free copy!
MUXIC.
TROYE SIVAN I’m not a GAY icon.
CONTENT
Editor’ talk ดนตรี เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่แสดงความเป็นตัว ตนของแต่ละบุคคลได้มากที่สุด หากบอกว่าการ เลือกฟังเพลงนั้นสะท้อนตัวตนของผู้ฟัง บทเพลง ก็คงเป็นสิ่งที่สะท้อนตัวตนของศิลปินผู้สร้างสรรค์ บทเพลงได้ดีที่สุด เพราะบทเพลงของพวกเขามักจะถูกสร้าง มาจากเรื่องที่อยู่ใกล้ตัว อาจจะถูกสร้างสรรค์ มาจากประสบการณ์ชีวิตของตนเอง หรือ ประสบการณ์ชีวิตของคนใกล้ตัว ซึ่งความเป็นตัว ตนนั้นอาจจะสะท้อนออกมาโดยตรง หรืออาจถูก สอดแทรก แอบแฝงอยู่ในงานนั้น ๆ โดยภายในเล่มนี้เราจะพาไปพบกับตัวตน ของศิลปินที่สะท้อนออกมาโดยตรงในผลงาน กับ คอลัมน์ muxic without borders: LGBTQ ใน วงการดนตรี โดยในคอลัมน์นี้เราจะพูดถึง LGBTQ ในยุคแรกเริ่มของวงการดนตรีตลอดมาจนถึงใน ปัจจุบัน และยังมีผลงานที่สะท้อนตัวตนของศิลปิน ออกมาอีกด้วย อีกทั้งยังมีตัวตนของศิลปินที่อาจถูกซ่อน เร้นอยู่ภายใน กับคอลัมน์ warning alert: ศิลปิน กับ ‘โรคซึมเศร้า’ ผ่านบทเพลง กับเรื่องของภาวะ โรคซึมเศร้าในศิลปิน และการแสดงออกมาผ่าน ทางบทเพลง นอกจากนี้เรายังมีเรื่องราวเกี่ยวกับวงการ ดนตรีอีกมากมายให้คุณได้เลือกอ่าน และทางเรา หวังว่าจะมีสักเรื่องราวที่ถูกใจคุณ MUXIC Team
MUXIC TEAM กาญจนา ผกาแก้ว จิรภิญญา สมเทพ ชลธิชา จันทร์แจ่ม ณัฐณิชา สระแก้ว ธนัชชา สุวิบาย
PEOPLE AROUND THE COVER Muxic without borders MUXIC MIXED Genre in a Genre muxic pick A page of favorite tracks I read only muxic
warning alert muxic cinematic muxic scope
PEOPLE AROUND THE COVER
Troye Sivan
I’M NOT A GAY ICON ชลธิชา จันทร์แจ่ม ผู้เขียน
หลาย ๆ คนคงได้รู้จักชื่อของหนุ่ม Troye Sivan
(ทรอย ซีวาน) หรือคุ้นหน้าคุ้นตากันมาบ้าง ไม่มากก็ น้อย เพราะเพลงของเขาก็เพราะไม่ใช่เล่น แถมมีเพลงดัง ๆ มากมาย จากอัลบั้ม blue neighbourhood ที่มีมิวสิค วิดีโอไตรภาคที่น่าติดตามเป็นอย่างยิ่ง และล่าสุดก็ได้ปล่อย เพลง Bloom เพลงที่ 3 จากอัลบั้มใหม่ที่ยังไม่ได้วางจำ�หน่าย อย่างเป็นทางการ แต่สามารถหาฟังหรือดาวน์โหลดจากทาง ออนไลน์ได้ทั้ง 3 เพลง แต่ก่อนที่จะไปรู้จักกับผลงานเพลง ก็ พามารู้จักกับประวัติของทรอย ซีวานกันก่อนดีกว่า Troye Sivan Mellet (ทรอย ซีวาน มิลเล็ต) เกิด เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 1995 เป็นชาวแอฟริกาใต้ สัญชาติ ออสเตรเลีย เกิดในกรุงโจฮันเนสเบิร์กที่แอฟริกาใต้ และได้ ย้ายมาอยู่ออสเตรเลียตอนเขาอายุได้ 2 ขวบ เนื่องจากเหตุ อาชญากรรมสูงขึ้น ซึ่งตอนนี้เขาก็ยังอาศัยอยู่ทีออสเตรเลีย กับพี่น้องอีก 3 คน ซึ่งก่อนที่จะมาเป็นนักร้องทรอยก็เป็นทั้ง นักแสดง และเป็น youtuber (ยูทูบเบอร์) ที่เรียกได้ว่าโด่งดัง ในหมู่วัยรุ่น โดยทรอยมีผลงานการแสดงภาพยนตร์ในเรื่อง X-Men Origins: Wolverine ในปี 2009 รับบทเป็น Young James Howlett, ภาพยนตร์สั้นเรื่อง Betrand the Terrible ในปี 2010 รับบทเป็น Ace และยังแสดงในภาพยนตร์เรื่อง spud ทั้ง 3 ภาค นอกจากนี้ยังมีการแสดงละครเวทีในเรื่อง Oliver! Oliver Twist ในปี 2007 และ Waiting for Godot ใน ปี 2010
เขาได้เริ่มการเป็นยูทูบเบอร์โดยการทำ�วิดีโอลงยูทูบ ไว้มากมายได้ และเริ่มร้องเพลงลงยูทูบตั้งแต่ปี 2007 และทำ� Vlog วิดีโอแรกในปี 2012 โดยในตอนนั้นมีผู้ติดตามอยู่ราว ๆ 27,000 คนเท่านั้น ก่อนที่เขาจะได้เซ็นสัญญากับค่ายเพลง EMI Australia ในปี 2013 เขาเปิดตัวว่าเป็นเกย์ ผ่านสาธารณชนเมื่อเดือน สิงหาคม ปี 2013 ผ่านทางช่องยูทูบของตนเอง หลังจากที่ เปิดตัวกับที่บ้านไปแล้ว 3 ปี “นี่เป็นสิ่งที่ฉันตื่นเต้นมากที่สุดในชีวิตเลย มันรู้สึก แปลกๆนะที่ต้องมาประกาศแบบนี้สู่โลกอินเทอร์เน็ต แต่มันไม่ ก็ไม่ใช่อะไรที่ฉันต้องอายนี่นา และมันก็ไม่ใช่อะไรที่ใครควรจะ อายด้วย ทำ�ไมฉันถึงไม่ควรมาแชร์ทุกคนรู้ล่ะ?” ทรอยเป็นหนึ่งศิลปินกระแสหลักที่มักเอาเรื่องราว LGTBQ มาพูดถึงในผลงานและมิวสิกวิดีโออยู่เสมอ นั่นส่งให้ เขากลายเป็นคนอายุน้อยสุดในประวัติศาสตร์ที่ได้รับรางวัล เกียรติยศ Stephen F. Kolzak บนเวที GLAAD Awards เมื่อ ปี 2017 ผลงานเพลงแรกของทรอยกับค่ายเพลงคืออีพี อัลบั้ม TRXYE ในปี 2014 ก่อนที่จะปล่อยอัลบั้มเต็ม Blue Neighbourhood ในปี 2015 ที่มาพร้อมเพลงฮิตหลาก หลายเพลง และมิวสิควิดีโอไตรภาค ร่วมถึงยังมีเพลง There For You ที่เขาไปร่วมร้องให้กับดีเจชาวฮอลแลนด์ Martin Garrix (มาร์ติน แกร์ริกซ์) และผลงานเมื่อไม่นานมานี้ที่ได้ไป ร้องในเพลงประกอบภาพยนตร์ Love, Simon อย่างเพลง Strawberries & Cigarettes ก็ส่งผลให้ทั้งภาพยนตร์ทั้งเพ ลงนั้นโด่งดังและเป็นที่พูดถึงกัน
“เรามีมุมมองที่แตกต่างกันของ LGBTQ ในหลาย ๆ ด้าน ด้วยเหตุ นี้ผมจึงอยากบอกอย่างสุภาพว่า ผมไม่ต้องการให้มองผมว่าเป็น ‘gay icon’ ผมเป็นแค่หนึ่งเสียงจาก คนจำ�นวนมากที่หายไป”
ก่อนหน้านี้เมื่อเดือน มกราคมที่ผ่านมาทรอย ซีวานได้ ส่งเพลง My My My! ออกมา และ เป็นเพลงที่ไtroye ด้รับความนิยมมียอด สตรีมทั่วโลกรวมกันเกินกว่า 130 ล้านครั้ง รวมถึงมิวสิควิดีโอซึ่ง กำ�กับโดย Grant Singer (แกรนท์ ซิงเกอร์ Lorde, The Weeknd) ก็ เป็นมิวสิควิดีโอที่มีแนวโน้มอันดับ 1 ใน YouTube กับเนื้อเพลงที่ไม่ ต้องการให้วิ่งหนีไปจากความรักนี้ อีกแล้ว “Now, let’s stop running from love running from love. Let’s stop, my baby.” ต่อมาเขาได้ส่งเพลงฮิตเพลงที่สอง จากอัลบั้มเดียวกัน อย่างเพลง The Good Side เป็นเพลงกระแสดี มาก ๆ เพราะมียอดสตรีมมากกว่า 22 ล้านครั้งทั่วโลก ซึ่งผลงานของ ทรอยจากอัลบั้มที่แล้วยังติดอัน ดับท็อปชาร์ตของ iTunes ใน 66 ประเทศ และล่าสุดก็ได้ส่งเพลง Bloom เพลงใหม่มาแรง ที่ใส่ ความเป็นการ์ตูนแอนิเมชั่น ลงไป ใน มิวสิควิดีโอ โดยมีการ์ตูนชาย หนุ่ม ซึ่งเป็นตัวแทนของทรอยเอง เล่าเรื่องราวผ่านเนื้อเพลงถึงคน รัก ที่แฝงไปด้วยนัยยะทางเซ็กส์ ความเซ็กซี่ในบทเพลงที่ไม่ได้ทำ�ให้ เพลงนั้นด้อยค่าลงไปเลย มาพร้อม กับท่อนคอรัสที่ติดหูที่สามารถฮัม เพลงตามกันได้ ด้วยความโด่งดังและความ สามารถที่เป็นที่ยอมรับกันอย่าง กว้างขวาง ทำ�ให้มีวลีนึงที่ทำ�ให้นึก ถึงทรอย ซีวาน นั่นก็คือ gay icon (เกย์ ไอคอน) เพราะเขาไม่มีความ กลัวที่จะใส่ความเป็นเพศของเขาลง ไปในบทเพลง นั่นทำ�ให้ทรอยเป็นอีก หนึ่งเสียงของคนในยุคนี้ แต่ทรอ ยไม่ต้องการให้คนเรียกเขาว่าเป็น “ไอคอน” ทรอยได้อธิบายไว้ในบท สัมภาษณ์ของ Another Man ว่า ทำ�ไมเขาไม่ต้องการถูกเรียกเช่นนั้น โดยทรอยให้สัมภาษณ์ว่า “กับคน อื่น ๆ เช่น Hayley Kiyoko (เฮย์ลีย์ กิโยโกะ) และ Brockhampton (บร็ อกแฮมตัน) เรามีมุมมองที่แตกต่าง กันของ LGBTQ ในหลาย ๆ ด้าน ด้วยเหตุนี้ผมจึงอยากบอกอย่าง สุภาพว่าผมไม่ต้องการให้มองผม ว่าเป็น ‘gay icon’ ผมเป็นแค่หนึ่ง เสียงจากคนจำ�นวนมากที่หายไป และผมก็แค่พยายามจะเล่าเรื่องของ
ตัวเอง และตอนนี้ผมก็สนุกมากกับการใช้ชีวิต ผมรู้สึกมั่นใจ ผมแค่สนุกกับตัวเอง และนั่น ก็สำ�คัญมากสำ�หรับผมที่จะแสดงออกมา” ทรอยยังได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับบทบาทของเขาในการเป็นตัวแทน ของชาว LGBTQ เมื่อถามเกี่ยวกับความคาดหวังของการเป็นตัวแทนของชาว LGBTQ เพราะเขาเป็นเควียร์ เขากล่าวว่า “ผมไม่ได้เป็นตัวแทนของทุกคน เพราะผมแค่โชคดีมาก ที่มาจากครอบครัวคนขาวที่เป็นชนชั้นกลางในออสเตรเลีย และความฝันทั้งหมดของ ผมก็ได้เป็นจริงด้วยอายุเพียง 22 ปี ผมออกมาเปิดเผยตัวเองง่ายที่สุดในโลก ผมไม่เคย ต้องการจะรับว่าเป็นตัวแทนของ LGBTQ เพราะมีคนอื่น ๆ อีกมากมายที่จำ�เป็นต้องได้รับ การรับฟังก่อน” สามารถติดตามชมมิวสิควิดีโอและฟังเพลงใหม่ของทรอย ซีวานได้แล้ววันนี้ทุก ช่องทาง iTunes, Apple Music, Deezer, Joox, True Music, Tidal, YouTube/ Vevo และ Spotify
troye
Muxic without borders
LGBTQ ในวงการดนตรี
ชลธิชา จันทร์แจ่ม ผู้เขียน
ทุกวันนี้พื้นที่ทางสังคมของกลุ่ม LGBTQ ได้
ขยายขอบเขตและได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง อาจพูดได้ไม่เต็มปากว่ากลุ่ม LGBTQ นั้นได้รับการ ยอมรับแล้วอย่างแท้จริง แต่ในปัจจุบันหลาย ๆ ชาติ หลาย ๆ ประเทศ ก็มีการยอมรับ และเปิดกว้างมากยิ่ง ขึ้นกว่ายุคก่อนหน้านี้ นั่นทำ�ให้กลุ่มคนเหล่านี้เข้ามามี บทบาทต่อสังคมมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำ�ให้เราเห็นคนดังใน วงการต่าง ๆ กล้าเปิดเผยว่าตนเองเป็น LGBTQ หรือ หลาย ๆ คนก็ออกมาให้การสนับสนุนกลุ่มคนเหล่านี้ อย่างวงการเพลงและดนตรีในปัจจุบัน LGBTQ เข้ามามีบทบาทในวงการมากยิ่งขึ้น ทั้งใน บทเพลงที่ไม่ได้จำ�กัดไปด้วยวัฒนธรรม หรือการ สร้างค่านิยมแบบเดิม ๆ อย่างเนื้อหาของเพลง ส่วนใหญ่ที่จะเน้นไปที่ความรักแบบ ชาย-หญิง แต่ใน ปัจจุบันเพลงหลาย ๆ เพลงก็ถูกแต่งมาเพื่อ LGBTQ หรือบางเพลงก็แต่งออกมาให้สามารถตีความไปเป็น ความรักที่ไม่ใช่แค่ชาย-หญิงเท่านั้น ผู้ขับเคลื่อนวงการดนตรีของ LGBTQ หากพูดถึงศิลปินที่เรียกได้ว่ามีบทบาทในการ ขับเคลื่อน เปลี่ยนแปลงมุมมองที่สังคมมีต่อชาว LGBTQ และนำ�เสนอแนวคิดเรื่องความหลากหลายทาง เพศในยุคแรกเริ่ม หรือเรียกได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของ ประวัติศาสตร์ดนตรีของ LGBTQ เลยก็ว่าได้ ก็คงหนี ไม่พ้น David Bowie (เดวิด โบวี่) เรียกได้ว่าเดวิด โบวี่ถือเป็นตำ�นานไม่กี่คนในวงการ ดนตรีเลยก็ว่าได้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นนักทดลองตัวยง ซึ่ง เป็นผู้บุกเบิกหลายสิ่งอย่างให้กับวงการอย่างแท้จริง เขาแทบไม่เคยยึดติดกับสไตล์แบบใดแบบหนึ่งเลย ไม่ ว่าจะเป็นด้านดนตรีหรือแฟชั่นก็ตาม ทั้งเพลงของเขา ที่มีเรื่องราวและดนตรีที่ผิดแผกไปจากศิลปินคนอื่น ๆ ในช่วงเวลาเดียวกัน แต่ที่เห็นชัดที่สุดคงจะเป็นสไตล์ อันหลากหลายของเขาที่เปลี่ยนผันไปตามกาล อย่างในอัลบั้ม Hunky Dory จากยุค 70s
ของเขาที่นำ�เสนอภาพ androgynous (แอนดรอจินัส) หรือความผสานของสองเพศ ที่จะดูเป็นหญิงหรือชาย ก็ได้ในคนเดียว ซึ่งแฟชั่นของเขาในแต่ละอัลบั้มได้สร้าง ความเปลี่ยนแปลงให้กับบทบาทการแสดงออกทางเพศ อย่างกว้างขวางขึ้น อย่างการใส่ส้นสูงหรือการแต่ง หน้าที่มองว่าเป็นการแต่งกายของผู้หญิง แต่เขาก็หยิบ มันมาและแสดงให้เห็นว่าส้นสูงหรือการแต่งหน้าไม่ใช่ของ สำ�หรับผู้หญิงเท่านั้น เรียกได้ว่าเขาเป็นบุคคลสำ�คัญในประวัติศาสตร์ วงการดนตรีของ LGBTQ เลยก็ว่าได้ เพราะในปี 2017 มีหนังสือที่ชื่อว่า David Bowie Made Me Gay: 100 Years of LGBT Music by Darryl W. Bullock ออก วางจำ�หน่าย เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์วงการ ดนตรีของ LGBTQ ซึ่งยังมีศิลปินท่านอื่น ๆ อีกมากมาย ที่มีอิทธิพลต่อวงการเพลงในยุคนั้น ซึ่งส่งผลมายังยุค ปัจจุบัน หากพูดถึงบทเพลงของชาว LGBTQ เชื่อว่า หลาย ๆ คนต้องนึกถึงเพลง I will survive ของ Gloria Gaynor (กลอเรีย เกย์นอร์) ที่แม้จะเป็นเพลงของศิลปิน หญิง แต่ด้วยความที่มีท่วงทำ�นองสนุกสนาน มีเนื้อหา จัดจ้าน นั่นจึงทำ�ให้ผู้หญิงและกลุ่มคนรักเพศเดียวกันทั่ว โลกยกให้ I will survive เป็นเพลงประจำ�ใจของพวกเขา ไปในทันที หรือเพลงที่สร้างปรากฏการณ์ในยุคใหม่อย่าง เพลง Born this way ของ Lady Gaga (เลดี้ กาก้า) ที่เพลงนี้เรียกได้ว่าแต่งขึ้นมาเพื่อ LGBTQ ด้วยเนื้อหา เพลงที่แสดงถึงความอิสระ การเป็นตัวของตัวเอง ห้ ทุกคนภูมิใจในความแตกต่างของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น ทางด้านเชื้อชาติ หรือรสนิยมทางเพศที่ถูกเอ่ยถึงอย่าง ชัดเจนในเนื้อเพลง และมิวสิควิดีโอที่มีสัญลักษณ์และนัย ยะมากมาย ที่ซ่อนความหมายเกี่ยวกับ LGBTQ ไว้ ซึ่ง ทำ�ให้เพลงนี้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และกลายมา เป็นเพลงชาติของชาว LGBTQ อีกเพลงหนึ่ง
วงการดนตรีของ LGBTQ ยุคปัจจุบัน เมื่อเทียบกับในอดีต ปัจจุบันวงการดนตรีของ LGBTQ มีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว บทเพลงที่เกี่ยวกับ LGBTQ ก็มี ความหลากหลายมากยิ่งขึ้น ทั้ง genre ที่ไม่ได้มีแต่ความป๊อป และ เนื้อหาที่ไม่ได้พูดถึงเรื่อง coming out หรือการออกมายอมรับ มา เปิดเผยตัวตน หรือพูดถึงแต่ความ รักแบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ แฝงเข้าไปใน เนื้อเพลงเพียงเท่านั้น แต่ในปัจจุบัน มีเพลงที่พูดถึงความรักของ LGBTQ โดยตรง ไม่ว่าจะเป็น ชายชาย หรือ หญิง- หญิง หรือแม้แต่ บทเพลงเพื่อให้กำ�ลังใจ หรือเรียก ร้องสิทธิต่าง ๆ ให้กับ LGBTQ อีกทั้งในปัจจุบันมีศิลปิน ที่ออกมาเปิดเผยตัวเองกับ สาธารณะว่าตนเองเป็น LGBTQ และพวกเขาเหล่านั้นก็เป็นที่ยอมรับ ทั้งในเรื่องของผลงาน และตัวเขา เอง อีกทั้งยังเป็นคลื่นลูกใหม่ของ วงการอีกด้วย เริ่มต้นกันที่ Sam Smith (แซม สมิธ) เขาออกมายอมรับ อย่างตรง ๆ ว่าเขาเป็นเกย์ อีกทั้ง ยังออกมาเผยว่า อัลบั้ม In the Lonely Hour เป็นอัลบั้มที่เกี่ยวกับ ชายคนหนึ่งที่เขาเคยตกหลุมรัก แต่ชายคนนั้นไม่ได้รักเขาตอบ เขา เองยืนยันว่า เขาอยากให้ทุก ๆ คน รู้ว่า เพลงที่เขาร้องนั้นเป็นเพลงที่ เกี่ยวกับผู้ชาย Troye Sivan (ทรอย ซี วาน) เมื่ออายุได้ 15 ปี เขาสารภาพ กับครอบครัวของเขาว่าตนเอง เป็นเกย์ และในอีกสามปีถัดมาก็ได้ ประกาศต่อสาธารณชนเกี่ยวกับ รสนิยมทางเพศของเขาอย่างเป็น ทางการผ่านทางยูทูบ และอย่างที่ รู้กันว่าบทเพลงที่เขาแต่งนั้นเป็น เรื่องที่มาทั้งจากประสบการณ์ของ ตนเอง และหลาย ๆ เพลงก็เป็น เรื่องระหว่างเขาและแฟน Olly Alexander of Years & Years (ออลลี่ อเล็กซานเดอร์ แห่ง เยียร์ส แอนด์ เยียร์ส) ที่ออก มาเปิดเผยว่าตนเองเป็นเควียร์ รวมทั้งการเปิดเผยแฟนหนุ่มใน วงการของตนนั่นคือ Neil Milan (เนล มิลาน) แห่ง Clean Bandit
(คลีน แบนดิต) ถึงแม้ในปัจจุบันจะได้ เลิกรากันไปแล้วก็ตาม แต่นั่นก็ทำ�ให้ กระแสวง Years & Years เป็นที่พูด ถึงกันอย่างมาก Hayley Kiyoko (เฮย์ลีย์ กิโย โกะ) ในบทสัมภาษณ์กับนิตยสาร เธอ เรียกแทนตัวเองว่าเป็นสาวเกย์ และ เธอยังพูดถึงรสนิยมทางเพศของ เธอในบทความของนิตยสาร เปเปอร์ อีกทั้งเธออยากร้องเพลงเกี่ยวกับ ความจริงที่เธอชอบผู้หญิง แต่ต้อง ดิ้นรนที่จะเผยตัวตน และเธออยาก ทำ�ให้ความสัมพันธ์แบบหญิงรัก หญิงเป็นเรื่องธรรมดาผ่านบทเพลง ของเธอ King Princess (คิง ปริ๊น เซส) ถือว่าเป็นศิลปินหน้าใหม่ที่น่า จับตามองเป็นอย่างยิ่ง จากการตั้ง ชื่อในวงการของเธอว่า King Princess ก็แสดงให้เห็นถึงการผสมผสาน ระหว่าง King ที่เป็นผู้ชาย และ Princess ที่เป็นผู้หญิง เธอยังเคยบอก อีกว่า “ความรักของเควียร์มีแต่การ ปิดบังมาเป็นเวลานาน เพราะเช่นนั้น การที่แสดงออกต่อสังคมว่าเราเป็น เควียร์ ฉันคิดว่ามันเป็นศิลปะที่มีรูป แบบอย่างหนึ่ง ฉันเขียนเพลงนี้เกี่ยว กับเรื่องราวของความรักที่ไม่สมหวัง ของฉัน ฉันพยายามทำ�ให้ดีที่สุดเพื่อ ที่จะได้รับการยอมรับและการเคารพ” อันที่จริงยังมีศิลปินอีกหลายคนที่ไม่ ได้พูดถึง ในที่นี้ที่พวกเขานั้นเป็น LGBTQ อย่างชัดเจน หรือบางคนที่ก็ได้ เสนอความเป็น androgyny (แอนโด รจินี) ผ่านภาพลักษณ์ รวมถึงศิลปิน บางคนที่ไม่แบ่งแยกหรือระบุเพศของ ตัวเองเพื่อสร้างสรรค์งานศิลปะแบบ ไร้ขอบเขต ซึ่งทุกคนต่างนำ�เสนอ ความเป็นตัวของตัวเองออกมาผ่าน ผลงานได้อย่างน่าทึ่ง นอกจากตัวศิลปินเองที่ออกมา เปิดเผยตัวตน ยังมีการแสดงออก ผ่านทางเพลงและมิวสิควิดีโอ ที่ แสดงออกทั้งในเรื่องความรัก และ เรื่องสิทธิต่าง ๆ ของชาว LGBTQ อีกด้วย Troye Sivan – Blue Neighbourhood (Trilogy) Blue Neighbourhood เป็นมิวสิค วิดีโอไตรภาคที่ประกอบไปด้วยเพลง Wild, Fools และ Talk me down ที่ ตั้งใจจะสร้างขึ้นเพื่อพูดถึงความยาก
ลำ�บากในการที่จะเปิดเผยตัวตนว่า เป็นเกย์ เพราะใน Blue Neighbourhood หรือที่แปลว่า ละแวกบ้านสีฟ้า หรือถ้าตีความไปก็อาจจะว่าเป็นโลก ใบนี้ก็เป็นได้ เพราะโลกก็มีสีฟ้า และ การเป็นเกย์ในโลกนี้ก็เป็นเรื่องที่คน มองว่าผิด ไม่ได้รับการยอมรับ หรือ มองว่าเป็นปกติ และนอกจากนี้ Blue ยังใช้หมายถึงความโศกเศร้า Hayley Kiyoko – Heyley Kiyoko ด้วยเนื้อเพลงที่ตรงไปตรงมาที่บอก ว่า "Girl Like girls like boys do Nothing new" หรือแปลว่า “ผู้หญิง ก็ชอบผู้หญิงเหมือนผู้ชายได้นั่นแหละ ไม่เห็นจะแปลกตรงไหน“ มันคือความ ตรงไปตรงมาด้วยประโยคสั้น ๆ ที่ เหมือนเป็นกระบอกเสียงใหญ่ๆ แทน จิตใจเลสเบี้ยนทั่วโลก แถมยังมีมิวสิค วิดีโอที่ตรงกับเนื้อเพลง โดยสื่อถึง ความรักของหญิงรักหญิง และยัง มาจากประสบการณ์ของตัวเธอเอง อีกด้วย Macklemore & Ryan Lewis – Same Love feat. Mary Lambert เพลงที่พูดถึงความรัก ที่ไม่มีขอบเขต และในเพลงยังพูดถึงการกดขี่ที่ผ่าน มา รวมทั้งเรื่องสิทธิมนุษยชนสำ�หรับ ทุก ๆ คน ไม่เพียงแต่พูดถึง LGBTQ เท่านั้น และมิวสิควิดีโอยังทำ�ออกมา เพื่อสนับสนุน same-sex marriage หรือกฎหมายการแต่งงานของเพศ เดียวกันที่ในบางประเทศทั่วโลกได้มี กฎหมายนี้ไปแล้ว อีกทั้งตัวศิลปินเอง ก็ออกมาสนับสนุนใน LGBTQ rights Sia – The Greatest feat. Kendrick Lamar ในมิวสิควิดีโอได้ใช้สัญลักษณ์ มากมายเพื่อสื่อถึงเหตุกราดยิงใน บาร์เกย์ที่เมืองออร์แลนโด เมื่อปี 2016 เช่นการจัดสถานที่ และแสงไฟ ให้เหมือนกับในผับ การใช้สีรุ้งปาดบน ใบหน้าเพื่อแทนกลุ่ม LGBTQ และแดน เซอร์จำ�นวน 49 คนซึ่งเป็นจำ�นวนผู้ เสียชีวิตในเหตุการณ์ ที่เต้นอยู่ จาก นั้นก็ร่วงลงไปนอนที่พื้น Hurts – Beautiful one มิวสิควิดีโอนี้ถ่ายทอดประเด็นการ ใช้ความรุนแรงกับชาว LGBTQ โดย มิวสิควิดีโอนี้ได้นักร้องนำ�ของวง เอง Theo Hutchcraft (ธีโอ ฮัทช์
คราฟท์) รับบทเป็นเหยื่อจากการใช้ความรุนแรง โดย คอนเซปของมิวสิควิดีโอนี้่เป็นการถ่ายทอดเรื่องราวแบบ ย้อนกลับทั้งหมด ต้องยอมรับว่าปัญหาความรุนแรงนั้น เกิดขึ้นได้กับทุกเพศ และไม่มีใครสมควรถูกปฏิบัติอย่างไร้ มนุษยธรรม ความเกลียดชัง และใช้ความรุนแรง แม้แต่ในประเทศเกาหลีใต้ที่ LGBTQ ยังเป็นที่ถกเถียง และไม่เปิดกว้างมาก และยังมีกลุ่มอนุรักษ์นิยมที่ต่อต้าน อย่างรุนแรง ในอุตสาหกรรมบันเทิงของเกาหลีใต้ก็ยังมี มิวสิควิดีโอเพลงเคป๊อบบางเพลงที่กล้าเสนอแนวคิดที่ ต่างจากเดิม เช่น มิวสิควิดีโอเพลง Please Don’t… ของ K.Will ที่เรื่องราวตอนจบของมิวสิควิดีโอเพลงนี้ ทำ�ให้ หลายคนอึ้งไปตาม ๆ กัน แถมยังเป็นมิวสิควิดีโอแรก ๆ ของวงการเพลงเกาหลีที่กล้าใส่ LGBTQ เข้าไป และนับว่าเป็นการฉีกกฎของวงการบันเทิงเกาหลี เลยก็ว่าได้ ที่ Holland ศิลปินคนแรกของวงการบันเทิง เกาหลีใต้ที่เปิดตัวว่าเป็นเกย์ ซึ่งผลงานเพลงแรกของเขา Neverland ได้ถ่ายทอดความรู้สึกของชายหนุ่มที่อยาก จะที่จะหลีกหนีจากการถูกแบ่งแยก ไปยังที่ ๆ เขาสามารถ รักใครสักคนได้ตามที่ตัวเองต้องการ เขาได้ถ่ายทอด อารมณ์และความรู้สึกผ่านมิวสิควิดีโอเพลง Neverland ได้อย่างลึกซึ้ง นอกจากนี้ยังมีมิวสิควิดีโอที่นำ�เทคนิค Bisexual Lighting เข้ามาใช้ อย่างมิวสิควิดีโอเพลง Dream In A Dream ของ Ten, Bad Boy ของ Red Velvet และ Go ของ NCT Dream ที่ถึงแม้อาจจะมองว่าเป็นการใช้สีตาม เทรนด์ของแพนโทนในปี 2018 นี้ อย่างสี ultra violet
Bisexual Lighting การจัดแสงแบบ Bisexual Lighting มีที่มาจากธง ชาติของไบเซ็กชวล สีชมพูเข้มบนธงชาติหมายถึง โอกาสในการดึงดูดหรือสนใจเพศเดียวกัน สีน้ำ�เงิน หมายถึงความเป็นไปได้ในการสนใจเพศตรงข้าม ส่วนสีม่วงลาเวนเดอร์ตรงกลางคือความเป็นไปได้ที่ จะดึงดูดทุก ๆ เพศ
ก็ตาม แต่ก็ได้นำ�มาใช้ได้อย่างสื่อความหมาย เช่น ในมิวสิควิดีโอเพลง Bad Boy ที่เนื้อหาในมิวสิควิดีโอนั้นก็สื่อถึง ความรักระหว่างเพศเดียวกัน LGBTQ ในวงการดนตรีของไทย ในวงการดนตรีของไทย ก็มีคนที่เรียกได้ว่าเป็นตัวแม่ที่ได้รับการยอมรับทั้งในฐานะศิลปินเดี่ยวและในฐานะ แฟชั่นนิสต้า อย่าง จีน-กษิดิศ สำ�เนียง ที่อาจจะไม่ได้โด่งดังในระดับแมส แต่ทุกคนที่รู้จักผลงานของเขาย่อมไม่มีใคร ปฏิเสธในความเป็นศิลปินตัวจริงของเขาได้ และแทบจะไม่มีใครให้ความสำ�คัญว่าเขาเป็นเพศไหน นั่นเพราะเขามีผล งานที่ดีให้คนโฟกัส และเจ้าตัวบอกเองว่าไม่เคยปกปิดเรื่องที่ตนเป็นเกย์ อีกคนที่เรียกได้ว่าเป็นคลื่นลูกใหม่ของวงการเพลงไทยอย่างวงชนุดม ที่อีกจุดเด่นของวงนี้คือมีนักร้องที่มี ทั้งความเป็นเพศชายและเพศหญิงในตัวคนเดียว เวลาสาวเธอก็จริตจะก้านจัดเต็ม แต่บทจะแมนก็แมนได้อย่างเหลือ เชื่อราวกับเป็นคนละคน นั่นคือ พัด-ชนุดม สุขสถิต ที่กล่าวว่า “เพลงของฉันไม่ต้องมีเพศ ฉันรู้สึกว่ามันเป็นฉัน มัน เข้ากับสิ่งที่พูดออกมา แล้วถ้าพูดออกมามีน้ำ�หนัก แสดงว่าสังคมยอมรับ” นอกจากนี้ยังมีศิลปินไทยอีกหลาย ๆ คนอย่าง อ๊อฟ ปองศักดิ์, เบน ชลาทิศ และศิลปินท่านอื่น ๆ ในวงการดนตรีไทยที่มีผลงานและความสามารถที่ไม่ ธรรมดา ถึงแม้ในวงการดนตรีจะมีความเป็นอิสระ ผู้คนมองข้ามความเป็นเพศ และไปมองหรือโฟกัสที่ผลงาน แต่ก็ใช่ ว่าหนทางที่จะได้รับการยอมรับนั้นจะได้มาอย่างง่ายดาย ความซับซ้อนในการยอมรับ LGBTQ ก็ยังมีอยู่มาก ทั้งใน วงการดนตรีเอง และจากคนในสังคม อย่างที่เห็นว่าศิลปินหลาย ๆ คนที่ได้รับการยอมรับนั้นต้องเป็นคนที่เรียกได้ ว่าประสบความสำ�เร็จในชีวิต อย่างในประเทศไทยที่การยอมรับมักจะมาพร้อมเงื่อนไข เช่น วาทกรรมที่ว่าไม่ว่าจะเป็นเพศอะไรก็ขอให้เป็น คนดี หรือการที่จะได้รับการยอมรับจะต้องเป็นคนที่ประสบความสำ�เร็จ ทำ�คุณประโยชน์ในกับสังคม ซึ่งอันที่จริงแล้ว เราควรจะยอมรับในเพศที่ผู้อื่นเลือกหรือแสดงออกโดยปราศจากเงื่อนไข และหวังว่าเราจะเห็นคนที่เป็น LGBTQ มี บทบาทในวงการต่าง ๆ และได้รับการยอมรับมากยิ่งขึ้น
MUXIC MIXED
บุคลิกแบบไหนแนวเพลงบอกได้ จากงานวิจัยโดยนักจิตวิทยาอย่าง Jason Rentfrow และ Sam Gosling โดยศึกษาจากกลุ่มตัวอย่างกว่า 36,000 คนทั่วโลกมีสามารถพิสูจน์ได้ว่าประเภทและแนว เพลงที่คุณฟังบ่อยจะสามารถบ่งบอกบุคลิกของคุณได้ แนว Pop : Extrovert , honest, conventional หากในเพลย์ลิสต์ของคุณพบว่าเพลงที่คุณฟังล่าสุด หรือ ฟังบ่อยมากที่สุดมาจากแทร๊คของ Rhianna, Selena Gomez, หรือ Charlie puth คุณเป็นคนที่ชอบฟังเพลง ที่สามารถเข้าถึงอารมณ์ความรู้สึกของเพลงได้ง่าย ชอบ สังคมและมีความมั่นใจในตัวเองสูง ถึงแม้ว่าจะเป็นคนไม่ ค่อยอบอุ่นนักแต่คุณเป็นคนที่มีความซื่อตรงและยุติธรรม และมีความเป็นแบบแผน แนว Rap and Hip/Hop : Self-Esteem , Outgoing หากในเพลย์ลิสต์ของคุณมีแต่แนวเพลงดิบๆผ่าน การแร๊พ แทร๊คที่คุณฟังบ่อยมากที่สุด เช่น Snoop Dogg Dr. Dre หรือ Drake คุณเป็นคนที่เข้าสังคมง่าย มีความ เคารพและภูมิใจในตัวเองสูงจนไปถึงหยิ่งในศักดิ์ศรีของ ตนเอง แนว Country : Hardworking, conventional, outgoing หากคุณชอบฟังเพลงของ Jason Aldean , Michael Ray , LANCO หรือชอบฟังเพลงเก่าสมัยรุ่นคุณ พ่อหรือประเภทที่คนร้องเสียชีวิตไปนานแล้ว คุณมีบุคลิก ที่ขยันหมั่นเพียร และเป็นคนที่เข้ากับคนอื่นได้ง่ายและยัง เป็นคนที่เชื่อมั่นในตัวเองสูงและมีแบบแผนในการใช้ชีวิตที่ ธรรมดาเรียบง่าย แนว Rock / Heavy Metal : creative , Introvert , low self-esteem. ถึงภาพลักษณ์อาจจะดูก้าวร้าวไปสักหน่อย ซึ่งใน ความเป็นจริงแล้วตรงกันข้ามกับบุคลิกของคุณที่เก็บเนื้อ เก็บตัวและหมกหมุ่นกับเรื่องที่เกี่ยวกับตนเอง ไม่ค่อยสนใจ สิ่งรอบข้างมากนักนอกจากนี้ยังมีความมั่นใจในตัวเอง ต่ำ� แต่คุณเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ มีไอเดียใหม่ๆอยู่ เสมอ แนว Indie : Introverted, intellectual , creative. คุณเป็นคนที่ค่อนข้างเก็บตัวหมกหมุ่นในเรื่อง ของตัวเอง ไม่มั่นใจในตัวเองบ้างในบางครั้งแต่คุณมี ความฉลาดรอบรู้ มีความสามารถหลากหลายด้านโดย เฉพาะในเรื่องการใช้ความคิดสร้างสรรค์ ชอบคิดวิเคราะห์ แนว Jazz : extroverted , high self-esteem , very creative¸ intelligent หาศิลปินที่ในดวงใจของคุณคือ Ganavya , Edward Simon และดนตรีแนว Jazz คือรสนิยมของคุณ บุคลิกของคุณเป็นคนที่กล้าแสดงออก มีความเชื่อมั่นใน ตัวเองสูงมาก มีความคิดสร้างสรรค์สามารถคิดค้นสิ่ง ใหม่ๆได้เสมอ นอกจากนี้ยังเป็นคนที่รอบรู้และฉลาด
Genre In A Genre Lo-Fi HipHop เมื่อพูดถึงเพลง HipHop ก็ทำ�ให้เราไปนึกถึงเพลง ที่มีบีทหนัก ๆ ที่มาพร้อมกับการ Rap อย่างดุเดือด ด้วย ทั้งเนื้อหาของเพลง และตัวของ Rapper เอง ที่ใส่พลังไปใน บทเพลงแบบไม่มียั้ง
แต่นั่นไม่ใช่กับเพลง HipHop ประเภท Lo-Fi
Lo-Fi (โลฟาย) ย่อมากจาก Low Fidelity เป็นกระ บวนการทำ�เพลงให้เพลงมีคุณภาพต่ำ� หรือฟังดูคุณภาพต่ำ� ไม่ว่าจะด้วยการทำ�ให้เสียงบิดเบี้ยว หรือการอัดเสียงแบบให้ มีเสียงรบกวน รวมไปถึงใช้เครื่องดนตรีให้น้อยชิ้นที่สุดใช้มิติ ของเสียงให้น้อยที่สุด ซึ่งจะต่างกับ Hi-Fi (ไฮฟาย) หรือ High Fidelity ซึ่งจะเน้นไปที่เรื่องมิติของเสียง คุณภาพของเสียง ให้คมชัดที่สุด และมากที่สุดเท่าที่จะทำ�ได้ อย่างเพลงทั่วไปใน ปัจจุบันนี้ การทำ�เพลง Lo-Fi จากเพลง HipHop ถือเป็นโจทย์ ที่ท้าทายนักทำ�เพลง เพราะพื้นฐานเดิมของเพลง HipHop มี มิติของเสียงอิเล็กทรอนิกส์แทรกซ้อนอยู่หลายไลน์เสียง และ จังหวะของดนตรีที่เร่งเร้า แต่กระนั้น Lo-Fi HipHop ก็เริ่มได้รับความนิยม มากขึ้นในปัจจุบัน อีกทั้งยังมีนักทำ�เพลงอีกมากมายมาร่วม สร้างสรรค์ผลงาน อาทิ Substantial, Nujabes, Jinsang, Vanilla, J a r j a r, beatmachineron และยังมีศิลปินอื่น ๆ อีกมากมาย สิ่งที่ทำ�ให้ได้รับความนิยมอาจมาจากหน้าปกของ วิดีโอเพลง Lo-Fi HipHop ในยูทูบ ที่หน้าปกของวิดีโอมักเป็น ภาพจากตัวละครจากอนิเมะในยุค 90s หรือไม่ก็เป็นภาพวาด บรรยากาศหม่นหมองอย่างเมืองที่มืดครึ้มในวันฝนตก และ แสงไฟริบหรี่ในยามค่ำ�คืน ด้วยเพลงที่ไม่ได้มีจังหวะหวือหวา หรือมีเนื้อร้องให้ ต้องคิดตาม ทำ�ให้เพลง Lo-Fi HipHop เหมาะแก่การนั่งฟัง ไปเรื่อย ๆ ปล่อยให้ความคิดโลดแล่นอยู่กับทำ�นอง อีกทั้งยัง เหมาะแก่การฟังตอนนั่งทำ�งาน และยังเป็นเพลงที่ทำ�ให้รู้สึก ผ่อนคลายจากความเครียด ความเหนื่อยล้าในชีวิตประจำ�วัน หากอยากลองฟังเพลงประเภทนี้ ก็ลองค้นหาคำ� ว่า Lo-Fi ในช่องค้นหาของยูทูบ จะพบกับเพลงประเภทนี้เป็น จำ�นวนมาก อีกทั้งยังมี Lo-Fi HipHop Radio ที่จะนำ�เพลงมา มิกซ์และเปิดให้ฟังกันตลอด 24 ชั่วโมง
muxic pick
เบื้องหลังป้าย
และสัมพันธ์แฟนคลับ
ในปัจจุบันอุสาหกรรมเพลงเกาหลีใต้ หรือ K-pop
ได้แพร่กระจายไปทั่วทุกมุมโลกไม่แค่เฉพาะในประเทศแถบ เอเชียเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงภูมิภาคอื่นๆเช่น กลุ่มวัยรุ่น ในอเมริกา ตะวันออกกลาง อินเดียเหนือ หรือประเทศใน แถบยุโรป อุตสาหกรรมเพลงเกาหลีสามารถนำ�รายได้เข้าสู่ ประเทศอย่างมากในทุกๆปี เนื่องจากได้รับการสนับสนุนงบ ประมาณในการจัดสร้างจากรัฐบาลเพื่อให้ K-pop เติบโต และกลายเป็นสินค้าส่งออกทางวัฒนธรรมของประเทศ เกาหลีใต้ อุตสาหกรรมเพลงเกาหลีใต้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อผนวกการเข้ามาของโซเชียลเน็ตเวิร์ค เช่น Twitter ที่ กลายเป็น communication ของเหล่าแฟนคลับเกาหลีใน การแชร์ข่าวสารที่เกี่ยวกับศิลปินที่ตนเองชื่นชอบ ด้วย เอกลักษณ์เฉพาะที่ผสมผสานทั้งการร้องและเต้นอย่าง พร้อมเพรียง สิ่งที่ดึงดูดใจไม่แพ้กันก็คือ k-pop artists ที่ เต็มไปด้วยเสนห์และความสามารถทำ�ให้สามารถดึงดูดใคร หลายๆคนเข้ามาร็จักกับโลกของ K-pop กว่าจะได้กลายมาเป็นศิลปินชื่อดังท่ามกลางแสง ไฟ ไม่ได้สามารถเกิดขึ้นกับใครได้ง่ายๆ เมื่อความสำ�เร็จมี ราคาต้องจ่าย กว่าที่จะได้กลายเป็นศิลปินที่โด่งดังได้นั้น เหล่าศิลปินต้องเริ่มจากการเต้น ฝึกร้องไม่ต่ำ�กว่าวันละ 8-10 ชั่วโมง เพื่อออดิชั่นเข้าไปเป็น Trainee หรือ “เด็กฝึก” ในค่ายเพลง ซึ่งถึงแม้ว่าจะได้เข้าไปเป็นเด็กฝึกแล้วก็ตาม อุปสรรคก็ยังไม่จบเพียงเท่านั้น เพราะการที่สามารถเข้าไป แล้วไม่ได้ความว่าคุณจะได้เดบิวต์แน่นอน แต่คุณต้องไปแข่งขันกับเทรนนี่คนอื่นๆอีก อาจ ต้องใช้เวลาฝึกอยู่นานกว่า 3 – 5 ปี กระบวนการในการคัด เลือกไอดอลของแต่ละค่ายเพลงจะมีมาตราฐานแตกต่าง กันไป แต่สิ่งที่มีเหมือนกันเกือบทุกค่ายคือ การประเมิณผล ปลายปี ซึ่งการประเมิณผลปลายปีก็มีความหมายตรงตัว คือการประเมิณทักษะและความสามารถของเทรนนี่แต่ละคน ว่าใครมีพัฒนการขึ้นและพร้อมเดบิวต์มากที่สุด เมื่อได้เดบิวต์เป็นศิลปินแล้วการมีฐานแฟนคลับก็ ถือว่าเป็นเรื่องสำ�คัญอันดับหนึ่ง เนื่องจากโลกของ k-pop เต็มไปด้วยการแข่งขัน ศิลปินทุกวงเมื่อเดบิวต์แล้วต้อง
ธนัชชา สุวิบาย ผู้เขียน / ภาพ
ทำ�การแสดงสดในรายการเพลงเพื่อเป็นการโปรโมท ซึ่งใช้ เวลากว่าเกือบครึ่งเดือนในการโปรโมท ซึ่งเป้าหมายในการ โปรโมทคือการเป็นที่รู้จักและเพื่อชนะที่หนึ่งในรายการเพลง ทุกรายการเพลงต้องอาศัยการโหวต ยอดซื้ออัลบั้ม ยอด การฟังเพลงดิจิตอลและยอดวิวในยูทูป การโปรโมทศิลปินจึงกลายเป็นหน้าที่หนึ่งของเหล่า แฟนคลับเดิมเพื่อให้ไอดอลของพวกเขาเป็นที่รู้จักเพื่อเพิ่ม Awareness ให้กับศิลปิน สิ่งที่ตามมาคือคะแนนโหวต ยอด การซื้ออัลบั้มที่เพิ่มมากขึ้น มาสู่การชนะรายการเพลงในที่สุด ในสมัยก่อนการสนับสนุนศิลปินอย่างมากก็แค่การฟังเพลง หรือการซื้ออัลบั้ม แต่การโปรโมทรูปแบบใหม่ที่กำ�ลังนิยมใน ตอนนี้คือ การทำ�ป้ายซัพพอร์ตศิลปินด้วยการใช้สื่อโฆษณา ภายในสถานีรถไฟฟ้า .ในช่วงนี้ได้เกิดมิติใหม่ของการโปรโมทศิลปิน หาก สถานีรถไฟใต้ดินสถานีไหนที่คนพลุกพล่านใช้บริการมากเป็น พิเศษเรามักจะพบเห็นว่ามักจะมีรูปศิลปินเกาหลีโชว์อยู่บน ป้ายโฆษณาของสถานี ป้ายเหล่านี้มักถูกจัดทำ�ขึ้นในโอกาส พิเศษ เช่น ครบรอบวันเกิดของศิลปิน ครบรอบวันเดบิวต์ ซึ่งหลายคนที่ผ่านไปผ่านมาอาจะเกิดความสงสัยว่าทำ�ไปเพื่อ อะไร มีประโยชน์อย่างไร แล้วทำ�ไมต้องเป็นรถไฟฟ้าใต้ดิน? อีกทั้งงบประมาณที่ต้องใช้ในโปรเจ็คก็นับว่าไม่น้อยเลย เรท ราคาของป้ายนั้นจะแตกต่างกันไป ถ้าไปใหญ่ขนาด 3 เมตรจะ มีค่าใช้จ่ายราว 70,000-100,000 ด้วยเหตุนี้เองทางเราจึงได้ทำ�การสอบถามไปยัง เจ้าของเพจ Park jihoon winking’s day ที่ในขณะนี้ทางเพจ ได้มีการทำ�ป้ายซัพพอร์ตศิลปินเกาหลี Park Jihoon หรือ พัค จีฮุน วง wannaone ถึงที่มาที่ไปและแรงจูงใจว่าเหตุใดถึง เลือกที่จะสนับสนุนศิลปินด้วยวิธีนี้ “เราอยากให้ศิลปินได้รู้ว่ายังมีแฟนคลับที่สนับสนุนเขา ถึง แม้ว่าศิลปินจะไม่เห็นแต่คนที่ผ่านไปแถวนั้นเขาเห็น มันเหมือน ได้เพิ่มช่องทางการรับรู้ว่าศิลปินคนนี้กำ�ลังดังนะ มีคน สนับสนุนเยอะ อาจมีความเป็นไปได้ว่าแบรนด์สินค้าอาจสนใจ ให้ศิลปินเราเป็นพรีเซนเตอร์ก็ได้” เจ้าของเพจให้ข้อมูลกับทางทีมงานว่าในส่วนของค่า ใช้จ่ายทั้งหมดมาจากแฟนคลับที่รักและชื่นชอบจีฮุนโดเนทให้ กับทางเพจ บางคนก็บริจาค 50 บาทจนถึงหลัก 1000 ซึ่ง ทางเพจเองก็มีหน้าที่ในการประเมิณต้นทุนที่จะนำ�มาใช้ เมื่อ
ประเมิณคร่าวๆแล้วก็เริ่มหาสถานที่และขนาดป้ายที่เหมาะสมกับต้นทุน รวมไปถึงการออกแบบป้ายเพื่อขึ้นโชว์ ทางเจ้าของเพจ ยังกล่าวต่ออีกว่า ในการทำ�โปรเจ็คแต่ละครั้ง ทางเพจจะมีการใช้แฮชแท็กลงในทวิตเตอร์ เช่น #SaveJihoontomyheart เพื่อ ให้แฟนคลับที่พบเจอป้ายถ่ายรูปโพสต์ลงในแฮชแท็กเพื่อให้เป็นที่สนใจมากขึ้น ที่มาของการทำ�ป้ายโปรเจ็คอันที่จริงแล้วเริ่มมาจากในประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งนิยมทำ�ป้ายซัพพอร์ตให้กับศิลปินใน รถไฟฟ้าใต้ดิน เนื่อกจากคนเกาหลีมักใช้รถไฟฟ้าใต้ดินเป็นหลักเป็นสถานที่ที่มีคนพลุกพล่านมาก นอกจากประเทศไทยแล้ว ยังมีประเทศในภูมิภาคอื่นๆที่ด้รับอิทธิพล เช่น ที่ไทม์สแควร์ ประเทศนิวยอร์ก ที่ได้กลายเป็นสถานที่ยอดฮิตของแฟนคลับที่ ต้องการทุ่มทุนเช่าป้ายสุขสันต์วันเกิดให้กับศิลปินของเขาโดยมีความคาดหวังว่าอย่างน้อยคนที่บังเอิญผ่านมาเห็นจะนำ�ชื่อ ศิลปินของเขาไปค้นหา ดูผลงานและอยากสนับสนุนศิลปินของพวกเขา
A Page of Favorite Tracks
ในวันที่ฝนตก รถติด บีทีเอสไม่มีที่นั่ง เหยียบ ฟุตบาธผิดแผ่นจนน้ำ�ขังเปรอะรองเท้าคู่เก่ง วันที่อะไร ๆ ก็ไม่เป็นอย่างใจ อย่าลืมว่าคุณยังมีเสียงเพลงที่เป็น เหมือนเพื่อน เป็นบ้าน เป็นกล่องทิ้งความเครียด หรือ เป็นอะไรก็ตามที่คุณอยากให้เป็น หากมีเวลาสักนิด อยากให้คุณพักจากงานสัก หน่อย วางปากกา แล้วฟังเพลงประจำ�สัปดาห์ในหนึ่ง หน้ากระดาษไปกับเรา และ 3 Tracks ใหม่ที่มี Mood & Tone ไม่ร้อนไม่เย็นเกินไป แต่ชิคและเท่เกินใคร ที่ นอกจากจะได้พักสมองให้หายล้า ก็อาจจะได้ Vibes ดี ๆ กลับไปเป็นกำ�ไรอีกเท่าตัว • HONNE - 306 “One LP down and I’m still driving this 306” คือเนื้อเพลงวรรคแรกที่ HONNE ใช้เป็นชื่อ เพลง บอกเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์แบบ May – December หรือคู่รักต่างวัยได้อย่างลงตัวผ่านเสียง ดนตรีสังเคราะห์ฟุ้ง ๆ ที่กลมกลืนไปกับบีทหนึบหู ให้ บรรยากาศของการขับรถชมวิวแถบชานเมืองพร้อม ด้วยคนรักข้าง ๆ • PREP - Cold Fire feat. DEAN ผลงาน Callapse ชิ้นแรกระหว่าง PREP วง ดนตรี Smooth Music จากเกาะอังกฤษ ร่วมกับ DEAN นักร้อง R&B มากผลงานจากเกาหลีใต้ เกิดเป็น ดนตรีจังหวะ Funky ที่แฝงไว้ด้วยกลิ่นอายเพลง Jazz ได้อย่างน่าฟัง แถมเนื้อเพลงยังมีลูกเล่นเล็ก ๆ ของ ความเป็นเกาหลี ในท่อน “Cracking ice in the soju” ที่ช่วยส่งให้เพลงมีสเน่ห์จากการเล่าเรื่องแบบม้วนฟิล์ม อีกด้วย • Tahiti 80 - Let Me Be Your Story ชิมลางการกลับมาอีกครั้งของ Tahiti 80 สามหนุ่มฝรั่งเศสที่สร้างสรรค์ผลงานเพลง Soul Pop ด้วยเพลงจังหวะกลางที่มีเนื้อหาจิกกัดสังคมปัจจุบัน ได้น่ารักไม่หยอก มาพร้อมกับกลิ่นอาย Summer แบบ เต็มพิกัด ทั้งในส่วนของดนตรีและ Music Video แต่ถึง อย่างนั้น การจะฟังเพลงนี้ระหว่างเดินไปทำ�งานเช้า ๆ กับร่มคันใหญ่ในมือก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร ในเมื่อเจ้าของ เพลงเขาก็บอกชัด ว่า “Let me be your story, Let’s enjoy while we can”
HONNE - 306
PREP - Cold Fire feat. DEAN
Tahiti 80 - Let Me Be Your Story
HIPHOP
I READ ONLY MUXIC
ไม่ใช่สถานที่แต่เป็นผู้คน กับคำ�ถามจาก HipHop เลือดไทย ทำ�ไมต้อง Real? “ทำ�ไมต้อง Real เห็นคนเขาว่าอย่างเดียว คือผม ได้ยินได้ฟังยิ่งงงมันทรงคุณค่าแค่ไหนเชียว” อีกหนึ่งเสียงสะท้อนจากแรปเปอร์เลือดไทย NLHz (นิล โลหิต) และ MC.TOY ร้องถาม ถึงคำ�ว่า “Real” ที่อยู่คู่ วงการ HipHop ทั้งไทยและสากลมาอย่างยาวนาน ผ่าน รายการ Rap Survivor ที่กำ�ลังเป็นกระแสอย่าง Show Me The Money Thailand โดยคำ�ว่า Real นั้นแปลตรงตัวคือของจริง หาก เป็นทองก็คือทองแท้ไม่ใช่ทองเก๊ ไม่ใช่ทองเค ทางด้าน วงการเพลงก็ไม่ต่างกันนัก เพราะ Real นั้นหมายถึงความ สามารถของแรปเปอร์นั้น ๆ ว่าเก่งและเจ๋งพอให้คน Respect “ทำ�ไมต้อง Real ทำ�ไมต้อง Real ล่ะพี่” เท้าความไปถึงจุดเริ่มต้นของ HipHop ที่เปรียบ ได้กับต้นไม้ใหญ่แตกกิ่งก้านสาขาไป 4 แขนงคือ MC, Rap, B Boy และ Graffiti ล้วนเติบโตมาจากรากเดียวกัน นั่นคือ ความข้นแค้นถูกกดให้จมดินของคนผิวสีในช่วงยุค 70s จน กลุ่มคนเหล่านี้ต้องรวมตัวเพื่อทำ�อะไรสักอย่าง และเลือก ที่จะแสดงออกผ่านการ Mix ดนตรีจังหวะหนักหน่วง (MC) และเขียนเนื้อเพลงเพื่อบ่นด่า (Rap) ร่วมกับทำ�นองนั้น บ้าง ที่ไม่ Rap ก็เต้น (B BOY) บ้างก็พกสเปรย์สีไปฉีดพ่นตาม กำ�แพง (Graffiti) เพื่อแสดงจุดยืนร่วมคือเรียกร้องในสิทธิ ที่เท่าเทียมกับคนขาว “ชีวิตมันต้อง Real เพราะโลกนี้มันอยู่ยาก” เรียกได้ว่าวัฒนธรรม HipHop แรกเริ่ม คือการสู้ แบบหลังชนฝา ปากกัดตีนถีบ คนผิวสีจำ�นวนมากที่ยึดเอา HipHop เป็นหลักแหล่งในชีวิต วลี HipHop for life ยังคง ย้ำ�ให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้ถึงการก่อร่างของวัฒนธรรม โดย คนดำ�ที่ไม่ยอมให้ใครมากำ�หนดชะตา ใช้ดนตรีเป็นอาวุธต้าน การเอารัดเอาเปรียบ จุดกำ�เนินวัฒนธรรม HipHop นั้นกระทบความ รู้สึกมากพอจนใครหลาย ๆ คนถึงกับออกปากว่าพร้อม จะตายไปกับมัน อย่างที่ กอล์ฟ ฟักกลิ้ง ฮีโร่ ได้เคยฝาก Rhyme ไว้ในเพลง HipHop ว่า “ตอนกูตายมึงต้องฝังไมค์ ลงไปกับกู” และทั้งหมดนี่อาจเป็นเหตุผลที่อธิบายว่า ทำ�ไมโลก HipHop ถึงได้มีคำ�ว่า Real Dis แบบ Real ๆ ? ด้วยความที่เป็นวัฒนธรรมที่ก่อร่างบนความเจ็บ แค้นเช่นนี้เอง จึงทำ�ให้ HipHop Culture ที่เรารู้จัก ดูดุดัน ก้าวร้าว และอาจหยาบคายในสายตาใครหลายคน ความก้าวร้าวแต่กร้าวใจที่จะไม่เอ่ยถึงไม่ได้นั่นคือการ Dis หรือ Dis credit เป็นอีกหนึ่ง Sub Culture ที่เติบโต มาพร้อมกับการ Rap อย่างแยกแทบไม่ออก มีจุดเริ่มต้น มาจากการ Rap Battle หรือการแข่งขัน Rap ซึ่งเป็นเกม ประลองฝีปากของเหล่า MC และ Rapper ที่จับไมค์ขึ้น สังเวียน ตามองคู่ต่อสู้ หูฟัง Beat แล้วเริ่มสาดถ้อยคำ� คล้องจองให้ฝ่ายตรงข้ามเสียหลัก เพื่อหาผู้ชนะใน Round นั้น ๆ อย่างที่บ้านเรามีให้เห็นในรายการ Rap is now และ
โดย จิรภิญญา สมเทพ
เวที Rap อื่น ๆ ทั้งนี้ใช่ว่า Rapper และ MC ทุกคนจะต้องขึ้นสังเวียน เสมอไป เมื่อโลกได้เปลี่ยนผ่านเข้าสุ่ยุค Digital เพลง Rap จาก ที่เคยอยู่ในแผ่น CD เร่ขายกันให้วุ่น ก็กลายมาเป็นเพลงบน Youtube ให้ได้กด Like กันสนุกมือ และนับเป็นอีกหนึ่งช่องทาง ใหม่ของความสนุกปาก เมื่อเหล่า Rapper ที่เดินกระทบไหล่กัน มีเรื่องมา Dis กันอยู่เรื่อย ๆ และหนึ่ง Punchline ฮิตติดปากก็ คือคำ�ว่า “มึงมันไม่ Real” ซึ่งเมื่อครั้งนั้น ก็เป็นแรปเปอร์นิลโลหิตนี่เองที่ออกมา โต้กลับอย่างดุเดือดแต่แปลให้สุภาพได้ว่า “ไม่ Real แล้วหนักหัว พ่อคุณรึไง ?” Real ≠ Run วงการ หลังจากผ่านยุคสมัยที่คำ�ว่า Real ถูกใช้ปากต่อปาก จนเป็นที่กว้างขวาง ก็เข้าสู่ยุคที่คนนอกรวมทั้งคนในหลายคน หวนกลับมาตั้งคำ�ถาม ว่าแท้จริงแล้ว Real คืออะไร ? คือ Rap แบบ Boom Bap ดั้งเดิมหรือไม่ คือสิ่งที่ถูก เรียกว่า Old School Rap หรือเปล่า คือการ Dis แบบหนัก ๆ ฟังแล้วสะใจ หรือคือ Rhyme ที่คมคายจนต้องยกนิ้วให้ความช่างสรรหาคำ� Real อาจเป็นทุกอย่างที่ว่ามา หรือไม่ก็อาจไม่ได้เป็นแม้สัก อย่างเดียว แปรผันไปตามมุมมองของบุคคล Real ของหนึ่ง คน อาจไม่ Real ในสายตาคนอื่นก็เป็นได้ นอกจากคำ�ว่า Real วัฒนธรรมการ Rap ยังมีอีกคำ� ที่ใช้กันแพร่หลาย นั่นคือคำ�ว่า Run อันหมายถึงการขับเคลื่อน วงการ HipHop ให้เป็นที่รู้จัก และก้าวหลุดจากกรอบเดิม ๆ ซึ่งคำ�ว่า Real ที่ถูกใช้กันอย่างผิดทิศผิดทางนี้เองที่เป็นหนึ่งใน กรอบที่วงการ Rap บ้านเรายังสอบไม่ผ่าน “ทำ�ไมต้อง Real ขนบเดิม ๆ ไม่ได้แย่ ลองพัฒนาสิไม่แน่ มัน เปลี่ยนกันได้แค่นิดเดียว” หากจะพูดถึงแค่วัฒนธรรม HipHop อย่างเดียว ก็คง ผิดธรรมเนียม I READ ONLY MUXIC เพราะสิ่งที่น่าสนใจยิ่งไป กว่านั้นคือความ Conservative ในคำ�ว่า Real ถ้า Real ของ HipHop คือความ Old School ไม่ปรุง แต่งด้วย Culture อื่น ๆ ทั้ง Pop, Rock หรือ Soul อย่างนั้น Real ของบ้านเราก็คงเป็นความอนุรักษ์นิยม ถ้าเป็นเช่นนั้น ประโยค “ทำ�ไมต้อง Real เป็นข้อกังขา ได้ทุกที่ ก็ไม่ได้บอกว่าไม่ดี คือผมสงสัยแค่นิดเดียว” ก็ดูราวจะ แทนความรู้สึกของเด็กรุ่นใหม่ได้อย่างพอเหมาะพอดี เป็นอีกครั้งที่เพลงที่ฟังสะท้อนถึงความเป็นมนุษย์ได้ ชัด อาจด้วยเพราะเป็นเพลง Rap ที่ถนัดว่ากันโต้ง ๆ พูดกัน เจ็บ ๆ เหมือนถูกปาผลไม้เปลือกแข็งใส่ เมื่อมานั่งกะเทาะดูถึงรู้ ว่าด้านใน Rhyme ที่หลายครั้งหยาบนั้นเต็มไปด้วยอุดมการณ์ บางอย่าง สุดท้ายนี้ ขอยกเนื้อเพลง Bar สุดท้ายมาปิดม่าน ส่วนเรื่องจะ คิดต่อเติมอย่างไรนั้น เป็น MUSIC ใน Verse ของผู้อ่านเสีย แล้ว “ทำ�ไมต้อง Real ใครอยากจะเป็นอะไรก็เป็นไม่ต้องมา องมาอ้างว่าคนทุกคนต้อง Real แค่นั้นอย่างเดียว ทำ�ไมต้อง Real อะ”
WARNING ALERT
ศิลปินกับ “โรคซึมเศร้า” ผ่านบทเพลง
ท
ณัฐณิชา สระแก้ว เขียน
ุกวันนี้ข่าวเศร้าสลดถูกนําเสนอเป็นเรื่องปกติแต่ หากข่าวนั้นเป็นเรื่องของการเสียชีวิตของศิลปินที่คุณรักล่ะ ?ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ เกิดการสูญเสียศิลปินชื่อดังด้วย สาเหตุจากการฆ่าตัวตายหลายราย เมื่อเห็นข่าวที่แจ้งข่าว การเสียชีวิตของพวกเขาเหล่านี้อยู่บนโลกออนไลน์ หลาย ครั้งเราไม่คาดคิดด้วยซ้ําว่านั่นคือเรื่องจริงที่เกิดขึ้น เพราะ ภายนอกของแต่ละคนไม่ปรากฏ สาเหตุกดดันจนน่าจะฆ่าตัว ตายให้เห็นได้ชัดศิลปินเหล่านั้นมีชื่อเสียงแฟนเพลงมากมาย อยู่ท่ามกลางแสงสปอตไลท์และเสียงเชียร์ ชีวิตท่าทางจะ เป็นไปด้วยดี เหตุใดจึงเกิดการฆ่าตัวตายขึ้น ? เมื่อตามอ่าน จากข่าว ส่วนใหญ่จะพบการวินิจฉัยว่าสาเหตุของ การคร่า ชีวิตตัวเองของพวกเขาเกิดจาก ‘โรคซึมเศร้า’ ‘โรคซึมเศร้า’ เป็นโรคทางอารมณ์ที่ไม่ใช่โรคจิต ไม่ใช่โรคประสาท เป็นสภาวะทาง อารมณ์ที่บ่งบอกถึงอาการป่วยทางจิตใจ ซึ่งเป็นมากกว่า ความเศร้าเสียใจ แต่เป็นความรู้สึกซึมเศร้าที่ไม่ดีขึ้น หรือไม่ จางหายไป องค์การอนามัยโลก เคยคาดคะเนว่าอีกไม่นานโรค ซึมเศร้าจะก่อให้เกิดความสูญเสียมากเป็นอันดับสองรอง จากโรคหัวใจ ปัญหาคือคนทั่วไปไม่ค่อยรู้จักโรคนี้และมอง ว่าเป็นการเรียกร้องความสนใจจากคนรอบข้าง คนที่เป็น โรคซึมเศร้าจึงไม่ได้รับการรักษาและถูกละเลย การที่ผู้ป่วย
ไม่ได้รับการักษาที่ถูกต้องจะทําให้อาการนั้นไม่หายหรือหนัก กว่าเดิม ซึ่งต่อมาจะเกิดการผลกระทบร้ายแรงที่สุดคือ การ ฆ่าตัวตาย การฆ่าตัวตายในคนที่เป็นโรคซึมเศร้ามักจะคาดเดา ไม่ได้ ในบางครั้งที่พวกเขากําลังยิ้มหรือทําตัวมีความสุข วัน นั้นอาจจะเป็นที่พวกเขาต้องการจะจบชีวิตก็ได้ซึ่งการฆ่า ตัวตายในหมู่คนโรคซึมเศร้ามักจะรวดเร็วและรุนแรง เพราะ เจตนาต้องการจบชีวิตจริง ๆ ในบางรายอาจมีสัญญานบ อกล่วงหน้า เช่น การเตรียมตัวตาย การฝากฝังกับคนใกล้ ชิด การเขียนบันทึก หรือจดหมายลาตาย หรือมีพฤติกรรมที่ แปลกไปจากเดิม
ทําไมศิลปินถึงเป็นโรคซึมเศร้า ?
ด้วยความเครียดจากการทํางาที่หนักหนาสาหัส กว่าคนธรรมดา การที่ถูกคาดหวัง การที่ต้องถูกกดดัน จากสังคม ผู้ที่พยายามฆ่าตัวตาย หรือฆ่าตัวตายได้สําเร็จ มักมีปัญหาความยุ่งยากใจมากกว่าหนึ่งปัญหาเสมอ หาก ไม่ใช่ตัวเขาเราก็คงไม่มีวันที่เข้าใจเมื่อเรามองดูภายนอก พวกเขาเหล่านี้อาจดูมีความสุขดี แต่เมื่อมองภายในจะพบ ว่าหลายครั้งพวกเขาได้ส่งสัญญาณว่าตัวเองไม่ได้ปกติดี ผ่านบทเพลงความซึมเศร้า ที่ถูกถ่ายทอดผ่านบทเพลงการ ที่สารเคมีในสมองทํางานผิดปกติ จนเกิดเป็นอาการของ โรคซึมเศร้านั้น หลายคนมักจะระบายออกด้วยอารมณ์ความ รู้สึกและพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปซึ่งจะเริ่มจากจิตใจไม่ร่าเริง ไม่ สนุกสนาน ไม่มีความสุขเหมือนเดิม ต่อไปจะหดหู่ เศร้าสร้อย ท้อแท้ หมดหวังเบื่อและสิ้นหวังไปหมดแม้จะทํากิจกรรมที่เคย ชอบแต่ศิลปินที่ต้องขึ้นแสดงบนเวทีต้องยิ้มรับแฟนคลับที่ เข้ามาชม พวกเขาไม่สามารถแสดงอาการเหล่านี้ให้เห็นได้ ชัดเจน ในหลายครั้ง เมื่อย้อนกลับไปดูผลงานเพลงหรือ สิ่งที่พวกเขาตั้งใจที่จะถ่ายทอดผ่านเนื้อเพลงทั้งหลาย จะ แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าพวกเขากําลังอยู่สภาวะซึม เศร้า อารมณ์ในขณะนั้นเริ่มที่จะไม่ปกติและไม่มั่นคงบาง คนถ่ายทอดออกมาในรูปแบบของการขอความช่วยเหลือ ต้องการให้ใครสักคนเข้าใจในสิ่งที่พวกเขากําลังเป็นอยู่ ทว่า
สิ่งที่แฟนคลับสัมผัสได้อาจจะไม่ได้เป็นไปตามที่พวกเขา ต้องการ เพราะไม่สามารถเข้าใจได้ถึงอารมณ์เบื้องลึกของ ซึมเศร้าเราขอยกตัวอย่างศิลปินบางกลุ่มและบางบทเพลง ที่สะท้อนให้เห็นว่าตัวศิลปินนั้นถ่ายทอดความ‘ซึมเศร้า’ ผ่าน บทเพลงอย่างไร เริ่มต้นกันที่ ‘คิมจงฮยอน’ ศิลปินเกาหลีวง SHINee แสดงให้เห็นถึง ‘ภาวะซึมเศร้า’ ในเนื้อเพลงต่างๆ ที่เขาแต่งในช่วงที่ยังมีชีวิตและในข้อความสั่งเสียซึ่งเพลง หลักๆ ได้แก่ Lonely, Let Me Out, Endof A Day ที่รวม อยู่ในอัลบั้มเดี่ยวที่เปิดตัวออกมาเมื่อเดือนเมษายน รวมถึง เพลง ‘Breathe’ ของ LEE HI และ ‘A Gloomy Clock’ ของ IUหลายบทเพลงแสดงให้เห็นถึงสิ้นหวัง ความต้องการที่จะ ไปจากโลกใบนี้ ตอกย้ําให้เห็นชัดว่าเขาต้องการให้มีใครสัก คนช่วยเหลือและรับรู้อาการที่เขาเป็นอยู่ผ่านบทเพลง และใน ตอนนี้สิ่งเหล่านั้นก็คงจะส่งไปถึงทุกคนแล้ว เคิร์ต โคเบน ฟรอนต์แมน แห่งวง Nirvana หรือ เจ้าพ่อแห่งความซึมเศร้า ประโยคประจําตัวของเขาที่มักจะ พบเห็นได้บ่อยๆ ในบทความและงานเพลงของ เคิร์ตคือ “ I hate myself, I want to die. ” เอียน เคอร์ติส นักร้อง นําวง Joy Division เขาแต่งเพลง Atmosphere ขึ้นมาใน ช่วงท้ายของชีวิต โดยเนื้อหาแสดงถึงสภาพจิตใจที่กําลัง ตกต่ําย่ําแย่ อย่างชัดเจน โทนของเพลงนี้เศร้าหมองและ แสดงถึงความโศกเศร้าราวกับวาระสุดท้ายของชีวิตนี่คือ ตัวอย่างเพียงเล็กน้อยจากศิลปินที่แสดงความทุกข์ทรมาน ของพวกเขาผ่านบทเพลง ด้วยอาการจาก ‘โรคซึมเศร้า’ จะเห็นได้ว่าในหลายครั้งแฟนคลับหรือคนรอบ ข้างที่ได้รับฟังเพลงนั้นไม่ได้สังเกตหรือรับรู้เลยแม้แต่น้อย ว่าพวกเขากําลังอยู่สภาวะซึมเศร้า จนกระทั่งมีการฆ่าตัว ตายเกิดขึ้นอาการของโรคซึมเศร้านั้นอาจจะดูได้ง่ายจาก พฤติกรรมที่เปลี่ยนไป แต่สําหรับศิลปินแล้ว การแสดง อาการเหล่านี้ออกไปคงเป็นเรื่องที่ยากเหลือเกิน เพราะ เบื้องหน้าพวกเขานั้นมีอีกหลายชีวิตที่คาดหวังกับความ สําเร็จบนเวที รอคอยการแสดงที่ตราตรึงใจนอกจากการ ถ่ายทอดความทุกข์ผ่านบทเพลงแล้วนั้น ยังมีศิลปินอีก หลายคนที่ป่วยเช่นเดียวกัน แต่พวกเขาเหล่านั้นเลือกที่จะใช้ เพลงของตัวเองเป็นการเยียวยาผู้อื่นแทน อาทิ R.E.M ได้ แต่งเพลง Everybody Hurts เพลงนี้ถูกเขียนขึ้นมาเพื่อให้ กําลังใจผู้คนพวกเขาเลือกใช้ถ้อยคําที่ตรงไปตรงมาที่สุด เพื่อให้คนหมู่มากเข้าถึงได้ง่าย โดยเฉพาะกลุ่มเด็กวัยรุ่น ก่อนเข้ามหาวิทยาลัยเพราะเหตุนี้ เพลงจึงโดนใจใครหลาย คนด้วยประโยค “Everybody hurts, everybody cries. Hold on, you are not alone.” บิลลี่ โจ อาร์มสตรอง นักร้องนําวง Green Day ถ่ายทอดความซึมเศร้าของตัวเองผ่านบทเพลง Basket Case ซึ่งต่อมากลายเป็นเพลงฮิตตลอดกาลของวง Green Day จนถึงปัจจุบัน บทเพลงนี้ก็ยังคงเป็นพลังที่ส่งถึงใจ ผู้คนและเป็นเพลงที่ปลุกให้หลายคนต้องลุกขึ้นโยกหัวแบบ ลืมตายเชสเตอร์ เบนนิงตัน นักร้องนําวง Linkin Park มี เพลงดังตลอดกาลอย่าง Numb, In The end , Heavy เป็นต้น
หลายครั้งที่เพลงของพวกเขาได้ช่วยให้ใครหลาย
คนมีกําลังใจ เป็นตัวผลักดันในการใช้ชีวิต แม้ว่าตัวเขาจะ ไม่อยู่บนโลกแล้วก็ตามจากที่ยกตัวอย่างไปนั้น จะเห็นได้ว่า บทเพลงที่ถ่ายทอดด้วยอาการของโรคซึมเศร้านั้นก็มีพลัง ด้านบวกให้แก่คนฟัง ไม่ใช่เพียงแค่ระบายความทุกข์หรือส่ง พลังด้านลบแก่ผู้คน แต่ยังสามารถส่งความหวังความสุข ผ่านเนื้อเพลงที่พวกเขาเรียบเรียงและขับร้องออกมาอิทธิพล โรคซึมเศร้าของศิลปินนอกจากการส่งบทเพลงที่เต็มไปด้วย อารมณ์และความรู้สึกท่วมท้นแล้วนั้น การที่โรคซึมเศร้าคร่าชีวิตของศิลปิน ย่อมเกิดผลก ระทบกับแฟนคลับแน่นอนอยู่แล้ว ซึ่งความน่ากลัวที่อาจตาม มาคือ พฤติกรรมเลียนแบบการฆ่าตัวตายของคนที่มีชื่อเสียง คนดัง ดาราบางครั้งก่อให้เกิดการเลียนแบบเป็นกลุ่มใหญ่ เรียกว่า Cluster ตัวอย่างที่เป็นแรงบันดาลใจให้มีการเลียน แบบการฆ่าตัวตาย แบบ Cluster Suicide เช่น การฆ่าตัวตาย ของนักร้องชาวญี่ปุ่น ยูกิโกะ โอกาดะ ที่ฆ่าตัวตายด้วยการก ระโดดตึกสูง และ ฮิเดะ มัตสุโมโตะ มือกีตาร์ วงเอ็กซ์-เจแปน ที่ใช้ ผ้าขนหนูผูกคอตาย กับลูกบิดประตูห้องนอน ซึ่งจะมี อิทธิพลกับกลุ่มวัยรุ่นสื่อเองก็มีผลที่ทําให้เกิดพลังเหล่านี้ ภายหลังจากการฆ่าตัวตายมักจะมีการนําเสนอข่าว ที่น่าสะเทือนใจ บรรยายวิธีการกระทําโดยละเอียด นําเสนอซ้ํา บ่อย ๆ จนกระทั่งนําไปสู่การชักจูงใจคนให้เกิดความรู้สึกและ อารมณ์ซึมเศร้าตามได้จะเห็นได้ว่าความอันตรายของโรคซึม เศร้านั้นมีมากกว่าที่คิด ไม่ใช่แค่ผลต่อตัวผู้ซึมเศร้าเอง แต่ สามารถส่งต่อไปยังผู้ที่ได้รับอิทธิพลเหล่านี้ได้ ดังนั้นแล้ว หากคนรอบตัวคุณมีอาการแปลกไปหรือเข้าข่ายเสี่ยงที่จะเกิด โรคซึมเศร้า ควรเข้าหาและรับฟัง ปรึกษาแพทย์ที่เชี่ยวชาญให้ ไวที่สุด ก่อนที่สายเกินไปและนําเขากลับมาไม่ได้อีก
muxic cinematic
เพลงในภาพยนตร์
แอคชั่นฮีโร่
กาญจนา ผกาแก้ว เขียน
ถ้าจะเลือกดูหนังสักเรื่อง คุณจะเลือกอะไร?
แนวที่ชอบ? นักแสดงนำ�ที่ชอบ พล็อตเรื่องน่าสนใจ? ภาพยนตร์ที่รอคอยมาแล้วหลายปี? แต่บางคนก็เลือกที่จะดูหนังจากเพลงประกอบใน เรื่องนั้น ๆ ในประเทศอินเดีย ในวงการภาพยนตร์อินเดียวหรือ รู้จักกันในชื่อ บอลลีวู้ด (Bollywood) หากภาพยนตร์เรื่อง ไหนจะปังได้สักเรื่อง เรื่องนั้นต้องมีเพลงประกอบที่ติดหูเสีย ก่อนถึงจะมีคนไปดูหนังเรื่องนั้น ๆ เพลงประกอบภาพยนตร์เป็นส่วนหนึ่งในการตัดสิน ใจที่เลือกดูภาพยนตร์สักเรื่อง และเพลงประกอบภาพยนตร์ ไม่เพียงแต่ใช้เป็นการบ่งบอกอารมณ์เท่านั้นแต่สามารถบ่ง บอกความหมายร่วม คาแรคเตอร์ของหนังเรื่อง ๆ นั้นได้ด้วย เพราะฉะนั้นแล้วในงานเวทีประกาศรางวัลภาพยนตร์ดังระดับ โลกจึงมีรางวัลเพลงประกอบภพยนตร์ยอดเยี่ยม เพลงที่บ่ง บอกถึงคาแรคเตอร์ของหนังเรื่องนั้น ๆ และยังสามารถทำ�ให้ นึกถึงบอกความหมายของหนังเรื่องนั้น ๆ แต่ถ้าพูดถึงเพลงประกอบภาพยนตร์ที่ดีเพราะ ติดหูก็คงไม่พ้นภาพยนตร์ที่พล๊อตเรื่องเกี่ยวกับนักดนตรี ภาพยนตร์เพลงที่ใช้เพลงเป็นหลักในการดำ�เนินเรื่อง แต่ถึง เช่นนั้นภาพยนตร์อื่น ๆ ก็ใช่ว่าเพลงประกอบจะไม่ได้แย่หรือ ไม่ดีเท่าภาพยนตร์เพลงเสียทีเดียว ในที่นี่จะพูดถึงภาพยนตร์ แอคชั่น ที่คนมักจะเข้าใจว่าเพลงประกอบมักจะเป็นเพลง ไร้คนร้อง มีแต่ทำ�นองที่ดุดันขึงขังตามคาแรคเตอร์ของ ภาพยนตร์แอคชั่น ในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวลหรือ Marvel Cinematic Universe (MCU) เพลงประกอบอาจจะไม่ค่อยติดหู มากนักในแง่ของเพลง Theme Song ฉากเปิดตัว หรือเพลง ที่เป็นเอกลักษณ์ตามแบบฉบับหนังฮีโร่แอคชั่นทั่วไปเสียเท่า ไหร่ หรือที่ผ่านมาก็ไม่ได้มีเพลงที่คุ้นหูมากเท่าไหร่นัก จนการ มาถึงของ Guardians of the Galaxy ภาคแรกที่เปิดตัวมา ด้วยเพลงป๊อปร็อกอายุกว่า 40 ปีอย่าง Come And Get Your Love เพลงคุ้นหูที่เชื่อว่าใครหลายคนคงทำ�เคยได้ยิน ผ่านหูมาแล้วบ้าง นอกจากนี้แล้วเพลงที่ใช้ในภาพยนตร์เรื่อง นี้ก็เป็นที่พูดถึงอยู่ไม่น้อย ด้วยเพลงเก่าสมัยรุ่นพ่อแตกต่าง จากภาพยนตร์ฮีโร่หรือแอคชั่นอื่น ๆ ทำ�ให้เพลงเก่า ๆ ในยุค 70 เหล่านี้เข้ามาโลดแล่นอยู่ในชาร์ตเพลงในปัจจุบัน สิ่งนี้ทำ�ให้เห็นว่ามาร์เวลเริ่มจะมองการเลือกเพลง ที่มาใช้ประกอบภาพยนตร์นั้นต่างออกไป ไม่เพียงแต่ใช้เพลง ที่คุ้นหู ที่นักร้องดังร้องมาใส่แค่เฉพาะเครดิตตอนท้ายหรือ ใส่แค่ภายในเทลเลอร์ของภาพยนตร์เท่านั้น แต่ยังใส่มันไว้ใน ทุกซีนสำ�คัญในภาพยนตร์ ไม่ว่าจะฉากแอคชั่น ฉากรักโรแมน
ติก จากที่ใส่แค่เสียงดนตรีเปล่า ๆ แต่กลับใส่เพลงฮิตคุ้นหูยิ่ง สร้างอารมณ์ความรู้สึกสื่อถึงคนดูมากขึ้นไปอีก หลังจากเป็นที่พูดถึงมากในการเลือกเพลงประกอบ ภาพยนตร์ Guardians of the Galaxy มาร์เวลก็ยิ่งมีความ พิถีพิถันเลือกเพลงประกอบภาพยนตร์ในเรื่องต่อ ๆ ไปมาก ขึ้น ล่าสุดในภาพยนตร์เดี่ยวฮีโร่ราชวงศ์คนใหม่ในจักรวา ลมาร์เวลอย่าง Black Panther ก็มี Theme Songs ในแนว ที่แปลกแหวกออกไปก็คือเพลง ฮิปฮอป EDM สวนกระแส เพลงฮีโร่แบบเดิม ๆ หากแต่ก็ไม่ได้แปลกไปเสียเท่าไหร่เมื่อมา ประกอบกับหนัง ทั้งยังทำ�ให้ภาพยนตร์ Black Panther มี เสน่ห์และมีคาแรคเตอร์ที่ชัดเจนมากขึ้น โดยมีแรปเปอร์แห่งยุค อย่าง Kendrick Lamar มาเป็นโปรดิวเซอร์ร่วมแต่งทำ�นอง และร้องที่รวบรวมไว้ใน Black Panther: The Album—Music From and Inspired By โดยนอกจากนี้แล้วยังมีศิลปิน ชื่อดังอีก 14 คนที่ร่วมร้อง การที่ใส่เพลงที่มีศิลปินนักร้องชื่อดังนอกจากจะ ทำ�ให้คนสนใจมากขึ้นไปอีก ในขณะเดียวกันแฟนเพลงของ ศิลปินนั้น ๆ ก็มีความสนใจในภาพยนตร์ เมื่อเพลงที่เขา ชอบหรือเพลงของศิลปินที่เขาชอบได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่ง ในภาพยนตร์ อีกด้านหนึ่งในแฟนของภาพยนตร์ก็ยังสนใจ ในงานเพลงมากขึ้นอีกด้วย ภาพยนตร์ส่งเพลง เพลงส่ง ภาพยนตร์ ทั้งเพลงทั้งภาพยนตร์ต่างก็ไปด้วยกัน
5 เพลงประกอบภาพยนตร์ Black Panther ที่ต้อง เพิ่มลงในเพลย์ลิสต์ Black Panther - Kendrick Lamar All The Stars - Kendrick Lamar, SZA Pray For Me - The Weeknd & Kendrick Lamar King's Dead - Jay Rock, Kendrick Lamar, Future, James Blake Oops - Vince Staples & Yugen Blarok
muxic scope
ฟังเพลงเสริมดวงประจำ�สัปดาห์ อินเลิฟ อกหัก ดีใจ หม่นเศร้า โชคร้าย ทำ�อะไรก็มือขึ้น การฟังเพลงก็ยังทำ�ให้อารมณ์หรือมู้ดในช่วงเวลานั้นเปลี่ยนไปไม่น้อย เราเชื่อว่าการฟังเพลงดี ๆ สักเพลง ก็จะทำ�ให้อารมณ์เราเปลี่ยนไปอาจจะทำ�ให้อารมณ์ดีทั้งวันหรืออารมณ์เสียไปตลอดวันเลย ก็ได้ เพราะฉะนั้นแล้ว ฟังเพลงเสริมดวงเสริมศิริมงคลให้กับตัวเองดีกว่า ราศีเมษ 13 เม.ย. – 14 พ.ค. งานที่ทำ�ได้สวยทั้งคนที่มีธุรกิจเป็นของ ตัวเองและเป็นลูกจ้าง อาจจะได้เลื่อน ตำ�แหน่งขึ้นมาเป็นเจ้านาย ความรักคน มีคู่ก็เรื่อย ๆ ส่วนคนโสดเตรียมรอได้ เลย การเงินไม่เป็นปัญหาใช้เงินคล่อง ตัว ระวังคนยืมแล้วไม่คืน สุขภาพอาจจะ ประสบอุบัติเหตุเล็กน้อย เพลงที่แนะนำ� Boss – NCT U Bad Boy - Redvelvet
ราศีสิงห์ 17 ส.ค. – 16 ก.ย. อากาศที่เปลี่ยนเป็นหน้าฝนทำ�ให้คน เหงา ไม่รู้ว่าทำ�ไมชาวราศีสิงห์ถึง เหงาเป็นพิเศษ ทำ�อะไรก็เอื่อยเฉื่อย จนหัวหน้าหรือเจ้านายเอ่ยปากว่า คน มีคู่คนรักถามหาความสัมพันธ์ คน โสดเตรียมเช็ดน้ำ�ตา การเงินก็เรื่อย ๆ สุขภาพก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่โอเคไร้กังวล เพลงที่แนะนำ� Touch – NCT127 Lo Siento – Super Junior
ราศีพฤษภ 15 พ.ค. – 14 มิ.ย. ช่วงนี้ชาวราศีพฤษภอาจจะต้อง พยายามมากหน่อยให้คนเห็นความ พยายาม เจ้านายหรือที่ทำ�งานอาจจะ มองว่าคุณไม่ได้พยายามเท่าที่ควรทั้ง ๆ ที่คุณก็พยายามอย่างมาก อดทนอีกนิด ก็จะผ่านไปได้ ไม่ใช่แค่งานด้านความรักก็ เช่นกันทั้งคนโสดและมีคู่ การเงินอาจจะ ขัดสนไปบ้างแต่ก็ยังพอมีพอใช้ เพลงที่แนะนำ� New Heroes – TEN Cure - Taeyong
ราศีกันย์ 17 ก.ย. – 16 ต.ค. ช่วงนี้ชีวิตชาวราศีกันย์มีสีสันสดใส ทำ�อะไรก็ดูสดใสมีอนาคต ลงทุนก็ได้ กำ�ไร ความรักคนมีคู่ยังรักและมีความ ห่วงใยกันเสมอมา คนโสดก็เตรียมไม่ โสดหรืออาจจะมีลุ้นเร็ว ๆ นี้! สุขภาพ ร่างกายอาจจะเจ็บป่วยไปบ้างเพราะ อากาศที่เปลี่ยนแต่ก็ไม่ได้ร้ายแรง เพลงที่แนะนำ� NEKKOYA (PICK ME) – Produce48 มะงึกๆอุ๋งๆ - ORNLY YOU
ราศีเมถุน 15 มิ.ย. – 15 ก.ค. อินเลิฟที่สุดต้องชาวราศีเมถุน ดวง ความรักพุ่งและปังสุด ๆ มองอะไรก็เป็น สีชมพู จนต้องหยิบโทรศัพท์มาฟังเพลง รัก คนโสดก็มีเรื่องให้ยิ้ม การเงินอาจจะ ไม่คล่องตัวไปบ้างแต่ไม่ลำ�บาก การงาน ไปได้สวย ส่วนสุขภาพอาจจะต้องมีเข้า โรงพยาบาลบ้างแต่ไม่สาหัส เพลงที่แนะนำ� Day 1 - HONNE Star Blossom – Doyoung x Sejeong ราศีกรกกฎ 16 ก.ค. – 16 ส.ค. ชาวราศีกรกกฎไม่มีเรื่องที่กังวลมาก นักในเรื่องการเงินหรือการงาน แต่ด้าน ความรัก คนมีคู่ต้องคุยกันด้วยเหตุผล คนโสดไร้วี่แวว สุขภาพร่างกายยังถือว่า แข็งแรง เพลงที่แนะนำ� No Tears Left To Cry - Ariana Grande Mystery of Love - Sufjan Stevens
ราศีตุลย์ 17 ต.ค. – 15 พ.ย. ชีวิตสุดแฮปปี้ต้องชาวราศีตุลย์ การ เงินไม่สะดุด อาจจะต้องใช้จ่ายมาก หน่อย แต่ไม่เกินตัว ทำ�งานเพราะคุณ อยู่ในสภาพแวดล้อมที่คุณคิดว่ามัน ไม่ดีเสียเลยอาจจะทำ�ให้อารมณ์เสียได้ คนมีคู่ยังสดใส ส่วนคนโสดก็โสดต่อ ไปแบบมีความสุข สุขภาพร่างกายแข็ง แรง อาจจะเจออุบัติเหตุเล็กน้อย แค่ แผลถลอก เพลงที่แนะนำ� This Is America - Childish Gambino Happy - Pharrell Williams ราศีพิจิก 16 พ.ย. – 15 ธ.ค. การงานไปได้ดี แต่การเงินอาจจะโดน ลูกหนี้เบี้ยวไม่คืน คนมีคู่ยังหวาน ชื่นเหมือนเดิม คนโสดมีความหวัง สุขภาพร่างกายยังคงแข็งแรงแต่อาจ จะต้องระวังหากเดินทางไกล เพลงที่แนะนำ� Lover Boy - Phum Viphurit วันหนึ่งฉันเดินเข้าป่า (Into the Woods) feat. หญิง พรปวีณ์ - Max Jenmana
ราศีธนู 16 ธ.ค. – 14 ม.ค. ช่วงนี้ชาวราศีธนูอาจจะเจออุปสรรคที่ ยากหน่อยทัง ้ การเงินการเงินการเรียน แต่ไม่นานก็ต้องผ่านพ้นไปได้ อย่างไร้ กังวล คนรักอาจมีเรื่องผิดใจกันบ้าง แต่คนโสดกลับมีความหวัง สุขภาพ อาจจะเกิดอุบัติเหตุเล็กน้อยให้ระวัง เพลงที่แนะนำ� RIVER - BNK48 Black on Black – NCT2018 ราศีมังกร 15 ม.ค.- 12 ก.พ. ช่วงนี้คุณทำ�อะไรก็มือขึ้น ลงทุนอะไร ไปได้สวย อาจจะมีกังวลไปบ้างไม่ต้อง กลัวจะมีคนคนเอื้อหนุนอยู่ คนมีคู่ระวัง ทะเลาะเพราะเรื่องเล็กเรื่องน้อย ส่วน คนไม่มีคู่คุณเป็นคนขี้รำ�คาญ อาจจะ มีคนคอยแวะเวียนมาบ้างแต่คุณไม่ได้ สนใจ ปฏิเสธไม่ลง ลองใช้เพลงไปบอก ความรู้สึกไปแทน สุขภาพแข็งแรงไม่มี อะไรน่าห่วง เพลงที่แนะนำ� FRIENDS - Marshmello & Anne-Marie IDGAF - Dua Lipa ราศีกุมภ์ 13 ก.พ. – 15 มี.ค. ชาวราศีกุมภ์อาจจะคิดมากหน่อย หากจะต้องลงทุนอะไร การเงินติดขัด ต้องใช้อย่างประหยัด คนมีคู่ก็ไม่ลง รอยกันจนอาจจะต้องทำ�ให้ห่างกันไป เพื่อทบทวน คนโสดก็โดนปฏิเสธจน ต้องโสดต่อไป สุขภาพกายแข็งแรงแต่ ใจอ่อนแอ ต้องฮีลตัวเองด่วน ๆ เพลงที่แนะนำ� FAKE LOVE – BTS ทุกคนเคยร้องไห้ - ป้าง นครินทร์ ราศีมีน 16 มี.ค. – 12 เม.ย. บางทีคุณก็ต้องเห็นแก่ตัวบ้างในบาง สถานการณ์ แต่ไม่เป็นไรเลยหากมัน ทำ�ให้คุณก้าวหน้าต่อในหน้าที่การงาน เรื่องเงินอาจจะใช้จ่ายไร้สาระ แต่ใน อนาคตมันมีประโยชน์แน่นอน คนมีคู่ก็ ยังรักกันดี ส่วนคนโสดก็ยังต้องโสด ต่อไป สุขภาพร่างกายแข็งแรงอาจจะ ต้องมีการเข็บตัวบ้างแต่ก็ไม่ร้ายแรง เพลงที่แนะนำ� SELFISH Feat. SEULGI Of Red Velvet - Moon Byul Love Yourself – Justin Bieber
Muxic, you analyze funny.