ปีที่ 15 ฉบับที่ 164 ทั นประจำ ส �ถเดืาอนมกราคม น ก า ร2561 ณ์
ติ ด ต า ม ข่ า ว ส า ร ไ ด้ ที่
w w w . t h a i s a e r e e .หน้ c oาm1
ปีที่ 15 ฉบับที่ 164 ประจำ�เดือนมกราคม 2561 ราคา 10 บาท
ค้ า ปลี ก เจอแรงกระแทก ห้ า งยั ก ษ์ ใ หญ่ แ ชร์ ย อดขาย ต้องปรับวิธคี ดิ เพือ่ ให้อยูร่ อด
พิธีสาบานธง ประจำ�ปี ๒๕๖๑ ; พล.ต.อัครเดช บุญเทียม ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ ๒๓ เป็น ประธานพิธีกระทำ�สัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพล ประจำ�ปี ๒๕๖๑ ของหน่วยทหารในพื้นที่ จังหวัดขอนแก่น โดยมี พ.อ.สุพรเทพ ไชยงค์ เสนาธิการกรมทหารราบที่ ๘ เป็นผู้บังคับกองผสม ณ ลานสวนสนาม ค่ายศรีพัชรินทร อำ�เภอเมือง จังหวัดขอนแก่น เมื่อวันที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๖๑
ธุ ร กิ จ ค้ า ปลี ก ท้ อ งถิ่ น เจอ “เศรษฐกิจไม่ดี ขโมยเยอะ” ดันตลาด นกแอร์เปิดเที่ยวบิน แรงกระแทกเต็มๆ ทั้งจากห้าง กล้ อ งวงจรปิ ด เมื อ งอุ ด รฯ โตต่ อ เนื อ ่ ง ขนาดใหญ่ การเติ บ โตของเมื อ ง ปฐมฤกษ์ อุ ด รฯ- ขอนแก่น รวมทั้งการทำ�ธุรกิจ กล้องวงจรปิดเมืองอุดรฯแข่งดุ ลูกค้าแห่ติด ่อออนไลน์ ทำ�ให้มนต์เสน่ห์ ตั้งป้องกันเหตุร้าย เผยเป็นธุรกิจที่ไปได้เรื่อยๆ อุบลฯ เชื่อม 2 เมือง สืของวิ ถีชุมชนเมืองขาดหายไป แต่ก็มีการแข่งขันที่สูงขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติ ใ ห ญ่ ภ า ค อี ส า น ความไม่พร้อมของร้านค้าชุมชน ของทุกๆ ธุรกิจทีจ่ ะต้องมีทงั้ เติบโต มีการแข่งขัน นกแอร์ เปิ ด เส้ น ทางบิ น กลับสร้างปัญหามากกว่าช่วย ผู้ประกอบจึงต้องมีการปรับตัวอยู่เสมอ ใหม่อดุ รธานี – อุบลราชธานี เหลือคนจน นั ก ธุ ร กิ จ ลู ก อี ส านคื น ถิ น ่ ยึ ด อุ ด รฯเตรี ย ม โรงแรมเมืองขอนแก่นผุดรายวัน เชื่อม 2 เมืองใหญ่ในภาค นักธุรกิจขอนแก่นยังไม่ถอดใจ ขยายสาขา พร้อมรุกเปิดสาขา ตปท. ส่ ง ผลให้ ก ารแข่ ง ขั น รุ น แรงขึ้ น อี ส านให้ ใ กล้ กั น มากขึ้ น เชื่ อ มั่ น เศรษฐกิ จ ปี จ อโตขึ้ น “ร้อยแก่นสารสินธุ”์ แถลงข่าวงานประเพณี ;นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น, นายวันชัย คงเกษม ผวจ.ร้อยเอ็ด, นายสนัน่ พงษ์อกั ษร รอง ผวจ.กาฬสินธุ,์ นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น, นายประสาทพร สีกงพลี นายกเทศมนตรี ตำ�บลนาดูน และนายสมชาย ชมภูนอ้ ย ผอ.ททท.ภูมภิ าคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร่วม กันแถลงข่าวงานประเพณี จังหวัดกลุ่ม “ร้อยแก่นสารสินธุ์” ณ เวทีหมู่บ้านอีสาน งาน เทศกาลเที่ยวเมืองไทย สวนลุมพินี กทม.
ธุรกิจโรงแรมรายกลางและเล็กเผชิญความท้าทาย ด้านการแข่งขันจากบริการที่พักรายวัน ราคาถูก เปิดแบบผิดกฎหมาย สร้างปัญหาเรื้อรังมานาน กว่า 4 ปี ยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม อ่านต่อหน้า 2 จากภาครัฐ
อ่านต่อหน้า 11
อ่านต่อหน้า 11
เพื่ อ รองรั บ ความต้ อ งการ ของผู้โดยสาร โดยเปิดให้ บริการ 3 เที่ยวต่อสัปดาห์ อ่านต่อหน้า 11
ปิดท้ายปีระกาแบบไก่หงอยไปตามๆ กัน บาง กิจการที่สู้ไม่ไหวต้องม้วนเสื่อกลับไปตั้งสติ ใหม่ เริม่ ต้นศักราชใหม่ในปี 2561 ประธาน หอฯขอนแก่น คาดหวังว่าศรษฐกิจน่าจะดี กว่าปีที่แล้ว จากการอัดฉีดเม็ดเงินจากภาค รัฐ-เอกชน ผ่านโครงการต่างๆ อ่านต่อหน้า 11
นักธุรกิจเครือข่ายรายใหญ่ 1 ใน 10 ของ ประเทศ คืนถิน่ อีสานบ้านเฮา เตรียมแผน ขยายธุรกิจตั้งเป้ายอดขายในปี 61 ถึง 5000 ล้านบาท เตรียมตั้งสาขาที่อุดรธานี โคราช และเวียดนาม สิงคโปร์ อ่านต่อหน้า 11
หน้า 2 นกแอร์
ปีที่ 15 ฉบับที่ 164 ประจำ�เดือนมกราคม 2561 • ต่อจากหน้า 11 หลายแห่งต้องปิดตัวลงไปในที่สุด
“สายการบินนกแอร์เล็งเห็นถึงศักยภาพและ โอกาสทางธุรกิจในเส้นทางอุดรธานี – อุบลราชธานี เราเชื่ อ ว่ า การเปิ ด บริ ก ารในเส้ น ทางบิ น นี้ จ ะช่ ว ย รองรับความต้องการด้านการเดินทางของประชาชน ในภูมภิ าคตะวันออกเฉียงเหนือให้สามารถเดินทางได้ สะดวก และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น สายการบินนกแอร์ ยังคงเดินหน้าพัฒนาสินค้า และการบริการให้ตรง กับความต้องการของผู้โดยสาร และสร้างการเติบโต โดยขยายเส้นทางบินใหม่ไปยังเมืองที่มีศักยภาพ ทั้ง เส้นทางในประเทศ เส้นทางเชื่อมภูมิภาค และเส้น ทางต่างประเทศ โดยไม่เน้นเพียงการเพิ่มจำ�นวนเส้น ทางบินเท่านัน้ แต่ทกุ เส้นทางของเรายังต้องเป็นเส้น ทางที่มีศักยภาพและตอบโจทย์ความต้องการของผู้ โดยสารอีกด้วย” โดยเส้นทางดังกล่าว จะเปิดให้บริการจำ�นวน 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ด้วยเครื่องบินแบบ Q400 ซึ่ง ปั จ จุ บั น สายการบิ น นกแอร์ ไ ด้ มี ก ารให้ บ ริ ก ารใน เส้นทางจากดอนเมือง –อุดรธานี จำ�นวน 6 เที่ยวบิน ต่อวัน และเส้นทางจากดอนเมือง – อุบลราชธานี จำ�นวน 7 เทีย่ วบินต่อวัน ซึง่ หลังจากเปิดเส้นทางบิน อุดรธานี – อุบลราชธานีแล้ว นกแอร์จะมีเส้นทางบิน ในประเทศจำ�นวนรวม 25 เส้นทาง และเส้นทางบิน ระหว่างประเทศ 3 เส้นทางได้แก่ ย่างกุ้ง(เมียนมา), ย่างกุ้ง-แม่สอด และนครโฮจิมินห์(เวียดนาม) ทั้งนี้ สายการบินนกแอร์ เป็นสายการบิน สัญชาติไทย ทีม่ เี ส้นทางบินภายในประเทศครอบคลุม มากที่สุด ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2547 มีฐานบินอยู่ที่ ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง โดยมีเครื่องบิน ที่โบอิ้ง 737-800 จำ�นวน 20 ลำ� เครื่องบิน Q400 NextGen จำ�นวน 8 ลำ� เครือ่ งบิน ATP 72-500 จำ�นวน 2 ลำ� สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.nokair.com หรือติดต่อ นกแอร์ คอลเซ็นเตอร์ โทร.1318
โรงแรมเมืองขก. • ต่อจากหน้า 1 นายจักรกฤษณ์ ศิริพานิชย์ ประธานสภา อุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดขอนแก่น เปิดเผย ว่า สภาวะเศรษฐกิจไม่วา่ จะเป็นระดับประเทศ หรือ ระดับภาคอยูใ่ นภาวะซึมลึกมายาวนานแล้ว และยัง อยู่ในแนวดิ่งลงเรื่อยๆ ถึงแม้ว่ารัฐบาลจะพยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้เงินคนจน 3,000 บาท และ ยังมอบบัตรสวัสดิการเพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายในครัว เรือน แต่ยังดูเหมือนไม่มีกระแสการเงินส่งเข้ามา หมุนเวียนในระบบ ทำ�ให้ขาดความน่าเชื่อถือและ เรียกร้องให้มีการเลือกตั้ง เพื่อเริ่มต้นใหม่ โดยคาด ว่ารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง จะทำ�ให้เศรษฐกิจ ดีขึ้น ในมุมมองต่างประเทศมีผลในการส่งออก แน่นอน แต่เมื่อผ่านการเลือกตั้งไปแล้ว จะเป็นไป ตามที่คาดหวังหรือไม่ ไม่มีใครคาดเดาได้ ปัญหา เศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบอย่างยาวนาน ล้วนเกิด จากการปรับค่าแรงตามนโยบายรัฐบาลเดิม และ เป็นจุดเปลี่ยนที่ทำ�ให้การบริหารงานธุรกิจผิดรูป แบบ เกิดผลกระทบต่อเนื่องตามมา และยังมีการ ปรับค่าแรงเพิ่มขึ้นอีก โดยปัจจุบัน ค่าแรงอยู่ที่ 325 บาท นับเป็นค่าแรงที่สูงมาก และอาจทำ�ให้ธุรกิจ
จังหวัดขอนแก่น ได้รับการสนับสนุนจาก ภาครัฐผลักดันให้เป็นเมือง Khonkaen Smart City หรือเมืองอัจฉริยะ ที่มุ่งเน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืน ด้วยการออกแบบร่วมกับคนในท้องถิน่ การต่อยอด ธุรกิจและอุตสาหกรรม การท่องเที่ยว เน้นให้เกิด การพัฒนาผูป้ ระกอบการรุน่ ใหม่ และการดึงดูดการ ลงทุนทั้งในและต่างประเทศ และยังเป็นเมืองแห่ง การจัดประชุมสัมมนา การจัดอีเว้น การเป็นเมือง ไมซ์ เพื่อส่งเสริมกิจกรรมการท่องเที่ยว ปัจจุบัน “อุตสาหกรรมท่องเที่ยว” กลายเป็นหนึ่งในตัวขับ เคลื่ อ นเศรษฐกิ จ ในระดั บ ประเทศ และต่ อ ยอด ธุรกิจในหลายภาคส่วน อีกทั้งเป็นการกระจายราย ได้พร้อมการจ้างงานสูภ่ าคประชาชนในท้องถิน่ อีก ด้วย นายจักรกฤษณ์ กล่าวต่อว่า “ขอนแก่น” เป็นหัวเมืองหลักของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และ การเป็นเมืองไมซ์ ซึง่ ต้องทำ�กิจกรรมทีน่ า่ สนใจเพือ่ ดึงดูดนักท่องเทีย่ ว และหน่วยงาน องค์กร ให้เข้ามา จัดกิจกรรม ล้วนเป็นการช่วยกระตุน้ เศรษฐกิจให้มี การเคลื่อนไหวในท้องถิ่น ดังนั้น “ธุรกิจโรงแรม” จึงได้รบั ความสนใจจากนักลงทุนทัง้ ในท้องถิน่ และ นักลงทุนจากต่างจังหวัด มีโรงแรมเกิดใหม่ในเมือง ขอนแก่นเยอะมาก ทำ�ให้มีการแข่งขันสูง และยัง ต้องเจอปัญหาจากหอพัก หรือ อพาท์เม้น ที่เปิดให้ บริการรายวัน และให้บริการที่ถูกกว่า เพราะไม่มี ต้นทุนค่าใช้จ่ายสูงเหมือนโรงแรมทั่วไป เป็นการ เปิ ด ให้ บ ริ ก ารแบบผิ ด กฎหมาย ทำ � ให้ โ รงแรม ขนาดกลางขาดทุนและต้องปิดตัวลงไป ล้วนสร้าง ปัญหาเรื้อรังมานานกว่า 4 ปี โดยที่ยังไม่ได้รับการ แก้ไขอย่างเป็นรูปธรรมจากภาครัฐ ส่งผลกระทบ ต่อผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมที่เปิดให้บริการ อย่างถูกต้องตามกฎหมายเป็นอย่างมาก จึงขอให้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบและจัดระเบียบ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้ประกอบการธุรกิจ โรงแรมทุกประเภท ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเทีย่ วจังหวัด ขอนแก่น กล่าวต่อไปว่า ปัจจุบัน ธุรกิจโรงแรมใน จังหวัดขอนแก่น จะมีลูกค้าเฉพาะช่วงการจัดงาน อีเว้นท์ การจัดกิจกรรมต่างๆ รวมถึงหน่วยงานที่ ใช้ขอนแก่นเป็นสนามสอบแข่งขัน และการจัด ประชุมสัมมนา แต่ในช่วงเทศกาลต่างๆ อาทิ ปี ใหม่ สงกรานต์ เข้าพรรษา หรือช่วงทีม่ วี นั หยุดยาว โรงแรมในขอนแก่นจะเงียบเหงา เพราะประชาชนที่ เดินทางส่วนใหญ่ลว้ นกลับบ้านภูมลิ �ำ เนา ไม่ใช่การ ท่องเทีย่ ว และขอนแก่นไม่ใช่เมืองท่องเทีย่ ว จึงเป็น ช่วงที่โรงแรมมีลูกค้าน้อยมาก ในส่วนช่วงเทศกาล การจัดงานปีใหม่ เคาท์ดาวน์ สงกรานต์ ถนนข้าว เหนียว โรงแรมทีไ่ ด้รบั ความนิยมส่วนมากจะอยูใ่ น เส้นหลักของการจัดงาน เพือ่ ความสะดวกสบายใน การท่องเที่ยว โรงแรมอื่นๆ จะมีลูกค้านักท่องเที่ยว บ้าง 20-30% นับเป็นช่วงประคองตัวของผูป้ ระกอบ การธุรกิจโรงแรม และแก้ปญ ั หาโดยสร้างความแตก ต่าง สร้างความน่าสนใจ เดินตลาดเข้าถึงผู้บริโภค มากขึ้น ถึงแม้จะเป็นการเพิ่มต้นทุนก็ตาม
เอไอเอสคาราวานมอบความอบอุ่น นายศราวุ ธ แก้ ว กั น เนตร ผู้ จั ด การ แผนกชุมชนสัมพันธ์ เอไอเอส ภาคตะวันออก เฉี ย งเหนื อ ตอนบน พร้ อ มด้ ว ยนายรณพงษ์ จารุธีรพันธ์ ผู้จัดการสำ�นักวิศวกรรมจังหวัด ขอนแก่น เอไอเอส นายสันติสุข นาลา ผู้จัดการ สำ�นักวิศวกรรมจังหวัดอุดรธานี เอไอเอส นำ� พนักงานเอไอเอส ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คาราวานมอบความอบอุ่น ด้วยการนำ�ผ้าห่ม ในโครงการ “เอไอเอสรวมใจบรรเทาภัยหนาว” จำ�นวน 500 ผืน มอบให้แก่ชาวบ้านเขตรอย
ดีแทคตั้งเป้าเชิงรุก สร้างพนักงานที่มากความ สามารถด้านดิจิทัลระดับท็อปได้ ภายในปี 2561 ดี แ ท ค ท้ า ท า ย พ นั ก ง า น ทุ ก ค น ด้ ว ย โปรแกรม “40-hour Challenge” เพื่อสนับสนุน ให้ พั ฒ นาทั ก ษะด้ า นดิ จิ ทั ล และเข้าร่วมคอร์สอบรมเกีย่ ว กับดิจทิ ลั ผ่านระบบออนไลน์ จำ � นวน 40 ชั่ ว โมงให้ เ สร็ จ สิ้ น ภายในปี 2561 นี้ ซึ่ ง จำ�นวนชั่วโมงการอบรมดัง กล่าวสูงกว่าค่าเฉลี่ยปัจจุบัน ของดีแทคถึง 3-4 เท่า และมากกว่าที่กฎหมาย กำ�หนดสูงสุดถึง 10 เท่า โปรแกรมนี้นำ�เสนอชั้น เรียนออนไลน์ระดับโลก ซึง่ จัดทำ�โดยความร่วมมือ ระหว่าง Lynda.com Coursera และเทเลนอร์ นางสาวนาฎฤดี อาจหาญวงศ์ รองประธาน เจ้าหน้าทีบ่ ริหาร กลุม่ งานบริหารทรัพยากรบุคคล บริ ษั ท โทเทิ่ ล แอ็ ค เซ็ ส คอมมู นิ เ คชั่ น จำ � กั ด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า “โปรแกรมนี้เป็น โปรแกรมที่ยิ่งใหญ่กว่าโปรแกรมอื่นๆที่เราได้เคย จัดมา โดยมีเป้าหมายการฝึกอบรมให้ส�ำ เร็จภายใน สิน้ ปีนี้ ซึง่ ตัง้ ไว้มากกว่า 100,000 ชัว่ โมงสำ�หรับทัง้ องค์กร ที่สำ�คัญ โปรแกรมนี้สนับสนุนหลักความ เชื่อของดีแทคที่ว่าทุกคนสามารถกลายเป็นผู้ที่มี ความสามารถด้านดิจทิ ลั ได้หมด ถ้ามีกระบวนการ ทางความคิดที่ถูกต้อง โดยมากกว่าครึ่งหนึ่งของ บริษทั ทัว่ โลกมีชอ่ งว่างเพิม่ ขึน้ ในทักษะด้านดิจทิ ลั ของพนักงาน และช่องว่างนั้นกว้างขึ้นเรื่อยๆเมื่อ พูดถึงซอฟท์สกิลด้านดิจิทัล นั่นหมายถึงไม่เพียง แต่การเขียนโปรแกรม และการวิเคราะห์ที่มีความ ต้องการสูง แต่ทกั ษะอืน่ ๆเช่น ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ความชำ�นาญและความคิดสร้างสรรค์ขององค์กรก็ เป็นที่ต้องการด้วยเช่นกัน” “ดีเอ็นเอของดีแทคคือการลงมือทำ�อย่าง รวดเร็ ว คิ ด แตกต่ า ง กล้ า ที่ จ ะทำ � และมี ค วาม กระตือรือร้นที่จะมุ่งสู่ชัยชนะ ขณะนี้ดีเอ็นเอดัง กล่ า วได้ ถู ก ฝั ง อยู่ ใ นวั ฒ นธรรมของบริ ษั ท แล้ ว พนักงานของเรากำ�ลังถามว่า ‘เราจะช่วยอย่างไร ได้ บ้ า ง มี ที่ ไ หนบ้ า งที่ เ ราสามารถเรี ย นรู้ ทั ก ษะ ใหม่ ๆ ได้ ’ นี่ คื อ ตั ว ตนของโปรแกรม ‘40-hour Challenge’ นัน่ เอง เรากำ�ลังให้เครือ่ งมือทีพ่ นักงาน ต้องการในการทำ�ให้เกิดการเปลี่ยนแปลง” โปรแกรม “40-hour Challenge” นี้จะช่ว ยพัฒนาบุคลากรทั้งทักษะดิจิทัลในรูปแบบฮาร์ด สกิล และซอฟท์สกิล โดยจะมีคะแนนของแต่ละ คลาสในหัวข้อตั้งแต่รูปแบบการทำ�งานแบบอะ ไจล์ ไปสูก่ ารวิเคราะห์ และประสบการณ์ของลูกค้า ดิจทิ ลั คลาสต่างๆทีม่ ใี ห้เรียนออนไลน์จะพร้อมใช้ งานอยู่ตลอดเวลา กับการใช้งานด้วยโทรศัพท์มือ ถือ ดังนั้นพนักงานสามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ทุกเวลา การอบรมของดีแทคครัง้ นีย้ งั ใช้เกมเข้ามาประยุกต์ ใช้ (gamification) ซึ่งเมื่อเรียนคลาสไหนสำ�เร็จ แล้วสามารถปลดล็อกรับ badge คอร์สขั้นสูง และ ดีแทคคอยน์ได้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุน พนักงานให้จัดการการเรียนรู้ในหัวข้อที่พวกเขา รัก และสามารถช่วยพวกเขาวางแผนความก้าวหน้า ของการเรียนตามความต้องการส่วนบุคคลและยัง
รวมถึงความต้องการของทีมอีกด้วย “เราไม่สามารถบอกพนักงานว่าพวกเขา ต้องเป็นบุคคลดิจิทัล แต่ไม่เคยติดต่อสื่อสารกับ พวกเขาออนไลน์” นางสาวนาฎฤดีกล่าวต่อ “การ อบรมของเราให้โอกาสแบบ bottom-up approach คื อพนักงานและผูจ้ ดั การของพวกเขาสามารถดูแลจั ดการสิง่ ต่างๆเกีย่ วกับความรูท้ ตี่ รงกับความต้องกา รของทีมอย่างถูกต้องแม่นยำ� และมันไม่ใช่แค่เรือ่ ง เนื้อหาเท่านั้น การอบรมของเรายังถูกออกแบบ ตั้ ง แต่ พื้ น ฐานขึ้ น ไปจนถึ ง ระดั บ ประสบการณ์ ดิจิทัลที่มีคุณค่า การฝึ ก อบรมจะได้ รั บ แรงสนั บ สนุ น จากการจ้ า งผู้ มี ค วามสามารถด้ า นดิ จิ ทั ล หน้ า ใหม่ ๆ และการโยกย้ า ยภายในของพนั ก งาน ดี แทคมี อั ต ราการย้ า ยหน่ ว ยงานภายในสู ง มาก ถึ ง 38% ในแต่ ล ะปี และกำ � ลั ง ประกาศรั บ พนักงานใหม่ในด้านวิทยาศาสตร์ข้อมูล (Data Science) การตลาดโซเชียลมีเดีย (Social Media Marketing) และ พาณิ ช ย์ อิ เ ล็ ก ทรอนิ ก ส์ (ec o m m e r c e ) “ วั น นี้ เ ร า ใ ช้ บ า ง ส่ ว น ของการเรี ย นรู้ ข องเครื่ อ งจั ก ร (machine learning) และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในประเทศไทย เรากำ � ลั ง ทำ � งานอยู่ กั บ ข้ อ มู ล ขนาดใหญ่ จำ � นวน มหาศาล การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของดีแทค ทำ�ให้เราเป็นทีต่ อ้ งการอย่างมากสำ�หรับผูท้ มี่ คี วาม สามารถด้านดิจิทัล และเราก็รู้ว่าผู้มีความสามารถ ทางดิจิทัลจะดึงดูดซึ่งกันและกัน” ในปี 2560 ลูกค้าดีแทคมากกว่าครึ่งหนึ่ง ชำ�ระเงินค่าบริการผ่านแอปดีแทค ซึ่งเป็นตัวเลข ที่มากกว่าค่าเฉลี่ยในอุตสาหกรรมถึง 50% แอป สำ � หรั บ รี เ ทลเลอร์ เ ติ ม เงิ น ชื่ อ ดี แ ทควั น ได้ ถู ก ดาวน์โหลด 60,000 ครั้ง และสามารถลดขั้นตอน การทำ�งานพวกการเติมเงินลงจาก 45 วินาที เหลือ แค่ 5 วินาทีเท่านั้น Chatbot สามารถตอบสนองได้ มากถึง 30% ของความต้องการของลูกค้าทั้งหมด จากช่องทาง SMS และจะมีการขยายช่องทางไป ยัง Facebook ฟีเจอร์เหล่านี้ส่วนใหญ่ถูกพัฒนาขึ้น โดยทีมอะไจล์ ซึง่ ทำ�งานแบบ Project-driven โดยที่ บุคลากรต่างสายงานมาทำ�งานร่วมกัน และสามารถ ทำ�งานได้สำ�เร็จอย่างรวดเร็วในระยะเวลาแค่สอง สัปดาห์ “ปี 2561 จะเป็นปีที่สำ�คัญสำ�หรับดีแทค เราได้รุกนำ�ไปแล้วในอุตสาหกรรมด้วยทีมอะไจล์ ที่มีมากกว่า 10 ทีมทั่วทั้งองค์กร แต่มันยังเป็นปีที่ เราต้องนำ�ดิจิทัลไปสู่ทุกคนอีกด้วย การฝึกอบรม จะช่วยให้ผู้ที่เต็มใจที่จะรับโอกาสเพื่อที่จะอยู่แถว หน้าของการเปลี่ยนแปลงนี้”
ขอนแก่นประชุมเครียดพัฒนา “แก่งนาํ้ ต้อน” เป็นแก้มลิงเพื่อแก้ไขปัญหานํ้าท่วมในเมือง ต่อระหว่างอำ�เภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก อำ � เภอนาแห้ ว จั ง หวั ด เลย และอำ � เภอโนนสั ง จังหวัดหนองบัวลำ�ภู
ลงนามความร่วมมือจัด การนํ้ า เสี ย ชุ ม ชน ; นายวิ รุ ณ ภพ สภาพ ผู้ อำ � นวยการสำ � นั ก งาน สิ่ ง แวดล้ อ มภาคที่ 10 (ขอนแก่ น ) เป็ น สั ก ขี พยาน ในการลงนาม บันทึกความร่วมมือใน การจัดการนํ้าเสียชุมชน แบบมี ส่ ว นร่ ว ม ตาม แนวทางพระราชดำ�ริ แบบบึงประดิษฐ์ ในพื้นที่ 4 เทศบาลนำ�ร่อง ณ โรงแรมราชวดี รีสอร์ท แอนด์ โฮเทล จ.ขอนแก่น ธ า ร นํ้ า ใ จ ห ลั่ ง ไ ห ล ช่ ว ย 3 ครอบครั ว ไฟ ไ ห ม้ บ้ า น ห ม ด ตั ว ; นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพนั ธุ์ นายกเทศมนตรี น คร ขอนแก่ น พร้ อ มด้ ว ย คณะผู้ บ ริ ห ารเทศบาล นครขอนแก่น มอบถุง ยังชีพ เครือ่ งนอน เครือ่ ง อุ ป โภค บริ โ ภค ให้ แ ก่ ครอบครัวที่ประสบอัคคีภัย จำ�นวน 3 ครอบครัว พร้อมหาทางช่วยเหลือให้มีที่พักพิงชั่วคราวไปก่อน พร้อมกับมอบเงินจำ�นวนหนึ่งเพื่อให้ผู้เสียหายทั้งหมดได้ดำ�รงชีวิต ต่อไป
เมื่อวันที่ 9 ม.ค.61 นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ. ขอนแก่น ได้ประชุมหารือ ร่ ว มกั บ พล.ต.กาจบดิ น ทร์ ยิ่งดอน รอง ผอ.รมน. จว.ขอนแก่น (ทหาร) และ หัวหน้าส่วนราชการภาครัฐ และเอกชนใน จ.ขอนแก่น ที่ ห้ อ งประชุ ม แก่ น ภู มิ 2 ชั้ น 4 ศาลากลางจั ง หวั ด ขอนแก่ น เพื่ อ หารื อ การ กำ�หนดแนวทางการพัฒนาแก่งนํ้าต้อน ต.เมือง เก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่น ในการพัฒนาแก่งนํ้าต้อน เป็นแก้มลิง ในการแก้ไขปัญหานํา้ ท่วมในเขตเมือง ขอนแก่นอย่างเป็นระบบ ตลอดจนพัฒนาให้เป็น แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของ จ.ขอนแก่น นายสมศักดิ์ ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า ตามที่ นโยบายรัฐมนตรี ในคราวตรวจติดตามสถานการณ์ อุทกภัย จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 30 ต.ค.2560 ได้มีข้อ สั่งการให้พัฒนาแก่งนํ้าต้อนเป็นแก้มลิง เพื่อแก้ไข ปัญหานาํ้ ท่วมอย่างเป็นระบบในเขตพืน้ ทีโ่ รงเรียน คนตาบอด พื้นที่เทศบาลตำ�บลบ้านเป็ด และพื้นที่ ใกล้เคียง ตลอดจนพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว แห่ ง ใหม่ ข อง จ.ขอนแก่ น โดยมอบหมายกรม ชลประทานและ ผวจ.ขอนแก่นดำ�เนินการ วันนี้ จึงมีหวั หน้าส่วนราชการ และหน่วยงานทีเ่ กีย่ วข้อง ร่วมประชุมเพื่อหารือและกำ�หนดแนวทางในการ พัฒนาแก่งนํ้าต้อน นายสมศักดิ์ กล่าวว่า แก่งนํ้าต้อน บริเวณ บ้านกุดกว้าง ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่น เป็น แหล่งนํ้าสาธารณะที่มีพื้นที่ประมาณ 3,500 ไร่ มี
ความจุประมาณ 5 ล้านลูกบาศก์เมตร เมื่อดำ�เนิน การพั ฒ นาแล้ ว จะสามารถเก็ บ กั ก นํ้ า ได้ เ พิ่ ม ขึ้ น ประมาณ 7.8 ล้านลูกบาศก์เมตร รวมมีความจุ ประมาณ 12 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยมีลักษณะเป็น อ่างเก็บนาํ้ ราษฎรมีพนื้ ทีท่ �ำ กินอยูบ่ ริเวณรอบๆ สา มารถนำ�นํ้าไปใช้ในการเพาะปลูกได้และเป็นการ ป้องกันการบุกรุกของราษฎร ตลอดจนพัฒนาให้ เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัด “นอกจากนี้เป็นแหล่งนํ้าต้นทุนสำ�หรับ พื้นที่ โครงการ “ ชลประทานพัฒนา แหล่งนํ้าท่า ทั่วไทยเกษตรยุคใหม่ยั่งยืน “ เป็นแหล่งเก็บกัก นํ้าในช่วงฤดูฝนในลักษณะแก้มลิงเพื่อชะลอการ ไหลของนํ้าชี และสามารถนำ�มาใช้เพื่อการอุปโภค - บริโภค และการเกษตรในช่วงฤดูแล้ง นอกจาก นี้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์นํ้าให้ราษฎรใช้ราษฎร บริโภคและมีรายได้จากการประมงและเป็นแหล่ง เก็บกักนํ้าสำ�หรับการอุปโภค - บริโภคของราษฎร บริเวณโดยรอบที่ขาดแคลนเดือดร้อนไม่มีนํ้าเพื่อ การอุปโภค - บริโภค เพือ่ บรรเทาอุทกภัยบางส่วน” ผวจ.ขอนแก่น กล่าว
ทำ�ไมต้อง “ปฏิรูปสื่อ” จากการที่ รั ฐ บาลมี แ นวคิ ด เรื่ อ งการ “ปฏิรูปสื่อ” ปรากฎออกมาอย่างต่อเนื่อง จนได้ คณะกรรมาธิการปฏิรูปการสื่อสารมวลชนและ เทคโนโลยีสารสนเทศสภาปฏิรูปแห่งชาติ ขึ้นมา คณะหนึง่ และได้สรุปประเด็นปัญหา สาเหตุทจี่ ะ ต้องทำ�การปฎิรูป ว่าเกิดจาก ปัญหาด้านจริยธรรมสื่อ ไม่เป็นกลาง นำ� เสนอเนื้อหาไม่ถูกต้องครบถ้วน รุนแรง ละเมิด สิทธิส่วนบุคคล ตัดสินผู้ตกเป็นข่าว รับอามิจสิน จ้าง ปัญหาที่พบมากที่สุดคือ การโฆษณาที่ผิ ดกฏหมาย ขายสินค้าเกินความจริง เนื้อหาหรือ ภาพข่าวที่ล่อแหลม ล่วงละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ขาดความเป็นกลาง เนือ้ หายัว่ ยุ สร้างความเกลียด ชัง ก่อให้เกิดความแตกแยกทางสังคม การกำ�กับดูแลกันเองโดยองค์กรวิชาชีพ ถูกวิจารณ์ว่าเป็นเพียงเสือกระดาษ ไม่สามารถ ดูแลด้านจริยธรรมของสมาชิกได้จริง และที่ผ่าน มา การกำ�กับดูแลตนเองยังทำ�ได้ไม่ครบถ้วน “สื่ อ มวลชนไทยมี ปั ญ หา ต้ อ งมี ก าร ปฏิรูป” จึงถูกตั้งเป็นโจทย์ที่นักวิชาการ และผู้มี อำ�นาจรัฐ หยิบยกขึ้นมาเป็นสาเหตุว่าต้องปฏิรูป ดั ง นั้ น แนวคิ ด ในการปฏิ รู ป สื่ อ จึ ง มุ่ ง เน้นไปที่การควบคุมและกำ�กับดูแล ทำ�ให้ต้องมี
กฎหมายว่าด้วยองค์การวิชาชีพสื่อมวลชนขึ้นมา เพือ่ ทำ�หน้าที่ ปกป้องเสรีภาพและความเป็นอิสระ ของสือ่ มวลชน, ส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐาน ทางวิชาชีพ, พิจารณาคำ�ร้องขอความเป็นธรรม ของผู้ซึ่งได้รับผลกระทบจากการใช้เสรีภาพของ สือ่ มวลชน และคุม้ ครองสวัสดิการของผูป้ ระกอบ วิชาชีพสื่อมวลชน ทั้งในภาครัฐและภาคเอกชน การนำ�เอาแนวคิดเรื่องการใช้มาตรการ ทางกฎหมายเข้าควบคุมและกำ�กับดูแลสือ่ มวลชน จึงเป็นแนวคิดที่ไม่สอดคล้องกับการปกครองใน ระบอบประชาธิปไตย ที่จำ�เป็นต้องมีสื่อมวลชน ที่มีเสรีภาพ ไม่ตกอยู่ภายใต้การครอบงำ�ใดๆ โดย รัฐและนักการเมือง การให้ความรูเ้ รือ่ ง “รูเ้ ท่าทันสือ่ ” และการ ส่งเสริมให้มกี ารรวมตัวทีเ่ ข้มแข็งของผูบ้ ริโภคสือ่ รวมทัง้ มาตรการในการส่งเสริมผูป้ ระกอบวิชาชีพ สือ่ น่าจะเป็นมาตรการแก้ปญ ั หาทีต่ รงจุดมากกว่า การใช้มาตรการทางกฎหมายหรือไม่ ถ้า “สื่อ” ทำ�ตัวเป็น “เป็ดง่อย” เอาหูไป นาเอาตาไปไร่ ไม่ใส่ใจต่อปัญหา เพื่อการพิทักษ์ ผลประโยชน์สว่ นรวม ไม่ท�ำ หน้าทีต่ รวจสอบการ ใช้อ�ำ นาจรัฐอย่างตรงไปตรงมา สังคมก็คงมืดบอด ไร้ซึ่งทิศทางการพัฒนาไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดีกว่า และเกิดความเป็นธรรม
ไปรษณียไ์ ทย จับมือ เทสโก้ โลตัสสร้างเสริม คุณภาพชีวิตให้กับโรงเรียนที่ด้อยโอกาส “ประจิน” ลงพื้น ที จ.มุกดาหาร มอบเงิน ส นั บ ส นุ น ห้ อ ง ส มุ ด อุ ป กรณ์ กี ฬ าให้ นั ก เรี ย น ด้อยโอกาส ในโครงการ สร้างเสริมคุณภาพชีวติ ให้ กับนักเรียน โรงเรียนบ้าน พรานอ้น โดยมีหน่วยงาน บริษัทไปรณีย์ไทย จำ�กัด (ปณท) และเทสโก้ โลตัส ร่วมโครงการ เมื่อวันที่ 11 ม.ค.61 เวลา 14.30 น. ที่ บริ เ วณโรงเรี ย นบ้ า นพรานอ้ น ต.คำ � อาฮวน อ.เมืองมุกดาหาร พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รอง นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวง ยุตธิ รรม เป็นประธานส่งมอบโครงการเสริมสร้าง คุณภาพชีวิต ในโรงเรียนที่ด้อยโอกาส ปี 2560 จ.มุ ก ดาหาร พร้ อ มกั บ รั บ มอบเงิ น สนั บ สนุ น ห้องสมุด อุปกรณ์การกีฬา การเรียนการสอน รถจั ก รยานยนต์ จากนางสมร เทิ ด ธรรมทู ล กรรมการผูจ้ ดั การใหญ่บริษทั ไปรษณียไ์ ทย จำ�กัด จำ�นวน 1,500,000 บาท และจากนายสุนทร อรุณ านนท์ชัย ประธานมูลนิธิเทสโก้ โลตัส จำ�นวน 600,000 บาท ทีร่ ว่ มโครงการ ก่อนส่งมอบให้ นาย พศิณศักดิ์ กลางประพันธ์ ผู้อำ�นวยการโรงเรียน บ้านพรานอ้น โดยมีนายไพฑูรย์ รักษ์ประเทศ ผวจ.มุกดาหาร กล่าวต้อนรับ ท่ามกลาง หน.ส่วน ราชการ ผู้นำ�ท้องถิ่น คณะครู ผู้ปกครองและ นักเรียนที่มาร่วมในพิธีจำ�นวนมาก สำ � หรั บ โครงการ เสริ ม สร้ า งคุ ณ ภาพ ชีวิตของนักเรียนในโรงเรียนที่ด้อยโอกาส เป็น โครงการที่สำ�นักงาน พล.อ.อ.ประจิน ได้ร่วมกับ หน่วยงาน และบริษทั ต่างๆ จัดทำ�ขึน้ ตัง้ แต่ปี พ.ศ. 2549 โดยมีกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ โรงเรียนระดับ
หมู่บ้านหรือตำ�บล ที่มีชั้นเรียนตั้งระดับประถม ศึกษาถึงมัธยมศึกษาตอนต้น เพือ่ ให้โรงเรียนทีม่ ี การพัฒนา โครงการสร้างพืน้ ฐานทีเ่ หมาะสม ให้ นักเรียนมีคณ ุ ภาพชีวติ สุขภาพกายและใจทีด่ ขี นึ้ รวมทั้งเป็นการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงระบบการ ศึกษาด้านเทคโนโลยี่สมัยใหม่ และมีส่วนรวม ในการสร้างเสริมสิง่ แวดล้อมและบรรยากาศทีด่ ี ต่อการใช้ชวี ติ ของนักเรียน ในโรงเรียนเป้าหมาย ด้านต่างๆ พล.อ.อ.ประจิน กล่าวว่า ในส่วนของ โรงเรียนบ้านพรานอ้น ได้ดำ�เนินการปรับปรุง ซ่อมแซมอาคารเรียนและอาคารประกอบรวม คุรภุ ณ ั ฑ์การศึกษา ห้องคอมพิวเตอร์ ห้องอนุบาล และอาคารโรงอาหาร โดยมีการพัฒนาโครงสร้าง ที่เหมาะสม ให้นักเรียนมีคุณภาพชีวิตสุขภาพ กายและใจที่ดีขึ้นรวมทั้งเป็นการเพิ่มโอกาสเข้า ถึงระบบการการด้านศึกษาด้านเทคโนโลยี่สมัย ใหม่ และการมีส่วนรวมในการเสริมสร้างสิ่ง แวดล้อมที่ดี ต้องขอขอบคุณหน่วยงานบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำ�กัด และผู้ร่วมโครงการมูลนิธิเท สโก้ โลตัส ทีใ่ ห้การสนับสนุนโครงการนี้ ดำ�เนิน การสำ�เร็จลุล่วงไปด้วยดี
หน้า 3
ปีที่ 15 ฉบับที่ 164 ประจำ�เดือนมกราคม 2561
นักวิ่งจากทั่วโลก ร่วมแข่งขัน“ขอนแก่นมาราธอน นานาชาติ 2018” คาดมีผู้เข้าร่วมกว่า 50,000 คน
ผู้ว่าฯขอนแก่น อัดฉีดนักวิ่งเต็มที่ มอบรางวัลพิเศษสำ�หรับนักวิ่งคนไทยที่ เข้าเส้นชัยเป็นคนแรกในประเภทมาราธอน คาดจะมีนักวิ่งเข้าร่วมกว่า 50,000 คน มั่นใจได้จะไม่เกิดข้อผิดพลาดและเป็นธรรมสำ�หรับนักวิ่งทุกคน เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2561เวลา 13.30 น. ที่ ลานหน้าขอนแก่นฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น คณะกรรมการจัดการ แข่งขันขอนแก่นมาราธอนนานาชาติจัดงานแถลง ข่าว การแข่งขัน “ขอนแก่นมาราธอนนานาชาติ 2018 (Khon Kaen International Marathon 2018) โดยมี นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัด ขอนแก่น พร้อมด้วย นายสันติ นิลหมื่นไวย์ ท่อง เที่ยวและกีฬาจังหวัดขอนแก่น รศ. เพียรศักดิ์ ภักดี รองอธิ ก ารบดี ฝ่ า ยพั ฒ นานั ก ศึ ก ษาและศิ ษ ย์ เ ก่ า สัมพันธ์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และผู้สนับสนุน หลักร่วมแถลงข่าว นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัด ขอนแก่น กล่าวว่าการจัดการแข่งขัน “ขอนแก่น มาราธอนนานาชาติ” เป็นมหกรรมกิจกรรมส่งเสริม การออกกำ�ลังกายและการท่องเทีย่ วทีย่ งิ่ ใหญ่ทสี่ ดุ ที่ ชาวจังหวัดขอนแก่นทุกภาคส่วน ร่วมมือกันจัดขึ้น เป็นประเพณีทุกปี โดยปีนี้จัดเป็นครั้งที่ 15 ในวัน อาทิตย์ที่ 28 มกราคม 2561 “จั ง หวั ด ขอนแก่ น มี ค วามพร้ อ มในทุ ก ด้ า นในการรองรั บ นั ก วิ่ ง จากทั่ ว โลก โดยด้ า น ระบบการแพทย์และพยาบาล ได้จัดตั้งศูนย์สั่งการ หน่วยพยาบาลตามเส้นทางวิ่งตลอดเส้นทาง มีรถ ปฐมพยาบาลระดับ advance วิ่งตามขบวนตลอด เส้นทางการแข่งขันทั้ง 4 ประเภท พร้อมด้วยอัตรา กำ�ลังเจ้าหน้าที่ ซึ่งประกอบด้วยแพทย์ พยาบาล นัก กายภาพบำ�บัด และพนักงานกูช้ พี ครบทีม รวมทัง้ มี ระบบการส่งต่อและโรงพยาบาลที่มีประสิทธิภาพ” ผวจ.ขอนแก่น กล่าวอีกว่า ในปีนี้มีรางวัล พิเศษ เฉพาะนักวิ่งคนไทยที่เข้าเส้นชัยเป็นคนแรก ในประเภทมาราธอน จะได้รับรางวัลพิเศษจากผู้ ว่าราชการจังหวัดเป็นเงิน 40,000 บาท เพื่อเป็น
ค่าสมัครและค่าเดินทางเข้าร่วมการแข่งขันโตเกียว มาราธอนอี ก ด้ ว ย สำ � หรั บ นั ก วิ่ ง ที่ ทำ � ลายสถิ ติ ใ น ประเภทมาราธอนจะได้รับเงินรางวัลพิเศษ 100,000 บาท” นายสั น ติ นิ ล หมื่ น ไวย์ ท่ อ งเที่ ย วและ กีฬาจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การจัดการแข่งขัน “ขอนแก่นมาราธอนนานาชาติ 2018” จัดวิ่งครบ ทัง้ หมด 4 ประเภท ได้แก่ ประเภทมาราธอน ระยะทาง 42.195 กิโลเมตร ฮาล์ฟมาราธอน 21.10 กิโลเมตร มิ นิมาราธอน 11.55 กิโลเมตร และประเภทเดินวิ่งเพื่อ สุขภาพ ระยะทาง 4.5 กิโลเมตร โดยผู้ที่เข้าเส้นชัย อันดับแรกทั้งชายและหญิงในประเภทมาราธอนจะ ได้รบั ถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั มหาวชิรา ลงกรณบดินทรเทพยวรางกูร ฮาล์ฟมาราธอนรับถ้วย พระราชทานสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินนี าถ ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช และมินมิ าราธอนรับถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และรางวัลเงินสด “ในปี นี้ จ ะแตกต่ า งจากปี ที่ ผ่ า นมาโดยเรา จัดให้มีนักวิ่งพี่เลี้ยงนำ� เพื่อให้เข้าเส้นชัยตามเวลาที่ กำ�หนด โดยมีพ่ีเลี้ยงในระยะมาราธอนทั้งชายและ หญิงรวม 30 คน ระยะฮาล์ฟมาราธอนจำ�นวน 20 คน ผู้ที่เกรงว่าจะไม่สะดวกในการเดินทางไปรับชิพรับ เสื้อ เรามีบริการรถรับส่งจาก บ.ข.ส. มายังห้างสรรพ สินค้าเซ็นทรัล และหากท่านนำ�รถมาเกรงว่าจะไม่ สะดวกในการหาที่จอดรถ เรามีบริการรถรับส่งจาก หน้าศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษกมหา วิทยาลัยขอนแก่น ไปยังเซ็นทรัล ทุก 1 ชั่วโมง เริ่ม เวลา 10.00 น.” รศ.เพียรศักดิ์ ภักดี รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนา นักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้พัฒนาเทคโนโลยี
การวิง่ โดยนำ�เทคโนโลยี RFID มาใช้เพือ่ ติดตามตรวจสอบระยะทางและเวลาของ ผู้เข้าแข่งขันวิ่งมาราธอน ซึ่งได้การทดสอบมาหลายปีแล้วพบว่ามีประสิทธิภาพ และสามารถอ่านค่าได้อย่างต่อเนื่องและแม่นยำ�100% จึงมั่นใจได้ว่าการจัดการ แข่งขันขอนแก่นมาราธอนนานาชาติ จะไม่เกิดข้อผิดพลาดและเป็นธรรมสำ�หรับ นักวิ่งทุกคน “ขอนแก่นมาราธอนนานาชาติ มีการประเมินและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ด้วย การนำ�เทคโนโลยีมาใช้ มีการปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงการทำ�งานให้ดีขึ้น อย่างต่อเนื่อง เกิดพัฒนาการอย่างเป็นรูปธรรมตลอดระยะเวลา เพื่อสนับสนุน ผลักดันนักวิ่งไทยสู่นักวิ่งมาราธอนระดับอาชีพ ด้วยการยกมาตรฐานขอนแก่น มาราธอนนานาชาติสู่ศูนย์กลางจัดการแข่งขันมาราธอนมาตรฐานสากลแห่ง ภูมภิ าคอาเซียนหรือ ASEAN Marathon Majors และยกมาตรฐานสูร่ ะดับ World Marathon Majors ต่อไป” รศ.เพียรศักดิ์ กล่าวต่อว่า ด้านระบบการรักษาความปลอดภัย มีการปิด ถนนเพื่อใช้ในการวิ่ง 100% อีกทั้งนักวิ่งทุกคนจะได้รับประกันอุบัติเหตุทุกคน ด้านมาตรฐานการวิ่งขอนแก่นมาราธอนนานาชาติได้รับการรับรองมาตรฐาน เส้นทางวิ่งมาราธอนจากองค์กรมาราธอนนานาชาติ หรือ “AIMS” และพัฒนา เทคโนโลยีการวิ่งโดยระบบ RFID ซึ่งครั้งนี้ทุ่มเงินกว่า 2 ล้านบาทเพื่อพัฒนา ระบบให้ดียิ่งขึ้น มาใช้เพื่อติดตามตรวจสอบระยะทางและเวลาของผู้เข้าแข่งขัน วิง่ มาราธอน และสามารถตรวจสอบสถิตกิ ารวิง่ ได้ทนั ทีหลังวิง่ เสร็จจากจุดตรวจ 8 จุดบริเวณหลังเส้นชัย ขณะนี้มีผู้สมัครมินิมาราธอนกว่า 7,000 คน ฮาล์ฟมาราธอน 3,000 คน ระดับมาราธอน 2,000 คน และเดินวิ่งสุขภาพกว่า 25,000 คน จึงทำ�ให้ขอนแก่น มาราธอนนานาชาติครั้งนี้ สถิติภาพรวมน่าจะมากที่สุดในประวัติการณ์ ซึ่งคาด การณ์ว่าจะมีจำ�นวนคนเข้าร่วมกว่า 50,000 คน
รวมใจสื่อมวลชนขอนแก่น รวมพลังต้านภัยหนาว ปตท. ร่วมกับ สมาคมเครือข่ายหนังสือพิมพ์ วิทยุ และ สื่อออนไลน์ ภาคอีสาน สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น และชมรมผู้ ป ระกอบการกิ จ การวิ ท ยุ ก ระจายเสี ย งจั ง หวั ด ขอนแก่น จัดโครงการ “รวมใจสื่อมวลชนขอนแก่น รวมพลัง ต้านภัยหนาว” นำ�ผ้าห่มกันหนาว และเครื่องอุปโภค บริโภค ไปมอบเพื่อช่วยเหลือพี่น้องที่ได้รับผลกระทบจากภัยหนาวใน ปีนี้ เมื่อวันที่ 11 ม.ค.2561 จ.อ.โกศล ภูวไนยวีระพงศ์ ผู้ จัดการส่วนคลังปิโตรเลียม ขอนแก่น, พันโท พิสษิ ฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น และนายเชิญชัย ผาสุข ประธานโครงการฯ พร้อมกรรมการบริหาร และสมาชิก นำ�ผ้าห่มกันหนาว และเครื่องอุปโภค บริโภค ไปมอบเพื่อช่วย เหลือราษฏร์ในชนบทที่ได้รับผลกระทบจากภัยหนาวในปีนี้ โดยแห่งแรกที่คณะเดินทางไปมอบคือ ที่บ้านโนน หนองลาด ต.บ้านขาม ต.ทรายมูล อ.นาํ้ พอง จ.ขอนแก่น มี นาย สวาท อุปฮาด ประธานชุมชน บ.โนนหนองลาด ต.บ้านขาม และพีน่ อ้ งประชาชน ร่วมให้การต้อนรับคณะฯ เป็นจำ�นวนมาก เนือ่ งจากหมูบ่ า้ นแห่งนีอ้ ยูไ่ กลจากตัวเมือง พีน่ อ้ งประชาชนใน พื้นที่ส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกรรม มีฐานะยากจนขาดแคลน เครื่องกันหนาว และที่ผ่านมาก็ได้รับผลกระทบจากนํ้าท่วม ได้มอบผ้าห่ม เครื่องอุปโภค บริโภค และเสื้อผ้ามือสอง ให้เพื่อ บรรเทาความเดือดร้อนของราษฎร
จากนั้นคณะได้เดินทางต่อไปยัง รพ.สต.ทรายมูล ต.ทรายมูล อ.นํ้าพอง จ.ขอนแก่น โดยมี นายประเสริฐ โพธิ์ จันทร์ทอง ผอ.รพ.สต.ทรายมูล พร้มคณะเจ้าหน้าที่ รพ.สต. ทรายมูล และชาวบ้านผู้ประสบปัญหาความเดือดร้อน มา รอรับคณะฯ นอกจากนี้ยังได้มอบผ้าห่ม พร้อมเครื่องอุปโภค บริโภค ให้กับผู้ป่วยติดเตียง โดยมี ผอ.รพ.สต.ทรายมูล เป็น ผู้แ ทนรับมอบ จากนั้นได้เดินทางต่อไปยัง บ้ า นทรายมู ล ต.ทรายมูล อ.นํ้าพอง จ.ขอนแก่น เพื่อมอบผ้าห่ม เครื่อง อุปโภค บริโภค และเสื้อผ้ามือสอง ให้กับผู้ยากไร้ ที่มีปัญหา ในการเคลื่อนไหว จำ�นวน 2 ราย ก่อนที่คณะจะเดินทางกลับ ทั้งนี้ ผ้าห่ม เครื่องอุปโภค บริโภค และเสื้อผ้ามือสอง ที่นำ�ไปมอบให้กับผู้ได้รับผลกระทบจากภัยหนาว และยากไร้ ตามโครงการ “รวมใจสื่อมวลชนขอนแก่น รวมพลังต้านภัย หนาว” นั้น คลังปิโตรเลียม ขอนแก่น ได้ให้การสนับสนุน ผ้าห่มกันหนาว จำ�นวน 100 ผืน สมาคมเครือข่ายหนังสือพิมพ์ วิทยุ และสื่อออนไลน์ ภาคอีสาน และสมาคมสื่อมวลชน จังหวัดขอนแก่น จัดหาข้าวสาร และเครื่องอุปโภค บริโภคที่ จำ�เป็น ชมรมผู้ประกอบการกิจการวิทยุกระจายเสียงจังหวัด ขอนแก่น ได้ออกสปอตประชาสัมพันธ์ ให้สมาชิก และแฟน รายการ ได้มสี ว่ นร่วมบริจาคเครือ่ งอุปโภค บริโภค และเสือ้ ผ้า มือสอง เป็นจำ�นวนมาก
หน้า 4
ปีที่ 15 ฉบับที่ 164 ประจำ�เดือนมกราคม 2561
ต้อนรับคณะ วปอ. สูข่ อนแก่น ; มร แสตนลีย่ ์ ชาน ( ที ่ 3 จากขวา) ผูจ้ ดั การ ใหญ่โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด ร่วมให้การต้อนรับ พลโท ปริ พัฒน์ ผลาสินธุ์ (ที ่ 4 จากขวา) ผูอ้ �ำ นวยการ วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ในโอกาสทีเ่ ดินเดินทางมาดูกจิ การ ดูงานในพืน้ ที่ และศึกษาภูมปิ ระเทศใน เขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และร่วมรับประทานอาหารคํา่ กับ คณาจารย์ และนักศึกษา วปอ.รุ่นที่ 60
กล้วยไม้ป่าบานและของดีเมืองมัญจาคีรี ประจำ�ปี 2561 ; นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น เป็นประธานเปิดงาน กล้วยไม้ป่าบานและของดี เมืองมัญจาคีรี ประจำ�ปี 2561 ระหว่างวันที่ 17 - 20 ม.ค.ของทุกปีนักท่อง เที่ยวสามารถชื่นชมความงามของกล้วยไม้ช้างกระกว่า 4 พันต้น ได้ที่ อุทยานวัดป่ามัญจาคีรี ต.กุดเค้า อ.มัญจาคีรี ห่างจากตัวอำ�เภอประมาณ 1 ก.ม.จะบานเบ่งสวยงามไปจนถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2561
เปิดสวนเรืองแสง ต้อนรับปีใหม่ ; นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น นายพงษ์ศักดิ์ ตั้งวานิชกพงษ์ นายกอบจ.ขอนแก่น นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุ พันธุ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น นายชาญยุทธ เศวตสุวรรณ ผอ.ททท. สำ�นักงานขอนแก่น ร่วมเปิดงานสวนเรืองแสง “KhonKaen The Kingdom of Light” เพื่อเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและจัดงานเคาท์ดาวน์ ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ณ สวนสาธารณะ ประตูเมืองขอนแก่น
ฟุตบอลกระชับมิตร ; พล.ต.ท สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผบช.ภ.4 นำ�ทีมตำ�รวจ ภูธรภาค 4 เตะฟุตบอลกระชับมิตร กับทีมผูพ้ พิ ากษาศาลจังหวัดขอนแก่น เพื่อสร้างความสมานสามัคคีระหว่างหน่วยงาน โดยมี นายสารทูล นิรมัย ถาวร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองเก่าเฟอร์นิเจอร์ 1999 จำ�กัด ให้การ ต้อนรับ ณ สนามหญ้าเทียมในร่มเมเจอร์อารีน่า ขอนแก่น
เข้ารับโอวาทก่อนเข้าแข่งกีฬา “ขุนด่านเกมส์” ; นายสันติ นิลหมื่นไวย์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดขอนแก่น นำ�นักกีฬาตัวแทน 10 จังหวัด (เขต 4) เข้ารับโอวาทจาก นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น ก่อนที่จะเข้าร่วม แข่งขันกีฬานักเรียน นักศึกษาแห่งชาติ “ขุนด่านเกมส์” ทีจ่ งั หวัดนครนายก ระหว่างวันที่ 20-30 มกราคม 2561 ณ ห้องประชุมแก่นเมือง ศาลากลาง จังหวัดขอนแก่น
จัดระเบียบแรงงานต่างด้าว ; พล.ท. ดำ�ริห์ สุขพันธุ์ ผู้อำ�นวยการศูนย์ ประสานการปฏิบัติที่ 2 กอ.รมน. ประชุมเพื่อติดตามผลการดำ�เนินงาน ด้านแรงงานต่างด้าว การค้ามนุษย์ การจัดระเบียบสังคม และสถานการณ์ ยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น โดยมี พล.ต.กาจบดินทร์ ยิ่งดอน รอง ผอ. กอ.รมน.ขอนแก่น และหน่วยงานทีเ่ กีย่ วข้อง ร่วมลงพืน้ ทีใ่ นการตรวจ สถานประกอบการ
งานบุญเดือนยี่ บุญคูนลาน ; นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น เป็น ประธานเปิดงานประเพณี “ฮีตสิบสอง คองสิบสี่” เพื่ออนุรักษ์ศิลป วัฒนธรรมประเพณีชาวอีสาน ได้สืบทอดสู่เยาวชน และเป็นหนึ่งในการ จัดการเรียนการสอนให้กับเด็กนักเรียน ณ คุ้มวัฒนธรรมอีสาน ภูมิญาลัย โรงเรียนนครขอนแก่น ต.บ้านทุ่ม อ.เมืองขอนแก่น
ต้อนรับพิธีกร ตั๊ก-นุ้ย ถ่ายทำ�รายการโปรโมทขอนแก่น ; นางบุศราภรณ์ ปลายชัยภูมิ (ที่ 2 จากซ้าย) ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นแด่ 2 พิธีกรสายฮา คุณตั๊ก ศิริพร ควงคูม่ ากับคุณนุย้ เชิญยิม้ ในโอกาสเข้าพักทีโ่ รงแรมฯ และถ่ายทำ�รายการ “ตลกแหลก ออนทัวร์” เพื่อแนะนำ�สถานที่ท่องเที่ยว ที่กิน ที่พัก ของ จังหวัดขอนแก่น โดยรายการจะออกอากาศทางทีวีช่อง GMM 25
มอบเข็มพระราชทานที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติ ; นายสมศักดิ์ จังตระกูล ผวจ.ขอนแก่น ในฐานะประธานกรรมการ พอ.สว.จังหวัดขอนแก่น เป็น ประธานมอบเข็มพระราชทานที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้า ลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชสุมารี เนื่องในโอกาสทรงพระ ชนมายุ 5 รอบ แก่อาสาสมัคร พอ.สว.จังหวัดขอนแก่น ณ โรงแรมวีวิช ขอนแก่น อ.เมือง จังหวัดขอนแก่น
ต้อนรับคาราวานรถยนต์ท่องเที่ยว ; คุณชาติชาย โฆษะวิสุทธิ์ ประธาน กรรมการบริหาร โรงแรมโฆษะ ให้การต้อนรับคณะ RENN DRIVE PORSCHE (รถยนต์หรู รถยนต์นำ�เข้า) จำ�นวน 37 คัน มาเยือนโฆษะ โรงแรมคู่บ้านคู่เมืองขอนแก่น กิจกรรมคาราวานรถยนต์ท่องเที่ยวเส้น ทางอีสานสู่เหนือ โดยจะเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดขอนแก่นระหว่าง วันที่ 12-13 มกราคม 2561 ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพสูงทางการท่องเที่ยว
เปิดห้องทำ�งานผู้ว่าฯ ต้อนรับเด็กนักเรียน ; นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ. ขอนแก่น เปิดห้องทำ�งานต้อนรับเด็กนักเรียน ให้นกั เรียนทีม่ าได้นงั่ เก้าอีผ้ ู้ ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เพือ่ สร้างแรงบันดาลใจให้เป็นเด็กดี มีคณ ุ ธรรม พัฒนาประเทศชาติตอ่ ไปในอนาคต และให้โอวาท เนือ่ งในโอกาส “วันเด็ก แห่งชาติ ปี 2561” ณ ห้องทำ�งานชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น
เปิดตลาดประชารัฐ ตลาดวัฒนธรรม ; นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ. ขอนแก่น เป็นประธานเปิดโครงการตลาดประชารัฐ ตลาดวัฒนธรรม “น้อมใจภักดิ์ถวายความจงรักภักดี” จัดโดยสำ�นักงานวัฒนธรรมจังหวัด ขอนแก่น มหาวิทยาลัยขอนแก่น และเทศบาลตำ�บลท่าพระ โดยมีนางพร พิมล คงตระกุล วัฒนธรรมจังหวัดขอนแก่น นายพิสทุ ธิ์ อนุตรอังกูร นายก เทศมนตรีต�ำ บลท่าพระ แขกผูม้ เี กียรติ และประชาชนชาวตำ�บลท่าพระ เข้า ร่วมงานเป็นจำ�นวนมาก ณ บริเวณถนนสายวัฒนธรรม ตลาดท่าพระ 100 ปี ตำ�บลท่าพระ อ.เมืองขอนแก่น
บุญกุม้ ข้าวใหญ่ ของดีเมืองบ้านไผ่ ; นายสมศักดิ์ จังตระกูล ผวจ.ขอนแก่น เป็นประธานเปิดงาน “บุญกุ้มข้าวใหญ่ ของดีเมืองบ้านไผ่” เพื่อระลึกถึง บุญคุณพระแม่โพสพ และสืบสานประเพณีท้องถิ่น โดยมี ว่าที่ร้อยเอก วัทธิกร ทรงยศวัฒนา ปลัดเทศบาล ปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีเมือง บ้านไผ่ พร้อมคณะร่วมให้การต้อนรับ ณ สนามหน้าทีว่ า่ การอำ�เภอบ้านไผ่ จ.ขอนแก่น
ขอบคุณพนักงาน และผู้ให้การสนับสนุน ; นายสัญชัย ชินจตุรภัทร์ กรรมการผู้จัดการ ห้างสรรพสินค้าเซ็นโทซ่า พร้อมคณะผู้บริหารฯ จัด งานเลีย้ งสังสรรค์เนือ่ งในโอกาส “ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่” เพือ่ เป็นการ ขอบคุณพนักงาน และผูใ้ ห้การสนับสนุนห้างสรรพสินค้าท้องถิน่ ของชาว ขอนแก่น “ห้างเซ็นโทซ่า” โดยมีผรู้ ว่ มประกอบการ และพนักงานห้างเซ็น โทซ่า ทั้ง 3 สาขา ร่วมกิจกรรม ณ ห้างสรรพสินค้าเซ็นโทซ่า สาขาถนน ศรีจันทร์ เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2561
วันเด็กแห่งชาติ ประจำ�ปี 2561” ; นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพนั ธุ์ นายกเทศมนตรี นครขอนแก่น เป็นประธานเปิดงาน “วันเด็กแห่งชาติ” ประจำ�ปี 2561 โดย นำ�กิจกรรมส่งเสริมพัฒนาการเรียนรู้ การบริการรถหนังสือเคลื่อนที่ ให้ ความรู้ด้านสุขภาพอนามัย และสิ่งแวดล้อม และให้บริการทำ�บัตรประจำ� ตัวประชาชนสำ�หรับเด็กและเยาวชน ณ บริเวณลานอเนกประสงค์เทศบาล นครขอนแก่น
เสริมความรู้ เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ; นายศรินทร์ยา สิทธิชัย เลขา ป.ป.ส. แห่งชาติ และนายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น มอบเกียรติบัตรให้ผู้ เข้ารับการอบรมหลักสูตร เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. เพือ่ ให้มคี วามรู้ ความเข้าใจ ในขอบข่ายอำ�นาจเจ้าหน้าที่ของผู้ที่ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าพนักงาน ณ ห้อง คอนเวนชั่น โรงแรมอวานี ขอนแก่น อ.เมือง จ.ขอนแก่น
สวัสดีปีใหม่
แค่คิดถึง ห่วงใย ใส่ใจ ดูแลกัน ก็ขอบคุณแล้วครับ ขอขอบคุณ ทุกหน่วยงาน องค์กร ในนํ้าใจที่มอบให้ตลอด มา จะขอตอบแทนด้วยการทำ�หน้าที่ของสื่อมวลชนที่ดี ให้สมกับที่ไว้ วางใจ และให้ความเมตตา หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ในปีใหม่นี้ คงได้รับการ สนับสนุนในการทำ�งานขับเคลื่อนองค์กรต่างๆ ที่รับผิดชอบ เช่นที่ผ่าน มา ขอกราบขอบพระคุณครับ
หน้า 5
ปีที่ 15 ฉบับที่ 164 ประจำ�เดือนมกราคม 2561
กล้วยไม้ป่าช้างกระบานสะพรั่งอวดโฉมใน คณะศิษยานุศษิ ย์ เตรียมจัดพิธถี วายเพลิง “หลวงพ่อคูณ” วัดป่าขอนแก่น อันซีนอีสานแห่งเดียวของไทย หลังหมดภาระกิจสุดท้าย ทำ�หน้าที่เป็นอาจารย์ใหญ่
นักท่องเทีย่ วแห่ชมกล้วยไม้ปา่ ช้างกระกว่า 280 ต้น ขึ้นเองตามธรรมชาติในวัดป่าขอนแก่น เป็นอันซีน อีสาน ที่ ททท.ขอนแก่น กำ�หนดให้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีที่นี่เพียงแห่งเดียวของ ประเทศไทย เมื่อวันที่ 11 ม.ค.61 นายสันติ จัตุพันธ์ นาย อำ�เภอมัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ได้พากลุม่ นักท่องเทีย่ ว จาก อ.เมืองขอนแก่น มาที่อุทยานวัดป่ามัญจาคีรี ซึ่งอยู่ในเขตหมู่ 13 ต.กุดเค้า อ.มัญจาคีรี เพื่อมาชม ความสวยงามของกล้วยไม้ช้างกระ ซึ่งขึ้นอยู่ตาม ต้นมะขามกว่า 282 ต้น บริเวณวัดเป็นพื้นที่เนิน
ห้อมล้อมด้วยท้องนาเนือ้ ทีป่ ระมาณ 15 ไร่ โดยนั ก ท่ อ งเที่ ย วให้ ค วาม สนใจชมกล้วยไม้ป่าช้างกระ ที่เกิด ขึ้ น เองตามธรรมชาติ ไ ด้ อ อกดอก ชู ช่ อ สวยงามบานสะพรั่ ง ไปทั่ ว วัดในช่วงหน้าหนาวของทุกปี ซึ่ง ภายในอุทยานวัดป่ามัญจาคีรีแห่ง นี้ เ ป็ น สถานที่ เ พี ย งแห่ ง เดี ย วของ ประเทศไทยที่ มี ก ล้ ว ยไม้ ป่ า พั น ธุ์ ช้างกระเกิดขึ้นเอง และเจริญพันธุ์ตามธรรมชาติ เกาะตามลำ�ต้นและกิ่งต้นมะขาม ต้นตะโก และต้น กระถินป่า ที่มีอยู่กว่า 280 ต้น แต่ละต้นอายุนับร้อย กว่าปี นายสันติ จัตพุ นั ธ์ นายอำ�เภอมัญจาคีรี กล่าว ว่า กล้วยไม้ป่าช้างกระในอุทยานวัดป่ามัญจาคีรี จ.ขอนแก่น เกิดขึ้นมาเองโดยธรรมชาติตามต้นไม้ ในวัดป่าฯ เป็นพันธุ์ที่หายาก เพราะในสถานที่ใน วัดป่ามีความชื้นของอากาศไปหล่อเลี้ยงกล้วยไม้ โดยจะออกในช่วงฤดูหนาวประมาณปลายเดือน ธันวาคม - ถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ ของทุกปี โดย
ทุกต้นในวัดที่มีกล้วยไม้ป่าช้างกระจะออกดอก ชูช่อสวยงามบานสะพรั่ง จึงเป็นสิ่งสวยงามของ อ.มัญจาคีรี และสถานที่ท่องเที่ยวของ อ.มัญจาคีรี ซึง่ จะมีการจัดงานประจำ�ปีของ อ.มัญจาคีรี ในวันที่ 17 - 20 มกราคมของทุกปี เพี่อดึงดูดนักท่องเที่ยว มาเที่ยวชมความงามของกล้วยไม้ป่าช้างกระ โดยขอเตือนนักท่องเทีย่ วไม่ให้เก็บจับดอก หรือลำ�ต้นของกล้วยไม้ปา่ โดยเด็ดขาด ไม่ท�ำ ลายรือ้ ถอนรักขโมยกล้วยไม้ป่าช้างกระภายในวัด เพราะ 2 - 3 ปี ที่ผ่านมา มีคนไม่ประสงค์ดีเข้ามาลักขโมย กล้วยไม้ปา่ ช้างกระในวัดไปจำ�นวนมาก ทางหน่วย งานราชการและวัดได้จัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมา เพื่อดูแลกล้วยไม้ป่าช้างกระภายในวัด พร้อมกับ ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนช่วยกันดูแลรักษา ไว้ให้ลูกหลานคนรุ่นต่อๆไปอนุรักษ์และรักษาไว้ ให้กับ อ.มัญจาคีรี และนักท่องเที่ยวเข้ามาชมเพื่อ ความสวยงามของ จ.ขอนแก่น เพราะอุทยานวัดป่า มัญจาคีรีแห่งนี้เป็นอันซีน อีสาน ที่การท่องเที่ยว แห่งประเทศไทยกำ�หนดให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่มีที่นี่เพียงแห่งเดียวของประเทศอีกด้วย
กลุม่ อีสานตอนกลาง ระดมสมองปฏิรปู โครงสร้างเศรษฐกิจสู่ “ประเทศไทย 4.0” เป็นแหล่งท่องเทีย่ วหนึง่ เดียวในอาเซียน
ขอนแก่นประชุมประชาคมแผนพัฒนา กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลาง จ.ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม และ จ.ร้อยเอ็ด เพือ่ ปฏิรปู โครงสร้างเศรษฐกิจสู่ “ประเทศไทย 4.0” เป็นแหล่งท่องเที่ยวหนึ่งเดียวในอาเซียน เมื่อวันที่ 4 ม.ค.61 นายสมศักดิ์ จังตระ กุล ผวจ.ขอนแก่น เป็นประธานการประชุมเพื่อ ประชาคมร่างแผนพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคตะวัน ออกเฉียงเหนือตอนกลาง พ.ศ.2561-2564 ฉบับ ทบทวน ณ โรงแรมโฆษะ อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดย มีผู้แทนจากภาคส่วนต่างๆทั้งราชการส่วนท้อง ถิ่น ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม มาร่วม ประชุมจำ�นวน 200 คน โดย น.ส.เบญจวรรณ สุด จริง หัวหน้า สนง.จังหวัดขอนแก่น ปฏิบัติหน้าที่ หัวหน้าสำ�นักบริหารยุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัดภาค ตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลาง ซึ่งมี จ.ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม และ จ.ร้อยเอ็ด ดำ�เนินการ ให้มกี ารประชุม เพือ่ ประชาคมร่างแผนพัฒนากลุม่ จังหวัด ครั้งนี้ และรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับร่าง
แผนพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตอนกลาง พ.ศ.2561-2564 ฉบับทบทวน ทัง้ นี้ สำ�นัก บริหารยุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัดฯ จะได้นำ�ข้อสรุป ความคิดเห็นของภาคีการพัฒนาไปปรับปรุงและ จัดทำ�แผนพัฒนากลุ่มจังหวัดฯ ให้มีความสมบูรณ์ ยิ่งขึ้น ก่อนที่จะนำ�เสนอต่อคณะกรรมการบริหาร กลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการพิจารณาในลำ�ดับต่อไป นายสมศักดิ์ ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า สืบเนื่องจาก คณะกรรมการนโยบายพัฒนาภาค ( ก.บ.ภ.) ได้ กำ�หนดปฏิทินแนวทางและหลักเกณฑ์การจัดทำ� แผนพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัด พ.ศ. 2561 2564 ฉบับทบทวน และกำ�หนดให้ส่งแผนพัฒนา กลุม่ จังหวัด ให้ส�ำ นักคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ ในฐานะฝ่ายเลขานุการ ก.บ.ภ. และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ภายในวันที่ 5 ม.ค. 2561 “ขอเสนอแนะและฝากประเด็นข้อพิจารณา ในการพัฒนากลุ่มจังหวัดที่สำ�คัญ 2 ประเด็น คือ 1. เรื่องการเชื่อมโยงเป้าหมายของแผนในระดับต้นๆ
เช่น การปฏิรปู โครงสร้างเศรษฐกิจ สู่ “ประเทศไทย 4.0” หรือ “เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม” จากเดิม “ทำ�มากได้น้อย” ปรับเปลี่ยนเป็น “ทำ� น้อยได้มาก” กลุ่มจังหวัดจะต้องทำ�อะไร อย่างไร เช่น เปลี่ยนจากเกษตรดั้งเดิมไปสู่เกษตรสมัยใหม่ ทีเ่ น้นการจัดการและเทคโนโลยีให้เกษตรกรราํ่ รวย ขึ้น และเป็นเกษตรกรแบบผู้ประกอบการ 2.การบู รณาการแผนงาน/ โครงการการพัฒนาในระดับ ต่างๆ ทีจ่ ะร่วมกันขับเคลือ่ นการพัฒนากลุม่ จังหวัด ในแต่ละประเด็นให้ชัดเจนเพื่อให้การพัฒนากลุ่ม จั ง หวั ด บรรลุ เ ป้ า หมายที่ กำ � หนดไว้ คื อ พั ฒ นา ศักยภาพภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลาง สู่ การเป็นแหล่งท่องเที่ยวหนึ่งเดียวในอาเซียน และ ทิศทางการพัฒนาภาคตะวันออกเฉียงเหนือในช่วง แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 ต้องมีเป้าหมาย พัฒนาอีสานสู่มิติใหม่ให้เป็น “ศูนย์กลางเศรษฐกิจของอนุภาคลุม่ นํา้ โขง” ภายใน อนาคตโดยเร็วที่สุด” ผวจ.ขอนแก่น กล่าว
ขอนแก่นเปิดศูนย์วจิ ยั ทดลองพืชผักหน้าร้อน หลังบริษทั ยั ก ษ์ ใ หญ่ ข องยุ โ รปเลื อ กเป็ น ศู น ย์ ท ดลองในภู มิ ภ าค
เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2561 นายสมศักดิ์ จั ง ตระกุ ล ผู้ ว่ า ราชการจั ง หวั ด ขอนแก่ น เป็ น ประธานเปิดสถานีทดลองวิจัยและพัฒนาแห่ง ใหม่ของจังหวัดขอนแก่น หลังจากที่บริษัทเอช เอ็ม โคลส บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเมล็ดพันธุ์พืช จากประเทศฝรัง่ เศสได้เลือกจังหวัดขอนแก่นเป็น สถานที่ลงทุนแห่งใหม่ ที่หมู่ 4 ตำ�บลกุดกว้าง
อำ�เภอหนองเรือ จังหวัด ขอนแก่น เพื่อเป็นสถาน ที่ ใ นการค้ น คว้ า วิ จั ย หา พั น ธุ ก รรมพื ช ผั ก ที่ มี คุณภาพสูงและเหมาะสม กับตลาดภูมิภาคเอเซีย หลั ง จากที่ ส ถานี วิ จั ย ที่ จังหวัดกาญจนบุรมี พี น้ื ที่ จำ�กัด จึงได้เลือกพื้นที่ที่ อำ�เภอหนองเรือ กว่า 100 ไร่ จัดตั้งสถานีวิจัยแห่ง ใหม่ขึ้นอีกแห่ง เพื่อทำ�การวิจัยด้านเมล็ดพันธุ์ พืชหน้าร้อน รวมทั้งการจ้างงานในพื้นที่อีกกว่า 100 อัตรา สถานีทดลองวิจัยและพัฒนาแห่งใหม่ ที่จังหวัดขอนแก่น มีความพร้อมทั้งพื้นที่ เครื่อง มืออุปกรณ์และโรงเรือน รวมทัง้ ทีมงานทีม่ คี วาม รู้ความสามารถและประสบการณ์ ซึ่ ง สถานี ท ดลองวิ จั ย แห่ ง นี้ ช่ ว งแรก
จะทำ � การวิ จั ย พื ช 5 ชนิ ด ได้ แ ก่ พริ ก มะเขื อ เทศ แตงกวา แตงโม และเมล่ อ น เพื่ อ การ ตลาดในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้และตลาดใน ประเทศอินเดีย โดยจะมีนักวิจัยจากทั่วโลกที่มี ประสบการณ์มาร่วมพัฒนาผลงานที่สถานีวิจัย แห่งนี้ และยังเชือ่ มประสานการทำ�งานกับหน่วย งานภาครัฐและหน่วยงานสนับสนุนทั้งในและ ต่างประเทศ ทั้งอเมริกา ยุโรป และเอเชีย สำ�หรับสถานีวิจัยและพัฒนาเมล็ดพันธุ์ แห่งนี้ ถือว่าเป็นสถานีวิจัยที่สำ�คัญต่อภูมิภาค เอเซียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศไทย รวม ทัง้ จังหวัดขอนแก่น ซึง่ เป็นเมืองทีเ่ ป็นศูนย์กลาง ของภูมิภาคที่เชื่อมจากอินเดียถึงเวียดนาม รวม ทั้งจากจีนถึงสิงคโปร์ถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่ สำ�คัญ เป็นเหตุผลที่บริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลก เลือกมาลงทุน
คณะกรรมการศิษยานุศษิ ย์ ประชุมให้ คณะ แพทยศาสตร์ ม.ขอนแก่น จัดพิธถี วายเพลิง “หลวง พ่อคูณ” หลังเสร็จพิธีพระราชทานเพลิงครูใหญ่ เหมือนทุกปี จากนั้นนำ�ร่างมาถวายเพลิงที่เมรุลอย ชั่วคราวฯ บริเวณพุทธมณฑลอีสาน ทีจัดให้เป็น “นกหัสดีลิงค์เทินบุษบก” สีขาวไปทั้งตัว ทุกสิ่ง ในงานพร้อมผู้ร่วมงานต้องสีขาว เปรียบเหมือน สวรรค์จริงๆ สืบเนื่องจาก พระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อ คูณ ปริสุทโธ) เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ถึงแก่มรณภาพ เมื่อเวลา 11.45 น. วันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ.2558 สิริอายุ 91 - 92 ปี และได้บำ�เพ็ญกุศลสรีระสังขารพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) ณ ศูนย์ประชุมอเนกประ สงค์กาญจนาภิเษก ม.ขอนแก่น และวันที่ 24 พ.ค. 2558 ได้มีพิธีเคลื่อนสรีระสังขารพระเทพวิทยาคม มาที่ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ ม.ขอนแก่น (ชั้น 7) เพื่อดองร่างท่าน 1 ปี เมื่อเข้าสู่ ปีที่ 2 และปีที่ 3สรีระสังขารของท่านได้เป็นอาจารย์ ใหญ่ - ครูใหญ่ ให้กับนิสิต /นักศึกษาแพทย์ คณะ แพทยศาสตร์ ม.ขอนแก่น กระทั่งเดือนมิถุนายน 2561 ได้ครบกำ�หนดที่ศึกษาเรียนรู้สรีระสังขาร หลวงพ่อคูณ ตามข่าวที่เสนอมาโดยตลอด เมื่อวันที่ 18 ม.ค.61 เวลา 14.00 น. นายสม ศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น เปิดเผยถึงในเรื่อง พระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) ว่า เมื่อ วันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้เข้าร่วมประชุมเตรียม จัดพิธีพระราชทานเพลิงพระเทพวิทยาคม (หลวง พ่อคูณ ปริสุทโธ) ห้องประชุมสิริคุณากร 5 ชั้น 4 สำ�นักงานอธิการบดี ม.ขอนแก่น โดยการดำ�เนิน งานของ รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยกุล คณบดี คณะแพทยศาสตร์ ม.ขอนแก่น พร้อมศิษยานุศิษย์ หลวงพ่ อ คู ณ ที่ ม าจากวั ด บ้ า นไร่ อ.ด่ า นขุ น ทด จ.นครราชสีมา และญาติรวมทั้งกรรมการบริหาร วัดบ้านไร่ เพื่อที่จะมาเตรียมการถวายเพลิงหลวง พ่อคูณ เพราะเดือนมิ.ย.2561 จะเสร็จสิ้นที่ท่าน ได้ ม อบสรี ร ะสั ง ขารให้ กั บ คณะแพทยศาสตร์ ม.ขอนแก่น ศึกษาหาความรู้ในร่างของท่าน และ ได้มีพินัยกรรมระบุไว้ว่าให้บำ�เพ็ญกุศล เมื่อสิ้น สุดการศึกษาค้นคว้าของภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ ม.ขอนแก่น ให้จัดโดยเรียบ ง่ า ย ละเว้ น การพิ ธี ส มโภชน์ ใ ดๆ และห้ า มมิ ใ ห้ ขอพระราชทานเพลิงศพ โกฏิ และพระราชพิธี อื่นๆ เป็นกรณีพิเศษเป็นการเฉพาะ โดยให้คณะ แพทยศาสตร์ ม.ขอนแก่น กระทำ�เช่นเดียวกับ การจั ด พิ ธี ศ พของอาจารย์ ใ หญ่ นั ก ศึ ก ษาแพทย์ ประจำ�ปีร่วมกับอาจารย์ใหญ่ท่านอื่นๆ แล้วเผา ณ ฌาปนสถานวัดหนองแวง พระอารามหลวง ต.ใน เมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น หรือวัดอื่นใดที่คณะ แพทยศาสตร์เห็นสมควรและเหมาะสม โดยทำ�พิธี เผาให้เสร็จสิ้นที่ จ.ขอนแก่น เมื่อเสร็จสิ้นแล้วแล้ว
อัฐิ เถ้า ถ่าน และเศษอังคารทัง้ หมด ให้คณะแพทยศาสตร์ ม.ขอนแก่น นำ�ไปลอยที่แม่นํ้าโขง จ.หนองคาย ตามที่เห็นสมควรและเหมาะสม ดั ง นั้ น รศ.นพ.ชาญชั ย พานทองวิ ริ ย กุ ล คณบดี ค ณะ แพทยศาสตร์ ม.ขอนแก่น ไปกราบ เรี ย นพระธรรมวิ สุ ท ธาจารย์ (คู ณ ขนติ โ ก) ที่ ป รึ ก ษาเจ้ า คณะภาค 9 เจ้าอาวาสวัดหนองแวงพระอาราม หลวง เรื่องความเหมาะสมถึงการใช้สถานที่ถวาย เพลิ ง หลวงพ่ อ คู ณ ซึ่ ง วั ด หนองแวงฯไม่ ส ามารถ รองรับศิษยานุศิษย์หลายแสนคนได้ และเมรุที่วัด หนองแวงใช้มานาน ประชาชนก็ยังได้ใช้อยู่เป็น ประจำ� วัดหนองแวงฯจึงเห็นว่าไม่เหมาะสม พร้อม กับลงความเห็นว่า ให้คณะแพทยศาสตร์ มข.ทำ�เมรุ ลอยชั่วคราวของวัดหนองแวงพระอารามหลวง ณ บริเวณพื้นที่พุทธมณฑลอีสาน บ้านเต่านอ ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น เพราะพืน้ ทีด่ งั กล่าวจะเป็นสถาน ที่ก่อสร้าง รพ.ศรีนครินทร์ ม.ขอนแก่น สาขา 2 ขณะนี้พื้นที่ตรงที่สร้างเมรุลอยชั่วคราว วัดหนองแวงฯ ได้มีการเตรียมตัดถนนตรงบริเวณ ถนนเลี่ยงเมืองขอนแก่น – กาฬสินธุ์ ขนานไป กั บ ถนนทางเข้ า พุ ท ธมณฑลอี ส าน ระยะทาง 1.4 กิโลเมตร พร้อมกำ�หนดพื้นที่จะทำ�เมรุลอย ออกแบบโดยคณะศิลปกรรม ม.ขอนแก่น ร่วมกับ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ม.ขอนแก่น โดยทำ�เป็น นกหัสดีลิงค์เพื่อให้เข้ากับวัฒนธรรมของล้านช้าง ดังนั้นสถานที่ตรงนี้จึงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ จึงมี การวางแผนทำ�อนุสรณ์สถานครอบไว้ พร้อมกับ มีการนำ�หุ่นรูปปั้นหลวงพ่อคูณที่ประดิษฐานชั้น 7 คณะแพทยศาสตร์ รพ.ศรีนครินทร์ ม.ขอนแก่น รวมทั้งอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือที่ได้ใช้กับหลวง พ่อคูณไม่ว่าจะเป็นอ่างดองสรีระสังขารหลวงพ่อ คูณ เตียงครูใหญ่ ชุดผ่าตัดครูใหญ่ รูปเหมือนของ ท่าน ก็จะอยู่ในสถานที่ดังกล่าว และสถานที่ตรง นี้ก็จะอยู่คู่กับคณะแพทยศาสตร์ รพ.ศรีนครินทร์ ม.ขอนแก่น (สาขา 2 ) นักศึกษา บุคลากรทั่วไป พร้อมศิษยานุศิษย์ของหลวงพ่อคูณ ได้รำ�ลึกถึง หลวงพ่อคูณมากราบไหว้ท่านได้ตลอดเวลา “เมือ่ ตามกำ�หนดการต้องมีพระราชทานเพลิงศพครู ใหญ่ในเดือนมิถุนายนของทุกปี ในปี 2561 มีสรีระ สังขารของหลวงพ่อคูณอยูด่ ว้ ย ดังนัน้ จึงต้องมีการ ประชุมร่วมกันระหว่างจังหวัดขอนแก่น จังหวัด นครราชสี ม า คณะแพทยศาสตร์ ม.ขอนแก่ น ศิษยานุศิษย์ของหลวงพ่อคูณ โดยดำ�เนินการตาม พิ นั ย กรรมของท่ า นระบุ ไ ว้ ทุ ก ประการ จึ ง ต้ อ ง มี ก ารประชุ ม ร่ ว มของผู้ เ กี่ ย วข้ อ งทั้ ง หมด โดย คณะแพทย์ศาสตร์ ม.ขอนแก่น เป็นแกนหลักใน เรื่องนี้ ให้เป็นไปตามหลักของพินัยกรรมหลวง พ่ อ คู ณ ระบุ ไ ว้ และทุ ก ท่ า นเห็ น ชอบกั บ ที่ ค ณะ
โฆษะ จัดงานวันเด็กประจำ�ปี 2561 “สนุกและได้ความรู้” ; คุณชาติชาย โฆษะวิสุทธิ์ ประธานกรรมการบริหาร โรงแรมโฆษะ เป็นประธานเปิด งานวันเด็กแห่งชาติ ประจำ�ปี 2561 ให้โอวาทแก่เด็กๆ ให้ตั้งใจเรียน รู้จักประหยัดเก็บออม รู้จักตอบแทนบุณคุณแผ่นดินและพ่อหลวง ด้วย การเป็นเด็กดี ของพ่อแม่ ของสังคม ต่อจากนั้นได้มอบของขวัญให้แก่ เด็กๆ ที่มาร่วมงานอีกด้วย ทั้งนี้ โรงแรมโฆษะ จัดกิจกรรมวันเด็กแห่ง ชาติ เป็นประจำ�ทุกปี
แพทยศาสตร์ ม.ขอนแก่น ดำ�เนินการก่อสร้างพระ เมรุลอยชั่วคราววัดหนองแวงพระอารามหลวงที่ พุทธมณฑลอีสาน ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดย คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ และคณะศิลปกรรม ศาสตร์ ม.ขอนแก่น ได้ออกแบบเรียบร้อยและ เป็นทีย่ อมรับของทุกฝ่ายทีเ่ กีย่ วข้องทุกคน และจะ ดำ�เนินการก่อสร้างในสถานทีเ่ ป็นเมรุลอยชัว่ คราว วัดหนองแวงพระอารามหลวง เพื่อให้ทันเดือน พฤศจิกายน - ธันวาคม 2561” ผวจ.ขอนแก่น กล่าว ในส่ ว น รศ.ดร.นิ ย ม วงศ์ พ งษ์ คำ � คณบดี ค ณะ ศิลปกรรมศาสตร์ ม.ขอนแก่น เปิดเผยว่า สถาน ที่ถวายเพลิงพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริ สุทโธ) ต้องเรียบง่ายและสมเกียรติ ดังนั้น การ ฌาปนกิ จ พระสงฆ์ ที่ มี ส มณศั ก ดิ์ ระดั บ พระ เทพวิทยาคม ประชาชนเคารพศรัทธาสูงส่ง จึงได้ ศึกษาประเพณีโบราณของกลุม่ ชาติพรรณไทยทีส่ บื มาเป็นคนอีสานในปัจจุบัน ตั้งแต่ไทยลื้อ สิบสอง ปันนา และมาถึงล้านนา และล้านช้างในปัจจุบัน พบว่า ถ้ามีประเพณีแบบนี้คนสมัยนั้นจะทำ� “นก หัสดีลิงค์เทินบุษบก” ซึ่งเป็นความเหมาะสมที่จะ ทำ�นกหัสดีลงิ ค์เทินบุษบกตามประเพณีโบราณโดย ไม่มีโกฏิ ที่สมสมณศักดิ์ สมพระเกียรติ ของหลวง พ่อคูณ ตามพินัยกรรมระบุไว้ไม่ขอพระราชทาน เพลิงศพ แต่จะเฉพาะสรีระหลวงพ่อคูณเท่านั้น “ความหมายนกหั ส ดี ลิ ง ค์ เ ป็ น นกที่ รู ป ร่ า งตาม ตำ�นานมีเศียรเป็นช้างเท่านั้น ความงามจะขึ้นอยู่ กับสกุลช่างของแต่ละช่าง เช่นช่างล้านนา ช่างไทย ลื้อ ช่างอีสาน ความใหญ่โตก็ขึ้นจากงบประมาณ และความเหมาะสม สำ�หรับหลวงพ่อคูณถือว่า เป็นนกตัวแรก แต่มีความยิ่งใหญ่สมเกียรติรวม ไปถึงบุษบกที่มีความสูงถึง 22 เมตร เป็นนกตัว แรกเพราะจะมีสีขาวไปทั้งตัว เพื่อให้เป็นไปตาม พินัยกรรมที่เขียนชัดว่า เรียบง่าย สมถะ รู้อยู่ รู้มี รู้งาม เพราะกิจวัตรของท่านเป็นแบบนั้น ดังนั้น เมื่อประชาชนที่ศรัทธาหลวงพ่อคูณจะเข้ามาใน งานถวายเพลิงท่านทุกอย่างจะขาวหมด นอกจาก เมรุลอยชัว่ คราวฯสีขาว ต้นไม้ ดอกไม้ การประดับ ประดา แม้ แ ต่ ค นที่ ม าร่ ว มงานต้ อ งขอให้ ข าว ทัง้ หมด รวมทัง้ เต้นท์ตอ้ งสีขาว เพือ่ จำ�ลองสวรรค์ จริงๆ” รศ.ดร.นิยม กล่าว ก่อสิทธิ์ กองโฉม ขอนแก่น / รายงาน
วันเด็กแห่งชาติ ประจำ�ปี 2561 ; โรงแรมพูลแมนขอนแก่น ราชา ออคิด ร่วมเป็นส่วนหนึง่ ในการจัดกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ โดยเห็นความสำ�คัญ และความต้องการของเด็ก อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นให้เยาวชนตระหนัก ถึงบทบาทสำ�คัญของตน ปลูกฝังให้มสี ว่ นร่วมในสังคมเพือ่ เตรียมพร้อม กับการใช้ชีวิต จึงได้จัดกิจกรรมงานวันเด็กนี้ขึ้น ภายในงานมีกิจกรรม และเกมส์ตา่ งๆ พร้อมของรางวัลให้เด็กๆได้รว่ มสนุก เพือ่ สอดคล้องกับ คำ�ขวัญวันเด็กที่ว่า “รู้คิด รู้เท่าทัน สร้างสรรค์เทคโนโลยี”
หน้า 6
ปีที่ 15 ฉบับที่ 164 ประจำ�เดือนมกราคม 2561
ปีที่ 15 ฉบับที่ 164 ประจำ�เดือนมกราคม 2561
หน้า 7
หน้า 8
ปีที่ 15 ฉบับที่ 164 ประจำ�เดือนมกราคม 2561
ตั้ง “กองร้อยนํ้าหวาน” นำ�ร่อง 6 จังหวัด หนองคายคุมเข้ม จัดระเบียบโรงแรม สนอง อีสานตอนบน ดูแลจราจรเพื่อลดอุบัติเหตุ นโยบาย “ลดอบายมุขสร้างสุขให้สังคม”
สสส.ร่วมมือ บช.ภ.4 ตั้ง “กองร้อยนํ้า หวาน” ใน 6 จังหวัดนำ�ร่องดูแลจราจรเพื่อลด อุบัติเหตุเจ็บ/ตาย ใน 12 จังหวัดภาคอีสานตอน บน เมื่อวันที่ 16 ม.ค.61 เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุมมงกุฎเงิน โรงแรมโฆษะ อ.เมือง จ.ขอนแก่น พล.ต.ท.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผบช.ภ. 4 เป็ น ประธานในพิ ธี ล งนามบั น ทึ ก ข้ อ ตกลง (MOU) โครงการลดอุบัติเหตุจราจรทางถนน แบบมีส่วนร่วม ตำ�รวจภูธรภาค 4 ซึ่งมีผู้ลงนาม นพ.วีระพันธ์ สุพรรณไชยมาตย์ รองประธานคน ที่ 2 คณะกรรมการ สสส. น.พ.วิทยา ชาติบัญชา ชัย ประธานแผนงาน สอจร. น.ส.รุ่งอรุณ ลิ้มฬ หะภัณ ผอ.สำ�นักสนับสนุนการควบคุมปัจจัย เสีย่ งทางสังคม พล.ต.ต.ธนาศักดิ์ ฤทธิเ์ ดชไพบูลย์ รอง ผบช.ภ.4 พ.ต.อ.อานนท์ นามประเสริฐ รอง ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด ในการประกาศเจตนารมณ์ และศึ ก ษาแลกเปลี่ ย นการดำ � เนิ น งานเพื่ อ ลด อุบัติเหตุจราจรทางถนนของพื้นที่ในความดูแล ของตำ�รวจภูธรภาค 4 พล.ต.ต.ธนาศักดิ์ ฤทธิเดชไพบูลย์ รอง ผบช.ภ.4 กล่าวว่า บช.ภ.4 ได้จัดทำ�พิธีลงนาม บั น ทึ ก ข้ อ ตกลง (MOU) อั น เป็ น ส่ ว นหนึ่ ง ของการดำ�เนินงานตาม “โครงการลดอุบัติเหตุ จราจรทางถนนแบบมี ส่ ว นร่ ว ม ตำ � รวจภู ธ ร ภาค 4” ระหว่างกองสนับสนุนการเสริมสร้าง สุขภาพ กับ ตำ�รวจภูธร ภาค 4 ครัง้ นี้ สืบเนือ่ งจาก สำ�นักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุข
ภาพ หรือ สสส. ได้ร่วม มื อ กั บ ตำ � รวจภู ธ รภาค 4 จั ด ทำ � โครงการลด อุบัติเหตุจราจรทางถนน แบบมี ส่ ว นร่ ว ม โดย มี วั ต ถุ ป ระสงค์ เ พื่ อ นำ � ข้อมูลจากการสอบสวน แ บ บ ส ห วิ ช า ชี พ ม า วิเคราะห์ แล้วนำ�ผลการ วิเคราะห์มากำ�หนดเป็น แนวทางในการป้องกัน แก้ไขปัญหา และลดอุบัติเหตุทางถนน ขั้ น ตอนการดำ � เนิ น งาน เริ่ ม ด้ ว ยการ ให้ พ นั ก งานสอบสวน 6 จั ง หวั ด นำ � ร่ อ งได้ แ ก่ จ.อุ ด รธานี ร้ อ ยเอ็ ด กาฬสิ น ธุ์ มุ ก ดาหาร หนองคาย เลย ซึ่งสังกัดตำ�รวจภูธรภาค 4 นำ�คดี อุบัติเหตุจราจรที่เกิดขึ้นและมีผู้เสียชีวิต ทำ�การ สอบสวนร่วมกับเครือข่ายสหวิชาชีพ พร้อมกับ วิเคราะห์ถึงสาเหตุแห่งการเกิดอุบัติเหตุ นำ�ผล การวิเคราะห์ดังกล่าวเข้าวาระการประชุมของ จังหวัดและภาค 4 เสนอผูว้ า่ ราชการจังหวัดสัง่ การ ให้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันแก้ปัญหา ทั้งนี้ เพือ่ ลดการเกิดอุบตั เิ หตุและเสียชีวติ จากอุบตั เิ หตุ ทางถนน “การแก้ ไ ขปั ญ หาอุ บั ติ เ หตุ จ ราจรทาง ถนนในชุมชน เจ้าหน้าที่ของรัฐไม่สามารถเข้าไป จัดการจราจรเพื่อแก้ไขปัญหาในชุมชนได้ อัน เนื่องมาจากวัฒนธรรมชุมชน ดังนั้นตำ�รวจภูธร
ชาวไทยเชื้อสายเวียดนาม จ.หนองคาย จัดเลือกตัง้ ครัง้ ประวัตศิ าสตร์ ในรอบ 15 ปี ขานคะแนนข้ามวัน ยาวนานเกือบ 20 ชม. 1 สมาคม 1 ชมรม ชาวเวี ย ดนาม อ.เมื อ ง หนองคาย จั บ มื อ จั ด การ เ ลื อ ก ตั้ ง คั ด เ ลื อ ก ค ณ ะ กรรมการเป็ น หนึ่ ง เดี ย ว เพื่ อ สร้ า งความสามั ค คี ยอมรั บ กติ ก า และความ เป็นเอกภาพ ใช้เวลานาน กว่า 19.14 ชม. ในการขาน คะแนน เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2561 ที่หอประชุม โรงเรี ย นฮั่ ว เคี ย วกงฮั ก ถนนประจั ก ษ์ ต.ใน เมือง อ.เมืองหนองคาย สมาคมชาวเวียดนาม จ.หนองคาย นำ�โดยนายอุทัย ภัทรบัณฑิตสกุล, ชมรมชาวไทยเชือ้ สายเวียดนาม จังหวัดหนองคาย นำ�โดยนายกิม เหงียนโม่ง พร้อมคณะกรรมการทัง้ 2 สมาคม/ชมรม ได้จดั การเลือกตัง้ คณะกรรมการ บริหารชมรมไทย-เวียดนาม หนองคาย ปีบริหาร 2561-2563 โดยมีผู้สมัครจำ�นวน 47 คน และ สามารถเลือกคณะกรรมการได้ จำ�นวน 25 คน นายธนวั ฒ น์ กุ ล ธั ญ วั ฒ น์ ประธานที่ ปรึกษาสมาคมเวียดนาม จ.หนองคาย กล่าวว่า การเลือกตั้งในครั้งนี้ถือว่าเป็นการเลือกตั้งครั้ง ใหญ่ในรอบ 15 ปี ของชาวไทยเชื้อสายเวียดนาม จังหวัดหนองคาย ซึง่ ก็เป็นไปตามเจตนารมณ์ของ รัฐบาลทัง้ 2 ประเทศทีต่ อ้ งการให้มสี มาคมเกิดขึน้ ในประเทศทีม่ ปี ระชากรของประเทศนัน้ ๆ พำ�นัก อยู่ ทั้งนี้เพื่อความสามัคคี ความเป็นเอกภาพใน การประสานงานระหว่างองค์กรกับทางราชการ และรัฐบาลในโอกาสสำ�คัญๆ เพื่อความสะดวก รวดเร็ว และปีนี้ทั้งชมรม และสมาคมเวียดนาม หนองคาย อ.เมืองหนองคาย ได้ตกลงร่วมมือใน การเลือกตั้งคณะกรรมการจำ�นวน 25 คน ขึ้นมา เพือ่ สร้างความรัก ความสามัคคีของชาวเวียดนาม จ.หนองคาย ในโอกาสต่อไป โดยมีครอบครัวชาวไทยเชือ้ สายเวียดนาม อ.เมืองหนองคาย กว่า 700 ครัวเรือน และคาดว่า จะมีผมู้ สี ทิ ธิเ์ ลือกตัง้ มาแสดงสิทธิเ์ ลือกตัง้ ในครัง้ นี้ มากกว่า 700 คะแนนเสียงขึ้นไป ด้ า นนายชาญ กาววั น ประธานบริ ษั ท ชาญยนต์ จ.สกลนคร นายกสมาคมเวียดนาม
แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันชาวไทยเชื้อ สายเวียดนามที่พำ�นักในประเทศไทย ได้รับความ เป็นอิสระเสรีเป็นอย่างมาก การจัดการเลือกตั้ง ในครั้งนี้ก็ถือเป็นโอกาสอันดีที่ชาวเวียดนามเอง จะได้เลือกตัวแทนของตัวเอง ขอขอบคุณรัฐบาล ไทย และรัฐบาลเวียดนาม ทีเ่ อาใจใส่ชาวเวียดนาม ด้วยความจริงใจ การเลือกตัง้ ในครัง้ นีถ้ อื ได้วา่ เป็น ความเข้มแข็ง และความสามัคคีของชาวไทยเชื้อ สายเวียดนาม จ.หนองคาย ที่ผ่านมาถือว่าต่างคน ต่างทำ� ครั้งนี้พวกเราถือว่าจะเป็นการเริ่มต้นของ การสร้างความเป็นหนึ่งเดียวต่อไปในอนาคต จากนั้นในเวลา 15.00 ของวันที่ 14 ม.ค. 61คณะกรรมการเลือกตัง้ ได้ปดิ หีบเลือกตัง้ พร้อม ตรวจนับคะแนน ซึง่ การเลือกตัง้ ในครัง้ นีม้ ผี มู้ าใช้ สิทธิ์ จำ�นวน 1,060 คน จาก 700 ครอบครัวของ ชาวเวียดนามในเขต อ.เมืองหนองคาย กระทั่ง เวลา 10.14 น. ของวันที่ 15 ม.ค.61 จึงทำ�การ ขานคะแนนแล้วเสร็จ รวมระยะเวลาในการขาน คะแนนทั้งสิ้น 19.14 น. เป็นการขานคะแนน ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของ จ.หนองคาย หรืออาจจะเป็นของประเทศก็ว่าได้ ผลการนับคะแนน อันดับ 1 ได้แก่ นาย หุ่ง เหงียนวัน ได้คะแนน 694 คะแนน จากผู้ สมัคร 47 คน ส่วนคนทีไ่ ด้คะแนนรองลงมาจนถึง ลำ�ดับที่ 25 จะได้เป็นคณะกรรมการบริหารชมรม ไทย-เวียดนาม หนองคาย ปีบริหาร 2561-2563 แต่ คะแนนลำ�ดับที่ 25 มี 2 คน จึงพิจารณาให้เพิ่มอีก 1 คน เป็น 26 คน ก่อนที่จะประชุมจัดตั้งสมาคม และคัดเลือกนายกสมาคมฯ จากคณะกรรมการทัง้ 26 คน ตามลำ�ดับ
ต้อนรับ ณ ตลาดบ้านหนองบัวดีหมี หมู่ 11 ตำ�บลท่าพระ อ.เมืองขอนแก่น
เปิดตลาดประชารัฐ คน ไทยยิ้มได้ ; นายฉัตรชัย อุน่ เจริญ นายอำ�เภอเมือง ขอนแก่น เป็นประธาน เปิ ด โครงการ ตลาด ประชารัฐ คนไทยยิ้มได้ โดยมี นายพิสุทธิ์ อนุตร อังกูร นายกเทศมนตรี ตำ � บลท่ า พระ นำ � คณะ ผู้ บ ริ ห า ร พ นั ก ง า น เทศบาล ผู้นำ�ชุมชนและ ประชาชน ร่วมให้การ
ภาค 4 แก้ไขปัญหาด้วยการให้ชมุ ชนจัดการจราจร ด้วยตัวของชุมชน โดยฝึกอบรมแกนนำ�หญิงใน ชุมชนเป็นอาสาจราจรหญิง หรือ “กองร้อยนํ้า หวาน” จำ�นวน 6 กองร้อย นำ�ร่องจังหวัดละ 1 กองร้อย รวมทั้งสิ้น 600 คน ทำ�หน้าที่เป็นผู้ช่วย เหลือเจ้าพนักงานจราจร เป็นชุดปฏิบตั กิ ารจัดการ จราจรบนถนนในชุมชน ปรับพฤติกรรมคนใน ชุมชน ให้ขับขี่รถด้วยความปลอดภัย และนำ�ผล การวิเคราะห์ข้อมูลของสหวิชาชีพ ประสานงาน กับหน่วยงานในชุมชนวางแผนแก้ปญ ั หา ป้องกัน แก้ไขปัญหาอุบัติเหตุจราจรบนถนนในชุมชน โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจาก สสส.” พล.ต.ต.ธนาศักดิ์ กล่าว
หนองคาย ประชุมชี้แจงผู้ประกอบธุรกิจ โรงแรมและผูส้ นใจประกอบธุรกิจโรงแรมในพืน้ ที่ จังหวัดหนองคาย ปฏิบตั ติ ามกฎหมายและนโยบาย มหาดไทย “ลดอบายมุขสร้างสุขให้สังคม” เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2561 ที่โรงแรม หนองคาย ธาวิลล่า อ.เมือง จ.หนองคาย นายสุชา ติ ทีคะสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็น ประธานเปิ ด การประชุ ม ชี้ แ จงผู้ ป ระกอบธุ ร กิ จ โรงแรมและประชาชนผู้ ส นใจประกอบธุ ร กิ จ โรงแรมจังหวัดหนองคาย ประจำ�ปีงบประมาณ 2561 โดยมีผปู้ ระกอบธุรกิจโรงแรมและประชาชน ผู้ ส นใจประกอบธุ ร กิ จ โรงแรม เข้ า ร่ ว มอบรม จำ�นวน 150 คน นายโสภณ ห่ ว งญาติ นายอำ � เภอเมื อ ง หนองคาย รักษาราชการแทนปลัดจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า จังหวัดหนองคาย โดยที่ทำ�การปกครอง จังหวัด ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการและ คณะทำ�งานจัดระเบียบสังคมจังหวัดหนองคาย (ชุด มิตรภาพ) ต่างตระหนักและเล็งเห็นความสำ�คัญ ต่อการแก้ไขปัญหาสังคม การควบคุมพื้นที่เสี่ยง ต่างๆ มิให้ส่งผลกระทบต่อการดำ�เนินชีวิตของพี่ น้องประชาชนในจังหวัด จึงได้จดั ทำ�โครงการชีแ้ จง ผู้ ป ระกอบธุ ร กิ จ โรงแรมและประชาชนผู้ ส นใจ ประกอบธุรกิจโรงแรม ประจำ�ปี 2561
เพื่ อ ให้ ผู้ ป ระกอบการ ธุ ร กิ จ โรงแรมและประชาชนผู้ สนใจประกอบธุรกิจโรงแรม ได้ ปฏิบัติตามกฎหมายและนโยบาย จัดระเบียบสังคมของกระทรวง มหาดไทยนโยบาย “ลดอบายมุข สร้างสุขให้สังคม” อย่างเป็นรูป ธรรม ส่ ง เสริ ม ให้ ภ าคเอกชน โดยเฉพาะผู้ ป ระกอบธุ ร กิ จ โรงแรม รี ส อร์ ท หอพั ก บ้ า น เช่า ได้มีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อสังคม มีความเข้าใจ ในระเบียบกฎหมาย พระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. 2547 ตลอดจนแนวนโยบายภาครัฐและนโยบายจัด ระเบียบสังคมของกระทรวงมหาดไทย ภายใต้ชื่อ “นโยบายลดอบายมุข สร้างสุขให้สังคม” เพื่อให้ผู้ ประกอบธุรกิจโรงแรม ตลอดจนประชาชนผู้สนใจ ได้ตระหนักรู้ถึงทิศทางการพัฒนาจังหวัด ทิศทาง การท่องเทีย่ วในอนุภาพลุม่ นํา้ โขง การปรับตัวของผู้ ประกอบการเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว ตลอดจนการ พัฒนาธุรกิจโรงแรมทุกระดับให้มีมาตรฐานสากล เป็นที่ยอมรับของนักท่องเที่ยว นายโสภณ กล่าวต่อว่า เรื่องนี้เป็นนโยบาย ของผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ที่ให้มีการจัด ระเบียบโรงแรมให้เป็นไปตามระเบียบกฎหมาย เพือ่
ที่จะได้อำ�นวยความสะดวก และให้บริการกับนัก ท่องเที่ยวที่เข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดหนองคาย โดยเฉพาะในช่วงเทศกาล ที่ผ่านมา อำ�เภอเมืองหนองคาย ได้มีการ ประชุมชีแ้ จงผูป้ ระกอบการโรงแรมมาแล้ว แต่ยงั มี อีกหลายแห่งทีย่ งั เพิกเฉยไม่มาติดต่อขออนุญาตให้ ถูกต้อง ซึง่ อาจจะทำ�ให้ผทู้ มี่ าใช้บริการถูกเอารัดเอา เปรียบ รวมไปถึงในเรือ่ งของความปลอดภัย ทีท่ าง อำ�เภอไม่สามารถเข้าไปดูแลได้ ส่วนผู้ประกอบ การที่ขออนุญาตถูกต้อง จะมีการปฏิบัติตามกฎ ระเบียบต่างๆ ผู้ที่มาใช้บริการก็จะไม่ถูกเอารัดเอา เปรียบ ตนจึงขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการที่ เข้าลักษณะโรงแรมที่ยังไม่มายื่นขออนุญาต ให้เข้า มาติดต่อดำ�เนินการให้ถูกต้องด้วย
คณะกรรมการปฏิรปู ประเทศด้านกฎหมาย หนองคาย จัดประชุมผูบ้ ริหารระดับสูง 3 ประเทศ เดิ น สายเปิ ด เวที รั บ ฟั ง ความคิ ด เห็ น 9 จังหวัด/แขวง พัฒนาความร่วมมืออย่างต่อเนือ่ ง ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร ป ฏิ รู ป ประเทศด้ า นกฎหมาย จั ด เวที รั บ ฟังความคิดเห็นการมีส่วนร่วมของ ประชาชนและหน่ ว ยงานของรั ฐ เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนได้มี ส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นเกี่ยว กั บ ประเด็ น การปฏิ รู ป ประเทศ สร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน พร้อมนำ�ความคิดเห็นและข้อเสนอ แนะจากเวทีรับฟังความคิดเห็นมาประกอบการ จัดทำ�แผน และขั้นตอนการปฏิรูปประเทศด้าน กฎหมาย ให้มีความครบถ้วน โดยลงพื้นที่ทั้ง 4 ภาคของประเทศ ครั้งแรกจัดขึ้นเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน จังหวัดเชียงใหม่ ภาคใต้วันที่ 12 ธันวาคม จังหวัดตรัง ภาคกลางและภาคตะวัน ออกจัดขึ้นในวันที่ 15 ธันวาคม กรุงเทพฯ และ ปิดท้ายทีภ่ าคอีสาน จังหวัดอุดรธานี เมือ่ วันที่ 18 ธันวาคม 2560 ณ ห้องทุง่ ศรีเมืองแกรนด์บอลรูม โรงแรมเซ็นทารา จังหวัดอุดรธานี ศ.ดร.บวรศั ก ดิ์ สุ ว รรณโณ ประธาน กรรมการปฏิ รู ป ประเทศด้ า นกฎหมาย กล่ า ว ว่า เพื่อให้การจัดทำ�แผนการปฏิรูปประเทศด้าน กฎหมายมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล อีกทั้ง สร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนทุกภาคส่วน คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกฎหมาย จึง กำ�หนดจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นการมีส่วนร่วม ของประชาชนและหน่วยงานของรัฐ ทั้ง 4 ภาค ทัง้ นี้ เพือ่ เปิดโอกาสให้ทกุ ภาคส่วนได้มสี ว่ นร่วม แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นการปฏิรูป ประเทศ ซึ่งการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นและ ข้อเสนอแนะได้มีตัวแทนจากหน่วยงานภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิน่ ภาคเอกชน สถาบัน การศึกษา ภาคประชาสังคม เครือข่ายองค์กร ชุมชน นักวิชาการ ประชาชน เกษตรกร และ สื่อมวลชน เข้าร่วมเวทีการจัดทำ�แผนการปฏิรูป ประเทศด้านกฎหมาย พ ล . อ . จิ ร ะ โ ก มุ ท พ ง ศ์ ป ร ะ ธ า น อนุกรรมการด้านการมีส่วนร่วมของประชาชน และหน่ ว ยงานของรั ฐ ในการจั ด ทำ � แผนการ ปฏิรูปประเทศ ในคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ ด้านกฎหมาย กล่าวว่า ภาคอีสานเป็นเวทีสุดท้าย ในการลงพื้นที่รับฟังความเห็นของประชาชน และหน่วยงานทุกภาคส่วน โดยคณะอนุกรรม
การฯ จะประมวลผลสรุปข้อมูลที่ได้จากการรับ ฟังความคิดเห็น เพื่อนำ�เสนอให้คณะกรรมการ ปฏิรูปประเทศด้านกฎหมายต่อไป สำ�หรับการจัดทำ�แผนการปฏิรปู ประเทศ ด้านกฎหมาย ทีจ่ งั หวัดอุดรธานี ได้แบ่งกลุม่ ย่อย เป็น 4 กลุ่ม โดยกลุ่มที่ 1 ได้มีการแสดงความคิด เห็นใน 2 ประเด็น คือ 1) การยกเลิกหรือปรับปรุง กฎหมายทีล่ า้ สมัยและเป็นอุปสรรคต่อการดำ�รง ชีวิตและการประกอบอาชีพของประชาชน 2) เพิ่มการมีส่วนร่วมของประชาชนในการจัดทำ� และเสนอร่างกฎหมาย จัดให้มีกลไกช่วยเหลือ ในการจัดทำ�และเสนอร่างกฎหมาย กลุ่มที่ 2 ได้มีการแสดงความคิดเห็นใน 2 ประเด็น คือ 1) การมีกลไกทางกฎหมายเพื่อ สร้างความเป็นธรรม และขจัดความเหลื่อมลํ้า ในสังคม 2) กลไกให้มีการตรากฎหมายเพื่อเพิ่ม ความสามารถในการแข่งขันของประเทศ สำ�หรับ กลุม่ ที่ 3 ได้มกี ารแสดงความคิดเห็นใน 2 ประเด็น คือ 1) พัฒนาระบบฐานข้อมูลของกฎหมาย คำ� พิพากษา คำ�วินิจฉัย หรือการตีความกฎหมาย เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงได้ง่าย 2) พัฒนาระบบ เทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อให้ประชาชนติดต่อ กับเจ้าหน้าทีไ่ ด้สะดวก เพือ่ ลดค่าใช้จา่ ย และขจัด ช่องทางการทุจริต และกลุ่มที่ 4 ได้มีการแสดง ความคิดเห็นในประเด็น ปฏิรปู การเรียนการสอน และการศึกษาอบรมวิชากฎหมายเพื่อพัฒนานัก กฎหมายให้เป็นผู้ประกอบวิชาชีพที่ดี หลังรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน ของประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกฎหมาย ได้ รวมผลข้อสรุป พร้อมนำ�ความคิดเห็นและข้อ เสนอแนะจากเวทีทั้ง 4 ภาค มาประกอบการ จัดทำ�แผนและขั้นตอนการปฏิรูปประเทศด้าน กฎหมาย ให้มีความครบถ้วน สมบูรณ์ ต่อไป
3 ประเทศ 9 จังหวัด ร่วมมือจัด งานแสดงสินค้า “หนองคายเบสทู อาเซียน” กระตุ้นเศรษฐกิจริมโขง เมื่อวันที่ 17 มกราคม พ.ศ.2561 ที่ลาน วั ฒ นธรรมเฉลิ ม พระเกี ย รติ ส มเด็ จ พระเทพ รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (ลานนํ้าพุ พญานาค) นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการ จังหวัดหนองคาย เป็นประธานเปิดงานแสดง และจำ�หน่ายสินค้า Nong Khai Best to ASEAN Trade Fair 2018 ซึ่งกำ�หนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17 – 20 ม.ค.61 นี้ โดยมีคณะผูบ้ ริหารจากราชการ จากจังหวัดฮาติงห์, จังหวัดกวางบิ่งห์, จังหวัด เหงะอานห์ ประเทศเวียดนาม, แขวงคำ�ม่วน, แขวงบอลิคำ�ไซ สปป.ลาว, จังหวัดนครพนม, บึงกาฬ, สกลนคร และจังหวัดหนองคาย รวมไป
ผู้แทน 3 ประเทศ 9 จังหวัด/ แขวง ที่ ใ ช้ เ ส้ น ทางหมาย 8 และ หมายเลข 12 ลงนามบันทึกข้อตกลง ( MOU) ในการประชุมคณะผูบ้ ริหาร ระดับสูง ครั้งที่ 21 เพื่อการพัฒนา ความร่วมมืออย่างต่อเนือ่ งในอนาคต ทั้ง 4 ด้าน ประกอบด้วย ด้านการ ศึกษา วัฒนธรรม การกีฬา การท่อง เที่ยว วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, ด้านการค้าการลงทุน, ด้านการคมนาคมขนส่ง และ ด้านการเกษตร เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2561 ที่ห้องประชุม โรงแรมรอยั ล นาคารา อำ � เภอเมื อ งหนองคาย จังหวัดหนองคาย นายรณชัย จิตรวิเศษ ผูว้ า่ ราชการ จังหวัดหนองคาย ได้กล่าวต้อนรับคณะผู้บริหาร ระดับสูง 3 ประเทศ 9 จังหวัดแขวง พร้อมเปิดการ ประชุมคณะผู้บริหารระดับสูง 3 ประเทศ ได้แก่ ไทย-ลาว-เวียดนาม และ 9 จังหวัด/แขวง ได้แก่ จ.หนองคาย สกลนคร นครพนม เหงะอานห์ ฮา ติงห์ และกว่างบบิ่งห์ ประเทศเวียดนาม แขวงคำ� ม่วน แขวงบอลิคำ�ไซ สปป.ลาว ครั้งที่ 21 ที่ใช้เส้น ทางหมายเลข 8 และหมายเลข 12 สำ � หรั บ ผู้ เ ข้ า ร่ ว มประชุ ม ประกอบด้ ว ย นายสุรศักดิ์ เกษมสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัด บึงกาฬ พร้อมคณะฯ, นายประทีป ฤทธิกุล รอง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมคณะฯ, นาย นพดล ไพฑูรย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร พร้อมคณะฯ, นายบุนมา บุจะเลิน รองเจ้าแขวง บอลิไซ, นายบุนมี พิมมะสอน รองเจ้าแขวงคำ� ม่วน สปป.ลาว พร้อมคณะฯ, นายดั๋ง ก๊วก คั้น ห์ ประธานกรรมการประชาชนจังหวัดฮาติงห์, นายเหงียน หาย เยือง รองผู้อำ�นวยการฝ่ายการ ต่างประเทศจังหวัดเหงะอานห์ และนายเล มิง เงิ รองประธานคณะกรรมการประชาชนจังหวัดกวา งบินห์ ประเทศเวียดนาม พร้อมคณะฯ ส่ ว นสาระของการประชุ ม ประกอบ ด้ ว ย การส่ ง เสริ ม ความร่ ว มมื อ ด้ า นการศึ ก ษา กีฬา วัฒนธรรม ท่องเที่ยว และวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี ซึ่งทั้ง 9 จังหวัด/แขวง ได้มีการสำ�รวจ เชิญกลุ่มนักธุรกิจการท่องเที่ยว สื่อมวลชน ส่ง เสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ชายแดน สัมมนาเพื่อ สร้ า งเส้ น ทางการท่ อ งเที่ ย วเชื่ อ มโยงระหว่ า ง กัน มีการแลกเปลี่ยนครู นักเรียน นักศึกษา และ ประชาชนเพื่อเรียนรู้ภาษา ศิลปวัฒนธรรม รวม ไปถึงจัดโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยนระหว่างกัน ด้วย ด้ า นการค้ า การลงทุ น ทางกลุ่ ม ได้ จั ด สัมมนาเพื่อเพิ่มความสัมพันธ์ด้านการค้า การ ลงทุน การท่องเที่ยว ระหว่างเขตเศรษฐกิจพิเศษ หนองคาย มุกดาหาร ตาก และนครพนม ในห้วง ปีที่ผ่านมา พร้อมการจัดแสดงสินค้า 3 ประเทศใน ห้วงเทศกาลที่สำ�คัญๆ ประสานงานในการลดขั้น
ก า ร จั ง ห วั ด ถึ ง ชาวจั ง หวั ด หนองคาย, หนองคาย และ เพื่อเสริมสร้าง สื่อมวลชนร่วม ความสั ม พั น ธ์ ในพิธีเปิดงาน และร่วมมือกัน ทางการค้า การ สำ � ห รั บ ก า ร ลงทุ น และ จั ด งาน Nong การท่ อ งเที่ ย ว Khai Best to กับประเทศใน ASEAN Trade อนุ ภู มิ ภ าคลุ่ ม Fair 2018 ใน ครั้งนี้ เป็นการเพิ่มขีดความสามารถทางการ นํ้ า โขง บนเงื่ อ นไขความสั ม พั น ธ์ ข องการเป็ น แข่ ง ขั น และเพิ่ ม ศั ก ยภาพให้ กั บ ผู้ ป ระกอบ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)
ตอนการดำ�เนินการด้านเอกสารในบริเวณชายแดน เพื่ออำ�นวยความสะดวกให้แ ก่ผู้ใช้ บ ริ ก าร ยาน พาหนะ และสินค้าเข้าออกได้อย่างรวดเร็ว พร้อม ประสานข้อมูลระหว่างกันเพือ่ ป้องกันการลักลอบ ขนส่งสินค้า การทุจริตเชิงพาณิชย์ และการละเมิด ทรัพย์สินทางปัญญา ด้านการคมนาคมขนส่ง ทัง้ 9 จังหวัดแขวง จะสนับสนุนให้รัฐบาลแต่ละประเทศดำ�เนินการ เปิดเส้นทางจาก กทม.-นครพนม-ท่าแขก- ฮาติง ห์ ให้แล้วเสร็จ เพื่ออำ�นวยความสะดวกในการ ขนส่งข้ามพรมแดน ผลักดันการเปิดเส้นทางขนส่ง ผูโ้ ดยสารจากจังหวัดกว่างบิงห์-คำ�ม่วน-นครพนมสกลนคร สนับสนุนการก่อสร้างสะพานมิตรภาพ ไทย-ลาว แห่งที่ 5 บึงกาฬ –ปากซัน ส่งเสริมและ อำ�นวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบธุรกิจด้าน ขนส่งทั้ง 3 ประเทศ แลกเปลี่ย นความร่ วมมื อ ในการขนส่งสินค้าบนเส้นทางหมายเลข 8 และ หมายเลข 12 ไปยังเขตอุตสาหกรรมหวุงอ๋าง จ.ฮา ติงห์ และเขตอุตสาหกรรมฮอนลา จ.กว่างบิงห์ และ เมืองเก่อลอ จ.เหงะอานห์ และประเทศที่ 3 ด้านการเกษตร ทั้ง 9 จังหวัด/แขวง จะ ส่งเสริมให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูล แลกเปลี่ยน ประสบการณ์ การถ่ า ยทอดเทคโนโลยี ใ นภาค เกษตรกรรมระหว่างกัน การถ่านโอนเทคโนโลยี ทั้งพันธุ์พืช พันธุ์สัตว์ ผักและผลไม้ ทั้งนี้ท่ีประชุมได้ให้แ ต่ละจั งหวั ด/แขวง ได้ เ สนอแนะปั ญ หาอุ ป สรรค ข้ อ คิ ด เห็ น ต่ า งๆ จังหวัด/แขวงละ 10 นาที ก่อนตกผลึกร่างบันทึก การประชุม พร้อมลงนามในบันทึกข้อตกลงร่วม กันในช่วงเวลา 18.00 น. ของวันนี้ สำ�หรับการลงนามบันทึกข้อตกลงความ ร่วมมือ ( MOU) ครั้งนี้ เป็นแผนความร่วมมือ ของ 3 ประเทศ 9 จังหวัด/แขวง ในอนาคต มี ทั้ ง หมด 4 ด้ า น ประกอบด้ ว ย ด้ า นการศึ ก ษา วัฒนธรรม การกีฬา การท่องเที่ยว วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี, ด้านการค้าการลงทุน, ด้านการ คมนาคมขนส่ ง และ ด้ า นการเกษตร ซึ่ ง คณะ อนุ ก รรมการฯได้ กำ � หนดแผนการประชุ ม ครั้ ง ที่ 22 ของ 3 ประเทศ 9 จังหวัด จะจัดประชุม ที่ จ.นครพนม และการประชุ ม คณะผู้ บ ริ ห าร ระดับสูง ครั้งที่ 22 กำ�หนดจัดที่ จังหวัดฮาติงห์ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ต่อไป เพื่อเพิ่มช่องทางการตลาด ขยายการค้า การลงทุน เชื่อมโยงและสร้างเครือข่ายความ ร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการ, เพื่อเพิ่มโอกาส ในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการ ของผู้ ป ระกอบการ OTOP/SMEs/วิ ส าหกิ จ ชุมชน/ กลุ่มเกษตรกรจังหวัดหนองคาย และ เพือ่ ประชาสัมพันธ์เผยแพร่สนิ ค้าและผลิตภัณฑ์ OTOP/SMEs/วิสาหกิจชุมชน/กลุม่ เกษตรกรของ จังหวัดหนองคาย และบริการทีเ่ กีย่ วเนือ่ งกับการ ท่องเทีย่ วให้เป็นทีร่ จู้ กั มากยิง่ ขึน้ ซึง่ ภายในงานมี สินค้าอุปโภค บริโภคให้เลือกซื้อมากมาย
หน้า 9
ปีที่ 15 ฉบับที่ 164 ประจำ�เดือนมกราคม 2561
กฟภ.เปลีย่ นหลอด LED ส่อง “พระมหาธาตุแก่นนคร” วัดหนองแวง ททท.สำ � นั ก งานขอนแก่ น โปรโมทแหล่ ง ท่ อ งเที่ ย วใหม่ ๆ สว่างสวยงาม ประหยัดค่าไฟได้ประมาณ 3 แสนบาทต่อปี ผ่านสื่อออนไลน์ เชื่อมโยงกลุ่ม “จังหวัดร้อยแก่นสารสินธุ์”
กฟภ.เปลีย่ นหลอด LED รอบพระมหาธาตุ แก่นนครฯ วัดหนองแวงพระอารามหลวง และรอบ บึงแก่นนคร แหล่งท่องเทีย่ วทางวัฒนธรรมจังหวัด ขอนแก่น เพื่อเพิ่มแสงสว่าง และความสวยงามใน ช่วงกลางคืน ตามโครงการ “PEA LED” กว่า 800 ดวงโคม ช่วยวัดประหยัดค่าไฟฟ้าได้ประมาณ 3 แสนบาทต่อปี เมื่อวันที่ 17 ม.ค.61 เวลา 20.00 น. นาย เสริมสกุล คล้ายแก้ว ผูว้ า่ การการไฟฟ้าส่วนภูมภิ าค เป็นประธานในพิธีส่งมอบโครงการ “PEA LED” เพื่อแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมไทย ณ พระ มหาธาตุแก่นนครมหามังคลานุสรณ์ ครบ 200 ปี วัดหนองแวง พระอารามหลวง ถนนกลางเมือง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งมี นายเจด็จ วิ ศรี ผอ.กฟภ.เขต 1 จ.อุดรธานี ดำ�เนินการมอบให้ กับ พระธรรมวิสุทธาจารย์ (คูณ ขนติโก) ที่ปรึกษา เจ้าคณะภาค 9 เจ้าอาวาสวัดหนองแวงพระอาราม หลวง โดยมี นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรีนคร ขอนแก่น พ.ต.อ.นพดล เพ็ชร์สทุ ธิ์ รอง ผบก.ภ.จว. ขอนแก่น พ.ต.ท.นรวัตน์ คำ�ภิโล รอง ผกก.สส.สภ. เมืองขอนแก่น ส่วนราชการภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไป เข้าร่วมกิจกรรมจำ�นวนมาก โดย กฟภ.ได้ด�ำ เนินการปรับปรุงระบบไฟฟ้าชุมชน สำ�คัญในโครงการ”PEA LED เพื่อแหล่งท่องเที่ยว ชุมชนสำ�คัญ ด้วยการเปลี่ยนหลอด LED จำ�นวน 753 ดวงโคม เป็นเงิน 2,188,000 บาท รอบบริเวณ พระมหาธาตุแก่นนครมหามังคลานุสรณ์ครบ 200 ปี ขอนแก่น (พระมหาธาตุแก่นนคร 9 ชั้น) และ เปลี่ยนหลอด LED จำ�นวน 78 ดวงโคม เป็นเงิน 2,709,982 บาท บริเวณรอบบึงแก่นนครที่อยู่ใกล้ กับวัดหนองแวงพระอารามหลวง
น า ย เ ส ริ ม ส กุ ล คล้ายแก้ว ผู้ว่าการการไฟฟ้า ส่วนภูมิภาค กล่าวว่า ระบบ ไฟฟ้ า ส่ อ งสว่ า งด้ ว ยหลอด LED ภายใต้โครงการ “PEA LED” เพื่อแหล่งท่องเที่ยวเชิง วัฒนธรรมไทย ซึ่งเป็นไปตาม นโยบายการบริหารและพัฒนา กฟภ.ของ การไฟฟ้ า ส่ ว น ภูมิภาค ด้าน Towards Sustainable CSR เติบโต อย่างยั่งยืนร่วมกับชุมชน สังคม สิ่งแวดล้อม และ เศรษฐกิจของประเทศ ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียง รวมทั้งการส่งเสริมและสนับสนุนการ ประหยัดพลังงาน ความปลอดภัย ในแหล่งท่อง เที่ยวและชุมชน ทำ�ให้เกิดโครงการ “PEA LED” เพื่อท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมไทย นอกจากนีส้ นับสนุนให้เกิดความปลอดภัย และการประหยัดพลังงานจากการติดตัง้ ไฟฟ้าส่อง สว่างด้วยหลอด LED ลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน ไฟฟ้า ตลอดจนลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ที่ ส่งผลให้เกิดภาวะโลกร้อน อีกทั้งยังสร้างความ สวยงาม เพื่ อ กระตุ้ น ให้ เ กิ ด การท่ อ งเที่ ย วเชิ ง วัฒนธรรมทั่วประเทศ เป็นการกระจายรายได้สู่ ท้องถิน่ สร้างเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทย อย่างยั่งยืน นายเสริมสกุล กล่าวต่อว่า พระมหาธาตุ แก่นนคร หรือวัดพระธาตุ 9 ชัน้ ถือเป็นแหล่งท่อง เที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่สำ�คัญของจังหวัดขอนแก่น แต่ละวันจะมีประชาชนและนักท่องเที่ยว เดิน ทางมาทำ�บุญและท่องเที่ยวชมความงามขององค์ พระธาตุทั้ง 9 ชั้น โดยชั้นบนสุดสามารถมองเห็น ทิวทัศน์ตวั เมืองขอนแก่นได้ทงั้ หมด ขณะทีใ่ นช่วง
เวลาคํา่ คืน ก็จะมีการเปิดไฟส่องสว่าง เพือ่ เพิม่ ความ สวยงาม ทำ�ให้มีนักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาท่อง เทีย่ ว และเก็บภาพความสวยงามกันเป็นจำ�นวนมาก ทำ�ให้ทางวัดมีภาระค่าใช้จา่ ยเรือ่ งค่าใช้ไฟฟ้าเพิม่ ขึน้ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จึงเข้ามา ดำ�เนิน การเปลี่ ย นหลอดไฟฟ้ า แบบเดิ ม ทั้ ง หมด ให้ เป็ น หลอดประหยั ด ไฟฟ้ า แบบ LED ด้ ว ยงบ ประมาณ 2,188,000 บาท ซึ่งจะช่วยทางวัดลดการ ใช้ไฟฟ้าได้ 66,384 หน่วยต่อปี หรือคิดเป็นเงิน ประมาณ 3 แสนบาทต่อปี อีกทั้งลดการปล่อยก๊าซ คาร์บอนไดออกไซด์ 39.147 ตันต่อปี นอกจากนี้ยัง ช่วยเพิ่มแสงสว่างและความสวยงามยามคํ่าคืนอีก ด้วย สำ�หรับโครงการ PEA LED การไฟฟ้าส่วน ภูมิภาค ได้ดำ�เนินโครงการ ตั้งแต่ พ.ศ. 2557 - 2560 เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมไทย จำ�นวน 20 แห่ง และโครงการ PEA LED เพื่อแหล่งท่อง เทีย่ วและชุมชนสำ�คัญ จำ�นวน 3 แห่ง และจะดำ�เนิน โครงการอย่างต่อเนื่องอีกโดยในปี 2561-2562 ใน การปรับปรุงระบบไฟฟ้าส่องสว่างและเปลี่ยนเป็น หลอดประหยัดพลังงาน LED ให้กับแหล่งท่อง เที่ยว เชิงวัฒนธรรมไทยที่สำ�คัญประมาณ 16 แห่ง ทั่วประเทศในพื้นที่ความรับผิดชอบ ทั่วประเทศ
ททท.สำ � นั ก งานขอนแก่ น ระดมสมอง ทำ�แผนบูรณาการตลาดท่องเที่ยวในปี 2561 ร่วม กับ 4 จังหวัด ในกลุ่ม “ร้อยแก่นสารสินธุ์” หน่วย งานภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชนที่เกี่ยวข้องกับ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เพื่อให้เกิดประโยชน์ สูงสุดต่อการส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยวในแต่ละ จังหวัด นายชาญยุทธ เศวตสุวรรณ ผู้อำ�นวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำ�นักงานขอนแก่น เปิดเผยว่า ในปี 2561 รัฐบาลประกาศให้เป็น “ปีทอ่ ง เที่ยววิถีไทย” (Amazing Thailand Tourism Year 2018) โดยเฉพาะยุทธศาสตร์ใหญ่ของ ททท. ต้อง ทำ�งานแบบลงลึกในรายละเอียดมากขึ้น ตรงเป้า หมายทะลุสู่มิติใหม่ เพื่อสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ ชาติและเศรษฐกิจของประเทศที่ตั้งเป้ารายได้จาก การท่องเที่ยวในปีนี้ไว้ที่ 3.1 ล้านล้านบาท หรือมี นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 8% โดยให้ความสำ�คัญในการ ทำ�ตลาดแบบเจาะกลุม่ เป็นการขยายผลต่อเนือ่ งจาก กลุ่มเป้าหมายเดิมคือ Gen Y กลุ่มผู้สูงวัย และยัง มีกลุ่มที่มีอัตราการเติบโตเพิ่มสูงขึ้นอีก 2 กลุ่ม คือ กลุ่ม Multi Family และกลุ่ม Mellenial Family โดย เน้นการตลาด 3 แนวทางหลัก ทีจ่ ะร่วมผักดันให้เป็น รูปธรรมในปีนี้ สำ�หรับ 3 แนวทางที่ ททท. ร่วมผลักดัน คือ ปลุกกระแสใส่ใจสิ่งแวดล้อม เพื่อชะลอความ เสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติ โดยร่วมกับ พันธมิตรในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ด้วยการทำ� ตลาดอย่างรับผิดชอบ หรือ Responsible Tourism เป็ น การช่ ว ยลดผลกระทบต่ อ สิ่ ง แวดล้ อ ม และ สังคม ซึ่งจะทำ�ให้ Thai Local Experience ยังดำ�รง อยู่อย่างมีคุณค่า รวมถึงการปลูกจิตสำ�นึกให้ใส่ใจ ฟื้นฟู แหล่งท่องเที่ยว ในส่วนแนวทางที่ 2 คือ
สร้างสรรค์ Content เป็ น การเพิ่ ม คุ ณ ค่ า สินค้าท่องเที่ยวไทย แ ก้ ไ ข จุ ด อ่ อ น ใ น การนำ � เสนอสิ น ค้ า ด้วยการเล่าเรื่องเดิม แ ล ะ เ พิ่ ม เ ติ ม ก า ร พัฒนา ด้วยรูปแบบ ใหม่ในเอกลักษณ์ที่ ไม่ เ หมื อ นใคร และ แนวทางที่ 3 คื อ ขยายฐานตลาดนั ก ท่ อ งเที่ ย ว คุณภาพ เป็นการนำ�เสนอรูปแบบท่องเที่ยวสัมผัส Thai Local Experience ผ่านวิถกี ารกิน ซึง่ จะทำ�งาน แบบเชิงรุกโดยใช้อาหารไทยเป็นตัวแทนในการ สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ ผู้อำ�นวยการ ททท. สำ�นักงานขอนแก่น กล่าวต่อไปว่า ในการจัดงาน “เทศกาลเทีย่ วเมืองไทย 2561” เป็นการจัดงานครั้งที่ 38 (Thailand Tourism Festival: TTF 2018) ระหว่างวันที่ 17-21 มกราคม 2561 ณ สวนลุมพินี กรุงเทพมหานคร เป็นการปลุก กระแส “ปีท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋อย่างยั่งยืน” โดย เฉพาะเที่ยวเมืองไทย ไปได้ทุกฤดูกาล ซึ่งจะมีการ จำ�ลองหมูบ่ า้ นทัง้ 5 ภูมภิ าคให้นกั ท่องเทีย่ วได้เข้าไป สัมผัสบรรยากาศ เอกลักษณ์ และวิถชี มุ ชนพืน้ เมือง ขนบธรรมเนียมประเพณีของแต่ละภูมภิ าค เป็นการ จัดงานทีค่ มุ้ ค่ากับการเข้าเทีย่ วชมมากทีส่ ดุ เพราะไป ที่เดียว เที่ยวได้ทั้งประเทศไทย สำ�หรับโซนอีสาน หรือ หมู่บ้านภาคอีสาน Value Proposition จัดขึน้ ตามแนวคิด Cool Isan (วิ ถี ถิ่ น สู่ วิ ถี เท ร น ด์ ) โดยนำ�เสนอวิถคี วามเป็นอยูใ่ นการใช้ ชีวติ ประจำ�วัน ศิลปวัฒนธรรม งานประเพณี อาหาร ผ้าพืน้ เมืองของชาวอีสาน ภายในหมูบ่ า้ นภาคอีสาน
ยังแบ่งการนำ�เสนอภาพลักษณ์ สินค้า และบริการ ทางการท่องเทีย่ ว “Cool Isan” เป็นโซน รวม 13 โซน นอกจากนี้ ยังมีโซน “ธรรมะ ธรรมดา ธรรมชาติ” ร่วมกับจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ โซนลาน อีสานแซ่บนัว ที่จะชวนกันระเบิดความแซ่บกับ สารพัดส้มส้มตำ� จาก 20 จังหวัดในภาคอีสาน ต่อด้วยโซนลุ้นรับของรางวัลกับกิจกรรม จากเว็ปไซต์ www.เที่ยวอีสาน.com และ facebook. com2go2isan โซนหนังเมืองแคน โซนอีสานเฮ็ดมือ โดยคนรุน่ ใหม่ทสี่ ร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์จากภูมปิ ญ ั ญา สู่การสร้างรายได้ให้ชุมชนท้องถิ่น โซนที่รวมแหล่ง โบราณคดี โซนขยะให้โชค และโซนมาเด้ออีสาน ซึ่ง จะรวมข้อมูลข่าวสารแหล่งท่องเทีย่ วของ 20 จังหวัด ในภาคอีสาน นายชาญยุ ท ธ กล่ า วต่ อ ไปว่ า ภาคอี ส าน มี ค วามโดดเด่ น หลายด้ า น โดยเฉพาะประเพณี วัฒนธรรม อาหารการกิน ความมีนํ้าใจให้กับทุกคน ที่เข้ามาเยือน นับเป็นอัธยาศัยไมตรีของชุมชนท้อง ถิ่นอีสาน ถือเป็นเอกลักษณ์แบบวิถีไทยที่แตกต่าง และเชื่อว่า “ปีท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋อย่างยั่งยืน” ใน ตลาดท่องเทีย่ วกลุม่ “ร้อยแก่นสารสินธุ”์ จะสามารถ เพิ่มนักท่องเที่ยวให้ทะลุมิติตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
แอร์ เ อเชี ย เปิ ด เที่ ย วบิ น ปฐมฤกษ์ พลังงานทดแทน ช่วยสร้างรายได้ให้ ราชบุ รี รุ ก อี ส าน ขยายตลาดผู้ ภูเก็ต-ขอนแก่น กระตุน้ เทีย่ วข้ามภาค ชุมชนเพิ่มขึ้น แก้ปัญหาวิกฤตภัยแล้ง ประกอบการ SME โชว์ของดีเมืองโอ่ง เมื่ อ วั น ที่ 22 ธ.ค. 2560 ที่ ท่ า อากาศยาน ขอนแก่น สายการบินแอร์ เอเชี ย ได้ จั ด พิ ธี ต้ อ นรั บ ผู้ โดยสารเที่ยวแรกของเที่ยว บินภูเก็ต-ขอนแก่น โดยมี นายสุชัย บุตรสาระ รองผู้ ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น นายอั ธ ยา ลาภมาก ผู้ อำ � นวยการท่ า อากาศยาน ขอนแก่น นางสาวคัทลียา บริรักษ์ ผู้จัดการสายการบินไทยแอร์เอเชีย ประจำ� ท่าอากาศยานขอนแก่น นางสาวภาวนา ประจิตต์ รองผู้อำ�นวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำ�นักงานขอนแก่น และนายภพพล เกษมสันต์ ณ อยุธยา นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยว จังหวัด ขอนแก่น ร่วมให้การต้อนรับ นางสาวคั ท ลี ย า บริ รั ก ษ์ ผู้ จั ด การสาย การบิ น ไทยแอร์ เ อเชี ย ประจำ � ท่ า อากาศยาน ขอนแก่น กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นโอกาสดีที่แอร์ เอเชียได้เปิดบินเทีย่ วบินปฐมฤษก์ บินตรงข้ามภาค ภายในประเทศ จากจังหวัดภูเก็ตสูจ่ งั หวัดเชียงใหม่ ซึง่ เป็นอีกหนึง่ เส้นทางทีไ่ ด้รบั การตอบรับทีด่ ี และ คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเดิน
ทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งแอร์เอเชียก็ยินดีที่ได้ เป็นส่วนหนึง่ พาทุกคนกลับบ้านในช่วงเทศกาลได้ สะดวก รวดเร็ว ในราคาที่คุ้มค่า สำ � หรั บ เส้ น ทางใหม่ ภู เ ก็ ต -ขอนแก่ น เปิ ด ให้ บ ริ ก ารบิ น ตรง 4 เที่ ย วบิ น ต่ อ สั ป ดาห์ โดยเดินทางออกจาก จ.ภูเก็ต ในเวลา 11.10 น. ถึ ง จ.ขอนแก่ น เวลา 12.50 น. และ ออกจาก จ.ขอนแก่น เวลา 08.45 น. ถึง จ.ภูเก็ต 10.40 น. โดยมีตารางการบินใน วันจันทร์, พุธ, ศุกร์ และ วันอาทิตย์ ซึ่งในอนาคตสายการบินไทยเเอร์เอเชีย อาจเพิ่มเที่ยวบิน เพื่อรองรับให้เพียงพอกับความ ต้องการของประชาชน
กลุม่ จังหวัด “ร้อยแก่นสารสินธุ”์ ยกของดี มาอวดโชว์ เชิญชวนเที่ยวงานประเพณี สัมผัสเสน่ห์ดินแดนพุทธมณฑลอีสาน กลุ่มจังหวัด “ร้อยแก่นสารสินธุ์” ร่วม แถลงข่าวการจัด กิจกรรม เทศกาลงานประเพณีอนั โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ชวนสัมผัส ณ เวทีหมู่บ้าน ภาคอีสาน งานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2561 ณ สวนลุมพินี กรุงเทพฯ ซึง่ จัดโดยการท่องเทีย่ วแห่ง ประเทศไทย เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2561 เวลา 16.00 น. ทีโ่ ซนหมูบ่ า้ นอีสาน สวนลุมพินี กรุงเทพมหานคร การจัดงานแถลงข่าวการจัดงาน “เทศกาลท่อง เที่ ย วเมื อ งไทย ประจำ � ปี 2561” เพื่ อ เป็ น การ ประชาสัมพันธ์กิจกรรม งานประเพณีอีสานกลาง ที่จะจัดขึ้นในช่วงต้นปี 2561 ประกอบด้วยผู้แถลงข่าว จำ�นวน 5 ท่าน ประกอบด้วย นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการ จังหวัดขอนแก่น แถลง “ขอนแก่น ก้าวสู่เมือง หลักทางการท่องเที่ยวไทย”, นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ดแถลงข่าว “งานมหา ทานบารมี ประเพณีบญ ุ ผะเหวดร้อยเอ็ด, นายสนัน่ พงษ์อกั ษร รองผูว้ า่ ราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ แถลง ข่าว “งานประเพณีบญ ุ บายศรีสขู่ วัญข้าวคูนลานฯ” นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรี นครขอนแก่น แถลงข่าว “งานสุดยอดสงกรานต์ อีสาน เทศกาลดอกคูน เสียงแคนและถนนข้าว เหนียว, นายประสาทพร สีกงพลี นายกเทศมนตรี ตำ�บลนาดูน แถลงข่าว “นมัสการพระบรมธาตุ
นาดูน” และนายสมชาย ชมภูน้อย ผู้อำ�นวยการ ททท.ภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แถลงข่าว “ศักยภาพและแนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยว อีสานกลาง กลุ่มจังหวัด “ร้อยแก่นสารสินธุ์” โดย มีคุณกนกวรรณ ดุงศรีแก้ว ผช.ผอ.ททท.สำ�นักงาน ขอนแก่น เป็นผู้ดำ�เนินรายการ นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรี นครขอนแก่น กล่าวถึงกิจกรรมงานประเพณีสุด ยอดสงกรานต์อสี าน เทศกาลดอกคูนเสียงแคน และ ถนนข้าวเหนียว ประจำ�ปี 2561 ว่า เป็นการอนุรักษ์ สืบสานขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปวัฒนธรรม ฟื้นฟูวิถีอีสานอันเป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่นให้ สืบทอดต่อไปจนถึงรุน่ ลูกรุน่ หลาน และเป็นการส่ง เสริมการท่องเที่ยวส่งเสริมอาชีพของประชาชนใน ท้องถิ่น ตลอดจนเป็นการเสริมสร้างความรักความ สามัคคี ผูกมิตรไมตรีระหว่างคนในชุมชน ซึ่งมี แนวคิด คือ เป็นการสร้างอัตลักษณ์ของเมืองสู่ฐาน ทีม่ นั่ ทางวัฒนธรรมร่วมสมัย โดยการนำ�เอกลักษณ์ ของเมืองขอนแก่น คือ วัฒนธรรมเสียงแคน เหลือง อร่ามดอกคูนบาน มนต์เสน่หค์ วามงดงามในวิถชี วี ติ ของคนขอนแก่น เชื่อมโยงกันด้วยสายนํ้าที่ชุ่มเย็น ผ่านการจัดงานสงกรานต์ โดยการจัดงานประเพณีสุดยอดสงกรานต์ อีสาน เทศกาลดอกคูนเสียงแคน และถนนข้าว เหนียว ประจำ�ปี 2561 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 8 – 15
เมื่ อ วั น ที่ 10 ม.ค. 61 นายจุ ม พล เดชดำ � นิ ล พลั ง งานจั ง หวั ด ขอนแก่ น พ ร้ อ ม ด้ ว ย เ จ้ า ห น้ า ที่ กระทรวงพลังงาน ได้นำ�พา สื่ อ มวลชน จ.ขอนแก่ น สัญจรศึกษาดูงานเทคโนโลยี พลั ง งานทดแทนในระดั บ ชุ ม ชนอย่ า งสอดคล้ อ งกั บ ศั ก ยภาพผ่ า นชุ ม ชน และ ปลูกฝังเปลีย่ นทัศนคติคนใน ชุมชนให้ใช้พลังงานอย่างรู้คุณค่า ที่ศูนย์ส่งเสริม เสริมเทคโนโลยีเตาเศรษฐกิจประยุกต์ และโรงอบแห้ง และผลิตพันธุ์ชุมชน ต.สาวะถี ตั้งอยู่ที่บ้านเลขที่ พลังงานแสงอาทิตย์ เพือ่ ลดระยะเวลาการผลิต จากเดิม 109/ 2 หมู่ 22 ต.สาวะถี อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดย ที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนมีการแปรรูปข้าวด้วยวิธี การ มี นายวิรัตน์ โพธิศรีเรือง ประธานวิสาหกิจศูนย์ นึ่งข้าวโดยใช้เตาแบบ 3 ขา และตากข้าวเปลือกด้วย ภาคชุมชนบ้านโนนรัง พร้อมคณะสมาชิกให้การ แสงแดด ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ แต่หลัง ต้อนรับ และสาธิตเทคโนโลยีพลังงานทดแทน จากมีการติดตั้งเทคโนโลยีพลังงานทดแทนดังกล่าว อาทิ เตานึ่ ง ขาวแบบสามขาประหยั ด พลั ง งาน ได้ช่วยลดระยะเวลาให้เหลือเพียง 2 - 3 วัน ซึ่งช่วยให้ ,เครือ่ งอบแห้งแบบถังทรงกระบอกหมุนด้วยรังสี เกิดประสิทธิภาพของการแปรรูปข้าวให้ดียิ่งขึ้น อินฟราเรดส์ และโรงอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์ “การดำ�เนินโครงการฯ ดังกล่าว ได้ผลลัพธ์ที่เป็นรูป อบข้าว อบผลผลิตทางการเกษตร ธรรม โดยนอกจากจะเป็นการผลักดันให้เกิดการใช้ นายจุ ม พล เปิ ด เผยว่ า การส่ ง เสริ ม พลั ง งานทดแทนอย่ า งมี ป ระสิ ท ธิ ภ าพสู ง สุ ด ตาม พลังงานทดแทนในระดับชุมชนที่ ต.สาวะถี ถือ ศั ก ยภาพของพื้ น ที่ แ ล้ ว ยั ง ช่ ว ยสร้ า งรายได้ ใ ห้ แ ก่ เป็นการขยายผลเพิ่มจำ�นวนเทคโนโลยีพลังงาน ชุมชนเพิม่ ขึน้ โดยรายได้ของกลุม่ วิสาหกิจชุมชนศูนย์ ทดแทนในชุมชนให้สอดคล้องกับศักยภาพและ ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวชุมชนบ้านโนนรัง อยู่ที่ประมาณ ปั ญ หาของชุ ม ชน รวมทั้ ง สนั บ สนุ น การแก้ ไ ข 84,000 - 250,000 บาท ช่วยให้ชุมชนมีรายได้ที่ยั่งยืน ปัญหาวิกฤตภัยแล้งของประชาชนและเกษตรกร และยังได้ช่วยเปลี่ยนทัศนคติของคนในชุมชนให้ใช้ ในพื้นที่ ทั้งนี้ การดำ�เนินการในกลุ่มวิสาหกิจ พลังงานอย่างรู้คุณค่า พร้อมกับการตระหนักเห็นถึง ชุมชนศูนย์ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวชุมชน บ้านโนน ความสำ�คัญของพลังงานทดแทนให้มากขึ้น” นาย รัง สำ�นักงานพลังงานจังหวัดขอนแก่น ได้ส่ง จุมพล กล่าว
เมษายน 2561 ภายใต้แนวคิดการจัดงาน “สาด คักคัก สาดให้ม่วน” โดยแบ่งการจัดงานเป็น 2 พื้นที่ คือ พื้นที่บริเวณริมบึงแก่นนคร ระหว่างวัน ที่ 8 – 12 เมษายน 2561 โดยการให้ความสำ�คัญ กับการจัดงานเกี่ยวกับการส่งเสริมทำ�นุบำ�รุงพระ ศาสนา วัฒนธรรมประเพณี การละเล่น การแสดง กิจกรรมพืน้ บ้านวิถอี สี าน ได้แก่ การประกวดลำ�ซิง่ ชิงเงินแสน สินค้า OTOP การแสดงวงดนตรีลกู ทุง่ หมอลำ�-หนังจอยักษ์ฟรี สำ�หรับในวันที่ 13 เมษายน 2561 กิจกรรม เพือ่ ความเป็นสิรมิ งคลในวันขึน้ ปีใหม่ไทยด้วยพิธี ทำ�บุญตักบาตร-สรงนํ้าพระพุทธรูป และรดนํ้าขอ พรผู้สูงอายุเพื่อแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวที และพื้นที่บริเวณถนนข้าวเหนียว (ถนน ศรีจันทร์) ระหว่างวันที่ 12 – 15 เมษายน 2561 โดยการให้ความสำ�คัญกับการจัดงานเกี่ยวกับการ แสดงออกถึงวัฒนธรรมประเพณีที่ร่วมสมัย แต่ ยังคงความเป็นอีสานอยู่ด้วย ได้แก่ การหลอม
ราชบุรี ยกตลาดกว่า 50บูท “อัศจรรย์สินค้าราชบุรี ช็ อ ปของดี เ มื อ งโอ่ ง ” มาตั้ ง แสดงในศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซาขอนแก่ น ระหว่ า ง 6- 10 ม.ค.นี้ รวม 5 วัน เตรียม ความพร้ อ มเข้ า สู่ ป ระชาคม เศรษฐกิจอาเซียน เ มื่ อ วั น ที่ 7 ม . ค . 61 ที่ ล านโปรโมชั่ น ชั้ น 1 ศู น ย์ ก ารค้ า เซ็ น ทรั ล พลาซา ขอนแก่น นายชยาวุธ จันทร ผวจ.ราชบุรี พร้อม กล้วยหอม และฝรัง่ กิมจู ประเภทผ้าและเครือ่ งแต่ง ด้วย นายสุชัย บุตรสาระ รอง ผวจ.ขอนแก่น กาย ได้แก่ผลิตภัณฑ์จากผ้าขาวม้า ผ้าโสร่งประยุกต์ ร่วมเป็นประธานเปิดงานแสดงสินค้า “อัศจรรย์ ผ้าทอพื้นบ้าน ประเภทของใช้/ของตกแต่ง ได้แก่ สินค้าราชบุรี ช็อปของดีเมืองโอ่ง” 6 - 10 ม.ค. ตู้จิ๋วลายไทย สวนถาดต้นไม้จิ๋ว ดอกไม้ประดืษฐ์ 2561 โดย นายวิฑูร สุขพูล พาณิชย์จังหวัดราชบุรี จากใยธรรมชาติ กระเป๋าหนัง ประเภทสมนุไพร ดำ�เนินงาน ตามวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและ ได้แก่ สมุนไพรบำ�รุงผิวหน้า ผิวกาย สารสกัดจาก ขยายช่องทางการค้าการตลาด และความร่วมมือ สมุนไพรไล่แมลง และสมุนไพรรักษาสัตว์ เป็นต้น ทางเศรษฐกิจของผู้ประกอบการค้าใน จ.ราชบุรี นายชยาวุธ จันทร ผวจ.ราชบุรี กล่าวว่า ได้จัดงาน กับภูมิภาคอื่น โดยเฉพาะใน จ.ขอนแก่น อีกทั้ง แสดงและจำ�หน่ายสินค้า “อัศจรรย์สินค้าราชบุรี ยังสร้างมั่นใจและความน่าเชื่อถือให้แก่ผู้บริโภค ช็อปของดีเมืองโอ่ง” ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 6 - 10 สินค้าจากแหล่งผลิตใน จ.ราชบุรี และเพื่อพัฒนา มกราคม 2561 ณ ลานโปรโมชั่น ชั้น 1 ศูนย์การ ขีดความสามารถและศักยภาพในการแข่งขันแก่ผู้ เซ็นทรัลพลาซา ขอนแก่น เพื่อสนับสนุนผลักดัน ประกอบการสินค้าเกษตร เกษตรแปรรูป OTOP ให้ผู้ประกอบการได้พัฒนาตนเองจากการเรียนรู้ SMEs และ Biz Club จังหวัดราชบุรี รวมทั้งการ ด้านการตลาด โดยการปฏิบัติจริง พัฒนาคุณภาพ แนะนำ�แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัด สิ น ค้ า ให้ ต รงกั บ ความต้ อ งการของตลาด และ เป็นการยกระดับขีดความสามารถของผู้ประกอบ ราชบุรี ซึ่ ง มี ก ารแสดงศิ ล ปวั ฒ นธรรมของ การ ในการเตรี ย มความพร้ อ มเข้ า สู่ ป ระชาคม จ.ราชบุรี การแจกรางวัลชิงโชคใบปลิวพาโชค ให้ เศรษฐกิจอาเซียน นอกจากนี้ แนะนำ�สถานที่ท่อง กับผู้เข้าร่วมงาน พร้อมมีผู้ประกอบการเข้าร่วม เทีย่ วทีม่ ชี อื่ เสียงหลายแห่งของจังหวัดอันประกอบ จำ�นวน 50 บูธ สำ�หรับสินค้าเด่นประจำ� จ.ราชบุรี ด้วย ตลาดนํ้าดำ�เนินสะดวก วัดโบราณต่างๆ และ รวมพลั ง ศรั ท ธาอั น ยิ่ ง ใหญ่ ที่นำ�มาแสดงในงานนี้ อาทิ ประเภทอาหาร ได้แก่ นํ้าตกเก้าชั้น ซึ่งเป็นเพียงบางส่วนเท่านั้น เพื่อให้ กับพิธีอัญเชิญพระพุทธพระ ไชโป้วหวาน ข้าวไรซ์เบอรี่ และนํ้าพริกรสต่างๆ ประชาชนในภาคอีสานได้รู้จักและแวะมาเยือน ลับทีว่ ดั ธาตุพระอารามหลวง ผลไม้สด เช่น มะพร้าวนํ้าหอม สับปะรดบ้านคา จ.ราชบุรี ดังกล่าว (พระพุ ท ธรู ป คู่ บ้ า นคู่ เ มื อ ง ขอนแก่ น ) ความสวยงาม และอลั ง การของขบวนแห่ เทศกาลดอกคูนเสียงแคน และถนนข้าวเหนียว ประเทศไทย (ททท.) และ กรุงเทพมหานคร (กทม.) พระพุทธพระลับ-พระพุทธ ประจำ�ปี 2561 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8 – 15 ระหว่างวันที่ 17 – 21 มกราคม 2561 ภายใต้แนวคิด อภัยมงคลสมังคี (พระพุทธ เมษายน 2561 “สาดคักคัก สาดให้ม่วน” มาร่วม “ปีท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋อย่างยั่งยืน” เพื่อจัดแสดง รู ป คู่ บ้ า นคู่ เ มื อ งขอนแก่ น ) เป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมวัฒนธรรมพื้นบ้านของ สินค้าด้านการท่องเที่ยวภายในประเทศ หลาก ชาวอีสานที่จะมอบความสนุกสนาน มิตรไมตรี หลายแง่มุม ทั้งทางด้านวัฒนธรรม ประเพณี วิถี และขบวนแห่สงกรานต์สินไซ ชีวิต และภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยภายในงานนั้นมี เนรมิตพื้นที่บริเวณลานจอดรถศาลหลักเมือง รอยยิ้ม และความมีนํ้าใจของคนขอนแก่น ด้ า น นายชาญยุ ท ธ เศวตสุ ว รรณ ผู อ ้ � ำ นวย กิจกรรมทีเ่ ป็นมนต์เสน่หข์ องดี เด่น ดังทัว่ ประเทศ ให้เป็น “เกาะวัฒนธรรม” มีการประดิษฐานพระพุทธ พระลับ พระพุทธอภัยมงคลสมังคี และพระพุทธรูป การ ททท. สำ � นั ก งานขอนแก่ น กล่ า วว่ า ขอ ทั้งเหนือ อีสาน ตะวันออก กลาง ใต้ อาทิ ของกิน ศักดิ์สิทธิ์จาก 20 คุ้มวัดในเขตเมืองขอนแก่น ม่วนซื่น เชิญชวนนักท่องเที่ยวทุกท่านร่วมสัมผัสเสน่ห์ อาหารเจ้าเด็ด อาหารถิ่นเลื่องชื่อ สินค้าที่ระลึก สร้างสามัคคีกับวัฒนธรรมท้องถิ่นรำ�วงย้อนยุคของพี่ หลากหลายวิ ถี วั ฒ นธรรม กิ จ กรรม เทศกาล OTOP เลื่องชื่อ ชมการแสดงจากศิลปินชื่อดัง การ งานประเพณี ณ ใจกลางภูมิภาคภาคอีสาน เริ่ม แสดงทางวัฒนธรรม พร้อมร่วมสนุก “ชม ชิม ชอป น้องประชาชน 4 เขต 95 ชุมชน กิ จ กรรมวั น ข้ า วเหนี ย วครอบครั ว เดี ย วกั น (การนำ � ตั้งแต่ งานประเพณีบุญบายศรีสู่ขวัญข้าวคูนลาน ช่วย แชร์” ใน 10 โซนไฮไลท์ และกิจกรรมของทุก ผลิตภัณฑ์ที่ทำ�มาจากข้าวเหนียวมานำ�เสนอและแจก จ.กาฬสินธุ์ ระหว่างวันที่ 9 - 12 กุมภาพันธ์ 2561 ภาค จ่ายให้ประชาชนนักท่องเที่ยวได้รับประทานร่วมกัน) งานนมัสการพระบรมธาตุนาดูน จ.มหาสารคาม การเล่น Human Wave คลื่นมนุษย์ไร้แอลกอฮอล์ การ ระหว่างวันที่ 24 กุมภาพันธ์ –4 มีนาคม 2561 แสดงคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดังที่เวทีกลางถนนข้าว งานมหาทานบารมี ประเพณีบุญผะเหวดร้อยเอ็ด เหนียว และเวทีกิจกรรมย่อยภายในถนนข้าวเหนียว จ.ร้อยเอ็ด ระหว่างวันที่ 2 –4 มีนาคม 2561และงาน ประเพณีสดุ ยอดสงกรานต์อสี าน เทศกาลดอกคูน จำ�นวนกว่า 10 เวที ในตอนท้าย นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น เสียงแคนและถนนข้าวเหนียว ระหว่างวันที่ 14-15 กล่าวเชิญชวนนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ เมษายน 2561 สำ�หรับการจัดงาน “เทศกาลเที่ยวเมือง มาร่วมสนุกในบรรยากาศการเล่นนํ้าในแบบฉบับชาว ขอนแก่น ในงานประเพณีสุดยอดสงกรานต์อีสาน ไทย 2561” ครั้งที่ 38 จัดขึ้นโดยการท่องเที่ยวแห่ง
หน้า 10
ปีที่ 15 ฉบับที่ 164 ประจำ�เดือนมกราคม 2561
เปิดแหล่งท่องเที่ยว “วังบัวแดง” จัดพิธีจดทะเบียนสมรส กลางบรรยากาศดอกบัวสีแดงบานสะพรั่ง หนองคาย เปิดแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ “วั ง บั ว แดงปะโค” อย่ า งเป็ น ทางการ นำ � คู่ บ่ า ว สาวแห่ขบวนขันหมากลงเรือ จดทะเบียนสมรส ท่ า มกลางบรรยากาศดอกบั ว สี แ ดงกำ � ลั ง บาน สะพรั่ง เพื่อดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาชมความงาม ของดอกบัวแดง เมือ่ วันที่ 9 มกราคม 2561 ทีว่ งั บัวแดง บ้าน หนองบ่อ หมู่ที่ 7 ตำ�บลปะโค อำ�เภอเมือง จังหวัด หนองคาย นายรณชัย จิตรวิเศษ ผูว้ า่ ราชการจังหวัด หนองคาย เป็นประธานเปิดแหล่งท่องเที่ยววังบัว แดง ”ตามรอยคืนรักษ์ อุสาบารส @ วังบัวแดงปะ โค” ซึ่งจัดให้มีพิธีจดทะเบียนสมรสของคู่บ่าวสาว
2 คู่ คือ นายอัตถสิทธิ์ แก้วถึง กับนางสาวกิรชั ยา พงษ์ ประเสริฐ และคู่ นายธนกร ดาวภคนันท์ กับนางสาว ขวัญจิรา วงศ์ศริ ภิ คั ดี โดยมี นายโสภณ ห่วงญาติ นาย อำ�เภอเมืองหนองคาย รักษาราชการแทนปลัดจังหวัด หนองคาย และบิดามารดาของทั้ง 2 คู่ ร่วมเป็นสักขี พยานบนโป๊ะกลางหนองบ่อ ที่รอบล้อมไปด้วยบัว แดงที่บานสะพรั่งอยู่เต็มพื้นที่ 2,800 ไร่ ดร.พูลศิริ โครตชมภู ปลัดเทศบาลตำ�บล ปะโค กล่าวว่า วังบัวแดงแห่งนี้ เป็นเป็นแหล่งธร รมนํ้าธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพันธุ์ปลาตอง กราย,ปลาชะโด,พันธุ์นกปากห่าง,นกเป็ดนํ้าและพืช นํ้าหลายชนิด เดิมเป็นป่าบุ่งทาม มีเนื้อที่กว่า 4,768
ไร่ ครอบคลุมพืน้ ที่ ตำ�บลปะโค ตำ�บลเวียงคุก อำ�เภอ เมืองหนองคาย มีพนื้ ทีท่ มี่ บี วั แดงประมาณ 2,800 ไร่ ในปี 2554 ชาวบ้านในพืน้ ทีไ่ ด้พฒ ั นาดำ�เนินการเป็น พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติ จัดการนํ้าชุมชนตามแนวพระ ราชดำ�ริ มูลนิธิอุทกพัฒน์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ทำ�ให้สภาพแวดล้อมดีขึ้น มีความอุดมสมบูรณ์มาก ขึน้ และเกิดมีบวั สาย หรือบัวแดงขึน้ เต็มผืนนํา้ เป็น ที่สนใจของนักท่องเที่ยวในพื้นที่ใกล้เคียงและต่าง จังหวัด รวมทั้งนักท่องเที่ยวต่างประเทศและผู้ที่ สนใจในการศึกษาระบบนิเวศน์ ใช้เป็นแหล่งเรียน รู้ชีวนิเวศน์ อีกทั้งยังเป็นแหล่งประมงนํ้าจืดขนาด ย่อมเพื่อการเลี้ยงชีพชาวบ้านในพื้นที่ ก่อให้เกิดวิถี
ชีวิตคนริมนํ้า เกิดความรักหวงแหน อนุรักษ์ และ พึ่งพาธรรมชาติได้อย่างมีสมดุลและยั่งยืน ซึง่ ในระยะ 2 ปีทผี่ า่ นมาทีบ่ ริเวณบ้านหนอง บ่อ ตำ�บลปะโค ไม่มีดอกบัวให้นักท่องเที่ยวได้ชม ความงาม เนื่องจากมีการขุดลอกหนองบ่อ ส่วนปี นี้ดอกบัวบานสะพรั่งตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน ปีที่ผ่านมา ดอกบัวมีขนาดใหญ่หลากหลายสี ทั้งสี แดง ชมพูสลับกับสีขาว สวยงามมาก ปลัดเทศบาลตำ�บลปะโค กล่าวว่า การจัด งานครัง้ นี้ เพือ่ สืบสานวัฒนธรรม โดยใช้ชอื่ ว่า ”ตาม รอยคืนรักษ์ อุสาบารส @ วังบัวแดงปะโค” คือมี ความเชื่อว่าเมือง “ปะโค” เป็นถิ่นที่เคยรุ่งเรืองทาง ด้านศิลปวัฒนธรรม “คืนรักษ์” เป็นการรักษาสภาพ แวดล้อมให้มีสภาพสมบูรณ์ สมดุลทางธรรมชาติ และรักษาวัฒนธรรมที่มีมาอย่างยาวนาน “อุสาบา รส” เป็นตำ�นานพื้นบ้านที่มีเรื่องราวความรัก ทั้งนี้
ยังเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนร่วมกันอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ ส่ง เสริมภูมิปัญญาท้องถิ่นให้ประชาชนและนักท่อง เที่ยวได้รับทราบอย่างกว้างขวางมากขึ้น เป็นการ สร้างความสามัคคีให้เกิดขึ้นกับประชาชนโดยสา มารถบูรณาการร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้ อย่างมีประสิทธิภาพ และยังเป็นการสร้างรายได้แก่ ประชาชนเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย โดยมีกจิ กรรมจดทะเบียนสมรสของคูบ่ า่ ว สาว, การแห่ขันหมาก, การแต่งชุดซิ่นตีนคำ� เป็น ชุดพื้นเมืองโบราณที่แสดงถึงความรุ่งเรืองของ คนชุมชนเมืองพะโคในอดีต การจัดพิพิธภัณฑ์ผ้า โบราณ, การแสดงหมอลำ�กลอนพื้นบ้าน และการ แสดงของพันธมิตรเครือข่ายต่าง ๆ ในพื้นที่ ดร.พูลศิริ กล่าวต่อว่า การเดินทางไปชมวังบัวแดง บ้านหนองบ่อ เวลาที่เหมาะสมในการชม ตั้งแต่
เวลา 05.00 น. จนถึงเวลาประมาณ 11.00 น. ซึ่ง ช่วงเวลา 05.00 น. – 07.30 น. จะเป็นช่วงเวลาที่ ดอกบัวบานสวยทีส่ ดุ นอกจากจะชมความงามบน ฝั่งแล้ว นักท่องเที่ยวหลายคนยังได้นั่งเรือพายของ ชาวบ้าน ล่องเรือสัมผัสดอกบัวอย่างใกล้ชดิ พร้อม ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก โดยชุมชนที่อยู่รอบวังบัวแดง ได้มีการรวมตัวกันขึ้นมาบริหารจัดการ มีการนำ� เรือพายมาให้บริการ พายเรือพานักท่องเทีย่ วลงชม ความงามของดอกบัวอย่างใกล้ชิด เก็บค่าบริการ คนละ 50 บาท มีเสือ้ ชูชพี ป้องกันความปลอดภัยให้ ด้วย ซึง่ มีเรือกว่า 10 ลำ� แต่ละลำ�รับนักท่องเทีย่ วได้ 3-5 คนต่อ ซึ่งไม่จำ�กัดเวลา และมีโป๊ะไว้ถ่ายเซลฟี่ กลางวังบัวแดงอีกด้วย โดยเวลาทีเ่ หมาะสมในการ ชมดอกบัวคือ 06.00-12.00 น. และมีชว่ งเวลาให้ชม ดอกบัวไปจนถึงประมาณเดือนมีนาคม
หน้า 11
ปีที่ 15 ฉบับที่ 164 ประจำ�เดือนมกราคม 2561 ธุรกิจค้าปลีก
• ต่อจากหน้า 1 นายสัญชัย กล่าวทิ้งท้ายว่า “เซ็นโทซ่า” เป็นศูนย์
นายสัญชัย ชินจตุรภัทร กรรมการผู้จัดการ ห้าง สรรพสินค้าเซ็นโทซ่า ขอนแก่น เปิดเผยว่า ห้าง สรรพสินค้าเซ็นโทซ่า เปิดทำ�การค้าขายสินค้า เบ็ ด เตล็ ด ในพื้ น ที่ จั ง หวั ด ขอนแก่ น ตั้ ง แต่ รุ่ น บรรพบุรุษจนถึงปัจจุบันนานกว่า 50 ปี โดยมีการ ปรับปรุงเปลีย่ นแปลงตามยุคสมัยความเจริญเติบโต ของบ้ า นเมื อ ง พร้ อ มปรั บ รู ป แบบการขายเพื่ อ อำ�นวยความสะดวกให้กับประชาชนทุกกลุ่ม ทุก สาขาอาชีพ รวมถึงพ่อค้าที่หาเช้ากินคํ่าในท้องถิ่น โดยมีการปรับนวัตกรรมให้มีความทันสมัยควบคู่ กับการเติบโตของเมืองขอนแก่นอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน รัฐบาลขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม เพื่อให้ประเทศก้าวสู่ความเป็นไทยแลนด์ 4.0 เป็น ยุคของการผสมผสาน นับเป็นแนวโน้มที่เปิดรับ กระแสโลกได้เป็นอย่างดี ในขณะเดียวกัน รัฐควร มองอนาคตของผู้ประกอบการ SMEs ขนาดกลาง และขนาดย่อม ซึ่งมีการลงทุนพัฒนาธุรกิจการค้า อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผู้ประกอบการท้องถิ่นที่ มีการสร้างสรรค์และมีสว่ นร่วมระหว่างผูป้ ระกอบ การกับผู้ผลิต หรือเกษตรกร โดยรับซื้อสินค้าจาก เกษตรกร หรือข้าวจากชาวนาที่ผ่านกระบวนการ วิสาหกิจชุมชน เป็นการยกระดับสินค้าให้มีคุณค่า และภาพลักษณ์มากขึน้ การดึงให้ชมุ ชนท้องถิน่ เข้า มามีส่วนร่วมกับธุรกิจมากขึ้น ทำ�ให้ได้รับสินค้าที่ ดีและได้ช่วยเหลือสังคมหรือชุมชน แต่ทั้งนี้ การ ดำ�เนินกิจการอย่างเป็นระบบที่ถูกต้องในปัจจุบัน กำ�ลังประสบปัญหารายได้สวนกระแสกับรายจ่าย อีกทั้ง ยังถูกแชร์ธุรกิจด้วยห้างขนาดใหญ่ และ ต้องแข่งขันกับธุรกิจขนาดย่อมที่นับวันจะเติบโต ขึ้นจากการค้าที่ต้นทุนตํ่า อีกทั้ง ยังไม่ถูกจัดให้เข้า สูร่ ะบบอย่างถูกต้อง ล้วนเป็นส่วนแบ่งการตลาดที่ ทำ�ให้ธุรกิจท้องถิ่นต้องปรับกลยุทธเพื่อให้อยู่รอด ในยุควิกฤตเศรษฐกิจไทยแลนด์ 4.0 นายสัญชัย กล่าวต่อว่า แต่ทงั้ นี้ ต้องยอมรับ ว่าสังคมกำ�ลังเข้าสู่ยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง โดย มีเทคโนโลยี และโซเชียลมีเดียเข้ามามีบทบาทใน การใช้ชีวิตประจำ�วันของผู้บริโภค ปัจจุบัน มีการ ใช้สอื่ ออนไลน์มากขึน้ การทำ�ธุรกิจโดยใช้โซเชียลมี เดีย อินสตาแกรม ไลน์ ซึ่งเป็นการสร้างแบรนด์ใน ยุคดิจิตอล ทำ�ให้เกิดความเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ของผูบ้ ริโภค รวมถึงโครงสร้างเศรษฐกิจในปัจจุบนั และยังสร้างผลกระทบโดยตรงต่อผู้ประกอบการ ธุรกิจทั้งขนาดกลางและขนาดย่อมของนักธุรกิจ ท้องถิน่ ซึง่ นอกจากผูป้ ระกอบการยักษ์ใหญ่ทขี่ ยาย สาขาจากส่วนกลางเข้ามาในหัวเมืองหลักแล้ว ยัง ประกอบกับประชาชนส่วนใหญ่หันมาเปิดร้าน ค้าขายขนาดเล็กเพือ่ ลดต้นทุน และหลีกเลีย่ งอัตรา เสี่ยงในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจที่ยังไม่มีแนวโน้มจะดี ขึน้ เข้าสูย่ คุ ของการแข่งขันหลายด้าน และเป็นการ แข่งขันที่สูงมากที่สุดเท่าที่เคยผ่านมา แต่อย่างไร ก็ตาม เชื่อว่า เทคโนโลยีไม่สามารถใช้ได้กับการ ค้าทุกประเภท ที่สำ�คัญ หากหน่วยงานภาครัฐยัง ไม่สามารถเข้ามาจัดระเบียบให้ธุรกิจเข้าสู่ระบบ ที่ถูกต้องได้ ในอนาคต ผู้ประกอบการธุรกิจท้อง ถิ่นอาจต้องปิดตัว หรือเกิดสงครามการค้าบนสื่อ ออนไลน์ ที่รัฐไม่สามารถบริหารจัดการด้านภาษี ได้เลย สุดท้ายประเทศชาติคงไปไม่รอดแน่ กรรมการผู้จัดการ ห้างสรรพสินค้าเซ็นโท ซ่า กล่าวต่อไปว่า ในโซนพืน้ ทีบ่ ริเวณรอบตลาดใน จังหวัดขอนแก่นทีช่ าวบ้านนำ�ผักมาขายบนทางเท้า ข้างถนน หลายแห่งถูกจัดระเบียบตามนโยบาย รัฐบาล ทำ�ให้มนต์เสน่ห์ของวิถีชุมชนเมืองขาด หายไปเกือบหมด ผลกระทบต่อเนื่องที่ตามมา คือ ร้านค้าต่างๆ ซบเซาเหงาหงอย ค้าขายไม่ได้ ยิ่งเป็น การซํ้าเติมให้เศรษฐกิจทรุดหนักลงไปกว่าเดิม ถึง แม้ว่าความพยายามในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่ รัฐบาลส่งมาให้ชุมชนในรูปแบบ บัตรสวัสดิการ ช่วยเหลือค่าครองชีพ ที่ต้องใช้งบประมาณในการ ติดตั้งเครื่องสแกนบัตร อีกทั้งความไม่พร้อมของ ร้านค้าชุมชน ล้วนสร้างปัญหามากกว่าการช่วย เหลือประชาชน อีกทั้งยังไม่ส่งผลใดๆ ที่กระตุ้น ให้เศรษฐกิจดีขึ้น และยังมองไม่เห็นแนวโน้มใดๆ ที่จะช่วยให้รัฐแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ จากหลายปี ที่ผ่านมายอดธุรกิจการค้ายังลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะปีที่ผ่านมา มียอดจำ�หน่ายลดลงไปอีก 15-50%
รวมสรรพสินค้าทุกชนิดที่จำ�เป็นต่อการใช้ชีวิต ประจำ�วัน จำ�หน่ายสินค้าปลีกในราคาขายส่ง เป็น ห้างสรรพสินค้าของคนท้องถิ่นที่อยู่คู่กับชุมชน เมืองขอนแก่นมานาน ธุรกิจค้า ปลีกถึงแม้จะมี ปัจจัยบวกมาสนับสนุนและสร้างความเชื่อมั่น แต่ การค้าต้องอยู่ด้วยความไม่ประมาท ต้องปรับตัว เสมอ เตรียมความพร้อม โดยเฉพาะความผันผวน ของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจภายในประเทศ รวมถึงภาคการเกษตรที่มีความเสี่ยงจากสภาพดิน ฟ้าอากาศ ส่งผลกระทบโดยตรงกับราคาพืชผล ทางการเกษตร และรายได้ของเกษตรกร รวมถึงการ เลือกตั้ง ที่จะมีขึ้นในช่วงปลายปีนี้หรืออย่างช้าต้น ปี 2562 ล้วนเป็นปัจจัยเสีย่ งทีอ่ าจทำ�ให้การขยายตัว ของเศรษฐกิจมีข้อจำ�กัดได้ “อย่างไรก็ตาม มองว่าการเลือกตั้ง อาจ ช่วยให้เกิดความเชื่อมั่น และกระตุ้นให้เกิดปัจจัย บวก เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจได้ในระยะ แรก แต่ทงั้ นี้ ยังมีตวั แปรทีพ่ ร้อมปะทุขนึ้ ได้ทกุ เมือ่ โดยเฉพาะปัจจัยด้านการเมืองทีม่ คี วามเสีย่ งและส่ง ผลกระทบทั้งด้านการค้า การลงทุน ต่อธุรกิจโดย รวมของประเทศที่รัฐบาลควรหางทางแก้ปัญหา อย่างจริงจัง ต่อเนื่อง และเห็นผลเป็นรูปธรรมโดย เร็ว” นายสัญชัย กล่าว
เศรษฐกิจไม่ดี
• ต่อจากหน้า 1
นายรัฐศาสตร์ เทพสุรีย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โปรซีเคียวสไมล์ จำ�กัด(อุดรธานี) เปิดเผย ว่ า บริ ษั ท ฯ เป็ น ผู้ แ ทนจำ � หน่ า ยกล้ อ งวงจรปิ ด หรือ CCTV ยี่ห้อ WATASHI และอุปกรณ์รักษา ความปลอดภัยประเภทต่างๆ ในพื้นที่ของภาค อีสานตอนบน คือ จังหวัดอุดรธานี หนองคาย บึ ง กาฬ ซึ่ ง เป็ น พื้ น ที่ ดู แ ลของบริ ษั ท ฯ มี ร้ า น จำ�หน่ายและติดตั้งกล้องวงจรปิดเป็นจำ�นวนมาก ส่งผลให้การแข่งขันของกล้องวงจรปิดหรือ CCTV มีความรุนแรง ทัง้ ราคาและการบริการหลังการขาย สำ�หรับตลาดของกล้องวงจรปิดในภาค อีส านตอนบน ความต้องการใช้กล้องวงจรปิด สำ�หรับปกป้องความปลอดภัยชีวิตทรัพย์สินยัง มี ต้ อ งการอี ก มาก ทุ ก วงการไม่ ร วมถึ ง สถานที่ ราชการ ทีส่ ว่ นใหญ่เห็นความสำ�คัญและประโยชน์ ของกล้องวงจรปิดได้มีการติดตั้งโดยรวมมากับตัว โครงการก่อสร้าง เป็นส่วนใหญ่ แต่สำ�หรับร้าน ค้า บ้านที่พักอาศัยและธุรกิจอื่นๆ ยังมีอีกจำ�นวน มากทีย่ งั ไม่ได้ตดิ ตัง้ หรือติดตัง้ ไปแล้วก็ยงั มีปญ ั หา หลังการขายตามมา เช่นติดตั้งแล้วผู้ขาย/ติดตั้งไม่ ได้มขี อ้ ผูกพันเรือ่ งการบริการหลังการขาย หรือตัว กล้องมีการใช้งานไม่ได้ ดังนั้นตลาดความต้องการของพื้นที่ภาค อีสานตอนบนยังมีอีกมากสำ�หรับกล้องวงจรปิด หรือ CCTV นอกจากนี้แล้วก็ยังมีอุปกรณ์สำ�หรับ การปกป้ อ งชี วิ ต ทรั พ ย์ สิ น ของประชาชนชนิ ด อื่นๆ อีกจำ�นวนมากมายหลายชนิด อีกส่วนหนึ่ง ตามสถานที่ประกอบการ ร้านอาหาร ติดตั้งกล้อง วงจรปิดเอาไว้เพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยและ เป็นพยานหลักฐานกรณีทรัพย์สินของลูกค้าเกิด การสูญหายหรือถูกลักขโมยเอาไป นายรัฐศาสตร์ฯ กล่าวต่อว่า ในปัจจุบันนี้ ความต้องการกล้องวงจรปิดมีด้วยการหลากหลาย รูปแบบ เช่น ชนิดแบบตัวเดียว 4 ตัว 8 ตัว หรือ แบบไร้สาย และที่มีเทคโนโลยีแบบธรรมดา ไปถึง แบบที่มีอุปกรณ์ควบรวมกันเพื่อใช้ประโยชน์ใน คราวเดียว เช่น อุปกรณ์ส่งสัญญาณภาพระยะไกล เมือ่ มีคนไปงัดหน้าต่าง ประตู สามารถตรวจสอบได้ จากเครือ่ งโทรศัพท์มอื ถือ หรือแบบมีเครือ่ งบันทึก เสียงและส่งเสียงไปยังตัวรับสัญญาณพร้อมภาพใน คราวเดียวกัน ซึ่งผู้ใช้สามารถเลือกใช้ได้ตามความ สามารถของกำ�ลังเงิน นอกจากสถานที่ราชการ บ้านพักอาศัย หมู่บ้านจัดสรร ร้านค้า สถานบันเทิงแล้ว ปัจจุบัน ยังมีอีกหลายส่วนที่ได้มีการติดตั้งกล้องวงจรปิด เช่น สวนผัก ผลไม้ บ่อเลี้ยงปลา หรือแท้กระทั้ง สวนยางพารา เพื่อบันทึกเป็นหลักฐานในกรณี คนร้ายเข้าไปก่อเหตุลักขโมยในบริเวณสถานที่ ต่างๆ เป็นการช่วยเหลือการติดตามตัวคนร้ายมา ลงโทษ และเป็นการปกป้องความปลอดภัยของ เจ้าของทรัพย์อีกด้วย
นายรั ฐ ศาสตร์ กล่ า วอี ก ว่ า ตลาดกล้ อ ง วงจรปิดในปัจจุบันมีการผลิตมาจากหลายประเทศ และมีคณ ุ ภาพของกล้องทีแ่ ตกต่างๆกันค่อนข้างมาก และมีราคาทีห่ ลากหลายกันออกไป ผูต้ อ้ งการซือ้ มา ติดตั้งด้วยตนเอง ควรที่จะปรึกษาร้านจำ�หน่ายที่น่า เชื่อถือ สำ�คัญสมควรที่จะต้องศึกษาจากช่างผู้รู้และ เป็นทีไ่ ว้ใจ และสมควรทีจ่ ะต้องตรวจสอบราคา การ บริการก่อนและหลังการขาย และการติดตั้งสมควร ทีจ่ ะต้องอยูใ่ นการดูแลควบคุมของช่างผูช้ �ำ นาญการ เฉพาะด้านอย่างใกล้ชิด กล้องวงจรปิดเป็นส่วนหนึ่งที่คล้ายคลึง กั บ สิ น ค้ า ป ร ะ เ ภ ท อิ เ ล็ ก ท ร อ นิ ก ส์ ห รื อ ว่ า คอมพิ ว เตอร์ ซึ่ ง แน่ น อนว่ า เมื่ อ เวลาผ่ า นไป คุณสมบัติดีขึ้น คุณภาพดีขึ้น เข้าถึงได้ง่ายมากขึ้น แต่ราคาถูกลงผู้ประกอบการเองจึงต้องปรับตัวให้ เหมาะสมจึงจะทำ�ให้ธุรกิจอยู่ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่า เรามีโปรดักส์ที่ดี แล้วก็ทันสมัยในราคาที่เหมาะ สม ขณะเดียวกันก็ต้องเป็นสินค้าที่มีบริการมา เกี่ยวข้องด้วย เพราะกล้องวงจรปิดไม่ใช่ขายแค่ สินค้าอย่างเดียวแล้วจบ ผู้ประกอบการจะต้องมา ดูแลในเรื่องของการให้บริการด้วย ถึงจะอยู่ใน วงการหรือธุรกิจนี้ได้ดีขึ้น ทั้ ง นี้ สำ � หรั บ ทิ ศ ทางในอนาคต นาย รั ฐ ศาสตร์ มองว่ า ธุ ร กิ จ กล้ อ งวงจรปิ ด จะมี ก าร เติ บ โตขึ้ น ตลอด เพี ย งแต่ อ าจจะเกี่ ย วข้ อ งกั บ เศรษฐกิจบ้าง อย่างเช่น 2 ปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจของ เราอาจจะไม่สดใสเหมือนหลายปีกอ่ น ก็ถอื ว่าอยูใ่ น เกณฑ์ยังพอได้ แต่ในขณะเดียวกัน กล้องวงจรปิด จะมีลักษณะที่แปลกจากสินค้าอื่นพอสมควรคือ เมือ่ คนมีเงินก็จะซือ้ ความปลอดภัย ซือ้ ความสะดวก สบายมากขึ้น กล้องวงจรปิดก็ต้องซื้อ เศรษฐกิจไม่ ดี ขโมยเยอะ ก็จำ�เป็นจะต้องมีกล้องวงจรปิดเพื่อ รักษาความปลอดภัย จึงถือว่าธุรกิจกล้องวงจรปิด เป็นธุรกิจที่ไปได้เรื่อยๆ ไม่ถึงขนาดว่าแย่ เพียงแต่ ว่าอาจจะมีการแข่งขันที่เพิ่มมากขึ้นซึ่งถือว่าเป็น เรือ่ งปกติของทุกๆ ธุรกิจทีจ่ ะต้องมีทงั้ เติบโต มีการ แข่งขัน เพราะมีผทู้ เี่ ข้ามาสูธ่ รุ กิจเยอะขึน้ ผูป้ ระกอบ จึงต้องมีการปรับตัวอยู่เสมอ
นักธุรกิจลูกอิสาน • ต่อจากหน้า 1 เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท มาสเตอร์พีซ ไลฟ์ วิชั่น จำ�กัด (Masterpiece life vision ) โดย นายกฤษณ์ ศรีวะรมย์ ประธานกรรมการบริหาร และผู้ก่อตั้ง บริษัท มาสเตอร์พีซ ไลฟ์ วิชั่น จำ�กัด ได้ทำ�การเปิด ตัวบริษทั ฯ ซึง่ เป็นกิจการธุรกิจเครือข่าย และสินค้า ตัวใหม่ล่าสุด ADALINA พร้อมประชุมตัวแทน เครือข่ายจากทั่วประเทศ และเปิดเผยว่าในปีหน้า 2561 นี้ จะมีการเปิดสาขาในภาคอีสานเพิ่มเติมอีก 2 สาขาคือ ที่จังหวัดอุดรธานี และนครราชสีมา และจะมีการเปิดสาขาในต่างประเทศอีก 2 ประเทศ เช่ น กั น คื อ ที่ ประเทศเวี ย ดนาม และประเทศ สิงคโปร์ หลังจากที่มีสาขาอยู่ที่ประเทศเมียนมาร์ สปป.ลาว และกัมพูชา อยู่แล้ว และในอนาคตจะ นำ�กิจการของบริษัทเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ของ ประเทศสิงคโปร์อีกด้วย นายกฤษณ์ ฯ ผู้ ก่ อ ตั้ ง บริ ษั ท มาสเตอร์ พีซ ไลฟ์ วิชั่น จำ�กัด กล่าวว่า บริษัทฯได้ก่อตั้ง มาได้ประมาณ 4 ปีแล้วที่กรุงเทพฯ และมีการ ดำ�เนินธุรกิจเครือข่ายมาโดยตลอด เนื่องจากว่า ตนเองมี ค วามชำ � นาญงานธุ ร กิ จ ด้ า นนี้ ม าเป็ น เวลากว่า 20 ปี และจากการที่มีผลิตภัณฑ์ของบ ริษัทฯเพียง 2-3 ตัว มาจนถึงปัจจุบันนี้ บริษัทฯ มี ผ ลิ ต ภั ณ ฑ์ อ ยู่ ใ นการดู แ ลกว่ า 30 ตั ว และ ผลิตภัณฑ์สินค้าล่าสุดคือ ADALINA เป็นสเต็ม เซลล์ที่ทำ�การสกัดมาจากสมุนไพร 8 ชนิด เป็น ผลิ ต ภั ณ ฑ์ สู่ ค วามงามที่ กำ � ลั ง ได้ รั บ ความนิ ย ม อย่างกว้างขวางในเวลานี้ ที่ได้เครื่องหมายรับรอง นวั ต กรรมใหม่ ใ นรู ป แบบเฉพาะของมาสเตอร์ พีซ มาตรฐานรับรองคุณภาพจาก Swiss Quality Formula นวัตกรรม Phyto CellTech จาก Lab Mibelle Biochemistry ประเทศสหรัฐอเมริกา และ เครื่องหมายฮาลาล “ในเวลา 4 ปี ที่ผ่านมานั้น บริษัทฯทำ�งาน แบบตั้งรับเตรียมพร้อมมาโดยตลอด แต่มาในปี นี้ บ ริ ษั ท ฯ ได้ ทำ � การแต่ ง ตั ว เสร็ จ เรี ย บร้ อ ยแล้ ว สมาชิกของบริษทั มีความแข็งแรงและความพร้อม มากขึ้น ดังนั้นบริษัทฯและคณะผู้บริหาร ได้มีมติ
ให้ตั้งเป้าหมายยอดการขายในปี 61 ไว้ที่ 5000 ล้าน บาท ซึ่งในปี 60 บริษัทฯมียอดขายกว่า 1200 ล้าน บาท เนื่องจากว่าในปัจจุบันนี้บริษัทมีสมาชิกและ เครือข่ายมากกว่า 1.9 แสนรหัส บริษัทฯมีความ พร้อมมากแล้ว โดยในปี 61 นี้ จะมีการออกสือ่ มวลชนมาก ขึน้ และเชือ่ ว่าจะทำ�ให้คนทีอ่ ยูภ่ ายนอก ทัง้ คนทีเ่ คย ทำ�ธุรกิจเครือข่าย และคนที่ยังไม่เคยทำ�ธุรกิจเครือ ข่าย มีความรูจ้ กั บริษทั ฯมากขึน้ และให้ความสนใจ ที่จะเข้าร่วมในธุรกิจของบริษัท มาสเตอร์ พีซฯ ด้วยเหตุผลที่ว่าสินค้าของบริษัทฯมีคุณภาพ ทุก คนสามารถจับต้อง หาซื้อมาใช้ได้ในราคาหลักร้อย บาทขึน้ ไป และสินค้ามีคณ ุ ภาพทีส่ ามารถพิสจู น์ได้ ธุรกิจของบริษทั ฯมีรายได้ทยี่ งั่ ยืน มัน่ คง ทัง้ นีบ้ ริษทั มาสเตอร์พีซฯ สามารถให้คำ�ยืนยันในธุรกิจของบ ริษัทฯได้ และที่สำ�คัญบริษัทฯ ได้มีการคืนกำ�ไรต่อ สังคมและได้ทำ�มาแล้ว” นายกฤษณ์ฯ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า จากการ ทีต่ นเองมีประสบการณ์ทางด้านอาหารเสริมความ งาม และยามาเป็นเวลานาน ทำ�ให้มีการพัฒนา ผลิตภัณฑ์ และคุณภาพผลิตภัณฑ์ของบริษทั ตลอด เวลา ให้เทียบเท่ากับสินค้าประเภทเดียวกันใน ระดับสากล ซึ่งผลิตภัณฑ์ของบริษัทมีการผลิตทั้ง ในประเทศ และต่างประเทศ ที่มีความชำ�นาญงาน ในด้านเทคนิคบางประเภทที่ประเทศไทยยังไม่มี เทคโนโลยีสูงพอ ทำ�ให้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ มี คุณภาพและมีผลตอบสนองต่อลูกค้า และมีความ ปลอดภัยสูง นายกฤษณ์ฯ กล่าวถึงเครือข่ายสาขาขอ งบริ ษั ท ฯในปั จ จุ บั น นี้ มี อ ยู่ ป ระเทศเมี ย นมาร์ สปป.ลาว และกั ม พู ช า ซึ่ ง เป็ น การลงทุ น เต็ ม 100 % ปัจจุบันนี้บริษัทฯมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ ที่ในประเทศ 80% และต่างประเทศ 20% นอกจาก นี้ในปีหน้าบริษัทฯมีแผนขยายธุรกิจอีก โดยจะมี การตั้งสาขาที่ประเทศเวียดนาม และสิงคโปร์ ซึ่ง จะทำ�ให้ส่วนแบ่งการตลาดสำ�หรับต่างประเทศ เพิ่มขึ้นมา พร้อมกันนี้ก็จะนำ�บริษัทฯและกิจการ เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ของประเทศสิงคโปร์ ด้วย เหตุผลที่ว่า ประเทศสิงคโปร์มีความพร้อมในด้าน การเป็นศูนย์กลางการเงินมากกว่าประเทศไทย และ บริษัทฯยังมีแผนในอนาคตที่จะขยายธุรกิจไปยัง ประเทศอินโดนีเซีย ฟิลปิ ปินส์ อีกด้วยซึ่ งจะทำ�ให้ ธุรกิจของบริษัทฯเป็นธุรกิจสากลมากขึ้น ส่วนใน ประเทศก็มีแผนจะตั้งสาขาในภาคอีสานที่จังหวัด อุดรธานี และนครราชสีมา อีก 2 แห่ง เพราะที่ผ่าน มาบริษัทฯมีสาขาในภาคเหนือ ภาคกลาง และภาค ใต้ครบหมดแล้ว “สำ�หรับผลิตภัณฑ์ ADALINA ทีเ่ ป็นผลิต ใหม่ล่าสุดนั้น จากการที่สถาบันในต่างประเทศ ทำ�การวิจยั แล้วพบว่า วิธกี ารกินจะได้ผลและให้ผล เร็วกว่าวิธกี ารอืน่ (ฉีด) และมีราคาถูกกว่าวิธกี ารอืน่ (ฉีด)” นายกฤษณ์ฯ กล่าว
นักธุรกิจขอนแก่น • ต่อจากหน้า 1 นายเข็มชาติ สมใจวงษ์ ประธานหอการค้า จังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า จากสภาวะในปัจจุบัน มีหลายปัจจัยทีท่ �ำ ให้เกิดการชลอตัวของเศรษฐกิจที่ ไม่มีความคล่องตัว อาทิ ราคาพืชผลทางการเกษตร ถึงแม้จะมีผลผลิตดี แต่ราคาขายยังตกตํ่า ทำ�ให้เกิด ความไม่สมดุลระหว่างต้นทุนกับราคาขาย รวมถึง การเกิดภัยทางธรรมชาติที่ไม่สามารถควบคุมได้ ล้วนส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม ทั้งภาค เอกชน นักลงทุน หรือผู้ประกอบการธุรกิจ SMEs แต่อย่างไรก็ตาม นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของ รัฐบาลในปีที่ผ่านมาได้ส่งเสริมให้เกษตรกรเพิ่ม ทุนในการทำ�การเกษตร ไม่ว่าจะเป็นการทำ�เกษตร แปลงใหญ่ โดยใช้เทคโนโลยี หรือให้ใช้เครื่องจักร เข้ามาช่วยในการทำ�การเกษตร เพือ่ ให้เกิดผลผลิตที่ มากขึ้น มองว่า อาจเป็นผลดีกับเกษตรกรที่มีความ พร้อมเท่านั้น ในขณะเดียวกัน ยังมีเกษตรกรส่วน ใหญ่ที่ไม่มีแรงจูงใจ ขาดความรู้ความชำ�นาญ จึง ไม่ลงทุนเพิ่ม และทำ�เกษตรแบบเดิมๆ ตามความ เคยชิน ซึง่ ได้ผลผลิตเช่นเดียวกัน แต่ปริมาณน้อยลง อย่างไรก็ตาม การกระตุน้ ภาคการเกษตรให้ เกิดความเคลื่อนไหว และผลผลิตขายได้ราคาดีขึ้น นัน้ จำ�เป็นต้องทำ�ให้เกิดดีมาด์ทมี่ ากขึน้ มีผบู้ ริโภค เพิ่มขึ้น มีความต้องการของตลาดมากขึ้น หรือมี
แรงซื้อเพิ่มขึ้น ซึ่งการจะเพิ่มแรงซื้อ ต้องมองต่อ ไปถึงการตั้งโรงงานแปรรูป เพื่อเพิ่มมูลค่าทางการ ตลาด เพิ่มมูลค่าสินค้า การนำ�ผลผลิตมาแปรรูป แบบต่างๆ จำ�เป็นต้องใช้ดีมานด์เป็นตัวกระตุ้นให้ เกิดการซื้อขายเพิ่มขึ้น ซึ่งขอนแก่นมีความพร้อม และมีศักยภาพมากกว่าจังหวัดอื่น และเศรษฐกิจ ในจังหวัดขอนแก่นโดยเฉลี่ยยังไม่ส่งผลกระทบ มากนัก โดยเฉพาะในปี 2561 นโยบายรัฐบาลที่ส่ง เสริมการท่องเทีย่ ว ส่งเสริมธุรกิจขนาดย่อม และยัง เพิม่ มูลค่าสินค้าทางการเกษตร จะส่งผลดีตอ่ ธุรกิจ ของภาคอีสานอย่างแน่นอน นายเข็มชาติ กล่าวต่อว่า จังหวัดขอนแก่น ยังมีศักยภาพในการรองรับผู้ที่เดินทางมาร่วมอี เวนต์ทางธุรกิจจำ�นวนมาก จากช่วงปลายปีท่ีผ่าน มา ไม่ว่าจะเป็นเทศกาลงานประจำ�ปี งานพรรณไม้ งานประเพณี หรืองานเคาท์ดาวน์ จากสถิตนิ กั ท่อง เทีย่ วเข้ามาทีจ่ งั หวัดขอนแก่นมากกว่าสองแสนคน ทำ�ให้กระแสการเงินหมุนเวียนในท้องถิ่นคล่อง พอสมควร ด้านโรงแรมที่พักในเขตชั้นในมีอัตรา เข้าพัก 80-90% เกือบทั้งหมด แต่โรงแรมชั้นนอก รอบเมืองขอนแก่นจะมีสถิติการเข้าพักที่ 60-70% แต่ผลที่ตามมาคือความคุ้มค่า นอกจากเป็นที่รู้จัก ของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยที่ยังไม่เคยมาสัมผัส เมืองขอนแก่นแล้ว ยังเป็นทางเลือกสำ�หรับนัก ท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ช่ืนชอบในการศึกษาเรียน รูว้ ธิ คี วามเป็นอยูช่ มุ ชนพืน้ เมือง ทีส่ มั ผัสได้ถงึ ศิลป วัฒนธรรม รวมถึงค่าใช้จา่ ยในการท่องเทีย่ วในภาค อีสานยังไม่สูงเหมือนจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยว ทางธรรมชาติ นับเป็นการท่องเทีย่ วเชิงอนุรกั ษ์และ ศึกษาเรียนรู้ท่ีคุ้มค่ามาก เป็นจุดเด่นของทางเลือก สำ�หรับการท่องเที่ยวขอนแก่น และภาคอีสาน ในการกระตุ้ น เศรษฐกิ จ จากภาครั ฐ ใน ปัจจุบันผ่านโครงการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการสร้าง ทางด่วนมอเตอร์เวย์ รถไฟทางคู่ เป็นการลงทุน ด้านเมกโปรเจค ซึ่งดำ�เนินการยังไม่แล้วเสร็จ จึง ไม่เห็นผลเป็นรูปธรรม อาจมองว่าสวนทางกับการ เคลื่อนไหวของภาคเอกชนและประชาชนที่ธุรกิจ การค้าชะลอตัว แต่เมื่อโครงการแล้วเสร็จจะมีการ เคลื่ อ นไหวด้ า นการคมนาคมที่ ส ะดวก รวดเร็ ว ความคล่องตัวด้านการคมนาคมทำ�ให้เกิด การขนส่ง สินค้า การเดินทาง และการท่องเที่ยวที่สะดวกมาก ขึ้น สอดคล้องกับทิศทางการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โลกที่เข้มแข็งมากขึ้น และยังได้รับปัจจัยหนุนจาก ภาครัฐให้สินเชื่อผ่านธุรกิจรายย่อย ประเภทรถเข็น เล็ก ทีอ่ �ำ นวยความสะดวกกับนักท่องเทีย่ ว เป็นการ ขับเคลือ่ นให้ภาคการท่องเทีย่ วเกิดความเคลือ่ นไหว ประธานหอการค้าจังหวัดขอนแก่น กล่าว ต่อไปว่า นอกจากนี้ “ขอนแก่น” ยังถูกเลือกให้เป็น เขตเศรษฐกิจพิเศษด้านอาหาร โดยมีธุรกิจขนาด ใหญ่เข้ามาลงทุน ระบบสาธารณูปโภค โครงสร้าง พื้ น ฐาน ระบบรางที่ ใ กล้ แ ล้ ว เสร็ จ รวมถึ ง การ เป็นท่าเรือบก ศูนย์กลางโลจิสติค ทำ�ให้ขอนแก่น เป็นเมืองหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของภาค อีสาน ส่งผลไปถึงเมืองรองต่างๆ โดยมีขอนแก่น เป็ น ประตู เ มื อ งของภาคอี ส าน ซึ่ ง องค์ ก รภาค เอกชน อาทิ หอการค้าจังหวัดฯ สภาอุตสาหกรรม จังหวัดฯ และอีกหลายองค์กร ร่วมกันเดินหน้า เตรี ย มเปิ ด “ศู น ย์ อำ � นวยความสะดวกด้ า นการ ลงทุนขอนแก่น” ภายในเดือนมีนาคม 2561 โดย ใช้อาคารสภาอุตสาหกรรมจังหวัดขอนแก่น เป็น ศูนย์กลางข้อมูลข่าวสาร และแนวทางในการลงทุน ในพื้นที่ภาคอีสาน และเป็นศูนย์กลางการปฎิบัติ งานตามแผนพัฒนาแนวพื้นที่เศรษฐกิจภาคอีสาน ที่สามารถเชื่อมต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้านในอนุ ภาคลุ่มนํ้าโขง และยังเป็นเมืองศูนย์กลางทางการ ค้าและการขนส่ง เป็นประตูสภู่ มู ภิ าคอินโดจีน และ ประเทศจีนตอนใต้ เชื่อว่าในอนาคตขอนแก่นจะ กลายเป็นเมืองที่สำ�คัญแห่งหนึ่งของประเทศไทย และเป็นเมืองเศรษฐกิจที่น่าจับตามอง
เปิ ด “ เที่ ย วบิ น ปฐมฤกษ์ อุ ด รฯ-อุ บ ลฯ อย่ า ง เป็นทางการ” โดยมี นายสวาท ธีระรัตนนุกุลชัย กรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย, นาย ธนัชชัย สามเสน ประธานหอการจังหวัดอุดรธานี พนักงานนกแอร์ และแขกผู้มีเกียรติร่วมงาน นางจรัสพรรณ ศรีสวัสดิ์ ผูอ้ �ำ นวยการใหญ่ ฝ่ายการตลาด สายการบินนกแอร์ กล่าวว่า สาย การบินนกแอร์ จัดการเปิดเส้นทางการบินใหม่ อุดรธานี- อุบลราชธานี เที่ยวบินแรกอย่างเป็น ทางการ ณ ท่าอากาศยานนานาชาติอุดรธานี ซึ่ง นกแอร์เป็นสายการบินแรกทีเ่ ปิดให้บริการในเส้น ทางนี้ โดยได้รับความสนใจจากผู้โดยสารจำ�นวน มาก เส้นทางบินใหม่นจี้ ะเป็นการเชือ่ มการเดินทาง ระหว่าง 2 เมืองใหญ่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ให้ใกล้กันมากยิ่งขึ้น และเปิดประตูอีสานสู่เมือง ใกล้เคียงทีม่ ศี กั ยภาพด้านการเดินทางและการท่อง เทีย่ วอย่าง สปป.ลาว และกัมพูชา โดยเปิดให้บริการ ด้วยเครื่องบินแบบ Q400 จำ�นวน 86 ที่นั่ง ในวัน พุธ วันศุกร์ และวันอาทิตย์ วันละ 1 เที่ยวบิน รวม 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ในเวลา 11.05 น. และเส้น ทางอุบลราชธานี-อุดรธานี ให้บริการ 3 เที่ยวบิน ต่อสัปดาห์เช่นกัน ในเวลา 13.00 น. นางอรั ญ ญา อุ ด มลาภ รองประธาน หอการค้าจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า วันนี้การเดิน ทางจากอุดรธานี จุดหมายอุบลราชธานี เพื่อไป ท่องเทีย่ วทีแ่ ขวงจำ�ปาศักดิ์ ซึง่ ปกติจะเดินทางด้วย รถยนต์ ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง เมือ่ มีเทีย่ วบินในเส้นทางดังกล่าว จะทำ�ให้ลดระยะ เวลาในการเดินทาง ลดค่าใช้จ่ายในการนำ�ลูกทัวร์ เดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวในเขตอีสานใต้ รวม ถึง สปป.ลาว และกัมพูชา ด้วยการใช้บริการเที่ยว บินของสายการบินนกแอร์ นอกจากนี้ เมื่อถึงท่า อากาศยานอุบลราชธานี ก็มีบริการรถเช่านำ�เที่ยว จำ�นวนมาก ซึ่งจะยังช่วยกระจายรายได้ไปยังผู้ ประกอบการของจังหวัดอุบลราชธานีด้วย วั น เดี ย วกั น ที่ ท่ า อากาศยานนานาชาติ อุบลราชธานี นายสฤษดิ์ วิฑรู ย์ ผูว้ า่ ราชการจังหวัด อุบลราชธานี พร้อมด้วย นายสมชาติ พงคพนาไกร ประธานหอการค้าจังหวัดอุบลราชธานี ร่วมต้อนรับ ผูโ้ ดยสารเทีย่ วบินปฐมฤกษ์ โดยมีเทีย่ วบินแรกอย่าง เป็นทางการ ของสายการบินนกแอร์ เที่ยวบินที่ DD9011 อุดรธานี-อุบลราชธานี นายปิยะ ยอดมณี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สายการบินนก แอร์ จำ�กัด (มหาชน) ร่วมให้การต้อนรับ โดยเมื่อ เครื่องบินแตะรันเวย์เตรียมเข้าส่งผู้โดยสาร มีการ ทำ�ซุ้มอุโมงค์นํ้าให้เครื่องบินลอดผ่านเพื่อเป็นการ เฉลิมฉลอง พร้อมรำ�โปงลางต้อนรับผู้โดยสารลง จากเครื่องบินเพื่อเข้าสู่อาคารผู้โดยสาร นายปิยะ ยอดมณี ประธานเจ้าหน้าทีบ่ ริหาร บริษทั สายการบินนกแอร์ จำ�กัด (มหาชน) กล่าวว่า สายการบินนกแอร์เล็งเห็นถึงศักยภาพและโอกาส ทางธุรกิจในเส้นทางอุดรธานี-อุบลราชธานี เราเชือ่ ว่าการเปิดบริการในเส้นทางบินนี้จะช่วยรองรับ ความต้องการด้านการเดินทางของประชาชนใน ภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือให้สามารถเดินทาง ได้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น และให้บริการเชื่อม การเดินทางระหว่าง 2 เมืองใหญ่ในภาคตะวันออก เฉียงเหนือให้ใกล้กนั มากยิง่ ขึน้ และเปิดประตูอสี าน สู่เมืองใกล้เคียงที่มีศักยภาพด้านการเดินทางและ การท่องเที่ยวอย่าง สปป.ลาวและกัมพูชา จากการศึ ก ษาพบว่ า ในเส้ น ทางจั ง หวั ด อุดรธานีสู่จังหวัดอุบลราชธานี มีปริมาณการเดิน ทางโดยรถยนต์เป็นจำ�นวนมาก โดยใช้เวลาในการ เดินทางประมาณ 6 ชัว่ โมง และทัง้ 2 จังหวัดยังเป็น เมืองใหญ่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่สามารถ เดินทางต่อไปยังสถานทีท่ อ่ งเทีย่ วอืน่ ได้ เช่น สปป. ลาว และกัมพูชา อีกทั้งท่าอากาศยานนานาชาติ อุดรธานี ยังเป็นฐานปฏิบัติการบินของนกแอร์อีก แห่งหนึ่ง จึงเอื้ออำ�นวยต่อการเปิดเส้นทางใหม่นี้ มุ่งหวังว่าการเปิดบริการในเส้นทางดัง นกแอร์ • ต่อจากหน้า 1 โดยนกแอร์ กล่าวจะช่วยอำ�นวยความสะดวกด้านการเดินทาง เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2561 ที่บริเวณเคา ให้ผู้โดยสารได้มีตัวเลือกที่มากยิ่งขึ้น อ่านต่อหน้า 2 ท์ เ ตอร์ น กแอร์ ภายในท่ า อากาศยานนานาชาติ อุดรธานี อำ�เภอเมือง จังหวัดอุดรธานี นายวัฒนา สนใจพื้นที่โฆษณา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี และนางสาว ติดต่อ คุณสุพัตรา จรัสพรรณ ศรีสวัสดิ์ ผู้อำ�นวยการใหญ่ฝ่ายการ thaisaeree@gmail.com ตลาด สายการบินนกแอร์ จำ�กัด (มหาชน) ร่วม thaisaeree@yahoo.com
หน้า 12
ปีที่ 15 ฉบับที่ 164 ประจำ�เดือนมกราคม 2561
ที่ ป รึ ก ษา พล.ต.ท.ศั ก ดา เตชะเกรี ย งไกร, รศ.ดร.ธี ร ะ ฤทธิ ร อด, ดร.อาทิ ต ย์ ฉั ต รชั ย พลรั ต น์ , ฉั ต ร ศรี พั น ธุ์ , สิ ท ธิ โ ชค บุ ญ โท, พ.อ.สมศั ก ดิ์ สงทามะดั น , พี ร ะ วี ร ะชั ย , ยงยุ ท ธ ขาวโกมล เจ้าของ/บรรณาธิการบริหาร พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ บรรณาธิการ/ผู้พิมพ์และผู้โฆษณา สุพัตรา ศุขโข กองบรรณาธิการ อนุสรณ์ ศุขโข ,เพ็ญศิริ นาคทน,มณฑล ศุขโข,รณชิต ชาญเจริญ,นาฏยาภรณ์ ชาญเจริญ,
ประคอง หนู ร าช,พั น ธ์ ศั ก ดิ์ วี ร ะชั ย ,เสริ ม ศั ก ดิ์ ขาวโกมล สำ�นั ก งาน 76 ม.20 ถ.กสิ ก รทุ่ ง สร้ า ง ต.ศิ ล า อ.เมื อ ง จ.ขอนแก่ น 40000 โทรศั พ ท์ 08-9422-0228 โทรสาร 0-4324-4584 E-mail : Thaisaeree@gmail.com, Thaisaeree@yahoo.com ศูนย์อุดรธานี 152/3 ถ.อุดรดุษฏี ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี 41000 โทรศัพท์ 08-6864-0678 โทรสาร 0-4224-7905 E-mail: ps_veerachai@hotmail.com ศูนย์หนองคาย ภัทรวินทร์ ลีปาน 92 หมู่ 1 ต.บ้าน ่ รึกษากฎหมาย สังคม พุทธา สำ�นักงานทนายความประสพสุขธุรกิจและกฎหมาย ออกแบบ/กราฟฟิค เอือ้ ดีไซน์ 08-3417-0363 ว่าน อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย 43110 โทรศัพท์ 087-8627979 E-mail : pattarawin2519@hotmail.co.th ทีป