หนังสือพิมพ์นครโพสต์ ฉบับเดือนเมษายน 2560

Page 1

สนามกีฬาชนโคบ้านนาทราย

93 MHz คิดดี ท�ำดี ที่นี่เมืองนคร

เดือนเมษายน 2560

(ตลาดช้อย) ประจ�ำเดือนเมษายน 2560

บ้านนาทราย

สนามกีฬาชนโค

วิถีชน ฅนคอน

FREE COPY

1

ปีที่ 13 ฉบับที่ 193


2

เดือนเมษายน 2560

FREE COPY

นัดปฐมฤกษ์ ก็สุดมันแล้ว!!

ที่มา : TNews

“โคโหนดจอมลีลา” ขวิดทิม ่ ดุดัน คู่แข่งสุดทนวิ่งกระเจิง วันที่ 22 เม.ย. 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการเปิดสนามกีฬา ชนโคบ้านนาทราย (ตลาดช้อย) ท�ำให้บรรยากาศในพื้นที่คึกคักเป็นพิเศษ สามารถส่งเสริมอาชีพที่เกี่ยวข้องได้อย่างเป็นรูปธรรมชัดเจน โดยเฉพาะ ในรัศมี 2 กม.ชาวบ้านเจ้าของที่มีที่ดินว่างเปล่าหลายสิบรายได้ท�ำการ พัฒนาที่ดินของตัวเองก่อสร้างเป็นบ้านเช่า คอกวัวให้เช่า สถานที่รับฝาก รถ ปลูกหญ้าอาหารโค ร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายน�้ำดื่มสะอาดส�ำหรับ ให้โคกิน กระจายอยู่เต็มพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณด้านหน้าและด้านหลัง สนาม ซึ่งบรรยากาศเริ่มคึกคักก่อนการถึงวันแข่งขัน 15-20 วัน เจ้าของโค หรือวัวชนที่ติดคู่ชนต่างน�ำวัวของตัวเองเดินทางมาเช่าบ้านและคอกวัว เพื่อให้วัวเคยชินกับสนามและพื้นที่ โดยวัว 1 ตัวจะมีผู้เลี้ยงและผู้ติดตาม มาคอยดูแลและฝึกซ้อมอย่างน้อย 5 คน ซึ่งในช่วงเช้าและเย็นจะน�ำวัวชน วิ่งออกก�ำลังกายและน�ำเข้าสนามฝึกซ้อมเพื่อให้ชินกับสภาพสนาม ทั้งดิน พื้นสนาม กลิ่นดิน รวมทั้งกลิ่นวัสดุอุปกรณ์ทั้งภายในสนามและรอบสนาม เพื่อให้วัวชนคุ้นชินกับกลิ่นและสภาพภายในและรอบๆ สนามทั้งหมด ท�ำให้วัวไม่ตื่นตกใจ ซึ่งมีผลต่อการแข่งขันในวันแข่งขันจริงเป็นอย่างมาก ส�ำหรับการแข่งขันทั้ง 3 วันเป็นไปอย่างสนุกสนานและคึกคัก เป็นพิเศษ นายสมพงษ์ มากมณี นายอ�ำเภอเมือง จ.นครศรีธรรมราช เป็น ประธานเปิดการแข่งขัน และมอบเสื้อสามารถให้วัวขนคู่เอก มี นายวิโชต เกตุชาติ อาของของสมชาย เหตุชาติ หรือ “สจ.แอ๋ว”นายสนาม เป็น ประธานคณะกรรมการตัดสิน นอกจากนี้ ยังมีผู้หลักผู้ใหญ่อีกหลายท่าน เดินทางมาชมการแข่งขัน อาทิ นายธีระ วงศ์สมุทร อดีตรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายสมพงษ์ มากมณี เป็นต้น ซึ่งการ แข่งขันในแต่ละคู่เป็นไปอย่างดุเดือด สนุกสนาน โดยมีอาจารย์ เผดิม จันลือชัย สื่อมวลชนที่เป็นผู้บุกเบิกการบันทึกและถ่ายทอดสดกีฬาวัวชน ภาคใต้ ร่วมบันทึกภาพการแข่งขันและบรรยากาศภายในสนามอย่าง ละเอียดพร้อมถ่ายทอดสดทางเฟซบุ๊คไลน์ รวมทั้งถ่ายทอดสดทางเฟซบุ๊ค ไลฟ์ของส�ำนักข่าวมีดีนิวส์อีกด้วย และมีผู้เข้าชมการถ่ายทอดสดนับหมื่น คน ส�ำหรับคู่เอกของรายการชิงเงินรางวัลเดิมพัน 60,000 บาท และเน เสมอนอกอีกฝั่งละ 1 ล้านบาท ระหว่างโคลังสาดองค์ชายเล็ก (ลูกมุด)

ของน้องเก บ้านไสหร้า ชนกับโคโหนดจอมลีลา ของนายสุนันท์ ค่ายโคสุ ศรัณย์ ก่อนการแข่งขันโคลังสาดองค์ชายเล็ก เป็นต่อ 10-6 และเริ่มชน ไปได้ 5 นาทีราคาต่อรองไหลลึกโดยโคลังสาดองค์ชายเล็กเป็นต่อลึกกว่า เดิม 10-4 โดยบรรดาขารองทั้งหลายแย่งกันรองกันอุตลุด และจนเมื่อ เวลาผ่านไปเกือบ 20 นาทีโคลังสาดองค์ชายเล็ก เริ่มแสดงอาการอ่อนแรง ให้เห็น ท�ำให้โคโหนดจอมลีลาได้ทีใช้เขาสะบัดเหวี่ยงช้อนล่างงัดเอาร่าง ของโคลังสาดองค์ชายเล็กและดันหรือรนไปรอบๆ สนามท่ามกลางเสียง เชียร์ดังสนั่นหวั่นไหวไปทั้งสนาม จนโคลังสาดองค์ชายเล็ก เสียหลักล้มลง กับพื้นสนาม ในขณะที่โคโหนดจอมลีลา พยายามใข้เขาแทงดันเอาไว้กับ พื้นนานเกือบ 3 นาที จากนั้นจึงเริ่มขวิดงัดอย่างรุนแรงจนโคลังสาดองค์ ชายเล็ก กระเด็นกระดอนและลุกขึ้นยืนได้แต่แสดงอาการกล้าๆ กลัวๆ จน เมื่อโคโหนดจอมลีลา พุ่งเข้าขวิดอีกรอบอย่างคึกคะนอง โคลังสาดองค์ ชายเล็ก จึงตัดสินใจหันหลังให้วิ่งหนี คณะกรรมการกลางเริ่มตั้งขันน�้ำจับ เวลา 1.45 นาทีเพื่อเปิดโอกาสให้พี่เลี้ยงฝ่ายโคลังสาดองค์ชายเล็ก เข้าไป น�ำโคลังสาดองค์ชายเล็ก มาต่อเขาอีกครั้ง แต่ไม่เป็นผลเนื่องจากโคลังสาด องค์ชายเล็ก ไม่ยอมสู้ประกอบกับขันจมน�้ำพอดี คณะกรรมการกลางจึงตี โพนบ่งบอกผลการแข่งขันว่าโหนดจอมลีลาพลิกล็อคชนะไปอย่างดุเดือด นายสมชาย เกตุชาติ หรือ “ส.จ.แอ๋ว” นายสนามฯ จึงลงไป ในสนามฯ เพื่อท�ำพิธีมอบเงินเดิมพันและเสื้อสามารถให้กับเจ้าของโคโหนด จอมลีลา และเรียนเชิญนายสมพงษ์ มากมณี นายอ�ำเภอเมือง จ.นครศรี ธรรมราช เป็นตัวแทนนายจ�ำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัด นครศรีธรรมราช มอบเสื้อสามารถให้โหนดจอมลีลา ท่ามกลางเสียงปรบ มือชื่นชมอย่างกึกก้องทั้งสนาม นายสุรโรจน์ นวลมังสอ ผอ.ส�ำนักข่าวนครโพสต์ ที่ปรึกษา

สนามกีฬาชนโคนาทราย ต.นาทราย อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า ในอดีตสนามชนโคบ้านยวนแหลเป็นทางสนามชนโคที่โด่งดังมากที่สุดใน ภาคใต้ มีนายเหมีย เกตุชาติ เป็นผู้บุกเบิกก่อตั้ง ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เทศกาลบุญสารทเดือนสิบ จะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ เดินทางมาขมการแข่งจ�ำนวนมาก เมื่อนายปรีชา เกตุชาติ เสียชีวิต สนาม กีฬาชนโคบ้านยวนแหลจึงถูกยกเลิกไปเกือบ 20 ปี นายสมชาย เกตุชาติ หรือ ส.จ.แอ๋ว จึงยื่นขออนุญาตจากกระทรวงมหาดไทยเพื่อก่อสร้างสนาม ทดแทนของเก่าที่ถูกยกเลิกไป โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมอาชีพการเลี้ยง วัวชนและอาชีพที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ส่งเสริมการเรียนรู้ในการพัฒนาสายพันธุ์ วัวชนภาคใต้ ที่ส�ำคัญเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว นอกจากจะสร้างได้ รายได้กระตุ้นเศรษฐกิจในชุมขชนแล้วยังสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวเข้า จังหวัดปีละหลายล้วนบาท “การก่อสร้างสนามแห่งนี้เป็นการก่อสร้างสนามกีฬาวัวชนที่ ได้มาตรฐานสากล มีระบบการรักษาความปลอดภัย มีเจ้าหน้าที่ตรวจค้น อาวุธ ยาเสพติดอย่างละเอียด รวมทั้งการตรวจสุขภาพวัวที่ติดคู่ชนทุกตัว รวมทั้งการผ่านจุดฆ่าเชื้อโรคก่อนเข้าสู่ในสนาม โดยได้รับการสนับสนุน จากศูนย์ชันสูตรและวินิจฉัยโรคสัตว์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช (ทุ่งใหญ่) การเตรียมพร้อมด้านการ ดับเพลิง หลังจากนี้จะมีการพัฒนาต่อยอดครบวงจร โดยเฉพาะการจัด นิทรรศการประวัติความเป็นมาของกีฬาวัวชนในทุกแง่มุมอย่างละเอียด เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้ศึกษาเรียนรู้ เพื่อก้าวข้ามค�ำว่า “บ่อนวัวชน-บ่อนการพนัน” สู่มหาลัยวัวชนอย่างเต็มรูปแบบแห่งแรกของ ภาคใต้และเมืองไทยในอนาคตอันใกล้นี้”นายสุรโรจน์ นวลมังสอ กล่าว ยืนยันหนักแน่นในที่สุด.


เดือนเมษายน 2560

FREE COPY

ปี่กลองการเมือง... หลังรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 ประกาศบังคับใช้ ปี่กลองการเมืองที่เงียบหายไปร่วม สามปีก็เริ่มแว่วเสียงส�ำเนียงโหมโรง แม้ว่าโดยข้อเท็จจริงแล้ว เทศกาลเลือกตั้งครั้งต่อไปที่จะมาถึง ยังอาจต้องใช้เวลา เดินทางอีกยาวนาน โดยประมาณก็หนึ่งปีครึ่งหรือ 18 เดือน เป็นอย่างน้อย สามปีก่อน หากยังจ�ำกันได้ ห้วงเวลานี้คือจุด สูงสุดของกระแสการปฏิรูปประเทศ มองไปทางไหนก็จะ พบเห็นแต่สัญลักษณ์ธงไตรรงค์และเสียงนกหวีดของบรรดา มวลมหาประชาชน พร้อมข้อเสนอเพื่อการปฏิรูปฯ เยอะแยะ มากมาย มาถึงวันนี้สามปีผ่านไป ดูเสมือนความทรงจ�ำ เหล่านั้น เป็นได้แค่เพียงภาพที่พร่าเลือน หมองหม่น และ ไร้ซึ่งคุณค่าหรือความหมาย คล้ายเป็นอดีตที่ผู้คนอยากจะ ลืมเสียให้สิ้น ความจริง เป็นระยะเวลาหนึ่งก่อนหน้านี้แล้วที่มี ผู้คนจ�ำนวนไม่น้อย เพรียกร้องหาการเลือกตั้ง และผู้คน จ�ำนวนที่ไม่น้อยกว่านั้นเช่นเดียวกันที่ตระหนักรู้ว่า พวกเขา หรือพวกเรา กลายเป็นเหยื่อผู้โง่งมในเกมอ�ำนาจของบรรดา ผู้แสวงอ�ำนาจที่มิอาจได้มาซึ่งสิ่งนั้นบนเส้นทางที่ชอบด้วย กฎเกณฑ์และกติกาอันเป็นอารยะ กลเกมซ่อนเงื่อนเถื่อนคม จึงถูกน�ำมาใช้ และพวกเราหรือพวกเรา ก็ล้วนเป็นส่วนหนึ่ง ของเกม สามปีให้หลัง รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 อันเป็นรัฐธรรมนูญฉบับที่ 20 ประกาศบังคับใช้ หากทว่า ระยะเวลาส�ำหรับการเลือกตั้ง ยังต้องถ่างห่าง ออกไปอีกช่วงเวลาหนึ่ง นัยว่าเป็นช่วงเวลาเพื่อสร้างกฎ ก�ำหนดเกณฑ์หรือกรอบกติกากันครั้งใหม่ และผู้เกี่ยวข้อง ก็ล้วนออกมาระบุไปในทิศทางเดียวกันว่า เป็นการสร้างกฎ ก�ำหนดเกณฑ์ ที่มีเป้าประสงค์เพื่อยกระดับการเมืองการ เลือกตั้งตามเจตจ�ำนงแห่งการปฏิรูปประเทศอย่างแน่แท้ อย่างไรก็ดี ยังไม่มีใครสามารถล่วงรู้ได้ว่า การ เลื อ กตั้ ง ครั้ ง ใหม่ อั น เป็ น เสมื อ นตราประทั บ ของระบอบ ประชาธิปไตยแบบไทยๆ นั้น จะเกิดขึ้นจริงได้ในช่วงเวลาใด ปลายปี 2561 หรือต้นปี 2562 แต่นั่นก็คงไม่ส�ำคัญเท่ากับว่า เมื่ อ เกิ ด การเลื อ กตั้ ง ตามระบอบประชาธิ ป ไตยขึ้ น แล้ ว ประเทศไทยของเรา จะสามารถก้าวข้ามกับดักความขัดแย้ง ทางการเมืองได้อย่างไร หรือต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหน เพื่อ ให้หลุดพ้นกับดักที่ว่านั่น ที่ต้องกล่าวเช่นนั้น ก็เพราะเห็นว่า เพียงแค่แว่ว เสียงส�ำเนียงโหมโรงเรื่องเลือกตั้งมาไกลๆ เค้าลางความ ดแย้ง ยากล�ำบาก ก็พลันตั้งเค้าทะมึนด�ำขึ้นมา ให้มองเห็น ร�ำไรๆ แล้ว เช่นเดียวกัน...

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 ประกาศใช้ไปแล้วตั้งแต่ 6 เมษายน 2560 ที่ผ่านมา และเมื่อ เริ่มใช้รัฐธรรมนูญใหม่ แปลว่า ทุกองคาพยพของบ้านเมือง ต้องเข้าสู่กฎกติกาใหม่โดยถ้วนหน้า ส�ำนักข่าวนครโพสต์...มีเกร็ดน่ารู้เกี่ยวกับสิ่งที่ จะเกิดขึ้นภายหลังจากนี้ มาบรรณาการแฟนานุแฟน เพื่อ ประกอบเป็นความรู้ความเข้าใจกัน ในประเด็นที่น่าสนใจ ดังนี้ ประการแรก องค์กรที่ท�ำหน้าที่ในปัจจุบันหลาย องค์ ก รต้ อ งเริ่ ม ต้ น นั บ ถอยหลั ง เพื่ อ สลายตั ว ไปในที่ สุ ด และเพื่อเปิดทางให้องค์กรการเมืองตามรัฐธรรมนูญมาท�ำ หน้าที่ กล่าวคือ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) จะพ้นไปเมื่อ มี ครม.ใหม่ สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.) จะอยู่ไป กระทั่งมีกฎหมายว่าด้วยแผน และขั้นตอนการด�ำเนินการปฏิรูป ซึ่ง ม.259 วรรคสอง ก�ำหนดว่า ต้องประกาศใช้บังคับภายใน หนึ่งร้อยยี่สิบวันนับแต่ประกาศ ใช้รัฐธรรมนูญ นั่นหมายความว่า สปท.มีเวลาจัดการงานค้างให้เสร็จภายใน 4 เดือน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) จะอยู่ไปจนกระทั่ง มีสภาใหม่ ถ้าใครอยากจะไปลงสมัครส.ส.ต้องลาออกภายใน 90 วันนับแต่วันที่รัฐธรรมนูญใช้บังคับ กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) อยู่จนกฎหมาย ประกอบรัฐธรรมนูญเสร็จหมดเรียบร้อย แล้วห้ามด�ำรงต�ำแหน่ง ทางการเมืองเป็นเวลา 2 ปี ประการที่สอง หลายองค์กรต้องปรับตัวใหม่ มี ทั้งเปลี่ยนตัวกรรมการ มีทั้งปรับหน้าที่และอ�ำนาจใหม่ ตามหน้ า ที่ ภ าระและความรั บ ผิ ด ชอบใหม่ ที่ ต ราไว้ ใ น รัฐธรรมนูญ กล่าวคือ กรรมการองค์กรอิสระทั้งปวง ปปช. กกต. สตง. กสม. ผู้ตรวจการแผ่นดิน บางส่วนจะพ้นไปเพราะคุณสมบัติ ไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่ก�ำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ ซึ่งส่วนใหญ่ ก�ำหนดใหม่ให้สูงขึ้น ค�ำถามคือ มีใคร ในที่ไหน จะพ้นไปบ้าง ? เรื่องดังกล่าวนี้ จะมีกรรมการสรรหาซึ่งมีประธาน ศาลฎีกาเป็นประธานมาชี้ว่า ใครขาดคุณสมบัติ ใครจะได้อยู่ ต่อหรือใครจะต้องพ้นไป ซึ่งล้วนเป็นไปตามเกณฑ์คุณสมบัติ ที่ตราบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ศาลรัฐธรรมนูญ อยู่กระทั่งมีพระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้องแล้วเสร็จ โดยรวมแล้วการพ้นจาก ต�ำแหน่งของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ผู้ด�ำรงต�ำแหน่ง ในองค์กรอิสระ และผู้ตรวจเงินแผ่นดินจะเป็นไปตาม

3

รัฐธรรมนูญและกฎหมายประกอบที่เกี่ยวข้อง ประการที่สาม ต้องมีการออกกฎหมายที่เกี่ยวข้อง อีกราวๆ 50 ฉบับเป็นอย่างน้อย 10 ฉบับเป็นกฎหมาย ประกอบรัฐธรรมนูญตั้งต้นจาก กรธ. อีกจ�ำนวนหนึ่งรัฐบาล จะเป็นผู้น�ำเสนอต่อสภา เช่น กฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปต้อง ออกภายใน 120 วัน เรื่องการให้ประชาชนหรือชุมชนมีส่วนร่วม ในเรื่อง การด� ำ เนิ น โครงการที่ มี ผ ลกระทบต่ อ ทรั พ ยากรธรรมชาติ คุณภาพสิ่งแวดล้อม สุขภาพ อนามัย คุณภาพชีวิต หรือส่วนได้ เสียส�ำคัญอื่นใดของประชาชนหรือชุมชนหรือสิ่งแวดล้อมอย่าง

หลังรัฐธรรมนูญใหม่ใช้บังคับ... อะไรจะเกิดขึ้น ?

เกียรติยศและศักดิ์ศรีของท้องถิ่น เจ้าของ : สหกรณ์ผู้สื่อข่าวจังหวัด นครศรีธรรมราช ประธานที่ปรึกษา : ดร.เพ็ญพร เกตุชาติ คณะที่ปรึกษา : ดร.กณพ เกตุชาติ, ภาวินทร์ ณ พัทลุง มานะ นวลหวาน, อครพล หนูทวี, สุทัศน์ เดชเดโช, ฉัตรชัย อรุณสุวรรณกร, ด.ต.นิรภัฏ วัฒนประเสริฐกุล, ดร.ณัฐวุฒิ ภารพบ ผู้อ�ำนวยการ : สุรโรจน์ นวลมังสอ ที่ปรึกษากฎหมาย : สมชาย ฝั่งชลจิตร บรรณาธิการที่ปรึกษา : เลิศ อักษรนิตย์ สาธิต รักกมล บรรณาธิการอาวุโส : จ�ำลอง ฝั่งชลจิตร บรรณาธิการบริหาร : สุรโรจน์ นวลมังสอ

รุนแรง ฯลฯ อันนี้ต้องท�ำให้เสร็จภายใน 240 วัน หากไม่แล้ว เสร็จหัวหน้าส่วนราชการนั้นๆ ต้องถูกย้ายออกจากต�ำแหน่ง กฎหมายอีกส่วนไม่ได้ก�ำหนดเวลาไว้ แต่ต้องออก เพราะถ้าไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ จะต้องเจอสภาพบังคับให้ รับผิดชอบเหมือนกัน ประการที่สี่ สิทธิของประชาชนจะกว้างขวางขึ้น และรัฐต้องปรับบทบาทใหม่ สิทธิของประชาชนในรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 นี้ มิใช่ของลอยๆ ที่จับต้องไม่ได้อีกต่อไป ประชาชน มีสิทธิใหม่ๆ หลายประการอาทิ เรื่องการศึกษา เรื่องด้านการ รักษาพยาบาล ฯลฯ นอกจากนี้ รัฐธรรมนูญก�ำหนดให้รัฐต้อง มีหน้าที่และรัฐธรรมนูญยังรับรองว่า สิ่งที่บัญญัติไว้เป็นหน้าที่ ของรัฐนั้นเป็นสิทธิของประชาชนด้วย ถ้ารัฐไม่ท�ำประชาชนก็มี เครื่องมือทวงถามผ่านการฟ้องศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งฝ่ายต่างๆที่ เกี่ยวข้อง ก็ต้องไปท�ำเครื่องมือเหล่านี้ให้แล้วเสร็จ ประชาชนก็ ต้องติดตาม ตรวจสอบ และเตรียมใช้สิทธิ ส�ำนักข่าวนครโพสต์ สรุปสาระส�ำคัญที่เห็นว่า น่า จะเป็นประโยชน์ส�ำหรับคอการเมือง แบบคร่าวๆพอให้เห็น เป็นเค้าโครงกันเป็นเบื้องแรก รายละเอียดปลีกย่อยจะมีเยอะ มากกว่านี้อีก ส่วนรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 ซึ่งนับเป็น รัฐธรรมนูญฉบับที่ 20 แล้ว จะมีอายุยาวนานไปกี่ปีนั้น คงไม่มี ใครบอกได้...

บรรณาธิการ : ณรงค์ ธีระกุล หัวหน้ากองบรรณาธิการ : ไพฑูรย์ อินทศิลา กองบรรณาธิการ : กฤษณะ ทิวัตถ์สิริกุล จอม กิจวิบูลย์ ณัฏฐ์ ธีระกุล ณัฐชนา ฤทธิผล กนกลักษณ์ เส้งคง รูปเล่ม/จัดหน้า : เมาลิด จิตต์ประไพย หัวหน้าฝ่ายโฆษณา : จรินท์พร บุญชัก ฝ่ายโฆษณา : ปราณี กาญจนโรจน์ การเงิน/ธุรการ : ปราณี กาญจนโรจน์ แยกสี-พิมพ์ที่ : โรงพิมพ์เม็ดทราย ถ.ราชด�ำเนิน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช โทร. 0-7534-1475, 08-1892-6060 ส�ำนักงานหนังสือพิมพ์นครโพสต์ : เลขที่ 2/1 ซ.อัศวรักษ์ 1 ถ.ราชด�ำเนิน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช 80000 โทร. 0-7532-0227 email : nakhonpost@hotmail.com


4

เดือนเมษายน 2560

FREE COPY

ปญฺญาย ติตฺตีนํ เสฏฺฐํ อิ่มด้วยปัญญา ประเสริฐกว่าความอิ่มทั้งหลาย หนังสือพิมพ์นครโพสต์ “เกียรติยศและศักดิ์ศรีของท้องถิ่น” ฉบับนี้ประจ�ำเดือนเมษายน พ.ศ.2560 ...บันทึกไว้ใน หน้าประวัติศาสตร์ 6 เมษายน 2560 ประเทศไทยประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 เป็นรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับที่ 20 ซึ่งจัดร่างโดยคณะกรรมการร่าง รัฐธรรมนูญ ในระหว่าง พ.ศ. 2557–2560 ภายหลังการรัฐประหารในประเทศโดยคณะรักษาความสงบ แห่งชาติ(คสช.) เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2557... เริ่มกันที่ข่าวคราวดีๆ “กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุออกมาระหว่างปาฐกถาพิเศษ ใน หัวข้อ “ท่องเที่ยววิถีไทย เศรษฐกิจไทยก้าวหน้า” ว่า การท่องเที่ยวของนครศรีธรรมราชในขณะนี้เดินมา ถูกทาง ที่เหลือเป็นการประคับประคองเพื่อให้ไปสู่ความยั่งยืน โดยตัวเลขจากการท่องเที่ยว ตามกิจกรรม 12 เมืองต้องห้ามพลาด ในปี 2559 พบว่าจังหวัดนครศรีธรรมราช มีรายได้จากการท่องเที่ยวสูงสุด 1 ใน 3 อันดับแรก โดยมีเม็ดเงินสะพัดถึง 14,349 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.08.. ผ่าน พ้นเทศกาลมหาสงกรานต์ปี 2560 มาดูตัวเลขสถิติ ที่น่าสนใจของจังหวัดนครศรีธรรมราช...สรุปสะสม รวม 7 วัน (วันที่ 11 – 17 เมษายน 2560) จังหวัดนครศรีธรรมราช มีสถิติอุบัติเหตุเกิด ขึ้น 103 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 111 คน เป็น ชาย 75 คน หญิง 36 คน เสียชีวิต 3 คน (ชาย 1 หญิง 2) เทียบกับช่วงเทศกาล สงกรานต์ปี 2559 ปรากฏว่า จ�ำนวนครั้ง การเกิดอุบัติเหตุ-ผู้บาดเจ็บ ลดลงประมาณ ‘อัศวรักษ์’ 20 เปอร์เซ็นต์ และผู้เสียชีวิตลดลง 62.50 เปอร์เซ็นต์.... ..เรื่องถนนหนทาง สัญจรรองรับการเติบโตของเมืองในอนาคตอันใกล้ กับการขยายโครงข่ายคมนาคมและขนส่งในเขตเมือง นครศรีธรรมราช กรมทางหลวงชนบท กระทรวงคมนาคม เสนอแนวถนนเฉลิมพระเกียรติ ให้เป็น แนวถนนวงแหวนด้านทิศตะวันออกหรือถนนเลี่ยงเมืองด้านทิศตะวันออก พร้อมด�ำเนินการส�ำรวจ ออกแบบรายละเอียดและด�ำเนินการก่อสร้างต่อไป โดยจุดเริ่มต้นโครงการ เริ่มต้นจากบริเวณ สามแยกทางหลวงหมายเลข 401 (บ้านศาลาบางปู) แนวถนนไปทางทิศตะวันออก เลี้ยวขวาไปทางทิศ ใต้ผ่านคลองท่าแพ ถนนลาดยางสายบ้านท่าแพ-ตลาดพฤหัส ถนนลาดยางสายบ่อโพธิ์ ถนนลาดยาง สายบ้านท่าวัง ถนนลาดยางสายท่านคร คลองท่าซัก คลองหน้าเมือง คลองป่าเหล้า คลองสวนหลวง จนบรรจบกับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4013 ระยะทางรวมประมาณ 20.270 กิโลเมตร ไปดูความเป็นจริงของบ้านนี้เมืองนี้ กับสถานการณ์การจับกุมคดียาเสพติดในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ห้วงเดือนมีนาคม 60 ที่ผ่านมา ส�ำนักงาน ปปส.ภาค 8 รายงานว่า สถานการณ์ด้านการจับกุมคดียาเสพติด ในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช มีคดียาเสพติดรวม 1,207 คดี ผู้ต้องหา 1,275 คน ชนิดยาเสพติด ที่มีการจับกุมมากที่สุดคือ ยาบ้า จ�ำนวน 554 คดี รองลงมาเป็นพืชกระท่อม 551 คดี ตามมาด้วยไอซ์ 61 คดี และกัญชา 36 คดี อ�ำเภอที่มีการจับกุมมากที่สุด 5 อ�ำเภอ ได้แก่ อ�ำเภอเมือง ทุ่งสง ท่าศาลา ...ขณะที่สถิติการจับกุมคดีที่มีการกระท�ำความผิดเกี่ยวเนื่องกับยาเสพติด ชะอวด และทุ่งใหญ่... ในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชพบว่า ข้อหาที่มีการจับกุมมากที่สุด ได้แก่ ข้อหาเสพ 410 คดี รองลงมา ข้อหาครอบครอง 402 คดี ข้อหาผลิต 192 คดี ข้อหาครอบครองเพื่อจ�ำหน่าย 189 คดี และข้อหา จ�ำหน่าย 12 คดี ทั้งนี้ชนิดยาเสพติดหลักที่มีการค้าในพื้นที่ ได้แก่ พืชกระท่อม ยาบ้า ไอซ์ และกัญชา ...เรื่องราวการเมืองเรื่องบ้านเรา...มหากาพย์บ่อขยะทุ่งท่าลาด ยังเป็นเรื่องที่จบ ตามล�ำดับ... ไม่ลง กระบวนการแก้ไขปัญหาไปๆ มาๆ ไม่ต่างจากการพายเรือในอ่าง ปากว่าตาขยิบ ปาฎิหารย์ไม่มีจริง

ในนาคร

รดน�้ำด�ำหัว : เมื่อวันที่ 12 เมษายน ที่ผ่านมา ดร.กณพ เกตุชาติ พร้อมด้วยสมาชิกทีมสมนึกและชาวบ้าน ในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช เข้ารดนํ้าดําหัวขอพรวันสงกรานต์ นายสมนึก เกตุชาติ อดีตนายก เทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช เนื่องในโอกาสวันสงกรานต์ปี 2560 ณ ส�ำนักงานขนส่งอาร์เอที

ดูงานต้นแบบโรงไฟฟ้าชุมชน : เมือ่ เร็วๆ นี้ ดร.โจ กณพ เกตุชาติ ผูบ้ ริหารบริษทั เกษตรลุม่ น�ำ้ จ�ำกัด ให้การต้อนรับ นายหร่อหยา จันทรัตนา รองอธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน และคณะ ในโอกาส มาเยี่ยมสถานีก๊าซ NGV ที่ผลิตได้จากของเสีย ที่มีคุณภาพตามมาตรฐานกรมธุรกิจพลังงาน ซึ่งได้รับการ สนับสนุนจากกระทรวงพลังงาน ณ โรงงงานสกัดน�้ำมันปาล์ม บริษัทเกษตรลุ่มน�้ำ จ�ำกัด

สุดท้ายพี่น้องประชาชนยังต้องอดทนแบกรับความไม่เอาไหนของกลไกแห่งรัฐเหมือนเดิม เอวังจึงมี ด้วยประการฉะนี้(ไม่ฮา)... ส่งท้ายฉบับนี้...งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา ฟุตบอลสร้างคน เยาวชน สร้างชาติ “ดร.โจ คัพ ครั้งที่ 7” ชิงถ้วยพร้อมเงินรางวัล 200,000 บาท รุ่นเยาวชนอายุไม่เกิน 9, 11, 13, 15 และ 18 ปี ฟาดแข้งกันมาจนถึงรอบสุดท้ายกันแล้ว ก�ำหนดชิงชนะเลิศทุกรุ่นกันในวันอาทิตย์ ที่ 7 พฤษภาคม 2560 นี้ เชิญแฟนบอลร่วมชม-เชียร์ และลุ้นของรางวัลติดไม้ติดมือกลับบ้านกันได้...ณ สนามหญ้าเทียม นครศรี ปาร์ค ฟุตซอล ถ.กะโรม หัวอิฐ แล้วพบกันใหม่ฉบับหน้า...

สตง.สั่งเบรกติดกล้องวงจรปิด 2 ตัว 1.6 ล้าน

ในภูเขาขยะเทศบาลนครนครศรีฯ ส�ำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินภูมิภาค 14 นครศรีธรรมราช สั่งระงับโครงการติดตั้งกล้องวงจรปิดในภูเขาขยะเทศบาลนครนครศรีฯ จ�ำนวน 2 ตัว มูลค่า 1.6 ล้านบาทแล้ว วันนี้ (4 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โครงการติดตั้งกล้อง วงจรปิด 2 ตัว มูลค่า 1.6 ล้านบาท เป็นหนึ่งในแนวทางที่เทศบาลนคร นครศรีธรรมราช อ้างว่า เป็นการแก้ไขปัญหาผลกระทบจากภูเขาขยะ ท่ามกลางการตรวจสอบที่เข้มข้นจากหลายฝ่ายในการบริหารจัดการภูเขา ขยะของเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเป็น วงกว้าง โดย นายเชาวน์วัศ เสนพงศ์ นายกเทศมนตรีนครนครศรี ธรรมราช เป็นผู้เสนอเข้าสภาเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ซึ่งอ้างว่า เป็นการสั่งการของผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช แม้ว่าโครงการนี้ จะผ่านการพิจารณาของสภาเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ด้วยมติเสียง ข้างน้อยเพียง 8 เสียง เนื่องจากมีผู้งดออกเสียง 5 เสียง และไม่เห็นชอบ อีก 5 เสียง ท�ำให้โครงการนี้ผ่านมติสภาไปท่ามกลางเสียงคัดค้าน และ ตั้งข้อสังเกตถึงราคาที่แพงเกินจริง

ล่าสุด ในเรื่องนี้ น.ส.อ�ำไพ ยุกตะเวทย์ ผอ.ส�ำนักงานการ ตรวจเงินแผ่นดินนครศรีธรรมราช ระบุว่า ได้แจ้งระงับการใช้จ่ายเงินใน โครงการนี้ของเทศบาลนครนครศรีธรรมราชไปแล้ว เนื่องจากเป็นการโอน จ่ายเงินที่ผิดวัตถุประสงค์ โดยมีการโยกจากงบกลางซึ่งเป็นเงินส�ำรองจ่าย ฉุกเฉิน จึงไม่สามารถด�ำเนินการได้ ส่วนข้อสังเกตที่ว่า เป็นการแพงเกิน จริงหรือไม่นั้น ทางส�ำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินไม่ได้ตรวจสอบลงลึก เนื่องจากยังไม่มีการใช้เงินออกไป หรือยังไม่ได้มีการจัดซื้อนั่นเอง ส�ำหรับการนี้ได้ถูกตรวจสอบจากภาคประชาชนอย่างเข้มข้น ผ่านช่องทางต่างๆ เนื่องจากเห็นว่าราคา 1.6 ล้านบาท ส�ำหรับกล้อง วงจรปิด 2 ตัว มีความผิดปกติอย่างมาก


เดือนเมษายน 2560

FREE COPY

ผอ.ว.เทคนิคเมืองคอนลุย“อาชีวะอาสา”

เตรียมเปิดศูนย์ติดตั้งเข็มขัดนิรภัยราคาถูก หลังสงกรานต์ วิทยาลัยเทคนิคเมืองคอนเตรียมเปิดศูนย์ฯ ติดตั้งเข็มขัด นิรภัยช่วยเหลือประชาชนในราคาถูก - มุ่งมั่นโครงการ “อาชีวะอาสา” ให้บริการตรวจความพร้อมรถ ตรวจความพร้อมคนช่วงสงกรานต์ จากกรณีที่โลกโซเชียลยกย่องชื่นชม นักศึกษาวิทยาลัยเทคนิค นครศรีธรรมราช ที่ออกตั้งศูนย์ “อาชีวะอาสา” ให้การบริการตรวจเช็ค สภาพรถ ซ่อมรถ พักคน พักรถ ฟรีในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ที่บริเวณปั้ม น�้ำมัน ปตท.อ้อมค่ายวชิราวุธ ถนนนครศรีธรรมราช-สุราษฏร์ธานี ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช จนผู้ใช้รถใช้ถนนที่ได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากร้านซ่อมรถหยุดยาว แต่โชคดีที่นักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคนครศรี ธรรมราช มาตั้งศูนย์ช่วยเหลือในจุดดังกล่าวสามารถช่วยเหลือประชาชน ที่ได้รับความเดือดร้อนได้เป็นอย่างมาก จึงมีการถ่ายภาพการช่วยเหลือน�ำ ไปโพสต์ทางโลกโซเชียล มีผู้เข้ามาชม แชร์และแสดงความคิดเห็นยกย่อง ชื่นชมเป็นจ�ำนวนมาก ตามที่เสนอเสนอข่าวไปแล้วนั้น (17 เม.ย.) เรืออากาศโทสมพร ปานด�ำ ผู้อ�ำนวยการวิทยาลัย เทคนิคนครศรีธรรมราช พร้อมคณะครูอาจารย์และผู้ปกครอง ได้เดินทาง ไปสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อตรวจเยี่ยม ติดตาม ผลและให้ก�ำลังใจคณะครูแผนกวิชาช่างยนต์และนักเรียนนักศึกษา ที่ด�ำเนิน โครงการร่วมกับส�ำนักงานขนส่งจังหวัดนครศรีธรรมราช ตรวจความพร้อม รถ ตรวจความพร้อมคนในระบบโดยสารประจ�ำทางของกรมการขนส่ง

ชาวเมืองคอนอ่วมอรทัย น�้ำประปา “ชาเย็น” เทศบาลฯ ประกาศ ขึ้นราคาค่าน�้ำอีก จวกยับขึ้นราคาแต่ไม่เคยคิดปรับปรุงคุณภาพน�้ำ ชาวบ้านเดือดร้อนตลอดระยะเวลา 6 ปี

(21 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ได้ประกาศขึ้นราคาค่าน�้ำประปาใหม่ โดยจะเริ่มเก็บค่าน�้ำประปาราคาใหม่ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2560 นี้ โดยได้ออกประกาศอย่างเป็นทางการ ลงวันที่ 8 มีนาคม 2560 ผ่านมา และนายสมเธียร ภู่สันติสัมพันธ์ รองนายก เทศมนตรี ปฏิบัติราชการนายกเทศมนตรี ได้ออกหนังสือแจ้งการปรับ อัตราค่าน�้ำประปาใหม่ไปถึงผู้ใช้น้�ำประปาเทศบาลนครนครศรีธรรมราช เพื่อให้ทราบทั่วกัน ท�ำให้ประชาชนผู้ใช้น�้ำพากันวิพากวิจารณ์และ แสดงความวิตกกังวลกับอัตราค่าน�้ำประใหม่กันอย่าง กว้างขวาง โดยในหนังสือที่นายสมเธียร นายสมเธียร ภู่สันติสัมพันธ์ ลงนามส่งถึงผู้ใช้น�้ำอ้างว่าส�ำนักการ ประปาเทศบาลนคร นครศรีธรรมราชได้ก�ำหนดอัตรา ค่าน�้ำประปามาเป็นระยะเวลาประมาณเกือบ 30 ปีแล้ว ยังไม่ได้มีการปรับค่าน�้ำประปาขึ้นแต่อย่างใด และยัง อ้างว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาทางเทศบาลฯ ได้มีการปรับปรุงพัฒนา ระบบการผลิต การบริการและการจ�ำหน่ายให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นอย่าง ต่อเนื่อง รวมทั้งการจัดหาแหล่งน�้ำดิบรองรับหน้าแล้งและขาดแคลนน�้ำ เพื่อให้การบริการน�้ำประปาเพียงพอและทั่วถึงต่อความต้องการของประชาชน ทั้งในเขตเทศบาลและนอกเขตเทศบาลบางส่วน และยังระบุอีกว่าการ บริการน�้ำประปาเป็นสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่ส�ำคัญส�ำหรับประชาชน แต่อย่างไรก็ตามการปรับปรุงพัฒนากิจการประปาในด้านต่างๆ ต้องใช้เงิน ลงทุนสูง เนื่องจากเศรษฐกิจในปัจจุบันราคาเครื่องจักร อุปกรณ์ เคมีภัณฑ์ และค่ า กระแสไฟฟ้ า ที่ ใ ช้ ใ นกระบวนการผลิ ต น�้ ำ ประปายั ง คงราคา สูงขึ้น ท�ำให้กิจการประปาเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ประสบภาวะ ขาดทุน รายรับมีไม่เพียงพอกับรายจ่ายที่เพิ่มสูงขึ้น “การประปาเทศบาลนคร นครศรีธรรมราชจึงมีความจ�ำเป็น ที่ต้องปรับอัตราค่าน�้ำประปาใหม่ของผู้ใช้น�้ำประปาตั้งแต่ 21 หน่วยขึ้นไป (21,000 ลิตร) โดยอัตราค่าน�้ำประปาจะจัดเก็บในอัตรา 2-15 บาท /หน่วย ในขณะที่ของการประปาส่วนภูมิภาคจัดเก็บในอัตรา 10-29 บาท/หน่วย และราคาอัตราใหม่ไม่ส่งผลกระทบกับผู้ใช้น�้ำส่วนใหญ่ของเทศบาลนคร นครศรีธรรมราช ตามประกาศของเทศบาลนครนครศรีธรรมราชลงวันที่ 8 มีนาคม 2560 ที่แนบมาพร้อมกับหนังสือนี้ โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือน พฤษภาคม 2560 และจัดเก็บค่าน�้ำประปาอัตราใหม่ในเดือนมิถุนายน 2560 เป็นต้นไป” ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในหนังสือแจ้งถึงผู้ใช้น�้ำประปาซึ่งได้แนบ ประกาศเทศบาลนครนครศรีธรรมราช เรื่องการปรับอัตราค่าน�้ำประปา โดยในประกาศดังกล่าวได้อ้างเหตุผลและความจ�ำเป็นที่ต้องปรับราคาน�้ำ ประปาต่างๆ นานา โดยเฉพาะอ้างถึงการพัฒนาปรับปรุงพัฒนาระบบการ ผลิต การบริการและการจ�ำหน่ายให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่

ทางบก โดยก�ำหนดด�ำเนินการระหว่างวันที่ 5 – 24 เมษายน 2560 ตั้งแต่ เวลา 04.00 น. – 20.00 น. พบว่าทั้งครูและนักศึกษาต่างทุ่มเทกับการ ปฏิบัติหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพ จนได้รับการยอมรับจากเจ้าหน้าที่ขนส่ง และคนขับรถยนต์โดยสารรับจ้างเป็นอย่างมาก ผู้อ�ำนวยการวิทยาลัยเทคนิคนครศรีธรรมราช กล่าวว่า นอกจาก ทางวิทยาลัยฯ จะมุ่งเน้นให้นักศึกษาทุกสาขาวิชาเป็นคนเก่ง มีฝีมือและ ได้รับการพัฒนาในแต่ละสาขาวิชาอย่างแท้จริงแล้ว ตนมีเป้าหมายสูงสุด คือต้องการให้นักศึกษาที่จบจากวิทยาลัยเทคนิคนครศรีธรรมราชทุกคนมี

5

จิตอาสา เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ช่วยเหลือผู้อื่นและสังคมส่วนรวมด้วย ประกอบ กับทางกรมอาชีวะ และรัฐบาลมีนโยบายที่สอดคล้องกัน ตนจึงน�ำคณะ นักศึกษาลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง ทั้งเรื่องการซ่อมเครื่อง ใช้ไฟฟ้า รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ช่วยสร้างบ้านให้ผู้ประสบภัยน�้ำท่วม และบริการตรวจ-ซ่อมฟรีในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ตนจึงมั่นใจว่านักศึกษา ทุกคนที่จบจากวิทยาลัยเทคนิคนครศรีธรรมราช จะเป็นบุคลากรในสาขา อาชีพต่างๆ ที่มีคุณภาพและคุณธรรม เป็นที่ต้องการของสังคมไทยใน ปัจจุบันและอนาคตอย่างแน่นอน “การออกบริการในตรวจ เช็ค สภาพรถ และซ่อมรถในช่วง เทศกาลต่างๆ นอกจากจะฝึกให้นักศึกษาเป็นผู้ที่มีจิตอาสา มีความรัก สามัคคี เมตตา กรุณาต่อผู้อื่นแล้ว ยังเป็นการฝึกทักษะทางช่างให้เกิด ความช�ำนาญ และเชี่ยวชาญในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้ดีมากขึ้น” เรืออากาศโทสมพร ปานด�ำ กล่าวอีกว่า โดยหลังจากเทศกาล สงกรานต์ทราบว่ารัฐบาลมีข้อกฎหมายที่ประชาชนจะต้องยึดถือปฏิบัติ อย่างเคร่งครัดเกี่ยวกับการรัดเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง ซึ่งรถยนต์รุ่นเก่าที่อยู่ ในความครอบครองของประชาชนมีจ�ำนวนมากจะต้องไปติดตั้งเข็มขัด นิรภัยทุกที่นั่ง เชื่อว่าจะมีผู้ประกอบการหันมาให้บริการติดตั้งเข็มขัด นิรภัยจ�ำนวนมาก ทางวิทยาลัยเทคนิคนครศรีธรรมราช จะเชิญอาจารย์ และนักศึกษาสาขาช่างยนต์และสาขาที่เกี่ยวข้องมาปรึกษาว่าจะสามารถ เปิดให้บริหารติดตั้งเข็มขัดนิรภัยให้กับประชาชนได้หรือไม่ โดยจะต้อง ให้บริการในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด นอกจากจะช่วยประหยัดเงินให้กับ ประชาชนแล้ว ยังเป็นการสร้างรายได้ให้กับนักศึกษาระหว่างเรียนช่วย เหลือ ซึ่งเป็นการแบ่งเบาภาระค่าจ่ายของพ่อแม่ ผู้ปกครองอีกด้วย ซึ่ง หากมีความคืบหน้าในเรื่องนี้อย่างไรตนจะแจ้งให้ทราบอย่างเป็นทางการ อีกครั้งหนึ่ง” ผอ.วิทยาลัยเทคนิคนครศรีธรรมราช กล่าว.

เทศบาลประกาศขึ้นราคา น�้ำประปาชาเย็น” เทศบาลฯ ยังคงเก็บค่าน�้ำประปาในอัตราหน่วยละ 2-8 บาทมานานเกือบ 30 ปี และอ้างว่าต้นทุนการผลิตอยู่ที่หน่วยละ (ลูกบาศก์เมตร) 5.59 บาท จึงจ�ำเป็นต้องปรับราคาใหม่เพื่อสะท้อนต้นทุนที่แท้จริงและเป็นแรงจูงใจ ให้ประชาชนได้ตระหนักการใช้น�้ำประปาอย่างประหยัดและอัตราใหม่ยัง เป็นการช่วยผู้มีรายได้น้อยให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด โดยก�ำหนดอัตรา ค่าน�้ำประปาใหม่ ซึ่งมีผลจัดเก็บตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2560 มีดังต่อไปนี้ 1.อัตราค่าน�้ำประปาของผู้ใช้น�้ำในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราชอัตรา ลูกบาศก์เมตรละ 2-15 บาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) 2.อัตราค่าน�้ำประปา ผู้ใช้น�้ำนอกเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช อัตราลูกบาศก์เมตรละ 7 บาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) และ 3.อัตราผู้ใช้น�้ำประปาชั่วคราวหรือจากท่อธาร อัตราลูกบาศก์เมตรละ 15 บาท(ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ผู้สื่อข่าวได้ตระเวนสอบถามความคิดเห็นของประชาชนในเขต เทศบาลนครนครศรีธรรมราช ส่วนใหญ่แสดงความคิดเห็นไปในทิศทาง เดียวกันว่า การที่ทางผู้บริหารเทศบาลอ้างว่าที่ผ่านมาได้มีการปรับปรุง พัฒนาระบบการผลิต การบริการและการจ�ำหน่ายให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการจัดหาแหล่งน�้ำดิบรองรับช่วงหน้าแล้งและ ขาดแคลนน�้ ำ เพื่ อ ให้ ก ารบริ ก ารน�้ ำ ประปาเพี ย งพอและทั่ ว ถึ งต่ อ ความ ต้องการของประชาชนทั้งในเขตเทศบาลและนอกเขตเทศบาลบางส่วนนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะระยะเวลา 6 ปี ที่ผู้บริหารชุดนี้เข้ามามีอ�ำนาจ ในเทศบาลฯ ได้เกิดวิฤตน�้ำประปาขาดแคลน สร้างความเดือดร้อนให้กับ ประชาชนในช่วงหน้าแล้งอย่างหนักทุกปี ในขณะที่ในช่วงอื่นๆ น�้ำ ประปาไม่สะอาด ปนเปื้อน เหมือนไม่ได้ผ่านกระบวนการบ�ำบัดหรือ กระบวนการผลิตที่ได้คุณภาพมาตรฐาน ทุกวันนี้ประชาชนก็ยังไม่มี โอกาสใช้น�้ำประปาที่สะอาด บริสุทธิ์เลย “น�้ำไม่ไหล ไหล่ช้า น�้ำปนเปื้อน คราบน�้ำมัน น�้ำแดงขุ่นเป็นสีชาเย็น” เป็นปรากฏการณ์ที่คนเมืองนครศรี ธรรมราชประสบปัญหามาตลอด”

“ผู้ประกอบการร้านซัก อบ รีด ร้านอาหาร โรงแรมที่พักต้อง มีการติดตั้งเครื่องกรองน�้ำเพื่อบ�ำบัดน�้ำจากการประปาเทศบาลฯ ก่อน เปิดใช้ได้ตามปกติ ในขณะที่บ้านเรือนประชาชนที่ติดตั้งเครื่องกรองน�้ำก็ ต้องเปลี่ยนไส้กรองปีละ 3-4 ครั้งจากปกติ 1-2 ปีครั้ง ดังนั้นการประกาศ เก็บค่าน�้ำประปาใหม่ในราคาสูงขึ้นจึงไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง แต่ใครก็ห้าม ไม่ได้จึงอยากจะเรียกร้องว่าในเมื่อเก็บค่าน�้ำแพงมากขึ้นทางเทศบาลฯ จะ ต้องพัฒนาปรับปรุงระบบการผลิต การจ่ายน�้ำให้ได้มาตรฐานและเพียงพอ ต่อความต้องการของประชาชนด้วย และอยากให้สาธารณสุขหรือหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบกระบวนการผลิตและคุณภาพน�้ำที่จ่ายให้ ประชาชนอุปโภคบริโภคบ้าง” บรรดาผู้ใช้น�้ำกล่าวย�้ำหนักแน่น นอกจากนี้บรรดาผู้ใช้น�้ำได้น�ำการเก็บค่าน�้ำประปาจากเดิมมา เปรียบเทียบกับอัตราใหม่ โดยเฉพาะผู้ใช้น�้ำประปาแต่ละเดือนตั้งแต่ 2140 ลูกบาศก์เมตร จากเดิมเก็บหน่วยละ 3.50 บาท อัตราใหม่เก็บหน่วย ละ 5.50 บาท ตั้งแต่ 41-60 ลูกบาศก์เมตร จากหน่วยละ 4.50 บาท อัตรา ใหม่หน่วยละ 7.50 บาทบาท ตั้งแต่ 61-80 ลูกบาศก์เมตร หน่วยละ 5.50 บาท อัตราใหม่หน่วยละ 9.50 บาท ตั้งแต่ 81-100 ลูกบาศก์เมตร หน่วย ละ 6.50 บาท อัตราใหม่หน่วยละ 11.50 บาท ตั้งแต่ 101-200 ลูกบาศก์ เมตรหน่วยละ 7.50 บาท อัตราใหม่หน่วยละ 13.50 บาท กลุ่มผู้ใช้น�้ำส่วนใหญ่กว่า 80 เปอร์เชนต์จะใช้น�้ำตั้งแต่ 21200 หน่วย/เดือน จะต้องจ่ายค่าน�้ำเพิ่มขึ้นจากเดิมกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ เช่น ถ้าเดิมใช้น�้ำ 100 หน่วย/เดือน ต้องจ่ายเดือนละ 650 บาท แต่อัตรา ใหม่ต้องจ่าย 1,150 บาท ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งถือว่าเป็นอัตรา ค่าน�้ำที่สูงมากเมื่อเปรียบเทียบกับการให้บริการ และคุณภาพน�้ำที่แย่ มากๆ และใครจะการันตีได้ว่าเมื่อเก็บค่าน�้ำประปาในอัตราใหม่ ต่อไปจะไม่ขาดแคลนน�้ำหรือน�้ำจะไม่เป็นน�้ำประปาชาเย็นอีก.


6

เดือนเมษายน 2560

FREE COPY

ปีใหม่ไทย

รอบเขตเทศบาลฉบับต้อนรับปีใหม่ไทย ผู้เขียนเองมีความรู้สึก ตื่นตัวน้อยลงกับเทศกาลวันสงกรานต์ เข้าใจว่าเหตุการณ์บ้านเมือง ณ ปัจจุบันขณะยังคงมีคนจ�ำนวนไม่น้อยที่มีความวิตกกังวล ประกอบกับ สภาพเศรษฐกิจ ที่ยังไม่น่าจับจ่ายใช้สอยเงินจนเกินตัว อะไรที่พอจะประหยัด ก็คงต้องคิดกันอยู่เสมอๆ ส่วนตัวผู้เขียนนอกจากต้องวางแผนระบบการเงิน การใช้ชีวิตแล้ว ยังคงมีภาระอื่นๆ ที่ท�ำให้สงกรานต์ปีนี้ไม่สู้จะสนุกนัก กลับมาคิดอีกครั้งอาจเป็นเพราะเหตุผลดังกล่าว ส่วนที่ไม่อยากจะกล่าว หรือพูดถึงเลย เช่น เรื่องตัวเลขของอายุที่ขยับขึ้นทุกๆ ปีใหม่ของทุกๆ ชนิด หรือประเภทของปีใหม่ ตามแต่จะนับแบบไทย จีน สากลฝรั่ง หรือ แม้แต่ทางอิสลาม หากจะบอกว่ากังวลกับตัวเลขที่มีการขยับขับเคลื่อน เหล่านั้นหรือไม่ คงให้น�้ำหนักไม่มากนัก พูดกันเล่นๆ เสียมากกว่า เพียงแต่ เมื่อชีวิตด�ำเนินมาถึงวันนี้ผ่านเทศกาลสงกรานต์มา จ�ำนวนครั้งไม่ขอบอก ผู้อ่านคงประมาณคาดเดาเอาว่า ผู้เขียนหากเป็นโดยทั่วๆ ไปแล้ว คน ส่วนใหญ่จะเริ่มเห็นความจ�ำเจซ�้ำซากผ่านไปมาในแต่ละช่วงปี จนท�ำให้ รู้สึกเหมือนไม่รู้สึกกับความแตกต่างระหว่างปีเก่ากับปีใหม่ ไม่ว่าจะเป็น กิจกรรมในช่วงนั้นหรือสิ่งที่ผู้คนให้ความสนใจกับช่วงเวลาพิเศษ ไม่ว่าจะ เรียกว่าเทศกาลใดๆ ก็ตาม โดยสรุปรวมสงกรานต์ปีนี้ของผู้เขียนอาจจะดูซึมเซา มิน่า ตื่นเต้นมากมายนัก หากแต่มีกิจกรรมที่ท�ำให้สงกรานต์ปีนี้แตกต่างจากปี ก่อนๆ และปีก่อนหน้านี้ เพราะปีนี้ทางผู้เขียนได้จัดแจงให้วันก่อนวัน สงกรานต์เพียงหนึ่งวัน จัดกิจกรรมที่เกี่ยวกับความกตัญญู คือ ฉลองศาลา อนุสรณ์ครูยายศรี(หลาอ้ายฉากหัว) ที่โรงเรียนเกตุชาติศึกษา ที่ที่ผู้เขียน รับภาระงานต่อจากคุณแม่หรือครูยายศรี ส�ำหรับศาลาครูยายศรี เป็นสถานที่ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ แก่คุณแม่ซึ่งเสียชีวิตไปเมื่อปีกลาย โดยท่านเองนั้นเป็นผู้ก่อตั้งมูลนิธิเกตุชาติ ศึกษา เป็นองค์กรที่บริหารจัดการโรงเรียนเกตุชาติศึกษา ส�ำหรับกิจกรรม ฉลองศาลาฯ ผู้เขียนได้จัดให้มีพิธีสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ไชยมงคลคาถา เปิด(เบิก)เนตร รูปหล่อพระพุทธรูป และรูปหล่อครูยายศรี ซึ่งทั้งสองสิ่ง นั้น นอกจากเป็นตัวแทนของครูยายศรีส�ำหรับลูกหลานผู้เคารพนับถือ ได้

ระลึกนึกถึงด้วยความรักเคารพแล้ว รูปหล่อของพระพุทธรูปปางสมาธิได้ จัดท�ำขึ้นเพื่อประดิษฐาน ณ ที่ศาลาแห่งนี้ รวมถึงได้จัดวางรูปหล่อ ครูยายศรี ไว้ในต�ำแหน่งที่ลดหลั่นลงมาตามความเหมาะสม หลังจากพิธีสงฆ์เสร็จเรียบร้อยพระคุณเจ้ารับภัตตาหารเพล ผู้ที่มาแสดง มุทิตาจิต แสดงความยินดีในงานก็ร่วมรับประทานอาหารเที่ยง พร้อมกัน เป็นอันเสร็จภารกิจในช่วงดังกล่าว พอแดดร่มลมตก ได้เวลา สังสรรค์เล็กน้อย โดยสมาชิกวงด้ามขวาน มีอาจารย์ยุทธ อาจารย์ภิญโญ อาจารย์ไข่ คุณสาคร และผู้เขียน ซึ่งอดีตเป็นผู้เล่นในต�ำแหน่งกีตาร์เบส ของวง ได้มารวมตัวเล่นดนตรีให้กับผู้ปฏิบัติงานในโรงเรียน และพรรคพวก เพื่อนฝูงญาติพี่น้อง ชม/ดื่มกินกันพอหอมปากหอมคอ หลังเสร็จงาน โดยเฉพาะทีมงานที่เตรียมทุกสิ่งอย่างให้เกิดงานฉลองศาลาฯ ได้ผ่านไป อย่างสมควรแก่ฐานานุรูป งดงามเรียบง่าย แต่สมเกียรติผู้มาให้เกียรติ ตามเจตนารมย์ของครูยายศรีที่สั่งสอนเหมาะกล่าวมาตลอด ครั้งยังมี ชีวิตอยู่ กิจกรรมสังสรรค์ด�ำเนินไปถึงประมาณสองทุ่มเศษ จึงเลิกลา แยกย้ายกันไป เพื่อพักผ่อน ส�ำหรับอีกกิจกรรมหนึ่งภายหลังวันสงกรานต์ผ่านไปสักระยะ นั่นถือเป็นกิจกรรมที่หลายฝ่ายให้ความสนใจมากกิจกรรมหนึ่ง คือ กิจกรรม กีฬาชนโค ได้ถือเอาวันที่ 20-22 เมษายนที่ผ่านมา เป็นปฐมฤกษ์นัดแรก โดยทางสนามชนโคบ้านนาทราย ได้รับอนุญาตให้มีการชนโคได้ 3 วัน ผู้เขียนเองข้อเท็จจริงคือไม่มีความรู้เรื่องการชนโคมากนัก เพียงแต่ส�ำหรับคนนคร ชนโคเป็นกีฬาของสุดยอดนักสู้ ในรูปแบบการ แสดงออกของวัว ที่ถือเป็นสัตว์ใหญ่ มีสมอง มีความจดจ�ำ มีความกตัญญู และที่ส�ำคัญมีความเป็นนักสู้ ซึ่งข้อเท็จจริงเขาอาจจะสู้ตามสัญชาตญาณ เพื่อการด�ำรงอยู่รอดของชีวิตหรือการสืบเผ่าพันธุ์อันเป็นธรรมส่งผลให้ ผู้คนที่มีธรรมชาติที่ช่างสังเกต ช่างจินตนาการ จนเกิดความคิด ประดิษฐ์ สังเคราะห์ความเห็นมาเป็นกิจกรรม สอดคล้องกับภูมิปัญญาท้องถิ่น รวมถึง

กุศลบายเพื่อให้วัวพันธุ์พื้นเมืองได้ถูกรักษาไว้ให้มีต้นสายพันธุ์สายเลือดแท้ ที่ถึงแม้ว่าจะตัวไม่โตมากนักหรือโตช้า อัตราการแล่เนื้อสู้สายพันธุ์น�ำเข้า ที่มีการพัฒนาเพื่อเป็นอาหารของมนุษย์อย่างบางสายพันธุ์ทุกวันนี้ ด้าน สังคม การนับถืออาวุโสและที่ได้รับการยอมรับกัน ทั้งด้วยวิถีความเป็น นักเลงและผู้คนในแวดวงวัวชน ถือว่าเป็นคนใจกว้าง สนามกีฬาชนโคบ้านนาทราย ตั้งอยู่ฝั่งตรงกันข้ามตลาดช้อย ที่เป็นที่รู้จักของผู้คนโดยทั่วไป และเป็นสนามกีฬาชนโคแห่งเดียวใน อ�ำเภอเมือง ไม่ไกลจากสนามบินหรือประมาณ 10 นาที หากขับรถส่วนตัว มา ซึ่งถือเป็นชัยภูมิส�ำคัญบรรดานักท่องเที่ยว ที่จะเดินทางเข้ามายังจังหวัด นครศรีธรรมราช แล้วมีโอกาสได้ เข้าไปชมกีฬาชนโค ได้อย่างสะดวก ส�ำหรับนัดปฐมฤกษ์ของสนามกีฬาชนโคบ้านนาทรายแห่งนี้ มีบรรดาผู้ที่สนใจทั้งผู้ชม เจ้าของโค ตลอดจนถึงสื่อมวลชน ให้ความสนใจ ติดตามชมตลอดทั้งสามวันซึ่งบรรยากาศการ ชนโค เป็นไปอย่างสนุกสนาน คึกคักเรียบร้อยไม่ติดขัดหรือมีอุปสรรคใดกับสถานที่แห่งใหม่ มีการจัดวาง ระบบการรักษาความปลอดภัย การรักษาความสะอาดทั้งบริเวณภายใน และภายนอกสนาม สิ่งอ�ำนวยความสะดวกสถานที่จอดรถร้านค้าอาหาร เครื่องดื่มพร้อมสรรพ ภายหลังเสร็จสิ้นการชนโคแล้วทั้งสามวัน บรรดาผู้ชื่นชอบ กีฬาชนโคดังกล่าว ได้พูดถึงสะท้อนความเห็นผ่านทางช่องทางต่างๆ โดย วิถีชุมชน วงสนทนาร้านน�้ำชากาแฟต่างๆ ตลอดจนผ่านทางโซเชียลมีเดีย ท�ำให้ผู้เขียนได้รับรู้ถึงข้อบกพร่องเพื่อที่จะปรับปรุง แต่ในส่วนที่เป็นจุด แข็งของสนามชนโคแห่งนี้เพื่อที่จะสื่อสารให้ถึงผู้ที่ด�ำเนินการฝ่ายเทคนิค และฝ่ายต่างๆ ของสนามได้รับทราบเพื่อพัฒนาให้เป็นสนามชนโค เพื่อ รองรับการส่งเสริมการท่องเที่ยวและเป็นแหล่งเรียนรู้เพื่อการอนุรักษ์ไว้ซึ่ง สายพันธุ์โคพันธุ์พื้นเมืองนี้ต่อไป


เดือนเมษายน 2560

FREE COPY

7

เชฟรอน และมูลนิธิป้องกันอุบัติภัยแห่งเอเชีย เดินหน้าโครงการ “ปลอดภัยไปโรงเรียน” จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก ประเทศไทยมีอัตราการเสีย ชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนสูงเป็นอันดับที่ 2 ของโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วง “7 วันอันตราย” ของเทศกาลปีใหม่และสงกรานต์ ซึ่งการแก้ไข ปัญหาดังกล่าวอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนไม่เพียงต้องอาศัยการบังคับ ใช้กฎหมายเท่านั้น แต่ต้องส่งเสริมให้ประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งเยาวชน มีจิตส�ำนึกขับขี่ปลอดภัย อันเป็นการแก้ไขปัญหาจากต้นเหตุ ซึ่งต้องอาศัย ความร่วมมือจากทุกฝ่ายทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ด้วยแนวคิดดังกล่าว บริษัท เชฟรอนประเทศไทยส�ำรวจและ ผลิต จ�ำกัด จึงร่วมกับ มูลนิธิป้องกันอุบัติภัยแห่งเอเชีย ด�ำเนินโครงการ “เดินทางปลอดภัยไปเรียน” หรือ Chevron Streetwise เพื่อสร้างวัฒนธรรม การใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย มาตั้งแต่ปี 2557 โดยด�ำเนินงานครอบคลุม โรงเรียนในเขตอ�ำเภอสิงหนคร และอ�ำเภอเมืองสงขลา 11 แห่ง ซึ่งล้วนตั้ง อยู่ริมถนนใหญ่ นักเรียนจึงมีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับอุบัติเหตุขณะเดินทาง ไป-กลับระหว่างบ้านและโรงเรียน หากไม่ระมัดระวัง และขาดความรู้ที่ ถูกต้องในการใช้รถใช้ถนน โดยด�ำเนินการอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี โดยโครงการ “เดินทางปลอดภัยไปโรงเรียน” จะท�ำงานร่วม กับหน่วยงานภาครัฐ อาทิ ส�ำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา

สงขลาเขต 1 สถานีต�ำรวจภูธรสิงหนคร ในการสร้างความเข้าใจกับ ผู้บริหารสถานศึกษา พัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอน อบรมวิทยากร ตลอดจนให้ความรู้แก่ผู้ปกครองและนักเรียนในพื้นที่เป้าหมายในจังหวัด สงขลา ซึ่งล่าสุดได้จัดอบรมครูของโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อให้ แนวทางในการผนวกความรู้เรื่องความปลอดภัยในการเรียนการสอนแต่ละ วิชาที่เข้าใจง่ายและสนุกสนาน ตลอดจนจัดการประชุมผู้ปกครองของ นักเรียนโรงเรียนเป้าหมาย ให้ตระหนักถึงบทบาทของตนในการดูแลลูก หลานให้ปลอดภัยจากอบัติเหตุบนท้องถนน ซึ่งมีผู้ปกครองสนใจเข้าร่วม การอบรมเป็นอย่างมาก และเพื่ อ รณรงค์ ส ร้ า งจิ ต ส�ำ นึ ก ความปลอดภั ย บนท้ อ งถนน ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ก�ำลังจะถึงนี้ โครงการ “เดินทางปลอดภัยไป โรงเรียน” ยังได้จัดกิจกรรมพิเศษเพื่อรณรงค์เพิ่มความปลอดภัยทางถนน ตลอดช่วงวันหยุดยาวในเขตอ�ำเภอสิงหนคร และอ�ำเภอเมืองสงขลา โดย ร่วมกับอาสาสมัคร เจ้าหน้าที่ต�ำรวจ และหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน จัดบูทและกิจกรรมสร้างความตระหนักเรื่องการสวมหมวกนิรภัย ตลอดจน ให้ความรู้ทางด้านกฎหมายค่าปรับหากไม่สวมหมวกนิรภัย และการขับขี่ อย่างระมัดระวังตลอดช่วงเทศกาลสงกรานต์

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา โครงการ “เดินทางปลอดภัยไป โรงเรียน” ได้การตอบรับเป็นอย่างดีจากนักเรียน คณะครูอาจารย์ ตลอดจน ผู้ปกครอง ที่อาศัยอยู่ในอ�ำเภอสิงหนคร และอ�ำเภอเมืองสงขลา รวมทั้งสิ้น กว่า 13,800 คน โดยโครงการมีส่วนส�ำคัญในการช่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และปลูกฝังแนวคิดในการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัยให้กับนักเรียนใน โรงเรียนที่ร่วมโครงการ โดยพบว่าอัตราการสวมหมวกนิรภัยในเด็กนักเรียน เพิ่มขึ้นจาก 3% เป็น 38% ขณะเดียวกันนักเรียนยังมีความตระหนักใน การใช้ถนนอย่างปลอดภัยมากขึ้น อาทิ อัตรานักเรียนข้ามถนนโดยใช้ ทางม้าลายเพิ่มขึ้นจาก 29% เป็น 91% และอัตรานักเรียนที่ระมัดระวัง ไม่วิ่งขณะข้ามถนนเพิ่มขึ้นจาก 47% เป็น 87% นอกจากนี้ จากการ ส�ำรวจผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ พบว่ามีการสวมหมวกนิรภัยในพื้นที่อ�ำเภอ สิงหนคร และอ�ำเภอเมืองสงขลาเพิ่มขึ้นเป็น 44% อีกด้วย

เอาแต่ตัวเอง โดย...

กน

ี กวล

สุขภาพของประชาชน ต้องเป็นนโยบาย ล�ำดับต้นๆ ของทุกหน่วยงาน เราลองหันมามองหน่วย งานระดับท้องถิ่นอย่างเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ว่าทุกวันนี้พื้นที่ อุปกรณ์ ในการออกก�ำลังกายนั้น พร้อมที่จะเป็นสวัสดิการให้กับประชาชนในท้องถิ่นได้ หรือไม่ พื้นที่ในการออกก�ำลังกายของประชาชน ในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช หลักๆ คือสนาม หน้าเมือง สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์84 (ทุ่งท่าลาด) และสนามกีฬาจังหวัด ปัจจุบันพื้นที่ฟอกปอดเหล่า นี้ได้รับการพัฒนาหรือไม่ มาฟังเสียงสะท้อนจากผู้รัก สุขภาพกัน คุณเกษม อายุ 65 ปี อยู่ชุมชนหอไตร เขต 2 เล่าว่า ก่อนหน้านี้ลุงจะออกก�ำลังกายที่ ทุ่งท่าลาด แต่ด้วยสภาพตอนนี้ไม่เหมาะกับการ ออกก�ำลังกาย รถขยะวิ่งผ่านบ่อยท�ำให้เกิดฝุ่นมาก บางทีส่งกลิ่นเหม็นท�ำให้ไม่สดชื่น การออกก�ำลังกาย ต้องท�ำให้สุขภาพเราดีขึ้นไม่ใช่แย่ลง และอุปกรณ์ เครื่องเล่นต่างๆ ก็เสื่อมสภาพทรุดโทรมหมดแล้ว ลุงเลยเปลี่ยนมาออกก�ำลังกายที่หน้าเมืองแทน หน้าเมืองยังดีที่มีหญ้าเขียวๆ ให้เห็น อุปกรณ์แม้จะไม่ รองรับกับประชาชนแต่สภาพยังดีกว่าเยอะ

ส่วนหนึ่งต้องขอบคุณบริษัทเอกชนมาช่วยสนับสนุน ตรงนี้ด้วยครับ คุณกนกกาญ อายุ 32 ปี อยู่ชุมชน คูขวาง – ท่าวัง เขต 3 ระบุว่า ที่มาออกก�ำลังกาย ณ สนามหน้าเมือง เพราะเลิกงานค�่ำ จะให้ไปสวน สาธารณะคงจะไม่ปลอดภัย แต่อยากให้หน่วยงานที่ ดูแลช่วยติดตั้งไฟฟ้าให้สว่างมากกว่านี้ ปรกติมาวิ่ง ประมาณ 1-2 ทุ่ม ก็ยังมีคนเยอะ คงเป็นเพราะสนาม หน้าเมือง มีเพียงแห่งเดียวที่เหมาะกับออกก�ำลังกาย ตอนตะวันตกดินได้ ก่อนหน้านี้ไปวิ่งที่สนามกีฬา จังหวัด วิ่งๆ อยู่เจ้าหน้าที่ที่ดูแลปิดไฟในสนามดับมืด

ทั้งๆ ที่มีคนวิ่งอยู่ ท�ำให้รู้สึกไม่ค่อยปลอดภัย ลุงแก้ว อายุ 68 ปี บอกว่า ชอบออก ก�ำลังกายและมาออกก�ำลังกายที่สนามกีฬาทุกวัน ถาม ว่าพื้นที่ในการออกก�ำลังและอุปกรณ์เพียงพอหรือไม่ ลุงตอบว่าไม่เพียงพอ ห้องอุปกรณ์ออกก�ำลังกายของ เทศบาลซึ่งก่อนหน้านี้มีอุปกรณ์ที่สามารถเล่นได้หลาย ชิ้น มาวันนี้เหลือเพียงไม่กี่ชิ้นแล้ว สภาพห้องก็เน่า เต็มที แต่ที่เห็นยังเล่นได้หรือใหม่ๆ เป็นของจาก ทางเอกชน ที่เห็นความส�ำคัญและเข้ามาช่วยเหลือ สนับสนุน “เรื่องสุขภาพเป็นสิ่งส�ำคัญมาก งบ

ประมาณมีแต่ท�ำไมไม่ดึงลงมาพัฒนาบ้าง หรือมัน ไม่สูงเหมือนราคาเสาไฟฟ้า ลุงว่าหากเจียดเอางบ ประมาณจากเสาไฟฟ้ามาสัก 10 ต้น มาปรับปรุง อุปกรณ์กีฬาในพื้นที่เขตเทศบาลคงจะมีสภาพที่ดี กว่านี้ครับ ยังไงก็ขอฝากไปยังผู้บริหารด้วยครับ” อุปกรณ์และสถานที่ออกก�ำลังกายในพื้นที่ เทศบาลนครนครศรีธรรมราช คือบทสะท้อนถึงความ ใส่ใจในสุขภาพของประชาชน คณะผู้บริหารเทศบาล ชุดนี้ ใส่ใจสุขภาพประชาชนมากน้อยเพียงไหน ค�ำตอบน่าจะอยู่ในใจผู้อ่านทุกคน.


8

เดือนเมษายน 2560

FREE COPY

สงสัยจะใหญ่จริง! ลอบปล่อยน�้ำเน่าภูเขาขยะ ลงคลองหลัง ทภ.4 ชาวบ้านรับกรรมซ�้ำซาก น�้ำเน่าเสียจากภูเขาขยะเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ยังถูก ลอบปล่อยลงคลองสาธารณะอย่างต่อเนื่อง ชาวบ้านหมดศรัทธา ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะที่ผู้น�้ำท้องที่ และท้องถิ่นที่ได้ รั บ ผลกระทบระบุ เ ป็ น เครื่ อ งยื น ยั น ถึ ง เจตนาที่ ไ ม่ มี ค วามจริ ง ใจ วันนี้ (14 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการติดตามการ แก้ไขปัญหาให้แก่ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากภูเขาขยะที่อยู่ในความรับ ผิดชอบของเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง โดย ล่าสุด ชาวบ้านได้แจ้งแก่ทีมข่าวอีกครั้ง และที่ส�ำคัญคือ ภาพมุมสูงที่บันทึก ไว้โดยอากาศยานไร้คนขับเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 13 เมษายนที่ผ่านมา หลังจากได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากมลพิษ ทั้งทางน�้ำเน่าเสีย และอากาศจากภูเขาขยะที่อยู่ในความรับผิดชอบของ เทศบาลนครนครศรีธรรมราช มาอย่างยาวนาน โดยชาวบ้านระบุว่า ได้มีการลอบปล่อยน�้ำเสียลงคลองท่าซัก ซึ่งอยู่ติดกับรันเวย์สนามบินกองทัพภาคที่ 4 จ�ำนวนมหาศาลในช่วงฝนตก หนักเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว โดยอาศัยช่วงที่น�้ำเน่าเสียเพิ่มปริมาณมากขึ้น จากฝน มีรถแบ็กโฮมาเปิดช่องคันดินระบายน�้ำเน่าลงคลองห่างจากจุดที่ ตรวจจับได้เมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมาไม่ถึง 200 เมตร ซึ่งภาพมุมสูงแสดงให้ เห็นถึงร่องรอยอย่างชัดเจน และมีการน�ำมูลดินมาขวางร่องที่ถูกขุดขึ้น เพียงเล็กน้อยเท่านั้น พร้อมที่จะเปิดใหม่ได้ตลอดเวลา ซึ่งภาพที่ปรากฏ เป็นไปตามการชี้เบาะแสของชาวบ้านที่เข้าตรวจสอบพื้นที่ ขณะที่ผู้น�ำท้องที่ และผู้น�ำท้องถิ่นที่เป็นหลักในการเคลื่อนไหว ช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ ระบุว่า หลักฐานภาพนี้เป็นเครื่อง ยืนยันถึงการไม่ให้ความส�ำคัญต่อกฎหมายสิ่งแวดล้อม แม้ว่าจะมีคณะ กรรมการขึ้นมาติดตามการแก้ไขแต่ไม่ได้ช่วยอะไรดีขึ้น มุ่งแต่โครงการใช้ งบประมาณ ขณะที่การปฏิบัติยังคงเพิกเฉยในความรับผิดชอบต่อชีวิต ผู้คนที่ได้รับผลกระทบ และแม้จะอยู่ในการจับตามองของมณฑลทหารบก ที่ 41 การลอบปล่อยน�้ำเน่าเสียเช่นนี้ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง

ที่มา : ผู้จัดการ Online

อย่างไรก็ตาม หลังจากชาวบ้านได้พยายามเคลื่อนไหวอย่าง ต่อเนื่องเพื่อให้รอดพ้นจากสภาพผลกระทบจากมลพิษที่แพร่กระจายออกมา จากภูเขาขยะ จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 1 ชุด เพื่อติดตามตรวจสอบ และแก้ปัญหาแต่ไม่มีความคืบหน้าในการช่วยเหลือ ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ โดยงานที่รับผิดชอบหลักเกี่ยวกับการปล่อย น�้ำเน่าเสียลงแหล่งน�้ำสาธารณะกลับไมปรากฏบทบาทอย่างจริงจัง ส่วนด้านทางทหาร แม้ว่า พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควาณิช แม่ทัพภาค ที่ 4 จะมอบให้มณฑลทหารบกที่ 41 และผู้อ�ำนวยการศูนย์ประสานการ ปฏิบัติ 4 กอ.รมน.ได้จับตา และติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด แต่การลอบ ปล่อยน�้ำเน่าเสียยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจุดที่มีการลอบปล่อยนั้นล้วน อยู่หลังกองทัพภาคที่ 4 ค่ายวชิราวุธ อ�ำเภอเมืองนครศรีธรรมราช และเป็น คลองที่ชาวบ้านประกอบอาชีพหาปลา อาศัยด�ำรงชีวิตในล�ำคลองแห่งนี้ ขณะที่ภาพรวมในการตรวจสอบอย่างเข้มข้นของสื่อมวลชน ภาคประชาชน และชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบต่างเชื่อไปในทิศทาง สอดคล้องต่อกระแสที่ต่างเชื่อว่า ไม่ว่าหน่วยงานใดไม่สามารถด�ำเนินการ อะไรได้เลยท่ามกลางหลายประเด็นที่ถูกจับได้ไล่ทัน เช่น ความทรุดโทรม สนามกีฬากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งใช้งบสูงถึง 13.4 ล้านบาท ในการปรับปรุงแต่กลับไม่ได้มาตรฐานเป็นหลักฐานประจานกลางเมือง

เน่า! ปลาในบึงน�้ำทุ่งท่าลาดยังตายเกลื่อน เทศบาลนครนครศรีธรรมราช ยังไม่สามารถควบคุมการตายของปลา ในบึงน�้ำขนาดใหญ่ในสวนสาธารณะทุ่งท่าลาดข้างภูเขาขยะได้ ขณะที่ ประชาชนเรียกร้องให้มีการตรวจสอบการแพร่กระจายของมลพิษจาก ภูเขาขยะอย่างจริงจัง สภาพแวดล้อมรอบภูเขาขยะเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ยังเป็นปัญหาที่ลุกลามอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด สภาพน�้ำภายในบึงน�้ำขนาด ใหญ่ในสวนสาธารณะสมเด็จพระศรีนครินทร์ 84 หรือทุ่งท่าลาด ก�ำลังมี สภาพเน่าเสีย ปลาจ�ำนวนมากทยอยตายเป็นวันที่ 2 โดยที่เทศบาลนคร นครศรีธรรมราช ยังไม่สามารถควบคุมสภาพน�้ำที่เป็นสาเหตุของปลาตาย ได้ สภาพในบึงน�้ำเต็มไปด้วยซากปลาขนาดใหญ่จ�ำนวนมากลอยตายอืด อย่างต่อเนื่อง และยังคงมีปลาลอยหัวในสภาพอ่อนแรงอีกจ�ำนวนมาก เช่นกัน โดยหากยังไม่สามารถแก้ไขสภาวะแวดล้อมที่ก�ำลังทรุดโทรม จะส่งผลกระทบเป็นวงกว้างจนหมดทั้งบึง ขณะที่ประชาชนผู้ใช้สวนสาธารณะเป็นที่ออกก�ำลังกายยามเช้า ระบุว่า สภาพน�้ำก�ำลังเป็นปัญหาอย่างชัดเจน บนผิวน�้ำมีคราบฝ้าจับผิวน�้ำ เป็นวงกว้าง การตายของปลาจ�ำนวนมากที่ปล่อยให้เน่าเปื่อยในน�้ำจะเป็น

ตัวท�ำให้สภาพน�้ำยิ่งเป็นพิษมากขึ้น และขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควร ตรวจสอบสภาพความเป็นพิษ และมลพิษที่แพร่กระจายอย่างจริงจัง โดยเฉพาะการแพร่กระจายมาจากภูเขาขยะที่ไม่มีความคืบหน้าใดๆ

โดยพบว่าค้างอยู่ที่ ป.ป.ช., สตง. มานานกว่า 3 ปี แบบไร้ ความคืบหน้า เป็นต้น ขณะที่มีกระแสข่าวอ้างถึงผู้มีอ�ำนาจระดับสูงคอย ดึงเรื่องโดยเครือข่ายที่มาจากสถาบันการแห่งหนึ่งของประเทศไทย ที่มี ข้าราชการ ผู้บริหารและระดับสูงเข้าเรียน ท�ำให้ประชาชนที่ติดตามเรื่องนี้ ต่างหมดศรัทธา และความเชื่อมั่นในหน่วยงานต่างๆ ที่เป็นที่พึ่ง และแก้ไข ปัญหาให้แก่ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ส่ ว นประเด็ น เรื่ อ งความเดื อ ดร้ อ นของประชาชนจากภู เ ขา ขยะ เป็นที่น่าสังเกตว่า การเรียกประชุมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกครั้ง ผู้รับผิดชอบสูงสุดของเทศบาลนครนครศรีธรรมราช จะไม่เคยเข้าร่วม โดย อ้างจากผู้แทน หรือข้าราชการที่เข้าร่วมว่าติดราชการ และทุกครั้งผู้เกี่ยวข้อง จะพูดถึงปัญหาอื่นๆ และโครงการที่ต้องใช้งบประมาณจ�ำนวนมาก โดย ไม่ได้ให้ความส�ำคัญต่อความเดือดร้อนของประชาชนที่ต้องทนอยู่กับมลพิษ มาอย่างยาวนาน นายวัชรา ชุมธรรม ผู้น�ำองค์กรชุมชน ระบุว่า ชาวบ้านไม่เคย เชื่อว่าการท�ำคันดินที่ใช้งบเกือบ 10 ล้าน จะช่วยป้องกันน�้ำเน่าเสียได้จริง ชาวบ้านที่หาปลาต่างยืนยันว่ายังคงมีน�้ำเน่าไหลมาโดยตลอด ภาพที่เห็น เป็นเครื่องยืนยันพิสูจน์ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น


เดือนเมษายน 2560

FREE COPY

9

ผู้ว่าเมืองคอนควันออกหู ลั่นต้องมีผู้รับผิดชอบ

มลพิษภูเขาขยะกลิ่นเหม็น น�้ำเน่าเสียสู่สาธารณะ

ที่มา : TNews

จากกรณี ที่ เ กิ ด มลพิ ษ จากภู เ ขาขยะเทศบาลนครนครศรี ธรรมราช นับล้านตัน ด้านทิศเหนือของสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ 84 “ทุ่งท่าลาด” ต.นาเคียน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ทั้งกลิ่นเหม็นเน่า น�้ำเน่าเสียถูกปล่อยลงสู่ล�ำคลองสาธารณะ ปลาลอยตายเป็นเบื่อและ พื้นที่ท�ำการเกษตรของประชาชนในรัศมีนับ 10 กม. ครอบคลุมพื้นที่ ต.นาเคียน ต.ท่างิ้ว ต.นาทราย และ ต.ปากพูน ที่ประชาชนไม่สามารถ ท�ำการเกษตรใดๆ ได้เลย ซึ่งชาวบ้านเดือดร้อนอย่างแสนสาหัสและ รวมตัวประท้วงร้องเรียนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตลอด ระยะเวลา 5-6 ปี ที่ผ่านมา แต่ไม่ได้รับการแก้ไขใดๆ ต่อมาวันที่ 25 เม.ย. นายจ�ำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการ จังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เดินทางลงพื้นที่ ตรวจสอบด้วยตัวเอง เห็นกับตาจะๆ ว่ามีการขุดร่องน�้ำเพื่อระบายน�้ำ เน่าเสียจากภูเขาขยะลงสู่ล�ำคลองสาธารณะ รวมทั้งพื้นที่การเกษตรของ ชาวบ้าน และนายจ�ำเริญ ยังลงทุนกวักน�้ำจากร่องน�้ำมาดม พบว่ามีกลิ่น เน่าเหม็นอย่างรุนแรง สร้างความไม่พอใจให้กับนายจ�ำเริญ เป็นอย่างมาก ถึงกับสั่งให้ปิดร่องน�้ำทันที ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันนี้(26 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้มีการน�ำภาพ/คลิป ที่นายจ�ำเริญบุกตรวจภูเขายะมาเผยแพร่ทางโซเชียล มีคนเข้าไปชม แชร์ และแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะช่วงที่นายไสว เขียวจันทร์ รองนายกเทศมนตรีเทศบาลนคร นครศรีธรรมราช พยายามจะชี้แจงและ อ้างต่างๆ นานา สร้างความไม่พอใจให้กบั นายจ�ำเริญ เป็นอย่างมาก จนกล่าว ตอบโต้ด้วยเสียงดุดันว่า "คุณอย่ามาพูด อยู่ๆ คุณก็มาบอกว่าเป็นการ ปล่อยให้น�้ำเน่าเสียจากภูเขาขยะไหลลงไปตามธรรมชาติซึ่งไม่ได้ เรื่องนี้ จะต้องมีคนรับผิดชอบ มันมีหลักวิชาการอยู่แล้วโดยพื้นที่ในการบริการ จัดการก็มีอยู่ ที่จังหวัดภูเก็ตเสี่ยงกว่าคุณเยอะเพราะรายล้อมด้วยชุมชน เมือง เมื่อก่อนยังมีกลิ่น แต่ในสมัยที่ผมเป็นผู้ว่าฯ ศูนย์ราชการผมยังไปตั้ง อยู่ใกล้กองขยะได้เลย มันขึ้นอยู่กับบริหารจัดการ แต่ปัญหาที่นี่ทุกอย่าง เหมือนเดิม หากเป็นอย่างนี้ผมว่ามันใช้ไม่ได้ ผมตรวจสอบ ผมเห็นภาพ ทั้งหมดแล้ว ผมเดินทางลงตรวจสอบและพิสูจน์ด้วยตนเองอย่างชัดเจนแล้ว เห็นแล้วทุกอย่าง” “ในความเป็นจริงผมต้องขอขอบคุณผู้บริหารเทศบาลนคร นครศรีธรรมราชชุดก่อนหน้านี้เขามีวิสัยทัศน์กว้างไกล จึงท�ำสถานที่ ทิ้งขยะในบริเวณนี้ ถือว่าเหมาะแล้ว เหมาะสมจริงๆ แล้วแหละ เพราะ อยู่ห่างไกลชุมชน นครศรีธรรมราชมันเมืองใหญ่และขยะมากขนาดเป็น

ชาวบ้านลุกฮือต้านนายทุน รถบรรทุกดินท�ำถนนพัง ฝุ่นตลบ

ชาวบ้านหมู่ 6 ต.ท่างิ้ว อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช สุดทน นายทุนบ่อดินผู้กว้างขวาง ใช้รถบรรทุกวิ่งนับร้อยเที่ยวต่อวัน ท�ำถนน พังยับนับ 10 กม.ฝุ่นละอองฟุ้งทั้งหมู่บ้าน เรียกร้องหน่วยงานเกี่ยวข้อง หามาตรการป้องกันปัญหา วันนี้ (24 เม.ย.) ชาวบ้านหมู่ 6 ต.ท่างิ้ว อ.เมือง จ.นครศรี ธรรมราชหลายสิบครัวเรือนมารวมตัวกันลงชื่อเพื่อเรียกร้องให้ทางจังหวัด นครศรีธรรมราช เข้ามาแก้ปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านที่ได้รับ ผลกระทบจากรถบรรทุ ก ดิ น ของนายทุ น รายหนึ่ ง ที่ เ ข้ า มาสั ม ปทาน บ่อดิน เพื่อขายดินแล้วขับรถบรรทุกดินเข้าออกวันละนับ 100 เที่ยว สร้างความเสียหายให้แก่ถนนอย่างหนัก เป็นระยะทางยาวเกือบ 10 กม. โดยไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาควบคุมดูแล นายนันทวัฒน์ กิตติพันธ์พัฒนา ปลัดอ�ำเภอเมือง ได้เดินทาง มาตรวจสอบพื้นที่ก่อนที่ชาวบ้านจะรวมตัวกันปิดถนน และได้สั่งให้ เจ้าของบ่อดินหยุดท�ำการชั่วคราวเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ จากนั้น ได้มีการเชิญตัวแทนชาวบ้าน 6 คน มี นางสุจารี เพ็งขวาง เป็นแกนน�ำ เข้านั่งโต๊ะเจรจาเพื่อหาทางออกร่วมกัน ซึ่งกลุ่มชาวบ้านได้ท�ำหนังสือ ร้องเรียนถึงอ�ำเภอเมืองนครศรีธรรมราช โดยข้อเรียกร้องของชาวบ้าน คือ ให้แก้ปัญหาฝุ่นและโคลนบนถนน ซ่อมแซมถนนให้เหมือนเดิม ก�ำหนด

เวลาที่ชัดเจนคือ 08.00-17.00 น. ให้ลดความเร็วของรถ หยุดวันอาทิตย์ หยุดกิจการจนกว่าจะแก้ปัญหาจนแล้วเสร็จ ให้กรมทางหลวงเข้ามา ตรวจสอบน�ำ้ หนักการบรรทุกดิน น�ำผ้าใบมาคลุมรถเพือ่ ไม่ให้ดนิ ตกหล่น ลงบนถนน และเรื่องสภาพสิ่งแวดล้อมบริเวณบ่อดินนั้นจะต้องไม่ให้พัง ลงในคูระบายน�้ำ ขณะที่ นายสมพงษ์ มากมณี นายอ�ำเภอเมือง ซึ่งเดินทางมา สมทบภายหลังได้มารับข้อเรียกร้องจากชาวบ้าน พร้อมเข้าตรวจสอบ ที่บ่อดินซึ่งมี 2 บ่อในหมู่บ้านดังกล่าว พบว่า ที่ตีนเขามีการขุดเอาดินไปขาย เป็นวงกว้าง ขณะที่ภูเขาสูงนั้นถูกขุดจนหมดไปแล้วครึ่งลูก ซึ่งที่ชาวบ้าน มาเรียกร้องก็เพื่อให้เจ้าของบ่อดิน หรือนายทุนรายนี้มารับผิดชอบ ปัญหาที่เกิดขึ้น

รับถ่ายภาพมุมสูง ถ่ายภาพทางอากาศ

ความชัดระดับ 4K

Tel.089-4108464

ล้านตันอย่างนี้ จะต้องมีการบริหารจัดการตามหลักวิชาการอย่างมี ประสิทธิภาพ จะต้องสร้างเตาเผาขยะขนาดใหญ่ขึ้นมารองรับอย่างต�่ำ ต้องขนาด 500 บวกๆ แต่มาถึงวันนี้ปล่อยให้ปัญหารุนแรงอย่างนี้ จะปล่อยไว้ต่อไปไม่ได้ เดี๋ยวจะต้องมาว่ากันเป็นตอนๆ ไปเลย และผม อยากดูสเป็คการก่อสร้างแนวคันป้องกันน�้ำเน่าเสียจากภูเขาขยะด้วย ซึ่งเรื่องนี้จะต้องเร่งด�ำเนินการอย่างเร่งด่วน โดยจะน�ำอาจารย์มหาวิทยาลัย ด้านการบริการจัดการสิ่งแวดล้อมที่เก่งที่สุดมาพบผมที” ผูว้ า่ ราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ยังกล่าวด้วยความไม่พอใจ อีกว่า เรื่องเนินดินต่างๆ ก็ต้องปรับให้สโลปให้ได้มาตรฐาน ตนรับไม่ได้ เพราะนี่คือปัญหาของเราชาวเมืองนคร ต้องช่วยกันคนละไม้ละมืออย่าง จริงจัง และจริงใจ อย่าให้ใครมาดูถูกคนเมืองนคร โดยภาพรวมในการแก้ไข ปัญหาที่ผ่านๆ หลายๆปี ทุกอย่างยังเหมือนเดิม ผมว่ามันใช้ไม่ได้ ในขณะที่ชาวบ้านจ�ำนวนมากได้ติดตามข่าวทางสื่อมวลชนที่ น�ำเสนอข่าวนี้ ได้พากันจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในท�ำนอง ว่าปัญหาใหญ่ในเทศบาลนคร นครศรีธรรมราช ทางผู้บริหารสูงสุดของ เทศบาลนครนครศรีธรรมราช ไม่เคยออกมารับหน้า จะปล่อยให้รองปลัด ผู้อ�ำนวยการ หรือรักษาผู้อ�ำนวยการกองออกมารับหน้าแทน แม้บุคคลใน คสช. และรัฐมนตรี ผู้น�ำกองทัพได้เดินทางลงมาตรวจสอบในพื้นที่ก็ไม่ ออกรับหน้าชี้แจงด้วยตนเอง จนกระทั่งนายไสว เขียวจันทร์ อดีตปศุสัตว์ จังหวัดนครศรีธรรมราชเกษียณอายุราชการ ผู้บริหารฯ จึงแต่งตั้งให้ด�ำรง ต�ำแหน่งรองนายกเทศมนตรี เพื่อให้นายไสว ออกมารับหน้าแทนตัวเอง นอกจากนี้ประชาชนยังแสดงความคิดเห็นว่าผู้บริหารเทศบาลฯ ชุดนี้เส้นใหญ่แม้จะถูกร้องเรียน ถูกชาวบ้านรวมตัวประท้วงในหลายๆ เรื่อง นอกจากปัญหามลพิษภูเขาขยะแล้ว ปัญหาการขาดแคลนน�้ำประปาไม่ สะอาด ขุ่นแดงคล้ายสีชาเย็น การด�ำเนินการให้เอกชนสัมปทานผลิตน�้ำ ขายให้เทศบาล 30 ปี จนชาวบ้านรวมตัวประท้วงใหญ่พร้อมให้ท�ำหนังสือ ถึง คสช.ใช้ ม.44 ปลดผู้บริหารออกจากต�ำแหน่งนายกเทศมนตรีนคร นครศรีธรรมราชโดยเร่งด่วน หรือแม้แต่การตรวจสอบทุจริตการปรับปรุง สนามกีฬากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช 13.5 ล้านซึ่ง สตง.ภูมิภาคที่ 14 มีมติว่ามีการทุจริตชัดเจนโดยมีผู้ร่วมกระท�ำความผิดกว่า 10 คน ส่งเรื่อง ให้ คตง.พิจารณาสั่งการ แต่เรื่องก็เงียบหายไปเกือบ 3 ปี จนล่าสุดผู้บริหารเทศบาลฯ ประกาศขึ้นค่าน�้ำประปาอีกเกือบ เท่าตัวเริ่มวันที่ 1 พ.ค.2560 ในขณะที่น�้ำประปายังมีปัญหาสกปรก ขุ่นแดง สีชาเย็น ดังนั้นไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ประชาชนจะเดือดร้อนแสนสาหัส ขนาดไหนจะไม่มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใดๆ ทั้งในระดับรัฐบาล และ คสช. กล้าเอาผิดกับผู้บริหารชุดนี้ ผิดกับนายอ�ำเภอ 3 คน ประมงอ�ำเภอและ เจ้าหน้าที่ระดับเทศบาลต�ำบลในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ถูกร้องเรียน เรื่องเล็กน้อยก็ยังถูกหัวหน้า คสช.ใช้มาตรา 44 มีค�ำสั่งปลดพ้นหน้าที่ทันที ดั ง นั้ น จนถึ ง ขณะนี้ สิ่ ง ที่ ช าวนครศรี ธ รรมราชท� ำ ได้ มี อ ยู ่ อ ย่ า งเดี ย วคื อ “ท�ำใจ” ยอมรับสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นเพียงอย่างเดียวเท่านั้น


10

เดือนเมษายน 2560

FREE COPY

สสส.หนุนรณรงค์สงกรานต์สุขใจ

ปลอดเหล้า ปลอดภัย หยุดคุกคามทางเพศ วันนี้(13 เม.ย.60) เวลา 13.30 น. ที่บริเวณศาลาประดู่หก ตรงข้ามสนามหน้าเมืองนครศรีธรรมราช นาย จ�ำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานเปิดกิจกรรม “สงกรานต์ สุขใจ ปลอดเหล้า ปลอดภัย หยุดคุกคามทางเพศ” ซึ่งเครือข่ายมหาวิทยาลัยปลอดเหล้า ร่วมกับ ศูนย์ควบคุมปัจจัยเสี่ยงจังหวัดนครศรี ธรรมราช ส�ำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้าภาคใต้ตอนบน ส�ำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช มูลนิธิประชา ร่วมใจ และภาคีเครือข่ายร่วมกันจัดขึ้น ภายใต้การสนับสนุนของส�ำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดพื้นที่สร้างสรรค์ปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เล่นน�้ำปลอดภัย เพื่ออนุรักษ์และส่งเสริม ประเพณีสงกรานต์อันดีงาม สร้างพื้นที่ทางเลือกและเกิดภาพลักษณ์ที่ดีของชาวนครศรีธรรมราช ตลอดจนรณรงค์ ให้ประชาชนตระหนักถึงปัญหาผลกระทบของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การรณรงค์ยุติการคุกคามทางเพศ และการปฏิบัติ ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ส�ำหรับกิจกรรมประกอบด้วยการสรงน�้ำพระพุทธรูป การรดน�้ำขอพรผู้ใหญ่ การแสดงบนเวทีของนักเรียน และนักศึกษา การเล่นน�้ำสงกรานต์ตามประเพณีไทย การจัดตั้งกองอ�ำนวยการร่วมชุดเฉพาะกิจควบคุมปัจจัยเสี่ยง จังหวัดนครศรีธรรมราช และ หน่วยบริการช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหยื่อน�้ำเมาบนท้องถนน พร้อมทั้งได้มีการร่วม เดินรณรงค์ไปตามสถานที่จัดกิจกรรมเล่นน�้ำ สงกรานต์บนถนนสายต่างๆ ด้วย เช่น ถนน ราชด�ำเนิน ถนนประตูลอด เป็นต้น เพื่อให้มี การเล่นน�้ำสงกรานต์ อย่างสร้างสรรค์ ปลอด เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่ออนุรักษ์และส่งเสริม ประเพณีสงกรานต์อันดีงาม สร้างพื้นที่ทางเลือก และเกิ ด ภาพลั ก ษณ์ ที่ ดี ข องชาวนครศรี ธรรมราช ตลอดจนรณรงค์ให้ประชาชน ตระหนักถึงปัญหาผลกระทบของเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ การรณรงค์ยุติการคุกคาม ทางเพศด้วย

โจรเหิมเกริม บุกทุบกระจกห้องสมุด มรภ.

ขนแท็บแล็ต 4 เครื่องหนีลอยนวล เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 24 เม.ย. 2560 ร.ต.อ.สุวิทย์ ทองสุภา รอง สว.( สอบสวน ) สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งว่ามี เหตุลักทรัพย์ที่อาคารวิทยบริการสารสนเทศ หรือห้องสมุดกลาง อาคาร 16 มหาวิทยาลัย ราชภัฏนครศรีธรรมราช หมู่ 4 ต.ท่างิ้ว อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย ต�ำรวจชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่ต�ำรวจพิสูจน์ หลักฐานนครศรีธรรมราช ไปตรวจที่เกิดเหตุ ที่เกิดเหตุพบนายตระกูล ศรีวิรักษ์ เจ้าหน้าที่บรรณารักษ์ ประจ�ำห้องสมุด และ รปภ.ของมหาวิยาลัย ยืนรอเจ้าหน้าที่ก่อนน�ำไปชี้ จุดที่คนร้ายก่อเหตุทุบกระจกบริเวณห้องเก็บของชั้นล่างด้านหลังอาคาร อย่ใกล้หน้าต่างจนกระจกแตก 1 บาน บริเวณตู้คอมเพรสเซอร์แอร์มีรอย คราบเลือดคนร้าย พร้อมมีดท�ำครัวจ�ำนวน 1 เล่มแขวนไว้ที่บริเวณขอบ หน้าต่าง คาดว่าเป็นของคนร้าย และคนร้ายน่าจะโดนกระจกบาดได้รับ บาดเจ็บไปด้วย เจ้าหน้าที่ต�ำรวจจึงเก็บไว้เห็นหลักฐาน

จากการตรวจสอบทรัพย์สินภายในห้องสมุดพบว่าเครื่อง แท็บเล็ตยี่ห้อซัมซุง แท็บ 3 ที่วางบริการอยู่เคาน์เตอร์จ�ำนวน 20 เครื่อง หายไปจ�ำนวน 4 เครื่อง แต่คนร้ายไม่ได้เอาสายชาร์จแบตเตอรี่ไปด้วย รวมมูลค่าทรัพย์สินประมาณ 4 หมื่นบาท เจ้าหน้าที่ต�ำรวจตรวจสอบ วงจรปิดภายห้องสมุด พบว่า กล้องวงจรปิดไม่สามารถจับภาพคนร้ายไว้ได้ เนื่องจากระบบกล้องไม่สามารถบันทึกภาพตอนกลางคืนได้ อย่างไรก็ตาม ตรวจสอบกล้องวงจรปิดย้อนหลังพบว่ามีเด็กวัยรุ่น อายุประมาณ 13 –

เตรียมรับคณะบิ๊กไบค์นานาชาติกว่า 500 คัน ส่งเสริมท่องเทีย ่ ว 1 ใน 12 เมืองต้องห้ามพลาด

14 ปี ประมาณ 4 - 5 คน ซึ่งเป็นลูกหลานของคนงานก่อร้างในแคมป์ คนงานใกล้ที่เกิดเหตุ ได้เข้ามาเล่นแท็บแล็ตในห้องสมุดทุกวัน แต่หลัง จากเกิดเหตุพบว่าเด็กวัยรุ่น 4 – 5 คน ได้หายไปอย่างมีพิรุธ เจ้าหน้าที่ ต�ำรวจ จึงไปตรวจสอบที่แคมป์คนงาน แต่ก็ไม่พบตัวเด็กวัยรุ่นต้องสงสัย แต่อย่างใด จากการสอบสวนเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่ต�ำรวจสันนิษฐานว่า คาดว่าคนร้ายลงมือก่อเหตุช่วงหลังเที่ยงคืนที่ผ่านมา โดยผู้ต้องสงสัยวัย รุ่นลูกคนงานก่อสร้างบริเวณใกล้เคียงที่มักชอบมาเล่นเครื่องแท็บเล็ตใน ห้องสมุดเป็นประจ�ำ โดยเฉพาะแทปแล็ตที่หายไปจ�ำนวน 4 เครื่อง มีการ ลงโปรแกรมเกมไว้จ�ำนวนมาก ที่ส�ำคัญกลุ่มวัยรุ่นต้องสงสัยน่าจะติดยาเสพติด แต่ไม่มีเงินซื้อยาเสพติดจึงตัดสินใจร่วมกันวางแผนทุบกระจกเข้าไป โจรกรรมแทปเล็ตในอาคารวิทยบริการสารสนเทศ หรือห้องสมุดกลาง อาคาร 16 มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช เพื่อน�ำไปขายหาเงินซื้อ ยาเสพติด เจ้าหน้าที่ต�ำรวจจะสืบสวนติดตามคนร้ายมาด�ำเนินคดีตาม กฎหมายต่อไป.


เดือนเมษายน 2560

FREE COPY

ผลักดันพระบรมธาตุ เป็นมรดกโลกภายในปี 61 วันนี้(24 เม.ย.60) นายจ�ำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการ จังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวมอบนโยบายในการก�ำกับดูแลงานของ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เนื่องในวันเทศบาล ประจ�ำปี 2560 วันที่ 24 เมษายน 2560 ที่หอประชุมเมืองนครศรีธรรมราช ตอนหนึ่งว่า ขณะนี้ จังหวัดก�ำลังเร่งขับเคลื่อนในการน�ำพระบรมธาตุนครศรีธรรมราชเพื่อขึ้น ทะเบียนเป็นมรดกโลก ซึ่งจะด�ำเนินการให้แล้วเสร็จภายในภายในปี 2561 หลังจากที่อยู่ในบัญชีเบื้องต้นมาแล้วประมาณ 5 ปี ซึ่งตามข้อก�ำหนดของ องค์การยูเนสโกต้องด�ำเนินให้แล้วเสร็จภายใน 10 ปี ถือเป็นโจทย์ใหญ่มาก จ�ำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกภาคส่วนในจังหวัดจะต้องร่วมมือกัน ถ้าพระบรมธาตุฯ เป็นมรดกโลกได้ชื่อจังหวัดนครศรีธรรมราชจะโกอินเตอร์ทันที คนจะรู้จัก จังหวัดนครศรีธรรมราชในชื่อนครแห่งอารยธรรม เมืองพระพุทธศาสนา ชาวพุทธทั่วโลกก็จะเดินทางมาที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ดังนั้นสิ่งจ�ำเป็น ที่จะต้องพัฒนาคือโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ซึ่งต้องมองล่วงหน้าไปอีก 5-10

ปีข้างหน้า เพราะเมืองจะขยายและโตเร็ว พระบรมธาตุจะเป็นแม่เหล็กใน การดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ขณะนี้จังหวัดก�ำลังวางโครงข่ายการ คมนาคมรอบนอก ลากเส้นถนนชายทะเลจาก อ.ขนอม สู่ อ.สิชล อ.ท่าศาลา และเข้าตัวเมืองนครศรีธรรมราช บางจุดอาจจะสร้างเป็นทางลอด หรือยก ระดับ แล้วแต่สภาพของพื้นที่ ส่วนถนนสาย 41 และถนนสายต่างๆ ที่เข้า สู่จังหวัดนครศรีธรรมราชจะมีการก่อสร้างซุ้มประตู 4 มุมเมือง ซึ่งก�ำลัง ให้ผู้เชี่ยวชาญออกแบบ นอกจากนี้จังหวัดได้วางยุทธศาสตร์การท่องเที่ยว เป็นตัวขับเคลื่อน โดยสร้างเครือข่ายการประชาสัมพันธ์ในหลากหลาย มิติ ซึ่งทุกคนสามารถช่วยกันประชาสัมพันธ์ได้ โดยผ่าน ไลน์ เฟซบ็ค ยูทู้ป เป็นต้น นอกจากนี้ จังหวัดจะพยามยามผลักดันให้มีชาเตอร์ไฟลท์จาก ต่างประเทศบินตรงมายังจังหวัดนครศรีธรรมราชให้ได้ ซึ่งได้ตั้งเป้าหมาย การขยายตัวทางด้านการท่องเที่ยวปี 2560 ไว้ที่ 10 เปอร์เซ็นต์

ผู้ว่าฯ เดินดิน กินข้าวแกง แหลงใต้ รับใช้คนคอน รับฟังปัญหาและความต้องการประชาชนทีพ ่ รหมคีรี

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ลงพื้นที่อ�ำเภอพรหมคีรี ตาม โครงการ ผู้ว่าฯ เดินดิน กินข้าวแกง แหลงใต้ รับใช้คนคอน เพื่อรับฟัง ปัญหาและความต้องการของประชาชน น�ำไปสู่การแก้ไขและพัฒนา วันนี้ (19 เมษายน 2560) นายจ�ำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่า ราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการระดับ จังหวัดที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่อ�ำเภอพรหมคีรี ตามโครงการผู้ว่าฯ เดินดิน กินข้าวแกง แหลงใต้ รับใช้คนคอน (เพื่อพ่อขอท�ำดี-รู้-รัก-สามัคคี-นครศรี ธรรมราช) โดยมีนายวิทศักดิ์ จ�ำเริญนุสิต. นายอ�ำเภอพรหมคีรี หัวหน้าส่วน ราชการอ�ำเภอ ผู้บริหารท้องถิ่น ก�ำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้น�ำทางศาสนา ผู้น�ำสตรี ผู้น�ำกลุ่มเกษตรกร และชาวอ�ำเภอพรหมคีรี ร่วมให้การต้อนรับ โดยผู้ว่า ราชการจังหวัดนครศรีธรรมราชได้พบปะประชาชน เยี่ยมชมกิจกรรมของ ส่วนราชการ/ หน่วยงานที่ให้บริการประชาชนที่วัดก�ำแพงถม ต.นาเรียง จากนั้นได้ดูพื้นที่ประสบปัญหาอุทกภัย/ภัยแล้งที่ฝายหูนบใหญ่ หมู่ที่ 1 ต.อินคีรี พร้อมรับฟังบรรยายสรุปปัญหา/แนวทางแก้ไขจากผู้น�ำท้องที่ ท้องถิ่น แล้วเดินทางต่อไปมอบบ้านประชารัฐ พร้อมเงินสงเคราะห์ อุปกรณ์ ไฟฟ้า เครื่องอุปโภคบริโภค ให้แก่ครอบครัวนายวรรณชัย สุภาพโรจน์ ที่บ้านเลขที่ 19/3 หมู่ที่ 1 ต.นาเรียง ซึ่งบ้านหลังเดิมได้รับความเสียหาย ทั้งหลังจากอุทกภัยเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2560 โดยได้รับการสนับสนุน งบประมาณจาก อบต.นาเรียง อ�ำเภอ ก�ำนันผู้ใหญ่บ้านและผู้มีจิตศรัทธา ในการสร้างบ้านให้ใหม่ พร้อมทั้งได้ปล่อยปลาลงในแหล่งน�้ำธรรมชาติ ที่บริเวณฝายมีชีวิตบ้านท้าวโท๊ะ หมู่ที่ 3 ต.นาเรียง ต่อจากนั้นนายจ�ำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัด นครศรีธรรมราช ได้ประชุมรับฟังบรรยายสรุป ศักยภาพ ทิศทางการพัฒนา อ�ำเภอ ปัญหาความต้องการของประชาชนในพื้นที่จากนายอ�ำเภอ ผู้น�ำ ท้องถิ่น ท้องที่ ผู้น�ำศาสนา และผู้แทนประชาชน ที่หอประชุมโรงเรียน บ้านเกาะวิทยา ต.อินคีรี ซึ่งมีปัญหาเรื่องน�้ำท่วมน�้ำแล้ง ต้องการสร้าง

ฝายที่มีประตูระบายน�้ำเปิดปิดได้โครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนน เป็นต้น ซึ่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้มอบหมายให้นายอ�ำเภอรวบรวม ความต้องการ/ข้อเสนอทั้งหมดที่ขอรับสนับสนุนงบประมาณพร้อมจัดท�ำ รายละเอียดของโครงการ ความพร้อมของพื้นที่แล้วล�ำดับความส�ำคัญ และ ความจ�ำเป็นเร่งด่วน โดยขอให้เน้นโครงการที่เกี่ยวกับแหล่งน�้ำเป็นล�ำดับแรก จากนั้นจึงเป็นโครงการอื่นๆ แล้วบรรจุเข้าแผนพัฒนาอ�ำเภอ พร้อมทั้งส่ง ให้จังหวัดเพื่อจะได้พิจารณาสนับสนับสนุนงบประมาณน�ำไปสู่การแก้ไข ได้ตรงกับความต้องการของประชาชนต่อไป นอกจากนี้ผู้ว่าราชการ จังหวัดนครศรีธรรมราชได้นอนพักค้างคืนในพื้นที่ด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า อ�ำเภอพรหมคีรี เป็นอ�ำเภอที่ 9 ที่ได้ลงพื้นที่ตามโครงการผู้ว่าเดินดินฯ เพื่อจะได้เห็นสภาพ ภูมิประเทศ รวมทั้งได้เห็นสภาพปัญหาและรับฟังความคิดเห็น ความต้องการ ของประชาชน น�ำไปสู่การแก้ไขและพัฒนาได้ตรงจุดตามความต้องการของ ประชาชนในแต่ละพื้นที่อย่างแท้จริง และหากต�ำบล หมู่บ้านใดสามารถ ปักธงรู้รักสามัคคีได้ ทางจังหวัดพร้อมที่จะจัดสรรงบประมาณพิเศษเพื่อ พัฒนาต�ำบล หมู่บ้านนั้นด้วย

11

สัมมนาเพิม ่ ศักยภาพ ผู้ประกอบการด้านท่องเทีย ่ ว

วันนี้(21 เม.ย.60) ที่โรงแรมราวดี อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานเปิดการสัมมนาเพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการด้านท่องเที่ยว ภายใต้โครงการส่งเสริมกิจกรรมการท่องเที่ยววัฒนธรรมประเพณี ซึ่ง จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยส�ำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครศรี ธรรมราช ร่วมกับหอการค้าจังหวัดนครศรีธรรมราช จัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-22 เมษายน 2560 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประชาสัมพันธ์และสร้าง ภาพลักษณ์ที่ดีของจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อพัฒนาศักยภาพผู้ ประกอบการด้านการท่องเที่ยวหรือธุรกิจที่เกี่ยวข้อง และเพื่อขับเคลื่อน เศรษฐกิจฐานรากด้านการท่องเที่ยว โดยส่งเสริมการตลาดส�ำหรับผลิตภัณฑ์ ของที่ระลึกส�ำหรับนักท่องเที่ยว มีผู้แทนหน่วยงานราชการ เอกชน ชุมชน และองค์ ก รปกครองส่ ว นท้ อ งถิ่ น ในจั ง หวั ด นครศรี ธ รรมราชเข้ า ร่ ว ม สัมมนากว่า 500 คน มี วิ ท ยากรผู ้ เ ชี่ ย วชาญด้ า นนโยบายส่ ง เสริ ม และประกอบ ธุรกิจการท่องเที่ยว ร่วมบรรยายให้ความรู้ ดังนี้ั วันที่ 21 เมษายน 2560 เวลา 09.30 -11.00 น. รองศาสตราจารย์ ดร.เสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย บรรยายพิเศษ "ก้าวสู่ยุค...IDE" เวลา 11.00 -12.00 น.นางสาววาริน ชิณวงศ์ กรรมการหอกาค้าไทย บรรยายพิเศษ "Thailand 4.0" เวลา 13.00 -16.00 น. เสวนา"ท่องเที่ยว/ บริการที่สร้างสรรค์ สู่ความส�ำเร็จที่ยั่งยืน" โดยนายวิโรจน์ ฉิมมี ผู้บริหาร บ้านไร่ไออรุณ นายอติรัตน์ ด่านภัทรวรวัฒน์ ผู้บริหารแพ 500 ไร่ นาย อลงกต วัชรสินธุ์ นายกสมาคมท่องเที่ยวขนอม และเวลา 16.00 -17.00 น. นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่อง เที่ยวและกีฬา ปาฐกถาพิเศษ"ท่องเที่ยววิถีไทย เศรษฐกิจไทยก้าวหน้า" วันที่ 22 เมษายน 2560 เวลา 09.00-10.30 น. นายอิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย บรรยายพิเศษ "ท่องเที่ยวยุคใหม่ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยสู่ความยั่งยืนและมั่นคง" เวลา 10.30-12.00 น.นายวิเชียร เจนตระกูลโรจน์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ศรีฟ้าเบเกอรี่ จ�ำกัด บรรยายพิเศษ"ประสบการณ์ธุรกิจ สู่ความส�ำเร็จ และยั่งยืน"

MOUสนับสนุนความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจ

ภายใต้กลไกประชารัฐ 46 โครงการ วันนี้(24 เม.ย.60) ที่ห้องประชุมศรีวิชัย ศาลากลางจังหวัด นครศรีธรรมราช นายจ�ำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรี ธรรมราช เป็นประธานและสักขีพยานการลงนามในสัญญา โครงการ สนับสนุนความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจภายในประเทศ ภายใต้กลไก ประชารัฐ งบประมาณกลุ่มจังหวัด(เพิ่มเติม) ปีงบประมาณ พ.ศ.2560 โดยมีนายขจรเกียรติ รักพานิชมณี รองผู้ว่าราชการจังหวัดผู้รับมอบอ�ำนาจ จากผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นผู้ลงนามในสัญญาจ้าง ร่วมกับผู้รับจ้าง มีหัวหน้าส่วนราชการจังหวัด หัวหน้าหน่วยงาน นายอ�ำเภอที่ได้รับการ จัดสรรงบประมาณ ผู้รับจ้าง ผู้ควบคุมงาน และคณะกรรมการตรวจการจ้าง หน่วยงานอิสระ (ปปช. / คณะกรรมการธรรมาภิบาล) ผู้แทนภาคเอกชน ภาคประชาสังคมร่วมเป็นสักขีพยาน นายจ�ำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช

กล่าวว่า ที่ผ่านมาจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ตั้งคณะท�ำงานเตรียมความพร้อม ในการจัดซื้อจัดจ้างเพื่อก่อหนี้ผูกพันโครงการสนับสนุนความเข้มแข็ง ให้กับเศรษฐกิจภายในประเทศ ภายใต้กลไกประชารัฐ งบประมาณกลุ่ม จังหวัด(เพิ่มเติม) ปีงบประมาณ พ.ศ.2560 จังหวัดนครศรีธรรมราช หรือ งบกลุ่มจังหวัด 5,000 ล้านบาท ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 25 เมษายน 2560 ซึ่งรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยได้ก�ำหนดแนวทางให้ถือปฏิบัติตาม หลักธรรมาภิบาล ในการจัดซื้อจัดจ้างให้เกิดความโปร่งใส มีคุณธรรม สามารถตรวจสอบได้ ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในทุกขั้นตอน ตาม แนวทางประชารัฐ โดยเปิดเผยข้อมูลข่าวสารในการด�ำเนินกิจกรรมทุก รูปแบบ ดังนั้น จังหวัดนครศรีธรรมราชจึงได้จัดให้มีการลงนามในสัญญา โครงการดังกล่าวทุกโครงการแบบเปิดเผย เพื่อขับเคลื่อนไปพร้อมกันทุก โครงการ ซึ่งวันนี้ได้มีการลงนามในสัญญาจ้าง จ�ำนวน 38 โครงการวงเงิน 478.75 ล้านบาท อาจกล่าวได้ว่าเป็นครั้งแรกของประเทศไทยก็ว่าได้ ที่มี การนัดลงนามในสัญญาพร้อมกันทุกโครงการถือว่าเริ่มคิ๊กออฟโครงการ แล้วเป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐบาล และมีผู้ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน

ร่วมเป็นสักขีพยานด้วย ซึ่งต้องขอขอบคุณรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีที่ได้ จั ด สรรงบประมาณให้ จั ง หวั ด ในการกระตุ ้ น เศรษฐกิ จ ของจั ง หวั ด ด้ ว ย เพราะเมื่อมีการลงนามในสัญญาจ้างแล้วผู้รับจ้างสามารถเบิกเงินล่วงหน้า ได้ 15 % ของงบประมาณแต่ละโครงการ เพื่อน�ำไปใช้จ่ายท�ำให้เงินสดไหล เข้าสู่ระบบมากขึ้น ส่วนโครงการต่างๆ ที่เหลือก�ำลังอยู่ในขั้นตอนของการ จัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวด้วยว่า ส�ำหรับ โครงการที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณ เน้นโครงการพัฒนาและปรับปรุง โครงสร้างพื้นฐาน ด้านสาธารณูปโภค การบริหารจัดการน�้ำ การบริหาร จัดการขยะแบบครบวงจร การป้องกันอาชญากรรมกล้อง CCTV ด้านการ ท่องเทีย่ ว เป็นต้น ส่วนการให้การด�ำเนินโครงการมีความคืบหน้าเป็นไปตาม สัญญาและงวดงานนั้น จะมีคณะกรรมการคอยติดตามความคืบหน้าเป็น ระยะ รวมทั้งให้หัวหน้าหน่วยงานที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณก�ำกับ ดูแลด้วย


12

เดือนเมษายน 2560

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 23 เม.ย.2560 ที่ศาลาเอนกประสงค์ หมู่ 14 ต.ท่าเรือ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช นายสมพงษ์ มากมณี นาย อ�ำเภอเมือง จ.นครศรีธรรมราช เป็นประธานในพิธีเปิดโรงเรียนผู้สูงอายุ ต�ำบลท่าเรือ โดยมีนายช�ำนาญ ลักษณะชฏา นายกองค์การบริหารส่วน ต�ำบลท่าเรือ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช สมาชิกสภา ข้าราชการสังกัด องค์การบริหารส่วนต�ำท่าเรือ ก�ำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งนักเรียนผู้สูงอายุ นอกจากนี้ยังมีนางพรทิพย์ บัวจันทร์ ผู้อ�ำนวย การวิทยาลัยศิลปหัตถกรรมนครศรีธรรมราช น�ำคณะครูอาจารย์ที่ เชี่ยวชาญการสอนวิชาการประดิษฐ์หัตถกรรมต่างๆ มาร่วมในพิธีเปิด อย่างพร้อมเพรียง บรรยากาศก่อนพิธีเปิดโรงเรียนผู้สูงอายุต�ำบลท่าเรือว่า ตั้งแต่ ช่วง 07.00 น. บรรดาผู้สูงอายุทั้งชายและหญิง ซึ่งเป็นนักเรียนโรงเรียน ผู้สูงอายุต�ำบลท่าเรือ ได้ทยอยเดินทางมารายงานตัวและลงทะเบียนเรียน อย่างต่อเนื่อง โดยนักเรียนทุกคนแต่งเครื่องแบบนักเรียนตามที่ก�ำหนดคือ สวมเสื้อยืดสีเหลืองอ่อน นุ่งผ้าถุงโจงกระเบนสีน�้ำเงิน และนักเรียนหลาย คนยังน�ำอาหารเที่ยง หรือที่เรียกภาษาชาวบ้านว่า “คอห่อ” มาด้วย ที่ส�ำคัญนักเรียนส่วนใหญ่จะน�ำพ่อหมาก พลู หรือ “เชี่ยนหมาก” มาด้วย โดยนักเรียนส่วนใหญ่รู้จักสนิทสนมกันมาก่อน จึงมีการพูดจาหยอกล้อ อย่างเป็นกันเอง ท�ำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคัก กระทั่งเวลา 09.00 น. นายสมพงษ์ มากมณี นายอ�ำเภอเมือง จ.นครศรีธรรมราช ประธานพิธีเปิดเดินทางถึง เจ้าหน้าที่จึงตีระฆังเพื่อให้นักเรียนไปเข้าแถว เคารพธงชาติ และสวดมนต์ไหว้พระ จากนั้นจึงมีการประกอบพิธีเปิดโรงเรียนผู้สูงอายุต�ำบลท่าเรือ อย่างเป็นทางการ เริ่มจากมีตรวจเช็ครายชื่อโดยการเรียกขานชื่อตาม ล�ำดับที่มาลงทะเบียน พบว่ามีนักเรียนผู้สูงอายุรวมกันเกือบ 100 คน โดยมีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป โดยเฉลี่ยนักเรียนของโรงเรียนผู้สูงอายุต�ำบล ท่าเรือมีอายุเฉลี่ย 75 ปี ซึ่งหากนับอายุรวมกันได้กว่า 75,000 ปี นายช�ำนาญ ลักษณะชฏา นายกองค์การบริหารส่วนต�ำบล ท่าเรือ กล่าวรายงานว่า องค์การบริหารส่วนต�ำบลท่าเรือ ร่วมกับชมรมผู้ สูงอายุต�ำบลท่าเรือ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้เปิดโรงเรียนผู้สูงอายุ

FREE COPY

เปิดโรงเรียนผู้สูงอายุ อบต.ท่าเรือ

ต�ำบลท่าเรือขึ้น ซึ่งเป็นกิจกรรมเพื่อให้ผู้สูงอายุในพื้นที่ทั้งหมดได้มีโอกาส มาพบปะ พูดคุย แลกเปลี่ยนประสบการณ์และท�ำกิจกรรมร่วมกัน เช่น การอบรมและฝึกฝนหลักสูตรการผลิตเครื่องหนัง การผลิตผลิตภัณฑ์จาก วัสดุเหลือใช้ เพื่อเสริมสร้างสุขภาพร่างกายและจิตใจ โดยมีเป้าหมาย นักเรียนผู้สูงอายุ 100 คน เนื่องจากต�ำบลท่าเรือ อ.เมือง จ.นครศรี ธรรมราช เป็นต�ำบลขนาดใหญ่มีหมู่บ้านมากถึง 19 หมู่บ้าน จึงมีผู้สูงอายุ หรือ “ผู้สูงวัย” เป็นจ�ำนวนมาก ต่อไปอาจมีจ�ำนวนนักเรียนเกินเป้าหมาย อย่างแน่นอน ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในโอกาสนี้นักเรียนผู้สูงอายุได้ร่วมกันแสดง เนื่องในพิธีเปิดโรงเรียนผู้สูงอายุจ�ำนวน 2 ชุด ซึ่งก่อนเข้าสู่การเรียนการ สอนนายสมพงษ์ มากมณี ได้ให้โอวาทแก่นักเรียนพร้อมมอบประกาศ เกียรติบัตรให้กับนักเรียนผู้สูงอายุที่ผ่านการอบรมและฝึกฝนหลักสูตรการ

ผลิตเครื่องหนัง การผลิตผลิตภัณฑ์จากวัสดุเหลือใช้ ซึ่งจะน�ำมาถ่ายทอด ให้กับเพื่อนๆ นักเรียนคนอื่นๆ ที่สนใจต่อไป และในตอนท้ายนายสมพงษ์ มากมณี ยังกล่าวฝากนักเรียนทุกคนว่า “ขอให้ตั้งใจเรียน เชื่อฟังครู อย่า ทะเลาะเบาะแว้งกัน หากไม่เชื่อว่าจะโดนครูเฆี่ยนด้วยไม้เรียวนะ” เรียก เสียงหัวเราะให้กับผู้ร่วมในพีเปิดและนักเรียนทุกคนเป็นอย่างมาก “หลังจากนั้นจึงเข้าสู่วิชาเรียนในภาคเช้าคือวิชากฎจราจร ก่อนจะพักเที่ยงน�ำข้าวห่อมารับประทานร่วมกันอย่างสนุกสานเป็นกันเอง ส�ำหรับในภาคบ่ายจะมีการเรียนการสอนวิชา ส.ว.กับโลกโซเชียล มีเดียร์ ซึ่งเป็นวิชาที่สร้างความสนุกสนานให้กับนักเรียนสูงอายุเป็นอย่างมาก โดย เฉพาะมีนักเรียนสูงอายุผู้หญิงคนหนึ่งหลอกล้อโดยลุกขึ้นฟ้องคุณครูว่า “คุณครูคะ”นักเรียนผู้ชายหลายคนเปิดดูหนังโป้จากโทรศัพท์มือถือคะ สร้างเสียงหัวเราะกันอย่างครื้นเครง.”

นักเรียนศูนย์ สอวน. ม.วลัยลักษณ์

คว้าเหรียญทองชีววิทยาโอลิมปิกระดับชาติ

วันนี้ (23 เม.ย.) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ฉัตรชัย กัลยาณปพน อาจารย์ประจ�ำส�ำนักวิชาวิทยาศาสตร์ ม.วลัยลักษณ์ ในฐานะอาจารย์ผู้แทน ศูนย์ สอวน.ม.วลัยลักษณ เปิดเผยว่า การแข่งขันชีววิทยาโอลิมปิก ระดับ ชาติ ครั้งที่ 14 (The 14th Thailand Biology Olympiad) จัดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ ซึ่งในปีนี้จัดขึ้นที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมูลนิธิส่งเสริมโอลิมปิก วิชาการและพัฒนามาตรฐานวิทยาศาสตร์ศึกษาในพระอุปถัมภ์ สมเด็จ พระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ (มูลนิธิ สอวน.) โดยมีสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นองค์ประธาน และ ภาควิชาชีววิทยา ภาควิชาพฤกษศาสตร์ ภาควิชา จุลชีววิทยา และภาควิชาชีวเคมี คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมยกระดับมาตรฐานการศึกษาด้านชีววิทยา ในโรงเรียนให้ทัดเทียมกับนานาประเทศ รวมทั้งเพื่อให้นักเรียนได้แสดง ความสามารถและพัฒนาศักยภาพในด้านชีววิทยา โดยในการสอบคัดเลือก นักเรียนที่เข้าแข่งขันจะต้องสอบภาคทฤษฎี 4 ชั่วโมง 100 คะแนน และ ภาคปฏิบัติการ 4 เรื่อง เรื่องละ 70 นาที รวมคะแนน 100 คะแนน แล้วน�ำมารวมในคะแนนสัดส่วนภาคทฤษฎีต่อภาคปฏิบัติการ 60 : 40 ผู้ที่ ท�ำคะแนนได้ 60 อันดับแรกจะได้เข้าค่ายอบรมเพื่อเตรียมคัดเลือกเป็น ตัวแทนไปแข่งขันระดับนานาชาติต่อไป

ส�ำหรับการแข่งขันในปีนี้มีนักเรียนจากศูนย์ สอวน. ทั่วประเทศ จ�ำนวน 13 ศูนย์เข้าร่วมการแข่งขันจ�ำนวน 104 คน โดยศูนย์ สอวน. ม.วลัยลักษณ์ได้ส่งทีมนักเรียนจ�ำนวน 6 คน เข้าร่วมการแข่งขัน ภายใต้การ ควบคุมดูแลของ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ฉัตรชัย กัลยาณปพน ดร.พิมพ์ชนก พิมพ์ทนต์ และ ดร.นภารัตน์ สุทธิเดช ส�ำนักวิชาวิทยาศาสตร์ ม.วลัยลักษณ์ ผลปรากฏว่านักเรียนศูนย์ สอวน.ม.วลัยลักษณ์ สามารถคว้าเหรียญรางวัล มาได้ 4 เหรียญรางวัล ดังนี้ คือ 1) นายชัยวัฒน์ เซี่ยงฉิน จากโรงเรียน เทพมิตรศึกษา สุราษฎร์ธานี ได้รับรางวัลเหรียญทอง คะแนนรวมสูงสุด

“ดอกบัวคู่” ควัก 2 ล้าน แจกเงินผู้สูงอายุ-ผู้พิการ 7 พันคน เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 20 เม.ย.60 ที่บริเวณลานจอดรถ โรงแรมทวินโลตัสนครศรีธรรมราช อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช นาย ดนัย เจียมวิเศษสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช และ ดร. สุนันทา ลีเลิศพันธ์ ประธานกรรมการ บริษัท ดอกบัวคู่ จ�ำกัด และ ประธานกรรมการ บริษัท โรงแรมทวินโลตัสนครศรีธรรมราช ร่วม เป็นประธานเปิดงานมอบเงินให้กับผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้น ไปรวมทั้งคนพิการที่มีภูมิล�ำเนาอยู่ในพื้นที่อ�ำเภอปากพนัง จังหวัด นครศรีธรรมราช จ�ำนวนกว่า 7,000 คน คนละ 300 บาท คิดเป็นเงิน จ�ำนวนกว่า 2,000,000 บาท ท�ำให้บริเวณโรงแรมทวินโลตัสหนาแน่น ไปด้วยผู้คน ท�ำให้สถานที่คับแคบไปโดยปริยายและบรรยากาศเป็นไป ด้วยความคึกคัก

อันดับ 1 ของประเทศ พร้อมด้วยรางวัลคะแนนรวมสูงสุดระดับภูมิภาค ภาคใต้ และคะแนนรวมทฤษฏีสูงสุด 2) นายศราวุธ เกษมสุข จากโรงเรียน สุราษฎร์ธานี ได้รับรางวัลเหรียญทองแดง 3) นางสาววิชุตา คันธินทระ จากโรงเรียนสุราษฎร์ธานี ได้รับรางวัลเหรียญทองแดง และ4) นายศุภณัฐ ชมภูพล จากโรงเรียนเบญจม ราชูทิศ นครศรีธรรมราช ได้รับรางวัล เหรียญทองแดง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ฉัตรชัย กัลป์ยาณปพน กล่าวอีกว่า นั ก เรี ย นที่ ไ ด้ รั บ เหรี ย ญได้ สิ ท ธิ์ เ ข้ า ค่ า ยอบรมเข้ ม วิ ช าชี ว วิ ท ยาใน โครงการจัดส่งผู้แทนประเทศไทยไปแข่งขันคณิตศาสตร์วิทยาศาสตร์ โอลิมปิกระหว่างประเทศ ณ สสวท. ระหว่างวันที่ 18 เมษายน - 21 พฤษภาคม 2560 ซึ่งท้ายที่สุดจะได้ผู้แทนประเทศไทยสาขาชีววิทยา จ�ำนวน 4 คน เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันระดับนานาชาติ ส�ำหรับปีนี้เป็นครั้งที่ 28 เจ้าภาพคือประเทศอังกฤษ จัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 23-30 กรกฎาคม 2560 ณ มหาวิทยาลัยวอริก (University of Warwick) ทางด้านนายชัยวัฒน์ เซี่ยงฉิน หรือ “น้องธัน” กล่าวว่า รู้สึกดีใจ ไม่คิดว่าจะได้เหรียญดังกล่าว เพราะเพื่อนๆ ก็เก่งๆ กันทั้งนั้น ทั้งนี้เหตุผล ที่ชอบวิชาชีววิทยาเริ่มจากอยากเรียนรู้เรื่องของตัวเอง ระบบร่างกายและ สิ่งมีชีวิตที่น่าสนใจต่างๆ และเพราะเคยเข้าค่ายชีวโอลิมปิกเมื่อปีก่อน แต่ ไม่ได้เป็นตัวแทนของศูนย์ฯไปแข่งขัน โดยสิ่งที่ได้รับจากการมาเข้าร่วมค่าย คือการได้เรียนรู้เรื่องต่างๆมากมายของชีววิทยา ได้ประสบการณ์ที่ดีจาก การมาค่าย ได้มีเพื่อนเพิ่มขึ้น ได้ฝึกการเข้าสังคม ตนอยากบอกว่าวิชา ชีววิทยาเป็นวิชาที่ไม่ยาก ไม่มีอะไรยากเกินไป ถ้ามันยากก็เพราะเราคิดว่า มันยาก ในท้ายที่สุดนี้ขอขอบพระคุณอาจารย์ทุกท่าน พี่ๆ นักวิทยาศาสตร์ ทุกคนที่ได้ช่วยอบรมสั่งสอนทุกอย่างจากการเข้าค่ายโอลิมปิกที่มหาวิทยาลัย วลัยลักษณ์ ขอบพระคุณคุณพ่อคุณแม่ที่ได้ให้การสนับสนุนทุกอย่าง ขอบคุณพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ในค่ายทุกคนที่ช่วยกันเป็นก�ำลังใจให้กัน จนกระทั่งตนมาถึงวันนี้


เดือนเมษายน 2560

FREE COPY

วันที่ 5 เม.ย. 2560 ณ ห้องมโนราห์โรงแรมราวดี ต�ำบลปากพูน อ�ำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช นายสมพงษ์ มากมณี นายอ�ำเภอ เมืองนครศรีธรรมราช เป็นประธานเปิดการประชุมรับฟังความคิดเห็นของ ประชาชน (ปฐมนิเทศโครงการ) ส�ำรวจออกแบบถนนเฉลิมพระเกียรติ โดย มีนายสุวิทย์ ยอดสุรางค์ ผู้อ�ำนวยการแขวงทางหลวงชนบทนครศรีธรรมราช พร้อมหัวหน้าส่วนราชการและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมอย่าง พร้อมเพรียง นายสุวิทย์ ยอดสุรางค์ ผู้อ�ำนวยการแขวงทางหลวงชนบท นครศรีธรรมราช กล่าวว่า กรมทางหลวงชนบท ได้มีการด�ำเนินการส�ำรวจ ออกแบบถนนเฉลิมพระเกียรติ อ�ำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราชไป แล้วนั้น เพราะได้เล็งเห็นถึงปัญหาด้านการคมนาคมและขนส่งในเขต เทศบาลและบริเวณโดยรอบเมืองนครศรีธรรมราช ด้วยเมืองนครศรีธรรมราช เป็นเมืองเก่าไม่สามารถปรับปรุงหรือขยายถนนเพื่อรองรับการคมนาคม และขนส่ง ท�ำให้มีสภาพการจราจรหนาแน่น ประกอบกับถนนราชด�ำเนิน และถนนพัฒนาการคูขวางซึ่งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกและทิศตะวันออก ของตัวเมือง มีบ้านพักอาศัย โรงแรม อาคารร้านค้าและสถานประกอบการ จ�ำนวนมาก ท�ำให้โครงข่ายคมนาคมและขนส่งในเขตเทศบาลเมืองนครศรี ธรรมราชไม่เพียงพอต่อปริมาณจราจร และในอนาคตจะทวีความรุนแรง มากขึ้น จั ง หวั ด นครศรี ธ รรมราชจึ ง เห็ น ความส� ำ คั ญ ในการแก้ ไ ข ปัญหาดังกล่าวและพิจารณาแล้วเห็นว่าแนวถนนเฉลิมพระเกียรติมีความ เหมาะสมที่จะก่อสร้างและขยายให้เป็นแนวถนนวงแหวนด้านทิศตะวันออก หรื อ ถนนเลี่ ย งเมื อ งด้ า นทิ ศ ตะวั น ออกโดยจุ ด เริ่ ม ต้ น โครงการบริ เ วณ สามแยกทางหลวงหมายเลข 401 บ้านศาลาบางปูแนวถนนไปทางทิศ

เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ห้องปฏิบัติงานผู้ว่าราชการจังหวัด ศาลากลาง จังหวัดนครศรีธรรมราช นายจ�ำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัด นครศรีธรรมราช ได้มอบใบประกาศเกียรติคุณให้แก่ 2 นักศึกษาสาวฝึกงาน ที่เก็บกระเป๋าเงินคืนเจ้าของภายในมีเงินสดและของมีค่ารวมกว่า 4 หมื่น บาท ได้แก่ น.ส.กัลยา คุ้มพิทักษ์ หรือ “น้องผึ้ง” และ น.ส.ศิรินันท์ ขาวเขียว หรือ “น้องแพรว” นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาสถิติสารสนเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช นายจ�ำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ขอชื่นชมนักศึกษาทั้งสองคนซึ่งเป็นลูกหลานชาวนครศรีธรรมราช เจ้าของกระเป๋าเงินก็เป็นชาวนครศรีธรรมราชเช่นกัน ซึ่งต้องขอขอบคุณ ครอบครัวของนักศึกษา และมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช ที่ อบรมสั่งสอนให้ลูกหลานมีคุณธรรม เก็บเงินคืนเจ้าของ ซึ่งสมควรได้รับ การยกย่องสรรเสริญและเป็นตัวอย่างที่ดีของเยาวชนทั้งหลาย เป็นสิ่งที่ดี ที่เกิดขึ้นในจังหวัด ช่วยส่งเสริมให้สังคมมีคุณธรรม จริยธรรม ท�ำให้สังคม น่าอยู่ จึงอยากเชิญชวนให้ทุกคนได้ไปสัมผัสสิ่งที่ดีๆ ซึ่งยังมีอีกมากที่ นครศรีธรรมราช

ตะวันออกและขวาไปทางทิศใต้ ผ่านคลองท่าแพ ถนนลาดยางสายบ้าน ท่าแพ เขตตลาดพฤหัส ถนนลาดยางสายบ่อโพธิ์ ถนนลาดยางสายบ้าน ท่าวัง ถนนลาดยางสายท่านคร กองท่าซักของหน้าเมือง คลองป่าเหล้า คลองสวนหลวง จนบรรจบกับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4013 ระยะทาง โดยประมาณ 20.270 กิโลเมตร ครั้งนี้กรมทางหลวงชนบทได้พิจารณาแล้ว เห็นว่าโครงการส�ำรวจออกแบบถนนเฉลิมพระเกียรติ อ�ำเภอเมือง จังหวัด นครศรีธรรมราช เป็นถนนที่สามารถเชื่อมโยงระบบโครงข่ายการคมนาคม ให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น จึงมีความจ�ำเป็นอย่างยิ่งที่กรมทางหลวงชนบท จะต้องด�ำเนินการส�ำรวจออกแบบรายละเอียดและด�ำเนินการก่อสร้างต่อไป กรมทางหลวงชนบทจึงได้มอบหมายให้บริษัทสยามเยนเนอรัลเอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแตนท์จ�ำกัดและบริษัทแอมเพิลคอนเซนเทส (ไทยแลนด์) จ�ำกัด เป็นผู้ด�ำเนินงานการศึกษาโครงการดังกล่าว ซึ่ ง ในการด� ำ เนิ น โครงการกรมทางหลวงชนบทได้ เ ล็ ง เห็ น ถึงความส�ำคัญของการมีส่วนร่วมของประชาชนในทุกภาคส่วนในพื้นที่ โครงการตลอดจนถึงส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีส่วนร่วม สร้างร่วมคิดร่วมตัดสินใจและร่วมกันพัฒนาโครงการเพื่อประโยชน์ต่อ ชุมชน ท้องถิ่นและสังคมโดยรวม ถึงได้จัดการประชุมรับฟังความคิดเห็น ของประชาชน (ปฐมนิเทศโครงการ) เพื่อประชาสัมพันธ์และการให้ข้อมูล ข่าวสารที่ถูกต้องแก่ประชาชนพร้อมทั้งรับฟังความคิดเห็นข้อเสนอแนะ ตลอดจนความต้องการของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต่อการพัฒนาโครงการควบคู่ กันไป โดยจะน�ำเอาข้อคิดเห็นข้อเสนอแนะที่ได้ไปพิจารณาประกอบการ ศึกษาวิเคราะห์ออกแบบตลอดจนการก�ำหนดมาตรการป้องกันและลด ผลกระทบที่อาจเกิดจากการพัฒนาโครงการ เพื่อให้โครงการมีความเหมาะ สมและสอดคล้องกับความต้องการของชุมชนภายใต้หลักวิชาการในการ

13

ศึกษาและออกแบบทางวิศวกรรม โดยผู้เข้าร่วมประชุมในวันนี้ประกอบ ด้วยหน่วยงานราชการในระดับต่างๆ และรัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวข้อง กลุ่ม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้น�ำชุมชนในพื้นที่และแกนน�ำทางความคิด กลุ่มประชาชนในชุมชนที่อาจได้รับผลกระทบจากการพัฒนาโครงการ ประชาชนในชุมชนที่อาศัยอยู่ใกล้เคียงโครงการ องค์กรพัฒนาเอกชน สถาบันการศึกษา ศาสนสถานที่อยู่ใกล้เคียงสื่อมวลชนและประชาชน ที่สนใจ เข้าร่วมรับฟังความคิดเห็นและเสนอแนะโครงการดังกล่าว.

วันนี้(16 เม.ย.60) เวลา 14.30 น. ที่บ้านเลขที่ 59 หมู่ที่ 2 ต.ท้องล�ำเจียก อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช พลโท ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 เป็นประธานมอบบ้านให้ผู้ประสบอุทกภัยที่บ้านพังเสียหาย ทั้งหลังอ�ำเภอเชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ตามโครงการซ่อมและสร้างบ้าน ช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ภาคใต้ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร จ�ำนวน 3 ราย ได้แก่ นางเอี่ยม แท่นสมาน เลขที่ 59 หมู่ที่ 2 ต.ท้องล�ำเจียก นางอนงค์ ทัศนโกวิทย์ เลขที่ 49 หมู่ 7 ต.เชียรใหญ่ และ นางปรียา พรหมแก้ว เลขที่ 122 หมู่ 1 ต.ท้องล�ำเจียก มีนายสกล จันทรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด พลตรี อาคม พงศ์พรหม ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 41 นายมนตรา พรมสินธุ นายอ�ำเภอเชียรใหญ่ หัวหน้าส่วนราชการอ�ำเภอ ผู้บริหารและสมาชิก สภาท้องถิ่น ก�ำนันผู้ใหญ่บ้านร่วมในพิธี โอกาสนี้แม่ทัพภาคที่ 4 ได้มอบพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ในหลวงรัชกาลที่ 10 เพื่อความเป็นสิริมงคล มณฑลทหารบก ที่ 41 มอบหม้อหุงข้าวและพัดลม มูลนิธิครอบครัวข่าว 3 มอบถุงยังชีพ

ข้าวสาร รถจักรยาน บริษัท ซี.พี.อินเตอร์เทรด จ�ำกัด มอบข้าวสารตราฉัตร ให้ผู้ประสบภัยทั้ง 3 รายด้วย ส�ำหรับบ้านผู้ประสบภัยทั้ง 3 หลังดังกล่าวก่อสร้างโดยก�ำลังพล จากมณฑลทหารบกที่ 41 ได้รับการสนับสนุนงบประมาณค่าวัสดุก่อสร้าง หลังละ 230,000 บาทจากกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยส�ำนัก นายกรัฐมนตรี ผ่านจังหวัดนครศรีธรรมราช.

เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2560 นายจ�ำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่า ราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานเปิดหลาดริมคลองหัวไทร ซึ่งเทศบาลต�ำบลหัวไทร อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ได้ด�ำเนินการ ก่อสร้างหลาดริมคลองหัวไทร เพื่อให้มีตลาดที่เป็นเอกลักษณ์ของอ�ำเภอ หัวไทร โดยน�ำวิถีชีวิต ขนบธรรมเนียมและวัฒนธรรมมาสร้างภาพลักษณ์ ด้านบวกที่เชื่อมโยงความรู้สึกของนักท่องเที่ยวให้เข้าถึงวิถีชีวิตคนหัวไทร และยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรม วิถีชีวิตของคน หัวไทร โดยตลาดเปิดทุกวันอาทิตย์ เริ่มเวลา 16.00 น.

เมื่อเย็นวันที่ 1 เม.ย. 2560 ที่ผ่านมา นายดนัย เจียมวิเศษสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานเปิดตลาดริมน�้ำ เชียรใหญ่ ซึ่งเทศบาลต�ำบลเชียรใหญ่จัดขึ้น ณ ริมแม่น�้ำปากพนัง หรือ คลองเชียรใหญ่ บริเวณศาลาประชาสุข 84 พรรษา มหาราชา เขตเทศบาล ต�ำบลเชียรใหญ่ ตรงข้ามที่ว่าการอ�ำเภอเชียรใหญ่ เพื่อเป็นการส่งเสริม อาชีพในระดับฐานราก สร้างรายได้แก่ประชาชนในเขตเทศบาลและใกล้ เคียง และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของอ�ำเภอเชียรใหญ่ โดยตลาด ริมน�้ำเชียรใหญ่เปิดทุกวันเสาร์ เวลา 15.00-21.00 น.


14

เดือนเมษายน 2560

FREE COPY

บริการห้องพัก ห้องอาหาร ห้องประชุมสัมมนา งานเลี้ยงมงคลสมรส

แบงค์ & บอย ศูนย์รวมของเด็กเล่นทุกชนิด จ�ำหน่าย... สินค้าเบ็ดเตล็ด เครื่องใช้ครัวเรือน ของขวัญปีใหม่ ตุ๊กตา กิ๊ฟช้อป ฯลฯ bankandboyshop, bankandboy www.facebook.com/bankandboy

โทร.075-358405, 075-761702

095-3203270


เดือนเมษายน 2560

FREE COPY

15

เชฟรอน จับมือ สถาบันวิจัยระบบพลังงาน มอ. เปิดศูนย์การเรียนรู้พลังงานและสิ่งแวดล้อมฯ แห่งแรกในภาคใต้

เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท เชฟรอนประเทศไทยส�ำรวจและผลิต จ�ำกัด ร่วมกับสถาบันวิจัยระบบพลังงาน มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ในโครงการพลังงานและสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนเพื่อสหกรณ์กองทุนสวนยาง (ระยะที่ 2) จัดพิธีส่งมอบและเปิดศูนย์การเรียนรู้พลังงานและสิ่งแวดล้อม ที่ยั่งยืนส�ำหรับสหกรณ์ผลิตยางรมควัน ณ สหกรณ์กองทุนสวนยางบ้าน ทรายขาว จ�ำกัด ต.ทุ่งหวัง อ.เมือง จ.สงขลา เพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยีและ ความรู้เกี่ยวกับการผลิตยางรมควันที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์ พลังงานแก่ชุมชน นายอาทิตย์ กริชพิพรรธ ผู้จัดการใหญ่ฝ่ายสนับสนุนธุรกิจ บริษัท เชฟรอนประเทศไทยส�ำรวจและผลิต จ�ำกัด กล่าวว่า “เชฟรอนฯ สนับสนุนโครงการพลังงานและสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนเพื่อสหกรณ์สวนยาง มาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2558 โดยร่วมกับสถาบันวิจัยระบบพลังงาน มหาวิทยาลัย สงขลานครินทร์ มีเป้าหมายเพื่อสร้างต้นแบบกระบวนการผลิตยางรมควัน ที่ใช้เทคโนโลยีเพื่อประหยัดพลังงานและลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ทั้ง ยังช่วยลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มคุณภาพของผลิต ตลอดจนจัดตั้งศูนย์ การเรียนรู้ในสหกรณ์กองทุนสวนยาง เพื่อให้เกษตรกรเกิดความตระหนัก ในคุณค่าของสิ่งแวดล้อม เพื่อให้สหกรณ์กองทุนสวนยางอยู่ร่วมกับชุมชน ได้อย่างยั่งยืน โดยท�ำงานร่วมกับสหกรณ์ฯ 29 แห่งในภาคใต้ 5 จังหวัด ประกอบด้วย ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา และปัตตานี” รศ.ดร.สุเมธ ไชยประพัทธ์ ผู้อ�ำนวยการโครงการพลังงาน และสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนเพื่อสหกรณ์กองทุนสวนยาง (ระยะที่ 2) เปิดเผยว่า “โครงการฯ ได้จัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ขึ้นที่สหกรณ์กองทุน สวนยางบ้านทรายขาว เป็นแห่งแรก โดยได้ติดตั้งเทคโนโลยีต้นแบบ ในการผลิตยางรมควันที่ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นมิตร ต่อสิ่งแวดล้อม ระบบบ่อหมักร่วมผลิตก๊าซชีวภาพ และห้องรมควัน ประสิทธิภาพสูง ช่วยลดปริมาณการใช้ไม้ฟืนและลดระยะเวลาการคม ควัน ช่วยลดต้นทุนในการผลิตยางแผ่นรมควัน เพื่อให้เกษตรกรได้เรียนรู้ และเกิดความตระหนักในคุณค่าของการการรักษาสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์ พลังงาน ช่วยสร้างความเข้มแข็งและความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างชุมชนกับ สหกรณ์ฯ ในการจัดการพลังงานและสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่นร่วมกันอย่าง ยั่งยืน” ดร.รชา เดชชาญชัยวงศ์ อาจารย์ประจ�ำสาขาเคมีประยุกต์

อาทิตย์ กริชพิพรรธ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี) กล่าวว่า “โรงรมยางที่ด�ำเนินการในปัจจุบัน จะมีท่อ ทางเข้าอากาศร้อน 12 ท่อ ท�ำให้การกระจาย ความร้อนในห้องรมยางไม่สม�่ำเสมอ แผ่นยางสุก ไม่พร้อมกัน ท�ำให้ต้องใช้ไม้ฟืนเป็นเชื้อเพลิงมาก ต้นทุนจึงสูง เราจึงเพิ่ม ประสิทธิภาพของโรงรมยางโดยติดตั้งพัดลมและก๊าซชีวภาพ ซึ่งช่วยให้ การกระจายความร้อนทั่วถึงเพื่อให้แผ่นยางสุกพร้อมกัน และใช้เวลา รมยางเพียง 36 ชั่วโมง จากเดิม 72 ชั่วโมง จึงประหยัดเชื้อเพลิงได้ 50 ถึง 60 เปอร์เซ็นต์ ทั้งยังช่วยลดเขม่าควัน จึงมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม น้อยลงอีกด้วย” “ศูนย์การเรียนรู้แห่งนี้ นับเป็นตัวอย่างเชิงประจักษ์ของ ความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ในการ ท�ำงานเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีและขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0 ตามแนวนโยบายของนายกรัฐมนตรี โดยศูนย์การเรียนรู้แห่งนี้จะช่วยให้ เกษตรกรชาวสวนยางสามารถประหยัดต้นทุนและมีรายรับเพิ่มมากขึ้น” นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวเสริม “ศูนย์การเรียนรู้แห่งนี้ เป็นสิ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ เชฟรอนในการพัฒนาศักยภาพและยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชน ควบคู่ไปกับการสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงานให้กับประเทศ ตลอด

ระยะเวลา 55 ปี ของการด�ำเนินธุรกิจในประเทศไทย เราเชื่อว่าสหกรณ์ กองทุนสวนยางบ้านทรายขาวจะเป็นต้นแบบให้กับสหกรณ์ฯ แห่งอื่น ๆ ในภาคใต้ ในการพัฒนากระบวนการผลิตยางแผ่นรมควันที่เป็นมิตรต่อสิ่ง แวดล้อม ประหยัดพลังงาน และสามารถอยู่ร่วมกับชุมชนได้อย่างยั่งยืน” นายอาทิตย์ กล่าวทิ้งท้าย


16

เดือนเมษายน 2560

ภาพบรรยากาศศ

20 - 22 เมษายน 2560

FREE COPY


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.