© Story By Rain-at-Rose Illust By JIRITO DE LAS ESPADAS
นวรัฐะ ณ ที่แห่งรัก บันทึกดอกไม้ : บันทึกดอกเอื้องผึ้ง โดย Rain-at-Rose สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 Genre Cover& Artwork Sub Editor Book Design Contact Us
Drama - Romance JIRITO DE LAS ESPADAS เสี้ยวดอกขาว เสี้ยวดอกขาว
http://my.dek-d.com/rain-at-rose/ http://navaratta.thai-forum.net/ https://www.facebook.com/pirunsaikulap https://www.facebook.com/Navaratta kissing_in_ice@hotmail.com pirunsaikulap@hotmail.com พิมพ์ครั้งที่ 1 มีนาคม 2556 Not For Sale! ห้ามจัดจ�ำหน่ายไม่ว่ากรณีใดทั้งสิ้น!
“บันทึกดอกไม้” ฉบับออนไลน์จัดท�ำเพื่อให้ แฟนคลับซีรีส์นวรัฐะเก็บไว้อ่านเมื่อหาตอนเก่าๆ ไม่ เจอบนเฟซบุุ๊ค ไม่อนุญาตให้Direct Link แจกจ่ายต่อ หรือใช้ ในเชิงพาณิชย์
บันทึกดอกเอือ้ งผึง้ 1
นายพลหนุม่ ใหญ่ไม่เคยรู้สกึ ล�ำบากใจเท่านี ้ในชีวติ มาก่อน เมือ่ ผานิตบอกว่าต้ องการให้ ไปเยีย่ ม ‘บ้ าน’ ตามความ ประสงค์ ของคนรั กที่อายุห่างกันเกื อบสองรอบนี่ ท�ำให้ เขา อยากไปเผชิญกับกองก�ำลังกบฏติดอาวุธดีกว่าเผชิญหน้ าว่าที่ ‘พ่อแม่ภรรยา’ วันที่เยือนบ้ าน ‘สกุลพิทกั ษ์ ’ วันแรกถือว่าโชคดีที่มี เวลาเตรี ยมใจ เนื่องจากเครื่ องดีเลย์ท�ำให้ ถงึ บ้ านของคนรักก็ เกือบๆ ตีสอง คนในบ้ านเขานอนจนหมดแล้ ว นายทหารหนุม่ ใหญ่จงึ มี ‘เวลา’ เตรี ยมใจก่อนเจอสถานการณ์จริ ง ผานิตเองก็ดจู ะไม่ร้ ูสกึ ตืน่ เต้ นอะไร อาจจะเพราะรัส เซลล์เคยเล่าให้ ฟังก็ได้ ว่าสมัยที่ยงั คบกัน ผานิตก็เคยพามา
รู้จกั กับพ่อแม่ เป็ นครัง้ แรกที่คนที่สขุ มุ เช่นเขารู้สกึ หวัน่ ไหวจน แสดงออกให้ ผานิตเห็น ดวงตาสีน� ้ำตาลเข้ มเบื ้องหลังแว่นลอบมองตังแต่ ้ วนั ที่เขาบอกว่า ‘พ่อแม่’ ต้ องการพบ นายพลหนุ่มใหญ่ก็ดจู ะ เกร็ งๆ เขาเองก็พอจะเขาใจว่านายพลเองก็ท�ำใจล�ำบาก แต่ ในเมื่อเป็ นคนที่เขารัก และจะเป็ นคนสุดท้ ายที่จะมอบหัวใจ ให้ เขาก็อยากจะให้ ครอบครัวรู้ จกั คนส�ำคัญที่เขาเลือกด้ วย หัวใจ “ตื่นเต้ นหรื อครับ” ผานิตกระซิบถามด้ วยน�ำ้ เสียง อ่อนโยน นายพลหนุม่ ใหญ่ท�ำสีหน้ าไม่ถกู ผานิตถอนใจ มือ ผอมโน้ มไหล่ของร่างสูงลงมาประทับจุมพิตบนเรี ยวปากหนา ก่อนจะบอกด้ วยน� ้ำเสียงหวานระรื่ นเมื่อถอนริ มฝี ปากว่า “ให้ ก�ำลังใจด้ วยมนต์วิเศษลดความตื่นเต้ นครับ” นายพลชานเนนยิง่ ตัวแข็งทื่อ ดวงตาคมมองไปทาง ด้ านหลังจนผานิตต้ องมองตาม แล้ วก็เห็นว่าท�ำไมนายพล หนุม่ ใหญ่ถงึ นิ่งอึ ้งไม่พดู จาอะไรสักค�ำ
...ก็คณ ุ แม่ของเขาที่คิดว่าหลับไปแล้ ว ยืนปิ ดปาก ด้ วยอาการขัดเขินแทนคูร่ ักที่พร�่ ำพรอดกันหน้ ามุขบันได...นี่ เป็ นการเปิ ดเผย ‘ลูกเขย’ ของบ้ านสกุลพิทกั ษ์ วนั แรกอย่าง งดงาม
บันทึกดอกเอือ้ งผึง้ 2
นายพลหนุ่มใหญ่ร้ ู สกึ ‘อึดอัดใจ’ อย่างบอกไม่ถกู เมือ่ ต้ องเผชิญหน้ า ‘พ่อตาแม่ยาย’ วัยใกล้ เคียงกันในช่วงทาน อาหารเช้ า แม้ ทงคู ั ้ จ่ ะให้ การต้ อนรับอย่างสุภาพก็เถอะ แต่ก็ ยังกระอักกระอ่วนอยู่ดีเมื่อนึกถึงภาพ ‘แม่ยาย’ มาพบฉาก หวานของลูกชาย คนต้ นเหตุยงั ท�ำหน้ านิ่งได้ หนุม่ ใหญ่ก็พอรู้มาก่อน แล้ วว่า ผานิตเคยพารัสเซลล์แฟนเก่ามาเปิ ดตัวที่บ้าน เรื่ อง ของเขาจึงอยูใ่ นระดับที่ ‘ยอมรับได้ ’ ในบ้ านสกุลพิทกั ษ์ คุณประไพ มารดาของผานิตคงจะเห็นว่าเขาอึดอัด นางคลี่ยิ ้มและชวนคุยเรื่ องสัพเพเหระ โดยสรรพนามที่เรี ยก นางลังเลจะเรี ยกว่าลูกก็ไม่สะดวก ด้ วยวัยของหนุม่ ใหญ่เลย
ค�ำค�ำนี ้มานานแล้ ว จึงพบกันครึ่งทางด้ วยการเรียก ‘คุณ’ แทน ซึง่ นางก็ถามเรื่ องทัว่ ๆ ไปที่ คนเป็ น ‘แม่ยาย’ ควรรู้ เกี่ยวกับ ‘ว่าที่เขย’ คุณไตรภพเห็นภรรยาชวนคุยและพอ ‘ว่าที่ลกู เขย’ ตอบสุภาพ ท่านจึงยอมพูดคุยด้ วย...จากนันบทสนทนาก็ ้ ถกู ผูกขาดโดยคุณพ่อและ ‘ว่าที่ลกู เขย’ ตังแต่ ้ เมื่อไหร่ก็ไม่ร้ ู...(ซึง่ แต่ละเรื่ องต้ องบอกนิยามได้ วา่ ‘ชอบของขม ชมเด็กสาว เล่า ความหลัง’ กันเลยทีเดียว) ผานิตลอบยิ ้ม เขารู้นายพลชานเนนมีเสน่ห์ในตัวเอง ใครอยูใ่ กล้ กต็ ้ องชอบทุกคน ท่าทางสุขมุ และรสนิยมบางอย่าง ใกล้ เคียงกับบิดาของเขา พ่อของเขาจะยอมรับง่ายกว่าเรื่ อง ของรัสเซลล์เยอะ ...รอยยิม้ หวานคลี่แย้ มเมื่อหนุ่มใหญ่ สบสายตา มอง...ท�ำตัวน่ารักแบบนี ้ ตอนที่ ‘ไปเที่ยว’ ด้ วยกันหลังจาก เยี่ยมบ้ าน คงต้ องมี ‘รางวัล’ ตอบแทนที่ท�ำตัวน่ารักกับพ่อแม่ เขา...
บันทึกดอกเอือ้ งผึง้ 3
เสียงคลื่นซัดสาดกระทบฝั่ ง ลมหอบไอเค็มปะทะ ร่ าง เจ้ าของร่ างผอมยื ดตัวขึน้ สูดกลิ่นอายทะเลเข้ าปอด ทอดตามองดวงอาทิตย์สีส้มจัดแตะผืนผิวน�ำ้ ผานิตคลี่ยิ ้ม แล้ วรี บไปปลุกคนที่นอนหลับในรี สอร์ ทให้ รีบตื่น แม้ จะรู้วา่ นายพลชานเนนเหนื่อยจากการขับรถเพือ่ มาเที่ยวทะเลพักผ่อนกันสองคน แต่มนั เสียดายนี่น่า ที่หนุ่ม ใหญ่จะอดดูพระอาทิตย์สวยๆ ที่ก�ำลังจมหายไปในท้ องทะเล ผานิตรู้ ดีว่านวรัฐะไม่มีพื ้นที่ติดทะเล ท่านนายพล เองก็ยุ่งวุ่นวายตัง้ แต่เกิ ดสงครามกลางเมื อง จึงแทบไม่มี โอกาสมาทะเล เมื่อเขาว่างงานจากสภากาชาดสากล และ นายพลว่างเว้ นจากภารกิจ เขาจึงรี บชวนหนุ่มใหญ่ทนั ที แต่
ด้ วยเวลาที่มีน้อยนิด การจะไปทะเลฝั่ งอันดามันจึงเป็ นแค่ฝัน ผานิตจึงตัดสินใจเลือกทะเลที่ใกล้ กรุ งเทพและบรรยากาศ สงบพอควร ซึง่ ก็คือเพชรอ่าวไทย...เกาะเสม็ด...นัน่ เอง และ ตัดสินใจขับรถมาเอง แม้ มารดาจะคัดค้ านเพราะห่วงว่านาย พลจะไม่ชินทาง ผานิตรี บบอกว่าเขาจะขับเอง แต่เอาเข้ าจริ ง คนพูดบอกเส้ นทางเรี ยบร้ อยก็หลับเป็ นตายมาตลอดทาง ผานิตเลือกจองรีสอร์ ททีอ่ ยูช่ ว่ งท้ ายเกาะซึง่ เดินทาง ล�ำบากพอควร แต่ก็ได้ บรรยากาศสงบเงียบสมความต้ องการ ด้ วยวัยวุฒิที่เริ่ มจะสูงวัยขึ ้นของท่านนายพลคงไม่มีอารมณ์ มาเล่นน�ำ้ ทะเลหรื อก่อปราสาททรายแน่ๆ ล่ะ แค่นีก้ ็เพียง พอแล้ วส�ำหรับสองคน ร่ างผอมเดินเข้ าไปที่ห้องทรุ ดนั่งแตะปลายนิว้ ไล้ กรอบหน้ าที่เริ่มมีริว้ รอยแห่งวัยเพิม่ ขึ ้น ...ผู้ชายคนนี ้เยือกเย็น เขาไม่เคยเห็นภาพทีน่ ายพลหนุม่ ใหญ่ขาดสติหรือโกรธเกรีย้ ว เลยสักครัง้ ความรักที่ให้ เขานันมั ้ น่ คงยิ่งกว่าหินผา นิ ้วเรี ยว แตะที่ริมฝี ปากหยักหนา ไล้ หนวดเหนือริ มฝี ปากเบาๆ หนุม่ ใหญ่ร้ ูสกึ ตัวเมือ่ มีคนกวน มือหนาคว้ าหมับเข้ า
ที่ข้อแขนที่ก�ำลังเล่นก่อกวน พอลืมตาขึ ้นก็เห็นคนรักที่อ่อน กว่ารอบยิ ้มเผล่ตาใสอย่างน่ารัก รี บบอกให้ เขาลุกขึ ้นเหมือน เด็กๆ คนสูงวัยอย่างเขาก็ได้ แต่ท�ำตามใจ ‘ภรรยาเด็ก’ แม้ จะรู้สกึ เพลีย หนุม่ ใหญ่กร็ ับรู้ด้วยหัวใจว่าผานิตท�ำเพือ่ เขา มือ น้ อยดึงแขนใหญ่มาทีร่ ิมระเบียงรีสอร์ ทพลางชี ้ชวนดูลกู ไฟลูก ใหญ่ที่ก�ำลังลาลับขอบฟ้า แสงสีทองอาบผืนทะเลจนมีเฉดสี อมส้ มแปลกตา วงแขนแกร่งตวัดรอบเอว ซบดวงหน้ าบนลาด ไหล่เล็ก เอ่ยเสียงทุ้มอ่อนโยน “ขอบคุณที่ปลุกมาดูนะครับ” ผานิตหน้ าแดง ถึงจะเขินแต่ก็ยอมให้ โอบกอด “ไปเดิ น เล่น ที่ ช าดหาดก่ อนมาทานข้ าวเย็นไหม ครับ” ร่างผอมเอ่ยชวน หนุ่ ม ใหญ่ เ ดิ น ลงจากรี ส อร์ ท จู ง มื อ เล็ ก เลี ย บ ชายหาด ผานิตรื่ นเริ ง แตะปลายเท้ าลงบนผืนน� ้ำ หนุ่มใหญ่ ทอดน่องเดินเอื่อย ๆ ตามหลัง ผานิตย�่ำลงทะเลเหมือนเด็กๆ โดยมีหนุ่มใหญ่ลดั
เลาะริ มหาดให้ คลืน่ ซัดปลายเท้ าดูคนรักอย่างเป็ นห่วงเพราะ แถวนี ้มีแต่แนวหิน พอเห็นว่าผานิตเริ่มเล่นซนโดยการปี นโขด หินทีโ่ ผล่พ้นน� ้ำ นายพลชานเนนก�ำลังจะตะโกนบอกให้ ผานิต เลิกเล่น แต่ร่างผอมกลับร้ องอุทานลัน่ ก้ มตัวลงทรุดนัง่ บนโขด หินแตะปลายเท้ า หนุ่มใหญ่ผวาลงไปดูทนั ที ผานิตบอกว่า โดนเพรี ยงทะเลที่เกาะบนโขดหินบาด พอเห็ น ส้ นเท้ าเล็ ก มี แ ผลเหวอะหวะก็ รี บ ช่ ว ย ปฐมพยาบาลขันต้ ้ นโดยลืมไปว่าคนเจ็บก็เป็ นหมอจนเลือด หยุดไหล นายพลชานเนนอุ้มร่ างโปร่ งขึ ้น แต่ผานิตอิดเอื ้อน บอกว่าน่าอาย คนแก่วยั กว่าจึงดุออกไปเล็กน้ อยว่าอายไม่เข้ า ท่า หากแต่ก็ยอมพบกันครึ่งทาง หันหลังแล้ วย่อตัวให้ ผานิตขี่ หลังกลับ แผลจะได้ ไม่ต้องโดนน� ้ำทะเลและทราย แขนผอมโอบรัดล�ำคอ ซบบนแผ่นหลังก�ำย�ำจนถึง รีสอร์ ท ก็เรียกหากล่องปฐมพยาบาลเพือ่ ท�ำความสะอาดแผล อีกรอบ ถือว่าโชคดีที่แผลไม่ลกึ และเลือดก็หยุดไหลไปแล้ ว คนเจ็บไม่ยอมให้ พนั ผ้ ากอซหรื อแปะปลาสเตอร์ ทา่ เดียว จน หนุม่ ใหญ่ออ่ นใจ
ผานิ ต เดิ น กะเพลกอยู่ หนุ่ม ใหญ่ จึง ตัด สิน ใจสั่ง อาหารมารับประทานที่ริมระเบียงห้ องพักแทนโปรแกรมเดิม ที่จะไปร่วมรับประทานที่ห้องอาหาร แผนการที่วาดไว้ ก็ล้มไป แผนหนึง่ ด้ วยความประมาทของเขาทีป่ ล่อยคนรักอ่อนวัยกว่า คลาดสายตาไปนิดเดียว นายพลชานเนนโกรธตัวเอง เมื่ออิ่มหน�ำทังคู ้ ก่ ็มานัง่ ดูพระจันทร์ เล่นน� ้ำ มองไฟ จากเรือไดหมึกทีอ่ ยูไ่ กลลิบ ตกดึกพระจันทร์ เริ่มคล้ อยต�ำ่ นาย พลจับปลายเท้ าผานิตดูอีกรอบ คนเจ็บบอกว่าไม่เป็ นไร แต่ ท่าทางหนุม่ ใหญ่จะกังวล และท�ำสิง่ ทีไ่ ม่คาดฝั นว่าจะท�ำคือ... ลดศักดิศ์ รี จบู ปลายเท้ าเรี ยว เอ่ยค�ำขอโทษที่ปกปองไม่ได้ จน ผานิตชักเท้ าหนีไม่ทนั ...นี่ไม่ใช่ความผิดของนายพลสักนิด...แต่มือใหญ่ก็ ยังยึดไว้ ในอุ้งมือ ดวงหน้ านวลขึ ้นสีระเรื่ อ ยิง่ แดงจัดยิง่ กว่ากุ้ง ต้ มที่เพิ่งทาน ขณะที่นายพลลากริ มฝี ปากไปตามปลีน่อง เล้ าโลมเพียงแค่นีเ้ ขาก็ระทวยดุจขีผ้ ึง้ ถูกไฟลน ก่อนจะสติ กระเจิดกระเจิงยิ่งกว่านัน้ มือหนากลับปล่อยเรี ยวขาเขาลง ให้ คนที่เริ่ มคิดไปไกลขัดอกขัดใจ
...นายพลบ้ า...เห็นเงียบๆ หน้ าตายแบบนีก้ ็เชิญ ชวนเก่งชะมัด!...
บันทึกดอกเอือ้ งผึง้ 4
ดวงหน้ าหวานขึน้ สีระเรื่ อด้ วยความขัดเขิน หลุบ สายตาลงต�่ำ ก็อายอยูห่ รอกที่โดน ‘เชิญชวน’ แบบนี ้ นายพล ชานเนนใส่ใจความรู้ สึกของเขาเสมอถ้ าจะขอมี ‘ช่วงเวลา พิเศษ’ เพราะรู้วา่ ในอดีตเขาเคยเจออะไรมา ก่อนที่จะท�ำเกิน เลย หนุ่มใหญ่จะ ‘เล้ าโลม’ น�ำก่อนอย่างอ่อนหวานจนแทบ ละลาย มือหนาจับมือเล็กแนบที่ริมฝี ปากคล้ ายจะจุมพิต หากแต่จมูกกลับปั ดป่ ายที่ตามข้ อนิ ้วและลิ ้นอุน่ ชื ้นไล้ ทวั่ ร่อง นิ ้วก่อนจะกลืนกินนิ ้วเรี ยว ท�ำแบบนี ้ซ� ้ำๆ แล้ ววนมาจุมพิตที่ กลางฝ่ ามือ ดวงตาสีน� ้ำตาลเข้ มปิ ดลงอย่างสะท้ านอาย ไม่ กล้ าลืมขึ ้นดูคนที่เห็นมือเขาเป็ นขนมหวานไปเรี ยบร้ อยแล้ ว...
แต่เป็ นอารมณ์ที่ให้ เขารู้สกึ ดี หวานเหมือนตกอยูใ่ นถังน� ้ำผึ ้ง หนุม่ ใหญ่หยุดการกระท�ำ จนผานิตลืมตาขึ ้นมามอง ปลายนิ ้วโป้งของหนุม่ ใหญ่กท็ าบริมฝี ปากสีระเรื่อเบาเพือ่ สอด ปลายนิ ้วดุจจะให้ คนรักกระท�ำตอบคืนแบบเดียวกัน เมื่ อคนถูกหยอกเย้ าตัวแข็งทื่ อ หนุ่มใหญ่ ก็ขยับ ปลายนิ ้วฝ่ าแนวฟั นขาวดุจไข่มกุ ลงลึกจนสัมผัสความนุ่มนิ่ม ของปลายลิ ้นที่อ่นุ ชื ้น แล้ วจึงถอนออกมา โดยมีหยาดน�ำ้ ใส ดุจเป็ นสิ่งเชื่อมโยง พอหนุ่มใหญ่ไล้ เลียปลายนิ ้วที่เปี ยกชื ้น ของตัวเองโดยไม่กลัวว่าจะสกปรก เลือดในกายของผานิตก็ แทบจะเผาร่าง ให้ หน้ าแดง ตัวแดง จนจับมือนายพลไว้ แทบ ไม่ทนั แล้ วประกบริ มฝี ปากบางเฉียบลงไปแทนเพื่อหยุดยัง้ การกระท�ำ... ลิน้ เล็ก ถูก กระหวัด เกี่ ย วอย่า งอ่อ นโยน มื อ หนา ประคองดวงหน้ างามไว้ มนั่ มอบรสจูบดูดดืม่ ถอนริมฝี ปากมา ที่ ซ อกคอนวล ไรหนวดเสี ย ดสี ผิ ว เนื อ้ เนี ย น สติ ผ านิ ต กระเจิดกระเจิง แต่ก็พยายามรวบรวมสติเพราะตรงนี ้มันริ ม ระเบียง จึงทุบไปบนไหล่หนาเบาๆ เพือ่ ประท้ วง แต่คนแก่กลับ
ดื ้อกว่าที่คิด ยังกดเขาอยู่บนเก้ าอี ้พับโดยรวบข้ อมือไว้ ดวง หน้ าคมลดมาต�ำ่ จนถึงแผ่นอก จนร่างผอมสะดุ้งเมือ่ ลิ ้นหยาบ ตวัดครอบครอง ...คราวนี ้ผานิตเลิกพยายามประท้ วง ปล่อยกายไป ตามที่หนุ่มใหญ่จะน�ำพาไป มือหนาแยกปลายเท้ าเรี ยวออก กว้ าง เพื่อส�ำรวจส่วนอ่อนนุ่มที่จะรองรับส่วนที่แข็งแกร่ งที่ ก�ำลังเต้ นตุ้บของเขา ปลายนิ ้วหยาบขยับจนส่วนนันฉ� ้ ่ำชื ้นดุจ สายฝนที่พร่างพรมบนผืนทรายแห้ งผาก...ขยับนิ ้วน�ำสอดลึก จากหนึง่ เป็ นสอง...สาม...จนร่ างผอมสะดุ้งปล่อยเสียงคราง เครื อแผ่วหวาน นายพลชานเนนพยายามอดทนเมื่อพาตัวเองสอด ลึกเข้ าสูส่ ว่ นที่อ่อนนุ่ม พยายามที่จะขยับอย่างนิ่มนวลที่สดุ เพราะร่ างในอ้ อมแขนเกร็ งต้ านทานสิ่งที่ใหญ่กว่าปลายนิ ้ว น� ้ำตาหยาดคลอด้ วยความเจ็บเหลือคณา หนุ่มใหญ่จึงช่วย จูบ ซับ น� ำ้ ตาระเรื่ อ ยลงริ ม ฝี ปากจนร่ า งโปร่ ง รั บ ตัว ตนอัน แข็งแกร่งได้ ช่วงเวลานี ้หนุม่ ใหญ่จงึ ได้ ลิ ้มรสความรู้สกึ หวาน ละมุนที่เฝ้าพร�่ ำหาขณะที่คนรักตอบสนองอย่างเพริ ดในรส
เสน่หาที่มอบให้ ...สัมผัสที่ตอบสนองจึงอ่อนโยนทะนุถนอม จนสุดปลายทางแห่งรัก ร่างผอมจึงซบอย่างอ่อนเพลียบนแผ่น อกก�ำย�ำ ท่ามกลางดวงจันทร์ ที่ลบั ฟ้า และเสียงคลื่นที่ขับ กล่อมเช่นทุกคืน หากคืนนี ้จะเป็ นคืนพิเศษ ที่มีเพียงแค่เขา สองคน...
บันทึกดอกเอือ้ งผึง้ 5
ผานิตรู้ สึกผิดหวังเล็กน้ อยที่นายพลแจ้ งว่าได้ วัน หยุด พิ เ ศษจากองค์ เ จ้ า แต่ไ ม่ส ามารถเดินทางมาไทยได้ เพราะแสนหลวงผู้เป็ นน้ องสาวและสามีจ�ำเป็ นต้ องเดินทาง กลับเวียงเชียงสอเพื่อดูแลเจ้ าน้ อยเป็ นเวลาเกือบสองอาทิตย์ ท�ำให้ ไม่มีผ้ ดู แู ลน้ องมิ ้ม หลานสาวนายพลวัยขวบกว่าๆ ที่ผา นิตเป็ นผู้ท�ำคลอดให้ แต่นนั่ ก็ไม่ได้ ท�ำลายความตังใจของผา ้ นิต ...เมือ่ นายพลมาไม่ได้ เขาก็ต้องเป็ นฝ่ ายเดินทางไป หาเอง... เนื่องจากเขาเดินทางบ่อยและนวรัฐะเองก็ไม่ต้อง ขอวีซา่ ดังนันเรื ้ ่ องเอกสารจึงไม่ใช่เรื่ องยาก จะยากตรงที่นว
รัฐะมีแค่สนามบินเล็ก เพราะยังไม่มีเที่ยวบินตรง นอกจากไป ลงที่พม่าแล้ วต่อเครื่ องบินเล็กที่นวรัฐะเพิ่งทดลองเปิ ดสาย การบิน การเดินทางอาจจะยุง่ ยากหน่อยถ้ าต้ องการเดินทาง แบบรวดเร็วดุจติดปี ก เขาเองก็ไม่อยากสมบุกสมบันนัง่ รถข้ าม ชายแดนเสียด้ วยสิ คิดวางแผนแล้ วก็กดหมายเลขโทรศัพท์ เพื่อจองตัว๋ ทันที... สองสามวันถัดมา ผานิตก็ได้ มาเยือนนวรัฐะอีกครัง้ ในฐานะ ‘นักท่องเที่ยว’ โดยมีมีนายพลชานเนนและน้ องมิ ้ม มารับถึงที่ ผานิตมองภาพที่หนุ่มใหญ่ อ้ ุมหลานสาวตัวน้ อย อย่างอ่อนโยนด้ วยรอยยิ ้ม แล้ วเอ่ยทักทายนายพลหนุ่มก่อน แล้ วจึงเอ่ยทักแม่หนูน้อย “ไง สาวน้ อย” ผานิตก�ำลังจะเอื ้อมมือเพื่อขออุ้ม ‘สาวน้ อย’ ที่เขา เคยท�ำคลอดให้ แต่หนูมิ ้มกลับร้ องไห้ จ้าจนนายพลหน้ าเสีย ประคองหลานสาวไว้ “ขอโทษนะครับ น้ องมิ ้มคงไม่ค้ นุ กับคุณผึ ้ง”
ผานิตเข้ าใจแต่ก็อดอยากหยิกแก้ มยุ้ยๆ นันอย่ ้ าง มันเขี ้ยวไม่ได้ ...แม่หนูน้อย ลืมหน้ าคนท�ำคลอดได้ นะ... นายพลชานเนนอุ้มหลานสาวจึงไม่ได้ ชว่ ยผานิตถือ กระเป๋ าซึง่ คุณหมอหนุ่มก็ไม่ได้ เดือดร้ อนเพราะมีแค่กระเป๋ า ใบเดียว หนุ่มใหญ่พาไปขึ ้นรถแลนด์โรเวอร์ ที่นงั่ ด้ านคนขับ มีที่นงั่ เด็กติดไว้ ผานิตจึงได้ นงั่ ด้ านหลัง แม้ หนุม่ ใหญ่จะบอก ว่าจะเอาที่นงั่ เด็กออกแล้ วให้ ผานิตช่วยอุ้มน้ องมิ ้ม แต่ก็ไม่ได้ ตามความต้ องการของหนุ่มใหญ่ เพราะน้ องมิ ้มยังงอแง ไม่ ยอมให้ ผานิตอุ้ม ระหว่างทางไปบ้ านพักของนายพลหนุม่ ใหญ่ผา่ นไร่ ชากว้ างขวางทีล่ ดหลัน่ ตามไหล่เขา นายพลชานเนนไม่ได้ เอ่ย แนะน�ำหรื อพูดคุยมากนัก เนื่องด้ วยน้ องมิ ้มอ้ อแอ้ ร้องหิวนม นายพลหนุม่ ใหญ่จงึ ต้ องจัดการหานมทีช่ งเตรียมไว้ ในกระเป๋ า เก็บความร้ อนโดยมีผานิตช่วยส่งให้ สถานการณ์จึงสงบลง บ้ างเมือ่ แม่หนูน้อยได้ นม หนุม่ ใหญ่จงึ มีโอกาสคุยให้ พร้ อมส่ง
รอยยิ ้มนุม่ นวลให้ แก่ผานิต “ขอโทษด้ ว ยนะครั บ ...ที่ น้ อ งมิ ม้ งอแงไปหน่ อ ย แปลกจัง ตอนแสนหลวงไม่อยูย่ งั ไม่งอแงแบบนี ้เลย” ผานิตยิ ้มหวานตอบผ่านกระจกส่องหลังว่าไม่เป็ นไร แต่ในใจกลับคิดอย่างขบขัน ...แม่หนูน้อยหวงลุงตังแต่ ้ อายุยงั แค่นี ้เลยนะ นี่เขา มีคแู่ ข่งตัวน้ อยที่เอาชนะยากซะแล้ วสิ... สถานการณ์ระหว่างเดินทางมาที่บ้านนายพลชาน เนนสงบเรี ยบร้ อยขึน้ เมื่อน้ องมิม้ ได้ นมไปหนึ่งขวด แม่หนู น้ อยหลับคาขวดนม ไม่โยเยอีก เด็กหญิงเลี ้ยงง่ายตามที่นาย พลชานเนนบอกจริ งๆ หนุ่มใหญ่ลงจากรถแลนด์โรเวอร์ เพื่ออุ้มหลานสาว เข้ าบ้ านโดยมีผานิตถือกระเป๋ าตามหลัง นายพลอุ้มหลานสาว วางบนเปลเด็กสีชมพูหวาน พอจัดท่านอนให้ หลานเรี ยบร้ อย หนุม่ ใหญ่จงึ มีเวลาดูแลแขกพิเศษ “กลายเป็ นคุณพ่อไปแล้ วเหรอครับเนี่ย” ผานิ ต เอ่ย เย้ า ไม่มี ร่ อ งรอยความโกรธงอนที่ ถูก
ละเลย ทังที ้ ่อตุ ส่าห์เดินทางมาหาคนที่รักถึงนวรัฐะ นายพลหนุ่มใหญ่คล้ ายจะรู้ สกึ ผิด ในขณะที่พาไป ที่ห้องพัก และช่วยจัดเสื ้อผ้ าลงตู้เรี ยบร้ อยแล้ วหนุม่ ใหญ่แตะ ไหล่มน โอบกอดร่างเล็กเข้ าในอ้ อมแขน พร้ อมประทับจูบบน หน้ าผากแผ่วเบา “ขอโทษครับที่ไม่ได้ เทคแคร์ เลยทังที ้ ่ คณ ุ ผึ ้งอุตส่าห์ มาหาทังที ้ ” ผานิตคลี่ยิ ้มหวาน “โธ่ นี่คิดมากอยู่หรื อครับ...ผม เข้ าใจครับ นายพลต้ องดูน้องมิ ้ม ผมไม่คดิ มากหรอกครับ “แปลก...” หนุม่ ใหญ่ร�ำพึงอีกครัง้ “น้ องมิ ้มเป็ นเด็ก เลี ้ยงง่ายมาก ตอนนี ้ท�ำไมถึงงอแงนักก็ไม่ร้ ู” ผานิตลอบอมยิ ้ม ...หลานสาวหวงคุณลุงแสนเท่อยู่ น่ะสิ... “คงกลัวว่าถูกแย่งความรักมังครั ้ บ” ค�ำตอบกึ่งเย้ าเรี ยกสีหน้ าประหลาดใจจากนายพล หนุ่มใหญ่ สีหน้ าอ่อนโยนขมวดคิ ้วมุ่นน่ารักเสียจนผานิตอด เขย่งเท้ าแตะริ มฝี ปากที่ปลายคางสากไม่ได้
มือหนาประคองร่ างผอมไว้ ก�ำลังจะแตะริ มฝี ปาก จูบตอบ เสียงเด็กก็แผดลัน่ ท�ำให้ ต้องละมืออย่างน่าเสียดาย ผานิตหัวเราะเบาๆ “น้ องมิ ้มหวงคุณลุงน่าดูนะครับ” นายพลชานเนนอุ้มหลานสาวขึ ้นจากเปล เด็กหญิง งอแงเพราะผ้ าอ้ อ มเปี ยก มื อ หนาเปลี่ ย นผ้ า อ้ อ มอย่ า ง คล่องแคล่วจนนึกภาพตอนได้ สมญา ‘วีรบุรุษสงคราม’ ไม่ออก ผานิตช่วยอย่างเก้ ๆ กังๆ อยูด่ ้ านหลัง ช่วยหยิบผ้ า อ้ อมผืนใหม่และแป้งเด็กในตะกร้ าส่งให้ “นี่ถ้าผู้หญิงคนไหนได้ นายพลเป็ นสามี คงโชคดีนะ ครับ ท�ำแทนหน้ าที่คณ ุ แม่ได้ หมดเลย” คุณหมอหนุ่มเย้ าอีก รอบ “งันวั ้ นนี ้คุณผึ ้งก็เป็ นคุณแม่น้องมิ ้มสักวันนะครับ ถ้ าอยากรู้วา่ จะโชคดีแค่ไหน” ดวงตาคมพราวระยับ พร้ อมอุ้มน้ องมิ ้มส่งให้ ถงึ อ้ อม กอด ผานิตโต้ ตอบไม่ออกเวลาคนปากหนักอย่างนายพลเย้ า คืนเอาแบบนี ้ ใบหน้ านวลแดงก�่ำเมื่อประมวลค�ำพูดกึ่งจีบก
ลายๆ
น้ องมิ ้มร้ องโยเยก่อนจะถึงมือของผานิตขัดจังหวะ หวานละมุนที่กอ่ ตัว หนุม่ ใหญ่จงึ ต้ องอุ้มหลานตัวน้ อยไว้ ตาม เดิม “ไว้ รอให้ แกคุ้นก่อนดีกว่าครับ ตอนนี ้ให้ ผมอุ้มคง ร้ องไม่หยุด” ผานิตเอ่ยด้ วยรอยยิ ้มหวานไม่ให้ นายพลคิดมากที่ หลานสาวไม่ยอมให้ คนที่ท�ำคลอดให้ อ้ มุ “งันมาทางนี ้ ้ดีกว่าครับ” หนุม่ ใหญ่อ้ มุ หลานสาวมาบริ เวณริ มระเบียงที่มีผ้า นุ่มๆ พร้ อมหมอนและตุ๊กตาผ้ าวางกองระเกะระกะ มองไป ไกลลิบนันสามารถมองเห็ ้ นไร่ชาสุดลูกหูลกู ตา “คุณผึ ้งเล่นกับน้ องมิ ้มรอตรงนี ้นะครับ จะได้ ร้ ูจกั กัน เร็ วๆ” น้ องมิม้ คลานดุ๊กดิ๊กไปหาตุ๊กตากระต่ายที่ดูจาก สภาพแล้ วคงเป็ นตัวโปรด “เดี๋ยวผมไปเตรี ยมข้ าวเย็นก่อนนะครับ”
กัน
ว่าแล้ วนายพลก็ทิ ้งให้ ผึ ้งตัวน้ อยกับผึ ้งตัวโตไว้ ด้วย
“ยุงๆ” น้ องมิ ้มร้ องตาม แต่ผานิตอ้ าแขนรับไว้ ก่อน “ฮัลโล สวัสดีครับสาวน้ อย” ผานิตเอ่ยทักทาย ‘สาวน้ อย’ ที่ตงท่ ั ้ าเบะปาก ผมสี ด�ำเส้ นเล็กถูกคุณลุงมัดเป็ นจุกง่ายๆ ท�ำให้ ดนู ่ารักจนคนไม่ คุ้นกับเด็กเอ็นดู ‘สาวน้ อย’ ชะงัก มองคนอุ้มที่ไม่ค้ นุ หน้ าตา แป๋ ว “ไม่ได้ เจอกันนานตัวโตขนาดนี ้แล้ วเหรอ จ�ำหมอบี ได้ บ้างไหมครับ” เสียงที่พดู นุ่มนวลท�ำให้ เด็กหญิงเริ่ มไว้ ใจบ้ าง มือ เล็กจึงจับปอยผมสีน� ้ำตาลเข้ มมาดึงเล่น จนผานิตต้ องดุเบาๆ พร้ อมดึงมือเล็กออกจากเส้ นผมอย่างระมัดระวัง “ไม่เล่นนะครับ หมอบีเจ็บ” เด็กหญิงยอมปล่อยผมแต่โดยดี ผานิตเอื ้อมหยิบ ตุ๊กตากระต่ายมาตรงหน้ าสาวน้ อย
“มาเล่นกับคุณกระต่ายดีกว่าครับ” น้ องมิ ้มโผเข้ าตุ๊กตาตัวโปรดทันที “ต่ายๆ” “ครับ คุณกระต่าย” เด็กหญิงนัง่ บนตักผานิตเล่นตุ๊กตาด้ วยกันจนหนุ่ม ใหญ่ถือถาดอาหารเย็นกลับมาอีกครัง้ ก็อมยิ ้มกับภาพที่เห็น เขาชื่นใจเหลือเกิน นายพลชานเนนวางถาดข้ าวลง “เดี๋ยวผมจะป้อนข้ าวน้ องมิ ้ม คุณผึ ้งทานไปก่อนได้ เลยนะครับ” พอคุณลุงมาเท่านันแหละ ้ น้ องมิ ้มก็ลกุ จากตักของ ผานิต โผเข้ าหาอ้ อมกอดแข็งแรง คุณลุงหอมแก้ มฟอดใหญ่ แล้ ว จึง ผูก ผ้ า กัน เปื ้อ นให้ ห ลานสาว ผานิ ต ยัง ไม่แ ตะต้ อ ง อาหารทีน่ ายพลท�ำให้ รับประทาน ซึง่ เป็ นอาหารพื ้นเมืองอย่าง ง่ายๆ รอดูคณ ุ ลุงใจเย็นคอยป้อนหลานสาวที่เริ่ มซนไม่ยอม กินข้ าวทีป่ ้ อน หนุม่ ใหญ่ละมือจากหลานหันมาหาผานิตอย่าง ห่วงใย “อ้ าว ไม่ทานก่อนล่ะครับ” ผานิตยิ ้มตอบ “รอทานกับนายพลได้ ครับ ตอนนี ้ดู
นายพลป้อนหนูมิ ้มสนุกกว่า” ใช่...น่าสนุกและสุขใจมากๆ ที่เห็นอีกด้ านหนึ่งที่ อบอุน่ อ่อนโยนของคนที่เลือกวางหัวใจไว้ เป็ นคนสุดท้ ายของ หัวใจ
บันทึกดอกเอือ้ งผึง้ 6 (ตอนนีต้ ้ องอ่ าน “บันทึกดอกเสีย้ ว” ถึงเข้ าใจค่ ะ ว่ าเกิดอะไรขึน้ ) แอฟริกาใต้ ผานิตต่อสายทางไกลหาหมายเลขที่จ�ำขึ ้นใจ ความ ลังเลใจเกิดขึ ้นทุกครัง้ เมื่อกดหมายเลขสุดท้ าย ทว่าก็ต้องท�ำ ก่ อ นออกจากเมื อ งหลวงเคปทาวน์ จ ะไม่ มี สั ญ ญาณ โทรศัพท์ ที่เขากังวลเพราะเมื่อรู้วา่ ‘รูปหลุด’ จนนายพลชาน เนนเห็น เขาก็ตดิ ต่อธีรเดชไม่ได้ นี่คอื ต้ นเหตุความกังวลแรก นวรั ฐะ
หลังจบงานพิธี นายพลชานเนนก็กลับบ้ านพัก ตอน นี ้คนที่รับมาเป็ นแขกคงเดินทางไปพักที่วงั แล้ ว เขาจึงไม่หว่ ง นัก หนุ่มใหญ่ถอดแค่เครื่ องแบบตัวนอกออก แล้ วเอนหลังที่ เก้ าอี ้ไม้ ที่วางริ มหน้ าต่าง มือหนาก็หยิบซองเอกสารที่ติดตัว จากห้ องท�ำงาน เปิ ดซองดึงภาพเจ้ าปั ญหาที่อยูข่ ้ างในมานัง่ มองเงียบๆ ปลายนิ ้วแข็งไล้ ตรงส่วนกรอบหน้ าเจ้ าของเรื อน ผมสีน� ้ำตาลเข้ ม เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่กบั ความซนของคน ที่รัก ยิ่งเห็นรอยยิ ้มเจ้ าเล่ห์ก็ยิ่งรู้ สกึ อยากจับร่ างเล็กนันมาตี ้ เหมือนเด็กๆ ขณะที่ครุ่นคิด เสียงโทรศัพท์ดงั ขัดความคิด เขา เอือ้ มมือหยิบมาดูก็พบว่าเป็ นหมายเลขของคนที่ต้องการ อยากพูดด้ วยพอดี “สวัสดีครับ” เสียงทักปลายสายแหยเหมือนรู้วา่ จะ เจออะไร “ครับ คุณผึ ้ง” นายพลตอบเสียงเรี ยบจนผานิตถอด ใจ อยากวางสายไปตอนนี ้ “เอ่อ ผมโทรมาอธิบายเรื่ องรูป” วางแล้ วผานิตก็เอ่ย อธิบายเหตุผลยาวเหยียด กลัวว่าจะกลัวนายพลโกรธจนเขา
ไม่กล้ าพูด รู้อยูห่ รอกคนรักใจดี แต่เวลาโกรธน่ะ ...น่ากลัว... หนุ่ ม ใหญ่ ฟั งค� ำ อธิ บ ายเงี ย บๆ แล้ วจึ ง พู ด ถึ ง เหตุการณ์ที่เกิดขึ ้นให้ ฟัง ซึง่ คนฟั งหน้ าเสีย ไม่คิดว่า คนคน นันจะรู ้ ้ สกึ ‘เสียใจ’ ได้ ถงึ ขนาดนี ้ “ผมไม่ได้ ตงใจให้ ั้ เกิดเหตุการณ์นี ้ขึ ้นนะ ก็อย่างทีผ่ ม อธิบายไปนัน่ แหละครับ ผมไม่ได้ ตงใจให้ ั้ รูปหลุดออกมานะ แค่อยากช่วยพี่ธี” ผานิตเอ่ยเสียงอ่อย ทว่าคนปลายสายกลับ ไม่สงสาร ซ� ้ำยังสัง่ สอนเหมือนเขาเป็ นเด็กๆ “แต่ผมรู้สกึ ว่าคุณผึ ้งสนุกมากกว่านะครับ เรื่ องบาง เรื่ อง มันเป็ นเรื่ องของคนสองคนที่เขาจะตัดสินใจ การที่เราซึง่ เป็ นคนนอกยื่นมือเข้ าไปเกี่ยวข้ อง เรื่ องมันจะยุ่งเหยิงกว่าที่ เป็ น คุณผึ ้งไม่ควรเข้ าไปยุง่ ตังแต่ ้ แรกด้ วยซ� ้ำ” น� ้ำเสียงที่เหมือนผู้ใหญ่ดเุ ด็ก ท�ำเอาผานิตหน้ าเสีย อารมณ์โกรธกรุ่นขึ ้นมาเหมือนกัน ก็อธิบายไปแล้ วนะว่าไม่ได้ ตังใจและเขาก็ ้ ไม่ได้ เป็ นคนท�ำน่ะ ...ใช่สิ ถ้ าเลือกเข้ าข้ าง นายพลก็ต้องเลือกเข้ าข้ าง ทางนันอยู ้ แ่ ล้ ว...
ถึงรู้ ว่าก�ำลังคิดอะไรที่ไร้ สาระก็เถอะนะ และก็ร้ ู ว่า สิ่งที่ท�ำนันไม่ ้ ควร แต่ผานิตก็วางสายลงดื ้อๆ จนหนุ่มใหญ่ ขมวดคิ ้วมุน่ ทว่าก็ไม่โทรกลับ...รอให้ อารมณ์โกรธของผานิต เบาบางลงก่อน ถึงคุยรู้เรื่อง...พอหยิบรูปขึ ้นมาดูอกี รอบก็ถอน ใจหนักหน่วงอีกรอบ ครั ง้ นี เ้ สียงถอนใจหนักและยาวกว่า เดิม... แอฟริกา ผานิตมองโทรศัพท์อย่างครุ่ นคิด...ก็ยอมล่ะกับตัว เองว่าโกรธระคนน้ อยใจทีถ่ กู ดุเป็ นครัง้ แรก ทังที ้ เ่ ขาอธิบายไป แล้ วว่า ‘ไม่ตงใจ’ ั ้ ถึงเสียมารยาทวางสายใส่นายพลชานเนน ไปแบบดื ้อๆ แบบนัน้ หากแต่พอวางสาย ความรู้สกึ ผิดก็เริ่ ม จู่โจม จับโทรศัพท์ขึ ้นมาอีกรอบ ปลายนิ ้วแตะอยูบ่ นหน้ าจอ ทัชสกรี น แล้ วค้ างไว้ ท�ำแบบนันซ� ้ ้ำๆ จนมาเรี ยน่าที่เหลือบ มองตังแต่ ้ ชายหนุม่ ลุกไปโทรศัพท์แล้ วมาท�ำหน้ าตูม “เป็ นอะไรน่ะบี” เพื่อนร่วมงานถามอย่างเป็ นห่วง
ผานิตเหลือบตามองพลางสัน่ ศีรษะ “ไม่มีอะไร” เขาไม่บอกว่าเพราะเพื่อนสาวนั่นล่ะที่ต้องมานั่ง หน้ าม่อยแบบนี ้ เขาไม่โทษหญิ งสาว หากแต่โทษตัวเองที่ สะเพร่า ลืมลบ ‘หลักฐาน’ ทิ ้งจนท�ำให้ เกิดเรื่ อง พอเพื่อนหนุม่ ไม่บอก หญิงสาวก็ไม่เซ้ าซี ้ เธอหันไปคุยกับเพื่อนร่ วมอาชีพ คนอื่นๆ ทิ ้งให้ ผานิตมองแป้นดิจิตอลอยูค่ นเดียว นวรั ฐะ หนุ่มใหญ่ยงั ไม่อาบน� ้ำเปลี่ยนเสื ้อผ้ า ร่ างสูงยังคง ทอดสายตามองดวงดาวที่พริ บพราวแข่งกันบนท้ องฟ้า มือ หยาบกร้ านประสานเข้ าหากัน ตรงเบื ้องหน้ ามีซองเอกสารที่ ใส่รูปเจ้ าปั ญหาและโทรศัพท์ เขาครุ่นคิดว่าตัวเองจู้จี ้เป็ นตา แก่ไปหรื อเปล่า หนุ่มใหญ่ร้ ูวา่ ผานิตไม่ตงใจให้ ั้ เรื่ องนี ้เกิดขึ ้น และรู้ ด้ วยว่าคุณหมอหนุม่ เข้ าใจในสิง่ ทีเ่ ขาพูดเป็ นอย่างดี ทว่าก็อด
ดุไปไม่ได้ ถึงถูกวางสายอย่างเสียมารยาท เขาจึงไม่ร้ ูสกึ โกรธ หากอารมณ์นนเป็ ั ้ นสิง่ ทีค่ าดเดาไม่ได้ ...ช่องว่างระหว่างวัยคง กว้ างไปกระมัง ผานิตชัง่ ใจเป็ นรอบที่สบื การขอโทษไม่ใช่เรื่ องยาก ทว่าเขาก็ไม่กล้ าโทรไป ก็ร้ ู ล่ะ นายพลชานเนนไม่ใช่คนไร้ เหตุผล ทว่าพอคิดถึงเสียงดุๆ เขาก็เบ้ หน้ า คนอะไร เวลาหวาน ก็หวานจนน� ้ำผึ ้งละลาย แต่ตอนดุแทบไม่กล้ าสบตาที่เหมือน เสือ ด้ วยวัยวุฒิพร้ อมบอกตัวเองว่าโตแล้ ว เขาจึงกลัน้ ใจกดหมายเลขจนครบ แล้ วกดโทรออกทันที เสียงโทรศัพท์ดงั ขึ ้นขัดภวังค์ของหนุ่มใหญ่มือหนา คลายออกจากกันแล้ วกดรับโดยไม่มองเลขหมาย “เอ่อ ขอโทษนะครับทีผ่ มเสียมารยาท” ผานิตรีบเอ่ย ขอโทษ “ผมรู้สกึ โมโหนิดหน่อยจนใช้ แต่อารมณ์” “ผมไม่โกรธหรอกครับ” นายพลชานเนนบอกด้ วย น� ้ำเสียงอ่อนโยน “ผมก็อยากขอโทษคุณผึ ้ง ถ้ าค�ำพูดของผม ท�ำให้ คณ ุ ผึ ้งไม่สบายใจ”
แค่ฟังน� ้ำเสียงทุ้มก็แทบละลาย รู้ สึกแย่กว่าเดิมที่ ท�ำตัวไม่นา่ รัก “ผมรู้ ว่าคุณผึ ้งน้ อยใจถ้ าฟั ง แต่ผมต้ องพูดให้ คณ ุ เข้ าใจหากเกิดอะไรขึ ้นกับคนคนนัน้ ผมต้ องเลือกถวายชีวิต เพื่อหน้ าที่ก่อน” เสียงที่ทอดอ่อนโยนพยายามท�ำความเข้ าใจ กับคนที่รัก “แต่ผมรักคุณผึ ้งนะครับ” คุณหมอหนุ่มรู้ ดีอยู่แล้ ว บางครั ง้ หน้ าที่ก็ต้องอยู่ เหนือหัวใจ และเขาก็ไม่ได้ งี่เง่าจนไม่เข้ าใจ จึงเก็บรักษาความ รักที่ละมุนละไมที่นายพลชานเนนมอบไว้ อย่างถนอมที่สดุ “ผมรู้อยูแ่ ล้ วว่าคุณต้ องตอบแบบนี ้ แต่พอฟั งแล้ วก็ อดเจ็บใจนิดๆ ไม่ได้ แฮะ” ผานิตบอก “เรื่ องนี ้ไว้ คยุ กันอีกครัง้ ตอนที่เราเจอหน้ ากันดีกว่านะครับ ตอนนี ้นวรัฐะคงดึกแล้ ว ผมคงไม่รบกวนคุณแล้ วล่ะครับ” “รักษาสุขภาพด้ วยนะครับ ผมจะรอคุณผึ ้งนะครับ” นายพลชานเนนเอ่ยก่อนผานิตจะวางสาย หนุ่ม ใหญ่ไม่ได้ เร่ งเร้ าฟั งค�ำตอบ รู้ ดีวา่ ผานิตนันไม่ ้ ได้ ใจแคบหรื อ น้ อยใจอย่างที่พดู บางเรื่ องการคุยกันต่อหน้ านันดี ้ กว่า...เขา
รอมาค่อนชีวิตแล้ ว แค่รออีกนิดจะเป็ นไรไป
บันทึกดอกเอือ้ งผึง้ 7
...ความสงบทีเ่ กิดขึ ้นหากแต่เหมือนคลืน่ ใต้ น� ้ำซึง่ ทัง้ ผานิตและนายพลชานเนนก็ไม่ร้ ูตวั ว่าเกิดขึ ้นเมื่อไร... ผานิตลากกระเป๋ าเข้ าบ้ านในสภาพเหน็ดเหนื่อย หลังจากกลับจากแอฟริ กา ก็ต้องเดินทางไปรายงานตัวที่ ส�ำนักงานใหญ่ จากนันอี ้ กหลายวันถึงได้ กลับบ้ าน ซึง่ พอจะ กลับ เครื่ องบินก็ดนั ดีเลย์ไปกว่าครึ่งชัว่ โมง ท�ำให้ กลับมาถึง กรุงเทพช้ ากว่าก�ำหนด คนเหนื่อยจนหมดแรงพาร่างที่กะปลกกะเปลี ้ยเข้ า บ้ านที่เงียบกว่าปกติ สาวใช้ เข้ ามาช่วยยกสัมภาระ ยกเว้ นแต่ กระเป๋ าเป้ทีผ่ านิตบอกว่าจะถือเอง คุณหมอหนุม่ จึงถือโอกาส ถามหาบิดาและมารดาก็ได้ รับค�ำตอบว่าท่านทังสองไปงาน ้
เลี ้ยงการกุศล ผานิตผงกศีรษะรับรู้แล้ วก็ลากเท้ าขึ ้นห้ องนอน ทิ ้งร่างบนที่นอนหนานุ่ม หลับตาพริ ม้ เพื่อผ่อนคลายร่างกาย สักพัก ก่อนจะลุกขึ ้นไปหยิบกระเป๋ าเป้ ควานมือหาโทรศัพท์ มือถือที่ปิดเครื่ องไว้ ตงแต่ ั ้ ออกภาคสนามมาเปิ ดเครื่ อง พอ เครื่องท�ำงานก็เปิ ดสัญญานเนต เสียงเตือนว่ามีข้อความอีเมล ก็ดงั ต่อเนื่อง ผานิ ต เปิ ดข้ อความแรกที่ ส่งมาจากธี รเดช คนที่ เปรี ย บเสมื อ นพี่ ช ายที่ พิ ม พ์ ข้ อ ความส่ง มาบอกกล่า วว่ า ‘ขอบคุณ’ ส�ำหรับเรื่ องรูปพร้ อมบอกเล่าเรื่ องราวที่เกิดขึ ้นให้ ฟั งสันๆ ้ รอยยิ ้มแต้ มบนริ มฝี ปากจางๆ เมื่ออ่านจบ ยินดีจาก ใจจริ งที่คนที่เปรี ยบเสมือนพี่ชายแก้ ความเข้ าใจผิดกับคนรัก ได้ ...ก็ค้ มุ ค่าที่เขายอมถูกนายพลชานเนนต�ำหนิแล้ ว ล่ะ... อี กสองสามอี เมลมาจากคนที่ คิดถึงเมื่ อครู่ เป็ น อีเมลจากนายพลชานเนน...ผานิตทยอยเปิ ดเช็คทีละเมล ฉบับแรกนันไต่ ้ ถามสารทุกข์สกุ ดิบในขณะเดินทางปฏิบตั งิ าน
ที่แอฟริ กา ซึง่ ตอนนันเขาอยู ้ ่ในพื ้นที่ทรุ กันดารจึงไม่ได้ ตอบ ฉบับที่สองก็มีข้อความไม่ตา่ งกับฉบับแรกเท่าไร เขาตังใจจะ ้ ตอบไปทีเดียวจึงเปิ ดอ่านฉบับสุดท้ าย ฉบับนี ้แตกต่างกว่า สองฉบับที่แล้ ว เพราะนายพลชานเนนชวนไปงานรับขวัญ หลานสาว งานจะจัดอีกสองอาทิตย์หลังจากนี ้ ผานิ ต นิ่ ง คิ ด ไปชั่ว ขณะ ใจหนึ่ ง ก็ อ ยากไปดูพิ ธี โบราณที่หาดูได้ ยาก อีกใจก็ยงั ไม่พร้ อมเผชิญหน้ ากับ ‘แขก พิเศษ’ ที่ต้องมาร่วมงานด้ วยแน่ๆ เขายิ ้มแหยใส่โทรศัพท์ ไม่ร้ ู จะตอบตกลงหรื อปฏิเสธดี แต่ท�ำผิดก็ต้องกล้ า ‘ยอมรับ’ อีก อย่างเขาเองก็อยากจะขอโทษนายพลชานเนนด้ วยตัวเขาเอง คิดได้ ดงั นันจึ ้ งกดพิมพ์ข้อความตอบอีเมลรวมๆ ไป และยืนยัน ว่าจะไป จากนันก็ ้ เตรี ยม ‘ท�ำใจ’ ที่จะต้ องเผชิญหน้ ากับ ‘คน คนนัน’...นึ ้ กในใจว่าเขาไม่นา่ ‘อวดดี’ ใส่ ‘คนคนนัน’้ เลย คราว นี ้ต้ องไปแบบหัวเดียวกระเทียมลีบ ไม่มีเกราะป้องกันอย่างพี่ ธี...เขาจะเอาตัวรอดอย่างไรกันเนี่ย... ระหว่างที่อยูบ่ ้ านนัน้ ผานิตก็ไม่ได้ หยุดท�ำงาน เขา
เองต้ องไปช่วยบิดาที่โรงพยาบาลตามที่เคยสัญญาเอาไว้ แม้ จะรู้สกึ เหนื่อยแต่ด้วยนิสยั ที่อยูน่ ิ่งไม่เป็ นจึงไม่ยอมหยุดตาม ที่บิดาบอกให้ พกั ผ่อนก่อน อีกอย่างหลังจากนีเ้ ขาตังใจจะ ้ หยุดยาวอยู่แล้ ว จนอีกหนึ่งอาทิตย์จะถึงวันเดินทาง ผานิต ลองโทรไปหาธีรเดชเพื่อชวนไปเป็ นเพื่อน แต่ก็ได้ รับค�ำตอบที่ น่าผิดหวัง “พี่ไม่วา่ งเลยน่ะ นี่ก็ลาจนหมดโควต้ าแล้ ว” ธี รเดชตอบเสียงอ่อนจนผานิตหมดทางออดอ้ อน ยอมวางสายไปแล้ ว ‘ท�ำใจ’ เตรี ยมเผชิญหน้ า ‘ความจริง’ ตาม ล�ำพัง และนึกเข้ าข้ างตัวเองว่าคงได้ เจอองค์ธวัลพรแค่ในงาน จากนันคงยุ ้ ง่ กับราชกิจจนไม่มีเวลาสนใจเขาหรอกน่า เมื่อเดินทางถึงนวรัฐะ นายพลชานเนนมารับผานิต ด้ วยตนเอง พอขึ ้นรถ ผานิตก็เรี ยกนายพลชานเนนเบาๆ “ก้ มลงมาหน่อยสิครับ ผมมีอะไรจะบอก” หนุ่มใหญ่ขวมดคิ ้วมุ่น แต่ก็ก้มลงไปใกล้ ๆ ริ มฝี ปา กนุม่ ๆ ก็แตะบนแก้ มสากเบาๆ ด้ วยกิริยาอ่อนหวาน “คิดถึงจังเลยครับ” ผานิตบอกเสียงอ่อนเบา
นายพลชานเนนรู้สกึ วาบหวามในอก แต่พอสังเกต เห็นดวงหน้ าคนรักใกล้ ๆ ความห่วงใยก็จบั หัวใจเพราะดวง หน้ าน่ารักซูบเซียว “คุณผึ ้งงานยุง่ เหรอครับ” นายพลหนุม่ ห่วงใยสุขภาพของผานิต เกือบสองปี ที่ คนรักเข้ ารับการผ่าตัดใหญ่ พอหายดีก็รัน้ แต่จะท�ำงานจนน่า อ่อนใจกับความหัวแข็งของคนในสายเลือดสกุลพิทกั ษ์ “ก็ไม่ได้ หนักหนาอะไรหรอกครับ” ผานิตตอบเพลียๆ ...ใช่ ไม่ได้ หนักหนาเลย แต่ที่เหนื่อยแบบนี ้เพราะ เขาโหมงานหนักจนเกือบลืมว่าต้ องหาของขวัญให้ แม่หนูน้อย ที่เขาเป็ นคนท�ำคลอด พอนึกได้ ก็เกือบสองทุ่มกว่า ต้ องวาง งานทังหมดไปที ้ ่ห้างสรรพสินค้ าเพื่อหาของขวัญ ความที่ไม่ ค่อยได้ ใกล้ ชิดเด็กก็ไม่ร้ ูวา่ จะซื ้ออะไรดี ของเด็กเล็กมีให้ เลือก ละลานตาเต็มไปหมดจนเลือกไม่ถกู สุดท้ ายก็ได้ เสื ้อผ้ าเด็กผู้ หญิงเป็ นกระโปรงเอีย๊ มยีนติดยีห่ ้ อดัง จากนันก็ ้ กลับไปท�ำงาน ต่อ แล้ วออกเดินทางมานวรัฐะตอนเช้ ามืด... “ผมคงรบกวนเวลาคุณผึ ้ง”
ผานิ ต รู้ สึก ว่ า เสี ย งของนายพลชานเนนแผ่ ว ลง ดวงตาสีน� ้ำตาลหรี่ ปรื อ “ไม่หรอกครับ ผมอยากมาหานายพล” เขาตอบเสียงเครือๆ รู้สกึ ร่างเบาสบาย จนฝื นไม่ไหว เปลือกตาบางหนักอึ ้งจนปิ ดลง หลับสนิทไปแบบนันเอง ้ นาย พลหนุ่มใหญ่ถอนใจเฮือก ก่อนจะเลี ้ยวรถเปลี่ยนเส้ นทางไป ที่บ้านพักทหารในตัวเมืองแทน เพราะเห็นว่า ผานิตหลับสนิท ด้ วยท่าทางอ่อนเปลี ้ยเพลียแรง... ผานิตยังหลับสนิทไม่ร้ ูสกึ ตัวว่ารถจอดเรียบร้ อยแล้ ว นายพลชานเนนไม่อยากปลุกเมื่อยังเห็นว่าคนรักก�ำลังนอน สบาย หนุ่มใหญ่ยงั สตาร์ ทเครื่ องยนต์ไว้ ในขณะที่ลงไปขน สัมภาระของคุณหมอหนุม่ ขึ ้นบ้ านพักเพื่อให้ แอร์ คอนดิชนั่ ท�ำ งาน ก่อนจะกลับมาเปิ ดประตูรถอุ้มร่างผอมที่หลับไม่ร้ ูเรื่ องรู้ ราว ใบหน้ าซุกซบกับแผ่นอกกว้ างราวกับหมอนชันดี ้ นายพลนวรัฐะอุ้มผานิตวางบนเตียงนอน ร่างผอม พลิกร่างเล็กน้ อย รู้สกึ สบายทีไ่ ด้ สมั ผัสทีน่ อนนิม่ ๆ จนไม่อยาก
ตื่น หนุ่มใหญ่ดึงแพรเพลาะห่มให้ ถึงหน้ าอกแล้ วทรุ ดนัง่ ริ ม เตี ย ง ทอดสายตาอบอุ่ น มองคนที่ ห ลับ พริ ม้ ลมหายใจ สม�่ำเสมอ ...บางครัง้ เขาก็คิดอย่างคนเห็นแก่ตวั อยากให้ ผา นิตหยุดทุกอย่าง แล้ วมาอยู่กับเขาให้ เขาดูแลหรื อถ้ าชอบ ท�ำงาน เขาก็จะยอมใช้ อ�ำนาจตัวเองสักครัง้ เพื่อฝากฝั งผานิต ให้ มีต�ำแหน่งหน้ าที่ในหน่วยแพทย์ทหาร แต่ในความเป็ นจริ ง คงท�ำไม่ได้ ... ผานิตมีความสามารถและไม่มีทางที่จะอาศัยใคร เพื่อต�ำแหน่งหน้ าที่แน่ๆ นี่คงเป็ นความฝั นลมๆ แล้ งๆ ของไม้ ใกล้ ฝั่งกระมัง ...มือหยาบปั ดเรื อนผมสีน�ำ้ ตาลเข้ มให้ พ้นกรอบ หน้ าด้ วยใจเอ็นดู...ถึงจะไม่ยอมให้ ‘ดูแล’ ก็ขอให้ รักษาสุขภาพ ตัวเองก็พอ... แล้ วเขาก็ปล่อยคนรักที่ออ่ นวัยกว่าหนึง่ รอบได้ พักผ่อนจนเต็มอิ่ม กลางดึกสงัด สายลมเย็นในฤดูหนาวพัดพรู ผ่าน หน้ าต่างไม้ ท�ำให้ ผานิตขยับตัวเล็กน้ อยเพื่อซุกซบหา ความ
อบอุ่นที่โอบล้ อมเหมือนนอนท่ามกลางปุยเมฆอุ่นๆ หวาน หมอนที่หนุนหัวกระด้ างผิดปกติ ดวงตาสีน�ำ้ ตาลเข้ มลืมขึ ้น รู้สกึ ตัวเต็มที่วา่ ก�ำลังนอนหลับในอ้ อมแขนของนายพลชาน เนน คุณหมอหนุม่ ยังนอนนิ่งเพราะรู้วา่ นายพลชานเนน นันรู ้ ้ สกึ ตัวเร็ว ผานิตหลับตาลงอีกรอบแล้ วค่อยลืมขึ ้นมาใหม่ เพื่อปรับสภาพสายตาให้ ชินกับความมืด หนุ่มใหญ่โอบร่ าง เขาไว้ ในอ้ อมแขน แขนอีกข้ างก็ใช้ แทนหมอนหนุน ...ไม่ปวดแขนหนรื อไงนะ... เขารู้สกึ เป็ นห่วง ด้ วยวัยของนายพลที่ลว่ งพ้ นค�ำว่า ‘กลางคน’ มาหลายปี กระดูกคงจะไม่แข็งแรงเหมือนเช่นคน หนุ่ม แล้ วยังมาเสียสละท่อนแขนแทนหมอนอีก ด้ วยความ เป็ นห่วงในฐานะแพทย์ ผานิตก็อดจะเอ็ดอึงคนรักในใจไม่ได้ ดวงตาสีน�ำ้ ตาลลอบมองดวงหน้ าคร้ ามคมยาม หลับอย่างใกล้ ชิดในความสลัวราง ไล่ตงแต่ ั ้ เปลือกตาที่ปิด ซ่อนดวงตาคูอ่ อ่ นหวาน จมูกทีโ่ ด่งได้ รูป หนวดเหนือเรียวปาก สวยน่าจูบ ดวงหน้ าจัดว่าดีมากแม้ จะมีริว้ รอยแห่งวัย หนุ่ม
ใหญ่ทดี่ พี ร้ อมด้ วยฐานะและนิสยั แบบนี ้มีผ้ หู ญิงคนไหนทอด สะพานให้ บ้างไหมนะ แค่คดิ ความหึงหวงก็เกาะกุมในใจ ค�ำ พูดหนึง่ ของนายพลผุดในใจ ...’ผมรักคุณผึ ้ง แต่ผมต้ องเลือกปกป้องคนคนนัน’... ้ ค�ำพูดนันก่ ้ อแผ่นน� ้ำแข็งบางๆ เกาะกุมในใจ ผานิต พลิกร่างนอนตะแคงหันหลังให้ นายพล กลัวใจตัวเองว่าจะคิด ไร้ สาระ ซึง่ เขาโทษว่าคงเหนื่อยจัด ร่างกายและจิตใจถึงอ่อน ไหวง่ายแบบนี ้ “ท�ำไมตื่นเร็ วจังครับ” เสียงทุ้มอ่อนโยนกระซิบถาม ล�ำแขนแกร่ งรัง้ ร่ าง ผอมเข้ ามาแอบอิงแผ่นอก “เอ่อ ผมท�ำท่านตื่นหรื อครับ” ผานิตไม่ตอบ แต่กลับย้ อนถาม เสียงเครื อๆ ท�ำให้ นายพลชานเนนเป็ นห่วงจนต้ องชะโงกหน้ าพิศมอง “ไม่สบายเหรอครับ” นายพลชานเนนทอดเสียงถามอย่างห่วงใย ผานิต จึงรู้ตวั ว่าท�ำให้ หนุม่ ใหญ่เป็ นห่วง
“อ้ อ ไม่มีอะไรหรอกครับ คัดจมูกนิดหน่อย” มือหนาโอบร่ างผอมให้ หนั มา หน้ าผากมนซบแผ่น อกกว้ าง แล้ วดึงแพรเพลาะให้ ถงึ ล�ำคอ “อากาศเย็นมากแล้ ว เดีย๋ วคุณผึ ้งจะไม่สบาย เขยิบ มาอีกนิดได้ นะครับ” ผานิตเขยิบตัวเข้ าหาอ้ อมแขนโดยไม่เกี่ยงงอนทันที ซ� ำ้ ยั ง สอดแขนโอบเอวหนาแนบแน่ น จนหนุ่ ม ใหญ่ นึ ก ประหลาดใจกับอาการของคนรัก... ดวงตาสี ด� ำ ดุจ ถ่ า นหลุบ มองเจ้ า ของเรื อ นผมสี น� ้ำตาลเข้ มด้ วยหัวใจเอื ้อเอ็นดู ผานิตกอดเขาแน่นเหมือนเด็ก ติดหมอนข้ าง “เป็ นอะไรหรื อเปล่าครับ” หนุม่ ใหญ่เอ่ยถามเพราะ รู้สกึ ว่าผานิตผิดปกติไปจากเดิม “ก็ไม่มีอะไรหรอกครับ รู้สกึ คิดถึงท่านมากไปหน่อย เราไม่คอ่ ยได้ เจอกันเลยนะครับ” ผานิตตอบเสียงทุ้มหวาน แต่เพราะไม่ได้ เห็นดวงตา ที่ทอรอยเศร้ า นายพลชานเนนจึงไม่ร้ ูวา่ นัน่ ไม่ใช่ค�ำตอบจาก
ใจ
“หืมม์...วันนี ้คุณผึ ้งแปลกๆ ไปนะครับ” “แปลกตรงไหนกันครับ” ผานิตตอบเสียงแง่งอน “นี่ ผมไม่มีสทิ ธิ์คดิ ถึงท่านนายพลกันเลยหรื อยังไงครับ” ร่างผอมซุกเข้ าหาอ้ อมแขนแกร่งอีกนิด ซึง่ หนุม่ ใหญ่ เต็มใจอย่างยิ่ง “ผมดีใจนะครับทีค่ ณ ุ ผึ ้งคิดถึงผมมากขนาดนี ้” นาย พลหนุม่ เอ่ยเสียงอ่อนหวาน ทังคู ้ ร่ ้ ูสกึ ตัวเต็มที่แล้ วจึงคุยกันท่ามกลางความสงัด “งานจัดวันไหนเหรอครับ” ผานิตถาม “ก็คงจะเริ่ มตอนเช้ าพรุ่งนี ้ล่ะครับ” “เอ่อ แล้ วท่านต้ องมาดูแลผมแบบนี ้...เกรงใจจังเลย ครับ” “คุณผึ ้งอย่ากังวลเลยครับ แสนหลวงดูแลอยูน่ ะ่ ครับ อีกอย่างมีเพื่อนๆ นางก�ำนัลในวังก็มาช่วยหลายคน” นายพล หนุม่ ใหญ่ตอบเสียงอ่อน “งานคงใหญ่น่าดูนะครับ ถึงมีนางก�ำนัลในวังมา
ช่วยแบบนี ้” “งานไม่ใหญ่หรอกครับ องค์ธวัลพรฯมีพระเมตตา เพราะน้ องเขยผมก็เป็ นน้ องบุญธรรมขององค์เจ้ า” ผานิตนิ่งงัน...เขาแทบจะไม่ค่อยรู้ เรื่ องราวในอดีต ของนายพลชานเนนเลย “เอ่อ...น้ องเขยท่านเป็ นน้ องบุญธรรมขององค์เจ้ า เหรอครับ?” “อืม ใช่ครับ ขิ่นเขาเป็ นลูกคนสนิทของนายพลอิน คานพระบิดาขององค์เจ้ า องค์ธวัลพรเอ็นดูขิ่นมากเพราะเคย ผ่านความล�ำบากมาด้ วยกันในช่วงสงคราม” นายพลชานเนนอธิบายสันๆ ้ ให้ ผานิตรับทราบเพิ่ม เติม “น้ องสาวท่านอายุน้อยกว่าท่านมากเลยนะครับ” ผานิตเอ่ยถามอย่างละลาบละล้ วง “ใช่ครับ คุณแม่ของผมท่านมีแสนหลวงตอนอายุ มากแล้ ว...” อีกข้ อที่ผานิตรับรู้คือนายพลชานเนนเสียพ่อกับแม่
เพื่อค� ้ำบัลลังก์องค์ธวัลพร ...ชีวิตของนายพลนัน้ เกิ ดมาเพื่อคนคนนัน้ จริ งๆ ด้ วยสินะ... บางเรื่ องนั น้ เขาอยากถามเพราะเหตุ ก ารณ์ เกี่ยวข้ องกับต้ นธารา ลูกผู้พี่ของเขา แต่ผานิตรู้ ว่า บางเรื่ อง นันไม่ ้ ควรพูดออกมา “พรุ่งนี ้องค์ธวัลพรจะเสด็จด้ วยนะครับ” หนุม่ ใหญ่เปลี่ยนเรื่ องเมื่อเห็นว่าผานิตเงียบไป เขา รับรู้ ว่า...เหตุการณ์ นนพรากชี ั้ วิตของญาติผ้ พู ี่ของผานิตไป ด้ วย ผานิตชันตัวขึ ้น เท้ าแขนคร่อมร่างสูงไว้ สบตาสีนิล ในเงามืด “คืนนี ้...หยุดพูดเรื่ องคนอื่นก่อนได้ ไหมครับ” ดวงตาสีน�ำ้ ตาลเข้ มเป็ นประกายวับวาว ก่อนจะ บรรจงแตะริ มฝี ปากที่ริมฝี ปากหนาเพียงแผ่วๆ เมื่อผานิตผละริ มฝี ปากออก นายพลชานเนนโอบ รอบเอวผอม แล้ วรัง้ ศีรษะทุยได้ รูปแนบอกแกร่ง มือสอดเข้ าไป
ในเรื อนผมสีน� ้ำตาลเข้ ม เรื อนร่ างผอมเสียดสีร่างแข็งแกร่ ง ขณะขยับตัวหลบหลีกมือที่ไล้ เรื อนผม “ท่านนะ...” ยังไม่ทนั ที่จะได้ ร้องด้ วยความขัดเขินปนขัดใจที่ถกู ปฏิเสธ หนุม่ ใหญ่กพ็ ลิกร่างอย่างรวดเร็ว ประคองร่างเขานอน ราบบนเตียงมือหนารองศีรษะทุยอย่างนุม่ นวล “ซนขึ ้นเยอะเลยนะครับคุณผึ ้ง” ดวงตาคมปลาบฉายรอยดุเล็กน้ อย เมื่ อเด็กซน ยัว่ เย้ าอารมณ์ที่สงบให้ ลกุ โพลง “ใครว่าซนละครับ” ผานิตตอบซื่อๆ “คิดถึงแล้ วท�ำ แบบนี ้ไม่ได้ เหรอครับ” “คุณผึ ้งไม่เหนื่อยเหรอครับ” เขาถามอย่ า งเป็ นห่ ว ง เพราะเห็ น ผานิ ต คอพับ คออ่อนตังแต่ ้ มาถึง เขาเลยไม่กล้ าแตะต้ องเกินเลย คนถูกเป็ นห่วงยิ ้มตาใสพราวระยับให้ “เหนื่อย...ก็ ไม่เป็ นหรอกครับ ผม...เอ่อ...คิดถึงท่าน...มาก ถ้ าท่าน...จะ...” มื อหนาสอดหมอนรองศี รษะให้ แล้ วยกมื อแตะ
กรอบหน้ าเรี ยว นิ ้วหยาบแตะปลายคางมนเบาๆ “วันนี ้คุณผึ ้งดูจะทังปากหวานและดู ้ ซนๆ นะครับ” นายพลชานเนนมองอย่างแคลงใจ ทว่าริ มฝี ปาก อ่อนนุ่มแตะประกบปิ ดค�ำถามทังหมดลงคอ ้ เรี ยวลิ ้นอุ่นชื ้น ซอกซอนในโพรงปากหนา ส่งลิ ้นกระหวัดอย่างกล้ าๆ กลัวๆ หนุ่มใหญ่ตอบสนองอย่างนุ่มนวลไม่แพ้ กนั จนริ มฝี ปากนิ่ม แดงระเรื่ อ มือเล็กก� ำเสือ้ แพรจี นที่นายพลหนุ่มใหญ่ สวมใส่ วอนเว้ าขอมากกว่าเดิม ความปรารถนาถูกปลุกเร้ าแค่ถกู จูบ หวานเชื่อม... มือหยาบสอดมือใต้ เสื ้อนอน คลึงเคล้ านวลเนื ้อ รุก เร้ าเอาใจจนอารมณ์ กระเจิง จากนัน้ เขาก็ถูก ‘ลอกคราบ’ ตังแต่ ้ เมื่อไรไม่ร้ ู มือหนาถอดเสื ้อแพรจีนออกอวดเรื อนร่ าง ก�ำย�ำเช่นกัน... ริ มฝี ปากหนาเลื่อนลงต�่ำซอกซอนล�ำคอหอมกรุ่ น หนวดแข็งๆ ทิ่มผิวเนื ้ออ่อน ทังจั ้ ก๊ จี ้และซาบซ่าน ความหฤหรรษ์ เพิ่มพูนเมื่อถูกสัมผัสที่ยอดอก เรี ยว
ลิ ้นอุน่ ชื ้นดูดเลียดืม่ ด�ำ่ ทีละข้ าง ร่างผอมเกร็งขึ ้น แอ่นรับสัมผัส ที่ดจุ ไม่ร้ ู อิ่ม เรี ยวลิ ้นวาดที่วงปานรอบๆ ทุกการกระท�ำหนุ่ม ใหญ่สมั ผัสนุม่ นวล อ่อนหวานจนคิดว่าถ้ าตัวเองละลายได้ คง ละลายไปแล้ ว “ท่าน...ครับ” ดวงตาสีน� ้ำตาลวับวาว เสียงหอบกระเส่าเว้ าวอน ร่างกายเริ่มอยูน่ อกการควบคุม หนุม่ ใหญ่ขยับลงต�่ำ ริมฝี ปาก หนาแนบทีท่ ้ องน้ อย สัมผัสทุกร่องรอยก่อความฉ�่ำชืน่ ตรงส่วน ปลายยอด...ทว่าหนุ่มใหญ่เลยผ่านตรงจุดนัน้ และจับต้ นขา ด้ านในชันขึ ้น จูบทีผ่ วิ เนื ้ออ่อน เพือ่ สัมผัสส่วนทีน่ มุ่ ละมุนทีถ่ กู ซ่อนไว้ ด้านในให้ เตรี ยมรองรับความแข็งแกร่ง เรือนร่างแกร่งก�ำย�ำเสียดสีผวิ นุม่ นิม่ ชื ้นเหงือ่ มือเล็ก ยกโอบไหล่ก�ำย�ำ ก่อนกระหวัดกอดก่ายร่ างหนาเมื่อร่ างถูก รุกรานลึกล� ้ำ ...ความแข็งแกร่งรุกรานภายในทีท่ งร้ั ้ อน ฉ�่ำชืน่ และ คับแน่น...สัมผัสแต่ละสัมผัสจากความแข็งขึงเรี ยกได้ ว่าน�ำ ความสุขสมให้ คนทังคู ้ .่ ..
ความซ่านเสียวขยายจากท้ องน้ อย ผานิตส�ำลัก ความสุขสมที่ถกู ปรนเปรอต่อเนื่อง จนความปรารถนาตาม สัญชาติญาณดิบหลัง่ ไหล... หนุ่มใหญ่ซึบซับเอาความสุขสมนัน้ ตามมาในไม่ ช้ า....แล้ วร่างใหญ่ก็โอบร่างผอมเข้ าหาอ้ อมแขน...
บันทึกดอกเอือ้ งผึง้ 8
ผานิตหมดแรงจนหลับสนิทถึงเช้ า เขารู้สกึ ตัวตอน แสงตะวันอ่อนๆ ฉาบมุ้งสีขาวนวล ดวงตาสีน� ้ำตาลเข้ มปรื อ ขึ ้นแล้ วปิ ดสนิทตามเดิม รู้วา่ ตัวเองนอนตืน่ สายกว่าปกติแต่ก็ ไม่มีแรงยกเปลือกตาที่หนักอึ ้ง อากาศเย็นๆ ชวนนอนอีกทัง้ ร่ างกายเรี ยกร้ องการพักผ่อนหลังจากผ่านคืนหอมหวาน ผา นิตจึงซุกร่ างเปล่าเปลือยใต้ ผ้าห่ม ตอนนีเ้ องเขาถึงรู้ ว่าคน ที่นอนข้ างๆ ไม่อยูแ่ ล้ ว เขาฝื นเปลือกตา แล้ วจึงชันร่างขึ ้น แพรเพลาะเลือ่ น หลุดจากร่ าง มือผอมเกี่ยวประตูม้ งุ เปิ ดกว้ าง แตะปลายเท้ า ลงบนพืน้ พร้ อมดึงแพรเพลาะคลุมร่ าง สัมผัสผ้ าเรี ยบลื่น คล้ ายมือหนาที่ลูบไล้ ท�ำให้ ดวงหน้ าแดงระเรื่ อ ผานิตสงบ
อารมณ์ หวามไหว แล้ วกวาดสายตามองรอบๆ ห้ องที่เป็ น ระเบียบ พอไม่เห็นนายพลชานเนน เขาก็เอนร่างราบกับเตียง โดยที่ยงั ห้ อยขาลงจากเตียง นอนแบ็บหมดพลัง ...ดีหน่อยที่ เมื่ อคืนนายพลชานเนนสัมผัสได้ นุ่ม นวล... เสียงประตูเปิ ดเบาๆ ผานิตไม่มแี รงจะหันไปมอง คน ที่เข้ ามาคือนายพลชานเนน หนุ่มใหญ่ยา่ งเท้ าเบากริ บไปหา คนทีน่ อนระทวยบนเตียง ผานิตลืมตาขึ ้นมองเมือ่ รู้สกึ ว่าเตียง ยวบลง เขามองร่างแกร่งแต่งกายเต็มยศนายพลนวรัฐะ ...วันนี ้นายพลบอกว่ามีงานรับขวัญหลานสาวซึ่ง เป็ นงานในครอบครัว แต่ท�ำไมต้ องแต่งเต็มยศเหมือนไปงาน สโมสรแบบนันนะ... ้ ความคิดหนึ่งก็แทรกขึน้ เขาลืมไปว่าองค์ เจ้ าคง เสด็จด้ วย แต่เขายังไม่เตรี ยมตัวเลยสักอย่าง เสื ้อผ้ าก็นอน กองอยูใ่ นกระเป๋ า “คุณผึ ้งไหวหรื อเปล่าครับ” หนุม่ ใหญ่มองสภาพอ่อนเปลี ้ยของคนรักอย่างเป็ น
ห่วง ถึงเมื่อคืนจะนุ่มนวล ละเมียดละไมแค่ไหน แต่คงเป็ น ภาระหนักกับคนทีไ่ ม่ได้ พกั ผ่อน ถ้ ารู้วา่ จะได้ เห็นสภาพสิ ้นแรง ของผานิตแบบนี เมื ้ อ่ คืนเขาจะกัดฟั นข่มกลันอดทนต่ ้ อการยัว่ เยาจากผานิต “พอไหวครับ” ผานิตตอบเสียงระโหยโรยแรง “พักอีกสักนิดดีกว่านะครั บ” หนุ่มใหญ่ เอ่ยเสียง อาทร “ไม่ต้องรีบหรอกครับ งานช่วงเช้ าไม่มอี ะไรนอกจาก ท�ำบุญและรับเสด็จองค์เจ้ า” ผานิตฝื นร่างกายลุกโดยมีหนุม่ ใหญ่ประคองหลัง “ไม่เป็ นไรจริ งๆ ครับ ผมไหว ขอเวลาผมเตรี ยมตัว แป๊ ป” มือผอมดึงแพรเพลาะห่อแล้ วก็โผเผไปทีก่ ระเป๋ าเดิน ทางใบย่อม ค้ นหาเสื ้อผ้ าแบบสุภาพเพื่อรี ดก่อนจะไปอาบน� ้ำ นายพลชานเนนลุกตาม ประคองร่างผอมไว้ “ผมรี ดให้ ดีกว่าครับ คุณผึ ้งอาบน� ้ำเถอะ” ถึงผานิตจะเกรงใจที่ให้ ระดับนายพลมารี ดเสื ้อให้
แต่ตอนนี ้เขาเพลียจนไม่คิดถึงความเหมาะสม ส่งเสื ้อผ้ าให้ ถือผ้ าเช็ดตัวแล้ วไปอาบน� ้ำเพือ่ เรียกความสดชืน่ ให้ แก่ร่างกาย ผานิตอาบน� ้ำนานกว่าปกติ สายน� ้ำเย็นจัดเรี ยกสติ ได้ ดี ร่ างกายผ่อนคลายความเหนื่อยล้ าไปโข พอออกจาก ห้ องน� ้ำ สีหน้ าจึงสดใสขึ ้น หนุม่ ใหญ่ไม่อยูใ่ นห้ อง แต่ระหว่าง ทีผ่ านิตอาบน� ้ำ นายพลชานเนนได้ ท�ำการเก็บกวาดเตียงนอน อย่างเรี ยบร้ อย มุ้งเกี่ยวชายไว้ สงู ผ้ าปูเตียงผืนใหม่ขงึ ตึงแน่น หมอนหนุนจัดเรี ยงเป็ นระเบียบ เสื ้อผ้ าของเขาถูกวางไว้ บนเตียง ผานิตถือขึน้ มา เนื ้อผ้ าขึ ้นกลีบโงก เรี ยบไม่เห็นรอยยับ เขายิ ้มแหย นึกภาพ นายพลแต่งชุดเต็มยศรี ดผ้ าให้ เก็บเตียงที่เขานอนพังพาบแต่ เช้ าอย่างรู้สกึ ผิด ร่างโปร่งรี บแต่งตัวออกมาจากห้ อง ภายนอกเฉลียง หนุม่ ใหญ่นงั่ คอยผานิต ตรงหน้ ามี นมสดหนึง่ แก้ ว “คุณผึ ้งดื่มนมก่อนสิครับ...อาหารเช้ าเดี๋ยวเราไป ทานที่งานนะครับ” ความอุน่ ซ่านแผ่ในใจทีไ่ ด้ รับการดูแลอย่างอ่อนโยน
“ขอบคุณครับ” พอดื่มนมจนหมดแก้ ว นายพลชานเนนก็พาผานิต เดินทางเข้ าวังซึง่ อยูไ่ ม่หา่ งจากบ้ านพักมากนัก นายพลนวรัฐะพาผานิตเข้ าเฝ้าองค์เจ้ า องค์ธวัลพร ประทับที่ห้องโถงกว้ างในวัง วรองค์โปร่ งทรงชุดขาวพร่ าง ท่วงท่างดงาม ก�ำลังมีพระปฏิสนั ถารกับชายหนุม่ ในชุดทหาร ราชองครักษ์ และร้ อยเอกระยา พอนายพลพาเขาเดินเข้ ามา ใกล้ ก็ผนิ พระพักตร์ จบั จ้ องยังผู้มาใหม่ด้วยสายตาอ่านไม่ออก ...คุณหมอหนุ่มสูดลมหายใจลึกๆ เพื่อ ‘เตรี ยมใจ’ เผชิญหน้ าองค์ธวัลพร... เจ้ าของวรองค์โปร่งลุกขึ ้นต้ อนรับ ‘แขกผู้มีพระคุณ’ ด้ วยรอยยิ ้มงดงามพร้ อมทังคนที ้ ่เหลือ นายพลชานเนนวันทย หัตถ์ถวายความเคารพก่อน ผานิตเข้ ามาถวายความเคารพ ต่อหน้ าพระพักตร์ องค์ธวัลยังคงรอยยิ ้มสวย ทว่าเย็นเยือกใน ความรู้สกึ ของผานิต “ยินดีต้อนรับอีกครัง้ คุณหมอผานิตสบายดคัไหม”
เมื่อทรงมีพระปฏิสนั ถารด้ วย เขาก็ต้องจ�ำใจตอบ “สบายดีพะ่ ย่ะค่ะ” ต่ อ ให้ ฝื นยิ ม้ แย้ มแจ่ ม ใส หากแต่ ลัก ษณะทาง กายภาพก็แสดงให้ เห็นว่าตอนนี ้เขาอิดโรยกว่าปกติ องค์ธวัล พรเองก็สงั เกตเห็น ทว่าก็ไม่พดู อะไร “เป็ นแขกของนายพลชานเนนมีอะไรขาดเหลือไหม” ผานิตไม่อยากจ้ องพระพักตร์ จงึ เลือ่ นสายตาลงจ้ อง ที่พระอุระที่ประดับด้ วยเข็มกลัดดอกเสี ้ยว “ไม่พ่ะย่ะค่ะ ท่านนายพลชานเนนดูแลกระหม่อม เป็ นอย่างดีพะ่ ย่ะค่ะ” ค�ำตอบของผานิตนันส่ ้ งผลให้ รอยยิ ้มสรวลกว้ างขึ ้น แต่ผานิตไม่เห็น “อ้ อ...เหรอ ดีแล้ ว” พระองค์พมึ พ�ำ ถึงเวลาเสด็จไปบ้ านนายพลชานเนนที่ไร่ชา ผานิต ก็ได้ ไปด้ วย แต่ไปรถอีกคันซึง่ มีร้อยเอกระยาเป็ นสารถี ส่วน นายพลชานเนนพร้ อมองค์ธวัลพรและราชองครักษ์ หลังจาก
ทักทายกันตามมารยาท ทังคู ้ ก่ ็พร้ อมใจกันเงียบ ...ระยานิ่งงัน โดยไม่ร้ ู จะพูดอะไรกับอดีตคนรักของรัสเซลล์และกลายเป็ น ที่รักของคนที่เขาแอบรัก ส่วนผานิตเงียบเพราะสาเหตุเดียว คือเหนื่อย... คุณหมอหนุ่มถอนใจเฮือกจนผู้กองหนุ่มหันมา มอง “ไม่สบายเหรอครับ” ระยาเอ่ยถาม ผานิตคลีร่ อยยิ ้มอ่อนโยน “เปล่าครับ...” เขาปฏิเสธ เสียงอ่อน “เห็ น คุณ หมอบอกผมว่า เปล่า สองรอบแล้ ว แต่ สภาพภายนอกของคุณหมอนีไ่ ม่เหมือนกับค�ำพูดเลยนะครับ” ระยาว่าตรงๆ ผานิตก็ได้ แต่ยิ ้มเจื่อนๆ “ก็พอดีไม่ได้ พกั เลยน่ะครับ กลับจากแอฟริ กาก็มา ที่นี่เลยทันที เลยเหนื่อยนิดหน่อย” “น่าสนุกจังเลยนะครับ ไปท�ำอะไรบ้ างครับนี่” ผู้กอง หนุ่มหาเรื่ องชวนคุยจนได้ ผานิตก็เล่าให้ ฟังคร่ าวๆ ว่าไปท�ำ อะไรมาบ้ าง “น่าสนุกจังเลยนะครับ” ระยาบอก ผานิตยิ ้มจางๆ สักพักเขาก็นกึ อะไรได้
“องค์ธวัลพรมีองครักษ์ ใหม่เหรอครับ” เขานึกถึงราชองครักษ์ ที่ไม่ค้ ุนหน้ านอกจากผู้พนั สุขสันต์ระยาก็เล่าให้ ฟังตังแต่ ้ เรื่ องที่องค์เจ้ าแอบมาร่ วมการ ฝึ กซ้ อมรบจนได้ องครักษ์ ใหม่มาอีกสองคนที่จะส่งไปดูแลเจ้ า น้ อยค�ำ ผานิตได้ ฟังก็ลอบยิม้ แหย...ถึงจะได้ ฟังเรื่ องราว ต่างๆ มาจากนายพลชานเนนก่อนก็เถอะ แต่ฟังซ� ้ำ เขารู้ สกึ เอาตัวไปเหยียบกับระเบิดซะแล้ ว... รถไปถึงบ้ านพักของหนุ่มใหญ่พอดี ผานิตได้ ระยา เป็ นไกด์ กิติมศักดิ์คอยอธิ บายเรื่ องราวต่างๆ งานรั บขวัญ หลานสาวนายพลนวรัฐะนันเกิ ้ ดค�ำว่า ‘งานในครอบครัว’ ไป มากโข ไม่เพียงแค่ การที่องค์เจ้ าเสด็จท�ำให้ งานดูเป็ นพิธีการ ขึ ้น ซึง่ ก็ไม่น่าแปลก ในช่วงสงครามกลางเมือง นายพลชาน เนนเป็ นก�ำลังหลักและภักดีที่สดุ ยังมีสงิ่ ที่ผานิตประหลาดใจ คือบรรดาทหาร ข้ าราชบริ พารต�ำแหน่งสูงมากันหลายคน แต่ละคนยังพาบุตรธิดามาด้ วยแทบทุกคน
ระยาบอกว่าไม่แปลก เนื่องเพราะนายพลชานเนน ยังไม่แต่งงาน อีกทังราชองครั ้ กษ์ และองค์ธวัลพรเองก็เช่นกัน แต่ละคนนันฐานะต� ้ ำแหน่งไม่ได้ ด้อยเลย จะเป็ นที่หมายปอง ก็ไม่แปลกสักนิด คุณหมอหนุ่มมองหน้ าคนพูด นึกในใจว่าผู้ กองระยาก็คงเป็ นหนึง่ ในนันด้ ้ วยแน่ๆ ล่ะ องค์ธวัลพรเสด็จโดยมีนายพลชานเนนเดินข้ างเคียง และราชองครักษ์ ตามหลังอีกสามนาย ผานิตที่มองภาพองค์ เจ้ าและนายพลหนุม่ ใหญ่ เพิง่ สังเกตได้ วา่ สายตาของนายพล ชานเนนจะจับที่องค์ธวัลพรตลอดเวลาไม่ว่าพระองค์จะทรง ท�ำอะไรก็ตาม ก่อนวรองค์โปร่งจะเข้ าไปในห้ องโถง ก็หนั พระ พักตร์ มาทางด้ านหลังเล็กน้ อย สายพระเนตรจ้ องคนคนหนึง่ อยูช่ วั่ แวบก่อนผินพระพักตร์ ตรงตามเดิม ระยามองตามสายตาของคุณหมอหนุ่ม เขาก็เห็น เช่นเดียวกัน ทังที ้ ่เห็นภาพแบบนี ้ทุกวัน ความรู้สกึ ที่ยงั เคยรัก หลงเหลือในใจเพียงเล็กน้ อย ยังสามารถท�ำให้ เจ็บเล็กๆ เขา ก็ไม่อยากคิดแทนว่า คนที่รักนันจะเจ็ ้ บปวดแค่ไหน ถ้ ารู้ ว่า ‘รัก’ เป็ นรอง ‘ความภักดี’
“คุณหมอครับ?” ระยาเอ่ยเรี ยก ผานิตหลุดจากภวังค์ ทว่าท่าทางเนือยๆ ไป “ขอโทษ ครับ มองเพลินไปนิด ไปต่อเถอะครับ” ผู้กองหนุม่ พาผานิตเข้ าไปด้ านในห้ องโถง ขณะนัน้ องค์ธวัลพรอุ้มน้ องมิ ้มแนบพระอุระ เด็กหญิงยิ ้มเห็นเหงือก แดงอย่างอารมณ์ดโี ดยมีแสนหลวงคอยดูแลพร้ อมสามีอยูไ่ ม่ ห่างและนายพลชานเนนยืนด้ านหลัง เด็กหญิงอ้ อนผู้เป็ นองค์ เจ้ าไม่หยุด ผู้พนั สุขสันต์น�ำถุงผ้ าไหมถวายองค์เจ้ า ซึง่ พอเปิ ด ปากถุงกว้ าง พระหัตถ์ เรี ยวก็ถือก� ำไลข้ อเท้ าที่ท�ำจากทอง ประดับไพลินน� ้ำงาม ทุกคนที่เห็นนึกอิจฉาเด็กหญิงจนเห็นได้ ชัด ผานิตก็สงสัยเมื่อเห็นทุกคนซุบซิบเลยถามระยา “พลอยนันเจี ้ ยระไนโดยช่างฝี มือดีของนวรัฐะครับ” คุณหมอหนุม่ รู้วา่ นวรัฐะมีเหมืองพลอยชันดี ้ ท่าทา งองค์ธวัลพรเอ็นดูแม่หนูน้อยมากถึงประทานของมีคา่ เช่นนี ้ หนูมิ ้มเล่นซนจนดึงเข็มกลัดดอกเสี ้ยวหลุดออกมา แสนหลวงรี บอุ้มแทนและดึงเข็มกลัดออกจากมือบุตรสาว
นายพลหนุม่ ชานเนนปราดเข้ าไปหาองค์เจ้ า น้ องสาวคืนเข็ม กลัดให้ หนุม่ ใหญ่ค้อมศีรษะก่อนย่อตัวคุกเข่าข้ างหนึง่ ต่อหน้ า พระพักร์ มือหนากลัดเข็มกลัดบนพระอุระด้ วยกิริยาอ่อนโยน ยิ่ง หลังจากที่นายพลหนุม่ ใหญ่กลัดเข็มกลัดเรี ยบร้ อย ท่านก็นงั่ ใกล้ ๆ กับองค์เจ้ า สักพักทังสองก็ ้ พดู คุยกัน นายพล ชานเนนทูลบางอย่างส่งผลให้ สีพระพักตร์ งดงามสดใส รอย แย้ มสรวลแต่งแต้ มดวงพักตร์ ระยาเห็นภาพนันก็ ้ หนั มามองคนทีน่ งั่ อยูข่ ้ างๆ อย่าง เป็ นห่วง เขาเห็นผานิตนัง่ มองด้ วยสายตาเรียบเฉยเหมือนทอง ไม่ร้ ูร้อน แต่พอมองชัดๆ ถึงเห็นได้ ชดั ว่า ผานิตมีทา่ ทางเนือยๆ สีหน้ าเผือดซีดกว่าเดิม เหงื่อไหลซึมตามไรผม “คุณหมอครับ ไหวไหมครับ” ผู้กองหนุ่มถามอย่าง เป็ นห่วง ผานิตเบนสายตาจากภาพตรงหน้ าเอ่ยตอบเบาๆ “ไม่เป็ นไรครับ ผมสบายดี”
ค�ำว่า ‘ไม่เป็ นไร’ นัน้ ระยาได้ ยินเป็ นรอบที่สามแล้ ว แต่สภาพคนพูดเกินค�ำนันไปโข ้ ผู้กองหนุม่ ผุดลุกพร้ อมดึงตัว ผานิตออกไปด้ านนอกทันทีโดยที่ผานิตหมดแรงขัดขืน ยังดีที่ พวกเขานัง่ ด้ านหลังจึงสามารถปลีกตัวได้ งา่ ย ระยาตังใจพา ้ คุณหมอหนุม่ ออกไปพักด้ านนอกก่อนจะเริ่ มงานพิธีการ ทังคู ้ ่ เดินออกมาโดยมีสายตาสองคูม่ องด้ วยความรู้สกึ ต่างกัน พอออกมาด้ านนอกห้ องโถง ผู้กองหนุม่ ก�ำลังพาผา นิตไปหาที่พกั ทว่าก็พบเพื่อนของน้ องสาวสามสี่คนที่พอเห็น เขาพวกเธอก็ปราดมาหาทันทีและทักทายเสียงหวาน “สวัสดีคะ่ ผู้กอง พาใครมาด้ วยคะเนี่ย” “คุณหมอผานิต แขกของนายพลชานเนน ที่เคยมา เป็ นแพทย์อาสาที่นวรัฐะครับ” ระยาจ�ำใจต้ องแนะน�ำตามมารยาท ผานิตฝื นยิ ้ม แย้ มทักทายด้ วยกิริยายินดี และตอบทุกค�ำถามทีพ่ วกเธอถาม จนเป็ นทีถ่ กู ใจสาวๆ การพูดคุยกินเวลาเกินกว่าสิบห้ านาที ระ ยาทีต่ งใจพาผานิ ั้ ตออกมาพักนันพาปลี ้ กตัวหนีสาวๆ ไม่ได้ สกั ที
ระยามองคุณหมอหนุ่มด้ วยอย่างนับถือในความ อดทน ผิดกับเขาที่ถามค�ำตอบค�ำ ซ� ้ำยังตอบแกมร� ำคาญ อยากตัดบทสนทนาที่ยืดเยื ้อนี ้เพราะเริ่ มกังวลกับอาการของ ผานิตที่ตอนนี ้หน้ าซีดเหมือนกระดาษ ยังไม่ทนั จะได้ ยอมเสีย มารยาท จูๆ่ คุณหมอหนุม่ ก็ทรุดฮวบท่ามกลางเสียงหวีดร้ อง ของสาวๆ ระยาที่คอยมองอยูแ่ ล้ วรับร่างผานิตได้ ทนั “อย่ารุมสิครับ ถอยออกไปก่อน” ระยาสัง่ เสียงเฉียบ ขาด เขาประคองร่างผอมไว้ “รบกวนหน่อยนะครับ ช่วยเตรี ยมผ้ ากับอ่างน� ้ำให้ ที” ผู้กองหนุม่ สัง่ คุณหนูคนหนึง่ หญิงสาวสองคนรีบท�ำ ตามค�ำขอทันที ส่วนอีกคนเดินตามชายหนุม่ ทังสองด้ ้ วยสีหน้ า เป็ นห่วง ระยาอุ้มผานิตไปที่แคร่ใต้ ร่มไม้ มือของร้ อยเอกหนุม่ แกะกระดุมเสื ้อเชิ ้ตของผานิต หญิงสาวอีกคนก็ช่วยใช้ พดั ที่ ติดกระเป๋ าช่วยโบกลมให้ ไม่นานนักคุณหนูที่ไหว้ วานช่วยยกอ่างใส่น� ้ำมาให้ ระยาช่วยเช็ดหน้ าเช็ดตาให้ เขามองสีหน้ าเผือดซีดพริ ม้ ตา
หลับสนิท เสียงกรีดร้ องของสาวๆ คงจะดังไปถึงข้ างในห้ องโถง ที่ก�ำลังเริ่ มงานพิธีการ สิงเห หนึง่ ในราชองครักษ์ จงึ ออกมาดู ว่าเกิดอะไรขึ ้น “คุณหมอผานิตเป็ นลมครับ” ระยาแจงสันๆ ้ ก่อนจะช่วยปฐมพยาบาลผานิตต่อ มือก็ไล้ ผ้าเย็นเช็ดตามล�ำคอให้ เบาๆ ราชองครักษ์ รีรออยู่ชวั่ ขณะเผื่อจะช่วยเหลืออะไรได้ บ้าง ทว่าผู้กองหนุม่ กลับท�ำเอง ทังหมด ้ สาเหตุก็เพราะตอนที่ปลดกระดุมเสื ้อเชิ ้ต เขาเห็นร่อง รอยที่ไม่ควรเห็นบนเรื อนร่ างของคุณหมอหนุ่มนัน่ คือรอยคิ สมาร์ ก! มือก็ดงึ สาบเสื ้อทบเข้ าหากัน ติดกระดุมให้ เรียบร้ อย เท่าที่เขาทราบ ผานิตเพิ่งเดินทางมาถึงนวรัฐะเมื่อวานเพราะ นายพลชานเนนเดินทางไปรับด้ วยตัวท่านเอง ระยาลอบถอนใจเมื่อครุ่ นคิดลึกซึ ้ง...ก็ไม่น่าแปลก ที่จะมีสภาพแบบนี ้...
ผ่านไปประมาณเกือบๆ สิบนาที ผานิตก็ปรื อตาขึ ้น กะพริ บปริ บๆ มองภาพที่ผ้ กู องระยาก้ มลงมาดูสภาพคนป่ วย อย่า งเป็ นห่ว ง ร่ า งผอมชัน ตัว ขึน้ โดยมี ร้ อยเอกระยาช่ ว ย ประคอง “เป็ นอะไรไหมครับคุณหมอ” ระยาถามด้ วยความ เป็ นห่วง “ไม่เป็ นไรแล้ วครับ ขอบคุณผู้กองระยามากนะครับ” ผานิตตอบซึมๆ เบลอๆ ระยาขมวดคิ ว้ จนแทบเป็ นปม หงุ ด หงิ ด ขึ น้ มา หน่อยๆ ทังยั ้ งแสดงผ่านสีหน้ าว่าเริ่มฉุนกับอาการไม่ทกุ ข์ร้อน ของผานิต “ล้ ม ตึง ไปแบบนี ย้ ัง จะบอกว่ า ไม่ เ ป็ นไรอี ก เหรอ ครับ!” น� ้ำเสียงผู้กองหน่วยพิเศษเอ็ดอึงเหมือนใช้ กบั ทหาร ใต้ บงั คับบัญชาที่ขนาดสิงเหยังตกใจ สาวๆ เริ่ มกลัว จึงขอตัว ทีละคนจนหมด ผานิตดึงสติให้ อยู่กบั เนื ้อกับตัว “เอ่อ ขอโทษครับ
ผมไม่อยากให้ ทกุ คนเป็ นห่วง” เขาพึมพ�ำ มือก็ยกปาดหน้ า พลางส�ำรวจตัวเอง เห็น กระดุมติดครบทุกเม็ด ระยาบอกทางสายตาว่าเขาเป็ นคนติด ให้ เอง ผานิตแอบถอนใจที่คนดูแลคือผู้กองหนุ่ม ไม่งนเขา ั้ คงจะอายสายตาคนที่เห็นสิง่ ที่ไม่ควรเห็น สิงเหเห็นว่าแขกของท่านนายพลอาการดีขึ ้นแล้ วจึง ขอตัวเพื่อกลับไปรายงานต่อองค์เจ้ ากับนายพลชานเนน “พักสักนิดก่อนดีกว่าครับ งานเริ่ มไปแล้ วล่ะ ผมเอง ก็ไม่ได้ เข้ าร่วม” ระยาเสริ มเมื่อเห็นท่าทางกังวลใจของผานิต ผานิตผงกศีรษะรับพลางหลับตาลงเพื่อพักสายตา อาการเวียนศีรษะจู่โจม ก�ำลังจะเอนร่ างลงบนพื ้นแคร่ ไม้ ไผ่ ร้ อยเอกหนุม่ รัง้ ร่างผอมไว้ เสียสละตักเป็ นหมอนให้ คนป่ วย “ขอบคุณครับ” ผานิตขอบคุณการเอื ้อเฟื อ้ นี ้จากใจ เขาปวดหัวจนคลื่นไส้ จะแย่ “คุณหมอนี่ไม่หว่ งตัวเองบ้ างเหรอครับ” จูๆ่ ระยาก็ เปรยขึ ้นมา ผานิตลืมตาแล้ วหลับลงใหม่ “ห่วงสิครับ” เขาตอบเพลียๆ “ผมคิดว่างานจะเสร็ จ
เร็ วกว่าที่คิด เลยฝื นสังขารมากไปหน่อย เสียดายจังเลยครับ พลาดโอกาสได้ ดพู ิธีหายากของนวรัฐะ” ...ก็ถ้าเมื่อคืนไม่เผลอ ‘คิดมาก’ จน ‘ยัว่ เย้ า’ ท่านไป นายพลก็คงไม่ ‘ล่วงเกิน’ เขาหรอก และก็ไม่ใช่แค่เหนื่อยจาก เรื่องเมือ่ คืน ตอนนี ้เขารู้สกึ หิวข้ าว ร่างกายต้ องการสารอาหาร ไปบ�ำรุง ดีหน่อยที่เมื่อเช้ านายพลชานเนนดูแลเตรี ยมนมสด ไว้ ให้ ไม่งนคงทนไม่ ั้ ไหวตังแต่ ้ แรกแล้ ว แค่นนไม่ ั ้ พอ เขายังต้ อง เผชิญสิง่ ที่นา่ เครี ยดที่สดุ คือ...องค์ธวัลพร... “ไม่ต้องเสียดายหรอกครับ ส่วนใหญ่คนมีลกู ก็ชอบ จัดรับขวัญเด็กอยูแ่ ล้ ว รออีกหน่อยก็ได้ ม่านจันทร์ มีลกู คงจะ จัดเหมือนกัน ตอนนันผมจะเชิ ้ ญคุณหมอมานะครับ” ผานิตอยากเย้ าว่าไม่ใช่งานลูกผู้กองเหรอครับ แต่ หมดแรงเสียก่อน พอหลับตาก็หลับแทบจะทันที ผู้กองหนุ่มเสียสละตักให้ คณ ุ หมอที่ผล็อยหลับจน จบงานพิธี ก� ำลังจะปลุกผานิ ตให้ ตื่น มื อก็ ชะงักค้ าง เมื่อ สายตาเห็นเงาคนที่โผล่มากะทันหัน ฝี พระบาทเบาจนไม่ ได้ ยินเสียงเดิน
ระยาไม่คดิ ว่าจะเห็นองค์ธวัลพรเสด็จมาเพียงล�ำพัง องค์เจ้ ายกดัชนีแตะริ มพระโอษฐ์ บอกให้ เงียบ เขาจึงนิ่งตาม รับสัง่ ดวงพระเนตรสีนลิ กาฬจ้ องภาพคุณหมอทีห่ ลับสนิทบน ตักเขาด้ วยสายตาอ่านไม่ออก ระยานัง่ ตัวแข็งทื่โดยมีผานิตนอนหลับบนตักแบบ ไม่ร้ ูเรื่ องรู้ ราวใดๆ ว่ามีคน ‘มอง’ อยู่ สายลมปลายฤดูหนาว พัดโชยแผ่วเบาท�ำให้ ผานิตดิง่ ในห้ วงนิทราลึกล� ้ำ ผู้กองหน่วย พิเศษไม่เข้ าใจว่าท�ำไมองค์ธวัลพรจึงสัง่ ตนเงียบ แล้ วยืนไขว้ พระหัตถ์เบื ้องหลังพระปฤษฎางค์ จ้ องคนที่ตกในห้ วงนิทรา ด้ วยสายพระเนตรคมดุจใบมีด องค์ธวัลพรประทับยืนนิ่ง มองภาพคุณหมอผานิต แผ่หลาหมดสภาพบนตักร้ อยเอกระยา ความรู้ สกึ แรกที่เห็น คือเจ็บแปลบในใจ ยามทีผ่ านิตหลับตาพริม้ แบบนี ้ช่างเหมือน ต้ นธาราไม่มีผิด ตอนนี ้สภาพของผานิตดูปกป้องตัวเองไม่ได้ ภาพความอ่อนแอฉายชัดยิ่งเวลาที่หลับไปบนตักของร้ อย เอกระยา และมันซ้ อนทับภาพตอนเสียชีวิตของต้ นธารา
...ยิ่งเหมือนกันมากเท่าไร หัวใจก็เต้ นเร่าด้ วยความ ริ ษยามากเท่านัน... ้ ผ่านไปพักหนึง่ ดวงพระเนตรสีด�ำก็แปรเปลีย่ นเป็ น เย็นชาจนคนกลางอย่างระยาเริ่ มอึดอัด อยากลุกหนี จาก สถานการณ์ตรงหน้ าก็ตดิ ทีค่ ณ ุ หมอผานิตไม่ตนื่ สักที ทังที ้ เ่ ท่า ที่เคยรู้ จกั กัน ผานิตเป็ นคนรู้ สกึ ตัวเร็ วมากเพราะการท�ำงาน ต้ องผ่านสถานการณ์อนั ตราย ความคิดหนึ่งผุดในใจ คุณหมอหนุ่มไปท�ำอะไรให้ องค์ธวัลพรไม่พอพระทัยหรื อเปล่า หรื อเขามีความบกพร่ อง ในหน้ าที่กนั ความเงียบรายล้ อมทังสามคน ้ จนกระทัง่ นายพล ชานเนนที่เพิ่งสามารถปลีกตัวจากแขกผู้มีเกียรติเข้ ามาเพื่อ เชิญองค์ธวัลพรกลับที่ประทับ หนุม่ ใหญ่นิ่งงันเมื่อเห็นภาพที่ ไม่คดิ ว่าจะได้ เห็น ระยาตัวแข็งทือ่ กลัวนายพลชานเนนเข้ าใจ ผิด ทว่าท่านก็ไม่พดู อะไร นอกจากเอ่ยทูลองค์เจ้ า “เชิญเสด็จได้ แล้ วพ่ะย่ะค่ะ ผู้พนั สุขสันต์เตรี ยมรถ ไว้ พร้ อมแล้ ว” เสียงทุ้มเอ่ยขึ ้นท่ามกลางความเงียบ เรี ยกองค์
ธวัลพรหลุดจากภวังค์ พระองค์หนั หลังเดินกลับก่อนนายพล ชานเนน “ฝากดูแลคุณผึ ้งหน่อยนะผู้กอง” หนุม่ ใหญ่ฝากฝั ง ผานิต คนเป็ นตัวต้ นเหตุคอ่ ยๆ ปรื อตาขึ ้นมาเพราะได้ ยิน เสียงพูดคุยแผ่วๆ ดวงตาสีน� ้ำตาลทันมองเห็นวรองค์โปร่ง เห็น แค่นนเขาก็ ั้ ผดุ ลุกพรวด นึกต�ำหนิตวั เองว่าเสียมารยาททีน่ อน เพลินจนไม่ร้ ูวา่ องค์เจ้ าเสด็จ พอตังสติ ้ ดีๆ ก็เห็นนายพลชาน เนนอีกคน “อ๊ ะ ท่าน....” ผานิตอุทานทัก นายพลชานเนนมองด้ วยสายตาห่วงใยชัว่ ครู่ ก่อน จะเอ่ยบอกน� ้ำเสียงค่อนข้ างดุๆ “แล้ วค่อยคุยกันนะครับคุณผึ ้ง” แล้ วนายพลหนุม่ ใหญ่ก็ตามเสด็จ ทิ ้งให้ ผานิตงุนงง กับสถานการณ์ที่เกิดขึ ้น ระยาที่นงั่ นิ่งกระแอมเรี ยก “คุณหมอครับ?” ร่ างผอมหันกลับมาที่คนเรี ยก ถามมึนๆ “เอ่อ เกิด
อะไรขึ ้นครับ ผมท�ำอะไรเสียมารยาทหรื อเปล่า” ร้ อยเอกแห่งหน่วยป้องกันพิเศษไม่อยากบอกว่า นอนหลับสนิทต่อหน้ าพระพักตร์ แบบนันเรี ้ ยกว่าเสียมารยาท ได้ ไหมนะ “เปล่าครับ ไม่มีอะไร” ระยาย้ อนเอาค�ำผานิตมา ตอบบ้ าง “แต่เมื่อครู่นายพลชานเนนกับองค์เจ้ ามาด้ วยไม่ใช่ เหรอครับ” ระยาถอนใจเฮือกใหญ่กอ่ นจะลุกขึ ้น แล้ วช่วยดึงผา นิตขึ ้นมา “ไปเป็ นแขกที่บ้านผมหน่อยนะครับ” จูๆ่ ก็เอ่ยชวน ผานิตยังตังหลั ้ กไม่ทนั “เอ่อ...” “ไม่ต้องกลัวเสียมารยาทหรอกครับ องค์เจ้ าเสด็จ กลับแล้ ว อีกอย่างวันนี ้ผมไม่ได้ ท�ำงานด้ วย” เพราะแววตาที่คล้ ายๆ เห็นใจของผู้กอง และอีก อย่างนายพลชานเนนก็ไม่อยู่ ผานิตจึงยอมติดตามระยาไป อย่างง่ายดาย พอขึ ้นรถ ระยาก็ถามเปรยๆ “คุณไปท�ำอะไรให้ องค์เจ้ าระคายเคืองพระหทัยหรือ
เปล่าครับ” ค�ำถามนันท� ้ ำให้ ผานิตนิ่งงัน ให้ ค�ำตอบไม่ได้
บันทึกดอกเอือ้ งผึง้ 9
ผานิตเงียบงันไปสักพัก ไม่ตอบค�ำถามของระยา ดวงตาสีน� ้ำตาลเหม่อมองถนนหนทางที่ร่มรื่ น ก่อนเอ่ยเบาๆ “ก็อาจเป็ นเพราะ องค์ธวัลพรกับพี่ชาย เอ่อ... ลูกผู้ พี่ของผมเคยรู้จกั กันกระมังครับ” ค�ำตอบของผานิตท�ำเอาระยาเงียบไป “อีกอย่าง คนที่ผมนับถือเป็ นพี่ชายก็เป็ นพระสหาย สนิทขององค์ธวัลพรด้ วย พระองค์อาจจะทรงอยากสอบถาม สารทุกข์สกุ ดิบเป็ นการส่วนพระองค์แต่ไม่สะดวกมังครั ้ บ” “...” ระยานัง่ ฟั งเงียบๆ ไม่ลงความเห็นใดๆ กับค�ำตอบ เลี่ยงๆ ของคุณหมอหนุ่ม จะให้ ซกั ไซ้ ไล่เลี่ยเอาค�ำตอบนันก็ ้
ไม่ใช่วิสยั
“ขอบคุณผู้กองมากนะครับที่ให้ ยืมตักแทนหมอน” ผานิ ต เอ่ย ขอบคุณ เบาๆ ก่ อ นจะเหม่อ ลอยมอง ทิวทัศน์ด้านนอก ระยาเองก็ไม่ใช่คนช่างคุย และไม่อยากพูด ถึงเรื่ องเมื่อสักครู่ ทังคู ้ จ่ งึ พร้ อมใจกันเงียบงัน ทางด้ านองค์ธวัลพร เมือ่ เสด็จกลับถึงวัง ก็เรียกนาย พลชานเนนเอาไว้ “วันนี ้กลับค�ำ่ หน่อยได้ ไหม เราอยากจะคุยงานด้ วย” นายพลหนุ่มใหญ่รับค�ำรับสัง่ โดยไม่คดั ค้ านซึง่ ผิด กับผู้พนั สุขสันต์ที่เลิกคิ ้ว เพราะหลังจากหกโมงเย็น องค์ธวัล พรไม่มีงานอะไรแล้ ว ท�ำไมจึงรัง้ นายพลชานเนนให้ อยูต่ อ่ ทัง้ ทีท่ รงทราบว่านายพลชานเนนมีแขกทว่าก็ไม่กล้ าทูลถามและ ตามเสด็จกลับเข้ าวัง
พอเห็นบ้ านพักของระยา ผานิตเพิ่งทราบว่าผู้กอง ระยาเป็ นผู้มอี นั จะกินคนหนึง่ ในนวรัฐะ เจ้ าของบ้ านพาผานิต เข้ าไปในบ้ าน และสัง่ ให้ สาวใช้ หาเครื่ องดื่มและของว่างมา รับแขก พร้ อมเชิญคุณหมอหนุม่ นัง่ พัก พักใหญ่สาวใช้ กย็ กน� ้ำ ผลไม้ คนเย็ ั ้ นๆ ออกมาเสิร์ฟพร้ อมกับอาหารว่างเบาๆ สอง สามอย่างทีด่ แู ล้ วรับประทานกันสองคนแล้ วเกินค�ำว่าอิม่ แน่ๆ “เห็นท่าทางคุณหมอคงจะหิวแล้ ว เลยจัดมาเยอะ หน่อยน่ะครับ ผมเองก็กินจุด้วย เชิญทานไม่ต้องเกรงใจนะ ครับ” ระยาชวนในฐานะเจ้ าบ้ าน “คุณหมอจะพักที่นี่กี่วนั ครับ” ระยาชวนคุยระหว่าง ที่รับประทานอาหาร “ก็ประมาณอาทิตย์ น่ะครั บ พอดีช่วงนีล้ างานได้ พอดี เลยพักได้ นานหน่อย” “วางแผนจะไปเที่ยวที่ไหนหรื อยังครับ ที่ภหู มอกห่ม ก็สวยนะครับ หรื อจะไปดูเหมืองพลอยก็ได้ นะครับ เสียดาย ช่วงต้ นอาทิตย์ผมติดงาน จะอาสาเป็ นไกด์ให้ ” ผานิตคลี่ยิ ้มขอบคุณจากใจ “ขอบคุณนะครับ แต่
ผมได้ ไกด์แล้ วล่ะ” แม้ ไม่ได้ เอ่ยชื่อ ระยาก็ร้ ูวา่ ‘ไกด์’ ที่ผานิตพูดถึงคือ ใคร ถึงจะถอนหัวใจรักมาจากนายพลชานเนนได้ แต่พอฟั ง ก็ ยังเหลือความปลาบแปลบเล็กๆ แล้ วมันก็เลือนหายไปอย่าง รวดเร็ วเมื่อรู้วา่ มีใครอีกคนฝั งในหัวใจ สองหนุ่มนัง่ คุยและดื่มชาเรื่ องสัพเพเหระ ยกเว้ น เรื่ องตอนทีผ่ านิตหลับจนเกือบบ่ายโมง ระยาจึงส่งผานิตกลับ บ้ านพักนายพลชานเนนในตัวเมือง พอล�่ำลาและขอบคุณเรี ยบร้ อย ผานิตก็ลากเท้ า เพราะยังเพลียขึ ้นไปบนบ้ านพัก แล้ วทอดร่างบนเตียงนุม่ ปิ ด เปลือกตาลง ความเงียบเจือความอ่อนล้ าท�ำให้ หวั ใจอ่อนแอ ค�ำถามของระยาก็ผดุ ในใจ...เขาไม่ได้ ท�ำอะไรสัก หน่อย แต่ท�ำไมเหมือนรู้ สกึ ว่า ตังตั ้ วเป็ นศัตรู กบั ผู้มีอ�ำนาจ ที่สดุ ในนวรัฐะนะ... ผู้ก องระยาก็ ไ ม่ย อมเล่า ว่า เกิ ด อะไรขึน้ ตอนเขา ผล็อตหลับไปบนตักของร้ อยเอกหนุม่ แต่ที่แน่ๆ นายพลชาน เนนคงเห็นภาพนันแล้ ้ ว ร่างผอมลอบถอนใจ ดูทา่ ช่วงนี ้ท่าน
จะเห็นภาพชวนจินตนาการของเขากับคนอื่นถี่ไปแล้ ว ถึงจะ อธิบายได้ กเ็ ถอะ แต่เขาไม่อยากให้ ทา่ นดุ เขานอนกลิ ้งเล่นจน บ่ายจัด นายพลหนุม่ ใหญ่ก็ยงั ไม่กลับ ผานิตยังคิดในแง่ดีวา่ ท่านคงติดงาน จึงรอจนผล็อยหลับ... ท้ อ งฟ้ ามื ด มิ ด โรยตัว ตัง้ แต่ เ มื่ อ ไรไม่ ร้ ู ดวงตาสี น� ้ำตาลกะพริ บปริ บๆ ผุดลุกขึ ้นคลานไปที่หวั เตียงควานมือดู นาฬกิ าในกระเป๋ าก็เห็นว่าเกือบสองทุม่ กว่าแล้ ว คุณหมอหนุม่ ถอนใจเฮือกใหญ่ ตอนนี ้ก็เลยเวลาเลิกงานของท่านแล้ วแต่ เจ้ าของบ้ านก็ยงั ไม่กลับ ...ตอนนี ้เขาเริ่มรู้สกึ เหมือนโดนท�ำสงครามประสาท กับคนคนนันอย่ ้ างไรก็ไม่ร้ ู... ผานิตรู้แล้ วว่าถึงคอยไป เจ้ าของบ้ านก็คงยังไม่มา ตอนนี ้แน่ๆ เขาจึงเดินเข้ าครัวเพื่อท�ำอะไรง่ายๆ รับประทาน ร่างผอมเดินเข้ าครัวเล็กๆ ที่แสนจะเป็ นระเบียบเรี ยบร้ อย มือ เปิ ดดูในตู้เย็น เขาก็เห็นกล่องพลาสติกใสบรรจุอาหารที่ปรุง ส�ำเร็ จแล้ วก็ร้ ูวา่ หนุม่ ใหญ่เตรี ยมไว้ ให้ เขา
ผานิตถือกล่องพลาสติกออกมาเพื่อน�ำไปอุน่ แล้ วก ลับมารับประทานคนเดียวจนอิ่ม คุณหมอหนุ่มล้ างถ้ วยชาม และท�ำความสะอาดห้ องครัวให้ เอี่ยมอ่องเหมือนเดิม ก่อน ออกมารอที่ห้องนัง่ เล่น สีท่ มุ่ กว่าแล้ ว นายพลชานเนนก็ยงั ไม่กลับ ผานิตถือ วิสาสะหยิบหนังสือที่เรี ยงเป็ นระเบียบบนชันมานั ้ ง่ อ่านฆ่า เวลาระหว่างรอเจ้ าบ้ าน เข็มนาฬกิ าเคลือ่ นคล้ อยตามจ�ำนวน หน้ าหนังสือที่เปิ ดอ่าน ห้ าทุม่ ครึ่ง ผานิตถึงได้ ยินเสียงรถยนต์ จอดที่หน้ าบ้ านพัก เขาปิ ดหนังสือทีอ่ า่ นได้ เกือบค่อนเล่มลงก็พอดีทรี่ ่าง สูงในเครื่องแบบย�ำ่ เท้ าคล้ ายรีบเร่งขึ ้นบ้ านพัก นายพลชานเน นกลับมาในสภาพเหนื่อยอ่อนอย่างเห็นได้ ชดั ผานิตวางหนังสือลง ลุกขึ ้นไปจัดน� ้ำเย็นๆ ต้ อนรับ หนุม่ ใหญ่ “งานยุง่ เหรอครับ” คุณหมอหนุม่ ทักด้ วยน� ้ำเสียงอ่อนโยน คลายความ เหนื่อยล้ าให้ หนุม่ ใหญ่เป็ นปลิดทิ ้ง
“ก็คอ่ นข้ างยุ่งหน่อยนะครับ ขอโทษคุณผึ ้งด้ วยนะ ครับที่ปล่อยให้ อยูค่ นเดียว ทังที ้ ่คณ ุ ผึ ้งไม่สบายต่อหน้ าต่อตา ผม” นายพลหนุ่มใหญ่เอ่ยอย่างรู้ สกึ ผิด ผานิตแตะแผง อกก�ำย�ำ ยิ ้มน้ อยๆ ทังสี ้ หน้ าและดวงตา “ไม่เป็ นอะไรหรอกครั บ ผมสบายดี แค่เหนื่อย... เอ่อ...นิดหน่อย...น่ะครับ อีกอย่างผู้กองระยาเขาก็ดแู ลเป็ น อย่างดี” หนุ่มใหญ่ถอนใจ...สภาพที่เห็นนันเกิ ้ ดค�ำว่า ‘นิด หน่อย’ ไปมากโข ยังไม่ทนั จะพูดอะไร ผานิตก็ชิงพูดตัดบท เสียก่อน “ท่านเองเถอะครับ ท่าทางเหนื่อยจะแย่ ไปอาบน� ้ำ ก่อนดีกว่าครับ แล้ วทานอะไรมาหรื อยังครับ” หนุ่มใหญ่ยิม้ ล�ำบากใจ “ทานมาแล้ วจากที่วงั น่ะ ครับ” “เอ่อ คุณผึ ้งครับ...” น� ้ำเสียงล�ำบากใจปนล้ านันเรี ้ ยกผานิตที่ก�ำลังเดิน
เข้ าห้ องนอนชะงักกึก “ครับ?” เป็ นครัง้ แรกทีห่ นุม่ ใหญ่อดึ อัดทีจ่ ะเอ่ย “พรุ่งนี ้ผมคง ต้ องผิดสัญญากับคุณผึ ้งน่ะครับ องค์ธวัลพรจะเคลียร์ เอกสาร การฝึ กซ้ อมรบ ผมต้ องเข้ าเฝ้าถวายรายงาน เอ่อ...” ผานิตเห็นสภาพอึดอัดเมือ่ ผิดสัญญาก็ถอนใจ ก่อน จะฝื นยิ ้ม “ผมเข้ าใจครับ ถ้ าท่านติดงานด่วน ก็เลื่อนนัดของ เราไว้ ก่อนก็ได้ ผมยังอยูอ่ ีกหลายวัน” นายพลชานเนนมีทา่ ทีโล่งใจ “ขอบคุณนะครับที่ไม่โกรธ” มือหนาดึงร่ างผอมเข้ าหาอ้ อมอก แต่ผานิตขืนตัว ออก “อาบน� ้ำก่อนดีกว่าครับ ท่านคงเหนื่อยแล้ ว” หนุ่มใหญ่ได้ แต่ปล่อยด้ วยความเสียดาย แล้ วไป อาบน� ้ำตามที่บอก ผานิตเดินกลับเข้ าไปในห้ องนอน นัง่ เงียบๆ บนเตียง นุ่ม แม้ ปากจะบอก ‘ไม่เป็ นไร’ หากในความจริ งก็อดน้ อยใจ
เล็กๆ ไม่ได้ ...ทังที ้ ่ลาหยุดแล้ วแต่ท�ำไมยังมีงาน... ทว่าเขาก็ ปั ดความรู้สกึ นันออกจากใจ ้ นายพลชานเนนอาบน� ้ำเรี ยบร้ อยแล้ วก็ออกมาโดย แต่งเสื ้อป่ านสีขาวกับกางเกงแพร มือหนายกผ้ าขนหนูซบั ละ ออกน� ้ำบนใบหน้ าคมเข้ ม ท่านพาร่ างก�ำย�ำมาทรุ ดนัง่ ข้ างๆ คนที่นงั่ ซึม ผานิตกลับลุกขึ ้น “ผมไปอาบน� ้ำก่อนนะครับ” เมื่อกลับออกมาอีกครัง้ ผานิตก็เห็นสภาพ ‘วีรบุรุษ’ หลับสนิททังที ้ ม่ ผี ้ าขนหนูคล้ องคอ รอยยิ ้มขันแต้ มบนริมฝี ปาก บางที่ได้ เห็นภาพเสือหมดสภาพ อุตส่าห์รอดูวา่ เมื่อไรจะล้ ม ตึง ขนาดเขายังหมดแรง แถมมีงานยุ่งตัวเป็ นเกลียว นับ ประสาอะไรกับหนุม่ ใหญ่ที่หา่ งกันเป็ นรอบจะไม่สิ ้นสภาพ ผานิตปี นขึ ้นเตียง ดึงผ้ าขนหนูออกให้ เบาๆ หากแต่ นายพลก็ร้ ูสกึ ตัวก่อน ดึงร่างผอมล้ มทับแผ่นอกหนา มือก็ถือ ผ้ าขนหนูโยนไว้ บนพื ้นข้ างเตียง ตวัดล�ำแขนรัดร่ างคุณหมอ หนุม่ นอนข้ างๆ “พรุ่ งนีผ้ มจะเก็บเอง คุณผึง้ นอนกับผมดีกว่านะ
ครับ”
เสียงทุ้มงึมง�ำ ลมหายใจร้ อนผ่าวรดต้ นคอเพรี ยว ผานิตนอนนิ่งภายใต้ อ้อมกอดแข็งแกร่ง ศีรษะเอนซบแผงอก กระไอหวานอวลซ่านในหัวใจ แล้ วผล็อยหลับไปทังแบบนั ้ น้ อรุณรุ่ง ผานิตยังซุกร่างบนเตียงอุน่ ๆ ดุจลูกแมวน้ อย หนุ่มใหญ่ที่ตื่นตังแต่ ้ ฟ้ายังไม่ทนั สาง ลุกขึ ้นเตรี ยมอาหารทัง้ สามมื ้อไว้ ให้ ผานิตจัดใส่กล่องพลาสติกแช่ไว้ ในตู้เย็นแล้ วจึง อาบน� ้ำแต่งตัวไปท�ำงาน ‘ล่วงเวลา’ ตามรับสัง่ ขององค์ธวัลพร ก่อนออกจากบ้ านหนุ่มใหญ่ทรุ ดนัง่ ข้ างเตียง มือ หนาเกลีย่ เรื อนผมสีน� ้ำตาลนุม่ มือ แล้ วดึงผ้ าแพรห่มให้ อีกชัน้ มองภาพคนที่จมในห้ วงนิทราด้ วยสายตาเปี่ ยมความรักก่อน จะลุกขึ ้นไปท�ำงาน ระยาแปลกใจที่เห็นนายพลชานเนนนัง่ อยู่ในห้ อง ท�ำงาน เขาทราบมาว่า หนุม่ ใหญ่ลาหยุด แต่ท�ำไมมานัง่ ตรง นี ้ได้ นายพลชานเนนนัง่ เปิ ดเอกสารหน้ าตาเคร่งขรึมผิดปกติ
จนระยาไม่กล้ าทักทาย เสียงปิ ดประตูท�ำให้ นายพลชานเนน เงยหน้ าขึ ้นจากเอกสาร “อรุณสวัสดิผ์ ้ กู องระยา” เสียงทักแม้ จะไม่ห้วนแต่ก็ ไร้ รอยนุม่ นวลเช่นปกติ “อรุ ณสวัสดิ์ครับ เอ่อ วันนี ้นายพลหยุดไม่ใช่เหรอ ครับ” ร้ อยเอกหนุม่ ถามอย่างกล้ าๆ กลัวๆ “อ้ อ มาตรวจเอกสารถวายองค์ธวัลพรน่ะ” ท่านตอบ โดยไม่เงยหน้ าจากกองเอกสาร ระยาขมวดคิว้ ...ไม่ใช่หน้ าที่ของท่านโดยตรงสัก หน่อย เพราะคนที่ต้องรับผิดชอบท�ำรายงานการฝึ กซ้ อมรบ คือเขา “เดี๋ยวงานชิ ้นนี ้ผมจะจัดการเอง ผู้กองมีอะไรท�ำก็ ไปท�ำเถอะ” ก็แย่งงานที่เขาต้ องท�ำแล้ วเขาจะท�ำอะไรล่ะ ...ระยานึกในใจก่อนไปท�ำงานต่อ ถึงเวลาเลิกงาน ระยาไม่เห็นท่านนายพลแล้ ว ชาย
หนุม่ จึงกลับบ้ านเลย ระหว่างทางนัน้ เขาเหลือบมองเห็นร่าง ผอมคุ้นตาสะพายกล้ องDSLR นัง่ มองภาพตลาดยามเย็นใน ร้ านกาแฟข้ างถนนอยูค่ นเดียว “คุณหมอผานิตนี่น่า” ระยาพึมพ�ำแล้ วหาที่จอดรถ ร่ างสูงโปร่ งในเครื่ องแบบผู้กองหน่วยพิเศษเดินตรงไปหาคน ที่นงั่ เพียงล�ำพัง “คุณหมอผานิตครับ” ระยาเอ่ยเรี ยก เจ้ าของดวงตา สีน� ้ำตาลเข้ มหันมามองคนทักที่นงั่ บนเก้ าอี ้โต๊ ะเดียวกัน “อ้ าว ผู้กองระยา เพิ่งเลิกงานเหรอครับ” ผานิตเดา เอาจากที่เห็นแต่งเครื่ องแบบและเวลานี ้ก็เย็นแล้ ว “ใช่ครับ แล้ วนี่มารอนายพลชานเนนเหรอครับ” ระ ยาถาม แต่ก็ได้ รับค�ำปฏิเสธ “ไม่ใช่ครับ พอดีวนั นี ้ท่านนายพลติดงานกะทันหัน ผมเลยออกมาเที่ยวคนเดียวอย่างที่เห็นนี่ละ่ ครับ” ระยาขมวดคิ ้ว “อ้ อ ใช่ แต่ทา่ นยังไม่กลับเหรอครับ ตอนออกมาผมก็ไม่เห็นแล้ ว” ผานิตส่ายศีรษะ ท่าทางซึมๆ ระยาจึงเปลี่ยนเรื่ อง
คุย “ไปเที่ยวไหนมาบ้ างครับนี่” ค�ำถามนันเรี ้ ยกรอยยิ ้มจางๆ บนใบหน้ าคุณหมอ หนุม่ มือพร้ อมดึงผ้ าพันคอพันให้ เรี ยบร้ อย “ก็...ไม่ได้ ไปไหนไกลเลยครับ ผมเพิ่งออกมาตอน บ่ายสามกว่านี่เอง ไม่ร้ ูจะไปไหนดีด้วยเลยมานัง่ เล่นดูวถิ ีชีวติ ชาวบ้ านนี่ละ่ ครับ เสียดายทีอ่ ตุ ส่าห์หอบกล้ องตัวเก่งมาแท้ ๆ” ผานิ ต รู้ สึ ก ห่ อ เหี่ ย วใจที่ อ ะไรๆ ก็ ผิ ด ไปจากที่ ก�ำหนด...ทังที ้ ่ตงใจมาพั ั้ กผ่อน ถ่ายรูปพิธีรับขวัญหลานสาว นายพล ตัวเองก็เป็ นลมจนพลาด ของขวัญแม่หนูน้อยก็ยงั ไม่ ได้ ให้ โปรแกรมที่วางแผนเที่ยวเก็บความทรงจ�ำกับนายพล ชานเนนก็สะดุดเพราะงานที่แทรกกะทันหัน “ยังมีเวลา ถ้ าคุณหมออยากได้ ภาพสวยๆ งันไปชม ้ พระอาทิตย์ตกดินที่บงึ กับผมไหม” ท่าทีซมึ ๆ นันท� ้ ำให้ ระยาหลุดปากชวน รอยยิ ้มแย้ ม ดีใจกว้ างเต็มดวงหน้ าของผานิต ก่อนจะยิ ้มเจื่อน “เอ่อ แล้ วไม่รบกวนผู้กองเหรอครั บ เพิ่งเลิกงาน ด้ วย”
“ไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ” ระยาว่า “ไปแป๊ ปเดียว เอง ไม่เหนือ่ ยหรอกครับ อีกอย่างถ้ าคุณหมอพลาดจะเสียดาย แน่ๆ ครับ” ว่าแล้ วก็ฉุดมือผอมให้ ลกุ ขึ ้นไปขึ ้นรถก่อนจ่ายค่า กาแฟที่ผานิตดื่มให้ ด้วย “ขอบคุณนะครับ” ผานิตเอ่ยอย่างเกรงใจ “ไม่ต้องเกรงใจครับ” ระยาว่า “ยังไงผมก็วา่ งอยูแ่ ล้ ว เป็ นไกด์ให้ คณ ุ หมอได้ ครับ” ระยาพาออกไปนอกตัวเมือง แล้ วก็พาลงจากรถ ภาพที่เห็นท�ำเอาผานิตตื่นตา “สวยจริ งๆ ด้ วยครับ” ภาพท้ องฟ้าระบายสีส้มอมแดง ก� ำลังลาลับขอบ นภาเหนือขุนเขาสวยจับใจ สายลมลูไ่ ม้ น� ้ำนานาพันธุ์เอนไหว ไกลลิบๆ นันเรื ้ อชาวประมงก�ำลังกลับฝั่ ง ผานิตยกกล้ องตัว เก่งกดชัตเตอร์ อย่างถูกใจ “ไปดูตรงสะพานดีกว่าครับ” ไกด์กิตติศกั ดิช์ วน แล้ ว พาเดินมาทีส่ ะพานไม้ ปากก็อธิบายไปด้ วย “สะพานนี ้จะเชือ่ ม
ไปจนถึงวังน่ะครับ แต่วา่ ตรงจุดนัน” ้ เขาชี ้ไปตรงด้ านหน้ าที่ไกลลิบๆ “จะเป็ นพื ้นที่ต้อง ห้ ามครับ เพราะเป็ นพื ้นที่วงั หลวง” ผานิตเก็บภาพไปด้ วยฟั งไปด้ วย “สวยมากเลยครับ” คุณหมอหนุ่มถูกใจภาพสวยๆ ที่ได้ ยล “เก็บภาพตัวเองด้ วยไหมครั บ ผมถ่ายให้ ” ระยา เอื ้อเฟื อ้ ผานิตยื่นกล่องให้ ระยาถ่ายให้ ในมุมต่างๆ กันสอง สามภาพ “งันผมขอถ่ ้ ายไกด์หน่อยนะครับ อุตส่าห์พามาเทีย่ ว ทังที ้ ” ผานิตขอ ผู้กองหนุม่ ยอมให้ ถ่ายแค่ภาพเดียว ชมผืนน� ้ำใต้ แสงยามเย็นครู่ใหญ่ก็มืดพอดี “ผมเลี ้ยงตอบแทนผู้กองนะครับ ผู้กองจะได้ ไม่ต้อง ย้ อนกลับมาส่งผมอีก” ผานิตชวน พลางนึกถึงอาหารที่นายพลหนุ่มใหญ่ ท�ำทิง้ ไว้ ก็คงพอรั บประทานกันสองคน ระยาไม่ขัดศรั ทธา
แล้ วไปส่งคุณหมอหนุม่ กลับบ้ านพักนายพล ในเวลาเดียวกัน ที่วงั หลวง นายพลหนุม่ ใหญ่นงั่ ดื่ม ชากับองค์ธวัลพร บรรยากาศที่ควรจะรื่ นเริ งกลับเคร่งเครี ยด จนน่าอึดอัดเพราะหนุม่ ใหญ่ไม่ยิ ้มเลย หากแต่องค์ธวัลพรนิ่ง เฉยไม่ทกุ ข์ร้อน “ลองชิมสโคนดูสิ ม่านจันทร์ ลองท�ำขนมฝรั่งดูนะ่ ” เมื่อเห็นว่าหนุม่ ใหญ่ไม่แตะต้ อง องค์ธวัลพรก็หยิบ สโคนมาหนึง่ ชิ ้น ผ่าครึ่งแล้ วทาแยมผลไม้ และเนยลงไป แล้ ว เลือ่ นส่งให้ นายพล คนแก่วยั กว่าปฏิเสธไม่ได้ ต้องรับประทาน ไม่ให้ เสียน� ้ำพระทัย “อร่ อยไหม ช่วงนี ้ม่านจันทร์ ชอบท�ำขนมฝรั่ง น้ อย ไปเรี ยนต่อเลยไม่คอ่ ยมีคนชิม เราเองก็ไม่ชอบขนมหวาน นี่ ยังเหลือนะ เดี๋ยวท่านช่วยเอาไปฝากคุณหมอผานิตด้ วยสิ” แล้ วก็ไม่รอให้ ตอบรั บหรื อปฏิเสธ พระองค์ทรงมี รับสัง่ ให้ หอ่ ขนมแฮนด์เมดพร้ อมแยมผลไม้ ทำ� เองเพือ่ ฝากนาย
พลกลับไปด้ วย “ช่วยอยูท่ านข้ าวกับเราก่อนสิ นี่ก็ใกล้ เวลาแล้ ว เรา จะได้ เคลียร์ เอกสารกับท่านด้ วย” เพราะค�ำขอร้ องกึ่งบังคับหนุ่มใหญ่จงึ ปลีกตัวออก มาไม่ได้ เช่นเคย ต้ องรออยู่โยงรับประทานอาหารในวัง และ คุยเรื่ องงานจนดึกดื่นเหมือนเมื่อวาน ผานิตเชิญผู้กองหนุม่ ขึ ้นบ้ านพัก เขาวางกล้ องคูใ่ จ บนโต๊ ะในส่วนพื ้นที่รับแขก แล้ วเขาก็หาน�ำ้ ท่ามาเสิร์ฟแขก แล้ วจึงบอกให้ ผ้ กู องหนุ่มคอย จากนันจึ ้ งเข้ าครัวอุน่ อาหารที่ นายพลหนุม่ ใหญ่ท�ำเตรี ยมไว้ ให้ กลิน่ อาหารหอมๆ นัน้ เรี ยกให้ ระยาที่นงั่ คอยลุกขึ ้น เพื่อที่จะช่วยจัดเตรี ยมจานชาม พลางนึกสงสัยว่า คุณหมอ ผานิตท�ำอาหารเก่ง ไม่ถึงสิบห้ านาทีก็เรี ยบร้ อย ทว่าพอเห็น ในครัวเขาก็นิ่งงันไปเล็กน้ อย “อ้ าว ไม่นงั่ รอก่อนละครับ อุน่ อีกอย่างก็เสร็จแล้ ว”
ผานิตสาละวนเก็บกล่องพลาสติก บนโต๊ ะอาหารมี กับข้ าวประเภทผัดผักวางอยูห่ นึง่ จาน และจานข้ าวสวยร้ อนๆ ที่ดแู ล้ วเพิ่งจะอุน่ เสร็จพร้ อมช้ อนส้ อมสองชุด ส่วนที่ยงั อุน่ อยู่ เป็ นแกงจืด ผานิตเก็บกวาดพื ้นที่ที่ใช้ อนุ่ อาหารก็พอดีกบั ทีแ่ กงจืดเดือด จึงได้ ยกลงเทใส่ถ้วย แล้ วเอ่ยชวนคนที่ยืนมองที่หน้ าประตูครัว “เสร็ จแล้ วครับผู้กอง แค่นี ้น่าจะพอนะครับ” ระยานัง่ ลงตรงกันข้ ามกับผานิต “พอครับ ออกจะ เยอะไปด้ วยซ� ้ำ ปกติถ้าไม่กลับไปทานข้ าวทีบ่ ้ าน กับข้ าวอย่าง เดียวก็หรูแล้ วล่ะครับ” อาหารที่ ผ านิ ต เตรี ย มไว้ มี ผัด ผัก และแกงจื ด ที่ ปริ มาณมากพอจะทานสองคน “คุณหมอท�ำเตรี ยมไว้ เหรอครับ” ผานิตส่ายหน้ าปฏิเสธ ยิ ้มอ่อนๆ แต้ มบนดวงหน้ า “ไม่ใช่ครับ นายพลชานเนนเป็ นคนท�ำทิ ้งไว้ ให้ นะ่ ครับ” ค�ำตอบท�ำเอาระยานิ่งงัน ก่อนจะตักอาหารฝี มือ ‘นายพล’ เข้ าปาก รสชาติอาหารอร่ อยจนนึกอิจฉาคนได้ ชิม
รสมือกิตติมศักดิ์ “แล้ วท่านนายพลไม่กลับมาทานด้ วยเหรอครับ” ระยาเพิง่ สังเกตเห็นว่ากล่องพลาสติกใสทีผ่ านิตเก็บ เตรี ยมล้ างนันไม่ ้ หลงเหลืออาหาร “ท่านคงทานมาจากข้ างนอกแล้ วล่ะครับ ผู้กองไม่ ต้ องกังวลหรอกครับ” แล้ วก็ชวนรับประทานจนหมด ระยาอาสาล้ างจาน เพราะเกรงใจ แต่ผานิตปฏิเสธแล้ วบอกให้ ผ้ กู องหนุม่ กลับเลย เพราะค�่ำมากแล้ ว ก่อนกลับ ผานิตเอ่ยขอบคุณในน� ้ำใจไมตรี “ขอบคุณผู้กองนะครับที่สละเวลาพาไปเที่ยว” “ด้ วยความยินดีครับ อาหารอร่อยมาก ขอบคุณคุณ หมอด้ วยนะครับ” หลังจากส่งแขก ผานิตกลับเข้ าครัวล้ างถ้ วยชามเก็บ ให้ เรี ยบร้ อย จากนันก็ ้ อาบน� ้ำแล้ วเข้ านอนเลยทังที ้ ่เพิ่งจะทุม่ กว่าๆ คุณหมอหนุ่มดึงหมอนที่นายพลชานเนนหนุนมากอด แทนเจ้ าของบนเตียงนุม่ ๆ ...ก็นา่ น้ อยใจหน่อยๆ แฮะ ที่โดนทิ ้งแบบนี ้...ถึงรู้วา่
เป็ นเรื่ องงาน (ที่มีวาระซ่อนเร้ น) ก็เถอะ นี่ก็เหลือเวลาไม่กี่วนั เขาต้ องกลับไปท�ำงานในพื ้นทีท่ รุ กันดารอีกสองเดือน แล้ วช่วง เวลาหวานล� ้ำล่ะ... ท�ำไมนายพลไม่ใจแข็งออกปากปฏิเสธสักทีนะ คน คนนัน้ ก็เหลือเกิน เล่นวิธีขีโ้ กงกักตัวนายพลด้ วยเรื่ องงาน เพราะรู้แน่แก่ใจว่าท่านเลี่ยงไม่ได้ ... ร่ างผอมล้ มตัวนอนพร้ อมกอดหมอนไปด้ วย แล้ ว หลับตาลง นับหนึ่งถี งร้ อยเพื่ อสงบจิ ตใจที่ ทัง้ น้ อยใจและ ปรารถนา กว่าหนุ่มใหญ่จะปลีกตัวออกมาได้ ก็สองทุ่มกว่า ครัง้ นี ้องค์ธวัลพรไม่ได้ รัง้ ไว้ เหมือนวันก่อน เขาจึงคลายใจ ทว่า รับสัง่ ต่อมาก็ท�ำให้ เขานิ่งงัน ‘เราอยากชวนคุณหมอผานิตมารับประทานน� ้ำชา กับขนม คุณหมอคงว่างกระมัง ตอนบ่ายแก่ๆ อากาศคงจะดี รบกวนท่านนายพลหน่อยแล้ วกัน’
ถึงเขาจะเคลียร์ งานได้ ก็คงไม่เกิดประโยชน์ อะไร แล้ ว หนุม่ ใหญ่กลับบ้ านด้ วยความเหนื่อยใจกับความเอาแต่ พระทัย ...คงถึงเวลาต้ อง ‘อบรม’ กันยกใหญ่แล้ วกระมัง... พอถึงบ้ านตอนช่วงเกือบสามทุม่ ครึ่ง เขาก็แปลกใจ ที่บ้านเงียบ พอขึ ้นบ้ านพัก แล้ ววางขนมของฝากลงบนโต๊ ะ เขาก็ไม่เห็นผานิตมาต้ อนรับด้ วยรอยยิ ้มหวานๆ ท่านทอดร่ างบนโซฟาอย่างเหนื่อยใจ...ดวงตาคม สังเกตเห็นกล้ องตัวโปรดของคนรัก มือหนาถือวิสาสะเปิ ด เครื่ อง เลื่อนดูภาพเพื่อดูวา่ วันนี ้ผานิตไปไหนมาบ้ าง ภาพชุด แรกๆ เป็ นภาพทิวทัศน์ในตลาดนวรัฐะ ส่วนภาพหลังๆ จะเป็ น ภาพบึงบัวยามเย็น ภาพแต่ละภาพถ่ายออกมาสวยงาม มี ภาพหนึง่ ที่เขาสะดุดใจคือภาพผานิต หัวคิ ้วเข้ มขมวดมุน่ ...ใครถ่ายให้ ... แล้ วเขาก็ได้ ค�ำตอบรูปต่อไป ...ระยา...
ผู้กองหนุม่ คงอาสาพาผานิตไปแน่ๆ ...เสียงถอนใจ หนักหน่วงดังขึ ้น...รู้สกึ ผิดที่ทิ ้งคนรักด้ วยเรื่ องงาน... ผานิตรู้ แล้ วล่ะว่านายพลชานเนนกลับมาถึงบ้ าน แล้ ว แต่ด้วยความน้ อยใจที่ถูกทิง้ ท� ำให้ เขาไม่ยอมออกไป ต้ อนรับท่านเหมือนปกติ เขานอนรอครู่ใหญ่ เจ้ าของบ้ านก็เปิ ด ประตูเข้ ามา ผานิตนอนหันหลังหนีทนั ที มือก็กอดหมอนของ เจ้ าบ้ าน หนุ่มใหญ่พาตัวเองมาทรุ ดนัง่ ริ มเตียงแล้ วโน้ มตัว เท้ าแขนคร่ อมร่ างผอม ก้ มมองคนที่กอดหมอนไว้ แน่น คนที่ กึง่ ถูกกักซุกหน้ าหลบโดยใช้ หมอนสีขาวเป็ นที่ก�ำบัง นายพล ชานเนนยิ ้มน้ อยๆ อย่างเอ็นดู กับกิริยาคล้ ายเด็กดื ้อ ...ก็เด็กจริ งนัน่ ล่ะ ห่างจากเขาเกือบสิบหกปี ... “โกรธแล้ วเหรอครับคุณผึง้ ” หนุ่มใหญ่ถามอย่าง อ่อนโยน ...ถามมาได้ วา่ โกรธไหมเนี่ยนะ...
ผานิตนึกทึง่ กับความใจเย็นของท่านจนต้ องเงยหน้ า ขึ ้นจากหมอนมองดูอย่างขุน่ ใจ พอเห็นดวงหน้ าคมสันอมยิ ้ม ก็ร้ ูวา่ เสียรู้ทา่ นแล้ ว “มองหน้ าผมได้ สกั ที คุยกันสักนิดก่อนสิครับ” ดวงตาสีน�ำ้ ตาลหลุบต�่ำหลบสายตาคมดุที่พราว ระยับหวาน...โกรธอยูน่ ะ...เขาบอกตัวเองในใจ “ผมขอโทษทีท่ ิ ้งคุณผึ ้งไว้ แบบนี ้แล้ ว วันนี ้ไปไหนมา บ้ างครับ” นายพลถามเสียงอ่อนเสียงหวานคล้ ายจะเอาน�ำ้ เย็นเข้ าลูบซึง่ นัน่ คือปฏิกิริยาปกติของท่าน แต่เพราะโดนทิ ้ง มาสองวันติดกัน ผานิตยังอยูใ่ นอารมณ์น้อยใจจึงไม่ตอบค�ำ แล้ วเอียงหน้ าซุกหมอนใบเดิม “คุณผึ ้งครับ?” มือหนาจับไหล่เล็ก เอ่ยเรี ยกด้ วยน� ้ำ เสียงนุม่ นวล “คุยกันก่อนได้ ไหมครับ” “ไม่มีอะไรคุย” ผานิตว่ารวนๆ ด้ วยน�ำ้ เสียงแข็งๆ หนุ่มใหญ่โน้ ม ใบหน้ าเข้ าไปใกล้ ๆ ดวงหน้ าเริ่มมีรอยหนักใจกับกิริยาแข็งขืน
อย่างที่ไม่เคยเจอ “หันหน้ ามาคุยกันก่อนสักนิดสิครับ” ค�ำขอร้ องอ่อนหวานเพียงใด ผานิตก็ไม่หนั กลับมา มองซ� ้ำตัดรอนอย่างไม่ไยดี “ผมไม่มีอะไรจะคุยนี่ครับ ตอนนี ้ผมง่วงแล้ ว ท่านมี อะไรก็คอ่ ยคุยพรุ่งนี ้เถอะครับ” คนงอนพลิกร่างหนีจากอ้ อม แขนแกร่ง หนุม่ ใหญ่แอบถอนใจ รู้อยูว่ า่ เป็ นความผิดตัวเองที่ ไม่มีเวลาให้ คนรักเพราะเรื่ องงาน หลายเดือนกว่าพวกเขาจะ มีเวลาตรงกันก็เกิดอุปสรรคที่หนือคาดการณ์ เขาอยากให้ หนั หน้ าคุยกันมากกว่าจะมาโกรธงอนกันแบบเด็กๆ แบบนี ้ “ผมนึกว่าคุณผึ ้งจะเข้ าใจผมเรื่ องงานแล้ วซะอีก” นายพลแกล้ งตัดพ้ อ ได้ ผลเมือ่ ผานิตตอบรวนๆ กลับ มา “ขอโทษนะครับ ผมบอกว่าเข้ าใจก็จริง แต่ผมมีสทิ ธิ์ โกรธหรื อน้ อยใจไม่ใช่เหรอครับ” เขาพูดโดยไม่ได้ มองว่าคนพูดพ้ อมีสีหน้ าเช่นไร
หนุม่ ใหญ่ซอ่ นยิ ้มไว้ มดิ ชิดเมือ่ หลอก ‘เด็กดื ้อ’ ให้ พดู ออกมาได้ อารมณ์ของผานิตตอนนี ้เหมือนถูกเพลิงเผาใจ “ท่านท�ำงานไปเถอะครับ ผมไปไหนต่อไหนเองได้ กิ นข้ า วคนเดี ย วก็ ไ ด้ ไม่ต้องมารบกวนเวลางานของท่าน หรอก” ผานิตยอกย้ อนอย่างน้ อยใจที่จๆู่ ก็กลายเป็ นว่าเขา งี่เง่าไปเอง ไม่เข้ าใจภาระหน้ าที่ของคนรัก... หนุ่มใหญ่แสร้ งท�ำหน้ าขรึ มขณะฟั งผานิตระบาย ความในใจ “ผมเข้ าใจครับว่าสุดท้ ายถ้ าให้ ทา่ นเลือก ท่านก็จะ เลือกเขาคนนันอยู ้ ด่ ี” ดวงตาอ่อนโยนเลือนลับไปกลายเป็ นดุดนั “คุณผึ ้ง ดูถกู ความรักของผมนะครับ” ผานิตเพิ่งได้ สานสบดวงตาคูค่ มประกายวาววับน่า กลัว ก็เล่นเอาใจเต้ นผิดจังหวะ ไม่ใช่เพราะตกใจหรื อกลัว แต่ รู้สกึ ว่าภาพลักษณ์ของท่านในตอนนี ้เท่มาก...เหมือนเสือร้ าย ที่เตรี ยมกระโจนล่าเหยือ...
ร่ างหนาที่ปลดแค่กระดุมเสื ้อนอกเคลื่อนไหวอย่าง รวดเร็ วกดร่ างผอมไว้ ใต้ กรงแขน ดวงตาดุจเสือสบดวงตาสี น� ้ำตาลที่แฝงแววหวาดหวัน่ ระคนหวามไหว มือผอมถูกรวบ ไว้ เหนือศรี ษะ เมื่อถูกกักขัง ความหวาดหวัน่ จึงจับหัวใจ “ทะ...ท่านจะท�ำอะไรครับ” “ลงโทษเด็กดื ้อที่ชอบคิดมากครับ” ว่าแล้ วริ มฝี ปากหนาจรดข้ างแก้ มนวลด้ วยท่าทาง แข็งๆ เล็กน้ อย...ผานิตหลับตาปี๋ ก่อนจะลืมขึ ้นเมื่อได้ ยินเสีย หัวเราะดังก้ อง พอเห็นรอยยิ ้มกรุ้มกริ่ มประดับดวงหน้ าคร้ าม คม คุณหมอหนุม่ ก็ร้ ูทนั ทีวา่ ...เสียรู้นายพลเข้ าอีกแล้ ว!!!... ดวงหน้ าของผานิตร้ อนวูบจนแดงก�่ำที่ ‘เสียรู้’ คนแก่ ยิง่ พอเห็นรอยยิ ้มกรุ้มกริ่มของคนที่ชื่อว่าเป็ นสุภาพบุรุษ หน้ า ก็แทบร้ อนดุจอังไฟ “ไม่ยกั รู้ทา่ นนี่ก็เล่นเป็ นเด็กๆ แบบนี ้เป็ นด้ วย” ผานิตบ่นอุบอิบ...เมื่อครู่ ตอนที่เขาเห็นภาพพจน์ ดุดนั ของหนุม่ ใหญ่ เขากลัวระคนวาบหวิวในหัวใจจริ งๆ
...คนบ้ าอะไร เวลาโกรธมีเสน่ห์ชะมัด... “เมื่อก่อนคุณผึ ้งไม่ร้ ู เพราะผมไม่กล้ าหยอกคุณนี่ ครับ แต่ตอนนี ้ผมกล้ า เพราะว่าคุณผึ ้งรักผมแล้ วไงครับ” คน ที่นงั่ ข้ างๆ บอกเสียงทุ้ม ตอนนี ้ผานิตคิดว่าถ้ าตัวเองละลายได้ คงละลายไป แล้ ว... “ผมอยากให้ คณ ุ ผึ ้งโกรธจนยัว่ ผมบ้ าง” ส�ำหรับเรื่ องของระยานัน้ หนุ่มใหญ่ไม่ได้ คิดมาก อย่างที่ผานิตประชดประชัน เขาเข้ าใจ ด้ วยวัยที่ใกล้ เคียงกัน ของทังสองและทั ้ งคู ้ ก่ เ็ คยรู้จกั มักคุ้นกันมาก่อน การทีร่ ะยาจะ มีไมตรี จิตด้ วยก็ไม่แปลก ส่วนผานิตเอง ถูกทิ ้งเอาไว้ แบบนี ้ พอได้ เพื่อนคงลดทอนความรู้สกึ ถูกทิ ้งได้ มาก... ผานิตหน้ าบึ ้ง หันหลังหนี พร้ อมเอาหมอนมากอด ไว้ เหมือนเดิม หากแต่มองก็ร้ ูวา่ อาย เพราะใบหูแดงก�่ำ หนุ่มใหญ่พาร่ างหนาขยับเข้ าใกล้ เขายื่นดวงหน้ า เข้ าไปใกล้ ๆ เป่ าลมหายใจร้ อนริ นรดที่ใบหูนิ่ม “คุยกันยังไม่ จบเลยนะครับ”
“แต่ผมคุยจบแล้ ว และก็ง่วงมากครับ ท่านไปอาบ น� ้ำเถอะครับ ผมจะเตรี ยมเข้ านอนแล้ ว” คนหนุม่ กว่าไล่ดื ้อๆ “แต่ผมยังคุยไม่จบนี่ครับ” บทจะรัน้ หนุ่มใหญ่ก็รัน้ ไม่ผิดกับเด็กเอาแต่ใจ ผา นิตตัดบทฉับด้ วยการล้ มตัวนอนพร้ อมกอดหมอนไปด้ วย นาย พลหนุม่ ยิ ้มหัว ชะโงกหน้ าเข้ าไปใกล้ อีกนิด “คุณผี ้งเอาหมอนผมไปแบบนี ้แล้ วผมจะนอนยังไง ละครับ เอ...หรื อคืนนี ้คุณผึ ้งจะสละตักนุม่ ๆ แทนหมอน” ดวงหน้ านวลหันขวับทันทีก็แทบจะปะทะกับดวง หน้ าคนเย้ าแค่ลมหายใจกัน้ “พูดไม่ร้ ูฟังหรื อครับ” คุณหมอหนุม่ ว่าอย่างขัดใจ นายพลชานเนนหัวเราะแผ่วๆ ก่อนจุมพิตทีร่ ิมฝี ปาก นิ่มเบาๆ อย่างมันเขี ้ยว แล้ วถอยห่างออกมาไม่แกล้ งอีก ทว่า ยังไม่ทนั ลุกไปไหน ผานิตก็ชนั ตัวขึ ้น มือผอมก็รัง้ บ่าหนาเอา ไว้ โถมน� ้ำหนักตัวทับบนร่างสูง กลายเป็ นว่าหนุม่ ใหญ่ถกู หนุม่ อายุน้อยกว่าคร่อมไว้ ดวงตาสีน� ้ำตาลวาววับกรุ่นโกรธหน่อยๆ “ช่างแกล้ งกันจริ งๆ นะครับ อยากให้ ผมหึงบ้ างใช่
ไหม โอเค ผมหึง หวง อยากให้ ท่านอยู่กบั ผมไม่ใช่สนใจแต่ เขาหรื องาน...เป็ นไงครับ พอใจไหม” ผานิ ต ว่า ประชด ไม่ต้ อ งถามก็ ร้ ู ว่า พอใจหรื อ ไม่ เพราะสีหน้ าระรื่ น ยิ ้มกว้ างจนหนวดกระดิก คนมองขัดใจจน ไม่ร้ ูจะตอบโต้ ใดๆ ก็แตะริ มฝี ปากทาบทับริ มฝี ปากที่ยิ ้มแป้น นัน่ เสีย มือก�ำที่ชดุ เครื่ องแบบของท่านนายพลไว้ แน่น ลิ ้นอุน่ ชื น้ ซอกซอนที่ แนวฟั นก่อนสอดลิน้ กระหวัดปลายลิน้ คนขี ้ แกล้ งลิ ้มรสหวานในโพรงปากหนา พอถอนริมฝี ปาก คนแก่วยั ก็มองตาหวานเชื่อม ถามเสียงทุ้ม “ไม่แกะกระดุมให้ ผมด้ วยล่ะครับ” มือหยาบจับมือผอมให้ แตะทีก่ ระดุมเสื ้อ ผานิตหน้ า แดงระเรื่อ มือเรียวแกะกระดุมทีเ่ หลือด้ วยมือสัน่ เทาจนถึงเสื ้อ ตัวใน พอเห็นดวงหน้ าแดงตัวแดงก�ำ่ ความรักในใจล้ นเอ่อ ท่านนายพลโน้ มใบหน้ าของผานิ ตลงต�่ ำ แล้ วจูบเอาตาม อ�ำเภอใจ ขบเม้ มเบาๆ จนปากแดงก�่ำ ก่อนจะถอนริ มฝี ปาก เมื่อลิ ้มชิมจนพอใจ
ส�ำหรับผานิต เขารู้สกึ ว่าก�ำลังโดน ‘เอาเปรี ยบ’ แต่ ไม่ทนั ประท้ วง ส่วนล่างนันก็ ้ เสียดสีกนั จนความรู้สกึ หวามไหว ลุกโพลง หนุม่ ใหญ่เลื่อนมือสอดเข้ าไปใต้ เสื ้อ ค่อยๆ ไต่จาก หน้ าท้ อง ลูบไล้ ไปจนถึงยอดอก นิ ้วหยาบปั ดป่ ายแผ่วเบาดุข ขนนกพัดผ่าน เรื อนร่ างโปร่ งสัน่ ระริ กเมื่อถูกความรัญจวนหวาน หอมครอบง�ำ หนุม่ ใหญ่ละมือ ชันตัวลุกขึ ้นด้ วยสภาพเสื ้อนอก หลุดลุ่ย ดวงหน้ าฉายถึงความปรารถนา และจัดการ ‘ลอก คราบ’ ชุดนอนจนเหลือแต่เนื ้อตัวเปลือยเปล่าอวดผิวเนียนสี น� ้ำผึ ้งจากการทีท่ ถี่ กู แดดบ่ม ทีเ่ ห็นทีไรให้ ร้ ูสกึ ว่าน� ้ำลายเหนียว คอและรู้สกึ กระหายหิวอยากลองลิ ้มชิมรส ผานิตเบือนหน้ าหลบสายตาที่ราวกับจะเผาไหม้ เรื อนร่างเขา แม้ ไม่ใช่ครัง้ แรกที่ถกู มองแต่ทกุ ครัง้ สายตาคม ปลาบที่เจือรอยอ่อนโยน ท�ำเอาเขาละลายได้ แค่สายตา มือหนาประคองร่างผอมมานัง่ ห้ อยขาริมเตียง หนุม่ ใหญ่ปลดเปลื ้องเครื่องแบบวางบนเตียงอวดแผงอกก�ำย�ำ แล้ ว
ท่านเองก็พาร่ างมาทรุ ดบนพื ้นตรงหน้ าผานิต มือซ้ ายเคล้ น คลึงยอดอกเล็กจนแข็งตึง แล้ วทาบริ มฝี ปากอุน่ ชื ้นเล็มรอบๆ ฐานสีน�ำ้ ตาลเข้ ม...วนเวียนตรงจุดนัน้ ก่อนจะเลื่อนลงต�่ ำ จุมพิตเบาๆ ที่หน้ าทอง หนวดแข็งๆ ทิ่มผิวเนื ้ออ่อนผานิตก็ ละลายเหมือนขึผ้ ึ ้งโดนความร้ อน ส่วนมือหนาอีกข้ างปรน เปรอโดยการโอบอุ้มส่วนอ่อนไหวของผานิต คุณหมอหนุ่มรู้ สกึ ว่าตัวเองก�ำลังจะจมลงไปในถัง น� ้ำผึ ้งที่หวานหอมจนทรงกายไม่อยู่ต้องทอดร่ างบนเตียงนิ่ม ความรู้ สึกซ่านเสียวจู่โจมที่กลางล�ำตัวจนล้ นเอ่อกลายเป็ น ความชุ่มฉ�่ ำที่เปื ้อนเปรอะมือหนา ไม่เท่านัน้ ท่านไม่หยุด เล้ าโลม นิ ้วแข็งที่ชโลมหยาดอารมณ์เพื่อหล่อลื่นก็เซาะซอน ตรงส่วนที่ต้องรองรับเขาให้ ค้ นุ ชินไว้ ก่อน ผานิตหอบเสียงพร่าบนเตียงนอนตะแคงข้ างอย่าง หมดแรงขัดขืน หนุม่ ใหญ่หยุดการเคลือ่ นไหวทีว่ าบหวามก่อน จะเคลื่อนร่ างทาบทับ มือแยกเรี ยวขาออกกว้ างวางข้ างหนึง่ พาดบนไหล่หนา หนุ่มใหญ่แทรกตัวเข้ าไปหาความนุ่มที่ทงคั ั ้ บแน่น
และร้ อนผ่าว หยุดเมือ่ แทรกเข้ าไปทีละนิด แล้ วขยับเพือ่ ให้ ร่าง เล็กคุ้นเคย ท่านท�ำซ� ้ำๆ เรียกเสียงครางเครือของผานิตกว่าจะ แทรกร่ างจนลึกล� ้ำได้ ...จากนันท่ ้ านก็ขยับร่ างงเป็ นจังหวะ ก่อนจะรุนแรงดุจพายุพดั โหม พอถึง ณ จุดๆ หนึง่ หนุม่ ใหญ่ ก็ขยับเปลี่ยนท่าโดยการให้ ผานิตนัง่ ซ้ อนเพื่อสัมผัสที่ลกึ ล� ้ำ แผ่นหลังเล็กแนบกับแผ่นอกก�ำย�ำ ผานิตระทดทะทวยกับสัมผัสจนต้ องอิงร่างพิงนาย พล ศรี ษะแนบกับไหล่ มือหนาเอื ้อมจับปลายคางไว้ มนั่ แนบ จูบล� ้ำลึกอีกรอบ ส่วนร่ างก็ขยับเป็ นจังหวะ มือหยาบก็ปรน เปรอทังส่ ้ วนอ่อนไหว และยอดอกเล็กไปพร้ อมๆ กันเพื่อรัง้ อารมณ์หวานให้ ไต่สงู เพราะรับรู้วา่ ส่วนที่โอบอุ้มความแข็งขึง ของเขานันบี ้ บรัดแน่น ผานิตหอบเสียงพร่า ส่วนนันเสี ้ ยดลึก จุดหฤหรรษ์ ในเรือนร่าง พร้ อมๆ กับการปรนเปรอทีเ่ ต็มอิม่ เขา จึงถึงปลายทางแห่งความสุขสม หลังจากนันก็ ้ รับรู้ ถึงหยาด หยดปรารถณาที่หลัง่ ริ นในเรื อนร่าง... ร่างผอมนอนอิงท่านนายพลหมดแรงจะพยศในท่า นัน้ หนุม่ ใหญ่เองก็รอสัมผัสรสหวานซาบซ่านพักหนึง่ ก่อนจะ
ถอนร่างออกมา แล้ วประคองคนที่โดนเอาเปรี ยบนอนราบบน เตียงนุม่ ๆ นายพลชานเนนอมยิ ้มกรุ้มกริ่ ม ก่อนจรดริ มฝี ปาก แตะหน้ าผากเนียนอย่างสุขใจ
บันทึกดอกเอือ้ งผึง้ 10
หลังจากผ่านคืนหอมหวาน และหนุม่ ใหญ่ก็ชว่ ยผา นิตอาบน�ำ้ อีกรอบ พอแต่งตัวเรี ยบร้ อย ดวงตาสีน�ำ้ ตาลก็ ผล็อยหลับสนิท ผานิตใช้ แผ่นอกก�ำย�ำเป็ นที่นอน มือหนาเอื ้อมมาลูบศีรษะที่ปกคลุมด้ วยเรื อนผมสี น� ้ำตาลเข้ ม รอให้ อีกฝ่ าย ‘พักผ่อน’ ก่อน แล้ วจึงพูดเรื่ องที่องค์ ธวัลพรเชิญดืม่ น� ้ำชาด้ วย แต่ทา่ ทางเมื่อช่วงหัวค�่ำ จะหนักมือ ไปนิด ผานิตถึงหลับสนิท หนุ่มใหญ่พลิกร่ างพลางโอบประคองร่ างผอมให้ นอนราบบนเตียงดีๆ แล้ วสอดหมอนรองศีรษะทุย เมื่อจัดการ ให้ คนรักนอนสบายๆ แล้ ว นายพลชานเนนก็เกลี่ยเรื อนผมสี น� ้ำตาลนุ่มมือ จุมพิตที่ศรี ษะอย่างเอ็นดู แล้ วจึงล้ มตัวนอน
กอดร่างผอมไว้ ในอ้ อมแขน รุ่งสาง คนตืน่ ก่อนเป็ นหนุม่ ใหญ่ เขาปล่อยให้ คนรัก หลับสนิทต่ออีกสักหน่อย แล้ วเขาก็ลกุ ขึ ้นจัดการธุระส่วนตัว ก่อนจะไปเตรี ยมอาหารเช้ าง่ายๆ ระหว่างรอผานิตตื่น ผานิตตื่นขึ ้นเพราะกลิน่ หอมๆ แตะจมูก ก็ร้ ูวา่ นาย พลท่านคงตื่นก่อน และเตรี ยมอาหารไว้ ให้ เหมือนเดิม ความ รู้สกึ อ่อนหวานเต็มตื ้นขึ ้นในอก รู้สกึ นายพลจะเอาใจเขาเกิน ไปมากแล้ ว ใจจริ งเขาก็อยากลุกไปช่วยอยูห่ รอกนะ แต่ตอน นี ้ร่างกายอ่อนล้ าจนอยากฝั งร่างไปบนเตียง ...ขอให้ ท่า นสปอยล์ เ ขาไปก่ อ นละกัน ...ว่า แล้ ว ดวงตาสีน� ้ำตาลก็หลับพริม้ จนรู้สกึ ว่าเตียงยวบลง เขาจึงปรื อ ตาขึ ้น “ตื่นเถอะครับคุณผึ ้ง” น�ำ้ เสียงอบอุ่นเอ่ยปลุกคน นอนตื่นสาย ผานิตอยากงอแง แต่สดุ ท้ ายก็จ�ำใจลุกอย่าง อิดออด พอออกมาจากห้ องน�ำ้ นายพลชานเนนก็เตรี ยม
อาหารไว้ รอแล้ ว บนโต๊ ะมีข้าวต้ มและกาแฟชงหอมๆ เมื่อผา นิตทรุดนัง่ ก็พร้ อมรับประทานได้ ทนั ที “เอาใจผมจนผมจะเสียคนแล้ วนะครับ” คุณหมอ หนุม่ เอ่ย “ถ้ าคุณผึ ้งจะน่ารักแบบเมือ่ คืน ผมก็ยอมเอาใจแบบ นี ้ให้ เสียคนครับ” ค�ำตอบของท่านนายพลแทบท�ำเอาผานิตส�ำลัก ข้ าวต้ ม ดีว่าช่วงนี ้เขาชินค�ำพูดเลี่ยนๆ ของท่านแล้ ว แต่ถึง กระนันก็ ้ ต้องยกกาแฟขมๆ จิบแก้ อาการขวยเขิน แล้ วเลีย่ งไป พูดเรื่ องอื่นแทน “ข้ าวต้ มอร่อยดีนะครับ” “ถ้ าชอบก็ทานเยอะๆ นะครับ ยังเหลือ” ท่า นเองก็ ท ราบว่า คนรั ก เขิ น จึง เลิก เย้ า แล้ ว พูด จริ งจังขึ ้นโดยที่รอยยิ ้มเอ็นดูพาดบนริ มฝี ปาก “องค์ธวัลพรเชิญคุณผึ ้งไปดื่มชาน่ะครับ” ค�ำบอกกล่าวของท่านนายพลท�ำเอาผานิตเกือบ ส�ำลักข้ าวต้ มอีกรอบ
“เอ่อ...” ค�ำที่อยากปฏิเสธติดในล�ำคอ หนุม่ ใหญ่เองก็คล้ าย รู้วา่ คนรักล�ำบากใจจึงเอ่ยปลอบ “ถ้ าคุณผึ ้งไม่อยากไป ผมจะบอกปฏิเสธให้ นะครับ” ผานิตวางช้ อนลง แล้ วดื่มน� ้ำเปล่าตาม อิ่มในทันที “ก็ถ้าเป็ นค�ำเชิญจากองค์เจ้ า ผมก็คงปฏิเสธไม่ได้ หรอกครับ” “ไม่ต้องฝื นใจก็ได้ นะครับ องค์เจ้ าพระทัยดี คงเข้ าใจ ความล�ำบากใจของคุณผึ ้ง” นายพลชานเนนเอ่ยเสียงอ่อน ค�ำว่า ‘ใจดี’ นันท� ้ ำให้ ผานิตยิ ้มแห้ งแล้ ง “ผมถือว่า เป็ นเกียรติคครับ รบกวนท่านเรี ยนองค์ธวัลพรด้ วยนะครับว่า ผมจะไป” ค�ำตอบของผานิตเรี ยกรอยยิ ้มกว้ างจากหนุ่มใหญ่ “ผมขอโทษคุณผึ ้งด้ วยนะครับ ที่การพักผ่อนของเราไม่เป็ นไป ตามที่คิดไว้ ” ท่านนายพลกังวลเรื่ องนี ้ หากแต่ผานิตคลี่ยิ ้มอ่อน หวาน “ผมบอกว่าไม่เป็ นไรก็ไม่เป็ นไรสิครับ เรายังเหลือ
เวลาอีกนี่ครับ” มือผอมวางซ้ อนทับมือหนาแล้ วกุมไว้ แน่น “ขอบคุณส�ำหรับมื ้อเช้ าครับ” ผานิตยกมือหนาขึ ้นจุมพิตหลังมือ ฝ่ ายหนุ่มใหญ่ อยากคว้ าตัวผานิตมากอดแน่นๆ แล้ วจูบแก้ มนวลนัน่ สักฟอด แต่ก็ได้ แค่คิด เพราะถ้ าท�ำจริ ง เขาคงหยุดตัวเองแค่จบู ไม่ได้ แน่ๆ หนุ่มใหญ่ลกุ ขึ ้นถือถ้ วยข้ าวต้ มไปเก็บให้ แล้ วก็ออกมา พร้ อมขนมอบท่าทางน่าทานมาให้ แล้ วก็รินกาแฟบริ การ “ทานขนมอีกสักหน่อยนะครับ คุณผึ ้งทานข้ าวต้ ม นิดเดียวเอง นี่ของฝากจากในวัง อร่อยนะครับ ลองชิมดู” ผานิตนัง่ นิ่งรอรับการปรนนิบตั ิเอาอกเอาใจเงียบๆ พลางนึกถึงวิธีรับมือ ‘คนใจดี’ ของนายพล สายอีกสักหน่อย ผานิตแต่งตัวเสร็ จเรี ยบร้ อยก่อน นายพล เขานัง่ รอให้ ทา่ นแต่งตัวเรี ยบร้ อยจึงออกไปพร้ อมกัน คุณหมอหนุ่มไม่ได้ เอ่ยปากถามเมื่อเห็นหนุ่มใหญ่ แต่งชุด เครื่ องแบบ แต่กระนัน้ นายพลชานเนนก็เอ่ยบอก “พอดีมีงานค้ างน่ะครับ”
“ท่านไปท�ำงานเถอะครับ ยังไงวันนี ้ก็อดเที่ยวอยูด่ ี” ผานิตตอบเรี ยบๆ หนุม่ ใหญ่ตบหลังมือเบาๆ พร้ อม ยิ ้มอ่อนหวาน “พรุ่งนี ้ผมสัญญาครับว่าเวลาทังหมดของผม ้ ผมให้ คุณผึ ้งคนเดียวเลย” และด้ วยค�ำพูดนัน้ ก็เรี ยกรอยยิ ้มจากผานิตได้ ระหว่างการเดินทาง ผานิตไม่คอ่ ยได้ ฟังค�ำพูดของ นายพลเท่าไร เนื่องเพราะก�ำลังครุ่ นคิดว่าเพราะเหตุใดองค์ เจ้ าถึงเรี ยกตนไป ‘ดื่มชา’ ด้ วย “คุณผึ ้งครับ ฟั งผมอยูห่ รื อเปล่า” หนุม่ ใหญ่เรี ยก ผานิตดึงตัวเองจากภวังค์ท�ำหน้ าเหลอหลา “ครับ? ช่วยพูดอีกรอบได้ ไหมครับ” “ยังเพลียอยู่เหรอครับ จะหลับไประหว่างทางก็ได้ นะครับ” นายพลชานเนนไม่เอ่ยซ� ้ำเรื่องเดิม แต่กลับบอกด้ วย ความเป็ นห่วง ผานิตส่ายศีรษะปฏิเสธ
“เอ่อ เมื่อครู่ผมนึกอะไรเพลินไปหน่อย แล้ วท่านจะ บอกอะไรหรื อครับ” “อ้ อ ไม่มีอะไรหรอกครับ ผมเพียงจะบอกว่า เดี๋ยว ไปรอที่ห้องท�ำงานของผมก่อน องค์เจ้ าจะทรงเลี ้ยงน�ำ้ ชาที่ ศาลาประทุมมาลย์นะ่ ครับ สักเก้ าโมงกว่า ที่นนั่ อากาศก�ำลัง ดี คุณผึ ้งคงชอบ” ผานิตอยากจะบอกว่า ‘ไม่ชอบ’ ตังแต่ ้ ร้ ูว่าใครเป็ น เจ้ าภาพแล้ ว แต่พดู ไม่ออก เลยยิ ้มเจื่อนตอบสัน้ “ครับ” พอไปถึงทีท่ ำ� งาน ผานิตก็เป็ นเป้าสายตาของทุกคน ทันที ยังดีหน่อยทีเ่ ห็นคนรู้จกั คือผู้กองระยา ซีง่ ฝ่ ายนันพอเห็ ้ น เขาก็ขมวดคิ ้วเล็กน้ อย ก่อนจะเดินมาทักทาย “สวัสดีครับคุณหมอ มาท�ำธุระกับนายพลหรือครับ” ผานิตยิ ้มจืดตอบพร้ อมทักทาย “สวัสดีครับผู้กองระ ยา” เขาไม่ได้ ตอบค�ำถามเพื่อ ให้ นายพลชานเนนตอบ เอง
“คุณผานิตได้ รับเกียรติให้ ร่วมดืม่ ชากับองค์เจ้ าน่ะ” นายพลชานเนนตอบ และด้ วยค�ำพูดนันคนที ้ ่ได้ ยิน ยกเว้ นระยาเริ่ มประเมินค่าผู้มาเยือนใหม่ หากแต่คนที่ทกุ คน ให้ ความสนใจกลับยิ ้มเจือ่ นกว่าเดิม ระยาเลิกคิ ้วขึ ้น ประหลาด ใจว่า ท�ำไมคุณหมอผานิตถึงกลายเป็ นแขกขององค์เจ้ าได้ ทว่ายังไม่ทนั จะได้ ไถ่ถาม ก็มีทหารมารายงานนายพลชานเน นก่อนว่าองค์ธวัลพรเรี ยกเข้ าเฝ้า และบอกให้ คณ ุ หมอผานิต รอเข้ าพบตอนบ่ายสองแทน หนุ่มใหญ่เห็นสีหน้ ากลืนไม่เข้ า คายไม่ออกของคนรักก็สงสาร จึงฝากไว้ กบั ร้ อยเอกระยา “ผู้กอง ฝากคุณผานิตไว้ เป็ นแขกหน่อยนะ” พอระยาผงกศีรษะอย่างยินดี ท่านจึงเอ่ยกับผานิต ด้ วยน� ้ำเสียงอ่อนโยน “ขอโทษนะครับคุณผึ ้งที่ต้องมารอแบบนี ้” เพราะสีหน้ าอ่อนโยนที่แฝงความล�ำบากใจ ผานิต จึงยอมเอ่ยค�ำว่า ‘ไม่เป็ นไร’ ออกมาจนระยาแอบข�ำ ตังแต่ ้ เขา พบผานิตที่นวรัฐะ เขาได้ ยินค�ำค�ำนี ้เป็ นครัง้ ที่เท่าไรก็ไม่ร้ ู ผู้ กองหนุม่ ยกมือวันทยหัตถ์นายพลชานเนน ก่อนเดินน�ำผานิต
ไปที่ห้องท�ำงานของเขา “อีกนานกว่าจะถึงเวลานัด คุณหมอมาเป็ นเพือ่ นดืม่ ชากับผมก่อนแล้ วกันนะครับ” ผู้กองระยาเอ่ยเย้ าคนทีเ่ ดินตามมาเงียบๆ ผานิตยิ ้ม ออกมาได้ “งันวั ้ นนี ้ผมคงอิ่มน� ้ำชาแทนข้ าวแน่ๆ เลยครับ” คุณหมอหนุ่มเอ่ยขึน้ ด้ วยน�ำ้ เสียงแจ่มใสกว่าเดิม ท�ำให้ บรรยากาศผ่อนคลาย ร้ อยเอกระยาผายมือเชือ้ เชิญ เข้ าไปในห้ องท�ำงานที่ตกแต่งได้ เรี ยบผิดคาด ด้ านหลังโต๊ ะ ท�ำงานที่มีเอกสารวางทับๆ กันเป็ นตู้ไซด์บอร์ ดเก็บเอกสาร ที่ แปลกตาของผานิตคือกระติกน� ้ำร้ อนยีห่ ้ อคุ้นตาเสียบปลัก๊ เอา ไว้ “กลัวคุณหมอจะเบื่อชาเสียก่อน รับเครื่ องดื่มเป็ น กาแฟไหมครับ” ผานิตทรุ ดนัง่ บนโซฟาผงกศีรษะตอบรับ ระยาจึง เดินไปที่ต้ ไู ซด์บอร์ ดที่ผานิตเข้ าใจว่าเป็ นตู้เก็บเอกสาร แต่พอ ผู้กองหนุ่มเปิ ดออกมาก็อึ ้งยิ่งกว่า ข้ างในนันอั ้ ดแน่นไปด้ วย
ขนมนานาชนิด ทังมั ้ นฝรั่งยี่ห้อคุ้นตา ทังขนมฝรั ้ ่งอย่างพวก คุกกี ้ ระยาดึงขวดกาแฟออกมาชงแล้ วยกมาเสิร์ฟพร้ อมคุกกี ้ ขวดน� ้ำตาลก้ อนและขวดน� ้ำผึ ้ง ผู้กองหนุ่มยิ ้มเขินเล็กน้ อยที่ ผานิตเห็นบรรดาขนมในตู้ “พอดีผมติดของหวานๆ น่ะครับ” ผานิตเห็นระยาใส่น� ้ำตาลลงไปถึงสามก้ อน และน� ้ำ ผึ ้งอีกช้ อนก็ร้ ูสกึ แสบคอแทน “คุกกี ้นี่เหมือนผมเคยเห็นทีบ่ ้ านท่านนายพลเลยนะ ครับ” “ช่วงนี ้ม่านจันทร์ เขาชอบท�ำขนมน่ะครับ เลยเหลือ เผื่อแผ่คนอื่น แต่คกุ กีช้ ุดนี ้คุณหมออาจไม่ชอบก็ได้ นะครับ เพราะม่านจันทร์ ท�ำให้ ผมโดยเฉพาะ” ผานิ ต ลองชิ ม ดู ก็ ต้ อ งดื่ ม กาแฟด� ำ เปล่า ๆ ตาม รสชาติคกุ กี ้หวานจัดกว่าปกติ “ผู้กองนี่เหมือนฮันเซลกับเกรเทลเลยนะครับ” ผา นิตเย้ า ระยาจิบกาแฟรสหวานแล้ วบอกเบาๆ “อย่างไรเสีย ผมก็ไม่มีพอ่ มดรออยูน่ ะครับ”
ค�ำพูดนันส่ ้ งผลให้ ผานิตถือกาแฟค้ างไว้ ค�ำพูดของระยาที่พดู ขึ ้นคล้ ายเย้ านัน่ ส่งผลให้ ร้ ู สกึ ฝื ดคอจนดื่มอะไรไม่ลง คุณหมอหนุ่มวางแก้ วกาแฟลง ตอบ ด้ วยน� ้ำเสียงแห้ งแล้ ง “ก็หวังว่าคงมีอศั วินมาช่วยทันเวลาล่ะครับ” ค�ำตอบของผานิตเรี ยกเสียงหัวเราะเบาๆ จากระยา “คุณหมอนี่มีอารมณ์ ขนั เยอะจังนะครับ ท�ำไมไม่ ปฏิเสธล่ะครับถ้ าคุณหมอล�ำบากใจ อีกอย่างคุณหมอมาเป็ น แขกของท่านนายพลและมาพักผ่อนส่วนตัว อย่างไรเสียท่าน นายพลคงหาค�ำพูดปฏิเสธได้ แบบนุม่ นวลนี่ครับ” ระยาสังเกตมาหลายครัง้ แล้ วว่าองค์เจ้ าประเมินผา นิตไว้ ในแบบไม่ใช่ทงมิ ั ้ ตรและศัตรู “ก็ เ พราะไม่ ใ ช่ เ รื่ อ งคอขาดบาดตาย อี ก อย่ า ง พระองค์ให้ เกียรติเชิญ ผมก็ไม่มีเหตุผลจะปฏิเสธนี่ครับ” ผา นิตตอบเรี ยบๆ ผู้กองหนุม่ นิง่ งันกับค�ำพูดสงวนท่าทีของคุณหมอผา
นิต เขาก็ไม่ซกั ไซ้ ต่อ ทังคู ้ ่นงั่ จิบกาแฟเงียบๆ ก็มีเสียงเคาะ ประตูห้องท�ำงาน พอระยาอนุญาต ทหารราชองครักษ์ ก็เข้ า มาแจ้ งมา องค์ธวัลพรเชิญผานิตไปที่ศาลาประทุมมาลย์ คุณ หมอหนุ่มประหลาดใจ เพราะยังไม่ถึงเวลา ทว่ายังไม่ทนั ได้ ถาม ระยาก็บอกให้ ตามไป ผานิตเอ่ยขอบคุณเรื่ องเลี ้ยงกาแฟ ก่อนจะเดินตาม ทหารราชองครักษ์ ที่พาเขาเดินลัดออกไปทางหลังอาคารที่ เงียบสงบและร่ มรื่ นจนเรี ยกว่าครึม้ ด้ วยเงาไม้ คุณหมอหนุ่ม มองรอบๆ อย่างระแวง ...ท�ำไมผู้กองระยาปล่อยเขามาคนเดียวนะ... นายทหารที่พามาเห็นกิริยามองรอบตัวบ่อยๆ จึง อธิบาย “ทางนี ้เป็ นทางลัดไปสูศ่ าลาประทุมมาลย์ครับ” เขา ตอบอย่างนอบน้ อม แต่ถงึ บอกว่าทางลัดก็เถอะ เล่นเอาเหงื่อซึมเหมือน กัน ดีหน่อยสองข้ างทางมีต้นไม้ ขึ ้นร่ มรื่ น แต่ผานิตเคยเจอ สถานการณ์ ล� ำ บากกว่า นี จ้ ึง ไม่อ อกอาการใดๆ ให้ ท หาร น�ำทางเห็น
ผานิตเห็นระลอกน� ้ำสะท้ อนประกายแดด ใกล้ ฝั่งมี พันธุ์ไม้ น� ้ำขึ ้นนานาพรณ สายลมโลมไล้ ผิวแก้ ม พอมาถึงทาง แยกที่ จ ะไปศาลา ทหารนายนัน้ ก็ ห ยุด เดิ น แล้ ว ยกมื อ ขึน้ วันทยหัตถ์ “ผมส่งคุณหมอได้ แค่นี ้ครับ เชิญไปรอที่ศาลาเลย ครับ” ผานิตเดินไปตามทางเดินไม้ จนถึงศาลาประทุม มาลย์ เขากลับพบเพียงโต๊ ะตัวเตี ้ย หมอนรองนัง่ และชุดน� ้ำชา แบบปิ กนิกเท่านัน้ เขาหันมองรอบๆ ศาลาเพื่อมองหาคนที่ ควรจะอยูต่ รงนี ้ในตอนนี ้ ทว่าก็ไม่พบใครเลย ผานิตยืนเก้ ๆ กังๆ ท�ำอะไรไม่ถกู กับสถานการณ์นี ้ จึ ง ตั ด สิ น ใจยื น รอโดยยื น หั น หลั ง ให้ ทางเข้ าเพื่ อ มอง บรรยากาศรอบๆ ศาลาไปด้ วย บริ เวณศาลานันสร้ ้ างอยูห่ า่ ง จากสิง่ ก่อสร้ างอืน่ จึงค่อนข้ างเป็ นสถานทีส่ ว่ นตัว เขาทอดตา มองไปไกลลิบๆ นันคื ้ อภูเขาที่สงู เสียดฟ้า ก้ อนเมฆสีขาวดุจ ส�ำลีลอยตัวไปมาบนฟ้าสีน�ำ้ เงิ นเข้ มจัดตอนใกล้ เที่ ยงตัด ความเขียวขจีของต้ นไม้ ที่ขึ ้นรอบๆ บึง สายลมระรื่ นพัดพลิ ้ว
หอบไอเย็นๆ ตลอดเวลา ร่ า งโปร่ ง ใช้ ไหล่ อิ ง เสาต้ นหนึ่ ง ทอดอารมณ์ ดู บรรยากาศทีเ่ งียบสงบ ดวงตาสีน� ้ำตาลเข้ มเหม่อลอย ครุ่นคิด ถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ ้นว่าควรวางตัวอย่างไรดี พักใหญ่คณ ุ หมอหนุ่มจึงรู้ สึกตัวเพราะมีปลายมีดแหลมคมที่เย็นเยียบ แนบที่ต้นคอ! ผานิตยืนแข็งทื่อไม่กล้ าขยับหรื อหันไปมองว่าใคร เป็ นคนที่จ้องท�ำร้ ายเขา ท�ำไมไม่ได้ ยินแม้ แต่เสียงฝี เท้ าหรื อ รับรู้ ถึงไอสังหาร บรรยากาศโดยรอบเงียบสงบเหมือนไม่มี อะไรเกิดขึ ้น แต่ผานิตมือเย็นเฉียบ กลัวสถานการณ์นี ้ขึ ้นมา จับใจจนไม่กล้ าเอ่ยปาก...ถ้ าหันหรือขยับอีกนิดคมมีดจะกรีด ผิวเนื ้อ หากแต่คนที่ลอบท�ำร้ ายนันค� ้ ำนวณระยะห่างไว้ ดมี าก ผิวเนื ้อจึงไม่ถกู ความคมของมีดกรี ดเรี ยกเลือด ครู่ใหญ่ปลายมีดคมกริบจึงถูกดึงห่างจากคอ ผานิต จึงกล้ าหันขวับไปมอง ดวงตาสีน�ำ้ ตาลมีรอยตระหนกเล็กๆ เมื่อพบว่าใครคือผู้ปองร้ ายก่อนสายตานันจะเลื ้ อนหายไป
“เหม่ออะไรอยูห่ รือ เรายืนมองคุณตังนานแล้ ้ ว ท�ำไม คุณหมอผานิตถึงไม่ระวังตัวเลยล่ะ” องค์ธวัลพรเก็บมีดสันสอดเข้ ้ าฝั ก ในชัว่ พริ บตา มีด เล่มนันก็ ้ หายไป คุณหมอหนุ่มดูไม่ทนั ว่าเจ้ าของมันเก็บไป ตังแต่ ้ เมื่อไร ผานิตค้ อมศีรษะถวายความเคารพ แล้ วจึงเอ่ยอย่าง สุภาพ “ขอพระราชทานอภัยพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมแค่คิดอะไร เรื่ อยเปื่ อยจนเสียมารยาทต่อเบื ้องพระพักตร์ ” “ท่าทางเรื่ องที่คดิ คงจะส�ำคัญมากสินะ คุณหมอผา นิตถึงยืนเหม่อจนไม่ร้ ูวา่ มีใครยืนมองอยู”่ องค์ธวัลพรตรัสถาม เรี ยบๆ “ก็ไม่ใช่เรื่ องส�ำคัญหรอกพ่ะย่ะค่ะ” เขาตอบเลี่ยง องค์ธวัลพรกวาดตามองดวงหน้ าละมุนที่โครงหน้ า คุ้นสายตาก่อนเอ่ยเปรยเบาๆ “ถ้ า...เขาคนนันเข้ ้ มแข็งเท่าคุณ เราจะทรมานจนถึงทุกวันนี ้ไหม” “กระหม่อมไม่ได้ เข้ มแข็งเลยพ่ะย่ะค่ะ แค่กลัวจน ขยับไม่ได้ ตา่ งหาก พระองค์เข้ ามาเงียบๆ จนกระหม่อมนึกว่า
เป็ นผู้ร้ายเสียอีก” ผานิตตอบหน้ าตาย “หึ...งานที่เราถนัดที่สดุ ไม่ใช่งานปกครองนะ...เรา ถนัดลอบสังหารมากกว่า” พระวาจาที่โต้ คืนนันท� ้ ำเอาผานิต พูดอะไรไม่ออกอีก เขายืนนิง่ งันจนองค์เจ้ าออกพระโอษฐ์ ชวน “เราล้ อคุณหมอผานิตเล่นน่ะ มาเถอะ มาดื่มน� ้ำชา กัน” องค์ธวัลพรถอดฉลองพระบาทซึง่ ผานิตท�ำตามแล้ ว ทรุ ดนั่งพน้ อมกับองค์ เจ้ า พระหัตถ์ เรี ยวเปิ ดตะกร้ าปิ กนิก จัดแจงชุดน� ้ำชา โถน� ้ำผึ ้ง น� ้ำตาล นมและของวางว่างออกมา โดยมีผานิตช่วยจัดจานขนมและของว่างต่างๆ “เอ่อ นางก�ำนัลไปไหนหรื อพ่ะย่ะค่ะ” เขาเห็นองค์ เจ้ าต้ องจัดแจงท�ำทุกอย่างเองก็เกรงพระทัย “เราอยากคุยกับคุณหมอผานิตแค่สองคนน่ะ ถึงไม่ ให้ ใครมาที่นี่” องค์ธวัลพรตรัสระหว่างทีร่ ินน� ้ำชาแล้ วเลือ่ นส่งไปให้ คุณหมอหนุ่ม “คุณหมอชอบหวานไหม” ว่าพลางขยับโถ น� ้ำตาล นมและน� ้ำผึ ้งส่งให้
“เอ่อ ไม่พะ่ ย่ะค่ะ” ผานิตตอบเบาๆ “เราก็ไม่ชอบ” ว่าแล้ วคนที่บอกว่า ‘ไม่ชอบ’ ก็เก็บเฉพาะ ‘โถน� ้ำผึ ้ง’ ลงตะกร้ าดุจไม่ใส่ใจ เหลือไว้ แต่โถน� ้ำตาลกับนมแล้ วพระองค์ ก็ เสวยน� ำ้ ชาที่ ไม่เติมอะไรเลยด้ วยสีพระพักตร์ ไม่บ่งบอก อารมณ์ ผานิตจิบน� ้ำชารสนุ่มเงียบๆ อย่างอึดอัดใจ อยาก จะลุกหนีตงแต่ ั ้ เห็นพระหัตถ์เรี ยวคว้ าโถน� ้ำผึ ้งลงตะกร้ า เขา รอคอยว่าเมื่อไรคนเชิญจะเข้ าเรื่ องเสียที แต่ทว่าองค์ธวัลพรก ลับถามค�ำถามที่ท�ำเอาเขาแทบส�ำลักน� ้ำชา “เมื่อครู่เราตังใจท� ้ ำร้ ายคุณนะ แล้ วตอนนี ้คุณหมอ ผานิตไม่กลัวว่าเราวางยาพิษคุณเลยหรื อ ถึงรับน� ้ำชาจากมือ เราไปดื่มง่ายๆ แบบนี ้” ผานิตวางถ้ วยชาลงทันที ส่งยิ ้มเจื่อน “พระองค์ทรง ล้ อกระหม่อมเล่นกระมัง” “ใช่ เราล้ อเล่น” ค�ำตอบสันพร้ ้ อมสีพระพักตร์ เรี ยบเฉยท�ำให้ ผานิต
รู้สกึ ว่า...ก�ำลังเล่นสงครามประสาทชัดๆ... “คุณหมอมีก�ำหนดการจะกลับเมื่อไรหรื อ” องค์ธวัลพรตรัสถามต่อราวกับเรื่ องเมื่อครู่ นนเป็ ั้ น เรื่องทีส่ ามารถเกิดขึ ้นได้ ในชีวติ ประจ�ำวัน ผานิตซ่อนความไม่ พอใจไว้ แนบเนียนแล้ วจึงคลี่ยิ ้มจางเหมือนไม่ใส่ใจเรื่ องเมื่อ ครู่เช่นกัน “ก็อีกสองวันพ่ะย่ะค่ะ” ผานิตตอบนอบน้ อม “โกรธเราไหมที่เราแย่งเวลาของคุณกับนายพลชาน เนน” “ถ้ าตอบว่าไม่โกรธก็คงจะเป็ นการโกหกไปพ่ะย่ะค่ะ ไม่ถงึ กับโกรธหรอกพ่ะย่ะค่ะ แค่อารมณ์น้อยใจเล็กๆ เท่านัน” ้ ผานิตตอบเรี ยบๆ “ใจกว้ างดีนะที่ไม่โกรธเลย ทัง้ ที่นายพลชานเนน เลือกงานมากกว่าคุณ” “ถ้ านายพลชานเนนเลือกกระหม่อมมากกว่าหน้ าที่ กระหม่อมจะไม่ภมู ิใจเลยพ่ะย่ะค่ะ” จู่ๆ องค์ธวัลพรก็เอื ้อมพระหัตถ์ที่สวมนาฬิกาข้ าม
โต๊ ะแตะที่แก้ ม ไล้ นิว้ ตามกรอบหน้ าของคุณหมอหนุ่มแล้ ว หยุดที่ปลายคางมน ดวงตาสีน� ้ำตาลสานสบดวงเนตรสีนิล เย็นเยียบแบบไม่ยอมหลบตา “เกลียดกระหม่อมหรื อพ่ะย่ะค่ะ” ผานิตถามตรงๆ ดวงเนตรสีนิลกวาดตามองรู ปหน้ าหวานละมุนที่ คล้ ายคนในห้ วงค�ำนึง เพราะกลับไปแก้ ไขอดีตไม่ได้ จึงต้ อง ทรมานทุกเมื่อเชื่อวัน ยิ่งเห็นก็ยิ่งตอกย� ้ำความผิดพลาดใน อดีต “เราไม่เคยเกลียดคุณหมอผานิต แต่เราเกลียดตัว เองที่มีจิตใจริ ษยาจนทนมองคุณเวลาอยู่ใกล้ เขาไม่ได้ และ เราก็ ร้ ู ...ถ้ า คุณ หมอผานิ ต ตกอยู่ใ นอัน ตรายหรื อ เรากล้ า ท�ำร้ ายคุณ เขาจะเลือกคุณก่อน” ผานิ ต เบื อ นสายตามองที่ ข้ อพระหั ต ถ์ ป ระดั บ นาฬิกา “ขอบังอาจกราบทูลสักเรื่องพ่ะย่ะค่ะ” คุณหมอหนุม่ ดึงสายตาสบสายพระเนตรตามเดิม “ไม่ใช่เขาเลือกกระหม่อม หากแต่เป็ นพระองค์ตา่ งหากที่บงั คับเขาต้ องเลือกกระหม่อม
จะยื ้อแย่งความรู้สกึ จากคนที่ตายไปแล้ วเพื่ออะไร กระหม่อม ไม่ใช่ต้นธารา ไม่คิดจะเป็ นตัวแทนความรู้ สึกของใคร และ กระหม่อมไม่เคยรักพีธ่ ีเกินกว่าความรู้สกึ พีช่ าย การทีพ่ ระองค์ ท�ำเช่นนี ้ มันไม่นา่ รักหรื อน่าสงสารเลยพ่ะย่ะค่ะ” ผานิตก็ไม่เข้ าใจคู่รักคู่นี ้ ท�ำไมต้ องให้ เขาบอกซ� ้ำๆ ว่าเขาไม่เคยคิดเป็ นตัวแทนใคร “ถ้ าวันไหนพี่ธีบอกว่ารักกระหม่อม คงไม่ต้องรอให้ ถึงพระหัตถ์ของพระองค์หรอก กระหม่อมคงสิ ้นเยื่อใยกับพี่ธี ไม่วา่ ฐานะใดก็ตาม” องค์ธวัลพรปล่อยพระหัตถ์ลงจากปลายคางมนแล้ ว ยกพระดัชนีแตะเรี ยวปากนิ่มของคุณหมอหนุม่ คลี่รอยสรวล สบพระทัย “ปากของคุณหมอผานิตนี่คมดีนะ ค�ำพูดของคุณ บาดใจเราจนเลือดซิบเลย” น� ้ำเสียงราบเรี ยบไม่มีรอยประชด ประชันหรื อโกรธเคืองก่อนจะละมือจากใบหน้ าเขา “ขอบคุณ ส�ำหรับค�ำมัน่ ของคุณนะ” คุณหมอหนุม่ พูดไม่ออก องค์ธวัลพรเจ้ าเล่ห์และเด็ก
ชะมัด แกล้ งให้ เขาต้ องพูดออกมาเอง! “เราเริ่ มชอบคุณนิดๆ แล้ วสิ คุณหมอนี่น่ารักดีนะ ขอบคุณนะที่เสียเวลามาดื่มน� ้ำชากับเรา” องค์เจ้ ารินน� ้ำชาให้ อกี ถ้ วย แล้ วจึงเงยขึ ้นมองแลเลย ไปด้ านหลังของผานิต “มีแขกเพิ่ม คุณหมอผานิตคงไม่วา่ นะ” ผานิตเอี ้ยวตัว หันไปมองว่าใครเป็ น ‘แขก’ ที่วา่ แล้ ว ก็นิ่งงัน เพราะแขกคนนันคื ้ อ...นายพลชานเนน! อันที่จริ งนายพลชานเนนมาได้ พกั ใหญ่แล้ ว เพียง แต่ไม่ขึ ้นไปบนศาลา เพราะเห็นว่าองค์ธวัลพรมีเรื่ องคุยกับผา นิต เขาจึงรอห่างออกไปประมาณห้ าสิบเมตร ซึง่ เป็ นระยะที่ สายตาเห็นเหตุการณ์บนศาลา และเพราะ ‘เห็น’ จึงต้ องแสดง ตัวเร็ วกว่าปกติ ดวงตาสีด�ำเจือรอยดุทอดมององค์ธวัลพรแล้ วเผื่อ แผ่มาที่ผานิตจนคุณหมอหนุ่มไม่เข้ าใจว่าท�ำไมนายพลชาน เนนต้ องมองพวกเขาแบบนี เพราะผานิ ้ ตมัน่ ใจว่ามันไม่ใช่ด้วย ความหึงหวงแน่ๆ ถึงจะเห็นภาพเมื่อครู่ก็เถอะ
ร่ า งใหญ่ ท รุ ด นั่ง ระหว่ า งองค์ ธ วัล พรและผานิ ต บรรยากาศบนโต๊ ะนันอึ ้ ดอัด องค์ธวัลพรินน� ้ำชาให้ นายพลนว รัฐะ แล้ วจึงตรัสด้ วยน� ้ำเสียงไม่ทกุ ข์ร้อนกับสายตาดุๆ “ขอบคุณท่านนายพลมากนะ เรียบร้ อยแล้ วใช่ไหม” “พ่ะย่ะค่ะ ก�ำหนดการฝึ กซ้ อมองครักษ์ ของเจ้ าน้ อย เรี ยบร้ อยแล้ ว” ท่านตอบอย่างสุภาพ ทว่าผานิตก็จบั ได้ วา่ มีรอยเย็น เยือกแฝงไว้ กิริยานี ้เขาไม่เคยเห็น หากแต่องค์ธวัลพรกลับคลี่ รอยสรวลตอบอย่างไม่ยินดียินร้ าย “ขอบคุณท่านนะ ล�ำบากท่านนายพลแย่ ขอโทษนะ ที่เราแย่งเวลาว่างของคุณ” “เป็ นหน้ าที่พะ่ ย่ะค่ะ” ท่านนายพลตอบเรี ยบเฉย องค์ ธ วั ล พรผิ น พระพั ก ตร์ มองคุ ณ หมอหนุ่ ม “ขอบคุณคุณหมอผานิตนะที่มาเป็ นเพื่อนดื่มชากับเรา” องค์ เจ้ าส่งรอยแย้ มสลวลงดงามให้ “เราไม่รบกวนคุณทังสองล่ ้ ะ เชิญตามสบาย” วรองค์โปร่งลุกขึ ้น ทังสองคนลุ ้ กส่งเสด็จ
สงสัย เรี ยบๆ
พอองค์เจ้ าเสด็จกลับแล้ ว ผานิตจึงเอ่ยถามอย่าง “โกรธอะไรครับ” “คุณผึ ้งคุยอะไรกับองค์เจ้ า” นายพลชานเนนถาม
“ก็...ไม่มีอะไรนี่ครับ เรื่ องทัว่ ๆ ไป” ผานิตตอบเลี่ยง ไม่ยอมบอกเรื่ องที่คยุ “ผมรู้ แล้ วครับว่าองค์ธวัลพรทรงมีเรื่ องต้ องคุยกับ คุณผึ ้ง แต่ที่ผมอยากรู้ มากกว่า...ท�ำไมคุณผึ ้งถึงเปิ ดช่องให้ พระองค์แตะต้ องได้ ถงึ ขนาดนัน” ้ น� ้ำเสียงห้ วนจัดเอ่ยถาม ผานิตเริ่ มหงุดหงิดขึ ้นมา บ้ าง “นี่ทา่ นโกรธอะไรผมรึเปล่าครับ หรื อโกรธที่เห็นองค์ เจ้ าแตะต้ องผม?” ดวงตาสีนิลเข้ มวับวาวดุจตาเสือ “นี่คณ ุ ผึ ้งไม่ร้ ู สกึ ตัวเลยเหรอครับ?” “อะไร?” ดวงตาสีน� ้ำตาลฉายแววงุนงง
“คุณผึง้ รู้ ไหมว่างานถนัดที่สุดขององค์ธวัลพรคือ อะไร มันเป็ นสิง่ เดียวที่ผมไม่สามารถท�ำได้ อย่างพระองค์ด้วย และเป็ นสิง่ เดียวที่ผมกลัวและไม่อยากเห็นต่อหน้ าที่สดุ ” ผานิตส่ายศรี ษะ “...งานที่ถนัดที่สดุ น่ะ คือการลอบสังหาร ที่นี ้คุณรู้รึ ยังว่า ผมโกรธเรื่ องอะไร!” คุณหมอหนุ่มยืนนิ่งงัน...เพิ่งรู้ตวั ว่าตัวเองน่ะเฉียด ตาย!
บันทึกดอกเอือ้ งผึง้ 11
หนุม่ ใหญ่จ้องใบหน้ าของผานิตอยูช่ วั่ อึดใจก่อนจะ เอื ้อมแตะใบหน้ าละมุน ไล้ ตามกรอบหน้ าและมาหยุดทีป่ ลาย คางมนเหมือนที่องค์ธวัลพรท�ำแบบไม่มีผิดเพี ้ยน “คุ ณ ผึ ง้ รู้ ใช่ ไ หมครั บ ว่ า ถ้ าพระองค์ ท่ า นเลื่ อ น พระหัตถ์ต�่ำกว่านี ้ มันจะหยุดตรงส่วนไหนของร่างกาย” ผานิ ต เข้ าใจในทั น ที หากมื อ คู่ นั น้ หยุ ด ลงตรง เส้ นเลือดบริ เวณล�ำคอที่มีโครงสร้ างละเอียดและเปราะบาง ท�ำให้ มนั บิดเอี ้ยวกะทันหันหรื อสะกิดให้ เลือดไหลโดยที่ไม่ ห้ ามเลือด ชีวิตเขาคงไม่เหลือ แต่นนั่ ก็ไม่น่ากลัวเท่าโดนจ่อ ใบมีดนี่นา่ ทว่าเขาก็ไม่ได้ พดู ออกมา “ท่านคงคิดมากไปมังครั ้ บ องค์เจ้ าก็แค่เย้ าเล่นแค่
นันเอง” ้ ตอบพลางคลี่รอยยิ ้มหวานละมุนตา หนุ่ม ใหญ่ ส ลายประกายดวงตาดุดัน มองคนรั ก อย่างอ่อนใจ ไม่ร้ ูจริ งๆ หรื อแกล้ งท�ำเป็ นไม่ร้ ูกนั แน่นะ “เวลาองค์ธวัลพรจะลอบสังหารใคร...พระองค์ไม่ เคยมีไอสังหารให้ เหยื่อรู้ตวั หรอกครับ” คนที่เคยรบเคียงบ่าเคียงไหล่กันมามีหรื อจะไม่ร้ ู ระดับฝี มือ หวนนึกถึงภาพตอนสงครามกลางเมือง...คนที่ไม่ ปรานีพวกกบฏที่ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ นนั่ คือองค์ธวัลพร บางคนตายทังเป็ ้ นด้ วยความทรมาน บางภาพนันน่ ้ ากลัวเสีย จนแทบไม่นา่ เชือ่ ว่ายมทูตจะงามจับตาดุจดัง่ เทวดาขณะทีม่ อื อาบเลือด... ผานิตยิ ้มหน้ าเป็ น เอ่ยเสียงใส “ถ้ าพระองค์จะฆ่า ผม คงไม่ต้องรอให้ ทา่ นมาเห็นหรอกครับ ท่านก็คดิ มากไปได้ ” ว่าแล้ วก็คล้ องแขนนายพลชานเนนให้ เดินไปด้ วยกัน หนุ่มใหญ่มองรอยยิ ้มสดใสก็ร้ ู สกึ รักผานิตเป็ นเท่า ตัว...คนทีเ่ ขารักมีจติ ใจอ่อนโยนแบบนี เขาถึ ้ งรักและถนอมผา นิต...
ระหว่างที่เดินไปตามสะพานไม้ ร่างสูงก็หยุดพลอย ให้ ผานิตต้ องหยุดตาม หนุ่มใหญ่จรดริ มฝี ปากบนหน้ าผาก ของคุณหมอหนุม่ เอ่ยเสียงนุม่ นวลอ่อนหวาน “ผมรู้วา่ คุณผึ ้งไม่อยากให้ ผมกระทบกระทัง่ กับองค์ เจ้ า แต่บางเรื่องหากเก็บเอาไว้ ในใจ คุณผึ ้งจะล�ำบากภายหลัง นะครับ” ผานิตสบดวงตาคูอ่ อ่ นโยนของนายพลตรงๆ “ผมไม่ ได้ ล�ำบากใจอะไรเลยครับ ไม่ต้องห่วงนะครับ ถ้ าเกิดอะไรขึ ้น มา พบไม่อยูน่ ิ่งๆ ให้ เป็ นเหยื่อหรอกครับ” คราวนี ้รอยยิ ้มหวานก็เย็นยะเยือกขึ ้นก่อนสลายไป อย่างรวดเร็ ว ผานิตดึงแขนหนุม่ ใหญ่ให้ เดินต่อ “พรุ่ งนี ้ท่านหยุดงานจริ งๆ แล้ วใช่ไหมครับ เราไป ไหนต่อดี” คุณหมอหนุม่ ถาม “ก็ไปนอนดูดาวสักคืนดีไหมครับ” นายพลชานเนน คล้ อยตามและยอมเปลี่ยนเรื่ องง่ายๆ ระหว่างที่เดินไปขึ ้นรถของหนุม่ ใหญ่ ผานิตก็คดิ ใน ใจว่า...คนแบบนันน่ ้ ะ ฆ่าคนได้ อย่างเลือดเย็น พี่ธีเอาตัวรอด
จากคนคนนันได้ ้ อย่างไรกันนะ เขาล่ะอยากรู้เสียจริ ง!... ช่วงเวลาทีส่ ามารถอยูด่ ้ วยกันนันเหลื ้ ออยูแ่ ค่สองวัน เพราะถูกแย่งเวลาไปด้ วยเรื่องงานของนายพลชานเนน แต่ผา นิตก็ไม่ได้ แสดงอาการไม่พอใจให้ เห็น ซึ่งการวางตัวแบบนี ้ ท�ำให้ หนุม่ ใหญ่ให้ ความรักแก่ผานิตเป็ นเท่าทวี ...สองวันที่เหลือ นายพลชานเนนตังใจจะพาผานิ ้ ต ไปนอนนับดาวที่ภูหมอกห่ม หากแต่ผานิตกลับปฏิเสธไม่ อยากไป และขอเปลี่ยนเป็ นอยู่กบั นายพลชานเนนดีกว่า ถึง ไม่อยากผิดแผนที่วางไว้ แต่ พอเห็นดวงตาสีน� ้ำตาลเจือรอย อ้ อน เกาะแขนพูดประจบ เขาก็ตามใจคนรักทันที หลังจากถึง บ้ านพัก ในระหว่างที่หนุ่มใหญผลัดเปลี่ยนชุด ผานิตก็ลาก กระเป๋ าเดินทางออกมาจัด นายพลหนุ่มที่ก�ำลังจะสวมเสื ้อ ป่ านหันกลับมามองที่คนที่ก�ำลังง่วนกับการจัดกระเป๋ า “คุณผึ ้งครับ” คนถูกเรียกเอี ้ยวคอมอง พอเห็นคนเรียกเปลือยแผ่น อกก็เบนสายตามาที่กองสัมภาระต่อ
“รี บเก็บกระเป๋ าหนีผมหรื อครับ” เสียงทุ้มพ้ อเบาๆ ผานิตส่ายศีรษะ “ก็แค่เก็บเตรี ยมไว้ น่ะครับ ผมจะ ได้ สบายใจว่ามีเวลาอยูก่ บั ท่าน” ปากตอบมือก็พบั เสื ้อผ้ าลงกระเป๋ าไปด้ วยจึงไม่เห็น ว่า หนุม่ ใหญ่วางเสื ้อป่ านลงบนเตียงแล้ วมาประชิดด้ านหลัง “นี่ของฝากหนูมิ ้มครับ เสียดายผมเป็ นลมไปก่อน เลยไม่มีเวลาให้ ” มื อผอมชูเสือ้ เด็กผู้หญิ งให้ ดู พอหันไปก็ แทบจะ ปะทะใบหน้ าของนายพลเพราะท่านทรุดนัง่ เสมอกับเขา ผา นิตลดมือลง วางเสื ้อเด็กหญิงไว้ บนตัก ช้ อนตามองคนที่จ้อง หน้ าตัวเองตาปริ บๆ “มีอะไรหรื อครับ” เขาถามอย่างงงๆ “มาดูเสื ้อน้ องมิ ้มไงครับ” นายพลชานเนนเอ่ย ...แค่ดเู สื ้อเด็ก ท�ำไมต้ องมาใกล้ ๆ ด้ วย แล้ วไม่ใส่ เสื ้อก่อนนะ...ผานิตคิดในใจ “ของฝากรับขวัญน้ องมิ ้ม ผมไม่ร้ ูจะซื ้ออะไรให้ ดี จะ ซื ้อของแพงๆ ผมก็คดิ ว่าไม่จ�ำเป็ น”
“น้ องมิ ้มใส่แล้ วคงน่ารักนะครับ ไม่มีแบบคูก่ นั เหรอ ครับ คุณผึ ้งใส่คกู่ บั น้ องมิ ้งคงน่ารักสองเท่า” วจีเย้ าหวานซะจนผานิตหน้ าแดงก�่ำ...เวลานิ่งก็นิ่ง ซะจนขรึม แต่เวลาหวาน ท่านก็หวานซะจนเขาจะละลายแล้ ว ดวงหน้ าคมเข้ มยื่นเข้ าใกล้ ผานิตเอียงใบหน้ าหลบ เล็กน้ อย สีแดงก�่ำแต้ มเป็ นริ ว้ ๆ เริ่ มขัดเขินกับการกระท�ำของ ท่านนายพล เขารี บวางเสื ้อเจ้ าปั ญหาลงในมือหนุม่ ใหญ่ “ท่านครับ ผมขอเวลาเก็บกระเป๋ าก่อนนะครับ” “คุณผึ ้งยังไม่เลิกเรี ยกว่าท่านอีกเหรอครับ” หนุ่ม ใหญ่ตดั พ้ อ ผานิตใจเต้ นไม่เป็ นส�ำ่ เบือนสายตาหนีโดยแกล้ งท�ำ เป็ นเก็บเสื ้อผ้ าลงกระเป๋ า สายตาจะได้ ไม่ต้องจับจ้ องแผงอก ก�ำย�ำที่ลอ่ สายตา นายพลชานเนนเองก็หยุดการเย้ าแหย่เมื่อ คนรักขัดเขิน ร่างสูงลุกขึ ้นใส่เสื ้อป่ าน ไม่รอเอาค�ำตอบที่ถาม ไปเมื่อสักครู่ “งันคุ ้ ณผึ ้งเก็บกระเป๋ ารอนะครับ ผมไปท�ำกับข้ าว เย็นก่อน”
“ครับ” ผานิตรับค�ำเบาๆ โดยไม่หนั มามองคนบอก นายพล ชานเนนออกไปได้ พัก ใหญ่ ผานิ ต ก็ เ ก็ บ กระเป๋ าเดิ น ทาง เรี ยบร้ อยแล้ วจึงออกไปช่วยหนุม่ ใหญ่ท�ำอาหารเย็น ร่างผอม หยุดอยู่หน้ าประตูครัว มองแผ่นหลังแข็งแกร่ ง มือก็ขยับหัน่ ผัก ภาพที่เห็นนัน้ ท�ำให้ เขาไม่อยากเชื่อว่าคนที่ยืนอยูน่ นเป็ ั้ น นายทหารระดับนายพลที่ได้ ฉายา ‘วีรบุรุษสงคราม’ คนตัวโต ท่าทางดุแบบนัน้ เวลาท�ำอาหาร แค่มองทางด้ านหลังท�ำไม น่ารักถึงขนาดนี ้นะ ดูเหมือนนายพลชานเนนจะรู้ ตวั ว่าถูกมองจึงเอี ้ยว คอหันมามอง พลางเอ่ย “อ้ าว เก็ บกระเป๋ าเรี ยบร้ อยแล้ วหรื อครั บ รอสัก ประเดี๋ยวนะครับ เดี๋ยวก็เสร็จแล้ วครับ” ผานิตเดินเข้ าไปใกล้ ๆ นายพล “ให้ ผมช่วยอะไรไหม ครับ” ที่ผ่านมา หนุ่มใหญ่มกั เตรี ยมอาหารไว้ เรี ยบร้ อย แล้ ว เขาจึงได้ แต่รอรับประทานอย่างเดียว จะรอให้ นายพล
เอาอกเอาใจเหมือนเด็กๆ เขาเองก็เกรงใจ “ไม่ล�ำบากคุณผึ ้งหรอกครับ ไปนัง่ รอดีกว่า” ผานิตพับแขนเสื ้อเชิ ้ตขึ ้น ไม่ฟังค�ำห้ ามปราม หนุม่ ใหญ่จงึ ยอมให้ ชว่ ยโดยให้ ล้างผัก “จะท�ำอะไรหรื อครับ” คุณหมอหนุม่ ถาม “ต้ มย�ำกับไข่เจียวครับ” ผานิตตาโต หันขวับ “ท่านท�ำเป็ นด้ วยเหรอครับ” “เรี ยกท่านอี กแล้ วนะครั บ” หนุ่มใหญ่ ไม่ได้ ตอบ ค�ำถาม แต่กลับเย้ าแทน มือก็เตรียมเครื่องปรุงต้ มย�ำไว้ ในถ้ วย เล็กๆ แยกเป็ นเนื ้อสัตว์และผักที่ผานิตเพิ่งล้ างเสร็จ คนถูกเย้ าหน้ าแดงอีกรอบ ไม่ยอมตอบวาจาโดย การเสไปช่วยตอกไข่ไก่ทวี่ างไว้ สามลูกลงในชามเตรียมให้ นาย พล แล้ วก็ไปยืนรอห่างๆ ด้ านหลัง เมื่อท่านนายพลท�ำต้ มย�ำ ก่อน “คุณผึ ้งครับ” นายพลชานเนนเรี ยก ผานิตจึงขยับไปใกล้ ๆ เมื่อถูกเรี ยก มือหนาถือช้ อน ตักน� ้ำแกงขึ ้นชิม แล้ วก็ตกั อีกรอบ เป่ าให้ หายร้ อนจึงยื่นให้ ถงึ
ปากของผานิต “ลองชิมดูสคิ รับ อร่อยถูกปากแล้ วหรื อยัง” ผานิตชิมไปหน้ าแดงระเรื่ อไป ไม่ร้ ู ว่าน�ำ้ แกงที่ชิม หวานเพราะนายพลเป็ นคนป้อนหรือหวานเพราะหนุม่ ใหญ่เท น� ้ำตาลลงไปกันแน่นะ “ท่านท�ำอะไรก็อร่ อยหมดล่ะครับ” เขาตอบจากใจ จริ ง รอยยิ ้มใต้ เรี ยวหนวดเผยอกว้ าง พอวางช้ อนลง นิ ้ว แกร่งก็ชว่ ยเช็ดคราบน� ้ำแกงที่เปื อ้ นริ มฝี ปากของผานิต “นึกว่าชิมจากมือผมจะอร่อยกว่านี ้ซะอีก แต่ผมว่า คุณผึ ้งน่ากินกว่านี ้ซะอีกนะครับ” นายพลชานเนนพูดหน้ าตาย ก่อนหันไปจัดการกับ หม้ อต้ มย�ำต่อ คนถูกหยอกหน้ าแดงก�่ำอีกรอบ คราวนี ้ผานิตไม่รอ ให้ ถกู เย้ า เขายอมเป็ นเสือนอนกิน ไปนัง่ รอที่โต๊ ะก่อนคงจะ ปลอดภัยกว่า เพราะไม่ร้ ู อยู่จนถึงท�ำกับข้่ าวเสร็ จเรี ยบร้ อย ท่าทางเป็ นเขาเองจะกลายเป็ นอาหารสดให้ นายพลหนุม่ ใหญ่
ปรุงรสเอาตามใจชอบแน่ๆ หนุม่ ใหญ่ลำ� เลียงอาหารทยอยออกมาวาง วันนี ้นาย พลชานเนนท� ำ กับ ข้ า วแค่ส องอย่างคื อ ต้ ม ย� ำและไข่เจี ย ว ฟูฟ่องน่ารับประทาน ผานิตช่วยตักข้ าวสวยร้ อนๆ ยื่นให้ นาย พลชานเนนก่อนแล้ วจึงตักให้ ตวั เอง “อร่อยถูกปากไหมครับ” หนุม่ ใหญ่ถามเสียงอ่อน “ท่านท�ำให้ กบั มือจะไม่อร่อยได้ ไงละครับ” ผานิตรู้สกึ ซึ ้งใจทุกครัง้ เพราะเวลามาที่นวรัฐะทีไร นายพลชานเนนจะจัดเตรี ยมอาหารไทยให้ ซงึ่ เขาบอกหลาย ครัง้ แล้ วว่าไม่จ�ำเป็ น เขาทานอาหารพื ้นเมืองได้ แต่หนุม่ ใหญ่ ก็ดงึ ดันเอาใจเขาแบบนี ้ทุกครัง้ ผานิตจึงปล่อยเลยตามเลย หลังจบรายการอาหารคาว หนุม่ ใหญ่บอกให้ ผานิต ไปนัง่ รอที่ชานระเบียง แล้ วท่านก็เป็ นฝ่ ายเก็บโต๊ ะ จากนัน้ นายพลชานเนนก็เตรี ยมคุ้กกี ้ที่เป็ นของฝากจากองค์ธวัลพร พร้ อมชงโกโก้ ร้อนให้ อกี หนึง่ แก้ วเป็ นของหวานตบท้ าย ผานิต
เริ่ มรู้สกึ ว่าตัวเองคงกลายเป็ นเด็กเอาแต่ใจแน่ๆ “นี่ถ้าอยูน่ านอีกนิดให้ ทา่ นบริ การแบบนี ้ทุกวัน ผม คงนิสยั เสียแน่ๆ เลยครับ” “ผมยินดีบริการจนคุณผึ ้งเสียคนครับ” มือหนาปาด คราบช็อกโกแลตทีผ่ านิตเพิง่ ยกขึ ้นดืม่ “เรียกว่า ‘ท่าน’ อีกแล้ ว ผมชักเริ่ มน้ อยใจแล้ วสิครับ” พวงแก้ มเจือสีแดงระเรื่ อ “อยากให้ เรี ยกว่าอะไรล่ะ ครับ” ผานิตถามเอาใจ “เรี ยกชานเนนเฉยๆ แต่ถ้าจะให้ ดี เรี ยกพี่ได้ ไหม ครับ” หนุม่ ใหญ่ถามเสียงกรุ้มกริ่ ม ผานิตแทบส�ำลักโกโก้ ร้อน หน้ าร้ อนเห่อทันที “ดื่มดีๆ สิครับ เดี๋ยวก็ส�ำลัก” นายพลเอ่ยเสียงดุเล็ก น้ อยที่ผานิตไม่ระวังตัวเอง คุณหมอหนุม่ วางแก้ วลง “ผมบอกแล้ วว่าชินกับการ ที่เรี ยกท่าน...ให้ ผมเรี ยกแบบนี ้ดีกว่าครับ” “ทีกบั ท่านทูตพิเศษ คุณผึ ้งยังเรียกว่าพีไ่ ด้ เลย ท�ำไม เรี ยกผมว่าพี่ไม่ได้ ละ่ ครับ” นายพลชานเนนตัดพ้ อ แต่แววตา
ระยิบระยับ ผานิตพูดไม่ออก ด้ วยวัย หน้ าที่ และวุฒภิ าวะทีห่ า่ ง กันเกือบสิบหกปี ท�ำให้ เขาเรี ยกแต่ ‘ท่าน’ จนชินปาก จะให้ เปลี่ยนว่าเรี ยก ‘พี่’ หรื อ ‘ชานเนน’ เฉยๆ เขาก็ไม่ชิน “ก็พี่ธีเป็ นเหมือนพี่ชายผมนี่ ครั บ” ร่ างผอมเถี ยง ข้ างๆ คูๆ “เรี ยกเขาว่าพี่ต่อหน้ าผมแบบนี ้ ผมน้ อยใจเป็ นนะ ครับ อุตส่าห์เอาใจคุณผึ ้งขนาดนี ้แล้ วนะ” คนบอกว่า ‘น้ อยใจ’ ตาพราว...ไม่ร้ ูวา่ สนุกทีไ่ ด้ แกล้ ง เขาหรื อน้ อยใจจริ งๆ “เอ่อ... ผมไม่พดู กับท่านนายพลแล้ ว” ผานิตตัดบทพลางลุกขึ ้น แต่หนุ่มใหญ่คว้ าเอวไว้ ร่างผอมเซล้ มลงบนตักของนายพลนวรัฐะ หนุม่ ใหญ่สอดแขน โอบรอบเอว ซ� ้ำยังขโมยจุมพิตแก้ มเนียนนุม่ “งันวั ้ นนี ้ผมจะท�ำให้ คณ ุ ผึ ้งพูดเอง” “ท่าน!” ผานิตร้ องประท้ วง “ท่าน...อีกแล้ ว” มื อหนายุ่มย่ามที่ รังดุมเสือ้ เชิต้
“หืมม์ นี่ผมขุนคุณผึง้ ตัง้ เยอะแล้ วไม่อ้วนสักที ดูแลตัวเอง หน่อยสิครับ” ท่านพูดด้ วยความห่วงใยด้ วยรู้วา่ ผานิตเคยผ่านการ ผ่าตัดใหญ่มาก่อน ยามห่างไกลสายตา ผานิตคงไม่ค่อยได้ ดูแลตัวเองแล้ วโหมท�ำแต่งาน ตอนนี ้อยู่ในสายตาเขา เขาก็ อยากดูแลให้ สมกับความห่วงหาอาทร “งันก็ ้ ปล่อยสิครับ ผมจะได้ เริ่ มดูแลตัวเอง วันนี ้ผม จะเป็ นเด็กดีนอนเร็ วๆ” ผานิตรี บหาทางหนีทีไล่ เริ่ มขวยเขิน กับค�ำพูดหวานๆ ระคนห่วงใย “อยากไปก็เรี ยกว่าพี่ก่อนสิครับ” หนุ่มใหญ่กระซิบ ข้ างหู “ท�ำไมวันนี ้ท่านพูดมากจังครับ” คนถูกแหย่เริ่มออก อาการแง่งอน “เพราะว่าผมรักคุณผึ ้ง เราไม่เคยมีเวลาอยูด่ ้ วยกัน เลย ถ้ าไม่ใช่เพราะเรื่ องงาน ผมไม่ปล่อยคุณผึ ้งคลาดสายตา หรอกครับ ตอนนี ้เรามีเวลาร่วมกันแล้ ว ผมอยากพูด อยากคุย กับคุณผึ ้ง...และอยาก...”
ค�ำสุดท้ ายแผ่วลงเพราะหนุม่ ใหญ่กระซิบริ มหู และ งับติ่งหูนิ่มขบเม้ มเบาๆ ผานิตสะดุ้งเมื่อถูกรุ กตรงจุดอ่อน กระดุมถูกปลดเมือ่ ไรก็ไม่ร้ ู มือหน้ าก็อ้อยอิง่ ทีแ่ ผ่นอกทีแ่ ข็งตึง เลือดหนุม่ ฉีดพล่านจนเนื ้อตัวแดงก�่ำดุจกุ้งต้ ม “ท่านครับ อย่าแกล้ งกันสิครับ” เสียงครางแผ่วหวิว ดังจากปาก ‘ท่าน’ ยังเคล้ นคลึงยอดอกอย่างนุม่ นวล สัมผัสอ่อน โยนเรี ยกเสียงครางกระเส่าไม่หยุด “เรี ยกท่านอีกแล้ ว” น� ้ำเสียงของ ‘ท่าน’ ยัว่ เย้ า มือก็ไม่หยุดปรนเปรอ ซ� ้ำ ยังซุกซนเลือ่ นลงต�ำ่ ตรงส่วนที่ออ่ นไหวที่เริ่มแข็งขึง หนุม่ ใหญ่ จัดการดึงกางเกงของผานิตลง เพื่อหยอกเย้ าส่วนนันให้ ้ ร้อน รุ่มขึ ้นอีก...จนรับรู้วา่ ส่วนนันชุ ้ ม่ ฉ�่ำก็หยุดมือแต่ริมฝี ปากยังไม่ หยุดขบเม้ มติ่งหู ผานิตสัน่ ระริ ก ความสุขสมที่ก�ำซาบหยุด กะทันหันทิ ้งความทรมานที่หวามไหว “อย่าแกล้ งกันสิครับ” เสียงครางเครื อวอนขอด้ วยดวงตาพร่ าพราย หนุ่ม
ใหญ่ก็ทรมานไม่แพ้ กนั อยากลิ ้มรสน� ้ำผึ ้งหวานๆ เต็มทน แต่ อยากแกล้ งเด็กดื ้อของท่านก่อน ความจริ งเขาไม่ได้ อยากให้ ผานิตฝื นใจเรี ยกค�ำสรรพนามที่ไม่ค้ นุ ทว่าบางครัง้ การได้ ยิน เสียงทุ้มหวานวอนเว้ าเรียก ‘พี’่ ในตอนนี ้ก็คงอิม่ เอมใจไม่น้อย “คุณผึ ้งรู้นคี่ รับ อยากให้ เลิกแกล้ งต้ องท�ำยังไง” นาย พลชานเนนไล้ ต้อนดุจจะให้ ผานิตจนมุมกระนัน้ คุณหมอหนุม่ กัดปาก ถึงความรู้สกึ ที่ก่อเกิดในกาย รุนแรงกว่าความเขินอาย แต่อย่างไรก็ไม่อยากเรี ยกเพราะถูก บังคับ หนุม่ ใหญ่ใจอ่อนลง รู้วา่ คนอย่างผานิต ยิ่งบังคับก็ยิ่ง ต่อต้ าน “งันเรี ้ ยกแค่ตอนนี ้พอให้ ชื่นใจสักนิด...นะครับ” ผานิตช้ อนดวงตาสีน�ำ้ ตาลหันมองคนช่างบังคับ ดวงตาสีด�ำที่สานสบช่างออดอ้ อนจึงยอมลดความอายและ ทิฐิเอ่ยเรี ยกอุบอิบแทบไม่ได้ ยิน “พี่ชานเนนครับ...ได้ โปรด” แค่นนหนุ ั ้ ่มใหญ่ก็คลี่ยิ ้มกว้ าง โอบประคองร่ างผา นิตขึ ้นอย่างทะนุถนอม ผานิตยกมือคล้ องล�ำคอของท่านอย่าง
ไม่เกี่ยงงอน หนุ่มใหญ่พาเข้ าห้ องนอน พอแผ่นหลังกระทบ เตียง หนุ่มใหญ่ ก็ทิง้ ตัวลงคร่ อมร่ างผอมไว้ ในกรงแขน ส่ง ปลายลิ ้นซอกซอนโพรงปากนุม่ ควานหาความหวานอย่างไม่ร้ ู จักพอ ทังลิ ้ ้นทังมื ้ อปรนเปรอทัว่ เรื อนร่าง ไม่มีสว่ นไหนที่หนุม่ ใหญ่ละเลย ผิวเนื ้อหอมกรุ่นละมุนละไมถูกส�ำรวจทุกตาราง นิ ้ว ผานิตเกือบส�ำลักความสุขสมทีท่ า่ นมอบให้ นายพล ชานเนนแคร์ ความรู้ สกึ ของเขาเสมอเวลาร่ วมรักกัน เพราะรู้ เขาเคยกลัวการสัมผัสแบบนี ้จากประสบการณ์ในอดีต กระแสวาบหวินแล่นพล่านทั่วร่ างกาย ดวงตาสี น� ้ำตาลหรี่ ปรื อมองหนุ่มใหญ่ถอดเสื ้อป่ านอวดแผงอกก�ำย�ำ จากนันก็ ้ เป็ นกางเกงแพรจนเผยให้ เห็นสะโพกสอบแข็งแรง ดวงตาสีน� ้ำตาลหลับลงแล้ วลืมขึ ้นใหม่ มองมือหนาช้ อนเรี ยว ขาพาดไหล่ก่อนที่ท่านนายพลจะแทรกร่างเข้ ามา...ส่วนแข็ง ขึงของหนุ่มใหญ่แตะที่ช่องทางคับแน่น ท่านฝื นดึงดันสูช่ ่อง ทางทีเ่ ปิ ดรับทีละนิดจนกลืนกินตัวตนของท่านจนหมด ภายใน ทังอบอุ ้ น่ หวานหอมห่อหุ้มตัวตนของท่าน จากนันก็ ้ ขยับร่าง
ตักตวงเอาจนเต็มอิ่ม นายพลชานเนนกระซิบเสียงพร่ าพร�่ ำถ้ อยค�ำรั ก ผสานเสียงครางหวานจนอารมณ์รัญจวนทะยานไต่สงู ร่ าง ผอมกระตุกเฮือก ไหล่ไหวสะท้ าน รับรู้ ถึงความสุขสมแสน หวานไล่ๆ กัน หนุ่มใหญ่จูบซับหน้ าผากมน ปั ดไรผมให้ พ้นจาก หน้ าผากชื ้นเหงื่อ สานสบดวงตาสีน� ้ำตาลที่ยงั เคลิบเคลิ ้ม “ขอบคุณนะครับที่ให้ ผมเอาแต่ใจ” จบ