หนังสือพิมพ์ไทยเสรี ฉบับที่ 140

Page 1

ปีที่ 13 ฉบับที่ 140 ทั นประจำ ส �ถเดืาอนมกราคม น ก า ร2559 ณ์

ติ ด ต า ม ข่ า ว ส า ร ไ ด้ ที่

w w w . t h a i s a e r e e .หน้ c oาm1

ปีที่ 13 ฉบับที่ 140 ประจำ�เดือนมกราคม 2559 ราคา 10 บาท

ธุ ร กิ จ อสั ง หาฯปี ลิ ง แผ่ ว มาตรการกระตุ้ น สะดุ ด แบงค์ เ ข้ ม งวดปล่ อ ยกู้ ขอนแก่นเคาท์ดาวน์ 2016 ; บรรยากาศงานขอนแก่นเคาท์ดาวน์ 2016 มีพี่น้องชาว จังหวัดขอนแก่น รวมทั้งนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย ชาวต่างประเทศ มาร่วมงานส่งท้าย ปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ขอนแก่นเคาท์ดาวน์ 2016 นับแสนคน ร่วมกันนับเวลาถอยหลังสู่ ปี 2016 พร้อมกัน และฉลองปีใหม่ด้วยพลุสีสันสวยงาม บรรยากาศเต็มไปด้วยความ สนุกสนาน ณ เวทีกลาง ประตูเมืองขอนแก่น

ซี.พี.แลนด์ฉวยโอกาสศก. ชะลอทุ่ ม กว่ า 1,000ล. ผุ ด ศู น ย์ ป ระชุ ม รองรั บ ตลาดMICEโดยเฉพาะ

เจ้าพ่อธุรกิจอสังหาฯ รายใหญ่ C.P. ลงทุนบิ๊กโปรเจ็กต์ สร้าง “ธนพล”ขยายไลน์ ตั้ ง โรงงานผลิ ต ศู น ย์ ป ระชุ ม และแสดงสิ น ค้ า กระจกนิรภัยใหญ่สุดของภาคอีสาน ใหญ่สดุ ริมถนนมิตรภาพ เมือง เจ้ า ของบริ ษั ท จำ � หน่ า ยวั ส ดุ ก่ อ สร้ า งใหญ่ ขอนแก่น รองรับการประชุมและ ควั ก กระเป๋ า ก้ อ นโตขยายไลน์ ธุ ร กิ จ ตั้ ง โรงงาน งานแสดงสิ น ค้ า กลุ่ ม ประเทศ ผลิ ต กระนิ ร ภั ย ใช้ โ นว์ ฮ าวด์ จ ากจี น ผสมยุ โ รป วางแผนผลิตกระจกป้องกันเสียงและความร้อน อาเซียน คาดแล้วเสร็จพร้อมเปิด พร้อมลุยตลาด ตปท. บริการปลายปี 2560 อ่านต่อหน้า 2

ชื่นชมหนูน้อยนักอ่าน ; นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น พร้อมคณะผู้ บริหาร ร่วมกิจกรรม “พัฒนาการศึกษาเด็กปฐมวัยและครอบครัว” พร้อมมอบเกียรติบัตรให้แก่ ครอบครัว “นักอ่านและหนูนอ้ ยนักอ่าน” โดยมี นายชลัส พรหมโว ประธานชมรมผูส้ งู อายุดอกคูนและ อาสาเมตตาธรรม โรงพยาบาลขอนแก่น และ นักเรียนจากโรงเรียนในสังกัดเทศบาลนครขอนแก่น ร่วมกิจกรรม ณ สวนคูนบึงแก่นนคร เมื่อวันที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2559

อสังหาฯปี 59 เจอสารพัดปัจจัย ลบจากภาวะเศรษฐกิจทีย่ งั ไม่ฟนื้ ตัว มาตรการช่วยกระตุน้ จากภาค รัฐ ไม่สามารถเพิ่มยอดขายได้ เนือ่ งจากติดข้อกำ�หนดจากปัจจัย หนี้ครัวเรือนสูง ทั้งไม่สามารถ เพิม่ วงเงินกูใ้ หม่ได้อกี รวมไปถึง ความเข้มงวดในการปล่อยสินเชือ่ ของธนาคาร อ่านต่อหน้า 11

เสริ ม สวยแบรนด์ ไ ทย แอ่ น อกสู้ แ บรนด์ น อก

“พรีมาเนสท์” เครื่องสำ�อางยี่ห้อไทย เล็ ง ปี ห น้ า ขึ้ น ขายในสายการบิ น ระหว่ า ง ประเทศ เจ้าของถ่อมตัวยังเป็นแค่ SMEs ขอผลิตให้คนไทยรู้จักและได้ใช้ แต่นัก ลงทุนฮ่องกงจีบให้ไปทำ�ตลาด อ่านต่อหน้า 11

มข.ทุม่ งบ40ล.พัฒนา นักพัฒนาอสังหาฯ สวนกระแส ร ถ ข น ส่ ง ม ว ล ช น ชีป้ ลี งิ บ้านจัดสรรมีโอกาสฟืน้ มข.รณรงค์ให้ นศ.และบุคลากรใช้ ระบบขนส่งสาธารณะ เพื่อช่วยลดค่า ใช้จา่ ย ลดมลภาวะ ใช้งบ 40 ล้านบาท พัฒนารถขนส่งมวลชน เน้นทันสมัย และใส่ใจสิง่ แวดล้อม มี GPS ติดตาม รถทุกคัน พร้อมทั้ง WIFI ตั้งเป้าลด อุบัติเหตุให้เป็นศูนย์ อ่านต่อหน้า 11

ณัฐวัชร สวนสุจริต

ตลาดอสังหาฯ อุดรธานี มีแนวโน้มดี ขึน้ เทียบกับปีทผี่ า่ นมา แต่ผปู้ ระกอบ การต้องปรับตัว และประคองตัว ให้ เจ็บน้อยที่สุด เพื่อปิดโครงการให้ จบ ส่วนโครงการใหม่รอดูจังหวะ เพราะมีการแข่งขันกันสูง อ่านต่อหน้า 11


หน้า 2

ปีที่ 13 ฉบับที่ 140 ประจำ�เดือนมกราคม 2559

นักพัฒนาอสังหฯ • ต่อจากหน้า 11 2.จังหวัดอุดรธานี เป็นจังหวัดทีม่ ศี กั ยภาพ ในหลายด้านเช่น การเดินทางสะดวก, มีการค้าเพิม่ ขึ้น การท่องเที่ยว และในตัวจังหวัดมีสิ่งอำ�นวย ความสะดวกครบครัน ฯลฯ ทำ�ให้เกิดประชากร ที่ ต้องการเข้ามาอยู่อาศัยในจังหวัดอุดรธานีเพิ่มมาก ขึ้น จะส่งผลเรื่องความต้องการที่อยู่อาศัยเพิ่มมาก ขึ้นตามไปด้วย 3.การเติบโตของภาคบ้านจัดสรรในจังหวัด อุดรธานี จะเติบโตแบบไม่ก้าวกระโดด มีการขยาย ตัวเรื่อยๆ แต่ยังสามารถดำ�เนินการทำ�โครงการได้ แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานของความไม่ประมาท นายสวาท ธี ร ะรั ต นนุ กู ล ฃั ย ประธาน หอการค้าจังหวัดอุดรธานี และเป็นหนึ่งในคณะ กรรมการจัดสรรที่ดินจังหวัดอุดรธานี ก็มีมุมมอง ที่สอดคล้องกับ นายณัฐวัชรฯ ว่า ในอีกไม่ช้านี้การ เกิดอสังหาริมทรัพย์ของจังหวัดอุดรธานี จะเกิด โครงการขนาดใหญ่ขึ้นมา เนื่องจากมีสถานการณ์ ของเศรษฐกิจในพื้นที่และของประเทศค่อนข้าง ชัดเจน และหน่วยอสังหาริมทรัพย์ที่ก่อสร้างไป แล้วจำ�นวนมาก ที่ค้างอยู่ในมือของผู้ประกอบการ ก็ก�ำ ลังทยอยมีการซือ้ -ขาย และมีการโอนเปลีย่ นมือ กันไปเป็นจำ�นวนที่น่าพอใจ อย่ า งไรก็ ต ามกรรมการจั ด สรรที่ ดิ น จั ง หวัดฯ ก็ได้เฝ้ามองสถานการณ์ของทัง้ เศรษฐกิจและ การเกิดโครงการอสังหาริมทรัพย์ทุกมิติให้อยู่ใน อัตราที่เหมาะสมของสภาวะการตลาด เพราะหาก ปล่อยให้เป็นไปตามความต้องการของผู้ประกอบ การแล้วก็เกรงว่าหากมีปญ ั หาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เกิดภาวะฟองสบู่แตก ก็จะแก้ไขยาก อย่ า งไรก็ ต าม จากการที่ ไ ด้ อ อกทำ � การ สำ�รวจด้วยตนเอง ตามสถานที่ต่างๆ ทั้งในเขต เทศบาลนครอุดรธานีและนอกเขตเทศบาล พบว่า มีโครงการบ้านจัดสรรในลักษณะขนาดเล็ก บาง แห่งมีเพียงไม่หน่วย ไม่มีป้ายโครงการติดประกาศ เกิดขึน้ อีกหลายโครงการ ซึง่ ลักษณะเช่นนัน้ คาดว่า จะไม่ได้มกี ารขออนุญาตจัดสรรจากคณะกรรมการ จัดสรรจังหวัด

ธนพลทุ่มงบ

• ต่อจากหน้า 1

นายธนพล กองทรัพย์ไพศาล กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท.สแตนดาร์ดพลัส เซอร์วิส จำ�กัด เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทได้ลงทุนงบประมาณ กว่า 100 ล้านบาท ในการจัดซื้อที่ดินจำ�นวน 4 ไร่เศษ ริมถนนมิตรภาพสายอุดรธานี-หนองคาย ในท้องที่บ้านนาข่า ต.นาข่า อ.เมืองอุดรธานี เพื่อ ก่อสร้างโรงงานผลิตกระจกนิรภัย หรือ กระ จกเทมเปอร์ ในขณะนี้การก่อสร้างเสร็จไปกว่า 80%สามารถทำ�การผลิตกระจกได้แล้ว โดยใช้ เทคโนโลยีจากประเทศจีนและจากประเทศยุโรป โดยตั้ ง เป้ า หมายว่ า เมื่ อ โรงงานผลิ ต กระจกเทม เปอร์แห่งนี้เสร็จสมบูรณ์ จะขยายตลาดไปให้ ทั่วภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และส่วนหนึ่งก็ จะเข้าสู่ตลาดในกรุงเทพฯและตลาดของ สปป. ลาว และวางเป้าเลยไปจนถึงประเทศเมียนมาร์ ยกเว้นประเทศเวียดนาม เนื่องจากเวียดนาม มี โ รงงานผลิ ต ที่ มี คุ ณ ภาพเที ย บเท่ า ของไทย สำ�หรับโรงงานผลิตกระจกเทมเปอร์ของ บริษัทนั้น จะเป็นโรงงานที่สามารถผลิตกระจก เทมเปอร์ตามคำ�สั่งของลูกค้าที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ในภาคอีสานคือมีขนาด กว้าง 2.40 ม.สูงขนาด 6 เมตร ซึ่งเป็นกระจกสำ�หรับใช้ในการทำ�โชว์รูม ขนาดต่างๆ บริษัทฯ มีตลาดจำ�หน่ายกระจกเทม เปอร์อยู่ในภาคอีสานตอนบน และ สปป.ลาว 7 จังหวัดของภาคอีสานตอนบน คือ จังหวัดอุดรธานี หนองบัวลำ�ภู เลย หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร และ จังหวัดนครพนม ส่วนในต่างประเทศคือ สปป.ลาว และกำ�ลังขยายตลาดใหม่คอื ประเทศเมียนมาร์ โดย ผ่านตัวแทนจำ�หน่ายในประเทศดังกล่าว นายธนพลฯ กล่าวให้รายละเอียดในการ ขยายธุรกิจผลิตกระจกนิรภัย หรือกระจกเทมเปอร์ แห่งนี้ว่า จะเป็นโรงงานที่ทำ�การผลิตจกระจกเทม เปอร์อย่างเดียว เนื่องจากว่ากระจกนิรภัยเทมเปอร์ นี้ เมือ่ ติดตัง้ แล้วจะทำ�ให้อาคารนัน้ ๆ มีความโอ่โถง และเพิ่มคุณค่าของตัวอาคารและมีแนวโน้มที่จะ ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคเพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่งใน ปัจจุบันกระจกนิรภัยเทมเปอร์ ก็กลายเป็นส่วน หนึ่งของอาคาร บ้านพักอาศัย อาคารสำ�นักงาน ห้องนํ​ํ้า กั้นเป็นห้องทำ�งาน กระจกนิรภัยเทมเปอร์ นี้ เป็นกระจกหนา 10 ม.ม ขึ้นไป ที่ผ่านกรรมวิธี ทำ�ให้กระจกฯเกิดความแกร่ง และเมื่อแตกก็จะ แตกเป็นเม็ดข้าว ลดอันตรายจากการถูกกระจกบาด โดยในปัจจุบนั นีม้ กี ารผลิตขึน้ มาเป็นชุดๆ สามารถ นำ�เอาไปติดตั้งได้โดยช่างติดตั้ง แต่ยกเว้นสำ�หรับ โชว์รูมขนาดใหญ่ จะต้องใช้ช่างที่มีความชำ�นาญ เป็นกรณีพิเศษ

“สำ�หรับกระจกนิรภัยเทมเปอร์นี้ กำ�ลัง กลายเป็ น สิ น ค้ า ที่ ไ ด้ รั บ ความนิ ย มจากผู้ ใ ช้ แ ละ วงการตกแต่งทั้งภายนอกภายใน บริษัทฯจึงตั้ง เป้ า ในการหาตลาดผู้ ใ ช้ เ อาไว้ ว่ า จะให้ เ ข้ า ไปสู่ ผู้ บริโภคทั้งส่วนตัวและในวงการก่อสร้างอาคารทุก ชนิด พร้อมกันนี้ก็จะผลิตเป็นแบบสำ�เร็จเป็นชุดๆ เพื่อให้เกิดความสะดวก พร้อมกับจะทำ�การขยาย ตลาดไปทัว่ ทัง้ ภาคอีสาน ตลาดในกรุงเทพฯ เพราะ จากประสบการณ์ทอี่ ยูใ่ นวงการกระจกทำ�ให้รเู้ ส้น ทางการตลาดในกรุงเทพฯมากพอสมควร ตลาดใน ต่างประเทศ นอกจากตลาดประเทศ สปป.ลาวแล้ว ก็มีแผนทำ�การตลาดในประเทศเมียนมาร์ โดยผ่าน เอเย่นต์ทมี่ คี วามชำ�นาญการตลาดของประเทศเมีย นมาร์ แต่จะไม่ทำ�ตลาดที่ประเทศเวียดนาม เพราะ ที่ประเทศเวียดนามมีโรงงานผลิตกระจกประเภท นี้ เ หมื อ นกั น อย่ า งไรก็ ต ามก็ ยั ง มองดู ค วามเสี ย เปรี ย บ ได้ เ ปรี ย บ ทางการตลาดหลั ง จากที่ เ ปิ ด เป็น AEC แล้ว สักระยะหนึ่ง” นายธนพลฯกล่าว นอกจากนี้แล้ว นายธนพลฯ ก็เปิดเผยต่อ ไปอีกว่า ในอนาคตหลังจากที่โรงงานก่อสร้างเสร็จ สมบูรณ์แล้วนัน้ จากทีเ่ คยได้ท�ำ การศึกษาการตลาด ไปแล้วนัน้ ก็วางแผนเอาไว้วา่ จะทำ�การผลิตกระจก นิรภัยอีกชนิดหนึง่ ทีเ่ รียกว่า กระจกนิรภัยอินซูเลท เป็นกระจกสำ�หรับป้องกันเสียงและป้องกันความ ร้อน ที่ใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทเครื่องทำ�ความ เย็น เช่น ตูแ้ ช่ ตูเ้ ย็น หรืออาคารบ้านเรือนสมัยใหม่ที่ ติดเครือ่ งปรับอากาศและป้องกันเสียงจากภายนอก และป้องกันความร้อนที่เกิดจากแสงอาทิตย์ กระจกนิรภัยอินซูเอท เป็นกระจก 2 ชั้น ที่ ตรงกลางจะเป็นสุญญากาศ ด้านหนึ่งป้องกันเสียง ความร้อน ส่วนอีกด้านหนึ่งก็เก็บความเย็นภายใน ห้องหรืออาคารบ้านพักอาศัยที่ตั้งอยู่ในย่านที่มี เสียงดังจากการจราจร

ซีพแี ลนด์ทมุ่ งบ

เอไอเอส ให้เปลีย่ นมือถือ 2G เป็น 3G / 4G ฟรี เอไอเอส ให้ ลู ก ค้ า ที่ ใ ช้ เ ครื่ อ ง 2G ทั่ ว ประเทศ กด 90099 เพือ่ จองเครือ่ ง 3G และ 4G และ รอรับเครื่องได้ที่ อบต.และเทศบาล รวมทั้งจุด บริการเอไอเอสใกล้บ้านทุกตำ�บลทั่วประเทศไทย นายปรัธนา ลีลพนัง รองกรรมการผูอ้ �ำ นวย การสายงานการตลาด เอไอเอส มอบความสุขให้ ลูกค้าทั่วประเทศ ต้อนรับเทศกาลคริสต์มาสและ ปีใหม่ที่กำ�ลังจะมาถึง เริ่มจากการให้ลูกค้าที่ใช้มือ ถือ 2G และมีการใช้งานจนถึงวันที่ 25 ธ.ค. 58 เอ ไอเอสพร้ อ มจะอั พ เกรดเครื่ อ งให้ ลู ก ค้ า จาก เครื่อง 2G เป็นเครื่อง 3G หรือ4G ฟรี โดยลูกค้าจะ ได้รับข้อความ SMS เรียนเชิญจากเอไอเอส หรือ สามารถกดเช็คสิทธิ์ด้วยตนเองได้ง่ายๆ เพียงกด *999 # แล้วโทรออก โดยเอไอเอสมีเครือ่ งให้ลกู ค้า เลือกหลากหลายรุน่ ทัง้ เครือ่ งฟีเจอร์ โฟนแบบปุม่ กด, เครื่องสมาร์ทโฟน 3G ขนาด 3.5 นิ้ว และสมา

ร์ทโฟน 3G ขนาด 4 นิว้ รวมทัง้ สมาร์ทโฟน 4G โดย การเลือกแต่ละรุ่นจะเติมเงินแตกต่างกัน เริ่มต้น ที่ 100 บาท และเงินทุกบาทจะกลับไปอยู่ในมือถือ ของลูกค้า โดยลูกค้าระบบเติมเงินจะสามารถนำ�เงิน ที่เติมไปใช้งานได้ทั้งหมดทันที ส่วนลูกค้าระบบ รายเดือน จำ�นวนเงินที่ลูกค้าเติมจะถูกหักออกจาก ใบแจ้งหนี้ตามการใช้งาน จนกว่าจะครบจำ�นวน ลูกค้าสามารถรับสิทธิอัพเกรดเครื่องได้ฟรี ตั้งแต่ วันที่ 25 ธ.ค.58 - 31 ม.ค.59 ที่เอไอเอส ช็อป, ร้าน เทเลวิ ซ และร้ า นเอไอเอส บั ด ดี้ ทุ ก สาขาทั่ ว ประเทศ สำ�หรับลูกค้าที่ไม่สะดวกในการเดินทาง เอไอเอสจะเริ่มเข้าไปรับจองและส่งเครื่องให้ลูกค้า ในทุกตำ�บล เพื่อความสะดวกของลูกค้า ตั้งแต่วัน ที่ 25 ธ.ค.58 เป็นต้นไป “เพื่ อ ให้ ลู ก ค้ า สามารถใช้ ก ารสื่ อ สาร

• ต่อจากหน้า 1

นายอภิชาติ สินธุมา ผู้จัดการภูมิภาค 1 บริษัท ซี.พี.แลนด์ จำ�กัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จังหวัดขอนแก่นนับเป็นจุดศูนย์กลางในการเชื่อม ต่อทุกพื้นที่ ทั้งภายในประเทศและเชื่อมโยงไปยัง ประเทศเพื่อนบ้าน ด้วยยุทธศาสตร์ของพื้นที่ และ ศักยภาพการเติบโตของเมืองขอนแก่น เชื่อว่าจะ สามารถดึงดูดให้เป็นศูนย์กลางการแสดงสินค้า และการจัดกิจกรรมในระดับสากลทีป่ ระเทศเพือ่ น บ้านสามารถเดินทางเข้ามารวมตัวกันด้วยความ สะดวก รวดเร็ว และลดปริมาณค่าใช้จ่าย อีกทั้ง ในส่วนภูมิภาคยังไม่มีสถานที่ หรือศูนย์ประชุม และแสดงสินค้าที่สามารถรองรับในระดับสากล ได้ ขอนแก่นจึงเป็นจังหวัดที่มความเหมาะสมใน การสร้ า งศู น ย์ แ สดงสิ น ค้ า เพื่ อ รองรั บ การเป็ น อาเซียน และกลุ่มประเทศลุ่มนํ​ํ้าโขง หรือ GMS รวม 6 ประเทศ อาทิ กัมพูชา, เมียนมา, สปป ลาว, เวียดนาม, ไทย และประเทศจีนตอนใต้ ศู น ย์ ป ร ะ ชุ ม แ ล ะ แ ส ด ง สิ น ค้ า CONVENTION CENTER & HOTEL KHON KAEN มี พื้ น ที่ โ ครงการทั้ ง หมดรวม 30 ไร่ หรือ 43,553 ตรม. หน้ากว้าง 150 เมตร ภายใน โครงการประกอบด้วย อาคารศูนย์แสดงสินค้า อเนกประสงค์ ที่ ส ามารถปรั บ เปลี่ ย นได้ ทุ ก รู ป แบบตามความต้องการของแต่ละประเภทใช้พื้นที่ 23,000 ตรม.,โรงแรมขนาดใหญ่สูง 15 เมตร ห้าง สรรพสินค้าเทสโก้โลตัสที่ปรับปรุงพื้นที่อีก 80 ไร่ ลานจอดรถมากกว่า 1,500 คัน ใช้งบประมาณ มากกว่า 1,000 ล้านบาท ปัจจุบันดำ�เนินการตอก เสาเข็มทีม่ คี วามคืบหน้าไปแล้วกว่า 90% และกำ�ลัง ดำ�เนินการหาผูร้ บั เหมาประมูลงานก่อสร้าง คาดว่า จะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการปลายปี 2560 รองรับ ตลาดประชุมและสัมมนา หรือตลาดไมซ์ (MICE) โดยเฉพาะ CONVENTION CENTER & HOTEL KHON KAEN มีการจัดระบบสาธารณูปโภคเพื่อ อำ�นวยความสะดวกพร้อมระบบผังการจราจรที่ ออกแบบให้เชื่อมต่อทั้งเส้นทางสายหลัก เส้นทาง สายรอง และเส้นทางสัญจรภายในโครงการที่มี ความเป็นสากล นายอภิ ช าต กล่ า วต่ อ ว่ า สถานการณ์ เศรษฐกิ จ ขณะนี้ ยั ง ไม่ ฟื้ น ตั ว เป็ น โอกาสดี ต่ อ การลงทุนของ ซี.พี.แลนด์ สามารถจะซื้อที่ดิน ในราคาที่ไม่ต้องแข่งขันสูง ขณะนี้ที่ดินบริษัท สามารถพัฒนาโครงการต่างๆ ได้อีก 2-3 ปี โดย ไม่ต้องซื้อใหม่ ปัจจุบันซี.พี.แลนด์ สร้างและขาย คอนโดมิเนียมไปแล้วประมาณ 6,500 หน่วย มูลค่า กว่า 1 หมื่นล้านบาท จำ�นวนนี้ขายได้แล้ว 80% ถึง แม้ตลาดอสังหาริมทรัพย์จะได้รับผลกระทบ แต่ ความต้องการบ้านก็ยงั มีอยู่ แต่การพัฒนาโครงการ ใหม่จากนี้ไปจะเพิ่มความระมัดระวังขึ้น

หมู่บ้านรวยสุข 428/17 ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น

ออกแบบ/ผลิต

ป้ายไวนิล ป้ายโฆษณา ธงญี่ปุ่น สติ๊กเกอร์ นามบัตร

ใบปลิว การ์ด แผ่นพับ โปสเตอร์ สื่อสิ่งพิมพ์ทุกชนิด ติดต่อ ยิ้ม 0834170363 E-mail : smile7738@gmail.com

ดีแทคมอบ “ยิง่ อยูน่ านยิง่ รักกัน” แทนคำ�ขอบคุณ ดี แ ท ค ม อ บ แ ค ม เ ป ญ “ ยิ่ ง อ ยู่ น า น ยิ่ ง รั ก กั น ” รั บ ปี ใ หม่ แ ทนคำ � ขอบคุ ณ เพี ย งนำ � อายุ ก ารใช้ งานมาเป็ น ส่ ว นลดค่ า เครื่ อ ง เพิ่ ม สู ง สุ ด 2,500 บาท รวม รั บ ส่ ว นลดสมาร์ ท โฟน 4G/ 3G สูงสุดถึง 11,600บาท นางสาวปริศนา รัตน สุวรรณศรี ผู้อำ�นวยการอาวุโส สายงานการตลาดธุรกิจโพสต์เพด บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำ�กัด (มหาชน) หรือ ดีแทค ต้อนรับปี 2559 มอบของขวัญแทนความรักให้ลูกค้าผ่านโปรโมชั่นที่มัดใจลูกค้าดีแทคมาตลอดหลาย ปีกับแคมเปญ “ยิ่งอยู่นานยิ่งรักกัน” เพื่อขอบคุณลูกค้าสำ�หรับทุกความมั่นใจที่มีให้กัน และตอบโจทย์ ความต้องการใช้งานสมาร์ทโฟน 4G เพื่อให้สอดคล้องกับเครือข่าย 4G ที่ขยายอย่างต่อเนื่องคลอบคลุม ทั่วประเทศภายในกลางปีนี้ จากความสำ�เร็จของแคมเปญ “ยิ่งอยู่นานยิ่งรักกัน” ในปี 2557 ที่ได้รับการ ตอบรับอย่างล้นหลาม โดยมีลูกค้ากว่า 200,000 รายนำ�อายุการใช้งานมาเป็นส่วนลดค่าเครื่อง รวมมูลค่า แคมเปญทั้งหมดกว่า 300 ล้านบาท แคมเปญ “ยิ่ ง อยู่ น านยิ่ ง รั ก กั น ” ในปี นี้ ให้ ลู ก ค้ า ดี แ ทคและแฮปปี้ นำ � อายุ ก ารใช้ ง านมา แลกเป็นส่วนลดค่าเครื่อง โดยอายุการใช้งาน 1 เดือนเท่ากับ 10 บาท และลดสูงสุด 2,500 บาท ในปี นี้ ดี แ ทคเพิ่ ม ความพิ เ ศษด้ ว ยการมอบสิ ท ธิ์ นี้ ใ ห้ กั บ ลู ก ค้ า ดี แ ทคและแฮปปี้ ที่ เ คยใช้ บ ริ ก าร ดี แ ทค เพี ย งย้ า ยค่ า ยเบอร์ เ ดิ ม กลั บ มาเป็ น ดี แ ทครายเดื อ น ได้ รั บ ส่ ว นลดค่ า เครื่ อ งสู ง สุ ด 2,500 บาท จากปกติ ลู ก ค้ า ย้ า ยค่ า ยทั่ ว ไปรั บ เพี ย ง 1,500 บาท โดยมี ส มาร์ ท โฟนแบรนด์ ชั้ น นำ � ของ โลกหลากหลายรุ่ น พร้ อ มให้ บ ริ ก าร ได้ แ ก่ iPhone6, Samsung, OPPO, Asus รวมไปถึ ง dtac p h o n e แ ล ะ เ ต รี ย ม พ บ กั บ ส ม า ร์ โ ฟ น 4 G รุ่ น ใ ห ม่ ล่ า สุ ด จ า ก S o n y แ ล ะ Z e n f o n e 2 Max จาก Asus ที่จะเข้ามาเร็วๆนี้ ความพิเศษของแคมเปญนี้ ลูกค้าสามารถนำ�ส่วนลดจากอายุการใช้งานมาใช้เป็นส่วนลดเพิม่ จาก ทุกโปรโมชัน่ มือถือสุดคุม้ ต่างๆ ไม่วา่ จะเป็นราคาพิเศษเมือ่ ชำ�ระค่าบริการล่วงหน้า ผ่อนจ่ายสบาย 0% นาน สูงสุด 24 เดือน หรือเลือกซื้อราคาพร้อมแพ็กเกจ หรือราคาเครื่องเปล่า โดยมีระยะเวลาสัญญา 12 เดือน สำ�หรับลูกค้าแฮปปี้ เพียงเติมเงิน 200บาท เพื่อใช้สิทธิ์ส่วนลดค่าเครื่อง พิเศษกับโปรโมชั่นร่วมแคมเปญ รับส่วนลดสมาร์ทโฟน 4G/3G สูงสุดถึง 11,600 บาท เมื่อสมัครแพ็กเกจและชำ�ระล่วงหน้า พร้อมรับ ส่วนลดยิ่งอยู่นาน ยิ่งรักกันสูงสุด 2,500 บาท ลูกค้าสามารถใช้สทิ ธิไ์ ด้ทศี่ นู ย์บริการดีแทคทุกสาขา ดีแทค ออนไลน์ สโตร์ และร้านมือถือทีร่ ว่ ม รายการทัว่ ประเทศ พบกับโปรโมชัน่ “ยิง่ อยูน่ านยิง่ รักกัน” ได้ตงั้ แต่วนั นี้ ถึง วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2559 นอ กจากนี้ลูกค้าสามารถตรวจสอบส่วนลดได้โดยกด *234# (ฟรี) เพิ่มเติม www.dtac.co.th ก ร ะ ชั บ ค ว า ม สั ม พั น ธ์ ด้ า น ก า ร ศึ ก ษ า ; นายจุ ล นพ ทองโสภิ ต รองนายกเทศมนตรี น คร ขอนแก่น พร้อมด้วย นาย ชั ช วาล พรอมรธรรม รองนายกเทศมนตรี น คร ขอนแก่ น และหั ว หน้ า หน่ ว ยงาน ร่ ว มให้ ก าร ต้ อ น รั บ แ ล ะ แ ล ก เปลี่ ย นความสั ม พั น ธ์ กั บ MR.KOUEMON ISHIZUKA (Mayor of Miauho Town) และคณะผูบ้ ริหารเมืองมิซโิ ฮะ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2559 ณ ห้องประชุมสีโห เทศบาลนครขอนแก่น

ได้ ต่ อ เนื่ อ งอย่ า งเต็ ม ประสิทธิภาพ ให้ลกู ค้า ที่ ใ ช้ เ ครื่ อ ง 2G ทั่ ว ประเทศ มาแลกเครื่อง เป็น 3G และ 4G ได้ ฟ รี ทุ ก ค น โ ด ย ผ่ า น ก า ร จ อ ง ที่ หมายเลข 90099 ตั้งแต่ วันนีเ้ ป็นต้นไป จากนัน้ รอรับ SMSตอบกลับ เพื่อแจ้งวันและสถาน ที่ ใ นการรั บ เครื่ อ งอี ก อบต. และเทศบาลทั่วประเทศสำ�หรับลูกค้าที่อยู่ ครั้ง” นายปรัธนา กล่าวและว่า โดยนอกจากจะรั บ เครื่ อ งได้ ที่ เ อไอเอส ในพื้นที่ห่างไกลอีกด้วย สอบถามรายละเอียดเพิ่ม ช็อป ,ร้านเทเลวิซ และร้านเอไอเอส บัดดี้ ทุกสาขา เติมได้ที่ เอไอเอส คอลล์ เซ็นเตอร์ 1175 แล้ว เอไอเอสยังได้เพิ่มช่องทางในการรับเครื่องที่


หน้า 3

ปีที่ 13 ฉบับที่ 140 139 ประจำ�เดือนมกราคม นธันวาคม 2559 2558

7 วันยังอันตราย เหมือนเดิม

แม้จะเพิ่งผ่านพ้นปีใหม่ไป 10 กว่าวัน แต่ หลายหน่วยงานยังอยู่ในบรรยากาศของการเฉลิม ฉลองขึ้นศักราชใหม่กัน เพราะในห้วงวันเทศกาล บางคนไม่ มี โ อกาสได้ ไ ปสนุ ก สนาน ดื่ ม ฉลอง ทีไ่ หน เนือ่ งจากต้องปฏิบตั หิ น้าทีด่ แู ลทุกข์สขุ ของ พี่น้องในห้วงวันดังกล่าว จากการรณรงค์เมาไม่ขับต่อเนื่องมาทั้งปี รวมทัง้ ปีนมี้ กี ารใช้ยาแรง ออกมาตรการยึดรถ จาก ผูท้ เี่ มาสุรา ตามคำ�สัง่ คสช. ส่งผลให้ 7 วันอันตราย เกิดอุบัติเหตุรวม 3,379 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 380 ราย ผู้บาดเจ็บ 3,505 คน จังหวัดทีไ่ ม่มผี เู้ สียชีวติ หรือตายเป็นศูนย์มี 4 จังหวัด คือ ตรัง แพร่ ระนอง และสุโขทัย ส่วน จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด คือ เชียงใหม่ 139 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุดคือ นครราชสีมา 15 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสม สูงสุด คือ เชียงใหม่ 140 คน ส่วนที่จังหวัดขอนแก่น ตลอด 7 วัน ใน ห้วงเทศกาลปีใหม่ 2559 ได้เกิดอุบัติเหตุ 32 ครั้ง บาดเจ็บ 30 ราย เสียชีวิต 6 ราย ยึดรถตามมาตรา 44 จำ�นวน 323 ราย เมือ่ เทียบสถิตกิ บั ปีทแี่ ล้ว ยอด อุบัติเหตุ บาดเจ็บ และตายเพิ่มขึ้น โดยในปี 2558 ได้เกิดอุบตั เิ หตุ 20 ครัง้ บาดเจ็บ 9 ราย และเสียชีวติ 4 ราย ซึ่ ง สาเหตุ ห ลั ก เกิ ด จากการเมาแล้ ว ขั บ และขับรถเร็ว โดยผู้ใช้รถจักรยานยนต์เป็นกลุ่มที่ มีอัตราการเสียชีวิตสูงถึง ร้อยละ 68.82 และส่วน

ใหญ่เป็นคนในพื้นที่กว่าร้อยละ 57 โดยเฉพาะเมา แล้วขับ พบว่ามากกว่าปีที่แล้วเกือบสามเท่า ทั้งที่ ทุกจังหวัดใช้นโยบายของ คสช.ยึดรถ แต่ก็ยังมีผู้ ฝ่าฝืนเป็นจำ�นวนมาก คนที่น่าเห็นใจมากที่สุด ก็คือบรรดาเจ้า หน้าที่ทั้งภาครัฐและเอกชน จากหลายหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งเจ้าหน้าที่มูลนิธิต่างๆ ที่ต้อง อดหลับอดนอน คอยอำ�นวยความสะดวกให้กบั พี่ น้องประชาชนทีเ่ ดินทางกลับบ้าน และดูแลความ ปลอดภัย ไม่ให้เกิดอุบตั เิ หตุ ในจุดเสีย่ งต่างๆ และ บางส่วนยังต้องดูแลเรื่องความมั่นคงอีกด้วย เพื่อ ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุร้ายต่างๆ ที่คาดไม่ถึง ถึงเวลาแล้วหรือยัง ที่ทุกภาคส่วนต้องมี ส่วนร่วมในการรณรงค์สร้างจิตสำ�นึกและวินัย จราจร รวมทั้งความตระหนักด้านความปลอดภัย ทางถนนให้แก่ผใู้ ช้รถใช้ถนน ตลอดจนการบังคับ ใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดจริงจังและต่อเนื่อง เพื่อ ลดปัจจัยเสีย่ งการเกิดอุบตั เิ หตุในช่วงเทศกาลอย่าง จริงจังและเป็นรูปธรรมให้มากยิ่งขึ้น อุบตั เิ หตุไม่ใช่เรือ่ งของดวงหรือโชคชะตา แต่เป็นเรือ่ งทีเ่ กิดขึน้ ได้เสมอกับทุกคน แต่หากทุก คนขับรถอย่างมีวินัย ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่าง เคร่งครัด ระมัดระวัง คำ�นึงถึงความปลอดภัย ไม่ ประมาทและมีนํ​ํ้าใจต่อผู้ร่วมใช้รถใช้ถนน เพียง เท่านีก้ ส็ ามารถช่วยลดและป้องกันอุบตั เิ หตุได้แล้ว ล่ะครับ

TCDC จับมือ ม.ขอนแก่น ผุ ด ศู น ย์ ส ร้ า งสรรค์ ฯ แ ห่ ง แ ร ก ใ น อี ส า น

TCDC เดินหน้าจับมือ ม.ขอนแก่น เปิดศูนย์สร้างสรรค์ งานออกแบบครบวงจรแห่งแรก ในภาคอีสาน เพื่อจุดประกาย ความคิดสร้างสรรค์ในภูมิภาค เป็นแหล่งเรียนรู้และบ่มเพาะ ความคิดสร้างสรรค์เพื่อพัฒนา ศักยภาพของจังหวัดขอนแก่น และจังหวัดใกล้เคียง อันจะนำ� ไปสู่ ก ารสร้ า งเอกลั ก ษณ์ แ ละ ความแตกต่างให้กับสินค้า มีความแข็งแกร่งในเชิง ธุรกิจ และนำ�ไปสู่ระบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์ให้ แข่งขันได้ในตลาดโลก เมื่ อ วั น ที่ 11 ม.ค.2559 ที่ ห้ อ งประชุ ม สารสิน อาคารสิริคุณากร มหาวิทยาลัยขอนแก่น พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี และ ดร.ณรงค์ชัย อัครเศรณี นายกสภามหาวิทยาลัย ขอนแก่น ร่วมเป็นประธานในพิธีลงนามบันทึก ข้ อ ตกลงในโครงการจั ด ตั้ ง ศู น ย์ ส ร้ า งสรรค์ ง าน ออกแบบ ขอนแก่น ระหว่างมหาวิทยาลัยขอนแก่น กับ ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ หรือ Thailand Creative & Design Center (TCDC) ตามนโยบาย ของรัฐบาลในการขยายการให้บริการของรัฐบาล ไปในระดับภูมิภาคในสัดส่วนที่เพิ่มมากขึ้น โดยมี คณะผูบ้ ริหารระดับสูงของจังหวัดและมหาวิทยาลัย ขอนแก่น ร่วมเป็นสักขีพยานจำ�นวนมาก พล.อ.อ.ประจิ น จั่ น ตอง รองนายก รั ฐ มนตรี กล่ า วว่ า รั ฐ บาลยั ง คงเดิ น หน้ า ผลั ก ดั น ให้ เ กิ ด การหลอมรวมการทำ � งานร่ ว มกั น ระหว่างหน่วยงานภาคการศึกษา ภาคการวิจัย และภาคธุรกิจให้สำ�เร็จเป็นรูปธรรม ซึ่งศูนย์การ สร้างสรรค์งานออกแบบ เป็นหนึ่งในหน่วยงาน ที่สำ�นักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ ที่เป็น หน่วยงานผลิตและส่งเสริมงานวิจัย ซึ่งรัฐบาล ต้องการที่จะขยายแหล่งเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ ลง ลึกไปในระดับภูมิภาคให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้ง ยังเชือ่ มโยงกับภาคธุรกิจ SMEs ผ่านสำ�นักงานส่ง เสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เพื่อให้เกิดการยกระดับการผลิตด้วยองค์ความรู้ สมัยใหม่แก่ผู้ประกอบการ จนสามารถเกิดความ แข็งแกร่งทางธุรกิจได้อย่างแท้จริง เป็นการเพิม่ ขีด ความสามารถในการแข่งขันของคนไทยต่อเวทีใน ระดับสากล เพราะแนวคิดริเริม่ สร้างสรรค์ของคน ไทยนั้นไม่แพ้ชาติใดในโลก ซึ่ ง แผนการจั ด ตั้ ง ศู น ย์ ส ร้ า งสรรค์ ง าน ออกแบบที่ขอนแก่น จะเป็นการให้บริการของ รัฐอีกรูปแบบหนึ่งในระดับภูมิภาคที่ประชาชน สามารถขอรับการบริการที่ไม่ต้องเดินทางไปถึง ส่วนกลาง เพราะศูนย์ฯแห่งนี้จะเป็นการขยาย โอกาสการเรียนรู้และความคิดสร้างสรรค์มาใน ระดับภูมิภาคอย่างครบถ้วนและสมบูรณ์แบบ ที่สุด ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ที่ สร้างสรรค์ ทั้งยังคงเป็นแหล่งพบปะของเยาวชน

เป็ น แหล่ ง เชื่ อ มโยงทางธุ ร กิ จ และเป็ น สถานที่ สำ � หรั บ การแสดงผลงานและเวที ส ร้ า งสรรค์ สำ�หรับเยาวชน นักเรียน นักศึกษาและผู้ประกอบ การในระดับท้องถิ่น “ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบขอนแก่น เป็นการดำ�เนินงานตามนโยบายของรัฐบาลต่อเนือ่ ง เป็นแห่งที่ 3 ต่อจาก กรุงเทพฯ และเชียงใหม่ ทีเ่ ป็น การตอกยํ​ํ้าการให้บริการของรัฐบาลที่ครอบคลุม ในทุกสาขาอาชีพ ด้วยแนวคิดของการสร้างเมือง ที่เกิดขึ้นจากรากฐาน วัฒนธรรม ประเพณีที่เก่าแก่ และงดงาม โดยทีค่ นในชุมชนท้องถิน่ และในระดับ ภูมิภาคที่มีทักษะฝีมือ ที่สร้างสินค้าที่หลากหลาย มาร่วมกันต่อยอดองค์ความรู้ ซึ่งศูนย์ฯแห่งนี้จะ ให้บริการทั้งในเรื่องของการออกแบบ การพัฒนา บรรจุภณั ฑ์ การสร้างแบรนด์หรือผลิตภัณฑ์สนิ ค้า ของภาคอีสานให้สามารถเดินหน้าสูก่ ารแข่งขันใน ตลาดการค้าในระดับชาติและนานาชาติที่เพิ่มมาก ยิ่งขึ้น” รองนายกรัฐมนตรี กล่าวและว่า ภาคอีสานของไทย มีผู้ประกอบการ SME มากกว่า 670,000 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 25.7 ของ SME ทั้งประเทศ มีผู้ประกอบการ OTOP รวมกว่า 16,000 ราย และมีผลิตภัณฑ์ชุมชนท้องถิ่นหรือ OTOP ถึง 28,000 รายการ ซึ่งการพัฒนาเศรษฐกิจ สร้างสรรค์ เป็นหนึง่ ในแนวทางการพัฒนาฐานราก ของเศรษฐกิจและธุรกิจในระดับภูมิภาค การจัด ตั้งศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ ที่มหาวิทยาลัย ขอนแก่น จะเป็นทุนและเครือ่ งมือให้กบั ผูป้ ระกอบ การในภาคอีสาน ที่จะสามารถสร้างคุณภาพของ สินค้า และงานบริการ ได้อย่างครบวงจรที่สุด พล.อ.อ.ประจิน กล่าวต่ออีกว่า โครงการ TCDC สาขาขอนแก่นนี้ จึงเกิดขึ้น เพื่อมุ่งหวัง ให้เกิดการขยายโอกาสทางการเรียนรู้และความ คิดสร้างสรรค์สู่ภูมิภาค และเป็นแหล่งแสดงผล งานและเวทีสร้างสรรค์ สำ�หรับเยาวชน นักเรียน นักศึกษาและผูป้ ระกอบการท้องถิน่ เพือ่ สร้างเมือง ที่เกิดขึ้นจากรากฐาน วัฒนธรรม ประเพณีที่เก่าแก่ และงดงาม พรั่งพร้อมด้วยแรงงานที่มีทักษะฝีมือ ที่สร้างสินค้าที่หลากหลาย หากเราสามารถต่อย อดด้วยองค์ความรู้ใหม่ๆ เช่น การออกแบบ การ พัฒนาบรรจุภัณฑ์ การสร้างBranding ย่อมทำ�ให้ สินค้าและบริการของภาคอีสาน เดินหน้าสู่การ แข่งขันได้อย่างแข็งแกร่ง ดร.ณรงค์ ชั ย อั ค รเศรณี นายกสภา มหาวิ ท ยาลั ย ขอนแก่ น กล่ า วถึ ง ทิ ศ ทางในการ

พัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ และทุนวัฒนธรรมของ ภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือว่า พื้นฐานสำ�คัญของ ภาคอีสาน เป็นแหล่งแรงงานฝีมอื และเป็นรากฐาน ของการพัฒนาต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ในสาขา ต่างๆเช่น ภาพยนตร์ โฆษณา รายการบันเทิง เพลง ลูกทุ่ง อาหาร แฟชั่น ฯลฯ สถิติของภาคอีสาน มี จำ�นวนผู้ประกอบการ SMEs มากกว่า 670,000 ราย คิดเป็นร้อยละ 25.7 ของ SMEs ทั้งประเทศ มี จำ�นวนผูป้ ระกอบการ OTOP กว่า 16,000 ราย และ มีสินค้า OTOP จำ�นวนกว่า 28,000 รายการ และใน ด้านการสัง่ สมความรูท้ เี่ ป็นภูมปิ ญั ญาเดิมนัน้ มีศนู ย์ การเรียนรูช้ มุ ชนภาคอีสานถึง 1,392 แห่ง มีปราชญ์ ชาวบ้านในสาขาต่างๆ 79 คนแต่ในการพัฒนา ประเทศ เพื่อให้เราสามารถแข่งขันได้ในปัจจุบัน และอนาคต จำ�เป็นต้องใช้ความรู้ เทคโนโลยี และ นวัตกรรม สามารถพิสูจน์ได้ในเชิงวิทยาศาสตร์ รวมทั้งความคิดสร้างสรรค์ เพื่อให้เกิดการสร้าง ผลผลิตทีม่ มี าตรฐานทีย่ อมรับได้ในระดับสากล เกิด

ความแตกต่างและคุณค่าพิเศษ สิ่งเหล่านี้ เมื่อผสม ผสานกันแล้ว ได้กลายเป็นระบบคิดที่เป็นกลไกใน การขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้อย่างแท้จริง ดร.ณรงค์ชัย กล่าวต่ออีกว่า ปัจจุบันการ พัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ได้รับการบรรจุอยู่ใน แผนพัฒนาฯฉบับที่ 11 และ มีความจำ�เป็นอย่างยิ่ง ที่ต้องได้รับการบรรจุอยู่ในแผนพัฒนาฯฉบับ 12 ที่ กำ�ลังจะเกิดขึน้ ความสำ�คัญของเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ในประเทศไทย เมือ่ เราพิจารณาทีม่ ลู ค่าทางเศรษฐกิจ จะพบว่า ในปี 2557 มีมูลค่าสูงถึง 1.6 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 13.18% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมใน ประเทศ (GDP) ซึ่งมีมูลค่ารวม 12.14 ล้านล้านบาท ทั้งนี้ อุตสาหกรรมสร้างสรรค์รายสาขาที่มีมูลค่าสูง เป็น 3 อันดับแรก คือ 1) อุตสาหกรรมแฟชัน่ คิดเป็น ร้อยละ 4.15 ของ GDP 2) อุตสาหกรรมการออกแบบ คิดเป็นร้อยละ 3.03 ของ GDP และ 3) อุตสาหกรรม แพร่ภาพกระจายเสียง คิดเป็นร้อยละ 1.64 ของ GDP “ดังนั้นหากเราต้องการพัฒนาเครื่องยนต์

ใหม่ ทีจ่ ะจุดติดพลังทางเศรษฐกิจของประเทศ นัน่ คือ ความคิดสร้างสรรค์ เราจำ�เป็นต้องลงทุนในโครงสร้าง พื้นฐานใหม่ด้วย ในส่วนนี้ “ความคิดสร้างสรรค์” ไม่ สามารถดำ�รงอยู่ได้ หากขาดความรู้ เพื่อให้ความคิด และไอเดียใหม่ๆ นั้น ไม่ใช่สิ่งเพ้อฝัน แต่แปรเปลี่ยน เป็นผลิตภัณฑ์ทมี่ คี ณุ ค่า และขายได้จริง มหาวิทยาลัย ขอนแก่ น และ TCDC จึ ง ได้ ร่ ว มกั น ลงทุ น และ เป็น Partner ร่วมกัน เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ทางปัญญา หรือระบบสาธารณูปโภค ทางความคิด สร้างสรรค์ให้กับ จังหวัดขอนแก่นและภาคอีสาน และวันนีเ้ ป็นเพียงจุดเริม่ ต้น ไปสูก่ ารเปิดให้บริการแก่ ประชาชนในปีหน้า เราหวังว่านี่จะเป็นโอกาสใหม่ๆ ให้ชาวขอนแก่น ชาวอีสาน ได้ใช้ TCDC ขอนแก่น เป็นทุน หรือ เครื่องมือ ในการสร้างคุณภาพของ สินค้า และบริการ และที่สำ�คัญคือ การต่อยอดความ รู้เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของตัวเองและลูกหลานเรา ในอนาคต” ดร.ณรงค์ชัย กล่าวในที่สุด ทัง้ นีจ้ งั หวัดขอนแก่นมีความเหมาะสมใน

การจัดตั้งศูนย์ TCDC เพราะรัฐบาลได้เล็งเห็น ในศักยภาพ และทำ�เลที่ตั้งที่เป็นศูนย์กลางใน ภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อยู่ในแนวระเบียง เศรษฐกิจตะวันตก-ตะวันออก (EWEC) และ เป็ น จุ ด เชื่ อ มต่ อ เมื อ งศู น ย์ ก ลางเศรษฐกิ จ ใน ระเบียงเศรษฐกิจอนุภูมิภาคลุ่มแม่นํ​ํ้าโขง (GMS Economic Corridors) ตลอดจนเป็นพื้นที่ที่จะ ได้รับการพัฒนาตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนา โครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของ ไทย ปี 2558-2565 เพื่อรองรับรถไฟความเร็วสูง และรถไฟรางคู่ มีการคมนาคมสะดวกทั้งทาง รถยนต์ รถไฟ เครื่องบิน โดยศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ สาขา ขอนแก่น จะตัง้ ขึน้ ภายในพืน้ ทีข่ องมหาวิทยาลัย ขอนแก่ น บริ เ วณริ ม ถนนกั ล ปพฤกษ์ และมี กำ�หนดแล้วเสร็จ พร้อมเปิดบริการในปี 2560

สุพัตรา ศุขโข...รายงาน


หน้า 4

ปีที่ 13 ฉบับที่ 140 ประจำ�เดือนมกราคม 2559

สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น

ต้อนรับคณะ วปอ. ; มร.แสตนลี่ย์ ชาน ผู้จัดการใหญ่โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด ให้การต้อนรับ พลโท ไชยอนันต์ จันทคณานุรักษ์ (ที่3 จากขวา) ผูอ้ �ำ นวยการวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร พร้อมทัง้ คณาจารย์และ นักศึกษา วปอ.รุน่ 58 เนือ่ งในโอกาสทีค่ ณะเข้าพักและจัดประชุม ณ โรงแรม พูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด เมื่อวันก่อน

สวัสดีปีใหม่ ๒๕๕๙ ; สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น และคณะผู้บริหารหนังสือพิมพ์ไทยเสรี ขอขอบพระคุณหน่วยงาน องค์กร และผู้มีพระคุณทุกท่าน ที่ได้มอบกระเช้าอวยพร เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ ๒๕๕๙ กราบขอบพระคุณอย่างสูงครับ

มอบผ้าห่มพระราชทาน บรรเทาความเดือดร้อน ; นายกำ�ธร ถาวรสถิตย์ ผู้ ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ในฐานะประธานมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ประจำ�จังหวัดขอนแก่น นำ�ผ้าห่มกันหนาวของมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ไปมอบให้ราษฎรที่ประสบภัยหนาวในอำ�เภอสีชมพู และอำ�เภอภูผาม่าน จังหวัดขอนแก่น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากสภาพ อากาศที่หนาวเย็น

คัดเลือกสื่อวิทยุกระจายเสียงดีเด่น ปี 2558 ; พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายก สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานประชุมคณะกรรมการคัด เลือกสื่อมวลชนดีเด่น สาขาวิทยุกระจายเสียง ปี 2558 เพื่อกำ�หนดกรอบ และให้แนวทางในการดำ�เนินการคัดเลือก เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2559 ที่ห้อง ประชุมสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น

มอบรางวัลสลากกาชาดงานไหม ; นายกำ�ธร ถาวรสถิตย์ ผวจ.ขอนแก่น พร้อมด้วยนางพิมพ์วมิ ล ถาวรสถิตย์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดขอนแก่น และ คณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดขอนแก่น ร่วมมอบรางวัลและแสดงความ ยินดีกับผู้ที่ถูกรางวัลสลากกาชาดสมนาคุณ ประจำ�ปี 2558 ในงานเทศกาล ไหมนานาชาติ ประเพณีผูกเสี่ยวและงานกาชาดจังหวัดขอนแก่น

ถวายดอกไม้จนั ทน์ ; นายกำ�ธร ถาวรสถิตย์ ผูว้ า่ ราชการจังหวัดขอนแก่น เป็น ประธานในพิธบี �ำ เพ็ญกุศลพระศพสมเด็จพระญานสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก เนื่องในพิธีถวายดอกไม้จันทน์ ในส่วนภูมิภาค ณ วัด ป่าแสดงอรุณ พระอารามหลวง ต.พระลับ อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น

ไก่ยา่ งและของดีเขาสวนกวาง ; นายศิวาโรจน์ มุง่ หมายผล รอง ผวจ.ขอนแก่น เป็นประธานเปิดงานเทศกาลไก่ย่างเขาสวนกวางและของดีอำ�เภอเขาสวน กวาง ประจำ�ปี 2559 ระหว่างวันที่ 8 - 10 มกราคม 2559พร้อมมอบรางวัลผู้ ชนะเลิศร้านไก่ยา่ งอร่อยและผูส้ นับสนุนการจัดงาน เมือ่ วันที่ 8 ม.ค.2559 ณ บริเวณสนามหน้าที่ว่าการอำ�เภอเขาสวนกวาง

แลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรม ; นายกำ�ธร ถาวรสถิตย์ ผวจ.ขอนแก่น ให้การ ต้อนรับ Mr.Kouemon Ishizuka นายกเทศมนตรี และคณะผู้บริหารเมือง มิซิโฮะ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ในโอกาสเดินทางศึกษาดูงานจังหวัด ขอนแก่นและเทศบาลนครขอนแก่น เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ศิลปวัฒนธรรม และดูการผลิตผ้าไหมอำ�เภอชนบท ณ ห้องรับรองพงษ์พานิช ศาลากลาง จังหวัดขอนแก่น

ปัญหาเศรษฐกิจไทย ; นายณัฏฐชัย อักษรดิษฐ ที่ปรึกษารุ่น บสส.6 ให้การ ต้อนรับ ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำ�สำ�นักนายกรัฐมนตรี และอดี ต สมาชิ ก สภาปฏิ รู ป แห่ ง ชาติ ในโอกาสบรรยายหั ว ข้ อ “ปั ญ หา เศรษฐกิจไทย : ความเหลื่อมลํ​ํ้าในสังคม” จัดโดยสถาบันอิศรา มูลนิธิพัฒนา สือ่ มวลชนแห่งประเทศไทย โดยมี สมาชิกรุน่ ร่วมต้อนรับ เมือ่ วันที่ 9 มกราคม ณ อาคารสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย

ปัญหาการทุจริตคอรัปชั่น ; นายประสงค์ เลิศรัตนวิสุทธิ์ ผู้อำ�นวยการ บริการ สถาบันอิศรา พร้อมด้วย นายวิโรจน์ พิพัฒน์ไชยศิริ รองประธาน รุ่น บสส.6 ให้การต้อนรับ นายบรรยง พงษ์พานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารเกียรตินาคิน จำ�กัด (มหาชน) และกรรมการนโยบายและกำ�กับดูแล รัฐวิสาหกิจ ในโอกาสบรรยายหัวข้อ “ปัญหาการทุจริตคอรัปชัน่ : ผลกระทบ ต่อโครงสร้างเศรษฐกิจไทย” จัดโดยสถาบันอิศรา มูลนิธิพัฒนาสื่อมวลชน แห่งประเทศไทย โดยมีสมาชิกรุน่ ร่วมต้อนรับ เมือ่ วันที่ 9 มกราคม ณ อาคาร สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย

เริ่มแล้ว “กัลปพฤกษ์เกมส์” ; นายกำ�ธร ถาวรสถิตย์ ผวจ.ขอนแก่น เป็น ประธานพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาสาธิตสามัคคี ครั้งที่ 40 “กัลปพฤกษ์เกมส์” ระหว่างวันที่ 7-13 มกราคม 2559 มีโรงเรียนสาธิตจาก 21 สถาบัน ส่งนักกีฬา 6,500 คน เข้าชิง 1,270 เหรียญทอง จากการแข่งขัน 16 ชนิดกีฬา และ 1 ชนิดกีฬาสาธิต เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2559 ณ สนามกีฬากลาง มหาวิทยาลัย ขอนแก่น

ขอแสดงความยินดีกับบัณฑิตและมหาบัณฑิต ; ศ.ดร.นพ.กระแส ชนะวงศ์ ผู้รับใบอนุญาต วิทยาลัยบัณฑิตเอเซีย เป็นประธานในพิธีประสาทปริญญาบัตร ให้กับบัณฑิตและมหาบัณฑิต รุ่นที่ 12 โดยมี ผศ.ดร.กษม ชนะวงศ์ อธิการบดีวิทยาลัยบัณฑิตเอเซีย พร้อมคณาจารย์ ร่วมแสดงความยินดี ณ วิทยาลัยบัณฑิต เอเซีย เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2558

แข่งวิ่ง 31 ขา สามัคคี ; นายกำ�ธร ถาวรสถิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธาน เปิดการแข่งขัน “สพฐ.- เอ.พี. ฮอนด้า วิ่ง 31 ขา สามัคคี” ปี ที่ 11 รอบชิงชนะเลิศภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อเป็นตัวแทนเข้าไปชิง แชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่กรุงเทพมหานครกับอีก 4 ภูมิภาค จัดการแข่งขันโดย สำ�นักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ร่วมกับ บริษัทผู้จัดจำ�หน่าย รถจักรยานยนต์ในประเทศไทย ณ สนามกีฬากลางจังหวัดขอนแก่น เมื่อวัน ที่ 19 ธันวาคม 2558

ขอบพระคุณท่านที่ปรึกษา ; พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น พร้อมคณะกรรมการบริหารสมาคมสื่อมวลชนฯ มอบกระเช้า เพื่อขอบพระคุณท่านที่ปรึกษา สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ พร้อมแลกเปลี่ยนข้อคิด เพื่อร่วมกันสร้างสรรค์สังคมเมือง ขอนแก่น และสาธารณะประโยชน์ส่วนรวม เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2558

ร่วมแสดงความยินดี ; มร.แสตนลี่ย์ ชาน ผู้จัดการใหญ่โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด ร่วมแสดงความยินดีกับ Mr.Zhang Lei CEO & Country Head Bank of China ในโอกาสที่ธนาคารแห่งประเทศจีน (ไทย) จำ�กัด มหาชน เปิดสาขาขอนแก่นอย่างเป็นทางการ ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด

มอบเงินเพือ่ การกุศล ; คุณจันทร์ฉาย ล้อศิริ กรรมการบริหาร ห้างสรรพสินค้า เซ็นโทซ่า ร่วมกับเครื่องสำ�อาง Tellme มอบเงินจำ�นวน 30,000.-บาท ให้กับ คุณอุดม พันธสี รองผูอ้ �ำ นวยการฝ่ายบริหาร โรงพยาบาลชุมแพ เพือ่ ช่วยเหลือ ผูป้ ว่ ยทีด่ อ้ ยโอกาส และใช้ในสาธารณะประโยชน์ ณ ห้างสรรพสินค้า เซ็นโท ซ่า ถนนกลางเมือง อำ�เภอเมือง จังหวัดขอนแก่น เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2558

ตลาดประชารัฐเพื่อชุมชน ; นายศิวาโรจน์ มุ่งหมายผล รอง ผวจ.ขอนแก่น เป็นประธานเปิดโครงการ “ตลาดประชารัฐเพื่อชุมชน” ตามนโยบายการ ขับเคลื่อนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยมี นายธนู โตสัจจะ ผู้ อำ�นวยการ ธ.ก.ส.ขอนแก่น นำ�เยี่ยมชมผลิตภัณฑ์การเกษตรกรวิสาหกิจ ชุมชน ณ ตลาดกลางสินค้าการเกษตรขอนแก่น เยื้องโรงพยาบาลขอนแก่น ราม ระหว่างวันที่ 25-27 ธันวาคม 2558


หน้า 5

ปีที่ 13 ฉบับที่ 140 ประจำ�เดือนมกราคม 2559

รากฟันผุ รากฟัน เป็นส่วนประกอบหนึ่งของฟัน ที่สามารถผุได้ โดยปกติรากฟันจะเป็นส่วนที่ยึด ฟันให้ติดกับกระดูกขากรรไกร แต่จะผุได้ในบาง ท่านทีม่ เี หงือกร่นจากโรคเหงือกหรือโรคปริทนั ต์ ทีเ่ รียกว่าโรครำ�มะนาด พอมีเหงือกร่นรากฟันจะ มีส่วนเว้า/โค้งทำ�ให้ทำ�ความสะอาดยากและเกิด ฟันผุได้ โดยลักษณะการผุจะเกิดขึ้นเหมือนกับ บริเวณตัวฟัน แต่เนือ่ งจากรากฟันไม่มเี คลือบฟัน หุม้ เหมือนตัวฟันทำ�ให้เกิดการผุกร่อนได้งา่ ยกว่า ส่วนตัวฟัน สำ � หรั บ การรั ก ษานั้ น ขึ้ น อยู่ กั บ ความ รุนแรงของโรคนัน้ คือถ้ารอยผุยงั ไม่ทะลุประสาท

ฟันก็รักษาด้วยการอุดฟัน หรือถ้าผุจนทะลุโพรง ประสาทฟัน ก็ต้องทำ�การรักษารากฟัน โดยวัสดุ อุดฟันที่ใช้อุดรากฟันจะคล้ายกับวัสดุอุดฟันที่ มีสีเหมือนฟัน แต่เป็นชนิดที่ปลดปล่อยฟลูออ ไรด์ได้เพือ่ หวังผลป้องกันฟันผุซาํ​ํ้ หลังจากนัน้ ให้ ทำ�ความสะอาดโดยการแปรงซอกฟันให้สะอาด และใช้นํ​ํ้ายาบ้วนปากตามอย่างสมํ่าเสมอ “รากฟั น ผุ ต้ อ งเร่ ง แก้ ไ ข” สอบถาม รายละเอียดได้ที่ โรงพยาบาลทันตกรรม คณะ ทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น โทร. 0-4320-2405 ต่อ 45198 ในวันและเวลาราชการ

รางวัลแห่งปีของ คนอีสาน ปี 2558

ศู น ย์ วิ จั ย ธุ ร กิ จ และเศรษฐกิ จ อีสาน คณะวิทยาการ จั ด การ มข. หรื อ อี ส า น โ พ ล สำ � ร ว จ ความคิ ด เห็ น ของ ประชาชนในพื้ น ที่ ภาคอี ส านเกี่ ย วกั บ บุ ค คล องค์ ก ร และ ผลงานที่มีความโดด เด่นที่สุดในรอบปี ใน สาขาต่างๆ ระหว่างวันที่ 16-27 สิงหาคม และ 11-20 ธันวาคม 2558 จากกลุ่มตัวอย่าง 2,341 ราย กระจาย ตามสัดส่วน และโครงสร้างประชากรในเขตพื้นที่ ภาคอีสาน 20 จังหวัด โดยมีการสำ�รวจมาเป็นปีที่ 4 เพื่อเป็น “รางวัลแห่งปีของคนอีสาน” ผศ.ดร.สุ ทิ น เวี ย นวิ วั ฒ น์ ผู้ รั บ ผิ ด ชอบ โครงการ เปิดเผยว่า การสำ�รวจนี้ จะให้ชาวอีสาน เสนอชื่อ บุคคลหรือองค์กรหรือผลงานที่สมควรได้ รับรางวัลแห่งปีในสาขาต่างๆ 14 รางวัล (แบบไม่มี ตัวเลือกให้) ถึงแม้จะเป็นรางวัลประจำ�ปี 2558 แต่ ประชาชนมักจะเสนอชื่อบุคคลหรือองค์กรโดยใช้ ผลงานในปัจจุบนั และในอดีตประกอบการพิจารณา เสมอ ซึง่ จากการประมวลผล พบว่า คะแนนสูงสุด 3 อันดับแรก อาทิ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ร้อยละ 27.4 (ครึง่ ปีหลัง = 20.2 ) สาขานักการเมือง/ผูบ้ ริหาร ภาครัฐฝ่ายชายแห่งปี ส่วนนักการเมือง/ผูบ้ ริหารภาค รัฐฝ่ายหญิงแห่งปี นางสาวยิง่ ลักษณ์ ชินวัตร ร้อยละ 34.8 (ครึ่งปีหลัง = 39.4 ) นักเคลื่อนไหวเพื่อสังคม แห่งปี ได้แก่ นางปวีณา หงส์สกุล ร้อยละ 15.8 (ครึ่ง ปีหลัง = 11.9 )

สถานีโทรทัศน์แห่งปี ช่อง 3 ร้อยละ 42.7 (ครึง่ ปีหลัง = 44.0 ) หนังสือพิมพ์แห่งปี หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ ร้อยละ 51.0 (ครึง่ ปีหลัง = 53.1) ละครจอแก้ว แห่งปี เลือดมังกร ช่อง 3 ร้อยละ 5.7 (ครึ่งปีหลัง = 2.4) พระเอกแห่งปี เวียร์ ศุกลวัฒน์ ร้อยละ 13.7 (ครึง่ ปีหลัง = 13.7) นางเอกแห่งปี อั้ม พัชราภา ร้อยละ 12.0 (ครึง่ ปีหลัง = 13.2) นักร้องชายแห่งปี ไผ่ พงศธร ร้อยละ 14.6 (ครึ่งปีหลัง = 12.2) นักร้องหญิงแห่งปี ต่าย อรทัย ร้อยละ 13.7 (ครึ่งปีหลัง = 14.7) เพลงดัง แห่งปี ไสว่าสิบถ่ มิ่ กัน ร้อยละ 8.7 (ครึง่ ปีหลัง = 14.5) ผู้ประกาศข่าว/พิธีกรข่าวชายแห่งปี สรยุทธ สุทัศนะ จินดา ร้อยละ 44.2 (ครึ่งปีหลัง = 46.1) ผู้ประกาศ ข่าว/พิธกี รข่าวหญิงแห่งปี เปรมสุดา สันติวฒั นา ร้อย ละ 22.5 (ครึง่ ปีหลัง = 26.4) ผูป้ ระกาศข่าว/พิธกี รข่าว เศรษฐกิจแห่งปี บัญชา ชุมชัยเวทย์ ร้อยละ 8.5 (ครึ่ง ปีหลัง = 6.0) ผศ.ดร. สุทิน กล่าวต่อไปว่า จากข้อมูลของ กลุ่มตัวอย่าง ยังมีความเชื่อมั่นในการพยากรณ์ถึง 99% และคลาดเคลือ่ นได้บวกลบ 3% ซึง่ แต่ละรางวัล เป็นความนิยมที่ชาวอีสานมอบให้เป็นรางวัลแห่งปี

กิจกรรมวันเด็กโตโยต้าขอนแก่น ; เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2559 บริษัท โตโยต้าขอนแก่น ผู้จำ�หน่ายโตโยต้า จำ�กัด จัดกิจกรรมวันเด็ก ประจำ�ปี 2559 ภายในงานมีกิจกรรมต่างๆ มากมายให้ลูกค้าที่นำ�รถเข้ามาเช็ค ระยะภายในศูนย์บริการได้รว่ มสนุกกันทัง้ ครอบครัว ไม่วา่ จะเป็น การตอบคำ�ถามรับของรางวัล การแสดง ความสามารถของเด็กๆ กิจกรรมวาดภาพระบายสี อาหารและเครื่องดื่ม เป็นต้น โดยกิจกรรมดังกล่าวจัด ขึ้น ณ ศูนย์บริการโตโยต้าขอนแก่น สำ�นักงานใหญ่

ข อ น แ ก่ น ร ว ม พ ลั ง ขั บ เ ค ลื่ อ น “ขนส่ ง มวลชนรางเบาขอนแก่ น ” รองนายกฯ ประจิน รับ “ขนส่งมวลชนราง เบาขอนแก่น” เข้าหารือฝ่ายเศรษฐกิจ คสช. หนุน สร้าง “ขอนแก่น smart city” หลังประชุมร่วมกับ คณะผูร้ ว่ มผลักดันโครงการขนส่งมวลชนขอนแก่น ยํ​ํ้าจะนำ�เสนอ ครม.เพื่อขอความเห็นชอบในหลัก การ เมื่อวันที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2559 ที่อาคาร สิ ริ คุ ณ ากร สำ � นั ก งานอธิ ก ารบดี มหาวิ ท ยาลั ย ขอนแก่ น พล.อ.อ.ประจิ น จั่ น ตอง รองนายก รัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหารือโครงการ ก่อสร้างระบบขนส่งมวลชนรางเบาขอนแก่น โดย มี นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรีนคร ขอนแก่น นำ�คณะผู้ร่วมผลักดันโครงการขนส่ง มวลชนขอนแก่น เข้าร่วมประชุม เพื่อตามตามผล จากการประชุมครั้งที่ผ่านมา โดยการประชุมครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือ จากทุกภาคส่วนในจังหวัดขอนแก่นเข้าร่วมประชุม ได้แก่ พล.ต.ท.วรศักดิ์ นพสิทธิพร ผู้ช่วยรัฐมนตรี ประจำ�สำ�นักนายกรัฐมนตรี ,ผศ.ดร.นพปฏล สุนทร นนท์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ,พล.อ.ท.ปัญญา เชียงอารีย์ ที่ปรึกษารองหัวหน้า คสช. ,รศ.ดร.กิตติชยั ไตรรัตนศิรชิ ยั อธิการบดี มข. ,รศ.ดร.ศุภวัฒนากร วงศ์ธนวสุ คณบดีวทิ ยาลัยการ ปกครองท้องถิ่น ,ศ.ดร.อภิรัฐ ศิริธราธิวัตร คณบดี คณะวิศวกรรมศาสตร์ ,ผศ.ดร.พณกฤษณ คลังบุญ ครอง ผู้อำ�นวยการวิชาการจัดระบบการจราจร

และขนส่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ,นาย สิทธิกุล ภูคำ�วงศ์ รองนายก อบจ.ขอนแก่น ,ผู้นำ� อปท.ในเขตอำ�เภอเมืองขอนแก่นทั้ง 4 เทศบาล และนายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท ขอนแก่นพัฒนาเมือง จำ�กัด (KKTT) พร้อมคณะผู้ แทนสื่อมวลชน เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ด้วย จากการที่ ค ณะผู้ ผ ลั ก ดั น โครงการขนส่ ง มวลชนขอนแก่น ได้เข้าพบ พล.อ.อ.ประจิน จั่น ตอง เพื่อหารือการขับเคลื่อนโครงการพัฒนาระบบ ขนส่งมวลชนนครขอนแก่น เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ.2558 ทีผ่ า่ นมา และรองนายกรัฐมนตรี ได้แสดง ความเห็นชอบในหลักการ พร้อมทั้งให้คณะทำ�งาน เตรียมข้อมูลเพื่อนำ�เสนออีกครั้ง ตามที่เคยรายงาน ให้ทราบแล้วนั้น วันนี้ (11 ม.ค. 59) คณะผู้ผลักดัน โครงการจึงได้ร่วมใจกันเข้าร่วมประชุมเพื่อแสดง เจตนารมณ์ความตั้งใจในการผลักดันระบบขนส่ง มวลชนขอนแก่นให้เกิดขึ้นจริง นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรี นครขอนแก่น ได้กล่าวถึงความพร้อมและความ ตั้ ง ใจจริ ง ของชาวขอนแก่ น ที่ ต้ อ งการผลั ก ดั น โครงการขนส่งมวลชนให้เกิดขึ้นจริง และกล่าว ขอบพระคุณ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ในฐานะผู้ แทนคณะรัฐมนตรีที่ให้ความอนุเคราะห์จังหวัด ขอนแก่น ในการแนะนำ�และให้การสนับสนุนมา โดยตลอด พร้อมทัง้ กล่าวยืนยันว่า ปัจจุบนั ขอนแก่น ได้เกิดการรวมตัวกันทัง้ ภาครัฐ องค์กรปกครองส่วน ท้ อ งถิ่ น ภาควิ ช าการ กลุ่ ม ธุ ร กิ จ ผู้ ป ระกอบ การมากกว่า 20 บริษัท ร่ ว ม ใ จ กั น ผ ลั ก ดั น โครงการและต้องการ จะเห็นโครงการขนส่ง มวลชนนี้ เกิ ด ขึ้ น ใน ขอนแก่น นายสุ ร เดช ทวี เ ร า ไ ม่ ท อ ด ทิ้ ง กั น ; ร.ต.ต.ภั ส สะ บุ ญ ธรรม อุปนายกสมาคมสือ่ มวลชน จั ง หวั ด ขอนแก่ น พร้ อ ม กรรมการบริ ห าร มอบ กระเช้าผลไม้ และเงินให้กบั คุณประสิทธิ์พร จารีย์ อดีต นายกสมาคมสื่ อ มวลชน จังหวัดขอนแก่น ที่บ้านพัก โรงแรมแสนสำ�ราญ ถ.กลาง เมือง เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2558 ที่ผ่านมา

แ ส ง ส กุ ล ไ ท ย ผู้ ร่ ว มก่ อ ตั้ ง บริ ษั ท ข อ น แ ก่ น พั ฒ น า เมื อ ง จำ � กั ด ได้ เ ป็ น ตั ว แ ท น นำ � เ ส น อ ร า ย ล ะ เ อี ย ด ก า ร ออกแบบโครงการ ข น ส่ ง ม ว ล ช น ใ น ขอนแก่น โดยกล่าว ว่า ได้นำ�ระบบขนส่ง แบบรางเบาเข้ า มา ใช้ เพื่อแก้ปัญหาจราจรภายในเมืองที่นับวันจะยิ่ง ประสบปัญหามากยิ่งขึ้น โดยได้แสดงรายละเอียด เทคโนโลยีที่จะนำ�มาใช้ ซึ่งระบบรางเบาดังกล่าว จะใช้พื้นที่บริเวณเกาะกลางถนน ไม่ลํ​ํ้าพื้นผิวถนน และในบริเวณที่มีพื้นที่เกาะกลางถนนน้อย จะใช้ การก่อสร้างแบบยกตัว ซึ่งคาดว่าจะใช้งบประมาณ 1.5 หมื่ น ล้ า นบาท และขอนแก่ น สามารถระดม ทุนดังกล่าวได้เอง พร้อมกล่าวว่า หากระบบขนส่ง ขอนแก่น ได้รบั การอนุมตั ใิ ห้ด�ำ เนินการก่อสร้างจริง ประมาณการว่าจะทำ�ให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด (Gross Provincial Products : GPP) ของขอนแก่น สูงขึ้น 13% ใน 3 ปี ผศ.ดร.พณกฤษณ คลังบุญครอง ผู้อำ�นวย การวิชาการจัดระบบการจราจรและขนส่งภาคตะวัน ออกเฉียงเหนือตอนบน ได้กล่าวถึงผลการศึกษา เชิงวิชาการที่สนับสนุนการขับเคลื่อนระบบขนส่ง มวลชนขอนแก่นว่า จากการศึกษา การพัฒนาที่ ยั่งยืนและไม่ปิดกั้นขีดจำ�กัดด้านการพัฒนาของคน รุ่นต่อไป ระบบขนส่งมวลชนทางรางสามารถตอบ สนองความต้องการนั้น และระบบขนส่งประเภท ดังกล่าว ยังมีผลที่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจให้ดีขึ้น ได้ และด้วยองค์ประกอบหลายด้าน ทำ�ให้ขอนแก่น พร้อมที่จะพัฒนาระบบขนส่งทางราง รศ.ดร.ศุ ภ วั ฒ นากร วงศ์ ธ นวสุ คณบดี

วิทยาลัยการปกครองท้องถิ่น กล่าวรายงานถึงผล การศึกษาด้านผลกระทบ และผลการสำ�รวจความ คิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ว่า คณะทำ�งานได้ ทำ � การศึ ก ษาผลกระทบที่ จ ะเกิ ด ขึ้ น อย่ า งถี่ ถ้ ว น ทัง้ นี้ ยังได้ศกึ ษาพร้อมทำ�ความเข้าใจกับประชาชน ในพื้นที่ เพื่อให้ได้รับข้อมูลข่าวสารการขับเคลื่อน โครงการที่ครบถ้วน และได้เชิญชวนชาวขอนแก่น มองอนาคตและสร้างวิสัยทัศน์เมืองขอนแก่นร่วม กัน พล.อ.อ.ประจิน จัน่ ตอง รองนายกรัฐมนตรี ได้มองเห็นความตั้งใจของคณะทำ�งาน ที่ร่วมผลัก ดันโครงการพัฒนาขนส่งมวลชน ที่ทุกภาคส่วน ในขอนแก่นให้ความร่วมมือ และตัวท่านเองก็ได้ ให้ความสนใจมาโดยตลอด การพัฒนาโครงการ พื้นฐานที่จะทำ�ให้ทุกคนได้รับประโยชน์ จำ�เป็น ต้ อ งผ่ า นการคิ ด อย่ า งรอบครอบครบถ้ ว น จึ ง แนะนำ�ให้นำ�กลับไปทำ�ข้อมูลเพิ่มเติมในส่วนที่ยัง ไม่ชัดเจน พร้อมเน้นยํ​ํ้าจะนำ�โครงการเข้าหารือใน คณะทำ�งานฝ่ายเศรษฐกิจของ คสช. และจะนำ�เรียน นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี เพือ่ ขอความเห็น ชอบในหลักการต่อไป ทัง้ นี้ ได้กล่าวสนใจเรือ่ งการ สร้างsmart city และฝากให้ทกุ ฝ่ายทำ�การศึกษาและ นำ�มาพัฒนาเมืองขอนแก่นให้เจริญก้าวหน้า

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2558

หล่อพระปฐมบรมมหาจัก พรรดิ ; ดร.พงษ์ศักดิ์ ตั้ง วานิ ช กพงษ์ นายก อบจ. ขอนแก่ น เป็ น ประธาน พิ ธี ห ล่ อ สมเด็ จ องค์ ป ฐม “พระพุทธบรมมหาจักพร รดิสรรพมงคลศรีขามแก่น “ ขนาดหน้าตักกว้าง 4 เมตร สูง 9.9 เมตร ณ วัดเจติยภูมิ (พระธาตุ ข ามแก่ น ) เพื่ อ ถวายเป็นพระราชกุศล แด่

ชวนน้องพิการทางสายตาดูหนังคุณทองแดง หลายคนอาจจะสงสัยว่าน้องๆผูพ้ กิ ารทาง สายตาจะชมภาพยนตร์ได้อย่างไร แต่ความจริง แล้วผู้พิการทางสายตาสามารถรับชมภาพยนตร์ ได้เหมือนคนปกติทั่วไป แต่หนังเรื่องนั้นจะต้อง มีการพากย์เสียงพิเศษใส่เข้าไปด้วย เพื่อให้น้องๆ ได้ฟงั เสียง และเข้าใจเรื่องราวได้อย่างสนุกสนาน เพลิดเพลิน ในวันเด็กแห่งชาติปี 2559 ดีแทค จึงได้ร่วมกับ นายฉัตรชัย อภิบาลพูนผล ผู้ก่อ ตั้ง และ ซีอีโอ บริษัท กล่องดินสอ จำ�กัด Social Enterprise หรือ SE บริษัทที่พัฒนาและผลิตอุ ปกรณ์การศึกษาสำ�หรับผู้พิการที่ทุกคนเข้าถึงไ ด้ จัดฉายภาพยนตร์รอบพิเศษ ในวันที ่ 6 มกราคม ที่ผ่านมา โดยมีนักพากย์จิตอาสามาช่วยสร้าง ความสนุกสนานให้กับน้องๆ ผู้พิการทางสายตา

ได้ดูหนังอย่างเข้าใจมากขึ้น ง า น นี้ มี พี่ ๆ พ นั ก ง า น ดี แ ท ค อ า ส า สมั ค ร กว่ า 200 คน ไปร่ ว มดู แ ลอำ � นวยความ สะดวก และสร้างประสบการณ์ความสนุกสนาน ให้กับน้อง ๆ ภายใต้โครงการ 100,000 ชั่วโมง ร่วม กันทำ�ดี ปี 4 ด้วยการสละเวลางานที่สำ�คัญ ไป เป็นอาสาสมัคร เพื่อช่วยเหลือน้องๆ ในการชม ภาพยนตร์อนั ทรงคุณค่า โดยพีพ่ นักงานดีแทค จาก สำ�นักงานภูมภิ าคทัง้ 5 ภาค ได้พาน้องๆผูพ้ กิ ารทาง สายตาจากโรงเรียนสอนคนตาบอด 5 จังหวัด ทั้ง กรุงเทพมหานคร ชลบุรี เชียงใหม่ ขอนแก่น และ สุราษฎร์ธานี กว่า 500 คน เข้าร่วมชมภาพยนตร์ คุณทองแดง ดิ อินสไปเรชั่นส์


หน้า 6

ปีที่ 13 ฉบับที่ 140 ประจำ�เดือนมกราคม 2559


ปีที่ 13 ฉบับที่ 140 ประจำ�เดือนมกราคม 2559

หน้า 7


หน้า 8

ปีที่ 13 ฉบับที่ 140 ประจำ�เดือนมกราคม 2559

กฟผ.เตือนประชาชนใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัด พ.ต.ท.ฑฤกร สอนวงษ์

รองผู้กำ�กับฯ จราจร เมืองกาฬสินธุ์ นายตำ�รวจมืออาชีพ เน้น! ให้บริการพี่น้อง ประชาชนในพื้นที่ “สวั ส ดี ปี ใ หม่ ค่ ะ ”หนั ง สื อ พิ ม พ์ ไ ทย เสรีขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่คอลัมน์ “สายตรง โรงพัก”ฉบับเดือนมกราคม ฉบับแรกประจำ�ปี พุทธศักราช 2559 เดือนแห่งความสุขที่ทุกคน รอคอย เพื่อจะได้ร่วมกันเฉลิมฉลองเทศกาลปี ใหม่ ช่วงเวลาแห่งความสุขที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะ ในฉบับนี้เราขอแนะนำ�ท่าน ให้รู้จักกับ พ.ต.ท.ฑฤกร สอนวงษ์ รองผู้กำ�กับ การฝ่ายจราจร สถานีตำ�รวจภูธรเมืองกาฬสินธุ์ นายตำ�รวจผู้ควํ่าหวอดสายงานจราจรบริหาร งานอย่างตำ�รวจมืออาชีพ เพื่อให้บริการพี่น้อง ประชาชนในพื้นที่ อ.เมืองกาฬสินธุ์ค่ะ พ.ต.ท.ฑฤกร สอนวงษ์ ปั จ จุ บั น อายุ 52 ปี ดำ � รงตำ � แหน่ ง รอง ผกก.จร.สภ.เมื อ ง กาฬสินธุ์ จบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จาก โรงเรียนนารีรัตน์ อ.เมือง จ.แพร่ แล้วเข้าเรียน ต่อที่โรงเรียนรวมเหล่า รุ่นที่ 1ได้รับปริญญาตรี 2 ใบ ได้แก่ รัฐประศาสนศาสตรบัณฑิต ร.ร.นาย ร้อยตำ�รวจ (สามพราน) รุ่นที่ 40 และนิติศาสตร บัณฑิต มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช(มสธ.) และปริ ญ ญาโทศิ ล ปศาสตรมหาบั ณ ฑิ ต มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) ประวัติรับราชการที่โดดเด่น ปี 2548 เป็น รอง ผกก.ป.สภ.พระยืน จ.ขอนแก่น จาก นั้นในปี 2550 ย้ายไปเป็น รอง ผกก.สส.สภ.เวียง เก่า จ.ขอนแก่น และในปี 2553 ขยับไปเป็น รอง ผกก.ป.สภ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ก่อนที่จะมา เป็น รอง ผกก.จร.สภ.เมืองขอนแก่น และเมื่อ ม.ค.ปี 2558 ย้ายไปเป็น รอง ผกก.จร.สภ. เมืองกาฬสินธุ์ จนถึงปัจจุบัน พ.ต.ท.ฑฤกร สอนวงษ์ ได้รับรางวัล เกียรติยศที่สำ�คัญ โดยในปี 2545 เมื่อครั้งดำ�รง

ตำ�แหน่งเป็น รอง ผกก.จร.สภ.เมืองขอนแก่น ได้รบั คัดเลือกให้ได้รบั รางวัลข้าราชการพลเรือน ดีเด่น จังหวัดขอนแก่น ประจำ�ปี 2545 เนื่องจาก ผลงานโดดเด่นเป็นทีป่ ระจักษ์ นำ�ความภาคภูมใิ จ แก่วงศ์ตระกูล ครอบครัว ผู้บังคับบัญชา และผู้ ใต้บังคับบัญชาถือเป็นแบบอย่างให้รุ่นน้องนาย ตำ�รวจเจริญรอยตาม ในโอกาสมาเยื อ นคอลั ม น์ “สายตรง โรงพั ก ” ฉบั บ แรกของปี พุ ท ธศั ก ราช 2559 พ.ต.ท.ฑฤกร ได้กล่าวว่า “ผมมีวิสัยทัศน์ในการ ทำ�งานทีว่ า่ “สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย สร้างวินยั จราจร” โดยได้มอบนโยบายให้กับตำ�รวจจราจร สภ.เมืองกาฬสินธุ์ เน้นการทำ�งานในเรื่องการ บริการประชาชนให้มากทีส่ ดุ รวมทัง้ การอำ�นวย ความสะดวกด้านการจราจรแก่ประชาชนใน พืน้ ที่ อ.เมืองกาฬสินธุ์ ถือเป็นเมืองทีม่ ผี ฝู้ า่ ฝืนกฎ น้อยกว่าหัวเมืองหลักๆ การทำ�งานจึงถ้อยทีถอ้ ย อาศัย หากมีผู้ฝ่าฝืนก็จะว่ากล่าวตักเตือน โดยจะ เข้มงวดในเรื่องการขับรถฝ่าสัญญาณไฟแดง ที่ นำ�ไปสู่การเกิดอุบัติเหตุรุนแรงได้ ก็จะทำ�การ เปรียบเทียบปรับ พร้อมสัง่ กำ�ชับไม่ให้กระทำ�อีก ทัง้ ในส่วนของการจอดรถกีดขวาง และการจอด วันคู่-วันคี่ด้วยครับ” สำ � หรั บ คอลั ม น์ ส ายตรงโรงพั ก ฉบั บ ต้อนรับปีใหม่นตี้ อ้ งขอลาท่านผูอ้ า่ นไปก่อน“ขอ ให้ทกุ ท่านมีความสุขความเจริญก้าวหน้าในทุกๆ ด้าน”พร้อมร่วมสร้างสังคมไทยให้น่าอยู่สืบไป นะคะ ไว้พบกันใหม่ฉบับหน้าเดือนกุมภาพันธ์ 2559 “สวัสดีปีใหม่” อีกครั้งค่ะ

เพ็ญศิริ นาคทน ...รายงาน

คาราวานสานสั ม พั น ธ ไทย-จี น “15,000 ไมล์ จากอัลไต สูส่ วุ รรณภูม”ิ ททท. ร่ ว มกั บ กระทรวงวั ฒ นธรรม สาธารณรัฐประชาชน จี น จั ด โ ค ร ง ก า ร ค า ร า ว า น ร ถ ย น ต์ ส า น สั ม พั น ธ ไ ม ต รี วั ฒ น ธ ร ร ม กั บ ก า ร ท่ อ ง เ ที่ ย ว ไ ท ย - จี น เพื่ อ เฉลิ ม ฉลองความ สัมพันธ์ไทย-จีน สาน สัมพันธไมตรี 40 ปี และ เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ เส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงจากจีนสู่ไทย ตั้งแต่ วันที่ 16 พ.ย.-20 ธ.ค.58 รวม 35 วัน โดยการ จั ด คาราวานครั้ ง นี้ ในภาพรวมนอกจากจะ ส่ ง ผลดี ใ นเรื่ อ งความสั ม พั น ธไมตรี ร ะหว่ า ง ประเทศไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีน และ ประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวของไทยและจีน ผ่านสื่อมวลชนทั้ง 2 ประเทศแล้ว คาราวานดั ง กล่ า วเข้ า สู่ อี ส านในวั น ที่ 16-19 ธ.ค.58 โดยมีรถเข้าร่วมเดินทางจาก สาธารณรัฐประชาชนจีน 24 คัน และสือ่ มวลชน ไทยและผู้ เ กี่ ย วข้ อ ง อี ก 7 คั น มี ช าวจี น สื่อมวลชนไทย และผู้เกี่ยวข้องรวม 100 คนนั้น ถือว่าการจัดคาราวานครัง้ นีป้ ระสบความสำ�เร็จ อย่างมาก เนื่องจากที่ผ่านมานักท่องเที่ยวชาว จีนรู้จักภาคอีสานน้อยมาก ทั้งนี้ คาราวานเดิน ทางเข้าสู่พื้นที่ภาคอีสานที่จังหวัดนครราชสีมา ในวันที่ 16 ธ.ค. 58 จากนั้นได้แวะสถานที่ท่อง เที่ยวที่สำ�คัญของภาคอีสาน สำ � หรั บ การต้ อ นรั บ ของจั ง หวั ด ขอนแก่ น ได้ จั ด เตรี ย มการต้ อ นรั บ ณ พระ มหาธาตุแก่นนคร วัดหนองแวง (พระอาราม หลวง) โดยมี นายศิวาโรจน์ มุ่งหมายผล รอง ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น นายหลี่ หมิง กัง กงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำ� ประเทศไทย ณ จังหวัดขอนแก่น นายเข็มชาติ สมใจวงษ์ นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว จังหวัดขอนแก่น พร้อมหน่วยงานภาครัฐและ เอกชน ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น การนำ�คาราวานครัง้ นีเ้ ข้าสูถ่ นนสายหลัก และแหล่งท่องเทีย่ วทีส่ วยงามของภาคอีสาน ถือ เป็นการเปิดตัวให้นกั ท่องเทีย่ วจีนทราบถึงความ พร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยวชาวจีน อีกทั้ง ยังเปิดตัวแหล่งท่องเที่ยวทั้งทางธรรมชาติและ วัฒนธรรมที่สวยงามของภาคอีสาน ตลอดจน ความเป็นมิตรไมตรีนาํ​ํ้ ใจอันงดงามของผูค้ นชาว อีสานให้กบั นักท่องเทีย่ วชาวจีนได้รบั ทราบ การ เริม่ ต้นนำ�คาราวานรถยนต์จากจีนเข้าอีสานจะส่ง

ผลดีตอ่ การเผยแพร่ประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้นกั ท่องเที่ยวจีนที่มีรายได้สูง สนใจขับรถเข้ามาเที่ยว ในภาคอีสานมากขึ้น นอกจากนี้ Mr. Ke Yasha อดี ต เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำ� ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งรัฐบาลจีนได้มอบหมาย ให้ เ ป็ น หั ว หน้ า ที ม คณะคาราวานในครั้ ง นี้ ไ ด้ กล่าวว่า ที่ผ่านมาชาวจีนรู้จักภาคอีสานน้อยมาก การร่วมเดินทางในครั้งนี้เขารู้สึกแปลกใจว่าภาค อีสานมีแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม มีวัฒนธรรม และศิลปะประเพณีทนี่ า่ สนใจ อีกทัง้ ยังมีศกั ยภาพ พร้อมรับนักท่องเที่ยวชาวจีนเป็นอันมาก ปั จ จุ บั น นั ก ท่ อ งเที่ ย วจากสาธารณรั ฐ ประชาชนจีนมีกลุ่มที่ชอบขับรถเดินทางท่อง เที่ยวด้วยตัวเองและมีความสนใจในเรื่องศิลป วัฒนธรรมประเพณีโบราณสถานต่างๆ เส้นทาง ท่องเที่ยวของภาคอีสานจึงเหมาะสำ�หรับกลุ่มนี้ อย่างมาก การเดินทางโดยรถยนต์จากสาธารณรัฐ ประชาชนจี น มายั ง ประเทศไทยสามารถผ่ า น มายังด่านต่างๆได้ง่ายสะดวก และจากการที่คณะ คาราวานเดินทางเข้ามาในอีสานครั้งนี้ภาพแหล่ง ท่องเทีย่ วทีส่ วยงามความพร้อมในการรองรับนัก ท่องเทีย่ ว จะถูกเผยแพร่กระจายออกไปทุกมณฑล ของสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งคาดว่าจะส่งผล ให้เกิดการเดินทางขับรถเข้ามาท่องเที่ยวในภาค อีสานในระยะเวลาอันใกล้นี้ สิ่งที่ทางภาคอีสาน จะต้องมีการเตรียมการรองรับคณะนักท่องเที่ยว จากจีนที่นิยมการขับรถ คือป้ายบอกทางที่มีทั้ง ภาษาอังกฤษและภาษาจีน สถานทีแ่ ลกเปลีย่ นเงิน ตรา และบุคลากรที่มีความพร้อมทางด้านภาษา “สิ่ ง ที่ ทุ ก คนในขบวนคาราวานฯเดิ น ทางมาในครั้งนี้พูดตรงกันคือ ประทับใจกับการ ต้อนรับอย่างอบอุ่น และความเป็นมิตรไมตรีที่ เกิดขึน้ จากใจของชาวอีสาน โดยทุกคนทีเ่ ดินทาง มาในครั้งนี้ ได้หารือกันที่จะพาครอบครัว เพื่อน ฝูงกลับมาเที่ยวอีสานในปีหน้าแน่นอน” Mr.Ke Yasha กล่าวทิ้งท้าย

กฟผ.เตือนประชาชนภาคอีสาน ให้ช่วย กันรณรงค์ใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัด เพราะต้องซื้อ พลังงานไฟฟ้ากว่า 30% จากลาวและแหล่งผลิตจา กภาคเหนือประมาณ 20% วอนประชาชนสอนลูก หลานให้ชว่ ยกันประหยัดใช้ไฟฟ้า ปัจจุบนั ใช้กา๊ ซ ธรรมชาติ ถ่านหิน เป็นพลังงานความร้อนหลักใน การผลิตกว่า 70% พลังงานนํ​ํา้ ไม่ถงึ 10 % แถมเป็น พลังงานทีค่ อ่ นข้างไม่มนั่ คง คาดอีก 30 ปี ถ่านหิน ของไทยจะหมดลง ต้องนำ�เข้าจากต่างประเทศ อย่างเดียว นายไพฑู ร ย์ กุ ล รั ก ษา หน.แผนก ประชาสัมพันธ์ และชุมชนสัมพันธ์ การไฟฟ้า ฝ่ า ยผลิ ต แห่ ง ประเทศไทย เขื่ อ นอุ บ ลรั ต น์ จ.ขอนแก่น เปิดเผยในโอกาสที่ กฟผ.จัดโครงการ กฟผ.-สื่อมวลชนสัมพันธ์ ว่าขอให้ประชาชนใน ภาคอีสานช่วยกันรณรงค์ใช้พลังงานไฟฟ้าอย่าง ประหยัดและจำ�เป็น เพราะภาคอีสานมีกำ�ลังผลิต ไฟฟ้าทัง้ ระบบทุกประเภทเพียง 1500 MW เท่านัน้ แต่มคี วามต้องการใช้ไฟฟ้าสูงถึง 3200-3200MW จึ งเกิดความไม่สมดุลด้านการพลังงาน ประมาณ 30% ต้องซือ้ จาก สปป.ลาว อีกส่วนหนึง่ ประมาณ 20% ก็ต้องนำ�มาจากแหล่งผลิตทางภาคเหนือ นายไพฑูรย์ฯ กล่าวต่อว่า สำ�หรับการผลิต ไฟฟ้าของภาคอีสานมีอยู่ 2 ประเภท คือการผลิต ด้วยพลังงานนํ​ํ้า คือที่ผลิตจากเขื่อนต่าง จำ�นวน 6 แห่ง ได้แก่ เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น เขื่อน

จุฬาภรณ์ จ.ชัยภูมิ เขื่อนนํ​ํ้าพุง จ.สกลนคร เขื่อน สิรินธร และเขื่อนปากมูล จ.อุบลราชธานี เขื่อน ลำ�ตะคองชลประภาวัฒนา จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็น เขื่อนพลังนํ​ํ้าสูบกลับ ทั้ง 6 เขื่อนนี้มีกำ�ลังผลิต ประมาณ 700 MW เศษ และแหล่งผลิตไฟฟ้าจาก พลังงานร้อน ก๊าซธรรมชาติจากแหล่งผลิตก๊าซ ธรรมชาติ ภูฮ่อม อ.หนองแสง จ.อุดรธานี ได้แก่ โรงงานผลิตไฟฟ้านํ​ํ้าพอง จ.ขอนแก่น มีกำ�ลังผลิต ประมาณ 700 MW เช่นกัน และเมื่อรวมกำ�ลังการ ผลิตกระแสไฟฟ้าทุกระบบแล้วประมาณ 1500 MW อย่างไรก็ตามภาคอีสานเป็นภาคใหญ่พนื้ ทีก่ ว้ างขวาง จึงมีความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าสูงมาก อยู่ที่ประมาณ 3100-3200 MW จึงต้องมีการนำ�เอ ากระแสไฟฟ้าจากแหล่งผลิตอื่นทั้งในประเทศแล ะนอกประเทศเข้ามาเสริมกับกระแสไฟฟ้าของแ หล่งผลิตที่มีอยู่ของภาคอีสาน เช่น จากเขื่อนพลัง งานนํ​ํ้าต่างๆจาก สปป.ลาว ประมาณ 30% โดยล่า สุดได้แก่เขือ่ นทีเ่ มืองไซยบุลี ซึง่ ก่อสร้างไปได้แล้ว ประมาณกว่า 70% โดยเมื่อสามารถผลิตไฟฟ้าได้มี แผนจะขายกระแสไฟฟ้าทัง้ หมดให้กบั ประเทศไทย และจากแหล่งผลิตจากภาคเหนือ ภาคกลางอีก ประมาณ 20% ในภาคอีสานนัน้ จังหวัดนครราชสีมาเป็น จังหวัดที่มีประชาชนใช้กระแสไฟฟ้าสูงที่สุด รอง ลงมาได้แก่ จังหวัดขอนแก่น นอกจากนั้นก็มีการ ใช้กระแสไฟฟ้าลดมากน้อยกันลงมา และจังหวัด

คนไทยฮิตอวยพรปีใหม่ ผ่ า นโซเชี ย ลเน็ ต เวิ ร์ ก

เอไอเอส เผย คนไทยยุ ค ดิ จิ ทั ล ฮิ ต อวยพรปี ใ หม่ 2559 ผ่ า นโซเชี ย ลเน็ ต เวิ ร์ ก ส่ ง ผ ล ย อ ด ก า ร ใ ช้ s o c i a l n e t w o r k เพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่าจากปีที่แล้ว นายปรัธนา ลีลพนัง รองกรรมการผู้ อำ�นวยการ สายงานการตลาด บริษทั แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำ�กัด (มหาชน) หรือ เอไอ เอส เปิดเผยว่า ช่วงปี 2558 ที่ผ่านมา ไลฟ์ สไตล์ของคนไทยก้าวสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มตัว มีความคุ้นเคยกับการใช้งานเครือข่าย Data เชื่ อมต่อโซเชียลเน็ตเวิร์กและเข้าถึงข้อมูลต่างๆ บนโลกออนไลน์อย่างแพร่หลายจนกลายเป็น ส่วนหนึ่งของชีวิตประจำ�วันไปแล้ว ด้วยความ พร้อมของเครือข่าย DATA และ Wifi ของ ผู้ให้บริการทุกราย ดังเช่นเครือข่ายคุณภาพ ของเอไอเอสทั้ ง 3G, 4G, AIS Super WiFi ที่ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศไทย รวม ถึงแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม และสถานที่เคา ท์ ด าวน์ ชื่ อ ดั ง ทั่ ว ไทย รวมถึ ง เครื อ ข่ า ยฟิ ก ซ์ อย่ า ง AIS Fibre บรอดแบนด์ ค วามเร็ ว สู ง ประกอบกั บ การเข้ า ถึ ง เครื่ อ งสมาร์ ท โฟนที่ ขยายตัวอย่างรวดเร็ว อย่างโครงการล่าสุดที่ เอไอเอสมอบของขวัญให้ลูกค้าเปลี่ยนมือถือ เป็น 3G/4G ฟรี! จึงเป็นปัจจัยสำ�คัญในการผลัก ดันสังคมไทยเข้าสู่เทรนด์ของดิจิทัลไลฟ์อย่าง

เป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น ดั ง นั้ น การอวยพรปี ใ หม่ 2559 นี้ จึ ง เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้คือ คนนิยมส่งความ สุข อวยพรปีใหม่ผ่านโลกออนไลน์บน โซเชีย ลเน็ ต เวิ ร์ ก ต่ า งๆ โดยเฉพาะอย่ า งยิ่ ง LINE, Facebook, Instagram, WhatsApp, Twitter, Google Plus, We Chat ฯลฯ ทำ�ให้มีปริมาณ การใช้ ง านDATA ทั้ ง 3G, 4G และ WiFi ที่ ในช่ ว งเวลาที่ พี ค สู ง สุ ด คื อ ประมาณเข้ า สู่ วั น ที่1มกราคม มียอดใช้งานdata สูงสุด เพิ่มขึ้นถึง 226% จากการค่าเฉลี่ยในการใช้งานปกติ และสูง ขึ้น ถึง 3 เท่า ใ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของ ปี 2558 และการใช้งานยังคงสูงต่อเนื่องในช่วง เช้าตลอดจนถึง ณ เวลารายงาน ส่ ว น SMS และ MMS มี ป ริ ม าณลด ลง 53% แต่ก็ยังมีการใช้อวยพรปีใหม่อย่างกว้าง ขวางในรูปแบบทีเ่ ป็นทางการมากขึน้ โดยส่งจาก คนรูจ้ กั ทีม่ ใิ ช่กลุม่ เพือ่ นสนิทในคอมมูนติ เี้ ดียวกัน (ข้อมูล ณ วันที่ 1 มกราคม 2559 เวลา 15.00 น.) โดยนายปรัธนา กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการ ทีเ่ อไอเอสได้มกี ารเตรียมความพร้อมเครือข่ายให้ สามารถรองรับการใช้งานดังกล่าวได้อย่างเต็ม ประสิทธิภาพ จึงทำ�ให้ลูกค้าเอไอเอสสามารถ ส่งความสุข แชร์ความปรารถนาดีถึงกันได้อย่าง สะดวกสบายทุกที่ทุกเวลา

บึงกาฬที่เป็นจังหวัดใหม่ล่าสุดของภาคอีสาน มี การใช้กระแสไฟฟ้าน้อยที่สุด ซึ่งจากตัวเลขสถิติ การใช้กระแสไฟฟ้าของภาคอีสานดังกล่าวนั้น น่า เป็นห่วง เพราะภาคอีสานมีแหล่งผลิตพลังงาน ไฟฟ้าทีไ่ ม่สมดุลกับความต้องการใช้ของประชาชน ผิดกับของภาคอื่นๆที่มีแหล่งผลิตที่ใกล้เคียงกับ ความต้องการ “จากเหตุผลดังกล่าว กฟผ.เป็นหน่วยงาน ที่ผลิตกระแสไฟฟ้าขายให้กับประชาชน แต่กลับ มาทำ�การรณรงค์ให้ประชาชนผู้ใช้พลังงานไฟฟ้า ประหยัดกระแสไฟฟ้า เนือ่ งจากว่ามีขอ้ จำ�กัดเพราะ ว่าในภาคอีสานนัน้ ไม่มพี นื้ ทีห่ รือภูมปิ ระเทศทีจ่ ะ นำ�เอามาเป็นที่ก่อสร้างแหล่งผลิตพลังงานไฟฟ้า แล้ว ปัจจุบันนี้การผลิตกระแสไฟฟ้านั้นทั้งระบบ ใช้ก๊าซธรรมชาติกว่า 70% ส่วนที่ผลิตด้วยพลังงา นนํ​ํ้านั้นมีเพียงเล็กน้อยไม่ถึง 10% และพลังงานนํ​ํ้ าเป็นพลังงานที่ค่อนข้างเป็นพลังงานที่ไม่มีความ มั่นคง สรุปแล้วภาคอีสานน่าเป็นห่วงมาก เพราะ ที่โรงงงานผลิตไฟฟ้านํ​ํ้าพองที่ใช้ก๊าซธรรมชาติ จากแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ภูฮ่อม อ.หนองแสง จ.อุดรธานี ซึ่งก็เหลือจำ�นวนก๊าซธรรมขาติลด น้ อ ยลงไปมากแล้ ว มี รายงานว่าก๊าซธรรมชาติ ที่ โ รงงานผลิ ต ไฟฟ้ า นํ​ํ้ า พองจะสามารถใช้ได้ถึงปี 2564-2567 เท่านั้น และ มี ร ายงานจาก ปตท. ว่ า ไปขุ ด เจาะพบก๊ า ซ ธรรมชาติ แ ละสามารถ ส่งให้โรงงานผลิตไฟฟ้า นํ​ํา้ พองได้ถงึ ปี พ.ศ. 25712572 แต่ถงึ เวลานัน้ โรงงา นไฟฟ้านํ​ํ้าพองปัจจุบัน ก็ ถึงเวลาทีต่ อ้ งปลดระวางแล้ว ส่วนการผลิตกระแส ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานลม เป็น เรื่องของเอกชนที่ส่งขายโดยตรงให้กับการไฟฟ้า ส่วนภูมิภาค” นายไพฑูรย์ฯกล่าว นายไพฑูรย์ฯ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามรัฐบาลมี แนวทางปฏิบัติให้มีการใช้สัดส่วนการใช้พลังงาน

ที่ผลิตกระแสไฟฟ้าให้มีความสมดุลกัน คือ การ ให้น�ำ เอาถ่านหินเข้ามาใช้เป็นพลังงานผลิตกระแส ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น โดยมีการศึกษาความเหมาะสม ด้านต่างๆอยู่ เช่นการนำ�เอาถ่านหินจากประเทศ อินโดนีเซียเข้ามาใช้กบั โรงงานผลิตไฟฟ้าทีจ่ งั หวัด กระบี่ ฯลฯ ในส่วนของภาคอีสาน กฟผ.ก็มีแผน เพิ่มการผลิตกระแสไฟฟ้าเพิ่มขึ้น โดยในปี พ.ศ. 2561 โรงงานผลิตไฟฟ้าสูบกลับชลประภาวัฒนา จ.นครราชสีมา จะสามารถทำ�การผลิตกระแสไฟฟ้า เพิ่มขึ้นได้อีก 500 MW หลังจากติดตั้งเครื่องกำ�เ นิดไฟฟ้าตัวที่ 3 และ 4 เสร็จเรียบร้อย แต่อย่างไร ก็ตามก็มีข้อจำ�กัดในเรื่องนํ​ํ้าที่ กฟผ.ยืมเอามาจาก ชลประทานเหมือนกัน นายไพฑูรย์ฯ กล่าวต่อไปอีกว่า ในภาคอีสานไม่มี สถานทีแ่ ละภูมปิ ระเทศทีเ่ หมาะสมในการก่อสร้าง โรงงาน หรือแหล่งผลิตกระแสไฟฟ้าขนาดใหญ่ ได้อีกแล้ว จึงขอวอนประชาชนหรือผู้ใช้กระแส ไฟฟ้า ต้องช่วยกันรณรงค์ในการใช้ไฟฟ้าให้นอ้ ยลง เพราะในปัจจุบนั นี้ กฟผ.ก็ตอ้ งซือ้ กระแสไฟฟ้าจาก สปป.ลาวมากกว่า 30% อนาคตอีกประมาณ 30 ปี ถ่านหินทีม่ อี ยูใ่ นประเทศไทย ก็จะหมดและจะต้อง

นำ�เข้ามาจากต่างประเทศอย่างเดียวเท่านัน้ และการ ที่จะเอาพลังงานสะอาด เช่น แสงอาทิตย์ กระแส ลม มาทำ�ในเชิงธุรกิจก็ยังมีต้นทุนที่สูงมาก ยังไม่ เหมาะสมในเชิงธุรกิจ แต่ก็มีการทำ�แบบทดลอง แล้วในหลายๆ แห่ง เปิดศูนย์ประชาคมอาเซียน ภาค 4 ; พล.ต.อ.สุ เ ทพ เดชรั ก ษา ที่ ป รึ ก ษา (สบ ๑๐) เป็ น ประธานเปิ ด “ศู น ย์ ป ระชาคมอาเซี ย น ตำ � รวจภู ธ ร ภาค 4” เพื่ อ ให้ เ ป็ น ศู น ย์ ป ระสานงาน ร ะ ห ว่ า ง ห น่ ว ย ง า น ใ น สังกัดภาค 4 และหน่วยงาน สนับสนุน เพื่อรองรับการ เป็นประชาคมอาเซียน โดย มี พล.ต.ท.บุญเลิศ ใจประดิ ษฐ ผบช.ภ.4 พร้อมคณะ ร่วมให้การต้อนรับ ณ กอง บัญชาการตำ�รวจภูธรภาค 4 เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2558

เอไอเอสรวมใจ บรรเทาภัยหนาว ปีที่ 18 นายสมชาย นาคราช ผู้ จั ด การ ฝ่ า ยปฏิ บั ติ ก ารด้ า น เทคนิ ค ภาคตะวั น อ อ ก เ ฉี ย ง เ ห นื อ บริ ษั ท แอดวานซ์ อิ น โฟร์ เซอร์ วิ ส จำ�กัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส มอบผ้าห่ม จำ�นวน 500 ผืน “เอ ไอเอสรวมใจบรรเทา ภัยหนาว” ให้แก่ นาย ก่าย พิมพ์เสนา รอง นายกองค์การบริหารส่วนตำ �บลวังยาว อำ�เภอ ด่านซ้าย จังหวัดเลย เพื่อมอบให้แก่ชาวบ้านผู้ ประสบภัยหนาว เขตตำ�บลวังยาว อำ�เภอด่านซ้าย จังหวัดเลย โดยในปีนี้เอไอเอสส่งมอบความอบอุ่น

ให้กับผู้ประสบภัยหนาว จำ�นวน 20,000 ผืน เป็น จำ�นวนเงินทั้งสิ้น 3,400,000 บาท ซึ่งมอบติดต่อ กันมาเป็นปีที่ 18 และเอไอเอส จะยังคงเดินหน้า มอบความอบอุน่ ให้พนี่ อ้ งชาวภาคตะวันออกเฉียง เหนือต่อไปจนครบ 5,000 ผืน นายสมชาย กล่าวฯ

เวที แ ลกเปลี่ ย นเรี ย นรู้ ; นายกำ�ธร ถาวรสถิต ผวจ. ขอนแก่ น เป็ น ประธาน งานวั น คนพิ ก ารสากล จังหวัดขอนแก่น ประจำ� ปี ๒๕๕๘ โดย อบจ. ขอนแก่น ร่วมกับ สำ�นัก งานพัฒนาสังคมและความ มั่ น คงของมนุ ษ ย์ จั ง หวั ด ขอนแก่น จัดขึน้ เพือ่ ให้คน พิการ ญาติ ผู้ดูแลมีความรู้ ความเข้าใจในสิทธิคนพิการ และเป็นเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างคนพิการและผู้ดูแล ณ ศาลา ประชาคมจังหวัดขอนแก่น อ.เมือง จ.ขอนแก่น


หน้า 9

ปีที่ 13 ฉบับที่ 140 ประจำ�เดือนมกราคม 2559

“ขอนแก่น สหชัย” รุกเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการฟอร์ดแห่งที่ 6

มอบให้เป็นกำ�ลังใจ

ลดอุบัติเหตุทางถนน

มร.แสตนลี่ย์ ชาน ผู้จัดการใหญ่โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด พร้อมทีมผู้บริหาร ได้เชิญพนักงานประจำ�ของโรงแรมฯ ซึ่งเป็นผู้พิการร่วมรับ ประทานอาหารกลางวัน เนือ่ งในวันคนพิการสากล 3 ธันวาคม ทีห่ อ้ งอาหารจีนลอง หยุน จากนัน้ ได้มอบของขวัญเป็นกำ�ลังใจในการปฏิบตั งิ านทีด่ เี ยีย่ ม เพือ่ เป็นการ เปิดโอกาส ยอมรับ และสนับสนุนความสามารถของคนพิการทั้ง 4 ท่านอีกด้วย

นายธีรนันท์ กิง่ แก้วเจริญชัย ผูอ้ ำ�นวยการฝ่ายพัฒนาองค์กร บริษทั โตโย ต้าแก่นนคร จำ�กัด พร้อมพนักงาน ร่วมเปิดโครงการป้องกันและลดอุบัติเหตุทาง ถนน ณ ศูนย์บริการผูเ้ ดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ 2559 บริเวณถนนมิตรภาพ หน้า สวนสุขภาพประตูเมืองขอนแก่น

“พันท้ายนรสิงห์” รอบพิเศษ

Mc Fairy Super Model 2015 By Mc Jeans

นายองอาจ ฉัตรชัยพลรัตน์ ผูจ้ ดั การทีมฟุตบอลขอนแก่นเอฟซี พร้อมคณะ นักฟุตบอลฯ นำ�กระเช้ามอบให้ นายพิษณุ ไชยโกฎ ผู้จัดการห้างเทสโก้โลัส และ นายชรินทร์ สุธรี ะกูล ผูจ้ ดั การ major cineplex Group plc. สาขาโลตัส เพือ่ แสดง ความขอบคุณ ทีจ่ ดั ฉายภาพยนตร์เรือ่ ง “พันท้ายนรสิงห์” รอบพิเศษให้สอื่ มวลชน และประชาชนเข้าชม ณ โรงภาพยนตร์ major cineplex ห้างสรรพสินค้าเทสโก้ โลตัส ขอนแก่น 1 เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2559

แบงค์จีนรุกเปิดสาขาขอนแก่น รองรับเปิด AEC

คุณนพดล พัฒนพีระเดช กรรมการผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด ศูนย์สรรพสินค้าแฟรี่พลาซ่า ขอนแก่น และคุณวีระ สุจิตรานุภาพ ผู้อำ�นวยการ ฝ่ายขายผลิตภัณฑ์ Mc Jeans ได้มอบรางวัลให้แก่ นายภาคภูมิ แสงปุชุม และ นางสาว นิศาชล ดุนลุน ผูช้ นะเลิศ Mc Fairy Super Model 2015 By Mc Jeans จากการประกวดค้นหานายแบบ-นางแบบ Mc Fairy Super Model 2015 By Mc Jeans รอบชิงชนะเลิศ เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2559 ณ ตลาดต้นตาล ขอนแก่น นายหลี หมิ ง กั ง กงสุ ล ใหญ่ ส าธารณรั ฐ ประชาชนจี น ประจำ � ประเทศไทย ณ จังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า ธนาคารแห่งประเทศจีน BANK OF CHINA เป็นธนาคารที่มีส่วนร่วมในการวางแผนการเชื่อมโยงระบบการค มนาคมรถไฟฟ้าความเร็วสูง เส้นทางศึกษาจากจีนถึงกรุงเทพ ผ่านหนองคาย และขอนแก่น โดยรัฐบาลจีนเล็งเห็นว่า ขอนแก่นเป็นศูนย์กลางทางการเมือง เศรษฐกิจ วัฒนธรรมของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การคมนาคมสะดวกสบาย พืน้ ทีข่ องเมืองอยูใ่ นทำ�เลดี มีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ และยังเป็นศูนย์กลางเส้น ทางรถไฟจีน-ไทย ทีช่ ว่ ยส่งเสริมการคมนาคมในพืน้ ทีเ่ ขตภาคตะวันออกเฉียง เหนือ และการขนส่งสินค้าให้มีความคล่องตัว นอกจากนี้รัฐบาลไทยยังได้มีแนวทางในการส่งเสริมการลงทุน เขต เศรษฐกิจพิเศษ เขตนิคมอุตสาหกรรม เพือ่ ดึงดูดการลงทุนจากนักลงทุน ทำ�ให้ เศรษฐกิจมีการพัฒนา ธนาคารแห่งประเทศจีนได้เล็งเห็นศักยภาพการพัฒนา ทางด้านเศรษฐกิจของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จึงเลือกเปิดสาขาในจังหวัด

ฟอร์ด ประเทศไทย เปิดโชว์รมู และศูนย์บริการมาตรฐานฟอร์ดแห่งใหม่ อย่างเป็นทางการ เพือ่ ยกระดับการให้บริการทีพ่ ร้อมอำ�นวยความสะดวกสบาย ตาม มาตรฐานสากล Brand@Retailll ของฟอร์ด และมอบประสบการณ์ความ พึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า น.ส.ณิชชา อรุณเดชาชัย กรรมการบริหาร บริษัท ขอนแก่น สหชัย มอเตอร์ เซลส์ จำ�กัด เปิดเผยว่า บริษัท ฟอร์ด ประเทศไทย จำ�กัด เริ่มแห่งแรก ในจังหวัดขอนแก่นเมือ่ ปี 2539 ภายใต้ชอื่ บริษทั ขอนแก่น สหชัย มอเตอร์ เซลส์ จำ�กัด โดยมีโชว์รูมสำ�นักงานใหญ่ที่ ถนนมิตรภาพ และมีสาขาอยู่ที่ อำ�เภอ ชุมแพ อำ�เภอกระนวน และยังได้ขยายการลงทุนครอบคลุมจังหวัดเลย และ จังหวัดเพชรบูรณ์ สำ�หรับโชว์รูมและศูนย์บริการมาตรฐาน Brand@Retail ฟ อร์ด ซึ่งได้เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม2558 นับเป็นโชว์รูมแห่ง ที่ 6 ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเครือสหชัย กรุ๊ป ตั้งอยู่บนถนนมะลิวัลย์ อำ�เภอเมือง จังหวัดขอนแก่น เป็นการยกระดับประสบการณ์ใหม่ ทันสมัยและ ให้บริการครบวงจร มุง่ ไปสูค่ วามเป็นเลิศในด้านการขาย บริการ ความรักความ ผูกพัน ภายใต้วิสัยทัศน์ “The Oldest Dealership with the Strongest Vision for the future” ในปีที่ผ่านมา ภาพรวมอุตสาหกรรมรถยนต์เป็นช่วงที่ชะลอตัวลงจาก ปัจจัยทางเศรษฐกิจโลก แต่ที่ศูนย์ฟอร์ด ปิคอัฟ new ranger และ FORD Everest สวนกระแสด้วยยอดลูกค้าออกรถเพิ่มสูงขึ้นและยังมียอดสั่งจองข้าม มาปี 59 ซึง่ ลูกค้าจะได้รถยนต์ในราคาเดิมทีย่ ังไม่ได้ปรับราคา พร้อมแคมเปญ และความคุ้มครองที่คุ้มมาก และเชื่อว่าความต้องการของผู้ที่จำ�เป็นต้องใช้ รถยนต์จะทำ�ให้ตลาดอุตสาหกรรมรถยนต์ในปีหน้าสูงขึน้ กว่าปีทผี่ า่ นมา สำ�หรับ ฟอร์ดตัง้ เป้าไว้ที่ 8 แสนคัน ซึง่ ปิดยอดที่ 7 แสนคัน นับเป็นภาพรวมทีไ่ ม่ตาํ่ กว่า เป้าหมายทีก่ �ำ หนด โดยเฉพาะทีจ่ งั หวัดขอนแก่น ยอดขายเป็นไปตามทีก่ �ำ หนด กรรมการบริหาร ขอนแก่น สหชัย กล่าวต่อว่า ในปี 59 คาดว่าตลาด อุตสาหกรรมรถยนต์จะโตขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา 8-10% จะเห็นได้จากค่ายรถยนต์ แทบทุกค่ายมีการขยายฐานออกแถบชานเมืองมากขึ้น ทั้งนี้เพื่อรองรับจำ�นวน ลูกค้าให้มคี วามสะดวกในการเดินทาง และรองรับอัตราความต้องการของตลาด ทีโ่ ตขึน้ สำ�หรับมาร์เก็ตแชร์ทางตลาดไม่นา่ เป็นห่วง เพราะลูกค้าจะเป็นผูเ้ ลือก ว่ารถทีน่ �ำ ไปใช้เหมาะกับการใช้งานแบบไหน และการทีเ่ ลือกเปิดโชว์รมู FORD Khon Kaen Sahachai บนถนนมะลิวลั ย์ขอนแก่น นับเป็นอีกหนึง่ ข้อพิสจู น์ของ ฟอร์ด ที่มุ่งมั่นในการมอบประสบการณ์การเป็นเจ้าของรถที่ดีที่สุดให้กับฐาน ลูกค้าที่กำ�ลังเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง นางสาว ณิชชา กล่าวต่อไปว่า FORD Khon Kaen Sahachai ถนน ขอนแก่น นับเป็นสาขาที่ 5 ในประเทศไทย ซึง่ จังหวัดขอนแก่น ถือว่าเป็นศูนย์กลาง ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และศูนย์กลางอินโดจีน และยังเป็นจุดเชือ่ มต่อไปอีก หลายประเทศ เพือ่ ทีจ่ ะรองรับการขยายตัวทางธุรกิจ และปรับตัวเข้ากับประชาคม เศรษฐกิจอาเซียน ดังนัน้ ธนาคารแห่งประเทศจีน จึงมีความพร้อมในการขยายฐาน ตลาดในภาคอีสานเพื่อเป็นเส้นทางที่เชื่อมสู่ประเทศจีน BANK OF CHINA สาขาขอนแก่น ตัง้ อยูท่ ตี่ ลอดจอมพล ถ.กสิกรทุง่ สร้าง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ได้เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2558 โดยมี นายกำ�ธร ถาวรสถิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมด้วย นาย หลี หมิงกัง กงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีนประจำ� ประเทศไทย ณ จังหวัด ขอนแก่น ,นายจาง เหลย ผูจ้ ดั การธนาคารแห่งประเทศจีน (ไทย) จำ�กัด (มหาชน) ,ผู้อำ�นวยการ ธปท.สำ�นักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ,ผู้บริหารธนาคาร ,นัก ธุรกิจ และประชาชนร่วมในพิธี

มะลิวัลย์ ใช้งบประมาณกว่า 110 ล้านบาท มีพื้นที่ 5 ไร่ ออกแบบตามมาตรฐาน ระดับโลกเต็มพื้นที่ สามารถโชว์รถยนต์ได้มากถึง 20 คัน มีช่องซ่อม 9 ช่อง ใน ศูนย์บริการมีห้องพักลูกค้าขนาด ใหญ่ที่ถูกออกแบบให้ลูกค้าสามารถมองเห็น รถระหว่างรอซ่อม พร้อมเค้าเตอร์ Internet Service สำ�หรับบริการลูกค้า นับเป็น ศูนย์โชว์รมู และบริการทีท่ กุ ท่านสัมผัสถึงประสบการณ์อนั เป็นเลิศในทุกด้านตาม มาตรฐาน Brand@ Retail สะท้อนความเป็นเอกลักษณ์ของฟอร์ดที่ได้รับการ ออกแบบตามมาตรฐานระดับโลก โชว์รูมฟอร์ดแห่งใหม่นี้ บริหารงานโดยขอนแก่นสหชัยมอเตอร์เซลส์ ผู้มี ความรูค้ วามเชีย่ วชาญในการมอบบริการเหนือระดับให้กบั ลูกค้า โดยโชว์รมู และ ศูนย์บริการฟอร์ด สหชัย ขอนแก่นแห่งนี้เป็นโชว์รูมและศูนย์บริการแห่งที่ 4 ใน จังหวัดขอนแก่น และเป็นโชว์รูมและศูนย์บริการของ ขอนแก่น สหชัย มอเตอร์ เซลส์แห่งที่ 6 ซึง่ ครอบคลุมจังหวัดเพชรบูรณ์และจังหวัดเลย มีทมี ช่างผูเ้ ชีย่ วชาญ และได้รับการรับรอง พร้อมทั้งเครื่องมืออันทันสมัย เพื่อมอบการบริการที่ยอด เยี่ยมให้กับลูกค้า “นอกจากนี้ ขอนแก่น สหชัย มอเตอร์ เซลส์ ยังได้รับรางวัลมากมาย อาทิ รางวัลผูแ้ ทนจำ�หน่ายยอดเยีย่ ม (President’s Award, รางวัล Dealer Excellence) รางวัลชนะเลิศจากการแข่งขัน National Skills Contest ประเภทช่างเทคนิค และ เป็น ผู้จำ�หน่ายที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน Quality Care Sales and Service และมาตรฐาน Blue Oval Certified แห่งแรกในภาคอีสาน” น.ส.ณิชชา กล่าว

เปิด STARBUCKS DRIVE THRU

นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น มอบดอกไม้ แสดงความยินดีกับ คุณโฉมสุดา วโนทยาโรจน์ ผู้บริหารศูนย์ค้าส่ง อู้ฟู่ ใน โอกาสเปิด Grand Opening STARBUCKS DRIVE THRU โดยมี นายกำ�ธร ถาวรสถิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมนัก ธุรกิจ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนร่วมพิธีอย่างคับคั่ง ณ STARBUCKS DRIVE THRU ศูนย์คา้ ส่งอูฟ้ ู่ ถนนมิตรภาพ อำ�เภอเมือง จังหวัด ขอนแก่น เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2558


หน้า 10

ปีที่ 13 ฉบับที่ 140 ประจำ�เดือนมกราคม 2559

สั ม ผั ส วิ ถี ศ รั ท ธา “ปราสาทรวงข้ า ว” ในงานบุ ญ บายศรี สู่ ข วั ญ ข้ า วคู น ลาน นายสุ ห ฤทธิ์ ชาญวนั ง กู ร ผู้ อำ � นวย การการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ( ททท.) สำ�นักงานขอนแก่น เปิดเผยว่า เทศบาลตำ�บล เหนือ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ พร้อมวัดเศวตวัน วนาราม สภาวั ฒ นธรรมตำ � บลเหนื อ และ ชาวชุ ม ชนตำ � บลเหนื อ ได้ ร่ ว มกั น กำ � หนด จั ด งาน “ประเพณี บุ ญ บายศรี สู่ ข วั ญ ข้ า วคู น ลาน” ขึ้นในระหว่างวันที่ ๕ – ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ ณ วั ด เศวตวั น วนาราม บ้ า นต้ อ น ตำ�บลเหนือ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ เพื่อระลึกถึง บุ ญ คุ ณ ของพระแม่ โ พสพ ประกอบพิ ธี บุ ญ คูนลาน และร่วมทำ�บุญถวายปราสาทรวงข้าว ให้วัด อันเป็นการแสดงออกถึงความกตัญญู ต่อแผ่นดินที่ให้ผลผลิตเพื่อการยังชีพ ตลอด จนเป็ น การร่ ว มทำ � นุ บำ � รุ ง พระพุ ท ธศาสนา และสืบสานวัฒนธรรมประเพณีของท้องถิ่น ผู้อำ�นวยการ ททท. สำ�นักงานขอนแก่น กล่าว

เพิม่ เติมว่า นับตัง้ แต่ชว่ งต้นเดือนธันวาคม ๒๕๕๘ ชาวตำ�บลเหนือได้เริม่ เตรียมการสร้างปราสาทรวง ข้าวเพื่อใช้ในการประกอบพิธีบุญบายศรีสู่ขวัญ ข้ า วคู น ลานแล้ ว โดยการอาศั ย แรงงานศรั ท ธา และพลังความสามัคคีจากชาวชุมชนร่วมกันขึ้น โครงปราสาท พร้อมทำ�การรวบรวมคัดรวงข้าวที่ สมบูรณ์และทำ�การมัดรวงข้าวซึ่งได้จากศรัทธา ของชาวบ้ า นที่ นำ � มารวบรวมกั น ไว้ ที่ วั ด นำ � มา ประดับตกแต่งเป็นปราสาทรวงข้าวขนาดใหญ่ที่ ประณีตงดงาม โดยจะใช้ระยะเวลาราว ๒ เดือน ใน การจัดสร้างปราสาทรวงข้าว นับจากวันเริม่ ต้น จน สำ�เร็จสมบูรณ์พร้อมสำ�หรับการประกอบพิธีบุญ คูนลานสู่ขวัญข้าวตามกำ�หนดการในปี ๒๕๕๙ ปราสาทรวงข้าวในงานดังกล่าว จึงนับเป็นศิลปะ จากวิถีศรัทธาและพลังสามัคคีอันเปี่ยมเสน่ห์ด้วย เอกลักษณ์เฉพาะอันโดดเด่นที่แตกต่างจากการ ประกอบพิธีบุญคูนลานทั่วไป ซึ่งนักท่องเที่ยว

สามารถเข้าชมและมี ส่ ว นร่ ว มในขั้ น ตอน การสร้ า งปราสาท รวงข้ า วได้ ตั้ ง แต่ วั น นี้ เ ป็ น ต้ น ไปจนถึ ง กำ � หนดวั น จั ด งาน นอกจากเชิญชวนนัก ท่องเที่ยวให้เดินทาง มาชมและสั ม ผั ส ขั้ น ตอนกระบวนการ สร้ า งปราสาทรวง ข้ า วในพื้ น ที่ จ ริ ง ที่ วั ด เศวตวั น วนาราม จ.กาฬสิ น ธุ์ แล้ ว ททท.ยั ง กำ � หนดนำ � ปราสาท เผยแพร่ เ อกลั ก ษณ์ วิ ถี อี ส าน วิ ถี ไ ทยอั น เปี่ ย ม รวงข้ า วจำ � ลองไปจั ด แสดงในงานเทศกาล เสน่ห์ โดยหวังกระตุ้นให้เกิดกระแสการเดิน เที่ ย วเมื อ งไทย ณ สวนลุ ม พิ นี กรุ ง เทพฯ ใน ทางท่ อ งเที่ ย วมายั ง พื้ น ที่ เ พิ่ ม มากยิ่ ง ขึ้ น ต่ อ ไป ระหว่างวันที่ ๑๓ – ๑๗ มกราคม ๒๕๕๙ เพื่อ

ขอนแก่นมาราธอนมาตรฐานสากลสูม่ าราธอนโลก

จั ง ห วั ด ข อ น แ ก่ น ร่ ว ม กั บ มหาวิ ท ยาลั ย ขอนแก่ น องค์ ก รภาครั ฐ และ เอกชนจั ด การแข่ ง ขั น “ขอนแก่ น มาราธอน นานาชาติ ครั้ ง ที่ 13” พร้ อ มพั ฒ นายกระดั บ ให้ เ ป็ น มาตรฐาน สู่ ศู น ย์ ก ลางจั ด การแข่ ง ขั น ม า ร า ธ อ น ม า ต ร ฐ า น ส า ก ล แ ห่ ง ภู มิ ภ า ค อาเซียน หรือ “ASEAN Marathon Majors” นายกำ � ธร ถาวรสถิ ต ย์ ผู้ ว่ า ราชการจั ง หวั ด ขอนแก่ น เปิ ด เผยว่ า การจั ด การแข่ ง ขั น ขอนแก่ น มาราธอนนานาชาติ เป็ น มหกรรม กิ จ กรรมส่ ง เสริ ม การออกกำ � ลั ง กายที่ ยิ่ ง ใหญ่ ที่ สุ ด ที่ ช าวจั ง หวั ด ขอนแก่ น ทุ ก ภาคส่ ว นร่ ว ม จั ด ขึ้ น เป็ น ประเพณี ทุ ก ปี นอกจากการเผย แพร่ ป ระชาสั ม พั น ธ์ ใ ห้ ข อนแก่ น เป็ น ที่ รู้ จั ก ของชาวโลกแล้ ว ยั ง เป็ น การสร้ า งเสริ ม สุ ข ภาพ พลานามั ย ที่ ดี ส่ ง เสริ ม ให้ เ ยาวชน เห็ น ความสำ � คั ญ ของการออกกำ � ลั ง กาย การจัดกิจกรรมทุกครั้งที่ผ่านมา ไม่ว่าองค์ภาค รัฐหรือเอกชน รวมทั้งประชาชนชาวขอนแก่น ต่างให้ความสำ �คัญกับงานเป็นอย่างมาก การ จั ด การแข่ ง ขั น มาราธอนนานาชาติ ใ นครั้ ง นี้ ล้วนมีอาสาสมัคร ชาวบ้าน ต่างพร้อมใจร่วม กิจกรรม ทั้งสมัครเข้าแข่งขัน ร่วมเป็นกองเชียร์ ให้กำ�ลังใจนักวิ่งตลอดเส้นทางการแข่งขัน มี การตั้งจุดบริการนํ​ํ้าดื่ม ผลไม้ เพิ่มเติมจากทาง ผู้จัดได้เตรียมไว้ เชื่อว่า ในปีต่อๆ ไป ขอนแก่น จะมีการพัฒนานักกรีฑาไทยให้ก้าวสู่มาตรฐาน สากลระดับนานาชาติ และพัฒนาส่งเสริมนักวิ่ง ไทย สู่การวิ่งมาราธอนระดับอาชีพระดับสากล เพื่อก้าวสู่การเป็น Asean Marathon Majors และเป็ น ศู น ย์ ก ลางจั ด การแข่ ง ขั น มาราธอน มาตรฐานสากลแห่งภูมภิ าคอาเซียนได้ในอนาคต ดร.ณรงค์ชัย อัครเศรณี นายกสภามหาวิทยาลัย ขอนแก่น กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 52 ปี แห่ง การก่ อ ตั้ ง มหาวิ ท ยาลั ย ขอนแก่ น ได้ ดำ � เนิ น

กิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมส่วนรวมอย่าง ต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้าน “กีฬา” ซึ่งเป็น พื้นฐานสำ�คัญของการพัฒนาสุขภาพกายและใจ ทำ�ให้สามารถดำ�เนินชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งช่วยลดค่าใช้จ่ายของประเทศในการรักษา พยาบาลได้อีกทางหนึ่งด้วย การจัดการแข่งขัน “ขอนแก่ น มาราธอนนานาชาติ ” เป็ น อี ก หนึ่ ง กิ จ กรรมที่ ม หาวิ ท ยาลั ย ขอนแก่ น นำ � องค์ ค วาม รู้ ถ่ า ยทอดไปยั ง ชุ ม ชนและสั ง คม เพื่ อ สื บ สาน ให้ กี ฬ าวิ่ ง ของไทยก้ า วสู่ ม าตรฐานระดั บ สากล สร้ า งชื่ อ เสี ย งให้ ป รากฏแก่ ส ายตาชาวต่ า งชาติ “ปัจจุบัน ขอนแก่นมาราธอนนานาชาติ เป็นหนึ่ง ในสามของประเทศที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน การวิ่งจากองค์กรมาราธอนนานาชาติ หรือ AIMS เป้าหมายต่อไปคือ ยกมาตรฐานขอนแก่นมาราธอน นานาชาติ สู่ ศู น ย์ ก ลางจั ด การแข่ ง ขั น มาราธอน มาตรฐานสากลแห่งภูมภิ าคอาเซียน หรือ “ASEAN Marathon Majors” เป็น 1 ใน 5 ของภูมภิ าคอาเซียน ในปีอีก 5-10 ปีข้างหน้า และถ้าพวกเรามุ่งมั่น ร่วมมือกันอย่างจริงจัง เราย่อมสามารถเป็น 1 ใน 5 ของเอเชียภายใน 15 ปี และจะยกมาตรฐานสู่ ระดับ World Marathon Majors เป็น 1 ใน 10 ของ โลกในเวลา 20 ปีจากนี้ไป”ดร.ณรงค์ชัย กล่าว รศ.ดร.กิตติชยั ไตรรัตนศิรชิ ยั อธิการบดี มข. กล่าว ว่า ขอนแก่นมาราธอนนานาชาติเริ่มจัดครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ.2547 ในวาระครบรอบ 40 ปีแห่งการ สถาปนามหาวิทยาลัยขอนแก่น ปัจจุบันกลายเป็น ประเพณีของจังหวัดขอนแก่นที่จัดขึ้นเป็นประจำ� ทุกปี โดยความร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจของทุกภาค ส่วนในจังหวัดขอนแก่น ซึ่งในส่วนของ มข.ก็ได้ ระดมทั้งงบประมาณ ทรัพยากร นักศึกษาและ บุคลากร มาดำ�เนินงานกิจกรรมนี้ โดยมีเป้าหมาย ให้เป็นกิจกรรมที่จะปลูกฝัง เสริมสร้างเยาวชน ซึ่งเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าต่อการพัฒนาประเทศ ทั้ ง นี้ ไ ด้ มี ก ารนำ � เทคโนโลยี RFID มาใช้ เ พื่ อ

ติดตามตรวจสอบระยะ ทางและเวลาของผู้เข้า แข่งขันวิ่งมาราธอนโดย ใช้ RFID ซึ่งจะมีแท็ก ที่ มี คุ ณ ส ม บั ติ กั น นํ​ํ้ า สำ�หรับติดไว้ที่รองเท้า ข อ ง นั ก วิ่ ง แ ต่ ล ะ ค น ทำ�ให้มีประสิทธิภาพใน การอ่ า นค่ า ได้ อ ย่ า งต่ อ เนื่องและแม่นยำ� มข.ได้ พัฒนาซอฟต์แวร์ ชื่อ KKU Time Tracking มา นานกว่า 5 ปี เพื่อสนับสนุนการจัดงานขอนแก่น มาราธอนนานาชาติ ครั้งที่ 13 โดยเฉพาะ ตั้งแต่ ระบบลงทะเบี ย นนั ก วิ่ ง รวมไปถึ ง การแสดง ผลการแข่งขัน ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ � จึง มั่นใจได้ว่าการจัดการแข่งขันขอนแก่นมาราธอน นานาชาติ จะไม่เกิดข้อผิดพลาดจากระบบดังกล่าว ความรู้และประสบการณ์ที่ได้จากการวิจัยพัฒนา เพื่อโครงการนี้ ได้สั่งสมทักษะ ความชำ�นาญการ ประยุกต์ใช้ เทคโนโลยี RFID ซึ่งกำ�ลังมีบทบาท สำ � คั ญ ในการประยุ ก ต์ ใ ช้ ภ าคธุ ร กิ จ หลายด้ า น การจั ด แข่ ง ขั น ครั้ ง ที่ ผ่ า นมาเราประสบความ สำ�เร็จอย่างดียิ่ง โดยมีนักวิ่งชาวไทยและชาวต่าง ประเทศเข้าร่วมการแข่งขันมากถึง 40,000 คน โดยในส่วนของนักวิ่งต่างชาติมีจำ�นวนถึง 40 กว่า ประเทศ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการจัดการแข่งขัน ที่ มี ค วามเป็ น สากลเป็ น ที่ ย อมรั บ ของนั ก วิ่ ง มื อ อาชีพชาวต่างชาติ เพื่อเป็นการปลูกฝัง เสริมสร้าง เยาวชน ให้ มี สุ ข ภาพร่ า งกายที่ แ ข็ ง แรง สนใจ เรื่ อ งการกี ฬ าและหมั่ น ออกกำ � ลั ง กายอย่ า งถู ก ต้องเป็นประจำ� มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้ดำ�เนิน งานโครงการ “สานฝันสู่วันขอนแก่นมาราธอน นานาชาติ ” ควบคู่ ไ ปกั บ การจั ด การแข่ ง ขั น ต่ อ เนื่องมาทุกปี มีการสนับสนุนให้นักเรียนได้วิ่ง โดยไม่ ต้ อ งจ่ า ยค่ า สมั ค ร จั ด สรรที่ พั ก และค่ า

ขอพระองค์ทรงพระเจริญ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้า

คณะผู้บริหาร และพนักงาน บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำ�กัด (มหาชน)

เดิ น ทางให้ ฟ รี มี ก ารจั ด ฝึ ก อบรมครู ผู้ ฝึ ก สอน นั ก วิ่ ง และนั ก วิ่ ง ที่ เ ข้ า ร่ ว มโครงการ และยั ง สนับสนุนทุนให้ไปร่วมการแข่งขันรายการต่างๆ “มหาวิทยาลัยได้ประชุมเตรียมงานเพื่ออำ �นวย ความสะดวกในด้ า นต่ า งๆ แก่ นั ก วิ่ ง และจาก ประสบการณ์ ทั้ ง 12 ครั้ ง ที่ ผ่ า นมา และเราได้ แก้ไขจุดบกพร่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นทุกด้าน และ ในด้านสถานที่จัดงาน สิ่งอำ�นวยความสะดวก ต่างๆ ได้ปรับปรุงสภาพถนนและภูมิทัศน์ให้ดี และสวยงามมากยิ่ ง ขึ้ น ด้ า นการจราจรภายใน มหาวิทยาลัยได้วางแผนเพื่อให้นักวิ่งได้รับความ สะดวกและปลอดภั ย ” รศ.ดร.กิ ต ติ ชั ย กล่ า ว สำ�หรับการแข่งขันมาราธอนครั้งที่ 13 กำ�หนดจัด ขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 มกราคม 2559 จุดสตาร์ท ที่ ม หาวิ ท ยาลั ย ขอนแก่ น แบ่ ง การแข่ ง ขั น ออก เป็น 4 ประเภท ได้แก่ มาราธอน ระยะทาง 42.195 กิโลเมตร ฮาล์ฟมาราธอน 21.10 กิโลเมตร มินิ มาราธอน 11.55 กิโลเมตร และประเภทเดินวิง่ เพือ่ สุขภาพ ระยะทาง 4.5 กิโลเมตร โดยผู้ที่เข้าเส้นชัย อันดับแรกทั้งชายและหญิงในประเภทมาราธอน จะได้รับถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่ หั ว ฯ ฮาล์ ฟ มาราธอนรั บ ถ้ ว ยพระราชทาน สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และมินิ มาราธอนรับถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตน ราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และรางวัลเงินสด

อวยพรวั น คริ ส ต์ ม าสและปี ใ หม่ ; มร.แสตนลี่ ย์ ชาน ผู้ จั ด การใหญ่ โ รงแรมพู ล แมน ขอนแก่ น ราชา ออคิ ด นำ � ที ม ฝ่ า ยขายและการตลาดโรงแรมฯ เข้ า มอบกระเช้ า ของขวั ญ และร่ ว มอวยพร ผู้ นำ � องค์ ก รทั้ ง ภาครั ฐ และเอกชนในจั ง หวั ด ขอนแก่ น เนื่ อ งในโอกาส วั น คริ ส ต์ ม าสและวั น ปี ใ หม่ ซึ่ ง ถื อ เป็ น วั น แห่ ง การเฉลิ ม ฉลองตามธรรมเนี ย มของสากล

ส่ ง กลั บ ไปทำ � งาน หลั ง ม า เ ที่ ย ว ปี ใ ห ม่ ; นายกำ � ธร ถาวรสถิ ต ย์ ผวจ.ขอนแก่น พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ ร่วม กั น ตรวจเยี่ ย มจุ ด บริ ก าร อำ � นวยความสะดวกผู้ ใ ช้ รถใช้ถนนในช่วงเทศกาลปี ใหม่ และในวันสุดท้ายของ ช่วง 7 วันอันตราย ได้มาร่วมกันโบกมือเพือ่ เป็นการส่งขบวนรถทีจ่ ะเดินทางกลับไปทำ�งาน หลังจาก ที่เดินทางมาเที่ยวบ้านในช่วงปีใหม่ งานมหัศจรรย์สวนเรืองแสง ; นายกำ�ธร ถาวรสถิตย์ ผู้ว่า ราชการจั ง หวั ด ขอนแก่ น เ ป็ น ป ร ะ ธ า น เ ปิ ด ง า น มหั ศ จรรย์ ส วนเรื อ งแสง “Happy Dino Land” โดย มี นายธี ร ะศั ก ดิ์ ฑี ฆ ายุ พันธุ์ นายกเทศมนตรีนคร ขอนแก่ น พร้ อ มหั ว หน้ า ส่วนราชการ ข้าราชการ ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน ตลอดจนประชาชนในจังหวัด ขอนแก่น ร่วมเป็นเกียรติ ณ บริเวณสวนสาธารณะประตูเมืองขอนแก่น อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น

บ ร ร ย า ก า ศ ภ า พ กิ จ ก ร ร ม วั น เ ด็ ก แ ห่ ง ช า ติ ป ร ะ จำ � ปี 2 5 5 9 โ ร ง แ ร ม พู ล แ ม น ข อ น แ ก่ น ร า ช า อ อ คิ ด เพราะเด็กคือกำ�ลังของชาติ วันที่ 9 มกราคม 2559 ที่ผ่านมา ทาง โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด ได้ตระหนักถึงความสำ�คัญ ของเด็ก จึงได้จัดกิจกรรมวันเด็กขึ้น บริเวณลานด้านหน้าของโรง แรมฯ เพื่อให้เด็กๆได้ตระหนักถึงบทบาทและหน้าที่ของตน รวม ทั้งปลูกฝังให้เด็กๆได้มีส่วนร่วมในสังคม โดยทางโรงแรมฯ ได้มี กิจกรรมให้เด็กได้รว่ มกันทำ�กิจกรรมต่างๆมากมาย เพือ่ ให้เด็กๆได้ กล้าคิด กล้าทำ� กล้าแสดงออก และสุดท้ายของงานได้มีการมอบ ของรางวัลจากทางผู้บริหารและทางโรงแรมฯ ให้กับเด็กๆทุกคน

ฟุ ต บอล “อบจ.ขอนแก่ น คั พ ต้ า นยาเสพติ ด ” ; ดร.พงษ์ ศั ก ดิ์ ตั้ ง วานิ ช ก พงษ์ นายก อบจ.ขอนแก่น เป็นประธานปิดการแข่งขัน ฟุตบอล “อบจ.ขอนแก่นคัพ ต้านยาเสพติด” ครั้งที่ ๑๑ ประจำ�ปี ๒๕๕๘ เพื่อทำ�ให้ เกิดความรัก ความสามัคคี มี นายสิทธิกลุ ภูค�ำ วงศ์ รองนายก อบจ.ขอนแก่น พร้อมด้วยสมาชิกสภาองค์การ บริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ,คณะผูบ้ ริหาร หัวหน้าส่วนราชการ และข้าราชการ อบจ.ขอนแก่น ร่วมเป็น เกียรติ ณ สนามกีฬา องค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมือ่ วันที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๕๘

เลอ สปา – สถานบริ ก ารสปามาตรฐานโรงแรมระดั บ 5 ดาว ของโรงแรมพู ล แมน ขอนแก่ น ราชา ออคิ ด ขอนำ � เสนอข้ อ เสนอพิ เ ศษต้ อ นรั บ การเริ่ ม ต้ น แห่ ง ปี . ... กั บ “ส่วนลด 40%” สำ�หรับทรีทเม้นท์ยอดนิยมที่ เลอสปา โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด สอบถามเพิ่ ม เติ ม และสำ � รองทรี ท เม้ น ท์ ที่ คุ ณ ต้ อ งการ 66 43 322 155 ต่ อ หมายเลข 8


หน้า 11

ปีที่ 13 ฉบับที่ 140 ประจำ�เดือนมกราคม 2559 ธุรกิจอสังหาปีลงิ

• ต่อจากหน้า 1 ก็ยังปล่อยยาก ปีนี้กลุ่มคนซื้ออยู่เองจะมากขึ้น ซึ่ง และผลิตภัณฑ์รังนกเพียว จำ�หน่ายบนเครื่อง และ จ่ายของนักศึกษาและบุคลากร มข.ลดมลภาวะทาง จ้างในครั้งนี้ มข.ได้มีข้อกำ�หนดการจ้างอย่างรัดกุม อนาคตรัฐบาลมีแผนลงทุนรถไฟไทย-จีน เริม่ สร้าง

นายอภิชาติ สินธุมา ผูจ้ ดั การภูมภิ าค 1 บริษทั ซี.พี. แลนด์ จำ�กัด (มหาชน) กล่าวว่า ธุรกิจทุกประเภท มีความเสี่ยง โดยเฉพาะธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ ที่เกิดการชะลอตัวมาราว 2-3 ปี โดยเฉพาะปีที่ผ่าน มาผลกระทบจากสถาบันการเงินไม่ปล่อยสินเชื่อ ทำ�ให้ธุรกิจอสังหาฯ ล้นตลาดจากโครงการเดิม ที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่ ยังมีโครงการใหม่เพิ่มเติม ทำ�ให้ดมี านซัพพลายไม่มคี วามสมดุล ผูป้ ระกอบกา รด้านอสังหาฯ จำ�เป็นต้องมีการปรับเพื่อประคอง ให้ธุรกิจผ่านพ้นช่วงวิกฤตที่เกิดจากการชะลอตัว ของเศรษฐกิจ ทั้งจากปัจจัยภายในประเทศและ การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก อีกทั้งปัจจัยที่ไม่ สามารถควบคุมได้ซึ่งเกิดจากภัยธรรมชาติ ทำ�ให้ มองว่าตลาดอสังหาฯในปี 59 ยังไม่มีการตอบรับ ในทางบวก เครื อ ซี . พี . แลนด์ ได้ ล งทุ น ทำ � ธุ ร กิ จ ด้านอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดขอนแก่นรวม 3 โครงการ โดยเริ่มจาก กัลปพฤกษ์ คอนโดมิเนียม มะลิ วั ล ย์ 237 ห้ อ ง ซึ่ ง ได้ รั บ การตอบรั บ จาก ประชาชนที่ต้องการใช้เป็นที่อยู่อาศัยจริง โอน เรียบร้อย 100% ส่วนโครงการที่ 2 กัลปพฤกษ์ พาร์ค 2 อาคาร 158 ห้อง ลูกค้ากู้สถาบันการเงิน ไม่ผ่าน คืนดาวน์จำ�นวน 5 ห้อง ส่วนโครงการที่ 3 กัลปพฤกษ์ เลควิว ขอนแก่น 3 อาคาร 237 ห้อง ยังเหลืออีก 80-90 ห้อง นอกจากคอนโดเพื่อที่อยู่ อาศัยแล้ว ยังมีอาคารและสำ�นักงานให้เช่าจำ�นวน 2 โครงการ สำ�หรับโครงการแรกยังมีเพียงอาคารพา นิชย์ดา้ นหน้าห้างสรรพสินค้า เทสโกโลตัสที่ ลูกค้า ยังหมุนเวียนอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันยังเหลือ อาคารพานิชย์วา่ งอีกจำ�นวน 4 ห้อง ส่วนโครงการที่ 2 มี 2 อาคาร โดยอาคารแรก บริษทั ทรูคอร์ปอเรชัน่ จำ�กัด เช่าเต็มพืน้ ที่ 100% รวม 6,881.97 ตรม. ส่วน อาคารที่ 2 พื้นที่รวม 4,480 ตรม. ยังเหลือพื้นที่ว่าง ให้เช่าอีกกว่า 50% นายอภิชาต กล่าวต่อว่า แนวโน้มอสังหาใน ปี 2559 เชือ่ ว่าโครงการต่างๆ น่าจะมีการปรับลดลง แต่อย่างไรก็ตาม มองว่าเป็นโอกาสของนักลงทุน ท้องถิ่นที่จะลงทุนด้านอสังหาฯ เนื่องจากต้นทุน ไม่สูงมากเกินไป และมีปัจจัยที่เอื้อในการเป็นคน พื้นที่ มีที่ดินอยู่แล้ว ทำ�ให้ได้เปรียบนักลงทุนส่วน กลางหรือนักลงทุนต่างชาติทไี่ ม่สามารถลงทุนอสัง หาได้เต็มที่ เนือ่ งจากราคาทีด่ นิ ซึง่ มีการปรับตัวสูง 300-400% แต่ลดลงไม่ถึง 10% ทำ�ให้ราคาที่ดินใน เมืองขอนแก่นยังสูงเกินความเป็นจริง เป็นเหตุให้ ราคาต้นทุนอสังหาฯ สูง และยังมีปัจจัยเสี่ยงจาก ภาวะเศรษฐกิจซึมยาว แต่ทั้งนี้ นักลงทุนท้องถิ่น ควรขยายธุรกิจอื่นๆ เพิ่มเติมเพื่อประคองตัวให้ เกิดความยืดหยุ่น รวมทั้งลดอัตราความเสี่ยงจาก การทำ�ธุรกิจหน้าเดียว และหากต้นทุนไม่มากพอ ให้ยืนระยะได้ยาวนานอาจเกิดผลกระทบได้ง่าย ปัญหาซัพพลายอสังหาฯ จากปีที่ผ่านมา ลูกค้าไม่สามารถกู้ผ่านสถาบันการเงินทำ�ให้มีการ คืนเงินดาวน์และยอดจองมากกว่า 30% ถึงแม้การก ระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐที่มีนโยบายให้สถาบัน การเงินปล่อยสินเชือ่ แต่ยงั ไม่สามารถกระตุน้ ยอด การขายอสังหาฯ ให้เพิ่มขึ้นมาได้ เนื่องจากยังมีข้อ กำ�หนดจากปัจจัยหนีค้ รัวเรือนสูง อีกทัง้ ไม่สามารถ เพิ่มวงเงินกู้ใหม่ได้อีก รวมถึงความระมัดระวังใน การปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน ที่มุ่งเน้นที่ ข้าราชการมีเงินเดือนประจำ�มากกว่าลูกค้าที่ทำ� ธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก ดังนั้น การแก้ ปัญหาและช่วยกระตุน้ ธุรกิจอสังหาในปี 59 จึงเป็น มาตรการทีช่ ว่ ยได้ในระดับหนึง่ แต่ไม่สามารถเพิม่ ยอดขายให้กบั ธุรกิจได้ จึงยังไม่สง่ ผลให้เห็นเป็นรูป ธรรมชัดเจน สำ�หรับภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ใน ปี 2559 นายอภิชาต ประเมินว่า แม้ว่าผู้ประกอบ การส่วนใหญ่จะมองว่าเศรษฐกิจโดยรวมน่าจะดี ขึ้นกว่าปีที่แล้ว แต่ในส่วนตัวมองว่า น่าจะลดลง หรือใกล้เคียงเดิม เพราะของเดิมที่มีอยู่ในตลาดทั้ง อยูร่ ะหว่างก่อสร้างและสร้างเสร็จแล้วแต่ยงั ขายไม่ ได้ ยังเหลืออยู่ในสต๊อกอีกจำ�นวนหนึ่ง โครงการบ้ า นจั ด สรรหลายโครงการก็ เลื่อนการเปิดตัวจากปีที่แล้ว และปีนี้กลุ่มคนซื้อ จะเปลี่ยนจากเดิมมีกลุ่มเก็งกำ�ไรจำ�นวนมาก แต่ปี นี้กลุ่มเก็งกำ�ไรจะชะลอตัว เพราะที่ซื้อมาเก็งกำ�ไร

กลุม่ ซือ้ อยูเ่ องจะพิจารณาทัง้ เปิดใหม่และพร้อมอยู่ โดยเฉพาะทำ�เลรอบนอกตัวเมืองมีโครงการสร้าง เสร็จเหลือขายเยอะมาก เฉลี่ย 20% ต่อโครงการ ยังไม่นับรวมของที่คนเก็งกำ�ไรเอามาขายใหม่ใน ตลาดอีก ซึ่งถ้าผู้ประกอบการจะเปิดตัวใหม่ก็ชน กับสินค้ากลุ่มนี้ที่มีราคาถูกกว่าอย่างเลี่ยงไม่ได้ นายอภิชาต กล่าวต่อไปว่า ธุรกิจอสังหาฯ จะเป็นตัวขับเคลือ่ นเศรษฐกิจทีเ่ ห็นผลเด่นชัด และ รวดเร็วกว่าธุรกิจทุกประเภท ดังนั้น หากรัฐบาล ต้องการช่วยส่งเสริมและกระตุ้นให้เศรษฐกิจฟื้น ตัวอย่างแท้จริง จำ�เป็นต้องมองการผลิตพืชผล ทางการเกษตร หากปัจจัยพืชผลทางการเกษตร ตกตํ่า ปลูกข้าวได้น้อยและไม่มีคุณภาพ ปัญหา ภัยแล้งซึ่งเกิดจากธรรมชาติ ล้วนเป็นปัจจัยที่ไม่ สามารถควบคุมได้ ชาวนาและเกษตรกรไม่สามารถ ขายข้าวและพืชผลผลิตได้ราคา ส่งผลให้ไม่มีการ จ้างแรงงาน ล้วนเป็นลูกโซ่ที่ส่งผลให้เศรษฐกิจ ซบเซาตามไปด้วย ซึ่งการฟื้นฟูเศรษฐกิจต้องแก้ ปัญหาที่เกษตรกรและพืชผลทางการเกษตร ซึ่งจะ เป็นตัวขับเคลื่อนให้กลไกทางธุรกิจมีความเติบโต ด้ า นนายสถาพร บั ว ใหญ่ เจ้ า ของร้ า น สถาพรจิวเวลรี่ และผูบ้ ริหารโครงการ SP Property Perfect Life กล่าวว่า หันมาจับธุรกิจอสังหาโดยทำ� โครงการบ้านเดี่ยว และทาวโฮม “สถาพรพร็อพเพ อร์ตี้ ขอนแก่น” บนถนนเหล่านาดี บ้านสะอาด อ.เมือง จ.ขอนแก่น เป็นโครงการแรก และเป็น ช่วงขาลงของธุรกิจด้านอสังหาฯ ที่กำ�ลังซบเซา โดยเฉพาะปีทผี่ า่ นมา มีผลกระทบจากลูกค้าคืนเงิน ดาวน์บา้ ง ลูกค้าชลอการตัดสินใจเพราะยังไม่มนั่ ใจ ในสภาพเศรษฐกิจและทิศทางของรัฐบาล เป็นปีที่ ไม่มีความเคลื่อนไหวทางธุรกิจอสังหาฯ ปลายปี 58 ทีร่ ฐั บาลกระตุน้ สถาบันการเงิน เพือ่ ให้เกิดความเคลือ่ นไหวทางธุรกิจอสังหาฯ โดยมี การลดหย่อนภาษี ซึง่ ได้ผลในระดับหนึง่ ทำ�ให้ลกู ค้า ตัดสินใจเช่าซื้อบ้านเร็วขึ้น ลูกค้ามีแรงผลักดันใน การทำ�ธุรกรรมทางการเงินมากกว่าปีที่ผ่านมา แต่ ปัญหาการปล่อยเงินกูจ้ ากสถาบันการเงินยังมีปญ ั หา เหมือนเดิม เพราะธนาคารจะอนุมตั ผิ า่ นให้เฉพาะที่ เป็นข้าราชการ พนักงานของรัฐทีม่ เี งินเดือนเท่านัน้ จึงสามารถกูผ้ า่ นได้ ส่วนประชาชนทีท่ �ำ การค้าหรือ ธุรกิจอืน่ ๆ ยังเข้มงวดมากทัง้ ทีล่ กู ค้าบางรายมีกำ�ลัง ซือ้ มีก�ำ ลังในการผ่อนชำ�ระ แต่สถาบันการเงินยังไม่ ปล่อยสินเชือ่ ทำ�ให้การทำ�ธุรกรรมผ่านสถาบันการ เงินยังเกิดปัญหาเหมือนเดิม นายสถาพร กล่าวต่อว่า สำ�หรับโครงการ บ้ า นพร้ อ มอยู่ สถาพรพร็ อ พเพอร์ ตี้ ขอนแก่ น โครงการที่ 1 กำ�ลังปิดโครงการทีบ่ า้ น 4 หลังสุดท้าย และกำ�ลังเปิดโครงการที่ 2 ซึ่งจะเป็นบ้านเดี่ยว ขนาดใหญ่ 23 หลัง พร้อมอาคารพาณิชอีก 8 ห้อง โดยพร้อมลงเสาเข็มในเดือนหน้า และจะมีการจัด โปรมโมชั่นพิเศษในวันเปิดตัว จากประสบการณ์ ในการทำ�บ้านจัดสรร ไม่เน้นที่ต้องเป็นโครงการ ใหญ่ แต่เน้นคุณภาพของวัสดุที่ใช้ การออกแบบที่ ทันสมัย การอยู่อาศัยที่สอดคล้องกับยุคสมัยและ เทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป และด้วยเป็นคนในพื้นที่ จึง ให้ความสำ�คัญกับการสร้างบ้านทุกหลังให้เหมือน บ้านที่เราอยู่เอง โดยเอาใจเขามาใส่ใจเรา บ้านทุก หลังจึงเป็นบ้านทีท่ กุ คนอยากอยู่ ไม่ใช่บา้ นทีส่ ร้าง ให้ใครอยู่ก็ได้ “ตลาดในช่วงต้นปี ผู้ประกอบการน่าจะ ชะลอเปิดตัวโครงการใหม่ เพราะต้องระบายบ้าน ที่มีอยู่ออกไปให้หมด ที่สำ�คัญในต่างจังหวัดยังคง ต้องอาศัยกำ�ลังซื้อของคนในพื้นที่เป็นหลัก และ บ้านจัดสรรโยเฉพาะบ้านเดี่ยว มีแนวโน้มที่ดีกว่า คอนโดมิเนียมค่อนข้างมาก แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับ ภาวะเศรษฐกิจ และราคาสินค้าเกษตร”

เสริมสวยแบรนด์ไทย

• ต่อจากหน้า 1

นางอนิตา จันทรัศมี เลอเฟบว์ร กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท พิธานไลฟ์ จำ �กัด เจ้าของผลิต เครื่องสำ�อางพรีมาเนสท์ ซึ่งเป็นเครื่องสำ�อางผสม รั ง นกบริ สุ ท ธิ์ ร ะดั บ พรี เ มี ย ม เปิ ด เผยในโอกาส ที่ บ ริ ษั ท ฯจั ด งานขอบคุ ณ ลู ก ค้ า ในพื้ น ที่ จั ง หวั ด อุดรธานีและใกล้เคียง พร้อมกับเปิดเผยว่าในเดือน มกราคม 2559 สายการบินฮ่องกงแอร์ไลน์ จะ นำ�เอาผลิตภัณฑ์ Primanest ได้แก่ครีมชนิดต่างๆ

พยายามที่จะทำ�ให้ยอดการขายผลิตภัณฑ์มีความ เติบโตขยายตัวได้ไม่น้อยกว่า 50% ของปี 2558 นางอนิตาฯ กล่าวต่อว่า สำ�หรับผลิตภัณฑ์ ของ Primanest เป็นผลิตภัณฑ์เครือ่ งสำ�อางบำ�รุงผิว และอาหารรังนกบรรจุขวด Primapure ที่ปราศจา กนํ​ํ้าตาล ทั้งนี้มีผลวิจัยจากนักวิทยาศาสตร์ พบว่า รังนกนั้นอุดมด้วยไกลโคโปรตีน (Glycoprotein) สารออกฤทธิ์ ท างชี ว ภาพที่ ทำ � งานในระดั บ ลึ ก ระดับเซลล์ มีบทบาทสำ�คัญในการรักษาสมดุล ของร่างกาย เช่นช่วยสร้างเซลล์เม็ดเลือดขาว เสริม ภูมิคุ้มกัน ป้องกันเชื้อโรค และสร้างฮอร์โมนฯลฯ น อ ก จ า ก นี้ แ ล้ ว ยั ง พ บ ว่ า ใ น ส า ร ส กั ด จ า ก รังนก ประกอบด้วย EGF: Epidermel Growth Factor ที่ ช่ ว ยกระตุ้ น เซลล์ เ สริ ม สร้ า งคอลลาเ จน ช่ ว ยบำ � รุ ง ผิ ว พรรณให้ ยื ด หยุ่ น กระชั บ เต่ ง ตึ ง กระชั บ ความอ่ อ นเยาว์ ทั้ ง หมดนี้ ผ สมอยู่ ในผลิ ต ภั ณ ฑ์ ข อง Primanest และผลิ ต ภั ณ ฑ์ รังนกPrimapure บรรจุขวดขนาด 40 กรัม ที่ไม่มี การผสมนํ​ํ้าตาล “สำ�หรับผลิตภัณฑ์ Primanest ของบริษัท พิธานไลฟ์ จำ� กัดนี้ ขณะนี้ถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ เครื่องสำ�อางและอาหารที่ทำ�จากรังนก ที่ยังไม่มีคู่ แข่งในตลาด ซึ่งผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ของ Primanest มี ความเข้าใจดี แต่ก็ยังมีหลายคนเข้าใจว่า รังนกนั้น เพื่อรับประทานเท่านั้น แต่รังนกมีกรดเซียลิกอยู่ มากกว่า 9% ซึ่งกรดเซียลิกดังกล่าวมีประโยชน์ต่ อร่างกายมาก โดยเฉพาะช่วยทำ�ให้ไม่เกิดโรคสมอง เสื่อม” น า ง อ นิ ต า ฯ ก ล่ า ว อี ก ว่ า สำ � ห รั บ ผลิตภัณฑ์ Primanest ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ของคน ไทย ตนเองทำ�ออกมาเพื่อคนไทยและคนเอเชีย ซึ่ง ได้รับการตอบสนองจากคนไทยและกลุ่มประเทศ อาเซียนดีมาก โดยเฉพาะในตลาดเครื่องสำ �อาง ของ สปป.ลาว ทำ�ให้ยอดขายในปีที่ผ่านมา เติบโต มาก อย่างไรก็ตามผลิตภัณฑ์ของบริษทั ฯก็ยงั ถือว่า เป็น SMEs และพยามสร้างตลาดให้มากๆ โดย ในปีหน้าหวังว่าจะให้ยอดตลาดเติบโตสัก 50% เนื่องจากในปีหน้าผลิตภัณฑ์ได้รับไว้วางใจจาก สายการบินฮ่องกง แอร์ไลน์ นำ�ขึ้นวางขายกับสิน ค้าอื่นๆ และบริษัทฯมีแผนในการออกผลิตภัณฑ์ อีก 4 ตัว ได้แก่ Cleansing gel ,Ultimate cream ,Whitening cream และ Facial Mask “การตัง้ สาขาทีจ่ งั หวัดอุดรธานี ถือเป็นการ ขยายสาขาสู่ต่างจังหวัดเป็นแห่งแรกของประเทศ และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จึงมีเป้าหมายให้ จังหวัดอุดรธานีเป็น HUB ของการกระจายสินค้า เพราะมีความเติบโตทางด้านเศรษฐกิจอย่างต่อ เนื่อง และมีเส้นทางในการคมนาคมการเชื่อมโยง กับจังหวัดข้างเคียงหรือประเทศเพื่อนบ้านอย่าง สะดวกสบาย โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าใน สปป.ลาว ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดี ส่วนการขยายสาขา จะมุ่งเน้นในจังหวัดที่มีความเติบโตทางเศรษฐกิจ และมีกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติค่อนข้างมาก โดยตัง้ เป้าหมายความเติบโตของสินค้าในปีหน้าไว้ ที่ 50%” นางอนิตาฯ กล่าว

มข.ทุ่มงบ40ล.

• ต่อจากหน้า 1

รศ.ดร.กิตติชัย ไตรรัตนศิริชัย อธิการบดี มหาวิทยาลัยขอนแก่น เปิดเผยว่า เป้าหมายการเป็น มหาวิทยาลัยแนวหน้าระดับสากลในปี 2562 เป็นไป ตามประเด็นยุทธศาสตร์นโยบายเสาหลักที่ 1 Green and Smart Campus คือการสร้างความเป็นเลิศในการ บริหารจัดการ และนโยบายเสาหลักที่ 3 Culture and care คือองค์กรที่มีความห่วงใยต่อสังคม จากสถิติ จะเห็นได้ว่าปริมาณการใช้รถภายใน มข.ประมาณ 30,000-40,000 คนต่อวัน ส่งผลให้เกิดความแออัด ของการจราจรบางช่วงเวลา โดยเฉพาะช่วงเวลาเร่ง ด่วน นำ�ไปสู่การเกิดอุบัติเหตุ สูญเสียทั้งชีวิตและ ทรัพย์สิน อีกทั้งยังเกิดมลพิษทางอากาศ มข.ใน ฐานะองค์กรที่ห่วงใยต่อสังคม จึงได้พยามบริหาร จัดการทรัพยากรภายในมหาวิทยาลัยอย่างคุม้ ค่า โดย ลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล ลดมลพิษ และลดค่า ใช้จ่าย ภายใต้แนวคิด KKU Smart Transit เน้นรถ ขนส่งมวลชนที่ทันสมัยและใส่ใจสิ่งแวดล้อม โครงการบริการขนส่งมวลชน ระยะที่ 3 เพือ่ ลดอุบตั เิ หตุใน มข.ให้เป็นศูนย์ และช่วยลดค่าใช้

อากาศ และอำ�นวยความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการ ทั้งภายในและภายนอกมหาวิทยาลัย โดยเน้นการ ประหยัดพลังงาน มีความสะดวก ปลอดภัย ไร้มลพิษ อีกทั้งต้องมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย มีระบบ WIFI พร้อมทั้งมี GPS ติดตาม รถทุกคัน ที่สำ�คัญสามารถ กำ�หนดเวลาในการเดินทางได้ด้วย Application บน มือถือ ซึ่งผู้ใช้บริการสามารถทราบได้ว่ารถถึงจุดที่ เราต้องการเวลาใด และในชั่วโมงเร่งด่วนจะมี รถ บริการทุก 5 นาที อธิการบดี มข. กล่าวต่อไปว่า มข.ยังมอบ รางวัลให้กับนักศึกษาและบุคลากรที่ใช้บริการเป็น ประจำ� โดยการใช้บัตรนักศึกษา และบัตรพนักงาน สแกนที่ เ ครื่ อ งเก็ บ ข้ อ มู ล ผู้ ใ ช้ บ ริ ก ารภายในรถ เนื่องจากมหาวิทยาลัยต้องการรณรงค์การใช้ระบบ ขนส่งมวลชนให้มากขึ้น ส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อม ตามนโยบาย Green and Smart Campus ประหยัด งบประมาณของบุ ค ลากร และทำ � ให้ ป ระชาคม ชาว มข.มีความปลอดภัยบนท้องถนน ทั้งนี้ เพื่อ ให้การบริหารจัดการรถขนส่งมวลชนอย่างดีและ มีประสิทธิภาพ ลดอุบัติเหตุให้เป็นศูนย์ ประหยัด ค่าใช้จ่ายนํ​ํ้ามันเชื้อเพลิง และมลพิษทางอากาศ และเพื่ อ ให้ เ กิ ด การมี ส่ ว นร่ ว มของนั ก ศึ ก ษา รถ ขนส่งมวลชนสาธารณะ จะมีลวดลายที่ออกแบบ โดยนั ก ศึ ก ษาคณะสถาปั ต ยกรรมศาสตร์ มข.สี เขียวหมายถึงความห่วงใย สีนํ​ํ้าตาลหมายถึงเชื่อม โยงวิ ช าการสู่ ชุ ม ชน สี เ หลื อ งหมายถึ ง ความคิ ด สร้างสรรค์ สีแดงหมายถึงมหาวิทยาลัยแห่งความ สุข และรูปแบบสามเหลี่ยมหมายถึงความรุ่งเรือง “มหาวิ ท ยาลั ย ขอนแก่ น ได้ แ ต่ ง ตั้ ง คณะ กรรมการบริ ห ารจั ด การการใช้ บ ริ ก ารรถขนส่ ง มวลชน มข. เพื่อดำ �เนินการกำ�กับ และควบคุม สัญญารถขนส่งมวลชนระยะที่ 3 สัญญามีกำ�หนด 5 ปี โดยควบคุมการทำ�งานให้เกิดประโยชน์สูงสุด ต่ อ นั ก ศึ ก ษา บุ ค ลากร มข.ซึ่ ง มี ง บประมาณใน การจ้างเหมาจำ�นวน 40 ล้านบาทต่อปี ต่อเนื่อง กันเป็นระยะเวลา 5 ปีงบประมาณ โดยเริ่มตั้งแต่ ปีงบประมาณ 2559-2563 (เริ่ม 1 ตุลาคม 58 สิ้นสุด วันที่ 30 กันยายน 2563) โดยมี บริษัท ช.ทวี ดอลลา เซียน จำ�กัด (มหาชน)หรือ CTV Doll เป็นผู้รับจ้าง เหมาให้จดั ทำ�รถขนส่งมวลชน อำ�นวยความสะดวก ต่ อ ประชาคมชาว มข.” รศ.ดร.กิ ต ติ ชั ย ฯ กล่ า ว นายประสบสุ ข บุ ญ ขวั ญ รองประธาน บริหาร ฝ่ายพัฒนาธุรกิจในประเทศ บริษัท ช.ทวี ดอลลาเซียน จำ�กัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษทั มีความ ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้จัดทำ�รถ ขนส่งมวลชน มข. ด้วยประสบการณ์การทำ�งาน ของบริษัท ได้จัดรถขนส่งมวลชนด้วยระบบ NGV โดยการเติมเชื้อเพลิง CNG ซึ่งเชื้อเพลิงมาจากก๊าซ ธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงยานยนต์ มีข้อดีคือ เกิดการ เผาไหม้สมบูรณ์ให้มลพิษตํ่า โดยเฉพาะปริมาณฝุ่น ละออง และควันดำ� ได้นำ�เทคโนโลยีที่ดีที่สุดมาใช้ ในรถขนส่งมวลชนของ มข.เป็นระบบเทคโนโลยี ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน มีระบบบริหารจัดการ ที่ทันสมัย ใช้งานผ่าน application บนมือถือ ระบบ GPS และกล้องวงจรปิดติดตามรถทุกคัน ฉะนั้น ผู้ใช้บริการ สามารถคำ�นวณเวลาจอดรับได้อย่าง แม่นยำ� นอกจากนี้ยังมีบริการ wifi เหมาะสำ�หรับ ยุคเทคโนโลยีสารสนเทศในปัจจุบัน รถขนส่งมวลชน มข.มีทั้งสิ้น 5 เส้นทาง แบ่งเป็นเส้นทางสีสม้ แดง นํ​ํา้ เงิน เขียว และสีเหลือง ความจุผโู้ ดยสาร 40 คน ด้วยรถยนต์ปรับอากาศ เริม่ ให้บริการในช่วงเวลา 7.00 น. - 21.30 น. ทุกวันไม่ เว้นวันหยุดราชการ โดยมีเส้นทางการเดินรถแบ่ง ออกเป็น 5 เส้นทางวิ่งเป็นวงไปกลับในเส้นทาง เดิม ครอบคลุมคณะวิชาต่างๆ รวมทั้งส่วนบริการ ที่สำ�คัญๆ นอกจากนี้ภายในรถทุกคันยังมีกล้อง วงจรปิดเพือ่ ความปลอดภัยของผูโ้ ดยสาร มีจอ LED ระบุตำ�แหน่งรถ มีสัญญาณวิทยุกระจายเสียงคลื่น เอฟเอ็ม ความถี่ 103 MHz ซึง่ เป็นสถานีวทิ ยุกระจาย เสียงของ มข. เพือ่ เป็นช่องทางในการบริการข่าวสาร ประชาสัมพันธ์กิจกรรมต่างๆ และสาระความรู้อัน มาจากมหาวิทยาลัยอีกด้วย โดยเปิดประเดิมให้ใช้ 10 คันแรกในพิธพี ระราชทานปริญญาบัตร เส้นทาง อุทยานการเกษตรมหาวิทยาลัยขอนแก่น ถึงศูนย์ ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก มข. นายประสบสุข กล่าวต่อว่า การทำ�สัญญา

โดยมีคณะกรรมการบริหารจัดการการใช้บริการรถ ขนส่งมวลชน มข. คอยกำ�กับ ตรวจสอบการทำ�งาน ของผู้รับจ้าง ภายใต้สาระสำ�คัญบางส่วนในการ จ้าง อาทิ ในกรณีไม่สามารถส่งมอบรถยนต์ได้ครบ ถ้วนตามจำ�นวนที่ระบุตามสัญญา และภายในเวลา ที่กำ�หนด ผู้รับจ้างจะต้องชำ�ระค่าปรับตามจำ�นวน รถยนต์โดยสารทีส่ ง่ มอบไม่ครบนัน้ ในอัตรา 10,000 บาท ต่อคันต่อวัน กรณีที่รถยนต์โดยสารประสบ อุบัติเหตุระหว่างการให้บริการเพราะเหตุที่ผู้รับ จ้าง หรือพนักงานขับรถของผู้รับจ้างมีเจตนาจงใจ หรือประมาทเลินเล่อ เป็นเหตุให้เกิดความเสียหาย หรืออันตราย แก่บุคคลหรือทรัพย์สิน ต้องชำ�ระค่า ปรับครั้งละ 10,000 บาท (หนึ่งหมื่นบาทถ้วน) ต่อ ครั้งต่อคัน ในขณะปฏิบัติหน้าที่หากพนักงานของ ผู้รับจ้างมีพฤติกรรมการดื่ม/เสพ ของมึนเมาหรือ สิ่งเสพติดให้โทษ บริษัท ช.ทวีฯ ต้องชำ�ระค่าปรับ ในอัตรา 7,000 บาท ต่อครั้ง ต่อคน และต้องมีบท ลงโทษพนักงานคนดังกล่าวด้วย หากพนักงานมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม หรือมีพฤติกรรมอันไม่สมควร ต้องชำ�ระค่าปรับ ในอัตรา 1,000 บาท ต่อครั้งต่อคน การแต่งกายไม่ สุภาพเรียบร้อยตามรูปแบบที่กำ�หนด หรือพูดไม่ สุภาพ บริษัท ช.ทวีฯ ต้องทำ�การลงโทษ หรือตัก เตือน พนักงานผู้นั้นไม่ให้ประพฤติเช่นนั้นอีก ใน ระหว่างการให้บริการ หากผูร้ บั จ้างไม่สามารถจัดหา รถยนต์โดยสารให้ครบถ้วนตามจำ�นวน หรือหาก พบว่ารถยนต์ขัดข้องระหว่างการให้บริการ และไม่ สามารถนำ�รถยนต์มาให้บริการทดแทนได้ภายใน 3 ชั่วโมง ผู้รับจ้างต้องชำ�ระค่าปรับในอัตรา 10,000 บาท ต่อวันต่อคัน ซึง่ ในการเดินรถต้องให้ครบระยะ ทางวันละ 200 กิโลเมตร หากขาดจะต้องชำ�ระค่า ปรับในอัตรา 50 บาท ต่อกิโลเมตร ฉะนั้นจึงมั่นใจ ได้ว่ารถขนส่งมวลชนจะมีความสะดวก ปลอดภัย ทันสมัยและคุ้มค่าที่สุด นายประสบสุข กล่าวทิ้งท้ายว่า โครงการ จ้างเหมาให้บริการขนส่งมวลชน ระยะที่ 3 KKU Smart Transit นับเป็นการดำ�เนินงานที่ใส่ใจต่อสิ่ง แวดล้อม ห่วงใยต่อสังคม เป็นแนวทางพัฒนาไปสู่ การบริหารจัดการทรัพยากรโดยเล็งเห็นความสำ�คัญ ต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน เป็นการสร้างวัฒนธรรม องค์ ก รให้ เ ป็ น องค์ ก รที่ มี ก ารจั ด การบริ ห ารเป็ น เลิศ ทั้งนี้ต้องอาศัยการตอบรับที่ดีจากนักศึกษา บุคลากร ประชาคมชาว มข.เป็นพลังขับเคลือ่ นสาน ต่อนโยบายมหาวิทยาลัยให้สำ�เร็จลุล่วงต่อไป

นักพัฒนาอสังหฯ • ต่อจากหน้า 1 นายณั ฐ วั ช ร สวนสุ จ ริ ต ผู้ อำ � นวยการ โครงการหมู่ บ้ า นจั ด สรรสิ ท ธารมย์ อุ ด รธานี ได้ เ ปิ ด เผยถึ ง ธุ ร กิ จ อสั ง หาริ ม ทรั พ ย์ จั ง หวั ด อุ ด รธานี ใ นช่ ว งที่ ผ่ า นมาและในปี 2559 ว่ า สภาวะจะเปลี่ ย นแปลงไปในทางที่ ค่ อ นข้ า งที่ จะเป็นประโยชน์ต่อจังหวัดอุดรธานีและธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์ ที่ในช่วงเวลาที่ผ่านมาที่เกิดการ ชะลอตัว จนทำ�ให้เกิดสภาวะต่างๆ ประเด็ น แรกภาพรวมของประเทศไทย อ้างอิงจากการขยายตัว ของเศรษฐกิจ ( GDP) ในปี 2559 จะขยายตั ว 3% ในส่ ว นของภาค อสั ง หาริ ม ทรั พ ย์ ค าดการว่ า ในปี 2559 มี ค วาม เชื่ อ มั่ น กลั บ มา ส่ ง ผลให้ มี ก ารตั ด สิ น ใจของ ผู้ ซื้ อ เพิ่ ม ขึ้ น ทำ � ให้ (GDP) จะขยายตั ว ได้ ที่ 5% (โดยในปี2558 อยู่ที่ 3-4%) ประเด็นต่อมาเรื่องพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ ได้แก่ ตาก (แม่สอด) ,สงขลา (สะเดา) ,มุกดาหาร ,สระแก้ว ,ตราด ,นครพนม ,กาญจนบุรี ,เชียงราย ,หนองคาย ,และนราธิวาส ตามจังหวัดดังกล่าว มีการลงทุนจากท้องถิ่น และส่วนกลาง ทยอย เข้าไปลงทุนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการ ลงทุนในภาคโลจิสติกส์ และธุรกิจค้าปลีก เช่น ห้างโลตัส, บิ๊กซี ,โรบินสัน และโมเดิร์นเทรด ค้า วัสดุ และคอมมิวนิตี้มอลล์ ส่วนจังหวัดที่มีการ ลงทุนชัดเจนในภาพอสังหาริมทรัพย์ ก็จะมีจงั หวัด ตาก,เชียงราย,สงขลา แต่ก็ยังเจอปัญหา โอเวอร์ ซัพพลายอยูพ่ อสมควร เช่น จังหวัดเชียงราย มีบา้ น ที่สร้างเสร็จแล้ว ค้างสต๊อกอยู่หลายยูนิต ในส่ ว นของจั ง หวั ด หนองคาย ซึ่ ง เป็ น จังหวัดชายแดน ที่อยู่ติดกับจังหวัดอุดรธานี ใน

กลางปี 2559 มาช่วยเสริมเรื่องการท่องเที่ยว และ การขนส่งสินค้า แต่ในภาคอสังหาฯโดยเฉพาะทีอ่ ยู่ อาศัย กลับพบว่าโครงการส่วนใหญ่จะอยูท่ จี่ งั หวัด อุดรธานี แต่ในการลงทุนทีห่ นองคาย จะเป็นธุรกิจ ค้าปลีก เช่นห้างโลตัส มีถึง 2 สาขา ,แมคโคร ,ร้าน วัสดุก่อสร้าง ,ศูนย์การค้าอัศวรรณ คอมเพล็กซ์ และจะมีศนู ย์การค้า ,วีเวียง ไลฟ์สไตล์มอลล์จะเปิด ให้บริการในปี 2559 นัน่ แสดงว่าจังหวัดหนองคาย ไม่ ใ ช่ คู่ แ ข่ ง ในด้ า นหมู่ บ้ า นจั ด สรรของจั ง หวั ด อุดรธานี ส่วนที่จังหวัดอุดรธานี ในช่วงปี 25572558 จนถึงปัจจุบนั ภาพรวมตลาดบ้านจัดสรร เกิด การชะลอตัวพอสมควร เพราะยังมียอดขายเข้ามา เรื่อยๆ แต่ไม่เป็นไปตามเป้าของแต่ละโครงการ ทำ�ให้เกิดการแข่งขัน แบบที่ไม่ค่อยเห็นในจังหวัด อุดรธานี อาทิเช่น ซื้อบ้านเดี่ยวราคา 4 ล้าน ผ่อน เดือนละ 10,000 บาท ,คอนโดราคา1.3 ล้าน ผ่อน เดือนละ 1,000 บาท หรือแถมเฟอร์นิเจอร์ทั้งหลัง แถมแอร์ทั้งหลัง นั่นหมายถึงสถานการณ์บ้านใน สต็อกที่ก่อสร้างเสร็จแล้วยังมีเหลืออยู่มากทำ�ให้ ต้องเร่งหาลูกค้า ไม่ให้เกิดปัญหาบ้านค้างในสต๊อก เพราะบ้านยิ่งปล่อยไว้นานสภาพจะโทรม จะเกิด เป็นต้นทุนค่าใช้จา่ ยในการดูแลบ้าน และเป็นภาระ ของผู้ประกอบการ มาตรการภาครัฐ ในการลดค่าธรรมเนียม โอน และค่าจดจำ�นอง 0.01% จะเหมาะกับกลุ่มบริ ษัทที่มีโครงการที่ก่อสร้างเสร็จแล้ว หรือก่อสร้าง เพือ่ ส่งมอบให้ลกู ค้าในการโอนบ้าน ได้ทนั วันที่ 28 เมษายน 2559 และรัฐบาลคาดหวังว่าผูซ้ อื้ จะตัดสิน ใจซื้อบ้านเพิ่มขึ้น เพราะบ้านราคา 3 ล้าน ถ้าคิดค่า โอนและจดจำ�นอง เดิมจะเท่ากับ 90,000 บาท แต่ ถ้าโอนทัน จะเสียแค่ 600 บาท เป็นการลดภาระให้ กับผูซ้ อื้ ส่วนมาตรการปล่อยสินเชือ่ ของ ธอส.ก็ยงั มีปัญหาเรื่องกู้ไม่ผ่านตามมาเรื่อยๆ อย่าลืมว่าภาพ รวมเศรษฐกิจไทยที่ยังไม่ฟื้นตัวอย่างชัดเจน ส่งผล ให้ผู้บริโภค โดยเฉพาะผู้ที่มีรายได้เป็นเงินเดือน ทั่วไป ขาดความมั่นใจในรายได้ของตัวเองทำ�ให้ เกิดการชะลอ ในการตัดสินใจซื้อบ้านจึงอาจทำ�ให้ ไม่สามารถกระตุน้ ในภาคอสังหาฯ ได้ตามเป้า แต่ก็ เป็นการผ่อนหนักให้เป็นเบา ไม่ให้เกิดการเสียหาย ไปมากกว่านี้ อย่างไรก็ตาม นายณัฐวัชรฯ ให้ความเห็น ที่เป็นประโยชน์กับผู้ประกอบการและภาครัฐการ ปรั บ ตั ว ในภาคบ้ า นจั ด สรรในจั ง หวั ด อุ ด รธานี โครงการเดิมที่ยังดำ�เนินการอยู่ ต้องประคองตัว เพือ่ ให้เกิดความเสียหายน้อยทีส่ ดุ เช่นการลดค่าใช้ จ่าย หรืออาจจะยอมขาดทุนกำ�ไร เพื่อให้โครงการ จบได้ การลงทุนโครงการใหม่ต้องดูจังหวะการ ลงทุนให้ดี ให้สอดคล้องกับภาวะตลาด และต้อง คิดว่าถ้าจะทำ�โครงการ ถ้าไม่ดีกว่าคู่แข่ง ก็ต้องไม่ ด้อยกว่าคู่แข่ง สาเหตุเพราะโครงการบ้านจัดสรร ในจังหวัดอุดรธานีมกี ารพัฒนาโครงการ และมีการ แข่งขันกันสูง ทัง้ เรือ่ งดีใซน์บา้ น คุณภาพของวัสดุ ภาพรวมโครงการ ,แบรนด์ ฯลฯ การทำ�โครงการ จะต้องคำ�นึงถึงความต้องการของตลาดผู้บริโภค เช่น เรื่องราคาบ้าน ,ขนาดบ้าน,ฟังชั่นการใช้สอย (รองรับผู้สูงอายุ) ,ทำ�เล ,จำ�นวนยูนิต ฯลฯ สิ่งที่ สำ�คัญคือจะต้องมีการวิเคราะห์การลงทุน ให้มี ความเสี่ยงน้อยที่สุด หรือความเสี่ยงเป็นศูนย์ (0) นอกจากนี้แล้วปัจจัยที่ทำ�ให้ผู้ประกอบการ ไม่ สามารถทำ � โครงการได้ ต ามวั ต ถุ ป ระสงค์ มี ดั ง นี้ 1.ราคาที่ ดิ น (ที่ ดิ น แพง ทำ � โครงการไม่ ได้ ) 2.การสนั บ สนุ น สิ น เชื่ อ จากสถาบั น การเ งิน 3.สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย เงื่อนไขเข้มงวดมาก ขึ้น ปรับลดวงเงินจากเดิม 95-100% เหลือ 8590% ทำ�ให้ผู้ซื้อบ้านต้องมีเงินออม 10-15% พร้ อ มกั น นี้ นายณั ฐ วั ช รฯ ก็ ก ล่ า ว ถึ ง ธุ ร กิ จ อสั ง หาริ ม ทรั พ ย์ แ ละแนวโน้ ม ภาค บ้ า นจั ด สรร จั ง หวั ด อุ ด รธานี ใ นอนาคตว่ า 1.เนื่องจากบ้านคือปัจจัย 4 ที่เป็นสิ่งจำ�เป็น ความ ต้องการบ้านของผู้บริโภค จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆตาม วัฎจักรชีวติ เช่นการเกิดครอบครัวใหม่ เพิม่ ขึน้ จาก สถิติเมื่อสมาชิกในครอบครัวเกิดเป็นครอบครัว ใหม่เพิ่มขึ้น ถ้ามีโอกาสเลือก ส่วนใหญ่จะต้องการ ย้ายครอบครัวออกมาอยู่บ้านหลังใหม่


หน้า 12

ปีที่ 13 ฉบับที่ 140 ประจำ�เดือนมกราคม 2559

ที่ ป รึ ก ษา พล.ต.ท.ศั ก ดา เตชะเกรี ย งไกร, รศ.ดร.ธี ร ะ ฤทธิ ร อด, ดร.อาทิ ต ย์ ฉั ต รชั ย พลรั ต น์ , ฉั ต ร ศรี พั น ธุ์ , สิ ท ธิ โ ชค บุ ญ โท, พ.อ.สมศั ก ดิ์ สงทามะดั น , พี ร ะ วี ร ะชั ย , ยงยุ ท ธ ขาวโกมล เจ้าของ/บรรณาธิการบริหาร พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ บรรณาธิการ/ผู้พิมพ์และผู้โฆษณา ปรกชล ศุขโข กองบรรณาธิการ เพ็ญศิริ นาคทน,มณฑล ศุขโข,รณชิต ชาญเจริญ,นาฏยาภรณ์ ชาญเจริญ,

ประคอง หนูราช,พันธ์ศักดิ์ วีระชัย,เสริมศักดิ์ ขาวโกมล สำ�นักงาน 76 ม.20 ถ.กสิกรทุ่งสร้าง ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น 40000 โทรศัพท์ 08-9422-0228 โทรสาร 0-4324-4584 E-mail : Thaisaeree@gmail.com, Thaisaeree@yahoo.com ศูนย์อุดรธานี 152/3 ถ.อุดรดุษฏี ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี 41000 โทรศัพท์ 08-6864-0678 โทรสาร 0-4224-7905 E-mail: ps_veerachai@hotmail.com ศูนย์หนองคาย 78 หมู่ 4 ถนนเฉลิมพระเกียรติ์ ต.เมือง อ.เมือง จ.หนองคาย 43000 ที่ปรึกษากฎหมาย สังคม พุทธา สำ�นักงานทนายความประสพสุขธุรกิจและกฎหมาย ออกแบบ/กราฟฟิค เอื้อดีไซน์ 08-3417-0363


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.