CONSUMER’S TREND 2016
CR : http://www.brandbuffet.in.th/2016/01/envirosell-consumer-trend-2016-dramaqueen-era/#dTJhttQphZSo0gkX.97
➤
สรินพร จิวานันต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นไวโรเซล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า
➤
สืบเนื่องจากเมือปี 2014 ที่ผ่านมา ที่ทางเอ็นไวโร เซล ได้วิเคราะห์ค่านิยม 8 ประการของคนในปี 2015 ได้แก่ 1. อยากรวยลัด 2. งามภายนอก 3. ช่วยเหลือตัวเอง 4. ไม่ผูกมัด 5. อย่าปิดบัง 6. วัฒนธรรมเดียวกัน 7. มาตรฐานสูง และ 8. ซื้อน้อยแต่ได้เยอะ
➤
พบว่า 1 ปีผ่านไป พัฒนาการของผู้บริโภคได้เพิ่ม ดีกรีความซับซ้อนของพฤติกรรม การใช้ชีวิต และ ความต้องการพื้นฐานมากขึ้น โดยสามารถ จำแนกออกเป็น 6 ค่านิยมหลักๆ ดังนี้
แนวโน้มผู้บริโภคปี 2016 มักตัดสินด้วยอารมณ์เหนือเหตุผล โดยใช้ตัวตนเป็นที่ตั้ง ด้วยเหตุ เทคโนโลยี ความสะดวกสบาย รวมถึงสังคม เอื้ออำนวยให้เกิด 6 ค่านิยม ได้แก่ สุขนิยม (JOYLUST) แบบฉบับนิยม (I-MAGE) สันโดษนิยม (SOLE-CIAL) ธรรมชาตินิยม (FARM-GANIC) ดรามานิยม (DRAMAQUEEN) และ อัตโนมัตินิยม (AUTOMATISM) CR : เอ็นไวโรเซล (ประเทศไทย)
6 ค่านิยมหลัก ของผู้บริโภค 2016
สุขนิยม (JOYLUST) ➤
การเติบโตของเทคโนโลยี สังคมดิจิตอล ทั้งหลาย ทำให้คนเราไม่ต้องทนทุกข์ ทน ลำบาก เหมือนคนในยุคก่อน
➤
สื่อสังคมออนไลน์ หรือ social media เข้ามาในชีวิต ทำให้เกิดการเปรียบเทียบ และการประเมินตนเองตลอดเวลา เช่น ลงรูปแล้วคนกดไลค์น้อยก็เครียดได้
➤
งานวิจัยพบว่า ผู้บริโภคที่ติดโซเชียลมี เดีย จะมีความสุขน้อยกว่าผู้ที่ไม่ได้เล่นถึง 39% นอกจากนี้งานวิจัยในหมู่วัยรุ่น พบ ว่า 1 ใน 2 ยอมรับว่าตนเองมีปัญหา mental illness หรือ อาการป่วยทางจิต โดย 95% ตอบว่าเป็นเพราะความเครียด
ผู้บริโภคแบบ สุขนิยม ➤
ผู้บริโภคยุคนี้เลย โหยหา ความสุข และใช้ความสุขเป็น ตัวตั้งในการค้นหาความหมาย ของชีวิต ต่างจากคนสมัยก่อนที่ ใช้ ความขยัน เป็นตัวตั้ง จึงตั้ง หน้าตั้งตาทำงานเพื่อชีวิตที่ดี
➤
ผู้บริโภคปี 2016 จะใช้ความ สุขของตัวเองเป็นตัวตั้ง อะไร ไม่มีความสุข ชั้นไม่ทำ เรื่องอื่น ไม่สน และจะไม่มีวันทำงาน หนัก ตั้งตาใช้ชีวิตเพื่อหาความ สุขลูกเดียว
ผู้บริโภคแบบ สุขนิยม ➤
เมื่อผู้บริโภค ในปี 2016 ใช้ ความสุขเป็นที่ตั้ง การเลือกใช้ ผลิตภัณฑ์ และบริการก็จะต้อง มั่นใจว่าจะไม่สร้างความเจ็บ ปวดให้ และซื้อแล้วมันมีความ หมายต่อชีวิตอย่างไร สร้าง ความสุขอย่างไรให้ชีวิต
สุขนิยม (JOYLUST)
แบบฉบับนิยม (I-MAGE) ➤
ตนเป็นแบบฉบับแห่งตน สถิติในปี 2014 บอกว่าผู้บริโภคมีการอัพโหลด รูป 1.8 พันล้านรูปต่อวัน และ 80% ของการอัพโหลด คือโชว์ด้านดีของตัว เอง สมัยก่อนคนเราไม่ได้มีเครื่องมือที่ จะช่วยสร้างภาพลักษณ์ตัวเอง คือ ไม่มี ช่องทางรับรู้ชีวิตคนอื่น และบอกกล่าว ชีวิตตนเอง แต่ทุกวันนี้ด้วยเครื่องมือ ดังกล่าว มนุษย์จึงรับรู้เรื่องราวของกัน และกันตลอดเวลา ซึ่งส่วนใหญ่โชว์แต่ ด้านดี จึงกลายเป็นค่านิยมแบรนด์ดิ้ง ตัวเอง ต้องการที่จะออกแบบชีวิตเอง ไม่ต้องการอยู่ในกรอบ
ผู้บริโภคแบบฉบับนิยม I-MAGE ➤
ผู้บริโภคปี 2016 จะใช้ความสุขของตัว เองเป็นตัวตั้ง อะไรไม่มีความสุข ชั้นไม่ ทำ เรื่องอื่นไม่สน และจะไม่มีวันทำงาน หนัก ตั้งตาใช้ชีวิตเพื่อหาความสุขลูก เดียว
➤
เนื่องด้วยความมีแบบฉบับหรืออัตตาที่ สูงมากนี้ ทำให้คนเราไม่สามารถจะ ยอมรับ คำติ อีกทั้งคำติเตียนจะสร้าง ความเครียดให้มนุษย์ยุคนี้รู้สึกเจ็บปวด มากเป็นพิเศษ เพราะฉะนั้นผู้บริโภคใน ปี 2016 จะพัฒนาความเป็นตัวตนไปถึง ขั้น เลือกผลิตภัณที่เป็นแบบฉบับของตัว เอง ยอมจ่ายแพง เพื่อสร้างเอกลักษณ์ สะท้อนตัวตน และคุณค่าให้ตัวเอง
ผู้บริโภคแบบฉบับนิยม I-MAGE
➤
โดยที่ 56% ของผู้บริโภค ชอบผลิตภัณฑ์ที่สามารถ ออกแบบเองได้ ขณะที่ 48% หวังว่าแบรนด์จะสามารถ เข้าใจผู้บริโภคในระดับ ปัจเจกจนสามารถที่จะ ออกแบบผลิตภัณฑ์และ บริการที่เฉพาะเจาะจงกับตัว ตนของผู้บริโภคได้
ธรรมชาตินิยม (FARM-GANIC) ➤
จากคอนเซ็ป Farm to Table, Farm to cocktail, Farm to hospital, Farm Box, Farm travel, Farm stay และ Eat with local เป็นต้น แนวคิด เหล่านี้ก็เพื่อให้ผู้บริโภคได้ สัมผัสของดีท้องถิ่น สุขภาพที่ดี ของสด ปลอดสาร ใช้ชีวิต ท่อง เที่ยว ไลฟสไตล์แบบออร์แกนิค
ผู้บริโภคแบบธรรมชาตินิยม (FARM-GANIC) ➤
เทรนด์ที่จะมาแรงในปีหน้า ด้วยระบบ ลอจิสติกส์ ที่เอื้อต่อการส่งตรงจาก ฟาร์ม ทำให้ผู้บริโภคได้ของออร์แกนิค ในราคาที่ถูกลง
➤
ส่วนหนึ่งของการมีไลฟสไตล์แบบออร์ แกนิคนี้ เป็นความเท่ห์ เป็นชีวิตอีก ชนชั้นหนึ่งที่ไม่ได้แบ่งด้วยรายได้ แต่ แบ่งด้วยไลฟ์สไตล์ ผู้บริโภคในปี 2016 จะโหยหาประสบการณ์ที่ Real เป็น ธรรมชาติและดิบ เช่น การท่องเที่ยวเชิง เกษตร การทำอาชีพเกษตรกร เพราะ ตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่ออกแบบเอง ไม่ต้องทำงานในระบบกฎเกณฑ์แบบ บริษัท และมีไลฟสไตล์เท่ห์ๆ
ผู้บริโภคแบบธรรมชาตินิยม (FARM-GANIC)
➤
ดังนั้น ผู้บริโภคแห่งปี 2016 มองหาผลิตภัณฑ์ ไลฟสไตล์ ที่เป็นธรรมชาติ ดิบๆ ไม่ว่าจะ เป็นการใช้ของ ออร์แกนิค การเสพศิลปะ รวมไปถึงการ ท่องเที่ยว ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับ คนท้องถิ่น และจะไม่ใช้ของ ทิ้งขว้าง แต่จะเลือกใช้ของ น้อยชิ้นที่มีความหมายต่อตน
สันโดษนิยม (SOLE-CIAL)
➤
¼ ของมนุษย์ใช้เวลาในการ สังคมออนไลน์ มากกว่าสังคมกายภาพ และเพลินที่จะ อยู่ในสังคมดิจิตอล เพราะเป็นสังคมเสมือนฝัน ที่โพสต์ แล้วมีคนเข้ามาร่วมกดไลค์ ชื่นชม เหมือนการสร้างโลกส่วนตัวที่ไม่มีคนติ มีแต่คนชม มนุษย์จะค่อยๆพัฒนาไปสู่ การสังคมแบบดิจิตอล คือหาเพื่อนที่เป็นผู้รับฟังที่ดี โดยไม่ตอบโต้หรือแสดงความ เห็นเชิงลบ และสุดท้ายจะมีเพื่อนในรูปแบบดิจิตอลจริงๆ นั่นคือหุ่นยนต์นั่นเอง
ผู้บริโภคแบบสันโดษนิยม (SOLE-CIAL) ➤
โดยมนุษย์ยุค 2016 จะไม่ค่อยรู้สึก อะไรมากนักกับการไม่เจอเพื่อน แต่ 79% จะกังวล ถ้าไม่มีโทรศัพท์ ติดตัว นอกจากนี้ การรับประทาน อาหารคนเดียว (solo dinner) เติบโต 62% ในสหรัฐอเมริกา ใน ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ในขณะเดียวกัน ปี 2015 ที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวเดิน ทางคนเดียว 24% เติบโตขึ้น 10% (จาก 15% ในปี 2013) และมีการ คาดการณ์ว่า ที่อยู่อาศัยแบบอยู่คน เดียว จะมีอัตราการเติบโตสูงที่สุด มนุษย์จะมีความเกี่ยวพันกันน้อยลง เรื่อยๆ
ผู้บริโภคแบบสันโดษนิยม (SOLE-CIAL)
➤
ดังนั้น ผลิตภัณฑ์การบริการ ต่างๆ หันมาหาจุดขาย กับ สังคมที่สันโดษ เพราะผู้ บริโภค สามารถบริโภค อุปโภคคนเดียวได้ ด้วยความ สามารถทางสังคมแบบ ดิจิตอล
ดรามานิยม (DRAMAQUEEN) ➤
ทุกวันนี้คนแทบไม่มีงานลักษณะ นี้ให้คนจดจ่อกับเรื่องของตัวเอง เพราะมีการทำกิจกรรมน้อยลง จนมีเวลามาใช้กับโซเชียลมีเดีย ถึง 4 ชั่วโมงโดยเฉลี่ย ต่อวัน (ทำงาน 8 ชั่วโมง ก็เรียกว่าหมด วัน) เหมือนดูละครชีวิตของคน อื่นตลอด เป็นที่มาของการ เสพ ติดดรามา โดยเฉพาะโซเชียล เน็ตเวิร์คเป็นช่องทางที่เปิด โอกาสให้มนุษย์ได้พูด ได้ แสดงออกอย่างเสรี
ผู้บริโภคแบบดรามานิยม (DRAMAQUEEN) ➤
เพราะฉะนั้น ผู้บริโภคไม่ได้ เสพข้อมูลหรือคอนเท็นต์เพียง ด้านเดียวอีกต่อไป แต่จะเสพ คอนเท็นต์ที่มี ดรามาผสม หรือ emotional content และทุกผลิตภัณฑ์จะหันมาเน้น การขายคุณค่าด้านอารมณ์ เพราะผู้บริโภคในปี 2016 จะ ไม่เสพข่าว content หรือใช้ ผลิตภัณฑ์ ที่ไม่ได้มีการสร้าง connection ด้านอารมณ์ร่วม
อัตโนมัตินิยม (AUTOMATISM) ➤
ชีวิตของคนรุ่นใหม่จะง่าย แบบไม่ เคยง่ายขนาดนี้มาก่อน เรามีบริการ เรียกรถโดยสาร แบบไม่ต้องเสี่ยง โดนปฎิเสธ และไม่ต้องเสียเวลาเรียก หรือเสียเวลารอ มี delivery drone ที่ สั่งของแล้วได้ภายในครึ่งชั่วโมง เด็ก รุ่นใหม่กำลังจะมีแอพลิเคชันที่แปล ภาษาแบบทันทีทันใด (real time) ไม่ต้องเสียเวลานั่งเรียนภาษาก็ยัง สามารถพูดคุยกับชาวต่างชาติกันรู้ เรื่อง เรามีการใช้คำสั่งเสียง (voice control) ที่แค่พูดเครื่องก็พิมพ์ให้ เลย ไม่ต้องเสียแรงนั่งพิมพ์
ผู้บริโภคแบบอัตโนมัตินิยม (AUTOMATISM) ➤
ด้วยเทคโนโลยี Internet of Things คือ ทุกอุปกรณ์ สามารถเชื่อมต่อด้วยกันและ สั่งการด้วยอุปกรณ์ใดอุปกรณ์ หนึ่ง หรือจากโทรศัพท์มือถือ และอนาคตอันใกล้ จะมีกลไก แบบ mind reading แค่คิดก็ สามารถสั่งอุปกรณ์ต่างๆ ทำงานได้ เช่น เปิด ปิด โทร ออก แม้ password ก็ไม่ต้อง จดจำ
ผู้บริโภคแบบอัตโนมัตินิยม (AUTOMATISM) ➤
ผู้บริโภคในปี 2016 จะพัฒนา ความใจร้อน รอไม่ได้ ไปอีก ถึงระดับขั้นทุกอย่างต้องได้ดัง ใจในทันที เรียกว่าแทบจะ ต้องทำงานกันแบบอัตโนมัติ เลยทีเดียว ผู้บริโภคจะ สรรหาผลิตภัณฑ์และบริการ อะไรที่ทำให้ใช้ชีวิตแบบ อัตโนมัติได้ แบบไม่ต้องคิด ไม่ต้องเสี่ยง ไม่ต้องจำ เข้าถึง ง่ายโดยไม่จำกัดสถานที่ และ ไม่ต้องรอ
สรุป ➤ ผู้บริโภคปี
2016 จะมีพัฒนาการเรื่องเอาแต่ใจตัวเองเพิ่มมาก ขึ้น นิยามชนชั้นด้วยไลฟสไตล์ ในรูปแบบ emotional ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้ดั่งใจรวมทั้งความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยที่ไม่ ได้รับการแก้ไขอย่างถูกต้องและทันท่วงทีของผู้ให้บริการนั้น จะ ส่งผลมากเป็นหลายเท่าภายในใจผู้บริโภคที่มุ่งแต่จะหาความ สุขในยุคนี้ ทั้งนี้ หากนักการตลาดและภาคธุรกิจทำความ เข้าใจข้อมูลดังกล่าว ก็จะสามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่าง แม่นยำมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเตรียมพร้อมรับมือกับพฤติกรรม และความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปได้ทันท่วงที พร้อม ปรับปรุงสินค้าและบริการได้เหมาะสมตามยุคสมัยอีกด้วย