประโยชน์) ต่อมาตารวจสภ.เมืองอ่างทอง ได้รว่ มกับเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กฯ อ่างทอง เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมฯ อ่างทอง และเจ้าหน้าที่ศูนย์คมุ้ ครองคนไร้ที่พึ่งจ.อ่างทอง ลง พื้นที่ตรวจสอบทันที จากการตรวจค้นภายในบ้านพบของกลางยาบ้า 2 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ และตรวจปัสสาวะสองสามีภรรยาพบสารเสพติด และทั้งคู่ก็ยอมรับว่าเสพยาบ้าจริง จึงนา ตัวไปที่ สภ.เมืองอ่างทอง ดาเนินคดีในข้อหา เสพยาเสพติด และครอบครองยาบ้า ทั้งนี้ในส่วนเด็กสาววัย 18 ปี จะขอเลี้ยงน้องด้วยตัวเองเนื่องจากกาลังเรียน กศน.อยู่ พอจะมีเวลาดูแล ซึ่งได้ปรึกษากับป้าที่อาศัยอยู่ใกล้กันแล้วว่าจะช่วยกันดูแลไป จนกว่าแม่จะบาบัดยาเสพติดจนหายและกลับมาอยู่กับครอบครัว

10. จ.ศรีสะเกษ พี่สาวร้อง "ปวีณา" น้องสาววัย 13 ปี ถูกพ่อแท้ๆ ติดยา กระทาชาเรามานาน 1 ปี 9 เดือน ถ้าวันไหน ไม่ยอมจะถูกทุบตีด้วยท่อนเหล็กและสากกะเบือ ย่าที่อยู่ด้วยรู้เรื่องแต่ช่วยอะไรไม่ได้ เพราะถูกขู่ฆ่าทั้งย่าและหลาน จนต้องกล้ากลืนตกนรก สุดท้ายทนไม่ไหวขอความช่วยเหลือ วันจันทร์ที่ 24 ก.พ.63 นางสาวเก๋ (นามสมมุติ) อายุ 23 ปี ร้องทุกข์มูลนิธิปวีณาฯ แจ้งว่า ด.ญ.ยิม้ (นามสมมุติ) น้องสาวที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน อายุ 13 ปี ได้แชทเฟซบุ๊กมาขอความช่วยเหลือ บอกว่า ถูกนายฤทธิ์ (นามสมมุติ) อายุ 37 ปี พ่อแท้ๆ กระทาชาเรามาตลอด 1 ปี เดือน หากน้อง ไม่ยินยอมก็จะใช้สากกะเบือและเหล็กทุบตี บ้านของน้องอยู่ในอ.บึงบูรพ์ จ.ศรีสะเกษ อาศัยอยู่ ด้วยกัน 3 คน มีด.ญ.ยิม้ พ่อและย่า โดยพ่อมีอาชีพทานามักจะเสพยาบ้าเป็นประจาและเป็นคนที่ ชอบใช้ความรุนแรง ส่วนย่าก็รเู้ รื่องทั้งหมดแต่ไม่รู้จะช่วยด.ญ.ยิม้ อย่างไร เพราะพ่อได้ขฆู่ ่าหมดทุก คน ขอมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยน้องให้พ้นจากเป็นเหยื่อกามพ่อแท้ๆ ด้วย หลังรับเรื่อง นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสาน พ.ต.อ.สุรยิ ันต์ โพน สิงห์ ผกก.สภ.บึงบูรพ์ จ.ศรีสะเกษ และนายธีรวัจน์ จุลนวล หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัว จังหวัดศรีสะเกษ ส่งเจ้าหน้าที่ตารวจและเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กฯ ศรีสะเกษ ร่วมลงพื้นที่บ้านของ ด.ญ.ยิม้ เพือ่ ให้การช่วยเหลือทันที จากนัน้ เจ้าหน้าทีบ่ า้ นพักเด็กฯ ศรีสะเกษ ได้พาด.ญ.ยิม้ เข้าแจ้งความ และนาหนังสือส่งตัวด.ญ.ยิม้ จากเจ้าหน้าที่ตารวจพาไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลบึงบูรพ์ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตารวจก็ได้ควบคุมตัวนายฤทธิ์ พ่อแท้ๆ มาสอบสวนเบื้องต้น และ ทาการตรวจปัสสาวะพบว่ามีสารเสพติด และตรวจค้นภายในตัวพบยาบ้าจานวนหนึ่งซุกซ่อนอยู่ จึง ดาเนินคดีขอ้ หา เสพยาเสพติด และครอบครองยาบ้า ก่อนควบคุมตัวส่งฝากขังศาลจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมคัดค้านการประกันตัว และในวันที่ 28 ก.พ.63 ตารวจได้นดั สอบสหวิชาชีพด.ญ.ยิ้ม ก่อนจะ รวบรวมพยานหลักฐานแจ้งข้อหาเพิ่มเติม กระทาชาเราเด็กหญิงอายุต่ากว่า 13 ปี ซึ่งเป็น ผู้สืบสันดาน กับนายฤทธิ์ พ่อแท้ๆ อีก 1 ข้อหา โดยหลังจากนี้ด.ญ.ยิ้มได้ขออยู่กับย่าที่บ้านต่อไป ซึ่งเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กฯ ศรีสะเกษ จะ ได้ส่งนักจิตวิทยาไปเยี่ยมบ้านและพูดคุยเพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจจนกว่าจะดีขึ้น ทั้งนี้มูลนิธิปวีณาฯ จะ ประสานการช่วยเหลืออย่างต่อเนือ่ งต่อไป.

9


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.