ความดันโลหิตสูง โรคที่ทาให้ เกิดไตวายได้ ความดันโลหิตสูงทาให้ เกิดไตวายได้ และโรคไตก็ทาให้ เกิดความดันโลหิตสูงได้ เช่นกัน ความดันโลหิตสูง ตรวจได้ โดยการวัดความดันโลหิต ก่อนวัดต้ องนัง่ พัก 5-10 นาที งดสูบบุหรี่ ดื่มสุรา น ้าชา กาแฟ และ เครื่ องดื่มที่มีคาเฟอีน (caffeine) ก่อนการวัด ถ้ าใช้ ยาใดๆ อยู่ให้ แจ้ งแพทย์หรื อพยาบาลทราบ ท่านอาจวัดเองที่บ้านด้ วยเครื่ องวัด ชนิดอัตโนมัติ แต่จะต้ องตรวจยืนยันจากแพทย์และพยาบาล การรายงานผลการวัดจะมีตวั เลข 2 ค่าโดย “ ค่าบน ” คือ แรงดันซิสโตลิค(systolic pressure) และ “ ค่าล่าง ” คือ แรงดันไดแอสโตลิค(diastolic pressure) ท่านต้ องถามผลนี ้ทุกครัง้ ที่มีการตรวจวัด
ค่าปกติไม่เกิน 120/80 มม.ปรอท แต่ถ้ามากกว่า 140/90 ขึ ้นไปถือว่ามี “ ความดันโลหิตสูง ” ถ้ าตรวจวัดพบค่าระหว่าง 120/80 และ 140/90 จัดอยู่ใน “ กลุม่ เสี่ยงเกิดความดันโลหิตสูง ”
คนปกติควรจะวัดความดันโลหิตอย่างน้ อยปี ละ 1 ครัง้
การรั กษาโรคความดันโลหิตสูง แบ่ งออกเป็ น 2 ขัน้ ตอน คือ 1. ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต มีความสาคัญมาก ได้ แก่
- งดกินอาหารเค็ม - จากัดอาหารหวาน อาหารไขมันสูง - ลดความอ้ วนและออกกาลังกายสมา่ เสมอ - งดสูบบุหรี่ และเครื่ องดื่มแอลกอฮอล์ - ลดความเครี ยด
2. กินยาลดความดันโลหิตตามที่ความแพทย์สงั่ อย่างสม่าเสมอ และต้ องไปตรวจตามนัด ยาลดความดันโลหิตที่มีผลดีในการชะลอการเสื่อมของไต ได้ แก่ - ยากลุม่ “เอซีอีไอ”(ACE-I ย่อมาจาก angiotensin - converting enzyme inhibitors) และ - ยากลุม่ “เออาร์ บ”ี (ARB ย่อมาจาก angiotensin receptor blocker) ยาทั ้งสองสามารถลดความดันโลหิต ลดการรั่วของโปรตีนทางปั สสาวะ และชะลอการเสื่อมของไต ในผู้ป่วย เบาหวานและโรคไตชนิดอื่นๆ อาจใช้ ร่วมกับยาขนานอื่นๆ ตามความจาเป็ น