สกัดความรู้ : การปอกคว้านผลไม้

การปอกคว้านผลไม้ วิชาการแกะสลักเชิงธุรกิจ สอนโดยอาจารย์ศักรินทร์ หงส์รัตนาวรกิจ สาขาวิชาการบริหารธุรกิจคหกรรมศาสตร์

ผลงานแกะสลักโดยนักศึกษา รุ่น 60 ปบค./1

การปอก หมายถึง การทาวัสดุที่มีเปลือก ต้องการให้เปลือกออกด้วยมือหรือใช้มีด แล้วแต่ชนิดวัสดุ เช่น ใช้มือปอกกล้วยหรือส้ม ถ้าเป็นของที่ใช้มีดก็จับมีดมือหนึ่ง อีกมือหนึ่งจับของที่จะปอก แล้วกดมีดลงที่เปลือก ให้คมมีดเดินไปตามเปลือกเรื่อยไปจนสุดเปลือกของสิ่งนั้นๆ เช่น ปอกมะเขือเทศ ปอกแตงโม เป็นต้น การคว้าน หมายถึง การทาวัสดุซึ่งมีส่วนเป็นแกนหรือเมล็ดให้ออกจากกัน โดยใช้เครื่องมือที่มีปลายแหลมและคม แทงลงตรงจุดที่ต้องการคว้าน แล้วขยับไปรอบๆ จนแกนหลุดค่อยๆ แคะหรือดุนออก เช่น การคว้านเงาะ

การเลือกซื้อผลไม้ที่ใช้ในการปอกคว้าน 1. เลือกตามฤดูกาล จะได้ผลไม้ที่ให้เลือกมาก มีความสดและราคาถูก 2. เลือกให้ตรงกับความต้องการหรือวัตถุประสงค์ในงานแกะสลัก เช่น เพื่อการปอก คว้าน เพื่อการรับประทาน เพื่อการตกแต่งหรือเพื่อเป็นภาชนะ 3. เลือกผลไม้ที่สด และสวยตามลักษณะของผลไม้ที่แกะสลัก 4. เลือกให้มีขนาดและรูปทรงเหมาะสมกับผลงานที่จะแกะสลัก

หลักการปอกคว้านผลไม้ 1. การเลือกซื้อผลไม้ที่มีความสดใหม่ เพื่อจะช่วยให้ผลไม้ที่ปอกคว้าน มีอายุการใช้งานได้นานขึ้น 2. นาผลไม้ไปล้างน้าให้สะอาดทุกครั้ง 3. การเลือกมีดแกะสลัก ควรเป็นมีดสแตนเลส หรือมีดทองเหลือง 4. การเลือกผลไม้ตกแต่งควรเลือกชนิดที่มีสีสวยงาม หลากหลาย เพื่อจะทาให้น่ารับประทานขึ้น 5. การปอกคว้านต้องพยายามรักษาคุณค่าอาหาร โดยไม่ควรแช่น้า

การปอกคว้านเมล็ดสละ

คว้านเมล็ดน้อยหน่า

ปอกเปลือกลาไย

คว้านเมล็ดลาไย

ปอกคว้านเมล็ดเงาะ

คว้านเมล็ดลิ้นจี่

ปอกเปลือกลูกจัน

ปอกเปลือกแอปเปิ้ล

ปอกคว้านกระท้อน

ปอกมังคุด

ริ้วมะปราง

ปอกละมุด

หลักการจัดผลไม้สาหรับรับประทาน 1.ก่อนจัดผลไม้แกะสลักควรพิจารณาว่าสิ่งใดเป็นจุดเด่น เช่น ขนาดของผลไม้ จุดเด่นของผลไม้ หรือลวดลายที่แปลกกว่าผลไม้อื่น ๆ 2.ควรเลือกผลไม้ที่สีสันหลากหลายในการจัดวาง ควรจัดให้มีสี ตัดกัน 3.เมื่อจัดเสร็จแล้วมองดูความสมดุลไม่หนักไปทางใดทางหนึ่ง 4.จัดเป็นหมวดหมู่อาจจะสูงบางต่าบาง และหยิบรับประทานได้ สะดวก 5.รักษาความสะอาจและไม่ใช้วัสดุที่เป็นอันตรายในการตกแต่ง

ผลงานแกะสลักโดยนักศึกษา รุ่น 63 ตบค.

ผลงานแกะสลักโดยนักศึกษา รุ่น 63 ตบค.

ผลงานแกะสลักโดยนักศึกษา รุ่น 63 ตบค.