Fragrant preview

Page 1



Fragrant

. by

Mandy Aftel

แมนดี อาฟเทล

แปลโดย

พลอยแสง เอกญาติ


โลกเร้นลับของกลิ่นหอม • พลอยแสง เอกญาติ แปล จากเรื่อง Fra gra nt : The S e c re t Li fe of Scent โดย Mandy Aftel พิมพ์ครั้งแรก: ส�ำนักพิมพ์ open wo rld s, มกราคม 2560 ราคา 325 บาท คณะบรรณาธิการอ�ำนวยการ ภิญโญ ไตรสุริยธรรมา สฤณี อาชวานันทกุล แอลสิทธิ์ เวอร์การา กรมัยพล สิริมงคลรุจิกุล พลอยแสง เอกญาติ วรพจน์ วงศ์กิจรุ่งเรือง ปกป้อง จันวิทย์ กฤดิกร เผดิมเกื้อกูลพงศ์ บรรณาธิการบริหาร วรพจน์ วงศ์กิจรุ่งเรือง บรรณาธิการส�ำนักพิมพ์ ฐณฐ จินดานนท์ บุญชัย แซ่เงี้ยว ณัฏฐพรรณ เรืองศิรินุสรณ์ กัญญ์ชลา นาวานุเคราะห์ ศิลปกรรม พรชนิตว์ วิศิษฐชัยชาญ กัญญ์ชลา นาวานุเคราะห์ ผู้จัดการส�ำนักพิมพ์ ชญารัตน์ สุขตน • บรรณาธิการเล่ม ณัฏฐพรรณ เรืองศิรินุสรณ์ บรรณาธิการต้นฉบับ วิรพา อังกูรทัศนียรัตน์ ออกแบบปก พรชนิตว์ วิศิษฐชัยชาญ • จัดท�ำโดย บริษัท โอเพ่นเวิลด์ส พับลิชชิ่ง เฮาส์ จ�ำกัด 33 อาคารเอ ห้องเลขที่ 48 ซอยประดิพัทธ์ 17 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 โทรศัพท์ 0 2618 4730 email: openworldsthailand@gmail.com facebook: www.facebook.com/openworlds twitter: www.twitter.com/openworlds_th website: www.openworlds.in.th จัดจ�ำหน่าย บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จำ�กัด (มหาชน) SE-EDUCATION PUBLIC COMPANY LIMITED เลขที่ 1858/87-90 อาคารทีซีไอเอฟทาวเวอร์ ชั้นที่ 19 ถนนบางนา-ตราด แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพฯ 10260 โทรศัพท์ 0 2739 8222, 0 2739 8000 โทรสาร 0 2739 8356-9 website: http://www.se-ed.com/


สำ�หรับสถาบันการศึกษา องค์กร หรือบุคคล ที่ต้องการสั่งซื้อหนังสือ จำ�นวนมากในราคาลดพิเศษ โปรดติดต่อ สำ�นักพิมพ์โอเพ่นเวิลด์ส หมายเลขโทรศัพท์ 0 2618 4730 และ 09 7174 9124 หรือ Em a il: o p e n w o rld st h a il and@gmail.c om

ข้อมูลทางบรรณานุกรมของสำ�นักหอสมุดแห่งชาติ อาฟเทล, แมนดี โลกเร้นลับของกลิ่นหอม.-กรุงเทพฯ: โอเพ่นเวิลด์ส พับลิชชิ่ง เฮาส์, 2560. 304 หน้า. 1. กลิ่น. 2. การได้กลิ่น. I. พลอยแสง เอกญาติ, ผู้แปล. II. ชื่อเรื่อง. 573.877 ISBN 978-616-7885-45-2 • Copyright © 2014 by Mandy Aftel This edition published by arrangement with the Riverhead Books, an imprint of Penguin Publishing Group, a division of Penguin Random House LLC through Tuttle-Mori Agency Co., Ltd. Thai language translation copyright © 2017 by Openworlds Publishing House All rights reserved including the right of reproduction in whole or in part in any form. Fragrant: The Secret Life of Scent ตีพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษเมื่อปี ค.ศ. 2014 แปลและจัดพิมพ์เป็นภาษาไทยโดย บริษัท โอเพ่นเวิลด์ส พับลิชชิ่ง เฮาส์ จำ�กัด ตามข้อตกลงกับสำ�นักพิมพ์ริเวอร์เฮดบุ๊กส์/เพนกวิน


สารบัญ

ค�ำน�ำผู้แปล 8 บทที่ 1 จมูกใหม่ 17 บทที่ 2 ใจรักการผจญภัย ซินนามอน 47 บทที่ 3 ไม่มีกลิ่นใดเหมือนบ้าน มินต์ 99 บทที่ 4 ไขว่คว้าหาอุตรภาพ แฟรงคินเซนส์ 143 บทที่ 5 ชวนฉงนสงสัย อ�ำพันทะเล 181


บทที่ 6 ล่อลวงด้วยความงาม มะลิ 227 กิตติกรรมประกาศ 266 แหล่งข้อมูล 268 บรรณานุกรม 279 แหล่งซื้อหา 300 รู้จักผู้เขียน 302 รู้จักผู้แปล 303


ค�ำน�ำผู้แปล

กลิ่นเป็นอีกหนึ่งหัวข้อในชีวิตประจ�ำวันที่น่าสนใจ แต่หลายคน อาจมองข้าม เพราะกลิ่นเหมือนสิ่งที่ไร้ตัวตน จับต้องไม่ได้ และบ่อยครั้ง ยังหาทีม่ าไม่เจออีกต่างหาก บางครัง้ เราจึงปล่อยให้กลิน่ ผ่านมาแล้วก็ผา่ น ไปโดยไม่ใส่ใจมากนัก แต่ถ้าเราลองหยุดและคิดดีๆ กลิ่นเป็นสิ่งที่จู่โจม เราแบบไม่ทันตั้งตัวอยู่บ่อยๆ โดยที่เราไม่อาจป้องกันหรือขัดขืนได้ กลิ่น เหม็นครอบง�ำเราให้สติแตก กลิ่นหอมท�ำให้เราเคลิ้มฝัน กลิ่นควันท�ำให้ ร�ำคาญ กลิ่นหนังสือท�ำให้ใจสงบ และกลิ่นอื่นๆ อีกมากมายที่เราพบเจอ อยู่ทุกวัน กลิ่นเหล่านี้มีเรื่องเล่า แถมยังเป็นเรื่องที่กระตุ้นความคิดความ รู้สึกไม่น้อยด้วย กลิ่นในโลกธรรมชาติมีอยู่ 5 กลุ่มด้วยกัน ซึ่ง โลกเร้นลับของ กลิ่ น หอม น� ำ เสนอความเป็ น มาและรายละเอี ย ดเกร็ ด เล็ ก เกร็ ด น้ อ ย เจาะไปทีละกลุ่ม ผ่านตัวแทนกลิ่นดาวเด่นในกลุ่มนั้นๆ ได้แก่ ซินนามอน มินต์ แฟรงคินเซนส์ อ�ำพันทะเล และมะลิ โดยผูเ้ ขียนได้เล่าถึงความผูกพัน ของกลิ่นกับมนุษย์ คุณค่าทางวัฒนธรรม หลักปรัชญาที่เกี่ยวข้อง รวมถึง ประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจในแง่มุมที่แตกต่างกันไป นอกจากความรู้อ่านสนุกแล้ว หนังสือเล่มนี้ยังมีจุดเด่นตรงที่ ผู้เขียนเป็นนักผสมน�้ำหอมคนส�ำคัญในวงการ แมนดี อาฟเทล ถือเป็น ผู้บุกเบิกกระแสนิยมน�้ำหอมกลิ่นธรรมชาติ ดังนั้นเธอจึงแทรกความรู้ เกี่ยวกับศาสตร์การปรุงน�้ำหอมไว้ในเรื่องเล่าเกี่ยวกับกลิ่น มีทั้งพื้นฐาน 8

Fr agr ant


การผสมน�้ำหอมและสูตรน�้ำหอมง่ายๆ ที่ท�ำตามได้ พร้อมแหล่งซื้อหา อุปกรณ์และค�ำแนะน�ำส�ำหรับมือใหม่ เรียกว่าอ่านหนังสือเล่มเดียวได้ ทั้งประวัติศาสตร์ความรู้เรื่องกลิ่นและหลักการผสมน�้ำหอมจากมืออาชีพ ตัวจริงไปพร้อมๆ กัน ผู้แปลสนุกและมีความสุขในการท�ำงานเช่นเคย ขอขอบคุณ ส�ำนักพิมพ์ openworlds และผูเ้ กีย่ วข้องทุกคนทีท่ ำ� ให้หนังสือเล่มนีส้ ำ� เร็จ เสร็จสิ้นลงด้วยดี ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลในการค้นคว้าและถอดเสียง ค�ำศัพท์ตา่ งๆ ทีใ่ ช้ในหนังสือเล่มนี้ ทัง้ คุณพรกวินทร์ แสงสินชัย คุณพจนีย์ คุณทุรมาลี และผูไ้ ม่ประสงค์ออกนามอีกหลายท่าน ผูแ้ ปลขอขอบคุณทีใ่ ห้ ความช่วยเหลือมาโดยตลอด หากมีความผิดพลาดใดๆ ล้วนมาจากผูแ้ ปล แต่เพียงผู้เดียว อีกทั้งผู้แปลขอขอบคุณครอบครัวและมิตรสหายที่เป็น แรงผลักดันส�ำคัญให้งานแปลชิ้นนี้ได้ออกมาสู่สายตาผู้อ่านทุกท่าน หวัง ว่าผลงานที่ท�ำด้วยความรักนี้จะสร้างความเพลิดเพลินใจให้ใครสักคน ราวกับได้กลิ่นหอมอ่อนละมุนยามเช้าที่ฟ้าโปร่ง พลอยแสง เอกญาติ

M a n d y A f t el

9



ภาพพิมพ์จาก The New Jewell of Health ฉบับภาษาอังกฤษปี 1576 แสดงสัญลักษณ์ของ ศิลปะการกลั่นซึ่งใช้สกัดน�้ำมันหอมระเหยจากผลไม้ ดอกไม้ และวัตถุดิบอื่นๆ



แด่ฟอสเตอร์ ฟิเลโมนของฉัน จากเบากิสของคุณ



สุนทรียศาสตร์เยียวยาความด้านชาไร้อารมณ์ มันปลุกเรา —มิเชล เซเฮอ (Michel Serres), The Five Senses


“เรือของกลิ่นโง่” ที่ปรากฏในภาพพิมพ์ล้อเลียนจากหนังสือ La Nef des Folles (เรือของ คนโง่) ฉบับปี 1502 โดย ฌ็อส บาด (Josse Bade)


บทที่ 1

จมูกใหม่


กลิ่นมีพลังดึงดูดใจรุนแรงกว่าถ้อยค�ำ รูปลักษณ์ อารมณ์ หรือ ปณิธาน พลังดึงดูดของกลิ่นเป็นสิ่งที่ไม่อาจป้องกันได้ มันเข้าสู่ ตัวเราเหมือนลมหายใจเข้าสู่ปอด มันเติมเต็มเรา ซึมซับเข้ามา ในตัวเราอย่างเต็มที่ ไม่มีทางต้านทานได้เลย พัททริค ซึสคินด์ (Patrick Süskind), Perfume1

ชาวอียปิ ต์เอาอวัยวะออกจากศพแล้วใส่เครือ่ งหอมเข้าไปแทนเพือ่ เตรียมผู้ตายให้พร้อมส�ำหรับชีวิตในโลกหน้า ชาวโรมันพรมน�้ำกุหลาบ ใส่นกพิราบก่อนปล่อยมันบินในห้องจัดเลี้ยงเพื่อให้มีกลิ่นหอมลอยฟุ้งใน อากาศ มารี อ็องตัวแน็ต (Marie Antoinette) จ้างนักปรุงน�้ำหอมส่วนตัว ชื่อ ฌ็อง หลุยส์ ฟาร์กียง (Jean-Louis Fargeon) มารังสรรค์น�้ำหอม ตามต้องการเพื่อให้เข้ากับอารมณ์ต่างๆ ขององค์ราชินี ผู้คนเสพสิ่งที่มี กลิน่ หอมอย่างรืน่ รมย์ ใช้มนั สร้างกลิน่ หอมในโบสถ์วหิ าร และน�ำมารับแขก ไม่วา่ สือ่ ทีน่ ำ� พากลิน่ หอมจะเป็นดอกไม้ อาหาร แฟรงคินเซนส์ หรือน�ำ้ หอม ผู้คนในทุกยุคสมัยและสถานที่ล้วนพยายามอย่างหนักเพื่อใช้และเสพสุข จากกลิน่ ท�ำไมถึงเป็นเช่นนัน้ ? ค�ำตอบคือเพราะไม่มปี ระสาทสัมผัสอืน่ ใด ท�ำให้เรารู้สึกมีชีวิตชีวาอย่างเต็มที่เช่นนี้ มีความเป็นมนุษย์อย่างแท้จริง เช่นนี้ เชื่อมโยงกับความทรงจ�ำและประสบการณ์ของเราได้อย่างลึกซึ้ง ไม่รู้ตัว และทันทีทันควันเช่นนี้ ไม่มีประสาทสัมผัสอื่นใด สั่นคลอน เรา ได้ถึงเพียงนี้ ในฐานะนักปรุงน�้ำหอมแบบท�ำมือ (artisanal perfumer) ผู้ใช้ ส่วนผสมกลิ่นหอมพิเศษจากทั่วโลก ฉันได้เดินทางด�ำดิ่งลงไปในโลกของ กลิน่ หอมทุกวัน หนึง่ ในความสุขยิง่ ใหญ่ทสี่ ดุ ของฉันคือการได้พาคนอืน่ ไป ยังโลกนัน้ และได้เห็นพวกเขาดืม่ ด�ำ่ ไปกับประสบการณ์เดียวกัน กลิน่ หอม ทั้งสนุก เซ็กซี่ สัมผัสใจ และพาให้เคลิบเคลิ้ม มันพาเราย้อนร�ำลึกว่าเรา เป็นใคร เชื่อมโยงเรากับคนอื่นและกับโลกธรรมชาติ ในบรรดาประสาท 18

Fr agr ant


สัมผัสทั้งหมด การดมกลิ่นถือเป็นสิ่งที่ข้ามพ้นตัวเราไปได้อย่างง่ายดาย แต่ในขณะเดียวกันก็เข้าถึงใจกลางจิตวิญญาณส่วนลึกทีส่ ดุ ของเราได้อย่าง ทรงพลังเช่นกัน มันมีความสามารถที่ไม่อาจเทียบเคียงได้ในการปลุกเร้า และท�ำให้เราเป็นคนเต็มคน ใน The Picture of Dorian Gray ออสการ์ ไวลด์ (Oscar Wilde) ได้บรรยายความเชื่อมโยงที่ลึกซึ้งในระดับสัญชาตญาณระหว่างกลิ่นกับ ความคิดที่มาจากจิตใต้ส�ำนึกและอารมณ์ของเรา ดังนั้นตอนนี้เขาจึงศึกษาน�้ำหอมและความลับในการผลิตมัน โดยสกัดน�้ำมันหอมฉุนและเผายางไม้หอมจากตะวันออก เขา เห็นว่าไม่มีสภาพจิตใจแบบใดที่ปราศจากคู่เหมือนในโลกแห่ง ประสาทสัมผัส จึงก�ำหนดเป้าหมายให้ตวั เองค้นหาความสัมพันธ์ แท้จริงของมัน ตั้งค�ำถามว่ามีอะไรในแฟรงคินเซนส์ที่ทำ� ให้เกิด บรรยากาศลึกลับ มีอะไรในอ�ำพันทะเลที่กระตุ้นความปรารถนา ของคน มีอะไรในต้นไวโอเลตที่ปลุกความทรงจ�ำแห่งอดีตรัก มี อะไรในกลิ่นชะมดเชียงที่รบกวนสมอง และมีอะไรในจ�ำปาที่ส่ง ผลต่อจินตนาการ อีกทั้งเขายังพยายามท�ำความเข้าใจจิตวิทยา แท้จริงของน�้ำหอมอยู่บ่อยครั้ง ประเมินอิทธิพลหลากหลาย ของรากไม้กลิ่นหวาน ดอกไม้หอมที่เต็มเปี่ยมด้วยเกสร ยาขี้ผึ้ง หอม ไม้หอมสีเข้ม กลิ่นฉุนของโกฐชฎามังสี โฮเวเนียซึ่งท�ำให้ คนเป็นบ้า และไม้กฤษณาซึ่งเชื่อกันว่าขับไล่ความเศร้าจากจิต วิญญาณได้2

ไวลด์รู้ว่ากลิ่นน�ำพาเราไปได้ทุกหนแห่ง เหมือนพรมวิเศษเหาะ พาเราไปยังโลกซ่อนเร้น ไม่ใช่แค่ตา่ งยุคสมัยและต่างสถานที่ แต่ยงั พาเรา ด�ำดิ่งลงไปในตัวเองภายใต้พื้นผิวของชีวิตประจ�ำวันอีกด้วย เราหลับตา เป็นการกระท�ำตามสัญชาตญาณก่อนดมกลิ่น ราวกับเตรียมตัวสู่การ เดินทางภายใน จากนั้นก่อนที่สมองจะรับรู้ว่าก�ำลังดมอะไรอยู่ กลิ่นนั้นก็ M a n d y A f t el

19


พาเราออกเดินทางไปโดยไม่ทันได้ตกลงปลงใจใดๆ หรือมันอาจหยุดเรา ไว้กบั ที่ ให้เราอยูก่ บั ช่วงเวลาปัจจุบนั อย่างเต็มอิม่ (ครัง้ ต่อไปทีค่ ณ ุ ได้กลิน่ สกังก์ ลองพยายามนึกถึงเรื่องอื่นดูสิคะ) ฉันไม่เคยลืมครั้งแรกที่ได้ดมน�้ำมันหอมเข้มข้นซึ่งเป็นส่วนผสม ส�ำหรับปรุงน�้ำหอม ฉันลงทะเบียนเรียนการปรุงน�้ำหอมที่สตูดิโอสุคนธบ�ำบัดใกล้บ้าน ครูวางขวดเล็กหลายใบใส่น�้ำมันสกัดจากพืชธรรมชาติ เพื่อให้เราใช้ปรุงน�้ำหอม มีทั้งโอ๊กมอส แองเจลิกา (angelica) มะลิ แฟรงคินเซนส์ พิมเสน บัวหิมะ ส้มเกลี้ยง และมะนาว ฉันก้มลงไปดม ทีละกลิ่น ทึ่งกับความเข้มข้น ซับซ้อน โดดเด่น ฉุน และมีชีวิตชีวาของ มัน ชวนเคลิ้ม เสียจริง ขณะสูดกลิ่นน�้ำมันหอมที่แตกต่างกันอย่างงดงาม นี้ ก็ราวกับมีความรูส้ กึ แบบเดียวกันเกิดขึน้ ในตัว ฉันรูส้ กึ ราวตัวเองกลาย เป็นหนึ่งเดียวกับน�้ำมันหอมเหล่านี้ เหมือนพวกมันเข้ามาในตัวฉัน บอก ไม่ได้ว่าฉันสิ้นสุดตรงไหนและพวกมันเริ่มต้นที่ใด ฉันไม่อาจและไม่อยาก หาค�ำพูดมาบรรยาย ได้แต่รู้สึกเบิกบานและมีชีวิตชีวาไม่ต่างจากน�้ำมัน หอมเหล่านั้น ฉันตกหลุมรักทันที ณ เวลานั้นฉันอยู่ที่เบิร์กลีย์ในรัฐแคลิฟอร์เนียมายี่สิบกว่าปีแล้ว โดยประกอบอาชีพเป็นนักจิตบ�ำบัดผูป้ ระสบความส�ำเร็จและเขียนหนังสือ มาแล้วสองสามเล่ม หลังจากเติบโตมาในดีทรอยต์ เมืองแห่งนี้ก็นับว่า มีอิทธิพลต่อฉันอย่างมากตั้งแต่นาทีที่มาถึง ฉันค้นพบบรรยากาศแบบ โบฮีเมียนที่ใฝ่ฝันหาในเบิร์กลีย์ พลังงานที่เด่นชัดตามท้องถนน ใน ร้านอาหาร คาเฟ่ และร้านค้า รู้สึกราวกับเบื้องหลัง สถาปัตยกรรมแนวอาร์ตแอนด์คราฟต์ (Arts and Crafts) <รูปแบบแนวคิดที่เน้นว่าศิลปะและงาน ผีมอื มีคณ ุ ค่าเหนืองานทีใ่ ช้เครือ่ งจักรผลิต> ทุกแห่ง ล้วนมีผู้คนที่ก�ำลังปั้นหม้อ ท�ำเครื่องประดับ เขียน หนังสือ แสดงสด คิดค้นสูตรอาหารใหม่ และร่วมมือกัน ท�ำสิง่ สร้างสรรค์ทผี่ สมผสานศาสตร์ตา่ งๆ เข้าด้วยกัน 20

Fr agr ant


อย่างเข้มข้น ปรากฏว่าฉันได้ยา้ ยเข้าไปอยูใ่ นบ้านทีอ่ อกแบบแนวอาร์ตแอนด์ คราฟต์ซึ่งตั้งอยู่หลังร้านอาหารเชปานิสที่ อลิซ วอเตอร์ส (Alice Waters) เพิ่งเริ่มเผยแพร่แนวคิดโลคาวอร์ (locavorism) หรือการบริโภคอาหารใน ท้องถิ่น ถัดไปอีกสามหลังคือร้านพีตส์คอฟฟี่ต้นต�ำรับที่มิสเตอร์พีตเป็น คนคั่วบดเมล็ดกาแฟเอง ย่านที่ฉันอยู่หอมหวนด้วยกลิ่นกาแฟสดและ ผักที่ย่างในเตาไม้ฟืนของร้านเชปานิส หญ้าที่สวนหน้าบ้านในดีทรอยต์ จะตัดจนสั้นเกรียนและจัดแต่งอย่างดีเป็นแถบสลับสีอ่อนเข้ม แต่ใน เบิร์กลีย์ สนามหน้าบ้านเต็มไปด้วยสวนสมุนไพรสดเรียบง่าย กุหลาบ พันธุโ์ บราณ ไม้ผลทีก่ ำ� ลังออกดอก มะลิและไม้เลือ้ ยทีไ่ ต่จากห้องใต้ดนิ ไป จนถึงห้องใต้หลังคา ฉันไม่เคยเห็นอะไรทีแ่ สนงดงามราวกับเป็นของขวัญ แด่ท้องถนนแบบนี้มาก่อน! แม้เบิรก์ ลียข์ ึ้นชื่อว่าเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรม แหกคอก (counterculture) สุนทรียศาสตร์หรือแนวคิดด้านความงามและ ศิลปะที่มันฝังตัวอยู่กลับเรียบง่าย เกือบจะเรียกได้ว่าเป็นความงามแบบ โลกเก่า (Old World) มันสื่อสารถึงฉัน แถมยังมีบทบาทส�ำคัญต่อแนวคิด ทางสุนทรียศาสตร์ของฉันเองด้วย การท�ำงานด้วยวัตถุดบิ คุณภาพดีทสี่ ดุ และท�ำเท่าทีต่ อ้ งท�ำโดยไม่มากไปกว่านัน้ กลายเป็นคติประจ�ำใจฉันไปแล้ว คติข้อนี้น�ำพาฉันผ่านการเปลี่ยนแปลงด้านอาชีพหลายครั้ง ซึ่ง ได้แรงผลักดันจากสภาพแวดล้อมของเบิร์กลีย์ ตอนเป็นช่างทอ ฉันได้ ท�ำงานกับวัตถุดิบธรรมชาติหลากหลาย ทั้งขนม้า ขนแพะ ขนแกะ และ ไหม เรียนวิธปี น่ั มันเป็นเส้นด้าย ย้อมด้วยสมุนไพรและไลเคนทีฉ่ นั เก็บมา ฉันเริม่ ชืน่ ชอบกระบวนการทีว่ ตั ถุดบิ เติบโต ผ่านการแปรรูป ก่อนน�ำไปใช้ กันทั่วโลก ต่อมาฉันได้ฝึกฝนเพื่อเป็นนักบ�ำบัดผู้มุ่งเยียวยาศิลปินและ นักเขียน ความฉลาดและพลังสร้างสรรค์ของพวกเขาดึงดูดฉัน เมื่อฉัน ค้นคว้าเพื่อเขียนหนังสือเกี่ยวกับ ไบรอัน โจนส์ (Brian Jones) สมาชิก ผู้ก่อตั้งวงโรลลิงสโตนส์ ฉันคล้อยตามความสนใจของเขาในเรื่องเครื่อง แต่งกายและดนตรีของวัฒนธรรมอื่น รวมถึงการที่เขาเชื่อมั่นว่าอะไรก็ M a n d y A f t el

21


เป็นไปได้ และความคิดสร้างสรรค์คือสิ่งส�ำคัญของชีวิต ฉันเขียนหนังสืออีกเล่มชื่อ The Story of Your Life ซึ่งน�ำเอา ความประทับใจที่ฉันมีต่อโครงเรื่องและการเล่าเรื่องมาผนวกเข้ากับสิ่งที่ ฉันเรียนรู้เกี่ยวกับบุคลิกและการเปลี่ยนแปลงในช่วงเวลาหลายปีที่เป็น นักบ�ำบัด จากนั้นฉันก็ตัดสินใจเขียนนิยายที่มีนักปรุงน�้ำหอมเป็นตัวเอก ตอนนั้นฉันไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับศาสตร์การปรุงน�้ำหอม แต่เสน่ห์ของมัน ช่างเย้ายวนใจ ฉันลงเรียนวิชาปรุงน�้ำหอมโดยแทบไม่เคยคิดฝันว่าจะได้ ค้นพบอาชีพที่แท้จริงระหว่างการค้นคว้าเพื่อเขียนนิยาย และตัวเองจะ กลายเป็นศิลปินที่เดิมทีแค่ตั้งใจจะเขียนถึง นอกจากฉันจะตกหลุมรักน�้ำมันหอมระเหยแล้ว ฉันยังค้นพบว่า ตัวเองมีฝีมือในการผสมมันด้วย คล้ายเวลาที่คุณเจอใครบางคนที่เหมือน รูจ้ กั กันมาแสนนาน ฉันเองก็รสู้ กึ คุน้ เคยอย่างประหลาดกับน�ำ้ มันหอมทีม่ ี ลักษณะเฉพาะตัวอันโดดเด่น ฉันรับรู้ได้ถึงสัมผัสและรูปร่างของมันแทบ จะโดยสัญชาตญาณ ราวกับเป็นภาษาที่ฉันพูดได้คล่องแคล่วอยู่ก่อนแล้ว ตอนเริ่มผสมน�้ำหอม ฉันรู้ได้เองว่าท�ำผิดพลาดตรงไหนและอย่างไร และ ขณะแก้ไขก็ได้เรียนรู้มากมายว่าน�้ำมันหอมแต่ละชนิดมีปฏิกิริยาต่อกัน แบบใด ฉันเริม่ กิจการน�ำ้ หอมของตัวเอง นับเป็นอุตสาหกรรมในครัวเรือน อย่างแท้จริง เมือ่ เวลาผ่านไปก็เริม่ มีผตู้ ดิ ตามชืน่ ชอบกลิน่ หอมปรุงเองซึง่ ท�ำจากวัตถุดิบธรรมชาติล้วนๆ ที่ฉันค้นหามาจากทั่วโลก ในขณะเดียวกันฉันก็ดื่มด�่ำไปกับประวัติศาสตร์อันลึกซึ้งของ กลิน่ หอม ซือ้ หนังสือเก่าหายากกว่าสองร้อยเล่มเกีย่ วกับน�ำ้ หอม เล่มหนึง่ น�ำไปสูอ่ กี เล่ม ฉันตกอยูภ่ ายใต้มนตร์สะกดแห่งเสน่ห์ ความงาม และความ แปลก ยามทีค่ น้ พบจักรวาลของมัน ฉันรูส้ กึ เหมือนเป็นนักส�ำรวจรายแรก ผู้เจอถ�้ำที่มีเครื่องปั้นดินเผาไร้ต�ำหนิและหัวลูกศรในสภาพสมบูรณ์จาก อารยธรรมที่สาบสูญ เรื่องราวของน�้ำหอมอาจคืนชีวิตให้กับโลกลึกลับที่ ถูกค้นพบ ย้อนรอยผู้คนที่เจอเครื่องเทศในดินแดนแสนไกลและเรียนรู้วิธี สกัดน�ำ้ มันหอมจากพืชต่างถิน่ อุปกรณ์การกลัน่ รุน่ เก่าทีป่ รากฏในงานแกะ 22

Fr agr ant


สลักไม้และภาพพิมพ์อันซับซ้อนดูเหมือนอุปกรณ์ในห้องทดลองผสมกับ เครือ่ งมือของแม่มด ฉันไม่ได้คน้ พบเพียงประวัตศิ าสตร์ของน�ำ้ หอมเท่านัน้ แต่ยงั ได้เข้าสูโ่ ลกอันน่าวิงเวียนซึง่ น�ำ้ หอมปะปนอยูก่ บั ยา วิทยาศาสตร์ การ เล่นแร่แปรธาตุ การปรุงอาหาร ไสยศาสตร์ เครื่องส�ำอาง และงานฝีมือ เป็นประสบการณ์พิเศษที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นของการได้สัมผัสอดีตที่ผ่านพ้นไป เป็นจักรวาลอันงดงามและลึกลับของสิ่งมหัศจรรย์ที่มารวมอยู่ด้วยกัน ในทีส่ ดุ ฉันก็เขียนหนังสืออีกเล่มออกมาจนได้ ไม่ใช่นยิ ายแต่เป็น หนังสือชื่อ Essence and Alchemy: A Natural History of Perfume ซึ่ง แนะน�ำนักปรุงน�้ำหอมและ “เพอร์ฟูมมิสตา” (perfumista) หรือผู้ชื่นชอบ น�้ำหอม ให้รู้จักประวัติศาสตร์รัญจวนใจของกลิ่นหอมธรรมชาติและองค์ ประกอบพื้นฐานในการผสมน�้ำหอมจากกลิ่นเหล่านั้น ขบวนการน�้ำหอม ธรรมชาติหรือน�้ำหอมท�ำมือที่เพิ่งเกิดใหม่อ้าแขนรับหนังสือเล่มนี้ ฉัน เริ่มสอนศิลปะการท�ำน�้ำหอมรวมถึงวิธีลงมือท�ำ อีกทั้งยังเริ่มหารือและ ร่วมมือกับเชฟและผู้เชี่ยวชาญเรื่องเครื่องดื่มซึ่งน�ำน�้ำมันหอมธรรมชาติ ไปใช้ในอาหารและเครื่องดื่ม ฉันพบว่าตัวเองอยู่ในกลุ่มแนวหน้าผู้น�ำ กระแสการใช้กลิ่นเป็นองค์ประกอบส�ำคัญของรสชาติ นี่คือพื้นที่ใหม่น่า ตืน่ เต้นทีฉ่ นั ได้สำ� รวจในต�ำราอาหารทีเ่ ขียนร่วมกับเชฟดาวมิชลินสองดวง แดเนียล แพตเทอร์สัน (Daniel Patterson) ในช่วงเวลาเกือบสองทศวรรษของการเดินทาง ในโลกแห่งกลิน่ หอม ความรูส้ กึ ทึง่ เมือ่ ได้คน้ พบกลิน่ หอม ใหม่ๆ อันแสนมหัศจรรย์ไม่เคยจางไปจากใจฉันเลย ไม่วา่ จะไปแห่งหนใดฉันก็มีความสุขที่ได้มอบประสบการณ์ เช่นนัน้ ให้คนอืน่ บางครัง้ พวกเขาพยายามปฏิเสธฉันโดย อ้างว่า “ไม่สนใจน�ำ้ หอม” เป็นค�ำปฏิเสธโดยสัญชาตญาณ เพราะพวกเขาคุ้นเคยกับกลิ่นอาหารฟาสต์ฟู้ดซึ่งเป็น กลิ่นสังเคราะห์รุนแรงและอบอวลอยู่ในอาหารที่เรากิน ผลิตภัณฑ์ท�ำความสะอาดที่เราใช้ น�้ำหอมที่ผลิตแบบ M a n d y A f t el

23


อุตสาหกรรม และสภาพแวดล้อมรอบตัว เหล่านีท้ ำ� ให้พวกเขาเชือ่ ว่าตัวเอง ไม่ได้สนใจกลิน่ หอมแต่อย่างใด ช่างน่าตืน่ เต้นเมือ่ ได้เห็นคนเหล่านีค้ น้ พบ กลิน่ หอมแท้จริงรวมถึงความสุขทีเ่ กิดจากกลิน่ เหมือนได้เห็นคนอดอยาก กินอาหารแสนอร่อย ประสบการณ์ที่ได้ปลุกผู้คนให้รู้จักกลิ่นหอมน�ำมาสู่ หนังสือเล่มนี้ ฉันอยากเขียนหนังสือส�ำหรับทุกคน ไม่ใช่แค่นกั ปรุงน�ำ้ หอม และเพอร์ฟูมมิสตา แม้ฉันคิดว่าพวกเขาจะได้พบข้อมูลและแรงบันดาลใจ ใหม่ๆ จากหนังสือเล่มนีเ้ ช่นกัน เพราะความสนใจอย่างจริงจังของพวกเขา ในน�ำ้ หอมคุณภาพสูงนีเ่ องทีผ่ ลักดันให้เกิดกระแสนิยมน�ำ้ หอมเฉพาะกลุม่ และร้านที่ปรุงน�้ำหอมในปริมาณน้อย อย่างที่ ไมเคิล เทย์เลอร์ (Michael Taylor) ตั้งข้อสังเกตไว้ใน Rembrandt’s Nose ว่า จิตรกรผูย้ งิ่ ใหญ่อย่างเรมบรันต์ (Rembrandt Van Rijn) เข้าใจโดยสัญชาตญาณว่าจมูกเป็นกุญแจสูก่ ารเข้าใจใบหน้าคน เขา วาดจมูกที่ “มีชีวิตจิตใจของมันเอง”

24

มันโน้มเอียงในแบบของตัวเองและดูเหมือนเชื่อฟังแรงกระตุ้น ของตั ว เองมากกว่ า กฎที่ ว ่ า ต้ อ งเหมื อ นแบบ จมู ก มี ทั้ ง ยาว เรียว แบนม่อต้อ เรียบหรือย่น เรียวหรืออวบ เล็กหรือใหญ่ มี หลุมบ่อ มีแผลเป็น อักเสบ ไร้มลทิน เราอาจรู้สึกว่ามันเป็นไป ตามเหตุผลของศิลปินมากกว่าความถูกต้องตรงตามจริง ... เขา รังสรรค์ลักษณะผิวจมูกอย่างพิถีพิถันแบบเดียวกับที่วาดผิว เงางามของผ้าก�ำมะหยี่หรือขนสัตว์ เมื่อวาดภาพผู้คนหรือภาพ ตัวเอง เขาจะจัดใบหน้าของแบบให้เอียงในมุมที่สันจมูกแทบจะ เป็นแนวกัน้ ระหว่างด้านสว่างกับด้านมืด ใบหน้าในภาพวาดของ เรมบรันต์มบี างส่วนอยูใ่ นเงามืด โดยทีส่ ว่ นจมูกอันชัดเจนโดดเด่น อยู่ตรงกลางของโทนสว่างและมืด เป็นจุดดึงดูดความสนใจของ ผู้ชม อีกทั้งเน้นย�้ำเส้นแบ่งระหว่างแสงสว่างซึ่งชัดเจนอย่าง ยิ่งยวดกับความด�ำมืดอึมครึม3

Fr agr ant


ฉันออกจะเห็นด้วยกับมุมมองที่เรมบรันต์มีต่อจมูก จมูกเป็น ศูนย์กลางที่มีลักษณะเฉพาะทั้งต่อประสาทสัมผัสรับกลิ่นของเราและการ รับรูถ้ งึ ตัวตนของเรา โดยเฉพาะในความปรารถนาเก่าแก่โบราณทีส่ ดุ ของ มนุษย์ ทัง้ ความปรารถนาอยากเสพอาหาร รวมถึงประสบการณ์ดา้ นสัมผัส และจิตวิญญาณทั้งหลายที่ผลักดันเรา มอบความสุขให้เรา และท�ำให้เรา รู้สึกมีชีวิตชีวามากขึ้น ณ ห้วงขณะนั้น กลิ่นเป็นประตูสู่ความปรารถนา ขั้นพื้นฐานของมนุษย์ ทั้งความปรารถนาในสิ่งที่อยู่ห่างไกล สิ่งที่คุ้นเคย สิ่งเหนือธรรมชาติ สิ่งที่แปลก และสิ่งที่งดงาม ทั้งหมดสร้างแรงบันดาลใจ ให้เรามาตั้งแต่ก�ำเนิดเผ่าพันธุ์ ขณะที่ฉันค้นคว้าและคิดเรื่องวิถีอันลึกซึ้งที่น�้ำหอมสัมผัสตัวตน อันเป็นรากเหง้าเก่าแก่ท่ีสุดของเรา รวมถึงตัวตนของเผ่าพันธุ์มนุษย์ใน ภาพรวมด้วย ฉันก็รู้ว่านี่คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวการผจญภัยบางอย่าง เป็นอาหารเรียกน�ำ้ ย่อยส�ำหรับงานเขียนเรือ่ งกลิน่ หอม เหมือนการเดินทาง ส�ำรวจโลกน�ำ้ หอมทีฉ่ นั คิดว่าจะท�ำให้คณ ุ ตืน่ ตัวและมีชวี ติ ชีวามากขึน้ จน สามารถ “ดื่มด�่ำความงามของชีวิต” ได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ฉันเลือกกลิน่ ส�ำคัญ 5 กลิน่ มาบอกเล่าเรือ่ งราวนี้ ขอให้คดิ เสียว่า มันเป็นดาวดังแห่งโลกกลิ่นหอมก็แล้วกันนะคะ แต่ละกลิ่นเป็นตัวแทน เส้นเรือ่ งส�ำคัญในประวัตศิ าสตร์กลิน่ หอม ผูกพันลึกซึง้ อยูก่ บั การผจญภัย ของมัน รวมถึงความตื่นเต้นและช่วงเวลาที่ค้นพบด้วย แต่ละกลิ่นยังเป็น ตัวแทนวัตถุดิบที่กลายเป็นส่วนประกอบหลักในศิลปะการปรุงน�้ำหอม (รวมถึงศิลปะการปรุงอาหารและการแต่งกลิ่นรส) แต่ละกลิ่นสัมผัสและ กระตุ้นหนึ่งในความปรารถนาขั้นพื้นฐานที่บ่งบอกความเป็นเรา •

ซินนามอน (cinnamon) ตัวแทนเครื่องเทศอันเป็นบท พิสูจน์ถึงความปรารถนาอยากผจญภัยของมนุษย์ที่ดั้นด้น ตามหาความแปลกใหม่และความหรูหรา มันคือสิง่ เชือ่ มโยง กับยุคสมัยของความเสี่ยงและการค้นพบ เป็นช่วงเวลาเมื่อ M a n d y A f t el

25


สถานที่ต่างๆ ยังไม่ปรากฏบนแผนที่ทั้งหมด และเรายัง ค้นพบสิ่งต่างๆ ไม่ครบถ้วน มินต์ (mint) ตัวแทนสมุนไพรที่สื่อถึงเสน่ห์ของบ้าน ทั้ง ความโหยหาของมนุษย์ที่มีต่อสิ่งคุ้นเคย จริงแท้ และเป็น ของท้องถิน่ มินต์คอื พืชหลักในอเมริกาและเป็นสิง่ เชือ่ มโยง กับ “อเมริกาเก่าที่แปลกประหลาด” ซึ่งด�ำรงอยู่ในยุคสมัยที่ ผ่านพ้นไปแล้ว แต่ยังปรากฏในลักษณะประจ�ำชาติภายใต้ เปลือกนอกของความทันสมัย ขณะเดียวกันมินต์ก็เป็นพืช ท้องถิ่นในเกือบทุกหนแห่งด้วย เป็นสัญลักษณ์ของการ ต้อนรับอันเป็นสากล แฟรงคินเซนส์ (frankincense) หนึ่งในยางไม้หอมลึกล�้ำ ที่ใช้ท�ำเครื่องหอมมาแต่ดั้งเดิม เป็นตัวแทนที่บ่งบอกว่า มนุษย์มักมีแนวโน้มฝักใฝ่ในเรื่องจิตวิญญาณ ต้นไม้ที่ให้ ยางหอมเหล่านี้เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของแรงกระตุ้นที่มัน สื่อออกมา นั่นคือการเปิดใจ การข้ามพ้นชีวิตทางโลกผ่าน พิธีกรรมและการถอดจิต อ�ำพันทะเล (ambergris) กลิน่ ทีไ่ ด้จากสัตว์ เป็นบทพิสจู น์ ถึงความอยากรู้อยากเห็นที่ไม่มีวันอิ่มของมนุษย์ ความ หลงใหลต่อสิ่งที่ไม่ธรรมดา ของแปลก สิ่งมหัศจรรย์และ “สิ่งลึกลับ” มะลิ ตัวแทนกลิ่นหอมของดอกไม้ เป็นสัญลักษณ์สื่อถึง ความปรารถนาของมนุษย์ที่มีต่อความงาม สุนทรียภาพที่ โอบล้อมความไม่จีรังของชีวิตเช่นเดียวกับสิ่งที่คงทน ตาม แนวคิดในปรัชญาการออกแบบของญีป่ นุ่ ทีเ่ รียกว่า วาบิ-ซาบิ

5

26

Fr agr ant


ใน A Natural History of the Senses ไดแอน แอกเคอร์แมน (Diane Ackerman) เตือนใจเราว่าตัวตนของเราก่อนเป็นมนุษย์นั้นเริ่มต้นใน มหาสมุทร ต้องพึ่งจมูกในการหาอาหารและระวังศัตรู “มนุษย์สมัยที่ยัง คล้ายปลาในยุคเริ่มแรก ... มีประสาทสัมผัสรับกลิ่นเป็นอย่างแรก” เธอ ระบุไว้ จากนัน้ การรูค้ ดิ ก็พฒ ั นาขึน้ มาจากตรงนัน้ “ซีกสมองใหญ่ (cerebral hemisphere) ของเรานั้นเดิมเป็นกระเปาะอยู่ปลายออลแฟกทอรีสตอล์ก (olfactory stalk) <ส่วนทีเ่ ชือ่ มสมองใหญ่กบั ออลแฟกทอรีบลั บ์ (olfactory bulb) ซึง่ ท�ำหน้าทีด่ มกลิน่ > เรารูจ้ กั คิด เพราะเรา ได้กลิน่ ”4 กลิน่ ช่วยเหลือ เราทุกคนตั้งแต่ยังเป็นทารกให้รู้ว่าอะไรเป็นของเรา (กลิ่นคุ้นเคย) และ อะไรที่ไม่ใช่ (กลิ่นที่ไม่คุ้นเคย) ทารกจ�ำมารดาได้ด้วยกลิ่น มันเป็นทักษะ ที่ส�ำคัญมากเมื่อคุณหลับตาเกือบตลอดเวลา! ในระดับโมเลกุลถือว่ากลิ่นเข้าถึงระบบประสาทของเราได้อย่าง แท้จริง เวลาคุณได้กลิน่ อะไรสักอย่างทีโ่ ดดเด่น มันเป็นเพราะองค์ประกอบ ทีร่ ะเหยง่ายบางอย่างในสสารมีกลิน่ นัน้ ๆ ระเหยออกมา แล้วโชยลึกเข้าไป ในจมูก ก่อนจะสัมผัสตัวรับกลิ่นของคุณ กระบวนการนี้ตรงข้ามกับการ มองเห็นและการได้ยินซึ่งอาศัยเพียงการรับคลื่นแสงหรือคลื่นเสียงที่แผ่ ออกมาหรือสะท้อนจากวัตถุนั้นๆ ในแง่หนึ่งมันจึงเป็นแค่การบรรยาย ลักษณะของวัตถุนนั้ ๆ ในขณะทีเ่ มือ่ เราดมกลิน่ เราต้องสัมผัสทางกายภาพ กับสิ่งที่ระเหยออกมา หากมีใครบางคนวางคุกกี้ช็อกโกแลตชิปที่เพิ่งอบ เสร็จใหม่ๆ ไว้บนเคาน์เตอร์ กลิ่นยั่วน�ำ้ ลายของมันจะโชยเข้าจมูกและไป กระตุน้ ประสาทสัมผัสให้ตอบสนอง มันสัมผัสคุณตัง้ แต่กอ่ นทีค่ ณ ุ จะยืน่ มือ ไปคว้ามันเสียอีก หรือต่อให้คุณจากไปโดยไม่ได้กินแม้แต่คำ� เดียวก็ตาม กลิ่นเพียงกลิ่นเดียวสามารถดึงความทรงจ�ำต่างๆ ให้หลั่งไหล กลับมาได้ทนั ที ประสบการณ์และอารมณ์เกีย่ วพันกับกลิน่ มาแต่ดงั้ เดิม ใน ครัง้ ถัดไปทีไ่ ด้กลิน่ นัน้ มันจะกระตุน้ ความทรงจ�ำและความรูส้ กึ ทีเ่ กีย่ วข้อง ต่อให้ “ครั้งถัดไป” คืออีกยี่สิบปีต่อมาก็ตาม แม้ว่าในท้ายที่สุดเราจะใช้ ค�ำพูดมาบรรยายความเกี่ยวข้องแล้วท�ำให้มันกลายเป็นเรื่องราวขึ้นมา M a n d y A f t el

27


เช่นเวลาที่คุณเชื่อมโยงกลิ่นควันยาสูบกับช่วงเวลาในห้องท�ำงานของ คุณปู่ แต่ทั้งหมดนี้เริ่มต้นด้วยการเชื่อมโยงภายในซึ่งเป็นพื้นฐานของ ดีเอ็นเอมนุษย์ การเชื่อมโยงที่มีมาแต่ดั้งเดิมนี้ท�ำให้กลิ่นเป็นเรื่องส่วนตัว และเฉพาะเจาะจงอย่างยิ่ง เหมือนลายนิ้วมือที่แตกต่างกันไปในแต่ละ บุคคล ดังที่นักปรัชญา มิเชล เซเฮอ เขียนไว้ในหนังสือ The Five Senses ว่า ดูเหมือนกลิน่ คือสัมผัสแห่งความเป็นเอกเทศ รูปทรงอาจปรากฏ ซ�้ำ คงที่หรือกลับทิศ ความกลมกลืนอาจเปลี่ยนรูปแบบไปได้ หลากหลาย แต่ความเฉพาะเจาะจงนั้นก�ำกับด้วยกลิ่น เมื่อเรา หลับตา หูหยุดท�ำงาน เท้าและมือโดนมัด ปากถูกปิด แต่เรา ยังคงแยกแยะกลิ่นได้ ต่อให้ผ่านมาหลายปีและพบเจอกลิ่นอื่น นับพันก็ยังจ�ำได้ ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นพุ่มไม้จากสถานที่แห่งหนึ่ง ในฤดูกาลหนึ่งตอนอาทิตย์ตกดินก่อนพายุฝน หรือกลิ่นห้องที่ ใช้เก็บข้าวโพดอาหารสัตว์ หรือพรุนต้มในเดือนกันยายน หรือ ผู้หญิงสักคน5

แต่พลังของกลิ่นก็มาจากการที่พบเจอมันได้ทั่วไปด้วย บางช่วง เวลาเหมือนกลิ่นแพร่กระจายไปทั่วทุกหนแห่งพร้อมกัน กลิ่นมาจาก แหล่งที่มองไม่เห็น บ่อยครั้งมาจากหลายแหล่งพร้อมกัน พวกมันไม่มี เครื่องจีพีเอสในตัวเพื่อบอกเราว่ามาจากไหนบ้าง กลิ่นเหมือนซูเปอร์ฮีโร่ ผู้เก่งกาจ ล่องหนได้ ไม่อาจตามรอย และ บางครั้งยังรุนแรงเกินต้านทานด้วย กลิ่น แบบสารพิษดูเหมือนจะเป็นพาหะของโรค ติดต่อ วิลเลียม มิลเลอร์ (William Miller) เขียนไว้ใน The Anatomy of Disgust ว่า ก่อนจะค้นพบเชื้อโรค ผู้คนคิดว่ากลิ่นเหม็น ท�ำให้โรคแพร่ระบาด ในขณะที่กลิ่นหอม 28

Fr agr ant


รักษาโรคได้ ความจริงการเชื่อมโยงเช่นนี้ยังคงมีอยู่แม้มีผู้คิดค้นทฤษฎี เรือ่ งเชือ้ โรคขึน้ มาแล้วก็ตาม นีค่ อื สาเหตุทผี่ ลิตภัณฑ์ทำ� ความสะอาด “ต้อง มีกลิ่นเหมือนน�้ำยาฆ่าเชื้อตามความเชื่อของเรา” มิลเลอร์ตั้งข้อสังเกต แม้กลิน่ จะไม่เกีย่ วข้องกับความสามารถในการท�ำความสะอาดเลยก็ตาม6 น�้ำหอมดูเหมือนเป็นหนึ่งในธาตุพื้นฐาน หนึ่งในความลับดั้งเดิม ของจักรวาล การที่มันเข้าไปอยู่ในดอกไม้และสิ่งมีชีวิตแปลก ประหลาดบางชนิด เช่น อ�ำพันทะเลในวาฬ หรือชะมดเช็ดใน จ�ำพวกตัวชะมดแห่งอะบิสซิเนีย หรือกลิน่ จากตัวจระเข้ฟลอริดา ล้วนถือเป็นกระบวนการลับของเคมีสวรรค์ อีกทั้งยังไม่มีนัก ปรัชญาคนใดอธิบายได้วา่ เหตุใดมันจึงส่งผลต่อเราในแบบทีเ่ ป็น ว่ากันตามจริงแล้ว มันคือหนึ่งในพลังล่องหนที่ทรงอิทธิพลมาก เกินค�ำนวณได้ และเป็นสิ่งที่มนุษย์เรายังไม่เข้าใจ ริชาร์ด เลอ กาลเลียน (Richard le Gallienne), The Romance of Perfume7

แม้ความรูว้ ทิ ยาศาสตร์ได้ไขความลับของมันแล้ว กลิน่ ก็ยงั คงเป็น หนึง่ ในประสบการณ์เวทมนตร์ทเี่ ข้าถึงได้งา่ ยทีส่ ดุ และคงความส�ำคัญไว้ได้ อย่างสม�่ำเสมอ อันที่จริงการเข้าสู่โลกแห่งกลิ่นหอมก็เหมือนการเดินทะลุ กระจกเงาไปอีกฟากเพื่อเจอสิ่งมหัศจรรย์ ปริศนา และเรื่องน่าทึ่งแบบ รายวัน มันคือประสบการณ์เปลี่ยนผ่านอย่างแท้จริงที่ฉันกระตือรือร้น อยากแบ่งปันเหลือเกิน ดังนัน้ กลิน่ จึงมีแรงดึงดูดแรงกล้าต่อมนุษย์ มันผูกพันกับสายพันธุ์ ของเรามาตัง้ แต่ยคุ ก่อนประวัตศิ าสตร์ แต่พลังอันโดดเด่นของกลิน่ ยังเป็น สิ่งที่ท�ำให้มันมี ประวัติศาสตร์ อันลึกซึ้งที่เกี่ยวพันกับมนุษยชาติ มีการ ค้นพบและครอบครองดินแดนเพื่อวัตถุดิบกลิ่นหอม กลิ่นหอมล่อลวง บรรดาคนรักที่สุดแสนจะเล่นตัว เราใช้เครื่องหอมบูชาเทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ M a n d y A f t el

29


ที่สุด มันเป็นเหมือนเชื้อเพลิงกระตุ้นให้ตามล่าหาของพิเศษและพาเรา กลับคืนสู่บ้านอันอบอุ่น กลิ่นหอมมาพร้อมเรื่องเล่าว่ามันเคยอยู่ที่ไหน มี อะไรบ้างทีม่ นุษย์ทำ� และยอมเสีย่ งเพือ่ ให้ได้มนั มา ยังมีตำ� นานจากดินแดน แสนไกลและจากยุคสมัยโบราณอีกด้วย มันท�ำให้เรารู้สึกถึงที่ทางของเรา ในเรือ่ งเล่าอันยาวนานทีเ่ รียกว่าประวัตศิ าสตร์ กลิน่ หอมมีรอยประทับของ ดีเอ็นเอแห่งวัฒนธรรมมนุษย์ หลักฐานของชีวิตอันหอมหวนและมีชีวิตชีวาในยุคสมัยก่อนนั้น ล�ำ้ ค่าและน่าสนใจไม่ตา่ งจากการค้นพบทางโบราณคดี ความเชือ่ ของชาว โรมันโบราณมาจากการใช้ชีวิตที่อาบชุ่มกลิ่นหอม “ไวน์ใส่เครื่องเทศผสม แฟรงคินเซนส์อาจท�ำให้ชา้ งบ้าคลัง่ ต่อให้เป็นช้างทีฝ่ กึ โดยกองทัพมาแล้ว ก็ตาม สัตว์ปา่ อาจหลับใหลได้ดว้ ยกลีบดอกไม้และกลิน่ หอม” ซูซาน ฮาร์วยี ์ (Susan Harvey) เขียนไว้ใน Scenting Salvation “น�้ำหอมเป็นอันตราย ถึงตายส�ำหรับแร้งซึ่งเป็นนกที่กินศพเน่าเปื่อยเป็นอาหาร ขณะเดียวกัน ก็ท�ำให้ฝูงนกพิราบเชื่องได้ เสือด�ำสามารถปล่อยกลิ่นหอมหวานท�ำให้ เหยื่ อ เคลิ บ เคลิ้ ม อุ ต สาหกรรมกลิ่ น หอมที่ มี ม าแต่ โ บราณเป็ น ความ พยายามใช้ประโยชน์อนั หลากหลายของกลิน่ มากกว่าจะพยายามควบคุม พลังของกลิ่นนั้น”8 ชีวิตในยุคสมัยแรกๆ เหมือนถูกห่อหุ้มอยู่ในชุดเกราะเต็มตัวที่ ท�ำจากกลิ่น ซึ่งรวมถึงกลิ่นไม่หอมของมนุษย์และสัตว์ด้วย ไม่ว่าจะเป็น กลิน่ ปัสสาวะ อุจจาระ อาหารเน่า ควัน เหงือ่ ความเจ็บป่วย และความตาย ในเมื่อไม่มีอุปกรณ์อนามัยและสาธารณสุขสมัยใหม่ จึงไม่อาจหลีกเลี่ยง กลิน่ ทัง้ ดีและไม่ดไี ด้ มันพัวพันกับชีวติ และความรุนแรงของมันก็เป็นเรือ่ ง ปกติมากกว่าจะเป็นสถานการณ์น่ารังเกียจนานๆ ที ดังที่ พอล ฟรีดแมน (Paul Freedman) ตั้งข้อสังเกตไว้ในหนังสือ Out of the East ว่า “ความ คุ้นเคยกับกลิ่นเหม็นที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ท�ำให้ผู้คนในสังคมยุคก่อน สมัยใหม่ลุ่มหลงกลิ่นหอม พวกเขามีประสบการณ์ด้านกลิ่นในขอบเขตที่ กว้างขวางกว่าเรา ทั้งด้านดีและไม่ดี สิ่งที่ดูเหมือนขาดหายไปคือความ 30

Fr agr ant


ไร้กลิ่นที่ให้ความรู้สึกเป็นกลางแบบในยุคสมัยใหม่”9 มีสัญญาณบ่งบอกว่าเราทุกคนเบื่อหน่ายกับกลิ่นที่ให้ความรู้สึก เป็นกลางแบบสมัยใหม่ ตั้งแต่ฉันออกหนังสือชื่อ Essence and Alchemy โลกใบใหม่ที่เห็นความส�ำคัญของกลิ่นก็ถือก�ำเนิดขึ้น คล้ายกับตอนที่โลก ตืน่ ตัวเรือ่ งอาหารในช่วงหนึง่ หรือสองทศวรรษก่อน หลังได้แรงบันดาลใจจาก อลิซ วอเตอร์ส, ไมเคิล พอลแลน (Michael Pollan) และผู้เผยแพร่แนวคิด สโลว์ฟดู้ (Slow Food) หรือโลคาวอร์คนอืน่ ๆ ผูค้ นจึงหันมาสนใจแหล่งก�ำเนิด คุณภาพ และความหลากหลายของสิ่งที่กิน ไม่ใช่ด้วยเหตุผลด้านสุขภาพ เท่านัน้ แต่ยงั เป็นเพราะต้องการจะเชือ่ มโยงกับประสบการณ์สากลได้อย่าง แท้จริงและน่ารืน่ รมย์ น�ำ้ หอมซึง่ เคยเป็นสิง่ ทีพ่ วกสือ่ ท�ำข่าวแค่ปลี ะสองครัง้ และลงเฉพาะในนิตยสารแฟชัน่ ของผูห้ ญิงเท่านัน้ ตอนนีก้ ลับมีคนติดตาม ทุกนาทีผ่านบล็อกนับร้อยเกี่ยวกับน�้ำหอม แฟชั่น และเครื่องส�ำอาง ซึ่ง ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดทั่วอินเทอร์เน็ต เพอร์ฟูมมิสตาผู้ติดตามบล็อกเหล่านี้ ไม่ได้หลับหูหลับตาซื้อน�้ำหอมที่ประโคมโฆษณาหนักที่สุด แต่พวกเขา จะอ่านข้อมูล พูดคุย พบปะ สูดดม คิด และออกความเห็นอันลุ่มลึกของ ตัวเองด้วย จ�ำนวนผูส้ นใจฉีดน�ำ้ หอม ใช้นำ�้ หอม และรูเ้ รือ่ งน�ำ้ หอมเพิม่ ขึน้ เป็นเท่าตัว เมือ่ ฉันได้พบเจอ พูดคุย และติดต่อพวกเขาผ่านทวิตเตอร์และ เฟซบุก๊ ฉันก็ได้รบั โอกาสพิเศษครัง้ แล้วครัง้ เล่าให้ลองสัมผัสพลังอันยิง่ ใหญ่ ของประสาทรับกลิ่น ความปรารถนาและแรงกระตุ้นที่มันปลุกเร้า อีกทั้ง ความโหยหาและชื่นชมในสายสัมพันธ์ที่ เชื่อมโยงกับชีวิตอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น “ผมจดจ� ำ ได้ อ ย่ า งซาบซึ้ ง ใจถึ ง นาทีที่ไวน์อันยอดเยี่ยมมอบปากใหม่ให้ ผม” มิเชล เซเฮอ เขียนถึงการดืม่ ไวน์ชาโต ดีเคม โซแตร์นรุ่นปี 194710 ฉันเองก็อยาก มอบจมูกใหม่ให้คนอื่น แนะน�ำให้พวกเขา รู้จักกับความหลงใหลมึนเมาเมื่อประสาท M a n d y A f t el

31


รับกลิ่นท�ำงานเต็มที่ ฉันอยากให้พวกเขาตื่นขึ้นมาอีกครั้งเพื่อสูดดมกลิ่น เหมือนที่พวกเขาเริ่มตื่นขึ้นมาลิ้มรสอาหารหลังจากหลับใหลมาหลาย ทศวรรษ หนทางที่เราปลุกกลิ่นบ่อยครั้งทอดผ่านรสชาติ มันเป็นพี่น้อง ใกล้ชิดกันมากที่สุดในบรรดาประสาทสัมผัสทั้งหมด อันที่จริง “รสชาติ” เป็นผลลัพธ์ของประสาทสัมผัสสองอย่าง นั่นคือรสบนลิ้นกับกลิ่นในจมูก ดังนั้นการปลุกกระแสเรื่องอาหารจึงมีส่วนปลุกกระแสเรื่องกลิ่นด้วย ใน เมือ่ เรามุง่ เน้นไปทีก่ ลิน่ ฉันจึงอยากให้เรารูถ้ งึ ความส�ำคัญและพลังของมัน แต่รสและกลิน่ ยังคงเกีย่ วพันอยูด่ ว้ ยกัน ต่างเป็นสิง่ จ�ำเป็นเพือ่ เติมเต็มกัน ความสุขจากรสชาติและความสุขจากกลิน่ ล้วนมีอายุสนั้ และไม่จรี งั แต่มนั ได้มอบประสบการณ์ความสุขที่หาใดเปรียบและเข้มข้นไร้สิ่งเจือปน เป็น ไปตามหลักความพึงพอใจข้อแรก <ที่ว่าเราจะสัมผัสความพึงพอใจได้ใน ชั่วขณะปัจจุบันเท่านั้น> และในช่วงเวลาที่เราสัมผัสมัน ความปรารถนา ของเราก็รุนแรงจนก้าวพ้นความเปราะบางของชีวิต ในหนั ง สื อ ที่ ชื่ อ ว่ า Worlds of Sense คอนสแตนซ์ คลาสเซน (Constance Classen) เขียนเกี่ยวกับพวกออนกี (Ongee) เผ่า นั ก ล่ า สั ต ว์ ห าของป่ า ที่ แ ยกตั ว ไปใช้ ชี วิ ต อยู ่ บ นเกาะห่ า งไกลนอก ชายฝั่งอินเดีย พวกนี้เป็นชุมชนที่ยึดถือกลิ่นเป็นศูนย์กลางชีวิตมาก ที่สุดเท่าที่ฉันเคยได้ยินมา ส�ำหรับพวกออนกีแล้ว กลิ่นเป็นแหล่งที่มา ของตัวตน เป็นระบบสาธารณสุข และเป็นการสื่อสาร เมื่อพวกออนกีนึกอยากสื่อถึงตัวเองว่า “ฉัน” เขาหรือเธอจะเอา นิ้วแตะปลายจมูก ... พวกออนกีมองว่ากลิ่นเข้มข้นสูงสุดอยู่ที่ กระดูก โดยเชื่อว่าเป็นกลิ่นที่ไม่เปลี่ยนแปลง จึงมีค�ำกล่าวที่ว่า “กลิน่ อยูใ่ นตัวคนทุกคน เช่นเดียวกับทีพ่ ชื หัวอยูใ่ นดิน” ว่ากันว่า จิตวิญญาณภายในอาศัยอยู่ที่กระดูกของสิ่งมีชีวิต เมื่อเรานอน หลับ จิตวิญญาณภายในก็จะรวบรวมกลิน่ ทีเ่ ราท�ำกระจัดกระจาย ไประหว่างวันกลับคืนมาสู่ร่างกาย เพื่อให้เราใช้ชีวิตต่อไปได้ 32

Fr agr ant


พวกออนกีถอื ว่าโรคภัยไข้เจ็บเป็นผลจากการมีกลิน่ มากเกิน ไปหรือน้อยเกินไป ... วิธีรักษาขั้นพื้นฐานในกรณีที่มีกลิ่นมาก เกินไปคือต้องท�ำให้คนไข้ตัวอุ่นเพื่อ “ละลาย” กลิ่นที่จับตัวแข็ง ในทางกลับกัน หากมีกลิ่นน้อยเกินไปจะรักษาโดยน�ำดินขาว มาทาผู้ป่วยเพื่อให้ตัวเย็นและกักกลิ่นไว้ไม่ให้ระเหยออกจาก ร่างกาย ... ความกังวลของพวกออนกีที่อยากรักษาสมดุลกลิ่น เพือ่ สุขภาพทีด่ แี สดงออกผ่านรูปแบบการทักทาย แทนทีจ่ ะถาม ว่า “สบายดีหรือเปล่า” พวกออนกีจะถามว่า “จมูกเป็นอย่างไร บ้าง” หรือถ้าแปลตรงตัวคือ “จมูกจะมาเมือ่ ไร/ท�ำไม/ทีไ่ หน” ... พวก ออนกีอธิบายความตายว่าเป็นการสูญเสียกลิน่ ส่วนตัวของบุคคล พวกเขาเชื่อว่าวิธีฆ่าสัตว์ที่ล่ามาคือปล่อยกลิ่นของพวกมันออก จนหมด และเชือ่ ว่าตัวพวกเขาเองก็ถกู วิญญาณทีเ่ รียกว่า ทอมยา ตามล่า ซึ่งจะฆ่าพวกเขาได้ด้วยการดูดซับกลิ่นเช่นกัน ในทาง กลับกัน การถือก�ำเนิดจะเกิดขึน้ เมือ่ ผูห้ ญิงกินอาหารทีว่ ญ ิ ญาณ ผู้หิวโหยก�ำลังกินอยู่ ... ทารกเกิดใหม่มีกระดูกที่ยังอ่อนอยู่และไม่มีฟัน ดังนั้นจึงมี กลิ่นน้อย เมื่อเติบโตขึ้นเด็กจะมีกลิ่นที่แรงขึ้นแทรกซึมอยู่ใน กระดูกที่แข็งแล้วและในฟัน เมื่อแก่ลงจะสูญเสียกลิ่นผ่านการ เจ็บป่วยและฟันที่หลุดร่วง จนในที่สุดความตายก็จะท�ำให้คน กลายเป็นวิญญาณไร้กระดูกและไร้กลิน่ ซึง่ สุดท้ายจะมาเกิดใหม่ อีกครั้งเป็นมนุษย์ ... เชื่อกันว่าการอยู่ในชุมชนจะรวมกลิ่นของแต่ละคนให้เป็น หนึ่งเดียวและลดโอกาสที่วิญญาณผู้หิวโหยจะได้กลิ่นพวกเขา เช่น เมื่อเดินทางเป็นกลุ่มจากที่หนึ่งไปอีกที่ พวกออนกีจะตั้งใจ เหยียบทับรอยเท้าของผู้เดินน�ำ เพราะเชื่อว่าวิธีนี้ท�ำให้กลิ่น ปะปนกันจนสับสน และวิญญาณจะติดตามจนเจอตัวคนใดคน หนึ่งได้ยาก11 M a n d y A f t el

33


เราไม่ตอ้ งวิเคราะห์กลิน่ เพราะมันจะคลีค่ ลายในตัวเราเอง ลักษณะ เด่นของกลิน่ หอมกลิน่ หนึง่ จูโ่ จมเรา จากนัน้ ก็จางหายไปเมือ่ อีกกลิน่ โผล่มา ก่อนจะค่อยๆ หายไปอีก กลิ่นเป็นประสบการณ์ที่เกิดวนเวียนไปเรื่อยๆ เหมือนดนตรีที่บรรเลงตลอดเวลา ความแตกต่างเล็กน้อยของแต่ละกลิ่น เป็นสิ่งที่ต้องสูดดมเปรียบเทียบกัน กลิ่นยังเหมือนดนตรีตรงที่มันไม่ อาจจับต้องแยกแยะชัดเจน จึงเปิดโอกาสให้เราได้สัมผัสมันในโลกแห่ง จินตนาการเคลิ้มฝัน กลิ่นเหมือนค�ำเชิญสู่การเดินทางที่พาเราก้าวออก จากรูปแบบชีวิตธรรมดา ให้เราได้หายไปจากโลกเดิมสักพัก ใช่ว่าทุกคนจะมีความปรารถนาหรือความสามารถในการเป็น นักปรุงน�ำ้ หอม เช่นเดียวกับความปรารถนาหรือความสามารถในการเป็น เชฟ แต่ฉนั เชือ่ มัน่ อย่างยิง่ ยวดว่าทุกคนสามารถสร้างสายสัมพันธ์แท้จริง กับประสาทรับกลิ่นได้ เป้าหมายสูงสุดของฉันไม่ใช่การตีแผ่เปิดเผยพลัง ของมันหรือควักหัวใจแห่งปริศนาของมันออกมา แต่เป็นการช่วยให้ทกุ คน ที่สงสัยใคร่รู้และปรารถนาที่จะใช้ชีวิตอย่างเต็มที่เข้าถึงมันได้อย่างลึกซึ้ง ยิ่งขึ้น เราจะส� ำ รวจชี วิ ต ลั บ ของกลิ่ น โดยมี ก ลิ่ น ซิ น นามอน มิ น ต์ แฟรงคินเซนส์ อ�ำพันทะเล และมะลิเป็นสื่อน�ำทาง บนเส้นทางนี้ เราจะ ได้แวะห้องท�ำงานของฉัน เป้าหมายไม่ใช่เพื่อฝึกฝนให้คุณเป็นนักปรุง น�้ำหอม (เว้นแต่ว่าคุณสนใจ!) แต่เพื่อแนะน�ำหัวใจส�ำคัญของศาสตร์เรื่อง กลิน่ การรูว้ ธิ เี ล่นเครือ่ งดนตรีแม้เพียงเล็กน้อยอาจช่วยให้คณ ุ เพลิดเพลิน กับดนตรีได้มากขึ้น การเรียนวิชาประวัติศาสตร์ศิลปะก็ท�ำให้คุณชม พิพิธภัณฑ์ได้สนุกขึ้น ในท�ำนองเดียวกัน หากคุณได้เรียนรู้พื้นฐานการ ปรุงแต่งกลิ่น คุณจะยิ่งเข้าใจจักรวาลของกลิ่นได้ลึกซึ้งขึ้น ฉันจะแบ่งปัน สูตรน�ำ้ หอมปรุงง่าย รวมถึงส่วนผสมทีก่ นิ ได้ ดืม่ ได้ และมีประโยชน์ ซึง่ จะ เผยความเป็นไปได้อนั แปลกใหม่ในการสร้างสรรค์และสนุกไปกับกลิน่ หอม

34

Fr agr ant


M a n d y A f t el

35


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.