ปีที่ 15 ฉบับที่ 165 ทั นประจำ ส �ถเดืาอนกุ น มกภาพั า นรธ์ณ์2561
ติ ด ต า ม ข่ า ว ส า ร ไ ด้ ที่
w w w . t h a i s a e r e e .หน้ c oาm1
ปีที่ 15 ฉบับที่ 165 ประจำ�เดือนกุมภาพันธ์ 2561 ราคา 10 บาท
ก ล้ อ ง ติ ด ห น้ า ร ถ คึ ก บู ม รั บ ก ร ะ แ ส โ ซ เ ชี ย ล ดั น กล้ อ งวงจรปิ ด โตตาม พัฒนาศักยภาพ ศาลเยาวชนและครอบครัว ; สมเด็จพระราชินีซิลเวีย แห่งราช อาณาจักรสวีเดน ทรงเสด็จมาเป็นองค์ปาฐกถาพิเศษ การประชุมเชิงปฏิบตั กิ าร เรือ่ งการ พัฒนาศักยภาพการพิจารณาพิพากษาในศาลเยาวชนและครอบครัว โดยมีผพู้ ิพากษา หัวหน้าศาล และผูพ้ พิ ากษาสมทบในศาลเยาวชนและครอบครัว ทัว่ ประเทศเข้าร่วม เมือ่ วันที่ 8 ก.พ.2561 ณ โรงแรมเซ็นทารา แอนด์ คอลเวชั่นเซ็นเตอร์ จ.อุดรธานี
เปิดตัวสมาคมเครือข่าย หนังสือพิมพ์ วิทยุ และสื่อออนไลน์ ภาคอีสาน ; นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ. ขอนแก่น เป็นประธานพิธเี ปิดตัวสมาคมเครือข่าย นสพ. วิทยุ และสือ่ ออนไลน์ ภาคอีสาน และเปิดการสัมมนา เรือ่ ง “รูท้ นั สือ่ โฆษณา” โดยมี พ.ท.พิสษิ ฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคมเครือข่ายฯ พร้อมผูบ้ ริหารองค์กรสือ่ มวลชน ทั่วประเทศ ร่วมเป็นเกียรติ เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2561 ณ ห้องมงกุฎเพชร โรงแรมโฆษะ จ.ขอนแก่น
ยล กระตุ้นตลาด คปภ.ขอนแก่นยกระดับ-พัฒนา เศรษฐกิจอุดรฯปี 60 โต กระแสโซเชี กล้องติดรถยนต์โตทะลักแบบ า วกระโดด ไม่ เ ฉพาะแต่ ศั ก ยภาพให้ บ ริ ก ารครบวงจร น่าพอใจ คาดปี 61 เม็ด ก้รถยนต์ ผู้ใช้ จยย.ยังนำ�หมวก คปภ.ขอนแก่น ผุดศูนย์สอบตัวแทนประกันภัย เงินทีร่ ฐั อัดลงช่วย SMEs กันน็อกมาติดกล้อง ดันยอดขาย และเพิม่ ศักยภาพการให้บริการประชาชน อย่างครบ สูงขึ้นถึง 500% คาดไม่เกิน 5 วงจร ยกระดับมาตรฐานและบริการให้ตรงกับความ จะกระตุน้ เศรษฐกิจฐานราก ปี กล้องติดรถยนต์จะได้รบั ความ ต้องการ อีกทั้งพัฒนาศักยภาพให้เป็นศูนย์กลาง
อุดรธานี สรุปสภาวะเศรษฐกิจ นิยม และจะสำ�คัญไม่นอ้ ยไปกว่า ของกลุ่มประเทศอนุภูมิภาคลุ่มนํ้าโขง ของจังหวัดปี 2560 โตใน โทรมือถือแน่นอน “ต้มยำ�จิก๊ โก๋”สูตรเฉพาะปรุงชามต่อชาม อัตราที่น่าพอใจ ภาคเกษตร อี ส า น ข า ด หิ น ก่ อ ส ร้ า ง อุดรธานีเนื้อหอมสายการบินโลว์คอส หรูดูดีมีระดับ ที่สำ�คัญราคาไม่แพง ยังเป็นพระเอก ขณะที่ภาค ต้องสั่งนำ�เข้าจากสปป.ลาว เปิ ด เส้ น ทางบิ น เชื่ อ มภาค ไทยแอร์เอเซียเปิดเส้นทางบินเชือ่ มอีสานอุ ต สาหกรรมโตในอั ต ราชะลอ ก่ อ สร้ า งอี ส านป่ ว น ขาดหิ น ค่ อ นข้ า ง “ห้างแฟรี่” ปรับโฉมใหม่สร้างความทัน ตัว แนวโน้มปี 2561 เม็ด เหนือ ส่วนนกแอร์บินเชื่อมอีสานเหนือรุ น แรง นั ก ธุ ร กิ จ ไทยจั บ มื อ นั ก ลงทุ น จี น สมัยให้ลงตัวกับวิถีคนท้องถิ่น เมินอาหาร เวียดนาม ทีไ่ ด้รบั สัมปทานจากรัฐบาลลาว อี ส านใต้ หวั ง เสริ ม การค้ า การลงทุ น เงิ น ที ่ ร ั ฐ อั ด ลงช่ ว ย SMEs อินเตอร์ฟู๊ต ชูจุดเด่นนวัตกรรมอาหารสูตร ทำ�เหมืองหิน ขยายตลาดส่งเข้ามาขายใน เศรษฐกิจ การท่องเที่ยว ข้ามภาค พร้อม เฉพาะแบบจิก๋ โก๋ “Tomyum Jiggo” สร้าง จะช่วยให้เศรษฐกิจฐานราก ภาคอีสาน พร้อมตั้งสมาคมฯ ดูแลและ ผลักดันให้บนิ แบบเช่าเหมาลำ� นำ�ร่องจาก เติบโต สีสันรับกระแสโซเชียล อุดรธานี – เมืองวิงห์ แก้ไขปัญหาครบวงจร อ่านต่อหน้า 2
อ่านต่อหน้า 11
อ่านต่อหน้า 11
อ่านต่อหน้า 11
อ่านต่อหน้า 11
อ่านต่อหน้า 11
หน้า 2 ต้มยำ�จิ๊กโก๋
ปีที่ 15 ฉบับที่ 165 ประจำ�เดือนกุมภาพันธ์ 2561 • ต่อจากหน้า 1 ดีมานกับซัพพลายกำ�ลังสวนทางกัน เมื่อซัพพลาย
คุณณัชกานต์ พัฒนพีระเดช ผู้บริหารร้าน Tomyum Jiggo (ต้มยำ�จิก๊ โก๋) ศูนย์การค้าแฟรี่ พลาซ่า ขอนแก่น เปิดเผยว่า ปัจจุบันพฤติกรรมผู้บริโภค ในสังคมเมืองมีความเปลี่ยนแปลงไปมาก ทำ�ให้ผู้ ประกอบการต้องปรับกลยุทธเพือ่ ให้สอดรับกับความ ต้องการของตลาดที่มีการแข่งขันอย่างรุนแรง โดย เฉพาะการปรับตัวของห้างสรรพสินค้าขนาดกลาง ในท้องถิ่น จากอดีตที่ผ่านมา ห้างสรรพสินค้าจะ เป็นศูนย์รวมแฟชั่นแบร์นดังที่ทันสมัย อาทิ เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า รวมถึงอาหารระดับอินเตอร์ฟู๊ต แต่ ปัจจุบัน ตลาดผู้บริโภคเปลี่ยนทิศทาง การเลือกซื้อ สินค้าไม่ต้องเสียเวลาเดินห้างหรือร้านค้าทั่วไป กลุ่มผู้บริโภคส่วนใหญ่กว่า 70% เลือกซื้อ สินค้าเสื้อผ้าแฟชั่นจากสังคมออนไลน์ จากเวปเพจ เฟสบุค สั่งซื้อสินค้าที่ต้องการ ซึ่งมีบริการนำ�ส่ง ถึงประตูบ้าน ล้วนสร้างความสะดวกสบายให้กับผู้ บริโภคมากขึน้ ทำ�ให้ตลาดเสือ้ ผ้าแฟชัน่ บนห้างสรรพ สินค้าเปลีย่ นไปจากรูปแบบทีเ่ คยเป็นมา และเชือ่ ว่าจะ ไม่กลับมาเหมือนเดิม ถ้าจะมองตลาดล่าง ยังมีตลาด นัดตลาดเปิดท้ายในชุมชนทุกสัปดาห์ และยังมีถนน คนเดิน ล้วนเป็นมาเก็ตแชร์ที่สำ�คัญของห้างสรรพ สินค้าท้องถิน่ ทีส่ ร้างผลกระทบอย่างมากทีส่ ดุ ในช่วง เศรษฐกิจชะลอตัวยาวนาน คุณณัชกานต์ กล่าวต่อว่า ในความเป็น “แฟ รี่ พลาซ่า” ซึ่งถือเป็นห้างสรรพสินค้าท้องถิ่นที่อยู่ คู่เมืองขอนแก่นมานานกว่า 50 ปี และด้วยความคุ้น เคยห้างแฟรี่มาตั้งแต่เด็กจนถึงปัจจุบัน ทำ�ให้มีความ ผูกพันกับการเป็นห้างสรรพสินค้าซึ่งผ่านมาหลาย ยุค หลายสมัย มาถึงวันที่เข้าสู่โลกไร้พรมแดน การ เข้าถึงผลิตภัณฑ์สินค้า การสื่อสาร เปลี่ยนไปจากเดิม ในความเป็นห้างสรรพสินค้าเช่นเดียวกัน ถึงเวลาต้อง ปรับกลยุทธใหม่ โลกเปลีย่ น สังคมเปลีย่ น ห้างสรรพ สินค้าไม่ใช่สถานที่โชว์สินค้าหรือเสื้อผ้าแบร์นเพียง อย่างเดียว การจัดวางผังภายในห้างต้องปรับโฉมใหม่ ทัง้ หมด หากไม่มกี ารเปลีย่ นก็เปรียบเสมือนกำ�ลังถอย หลังไปเรือ่ ยๆ ไม่นานก็ตอ้ งปิดตัวอย่างบอบชํา ้ เพราะ
เปลี่ยน ดีมานต้องปรับให้สอดรับกับความต้องการ ของกลุ่มผู้บริโภคยุคดิจิทอล ถึงแม้ปจั จุบนั จะมีการเลือกซือ้ สินค้าผ่านสือ่ ออนไลน์ แต่ในสังคมความเป็นจริงทุกคนยังมีเพื่อน ยังมีความจำ�เป็นที่ต้องพบปะพูดคุยหรือมีงานเลี้ยง สังสรรค์กันบ้าง ดังนั้น สิ่งที่จะดึงดูดให้คนออกมา จากบ้านคืออาหาร ถ้าจะมองอาหารแบร์นดังอินเต อร์ฟู๊ต แน่นอนว่าห้างขนาดเล็กมีพื้นที่จำ�กัด ต้นทุน ไม่สงู มากนัก จึงไม่สามารถแข่งขันกับห้างขนาดใหญ่ ได้ การเลือกนำ�อาหารทีเ่ ข้ากับสังคมคนเมือง สามารถ ตอบโจทย์ความต้องการของผูบ้ ริโภคทุกกลุม่ ได้อย่าง ลงตัว เน้นความสะดวก ง่าย รวดเร็ว รสชาติอร่อย ถูกปาก สร้างบรรยากาศถูกใจ สถานที่นั่งหรูดูดีมี คลาส ที่สำ�คัญราคาถูก เชื่อว่าจะเป็นที่ต้องการของ คนทุกกลุ่ม จึงได้ความลงตัวที่ “ก๋วยเตี๋ยว Tomyum Jiggo (ต้มยำ�จิ๊กโก๋)” “Tomyum Jiggo” ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ�จิ๊กโก๋ เป็น อาหารนวัตกรรมรูปแบบใหม่ที่ต้องการให้ทุกคนที่ ได้ลองลิ้มชิมรสชาตินํ้าซุปที่คิดค้นจนได้ความอร่อย เป็นสูตรเฉพาะที่มีการปรับปรุง พัฒนารสชาติแบบ ชามต่อชามอย่างลงตัวจนไม่จำ�เป็นต้องใช้เครื่องปรุง ใดๆ ไม่ใช่แค่ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ�ทั่วไป ไม่ใช่สูตรโบราณ ไม่ใช่สูตรใหม่ แต่เป็นสูตรเฉพาะแบบจิ๋กโก๋ และใน โซนอาหารที่ปรับปรุงใหม่ยังได้เลือกอาหารญี่ปุ่น เพี่ อรองรับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ใน กลิ่นอายญี่ปุ่นแท้ พร้อมจิบกาแฟแบบซิวชิว ในมุม สงบกึ่งคาเฟ่ พร้อมปลั๊กสายไฟ และ Free Wifi ทำ�ให้ กลายเป็นอีกมุมหนึ่งของสถานที่นัดพบสังสรรค์ใน เมืองขอนแก่น คุณณัชกานต์ กล่าวตอนท้ายว่า แนวโน้ม ตลาดอาหารในเมืองขอนแก่น ซึง่ ผูป้ ระกอบการส่วน ใหญ่มักมองว่า อาหารเป็นสิ่งจำ�เป็น อย่างไรก็ขายได้ ทำ�ให้มรี า้ นอาหารเปิดใหม่เยอะมาก การแข่งขันจึงสูง ขึน้ เป็นเงาตามตัว แต่ในยุคปัจจุบนั ทำ�เลการเปิดร้าน ค้าขาย ไม่ใช่ปจั จัยหลักทีส่ �ำ คัญอีกต่อไป เมือ่ ผูบ้ ริโภค เสาะแสวงร้านอาหารที่มีการบอกต่อจากสื่อโซชียล
รพ.สต.นครราชสีมา ยกชั้นสู่ อสม.4.0 คว้า 6 รางวัลในการประกวดแอปฯ อสม.ออนไลน์ รพ.สต. นครราชสีมา 6 แห่ง ร่วมคว้ารางวัลดีเด่น ระดับประเทศ รางวัลดีเด่นระดับจังหวัด และรางวัล ชื่นชมในความมุ่งมั่นก้าวสู่อสม. 4.0 ในโครงการ “ประกวดการใช้งาน แอปพลิเคชัน อสม.ออนไลน์” ซึง่ กระทรวงดิจทิ ลั เพือ่ เศรษฐกิจและสังคม กระทรวง สาธารณสุขร่วมกันจัดขึ้น เพื่อส่งเสริมให้ รพ.สต. และอสม.นำ�เทคโนโลยีดิจิทัลไปบูรณาการในการ ทำ�งานสาธารณสุขชุมชนเพื่อสอดคล้องกับนโยบาย ภาครัฐที่ขับเคลื่อนประเทศก้าวสู่ไทยแลนด์ 4.0 อัน ส่งผลให้เกิดการยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีของคน ไทยอย่างยั่งยืน นพ.สุ วิ ท ย์ โรจนศั ก ดิ์ โ สธร นายแพทย์ สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า จากนโยบาย รัฐบาลในการขับเคลื่อนประเทศไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 ด้วยการนำ�เทคโนโลยีดจิ ทิ ลั เข้ามาเพิม่ ศักยภาพในทุก ภาคส่วนของประเทศ รวมถึงกระทรวงสาธารณสุข ที่สนับสนุนการนำ�เอาเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วย ในการทำ�งานสาธารณสุขโดย “แอปพลิเคชัน อสม. ออนไลน์” จากเอไอเอส ถือเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยี ดิจิทัลเพื่อสังคมที่จะเข้ามาช่วยส่งเสริมการทำ�งาน สาธารณสุขชมชุมชนได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ดีขอ แสดงความยินดีกับรพ.สต.ทั้ง 6 แห่ง รวมถึงอสม. ทุกท่าน ที่ได้รับรางวัลจากโครงการ ประกวดการ ใช้ ง านแอปพลิ เ คชั น อสม.ออนไลน์ ซึ่ ง แสดงให้ เห็นถึงศักยภาพของหน่วยบริการสุขภาพ รวมทั้ง อสม.ที่ถึงแม้จะอยู่ในจังหวัดและพื้นที่ห่างไกล ก็ สามารถใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วยในการทำ�งาน สาธารณสุขได้เป็นอย่างดี อันส่งผลดีต่อการดูแล สุขภาพประชาชนในชุมชน นายอุดมศักดิ์ โสมคำ� ผูช้ ว่ ยกรรมการผูอ้ �ำ นวย การ ส่วนงานปฏิบัติการภาค –ภาคตะวันออกเฉียง เหนือ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือเอไอ เอส กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นผู้ให้บริการ Digital Life Service Provider บริษัทฯจึงมุ่งมั่นในการนำ�เทคโนโ ลยีดจิ ทิ ลั เข้าไปช่วยขับเคลือ่ นประเทศ ภายใต้แนวคิด “Digital For Thais” ในการนำ�เทคโนโลยีดิจิทัล และ นวัตกรรมใหม่ๆไปส่งมอบให้กับลูกค้า และคนไทย
เพื่อเป็นเครื่องมือในการช่วยเพิ่มขีดความสามารถใน การทำ�งาน และส่งเสริมคุณภาพชีวติ ความเป็นอยูใ่ ห้ดี ขึน้ ใน 4 ด้าน ได้แก่ ด้านสาธารณสุข ด้านเกษตรกรรม ด้านการศึกษา และ Start Up และเพื่อร่วมสนับสนุ นภาครัฐในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของคนไทย ซึ่ง สอดคล้องกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาลใน การนำ�เทคโนโลยีดิจิทัลเข้าไปยกระดับรากฐานหลัก ของประเทศ โดยแกนหลักสำ�คัญอย่างหนึ่งในการพัฒนา ประเทศ คืองานสาธารณสุขเพราะการที่ประชาชน มีสุขภาพดีจะช่วยลดภาระ และงบประมาณของภาค รัฐในการดูแลสุขภาพของประชาชน ซึ่งช่วยพัฒนา คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน บุคลากรสำ�คัญที่จะ ขับเคลื่อนงานด้านสาธารณสุขชุมชน คือเจ้าหน้าที่ หน่วยบริการสุขภาพระดับปฐมภูมิ และอาสาสมัคร สาธารณสุขประจำ�หมู่บ้านทั่วประเทศ(อสม.) โดย เฉพาะอสม.ซึ่งเป็นจิตอาสาที่เสียสละเวลาช่วยเหลือ สังคม และทำ�งานด้วยใจอย่างแท้จริง ทำ�ให้ชาวบ้าน เข้าถึงการบริการสาธารณสุขชุมชนอย่างทั่วถึงเพื่อ ให้คนไทยมีสุขภาพดี “การจั ด โครงการประกวดการใช้ ง าน แอปฯ อสม.ออนไลน์ ถื อ เป็ น เพี ย งแค่ ส่ ว นหนึ่ ง ที่ AIS ต้องการเข้าไปช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตคน ไทยด้านสาธารณสุขให้ทวั่ ถึงและเท่าเทียมกัน เพือ่ ก่อ ให้เกิดประโยชน์ต่อระบบสุขภาพของประเทศอย่าง ยั่งยืน โดยเอไอเอสยังคงมุ่งมั่น และให้คำ�มั่นสัญญา ในการเดินหน้าสร้างนวัตกรรมดิจิทัลเพื่อสังคม และ บริการใหม่ๆเข้าไปยกระดับงานสาธารณสุข และทุก ภาคส่วนของประเทศต่อไป”
ขอนแก่น ติวเข้มข้าราชการปกครอง ขั บ เคลื่ อ นนโยบายไทยนิ ย มยั่ ง ยื น กว่าจะมาถึงวันนี้ “14 ปี ที่ผูกพันธ์”
เมื่ อ วั น ที่ 18 ก.พ. 61 ที่ ห้ อ งมงกุ ฎ เพชร ชั้ น 2 โรงแรมโฆษะ ต.ในเมื อ ง อ.เมือง จ.ขอนแก่น นายสม ศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น เป็ น ประธานการประชุ ม ขั บ เคลื่ อ นนโยบายไทยนิ ย ม ยั่ ง ยื น และการแก้ ไ ขปั ญ หา ยาเสพติด แก่ข้าราชการฝ่าย ปกครองจั ง หวั ด ขอนแก่ น ประจำ � ปี ง บประมาณ 2561 โดยการดำ�เนินงานของ นายอลงกต วรกี ปลัดจังหวัด ขอนแก่น และมีผู้เข้ารับการอบรม ประกอบด้วย นายอำ�เภอ ปลัดอำ�เภอ เสมียนตราอำ�เภอ พนักงาน ราชการ ลู ก จ้ า ง สั ง กั ด ที่ ทำ � การปกครองจั ง หวั ด ขอนแก่นทุกกลุ่มงาน และที่ทำ�การปกครองอำ�เภอ ทุกอำ�เภอ รวมทั้งสิ้น 514 คน นายสมศักดิ์ ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า ด้วย รัฐบาลมีนโยบายสำ�คัญๆหลายประการลงในพื้นที่ และต้องการให้มีการสร้างการรับรู้แก่ประชาชนใน ด้านต่างๆ ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และความ มั่นคง โดยใช้ทีมขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศตาม โครงการไทยนิยมยั่งยืน ระดับตำ�บลเป็นแกนหลัก และคณะรัฐมนตรีได้มมี ติเมือ่ วันที่ 16 ม.ค. 2561 เห็น ชอบในหลักการตามทีน่ ายกรัฐมนตรีเสนอ โดยมอบ หมายให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลัก ในการขับเคลื่อน ร่วมกับส่วนราชการ และหน่วย งานที่เกี่ยวข้อง บูรณาการขับเคลื่อนการทำ�งานใน ระดับพื้นที่ตามแนวทางประชารัฐ โดยให้ทุกส่วน ราชการ หน่วยงายนที่มีหรือจะมีโครงการ/กิจกรรม ที่จะดำ�เนินการในระดับตำ�บล หมู่บ้าน ให้ใช้ ทีม ขับเคลือ่ นการพัฒนาประเทศตามโครงการไทยนิยม ยั่งยืนระดับตำ�บลเป็นแกนหลัก รวมทั้ง สนับสนุน กลไกการขับเคลื่อนในพื้นที่ทุกระดับ ตั้งแต่ระดับ จังหวัด อำ�เภอ ตำ�บล และหมูบ่ า้ น ประกอบกับนายก รัฐมนตรีได้ลงนามคำ�สั่งสำ�นักนายกรัฐมนตรี ที่ 21/ 2561 ลงวันที่ 23 ม.ค. 2561 แต่งตั้งคณะกรรมการ ขับเคลือ่ นการพัฒนาประเทศ ตามโครงการไทยนิยม ยั่งยืน ในระดับต่างๆ เพื่อขับเคลื่อนการดำ�เนินการ ตามโครงการไทยนิยม ยั่งยืน ของรัฐบาล
ผวจ.ขอนแก่น กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการ ประชุมขับเคลื่อนนโยบายไทยนิยมยั่งยืน และการ แก้ไขปัญหายาเสพติดของข้าราชการฝ่ายปกครอง จ.ขอนแก่น ประจำ�ปี 2561 เป็นโครงการสำ�คัญที่ รั ฐ บาลมุ่ ง พั ฒ นาคุ ณ ภาพชี วิ ต ของคนและชุ ม ชน อย่างเป็นรูปธรรมและได้มอบหมายให้กระทรวง มหาดไทย ส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบู รณาการการขับเคลื่อนการทำ�งานในระดับพื้นที่ให้ สัมฤทธิผ์ ลตามวัตถุประสงค์ รวมถึงการแก้ไขปัญหา ยาเสพติดในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เน้นการ บังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดและจัดการปัญหาอื่นๆ ที่เชื่อมโยงต่อเนื่องให้เบ็ดเสร็จ “ขณะนี้ ท างจั ง หวั ด ขอนแก่ น ได้ ใ ช้ ก าร ประชาสั ม พั น ธ์ น โยบายไทยนิ ย มยั่ ง ยื น โดยการ แต่ ง เนื้ อ เพลงเข้ า กั บ ดนตรี พื้ น บ้ า น เพื่ อ เป็ น การ ประชาสัมพันธ์โครงการฯ เพราะจะสามารถสร้าง ความเข้ า ใจให้ กั บ ประชาชนในพื้ น ที่ ไ ด้ อ ย่ า งง่ า ย กว่ า การอบรม ขณะนี้ ได้ มี ก ารเผยแพร่ เ พลงไป แล้ว พร้อมตั้งคณะทำ�งานดูแลตำ�บลต่างๆ รับผิด ชอบประมาณ 7 ถึง 12 คน เพื่อลง พื้นที่ทำ�งาน ไปประชาสัมพันธ์ 10 เรื่อง ประกอบด้วย สัญญา ประชาคม ผูกใจไทยเป็นหนึ่ง, คนไทยไม่ทิ้งกัน, ชุ ม ชนอยู่ ดี มี สุ ข , วิ ถี ไ ทย วิ ถี พ อเพี ย ง, รู้ สิ ท ธิ รู้ หน้าที่ รู้กฎหมาย, รู้กลไกการบริหารราชการ, รู้รัก ประชาธิปไตย ไทยนิยม, รูเ้ ท่าทันเทคโนโลยี, ร่วมแก้ ปัญหายาเสพติด และงานตามภารกิจของทุกหน่วย ก่อนทีจ่ ะเริม่ คิก๊ ออฟ นโยบายไทยยัง่ ยืนพร้อมกันใน วันที่ 21 กุมพาพันธุ์นี้” ผวจ.ขอนแก่น กล่าว
เมื่อปี 2540 ผมได้รับคำ�สั่ง ให้เดินทาง มาปฏิ บั ติ ห น้ า ที่ “หั ว หน้ า สถานี วิ ท ยุ วปถ.12 ขอนแก่น” ซึง่ ในขณะนัน้ สถานีวทิ ยุกระจายเสียง ในพืน้ ทีจ่ งั หวัดขอนแก่น มีเพียง 15 สถานี ต่อมาได้ รับโอกาสจากผูบ้ งั คับบัญชาให้ท�ำ หน้าที่ “หัวหน้า ศูนย์ข่าว ททบ.5 ภาคอีสาน” อีกตำ�แหน่งหนึ่ง ในช่วงแรกๆ ที่มาอยู่ขอนแก่นนั้น ผม เองต้องมาปรับปรุงสถานีวิทยุ วปถ.12 ขอนแก่น หลายๆ ด้าน โดยเฉพาะระบบกระจายเสียง ก็ต้อง ยอมรับว่าล้าสมัยมาก รวมทัง้ ปรับปรุงด้านอาคาร สถานที่ ตลอดจนทิวทัศน์ต่างๆ เพื่อให้น่าอยู่ น่า มอง ซึง่ ถือเป็นความโชคดีทไี่ ด้รบั ความอนุเคราะห์ และความร่วมมือเป็นอย่างดี จากเจ้าหน้าทีท่ กุ ท่าน รวมทัง้ นักจัดรายการอาวุโสทีเ่ ข้าไปดำ�เนินรายการ ที่สถานี ในปี 2543 มีการเลือกตั้ง “นายกสมาคม สื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น” ในครั้งนั้นมีผู้ลง สมัคร 2 ท่าน คือ พีถ่ าวร บุตรชาดา และ พีย่ อดดวง วงศ์พนารักษ์ ผมได้เข้าไปใช้สิทธิในฐานะสมาชิก กว่าจะลงคะแนนได้กด็ เุ ดือดสนุกสนาน ดูรนุ่ ใหญ่ เล่นกัน สุดท้ายได้ “พีย่ อด” เป็นนายกฯ คนที่ 2 ต่อ จาก “พี่ถาวร” เมื่ อ “พี่ ย อด” เป็ น นายกฯ ผมได้ รั บ โอกาสให้ทำ�หน้าที่ “เลขาธิการ” ต่อมา “พี่เปี๊ยก” “สมชาย ศรีม่วงงาม” ขึ้นเป็นนายกฯ ผมยังได้รับ ความไว้วางใจให้ท�ำ หน้าที่ “เลขาธิการ” ต่อ จนใกล้ หมดสมัย ผมได้รับคำ�สั่งย้าย ให้ไปเป็น หัวหน้า สถานีวิทยุ วปถ.7 อุดรธานี ครบวาระเลือกตั้ง ใหม่ได้ “พี่เล็ก” “ประสิทธิพร จารีย์” ทำ�หน้าที่ นายกฯ อยู่ 2 สมัย เป็นห้วงเวลา 4 ปี ที่ผมว่างเว้น จากสมาคมฯ ไป ประกอบกับในเวลานัน้ ผมจดหัว หนังสือพิมพ์ “ไทยเสรี” จึงไม่ได้เข้าร่วมกิจกรรม กับสมาคมฯ ปี 2553 ผมย้ายกลับมาเป็น “นายทหาร ฝ่ายการสื่อสาร มทบ.23” ในการเลือกตั้งครั้งนั้น
ซึ่งก็มีสมาชิกหลายท่านลงสมัครแข่งขัน สุดท้าย ที่ประชุมเลือก “ชาติชาย ชาธรรมา” เป็นนายกฯ คนที่ 5 ผมก็ได้รับเชิญเข้าทำ�หน้าที่ “อุปนายกฯ” เมื่อครบวาระคราวนี้ผลัดใบจากสื่อวิทยุ มาเป็น สื่ อ หนั ง สื อ พิ ม พ์ “สุ ว รรณ ไตรมาลั ย ” เข้ า มา เป็นนายกฯต่อ ครั้งนี้เป็นการกลับมาทำ�หน้าที่ “เลขาธิการ” ของผมอีกครั้ง ทำ�ให้ได้สร้างสม ประสบการณ์ และก้าวต่อมาในปี 2557 ผมได้รับ เลือกให้ทำ�หน้าที่ “นายกสมาคมฯ” ต่อเนื่อง 2 สมัย ล่าสุด เมื่อวันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้มีการ ประชุมใหญ่สามัญประจำ�ปี 2561 และเลือกตั้งนา ยกฯ เพราะครบวาระ ผมเองได้พูดในหลายๆ แห่ง รวมทั้งพูดผ่านรายการมองอีสานผ่าน NBT ว่าไม่ ขอรับตำ�แหน่งใดๆ และขอยุติบทบาทในสมาคม สื่อฯ ขอนแก่น เนื่องจากต้องไปทำ�หน้าที่ “นายก สมาคมเครือข่าย นสพ. วิทยุ และสือ่ ออนไลน์ ภาค อีสาน” ซึ่งเป็นสมาคมฯ ที่ก่อตั้งใหม่ เพื่อรองรับ พ.ร.บ.ควบคุมสื่อฯ ที่จะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้ ในที่ประชุมมีการเสนอชื่อสมาชิก เพื่อ รับเลือกตั้งเป็นนายก รวม 3 คน คือ 1.ชาติชาย ชา ธรรมา 2.ชาลี พงษ์นุ่มกุล 3.วินิจ พิทักษวรรณ แต่ 2 คนได้ขอถอนตัว จึงเหลือเพียง “ชาติชาย ชาธร รมา” เพียงคนเดียว และเมือ่ ทีป่ ระชุมยกมือรับรอง ก็ถือว่าครบถ้วนตามกระบวนการได้มาซึ่งนายกฯ โดยไม่มีการลงคะแนนเลือกตั้งแต่อย่างใด ตลอดระยะเวลา 14 ปี ที่ผมได้เข้ามามี ส่วนร่วมในการทำ�งาน ในฐานะ 1 ในคณะกรรม การบริหารฯ ขอขอบคุณอดีตนายกฯ ทุกท่านที่ ให้เกียรติ และไว้วางใจให้ผมได้ทำ�หน้าที่ ขอบคุณ พีน่ อ้ งสมาชิกทุกท่าน ทีไ่ ด้ให้ความร่วมมือ ร่วมใน กิจกรรมต่างๆ ที่สมาคม เป็นผู้จัด และสุดท้ายขอ ขอบคุณ คณะกรรมการบริหารทุกท่านที่ได้เข้ามา ช่วยผมทำ�งาน ตลอดระยะเวลา 4 ปี ทีผ่ มทำ�หน้าที่ “นายกฯ” ขอขอบพระคุณครับ ....
สนองนโยบายรั ฐ อุ ด รฯ เดิ น หน้ า เปิ ด เทสโก้ โลตัส จุดกระแส “ตรุษจีน กินหมด งด ตลาดชุ ม ชนประชารั ฐ ต้ อ งชมแห่ ง ที่ 3 ของเหลือ”จับมือมูลนิธปิ อ่ เต็กตึง๊ และภาครัฐ รณรงค์ ง ดการทิ้ ง อาหารดี ช่ ว งเทศกาล เทสโก้ โลตัส เดินหน้ารณรงค์ลดปริมาณ ขยะจากอาหารอย่างต่อเนื่อง จุดกระแสลดขยะ อาหาร (food waste) ช่วงเทศกาล “ตรุษจีน กิน หมด งดของเหลือ” จับมือมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง กรม ควบคุ ม มลพิ ษ และเขตป้ อ มปราบศั ต รู พ่ า ย กระจายความรู้ ชูการบริโภคแบบไม่เหลือทิ้งใน ช่วงเทศกาลและเตรียมตั้งโรงทานผัดหมี่ซั่ว 8 มงคล ปรุงจากผักและส่วนผสมมงคล 8 ชนิด ทีม่ า จากการบริจาคของเทสโก้ โลตัส นางสาวสลิลลา สีหพันธุ์ รองประธาน กรรมการฝ่ายกิจการบรรษัท เทสโก้ โลตัส กล่าว ว่ า “เทสโก้ โลตั ส จำ � หน่ า ยอาหารสดคุ ณ ภาพ สูงในราคาที่เอื้อมถึงได้ให้กับลูกค้าในทุกๆ วัน สำ � หรั บ เทศกาลตรุ ษ จี น ในปี นี้ เราก็ ไ ด้ คั ด สรร สินค้าคุณภาพดีมาไว้บริการลูกค้าเพือ่ ความเป็นสิริ มงคล ซึ่งในฐานะที่เทสโก้ โลตัส จำ�หน่ายอาหาร ในปริมาณมาก เราตระหนักถึงบทบาทในการผลัก ดันการลดปริมาณขยะจากอาหารซึง่ มาจากการทิง้ อาหารที่ยังรับประทานได้ ที่ผ่านมา เทสโก้ โลตัส ได้ประกาศเจตนารมณ์บริจาคอาหารที่จำ�หน่ายไม่ หมดแต่ยังคุณภาพดีจากไฮเปอร์มาร์เก็ตทุกสาขา ในกรุ ง เทพมหานครและปริ ม ณฑล โดยตั้ ง แต่ ปี พ.ศ. 2560 ได้บริจาคอาหารไปแล้วทั้งสิ้นกว่า 1,100,000 มื้อให้กับมูลนิธิและผู้ยากไร้” “ในช่ ว งเทศกาลตรุ ษ จี น อั น เป็ น มงคล สำ�หรับพี่น้องประชาชนชาวไทยเชื้อสายจีน จะ มีการจับจ่ายโดยเฉพาะสินค้าประเภทอาหารสด ในปริมาณที่มากกว่าปกติ ซึ่งก็เป็นที่มาของการมี อาหารเหลือทิง้ มากกว่าปกติเช่นกัน ศูนย์พยากรณ์ เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ประเมิ น การจั บ จ่ า ยใช้ ส อยของผู้ บ ริ โ ภคช่ ว ง เทศกาลตรุษจีนปี 2561 จะมีเม็ดเงินสะพัดเกือบ 5.5 หมืน่ ล้านบาท สูงสุดในรอบ 10 ปี เทสโก้ โลตัส เองก็มีการเพิ่มปริมาณอาหารสดถึงเกือบ 50% มากกว่าในช่วงเวลาปกติเพื่อให้มีอาหารจำ�หน่าย เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าในช่วงตรุษจีน วันนีเ้ ราได้รว่ มมือกับมูลนิธปิ อ่ เต็กตึง๊ กรมควบคุม มลพิษ และเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ในการจัดงาน ‘ตรุษจีน กินหมด งดของเหลือ’ เพื่อรณรงค์ให้ ประชาชนตระหนักถึงปัญหาการทิ้งอาหารและ สามารถมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาด้วยการรับ ประทานอาหารอย่างคุม้ ค่าในช่วงเทศกาลตรุษจีน ที่กำ�ลังจะมาถึง” “การรณรงค์ ล ดการสู ญ เสี ย อาหาร สอดคล้องกับนโยบายประเทศไทยไร้ขยะของภาค รัฐ ถึงแม้ปัจจุบันจะยังไม่มีการวัดตัวเลขปริมาณ ขยะจากอาหารอย่างเป็นทางการ แต่ปริมาณของ ขยะมูลฝอยในประเทศไทยก็สะท้อนให้เห็นว่า
ขยะจากอาหารเป็นปัญหาที่จำ�เป็นต้องได้รับการ แก้ไขอย่างเร่งด่วน ในช่วงเทศกาลไม่ว่าจะเป็นปี ใหม่ สงกรานต์ หรือตรุษจีน ลูกค้าและประชาชน มีการบริโภคมากกว่าปกติ แต่ทผี่ า่ นมายังไม่มกี าร รณรงค์การไม่ท้ิงอาหารในช่วงเทศกาล ในขณะ ที่ ใ นต่ า งประเทศมี ค วามตื่ น ตั ว ในเรื่ อ งนี้ อ ย่ า ง จริงจัง เช่น ในประเทศสิงคโปร์มีการเก็บตัวเลข การทิ้งอาหารในช่วงตรุษจีน พบว่ามีปริมาณขยะ จากอาหารเพิ่มขึ้น 20% ส่วนประเทศจีน พบ ว่า 70% ของปริมาณขยะทั้งหมดในประเทศเป็น ขยะอาหาร ถ้าแยกเฉพาะครัวเรือนพบว่าเป็นขยะ อาหาร 61%” สำ�หรับประเทศไทย ปีพ.ศ. 2559 กรม ควบคุมมลพิษพบว่ามีขยะเกิดขึ้นกว่า 27 ล้านตัน ต่อวัน จำ�นวนนี้ส่วนใหญ่เป็นขยะอินทรีย์ที่เกิด จากอุตสาหกรรมอาหารและการกินเหลือทิ้งมาก ที่สุด ขณะที่กรุงเทพมหานครได้ชื่อว่าเป็น 1 ใน 5 จังหวัดที่มีขยะมูลฝอยเกิดขึ้นต่อวันมากที่สุด นอกจากกิจกรรมเปิดตัวโครงการตรุษจีน กินหมด งดของเหลือ แล้ว ในวันเสาร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ เท สโก้ โลตัสจะร่วมกับหน่วยงานต่างๆ เดินรณรงค์ ประชาสัมพันธ์ทวั่ ถนนเยาวราชในวันเพือ่ กระตุน้ ให้ประชาชนตระหนักถึงปัญหาของการทิง้ อาหาร ที่ยังรับประทานได้ ในโอกาสนี้ เทสโก้ โลตัส ยังได้มอบซอส ปรุงรสตราเทสโก้ จำ�นวนทั้งหมด 888 ขวด ให้ กับมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เพื่อใช้ในการปรุงผัดหมี่ซั่ว 8 มงคลในโรงทานของมูลนิธิสำ�หรับแจกจ่ายให้ กับประชาชนทีม่ าทำ�บุญ รวมถึงผูย้ ากไร้ในชุมชน รอบข้างอีกด้วย นางสาวสลิลลา กล่าวว่า “ความสำ�เร็จ อย่างยั่งยืนของการลดปริมาณขยะจากอาหารนั้น จำ�เป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนใน สังคม ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน และภาค ประชาชนเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเทศกาล หากทุกคนให้ความสำ�คัญกับปัญหาที่ไม่ได้รับ การพูดถึงนี้ รวมถึงร่วมมือร่วมใจกันปรับเปลี่ยน พฤติกรรมการบริโภคในช่วงเทศกาลตรุษจีนนี้ ก็ จะสามารถช่วยลดปริมาณขยะจากอาหารได้”
พาณิ ช ย์ อุ ด รธานี รุกสนองนโยบาลรัฐ เปิด ตลาดชุมชนประชารัฐต้อง ชม แห่ ง ที่ 3 ให้ เ กิ ด การ เชื่อมโยงการท่องเที่ยวของ ท้องถิ่น พร้อมวางแผนจัด ตั้งในพื้นที่อื่น เพื่อพัฒนา เศรษฐกิจภูมิภาค นายประเสริฐ ฝ่าย ชาวนา พาณิ ช ย์ จั ง หวั ด อุ ด รธานี เปิ ด เผย ว่ า สำ � นั ก งานพาณิ ช ย์ จั ง หวั ด อุ ด รธานี ได้ รั บ การจั ด สรรงบประมาณโครงการส่ ง เสริ ม ตลาดกลาง-ตลาดชุ ม ชนประชารั ฐ เพื่ อ พั ฒ นา เศรษฐกิ จ ภู มิ ภ าค หรื อ LOCAL Economy Market จากกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ให้ ดำ � เนิ น การปรั บ ปรุ ง ตลาดชุ ม ชนประชา รั ฐ ประชาสั ม พั น ธ์ ส ร้ า งการรั บ รู้ ผ่ า นสื่ อ ประชาสัมพันธ์ตา่ งๆ เชือ่ มโยงตลาดชุมชนประชา รัฐกับการท่องเทีย่ ว วัฒนธรรมท้องถิน่ สร้างความ สมดุล ความเข้มแข็งอย่างยัง่ ยืน ตามแนวเศรษฐกิจ พอเพียง ทั้งนี้ในปีงบประมาณ 2561 นี้ ได้ทำ�การ ปรับปรุงตลาดชุมชนเมืองใหม่ ซึ่งเคยเป็นตลาด จำ�หน่ายปลา ที่ชุมชนมีการพัฒนาตัวเองให้เป็น ตลาดที่ มี เ อกลั ก ษณ์ แ ละศั ก ยภาพ เพราะตั้ ง อยู่ ติดกับอ่างนํ้าพาน ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชน ที่สำ�คัญ และมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาพักผ่อน เป็ น จำ � นวนมาก ให้ เ ป็ น ตลาดชุ ม ชนประชารั ฐ ต้ อ งชม แห่ ง ที่ 3 ของจั ง หวั ด ที่ ต.สร้ า งคอม อ.สร้ า งคอม จ.อุ ด รธานี โดยมี นายสมศั ก ดิ์ เกียรติชัยลักษณ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานพิธีเปิดตลาด นายประเสริฐฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการ ส่งเสริมตลาดกลาง-ตลาดชุมชนประชารัฐ ในพืน้ ที่ จังหวัดอุดรธานี มีการเปิดตลาดชุมชนประชารัฐ ต้องชมแล้ว 2 แห่งคือ โครงการฯดำ�เนินการสร้าง ปรับปรุงเมื่อปีงบประมาณ 2559 ได้เปิดตลาด ชุมชนประชารัฐต้องชมแห่งแรกที่ ตลาดปลาสิน เจริญ ต.เตาไห อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี ซึ่งตั้งอยู่ติด กับลำ�ห้วยหลวง เป็นตลาดชุมชนและแหล่งท่อง เทีย่ วทีม่ ศี กั ยภาพและเป็นอัตลักษณ์ ปีงบประมาณ 2560 เปิดตลาดชุมชนประชารัฐต้องชม บ้านเชียง
ต.บ้านเชียง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี ซึง่ เป็นตลาด ประชารัฐต้องชม ด้านวัฒนธรรมแห่งแรกของ จังหวัด เนื่องจากบ้านเชียง เป็นแหล่งโบราณคดีที่ มีอายุนานกว่า 5600 ปี และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ มีชื่อเสียงทั้งในประเทศและทั่วโลก ซึ่งการเปิดตลาดชุมชนประชารัฐต้องชม ในพื้นที่จังหวัดอุดรธานีนั้น ล้วนแต่เป็นสถาน ที่ที่มีศักยภาพ มีเอกลักษณ์ อัตลักษณ์ที่โดดเด่น สามารถเชื่อมโยง ไปยังด้านการค้า การสร้างราย ได้ให้กับท้องถิ่นชุมชน และที่สำ�คัญยังสามารถ ที่ ทำ � การพั ฒ นาชุ ม ชนประชารั ฐ ต้ อ งชม ที่ เ ปิ ด ไปแล้ว ให้ครบวงจร เช่นการติดตามประเมินผล การเสริมองค์ความรู้การเชื่อมโยง เพิ่มช่องทางใน การดำ�เนินการตลาดชุมชนประชารัฐต้องชมให้มี ศักยภาพเพิ่มมากขึ้น โดยสำ�นักงานพาณิชย์ได้มี การสำ�รวจพื้นที่เพื่อจัดตั้งตลาดฯแห่งใหม่เพิ่มขึ้น อีกหลายแห่ง นายสมศั ก ดิ์ เกี ย รติ ชั ย ลั ก ษณ์ ผู้ ต รวจ ราชการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การเปิดตลาด ชุมชมประชารัฐต้องชมนี้ เป็นนโยบายของรัฐบาล เพื่อเป็นการเสริมสร้างรายได้ให้กับเศรษฐกิจท้อง ถิ่ น ตลาดชุ ม ชนทุ ก แห่ ง ทั้ ง ประเทศคื อ แหล่ ง สร้ า งรายได้ ใ ห้ กั บ ประชาชนท้ อ งถิ่ น ซึ่ ง เป็ น วัตถุประสงค์ที่สำ�คัญ โดยกระทรวงพาณิชย์ ให้ ความร่วมมือของกระทรวงมหาดไทย ทำ�หน้าที่ ดูแลตลาดชุมชนและตลาดชุมชนประชารัฐต้องชม สำ�หรับสถานที่จัดตั้งตลาดชุมชนประชา รัฐต้องชม ทุกแห่งมีศักยภาพที่สามารถเชื่อมโยง กับแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ท้องถิ่น ในส่วนของ จังหวัดอุดรธานี ก็จะมีการพัฒนาและจัดหาพื้นที่ สำ�หรับการจัดตั้งตลาดชุมชนประชารัฐต้องชม แห่ง อื่นๆ ตามโครงการเพิ่มอีก
เตรีย มพร้ อมรั บมื อภั ย แล้ง ; นายสมศักดิ์ จัง ตระกุล ผวจ.ขอนแก่น พล.ต.กาจบดิ น ทร์ ยิ่ ง ดอน รอง ผอ.กอ.รมน. ขอนแก่น พร้อมหน่วย งานที่ เ กี่ ย วข้ อ ง ลงพื้ น ที่ อ่ า งเก็ บ นํ้ า ห้ ว ยเสี ย ว บ้านเสียว อ.นํา้ พอง เพือ่ หาแนวทางเตรียมความ พร้อมหากเกิดปัญหาภัยแล้ง โดยมี นายอำ�เภอนาํ้ พอง พร้อมหน่วยงานทีเ่ กีย่ วข้องร่วมให้ขอ้ มูล ณ อ่าง เก็บนํ้าห้วยเสียว อ.นํ้าพอง จ.ขอนแก่น
หน้า 3
ปีที่ 15 ฉบับที่ 165 ประจำ�เดือนกุมภาพันธ์ 2561
องค์กรสื่อมวลชนภาคอีสาน ประสานมือจัดเสวนา “รู้ทันสื่อโฆษณา” ก ร ะ แ ส ต อ บ รั บ เ กิ น ค า ด ส.เครื อ ข่ า ยหนั ง สื อ พิ ม พ์ วิ ท ยุ และสื่ อ ออนไลน์ ภาคอีสาน ร่วมกับ ส.สื่อฯขอนแก่น, ส.นั ก จั ด รายการวิ ท ยุ อุ ด รธานี , ส.วิ ท ยุ แ ละ สื่อมวลชน ร้อยเอ็ด และชมรมฯวิทยุกระจายเสียง ขอนแก่น จัดเสวนา “รูท้ นั สือ่ โฆษณา” โดยวิทยากร ผูท้ รงคุณวุฒิ และประสบการณ์ จากหน่วยงาน และ องค์กร ที่เกี่ยวข้องโดยตรง เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2561 ที่ห้องมงกุฎ เพชร โรงแรมโฆษะ จ.ขอนแก่น นายสมศักดิ์ จัง ตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธาน เปิดตัวสมาคมเครือข่ายหนังสือพิมพ์ วิทยุ และ สื่อออนไลน์ ภาคอีสาน และเปิดการเสวนาเรื่อง “รูท้ นั สือ่ โฆษณา”ภายใต้สอื่ เป็นโรงเรียนของสังคม ตามโครงการพั ฒ นาศั ก ยภาพสื่ อ ท้ อ งถิ่ น โดยมี รศ.ดร.ศุภวัฒนากร วงศ์ธนวสุ คณบดีวิทยาลัยการ ปกครองท้องถิ่น มข., พ.อ.สุจิรชัย มหาธรรม รอง เสธ.มทบ.23,นายอนันต์ นิลมานนท์ นายกสมาคม หนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย (สภท. ๔๙ปี), นายเจริญ ถิ่นเกาะแก้ว นายกสมาคมผู้ ประกอบวิชาชีพวิทยุท้องถิ่นไทย (วทท.), นายไชย ยงค์ มณีรุ่งสกุล นายกสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้ แห่งประเทศไทย,นายภูวสิษฐ์ สุขใส กรรมการสภา การหนังสือพิมพ์แห่งชาติ) ผู้นำ�องค์กรสื่อมวลชน ทั่วประเทศไทย, สื่อมวลชนภาคอีสาน, นักศึกษา และประชาชนผู้สนใจ ประมาณ 250 คน เข้าร่วม ฟังการเสวนา การเสวนาจั ด ระหว่ า งวั น ที่ 20 – 21 กุมภาพันธ์ 2561 รวม 2 วัน โดยในวันที่ 20 ก.พ.61 มีการบรรยายพิเศษเรื่อง “นวัตกรรมการเงินดิจิทัล แบงกิง้ (Digital Banking) สังคมไร้เงินสด” โดย คุณ สุรศักดิ์ เยี่ยมสูงเนิน ผู้จัดการเขตการบริการและ การขาย 71 ธนาคารกสิกรไทย และคุณเชอรี่ เตียว รองผู้อำ�นายการฝ่าย ผู้เชี่ยวชาญสนับสนุนกลยุทธ์ การชำ � ระเงิ น และธุ ร กิ จ อิ เ ล็ ก ทรอนิ ก ส์ อ าวุ โ ส, เรื่อง “ความมั่นคงระบบไฟฟ้า ภายใต้นวัตกรรม
เทคโนโลยี (Disruptive technologies)” โดย คุณ สหชาติ พิลาออน วิศวกรระดับ 11 ฝ่ายปฏิบัติการ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กฟผ. และ การเสวนา หัวข้อ “รู้ทันสื่อในยุค 4.0” ให้สื่อเป็นโรงเรียนของ สังคม โดย คุณดนัย หวังบุญชัย ผู้จัดการแผนงาน สือ่ ศิลปวัฒนธรรมสร้างเสริมสุขภาพ สสส., อาจารย์ จำ�รัส จันทนาวิวัฒน์ นักวิชาการ, รศ.ดร.เกศินี จุฑา วิจิตร อาจารย์ประจำ�มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม และ ผศ.ดร.ทรงวิทย์ พิมพะกรรณ์ อาจารย์ประจำ� มหาวิทยาลัยขอนแก่น ส่วนในวันที่ 21 ก.พ.61 มีการบรรบายพิเศษ เรื่อง การดำ�เนินงานความรับผิดชอบต่อสังคม ของ ปตท. : โครงการพัฒนาพลังงานชุมชน โดย คุณ วิสูตร์ ยังพลขันธ์ พนักงานกิจการเพื่อสังคม ฝ่าย กิจการเพื่อสังคม บริษัท ปตท. จำ�กัด (มหาชน) และการเสวนาหัวข้อ “รู้ทันสื่อโฆษณาเกินความ จริง” โดย ดร.ตรี บุญเจือ ผู้อำ�นวยการส่วนไกล่ เกลี่ ย ข้ อ พิ พ าทและเลขานุ ก ารคณะอนุ ก รรมการ สำ�นักคุ้มครอง ผู้บริโภคในกิจการกระจายเสียงและ โทรทัศน์ สำ�นักงาน กสทช., คุณอัชญา บุญสุวรรณ นักสืบสวนสอบสวนชำ�นาญการพิเศษ กองคุม้ ครอง ผู้บริโภคด้านโฆษณา สคบ., คุณธนากร จงอักษร นิติกรชำ�นาญการพิเศษ กลุ่มกฎหมายอาหารและ ยา สำ�นักงานคณะกรรมการ อาหารและยา (อย.), คุณธาราวุฒิ สืบเชื้อ อุปนายกฝ่ายประสานงานภาค รัฐ และที่ปรึกษาฝ่ายกฏหมาย สมาคมโฆษณาแห่ง ประเทศไทย, คุณเจริญ ถิ่นเกาะแก้ว นายกสมาคม ผู้ประกอบวิชาชีพวิทยุท้องถิ่นไทย (วทท.) ดำ�เนิน รายการโดย ดร.มนัส ตั้งสุข ผู้ประกาศข่าว สถานี โทรทัศน์พีพีทีวี พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคมเครือ ข่ายหนังสือพิมพ์ วิทยุ และสื่อออนไลน์ ภาคอีสาน กล่าวว่า ปัจจุบัน การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ เชื่อค่า นิยมทีส่ ง่ ผ่านสือ่ ทำ�ให้โฆษณามาเป็นส่วนหนึง่ ของ ชีวิตประจำ�วัน จนคนรู้สึกเคยชิน ยิ่งในท้องตลาดมี
การเเข่งขันสูง ผู้ผลิตเเละผู้ประกอบการจึงต้องใช้ การโฆษณาเป็นเครื่องมือในการจูงใจ และกระตุ้น ความต้องการสินค้าเเละบริการของผู้บริโภค ผู้ผลิต เเละผู้ประกอบการบางรายขาดความรับผิดชอบต่อ สังคม ผลิตสินค้าทีไ่ ม่ได้มาตรฐานเเละใช้การโฆษณา อวดอ้างสรรพคุณเกินจริง หรือโฆษณาหลอกลวง เพื่อหวังผลทางธุรกิจ หากผู้บริโภคไม่รู้เท่าทันก็จะ ตกเป็นเหยื่อ ซื้อสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานมาใช้เพราะ หลงเชื่อในคำ�โฆษณา ทำ�ให้อาจได้รับอันตรายจาก การบริ โ ภคสิ น ค้ า นั้ น การรู้ เ ท่ า ทั น สื่ อ จึ ง มี ค วาม สำ�คัญที่จะทำ�ให้ผู้บริโภคสามารถวิเคราะห์ และ วินจิ ฉัยได้วา่ ควรเชือ่ ตามข้อความในสือ่ โฆษณาหรือ ไม่ ซึ่งจะช่วยป้องกันผู้บริโภคไม่ให้ได้รับความเสีย หาย หรืออันตรายอันเนื่องมาจากการบริโภค สมาคมเครือข่ายหนังสือพิมพ์ วิทยุ และสื่อ ออนไลน์ ภาคอีสาน จึงได้รว่ มกับ สมาคมสือ่ มวลชน จังหวัดขอนแก่น, สมาคมนักจัดรายการวิทยุจังหวัด อุดรธานี, สมาคมวิทยุและสือ่ มวลชนจังหวัดร้อยเอ็ด และชมรมผูป้ ระกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงจังหวัด ขอนแก่น จัดทำ�โครงการพัฒนาศักยภาพสื่อท้องถิ่น ในประเด็น“รู้ทันสื่อโฆษณา” ขึ้น เพื่อให้สื่อท้องถิ่น ได้ตระหนักรู้ ปรับเปลีย่ นทัศนคติ ในการรับข่าวสาร และทำ�หน้าที่สื่ออย่างมีสติและปัญญา รู้เท่าทันสื่อ และควบคุมการใช้สื่อ ในการจัดการกับสารต่างๆ ที่ ประดังเข้ามาและสามารถรับมือกับสื่ออย่างเท่าทัน พ.ท.พิสษิ ฐ์ กล่าวต่อว่า เมือ่ วันที่ 13 ตุลาคม 2560 ผู้ประกอบวิชาชีพสื่อสารมวลชนในพื้นที่ภาค อีสาน ทีม่ แี นวความคิดคล้ายคลึงกัน ได้มกี ารประชุม หารือจัดตั้งสมาคมเครือข่ายหนังสือพิมพ์ วิทยุ และ สือ่ ออนไลน์ ภาคอีสาน ขึน้ เพือ่ เป็นศูนย์กลางในการ ประสานงาน และเชื่อมโยงข้อมูลข่าวสาร ให้ความ ช่วยเหลือ และกำ�กับดูแลกันเอง ซึ่งนายทะเบียน สมาคมจังหวัดขอนแก่น โดย นายสมศักดิ์ จังตระ กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ได้ลงนามประกาศ จดทะเบียนจัดตั้งสมาคม ทะเบียนเลขที่ 5 / 2560 ลง
วันที่ 29 ธันวาคม 2560 สมาคมเครือข่ายฯ ที่จัดตั้งขึ้นมานี้ เพื่อให้ พี่น้องสื่อมวลชนภาคอีสานเข้ามามีส่วนร่วม ใน การกำ�กับดูแลกันเอง ตาม พ.ร.บ.ควบคุมสื่อฯ ที่ รัฐบาลกำ�ลังดำ�เนินการร่างฯ ออกมาบังคับใช้ โดย มีวัตถุประสงค์ ในการจัดตั้งสมาคมฯ คือ 1.ปกป้อง คุ้ ม ครองสมาชิ ก ของสมาคมผู้ ป ฏิ บั ติ ห น้ า ที่ โ ดย ชอบ 2.เป็นตัวแทนกลุ่มวิชาชีพสื่อมวลชนในภาค อีสาน 3.ส่งเสริมและสนับสนุนการประกอบวิชาชีพ สื่ อ มวลชน ให้ มี เ สรี ภ าพในการแสวงหาข้ อ มู ล ข่าวสาร และการแสดงออก ส่งเสริมสิทธิการรับรู้ ของประชาชนในระบอบประชาธิปไตย 4.ผดุงไว้ซึ่ง มาตรฐานอันดีงามของสมาชิกโดยให้ยึดจริยธรรม แห่งวิชาชีพและความรับผิดชอบเป็นหลักปฏิบัติ อันสำ�คัญยิ่ง 5.ส่งเสริมสวัสดิการและความสามัคคี ระหว่างสมาชิก การทำ�ตนให้เป็นประโยชน์ ส่งเสริม ให้เกิดความร่วมมือระหว่างเพื่อนร่วมวิชาชีพทั้ง ภายในและนอกประเทศ 6.ส่งเสริม สนับสนุนและ ชี้แนะ ให้การประกอบวิชาชีพสื่อสารมวลชนของ สมาชิก เป็นไปโดยถูกต้องตามหลักวิชาการ มีจรรยา บรรณ โดยคำ�นึงถึงประโยชน์ของชาติเป็นหลัก และ 7.ไม่มีวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการเมือง และได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการควบคุม จริยธรรมวิชาชีพ ตามข้อบังคับสมาคมฯ ประกอบ ด้ ว ย ผู้ ท รงคุ ณ วุ ฒิ ด้ า นนิ ติ ศ าสตร์ , ด้ า นสื่ อ สาร มวลชน, ด้านคุ้มครองผู้บริโภค, สมาชิกสามัญผู้มี ความประพฤติดี และกรรมการบริหาร มีจำ�นวนไม่ เกินห้าคน โดยคณะกรรมการควบคุมจริยธรรมมี อำ�นาจหน้าที่ (1) ควบคุมและดูแลความประพฤติ ของสมาชิกให้เป็นไปตามข้อบังคับและจริยธรรม ของวิชาชีพ (2) สอบสวนสมาชิกที่ถูกกล่าวหาว่า ประพฤติ ผิ ด จริ ย ธรรม เมื่ อ ได้ รั บ คำ � ขอจากคณะ กรรมการบริหาร และ (3) เสนอแนะแนวทาง ข้อคิด เห็น ด้านจริยธรรมต่อคณะกรรมการบริหารสมาคม
หน้า 4
รางวัลยกย่องเชิดชูเกียรติ Thailand Digital Awards 2018 ; นายสรอร รถ กลิ่นประทุม อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและ การสื่อสาร เป็นประธานมอบรางวัลนักบริหารและพัฒนาองค์กรดีเด่น ด้านสื่อดิจิตอล ในงานยกย่องเชิดชูเกียรติ Thailand Digital Awards 2018 โครงการพัฒนานักบริหารภาครัฐและภาคเอกชน สูย่ คุ เทคโนโลยีดจิ ทิ ลั เพือ่ การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ โดยมีดาราศิลปิน นักธุรกิจทีเ่ กีย่ วเนือ่ งกับสือ่ ออนไลน์ ผูป้ ระกอบ การสื่อวิทยุโทรทัศน์ และสื่อโซเชียลมีเดีย เข้าร่วมรับรางวัล อย่างคับคั่ง เมือ่ วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2561 ณ ห้องเบญจรัศมี อาคารเบญจรังสฤษฏ์ สถานี วิทยุโทรทัศน์กองทัพบก (ททบ.5) ถนนพหลโยธิน เขตพญาไท กทม.
ปีที่ 15 ฉบับที่ 165 ประจำ�เดือนกุมภาพันธ์ 2561
ฉลองตรุษจีน สานสัมพันธ์เมืองคู่แฝด ; นายสุชัย บุตรสาระ รองผู้ว่า ราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานเปิดงานฉลอง “สัมพันธ์เมืองคู่ แฝด ขอนแก่น-หนานหนิง” จัดโดยสาธารณรัฐประชาชนจีน กับ จังหวัด ขอนแก่น โดยมี มีส หลี่ สิว้ หัว รักษาการ กงสุลใหญ่จนี ประจำ�จ.ขอนแก่น พร้อมหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคธุรกิจท่องเที่ยว ร่วมงานเฉลิม ฉลองในเทศกาลตรุษจีน ณ ลานโปรโมชั่นชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซ่า ขอนแก่น
เชิญร่วมงานครบรอบ 10 ปี ฉลองวัดเสาเดียว ; นายสุนทร จงประกอบ แก้ว นายกสมาคมชาวไทยเชือ้ สายเวียดนาม จ.ขอนแก่น พร้อมคณะ เข้าพบ พ.ท.พิสษิ ฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคมเครือข่าย นสพ. วิทยุ และสือ่ ออนไลน์ ภาคอีสาน เพือ่ อวยพรปีใหม่ในวันตรุษญวน และเชิญร่วมงานครบรอบ 10 ปี การเฉลิมฉลองวัดเสาเดียว
ร่วมแสดงความยินดีกับอีสานบิซ ; พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคม สื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น แสดงความยินดีกับ คุณเจริญลักษณ์ เพ็ชร ประดับ บรรณาธิการอำ�นวยกา รหนังสือพิมพ์อสี านบิซวีค ในโอกาสครบ รอบ 11 ปี อีสานบิซวีค ทรานส์ฟอร์มมิ่งสู่ “อีสานบิซ คอมมูนิตี้ นิวส” เมื่อวันที่ 9 ก.พ.2561 ณ บริเวณริมสระว่ายนํ้า โรงแรมโฆษะ ขอนแก่น
กอล์ฟการกุศล “เพื่อระดมทุนช่วยเหลือผู้ป่วยผ่าตัดมะเร็งท่อนํ้าดี” ; รศ.นพ.สุชาติ อารีมิตร ประธานกรรมการจัดการแข่งขันกอล์ฟการกุศล มูลนิธิมะเร็งท่อนํ้าดี ครั้งที่ 3 และ ศ.ดร.พวงรัตน์ ยงวณิชย์ ประธาน กรรมการมูลนิธมิ ะเร็งท่อนํา้ ดี รับมอบถุงกอล์ฟจาก พ.ท.พิสษิ ฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคมเครือข่าย นสพ. วิทยุ และสื่อออนไลน์ ภาคอีสาน
ขอนแก่นมาราธอน 2018 ; นายสมศักดิ์ จังตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัด ขอนแก่น เป็นประธานเปิดการแข่งขัน และมอบรางวัลนักกีฬาที่เข้า ร่วมการแข่งขัน “ขอนแก่นมาราธอนนานาชาติ 2018” (Khon Kaen International Marathon 2018) ทีเ่ ข้าเส้นชัยทุกท่าน โดยมีนกั วิง่ จากทัว่ โลก กว่า 40 ประเทศเข้าร่วมแข่งขัน ณ ศูนย์ประชุมกาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัย ขอนแก่น เมื่อเร็วๆ นี้
Grand Opening KOSA COWBOY NIGHT ; นายสันติ เหล่าบุญ เสงี่ยม รอง ผวจ.ขอนแก่น ร่วมงาน KOSA COWBOY NIGHT เนรมิต สวนมะพร้าวหน้าโรงแรมโฆษะ ตกแต่งเป็นบรรยากาศสไตล์คาวบอย & อินเดียนแดง โดยมีเหล่าคาวบอยและคาวเกิรล์ มาร่วมกิจกรรม และลุน้ บัตร กำ�นัลจัดขึ้นทุกเสาร์สุดท้ายของเดือน
ถวายตูเ้ ชฟ บรรจุพระทองคำ� นาค เงิน ; นายสารทูล นิรมัยถาวร กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท เมืองเก่าเฟอร์นิเจอร์ 1999 จำ�กัด ถวายตู้เชฟให้กับ พระ อาจารย์สุริยันต์ โฆสปัญโญ เจ้าอาวาสวัดพุทธวนาราม เพื่อบรรจุพระทอง คำ� นาค เงิน ประดิษฐานบนพระมหาธาตุเจดีย์ ในงานสมโภช พระมหาธาตุ เจดีย์ศรีมหาสารคาม พงศ์เกรียงยศไพศาล วัดพุทธวนาราม (วัดป่าวังนํ้า เย็น) ต.เกิ้ง อ.เมือง จ.มหาสารคาม เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2561
สร้างบุญบารมี ให้กังวาลก้องไกล ; นายสารทูล นิรมัยถาวร กรรมการผู้ จัดการ บริษทั เมืองเก่าเฟอร์นเิ จอร์ 1999 จำ�กัด พร้อมคณะ ชาวชุมชนเมือง เก่า และผูม้ จี ติ ศรัทธา ร่วมทอดถวายระฆัง กระดิง่ เพือ่ ประดิษฐานบนลาน พระมหาธาตุราชมัชฌิมาเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา ณ วัดกลางเมืองเก่า ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมื่อเร็วๆ นี้
สานสัมพันธ์สื่อมวลชนขอนแก่น – กฟผ. ; นายวรวิทย์ รวีนิภาพงศ์ ผู้ อำ�นวยการโรงไฟฟ้าพลังนํ้า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พร้อมคุณอโนชา จงก้องเกียรติ หัวหน้ากองประสานสื่อสารระบบผลิตและส่งไฟฟ้า, นายก อบเกียรติ ป้อยแก้ว วิทยากรระดับ 9 และนายอนุชา เอี่ยมแท้ หัวหน้า แผนกสื่ อ สารระบบส่ ง ฝ่ า ยสื่ อ สารองค์ ก ร การไฟฟ้ า ฝ่ า ยผลิ ต แห่ ง ประเทศไทย (กฟผ.) ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อสานสัมพันธ์งาน ด้านประชาสัมพันธ์ กับ พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคมสื่อมวลชนฯ พร้อมคณะกรรมการบริหาร และสื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น ณ ห้อง อาหาร Smile @ Waterside เมื่อเร็วๆ นี้
ดีแทค พบสื่อมวลชนขอนแก่น ; คุณอรอุมา ฤกษ์พัฒนาพิพัฒน์ ผู้อำ�นวย การอาวุโส สายงานสื่อสารองค์กรและการพัฒนาอย่างยั่งยืน บริษัท โท เทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำ�กัด (มหาชน) หรือดีแทค พร้อมคุณจินรี ตัณมณี และคุณพิมพกานต์ พิมพ์พิทักษ์ Senior Manager- dtac พบปะ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นงานด้านประชาสัมพันธ์กับ พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญ เจริญ นายกสมาคมเครือข่าย นสพ. วิทยุ และสื่อออนไลน์ ภาคอีสาน และ สื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น ณ ห้องอาหารจีนลองหยุน โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด เมื่อเร็วๆ นี้ เมือ่ วันที่ 23 ก.พ.61 ทีล่ านกิจกรรมและห้องตรวจ OPD ศัลยกรรม ชั้น 1 อาคารกัลยานิวัฒนานุสรณ์ รพ.ศรีนครินทร์. รศ.นพ.อภิชาติ จิระ วุฒพิ งศ์ ผอ.รพ.ศรีนครินทร์ พร้อมด้วย ศ.ดร.พวงรัตน์ ยงวณิชย์ ประธาน มูลนิธมิ ะเร็งท่อนํา้ ดี และ รศ.นพ.ณรงค์ ขันตีแก้ว รองประธานมูลนิธมิ ะ เร็งท่อนํ้าดี ได้ดำ�เนินกิจกรรม วาระแห่งชาติขจัดพยาธิใบไม้ตับและมะ เร็งท่อนํ้าดี ร่วมกับมูลนิธิมะเร็งท่อนํ้าดีสัญจร ครั้งที่ 17 ชื่อว่า “วันมะ เร็งท่อนํ้าดีโลก กุมภาพันธ์เดือนแห่งการตระหนักรู้ มะเร็งท่อนํ้าดี”
ยกเสาเอกอาคารปฏิบัติธรรม ; นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรี นครขอนแก่น เป็นประธานยกเสาเอก เสาโท อาคารปฏิบตั ธิ รรม อัครมหา บัณฑิต โดยมี พระครูมชั ฌิมธรรมโสภณ เจ้าอาวาสวัดกลาง นายสารทูล นิ รมัยถาวร กรรมการผูจ้ ดั การ บริษทั เมืองเก่าเฟอร์นเิ จอร์ 1999 จำ�กัด พร้อม ศิษยานุศิษย์ และผู้มีจิตศรัทธา เข้าร่วมพิธี ณ วัดกลาง อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมื่อเร็วๆ นี้
แสดงความยินดี ; ร.ต.ต.ภัสสะ บุญธรรม ผสข.ศูนย์ขา่ วเดลินวิ ส์ขอนแก่น มอบของที่ระลึกแสดงความยินดีกับ พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคม เครือข่ายหนังสือพิมพ์ วิทยุ และสื่อออนไลน์ ภาคอีสาน ในโอกาสเข้ารับ รางวัลเชิดชูเกียรติ THAILAND DIGITAL AWARDS โดยมีคณะกรรมการ บริหารสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น ร่วมแสดงความยินดี ณ ร้าน Tomyum Jiggo ชั้น 2 ศูนย์การค้าแฟรี่ พลาซ่า ขอนแก่น
ปลานํ้าจืดเหล่านี้มีตัวอ่อนระยะติดต่อของพยาธิใบไม้ตับอาศัยอยู่ ตัวอ่อน เกิดการติดเชื้อของพยาธิใบไม้ตับในท่อนํ้าดีและเกิดการอักเสบเรื้อรังได้ พยาธิใบไม้ตบั นีจ้ ะชอนไชและเจริญเติบโตในท่อนาํ้ ดีมชี วี ติ อยูไ่ ด้นานถึง 20 เพือ่ ป้องกันทีส่ �ำ คัญและยัง่ ยืนไม่ให้เกิดโรคมะเร็งในท่อนาํ้ ดีจนถึงแก่ความ ปี ทำ�ให้ท่อนํ้าดีเกิดการอักเสบเรื้อรังและกลายเป็นมะเร็งท่อนํ้าดีในที่สุด ตาย” รศ.นพ.ณรงค์ ขันตีแก้ว กล่าว
รณรงค์ ค นอี ส าน “หยุ ด กิ น ปลานํ้ า จื ด มี เกล็ ด สุ ก ๆ ดิ บ ๆ” ป้ อ งกั น มะเร็ ง ในท่ อ นํ้ า ดี โดยมีทีมเจ้าหน้าที่แพทย์ พยาบาล รพ.ศรีนครินทร์ มข. ได้เดิน รณรงค์ภายใน รพ.ศรีฯ พร้อมกับถือป้ายบอกข้อความว่า “หยุดกินปลา นํ้าจืด มีเกล็ดสุกๆดิบๆ” “ปลาสุกกินได้ ปลาดิบกินแล้วตาย เพราะเกิด มะเร็งร้ายในท่อนาํ้ ดี” “มะเร็งท่อนาํ้ ดี..หยุดกินปลาดิบเสียแต่วนั นี้ ชีวจี ะ ได้ยนื ยาว” และ “นํา้ ปลาร้าสุกปลอดพยาธิ ปราศมะเร็งท่อนาํ้ ดี” นอกจาก นี้ได้มีประชาชนจำ�นวนมากเข้ามาชมนิทรรศการอาหารปลอดภัย ปลา ปลอดพยาธิ , นิ ท รรศการคั ด กรองพยาธิ ใ บไม้ ตั บ ด้ ว ยแอนติ เ จนใน ปัสสาวะ พร้อมชมห้องตรวจคัดกรองอัลตราซาวด์ และเข้าตรวจคัดกรอง มะเร็งท่อนํ้าดีด้วยเครื่องอัลตราซาวด์ 12 ห้อง รศ.นพ.อภิชาติ จิระวุฒิพงศ์ ผอ.รพ.ศรีนครินทร์ มข. กล่าวว่า ด้วยปัญหาโรคมะเร็งท่อนํ้าดี ยังเป็นปัญหาที่คุกคามสุขภาพของชาว ไทย โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ดังนั้น คณะแพทยศาสตร์ มข. สถาบันวิจัยมะเร็งท่อนํ้าดี มูลนิธิมะเร็งท่อนํ้าดี และโครงการแก้ไข ปัญหาโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อนํ้าดี มข. โดยได้จัดตั้งศูนย์ความ เป็นเลิศมะเร็งท่อนาํ้ ดี ซึง่ มีหอผูป้ ว่ ยมะเร็งท่อนํา้ ดีทรี่ องรับการดูแลรักษา ผู้ป่วยมะเร็งท่อนํ้าดีเป็นแห่งแรกในโลก รศ.นพ.ณรงค์ ขันตีแก้ว รองประธานมูลนิธิมะเร็งท่อนํ้าดี กล่าว ว่า โรคมะเร็งท่อนํา้ ดีในประเทศไทยถูกค้นพบมานานกว่า 90 ปี และเป็นที่ ทราบกันดีวา่ มีสาเหตุเกิดจากการรับประทานปลานาํ้ จืดมีเกล็ดแบบสุกๆ ดิบๆทีอ่ าศัยอยูต่ ามแหล่งนํา้ ในภูมภิ าคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ
ในปัจจุบันพบมีประชาชนที่ตกอยู่ในกลุ่มเสี่ยงของโรคมะเร็งท่อนํ้ าดีอยู่ราวๆ 6 ล้านคน และมีผู้ป่วยมะเร็งท่อนํ้าดีอยู่ราวๆ 14,000 - 15,000 คนต่อปี และส่วนใหญ่มีฐานะยากจนด้อยโอกาสในการเข้ารับการรักษาใน โรงพยาบาลที่มีความพร้อมในการรักษาโรคมะเร็งท่อนํ้าดี แม้หน่วยงาน สาธารณสุขหลายองค์กรตระหนักถึงปัญหานี้ แต่ความไร้เอกภาพและความ ต่อเนือ่ งทำ�ให้การแก้ปญ ั หาทีด่ �ำ เนินมานับทศวรรษไม่ได้ชว่ ยคลายปัญหาลง เป็นเหตุให้โรคมะเร็งท่อนาํ้ ดีจงึ เป็นปัญหาสาธารณสุขทีส่ �ำ คัญของประเทศ “ประชากรในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มีประมาณ 20 ล้านคนเศษ มี จำ�นวน 6 - 8 ล้านคน ที่ติดพยาธิใบไม้ตับและมีโอกาสเป็นโรคมะเร็งท่อนํ้าดี ประมาณปีละ 10,000 ราย และจะเสียชีวติ ภายใน 1 ปี โดยเฉพาะ รพ.ศรีนครินทร์ มข. ได้มผี ปู้ ว่ ยทีเ่ ป็นโรคมะเร็งท่อนํา้ ดีมารักษาจำ�นวน 1,500 - 2,000 คน/ปี ส่วน ใหญ่มากกว่า 90% ที่รักษาไม่ได้จะต้องไปเสียชีวิตที่บ้านของเขา อย่างไรก็ตามผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็งท่อนํ้าดีในภาคอีสานมาเป็น อันดับ 1 โดยเฉพาะที่ จ.ขอนแก่น รองลงมาที่ภาคเหนือ และปัจจุบันได้มา ที่ภาคกลาง ซึ่งจะมี สิงห์บุรี พระนครศรีอยุธยา ฉะเชิงเทรา สมุทรสาคร สมุทรสงคราม ดังนั้นจึงต้องมีการรณรงค์ “หยุดกินปลานํ้าจืดมีเกล็ดสุกๆ ดิบๆ” และรับประทานนาํ้ ปลาร้าต้มสุกเท่านัน้ โดยเฉพาะคนรุน่ ใหม่ตอ้ งเลิก กินปลาดิบเด็ดขาด โดยเฉพาะอุปนิสัยที่ชอบรับประทานปลานํ้าจืดมีเกล็ด แบบสุกๆ ดิบๆ นำ�มาปรุงอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ เช่น ก้อยปลา และปลา ที่ผ่านการหมัก เช่น ปลาส้ม ปลาจ่อม และปลาร้า ที่หมักไม่ถึง 3 วัน ทำ�ให้
บ้านเชียงมาราธอน 2018 วิ่งเพื่อมรดกโลก ; นายวัฒนา พุฒิชาติ ผวจ. อุดรธานี เป็นประธานพิธีเปิดการแข่งขัน”ยูนิค รันนิ่ง บ้านเชียงมาราธอน 2018 วิ่งเพื่อมรดกโลก ปีที่ 2 โดยมี นายสิธิชัย จินดาหลวง รอง ผวจ. อุดรธานี, นายเศวตฉัตร บรรเทาทุกข์ นายกเทศมนตรีต�ำ บลบ้านเชียง และผู้ แทนจากส่วนราชการ ภาคเอกชน เข้าร่วมพิธี ณ พิพธิ ภัณฑสถานแห่งชาติ บ้านเชียง ตำ�บลบ้านเชียง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี
แอร์เอเซียเปิดเที่ยวบินข้ามภาค ; นายธนพล จันทร์นิมิ รองผู้ว่าราชการ จังหวัดอุดรธานี พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ สมาคมธุรกิจการท่อง เที่ยวอุดรธานี หอการค้า และภาคเอกชน ร่วมกันต้อนรับ เจ้าหน้าที่ บริหาร และนักธุรกิจ จังหวัดเชียงใหม่ ที่เดินทางทางมากับเที่ยวบินของ สายการบินไทยแอร์เอเชีย เที่ยวปฐมฤกษ์ ที่สนามบินนานาชาติอุดรธานี เมื่อวันที่ 15 ก.พ.2561
อุน่ ไอรักกับเมืองไทย ; นายสาระ ลํา่ ซำ� กรรมการผูจ้ ดั การและประธานเจ้า หน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำ�กัด มอบผ้าห่ม 500 ผืน ให้ กับ นายสมศักดิ์ จังตระกูล ผวจ.ขอนแก่น ในโครงการอุ่นไอรักกับเมือง ไทย เพื่อส่งต่อให้กับผู้ด้อยโอกาส ณ สำ�นักงาน บริษัท เมืองไทยประกัน ชีวิต จำ�กัด ถนนมิตรภาพ อ. เมือง จ.ขอนแก่น เมื่อเร็วๆ นี้
จับเครือข่ายยาเสพติด ; พล.ต.ท.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผบช.ภาค 4 พร้อม ชุดปฎิบัติการปราบปรามยาเสพติด สภ.เมืองขอนแก่น ฝ่ายทหาร และ ฝ่ายปกครอง แถลงข่าวการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดจำ�นวน 8 ราย เงินสด 27,000 บาท ยาบ้า 9,600 เม็ด มูลค่ากว่า 1.9 ล้านบาท พร้อมแจ้งข้อหาและ นำ�ส่งเจ้าพนักงานสอบสวนต่อไป
หน้า 5
ปีที่ 15 ฉบับที่ 165 ประจำ�เดือนกุมภาพันธ์ 2561
เทสโก้ โลตั ส มอบทุ น การศึ ก ษา โตโยต้ า แก่ น นคร จั บ มื อ เครื อ ข่ า ย สร้ า งโอกาสดี ๆ ต่ อ เนื่ อ งปี ที่ 16 พันธมิตร หนุนแนวการเรียนวอลดอร์ฟ
เมื่อวันที่ 7 ก.พ.61 ที่ เทสโก้ โลตัส สาขา ขอนแก่น 1 ถนนมิตรภาพ อ.เมือง จ.ขอนแก่น นายสุนทร อรุณานนท์ชัย ประธานกรรมการ เทส โก้ โลตัส และประธานมูลนิธิเทสโก้เพื่อไทย เป็น ประธานร่วมมอบทุนการศึกษาให้แก่นสิ ติ นักศึกษา ที่เรียนดี ประพฤติดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ในภาค
ตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมี รศ.เพียร ศักดิ์ ภักดี รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนา นักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ มข. ผศ.ดร.ถนอม ทาทอง รองอธิการบดี ฝ่ า ยกิ จ การนั ก ศึ ก ษาและศิ ษ ย์ เ ก่ า สั ม พั น ธ์ ม.นครพนม นางครร คิด เครือวัลย์ หน.งานสวัสดิการ นักศึกษา ม.อุบลราชธานี พล.ต.อ.วิ เชียร์ พจน์โพธิศ์ รี อดีต ผบ.ตร นางด รุเนศ สุวรรณศรี ผอ.เทสโก้ โลตัส สาขาขอนแก่น ร่วมมอบทุน นายสุนทร อรุณานนท์ชัย ประธานมูลนิธิ เทสโก้เพื่อไทย เปิดเผยว่า โครงการทุนการศึกษา เทสโก้ โลตัสฯ ปีการศึกษา 2560 ถือเป็นการมอบ ทุนปีที่ 16 โดยมอบให้แก่นิสิต นักศึกษา ที่มีความ ประพฤติดี เรียนดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์จาก 24 มหาวิทยาลัย ทั่วประเทศ เป็นจำ�นวน 200 ทุนการ
ศึกษาละ 15,000 บาท ซึง่ ในปีนมี้ อบให้กบั นักศึกษา ชั้นปีที่ 3 จำ�นวน 104 ทุน ชั้นปีที่ 4 จำ�นวน 95 ทุน และทุนต่อเนื่องสำ�หรับนักศึกษาชั้นปีที่ 5 จำ�นวน 1 ทุน ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีนกั ศึกษาทีเ่ ข้า รับมอบทุน 41 คน จากมหาวิทยาลัยมหาสารคาม มหาวิ ท ยาลั ย อุ บ ลราชธานี มหาวิ ท ยาลั ย เกษตรศาสตร์ วิทยาเขตสกลนคร มหาวิทยาลัย นครพนม และ มหาวิทยาลัยขอนแก่น โครงการทุนการศึกษา เทสโก้ โลตัส เพื่อ นิสิตนักศึกษามหาวิทยาลัย ได้ดำ�เนินการมาอย่าง ต่อเนื่องเป็นเวลา 15 ปี มอบทุนการศึกษาไปแล้ว จำ�นวน 2,099 ทุน สำ�หรับนักศึกษาที่ได้รับทุน เป็นเงินไม่มากนัก แต่ก็เชื่อว่าจะมีส่วนช่วยลด ภาระได้ในระดับหนึ่ง แต่สิ่งที่สำ�คัญไปกว่านั้น คือ เกียรติประวัติ ซึ่งถือเป็นสิ่งที่มีคุณค่า เกินกว่าจะ ประเมินเป็นตัวเงินได้
นักเรียนทัว่ อีสานแห่ตวิ เข้ม “แบรนด์ซมั เมอร์แคมป์” เตรี ย มความพร้ อ มก่ อ นสอบเข้ า มหาวิ ท ยาลั ย
“แบรนด์ซมั เมอร์แคมป์” สุดยอดโครงการ ติวเข้มที่ยิ่งใหญ่ของประเทศ เพิ่มระดับความเข้ม ข้นของเนื้อหา พร้อมเก็งแนวข้อสอบใหม่ล่าสุด แม่นยำ� และอธิบายคำ�ตอบแต่ละข้อให้เข้าใจง่าย จากสุดยอดอาจารย์ติวชื่อดังระดับประเทศ เมือ่ วันที่ 10 ก.พ.61 ทีห่ อ้ งขอนแก่นฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ขอนแก่น นาย สั น ติ เหล่ า บุ ญ เสงี่ ย ม รองผู้ ว่ า ราชการจั ง หวั ด ขอนแก่น เป็นประธานเปิดโครงการ “แบรนด์ซัม เมอร์แคมป์” ครั้งที่ 30 “ฟิตสมองก่อนสอบโค้ง สุดท้ายพิชิต GAT-PAT, O -NET” โดย บริษัท แบรนด์ ซันโทรี่ (ประเทศไทย) จำ�กัด พร้อมหน่วย งานที่เกี่ยวข้อง จัดกิจกรรมครั้งนี้ขึ้นมา ซึ่งเป็น โครงการติ ว เข้ ม ก่ อ นสอบเข้ า มหาวิ ท ยาลั ย ทั่ ว ประเทศ ให้แก่นักเรียนพื้นที่ภาคอีสานโดยไม่เสีย ค่าใช้จ่าย โครงการติวเข้มโค้งสุดท้ายก่อนสอบ กับ สุดยอดติวเตอร์ชื่อดังระดับประเทศ ตัวจริงเสียง จริงอย่างใกล้ชิด ผ่านสไตล์การติวที่สนุกสนาน เฉพาะตัว เน้นเฉพาะเนือ้ หาเข้มข้น เฉลยแบบเข้าใจ ง่ายครบถ้วน ร่วมด้วย คุณโอบนิธิ วิวรรธนวรางค์ ดารานักแสดงวัยรุ่น และศิษย์เก่าแบรนด์ซัมเมอร์ แคมป์ ที่มาให้กำ�ลังใจ โดยมีนักเรียนจากพื้นที่ภาค อีสานเข้าร่วมติวเข้ม 13,464 คน เป็นชาวขอนแก่น มากกว่า 3,000 คน ถือเป็นโครงการติวเข้มประจำ�ปีที่ส่งเสริม เยาวชนด้านการศึกษา เพื่อให้มีความพร้อมในการ สอบผ่านเข้าสู่คณะและมหาวิทยาลัยที่ต้องการ
โดยได้รวมเอาสุดยอดติวเตอร์ชื่อดังชั้น นำ � ของเมื อ งไทยที่ นำ � เทคนิ ค การสอน ให้จดจำ�เนื้อหาได้ง่ายๆ ผ่านการเรียนที่ สนุกสนาน ระหว่างวันที่ 10 - 11 ก.พ. 2561 ณ ขอนแก่ น ฮอลล์ ศู น ย์ ก ารค้ า เซ็นทรัลพลาซ่า ขอนแก่น นายสันติ เหล่าบุญเสงี่ยม รอง ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า โครงการ”ฟิต สมองก่อนสอบโค้งสุดท้ายพิชิต GATPAT, O -NET” ที่ ม าดำ � เนิ น การอยู่ ในห้างดังเมืองขอนแก่น เพื่อมุ่งเน้นเสริมความรู้ เติมเต็มให้กับนักเรียนชั้น ม.6 เตรียมความพร้อม จะสอบเข้ า มหาวิ ท ยาลั ย ทั่ ว ประเทศ โดยเฉพาะ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จึงเป็นสิ่งที่สำ�คัญอย่างมาก จะต้องมีครูตวิ เตอร์มาสอนนักเรียนเพือ่ เตรียมสอบ เข้ามหาวิทยาลัย เพื่อเตรียมเต็มในสิ่งที่ได้รับความรู้ มาแล้วจากโรงเรียน โดยเฉพาะการสอบ GAT-PAT, O -NET เป็นคะแนนเก็บเพือ่ ได้เข้ามหาวิทยาลัยตาม ที่ได้มุ่งหวังไว้ เมือ่ “แบรนด์ซมั เมอร์แคมป์” เกิดจากความ ร่วมมือของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และบริษัท แบรนด์ ซันโทรี่ (ประเทศไทย) จำ�กัด ที่จัดกิจกรรม สัญจรมอบโอกาสทางการศึกษาให้แก่เยาวชนใน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โครงการแบรนด์ซัมเม อร์แคมป์จึงนับได้ว่ามีส่วนช่วยสนับสนุนงานของ กระทรวงศึกษาธิการอีกทางหนึง่ เพราะมีสว่ นสร้าง คุณประโยชน์ต่อเยาวชนไทย ที่รวบรวมคณาจารย์ ติวเตอร์ระดับประเทศมาช่วยติวเข้มให้นักเรียน
เตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัย พร้อมจัดทำ�ชุด หนังสือสรุปเนื้อหาข้อสอบ และสาระบันเทิงด้าน การศึกษาที่เป็นประโยชน์ น.ส.เนียจา เซวัก ผู้บริหาร บริษัท แบรนด์ ซันโทรี่ (ประเทศไทย) จำ�กัด กล่าวว่า โครงการ “แบรนด์ ซั ม เมอร์ แ คมป์ ” ครั้ ง ที่ 30 มี นั ก เรี ย น สมัครเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 30 โดยในปีนี้ (พ.ศ.2561) มีนักเรียนชั้น ม.6 สมัคร เข้าร่วมโครงการฯ 67,524 คน รวม 30 ครั้งของโค รงการฯ มีนักเรียนสมัครเข้าร่วมโครงการ ฯ แล้ว 1,210,782 คน นักเรียนที่ได้เข้าร่วมโครงการดัง กล่าวจะได้รับหนังสือแบรนด์ซัมเมอร์แคมป์คู่มือ เตรียมสอบจำ�นวน 1 ชุด 8 วิชา ประกอบด้วยวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ เคมี ฟิสิกส์ ชีววิทยา ภาษาไทย สังคมศึกษา และวิชาความคิดเชื่อมโยง นอกจากนีย้ งั สามารถดูการติวย้อนหลังได้ที่ www. brandssummercamp.com โดยไม่เสียค่าใช้จา่ ยใดใด ทั้งสิ้น
หนึ่งในโครงการสะสมความดีของโฆษะกรุ๊ป ประชาชนบริจาคโลหิต เพื่ อ ช่ ว ยเหลื อ เพื่ อ น มนุษย์ในวันวาเลนไทน์ นายสมศั ก ดิ์ จั ง ตระกุ ล ผู้ ว่ า ราชการ จังหวัดขอนแก่น เป็น ประธานเปิ ด ห้ อ งรั บ บ ริ จ า ค โ ล หิ ต ภ า ค บริการโลหิตแห่งชาติ ที่ 6 จังหวัดขอนแก่น ที่ชั้น 2 โรงแรมโฆษะ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เพื่อให้พนักงาน รวมถึงประชาชนทั่วไปได้มาบริ ร่วมกับโรงแรมโฆษะ เปิดห้องรับบริจาคโลหิต จาคโลหิตเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ เนื่องในวัน ที่ ชั้ น 2 โรงแรมโฆษะ เพื่ อ รณรงค์ ส่ ง เสริ ม ให้ วาเลนไทน์ โดยมีนาวาโท พญ.อุบลวัณณ์ จรูญเรือง
ฤทธิ์ ผอ.ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติสภากาชาดไทย และคุณชาติชาย โฆษะวิสุทธิ์ ประธานกรรมการ บริหาร โรงแรมโฆษะ ร่วมพิธีเปิดและให้กำ�ลังใจ ผู้บริจาคโลหิต ทั้งนี้โรงแรมโฆษะจึงได้จัดเตรียมพื้นที่ ให้ กั บ ทางสภากาชาดไทย ปรั บ ปรุ ง พื้ น ที่ เ ป็ น ห้องรับบริจาคโลหิต นับเป็นแห่งที่ 3 ของจังหวัด ขอนแก่น ณ ปัจจุบนั เปิดทำ�การอยูท่ ชี่ นั้ 2 โรงแรม โฆษะ เปิดรับบริจาคโลหิต วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30 – 16.00 น. วันเสาร์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เปิด 09.00 - 15.30 น. หยุดทุกวันอาทิตย์ ณ วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2561โรงแรมโฆษะ มียอดรับบริจาค โลหิตสะสมรวมทัง้ สิน้ กว่า 18,054,950 ซีซ ี หรือ 45,137 ถุง
บริษัท โตโยต้าแก่นนคร ร่วมกับเครือข่าย พันธมิตร อาทิ บริษทั เพาเวอร์เอส เอ็นจิเนียริง่ จำ�กัด และ บริษัท สยามไดกิ้นเซลล์ จำ�กัด สนับสนุนงบ ประมาณปรับปรุงห้องประชุมและอบรมแบบบ้าน ตามแนวการศึกษาวอลดอร์ฟ เมือ่ วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2561 ทีห่ อ้ งประชุม โรงเรียนบ้านกอก อ.เมือง จ.ขอนแก่น นายสายันต์ ทรัพย์ปัญญาดี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท โต โยต้าแก่นนคร จำ�กัด นายธีรนันท์ กิ่งแก้วเจริญชัย ผู้อำ�นวยการฝ่ายบริการหลังการจำ�หน่าย บริษัท โต โยต้าแก่นนคร จำ�กัด นายพงษ์เทพ สุวิริยะไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เพาเวอร์เอส เอ็นจิเนีย ริ่ง จำ�กัด นางสาวสุกินาโชติ แสนคำ� ผู้จัดการส่วน งานขายดีลเลอร์ (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) บริษัท สยามไดกิ้นเซลล์ จำ�กัด ร่วมส่งมอบห้องประชุม และอบรมแบบบ้านตามแนวการศึกษาวอลดอร์ฟ โดยมี ดร.ภูมิพัทธ เรืองแหล่ ผู้อำ�นวยการสำ�นักงาน เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ขอนแก่น เขต 1 นายสายยนต์ แก้วแสนเมือง ผู้อำ�นวยการโรงเรียน บ้านกอก คณะครู นักเรียน ร่วมให้การต้อนรับ นายสายันต์ ทรัพย์ปัญญาดี ผู้ช่วยกรรมการ ผู้จัดการ บริษัท โตโยต้าแก่นนคร จำ�กัด เปิดเผยว่า การศึกษาเป็นสิ่งที่สำ�คัญมากที่สุดสำ�หรับเยาวชน ควรปลูกฝังการเรียนรู้ ระเบียบ วินยั และพัฒนาการ ด้านสมองเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุดตั้งแต่ เด็กเล็ก ซึ่งจะเป็นกำ�ลังสำ�คัญของประเทศชาติต่อ ไปในอนาคต บริ ษั ท โตโยต้ า แก่ น นคร เล็ ง เห็ น ความ สำ � คั ญ ในการส่ ง เสริ ม และพั ฒ นาด้ า นการศึ ก ษา ของเด็กเล็ก อีกทั้งโรงเรียนบ้านกอก อยู่ในระหว่าง การปรับปรุงอาคารห้องอบรมของศูนย์วิจัยและ พัฒนาการศึกษาปฐมวัยตามแนวการศึกษาวอลด อร์ฟ ทั้งนี้ เพื่อให้การอบรมเชิงปฎิบัติการเป็นไป
อย่างมีประสิทธิภาพ บริษทั โตโยต้าแก่นนคร ร่วมกับเครือข่ายพันธมิตร อาทิ บริษัท เพา เวอร์เอส เอ็นจิเนียริง่ จำ�กัด และ บริษทั สยาม ไดกิน้ เซลล์ จำ�กัด สนับสนุนงบประมาณการ ปรับปรุงอาคารดังกล่ าว ซึ่งนอกจากช่วย ส่งเสริมด้านการศึกษาแล้ว ยังเป็นการสร้าง สัมพันธ์ที่ดีระหว่างเครือข่ายในการร่วมกัน ทำ�ความดีอีกด้วย ดร.ภูมิพัทธ เรืองแหล่ ผู้อำ�นวยการ สำ�นักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ขอนแก่น เขต 1 กล่าวว่า โรงเรียนบ้านกอก อยู่ในสังกัด สำ�นักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษา ขอนแก่น เขต 1 เป็นโรงเรียน ขนาดเล็ก ระดับชัน้ อนุบาล และจัดการศึกษา วอลดอร์ฟ เป็นอนุบาลแบบบ้านตามแนวการ ศึกษาวอลดอร์ฟ เมื่อปี 2553 ได้รับการคัด เลือกจากสำ�นักงานคณะกรรมการการศึกษา ขั้ น พื้ น ฐานให้ เ ป็ น ต้ น แบบนวั ต กรรมการ ศึกษาปฐมวัยตามแนวการศึกษาวอลดอร์ฟ ระดับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยจัดตั้ง ศูนย์วิจัยและพัฒนาการจัดการศึกษาปฐมวัย ตามแนวการศึกษาวอลดอร์ฟ เพื่อเป็นแหล่ง ศึกษา อบรม ดูงานของสถานศึกษาภาครัฐ ภาคเอกชน และจากหลากหลายจังหวัดใน ทุกภาคทั่วประเทศ โรงเรี ย นแนวการสอนแบบวอลด อร์ฟ Waldorf จะเน้นไปที่การเรียนรู้แบบ ธรรมชาติ ไม่มีห้องเรียน ไม่มีกระดานดำ� แต่ จะมีมุมต่างๆ ให้เด็กได้เรียนรู้ ได้เป็นอิสระ ที่จะคิดและสร้างสรรค์ หรือหากเด็กๆ ต้องการ เล่นตุ๊กตา เล่นรถ ในห้องก็จะมีข้าวของที่ทำ�จาก ธรรมชาติให้ประดิษฐ์ดดั แปลงเล่นกัน เช่น ผ้าหลาก สี ท่อนไม้ เปลือกไม้ ลูกสน เป็นต้น ทุกอย่างจะถูก
เทคนิคการเลี้ยงลูกไม่ให้ฟันผุ สวัสดีครับ พบกันอีกครั้งกับ ก้าวทัน โลก กับโรงพยาบาลทันตกรรม ทุกท่านครับเป็น ที่น่าสังเกตว่าเด็กไทยเดี๋ยวนี้ฟันผุกันมาก บางคน อายุไม่ถึง 2 ปีฟันก็ผุเป็นรูใหญ่แล้ว และคุณแม่ หรือผู้ปกครองบางท่านเองก็คงกังวลอยู่ไม่น้อย วันนี้เรามารู้จักเทคนิคการเลี้ยงลูกไม่ให้ฟันผุด้วย กันนะครับ สำ�หรับเทคนิคการเลี้ยงลูกไม่ให้ฟันผุนั้น เราสามารถทำ�ได้โดย ประการที่ 1 เรื่องของการแปรงฟัน เ ร า มีวิธีการจูงใจเด็กหลายวิธีนะครับ อย่างเช่น ร้อง เพลงหรือเล่านิทานให้ลูกฟังขณะที่แปรงฟัน เมื่อ ลูกโตให้ความร่วมมือในการแปรงฟัน หรือแปรง ฟันเองก็ควรชมเชยลูกด้วย นอกจากนี้คุณแม่หรือ ผู้ปกครองเองก็อาจจะแปรงฟันให้ลูกดูหรือแปรง ฟันพร้อมกัน เพื่อให้ลูกคุ้นเคยกับการแปรงฟัน
และเห็นว่าเป็นเรื่องที่สนุก นอกจากนั้นการเลือก แปรงสีฟันก็สำ�คัญ ในปัจจุบันมีแปรงสีฟันน่ารักๆ ขาย มากมายในท้องตลาด อาจให้ลกู เลือกแปรงสีฟนั เอง ก็ช่วยให้ลูกอยากแปรงฟันมากขึ้นนะครับ ประการที่ 2 เรื่ อ งของขนมหวาน เรามี เทคนิ ค โดยจะต้ อ งดู แ ลและจั ด สภาพแวดล้ อ มที่ เหมาะสม พยายามอย่าให้ลูกได้เจออาหารหวานๆ เพราะถ้ า ลู ก เห็ น ก็ จ ะอยากกิ น โดยอย่ า เก็ บ ขนม หวานต่างๆ ไว้ในตู้หรือตู้เย็นที่บ้าน หรือถ้าคุณแม่ หรือผู้ปกครองพาลูกไปซื้อของก็หลีกเลี่ยงการเดิน ไปที่ชั้นขนมหวาน และอย่าให้เงินลูกไปซื้อขนม เอง เพราะเด็กเล็กๆ ยังเลือกของทีม่ คี ณ ุ ค่าสำ�หรับตัว เองไม่เป็น นอกจากนี้สื่อจากโทรทัศน์ก็สำ�คัญ ควร เปลี่ยนให้ลูกทำ�กิจกรรมอื่น ๆ ที่มีประโยชน์แทน การดูทวี ี และให้รางวัลเป็นอย่างอืน่ ทีเ่ ป็นประโยชน์ แทนขนมหวาน เช่น หนังสือนิทาน ของเล่น ดินสอ
กำ�หนดให้เป็นได้สารพัดตามแต่ใจเด็กๆ จะคิดฝัน ให้ออกมาเป็นอะไร หรือกำ�ลังเล่นอะไร เช่น การ วาดรูปด้วยสีนํ้า ปั้นดินเหนียว ปลูกผัก ปลูกต้นไม้ ทำ�อาหาร งานฝีมือ ล้างจาน เป็นต้น
ผศ.ดร.ทพ.อชิรวุธ สุพรรณเภสัช รองคณบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษา ศิษย์เก่าและชุมชนสัมพันธ์ คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
สี หรือแปรงสีฟันน่ารักๆ เป็นต้น อีกทั้งการรับ ประทานจุบจิบส่วนใหญ่เด็กมักทำ�ตามอย่างผูใ้ หญ่ ซึ่งผู้ใหญ่เองควรเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่เด็ก โดย ชักชวนให้เด็กรับประทานแต่อาหารทีม่ ปี ระโยชน์ นอกจากนี้คุณแม่ควรให้เวลาทำ�กิจกรรมกับลูก เล่นกับลูก ลูกจะได้เพลิดเพลินไม่หันความสนใจ ไปที่การกิน เคล็ดลับที่สำ�คัญในการเลี้ยงลูกสมัย นี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องโรคฟันผุ หรือเรื่องอื่น ทั่วๆ ไปคือ การมีวินัย ไม่ทำ�อะไรตามใจ ทั้งตามใจลูก หรือตามใจคุณพ่อคุณแม่เองโดยไม่มีเหตุผล เท่านี้ ก็จะช่วยเป็นเกราะป้องกันอันตรายจากสิง่ ต่างๆ ที่ แวดล้อมตัวเราอยู่ได้ “เทคนิคการเลีย้ งลูกไม่ให้ฟนั ผุ” มีได้หลาย วิธีและง่ายๆ ไม่ยากอย่างที่คิดนะครับ พบกันใหม่ ฉบับหน้า สวัสดีครับ
งานบุญผะเหวด สมโภชพระเจ้าองค์ตื้อ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ 2 ฝั่งโขง เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2561 ที่วัดศรีชม ภูองค์ตื้อ (วัดนํ้าโมง) ต.นํ้าโมง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นายรณชัย จิตรวิเศษ ผวจ.หนองคาย เป็นประธาน เปิดงานเทศกาลนมัสการหลวงพ่อพระเจ้าองค์ตื้อ ประจำ�ปี 2561 โดยมี นายศรัณย์ศักดิ์ ศรีเครือเนตร นายอำ�เภอท่าบ่อ พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สมาชิกสภา เทศบาลเมืองท่าบ่อ กำ�นัน ผู้ใหญ่บ้าน ประชาชน นักเรียน นักศึกษา ร่วมในพิธีจำ�นวนมาก โดยก่อนพิธีเปิดในช่วงเช้ามีพิธีบวงสรวง เทวดาตาพลี ถวายภัตตาหารเช้าแด่พระภิกษุสามเณร
ภายหลังจากพิธีเปิดมีการแสดงชุด “เทิดพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวิชิราลงกรณบดินทรเทพย วรางกูร” การแสดงประกอบแสงเสียงจากนักเรียน โรงเรียนท่าบ่อในชุด “ตำ�นานหลวงพ่อพระเจ้าองค์ตอื้ ” ชาวหนองคายและประชาชนทั่วไปทั้ง สองฝั่งแม่นํ้าโขง เชื่อว่าหลวงพ่อพระเจ้าองค์ตื้อ ศักดิส์ ทิ ธิย์ งิ่ นัก แม้พระพุทธรูปจำ�ลองทีส่ ร้างขึน้ ภาย หลังก็ยังเลิศด้วยพระบารมี งานนมัสการหลวงพ่อ พระเจ้าองค์ตอื้ หรือประเพณีสมโภชพระเจ้าองค์ตอื้ เรียกว่าบุญเดือนสีห่ รือบุญผะเหวด จัดเป็นประจำ�ทุก ปี กำ�หนดเอาวันเพ็ญเดือนสี่เพื่อให้พุทธศาสนิกชน
บำ�เพ็ญบุญส่งเสริมรักษาประเพณีวัฒนธรรมทาง พระพุทธศาสนา เมื่อเทศกาลบุญเดือนสี่มาถึงลูก หลานทีไ่ ปอยูห่ รือทำ�งานต่างถิน่ จะกลับมานมัสการ ถวายเครื่องสักการะบูชาเพื่อขออานุภาพหลวงพ่อ พระเจ้าองค์ตอื้ คุม้ ครองให้ปลอดภัยจากอันตรายทัง้ ปวงมีความเจริญรุ่งเรืองในชีวิต งานเทศกาลนมัสการหลวงพ่อพระเจ้า องค์ตื้อ ประจำ�ปี 2561 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 25 ก.พ. ถึง 1 มีนาคม 2561 มีมหรสพสมโภชทุกคืน และ ภายในงานยังมีรา้ นมัจฉากาชาด โดยกิง่ กาชาดอำ�เภอ ท่าบ่อ มาร่วมจัดกิจกรรมอีกด้วย
หน้า 6
ปีที่ 15 ฉบับที่ 165 ประจำ�เดือนกุมภาพันธ์ 2561
ปีที่ 15 ฉบับที่ 165 ประจำ�เดือนกุมภาพันธ์ 2561
หน้า 7
หน้า 8 ปีที่ 15 ฉบับที่ 165 ประจำ�เดือนกุมภาพันธ์ 2561 เอสซีจแี พคเกจจิง้ มอบทุนการศึกษา “ฟินคิ ซฯ ตำ � รวจหนองคาย ตั้ ง กองร้ อ ยนํ้ า หวาน เพือ่ ชุมชน ครัง้ ที่ 18 ประจำ�ปีการศึกษา 2560” จราจร หวังลดอุบัติเหตุถนนแบบมีส่วนร่วม
เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2561 ที่ศูนย์ประ ชุมฟินิคซฯ นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการ จังหวัดขอนแก่น เป็นประธานในพิธีมอบทุนการ ศึกษาตามโครงการทุนการศึกษาฟินิคซ ฯ เพื่อ ชุมชน ครั้งที่ 18 ประจำ�ปีการศึกษา 2560 ให้แก่ เยาวชนรอบโรงงานที่มีภูมิลำ�เนาในตำ�บลกุดนํ้า ใส ตำ�บลม่วงหวาน อำ�เภอนํ้าพอง และตำ�บลโคก สูง อำ�เภออุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น โดยแบ่งทุนการศึกษาออกเป็น 3 ประเภท รวม 202 ทุน เป็นเงินกว่า 662,00 บาท ประกอบ ด้วย ทุนการศึกษาต่อเนื่อง มอบให้กับนักเรียน ที่ มี เ กรดเฉลี่ ย ตั้ ง แต่ 2.5 ขึ้ น ไป ระดั บ ประถม ศึกษาทุนละ 1,000 บาท จำ�นวน 103 ทุน ระดับ มัธยมศึกษาตอนต้น ทุนละ 3,000 บาท จำ�นวน 36 ทุน และระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ทุนละ
3,500 บาท จำ�นวน 25 ทุ น ทุ น สอบแข่ ง ขั น มอบให้กับนักเรียนที่ ผ่ า นการสอบแข่ ง ขั น จากคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ระดับประกาศนียบัตร วิชาชีพ ทุนละ 4,000 บาท จำ � นวน 4 ทุ น ระดับประกาศนียบัตรวิชาชัน้ สูง ทุนละ 5,000 บาท จำ�นวน 11 ทุน และระดับปริญญาตรี ทุนละ 6,000 บาท จำ�นวน 18 ทุน ทุนการศึกษาสำ�หรับนักเรียนที่เรียนดีแต่ ขาดแคลนทุนทรัพย์ โดยการพิจารณาของกำ�นัน ผูใ้ หญ่บา้ น และกรรมการในชุมชนตำ�บลละ 50,000
บาท รวม 150,000 บาท นอกจากนี้ มู ล นิ ธิ เ อสซี จี ยั ง ได้ ม อบทุ น การศึกษาให้กับบุตรสื่อมวลชนขอนแก่น 30,000 บาท และเยาวชนในชุมชนรอบโรงงาน ในปีการ ศึกษา 2560 ตามโครงการพี่เลี้ยงทุนมูลนิธิเอสซีจี อีกจำ�นวน 31 ทุน
ห น อ ง ค า ย ฯ เ ต รี ย ม จั ด ง า น ฉ ล อ ง อนุสาวรีย์ปราบฮ่อ และงานกาชาดจังหวัด เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2561 ณ ห้อง ประชุมปทุมเทวาภิบาล ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัด นายรณชัย จิตรวิเศษ ผูว้ า่ ราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานร่วมประชุมกับคณะกรรมการจัดงาน “ฉลองอนุสาวรีย์ปราบฮ่อ ใต้ร่มพระบารมี 191 ปี เมืองหนองคาย และงานกาชาดประจำ�ปี 2561” ผูว้ า่ ราชการจังหวัดหนองคาย ได้สอบถาม ยังคณะกรรมการฝ่ายต่างๆ ถึงความพร้อมของการ จัดงาน ทั้งคณะกรรมการฝ่ายอำ�นวยการ, คณะ กรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์,คณะกรรมการด้าน พิธกี าร, การจัดนิทรรศการผลงานของส่วนราชการ ต่างๆ, การเตรียมความพร้อมด้านสถานที่ทั้งลาน กิจกรรม ถนนอาหารปลอดสุรา การออกร้านมัจฉา กาชาด การออกรางวัลสลากกาชาด การจำ�หน่าย สินค้าผลิตภัณฑ์ชมุ ชน (Otop) การแสดงประกอบ แสง สี เสียงใต้รม่ พระบารมี 191 ปี เมืองหนองคาย และตำ � นานสงครามปราบฮ่ อ , การคั ด เลื อ ก
ค น ดี ศ รี ห น อ ง ค า ย การแข่ ง ขั น กี ฬ า การ ประกวดร้ อ งเพลง การจั ด กิ จ กรรมเดิ น แบบผ้าไทย การรักษา ความปลอดภั ย การ รักษาพยาบาล และการ อำ�นวยความสะดวกใน ด้านสาธารณูปโภค ซึ่งการจัดงานดังกล่าว กำ�หนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5 – 13 มีนาคม 2561 โดยในช่วงเช้าของวันที่ 5 มี.ค.61 จะมีพธิ กี ารสำ�คัญ ได้แก่ พิธีสักการะศาลหลักเมือง, พิธีบวงสรวง พระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 ณ บริเวณด้าน หน้าศาลากลางจังหวัดหนองคาย, พิธีสักการะ อนุสาวรีย์ปราบฮ่อองค์เดิม ณ บริเวณด้านข้าง สภ.เมืองหนองคาย, พิธวี างพวงมาลา, พิธบี วงสรวง
อุทิศส่วนกุศลให้กับบรรพบุรุษ วีรชนวีรกรรม สงครามปราบฮ่ อ และพิ ธี บ วงสรวงอนุ ส าวรี ย์ ปราบฮ่อ ณ บริเวณอนุสาวรีย์ปราบฮ่อหลังใหม่ ในวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ.2561 เริ่มตั้งแต่เวลา 06.09 น. เป็นต้นไป
ขอนแก่นประมูลทะเบียนเลขสวย คาดได้เงินมากกว่า 43 ล้านบาท เข้ากองทุนความปลอดภัยทางถนน
เมื่ อ วั น ที่ 22 ก.พ.61 ที่ โ รงแรมอวานี ขอนแก่น โฮเทล แอนด์คอนเวชั่น ขอนแก่น นาย สุชัย บุตรสาระ รอง ผวจ.ขอนแก่น เป็นประธาน แถลงข่าวประมูลหมายเลขทะเบียนรถ (เลขสวย) ครัง้ ที่ 15 หมวด ขข (ของคา ํ้ ของคูณ) จ.ขอนแก่น ซึ่ ง มี นายวิ โ รจน์ วิ ริ ย ะจั น ทร์ ขนส่ ง จั ง หวั ด ขอนแก่น ดำ�เนินการ พร้อมกับมี นายพงษ์ศักดิ์ ตั้งวานิชกพงษ์ นายก อบจ.ขอนแก่น ร่วมในการ แถลงข่าวด้วย ก่ อ นแถลงข่ า วได้ มี พิ ธี ม อบอุ ป กรณ์ ช่ ว ยเหลื อ คนพิ ก าร ที่ ไ ด้ เ งิ น จากกองทุ น เพื่ อ ความปลอดภัยทางถนน จ.ขอนแก่น หลังจาก ประมูลหมายเลขทะเบียนรถ (เลขสวย) ครั้งที่ 14 จ.ขอนแก่น ประจำ�ปี 2560 จำ�นวนเงิน 43 ล้านบาท ให้กับผู้ประสบอุบัติเหตุบนถนนใน จ.ขอนแก่น จำ�นวน 55 ราย โดยมอบเป็นอุปกรณ์ ผู้พิการที่แขนขาถูกตัดต้องใช้รถวีลแชร์ และ ขา เทียม แขนเทียม นายวิโรจน์ วิริยะจันทร์ ขนส่งจังหวัด ขอนแก่น กล่าวว่า สนง.ขนส่งจังหวัดขอนแก่น
ได้ จั ด แถลงข่ า วประมู ล หมายเลขทะเบียนรถที่เป็น ที่ต้องการ หรือ เป็นที่นิยม ของประชาชนทั่วไป (เลข สวย) ซึง่ เป็นประเภทรถยนต์ นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน (รถเก๋ง, รถกระบะ 4 ประตู) หมวดพิ เ ศษที่ มี อั ก ษรนำ � หน้ า เป็ น อั ก ษรคู่ เ หมื อ น ได้แก่ “ขข” อันมีความหมายเป็น “ของคํา ้ ของคูณ” จำ�นวน 301 หมายเลข โดยมี กลุ่มที่ 1 เลขตัวเหมือน 1111 ถึง 9999 กลุม่ ที่ 2 เลขคู่ 8 คู่ 9 เช่น 8899, 8989 เป็นต้น เลขเดี่ยว 1 ถึง 9 เลขสองตัวเหมือน 11 ถึง 99 เลข สามตัวเหมือน 111 ถึง 999 และกลุม่ ที่ 3 เลขหลัก 1,000 ถึง 9000 เลขคู่ 1122 , 2277, 9900 เป็นต้น นายวิโรจน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การประมูล หมายเลขทะเบียนรถ (เลขสวย) จะใชวิธี เคาะไม้ซงึ่ เสนอด้วยวาจา ในวันที่ 17 – 18 มีนาคม 2561 ตัง้ แต่ เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป ณ ห้องคอนเวนชั่น 2-3
โรงแรมอวานีขอนแก่นฯ โดยแผ่นป้ายทะเบียน รถ จำ�นวน 301 หมายเลข หลวงปู่อินทร์ กิตติ สาโร เจ้าอาวาสวัดป่าพุทธมงคล ต.หลุบ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ พระเกจิอาจารย์ชื่อดังในภาคอีสาน ได้ทำ�พิธีอธิษฐานจิตเสริมศิริมงคล เมื่อวันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา นอกจากนี้ สำ�หรับเงินที่ได้รับจาก การประมูลหมายเลขทะเบียนรถทัง้ หมดจะนำ�เข้า สมทบ “ กองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถ ใช้ถนน (กปถ.) ขอนแก่น” ต่อไป
เมื่อวันที่ 24 ก.พ.2561 ที่ห้องประชุม องค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองคาย หลังเดิม พ.ต.อ.อำ�นาจ ถนอมทรัพย์ รอง ผบก.ภ.จังหวัด มุ ก ดาหาร เป็ น ประธานเปิ ด การโครงการลด อุบัติเหตุจราจรทางถนน แบบมีส่วนร่วม กอง ร้อยอาสาจราจรหญิง หรือกองร้อยนํ้าหวาน จราจร ที่ ตำ�รวจภูธรภาค 4 ร่วมกับ ตำ�รวจภูธร จังหวัดหนองคาย ร่วมกันจัดขึ้น ทั้งนี้ จากข้อมูลความสูญเสีย ที่เกิดขึ้น จากการอุบัติเหตุทางถนน ที่ก่อให้เกิดความสูญ เสียกับประเทศไทยมากกว่า 20,000 ล้านบาท ต่อปี มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 20,000 คนต่อปี บาด เจ็บและพิการอีกจำ�นวนมาก รัฐบาลได้ตระหนัก ถึงปัญหาดังกล่าวข้างต้น และคณะรัฐมนตรีได้ กำ�หนดหีปี 2554-2563 เป็นทศวรรษแห่งความ ปลอดภัยทางถนน โดยมีเป้าหมายลดอันตรายการ เสียชีวติ ลงครึง่ หนึง่ ในอีก 10 ปีขา้ งหน้า พร้อมทัง้ ได้ประกาศเรื่องอุบัติเหตุทางถนน เป็นวาระแห่ง ชาติ เรื่องการลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุทาง ถนนให้เหลือน้อยทีส่ ดุ ส่งเสริมการเรียนรูก้ ารเดิน ทางและการใช้ระบบขนส่งอย่างมีประสิทธิภาพ
ก า ร แ ก้ ไ ข้ ปั ญ ห า อุ บั ติ เ หตุ จ ราจรทาง ถ น น ไ ม่ ส า ม า ร ถ ดำ � เนิ น งานให้ สำ � เร็ จ ได้ เ พี ย งหน่ ว ยเดี ย ว จำ�เป็นต้องอาศัยหน่วย งานภาครั ฐ ทุ ก ภาค ส่วนเข้ามามีส่วนร่วม และภาคประชาชน เข้ามาสนับสนุน จึงจะสามารถลดปัญหาการเกิด อุบัติเหตุจราจร ลดการบาดเจ็บ เสียชีวิต ของผู้ ใช้รถ ใช้ถนนลงได้ ตามนโยบายที่รัฐบาลกำ�หนด ตำ�รวจภูธรภาค 4 โดยตำ�รวจภูธรจังหวัดหนองคาย จึงได้จดั โครงการในครัง้ นีข้ นึ้ เพือ่ ลดปัญหาการเกิด อุบตั เิ หตุจราจร การบาดเจ็บ เสียชีวติ จากอุบตั เิ หตุ จราจรทางถนน ให้ได้ตามเป้าหมายประกาศของ คณะรัฐมนตรี เพื่อสร้างระบบการแก้ไขปัญหา อุบัติเหตุจราจรทางถนน ด้วยการใช้ข้อมูลการ สอบสวน โดยการนำ � ข้ อ มู ล จากการสอบสวน อุบัติเหตุจราจรทางถนนมาวิเคราะห์แล้วกำ�หนด แนวทางแก้ไขป้องกันปัญหาอุบตั เิ หตุทางถนน เพือ่
สร้างกระบวนการสอบสวนแบบสหวิชาชีพ จาก การมีสว่ นร่วมของภาคีเครือข่ายเจ้าหน้าทีข่ องรัฐ นอกจากนี้ยังเพื่อสร้างเครือข่ายชุมชนเข้าร่วม แก้ไขปัญหาอุบัติเหตุจราจรทางถนนด้วยการฝึก อบรมเป็นชุดปฏิบตั กิ ารจัดระเบียบการจราจรบน ถนนในชุมชน เป็นผูช้ ว่ ยเหลือเจ้าพนักงานจราจร โดยมีประชาชน อายุระหว่าง 20-26 ปี ในเขตพืน้ ที่ สภ.เมืองหนองคาย ,สภ.ท่าบ่อ ,สภ.โพนพิสัย, สภ.บ้านเดื่อ สถานีละ 25 คน เข้าร่วมอบรมรวม จำ�นวน ทั้งสิ้น 100 คน
อุ ด รธานี ป ระมู ล ทะเบี ย นรถสวย คาด ได้ เ งิ น เข้ า กองทุ น กว่ า 19 ล้ า นบาท ขนส่ ง ทางบก ร่ ว มกั บ จั ง หวั ด อุ ด รธานี จัดประมูลทะเบียนรถสวย หมวดอักษร กล ”การ เงิน การค้า ก้าวหน้า ลํ้าเลิศ” มีผู้สนใจลงทะเบียน ล่วงหน้าเข้าประมูลแล้วกว่า 200 ราย คาดได้เงินไม่ น้อยกว่า 19 ล้านบาท เมื่อวันที่ 22 ก.พ.2561 ที่โรงแรมเซ็นทา รา แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ จ.อุดรธานี นาย วัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็น ประธานในการร่ ว มแถลงข่ า วเตรี ย มจั ด การ ประมูลหมายเลขทะเบียนรถสวย หมวดอักษร กล.XXXX อุดรธานี”การเงิน การค้า ก้าวหน้า ลํ้าเลิศ” พร้อมด้วย นายปิยั โยมา ขนส่งจังหวัด อุดรธานี ซึง่ จะจัดขึน้ ในวันที่ 10-11 มีนาคม 2561 ที่ โรงแรมเซ็นทารา แอนด์ คอนเวนชัน่ เซ็นเตอร์ เพือ่ นำ�เงินรายได้เข้ากองทุนเพื่อความปลอดภัยในการ ใช้รถ ใช้ถนน และนำ�เงินรายได้ดังกล่าวไปใช้จ่าย ในการจัดหาอุปกรณ์ชว่ ยเหลือผูพ้ กิ ารจากอุบตั เิ หตุ การใช้รถ ใช้ถนน ตามโครงการความสุขทัว่ ไทย ส่ง ความปลอดภั ย ให้ ทุ ก คน หรื อ Happiness for all ที่จัดขึ้นมาเป็นปีที่ 2 นายวัฒนา พุฒิชาติ ผวจ.อุดรธานี กล่าวว่า การ ประมูลหมายเลขทะเบียนรถสวยถือว่าเป็นการ สร้างและทำ�การกุศลที่มีความสำ�คัญมาก เพราะว่า เงินรายได้จากการประมูลหมายเลขทะเบียนรถสวย กฎหมาย มีการกำ�หนดว่า จะต้องนำ�เข้าสู่กองทุน เพือ่ ความปลอดภัยในการใช้รถ ใช้ถนน และเงินราย ได้ดงั กล่าวก็จะถูกนำ�เอาไปใช้จา่ ยในการสนับสนุน ในการรณรงค์ปอ้ งกัน และลดอุบตั เิ หตุในการใช้รถ ใช้ถนนในรูปแบบต่างๆ อาทิเช่น โครงการสนาม ฝึกจราจรเยาวชน โครงการรณรงค์ป้องกัน และลด อุบัติเหตุทางถนน ในเทศกาลต่างๆ โครงการตรวจ รถก่อนใช้ปลอดภัยแน่นอน จัดซื้ออุปกรณ์ช่วย เหลือผู้พิการที่ได้รับจากการใช้รถ ใช้ถนน ซึ่ ง ในการจั ด การประมู ล หมายเลขรถ สวยครั้งนี้ มีหมายเลขทะเบียนรถสวย ประชาชน ทั่วไปสามารถเข้าร่วมทำ�การประมูลได้ จำ�นวน 301 หมายเลข ซึ่ ง สามารถครอบครองได้ อ ย่ าง เป็นการถาวร และสามารถซื้อ ขายได้ ส่วนรูป
แบบของแผ่ น ป้ า ยทะเบี ย น เลขสวยของจังหวัดอุดรธานี ถือว่าเป็นป้ายแผ่นทะเบียน ที่ ป ระชาชนที่ ป ระมู ล ไปได้ นั้น ต่างก็เกิความภูมิใจ บาง คนถื อ ว่ า แผ่ น ป้ า ยทะเบี ย น ดังกล่าว เป็นมงคล ด้วยเหตุ ที่ว่า จังหวัดในประเทศไทยที่ ลงท้ายชื่อจังหวัดว่า”ธานี” มี อยู่ไม่กี่จังหวัด ประการต่ อ มาใน แผ่ น ป้ า ยทะเบี ย นดั ง กล่ า วมี ก ารออกแบบเป็ น แผ่ น ป้ า ยกราฟฟิ ก รวบรวมเอาสิ่ ง มงคลและ สถานที่ท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้องกับอารยธรรมโบราณ แหล่ ง โบราณคดี แหล่ ง ท่ อ งเที่ ย วที่ สำ � คั ญ ของ จังหวัดและของโลก อาทิเช่น ทะเลบัวแดง ที่เกิด อยู่ ใ นหนองหาน ที่ ไ ด้ รั บ การยกย่ อ งจากสำ � นั ก ข่าว CNN ว่าเป็นทะเลสาบทีม่ คี วามแปลกประหลาด แห่งหนึง่ ในจำ�นวน 15 แห่งของโลก เป็นแหล่งท่อง เที่ ย วที่ มี นัก ท่ อ งเที่ ย วมาเที่ ย วชมแต่ ล ะปี จำ � นวน หลายแสนคน, ดอกทองกวาว เป็นไม้มงคล เป็น ดอกไม้ประจำ�จังหวัดอุดรธานี และดอกมีสีแสด ก็ เป็นสีประจำ�จังหวัดอุดรธานีอีกด้วย และเป็นไม้ที่ คนโบราณเชื่อว่าถ้าปลูกไว้ประจำ�บ้าน จะทำ�ให้มี เงิน มีทองมาก, หอนางอุษา ที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยาน ประวัติศาสตร์ภูพระบาท อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ซึ่ง เป็นอุทยานประวัติศาสตร์ที่บ่งบอกถึงอารยธรรม โบราณของมนุ ษ ย์ เป็ น แหล่ ง ท่ อ งเที่ ย วทาง ประวัตศิ าสตร์ ทีส่ �ำ คัญแห่งหนีง่ ของจังหวัดอุดรธานี และของประเทศ, ไหบ้านเชียง ที่เป็นไหเขียนสี โบราณ ของแหล่งโบราณคดีบา้ นเชียง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี ทีม่ กี ารพิสจู น์แล้วว่าเป็นแหล่งทีอ่ ยูอ่ าศัย มนุษย์ยคุ ก่อนประวัตศิ าสตร์ หรือยุตสำ�ริด มีอายุกว่า 5600 ปี ซึง่ ถือว่าเป็นแหล่งวัฒนธรรมทีม่ คี วามสำ�คัญ แห่งหนึ่งของโลก ซึ่ ง คณะกรรมการจั ด งานการประมู ล หมายเลขทะเบียนรถสวยครั้งนี้ ได้รับความเมตตา เป็นอย่างสูงจากท่านพระครูพิพัฒน์วิทยาคม หรือ
หลวงพ่อเจริญ ฐานยุตฺโต เจ้าอาวาสวัดโนนสว่าง อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี พร้อมพระสงฆ์ 9 รูปได้ ทำ�พิธีอธิษฐานจิต แผ่นป้ายทะเบียนดังกล่าว เพื่อ เสริมศิริมงคล นายปิยะ โยมา ขนส่งจังหวัดอุดรธานี เปิด เผนว่า การจัดการประมูลหมายเลขทะเบียนรถสวย ครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งที่ 11 หมวดอักษร กล.XXXX อุดรธานี ”การเงิน การค้า ก้าวหน้า ลํ้าเลิศ” เพื่อนำ� เงินรายได้จากการประมูลนำ�เข้าสูก่ องทุนเพือ่ ความ ปลอดภัยในการใช้รถ ใช้ถนน และใช้จ่ายเงินดัง กล่าวในการจัดซื้อ อุปกรณ์ช่วยเหลือผู้พิการจาก การประสบภัยจากการใช้รถ ใช้ถนน ทั่วประเทศ ตามโครงการ”ความสุขทั่วไทย ส่งความปลอดภัย ให้กับทุกคน และเพื่อใช้จ่ายจัดหาอุปกรณ์ช่วย เหลือผูพ้ กิ าร จากอุบตั เิ หตุทางถนน เช่น รถเข็น ขา เทียม และฯลฯ ซึ่งในขณะนี้มีผู้สนใจที่จะเข้าร่วม ประมูลฯ ล่วงหน้าแล้วจำ�นวน 224 ราย ที่ผ่านมาตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ.2554 - 2560 กองทุนเพื่อความปลอดภัยการใช้รถ ใช้ ถนน มี ก ารจั ด อุ ป กรณ์ ช่ ว ยเหลื อ ผู้ พิ ก ารชอง จังหวัดอุดรธานีไปแล้วจำ�นวน 335 ราย เป็นเงิน 14,592,000 บาท เฉพาะในปี พ.ศ.2561 นี ้ ได้จดั สรร อุปกรณ์ช่วยเหลือผู้พิการจำ�นวน 42 ราย เป็นเงิน จำ�นวน 1,722,000 บาท และคาดหมายว่าในการ ประมูลฯครั้งที่ 11 นี้ จะสามารถทำ�รายได้ไม่น้อย กว่า 19 ล้านบาท
ประกวด “เล่าเรื่อง เมืองหนองคาย” แถลงข่าว “มหกรรมผ้าทอมืออนุภมู ภิ าคลุม่ นาํ้ โขง” ผ่านภาพถ่าย ครั้งที่ 2
เมือ่ วันที่ 24 ก.พ.61 ทีล่ านวัฒนธรรม ถนน ริมโขง แลนด์มาร์กพญานาคคู่ หน้าวัดลำ�ดวน เขต เทศบาลเมืองหนองคาย นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ ว่าราชการจังหวัดหนองคายเป็นประธานเปิดการ ประกวดถ่ายภาพ “NONGKHAI PHOTO RUSH 2” “เล่าเรื่อง เมืองหนองคาย” ผ่านภาพถ่าย ครั้ง ที่ 2 โดยมีนายกระแสร์ ตระกูลพรพงศ์ รองนายก องค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองคาย นายวีระ ชัยโชค มงคลภูมิรัตน์ รองนายกเทศมนตรีเมือง หนองคาย และหน่วยราชการ ภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนร่วมในพิธีเป็นจำ�นวนมาก นางสาวประภาพร สงวนนาม ประธาน YEC หนองคาย กล่าวว่า กิจกรรมดังกล่าวได้รับ การสนับสนุนงบประมาณจากจังหวัดหนองคาย โดยผู้ ว่ า ราชการจั ง หวั ด หนองคาย, หอการค้ า จังหวัดหนองคาย, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และผู้สนับสนุนทั้งภาครัฐและเอกชนของจังหวัด หนองคาย ทั้งนี้เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจด้าน การท่องเที่ยวของจังหวัดหนองคาย ให้ประชาชน และนักท่องเทีย่ วได้มสี ว่ นร่วมในกิจกรรมทีจ่ ะสือ่ มุมมองในด้านต่างๆ ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม การท่องเที่ยว และวัฒนธรรมที่หลากหลายของ จังหวัดหนองคายสู่สาธารณชนผ่านเลนส์กล้อง
สำ�หรับการประกวด ครั้ ง นี้ กำ � หนดหั ว ข้ อ เรื่ อ ง “หนองคายสตอรี่ เล่าเรื่อง เมืองหนองคาย” โดยจัดการ แข่ ง ขั น 3 ประเภท ได้ แ ก่ ซู เ ปอร์ ช็ อ ต (Supershot) คลิปวิดีโอ และ รัช (Rush) สามารถใช้อุปกรณ์ถ่ายภาพ ได้ ห ลากหลาย ทั้ ง กล้ อ ง DSLR , กล้องคอมแพ็ก, กล้องถ่ายภาพบนอากาศ (โดรน) และโทรศัพท์มอื ถือ รับสมัครจนถึง 15 ก.พ. 2561 ส่งผลงานประเภท ซูเปอร์ช็อต และคลิป วิดโี อ ถึงวันที่ 20 ก.พ.2561 ซึง่ ประเภทนีเ้ ปิดโอกาส ให้ช่างภาพเก็บภาพบอกเล่าเรื่องเมืองหนองคาย นานกว่า 2 เดือน เพื่อเปิดมุมมองใหม่ของจังหวัด หนองคาย ส่วนประเภทรัชนั้น จะแข่งขันในวัน ที่ 24-25 ก.พ.นี้ ภายหลังพิธีเปิดงานตอนเช้า ช่าง ภาพจะได้รบั โจทย์ 2 โจทย์เพือ่ เก็บภาพตามโจทย์จะ สือ่ ความหมายตามโจทย์นนั้ ๆ มีเวลาให้ถา่ ยภาพใน โจทย์ที่ 1 เป็นเวลา 24 ชั่วโมง แล้วนำ�ภาพส่งคณะ กรรมการ จากนั้นจะได้รับโจทย์ที่ 2 ในเวลา 4 ชั่วโมง
จั ง หวั ด อุ ด รธานี และกลุ่ ม จั ง หวั ด ภาค อีสาน พร้อมหน่วยงานพันธมิตรจากทุกภาคส่วน ร่วมแถลงข่าว แสดงศักยภาพความพร้อม จัดงาน “GMS FABRIC EXPO 2018 : มหกรรมผ้าทอ มืออนุภูมิภาคลุ่มนํ้าโขง” ภายใต้แนวคิด Colorful Fabric Life : อลังการสีสันผ้าทอมือแห่งลุ่มนํ้าโขง นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัด อุดรธานี เปิดเผยว่า “มหกรรมผ้าทอมือ อนุภูมิ ภาคลุ่มนํ้าโขง : GMS Fabric Expo 2018” ซึ่งใน ปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด Colorful Fabric Life : อลังการสีสนั ผ้าทอมือแห่งลุม่ นาํ้ โขง ทีจ่ ะสะท้อน ต้องส่งผลงานให้กับคณะกรรมการตัดสิน ซึ่งจะ ให้เห็นถึงเส้นสายลายผ้า ซึ่งเชื่อมโยงสีสันแห่งวิถี เกิดความสนุกสนานในการแข่งขันในช่วงเวลาดัง ชีวิต ประเพณี และวัฒนธรรม ถักทอ ร้อยเรียง กล่าว โดยทางผู้จัดงานมีรถไว้คอยบริการทั้งรถตู้ กันจากทั้ง 6 ประเทศ ได้แก่ กัมพูชา จีนตอนใต้ รถสามล้อเครื่อง สำ�หรับพาช่างภาพไปถ่ายภาพ ตามสถานที่ที่ต้องการ รางวัลชนะเลิศแต่ละประเภท จะได้รบั เงิน 50,000 บาท พร้อมด้วยถ้วยเกียรติยศจากรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และถ้วย รางวัลจากผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย นอกจาก นีย้ งั มีรางวัลป็อปปูลา่ โหวต สำ�หรับภาพทีเ่ ผยแพร่ ทางเฟซบุ๊คมียอดไลท์ ยอดแชร์มากที่สุด จะได้รับ เงินรางวัล 25,000 บาท รวมรางวัลกว่า 440,000 บาท
(ยูนนาน) สปป.ลาว เมียนมาร์ ไทย และ เวี ย ดนาม ซึ่ ง การจั ด งานใน ครั้ ง นี้ เป็ น งานในระดั บ นานาชาติ ที่ ป ระเทศไทย โดยภาคตะวั น ออก เฉียงเหนือเป็นเจ้าภาพร่วมกัน เพื่อ ตอบสนองยุทธศาสตร์ชาติข้างต้น และนโยบายของรัฐบาล เรื่อง การ เสริมสร้างความเข้มแข็งและยั่งยืน ให้กับเศรษฐกิจของประเทศ (Local Economy) ภายใต้โครงการยกระดับ การท่องเทีย่ วทางวัฒนธรรม ส่งเสริม การเป็นศูนย์กลาง การออกแบบ และ การค้าขาย อย่างครบวงจร ชมผ้าทอมือที่สวยงาม มีนาคม 2561 ณ สนามทุ่งศรีเมือง จ.อุดรธานี หาชมยาก รับรองไม่ผิดหวัง 28 กุมภาพันธ์ - 4
เมนูมงคลเทศกาลตรุษจีน โดยโรงแรมพูลแมน ขอนแก่นฯ ; โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด ร่วมมอบความพิเศษในช่วงเทศกาลเทศกาลตรุษจีน ในงาน ‘The great Chinese New Year 2018 วิจิตรแดนสวรรค์’ ณ ลาน โปรโมชัน เซ็นทรัลพลาซาขอนแก่น โดยทางโรงแรมฯ ได้น�ำ เมนูอาหารต้นตำ�รับขึน้ ชือ่ เสริมสร้างความ เป็นมงคลจากห้องอาหารจีนลองหยุนให้ได้ลิ้มลอง พร้อมกันนี้ได้แนะนำ� ผลิตภัณฑ์ขนมปังน้องหมาหลากไส้ เพือ่ ต้อนรับความสมบูรณ์พนู สุขโชค ดีนักษัตรปีจอ จากเบเกอร์บาสเก็ต ร่วมวางจำ�หน่ายแด่ผู้ร่วมงานด้วย
ปีที่ 15 ฉบับที่ 165 ประจำ�เดือนกุมภาพันธ์ 2561
หน้า 9 กสิ ก รไทยเปิ ด กลยุ ท ธ์ มั ด ใจเอสเอ็ ม อี ใช้ Data Analytic ปล่ อ ยกู้ ตั้ ง เป้ า สิ น เชื่ อ โต 4-6% กสิกรไทยเปิดแผนธุรกิจเอสเอ็มอีปี 61 ใช้ Data Analytic และ Value Chain ปล่อยกู้ ดันยอดโต 4-6% วางยุทธศาสตร์ “ธนาคารเพื่อเอสเอ็มอี” ชู 4 กลยุทธ์ ครองใจลูกค้าด้วยบริการทางการเงินทีค่ รบ วงจร เพื่อสนับสนุนเอสเอ็มอีให้โตอย่างแข็งแกร่ง นายสุรัตน์ ลีลาทวีวัฒน์ รองกรรมการ ผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า แนวโน้ม เศรษฐกิจไทยในปี 2561 จะขยายตัวใกล้เคียงกับปี ที่แล้ว โดยคาดว่าจีดีพีจะเติบโตประมาณ 4 % ภาค ธุรกิจก่อสร้างจะได้รบั อานิสงส์จากโครงการลงทุน ของภาครัฐที่คาดว่าจะมีเม็ดเงินรวมประมาณ 1 ล้านล้านบาท ด้านภาคการส่งออกคาดว่าจะขยาย ตัว 4.5% จากแรงหนุนภาวะเศรษฐกิจโลกที่ฟื้น ตัว ขณะเดียวกันภาคธุรกิจท่องเทีย่ วคาดว่าจะขยาย ตัวสูงขึ้น 6.5-7.5% เนื่องจากประเทศไทยยังคงได้ รับความสนใจจากนักท่องเทีย่ วต่างชาติ โดยเฉพาะ ชาวจีน อย่างไรก็ตาม ด้วยแนวโน้มพฤติกรรมผู้ บริโภคที่มุ่งสู่ช่องทางออนไลน์มากขึ้น ทำ�ให้โซ เชียลมีเดียและเทคโนโลยีจะมีความสำ�คัญในการ ทำ�ธุรกิจมากขึ้น ทำ�ให้เอสเอ็มอีจำ�เป็นต้องปรับ ตัว 3 ด้าน ได้แก่ การพัฒนาช่องทางการขายให้ผสม ผสานมากขึ้น (Omni-Channel) การนำ�เทคโนโลยี
มาช่ ว ยเพิ่ ม ประสิ ท ธิ ภ าพ ธุรกิจ และการวางกลยุทธ์หลัง การขายที่สร้างความประทับ ใจให้ลูกค้า ด้ ว ย บ ริ บ ท ท า ง เศรษฐกิ จ และทิ ศ ทางการ ปรั บ ตั ว ของธุ ร กิ จ ลู ก ค้ า ผู้ ประกอบการ ในปี 2561 นี้ ธนาคารกสิ ก รไทยจึ ง ได้ กำ�หนดยุทธศาสตร์ “ธนาคาร เพื่ อ ธุ ร กิ จ เอสเอ็ ม อี ” ตอกยํ้ า ความเป็ น ผู้ นำ � ใน ตลาดนี้อย่างต่อเนื่อง ด้วยกลยุทธ์ 4 ด้าน ได้แก่ การให้บริการทางการเงินที่ครบวงจร, นวัตกรรม การเงินดิจิทัลแบงกิ้ง (Digital Banking), การใช้ Data Analytic เทคโนโลยีวิเคราะห์สินเชื่อ (Data Analytic Lending) และการให้บริการที่มากกว่า ด้านการเงิน (Beyond Banking) นายสุ รั ต น์ กล่ า วตอนท้ า ยว่ า ธนาคาร กสิกรไทยมีการทำ�ตลาดกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอีมา อย่างต่อเนื่อง และมีฐานข้อมูลลูกค้าขนาดใหญ่ และครอบคลุมหลากหลายกลุ่มธุรกิจ จึงช่วยให้ ธนาคารสามารถวิเคราะห์และเข้าใจความต้องการ ของลูกค้าได้ตรงจุด จึงเชือ่ มัน่ ว่ากลยุทธ์ทวี่ างไว้จะ
ตอบสนองธุรกิจของผู้ประกอบการได้ทั้งในด้าน การเงินและการใช้นวัตกรรมเพือ่ เพิม่ ประสิทธิภาพ การบริหารจัดการธุรกิจและการแข่งขัน ทัง้ นี้ ในปี 2560 ธนาคารกสิกรไทยมียอดสิน เชือ่ เอสเอ็มอี 698,000 ล้านบาท ขยายตัวจากปี 2559 ที่ 6% สำ�หรับปี 2561 ตั้งเป้าหมายปล่อยสินเชื่อ เอสเอ็มอีเพิ่มขึ้น 4-6% และครองส่วนแบ่งทางการ ตลาดอันดับหนึ่งที่ 28.5% สำ�หรับเอ็นพีแอลของ กลุม่ ลูกค้าเอสเอ็มอีเริม่ ลดลงตัง้ แต่ปลายปีทผี่ า่ นมา เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจทั้งในประเทศและต่าง ประเทศเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวต่อเนื่อง และการ ลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของรัฐบาลน่าจะเริ่มส่ง ผลดีถึงกลุ่มเอสเอ็มอีในบางกลุ่ม
ตลาดประชารัฐต้องชม อุ่นไอรัก ตลาดต้นตาล เมื่อวันที่ 19 ก.พ. 61 นายสุชัย บุตรสาระ รอง ผวจ.ขอนแก่น เป็นประธานเปิดโครงการตลาดชุมชนเพื่อธุรกิจท้องถิ่น ภายใต้ชื่อ “ตลาดประชารัฐต้องชม อุ่นไอรัก ตลาดต้นตาล” จัดโดย กรมการค้า ภายใน กระทรวงพาณิชย์ โดยมี นายคำ�นวณ สุวรรณดี พาณิชย์จังหวัด ขอนแก่น ร่วมด้วย คุณโฉมสุดา วโนทยาโรจน์ กรรมการบริหารตลาด ต้นตาล, ธกส.ขอนแก่น, เทศบาลนครขอนแก่น, สรรพากรขอนแก่น, วั ฒ นธรรมจั ง หวั ด ขอนแก่ น , ธนาคารออมสิ น จั ง หวั ด ขอนแก่ น , พัฒนาการจังหวัดขอนแก่น, สถานีต�ำ รวจภูธรเมืองขอนแก่น ,หอการค้า จังหวัดขอนแก่น และสภาอุตสาหกรรมจังหวัดขอนแก่น เข้าร่วมพิธี ภายในงาน คณะผูจ้ ดั งาน ตลอดจนพ่อค้าแม่คา ้ ผูจ้ �ำ หน่ายสินค้า ชุมชนกว่า 80 ร้านค้า ร่วมแต่งกายด้วยชุดไทยโบราณ สมัยรัชกาลที่ 5 การแสดงดนตรีศิลปวัฒนธรรมอีสาน บริเวณเวทีกลางตลาดต้นตาล สนับสนุนโดย คุณพรพิมล คงตระกูล วัฒนธรรมจังหวัดขอนแก่น เพื่อ ส่งเสริมด้านการตลาดชุมชน ขยายช่องทางการตลาด และช่วยสร้างราย ได้ให้กับชุมชน ซึ่งมีเป้าหมายจัดงานทุกจังหวัดทั่วประเทศ โดยจังหวัด ขอนแก่นมีกำ�หนดจัดงานตั้งแต่วันที่ 17-21 ก.พ. 61 ณ บริเวณลานจอด รถฝั่งมิตรภาพตลาดต้นตาล
ขอนแก่นจัดใหญ่ “ไทยแลนด์เบส ชอปปิ้งแฟร์” ครั้งแรกใน ทำ � ไมจี น และอิ น เดี ย เลื อ กคลื่ น 2300MHz เทคโนโลยี TDD ระดับภูมิภาค กระตุ้นเศรษฐกิจ เม็ดเงินสะพัดกว่า 10 ล้าน เปิดบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงรองรับจำ�นวนประชากรเกือบครึง่ โลก ฉลองเปิ ด ศู น ย์ ป ระชุ ม และแสดงสิ น ค้ า นานาชาติขอนแก่น จัดงาน “ไทยแลนด์ เบสชอปปิง้ แฟร์” ครัง้ แรกในภาคอีสาน พ่อเมืองขอนแก่น มัน่ ใจ กระตุ้นเศรษฐกิจจังหวัดและภาพรวมประเทศ คาด ยอดเงินสะพัดไม่ตํ่ากว่า 10 ล้านบาท เมือ่ วันที่ 27 ม.ค.61 ทีศ่ นู ย์ประชุมและแสดง สินค้านานาชาติขอนแก่น นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานเปิดงาน แสดงสินค้างานไทยแลนด์ เบส ชอปปิ้งแฟร์ แอท ขอนแก่น ซึ่ง จังหวัดขอนแก่นร่วมกับสำ�นักงาน ส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การ มหาชน) หรือ สสปน.รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐและ ภาคเอกชน จัดกิจกรรมขึ้นเป็นครั้งแรกในระดับ ภูมภิ าค ท่ามกลางความสนใจจากชาวขอนแก่น และ จังหวัดใกล้เคียง รวมถึงนักท่องเที่ยวร่วมกิจกรรม จำ�นวนมาก นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัด ขอนแก่ น กล่ า วว่ า เป็ น ครั้ ง แรกที่ ข อนแก่ น ได้
ผนึ ก พลั ง ร่ ว มกั น ระหว่ า งหน่ ว ยงานภาครั ฐ และ ภาคเอกชน จัดงานแสดงสินค้ารายการใหญ่ระดับ ประเทศ ตั้งแต่ต้นปี เพื่อเป็นกระตุ้นเศรษฐกิจโดย รวมให้คึกคักตั้งแต่ต้นปี ที่สำ�คัญศูนย์การประชุม และแสดงสินค้านานาชาติขอนแก่น (KICE) แห่ง นี้ได้มาตรฐานระดับสากล มีสิ่งอำ�นวยความสะดวก ต่างๆ ครบถ้วน มีระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ การ จัดงานครั้งนี้มั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับสูง ช่วย กระตุ้นภาพรวมเศรษฐกิจจังหวัดและระดับภูมิภาค จากการใช้จา่ ยตลอดทัง้ ช่วงจัดงาน 9 วันเต็มต่อจากนี้ ด้านนายวีระศักดิ์ จิตศักดานนท์ กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท เวิลด์ แฟร์ จำ�กัด กล่าวว่า การจัด งานครัง้ นีจ้ ดั ขึน้ ระหว่างวันที่ 27 ม.ค.-4 ก.พ.61 โดย พื้นที่ของการจัดแสดงสินค้าแห่งนี้รวมกว่า 7,500 ตารางเมตร ถูกจัดสรรพืน้ ทีใ่ ห้เป็นส่วนแสดงสินค้า ประเภทต่างๆนับพันรายการ ตอบโจทย์ทุกความ ต้องการของผูบ้ ริโภคได้ครอบคลุม ด้วยงบประมาณ ในการจัดงานครั้งนี้รวมกว่า 10 ล้านบาท
ขณะที่ทั่วโลกมีความต้องการในการใช้งาน อินเทอร์เน็ตเติบโตแบบก้าวกระโดด แต่คลืน่ ความถี่ กลับเป็นทรัพยากรมีปริมาณจำ�กัด และไม่เพียงพอ ต่อความต้องการทีเ่ พิม่ ขึน้ ยิง่ เป็นในยุคดิจทิ ลั ทำ�ให้ ต้องหาทางออกทีด่ กี ว่าเพือ่ รองรับนวัตกรรมบริการ ต่างๆ ที่กำ�ลังเกิดขึ้นอีกมาก ทำ�ให้เกิดการพัฒนา คลืน่ ความถีส่ ู่ LTE-TDD ซึง่ เป็นเทคโนโลยีทถี่ กู ออก แบบมาเพือ่ รองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตบนมือถือ เชื่ อ มั่ น ในศั ก ยภาพและกำ � ลั ง ซื้ อ ชาว หรือดาต้าความเร็วสูง และเทคโนโลยี LTE-TDD กำ� ขอนแก่น และจากจังหวัดใกล้เคียงรวมถึงกลุ่ม ลังเป็นเทรนด์ในการบริหารการใช้ทรัพยากรทีม่ จี �ำ น ประเทศเพื่อนบ้าน จะมาจับจ่ายเลือกซื้อสินค้า วนจำ�กัดอย่างคลืน่ ความถี่ โดยเฉพาะในประเทศทีม่ ี ตลอดช่วงการจัดงาน อีกทัง้ ด้วยศักยภาพและทำ�เล ปริมาณการใช้งานดิจทิ ลั สูงมากอย่างจีนและอินเดีย ที่ตั้งของขอนแก่น รวมไปถึงการที่ สสปน.ยกให้ คลื่ น 2300MHz กำ � ลั ง เริ่ ม ต้ น LTEขอนแก่นเป็นหนึง่ ในเมืองแห่งนิทรรศการและการ TDD ก็กำ�ลังเริ่มต้นเช่นกัน จัดประชุม การจัดงานแสดงสินค้าในระดับภูมภิ าค ถ้ า เรายั ง ต้ อ งการเพี ย งแค่ โ ทรศั พ ท์ ท าง ถื อ เป็ น รายการใหญ่ ร ะดั บ ประเทศ จะกระตุ้ น เสี ย งหากั น เทคโนโลยี 2G แบบเดิ ม ๆ ก็ เ พี ย ง ภาพรวมเศรษฐกิจโดยรวม สอดคล้องกับนโยบาย พอแล้ว แต่เพราะทุกอย่างพัฒนาไปข้างหน้า 3G, รัฐบาลด้วย 4G จึงเกิดขึ้น และจะไปถึง 5G ในอนาคต การ ติ ด ต่ อ สื่ อ สารขยายรู ป แบบ พั ฒ นาเป็ น VDO Call รวมถึงการบริโภคคอนเทนต์ประเภท VDO ที่แพร่หลายไปทั่วโลก การเกิดขึน้ ของ Internet of Things (IoT) การ เชือ่ มต่อระหว่าง Machine to Machine (M2M) แปล ว่า ไม่ได้มแี ค่คนทีต่ ดิ ต่อกัน แต่คอมพิวเตอร์ก�ำ ลังส่ง ข้อมูลถึงกัน ทำ�ให้เกิดบริการใหม่ๆ เช่น รถยนต์ที่ ขับเคลือ่ นด้วยตัวเอง, อุปกรณ์เครือ่ งใช้ไฟฟ้าในบ้าน ทีค่ วบคุมได้ผา่ นสมาร์ทโฟน และอีกหลายอย่างทีเ่ รา จะจินตนาการได้กำ�ลังเกิดขึ้น ในปี 2020 สมาคมจีเอสเอ็มยังคาดการณ์วา่ การเข้าถึง การใช้งานของอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงบนมือถือทัว่ หลังจากนักเรียนเรียนจบหลักสูตร โดยใช้ข้อสอบ โลกจะเพิ่มเป็น 60% ของส่วนกลาง และให้มีการบริหารสิทธิ์ในการ นัน่ เป็นอีกเหตุผลทำ�ให้จ�ำ นวนคลืน่ ความถี่ สมัครเข้ามหาวิทยาลัย เพื่อเตรียมความพร้อมให้ ที่ให้บริการในปัจจุบันไม่เพียงพอ และกลายเป็น กับนักเรียนในเขตจังหวัดอุดรธานี ใกล้เคียง ที่ จุดเริ่มต้นของ LTE TDDในประเทศไทย ด้วยคลื่น กำ�ลังเตรียมตัวสู่มหาวิทยาลัยในปี 2561“ ความถี่ 2300 MHz นายวั ฒ นา พุ ฒิ ช าติ ผวจ.อุ ด รธานี กล่ า วว่ า กำ � ห น ด ม า ต ร ฐ า น L T E โครงการทบทวนความรู้สู่มหาวิทยาลัย ที่จัดขึ้นนี้ TDD ตอบรับคนใช้ดาต้ามากกว่าวอยส์ เป็นการติวทบทวนวิชาความรูท้ นี่ กั เรียนได้เรียนมา ปัจจุบันสหภาพโทรคมนาคมนานาชาติ ผู้ ได้แก่ วิชาคณิตศาสตร์ และวิชาภาษาอังกฤษ พร้อม กับแนะแนวการศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย มัธยมปลาย ได้มีการเตรียมความพร้อม และทบทวน ให้กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ได้ทราบ ความรู้ในสาระวิชาต่าง ๆ แล้ว ยังจะทำ�ให้ผู้ที่จพมุ่ง และเข้าใจมากยิง่ ขึน้ เพือ่ เป็นการเตรียมความพร้อม หวังเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยและสถาบันการ ของตนเองในการทีจ่ ะต้องทำ�การสอบแข่งขันตาม ศึกษาในระดับสูงขึ้นไป จะได้ประเมินศักยภาพของ ระเบียบข้อกำ�หนดใหม่ของ สกอ.หรือ TCAS ตัวเองว่า มีความพร้อมสำ�หรับการทำ�การศึกษาต่อ การจัดโครงการทบทวนความรู้สู่มหาวิทยาลัย ใน ในสาขาวิชาอะไร เพือ่ จะได้ปรับปรุงตัวเองให้มคี วาม ครั้งนี้ นอกจากเป็นการให้นักเรียนในระดับชั้น มั่นใจ และเสริมสร้างศักยภาพได้อย่างถูกต้อง รวม
หออุดรฯ จับมือ ม.หอการค้าไทย สานฝันเด็กภูมภิ าค สูม่ หาวิทยาลัย หอการค้ า จั ง หวั ด อุ ด รธานี ร่ ว มกั บ ม.หอการค้าไทย และศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซ่า สาขาอุดรธานี จัดโครงการทบทวนความรู้ให้กับ นักเรียนมัธยมปลายในส่วนภูมิภาค เพื่อเตรียมตัว สอบแข่งขันเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัย ปี 2560 ติดต่อกันมาเป็นปีที่ 10 เพื่อสร้างเสริมความรู้ใน วิชาหลักๆและมีการแนะแนวความรู้ต่างๆ ให้กับ นักเรียนในส่วนภูมิภาค ที่จะลงสนามสอบแข่งขัน ปีการศึกษา นี้ ที่ ศู น ย์ ก ารค้ า เซ็ น ทรั ล พลาซ่ า สาขา อุดรธานี นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัด อุดรธานี เป็นประธาน โครงการทบทวนความรู้สู่ มหาวิทยาลัย ซึง่ จัดขึน้ โดยหอการค้าจังหวัดอุดรธานี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซ่า สาขาอุดรธานีและภาคเอกชนในพืน้ ที่ โดยมี นักเรียนชัน้ มัธยมปลายในพืน้ ทีจ่ งั หวัดอุดรธานี ใกล้ เคียงเข้าร่วมการทบทวนความรู้ในวิชาคณิตศาสตร์ และภาษาอังกฤษประมาณ 4000 คนเศษ นายศิรพิ งษ์ อุเทนพิทกั ษ์กลุ รองประธาน หอการค้ า จั ง หวั ด อุ ด รธานี แ ละประธานโครง การฯ กล่าวว่า หอการค้าจังหวัดอุดรธานี ร่วมกับ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซ่า เอกชนในพื้นที่ จัดโครงการทบทวนความ รู้สู่มหาวิทยาลัย เป็นประจำ�ทุกปี โดยปีนี้เป็นปี
ที่ 10 วัตถุประสงค์หลัก เพื่อเตรียมความพร้อมให้ กั บ นั ก เรี ย นระดั บ มั ธ ยม ปลาย ที่กำ�ลังเตรียมตัวเข้า สู่มหาวิทยาลัยในปี 2561 การแนะแนว และส่งเสริม ให้นกั เรียนในส่วนภูมภิ าค โดยเฉพาะจังหวัดอุดรธานี ใกล้เคียง สามารถเข้าศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษา เพิ่มมากขึ้น เผยแพร่และประชาสัมพันธ์ข้อมูลการ ศึกษา และหลักสูตรที่เปิดสอนในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ และแนะนำ�แนวทางและเทคนิคในการทำ�ข้อสอบ เพื่อเตรียมความพร้อมในการสอบเข้ามหาวิทยาลัย “การจั ด ทำ � โครงการฯ ในปี 2560 นี้ จั ด ในรู ป แบบการทบทวนสาระสำ � คั ญ ของวิ ช า คณิ ต ศาสตร์ และภาษาอั ง กฤษ เพื่ อ ใช้ ใ นการ สอบเข้ามหาวิทยาลัย ตามระบบ “TCAS” ปีการ ศึกษา 2561 ตามหลักเกณฑ์ของสำ�นักงานคณะ กรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ที่ได้ปรับเปลี่ยน ระบบการคั ด เลื อ กบุ ค คลเข้ า ศึ ก ษาในสถาบั น อุดมศึกษาใหม่ (Thai university Central Admission System : TCAS) ตั้งแต่ปีการศึกษา 2561 เป็นต้นไป ซึ่งมีหลักการสำ�คัญคือ ให้นักเรียนอยู่ในห้องเรียน จนจบหลักสูตร ให้จัดการสอบเพื่อการคัดเลือกได้
กำ�หนดมาตรฐานโทรคมนาคมโลก หรือ ITU ได้ กำ � ห น ด ใ ห้ L T E - T D D แ ล ะ ค ลื่ น ค ว า ม ถี่ 2300MHz เป็นมาตรฐานเทคโนโลยีแล้ว เท่ากับ เป็นการยืนยันว่า แนวโน้มของผูใ้ ช้งานมือถือทัว่ โลก กำ�ลังใช้ดาต้า หรืออินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่การใช้งานวอยส์ หรือ การโทรด้วยเสียงตาม ปกติลดลง หรืออีกนัยหนึ่ง การโทรด้วยเสียง ขยับ ไปอยู่บน VoLTE แทน เมื่ อ มี ก ารกำ � หนดมาตรฐานอย่ า งชั ด เจน แล้ว ทำ�ให้อุปกรณ์ต่างๆ ที่จะผลิตต่อจากนี้สามารถ รองรับ LTE-TDD บนคลืน่ 2300MHz ได้อย่างเต็มที่ จากเดิมทีม่ อี ปุ กรณ์รองรับการใช้งานไม่นอ้ ยอยูแ่ ล้ว ด้วย โดยเฉพาะอย่ า งยิ่ ง ในประเทศจี น ที่ มี ประชากรกว่า 1.37 พัน ล้านคนทั่วประเทศ ก็มีการ ใช้งาน LTE-TDD ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา จีน – อินเดีย พร้อม 56 ประเทศทั่วโลกกำ�ลังใช้ งาน LTE-TDD มีกรณีศึกษาหลายประเทศที่น่าสนใจ เช่น จีน ประเทศจีน มีประชากรประมาณ 1.37 พันล้าน คน มีอัตราเฉลี่ยใช้ SIM CARD 1.79 SIM ต่อคน เท่ากับว่าทุกคนมีอุปกรณ์พกติดตัวมากกว่าแค่สมา ร์ทโฟน อาจมีการเชื่อมต่ออุปกรณ์อื่นๆ รวมถึงมี การใช้งานแบบ M2M และจำ�นวนการใช้งานก็เพิ่ม ขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้ให้บริการหลัก 3 รายในจีน ได้แก่ China Unicom, China Telecom และ China Mobile ล้วนใช้เทคโนโลยี LTE-TDD บนคลื่น 2300MHz ทั้งหมด เฉพาะ China Mobile ที่ถือว่าเ ป็นผู้ให้บริการที่มีโครงข่าย 4Gใหญ่ที่สุดในโลก มี จำ�นวนโครงข่าย 2300 + 2600MHz รวมอยู่กว่า 1.5 ล้านโครงข่าย อี ก ประเทศที่ น่ า สนใจเช่ น เดี ย วกั น คื อ ประเทศอินเดีย ที่มีประชากรประมาณ 1.31 พัน ล้านคน ไล่เลี่ยมากับจีน โดยมีทั้งประเทศที่ใหญ่ และประชากรหนาแน่น ทำ�ให้มีความต้องการใช้ งานอินเทอร์เน็ตที่สูงตามไปด้วย ผู้ให้บริการที่ใช้ เทคโนโลยี LTE-TDD บนคลื่น 2300 เช่น Airtel มีผู้ ทั้งยังจะเป็นการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับผู้ ปกครอง เกี่ยวกับระบบของการศึกษาต่อในระดับ มหาวิทยาลัยด้วย ทั้งนี้หอการค้าจังหวัดอุดรธานี ร่วมกับ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซ่า สาขาอุดรธานี และเอกชนในพื้นที่ ได้เห็น ความสำ�คัญด้านการศึกษาต่อในระดับสูงขค่นไป
ใช้ 276.5 ล้านราย, Jio มีผใู้ ช้ 112.6 ล้านราย, Aircel มี ผู้ใช้ 90.6 ล้านราย เป็นต้น ทั้ ง จี น และอิ น เดี ย มี จำ � นวนประชากร มหาศาลรวมกั น จะมี จำ � นวนราวเกื อ บครึ่ ง โลก ประเทศที่มีขนาดกว้างใหญ่ การใช้งานที่เพิ่มขึ้น เรื่อยๆ ทำ�ให้มีความจำ�เป็นต้องใช้เทคโนโลยี LTETDD มารองรับการใช้งาน เรื่องอุปกรณ์ทั้งโครงข่าย และเครื่องลูกข่าย เช่น สมาร์ทโฟน ที่จะมารองรับจึง ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป นอกจากนี้ Global Mobile Supplier Association (GSA) เปิดเผยว่า มีผู้ให้บริการ 97 รายจาก 56 ประเทศทั่วโลกเริ่มติดตั้งและใช้งาน เชิ ง พาณิ ช ย์ โครงข่ า ย LTE-TDD เรี ย บร้ อ ยแล้ ว สำ�หรับประเทศใกล้เคียงกับไทย เช่น Kingtel ใน กั ม พู ช า , Y T L ใ น ม า เ ล เ ซี ย , ผู้ ใ ห้ บ ริ ก า ร หลายรายในอิ น โดนี เ ซี ย , Softbank และ UQ Communication ในญี่ปุ่น และอีกหลายประเทศ ข้ อ มู ล เหล่ า นี้ พิ สู จ น์ ใ ห้ เ ห็ น ว่ า LTETDD บนคลืน่ ความถี่ 2300MHz มีความต้องการและ เป็นทีน่ ยิ มทัว่ โลก ดังนัน้ หากนำ�มาใช้ในประเทศไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการใช้งานอินเทอร์เน็ตไร้ สายความเร็วสูง ในปริมาณมาก ก็จะเป็นโอกาสที่ดี สำ�หรับผู้บริโภคชาวไทย ประเทศไทยถึงเวลาของการเปลี่ยนแปลงสู่ เทคโนโลยี LTE TDD GSMA ได้เปิดเผยว่า การติดตั้งโครงข่าย 4G LTE เริ่มตั้งแต่ปี 2009 เป็นต้นมา ถึงปี 2016 มี การเชื่อมต่อผ่านโครงข่าย 4G LTE กว่า 1,100 ล้าน จุด และคาดว่าการเชื่อมต่อจะเพิ่มเป็น 2,500 ล้าน ในปี 2020 ในจำ�นวนนี้คาดว่ามีการเชื่อมต่อด้วย เทคโนโลยี LTE TDD กว่า 22% ทั่วโลกกำ�ลังใช้งานเทคโนโลยีใหม่ เพื่อเพิ่ม ประสิทธิภาพการใช้งานให้กับอินเทอร์เน็ตไร้สาย ความเร็วสูงในแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน สำ�หรับ ประเทศไทย นี่เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำ�คัญ ที่ เรากำ�ลังจะมีคลื่นความถี่ 2300MHzออกมาใช้งาน แ ล ะ เ ป็ น จุ ด เ ริ่ ม ต้ น ข อ ง เ ท ค โ น โ ล ยี L T E TDD เช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ ทั่วโลก จากมัธยมตอนปลาย ได้จัดโครงการส่งเสริมทบทวน หรือ การติวเข้มให้กับนักเรียนฯดังกล่าว โดยได้รับ ความร่วมมือในการจัดหาคณะคณาจารย์ในสาขาวิชา ต่างๆมาให้ความรู้ และแนะแนวในการเตรียมตัวให้ มีความพร้อม จนทำ�ให้เด็กนักเรียนในส่วนภูมิภาคมี โอกาสในการก้าวเข้าสู่มหาวิทยาลัย และสถาบันการ ศึกษาอื่นๆ สำ�เร็จมาเป็นจำ�นวนมาก
หน้า 10
ปีที่ 15 ฉบับที่ 165 ประจำ�เดือนกุมภาพันธ์ 2561
ท้ า ให้ ม าลอง “สเต็ ก รวมมิ ต รเขี ย งยั ก ษ์ ” ทานคนเดี ย วหมดภายในเวลากำ � หนด “ฟรี ” วันนี้รายการเมนูอาหารแปลกสุดแซบ อีกเมนูหนึ่ง ของเมืองอุดรธานี เป็นอาหารยุโรป ของร้านอาหาร ”ซิปสลัด” เจ้าของร้านเมนูอาหาร คาวหวาน-หวานแปลกๆ ขอเสนอเมนู ”สเต็กรวม มิตรเขียงยักษ์” ที่รวมเอาสเต็กนานาชนิด 8 อย่าง พร้อมสลัด เครื่องเคียง พร้อมซ็อสสูตรเด็ด ลับ พิเศษของทางร้านวางอยู่บนเขียงไม้ยักษ์ ขนาด กว้าง 53 ซ.ม.หนัก 7.5 ก.ก. แล้วนำ�เอาไปเสิร์ฟ ให้ลูกค้าตามสั่ง ซึ่งเพียงพอสำ�หรับ 4-6 คน หรือ หนึ่งครอบครัวได้อย่างเหมาะเจาะ เจ้าของร้าน ท้าลูกค้ารายใดสามารถรับประทานคนเดียวหมด ภายในเวลากำ�หนด รับประทานฟรี จึ ง ได้ ติ ด ต่ อ ขออนุ ญ าตเจ้ า ของร้ า น
อาหาร”ซิปสลัด” ของ น.ส.พัทธนันท์ หรือคุณ แอ๊ด วัชรพษ์จรัส อายุ 39 ปี บ้านเลขที่ 37/16-17 ถนนอดุลยเดช เขตเทศบาลนครอุดรธานี อ.เมือง จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นร้านอาหารขนาด 2 คูหา ที่ตั้งอยู่ ในถนนย่านธุรกิจบันเทิงแห่งหนึง่ ของนครอุดรธานี เพื่อขอชิมอาหารเมนูแปลกๆ ซึ่งก็ได้รับความร่วม มือและการต้อนรับจาก เจ้าของร้านอาหารดังกล่าว ด้วยดี น.ส.พัทธนันท์ฯ เจ้าของร้านอาหาร”ซิป สลัด” และเมนูสเต็กรวมมิตรเขียงยักษ์ ซึ่งเป็นร้าน อาหารอีกแห่งหนึ่งที่ได้รับป้ายรับประกันว่า ”เป็น ของดีจังหวัดอุดรธานี” กล่าวว่าก่อนที่จะมาตั้งร้าน อาหารแห่งนี้นั้น ตนและสามีได้ทำ�ธุรกิจการ์เม้น
ต์และร้านขายเครื่องสำ�อางมาก่อน แต่จากการที่ ครอบครัวของตน ทำ�ธุรกิจร้านอาหารตามสั่งและ ก๋วยเตีย๋ ว เลีย้ งครอบครัวมาก่อน ทำ�ให้ตนได้รบั การ ถ่ายทอดการปรุงอาหารนานาชนิดโดยธรรมชาติ เนื่องจากต้องเห็นและสัมผัสด้วยตนเองทุกๆวัน ประกอบกับตนเองและสามีชอบการรับประทาน อาหารคาว-หวาน ชนิดต่างๆทั้ง อาหารไทย ยุโรป เวียดนาม และมีความคิดว่าจะแบ่งปันเมนูอาหาร แปลกๆ ใหม่ๆ ให้กับเพื่อนและลูกค้า จึงตัดสินสินใจเมื่อ 4 ปี ที่ผ่านมา เปลี่ยน อาชีพมาตัง้ ร้านขายกาแฟ-สลัดต่างๆตามเทรนนิยม ในขณะนัน้ เป็นร้านกาแฟ-สลัดเล็กๆซือ่ ”ซิปสลัด” ซึง่ มีความหมายว่า ชิมสลัด โดยจุดประสงค์วา่ จะให้ เป็นสถานที่ต้อนรับเพื่อนๆ และลูกค้า ที่จะมานั่ง ปล่อยอารมณ์ ดืม่ กาแฟ และรับประทานสลัดชนิด ต่างๆ เป็นการพักผ่อน แบบชิวๆ แต่มีพรรคพวก เพื่อนฝูงและลูกค้าเรียกร้องให้เปิดร้านขายอาหาร หนักด้วย จึงกลายเป็นมีอาหารตามสั่งประเภท ต่างๆ ทั้งอาหารไทย ยุโรป เวียดนาม เสิร์ฟเสริม เข้ามา และด้วยการชอบทำ�อาหารตามแนวคิดของ
ตนที่ชอบคิดหาเมนูใหม่ๆ มาเสริมกับเมนูที่ร้าน มีอยู่แล้ว เลยกลายเป็นที่มาของเมนูพิเศษ ”สเต็ก รวมมิตรเขียงยักษ์” ส่วนอาหารเวียดนาม น.ส.พัน ธนันท์ฯ เปิดเผยว่า ตนได้รบั การถ่ายทอดมาจากคุณ แม่ และฝึกปรุงจนมีความชำ�นาญ สำ�หรับเมนูสเต็กรวมมิตรเขียงยักษ์นี้ ทาง ร้านได้จัดเสริมเข้ามาได้ประมาณ 4-5 เดือนที่ผ่าน มา ซึง่ ถือว่าเป็นเมนูทแี่ ปลกใหม่ส�ำ หรับชาวจังหวัด อุดรธานีและใกล้เคียง เป็นเมนูที่เป็นการคืนกำ�ไร ให้กับลูกค้า เพราะจากจำ�นวนอาหารทั้งชุดราคา ควรที่จะอยู่ที่เขียงละประมาณ 1000 บาทเศษ แต่ ทางร้านเสิร์ฟให้ลูกค้าเพียง 699 บาทเท่านั้น เป็น เมนูคืนกำ�ไรให้กับลูกค้า และเป็นเมนูหลักสำ�หรับ ครอบครัวขนาดเล็กๆ 4-8 คน เหมาะสำ�หรับการ
สังสรรค์ระหว่างเพือ่ นฝูงกลุม่ เล็กๆ 4-8 คน เช่นกัน ซึ่งจะประกอบไปอาหารสเต็กต่างๆ 8 ชนิด ได้แก่ สเต็กเนือ้ ไก่ ปลา หมู ไส้กรอกเยอรมันรมควัน แฮม เบเกอร์ ซี่โครงหมูอบหมูสไตล์ของซิบสลัด สลัด ผักสดวางกองอยู่ตรงกลางกองใหญ่ เครื่องเคียงมี มันทอด มันบด หัวหอมใหญ่ทอด ซ๊อส 5 ชนิด ซ๊อ สบาร์บคี วิ ซ๊อสเห็ด ซ๊อสพริกไทย ฯลฯ ทีเ่ ป็นซ๊อส สูตรเด็ด สูตรลับเฉพาะของทางร้าน วางอยูบ่ นเขียง ไม้มะขามขนาดกว้าง 53 ซ.ม หนัก 7.5 ก.ก. “เมนูสเต็กรวมมิตรเขียงยักษ์นี้ ทางร้าน ตั้งใจที่จะปรุงขึ้นมาเพื่อความรักและสามัคคีของ ครอบครัวและระหว่างเพื่อนๆ โดยร้านได้คัดสรร วัตถุดิบสำ�หรับเมนูนี้ขึ้นมาเป็นพิเศษ เพื่อให้เมนู นี้เป็นอาหารรักษาสุขภาพของผู้รักสุขภาพ เช่น
เนื้อวัวโคขุนโพนยางคำ� จากศูนย์ศิลปาชีพจังหวัด สกลนคร ผักที่มาทำ�สลัด ก็จะเป็นผักออร์เกนิก ทั้งหมด นอกจากนี้แล้วทางร้านได้จัดรายการพิเศษ คือ ลูกค้ารายใดสามารถรับประทาน สเต็กรวมมิตร ดังกล่าวหมดในเวลาที่ทางร้านกำ�หนด จะได้รับ ประทานฟรี” ทีต่ งั้ ของร้าน ”ซิปสลัด” เจ้าของเมนู ”สเต็ก รวมมิตรเขียงยักษ์” ลูกค้าจะหาได้ไม่ยาก เพราะตั้ง อยู่ริมถนนอดุลยเดชฯ ในเขตเทศบาลนครอุดรธานี เลยห้าแยกวุ่นวายอุดรฯ ตามถนนอดุลยเดชฯไป ประมาณ 400 เมตรเศษๆ หรือจะใช้วิธีโทรศัพท์ ไปสอบถามหรือจองที่นั่ง หรือสั่งอาหารก่อนได้ที่ หมายเลข 042-221955 หรือ 098-6955399 หรือ ID LINE: ADD1919
หน้า 11
ปีที่ 15 ฉบับที่ 165 ประจำ�เดือนกุมภาพันธ์ 2561
กล้องติดหน้ารถคึก • ต่อจากหน้า 1 เกิดเหตุรา้ ยภายในบ้านยังสามารถติดต่อเจ้าหน้าทีไ่ ด้ จังหวัดขอนแก่น กล่าวขอบคุณต่อ เลขาธิการ คปภ. Up ผ่านทางธนาคารของภาครัฐ จะทำ�ให้เงินลงสู่ผู้ สนองทางธุรกิจทีด่ พี อ นกแอร์พร้อมทีจ่ ะเปิดทำ�การ จำ�นวนมากแล้ว ด้วยปัญหาจากการที่ทรัพยากร
นายกฤตวิทย์ หาญสุริย์ ผู้บริหารร้าน P2S ขอนแก่น เปิดเผยว่า สังคมปัจจุบนั เทคโนโลยีเข้ามา มีบทบาทที่สำ�คัญต่อการดำ�รงค์ชีวิตของประชาชน มากขึ้น โดยเฉพาะอิทธิพลจากสื่อโซเชียลเน็ตเวิร์ก การรั บ รู้ เ รื่ อ งราวข่ า วสารจากสื่ อ ออนไลน์ การ ป้ อ งกั น ตนเองจากกลุ่ ม มิ จ ฉาชี พ ที่ พั ฒ นาวิ ธี ก าร โจรกรรมหลากหลายรูปแบบ การเผยแพร่กรรมวิธี หลอกตุน๋ เงินของกลุม่ มิจฉาชีพทีเ่ รียกร้องค่าเสียหาย จากเหยื่อผ่านสื่อออนไลน์ สร้างความตื่นตัวให้กับ สังคมไทย และหันมาสนใจที่จะป้องกันตนเองมาก ขึ้น โดยเฉพาะในปี 2560 มาถึงปัจจุบัน ประชาชน ที่ใช้รถทุกประเภทนำ�รถยนต์ และหมวกกันน็อกมา ติดตั้งกล้องในอัตราสูงขึ้นจากเดิมถึง 500% นับเป็น อัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดดทีไ่ ด้รบั อิทธิพลจาก สื่อโซเชียล และเชื่อว่า ธุรกิจการจำ�หน่ายกล้องติด รถยนต์ยังสามารถเติบโตเพิ่มขึ้นได้อีกราว 3-5 ปี อุปกรณ์กล้องติดรถยนต์ มีจำ�หน่ายมานาน หลายปีแล้ว เพียงแต่ไม่ได้รับความสนใจจากสังคม ไทยมากนัก จากสาเหตุที่ทำ�ให้ตลาดกล้องหน้ารถ ได้รับความสนใจ และกลายเป็นหลักฐานที่สำ�คัญ ในการสร้างความชัดเจนเมื่อเกิดอุบัติเหตุแบบไม่ คาดคิด และยังสามารถใช้เป็นหลักฐานสำ�คัญของ เจ้าหน้าที่ตำ�รวจในการชี้มูลเหตุความผิด และยัง เป็ น การป้ อ งกั น ตนเองจากกลุ่ ม มิ จ ฉาชี พ ที่ ส ร้ า ง เรื่องเพื่อกรรโชกทรัพย์จากคู่กรณี ทำ�ให้ตลาดกล้อง ติดรถยนต์ได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้นเป็นทวีคูณ และยังได้รับอิทธิพลจากสื่อโซเชียล ที่นำ�คลิปการก ระทำ � ต่ า งๆ โพสต์ ล งยู ทู บ หรื อ เว็ บ เพจ ซึ่ ง ได้ รั บ ความสนใจจากประชาชน และมีการแชร์ส่งต่อกัน ไปอย่างต่อเนื่อง ทำ�ให้ผลิตภัณฑ์กล้องติดรถยนต์ กลายเป็น “ธุรกิจในกระแสโซเชียล” ที่จะทำ�ให้เกิด การเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจได้บ้าง ซึ่งการทำ�ธุรกิจ ทุกประเภท มีขึ้นมีลง นักธุรกิจต้องมีการปรับตัว ให้เข้ากับยุคสมัยและกาลเวลาที่เปลี่ยนแปลง โดย เฉพาะพฤติกรรมการบริโภคที่มีการพัฒนาให้ทัน ต่อสังคมดิจิทอล จะเห็นได้ว่า ย้อนไปเมื่อหลาย ปี ที่ ผ่า นมา สั ง คมไทยไม่ รู้จั ก โทรศั พ ท์ มื อ ถื อ แต่ ปัจจุบนั โทรศัพท์มอื ถือเป็นปัจจัยทีม่ คี วามสำ�คัญกับ ประชาชนทุกคน เช่นเดียวกัน หากเป็นธุรกิจสินค้าที่ อยูใ่ นกระแส ย่อมได้รบั ความสนใจจากประชาชน ไม่ ว่าเศรษฐกิจจะอยู่ในช่วงชะลอตัวอย่างไรก็ตาม นายกฤตวิทย์ กล่าวต่อว่า ร้าน P2S ขอนแก่น เปิดจำ�หน่ายและติดตั้ง กล้องวงจรปิด CCTV กล้อง ติดรถยนต์ กล้อง IP Camera กล้อง Sport CAM อุปกรณ์กล้องติดรถ และ GPS Track ติดตามรถ โดย เปิดให้บริการทางสื่อโชเชียลมาราว 4-5 ปี และเปิด หน้าร้านสำ�หรับบริการลูกค้าโดยตัง้ อยูร่ มิ ถนนกลาง เมือง ติดกับหมู่บ้านเขาไทย อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมื่อ สามปีทผี่ า่ นมา ลูกค้ากว่า 95% มาจากสือ่ โซเชียล แต่ ปัจจุบนั ลูกค้ามาจากการบอกต่อ หรือปากต่อปาก ซึง่ เป็นการโทรนัดล่วงหน้าและมาตามเวลาเพื่อไม่เสีย เวลาในการรอคอย กล้องติดรถยนต์มีให้เลือกหลาย ระดับ ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 850 - 10,000 บาท ขึ้นอยู่ กับคุณลักษณะฮาร์ดแวร์และซอร์ฟแวร์ ซึ่งกล้อง ติดรถยนต์สามารถบันทึกวิดีโอต่อเนื่องได้ประมาณ 1 ชม. และเป็นการบันทึกแบบวน เป็นคุณลักษณะ ที่ทำ�ให้มั่นใจว่ากล้องจะบันทึกเหตุการณ์อย่างต่อ เนือ่ งตลอดระยะเวลาในการใช้รถบนท้องถนน แม้วา่ หน่วยความจำ�บนกล้องจะเต็มก็ตาม นายกฤตวิ ท ย์ กล่ า วต่ อ ไปว่ า กล้ อ งติ ด รถยนต์ทำ�งานเป็นวีดีโอ ที่ออกแบบมาเพื่อใช้งาน ในการบันทึกภาพตลอดเวลาที่ขับขี่รถยนต์บนท้อง ถนนด้วยความเร็วระดับต่างๆ โดยไม่ทำ�ให้เกิดการ บิดเบือนภาพ รวมถึงสามารถจับภาพเหตุการณ์ทเี่ กิน การคาดหมายได้ดว้ ยหน่วยความจำ�ขนาด 32GB หรือ 64GB แตกต่างจากกล้องถ่ายรูป หรือการถ่ายวีดีโอ ด้วยสมาร์ทโฟน และด้วยอัตราการเติบโตแบบก้าว กระโดดของธุรกิจในกระแสจากกล้องติดรถยนต์ ส่งผลให้ธรุ กิจการติดตัง้ กล้องหน้ารถพุง่ สูงขึน้ อย่าง รวดเร็ว นอกจากนี้ สินค้าที่อยู่ในกระแสนอกจาก กล้องติดรถยนต์หน้ารถ กล้องติดหมวกกันน็อค แล้ว ยังมีกล้องวงจรปิดที่ติดไว้รอบบริเวณบ้าน ทั้ง นอกบ้านและในบ้าน ซึง่ มีอตั ราการเติบโตสูงขึน้ เช่น เดียวกัน เนือ่ งจากสามารถตรวจสอบได้บนโทรศัพท์ มือถือ ไม่วา่ เจ้าของบ้านจะอยูบ่ า้ นหรือไม่กต็ าม หาก
ทันที และในปัจจุบัน กล้องวงจรปิดราคาไม่สูงมาก นัก โดยราคาเริ่มต้นที่ 4 จุด ตั้งแต่ 13,000-15,000 บาท เชื่อว่า อีกไม่เกิน 5 ปี กล้องติดรถยนต์จะเป็น อุปกรณ์ที่ได้รับความนิยมจากสังคมไทย และเป็น ปัจจัยที่มีความสำ�คัญไม่น้อยไปกว่าการใช้โทรศัพท์ มือถืออย่างแน่นอน
คปภ.ขอนแก่น
• ต่อจากหน้า 1
เมื่อวันที่ 12 ก.พ. 61 ที่อาคารสำ�นักงาน คปภ.จั ง หวั ด ขอนแก่ น ถนนจอมพล อ.เมื อ ง จ.ขอนแก่น ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะ กรรมการกำ � กั บ และส่ ง เสริ ม การประกอบธุ ร กิ จ ประกันภัย (คปภ.) และนายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่า ราชการจังหวัดขอนแก่น ร่วมเปิดสำ�นักงาน คปภ. ภาค 3 (ขอนแก่น) และ สำ�นักงาน คปภ.จังหวัด ขอนแก่น เพื่อให้บริการประชาชนอย่างครบวงจร โดยสำ � นั ก งาน คปภ.ภาค 3 ย้ า ยมาจาก จ.อุดรธานี มาตั้งที่ จ.ขอนแก่น ร่วมกับสำ�นักงาน คปภ. จังหวัดขอนแก่นแห่งใหม่ ซึ่งเป็นทำ�เล ย่าน ใจกลางเมืองและแหล่งธุรกิจ ประชาชนสามารถเดิน ทางติดต่อขอรับบริการ ด้านการประกันภัยได้อย่าง สะดวกสบาย และเกิดประสิทธิภาพในการปฏิบัติ งานมากยิ่งขึ้น โดยให้บริการเกี่ยวกับการส่งเสริม การประกอบธุรกิจประกันภัย การคุ้มครองสิทธิ ประโยชน์ด้านประกันภัยแก่ ประชาชน ภาครัฐ ภาค เอกชน ให้ได้รับความสะดวกรวดเร็ว เป็นธรรมและ ทั่วถึง ทั้งนี้ สำ�นักงาน คปภ.ภาค 3 รับผิดชอบ กำ � กั บ ดู แ ลในพื้ น ที่ 11 จั ง หวั ด ประกอบด้ ว ย สำ�นักงาน คปภ.จังหวัดขอนแก่น บึงกาฬ หนองคาย อุดรธานี มหาสารคาม หนองบัวลำ�ภู เลย กาฬสินธุ์ สกลนคร นครพนม และจังหวัดเพชรบูรณ์ ส่งผลให้ สามารถเชื่อมโยงระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ กับ ส่วนกลางได้รวดเร็ว ทำ�ให้สามารถบริการด้านข้อมูล กับประชาชนในพื้นที่ที่รับผิดชอบได้อย่างทั่วถึงอีก ด้วย ดร.สุทธิพล ทวีชยั การ เลขาธิการ คปภ. เปิด เผยว่า สำ�นักงาน คปภ. ให้บริการด้านการประกันภัย สำ�หรับประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ และต้องได้ รับบริการที่ดีอย่างทั่วถึง การเปิดสำ�นักงาน คปภ. ภาค 3 และสำ�นักงาน คปภ.จังหวัดขอนแก่น เพื่อ เป็นหน่วยงานในภูมภิ าคของสำ�นักงาน คปภ. ในการ ปฏิบัติงานตามพื้นที่ที่รับผิดชอบทั่วประเทศ จากการปรั บ ปรุ ง โครงสร้ า งองค์ ก รของ สำ�นักงาน คปภ. ทำ�ให้มีสำ�นักงาน คปภ.ภาค และ สำ�นักงาน คปภ.จังหวัด รวมทัง้ สิน้ 9 ภาค 69 จังหวัด ซึ่งในแต่ละภาคจะมีจังหวัดในพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อ ปฏิบตั งิ านทัง้ ในด้านการส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับการประกันภัย การคุ้มครองสิทธิประโยชน์ การให้บริการผู้เอาประกันภัย และประชาชนใน พื้นที่ภูมิภาค การให้คำ�ปรึกษา แนะนำ� การไกล่ เกลี่ยข้อพิพาท รับเรื่องร้องเรียนด้านการประกันภัย ช่วยเหลือการเกิดอุบัติเหตุรายใหญ่ การช่วยเหลือ ประชาชนในช่วงเทศกาล การจ่ายค่าเสียหายเบื้อง ต้นจากกองทุนทดแทนผู้ประสบภัย ตลอดจนการ ออกใบอนุญาตและการต่ออายุใบอนุญาตตัวแทน นายหน้าประกันภัย เลขาธิการ คปภ. กล่าวต่อว่า ปัจจุบัน พื้นที่ ของสำ � นั ก งาน คปภ.ขอนแก่ น มี บ ริ ษั ท ประกั น ชีวิต 28 สาขา และบริษัทประกันวินาศภัย 37 สาขา สำ�หรับอัตราการถือครองกรมธรรม์ประกันชีวิต โดยพบว่ า จั ง หวั ด ขอนแก่ น มี อั ต ราการถื อ ครอง กรมธรรม์ ประกันชีวิตต่อประชากร อยู่ที่ร้อยละ 32.34 อัตราการถือครองกรมธรรม์ประกันวินาศภัย ต่อประชากร อยู่ที่ร้อยละ 21.52 สำ�หรับในช่วงครึ่ง ปีแรกของปี 2560 จังหวัดขอนแก่น มีจำ�นวนเบี้ย ประกันภัยรับโดยตรงทั้งประกันชีวิตและประกัน วินาศภัยอยู่ 1,479 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 12.41 ของจำ�นวนเบีย้ ประกันภัยรับโดยตรงของ 20 จังหวัด ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่มีจำ�นวนเบี้ยประกัน ภัยรับโดยตรงรวมอยู่ที่ 11,928 ล้านบาท จึงถือได้ว่า จังหวัดขอนแก่นเป็นจังหวัดที่ประชาชนให้ความ สนใจ และตระหนักถึงความสำ�คัญของการประกัน ภัย โดยเลือกใช้ระบบประกันภัยเป็นเครือ่ งมือในการ บริหารความเสี่ยงสูง ด้าน นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการ
และคณะผู้บริหารสำ�นักงาน คปภ. ที่ให้ความสำ�คัญ กับจังหวัดขอนแก่น ในการนำ�เอาระบบประกัน ภัยเข้ามาบริหารความเสี่ยงภัยอย่างทั่วถึง ผ่านทาง สำ�นักงาน คปภ.ภาค 3 และ สำ�นักงาน คปภ.จังหวัด ขอนแก่น โดยเปิดให้บริการประชาชนอย่างครบ วงจร จากแผนพัฒนาจังหวัดขอนแก่น พ.ศ. 2561 – 2564 ได้ก�ำ หนดทิศทางการพัฒนาจังหวัด คือ เสริม สร้างชุมชนให้เข้มแข็ง พัฒนาให้เป็นเมืองน่าอยู่ อย่างยั่งยืน พัฒนาขีดความสามารถด้านสินค้า และ บริการเพื่อยกระดับมาตรฐานสินค้าและบริการให้ ตรงกับความต้องการ ของตลาด และพัฒนาศักยภาพ จังหวัดให้เป็นศูนย์กลางของกลุ่มประเทศอนุภูมิภา คลุ่มนํ้าโขง ทั้งนี้จากแผนพัฒนาดังกล่าว สิ่งสำ�คัญ สิ่งหนึ่งที่จะทำ�ให้การดำ�เนินงานบรรลุผลสำ�เร็จ ได้นั้น คือการประกันภัย ที่จะช่วยหน่วยงานภาค รัฐ ภาคเอกชน และประชาชนในการบริหารความ เสี่ยง อันจะสร้างความมั่นคงต่อชีวิต ทรัพย์สิน และ การประกอบอาชีพซึ่งจะส่งผลให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น ฉะนัน้ การทีส่ �ำ นักงาน คปภ. ได้เปิดสำ�นักงาน คปภ. ภาค 3 และสำ�นักงาน คปภ.จังหวัดขอนแก่น เพื่อให้ บริการประชาชนด้านประกันภัยอย่างครบวงจร จึง เกิดประโยชน์ตอ่ ประชาชนในจังหวัดขอนแก่น และ พื้นที่ใกล้เคียงอย่างมาก
เศรษฐกิจอุดรฯ
• ต่อจากหน้า 1
นายสิธิชัย จินดาหลวง รองผู้ว่าราชการ จั ง หวั ด อุ ด รธานี เปิ ด เผยถึ ง ภาวะเศรษฐกิ จ ของ จังหวัดอุดรธานีในปี พ.ศ.2560 ที่ผ่านมาว่าอยู่ใน สถานะที่มีสภาพโตขึ้นและมีการเคลื่อนไหวไปใน ทางที่ดีพอสมควร จากสถานการณ์เศรษฐกิจโดย ทั่วไป จากการรวบรวมของคณะกรรมการ เศรษฐกิ จ จั ง หวั ด อุ ด รธานี ที่ ป ระกอบขึ้ น มาจาก ภาครัฐ เอกชน ภาคธุรกิจ สมาคมธุรกิจท่องเที่ยว และภาคอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ได้มีการรวบรวม ข้อมูลตัง้ แต่ตน้ ปีจนถึงเดือนตุลาคม 2560 มีอตั ราโต เล็กน้อย ร้อยละ 3.0 จากเดิมที่คาดการว่าจะโตอยู่ที่ อัตราร้อยละ 3.2 และจะเติบโตอยูใ่ นอัตราดังกล่าวมา จนถึงสิ้นปี และให้การคาดการณ์ว่า แนวโน้มสภาพ เศรษฐกิจของจังหวัดอุดรธานี ในช่วงต้นปี พ.ศ. 2561 คาดว่าจะมีสถานะขยายตัวเคลื่อนไหวเติบโต ไปในทางค่อนข้างดี ทั้งนี้จังหวัดอุดรธานีมีสภาวะ เศรษฐกิจจะมีการเติบโตติดต่อเนือ่ งกันมาจากปี พ.ศ. 2558, 2559 ต่อเนื่องมาถึงปี พ.ศ.2560 ในอัตราเฉลี่ย ประมาณร้อยละ 3.5 ภาคซั พ พลายไซด์ สาขาภาคการเกษตร ของจังหวัดยังมีการเติบโตอยู่ที่ 5.4 กว่าๆ เนื่องจาก จั ง หวั ด มี ยุ ท ธศาสตร์ ใ นการผลิ ต การเกษตรด้ ว ย การเพิ่ ม ผลผลิ ต และลดต้ น ทุ น การผลิ ต ลง ภาค การเกษตรมีโครงการต่างๆ ที่สำ�คัญๆ คือ การได้ รับการร่วมมือจากหลายกระทรวง เช่น กระทรวง พาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงวิทยาสตร์ และเทคโนโลยี ทำ�ให้คาดหมายว่าในปี 2561 จะ สามารถเติบโตทางเศรษฐกิจได้ในอัตราเท่ากับปี 2560 รวมภาคบริการก็อยู่ในอัตราขยายตัวที่ดีพอ สมควรในอัตราทีน่ า่ พอใจ อย่างไรก็ตามในส่วนของ ภาคอุตสาหกรรมที่มีความเติบโตเพิ่มขึ้น ในอัตราที่ ชะลอตัว ซึง่ สภาวะดังกล่าวก็เกิดขึน้ ในหลายๆ พืน้ ที่ ในส่วนของดีมานด์ไซด์ ในเรื่องของการใช้ จ่ายบริโภคในภาคเอกชน แม้วา่ ในภาพรวมมองดูแล้ว จะไม่คอ่ ยดีเท่าไหร่ แต่กม็ อี ตั ราโตและเคลือ่ นไหวใน อัตราที่น่าพอใจอยู่ที่อัตราร้อยละ 5.8 ประกอบกับ การใช้จ่ายภาครัฐโตอยู่ที่อัตรา 5.7% ในปีที่ผ่านมามี งบประมาณโครงการต่างๆ ของภาครัฐ ทีล่ งมาพืน้ ที่ ค่อนข้างมาก ในแง่ ข องยุ ท ธศาสตร์ ก็ มี ทั้ ง ยุ ท ธศาสตร์ จังหวัด และยุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัด แต่ยุทธศาสตร์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีงบประมาณลงมามาก มี ก ารเติ บ โตที่ ดี ยกเว้ น การลงทุ น ในภาคเอกชน ในจั ง หวั ด อุ ด รธานี ไ ม่ ค่ อ ยดี อ ยู่ ใ นอั ต ราชะลอ ตัว เนื่องมาจากผลกระทบที่นักลงทุนยังไม่ค่อยมี ความมั่นใจ ซึ่งมีรายงานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่า การลงทุนอยู่ในสภาพรอเวลา อย่างไรก็ตามใน ปี 2561 นั้น รัฐบาลได้มีโครงการช่วยเหลือแก่ผู้ ลงทุนใหม่ ผู้ประกอบการรายย่อย SMEs / Start
มีรายได้นอ้ ยมากขึน้ ทำ�ให้เกิดความมัน่ ใจว่า สภาวะ บินทุกวัน ต่างๆ จะดีขึ้น “นกแอร์ วางแผนที่ จ ะเปิ ด เที่ ย วบิ น จากอุ ด รธานี ไปยั ง จุ ด หมายต่ า งๆในกลุ่ ม อุดรธานีเนื้อหอม • ต่อจากหน้า 1 ประเทศ GMS คือ ลาว กัมพูชา เวียดนาม และบาง น.ส.สาวิ ต รี สั ง ข์ ศ รี ส วั ส ดิ์ ผู้ จั ด การ จุดของประเทศจีนตอนใต้ ในอนาคตอีกด้วย ซึ่งเป้า สายการบินไทยแอร์เอเซีย ประจำ�ท่าอากาศยาน หมายหนึ่งคือได้มีการวางแผนร่วมกับฝ่ายเอกชน อุดรธานี กล่าวว่า จังหวัดอุดรธานีเป็นจังหวัดที่มี ของอุดรธานี ว่า จะมีการเปิดเที่ยวบินแบบเช่าเหมา ศักยภาพในหลายๆ ด้าน และเป็นจังหวัดยุทธศาสตร์ ลำ�ในอนาคตอันใกล้ ปัจจุบนั สายการบินนกแอร์เปิด ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทั้งในด้าน ทำ�การบินไปจุดหมายต่างๆในประเทศ 25 เส้นทาง การค้า การลงทุน บริการ การท่องเที่ยว เศรษฐกิจ ต่างประเทศ เช่น ร่างกุ้ง และโฮจิมินห์” นายทินกร ทองเผ้า นายกสมาคมการท่อง สามารถเชื่อมต่อไปยังจังหวัดหนองคายและกลุ่ม ประเทศ GMS สายการบินไทยแอร์เอเชีย ได้เริ่มมา เที่ยวจังหวัดอุดรธานี/ ประธานสมาพันธ์การท่อง ใช้สนามบินนานาชาติอดุ รธานีเป็นฮับในการทำ�การ เที่ยวจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า การที่สายการบิน บินจากอุดรธานี ไปยังจุดหมายต่างๆ ภายในประเทศ ต่างๆ ใช้สนามบินนานาชาติอุดรธานี เปิดเส้นทาง มานานกว่า 14 ปีแล้ว จนในขณะนีส้ ายการบินแอร์เอ บินจากจังหวัดอุดรธานี ไปยังจุดหมายต่างๆ ใน ซีย ใช้สนามบินนานาชาติอดุ รธานีเป็นฮับทำ�การบิน ประเทศ ทำ�ให้ปัจจุบันสนามบินนานาชาติอุดรธานี ไปในเส้นทางต่างๆ เช่น อุดรธานี-กรุงเทพฯ วันละ 4 มีสายการบิน 5 สาย ใช้บริการ มีเที่ยวบินขึ้น-ลงวัน เที่ยวบิน และในวันที่ 15 ก.พ.61 จะเพิ่มอีกเที่ยวบิน ละ 62 เที่ยวบิน แสดงให้เห็นศักยภาพของสนามบิน รวมเป็นวันละ 5 เทีย่ วบิน/วัน, อุดรธานี-อูต่ ะเภา วัน นานาชาติอุดรธานีว่ามีความพร้อมในทุกด้าน ถือว่า ละ 2 เที่ยวบิน, อุดรธานี-ภูเก็ต วันละ 1 เที่ยวบิน มี เป็นเรื่องที่ดี ทำ�ให้สนามบินนานาชาติอุดรธานี มี แผนที่จะเพิ่มอีก 1 เที่ยวบิน, และในวันที่ 15 ก.พ. ความเป็นสากลมากขึ้นทุกขณะ และทำ�ให้เกิดความ 61 จะเปิดทำ�การบินเส้นทางอุดรธานี –เชียงใหม่- เชื่อถือแก่สายการบินต่างๆ ที่จะตัดสินใจเปิดเส้น อุดรธานี วันละ 1 เที่ยวบิน เป็นเที่ยวบินแรกด้วย ทางบินมาสู่จังหวัดอุดรธานี ทำ�ให้เกิดมิติใหม่กับ เครื่องบิน แอร์บัส-เอ320 จุ180 ที่นั่ง โดยออกจาก การท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของจังหวัดและภูมิภาค อุดรธานี เวลา 14.00 น.ถึงเชียงใหม่เวลา 15.20 น. อีสานตอนบน จะมีความเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง และออกจากเชียงใหม่เวลา 15.50 น.ถึงอุดรธานีเวลา จนทำ�ให้สายการบินมาใช้เป็นจุดเริ่มต้นทำ�การบิน ขนผู้โดยสารดังกล่าว 17.10 น. อย่างไรก็ตามจังหวัดและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง สำ � หรั บ การเปิ ด ทำ � การบิ น ในเส้ น ทาง อุดรธานี-เชียงใหม่-อุดรธานี เพื่อให้เป็นทางเลือก จะต้องวางแผนล่วงหน้า 1-2 ปี ในการที่จะทำ�ให้ อีกทางหนึ่งสำ�หรับผู้โดยสารที่ต้องเดินทางไปทำ� สนามบินนานาชาติอุดรธานีเป็นสากลอย่างแท้จริง ธุรกิจ ท่องเทีย่ ว และศึกษาทีจ่ งั หวัดในภาคเหนือ เช่น อาทิเช่น การวางแผนที่จะต้องมีกำ�ลังคนที่จะมา เชียงใหม่ เชียงราย ฯลฯ ในขณะเดียวกันก็เป็นการ ทำ�หน้าที่บริการแก่ผู้โดยสารจากเที่ยวบินระหว่าง ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชื่อมภาคจากภาคเหนือ มาสู่ ประเทศ ให้มกี ารปฏิบตั งิ านอย่างต่อเนือ่ งเพือ่ ให้สาย ภาคอีสานตอนบน โดยเฉพาะจังหวัดอุดรธานี โดย การบินเกิดความมั่นใจว่า ถ้าเขาทำ�การบินมาลงที่ มีความเชื่อว่าจะเป็นการสร้างโอกาส และกระจาย สนามบินนานาชาติอุดรธานีจะไม่มีปัญหาในเรื่อง พิธีการต่างๆ รายได้ที่สำ�คัญไปยังทั้งภาคเหนือและภาคอีสาน ในส่วนของการดำ�เนินการให้เกิดการบิน นายณัฐวุฒิ จิตต์อาจหาญ ผจก.ฝ่ายสื่อสาร องค์กร บริษทั ไทยแอร์เอเชีย จำ�กัด กล่าวว่า ปัจจุบนั ระหว่างประเทศนั้น ในขณะนี้ภาคเอกชนพยายาม นี้ สายการบินไทยแอร์เอเชีย มีฝูงบินโดยสารที่เป็น ผลักดันให้เกิดการบินแบบเช่าเหมาลำ� ในระยะแรก เครื่องบิน Air bus A320 จำ�นวน 57 ลำ� และจะได้ เพือ่ ให้เกิดการบินแบบประจำ�ในโอกาสต่อไป โดยได้ รับมอบอีกจำ�นวน 7 ลำ� ในปี พ.ศ.2561 ทำ�การบิน มีการพบปะพูดคุยกับผูบ้ ริหารระดับสูงของสายการ ไปตามเมืองต่างๆในประเทศ 21 เมือง มีฮับสำ�หรับ บินนกแอร์ และได้ขอ้ สรุปว่าจะเปิดเส้นทางเช่าเหมา การใช้ เ ป็ น จุ ด ควบคุ ม การบิ น ภายในประเทศ 6 ลำ�อุดรธานี-เมืองวิงห์ ของเวียดนาม เป็นการบินแบบ ฮับ เช่น กรุงเทพฯ หาดใหญ่ ภูเก็ต อู่ตะเภา กระบี่ เช่าเหมาลำ�นำ�ร่องจากอุดรธานี – เมืองวิงห์ ซึ่งใน และเชียงใหม่ สามารถทำ�การบินได้ครอบคลุมทั้ง อนาคตยังมีอีกหลายจุดหมายที่อยู่ในแผนการ อาทิ ประเทศได้ ในภาพรวมแล้วมีโหลดเฟกเตอร์เฉลีย่ อยู่ เช่น หลวงพระบาง, สิบสองปันนา และเวียดนาม ซึง่ ในส่วนของการบินแบบเช่าเหมาลำ� อุดรธานี - เมือง ที่ 87% “สายการบินไทยแอร์เอเซีย มีเส้นทางบินไป วิงห์ จะมีการนำ�ผูท้ เี่ กีย่ วข้องของจังหวัดอุดรธานีเดิน จุดหมายต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ ประมาณวัน ทางไปสำ�รวจเส้นทางที่เมืองวิงห์ในเร็วๆ นี้ ที่ ผ่ า นมานั้ น จั ง หวั ด อุ ด รธานี เ คยมี การ ละ 1200 เทีย่ วบิน และจากการสำ�รวจสอบถามความ ต้องการของผู้โดยสาร ปรากฏว่าส่วนหนึ่งต้องการ บินระหว่างประเทศคือ สายการบินแอร์ลาว เคย ให้สายการบินไทยแอร์เอเชีย เปิดทำ�การบินเชื่อม ทำ�การบินระหว่าง หลวงพระบาง-อุดรธานี-หลวง ข้ามภาคอีสาน-เหนือ เพิ่มอีก 2-3 จุด เช่น อุดรธานี- พระบาง และสายการบินไทเกอร์แอร์ บินระหว่าง เชียงราย, อุดรธานี-แม่ฮ่องสอน และอุดรธานี-ภาค สิงคโปร์-อุดรธานี-สิงคโปร์ แต่ได้เลิกทำ�การบินไป ทั้ง 2 สายการบิน ด้วยเหตุผลทางเศรษฐกิจ ตะวันตก” นายณัฐวุฒิฯ กล่าว ด้าน น.ส.จรัสพรรณ ศรีสวัสดิ์ ผูอ้ �ำ นวยการ อิสานขาดหิน • ต่อจากหน้า 1 ใหญ่ ฝ่ายการตลาด บมจ.สายการบินนกแอร์ กล่าวว่า การเปิดเที่ยวระหว่างอุดรธานี-อุบลราชธานี ถือว่า นายภคพล บุตรสิงห์ นายกสมาคมการค้า เป็นการเปิดเที่ยวเชื่อมภูมิภาค และจังหวัดของสาย หิน ไทย-ลาว จ.บึงกาฬ และในฐานะประธานที่ การบินนกแอร์ เนื่องจากสายการบินนกแอร์ ได้มอง ปรึกษา บริษัท อาร์ทีอแล เวิล์ดเทรด จำ�กัด ที่มีการ และมีการศึกษาจนเห็นศักยภาพของการบินข้ามภาค จดทะเบียนการดำ�เนินธุรกิจทั้งใน สปป.ลาว และ และเชื่อมต่อระหว่างจังหวัด ซึ่งจังหวัดอุดรธานี ประเทศไทย เปิดเผยว่า ได้มกี ารจัดตัง้ ”สมาคมการ ก็มีศักยภาพดังกล่าว และจังหวัดอุบลราชธานีก็มี ค้าหินไทย-ลาว” ด้วยวัตถุประสงค์ 2 ประการ คือ ศักยภาพ ซึ่งหากว่าสามารถทำ�การบินเชื่อม 2 จุดนี้ เพื่อเป็นตัวกลางในการดูแลประสานงานอำ�นวย เข้ามาด้วยกัน จะเป็นการเสริมสร้างธุรกิจการบิน ความสะดวก ให้แก่บริษัทผู้ประกอบการ มีการนำ� และศักยภาพทางเศรษฐกิจได้มาก เข้าหินเพื่อก่อสร้างจาก สปป.ลาว เพื่อช่วยแก้ไข ซึง่ จากการทำ�การศึกษาด้านศักยภาพของทัง้ ปัญ หาการขาดแคลนหินเพื่อ การก่อสร้าง และ 2 จังหวัด ก็ได้รับผลตอบเป็นที่น่าพอใจด้านธุรกิจ ช่วยเหลือดูแลประสานงานระหว่างผูป้ ระกอบการ ประกอบกับทีน่ กแอร์ใช้สนามบินนานาชาติอดุ รธานี ทุกแห่งในด้านการขนส่ง ทั้งในด้านของราคาหิน เป็นฮับอีกแห่งหนึง่ นกแอร์จงึ นำ�เอาศักยภาพของทัง้ ปัญหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยเริ่มต้นภายใน 3-4 ปีนี้ 2 จังหวัด มาเปิดเที่ยวบิน อุดรธานี-อุบลราชธานี- คาดว่าจะมีการนำ�เข้าหินเพื่อการก่อสร้างไม่น้อย อุดรธานี ขึ้นสัปดาห์ละ 3 วัน คือ พุธ, ศุกร์, อาทิตย์ กว่า 33 ล้านคิวบิคเมตร จากที่ได้มีการขออนุญาต วันละ 1 เที่ยวบิน ด้วยเครื่องบิน Q440 ขนาดความ จากรัฐบาลลาวเอาไว้ จำ�นวน 200 ล้านคิวบิคเมตร จุ 86 ที่นั่ง อุดรธานี ออกเวลา 11.05 น.ถึ งอุบล เนื่ อ งจากในปั จ จุ บั น นี้ การทำ � เหมื อ งหิ น ใน ราชธานีเวลา 12.05 น. จากอุบลราชธานีเวลา 13.00 ประเทศไทยโดยเฉพาะในภาคอีสานได้มีการทะ น.ถึงอุดรธานี เวลา 14.00 น และหากว่าได้รบั ผลตอบ ยอยเลิกกิจการทำ�เหมืองหินเพือ่ การก่อสร้างไปเป็น
หินเพื่อการก่อสร้างมีจำ�นวนน้อยลงมาก บางแห่ง อยู่ในขั้นตอนขออนุมัติต่อสัมปทานบัตร ในภาค อีสานตอนบน 5-6 จังหวัด มีเหลืออยู่ที่จังหวัดเลย เพียงแห่งเดียว ซึ่งก็อยู่ห่างจากแหล่งซื้อ-ขาย และ สถานที่ก่อสร้าง เช่น จังหวัดบึงกาฬ นครพนม ก็ มีระยะทางมากกว่า 400 กิโลเมตร จึงทำ�ให้ต้นทุน ซื้อ-ขาย ขนส่งและอื่นๆ สูง ไม่คุ้มกับการพาณิชย์ ขณะที่แหล่งทรัพยาการหินใน สปป.ลาว อยู่ห่าง จากชายแดนไทยระยะทางไม่เกิน 50 กิโลเมตร และ จากการสำ�รวจแหล่งหินของประเทศลาว เป็นหิน ที่มีคุณภาพดีมาก เช่น หินบะซอลต์ หินแกรนิต เป็ น ต้ น และมี แ หล่ ง หิ น เป็ น จำ � นวนมาก เช่ น บริษัท อาร์ ที แอล เวิล์ดเทรด จำ�กัด ได้รับอนุมัติ ให้ทำ�การส่งออกได้จำ�นวน 200 ล้านคิวบิคเมตร ซึ่งจะมีการนำ�เข้ามาในประเทศล็อตแรกจำ�นวน 33 คิวบิคเมตร และจะทยอยนำ�เข้าตามโควต้าที่ได้ รับ โดยการดำ�เนินจะทำ�ภายใต้ บริษัท อาร์ ที แอล เวิล์ดเทรด จำ�กัด ในปัจจุบัน สปป.ลาว มีแหล่งหินเพื่อการ ก่อสร้างเป็นจำ�นวนมาก แต่ขาดเทคโนโลยีในการ ทำ�เหมืองและระเบิดหิน จึงอนุญาตให้มกี ารดำ�เนิน งานในลั ก ษณะร่ ว มทุ น โดยให้ เ อกชนจี น และ เวียดนาม เข้ามาดำ�เนินการทำ�เหมืองหิน ระเบิดหิน เพือ่ จำ�หน่ายในประเทศ และส่วนหนึง่ ส่งออกไปยัง ประเทศจีนและเวียดนาม ส่วนหนึง่ จีนนำ�เอาไปใช้ ในโครงการก่อสร้างทางรถไฟความเร็วสูง จีน- ลาว (เวียงจันทน์) นายภคพลฯ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ความคิด การนำ�เข้าหินเพื่อการก่อสร้าง จาก สปป.ลาว มีมา หลายปีแล้ว เคยมีการนำ�เอาปัญหาการขาดแคลน หินเพื่อการก่อสร้าง และปัญหาที่เกี่ยวข้องเข้าสู่ การประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาดังกล่าวมา หลายครัง้ ทัง้ ในระดับเอกชน หน่วยงานทีเ่ กีย่ วข้อง และของจังหวัดบึงกาฬ ก็ไม่มขี อ้ ยุตแิ ละมีการแก้ไข มาโดยตลอด จนได้ขอ้ ยุตทิ กี่ ารจัดตัง้ สมาคมการค้า หิน ไทย-ลาว มีหอการค้าจังหวัดบึงกาฬเป็นพีเ่ ลีย้ ง ช่วยเหลือดำ�เนินการ ทั้ ง นี้ ส มาคมฯ จะเข้ า มาดู แ ลช่ ว ยเหลื อ สมาชิก ที่เป็นบริษัทผู้รับเหมา ผู้ ป ระกอบการ ขนส่งหินประมาณ 30 ราย เป็นตัวกลางติดต่อ ประสานงานกับทางการประเทศลาว และภายใน พืน้ ทีใ่ นการดำ�เนินพิธกี ารนำ�เข้า-ส่งออก ให้เป็นไป ตามกฎระเบียบของทั้งสองประเทศ ทั้งนี้จะมีการ นำ�เข้าล็อตแรกจำ�นวน 33 คิวบิคเมตร จากเหมือง หิน เมืองสังข์ทอง แขวงนครหลวงเวียงจันทน์ ผ่าน ด่านท่าเรือบั๊กศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย นายเจตน์ เกตุจำ�นงค์ ประธานหอการค้า จังหวัดบึงกาฬ เปิดเผยว่า การจัดตั้งสมาคมการค้า หินไทย-ลาว เป็นเรือ่ งทีจ่ ะแก้ไขปัญหาของหินเพือ่ ก่อสร้างในพื้นที่และจังหวัดอื่นๆ เพราะเรื่องนี้ได้ เคยมีการนำ�เข้าพูดคุยถึงปัญหากันในการประชุม 3 ประเทศ 9 จังหวัด หอการค้าจังหวัดบึงกาฬใน ฐานะของผู้นำ�ภาคเอกชน เป็นผู้คอยให้คำ�ปรึกษา และเป็นตัวกลาง และถือว่าหากเอกชนสามารถ นำ�เข้าหินเพื่อการก่อสร้างจาก สปป.ลาว ได้ เป็น เรือ่ งทีด่ ี เป็นเรือ่ งของการส่งเสริมการค้า-ขาย ส่วน หนึง่ ก็จะนำ�มาใช้ในโครงการก่อสร้างเขือ่ นกันตลิง่ ของจังหวัดตามริมแม่นํ้าโขง คือ จังหวัดบึงกาฬ นครพนม และหนองคาย มีรายงานจากสำ�นักงานพืน้ ฐานและเหมือง แร่ เขต 2 อุดรธานี ซึ่งดูแลรับผิดชอบ 13 จังหวัด ของภาคอีสานตอนบนว่า ปัจจุบันนี้สภาวะการ ขาดแคลนหินเพื่อการก่อสร้างในภาคอีสานค่อน ข้างรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ มีเหมืองหินจำ�นวนหนึ่งเลิก กิจการ ส่วนหนึง่ กำ�ลังอยูใ่ นขัน้ ตอนการขออนุญาต ต่อใบอนุญาตสัมปทานบัตร ซึง่ แหล่งแร่หนิ ในภาค อีสานมีอยูท่ ี่ จังหวัดอุดรธานี แต่ขณะนีก้ ห็ มดแล้ว มีผู้ประกอบ 2 ราย ก็ไม่ได้ดำ�เนินการ นอกจากนี้ ก็มีกระจายอยู่ในพื้นที่ จังหวัดหนองบัวลำ�ภู เลย ชัยภูมิ ขอนแก่น อุบลราชธานี ศรีษะเกษ สุรินทร์ และนครราชสีมา
สนใจพื้นที่โฆษณา ติดต่อ คุณสุพัตรา thaisaeree@gmail.com thaisaeree@yahoo.com
หน้า 12
ปีที่ 15 ฉบับที่ 165 ประจำ�เดือนกุมภาพันธ์ 2561
ที่ ป รึ ก ษา พล.ต.ท.ศั ก ดา เตชะเกรี ย งไกร, รศ.ดร.ธี ร ะ ฤทธิ ร อด, ดร.อาทิ ต ย์ ฉั ต รชั ย พลรั ต น์ , ฉั ต ร ศรี พั น ธุ์ , สิ ท ธิ โ ชค บุ ญ โท, พ.อ.สมศั ก ดิ์ สงทามะดั น , พี ร ะ วี ร ะชั ย , ยงยุ ท ธ ขาวโกมล เจ้าของ/บรรณาธิการบริหาร พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ บรรณาธิการ/ผู้พิมพ์และผู้โฆษณา สุพัตรา ศุขโข กองบรรณาธิการ อนุสรณ์ ศุขโข ,เพ็ญศิริ นาคทน,มณฑล ศุขโข,รณชิต ชาญเจริญ,นาฏยาภรณ์ ชาญเจริญ,
ประคอง หนู ร าช,พั น ธ์ ศั ก ดิ์ วี ร ะชั ย ,เสริ ม ศั ก ดิ์ ขาวโกมล สำ�นั ก งาน 76 ม.20 ถ.กสิ ก รทุ่ ง สร้ า ง ต.ศิ ล า อ.เมื อ ง จ.ขอนแก่ น 40000 โทรศั พ ท์ 08-9422-0228 โทรสาร 0-4324-4584 E-mail : Thaisaeree@gmail.com, Thaisaeree@yahoo.com ศูนย์อุดรธานี 152/3 ถ.อุดรดุษฏี ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี 41000 โทรศัพท์ 08-6864-0678 โทรสาร 0-4224-7905 E-mail: ps_veerachai@hotmail.com ศูนย์หนองคาย ภัทรวินทร์ ลีปาน 92 หมู่ 1 ต.บ้าน ่ รึกษากฎหมาย สังคม พุทธา สำ�นักงานทนายความประสพสุขธุรกิจและกฎหมาย ออกแบบ/กราฟฟิค เอือ้ ดีไซน์ 08-3417-0363 ว่าน อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย 43110 โทรศัพท์ 087-8627979 E-mail : pattarawin2519@hotmail.co.th ทีป