แหล่งที่มา กองบรรณาธิการเพื่อนเรียน. รอบรูเ้ รือ่ งเครือ่ งหมายจราจร. กรุงเทพฯ: สานักพิมพ์เพื่อนเรียน, 2537.
การเตรียมรถยนต์กอ่ นออกเดินทาง 1. ยาง คือสิ่งจาเป็ นที่ตอ้ งหมัน่ ตรวจสอบ ควรเป็ นยางที่อยูใ่ น สภาพดี และควรเตรียมยางอะไหล่ให้พร้อมอยูเ่ สมอ 2. เบรกหรือห้ามล้อ ควรตรวจตราให้มีความสมบูรณ์ สามารถใช้ งานได้เต็มประสิทธิภาพ และควรตรวจเช็คน้ ามันเบรก จาน เบรก ปั๊ มลมให้อยูใ่ นสภาพดีพร้อมใช้งานและควรมีน้ ามันเบรก สารองไว้ดว้ ยเสมอ 3. น้ าในหม้อน้ า ควรเติมให้อยูใ่ นระดับมาตรฐานเสมอ 4. น้ ากลัน่ ในหม้อแบตเตอรี่ ควรเติมให้อยูใ่ นระดับที่กาหนดไว้ และควรมีน้ ากลัน่ สารองเก็บไว้ดว้ ยเสมอ
5. กระจกมองข้างทั้ง 2 ข้างและกระจกมองหลัง ควรปรับให้อยู่ใน สภาพที่มองเห็นได้ชดั เจน 6. น้ ามันเครื่อง ควรเติมให้ถึงขีดมาตรฐาน และควรมีสารองติดรถไว้ดว้ ย เสมอ 7. น้ ามันเชื้ อเพลิง ควรเติมให้เต็มและควรคาดคะเนปริมาณน้ ามันจากเข็ม วัด เพื่อเติมน้ ามันให้พร้อมใช้เสมอ 8. เครื่องมือประจารถและอะไหล่ต่างๆ ต้องมีติดรถไว้ให้พร้อมเสมอ 9. เครื่องมือพยาบาล ควรมีติดรถไว้ในกรณีฉุกเฉินหรือในกรณีเกิด อุบตั ิเหตุเล็กน้อย
1. กรณีกระจกแตก เมื่อถูกก้อนหินหรือก้อนกรวดกระเด็นมาชน กระจกแตก ข้อควรปฏิบตั ิคือ ชะลอความเร็วของรถแล้วเข้าข้าง ทางทันที หากต้องการขับรถต่อให้กวาดเศษกระจกออกให้ หมดและควรไขกระจกข้างขึ้ นจนปิ ดสนิ ทเพื่อป้องกันอาการ ส่ายของรถ
2. กรณีสุนัขวิ่งตัดหน้า ถ้าชะลอความเร็วไม่ทนั อาจจาเป็ นต้อง ตัดสินใจชน มิฉะนั้นรถอาจเสียหลักได้ กรณีที่เป็ นสัตว์ใหญ่ไม่ ควรบีบแตร เพราะจะทาให้สตั ว์เหล่านั้นตกใจและทาอันตรายได้ 3. กรณีหม้อน้ ารั ่ว ถ้าหาอู่ไม่ได้ควรปฏิบตั ิดงั นี้ ให้นาสบู่กอ้ นมา อุดรูรวั ่ ไว้ก่อน แล้วเติมน้ าจนเต็ม จากนั้นขับรถต่อไปเพื่อหาอู่ ซ่อม
4. กรณียางระเบิด เมื่อยางระเบิดกะทันหัน ต้องพยายามถือพวงมาลัยไว้ ให้มนั ่ คงและพยายามบังคับรถเข้าข้างทาง ไม่ควรใช้เบรกอย่าง กะทันหัน เพราะจะทาให้รถเสียหลักพลิกควา่ ได้ ควรใช้เกียร์เป็ นตัวชะลอ ความเร็ว โดยเปลี่ยนเป็ นเกียร์ตา่ ทันที กรณียางระเบิดที่ลอ้ หลังท้ายรถจะทาให้ส่าย ควรถือพวงมาลัยให้ มัน่ คงและรักษาทิศทางให้ตรง พยายามยา้ เบรกหลายๆ ครั้งติดกัน เพื่อให้ น้ าหนักตกอยูข่ า้ งล้อที่ใข้งานได้ กรณียางระเบิดที่ลอ้ หน้า พยายามจับพวงมาลัยให้มนั ่ คง แตะเบรกให้ เบาที่สุด ถ้ารถแฉลบไปทางใดต้องคืนพวงมาลัยกลับมาให้ตรงทิศทาง จนกว่าจะนารถเข้าข้างทางได้เรียบร้อย 5. กรณีคนั เร่งค้าง ให้ใช้เบรกช่วยโดยไม่ตอ้ งไปยุง่ เกี่ยวกับคลัตช์ เพราะเมื่อ เหยียบคลัตช์ จะทาให้รอบเครื่องยนต์สงู ขึ้ นทันที อาจจะทาให้เกิดความ เสียหายได้ จะใช้คลัตช์ในกรณีที่เปลี่ยนเกียร์เท่านั้น และเมื่อลดความเร็วลง มาอยูใ่ นอัตราที่ปลอดภัยแล้วให้ใช้ปลายเท้าสอดเข้าไปใต้คนั เร่งแล้วงัด ขึ้ นมา ถ้าคันเร่งไม่ขึ้นให้พยายามนารถเข้าข้างทาง แล้วปิ ดสวิตช์กุญแจทันที