เกี่ยวกับตัวฉัน
ชื่อ................................................สกุล...................................... ชื่อเล่น.........................................อายุ....................................... กลุ่มที่..........................................สี(ตามที่ป้ายชื่อ).................... อาหารที่แพ้............................................................................... โรคประจำ�ตัว............................................................................. ยาที่แพ้......................................................................................
นักสะสมแต้ม
สารบัญ กำ�หนดการ
5 12
ดุอาอฺในชีวิตประจำ�วัน
13 17
อริยบทในการละหมาด
การอาบน้ำ�ละหมาด
20 25
บทรำ�ลึกสดุดีถึงอัลลอฮฺ ยามเช้าและยามเย็น
กฎค่าย
อรรถาธิบาย อายะฮ์กุรซีย์
29 39
อานาซีดค่าย
กำ�หนดการโครงการค่ายอบรมจริยธรรมสัมพันธ์ ยึดมั่นสุขภาพ ต่อต้านยาเสพติด 59 ชมรมศาสนศึกษา แผนกอิสลาม ร่วมกับกลุ่มวิจัยอิสลามศึกษาฯ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ และสมาคมยุวมุสลิมแห่งประเทศไทย (ยมท.) ระหว่าง วันที่ 8 - 14 เมษายน พ.ศ. 2558 ณ โรงเรียนบ้านหน้าศาล หมู่ 3 ต.หน้าสตน อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช 80170
วันศุกร์ที่ 8 เมษายน 2559 เวลา
กิจกรรม
ผู้รับผิดชอบ,ฝ่าย
18.30 – 19.30 น.
เดินทางสู่ค่าย
นาฬิกาค่าย
19.30 – 20.10 น.
ละหมาดรวม(มัฆริบและอีซา)/นาซีฮัต
วิชาการ,ผู้เข้าร่วมโครงการทุกคน
20.10 – 21.30 น.
กิจกรรมนันทนาการ
กิจกรรม,พี่เลี้ยง
ประชุมวางแผนเตรียมความพร้อม
ผู้เข้าร่วมโครงการทุกคน
21.30 น.
วันเสาร์ที่ 9 เมษายน 2559 เวลา
กิจกรรม
ผู้รับผิดชอบ,ฝ่าย
05.00 – 06.00 น.
ละหมาดซุบฮิ /อ่านอัลกุรอาน /นาซีฮัต
วิชาการ,ผู้เข้าร่วมโครงการทุกคน
06.00 – 06.40 น.
ออกกำ�ลังกาย
กิจกรรม(กีฬา),พี่เลี้ยง
06.40 – 07.20 น.
ภารกิจส่วนตัว
พี่เลี้ยง
07.20 – 07.50 น.
รับประทานอาหารเช้า
สวัสดิการ
07.50 – 09.50 น.
พิธีเปิด
กิจกรรม,วิชาการ,ทะเบียน
09.50 – 11.50 น.
กิจกรรมรู้จักอัลลอฮ์
กิจกรรม,วิชาการ
11.50 – 12.30 น.
รับประทานอาหารเที่ยง
สวัสดิการ
12.30 – 13.00 น.
ละหมาดซุฮรี/ นาซีฮัต
วิชาการ,ผู้เข้าร่วมโครงการทุกคน
13.00 – 16.00 น.
กิจกรรมสอนการอาบน้ำ�ละหมาด
วิชาการ,ผู้เข้าร่วมโครงการทุกคน
16.00 – 17.40 น.
กีฬาชาวค่าย
กิจกรรม
17.40 – 18.20 น.
รับประทานอาหารเย็น/ ทำ�ภารกิจส่วนตัว
สวัสดิการ
18.20 – 19.40 น.
ละหมาดมัฆริบ /นาซีฮัต /เรียนอัล-กุรอาน
วิชาการ,ผู้เข้าร่วมโครงการทุกคน
19.40 – 20.00 น.
ละหมาดอีชา /นาซีฮัต
วิชาการ,ผู้เข้าร่วมโครงการทุกคน
20.00 – 22.00 น.
นันทนาการ
ผู้เข้าร่วมโครงการทุกคน,พี่เลี้ยง
22.00 – 23.00 น.
ประชุมสรุปค่าย /ประชุมเตรียมค่าย/พักผ่อน ผู้เข้าร่วมโครงการทุกคน
วันอาทิตย์ที่ 10 เมษายน 2559 เวลา
กิจกรรม
ผู้รับผิดชอบ,ฝ่าย
05.00 – 06.50 น.
ละหมาดซุบฮิ /นาซีฮัต /ท่องจำ�อัลกุรอาน
วิชาการ,ผู้เข้าร่วมโครงการทุกคน
06.50 – 07.30 น.
ภารกิจส่วนตัว
กิจกรรม(กีฬา)
07.30 – 08.00 น.
รับประทานอาหารเช้า
สวัสดิการ
08.00 – 10.00 น.
อิริยาบถในละหมาด
วิชาการและกิจกรรม
10.00 – 12.00 น.
กิจกรรมมารยาทในชีวิตประจำ�วัน
วิชาการและกิจกรรม
12.00 – 12.30 น.
รับประทานอาหารเที่ยง
สวัสดิการ
12.30 – 13.00 น.
ละหมาดซุฮ์ริ /นาซีฮัต /พักผ่อนตามอัธยาศัย
วิชาการ,ผู้เข้าร่วมโครงการทุกคน
13.00 – 15.30 น.
กิจกรรมประเพณีและวัฒนธรรม
วิชาการและกิจกรรม
15.30 – 16.00 น.
ละหมาดอัสริ /นาซีฮัต
วิชาการ,ผู้เข้าร่วมโครงการทุกคน
16.00 – 17.40 น.
กีฬาชาวค่าย
ผู้เข้าร่วมโครงการทุกคน
17.40 – 18.30 น.
รับประทานอาหาร / ทำ�ภารกิจส่วนตัว
สวัสดิการ,พี่เลี้ยง
18.30 – 19.30 น.
ละหมาดมัฆริบ /นาซีฮัต/ เรียนอัลกุรอาน
วิชาการ,ผู้เข้าร่วมโครงการทุกคน
19.30 – 20.00 น.
ละหมาดอีชา /นาซีฮัต
วิชาการ,ผู้เข้าร่วมโครงการทุกคน
20.00 – 22.00 น.
นันทนาการ
พี่เลี้ยง,ผู้เข้าร่วมโครงการทุกคน
22.00 – 23.30 น.
ประชุมสรุปค่าย/ ประชุมเตรียมค่าย/พักผ่อน ผู้เข้าร่วมโครงการทุกคน
วันจันทร์ที่ 11 เมษายน 2559 เวลา
กิจกรรม
ผู้รับผิดชอบ,ฝ่าย
05.00 – 06.50 น.
ละหมาดซุบฮิ /นาซีฮัต /ท่องจำ�อัลกุรอาน
วิชาการ,ผู้เข้าร่วมโครงการทุกคน
06.50 – 07.20 น.
ภารกิจส่วนตัว
พี่เลี้ยง
07.20 – 08.00 น.
รับประทานอาหารเช้า
สวัสดิการ
08.00 – 10.00 น.
อิริยาบถในละหมาด(เพิ่มเติม)
วิชาการและกิจกรรม
10.00 – 12.00 น.
ฮาลาล-ฮารอม
วิชาการและกิจกรรม
12.00 – 12.30 น.
รับประทานอาหารเที่ยง
สวัสดิการ
12.30 – 13.00 น.
ละหมาดซุฮ์ริ /นาซีฮัต /พักผ่อนตามอัธยาศัย
วิชาการ,ผู้เข้าร่วมโครงการทุกคน
13.00 – 16.30 น.
Adventure
วิชาการและกิจกรรม
16.30 – 17.10 น.
ทำ�ภารกิจส่วนตัว /ละหมาดอัสริ /นาซีฮัต
วิชาการ,ผู้เข้าร่วมโครงการ
17.10 – 18.00 น.
เตรียมของเดินพาเหรด
กิจกรรม,ผู้เข้าร่วมโครงการทุกคน
18.00 – 18.30 น.
รับประทานอาหาร
สวัสดิการ
18.30 – 19.40 น.
ละหมาดมัฆริบ /นาซีฮัต/เรียนอัล-กุรอาน
วิชาการ,ผู้เข้าร่วมโครงการทุกคน
19.40 – 20.00 น.
ละหมาดอีชา /นาซีฮัต
วิชาการ,ผู้เข้าร่วมโครงการทุกคน
20.00 – 22.00 น.
นันทนาการ
พี่เลี้ยง,ผู้เข้าร่วมโครงการทุกคน
22.00 – 23.00 น.
ประชุมสรุปค่าย/ ประชุมเตรียมค่าย/พักผ่อน ผู้เข้าร่วมโครงการทุกคน
วันอังคารที่ 12 เมษายน 2559 เวลา
กิจกรรม
ผู้รับผิดชอบ,ฝ่าย
05.00 – 06.50 น.
ละหมาดซุบฮิ /นาซีฮัต /ท่องจำ�อัลกุรอาน
วิชาการ,ผู้เข้าร่วมโครงการทุกคน
06.50 – 07.30 น.
ทำ�ภารกิจส่วนตัว
พี่เลี้ยง
07.30 – 08.00 น.
รับประทานอาหารเช้า
สวัสดิการ
08.00 – 10.00 น.
การละหมาดซูนัตต่างๆ
วิชาการและกิจกรรม
10.00 – 12.00 น.
ประวัติศาสตร์อิสลาม(บุคคลสำ�คัญในอิสลาม) วิชาการและกิจกรรม
12.00 – 12.30 น.
รับประทานอาหารเที่ยง
สวัสดิการ
12.30 – 13.00 น.
ละหมาดซุฮ์ริ /นาซีฮัต /พักผ่อนตามอัธยาศัย
วิชาการ,ผู้เข้าร่วมโครงการทุกคน
13.00 – 15.30 น.
กิจกรรมต่อต้านยาเสพติด
วิชาการและกิจกรรม
15.30 – 16.00 น.
ละหมาดอัสริ/ นาซีฮัต
วิชาการ,ผู้เข้าร่วมโครงการทุกคนผู้
16.00 – 17.40 น.
กิจกรรมต่อต้านยาเสพติด/เดินพาเหรด
เข้าร่วมโครงการทุกคน
17.40 – 18.30 น.
ทำ�ภารกิจส่วนตัว/รับประทานอาหาร
สวัสดิการ
18.30 – 19.30 น.
ละหมาดมัฆริบ /นาซีฮัต /เรียนอัล-กุรอาน
วิชาการ,ผู้เข้าร่วมโครงการทุกคน
19.30 – 20.00 น.
ละหมาดอีชา /นาซีฮัต
วิชาการ,ผู้เข้าร่วมโครงการทุกคน
20.00 – 22.00 น.
กิจกรรมนันทนาการ
เข้าร่วมโครงการทุกคน
22.00 – 23.30 น.
ประชุมสรุปค่าย/ ประชุมเตรียมค่าย/พักผ่อน ผู้เข้าร่วมโครงการทุกคน
วันพุธที่ 13 เมษายน 2559 เวลา
กิจกรรม
ผู้รับผิดชอบ,ฝ่าย
05.00 – 06.50 น.
ละหมาดซุบฮิ /ท่องจำ�อัลกุรอาน /นาซีฮัต
วิชาการ,ผู้เข้าร่วมโครงการทุกคน
06.50 – 07.20 น.
ภารกิจส่วนตัว
พี่เลี้ยง
07.20 – 08.00 น.
รับประทานอาหารเช้า
สวัสดิการ
08.00 – 10.00 น.
สรุปและทดสอบการอาบน้ำ�ละหมาดและการละหมาด
วิชาการและกิจกรรม
10.00 – 12.00 น.
วิทยาศาสตร์อิสลาม(กุรอาน)
วิชาการและกิจกรรม
12.00 – 12.30 น.
รับประทานอาหาร
วิชาการ,ผู้เข้าร่วมโครงการทุกคน
12.30 – 13.00 น.
ละหมาดซุฮ์ริ /นาซีฮัต /พักผ่อนตามอัธยาศัย
วิชาการ,ผู้เข้าร่วมโครงการทุกคน
13.00 – 16.30 น.
กีฬาสี
ยมท,วิชาการและกิจกรรม
16.30 – 17.00 น
ทำ�ภารส่วนตัว
พี่เลี้ยง
17.00 – 17.30 น.
ละหมาดอัสริ/ นาซีฮัต
วิชาการ,ผู้เข้าร่วมโครงการทุกคน
17.30 – 18.00 น.
ซ้อมการแสดง
พี่เลี้ยง
18.00 – 18.30 น.
รับประทานอาหาร
สวัสดิการ
18.30 – 19.40 น.
ละหมาดมัฆริบ /นาซีฮัตเตรียมความพร้อมการแสดง
วิชาการ,ผู้เข้าร่วมโครงการทุกคน
19.40 – 20.00 น.
เตรียมตัว /ละหมาดอีชา /นาซีฮัต
วิชาการ,ผู้เข้าร่วมโครงการทุกคน
20.00 – 22.00 น.
กิจกรรมภาคเวที
ผู้เข้าร่วมโครงการทุกคน
22.00 – 23.30 น.
ประชุมสรุปค่าย/ ประชุมเตรียมค่าย/พักผ่อน ผู้เข้าร่วมโครงการทุกคน
วันพฤหัสบดีที่ 14 เมษายน 2559 เวลา
กิจกรรม
ผู้รับผิดชอบ,ฝ่าย
05.00 – 06.00 น.
ละหมาดซุบฮิ /อ่านอัลกุรอาน /นาซีฮัต
วิชาการ,ผู้เข้าร่วมโครงการทุกคน
06.00 – 07.00 น.
ออกกำ�ลังกาย /ภารกิจส่วนตัว
กิจกรรม(กีฬา)
07.00 – 08.00 น.
รับประทานอาหารเช้า
สวัสดิการ
08.00 – 10.00 น.
กิจกรรมอำ�ลา /น้องๆเดินทางกลับบ้าน
กิจกรรม,ผู้เข้าร่วมโครงการทุกคน
10.00 – 12.00 น.
จัดเก็บสำ�ภาระและเคลียร์สถานที่
ผู้เข้าร่วมโครงการทุกคน
12.00 – 12.30 น.
รับประทานอาหารเที่ยง
สวัสดิการ
12.30 – 13.00 น.
ละหมาดซุฮ์ริ
วิชาการ,ผู้เข้าร่วมโครงการทุกคน
13.00 น.เป็นต้นไป
เดินทางกลับ ม.วลัยลักษณ์โดยสวัสดิภาพ
ยานพาหนะ,ผู้จัดโครงการทุกคน
* หมายเหตุ : กำ�หนดการอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม
กฎค่าย
- ห้ามทะเลาะเบาะแว้งกัน
- มีความเคารพและให้เกียรติเพื่อนๆ
- ใช้วาจาที่สุภาพอ่อนน้อม แต่งกายสุภาพ เรียบร้อย
- รักษาความสะอาด
- มีความสามัคคีกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน
- ไม่ออกนอกพื้นที่ค่ายก่อนได้รับอนุญาต
- มีความตรงต่อเวลา
- ห้ามนำ�/พกสิ่งของมีค่าเข้ามาในค่าย
- ห้ามทำ�สมุดค่ายหาย
- ห้ามลักขโมยสิ่งของผู้อื่น
- รับประทานอาหารพร้อมกันทั้งพี่และน้อง
- น้องจะต้องเคารพเชื่อฟังพี่ในสิ่งที่ถูกต้อง
- พี่จะต้องมีการลงโทษน้องหรือพี่ ในกรณีที่มีการฝ่าฝืนกฎและต้องลงโทษอย่างเหมาะสม
- พี่และน้องต้องละหมาดญามาอะห์พร้อมกัน
- พี่ต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับน้อง
ดุอาอฺในชีวิตประจำ�วัน ดุอาอฺก่อนเข้านอน
คำ�อ่าน : บิสมิกัลลอฮุมม่า อ้ามูตู้ ว่าอะฮฺยา คำ�แปล : ด้วยพระนามของพระองค์โอ้อัลลอฮฺ ที่ฉันตาย และฉันเป็น
ดุอาอฺตื่นนอน
คำ�อ่าน : อัลฮัมดุลิลลาฮิลล่าซียฺ อะฮฺยานา บะอฺด้ามา อ่ามาต้านา ว่าอิลัยฮินนุชูรฺ คำ�แปล : การสรรเสริญเป็นของอัลลอฮฺผู้ทรงให้เราได้ฟื้นขึ้นมาอีกหลังจากที่ให้เราตายไป (นอนหลับ) และยังพระองค์คือการฟื้นคืนชีพกลับไป
ดุอาอฺเข้าห้องน้ำ�
คำ�อ่าน : อัลลอฮุมม่า อินนี อ่าอูซุบิก้า มินัลคุบซี่ วัลค่อบาอิซ คำ�แปล : โอ้อัลลอฮฺ แท้จริงฉันขอความคุ้มครองจากพระองค์ให้พ้นจากชัยตอนมารร้าย ทั้งเพศผู้และเพศเมีย ดุอาอฺออกจากห้องน้ำ�
คำ�อ่าน : ฆุฟรอน่าก้า คำ�แปล : ฉันขอการให้อภัยของพระองค์ ดุอาอฺรับประทานอาหาร
คำ�อ่าน คำ�แปล
: อัลลอฮูมาบาริกลานา ฟีมารอสัคตานา วากีนา อาซาบันนาร : ข้าแด่อัลลอฮฺ ได้โปรดประทานความเพิ่มพูนให้แก่เรา ในสิ่งที่พระองค์ท่านได้ ประทานเป็นปัจจัยยังชีพแก่เรา และได้โปรดพิทักษ์คุ้มครองเราให้พ้นจากการ ลงโทษของไฟนรก ดุอาอฺหลังรับประทานอาหาร
คำ�อ่าน คำ�แปล
: อัลฮัมดุลิลลาฮิลล่าซียฺ อัตอ้าม่านีฮาซา ว่าร่อซ่าก้อนีฮี่ มินฆ็อยริเฮาลิมมินนี ว่าลากูวะฮฺ : การสรรเสริญเป็นของอัลลอฮฺผู้ทรงให้สิ่งนี้เป็นอาหารแก่ฉัน และให้มันเป็นปัจจัย ยังชีพฉัน โดยปราศจากอำ�นาจหรือพลังใดๆจากฉันเลย
ดุอาอฺเข้ามัสยิด คำ�อ่าน : อัลลอฮุมมัฟตะฮฺลียฺ อับวาบ้า เราะฮฺม่าติก้า คำ�แปล : โอ้อัลลอฮฺ โปรดเปิดประตูแห่งความเมตตาของพระองค์ให้แก่ฉัน
ดุอาอฺออกจากมัสยิด
คำ�อ่าน : อัลลอฮุมม่า อินนียฺ อัสอ้าลุก้า มินฟัดลิก คำ�แปล : โอ้อัลลอฮฺ แท้จริงฉันขอต่อพระองค์ซึ่งส่วนหนึ่งของโปรดปรานของพระองค์ ดุอาอฺให้พ่อแม่
คำ�อ่าน : ร็อบบิฆฺฟิรฺลี วะลิวาลิดัยย่า วัรฺฮัมฮุมา กะมาร็อบบ้ายานี ศ้อฆีรอ คำ�แปล : โอ้พระผู้อภิบาลของฉัน โปรดอภัยโทยให้ฉัน และให้แก่บิดามารดาของฉัน และโปรดให้ความ เมตตาท่านทั้งสองเหมือนที่ทั้งสองได้เอ็นดูเลี้ยงฉันมาในวัยเด็ก ดุอาอฺขับขี่ยานพาหนะ
คำ�อ่าน : ซุบฮานัลล่าซียฺ ซัคค่อร่อล่านาฮาซา วะมากุนนาละฮูมุกกฺรินีน วะอินนาอิลาร็อบบินา ล่ามุงก็ลี่ บูน คำ�แปล : มหาบริสุทธิ์ผู้ทรงให้พาหนะนี้เป็นความสะดวกแก่เรา และเรานั้นไม่สามารถจะควบคุมมันได้ และแท้จริงเราจะต้องเป็นผู้กลับไปสู่พระเจ้าของเราอย่างแน่นอน
ดุอาอฺหลังอาซาน
คำ�อ่าน : อัลลอฮุมม่า ร็อบบะฮาซิฮิดดะอฺวะติ๊ดตามมะฮฺ วัศศอลาติลกออิมะฮฺ อาตี้มุฮัมมะดะนิลวะซีละ ต้า วัลฟ่าดีละฮฺ วับอัษฮู่มะกอมัม มะฮฺมูดะนิ้ลละซี วะอัตตะฮฺ คำ�แปล : โอ้อัลลอฮฺ พระผู้อภิบาลของคำ�เรียกร้องเชิญชวนอันสมบูรณ์นี้ และของการละหมาดที่จะ ดำ�รงต่อไป โปรดประทานวะซีละฮฺ(ความใกล้ชิด-สิทธิ์ในการขอให้เริ่มไต่สวนในวันกิยามะฮฺ) และความ โปรดปรานให้แก่(ท่านนบี)มุฮัมมัด และโปรดฟื้นคืนชีพให้ท่านขึ้นมาอยู่ในตำ�แหน่งที่ได้รับการสรรเสริญ ตามที่พระองค์ได้ทรงสัญญากับท่านเอาไว้ ดุอาอฺขอให้เพิ่มพูนความรู้ คำ�อ่าน : ร็อบบิ ซิดนียฺ อิลมัน คำ�แปล : โอ้พระผู้อภิบาลของฉัน โปรดเพิ่มพูนความรู้ให้แก่ฉันด้วยเถิด ดุอาอฺเยี่ยมผู้ป่วย คำ�อ่าน : อัซอะลุลลอฮัลอะซีม ร็อบบัลอัรฺชิลอาซีม อัยยัชฟิยะก้า คำ�แปล : ฉันขอต่ออัลลอฮฺผู้ทรงยิ่งใหญ่ ผู้เป็นเจ้าของบังลังค์อันยิ่งใหญ่ ให้ทรงรักษาท่านด้วยเถิด
ดุอาอฺขอการอภัยโทษ
คำ�อ่าน : ร็อบบ่านา ฟัฆฺฟิรฺล่านา ซู้นูบ้านา ว่ากัฟฟิรฺ อันนา ซัยยี่อาตี้นา ว่าตะวัฟฟ่านา ม่าอัลอับรอรฺ คำ�แปล : โอ้พระผู้อภิบาลของพวกเรา โปรดทรงอภัยแก่พวกเราซึ่งบาปต่างๆของพวกเรา และโปรด ลบล้างให้พ้นจากเราซึ่งความผิดต่างๆของพวกเรา และโปรดทรงให้พวกเราตายไปอยู่พร้อมกับคนดีทั้ง หลาย
การอาบน้ำ�ละหมาด
1. ตั้งเจตนา (เหนียต) พร้อมกล่าวบิสมิ้ลลาฮฺ ล้างมือทั้งสองข้าง ข้างละ 3 ครั้ง โดยเริ่มจากด้านขวา
2. บ้วนปาก พร้อมสูดน้ำ�เข้าจมูก แล้วสั่งออก 3 ครั้ง
3. ล้างหน้าให้ทั่วขอบเขตของใบหน้า 3 ครั้ง ขอบเขตของใบหน้าเริ่มจากตีนผมจนถึงใต้คาง และ ระหว่างติ่งหูทั้งสองข้าง
4. ล้างมือทั้งสองข้างจนถึงข้อศอก ข้างละ 3 ครั้ง โดยเริ่มจากด้านขวา
5. ลูบศรีษะจากด้านหน้า ไปด้านหลัง และวกกลับมาด้านหน้าอีกครั้ง ใช้นิ้วชี้ใส่ในรูหู ใช้นิ้วโป้งเช็ดที่ ใบหู 1 ครั้ง
6. ล้างเท้าขวาและเท้าซ้ายจนถึงตาตุ่ม ข้างละ 3 ครั้ง โดยเริ่มจากเท้าขวาก่อน
7. อ่านดุอาอฺหลังอาบน้ำ�ละหมาด
คำ�อ่าน : อัชฮะดู้ อัลลาอิลาฮ่า อิลลัลลอฮู่ วะฮฺด้าฮู ลาช่ารีก้าละฮฺ วะอัชฮะดู้ อันน่า มุฮัมม่าดัน อับ ดุฮู ว่าร่อซูลู่ฮู อัลลอฮุมมัจอัลนี มินัตเตาวาบีน่า วัจอัลนี มินัลมุต้าเตาะฮฺฮี่รีน คำ�แปล : ฉันขอปฏิญาณว่าไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺ เพียงองค์เดียวเท่านั้น ไม่มีภาคีใดๆ สำ�หรับพระองค์ และฉันขอปฏิญาณว่ามุฮัมมัดเป็นบ่าว และเป็นศาสนทุตของพระองค์ โอ้อัลลอฮฺ โปรด ทำ�ให้ฉันอยู่ในหมู่ผู้ที่กลับตัวสู่พระองค์ และโปรดทำ�ให้ฉันอยู่ในหมู่ผู้ที่ได้รับการขัดเกลาให้สะอาดด้วยเถิด ข้อควรระวังในการอาบน้ำ�ละหมาด o เริ่มทำ�ข้างขวาก่อน o เรียบเรียงตามลำ�ดับขั้นตอให้ถูกต้อง o ทำ�อย่างต่อเนื่องต้องไม่ล่าช้าหรือขาดตอน o ควรแปรงฟันก่อนอาบน้ำ�ละหมาด o หากมีหนวดเคราให้ขยี้จนชุ่มน้ำ�
อริยบทในการละหมาด
1. ยืนตรงผินหน้าไปทางกิ๊บละฮฺ ยกมือเสมอไหล่ ตั๊กบีร่อตุ้ลเอี๊ยะฮฺรอม (พร้อมกล่าวว่าอัลลอฮุอั๊กบัร) เอามือกอดอกโดยวางมือขวาทับมือซ้าย อ่านดุอาอฺอิฟติตาฮฺ ดุอาอฺขอความคุ้มครอง อ่านอัลฟาติฮะห์และซูเราะฮ
ดุอาอฺอิฟติตาฮฺ
คำ�แปล : อัลเลาะฮ์ผู้ทรงเกรียงไกรอย่างแท้จริง และมวลการสรรเสริญเป็นสิทธิของอัลเลาะฮ์ ซึ่ง เป็นการสรรเสริญอย่างมากมายและกล่าวสดุดีมหาบริสุทธิ์แด่องค์อัลเลาะฮ์ทั้งยามเช้าและยามเย็น ฉันได้ผิน ใบหน้าของฉันสู่พระองค์ผู้ทรงสร้างบรรดาฟากฟ้าและแผ่นดินในสภาพผู้หันเหออกจากศาสนาที่เหลวไหลสู่ ศาสนาที่เที่ยงธรรม ในสภาพผู้ยอมจำ�นนโดยที่ฉันมิใช่เป็นส่วนหนึ่งจากกลุ่มชนผู้ตั้งภาคี แท้จริงการละหมาดของ ฉัน ศาสนกิจของฉัน การมีชีวิตของฉัน และการตายของฉันนั้นเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลเลาะฮ์ ผู้อภิบาลแห่งสากลโลก ไม่มีภาคีใด ๆ สำ�หรับพระองค์และด้วยสิ่งดังกล่าวนี้ ฉันได้ถูกบัญชาใช้โดยที่ฉันเป็นส่วนหนึ่งกลุ่มชนจากผู้ที่ยอม จำ�นน
ดุอาอฺขอความคุ้มครอง
คำ�แปล : ข้าพเจ้าของความคุ้มครองด้วยพระองค์ จากชัยฏอนที่ถูกสาปแช่ง
ฺ
2. ก้มลงรุกัวะอฺ มือจับหัวเข่า และกล่าวดุอาอฺ
ดุอาอฺขณะรุกัวะ
คำ�อ่าน : ซุบฮานะร๊อบบิยัลอะซีมวะบีฮัมดิฮิ คำ�แปล : มหาบริสุทธิ์แด่ผู้อภิบาลของฉันผู้ทรงยิ่งใหญ่และด้วยการสรรเสริญพระองค์นั้น (ข้าพเจ้าทำ�การสดุดี)
3. เอี๊ยะติด้าล ยืนตรงพร้อมยกมือเสมอไหล่ และปล่อยมือแนบลำ�ตัว กล่าวดุอาอฺ
ดุอาอฺตะหฺมี๊ด
คำ�อ่าน : ซะมิอัลลอฮุลิมันฮัมมิดะฮ์ คำ�แปล : อัลเลาะฮ์ทรงได้ยิน ผู้ทำ�การสรรเสริญต่อพระองค์
คำ�อ่าน : ร๊อบบะนาวะละกัลฮัมดุ คำ�แปล : ข้าแด่องค์อภิบาลแห่งเรา และมวลการสรรเสริญเป็นสิทธิ์ของพระองค์
4. ก้มลงสุญูดโดยให้หน้าผาก จมูก หัวเข่าทั้งสองข้าง และมือทั้งสองข้างติดพื้นข้อศอกยกขึ้นกล่าวดุอาอฺ
ดุอาอฺขณะสูญูด
คำ�อ่าน : ซุบฮานะร๊อบบิยัลอะอฺลาวะบิฮัมดิฮิ คำ�แปล : มหาบริสุทธิ์แด่ผู้อภิบาลของฉันผู้ทรงสูงส่งยิ่งและด้วยการสรรเสริญพระองค์นั้น(ข้าพเจ้าทำ�การสดุดี)
5. นั่งระหว่างสองสุญูด โดยใช้เท้าซ้ายรองก้นเท้าขวายันพื้นมือวางบนตัก กล่าว ดุอาอฺ
ดุอาอฺระหว่างสองสูญูด
คำ�แปล : ข้าแด่ผู้อภิบาลของฉัน โปรดทรงอภัยแก่ฉัน โปรดทรงเมตตาฉัน โปรดทรงให้เพียงพอแก่ ฉัน โปรดทรงยกฐานันดรแก่ฉันโปรดทรงประทานปัจจัยยังชีพแก่ฉัน โปรดทรงชี้นำ�ฉันและโปรดทรงปกป้องฉัน(จา กบะลอของโลกนี้และโลกหน้า)
6. ก้มลงสุญูดอีกครั้ง และกล่าวดุอาอฺ ดุอาอฺขณะสูญูด
คำ�อ่าน : ซุบฮานะร๊อบบิยัลอะอฺลาวะบิฮัมดิฮิ คำ�แปล : มหาบริสุทธิ์แด่ผู้อภิบาลของฉันผู้ทรงสูงส่งยิ่งและด้วยการสรรเสริญพระองค์นั้น(ข้าพเจ้าทำ�การสดุดี)
7. ยืนขึ้นกอดอกโดยไม่ต้องยกมือกล่าวอัลลอฮุอั๊กบัร และปฏิบัติเช่นเดียวกับร็อกอะฮฺที่ 1
8. นั่งตะฮีย้าต และกล่าวคำ�ตะฮีย้าต คำ�ศ่อลาวาต
คำ�กล่าวตะฮีย้าต
คำ�แปล : คำ�คารวะต่าง ๆ ที่มีมงคลและละหมาดต่าง ๆ ที่ดีนั้น เป็นสิทธิ์แด่อัลเลาะฮ์ขอความสันติ ของมีแด่ท่าน โอ้ ท่านผู้เป็นนบีรวมทั้งความเมตตาของอัลเลาะฮ์ และความเพิ่มพูนของพระองค์ ขอความสันติ จงมีแด่เราแด่บ่าวของอัลเลาะฮ์ที่มีคุณธรรม ข้าพเจ้าขอปฏิญาณว่าแท้จริงไม่มีพระเจ้าอื่นใดที่ถูกราบไว้โดย เที่ยงแท้เว้นแต่อัลเลาะฮ์และข้าพเจ้าขอปฏิญาณว่าแท้จริงมุฮัมมัดเป็นศาสนทูตของอัลเลาะฮ์
คำ�กล่าวศ่อลาวาต
คำ�แปล : ข้าแด่อัลเลาะฮ์ ได้โปรดประทานความเมตตาพร้อมด้วยความยกย่องแก่มุฮำ�มัดแก่วงศ์ วานของมุฮัมมัดเหมือนกับที่พระองค์ได้ประทานความเมตตาพร้อมด้วยความยกย่องแก่อิบรอฮีมและแก่วงศ์ วานของอิบรอฮีมและได้โปรดประทานความเพิ่มพูนแก่มุฮัมมัดและแก่วงศ์วานของมุฮัมมัดเหมือนกับที่พระองค์ ได้ประทานความเพิ่มพูนแก่อิบรอฮีมและวงศ์วานของอิบรอฮีมในสากลโลกแน่แท้พระองค์นั้นควรแก่การ สรรเสริญและให้เกียรติ
9. กล่าวคำ�ศ่อลาวาต ดุอาอฺ ก่อนสลามและให้สลาม
คำ�ให้สลาม
คำ�อ่าน : อัสลามุอะลัยกุ้มวะเราะห์มะตุลลอฮ์ คำ�แปล : ขอความสันติจงมีแด่พวกท่านและความเมตตาของอัลเลาะฮ์ (ก็จงประสบแด่พวกท่าน)
อรรถาธิบายอายะฮ์กุรซีย์
ความว่า : อัลลอฮฺนั้น คือไม่มีผู้ที่ถูกเคารพสักการะที่เที่ยงแท้ใดๆ นอกจากพระองค์เท่านั้น ผู้ทรง มีชีวิต ผู้ทรงบริหารกิจการทั้งหลาย โดยที่การง่วงนอน และการนอนหลับใดๆ จะไม่เอาพระองค์ สิ่งที่อยู่ใน บรรดาชั้นฟ้าและสิ่งที่อยู่ในแผ่นดินนั้นเป็นกรรมสิทธิ์ของพระองค์ ใครเล่าคือผู้ที่จะขอความช่วยเหลือให้แก่ผู้ อื่น ณ ที่พระองค์ได้ นอกจากด้วยอนุมัติของพระองค์เท่านั้น พระองค์ทรงรู้สิ่งที่อยู่เบื้องหน้าของพวกเขา และ สิ่งที่อยู่เบื้องหลังของพวกเขา และพวกเขาจะไม่ล้อมสิ่งใดจากความรู้ของพvระองค์ไว้ได้ นอกจากสิ่งที่พระองค์ ประสงค์เท่านั้น เก้าอี้พระองค์นั้นกว้างขวางทั่วชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน และการรักษามันทั้งสองก็ไม่เป็น ภาระหนักแก่พระองค์ และพระองค์นั้นคือผู้ทรงสูงส่ง ผู้ทรงยิ่งใหญ่
บทอรรถาธิบาย
“อัลลอฮฺนั้น คือ ไม่มีผู้ที่ถูกเคารพสักการะที่เที่ยงแท้ใดๆ นอกจากพระองค์เท่านั้น” กล่าวคือ พระองค์ทรงบอกให้ทราบทั่วกันว่า พระองค์คืออัลลอฮฺ พระผู้ซึ่งความหมายต่างๆแห่ง การเป็นพระเจ้าที่คู่ควรแก่การเคารพสักการะเป็นกรรมสิทธ์ของพระองค์โดยเฉพาะเพียงพระองค์เดียว การ เคารพสักการะใดๆ การอิบาดะฮฺใดๆ จึงไม่คู่ควรแก่ผู้หนึ่งผู้ใดนอกจากแก่พระองค์เท่านั้น ฉะนั้น การเคารพ สักการะต่อผู้อื่น การอิบาดะฮฺแก่ผู้อื่นจึงเป็นโมฆะ
“ผู้ทรงมีชีวิต ผู้ทรงบริหารกิจการทั้งหลาย” กล่าวคือ พระองค์ทรงมีชีวิตอยู่ตลอดกาล พระองค์ทรงมีชีวิตในตัวของพระองค์เอง จะไม่ตายเป็น อันขาด พระองค์ทรงดำ�รงตนเพื่อบริหารกิจการงานของสรรพสิ่งทั้งหลายที่พระองค์ทรงสร้าง
“การง่วงนอนและการนอนหลับใดๆจะไม่เอาพระองค์” กล่าวคือ จากความมีชีวิตที่สมบูรณ์ของพระองค์ และจากความสมบูรณ์ในการบริหารกิจการงาน ในสรรพสิ่งที่พระองค์ทรงสร้างไว้ ก็คือการง่วงเหงาหาวนอน การหลับนอนใดๆ จะไม่มาแผ้วพานพระองค์ อย่างเด็ดขาด เพราะอาการง่วงและหลับนอนเป็นอาการทางธรรมชาติของมนุษย์และสิงห์สาราสัตว์ ตลอดจน ธรรมชาติของสิ่งอื่นๆที่พระองค์ทรงสร้างไว้ พระองค์ได้ทรงบอกให้ทราบว่า พระองค์ไม่ง่วง ไม่หลับนอน ใน สำ�นวนของอัลกรุอานได้ใช้สำ�นวนที่เน้นให้ทราบ โดยพระองค์ทรงกล่าวว่า การง่วงนอนใดๆ การหลับนอนใดๆ จะไม่มาประสบกับพระองค์เป็นอันขาด ซึ่งธรรมชาติของมนุษย์และสัตว์ต่างๆ เป็นสิ่งถูกสร้างที่อ่อนแอพลัง ความสามารถย่อมเสื่อมถอย จึงต้องการการพักผ่อนนอนหลับ เพื่อเสริมพลังที่หดหายไป
“ทุกสิ่งที่อยู่ในบรรดาชั้นฟ้าและทุกสิ่งที่อยู่ในแผ่นดินล้วนเป็นกรรมสิทธิ์ของพระองค์” ประโยคนี้พระองค์ทรงบอกให้ทราบว่า สรรพสิ่งทั้งมวลล้วนเป็นบ่าวของพระองค์ เป็นกรรมสิทธิ์ ของพระองค์ อยู่ภายใต้อำ�นาจและการควบคุมดูแลของพระองค์
“ใครเล่าที่จะขอความช่วยเหลือให้แก่ผู้อื่น ณ ที่พระองค์ได้ นอกจากด้วยอนุมัติของพระองค์เท่านั้น” เรื่องของการขอชะฟาอะฮฺ หรือการขอความช่วยเหลือให้แก่ผู้อื่นนี้ มีปรากฏอยู่ในซูเราะฮฺอันนัจมฺ อายะฮฺที่ 26 ความว่า “กี่มากน้อยแล้วที่มะลาอิกะฮฺในบรรดาฟากฟ้า ที่การขอชะฟาอะฮฺของพวกเขามิได้ยังประโยชน์อันใด นอกจากหลังจากที่อัลลอฮฺจะทรงอนุมัติให้แก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์และทรงพอพระทัย”
และดังเช่นในอายะฮฺที่ 28 ซูเราะฮฺอัลอันบิยาอฺ ความว่า “และพวกเขาจะไม่ชะฟาอะฮฺให้ได้นอกจากให้ แก่ผู้ที่พระองค์ทรงพอพระทัย” t
อายะฮฺต่างๆ ดังกล่าวมานี้ บ่งบอกถึงความยิ่งใหญ่ของอัลลอฮฺความสูงส่งและความทระนงของ พระองค์ ซึ่งไม่มีผู้ใดบังอาจที่จะให้ความช่วยเหลือผู้ใดได้ นอกจากจะด้วยฉันทานุมัติที่พระองค์จะให้เขา ชะฟาอะฮฺให้เสียก่อน
“พระองค์ทรงรู้สิ่งที่อยู่เบื้องหน้าของพวกเขาและสิ่งที่อยู่เบื้องหลังของพวกเขา” ประโยคนี้บ่งชี้ถึงความรอบรู้รอบตัวรอบด้านของพระองค์ต่อบรรดาสรรพสิ่งทั้งหลายทั้งมวล ทั้ง ในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ดังเช่นการบอกเล่าของพระองค์เกี่ยวกับท่าน ญิบรีล ที่ว่างเว้นในการมาพบท่าน ร่อซูล (ซ.ล) ความว่า “และเรา (ญิบรีล) มิได้ลงมา เว้นแต่ด้วยพระบัญชาใช้ของพระเจ้าของท่าน สิ่งที่อยู่ระหว่าง เบื้องหน้าของเราและสิ่งที่อยู่เบื้องหลังของเราและสิ่งที่อยู่ระหว่างนั้นทั้งหมดเป็นกรรมสิทธิ์ของพระองค์ และ พระเจ้าของท่านนั้นมิทรงหลงลืม”
“และพวกเขาจะไม่ล้อมสิ่งใดสิ่งหนึ่งจากความรู้ของพระองค์ไว้ได้นอกจากสิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์ เท่านั้น” กล่าวคือ จะไม่มีผู้ใดล่วงรู้ในสิ่งหนึ่งสิ่งใดจากความรู้ของพระองค์นอกจากสิ่งที่อัลลอฮฺอัซซะวะญัล จะทรงสอนเขาและให้เขาได้รับรู้ หรืออาจหมายถึงไม่มีผู้ใดที่จะล่วงรู้เกี่ยวกับตัวตน และคุณลักษณะที่แท้จริง ของพระองค์ นอกจากสิ่งที่พระองค์จะทรงให้เขาได้รับรู้เท่านั้น
“เก้าอี้ของพระองค์กว้างเต็มบรรดาท้องฟ้าและแผ่นดิน” คำ�ว่า อัลกุรซีย์ มีความว่า เก้าอี้ ซึ่งเป็นคำ�ที่อายะฮฺถูกขนานนามและถูกเรียก ซึ่งเรียกอายะฮฺนี้กันว่า อายะตุ้ลกุรซีย์ ท่านสะอิ๊ด อิบนุ ญุบัยรฺ ได้รายงานจากท่านอับดุลลอฮฺ อินบิ อับบาส ว่า ท่านอับดุลลอฮฺ อิบนิ อับบาสได้อธิบายความหมายของ เก้าอี้ของพระองค์กว้างทั่วบรรดาชั้นฟ้าและแผ่นดิน ว่า หมายถึง ความรู้ของ พระองค์แผ่กว้างทั่วบรรดาชั้นฟ้าและแผ่นดิน และในอีกรายงานหนึ่งซึ่งมีสายรายงานจากท่าน สะอิ๊ด อิบนุ ญุบัยรฺ จากท่านอับดุลลอฮฺ อิบนิ อับบาส ก็รายงานไว้ตรงกันว่าเป็น ความรอบรู้ของพระองค์
“และการรักษามันทั้งสองก็ไม่เป็นภาระหนักแก่พระองค์” กล่าวคือ การระวังรักษา การควบคุมบรรดาชั้นฟ้าและแผ่นดินและสิ่งที่อยู่ในบรรดาชั้นฟ้าและ แผ่นดิน ตลอดจนสรรพสิ่งที่อยู่ในระหว่างชั้นฟ้าและแผ่นดินนั้น ไม่เป็นภาระหรือยุ่งยากใดๆแก่พระองค์ ถือเป็นเรื่องเล็กน้อยสำ�หรับพระองค์ พระองค์ทรงควบคุมในทุกชีวิต ทรงสอดส่องในทุกสรรพสิ่งต่างๆ ไม่มีสิ่ง ใดรอดพ้นไปจากความรู้เห็นของพระองค์
“และพระองค์นั้นเป็นผู้ที่ทรงไว้ซึ่งความสูงส่งทรงไว้ซึ่งความยิ่งใหญ่” ทรงสูงส่งด้วยตัวของพระองค์เอง สูงส่งเหนือสิ่งที่พระองค์ทรงสร้างทั้งมวล พระองค์ทรงสูงส่งด้วย ความยิ่งใหญ่แห่งคุณลักษณะต่างๆ ของพระองค์ ดังนั้น อายะฮฺที่พรั่งพร้อมที่ประมวลความหมายต่างๆ เหล่านี้ บ่งบอกถึงความหมายสูงส่งที่ได้พรรณนา มาข้างต้นนี้ จึงสมควรแล้วที่จะเป็นอายะฮฺที่ยิ่งใหญ่ที่สุด สำ�คัญที่สุดแห่งบรรดาอายะฮฺต่างๆของอัลกุรอาน เป็นการควรแล้วสำ�หรับผู้ที่อ่านมันอย่างพินิจพิจารณา ที่จะได้รู้ในคุณค่าและควรศึกษาทำ�ความเข้าใจ เพื่อที่หัวใจ ของเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยความเชื่อมั่น และ อีหมานศรัทธา และได้รับความคุ้มครองรักษาด้วยผลแห่งความเชื่อมั่น ดังกล่าว ให้พ้นจากความชั่วร้ายต่างๆ ของชัยฏอนมารร้าย ดังที่ท่านร่อซูล (ซ.ล) ได้บอกไว้
บทรำ�ลึกสดุดีถึงอัลลอฮฺ ยามเช้าและยามเย็น
ฉันขอความคุ้มครองต่ออัลลอฮฺให้พ้นจากชัยฏอนที่ถูกสาปแช่ง ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงกรุณาปรานี ผู้ทรงเมตตาเสมอ อัลลอฮฺนั้นคือไม่มีผู้เป็นที่เคารพสักการะใดๆ นอกจาก พระองค์เท่านั้น ผู้ทรงชีวิน ผู้ทรงบริหารกิจการทั้งหลาย โดยที่การง่วงนอนและการนอนหลับใดๆจะไม่เอาพระองค์ ทุกสิ่งที่อยู่ในบรรดาชั้นฟ้าและทุกสิ่งที่อยู่ในแผ่นดินล้วนเป็น กรรมสิทธิ์ของพระองค์ ใครเล่าที่จะขอความช่วยเหลือให้แก่ผู้อื่น ณ ที่พระองค์ได้ นอกจากด้วยอนุมัติของพระองค์เท่านั้น พระองค์ทรงรู้สิ่งที่อยู่เบื้องหน้าของพวกเขาและสิ่งที่อยู่เบื้อง หลังของพวกเขา และพวกเขาจะไม่ล้อมสิ่งใดสิ่งหนึ่งจากความรู้ของพระองค์ไว้ ได้นอกจากสิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์เท่านั้น เก้าอี้ของพระองค์กว้างเต็มบรรดาท้องฟ้าและแผ่นดินและการ รักษามันทั้งสองก็ไม่เป็นภาระหนักแก่พระองค์ และพระองค์นั้นเป็นผู้ที่ทรงไว้ซึ่งความสูงส่งทรงไว้ซึ่งความยิ่ง ใหญ่
ซูเราะฮฺ อัลอิคลาศ (กล่าว 3 ครั้ง) ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงกรุณาปรานี ผู้ทรงเมตตาเสมอ
จงกล่าวเถิดมูฮัมหมัด พระองค์คืออัลลอฮฺผู้ทรงเอกะ อัลลอฮฺนั้นทรงเป็นที่พึ่ง พระองค์ไม่ประสูติ และไม่ทรงถูกประสูติ และไม่มีผู้ใดเสมอเหมือนพระองค์
ซูเราะฮฺ อัล-ฟะลัก (กล่าว 3 ครั้ง) ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงกรุณาปรานี ผู้ทรงเมตตาเสมอ
จงกล่าวเถิด มุฮัมมัด ข้าพระองค์ขอความคุ้มครองต่อ พระเจ้าแห่งรุ่งอรุณ ให้พ้นจากความชั่วร้ายที่พระองค์ได้ทรงบันดาลขึ้น และจากความชั่วร้ายแห่งความมืดของเวลากลางคืนเมื่อ มันแผ่คลุม และจากความชั่วร้ายของบรรดาผู้เสกเป่าในปมเงื่อน และจากความชั่วร้ายของผู้อิจฉาเมื่อเขาอิจฉา
ซูเราะฮฺ อัลอันนาส (กล่าว 3 ครั้ง) ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงกรุณาปรานี ผู้ทรงเมตตาเสมอ
จงกล่าวเถิด มุฮัมมัด ข้าพระองค์ขอความคุ้มครองต่อ พระเจ้าแห่งมนุษย์ชาติ พระราชาแห่งมนุษย์ชาติ พระเป็นเจ้าแห่งมนุษย์ชาต ให้พ้นจากความชั่วร้ายของผู้กระซิบกระซาบที่หลอกล่อ ที่กระซิบกระซาบในหัวอกของมนุษย์ จากหมู่ญินและมนุษย์ บทรำ�ลึกสดุดีถึงอัลลอฮฺ ยามเช้าและยามเย็น เราเข้าสู่เวลาเช้า (เย็น) ซึ่งอำ�นาจการปกครองเป็น กรรมสิทธิ์ของอัลลอฮฺ การสรรเสริญทั้งมวลเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮฺ ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺองค์เดียวเท่านั้น ไม่มี ภาคีใดๆคู่เคียงกับพระองค์ อำ�นาจทั้งหลายและการสรรเสริญเป็นกรรมสิทธิ์ของ พระองค์ และพระองค์นั้นทรงเดชานุภาพเหนือทุกสิ่ง โอ้พระผู้เป็นเจ้าของฉัน ฉันขอต่อพระองค์ท่านสิ่งซึ่งเป็น คุณงามความดีที่มีอยู่ในวัน(ค่ำ�คืน)นี้
และคุณงามความดีที่จะมีมาในวันนี้ และฉันขอความคุ้มครองต่อพระองค์ให้พ้นจากเลวร้ายที่ จะเกิดขึ้นในวัน(ค่ำ�คืน)นี้ และความเลวร้ายที่จะเกิดภายหลังมัน โอ้พระผู้เป็นเจ้าของฉัน ฉันขอความคุ้มครองต่อพระองค์ ให้พ้นจากความเกียจคร้านและความเลวร้ายในวัยชรา โอ้พระผู้เป็นเจ้าของฉัน ฉันขอความคุ้มครองต่อพระองค์ ให้พ้นจาการลงโทษในนรก และการลงโทษในกูบูร (หลุมฝังศพ) โอ้อัลลอฮฺ ด้วยพระองค์ท่านเราขอเริ่มเช้า(เย็น) วันใหม่ และด้วยพระองค์ท่านเราได้เข้าสู่เวลาเย็น(เช้า) และด้วยพระองค์ท่านเราจึงมีชีวิตอยู่ และด้วยพระองค์ ท่านเราจะตาย และเราจะฟื้นคืนชีพไปสู่พระองค์ท่าน โอ้อัลลอฮฺ พระองค์ท่านคือพระเจ้าของฉัน ไม่มีพระเจ้า อื่นใดนอกจากพระองค์ พระองค์ทรงสร้างฉันและฉันเป็นบ่าวของพระองค์ ฉันอยู่ภายใต้ข้อตกลงและคำ�มั่นสัญญาของพระองค์ เท่า ที่ฉันสามารถกระทำ�ได้ ฉันขอความคุ้มครองต่อพระองค์ให้พ้นจากความชั่วร้ายที่ ฉันได้กระทำ�ไว้ ฉันขอสารภาพต่อพระองค์ในความโปรดปรานของ พระองค์ที่มีต่อกัน
และขอสารภาพในความผิดของฉันดังนั้นขอพระองค์ทรง อภัยโทษให้แก่ฉัน เพราะแท้จริงไม่มีผู้ใดจะอภัยโทษในความผิดทั้งมวลให้ แก่ฉันได้นอกจากพระองค์ท่านเท่านั้น
กล่าว 4 ครั้ง โอ้อัลลอฮฺ แท้จริงฉันได้เริ่มเช้า(เย็น) วันนี้ขอให้พระองค์ ท่านทรงเป็นพยาน และบรรดามะลาอิกะฮฺผู้ทรงแบก พระบัลลังก์ของพระองค์ และบรรดามะลาอิกะฮฺทั้งหลาย และทุกสิ่งที่พระองค์ท่านสร้างไว้ (เป็นพยานว่า) แท้จริงพระองค์ท่านคืออัลลอฮฺ ไม่มีพระเจ้าอื่นใด นอกจากพระองค์ท่านเพียงองค์เดียว ไม่มีสิ่งใดเป็นภาคี พระองค์ และแท้จริงมูฮัมหมัดเป็นบ่าวและร่อซูลของพระองค์ โอ้อัลลอฮฺ ไม่มีความโปรดปรานใดใน เช้า (เย็น) วันนี้ที่ ได้ปรากฏกับฉันหรือกับสรรพสิ่งที่พระองค์ทรงสร้าง เว้นแต่เป็นความโปรดปรานที่มาจากพระองค์ท่านเท่านั้น ไม่มีภาคีใดๆ คู่เคียงกับพระองค์ท่าน ดังนั้นการสรรเสริญสดุดีทั้งปวง และการขอบคุณเป็น กรรมสิทธิ์ของพระองค์ท่าน
กล่าว 3 ครั้ง โอ้อัลลอฮฺ ขอพระองค์ทรงให้ฉันมีสุขภาพดีในร่างกายของฉัน โอ้อัลลอฮฺ ขอพระองค์ทรงให้ฉันมีสุขภาพที่ดีในการฟังของฉัน โอ้อัลลอฮฺ ขอพระองค์ทรงให้ฉันมีสุขภาพที่ดีในการมองของฉัน
ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์ กล่าว 3 ครั้ง โอ้อัลลอฮฺ ฉันขอความคุ้มครองต่อพระองค์ท่านให้พ้น จากการเนรคุณและความยากจน และฉันขอความคุ้มครองต่อพระองค์ท่านให้พ้นจากการ ทรมานในกุบูร (หลุมฝังศพ) ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์ท่าน กล่าว 10 ครั้ง พระองค์นั้นทรงเป็นที่พอเพียงแก่ฉันแล้วพระเจ้าอื่นใด นอกจากพระองค์ แด่พระองค์เท่านั้นที่ฉันขอมอบหมาย และพระองค์ทรงเป็นเจ้าของบัลลังก์อันยิ่งใหญ่
โอ้อัลลอฮฺ ฉันขออภัยโทษต่อพระองค์ และขอให้มีความมั่นคงปลอดภัยทั้งในดุนยาและ อาคิเราะฮฺ
โอ้อัลลอฮฺ ฉันขออภัยโทษต่อพระองค์ และขอให้มีความมั่นคงปลอดภัยในศาสนาของฉัน ชีวิตแห่งโลกนี้ของฉัน ครอบครัวของฉัน และทรัพย์สิน ของฉัน โอ้อัลลอฮฺ ทรงปกปิดสิ่งที่น่าละอาย (รวมทั้งความผิด) ของฉัน และทรงให้ฉันปลอดภัยจากความหวาดกลัวทั้งหลาย โอ้อัลลอฮฺ ขอพระองค์ทรงคุ้มครองฉัน จากเบื้องหน้าของฉัน จากเบื้องหลังของฉัน จากเบื้องขวาของฉัน จากเบื้องซ้ายของฉัน จากเบื้องบนของฉัน และฉันขอความคุ้มครองด้วยความยิ่งใหญ่ของพระองค์ ให้ พ้นจากภยันตรายจากเบื้องล่างของฉัน (หรือถูกธรณีสูบ)
กล่าว 3 ครั้ง โอ้อัลลอฮฺ ผู้ทรงรอบรู้สิ่งเร้นลับ (มองไม่เห็น) และสิ่งที่ มองเห็น ผู้ทรงสร้างชั้นฟ้าและแผ่นดิน พระผู้อภิบาลและพระเจ้าของสรรพสิ่งทั้งมวล ฉันขอปฏิญาณว่าไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์ เท่านั้น
ฉันขอความคุ้มครองต่อพระองค์ให้พ้นจากสิ่งชั่วร้ายใน ตัวฉัน และความชั่วร้ายของชัยฏอนและการตั้งภาคี และให้พ้นจากการทำ�ผิดต่อวิญญาณของฉัน หรือต่อพี่ น้องมุสลิม ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ซึ่งไม่มีสิ่งใดในชั้นฟ้าและแผ่น ดินจะทำ�อันตรายใดๆในขณะที่กล่าวนามพระองค์ และพระองค์เป็นผู้ทรงได้ยิน ผู้ทรงรอบรู้ กล่าว 3 ครั้ง ฉันยินดีที่อัลลอฮฺเป็นพระผู้อภิบาลของฉัน อิสลามเป็นศาสนาของฉัน และนบีมุฮัมหมัด (ซ.ล) เป็นนบีของฉัน
โอ้พระผู้ทรงชีวิน โอ้พระผู้ทรงบริหารกิจการทั้งหลาย ด้วยความเมตตาของพระองค์ท่าน ฉันขอความช่วยเหลือ ขอพระองค์ทรงแก้ไขกิจการทั้งมวลของฉัน และโปรดอย่าได้มอบหมายฉันแก่ตัวของฉันเลยแม้เพียง ชั่วพริบตาเดียว เราได้เริ่มเช้า (เย็น) วันนี้ และอำ�นาจทั้งหลายเป็น กรรมสิทธิ์ของอัลลอฮฺองค์พระผู้อภิบาลแห่งสากลโลก โอ้อัลลอฮฺ ฉันขอต่อพระองค์ท่านซึ่งความดีในวันนี้ (คืนนี้)
ความสำ�เร็จ ความช่วยเหลือ และความสว่างของ วันนี้ (คืนนี้) ความจำ�เริญ และทางนำ�ของฉัน และฉันขอความคุ้มครองต่อพระองค์ท่าน ให้พ้นจาก ความชั่วร้ายของมัน และความชั่วร้ายหลังจากมัน เราได้เริ่มเช้า (เย็น) วันใหม่โดยตั้งอยู่บนธรรมชาติของ อิสลาม และบนถ้อยตำ�แหน่งแห่งเตาฮีด (ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮฺ) และบนศาสนาของนบีของเรามุฮัมหมัด ศ็อลลัลลอฮุอะ ลัยฮิวะซัลลัม และบนแนวทางของบิดาของเราคือนบีอิบรอฮีม ผู้ยึดมั่น อยู่ในแนวทางที่เที่ยงธรรม และมิเคยอยู่ในหมู่ผู้ตั้งภาคีกับพระองค์ กล่าว 100 ครั้ง มหาบริสุทธิ์แด่อัลลอฮฺและด้วยการสรรเสริญต่อพระองค์ กล่าว 1, 10 หรือ 100 ครั้ง ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺองค์เดียวเท่านั้น ไม่มี ภาคีใดๆคู่เคียงกับพระองค์ อำ�นาจและการสรรเสริญทั้งมวลเป็นกรรมสิทธิ์ของ พระองค์ และพระองค์ทรงเดชานุภาพเหนือทุกสิ่ง
กล่าว 3 ครั้ง ขอความคุ้มครองด้วยพระนามของอัลลอฮฺอันสมบูรณ์ให้ พ้นจากความเลวร้ายของทุกสิ่งที่พระองค์ทรงบันดาล กล่าว 3 ครั้ง มหาบริสุทธิ์แด่อัลลอฮฺ และด้วยการสรรเสริญต่อ พระองค์ เท่าจำ�นวนสิ่งถูกสร้างของพระองค์ และด้วยความพอพระทัยของพระองค์ และด้วยน้ำ�หนักแห่งบัลลังก์ของพระองค์ และด้วยน้ำ�หมึกสำ�หรับบันทึกพจนารถของพระองค์ บทที่กล่าวเฉพาะยามเช้า โอ้อัลลอฮฺ ฉันขอต่อพระองค์ซึ่งความรู้ที่มีประโยชน์ และปัจจัยยังชีพอันดีงาม และการงานที่จะถูกตอบรับ ฉันขอต่อพระองค์ท่าน ซึ่งการอภัยโทษและขอเตาบัต (กลับเนื้อกลับตัว) ต่อพระองค์ท่าน (กล่าว 100 ครั้ง) โอ้อัลลอฮฺ ได้โปรดเมตตาและอภัยโทษต่อท่านนบีมุฮัม หมัด (ซ.ล) (กล่าว 100 ครั้ง)
จะกล่าวซิกรุลลอฮฺเมื่อไหร่ อัซการยามเช้า เริ่มก่อนตะวันขึ้น คือหลังละหมาดซุบฮิ (สำ�หรับคนที่ละหมาดตรงเวลา) ซึ่งตะวันยังไม่ ขึ้น จนกระทั่งถึงตะวันขึ้น อัซการยามเย็น มีทัศนะแตกต่างกัน 3 ทัศนะ 1. เริ่มตั้งแต่ละหมาดอัสริถึงมัฆริบ – เป็นทัศนะอุละมาอฺส่วนมาก รวมทั้งอิมามอิบนุก็อยยิม 2. ตั้งแต่เวลาดุฮริถึงมัฆริบ – อุละมาอฺที่ซาอุดิ (สัจญนะดาอิมะฮฺ) ส่วนมากสนับสนุนทัศนะนี้ 3. ตั้งแต่เวลาดุฮรฺถึงเที่ยงคืน (ช่วงกลางของกลางคืน) –อิมามสะยูฏียฺ
อานาซีดค่าย
ลุกมานสอนลูก ฉันจดจำ�ทุกคำ�พ่อบอก ไม่ลืม ยังจำ�ขึ้นใจ จากวันนั้นบันทึกข้างใน…ไม่ลืม บอกฉัน ว่าเราเป็นมุสลิม ต่อไปต้องเป็นมุฮฺมิน จดจำ�ไว้สำ�นึกข้างใน วันนี้ ผ่านมานาน มันคือวันที่พ่อไม่อยู่ ประโยคก้องอยู่ในหูที่พ่อย้ำ�เตือน โอ้ ลูกเอ๋ย…อย่าละเลยละหมาด อย่าเฉยเมยซากาต บอกให้อยู่ในทางที่เที่ยงตรง โอ้ ลูกเอ๋ย…อย่าตั้งภาคีพระองค์ รักษาศรัทธาสูงส่ง ต่อไปลูกคงไม่หลง เพราะพระองค์ทรงเมตตา ฉันจะทำ�ตามคำ�พ่อบอก ไม่ลืมยังจำ�ขึ้นใจ แต่วันนี้มีลมหายใจ โรยอ่อน หมดแล้ว จะหมดลมทุกวินาที จะเปลี่ยนแปลงนะช้าเต็มที นาทีนี้ตัวฉันจะทำ�เช่นไร วันนั้น ผ่านมานาน คือวันที่พ่อไม่รู้ ประโยคที่เคยรับรู้ไม่เคยสนใจ โอ้ ลูกเอ๋ย…อย่าละเลยละหมาด อย่าเฉยเมยซากาต บอกให้อยู่ในทางที่เที่ยงตรง โอ้ ลูกเอ๋ย…อย่าตั้งภาคีพระองค์ รักษาศรัทธาสูงส่ง ต่อไปลูกคงไม่หลง……ฮืม ฮืม ฮืม โอ้ ลูกเอ๋ย…อย่าตั้งภาคีพระองค์ รักษาศรัทธาสูงส่ง มุฮฺมินจะต้องไม่หลง เพราะทุกคนรักษาศรัทธ
มุสลิม 10 ประการ *นี่(นั่น)คือ คุณลักษณะที่ดีของมุสลิม 10 ประการ จงจำ�เอาไว้ให้มั่น แล้วทำ�ตาม ความประเสริฐจะเกิดกับเธอ ไม่ยากเย็นอะไรใช่ไหม ใครๆ ก็ทำ�ได้อย่างนี้ เพียงเอาศรัทธาที่เธอและฉันมี เป็นแรงพลังผลักดัน เกิดเป็นมุสลิม อย่าเป็นเพียงแค่ในนาม จงเดินตามวิถีที่สมบูรณ์ เกิดเป็นมุสลิม อย่าเพียงเป็นมุสลิม แต่จงเป็นมุสลิมที่ดี... **หนึ่ง คือ ศรัทธาเที่ยงแท้ไม่สั่นคลอน สอง อิบาดะห์ถูกต้องตามแบบอย่าง สาม งดงามจรรยามารยาท ข้อสี่ รอบรู้สติปัญญาล้ำ�เลิศ ห้า รักษาระเบียบวินัย หก จำ�เอาไว้อาชีพการงานดี เจ็ด สุขภาพแข็งแรง แปด ชนะใจตัวเอง ข้อเก้า เก่งบริหารเวลา ข้อสิบ จำ�ไว้น่ะ สร้างประโยชน์ให้ผู้อื่น ซ้ำ�ทั้งหมด ,(**)
ด้วยรักและศรัทธา เห็นข้อความเห็นถ้อยคำ�ที่มัดใจ เพิ่มพลังเพิ่มอีหม่านให้ก้าวไกล มุสลิมที่ห่วงหาเอื้ออาทรประทับใจ จะอยู่ไกลจะส่งไปกำ�ลังใจถึงกัน ใช้เวลาเชื่อมสัมพันธ์ผ่านมาหลายปี และเวลาช่วงที่ดีเราตื้นตัน ก็ไม่รู้ว่าวันไหนคือวันที่เราต้องจากกัน แต่จะคิดถึงวันนั้นน้ำ�ตามันไหลออกมา ไม่รู้จะเจออีกนานเท่าไร ไม่รู้เลยเวลามีนานแค่ไหน รอยยิ้มและกำ�ลังใจที่ให้คุณ ที่รู้วันนี้แค่เสียใจหากไม่มีเราอีกต่อไป แต่โปรดจงจำ�เอาไว้อัลลอฮฺอยู่กับเรา ด้วยสัมพันธ์ด้วยเวลาที่ให้กัน จึงมีเธอจึงมีฉันและเข้าใจ ด้วยความรักและศรัทธาถึงเวลาที่เราต้องจากไปแต่ผูกพันแต่หัวใจไม่เคยลืม ไม่รู้จะเจออีกนานเท่าไร ไม่รู้เลยเวลามีนานแค่ไหน รอยยิ้มและกำ�ลังใจที่ให้คุณ ที่รู้วันนี้แค่เสียใจหากไม่มีเราอีกต่อไป แต่โปรดจงจำ�เอาไว้ อัลลอฮฺไม่ลืมเรา
จดบันทึก...
จดบันทึก...