บทที่ 9 เทคโนโลยีมัลติมีเดีย by Phutipong Loywatanakul

หน่วยที่ 3 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ บทที่ 9: เทคโนโลยีมัลติมีเดีย

บทที่ 9 เทคโนโลยีมัลติมีเดีย วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรม 1. นักศึกษาเข้าใจความหมายของเทคโนโลยีมัลติมีเดีย 2. นักศึกษามีความรู้ความเข้าใจองค์ประกอบของมัลติมีเดีย อันได้แก่ 2.1

ข้อความ

2.2

ภาพนิ่ง

2.3

ภาพเคลื่อนไหว

2.4

เสียง

2.5

วีดิทัศน์

3. นักศึกษารู้จักเทคโนโลยีด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี มัลติมีเดีย 4. นักศึกษาเข้าใจประโยชน์ด้านต่าง ๆ ของเทคโนโลยีมัลติมีเดีย

เอกสารประกอบการเรียนการสอน วิชา 400-13-01 เทคโนโลยีสารสนเทศบูรณาการ (Integrated Information Technology)

หน้า 217

หน่วยที่ 3 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ บทที่ 9: เทคโนโลยีมัลติมีเดีย

ความหมายของเทคโนโลยีมล ั ติมเี ดีย สื่อมัลติมีเดียคือการใช้คอมพิวเตอร์ร่วมกับโปรแกรมซอฟต์แวร์ใน การสื่อความหมายโดยการผสมผสานสื่อหลายชนิด เช่น ข้อความ (Text) กราฟิก (Graphic) ภาพเคลื่อนไหว (Animation)เสียง (Sound) และวีดิทัศน์ (Video)เป็นต้น และถ้าผู้ใช้สามารถที่จะควบคุมสื่อให้นาเสนอออกมาตามต้องการ ได้จะเรียกว่า สื่อมัลติมีเดียปฏิสัมพันธ์ (Interactive Multimedia) การ ปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้สามารถจะกระทาได้โดยผ่านทางคีย์บอร์ด (Keyboard)เมาส์ (Mouse) หรือตัวชี้ (Pointer) เป็นต้น สื่อมัลติมีเดีย ในลักษณะปฏิสัมพันธ์จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเรียนรู้หรือทากิจกรรม รวมถึงดูสื่อต่างๆ ด้วยตนเองได้ สื่อต่างๆ ที่นามารวมไว้ในสื่อ มัลติมีเดีย เช่น ภาพ เสียง วีดิทัศน์ จะช่วยให้เกิดความหลากหลายใน เอกสารประกอบการเรียนการสอน วิชา 400-13-01 เทคโนโลยีสารสนเทศบูรณาการ (Integrated Information Technology)

หน้า 218

หน่วยที่ 3 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ บทที่ 9: เทคโนโลยีมัลติมีเดีย

การใช้คอมพิวเตอร์อันเป็น เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ในแนวทาง ใหม่ที่ทาให้การใช้คอมพิวเตอร์ น่าสนใจ และเร้าความสนใจ เพิ่ม ความสนุกสนานในการเรียนรู้มาก ยิ่งขึ้น 1. องค์ประกอบของมัลติมีเดีย มัลติมีเดียสามารถจาแนกองค์ประกอบของสื่อต่างๆ ได้เป็น 5ชนิด ประกอบด้วย 1.1 ข้อความหรือตัวอักษร (Text) 1.2 ภาพนิ่ง (Picture) 1.3 ภาพเคลื่อนไหว (Animation) 1.4 เสียง (Sound) 1.5 วีดิทัศน์ (Video)

หน้า 219

หน่วยที่ 3 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ บทที่ 9: เทคโนโลยีมัลติมีเดีย

แล้วนามาผสมผสานเข้าด้วยกันเพื่อใช้สาหรับการปฏิสัมพันธ์หรือ โต้ตอบ (Interaction) ระหว่างคอมพิวเตอร์กับผู้ใช้ซึ่งถือได้ว่าเป็นกิจกรรม ที่ผู้ใช้สามารถเลือกกระทาต่อมัลติมีเดียได้ตามต้องการ ตัวอย่างเช่น ผู้ ใช้ได้ทาการเลือกรายการและตอบคาถามผ่านทางจอภาพของเครื่อง คอมพิวเตอร์ จากนั้นระบบคอมพิวเตอร์ก็จะทาการประมวลผลและแสดงผล ลัพธ์ย้อนกลับผ่านทางจอภาพให้ผู้ใช้เป็นอีกครั้ง เป็นต้น 2.1 ข้อความหรือตัวอักษร (Text) ข้อความ เป็นส่วนที่เกี่ยวกับเนื้อหาของมัลติมีเดีย ใช้แสดง รายละเอียด หรือเนื้อหาของเรื่องที่นาเสนอซึ่งปัจจุบัน มีหลายรูปแบบ ได้แก่ 2.1.1 ข้อความที่ได้จากการพิมพ์ เป็นข้อความปกติที่พบได้ทั่วไป ได้จากการพิมพ์ด้วย โปรแกรมประมวลผลงาน (Word Processor) เช่น NotePad, Text Editor, Microsoft Word โดยตัวอักษรแต่ละตัวเก็บในรหัส เช่น ASCII

2.1.2 ข้อความจากการสแกน เป็น ข้อความในลักษณะภาพ หรือ Image ได้จากการนาเอกสารที่ เอกสารประกอบการเรียนการสอน วิชา 400-13-01 เทคโนโลยีสารสนเทศบูรณาการ (Integrated Information Technology)

หน้า 220

หน่วยที่ 3 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ บทที่ 9: เทคโนโลยีมัลติมีเดีย

พิมพ์ไว้แล้ว(เอกสารต้นฉบับ) มา ทาการสแกน ด้วยเครื่อง สแกนเนอร์ (Scanner)ซึ่งจะ ได้ผลออกมาเป็นภาพ(Image) 1 ภาพ ปัจจุบันสามารถแปลง ข้อความภาพ เป็นข้อความปกติ ได้ โดยอาศัยโปรแกรม OCR 2.1.3 ข้อความอิเล็กทรอนิกส์ เป็นข้อความที่พัฒนาให้อยู่ในรูป ของสื่อ ที่ใช้ประมวลผลได้ข้อความไฮเปอร์เท็กซ์ (HyperText) เป็นรูปแบบของข้อความ ที่ได้รับความนิยมสูง มาก ในปัจจุบันโดยเฉพาะการเผยแพร่เอกสารในรูปของ เอกสารเว็บ เนื่องจากสามารถใช้เทคนิคการลิงค์ (Link) หรือเชื่อมข้อความไปยังข้อความหรือจุดอื่นๆได้เช่น

หน้า 221

หน่วยที่ 3 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ บทที่ 9: เทคโนโลยีมัลติมีเดีย

2.2 รูปภาพ(Picture) รูปภาพคือ ภาพที่ไม่มีการเคลื่อนไหว เช่น ภาพถ่าย ภาพวาด หรือภาพลายเส้น เป็นต้น รูปภาพนับว่ามีบทบาทต่อระบบงานมัลติมีเดีย มากกว่าข้อความหรือตัวอักษร ทั้งนี้เนื่องจาก รูปภาพจะให้ผลในเชิงการเรียนรู้หรือรับรู้ด้วย การมองเห็นได้ดีกว่า นอกจากนี้ยังสามารถ ถ่ายทอดความหมายได้ลึกซึ้งมากกว่าข้อความ หรือตัวอักษรนั่นเองดังคากล่าวที่ว่า “ภาพหนึ่ง ภาพ แทนคาพูดได้เป็นพันๆคา” ซึ่งข้อความ หรือตัวอักษรจะมีข้อจากัดทางด้านความ แตกต่างของแต่ละภาษา แต่รูปภาพนั้นสามารถ สื่อความหมายได้กับทุกชนชาติ รูปภาพมักจะแสดงอยู่บนสื่อชนิดต่างๆ เช่นโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์หรือวารสารวิชาการ เป็นต้น ภาพกราฟิก(Graphics)เป็นสื่อในการนาเสนอที่ดี เนื่องจากมีสีสัน มี รูปแบบที่น่าสนใจ สามารถสื่อความหมายได้กว้าง ภาพแบ่งออกเป็น เอกสารประกอบการเรียนการสอน วิชา 400-13-01 เทคโนโลยีสารสนเทศบูรณาการ (Integrated Information Technology)

หน้า 222

หน่วยที่ 3 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ บทที่ 9: เทคโนโลยีมัลติมีเดีย

2.2.1 ภาพบิตแมป (Bitmap)เป็นภาพแบบ Resolution Dependentภาพหนึ่งๆ จึงเกิดจากจุดเล็กๆ หลายๆ จุด ประกอบกันเนื่องจาก Bitmap มีค่า Pixel จานวนคงที่จึง ทาให้มีข้อจากัดในเรื่องการขยายขนาดภาพเมื่อขยาย ภาพให้ใหญ่ขึ้น ความละเอียดของภาพจึงลดลง และถ้า เพิ่มค่าความละเอียดมากขึ้นก็จะทาให้ไฟล์มีขนาดใหญ่ เพราะแต่ละภาพมีการเก็บข้อมูลจานวนมาก ทาให้เปลือง เนื้อที่หน่วยความจามากขึ้นตามไปด้วย ภาพที่ ขยายโตขึ้นจะมองเห็นเป็นตารางสี่เหลี่ยมเรียงต่อกันคล้าย กับลายปักผ้าครอสติกฟอร์แมตของภาพบิตแมพ ที่รู้จักกัน ดี ได้แก่ .BMP, .PCX, .GIF, .JPG, .TIF

VECTOR .wm f

หน้า 223

หน่วยที่ 3 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ บทที่ 9: เทคโนโลยีมัลติมีเดีย

2.2.2 ภาพเวกเตอร์ (Vector) เป็นภาพประเภท ResolutionIndependent เป็นภาพที่สร้างด้วยส่วนประกอบของเส้น ลักษณะต่างๆ และคุณสมบัติเกี่ยวกับสีของเส้นนั้นๆ ซึ่ง สร้างจากการคานวณทางคณิตศาสตร์ เช่น ภาพของคน ก็ จะถูกสร้างด้วยจุดของเส้นหลายๆ จุด เป็นลักษณะของ โครงร่าง (Outline) และสีของคนก็เกิดจากสีของเส้นโครง ร่างนั้นๆกับพื้นที่ผิวภายในนั่นเอง เมื่อมีการแก้ไขภาพ ก็ จะเป็นการแก้ไขคุณสมบัติของเส้น ทาให้ภาพไม่สูญเสีย ความละเอียด เมื่อมีการขยายภาพนั่นเอง ลักษณะเด่นของ Vector คือ สามารถยืดหรือหดภาพ เท่าใดก็ได้ โดยที่ภาพจะไม่แตก ความละเอียดของภาพไม่ เปลี่ยนแปลง ภาพแบบ Vector ไฟล์มีขนาดเล็กกว่าภาพ Bitmap จึงเหมาะสาหรับงานแบบวาง Layout งานพิมพ์ ตัวอักษร Line Art หรือ Illustration ภาพแบบ Vector ที่ หลายๆ ท่านคุ้นเคยก็คือภาพ .wmf ซึ่งเป็น clipart ของ Microsoft Office นั่นเอง

หน้า 224

หน่วยที่ 3 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ บทที่ 9: เทคโนโลยีมัลติมีเดีย

ความแตกต่างระหว่างกราฟิกแบบ Bitmap และ Vector Bitmap

Vector

1. ลักษณะภาพประกอบขึ้นด้วยจุด ต่างๆ มากมาย

1. ใช้สมการทางคณิตศาสตร์เป็น ตัวสร้างภาพ โดยรวมเอา Object (เช่น วงกลม เส้นตรง) ต่างชนิด มาผสมกัน

2. ภาพมีจานวนพิกเซลคงที่จึงต้องการ 2. สามารถย่อและขยายขนาดได้ ค่าความละเอียดมากขึ้นเมื่อขยายภาพ มากกว่า โดยสัดส่วนและลักษณะ โดยจะคานวณค่าสีทีละ pixels ทาให้ ของภาพยังเหมือนเดิม ความ ละเอียดของภาพไม่เปลี่ยนแปลง ภาพแตกเมื่อขยายภาพให้ใหญ่ 3. เหมาะสาหรับงานกราฟิก ในแบบ ต้องการให้แสงเงาในรายละเอียด

3. เหมาะสาหรับงานแบบวาง Layout งานพิมพ์ตัวอักษร Line Art หรือ Illustration

4. แสดงภาพบนจอทันที เมื่อรับคาสั่ง 4. คอมพิวเตอร์จะใช้เวลาในการ ย้ายข้อมูลจากหน่วยความจาที่เก็บภาพ แสดงภาพมากกว่า เนื่องจากต้อง ไปยังหน่วยความจาของจอภาพ ทาตามคาสั่งที่มีจานวนมากกว่า

2.3 ภาพเคลื่อนไหว (Animation) เอกสารประกอบการเรียนการสอน วิชา 400-13-01 เทคโนโลยีสารสนเทศบูรณาการ (Integrated Information Technology)

หน้า 225

หน่วยที่ 3 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ บทที่ 9: เทคโนโลยีมัลติมีเดีย

ภาพเคลื่อนไหว หมายถึง ภาพกราฟิกที่มีการเคลื่อนไหวเพื่อ แสดงขั้นตอนหรือปรากฏการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น การเคลื่อนที่ของอะตอมในโมเลกุล หรือการเคลื่อนที่ของลูกสูบของ เครื่องยนต์ เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อสร้างสรรค์จินตนาการให้เกิดแรงจูงใจ จากผู้ชม การผลิตภาพเคลื่อนไหวจะต้องใช้โปรแกรมที่มี คุณสมบัติเฉพาะทางซึ่งอาจมีปัญหาเกิดขึ้นอยู่บ้างเกี่ยวกับขนาดของ ไฟล์ที่ ต้องใช้พื้นที่ในการจัดเก็บมากกว่าภาพนิ่งหลายเท่านั่นเอง 2.4 เสียง (Sound) เสียงเป็นองค์ประกอบหนึ่งที่สาคัญของมัลติมีเดีย โดยจะถูก จัดเก็บอยู่ในรูปของสัญญาณดิจิตอลซึ่งสามารถเล่นซ้ากลับไป กลับมาได้ โดยใช้โปรแกรมที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสาหรับทางาน ด้านเสียงหากในงานมัลติมีเดียมีการใช้เสียงที่เร้าใจและสอดคล้อง กับเนื้อหาในการนาเสนอ จะช่วยให้ระบบมัลติมีเดียนั้นเกิดความ สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยสร้างความน่าสนใจและน่า ติดตามในเรื่องราวต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ลักษณะของเสียง ประกอบด้วย คลื่นเสียงแบบออดิโอ (Audio) ซึ่งมีฟอร์แมตเป็น .wav, .au การบันทึกจะบันทึกตามลูกคลื่นเสียงโดยมีการแปลงสัญญาณให้เป็น ดิจิตอล และใช้เทคโนโลยีการบีบอัดเสียงให้เล็กลง (ซึ่งคุณภาพก็จะ ต่าลงด้วย) เสียง CD เป็นรูปแบบการบันทึกที่มีคุณภาพสูง ได้แก่ เสียงที่ บันทึกลงในแผ่น CD เพลงต่างๆ MIDI (Musical Instrument Digital Interface) เป็นรูปแบบของเสียงที่แทนเครื่องดนตรีชนิดต่างๆ เอกสารประกอบการเรียนการสอน วิชา 400-13-01 เทคโนโลยีสารสนเทศบูรณาการ (Integrated Information Technology)

หน้า 226

หน่วยที่ 3 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ บทที่ 9: เทคโนโลยีมัลติมีเดีย

สามารถเก็บข้อมูล และให้วงจรอิเล็กทรอนิกส์ สร้างเสียงตามตัวโน้ต เสมือนการเล่นของเครื่องเล่นดนตรีนั้นๆ MPEG เป็นมาตรฐานการบีบอัดข้อมูลที่นิยมมากในปัจจุบัน โดยชื่อนี้ เป็นชื่อย่อของทีมงานพัฒนา Moving Picture Export Group โดยปัจจุบันมีฟอร์แมตที่นิยมคือ MP3 (MPEG 1 Audio Layer 3) ซึ่งก็คือเทคโนโลยีการบีบอัดข้อมูลเสียงของมาตรฐาน MPEG 1 นั่นเอง เป็นไฟล์ที่นิยมใช้กับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตด้วย 2.5 วีดิทศ ั น์ (Video) วีดิทัศน์ เป็นองค์ประกอบของมัลติมีเดียที่มีความสาคัญเป็น อย่างมาก เนื่องจากวีดิทัศน์ในระบบดิจิตอลสามารถนาเสนอข้อความ หรือรูปภาพ (ภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหว) ประกอบกับเสียงได้ สมบูรณ์มากกว่าองค์ประกอบชนิดอื่นๆ อย่างไรก็ตาม ปัญหาหลักของการใช้วีดิทัศน์ในระบบมัลติมีเดีย ก็คือ การสิ้นเปลืองทรัพยากรของพื้นที่บนหน่วยความจาเป็นจานวน มาก วีดิทัศน์มีหลายรูปแบบได้แก่ 2.5.1 AVI (Audio / Video Interleave) เป็นฟอร์แมตที่พัฒนา โดยบริษัทไมโครซอฟต์ เรียกว่า Video for Windows มี นามสกุลเป็น .avi ปัจจุบันมีโปรแกรมแสดงผลติดตั้งมา พร้อมกับชุด Microsoft Windows คือ Windows Media Player 2.5.2 MPEG- Moving Pictures Experts Group รูปแบบของ ไฟล์ที่มีการบีบอัดไฟล์ เพื่อให้มีขนาดเล็กลงโดยใช้ เอกสารประกอบการเรียนการสอน วิชา 400-13-01 เทคโนโลยีสารสนเทศบูรณาการ (Integrated Information Technology)

หน้า 227

หน่วยที่ 3 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ บทที่ 9: เทคโนโลยีมัลติมีเดีย

เทคนิคการบีบข้อมูลแบบ Inter Frame หมายถึง การนา ความแตกต่างของข้อมูลในแต่ละภาพมาบีบ และเก็บ โดย สามารถบีบข้อมูลได้ถึง

200 : 1 หรือเหลือข้อมูลเพียง

100 kb/sec โดยคุณภาพยังดีอยู่ มีการพัฒนาอย่าง ต่อเนื่อง โดย MPEG-1 มีนามสกุล คือ .mpg 2.5.3 Quick Time เป็นฟอร์แมตที่พัฒนาโดยบริษัท Apple นิยมใช้นาเสนอข้อมูลไฟล์ผ่านอินเทอร์เน็ต มีนามสกุล เป็น .mov

2. เทคโนโลยีตา่ งๆ ที่เกี่ยวข้องกับมัลติมีเดีย เนื่องจากมัลติมีเดียเป็นเทคโนโลยีของสื่อหลากหลายสื่อ จึง เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีต่างๆ ดังนี้ เอกสารประกอบการเรียนการสอน วิชา 400-13-01 เทคโนโลยีสารสนเทศบูรณาการ (Integrated Information Technology)

หน้า 228

หน่วยที่ 3 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ บทที่ 9: เทคโนโลยีมัลติมีเดีย

 เทคโนโลยีเกี่ยวกับเสียง (Audio Technology) ซึ่งรวมทั้งเสียงพูด และเสียงดนตรี ตั้งแต่การประมวลผล การแสดงผล การจัดการ ต่างๆ เช่น การบีบอัดสัญญาณ การสื่อสาร การส่งสัญญาณ  เทคโนโลยีเกี่ยวกับวีดิทัศน์ (Video Technology) อันได้แก่ การ จัดเก็บ การประมวลผล การปรับแต่ง การใช้งาน การเรียกหา สืบค้น การส่งกระจาย มาตรฐานการบีบอัดสัญญาณ การเข้าและ ถอดรหัส การส่งข้อมูล การทางานร่วมกับสื่ออื่นๆ  เทคโนโลยีรูปภาพ (Image Technology) เป็นการพัฒนา และ ประยุกต์ใช้ภาพ การจัดการฟอร์แมต คลังภาพ การค้นหา การ สร้าง และตกแต่งภาพ  เทคโนโลยีข้อความ (Text Technology) เกี่ยวกับข้อความหรือ ตัวอักษร ทั้งการใช้ และลักษณะรูปแบบของ ข้อความแบบต่างๆ  เทคโนโลยีภาพเคลื่อนไหว และภาพสามมิติ (Animation & 3D Technology) เป็นเทคโนโลยีเกี่ยวกับการแสดงผล ด้น ภาพเคลื่อนไหว ทั้งแบบ 2 มิติ และ 3 มิติ การสร้างภาพเสมือนจริง (VR - Visual Reality) การสร้างตกแต่ง ประมวลผล การใช้งาน  เทคโนโลยีการพัฒนาบทเรียน (Authoring System Technology) คือ เทคโนโลยีที่ได้พัฒนา เพื่อสร้างเครื่องมือ สาหรับงานพัฒนามัลติมีเดีย ในรูปของ ซอฟต์แวร์ช่วย ในการนา ข้อมูล เนื้อหา (Content) เข้าไปเก็บตามสื่อรูปแบบต่างๆ ที่วางไว้ เอกสารประกอบการเรียนการสอน วิชา 400-13-01 เทคโนโลยีสารสนเทศบูรณาการ (Integrated Information Technology)

หน้า 229

หน่วยที่ 3 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ บทที่ 9: เทคโนโลยีมัลติมีเดีย

เพื่อนาเสนอ เช่น การใช้เครื่องมือต่างๆ หรือการสร้างเครื่องมือ ใหม่ๆ  เทคโนโลยีกับระบบการศึกษา (Educational System Technology) เป็นการศึกษาเพื่อนาเอา เทคโนโลยีมัลติมีเดียมา ประยุกต์ใช้กับ ระบบการศึกษาในรูปของ CAI - Computer Aided Instruction, CBT - Computer Based Training ตลอดจนงานประชาสัมพันธ์โฆษณา สร้างภาพยนตร์  เทคโนโลยีการสิ่งพิมพ์ (Publishing Technology)เป็นการนาเอา มัลติมีเดีย มาใช้ด้านงานพิมพ์ เพื่อเพิ่มชีวิตชีวาให้กับงานพิมพ์ มี รูปแบบที่โดดเด่น และนาเสนอ หรือพิมพ์ลงสื่อได้หลากรูปแบบ เช่น งาน DTP – Desktop Publishing, CD-ROM Title & Publishing  เทคโนโลยีการกระจายสัญญาณ (Broadcasting & Conferencing) จะเกี่ยวข้องกับการเผยแพร่ข้อมูล เผยแพร่ สัญญาณ เช่น Conference, Multicasting Backbone เป็นต้น  เทคโนโลยี WWW & HyperText โดยจะช่วยให้เกิดการเผยแพร่ สื่อมัลติมีเดียในรูปแบบที่นิยมมากที่สุด และเร็วที่สุด ผ่านระบบ WWW และมีระบบโต้ตอบด้วยเทคโนโลยี HyperText&HyperMedia

หน้า 230

หน่วยที่ 3 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ บทที่ 9: เทคโนโลยีมัลติมีเดีย

 เทคโนโลยีคลังข้อมูล (Media Archives) ซึ่งเกี่ยวกับการจัดเก็บ ข้อมูลปริมาณมากๆ และการเรียกค้นภายหลังเช่น Photo & Image Server, AVI archives 3. ประโยชน์ของมัลติมีเดีย มัลติมีเดีย ใช้สาหรับการนาเสนอเนื้อหา ภาพนิ่ง คาถาม ภาพเคลื่อนไหวหรือข่าวสาร แบบไม่ต้องเรียงลาดับ เพื่อสร้างบทเรียนหรือ สื่อโฆษณา ฯลฯ 3.1 ด้านการเรียนการสอน อยู่ในรูปแบบของห้องสมุดแบบดิจิตอล การเรียนการสอนทางไกล ห้องเรียนเสมือนจริง และการเรียนการ สอน แบบกระจาย 3.2 ด้านการนาเสนอสินค้า ที่มีความน่าสนใจ ในแบบธุรกิจ ECommerce 3.3 ด้านการสื่อสารโทรคมนาคม ด้วยการเผยแพร่ข้อมูลมัลติมีเดีย 3.4 ด้านการพิมพ์ เทคโนโลยีมัลติมีเดียจะส่งผลให้สิ่งพิมพ์มีความ น่าสนใจมากยิ่งขึ้นในรูปแบบของ E-Magazine และ E-book 3.5 ด้านบริการข้อมูลข่าวสาร ทาให้การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารมี ความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น 3.6 ด้านธุรกิจโฆษณาและการตลาดใช้มัลติมีเดียช่วยดึงดูดคนให้ เข้ามาชมด้วยเทคโนโลยีที่มีความแปลกใหม่ 3.7 ด้านการแพทย์และสาธารณสุขช่วยสร้างสื่อเรียนรู้ด้าน การแพทย์ 3.8 ด้านนันทนาการอยู่ในรูปแบบเกมการเรียนรู้ เอกสารประกอบการเรียนการสอน วิชา 400-13-01 เทคโนโลยีสารสนเทศบูรณาการ (Integrated Information Technology)

หน้า 231

หน่วยที่ 3 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ บทที่ 9: เทคโนโลยีมัลติมีเดีย

สรุปได้ว่า คาว่า“มัลติมีเดีย” มีความหมายที่ค่อนข้างกว้าง ทั้งนี้ขึ้นอยู่ กับมุมมองของผู้ที่สนใจ อย่างไรก็ตามกระแสนิยมด้านมัลติมีเดียมักจะนา คอมพิวเตอร์มาประยุกต์ใช้งานร่วมด้วย เนื่องจากเป็นอุปกรณ์ที่มีขีด ความสามารถในการผลิตสื่อได้หลากหลายรูปแบบ รวมทั้งยังสามารถ นาเสนอและติดต่อสื่อสารได้อีกด้วย สาหรับในที่นี้คาว่า “มัลติมีเดีย” หมายถึง การนาองค์ประกอบของสื่อ ชนิดต่างๆ มาผสมผสานเข้าด้วยกัน ซึ่งประกอบด้วย ตัวอักษร (Text) ภาพ (Picture) ภาพเคลื่อนไหว (Animation) เสียง (Sound) และวิดีโอ (Video) โดยผ่านกระบวนการทางระบบคอมพิวเตอร์เพื่อสื่อความหมายกับผู้ใช้ อย่างมีปฏิสัมพันธ์ (Interactive Multimedia) และได้บรรลุผลตรงตาม วัตถุประสงค์การใช้งาน ในส่วนของแต่ละองค์ประกอบของมัลติมีเดียทั้ง 5 ชนิดจะมีทั้ง ข้อดี-ข้อเสีย ที่แตกต่างกันไปตามคุณลักษณะและวิธีการใช้ งาน สาหรับประโยชน์ที่จะได้รับจากมัลติมีเดียมีมากมายนอกจากจะช่วย เพิ่มประสิทธิภาพในการดาเนินงานแล้ว ยังเพิ่มประสิทธิผลของความคุ้มค่า ในการลงทุนอีกด้วย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวิธีการนามาประยุกต์ใช้เพื่อให้เกิด ประโยชน์สูงสุดนั่นเอง

หน้า 232

หน่วยที่ 3 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ บทที่ 9: เทคโนโลยีมัลติมีเดีย

ใบงาน บทที่ 9 เทคโนโลยีมัลติมเี ดีย ให้นักศึกษาทารายงานค้นคว้าข้อมูล ตามหัวข้อต่อไปนี้ 1. อธิบายความหมายของเทคโนโลยีมัลติมีเดีย 2. องค์ประกอบของมัลติมีเดียมีอะไรบ้าง อธิบายพอสังเขป 3. ความแตกต่างระหว่างกราฟิกแบบ Bitmap และ Vector 4. ให้นักศึกษาบอกถึงเทคโนโลยีต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับมัลติมีเดีย 5. ประโยชน์ของมัลติมีเดีย เอกสารประกอบการเรียนการสอน วิชา 400-13-01 เทคโนโลยีสารสนเทศบูรณาการ (Integrated Information Technology)

หน้า 233

หน่วยที่ 3 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ บทที่ 9: เทคโนโลยีมัลติมีเดีย

หน้า 234