การก้าวไปถึงจุดที่คุณต้องการ Getting where you want to be ปฐก 24:1 - 58 1 ฝ่ายอับราฮัมก็ชราแล้ว มีอายุมากทีเดียว และพระเจ้าทรงอํานวยพระพรอับราฮัมทุกประการ 3 แล้วเราจะให้เจ้าสาบาน ในพระนามพระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์ และพระเจ้าแห่งพิภพ โลก ว่าเจ้าจะไม่หาภรรยาให้บุตรชาย ของเราจากบุตรหญิงของคนคานาอัน ที่เราอาศัยอยู่ ท่ามกลางเขานี้ 4 แต่จะไปยังประเทศและหมู่ญาติของเราเพื่อหาภรรยา คนหนึ่งให้แก่อิสอัคบุตรชายของเรา" 5 คนใช้ก็เรียนท่านว่า "เผื่อหญิงนั้นอาจจะไม่ยอมมากับข้าพเจ้ายังแคว้นนี้ ถ้าเช่นนั้นข้าพเจ้ามิต้อง นําบุตรชายของท่านกลับไป ยังดินแดนซึ่งท่านจากมานั้นหรือ" 7 พระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์ ผู้ทรงนําเรามาจากบ้านบิดาเรา และจากบ้านเกิดเมืองนอน ของเรา พระองค์ตรัสกับเราและทรงปฏิญาณว่า 'เราจะมอบแผ่นดินนี้ให้แก่เชื้อสายของเจ้า' พระองค์จะทรงใช้ทูตของพระองค์ไปข้างหน้าเจ้า เจ้าจงหาภรรยาคนหนึ่งให้บุตรชายของเราจากที่ นั่น 12 เขาอธิษฐานว่า "ข้าแต่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของอับราฮัมนาย ของข้าพระองค์ ขอทรงประทาน ความสําเร็จแก่ข้าพระองค์ในวันนี้ และขอทรงสําแดงความรักมั่นคงแก่อับราฮัมนาย ของข้า พระองค์ 21 ชายนั้นเพ่งดูเธอเงียบๆ เพื่อตรึกตรองดูว่าพระเจ้าทรงให้การเดินทาง ของตนบังเกิดผลหรือไม่ 1
49 บัดนี้ถ้าท่านยอมแสดงความภักดีและจริงใจต่อนายข้าพเจ้าแล้ว ขอกรุณาบอกข้าพเจ้า ถ้ามิ ฉะนั้นก็ขอบอกข้าพเจ้า เพื่อข้าพเจ้าจะหันไปทางขวาหรือทางซ้าย" 53 แล้วก็นําเอาเครื่องอาภรณ์ ซึ่งทําด้วยเงินด้วยทองออกมา พร้อมกับเสื้อผ้ามอบให้แก่เรเบคาห์ เขายังมอบของอันมีค่าให้แก่พี่ชายและมารดาของเธอด้วย 58 เขาทั้งสองก็เรียกเรเบคาห์มาหาและพูดกับเธอว่า "เจ้าจะไปกับชายคนนี้หรือไม่" เธอตอบว่า "ฉันจะไป" • ขอต้อนรับพี่น้อง และผู้มีเกียรติ อีกครั้ง ที่ท่านได้มาร่วม ในการพัฒนาชีวิต ร่วมกัน • เรากําลังอยู่ในโครงการ พัฒนาตนเองเพื่อ 10 ปีข้างหน้า คือปี 2020 โดยการวางรากฐาน
ชีวิต ในปีนี้คือ 2011 ใน 7 ด้านหลัก • อาทิ 1. การเงิน 2. ครอบครัว 3. ความสัมพันธ์ 4. การทํางาน 5. สุขภาพ 6. สังคม 7. จิตใจ 8. และคุณภาพในจิตญาณ ของเรา 2
• ความตั้งใจของ คจ. เราคือ ในปีนี้ พวกเราจะไปถึงเป้าหมายที่หวังไว้ และเราจะช่วยเหลือ
กันและกัน หนุนใจให้พวกเราไปถึงฝั่งฝัน • การที่เรากําหนดอนาคตไว้ สิบปี ข้างหน้านั้น เพื่อให้เรามองเห็นวิถีการดําเนินชีวิต มีวิสัย ทัศน์อย่างชัดเจน เพื่อก้าวไปสู่ความเติบโตของ คจ. เราครับ • • • • • •
ไม่มีอะไรมีพลังเท่ากับ การจดจ่อ.. เหมือนแสงที่ส่องมาหาเรา แสงที่ไม่สามารถ Focus เป็นสิ่งที่ไม่มีพลัง แต่ถ้าเรามีการ FOcus ของแสงเหมือนแว่นขยาย จะมีความร้อน เหมือนแสงเลเซอร์ที่ส่องตรงเข้าไปยังเนื้อร้าย ฆ่าเนื้อร้ายนั้นได้ทันที ชีวิตก็เช่นกันยิ่งเรามุ่ง ตรงจุดเท่าไหร่ ผลดีก็จะตามมาเท่านั้น • ในตอนก่อน ๆ เราได้พูดถึงเรื่อง ความใฝ่ฝัน การมีวิสัยทัศน์ การมีเป้าหมาย ในพระธรรม ปฐก. 24 ที่เราสามารถนํามาประยุกต์ใช้กับชีวิตเราได้ในยุคปัจจุบัน ทั้งในเรื่องการก้าวไปสู่ เป้าหมายสุขภาพที่สมบูรณ์ ความสําเร็จในการงาน ครอบครัวและการเงิน และในทุก ๆด้าน ของชีวิต • พระธรรม ปฐก. 24 มีคําว่า สําเร็จ อยู่ 5 ครั้ง • เป็นตอนที่ อับราฮัม มีบุตรชื่อ อิสอัคพระเจ้าสัญญากับเขาว่า จะให้เขาเป็นบิดาแห่ง ประชาชาติ และมีบุตรชื่อ อิสอัค ซึ่งเขาส่งผู้รับใช้ไปหาภรรยา ให้อิสอัคถึงอีรัก โดยเอลีซา ได้ทําตามสิ่งที่ถูกต้อง ในการไปหาว่าที่ภรรยาให้กับบุตรชายของเจ้านายตน 3
• เป็นตอนที่มีความสําคัญ เพราะเป็นเหตุการณ์ที่ อับราฮัม กําลังส่งต่อไปสู่ทายาทรุ่นที่ 2 ซึ่งใน
เวลาต่อมา กลายเป็นต้นตระกูลขอชนชาติอิสราเอล ซึ่งถัดมาอีก 14 Gener •
เราต้องรู้อะไรบ้าง => เพื่อเราจะก้าวไปสู่จุดแห่งความสําเร็จ 1.
รู้จุดเริ่มต้นของตนเอง (รู้เรา) Determine your present position.
• ถ้าเราอยากรู้ที่ ๆเราอยากจะไป เราต้องรู้ก่อนว่า ตอนนี้เราอยู่ทีไหนเราต้องรู้ตําแหน่งที่เรา • • • • • •
ยืนอยู่ เมื่ออาทิตย์ที่แล้วผมนัดเพื่อนที่ร้าน Starbuck ที่ Central World ที่เปิดใหม่ ผมดูแผนที่ และ แผนที่จะมีจุดบอกว่า คุณอยู่ที่นี้ .. และร้่าน Starbuck ต้องเดินไปต่ออย่างไร คนจํานวนมากที่ไปไม่ถึงฝัน เพราะไม่รู้สภาวะของตนเอง ไม่ว่าจะมาจากการไม่รู้จริง ๆ ,การไม่ยอมรับ หรือการเข้าใจผิดก็ตาม เมื่อวานศุกร์ที่ผ่านมา ผมไปออกกําลังกาย โดยการเล่น Fitness โดยไม่ได้เล่นมาแล้วเป็นปี ใส่เต็มที่เลย ทําให้เมื่อวานนี้แขนยกแทบไม่ขึ้น ตอนนี่้ก็ยังเป็นอยู่ เพราะไม่รู้ตนเอง เรารู้จักตนเองดีกว่า เข้า NEt เมื่อไหร่ เล่น Game ตลอด เราต้องทํางาน หรืออ่านหนังสือ ก่อน ที่เราจะเล่น Game เป็นต้น เป็นเร่ืองของการรู้จักตนเอง 4
• เรารู้ว่า ถ้าเราหิว เราจะโมโห เราต้องไม่ปล่อยให้เราหิว • หรือเรารู้ว่าเจอคนนี้ เราจะทะเลอะกันตลอด เราจะหลีกเลี่ยง • หรือเรารู้จักทีมงาน, หัวหน้าของเรา, ผู้ร่วมงานของเรา • บางคนโดนเจ้านายตําหนิ ตลอด ก็เพราะลึกที่สุด ไม่รู้จักตัวเอง ว่าทํางานที่เจ้านายสั่งไม่ได้
•
•
• •
หากมัวไปปล่อยตัวเอง เราก็จะรีบทําบางอย่างให้เสร็จ ตามที่เจ้านายบอกก่อน ที่เราจะเผลอ ตัวเองไปทํางานอื่น มี 2 คําถามที่ต้องถามตัวเอง คือ o 1 ฉันเป็นอย่างไร นิสัยฉันเป็นอย่างไร, คนพูดถึงฉันว่าอย่างไร, สุขภาพ,ความรู้,การ เงิน, การทํางาน o 2 ฉันอยากเปลี่ยนแปลงอะไร สําหรับคําถามแรก คําตอบคือ รู้ว่าฉันอยู่ที่ไหน คือ ! การที่เรารู้สถานะการเงินปัจจุบัน, ทํางานอะไร ,รายได้เท่าไหร่ ! ภาวะอารมณ์ และจิตใจเป็นอย่างไร ! ความสัมพันธ์กับคนต่าง ๆ เป็นอย่างไรบ้าง ดี หรือแย่ ! ชีวิตฝ่ายวิญญาณ สิ่งที่ทําอยู่ ณ ปัจจุบัน แล้วค่อยถามตัวเองต่อว่า แล้วอยากเปลี่ยนแปลงอะไร พระเจ้าได้สัญญากับอับราฮัมว่าจะให้เป็นบิดาของบรรดาประชาชาติ แต่เขารู้ว่าเขาแก่ใจว่าจะ มีบุตร แต่ด้วยเขาเชื่อว่าเขาจะได้เป็นบิดา เขาจึงต้องทําอะไรสักอย่างเพื่อให้มีลูก
5
• นี่แหละครับจึงเป็นจุดที่ คจ. เราถึงต้องวางแผนไว้สําหรับอนาคต เพื่อที่ให้พวกเรามีกุญแจใน
การดําเนินชีวิตเพื่อก้าวไปสู่อีกสิบปีข้างหน้าร่วมกันได้ตามนิมิต • • อับราฮัม เมื่อมีบุตร เขาก็รู้ว่าเขาจะได้เป็นบิดาของคนมากมาย เขาจึงคิดว่า ลูกชายของเขานี่
แหละที่จะขยายพงษ์พันธุ์ต่อ ๆ ไปอีก เขาจึงต้องลงมือทําบางอย่าง เพื่อให้นิมิตนั้นเป็นจริงดัง ที่พระเจ้าบอกเขา • • หลายท่านอาจคิดว่า ฉันแก่เกินที่จะมีเป้าหมายชีวิตแล้ว อย่าลืมว่า อับราฮัมตั้งความหวัง
เมื่อตอนอายุ 115 ปี หรือจะมีอายุมากกว่านั้นก็ยังต้องรักษาเป้าหมายนั้นไว้ครับ ไม่ว่าเรา จะอายุเท่าไหร่ เกษียณหรือไม่ เราจําเป็นต้องมีความหวัง มีเป้าหมาย เพราะถ้าเราไม่มี เราก็ เหมือนคนที่ไม่มีชีวิต และก็ดําเนินชีวิตไปอย่างนั้นไม่มีแก่นสารใด • • ไม่ต้องสนเลย ตราบใดที่มีชีวิตมีลมหายใจ หัวใจยังเต้นให้เลือดเราสูบฉีด • เราต้องมีความหวังอยู่เสมอครับ
6
2. •
•
รู้ความต้องการของตนเอง Describe exactly what you want
เขียนลงบนกระดาษติดผนังเลยสําหรับเป้าหมายในอีก 10 ปีข้างหน้า ดั่งอับราฮัมบอก เจาะจงถึงลักษณะลูกสะใภ้ ที่ตนต้องการอย่างละเอียดชัดเจน ว่าอยาก ไม่อยากได้ อะไรบ้าง อับราฮัมได้วาดภาพอนาคตไว้สําหรับผู้รับใช้ของเขา เอลีซา เพื่อให้ไปตามหาสิ่งที่เขา ต้องการ และระบุด้วยว่าเขาไม่ต้องการแบบไหน
• •
3 .. ว่าเจ้าจะไม่หาภรรยาให้บุตรชาย ของเราจากบุตรหญิงของคนคานาอัน ที่เราอาศัยอยู่ ท่ามกลางเขานี้ 4 แต่จะไปยังประเทศและหมู่ญาติของเราเพื่อหาภรรยา คนหนึ่งให้แก่อิสอัคบุตรชายของเรา"
• • • • • • • •
หรือเราเรียกว่า เป้าหมาย : HopeFarm ของเราตั้งเป้าหมาย ว่าเราจะมี 3 อย่างคือ เป็ดเทศ เรามี มะเขือเทศ และมะขามเทศ และมันเทศ อะไรเทศได้ เราปลูกหมด
7
•
ผมมีความลับเด็ดเพื่อช่วยให้เราไปถึงเป้าของเราได้ครับ จะไม่มีพลวัตรใดเกิดขึ้นถ้าเราไม่ ระบุสิ่งที่เราต้องการ และเราไม่ต้องการไว้ล่วงหน้าในอีกสิบปีข้างหน้า เราต้องประกาศให้ ชัดเจนเพื่อจะได้เห็นความก้าวหน้าครับ
เพื่อไปให้ถึง จึงมีคําถามอยู่ 3 คําถามให้ตอบ ประการแรก คือ ต้องถามตัวเราเองว่า อีก 10 ปีคุณอยากเป็นอะไร ข้อนี้ สําคัญที่สุดครับ To BE! : คิดถึง พูดถึงตลอดเวลา เราโดยส่วนใหญ่ คิดถึง พูดถึงตลอดเวลา ในบางเรื่องไม่ 1 ใน 2 เรื่องนี้ คือ 1. สิ่งที่เราไม่อยากมี ไม่อยากเป็น ไม่อยากได้ 2. สิ่งที่เราอยากมี อยากเป็น และอยากได้
8
สมองและชีวิต ของเราไม่เข้าใจคําว่าไม่ เพื่อเราคิดถึงเรื่องอะไรมาก ๆ เราก็จะได้สิ่งนั้น ไม่ว่าเราจะอยากมี หรือไม่อยากมีก็ตาม สิ่งที่เราเพ่งความสนใจไป ก็จะโตขั้น เรามีโครงการ Hope City ที่เราจะสร้าง คริสตจักร พร้อม ๆ กับการสร้าง ชุมชน Hope City ไปด้วย Hope City สิ่งนี้จะมีอะไรบ้าง ผมได้เขียนมาแล้ว 15 ประการ
HOPE PLEX year 2015 เราต้องการมีภายใน 2015 หรือ 4 ปีข้างหน้านี้ Idea on 5 Rai.. : 2,000 ตรว/ = 8,000 ตรม. 1. House : 30 ตรว. 30 หลัง = 3,600 ตรม. 2. Conference Room 1,000 Seats 2 ชั้น => Office Plus หางดง 500 sqv. ภายในประกอบด้วย 1. Food Court : 3. Coffee Room : 9
4. Fitness : 5. Pool : 6. Garden : 7. Play Ground : Concert,Drama,Event : 8. Kid Zone : 9. Tutor Conner : 10. Studio : 11. Dance Place : 12. Bat Court : 13. Library : 14. Car Park for 300 cars : 15. ร้่านทําผม 16. Hop Farm Shop เรามีเป้าหมายว่า จะมีคนมาซื้อที่ดินที่นี้ จํานวน 50 คน ๆ ละ อย่างน้อย 30 ตรว. รวม เป็น 1,500 ตรว. หรือ = ในราคาเพียง 600,000 บาท รวม บ้านอีก เป็น 1.2 ล่้านบาท ท่านจะได้บ้านประมาณนี้ 3.75 ไร่ โดยเราจะเหลือสําหรับ ส่วนกลาง 1.25 ไร่ ผ่อนเพียง เดือนละ 4,900 บาท/เดือน มีรูปให้ดู โดยตอนนี้ มีคนซื้อแล้ว 10 แปลง เหลืออีก 40 คน/แปลง เท่านั้น. ใครจะเอาบ้าง
ประการที่สอง คือ คุณจะต้องทําอะไร เพื่อจะให้เราได้ สิ่งที่เราอยากเป็น สําคัญรองลงมา To DO! ประการที่สาม คือคุณต้องมีอะไร อะไรที่ตอนนี้ไม่มีแต่อยากมีในอีก 10 10
ปีข้างหน้า เช่น อยากมีงานใหม่ เป็นงานแบบไหน หรืออยากลดน้ําหนัก เพราะอะไร จะใช้เวลานานเท่าไร To HAVE! ยิ่งเราอยากเห็นในอีก 10 ปีข้างหน้า ว่าจะเปลี่ยนอะไรบ้างมันก็ง่ายที่จะมุ่งไปสู่เป้าหมาย • ในทุก ๆ เป้าหมายล้วนมีคุณค่าในตัวเอง และมันก็สมควรได้รับรางวัลแห่งความสําเร็จเหมือน ที่พระเยซูบอกเราว่า งานทุกอย่างล้วนมีบําเหน็จ • ดั่ง เอลีซา ที่เดินทางไปหาคู่ครองให้อิสอัคอีกเมืองหนึ่งเพราะเขามีแรงจูงใจ 4 ประการนี้ • ตามคําถาม 4 ข้อ o 1 เขาอยากให้อิสอัคมีภรรยา o 2 เขาอยากทําให้อับราฮัม นายของเขาพอใจ o 3 เขาอยากทําให้พระประสงค์ของพระเจ้าสําเร็จ และ o 4 เพราะเขาจะได้รับรางวัล เขารู้ว่าเขาทําไปทําไม • ทําไมเราต้องรู้ว่าเราอยากเป็นอะไรน่ะหรือ ก็คนเราเวลาเจอช่วงเวลาแห่งความยากลําบาก ส่วนมากก็จะล้มเลิกความตั้งใจกันไปหมด เพราะไม่ได้ตั้งใจในเป้าหมายนั้นอย่างจริงจังเพียง พอ จึงละทิ้งไปเสีย • รู้ไหมครับว่าผมอยากเลิกล้มการนํา คจ. กี่ครั้งมาแล้วในรอบหลายปีที่ผ่านมา แต่ถ้าผมไม่ได้ มีเป้าหมายไว้อย่างชัดเจนและจริงจัง ถึงผมจะท้อบ้างแต่ผมก็ยังมีนิมิต และรักษานิมิตนั้นมา ถึงทุกวันนี้ครับ •
11
•
• • • •
อีกเหตุผลหนึ่งก็คือ เมื่อเราเจาะจงว่าเราตั้งเป้านั้นไปทําไม พระเจ้าจะทรงนําวิถีทางให้เราว่า เราควรทําอย่างไร หลายท่านอาจมีคําถาม ฉันจะทํามันแบบไหน จะเอาเงินที่ไหนไปทํา จะหาเวลาไปทําได้อย่างไร จะหาทางให้ได้รับการช่วยเหลืออย่างไร
• •
•
• •
แต่พระเจ้าเสนอให้เรามีทําถามว่า “ทําไม” เพราะนั่นเป็นแรงจูงใจที่สําคัญที่จะนําไปสู่วิธีที่จะ ดําเนินการเองครับ คนเรามักหาวิธีทําอย่างไร มักไม่สนว่า ทําไปทําไม ถ้าเราสนใจถึงว่าทําไมเราถึงทํา เราจะรู้ วิธีทํา เพราะการที่เรารู้ว่าเหตุผลว่าเราทําไปเพื่ออะไร เป็นแรงผลักดันให้เราก้าวไปสู่วิธีการ ขั้นตอนการทํา พี่น้องอาจจดลงได้ครับ ว่า.... การตั้งเป้าไว้นั้น ไม่ต้องกังวลว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร ที่พูดแบบนี้เพราะหลายคนเวลาจะตั้ง เป้าหมายก็มักตั้งปัญหาเป็นอันดับแรก แทนที่จะตั้งเป้าหมายแล้วค่อยเตรียมทางแก้ เรา กลับตั้งปัญหาแล้วค่อยหาเป้าหมาย ถ้าเรามัวคิดหาทางแก้ตั้งแต่ยังไม่ทันตั้งเป้าหมายเลย แล้วเมื่อไร่เราจะก้าวไปในอีกสิบปีข้างหน้าได้ครับ หรือถ้าเราอยากมีเสรีภาพทางการเงินใน สิ้นปีทศวรรษ หมดหนี้สิน หรือ อยากจะท่องเที่ยวและรับใช้พระเจ้าไปด้วย
•
12
เราก็ต้องตั้งเป้าไว้ แล้วจึงค่อยเตรียมหาวิธีแก้ปัญหา มาทีหลัง เราต้องลําดับให้ถูกต้อง •
•
สมัยเมื่อต้นทศวรรษที่หกสิบ จอห์น เอฟ เคนเนดี ประกาศที่มหาวิทยาลัยไรส์ในเมืองฮูสตัน รัฐเทคสัส และได้ประกาศเป้าหมายให้กับอเมริกา เขาบอกว่าจะให้คนไปอยู่บนดวงจันทร์ตอนสิ้นทศวรรษ เป็นการตัดสินใจที่เขาประกาศออก มา ทั้ง ๆ ที่คนมองว่ามันเป็นไปไม่ได้ทั้งทางวิทยาศาสตร์ ทางกายภาพ ทางการคํานวณ ความน่าจะเป็น หรือแม้กระทั่งวิวัฒนาการทางเทคโนโลยีสมัยนั้นที่ยังไม่มีการประดิษฐ์สิ่งใด ๆ เลย แล้วหลังจากที่ได้ประกาศออกมา ก็ค่อยหาทางแก้ไขไปทีละขั้น
• •
ถ้าเราพยายามแก้ปัญหาทุกอย่างทีเดียว เราจะไม่มีทางไปข้างหน้า ไม่มีทางก้าวไปแม้แต่ก้าว เดียวเลย
• •
ดังที่อับราฮัม บอกว่า ฉันรู้ว่าฉันอยู่จุดไหน ฉันแก่แล้ว และลูกชายของฉันก็ยังไม่มีภรรยา เขา บอกให้ “เอลีซา ข้าต้องการให้ท่านไปยังเมืองเกิดของข้าในอีรัก และที่นั่นข้าต้องการสิ่งนี้และ ไม่ต้องการสิ่งนั้น. เขาระบุไว้ว่าเขากําลังต้องการอะไร
• •
เอลีซา ผู้รับใช้ของอับราฮัมก็วิตกขึ้นมาทันที กังวลและเริ่มสงสัย เขาวิตกและก็หวาดกลับ ใน ข้อ 5 กล่าวว่า “คนรับใช้ถามอับราฮัม 13
• • • •
ถ้าหญิงนั้น (คนที่ให้เขาไปค้นหา) ไม่เต็มใจที่จะละทิ้งบ้านเมืองของนาง (ในอีรัก) ไม่ยอมกลับมากับข้า (คนแปลกหน้า) มายังเมืองของเรา (เพื่อจะแต่งงานกับชายที่นางไม่เคยพบมาก่อนเลย)
• •
ผมอยากให้เราวงกลมคําไว้ สอง คํา ครับ คือ “ถ้า” เป็นคําที่ทําให้นิมิตนั้นมาถึงล่าช้าลง เพราะเรามัวแต่กังวลจนไม่ทําอะไร ไม่ยอมก้าวไปข้างหน้าเลย ความกังวลและความกลัว ทําให้เราท้อตั้งแต่ยังไม่เริ่มด้วยซ้ํา
• •
การตั้งเป้าหมาย แล้วตัดสินใจเลือกทํา และแก้ปัญหาต่าง ๆ เป็นขั้นตอนที่ทําให้ งาน/ชีวิตก้าวไปข้างหน้า ถ้ามัวคิดแต่ปัญหาที่จะเกิดขึ้นก่อน งานก็ไม่มีทางเดิน
เราต้อง ... รู้ความต้องการของตนเอง Describe exactly what you want โดยไม่ต้องมีคําว่าถ้า ...
14
3.
รู้พระสัญญาจากพระเจ้า Detect a promise from God
• ผมอยากหนุนใจให้พี่น้องแสวงหาพระสัญญาที่พระเจ้าทรงประทานให้เราเพื่อไปสู่นิมิต เข้า
หมาย และความใฝ่ฝันของเรา • ในไบเบิลบันทึก พระสัญญาของพระเจ้าไว้ กว่า 7,000 สัญญา โดยกล่าวว่า เราจะได้รับ o ความปลอดภัย o ความมั่งคั่ง o ความสําเร็จ o ความมั่นคง o พละกําลัง o สติปัญญา และอีกนับไม่ถ้วน • พระองค์ปรารถนาให้เราไว้วางใจในพระองค์ •
เพราะความไว้วางใจ เป็นเงื่อนไข ของการรับตามคําสัญญา
• •
•
พ่อทุกคนเข้าใจจุดนี้ดีครับ ผมอยากให้ลูก ๆ เรียนรู้ที่จะไว้วางใจในตัวผม ไม่อะไรทําให้ผมมี ความสุขและพอใจ ดีใจได้เท่านี้ครับ เมื่อลูก ๆ พูดว่า “ถ้าพ่อว่าอย่างไร ลูกก็เชื่ออย่างนั้นครับ/ค่ะ
15
•
•
•
แม้ลูกไม่เข้าใจเท่าไหร่ และก็ไม่ค่อยมีโดนใจลูกนะ แต่ลูกเชื่อพ่อ เชื่อในความคิดของพ่อ” เช่นกันเมื่อเราเชื่อสติปัญญาจากพระบิดาในสวรรค์ และพระองค์ทรงตรัสว่า ถ้าเราทําอย่าง นี้...พระองค์จะทรงให้บําเหน็จรางวัลแก่เรา พระองค์ให้รางวัลในความไว้วางใจที่เรา แสดงออกมา รางวัลกว่า 7,000 ชิ้นตามสัญญาของพระองค์ที่บอกไว้ในไบเบิล ตอนที่ผมแต่งงาน และกลับบ้านไป แกะของขวัญแต่ละชิ้นที่ เพื่อน ๆ และคนที่รักให้มา เราก็ ตื่นเต้นว่าจะมีอะไรบ้าง เพราะเป็นการรับของขวัญเต็มไปหมด มากที่สุด ที่เคยรับมาตลอด ชีวิต เมื่อเรามาเดินกับพระเจ้า มารู้จักพระองค์ นั้น มีของขวัญเตรียมให้เรามากมาย เช่นกัน
• •
ที่เราต้องทําก็คือ ค้นหาพระสัญญานั้น และยึดไว้ในความหวังใจว่าจะเกิดขึ้นและนําไปสู่ความ ฝันเป้าหมายตามนิมิตในอีกสิบปีข้างหน้าของเรา
• •
ณ จุดนี้ เราไม่ต้องไปกังวลเรื่องปัญหาอะไร ไม่ปัญหาใดติดตามเราไปถึงจุดหมายปลายทาง หรอกครับ ถ้าเรายึดมั่นในพระสัญญาของพระเจ้าไม่มีปัญหาใดหนักหนาเลย เพราะเรามองไป ยังเป้าที่พระเจ้าจะทรงช่วยเรา พระองค์ไม่ได้ช่วยให้ปัญหาเราครับ การที่เราไม่ก้าวไปข้าง หน้าก็เพราะเรามองแต่ปัญหา แต่ถ้าเรามองพระสัญญาของพระเจ้า เราจะก้าวข้ามผ่านอุป สรรค์ต่าง ๆ ไปได้และไปถึงฝั่งฝันในที่สุด
•
16
•
อับราฮัม บอกกับเอลีซา ไม่ให้มีความกลัว ว่า เพราะพระเจ้าทรงสัญญาไว้ว่าเขา (อับราฮัม) จะได้รับพระสัญญาให้เป็นบิดาแห่งบรรดาประชาชาติ เขาจึงให้อิสอัคมีภรรยา อับราฮัมได้ กล่าวใน่ข้อ 7 ว่า
• •
•
•
• •
•
“พระเจ้านําข้ามาจากดินแดนแห่งบ้านเกิดเมืองนอนของข้า พระองค์ทรงบอก ข้าว่าจะให้ทูตสวรรค์นําหน้าข้า ดังนั้นข้าจะได้ภรรยาที่จะเป็นมารดาของบุตร ชายของข้า” คุณคิดว่าเราต้องมีความมั่นใจสูงมาก ๆ ถ้าพระเจ้าบอกว่า ทูตสวรรค์จะนําหน้าเราในการ ทํางานชิ้นนี้ ใช่ครับ ถ้าพระเจ้าพูดแบบนั้น ก็คือแบบนั้นจริง ๆ มั่นใจเถอะครับ แต่เราไม่ต้องการทูตสวรรค์ครับ ทําไม่น่ะหรือ ก็เพราะตอนนี้พระเจ้าได้บอกเราในพระคัมภีร์ เป็นโหล ๆ เลยว่า พระองค์จะทรงสถิตอยู่กับเรา จะไปกับเราทุกที่ที่เราไป เราอาจไม่สัมผัสถึงการทรงสถิตของพระเจ้า แต่ไม่มีเวลาใดเลยในชีวิตของเราที่พระเจ้าไม่ได้อยู่กับเรา เหมือนไฟฟ้า ที่มาตามสาย เรา อาจไม่รู้สึก แต่มันมีไฟฟ้าอยู่จริง ๆ เราต้องเสียบปลักและรู้ว่า ความจริงคือ เราไม่เคยอยู่ลําพัง พระเจ้าอยู่กับเราในอนาคตด้วย พระองค์รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเรา พระองค์เคยผ่านเรื่องราวต่าง ๆ ในชีวิตมาก่อนเรา พระองค์ไม่ทรงประหลาดใจหรือตื่นกลัว พระเจ้าออยู่กับเรา ณ จุดนี้ ในวันนี้ เพียงแต่เราไม่ได้ หันหน้าเข้าหาพระองค์เท่านั้นเอง
17
•
•
ยิ่งคุณจดจ่อกับพระเจ้ามากเท่าไหร่ เป้าหมายของคุณก็จะใหญ่เท่ากับการจดจ่อของคุณครับ ถ้าคุณมีพระเจ้าผู้ทรงใหญ่ยิ่ง เป้าหมายของคุณก็จะยิ่งใหญ่ ผมเองไม่ได้เพิ่มความเชื่อให้ตัวผมเอง แต่ผมเพิ่มความเชื่อในพระเจ้าและพระสัญญาของ พระองค์ และพระสัญญาของพระองค์ก็ไม่ได้เรียกร้องอะไรกลับคืนจากผมเลยด้วย
• •
•
ผมสามารถคิดสิ่งใหญ่ ๆ ได้ พระเจ้าทรงบอกว่า ผมสามารถไปถึงยอดเขานั้นได้ เราให้ พระเจ้ายิ่งใหญ่เท่าไรในชีวิตเราเป้าหมายของเราก็จะยิ่งใหญ่ได้ตามความยิ่งใหญ่ที่เราคิดว่า พระเจ้าทรงเป็นครับ เรารู้ว่าเราทําไม่ได้แต่เราก็รู้ดีว่าพระเจ้าทําได้โดยยึดพระสัญญาของ พระองค์ที่ให้เราไว้กว่า 7,000 ข้อ Bible นั่นมีอยู่
Howard Stephen Berg is acknowledged in the 1990 Guinness Book of World Records as the "Fastest Reader in the World" for reading more than 25,000 words a minute •
15.นั้นคือ อ่าน BB จบได้ในเวลา 30 นาที เราเองก็ฝึกฝน และทําได้ โดยอาจเริ่มที่ อ่าน BB จบภายใน 30 วัน
18
4.
รู้ว่าต้องขอความช่วยเหลือจากพระเจ้า Ask God for help.
• 12 เขาอธิษฐานว่า "ข้าแต่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของอับราฮัมนาย ของข้าพระองค์ ขอทรง
ประทานความสําเร็จแก่ข้าพระองค์ในวันนี้ และขอทรงสําแดงความรักมั่นคงแก่อับราฮัมนาย ของข้าพระองค์ • • ปัญหาเราไม่ใช้เราไม่ขอความช่วยเหลือใคร แต่เราขอจากใครต่างหาก • ถ้าเราขอได้ถูกต้อง เราก็จะได้รับคําตอบ • ถ้าเราขอผิด เราก็อาจไม่ได้รับแนวทาง และแย่กว่านั้นคือ สิ่งที่เราได้รับอาจต้องเกิดปัญหา
ตามมาอีกมากมาย • • ในตอนที่เราไปค่ายความรัก รถเราก็หาโรงแรม ถามไปเรื่อย ๆ คนนั้นบอกเราผิด ก็หลงอยู่
นานทีเดียว • • ชีวิตนี้มีหลายเรื่องที่อาจส่งผลต่อเรามากกกว่าการหาโรงแรม ไม่ว่าจะเป็นการเลือกงาน, การ
เลือกเรียน ,การหาครอบครัว,การแก้ไขปัญหาธุรกิจ • • ผมขอความช่วยเหลือจาก G เสมอ ในเร่ืองต่าง ๆ ไม่ว่า ครั้งหนึ่งตอนซื้อที่ดินแปลงแรกใน
ชีวิต เป็นช่วงที่ตัดสินใจลําบาก ราคา 500,000 บาท ผมก็ขอพระเจ้าช่วยเหลือ ทําให้ได้คํา 19
ตอบ และเมื่อซื้อแล้วก็ขายไปในราคา 900,000 บาท ได้กําไร 400,000 บาทภายในเวลา เพียง 1 ปี • • • • • • • • •
เราต้องขอความช่วยเหลือ จากผู้ที่ช่วยเราได้ เราจึงเรียก G ว่า เป็นพระผู้ช่วย ช่วยให้รอด รอดจากความตาย คนในโลกนี้ มีแต่การที่ต้องตอบแทนเสมอ ขอพระเจ้าช่วยให้เราไปถึงความใฝ่ฝันถึงเป้าหมายนิมิต ดังในข้อ 12 กล่าวว่า 12 เขาอธิษฐานว่า "ข้าแต่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของอับราฮัมนาย ของข้าพระองค์ ขอทรง ประทานความสําเร็จแก่ข้าพระองค์ในวันนี้ และขอทรงสําแดงความรักมั่นคงแก่อับราฮัมนาย ของข้าพระองค์ • มีคนถามว่า การอธิษฐานขอความสําเร็จ ทําได้หรือ ในพระคัมภีร์ มีบันทึกไว้ อย่างชัดเจน ครับ จะมีทางเลือกอื่นใดอีกล่ะครับพระเจ้าประสงค์ให้เรา เป็นอย่างที่พระองค์ทรงสร้างให้เรา เป็น และพระองค์ประสงค์ให้เราพัฒนา ตะลันความสามารถ ที่พระองค์ให้เรามาด้วย เพื่อให้ เป็นพรแก่กันและกัน พระเจ้าไม่ประสงค์ให้เราเป็นคนเห็นแก่ตัว หรือเอาตนเองเป็น ศูนย์กลาง • ลองคิดดู ถ้าเราประสบความสําเร็จ นอกจากเป็นการช่วยเหลือผู้อื่นแล้ว ยังเป็นการถวาย พระเกียรติพระเจ้า เรามาอธิษฐานขอความสําเร็จกันเถิดครับ 20
•
ฮีบรู 4 กล่าวว่า16 ฉะนั้นขอให้เราทั้งหลาย จงมีใจกล้าเข้ามาถึงพระที่นั่งแห่งพระคุณ
เพื่อเราจะได้รับพระเมตตา และจะได้รับพระคุณที่จะช่วยเราในขณะที่ต้องการ • ในข้อ 12 เอลีซา อธิษฐาน ก่อนออกเดินทาง ในข้อ 15 เขาอธิษฐาน เมื่อมาถึง อิรัก ในข้อ 52 เขาอธิษฐาน ต่อหน้าครอบครัว ของลีเบกกา ว่าให้พระเจ้าเร้าใจนางให้ติดตามเขากลับ ไป • ผมมีคําถามพื้น ๆ สองคําถามครับ ว่า o คุณได้อธิษฐานเพื่อเป้าหมายของคุณหรือไม่ o คุณอธิษฐานเพื่อความฝันของคุณ o เพื่อนิมิตของคุณหรือไม่ แล้วคุณได้คุยกับพระเจ้าในเรื่องเหล่านี้หรือเปล่า •
1. 2.
การอธิษฐานเปิดเผย 2 สิ่ง แสดงถึงความจริงจังให้ความใฝ่ฝันของคุณ แสดงถึง ว่าคุณไว้วางใจพระองค์เพียงใด
21
5. • • • • • •
รู้ว่าอะไรคืออุปสรรค (ที่ขัดขวางเราอยู)่ Identify the barriers.
การตรวจสภาพรถขั้นสุดท้าย คือความสามารถในการหาปัญหา และจุดบกพร่อง แบ่งเส้นระหว่างคุณและเป้าหมายของคุณ คุณและนิมิตของคุณ คุณและความฝันของคุณในอีก 10 ปีข้างหน้า ถามตัวคุณเองว่า ทําไมเราถึง
• • • •
ไม่เป็น : To BE! น่าจะเป็น แต่ไม่ได้เป็น หรือเป็นอย่างอื่น ไม่ทํา : To Do! น่าจะได้ทําแต่ไม่ได้ทํา หรือได้ทําอย่างอื่น ไม่มี : To Have! น่าจะมีแต่ไม่มี
• • • • •
ในด้านต่าง ๆ ของชีวิตเรา อาทิ สุขภาพ : ทําไมเราถึงป่วยบ่อย เราไมเราไม่ Fit การเงิน : ทําไมเราไม่มีเงินเก็บ,ทําไมเราไม่เหลือที่จะช่วยคนอื่นได้ ทรัพย์สิน : ทําไมเรายังอยู่บ้านเช่า 22
• • • • •
การเรียน : ทําไมเราได้เกรดแค่ 2.3 ทําไมไม่ได้ 3.7 การทํางาน : ทํางานของขายไม่ออก, ทําไมเราคุมลูกน้องไม่ได้ ครอบครัว : ทําไมเรายังทะเลอะกันอยู่บ่อย ๆ ล่าสุดเมื่อเช้านี้ เด๊่ยวจะไป Clear ต่อช่วงบ่าย การรับใช้ : ทําไมเราไม่มีทีม, ทําไมเราไม่สดชื่น อื่น ๆ
• •
เอลีซา ได้เผชิญหน้ากับเส้นแบ่งเขตแดนที่เป็นไปได้ยาก คือ 1. เขาต้องไปในประเทศที่เขาไม่เคยไปมาก่อน เขาต้องหาวิธีที่จะเดินทางไปยังเมืองนั้น ได้อย่างไร 2. เขาต้องหาหญิงสาวคนที่ใช่สําหรับอิสอัคเพื่อแต่งงาน เขาต้องหาหญิงนั้นที่ไม่เคยพบ เจอมาก่อนและต้องหาวิธีให้เธอยอมเดินทางกลับไปพร้อมกับตนในฐานะคนแปลกหน้า ซึ่ง เธอไม่เคยไปประเทศนั้นมาก่อนและต้องแต่งงานกับชายที่เธอไม่เคยพบและ เอลีซา ยัง ต้องทําให้พ่อ แม่ของนางอนุญาติให้นางเดินทางไปแต่งงาน
• • • • •
ในข้อที่ 21 เขาพบปัญหาในการหาหญิงคนที่ใช่ ข้อ 21 ชายนั้นเพ่งดูเธอเงียบๆ เพื่อตรึกตรองดูว่าพระเจ้าทรงให้การเดินทาง ของตนบังเกิด ผลหรือไม่
• 23
• •
ข้อ 49 เขาก็พบปัญหาเรื่องความไม่ไว้วางใจจากพ่อแม่ของนาง 49 บัดนี้ถ้าท่านยอมแสดงความภักดีและจริงใจต่อนายข้าพเจ้าแล้ว ขอกรุณาบอกข้าพเจ้า ถ้า มิฉะนั้นก็ขอบอกข้าพเจ้า เพื่อข้าพเจ้าจะหันไปทางขวาหรือทางซ้าย"
•
•
ข้อ 58 เขาพบปัญหา หญิงนั้นไม่ไว้วางใจเขา หรือไม่เธอจะตามเขามาหรือไม่ 58 เขาทั้งสองก็เรียกเรเบคาห์มาหาและพูดกับเธอว่า "เจ้าจะไปกับชายคนนี้หรือไม่"?
•
สิ่งเหล่านี้ก็คือ
•
• •
•
• •
“ เขตแดนที่กั้น ระหว่างคุณและเป้าหมายของคุณ ” ให้เราเขียนบันทึกลงในกระดาษถึงเป้าหมายของเรา และพระสัญญาของพระเจ้าที่เกี่ยวข้อง กับเป้าหมายแต่ละข้อ ถ้าเป็นในยุคนี้อาจกล่าวได้ว่าเป็นเขตแดนปัญหาด้านการเงิน การศึกษา อารมณ์ความรู้สึก ความสัมพันธ์ เป็นต้น และความเชื่อ ที่แท้จริง เราไม่ได้ลืมความจริง แต่เราจะเอาความจริงที่ลึกซึ้งกว่า จาก Bible มาต่อให้ครบ
24
6. •
• • •
รู้วิธีการวางแผนทีละขั้น Create a step by step plan.
สิ่งที่ เอลีซาทําเป็นตัวอย่างทําให้เห็นเป็นขั้นตอนทีละขั้นสอนให้เราเรียนรู้ที่จะวางเป้าหมายใน ทศวรรษข้างหน้าอย่างมีแบบแผนทีละขั้น ๆ เพื่อให้เราไปสู่นิมิตเป้าหมายนั้น อย่าคิดว่าเราเป็นยักษ์ที่ก้าวเดียวก็ถึงจุดหมาย อย่าพยายามทําให้เสร็จในครั้งเดียว เราต้องทําเป็นขั้นเป็นตอนเพื่อไปสู่เป้าหมายครับ
• • • • • • • • •
โลกนี้ล้วนมีสิ่งธรรมชาติที่ทําให้เราเข้าใจได้ว่าทุกอย่างมีขั้นตอนเสมอ ไม่ว่าการเรียนแต่ละชั้น การเติบโตของร่างกาย การทํางาน ขั้นเงินเดือน การเดินทาง ขั้นตอนในการติดต่องานราชการ หรือการปลูกต้นไม้ เอลีซา เริ่มขั้นตอนแรกด้วยการวางแผนแบบง่าย ๆ ในมุมมองของผม คิดว่าเป็นแผนเด็ดที เดียวและมันก็ไปได้สวยด้วย
• •
25
• • • •
•
ตัวอย่างของ ทีมงานของ Ab คนนี้ก็ได้รับมอบหมายให้ไปหาภรรยา ให้ลูกของเจ้านาย ถ้าท่านได้รับมอบหมายให้ หาภรรยาให้เจ้านาย เราจะทําอย่างไร เขาเริ่มโดยเป็นขั้นตอน 1. การมองหาหญิงผู้ใจดีโอบอ้อมอารี มีใจแห่งการปรนนิบัติรับใช้ (เพราะเขารู้ว่าอับราฮัม เป็นซูปเปอร์มหาเศรษฐี) 2. ต่อมาเขามองหาหญิงที่เริ่มต้นมอบน้ําใจให้เขาก่อนโดยอธิษฐานให้หญิงนั้น เอาน้ําให้เขา ดื่มและให้อูฐของเขาด้วย (และเขาก็พบรีเบคา ที่ตักน้ําให้เขา) ตามที่เขาคิด และถ้าเธออาสา ตักน้ํามาให้อูฐของเขาด้วย นั่นแหละคือการนําของพระเจ้าที่จําชี้ให้เขาทราบว่า หญิงผู้นี้แหละ คือว่าที่ภรรยาของอิสอัค
• • • • •
•
•
เป็นอะไรที่สําคัญมาก ๆ และฉลาดมากในขั้นตอนของ ชายคนนี้ สําคัญตรงไหนครับ EX ก็ลองคิดดูว่า อูฐตัวหนนึ่งสามารถดื่มน้ําได้ 4-5 ถัง ถ้ามีอูฐสิบตัว เธอก็ต้องตักน้ําถึง 50 ถัง ถ้าแค่อาสาเอาน้ําให้เอลีซาดื่มเพียงคนเดียวก็ดีมากพออยู่แล้ว แต่นางยังตักน้ําจนครบ ห้า สิบ ถังเพื่ออูฐด้วย เขาไปทําอะไรตรงนั้น เขาก็อยู่ตรงนั้นเพื่อรอหญิงสาวผู้ใจดีนางนั้น ที่มีหัวใจแห่งการปรนนิบัต ให้แก่คนแปลกหน้าที่เดินทางมานับหลายไมล์กิโลเมตร เอลีซา ไม่ได้จะเป็นคนขอน้ําดื่ม แต่เขาขอให้นางเป็นคนถามเขา และถามให้เขาดื่มน้ํา และ ถามอาสาเอาน้ําให้อูฐของเขาดื่มด้วย 26
• •
ให้มาจากการอาสาของนางเอง เขามองหาหญิงสาวที่มีลักษณะเช่นนี้ และระหว่างนั้นก็มีนางเรเบคา ปรากฎขึ้นในข้อ 64 กล่าวในไบเบิล
• •
• •
ขั้นตอนแผนของเขาสําเร็จ เมื่อเขาพบกับหญิงตามรายการที่เขาวางไว้เป็นขั้น ๆ จากนั้นเขาก็ ให้แหวนทองคล้องจมูกแก่นางพร้อมกับสร้อยข้อมือใหญ่สองอันแก่นาง และถามนางว่า นาง เป็นลูกสาวของผู้ใด เขาถามว่ามีห้องนอนในบ้านเหลือให้เขาได้อาศัยในคืนนี้หรือไม่ เป็นแผนการณ์ทีละขั้น ๆ จนกระทั่งเขาได้รับเชิญไปยังบ้านของนาง ในที่สุดทุกอย่างก็เป็นไป ตามสิ่งที่วางแผนไว้
• •
เราต้องทําแบบเดียวกันนี้ด้วย
•
ไม่มีอะไรได้มา โดยไม่มีการวางแผน หรือการทําตามแผนอย่างเป็นขั้นตอน
• •
เราต้องคิดไปถึงขั้นตอนการปฏิบัติ และวางแผนเป็นขั้นสามขั้น กําหนดวันสิ้นสุด วางตาราง งานไว้ชัดเจน เพื่อให้ความตั้งใจนั้นเกิดขึ้นจริง ซึ่งเราควรถามตัวเอง สอง คําถาม คือ เราจะ ไปถึงจุดหมายที่ตั้งไว้ภายในทศวรรษนี้ได้หรือไม่ และจะไปได้อย่างไร คําถามที่สองคือ จะ ใช้เวลานานเท่าใด หรือ จะวางตารางงานไว้แบบใดเพื่อให้ในแต่ละปีนั้นนําทางไปสู่แผนการณ์ ในอีกสิบปีข้างหน้า 27
•
• • • • • • • •
มีการสัมภาษณ์คนไทย คนแรก ทีได้เดินทางพิชิตภูเขา เอฟเวอร์เรส ได้ สําเร็จก็เต็มไปด้วยแผนการหลากหลายขั้นตอน อาทิ การเตรียมร่างกาย การฝึกเดินทาง การเรียนรู้การใช้อุปกรณ์ การถามคนที่เคยไปมาแล้ว การเตรียมงบประมาณ การฝึกหายใจในที่ ๆ ออกซิเจนมีน้อย การรู้จักการปฐมพยาบาลตนเองเมื่อบาดเจ็บ อื่น ๆ นายวิทิตนันท์ โรจนพานิช
• •
• • • • •
เราก็เช่นกันในการวางแผนทีละขั้นเราต้องมีกําหนดเวลาที่เจาะจงมีตารางงาน ตารางเวลา เพื่อให้ใช้เวลาคุ้มค่า จนบรรลุเป้าหมายในอีก 10 ปีข้างหน้าว่าในแต่ละปี เราอยากทําอะไรให้ สําเร็จบ้าง การวางแผนอย่างเป็นขั้นตอน เราเรียกมันว่า เป้าหมายชีวิต มีการศึกษาของ Harvard University ว่าคนอเมริกัน 1. 95 เปอร์เซ็นต์ ไม่เคยเขียนเป้าหมายชีวิตให้ตัวเอง ส่วนอีก 2. 5 เปอร์เซ็นต์ พบว่าเป็นกลุ่มคนที่วางเป้าหมายอย่างชัดเจน วางระบบขั้นตอนไว้ล่วงหน้า คือกลุ่มคนอเมริกาที่มีรายได้สูงสุด 28
•
ทําไมเราหลีกเลี่ยงการวางแผน เพราะเป้นงานที่ยากที่สุด ใช้พลังงาน และจินตนาการมาก ที่สุด
• • •
• •
•
กฎช่างไม้บอกว่า “ วัดขนาด 2 ครั้ง จะทําให้ตัดเพียงครั้งเดียว ” มีชายคนหนึ่งต้องบาดปางตาย เพราะขึ้นไปตัดกิ่งไม้ โดยเตรียมมีดที่คมมาก และเล็งอย่างดี ว่าขึ้นต้นไม้อย่างไร มีบันใดขึ้น ให้คนจับไว้ เตรียมในวันที่ไม่มีฝน ไม่มีลม แต่ไปนั่งหันหน้าเข้าต้นไม้ และตัดกิ่ง พอตัดเสร็จตัวเองก็ตกลงมา ไม่เพียงแค่มีการวางแผนเป็นขั้นตอน ยังต้องวางแผนอย่างดีด้วย จึงจะสําเร็จ
• • • •
คนจํานวนหนึ่ง จึงล้มเหลวไม่เป็นท่า เพราะไปพลาดท่าในขั้นตอนสุดท้าย พระเจ้ามาเกี่ยวข้องตรงนี้ Bible บอก “ เมื่อพระเจ้าไม่ได้ เฝ้าเหนือนคร คนยามตื่นอยู่ก็เหนี่อยเปล่า ”
• • • •
เราต้องมีเวลา แต่ละช่วงของอาทิตย์ของเดือน ในการวางแผนการอย่างเป็นขั้นตอน นักกีฬาที่ได้ชัยชนะ คือคนที่วางแผนได้ดีที่สุด เราต้องมีโค้ช ที่ช่วยเราวางแผน เป็นขั้น ๆ 29
• • • •
เราจึงเรียก JC เป็นผู้เลี้ยงของเรา มีหลายคน ที่ปรึกษา ผู้เลี้ยง King..
•
• • •
เราต้องมีคนนําเราอีกทีหนึ่ง ปัญหาไม่ใช้ว่าเรามีผู้นําหรือเปล่า แต่ผู้นําเราเป็นใคร ใครที่คนที่เราไว้ใจ และเชื่อฟัง และยอมทําตาม ทําตามคําแนะนํา
• •
“ มีนักโทษคนหนึ่ง มาคุยโวให้แก่ นักโทษที่เข้ามาห้องขังใหม่ ๆ ว่า ทําอย่างไรจะไม่ติดคุก ”
• • • • • •
• •
Hu ไม่มีใครมีคุณสมบัติพอที่จะนําใครได้ ทุกคนเป็นคนบาป และเสี่ยมมาแล้ว เราไม่มีทางให้คนที่แพ้กีฬา มาเป็นครูฝึกของเรา หรือไม่มีใครเอา คนที่สอบไม่ติด มาเปิดโรงเรียนติวเพื่อเข้า Entrance วันนี้ ใครคือ คนที่ท่านเชื่อฟัง และฝากชีวิตเอาไว้ ในอีกสิบปีข้างหน้า ให้เราใช้เวลาเพียงสองถึงสามชั่วโมงนั่งคิด 30
•
และใช้เวลาอีกสองสามชั่วโมงในการอธิษฐานอย่างจริงจัง เพื่อเราจะไม่จมปรักอยู่อย่างทุกวัน นี้
ผมไม่ได้บอกว่ามันง่าย แต่ผมบอกว่ามันเรียบง่าย
• •
• •
•
คําว่าเรียบง่ายไม่ได้หมายถึงว่าง่ายนะครับ เรียบง่ายในที่นี้คือ กระจ่างชัด โดยระบุว่า ตอนนี้ เราอยู่จุดไหน และอยากไปถึงจุดไหน
มีคําถามว่า ทําไม่ถึงไม่ทําตอนนี้ซะเลยล่ะ ก็มีพระสัญญาให้เราเรียกร้องพระพรนี่นา ครับคนส่วนมากไม่ ค่อยเข้าใจ มันจะเป็นเป้าหมายชีวิตของเราถ้าเราเริ่มที่จะวางแผนไว้ เราสามารถเล็งเป้าหมายอนาคตของเราไว้ได้ พระเจ้าทรงให้เราเป็นผู้เลือก พระองค์ทรงตรัส กับเราว่า
• •
“มีทั้งพระพรและคําสาปแช่ง มีชีวิตและมีความตาย ดังนั้นให้เลือกที่จะมีชีวิต”
• • • • • •
แผนชีวิต ต้องเป็นแผนที่มีชีวิต และการมีชีวิต ก็ต้องรู้จักกับเจ้าของชีวิต การมีพระเจ้า เป็นผู้นําในแผนของเรา ทําให้แผนเรามีชีวิต แล้วนั่นจะกลายเป็นแผนชีวิตที่แท้จริง ไม่ใช้แผนที่ตายแล้ว แผนแห่งความตาย มีหนังเรื่องหนึ่ง มีเส้นทางที่เรียกว่า แผนสู่เส้นทางแห่งความตาย
•
31
• • •
ถ้าวันนี้เราอยากให้พระเจ้า มาเป็นโคช ประจําตัวของเรา มาฝึกฝนแก่เรา เราจะไม่ผิดหวัง ถ้าพระเจ้า ไม่ได้นําในแผนชีวิตของท่าน ก็เท่ากับ ท่านนําชีวิตสู่ความตาย โลกนี้ ล้วนแต่มีแต่แผนที่นําสู่ความตายทั้งสิ้น
•
7. • • • • • • • •
รู้ถึงการต้องอดทน รอคอย และจ่ายราคา Be patient, persistent and pay the price
นี่เป็นขั้นตอนที่หลายคนต้องพลาดพลั้งไป มีภาษิตไทย ที่สอนเราได้อย่างดีถึงคุณค่า และความจําเป็นในการอดทนรอคอย อย่าชิงสุกก่อนห่าม อดเปรี้ยวไว้กินหวาน ช้า ๆ ได้พร่าเล่มงาม ตําน้ําพริกละลาย แม้น้ํา เขียนเสือให้วัวกลัว.. เอ๋ยไม่ใช่
• • •
การทําอาหารให้อร่อย ก็ต้องใจเย็น ๆ เราจึงต้องมีความเข้าใจ ในสิ่งที่เราได้ตั้งเป้าหมายไว้ ว่าจะต้องมีช่วงเวลา รอคอยให้มัน เติบโต และพัฒนาขึ้น
32
•
• • •
•
•
•
•
•
ไม่ว่าจะเป็นการฝึกร่างกายให้แข็งแรง ผมเองได้มีปัญหาหนึ่งเรื่องสุขภาพ คือความดัน 150 กว่า และหลังจากไปหาหมอเมื่อ 4 เดือนที่แล้ว ก็ต้องอดทนออกกําลังกาย และงดหวาน จน ต้องใช้เวลากว่า 4-5 เดือน จนความดันเหลือ 132 การอดทนรอจึงเป็นเรื่องปกติ อดทนรอ สะสมเงิน ไม่ใช่เร่งรีบหางาน ที่เงินเดือนมาก ๆ จากหนังสือ The Millionare Next Door ต้องตกใจเมื่อการสํารวจเศรษฐีที่แท้จริง ที่มีเงินสด ๆ เกิน 10 ล้าน US หรือประมาณ 300 ล้านบาท ใน Bank เป็นคนธรรมดา ขับรถมือสอง , อยู่บ้านหลังเล็ก ๆ , อาชีพธรรมดา , บางคนก็เป็นชาวนา,บางคนเป็นคนขายของชําเล็ก ๆ การศึกษาไม่สูง และเมื่อเชิญมา คนที่เป็นผู้จัดงานทั้งหมด ก็แต่งกายอย่างโก้หรูกว่า มหาเศรษฐีเหล่านี้ โดย หลายคนก็ไม่กล้าทานอาหาร ที่มีการบริการไวให้ เพราะคิดว่าแพง แต่คนเหล่านี้ เหมือน ๆกันคือ ทํางานอาชีพเดียว มาเป็นเวลานาน , มีครอบครัวที่อบอุ่น และ ดําเนินชีวิตอย่างเรียบง่าย และที่สําคัญคือ คนเหล่านี้ มีน้ําอดน้ําทน ในการสะสมเงินเล็ก ๆน้อย ๆ ที่ได้จากการทํางาน มาอย่างสม่ําเสมอ มาเป็นเวลานาน พ่อ ของ อ หนิง นับเป็นตัวอย่างในการสะสมเงินได้อย่างดี จนสามารถมอบมรดก จํานวน มากให้แก่ลูก ๆ ทั้ง 2 คน ได้คนละหลายล้านบาท พ่อเคยบอกว่า ไม่เคยซื้อรถให้ตัวเอง แม้แต่คันเดียว เพราะไม่อยากเสียเงินเติมน้ํามัน , เคย แต่ให้คนอื่นยืมเงินซื้อรถมาเป็น 10 ๆ คันแล้ว 33
• •
• • • • • • • •
และซื้อ เมื่อมีเงินเพียงพอ ที่จะซื้อ โดยไม่ต้องผ่อน เหตุผลที่ต้องอดทนรอคอยก็เพราะว่า ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน ยิ่งเป้าหมายของคุณ ใหญ่เท่าไรมันก็ต้องใช้เวลา และความมีวินัย เพื่อที่จะไปถึงเป้าหมายนั้น หลายคนท้อแท้เร็วไปหน่อย เพราะคิดว่า สิ่งที่ตนเองหว่านลงไป จะเกี่ยวได้เลย เราคงรู้สึกตลก หากเราไปปลูกข้าววันนี้ และหวังจะเกี่ยวในสัปดาห์ต่อไป ปัจจุบัน คนปรารถนาอะไรที่เร็ว ๆ ทันใจ แน่นอนเราอยากทําให้เร็ว เท่าที่เราจะทําได้ แต่เราก็รู้ว่าขั้นตอนมันเป็นอย่างไร ไม่มีใคร Fit ชั่วข้ามคืน ไม่มีใครลดความอ้วน อย่างถาวรณ์ได้ภายในสัปดาห์ เดียว อาจได้จริง แต่นิสัยการกินไม่ได้เปลี่ยน ไม่นานก็กลับมาเหมือนเดิม เราจึงต้องประเมินแต่ละเรื่องใหม่ และเข้าใจอย่างดี เราถึงจะอดทนรอคอยได้
• •
•
ผมอยากบอกว่า ยิ่งเป้าหมายใหญ่แค่ไหน เราก็ต้องให้เวลากับเป้าหมายนั้นนานขึ้นครับดัง นั้นการที่เรามาตั้งเป้าหมายสําหรับสิบปีนั้น ไม่ใช่เป้าหมายรายปี บางคนอาจวางเป้าหมาย 10 ปีข้างหน้า ว่าจะปลดหนี้ทั้งหมด บางคนอยากให้ปัญหาในชีวิตสมรสรับการแก้ไขภายใน 5 วินาที หรือ 5 นาทีทั้ง ๆ ที่ปัญหาในชีวิตสมรส ก่อตัวขึ้นเมื่อ 9 ปีที่แล้วลองคิดดูสิครับ ปัญหาจะคลี่คลายภายใน 5 วินาทีได้อย่างไรเราต้องไปทีละขั้นตอนครับ
ยิ่งเราหลงไปมาก เรายิ่งต้องใช้เวลากลับมาในเวลาที่เท่า ๆ กัน 34
•
• •
Bible จึงบอกว่า ชีวิตเหมือนการเป็นหนี้ ถ้าเราเคยเป็นมาก่อน ก็ใช้คืน และอย่าไปสร้างหนี้ ใหม่ โดยบอกว่า ให้เวลา ที่ผ่านมาเพียงพอสําหรับสิ่งไร้สาระทั้งปวง แต่ให้เริ่มต้นการดี เราจะวางแผนชีวิตใหม่ได้ไหม
ให้เวลาที่ผ่านมาเพียงพอสําหรับการ เป็นคนเจ้าอารมณ์ Sensitive มากเกิน หรือ ไม่ Sense เลย อ่านหนังสือก่อนสอบประจํา ผลัดวันเรื่องการออกําลังกาย เล่น Game คอมอย่างไร ก็อย่างนั้น ใช้ NEt ทําให้เสียเวลา แทนที่จะหาข้อมูลที่เป็น ประโยชน์ และการปล่อยให้แต่ละวันผ่านไป โดยไม่มีแผนการใด ๆ • • • •
ไม่มีใครเติบโต หรือเปลี่ยนแปลงโดยอัตโนมัติ เหมือนมา คจ.มานมัสการ แต่ไม่ได้ Note ว่าจะไปเปลี่ยนแปลงตนเองอย่างไร คนส่วนหนึ่ง จึงไม่มีอะไรดีขึ้น แม้มา คจ.ติดต่อกันเป็น 10 ปี แล้ว เราไม่สามารถแข็งแรงได้ เพียงแค่ไปนั่งอยู่ท่ามกลาง Fitness และดูคนอื่น ออกกําลังกาย เป็น 10 ปี ก็ เทียบไม่ได้ กับการได้ลองยกน้ําหนักดูบ้างสัก 15 นาที
•
35
ดังนั้น เราต้องอดทนและรอคอย ด้วยใจที่มุ่งหมั่น และคาดหวังอยู่เสมอ และดําเนินชีวิตให้ สอดคล้องซึ่งจะนําไปสู่ความสําเร็จในเป้าหมายอันยิ่งใหญ่ที่วางไว้ได้ • เอลีซาก็ทําแบบนี้เช่นกัน เขาเป็นตัวอย่างที่ดีในเรื่องการอดทนรอคอย ผมจะบอกสักสองสาม ตัวอย่างจากเขาครับ • เอลีซา ในข้อ • 21 เขาอดทนรอคอยเพื่อมั่นใจว่า รีเบกก้า คือหญิงที่พระเจ้านําทางให้เขามาพบจริง ๆเขา ไม่ได้กระโดดใส่เธอในทันทีทันใด • ข้อ 33 เขาปฏิเสธคําเชิญร่วมรับประทานอาหารจนกว่าเขาจะได้แจ้งวัตถุประสงค์ที่เขาได้เดิน ทางมาในครั้งนี้ • นี่แหละครับถึงเป็นจุดที่ทําให้เป้าหมายของเราล่าช้า คนอเมริกาไม่มีค่านิยมเรื่องการล่าช้า และ คนปัจจุบัน ไม่ค่อยยอมรับความล่าช้า นี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่รัฐบาลหลาย ๆ ประเทศถึงได้ เป็นหนี้ เครดิตการด์ จับจ่ายสิ่งของด้วยเงินในอนาคต เป็นตัวดีที่แสดงให้เห็น ถึงความไม่ อดทนรอคอยของมนุษย์ในปัจจุบันในการเก็บออมเงินในปัจจุบันเพื่อให้ได้มา •
•
•
คนที่ประสบความสําเร็จ กับคนที่ไม่ประสบความสําเร็จ ต่างกันตรงที่คน ที่ประสบความสําเร็จทําในสิ่งที่คนไม่ประสบความสําเร็จ ไม่อยากจะทํา คนที่ประสบความสําเร็จ สามารถทําให้สิ่งที่ตนรู้สึกไม่อยากทํา ได้สําเร็จ คนที่ไม่ประสบความ สําเร็จ มักจะทําตามความรู้สึกของตนเอง ทําแต่สิ่งที่ให้ความบันเทิงเริงใจเท่านั้น 36
•
แม้นว่า เอลีซา จะหิวมากเพียงไรแต่เขาต้องอดใจไว้ก่อน เพื่อแจ้งวัตถุประสงค์ของเขาแสดง ถึงความอดทนและมีวินัย
• •
•
•
•
• • • • • • • • •
คริสตจักรเรา อยากมีส่วนในชีวิตของท่าน โดยตั้งใจให้ท่านสามารถบรรลุความสําเร็จ ระดับ สูงในการใช้ชีวิต ถ้าท่านอยากอยู่เรื่อย ๆ สบาย ๆ ไม่เปลี่ยนแปลงอะไร ชีวิตจะเป็นไงก็ได้ ท่านจะอยู่ที่นี้ ลําบากมาก เพราะจะมีแต่ คอร์สฝึก,การรับใช้,การทํางาน,การควบคุมการเรียน,การฝึกท่านให้สะสมเงิน, การมีส่วนในประเทศชาติ ผมรับประกันว่า ท่านจะเหนื่อยแน่นอน,ท่านจะต้องนอนดึก, ทํางานหนัก,จัดเวลาตัวเป็น เกลียว เลิกงานหนึ่ง,เริ่มด่้วยงานหนึ่ง แต่เมื่อเวลาผ่านไป ท่านจะเป็นคนใหม่ คนที่พระเจ้าใช้การได้ ท่านจะสุขภาพดี ท่านจะมีเงินเก็บ ท่านจะประสบความสําเร็จด้านครอบครัว, การงาน,การเรียน,สังคม ท่านจะเป็นที่รู้จัก ท่านจะเป็นคนคุณภาพสูง และท่านจะเป็นที่พอพระทัยของพระเจ้า ท่านจะรุ่งเรืองในสวรรค์ 37
• • • • • • • • • • •
บําเหน็จท่านจะมีมากมายก่ายกอง เพราะท่านใช้ชีวิตในโลกนี้ ผ่านการสะสม,การรับใช้,การทํากิจกรรม,การช่วยเหลือผู้อื่น ท่านได้ไปร้องเพลงให้เด็ก ๆ ฟัง, ท่านซ้อมดึก ๆ ดื่น ๆ เวลากิน ท่านอาจไม่ได้กิน เวลาคนอื่นไม่กินท่านกิน ท่านใช้เวลาแต่ละวันเหมือนวันสุดท้าย เราไม่ได้ปล่อยเวลาให้ผ่านไปเลยแม้แต่ชั่วโมงเดียว เราไม่นั่งเฉย ๆ เราสะสมตลอด เราขยันที่สุดในบ้าน เราร่าเริงที่สุด, เราสดชื่นที่สุด,เราขยันที่สุด,เราถ่อมใจที่สุด,เรามีความรักมากที่สุด, เรา พระเจ้ากลับมาจะบอกว่า เราชอบใจเจ้ามาก Bible บอกว่า
• •
ฮาบากุก 2 : 3 เพราะว่านิมิตนั้นยังรอเวลาของมันอยู่ มนกําลังรีบไปถึงความ สําเร็จมันไม่มุสา ถ้าดูช้าไป ก็จงคอยสักหน่อย มันจะบังเกิดขึ้นเป็นแน่คงไม่ ล่าช้านัก
• •
พระเจ้าบอกว่ามันจะเกิดขึ้น แต่ให้อดทนรอคอยอีกหน่อย เด็ก ๆ มักโวยวายเมื่อเขาขอแล้ว ไม่ได้ในตอนนั้นแต่ผู้ใหญ่เข้าใจว่าคําอธิษฐานพระเจ้าตรัสว่า ยังไม่ถึงเวลาพระเจ้าสนพระทัย ในสิ่งที่คุณเป็น มากกว่าสิ่งที่คุณทํา พระองค์สนพระทัยในการเติบโตของคุณ พระองค์ดูที่ท่าที 38
•
• • •
ภายในจิตใจ ที่แสดงให้เห็นว่าคุณเป็นใครในพระองค์ ดังนั้น การไปถึงเป้าหมายต้องใช้ความ อดทนรอคอย และหวังใจ ทําไมต้องใช้เวลาที่จะไปถึงฝั่งฝันครับ ทําไมไม่เป็นอย่างที่เราตั้งใจไว้ ทําไมต้องใช้เวลานาน เหลือเกินกว่าจะเติมเต็มนิมิตเป้าหมาย ทําไมบางครั้งพระเจ้าให้เราอธ. นานกว่าจะได้รับ ผมจะบอกให้ครับว่าทําไม
“ เพราะพระเจ้าสนใจในตัวของเรามากกว่าในสิ่งที่เราทํา” สิ่งที่เราจะได้รับนั่นเล็กน้อยมา เมื่อเทียบกับสิ่งที่เราจะเปลี่ยนแปลง
• •
พระองค์สนใจในบุคลิกภาพและการเติบโตของเรา มากกว่าในการงานอาชีพของเรา เพราะ เราไม่ได้นําอาชีพการงานขึ้นไปบนสวรรค์ด้วย เราไม่ได้เอารถขึ้นไป ไม่ได้เอาเงินขึ้นไป ไม่ได้ เอาเครื่องเขินสวยงามหรือเสื้อผ้าไปบนสวรรค์ด้วย แต่สิ่งที่สําคัญก็คือ เราอยากเป็นอะไร เราอยากแตกต่างจากเมื่อวานอย่างไร เราอยากเป็นอะไรเป็นใครในทางของพระเจ้า หรือ อยากเกิดผลฝ่ายวิญญาณอย่างไร อยากเติบโตเป็นผู้ใหญ่อย่างไรทั้งด้านอารมณ์และด้านจิต วิญญาณ ครับพระเจ้าสนใจสิ่งเหล่านี้เพราะมันจะอยู่กับเราตลอดกาล
• •
ดังนั้นขณะที่เรากําลังทํางานเพื่อไปถึงเป้าหมายที่พระเจ้าต้องการทําผ่านชีวิตของเรา เราก็ ต้องให้เวลากับเรื่องนั้น ๆ สักระยะ และเดินติดตามเป้าหมายเราไปเรื่อย ๆ ให้ถึงเป้าหมายใน วันหนึ่ง ดังนั้นเราจึงจ้องมีความฝัน นิมิต และติดตามไป
39
•
. •
แต่ขณะที่เรากําลังเดินติดตามเป้าหมายนนั้น ผมอยากให้เราเปลี่ยนบางสิ่งบางอย่างที่เราไม่ ชอบและไม่อยากเป็น ตั้งเป้าที่จะเปลี่ยนแปลงมันด้วยครับ ก้าวข้ามผ่านปัญหาสุขภาพ ความสัมพันธ์ในครอบครัว
• •
ความจริงแล้วมีเพียงสิ่งเดียวที่ฟรีไม่เสียสตางค์ นั่นก็คือ การที่พระเจ้าทรงยกโทษความผิด บาปของเรา เพราะพระเยซูได้จ่ายราคาไปแล้ว ของฟรีชิ้นเดียวในโลกคือ การไถ่และเราก็ ต้องรับไว้ด้วยความเชื่อ
• •
เอลีซาร์ต้องจ่ายราคาเพื่อให้ได้ รีเบคกา มา ในข้อ 53
• •
เป้าหมายอันยิ่งใหญ่มากับการเสียสละอันยิ่งใหญ่เช่นกัน ทั้ง เวลา ทุนทรัพย์ พลังงานในบาง เรื่องเราสามารถทําให้สําเร็จได้ในเวลาว่าง แต่การจะก้าวไปสู่เป้าในอีก 10 ปีข้างหน้า เรา ต้องจ่ายราคา มีคําถามทดสอบใจ 3 ข้อ
•
Ø จ่ายเป็นอะไร จะเป็นพลังงาน แรงงาน เวลา เงินทอง Ø เรายินดีที่จะให้อะไร
40
8. •
รู้วิธีการเลือกทีมงาน Choosing a team for support.
ไม่มีใครไปถึงจุดหมายได้โดยลําพัง ไม่มีฉายเดี่ยวเราต้องร่วมมือกัน ประสานงาน ทํางาน เป็นทีม เราคัดคนในความ สามารถที่หลากหลายเพื่อช่วยกันเติมเต็มนิมิต
• •
เอลีซาก็เลือกทีมงานเช่นกัน เขาลิสต์รายชื่อคนที่เขาอยากให้เติมเต็มนิมิตนั้น เขาให้พ่อแม่ และครอบครัว มีส่วนร่วมนิมิตด้วย เขาให้ญาติมาสนับสนุน เขาทําทุกอย่างที่เขาสามารถได้ รับความร่วมมือจากคนรอบตัวเขา
• • •
•
ในอัฟริกา เราจะได้ยินคนพูดเสมอว่า
ถ้าคุณอยากไปให้ไว ให้ไปคนเดียว แต่ถ้าอยากไปให้ไกลต้องไปด้วยกัน ดังนั้นการทํางานร่วมมือกันเป็นทีมนั้นทําให้เราไปได้ไกล ไม่ใช่ว่าเราไม่อยากให้งานสําเร็จเร็ว แต่การทําให้ได้เร็วขึ้นอยู่กับการตัดสินใจที่ถูกต้อง
• •
จากนั้นทีมก็ลุยงานให้สําเร็จ เพราะนับจากนี้ไปสิบปี ไม่มีใครสนใจหรอกครับว่าเราสามารถ ตัดสินใจได้เร็วแค่ไหน แต่พวกเขาอยากรู้ว่า เราได้ตัดสินใจถูกต้องหรือเปล่าต่างหาก ไม่ใช่ ความเร็วครับ ไม่มีใครสนใจหรอกว่า
Michelangelo วาดรูปมหาวิหาร Sistine Chapel 41
นานเท่าไร แต่เราสนใจที่งานนี้เป็นงานวาดที่โดดเด่น และยืนนาน และการทํางานใหญ่เรา จําเป็นต้องมีผู้ร่วมงานครับ ซึ่งมีสองเหตุผล ที่เราต้องทํางานร่วมกัน 1) พระเจ้าประสงค์ให้เราเรียนรู้ในการแบ่งปันความรัก เรียนรู้ที่จะรักคนที่ไม่น่ารัก ไม่น่าคบ ความรักแท้คือการรักคนที่กวนประสาทคุณมีหลายอย่างในตัวเราเช่นกันที่ไม่สามารถ เปลี่ยนแปลงได้ตัวเอง เราต้องมีผู้อื่นช่วยเหลือ 2) ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลง หรือสําเร็จได้ด้วยลําพังในบางครั้งเราเปลี่ยนแปลงผู้อื่นไม่ ได้ เราก็เปลี่ยนตัวเราเองง่ายกว่าคนเราต้องการคนที่รักสนับสนุนให้กําลังใจ ในการ เปลี่ยนแปลงร่วมทั้งคําอธิษฐานเผื่อจากผู้อื่น •
แม้แต่ในห้องทดลองยังต้องมีเพื่อนร่วมงานเลย และพบว่า ถ้าทดลองคนเดียว ภายในหนึ่ง สัปดาห์ งานก็ไม่ก้าวหน้าหรือไม่สําเร็จได้เลย ดังนั้นคนเราไม่สามารถสําเร็จได้ด้วยคนเดียว ครับ
•
มัทธิว 18 : 20 กล่าวว่า ด้วยว่ามีสองสามคน ประชุมกันในที่ไหน ๆ ใน นามของเรา เราจะอยู่ท่ามกลางเขาที่นั่น •
ไบเบิลกล่าวว่า “คนเดียวอยู่ลําพังก็ล้มและถูกโจมตีได้ง่าย (และก็ล้มเลิกความฝันง่าย ๆ ด้วย) แต่สองคนก็ช่วยพยุงกันขึ้น เชือกสามเกลียวจะขาดเสียก็หามิได้” เป้าหมายสําหรับ อนาคตสิบปีข้างหน้าเราต้องได้รับการช่วยเหลือ สนับสนุนจากเพื่อนร่วมงานมากมายครับ
42
การก้าวไปถึงจุดที่คุณต้องการไปถึง Getting where you want to be
เราต้องรู้อะไรบ้าง => เพื่อเราจะก้าวไปสู่จุดแห่งความสําเร็จ 1. รู้จุดเริ่มต้นของตนเอง (รู้เรา) : Determine your present position. 2. รู้ความต้องการของตนเอง : Describe exactly what you want 3. รู้พระสัญญาจากพระเจ้า : Detect a promise from God 4. รู้ว่าต้องขอความช่วยเหลือจากพระเจ้า : Ask God for help. 5. รู้ว่าอะไรคืออุปสรรค (ที่ขัดขวางเราอยู)่ : Identify the barriers. 6. รู้วิธีการวางแผนทีละขั้น : Create a step by step plan. 7. รู้ถึงการต้องอดทน รอคอย และลงทุน: Be patient, persistent and Pay the price 8. รู้วิธีการเลือกทีมงาน : Choosing a team for support
43