กิ่งแก้วการะเกด ๑
1
Rain-at-Rose
2
กิ่งแก้วการะเกด ๑
3
Rain-at-Rose
4
กิ่งแก้วการะเกด ๑
บทนา ใต้ ราตรี กาล ดวงดาราประดับฟ้า ทอแสงระยิบพราวประกาย สายลมอัน อ่อนโยนโชยพัดพากลิน่ บุปผ าชาติหอมอบอวล แสงไต้ ตามทางส่องวอมแวม สาด ต้ องร่างที่กําลังปื นกําแพงศิลาแลง สายตาคมกริบสอดส่ายอย่างระมัดระวังก่อน ร่างนันจะหล่ ้ นลงพื ้นหญ้ าอันนุ่มเท้ า ภายใต้ ความมืดมิด ร่างสูงใหญ่แข็งแรงค่อย ๆ แอบย่องไปทางพระบัญชรที่เปิ ดออกกว้ างและสว่างไสว กรุ่นกลิน่ เครื่ องหอม กระทบฆานประสาท ร่างสูงใหญ่ทอดยิ ้ม รอคอย ครู่ใหญ่ ดวงพระพักตร์ งามจับตา ยื่นออกมาจากม่านวิสตู ร แก้ มบุม๋ ยามดวงพักตร์ นนแย้ ั ้ มโอษฐ์ "กระหม่อม...อัคเรศมาเข้ าเฝ้าองค์นรินทรธิเบศร์ ตามรับสัง่ แล้ วพะย่ะค่ะ” ชายร่างสูงทูล ภายในดวงตานันปรากฏแววอบอุ ้ ่นใจ ลําแขนเรี ยวยื่นออก จากบัญชร อัคเรศ นายทหารเอกผู้ปกปั กรักษาองค์นรินทรธิเบศร์ ยุพราชหนุ่มผู้ แสนงามแห่งแคว้ นนิมารนรดีนครลุกขึ ้นแตะมือเรี ยวสะอาด จมูกกระทบผิวที่มีกลิน่ แป้งรํ่ า หอมจาง เจือ แสงบุ ษราคัมบนฉลองพระองค์แวววาวดุจบ่งบอกฐานะที่ ห่างไกลกัน "เจ้ ามาก็ดีแล้ ว ขึ ้นมานี่ส"ิ กระแสเสียงอ่อนโยนสัง่ กับชายหนุ่มผู้ตํ่าศักดิ์ 5
Rain-at-Rose ชายนามว่าอัคเรศทําตามรับสัง่ ชายหนุ่มใช้ เรี่ ยวแรงมหาศาลปี นเข้ าห้ อง บรรทมของเจ้ าชายหนุ่มซึ่งนัง่ คอยบนพระยี่ภ่อู ยู่แล้ ว อัคเรศนัง่ ลงอย่างนอบน้ อม มิ กล้ าเงยหน้ ามองดูผ้ เู ป็ นนายอันสูงส่ง "เราดีใจมากที่เจ้ ามาหาเรา” ดวงเนตรดําดุจนิลกาฬมองชายหนุ่มในชุด ทหารอย่างคะนึงหา เมื่อได้ สดับคําหวาน อัคเรศอยากเข้ าไปโอบกอดผู้ที่เป็ นที่รักยิ่งนัก หากแต่เขารู้วา่ นี่เป็ นการกระทําที่มเิ หมาะอย่างยิ่ง "เหตุใดเจ้ ามิตอ่ ขานกับข้ าเหมือนเช่นเคย?" องค์ยพุ ราชหนุ่มถามอย่างข้ องใจ แสงจากเครื่ องประดับอันมีคา่ เลื่อม ระยับ อัคเรศแหงนหน้ าขึ ้น ยกมือถวายบังคมจนองค์นรินทรธิเบศร์ อ่อนพระทัย "อยู่ ณ ที่นี่เราบอกเจ้ าแล้ วใช่ไหมว่าเราจะเป็ นแค่คนธรรมดา เฉกเช่นเจ้ า มิได้ มียศศักดิใ์ ดผูกมัด เจ้ ากระทําเช่นนี ้หมดความ ไยดีในตัวเราแล้ วหรื อ " นรินทรธิ เบศร์ ตดั พ้ อ อัคเรศลุกขึ ้น คลานเข้ าหาแตะพระบาท "หามิได้ กระหม่อมเพียงแค่..." นายทหารชันตํ ้ ่าอย่างเขามาเป็ นคูร่ ักของยุพราชแสนงามนับว่าเป็ นบุญ วาสนาและเป็ นบุพเพสันนิวาสยิ่งนัก "เจ้ ากล่าวเช่นนี ้แสดงว่าเจ้ าหมดความรัก ใคร่ ไยดีในตัวเราอย่างแท้ จริง... เรายังอุตส่าห์จดจําวันที่เจ้ าประสบพบกับเรานะอัคเรศ" ชายหนุ่มร่างสูงยิ ้ม "กระหม่อมก็มเิ คยลืมวันที่กระหม่อมได้ ครอบครอง โอบกอดพระองค์" อัคเรศประทับจูบที่ฝ่าพระบาทขาวสะอาด เจ้ าชายผู้สงู ส่งดวงพระพักตร์ แดงกํ่า ช่างหอมกลิน่ ดอกมัลลิกาที่นางกํานัลฝ่ ายในร้ อยถวาย ปลุกจิตใจของชาย 6
กิ่งแก้วการะเกด ๑ หนุ่มให้ ฮึกเหิมเคลิ ้มไป ชายหนุ่มล้ วงเข้ าไปในย่ามที่สะพายติดมาด้ วย นําถุงสีแดง เข้ ม ปากถุงผูกด้ วยเชือกถวายให้ แก่องค์นรินทรธิเบศร์ นิ ้วเรี ยวรับถุงนัน...มั ้ นเป็ น ถุงบุหงาบรรจุดอกแก้ วกลิน่ หอมไว้ มันอาจจะไม่มีคา่ อะไร แต่มนั ก็ ทําให้ หวั ใจของ องค์นรินทรธิเบศร์ พองโต "กระหม่ อมขอสาบาน เมื่อผูกใจรักมั่น นิรันดร์ กาลใดก็จะไม่ อาจ ทาลายได้ ดวงใจของกระหม่ อม บุหงาดอกแก้ วนีเ้ ป็ นตัวแทนของ กระหม่ อม เป็ นคาสาบานรักของกระหม่ อมตราบนิรันดร" ถ้ อยคํากล่าวด้ วยนํ ้าเสียงมัน่ คง บ่งบอกว่าจะรักมัน่ มิหน่ายหนี นรินทรธิเบศร์ ล้วงใต้ หมอน หยิบถุงบุหงาที่ทํามาจากใยทองถักทอเป็ นถุง หุ้มเนื ้อผ้ าสีทอง กลิน่ เทียนอบกรุ่น มือเรี ยว ถือ มันวางลงประทานให้ แก่นายทหาร ต้ อยตํ่า "อัคเรศ...ใจเราผูกพันมั่นคง สิ่งนีก้ ็จะเป็ นตัวแทนคาสาบานรักของ เรา...บุหงาการะเกดนีจ้ ะเป็ นตัวแทนแห่ งรักของเราเช่ นกัน นิรันดร์ กาลใด รักนีจ้ ะมั่นคง " ยิ่งกว่าความฝั นที่ได้ ชิดใกล้ อัคเรศเก็บถุงบุหงาแสนมีคา่ ไว้ อย่างดี "กระหม่อมรักพระองค์พะย่ะค่ะ!" แม้ จะฝั นละเมอ จะไม่วนั ลืมคํ่าคืนนี ้ นึกถึงยามที่สง่ จดหมายรักมัน่ หวน ประหวัดรอยยิ ้มแรกสบตา "เจ้ ายังจําจดหมายที่ฝากมากับกิ่งแก้ วได้ ไหม" "พะย่ะค่ะ กระหม่อมจําได้ มิ ลืมเลือน เพราะนัน่ กลัน่ มาจากใจจริงของ กระหม่อม" "เรี ยงถ้อยคาอักษรเว้าวอนถึง เฝ้ าคานึงถึงใครทีใ่ ฝ่ ฝัน สุวิมลบริ สทุ ธิ์ เพียงดวงจันทร์ ราลึกมัน่ เพียงพบสบตา 7
Rain-at-Rose ประหนึ่งดัง่ บุหลันลอยเลือ่ น เคลือ่ นลับจักหายใต้เมฆา ดวงพักตร์ เจ้าพริ้ มเพราตรึ งตรา ยิ่งใฝ่ หาดัง่ กระต่ายหมายจันทร์ งามเนตรดัง่ เนือ้ ทราย งามกายดัง่ ทองทา งามพักตร์ ดงั่ ดารา งามเลิศล้าสุราลัย งามจริ งยิ่งโฉมใดใต้หล้า พิศเพียงสบตาสัน่ ไหว หากได้รกั เจ้าปักดวงใจ ดวงหทัยจะรักมัน่ นิรนั ดร์ เอย" ถ้ อยคําแสนหวาน...ตรึงตราหัวใจ...รักมัน่ ตราบนิรันดร์ กาล
8
กิ่งแก้วการะเกด ๑
9
Rain-at-Rose
1 เสียงเอะอะเจี๊ยวจ๊ าวภายในตลาด เรี ยกความสนใจจากชายหนุ่มหน้ าซื่อ หญิงสาวนุ่งกระโจมอก ผ้ าซิ่นเก่า ๆ บ้ างก็ปะหน้ าด้ วยดินสอพอง บ้ างก็น่งุ ห่มสไบ อวดผิวรํ าไร ภายในมือของพวกนางต่างถือถาดมีข้ารับใช้ เดินตามบ้ างแล้ วแต่ฐานะ แม่ค้าแม่ขายซึ่งนัง่ เคี ้ยวหมากหยับร้ องตะโกนเรี ยกคนให้ ซื ้อของ ชายหนุ่มร่างสูงสะพายย่ามคูก่ าย หน้ าตาหล่อเหลาสะกดใจหญิงสาวที่ มอง ชายหนุ่มยิ ้มให้ ด้วยรอยยิ ้มซื่อจนพวกนางสะเทิ ้นอาย ชายหนุ่มเพิง่ ลงจากเรื อ โดยสารที่หยุดอยู่ตรงศาลากลางตลาดอย่างไม่คอ่ ยมัน่ ใจนัก "ซื ้อเมล็ดผักไหมพ่อหนุ่ม มะพร้ าวก็มีนะจ๊ ะ" หญิงสาวออกไวกลางคน ร้ องเรี ยกพ่อหนุ่มรูปงามที่ยืนเก้ กงั ให้ ซื ้อของ "เอ่อ...ไม่หรอกจ้ ะ ว่าแต่ป้ารู้จกั ทางไป..." ชายหนุ่มยังถามมิทนั จบ ทุกคนที่อยู่เต็มถนนต่างรี บเร่งถอยไปข้ าง ๆ และ ก้ มหน้ าก้ มตา ชายหนุ่มที่มาจากต่างเมืองยืนนิ่ง คล้ าย ไม่เข้ าใจ จนใครบางคน ตะโกนเรี ยก 10
กิ่งแก้วการะเกด ๑ "เฮ้ ย...พ่อหนุ่ม เอ็งอยากหัวขาดหรื อ ? รี บหมอบเฝ้าขบวนองค์นรินทรธิ เบศร์ เร็ว ๆ ซีวะ" เท่านันเองชายหนุ ้ ่มก็รีบหมอบแต้ เสียงปี่ เสียงฆ้ องดังไพเราะจับจิต ชาย หนุ่มอยากแหงนหน้ ามองเหลือเกิน เพราะได้ ยินคํารํ่ าลือ ว่าองค์นรินทรธิเบศร์ งาม จับตานัก "มาจากต่างเมืองล่ะสิพอ่ หนุ่ม" ชายหนุ่มหันมองตาแก่ผมสีดอกเลาแล้ วยิ ้มให้ "ขอรับตา มีอะไรกันหรื อ? เจ้ าชันสู ้ งจะไปแห่งใดกัน" เขาถาม ชายชรายิ ้มแล้ วหัวเราะ "วันนี ้เป็ นวันที่องค์นรินทรธิเบศร์ จะเสด็จไว้ อาลัย พระศพของพระมารดาหรื อไปทําบุญนี่แหละ" ชายชราพูด ชายหนุ่มนิ่งเมื่อเสียงฆ้ องเข้ ามาใกล้ ชายหนุ่มจะปลดย่ามที่หนักแสน หนักออกจากบ่า แต่เหมือนมีกรรมหนุนนํา เพราะของที่อยู่ในย่ามกระจายออกจน ชายหนุ่มเก็บไม่ทนั "รี บ ๆ เก็บเข้ า หากขบวน เสด็จ มาถึงจะขยับเขยื ้อนตัวไม่ได้ หากขยับ เขยื ้อน เจ้ าจะถูกโบยหลังลาย" ชายหนุ่ม เข้ าใจดีเพราะเวลาชนชันกษั ้ ตริย์ออกประพาสยามใ ด ทุกคน ต้ องหมอบนิ่ง ใครขยับเท่ากับว่าคนนันอาจมี ้ ความคิดลอบทําลายราชวงศ์ ชาย หนุ่มรี บเก็บของ แต่จนใจนักกับถุงบุหงาเล็ก ๆ สีแดงสดกลิ ้งไปอยู่กลางถนน ชาย หนุ่มจะเข้ าไปเก็บแต่ก็ถกู ยึดหลังไว้ "อยู่นิ่ง ๆ" สายตาคมมองดูถงุ บุหงาอย่างเสียดาย สุดแสน เพราะว่าเป็ นเครื่ องราง ของเขา เป็ นสิง่ ที่มารดาทําให้ ก่อนที่จะออกจากบ้ านมายังเมืองหลวง เขาหวงมันยิ่ง
11
Rain-at-Rose นัก หากต้ องนิ่งเพราะขบวนขององค์นรินทรธิเบศร์ เคลื่อนเข้ ามาใกล้ เสียงปี่ ฆ้อง ประโคม ชายหนุ่มได้ แต่หลับตาลงรอคอยให้ เท้ าหนัก ๆ เหยียบถุงเล็ก ๆ นัน่ "หยุดขบวนก่อนสิวทัญํูอปุ ราช " กระแสเสียงใสดุจระฆังแก้ วบนชัน้ วิมาน องค์ วทัญํู ผ้ เู ป็ น อุปราชเฝ้ารับใช้ พระเจ้ าอธิบดี พระบิดาของเจ้ าชาย นริทรธิเบศร์ หยุดชะงักขบวนอย่างงุนงง "พระองค์มีรับสัง่ ใด" เสียงเคร่งขรึมสมกับใบหน้ าคมเข้ มกล่าว คนที่อยู่บนเสลี่ยงยิ ้มผ่านพระ วิสตู รเบาบาง อัคเรศหมอบเฝ้านันรู ้ ้ สกึ ว่าหัวใจเต้ นถี่ กรุ่นกลิน่ หอมดุจโหยหา เวลาราว กับหยุดนิ่ง ดวงพระเนตรของยุพราชหนุ่มจับจ้ องที่พื ้นดิน "วางเสลี่ยงลง" ยุพราชหนุ่มสัง่ นายทหารทําตาม บัญชา วทัญํูอปุ ราชก้ มหน้ าคุกเข่า ยกมือถวายบังคม "องค์นรินทรธิเบศร์ ต้องการสิง่ ใดหรื อ เกล้ ากระหม่อมจะสรรหามาถวาย " อุปราชหนุ่มถาม เจ้ าชายหนุ่มกลับเดินผ่านไปยังกลุม่ ทหารที่เกือบจะหยิบถุงบุหงาเล็ก ๆ นัน้ จนวทัญํูอปุ ราชแปลกใจที่พระองค์สงั เกตเห็นได้ "ของผู้ใดกัน" นํ ้าเสียงเดาพระทัยมิได้ วทัญํูอปุ ราชเดินเข้ าหา จะรับถุงบุหงาประกาศให้ แต่เจ้ าชายมิยอม "นี่ถงุ บุหงาของผู้ใดทําหล่น จงแสดงตัว" เสียงทรงอํานาจของอุปราชหนุ่ม ประกาศ ตาแก่ที่อยู่ใกล้ ชายหนุ่มร่างสูงสะดุ้ง มองหน้ าชายหนุ่มที่ก้มหน้ างุด 12
กิ่งแก้วการะเกด ๑ "ของมันผู้ใดกัน?" องค์นรินทรธิเบศร์ ได้ กลิน่ หอมก็ก้มสูดดม คลี่รอยยิ ้ม พึมพํากับตัวเองว่า หอมยิ่งนัก ชายหนุ่ม เจ้ าของบุหงา ได้ ยิน คําสดับ จึงลุกขึ ้นก่อนคําประกาศครัง้ ที่สาม จะดังขึ ้น "ของเกล้ ากระหม่อมเองพะย่ะค่ะ เกล้ ากระหม่อมสะเพร่าทําตกจากย่าม" ดวงตาคมตะลึงเมื่อเห็นใบหน้ างาม แววตาดุจดาว ผิวพรรณอร่าม รูปร่าง สมสง่า การแย้ มพระโอษฐ์ นนอี ั ้ ก...ดัง่ เทพยดาจุติ "เหตุใดเจ้ าจึงสะเพร่านัก ทหาร!" วทัญํูอปุ ราชจะสัง่ ให้ ทหารจับตัวชายหนุ่มผู้สะเพร่าไปตัดหัวเสีย แต่ เจ้ าชายกลับห้ าม เหล่าทหารชะงัก "ขอพระราชทาน อภัย เกล้ ากระหม่อ มมิได้ ตงใจ ั ้ หากแต่ย่ามที่เกล้ า กระหม่อ มสะพายหล่นกระจาย เกล้ ากระหม่อมเก็บถุงบุหงานันไม่ ้ ทนั ถึง เกะกะ ขบวนเสด็จ" นรินทรธิเบศร์ จ้องใบหน้ าของชายหนุ่มที่มองตนเขม็ง...ดูไม่เกรงกลัว และ ในแววตาแกร่งห่วงใยถุงบุหงาในมือ...นี่เป็ นของใครมอบให้ ชายผู้นี ้กัน ดวงเนตรดุจ ดาวจ้ องมองใบหน้ าแกร่ง วงหน้ างามยิ ้มอีกครัง้ เปรี ยบดอกไม้ บานสัน่ คลอนหัวใจ ของชายหนุ่มที่มองอย่างไม่คลาดตา "ของเจ้ าอย่างงันหรื ้ อ...ถ้ าเราจะขอล่ะ?" วทัญํูอปุ ราชมิอยากให้ องค์ชายสนทนากับคนชันตํ ้ ่าเกินความพอดี จึง ตวาดถาม "เจ้ าจะให้ ถงุ บุหงานี ้หรื อไม่?" องค์ชายหนุ่มเฝ้ารอคําตอบ คิดว่าน่าจะถวายให้ อย่างเต็มใจ พระองค์ กระซิบกับวทัญํูอปุ ราชให้ เตรี ยมเงินมอบให้ แต่...ชายหนุ่มกลับปฏิเสธ 13
Rain-at-Rose "เกล้ ากระหม่อมขออภัยที่มอิ าจถวายถุงบุหงานันได้ ้ มันมีคา่ ต่อ กระหม่อมยิ่งกว่าสิง่ อื่นใด" เจ้ าชายนิ่ง คลาย อุ้งหัตถ์ ที่จบั ถุงบุหงาหอมอย่างเชื่องช้ า "นี่เป็ นสิง่ ที่คน รักเจ้ ามอบให้ หรื อ?" ชายหนุ่มส่ายหัว "หามิได้ ถุงบุหงาชิ ้นนี ้เป็ นสิง่ ที่มารดาของกระหม่อม จัดทําให้ ถือว่าเป็ นเครื่ องรางของเกล้ ากระหม่อม" "อย่างนันหรื ้ อ...ข้ างในบรรจุด้วยดอกแก้ วใช่ไหม กลิน่ ช่างหอมนัก" ชายหนุ่มผู้นนงุ ั ้ นงงที่องค์ชายสนทนากับตนเนิ่นนาน เขานิ่งก่อนจะตอบ "พะย่ะค่ะ ข้ างในนันเป็ ้ นดอกแก้ ว" "กระหม่อมว่าพระองค์รีบเสด็จเถิด" วทัญํูอปุ ราชเตือน แต่องค์นรินทรธิเบศร์ ยงั มิยอมขยับ "แม้ นมีเงินเป็ นหมื่นอัฐก็มอิ าจซื ้อได้ เช่นนันหรื ้ อ" เจ้ าชายถาม ชายหนุ่มผู้นนผงกหั ั้ ว สีหน้ าหนักแน่น "พะย่ะค่ะ สิง่ นี ้มีคา่ ยิ่งกว่าเงินทอง" เจ้ าชายเคลื่อนกายมาใกล้ ๆ จนจมูกของชายหนุ่มได้ กลิน่ ของมวลดอกไม้ นี่สนิ ะที่เขาเรี ยกว่ากลิน่ ของคนสูงศักดิ์ นิ ้วเรี ยวถือถุงบุหงาประทานคืน ชายหนุ่ม น้ อมรับ "หากเป็ นเช่นนัน้ ขอให้ เจ้ าจงเก็บไว้ ดี ๆ เถิด” กลิน่ หอมยังไม่จางหาย สายตาของชายหนุ่มเห็นเพียงแค่ ปลายเล็บ มน สะอาด ก่อนองค์นรินทรธิเบศร์ จะขึ ้นเสลี่ยง วทัญํูอปุ ราช คล้ ายไม่ชอบใจชาย หนุ่มชันตํ ้ ่าผู้นนมากนั ั้ ก หากก็ได้ แต่เงียบเท่านัน้ "เคลื่อนขบวน" เสียงปี่ ฆ้องลัน่ ร้ อง ทุกคนต่างทยอยลุกขึ ้นรวมทังชายหนุ ้ ่มที่กําถุงบุหงา ดอกแก้ วแน่น 14
กิ่งแก้วการะเกด ๑ ...กลิน่ เอ๋ยกลิน่ หอม...ล่อมวลหมูแ่ มลง ดอมดมภมรเคล้ า...กลีบดอกเจ้ า ช่างหอมละไมนัก... ชายหนุ่มเหม่อจนตาแก่ที่อยู่ข้าง ๆ ตบบ่า "พ่อหนุ่มมาจากที่หนใดกัน ช่างกล้ านัก" ชายหนุ่มมองดูชายชรา "ข้ ามีนามว่าอัคเรศจ้ ะ มาจากบ้ านป่ าแดง แถว ธารมณีโน่น" ชายหนุ่มบอก ชายแก่หรี่ ตา "นี่เจ้ ามาจากแถวธารมณีเรอะ บ๊ ะ บ้ านนอกเลยนี่" ชายหนุ่มยิ ้มแก้ มปริ มิถือในคําพูด ชายแก่ชวนเขาไปดื่มนํ ้าชาที่โรงเตี๊ยม ของชาวจีน "นี่เป็ นโรงนํ ้าชาของเจ๊ กเหลา เอ็งจะดื่มเหล้ าหรื อเอาอะไรวะ" "ขอบใจจ้ ะตา ขอแค่นํ ้าชาพอ" เด็กในโรงเตี๊ยมนํานํ ้าชามาให้ ชายหนุ่มยกป้านนํ ้าชาร้ อน ๆ ขึ ้นจิบ "ว่าแต่เอ็งมาทําอะไรในเมืองหลวงวะพ่อหนุ่ม จากบ้ านมาทํางานหรื อ" "จ้ ะ ตา ฉันเข้ ามารับราชการเป็ นทหาร เห็นเขาสมัครกัน ฉันก็เลยมา" "บ๊ ะ...เยี่ยม...แล้ วเอ็งไม่ห่วงแม่เอ็งเรอะ" พูดถึงมารดา ชายหนุ่มก็ตีหน้ าเศร้ า "แม่ของฉันเพิง่ เสียก่อนฉันมานี่แหละ จ้ ะตา ท่านให้ ถงุ บุหงานี ้ก่อนจะสิ ้นใจ แม่อยากให้ ฉนั เป็ นทหารเหมือนพ่อ ฉันก็เลย ออกมาผจญโชคดู คิดว่าถ้ าไม่ได้ เป็ นทหารฉันก็กลับไปทําไร่ไถนา" อัคเรศว่า ชายแก่จ้องใบหน้ า เพ่งพิศ ช ายหนุ่มผู้นี ้มีลกั ษณะดี กริยาก็เรี ยบร้ อย ดู ฉลาดเฉลียว ร่างกายก็แข็งแรง "เอ็งต้ องได้ เป็ นทหารแน่แหละ ข้ าว่า...เออ พ่อหนุ่ม เอามือมานี่หน่อย ข้ าพอดูลายมือเป็ นบ้ าง จะดูให้ " ชายแก่ดลู ายมือให้ ชายหนุ่ม ก่อนจะนิ่งไปสักพัก "เป็ นอย่างไรบ้ างตา?" อัคเรศถามด้ วยรอยยิ ้ม
15
Rain-at-Rose ตาแก่ผอมกะหร่องหัวเราะ "เอ็งมีวาสนาดี เอ็งจะได้ เป็ นใหญ่เป็ นโต...แต่ แรก ๆ เอ็งจะเดือดร้ อนหน่อย ส่วนคูร่ ักเอ็ง..." ตาแก่นนจ้ ั ้ องหน้ าชายหนุ่มที่กําลังยิ ้ม "จะเป็ นคนที่สงู ส่ง...ฮ่าฮ่า พ่อหนุ่มดูท่าจะได้ เมียเป็ นลูกขุนนางนะ" ชายหนุ่มหัวเราะตาม แต่จู่ ๆ ชายชราก็เงียบไป "มีอะไรหรื อจ๊ ะตา" อัคเรศถามเมื่อเห็นสีหน้ าเคร่งเครี ยด "ถ้ าข้ าพูด เอ็งจะว่าอะไรข้ าหรื อเปล่าวะ พ่อหนุ่ม" ชายหนุ่มส่ายหัว แววตา ซื่อ สงสัย "ไม่จ้ะตา คําพูดของตาฉันไม่กล้ าว่า ดอก" เขาว่าเช่นนัน้ ตาแก่ผอมกะหร่องจึงยอมเอ่ย "ถึงแม้ วาสนาเอ็งจะดี แต่ตอนท้ ายเอ็งจะเป็ นทุกข์อย่างใหญ่หลวง และ เอ็งก็จะตายตังแต่ ้ ยงั หนุ่มเพราะพิษรัก" พูดจบอัคเรศก็นิ่ง "ขอบใจจ้ ะตาที่ดดู วงให้ ฉนั " ชายหนุ่มล้ วงเงินอัฐให้ แต่ ชายชราไม่รับ "เอาไว้ เถอะ ข้ าอยากดูให้ เจ้ าแบบไม่คดิ เงินคิดทอง" ชายหนุ่มยกมือไหว้ "ตารู้จกั ทางไปพระราชวังทิฆมั พรไหม ที่นนั่ เขารับ สมัครทหารกัน" ชายชราชี ้ทาง ชายหนุ่มลุกขึ ้น ขอบคุณที่ชายชราเลี ้ยงนํ ้าชา "ขอบคุณจ้ ะ ตาที่เลี ้ยงชาและบอกทาง หากฉันก้ าวหน้ ามัน่ คงเมื่อไร ฉันจะตอบแทนตา" ตาแก่โบกมือ "โฮ้ ย...ไม่ต้องหรอกพ่อหนุ่ม มันจะเป็ นบุญเป็ นคุณกันเสีย เปล่า ๆ เอาเป็ นว่าข้ าเลี ้ยงเอ็งเพราะนิยมนิสยั ก็แล้ วกัน ขอให้ เอ็งมีชยั ล่ะ" อัคเรศยกมือไหว้ ชายหนุ่มเดินไปทางที่ตงปราสาทตามที ั้ ่ชายชราชี ้ทางให้ ...จุดมุง่ หมายของเขาอยู่ที่ปราสาททิฆมั พรอันสวยงาม ชายหนุ่มไปถึงก็เห็นคนที่ อยากเป็ นทหารมากมายนักก็นึกท้ อใจแต่ก็เข้ มแข็งกัดฟั นเข้ าไปฝากกายด้ วย "พ่อหนุ่ม เอ็งมาอาสาเป็ นทหารด้ วยหรื อ" 16
กิ่งแก้วการะเกด ๑ อัคเรศยิ ้มให้ แก่นายทหารชราอ้ วนพุงพลุ้ย "ขอรับ กระผมขอฝากตัวด้ วยคนนะขอรับ " เขาพนมมือไหว้ ชายหนุ่มถูก พาไปพบกับเสนาสิงห์ ซึ่งในตอนนี ้ท่านนัง่ หน้ าเคร่งดูการต่อสู้ของเหล่าผู้มาสมัคร อย่างตังใจ ้ "อํามาตย์สงิ ห์ขอรับ เจ้ าหนุ่มคนนี ้จะมาสมัครเป็ นทหาร ขอรับ" นายทหาร ชรารายงาน เสนาสิงห์เงยหน้ าจากกระดานชนวนที่ขีดฆ่ารายชื่อคนที่เข้ ามาสมัคร ใบหน้ าของท่านขมวดมุน่ "มันชื่ออะไร?" ท่านเสนาถาม อัคเรศยิ ้มให้ "กระผมมีนามว่าอัคเรศขอรับ" เสนาสิงห์ขีดเขียนรายชื่อเร็ว ๆ ก่อนจะชี ้ให้ ไปต่อแถวรอเรี ยกทดสอบ กําลัง ชายหนุ่มมองเพลิน เพราะแต่ละคนต่างพกฝี มือมา แข่งขัน กันอย่างเต็มที่ มี ทังอ่ ้ อนบ้ าง แกร่งบ้ าง ชายหนุ่มกําย่ามแน่นเมื่อใกล้ มาถึงตัวเอง...การต่อสู้มีทงการ ั้ ใช้ หมัดมวย ทังใช้ ้ อาวุธ "เอ็งมาจากไหน?" ชายร่างเล็ก สันทัด แต่ดมู ีแววเก่งกาจทักเพราะเห็นเจ้ า หนุ่มหน้ าซื่อสะดุดตากว่าใคร อัคเรศดีใจที่มีคนหยิบยื่นไมตรี ให้ "ข้ ามาจากธารมณี" ชายหนุ่มตอบ ชายร่างเล็กตบบ่า "มาจากบ้ านนอกเชียวรึ ข้ าชื่อไอ้ ขวัญแล้ ว เอ็งล่ะว่ะ ชื่อ ไร?" ชายชื่อขวัญแนะนําตัว อัคเรศจึงแนะนําตัวเองบ้ าง "ฉันชื่ออัคเรศจ้ ะ" ขวัญหัวเราะเมื่อได้ ยินชื่อ "แม่เจ้ าโว้ ย ชื่อเอ็งอย่างกับลิเก ใครตังให้ ้ วะ " อยากจะรู้วา่ ใครตังชื ้ ่อให้ ไอ้ หนุ่มบ้ านนอก หน้ าตาซื่อนี่ อัคเรศก็แจงให้ ฟัง "แม่ของฉันเป็ นคนตังให้ ้ จ้ะ อัคเรศหมายถึงดีเลิศ" 17
Rain-at-Rose เมื่อได้ ยินชื่อ เจ้ าขวัญเลิกคิ ้ว ชื่อมันดีกว่าชื่อชาวบ้ านสามัญทัว่ ไปนัก "พ่อของฉันเคยเป็ นทหารให้ เมืองหลวงจ้ ะ แม่ก็เคยเป็ นนางกํานั ล ฉันก็ เลยได้ ชื่อนี่มา" อัคเรศเสริม พอถึงคราวเรี ยกเรี ยกชื่อเจ้ าขวัญ ชายร่างเล็กขานรับแล้ วลุกขึ ้น "ขอให้ โชคดีนะ" ชายหนุ่มอวยพรให้ เจ้ าขวัญเข้ าลานประลอง อัคเรศเฝ้าชมการประลอง เป็ นการประลอง ทดสอบฝี มือที่อคั เรศไม่เคยพบเจอ ชายหนุ่มนึกถึงตอนที่บดิ าเล่าถึงการสู้รบ เล่าถึง ชีวติ ในวัง พร้ อมทังสอนการต่ ้ อสู้ สอนเชิงมวยให้ มารดาซึ่งเคยเป็ นอดีตนางกํานัล สอนเขาให้ มีมารยาทอ่อนน้ อมถ่อมตนแม้ กระทัง่ ผู้มีอายุตํ่ากว่า นิสยั ชายหนุ่มจึง อ่อนโยนหากแข็งแกร่งในที เจ้ าขวัญประลองเสร็จแล้ ว เสียงเฮลัน่ อัคเรศยื่ นหน้ าดู คูต่ อ่ สู้ของเจ้ า ขวัญแพ้ ชายร่างเล็กชูมือ ใบหน้ าฟกชํ ้า ฝ่ ายเสนาสิงห์ก็ขีดฆ่ารายชื่อผู้แพ้ ออก สุดท้ ายก็มาถึงเขา อัคเรศใจเต้ นถี่แรง "คนต่อไป..." เสนาสิงห์มองดูรายชื่อ ซึ่งชื่อของอัคเรศเป็ นคนสุดท้ ายพอดี ท่าน อํามาตย์หน้ าเคร่งก็ตะโกนเรี ยก "ไอ้ อคั เรศ ออกมา!" เสียงของท่านเสนาดุดนั อัคเรศฝากย่ามกับเจ้ าขวัญที่เข้ ามานัง่ ข้ างกันเช่นเดิม เขาล้ วงเอาถุง บุหงาใส่ในอกเสื ้อ "เครื่ องรางเอ็งเรอะ " เจ้ าขวัญถามเมื่อเห็นชายหนุ่มเอาถุงบุหงาใส่ในอก เสื ้อ อัคเรศยิ ้มก่อนจะตอบ "จ้ ะ"
18
กิ่งแก้วการะเกด ๑ พอชายหนุ่มลุกขึ ้น รูปร่างสูงใหญ่ แข็งแกร่ง งามสง่า เรี ยกเสียงฮือฮาลัน่ กระทัง่ ท่านอํามาตย์ที่เข้ าร่วมชมการประลองออกปากเอ่ยชมกับเสนาสิงห์ "ไอ้ หนุ่มนี่มีศภุ ลักษณ์ดี น่าจะให้ มนั เป็ นทหารในวังนะ " เสนาอินทร์ ผ้ ซู ึ่ง เป็ นอํามาตย์ชนผู ั ้ ้ ใหญ่กระซิบ เสนาสิงห์ผงกหัวเห็นด้ วย "แต่ก็ต้องรอดูฝีมือมันก่อนว่าจะเป็ นไก่อ่อนหรื อ เปล่า" ชายหนุ่มเดินราวกับพยัคฆ์ จนเสนาสิงห์ต้องมองอย่างเพ่งพินิจ "กระผมอัคเรศขอรับ มาจากธารมณี " ชายหนุ่มแนะนําตัว พลางก้ มกราบ อย่างสวยงาม น่าชม "เอาล่ะไอ้ อคั เรศ คูต่ อ่ สูข่ องเอ็งคือเจ้ ามัน่ มาจากบ้ านสาย" อัคเรศมองคูต่ อ่ สู้ของตัวเอง เจ้ ามัน่ เป็ นคนร่างยักษ์ กํายํา มันมองดูชาย หนุ่มที่ผอมกว่าตนอย่างดูถกู ดูแคลน เสนาสิงห์ให้ คนบอกกฎกติกาก่อนเสียงระฆัง จะเริ่มต้ นดังขึ ้น
ภายในปราสาทพระมารดา ร่างขององค์นรินทรธิเบศร์ ก้มกราบโกศทองที่ บรรจุพระอัฐิของพระมารดา เมื่อจุดธูปหอม ทําพิธีคาราวะพระศพเสร็จ องค์ยพุ ราช หนุ่มนัง่ พับเพียบ เบื ้องหน้ าเป็ นวทัญํูอปุ ราชซึ่งทําหน้ าขรึม "เมื่อสักครู่พระองค์มคิ วรจะเสด็จลงจากเสลี่ยงมาเสวนากับคนชันตํ ้ ่าเลย " ท่านอุปราชว่า 19
Rain-at-Rose ท่าทางองค์ยพุ ราชหนุ่มเหม่อ ลอยไปชัว่ ขณะ พระองค์หนั มาทางวทัญํู อุปราช ทอดพระเนตรอย่างมิเข้ าใจนัก "เราพูดคุยกับชาวเมืองของเรามิได้ หรื อ?" พระองค์ย้อนถามด้ วยรอยยิ ้ม วทัญํูอปุ ราชก้ มหน้ า เอ่ยวาจามิออก...ที่พดู เพราะเห็นว่าองค์ยพุ ราช แสนงามให้ ความสนใจเจ้ าหนุ่มชันตํ ้ ่ามากเกินไป "แต่พระองค์ก็มบิ งั ควร... " ท่านอุปราชจะเอ่ยวาจาต่อ แต่องค์นริ นทรธิ เบศร์ กลับโบกพระหัตถ์ "เอาเถอะ...เราจะทําอะไร เราก็ร้ ูดี วา่ สิง่ ใดควรไม่ควร ขอบใจที่เตือน " คํา ตรัสประดุจประชด วทัญํูอปุ ราชก้ มศีรษะ "เอ่อ...กระหม่อม..." อุปราชหนุ่มจะแก้ ตวั องค์ชายกลับลุกขึ ้น เสด็จขึ ้นเสลี่ยง "จะพูดมากอยู่ไย เราจะกลับวังแล้ ว" พระสุรเสียงลอดออกจากพระวิสตู ร ดวงพักตร์ ดบู ึ ้งไป วทัญํูอปุ ราชกลืน นํ ้าลาย เพราะ ทําให้ องค์ชายอารมณ์เสีย ดวงพักตร์ ที่ซ่อนภายใต้ พระวิสตู รนัน้ ล่องลอยไปกับกลิน่ หอมของดอกแก้ วตรึงนาสิก...พระองค์ทอดถอนใจ ดุจดัง่ อารมณ์ที่หาสาเหตุไม่ได้ เชือดเฉือนจิตใจ...สัน่ ไหว...ประหวัดหา "วทัญํู เราอยากเข้ าไปดูการคัดเลือกทหาร" องค์ยพุ ราชรับสัง่ ครัน้ แรกวทัญํูอปุ ราชจะคัดค้ าน หากก็มกิ ล้ าขัดพระทัยอีก "พระองค์จะเข้ าชมดูหรื อพะย่ะค่ะ...หากเป็ นเช่นนันกระหม่ ้ อมจะจัดคน ไปบอกทางกองคัดเลือกทหารให้ จดั พลับพลาต้ อนรับพระองค์" นรินทรธิเบศร์ มอิ ยากวุน่ วายจึงบอกให้ ไปเงียบ ๆ พระองค์ลงจากเสลี่ยง "เราจะไปดูด้วยตัวเราเอง มิต้องให้ ใครตามเราไปหรอก" กล่าวจบพระองค์ก็เดินไปทางปราสาททิฆมั พรซึ่งเป็ นที่จดั ประลอง เหล่า ทหารรวมทังอุ ้ ปราชหนุ่มมององค์ยพุ ราชคล้ ายอยากเตือน 20
กิ่งแก้วการะเกด ๑ "พระองค์จะทําเช่นนี ้มิได้ นะพะย่ะค่ะ" องค์ชายเอามือไขว้ หลัง "เหตุใดถึงทํามิได้ เราอยากจะเดินด้ วยเท้ าของ เรา มันจะมีปัญหาอะไร" ดวงเนตรกระจ่างใสมองดูเครื่ องทรงของตัวเอง ก่อนจะร้ องอ๋อ พระองค์ ถอดสร้ อยสังวาล เครื่ องประดับอันมีคา่ ออก คงเหลือแต่ชดุ ทรงเท่านัน้ พระองค์ยื่น ให้ แก่วทัญํูอปุ ราชที่ทําหน้ าเสีย "แต่...หากมีคนลอบปองร้ ายเล่า รวมทังพระบิ ้ ดาอีก องค์อธิบดีจะกริว้ เอา" คําคัดค้ านยิ่งทําให้ ใบหน้ าขององค์ชายดื ้อดึง "เราดูแลตัวเองได้ อีกอย่างปราสาททิฆมั พรก็เชื่อมวังมรกตของเรา จะมี ปั ญหาใดอีก พวกเจ้ ากลับไปก็มติ ้ องพูดกล่าวอะไร หากพระบิดาถามถึงตัวเรา พวก เจ้ าเงียบไว้ ก็จบ" พระองค์ถอดฉลองพระบาทยื่นให้ อีก คราวนี ้เหลือแต่เท้ าเปล่าเปลือย เหยียบพื ้นดินสกปรก พระองค์ดู ไม่ตา่ งกับบุตรขุนนาง หากความสง่าบ่งบอกมิใช่ สามัญชนธรรมดา อุปราชหนุ่มอดพูดกล่าวทัดทานมิได้ "วทัญํู ท่านรี บกลับวังเถิด พระบิดาเรา คงต้ องการจะสนทนากับท่าน มากมายหลายเรื่ องนัก" พระองค์วา่ อย่างอารมณ์ดี ก่อนจะออกเดิน ท่ามกลางสีหน้ า อํ ้าอึ ้งและซีด เผือดของขบวนตามเสด็จ วทัญํูอปุ ราชลุกขึ ้น สัง่ แค่ทหารฝี มือดีลอบติดตามไปสองสามนาย องค์ ชายช่างเอาพระทัยตัวเองยิ่งนัก วทัญํูทอดถอนใจกับนิสยั ที่ตวั เองต้ องยอม อ่อน ให้ เสียรํ่ าไป
21
Rain-at-Rose
องค์ยพุ ราชหนุ่มสําราญพระทัยยิ่งนัก พระองค์แอบเดินตลาดเพียงชัว่ ครู่ ...มิมีใครใส่ใจชายหนุ่มผิวงามดุจดัง่ เทพนิมติ พระองค์มปิ ระหวัน่ พรั่นใจว่าจะมีคน ลอบทําร้ าย พอชมตลาดจนพอพระทัยจึงไปยังปราสาททิฆมั พร เสียงร้ องเฮลัน่ น่า สนุก ปลุกให้ เจ้ าชายหนุ่มเร่งฝี เท้ า พระองค์เห็นทหารเฝ้าหน้ าประตูจึงคิดหาวิธีเข้ า ชม พระองค์นิ่งสักพักก่อนจะนึกได้ วา่ เคยซุกซนแอบหนีมาเที่ยวเล่นบริเวณนี ้จน พบช่องเล็ก ๆ อยู่อีกด้ านหนึ่งของกําแพง และใช้ เป็ นทางหลบหนีสายตานางกํานัล เสมอเวลาเที่ยวเล่นซน พระองค์จึงรี บวิง่ ไปทันที เอาตัวลอด ช่อง กําแพงอย่าง ทุลกั ทุเล ปี นต้ นไม้ ขึ ้นมองการประลอง นายทหารที่เฝ้าติดตามคลาดสายตาจากองค์ยพุ ราช พากันหน้ าเผือดเมื่อ รู้วา่ หัวหลุดจากบ่าแน่ เนื่องจากองค์ยพุ ราชหายไป นายทหารต่างก็พากันรี บเร่งไป ในลานประลองคัดทหาร เสียงเฮลัน่ น่าสนุก องค์ยพุ ราชหนุ่มชะเง้ อมอง...นี่เป็ นการต่อสู้ที่ดเุ ดือด เสียจริง พระองค์มอง ผ่านฝุ่ นที่ฟ้ งตลบ ุ ก่อนจะเห็นเงาในม่านฝุ่ นนัน...ดวงหน้ ้ า แกร่ง แววตานัน...ดู ้ อ่อนโยน พระองค์มอง การต่อสู้ อย่างสนใจ แต่ละฝ่ ายงัด วิชา หมัดมวยเข้ ามาสู้กนั อย่างเต็มที่ "เฮ้ ย! ไอ้ หนุ่มสู้เขา!" เสียงร้ องตะโกนให้ กําลังใจ เสนาสิงห์ถึงกับวางกระดานชนวนลง มอง อย่างสนใจ "ช่างเป็ นคนมีฝีมือเก่งกาจนัก" เสนาอินทร์ วา่ 22
กิ่งแก้วการะเกด ๑ อัคเรศที่อยู่ในสนามปะลองปาดเลือดออกจากมุมปาก ก่อนจะปล่อยหมัด พร้ อมกับเตะก้ านคอเจ้ ายักษ์จนมันสลบเหมือด "ผู้ชนะคือไอ้ อคั เรศ" เสียงปรบมือดังก้ อง ไม่คดิ ว่าไอ้ หนุ่มหน้ าซื่อจะชนะเจ้ ายักษ์ องค์ยพุ ราชก็ปรบมือให้ ชายหนุ่มยกมือไหว้ เสียงโห่ร้องบอกให้ ชายหนุ่ม แสดงฝี มืออีกดังก้ อง เสนาสิงห์ลกุ ขึ ้ น เดินไปหาผู้ชนะ "พ่อหนุ่มจะว่าอย่างไร มีคนอย าก ประลองกับพ่อหนุ่มอีก?" อัคเรศทรุดนัง่ "กระผมยินดีขอรับ" เขารับคําสมดัง่ ชายชาติทหาร ชายหนุ่มลุกขึ ้นรับกระบองจากนายทหาร อีกนาย เสนาสิงห์หวั เราะลัน่ ก่อนจะสัง่ ให้ คนฝี มือดีที่สดุ เข้ ามาประลองกับชายหนุ่ม แต่ยงั มิได้ ทําอะไร นายทหารที่เฝ้าองค์นรินทรธิเบศร์ ก็เข้ ามา "ขออภัยที่เข้ ามาขัดการประลอง" เสนาสิงห์หนั มา "มีอะไรหรื อ?" ท่านถาม เหล่าทหารก้ มหน้ า "องค์นรินทรธิเบศร์ เสด็จมาทางนี ้หรื อไม่ขอรับ " เสียง ถามสัน่ เครื อ อัคเรศหยุดนิ่งเมื่อได้ ยินชื่อขององค์อินทร์ งามแสนงาม หัวใจเหมือนจะชุ่ม ชื่นไปด้ วยความรู้สกึ หนึ่งที่เอ่อล้ นมาโดยไม่มีสาเหตุ "เอ๋ องค์นรินทรธิเบศร์ งนรึ ั ้ ข้ ามิเห็นดอก พระองค์มาทอดพระเนตรการ ประลองงันหรื ้ อ" คนที่ถกู กล่าวถึง หัวเสียอยู่บนต้ นไม้ เจ้ าชายหนุ่มหงุดหงิดพระทัย เนื่องจากวทัญํูอปุ ราชขัดคําสัง่ ตน
23
Rain-at-Rose "เอ่อ...คือ..." นายทหารเหล่านันตอบไม่ ้ ได้ วา่ องค์นรินทรธิเบศร์ แอบหนีมา "พวกกระผมคิดว่าพระองค์จะผ่านมาแถวนี ้" ต่างก็พากันลุกขึ ้น เดินออกไป ชายหนุ่มได้ ยินชื่อองค์นรินทรธิเบศร์ ร้ ูสกึ ถึงหัวใจไหววูบ แต่...องค์นริน ทรธิเบศร์ กลับปี นลงจากต้ นไม้ ทําให้ เหล่าเสนาตื่นตกใจ ทรุดนัง่ ถวายทําความ เคารพแทบไม่ทนั "อ่า...พระองค์ทรงเสด็จมาตังแต่ ้ ตอนไหนหรื อพะย่ะค่ะ " เสนาสิงห์ละลัก ละลํ่าสอบถาม เจ้ าชายหนุ่มยิ ้มหวาน "เรามาอยู่นานแล้ วแหละ เห็นว่างานประลอง น่า สนุกดี เราเลยมาชมเสียหน่อย" ยุพราชหนุ่มเดินผ่านเหล่าคนที่เข้ ามาประลองคัดเลือกเป็ นทหารอย่าง เชื่องช้ า ก่อนจะหยุดตรงหน้ าอัคเรศ "เจ้ าผู้นี ้มีฝีมือดีมาก เจ้ าลองประลองให้ เราดูหน่อยสิ" ชายหนุ่มมิคาดฝั นว่าองค์ชายจะกล่าวกับตนอีกครัง้ หนึ่ง เขาได้ แต่มองฝ่ า พระบาทซึ่งเปื อ้ นด้ วยฝุ่ นดิน แต่มนั ก็ยงั แลดูงาม "ลุกขึ ้นได้ " สุรเสียงรับสัง่ อย่างเริงร่า เสนาสิงห์ลกุ ขึ ้นรี บจัดการประลอง อัคเรศมีจิตใจฮึกเหิมว่าตัวเองจะชนะ เขาสู้อย่างสุดกําลังโดยมีสายพระเนตรของยุพราชหนุ่มมองอย่างมิคลาดสายตา ชายหนุ่มสู้ทงทางเชิ ั้ งมวย อาวุธ กระบี่กระบอง จนกระทัง่ วทัญํูอปุ ราชเข้ ามารับ ยุพราชกลับวัง "องค์ชาย กระหม่อมว่าเชิญพระองค์เสด็จวังกลับเถิด" อัคเรศมัวแต่มองยังพลับพลาที่เจ้ าชายหนุ่ม ประทับ อยู่ จนกระทัง่ ถูกตีหวั เลือดอาบ องค์ยพุ ราชหนุ่มหันมามอง มีสีหน้ าตกใจ อัคเรศไม่เห็นแววตานันเพราะ ้ ต้ องสนใจฝ่ ายคูป่ ระลองที่รุกมาเรื่ อย ๆ 24
กิ่งแก้วการะเกด ๑ "ไม่เอา เรายังไม่อยากกลับ" เจ้ าชายดื ้อดึง อุปราชหนุ่มส่าย หน้ า ก้ ม กระซิบ "องค์ อธิบดีเรี ยกหาพระองค์ สัง่ ความ กระหม่อมมา จะมีรับสัง่ กับพระองค์" วทัํอู ปุ ราชทราบดีวา่ จะใช้ วธิ ีใดบังคับองค์ยพุ ราชผู้แสนเอาแต่พระทัย เท่านันเอง ้ องค์ นรินทรธิเบศร์ จึง ยอมลุกอย่างง่ายดาย ท่าทางขุน่ เคืองใจเล็กน้ อย วทัญํูอปุ ราชหันมองดูคนที่เข้ าประลอง...เจ้ าหนุ่มนัน...เขามองอย่ ้ างมุง่ ร้ าย ก่อน จะพาองค์ชายเข้ าวังมรกต
วังมรกตเป็ นที่ประทับขององค์นรินทรธิเบศร์ พระองค์ทํา พักตร์ บูดให้ นาง กํานัลล้ างพระบาทให้ "พระองค์หนีไปอย่างนี ้กระหม่อมเป็ นห่วงมากพะย่ะค่ะ " วทัญํูวา่ นรินทรธิเบศร์ แอบเบ้ ปากระหว่างถูกจับแต่งองค์ใหม่เพื่อที่จะเข้ าเฝ้าองค์อธิบดี "ขอบใจที่เจ้ าเป็ นห่วงใยเรา วทัญํู เรารู้จกั ปราสาทราชวังนี ้ดีกว่าเจ้ าน่า เฮ้ อ เราจะไปไหนนี่ต้องจับผิดตลอดเลยหรื อ?" องค์ชายตรัส วทัญํูอปุ ราช ทอดยิม้ ประโลม "ก็พระองค์ทรงเป็ นเจ้ าชายรัชทายาท เพียงพระองค์เดียวนี่พะย่ะค่ะ" เสียงสรวลสดใส ดวงพระเนตรกระจ่างจ้ องมาทางอุปราชหนุ่มรูปงาม "แล้ วท่านล่ะเป็ นเช่นไรบ้ าง อยู่ที่เมธีนครสบายดีหรื อไม่?" "พระเจ้ าข้ า...กระหม่อมอยู่ที่เมธีนครสบายดี ขอบพระทัยที่พระองค์ทรง ห่วงใย" 25
Rain-at-Rose วทัญํูมองเจ้ าชายหนุ่ม ซึ่งตอนนี ้ลุกขึ ้นให้ นางกํานัลสวมเครื่ องประดับ เพริศแพร้ ว...รูปโฉมงามยิ่งนัก วทัญํูแอบมองด้ วยดวงตาสิเน่หา ก่อนจะก้ มลง เมื่อยุพราชหนุ่มออกเดิน "พระบิดาเรามีเรื่ องอันใดจะกล่าวกัน ?" ริมฝี ปากแดง เรื่ อ เอื ้อนเอ่ยวาจา อุปราชหนุ่มมิตอบ เมื่อถึง วัง ขององค์อธิบดี เจ้ าชายหนุ่มก้ าวเข้ าไป ทรุดนัง่ ทํา ความเคารพต่อองค์ราชาผู้แก่ชรา "พระบิดา มีเรื่ องอันใดจะรับสัง่ กับผู้บตุ รหรื อพะย่ะค่ะ" องค์กษัตริย์ ลุกจากแท่นนัง่ ดําเนินมาโอรสของตน "นรินทร์ ...เจ้ าก็โตขึ ้นมากพอจะสืบทอดบัลลังก์ข้าแล้ ว " องค์อธิบดีเอ่ย ด้ วยเสียงแหบ "พะย่ะค่ะ...เสด็จพ่อหมายถึง?" เขาไม่เข้ าใจในความหมายกับกล่าวนัน้ รอยยิ ้มผุดขึ ้นบนใบหน้ าชราภาพ "บิดาอยากให้ เจ้ าหามเหสีหรื อบาทบริจาริกาสักคนบ้ าง" องค์นรินทรธิเบศร์ นิ่งไปชัว่ ครู่ก่อนจะตรัสตอบ "กระหม่อมยังมิได้ ขึ ้น ครอง บัลลังก์ ใยรี บร้ อนหามเหสีนกั " กล่าวจบก็สรวล เอ่ยอย่างไม่จริงจัง "บิดาอยากเห็นเจ้ าได้ เป็ นฝั่ งเป็ นฝาก่อนที่จะตาย " บิดาจับมือ ผิวสะอาด กระทบกับผิวอันเหี่ยวย่น เพียงคําพูดนัน้ เจ้ าชายหนุ่มก็นิ่งไป "เสด็จพ่อ...อย่าได้ ตรัสเช่นนัน" ้ ผู้เป็ นโอรสกล่าว ยามที่ได้ ยินวาจานี ้ หัวใจ พลันแห้ งเหี่ยว "เฮ้ อ คนเราก็ต้องตายสักวัน...เอาเถอะ....เรื่ องนี ้เจ้ าเก็บไปคิดเถิด" เจ้ าชายหนุ่มก้ มศีรษะ "กระหม่อมจะเก็บไปตรองดู" องค์อธิบดีจ้องมองบุตรชาย "เจ้ ามิมีคนที่รักหรื อ?" ตรัสตามประสาบิดา
26
กิ่งแก้วการะเกด ๑ องค์นรินทรธิเบศร์ ยิ ้ม "ก็ยงั มิมีนงคราญใดเป็ น ที่ต้องตาต้ องใจกระหม่อม นี่พะย่ะค่ะ" พูดดุจเย้ าตัวเอง บิดาลูบศีรษะ.. .ยุพราชงามดุจดัง่ เทพยดา...งามเหมือนมณีรัตน์ มเหสี เอกซึ่งเป็ นมารดาของเด็กผู้นี ้ "กระหม่อมคิดว่ากระหม่อมยังเยาว์วยั ไปที่จะแต่งงานหรื อมีคนรักพะย่ะ ค่ะ...เรื่ องเรี ยนศิลปวิทยา กระหม่อมยังเรี ยนมิจบเลย เพราะเหตุนี ้กระหม่อมยังมิ คิดมองผู้ใด" องค์ชายหาเหตุผลมาตอบ บิดาลูบแผ่นหลัง "ยังไงบิดาก็มอิ าจ บังคับใจเจ้ าอยู่แล้ ว บิดาเพียงอยากจะสนทนากับเจ้ า เพียงเท่านัน้ " องค์นรินทรธิเบศร์ ก้มลงกราบพระชนก ก่อนจะให้ พระองค์ทรงพักผ่อน ส่วนตัวพระองค์เองทําหน้ าเหนื่อยใจออกมา..มีคคู่ รองงันหรื ้ อ...จัดพิธีอภิเษกหรื อ... เรื่ องนันไม่ ้ อยู่ในหัวเลยด้ วยซํ ้า "พระองค์ทรงเป็ นอะไรหรื อ " วทัญํูที่ยืนรอ เข้ ามาชิดใกล้ ได้ กลิน่ นํ ้าอบ ทัว่ กาย องค์ยพุ ราชหนุ่มใช้ สายตาเหลือบมอง "มิมีอะไรมากหรอก วันนี ้เราขอบใจ ท่านมากที่ไปถวายความคารพพระศพพระมารดาเป็ นเพื่อนเรา...เราอยากจะ พักผ่อนแล้ ว" เป็ นการตัดบท วทัญํูอปุ ราชก้ มหัว เสียดายที่มไิ ด้ อยู่ชิดใกล้ มากกว่านี ้ ได้ แต่เฝ้ามองแผ่นหลังของยุพราชหนุ่มเดินไปไกล
27
Rain-at-Rose หลังเสร็จสิ ้นการประลอง อัคเรศแพ้ ในเพลงทวน เขาเหนื่อยอ่อนอยากจะ พักผ่อน พอมาถึงบริเวณพัก เจ้ าขวัญก็เอ่ยปากชวนเขาไปอยู่ด้วย "เฮ้ ย เอ็งมีบ้านอยู่ไหมวะ ไปพักบ้ านข้ าไหม ข้ าชักจะถูกชะตากับเอ็ง" อัคเรศยินดีเป็ นอย่างยิ่ง เพราะเขาจะประหยัดอดออมเงินไว้ เขาทรุดนัง่ ลง เสนาสิงห์ป่าวประกาศ ทุกคนเงียบกริบ "อีกสามเดือนหลังจากทํานา พวกที่มีรายชื่อต่อไปนี ้ให้ มารายงานตัว ที่ ปราสาททิฆมั พรนี ้" เสนาสิงห์ประกาศรายชื่อ ซึ่งอัคเรศถอนใจ มี ชื่อตนติดอยู่ในนันรวมทั ้ ง้ เจ้ าขวัญ "เอ็งจะกลัวทําไมวะ ฝี มือเอ็งก็ดีพอเป็ นทหารรักษาพระองค์ได้ เลยนะเว้ ย" เจ้ าขวัญเอ่ยอย่างสบายอกสบายใจ เสร็จสิ ้นทุกอย่างแล้ ว ชายหนุ่มก็เข้ า มาอาศัยที่บ้านของเจ้ าขวัญ ซึ่งเจ้ าขวัญอาศัยอยู่กบั แม่ที่แก่ชรามาก "เอ็งรี บไปอาบนํ ้าไป เหนื่อยมาทังวั ้ นแล้ ว เดี๋ยวข้ าจะเตรี ยมข้ าวเตรี ยม ของให้ " อัคเรศเอ่ยขอบคุณ เขาไหว้ หญิงชราที่ให้ เขาอาศัยอยู่ด้วย ก่อนจะลงไป อาบนํ ้าที่ท่า...สามเดือนเขาต้ องอยู่ที่นี่... เวลาเดิน ช้ าเหลือเกิน ชายหนุ่มนึกถึงแวว ตาดุจดาริกาของยุพราชหนุ่ม สามเดือนนี ้พระองค์จะลืมเขาผู้ต้อยตํ่าหรื อเปล่า... เขาช่างตํ่าต้ อยนัก ...หัวใจที่สนั่ ไหวเจ้ าเอ๋ย แม้ กระทัง่ ดวงดารา...ใจข้ านี ้อยากบอกว่า คิดถึง คะนึงหา มิร้ ูคลาย...
28
กิ่งแก้วการะเกด ๑ ทางด้ านยุพราชหนุ่มเหม่ออกไปยังม่านพระวิสตู ร ดวงดาวทอแสง พราว อยู่บนฟ้ากระจ่าง พระองค์แตะหมอน ใจที่เคยมีความหฤหรรษ์ มาบัดนี ้กลับชืดชา พระองค์ล้มตัวนอน...คนที่พบเจอ เหตุไฉนใจยังประหวัดถึง ดวงหทัยปรารมภ์ถึงแก่ คนที่ราวกับจะปลาสนาการไป ดาวรายอยู่บน ฟากนภา...หฤทัยล่องลอยไป...ใคร เอ๋ยใคร...จะตามเก็บมันคืนมา
29