เดือนกรกฎาคม 2560 โรงแรมตะมาลี
ปีที่ 13 ฉบับที่ 196
FREE COPY
FREE COPY
ตรวจแถว...
วงการกีฬาเมืองนคร!
ตรวจแถว...วงการกีฬาเมืองนคร!
93 MHz. คิดดี ท�ำดี ที่นี่เมืองนคร
ประจ�ำเดือนกรกฎาคม 2560
086-479-1946
ค่าเหรียญรางวัลเด็ก จ่ายให้ครบๆ เหว้อ
2
เดือนกรกฎาคม 2560
FREE COPY
แจ้งความด�ำเนินคดี! 9 เพจดัง
ละเมิดลิขสิทธิ์ภาพ-คลิป ข่าวฆ่า 8 ศพ ที่มา : MGR Online
ภาพข่าวที่ถูกละเมิดลิขสิทธิ์
นักข่าวนครศรีธรรมราช แจ้งความด�ำเนินคดีต่อเว็บไซต์ และเพจชื่อดังรวม 9 แห่ง หลังใช้ภาพจากผลงานโดยไม่ได้รับการ ยินยอมและอนุญาตเพื่อประโยชน์ทางธุรกิจ ผู้บริหารเพจ “อีจัน” ยืดอกพร้อมแสดงความรับผิดชอบเหตุเกิดจากข้อผิดพลาด วันนี้ (18 กรกฎาคม 60) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมา นายกฤษณะ ทิวัตถ์สิริกุล ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอส ประจ�ำจังหวัดนครศรี ธรรมราช ได้น�ำบันทึกการร้องทุกข์ และขอให้ด�ำเนินคดีต่อเพจ และ เว็บไซต์ข่าวจ�ำนวนรวม 9 เว็บไซต์ พร้อมทั้งน�ำหลักฐานประกอบภาพที่ ถูกเผยแพร่ในเว็บไซต์ต่างๆ พร้อมทั้งแผ่นดีวีดีบันทึกภาพต้นฉบับที่ถูกน�ำ ไปเผยแพร่โดยไม่ได้มีข้อตกลง ยินยอม หรือจัดส่งให้ หรืออนุญาตให้ใช้ ภาพที่ถูกเว็บไซต์ และเว็บเพจทั้ง 9 แห่งนั้นน�ำไปเผยแพร่โดยก่อให้เกิด ผลประโยชน์ในทางธุรกิจทั้งทางตรง และทางอ้อม โดยบันทึกข้อความร้องทุกข์และหลักฐานทั้งหมด ได้ถูกน�ำ เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เพื่อด�ำเนิน คดีต่อผู้รับผิดชอบในการเผยแพร่ บันทึกการแจ้งความร้องทุกข์นั้น ระบุว่า เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2560 เวลาประมาณ 19.30 นาฬิกา ได้รับแจ้งข้อความว่า พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผู้บังคับการกองปราบปราม ได้น�ำก�ำลังเจ้า หน้าที่ต�ำรวจกองปราบปราม สนธิก�ำลังกับเจ้าหน้าที่ทหารมณฑลทหาร บกที่ 41 เข้าตรวจยึดรถยนต์ของคนร้ายซึ่งใช้เป็นยานพาหนะในคดี ฆาตกรรม นายวรยุทธ สังหลัง และครอบครัวรวม 8 ศพ ในจังหวัดกระบี่ และถูกน�ำมาเก็บไว้ที่บริเวณบ้านหลังหนึ่งในอ�ำเภอพระพรหม จังหวัด นครศรีธรรมราช คดีนี้ก�ำลังอยู่ในความสนใจของสังคมไทยทั้งประเทศ จึง ได้รีบเดินทางไปบันทึกภาพเหตุการณ์ในส่วนที่ส�ำคัญไว้ได้โดยทันที หลังจากนั้นถัดไปในเวลาใกล้เคียงกัน ได้ปรากฏภาพข่าว ซึ่งเกิดจากการบันทึกภาพของข้าพเจ้าไปปรากฏถูกน�ำเสนอ และเผย แพร่ผ่านสื่อออนไลน์ เว็บไซต์ เว็บเพจ และสถานีโทรทัศน์ ที่ปรากฏ แล้วหลายช่องทาง และพบว่าในหลายแหล่งเผยแพร่นั้นได้ใช้ภาพที่ ถูกบันทึกโดยตนเอง โดยที่ไม่ได้มีข้อตกลงหรือจัดส่งให้ หรือยินยอม หรืออนุญาตให้ใช้มาก่อน โดยไม่อาจทราบได้ว่าได้ภาพมาด้วยวิธีใด ซึ่งภาพชุดนี้มีทีมงาน และเพื่อนผู้สื่อข่าวอีกจ�ำนวนหนึ่งได้ใช้ร่วมกัน เท่านั้น และทุกคนยืนว่า ไม่รู้จักผู้ที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ และเว็บเพจ
ภาพข่าวที่ถูกละเมิดลิขสิทธิ์
ดังกล่าว ทั้งยังไม่มีการส่งเนื้อหา หรือ ภาพนิ่ง หรือคลิปภาพใดๆ ให้แก่ทั้ง 9 แหล่ง ท้ายบันทึกแจ้งความนั้น ยังระบุด้วยว่า การกระท�ำตามความ แจ้งนั้น ผู้รับผิดชอบการเผยแพร่ภาพ นิ่ง ข้อความ หรือภาพเคลื่อนไหว ตามปรากฏในหลักฐานการเผยแพร่ ทั้ง 9 แหล่ง ย่อมเล็งเห็นผลที่ก่อ ให้เกิดประโยชน์ทางธุรกิจจากการน�ำ ภาพเผยแพร่ ขณะนี้ยังไม่ทราบ ว่าเป็นบุคคลใด มีถิ่นที่อยู่ใด และ ว่าบุคคลผู้รับผิดชอบการกระท�ำ เผยแพร่ภาพที่บันทึกโดยตนเอง อาจ มีพฤติการณ์ที่เข้าข่ายการกระท�ำ ความผิดตามกฎหมายหลายบทบัญญัติเกี่ยวเนื่อง ซึ่งเป็นเหตุให้ถูก ความยากล�ำบากในการเข้าถึงแหล่งข่าว การได้มาซึ่งภาพข่าว โดยเฉพาะ ข่าวที่มีความซับซ้อน และอาจมีความเสี่ยงในการปฏิบัติงานด้วย ละเมิดสิทธิในผลงานโดยชอบ การน�ำไปใช้โดยเสมือนหนึ่งว่าเป็นผลงานของตนเองโดยละเมิด ขณะที่เจ้าตัวระบุเพิ่มเติมว่า การแจ้งความครั้งนี้สืบเนื่องจาก การหารือกับต้นสังกัด และเพื่อนผู้สื่อข่าวอาวุโสในจังหวัดนครศรีธรรมราช นั้น ถือเป็นการเหยียบย�่ำความพยายามของผู้ท�ำงานในพื้นที่อย่างมาก เห็นตรงกันว่า ควรที่จะแจ้งความเพื่อเป็นตัวอย่างการท�ำงานของผู้สื่อข่าว การเข้าแจ้งความนั้นเพื่อปกป้องสิทธิของผู้สื่อข่าวในภาคสนาม และอยาก และเป็นตัวอย่างของการรับผิดชอบต่อการ ภูมิภาคแต่ละจังหวัดนั้นมีข้อจ�ำกัดสูง บางชิ้นงานนั้นมีความเสี่ยง และ ให้กรณีศึกษากับทุกฝ่าย เผยแพร่ และเรื่องนี้จะไม่มีการเรียกร้องเป็นมูลค่าเงินใดๆ ทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม นายกฤษณะ ยังเปิดเผยเพิ่มเติมว่า ล่าสุดนั้น ผู้บริหารเพจ “อีจัน” ซึ่งเป็นหนึ่งใน 9 แหล่งที่ถูกแจ้งความร้องทุกข์ ได้ ประสานงานมา พร้อมทั้งขอแสดงความรับผิดชอบต่อความผิดพลาดที่ เกิดขึ้น และพร้อมที่จะโพสต์ข้อความเพื่อท�ำความเข้าใจกับลูกเพจที่ ติดตามเรื่องนี้ โดยเร็ว ส�ำหรับภาพ และคลิปที่ถูกเผยแพร่ไปนั้นผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นภาพที่เจ้าหน้าที่ก�ำลังน�ำรถบรรทุกแบบสไลด์ บรรทุกรถยนต์โตโยต้า ยาริส ซึ่งเป็นรถต้องสงสัยที่ใช้เป็นพาหนะก่อเหตุสังหารหมู่ นายวรยุทธ สังหลัง พร้อมครอบครัวรวม 8 ราย ออกจากบ้านหลังหนึ่งในอ�ำเภอ พระพรหม จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งผู้สื่อข่าวรายนี้ได้บันทึกภาพ ช่วงนั้นไว้ได้เพียงคนเดียว และมีเพื่อนทีมงานได้เข้าบันทึกภาพอีกส่วน หนึ่ง เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งความไว้ด�ำเนินคดี
2 COPY FREE
เกี ย รติ ย ศและศั ก ดิ์ ศ รี ข องท้ อ งถิ่ น
การเมืองบ้านเรา
เดือนกรกฎาคม 2560
3
เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอยู่พอสมควรกับเรื่องราว การบริหารจัดการพื้นที่โดยรอบบริเวณพระธาตุมรดกโลก นครศรีธรรมราช ที่เริ่มต้นจากการจัดระบบจราจรเปิดให้เดินรถ ทางเดียว เฉพาะขาออก ส่วนข้าเข้าเส้นราชด�ำเนินจากสี่แยก ประตูไชยสิทธิ์ ห้ามไม่ให้รถผ่านถนนราชด�ำเนิน แต่ให้ เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวา ถนนศรีธรรมโศก ถนนพระบรมธาตุ ถนนศรีธรรมราช มาบรรจบกับราชด�ำเนินอีกทีแถวแยก พานยม ท่าชี และหอนาฬิกาหน้าศาลากลาง ส�ำนักข่าวนครโพสต์...ติดตามข้อมูลข่าวไม่ได้กรอง มาระยะหนึ่ง ยังไม่ตกผลึก แล้วก็เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ชื่นชม ตามมาอีกค�ำรบหลังเปิดฤกษ์เบิกชัยกับหลาดหน้า พระธาตุ เมื่อเสาร์ 15 กลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ผนวกเข้ากับข้อสังเกตจากเรื่องราวของถนน พุทธภูมิ หนึ่งในแผนงานเพื่อรองรับการบริหารจัดการพื้นที่ โดยรอบพระธาตุมรดกโลก ที่ยังค้างคาใจกันว่าการก่อสร้าง แล้วเสร็จเรียบร้อยสมบูรณ์แบบแล้วหรือไม่ อย่างไร
สามปีเต็มหลังเสียงนกหวีดกับกระแสการปฏิรูป ประเทศผ่านพ้นไป ห้วงเวลานี้กลางปี 2560 การบ้านการเมือง ในภาพรวมของบ้านเรานครศรีธรรมราชก้าวไปถึงจุดไหน... มีรูปธรรมการปฏิรูปอะไรให้พอได้เห็นเป็นตัวอย่างหรือไม่ หรือ ความเป็นจริงแล้ว ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เกิดขึ้นจริงๆ... เรื่องการบ้าน ถึงวันนี้ การท�ำมาหากินฝืดเคือง เศรษฐกิจครัวเรือนค่อนข้างติดขัด ชักหน้าไม่ถึงหลัง สังคมอุดม ไปด้วยปัญหา อาชญากรรมไม่ได้ลดลง มีแต่แนวโน้มไปในทาง เพิ่มสูงขึ้น การแพร่ระบาดของยาเสพติดในหมู่เยาวชนเป็น เรื่องหลักที่หนักอกหนักใจพ่อแม่ผู้ปกครองและครอบครัว สาธารณูปโภคพื้นฐานทั้งเรื่องน�้ำประปา การจัดการขยะ ถนน หนทางช�ำรุดเป็นหลุมเป็นบ่อ ฯลฯ รวมไปถึงปัญหาทุจริตคอรัปชั่น ยังเป็นเรื่องที่ไม่ได้รับการแก้ไขเยียวยา ทั้งยังมีทีท่าหนักข้อมาก ยิ่งขึ้น
เรื่องการเมือง จวบจนปัจจุบัน บ้านเมืองเรายังมี ไอ้ห้อยไอ้โหนมากมายที่พร้อมเสมอส�ำหรับการหากินทาง การเมือง ปั่นกระแส เปิดประเด็น ทั้งที่รู้ว่าหาได้เกิดประโยชน์ ใดๆ ต่อการพัฒนาบ้านนี้เมืองนี้ให้ก้าวเดินไปข้างหน้าทัดเทียม บ้านอื่นเมืองอื่น และก็น่าสนใจที่ว่า ลูกไม้การเมืองในรูปแบบ ดังว่า ยังคงถูกกับจริตของคนในบ้านนี้เมืองนี้จ�ำนวนไม่น้อยด้วย เช่นกัน… กรณีวิวาทะเรื่องศาลหลักเมืองนครครั้งล่าสุดคือ รูปธรรมแห่งกรณี
บ้านเมืองของเรา ยังมีคนการเมือง ที่ท�ำมาหากิน กับผลประโยชน์และคะแนนนิยมเฉพาะหน้า ท�ำได้ทุกอย่าง แม้กระทั่งน�ำเอาการกีฬาและนักกีฬา มาเป็นเครื่องมือเพื่อก่อ ประโยชน์แห่งตน และท�ำลายล้างฝ่ายตรงข้าม เรื่องนี้ก็มีตัวอย่าง ให้เห็นจากกระแสข่าวเบี้ยวเงินอัดฉีดทัพนักกีฬาตัวแทนจังหวัด เป็นเครื่องยืนยันการันตี
บ้านเมืองของเรา ยังมีคนการเมือง ที่ใจกล้าและ หน้าด้าน ยอมให้สังคมตราหน้าว่าเป็นพวกกังฉิน โกงกิน ฉ้อราษฎร์บังหลวง นึกเอาเองว่ามีอ�ำนาจแล้วสามารถประพฤติ ปฏิบัติได้ทุกอย่างตามที่ใจต้องการ โดยไม่เกรงหน้าอินทร์ หน้าพรหม หากแต่เวรกรรมมีจริง เมื่อกรรมตามทัน หน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบอย่างส�ำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ชี้ชัดฟันเปรี้ยงตามกบิลเมือง คนการเมืองประเภทนี้ ก็ยังไม่รู้สึกรู้สม กลับยังมีกระแสข่าวคาวฉาวในเรื่องไม่โปร่งใส ให้ได้ยินได้ฟังกันอยู่อย่างต่อเนื่อง
สามปีผ่านพ้นไป... บทสรุปเรื่องการปฏิรูปส�ำหรับ บ้านนี้เมืองนี้ นครศรีธรรมราช ยังคงเป็นได้แค่เพียงวาทกรรม ที่ตามหลอกหลอนทุกผู้คนอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน...
ว่ากันตามกระแส... ทดลองปิดการจราจรและ เปิดให้เดินรถทางเดียว บนถนนราชด�ำเนินบริเวณ หน้าวัดพระธาตุ ไม่มีใคร ทราบได้อย่างเป็นทางการ ว่า ผลการให้ทดลองเดินรถ ทางเดียวดังกล่าวนั้น ส่งผล ต่อการบริหารจัดการทางด้านจราจรในด้านบวกหรือลบ อย่างไร และมีความเป็นไปได้สูงว่า ความคุ้นชินเมื่อถึงห้วง ระยะเวลาหนึ่ง เสียงวิพากษ์วิจารณ์จะเงียบไปเอง
ฝนตกขี้หมูไหล
ส่วนเรื่องราวของหลาดหน้าวัดพระธาตุ ที่เป็น ความร่วมมือหลายฝ่าย และช่วงแรกเสียงต้อนรับค่อนข้าง น่าชื่นชม และในระยะยาว การยืนระยะจะเป็นบทพิสูจน์ ศักยภาพการท�ำงานผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด หากท�ำได้ดี มีการ บริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ก็จะไม่มีปัญหาเรื่องเสียง วิพากษ์วิจารณ์ แต่หากไม่ใช่หรือท�ำไม่ได้ หลาดหน้าวัดพระธาตุ จะวุ่นวายและหายสาบสูญไปเอง
ส�ำหรับกรณีถนนพุทธภูมนิ นั้ ถือได้วา่ เป็นเส้นทาง ที่น่าสนใจทั้งเรื่องที่มาที่ไป และเรื่องของประโยชน์ส�ำหรับ การบริหารจัดการการจราจรของเมืองนคร รวมไปถึงของ พระธาตุมรดกโลก
ส�ำนักข่าวนครโพสต์ เกาะติดเรื่องราวของพระธาตุ มรดกโลกมาโดยต่อเนื่อง และจะตามติดอยู่ต่อไป เป็นแต่ เพียงว่า วันเวลาผ่านพ้นไป แต่ก็ยังไม่รู้ได้ว่า ถึงที่สุดแล้ว ความหวังอันสูงสุดอีกประการหนึ่งของชาวนครที่เกี่ยวข้องกับ การน�ำเสนอพระบรมธาตุนครศรีธรรมราช ให้ได้ขึ้นสู่ท�ำเนียบ มรดกโลกนั้น จะเดินทางมาถึงเมื่อใด
คงไม่ใช่แค่เพียงการจัดวันเวย์ถนนราชด�ำเนิน บริเวณด้านหน้าวัดพระมหาธาตุ เปิดหลาดหน้าวัดพระธาตุ ทุกวันเสาร์ และก่อสร้างถนนพุทธภูมิเสร็จสมบูรณ์ แล้ว พระบรมธาตุจะได้รับการยอมรับให้เป็นมรดกโลก
ปีนี้ 2560 ผ่านมาครึ่งทางแล้ว แต่เส้นทางของ พระบรมธาตุนครศรีธรรมราช มรดกธรรม มรดกโลก ยังคงขรุขระอยู่เหมือนเดิม....
บรรณาธิการ : ณรงค์ ธีระกุล หัวหน้ากองบรรณาธิการ : ไพฑูรย์ อินทศิลา กองบรรณาธิการ : กฤษณะ ทิวัตถ์สิริกุล จอม กิจวิบูลย์ เกียรติยศและศักดิ์ศรีของท้องถิ่น ณัฏฐ์ ธีระกุล ณัฐชนา ฤทธิผล เจ้าของ : สหกรณ์ผู้สื่อข่าวจังหวัด นครศรีธรรมราช กนกลักษณ์ เส้งคง ประธานที่ปรึกษา : ดร.เพ็ญพร เกตุชาติ รูปเล่ม/จัดหน้า : เมาลิด จิตต์ประไพย คณะที่ปรึกษา : ดร.กณพ เกตุชาติ, ภาวินทร์ ณ พัทลุง หัวหน้าฝ่ายโฆษณา : จรินท์พร บุญชัก มานะ นวลหวาน, อครพล หนูทวี, สุทัศน์ เดชเดโช, ฝ่ายโฆษณา : ปราณี กาญจนโรจน์ ฉัตรชัย อรุณสุวรรณกร, ด.ต.นิรภัฏ วัฒนประเสริฐกุล, การเงิน/ธุรการ : ปราณี กาญจนโรจน์ ดร.ณัฐวุฒิ ภารพบ แยกสี-พิมพ์ที่ : โรงพิมพ์เม็ดทราย ถ.ราชด�ำเนิน อ.เมือง ผู้อ�ำนวยการ : สุรโรจน์ นวลมังสอ จ.นครศรีธรรมราช ที่ปรึกษากฎหมาย : สมชาย ฝั่งชลจิตร โทร. 0-7534-1475, 08-1892-6060 บรรณาธิการที่ปรึกษา : เลิศ อักษรนิตย์ สาธิต รักกมล ส�ำนักงานหนังสือพิมพ์นครโพสต์ : เลขที่ 2/1 ซ.อัศวรักษ์ 1 บรรณาธิการอาวุโส : จ�ำลอง ฝั่งชลจิตร ถ.ราชด�ำเนิน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช 80000 บรรณาธิการบริหาร : สุรโรจน์ นวลมังสอ โทร. 0-7532-0227 email : nakhonpost@hotmail.com
4
FREE COPY
เดือนกรกฎาคม 2560
สมาหิโต ยถาภูตํ ปชานาติ เมื่อจิตตั้งมั่นแล้ว ย่อมรู้เห็นตามความเป็นจริง... หนังสือพิมพ์นครโพสต์ “เกียรติยศและศักดิ์ศรีของท้องถิ่น” ฉบับนี้ประจ�ำเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2560 อีกไม่กี่สัปดาห์ก็จะครบรอบ 3 ปี รัฐบาล คสช. ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จู่ๆ ก็มีกระแสข่าวเรื่องปรับ ครม.รอบใหม่ ดังกระหึ่ม ออกมา ก่อนจะถูก “บิ๊กตู่” นายกฯ ประยุทธ์ เบรกกระแสจนหัวคะม�ำ... ไล่เลี่ยกัน ก่อนหน้านั้นมีกระแสข่าวหนาหูว่า ถึงเวลาต้องเปลี่ยนตัวแม่ทัพสีกากี พร้อมปล่อยโผโยก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา พ้นเก้าอี้ ผบ.ตร.ไปนั่งท�ำงานกับนายเก่า พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในต�ำแหน่งปลัดกระทรวง แล้วดัน พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ขึ้นเป็นแม่ทัพสีกากีคนใหม่!.. แต่หลังเกิดคดีฆ่าอ�ำมหิต 8 ศพ ที่จังหวัดกระบี่ “บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา โชว์ฟอร์ม วาดลวดลายแสดงฝีมือเข้าได้ตากรรมการ ท้ายที่สุด “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ต้องออกมาการันตี โยกย้ายประจ�ำปี เที่ยวนี้ไม่มีเฉี่ยวเก้าอี้ ผบ.ตร. แน่นอน... ..อีกด้านส�ำหรับวงการต�ำรวจ ต้น เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ครม. เห็นชอบ แต่งตั้งคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ ด้าน กระบวนการยุติธรรม (ต�ำรวจ) ตามที่มาตรา 258 ของรัฐธรรมนูญก�ำหนดให้มีการแก้ไข ‘อัศวรักษ์’ ปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับหน้าที่ อ�ำนาจ ภารกิจและการบริหารงานบุคคลของข้าราชการต�ำรวจ และมาตรา 260 บัญญัติให้ ครม. แต่งตั้งคณะกรรมการคณะหนึ่งเพื่อด�ำเนินการ ดังกล่าว จ�ำนวน 36 คน โดยมี พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ อดีต ผบ.สส. เป็นประธาน ในฐานะที่เป็นนักวิชาการ และเคยดูเรื่อง โครงสร้างของหน่วยงานความมั่งคง และมีกรรมการโดยต�ำแหน่ง 5 คน ประกอบด้วย ปลัดกระทรวงยุติธรรม ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงการคลัง อัยการสูงสุด เลขาส�ำนักงานศาลยุติธรรม กรรมการฝ่ายต�ำรวจและผู้ทรงคุณวุฒิ ฝ่ายละ 15 คน ทั้งนี้กรรรมการปฏิรูปต�ำรวจ จะต้อง จัดท�ำเรื่องแต่งตั้งโยกย้ายให้เสร็จภายในปี 2560 ส่วนเรื่องอื่นให้ทยอยท�ำไปได้จนถึงเดือน เม.ย.2561 กลับมาที่บ้านเรา ช่วงที่ผ่านมา มีกรณีศึกษาเรื่องบูรณะศาลหลักเมือง นครศรีธรรมราช ให้ไว้เป็นวิทยาทาน เพราะการบูรณะศาลหลักเมืองครั้งนี้ สามารถดึงเอา บรรดาไอ้ห้อยไอ้โหนและบรรดาผู้คนที่อยากดังอยากเป็นข่าว ให้ออกมากระท�ำอัตวินิบาตกรรม ทางการเมืองกันอีกค�ำรบแม้จะไม่ได้อยู่ในห้วงเวลาทางการเมืองก็ตามที เพราะท้ายที่สุดแล้ว การเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นก็หาสาระใดมิได้ นอกเสียจากการกวนน�้ำให้ขุ่นและขอโหนกระแส ไปวันๆ.. อีกเรื่องที่น่าสมเพชเวทนาเป็นยิ่งนัก คือกรณีการเบี้ยวเงินอัดฉีดทัพนักกีฬา ตัวแทนจังหวัด เรื่องพรรค์อย่างนี้ หากไม่ใช่คนประเภทจัญไรจริงๆ จะกระท�ำมิได้ และบุคคล
ในนาคร
ต้อนรับ : เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2560 นายสมนึก เกตุชาติ ผู้บริหารบริษัท เกษตรลุ่มน�้ำ จ�ำกัด พร้อม ด้วย ดร.กณพ เกตุชาติ ผู้บริหารโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพ บริษัท เกษตรลุ่มน�้ำ จ�ำกัด ให้การต้อนรับคณะผู้ บริหารบริษัท IHI Enviro จากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นบริษัทชั้นน�ำด้านวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม โดยมีการแลก เปลี่ยนประสบการณ์วิธีการสร้างก๊าซชีวภาพจากทะลายปาล์มเปล่า ซึ่งเป็นวัสดุเหลือใช้ ซึ่งหากย่อยทะลาย ปาล์มและแปลงเป็นก๊าซได้ จะได้ประโยชน์สองทางคือก�ำจัดของเสียและสร้างพลังงานได้ด้วย
มอบเงินสนับสนุนนักกีฬาเปตอง : เมื่อเร็วๆ นี้ นายจ�ำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรี ธรรมราช ได้มอบเงินสนับสนุนและให้โอกาสแก่นักกีฬาเปตองจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมผู้ฝึกสอน ก่อนเดินทางไปคัดเลือกนักกีฬาเปตองทีมชาติไทยระดับเยาวชน ระหว่างวันที่ 20-21 กรกฎาคม 2560 ที่การกีฬาแห่งประเทศไทย หัวหมาก กรุงเทพมหานคร
ที่จงใจกระท�ำเรื่องเช่นนี้ได้ ย่อมไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน... ขอแสดงความยินดีล่วงหน้า กับว่าที่อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏ นครศรีธรรมราชคนใหม่ “รศ.ดร.ฆนัท ธาตุทอง” ..... แล้วพบกันใหม่ ฉบับหน้า สวัสดี...
FREE COPY
เดือนกรกฎาคม 2560
5
เริ่มแล้วหลาดหน้าพระธาตุ!!!
“ตลาดต้องชม บนถนนสายธรรม” นักท่องเที่ยวให้ความสนใจกันอย่างคึกคัก
วันนี้(15 ก.ค.60) เป็นวันแรกของการจัดกิจกรรม “หลาด หน้าพระธาตุ” หรือถนนคนเดินหน้าวัดพระมหาธาตุ วรมหาวิหาร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ภายใต้สโลแกน “ตลาดต้องชม บนถนนสายธรรม” ซึ่งก�ำหนดจัดขึ้นทุกวันเสาร์ เวลา 16.00-21.00 น. ปรากฏว่า ได้รับความ สนใจจากนักท่องเที่ยวและชาวนครศรีธรรมราชเป็นจ�ำนวนมาก บรรยากาศ เป็นไปอย่างคึกคักแม้ว่าในช่วงบ่ายจะมีฝนตกลงก็ตาม ส�ำหรับการจัดกิจกรรม “หลาดหน้าพระธาตุ” หรือถนน คนเดินหน้าวัดพระมหาธาตุ วรมหาวิหาร ภายใต้สโลแกน “ตลาดต้องชม บนถนนสายธรรม” เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เป็นไป ตามนโยบายของนายจ�ำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรี ธรรมราช ในการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยว “นครศรีดี๊ดี นครศรี ดีกว่าเดิม” โดยมีการน�ำผลิตภัณฑ์ OTOP ประเภทต่างๆ รวมทั้งขนม พื้นบ้าน อาหารพื้นเมืองนานาชนิด สินค้าต่างๆ อีกมากมาย มาจัดแสดง และจ�ำหน่ายให้แก่นักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปได้แวะ ชม ชิม ช้อป และการสาธิตและแสดงศิลปวัฒนธรรม อีกทั้งยังได้สักการะพระบรมธาตุ นครศรีธรรมราชด้วย ได้ทั้งความสุขกาย สุขใจ และความเพลิดเพลิน สนุกสนาน โดยความร่วมมือของทุกภาคส่วน ได้แก่ ส�ำนักงานการท่องเทีย่ ว
และกีฬาจังหวัดพาณิชย์จังหวัด วัฒนธรรมจังหวัด ต�ำรวจภูธรจังหวัด เทศบาลนครนครศรีธรรมราช พัฒนาชุมชนจังหวัด มหาวิทยาลัยราชภัฏ นครศรีธรรมราช ททท. ส�ำนักงานนครศรีธรรมราช หอการค้าจังหวัด สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัด เป็นต้น ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้น ทุกวันเสาร์ เวลา 16.00-21.00 น. เริ่มครั้งแรกในวันเสาร์ที่ 15 กรกฎาคม 2560 เป็นต้นไป
ประชุมคณะกรรมการบริหารระบบสุขภาพจังหวัดนครศรีธรรมราช วันที่ 7 ก.ค.60 ที่ห้องประชุมศรีวิชัย ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัด นครศรีธรรมราช ประชุมคณะกรรมการบริหารระบบสุขภาพจังหวัด นครศรีธรรมราช หรือ Provincial Health Board โดยมีนายแพทย์บัญชา ค้าของ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช คณะกรรมการ เจ้าหน้าที่และผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมพร้อมเพรียงกัน การประชุมดังกล่าว เพื่อร่วมก�ำหนดแนวทางการด�ำเนินงาน และการบูรณาการความร่วมมือการพัฒนาคนตลอดช่วงชีวิตในระดับจังหวัด ตามข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วย “การบูรณาการเพื่อการพัฒนาคน ตลอดช่วงชีวิต ส�ำหรับกลุ่มเด็กปฐมวัยและผู้สูงอายุ” ของ 4 กระทรวง คือ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวง
มหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งมีพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2560 ทั้งนี้เพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาคนตลอดชีวิตในกลุ่มเด็ก ปฐมวัยและผู้สูงอายุตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีแผนยุทธศาสตร์ประเทศ ด้านสาธารณสุข และยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0 เพื่อรองรับการเป็น สังคมสูงอายุ และความสมดุลของประชากรในวัยต่างๆ ที่มีผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น อย่างรวดเร็วร้อยละ 20 ของประชากรทั้งประเทศ ซึ่งจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ โดยสมบูรณ์ในปี 2564 ขณะที่กลุ่มวัยเด็กและกลุ่มวัยท�ำงานที่ต้องดูแล ผู้สูงอายุมีแนวโน้มลดลง มีปัญหาเด็กเกิดน้อย ด้อยคุณภาพ ซึ่งส่งผล ของประเทศในอนาคตด้วย กระทบต่อประชากรวัยท�ำงานที่เป็นก�ำลังหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยในส่วนของจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ก�ำหนดแนวทาง การขับเคลื่อนแบบบูรณาการด้านสุขภาพ (ประชารัฐ) ของเครือข่าย PHB จังหวัดนครศรีธรรมราช ปี 2560-2561 ภายใต้กรอบวิสัยทัศน์ “นครศรี ธรรมราชเมืองดี คนมีสุขภาพ” ซึ่งจะมีการบูรณาการนโยบายคุณภาพ ชีวิตระดับจังหวัดสู่การปฏิบัติประชารัฐระดับอ�ำเภอ คือจะมีคณะกรรมการ คุณภาพชีวิตระดับจังหวัดพิจารณาก�ำหนดประเด็นและเป้าหมายด�ำเนิน การพัฒนาคุณภาพชีวิตเพื่อส่งมอบให้คณะกรรมการคุณภาพชีวิตอ�ำเภอ จัดสร้างเครือข่ายในท้องถิ่นเพื่อเฝ้าระวัง คัดกรองปัญหาคุณภาพชีวิตใน ครอบครัวตามประเด็นโดยการเคาะประตูบ้านส�ำรวจหรือใช้โปรแกรม คัดกรอง ก่อนท�ำการวิเคราะห์ปัญหารายบุคคลและประเมินหาความชุก และรุนแรงในท้องถิ่นเพื่อก�ำหนดมาตรการกลวิธี และบทบาทหน้าที่ หน่วยงานต่างๆ เพื่อดูแลประชาชนที่เดือดร้อนและแก้ปัญหาต่อไป
นักเรียนเมืองคอนตัวแทนประเทศไทย
ร่วมแข่งขันหุ่นยนต์ระดับนานาชาติ นักเรียนตัวแทนประเทศไทย เข้าขอพรจาก ผวจ.นครศรี ธรรมราช ก่อนเดินทางไปร่วมแข่งขันระดับนานาชาติที่ประเทศมาเลเซีย วันที่ 17 ก.ค 60 09.00 ที่ห้องปฏิบัติงานผู้ว่าราชการจังหวัด นครศรีธรรมราช คณะนักเรียนตัวแทนประเทศไทยที่ผ่านการคัดเลือกใน รอบชิงชนะเลิศหุ่นยนต์ระดับนานาชาติ (IYRC THALAND ระดับประถม ศึกษา เมื่อวันที่ 3-4 มิถุนายน 2560 ณ กรุงเทพมหานคร เข้าคารวะ ขอพรและก�ำลังใจในโอกาสที่จะเดินทางเป็นตัวแทนของประเทศไทย ไป เข้าร่วมการแข่งขันหุ่นยนต์ระดับนานาชาติ The International Youth Robot Competition 2017 ในระหว่างวันที่ 2-5 สิงหาคม 2560 ณ เมืองกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยคณะนักเรียนตัวแทนประเทศไทยทั้ง 12 คน ประกอบ ด้วย เด็กชายเมธาสิทธิ โชตยาสีหนาท ซึ่งได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ประเภทการแข่งขัน (Roab Challenge) ,เด็กชายธีร์วรา วราเวชช์ ประเภทการแข่งขัน (Roab Challenge) ,เด็กชายอนุวงศ์ อิวิโส ประเภท การแข่งขัน (Roab Challenge),เด็กชายณัฐภูมิ สายเส็น ประเภทการ แข่งขัน (Roab Challenge)และ(R-Sports Mission-Soccer) ,เด็ก ชายพงศ์พีระ สุขศรีเมือง ประเภทการแข่งขัน (R-Sports MissionSoccer) และ (Push-Push) ,เด็กชายอธิปัตย์ สาระมาศ ประเภทการ แข่งขัน (R-Sports Mission-Soccer),เด็กชายณัฐวัฒน์ วัฒนา ประเภท การแข่งขัน (R-Sports Mission-Soccer) ,เด็กชายชลกันต์ เครารพา
พงศ์ประเภทการแข่งขัน (R-Sports Mission-Soccer) ,เด็กชายวัธวิน รวย รวย ประเภทการแข่งขัน (R-Sports Mission-Soccer) ,เด็กชายธรรศ ขุนวีช่วย ประเภทการแข่งขัน (R-Sports Mission-Soccer) ,เด็กชาย บัญชา มานพพันธุ์ประเภทการแข่งขัน (R-Sports Mission-Soccer) และเด็กชายณัฐนนท์ กูลภักดี ประเภทการแข่งขัน (R-Sports Mission-Soccer) โดยน้องๆ ทั้ง 12 คนดังกล่าวจะออกเดินทางไปร่วม แข่งขันหุ่นยนต์ระดับนานาชาติ The International Youth Robot Competition 2017 ในระหว่างวันที่ 2-5 สิงหาคม 2560 ณ เมือง กัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ภายใต้การสนับสนุนและส่งเสริมของ บริษัท SE-ED iKids (ซี-เอ็ด ไอคิดส์) สาขานครศรีธรรมราช
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 6 กรกฎาคม 2560 วิทยาลัยเทคนิค นครศรีธรรมราช โดยผู้อ�ำนวยการเรืออากาศโทสมพร ปานด�ำ พร้อม คณะผู้บริหาร และคณะครู จัดกิจกรรมแบ่งปันความสุขให้กับผู้ไร้ที่พักพิง เพื่อฝึกนักศึกษาให้เป็นบุคคลที่รู้จักแบ่งปันความสุขให้กับบุคคลอื่น และ ฝึกให้นักศึกษาเป็นผู้ให้มากกว่าเป็นผู้รับ โดยรับบริจาคสิ่งของเพื่อไป มอบให้กับสถานสงเคราะห์คนไร้ที่พึ่งภาคใต้ อ.สิชล จ. นครศรีธรรมราช
6
FREE COPY
เดือนกรกฎาคม 2560
เปิดเรียนประมาณเดือนเศษ ฤดูการแข่งขันกีฬาสีมาถึง เด็ก โรงเรียน(ภาษาถิ่น)จดจ่อรอคอย กิจกรรมเพื่อสุขภาพ สร้างเสริมทักษะ การอยู่ร่วมกัน การท�ำงานเป็นทีม แบ่งปันหน้าที่แบ่งปันน�้ำใจช่วยเหลือ ต่อกัน ที่ส�ำคัญรู้แพ้รู้ชนะ ค�ำเหล่านี้จะช่วยให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างเป็น ปกติสุข น่าจะจัดกิจกรรมแบบนี้ทั้งปี เรียนน้อยๆ หากถามเด็กๆ คงไม่ปฎิ เสธแน่ กีฬาหรือกิจกรรมกลางแจ้งหลากหลายรูปแบบ ลดความกดดัน ภายในหลายๆ เรื่อง คงไม่เกี่ยวกับการมีชีวิตยุคศตวรรษที่ 21 การศึกษา 4.0 เพียงอย่างเดียว ส�ำหรับยุคแห่งการน�ำเทคโนโลยี อินเตอร์เน็ต (IT) มาประยุกต์ใช้เพื่อน�ำพาเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา ด้วยการสื่อข่าวสารส่งผ่านข้อมูล(Data) ที่รวดเร็ว มีหน่วยคิดเป็นต่อวินาที (แบบถูกๆ ผิดๆ) ขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้า น�ำพาผู้คนก้าวข้ามกับดักรายได้น้อย/ ปานกลางอย่างที่รัฐบาลบอก หรือยิ่งจมจ่มจิ้มจุ่มยากจะโงหัวขึ้นจากกับ ดักรายจ่ายเงินอนาคต ผู้เขียนนึกย้อนถึงในวัยเด็กตอนมัธยม(รร.เบญจมราชูทิศนคร) ผู้เขียนเรียนมัธยมต้นจบที่นั่น แล้วไปเรียนต่อในสายอาชีพ(เทคนิคนคร) สาขาช่างยนต์ ส�ำหรับกีฬาสียังคงเป็นบรรยากาศที่พอจดจ�ำส�ำหรับช่วงวัย ที่มีโอกาสท�ำกิจกรรมร่วมกับเพื่อน ส�ำหรับกีฬาสีที่นั่น เขาตั้งชื่อแต่ละสี ว่า พรรคนั้น พรรคนี้ อาทิ พรรคศรเหล็ก, พรรคฟ้าฟื้น, พรรคเชิดชัย, พรรคนาวิน, พรรคสายฟ้า, ตอนหลังก็มี พรรคจุฬาลักษณ์ และเข้าใจว่า มีการจัดตั้งชื่อพรรคอื่นเพิ่มภายหลังอีก ไม่แน่ใจ ชื่อพรรคสีแต่ละพรรค ก็จะมีประวัติศาสตร์อัตลักษณ์ภูมิปัญญา ของตนเองในการตั้งชื่อ โดยมีคติประจ�ำพรรคสีแตกต่างกันออกไป อย่างไรไม่ขอกล่าว เพราะแค่คุยเรื่องย้อนหลังไปนาน, ลึก ก็จะพาลให้คิด ว่าตนแก่มากแล้วจริงๆ เอาเป็นว่าที่มาของรอบเขตเทศบาลฉบับนี้ ความจริงวัตถุดิบ ในการเขียนต้นฉบับครั้งนี้ มาจาก บทบาทของผู้เขียน จากการท�ำหน้า
ผู้รับใบอนุญาตโรงเรียนเกตุชาติศึกษา ต้องมาก�ำหนดกิจกรรมกีฬาสี ซึ่ง ถ้าจะมองอีกที ก็จะเป็นแค่ความรู้สึกเฉยๆ กับงานประจ�ำ(ปี) ส�ำหรับครู โรงเรียน จึงพยายาม ตั้งโจทย์ ใหม่ เพื่อน�ำไปสู่กิจกรรมที่ทุกฝ่ายมีความ รู้สึก(สนุก)ร่วมกัน ส�ำหรับกีฬาสีที่นี่ปีนี้ ซึ่งถือเป็นการทดลองภายใต้แนวคิด ลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ตามนโยบายของรัฐบาลอดีตรัฐมนตรีท่านก่อนได้ มอบไว้ให้ ดังนั้นเพื่อให้เกิดคุณค่าของการใช้เวลาว่างสร้างประโยชน์สูงสุด ซึ่งเวลาว่างของนักเรียนในปัจจุบันโดยทั่วไป แทบจะไม่มี ลักษณะอธิบายค�ำว่าเวลาว่าง นอกจากเขียนเหมือนกันกับในอดีต ส่วน ที่แตกต่างโดยสิ้นเชิงนั้น เกิดขึ้นจากระบบการศึกษาภาคบังคับ บังคับให้ แข่งกันเรียน โดยปลูกฝังความคิดที่จะต้องเอาชนะข้อสอบคะแนนรวม ระดับชาติ ตอบโจทย์มาตราฐานการศึกษา ประเมินคุณภาพการศึกษา ตลอดจนสอบแข่งกันเข้าเรียนโรงเรียนที่ดีๆ ในการจัดอันดับนิยม ของ พื้นที่ต่างๆ เพื่อเข้าไปฝึกท�ำข้อสอบให้ได้ดีๆ ผลิตซ�้ำ เพื่อผลิตซ�้ำ ความหวังเหล่านี้ท�ำให้ “เวลาว่าง” กับช่วงไว้ชีวิตของค�ำว่า เด็กขาดคุณภาพ ความเสียหาย นิยาม คุณค่า เวลาในความเป็นเด็ก ถูก ท�ำลายด้วยระบบและกระบวนการการศึกษาเหล่านี้ และหากเด็กภายใต้ การปกครอง พ่อแม่ที่ต้องการที่จะให้มีชีวิตอยู่รอดปลอดภัยในระบบการ ศึกษานี้ ก็คงต้องท�ำหัวท�ำตัวก้มต�่ำ แล้วค่อยๆ เดินตามระบบไป ยิ่งหาก เจอพ่อแม่ผู้ปกครองที่ใฝ่ฝัน บางอย่างที่ลูกไม่ได้ใฝ่ฝันไปในทางเดียวกัน หรือเหตุจ�ำเป็นของครอบครัวที่จะต้องเป็นคนเก่งที่มีอนาคต มีโอกาส เลือกอาชีพที่มั่นคง โดยแทบไม่ได้ถามใคร นอกจากคุยกับตนเอง เมื่อมาถึงวันนี้ อย่าให้ลูกได้เรียนที่เดียวกับตนที่เคยเรียนมา หาได้ค�ำนึงถึงสภาพแวดล้อม ศักยภาพ หรือแม้แต่จะถามลูกสักค�ำว่า อยากเรียนที่ไหน อยากเรียนอะไร ผู้เขียนรับช่วงภารกิจหน้าที่ในการก�ำหนดนโยบายของตนเอง
เพื่อที่จะขับเคลื่อนโรงเรียน มีแนวคิดแนวทางในการปฏิบัติ ที่คิดว่า ควรจะต้องท�ำหรือจะไม่ต้องท�ำอะไร และอะไรที่แตกต่าง ภายใต้หลัก มาตรฐาน ทุกโรงเรียนต้องตามหลักเกณฑ์ระเบียบที่กระทรวงได้ก�ำหนด ไว้ หากแต่เมื่อรัฐบาลเปิดช่องโอกาสกับนโยบายลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ พร้อมทั้งนโยบายอื่นๆ ตามมาอีกมากมาย ซึ่งผู้เขียนเห็นว่า สามารถที่จะ เลือกน�ำมาปฏิบัติเพื่อให้สอดคล้องกับแนวนโยบายในการบริหารโรงเรียน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้เรียนสูงสุด กล่าวคือตอบโจทย์ตลาด การศึกษาเอกชน ที่ต้องท�ำให้ได้ทุกมาตราฐานตัวชี้วัด กล่าวคือ การน�ำ นโยบายรัฐมาดัดแปลงแก้ไข สร้างเหตุปัจจัยให้สอดคล้องกับทฤษฎีเหล่านั้น โดยส่วนหนึ่งผู้เขียนแค่จัดเตรียมบรรยากาศ สภาพแวดล้อมสถานที่ให้ เอื้อต่อการเรียนรู้ ต่อการศึกษาเฉพาะทางตามที่ผู้เรียนหรือเด็กเป็น ผู้ร่วมกันออกแบบในสิ่งที่ตนอยากจะเรียนอยากจะรู้ โดยมีนัยส�ำคัญ เพื่อผู้เรียนสามารถค้นพบศักยภาพตัวเอง หรือในสิ่งที่ตนชอบ ร่วมกัน สร้างภาพอนาคตส�ำหรับผู้เรียน และนั่นคือเยาวชนลูกหลาน ที่เราเพียร พยายามบอก ลูก คือ อนาคตชาติผู้ที่จะต้องออกไปแก้ปัญหาหลากหลาย สถานการณ์ เอาตัวรอดในรูปแบบชีวิตที่มีความท้าทายท้ายที่สุด เมื่อตนเอง และครอบครัวอยู่รอดก็สามารถน�ำพาประเทศ ให้รอดได้เช่นกัน ส�ำหรับผู้เขียนในฐานะ ผู้น�ำในองค์การ ก็จะท�ำหน้าที่ เป็นผู้สังเกตความเปลี่ยนแปลงอย่างมีเหตุมีผล คอยที่จะเฝ้าดูสัมฤทธิ์ ผล ทางการศึกษา น�ำไปทบทวน และแก้ไข น�ำเข้ามาใช้ อีกครั้ง และใน ทุกขั้นตอนมีการเก็บข้อมูล บันทึก ร่วมกับการท�ำงานเป็นทีม สร้างความ เข้มแข็งในองค์กร ตลอดจนฝึกฝนกระบวนการ จนเกิดเป็นตัวตน และ วัฒนธรรมองค์กร สร้างแบรนด์ที่ชัดเจนต่อไป กลับมาที่กีฬาสีของโรงเรียนเกตุชาติศึกษาที่แบ่งการแข่งขัน ออกเป็น 2 รูปแบบกิจกรรม โดย รูปแบบที่ 1 เป็นการแข่งขันกีฬาสากล อธิบายความว่า คือ กีฬาประเภทลู่/ลาน วิ่งระยะทางสั้น กลาง ยาว ส่วน รูปแบบที่ 2 คือ กีฬาดีเอ็นเอ นิยามว่าเป็นกีฬาพื้นบ้าน พื้นฐานสังคม การละเล่นในแต่ละพื้นที่ ที่มีความแตกต่างกันออกไปในแต่ละผมค่ะ อาจ จะเหมือนกันโดยหลักการ หากแตกต่างกัน ก็ตรงที่กติกา ตามที่ตกลง ที่ วางกันไว้ ตามแต่ละพื้นที่ แล้วมีข้อตกลงนั้นไว้สืบทอดกันมายาวนาน จน นิยามเอาว่าอยู่ใน สายเลือด รูปแบบที่ถ่ายทอดถึงกันคล้ายกับดีเอ็นเอ ส�ำหรับกีฬาหรือกิจกรรมการละเล่นตามพื้นบ้าน เกมส์ต่างๆ ของท้องถิ่นที่สืบทอดกันมานาน ทางพันธุกิจกรรม ที่ใช้เล่นกันยามว่าง เพื่อส่งเสริมสุขภาพ สร้างจินตนาการ อารมณ์ ที่ส�ำคัญก่อให้เกิด การแลก เปลี่ยนเรียนรู้นิสัยใจคอ การอยู่ร่วมกันในชุมชน สังคม สร้างความเข้ม แข็งให้องค์กร ชุมชน ให้อยู่ด้านบนความไม่เหมือนที่แตกต่าง ส่วนหนึ่งที่ส�ำคัญของกีฬาดีเอ็นเอ คือการได้สื่อสาร ก่อเกิด ความใกล้ชิด พูดจาพาที มีความเป็น พรรคพวกวางตนถ้อยทีถ้อยอาศัย สร้างความสามัคคี ในหมู่คณะ ลดปัญหาความขัดแย้งในระดับพื้นฐาน ได้อย่างแนบเนียน ซึ่งมองได้ว่าเป็นกุศโลบายวิถี ในการสร้างรากฐาน สังคมให้เกิดความเข้มแข็ง ยังผลต่อ สุขภาพจิตสุขภาพกาย สืบทอด ภูมิปัญญา จดจ�ำเรื่องราว หยั่งลึกถึงรากฐานใต้ส�ำนึกรักบ้านเกิดของผู้คน รุ่นสู่รุ่น ยุคต่อยุค ซึ่งเป็นสิ่งส�ำคัญน�ำไปสู่การพัฒนาบ้านเมืองของตนเอง ในอนาคต อนาคตที่เราท่าน ทั้งหลาย ต่างวาดหวังอยากเหลือเกินว่า อย่า ได้มีอีกเลย...ปฎิวัติ
FREE COPY
เดือนกรกฎาคม 2560
7
เชฟรอนจับมือพันธมิตร
เสริมศักยภาพท่องเทีย ่ วชุมชนสุราษฎร์ฯ
เปิดเวทีเสวนาแผนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวโดยชุมชน สู่การพัฒนาอย่างยัง่ ยืน เชฟรอน ร่วมกับ สถาบันคีนันแห่งเอเชีย และพันธมิตร ประกอบด้วยส�ำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬา จังหวัดสุราษฎร์ธานี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี และเครือข่าย ท่องเที่ยวโดยชุมชนจังหวัดสุราษฎร์ธานี จัดเวทีเสวนาประชาพิจารณ์ แผนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวโดยชุมชนของจังหวัดสุราษฎร์ธานี (Surat Thani Community-Based Tourism Forum 2017) โดย เปิดรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานภาครัฐ นักวิชาการ นักธุรกิจ และเอกชน รวมถึง 21 กลุ่มท่องเที่ยวโดยชุมชน เพื่อบูรณาการความ ร่วมมือ สู่การผลักดันและพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชนของจังหวัด สุราษฎร์ธานีให้มีศักยภาพและเป็นที่รู้จักในระดับสากล โดยมีนายอวยชัย อินทร์นาค ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานเปิดงาน การจัดงานเสวนาประชาพิจารณ์ในครั้งนี้ เป็นเวทีให้เครือข่าย ท่องเที่ยวโดยชุมชนจังหวัดสุราษฎร์ธานี และส�ำนักงานการท่องเที่ยวและ กีฬา จังหวัดสุราษฎร์ธานี น�ำเสนอร่างแผนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวโดย ชุมชนจังหวัดสุราษฎร์ธานี ต่อหน่วยงานภาครัฐ เอกชน นักวิชาการ และ ภาคประชาชนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง และรับฟังความคิดเห็นจากภาคส่วน ต่างๆ เพื่อรวบรวมจัดท�ำแผนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวโดยชุมชนของ จังหวัดสุราษฎร์ธานีฉบับสมบูรณ์ ที่เปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม อย่างแท้จริงต่อไป และภายในงานยังมีการน�ำเสนอผลการด�ำเนินงาน โครงการ “พัฒนาการท่องเที่ยวยั่งยืนในชุมชนชายฝั่ง สุราษฎร์ธานี” โดย การสนับสนุนของบริษัท เชฟรอนประเทศไทยส�ำรวจและผลิต จ�ำกัด ซึ่ง ด�ำเนินการพัฒนาศักยภาพในการจัดการท่องเที่ยวให้กับชุมชนชายฝั่ง สุราษฎร์ธานี 10 แห่ง มาตั้งแต่ปี 2558 เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของ สมาชิกในชุมชนอย่างยั่งยืน
นางหทัยรัตน์ อติชาติ ผู้จัดการฝ่ายนโยบายด้านรัฐกิจและ กิจการสัมพันธ์ บริษัท เชฟรอนประเทศไทยส�ำรวจและผลิต จ�ำกัด กล่าวว่า “เชฟรอนประเทศไทย ได้ร่วมกับพันธมิตรด�ำเนินโครงการ พัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนในจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อพัฒนาทักษะ ในการบริหารจัดการท่องเที่ยวให้แก่สมาชิกชุมชนชายฝั่งสุราษฎร์ธานี อาทิ ความรู้ด้านการตลาด การตลาดออนไลน์ การบริหารราคา และการ บริหารธุรกิจ เพื่อสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจตลอดจนเสริมศักยภาพของ ชุมชนให้สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน โดยได้ด�ำเนินการไปแล้ว 10 ชุมชน ได้แก่ กลุ่มท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ชุมชนคลองน้อย กลุ่มท่องเที่ยว เชิงอนุรักษ์บางใบไม้ กลุ่มชุมชนลีเล็ดน�ำเที่ยวเพื่อการอนุรักษ์ กลุ่มท่องเที่ยว ชุมชนท่าฉาง กลุ่มท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์บ้านพุมเรียง กลุ่มท่องเที่ยวชุมชน เลม็ด กลุ่มท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ชุมชนบ้านนางก�ำ กลุ่มท่องเที่ยวเชิง ศิลปวัฒนธรรมอ�ำเภอไชยา กลุ่มท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์บึงขุนทะเล และ
กลุ่มท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์วิถีชีวิตบ้านบางโพธิ์ โดยตลอดสองปีที่ผ่านมา โครงการได้จัดกิจกรรมฝึกอบรม เวิร์คช้อป ศึกษาดูงาน รวมแล้ว 34 ครั้ง มีสมาชิกกลุ่มท่องเที่ยวชุมชนเข้าร่วมแล้ว 616 คน มีผู้ได้รับประโยชน์ กว่า 3,000 คน มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นร้อยละ 75 และเป็นส่วนหนึ่งในการ สร้างงานสร้างรายได้ให้ชุมชนเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 70” “ภายหลังจากการจัดเวที เราเชื่อว่าโครงการนี้จะได้รับการ ขยายผลสู่ชุมชนที่เหลือในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ด้วยความร่วมมือระหว่าง ชุมชนเองแบบพี่ช่วยน้อง และจากความพันธมิตรภาคส่วนต่างๆ ในสังคม ตามยุทธศาสตร์ที่เครือข่ายระดับจังหวัดได้ให้แนวทางไว้ เพื่อเสริมศักยภาพ การจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชนในจังหวัดสุราษฎร์ธานีอย่างเป็นรูปธรรม และยั่งยืนต่อไป” นางหทัยรัตน์ ได้กล่าวทิ้งท้ายไว้
8
FREE COPY
เดือนกรกฎาคม 2560
ไม่นานมานี้ มีข่าวสะเทือนวงการกีฬาบ้านเรานครศรีธรรมราช ไฮไลท์ของเรื่องคือ กรณีเบี้ยวเงินอัดฉีดนักกีฬาตัวแทนจังหวัดที่ออก ไปสร้างชื่อเสียงคว้าเหรียญรางวัลกลับมา ข้อเท็จจริงที่ปรากฏในภายหลังฟังได้ว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้น มีทั้ง ปัญหาเรื่องงบประมาณการสนับสนุนส่งเสริมและการเข้าร่วมการแข่งขัน กีฬาของจังหวัด ตั้งแต่การเก็บตัวฝึกซ้อมเรื่อยไปจนถึงเรื่องเงินอัดฉีด หลังจบเกมส์การแข่งขัน แม้ว่าท้ายที่สุดผลงานของทีมจังหวัดนครศรี ธรรมราช สามารถรั้งอันดับ 7 จากการแข่งขันทั่วประเทศ ซึ่งสะท้อนให้ เห็นว่า นักกีฬาของเรามีศักยภาพมากขนาดไหน เป็นแต่เพียงขาดการ สนับสนุนส่งเสริมอย่างจริงจังจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและการมีส่วนร่วม จากหลายฝ่าย ก่อนลามไปถึงประเด็นค้างคาใจซึ่งต้องทวงถามคือเรื่อง เงินอัดฉีดทีว่ า่ กันว่าสมาคมกีฬาจังหวัดนครศรีธรรมราชเคยตกปากรับค�ำ กันไว้ ทั้งในรายการแข่งขัน ชุมพร-ระนอง และสงขลาเกมส์ ที่เพิ่ง ปิดฉากไป รวมทั้งการสาวไส้เน่าๆ ประจานแวดวงกีฬาบ้านเราผ่านโลก ออนไลน์ โซเชี่ยล มีเดีย ให้โลกได้รับรู้
เรื่องจากปก
ตรวจแถว...
วงการกีฬาเมืองนคร!
๐ การเมืองเรื่องกีฬา : EASY COME EASY GO มีข้อเท็จจริงประการหนึ่งว่า นครศรีธรรมราชบ้านเรา ไม่ได้ ด้อยกว่าหรือน้อยหน้าจังหวัดอื่นใดในเรื่องของศักยภาพด้านการกีฬา และนครศรีธรรมราชของเรายังมีโรงเรียนกีฬาทุ่งสงที่เป็นเสมือนอคาเดมี ด้านการกีฬาที่เป็นรากฐานส�ำคัญรองรับอยู่อีกทางหนึ่งด้วย อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่า เงื่อนไขประการส�ำคัญที่เป็น ข้อเท็จจริงของวงการกีฬาบ้านเรา หรือรวมไปถึงวงการกีฬาของประเทศ ไทยเรา นั่นก็คือ การเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องของการเมือง กลายเป็น การเมืองเรื่องกีฬา ที่แต่ละยุคแต่ละสมัยย่อมแตกต่างหลากหลายออกไป เข้าท�ำนองการเมืองเรื่องกีฬา... ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป
และกรณีมโหรีปี่กลองที่ดังขึ้นในแวดวงกีฬาเมืองนครในห้วง เวลาที่ผ่านมาสดๆ ร้อนๆ ก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นเดียวกันว่า ไม่มีการเมืองมา เกี่ยวข้อง เพราะสมาคมกีฬาจังหวัดนครศรีธรรมราชนั้น มีนายมาโนช เสนพงศ์ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช รั้งเก้าอี้ นายกสมาคมมาตั้งแต่ปี 2558 จนถึงปัจจุบัน และเป็นนายมาโนช นั่นเอง ที่ตามกระแสข่าวระบุว่า เคยลั่นวาจาจะให้เงินอัดฉีดทัพนักกีฬา หากชนะ ในการแข่งขันสงขลาเกมส์ เป็นจ�ำนวนเม็ดเงินทั้งสิ้น 1.5 ล้านบาท แต่เมื่อการแข่งขันสิ้นสุดลง เรื่องเงินอัดฉีดที่เคยตกปากรับค�ำกันไว้ ก็เงียบ หายเข้ากลีบเมฆไปเช่นเดียวกัน... ๐ สมาคมกีฬาจังหวัดนครศรีธรรมราช : บทบาทที่ผิดฝา ผิดตัว... หากพูดถึงสมาคมกีฬาจังหวัด นับว่ามีหน้าที่และบทบาทส�ำคัญ ไม่แพ้ชมรมกีฬาต่างๆ ในการช่วยผลักดัน สนับสนุนและส่งเสริมนักกีฬา ที่อยู่ในชมรมกีฬาต่างๆ ในจังหวัดให้สามารถไปแสดงความสามารถและ ศักยภาพทั้งเวทีระดับจังหวัด และระดับประเทศ ทั้งยังต้องท�ำงานประสาน เชื่อมโยงกับการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่อง เชื่อมโยงเพื่อการพัฒนาวงการกีฬาไทย และเมื่อทัพนักกีฬาได้รับชัยชนะมา สมาคมกีฬาจังหวัด จึง เป็นคล้ายเจ้าของหรือหุ้นส่วนความส�ำเร็จเหล่านั้นด้วย และหากสมาคม กีฬาจังหวัดนั้นๆ ถูกใช้ไปเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง หรือเป็นกลไก หนึ่งทางการเมืองด้วยแล้ว เงินอัดฉีดหรือรางวัลพิเศษให้กับทัพนักกีฬา ภายใต้เหตุผลเพื่อเป็นก�ำลังใจในการฝึกซ้อมต่อไปจึงไม่ใช่เรื่องแปลก และก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเช่นเดียวกันกับเสียงเรียกร้องให้นาย มาโนช ต้องลุกจากเก้าอี้ตัวนี้ไป เพราะเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า ปัจจุบันขณะ นายมาโนช เสนพงศ์ ไม่มีศักยภาพเพียงพอแล้วส�ำหรับเก้าอี้ตัวนี้ และอาจ หมายรวมไปถึงช่วงเวลาของเปลี่ยนถ่ายย้ายโอนอ�ำนาจกันอีกครั้งของ สมาคมกีฬาจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งวงจรเช่นนี้จะยังคงด�ำรงอยู่สืบไป เป็นปกติวิถีตราบเท่าที่สมาคมกีฬาจังหวัดนครศรีธรรมราชยังแยกกันไม่ออก กับการเมืองเรื่องกีฬา เป็นเรื่องกีฬาเพื่อการเมือง
อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อเท็จจริงอีกประการหนึ่งที่ว่าสมาคมกีฬา จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งนายมาโนชกุมบังเหียนอยู่นั้น สามารถผลักดัน กลไกและเครื่องมือที่มีเพื่อประโยชน์ทางการกีฬาและการเมืองได้ไม่น้อย เช่นกัน โดยเฉพาะภาพการสนับสนุนกีฬาฟุตบอลในเครือข่ายประชาธิปัตย์ สร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นการจัดการแข่งขัน เทพไท คัพ ที่จัดต่อเนื่องมา นานหลายปี รวมถึงรายการแข่งขันฟุตบอล-ฟุตซอล อื่นๆ ที่จัดขึ้น ณ “DP stadium” สนามฟุตซอล บนถนนประตูลอดของเทศบาลนคร นครศรีธรรมราช ตีกินเนียนๆ ทางการเมืองได้ตลอดมา
“DP stadium”
๐ ทีมฟุตบอลนครศรีธรรมราช : หนึ่งฐานที่มั่นส�ำคัญ “บุณยเกียรติ” นอกจากสมาคมกีฬาจังหวัด ทีมกีฬาฟุตบอลจังหวัดนครศรี ธรรมราช ยังเป็นอีกหนึ่งกลไกส�ำคัญที่มีบทบาทในแวดวงการเมืองเรื่องกีฬา ในระดับจังหวัด เหตุผลเพราะกีฬาฟุตบอล คือกีฬายอดนิยมตลอดกาล ของชาวนครนั่นเอง ภาพสะท้อนจากทีมฟุตบอล “นครศรี เฮอริเทจ” ที่เมื่อครั้ง
เริ่มต้นเคยเป็นถึงทีมฟุตบอลประจ�ำจังหวัดนครศรีธรรมราช ภายใต้ชื่อ ทีมฟุตบอล “นครศรีธรรมราช เอฟซี” ตั้งแต่ปี 2550 ภายใต้การขับเคลื่อนอย่างหนักของนายวิฑูรย์ เดชเดโช อดีต นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช (อบจ.) ซึ่งได้เริ่มส่งทีม เข้าแข่งขันในปี 2551 และให้การสนับสนุนส่งเสริมเป็นอย่างดี ท�ำให้ทีม นครศรีธรรมราช เอฟซี” สมัยนั้นติดอันดับ 1 ใน 4 ของภาคใต้ แต่เมื่อ สิ้นบุญของนายวิฑูรย์ เดชเดโช ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อทีมฟุตบอลประจ�ำ จังหวัด เกิดการสะดุดในเรื่องเงินงบประมาณและการสนับสนุนตามมา ท�ำให้ในปี 2555 ทางทีม “นครศรีธรรมราช เอฟซี” ได้ท�ำหนังสือไปยัง สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในเรื่องการขอพักทีมเข้าร่วมการแข่ง ในปี 2556 แต่ในปีเดียวกันนั้นเอง ทางสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้ส่งหนังสือมายังจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเวลานั้นมีนายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ เป็นผู้ว่าฯ โดยท�ำหนังสือขอหารือให้ส่งทีมฟุตบอลจาก จังหวัดนครศรีธรรมราชเข้าร่วมการแข่งขัน ผู้ว่าราชการจังหวัดจึงเชิญ นายกฯ อบจ., นายกสมาคมกีฬาจังหวัด, ชมรมฟุตบอลนครศรีธรรมราช และผู้เกี่ยวข้องอื่นๆ เข้าประชุมหารือร่วมกัน โดยที่ประชุมมีมติว่า ให้ จังหวัดนครศรีธรรมราช ส่งทีมฟุตบอลเข้าแข่งขันภายใต้ชื่อใหม่ “นครศรี เฮอริเทจ” พร้อมกันนั้นที่ประชุมยังมีมติเป็นลายลักษณ์อักษรไว้ชัดเจนว่า ผู้ด�ำรงต�ำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช (อบจ.) จะต้องบริหารทีมฟุตบอล “นครศรี เฮอริเทจ” ให้เป็นมรดกของลูก หลานชาวนครศรีธรรมราชให้ได้ >> อ่านต่อ น.9
FREE COPY
เดือนกรกฎาคม 2560
9
เรื่องจากปก ... ต่อจาก น.8 แต่เมื่อมีการเปลี่ยนนายกองค์บริหารส่วนจังหวัดจากนายพิชัย บุณยเกียรติ มาเป็นนายมาโนช เสนพงศ์ การณ์กลับปรากฏว่า นาย มาโนช มีความประสงค์ที่จะไม่บริหารทีมฟุตบอล “นครศรี เฮอริเทจ” จนท�ำให้ทีมฟุตบอลที่ว่ากันกว่าเป็นทีมตัวแทนของจังหวัด ต้องตกชั้น ดิวิชั่น 2 ไปแข่งในดิวิชั่น 3 ... “นครศรีธรรมราช ยูนิตี้”
ขณะเดียวกัน หลังพ้นต�ำแหน่ง นายกฯ อบจ. นายพิชัย บุณยเกียรติ รู้ได้ในทันทีว่าหากหยุดหรือยุติการลงสนาม ทีมฟุตบอล “นครศรี เฮอริเทจ” มีอันต้องล้มหายตายจากไปสารบบอย่างแน่นอน จึง ต้องไปจดแจ้งเป็นนิติบุคคลเป็นห้างหุ้นส่วนนครศรี เฮอริเทจ ขึ้นมา เพื่อ ให้ถูกต้องตามระเบียบของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย พร้อมกับได้ ไปเช่าซื้อสิทธิ์ทีมมาจาก ม.ราชพฤษ์ ก่อนเปลี่ยนชื่อมาทีมเป็น “นครศรี ธรรมราช ยูนิตี้” ในทุกวันนี้ ภายใต้การดูแลของนายพิชัย และครอบครัว เพื่อลงสนามโม่แข้ง เป็นทีมฟุตบอลตัวแทนชาวนครศรีธรรมราชสืบต่อไป
กับชื่อทีม “นครศรีธรรมราช ยูนิตี้” ท่ามกลางม่านหมอกและไออุ่น การเมืองเรื่องกีฬา พร้อมมีส่วนแยกที่ชื่อ “เมืองคอน ยูไนเต็ด” มาเป็น ทางเลือกใหม่ๆ ให้คอบอลได้มีส่วนร่วม เรียนรู้ และติดตาม ๐ หน่วยงานภาครัฐ องค์กรปกครองท้องถิ่น : บทบาทที่ ขาดหายและโรคร้ายกับไข้รุม หากไม่นับโรงเรียนกีฬาทุ่งสง การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่เป็นหน่วยงานรัฐ ซึ่งด�ำรง บทบาทหน้าที่โดยตรงกับการพัฒนา ยกระดับวงการกีฬาของไทยให้ได้ ตามมาตรฐานสากลนิยมแล้ว หน่วยงานองค์กรปกครองท้องถิ่น ทั้ง องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) และเทศบาลนครนครศรีธรรมราช คือกลไกและเครื่องที่ส�ำคัญยิ่งในพื้นที่ซึ่งจะช่วยสนับสนุนส่งเสริมการ พัฒนาและยกระดับวงการกีฬาของจังหวัดนครศรีธรรมราช แต่ทว่าที่ผ่านมา บทบาทที่ควรจะเป็น ควรจะท�ำ กลับกลายเป็นคนละเรื่อง เหมือนหนัง คนละม้วนก็ว่าได้ องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) หลังยุค “บุณยเกียรติ” ต่อเนื่อง ยุค “เสนพงศ์” ก่อนโดนพิษใบแดง และปัจจุบันที่อยู่ภายใต้ สถานการณ์พิเศษในยุค คสช. และรัฐบาลทหาร ซึ่งจนถึงวันนี้ยังไร้ ซึ่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตัวจริงเสียงจริง เพราะยังไม่มีการ เลือกตั้ง จึงมีเพียงปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด นั่งคร่อมเก้าอี้ รักษาการนายกฯ อบจ. สภาพการณ์ที่เป็นอยู่จริง จึงอิหลักอิเหลื่อ เต็มทน การเมืองเรื่องกีฬา ในบริบทขององค์การบริหารส่วนจังหวัด นครศรีธรรมราช จึงแทบหาบทไม่เจอ เต็มไปด้วยโจทย์และประเด็นปัญหา ต่างๆ นานา ทิศทางและนโยบายเรื่องการกีฬาจึงเป็นได้เพียงแค่งานประจ�ำ พื้นๆ ของหน่วยงาน
๐ “พังพระกาฬ ยูไนเต็ด” ในอีกด้านหนึ่ง กลุ่มศิษย์เก่าโรงเรียนเบญจมราชูทิศ นครศรี ธรรมราช ที่มีใจรักในกีฬาฟุตบอลทั้งพร้อมด้วยปัจจัยสนับสนุน บวกกับ เป้าหมายเพื่อร่วมด้วยช่วยกันในการสร้างทีมฟุตบอลของจังหวัดนครศรี ธรรมราช ให้ปลอดจากกลิ่นอายทางการเมือง เป็นทีมกีฬาเพื่อการกีฬา ที่แท้จริง ไม่มีประโยชน์อื่นใดทางการเมืองแอบแฝง บุคคลกลุ่มนี้ได้ บุกเบิกสร้างทีมพังพระกาฬ “เมืองคอน ยูไนเต็ด” ขึ้นมา และเริ่มต้น ก้าวเดินไปในเส้นทางสายลูกหนัง เป็นทางเลือกใหม่ให้กับบรรดานักฟุตบอล สัญชาติเมืองนครและคนรักกีฬาฟุตบอลนครศรีธรรมราช ที่เบื่อหน่าย การเมืองเรื่องกีฬาฟุตบอลนั่นเอง... โดยสรุป วงการฟุตบอลเมืองนครวันนี้ ผ่านพ้นยุคต�ำนาน ขณะที่เทศบาลนครนครศรีธรรมราช ที่มี “นายเชาวน์วัศ “นครศรีธรรมราช เอฟซี” สู่ยุค “นครศรีฯ เฮอริเทจ” ก่อนจะมาถึงยุคนี้ เสนพงศ์” นั่งแป้นบริหารในต�ำแหน่งนายกเทศมนตรีนครศรีธรรมราช นอกจากรายการแข่งขันกีฬาเยาวชนเทศบาลฯ ที่จัดแบบเสียไม่ได้หรือถูก บังคับให้จัดแล้ว ผลงานในด้านการสนับสนุนส่งเสริมการกีฬาในพื้นที่ไม่มี ความโดดเด่นใดๆ ให้เห็น หน�ำซ�้ำยังต้องเผชิญชะตากรรมไม่หยุดหย่อน ศึกรอบด้านรุมเร้า เรื่องฉาวคาวทุจริตโผล่ให้เห็นอยู่เป็นเนืองๆ หนึ่งในนั้น คือเรื่องสนามกีฬากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่อยู่ในการดูแลของ เทศบาลนครฯ กรณีส�ำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ชี้มูลความ ไม่ชอบมาพากล เข้าข่ายทุจริตฉ้อราษฎร์บังหลวงในโครงการปรับปรุง สนามกีฬาฟุตบอล ลู่วิ่ง-ลานกีฬา และอุปกรณ์แข่งขันประจ�ำสนาม งบประมาณสูงลิ่วถึงกว่า 13 ล้านบาท กลายเป็นตราบาปของตระกูล “เสนพงศ์” ซึ่งประทับลงไปในแวดวงการกีฬาของจังหวัดนครศรีธรรมราช
ติดตามรับชม... รายการ
ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แม้ว่าโดยขั้นตอนทางกฎหมาย เรื่องดั่งว่าจะยังเป็นเพียงแค่ การเริ่มต้นของกระบวนการยุติธรรมก็ตามที และนี่ก็ถือเป็นอีกหนึ่งลีลาของการเมืองเรื่องกีฬา เช่นเดียวกัน... ๐ กีฬาการเมือง : เรื่องของพรรคสีฟ้า
จากปฐมเหตุจนถึงบทสรุป วงการกีฬาจังหวัดนครศรี ธรรมราช เป็นคล้ายดั่งการคัดเลือกตัวนักกีฬาสีของพรรคสีฟ้า บรรดา นักกีฬาทางการเมืองทั้งหลายต้องฟิตซ้อมอย่างต่อเนื่อง แทคติค ความ เชี่ยวชาญ ความสามารถเฉพาะตัว และแรงอัดฉีด รวมไปถึงบรรดา กองเชียร์ ล้วนต้องการมีส่วนร่วมกับเกมการคัดเลือก เพราะเดิมพัน การได้ลงสนามในสีเสื้อพรรคสีฟ้า เป็น เดิมพันที่สูงยิ่ง เพราะหากผ่านการคัดตัว ได้กลับมาลงสนามในนามนักกีฬา ตัวแทนพรรคสีฟ้า จังหวัดนครศรีธรรมราชแล้วนั้น นักกีฬาการเมืองเหล่านั้น ล้วนเชื่อมั่นชนิดฝังหัวว่า ย่อมต้อง ได้รับชัยชนะที่สวยสดงดงามอย่างแน่นอน...
10
FREE COPY
เดือนกรกฎาคม 2560
ไทยก�ำลังเผชิญความเสีย ่ ง
นโยบายพลังงานยังไม่ชัด ในงานเสวนา "หลุมด�ำ. พลังงานไทย" จัดโดยคณะนักศึกษา หลักสูตรด้านวิทยาการพลังงานส�ำหรับนักบริหารรุ่นใหม่รุ่นที่ 4 (วพม.4) สถาบันวิทยาการพลังงาน เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยเชิญ วิทยากรที่อยู่ในแวดวงพลังงานทั้งภาครัฐและเอกชนมาแลกเปลี่ยนมุมมอง ถึงทิศทางการบริหารจัดการด้านพลังงานของประเทศ ซึ่งต่างเห็นไปใน ทิศทางเดียวกันว่า ยังมีอุปสรรคหรือความไม่ชัดเจนด้านนโยบาย ที่จะ ส่งผลต่อความมั่นคงพลังงานในอนาคตได้
o
เร่งให้เปิดสัมปทานรอบ 21 โดยนายพรายพล คุ้มทรัพย์ นักวิชาการด้านเศรษฐกิจ สะท้อน ให้เห็นว่า ภาครัฐควรเร่งรัดการเปิดประมูลสัมปทานรอบ 21 เพราะหาก ล่าช้าจะต้องน�ำเข้าก๊าซแอลเอ็นจี ซึ่งมีต้นทุนราคาสูงกว่าก๊าซในอ่าวไทย ปัจจุบันไทยต้องน�ำเข้าพลังงาน 60% อาจเพิ่มเป็น 70-80% ในอนาคต ส่งผลให้เงินตราไหลออกนอกประเทศ ขณะที่การเปิดประมูลแหล่งสัมปทานที่จะหมดอายุในปี 25652566 ของแหล่งบงกชและเอราวัณ จะต้องให้เกิดความต่อเนื่อง หากได้ รายเดิมเป็นผู้ชนะการประมูล จะสามารถกลับมาผลิตได้ทันที ต้นทุนต�่ำ โดยระบบที่น�ำมาใช้ภาครัฐต้องได้ส่วนแบ่งไม่น้อยกว่าปัจจุบัน ซึ่งมองว่า ระบบสัมปทานเหมาะกับแหล่งที่มีความเสี่ยงสูง อย่างกรณีของไทย รัฐ ไม่ควรน�ำเงินมาลงทุนเสี่ยงด้วยระบบแบ่งปันผลผลิตหรือพีเอสซีหรือจ้าง ผลิต (เอสซี) นอกจากนี้ ใน 10-20 ปีข้างหน้า ก๊าซในอ่าวไทยจะเหลือน้อย ลง ต้องน�ำเข้าแอลเอ็นจีเข้ามาทดแทนในปริมาณที่มากขึ้น จึงจ�ำเป็นต้อง
มีเชื้อเพลิงถ่านหินเข้ามาเป็นทางเลือก รวมถึงพลังงานหมุนเวียนที่ปัจจุบันมีราคา ต้นทุนลดลงมามาก และสามารถแข่งขัน กับเชื้อเพลิงฟอสซิลได้
o
หนุนกระจายเชื้อเพลิง นายคุรุจิต นาครทรรพ ประธาน กรรมาธิการขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศ ด้านพลังงาน สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.) ชี้ให้เห็นว่า สิ่ง ที่ภาครัฐควรเร่งด�ำเนินงานคือ การจัดหาปิโตรเลียม โดยเฉพาะการเปิด สัมปทานรอบ 21 ที่ล่าช้ากว่าแผน 5 ปีแล้ว สาเหตุมาจากความแตกแยก ทางความคิด การจัดหาไฟฟ้า ควรมีการกระจายเชื้อเพลิงถ่านหินใน สัดส่วนที่เพิ่มขึ้นหรืออยู่ที่ 20-25% นอกจากนี้ ควรส่งเสริมระบบขนส่งมวลชนให้ครบวงจร เพิ่ม มาตรการทางการคลัง โดยการปรับขึ้นภาษีน�้ำมัน เพื่อใช้รถยนต์ส่วน บุคคลลดลง และความร่วมมือกับต่างประเทศ โดยกระจายความเสี่ยงใน การรับซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศ ไม่ใช่เพียง สปป.ลาวเท่านั้น
o
หวั่นการผลิตก๊าซฯหาย ขณะที่นายศุภลักษณ์ พาฬอนุรักษ์ ผู้อ�ำนวยการกองแผนงาน เชื้อเพลิงธรรมชาติ กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ (ชธ.) กล่าวว่า กรมอยู่ ระหว่างเร่งกฎหมายรอง เพื่อรองรับการเปิดระบบแบ่งปันผลผลิต (พีเอส ซี) และระบบจ้างผลิต (เอสซี) จากนั้นจะน�ำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) มี ผลบังคับใช้ต่อไป
สนพ. ขับเคลื่อนยานยนต์ไฟฟ้า
เร่งขยายสถานีอัดประจุไฟฟ้าให้ครอบคลุมทั่วประเทศ สนพ. เดินหน้าขับเคลื่อนยานยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง ตาม แนวนโยบาย Energy 4.0 จัดงานสัมมนาแนะน�ำโครงการสนับสนุน การลงทุนสถานีอัดประจุไฟฟ้า (Charging Station) เพื่อให้ข้อมูล รายละเอียดโครงการฯ และการเปิดรับสมัครเข้าร่วมโครงการฯใน รอบที่ 4 ณ โรงแรมภูเก็ตเมอร์ลิน จ.ภูเก็ต โดยมีหน่วยงานทั้งส่วน ราชการและภาคเอกชนสนใจ เข้าร่วมงานเป็นจ�ำนวนมาก ดร.ทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อ�ำนวยการส�ำนักงานนโยบายและ แผนพลังงาน และโฆษกกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า “กระทรวง พลังงานให้ความส�ำคัญ และสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าตามกรอบ แผนบูรณาการพลังงานของประเทศ ในส่วนของการส่งเสริมการใช้ยาน ยนต์ไฟฟ้าภายในประเทศ ซึ่งได้ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 1.2 ล้านคัน ทั้งแบบ ยานยนต์ไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด (Plug-in Hybrid Electric Vehicle) และ ยานยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (Battery Electric Vehicle) ภายในปี พ.ศ. 2579 โดยมีแผนการส่งเสริมการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้า และการจัดตั้ง สถานีอัดประจุไฟฟ้าส�ำหรับหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ และภาค เอกชน เพื่อเป็นสถานีน�ำร่องส�ำหรับรองรับยานยนต์ไฟฟ้าที่จะเพิ่มมาก ขึ้นในอนาคต โดยมีเป้าหมายอย่างน้อย 150 หัวจ่าย” ดร.ยศพงษ์ ลออนวล นายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า “สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทยมีเป้าหมายในการส่งเสริม ให้เกิดการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย โดยได้รับมอบหมายจาก กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ส�ำนักงานนโยบายและแผน พลังงาน (สนพ.) ให้ด�ำเนินโครงการสนับสนุนการลงทุนสถานีอัดประจุ ไฟฟ้า (Charging Station) ซึ่งโครงการฯ ได้ด�ำเนินการเปิดรับสมัคร ผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการฯไปแล้ว 3 รอบ โดยกระจายตามพื้นที่ต่างๆ ในเขตกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ได้มีการคัดเลือกหน่วยงานที่จะให้เงิน สนับสนุนจากทั้งภาครัฐและเอกชน ในการติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้า ไปแล้วกว่า 70 หัวจ่าย และจะเปิดรับสมัครรอบที่ 4 ในวันที่ 17 - 31 กรกฎาคม 2560 ซึ่งการจัดสัมมนาที่จังหวัดภูเก็ตในครั้งนี้ เพื่อแนะน�ำ โครงการฯ ให้แก่หน่วยงาน และสถานประกอบการในจังหวัดภูเก็ต ที่สนใจเข้าร่วมโครงการฯโดยมุ่งหวังให้เกิดสถานีอัดประจุไฟฟ้า ใน จังหวัดภูเก็ต เพื่อรองรับรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต”
ส�ำหรับแหล่งสัมปทานเอราวัณและบงกช ที่จะหมดอายุ สัมปทานในปี 2565-2566 ก�ำลังการผลิตรวม 2.1 พันล้านลูกบาศก์ฟุต ต่อวัน หรือคิดเป็น 70% ของก�ำลังการผลิตก๊าซในประเทศ ซึ่งปกติผู้ ประกอบการจะลงทุนต่อเนื่องเพื่อรักษาระดับการผลิต โดยจะเจาะ 600 หลุมต่อปี ใช้เงินลงทุนนับแสนล้านบาท หากยังไม่มีความแน่นอนของ ระบบ อาจส่งผลให้การตัดสินใจรักษาระดับการผลิตลดลง รวมถึงการ เปิดประมูลชะลอออกไปอาจส่งผลกระทบต่อการผลิตหลังปี 2563 ก�ำลัง การผลิตจะเริ่มลดลง ดังนั้น หากเปิดประมูลได้ในเดือนสิงหาคมหรือกันยายนนี้ได้ คาดว่าในปี 2565 ก�ำลังการผลิตจะเริ่มกลับมา อย่างไรก็ตาม ก�ำลังการ ผลิตก๊าซในอ่าวไทยที่ลดลงจะต้องพึ่งพาการน�ำเข้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอลเอ็นจี) ซึ่งในแผนบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติ จะต้องมีการลงทุน โครงสร้างพื้นฐานคลังแอลเอ็นจีเข้ามารองรับการน�ำเข้าที่จะเพิ่มขึ้น "กรมพยายามเตรียมความพร้อมระบบพีเอสซี แม้ว่าที่ผ่าน มาจะมีการน�ำไปใช้กับแหล่งพัฒนาพื้นที่ร่วมไทย-มาเลเซียหรือเจดีเอ แต่ แหล่งในประเทศยังไม่เคยด�ำเนินการ ซึ่งจะต้องสร้างความสมดุลของ ระบบที่จะน�ำมาใช้ เพื่อสร้างแรงจูงใจในการลงทุน และความเหมาะสม ที่จะดึงผลประโยชน์ให้กับภาครัฐ"
o
ส.อ.ท.กังวลไฟฟ้าไม่พอใช้ ส่วนนายเจน น�ำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศ ไทย (ส.อ.ท.) ในฐานะผู้ใช้พลังงาน ต้องการใช้พลังงานที่ต่อเนื่องและมี เสถียรภาพ มีราคาต้นทุนมีความเหมาะสม โดยมองว่าในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า ความต้องการใช้ไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้น รวมทั้งความต้องการใช้แอลเอ็นจีจะ มากขึ้น ทางเลือกเชื้อเพลิงจะน้อยลง แต่คงไม่ถึงกับไฟฟ้าดับ ดังนั้น จึง ต้องการให้กระจายความเสี่ยงด้านเชื้อเพลิงอย่างถ่านหินเข้ามาช่วยเสริม ได้บ้าง ซึ่งความหลากหลายของเชื้อเพลิงจะช่วยกระจายความเสี่ยง ถัวเฉลี่ย ต้นทุน อย่างไรก็ตาม ส.อ.ท.มองถึงความเสี่ยงด้านไฟฟ้าในอนาคต มา จาก 1. ยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี)ที่จะเข้ามาเร็วกว่าแผน เนื่องจากความได้ เปรียบด้านชิ้นส่วนยานยนต์ 2. รถไฟความเร็วสูง ส่งผลให้ความต้องการ ใช้ไฟฟ้าในอนาคตเพิ่มขึ้น จึงมีความน่าเป็นห่วงการใช้ไฟฟ้าใน 3-5 ปี ข้างหน้าที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งดูว่าส�ำรองไฟฟ้าที่ปัจจุบันมี 20-30% สามารถ พึ่งพาได้จริงหรือไม่ ใน 10-20 ปีข้างหน้า ก๊าซในอ่าวไทยเหลือน้อยลงต้องน�ำเข้าแอล เอ็นจเข้ามามากข้น (ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2560)
ส�ำหรับผู้ที่สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการสนับสนุนการลงทุน สถานีอัดประจุไฟฟ้า (Charging Station) สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย เปิดรับสมัครผู้สนใจยื่นขอรับการสนับสนุนเงินลงทุนช่วยเหลือ ส�ำหรับ หน่วยงานราชการและเอกชน เพื่อติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้า หรือ Charging Station รอบที่ 4 ในวันที่ 17-31 กรกฎาคม 2560 นี้ ผู้สนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร.086- 390- 3339 Line ID : evat.thailand และ www.evat.or.th
FREE COPY
เดือนกรกฎาคม 2560
เปิดโครงการคาราวานท้าเที่ยว สุราษฎร์ ตามรอยพระบาท ร.9 ระหว่างวันที่ 8-10 กรกฎาคม 2560 เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว เชื่อมโยงระหว่างจังหวัดและสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการท่องเที่ยว 2 จังหวัด วันที่ 8 ก.ค.60 ที่บริเวณลานจอดรถหน้าศาลา 100 ปี วัดพระ มหาธาตุ วรมหาวิหาร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช นายสกล จันทรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานพิธีเปิดโครงการ คาราวานท้าเที่ยว สุราษฎร์ ตามรอยพระบาท ร.9 โดยความร่วมมือของ ส�ำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครศรีธรรมราช สมาคมธุรกิจ การท่องเที่ยวจังหวัดนครศรีธรรมราช และ ททท.ส�ำนักงานนครศรีธรรมราช จัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-10 กรกฎาคม 2560 รวม 3 วัน 2 คืน โดยมี วัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชื่อมโยงระหว่างจังหวัดใกล้เคียง และสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการท่องเที่ยวสองจังหวัด อีกทั้งเป็นการ สร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และท่องเที่ยว ชุมชน โดยมีการปล่อยคาราวานรถ 15 คัน รวม 40 คน ออกเดินทางไป ท่องเที่ยวใน จ.สุราษฎร์ธานี เช่น วัดเขาสุวรรณประดิษฐ์ อ.ดอนสัก วัดที่ ในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จทรงยกช่อฟ้า ชมเจดีย์บนยอดเขา สักการะ พระบรมสารีริกธาตุ, ชมพิพิธภัณฑ์ปลาหิน, โรงเรียนฝึกลิงบ้านกระแดะแจะ สักการะพระธาตุศรีสุราษฎร์ ชมหินพัด ที่ อ.คีรีรัฐนิคม , ล่องเรือชมวิถีชีวิต คนในบาง ปากน�้ำตาปี , สินมานะฟาร์ม ลงเรือ ชมฟาร์มหอยนางรม เป็นต้น นายสกล จันทรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า เป็นโอกาสดีที่ภาคการท่องเที่ยวของจังหวัดนครศรีธรรมราช ทั้ง สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดนครศรีธรรมราช ททท. ส�ำนักงาน
11
เปิดโครงการ "คาราวานท้าเที่ยว"
เชื่อมโยงสุราษฎร์ธานี-นครศรีธรรมราช
การท่องเที่ยวและกีฬา และเครือข่าย ท�ำให้การท่องเที่ยวเชื่อมโยงกันของ ทั้งสองจังหวัด ร่วมท�ำกิจกรรมส่งเสริมด้านการตลาด เปิดโอกาสให้ผู้ท�ำ การท่องเที่ยวชุมชน ได้ศึกษาตัวอย่างการบริหารจัดการของชุมชนต้นแบบ ที่มีศักยภาพเรียนรู้ระบบการจัดการที่มีคุณภาพ น�ำความรู้ที่ได้รับจาก โครงการไปเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ ให้ความรู้สมาชิกกลุ่มท่องเที่ยวชุมชน
ที่ตนเองรับผิดชอบ เพื่อน�ำแนวทางในการพัฒนาสินค้าท่องเที่ยวร่วมกัน ต่อไป และในอนาคตจังหวัดนครศรีธรรมราช จะมีถนนที่สวยงามที่สุดเกิด ขึ้น ริมทะเลเชื่อมระหว่าง อ.ขนอม-สิชล โดยรัฐบาลอนุมัติงบประมาณ มาให้แล้วและก�ำลังด�ำเนินการก่อสร้างและจะมีการก่อสร้างเลนจักรยานด้วย
เครือข่ายชาวสวนยางยื่นหนังสือ เรียกร้องรัฐบาลแก้ไขปัญหาราคายาง เครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง จังหวัดนครศรีธรรมราช ยื่นหนังสือเรียกร้องรัฐบาล แก้ไขปัญหาราคายาง ถึงนายกรัฐมนตรี ผ่านผู้ว่า ราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เมือ่ วันที่ 13 กรกฎาคม 2560 เวลา 11.00 น. ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช (หลังใหม่) เครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง จังหวัดนครศรีธรรมราช ประมาณ 60 คน ยื่นหนังสือ เรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาราคายาง ถึงนายก รัฐมนตรี ผ่านท่านผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีนายสกล จันทรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด นครศรีธรรมราช เป็นตัวแทนรับมอบพร้อมมอบหมาย ให้ทางศูนย์ด�ำรงธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราชน�ำไป ด�ำเนินการ และกล่าวกับเครือข่ายสถาบันเกษตรกร ชาวสวนยาง ว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายก รัฐมนตรี เป็นห่วงพี่น้องเกษตรกรชาวสวนยางพารา เป็นอย่างยิ่ง และต้องการแก้ไขปัญหาราคายางพารา
ให้พี่น้องเกษตรกรชาวสวนยางอยู่ดีกินดี มีคุณภาพชีวิต ที่ดีขึ้น ในส่วนของการเรียกเรียกร้องของพี่น้องชาวสวน ยางพาราที่ต้องการให้ทุกหน่วยงานเช่น อปท., อบจ., เทศบาล, อบต. กรมทางหลวง และกรมทางหลวง ชนบท ก�ำหนดสเปคการสร้างและซ่อมถนนลาดยาง ทุกเส้นทาง ให้ผสมยางพารา ร้อยละ 5 กับยางมะตอย เป็นผิวถนนแบบพาราแอสฟัลต์คอนกรีต แทนที่จะ เป็นผิวถนนแบบแอสฟัลต์คอนกรีตที่มีมาตรฐานและ ราคาก�ำหนดไว้แล้ว หน่วยงานที่สร้างหรือซ่อมแซม ถนนลาดยางทุกหน่วยปรับลดระยะทางหรือปริมาณ งานลงให้สอดคล้องกับราคาที่เพิ่มขึ้นตามราคามาตรฐาน ของส�ำนักงบประมาณภายในวงเงินงบประมาณเดิม ทั้งนี้ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2561 เป็นต้นไป ทางจังหวัด จะประสานไปยังองค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้น�ำไปด�ำเนินการต่อไป ได้รับผลกระทบจากราคายางพาราตกต�่ำ จึงยื่นหนังสือ พร้อมเสนอแนวทางมาตรการเพื่อแก้ไขปัญหาราคายาง นายวิสูตร สุชาฎา ประธานเครือข่ายฯ ถึงนายกรัฐมนตรี ผ่านท่านผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรี ได้เร็วขึ้นโดยการน�ำน�้ำยางพาราไปใช้ในประเทศ ด้วย กล่าวว่า ปัจจุบันเกษตรชาวสวนยางพาราในพื้นที่ต่างๆ ธรรมราช เรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาราคายางพารา การท�ำถนนลาดยางแบบพาราแอสฟัลต์คอนกรีต แทนที่จะเป็นผิวถนนแบบแอสฟัลต์คอนกรีต เพื่อให้ ประชาชนผู้ใช้ถนนที่มีคุณภาพที่ดีกว่าเดิมสามารถน�ำ งบประมาณที่ลดลงจากการซ่อมแซมไปใช้ประโยชน์ ในการก่อสร้างสะพานข้ามแยกหรือสร้างถนนใหม่ได้ มากขึ้น เป็นการลดปริมาณยางพาราได้มากและจะส่ง ผลให้ราคายางพาราสูงขึ้นเป็นการช่วยเหลือเกษตรกร ชาวสวนยางอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งให้รัฐบาลท�ำ MOU กับสถาบันเกษตรกร เพื่อรับซื้อยางจากสถาบันเกษตรกร ส่งให้บริษัทผู้ผลิต พาราแอสฟัลต์คอนกรีต โดยรับซื้อ เฉพาะที่ใช้เท่านั้นไม่เก็บสต๊อกแต่อย่างใด ส่วนสถาบัน เกษตรกรเป็นผู้ผลิตยางอยู่แล้ว และไม่เรียกร้องให้ รัฐบาลช่วยเหลือโดยรับซื้อยางในราคาที่สูงกว่าตลาด แต่อย่างใด เพราะเห็นว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ไม่ยั่งยืน และจะก่อให้เกิดปัญหาระยะยาวภายหลังต่อไปอีก อีกทั้งเข้าใจดีว่ารัฐบาลเองก็ไม่อาจรับภาระเรื่อง งบประมาณค่าใช้จ่ายเป็นจ�ำนวนมากได้ เนื่องจากมี ภารกิจอื่นของประเทศที่เร่งด่วนและจ�ำเป็นอีกมากด้วย
12
FREE COPY
เดือนกรกฎาคม 2560
จังหวัดนครศรีธรรมราชประกอบพิธถี วายเทียนพรรษาพระราชทาน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 9 ก.ค.60 จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ประกอบพิธีอัญเชิญ เทียนพรรษาพระราชทาน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร โดยจัด ริ้วขบวนรถบุษบกแห่เทียนพรรษาพระราชทาน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทร เทพยวรางกูร จากถนนราชด�ำเนิน หน้าศาลาประดู่หก ตรงข้ามสนามหน้าเมืองนครศรีธรรมราช และเทียนพรรษาของหน่วยงาน สถานศึกษาต่างๆ ไปยังลานโพธิ์ หน้าองค์พระบรมธาตุเจดีย์ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหาร สถานศึกษา ข้าราชการครู นักเรียน นักศึกษา พุทธศาสนิกชนร่วมในพิธี จากนั้นเวลา 09.00 น. นายดนัย เจียมวิเศษสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัด ปฏิบัติราชการ แทนผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการพลเรือน ทหาร ต�ำรวจ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดได้อัญเชิญเทียนพรรษาพระราชทาน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เข้าสู่วิหารพระทรงม้า วัดพระมหาธาตุ วรมหาวิหาร พระอารามหลวง เพื่อประกอบพิธีถวายเทียนพรรษาพระราชทานให้พระภิกษุสามเณร ได้ ประกอบศาสนกิจตลอดพรรษา ประจ�ำปีพุทธศักราช 2560 ทั้งนี้เพื่อสืบทอดอายุพระพุทธศาสนา สืบไป โดยมีพระศรีธรรมประสาธน์ เจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช( ธรรมยุติ) เป็นประธานสงฆ์ โดยรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย กล่าวค�ำถวาย เทียนพรรษาพระราชทาน ถวายจตุปัจจัยไทยธรรม และพระสงฆ์ประกอบพิธี พระสงฆ์อนุโมทนา เป็นอันเสร็จพิธี วันที่ 17 ก.ค.60 พ.อ.ภาสกร ทวีตา รอง เสธ.ทภ.4 เป็นประธาน การประชุมเตรียมความพร้อมในการต้อนรับ อ�ำนวยความสะดวก และ รวมทั้งร่วมเป็นเจ้าภาพ ในการจัดกิจกรรม 3 สถาบันแพทย์ภูมิภาค วิ่ง-ปั่น ปันน�้ำใจเพื่อผู้ป่วยในภูมิภาค ณ ห้องติดตามสถานการณ์ บก.ทภ.4 ค่าย วชิราวุธ โดยมีผู้แทนหน่วยที่เกี่ยวข้องภายในค่ายวชิราวุธ ร่วมการประชุม ส�ำหรับโครงการวิ่ง-ปั่น ปันน�้ำใจเพื่อผู้ป่วยในภูมิภาค เป็นการ รวมตัวครั้งแรกของ 3 สถาบันการแพทย์ ได้แก่ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และส�ำนักงานกองทุน สนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรม มี่ จ�ำกัด (มหาชน) จัดกิจกรรม 3 สถาบัน วิ่ง-ปั่น ปันน�้ำใจ เพื่อผู้ป่วย ในภูมิภาค 7 วัน 2,700 กิโลเมตร ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 22-28 ก.ค.60 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนเห็นความส�ำคัญของการวิ่ง หรือปั่นจักรยานเพื่อสุขภาพที่แข็งแรง และได้ร่วมกันท�ำความดี โดยการ รณรงค์รับบริจาคเงินตลอดเส้นทาง เพื่อน�ำรายได้ทั้งหมดไปจัดซื้อเครื่อง มือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ และใช้ส�ำหรับรักษาพยาบาลผู้ป่วยใน ภูมิภาค โดยเริ่มต้นออกวิ่งพร้อมกัน ในวันที่ 22 ก.ค.60 ที่กรุงเทพมหา นครฯ และจะสิ้นสุดการวิ่ง-ปั่น ในวันที่ 28 ก.ค.60 ที่คณะแพทยศาสตร์
วิ่ง-ปั่น ปันน�้ำใจเพื่อผู้ป่วยในภูมิภาค ส�ำหรับในในวันที่ 26 ก.ค.60 ทภ.4 ค่ายวชิราวุธ ได้จัด ก�ำลังพลจาก ทภ.4 และหน่วยภายในค่ายวชิราวุธร่วม วิ่ง-ปั่น และ อ�ำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ เช่น จุดบริการน�้ำดื่ม จุดบริการ ทางการแพทย์กรณีฉุกเฉิน โดย รพ.ค่ายวชิราวุธ และอื่นๆ โดยเวลา ประมาณ 09.00 น. ขบวนวิ่ง-ปั่น มาจาก จ.สุราษฎร์ธานี ผ่าน อ.สิชล อ.ท่าศาลา และในเวลาประมาณ 14.00 น. ขบวนจะถึงประตูค่าย วชิราวุธ ทางด้านท่าแพ และจากนั้นทีมนักวิ่ง-ปั่น ของ ทภ.4 ก็จะร่วม ขบวน โดยใช้เส้นทางภายในค่ายวชิราวุธ และออกทางประตูค่ายด้าน สนามกอล์ฟ และมุ่งหน้าไปรวมพล ณ วัดพระมหาธาตุ ต่อไป จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชน ร่วมวิ่ง ร่วมปั่น ร่วมบริจาค มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัย ได้ทั้งสุขภาพ ได้ปันน�้ำใจ และยังได้ช่วยเพื่อนมนุษย์ โดยร่วมบริจาคได้ที่ ขอนแก่นพร้อมกัน ในเวลา 09.00 น. และจะท�ำพิธีถวายพระพร เนื่อง ธนาคารกรุงเทพ เลขที่บัญชี 641-3-009595 ชื่อบัญชี : 3 สถาบันแพทย์ ในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ วิ่ง ปั่น ปันน�้ำใจ เพื่อผู้ยากไร้ บดินทรเทพวรางกูร พร้อมกันทั้ง 3 สถาบันของแต่ละภูมิภาค
รัฐบาลเดินหน้าโครงการสนับสนุนสินเชื่อ
เพื่อพัฒนาการเกษตรแบบแปลงใหญ่
โครงการพัฒนาความร่วมมืออาชีวศึกษาสู่มาตรฐานนานาชาติ
เมื่อวันเสาร์ที่ 15 กรกฎาคม 2560 วิทยาลัยเทคนิคนครศรีธรรมราช จัดโครงการพัฒนาความร่วมมือ อาชีวศึกษาสู่มาตรฐานนานาชาติกิจกรรมพัฒนาทักษะความสามารถให้กับนักเรียนนักศึกษา “English DayCamp” รุ่นที่ 3 ประจ�ำปีการศึกษา 2560ให้กับนักเรียนนักศึกษาของวิทยาลัย โดยมีนายนายสุรพล โชติธรรมโม ผู้อ�ำนวยการ วิทยาลัยอาชีวศึกษานครศรีธรรมราชและประธานอาชีวศึกษาจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานเปิดโครงการ ร่วมด้วยคณะผู้บริหารในอาชีวศึกษาจังนครศรีธรรมราช คณะครูเข้าร่วมณ หอประชุมอินทนิล วิทยาลัยเทคนิค นครศรีธรรมราช
นางวิลาวัลย์ วงษ์เกษม ผู้อ�ำนวยการส�ำนักส่งเสริมและจัดการสินค้าเกษตร กล่าวถึงโครงการ สนับสนุนสินเชื่อเพื่อพัฒนาการเกษตรแบบแปลงใหญ่ เป็นโครงการต่อเนื่องตามนโยบายรัฐบาลที่สนับสนุน ให้เกษตรกรรายย่อยรวมกันผลิตสินค้าทางการเกษตรและมีการบริหารจัดการร่วมกัน ตั้งแต่การวางแผน ขั้นตอนการผลิต รวมถึงการจัดจ�ำหน่าย จ�ำเป็นต้องใช้เงินทุนมาพัฒนาการผลิตให้เป็นไปตามแผน จึงอนุมัติ โครงการสนับสนุนสินเชื่อจ�ำนวน 2,000 แปลง แต่ละแปลงสามารถได้รับการสนับสนุนไม่เกิน 10 ล้านบาท โดยกลุ่มเกษตรกรจ่ายดอกเบี้ยร้อยละ 0.01 ต่อปี และรัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยร้อยละ 3 ต่อปีเป็นเวลา 5 ปี ทั้งนี้จากการด�ำเนินงานที่ผ่านมา มีกลุ่มเกษตรแปลงใหญ่มาขอรับการสนับสนุนสินเชื่อแล้วทั้งหมด 18 แปลง รวมวงเงินกว่า 88 ล้านบาท ยังน้อยกว่าที่ตั้งเป้าไว้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเกษตรกรยังขาดความเข้าใจในการ ขอกู้สินเชื่อ จึงได้ลงไปพูดคุยท�ำความเข้าใจแล้ว พร้อมเชิญชวนให้เกษตรกรที่สนใจเข้าร่วมโครงการได้จน ถึงวันที่ 30 เมษายน 2570 ส�ำหรับเกษตรกรที่สนใจเข้าร่วมโครงการฯ จะต้องรวมกลุ่มไม่น้อยกว่า 15 คน พร้อมขึ้นทะเบียนเป็นวิสาหกิจชุมชน หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามรายละเอียดที่เจ้าหน้าที่ส�ำนักงาน เกษตรอ�ำเภอ หรือธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรสาขาที่อยู่ใกล้บ้าน
รับถ่ายภาพมุมสูง ถ่ายภาพทางอากาศ
ความชัดระดับ 4K
Tel.089-4108464
FREE COPY
เดือนกรกฎาคม 2560
13
แถลงข่าวสรุปการแก้ไขปัญหา การบูรณะศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช วันนี้ (6 ก.ค.60) ที่ห้องประชุมส�ำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด นครศรีธรรมราช ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช นายจ�ำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช มอบหมายให้นาย สกล จันทรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธาน การแถลงข่าวสรุปผลการหารือการแก้ไขปัญหาจากกรณีตัวแทนประชาชน ในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เข้าร้องเรียนต่อศูนย์ด�ำรงธรรมเรื่องการ บูรณะศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช โดยมีนายสัมพันธ์ ทองสมัคร อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ,นายพรชัย วัฒนวิกย์กิจ หรือ อาจารย์เปี๊ยก หนึ่งในทีมผู้ก่อสร้างศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช ,พล.ต.ต. วันไชย เอกพรพิชญ์ ผู้บังคับการต�ำรวจภูธรจังหวัด ,ผู้แทนเทศบาลนคร นครศรีธรรมราช ,ผู้แทนฝ่ายทหาร ,ผู้แทนภาคประชาชน และผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วมแถลงข่าว เบื้องต้นนายสัมพันธ์ ทองสมัคร อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวง ศึกษาธิการ กล่าวว่า การด�ำเนินการบูรณะศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช
ราชเดช บุตรชายคนโตของขุนพันธ์รักษ์ราชเดช เป็นคนด�ำเนินการด้าน พิธีกรรมทั้งหมด ส่วนจะมีการประกอบพิธีกรรมในวันไหนนั้น ยังตอบ ไม่ได้ เนื่องจากจะต้องดูฤกษ์ยามจากดวงของเจ้าเมือง คือนายจ�ำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งในการประกอบพิธี ดังกล่าวจะมีการประชาสัมพันธ์และเปิดโอกาสให้ประชาชนชาวจังหวัด นครศรีธรรมราช และผู้สนใจทั่วไปได้เข้าร่วมอย่างทั่วถึง อย่างไรก็ตามในส่วนของประเด็นการต่อเติมและปรับเปลี่ยน รูปแบบศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช โดยการเพิ่มเสา จ�ำนวน 12 ต้น ซึ่งเป็น “เสามหาราช” ที่จะมีการแกะสลักรูป 12 นักษัตรที่บริเวณเสาทั้ง 12 ต้น รวมทั้งการด�ำเนินการอื่นๆ ที่เพิ่มเติมขึ้นนั้น เป็นการด�ำเนินการ เพิ่มเติมเพื่อให้การก่อสร้างศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราชมีความสมบูรณ์ ตามรูปแบบที่ก�ำหนดไว้แท้จริง อันเนื่องจากการด�ำเนินการในตอนต้นมี ข้อจ�ำกัดด้านงบประมาณ ซึ่งแม้ว่าศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราชจะมี ความสวยงาม น่าเคารพสักการะ แต่เมื่อมีผู้มีจิตศรัทธาประสงค์จะบริจาค เงินสนับสนุนเพื่อให้การก่อสร้างมีความสมบูรณ์ตามรูปแบบแท้จริง จึง เป็นการสานต่อศรัทธาของคณะผู้ก่อสร้างศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช ในครั้งนี้ ยังมีการประกอบพิธีกรรมไม่ถูกต้อง ครบถ้วน และเชื่อว่าความไม่ พร้อมๆ กับการบูรณะซ่อมแซมในส่วนที่ได้เกิดความช�ำรุดเสียหายตาม ทั้งนี้เพื่อให้ศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราชคงเป็นสถานที่ เข้าใจ ความกังวลใจที่เกิดขึ้นในครั้งนี้จะจบลงด้วยดีเมื่อมีการประกอบพิธี ระยะเวลา บวงสรวงครบถ้วนตามประเพณีโบราณ ซึ่งจะมอบหมายให้นายฉันทิพย์ ยึดเหนี่ยวจิตใจที่ส�ำคัญของพี่น้องชาวจังหวัดนครศรีธรรมราชสืบไป
รวมพลัง “ชาวปากนครบน” ลดอุบัติเหตุบนท้องถนน แก้ปัญหาหาจุดเสี่ยง-ใช้วิทยุกระจายข่าว สร้างถนนปลอดภัย ส�ำนักสร้างสรรค์โอกาสและนวัตกรรม ส�ำนักงานกองทุน สนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับชาวบ้านต�ำบลปากนคร อ�ำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช แก้ปัญหาจุดเสี่ยงอุบัติเหตุภายในชุมชน ด้วยการจัดท�ำโครงการ "บ้านปากนครบนร่วมใจป้องกันภัยอุบัติเหตุ" เพื่อ ลดจ�ำนวนอุบัติเหตุและสร้างความตระหนักในการใช้รถใช้ถนนอย่าง ปลอดภัย นายสันติ นาดี ผู้อ�ำนวยการโรงเรียนท่านครญาณวโรรสอุทิศ กล่าวว่า บ้านปากนครบน มีเส้นทางคมนาคมเชื่อมต่อเข้าชุมชน 15 สาย โดยถนนเส้นที่เป็นจุดเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุมากที่สุดคือ ถนนสายวัดโบสถ์ซึ่ง มีโรงเรียนตั้งอยู่ 2 แห่ง คือ โรงเรียนวัดหัวนอน มีจุดเสี่ยงบนถนนเป็น ทางโค้ง พื้นผิวจราจรลาดเอียง จ�ำนวน 3 โค้งติดต่อกัน โรงเรียนท่า นครญาณวโรรสอุทิศ ซึ่งหน้าโรงเรียนมีสามแยกเป็นจุดเสี่ยงที่มักเกิด อุบัติเหตุได้โดยง่าย ประกอบกับทางโรงเรียนเองก็เคยจัดท�ำโครงการป้องกัน
อุบัติเหตุจนได้รับรางวัลด้านความปลอดภัยบนท้องถนนมาแล้ว แต่ยังเป็น การท�ำกันในเฉพาะโรงเรียน จึงเห็นว่าน่าจะท�ำโครงการร่วมกับชุมชน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในวงกว้างยิ่งขึ้น "กลุ่มเป้าหมายหลักของการด�ำเนินงานครั้งนี้คือ ชาวบ้านหมู่ 2 บ้านปากนครบน ครู นักเรียน และบุคลากรของโรงเรียน โดยจัดตั้งคณะ ท�ำงานตัวแทนจากภาคประชาชน รวบรวมสถิติข้อมูล ลงส�ำรวจพื้นที่ วางแผนแก้ปัญหา จากนั้นจึงจัดท�ำเวทีประชาคมคืนข้อมูลให้กับชุมชน เพื่อร่วมแก้ไขปัญหาจุดเสี่ยงต่างๆ เช่น ติดป้ายค�ำเตือน ตัดต้นไม้ ถางหญ้า ปรับป้ายโฆษณาที่บดบัง และใช้ประโยชน์จาก วิทยุชุมชน ที่ครอบคลุม พื้นที่เป็นสื่อประชาสัมพันธ์ให้ข้อมูลแก่ชุมชน ขณะเดียวกันก็ยังมีคณะ ท�ำงานและอาสาเฝ้าระวังอุบัติเหตุหลังการปรับปรุงจุดเสี่ยง นอกจาก การรณรงค์เกี่ยวกับการขับขี่รถร่วมกับชุมชนแล้ว ทาง อบต.ปากนคร สนับสนุนด้วยการแจกหมวกนิรภัยส�ำหรับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์อีกด้วย"
พลังของชุมชนปากนครบนที่ตระหนักและเห็นความส�ำคัญของการดูแล เฝ้าระวังป้องกันอุบัติเหตุในชุมชน ควบคู่ไปกับการปลูกฝังสร้างจิตส�ำนึก ในการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย ได้ส่งผลลัพธ์ให้อัตราการเกิดอุบัติเหตุ ในพื้นที่เสี่ยงต่างๆ ของชุมชนลดลงอย่างต่อเนื่อง จนเป็นต้นแบบให้กับชุมชน อื่นๆ ในการบริหารจัดการเพื่อลดอุบัติเหตุด้วยพลังของสมาชิกในชุมชน ทุกคน.
ท�ำบุญรับขวัญข้าว ชาวเชียรใหญ่
"เอสซีจ"ี สานต่อทีพ ่ อ่ ท�ำ รวมพลังสร้างฝายชะลอน�ำ้ เอสซีจี สานต่อกิจกรรม “รักษ์น�้ำ The Journey สานต่อ ที่พ่อท�ำ สร้างฝายทั่วไทย” ที่อ�ำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช สนับสนุนชุมชนและเยาวชนคนรุ่นใหม่ น�ำการเรียนรู้จากชุมชนต้นแบบ ฝายชะลอน�้ำตามแนวพระราชด�ำริมาขยายผลการบริหารจัดการน�้ำในพื้นที่ ของตนเองอย่างเหมาะสม สู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตชุมชนอย่างยั่งยืน วันที่ 14 ก.ค.60 นายจ�ำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการ จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานเปิดกิจกรรม “รักษ์น�้ำ The Journey สานต่อที่พ่อท�ำ สร้างฝายทั่วไทย”ระยะที่ 2 ซึ่งเอสซีจีจัดขึ้น ณ บ้านน�้ำพุ อ�ำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีนายอาสา สารสิน ประธาน คณะกรรมการกิจการสังคมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน เอสซีจี นาย ทศพร จันทรประวัติ นายอ�ำเภอทุง่ สง ผูบ้ ริหารท้องถิน่ ผูบ้ ริหารและพนัง กวาน เอสซีจีทุ่งสง ประชาชนและเยาวชนคนรุ่นใหม่เข้าร่วมกิจกรรม
ส�ำหรับกิจกรรมในครั้งนี้จัดขึ้นที่บ้านน�้ำพุ อ�ำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของการร่วมสร้างฝายชะลอน�้ำ โดยตัวแทนชุมชนและเครือข่ายเยาวชนคนรุ่นใหม่ ณ อ�ำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช รวมทั้งเป็นการริเริ่มการเตรียมความพร้อมรับ ปัญหาน�้ำท่วมน�้ำหลาก รวมถึงปัญหาน�้ำแล้งในภาคใต้ซึ่งเริ่มเป็นปัญหา ในพื้นที่แล้ว
วันนี้(14 ก.ค.60) ที่โรงเรียนบ้านปากเชียร และหน้าที่ว่าการ อ�ำเภอเชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี รอง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานในพิธีงานสืบสาน ประเพณีบูชาแม่โพสพ ท�ำบุญรับขวัญข้าว ชาวเชียรใหญ่ ประจ�ำปี 2560 ซึ่งอ�ำเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ จัด ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมประเพณีวัฒนธรรมการบูชาแม่โพสพ ท�ำขวัญข้าวให้คงอยู่สืบไป โดยมีนายมนตรา พรมสินธุ นายอ�ำเภอเชียรใหญ่ หัวหน้าส่วนราชการ ก�ำนันผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารท้องถิ่น ประชาชน และ นักเรียนเข้าร่วมกิจกรรม ส�ำหรับกิจกรรมประกอบด้วย ปล่อยริ้วขบวนแห่ และนั่งรถ ไถนาของทุกต�ำบลจากโรงเรียนบ้านปากเชียรไปยังลานหน้าที่ว่าการ อ�ำเภอเชียรใหญ่ ประกอบพิธีทางศาสนาพราหมณ์ พิธีบวงสรวงแม่โพสพ เพลงบอกเด็กนักเรียน แข่งขันนวดข้าว การประกวดเรียงความเรื่องข้าว การจัดนิทรรศการจากหน่วยงานต่างๆ การประกวดผลผลิตทางการเกษตร สินค้าโอทอป นอกจากนี้ สาธิตการนวดข้าวฝัดข้าวของชาวนาในพื้นที่ อ�ำเภอเชียรใหญ่ มีประชาชนและเกษตรกรชาวนาร่วมในพิธีเป็นจ�ำนวนมาก
14
เดือนกรกฎาคม 2560
FREE COPY
บริการห้องพัก ห้องอาหาร ห้องประชุมสัมมนา งานเลี้ยงมงคลสมรส
แบงค์ & บอย ศูนย์รวมของเด็กเล่นทุกชนิด จ�ำหน่ำย... สินค้ำเบ็ดเตล็ด เครื่องใช้ครัวเรือน ของขวัญปีใหม่ ตุ๊กตำ กิ๊ฟช้อป ฯลฯ bankandboyshop, bankandboy www.facebook.com/bankandboy
โทร.075-358405, 075-761702
095-3203270
FREE COPY
เดือนกรกฎาคม 2560
ภาพการแข่งขันฟุตซอล
เกตุชาติอารีน่า มาราธอนคัพ ครั้งที่ 1
15
ติดตามภาพเพิ่มเติมได้ที่
FB : มูลนิธิเกตุชาติศึกษา
วันที่ 1-2 กรกฎาคม 2560 ณ สนามเกตุชาติอารีน่า โรงเรียนเกตุชาติศึกษา ต.ชะเมา อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
สรุปผลการแข่งขัน
ชนะเลิศ ได้แก่ ทีมนครนิวส์ A รองชนะเลิศอัันดับ 1 ได้แก่ ทีม อัญ อัญ รองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ ทีมใหญ่หัว พรพนา รองชนะเลิศอันดับ 3 ได้แก่ ทีมเสือท่าเรือ B
ลุงวิรัช-น้องเขียดยิ้มได้
จากกรณีที่ศูนย์ข่าวนคร 24 ชม. สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช ขอให้สื่อมวลชนเป็นสื่อกลางในการช่วยเหลือ ครอบครัวของนายวิรัช แก้วหนู อายุ 68 ปี 127/1 หมู่ 5 ต.บางจาก อ.เมือง จ.นครศรี ธรรมราช ที่ยากไร้อาศัยอยู่กับนายพงศ์พันธ์ แก้วหนู อายุ 16 ปี บุตรชาย ในเพิกพักเล็กๆ ซึ่งช�ำรุดพังทลายเป็นกองซาก ปรักหักพัง มีสิ่งของเครื่องใช้เพียงไม่กี่ชิ้น ได้รับความล�ำบากเดือดร้อน อย่างแสนสาหัส จึงอยากให้สื่อมวลชนเป็นสื่อกลางในการระดมธารน�้ำใจ ช่วยเหลือให้พ้นความแร้นแค้น และนายไพฑูรย์ อินทศิลา ประธานด้าน ศูนย์ขา่ วนคร 24 ชม. สมาคมสือ่ มวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมคณะ สื่อมวลชนได้เดินทางน�ำเครื่องอุปโภคบริโภคเดินทางไปเยี่ยมครอบครัวของ นายวิรัตน์ โดยมีนายสุมล อักษรพาลี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.บางจาก อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช โดยเส้นทางเข้าไปยังบ้านของนายวิรัช ทุรกันดาร ยากล�ำบาก ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น วันที่ 20 ก.ค. นายสมพงษ์ มากมณี นายอ�ำเภอเมือง จ.นครศรี ธรรมราช นายบ�ำรุง เลขจิตร ก�ำนันต�ำบลบางจาก นายสุมล อักษรพาลี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.บางจาก และนายโสภิต ชูพงศ์ นายกองค์การบริหาร ส่วนต�ำบลบางจาก ปลัดอ�ำเภอ และเจ้าหน้าที่ศูนย์ด�ำรงธรรม เดินทางไป ร่วมตรวจสอบและแก้ปัญหาการก่อสร้างบ้านให้นายวิรัช แก้วหนู โดยได้
ธารน�้ำใจหลั่งไหลช่วยสร้างบ้าน พบนางละออง สถน ซึ่งเป็นญาติของนายวิรัช เพื่อท�ำบันทึกข้อตกลงเกี่ยวกับ ที่ดินติดถนนคอนกรีด ถนนบางจากซอย 9 ที่นายวิรัช ซื้อเอาไว้ก่อนหน้านี้ หลายปีแล้ว เพื่อเป็นสถานใหม่ในการสร้างบ้านให้นายวิรัช โดยในเบื้องต้น จะหางบประมาณซื้อวัสดุการก่อสร้างจากสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนและ ร่วมกันสมทบทั้งงบประมาณ และวัสดุก่อสร้างจากผู้ใจบุญที่ร่วมบริจาค จากนั้นจะระดมกันสร้างบ้าน ขณะที่ นายจ�ำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรี ธรรมราช ได้มอบหมายให้นายสกล จันทรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด นครศรีธรรมราชในฐานะรองผู้อ�ำนวยการศูนย์ด�ำรงธรรมจังหวัดนครศรี ธรรมราช พร้อมเจ้าหน้าที่ส�ำนักงานพัฒนาสัวคมและความมั่นคงของมนุษย์ เดินทางไปเยี่ยมนายวิรัตน์ แก้วหนู ในเบื้องต้นทางพัฒนาสังคมและความ มัน่ คงของมนุษย์ ได้มอบเงินช่วยเหลือตามระเบียบราชการ จ�ำนวน 2,000 บาท ทางด้านนายจรัส พุทธถนอม ญาติของนายวิรัช กล่าวว่า เดิม ครอบครัวตนอาศัยอยู่ อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช แต่ปัจจุบันตนมี
ครอบครัวอยู่ใน อ.ลานสกา ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อบิดาของตนเสียชีวิตที่ อ.ทุ่งใหญ่ หลังเสร็จจากการบ�ำเพ็ญกุศลศพบิดามีเงินเหลืออยู่จ�ำนวนหนึ่ง จึงพร้อม ด้วยแม่และญาติๆ ชวนกันเดินทางไปเยี่ยมลุงวิรัช เพื่อน�ำเงินมามอบให้ นายวิรัช เพื่อเก็บไว้เป็นทุนการศึกษานายพงศ์พันธ์ แก้วหนู หรือ “น้องเขียด” อายุ 16 ปี บุตรชายนายวิรัช แต่เมื่อมาเห็นสภาพความเป็นอยู่ของสองพ่อลูก จึงคิดว่าสิ่งแรกที่จะต้องด�ำเนินการคือการสร้างบ้านให้นายวิรัช ได้อยู่อาศัย กับน้องเขียดบุตรชาย จึงถ่ายภาพและคลิปมาลงในเฟซบุ๊ก และเรียกร้อง ให้สื่อมวลชนเจ้าไปเป็นสื่อกลางในการระดมทุนจากผู้ใจบุญเมื่อทราบว่า ศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนเดินทางเข้าไปช่วยเหลือรู้สึกดีใจ และเชื่อว่าการสร้างบ้านหลังใหม่ให้นายวิรัช จะส�ำเร็จอย่างแน่นอน
FREE COPY
เดือนกรกฎาคม 2560
"เพชรบ้านแขก ส.สมหมาย"
แชมป์ 118ปอนด์ เวทีมวยราชด�ำเนิน