ฝึ กสมาธิเจริญสติ ในชั่วโมงทางาน
ในขณะที่งานเต็มโต๊ ะรอให้ จดั การก็มีเสียงโทรศัพท์มือถือดังสลับกับเสียงโทรศัพท์ออฟฟิ ศแทนทุก 10 นาที แถมอีเมล์เข้ ามาตลอด ทาให้ คนทางานยากที่จะมีสมาธิจดจ่ออยู่กบั งานตรงหน้ า หลายคนจัดการกับเรื่ องนี ้ไม่ได้ จนเกิดความเครี ยดสะสมยังผลให้ สขุ ภาพใจ และกายย่าแย่ ประสิทธิภาพในการทางานลดลง หลายองค์กรจึงเริ่มให้ ความสนใจฝึ กอบรมพนักงานให้ ร้ ูจกั “ การเจริญสติ ” ในขณะที่ทางาน การเจริญสตินั ้นหมายถึง การมีสมาธิอยู่ กับสิง่ ที่กาลังทา ณ ปั จจุบนั การคอยสังเกตสภาวะจิตที่กาลังเป็ นอยู่ในขณะนั ้น แม้ แต่บริษัทกูเกิ ้ล (Google) Search Engine ยักษ์ ใหญ่ ของอเมริกา ยังนาโปรแกรมที่เรี ยกว่า Search Inside Yourself มาใช้ พฒ ั นาบุคลากรของตน โดยเชื่อว่าการเจริญสติจะช่วยให้ พนักงานมีประสิทธิภาพการทางานที่ดีขึ ้น มีไอเดียในการสร้ างสรรค์งานใหม่ๆ ที่สาคัญ ทาให้ คนทางานสามารถอยู่กบั ความวุ่นวายในชีวิตและโลกของการแข่งขันได้ โดยไม่เครี ยด ทั ้งยังสามารถควบคุมอารมณ์ ตนเอง รู้จกั คิดถึงความรู้สกึ ของผู้อื่น สามารถเข้ ากับเพื่อนร่วมงานได้ ดี และมีความสุขในการทางานมากขึ ้น วารสารสายใจไฟฟ้าจึงมี เทคนิคฝึ กสมาธิ เจริญสติ ในระหว่างชัว่ โมงทางานมาฝากให้ ลองปฏิบตั ิกนั ดังนี ้ 5 นาที สงบสติ ตัง้ จิตมุ่งมั่น เมื่อมาถึงที่ทางาน ไม่ควรเริ่มต้ นทางานที่คงั่ ค้ าง ให้ ใช้ เวลาประมาณ 5 นาที ทาใจให้ สงบ ตั ้งจิตให้ มนั่ บอกกับตนเองว่าวันนี ้จะขอ ขยันตั ้งใจทางาน เป็ นการตั ้งสติให้ มงุ่ มัน่ ทางานที่สาคัญให้ สาเร็จ โดยไม่พลัดหลงไปกับอารมณ์ และความเครี ยดที่เข้ ามากระทบจิตใจ
เจริญสติอยู่กับปั จจุบัน โดยดึงจิตใจให้ จดจ่ออยูก่ บั งานที่ทาตรงหน้ าตลอดเวลา รวมทั ้งระลึกรู้ถึงการเคลื่อนไหวของอวัยวะต่างๆ ไม่ว่าจะเดินไปถ่ายเอกสาร ก็ร้ ูว่าถ่ายเอกสาร คิดเรื่ องอะไรก็ฝึกใช้ สติอยูก่ บั เรื่ องนั ้น ไม่กงั วลกับอดีตที่ผ่านไปแล้ ว หรื อกลัวอนาคตที่ยงั มาไม่ถึง ข้ อดีคื อ ทาให้ จิตมีสมาธิ สามารถทางานด้ วยความผ่อนคลาย ไม่เผลอคิดฟุ้งซ่าน อย่ าจมจ่ อมกับงานจนลืมเวลา หมัน่ เงยหน้ าขึ ้นจากกองเอกสารหรื อจอคอมพิวเตอร์ เพื่อผ่อนคลายสายตาและพักสมอง หรื อเปลี่ยนอิริยาบถบ้ าง โดยอาจตั ้งเวลาปลุกทุกๆ 30 นาที หรื อ 1 ชัว่ โมง หรื อดาวน์โหลดโปรแกรมเสียงระฆังแห่งสติมาใช้ เมื่อได้ ยินเสียงระฆังดังขึ ้นก็ให้ วางมือจากงานตรงหน้ าสักพัก และกลับ มาอยู่กบั ลมหายใจทันที สัก 3 ลมหายใจ จากนั ้นจึงค่อยทางานต่อ เพียงเท่านี ้สติ สมาธิก็อยู่กบั ตัวตลอดทั ้งวัน ตามลมหายใจก่ อนรั บสาย อยู่ๆ ก็มีเสียงโทรศัพท์เข้ ามาเบรกสมาธิในช่วงที่กาลังทางานเพลินๆ จนอาจเผลอระเบิดความขุ่นมัวไปยังปลายสาย ลองคิดเสียว่าเสียง โทรศัพท์เป็ นผู้ช่วยเรี ยกสติ ก่อนรับสายให้ ค่อยๆ ตามลมหายใจเข้ า – ออก ช้ าๆ 3 ครัง้ เพื่อให้ อารมณ์สงบนิ่ง อาจวางกระจกบานเล็กๆ ไว้ ใกล้ กับโทรศัพท์ เมื่อเห็นว่าตนเองกาลังหงุดหงิด ก็ให้ ยิ ้มกับกระจก จะช่วยคลายอารมณ์ได้
รู้ จักครองสติ ควบคุมอารมณ์ ในการทางานกับคนหมูม่ าก ย่อมไม่อาจหลีกเลี่ยงอารมณ์ ความรู้สกึ อันหลากหลายที่ผ่านเข้ ามากระทบได้ ไม่ว่าจะดีใจ เสียใจ โกรธ โมโห คิดเสียว่าอารมณ์เหล่านี ้เป็ นบททดสอบการครองสติของเรา ว่าเราจะมองเห็นอารมณ์ในใจตนเอง เช่น เวลาโกรธก็กาหนดรู้ได้ ทนั และสามารถควบคุมอารมณ์มใิ ห้ หวัน่ ไหวไปตามสิง่ ที่มากระทบ เอาชนะคาวิจารณ์ ด้วยปั ญญา หลายคนมักสติหลุด จิตตก รู้สกึ เสียหน้ า เมื่อถูกหัวหน้ าวิพากษ์ วิจารณ์ต่อหน้ าเพื่อนร่วมงาน ลองใช้ “ ปั ญญา ” ออกหน้ าแทน “ อัตตา ” จิตเราจะว่างจากความมีตวั ตนว่าเรานั ้นดี เก่ง และเปิ ดใจคิดทบทวนข้ อผิดพลาดอย่างมีสติ เพื่อหาทางพัฒนาแก้ ไขให้ งานออกมาถูกต้ องยิ่งขึน้ เช่นเดียวกับคานินทา เราไม่อาจห้ ามคนนินทาลับหลังได้ แต่เราสามารถเปลี่ยนมุมมองได้ ว่า การนินทาคือการเตือนเราทางอ้ อมให้ กลับมา พิจารณาตนเอง หากเป็ นเรื่ องจริง ก็ปรับปรุงแก้ ไขในสิง่ ที่ยงั บกพร่องอยู่ให้ ดีขึ ้น หากเป็ นเรื่ องเท็จ ก็อย่าได้ ใส่ใจเก็บมาคิดจนเสี ยงาน รู้จกั ปล่อย วางเสียบ้ าง เพราะครึ่งค่อนชีวิตของคนเราต้ องอยู่กบั งาน ดังนั ้น การฝึ กสติ เจริญสมาธิ จะช่วยให้ เราจัดการกับจิตใจภายในของตนเองได้ อย่างยอดเยี่ ยม และยิ ้มรับกับทุกเรื่ องที่กาลังจะเข้ ามาในทุกขณะจิต เมื่อสติ สมาธิมา ปั ญญาก็เกิด พร้ อมที่จะสร้ างสรรค์งานที่รับผิดชอบให้ สาเร็จลุลว่ งอย่างมี คุณภาพต่อไป
ที่มา : วารสารสายใจไฟฟ้า ปี ที่ 55 ฉบับที่ 3/2558