หนังสือพิมพ์ไทยเสรี ฉบับที่ 142

Page 1

ปีที่ 13 ฉบับที่ 142 ทั นประจำ ส �ถเดืาอนมี น นกาคม า ร2559 ณ์

ติ ด ต า ม ข่ า ว ส า ร ไ ด้ ที่

w w w . t h a i s a e r e e .หน้ c oาm1

ปีที่ 13 ฉบับที่ 142 ประจำ�เดือนมีนาคม 2559 ราคา 10 บาท

จี น มาแผนเหนื อ เมฆ ขอสิทธิ2ข้างทางรถไฟ สัดส่วนร่วมทุนไม่ชดั เจน แอร์เอเชียเปิด 2 เส้นทางใหม่ ; นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย นายชาติชาย โฆษะวิสุทธิ์ ประธานกรรมการบริหารโรงแรม โฆษะ และนายเข็มชาติ สมใจวงษ์ รองประธานหอการค้าจังหวัดขอนแก่น ร่วมแถลง ข่าวเปิดเส้นทางบินใหม่ 2 เส้นทาง ขอนแก่น-เชียงใหม่ และ ขอนแก่น-หาดใหญ่ เมื่อ วันที่ 8 มีนาคม2559 ณ โรงแรม ราชาวดี รีสอร์ท แอนด์ โฮเทล ขอนแก่น

ธุรกิจอัญมณีซึมยาว หดเป้าถอยตั้งหลัก คาดปี 5 9ฟื ้ น ยาก

มอบเงินแก้ปัญหาภัยแล้ง ; นายกำ�ธร ถาวรสถิตย์ ผวจ.ขอนแก่น เป็นประธานพิธีลงนามข้อ ตกลง mou และมอบเงินอุดหนุนโครงการตามแผนพัฒนาอาชีพเกษตรกรตามความต้องการของ ชุมชน เพือ่ บรรเทาปัญหาภัยแล้ง โดยมี ร.ท.วรวุฒิ ขอดจันทึก เกษตรจังหวัดขอนแก่น ให้การต้อนรับ ณ หอประชุมเกษตรจังหวัดขอนแก่น

อ น า ค ต ข อ น แ ก่ น จ ะ เ ป็ น ศู น ย์ ก ลางขนส่ ง ทางรถไฟ ที่ สำ�คัญในระดับภูมิภาคอาเซียน ขณะที่จีนยื่นเงื่อนไข ขอสิทธิ ตลอดแนว 2 ข้างทางรถไฟ และ บริเวณสถานีรถไฟ หากต้องการ ให้ลงทุนสร้างรางรถไฟ และร่วม คาดการณ์ ไ ว้ ตั้ ง แต่ ทุนในการเดินรถ อ่านต่อหน้า 11

ป ล า ย ปี ที่ แ ล้ ว ว่ า ธุ ร กิ จ อั ญ มณี ใ นปี 2559 จะยั ง คง สถาพร บั ว ใหญ่ แอร์ เ อเชี ย เปิ ด 2เส้ น ทางใหม่ ชะลอตัวต่อเนื่องยาว ธุรกิจอสังหาฯ อุดรธานี ปี 2559 มีแนว บิ น เชื่ อ มเหนื อ -อี ส าน-ใต้ แต่เมือ่ เริม่ เข้าสูป่ ี 2559 ผลกระทบที่ โน้มที่ดีขึ้น แต่ต้องวิเคราะห์ตลาดอย่า แอร์เอเชีย เปิดเส้นทางบินใหม่ ขอนแก่น-เชียงใหม่ ชัดเจนจากเศรษฐกิจที่ผันผวนตั้งแต่ ประมาท ราคาบ้านเริม่ ต้นอยูท่ ลี่ า้ นกว่าๆ และขอนแก่น-หาดใหญ่ เชือ่ มหัวเมืองใหญ่ของภาคเหนือขึ้นไป แต่ไม่น่าจะเกินไปถึง 3-4 ล้าน ต้ น ปี อาจจะทำ � ให้ ธ ุ ร กิ จ อั ญ มณี เ จอ อี ส าน-ใต้ มี ค วามสะดวกมากยิ่ ง ขึ้ น สร้ า งโอกาสทาง บาท โครงการขนาดใหญ่ระดับพรีเมีย่ ม งานหนั ก กว่ า ที ค ่ ด ิ ต้ อ งยอมถอยเพื อ ่ เศรษฐกิจ ท่องเที่ยว และการลงทุน นำ�เสนอจุดขาย ตรง ไปไม่รอด ส่วนคอนโดมิเนียมก็ยังไม่ เวลา ใส่ใจความปลอดภัย ในราคาสุดประหยัด ตั้งหลักกันใหม่ อ่านต่อหน้า 11 นิยมซื้อขายกัน อ่านต่อหน้า 11

BMWรุกตลาดใหม่สู้ค่ายรถญี่ปุ่น เคาะประตูขายตรงเฉพาะอาชีพ BMW กลับเข้าสู่ตลาดรถยนต์ภูธรอีก ครั้ง ทำ�การตลาดแบบขายตรง เดิน เคาะประตูลูกค้าเฉพาะอาชีพ ตั้งเป้า 2-3 ปี ข้างหน้าขึ้นทาบเบนซ์ ล่าสุด นำ� BMW รุ่น X-1 ขนาด 7 ที่นั่ง ที่ อธิษฐ์ ศุภศจี เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีลาํ้ สมัยออก มาอวดโฉม สนองความต้องการของลูกค้า อ่านต่อหน้า 11

ชี้ปี59ธุรกิจอสังหา สิ น ค้ า ก๊ อ ปเกลื่ อ นตลาด แนวราบยังไปต่อได้ ราคาไม่แพงแถมคุณภาพไม่ตา่ งกัน คนไทยเห่อใช้ของก๊อป ดีวีดีเพลง/หนัง มาเป็นอันดับ หนึง่ รองลงมาเป็นสินค้าแบรนด์เนม และเสือ้ ฟุตบอลของ สโมสรดัง เพราะมีราคาถูกแถมคุณภาพไม่ต่างกัน ขณะที่ กรมทรัพย์สนิ ฯ จัดกิจกรรมรณรงค์ แต่ไม่ได้รบั ความสนใจ จากประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อ่านต่อหน้า 11


หน้า 2

ปีที่ 13 ฉบับที่ 142 ประจำ�เดือนมีนาคม 2559

แอร์เอเชียเปิดทาง • ต่อจากหน้า 1 ทำ�ให้เครือข่ายการบินภายในประเทศเข้มแข็งมาก

นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ ล ด์ ประธานเจ้ า หน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย เปิดเผย ว่า ปัจจุบัน แอร์เอเชีย มี 6 ฐานปฏิบัติการบินใน ประเทศ คือ ดอนเมือง ภูเก็ต เชียงใหม่ กระบี่ อู่ ตะเภา และหาดใหญ่ ซึ่งเป็นเส้นทางที่เชื่อมโยง ระหว่างภูมิภาคภายในประเทศ และเพื่อเป็นการ เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้บริการทุกท่าน เป็นการเสริมศักยภาพของภูมิภาค ซึ่งนอกจากการ เปิดตลาดใหม่แล้ว ยังสร้างโอกาสทั้งด้านการท่อง เทีย่ ว การค้าการลงทุน แอร์เอเชียจึงเปิดเส้นทางการ บินเพิม่ อีก 2 เส้นทาง คือ ขอนแก่น – เชียงใหม่ และ ขอนแก่น – หาดใหญ่ ซึ่งจะทำ�การบินทุกวัน วันละ หนึ่งเที่ยว และจะเพิ่มปริมาณเที่ยวบินในอนาคต หากมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้น สายการบินไทยแอร์เอเชีย ปัจจุบันมีเส้น ทางบินตรงทั้งหมด 6 เส้นทาง ได้แก่ หาดใหญ่บิน ตรงสู่กรุงเทพฯ 8 เที่ยวบินต่อวัน เชียงใหม่ 2 เที่ยว บินต่อวัน พัทยา (อู่ตะเภา) 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ กัวลาลัมเปอร์ 10 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และเปิดอีก 2 เส้นทางใหม่ ได้แก่ หาดใหญ่บนิ ตรงสูเ่ ชียงราย และ ยะโฮร์บาห์รู 1 เที่ยวบินต่อวัน ซึ่งถือเป็นเครือข่าย บินที่ครอบคลุมที่มีให้เลือกหลากหลายเส้นทาง เส้นทางบินใหม่ของแอร์เอเชีย ขอนแก่นเชียงใหม่ และ ขอนแก่น-หาดใหญ่ ซึ่งน่าจะทำ�ให้ การเดินทางระหว่างหัวเมืองใหญ่ของภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคใต้ สะดวกมากยิ่งขึ้น สำ�หรับเส้น ทาง ขอนแก่น - เชียงใหม่ ใช้ระยะเวลา 1 ชั่วโมง 10 นาที ส่วนเส้นทาง ขอนแก่น-หาดใหญ่ ใช้ระยะเวลา 2 ชั่วโมง โดยบินทุกวันๆ ละหนึ่งเที่ยวบิน กำ�หนด เริ่มบินในวันที่ 28 เมษายน 2559 และสามารถจอง ตัว๋ ล่วงหน้าได้ตงั้ แต่วนั ที่ 7 มีนาคม 2559 เป็นต้นไป นายธรรศพลฐ์ กล่าวต่อว่า ขอนแก่นถือเป็นจังหวัด ศูนย์กลางทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทีม่ ศี กั ยภาพ ทั้งด้านท่องเที่ยว การประชุมสัมมนา การค้าการ ลงทุนครบถ้วน แอร์เอเชียได้รับการตอบรับอย่าง ดีในเส้นทางดอนเมือง-ขอนแก่น 4 เที่ยวบินต่อวัน ในปัจจุบัน รวมทั้งจังหวัดโดยรอบอย่างอุดรธานี ร้ อ ยเอ็ ด มหาสารคามและกาฬสิ น ธุ์ ก็ เ ป็ น กลุ่ ม จังหวัดสำ�คัญที่มีศักยภาพ การเปิด 2 เส้นทางบิน ใหม่ ขอนแก่นเชื่อมเชียงใหม่และหาดใหญ่จึงน่า สนใจอย่างยิ่ง และเชื่อว่าจะได้รับการตอบรับที่ดี เช่นเคย ในช่วงเปิดตัวเส้นทางใหม่ แอร์เอเชีย จัด โปรโมชั่นสุดคุ้ม ขอนแก่น-เชียงใหม่ ราคาเริ่มต้น ที่ 590 บาท และ ขอนแก่น-หาดใหญ่ ราคาเริ่มต้นที่ 890 บาท สามารถจองโปรโมชั่นพร้อมกันได้ตั้งแต่ วันนี้ ถึงวันที่ 20 มีนาคม 2559 เลือกเดินทางได้ตงั้ แต่ 28 เมษายน 2559 ถึงวันที่ 22 พฤษภาคม 2560 ทาง www.airasia.com และทุกช่องทางการจำ�หน่ายตั๋ว “การบินเชื่อมระหว่างภูมิภาค เหนือ–อีสาน–ใต้ จะ

ยิ่งขึ้น และยังเชื่อมั่นในการเป็นผู้นำ�ส่วนแบ่งตลาด เส้นทางการบินภายในประเทศต่อไปอย่างแน่นอน ” นายธรรศพลฐ์ กล่าว ด้าน ว่าที่ ร.ต.อัธยา ลาภมาก ผูอ้ �ำ นวยการท่า อากาศยานจังหวัดขอนแก่น กรมท่าอากาศยานแห่ง ประเทศไทย เปิดเผยว่า การให้บริการผูโ้ ดยสารทีท่ า่ อากาศยานขอนแก่นวันนีไ้ ด้รบั ความนิยมจากคนใน พื้นที่ รวมไปถึงนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่าง ชาติ ที่เดินทางมากับสายการบินพาณิชย์ตลอดทั้ง วัน ซึง่ จากการตรวจสอบพบว่าจำ�นวนผูโ้ ดยสารของ แต่ละเที่ยวบินที่เปิดให้บริการในขณะนี้นั้น แต่ละ เทีย่ วบินมีจ�ำ นวนผูโ้ ดยสารมากถึงร้อยละ 90-95 ซึง่ เป็นที่น่าพอใจของสายการบินพาณิชย์ต่างๆ ปัจจุบนั สายการบินทีเ่ ปิดให้บริการทีส่ นาม บินขอนแก่น แบ่งเป็น 3 เส้นทางหลักประกอบ ด้วย สุวรณภูมิ-ขอนแก่น ไปและกลับ โดยสาย การบินไทยสมายล์ เส้นทางดอนเมือง-ขอนแก่น ไป และกลับ มีให้บริการมากถึง 3 สายการบิน ประกอบ ด้วย นกแอร์,ไทยแอร์เอเชีย และไทยสมายล์ และเส้น ทางเชียงใหม่-ขอนแก่น ไปและกลับโดยสายการบิน กานต์แอร์ ในจำ�นวนนี้ยังคงรวมไปถึงสายการบิน แบบเช่าเหมาลำ�ทีเ่ ข้าใช้บริการทีส่ นามบินขอนแก่น เป็นประจำ�ทุกเดือน ซึ่งถือเป็นการขยายตัวอย่าง ก้าวกระโดด โดยมีจำ�นวนผู้โดยสารที่มาใช้บริการ ทีส่ นามบินแห่งนีม้ ากถึงวันละกว่า 3,000-4,000 คน หรือเฉลี่ยเดือนละไม่น้อยกว่า 120,000 คน จากการเปิดให้บริการของสายการบินต่างๆ ทีม่ กี ารขอจัดสรรเส้นทางการบินและตารางการบิน ยังคงมั่นใจว่าในปีนี้จะมีผู้โดยสารมาใช้บริการมาก ถึง 2 ล้านคน และการเข้าสูป่ ระชาคมอาเซียน สนาม บินขอนแก่นยังคงได้รบั การประสานงานและติดต่อ จากสายการบินต่างๆ ทัง้ ในประเทศและต่างประเทศ มาทำ�การศึกษาถึงความเป็นไปได้ ในการเปิดเส้น ทางการบินเชื่อมโยงระหว่างภูมิภาคและระหว่าง ประเทศ โดยในตารางบินภาคฤดูร้อนที่ก�ำ ลังจะมา ถึงหรือเข้าสู่ช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี เดิมขอนแก่น มี เทีย่ วบินเปิดให้บริการตลอดทัง้ วันตัง้ แต่เวลา 07.00 – 22.30 น. รวมอยู่ที่ 16 เที่ยวบินต่อวัน โดยตารางบินที่สำ�นักงานการบินพลเรือน แห่งประเทศไทย หรือ กพท.ได้พิจารณามาเพิ่ม เติมนั้น สายการบินไทยแอร์เอเชีย ได้ขอเพิ่มเส้น ทางการบินประจำ�ทุกวันอีกวันละ 2 เที่ยวบิน เป็น เส้นทางเปิดให้บริการใหม่ ประกอบด้วย เชียงใหม่ขอนแก่น ไปและกลับ และขอนแก่น-หาดใหญ่ ไป และกลับ อย่างไรก็ดีจากการให้บริการที่ครอบคลุม ทุกเส้นทางเชือ่ มโยงระหว่างภูมภิ าค ส่งผลให้สนาม บินขอนแก่นเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งทาง อากาศทีส่ ามารถเดินทางไปในภูมภิ าคต่างๆ ได้อย่าง ครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ และจะเชื่อมต่อไปในต่าง ประเทศในเร็วๆ นี้

เดินหน้าพัฒนาเครือข่าย AIS 4G ADVANCED น า ย ป รั ธ น า ลี ล พ นั ง ร อ ง ก ร ร ม ก า ร ผู้ อำ � น ว ย การ สายงานการตลาด บริ ษั ท แอดวานซ์ อิ น โฟร์ เ ซอร์ วิ ส จำ � กั ด (มหาชน) หรื อ เอไอเอส กล่ า วว่ า หลั ง จากได้ รั บ ใบอนุ ญ าตคลื่ น 1800 MHz เมื่ อ ต้ น เดื อ นธั น วาคม 2 5 5 8 เ ร า ไ ด้ เ ดิ น ห น้ า พั ฒ น า เ ค รื อ ข่ า ย A I S 4 G ADVANCED อย่ า งรวดเร็ ว ที่ สุ ด เพื่ อ จะได้ รี บ ส่ ง มอบ บริการ 4G ที่มีคุณภาพดีที่สุดให้แก่คนไทย โดยได้เริ่มเปิดให้ สัมผัสประสบการณ์ 4G ตั้งแต่เดือนธันวาคม ก่อนเปิดให้บริการ อย่างเต็มรูปแบบในวันที่ 26 มกราคม2559 ที่ผ่านมา จนกระทั่ง วันนี้ เราขยายเครือข่ายครอบคลุมแล้วกว่า 59จังหวัด และคาดว่า จะครอบคลุมทั่วประเทศภายในกลางปีนี้ ด้วยงบลงทุนที่เตรียม

ไว้ราว 40,000 ล้านบาท นอกเหนือจากการเร่งขยายเครือข่ายแล้ว เรายังพัฒนา บริ ก ารที่ ต อบโจทย์ พ ร้ อ มด้ ว ยแพ็ ค เกจที่ เ ร็ ว แรง เต็ ม สปี ด เป็ น รายแรก ที่ ใ ห้ ลู ก ค้ า ได้ รั บ ประสบการณ์ ข องเทคโนโลยี 4G ที่ดีที่สุด ด้วยเช่นกัน จึงทำ�ให้ขณะนี้ได้มีลูกค้าตอบรับและ มอบความไว้วางใจเลือกใช้บริการ AIS 4G DVANCED แล้ว ถึงกว่า 5 ล้านราย ภายในระยะเวลาเพียง 2 เดือนเศษ ซึ่งถือเป็น ความสำ�เร็จและเป็นกำ�ลังใจสำ�คัญยิ่ง สำ�หรับชาวเอไอเอสที่จะ ทำ�ให้เรายิ่งมุ่งมั่นพัฒนาบริการทุกด้านให้ดียิ่งขึ้นเรื่อยๆจากวัน นี้และตลอดไป

ตรวจสอบโครงการ ตำ � บ ล 5 ล้ า น บ า ท ; นายพรพิ ทั ก ษ์ แม้ น ศิ ริ ประชาสั ม พั น ธ์ จั ง หวั ด ขอนแก่น ในฐานะหัวหน้า คณะติดตามตรวจสอบผล การดำ � เนิ น งานโครงการ ตำ�บลละ 5 ล้านบาท ลงพืน้ ที่ ต รวจสอบและติ ด ตาม โครงการ 5 ล้าน ในพื้นที่ อำ�เภอเปือยน้อย ซึง่ มี 4 ตำ�บลทีไ่ ด้รบั งบประมาณ 20 ล้านบาท และสามารถส่งมอบโครงการได้แล้ว 3 โครงการ โดยมีนายนัฐภัทร พลอยสุภา นายอำ�เภอ เปือยน้อย ให้การต้อนรับ ณ พืน้ ทีโ่ ครงการ อำ�เภอ เปือยน้อย จังหวัดขอนแก่น เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2559 ปรั บ ปรุ ง แนวเขตที่ ดิ น ; นายกำ�ธร ถาวรสถิตย์ ผู้ว่า ราชการจั ง หวั ด ขอนแก่ น เป็นประธานประชุมคณะ อนุ ก รรมการปรั บ ปรุ ง แผนทีแ่ นวเขตทีด่ นิ ของรัฐ แบบบูรณาการ “One Map” เพือ่ บูรณาการแนวเขตทีด่ นิ ของรั ฐ ให้ เ ป็ น มาตรฐาน และมี แ ผนที่ ใ นรู ป แบบ เดียวกันทั่วประเทศ โดยมี ผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมพระธาตุขามแก่น ชั้น 2 ศาลากลาง จังหวัดขอนแก่น

ศาลฯคุ้มครองชั่วคราว ให้ใช้คลื่น 900 MHz ต่อไปได้อีก 30 วัน นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่ บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำ�กัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า จากมติของ กสทช.ที่อนุมัติออกใบอนุญาต ประกอบกิจการ โทรคมนาคม ย่าน 900 MHz ชุดที่ 2 ให้แก่ บริษัท ทรูมูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำ�กัด เมื่อวันจันทร์ที่ 14 มีนาคม พ.ศ.2559 และส่งผล ทำ�ให้เบอร์โทรศัพท์ของผู้ใช้บริการ 2G บนคลื่น 900 MHz ของ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำ�กัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส ที่มีอยู่ประมาณ 4 แสนราย ต้องซิมดับ และลูกค้า บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวิร์ค จำ�กัด หรือ เอดับบลิวเอ็น ที่ยัง คงถือเครื่องมือถือ 2G อีกราว 7.6 ล้านเบอร์ รวม ถึงลูกค้าของทีโอทีอีกประมาณ 2 แสนเบอร์ ไม่ สามารถใช้งานได้บนโครงข่าย 900 MHz อีกต่อไป โดยจะมี ผ ลตั้ ง แต่ เ ที่ ย งคื น ของวั น อั ง คารที่ 15 มีนาคม 2559 เป็นต้นไปนั้น

เนือ่ งจากกรณีดงั กล่าว เอไอเอส และ กทค. มีความเห็นทีแ่ ตกต่างกันถึงแนวทางทีจ่ ะดูแลผูใ้ ช้ บริการ ภายหลังการออกใบอนุญาต เอไอเอสจึงมี ความจำ�เป็นต้องยืน่ ฟ้องไปยังศาลปกครอง เพือ่ ขอ ให้ศาลพิจารณาคุ้มครองลูกค้าจำ�นวนดังกล่าว ให้ ยังคงใช้งานต่อไปได้ อันจะเป็นการช่วยให้ลูกค้า กลุ่มนี้และผู้บริโภคไม่ได้รับผลกระทบในวงกว้าง รวมถึงมีเวลาที่จะโอนย้ายเบอร์ไปยังผู้ให้บริการ รายอืน่ หรือ เปลีย่ นเครือ่ งโทรศัพท์มอื ถือทีร่ องรับ เทคโนโลยี 3G หรือ 4G ต่อไป “โดยล่าสุด ศาลปกครองกลางได้มีคำ�สั่ง คุ้มครองชั่วคราวให้เอไอเอสยังคงให้บริการต่อไป อีก 30 วัน ซึ่งจะส่งผลให้ลูกค้าจำ�นวนดังกล่าว ยังคงสามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่องไปอีกระยะ หนึ่ง ทั้งนี้เอไอเอสยังคงยืนยันเจตนารมณ์ที่จะทำ� ทุกวิถีทาง เพื่อให้ลูกค้าทุกท่านสามารถใช้งานได้ อย่างต่อเนื่องต่อไป” นายสมชัย ยํ้า

ดีแทคจัดประชุมผู้ร่วมธุรกิจ ร้ า น ดี แ ท ค เ ซ็ น เ ต อ ร์ ทั่ ว ประเทศ2559 “Win Together”

นายลาร์ ส นอร์ ลิ่ ง ประธานเจ้ า หน้ า ที่ บริ ห าร บริ ษั ท โทเทิ่ ล แอ็ ค เซ็ ส คอมมู นิ เคชั่น จำ�กัด (มหาชน) หรือ ดีแทค พร้อมด้วย คณะผู้ บ ริ ห ารจั ด งาน Investor Conference

Representative การพัฒนาตัวแทนจำ�หน่ายในช่อง ทางการขายและบริการของดีแทคทีเ่ ป็นมืออาชีพ” ทั้งนี้ได้ยํ้าถึงแผนการลงทุน 70,000 ล้าน บาท ภายในเวลา 3 ปี เพื่ อ ให้ ค วามมั่ น ใจกั บ ผู้

รมช.คมนาคมชี้ รฟท.ต้องพัฒนาอีกมาก ห ลั ง ข า ด ก า ร พั ฒ น า จ น ล้ า ห ลั ง 2559 การประชุมผู้ร่วมธุรกิจร้านดีแทค เซ็นเตอร์ ทั่วประเทศ เพื่อตอกยํ้าความมั่นใจในการก้าวสู่ ความเป็นที่หนึ่ง จากโครงสร้างการจัดจำ�หน่าย ที่ แ ข็ ง แกร่ ง อย่ า งต่ อ เนื่ อ ง รวมถึ ง แผนการเพิ่ ม ประสิทธิภาพในระบบการทำ�งานเพื่อช่วยให้คู่ค้า เติบโตได้อย่างยัง่ ยืน ซึง่ จะเป็นสิง่ ทีท่ �ำ ให้ดแี ทคเพิม่ ศักยภาพในการส่งมอบนวัตกรรมใหม่ๆของสินค้า และบริการสู่ลูกค้า นายลาร์ ส นอร์ ลิ่ ง กล่ า วว่ า “ดี แ ท คมี น โยบายการบริ ห ารร้ า นดี แ ทค เซ็ น เตอร์ ปี2559 โดยเล็งเห็นความสำ�คัญการทำ�ธุรกิจร่วม กับคู่ค้า ที่มีประสิทธิภาพและเติบโตสำ�เร็จไปด้วย กัน (Win Together) ซึ่งในปีนี้ดีแทคจะมุ่งเน้นให้ ความสำ�คัญกับ 1.Sale & Service Performance กา รขายและให้บริการเชิงรุกทีเ่ ป็นเลิศ เพือ่ ให้สามารถ นำ�เสนอนวัตกรรมดิจิทัลใหม่ๆให้กับลูกค้า 2.การ เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารช่องทางค้าปลีก เพื่อมุ่งสู่ World Class Standard และ 3.Brand

หมู่บ้านรวยสุข 428/17 ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น

ออกแบบ/ผลิต

ป้ายไวนิล ป้ายโฆษณา ธงญี่ปุ่น สติ๊กเกอร์ นามบัตร

ใบปลิว การ์ด แผ่นพับ โปสเตอร์ สื่อสิ่งพิมพ์ทุกชนิด ติดต่อ ยิ้ม 0834170363 E-mail : smile7738@gmail.com

ร่ ว มธุ ร กิ จ ในการดำ � เนิ น งานของดี แ ทคต่ อ จาก นี้ โดยเน้นทั้งการลงทุนโครงข่าย และแคมเปญ การตลาด เพื่ อ ตอบสนองความต้ อ งการของ ลู ก ค้ า และการเติ บ โตในการใช้ ด าต้ า ที่ ม ากขึ้ น ด้วยการขยายโครงข่าย Super 4G ด้วยสปีดอีก ขั้ น ของ 4G เพิ่ ม ความเร็ ว มากขึ้ น 4 เท่ า บน คลืน่ 1800 MHz ด้วยการขยายแบนด์วธิ เพิม่ เป็น 20 MHz ภายในกลางปี นี้ พร้ อ ม การจั ด แคมเปญ สุ ด แรงที่ ช่ ว ยสร้ า งความมั่ น ใจในการขาย ให้ ผู้ ร่ ว มธุ ร กิ จ ของดี แ ทค ภายใต้ Super 4G กับข้อเสนอพิเศษ ซูเปอร์แพ็กเกจ คุ้มสุดใน ตลาดทั้งค่าโทรและมือถือ ให้ลูกค้าได้ประโยชน์ เต็มๆ จาก Super Sale, Super Love & Roll Non Stop, Super Topping และ Super Device ซึ่งดีแท คได้ประกาศทีจ่ ะเป็นผูใ้ ห้บริการทีม่ อบข้อเสนอทีด่ ี ทีส่ ดุ ในตลาด และอัพเดทแพ็กเกจค่าใช้บริการ รวม ถึงราคาโทรศัพท์มอื ถือทีพ่ ร้อมจะสนองตอบความ นิยมของลูกค้าอยู่ตลอดเวลา

ผ้ า ป่ า เพื่ อ การศึ ก ษา ; นายธี ร ะศั ก ดิ์ ฑี ฆ ายุ พั น ธุ์ น า ย ก เ ท ศ ม น ต รี น ค ร ขอนแก่ น พร้ อ มคณะผู้ บริหาร ร่วมกับ ชมรมตลาด รื่นรมย์ เป็นเจ้าภาพผ้าป่า สามั ค คี เ พื่ อ สมทบทุ น ใน การต่อเติมอาคารเรียนและ บำ�รุงการศึกษา ซึ่งจัดเป็น ประจำ�ทุกปี โดยปีนี้นำ�ไป มอบให้ กั บ โรงเรี ย นบ้ า น หว้าเฒ่า บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ ณ ตลาดโต้รุ่งรื่นรมย์ เทศบาลนครขอนแก่น เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2559

เมื่ อ วั น ที่ 24 ก.พ.2559 ที่ ห้ อ งประชุ ม โรงแรมเซ็นทารา แอนด์ คอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ อ.เมืองอุดรธานี นายออมสิน ชีวะฤกษ์ รัฐมนตรี ช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในการ สัมมนา เพื่อสร้างการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร ความ รู้ ความเข้าใจ และรับฟังความคิดเห็นข้อเสนอ แนะ ครั้งที่ 2 ต่อโครงการก่อสร้างรถไฟขนาด รางมาตรฐาน (1.435 ม.) โดยมี นายชยาวุธ จันทร ผวจ.อุดรธานี พร้อมด้วย นายสมหวัง พวงบางโพ รอง ผวจ.อุดรธานี นายสิธิชัย จินดาหลวง รอง ผวจ.อุดรธานี และหัวหน้าส่วนราชการสังกัดใน กระทรวงคมนาคม ให้การต้อนรับ ซึง่ มีประชาชน ที่มีส่วนได้เสียในโครงการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประมาณ 300 คน เข้าร่วมในการสัมมนารับฟัง ความคิดเห็นฯในครั้งนี้ นายออมสิน ชีวะฤกษ์ รมช.คมนาคม กล่าว ว่า ขณะนีป้ ระเทศไทยมีระบบการขนส่งทางรางทัว่ ประเทศเป็นขนาดราง 1 ม.ทั่วประเทศประมาณ 4000 ก.ม.แต่อย่างไรก็ตามระบบการรถไฟไทย ไม่ได้มีการได้รับการพัฒนาให้มีความเหมาะสม กับสภาพปัจจุบันเลย ทำ�ให้ประชาชน เอกชน ผู้ ประกอบการธุรกิจ ไม่ให้ความนิยมใช้ท�ำ การขนส่ง เนื่องจากใช้เวลานานวัน และหันมาใช้การขนส่ง ด้วยรถยนต์ ซึ่งเร็วกว่าแต่ก็อันตรายจนปัจจุบันนี้ ประเทศไทย ขึ้นมาอยู่ในอันดับหนึ่งที่มีอุบัติเหตุ ทางถนนและมีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในโลกแล้ว ซึง่ มาถึงรัฐบาลสมัยนีไ้ ด้ให้ความสำ�คัญต่อ ระบบการขนส่งทางรางเป็นอย่างมาก เพราะในการ ขนส่งแต่ละเทีย่ วสามารถทีจ่ ะบรรทุกสินค้าได้เป็น จำ�นวนมากความร่วมโครงการการก่อสร้างรถไฟ ความเร็วปานกลาง หรือโครงการรถไฟขนาดราง มาตรฐานไทย-จีน(1.435 ม.) ด้วยการเริ่มต้นการ พัฒนาตัวขบวนรถไฟก่อนด้วยการสั่งซื้อหัวจักร รถไฟขนาดหนัก 20 ตัน/เพลา จำ�นวน 20 หัวจาก ประเทศจีน มาใช้ลากตู้สินค้า ทำ�ให้สามารถลากตู้ คอนเทนเนอร์ขนาด 40 ฟุตได้ครั้งละ 40-44 ตู้

นอกจากนี้แล้วก็ได้มีการร่วมมือในการ พัฒนาระบบรางขนาด 1 ม. รางขนาดมาตรฐาน 1.435 ม. กับหลายประเทศ เช่นการลงนามใน ความร่วมมือกับประเทศสาธารณรัฐประชาชน จี น ว่ า ด้ ว ยความร่ ว มมื อ ในการก่ อ สร้ า งรถไฟ ขนาดรางมาตรฐาน (1.435 ม.) ในเส้ น ทาง กรุ ง เทพฯ-นครราชสี ม า-ขอนแก่ น -หนองคาย มูลค่าในปัจจุบันประมาณ 5 แสนล้านบาท ตาม ยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการ คมนาคมขนส่งของไทย พ.ศ.2558-2565 ซึ่งที่ผ่าน มาการเจรจาระหว่างรัฐบาลไทย-รัฐบาลจีน ในราย ละเอียดด้านต่างๆ ของโครงการมาแล้ว 9 ครัง้ และ ในเดือนหน้านี้ก็จะเป็นการเจรจาครั้งที่ 10 ที่กรุง ปักกิง่ ประเทศจีน ซึง่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็ได้ก�ำ ชับให้มกี ารเร่งดำ�เนินการให้ เห็นเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ แ ล้ ว ก็ มี ค วามตกลงร่ ว มมื อ กันกับประเทศญี่ปุ่นในโครงการรถไฟความเร็ว สู ง ความเร็ ว 250 ก.ม./ช.ม. สายกรุ ง เทพฯเชียงใหม่ ทำ�การทดลองการขนส่งระบบรางขนาด 1 ม.จากจังหวัดกาญจนบุรี-กรุงเทพฯ-มาบตาพุด ด้วยตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 12 ฟุต เพื่ออนาคต ต่อไปยังทะวาย และปอยเปตของกัมพูชา และ ยังมีแผนการก่อสร้างทางรถไฟขนาดราง 1 ม.ไป เชื่อมต่อกับระบบทางรถไฟของประเทศมาเลเซียสิ ง คโปร์ เ พิ่ ม เติ ม จากเดิ ม ที่ มี อ ยู่ แ ล้ ว ให้ มี ค วาม สะดวกมากยิ่งขึ้น “หากว่าการพัฒนาระบบการขนส่งทางราง ของประเทศไทย มีการพัฒนาไปได้ตามเป้าหมายที่ ตั้งเอาไว้นั้น ประเทศไทยจะกลายเป็นประเทศที่มี การขนส่งระบบรางที่มีความสมบูรณ์มากที่สุดใน กลุ่มประเทศอาเซียน เพราะสามารถที่จะรองรับ การขนส่งได้คราวละมากๆ ความรวดเร็วก็จะมี ไม่ ต้องไปหยุดรอหลีกกันเหมือนปัจจุบนั นี”้ นายออม สินฯกล่าว


หน้า 3

ปีที่ 13 ฉบับที่ 142 ประจำ�เดือนมีนาคม 2559

จุดอ่อนของสังคมไทย ประเทศไทยเราโชคดี ตั้ ง อยู่ บ น ภู มิ ศ าสตร์ ที่ มี ค วามอุ ด มสมบู ร ณ์ ไ ปด้ ว ย ทรัพยากรนานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นบนดิน หรือ ใต้ดิน แม้แต่ในท้องนํ้า นอกจากจะเป็นแหล่ง อาหารแล้ว ยังมีแร่ธาตุ รวมทั้งพลังงานเชื้อ เพลิงซุกซ่อนอยู่มากมาย แต่การพัฒนาของไทย กลับเคลื่อนตัว ไปอย่างเชือ่ งช้าและต้องหยุดชะงักเป็นระยะๆ เนื่องจากมีอุปสรรคจากปัญหาทางการเมือง ปัญหาความขัดแย้งทางความคิด และปัญหา การทุจริตคอร์รัปชัน ดู เ หมื อ นว่ า เรายั ง ไม่ มี ก ารกำ � หนด ยุทธศาสตร์ของประเทศไว้ชัดเจน ทิศทางใน อนาคตจึงเป็นไปตามแรงผลักของสถานการณ์ ไม่ได้เกิดจากการวางแผนหรือเตรียมการล่วง หน้า จุดอ่อนของการพัฒนาประเทศไทย มี อยู่ข้อเดียว คือเราต่างคนต่างฝัน แต่ละคนก็ มีภาพฝันต่างๆ กัน เมื่อภาพที่ฝันไม่เป็นภาพ เดียวกัน การเดินไปสู่จุดหมายก็ไปคนละทิศ ละทาง เป็นจิกซอว์ที่หามุมลงตัวไม่เจอ แล้ว คนนั้นก็ว่าคนนี้คิดผิด คนนี้ก็ว่าคนนั้นคิดไม่ ถูก ก็เลยยืนเถียงกัน ไม่ไปไหนสักที การปฏิรปู การขับเคลือ่ นนโยบายอะไร ก็ตาม ฝ่ายคิดก็คดิ ไป แล้วก็มาบอกว่าคิดดีแล้ว

แต่ฝ่ายที่ไม่ได้คิดร่วมด้วยก็ไม่เห็นด้วยอยู่อย่าง นั้น ไม่ใช่ไม่เห็นด้วยในความคิด แต่ไม่เห็นด้วย เพราะไม่ได้ร่วมคิดมาด้วยตั้งแต่แรก การมีส่วนร่วมนั้นไม่ใช่เรื่องที่จะมาทำ� วัน สองวันจบ ถ้ามันได้เริ่มมาด้วยกันตั้งแต่ต้น ใช้เวลามากหน่อย แต่ความเข้าใจมีร่วมกัน มัน ก็เห็นภาพเดียวกัน ก็ถือจุดหมายวิธีการไปด้วย กันได้ แต่ส่วนมากจะมีคนเขียนภาพเสร็จแล้ว ค่อยมาถามว่าสวยไหม คำ�ตอบก็กลายเป็นแล้ว แต่จะมอง ใครคิดก็ทำ�ไปละกัน ฉันไม่ได้คิด การพัฒนา การปฏิรูปของบ้านเรามันก็ ล้มเหลวเรื่อยไป เพราะพอคนเดิมที่คิดไว้หมด วาระ คนมาใหม่ก็คิดใหม่ ล้างกระดานกันใหม่ ตลอดเวลา ที่สำ�คัญ สังคมไทยเป็นสังคมของคน อิจฉาตาร้อน มือไม่พายเอาเท้ารานํ้า ไม่ค่อย เป็นสุภาพบุรุษ ยกย่องคนมีอำ�นาจ มีเงิน โดย ไม่สนใจภูมิหลัง ชอบเกาะติดผู้มีอำ�นาจ เอาตัว รอด คนพวกนี้ร้ายยิ่งกว่ามะเร็ง นี่ คื อ จุ ด อ่ อ นของคนไทย อาจจะเป็ น ภาพสะท้อนที่แม้จะดูแรงไปหน่อย แต่ก็เป็น ข้อเท็จจริงที่สังคมไทยจะต้องหวนกลับไปคิด และแก้ไขกันอย่างจริงจัง นั่นคือความจำ�เป็นที่ จะต้องมีการ “ปฏิรูป” กันทั้งระบบ ... ก่อนที่ จะเดินหน้าต่อไป

“เอสซีจี รวมใจสูภ้ ยั แล้ง”

มอบถังเก็บนํา้ บรรเทาภัยแล้ง

เอสซีจี ร่วมกับกองทัพบก สำ�นักงาน ทรัพย์สินฯ สานต่อโครงการ “เอสซีจี รวมใจ สู้ภัยแล้ง” สนับสนุนถังเก็บนํ้าชุมชน 150 ใบ พร้อมจับมือมูลนิธิอุทกพัฒน์ฯวางรากฐาน การบริหารจัดการนํ้า ชุมชนบ้านโนนเขวา อ.แวงน้อย จ.ขอนแก่น สูต่ น้ แบบรับมือภัยแล้ง

อย่างยั่งยืน ขยายผลสู่ชุมชนใกล้เคียง นายประเสริ ฐ ลื อ ชาธนานนท์ รอง ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า ปัญหาภัยแล้งนับเป็น เรือ่ งใหญ่ทสี่ ง่ ผลกระทบโดยตรงต่อการดำ�เนิน ชีวิต สำ�หรับ จ.ขอนแก่น จากภาพรวมแหล่ง นํ้าต่าง ๆ มีปริมาณนํ้าไหลเข้าเขื่อน น้อยแต่ระบายออกมาก ส่งผลให้มี พื้นที่ประสบภัยแล้ง 16 อำ�เภอ 105 ตำ�บล 1,005 หมู่บ้าน คิดเป็นร้อยละ 9.5 ของหมูบ่ า้ นทัง้ จังหวัด ประชาชน ได้รับความเดือดร้อนจากการใช้นํ้า อุปโภคบริโภค ซึ่งทางจังหวัดไม่ได้ นิง่ นอนใจ เร่งให้ความช่วยเหลืออย่าง เต็มที่ โดยในปีนี้ได้รับการสนับสนุน จากเอสซี จี ใ นโครงการ “เอสซี จี รวมใจสูภ้ ยั แล้ง” ซึง่ จะช่วยบรรเทาความเดือด ร้อนให้ประชาชนในพื้นที่ได้ พร้อมร่วมกัน สร้างแนวทางในการแก้ปัญหาภัยแล้งอย่าง ยั่งยืนต่อไป นายอาสา สารสิ น กรรมการ และ ประธานคณะกรรมการกิจการสังคมเพื่อการ พัฒนาอย่างยั่งยืน เอสซีจี กล่าวว่า “เอสซีจี มี ความห่วงใยพี่น้องในชุมชนที่ได้ผลกระทบ จากสถานการณ์ ภั ย แล้ ง และเล็ ง เห็ น ความ จำ�เป็นเร่งด่วนที่จะมีส่วนร่วมบรรเทาความ เดือดร้อนนี้ มุ่งมั่นสานต่อโครงการ “เอสซีจี รวมใจสู้ภัยแล้ง” เพื่อร่วมบรรเทาวิกฤติภัยแล้งในพื้นที่

ต่ า ง ๆ ด้ ว ยการมอบถั ง เก็ บ นํ้ า ขนาด 2,000 ลิตร จำ�นวน 500 ใบ ในพื้นที่ที่ประสบภัยแล้ง โดยมอบให้กับจังหวัดขอนแก่น จำ�นวน 150 ใบ ขณะเดียวกัน ยังร่วมกับมูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชู ป ถั ม ภ์ สนั บ สนุ น ให้ ชุ ม ชน บริ ห ารจั ด การนํ้ า เพื่ อ บรรเทาภั ย แล้ ง อย่ า ง ยั่งยืน ส่งเสริมการเพิ่มแห ล่งนํ้าสำ�รอง อาทิ ชุมชน บ้านโนนเขวา อ.แวงน้อย จ.ขอนแก่น ขุดคลองเชือ่ ม ขุดลอกคลอง ซึ่งสามารถ บรรเทาปัญหาภัยแล้ง และ ขาดแคลนนํ้ า อุ ป โภคได้ เป็นอย่างดี พร้อมผลักดัน ให้เป็นชุมชนต้นแบบการ บริหารจัดการนํ้าชุมชนอย่างยั่งยืน เพื่อส่งต่อ องค์ความรู้ไปสู่ชุมชนใกล้เคียงต่อไป” พ.อ.สมชาย ครรภาฉาย รอง ผบ.มทบ. 23 กล่าวว่า “กองทัพบกมีความห่วงใยพี่น้อง ประชาชนที่ประสบภัยแล้งเป็นอย่างยิ่ง การ

ดูแลช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ถือ เป็นนโยบายของกองทัพบก และมีความยินดี อย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับเอสซีจี ในการสานต่อ โครงการ “เอสซีจี รวมใจสู้ภัยแล้ง” พร้อม ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ อาทิ การให้บริการ รถบรรทุกขนส่งนํ้า และการหาข้อมูลพื้นที่ที่ ประสบปัญหาภัยแล้ง เพื่อให้ความช่วยเหลือ ได้อย่างครอบคลุมทั่วถึง การบริหารจัดการนํ้า อย่างยั่งยืน ไม่ได้เป็นหน้าที่ความรับผิดชอบ ของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึง่ เท่านัน้ แต่เป็น วาระของชาติที่ทุกคนต้องร่วมมือกัน เริ่มจาก ตัวเรา คนในครอบครัว ที่ต้องตระหนักและใช้ ทรัพยากรนํ้าอย่างคุ้มค่า และขยายไปยังชุมชน

และภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งคนที่อยู่ต้นนํ้าไปจนถึง คนปลายนํ้า” เอสซี จี ร่ ว มกั บ สำ � นั ก งานทรั พ ย์ สิ น ส่วนพระมหากษัตริย์ และกองทัพบก ดำ�เนิน โครงการ “เอสซีจี รวมใจสู้ภัยแล้ง” อย่างต่อ เนื่อง ตั้งแต่ปี 2558 ด้วยเล็งเห็นถึงความจำ�เป็น เร่งด่วนที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมบรรเทาความ เดื อ ดร้ อ นให้ กั บ พี่ น้ อ งประชาชนผู้ ป ระสบ ภัย โดยวางแนวทางช่วยเหลือชุมชนที่ประสบ ภั ย แล้ ง แบบเร่ ง ด่ ว น และสนั บ สนุ น ชุ ม ชน ดำ�เนินการลดผลกระทบจากภัยแล้งอย่างยัง่ ยืน พร้ อ มวางแนวทางบริ ห ารจั ด การนํ้ า ในภาค อุตสาหกรรมและภายโรงงานเพือ่ ไม่ให้กระทบ กับชุมชน

สุพัตรา ศุขโข...รายงาน

เดินหน้าสร้างแลนด์มาร์คถนนดอกคูน เทศบาลนครขอนแก่น ติดตัง้ ไฟส่องสว่างแนวต้นคูณบริเวณถนนกัลปพฤกษ์ ส่งเสริม การท่องเที่ยวช่วงกลางคืน รองรับนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพื่อให้เป็นแลนด์ มาร์คของเมืองขอนแก่นอีกแห่งหนึ่ง นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพนั ธุ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น เปิดเผยว่า “ดอกคูณ” จะบาน สะพรั่งและมีความสวยงามมากที่สุดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เดือนเมษายน และที่จังหวัด ขอนแก่นถนนเกือบทุกสายจะมีดอกคูณบานสวยงามเป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยว ดังนั้น เทศบาลนครขอนแก่นจึงมีแนวคิดว่า นอกจากชมความสวยงามในเวลากลางวันแล้ว การใช้ ไฟส่องสว่างเพือ่ เพิม่ ความสวยงามยามคํา่ คืนน่าจะเป็นการส่งเสริมเพิม่ การดึงดูดนักท่องเทีย่ ว ให้มีความสนใจและสร้างความสวยงามในอีกหนึ่งมิติ การประดับตกแต่งไฟ เพื่อให้ชมความสวยงามได้ทั้งกลางวันและกลางคืน จะเป็นอีก หนึง่ พืน้ ทีเ่ ป็นแลนด์มาร์คของเมืองขอนแก่นในช่วงเทศกาลถนนดอกคูน โดยติดตัง้ ไฟจำ�นวน 100 ต้น เริ่มจากประตูทางออกศูนย์ประชุมกาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น ถึงแยกวัด ป่าอดุลยาราม ซึง่ คาดว่าจะแล้วเสร็จก่อนพิธเี ปิดงาน “เทศกาลถนนดอกคูน จังหวัดขอนแก่น ครั้งที่ ๒” วันที่ 31 มีนาคม 2559 นี้


หน้า 4

ปีที่ 13 ฉบับที่ 142 ประจำ�เดือนมีนาคม 2559

สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น

แสดงความยินดี ; นายวรวิทย์ รวีนภิ าพงศ์ ผูอ้ �ำ นวยการโรงไฟฟ้าพลังนํา้ ภาค ตะวันออกเฉียงเหนือ มอบกระเช้าดอกไม้แสดงความยินดีกับ พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ ในโอกาสได้รับเลือกให้ดำ�รงตำ�แหน่ง นายกสมาคมสื่อมวลชน จังหวัดขอนแก่น อีกวาระหนึง่ ในงานเรารักขอนแก่น ณ สถานีวทิ ยุโทรทัศน์ แห่งประเทศไทย ขอนแก่น อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมื่อเร็วๆนี้

สนับสนุนวันนักข่าว ; พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคมสื่อมวลชน ขอนแก่น พร้อมกรรมการบริหาร มอบเงินสนับสนุนการจัดกิจกรรมสังสรรค์ เนื่องในโอกาสวันนักข่าวให้กับ นายสุพล บุญชื่นชม ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ ข่าวสด มติชน ณ หมูบ่ า้ น วราสิริ อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมือ่ วันที่ 5 มีนาคม 2559

วันสตรีสากล ; พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัด ขอนแก่น พร้อมกรรมการบริหาร มอบดอกไม้แสดงความยินดีให้กบั ประธาน ชมรมสตรีอาเซียน ขอนแก่น ในงานสถาปนาชมรมสตรีอาเซียน ขอนแก่น และวันสตรีสากล ณ โรงแรมวีวิช อ.เมือง จ.ขอนแก่น

แสดงความยินดี “วันสื่อมวลชน” พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคม สื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น พร้อมคณะกรรมการบริหาร มอบดอกไม้ให้ กับ นายสุนทร จันทร์รังสี ประธานที่ปรึกษา สมาพันธ์สื่อมวลชนพันธมิตร นครราชสีมา ในโอกาสการจัดงาน “วันสือ่ มวลชน” ครัง้ ที่ 26 ณ โรงแรมสีมา ธานี อ.เมือง จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2559

บันทึกเทป Unseen Asean ; พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคมสื่อมวลชน ขอนแก่น ร่วมสนทนาในรายการ Unseen Asean “ตอนสื่อมวลชนสัญจร กัมพูชา” โดยมีคุณปภินพิทย์ พัวโสพิศ พิธีกรในรายการ ออกอากาศทาง สทท.11 กรมประชาสัมพันธ์ และได้รบั ความเอือ้ เฟือสถานทีจ่ าก นายสถาพร บัวใหญ่ ผู้บริหารโครงการหมู่บ้าน เพอร์เฟคไลฟ์ ขอนแก่น บ้านสะอาด อ.เมือง จ.ขอนแก่น

แสดงความยินดี ; นายสุรยิ ะ ทรัพย์บญ ุ เลิศมา ผูส้ อื่ ข่าวไทยรัฐ ประจำ�จังหวัด ขอนแก่น แสดงความยินดีกับ พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคมสื่อมวล จังหวัดชนขอนแก่น ในโอกาสได้รับเลือกตั้งเป็นนายกสมาคมสื่อมวลชน จังหวัดขอนแก่น สมัยที่ 2 ณ โฆษะสเต็กเฮ้าส์ ขอนแก่น

เรารักขอนแก่น ; พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคมสื่อมวลชนขอนแก่น พร้อมกรรมการบริหาร ร่วมสภากาแฟยามเช้า “เรารักขอนแก่น” เพื่อแลก เปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร การบริหารงาน รวมทั้งประชาสัมพันธ์กิจกรรมของ หน่วยงาน โดยมีหน่วยงานทัง้ ภาครัฐ ภาคเอกชน นักธุรกิจ เข้าร่วมกิจกรรม ณ สถานีวทิ ยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ขอนแก่น อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมือ่ เร็วๆนี้

ฉลองมงคลสมรส ; พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัด ขอนแก่น พร้อมกรรมการบริหาร ร่วมแสดงความยินดีและเป็นเกียรติใน พิธีฉลองมงคลสมรส ระหว่าง น.ส.อรวรรณ ชินทะนาม กับนายสุรัตน์ชัย สะท้านบัว ณ ห้องศรีจันทร์บอลรูม ชั้น 4 โรงแรมเจริญธานี ขอนแก่น

เยี่ยมให้กำ�ลังใจ ; พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคมสื่อมวลชนขอนแก่น พร้อมกรรมการบริหาร เยี่ยมให้กำ�ลังใจ นายวิวัฒน์ หมื่นกันยา หัวหน้าศูนย์ ข่าวเดลินิวส์ ขอนแก่น ในโอกาสเข้ารับการผ่าตัดและพักรักษาตัวที่ โรง พยาบาลขอนแก่น ราม เมื่อเร็วๆ นี้

ศึกษาดูงานโรงพิมพ์ ; พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคมสื่อมวลชน ขอนแก่น พร้อมกรรมการบริหาร เข้าพบแลกเปลี่ยน และศึกษาดูงานด้าน การพิมพ์ที่ บริษทั ยืนหยัดชัดเจน จำ�กัด โดยมี นายสุนทร จันทร์รงั สี ผูบ้ กุ เบิก นสพ.โคราชคนอีสาน ให้เกียรตินำ�เยี่ยมชม

แสดงความยินดี ; พันโท พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัด ขอนแก่น พร้อมคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ มอบกระเช้าแสดงความ ยินดีกับ นายพรพิทักษ์ แม้นศิริ ในโอกาสเข้ารับตำ�แหน่ง ประชาสัมพันธ์ จังหวัดขอนแก่น นายวุฒิไกร พุฒธรรม ในโอกาสเข้ารับตำ�แหน่ง ผู้อ�ำ นวย การสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ นายชาติชาย ชา ธรรมา ในโอกาสเข้ารับตำ�แหน่ง ผู้อำ�นวยการสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่ง ประเทศไทย จังหวัดขอนแก่น โดยมี นายสมพงษ์ ปัตตานี ผูอ้ �ำ นวยการสำ�นัก ประชาสัมพันธ์ เขต 1 ร่วมแสดงความยินดี ณ ห้องบัวทอง ภัตตาคารบัวหลวง บึงแก่นนคร อำ�เภอเมือง จังหวัดขอนแก่น เมื่อเร็วๆ นี้

ให้ก�ำ ลังใจ ; พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคมสือ่ มวลชนขอนแก่น พร้อม กรรมการบริหาร เยี่ยมให้กำ�ลังใจ คุณแม่สำ�อาง มารดาของ นายประภาส เกียรติวีรพัฒนา ผู้บริหาร บริษัท ดีไซน์งาม จำ�กัด ในโอกาสเข้ารับการรักษา ตัวที่ โรงพยาบาลขอนแก่น ราม เมื่อเร็วๆ นี้

สู่สวรรค์ชั้นฟ้า ; พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัด ขอนแก่น ทอดผ้าไตรบังสุกลุ และวางดอกไว้จนั ทน์ พิธพี ระราชทานเพลิงศพ นายทวิช กาญจนรัชต์ บิดาของ คุณเปรมยุดา กาญจนรัชต์ สถานีวทิ ยุ FM.102 MHz ณ เมรุวัดป่าวิเวกธรรม อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2559

ฟังสวดพระอภิธรรม ; พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคมสื่อมวลชน จังหวัดขอนแก่น พร้อมคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ ร่วมเป็นเจ้าภาพ สวดพระอภิธรรม นายทวิช กาญจนรัชต์ บิดาของ คุณเปรมยุดา กาญจนรัช ต์ สถานีวิทยุ FM.102 MHz ณ วัดป่าวิเวกธรรม อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมื่อวัน ที่ 1 มีนาคม 2559

เตรียมความพร้อมรับมืออาเซียน ; นายเข็มชาติ สมใจวงษ์ รองประธาน หอการค้าจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานเปิดการปัจฉิมนิเทศ นักเรียน นักศึกษา และบรรยายพิเศษในหัวข้อ “เตรียมความพร้อมรับมืออาเซียน” โดยมีคณะครู อาจารย์ วิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่น ให้การต้อนรับ พร้อม นักเรียน นักศึกษาเข้ารับฟังการบรรยาย ณ หอประชุมแก่นธรรม วิทยาลัย อาชีวศึกษาขอนแก่น

เตรียมความพร้อมรับมืออาเซียน ; นายเข็มชาติ สมใจวงษ์ รองประธาน หอการค้าจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานเปิดการปัจฉิมนิเทศ นักเรียน นักศึกษา และบรรยายพิเศษในหัวข้อ “เตรียมความพร้อมรับมืออาเซียน” โดยมีคณะครู อาจารย์ วิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่น ให้การต้อนรับ พร้อม นักเรียน นักศึกษาเข้ารับฟังการบรรยาย ณ หอประชุมแก่นธรรม วิทยาลัย อาชีวศึกษาขอนแก่น

ความท้าทายการบริหารสื่อยุคใหม่ ; นายพิชาย ชื่นสุขสวัสดิ์ บรรณาธิการ อำ � นวยการ บริ ษั ท โพสต์ พั บ ลิ ช ชิ ง จำ � กั ด (มหาชน),นายเขมทั ต ต์ พลเดช กรรมการผูอ้ �ำ นวยการใหญ่ บริษทั บางกอกมีเดีย แอนด์ บรอดคาสติง้ (PPTV) และนายพีระวัฒน์ โชติธรรมโม ผูอ้ �ำ นวยการฝ่ายบรรณาธิการ สถานี โทรทัศน์ไทยรัฐทีวี เสวนาหัวข้อ “ความท้าทายการบริหารสือ่ ยุคใหม่” จัดโดย สถาบันอิศรา มูลนิธิพัฒนาสื่อมวลชนแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2559 ณ อาคารสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย

พระเจ้ า วรวงศ์ เ ธอ พระองค์ เ จ้ า โสมสวลี พระวรราชาทิ นั ด ดามาตุ พระราชทานปริญญาบัตรปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบณ ั ฑิตกิตติมศักดิ์ สาขา วิชาการวิชาการจัดการโรงแรม ประเภททั่วไป มหาวิทยาลัยศรีปทุม แก่ นางอรวรรณ พัฒนพีระเดช กรรมการผูจ้ ดั การ โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด ในฐานะเป็นผู้บริหารที่มีความรู้ ความสามารถ วิสัยทัศน์ และ ประสบความสำ�เร็จในการดำ�เนินธุรกิจที่ขยายความเจริญ กระจายรายได้ ไปสู่ภูมิภาคมีผลต่อภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และต่อเศรษฐกิจของชาติ

มหกรรมสินค้านานาชาติลุ่มนํ้าโขง ; นายกำ�ธร ถาวรสถิตย์ ผวจ.ขอนแก่น เป็นประธานเปิดงานแสดงและจำ�หน่ายผลิตภัณฑ์สินค้า OTOP / SMEs อนุ ภูมิภาคลุ่มนํ้าโขง ”GMSFAIR 2016 @KHON KAEN โดยความร่วมมือจาก 6 ประเทศในแถบลุม่ นํา้ โขง ระหว่างวันที่ 3 – 9 มีนาคม 2559 ณ บริเวณสนาม หน้าศาลากลางจังหวัดขอนแก่น

มอบทุนมูลนิธิเปรมติณสูลานนท์ ; นายกำ�ธร ถาวรสถิตย์ ผวจ.ขอนแก่น เป็นประธานมอบทุนการศึกษา มูลนิธิเปรม ติณสูลานนท์ ประจำ�ปี 2558 สนับสนุนทุนการศึกษาแก่นกั เรียนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือทัง้ 20 จังหวัด โดยมี พระภิกษุ สามเณร นักเรียน นักศึกษา ในจังหวัดขอนแก่นเข้ารับทุน รวม 76 ทุน เป็นเงิน 210,000 บาท ณ ห้องประชุมพระธาตุขามแก่น ศาลา กลางจังหวัดขอนแก่น เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2559

ชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืน ; นายกำ�ธร ถาวรสถิตย์ ผวจ.ขอนแก่น เป็น ประธานเปิดงานฮักแพงโฮมคน ตำ�บลมิตรผลร่วมพัฒนา เพื่อเศรษฐกิจ ฐานราก เป็นโครงการที่ภาครัฐ ภาคเอกชน กลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมร่วม กันสนับสนุนเกษตรกรโดยนำ�หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ ณ บ้านนาหว้านาคำ� ตำ�บลบ้านเม็ง อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น

สร้างรอยยิม้ คืนความสุข ; นายศิวาโรจน์ มุง่ หมายผล รอง ผวจ.ขอนแก่น เป็น ประธานเปิดโครงการหน่วยบำ�บัดทุกข์ บำ�รุงสุข สร้างรอยยิ้ม เพื่อคืนความ สุขให้ประชาชน พร้อมเยี่ยมและให้กำ�ลังใจการปฏิบัติงานของหน่วยแพทย์ เคลือ่ นที่ พอ.สว. ณ สนามหน้า อบต.โนนธาตุ อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น

สร้างวินัยจราจรต้อนรับอาเซียน ; พล.ต.ต.จิตรจรูญ ศรีวินิชย์ ผบก.ภ.จว. ขอนแก่น ,นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพนั ธุ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น ,นายชาติ ชาย โฆษะวิสทุ ธิ์ ประธานกรรมการบริหารโรงแรมโฆษะ และ พ.ต.อ.นพดล เพ็ชร์สทุ ธิ์ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงโครงการเสริม สร้างวินยั จราจรรองรับประชาคมอาเซียน เมือ่ วันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2559 ณ โรงแรมโฆษะ จ.ขอนแก่น

อวยพรวันเกิด ; นายยินชัย อนันทนสกุล ผูอ้ ำ�นวยการสำ�นักการช่าง เทศบาล นครขอนแก่น พร้อมหัวหน้าส่วน และพนักงาน ร่วมแสดงความยินดีกบั นาย วิทยา ศิริชาติวาปี ในโอกาสครบรอบวันเกิด โดยมี นายอนุสรณ์ –นางสุพัต รา ศุขโข บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ไทยเสรี ร่วมแสดงความยินดี ณ โรงแรม บะขาม แอนด์ รีสอร์ท ถนนประชาสโมสร อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2559


หน้า 5

ปีที่ 13 ฉบับที่ 142 ประจำ�เดือนมีนาคม 2559

จะทำ�อย่างไรเมื่อพาลูกไปเอ็กซเรย์ฟัน มีหลายคนค่อนข้างจะวิตกกังวลว่า เมื่อ ลูกน้อยจะต้องไปเอ็กซเรย์ฟัน เพื่อทำ�การรักษา ทางทันตกรรมจะได้รับรังสีที่ก่อให้เกิดอันตราย ต่อร่างกาย ซึ่งแท้จริงแล้วรังสีดังกล่าวจะไม่ก่อ ให้เกิดอันตรายถ้าได้รบั ปริมาณของรังสีโดยความ ควบคุ ม ของทั น ตแพทย์ และปฏิบัติตนตามที่ ทันตแพทย์แนะนำ� ดังต่อไปนี้ 1. ไม่ควรเข้าไปในบริเวณหรือห้องถ่าย ภาพเอ็กซเรย์ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเรียกตัวเข้าไป หรือให้สังเกตบริเวณที่มีป้าย “ระวังรังสี” หรือ “เขตรัง สี ” เพื่ อ ระวั ง ไม่ ใ ห้ลูกๆ เดินเข้าไปใน บริเวณนั้น 2. โดยปกติคุณแม่ไม่ต้องเข้าไปในห้อง เอ็กซเรย์ ยกเว้นแต่ว่าลูกเล็กมาก คุณแม่อาจต้อง เข้าไปช่วยอุ้ม ซึ่งทางทันตแพทย์หรือเจ้าหน้าที่ เอ็กซเรย์ จะแจ้งให้ทราบเอง แต่ถ้าลูกโตขึ้นอีก นิด คุณแม่อาจไม่จำ�เป็นต้องอยู่ในห้องเอ็กซเรย์ กั บ ลู ก เพี ย งแต่ ยื น ดู เ ป็ น กำ � ลั ง ใจอยู่ น อกห้ อ ง

เอ็กซเรย์ซึ่งจะมีฉากกั้นรังสีแบบที่มีช่องกระจก ให้มองเห็นลูกได้ก็พอ และถ้าพาลูกมาหลายคน ลูกคนอื่นๆ ก็ให้ยืนดูอยู่ข้างนอก ไม่ควรเข้าไป ในห้องเอ็กซเรย์เพราะลูกๆ ได้รับรังสีเอกซ์ โดย ไม่จำ�เป็น โดยทางคลินิกเอ็กซเรย์จะมีเสื้อเกราะ ป้องกันรังสีให้สวมในระหว่างที่ทำ�การเอ็กซเรย์ อนึ่ง ลูกจะต้องอยู่นิ่งๆไม่ขยับเพื่อให้การถ่าย ภาพเอ็กซเรย์เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและภาพ เอ็กซเรย์ที่ได้มีคุณภาพเพียงพอต่อการนำ�ไปใช้ ของทันตแพทย์ ช่วงนี้คุณแม่คงต้องช่วยบอก ให้ลูกอยู่นิ่งๆ และช่วยดูแลระหว่างที่อยู่ในห้อง เอ็กซเรย์ อย่าให้ลูกเล่นกับเครื่องเอ็กซเรย์ หรือ กดปุ่มใดๆ ที่อาจก่อให้เกิดอันตรายได้อีกด้วย สอบถามรายละเอียดได้ที่ โรงพยาบาล ทันตกรรม คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัย ขอนแก่น โทร.0-4320-2405 ต่อ 45186 ในวัน และเวลาราชการ

อนุรักษ์ทรัพยากรไทย หวนดูทรัพย์สินสิ่งตน เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2559 ที่ ห้ อ งประชุ ม คุ้ ม สี ฐาน 2 มหาวิทยาลัย ขอนแก่ น นายพร ชัย จุฑามาศ รองผู้ อำ�นวยการ โครงการ อนุ รั ก ษ์ พั น ธุ ก รรม พื ช อั น เนื่ อ งมาจาก พระราชดำ�ริสมเด็จ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ,รศ. ดร.กิตติชยั ไตรรัตนศิรชิ ยั อธิการบดี มหาวิทยาลัย ขอนแก่น ,นายสมาน มานะกิจ ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมจังหวัดขอนแก่น และ นางพัฒนา วดี จันทร์นวล ปลัด อบจ.ขอนแก่น พร้อมหัวหน้า หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม วิชาการและ นิทรรศการ ทรัพยากรไทย หวนดูทรัพย์สินสิ่งตน ปี 2559 เพื่อเตรียมจัดงานในเดือนมีนาคมนี้ นายพรชั ย จุ ฑ ามาศ รองผู้ อำ � นวยการ โครงการ อนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจาก พระราชดำ�ริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยาม บรมราชกุมารี เปิดเผยว่า “นิทรรศการ ทรัพยากร ไทย หวนดู ท รั พ ย์ สิ น สิ่ ง ตน” ปี 2559 กำ �หนด จั ด ขึ้ น ระหว่ า งวั น ที่ 24-26 มี น าคม 2559 ณ อาคารพิ พิ ธ ภั ณ ฑ์ ธ รรมชาติ วิ ท ยา NATURAL HISTORY MUSEUM ข้างบึงสีฐาน มหาวิทยาลัย ขอนแก่น เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระ เทพรั ต นราชสุ ด าฯสยามบรมราชกุ ม ารี ที่ ท รง

สืบสานพระราชปณิธานในงานอนุรักษ์ทรัพยากร ของประเทศ จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ จัดนิทรรศการเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตน ราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสมหา มงคลทรงเจริญพระชนมายุ 60 พรรษา “นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงตัวอย่างพืช ท้องถิ่น พืชสมุนไพร พืชหายากที่มีลักษณะเฉพาะ ถิ่น กล้วยไม้ แมลง จุลินทรีย์ ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่ ได้จากการวิจัยและการใช้ประโยชน์ในพื้นที่สนอง พระราชดำ�ริโครงการ อนุรักษ์พันธุกรรมพืชอัน เนื่องมาจากพระราชดำ�ริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุ ดาฯสยามบรมราชกุมารี ภายใน “อาคารพิพธิ ภัณฑ์ ธรรมชาติวิทยามหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งจัดสร้าง เพื่อเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ผู้ทรงก่อตั้งโครงการอนุรักษ์ พันธุกรรมพืชเพื่อเป็นศูนย์กลางแหล่งเรียนรู้ทาง ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี” นายพรชัย กล่าว

เปิดโรงพยาบาลขอนแก่น 2 ; ดร.นพ.อิทธิพล สูงแข็ง สาธารณสุขนิเทศ เขตสุขภาพที่ 7 เป็น ประธานเปิดโรงพยาบาลขอนแก่น 2 สาขาวัดศิริธรรมิกาวาส โดยมี นพ.วีระพันธ์ สุพรรณไชยมาตย์ ผูช้ ว่ ยรัฐมนตรี กระทรวงสาธารณสุข นพ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ผอ.รพ.ขอนแก่น ผูแ้ ทนจากหน่วย งานราชการและเอกชน เข้าร่วมในพิธี ณ โรงพยาบาลขอนแก่น 2 สาขาวัดศิริธรรมิกาวาส บ้านโคก สี ต.โคกสี อ.เมือง จ.ขอนแก่น

ขอนแก่นแล้งรุนแรง วิกฤตนํ้าประปาหนักสุด ในรอบ 20 ปี จ่อกระทบสงกรานต์

สถานการณ์ภัยแล้งในปี 2559 นี้ นับเป็น วิ ก ฤตการขาดแคลนนํ้ า ที่ ส่ ง ผลกระทบรุ น แรง กว่าหลายปีที่ผ่านมา จังหวัดขอนแก่น ยังมีนํ้าดิบ ที่สามารถรองรับการบริโภคสำ � หรับประชาชน จนถึงเดือนมิถุนายน 2559 นี้เท่านั้น การแก้ปัญหา นํ้าเพื่อใช้ในการอุปโภคบริโภคจำ�เป็นต้องได้รับ ความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะในช่วง เทศกาลสงกรานต์ที่จะมาถึง หากมีการใช้นํ้าอย่าง ไม่ประหยัดอาจส่งผลกระทบวิกฤตภัยแล้งทีร่ นุ แรง มากยิ่งขึ้น นายเสริม หึกขุนทด ผู้อำ�นวยการการประปา ส่ ว น ภู มิ ภ า ค เ ข ต ๖ ขอนแก่น เปิดเผยว่า การ แก้ปัญหาภัยแล้งในระดับ จั ง หวั ด ของ กปภ. ซึ่ ง มี การติ ด ตามสถานการณ์ ฝน สถานการณ์ นํ้ า ใน พื้นที่จังหวัด และจัดทำ�แผนข้อมูลสำ�หรับเตรียม การป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง และยังเป็น ศูนย์กลางในการประสานกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อ บูรณาการข้อมูลให้ทันต่อเหตุการณ์ปัจจุบัน โดย เฉพาะข้ อ มู ล ด้ า นแหล่ ง นํ้ า ของ กปภ. สาขาใน จังหวัด พร้อมกำ�หนดมาตรการในการป้องกันและ แก้ไขปัญหาภัยแล้ง เพื่อจัดทำ�แผนงานประกอบ การจัดสรรงบประมาณให้สอดคล้องกับแนวทาง ปฏิบัติการแก้ปัญหาในทิศทางเดียวกัน ทั้งนี้ เพื่อ จัดหาแหล่งนํ้าสำ�รองในการผลิตนํ้าประปาเพื่อ ช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยแล้ง รวมถึงการ ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในเขตพืน้ ทีจ่ งั หวัดได้ รับทราบถึงสถานการณ์ภัยแล้งที่มีแนวโน้มความ รุนแรงมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา ประเทศไทยประสบปัญหาฝนน้อย ฝน ทิ้งช่วงในปีที่ผ่านมา ซึ่งปริมาณนํ้าในอ่างเก็บนํ้า ต่างๆ มีปริมาณน้อยกว่าปกติ ทำ�ให้ขาดแคลนนํ้า ดิบสำ�หรับผลิตนํ้าประปาสำ�หรับอุปโภคบริโภค การเตรียมรับมือความแห้งแล้งรุนแรงและยาวนาน จากทุกภาคส่วน ทุกหน่วยงาน ส่วนใหญ่เป็นเรื่อง การขุดลอกบ่อนํ้า แจกจ่ายนํ้าเพื่อแก้ปัญหาความ แห้งแล้งเฉพาะหน้า สำ�หรับสถานการณ์นํ้าในเขตพื้นที่จังหวัด ขอนแก่ น นายเสริ ม กล่ า วว่ า การประปาส่ ว น ภูมิภาคเขต 6 มีแหล่งนํ้าดิบที่นำ�มาผลิตเป็นนํ้า ประปา ได้แก่ แหล่งนํ้าจากลำ�นํ้าพอง แม่นํ้าชี มีปริ มาณนํ้าผลิตจ่าย 3,300,000 ลบ.ม ต่อวัน มีปริมาณ การผลิตได้ถึงเดือนมิถุนายน 59 กปภ.สาขาบ้านไผ่

แหล่งนํ้าจากอ่างเก็บนํ้าแก่งละว้า มีปริมาณนํ้าผลิต จ่าย 337,000 ลบ.ม ต่อวัน มีปริมาณการผลิตตลอด ปี 2559 กปภ.สาขาหนองเรือ แหล่งนํ้าจากลำ�นํ้า เชิญ เขื่อนอุบลรัตน์ มีปริมาณนํ้าผลิตจ่าย 158,000 ลบ.ม.ต่อวัน ไม่มนี าํ้ ดิบในการผลิต โดยมีแผนรองรับ อาทิ การขุดเจาะบ่อบาดาล 9 บ่อ การจัดหาถังพักนํา้ ขนาด 20,000 ลิตร จำ�นวน 50 ถัง และการแจกจ่าย นํ้าเป็นเวลา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น นอกจากนี้ แหล่งนํา้ ทีส่ �ำ คัญ อาทิ ลำ�นํา้ เชิญ, อ่างเก็บนํา้ ห้วยจุมจัง, อ่างเก็บนํา้ ละเลิงหวาย, เขือ่ น ลำ�ปะทาวตอนล่าง, เขือ่ นลำ�ปาว, อ่างเก็บนํา้ ห้วยสะ ทด ซึง่ มีปริมาณการผลิตจ่ายนํา้ ได้ถงึ เดือนมิถนุ ายน 2559 นี้เท่านั้น ซึ่งหน่วยงานได้เตรียมแผนและงบ ประมาณรองรับการแก้ปัญหาภัยแล้งอย่างเร่งด่วน ทัง้ นีเ้ พือ่ ให้เพียงพอกับความต้องการของประชาชน นายเสริม กล่าวต่อไปว่า ขอนแก่นรับนํ้า ดิบมาจากเขื่อนอุบลรัตน์ที่ปล่อยนํ้ามาเพื่อทำ�การ ประปาวันละ 500,000 ลบ.ม.โดยขณะนี้มีนํ้าสำ�รอง ไว้ใช้งานอยู่ที่ 100 ล้านลบ.ม.ซึ่งถือว่าน้อย และ สามารถใช้ได้ถึงเดือนมิถุนายนนี้ โดยได้เตรียมแผน สำ�รองที่สามารถใช้ในการอุปโภคบริโภคอาจต้อง ใช้งบประมาณเพิ่ม ซึ่งจำ�เป็นต้องแก้ปัญหาอย่าง เร่งด่วน เพราะภัยแล้งส่งผลกระทบต่อการทำ�ธุรกิจ เกือบทุกประเภท โดยเฉพาะสินค้าทางการเกษตร ที่ จำ � เป็ น ต้ อ งอาศั ย นํ้ า เป็ น ปั จ จั ย สำ� คั ญ จึ ง ขอให้ ประชาชนได้ตระหนักถึงการใช้นํ้าในการอุปโภค บริโภคอย่างเหมาะสม เพื่อจะได้มีนํ้าใช้อย่างเพียง พอในช่วงหน้าแล้ง “สำ�หรับเทศกาลสงกรานต์ทจี่ ะมาถึง ขอให้ ประชาชนได้ตระหนักถึงภาวะภัยแล้ง หากใช้นาํ้ เล่น สงกรานต์มากเกินไป อาจทำ�ให้ประสบภาวะภัยแล้ง เร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ จึงขอให้ประชาชนใช้นํ้าเล่น สงกรานต์อย่างเหมาะสม เพื่อช่วยกันประหยัดนํ้า ไว้ใช้ในการอุปโภคบริโภค ซึ่งหากฝนไม่ทิ้งช่วงจะ ทำ�ให้ผ่านพ้นสถานการณ์ภัยแล้งไปได้ด้วยดี แต่ภัย ธรรมชาติซึ่งกำ�หนดไม่ได้จึงขอให้ประชาชนร่วม กันใช้นํ้าแบบประหยัด” นายเสริม กล่าว นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรี นครขอนแก่น เปิดเผยว่า การประปาส่ ว นภู มิ ภ าค เขต 6 ขอนแก่น แจ้งมาว่า สถานการณ์นาํ้ ทีใ่ ช้ในการ ผลิตนํา้ ประปาบริการผูใ้ ช้ นํ้าในเมืองขอนแก่น อาจ ต้ อ งได้ รั บ ผลกระทบไม่ มีนํ้าอุปโภค – บริโภค ใน

บ ริ จ า ค โ ล หิ ต ; คณะผู้บริหารและพนักงาน บริ ษั ท โตโยต้ า ขอนแก่ น ผู้ จำ � หน่ า ยโตโยต้ า จำ � กั ด จั ด กิ จ กรรมบริ จ าคโลหิ ต เพื่ อ ช่ ว ยเหลื อ ชี วิ ต ผู้ ป่ ว ย ที่ ป ระสบอุ บั ติ เ หตุ หรื อ ป่ ว ยด้ ว ยโรคที่ จำ � เป็ น ต้ อ ง รักษาด้วยโลหิต ให้กับเหล่า กาชาดจั ง หวั ด ขอนแก่ น และคลั ง เลื อ ดกลาง คณะ แพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยได้เชิญชวนพนักงาน ลูกค้าที่เข้ารับบริการ รวมถึงชุมชน และหน่วยงานรอบๆ บริษัทได้ร่วมบริจาคโลหิต พร้อมเพลิดเพลินไปกับดนตรี และยังได้รับของที่ ระลึกในโอกาสที่ได้มีส่วนช่วยเหลือสังคมร่วมกันอีกด้วย

ช่วงที่ประสบภัยแล้งไป จนถึงช่วงสงกรานต์ ซึ่ง อาจไม่มนี าํ้ เล่นสงกรานต์ ประจำ�ปี 2559 อาจเป็น ได้ เพราะนํ้ า จากเขื่ อ น อุบลรัตน์มีประมาณ 600 กว่าล้าน ลบ.ม.จะปล่อย ออกมาให้ใช้ได้วันละ 60 ล้าน ลบ.ม.เพื่อใช้เป็นนํ้า ดิบเพื่อผลิตนํ้าประปาได้ ถึงวันที่ 11 เม.ย.นีเ้ ท่านัน้ การประปาส่วนภูมิภาคเขต 6 ได้มีแผนสำ�รอง คือ จะพยายามลงแรงดันนํ้าเพื่อให้มีการใช้นํ้าน้อยลง หากวิฤตจริงๆ ก็มีนํ้าสำ�รองจากโรงผลิตนํ้าประปา หนองบัวดีหมีมาช่วยเติมนํ้าได้อีกปริมาณหนึ่ง และ หากวิกฤตสุดๆ จนไม่มนี าํ้ แล้วจริงๆ ก็ตอ้ งเลือกทีจ่ ะ ใช้นาํ้ ก้นเขือ่ นทีม่ ภี าวะเสีย่ งต่อการปนเปือ้ นของสาร ต่างๆ มาผลิตนํ้าประปา ถึงเวลาแล้วที่ชาวขอนแก่น ต้องช่วยกันประหยัดนํา้ เพราะภัยแล้งรุนแรงกระทบ การผลิตนํ้าประปาวิกฤตสุดในรอบ 20 ปี ต้องเข้าใจ ว่ามีนํ้าผลิตนํ้าประปาถึงวันที่ 11 เมษายนนี้เท่านั้น แต่หากเราช่วยกันประหยัดก็จะยึดระยะเวลาไปได้ อีก รอจนฝนมาก็จะพ้นวิกฤต ด้าน นายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ รองผู้ ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เผยถึงการประชุมเร่ง ด่วน ในการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหา ภัยแล้ง ว่า อำ�เภอซำ�สูง หลายหมูบ่ า้ นประสบปัญหา ภัยแล้ง หนักทีส่ ดุ คือทีบ่ า้ นห้วยเตย หมู่ 1 ต.ห้วยเตย ชาวบ้าน 240 ครัวเรือน 910 คน ไม่มีนํ้าใช้ จากเดิม ชาวบ้านใช้นํ้า 80 ลบ.ม.ต่อวัน แต่หน้าแล้งปีนี้ชาว บ้านไม่มีนํ้าใช้ เพราะไม่มีนํ้าผลิตนํ้าประปา จึงมอบ หมายให้ สำ�นักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดขอนแก่น และ ปภ.เขต 6 ลงพื้นที่ช่วยเหลือ ประชาชน โดยในเบื้องต้นได้ติดตั้งเครื่องสูบนํ้า ระยะไกล สูบนํ้าจากลำ�ห้วยสายบาตร ไปเติมลงที่ สระนํ้ากลางหมู่บ้านที่มีความจุของสระประมาณ 50,000 ลบ.ม.ใช้ระยะเวลาสูบนํ้าครั้งนี้ 10 วัน จะได้ นํ้าประมาณ 33,000 ลบ.ม.ไปใช้ผลิตทำ�นํ้าประปา หมู่บ้าน นอกจากนี้ยังได้ขุดบ่อนํ้าตื้น จำ�นวน 10 บ่อ ในหลายหมู่บ้านของอำ�เภอซำ�สูง ส่งผลให้ชาว บ้านมีนํ้าใช้ตลอดฤดูแล้งนี้ ขณะที่ นายปิยิน ตลับนาค นายอำ�เภอเมือง ขอนแก่น เปิดเผยว่า โรงกรองนํ้าบ้านโกทา ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นสถานีผลิตนํ้าประปา ที่ มีจ�ำ นวนผูใ้ ช้นาํ้ ทัง้ หมด 378,800 ราย กำ�ลังผลิตทีใ่ ช้ งาน 506,200 ลบ.ม.ต่อวัน ปริมาณนํ้าผลิต 361,100

ลบ.ม.ต่อวัน ปริมาณนํา้ จำ�หน่าย 251,800 ลบ.ม.ต่อ วัน อัตรานํ้าสูญเสีย 27.57% ประเภทผู้ใช้นํ้า แยก เป็นที่อยู่อาศัย 80% ราชการและธุรกิจ ขนาดเล็ก 14 % รัฐวิสาหกิจ และธุรกิจและอุตสาหกรรม 6% พื้นที่ อ.เมืองขอนแก่น ใช้นํ้าดิบจากลำ�นํ้าพอง และแม่นาํ้ ชี ซึง่ แม่นาํ้ สองสายนี้ รับนํา้ มาจากเขือ่ น อุบลรัตน์ มาผลิตนํ้าประปาแต่ขณะนี้เขื่อนอุบล รัตน์มีนํ้าเหลือใช้งานเพียง 3.32% ถ้าภายในสิ้น เดือนพฤษภาคมนี้ ฝนไม่ตก อาจจะไม่มีนํ้าดิบผลิ ตนํ้าประปาให้ ชาวบ้านในเขต อ.เมืองขอนแก่น “ได้สั่งการให้ กำ�นัน ผู้ใหญ่บ้าน รีบแจ้ง ชาวบ้านในพื้นที่ให้ทราบว่า ขณะนี้นํ้าที่จะผลิตนํ้า ประปามีน้อย ให้ทุกคนประหยัดนํ้าให้มากที่สุด เพราะทราบกันดีวา่ จังหวัดขอนแก่นประสบปัญหา ภัยแล้ง และจังหวัดขอนแก่นได้ประกาศห้ามให้ เกษตรกรผูเ้ ลีย้ งปลาในกระชัง หยุดเลี้ยง เพื่อรักษา คุณภาพนํา้ ห้ามเกษตรกรทำ�นาปรังและให้ปลูกพืช ใช้นํ้าน้อย ให้ทุกคนช่วยกันประหยัดนํ้า ปริมาณ การใช้นํ้าก็ลดลง นํ้าดิบก็จะเหลือพอที่จะผลิตนํ้า ประปาและทุกคนจะมีนํ้าใช้ไปจนถึงฤดูฝน เพราะ ไม่เช่นนั้น หากการประปาไม่มีนํ้าดิบสะอาดมาผลิ ตนํ้าประปา อาจจะต้องนำ�นํ้าสำ�รองก้นเขื่อนมา ผลิตเป็นนํา้ ประปาแทน จะเป็นนํา้ ทีม่ ตี ะกอนมาก” นายอำ�เภอเมืองขอนแก่น กล่าว นับวันปัญหาเรือ่ งนํา้ จะรุนแรงมากขึน้ การ แก้ไขปัญหาขาดแคลนนํ้าจึงต้องหันมาวิเคราะห์ จุดอ่อนของระบบการบริหารจัดการทรัพยากรนํ้า ที่สำ�คัญที่สุด คือ รัฐบาลควรเร่งปฏิรูปการบริหาร จัดการทรัพยากรนํา้ ทัง้ ระบบ โดยการกระจายอำ�นา จการบริหารจัดการทรัพยากรนํา้ แบบบูรณาการใน ระดับพื้นที่ เพื่อความเป็นธรรมและความยั่งยืนใน การใช้นํ้า

สุพัตรา ศุขโข...รายงาน

พั ฒ นาสมุ น ไพรไทย ; นายศิวาโรจน์ มุ่งหมายผล รอง ผวจ.ขอนแก่ น เป็ น ประธานการประชุ ม คณะ กรรมการสมุนไพรจังหวัด ขอนแก่น ครั้งที่ 1 ประจำ� ปี 2559 เพื่ อ ให้ เ กิ ด การ บูรณาการ และมีการพัฒนา ยกระดับสมุนไพรไทย ซึ่ง จะนำ � ไปสู่ ก ารพึ่ ง ตนเอง ของชุมชน และสร้างมูลค่า เพิ่มให้ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากสมุนไพรไทย ณ โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2559


หน้า 6

ปีที่ 13 ฉบับที่ 142 ประจำ�เดือนมีนาคม 2559

ตชด.24 สนองพระราชดำ � ริ จั ด ตั้ ง หน่ ว ย “สี เ ขี ย ว” และศู น ย์ “เศรษฐกิ จ พอเพี ย ง” แก้ ไขปัญหาความยากจน ส่งเสริมกำ�ลังพลให้ช่วยเหลือ ชาวบ้ า นในกิ จ กรรมต่ า งๆ นอกเหนื อ จากภารกิ จ ประจำ � ด้ า นความมั่ น คงของบ้ า นเมื อ ง

ปัญหาความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ได้แก่ทรัพยากรดิน นํ้า ป่า ความหลากหลายทาง ชีวภาพและอืน่ ๆ ส่วนใหญ่สบื เนือ่ งมาจากทรัพยากรป่าไม้ถกู ทำ�ลาย ด้วยนํา้ มือของมนุษย์ที่ได้เป็นต้นเหตุทำ�ให้เกิดการสูญเสียพื้นที่สีเขียว การเกษตร กรรม และการกำ�จัดของเสีย ฯลฯ นอกจากนัน้ ปัญหาความเสือ่ มโทรมของ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดังกล่าว ยังเป็นปัญหาที่จะเกิดขึ้นกับ ประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ทั้งความยากจนและคุณภาพชีวิตตกตํ่า กองกำ� การตำ�รวจตระเวนชายแดนที่ 24 โดย พ.ต.อ.สมบัติ บุญโสภา ผกก.ตชด. 24 เป็นหน่วยงานที่สนองพระราชดำ�ริ ได้ส่งเสริมสนับสนุนการมีส่วนร่วม ของข้าราชการตำ�รวจตระเวนชายแดน และครอบครัว ได้ปลูกต้นไม้หลาก หลายชนิดขึ้นมาทดแทนตามพื้นที่ว่างเปล่าในหน่วยงาน เพื่อเพิ่มที่ให้เป็น สีเขียวลดปัญหาภัยแล้งในอนาคต ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสนองพระราชดำ�ริ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนารถ และสมเด็จพระเทพรัตนรา ชดาฯ สยามมกุฎราชกุมารี ที่มีพระราชประสงค์จะให้ประเทศไทย มีสภาพ พื้นที่เป็นธรรมชาติ มีความอุดมสมบูรณ์เช่นในอดีตที่ผ่านมา จากแนวพระ ราชดำ�ริดังกล่าว กองกำ�กับการตำ�รวจตระเวนชายแดนที่ 24 และชมรมลูก เสือชาวบ้าน จึงมีความตั้งใจที่จะมีส่วนร่วมในการสนองพระราชประสงค์ และ แสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยการสนับสนุน ให้หน่วยงานในสังกัด เพิม่ พืน้ ทีส่ เี ขียวในทีท่ �ำ งาน โดยการพัฒนาพืน้ ทีป่ ลูก ป่า และร่วมกันอนุรกั ษ์ปา่ ไม้ให้คงอยูส่ บื ไปตามปรัชญาของโรงเรียนตำ�รวจ ตระเวนชายแดน 3 ประการ เช่น ภูมปิ ญ ั ญาของท้องถิน่ คือ ภูมปิ ญ ั ญาท้อง

ถิ่น ที่มุ่งส่งเสริมและรักษามรดกทางวัฒนธรรมแต่ละภาค แต่ละท้องถิ่น ของไทย ภูมิปัญญาไทย คือ สิ่งที่เกิดขึ้นจากภูมิปัญญาของคนไทยทั่วทั้ง ประเทศและภูมิปัญญาสากล รับสิ่งที่ดีงามจากภูมิปัญญานานาอารยะ ประเทศ และพัฒนาคุณภาพชีวิต ด้วยเศรษฐกิจพอเพียงตามทฤษฎีของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พ.ต.อ.สมบัติ บุญโสภา ผกก.ตชด.24 กล่าวว่า พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่ ทรงเล็งเห็นปัญหาความทุกข์ยากของเกษตรกร ซึง่ เป็นประชาชน กลุ่มใหญ่ที่สุดของประเทศ จึงได้พระราชทานแนวคิด “เกษตรทฤษฎีใหม่” ซึง่ เป็นแนวทางจัดสรรทีด่ นิ สำ�หรับเกษตรกรรายย่อยตามสภาพภูมปิ ระเทศ โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็น 4 ส่วน ในอัตรา 30:30:30:10 อันหมายถึง การขุด สระเก็บกักนํ้าเพื่อทำ�ประมงขนาดย่อม 30% พื้นที่ทำ�นา 30 % ปลูกพืชผัก

โฮมเคเบิล้ ทีวเี ปิดตัวรายการ

“Hello Idol”(S)

โฮมเคเบิล้ ทีวอี ดุ ร เปิดตัวรายการ “Hello Idol”(s) รายการประกวดกึง่ เรียลลิตี้ โชว์ ร่วมค้นหาไอดอลคนใหม่ โอกาสเข้าสู่วงการบันเทิงของคนอีสาน ที่โรงแรมประจักษ์ตราอุดรธานี ได้มีการแถลงข่าวเปิดตัวรายการ “Hello Idol”(s) ซึง่ ควบคุมการผลิตโดย นายณัฐพงษ์ พิพฒ ั น์ไชยศิริ ประสบการณ์ทางด้านรายการโทรทัศน์ มากมายทัง้ เล่นละคร พิธกี รรายการ ครีเอทีฟ ร่วมแข่งขันรายการเรียลลิตโี้ ชว์ 24 ชัว่ โมง และ ทีมผู้ฝึกสอนการร้องการเต้น นายณัฐพงษ์ พิพฒ ั น์ไชยศิริ กล่าวว่า รายการ Hello Idol(s) เป็นรายการประกวดใน รูปแบบกึ่งเรียลลิตี้โชว์ เพื่อเฟ้นหาศิลปินเข้าสู่วงการบันเทิง ซึ่งจะถ่ายทอดออกอากาศทาง โฮมเคเบิล้ ทีวอี ดุ รธานี โดยจะมีการติดตามชีวติ ของผูเ้ ข้าแข่งขันในการทำ�กิจกรรมต่างๆ รวม ไปถึงการฝึกฝน และพัฒนาการของผู้เข้าแข่งขันที่ได้รับการคัดเลือกอย่างใกล้ชิด รับสมัคร ผู้เข้าแข่งขันอายุ 13 ปีขึ้นไป จากทั่วทุกมุมของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นในจังหวัดอุดรธานี จัง หวัดอืน่ ๆทุกภาค รวมไปถึงประเทศเพือ่ นบ้านด้วย เพือ่ ทีจ่ ะได้เข้ามาเรียนและฝึกฝน พัฒนา ความเป็นศิลปินกับผู้มีประสบการณ์มืออาชีพ โดยในแต่ละสัปดาห์จะต้องขึ้นแสดงความ

สามารถสดๆในรูปแบบมินิคอนเสิร์ต ให้คณะกรรมการ ตัดสินเพื่อเก็บคะแนนสะสม ผู้ที่มีคะแนนรวมจากทุก สัปดาห์มากที่สุด จะเป็นผู้ชนะเลิศ สำ�หรับคณะกรรมการประกอบด้วย ครูก้อง ปรีดิ ยุช รัตนงาม ผู้จัดการฝ่ายคัดเลือกศิลปิน อาร์เอส ผู้ปลุก ปั้นศิลปินชื่อดังทั้ง RS – Kamikaze มากว่า 14 ปีรวม ทั้งล่าสุดยังเป็นผู้คัดเลือกนักแสดงหน้าใหม่ให้กับสถานี โทรทัศน์ช่อง 8 ดิจิตอล ,ทีมผู้ฝึกสอนด้านการร้องจาก AMARY VOICE STUDIO (A.V.S) โดย ”ครูแอม” นิชา นันท์ อริยะสัจะธรรม อดีตศิลปินสังกัดอาร์เอส, ทีมผู้ ฝึกสอนด้าน performaceจาก The Movement Dance Studio โดย “ครูมิกซ์” ทฤฆมน ยอดจันทร์ เจ้าของ ลิขสิทธิ์ Hiphop international Thailand การแข่งขัน เต้นที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และ “ครูอั๋น” ธนัฐพงษ์ ปรียาอนันต์ ครูฝ่ายพัฒนาศิลปิน บริษัท อาร์เอส จำ�กัด (มหาชน) ครูสอนเต้นและผูอ้ อกแบบท่าเต้นให้ศลิ ปินรวม ถึงโชว์ต่างๆในประเทศไทย เปิดรับสมัครและการออดิชนั่ ในวันที่ 12 มีนาคม 2559 เวลา 10.00-18.00 น. ณ.โรงแรมประจักษ์ตรา อุดรธานี เลือกเพลงไทย เพลงสากล เพลง ลูกทุ่ง หรือ เพลง ในแนวทีต่ วั เองถนัดทีส่ ดุ ช้าเร็วรวม 2 เพลง (ความ ยาวไม่เกิน 1.30 นาที ต่อเพลง) ร้องสด ไม่มกี ารเปิดดนตรี ยกเว้ น กี ต้ า หรื อ เครื่ อ งดนตรี อื่ น ๆที่ จ ะมาแสดงความ สามารถ กรุณาแจ้งทีมงานก่อนตอนสมัคร สอบถามราย ละเอียดเพิ่มเติม คลิก Facebook.com/helloidol555 หรือ 081-6634314

ประเพณีบุญกุ้มข้าวใหญ่ อำ�เภอประจักษ์ศิลปาคม จังหวัดอุดรธานี จัดงานประเพณีบุญ กุ้มข้าวใหญ่ประจำ�ปี 2559 เพื่ออนุรักษ์ส่งเสริม และเผยแพร่วัฒนธรรม ประเพณีทอ้ งถิน่ อันดีงามของอำ�เภอ ให้เป็นทีร่ จู้ กั กันอย่างกว้างขวาง และ รักษาไว้พื่ออนุชนรุ่นหลังสืบต่อไป ที่บริเวณหน้าที่ว่าการอำ�เภอประจักษ์ศิลปาคม จังหวัดอุดรธานี นายวิมล สุระเสน นายอำ�เภอประจักษ์ศิลปาคม ได้ทำ�พิธีถวายสักการะ อนุสาวรียพ์ ระบรมรูปรัชกาลที่ 5 สักการะอนุสาวรียพ์ ลตรีพระเจ้าบรมวงศ์ เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม และรำ�ถวาย เนื่องในวันงานประเพณี บุญกุ้มข้าว ประจำ�ปี 2559 โดยภายในงานมีขบวนแห่อนุรกั ษ์สบื สานวัฒนธรรมจากชาวบ้าน 4 ตำ�บล การมอบโล่รางวัลการประกวดขบวนแห่ มอบเกียรติบัตรให้กับ ผู้สนับสนุนการจัดงาน พิธีสู่ขวัญข้าว สู่ขวัญกระบือเลี้ยงปู่ตาปักตาแฮก จากโรงเรียนสอนไถนา จากนั้น นายสิธิชัย จันดาหลวง รองผู้ว่าราชการ จังหวัดอุดรธานี ได้เดินทางมาเป็นประธานเปิดงาน

โดยนายสิธชิ ยั กล่าวว่า งานประเพณีบญ ุ กุม้ ข้าว เป็นพิธที เี่ กีย่ วกับ ประเพณีวัฒนธรรมที่เกี่ยวกับข้าว เป็นสิ่งที่อยู่กับชีวิตของชาวอีสานมาช้า นาน หากไม่มีการรักษาไว้จะทำ�ให้ประเพณีอันดีงามต้องเสื่อมสลายไปใน ที่สุด นอกจากนี้ ยังถือเป็นการทดแทนบุญคุณข้าวที่ได้เลี้ยงผู้คนให้เติบโต มาตลอดเวลา ชาวอำ�เภอประจักษ์ศลิ ปาคมจึงได้รว่ มกันจัดงานขึน้ มา เพือ่ ให้ชาวบ้านได้มีโอกาสพักผ่อนหย่อนใจ ได้รื่นเริง สนุกสนาน หลังจากที่ ได้ทำ�งานเหน็ดเหนื่อยมาตลอดทั้งปี ที่สำ�คัญคือเพื่อให้เกิดความสามัคคี ของประชาชนในพืน้ ที่ เพือ่ เป็นการอนุรกั ษ์ ส่งเสริมและเผยแพร่วฒ ั นธรรม ประเพณีท้องถิ่นอันดีงามของชาวอำ�เภอประจักษ์ศิลปาคม ให้เป็นที่รู้จัก อย่างแพร่หลายและกว้างขวาง ให้เป็นที่รู้จักของประชาชนทั่วไป โดยทาง อำ�เภอได้เน้นความสำ�คัญของวัฒนธรรมท้องถิน่ เพือ่ รักษาขนบธรรมเนียม ประเพณีอันดีงามให้คงอยู่สืบไป…..

ผลไม้ 30 % และเป็นทีอ่ ยูอ่ าศัย 10% และต่อมาพระองค์ยงั ได้พระราชทาน แนวคิด “เศรษฐกิจพอเพียง” อันเป็นปรัชญาชี้ถึงการดำ�รงอยู่ และปฏิบัติ ตนของประชาชนในทุกระดับในลักษณะมีความพอประมาณในการใช้จา่ ย ความมีเหตุผล และการมีภมู คิ มุ้ กันต่อการยัว่ ยุจากสิง่ เกินความจำ�เป็น โดย ใช้ความรู้และคุณธรรมประกอบกันในการดำ�รงชีวิต ด้วยเหตุนี้ ทาง กก.ตชด.24 จึงได้ตอบสนองการตั้งศูนย์การเรียนรู้ “เศรษฐกิจพอเพียง” ให้ส�ำ เร็จตามเป้าหมายของโครงการนี้ โดยศูนย์ฯจะ เป็นแหล่งให้ความรู้แก่ผู้ที่สนใจมาศึกษาดูงาน ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานรัฐ หรือเอกชนและโรงเรียนต่างๆ สามารถมาดูการพัฒนาหน่วยและกำ�ลังพล ที่มีความพร้อม 3 ด้าน นอกเหนือจากการรับผิดชอบความมั่นคงตามแนว ชายแดน จ.หนองคาย จ.บึงกาฬ และ จ.เลย และ 3 จังหวัดชายแดนภาค ใต้ รวมทั้งเขาพระวิหาร งานป้องกันปราบปรามการกระทำ�ผิดกฏหมาย ตามแนวชายแดนเป็นหลัก ตลอดจนการพัฒนาและช่วยเหลือประชาชน ตามแนวชายแดนและพื้นที่ส่วนหลังทั้งโรงเรียน ตชด.16 แห่ง รวมทั้งการ บรรเทาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยต่างๆ โดยมีการพัฒนาความรู้ (ศูนย์อา เซีย่ นศึกษา) การอบรมด้านภาษาอังกฤษ เวียดนาม เกาหลี ลาว การอบรม เกี่ยวกับกฏหมาย ระเบียบ กฏบัตรอาเซี่ยน ตลอดจนด้านพัฒนาร่างกาย มีการฝึกประจำ�สัปดาห์ การแข่งขันกีฬา ภายใน นอก หน่วย การตั้งชมรม จักรยานหนองตะไก้ ด้านเศรษฐกิจ การตัง้ ศูนย์การเรียนรูเ้ ศรษฐกิจพอเพียง โดยนำ�ไปปฏิบตั มิ กี ารเลีย้ งจิง้ หรีด แมงป่อง เลีย้ งไก่ไข่ เลีย้ งปลาหลายชนิด การปลูกพืชผักสวนครัว เช่น ผักคะน้า ผักสลัด ผักกาดเขียว ผักชี พริก ต้น หอม ผักกระหลํ่าปลี มะละกอ บวบ มะนาว ผักกาดขาว รับสีข้าวสารฯลฯ เพื่อเพิ่มรายได้และลดรายจ่ายให้กับกำ�ลังพลและครอบครัว รวมทั้งชาว บ้านได้ซื้อสินค้ามีคุณภาพได้บริโภคสินค้ามีราคาถูกกว่าท้องตลาดด้วย.

 ......ชยาวุ ธ จั น ทร ผวจ. อุดรธานี มอบเงินจำ�นวนหนึ่ง ให้ กั บ ธนดร พุ ท ธรั ก ษ์ นายก สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดอุดรธานี จ.ขอนแก่น เพื่อสนับสนุนและ เป็ น ขวั ญ กำ � ลั ง ใจแก่ นั ก กี ฬ า ที ม จ.อุ ด รธานี ที่ เ ดิ น ทางไป แข่งขันกีฬาเยาวชนครั้งที่ 32 ที่ จ.ขอนแก่นเป็นเจ้าภาพ...... ......ชาวส่งเสริมการเกษตร จังหวัดอุดรธานี ให้การต้อนรับ นุศษิ ฏ์ วีรธนศิลป์ เกษตรจังหวัดอุดรธานีคนใหม่ ทีเ่ พิง่ เดินทางมารับตำ�แหน่ง เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ก็ฝากไว้ในการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ จ.อุดรธานี ที่พืชไร่ได้รับความเดือดร้อนจากการขาดแคลนแหล่งนํ้า ส่งผลกระ ทบต่อความเป็นอยู่ของเกษตรกร...... .......ประวิทย์ ปัดถาวะโร รองนายกเทศมนตรีเมืองหนองสำ�โรง อ.เมือง จ.อุดรธานี เห็นออกงานพบปะชาวบ้านอยู่เสมอ ไม่เคยทอดทิ้ง โดยเฉพาะใน ช่วงทีช่ าวบ้านกำ�ลังประสบกับปัญหาภัยแล้ง ขาดแคลนแหล่งนํา้ อุปโภค บริโภค จึงออกไปให้กำ�ลังใจแก่ชาวบ้าน...... .......สุรพล แจ่มวุฒิปรีชา รองนายกเทศมนตรีนครอุดรธานี ได้ดูแลการ ศึกษาของโรงเรียนเทศบาลทัง้ 10 แห่ง มีการพัฒนาการศึกษาให้กา้ วไกลทันต่อ โลกยุคไร้พรมแดน ผู้ปกครองจึงเกิดความมั่นใจต่อสถานศึกษา ได้ส่งลูกหลาน มาศึกษาจึงทำ�ให้มีการรับโอนโรงเรียนอยู่ตลอดเวลา ปัจจุบันมีโรงเรียนที่โอน เข้ามาอยู่ในสังกัดเทศบาลนครอุดรธานี เพิ่มอีก 2 แห่ง คือโรงเรียนบ้านช้าง และโรงเรียนหนองหิน รวมเป็น 12 แห่ง...... ......โดยเฉพาะได้ จันทร์สุดา ราชไสยกิจ รองปลัดเทศบาลนครอุดรธานี คนมากด้วยความสามารถและประสบการณ์เข้ามาช่วยดูแลงานด้านการศึกษา อีกแรงหนึ่ง เพื่อให้นโยบายการพัฒนาการศึกษา ซึ่งถือได้ว่ามีความสำ�คัญต่อ อนาคตบ้านเมือง เดินหน้าต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง.......

ชยาวุธ จันทร

นุศิษฏ์ วีรธนศิลป์

ประวิทย์ ปัดถาวะโร

สุรพล แจ่มวุฒิปรีชา

จันทร์สุดา ราชไสยกิจ

ร.ต.ท.ชัชวาลย์ พึ่มชัย

.......ใกล้จะถึงเทศกาลสงกรานต์เข้ามาทุกขณะแล้ว หลายหน่วยงานที่รับผิด ชอบเรื่องการรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ก็ได้จัดทัพวางแผนใน การแก้ไขปัญหา เพื่อลดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนผู้ใช้รถใช้ ถนน โดย ร.ต.ท.ชัชวาลย์ พึ่มชัย สว.(ป.) 3 กก.4 อุดรธานี ได้ขานรับนโยบายผู้ บังคับบัญชา เข้มงวดกวดขันกับการป้องกันอุบตั เิ หตุบนถนนในช่วงเทศกาลวัน สงกรานต์ปนี ี้ โดยเอาผิดกับผูฝ้ า่ ฝืนกฏหมายขับขีย่ วดยานเมาแล้วขับ หรือขับรถ เร็วเกินกหนด รวมทัง้ เสพยาบ้า ส่วนงานด้านบริการประชาชนจะมีหอ้ งนํา้ นํา้ ดืม่ และที่พักผ่อนให้งีบถ้าเมื่อยตัวหรือเกิดอาการง่วงนอน...... -พีระ วีระชัย-


หน้า 7

ปีที่ 13 ฉบับที่ 142 ประจำ�เดือนมีนาคม 2559

มทบ.24 ร่วมกับ อบจ.อุดรธานี ส่งเสริมการปลูกมะนาวให้กับกลุ่มแม่บ้านมีรายได้เสริม

และพั ฒ นาต่ อ ยอดเป็ น แหล่ ง ท่ อ งเที่ ย วเชิ ง เกษตรให้ กั บ จั ง หวั ด ในอนาคต มะนาว เป็นผลไม้ที่เราใช้บริโภคกันในชีวิตประจำ�วัน แต่มีน้อยคนนักที่จะรู้ว่ามะนาว ลูกเล็กๆนั้น มีประโยชน์ในการรักษาโรคต่างๆได้มากมายหลายโรคด้วยกัน อีกทั้งยังมีราคาแพง ถึงลูกละ 10 บาทในช่วงฤดูแล้ง ด้วยเหตุนี้มณฑลทหารบกที่ 24 จึงร่วมกับองค์การบริหารส่วน จังหวัดอุดรธานี ปลูกมะนาวเพือ่ เป็นมีรายได้เสริมให้กบั กลุม่ แม่บา้ น รวมทัง้ เป็นการปฏิบตั ติ าม นโยบายกองทัพบก ในการใช้พื้นที่ว่างเปล่าของหน่วยให้เกิดประโยชน์ รวมทั้งเป็นแหล่งศึกษา เรียนรู้ของประชาชนทั่วไป พ.อ.วุฒิชัย สุคนธวัฒน์ หัวหน้ากองกิจการพลเรือน มณฑลทหารบกที่ 24 เปิดเผยว่า โครงการส่งเสริมอาชีพกลุม่ แม่บา้ นมณฑลทหารบกที่ 24 เป็นไปตามนโยบายของผูบ้ ญั ชาการ ทหารบก เพื่อสร้างความมั่นคงในชีวิตให้กับกำ�ลังพลและครอบครัว รวมทั้งการดูแลชุมชน รอบค่าย ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีการส่งเสริมอาชีพ ให้มีรายได้เสริม รวมทั้งการใช้พื้นที่ ว่างเปล่าของหน่วยให้เกิดประโยชน์ โดยการปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์ จำ�นวน 750 ต้น ในพื้นที่ 12 ไร่ มีครอบครัวของกำ�ลังพลร่วมโครงการจำ�นวน 12 กลุ่ม รวม 117 ราย และ กำ�กับดูแลดำ�เนินการในพืน้ ที่ ทีม่ สี ภาพเสือ่ มโทรมเป็นดินเค็ม ไม่สามารถทำ�การเพาะปลูก ได้ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2558 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน ภายใต้การกำ�กับดูแลของนาย อำ�นาจ ผการัตน์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เจ้าของสวนตาลคู่ซึ่งเป็นศูนย์เรียน รู้เศรษฐกิจพอเพียงที่ประสบผลสำ�เร็จแห่งหนึ่งในอำ�เภอเมืองอุดรธานี เป็นที่ปรึกษา โครงการ “โครงการนี้ นอกจากจะเป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ของประชาชนแล้ว ยังเป็นแหล่งท่อง เทีย่ งเชิงเกษตรอีกทางหนึง่ ด้วย โดยมีผใู้ ห้การสนับสนุนคือองค์การบริหารส่วนจังหวัด

พล.ต.อำ�นวย จุลโนนยาง ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 24

อุดรธานี ให้การสนับสนุนงบประมาณ เครื่องจักรกล และเครื่องมือหนัก ในการปรับปรุง พื้นที่ สำ�นักงานแขวงทางหลวง อุดรธานี ที่ 1 สนับสนุนกากยางในการปรับปรุงถนน การ ไฟฟ้าส่วนภูมภิ าคจังหวัดอุดรธานี สนับสนุนการขยายเขตไฟฟ้า สวนตาลคูส่ นับสนุนวิทยากร และกิ่งพันธุ์มะนาว” ด้าน พล.ต.อำ�นวย จุลโนนยาง ผูบ้ ญั ชาการมณฑลทหารบกที่ 24 กล่าวว่า โครงการนี้ เป็นการบูรณาการของมณฑลทหารบกที่ 24 ร่วมกับ องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ซึง่ จะเกิดประโยชน์กับกำ�ลังพล ครอบครัว และชุมชนรอบค่ายประจักษ์ศิลปาคม รวมทั้งเป็น สถานที่ทัศนศึกษาเรียนรู้ให้กับประชาชนทั่วไป มะนาวนั้นถือเป็นพืชเศรษฐกิจและใช้ใน ชีวติ ประจำ�วัน มีประโยชน์ตอ่ สุขภาพหลายอย่าง นอกจากจะมีรายได้จากการขายผลผลิตแล้ว

ยังสามารถขายกิ่งพันธุ์และ แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้อีกด้วย เชื่อว่าสวนปาล์ม คูแ่ ห่งนีจ้ ะเป็นสวนมะนาวที่

ผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี เปิดสวนมะนาว

สร้างชือ่ เสียง และเป็นแหล่ง ท่องเที่ยวเชิงเกษตรให้กับ จังหวัดอุดรธานีอกี แห่งหนึง่ ในอนาคต.....

ผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี มอบต้นมะนาวให้กำ�ลังพล

ผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี ถ่ายรูปกับกลุ่มแม่บ้านและกำ�ลังพล

ผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี ปลูกต้นมะนาว

กำ�ลังรับต้นมะนาว

ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 24 ปลูกต้นมะนาว

ประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนโครงการศึกษา สำ�รวจ ออกแบบรายละเอียด ระบบรวบรวมและบำ�บัดนํ้าเสีย เทศบาลนครอุดรธานี ในระยะที่ ๒ การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคม ของเมืองอุดรธานีที่ก้าว ไปอย่างรวดเร็ว ทั้งการก่อสร้างอาคารบ้านเรือน สถานประกอบการ เกิด การขยายตัวของชุมชนที่หนาแน่นเพิ่มมากขึ้น ก่อให้เกิดปัญหาด้านสิ่ง แวดล้อมต่าง ๆ มากมาย โดยเฉพาะปัญหานํ้าเสีย ซึ่งจากปริมาณการใช้ นํ้าประปาในพื้นที่เขตเทศบาลนครอุดรธานีเฉลี่ยวันละ 51,000 ลบ.ม. ก่อ

ให้เกิดนํ้าเสียเฉลี่ยวันละ 40,000 ลบ.ม. นํ้าเสียเหล่านี้ล้วนมีแหล่งกำ�เนิดมา จากบ้านเรือน ร้านค้า โรงพยาบาล โรงแรม โรงงานอุตสาหกรรม ตลาดสด และสถานประกอบการ ต่างระบายนํ้าเสียลงสู่ลำ�รางสาธารณะผ่านลำ�ห้วย หมากแข้ง และลำ�ห้วยมั่ง ที่ไหลผ่านพื้นที่เขตเทศบาลนครอุดรธานี ก่อน ที่จะไหลลงสู่ห้วยหลวง ต่อไปยังแม่นํ้าโขงและออกสู่ทะเลต่อไป ซึ่งการ

ไหลของมวลนํ้าเสียก่อให้เกิดปัญหามลพิษทางนํ้าและปัญหา ต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนตามมา เทศบาลนครอุ ด รธานี จึ ง ได้ ทำ � การก่ อ สร้ า งระบบ รวบรวมและบำ�บัดนํ้าเสีย เพื่อรองรับนํ้าเสียในเขตเทศบาลนครอุดรธานี และนํ้าเสียจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นข้างเคียงในเขตอำ�เภอเมืองขึ้น ที่บริเวณบ้านหนองบุ ตำ�บลสามพร้าว อำ�เภอเมือง จังหวัดอุดรธานี บน พื้นที่กว่า 287 ไร่ โดยสามารถบำ�บัดนํ้าได้ถึงวันละ 45,000 ลบ.ม. ซึ่งระบบ บำ�บัดนํ้าเสียนี้เป็นระบบแบบบ่อเสถียร ที่อาศัยธรรมชาติในการบำ�บัดสาร อินทรียใ์ นนํา้ เสีย ประกอบด้วย บ่อหมัก บ่อผึง่ บ่อบ่ม และบ่อปรับสภาพนํา้ เติมคลอลีนเพื่อปรับปรุงคุณภาพนํ้าทิ้งก่อนระบายลงสู่แหล่งนํ้าธรรมชาติ โดยในการดู แ ลระบบบำ � บั ด ให้ ดำ � เนิ น การได้ อ ย่ า งต่ อ เนื่ อ งนั้ น เทศบาลนครอุดรธานีจะต้องใช้งบประมาณถึงเดือนละประมาณ 3 แสน บาท หรือปีละประมาณ 4 ล้านบาท ดังนั้น เพื่อให้การบริหารจัดการระบบ บำ�บัดนํ้าเสีย มีประสิทธิภาพและมีความยั่งยืนเทศบาลนครอุดรธานีจึง ได้ร่วมมือกับองค์การจัดการนํ้าเสีย หรือ อจน. ซึ่งเป็นองค์กรจัดการนํ้า เสียครอบคลุมทั่วประเทศ ที่อยู่ในการกำ�กับดูแลของรัฐมนตรีกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดำ�เนินการหาแนวทางการบริหารจัด การนํ้าเสีย ภายใต้บทบัญญัติของกฎหมาย เพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมใน เขตชุมชนเมืองร่วมกันทุกภาคส่วน โดยเฉพาะปัญหานํ้าเสีย ซึ่งในมาตรา 88 และมาตรา 93 แห่งพระราชบัญญัตสิ ง่ เสริมและรักษาคุณภาพสิง่ แวดล้อม แห่งชาติ ได้ก�ำ หนดให้เทศบาล มีอ�ำ นาจหน้าทีจ่ ดั เก็บค่าบริการบำ�บัดนํา้ เสีย รวมทั้งค่าปรับและเรียกร้องค่าเสียหายจากการให้บริการบำ�บัดนํ้าเสีย ตาม หลักการ “ผู้ก่อมลพิษ เป็นผู้จ่าย” จากบทบัญญัตแิ ห่งกฎหมายดังกล่าว เทศบาลนครอุดรธานีได้มกี าร ตราเทศบัญญัติเทศบาลนครอุดรธานี เรื่อง การจัดเก็บค่าธรรมเนียมบำ�บัด นํ้าเสีย พ.ศ.2557 โดยผู้ที่อาศัยอยู่ในเขตพื้นที่ที่ได้รับบริการระบบบำ�บัดนํ้า เสียในพื้นที่ให้บริการระยะที่ 1 ครอบคลุมพื้นที่ 8.70 ตารางกิโลเมตร จะ ต้องมีหน้าที่ในการชำ�ระค่าบริการบำ�บัดนํ้าเสีย ตามอัตราและประเภทของ สถานประกอบการที่ได้กำ�หนด ตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นไป

สำ�หรับการดำ�เนินงานในระยะที่ 2 เทศบาลนครอุดรธานีได้วา่ จ้าง บริษัท คิวบิค สเปส จำ�กัด เป็นผู้ดำ�เนินโครงการศึกษา สำ�รวจ ออกแบบ รายละเอียดระบบรวบรวมและบำ�บัดนํา้ เสียเทศบาลนครอุดรธานี ในระยะ ที่ ๒ ให้ครอบคลุมเต็มพื้นที่เขตเทศบาลนครอุดรธานีทั้ง 47.70 ตาราง กิโลเมตร ในการนี้เพื่อให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับโครงการในทุกภาคส่วน และประชาชนเกิดความเข้าใจเบือ้ งต้นเกีย่ วกับระบบรวบรวมและบำ�บัดนํา้ เสีย รวมทั้งการให้ข้อเสนอแนะ เพื่อหาแนวทางการจัดการนํ้าเสียให้เป็น ไปด้วยความเรียบร้อยและเป็นที่ยอมรับของประชาชนในพื้นที่ ตลอดจน ความเต็มใจทีจ่ ะจ่ายค่าบำ�บัดนํา้ เสียตามหลักการผูก้ อ่ มลพิษเป็นผูร้ บั ภาระ อีกทั้งเป็นการสื่อสารระหว่างโครงการกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ในทุกภาค ส่วนที่เกี่ยวข้องให้เกิดการรับรู้ข้อมูล อันจะนำ�ไปสู่ความเข้าใจที่ถูกต้อง และให้ความร่วมมือที่ดีต่อโครงการรวมทั้งเพื่อรวบรวมความคิดเห็น ข้อ กังวล ปัญหาและข้อเสนอแนะต่าง ๆ จากผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียในทุกภาค ส่วนมาประเมินและพิจารณา นำ�ผลมาประกอบการศึกษาให้สอดคล้อง เหมาะสมกับความต้องการของผู้มีส่วนได้เสียในทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เทศบาลนครอุ ด รธานี จึ ง จั ด ประชุ ม รั บ ฟั ง ความคิ ด เห็ น ของ ประชาชนโครงการศึกษา สำ�รวจ ออกแบบรายละเอียดระบบรวบรวมและ บำ�บัดนํ้าเสียเทศบาลนครอุดรธานี ในระยะที่ ๒ ในวันพฤหัสบดีที่ ๑๗ มี นาคมพ.ศ. ๒๕๕๙เวลา ๐๘.๓๐ – ๑๓.๐๐น. ณ ห้องประชุมเวสสุวัณ(ชั้น ๓) สำ�นักงานเทศบาลนครอุดรธานีอำ�เภอเมือง จังหวัดอุดรธานี โดยจะมี ผูน้ �ำ ชุมชน ประชาชนในพืน้ ที่ ผูม้ สี ว่ นได้สว่ นเสียหรือผูแ้ ทนทุกภาคส่วน หรือผู้ที่สนใจ เข้าร่วมประชุมเพื่อแสดงความคิดเห็น ข้อกังวล และข้อ เสนอแนะต่าง ๆ ที่จะเป็นประโยชน์สูงสุดต่อโครงการศึกษาความเหมาะ สมและออกแบบรายละเอียดระบบรวบรวมและบำ�บัดนํา้ เสียเทศบาลนคร อุดรธานี ในระยะที่ ๒ ต่อไป


หน้า 8

ปีที่ 13 ฉบับที่ 142 ประจำ�เดือนมีนาคม 2559

Gulliver รุกตลาดรถมือสอง ปักหมุด “ขอนแก่น” ที่แรกในภาคอีสาน

“กัลลิเวอร์” ศูนย์ซื้อ-ขายรถยนต์มือสอง จากญีป่ นุ่ ได้ฤกษ์เปิดสาขาที่ 8 ที่ ขอนแก่น เป็นแห่ง แรกในภาคอีสาน เพื่อขยายฐานลูกค้าในต่างจังหวัด พร้อมเพิ่มทางเลือกในการซื้อรถยนต์คันที่ 2 ของ บ้านในคุณภาพที่ดีไว้ใช้งาน แต่ราคาไม่แพง ด้วยจุด ขาย “ไมล์น้อย เหมือนใหม่ ได้วารันตี” นางจิราทิพย์ ซูกิ ประธานกรรมการ บริษัท ไอพรอสเพอร์ จำ� กั ด ผู้ บ ริ ห ารงานศู น ย์ ซื้ อ -ขาย รถยนต์มือสอง Gulliver ขอนแก่น กล่าวว่า ปัจจุบัน จังหวัดขอนแก่นมีอัตราการขยายตัวเพิ่มมากขึ้นทั้ง ในส่วนของคนท้องถิ่นเอง และคนต่างถิ่นที่เข้ามา ทำ�งาน หรือมาอาศัยชั่วคราว เนื่องจากเป็นจังหวัด ใหญ่ที่มีความเจริญมาก ทั้งในด้านเศรษฐกิจ การ ค้าขาย และวัฒนธรรมประเพณีต่างๆ จึงทำ�ให้เป็น จุดสนใจของนักท่องเทีย่ ว และนักลงทุน ทีท่ ยอยเข้า มาอย่างต่อเนื่อง แต่สิ่งหนึ่งที่ยังไม่สามารถรองรับ การขยายตัวของปริมาณประชากรที่เพิ่มมากขึ้นนี้ก็ คือ เรื่องของความสะดวกสบายในการคมนาคม ซึ่ง ระบบขนส่งมวลชนในขอนแก่นตอนนี้ ยังมีไม่เพียง พอต่อความต้องการ “นอกจากนี้ ในหลายๆ ครอบครัวเริ่มที่จะ มองหารถยนต์ ประเภท Eco Car ไว้ใช้งานเพิ่มเติม เนื่องจากราคาไม่แพง หาที่จอดได้ง่าย และเหมาะ สำ�หรับจะใช้เป็นรถคันทีส่ องของบ้าน เพือ่ เพิม่ ความ สะดวกสบายและยังช่วยในเรื่องความปลอดภัยใน การเดินทางให้กับบุตรหลานที่ก�ำ ลังศึกษาในระดับ มหาวิทยาลัย แทนการใช้รถมอเตอร์ไซค์เพียงอย่าง เดียว อีกทั้งกลุ่มผู้ประกอบการค้าขาย ก็ต้องการ

มีรถยนต์กระบะไว้ใช้งานขนส่งสินค้า ซึ่งการออก รถใหม่ป้ายแดงราคาจะสูงกว่า และอาจจะไม่คุ้มค่า เพราะใช้ขนส่งสินค้าเป็นหลัก ประกอบกับอัตราภาษี ก็ท�ำ ให้ราคารถสูงขึน้ ด้วยปัจจัยต่างๆ นีเ้ อง ทำ�ให้เรา มองเห็นโอกาสที่จะเติบโตในธุรกิจนี้อยู่มาก และน่า จะขยายธุรกิจได้เร็ว โดย Gulliver ขอนแก่น นับเป็น สาขาที่ 8 ในประเทศไทยแล้ว และเป็นสาขาแรกใน ภาคตะวันออกเฉียงเหนืออีกด้วย” นางจิราทิพย์ กล่าว ทั้งนี้ หากกล่าวถึงความได้เปรียบของการ ซือ้ -ขายรถยนต์มอื สอง ภายใต้แบรนด์อย่าง กัลลิเวอร์ นั้น ก็มีอยู่มากกว่าการซื้อ-ขาย ในตลาดรถยนต์มือ สองทั่วไป เนื่องจาก Gulliver เป็นแบรนด์ชั้นนำ� อันดับ 1 ในญี่ปุ่น ที่เน้นในเรื่องของการดูแล และคัด กรองคุณภาพรถยนต์ให้เป็นไปตามมาตรฐานก่อนที่ จะทำ�การออกขายจริง ดังนั้น ลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ไป จึงมั่นใจได้ว่าจะได้ใช้รถดีมีคุณภาพ ในราคาย่อมเยา โดยศูนย์ Gulliver ขอนแก่น เองก็มีนโยบาย ที่จะคัดสรรคุณภาพรถให้ดีที่สุดสำ�หรับลูกค้า เน้น เลือกรถทีม่ เี ลขไมล์การใช้งานน้อย สภาพเครือ่ งยนต์ และตัวถังดี มีระบบการตรวจเช็ครถเพิ่มเติม โดยใช้ มาตรฐานเดียวกันกับที่ญี่ปุ่นก่อนรับซื้อ และทำ�การ ปรับสภาพรถ ตลอดจนตรวจสอบและบำ�รุงรักษา รถให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานก่อนจะขายหรือส่ง มอบ รวมถึงบริการหลังการขายต่างๆ ที่ลูกค้าจะได้ รับการดูแลอย่างดี “เสมือนคนในครอบครัว” พร้อม การรับประกันรถเพิ่มเติม ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกได้ ตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนถ่ายนํ้ามัน

เอไอเอส ยื น ยั น จะทำ � ทุ ก ทาง ไม่ให้สัญญาณ 900 MHz หาย

เอไอเอส เดิ น หน้าทำ�ทุกวิถที าง ยืน่ ข้อ เสนอร้องขอให้ กสทช. ขยายระยะเวลาคุ้มครอง แ ล ะ ข อ ใ ช้ ค ว า ม ถี่ 900 MHz ในช่ ว งที่ 1 ซึ่งยังว่างอยู่ อย่างน้อย ประมาณ 3 เดือน เพื่อ ให้ลูกค้ายังใช้งานได้ต่อ เนื่อง นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่ บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำ�กัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า ในฐานะผู้ให้ บริการ เราทราบดีถึงช่วงเวลาของการเปลี่ยนผ่าน เทคโนโลยีของประเทศไทย ดังนั้นตั้งแต่ก่อนสิ้น สุดสัญญาร่วมการงานบนคลื่น 900 MHz เราจึง สื่อสารให้ลูกค้าทราบถึงการเปลี่ยนผ่านเทคโนโล ยีจาก 2G สู่ ดิจิทัลอย่าง 3G หรือ 4G ตามนโยบาย รั ฐ โดยแจ้ ง ให้ ลู ก ค้ า ที่ ค งค้ า งอยู่ ใ นระบบ2G 900 MHz โอนย้ า ยไปยั ง ผู้ ใ ห้ บ ริ ก ารรายใหม่ หรื อ เปลี่ ย นเครื่ อ งจาก 2G เป็ น เทคโนโลยี 3G/4G อย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน แม้ ว่ า เราได้ ทำ � การประชาสั ม พั น ธ์ ดั ง กล่ า วอย่ า งเข้ ม ข้ น แล้ ว ก็ ต าม ปั จ จุ บั น ก็ ยั ง คงเหลื อ ลู ก ค้ า ที่ ใ ช้ เ บอร์ ใ นระบบ 2G 900 MHz ของเอไอเอส อีกราว 4 แสนเลขหมาย และ ลูกค้าเอดับบลิวเอ็นทีย่ งั คงถือเครือ่ งมือถือ 2G อีก ราว 7.6 ล้านเครื่อง และเมื่อวันที่ 11 มีนาคม ที่ ผ่านมา บริษัท ทรูมูฟเอชผู้ประมูลได้คลื่น 900 MHz ช่ ว งที่ 2 ได้ เ ข้ า มาชำ � ระค่ า ใบอนุ ญ าต และส่ ง ผลให้ กสทช.จะสั่ ง ให้ ปิ ด บริ ก าร คลื่ น 900 MHz ที่ เ อไอเอสเคยใช้ ง านอยู่ อั น จะทำ�ให้ลูกค้าที่ยังคงใช้งาน 2G บนคลื่น 900 MHz ใช้งานไม่ได้อีกต่อไป เพื่อให้ลูกค้ามีเวลาเพี ยงพอในการเปลี่ยนเครื่อง ซึ่ ง ในวั น เดี ย วกั น นั้ น บริ ษั ท ฯได้ ทำ � หนั ง สื อ ไปยั ง กสทช.คั ด ค้ า นมติ ที่ ไ ม่ อ นุ มั ติ ใ ห้ มี ก ารขยายระยะเวลาของมาตรการคุ้ ม ครองผู้ ใช้บริการออกไป ด้วยเหตุผล คือ ตามประกาศ กสทช.เรื่องมาตรการคุ้มครองผู้ใช้บริการในกรณี สิ้นสุด สัมปทานหรือสัญญาให้บริการโทรศัพท์ เคลื่อนที่ พ.ศ. 2556 ในข้อ 9. ได้ระบุว่า “...เมื่อ คณะกรรมการได้จัดสรรคลื่นความถี่ให้กับผู้รับ ใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่รายใหม่แล้ว ให้คณะ กรรมการกำ�หนดวันหยุดให้บริการ ซึ่งถือว่าเป็น วันสิ้นสุดระยะเวลาความคุ้มครอง...”เพื่อความ เป็นธรรมแก่ผไู้ ด้รบั ใบอนุญาตรายใหม่ทจี่ ะมีสทิ ธิ ใช้คลื่นความถี่อย่างปราศจากการรบกวน ซึง่ กรณีนี้ เอไอเอส ได้แจ้ง กสทช.ว่า ขอให้ บริการต่อไป โดยใช้คลืน่ ความถี่ 900 MHz ในชุดที่ 1 ซึง่ ยังว่างอยู่ อันจะไม่ถอื เป็นการลิดรอนสิทธิผไู้ ด้ ใบอนุญาตในชุดที่ 2 รวมถึงมติของ กสทช.ก็ถอื ว่า ขัดต่อประกาศ กสทช.เอง ทีต่ อ้ งมีความต่อเนือ่ งใน การให้บริการ คุ้มครองประโยชน์สาธารณะ และ คุ้มครองผู้ใช้บริการให้ได้ใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง อย่างไม่มีข้อจำ�กัดในช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านการสิ้น สุดสัมปทาน โดยในระหว่ า งการขยายมาตรการคุ้ ม ครองฯออกไปอีกระยะหนึ่งนั้น บริษัทฯยังคงนำ� ส่งรายได้ให้แก่รัฐ ตามหลักเกณฑ์ของประกาศฯ

คุ้มครอง เช่นเดิมทุกประการ ซึ่งหาก กสทช.ไม่ เห็นด้วยกับแนวทางขยายมาตรการเยียวยาต่อไป อีก บริษทั ฯ จึงได้เสนอแนวทางแก้ไขปัญหา โดยขอ ให้ กสทช. พิจารณาใช้อำ�นาจหน้าที่ตามกฎหมาย ให้ บ ริ ษั ท ฯ ยั ง คงให้ บ ริ ก ารแก่ ลู ก ค้ า บนคลื่ น 900 MHz ต่อไปอีก อย่างน้อยประมาณ 3 เดือน (สิน้ สุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2559) เพื่อให้ลูกค้าใช้งา นได้อย่างต่อเนื่อง และยังคงมีระยะเวลาเพียงพอที่ จะอัพเกรดเทคโนโลยีด้วยการโอนย้ายออกไปยังผู้ บริการรายใหม่ตามที่ลูกค้าต้องการ โดยบริษัทจะ ใช้คลื่นความถี่ 900 MHz ช่วงที่ 1 ในจำ�นวนเพียง 5 MHz ซึ่งขณะนี้ยังว่างอยู่ และลูกค้าเอไอเอสก็ใช้ งานอยู่ในความถี่ช่วงที่ 1 โดยบริษัทฯยินดีชำ�ระค่า ใช้งานคลื่นความถี่ให้แก่ กสทช.เพื่อนำ�ส่งเป็นราย ได้ให้แก่ประเทศต่อไป นายสมชั ย กล่ า วเพิ่ ม เติ ม ว่ า สำ � หรั บ กระแสข่าวข้อเสนอของทรูมูฟเอช ที่ให้ กสทช. นำ�คลื่นความถี่ 900 MHz มาให้เอไอเอสใช้งาน ต่อชั่วคราวแบบไม่คิดค่าใช้จ่าย รวมถึงลักษณะ ที่ให้ทีโอทีสนับสนุนอุปกรณ์ 2G และเอไอเอสดู แลระบบบริ ห ารจั ด การ นั้ น ขณะนี้ ยั ง ไม่ ไ ด้ รั บ ข้ อ เสนอนี้ โ ดยตรงจากทรู มู ฟ เป็ น แต่ เ พี ย งการ เสนอข่าวผ่านสื่อมวลชนเท่านั้น อีกทั้ง บริษัทฯ ยังเห็นว่าเป็นแนวทางที่ไม่สามารถเป็นไปได้จริง ทั้งในแง่ของกฎหมาย เนื่องจากยังเป็นปัญหาใน ข้อกฎหมาย ที่กสทช.ต้องพิจารณาว่า จะเข้าข่าย เป็นการให้ผู้อื่นมาร่วมใช้คลื่นความถี่ของผู้รับใบ อนุญาต ซึ่งต้องห้ามตามมาตรา 46 ของพระราช บัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ หรือไม่ อีกทั้ง ในทางปฏิบัติ ก็ไม่สามารถดำ�เนินการได้ในเวลา อันสั้น เนื่องจากปัจจุบันลูกค้าเอไอเอส ใช้งานอยู่ บนคลื่น 900 MHz ช่วงที่ 1 ซึ่งยังว่างอยู่ มิใช่ช่วง ความถี่ของทรูมูฟเอช (ช่วงที่ 2) ด้วยความตัง้ ใจอย่างยิง่ ของบริษทั ฯ ทีจ่ ะให้ ลูกค้าทุกท่านใช้งานได้อย่างต่อเนือ่ ง สอดคล้องกับ การที่เราได้เรียกร้องไปที่ กสทช.เพื่อให้ขยายระยะ เวลาคุ้มครองออกไปดังกล่าว เราจึงดำ�เนินการ ทุกวิถีทางเพื่อให้ลูกค้าได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ประกอบด้วย จัดเครื่องทดแทนให้ฟรี สำ � หรั บ ลู ก ค้ า ที่ ยั ง คงถื อ เครื่ อ ง 2G ให้ อัพเกรดเทคโนโลยี เปลี่ยนเป็น 3G หรือ 4G ซึ่งวัน นีล้ กู ค้ายังคงสามารถจองเครือ่ งและรับเครือ่ งได้ฟรี ณ ทีท่ ำ�การ อบต.และเทศบาลทัว่ ประเทศ ให้ลกู ค้า ที่ยังถือเครื่อง 2G สามารถใช้งานบนเครือข่ายขอ งดีแทค ที่เอไอเอส ได้เจรจาความร่วมมือโรมมิ่งไว้ เรียบร้อยแล้ว โดยลูกค้าไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆเพิ่มเติม และเดินหน้าขยายเครือข่าย3G และ 4G อย่างต่อ เนื่องด้วยงบประมาณ 40,000 ล้านบาท “ผมจึงขอความอนุเคราะห์มายัง กสทช.ให้ กรุณาพิจารณาข้อร้องขอของเอไอเอสอย่างเร่งด่วน

เครื่อง เปลี่ยนแบตเตอรี่ ซ่ อ มเบรคและช่ ว งล่ า ง หรื อ ซ่ อ มแอร์ โ ดยช่ า ง ผู้ ชำ � นาญการ ในขณะ ที่ ต ลาดรถยนต์ มื อ สอง ทั่วไปไม่ได้มีบริการตรง ส่วนนี้ให้ ซึ่งจุดต่างนี้เอง จะทำ � ให้ ลู ก ค้ า มั่ น ใจใน คุณภาพของรถที่ซื้อจาก ศูนย์Gulliver ขอนแก่น มากขึ้น ไม่ต้องกังวลว่า จะได้รถย้อมแมวมาขาย และได้ความรู้สึกเหมือนซื้อ รถใหม่ เลขไมล์น้อย ในราคาที่ถูกลงกว่ารถป้ายแดง เกือบ 40 - 50% นอกจากนี้ นางจิราทิพย์ ซูกิ ได้กล่าวเสริมว่า Gulliver ขอนแก่น จะเน้นซื้อ-ขายรถแบรนด์ญี่ปุ่น เป็นหลัก สัดส่วนอยู่ที่ประมาณ 90% ของรถทั้งหมด เนื่องจากมีความนิยมในการใช้งาน ซ่อมบำ�รุงรักษา ง่าย หากใช้งานไปสักระยะและต้องการเปลีย่ นรถคัน ใหม่ ก็ยงั จะขายต่อได้ในราคาทีด่ ี โดยทีร่ าคาไม่ตก เช่น Toyota Honda Mitsubishi Isuzu ส่วนประเภทของรถ ทีน่ ยิ มรับซือ้ -ขาย จะเป็นรถยนต์ในกลุม่ เก๋งอยูท่ ี่ 60% และกลุ่มรถกระบะอีก 40% สำ�หรับการขยายโชว์รูม เพิ่มเติมในอนาคต มีแนวโน้มว่าจะเป็นพื้นที่ตามหัว เมืองต่างๆ คงต้องดูทศิ ทางของตลาดและการตอบรับ จากลูกค้าว่ามีปริมาณมากน้อยเพียงใด ต้องการใช้รถ ประเภทใด ตลอดจนนโยบายการสนับสนุนจากทาง ภาครัฐด้วย

ปั จ จุ บั น ศู น ย์ ซื้ อ - ขายรถยนต์ มื อ สอง Gulliver ขอนแก่น มีรถยนต์คุณภาพที่พร้อมขาย แล้วในโชว์รูมกว่า 30 คัน และจะมีการเพิ่ม - ลด สัดส่วนของรถที่จะซื้อขายในแต่ละช่วงเดือนตาม กลไกของตลาด หากลูกค้าต้องการรถที่นอกเหนือ จากนี้ สามารถสอบถามและแจ้งระบุยี่ห้อกับสเปค รถได้เพิ่มเติม และรถทุกคัน ลูกค้าสามารถมาเลือก ทดลองขับ ได้ที่โชว์รูม Gulliver ขอนแก่น ซึ่งตั้งอยู่ บริเวณเยื้องโรงพยาบาลกรุงเทพ-ขอนแก่น โดยจะ ต้องมีใบขับขี่มาแสดงให้กับเจ้าหน้าที่ก่อนทดลอง ขับ นอกจากนี้ หากลูกค้าตัดสินใจซื้อรถในช่วง นี้ จะได้รับสิทธิพิเศษเพิ่มเติม คือตัว G-Care หรือ บริการช่วยเหลือรถเสียฉุกเฉินตลอด 24 ชม. อาทิ เช่น บริการรถลาก/รถยก บริการเติมนํ้ามันฉุกเฉิน บริการช่วยเปลี่ยนยางรั่ว หรือแบตหมด เป็นต้น พร้อมด้วยตัว G-Warranty ที่รับประกันการใช้งาน ของรถ 1 ปี หรือ 25,000 กิโลเมตร ตามเงื่อนไขของ บริษัทฯ

ป ร า บ ผู้ มี อิ ท ธิ พ ล ; พล.ต.ท.บุญเลิศ ใจประดิษฐ ผบช.ภ.4 ,พล.ต.ต.จตุพล ปาน รักษา รอง ผบช.ภ.4 ประชุม ชี้แจงแนวทางการปฏิบัติ การ แก้ไขปัญหาผู้มีอิทธิพลท้อง ถิ่นตามนโยบายรัฐบาล ห้วง ที่ 3 (ห้วงสุดท้าย 5 มี.ค. - 4 พ.ค.2559) โดยมี ผบก.ภ.จว. ในสังกัด ภ.4, ผบก.สส.ภ.4, ผบก.อก.ภ.4 เข้าประชุม ณ ห้องประชุม ศปก.ภ.4 ถนนหน้าเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2559 ตรวจค้ น สิ่ ง ผิ ด กฎหมาย ; นายประเสริ ฐ ลื อ ชาธนา นนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด ขอนแก่น พร้อมหน่วยงานที่ เกีย่ วข้อง ร่วมปล่อยแถวทหาร ตำ � รวจ ฝ่ า ยปกครอง ออก ตรวจค้ น เป้ า หมายในพื้ น ที่ อำ�เภอเมืองขอนแก่น จำ�นวน 100 จุด ตามยุทธการ 1386 ใน การระดมกวาดล้างยาเสพติด อาชญากรรม ลดความเดือดร้อน ตามคำ�ร้องเรียนของประชาชนในพื้นที่ตามนโยบายของจังหวัด ขอนแก่นทั้ง 26 อำ�เภอ ณ กองกำ�กับการสืบสวนตำ�รวจขอนแก่น

มิ ต รผลซื้ อ โรงไฟฟ้ า ชี ว มวล เสริมศักยภาพพลังงานหมุนเวียน น า ย วี ร ะ เจตน์ ว่ อ งกุ ศ ลกิ จ กรรมการผู้ จั ด การ บริ ษั ท เอ็ ม พี เอ็ น เนอร์ยี จำ�กัด และ นายจิ ร ศั ก ดิ์ ว่ อ ง กุ ศ ล กิ จ ผู้ ช่ ว ย กรรมการผู้ จั ด การ สายงานจัดซื้อ ร่วม ลงนามในพิธสี ญ ั ญา ซื้อขายโรงไฟฟ้าชีวมวล บริษัท เพาเวอร์ พรอส เพค มูลค่า 510 ล้านบาท จากบริษัท เพาเวอร์ ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง จำ�กัด (มหาชน) และผู้ถือหุ้น เดิม โดยมี นายเสวก ศรีสุชาต ประธานกรรมการ บริษัท เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง จำ�กัด (มหาชน) นายอำ�นวย กาญจโนภาศ รองประธานกรรมการ บริษัท เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง จำ�กัด (มหาชน) และนายชัยยิ่ง ศรีประเสริฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรอสแพค ทูล แอนด์ ดาย จำ�กัด เป็นผู้ลง นาม โรงไฟฟ้ า เพาเวอร์ พรอสเพค ตั้ ง อยู่ ที่ จังหวัดอยุธยา มีกำ�ลังการผลิตไฟฟ้า 9.9 เมกะ วัตต์ มีสัญญาการขายไฟ 8 เมกะวัตต์ ให้กับการ ไฟฟ้าส่วนภูมภิ าค และมีศกั ยภาพในการใช้วตั ถุดบิ ชีวมวลหลากหลายประเภทในการผลิตไฟฟ้าชีว เพือ่ สร้างความมัน่ ใจแก่ลกู ค้า โดยขอเรียนยืนยันว่า ทุกลมหายใจของชาวเอไอเอสทั้งหมด มุ่งมั่นเพื่อ ประโยชน์ของลูกค้า และได้ดำ�เนินการทุกวิถีทาง ที่จะดูแลลูกค้าอย่างดีที่สุดมาโดยตลอด ในฐานะ บริษัทฯที่มีธรรมาภิบาล บริหารงานอย่างโปร่งใส ยึดถือหลักการ อีกทั้งยึดประโยชน์ของลูกค้าเป็น ที่ตั้งเสมอ เรามีเจตนารมณ์ที่แน่วแน่อย่างยิ่งที่จะ ดูแลลูกค้าและผูบ้ ริโภคไม่ให้ได้รบั ผลกระทบแม้แต่

มวลที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อาทิ แกลบ ไม้ สับ ใบอ้อย การเข้าซื้อโรงไฟฟ้าเพาเวอร์ พรอส เพค ในครั้งนี้นับเป็นก้าวแรกของธุรกิจพลังงาน หมุ น เวี ย นของกลุ่ ม มิ ต รผลในการนำ � ความ เชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการบริหารโรง ไฟฟ้าชีวมวล ทีส่ งั่ สมมาอย่างยาวนาน มาปรับปรุง ให้โรงไฟฟ้าสามารถผลิตได้เต็มกำ�ลังการผลิต และ จัดหาวัตถุดิบให้มีต้นทุนที่ถูกลง นอกจากนั้นแล้ว โครงสร้างผู้ถือหุ้นโรง ไฟฟ้าเพาเวอร์ พรอสเพค มีผู้ถือหุ้นจากโรงสีที่อยู่ ติดกันจะช่วยให้โรงไฟฟ้ามีความได้เปรียบเรือ่ งค่า ขนส่งวัตถุดิบ และความต้องการไฟฟ้าและไอนํ้า ภายในโรงสีขา้ ว โดยกลุม่ มิตรผลตัง้ เป้าในการผลิต ไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนทีไ่ ม่ได้มาจากชานอ้อยให้ ได้ 200 เมกะวัตต์ ภายในปีพ.ศ.2563 ท่านเดียว จากการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยี ซึ่งเป็น นโยบายของภาครัฐอันดำ�เนินการโดย กสทช. ดัง นั้นการนำ�เสนอแนวทางต่างๆ ที่สามารถดูแลได้ ทั้งลูกค้าและไม่ผิดหลักการทางกฎหมายจากเอไอ เอสนัน้ จะเท่ากับเป็นบทพิสจู น์ความจริงใจในการ คุม้ ครองสิทธิแ์ ละดูแลผูบ้ ริโภคของ กสทช. ในครัง้ นี้” นายสมชัย กล่าวในตอนท้าย

พ.ต.อ.ไพโรจน์ กุจิรพันธ์

รองผู้บังคับการ(สอบสวน) ตำ�รวจภูธร จังหวัดหนองคาย นายตำ�รวจมืออาชีพ ที่มี ความสามารถรอบด้าน “สวั ส ดี ค่ ะ ” หนั ง สื อ พิ ม พ์ ไ ทยเสรี ข อ ต้อนรับทุกท่านเข้าสู่คอลัมน์ “สายตรงโรงพัก” ฉบับประจำ�เดือนมีนาคมพุทธศักราช 2559 ฉบับ นี้เราขอแนะนำ�ท่านให้รู้จักกับคนในแวดวงสีกากี คือ “ตำ�รวจ” หรือ “ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์” ใน พืน้ ทีภ่ าคอีสานเช่นเคยค่ะ ในเดือนนีเ้ ราขอแนะนำ� ท่านให้รู้จักกับ พ.ต.อ.ไพโรจน์ กุจิรพันธ์ รองผู้ บังคับการ(สอบสวน) ตำ�รวจภูธรจังหวัดหนองคาย นายตำ�รวจมืออาชีพ ทีม่ คี วามสามารถรอบด้าน จน ได้รบั คัดเลือกให้เป็นพนักงานสอบสวนดีเด่น และ พ่วงรางวัล ปราบปรามยาเสพติดดีเด่น มาแล้วค่ะ พ.ต.อ.ไพโรจน์ กุจิรพันธ์ รอง ผบก.ภ.จว. หนองคาย เกิดเมื่อวันที่ 21 เมษายน พ.ศ.2505 จบ การศึกษา ระดับปริญญาตรี นิติศาสตร์บัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับสอง) จาก มสธ. เนติบัณฑิต ไทย จากสำ�นักอบรมและศึกษากฎหมายแห่งเนติ บัณฑิตยสภา ปริญญาโทรัฐประศาสนศาสตร์มหา บัณฑิต จาก วิทยาลัยทองสุข กรุงเทพฯ และอบรม หลักสูตรผู้กำ�กับการ รุ่น 61 ปี 2521 เริ่มรับราชการเป็นนักเรียนจ่า ทหารเรือ จากนั้นในปี 2531 สอบย้ายมาเป็น รอง สารวัตรสอบสวน สภ.ต.ผาน้อย จ.เลย ปี 2540 ขึ้นเป็น สารวัตรสอบสวน สภ.กิ่ง อ.หนองหิน จ.เลย จากนั้ น ในปี 2544 เป็ น สารวั ต รหั ว หน้ า สถานี สภ.ต.นาดินดำ� จ.เลย ปี 2546 เป็นพนักงาน สอบสวน (สบ3) สภ.อ.วังสะพุง จ.เลย และขึน้ เป็น รองผู้ก�ำ กับการสืบสวนสอบสวน สภ.อ.เชียงคาน จว.เลย ก่อนจะโยกมาเป็นพนักงานสอบสวน(สบ4) ภ.จว.หนองคาย จนกระทั่ ง ในปี 2555 มาเป็ น พนักงานสอบสวนผูท้ รงคุณวุฒิ สภ.เมืองขอนแก่น

ก่อนจะย้ายกลับถิน่ เดิมในปี 2557 เป็น พนักงานสอบสวน ผู้เชี่ยวชาญ กลุ่มงานสอบสวน ภ.จว.หนองคาย และเปลี่ยนตำ�แหน่งเป็น รอง ผบก.(สส.) ภ.จว. หนองคาย (ตามคำ�สั่ง หน.คสช.ที่ 7/2559 ลงวัน ที่ 5 ก.ค.2559) พ.ต.อ.ไพโรจน์ เคยได้ รั บ รางวั ล อั น ทรงเกี ย รติ ม าแล้ ว หลายรางวั ล อาทิ พนั ก งาน สอบสวนดีเด่นระดับสารวัตร ตำ�รวจภูธรจังหวัด เลย,พนักงานสอบสวนดีเด่น สำ�นักงานตำ�รวจแห่ง ชาติ ปีพ.ศ.2553 และ รางวัลด้านการปราบปรามยา เสพติดดีเด่น ป.ป.ส.จากนายกรัฐมนตรี นำ�ความ ภาคภูมิใจมาสู่วงศ์ตระกูลและครอบครัวรวมทั้ง หน่วยงานในสังกัดถือเป็นแบบอย่างให้นายตำ�รวจ รุ่นน้องและผู้ใต้บังคับบัญชาเจริญรอยตาม พ.ต.อ.ไพโรจน์ ได้กล่าวฝากว่า “ผมมี คติพจน์ในการทำ�งาน ที่ว่า “พิทักษ์ราษฎร์ดุจ ครอบครัว” และได้นำ�ไปปรับใช้ในการทำ�งาน ไม่ ว่ า จะดำ � รงตำ � แหน่ ง ใด หั ว ใจคื อ การรั บ ใช้ ประชาชนที่ ม าแจ้ ง ความให้ เ หมื อ นกั บ คนใน ครอบครั ว ผู้ ม าแจ้ ง ความทุ ก คนย่ อ มมี ค วาม เดือดร้อน ดังนั้นพนักงานสอบสวนต้องมีความ กระตือรือร้นในการทำ�งาน ดุจเป็นความเดือดร้อน ของคนในครอบครัวตนเอง อันจะเป็นหนทางนำ� ไปสู่ความสำ�เร็จในการคลี่คลายคดีในที่สุด” สำ�หรับคอลัมน์สายตรงโรงพักฉบับนีต้ อ้ ง ขอลาท่านผู้อ่านไปก่อน ไว้พบกันใหม่ฉบับหน้า เดือนเมษายนนะคะ “สวัสดีค่ะ”

เพ็ญศิริ นาคทน ...รายงาน

สั ม ม น า วิ ช า ก า ร ร ะ ดั บ นานาชาติ ; นายศิวาโรจน์ มุ่ง หมายผล รอง ผวจ.ขอนแก่น เป็นประธานเปิดการประชุม สั ม ม น า วิ ช า ก า ร ร ะ ดั บ นานาชาติ เรื่อง ศักยภาพและ โอกาสการทำ � การค้ า การ ลงทุน และการท่องเที่ยว ใน กลุ่มอนุภาคลุ่มนํ้าโขง (GMS) โดยมีผแู้ ทนจากหน่วยงานภาค รัฐและเอกชน ในจังหวัดขอนแก่น เข้าร่วมสัมมนา ณ ห้องประชาสโมสร ๑ โรงแรมเซ็นทาราแอนด์ คอนเวนชั่น อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ ๔ มีนาคม ๒๕๕๙

ลุ้น “ภูพระบาท” ขึ้นทะเบียนมรดกโลก

เมื่อวันที่ 29 ก.พ.2559 ในที่ประชุมผู้ว่า ราชการจังหวัดพบสื่อ ประจำ�เดือนกุมภาพันธ์ 2559 หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องจำ�นวน หนึ่งได้เข้าร่วมประชุมและให้ข้อมูลในส่วนที่ เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกรณีที่เกี่ยวข้องกับอุทยาน ประวัติศาสตร์ภูพระบาท อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี เพื่ อ ขอขึ้ น ทะเบี ย นเป็ น มรดกโลก และคณะ กรรมการมรดกโลกจะมีการประชุมพิจารณา ตัดสินกันในระหว่างเดือน มิถุนายน-กรกฎาคม 2559 นี้ ที่ประเทศตุรกี ทั้งนี้ นายชยาวุธ จันทร ผู้ว่าราชการ จังหวัดอุดรธานี กล่าวว่าที่ผ่านมานั้น ปรากฏ ข่าวทางหนังสือพิมพ์และสือ่ โทรทัศน์ ทำ�ให้เกิด ความสับสนว่า ข่าวที่ปรากฏนั้นเป็นความจริง มากน้อยเพียงใด ซึ่งในความต้องการและความ เป็นจริงนั้นจังหวัดต้องการให้มีนักท่องเที่ยว เดินทางมาท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดอุดรธานีให้ มากขึน้ อุทยานประวัตศิ าสตร์ภพู ระบาท อ.บ้าน ผือฯ ก็เป็นอีกแห่งหนึ่งที่มีนักท่องเที่ยวเดินทาง มาเที่ยวชมในแต่ละปีเป็นจำ�นวนมาก แต่ตนเอง ต้องการให้เพิ่มมากกว่านี้ เพื่อเป็นการสร้างชื่อ เสียงให้กับจังหวัดและยังที่จะเป็นการกระตุ้น เศรษฐกิจของจังหวัดอีกทางหนึ่ง นายบัณฑิต ทองอร่าม หัวหน้าอุทยาน ประวั ติ ศ าสตร์ ภู พ ระบาท ได้ ก ล่ า วชี้ แ จง ว่า กระบวนการต่างๆ เกิดเมือ่ ปี 2547 รัฐบาลไทย ได้เสนอชือ่ อุทยานประวัตศิ าสตร์ภพู ระบาท และ เส้นทางอารยะธรรมขอม พิมาย-พนมรุ้ง-เมือง ตํ่า เข้าสู่บัญชีชั่วคราวในการเป็นมรดกโลก ต่อ มาในเดื อ นมกราคม 2558 รั ฐ บาลไทยได้ ทำ� เอกสารเสนอแหล่งมรดกเสนอไปยังศูนย์มรดก โลก ซึ่งศูนย์มรดกโลก ได้ตั้งที่ปรึกษาคือ สภา การแหล่งโบราณสถานระหว่างประเทศ หรือ อี โคโมสสากล เป็นกรรมการตรวจประเมินอุทยาน ประวัติศาสตร์ภูพระบาท และหลังจากที่คณะ กรรมการประเมินฯ ได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจ ประเมินอุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาทแล้ว อี โคโมสสากล ได้ขอเอกสารข้อมูลเพิ่มเติม คณะ ทำ�งานของไทยก็ได้จดั ทำ�เอกสารเพิม่ เติมและส่ง ไปให้เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2558

เมื่อปลายเดือนมกราคม 2559 ที่ผ่านมา นัน้ สภาการโบราณสถานระหว่างประเทศหรือ อี โคโมสสากล ได้สง่ รายงานประเมินเบือ้ งต้นมายัง รัฐบาลไทย โดยระบุว่าผลการประเมินเบื้องต้น ของอีโคโมสสากล ระบุวา่ อุทยานประวัตศิ าสตร์ ภูพระบาท อยู่ในระดับ 3 หรือระดับ ดี-เฟอร์รัล ซึ่งหมายถึง ให้จัดทำ�เอกสารการประเมินแหล่ง มรดกใหม่ แล้วให้นำ�เข้าไปเสนอใหม่ในปีหน้า นายบั ณ ฑิ ต ฯ กล่ า วอี ก ว่ า อี โ คโมสสากล ต้ อ งการให้ มี ก ารทำ � เอกสารเพิ่ ม เติ ม ได้ แ ก่ 1.เรื่องราวคุณค่า ความโดดเด่นเป็นสากล และ 2.การวิจยั ทางโบราณคดีทมี่ ากกว่าทีส่ ง่ ให้ไปแล้ว ซึง่ ทัง้ 2 ประเด็นดังกล่าว คณะทำ�งานในกรณีนกี้ ็ พร้อมทีจ่ ะทำ�เอกสารและส่งไปให้ อีโคโมสสากล แต่อย่างไรก็ตาม การที่อุทยานประวัติศาสตร์ภู พระบาท อ.บ้านผือ ได้ถูกระบุจากอีโคโมส ให้ ทำ�เอกสารประเมินฯใหม่นั้น ยังไม่ได้อยู่ขั้นที่ เลวร้ายหรือถูกตัดชื่อออกไปจากการพิจารณา ของคณะกรรมการพิจารณา 21 ชาติไปเลย แต่ เป็นเพียงการที่คณะทำ�งานของรัฐบาลและทุก ฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องนำ�เอาเอกสารมาเขียนใหม่ แล้วก็ส่งเข้าไปใหม่ในปีหน้า เปรียบเสมือนการ ทำ�วิทยานิพนธ์ ทีอ่ าจารย์ทปี่ รึกษาตรวจประเมิน แล้วให้กลับไปเขียนแก้ไขใหม่ “ผลการตรวจประเมินเบื้องต้นของสภา การโบราณสถานระหว่างประเทศ หรือ อีโคโม สสากล มิใช่เป็นคำ�ตัดสิน ส่วนการตัดสินของรัฐ ภาคี 21 ชาติ ซึ่งจะมีการประชุมพิจารณาตัดสิน กันในระหว่างเดือนมิถนุ ายน-กรกฎาคม 2559 นี้ ที่ประเทศตุรกี” นายบัณฑิตฯ กล่าวยํ้า นายชยาวุธ จันทร ผวจ.อุดรธานี กล่าว ว่า อยากให้ชาวจังหวัดอุดรธานี หันมาช่วยกัน สร้างกระแสให้ทกุ คนรูส้ กึ สะดุดว่า “ภูพระบาท” คืออะไร และเมื่อเดินทางมาถึงจังหวัดอุดรธานี แล้ว ต้องการที่จะไปดูว่า ภูพระบาท คืออะไร นอกเหนือจากการที่จะเดินทางไปดูแหล่งมรดก โลกบ้ า นเชี ย ง ทะเลบั ว แดง วั ด ป่ า ภู ก้ อ นที่ มี พระพุทธรูปปางไสยาสน์หนิ อ่อนขาวทีใ่ หญ่ทสี่ ดุ ในประเทศไทย เป็นต้น


หน้า 9

ปีที่ 13 ฉบับที่ 142 ประจำ�เดือนมีนาคม 2559

“โชคชัย” ชี้ตลาดรถยนต์ ปี 59 คาดน่าจะโตราว 3-4%

รับรองมาตรฐานความปลอดภัยข้อมูล นายวี ร วั ฒ น์ เกี ย รติ พ งษ์ ถ าวร รองกรรมการผู้ อำ � นวยการ อาวุ โ ส สายงานปฏิ บั ติ ก าร เอไอเอส รั บ มอบใบรั บ รองมาตรฐาน ร ะ บ บ บ ริ ห า ร จั ด ก า ร ค ว า ม มั่ น ค ง ป ล อ ด ภั ย ส า ร ส น เ ท ศ I S O 27001:2013 จาก นายอุดมเดช คงทวีเลิศ ประธานบริหาร บริษัท บูโร เว อริทัส เซอทิฟิเคชั่น )ประเทศไทย) จำ�กัด ซึ่งเป็นการยกระดับระบบบริหาร จัดการความปลอดภัยข้อมูลของศูนย์บริการเอไอเอส ดาต้า เซ็นเตอร์ สาขา นนทบุรี และ นวนคร มีโครงสร้างพืน้ ฐานทีไ่ ด้มาตรฐานและเป็นมิตรกับสิง่ แวดล้อม รวมถึงระบบอำ�นวยความสะดวกต่างๆ ทีอ่ อกแบบตามมาตรฐาน ของการบริหารจัดการศูนย์บริการดาต้าเซ็นเตอร์โดยเฉพาะ

รับรางวัล “THAILAND TOP COMPANY AWARDS 2016”

นายสมชั ย เลิ ศ สุ ท ธิ ว งค์ ประธานเจ้ า หน้ า ที่ บ ริ ห าร เอ ไอเอส รั บ รางวั ล THAILAND TOP COMPANY AWARDS 2016 ในกลุ่มอุตสาหกรรมการสื่อสาร และโทรคมนาคม ในฐานะที่เป็น บริษทั ทีม่ ผี ลการดำ�เนินงานยอดเยีย่ ม มีการบริหารจัดการทีโ่ ดดเด่น และเป็น องค์กรตัวอย่างในการดำ�เนินธุรกิจ ซึ่งจัดโดยนิตยสาร Business+ ในเครือ เออาร์ไอพี ร่วมกับ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย โดยมี ฯพณฯ ศาตราจารย์ เกียรติคุณ นายแพทย์เกษม วัฒนชัย องคมนตรี เป็นผู้มอบรางวัล ณ ห้อง นภาลัย บอลรูม โรงแรมดุสิตธานี

ฉลองครบรอบ 20 ปี โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด คุณอรวรรณ พัฒนพีระเดช เจ้าของโรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด ,มร.วิคเตอร์ ปัง ตัวแทนจากทางแอคคอร์โฮเทล กรุ๊ป และ มร.แส ตลี่ย์ ชาน ผู้จัดการใหญ่ พร้อมด้วยพนักงานและผู้บริหารโรงแรมฯ ร่วม ทำ�บุญตักบาตร พร้อมถวายภัตตาหารเช้า เนื่องในโอกาสครบรอบ 20 ปี โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด เมื่อเช้าวันที่ 1 มีนาคม ที่ผ่านมา จากนัน้ ได้รว่ มกันฉลอง ด้วยการตัดเค้กวันเกิด พร้อมกับทำ�การเปิด

โตโยต้าแก่นนคร ฉลองรางวัล President’s Award & Best of the Best พร้อมตัง้ เป้าปีนยี้ อดขายอยูท่ ี่ 3,500-4,000 คัน เชือ่ ไตรมาส 3 กำ�ลัง ซือ้ จะกลับคืนมา ตลาดน่าจะโตขึน้ ราว 3-4% วอนทุกภาคส่วนต้องช่วยกัน ฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจไปด้วยกัน นายโชคชัย คุณวาสี ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โตโยต้า แก่นนคร จำ�กัด เปิดเผยว่า บริษัท โตโยต้าแก่นนคร จำ�กัด ได้รับรางวัล President’s Award ติดต่อกันมาตัง้ แต่ปี 2012 ถึง 2015 โดยไม่เว้นแม้แต่ ปีเดียว ในปีนจี้ งึ ได้รบั อีกหนึง่ รางวัล คือรางวัล Best of the Best และได้รบั ติดต่อกัน 2 ครั้ง นับเป็นรางวัลสูงสุด ซึ่งการที่จะได้รับรางวัลดังกล่าว จะ ต้องผ่านการประเมินจากบริษัทแม่ โดยจะต้องมีความเป็นมาตรฐานทั้ง โชว์รูม การให้บริการ ศูนย์บริการหลังการขาย ศูนย์ซ่อม รวมถึงการมียอด จำ�หน่ายตามเป้าของบริษัท จะขาดอย่างหนึ่งอย่างใดไม่ได้ ดังนั้น ต้อง ขอบคุณพนักงานทุกแผนกทีช่ ว่ ยให้ประสบความสำ�เร็จ ขอบคุณพันธมิตรที่ ให้ความไว้วางใจ ทำ�ให้ได้รบั ความเชือ่ มัน่ จากทุกภาคส่วนและได้รบั รางวัล อันทรงเกียรติติดต่อกันถึง 4 ปีซ้อน ในส่ ว นของทิ ศ ทางตลาดอุ ต สหกรรมรถยนต์ ใ นปี 2559 นาย โชคชัย มองว่า อยู่ในช่วงทิศทางกลับหัวมาตั้งแต่รถยนต์คันแรก ประจวบ เข้ากับปัญหาภายในประเทศ ปัญหาเศรษฐ์กิจชะลอตัว ซึ่งไม่เฉพาะใน ประเทศไทยเท่านั้น แต่เป็นช่วงที่เศรษฐกิจทั่วโลกประสบปัญหาเช่นกัน ธุรกิจทุกประเภทไม่เฉพาะในภาคอุตสาหกรรมรถยนต์ แต่เป็นการชะลอตัว ของภาคเศรษฐกิจทุกประเภททีม่ แี นวทางดิง่ ลงทัง้ หมด ซึง่ เมือ่ ดิง่ ลงจนถึง ทีส่ ดุ แล้ว ต่อไปจะเป็นจุดทีเ่ ชิดหัวขึน้ ซึง่ ปัญหาทุกอย่างมาถึงจุดเปลีย่ นที่ อยู่ในทิศทางที่ดีขึ้น เชื่อว่าไตรมาส 3 กำ�ลังซื้อจะกลับคืนมา ตลาดน่าจะ โตขึ้นราว 3-4% “ปีทผี่ า่ นมาตลาดรถยนต์รวมทุกค่ายปิดตลาดที่ 788,000 คัน เป็น ของโตโยต้า 245,000 คัน เป็นภาพรวมของประเทศ ปีนตี้ งั้ เป้าที่ 720,000 – 750,000 คัน แต่ทงั้ นีต้ อ้ งดูทปี่ ริมาณซัพพลาย ความต้องการของประชาชน ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงตัวเลขบ้าง ขึ้นอยู่กับทิศทางทางเศรษฐกิจ เมื่อ ตลาดโตขึ้น โตโยต้าจะได้เปรียบด้านการตลาด จากความเชื่อมั่นของ ประชาชน สำ�หรับที่ บริษัท โตโยต้าแก่นนคร ปีนี้ตั้งเป้ายอดการจำ�หน่าย

ที่ 3,500-4,000 คัน ถึงจะเปิดดีเล่อร์ใหม่ แต่โตโยต้าแก่นนคร คือส่วนหนึ่ง ทีส่ ามารถสร้างงาน สร้างตลาดและดึงดูดลูกค้าในพืน้ ทีจ่ งั หวัดขอนแก่น ใน อำ�เภอรอบนอกและจังหวัดใกล้เคียงได้ดว้ ยบริการก่อนและหลังการขายทีจ่ ะ สร้างความประทับใจให้กับลูกค้า” นายโชคชัย กล่าวและว่า ไม่อยากให้ประชาชนกังวลในภาพของเศรษฐกิจมากเกินไป ถึง อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยปลูกข้าวเองได้ มีพืชผลผลิตทางการเกษตร จึง มีความได้เปรียบกว่าหลายประเทศที่ประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ หาก ประชาชน รวมถึงนักธุรกิจ และผู้ประกอบการ SMEs ต่างร่วมมือร่วมแรง ให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน นักลงทุนไม่ควรชลอธุรกิจถึงจะได้กำ�ไร น้อย ประชาชนที่มีรายได้น้อยก็ใช้เงินน้อย มีเงินมากก็ใช้มากหน่อย เพื่อไม่ ให้เศรษฐกิจหดตัวมากเกินไป ทั้งนี้เป็นการช่วยกันเติม ไม่เห็นแก่ตัว ร่วม กันประคองเศรษฐกิจของประเทศแล้วฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจไปด้วยกัน เชื่อว่า ประเทศไทยเราจะไปรอด ขอเป็นกำ�ลังใจให้รฐั บาล และอยากวอนประชาชน และนักธุรกิจ นักลงทุนได้ช่วยกันคนละเล็กน้อย

คนขอนแก่นไม่ทอดทิง้ กัน ; นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพนั ธ์ นายกเทศมนตรี นครขอนแก่น พร้อมคณะ ออกเยี่ยมชุมชน หนองวัด 1–2, ชุมชน กศน., ชุมชนหนองวัดพัฒนา ในโครงการ “คนขอนแก่นไม่ทอดทิ้งกัน” โดยมี ผู้นำ�ชุมชน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนในชุมชนร่วมให้การต้อนรับ ณ ศาลาชุมชนหนองวัด 1 เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2559

วางศิลาฤกษ์อุทยานธรรมจิตกุศล ; นายสุวิทย์ คุณกิตติ อดีตรองนายก รัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์การก่อสร้างอุทยานธรรมจิตกุศล “หลวงปู่ไต้ฮงกงโจวซือ” เพื่อเป็นการที่เคารพ สักการะ เป็นที่ยึดเหนี่ยว จิตใจ ของชาวจังหวัดขอนแก่น และใกล้เคียง อีกทั้งยังเป็นการฉลอง การก่อตั้งมูลนิธิจิตกุศล 60 ปี ณ อุทยานธรรมจิตกุศล ต.ท่าพระ อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมื่อ 6 มีนาคม 2559

ตัวแคมเปญใหญ่ฉลองครบรอบ 20 ปี ตลอดเดือนมีนาคมนี้ เพื่อมอบเป็น ของขวัญพิเศษคืนกำ�ไรให้กับลูกค้า อาทิ แคมเปญ จ่าย 2000 รับ cash back คืน 2000 บาท พร้อมกับแคมเปญสำ�หรับท่านทีเ่ กิดในเดือนมีนาคม ทางโรงแรมฯอภินนั ทนาการ เค้กวันเกิด คาราโอเกะ 2 ชัว่ โมง และยังได้รบั บัตรของขวัญนวดแผนไทย จากเลอ สปา และโปรโมชั่นอื่นๆ อีกมากมาย จากนั้นได้บันทึกภาพบรรยากาศ 20 ปี โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ร่วมกัน

Fairy Faintasia 10

ศูนย์สรรพสินค้าแฟรี่พลาซ่า ขอนแก่น จัดการประกวดร้องเพลง Fairy Faintasia 10 รอบ ออดิชั่น ครั้งที่ 1 เมื่อวันเสาร์ที่ 5 มีนาคม 2559 ที่ ผ่านมา ณ เวทีกิจกรรมชั้น 2 ศูนย์สรรพสินค้าแฟ รี่พลาซ่า ขอนแก่น มีผู้สมัครเข้าร่วมประกวดใน รอบนี้อย่างล้นหลาม


หน้า 10

ปีที่ 13 ฉบับที่ 142 ประจำ�เดือนมีนาคม 2559

“พูลแมน ขอนแก่น” จัดงานกาล่าการกุศลฉลองครบรอบ 20 ปี โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด ร่วมกับ สโมสรฟุตบอลขอนแก่น ยูไนเต็ด และ บริษัท ราชามอเตอร์ จำ�กัด เตรียมจัดงานกาล่า การกุศล “Pullman Khon Kaen Raja Orchid 20th Anniversary Gala Night” ในวันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม 2559 ณ พูลแมน ขอนแก่น เอเทรีย่ ม โดย เตรียมพร้อมการแสดงจากศิลปินระดับซุปเปอร์ สตาร์ เมนู อ าหารสุ ด หรู และการประกวด แฟชั่นโชว์ที่มีรางวัลมูลค่ากว่า 200,000 บาท มร.แสตนลี่ ย์ ชาน ผู้ จั ด การใหญ่ โรงแรมพูลแมน ขอนแก่นราชา ออคิด เปิดเผย ว่า เนื่องในโอกาสครบรอบ 20 ปี โรงแรมฯ ที่ได้ ให้บริการชาวขอนแก่น และผู้ที่เดินทางมาเพื่อ วัตถุประสงค์ต่างๆ ที่จังหวัดขอนแก่น ทางโรง แรมฯ ผู้บริหาร และเจ้าของโรงแรมซึ่งเป็นชาว ขอนแก่น มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะจัดงาน ครัง้ นี้ เพือ่ เป็นการเฉลิมฉลองและขอบคุณลูกค้า ผู้มาใช้บริการทุกท่าน โดยรายได้จากการจัดงาน หลังหักค่าใช้จ่าย คณะผู้จัดงานกำ�หนดมอบให้ กับองค์กรการกุศล และโรงเรียนที่ขาดแคลน ทุ น ทรั พ ย์ ใ นเขตพื้ น ที่ จั ง หวั ด ขอนแก่ น

นอกจากผู้มาร่วมงานจะได้บุญกับการ มาร่วมงานครั้งนี้แล้ว ภายในงานจะได้เพลิดเพลิน กับการขับกล่อมบทเพลงของซุปเปอร์สตาร์ของ เมืองไทย “เจนนิเฟอร์ คิ้ม” และการบรรเลงแซก โซโฟนจากคู่หูดูโอ้ “โก้ มิสเตอร์แซกแมน” การ แสดงอี ก ชุ ด ที่ เ ราภู มิ ใ จนำ� เสนอ คื อ การแสดง ของ “เชฟโชว์” จังหวะดนตรีจากเครื่องครัว ที่ สนุกสนานเร้าใจ เชื่อว่ายังไม่เคยมีการแสดงแบบ นี้ในขอนแก่น ไฮไลท์อีกช่วงของงาน คือ การ ประกวดเดินแบบ 3 เจนเนอเรชั่น ในคอนเซปท์ “ถั ก ทอใยไหมรุ่ น สู่ รุ่ น ” ที่ มี มู ล ค่ า ของรางวั ล ถึ ง 200,000 บาท (ห้ อ งพั ก รอยั ล สวี ท พร้ อ ม อาหาร 3 มื้อ สำ�หรับผู้เข้าพักจำ�นวน 10 ท่าน) ความอลังการของการจัดงานครั้งนี้ ไม่ เพียงแต่การจัดให้มีการแสดงเท่านั้น ขึ้นชื่อว่า งานกาล่าของโรงแรมฯ สิ่งที่จะขาดไม่ได้คือ อาหา รมือ้ คํา่ คุณภาพเยีย่ มทีท่ างทีมอาหารและเครือ่ งดืม่ ได้รงั สรรค์เพือ่ การเฉลิมฉลอง อาทิ ปูยกั ษ์อลาสก้า ปลาหิมะ เนือ้ วากิว พร้อมเครือ่ งดืม่ ชัน้ เยีย่ ม เป็นต้น นอกจากคํ่ า คื น แห่ ง การเฉลิ ม ฉลอง แล้ว ตลอดทั้งเดือนมีนาคมนี้ ในทุกห้องอาหาร

โรงแรมฯ ยังเต็มไปด้วยความ พิ เ ศษสุ ด ที่ พ ร้ อ มนำ � เสนอแด่ ลูกค้าทุกท่านได้ร่วมยินดี อาทิ คูปองเงินสดมูลค่า 2,000 บาท ลู ก ค้ า ผู้ ที่ เ กิ ด เดื อ นมี น าคม รั บ ประทานฟรี * ส่ ว นลด 20% ที่ ห้ อ งอาหาร เป็ น ต้ น งานกาล่ า การกุ ศ ล “Pullman Khon Kaen Raja Orchid 20th Anniversary Gala Night” กำ�หนดจัดขึ้นวัน พฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม 2559 เวลา 18.30 – 22.00 ณ พูลแมน ขอนแก่ น เอเทรี่ ย ม โรงแรม พู ล แมน ขอนแก่ น ราชา ออ คิด บัตรราคา 1,700 / 2,200 / 2,500 จำ�หน่ายบัตรที่ โรงแรม พูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด ติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่ 043322155 หรือทาง Facebook/ PullmanKhonKaenRajaOrchid

ร่วมงานออสเตรียน ไวน์เทสติ้ง ; ม ร . เ อ น โ น โ ด ร ฟี นิ ก เอกอั ค รราชทู ต สาธารณรั ฐ ออสเตรียประจำ�ประเทศไทย และ มาดามจู ริ เซคิ กู ชิ - โดรเฟนิ ก ภริยารับการต้อนรับอย่างอบอุ่น จาก นายวุฒิศักดิ์ พิชญกานต์ ผู้ จั ด การทั่ ว ไปโรงแรมเซ็ น ทารา คอนเวนชันเซ็นเตอร์ ขอนแก่น เนื่ อ งในโอกาสร่ ว มงานออส เตรียน ไวน์เทสติ้ง การกุศลเพื่อสมทบทุนรายได้แก่ผู้ป่วยปากแหว่งเพดานโหว่ โรงพยาบาล ศรีนครินทร์ ณ ริมสระว่ายนํ้า โรงแรมเซ็นทาราคอนเวนชันเซ็นเตอร์ ขอนแก่น เมื่อเร็วๆนี้ ปลูกผักกลางนา ทุ่งกุลายิ้มได้ ; นางสาวพรเพ็ญ นาถพิรยิ รัตน์ รอง ประธานกรรมการฝ่ า ยกำ � กั บ ดูแลคุณภาพสินค้า เทสโก้ โลตัส พร้ อ มด้ ว ย นายธนวั ฒ น์ พลอย โสภณ รอง ผวจ.ร้อยเอ็ด ดร.อุดม คำ�ชา ผู้อำ�นวยการสำ�นักวิจัยและ พัฒนาเขต 4 อุบลราชธานี และ พระครูวินัยธรธีระพงษ์ ธีรปัญโญ เจ้าอาวาส วัดป่าทุ่งกลาเฉลิมราช จ.ร้อยเอ็ด ร่วมเปิดตัวโครงการปลูกผักกลางนา ทุง่ กุลายิม้ ได้ ตามโมเดลประชารัฐ ต่อสูป้ ญ ั หาภัยแล้ง ร่วมกันอย่างยั่งยืน จนชาวบ้านมีรายได้ที่มั่นคงจากการปลูกผักบุ้งแทนการทำ�นา โดยเทสโก้ โลตัส ร่วมให้ความรู้ในเรื่องมาตรฐานความปลอดภัย และรับซื้อผลผลิตทั้งหมด ตลอดจนเตรียมวางแผน พัฒนาสู่การปลูกผักชนิดอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง ณ วัดป่าทุ่งกุลาเฉลิมราช อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด

“พิสิษฐ์” นั่งเก้าอี้ นายกสมาคมสื่อมวลชน ขอนแก่น ต่อเป็นสมัยที่ 2

เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2559 ณ ห้องมงกุฎเพชร โรงแรมโฆษะ อำ�เภอเมือง จังหวัดขอนแก่น นายสมพงษ์ ปัตตานี ผู้อำ�นวยการ สำ�นัก ประชาสัมพันธ์เขต 1 ให้เกียรติกล่าวเปิดการประชุมสามัญประจำ�ปี 2559 สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น โดยมี พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายก สมาคมฯ เป็นผู้กล่าวรายงาน ,นายสุรชัย อักฌราศิวะโรจน์ ผู้เริ่มก่อการ สมาคมฯ ,นายประจวบ ลางคุลานนท์ สื่อมวลชนอาวุโส ,น.ส.ประสิทธิพร จารีย์ อดีตนายกสมาคมฯ และที่ปรึกษา ,นายสุวรรณ ไตรมาลัย อดีตนายก สมาคมฯ และทีป่ รึกษา ,นายชาติชาย ชาธรรมา ผอ.สวท.ขอนแก่น และอดีต นายกสมาคมฯ และสมาชิกสมาคมฯ เข้าร่วมประชุม ประมาณ 80 กว่าคน ในการประชุ ม ครั้ ง นี้ มี ว าระแถลงผลการดำ � เนิ น งานด้ า น กิ จ กรรมและสวั ส ดิ ก าร โดยนายประเสริ ฐ สุ ว รรณสิ ท ธิ์ อุ ป นา ยกฯฝ่ า ยกิ จ กรรม ,การปรั บ ปรุ ง สำ � นั ก งานสมาคมฯ โดย ร.ต.ต.ภั ส สะ บุ ญ ธรรม อุ ป นายกฯฝ่ า ยบริ ห าร ,การแถลงบั ญ ชี ร ายรั บ ราย จ่ า ย และบั ญ ชี ง บดุ ล ของปี ที่ ผ่ า นมา โดยคุ ณ ปาริ ช าติ มณี ฉ าย เหรั ญ ญิ ก และดำ � เนิ น การประชุ ม โดย คุ ณ สุ พั ต รา ศุ ข โข เลขาธิ ก าร จากนั้ น เป็ น วาระการเลื อ กตั้ ง นายกสมาคมฯ เนื่ อ งจากครบ วาระการบริหาร ผลการเลือกตั้ง พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ ได้รับเลือกตั้ง ให้ดำ� รงตำ�แหน่งต่ออีกวาระหนึ่ง เป็นสมัยที่ 2 ปีบริหาร 2559-2561 และในปี นี้ ค ณะกรรมการบริ ห าร ได้ มี ก ารประชุ ม หารื อ และมี ม ติ ใ น การจัดงานวันสถาปนาสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น ในวันที่ 9 เมษายน 2559 แทนการจัดงานวันนักข่าว 5 มีนาคม เช่นทุกปีที่ผ่านมา ทั้งนี้กิจกรรมต่างๆ ในวันดังกล่าว อาทิ การทำ�บุญเลี้ยงพระ จะจัดในวัน ที่ 3 เมษายน 2559 ที่ท�ำ การสมาคมฯ ,การมอบสิ่งของให้กับผู้ด้อยโอกาส เด็กนักเรียน โรงเรียนศรีสังวาลย์ ขอนแก่น โดยงานวันสถาปนาฯ วันที่ 9 เมษายน 2559 ภาคเช้าจะเป็นการมอบทุนการศึกษาให้กับบุตรสื่อมวลชน จังหวัดขอนแก่น ส่วนในภาคคํ่า เป็นงานเลี้ยงสังสรรค์ การมอบรางวัล เกียรติยศให้กับสื่อมวลชนดีเด่น ปี 2558 ทั้ง 5 สาขา ได้แก่ สื่ออาวุโสดี

รับรางวัลรีวิวยอดเยี่ยม จากสองเว็บไซต์ดัง โรงแรมเซ็นทาราคอนเวนชันเซ็นเตอร์ ขอนแก่ น ได้ รั บ รางวั ล รี วิ ว ยอดเยี่ ย ม ประจำ � ปี 2558 จากสองเว็บไซต์ด้านการจองโรงแรมระดับ โลก บุ๊คกิ้งดอทคอม (Booking.com) และทริป แอดไวเซอร์ (Trip Advisor) โดยได้ 8.5 จาก10 คะแนน ของบุ๊คกิ้งดอทคอม ด้านรีวิวยอดเยี่ยม ระดับโรงแรมและที่พัก และ 4 จาก 5 คะแนน ด้ า นการบริ ก ารยอดเยี่ ย มจากทริ ป แอดไวเซอร์ ซึ่ ง รางวั ล ทั้ ง สองวั ด จากความพึ ง พอใจโดยรวม และจากการรี วิ ว โรงแรมของแขกผู้ ม าเยื อ น “เป้าหมายหลักของเราคือการเป็นโรงแรม ที่ให้บริการด้านศูนย์ประชุมที่ใหญ่และดีที่สุดในภาคอีสาน และตลอดปีการดำ�เนินงานที่ผ่านมา ทีมบริหารและพนักงานต่างมุ่ง เน้นการบริการทีเ่ ป็นเลิศ พร้อมทัง้ ได้จดั ตัง้ โครงการ Guest Zero Complaint เพือ่ เพิม่ ระดับความพึงพอใจของแขกผูม้ าใช้บริการ ภายในองค์กร และกระแสการตอบรับที่ได้รับก็เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น ซึ่งถือว่ารางวัลที่ได้รับนี้ได้มาด้วยความร่วมแรงร่วมใจ และตระหนักถึงคุณค่าที่ได้มอบประสบการณ์ที่ดีแก่ผู้เข้าพักและใช้บริการตลอดมา” วุฒิศักดิ์ พิชญกานต์ ผู้จัดการทั่วไป กล่าว ยี น ส์ ลี ว ายส์ ก ระดุ ม ทอง ตั ว แรกของโลก ; คุณวรรณภาณี ทัศนาญชลี ผูอ้ ำ�นวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ดีเคเอสเอช (ประเทศไทย) จำ�กัด มอบกางเกง ยีนส์ลีวายส์®501®กระดุมทองคำ�แท้ ลิมิเต็ดเอดิชั่น มูลค่า 100,000 บาท ให้แก่ คุณรัชดา ฐิตะสัจจา ผู้โชค ดีรายแรกจากจังหวัดมหาสารคาม ซึง่ พิธมี อบรางวัลได้ จัดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ อีกทั้งจะมีการมอบกางเกงยีนส์ลีวาย ส์®501®กระดุมทองคำ�แท้ อีกสัปดาห์ละ 1 ตัว ในวันที่ 25 ก.พ. 3 มี.ค.และ 10 มี.ค. หมดเขตลุน้ ชิงรางวัล วันที่ 29 ก.พ. ห้ามพลาดโอกาสดี ๆ อย่างนี้มีเพียงครั้งเดียว

ธอส.ขานรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ของรัฐบาล ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยให้สามารถ มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองได้ง่ายมากขึ้น สร้าง โอกาสทองส่ ง ท้ า ยปี ด้ ว ยโครงการ “ธอส. มหกรรมที่ อ ยู่ อ าศั ย -สิ น เชื่ อ เพื่ อ ประชาชน ขอนแก่ น ” ณ ศู น ย์ ก ารค้ า เซ็ น ทรั ล พลาซ่ า ขอนแก่ น ระหว่ า งวั น ที่ 23-25 ธั น วาคม 2558 นายสุ ร ชั ย ดนั ย ตั้ ง ตระกู ล ประธาน กรรมการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผย ว่า ปัจจุบัน ธอส. ถือเป็นสถาบันการเงินที่มีความ แข็งแกร่งมาก ไม่วา่ จะเป็นสินเชือ่ ปล่อยใหม่ทที่ �ำ ได้ ทัง้ สิน้ 119,078 ล้านบาท คิดเป็น 80% ของเป้าหมาย ในปีนี้ซึ่งกำ�หนดไว้ที่ 149,800 ล้านบาท มียอดสิน เชื่อคงค้างรวม 840,507 ล้านบาท ขณะที่อัตราส่วน เงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) อยู่ใน ระดับ 15.46% ซึ่งสูงกว่าอัตราเงินกองทุนขั้นตํ่า 8.50% ที่ กำ � หนดโดยธนาคารแห่ ง ประเทศไทย และจากความแข็งแกร่งเหล่านี้ เชื่อว่า ธอส. มี ความพร้ อ มสู ง ในการดำ � เนิ น การตามนโยบาย ต่างๆ ของรัฐบาลเพิ่มเติม เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ พร้ อ มปิ ด ช่ อ งว่ า งของกลุ่ ม ลู ก ค้ า ที่ ไ ม่ ส ามารถ เข้าถึงบริการทางการเงินจากธนาคารพาณิชย์ได้

เด่น ,สื่อดีเด่นสาขาวิทยุ ,สื่อดีเด่นสาขาโทรทัศน์ ,สื่อดีเด่นสาขาหนังสือพิมพ์ และช่างภาพดีเด่น สมาคมสื่ อ มวลชนจั ง หวั ด ขอนแก่ น ได้ รั บ การจดทะเบี ย นสมาคม อย่ า งเป็ น ทางการ เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2541 โดยมีผู้เริ่มก่อการ 3 ท่าน ได้แก่ นายธีระพงษ์ โสดาศรี อดีตอธิบดีกรม ประชาสั ม พั น ธ์ ขณะดำ � รงตำ � แหน่ ง ประชาสั ม พั น ธ์ จั ง หวั ด ขอนแก่ น นายสุ ร ชั ย อั ก ฌราศิ ว ะ โรจน์ และ นายยิ้มทรวง ศรีพนาวงศา ปัจจุบันท่านได้ถึงแก่กรรมแล้ว โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อ ส่ ง เสริ ม วิ ช าการ การประชาสั ม พั น ธ์ หนั ง สื อ พิ ม พ์ วิ ท ยุ ก ระจายเสี ย ง วิ ท ยุ โ ทรทั ศ น์ และสื่ อ ด้านอื่นๆ ในจังหวัดขอนแก่น เป็นตัวแทนกลุ่มวิชาชีพสื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น สนับสนุน ให้ มี ส วั ส ดิ ก าร การสงเคราะห์ การศึ ก ษาแก่ บุ ต รสมาชิ ก และไม่ มี ก ารจั ด ตั้ ง โต๊ ะ บิ ล เลี ย ด ปัจจุบัน มีสมาชิกรวมทั้งสิ้น 227 คน เป็นสมาชิกสามัญ 222 คน และสมาชิกวิสามัญ 5 คน ที่ทำ�การสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น ได้รับความอนุเคราะห์จากประธานหอการค้าจังหวัด ขอนแก่น ให้ใช้อาคารหอการค้าจังหวัดขอนแก่น ถนนมิตรภาพ อำ�เภอเมือง จังหวัดขอนแก่น เป็นที่ตั้งสำ�นักงาน มีพันโทพิสิษฐ์ ชาญเจริญ เป็นนายกสมาคมฯ และคณะกรรมการบริหารสมา คมฯ ทั้ง 20 ท่าน ร่วมกันบริหารงานกิจการสมาคมฯ ให้เป็นไปเพื่อประโยชน์ส่วนใหญ่ของสมาชิก

ธอส. กระตุ้ น ศก. เปิ ด บู ท ให้คำ�ปรึกษาคนอยากมีบ้าน

โครงการ ธอส.มหกรรมที่ อ ยู่ อ าศั ย สินเชื่อเพื่อประชาชน เป็นไปตามนโยบายของ รัฐบาลที่ต้องการช่วยผู้มีรายได้น้อยและปาน กลางที่มีเงินเหลือสุทธิไม่เกินเดือนละ 30,000 บาท ซึ่ ง เป็ น ผลิ ต ภั ณ ฑ์ สิ น เชื่ อ ที่ ป ระชาชน สนใจมาก โดยเริ่มโครงการมาตั้งแต่ 19 ตุลาคม จนถึ ง วั น ที่ 23 ธั น วาคม มี ลู ก ค้ า ได้ รั บ การ อนุ มั ติ เ งิ น กู้ แ ล้ ว 10,585 ล้ า นบาท จำ � นวน 7,243 ราย สูงกว่ากรอบเงินที่รัฐบาลกำ �หนด ไว้ ที่ 10,000 ล้ า นบาท ซึ่ ง มี ส าเหตุ ห นึ่ ง ที่ น่ า สนใจคื อ การที่ ผู้ มี ร ายได้ น้ อ ยได้ รั บ การปล่ อ ย กู้ในวงเงินที่สูงขึ้น ทำ�ให้มีผู้มารับบริการมาก ขึ้ น และล่ า สุ ด มี ก ารอนุ มั ติ เ พิ่ ม วงเงิ น อี ก เป็ น หนึ่ ง หมื่ น ล้ า นบาท ภายใต้ เ งื่ อ นไขเดิ ม คื อ เงิ น กู้ไม่เกิน 3 ล้านบาท และธนาคารพร้อมปล่อยสินเชื่อไม่จำ �กัดวงเงิน เพื่อ เดือนเหลือสุทธิไม่เกิน 30,000 บาท ในวงเงิน รองรั บ ความต้ อ งการของประชาชนที่ มี ค วามต้ อ งการซื้ อ บ้ า นกั บ ธอส. นายสุรชัย กล่าวต่อไปว่า ธอส.ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของ รั ฐ ร่ ว มกั บกระทรวงการคลัง ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ศูนย์ข้อมูลเครดิต เอาใจคนรั ก ทอง ต่ อ เนื่ อ งปี ที่ 6 ; แห่งชาติ (เครดิตบูโร) และสมาคมอสังหาริมทรัพย์ จัดงาน “ธอส.มหกรรมที่ คุณแมทธิว สไควร์ อยู่อาศัย – สินเชื่อเพื่อประชาชน” นับเป็นมหกรรมที่อยู่อาศัยครบวงจรแห่งปี ผู้ อำ � นวยการฝ่ า ย ซึง่ จัดขึน้ ทีจ่ งั หวัดขอนแก่นเป็นทีแ่ รก นำ�โดยบูธธนาคารอาคารสงเคราะห์ทจี่ ดั พั ฒ น า ศู น ย์ ก า ร ทีมงานทีม่ คี วามพร้อมและเชีย่ วชาญสินเชือ่ เพือ่ ทีอ่ ยูอ่ าศัยมากว่า 62 ปี คอยให้ ค้ า เทสโก้ โลตั ส คำ�แนะนำ�ปรึกษาเตรียมความพร้อมก่อนการมีบ้าน รวมถึงวิเคราะห์วงเงินกู้ แ ล ะ คุ ณ ว ร ร ณ เบือ้ งต้นจากเอกสารรายได้ทลี่ กู ค้านำ�มาแสดง และยืน่ สินเชือ่ บ้านได้ภายในงาน “สาเหตุส�ำ คัญที่ท�ำ ให้ลูกค้าให้การตอบรับดีอย่างต่อเนื่องเพราะเป็น ดี เ ชื้ อ ท อ ง ผู้ จัดการอาวุโส ฝ่าย มาตรการที่ช่วยให้ผู้มีรายได้น้อยและปานกลางได้มีโอกาสเข้าถึงสินเชื่อเพื่อ บริหารพื้นที่เช่า เท ที่อยู่อาศัยได้ในวงเงินกู้ที่สูงขึ้นเพียงพอต่อการซื้อบ้าน เนื่องจากธนาคารจะ สโก้ โลตัส ผนึก 5 ใช้เงื่อนไขผ่อนปรนในการพิจารณาสัดส่วนความสามารถชำ�ระหนี้ต่อรายได้ พั น ธมิ ต รร้ า นทอง เพิ่มเป็น 40-50% ของรายได้สุทธิต่อเดือน และพิเศษสำ�หรับลูกค้าที่จองซื้อ ชัน้ นำ� อาทิ ร้านทองเยาวราชกรุงเทพ, ร้านทอง Aurora , ร้านทองเยาวราช สินทวี , ร้านทอง บางกอก บ้านในโครงการที่ร่วมงานหรือลูกค้าที่ขอสินเชื่อภายในงาน“ธอส.มหกรรม โกลด์ , ร้านทองหวังโต๊ะกัง ร่วมจัดมหกรรม “ทอง ทอง ทอง ครัง้ ที่ 6” คืนกำ�ไรให้กบั ลูกค้า พร้อมลุน้ ที่อยู่อาศัย – สินเชื่อเพื่อประชาชน” ยังได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ เทีย่ วโตเกียวฟรียกแก๊งค์ ในระหว่างวันที่ 7-31 มีนาคม 2559 นี้ ทีเ่ ทสโก้ โลตัส ทุกสาขาทัว่ ประเทศ และคิดค่าประเมินราคาหลักประกันเพียง 1,500 บาทอีกด้วย” นายสุรชัย กล่าว


หน้า 11

ปีที่ 13 ฉบับที่ 142 ประจำ�เดือนมีนาคม 2559

จีนแผนเหนือเมฆ • ต่อจากหน้า 1 ฝ่ายจีนได้ และการที่จีนขอสิทธิในการใช้ประโยชน์ นี้ได้ ทำ�ให้ในอนาคตบริษัทฯได้มีการตั้งเป้าว่าจะให้ สินค้าละเมิดทรัพย์สนิ ทางปัญญาเช่น กระเป๋า เสือ้ ผ้า จากส่วนกลาง มีความเห็นว่า ในปี 2559 มีความเชื่อ มาก และเป็นอุตสาหกรรมที่ต้องใช้ทักษะและ

เมื่อวันที่ 25 ก.พ.59 ที่ห้องแกรนด์บอล รูม โรงแรมเซ็นทารา แอนด์ คอนเวนชันเซ็นเตอร์ จ.ขอนแก่น นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรี ว่ า การกระทรวงคมนาคม เป็ น ประธานเปิ ด การ สัมมนาเพื่อสร้างการรับรู้ข้อมูล ความเข้าใจ รับฟัง ความคิดเห็น และข้อเสนอแนะของประชาชน ครั้ง ที่ 3 ภายใต้โครงการสร้างการรับรู้ความเข้าใจและ รั บ ฟั ง ความคิ ด เห็ น ของประชาชนต่ อ การพั ฒ นา โครงการก่อสร้างรถไฟขนาดรางมาตรฐาน 1.435 เมตร โดยมีผแู้ ทนจากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ธุรกิจ อุตสาหกรรม หอการค้าจังหวัด และประชาชน ร่วม สัมมนาจำ�นวนมาก นายอาคม เติ ม พิ ท ยาไพสิ ฐ รั ฐ มนตรี ว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า เป็นโอกาสดี ที่รัฐบาลไทยและรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้ลงนามความร่วมมือในการก่อสร้างรถไฟขนาด ทางมาตรฐาน ตามกรอบยุทธศาสตร์การพัฒนา โครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของไทย พ.ศ.2558 - 2565 และยังสร้างความเข้าให้กับผู้ร่วม สัมมนาได้รับทราบถึงประโยชน์ที่ไทยจะได้รับจาก การพัฒนาโครงการรถไฟไทย - จีน อาทิ เกิดการเชือ่ ม โยงโครงข่ายคมนาคมขนส่งด้วยทางขนาด 1.435 เมตรกับจีน ผ่านสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชน ลาว โดยประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการเชื่อมโยงกับ ประเทศเพื่อนบ้าน อีกทั้งเป็นการรองรับการขนส่ง ผลิตภัณฑ์สินค้าอุตสาหกรรม สินค้าทางการเกษตร ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการขนส่งและโลจิสติกส์ รวม ถึงการพัฒนาด้านแหล่งท่องเทีย่ ว ทีถ่ อื เป็นการสร้าง รายได้สำ�คัญเข้าสู่ประเทศในอนาคต โครงการก่อสร้างรถไฟขนาดทางมาตรฐาน จะทำ � ให้ จั ง หวั ด ขอนแก่ น จะเป็ น ศู น ย์ ก ลางด้ า น คมนาคมขนส่ ง ทางรางที่ สำ� คั ญ ในระดั บ ภู มิ ภ าค อาเซียน ตามแผนพัฒนาโครงข่ายระบบคมนาคม ขนส่งทางรางของประเทศไทย พ.ศ. 2558 - 2565 และจะเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางรถไฟ จุดพัก และ การกระจายสินค้าไปยังจังหวัดใกล้เคียงในภาคตะวัน ออกเฉียงเหนือ รวมทั้งพื้นที่ในภาคตะวันออก และ ประเทศเพื่อนบ้าน สำ�หรับโครงการก่อสร้างรถไฟขนาดทาง มาตรฐานขนาด 1.435 เมตร มีแนวเส้นทางแบ่ง เป็น 4 ช่วง ได้แก่ ช่วงที่ 1 กรุงเทพฯ (บางซื่อ) แก่งคอย ระยะทาง 118 กิโลเมตร ช่วงที่ 2 แก่งคอย มาบตาพุด ระยะทาง 239 กิโลเมตร ช่วงที่ 3 แก่งคอย - นครราชสีมา ระยะทาง 134 กิโลเมตร และช่วงที่ 4 นครราชสีมา - หนองคาย ระยะทาง 354 กิโลเมตร รวมระยะทาง 845 กิโลเมตร ซึ่งจะเป็นการเดินทาง และการขนส่งสินค้าอีกทางเลือกหนึ่งที่มีความเร็ว สูงในอนาคต โดยให้ความสำ�คัญเส้นทางกรุงเทพหนองคาย เป็นลำ�ดับแรก ส่วนแก่งคอย-มาบตาพุด เป็นระยะต่อไป นายอาคม กล่ า วต่ อ ไปว่ า ขณะเดี ย วกั น รัฐบาลยังให้ความสำ�คัญกับการลงทุนรถไฟทางคูร่ าง ขนาด 1 เมตร ระยะเร่งด่วน 6 สาย อาทิ ฉะเชิงเทรา -คลอง 19 - แก่งคอย, จิระ - ขอนแก่น, มาบกะ เบา - จิระ, ลพบุรี - ปากนํ้าโพ, ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และนครปฐม - หัวหิน รวมระยะทาง 905 กม. ใช้งบประมาณการลงทุนกว่า 1.29 แสนล้าน บาท คาดว่ า จะสร้ า งแล้ ว เสร็ จ ในปี 2561-2563 ส่วนรถไฟไทย-จีน เป็นรางมาตรฐาน 1.435 เมตร ซึ่งเป็นเส้นทางเชื่อมระหว่างประเทศ ขณะ นี้มองว่ายังไม่จำ�เป็น แต่ยกเลิกคงไม่ได้ เพราะเป็น โครงการความร่วมมือรัฐบาลต่อรัฐบาล ซึ่งมาถึง รัฐบาลปัจจุบันได้ปรับความเร็วจากรถไฟความเร็ว สูง 250 กม./ชม. เป็นรถไฟความเร็วปานกลาง 160180 กม./ชม. ยังต้องเจรจากันไปจนกว่าจะได้ขอ้ สรุป ที่พอใจ นอกจากนี้ นายอาคม ได้ยอมรับว่า เมื่อ เร็ ว ๆ นี้ ฝ่ า ยจี น ได้ ยื่ น เงื่ อ นไขต่ อ ฝ่ า ยไทยว่ า หาก ฝ่ายไทยต้องการให้ฝ่ายจีนเพิ่มสัดส่วนการลงทุน โครงการรถไฟไทย-จีน เส้นทางกรุงเทพฯ-แก่งคอย นครราชสีมา-หนองคาย และแก่งคอย - มาบตาพุด ตั้ ง แต่ ก ารลงทุ น ก่ อ สร้ า งรางรถไฟไปจนถึ ง ร่ ว ม ทุนในการเดินรถ ฝ่ายจีนต้องการได้สิทธิในการ ใช้ประโยชน์พื้นที่ตลอดแนว 2 ข้างทางรถไฟ โดย เฉพาะการพัฒนาพืน้ ทีบ่ ริเวณสถานีรถไฟ ซึง่ ทางฝ่าย ไทย ก็ได้ยนื ยันว่า ไม่สามารถปฏิบตั ติ ามข้อเสนอของ

พืน้ ที่ 2 ข้างทางรถไฟดังกล่าว ไม่ได้อยูใ่ นเงือ่ นไขการ เจรจาโครงการนี้ โดยในช่วงทีผ่ า่ นมาฝ่ายไทยและจีนได้มกี าร หารือร่วมกันอย่างไม่เป็นทางการ ฝ่ายไทยได้เสนอให้ ฝ่ายจีนเพิ่มสัดส่วนการลงทุนเพิ่ม จากเดิมที่จะร่วม ลงทุนเฉพาะการเดินรถเท่านั้น เป็นให้ฝ่ายจีนเข้ามา ร่วมลงทุนตัง้ แต่การก่อสร้างทางรถไฟไปเลย แต่ฝา่ ย จีนระบุวา่ โครงการนีอ้ ยูใ่ นประเทศไทย หากจะให้จนี ลงทุนมากขึ้นจะต้องมีเงื่อนไขเพิ่ม เช่น จีนขอสิทธิ ในการบริหารพื้นที่ตลอดแนว 2 ข้างทางรถไฟ รวม ถึงการดำ�เนินการในแต่ละสถานีด้วย “ในการประชุมคณะกรรมการร่วมเพือ่ ความ ร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 10 ที่กรุง ปักกิ่ง ประเทศจีน ประมาณกลางเดือน มี.ค.นี้ ฝ่าย ไทยและจีนจะเจรจาเกี่ยวกับการจัดตั้งบริษัทร่วม ทุนเพื่อพัฒนาโครงการรถไฟไทย-จีน โดยจะตกลง สัดส่วนการร่วมลงทุนในบริษทั ดังกล่าวให้ชดั เจนว่า แต่ละฝ่ายจะลงทุนเท่าใด ส่วนมูลค่าโครงการขณะนี้ ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะต้องรอความเห็นจาก บริษัทที่ปรึกษาของฝ่ายไทยก่อน” นายอาคม กล่าว และว่า การศึกษากรอบวงเงินลงทุนจะไม่ล่าช้าจน ทำ�ให้โครงการชะงัก ทุกอย่างจะยังเป็นไปตามกรอบ เวลาเดิม คือ ต้องสรุปรายละเอียดการลงทุนและเริม่ ก่อสร้างภายในปีนี้ ในขณะที่เส้นทางรถไฟไทย-จีน จะทำ�ให้ไทยเชือ่ มโยงระบบรางผ่านลาวไปถึงจีน ซึง่ ช่วยสนับสนุนความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้า กระจายความเจริญ และสร้างรายได้สู่ภูมิภาคตลอด แนวที่รถไฟวิ่งผ่าน

BMW รุกตลาด

• ต่อจากหน้า 1

นายอธิษฐ์ ศุภศจี ผูจ้ ดั การทัว่ ไป บริษทั ณัฐ บาวาเรียน มอเตอร์ จำ�กัด ตัวแทนจำ�หน่ายรถยนต์ ยี่ห้อ BMW จังหวัดอุดรธานีและภาคอีสานตอนบน 7 จังหวัด เปิดเผยถึงสภาวะตลาดรถยนต์ในพื้นที่ ภาคอีสานตอนบน 7 จังหวัดว่า รถยนต์ยหี่ อ้ BMW มี ส่วนแบ่งตลาดรถยนต์เก๋งทุกยี่ห้อในภาพรวมร้อย ละ 10 และบริษัทฯได้ตั้งเป้าการตลาดเอาไว้ว่า 2-3 ปีข้างหน้าที่จะขอมีส่วนแบ่งตลาดกับรถเบนซ์ให้ได้ 50:50 ซึ่งล่าสุดบริษัทฯได้รับอนุญาตจากบริษัทแม่ฯ ให้สามารถทำ�ตลาดรถขนาดประสงค์ ขนาด 7 ที่นั่ง ให้กับลูกค้าของ BMW ได้ ในช่ ว งปี 2558 ที่ ผ่ า นมา ตลาดของรถ ประเภท คอมเพล็กซ์คาร์ทั่วประเทศ ตกลงไปเล็ก น้อยประมาณ 9% กว่าๆ แต่ในขณะทีต่ ลาดรถหรูหรือ ตลาดรถพรีเมียม กลับโตสวนขึน้ ประมาณ 7% เป็นก ารแสดงว่านั่นคือตลาดรถของยุโรปสามารถแย่งตล าดรถระดับไฮเอ็นจากค่ายตลาดรถญี่ปุ่นมาได้บางส่ วน การกลับมาซือ้ รถของยุโรปใช้กนั มากขึน้ มีปจั จัย ต่างๆ ทีท่ �ำ ให้ลกู ค้าทีเ่ คยใช้รถญีป่ นุ่ สามารถทีจ่ ะเป็น เจ้าของรถจากตลาดยุโรปได้ง่ายขึ้น บริ ษั ท ณั ฐ บาวาเรี ย น มอเตอร์ จำ � กั ด ไ ด้ รั บ ก า ร แ ต่ ง ตั้ ง ใ ห้ เ ป็ น ตั ว แ ท น จำ � ห น่ า ย รถยนต์ BMW อุดรธานี และดูแลพื้นที่ตลาดอยู่ 7 จังหวัดคือ จังหวัดอุดรธานี หนองบัวลำ�ภู เลย หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร และจังหวัดนครพนม ซึง่ จากทีไ่ ด้มกี ารเปิดโชว์รมู BMW ขึน้ มาอีกครัง้ หนึง่ เมื่อประมาณเกือบ 2 ปี ที่ผ่านมา ทำ�ให้ BMW มีส่วน แบ่งการตลาดในพืน้ ทีด่ งั กล่าวเป็นทีน่ า่ พอใจ ปัจจุบนั นีต้ ลาดรถยนต์ระดับพรเมียมในพืน้ ทีด่ งั กล่าวเป็นไป ด้วยดีและกลายเป็นทางเลือกของผู้บริโภคที่มีกำ�ลัง ซื้อมาเป็นเจ้าของได้ “จากนี้ไปประมาณ 2-3 ปีข้างหน้า BMW ตั้ งเป้าให้สามารถแชร์การตลาดของรถระดับพรีเมี่ย มจากยุโรปคือ เบนซ์ อยู่ที่ 50:50 ของตลาด ซึ่งใน ปัจจุบันนี้ BMW มีส่วนแชร์ตลาดรถยี่ห้อเบนซ์อยู่ ประมาณ 30% และมีส่วนแชร์รถเก๋งทุกยี่ห้อประม าณ10% นอกจากนี้แล้ว บริษัทฯ ได้มีการเสนอแผน ไปยังบริษัทแม่ฯว่า บริษัทฯ มีแผนการขอตั้งโชว์รูม ในพื้นที่รับผิดชอบเพิ่มอีกหนึ่งแห่ง ซึ่งขณะอยู่ใน ระหว่างการเสนอแผนและเจรจากันอยู”่ นายอธิษฐ์ฯ กล่าวและว่า สำ � หรั บ กลยุ ท ธ์ ใ นการทำ � การตลาด การ ทำ�การตลาดในระบบการดอร์ทูดอร์ ด้วยการเจาะ ฐานการตลาดตรงไปยังตัวของลูกค้า ในระดับอาชีพ ต่างๆ ที่มีความต้องการและกำ�ลังซื้อรถเก๋งในระดับ

สามารถทำ�การตลาดโดยมียอดขายไม่น้อยกว่าเดือน ละ 20 คัน เนื่องจากบริษัทฯ มีความเชื่อมั่น และมี ศูนย์บริการที่ครบวงจร สามารถให้การบริการหลัง การขายแก่ลูกค้าได้แบบครบวงจรแห่งหนึ่งในภาค อีสาน ล่าสุดเมื่อวันที่ 13 ก.พ.2559 บริษัท ณัฐ บา วาเรียน มอเตอร์ จำ�กัด ได้รบั อนุญาตให้ท�ำ การเปิดตัว รถยนต์เอนกประสงค์ ขนาด 7 ที่นั่ง รุ่น X-1 ที่เป็น ขนาด 2000 ซีซี.นํ้ามันดีเซล มีนวัตกรรมเทคโนโลยี ของประเทศเยอรมันที่ลํ้าสมัยอยู่ในรถรุ่นดังกล่าว เช่น ระบบการช่วยจอดอัจฉริยะ ซึ่งเทคโนโลยีดัง กล่าว จะช่วยเหลือผู้ขับขี่เวลาจะนำ�เอารถรุ่นนี้เข้าที่ จอดแบบอัตโนมัติ ทำ�หน้าที่หมุนพวงมาลัย ส่วนคน ขับเพียงเหยียบเบรคเท่านั้น

สินค้าก๊อปเกลือ่ น

• ต่อจากหน้า 1

เมื่อวันที่ 2 มี.ค.2559 ที่ห้องประชุมอาคาร สำ�นักศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฎอุดรธานี นายทศพล ทังสบุตร รองอธิบดีกรมทรัพย์สินทาง ปัญญา กระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดกิจกรรม โครงการ “รณรงค์ ส ร้ า งจิ ต สำ � นึ ก ในการเคารพ ทรั พ ย์ สิ น ทางปั ญ ญา”ภายใต้ แ นวคิ ด หยุ ด ละเมิ ด ทรัพย์สินทางปัญญา ไม่ซื้อ ไม่ขาย ไม่ใช้ของปลอม โดยมีนายสมบูรณ์ เฉยเจริญ ผูอ้ �ำ นวยการสำ�นักปราบ ปรามการละเมิดทรัพย์ทางปัญญา และ ดร.อติเทพ พิทักษานุรักษ์ อธิบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎอุดรธานี ให้การต้อนรับ นายสมบูรณ์ เฉยเจริญ ผอ.สำ�นักปราบปราม ละเมิดทรัพย์ทางปัญญา กล่าวว่า ในปัจจุบันนี้การ ละเมิดทรัพย์สนิ ทางปัญญาในประเทศไทย มีผลการ ปราบปรามจับกุมดำ�เนินคดีลดลงจากปี 2557 กล่าว คือในปี 2557 มีคดีละเมิดฯจำ�นวน 10,747 คดี มีของ กลางที่ยึดได้จำ�นวน 1,537,798 ชิ้น โดยเป็นคดีของ สำ�นักงานตำ�รวจแห่งชาติมากทีส่ ดุ จำ�นวน 9,924 คดี ในปี 2558 มีผลการปราบปรามคดีละเมิดฯ น้อยลงกล่าวคือ มีคดีละเมิดฯจำ�นวน 7,437 คดี ของ กลางจำ�นวน 3,846,969 ชิ้น ซึ่งจำ�นวนคดีที่กระทำ� ผิดลดลงจากปีที่แล้วไปประมาณ 30 % แต่ปรากฏว่ ามีทรัพย์ที่ถูกละเมิดเพิ่มขึ้นกว่า 150% และ สตช. ยังมีผลการปราบปรามมากที่สุดเช่นเดิมคือ จำ�นวน 6,553 คดี นายสมบูรณ์ กล่าวต่อว่า ทุกหน่วยงานจะ ต้องหันมาให้ความสำ�คัญต่อการกระทำ�ผิดในข้อหา ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา การจัดกิจกรรมของกรม ทรัพย์สนิ ทางปัญญา ก็เป็นส่วนหนึง่ ส่วนสำ�คัญทีส่ ดุ ได้แก่พนี่ อ้ งประชาชน ต้องเลิกในการใช้สนิ ค้าก๊อปปี้ หรือสินค้าปลอมแปลง หากว่าสินค้าก๊อปปีห้ รือสินค้า ปลอม ไม่มีผู้ซื้อ ผู้ใช้ คนขายก็จะหมดไปเอง นายทศพล ทั ง สบุ ต ร รองอธิ บ ดี ก รม ทรัพย์สินทางปัญญา กล่าวว่า กิจกรรมการรณรงค์ สร้างจิตสำ�นึกในการเคารพทรัพย์สนิ ทางปัญญา ภาย ใต้แนวคิดหยุดละเมิดทรัพย์สนิ ทางปัญญา ไม่ซอื้ ไม่ ขาย ไม่ใช้ของปลอม ครัง้ นีเ้ ป็นการจัดกิจกรรมครัง้ ที่ 2 เพือ่ ให้หน่วยราชการ ประชาชน นักศึกษา นักเรียน ได้ทราบถึงผลเสียหายถึงการละเมิดทรัพย์สินทาง ปัญญา ต่อเจ้าของผู้คิด ผู้ผลิตทรัพย์สินทางปัญญา และระบบเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อทุกคนได้เห็น ความสำ�คัญของการกระทำ�ผิดในข้อหาละเมิด เคารพ ต่อความคิด ทรัพย์สินทางปัญญาที่ผู้อื่นได้คิดค้น และทำ�การผลิตขึ้นมา “กรมทรัพย์สินทางปัญญา ได้ตั้งเป้าหมายในการที่ กระจายทำ�กิจกรรมรณรงค์ในการละเมิดทรัพย์สิน ทางปัญญาไปในส่วนงานต่างๆให้ทวั่ ถึงมากทีส่ ดุ เท่า ที่จะทำ�ได้ โดยเน้นที่เป็นการณรงค์ให้เกิดจิตสำ�นึก เพราะการปราบปรามดำ�เนินการตามกฎหมายนั้น ถื อ ว่ า เป็ น การแก้ ไ ขปั ญ หาที่ ป ลายเหตุ ” นายทศ พลฯ กล่าว ปรากฏว่าการจัดกิจกรรมของกรมทรัพย์สนิ ทางปัญญา ที่จังหวัดอุดรธานีในครั้งนี้ ไม่ค่อยได้รับ ความสนใจจากประชาชนทัว่ ไปและหน่วยงานต่างๆ แม้ ก ระทั้ ง หน่ ว ยงานที่ เ กี่ ย วข้ อ งกั บ ประเด็ น การ ละเมิด จนผู้จัดงานต้องไปเกณฑ์นักศึกษาจากคณะ ต่างๆ ของมหาวิทยาลัยราชภัฎอุดรธานี มาร่วมใน พิธีเปิด จากการสอบถาม นายสน (ขอสงวน นามสกุล) ผู้ประกอบการค้ารายหนึ่ง เปิดเผยว่า

รองเท้า ยี่ห้อดังราคาแพง เช่น หลุยส์ วิตตอง ลา คอสต์ ไนกี้ อดิแดส กุชชี่ ส่วนใหญ่จะนำ�เข้าจากต่าง ประเทศ โดยสินค้าทั้งหมดจะถูกลำ�เลียงจากตะเข็บ ชายแดน เข้ามาแบบกองทัพมด ก่อนจะมีการขน ถ่ายสินค้าใส่รถไปเก็บไว้ที่โกดังย่านชานเมือง กทม. ก่อนจะกระจายสินค้าไปทัว่ กรุงเทพฯ ย่านปริมณฑล ตลาดโรงเกลือ รวมถึงต่างจังหวัดด้วย สำ�หรับสินค้า ทัง้ หมดถือว่าเป็นการเลียนแบบระดับปานกลางไม่ได้ แนบเนียนมากนัก “ส่วนใหญ่สนิ ค้าทีค่ นไทยมักละเมิดลิขสิทธิ์ กันมาก คงหนีไม่พ้น ซีดี ดีวีดีเพลง และภาพยนตร์ มาเป็นอันดับหนึ่ง รองลงมาเป็นของแบรนด์เนม อย่างกระเป๋า, รองเท้า, แว่นตา, นาฬิกา และที่ตาม มาเป็นเสื้อผ้าโดยเฉพาะเสื้อผ้ากีฬา และอื่นๆ เช่น เครือ่ งสำ�อาง โปรแกรมและเกมคอมพิวเตอร์ สาเหตุ หลักที่ผู้บริโภคนิยมใช้ของก๊อบปี้ เพราะมีราคาถูก เช่น เสื้อฟุตบอลของสโมสรดัง ที่เป็นของลิขสิทธิ์ ราคาตัวละ 2,000-3,000บาท แต่ถ้าเป็นสินค้าก๊อบปี้ เกรดเอ ราคา 300-500 บาท เท่านั้น ที่สำ�คัญคนขาย ยังได้กำ�ไร คนซื้อก็ชอบใจเพราะราคาไม่แพงแถม คุณภาพไม่ต่างกันมาก“

ชี้ปี59ธุรกิจอสังหา • ต่อจากหน้า 1 นายสวาท ธี ร ะรั ต นนุ กู ล ชั ย ประธาน หอการค้าจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า ในปี 2559 คาด การณ์ ถึ ง อสั ง หาริ ม ทรั พ ย์ ทั่ ว ไปในพื้ น ที่ จั ง หวั ด อุดรธานี สถานการณ์ต่างๆ จะค่อยๆ ขยับตัวไป ในแนวทางที่ดีขึ้น ด้วยปัจจัยเสริม 2-3 ประการ หลั ง จากที่ ค ณะกรรมการอสั ง หาริ ม ทรั พ ย์ ร ะดั บ จังหวัดโดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานคณะ กรรมการ ได้ มี ก ารเข้ า ไปดู แ ลควบคุ ม ดู แ ลช่ ว ย เหลือ ในช่วงปี 2558 ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เกือบ ทั้งหมดในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี มีการหยุดนิ่งไป แต่เป็นการหยุดนิง่ เพือ่ คอยเวลาทีจ่ ะก้าวไปข้างหน้า ใหม่อีกครั้งหนึ่งในโอกาสที่เหมาะสม สำ�หรับธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์แนวราบจะมีโอกาสเติบโตมากกว่า ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบของคอนโดมิเนียม เนื่องจากในภูมิภาคยังมีพื้นที่ในการดำ�เนินธุรกิจ เพียงพออยู่ และการทำ�ธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ ต่อไปนี้ ผูล้ งทุนควรทีจ่ ะซอยออกเป็นโครงการขนาด เล็ก สำ � หรั บ ในปี 2558 ที่ ผ่ า นมานั้ น ธุ ร กิ จ อสังหาริมทรัพย์ทกุ ชนิดของจังหวัดอุดรธานี ได้หยุด นิง่ ไปไม่ใช่เป็นการถดถอย ซึง่ เป็นการหยุดนิง่ เพือ่ รอ เวลาที่จะปรับตัวเพื่อการองรับการเปลี่ยนแปลงใน หลายๆ ด้าน เช่น การเปิด AEC สภาวะเศรษฐกิจ และ ราคานํา้ มันหรือราคาพลังงานทีม่ กี ารเปลีย่ นแปลงใน ขณะนี้ ก็ท�ำ ให้การกำ�หนดราคาต้นทุนทัว่ ๆ ไป ก็ตอ้ ง มีการปรับตัวให้เข้ากับสภาวะในปัจจุบันด้วย จากสภาวะการที่ผ่านมามีการเปลี่ยนแปลง ค่อนข้างรุนแรงรวดเร็วจนมาถึงเวลานี้ ก็ทำ�ให้นัก ลงทุนด้านนี้ น่าที่จะสามารถปรับตัวได้แล้วว่า ใน ระยะต่อจากนี้ไป การดำ�เนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ น่าที่จะไปทิศทางไหน โดยเฉพาะในการดำ�เนินการ ในส่วนภูมภิ าค ทีไ่ ม่เหมือนกับการดำ�เนินการในส่วน กลาง ในเรือ่ งของราคาทรัพย์สนิ ทีจ่ ะต้องมีราคาทีอ่ ยู่ อีกระดับหนึง่ ทีม่ คี วามเหมาะสมกับสภาพของแต่ละ พื้นที่ที่ไม่เหมือนกัน เริ่มจากราคาหน่วยละที่ 1 ล้าน บาทเศษขึน้ ไป และไม่นา่ จะเกินไปกว่า 3-4 ล้านบาท “ในระยะต่อไปนีก้ ารลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ในโครงการขนาดใหญ่ที่มีระดับพรีเมี่ยมสำ�หรับใน พื้นที่จังหวัดอุดรธานี น่าจะไม่ค่อยประสบผลเท่า ที่ควร หากราคาอยู่ในระดับที่เหมาะสมกับสภาวะ ความเป็ น อยู่ ข องภู มิ ภ าค น่ า จะดี ก ว่ า และแนว ธุรกิจในรูปแบบแนวราบ บ้านเดี่ยว น่าที่จะดำ�เนิน การได้ดีกว่า ส่วนในรูปแบบคอนโดมิเนียมนั้น ใน ส่วนภูมิภาคประชาชนยังไม่ค่อยนิยมซื้อขายกัน ผู้ บริโภคส่วนมากยังมีความคิดที่จะอยู่ในแนวราบ มากกว่ า และที่ สำ � คั ญ ก็ คื อ ว่ า พื้ น ที่ สำ � หรั บ ธุ ร กิ จ อสังหาริมทรัพย์แนวราบทั่วไปยังมีมากเพียงพอ ยัง ไม่ได้แออัดเหมือนกับหลายๆ พื้นที่ อย่างไรก็ตาม สำ�หรับพื้นที่ที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์คอนโดมิเนียม ยังดำ�เนินการได้อยู่ ได้แก่ เชียงใหม่ พัทยา ภูเก็ต หัวหิน และพื้นที่ท่องเที่ยว” นายสวาทฯ กล่าว นายณั ฐ วั ช ร สวนสุ จ ริ ต ผู้ อำ � นวยการ โครงการบ้านจัดสรร สิทธารมย์ ซึ่งเป็นนักลงทุน

มัน่ ว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จงั หวัดอุดรธานีจะกลับ มาสู่สถานการณ์ที่ดีขึ้น โดยมีปัจจัยด้วยกันหลาย ประการ เช่น จากการทีม่ โี ครงการจัดตัง้ เขตเศรษฐกิจ พิเศษในพืน้ ทีจ่ งั หวัดหนองคาย จะทำ�ให้มกี ารลงทุน ทั้งจากส่วนกลางและในพื้นที่ท้องถิ่นเอง นอกจาก นี้แล้วโครงการร่วมมือรถไฟ ไทย-จีน มาช่วยเสริม เรือ่ งการเดินทาง การท่องเทีย่ ว และการขนส่งสินค้า แต่ในภาคอสังหาฯโดยเฉพาะที่อยู่อาศัย กลับพบว่า โครงการส่วนใหญ่จะอยู่ที่จังหวัดอุดรธานี อีกส่วน หนึ่งได้แก่มาตรการของภาครัฐที่จะมีอยู่ถึงเดือน เมษายน 2559 และมาตรการการปล่อยสินเชื่อเพื่อที่ อยู่อาศัยโดย ธอส.ที่จะส่งผลให้การซื้อที่อยู่อาศัยใน ช่วงนี้ดีขึ้น โดยเฉพาะโครงการที่มีบ้านที่สร้างเสร็จ แล้ว แต่ติดมืออยู่มาจากปีที่แล้ว อย่างไรก็ตามผูล้ งทุนรายใหม่ทจี่ ะดำ�เนินการ ในช่วงระยะต่อจากนีไ้ ป ต้องดูจงั หวะการลงทุนให้ดี ให้สอดคล้องกับภาวะตลาด และต้องคิดว่าถ้าจะทำ� โครงการ ถ้าไม่ดีกว่าคู่แข่ง ก็ต้องไม่ด้อยกว่าคู่แข่ง สาเหตุเพราะโครงการบ้านจัดสรรในจังหวัดอุดรธานี ต้องมีการพัฒนาโครงการ และมีการแข่งขันกันสูง ทั้งเรื่องขนาดของโครงการ ตัวบ้าน วัสดุที่จะใช้ใน โครงการจะต้องคำ�นึงถึงความต้องการของตลาดผู้ บริโภค ต้องมีการวิเคราะห์การตลาดให้ดี รวมไปถึง ต้องมีการนำ�เอาปัจจัยรอบด้าน เช่น ราคาที่ดิน การ สนับสนุน กฎระเบียบใหม่ๆจากสถาบันการเงิน สถานการณ์เศรษฐกิจระยะสั้น ยาว มาประกอบการ ดำ�เนินการอย่างรอบคอบ นายณั ฐ วั ช รฯ กล่ า วอี ก ว่ า อย่ า งไรก็ ต าม จังหวัดอุดรธานี มีศักยภาพของตัวเองในหลายด้าน เช่น การเดินทางสะดวกเป็นศูนย์กลางในการเดิน ทาง เช่น มีเที่ยวบินที่มีจำ�นวนมาก, มีการค้าเพิ่มขึ้น การท่องเที่ยว และในตัวจังหวัดมีสิ่งอำ�นวยความ สะดวก ครบครัน ฯลฯ ทำ�ให้เกิดประชากร ทีต่ อ้ งการ เข้ามาอยู่อาศัยในจังหวัดอุดรธานีเพิ่มมากขึ้น จะส่ง ผลเรื่องความต้องการที่อยู่อาศัยเพิ่มมากขึ้นตามไป ด้วย และยังส่งผลให้การเติบโตของเมืองเป็นแบบ ก้าวกระโดด แต่นกั ลงทุนก็ตอ้ งไม่อยูบ่ นพืน้ ฐานของ ความประมาท มีรายงานจากสำ�นักทีด่ นิ จังหวัดอุดรธานี ซึง่ เป็นหนึ่งในคณะกรรมการอสังหาริมทรัพย์จังหวัด ว่า ในปัจจุบันนี้ ในพื้นที่เทศบาลนครอุดรธานีมี โครงการอสังหาริมทรัพย์รูปแบบคอนโดมิเนียม อยู่ 5 โครงการ มีหน่วย/ห้องพักจำ�นวน 6,219 หน่วย/ห้อง ซึ่งทั้งหมดได้ปิดโครงการก่อสร้างและ เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปหมดแล้ว ล่าสุดได้แก่ โครงการของ แสนสิริ และคาดว่าทั้ง 5 โครงการ ดั ง กล่ า วยั ง มี ห น่ ว ย/ห้ อ งพั ก ที่ เ หลื อ ติ ด มื อ อยู่ ใ น ขณะนี้อีกประมาณ 30% จนถึงขณะนี้ยังไม่มีนักลง ทุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ด้านนี้อีก และมีหมู่บ้าน จัดสรรเฉพาะที่มีการขออนุญาตจัดสรรที่ดินจาก คณะกรรมการอสั ง หาริ ม ทรั พ ย์ จั ง หวั ด จำ � นวน 110 โครงการ จำ�นวนแปลง/หน่วย 10,124 หน่วย/ แปลง นอกจากนี้ แ ล้ ว เฉพาะในเดื อ นมกราคมกุมภาพันธ์ 2559 มีผยู้ นื่ ขออนุญาตจัดสรรทีด่ นิ และมี การอนุมตั จิ ากคณะกรรมการจัดสรรฯแล้วประมาณ 20 ราย

ชี้ปี59ธุรกิจอสังหา • ต่อจากหน้า 1

นายสถาพร บั ว ใหญ่ ผู้ บ ริ ห าร สถาพร จิ ว เวลรี่ และ ผู้ บ ริ ห ารโครงการ SP Property Khon Kaen หรือ สถาพร พร็อพเพอร์ตี้ กล่าวว่า สถานการณ์ดา้ นเศรษฐ์กจิ ทุกประเภทปัจจุบนั ยังอยู่ ในช่วงของการชะลอ ถึงแม้ว่าเหตุกราณ์บ้านเมือง ดูสงบไม่สับสนวุ่นวาย แต่ทิศทางการขยายตัวทาง เศรษฐกิจยังไม่มีแรงกระตุ้นให้เกิดความตื่นตัวเท่า ที่ควร ทำ�ให้การขับเคลื่อนเป็นไปอย่างล่าช้า โดย เฉพาะธุรกิจอัญมณีเครือ่ งประดับ นับเป็นการชลอ ตัวยาวนานในรอบ 20 ปีทผี่ า่ นมา และยังมองไม่เห็น แรงกระตุ้นให้เกิดการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ตลาดอัญมณีและเครื่องประดับ นับเป็น อุ ต สาหกรรมที่ มี ก ารพั ฒ นาอย่ า งต่ อ เนื่ อ ง โดย พั ฒ นาจากอุ ต สาหกรรมในครั ว เรื อ น ผลิ ต เพื่ อ จำ�หน่ายในประเทศ ปัจจุบนั เป็นตลาดอุตสาหกรรม อัญมณีส่งออกที่สามารถสร้างรายได้เข้าประเทศ อีกทั้งการผลิตอัญมณีและเครื่องประดับ เป็นการ สร้างงาน สร้างรายได้ให้กบั ผูใ้ ช้แรงงานเป็นจำ�นวน

ความประณีต จึงเป็นการผลิตงานที่ต้องใช้ผู้ที่มี ความเชี่ยวชาญและชำ�นาญมากเป็นพิเศษ ปัจจุบนั สถาพรจิวเวลรี่ ซึง่ เป็นธุรกิจเครือ่ ง ประดับอัญมณี มีทั้งหมด 10 สาขา โดยเปิดให้ บริการที่กรุงเทพฯ 1 สาขา จังหวัดอุบลราชธานี 4 สาขา และที่จังหวัดขอนแก่น 5 สาขา ซึ่งสามารถ รองรับลูกค้าได้อย่างทั่วถึงและครอบคลุม แต่ใน ระยะ 4-5 ปี มานีเ้ ป็นช่วงขาลงของตลาดอัญมณีใน แบบที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้เลยว่าจะเป็นไปใน ทิศทางใด และยังเป็นช่วงขาลง อย่างต่อเนื่องและ ยาวนาน ปกติหากตลาดอัญมณีในประเทศชะลอตัว เพชรและเครื่องประดับต่างๆ จะถูกนำ�ส่งออกต่าง ประเทศ ทำ�ให้ไม่เกิดผลกระทบมากนัก ในช่วง 2 ปี ทีผ่ า่ นมา ธุรกิจอัญมณียงั ไม่มแี นวโน้มจะฟืน้ ตัวขึน้ ทั้งในและต่างประเทศ ไม่มีการส่งออกหรือนำ�เข้า ส่งผลกระทบให้ร้านจิวเวลรี่หลายแห่งต้องปิดตัว ลงไป รวมถึง สถาพรจิวเวลรี่สาขาตึกคอม ที่ต้อง ปิดสาขาด้วยเช่นกัน นายสถาพร กล่าวและว่า “ในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 57 ถึงต้นปี 58 ลูกค้าที่เคยซื้อเพชรสะสมไว้ ได้นำ�ออกมาขาย คืน รวมทัง้ มีเพชรหลุดจำ�นำ�เยอะมาก โดยเฉพาะปี 58 ซึ่งไม่สามารถขายเพชรชิ้นใหญ่ได้เลย จึงต้องมี การพัฒนารูปสินค้า โดยนำ�เครือ่ งประดับชุดเดิมทีม่ ี อยูแ่ ล้ว มารีไซเคิลปรับแต่งรูปแบบใหม่ ดีไซน์ใหม่ ด้วยการแยกเพชรจากสร้อยคอชุดใหญ่มาทำ�ให้ได้ ครบชุด ทัง้ สร้อยคอ แหวน กำ�ไร ซึง่ จะสามารถขาย ในราคาที่ไม่สูงมากนัก นับเป็นจุดแข็งของสถาพร จิวเวลรี่ เพราะมีแรงงานฝีมือ และมีวิตถุดิบในมือ อยู่แล้ว ซึ่งไม่มีการลงทุนเพิ่มเติม ทั้งนี้ เพื่อให้เกิด การจ้างงานต่อไป อีกทัง้ เป็นการช่วยลูกค้าประคอง ให้ผา่ นช่วงวิกฤตเศรษฐกิจไปด้วยกัน” นายสถาพร กล่าวและว่า ในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัวลง ประชาชนจะ หันไปหาที่พึ่งทางจิตใจ โดยมีลูกค้าที่นำ�พระมาอัด กรอบใหม่เป็นจำ�นวนมาก ซึ่งล้วนเป็นพระเมตตา มหานิยม หรือเครื่องลางที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ทำ�ให้มี ความเคลื่อนไหวในธุรกิจเครื่องประดับเพิ่มเข้ามา บ้าง และยังสามารถช่วยประคับประคองยอดขาย ในภาวะที่การบริโภคภายในประเทศซบเซาได้ใน ระดับหนึง่ เนือ่ งจากในภาวะเศรษฐกิจทีไ่ ม่แน่นอน ปฏิเสธไม่ได้ว่า ส่งผลกระทบต่อการบริโภคของ ประชาชน ไม่ว่าจะเป็นกำ�ลังซื้อที่ลดน้อยลง ใน ขณะเดียวกันราคาสินค้าหลายประเภทมีแนวโน้ม แพงขึ้นเรื่อยๆ ทำ�ให้ผู้บริโภคต้องคิดหนักเมื่อจะ ซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยและมีราคาสูงอย่างอัญมณีและ เครือ่ งประดับ ผูบ้ ริโภคส่วนใหญ่หนั มาระมัดระวัง เรือ่ งการจับจ่าย และมีเหตุผลมากขึน้ ในการตัดสิน ใจซื้อสินค้า อย่ า งไรก็ ต าม นายสถาพร คาดการณ์ ว่า ตลาดอัญมณีจะกลับมาฟื้นตัว ในช่วงปลาย ปี 2559 นี้ หากมีความชัดเจนทางด้านการบริหาร ประเทศ อาจทำ�ให้ธุรกิจและเศรษฐกิจก้าวเดินต่อ ไปในทิศทางที่ดีขึ้น ขณะที่การแข่งขันในตลาด คาดว่าจะมีการแข่งขันที่รุนแรงต่อเนื่อง โดยมอง ว่าสถานการณ์เศรษฐกิจยังเป็นปัจจัยสำ�คัญ ซึ่ง คาดว่าจะดีขึ้นตามลำ�ดับ แต่ยังมีปัจจัยอื่น อาทิ สถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศจีน ที่อาจส่งผลก ระทบในระดับโลกและต่อเนื่องมาถึงประเทศไทย อาจส่งผลให้ไม่เป็นไปตามที่คาดหวังได้ แต่หวัง ว่ารัฐบาลจะมีมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้ บริโภคอย่างต่อเนื่อง นายสถาพร กล่าวทิ้งท้ายว่า ทางด้านอสัง หาฯ ซึ่งได้มีการเปิดตัวบ้านทาวน์โฮม โครงการ SP Property Khon Kaen หรือ สถาพร พร็อพเพอร์ ตี้ ขอนแก่น ในโครงการที่ 1 ซึ่งมีทั้งบ้านเดี่ยว และ ทาวน์โฮม Perfect Life 2 ชั้น 3 ห้องนอน 3 ห้องนํ้า ประสบความสำ�เร็จโดยลูกค้าให้ความไว้วางใจจอง หมดแล้ว และกำ�ลังเตรียมลงเสาเข็มในโครงการที่ 2 ซึ่งจะเปิดให้ชมและจองได้กลางปี 2559 สำ�หรับ ท่านที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียด เพิ่มเติมได้ที่ 093-537-8999 ด้วยความใส่ใจในทุก รายละเอียด บ้านในโครงการ SP Property จึงได้รบั ความเชื่อมั่นในคุณภาพ และราคาที่สามารถรับได้ อีกทัง้ มีโปรโมชัน่ ทีโ่ ดนใจลูกค้า เป็นอีกหนึง่ ธุรกิจ ที่ก้าวเดินควบคู่ไปกับธุรกิจเครื่องประดับอัญมณี


หน้า 12

ปีที่ 13 ฉบับที่ 142 ประจำ�เดือนมีนาคม 2559

ที่ ป รึ ก ษา พล.ต.ท.ศั ก ดา เตชะเกรี ย งไกร, รศ.ดร.ธี ร ะ ฤทธิ ร อด, ดร.อาทิ ต ย์ ฉั ต รชั ย พลรั ต น์ , ฉั ต ร ศรี พั น ธุ์ , สิ ท ธิ โ ชค บุ ญ โท, พ.อ.สมศั ก ดิ์ สงทามะดั น , พี ร ะ วี ร ะชั ย , ยงยุ ท ธ ขาวโกมล เจ้าของ/บรรณาธิการบริหาร พ.ท.พิสษิ ฐ์ ชาญเจริญ บรรณาธิการ/ผูพ ้ ม ิ พ์และผูโ้ ฆษณา สุพตั รา ศุขโข กองบรรณาธิการ อนุสรณ์ ศุขโข ,เพ็ญศิริ นาคทน,มณฑล ศุขโข,รณชิต ชาญเจริญ,นาฏยาภรณ์ ชาญเจริญ,

ประคอง หนูราช,พันธ์ศักดิ์ วีระชัย,เสริมศักดิ์ ขาวโกมล สำ�นักงาน 76 ม.20 ถ.กสิกรทุ่งสร้าง ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น 40000 โทรศัพท์ 08-9422-0228 โทรสาร 0-4324-4584 E-mail : Thaisaeree@gmail.com, Thaisaeree@yahoo.com ศูนย์อุดรธานี 152/3 ถ.อุดรดุษฏี ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี 41000 โทรศัพท์ 08-6864-0678 โทรสาร 0-4224-7905 E-mail: ps_veerachai@hotmail.com ศูนย์หนองคาย 78 หมู่ 4 ถนนเฉลิมพระเกียรติ์ ต.เมือง อ.เมือง จ.หนองคาย 43000 ที่ปรึกษากฎหมาย สังคม พุทธา สำ�นักงานทนายความประสพสุขธุรกิจและกฎหมาย ออกแบบ/กราฟฟิค เอื้อดีไซน์ 08-3417-0363


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.