แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ชื่ อวิชา
การใช้ โปรแกรมตารางงาน
ชื่ อหน่ วย การใช้ งานเบื้องต้ นและการจัดรู ปแบบของ โปรแกรม Ms-Excel หัวข้ อเรื่ อง 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8.
หน่ วยที่ 1 สั ปดาห์ ที่ 1-2 ชั่วโมงที่ 1-16 รวม 16 ชั่วโมง
ความหมายและประโยชน์ของ Excel การเริ่ มใช้โปรแกรม Microsoft Excel ส่ วนประกอบของโปรแกรม Microsoft Excel การจัดการ Workbook การจัดการ Worksheet การป้อนข้อมูล และการปรับเปลี่ยนเซลล์และข้อมูล การกาหนดรู ปแบบให้กบั ข้อมูลและเซลล์ ออกแบบและสร้างแบบฟอร์ มที่จาเป็ นในงานทางด้านธุ รกิจ
สาระสาคัญ Microsoft Excel เป็ นโปรแกรมตารางงาน หรื อ โปรแกรมประเภทสเปรตชี ดซึ่ งก็คือ โปรแกรม สาเร็ จรู ปที่มีความสามารถในการคานวณตัวเลขโดยเฉพาะ และจะให้ผลลัพธ์ที่ถูกต้อง รวดเร็ ว และแม่นยา โดยการสร้างตาราง และกาหนดสู ตรที่ใช้ในการคานวณไว้ก่อน แล้วจึงป้ อนข้อมูลลงไป สามารถกาหนด ผลลัพธ์ในรู ปแบบต่าง ๆ ได้ เช่น ตัวเลข หรอกราฟ และยังสามารถแก้ไขเพิ่มเติม ละจัดรู ปแบบของข้อมูลได้ อีกด้วย สมรรถนะอาชีพรายหน่ วย - มีทกั ษะในการนาความรู ้เบื้องต้นเกี่ยวกับการใช้โปรแกรม Microsoft Excel มาประยุกต์ในการ ทางาน จุดประสงค์ การเรี ยนรู้ จุดประสงค์ ทวั่ ไป / บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง 1. เพื่ อให้ มี ความรู ้ เกี่ ยวกับความหมายและประโยชน์ ข อง Excel และส่ ว นประกอบของ โปรแกรม Microsoft Excel
2. เพื่อให้มีทกั ษะเกี่ยวกับการเริ่ มใช้โปรแกรม Microsoft Excel 3. เพื่อให้มีเจตคติที่ดีต่อเตรี ยมความพร้ อมด้านวัสดุ อุปกรณ์ สอดคล้องกับงานและใช้วสั ดุ อุปกรณ์ อย่างคุ ม้ ค่า ประหยัด ได้อย่างถู กต้องตามหลักปรั ชญา เศรษฐกิ จพอเพียง การ ปฏิ บ ัติ ง านอย่ า งถู ก ต้อ ง ส าเร็ จ ภายในเวลาที่ ก าหนด มี เ หตุ แ ละผลตามหลัก ปรั ช ญา เศรษฐกิจพอเพียง และมีความสนใจใฝ่ รู ้ในการศึกษาค้นคว้างานที่ได้รับมอบหมาย ผลการเรียนรู้ ทคี่ าดหวัง / บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง 1. อธิบายความหมายและประโยชน์ของ Excel ได้ 2. ปฏิบตั ิการเริ่ มใช้โปรแกรม Microsoft Excel เบื้องต้น ได้ 3. บอกส่ วนประกอบของโปรแกรม Microsoft Excel ได้ 4. ปฏิบตั ิการจัดการ Workbookได้ 5. ปฏิบตั ิการจัดการ Worksheetได้ 6. ป้อนข้อมูล และการปรับเปลี่ยนเซลล์และข้อมูลได้ 7. กาหนดรู ปแบบให้กบั ข้อมูลและเซลล์ได้ 8. ออกแบบและสร้างแบบฟอร์ มที่จาเป็ นในงานทางด้านธุ รกิจด้วยโปรแกรม Microsoft Excel ได้ 9. เตรี ยมความพร้อมด้านวัสดุ อุปกรณ์ สอดคล้องกับงานและใช้วสั ดุอุปกรณ์อย่างคุม้ ค่า ประหยัด ได้อย่างถูกต้องตามหลักปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง 10. ปฏิบตั ิงานได้อย่างถูกต้อง และสาเร็ จภายในเวลาที่กาหนดอย่างมี เหตุผลและผลตามหลัก ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 11. สนใจใฝ่ รู ้ในการศึกษาค้นคว้างานที่ได้รับมอบหมาย เนื้อหาสาระการสอน โปรแกรม Microsoft Excel เป็ นโปรแกรมหนึ่ ง ที่จดั อยูใ่ นชุ ด Microsoft Office โปรแกรม MS Excel มีชื่อเสี ยงในด้าน การคานวณเกี่ยวกับตัวเลข และการทาบัญชี ต่าง ๆ การทางานของโปรแกรม ใช้ ตารางตามแนวนอน (rows) และแนวตั้ง (columns) เป็ นหลัก ซึ่ งเราเรี ยกโปรแกรมในลักษณะนี้ ว่าเป็ น Spread Sheet ไฟล์ของ Excel เปรี ยบเสมือนหนังสื อ 1 เล่ม ที่ประกอบไปด้วยหน้า หลาย ๆ หน้า ไฟล์ของ Excel เรี ยกว่าเป็ นสมุดงาน (Workbook) และในแต่ละหน้า เรี ยกว่า เป็ น แผ่นงาน (Worksheet) ในแต่ละแผ่นงาน จะแบ่งออกเป็ นตาราง ซึ่ งประกอบไปด้วย ช่องตาราง จานวนมาก ซึ่ งเรี ยกว่า เซลล์ (Cell) เซลล์คือส่ วนตัด กันของแถวและคอลัมน์ ใน แผ่นงานหนึ่ ง ๆ ของ Excel 2010 จะมีแถวทั้งหมด 1,048,576 แถว และ จะมี คอลัมน์ท้ งั หมด จานวน 16,384 คอลัมน์ โดยเรี ยงชื่ อตามตัวอักษรภาษาอังกฤษ ตั้งแต่ A จนถึง Z และ ต่อ ด้วย AA จนถึง AZ, BA จนถึง BZ ไปจนถึง XFD และในสมุดงานหนึ่ง ๆ จะมีแผ่นงานได้จานวนมาก ขึ้นอยู่ กับหน่วยความจาที่มีอยูใ่ นเครื่ องคอมพิวเตอร์
ในแต่ละช่องตาราง หรื อ Cell จะบรรจุขอ้ มูลต่าง ๆ เราพิมพ์ขอ้ มูลลงในช่องตาราง แต่ละช่องl เช่น พิม พ์ข ้อความ พิ ม พ์ตวั เลข เป็ นต้น เมื่ อเวลาจะอ้า งอิ ง ถึ งข้อมู ล เราก็ อ้า งอิ งถึ ง ช่ องตาราง โดยการระบุ คอลัมน์และแถว เช่น B4 หมายถึงช่องตารางที่ตรงกับ คอลัมน์ B และ แถวที่ 4 ดังภาพ
หน้ าจอของ MS Excel 2010 หน้าจอของ Excel 2010 มีส่วนประกอบหลักที่ควรรู ้จกั ดังนี้
ส่ วนบนของหน้าจอคือแถบริ บบิ้น ซึ่ งประกอบไปด้วย แท็บต่าง ๆ โดยปกติจะมี จานวน 7 แท็บ ได้แก่ หน้า แรก แทรก เค้าโครงหน้ากระดาษ สู ตร ข้อมู ล ตรวจทาน และมุ มมอง และในแต่ ละแท็บ จะ ประกอบไปด้วยกลุ่มต่าง ๆ ซึ่ งจะมีคาสั่งที่มกั จะใช้ดว้ ยกัน รวมอยูใ่ นกลุ่มเดียวกัน ดังภาพ
แฟ้ ม แท็บแฟ้ม เป็ นแท็บพิเศษไม่ถือเป็ นแถบบนริ บบิ้นเพราะใช้จดั การเกี่ยวกับไฟล์ หรื อแฟ้ ม เช่น การเปิ ด-ปิ ดไฟล์ การสร้างไฟล์ใหม่ การบันทึกไฟล์ ตลอดจนการตั้งค่าตัวเลือกต่าง ๆ เป็ นต้น หน้ าแรก เป็ นแท็บที่รวมลักษณะการใช้งานทัว่ ๆ ไป เช่น การคัดลอก การวาง การกาหนดตัวอักษร การจัดรู ปแบบ การกรองข้อมูล ตลอดจนการค้นหาข้อมูล เป็ นต้น แทรก เป็ นแท็บสาหรับแทรก ตาราง ภาพ รู ปร่ างอัตโนมัติ อักษรศิลป์ สัญลักษณ์ การเชื่ อมโยง เป็ น ต้น เค้ าโครงหน้ ากระดาษ เป็ นแท็บสาหรับการตั้งค่ากระดาษเพื่อพิมพ์ออกทางเครื่ องพิมพ์ เช่น ตั้งระยะ ขอบกระดาษ กาหนดขนาดกระดาษ พิมพ์แนวตั้งหรื อแนวนอน เป็ นต้น สู ตร ใช้แท็บนี้เมื่อต้องการคานวณค่าต่าง ๆ เช่น การรวม การเรี ยกใช้สูตรของ Excel เป็ นต้น ข้ อมู ล แท็บนี้ ใช้สาหรั บการรั บข้อมูลจากภายนอกเพื่อมาวิเคราะห์ใน Excel เช่ น นาข้อมู ลจาก ฐานข้อมูล Access เป็ นต้น นอกจากนี้ ยังใช้สาหรับการจัดการกับข้อมูลจานวนมาก ๆ เช่น การเรี ยง ข้อมูล การกรองข้อมูล การจัดกลุ่มข้อมูล เป็ นต้น ตรวจทาน เป็ นแท็บหรับการตรวจตัวสะกดการันต์ ตลอดจนการจัดการเกี่ยวกับแผ่นงาน เช่น การ ป้ องกันการแก้ไขข้อมูลบนแผ่นงาน เป็ นต้น มุมมอง เป็ นแท็บสาหรับแสดงแผ่นงานในมุมมองต่าง ๆ เช่น แบบปกติ แบบเต็มหน้า กาหนดให้มี หรื อไม่มีเส้นตาราง ย่อ/ขยาย ตลอดจนการแบ่งหน้าจอออกเป็ นส่ วน ๆ เป็ นต้น
วิธีที่ 1 การสร้ างสมุดงาน (Workbook) โดยทัว่ ไป 1. คลิกปุ่ ม แฟ้ม (File) > สร้าง (New) 2. คลิกเลือก สมุดงานเปล่า (Blank Workbook) 3. คลิกเลือก สร้าง (Create)
วิธีที่ 2 การสร้ างสมุดงาน (Workbook) จาก Template เป็ นการสร้าง Workbook ขึ้นมาใช้งานจากรู ปแบบ Workbook ที่มีอยูใ่ นโปรแกรม ซึ่ ง Workbook ใหม่ ที่สร้างขึ้นมาก็จะมีลกั ษณะเหมือนต้นแบบที่ได้เลือกไว้ทุกประการ ซึ่ งทาได้ตามขั้นตอนดังนี้ 1. คลิกปุ่ ม แฟ้ม (File) > สร้าง (New) 2. คลิกเลือก ตัวอย่างแม่แบบ (Sample templates)
3. คลิกเลือกสมุดงานที่ตอ้ งการ
4. คลิกปุ่ ม สร้าง (Create)
5. สมุดงานจะถูกสร้างขึ้นมาจากแม่แบบตามที่เลือก การป้ องกันแผ่นงานใน Excel 2010 เป็ นการป้ องกันไม่ให้บุคคลอื่นสามารถแก้ไขข้อมูลใด ๆ บนแผ่นงานได้ ซึ่ งการป้ องกันแผ่นงาน นั้นมีข้ นั ตอนดังต่อไปนี้ วิธีการป้ องกันแผ่ นงาน 1. คลิกแท็บ ตรวจทาน (Review) 2. คลิกเลือก ป้ องกันแผ่นงาน (Protect Sheet) 3. กาหนดรหัสผ่านที่ตอ้ งการ 4. คลิกปุ่ ม ตกลง (OK) 5. ยืนยันรหัสผ่านที่ได้สร้างขึ้น 6. คลิกปุ่ ม ตกลง (OK)
การยกเลิกการป้ องกันแผ่ นงานใน Excel 2010 การยกเลิกการป้ องกันแผ่นงานนั้น ทาได้ดงั ขั้นตอนต่อไปนี้ วิธีการยกเลิกการป้ องกันแผ่ นงาน 1. คลิกแท็บ ตรวจทาน (Review) 2. คลิกเลือก ยกเลิกการป้ องกันแผ่นงาน (Unprotect Sheet) 3. พิมพ์รหัสผ่านที่กาหนดไว้ 4. คลิกปุ่ ม ตกลง (OK)
การเปลีย่ นชื่ อเวิร์คชีตใน Excel 2010 หากต้องการเปลี่ยนชื่อเวิร์คชี ตก็สามารถทาได้ดงั นี้ วิธีการเปลีย่ นชื่ อเวิร์คชีต 1. คลิกเมาส์ขวาบริ เวณแถบชื่อแผ่นงาน แล้วเลือก เปลี่ยนชื่อ (Rename) 2. ปรับเปลี่ยนชื่ อสมุดงานได้ตามต้องการ
Link ศึกษา 1. http://www.slideshare.net/hlinsaetang/savedfiles?s_title=excel26409987&user_login=somkiattrai ning 2. http://www.crnfe.ac.th/excel2010/ch01/ch01.html 3. http://edltv.vec.go.th/index.php?option=com_edl&task=course&view=lesson&lid=6641&pid=66 40 4. http://vorawutaq.blogspot.com/2013/02/microsoft-excel.html 5. สามารถดาวโหลดเอกสารประกอบการศึกษา http://www.pnu.ac.th/webpnu/file_mgt/mgtmit/prarak/Microsoft%20excel%202010.pdf
http://www.sttc.ac.th/~computerbc/backup/elearning/mat/2.pdf กระบวนการจัดการเรียนรู้
(คาบที่1-2) 1. ขั้นเตรี ยมการสอน 1. ครู เตรี ยมกาหนดการสอน รายละเอียดของการเรี ยนการสอนรายวิชา เกณฑ์การให้คะแนน การ ทดสอบวัดผลใน LMS (Google Classroom โปรแกรมตารางคานวณ) 2. ครู เตรี ยมแบบทดสอบก่อนเรี ยนใน LMS (Google Classroom โปรแกรมตารางคานวณ) 3. ครู เตรี ยมใบงานเรื่ องความรู ้เบื้องต้นเกี่ยวกับการใช้โปรแกรม MS-Excel ใน LMS (Google Classroom โปรแกรมตารางคานวณ) 4. ครู เตรี ยมบทเรี ยน clip และเอกสารการสอน ใน LMS (Google Classroom โปรแกรมตาราง คานวณ) 5. ครู เตรี ยมแบบฝึ กหัด ไฟล์ตน้ แบบใน LMS (Google Classroom โปรแกรมตารางคานวณ) 2. ขั้นจัดกิจกรรมการเรี ยนรู ้ (แบบการตั้งคาถาม (Questioning) และแบบกระบวนการสื บค้น ) 1. ครู ผูส้ อนชี้ แจงรายละเอีย ดของการเรี ยนการสอนรายวิชา เกณฑ์ก ารให้คะแนน การทดสอบ วัดผล การปฏิ บตั ิกิจกรรมการเรี ยน ข้อควรปฏิบตั ิ กฎกติกา ภายในห้องเรี ยนร่ วมกันและการเข้า ห้องเรี ยน Google Classroom โปรแกรมตารางคานวณในรายวิชานี้ 2. ครู ให้ผเู ้ รี ยนทาแบบทดสอบก่อนเรี ยน วัดความรู ้พ้ืนฐานของการใช้ โปรแกรม MS-Excel โดย เข้าไปโหลดใน Google Classroom โปรแกรมตารางคานวณ วัดความรู ้เบื้องต้น 10 นาที 3. ครู เฉลยแบบทดสอบก่อนเรี ยน 4. ครู แจ้งจุดประสงค์การเรี ยนรู ้ 5. ครู แจกกระดาษคนละ 1 ใบ ให้แก่ผเู ้ รี ยน จากนั้นให้ผเู ้ รี ยนตอบคาถามว่าโปรแกรม MS-Excel ในความคิดของผูเ้ รี ยน คืออะไรและมีประโยชน์ในชี วิตประจาวันสาหรับตัวเองและผูอ้ ื่นใน เรื่ องใดบ้าง (เขียนมาให้มากที่สุด) ใช้เวลา 15 นาที 6. ผูเ้ รี ยนแต่ละคน อ่านคาตอบของตัวเอง พร้อมทั้งครู รวบรวบคาตอบบนกระดาน 7. ครู เสริ มอธิ บายเพิ่มเติมเนื้อหาเรื่ องความหมาย ความสามารถและประโยชน์ของโปรแกรม MSExcel ที่ เกี่ ย วกับ งานธุ รกิ จที่ จาเป็ นต้องใช้ เพื่ อให้ผูเ้ รี ยนตระหนัก และเห็ นความสาคัญของ โปรแกรม MS-Excel 8. ครู ให้ผูเ้ รี ยนเข้าไปดาวโหลดใบงานเรื่ องความรู ้ เบื้องต้นและส่ วนประกอบโปรแกรม MSExcel 9. ผูเ้ รี ย นศึ ก ษาค้นคว้า หาค าตอบในใบงาน พร้ อมทั้ง สรุ ป ความเข้า ใจ ระบุ แหล่ ง การศึ ก ษา ค้นคว้าต่างๆ (ครู คอยสังเกตการทางานของแต่ละคน ทั้งทั้งกระตุน้ สอดแทรกเรื่ องการสนใจ ใฝ่ รู ้ในการศึกษาค้นคว้า การตรงต่อเวลา และความซื่ อสัตย์)
10. ครู ให้ผูเ้ รี ยนส่ งใบงานในใน LMS (Google Classroom โปรแกรมตารางคานวณ) ตาม กาหนดเวลาที่ครู มอบหมาย 11. ครู และผูเ้ รี ยนร่ วมกันเฉลยใบงาน 12. ครู เสริ มและอธิ บายเพิม่ เติมในส่ วนที่ผเู ้ รี ยนมีขอ้ สงสัย 3. ขั้นสรุ ป 1. ผูเ้ รี ยนร่ วมกันสรุ ปกิจกรรมในใบงาน ว่าได้อะไรบ้างจากกิจกรรมนี้ เกิดปั ญหาอุปสรรคและมี แนวทางการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าอย่างไรบ้าง 2. ครู และผูเ้ รี ยนช่ วยกันสรุ ปความรู ้ พร้ อมทั้งครู สอดแทรกคุ ณธรรมในเรื่ องการพัฒนาตนเองที่ เกี่ยวกับสาขาวิชาชีพ (คาบที่3-4) 1. ขั้นเตรี ยมการสอน 1. ครู เตรี ยมบทเรี ยน clip และเอกสารการสอน ใน LMS (Google Classroom โปรแกรมตาราง คานวณ) 2. ครู เตรี ยมแบบฝึ กหัด และไฟล์ตน้ แบบใน LMS (Google Classroom โปรแกรมตารางคานวณ) 2. ขั้นจัดกิจกรรมการเรี ยนรู ้ (ครู อธิบาย / สาธิต และแบบกระบวนการสื บค้นโดยเทคนิคการระดมพลังสมอง) 1. ครู ทบทวนเนื้อหาคาบที่แล้ว โดยการสุ่ มถาม/ตอบ 2. ครู แจ้งจุดประสงค์การเรี ยนรู ้ 3. ครู อธิ บายและสาธิ ตการสร้าง Workbook ใหม่ การสร้าง Workbook ใหม่ดว้ ย Template / Template Online การก าหนดมุ ม มองให้ Workbook การป้ องกันและยกเลิ กการป้ องกัน Workbook 4. ครู สุ่มนักศึกษาเป็ นรายบุคคลออกมาปฏิบตั ิหน้าชั้นเพื่อวัดความเข้าใจ 5. ครู ให้ผเู ้ รี ยนแบ่งกลุ่มๆ 5-6 คน หลังจากนั้นให้แต่ละกลุ่มเข้าไปโหลดใบงานเรื่ องการจัดการ Worksheet ใน LMS (Google Classroom โปรแกรมตารางคานวณ) 6. ครู ช้ ีแจงรายละเอียดใบงาน และให้ผเู ้ รี ยนซักถามข้อสงสัย 7. ให้แต่ ล ะกลุ่ ม ช่ วยกันศึ ก ษาค้นคว้า จากคลิ ป และเอกสารที่ ค รู เตรี ย มให้ใ น LMS (Google Classroom โปรแกรมตารางคานวณ) / ผูเ้ รี ยนสามารถค้นคว้าศึกษาจากแหล่งการเรี ยนรู ้ ใน Internet อื่นเพิ่มเติมได้ (ให้ทาการระบุแหล่งอ้างอิงค้นคว้าด้วย) จากนั้นในกลุ่มช่วยกันระดม ความคิดหาคาตอบในใบงาน 8. ครู ให้แต่ละกลุ่มออกมาอธิ บายและเฉลยใบงาน
9. ครู คอยเสริ มและอธิ บายเพิ่มเติม 3. ขั้นสรุ ป 1. ครู และผูเ้ รี ยนร่ วมกันกันสรุ ป (คาบที่5-6) 1. ขั้นเตรี ยมการสอน 1. ครู เตรี ยมบทเรี ยน clip และเอกสารการสอน ใน LMS (Google Classroom โปรแกรมตาราง คานวณ) 2. ครู เตรี ยมแบบฝึ กหัด และไฟล์ตน้ แบบใน LMS (Google Classroom โปรแกรมตารางคานวณ) 2. ขั้นจัดกิจกรรมการเรี ยนรู ้ (แบบกระบวนการกลุ่มโดยเทคนิคการระดมพลังสมอง) 1. ครู ทบทวนเนื้อหาคาบที่แล้ว โดยการสุ่ มถาม/ตอบ 2. ครู แจ้งจุดประสงค์การเรี ยนรู ้ 3. ครู ให้ผเู ้ รี ยนดาวโหลดไฟล์ตวั อย่างใน LMS (Google Classroom โปรแกรมตารางคานวณ) 4. ครู เปิ ดไฟล์ตวั อย่าง และให้ผูเ้ รี ยนแต่ละคนช่ วยกันวิเคราะห์จากไฟล์งานว่ามีเครื่ องมือหรื อ คาสั่งใดบ้างที่ใช้ (ตามความเข้าใจของผูเ้ รี ยน) 5. ครู ให้ผเู ้ รี ยนแบ่งกลุ่ม และศึกษาดูคลิปเรื่ องการป้ อนข้อมูล การปรับเปลี่ยนเซลล์และข้อมูล พร้ อมทั้งศึกษาทาความเข้าใจ พูดคุยสอนกันในกลุ่ม จนเข้าใจ (โดยครู ผูส้ อนคอยสังเกตและ แนะนา) โดยมีหวั ข้อศึกษาดังนี้ 5.1 ประเภทของข้อมูล 5.2 การป้อนข้อมูลอัตโนมัติดว้ ย AutoFill 5.3 การสร้างชุดข้อมูลเก็บไว้ใน Custom List 5.4 การดึงชุดข้อมูลจาก Worksheet มาเก็บใน Custom List 5.5 การกาหนดเงื่อนไขการป้ อนข้อมูลด้วย Data Validation 5.6 การใส่ แสดง แก้ไขและลบ Comment ครู ให้แต่ละกลุ่มนาเสนอความรู ้ที่ได้ 7. ครู สรุ ปการนาเสนอของแต่ละกลุ่มพร้อมทั้งเสริ มแนะนาเพิ่มเติม 8. ครู ให้ผเู ้ รี ยนดาวโหลดไฟล์แบบฝึ กหัดใน LMS (Google Classroom โปรแกรมตารางคานวณ) 9. ผูเ้ รี ยนทาแบบฝึ กหัด พร้ อมทั้งครู สอดแทรก ความขยันหมัน่ เพียร ความอดทน การประหยัด และการพึ่งตนเอง (ให้ทาเป็ นการบ้านทานอกเวลา) 6.
10. ครู ให้ผเู ้ รี ยน ส่ งแบบฝึ กหัดผ่าน LMS (Google Classroom โปรแกรมตารางคานวณ) โดย
ครู ผสู ้ อนตรวจและคอมเม้นงานผ่าน LMS (Google Classroom โปรแกรมตารางคานวณ) เป็ น รายบุคคล พร้อมทั้งให้แก้ไข สาหรับข้อที่ทาผิดให้ถูกต้อง 3. ขั้นสรุ ป 1. ครู และผูเ้ รี ยนร่ วมกันกันสรุ ปการทาแบบฝึ กหัด 2. ครู และผูเ้ รี ยนร่ วมกันสรุ ปกิจกรรม ว่าได้อะไรบ้างจากกิจกรรม เกิดปั ญหาอุปสรรคและมีแนว ทางการแก้ปัญหาอย่างไรบ้างพร้อมหาเทคนิ คเรื่ องใหม่ๆ คนละ 1 เรื่ อง นาเสนอเพื่อนๆในชั้น คาบหน้า (เป็ นการแบ่งปั นความรู ้ใหม่ ร่ วมกัน) (คาบที7่ -8) 1. ขั้นเตรี ยมการสอนใน LMS (Google Classroom โปรแกรมตารางคานวณ) 1. ครู เตรี ยมแบบฝึ กหัดเรื่ องการป้อนข้อมูล และการปรับเปลี่ยนเซลล์และข้อมูล 2. ครู เตรี ยมไฟล์ตวั อย่าง 3. ครู เตรี ยมเอกสารประกอบการสอน 2. ขั้นจัดกิจกรรมการเรี ยนรู ้ 1. ครู ทบทวนเนื้อหาคาบที่แล้ว โดยการสุ่ มถาม/ตอบ 2. ครู แจ้งจุดประสงค์การเรี ยนรู ้ 3. ครู ให้ผเู ้ รี ยนดาวโหลดไฟล์ขอ้ มูลที่ LMS (Google Classroom โปรแกรมตารางคานวณ) 4. ครู อธิบายและสาธิตเรื่ อง 4.1. การปรับขนาดเซลล์ 4.2. การแทรกและลบเซลล์ 4.3. การคัดลอก การวางและการย้ายข้อมูล 4.4. การคัดลอกด้วย Format Painter 4.5. การค้นหาข้อมูล 4.6. การค้นหาและสั่งแทนที่ขอ้ มูล 4.7. การตกแต่งข้อมูล 5. ครู ให้ผเู ้ รี ยนซักถามปัญหา ข้อสงสัย 6. ครู ใ ห้ผูเ้ รี ย นดาวโหลดไฟล์แ บบฝึ กหัด และเอกสารประกอบการสอนที่ LMS (Google Classroom โปรแกรมตารางคานวณ) 7. ผูเ้ รี ยนทาแบบฝึ กหัด พร้ อมทั้งครู สอดแทรก ความขยันหมัน่ เพียร ความอดทน การประหยัด และการพึ่งตนเอง
3. ขั้นสรุ ป 1. ครู และผูเ้ รี ยนร่ วมกันสรุ ปความรู ้ (คาบที9่ -10) หยุดวันวิสาขบูชา 1. ขั้นเตรี ยมการสอน ----2. ขั้นจัดกิจกรรมการเรี ยนรู ้ ----3. ขั้นสรุ ป ----(คาบที1่ 1-12) 1. ขั้นเตรี ยมการสอน 1. ครู เตรี ยมใบงานเรื่ องการกาหนดรู ปแบบให้กบั ข้อมูลและเซลล์ 2. ครู เตรี ยมไฟล์ขอ้ มูลเรื่ องการกาหนดรู ปแบบให้กบั ข้อมูลและเซลล์ 3. ครู เตรี ยมเอกสารประกอบการสอน 2. ขั้นจัดกิจกรรมการเรี ยนรู ้ 1. ครู ทบทวนเนื้อหาคาบที่แล้ว โดยการสุ่ มถาม/ตอบ 2. ครู แจ้งจุดประสงค์การเรี ยนรู ้ 3. ครู ให้ผูเ้ รี ยนดาวโหลดไฟล์ขอ้ มูลและใบงานที่ LMS (Google Classroom โปรแกรมตาราง คานวณ) 4. ครู ให้ผเู ้ รี ยนเข้ากลุ่มและช่วยกันศึกษาและทาใบงาน เรื่ องการกาหนดรู ปแบบให้กบั ข้อมูลและ เซลล์ โดยครู ค อยสั ง เกตและแนะนา พร้ อมทั้ง สอดแทรกเรื่ องการมี ม นุ ษ ยสั มพันธ์ ใ นการ ร่ วมกันทางานเป็ นทีม ประกอบไปด้วยเนื้อหาต่อไปนี้ 4.1. การจัดรู ปแบบตัวอักษร 4.2. การจัดรู ปแบบตัวเลข 4.3. การจัดรู ปแบบวันที่และเวลา 4.4. การกาหนดสี พ้นื ของเซลล์ 4.5. การจัดตาแหน่งและแนววางข้อมูลในเซลล์ 4.6. การตัดข้อความในเซลล์ ( Wrap Text) 4.7. การผสานเซลล์
5. ครู สุ่มให้แต่ละกลุ่ม นาเสนอและอธิ บายขั้นตอนการทา 6. ครู สรุ ปการนาเสนอและเสริ มความรู ้เพิ่มเติม 7. ครู มอบหมายแบบฝึ กหัดให้ผเู ้ รี ยนเรื่ องการกาหนดรู ปแบบให้กบั ข้อมูลและเซลล์เพื่อวัดความ เข้าใจ 3. ขั้นสรุ ป 1. ครู และผูเ้ รี ยนร่ วมกันสรุ ปความรู ้ 2. ครู และผูเ้ รี ยนร่ วมกันเฉลยแบบฝึ ก (คาบที1่ 3-14) 1. ขั้นเตรี ยมการสอน 1. ครู เตรี ยมใบงานเรื่ องการกาหนดรู ปแบบให้กบั ข้อมูลและเซลล์ 2. ครู เตรี ยมไฟล์ขอ้ มูลเรื่ องการกาหนดรู ปแบบให้กบั ข้อมูลและเซลล์ 3. ครู เตรี ยมเอกสารประกอบการสอน 2. ขั้นจัดกิจกรรมการเรี ยนรู ้ 1. ครู ทบทวนเนื้อหาคาบที่แล้ว โดยการสุ่ มถาม/ตอบ 2. ครู แจ้งจุดประสงค์การเรี ยนรู ้ 3. ครู ให้ผเู ้ รี ยนดาวโหลดไฟล์ขอ้ มูลที่ LMS (Google Classroom โปรแกรมตารางคานวณ) 4. ครู อธิบายและสาธิตเรื่ อง 1. การกาหนดรู ปแบบ แบบมีเงื่อนไข 2. การกาหนดรู ปแบบเงื่อนไขด้วยตนเอง 5. ครู ให้ผเู ้ รี ยนซักถามปัญหา ข้อสงสัย 6. ครู ให้ผเู ้ รี ยนดาวโหลดไฟล์แบบฝึ กหัดที่ LMS (Google Classroom โปรแกรมตารางคานวณ) 7. ผูเ้ รี ย นท าแบบฝึ กหัด พร้ อ มทั้ง ครู ส อดแทรก ความขยัน หมั่นเพี ย ร ความซื่ อสั ตย์และการ พึ่งตนเอง 3. ขั้นสรุ ป 1. ครู และผูเ้ รี ยนร่ วมกันสรุ ปความรู ้ (คาบที1่ 5-16) 1. ขั้นเตรี ยมการสอน 1. ครู เตรี ยมใบงานและเกณฑ์คะแนนเรื่ องการออกแบบและสร้างแบบฟอร์มที่จาเป็ นในงาน ทางด้านธุ รกิจ
2. ขั้นจัดกิจกรรมการเรี ยนรู ้ 1. ครู ทบทวนเนื้อหาคาบที่แล้ว โดยการสุ่ มถาม/ตอบ 2. ครู แจ้งจุดประสงค์การเรี ยนรู ้ 3. ให้ผเู ้ รี ยนดาวโหลดไฟล์ใบงานเรื่ องการสร้างแบบฟอร์ มที่จาเป็ นในงานธุ รกิจที่ LMS (Google Classroom โปรแกรมตารางคานวณ) 4. ผูเ้ รี ยนสร้างแบบฟอร์มที่จาเป็ นในงานธุ รกิจ โดยคอยสังเกต ชี้ แนะการทงานและสอดแทรกใน เรื่ อง ความคิดริ เริ่ มสร้างสรรค์ ความสนใจใฝ่ รู ้ ความรับผิดชอบ ความมีระเบียบวินยั และการ รู ้จกั วางแผนในการทางานเพื่อให้ได้งานที่มีคุณภาพและประหยัดเวลา 3. ขั้นสรุ ป 1. ครู และผูเ้ รี ยนร่ วมกันสรุ ปการทางาน 2. ผูเ้ รี ยนแต่ละกลุ่มสรุ ปปั ญหา แนวทางแก้ไขที่พบในการทางาน สื่ อและนวัตกรรมทางการเรียนการสอน หนังสื อประกอบการเรี ยนการสอน Presentation LMS E-Book Model Internet Tools Video Clip ไฟล์ตวั อย่าง 1. http://www.youtube.com/watch?v=3JSy5fQV37g&list=PLv8EYkfiqfiaTMGRQUD9Tg3LD O1kTmlSa อื่น ๆ 1. ใบงานเรื่ องความรู ้เบื้องต้นเกี่ยวกับการใช้โปรแกรม MS-Excel 2. แบบฝึ กหัดการจัดรู ปแบบ 3. ใบงานแบบฟอร์ มงานธุ รกิจ แหล่ งการเรียนรู้ เว็บไซต์ 1. สถาบัน กศน.ภาคกลาง http://www.crnfe.ac.th/excel2010/ch01/ch01.html 2. เรี ยนรู ้การใช้ MS-Excel2010 http://eastern.nfe.go.th/55_east1/excel2010/chapter01.htm 3. http://vorawutaq.blogspot.com/2013/02/microsoft-excel.html 4. https://www.skilllane.com สถานประกอบการ...................................................................................................................... อื่น ๆระบุ
กระบวนการวัดและประเมินผล การทดสอบย่อย การทดสอบปลายภาค การนาเสนอผลงาน การสัมภาษณ์ การสังเกต การแสดงบทบาทสมมติ การตรวจใบงานเรื่ องความรู ้เบื้องต้นเกี่ยวกับการใช้โปรแกรม MSการตรวจแบบฝึ กหัด
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ชื่ อวิชา
การใช้ โปรแกรมตารางงาน
ชื่ อหน่ วย การสร้ างสู ตร และฟังค์ ชั่น
หน่ วยที่ 2 สั ปดาห์ ที่ 2-5 ชั่วโมงที่ 17-44 รวม 20 ชั่วโมง
หัวข้ อเรื่ อง 1. โครงสร้างของสู ตรคานวณ 2. ตัวดาเนินการและการคานวณใน Excel 3. การสร้างสู ตรคานวณ 4. การคัดลอกสู ตรคานวณ 5. การอ้างอิงตาแหน่งเซลล์ (แบบสัมพัทธ์และแบบสัมบูรณ์) 6. การคานวณข้าม sheet 7. การรวมเซลล์และแยกเซลล์ 8. ข้อผิดพลาดในสู ตรคานวณ 9. ฟังก์ชนั่ ในการคานวณ 9.1 SUM 9.2 MAX 9.3 MIN 9.4 AVERAGE , AVERAGEA, AVERAGEIF , AVERAGEIFS 9.5 COUNT , COUNTA, COUNTIF , COUNTIFS 9.6 UPPER 9.7 9.8 9.9 9.10 9.11 9.12
LOWER BAHTTEXT NOW TODAY IF เงื่อนไขเดียว IF หลายเงื่อนไข
9.13 SUMIF , SUMIFS 9.14 VLOOKUP 9.15 HLOOKUP สาระสาคัญ การคานวณค่าข้อมูล เพื่อต้องการผลลัพธ์โดยการสร้างสู ตรคานวณ เพื่อให้ค่าผลลัพธ์ตามต้องการ ถือว่าเป็ นหัวใจสาคัญของโปรแกรม EXCEL เพื่อช่วยลดปั ญหาที่เกิดจากความผิดพลาดจากการคานวณ โดย สามารถคานวณค่าที่เกิดจากตัวเลข วันที่และเวลา การสร้างเงื่อนไขเพื่อกาหนดสู ตรการคานวณ โดยเฉพาะ ฟั งก์ชนั่ สาเร็ จรู ป ซึ่ งให้ค่าจากการคานวณโดยที่ผใู ้ ช้ไม่จาเป็ นต้องสร้ างสู ตรขึ้นด้วยตนเอง โดยเฉพาะค่าที่ เกิดจากการสรุ ปผล เช่น การหาค่าผลรวม ค่าเฉลี่ย การนับจานวน การหาค่าผลสู งสุ ด / ต่าสุ ด ฯลฯ สมรรถนะอาชีพรายหน่ วย - มีทกั ษะในการนาความเรื่ องรู ้ฟังก์ชนั่ ในการคานวณในโปรแกรม Microsoft Excel มาประยุกต์ การทางาน จุดประสงค์ การเรี ยนรู้ จุดประสงค์ ทวั่ ไป / บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง 1. เพื่อให้มีความรู ้เกี่ยวกับฟังก์ชนั่ ในการคานวณ 2. เพื่อให้มีทกั ษะเกี่ยวกับการการคานวณและการนาฟั งก์ชนั่ ใน Microsoft Excel มาประยุกต์ การทางาน 3. เพื่อให้มีเจตคติที่ดีต่อเตรี ยมความพร้ อมด้านวัสดุ อุปกรณ์ สอดคล้องกับงานและใช้วสั ดุ อุปกรณ์ อย่างคุ ม้ ค่า ประหยัด ได้อย่างถู กต้องตามหลักปรั ชญา เศรษฐกิ จพอเพียง การ ปฏิ บ ัติ ง านอย่ า งถู ก ต้อ ง ส าเร็ จ ภายในเวลาที่ ก าหนด มี เ หตุ แ ละผลตามหลัก ปรั ช ญา เศรษฐกิจพอเพียง และมีความสนใจใฝ่ รู ้ในการศึกษาค้นคว้างานที่ได้รับมอบหมาย ผลการเรียนรู้ ทคี่ าดหวัง / บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง 1. ปฏิบตั ิการคานวณและการใช้ฟังก์ชนั่ ใน Microsoft Excel ได้ 2. เตรี ย มความพร้ อ มด้า นวัส ดุ อุ ป กรณ์ สอดคล้อ งกับ งานและใช้ ว สั ดุ อุ ป กรณ์ อ ย่ า งคุ ้ม ค่ า ประหยัด ได้อย่างถูกต้องตามหลักปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง 3. ปฏิ บตั ิ ง านได้อย่างถู กต้อง และสาเร็ จภายในเวลาที่ ก าหนดอย่างมี เหตุ ผลและผลตามหลัก ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 4. สนใจใฝ่ รู ้ในการศึกษาค้นคว้างานที่ได้รับมอบหมาย
เนื้อหาสาระการสอน ในโปรแกรม Microsoft Excel มีสูตรคานวณที่ใช้กนั บ่อย ๆ เช่น หาค่าเฉลี่ย ผลรวม หาค่าสู งสุ ด หรื อต่ าสุ ด โปรแกรม Microsoft Excel ได้เตรี ยมไว้ให้เรี ยกใช้ได้โดยไม่ตอ้ งสร้ างขึ้นมาใหม่อีก เรี ยกว่า ฟั ง ก์ชัน (Function) เช่ น SUM ใช้หาผลรวมของตัว เลข ซึ่ ง เป็ นเพี ย งหนึ่ ง ในฟั ง ก์ชันที่ มี ใ นโปรแกรม Microsoft Excel และยังมีฟังก์ชนั ประเภทอื่นอีก เช่น ฟั งก์ชนั ในการวิเคราะห์ทางสถิติ ฐานข้อมูล วันที่และ เวลา บัญชี/การเงิน และการจัดการข้อความ โครงสร้ างของฟังก์ชัน ประกอบด้ วย 3 ส่ วน คือ 1. ชื่อของฟังก์ชนั เช่น Max, Min, Average เป็ นต้น 2. ต้องมีวงเล็บต่อท้ายฟังก์ชนั 3. อาร์ กิวเมนต์ เป็ นส่ วนของข้อมูลที่นาไปใช้ในการประมวลผล หากมีหลาย อาร์ กิวเมนต์ จะใช้คอมม่า (,) คัน่ รู ปแบบทัว่ ไปของฟังก์ ชัน = ชื่อฟังก์ชนั (อาร์ กิวเมนต์ที่1, อาร์ กิวเมนต์ที่2, อาร์ กิวเมนต์ที่3,...) ส่ วนประกอบของรู ปแบบของฟังก์ชนั ประกอบด้วย ส่ วนที่ 1 เครื่ องหมาย = ส่ วนที่ 2 ชื่อของฟังก์ชนั ที่ตอ้ งการใช้ ส่ วนที่ 3 ส่ วนขยายของฟังก์ชนั (อาร์ กิวเมนต์) ต้องอยูใ่ นวงเล็บเสมอ การใช้ ฟังก์ชันเพื่อการคานวณ ฟังก์ชนั ทาหน้าที่เหมือนกับว่าเป็ นข้อมูลหรื อตัวถูกดาเนินการตัวหนึ่ง โดยในสู ตร อาจ ประกอบด้วยฟังก์ชนั อย่างเดียว เช่น =AVERAGE(E5,E6,E7,E8,E9) ซึ่ งเป็ นการหาค่าเฉลี่ย ของตัวเลขใน เซลล์ 5 เซลล์ ในวงเล็บหรื ออาจมีฟังก์ชนั ชนกับข้อมูลอื่น เช่น =10%*SUM(B5:D5) การเรี ยกใช้งาน ฟังก์ชนั มีวธิ ี การใช้อยู่ 2 วิธีดว้ ยกัน คือ การใส่ ฟังก์ชนั ด้วยตนเอง และการใส่ ฟังก์ชนั วิซาร์ ด แสดงการใช้สูตรฟังก์ชนั =AVERAGE(E5,E6,E7,E8,E9)
แสดงสูตรฟั งก์ ชนั ที่ใช้ ในเซลล์ E11
ผลลัพธ์ ท่ ไี ด้ จากการใช้ สตู รฟั งก์ ชนั =AVERAGE(E5,E6,E7,E8,E9)
แสดงการใช้สูตรฟังก์ชนั =10%*SUM(B5:D5)
แสดงสูตรฟั งก์ ชนั ร่ วมกับข้ อมูลอื่นในเซลล์ F5
ผลลัพธ์ ท่ ไี ด้ จากการใช้ สตู รฟั งก์ ชนั ร่ วมกับข้ อมูลอื่น =10%*SUM(B5:D5)
ฟังก์ชันในการทางาน ฟังก์ชนั หมายถึง สู ตรที่เขียนไว้ล่วงหน้าเพื่ออานวยความสะดวกแก่ผนู ้ าไปใช้ โดยมีการจัดแบ่ง ตามลักษณะการใช้งานได้ 9 ประเภท ดังนี้ 1. ฟังก์ชันทางด้ านการเงิน (Financial Functions) เช่น FV, PV, ACCRINT, ACCRINTM
2. ฟังก์ชันวัน และเวลา (Date and Time Functions) เช่น Date, Time 3. ฟังก์ชันคณิตศาสตร์ และตรีโกณมิติ (Math and Trig Functions) เช่น SIN, COS, TAN, POWER 4. ฟังก์ชันทางสถิติ (Statistics Functions) เช่น SUM, NIN,MAX 5. ฟังก์ชันการค้ นหาและการอ้างอิง (Lookup and Reference Functions) เช่น COLUMN, INDEX 6. ฟังก์ ชันฐานข้ อมูล ( Base Functions) เช่น DCOUNTA, FIXED 7. ฟังก์ชันข้ อความ (Text Functions) เช่น BATHTEXT, CLEAN, CODE 8. ฟังก์ชันแบบตรรกะ (Logical Functions) เช่น TURE, FALSE, AND 9. ฟังก์ ชันข้ อมูล (Information Functions) เช่น ISRR, CELL
ฟังก์ชันบางฟังก์ชันในโปรแกรม Microsoft Excel SUM หาผลรวมของของตัวเลข ตัวอย่าง เซลล์ B2 ใส่ ตวั เลข 69 เซลล์ B3 ใส่ ตวั เลข 42 เซลล์ B4 ใส่ ตวั เลข 36 เซลล์ B5 ใส่ ตวั เลข 41 เซลล์ B6 ใส่ สูตร = SUM(B5:B8) และกดปุ่ ม Enter จะได้ผลลัพธ์ 188 AVERAGE หาค่ าเฉลีย่ ของข้ อมูลในช่ วง (B2:B5) ทาได้ ดังนี้ เลือกเซลล์ B7 และพิมพ์ =AVERAGE(B2:B5) และกดปุ่ ม Enter ได้ผลลัพธ์ดงั ภาพ
IF ประมวลผลหาค่ าจริงหรื อเท็จ จากเงื่อนไขทีร่ ะบุ รู ปแบบ =IF (เงื่อนไข, ค่ากรณี เงื่อนไขถูกต้อง, ค่ากรณี เงื่อนไขไม่ถูกต้อง) ตัวอย่าง กาหนดเงื่อนไขตัดสิ นผลการเรี ยน 0-4 คือ นักเรี ยนที่ได้คะแนน ต่ากว่าและเท่ากับ 49=0 เท่ากับและสู งกว่า 50=1 เท่ากับและสู งกว่า 60=2 เท่ากับและสู งกว่า 70=3 เท่ากับและสู งกว่า 80=4 เขียนสู ตร ฟังก์ชนั ดังนี้
=IF(G5>=80,4,IF(G5>=70,3,IF(G5>=60,2,IF(G5>=50,1,IF(G5<=49,0)))))
MAX ค่ าจานวนสู งสุ ด รู ปแบบ =MAX(N1, N2,...) =MAX(15.2,16,13.5,12.4,18,12) ผลลัพธ์เป็ น 18 STDEV ค่ าเบี่ยงเบนมาตรฐาน รู ปแบบ =STDEV(N1, N2,...) =STDEV(15.2,16,13.5,12.4,18,12) ผลลัพธ์เป็ น 2.308607 MEDIAN ค่ ากลาง รู ปแบบ =MEDIAN(15.2,16,13.5,12.4,18,12) ผลลัพธ์เป็ น 14.35 MIN ค่ าต่าสุ ดของจานวน รู ปแบบ =MIN (N1, N2,...) =MIN(15.2,16,13.5,12.4,18,12) ผลลัพธ์เป็ น 12
ROUNDDOWN ปัดตัวเลขลง รู ปแบบ =ROUNDDOWN (ตัวเลข, จานวนหลัก) =ROUNDDOWN(12.345,2) ผลลัพธ์ 12.34 ROUNDUP ปัดตัวเลขขึน้ รู ปแบบ =ROUNDUP (ตัวเลข,จานวนหลัก) =ROUNDUP(1234.5,-1) ผลลัพธ์ 12.40 ROUND ปัดตัวเลขขึน้ หรื อลง รู ปแบบ =ROUND(ตัวเลข,จานวนหลัก) =ROUND(12.345,2) ผลลัพธ์ 12.35 COUNT ใช้ นับข้ อมูลทีเ่ ป็ นตัวเลข รู ปแบบ =COUNT(N1,N2…) =COUNT(A1:A12) COUNTA ใช้ นับข้ อมูลที่เป็ นตัวอักษร รู ปแบบ =COUNTA(N1,N2…) =COUNTA(A1:A12) COUNTIF ใช้ นับข้ อมูลทั้งตัวเลขและตัวอักษร โดยมีเงื่อนไข รู ปแบบ =COUNTIF(พิสัย,เงื่อนไข) =COUNTIF(A1:A12,“A”) การเรียกใช้ งานฟังก์ชัน วิธีที่ 1 การใส่ ฟังก์ชันด้ วยตนเอง 1. คลิกเลือกเซลล์ที่ตอ้ งการหาผลลัพธ์โดยการใช้ฟังก์ชนั 2. ใส่ เครื่ องหมายเท่ากับ (=) ตามด้วยชื่อของฟังก์ชนั และใส่ วงเล็บภายในขอบเขตของช่วงที่ ต้องการหาผลลัพธ์เสมอ 3. กดปุ่ ม Enter บนแป้นพิมพ์ การใส่ ฟังก์ชันวิซาร์ ด 1. เลือกเซลล์ที่ตอ้ งการจะใส่ ฟังก์ชนั 2. พิมพ์สูตร จนกระทัง่ ถึงตาแหน่งที่ใส่ ฟังก์ชนั (หากใส่ ฟังก์ชนั ข้ามข้อนี้ได้) 3. จากเมนู แทรก เลือกคาสั่ง ฟังก์ชนั หรื อ คลิกที่ปุ่ม บน แถบสู ตร
4. เลือกประเภทจากปุ่ มลูกศรท้ายกล่องข้อความ เลือกฟังก์ชนั และเลือกปุ่ ม ตกลง
5. เติมค่าต่าง ๆ ให้กบั ฟังก์ชนั ตามรู ปแบบของฟังก์ชนั นั้น ๆ และเลือกปุ่ ม ตกลง
เกีย่ วกับปุ่ มพับ ในหน้ าต่ างของอาร์ กวิ เมนต์ ของฟังก์ชัน ในกรอบใด ๆ ที่ตอ้ งการให้ใส่ ค่าเป็ นช่วงเซลล์ โปรแกรม Microsoft Excel ได้เตรี ยมปุ่ มพับ กรอบ
ไว้ให้ เพื่อใช้พบั กรอบ
ง่ายขึ้น เมื่อเลือกเซลล์ได้แล้วให้คลิกที่ปุ่มคลี่
ขณะนั้นให้เหลือเท่าที่จาเป็ นเพื่อให้เลือกเซลล์ในแผ่นงานได้ กรอบเพื่อกลับมาดังเดิม
การใช้ ฟังก์ชันเบื้องต้ น เนื่องจากฟังก์ชนั ในโปรแกรม Microsoft Excel มีมากมาย จึงไม่สามารถอธิ บายได้หมดทุกฟังก์ชนั ในที่น้ ีจะขออธิ บายเพียงบางฟังก์ชนั เท่านั้น 1. การหาผลรวมด้ วยฟังก์ชัน SUM 1. เลื่อนไปยังเซลล์ที่จะใส่ ฟังก์ชนั 2. จากเมนู แทรก เลือกคาสั่ง ฟังก์ชนั 3. เลือก SUM แล้วเลือกปุ่ ม ตกลง จะเข้าสู่ การเติมค่าให้กบั ฟังชัน 4. ใส่ หรื อเลือกกลุ่มเซลล์ ซึ่ งเป็ นกลุ่มเซลล์ที่ตอ้ งการ หาผลรวม เลือกปุ่ มตกลง
ฟั งก์ ชนั ที่ใช้ ในเซลล์ G9 ผลลัพธ์ ท่ ไี ด้ จากใช้ ฟังก์ ชนั
2. การหาค่ าสู งสุ ดด้ วยฟังก์ ชัน MAX 1. เลื่อนไปยังเซลล์ที่จะใส่ ฟังก์ชนั 2. จากเมนู แทรก เลือกคาสั่ง ฟังก์ชนั 3. เลือกประเภททางสถิติ เลือกฟังก์ชนั MAX เลือกปุ่ ม ตกลง จะเข้าสู่ การป้ อนค่าให้กบั ฟังชัน 4. ใส่ หรื อเลือกกลุ่มเซลล์ซ่ ึ งเป็ นกลุ่มเซลล์ที่ตอ้ งการหาค่าสู งสุ ดเลือกปุ่ มตกลง
ฟั งก์ ชนั ที่ใช้ ในเซลล์ G10
ผลลัพธ์ ท่ ไี ด้ จากใช้ ฟังก์ ชนั
3. การหาค่ าต่าสุ ดด้ วยฟังก์ ชัน MIN 1. เลื่อนไปยังเซลล์ที่จะใส่ ฟังก์ชนั 2. จากเมนู แทรก เลือกคาสั่ง ฟังก์ชนั 3. เลือก MIN แล้วเลือกปุ่ ม ตกลง จะเข้าสู่ การเติมค่าให้กบั ฟังชัน 4. ใส่ หรื อเลือกกลุ่มเซลล์ ซึ่ งเป็ นกลุ่มเซลล์ที่ตอ้ งการ ต่าสุ ด เลือกปุ่ มตกลง 4. การหาค่ าเฉลีย่ ด้ วยฟังก์ชัน AVERAGE 1. เลื่อนไปยังเซลล์ที่จะใส่ ฟังก์ชนั 2. จากเมนู แทรก เลือกคาสั่ง ฟังก์ชนั 3. เลือก AVERAGE แล้วเลือกปุ่ ม ตกลง จะเข้าสู่ การเติมค่าให้กบั ฟังชัน 4. ใส่ หรื อเลือกกลุ่มเซลล์ ซึ่ งเป็ นกลุ่มเซลล์ที่ตอ้ งการ ต่าสุ ด เลือกปุ่ มตกลง 5. การนับจานวนด้ วยฟังก์ชัน IF COUNT COUNTIF
ในการคานวณหาหรื อเปรี ยบเทียบค่าของข้อมูล ซึ่ งมีความซับซ้อนมากขึ้น มีความจาเป็ นต้อง เลือกใช้ฟังก์ชนั ให้ถูกต้องเหมาะสมกับงาน ในที่น้ ีจะกล่าวถึงฟังก์ชนั ที่มีการใช้งานบ่อยและมีความยืดหยุน่ สามารถนาไปใช้งานได้หลายประเภท เป็ นคาสั่งที่มีเงื่อนไขที่ใช้เปรี ยบเทียบข้อมูลเพื่อให้ผลลัพธ์ตาม ต้องการ คาสั่ง IF มีรูปแบบคาสั่งดังนี้ =IF(Logical_test, Valua_if_true, Value_if_false) คาสั่งแสดง การเปรี ยบเทียบซึ่ งมีความหมายดังนี้ =IF(เงื่อนไข, กระทาเมื่อเงื่อนไขเป็ นจริ ง, กระทาเมื่อเงื่อนไขเป็ นเท็จ) รู ปแบบ IF(logical_test,value_if_true,value_if_false) logical_test คือค่าหรื อนิพจน์ใด ๆ ที่ใช้เป็ นเงื่อนไขหรื อค่าเปรี ยบเทียบ value_if_true คือค่าที่ถูกส่ งกลับ ถ้าการเปรี ยบเทียบเป็ นจริ ง value_if_false คือค่าที่ถูกส่ งกลับ ถ้าการเปรี ยบเทียบเป็ นเท็จ หมายเหตุ ค่าที่จะส่ งกลับมาอาจเป็ นสู ตรการคานวณหรื อข้อความธรรมดาก็ได้ (หากเป็ นข้อความธรรมดาจะต้องอยูภ่ ายในเครื่ องหมาย “ ”) คาสัง่ ฟังก์ชนั COUNT จะมีอยู่ 3 ประเภทได้แก่ COUNT COUNTA และCOUNTIF ทั้งสาม ฟังก์ชนั นี้ใช้ทาหน้าที่นบั จานวนเหมือนกัน แตกต่างกันที่ COUNT ใช้นบั เซลล์ที่มีตวั เลข COUNTA ใช้นบั ทุกเซลล์ที่เป็ นตัวเลข ตัวอักษร แต่ไม่นบั เซลล์วา่ ง และ COUNTIF ใช้นบั จานวนเซลล์ที่เป็ นตัวเลขหรื อ ตัวอักษรตามเงื่อนไขที่กาหนด คาสั่ง COUNT มีรูปแบบคาสั่งดังนี้ =COUNT(Value1,Value2,…) คาสั่ง COUNTA มีรูปแบบคาสั่งดังนี้ =COUNTA(Value1,Value2,…) คาสั่ง COUNTIF มีรูปแบบคาสั่งดังนี้ =COUNTIF(Value1,Value2,…)
ผลลัพธ์ จากฟั งก์ ชนั =IF(G5>=80,4,IF(G5>=70,3,IF(G5>=60,2,IF(G5>=50,1,IF(G5<=49,0)))))
ผลลัพธ์ จากฟั งก์ ชนั =COUNTA(B5:B17)
ผลลัพธ์ จากฟั งก์ ชนั =COUNTIF(H5:H17,"1")
6. การค้ นหาค่ าข้ อมูลจากตารางด้ วยฟังก์ ชัน VLOOKUP เป็ นคาสัง่ ในการค้นหาค่าข้อมูลจากตารางข้อมูลในคอลัมน์ทางด้านซ้าย (ค้นหาจากแนวตั้ง จากด้านบนลงล่าง) เพื่อให้ได้ผลลัพธ์จากคอลัมน์ทางขวา ตัวอย่าง การใช้ฟังก์ชนั หลาย ๆ ฟังก์ชนั ในแผ่นงานเพื่อให้งานมีความสมบูรณ์
ผลลัพธ์ จากฟั งก์ ชนั =VLOOKUP(G5,$J$5:$K$9,2)
ผลลัพธ์ จากฟั งก์ ชนั =COUNTIF(H5:H17,"B")
หมายเหตุ การสร้างตารางเพื่อใช้เปรี ยบเทียบค่าที่เซลล์ J5 ถึง เซลล์ K9 ตามตัวอย่าง (ตารางนี้ จะ สร้างที่เซลล์ใดก็ได้ตามที่กาหนด) คลิกเมาส์ที่เซลล์ H5 แล้วใส่ ฟังก์ชนั VLOOKUP ตามตัวอย่างโปรแกรม Microsoft Excel จะทาการเปรี ยบเทียบค่าข้อมูลจากเซลล์ G5 ที่อา้ งถึง ในสู ตรกับตาราง ซึ่งถ้าตรง ตามเงื่อนไขที่กาหนดในตาราง เซลล์ H5 จะแสดงผลลัพธ์ที่ได้โดยนาค่าของข้อมูลในตารางที่อยูด่ า้ นขวามา แสดง 7. การค้ นหาค่ าข้ อมูลจากตารางด้ วยฟังก์ ชัน HLOOKUP เป็ นคาสั่งในการค้นหาค่าข้อมูลจากตารางข้อมูลในแถวบน (ค้นหาจากแนวนอนด้านบนลง ล่าง) เพื่อให้ได้ผลลัพธ์จากแถวล่าง
ผลลัพธ์ จากฟั งก์ ชนั =HLOOKUP(G7,$E$2:$I$3,2)
หมายเหตุ วิธีการเหมือนกับการใช้คาสั่ง VLOOKUP เพียงแต่ค่าข้อมูลที่ใช้เปรี ยบเทียบจะเป็ น ลักษณะแนวนอน การจัดการกับความผิดพลาดเวลาใช้ สูตร
ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากการใช้สูตรมีหลายสาเหตุ ซึ่ งอาจเกิดจากการป้ อนสู ตรผิด การบอก ชื่อเซลล์ผดิ หรื อแม้กระทัง่ การพิมพ์ขอ้ ความผิด ดังนั้นเวลาสั่งให้โปรแกรมคานวณ จะไม่สามารถหาผลลัพธ์ ได้ ความผิดพลาดที่มกั เห็นกันอยูบ่ ่อย ๆ มีดงั นี้
ตารางแสดงข้ อผิดพลาด / แนวทางแก้ไข ความผิดพลาด #####
#VALUE!
#DIV/0!
#NULL!
สาเหตุ ตัวเลขที่พิมพ์ลงในเซลล์หรื อ ผลจากสู ตรคานวณ ยาวเกินกว่าที่จะ แสดงในเซลล์ได้ เกิดจากนาวันที่มาลบกันแล้วมี ค่าติดลบ ใช้ operand ผิดประเภท เช่น นา ข้อความไปคานวณร่ วมกับตัวเลข หรื อใช้อาร์ กิวเมนต์ผดิ ประเภท คือ ฟังก์ชนั ต้องการ อาร์ กิวเมนต์ที่เป็ น ตัวเลขแต่ใส่ เป็ นข้อความ ตัวหารมีค่า 0 เช่น =5/(A1-3) หาก A1 เป็ น 3 สู ตรนี้ จะผิดพลาด ส่ วนกรณี อื่น คือ ตัวหารเป็ นเซลล์ ว่าง ๆ หรื ออาร์ กิวเมนต์ของบาง ฟังก์ชนั มีค่าไม่ถูกต้อง ใช้การอ้างอิงเซลล์ผดิ ทาให้ โปรแกรมไม่สามารถกาหนดเซลล์ที่ ต้องการได้
วิธีแก้ไข ปรับให้คอลัมน์กว้างขึ้น หรื อ เปลี่ยนรู ปแบบตัวเลขให้ส้ นั ลง เช่น ลดจานวนจุดทศนิยม สลับค่าที่นามาลบกัน เพื่อให้ ได้ค่าที่ไม่ติดลบ แก้ไข operand หรื อ อาร์ กิวเมนต์ให้ถูกประเภท
ตรวจสอบตัวหารทุกตัวในสู ตร คานวณและอาร์ กิวเมนต์ของฟังก์ชนั ต่าง ๆ
แก้ไขเซลล์การอ้างอิงเซลล์ให้ ถูกต้อง
#N/A
#NAME?
ใส่ อาร์ กิวเมนต์ให้ฟังก์ชนั ไม่ ครบ หรื อใช้อาร์ กิวเมนต์ที่ไม่ถูกกับ ฟังก์ชนั LOOKUP VLOOKUP LOOKUP และ MATCH เซลล์ใดเซลล์หนึ่งมีค่าเป็ น #N/A ชื่อเซลล์ที่ใช้ในสู ตรสะกดไม่ ถูกต้อง หรื อไม่มีชื่อนั้น ชื่อฟังก์ชนั ที่ใช้ในสู ตรและ สะกดไม่ถูกต้อง
#REF!
#NUM!
Link ศึกษา
ใช้ขอ้ ความในสู ตรโดยไม่ใส่ เครื่ องหมาย “ ” คร่ อมข้อความนั้น ซึ่งโปรแกรม Microsoft Excel เป็ น ชื่อเซลล์ ไม่ใส่ เครื่ องหมาย : เมื่อมีการ อ้างถึงเซลล์เป็ นช่วง เช่น (A1:A20) เซลล์ใดเซลล์หนึ่งในสู ตรถูก ลบไปหรื อถูกข้อมูลจากเซลล์อื่นย้าย มาทับ มีการอ้างถึงข้อมูลของ โปรแกรมอื่นที่ไม่ได้กาลังทางานอยู่ ใช้อาร์ กิวเมนต์ผดิ ประเภท คือ ต้องเป็ นข้อมูลตัวเลขแต่กลับไปใช้ ข้อมูลชนิดอื่น ผลของสู ตรคานวณได้ตวั เลขที่ มีค่ามากหรื อน้อยเกินไป
ตรวจสอบอาร์ กิวเมนต์ของ ฟังก์ชนั ต่าง ๆ
ตรวจสอบค่าของ operand และ อาร์ กิวเมนต์ในสู ตร ตรวจสอบชื่อเซลล์ตา่ ง ๆ ว่าใช้ ถูกต้องหรื อชื่อนั้นเคยมีอยูแ่ ต่ถูกลบ ไป ตรวจชื่ อฟังก์ชนั ที่ใช้ และหาก ไม่ใส่ ฟังก์ชนั หลัก คือเป็ นส่ วนของ โปรแกรมเสริ ม (add-in) ก็ตอ้ งเรี ยก โปรแกรมนั้นก่อน ตรวจดูขอ้ ความที่ใช้ในสู ตร คานวณ
ตรวจดูเซลล์ที่มีการอ้างเป็ น ช่วงต้องมีเครื่ องหมาย : อยูด่ ว้ ย ใช้ปุ่มเลิกทายกเลิกการลบเซลล์ หรื อย้ายข้อมูลหรื อทาการแก้ไขชื่อ เซลล์ในสู ตรเป็ นเซลล์อื่นให้ถูกต้อง เรี ยกโปรแกรมนั้นขึ้นมาทางาน แก้ไขอาร์ กิวเมนต์ให้ถูก ประเภท แก้ไขสู ตร (ตัวเลขต้องมีค่า ระหว่าง -1*10307 ถึง 1*10307)
1. 2. 3. 4. 5. 6.
http://www.com5dow.com/ http://vorawutaq.blogspot.com/2013/02/microsoft-excel-2010.html http://www.crnfe.ac.th/excel2010/ch01/ch01.html เอกสารประกอบการสอน (เอกสารประกอบการอบรมการใช้ MS-Excel2010 ของ ICT Center) http://excel-advanced.blogspot.com/ รวมสุดยอดเทคนิคมหัศจรรย์ในการใช้ งาน Excel http://www.snasui.com/viewtopic.php?f=9&t=411&sid=13689218c8fdb303f6259c9d738757ba 7. (เอกสารประกอบการอบรมการใช้ MS-Excel2010 ของ ICT Center) 8. เอกสารประกอบการสอน เรื่ องฟังก์ชนั่ if ไฟล์ PDF ( http://sac.kku.ac.th/km/excel/e8.pdf) 9. https://www.skilllane.com กระบวนการจัดการเรียนรู้ (คาบที่17-18) 1. ขั้นเตรี ยมการสอน 1. ครู เตรี ยมไฟล์ขอ้ มูลตัวอย่าง 2. ขั้นจัดกิจกรรมการเรี ยนรู ้ (ครู อธิบาย / สาธิต) 1. ครู พูดคุยกับผูเ้ รี ยนเกี่ยวกับการคานวณที่พบในชีวติ ประจาวัน เพื่อโยงเข้าสู่ บทเรี ยน 2. ครู แจ้งจุดประสงค์การเรี ยนรู ้ 3. ครู ให้ผเู ้ รี ยนดาวโหลดไฟล์ขอ้ มูลที่ LMS (Google Classroom โปรแกรมตารางคานวณ) 4. ครู อธิ บาย สาธิ ต และให้ผูเ้ รี ยนคิดวิเคราะห์ขอ้ มูลไปพร้ อมๆ กับครู ผูส้ อน พร้ อมทั้งปฏิ บตั ิ (จากไฟล์ตวั อย่าง) เรื่ อง 4.1. โครงสร้างของสู ตรคานวณ 4.2. ตัวดาเนินการและการคานวณใน Excel 4.3. การสร้างสู ตรคานวณ 4.4. การคัดลอกสู ตรคานวณ 4.5. การอ้างอิงตาแหน่งเซลล์ (แบบสัมพัทธ์และแบบสัมบูรณ์) 4.6. การคานวณข้าม sheet 4.7. การรวมเซลล์และแยกเซลล์ 4.8. ข้อผิดพลาดในสู ตรคานวณ
5. ครู สุ่มผูเ้ รี ยนเป็ นรายบุคคลออกมาปฏิบตั ิและอธิ บายหน้าชั้นเพื่อวัดความเข้าใจ 3. ขั้นสรุ ป 1. ครู และผูเ้ รี ยนร่ วมกันกันสรุ ปเนื้อหา (คาบที่19-22) ใช้ เวลา 4 คาบ 1. ขั้นเตรี ยมการสอน 1. ครู เตรี ยมใบความรู ้เรื่ องสู ตรฟังก์ชนั่ ในการคานวณ 2. ครู เตรี ยมไฟล์ตวั อย่าง 3. คลิป VDO สอน 2. ขั้นจัดกิจกรรมการเรี ยนรู ้ 1. ครู ทบทวนเนื้อหาคาบที่แล้ว โดยการสุ่ มถาม/ตอบ 2. ครู แจ้งจุดประสงค์การเรี ยนรู ้ 3. ครู ให้ผเู ้ รี ยนดาวโหลดไฟล์ตวั อย่าง ที่ LMS (Google Classroom โปรแกรมตารางคานวณ) 4. ครู อธิบายและสาธิ ตการคานวณจากไฟล์ตวั อย่างพร้อมทั้งให้ผเู ้ รี ยนซักถามข้อสงสัย 5. ให้ผเู ้ รี ยนทาแบบฝึ กหัดเรื่ องการคานวณจากไฟล์ตวั อย่างการคานวณชุ ดที่ 1 ด้วยตนเอง และครู สอดแทรก ความสนใจใฝ่ รู ้ ความขยัน หมั่นเพี ย ร ความรั บ ผิด ชอบ การประหยัดและการ พึ่งตนเอง 6. ครู และผูเ้ รี ยนร่ วมกันเฉลยแบบฝึ กหัด 3. ขั้นสรุ ป 1. ครู และผูเ้ รี ยนร่ วมกันสรุ ปฟังก์ชนั่ ที่ใช้ในการคานวณ (คาบที่23-24) 1. ขั้นเตรี ยมการสอน 1. ครู เตรี ยมใบความรู ้เรื่ องสู ตรฟังก์ชนั่ ในการคานวณ 2. ครู เตรี ยมไฟล์ตวั อย่างการคานวณชุดที่1 ที่ LMS (Google Classroom โปรแกรมตารางคานวณ) 3. ครู เตรี ยมคลิปสอนการใช้สูตรฟังก์ชนั่ ในการคานวณที่ LMS (Google Classroom โปรแกรม ตารางคานวณ) 2. ขั้นจัดกิจกรรมการเรี ยนรู ้ 1. ครู ทบทวนเนื้อหาคาบที่แล้ว โดยการสุ่ มถาม/ตอบ 2. ครู แจ้งจุดประสงค์การเรี ยนรู ้
3. ครู ให้ผเู ้ รี ยนดาวโหลดไฟล์ตวั อย่างการคานวณชุดที่ 1 ที่ LMS (Google Classroom โปรแกรม ตารางคานวณ) 4. ครู อธิ บายและสาธิ ตการคานวณจากไฟล์ตวั อย่างในการใช้ฟังก์ชนั่ 4.1. SUM 4.2. MAX 4.3. MIN 4.4. AVERAGE 4.5. COUNT 4.6. COUNTA พร้อมทั้งให้ผเู ้ รี ยนซักถามข้อสงสัย 5. ให้ ผู ้เ รี ยนท าแบบฝึ กหั ด เรื่ องการค านวณ และครู สอดแทรก ความสนใจใฝ่ รู ้ ความ ขยันหมัน่ เพียร ความรับผิดชอบ การประหยัดและการพึ่งตนเอง 6. ครู และผูเ้ รี ยนร่ วมกันเฉลยแบบฝึ กหัด 3. ขั้นสรุ ป 1. ครู และผูเ้ รี ยนร่ วมกันสรุ ปฟังก์ชนั่ ที่ใช้ในการคานวณ (คาบที่25-26) 1. ขั้นเตรี ยมการสอน 1. ครู เตรี ยมใบความรู ้เรื่ องสู ตรฟังก์ชนั่ ในการคานวณ 2. ครู เตรี ยมไฟล์ตวั อย่างการคานวณชุดที่2 ที่ LMS (Google Classroom โปรแกรมตารางคานวณ) 3. ครู เตรี ยมคลิปสอนการใช้สูตรฟังก์ชนั่ ในการคานวณที่ LMS (Google Classroom โปรแกรม ตารางคานวณ) 2. ขั้นจัดกิจกรรมการเรี ยนรู ้ 1. ครู ทบทวนเนื้อหาคาบที่แล้ว โดยการสุ่ มถาม/ตอบ 2. ครู แจ้งจุดประสงค์การเรี ยนรู ้ 3. ครู ให้ผเู ้ รี ยนดาวโหลดไฟล์ตวั อย่างที่ LMS (Google Classroom โปรแกรมตารางคานวณ) 4. ครู อธิ บายและสาธิ ตการใช้ฟังก์ชนั่ COUNTIF COUNTIFS UPPER LOWER จากไฟล์ ตัวอย่าง 5. ครู สุ่มถาม/ตอบเป็ นรายบุคคล 6. ครู ให้ผูเ้ รี ยนทาแบบฝึ กวัดความเข้าใจ พร้ อมทั้งครู สอดแทรก ความขยันหมัน่ เพียร ความ อดทน ความซื่อสัตย์
3. ขั้นสรุ ป 1. ครู และผูเ้ รี ยนร่ วมกันเฉลยแบบฝึ กหัดและความรู ้ที่ได้ 2. ครู และผูเ้ รี ยนร่ วมกันสรุ ปความรู ้ที่ได้
(คาบที่27-28) ขั้นเตรี ยมการสอน 1. ครู เตรี ยมใบความรู ้เรื่ องสู ตรฟังก์ชนั่ ในการคานวณ 2. ครู เตรี ยมไฟล์ตวั อย่างการคานวณชุดที่2 ที่ LMS (Google Classroom โปรแกรมตารางคานวณ) 3. ครู เตรี ยมคลิปสอนการใช้สูตรฟังก์ชนั่ ในการคานวณที่ LMS (Google Classroom โปรแกรม ตารางคานวณ) 2. ขั้นจัดกิจกรรมการเรี ยนรู ้ 1. ครู ทบทวนเนื้อหาคาบที่แล้ว โดยการสุ่ มถาม/ตอบ 2. ครู แจ้งจุดประสงค์การเรี ยนรู ้ 3. ครู ให้ผเู ้ รี ยนดาวโหลดไฟล์ตวั อย่างที่ LMS (Google Classroom โปรแกรมตารางคานวณ) 4. ครู อธิ บายและสาธิ ตการใช้ฟังก์ชนั่ BAHTTEXT NOW และ TODAY จากไฟล์ตวั อย่าง 5. ครู สุ่มถาม/ตอบเป็ นรายบุคคล 6. ครู ให้ผูเ้ รี ยนทาแบบฝึ กวัดความเข้าใจ พร้ อมทั้งครู สอดแทรก ความขยันหมัน ่ เพียร ความ อดทน ความซื่อสัตย์ 3. ขั้นสรุ ป 1. ครู และผูเ้ รี ยนร่ วมกันเฉลยแบบฝึ กหัดและความรู ้ที่ได้ 2. ครู และผูเ้ รี ยนร่ วมกันสรุ ปความรู ้ที่ได้ 1.
(คาบที่29-30) 1. ขั้นเตรี ยมการสอน 1. ครู เตรี ยมใบความรู ้เรื่ องสู ตรฟังก์ชนั่ ในการคานวณ 2. ครู เตรี ยมไฟล์ตวั อย่างการคานวณชุดที่2 ที่ LMS (Google Classroom โปรแกรมตาราง คานวณ) 3. ครู เตรี ยมคลิปสอนการใช้สูตรฟังก์ชนั่ ในการคานวณที่ LMS (Google Classroom โปรแกรม ตารางคานวณ)
2. ขั้นจัดกิจกรรมการเรี ยนรู ้ 1. ครู ทบทวนเนื้อหาคาบที่แล้ว โดยการสุ่ มถาม/ตอบ 2. ครู แจ้งจุดประสงค์การเรี ยนรู ้ 3. ครู ให้ผเู ้ รี ยนดาวโหลดไฟล์ตวั อย่างที่ LMS (Google Classroom โปรแกรมตารางคานวณ) 4. ครู อธิ บายและสาธิ ตการใช้ฟังก์ชน ั่ AVERAGEA AVERAGEIF และ AVERAGEIFS จาก ไฟล์ตวั อย่าง 5. ครู สุ่มถาม/ตอบเป็ นรายบุคคล 6. ครู ให้ผูเ้ รี ยนทาแบบฝึ กวัดความเข้าใจ พร้ อมทั้งครู สอดแทรก ความขยันหมัน ่ เพียร ความ อดทน ความซื่อสัตย์ 3. ขั้นสรุ ป 1. ครู และผูเ้ รี ยนร่ วมกันเฉลยแบบฝึ กหัดและความรู ้ที่ได้ 2. ครู และผูเ้ รี ยนร่ วมกันสรุ ปความรู ้ที่ได้ (คาบที่31-32) 1. ขั้นเตรี ยมการสอน 1. ครู เตรี ยมแบบฝึ กหัดเรื่ อง SUMIF และ SUMIFS 2. ครู เตรี ยม Link ศึกษา เรื่ อง SUMIF และ SUMIFS http://excel-advanced.blogspot.com/2012/10/sumif-sumif-sumif-sumif.html 3. ครู เตรี ยมไฟล์ตวั อย่าง 4. ครู เตรี ยมคลิป เรื่ อง SUMIF และ SUMIFS 2. ขั้นจัดกิจกรรมการเรี ยนรู ้ 1. ครู ทบทวนเนื้อหาคาบที่แล้ว โดยการสุ่ มถาม/ตอบ 2. ครู แจ้งจุดประสงค์การเรี ยนรู ้ 3. ครู ให้ผเู ้ รี ยนช่วยยกตัวอย่างงานที่พบในชีวติ ประจาวันที่มีลกั ษณะแบบมีเงื่อนไข 4. ครู เปิ ดไฟล์ตวั อย่างพร้อมทั้งให้ผเู ้ รี ยนดาวโหลดไฟล์ขอ้ มูลที่ LMS (Google Classroom โปรแกรมตารางคานวณ) 5. ครู อธิบายรู ปแบบการใช้คาสั่ง SUMIF และ SUMIFS พร้อมทั้งสาธิตผ่านไฟล์ 6. ครู ให้ผเู ้ รี ยนซักถามปัญหา ข้อสงสัย 7. ครู ให้ผเู ้ รี ยนดาวโหลดไฟล์แบบฝึ กหัดที่ LMS (Google Classroom โปรแกรมตารางคานวณ) 8. ผูเ้ รี ยนทาแบบฝึ กหัด พร้ อมทั้งครู สอดแทรก ความขยันหมัน่ เพียร ความอดทน การประหยัด และการพึ่งตนเอง 3. ขั้นสรุ ป
1. ครู และผูเ้ รี ยนร่ วมกันสรุ ปความรู ้ (คาบที่33-34) 1. ขั้นเตรี ยมการสอน 1. ครู เตรี ยมไฟล์ตวั อย่างการคานวณชุดที่2 2. ครู เตรี ยมแบบฝึ กเสริ มการใช้ฟังก์ชนั่ IF 3. ครู เตรี ยมคลิปสอนเรื่ องฟังก์ชนั่ IF ที่ LMS (Google Classroom โปรแกรมตารางคานวณ) 4. ครู เตรี ยมภาพสรุ ปสู ตร Excel 2. ขั้นจัดกิจกรรมการเรี ยนรู ้ 1. ครู ทบทวนเนื้อหาคาบที่แล้ว โดยการสุ่ มถาม/ตอบ 2. ครู แจ้งจุดประสงค์การเรี ยนรู ้ 3. ครู พูดคุ ยเกี่ ยวกับการดาเนิ นชี วิตประจาวัน ว่ามีเงื่ อนไขใดบ้างที่เข้ามามีส่วนเกี่ ยวข้องในการ เรี ยน การดาเนินชีวติ เพื่อโยงเข้าสู่ บทเรี ยน 4. ครู อธิ บายความหมายและรู ปแบบการใช้งานด้วยคาสั่ง if เงื่อนไขเดียว จากไฟล์ตน้ แบบและ จากภาพสรุ ปสู ตรการใช้ฟังก์ชนั่ IF 9. ครู ให้ผเู ้ รี ยนแบ่งกลุ่ม จากนั้นเปิ ด Link คลิปสอนเรื่ องฟังก์ชนั่ if ที่ LMS (Google Classroom โปรแกรมตารางคานวณ) 10. ครู ให้ผเู ้ รี ยนเข้ากลุ่มและช่วยกันศึกษาทาความเข้าใจ และช่วยกันทาแบบฝึ กหัด สอนสมาชิ ก ในกลุ่มจนเข้าใจ โดยครู คอยสังเกตและแนะนา พร้อมทั้งสอดแทรกเรื่ องการมีมนุ ษยสัมพันธ์ ในการร่ วมกันทางานเป็ นทีม ความรับผิดชอบ ความสนใจใฝ่ รู ้ ความมีระเบียบวินยั และความ ประหยัด 11. ครู สุ่มให้แต่ละกลุ่ม นาเสนอและอธิ บายขั้นตอนการทาจากแบบฝึ กหัด 12. ครู สรุ ปการนาเสนอและเสริ มความรู ้เพิ่มเติม 3. ขั้นสรุ ป 1. ครู และผูเ้ รี ยนร่ วมกันสรุ ปความรู ้ (คาบที่35-36) 1. ขั้นเตรี ยมการสอน 1. ครู เตรี ยมไฟล์ตวั อย่างการคานวณชุดที่2 2. ครู เตรี ยมแบบฝึ กเสริ มการใช้ฟังก์ชนั่ IF
3. ครู เตรี ยมคลิปสอนเรื่ องฟังก์ชนั่ IF ที่ LMS (Google Classroom โปรแกรมตารางคานวณ) 4. ครู เตรี ยมภาพสรุ ปสู ตร Excel 2. ขั้นจัดกิจกรรมการเรี ยนรู ้ 1. ครู ทบทวนเนื้อหาคาบที่แล้ว โดยการสุ่ มถาม/ตอบ 2. ครู แจ้งจุดประสงค์การเรี ยนรู ้ 3. ครู อธิ บายความหมายและรู ปแบบการใช้งานด้วยคาสั่ง if หลายเงื่อนไข จากไฟล์ตน้ แบบและ จากภาพสรุ ปสู ตรการใช้ฟังก์ชนั่ IF 4. ครู ให้ผเู ้ รี ยนทดลองใส่ สูตรหาคาตอบการใช้ฟังก์ชนั่ IF หลายชั้น จากไฟล์ตน้ แบบการคานวณ ชุดที่ 2 เรื่ อง IF 5. ครู สุ่มผูเ้ รี ยนเฉลยพร้อมทั้งอธิ บาย 6. ครู เสริ มและช่วยสรุ ปความรู ้เพิ่มเติมเกี่ยวกับคาสั่ง if หลายเงื่อนไข 3. ขั้นสรุ ป 1. ครู และผูเ้ รี ยนร่ วมกันสรุ ปความรู ้ (คาบที่37-40) ใช้ เวลา 4 คาบ 1. ขั้นเตรี ยมการสอน 1. ครู เตรี ยมไฟล์ตวั อย่างการคานวณชุดที่2 2. ครู เตรี ยมแบบฝึ กเสริ มการใช้ฟังก์ชนั่ IF 3. ครู เตรี ยมคลิปสอนเรื่ องฟังก์ชนั่ IF ที่ LMS (Google Classroom โปรแกรมตารางคานวณ) 4. ครู เตรี ยมภาพสรุ ปสู ตร Excel 2. ขั้นจัดกิจกรรมการเรี ยนรู ้ 1. ครู ทบทวนเนื้อหาคาบที่แล้ว โดยการสุ่ มถาม/ตอบ 2. ครู แจ้งจุดประสงค์การเรี ยนรู ้ 3. ครู ให้ผเู ้ รี ยนดาวโหลดแบบฝึ กเสริ มการใช้คาสั่ง IF ที่ LMS (Google Classroom โปรแกรม ตารางคานวณ) 4. ครู ให้ผเู ้ รี ยนทาแบบฝึ กเสริ ม โดยครู ผสู ้ อนคอยสังเกตและชี้แนะ 5. ครู และผูเ้ รี ยนร่ วมกันเฉลย 3. ขั้นสรุ ป 1. ครู และผูเ้ รี ยนร่ วมกันสรุ ปความรู ้ (คาบที่41-42)
1. ขั้นเตรี ยมการสอน 1. ครู เตรี ยมคลิป สอน Vlookup (http://www.youtube.com/watch?v=n65tHEn2hKY) http://www.youtube.com/watch?v=mYNad2bisIg http://www.youtube.com/watch?v=-JY96v6RwiI การใช้ Vlookup ข้าม wooksheet http://www.youtube.com/watch?v=8OzvSqhltaA สอน Vlookup และ Hlookup 2. ครู เตรี ยมตัวอย่างการศึกษา workshop การใช้งาน excel จาก facebook ของ MicrosoftOfficeWorkshop.com เครดิต : https://www.facebook.com/MicrosoftOfficeWorkshop
3. ครู เตรี ยมไฟล์ตวั อย่างการคานวณชุดที่ 3 การใช้คาสั่ง Vlookup และ Hlookup 2. ขั้นจัดกิจกรรมการเรี ยนรู ้ 1. ครู ทบทวนเนื้อหาคาบที่แล้ว โดยการสุ่ มถาม/ตอบ 2. ครู แจ้งจุดประสงค์การเรี ยนรู ้ 3. ครู อธิ บายและสาธิ ตการใช้คาสั่ง Vlookup ผ่านไฟล์ตวั อย่าง 4. ครู ให้ผเู ้ รี ยนทดลองฝึ กการใช้คาสั่ง Vlookup ผ่านไฟล์ตวั อย่าง โดยครู ผสู ้ อนคอยสังเกตและ ชี้แนะ 5. ครู มอบหมายแบบฝึ กหัด และให้ผูเ้ รี ยนแบ่งกลุ่มและช่ วยกันทา แบบฝึ กหัด สอนสมาชิ กใน กลุ่มจนเข้าใจ โดยครู คอยสังเกตและแนะนา 6. ร่ วมกันเฉลยแบบฝึ กหัด 3. ขั้นสรุ ป 1. ครู และผูเ้ รี ยนร่ วมกันสรุ ปความรู ้ (คาบที่43-44) 1. ขั้นเตรี ยมการสอน 1. ครู เตรี ยมคลิป สอน Vlookup (http://www.youtube.com/watch?v=n65tHEn2hKY) http://www.youtube.com/watch?v=mYNad2bisIg http://www.youtube.com/watch?v=-JY96v6RwiI การใช้ Vlookup ข้าม wooksheet http://www.youtube.com/watch?v=8OzvSqhltaA สอน Vlookup และ Hlookup 2. ครู เตรี ยมตัวอย่างการศึกษา workshop การใช้งาน excel จาก facebook ของ MicrosoftOfficeWorkshop.com เครดิต : https://www.facebook.com/MicrosoftOfficeWorkshop
3. ครู เตรี ยมไฟล์ตวั อย่างการคานวณชุดที่ 3 การใช้คาสั่ง Vlookup และ Hlookup 2. ขั้นจัดกิจกรรมการเรี ยนรู ้
ครู ทบทวนเนื้อหาคาบที่แล้ว โดยการสุ่ มถาม/ตอบ ครู แจ้งจุดประสงค์การเรี ยนรู ้ ครู อธิ บายและสาธิ ตการใช้คาสั่ง Hlookup ผ่านไฟล์ตวั อย่าง ครู ให้ผเู ้ รี ยนทดลองฝึ กการใช้คาสั่ง Hlookup ผ่านไฟล์ตวั อย่าง โดยครู ผสู ้ อนคอยสังเกตและ ชี้แนะ 5. ครู มอบหมายแบบฝึ กหัด และให้ผูเ้ รี ยนแบ่งกลุ่มและช่ วยกันทา แบบฝึ กหัด สอนสมาชิ กใน กลุ่มจนเข้าใจ โดยครู คอยสังเกตและแนะนา 6. ร่ วมกันเฉลยแบบฝึ กหัด 3. ขั้นสรุ ป 1. ครู และผูเ้ รี ยนร่ วมกันสรุ ปความรู ้ 1. 2. 3. 4.
สื่ อและนวัตกรรมทางการเรียนการสอน หนังสื อประกอบการเรี ยนการสอน Presentation LMS ( www.goo) E-Book Model ไฟล์ตวั อย่าง Video Clip Internet Tools (coggle หรื อ examtime) 1. http://www.youtube.com/watch?v=xwjJIbHDY7M 2. http://www.youtube.com/watch?v=Z5TUIiDM0Is 3. http://www.youtube.com/watch?v=PJc-2WRFNDg 4. http://www.youtube.com/watch?v=Xja7ez_KgKI 5. (http://www.youtube.com/watch?v=n65tHEn2hKY) 6. http://www.youtube.com/watch?v=mYNad2bisIg 7. http://www.youtube.com/watch?v=-JY96v6RwiI การใช้ Vlookup ข้าม wooksheet 8. http://www.youtube.com/watch?v=8OzvSqhltaA สอน Vlookup และ Hlookup อื่น ๆ ระบุ 1. ใบงาน 2. แบบฝึ กหัด 3. ไฟล์ตวั อย่าง แหล่ งการเรียนรู้ เว็บไซต์
1. 2. 3. 4. 5. 6.
สถาบัน กศน.ภาคกลาง http://www.crnfe.ac.th/excel2010/ch01/ch01.html เรี ยนรู ้การใช้ MS-Excel2010 http://eastern.nfe.go.th/55_east1/excel2010/chapter01.htm http://www.com5dow.com/ http://vorawutaq.blogspot.com/2013/02/microsoft-excel-2010.html ตัวอย่างงาน การนา excel มาประยุกต์http://www.bkk1.in.th/Topic.aspx?TopicID=280325 ตัวอย่างการศึกษา workshop การใช้งาน excel จาก facebook ของ
MicrosoftOfficeWorkshop.com เครดิต : https://www.facebook.com/MicrosoftOfficeWorkshop
สถานประกอบการ...................................................................................................................... อื่น ๆระบุ กระบวนการวัดและประเมินผล การทดสอบย่อย การนาเสนอผลงาน การสังเกต การตรวจใบงาน การตรวจแบบฝึ กหัด
การทดสอบปลายภาค การสัมภาษณ์ การแสดงบทบาทสมมติ การถาม/ตอบภายในชั้นเรี ยน
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ชื่ อวิชา
การใช้ โปรแกรมตารางงาน
ชื่ อหน่ วย การจัดการฐานข้ อมูลในMs-Excel
หน่ วยที่ 3 สั ปดาห์ ที่ 5-6 ชั่วโมงที่ 47-60 รวม 14 ชั่วโมง
หัวข้ อเรื่ อง 1. การกรองข้อมูล 1.1. การกรองข้อมูลด้วย AutoFilter 1.2. การกรองข้อมูลโดยเลือกเงื่อนไข 1.3. การกรองข้อมูลจากสี พ้นื เซลล์ 1.4. การกรองข้อมูลจากไอคอนเซลล์ 1.5. การกรองข้อมูลจากสี ตวั อักษร 1.6. การกรองข้อมูลจากตัวเลข 1.7. การยกเลิกการกรองข้อมูล 2. การเรี ยงข้อมูล 2.1. การจัดเรี ยงข้อมูลตามตัวอักษรหรื อตัวเลข 2.2. การจัดเรี ยงข้อมูลตามสี 2.3. การจัดเรี ยงมากกว่า 1 คอลัมน์ สาระสาคัญ โปรแกรม Microsoft Excel มี ค วามสามารถในด้า นฐานข้อ มู ล ในตารางท างาน ซึ่ งเรี ยกว่ า ฐานข้อมูล หมายถึง การจัดกลุ่มของข้อมูล เช่นสมุดโทรศัพท์ รายการของบริ ษทั ลูกค้าทั้งหลาย ต่างก็เป็ น ฐานข้อ มู ล กลุ่ ม ข้อ มู ล ที่ มี ค วามสั ม พัน ธ์ ก ัน ในรายการของคน 1 คน เรี ย กว่า เรคคอร์ ด (Record) หรื อ ระเบีย นข้อมู ล รายการข้อมู ล แต่ล ะประเภทเช่ น ชื่ อ ที่ อยู่ อายุ เพศ หมายเลขโทรศัพ ท์ เรี ยกว่า ฟิ ลด์ (Field) หรื อ เขตข้อมูล และใน Microsoft Excel 1010 มีความสามารถในการกรองข้อมูลและการเรี ยงลาดับ ข้อมูลมาช่วยในการทางาน ทาให้ผลลัพธ์ที่ถูกต้องและรวดเร็ วขึ้น
สมรรถนะอาชีพรายหน่ วย - มีทกั ษะในการนาความรู ้เรื่ องการจัดการฐานข้อมูลในโปรแกรม Microsoft Excel มาประยุกต์ การทางาน จุดประสงค์ การเรี ยนรู้ จุดประสงค์ ทวั่ ไป / บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง 1. เพื่อให้มีความรู ้เกี่ยวกับการกรองข้อมูลและการเรี ยงลาดับข้อมูล 2. เพื่อให้มีทกั ษะเกี่ยวกับการกรองข้อมูลและการเรี ยงลาดับข้อมูล ใน Microsoft Excel เพื่อนามา ประยุกต์การทางาน 3. เพื่ อให้มี เจตคติ ที่ ดีต่อเตรี ย มความพร้ อมด้า นวัส ดุ อุ ป กรณ์ สอดคล้องกับ งานและใช้วสั ดุ อุ ป กรณ์ อ ย่า งคุ ้ม ค่ า ประหยัด ได้อ ย่า งถู ก ต้อ งตามหลัก ปรั ช ญา เศรษฐกิ จ พอเพี ย ง การ ปฏิ บตั ิ งานอย่างถู กต้อง สาเร็ จภายในเวลาที่ กาหนด มีเหตุและผลตามหลักปรัชญาเศรษฐกิ จ พอเพียง และมีความสนใจใฝ่ รู ้ในการศึกษาค้นคว้างานที่ได้รับมอบหมาย ผลการเรียนรู้ ทคี่ าดหวัง / บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง 1. อธิบายและปฏิบตั ิการกรองข้อมูลและการเรี ยงลาดับข้อมูลใน Microsoft Excel ได้ 2. เตรี ย มความพร้ อ มด้า นวัส ดุ อุ ป กรณ์ สอดคล้อ งกับ งานและใช้ ว สั ดุ อุ ป กรณ์ อ ย่ า งคุ ้ม ค่ า ประหยัด ได้อย่างถูกต้องตามหลักปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง 3. ปฏิ บตั ิ ง านได้อย่างถู กต้อง และสาเร็ จภายในเวลาที่ ก าหนดอย่างมี เหตุ ผลและผลตามหลัก ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 4. สนใจใฝ่ รู ้ในการศึกษาค้นคว้างานที่ได้รับมอบหมาย เนื้อหาสาระการสอน การกรองข้อมูลโดยใช้ตวั กรองอัตโนมัติ (Auto Filter) จากข้อมูลที่มีอยูม่ ากมายในตารางข้อมูล เราสามารถสั่งเครื่ องฯ กรองเฉพาะข้อมูลที่เราสนใจขึ้นมา แสดงบนจอภาพโดยมี วิ ธี ป ฏิ บ ัติ ดัง นี้ คลิ ก ที่ เ ซลล์ ใ ดเซลล์ ห นึ่ งในตารางข้อ มู ล คลิ ก ค าสั่ ง ข้ อ มู ล (DATA)> ตัวกรอง(FILTER)> ตัวกรองอัตโนมัติ (AutoFilter) จะปรากฏลูกศรกากับที่หวั มุมขวาล่างของ ทุกเซลล์ที่อยูใ่ นสดมภ์ตอ้ งการค้นอะไรคลิกที่ลูกศรนั้น ขั้นตอนการปฏิบัติ 1. เลือกคาสั่ง ข้อมูล (DATA) > ตัวกรอง (FILTER) ตัวกรองอัตโนมัติ (AutoFilter)
จะปรากฏลูกศรที่มุมขวาล่างของเซลล์หวั ตารางที่ตอ้ งการค้นหาคลิกที่ ช่องลูกศรนั้น แล้วเลือกข้อมูลที่ ต้องการค้นหา
หมายเหตุ วิธีการกรองข้อมูล เราสามารถเลือกใช้ได้ 3 วิธี ดังนี้ 1.1 ทั้งหมด (All) ยกเลิกการกรองข้อมูล (ให้แสดงข้อมูลทั้งหมด) 1.2 ท็อป 10... (Top 10…) ใช้กรองเฉพาะข้อมูล 10 (หรื อจานวนที่เรากาหนด)อันดับแรก หรื อสุ ดท้าย 1.3 กาหนดเอง (Custom) ให้เรากาหนดเงื่อนไขการกรองข้อมูลเอง 2. ถ้าต้องการแสดงข้อมูลทั้งหมดตามเดิมให้คลิกที่ช่องลูกศรนั้น แล้วเลือก All หรื อ เลือกคาสั่ง ข้อมูล (DATA) > ตัวกรอง (FILTER)> แสดงทั้งหมด (Show All)
การกาหนดเงื่อนไขการคัดเลือกข้อมูลด้วยตนเองคลิกที่ กาหนดเอง Custom ()
การคัดเลือกแบบจัดอันดับ เราสามารถคัดเลือกข้อมูลแบบจัดอันดับโดยกาหนดการแสดงผลกี่อนั ดับก็ได้ เช่นเมื่อต้องการแสดง หนี้สูงสุ ด 3 อันดับแรกสามารถทาได้
3. ถ้าไม่ตอ้ งการค้นหาอีก หรื อยกเลิกการใช้งาน ให้เลือกเมนูขอ้ มูล DATA)> ตัวกรอง(FILTER)> ตัวกรองอัตโนมัติ (AutoFilter) อีกครั้งเครื่ องหมายจะหายไป
การกาหนดให้ พมิ พ์เฉพาะตัวเลขทีต่ ้ องการในเซลล์ สมมติในการกรอกข้อมูลจากแบบสอบถามความคิดเห็นจะมีตวั เลขให้ 1 - 5 เราจะให้ Excel เราจะ ให้ Excelเราจะช่วยตรวจสอบเบื้องต้น หากมีการพิมพ์ตวั เลขที่ไม่อยูใ่ นช่วง 1-5 ก็จะแจ้งให้ทราบ มีวธิ ี การ ดังนี้ 1. เปิ ด sheet ใหม่ข้ ึนมา 2.ลากตาหรื อ hi-light บริ เวณที่จะกรอกข้อมูล
3. ไปที่คาสั่ง ข้อมูล (Data) > ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล (Validation)
4. จะเกิดกรอบโต้ตอบให้เลือกแถบ การตั้งค่า(Setting)ในส่ วนอนุญาตให้ (allow:)ให้คลิกเพื่อที่ drop down list แล้วเลือกจานวนเต็ม (whole number)
5. กาหนดช่วงให้เลือกอยูร่ ะหว่าง Between เพราะต้องการระบุช่วงของข้อมูลที่ตอ้ งการ
ในที่น้ ี เราต้องการระบุตวั เลขที่จะกรองคือระหว่าง 1-5 ในช่องต่าสุ ด (Minimum) ให้กรอก 1 และ ในช่องสู งสุ ด(Maximum) ให้กรอก 5 6. ต่อไปเราจะกาหนดข้อความแจ้งให้ทราบถ้ามีการพิมพ์พิมพ์ผดิ ไปจากเงื่อนไขที่กาหนดให้คลิก แถบ การแจ้งเตือนข้อผิดพลาด (Error Alert)
7. กาหนดข้อความที่ตอ้ งการให้แสดงเมื่อมีการพิมพ์ผดิ ไปจากเงื่อนไขที่กาหนด
8..เสร็ จแล้วคลิก OK
การเรี ยงลาดับข้ อมูล(Sort) ในโปรแกรม Microsoft Excel สามารถเรี ยงลาดับข้อมูลที่มีจากน้อยไปมากหรื อมากไป น้อย ได้ 2 วิธีการดังนี้ วิธีที่ 1 เรี ยงลาดับข้อมูลบนแถบเครื่ องมือได้ดงั นี้ -
ปุ่ ม
เพื่อเรี ยงลาดับจากน้อยไปมาก (Ascending)
ปุ่ ม เพื่อเรี ยงลาดับจากมาไปน้อย (Descending) วิธีที่ 2 เรี ยงลาดับข้อมูลด้วยเมนูขอ้ มูล แล้วเลือกเรี ยงลาดับ สามารถกาหนด Field ที่ใช้เรี ยงลาดับได้ ถึง 3 Field จะเริ่ มจากข้อมูลใน Field แรกก่อน หากมีขอ้ มูลซ้ ากันตามด้วย Field 2 และ 3 มีวธิ ี การดังนี้ 1. เลือกเขตข้อมูลทั้งหมดที่ตอ้ งการจะเรี ยงลาดับ
2. เลือกเมนูคาสั่ง ข้อมูล (Data)> เรี ยงลาดับ (Sort)
3. เกิดกรอบโต้ตอบ Sort (การเรี ยงลาดับ) เรี ยงลาดับตาม (sort by) เลือกสดมภ์ที่จะเรี ยงลาดับ และเลือกแบบที่จะจัดเรี ยง จากน้อยไปมากหรื อจากมากไปน้อย เลือกThen by (ตามด้วย)ตัวที่ 2 Then by ตามด้วย...
4. เลือกตกลง
Link ศึกษา 1. http://office.microsoft.com/th-th/excel-help/HA010371383.aspx 2. http://excel2007-training.blogspot.com/2012/01/sort-filter_19.html 3. http://www.inwexcel.com/tag/filter/ 4. http://www.youtube.com/watch?v=ugWhval9JlU 5. http://www.youtube.com/watch?v=Ojn-0UWy0w0 6. http://www.youtube.com/watch?v=fMwxYRoWIVc 7. http://jumkesinee.blogspot.com/2012/12/Subtotals-in-Excel.html 8. https://www.skilllane.com
กระบวนการจัดการเรียนรู้ (คาบที่45-46) 1. ขั้นเตรี ยมการสอน 1. ครู เตรี ยมไฟล์ขอ้ มูลตัวอย่าง 2. ครู เตรี ยมคลิปการสอนการกรองข้อมูล 2.1. http://www.youtube.com/watch?v=fMwxYRoWIVc 2.2. http://www.youtube.com/results?search_query=filler+excel2010 3. ครู เตรี ยม link ศึกษา 3.1. http://office.microsoft.com/th-th/excel-help/HA010371383.aspx 3.2. http://www.inwexcel.com/filter-sort/ 3.3. http://office.microsoft.com/th-th/excel-help/HA010370616.aspx 4. ครู เตรี ยมแบบฝึ กหัด 2. ขั้นจัดกิจกรรมการเรี ยนรู ้ 1. ครู พูดคุยกับผูเ้ รี ยนเรื่ องการจัดเก็บข้อมูลที่พบบ่อยๆในชีวติ ประจาวัน เพื่อโยงเข้าสู่ บทเรี ยน 2. ครู แจ้งจุดประสงค์การเรี ยนรู ้ 3. ครู ให้ผเู ้ รี ยนดาวโหลดไฟล์ขอ้ มูลที่ LMS (Google Classroom โปรแกรมตารางคานวณ) 4. ครู อธิ บาย สาธิ ต และให้ผูเ้ รี ยนคิดวิเคราะห์ขอ้ มูลไปพร้ อมๆ กับครู ผูส้ อน พร้ อมทั้งปฏิ บตั ิ (จากไฟล์ตวั อย่าง) เรื่ อง 4.1. การกรองข้อมูลด้วย AutoFilter 4.2. การกรองข้อมูลโดยเลือกเงื่อนไข 6. ครู สุ่มผูเ้ รี ยนเป็ นรายบุคคลออกมาปฏิบตั ิและอธิ บายหน้าชั้นเพื่อวัดความเข้าใจ 7. ครู มอบหมายแบบฝึ กหัดและผูเ้ รี ยนทาแบบฝึ กหัดด้วยความตนเองและซื่อสัตย์ 3. ขั้นสรุ ป 1. ครู และผูเ้ รี ยนร่ วมกันกันสรุ ปเนื้อหาและเฉลยแบบฝึ กหัด (คาบที่47-48) งดการเรี ยนการสอน หยุดวันอาสาฬหบูชา 1. เตรี ยมการสอน
1. ------2. ขั้นจัดกิจกรรมการเรี ยนรู ้ 2. ------3. ขั้นสรุ ป 1. ------(คาบที่49-50) งดการเรียนการสอน หยุดชดเชยวันเข้าพรรษา 1. เตรี ยมการสอน 1. ------2. ขั้นจัดกิจกรรมการเรี ยนรู ้ 1. ------3. ขั้นสรุ ป 1. ------(คาบที่51-52) 1. ขั้นเตรี ยมการสอน 1. ครู เตรี ยมใบงานเรื่ องการกรองข้อมูล 2. ครู เตรี ยมไฟล์ตวั อย่าง ที่ LMS (Google Classroom โปรแกรมตารางคานวณ) 3. ครู เตรี ยมแบบฝึ กหัด ที่ LMS (Google Classroom โปรแกรมตารางคานวณ) 4. ครู เตรี ยมคลิปการสอนการกรองข้อมูล 4.1. http://www.youtube.com/watch?v=fMwxYRoWIVc 4.2. http://www.youtube.com/results?search_query=filler+excel2010 5. ครู เตรี ยม link ศึกษา 5.1. http://office.microsoft.com/th-th/excel-help/HA010371383.aspx 5.2. http://www.inwexcel.com/filter-sort/ 5.3. http://office.microsoft.com/th-th/excel-help/HA010370616.aspx 2. ขั้นจัดกิจกรรมการเรี ยนรู ้ 1. ครู ทบทวนเนื้อหาคาบที่แล้ว โดยการสุ่ มถาม/ตอบ 2. ครู แจ้งจุดประสงค์การเรี ยนรู ้ 3. ครู ให้ผูเ้ รี ยนดาวโหลดไฟล์ ขอ้ มูล ใบงาน Link คลิ ปและLink ศึกษา ที่ LMS (Google Classroom โปรแกรมตารางคานวณ) 4. ครู ช้ ีแจงรายละเอียดใบงาน และให้ผเู ้ รี ยนซักถามข้อสงสัย
5. ให้ผูเ้ รี ยนแบ่งกลุ่มละ 5-6 ช่ วยกันศึกษาค้นคว้าและทดลองปฏิ บตั ิในใบงานเรื่ องการกรอง ข้อมูลจากสี พ้ืนเซลล์ การกรองข้อมูลจากไอคอนเซลล์ และการกรองข้อมูลจากสี ตวั อักษร เพื่ อ ให้ ไ ด้ผ ลลัพ ธ์ พร้ อ มทั้ง ท าความเข้า ใจ สรุ ป องค์ค วามรู ้ ที่ ไ ด้ด้ว ยตนเอง พร้ อ มทั้ง ครู สอดแทรก ความสนใจใฝ่ รู ้ ความขยันหมัน่ เพียร ความรับผิดชอบ และการมีมนุษยสัมพันธ์ 6. ครู ให้แต่ละกลุ่มออกมานาเสนอหน้าชั้น 7. ครู สรุ ปการนาเสนอพร้อมทั้งเฉลยใบงานและเสนอแนะเพิ่มเติมให้ 8. ครู มอบหมายแบบฝึ กหัดให้ผเู ้ รี ยนปฏิบตั ิวดั ความเข้าใจ 3. ขั้นสรุ ป 1. ครู และผูเ้ รี ยนร่ วมกันสรุ ปความรู ้ที่ได้ 2. ครู ให้ผเู ้ รี ยนร่ วมกันเฉลยแบบฝึ กหัด (คาบที่53-54) 1. ขั้นเตรี ยมการสอน 1. ครู เตรี ยม link ศึกษา http://office.microsoft.com/th-th/excel-help/HA010371383.aspx http://www.inwexcel.com/filter-sort/ http://office.microsoft.com/th-th/excel-help/HA010370616.aspx 2. ครู เตรี ยมไฟล์ตวั อย่าง และแบบฝึ กหัด ที่ LMS (Google Classroom โปรแกรมตารางคานวณ) 2. ขั้นจัดกิจกรรมการเรี ยนรู ้ 1. ครู ทบทวนเนื้อหาคาบที่แล้ว โดยการสุ่ มถาม/ตอบ 2. ครู แจ้งจุดประสงค์การเรี ยนรู ้ 3. ครู ให้ผเู ้ รี ยนดาวโหลดไฟล์ขอ้ มูลที่ LMS (Google Classroom โปรแกรมตารางคานวณ) 4. ครู อธิ บาย สาธิ ต และให้ผูเ้ รี ยนคิดวิเคราะห์ขอ้ มูลไปพร้ อมๆ กับครู ผูส้ อน พร้ อมทั้งปฏิ บตั ิ (จากไฟล์ตวั อย่าง) เรื่ อง 4.1. การกรองข้อมูลจากตัวเลข 4.2. การยกเลิกการกรองข้อมูล 5. ครู สุ่มผูเ้ รี ยนเป็ นรายบุคคลออกมาปฏิบตั ิและอธิ บายหน้าชั้นเพื่อวัดความเข้าใจ 6. ครู ม อบหมายแบบฝึ กหัดและผูเ้ รี ย นทาแบบฝึ กหัดด้วยตนเอง ขยันอดทน พึ่ งตนเองและ รับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย 3. ขั้นสรุ ป 1. ครู และผูเ้ รี ยนร่ วมกันสรุ ปความรู ้ที่ได้
2. ครู ให้ผเู ้ รี ยนร่ วมกันเฉลยแบบฝึ กหัด (คาบที่55-56) 1. ขั้นเตรี ยมการสอน 1. ครู เตรี ยมไฟล์ตวั อย่าง และแบบฝึ กหัด ที่ LMS (Google Classroom โปรแกรมตารางคานวณ) 2. ครู เตรี ยม Link ศึกษา http://office.microsoft.com/th-th/excel-help/HA010371383.aspx http://www.inwexcel.com/filter-sort/ http://office.microsoft.com/th-th/excel-help/HA010370616.aspx 3. ครู เตรี ยมคลิปเรื่ องการเรี ยงลาดับข้อมูล ที่ LMS (Google Classroom โปรแกรมตารางคานวณ) http://www.youtube.com/results?search_query=sort+excel2010 2. ขั้นจัดกิจกรรมการเรี ยนรู ้ 1. ครู ทบทวนเนื้อหาคาบที่แล้ว โดยการสุ่ มถาม/ตอบ 2. ครู แจ้งจุดประสงค์การเรี ยนรู ้ 3. ครู ให้ผเู ้ รี ยนดาวโหลดไฟล์ขอ้ มูลที่ LMS (Google Classroom โปรแกรมตารางคานวณ) 4. ครู อธิ บาย สาธิ ต และให้ผูเ้ รี ยนคิดวิเคราะห์ขอ้ มูลไปพร้ อมๆ กับครู ผูส้ อน พร้ อมทั้งปฏิ บตั ิ (จากไฟล์ตวั อย่าง) เรื่ อง 4.1. การจัดเรี ยงข้อมูลตามตัวอักษรหรื อตัวเลข 4.2. การจัดเรี ยงข้อมูลตามสี 4.3. การจัดเรี ยงมากกว่า 1 คอลัมน์ 5. ครู สุ่มผูเ้ รี ยนเป็ นรายบุคคลออกมาปฏิบตั ิและอธิ บายหน้าชั้นเพื่อวัดความเข้าใจ 6. ครู มอบหมายแบบฝึ กหัดและผูเ้ รี ยนทาแบบฝึ กหัดด้วยความสนใจใฝ่ รู ้ ประหยัด มีระเบียบวินยั และตรงต่อเวลา 3. ขั้นสรุ ป 1. ครู และผูเ้ รี ยนร่ วมกันสรุ ปความรู ้ที่ได้ 2. ครู ให้ผเู ้ รี ยนร่ วมกันเฉลยแบบฝึ กหัด (คาบที่57-60) ใช้ เวลา 4 คาบ 1. ขั้นเตรี ยมการสอน 1. ครู เตรี ยมไฟล์ตน้ แบบและแบบฝึ กหัด ที่ LMS (Google Classroom โปรแกรมตารางคานวณ)
2. ขั้นจัดกิจกรรมการเรี ยนรู ้ 1. ครู ทบทวนเนื้อหาคาบที่แล้ว โดยการสุ่ มถาม/ตอบ 2. ครู แจ้งจุดประสงค์การเรี ยนรู ้ 3. ครู ใ ห้ผูเ้ รี ย นดาวโหลดไฟล์ต้นแบบและไฟล์แบบฝึ กหัด แบบฝึ กหัด ที่ LMS (Google Classroom โปรแกรมตารางคานวณ) 4. จากนั้นให้ผูเ้ รี ยนจับคู่ ช่ วยกันทาแบบฝึ กหัด ด้วยความรับผิดชอบ โดยครู ผูส้ อนสังเกตการ ทางานร่ วมกัน และครู จะคอยเสริ มเพิ่มเติมให้) 5. ครู สุ่มแต่ละคู่ออกมาเฉลย 3. ขั้นสรุ ป 1. ครู และผูเ้ รี ยนร่ วมกันสรุ ปความรู ้ 2. ครู และผูเ้ รี ยนร่ วมกันเฉลยแบบฝึ กหัด
สื่ อและนวัตกรรมทางการเรียนการสอน หนังสื อประกอบการเรี ยนการสอน Presentation LMS ( google classroom) E-Book Model Internet Tools ( Coggle , Mural.ly) Video Clip ไฟล์ตวั อย่าง 1. http://www.youtube.com/watch?v=fMwxYRoWIVc 2. http://www.youtube.com/results?search_query=filler+excel2010 3. http://www.youtube.com/watch?v=bB6t-RALivo 4. http://www.youtube.com/watch?v=eC9X8Z3DimI 5. http://www.youtube.com/watch?v=H_cHbbVwvPQ 6. http://www.youtube.com/watch?v=OJ3EPK7bjyc อื่น ๆ ระบุ 4. ใบงาน 5. แบบฝึ กหัด แหล่ งการเรียนรู้ เว็บไซต์ 1. https://www.skilllane.com
2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9.
http://office.microsoft.com/th-th/excel-help/HA010371383.aspx http://excel2007-training.blogspot.com/2012/01/sort-filter_19.html http://www.inwexcel.com/tag/filter/ http://www.youtube.com/watch?v=ugWhval9JlU http://www.youtube.com/watch?v=Ojn-0UWy0w0 http://www.youtube.com/watch?v=fMwxYRoWIVc http://jumkesinee.blogspot.com/2012/12/Subtotals-in-Excel.html ตัวอย่างการศึกษา workshop การใช้งาน excel จาก facebook ของ
MicrosoftOfficeWorkshop.com เครดิต : https://www.facebook.com/MicrosoftOfficeWorkshop
สถานประกอบการ...................................................................................................................... อื่น ๆระบุ 1. (เอกสารประกอบการอบรมการใช้ MS-Excel2010 ของ ICT Center) กระบวนการวัดและประเมินผล การทดสอบย่อย การนาเสนอผลงาน การสังเกต การตรวจใบงาน การตรวจแบบฝึ กหัด
การทดสอบปลายภาค การสัมภาษณ์ การแสดงบทบาทสมมติ การถาม/ตอบภายในชั้นเรี ยน
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ชื่ อวิชา
การใช้ โปรแกรมตารางงาน
หน่ วยที่ 6 สั ปดาห์ ที่ 7-8
ชื่ อหน่ วย การวิเคราะห์ ข้อมูลในการสร้ างตารางสรุ ปและการ ชั่วโมงที่ 61-80 สร้ างกราฟ รวม 20 ชั่วโมง หัวข้ อเรื่ อง 1. การสร้าง Pivot Table 2. การปรับแต่ง Pivot Table 3. การกรองข้อมูลใน Pivot Table 4. การสร้างและตกแต่งกราฟ
สาระสาคัญ Pivot Table เป็ นเครื่ องมือบน Excel ที่นาข้อมูลที่อยูใ่ นลักษณะตารางฐานข้อมูล มาให้เราพลิ ก แพลงไปมาเพื่อดูผลสรุ ปข้อมูลในรู ปแบบ และ มุมมองต่างๆ กัน โดยเวลาสร้างตาราง Pivot ขึ้นมาแล้ว หัว ตารางของข้อมูลต้นฉบับของเรา จะกลายร่ างเป็ น Pivot Table Field List ด้านขวาบน ซึ่ งมันจะเป็ นเหมือน Item ที่ให้เราหยิบไปใช้ทาอะไรได้มากมาย
สมรรถนะอาชีพรายหน่ วย - มีทกั ษะในการนาความรู ้เรื่ องการวิเคราะห์ขอ้ มูลในการสร้างตารางสรุ ปและการสร้างกราฟใน โปรแกรม Microsoft Excel มาประยุกต์การทางาน จุดประสงค์ การเรี ยนรู้ จุดประสงค์ ทวั่ ไป / บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง 1. เพื่ อให้ มี ความรู ้ เกี่ ยวกับการวิ เ คราะห์ ข้อ มู ล และการสร้ า งตารางสรุ ป ด้ว ยโปรแกรม Microsoft Excel 2. เพื่อให้มีทกั ษะเกี่ ยวกับการวิเคราะห์ขอ้ มูลในการสร้างตารางสรุ ปและการสร้างกราฟด้วย Microsoft Excel เพื่อนามาประยุกต์การทางาน
3. เพื่อให้มีเจตคติที่ดีต่อเตรี ยมความพร้ อมด้านวัสดุ อุปกรณ์ สอดคล้องกับงานและใช้วสั ดุ อุปกรณ์ อย่างคุ ม้ ค่า ประหยัด ได้อย่างถู กต้องตามหลักปรั ชญา เศรษฐกิ จพอเพียง การ ปฏิ บ ัติ ง านอย่ า งถู ก ต้อ ง ส าเร็ จ ภายในเวลาที่ ก าหนด มี เ หตุ แ ละผลตามหลัก ปรั ช ญา เศรษฐกิจพอเพียง และมีความสนใจใฝ่ รู ้ในการศึกษาค้นคว้างานที่ได้รับมอบหมาย ผลการเรียนรู้ ทคี่ าดหวัง / บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง 1. อธิ บ ายและปฏิ บ ัติ ก ารวิ เ คราะห์ ข้อ มู ล ในการสร้ า งตารางสรุ ปและการสร้ า งกราฟด้ว ย Microsoft Excel ได้ 2. เตรี ย มความพร้ อ มด้า นวัส ดุ อุ ป กรณ์ สอดคล้อ งกับ งานและใช้ ว สั ดุ อุ ป กรณ์ อ ย่ า งคุ ้ม ค่ า ประหยัด ได้อย่างถูกต้องตามหลักปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง 3. ปฏิ บตั ิ ง านได้อย่างถู กต้อง และสาเร็ จภายในเวลาที่ ก าหนดอย่างมี เหตุ ผลและผลตามหลัก ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 4. สนใจใฝ่ รู ้ในการศึกษาค้นคว้างานที่ได้รับมอบหมาย เนื้อหาสาระการสอน Pivot Table เป็ นความสามารถอย่างหนึ่งใน Excel ที่น่าสนใจมาก ช่วยในการสร้างรายงานสรุ ปผล ข้อมูลจานวนมากๆได้ดีและมีความยืดหยุน่ สู งมากต่อการแก้ไขและปรับเปลี่ยนผลลัพธ์ในรายงานให้ได้ตาม ความต้องการของรายงานที่สร้างด้วย Pivot Table แสดงดังรู ป
ขั้นตอนในการสร้ าง Pivot Table 1. เปิ ดแฟ้มข้อมูลที่ตอ้ งการสร้างรายงานด้วย Pivot Table คลิกเลือกช่องเซลใดก็ได้ที่อยูใ่ นตารางข้อมูล ดังรู ป
1.คลิกเมนู Data > PivotTable and PivotChart Report
2. เลือกชนิดของข้อมูลที่จะนามาสร้าง เป็ นรายงานจากกรอบของ Step 1 แล้วคลิกปุ่ ม Next
3. คลิกปุ่ ม Next ของกรอบ Step 2 ผ่านไปยัง Step 3 ดังรู ป ในกรอบของ Step 3 ให้เลือกตาแหน่งที่ จะวางไปยัง PivotTable ในกรณี ที่จะสร้างในแผ่นงานใหม่ เลือก New Worksheet ถ้าต้องการสร้างในแผ่น งานเดียวกันกับข้อมูล ให้เลือก Exit Worksheet และกาหนด ชื่ อช่องเซล เพื่อกาหนดตาแหน่งเริ่ มต้นที่จะวาง PivotTable ลงในช่องที่อยูใ่ ต้ตวั เลือก Exit Worksheet คลิกปุ่ ม Finish
4. จะปรากฏ Layout ในส่ วนของ Pivot Table Field List เป็ นข้อมูลแต่ละคอลัมน์ ที่เลือกไว้และ พื้นที่ ในส่ วนตารางที่สามารถคลิกแล้วลากข้อมูลจาก Pivot Table Field List มาวางในพื้นที่วา่ งได้ ตามแถว คอลัมน์
ตัวอย่างเช่ น ต้องการสร้างตาราง ที่ประกอบด้วย แถวแสดงรายชื่อด่านศุลกากร ส่ วนคอลัมน์แสดงว่า เป็ นเรื อค้าต่างประเทศ/เรื อค้าชายฝั่ง และข้อมูลที่ตอ้ งการแสดงเป็ นปริ มาณสิ นค้า (ตัน) ทาตามขั้นตอนดังนี้ 1. คลิกลาก ด่าน มาวางที่ ในส่ วน Row ดังรู ป
2. คลิกลากเรื อ ตปท/ชฝ มาวางในส่ วนของคอลัมน์ ดังรู ป
3. คลิกลากตัน วางในส่ วนข้อมูล ซึ่งจะแสดงผลเป็ น sum of ตัน ดังรู ป
การปรับแต่ ง Pivot Table ให้ สวยงามและอ่ านข้ อมูลได้ ง่าย 1.เลื่อนเมาส์ไปวางบน Pivot Table แล้วเลือก เมนู Format เลือกคาสั่ง Auto Format ดังรู ป ทดลอง เลือกรู ปแบบแล้ว คลิกปุ่ ม OK
2. จะได้ Pivot Table ในรู ปแบบของรายงาน ซึ่งแสดง Subtotal ของข้อมูลแยกกันแต่ละกลุ่มให้ดว้ ย ดังรู ป
การซ่ อนหรื อแสดงข้ อมูลบางรายการใน Pivot Table 1. คลิกปุ่ ม Drop down ที่หวั ตารางของ Pivot Table ดังรู ป
2. รายการใดที่ตอ้ งการซ่อน ให้คลิกกาจัดเครื่ องหมายถูกหน้ารายการนั้นออก แล้วคลิกปุ่ ม OK การเรี ยงลาดับข้ อมูลใน Pivot Table
1. ใช้เมาส์คลิกบน ชื่อฟิ ลด์ของ Pivot Table ที่ตอ้ งการเรี ยงลาดับข้อมูลใหม่ 2. คลิกปุ่ ม บนแถบเครื่ องมือเพื่อเรี ยง ข้อมูลจากน้อยไปมาก บนแถบเครื่ องมือเพื่อเรี ยง ข้อมูลจากมากไปน้อย การเปลีย่ นฟังก์ ชั่นทีใ่ ช้ มาคานวณในผลสรุ ป 1. ใช้เมาส์ดบั เบิ้ลคลิกบนชื่อฟิ ลด์ที่ใช้แสดงข้อมูลตัวเลขผลสรุ ป
2. เลือกฟังก์ชนั่ ในการสรุ ปผลใหม่ที่ตอ้ งการจากกรอบ Pivot Table Field และสามารถเปลี่ยนชื่อ ฟิ ลด์ใหม่ได้ที่ช่อง Name ดังรู ป จากนั้น คลิกปุ่ ม OK
จะปรากฏผล ดังรู ป
Link ศึกษาการสร้ างและตกแต่ งกราฟ 1. http://socialintegrated.com/excel_create_a_chart_that_has_visual_appeal 2. http://www.inwexcel.com/basic-graph-chart/ 3. http://www.nongit.com/blog/how-to-create-chart-excel.html 4. http://socialintegrated.com/excel_create_a_combination_chart
กระบวนการจัดการเรียนรู้ (คาบที่61-62) 1. ขั้นเตรี ยมการสอน 1. ครู เตรี ยมเอกสารประกอบการสอน 1. เอกสารประกอบการอบรมการใช้ MS-Excel2010 ของ ICT Center 2. Excel Advance 3. เอกสารประกอบการสอน excel 2. ครู เตรี ยม link ศึกษา 1. http://www.inwexcel.com/pivot-table-essential/ 3. ครู เตรี ยมคลิป 1. http://www.youtube.com/watch?v=Lq0Odu5ihyw 2. http://www.youtube.com/watch?v=Byvao1Osm4Q 3. http://www.youtube.com/watch?v=nhjsZFUSpb4 4. http://www.youtube.com/watch?v=l0a0dCgFA5g (part1) 5. http://www.youtube.com/watch?v=e0sD4dkaF4Q (part2) 6. http://www.youtube.com/watch?v=41FljuK_-mE(part3) 4. ครู เตรี ยมไฟล์ตวั อย่าง และแบบฝึ กหัด ที่ LMS (Google Classroom โปรแกรมตารางคานวณ) 2. ขั้นจัดกิจกรรมการเรี ยนรู ้ 1. ครู แจ้งจุดประสงค์การเรี ยนรู ้ 2. ครู ให้ผเู ้ รี ยนดาวโหลดไฟล์ขอ้ มูลตัวอย่างและใบงาน 3. ครู ให้ผูเ้ รี ยนแบ่งกลุ่มศึกษาทาความเข้าใจและสอนเพื่อนในกลุ่ม จาก Link , คลิป และ เอกสารการสอนที่ครู เตรี ยมให้เรื่ องการสร้าง Pivot Table การเปลี่ยนฟั งก์ชนั่ คานวณผล และตัวเลขใน Pivot Table การเปลี่ยนการแสดงค่าของผลคานวณและการเปลี่ยนรู ปแบบ ตัวเลขในฟิ ลด์ Values หรื อศึกษาเพิ่มเติมด้วยตนเองนอกเหนื อจากที่ครู จดั เตรี ยมให้ โดย หากเป็ นแหล่ ง การเรี ยนรู ้ ใหม่ ให้ผูเ้ รี ย น copy link ศึ กษานั้นลงใน LMS (Google Classroom โปรแกรมตารางคานวณ) เพื่อเป็ นการแชร์ ความรู ้ร่วมกัน 4. ผูเ้ รี ยนแต่ละกลุ่มทดลองทาใบงานด้วยตนเอง ตามความรู ้ที่ได้ศึกษา โดยครู คอยสังเกต 5. ครู ให้แต่ละกลุ่มส่ งตัวแทนออกมาอธิ บายตามความเข้าใจ 6. ครู สรุ ปแนะเพิม่ เติม พร้อมทั้งอธิ บายสาธิ ตในกรณี ที่ผเู ้ รี ยนไม่เข้าใจจากไฟล์ตวั อย่าง 7. ครู ให้ผเู ้ รี ยนซักถามข้อสงสัย
3. ขั้นสรุ ป 1. ครู และผูเ้ รี ยนร่ วมกันกันสรุ ปความรู ้ที่ได้ (คาบที่ 63-64) 1. ขั้นเตรี ยมการสอน 1. ครู เตรี ยมเอกสารประกอบการสอน เอกสารประกอบการอบรมการใช้ MS-Excel2010 ของ ICT Center Excel Advance เอกสารประกอบการสอน excel 2. ครู เตรี ยม link ศึกษา http://www.inwexcel.com/pivot-table-essential/ 3. ครู เตรี ยมไฟล์ตวั อย่าง และแบบฝึ กหัด ที่ LMS (Google Classroom โปรแกรมตารางคานวณ) 2. ขั้นจัดกิจกรรมการเรี ยนรู ้ 1. ครู ทบทวนเนื้อหาคาบที่แล้ว โดยการสุ่ มถาม/ตอบ 2. ครู แจ้งจุดประสงค์การเรี ยนรู ้ 3. ครู ให้ผเู ้ รี ยนดาวโหลดไฟล์ตวั อย่าง ที่ LMS (Google Classroom โปรแกรมตารางคานวณ) 4. ครู อธิ บายและสาธิ ตเรื่ องการปรับแต่ง Pivot Table ผ่านไฟล์ตวั อย่างพร้ อมทั้งให้ผูเ้ รี ยนฝึ ก ปฏิบตั ิตาม ซึ่งประกอบไปด้วยหัวข้อ 3.1 การสลับแถวและคอลัมน์ 3.2 การย้ายแถวหรื อคอลัมน์ 3.3 การซ่อน / แสดงปุ่ มรายการย่อย 3.4 การสั่งซ่อน / แสดงหัวรายการ 3.5 การลบฟิ ลด์ออกจากตาราง 5. ครู ให้ผเู ้ รี ยนซักถามข้อสงสัย 6. ครู มอบหมายแบบฝึ กหัดและผูเ้ รี ยนทาแบบฝึ กหัดด้วยความซื่ อสัตย์ต่อตนเอง ความคิดริ เริ่ ม สร้างสรรค์ การประหยัด และการมีระเบียบวินยั 3. ขั้นสรุ ป 1. ครู และผูเ้ รี ยนร่ วมกันสรุ ปความรู ้ที่ได้ 2. ครู ให้ผเู ้ รี ยนร่ วมกันเฉลยแบบฝึ กหัด (คาบที65-66) งดการเรี ยนการสอน หยุดวันแม่ แห่ งชาติ
1. ขั้นเตรี ยมการสอน 1. ----2. ขั้นจัดกิจกรรมการเรี ยนรู ้ 1. ----3. ขั้นสรุ ป 1. ----(คาบที่67-68) 1. ขั้นเตรี ยมการสอน 1. ครู เตรี ยมเอกสารประกอบการสอน 1. เอกสารประกอบการอบรมการใช้ MS-Excel2010 ของ ICT Center 2. Excel Advance 3. เอกสารประกอบการสอน excel 2. ครู เตรี ยมไฟล์ตวั อย่าง และแบบฝึ กหัด ที่ LMS (Google Classroom โปรแกรมตารางคานวณ) 4. ครู เตรี ยม link ศึกษา 1. http://www.inwexcel.com/pivot-table-essential/ 5. ครู เตรี ยมคลิป 1. http://www.youtube.com/watch?v=Lq0Odu5ihyw 2. http://www.youtube.com/watch?v=Byvao1Osm4Q 3. http://www.youtube.com/watch?v=nhjsZFUSpb4 4. http://www.youtube.com/watch?v=l0a0dCgFA5g (part1) 5. http://www.youtube.com/watch?v=e0sD4dkaF4Q (part2) 6. http://www.youtube.com/watch?v=41FljuK_-mE(part3) 2. ขั้นจัดกิจกรรมการเรี ยนรู ้ 1. ครู ทบทวนเนื้อหาคาบที่แล้ว โดยการสุ่ มถาม/ตอบ 2. ครู แจ้งจุดประสงค์การเรี ยนรู ้ 3. ครู ให้ผูเ้ รี ยนดาวโหลดไฟล์ตวั อย่าง และเอกสารประกอบการสอนที่ ครู เตรี ยมไฟล์ตวั อย่าง และแบบฝึ กหัด ที่ LMS (Google Classroom โปรแกรมตารางคานวณ) 4. ครู ให้ผูเ้ รี ยนศึกษาค้นคว้า เรื่ องการกรองข้อมูลใน Pivot Table จาก Link คลิปและเอกสาร ประกอบการสอน
5. ครู ให้ผเู ้ รี ยนทดลองการกรองข้อมูลใน Pivot Table จากไฟล์ตวั อย่าง 6. ครู สุ่มผูเ้ รี ยนถาม/ตอบ และสาธิ ตหน้าชั้น 7. ครู ให้ผเู ้ รี ยนซักถามข้อสงสัย 8. ครู มอบหมายแบบฝึ กหัดและผูเ้ รี ยนทาแบบฝึ กหัด 3. ขั้นสรุ ป 1. ครู และผูเ้ รี ยนร่ วมกันสรุ ปความรู ้ที่ได้ 2. ครู ให้ผเู ้ รี ยนร่ วมกันเฉลยแบบฝึ กหัด (คาบที่ 69-70) 1. ขั้นเตรี ยมการสอน 1. ครู เตรี ยมเอกสารประกอบการสอน 1. เอกสารประกอบการอบรมการใช้ MS-Excel2010 ของ ICT Center 2. Excel Advance 3. เอกสารประกอบการสอน excel 3. ครู เตรี ยมไฟล์ตวั อย่าง และแบบฝึ กหัด ที่ LMS (Google Classroom โปรแกรมตารางคานวณ) 6. ครู เตรี ยมคลิป 1. http://www.youtube.com/watch?v=Lq0Odu5ihyw 2. http://www.youtube.com/watch?v=Byvao1Osm4Q 3. http://www.youtube.com/watch?v=nhjsZFUSpb4 4. http://www.youtube.com/watch?v=l0a0dCgFA5g (part1) 5. http://www.youtube.com/watch?v=e0sD4dkaF4Q (part2) 6. http://www.youtube.com/watch?v=41FljuK_-mE(part3) 2. ขั้นจัดกิจกรรมการเรี ยนรู ้ 1. ครู ให้ผเู ้ รี ยนดาวโหลดไฟล์ตวั อย่าง และเอกสารประกอบการสอนที่ LMS (Google Classroom โปรแกรมตารางคานวณ) 2. ครู อธิ บายสาธิ ตเรื่ องการสร้าง PivotChart และตกแต่งกราฟ จากไฟล์ตวั อย่างประกอบไปด้วย เนื้อหาต่อไปนี้ 2.1. ส่ วนประกอบของกราฟ 2.2. ประเภทของกราฟการสร้างกราฟ 2.3. การตกแต่งกราฟให้สวยด้วยสไตล์ 2.4. การปรับแต่งส่ วนประกอบของกราฟ
3. ครู ให้ผเู ้ รี ยนทดลองการสร้าง PivotChart จากไฟล์ตวั อย่าง 4. ครู สุ่มผูเ้ รี ยนถาม/ตอบ และสาธิ ตหน้าชั้น 5. ครู ให้ผเู ้ รี ยนซักถามข้อสงสัย 6. ครู มอบหมายแบบฝึ กหัดและผูเ้ รี ยนทาแบบฝึ กหัด 3. ขั้นสรุ ป 1. ครู และผูเ้ รี ยนร่ วมกันสรุ ปความรู ้ที่ได้ 2. ครู ให้ผเู ้ รี ยนร่ วมกันเฉลยแบบฝึ กหัด (คาบที่ 71-72) 1. ขั้นเตรี ยมการสอน 1. ครู เตรี ยมเอกสารประกอบการสอน เอกสารประกอบการอบรมการใช้ MS-Excel2010 ของ ICT Center Excel Advance เอกสารประกอบการสอน excel 2. ครู เตรี ยมไฟล์ตวั อย่าง และแบบฝึ กหัด ที่ LMS (Google Classroom โปรแกรมตารางคานวณ) 3. ครู เตรี ยมคลิป 2. ขั้นจัดกิจกรรมการเรี ยนรู ้ 1. ครู ให้ผเู ้ รี ยนดาวโหลดไฟล์ตวั อย่าง และเอกสารประกอบการสอนที่ LMS (Google Classroom โปรแกรมตารางคานวณ) 2. ครู อธิบายสาธิตเรื่ องการสร้าง PivotChart และตกแต่งกราฟ (ต่อ) จากไฟล์ตวั อย่างประกอบไป ด้วยเนื้อหาต่อไปนี้ 2.1. การเปลี่ยนประเภทและรู ปแบบของกราฟการเปลี่ยนช่วงข้อมูลของกราฟ 2.2. การปรับขนาดกราฟ 2.3. การย้ายและคัดลอกกราฟ 2.4. เทคนิคการแต่งกราฟให้สวยโดนใจ 3. ครู ให้ผเู ้ รี ยนทดลองปฏิบตั ิ จากไฟล์ตวั อย่าง 4. ครู สุ่มผูเ้ รี ยนถาม/ตอบ และสาธิ ตหน้าชั้น 5. ครู ให้ผเู ้ รี ยนซักถามข้อสงสัย 6. ครู มอบหมายแบบฝึ กหัดและผูเ้ รี ยนทาแบบฝึ กหัด
3. ขั้นสรุ ป 1. ครู และผูเ้ รี ยนร่ วมกันสรุ ปความรู ้ที่ได้ 2. ครู ให้ผเู ้ รี ยนร่ วมกันเฉลยแบบฝึ กหัด (คาบที่73-76) ใช้ เวลา 4 คาบ 1. ขั้นเตรี ยมการสอน 1. ครู เตรี ยมไฟล์ตน้ แบบและแบบฝึ กหัด ที่ LMS (Google Classroom โปรแกรมตารางคานวณ) 2. ขั้นจัดกิจกรรมการเรี ยนรู ้ 1. ครู ทบทวนเนื้อหาคาบที่แล้ว โดยการสุ่ มถาม/ตอบ 2. ครู แจ้งจุดประสงค์การเรี ยนรู ้ 3. ครู ใ ห้ผูเ้ รี ย นดาวโหลดไฟล์ต้นแบบและไฟล์แบบฝึ กหัด แบบฝึ กหัด ที่ LMS (Google Classroom โปรแกรมตารางคานวณ) 4. จากนั้นให้ผูเ้ รี ยนจับคู่ ช่ วยกันทาแบบฝึ กหัด ด้วยความรับผิดชอบ โดยครู ผูส้ อนสังเกตการ ทางานร่ วมกัน และครู จะคอยเสริ มเพิ่มเติมให้) 5. ครู สุ่มแต่ละคู่ออกมาเฉลย 3. ขั้นสรุ ป 1. ครู และผูเ้ รี ยนร่ วมกันสรุ ปความรู ้ 2. ครู และผูเ้ รี ยนร่ วมกันเฉลยแบบฝึ กหัด (คาบที่77-78) 1. ขั้นเตรี ยมการสอน 1. ครู เตรี ยมแบบทดสอบย่อยครั้งที่ 1 ประมวลความรู ้การใช้ MS-Excel - ผูเ้ รี ยนสาขาวิชาการบัญชี มีขอ้ สอบชุดเดียว - ผูเ้ รี ยนสาขาวิชาคอมพิวเตอร์ ธุรกิจ มีขอ้ สอบ 2 ชุด 1. ครู เตรี ยมไฟล์ขอ้ มูลต้นแบบ 2. ขั้นจัดกิจกรรมการเรี ยนรู ้ 1. ครู แจ้งจุดประสงค์การเรี ยนรู ้ 2. ครู ส่งไฟล์ตน้ แบบทดสอบย่อยครั้งที่ 1 ผ่านทาง E-mail 3. ให้ผเู ้ รี ยนดาวโหลดไฟล์ขอ้ มูลต้นแบบ 4. ครู ช้ ีแจงรายละเอียดการทดสอบ 5. ครู ให้ผเู ้ รี ยนทาแบบทดสอบ (ใช้เวลา 1 ชัว่ โมง) ด้วยความซื่อสัตย์
3. ขั้นสรุ ป 1. ครู และผูเ้ รี ยนร่ วมกันสรุ ปความยากง่ายการทาแบบทดสอบ (คาบที่79-80) 1. ขั้นเตรี ยมการสอน 1. ครู เตรี ยมแบบทดสอบย่อยครั้งที่ 2 ประมวลความรู ้การใช้ MS-Excel - ผูเ้ รี ยนสาขาวิชาการบัญชี มีขอ้ สอบชุดเดียว - ผูเ้ รี ยนสาขาวิชาคอมพิวเตอร์ ธุรกิจ มีขอ้ สอบ 2 ชุด 2. ครู เตรี ยมไฟล์ขอ้ มูลต้นแบบ 2. ขั้นจัดกิจกรรมการเรี ยนรู ้ 1. ครู แจ้งจุดประสงค์การเรี ยนรู ้ 2. ครู ส่งไฟล์ตน้ แบบทดสอบย่อยครั้งที่ 1 ผ่านทาง E-mail 3. ให้ผเู ้ รี ยนดาวโหลดไฟล์ขอ้ มูลต้นแบบ 4. ครู ช้ ีแจงรายละเอียดการทดสอบ 5. ครู ให้ผเู ้ รี ยนทาแบบทดสอบ (ใช้เวลา 1 ชัว่ โมง) ด้วยความซื่อสัตย์ 3. ขั้นสรุ ป 1. ครู และผูเ้ รี ยนร่ วมกันสรุ ปความยากง่ายการทาแบบทดสอบ สื่ อและนวัตกรรมทางการเรียนการสอน หนังสื อประกอบการเรี ยนการสอน Presentation LMS ( google classroom) E-Book Model Internet Tools Video Clip ไฟล์ตวั อย่าง 1. http://www.youtube.com/watch?v=Lq0Odu5ihyw 2. http://www.youtube.com/watch?v=Byvao1Osm4Q 3. http://www.youtube.com/watch?v=nhjsZFUSpb4 4. http://www.youtube.com/watch?v=l0a0dCgFA5g (part1) 5. http://www.youtube.com/watch?v=e0sD4dkaF4Q (part2) 6. http://www.youtube.com/watch?v=41FljuK_-mE(part3) อื่น ๆ ระบุ 1. ใบงาน
2. แบบฝึ กหัด แหล่ งการเรียนรู้ เว็บไซต์ 1. http://socialintegrated.com/excel_create_a_chart_that_has_visual_appeal 2. http://www.inwexcel.com/basic-graph-chart/ 3. http://www.nongit.com/blog/how-to-create-chart-excel.html 4. http://socialintegrated.com/excel_create_a_combination_chart สถานประกอบการ...................................................................................................................... อื่น ๆระบุ เอกสารประกอบการสอน 2. (เอกสารประกอบการอบรมการใช้ MS-Excel2010 ของ ICT Center) 3. Excel Advance 4. เอกสารประกอบการสอน excel กระบวนการวัดและประเมินผล การทดสอบย่อย การนาเสนอผลงาน การสังเกต การตรวจใบงาน การตรวจแบบฝึ กหัด
การทดสอบปลายภาค การสัมภาษณ์ การแสดงบทบาทสมมติ การถาม/ตอบภายในชั้นเรี ยน